แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๒ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒ ช่ัวโมง สพม.ยะลา หน่วยท่ี ๕ ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา เร่อื ง การสรุปเนือ้ หา ผสู้ อน นางสาวผอบ หลเี หล็ม โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จงั หวัดยะลา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่าและนำมา ประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ๒. ตัวชี้วดั ม.1/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๓. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การศึกษาวรรณคดีเกยี่ วกับเหตุการณป์ ระวัติศาสตรเ์ รื่อง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา จะต้องสรปุ เนื้อหา ของเร่ือง ๔. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ความรู้ (K) - สรุปเน้อื หาวรรณคดเี รอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา ได้ ๒. ทกั ษะกระบวนการ (P) - ทักษะกระบวนการอา่ น - ทกั ษะกระบวนการเขยี น - ทกั ษะกระบวนการคิด ๓. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 2) ทักษะการตั้งเกณฑ์ 4) ทักษะการสรปุ ลงความเห็น 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ อาเซยี น ทอ้ งถน่ิ 1) ทักษะการตีความ 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. บูรณาการ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๗. สาระการเรยี นรู้ วรรณคดีและวรรณกรรมเกี่ยวกบั - เหตกุ ารณป์ ระวตั ศิ าสตร์ ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : ๕E) คาบท่ี 1 นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ขน้ั ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ 1. ครูนำวรรณคดีเร่อื ง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสามาต้งั คำถามให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เพื่อ กระตุ้นให้นักเรยี นสนใจเรอ่ื งท่ีจะอ่าน เชน่ - อาสา หมายความวา่ อย่างไร - สมิงพระรามคือใคร - การทจ่ี ะอาสาทำสงิ่ ใดส่งิ หนึ่ง ผอู้ าสาจะต้องมีคณุ สมบตั ิอย่างไร 2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระต้นุ ความคดิ นักเรียนคดิ วา่ การนำเรอื่ งของต่างชาติมาแปลเป็นภาษาไทย เปน็ ผลดหี รือผลเสียตอ่ วรรณกรรมไทยอยา่ งไร (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน) ขัน้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา 1. ให้นักเรยี นแตล่ ะคนศึกษาวรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา จากหนังสือเรยี น 2. ครกู ำหนดประเดน็ ในการศึกษาความรู้และปฏิบัตกิ จิ กรรม ดงั น้ี - รวบรวมคำศพั ทย์ าก และหาความหมาย จากพจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 - รวบรวมสำนวน อุปมาโวหาร และอธิบายความหมาย ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ 1. ครใู ห้นักเรียนแข่งขนั กันหาความหมายของคำศัพท์และสำนวน อปุ มาโวหาร โดยนกั เรยี ท่ที ำเสรจ็ ก่อนและ ถกู ต้องมากทีส่ ุดเป็นผู้ชนะ
2. นกั เรียนแต่ละคนเลอื กคำศัพท์ทส่ี นใจมาวาดภาพประกอบเพ่ือให้นักเรียนมคี วามเขา้ ใจในการอ่านเนื้อเร่ืองมาก ขน้ึ 3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระต้นุ ความคดิ การเขยี นโดยใชอ้ ุปมาโวหารมีผลดีต่อการอา่ นอยา่ งไร (ช่วยให้การเปรียบเทยี บความหมายมีความชดั เจน มากยง่ิ ข้ึน) ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ 1. ครกู ำหนดให้นกั เรียนแตล่ ะคนอา่ นเน้อื หาวรรณคดีเรื่องราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา คนละ 1 ตอน (ครูกำหนดความยาวของแตล่ ะตอนใหเ้ ทา่ ๆ กนั ) 2. นกั เรียนแต่ละคนวิเคราะห์เนือ้ เรอื่ ง เพื่อเปน็ การกระต้นุ และสง่ เสรมิ ความเข้าใจในการอา่ น 3. ครูตั้งคำถามและพิจารณาคำตอบของนกั เรยี นแต่ละคน ซ่งึ จะมีความแตกตา่ งกันไปตามเนอื้ เร่ืองในแต่ละตอน 4. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ คำถามกระตนุ้ ความคิด เรือ่ งราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา ทน่ี กั เรียนอา่ นมีความดีเดน่ อย่างไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) ขั้นท่ี 5 ประเมนิ ผล 1. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยการเขียนแสดงความรูส้ กึ หลังการเรียนและการทำกิจกรรม ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - ส่งิ ทนี่ ักเรียนไดเ้ รียนรู้ในวนั นีค้ ืออะไร - นกั เรียนมีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมมากน้อยเพยี งใด คาบที่ 2 ข้ันที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ 1. ใหน้ กั เรยี นเลน่ เกมจับคูค่ ำศัพท์ในเร่ืองราชาธริ าช ตอนสมงิ พระรามอาสา ขัน้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา 1. ครเู ปดิ Powerpoint ให้นกั เรียนได้ศึกษาเกีย่ วกบั ผูแ้ ต่ง ลักษณะคำประพันธ์ จดุ มุ่งหมายในการแตง่ เนอ้ื เร่ืองย่อ 2. นักเรียนศกึ ษาและรวบรวมขอ้ มูลจาก Powerpoint เกี่ยวกับเรอื่ งทนี่ ักเรยี นได้ดู ข้ันที่ 3 อธบิ ายความรู้ 1. นักเรียนแต่ละคนทำใบงานที่ 1 เรอื่ ง การสรุปเนื้อหา ตอน สมงิ พระรามอาสา โดยให้นักเรียนตอบ คำถามดว้ ยภาษาของตนเอง เพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจในการอา่ น ขัน้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ 1. นักเรยี นนำความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากการอา่ นมาถา่ ยทอดเป็นรูปภาพ และเขียนอธิบายส้ันๆ เพ่ือพัฒนาความ สามารถด้านการอ่านของนกั เรยี น ข้ันที่ 5 ประเมินผล 1. ให้นกั เรียนตรวจสอบและแกไ้ ขใบงานเกี่ยวกับการใชภ้ าษาเพื่อเป็นพืน้ ฐานให้นักเรยี นสามารถ เรยี นร้ไู ด้ดีใน ขัน้ ตอ่ ไป
2. นักเรยี นแตล่ ะคนนำใบงานท่ี 1 สง่ ครูตรวจ ๙. การวดั และประเมนิ ผล วิธีการวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. แบบทดสอบก่อน 1. (ประเมินตามสภาพจริง) 2. ตรวจใบงาน 2. ใบงานท่ี 1 2. รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 1. สังเกตพฤติกรรมการทำงานเป็นรายบุคคล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานเป็น 1. ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ น รายบุคคล เกณฑ์ 1. สงั เกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ 1. แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึง 1. ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ น และม่งุ มั่นในการทำงาน ประสงค์ เกณฑ์ ๑๐. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ ๑๐.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดแี ละวรรณกรรม ม.1 2) พจนานุกรม ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 3) ใบงาน เรือ่ ง การสรุปเน้อื หา ตอน สมงิ พระรามอาสา
แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เหตใุ ดราชาธิราช จงึ จัดเปน็ วรรณกรรมประเภท 6. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตทุ ี่ทำให้กามะนีแพส้ มิงพระราม พงศาวดาร ก. เพราะมา้ มีกำลังน้อยกว่า ก. เพราะใชโ้ วหารคมคายในการแตง่ ข. เพราะใชอ้ าวธุ ไมเ่ หมาะสมในการรบ ข. เพราะมเี หตุการณ์ทต่ี ่ืนเต้นเรา้ ใจ ค. เพราะขาดประสบการณ์ ดอ้ ยฝีมอื ในการรบ ค. เพราะใชฉ้ ากในการแต่งในสมัยโบราณ ง. เพราะเสยี รู้ และเผยจดุ อ่อนใหส้ มงิ พระรามรู้เทา่ ทัน ง. เพราะเป็นเร่ืองราวเกี่ยวกบั พระมหากษัตรยิ ์ อา่ นข้อความที่กำหนด แลว้ ตอบคำถาม ขอ้ 7-9 2. เหตุใดสมิงพระรามจึงอาสาออกรบ ก. เพอ่ื ปอ้ งกันไมใ่ ห้จนี ยกทพั ต่อไปยงั กรุงหงสาวดี “ พระเจ้ากรุงจีนยกมาครั้งน้อี ุปมาดังฝนตกห่าใหญ่ ข. เพราะต้องคดิ แผนการหลบหนรี ะหว่างรบ ตกลงน้ำนองท่วมป่า ไหลเชยี่ วมาเมอ่ื วสันตฤดนู ั้น ค. ตอ้ งการรางวัลตอบแทนจากการรบ หาสงิ่ ใดจะตา้ นทานมไิ ด้ ” ง. อยากมอี ำนาจในกรุงรัตนะบรุ ะองั วะ 7. ขอ้ ความท่ียกมานีม้ ลี กั ษณะเดน่ อย่างไร 3. ข้อใดแสดงถงึ ลักษณะเด่นของพระเจา้ กรุงจนี ก. ชว่ ยให้เกดิ ความรู้ ก. ปากว่าตาขยิบ ข. ช่วยให้เกดิ ความคดิ ข. เสียชพี อย่าเสยี สัตย์ ค. ช่วยให้เกิดจินตภาพ ค. มือถือสากปากถอื ศลี ง. ช่วยใหเ้ กิดความสามารถในการเขยี น ง. ปลาหมอตายเพราะปาก 8. ข้อความขา้ งตน้ สือ่ ความหมายอยา่ งไร 4. ขอ้ ใดคอื คำส่ังของพระเจ้ากรุงต้าฉงิ ในการรบครง้ั น้ี ก. การเกดิ ศึกสงครามอยู่ในช่วงฤดูฝน ก. หากมีผูข้ ดั ขวางให้ฆา่ ทง้ั หมด ข. กองทพั มีความยงิ่ ใหญ่ยากทจี่ ะมีใครต้านทานได้ ข. รบิ ทรพั ยส์ ินเงนิ ทองของเชลยทกุ คน ค. กองทพั ที่ยงิ่ ใหญ่มักจะยกทพั มาพรอ้ มกับสายฝน ค. ฆ่าเชลยทกุ คน ยกเว้นสมณชีพราหมณ์ ง. การเดนิ ทัพตอ้ งเผชญิ กบั อุปสรรคทีเ่ ป็นน้ำป่า ง. หากผ้ใู ดไมม่ ีอาวุธต่อสู้ หา้ มทำอนั ตรายเด็ดขาด อันเช่ยี ว 5. ม้าท่ีสมิงพระรามเลือกไวใ้ ช้ในการตอ่ สกู้ ับกามะนี 9. กองทพั พระเจา้ กรงุ จนี มลี ักษณะอยา่ งไร มีลักษณะอย่างไร ก. มีกำลงั มาก ก. แขง็ แรง มีกำลังมาก ข. มอี าวธุ ยทุ โธปกรณ์มาก ข. รูปรา่ งอว้ น งามสงา่ ค. มีผทู้ ่มี ีความสามารถมาก ค. เป็นมา้ เชลยศักดิท์ ี่ผา่ นการคดั เลอื ก ง. มเี สบยี งอาหารจำนวนมาก ง. หลังม้ามลี ักษณะถกู ตอ้ งตามตำราดูมา้
10. ขอ้ ใดแสดงให้เหน็ ประเพณที างการทตู ในเรื่อง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ก. สมิงพระรามทลู ขอตะกรวยและขอเหล็ก ข. พระเจา้ มณเฑยี รทองให้ตรวจดชู ะตาเมอื ง ค. พระเจา้ ฝร่ังมังฆ้องปนู บำเหน็จรางวัลให้สมงิ พระราม ง. พระเจา้ กรุงต้าฉงิ ส่งเครอ่ื งราชบรรณาการให้พระเจา้ กรุงองั วะ เฉลย 1. ง 2. ก 3. ข 4. ง 5. ก 6. ง 7. ค 8. ข 9. ก 10. ค
ใบงาน การสรุปเนอื้ หา ตอน สมิงพระรามอาสา คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนสรุปวรรณคดเี ร่ือง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา ตอนท่ีกลมุ่ รบั ผดิ ชอบ แลว้ ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามทก่ี ำหนด 1. สรปุ เรอื่ งย่อตอนที่อ่าน 2. สรุปความรแู้ ละความคดิ จากตอนท่ีอ่าน 3. อธบิ ายตวั ละครที่มพี ฤตกิ รรมท่ีนา่ ตำหนมิ ากที่สุดในตอนท่ีอ่าน 4. อธิบายตวั ละครที่มีพฤติกรรมท่ีนา่ ยกย่องมากท่ีสุดในตอนที่อา่ น 5. บอกวิธีปฏิบัตใิ นการศึกษาเน้ือเรอ่ื งตอนที่อ่านเพ่ือให้ได้ผลดที ่สี ุด
เฉลยใบงาน การสรปุ เน้อื หา ตอน สมิงพระรามอาสา คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนสรปุ วรรณคดเี รื่อง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ตอนที่กลุม่ รบั ผิดชอบ แลว้ ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามทก่ี ำหนด 1. สรุปเรื่องยอ่ ตอนท่ีอา่ น 2. สรปุ ความรู้และความคิดจากตอนที่อ่าน 3. อธบิ ายตวั ละครท่ีมพี ฤติกรรมทนี่ า่ ตำหนิมากทีส่ ดุ ในตอนที่อา่ น 4. อธบิ ายตวั ละครท่ีมพี ฤตกิ รรมทนี่ า่ ยกย่องมากที่สุดในตอนที่อา่ น 5. บอกวิธปี ฏบิ ตั ิในการศกึ ษาเนื้อเรื่องตอนที่อ่านเพ่ือให้ไดผ้ ลดที ี่สุด (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู ูส้ อน)
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชีแ้ จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกับ ระดับคะแนน ลำดั ชอ่ื -สกุล ความ การแสดง การรับฟัง การตง้ั ใจ การแกไ้ ข รวม บ ที่ ของผรู้ ับการ ร่วมมอื กัน ความ ความ ทำงาน ปัญหา/หรือ 20 ทำกจิ กรรม คิดเหน็ คิดเห็น ปรับปรงุ คะแนน ประเมนิ ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ าย กษัตริย์ ความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหนา้ ที่ของนักเรยี น 1.3 ให้ความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชกิ ในชั้นเรยี น 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ ต่อโรงเรียนและชุมชน 1.5 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตนตามหลกั ของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามท่ี โรงเรยี น และชุมชนจดั ขน้ึ 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทีจ่ ะทำความผดิ ทำ ตาม สญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั เพ่ือน พ่อแม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อ่นื ด้วยความซอ่ื ตรง 3. มวี นิ ยั 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครวั รับผดิ ชอบ และโรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ได้อยา่ งมีเหตุผล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง เช่น ส่งิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั พอเพยี ง คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใช้เวลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรักษาดูแล อยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตดั สินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อื่น และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเมอื่ ผู้อน่ื กระทำผิดพลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใช้ชวี ติ ประจำวนั บนพื้นฐาน ของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรับตัว อยู่รว่ มกับผู้อ่นื ไดอ้ ยา่ งมีความสุข 6. ม่งุ ม่ันในการ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสำเร็จ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครอง และครทู ำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบง่ ปันสงิ่ ของให้ผู้อ่ืน 8.3 ร้จู กั ดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ตำ่ กว่า 54 ปรบั ปรุง
แบบบันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ ผลการ ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5 ม.1/8 ม.1/9 จัดการ ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ ่าน เรยี นรู้ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ 1. นักเรียน 35 89.74 4 10.25 33 84.61 6 15.38 35 92.10 3 7.89 25 92.59 3 11.11 35 92.10 3 7.89 สรุปเนอ้ื หา 35 89.74 4 10.25 33 84.61 6 15.38 35 92.10 3 7.89 25 92.59 3 11.11 35 92.10 3 7.89 วรรณคดี เรื่อง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระราม อาสาได้ (K) 2. นกั เรยี น สามารถเขยี น สรุปเนื้อหา วรรณคดี เรอื่ ง ราชาธิราช ตอน สมิง พระราม อาสาได้ (P) 3. นักเรยี นมี 35 89.74 4 10.25 33 84.61 6 15.38 35 92.10 3 7.89 25 92.59 3 11.11 35 92.10 3 7.89 คณุ ลกั ษณะ อนั พึง ประสงคค์ ือ มี วนิ ยั ใฝ่ เรยี นรู้ รัก ความเป็นไทย (A)
ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางการแก้ไข 1. ปัญหา/อุปสรรค : นักเรยี นบ้างคนเข้า meet ท้งิ ไวแ้ ล้วไปทำกจิ กรรมอืน่ ไม่ไดน้ ่ังเรียนอยู่หนา้ จอ 2. แนวทางแก้ไข้ : ตดิ ตามนักเรียนทไี่ ม่เขา้ เรยี นโดยผา่ นทางไลน์ทางเฟสครูทีป่ รึกษา ลงช่ือ...............................................................ผู้สอน (นางสาวผอบ หลีเหล็ม)
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๒ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา 1 ช่ัวโมง สพม.ยะลา หนว่ ยท่ี ๕ ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา เร่ือง การวเิ คราะหแ์ ละอธิบายคุณค่า ผสู้ อน นางสาวผอบ หลีเหล็ม โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ คา่ และนำมา ประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ๒. ตัวชีว้ ดั ม.1/2 วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ม.1/3 อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมทอ่ี า่ น 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การศึกษาวรรณคดีเรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา ตอ้ งวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดทไ่ี ด้รบั จากการอา่ น พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ความรู้ (K) - วเิ คราะห์วรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา พร้อมยกเหตุผลประกอบได้ - วิเคราะหค์ ณุ คา่ และข้อคิดจากวรรณคดเี รื่อง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ได้ ๒. ทกั ษะกระบวนการ (P) - ทักษะกระบวนการคิด - ทกั ษะกระบวนการเขียน ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) - มวี นิ ยั - ใฝเ่ รียนรู้ - รักความเป็นไทย
๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น 5.2 ความสามารถในการคดิ 1) ทักษะการต้ังเกณฑ์ 3) ทักษะการประเมิน 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ๖. บรู ณาการ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง อาเซียน ท้องถ่ิน 7. สาระการเรียนรู้ - การวิเคราะห์คณุ ค่าและขอ้ คิดจากวรรณคดแี ละวรรณกรรม ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธสี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขั้นท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ ๑. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับผลเสียของการพูดโดยไม่ย้งั คดิ และให้นักเรียนทีเ่ คยมีประสบการณ์ ดังกล่าวออกมาเลา่ เหตุการณ์ใหเ้ พอ่ื นฟังเป็นอุทาหรณ์ ครูอาจร่วมเลา่ ประสบการณ์ แลกเปล่ียนกบั นักเรยี น ๒. นกั เรยี นร่วมกนั บอกประโยชน์ของการคดิ ก่อนพดู ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม ๖ กลมุ่ ช่วยกนั วิเคราะหเ์ นอ้ื เร่ืองตามประเดน็ ทจ่ี บั ฉลากได้ ดังน้ี ๑) เพราะเหตุใดเร่อื งราชาธิราชจงึ ไดร้ ับยกยอ่ งให้เป็นแบบฉบับการเขยี นรอ้ ยแก้วทดี่ ี ๒) ยกตวั อย่างบทสนทนาที่ใช้โวหารเปรียบเทยี บได้ไพเราะจบั ใจ ๓) ยกตัวอยา่ งเนอื้ เร่ืองที่แสดงใหเ้ หน็ ว่าใชภ้ าษางา่ ย แตส่ อื่ ความหมายได้คมคาย ๔) ยกตัวอย่างเหตกุ ารณ์และพฤติกรรมของตวั ละครท่ีสะทอ้ นแนวคิดเรื่องการรักษาคำพดู ๕) ยกตวั อย่างเนื้อเร่อื งที่สอดแทรกข้อคดิ และคุณธรรมตา่ ง ๆ พร้อมทงั้ บอกขอ้ คิดหรือคณุ ธรรมท่ีปรากฏ ๖) ยกตัวอยา่ งข้อความท่ีสะท้อนให้เห็นสภาพสังคม วถิ ีชวี ิต หรือคา่ นยิ มต่าง ๆ 2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มวางแผนการทำงานร่วมกันและกำหนดหน้าทร่ี ับผดิ ชอบในการศึกษาและสืบค้นความรู้ ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ 1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานำเสนอความคิด พร้อมท้งั ยกตวั อย่างทุกคนรว่ มกนั ตรวจสอบและ แสดงความคดิ เหน็ เพ่ิมเติม 2. นักเรยี นรว่ มกันวิเคราะห์คุณคา่ ของเร่อื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา ในประเดน็ ต่อไปนี้ - คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ - คณุ คา่ ด้านแนวคดิ - คณุ คา่ ด้านเนื้อหา - คณุ ค่าด้านสงั คม
ข้ันที่ 4 ขยายความเข้าใจ 1. นักเรียนช่วยกนั เรยี บเรียงความรทู้ ่ีได้จากการวเิ คราะห์ ครูชว่ ยแนะนำและอธิบายเพ่ิมเตมิ 2. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี วรรณคดเี รอ่ื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา ให้คุณค่าทง้ั ดา้ นสำนวนภาษาท่ีไพเราะจบั ใจ สละสลวยชวนอ่าน ให้ขอ้ คิดเกีย่ วกับการรักษาคำพดู การรักชาตบิ ้านเมือง รกั เกียรตแิ ละศกั ดศ์ิ รีของตนเอง ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล 1. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คำถามท้าทาย ดังนี้ - นกั เรยี นสามารถนำคณุ คา่ ที่ไดจ้ ากเรือ่ ง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา ไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ อยา่ งไร ๙. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ ผลงานนกั เรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ วิธีการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจผลงานนกั เรยี น แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน ๑๐. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ ๑๐.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรียน ภาษาไทย : วรรณคดีและวรรณกรรม ม.1 2) ผลงาน เรอ่ื ง การวเิ คราะห์และอธบิ ายคุณค่า ตอน สมิงพระรามอาสา ๑๐.2 แหล่งการเรยี นรู้ • แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.yorwor2.ac.th/thaionline/unit4/rachatirat.html - http://www.trueplookpanya.com/true/lesson_plan_detail.php?lesson_plan_id=1116
ใบงาน การวิเคราะหแ์ ละอธบิ ายคณุ ค่า ตอน สมงิ พระรามอาสา คำช้ีแจง ให้นักเรียนอ่านวรรณคดเี รื่อง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา แลว้ วเิ คราะหแ์ ละอธิบายคณุ คา่ 1. วเิ คราะหร์ ูปแบบ เน้ือหา และลักษณะการประพันธ์ของเร่ือง 2. อธิบายคุณคา่ ของเร่ืองตอนที่น่าประทบั ใจและมีคณุ ค่า
3. อธิบายคุณค่าดา้ นวรรณศลิ ป์ 4. อธบิ ายคุณคา่ ด้านสงั คม 5. มีความคาดหวังอยา่ งไรต่อการศกึ ษาวรรณคดเี รื่อง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา และได้ผล ตามความคาดหวงั หรอื ไม่ เพราะเหตุใด
เฉลยใบงาน การวิเคราะห์และอธิบายคณุ ค่า ตอน สมงิ พระรามอาสา คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นอ่านวรรณคดเี ร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา แล้ววิเคราะห์และอธบิ ายคณุ คา่ 1. วเิ คราะห์รปู แบบ เนื้อหา และลักษณะการประพันธ์ของเรื่อง รปู แบบ วรรณคดีเรอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา เป็นวรรณคดเี ก่ียวกับเหตกุ ารณ์ประวตั ิศาสตร์ เขยี นขนึ้ จากพงศาวดารของชนชาตมิ อญ เลา่ ถึงราชวงศข์ องมอญ และการทำสงครามระหวา่ งมอญกบั พมา่ ในสมยั พระเจ้าราชาธริ าช เนอ้ื หา ตอน สมิงพระรามอาสา เปน็ ตอนที่สมงิ พระรามทหารเอกของมอญถกู พม่าจบั ตวั ไปขังทีเ่ มืององั วะ กองทพั จนี ยกมาทา้ ให้ส่งทหารพม่ามาตอ่ สกู้ บั ทหารเอกของจีนตัวตอ่ ตวั ไมม่ ที หารพม่าอาสาออกไปรบ สมงิ พระรามจงึ ได้อาสาออกไปรบแทน เมื่อสมงิ พระรามเอาชนะทหารเอกของจีนได้ พระเจา้ กรุงอังวะจงึ ตอบแทน ดว้ ยการแต่งตง้ั ให้เปน็ อุปราช และยกพระธิดาให้ สมิงพระรามขอคำสญั ญาจากพระเจา้ กรุงองั วะว่า จะไม่เรียกสมงิ พระรามวา่ เชลย ตอ่ มาพระเจา้ กรุงอังวะเผลอเรียกหลานชายซง่ึ เปน็ ลกู ของพระธดิ ากับสมงิ พระราม วา่ ลกู เชลย สมงิ พระรามจึงกลบั กรงุ หงสาวดี ลกั ษณะการประพนั ธ์ ราชาธิราชเปน็ วรรณคดีร้อยแก้ว คล้ายกบั นวนยิ ายไทยสมัยปัจจบุ นั มีการดำเนนิ เรอื่ ง ตวั ละครท่มี ีลักษณะเป็นมนษุ ยม์ คี วามสามารถดา้ นการศึกษาเลา่ เรียน ไมม่ อี ทิ ธิฤทธ์หิ รอื อำนาจพเิ ศษใดๆ มบี ทสนทนาใหร้ วู้ ่าเปน็ การพดู คยุ โต้ตอบของตัวละคร มฉี ากทสี่ มั พันธก์ บั เรอื่ ง 2. อธิบายคณุ ค่าของเร่ืองตอนที่น่าประทับใจและมีคุณค่า (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน)
3. อธบิ ายคุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ วรรณคดีเรือ่ ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา มีความดเี ดน่ ในดา้ นการใชโ้ วหาร เช่น การเลา่ เรื่องใชบ้ รรยาย โวหาร ภาษาท่ีใชส้ ละสลวย ทำใหผ้ อู้ า่ นเกิดจินตภาพ เชน่ การบรรยายรปู ร่างลกั ษณะของม้า แตบ่ างตอนกใ็ ช้ คำโบราณท่ีจะตอ้ งศึกษาความหมาย การเปรียบเทียบใช้อปุ มาโวหารซ่งึ มคี วามโดดเดน่ ตลอดทง้ั เรอื่ ง 4. อธิบายคณุ ค่าดา้ นสงั คม วรรณคดเี รอ่ื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา สะทอ้ นใหเ้ หน็ คา่ นยิ มและความเชอื่ ของคนในสังคม สมยั รชั กาลที่ 1 แหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ซง่ึ เปน็ สมัยทแี่ ตง่ วรรณคดี เรอ่ื งราชาธิราช เชน่ - ความเช่ือเรือ่ งฤกษ์ยามกอ่ นทจี่ ะทำสิ่งใดกต็ ้องให้โหรหาฤกษ์ยาม - ความจงรักภกั ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศนู ยร์ วมจติ ใจของคนในสังคม - การรักษาสัจจะ เชน่ พระเจ้ากรงุ จีนรกั ษาสัจจะเม่ือกามะนีทหารเอกแพ้สมิงพระราม พระองค์ก็ยอมยกทพั กลบั ตามสญั ญาท้ังๆ ท่ที หารจนี จะใหส้ ู้ต่อ พระเจา้ กรุงองั วะไม่รกั ษาสัจจะเรียกสมิงพระรามวา่ เชลย ด้วยความ พลงั้ เผลอ สมิงพระรามจึงหนีกรงุ หงสาวดี 5. มคี วามคาดหวงั อยา่ งไรต่อการศึกษาวรรณคดีเร่ืองราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา และไดผ้ ล ตามความคาดหวังหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของครผู สู้ อน)
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกับ ระดบั คะแนน ลำดั ชื่อ-สกุล ความ การแสดง การรบั ฟงั การต้งั ใจ การแก้ไข รวม บ ที่ ของผ้รู ับการ ร่วมมอื กนั ความ ความ ทำงาน ปัญหา/หรอื 20 ทำกจิ กรรม คิดเหน็ คิดเห็น ปรบั ปรงุ คะแนน ประเมนิ ผลงานกล่มุ 43214321432143214321 ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธิบาย กษัตริย์ ความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าท่ีของนักเรยี น 1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกับสมาชิกในช้ันเรียน 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชุมชน 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ติ นตามหลัก ของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมท่เี ก่ยี วกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามท่ี โรงเรยี น และชุมชนจัดขึน้ 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มูลทถ่ี ูกต้อง และเปน็ จริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลัวทจี่ ะทำความผิด ทำ ตาม สญั ญาทต่ี นให้ไว้กับเพ่ือน พ่อแม่หรอื ผูป้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อ่นื ด้วยความซื่อตรง 3. มวี นิ ยั 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว รับผดิ ชอบ และโรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรียนร้ตู า่ งๆ 4.2 มีการจดบันทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ได้อยา่ งมเี หตผุ ล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง เชน่ สงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั พอเพยี ง คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตดั สินใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่ืน และไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมให้อภัยเม่ือ ผู้อ่นื กระทำผิดพลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ ีวติ ประจำวนั บนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรับตวั อยู่รว่ มกับผู้อ่ืนไดอ้ ย่างมีความสุข 6. ม่งุ มั่นในการ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบง่ ปันส่ิงของใหผ้ ู้อ่ืน 8.3 ร้จู กั ดูแล รักษาทรพั ย์สมบัติและสงิ่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรียน ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกว่า 54 ปรบั ปรุง
แบบบันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ ผลการ ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5 ม.1/8 ม.1/9 ผา่ น ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไมผ่ ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน จดั การ ผ่าน ไม่ผ่าน เรียนรู้ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ 1. นักเรยี น 33 84.61 6 15.38 33 84.61 6 15.38 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 32 84.21 6 15.78 วเิ คราะห์ 33 84.61 6 15.38 33 84.61 6 15.38 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 32 84.21 6 15.78 คณุ คา่ และ ข้อคิดจาก วรรณคดี เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมิง พระราม อาสา ได้ (K) 2. นักเรยี น สามารถ เขยี นสรุป คณุ ค่าและ ขอ้ คดิ จาก วรรณคดี เร่อื ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระราม อาสา ได้(P) 3. นกั เรียน 33 84.61 6 15.38 33 84.61 6 15.38 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 32 84.21 6 15.78 มี คณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์คือ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ รักความ เปน็ ไทย (A)
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแก้ไข 1.นกั เรียนบางคนไม่สามารถวิเคราะห์คณุ คา่ และข้อคิดจากวรรณคดเี รอื่ ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสาได้ เนือ่ งจากนักเรยี นไม่เขา้ เรียน 2.นกั เรียนบางคนไมส่ ามารถเขียนสรุปคณุ คา่ และข้อคดิ จากวรรณคดีเร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสาได้ เนือ่ งจากไม่เขา้ เรียน ทำใหน้ ักเรยี นไม่เข้าใจในเน้ือหาท่ีเรยี น และไมส่ ามารถทำการสืบค้นหาคำตอบดว้ ยตนเอง จึงไมม่ ี งานส่งครู 3.นักเรียนบางคนไม่มีความสนใจและกระตือรอื ร้นในการเรียนและขาดความรบั ผดิ ชอบในการเรียน ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข 1. นกั เรียนท่ีไม่ผา่ นการประเมินใหท้ ำใบงานสง่ ตามเวลาทก่ี ำหนด 2. ให้นกั เรยี นศึกษาเน้ือหาทเี่ รียนผ่านวิดโี อท่ีครสู ่งผ่านไลน์กลุ่มวิชาภาษาไทย 3. ตดิ ตามนักเรียนทไ่ี ม่เข้าเรียน โดยผ่านไลน์แจ้งครทู ี่ปรึกษา และส่งข้อมูลใหผ้ ู้ปกครอง ลงช่ือ............................................................ผู้สอน (นางสาวผอบ หลีเหลม็ )
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒ ช่ัวโมง สพม.ยะลา หน่วยที่ ๕ ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา เรือ่ ง การสรุปความรู้และข้อคดิ ผสู้ อน นางสาวผอบ หลีเหล็ม โรงเรยี นคณะราษฎรบำรุง จงั หวัดยะลา 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และนำมา ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ๒. ตัวชีว้ ดั ม.1/4 สรุปความรู้และข้อคิดจากการอา่ นเพ่ือประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจรงิ ๓. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การวเิ คราะห์คุณคา่ วรรณคดเี กีย่ วกบั เหตกุ ารณ์ประวตั ิศาสตรจ์ ากวรรณคดเี รื่อง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา จะต้องสรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. ความรู้ (K) - สรุปความรู้และข้อคิดจากวรรณคดเี ร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา เพื่อประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริงได้ ๒. ทักษะกระบวนการ (P) - ทักษะกระบวนการคดิ ๓. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) - มีวินัย - ใฝ่เรยี นรู้ - รักความเป็นไทย 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการสรปุ ลงความเห็น 3) ทักษะการประยุกต์ใชค้ วามรู้ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๖. บรู ณาการ อาเซียน ท้องถิ่น ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 7. สาระการเรยี นรู้ - การวิเคราะห์คุณคา่ และข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม วธิ สี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) คาบท่ี 1 ขัน้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1. นกั เรียนร่วมกันทบทวนวรรณคดเี ร่อื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา 2. ครูกำหนดประเด็นปัญหาในการศกึ ษาวรรณคดีเรื่อง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา คอื นำเสนอการนำ ความร้แู ละขอ้ คิดที่ไดจ้ ากการศึกษาวรรณคดีเร่ือง ราชาธิราช ตอน สมิงพระรามอาสา ไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันได้ 3. นกั เรียนวเิ คราะหค์ วามรู้และขอ้ คดิ จากการศึกษาวรรณคดี เร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา 1. ให้นักเรยี นศึกษาวรรณคดี เร่ืองราชาธริ าช ตอนสมงิ พระรามอาสา จากหนังสือเรียน 2. ครูกำหนดประเดน็ ความรู้ใหน้ ักเรียนศกึ ษาและสืบคน้ ความรูเ้ พิม่ เติมจากแหล่งข้อมลู สารสนเทศ ดังน้ี - นักเรยี นสามารถนำความรู้ท่ีได้จากเรือ่ งราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา สามารถนำไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างไรบา้ ง - นักเรียนไดข้ ้อคิดอะไรบา้ งจากเร่ืองราราชาธิราช ตอนสมิงพระรามอาสา ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ 1. นักเรยี นจัดระบบความคิด ต้ังสมมุติฐานเพ่ืออธิบายความรู้และข้อคดิ จากวรรณคดีเร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมิง พระรามอาสา เพือ่ ใช้ในการแก้ประเด็นปัญหา คอื การนำเสนอการนำความรู้ และข้อคิดไปใช้ในชีวิตประจำวัน 2. นักเรียนทบทวนความคิด และทำความเข้าใจปญั หาน้ันๆ ให้ชดั เจน คาบท่ี 2 ขนั้ ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ 1. นักเรียนร่วมกนั อภปิ รายความรู้และข้อคดิ ทไ่ี ด้จากการศึกษาวรรณคดีเร่ือง ราชาธริ าช ตอน สมิงพระรามอาสา 2. นักเรียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การนำความรแู้ ละข้อคิดไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั 3. นกั เรียนทำนายหรอื พยากรณป์ ญั หาท่ีอาจเกิดข้นึ วา่ เมื่อนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันแล้วผลเป็นอย่างไร และแก้ไข อยา่ งไร 4. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียนได้ข้อคดิ อย่างไรเกี่ยวกับการปูนบำเหนจ็ รางวัล (พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น
๙. การวัดและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วิธกี าร แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่าน รายบุคคล เกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่าน สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น เกณฑ์ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น ๑๐. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ —
แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสา คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดคอื คำส่ังของพระเจ้ากรุงต้าฉงิ ในการรบครั้งน้ี 5. ข้อใดแสดงถงึ ลกั ษณะเด่นของพระเจา้ กรุงจีน ก. หากผูใ้ ดไมม่ ีอาวุธต่อสู้ หา้ มทำอนั ตรายเดด็ ขาด ก. ปลาหมอตายเพราะปาก ข. ฆา่ เชลยทุกคน ยกเวน้ สมณชพี ราหมณ์ ข. มือถือสากปากถือศลี ค. ริบทรพั ย์สินเงินทองของเชลยทกุ คน ค. เสียชพี อยา่ เสียสัตย์ ง. หากมผี ู้ขดั ขวางใหฆ้ า่ ทั้งหมด ง. ปากวา่ ตาขยิบ อ่านข้อความทก่ี ำหนด แล้วตอบคำถาม ขอ้ 2-4 6. เหตใุ ดสมิงพระรามจึงอาสาออกรบ ก. อยากมอี ำนาจในกรุงรตั นะบรุ ะองั วะ “ พระเจ้ากรงุ จนี ยกมาครงั้ นอ้ี ปุ มาดังฝนตกหา่ ใหญ่ ข. ตอ้ งการรางวัลตอบแทนจากการรบ ตกลงน้ำนองทว่ มป่า ไหลเชย่ี วมาเมอ่ื วสนั ตฤดูน้นั ค. เพราะต้องคดิ แผนการหลบหนีระหวา่ งรบ หาส่ิงใดจะต้านทานมไิ ด้ ” ง. เพือ่ ป้องกนั ไม่ให้จีนยกทพั ตอ่ ไปยงั กรงุ หงสาวดี 2. ขอ้ ความข้างตน้ สือ่ ความหมายอยา่ งไร 7. ม้าทสี่ มิงพระรามเลือกไว้ใช้ในการตอ่ สู้กับกามะนี ก. การเกิดศึกสงครามอยูใ่ นชว่ งฤดฝู น มีลกั ษณะอย่างไร ข. กองทพั ทีย่ ่ิงใหญ่มักจะยกทัพมาพร้อมกบั สายฝน ก. รูปรา่ งอว้ น งามสง่า ค. กองทัพมีความยงิ่ ใหญย่ ากที่จะมใี ครต้านทานได้ ข. แขง็ แรง มีกำลงั มาก ง. การเดินทพั ต้องเผชญิ กับอุปสรรคทีเ่ ปน็ น้ำป่า ค. เป็นม้าเชลยศกั ด์ิที่ผา่ นการคดั เลอื ก อันเชย่ี ว ง. หลังมา้ มลี ักษณะถกู ต้องตามตำราดูม้า 3. ขอ้ ความท่ียกมานมี้ ลี ักษณะเด่นอย่างไร 8. ข้อใดเป็นสาเหตทุ ท่ี ำให้กามะนแี พส้ มงิ พระราม ก. ช่วยใหเ้ กดิ ความรู้ ก. เพราะเสียรู้ และเผยจุดอ่อนใหส้ มงิ พระรามรู้เทา่ ทนั ข. ชว่ ยให้เกิดจินตภาพ ข. เพราะขาดประสบการณ์ ดอ้ ยฝมี ือในการรบ ค. ช่วยใหเ้ กดิ ความคิด ค. เพราะใชอ้ าวธุ ไม่เหมาะสมในการรบ ง. ชว่ ยให้เกิดความสามารถในการเขยี น ง. เพราะมา้ มกี ำลงั นอ้ ยกวา่ 4. กองทัพพระเจ้ากรงุ จีนมลี ักษณะอย่างไร 9. ขอ้ ใดแสดงใหเ้ หน็ ประเพณที างการทูตในเรื่อง ก. มเี สบยี งอาหารจำนวนมาก ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสา ข. มผี ทู้ ม่ี ีความสามารถมาก ก. สมงิ พระรามทลู ขอตะกรวยและขอเหลก็ ค. มีอาวุธยุทโธปกรณม์ าก ข. พระเจ้ามณเฑยี รทองให้ตรวจดชู ะตาเมือง ง. มกี ำลงั มาก ค. พระเจา้ ฝร่ังมังฆอ้ งปนู บำเหน็จรางวัลใหส้ มงิ พระราม ง. พระเจ้ากรงุ ต้าฉงิ สง่ เครอ่ื งราชบรรณาการให้พระเจา้ กรุงองั วะ
10. เหตุใดราชาธิราช จงึ จดั เป็นวรรณกรรมประเภทพงศาวดาร ก. เพราะเปน็ เรอื่ งราวเกยี่ วกับพระมหากษัตรยิ ์ ข. เพราะใชฉ้ ากในการแตง่ ในสมัยโบราณ ค. เพราะใช้โวหารคมคายในการแตง่ ง. เพราะมเี หตกุ ารณ์ทตี่ ื่นเตน้ เรา้ ใจ เฉลย 1. ก 2. ค 3. ข 4. ง 5. ค 6. ง 7. ข 8. ก 9. ค 10. ก
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ท่ตี รง กับระดบั คะแนน ลำดบั ชือ่ -สกุล ความมีวินัย ความมีน้ำใจ การรบั ฟงั การแสดง การตรงตอ่ รวม ท่ี ของผรู้ ับการ เอือ้ เฟอ้ื ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น เวลา 20 ประเมนิ เสียสละ คะแนน 43214321432143214321 ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธิบาย กษัตริย์ ความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธแิ ละหน้าท่ีของนักเรยี น 1.3 ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในช้ันเรียน 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ ต่อโรงเรียนและชุมชน 1.5 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตนตามหลัก ของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกจิ กรรมท่เี กีย่ วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่ี โรงเรยี น และชุมชนจดั ขึน้ 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะทำความผิด ทำ ตาม สญั ญาทต่ี นให้ไว้กับเพ่ือน พ่อแม่หรอื ผูป้ กครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อ่นื ด้วยความซื่อตรง 3. มวี นิ ยั 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของครอบครัว รับผดิ ชอบ และโรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรตู้ ่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรไู้ ด้อยา่ งมเี หตผุ ล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง เช่น สิ่งของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั พอเพยี ง คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแล อยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่ืน และไม่ทำให้ผู้อืน่ เดือดร้อน พร้อมให้อภัยเม่ือ ผู้อน่ื กระทำผิดพลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพึงประสงคด์ า้ น 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ ีวติ ประจำวันบนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรับตวั อยู่รว่ มกับผู้อ่นื ไดอ้ ย่างมีความสขุ 6. ม่งุ มั่นในการ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสำเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบง่ ปันส่งิ ของใหผ้ อู้ น่ื 8.3 ร้จู กั ดูแล รักษาทรพั ย์สมบัติและส่ิงแวดล้อมของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ตำ่ กวา่ 54 ปรบั ปรุง
แบบบนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการ ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5 ม.1/8 ม.1/9 ผ่าน ไม่ผา่ น ผ่าน ไม่ผา่ น ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไม่ผา่ น จดั การ ผ่าน ไมผ่ า่ น เรียนรู้ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ 1. นักเรียน 33 84.61 6 15.38 33 84.61 6 15.38 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 32 84.21 6 15.78 สรปุ คณุ คา่ 33 84.61 6 15.38 33 84.61 6 15.38 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 32 84.21 6 15.78 และขอ้ คิด จาก วรรณคดี เรอ่ื ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระราม อาสา ได้ (K) 2. นักเรยี น สามารถ เขียนสรปุ คณุ ค่าและ ขอ้ คดิ จาก วรรณคดี เรอ่ื ง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระราม อาสา ได้(P) 3. นักเรียน 33 84.61 6 15.38 33 84.61 6 15.38 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 32 84.21 6 15.78 มี คุณลักษณะ อันพึง ประสงค์คือ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ รักความ เปน็ ไทย (A)
ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแกไ้ ข 1.นกั เรยี นบางคนไมส่ ามารถสรปุ คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีเรื่อง ราชาธริ าช ตอน สมงิ พระรามอาสาได้ เน่ืองจากนักเรยี นไมเ่ ขา้ เรยี น 2.นักเรยี นบางคนไม่สามารถเขยี นสรปุ คณุ ค่าและขอ้ คิดจากวรรณคดีเรือ่ ง ราชาธิราช ตอน สมงิ พระรามอาสาได้ เนื่องจากไมเ่ ขา้ เรียน ทำให้นักเรยี นไม่เข้าใจในเน้ือหาทีเ่ รียน และไมส่ ามารถทำการสืบค้นหาคำตอบด้วยตนเอง จึงไม่มี งานส่งครู 3.นกั เรียนบางคนไม่มคี วามสนใจและกระตือรอื รน้ ในการเรยี นและขาดความรับผิดชอบในการเรียน ข้อเสนอแนะและการแก้ไข 1. นักเรียนท่ีไม่ผ่านการประเมินให้ทำใบงานสง่ ตามเวลาท่ีกำหนด 2. ใหน้ ักเรียนศึกษาเน้ือหาท่ีเรียนผา่ นวิดีโอที่ครูส่งผ่านไลน์กลุ่มวิชาภาษาไทย 3. ตดิ ตามนักเรียนทีไ่ ม่เข้าเรยี น โดยผ่านไลน์แจง้ ครทู ี่ปรึกษา และสง่ ข้อมลู ให้ผู้ปกครอง ลงชื่อ............................................................ผู้สอน (นางสาวผอบ หลเี หล็ม)
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๒๑๑๐๒ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒ ชัว่ โมง สพม.ยะลา หน่วยที่ ๒ กาพย์เห่ชมเครอ่ื งคาวหวาน เรื่อง หลักการอ่านออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ผู้สอน นางสาวผอบ หลเี หล็ม โรงเรียนคณะราษฎรบำรงุ จังหวัดยะลา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพอ่ื นำไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รักการอ่าน ๒. ตัวชวี้ ัด ม.1/1 อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเร่ืองที่อา่ น ๓. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองแต่ละประเภท จะต้องฝึกอ่านใหถ้ กู ต้องเหมาะสมกบั ประเภทของบทร้อยกรองท่ีอ่าน ๔. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. ความรู้ (K) - บอกหลักการอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยกรองแต่ละประเภทได้ถูกต้อง ๒. ทกั ษะกระบวนการ (P) - ทักษะกระบวนการอ่าน ๓. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) - มวี ินยั - ใฝ่เรียนรู้ - มงุ่ มัน่ ในการทำงาน ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๕.1 ความสามารถในการส่อื สาร ๕.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการต้ังเกณฑ์ 2) ทกั ษะการประเมิน ๖. บรู ณาการ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง อาเซยี น ท้องถนิ่
๗. สาระการเรียนรู้ การอ่านออกเสียง ประกอบด้วย - บทรอ้ ยกรอง เชน่ กลอนสุภาพ กลอนสักวา กาพย์ยานี 11 กาพยฉ์ บัง 16 กาพยส์ รุ างคนางค์ 28 และโคลงสี่สุภาพ ๘. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) คาบท่ี 1 ขั้นที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ 1. นกั เรียนฟงั เสยี งการอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองประเภทต่างๆ จากซีดีทีค่ รเู ปดิ แล้วร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับลักษณะของการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองแตล่ ะประเภท 2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-2 คำถามกระตุน้ ความคิด 1. การอ่านบทรอ้ ยกรองมปี ระโยชน์ตอ่ นกั เรยี นหรอื ไม่ อยา่ งไร (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผ้สู อน) 2. นกั เรยี นจะนำความรู้เรอ่ื ง การอ่านออกเสียง บทรอ้ ยกรองไปใชใ้ นชีวติ ประจำวันอยา่ งไร (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครผู ู้สอน) ขนั้ ท่ี 2 สำรวจคน้ หา 1. ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 6 คน คละกันตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลาง ค่อนข้างเก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อน โดยใหส้ มาชิกแตล่ ะคนเลือกหมายเลขประจำตัวตามความสมัครใจ ต้ังแต่หมายเลข 1-6 เรียกว่า กลมุ่ บ้าน 2. นักเรยี นที่มีหมายเลขเดียวกันมารวมกนั เป็นกล่มุ ใหม่ เรียกว่า กลมุ่ ผูเ้ ชี่ยวชาญ ครใู หส้ มาชิกในกลุม่ ผเู้ ชี่ยวชาญ รว่ มกันศึกษาความรเู้ ร่ือง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง จากหนงั สอื เรยี น ตามประเดน็ ความรทู้ ่ีกำหนด ดังน้ี - กลุ่มผเู้ ชีย่ วชาญหมายเลข 1-2 ศึกษาความรเู้ รื่อง วธิ กี ารอา่ นกลอนสภุ าพ - กลมุ่ ผู้เชย่ี วชาญหมายเลข 3-4 ศึกษาความรู้เร่ือง วธิ ีการกาพยย์ านี 11 - กลุ่มผู้เชยี่ วชาญหมายเลข 5-6 ศกึ ษาความร้เู ร่ือง วธิ กี ารอา่ นโคลงสส่ี ุภาพ 3. นักเรยี นกลุ่มผเู้ ชีย่ วชาญศึกษาความร้ใู นประเด็นทตี่ นรับผิดชอบ จากหนงั สือเรียน และฝกึ อา่ นออกเสยี งบท รอ้ ยกรองจากซีดีท่ีครูแจกให้ (หมายเลขเดียวกันอาจมซี ำ้ กันหลายกลุ่มกไ็ ด้ขน้ึ อยู่กับจำนวนนักเรยี น) 4. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ข้อ 1-3 คำถามกระตุน้ ความคิด 1. การอ่านบทร้อยแก้วแตกต่างจากการอา่ นบทร้อยกรองอยา่ งไร (การอ่านบทร้อยแก้วมุ่งใหเ้ กิดความถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี ชัดถ้อยชดั คำ ส่วนการอ่านบทรอ้ ยกรอง มุ่งให้เกิด ความเพลดิ เพลิน) 2. การอ่านบทร้อยกรองจะนำไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนส์ งู สดุ ในการศกึ ษาเรื่องใด (วรรณคดีและวรรณกรรม) 3. ถา้ อ่านบทรอ้ ยกรองไมไ่ ดจ้ ะเปน็ ผลเสียต่อนกั เรยี นอย่างไร
(ทำให้ขาดความซาบซง้ึ ในรสของภาษา) คาบที่ 2 ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ 1. สมาชิกในกลุ่มผ้เู ชยี่ วชาญรว่ มกันอภปิ รายและฝึกอ่าน ออกเสยี งบทร้อยกรองจนทุกคนมคี วามเขา้ ใจกระจา่ ง ชัดในประเดน็ ที่ศกึ ษาและอา่ นไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 2. สมาชกิ กล่มุ ผู้เชยี่ วชาญกลบั ไปยังกล่มุ เดมิ ของตนทเี่ รียกวา่ กลมุ่ บ้าน 3. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ บ้านผลัดกันอธิบายเพื่อถ่ายทอดความรทู้ ี่ตนได้ไปศึกษามา โดยเริ่มจากหมายเลข 1-6 ตามลำดับ หรอื อาจถ่ายทอดความรูต้ ามความสมคั รใจ โดยไมเ่ รยี งลำดบั กไ็ ด้แต่ทุกคนตอ้ งถ่ายทอดความรู้จนครบ ข้ันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ 1. นกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนวธิ ีการอา่ นออกเสียงบทร้อยกรอง แต่ละประเภท 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มฝึกอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยกรองประเภทต่างๆ ตามคำแนะนำของผูเ้ ชี่ยวชาญในแตล่ ะเร่ืองจน สามารถอ่านได้ถกู ต้อง 3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ คำถามกระตุ้นความคดิ ถา้ นกั เรียนรู้หลักการอ่านบทรอ้ ยกรองแล้ว แต่ยังอา่ นไมไ่ ด้ นกั เรียนจะปรับปรุงอย่างไร (ฝึกอ่านอยู่เสมอและขอคำแนะนำ ความชว่ ยเหลือจากผู้ท่มี ีความรคู้ วามสามารถในด้านน้ี) ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล 1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรุปหลกั การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทต่างๆ 2. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคดิ คำถามกระตุ้นความคดิ นกั เรียนได้รับประโยชน์จากการฝึกอ่าน บทร้อยกรองอย่างไร และแตกต่างจากทีน่ ักเรยี นเคยเรยี นมาในช้ัน ประถมศึกษาหรอื ไม่ จงอธิบาย (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครผู ู้สอน) ๙. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑ์ ประเมินการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
๑๐. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ ๑๐.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนังสือเรยี น ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ้ าษา ม.1 2) ซดี ีการอ่านบทร้อยกรอง ๑๐.2 แหล่งการเรียนรู้ —
แบบประเมิน การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง คำช้แี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมการอา่ นของนกั เรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดบั คะแนน ลำดบั ช่ือ-สกุล ถกู ต้องตาม การแบง่ ออกเสียง การใช้ รวม ที่ ของผู้รับการ ลกั ษณะ วรรคตอน ชดั เจน นำ้ เสียง 16 ประเมนิ คำประพนั ธ์ คะแนน 4321 4321 432 1 4321 ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ปฏบิ ตั ิไดถ้ ูกตอ้ ง ปฏบิ ัติมีขอ้ บกพร่องเล็กน้อย ให้ 4 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบตั ิมขี อ้ บกพร่องปานกลาง ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 2 คะแนน 14 - 16 ดมี าก ให้ 1 คะแนน 11 - 13 ดี 8 - 10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่อง ทตี่ รงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ชอ่ื -สกุล ความมีวนิ ยั ความมี การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ที่ ของผรู้ ับการ ประเมิน นำ้ ใจ ความ ความ เวลา 20 เออ้ื เฟื้อ คดิ เหน็ คดิ เห็น คะแนน เสียสละ 43214321 432 14321 4321 ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยคร้งั ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ คำชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดั ช่ือ-สกุล ความ การแสดง การรบั ฟงั การต้งั ใจ การแกไ้ ข รวม บ ที่ ของผ้รู ับการ ร่วมมอื กนั ความ ความ ทำงาน ปัญหา/หรือ 20 ทำกจิ กรรม คดิ เหน็ คิดเหน็ ปรบั ปรุง คะแนน ประเมนิ ผลงานกลุ่ม 43214321432143214321 ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดมี าก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงค์ด้าน 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ ินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ าย กษัตริย์ ความหมายของ เพลงชาติ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของนักเรยี น 1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชกิ ในชน้ั เรียน 1.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ ต่อโรงเรยี นและชุมชน 1.5 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตนตามหลัก ของศาสนา 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมทเ่ี กี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่ี โรงเรยี น และชุมชนจัดขน้ึ 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต 2.1 ให้ขอ้ มูลท่ีถูกตอ้ ง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งที่ถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะทำความผดิ ทำ ตาม สญั ญาทต่ี นให้ไว้กับเพ่ือน พ่อแม่หรอื ผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏบิ ตั ิตอ่ ผู้อ่นื ด้วยความซอ่ื ตรง 3. มวี นิ ยั 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว รับผดิ ชอบ และโรงเรียน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ 4.2 มีการจดบนั ทึกความรู้อย่างเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล 5. อยู่อย่าง 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง เช่น ส่งิ ของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั พอเพยี ง คุ้มค่า และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเก็บรกั ษาดูแล อยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตผุ ล 5.4 ไมเ่ อาเปรียบผู้อ่ืน และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมให้อภัยเมอ่ื ผู้อน่ื กระทำผิดพลาด
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อันพงึ ประสงคด์ ้าน 4321 5.5 วางแผนการเรียน การทำงานและการใชช้ ีวติ ประจำวันบนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 5.6 รู้เทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตวั อยู่รว่ มกับผู้อ่นื ไดอ้ ย่างมีความสขุ 6. ม่งุ มั่นในการ 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย ทำงาน 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสำเรจ็ 7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบง่ ปันส่งิ ของให้ผอู้ น่ื 8.3 รู้จกั ดูแล รักษาทรพั ย์สมบัติและสงิ่ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ตำ่ กวา่ 54 ปรบั ปรุง
แบบบันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ ผลการ ม.1/1 ม.1/3 ม.1/5 ม.1/8 ม.1/9 ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ า่ น ผา่ น ไมผ่ า่ น จดั การ ผา่ น ไม่ผ่าน เรยี นรู้ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ คน ℅ 1. นักเรยี น 30 76.92 9 23.07 34 87.17 5 12.82 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 35 92.10 3 7.89 สามารถบอก 30 76.92 9 23.07 34 87.17 5 12.82 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 35 92.10 3 7.89 หลกั การ อ่านออก เสยี งบทรอ้ ย กรองแต่ละ ประเภทได้ ถูกตอ้ ง(K) 2. นักเรยี น สามารถอ่าน ออกเสยี งบท รอ้ ยกรองแต่ ละประเภท ได้ถกู ต้อง(P) 3. นักเรียน 30 76.92 9 23.07 34 87.17 5 12.82 32 84.21 6 15.78 25 92.59 3 11.11 35 92.10 3 7.89 มี คณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงคค์ อื มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ รักความ เปน็ ไทย (A) ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางการแกไ้ ข 1.นักเรียนบางคนไม่สามารถสามารถบอกหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองแต่ละประเภทได้ถูกต้องเน่ืองจาก นกั เรยี นไม่เข้าเรยี น 2.นักเรียนบางคนไม่สามารถอ่านออกเสียงบทร้อยกรองแต่ละประเภทได้ถูกต้องเนื่องจากไมเ่ ขา้ เรยี น ทำให้นักเรียน ไมเ่ ข้าใจในเนื้อหาทเี่ รียน และไม่สามารถทำการสบื ค้นหาคำตอบดว้ ยตนเอง จงึ ไม่มีงานส่งครู 3.นักเรียนบางคนไม่มีความสนใจและกระตือรอื ร้นในการเรยี นและขาดความรบั ผิดชอบในการเรยี น
ข้อเสนอแนะและการแกไ้ ข 1. นักเรยี นที่ไมผ่ ่านการประเมนิ ให้ทำใบงานสง่ ตามเวลาที่กำหนด 2. ใหน้ ักเรียนศกึ ษาเน้ือหาท่ีเรยี นผ่านวิดีโอที่ครสู ่งผา่ นไลน์กลุ่มวชิ าภาษาไทย 3. ตดิ ตามนักเรยี นท่ไี ม่เขา้ เรยี น โดยผา่ นไลน์แจ้งครทู ี่ปรกึ ษา และสง่ ข้อมลู ใหผ้ ้ปู กครอง ลงช่อื ............................................................ผู้สอน (นางสาวผอบ หลีเหล็ม)
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ รหสั วชิ า ท๒๑๑๐๒ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ รายวิชา ภาษาไทย หน่วยที่ ๒ กาพย์เหช่ มเครื่องคาวหวาน ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒ ชั่วโมง เร่อื ง มารยาทในการฟังและการดู สพม.ยะลา ผู้สอน นางสาวผอบ หลีเหล็ม โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู กึ ใน โอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ๒. ตวั ช้วี ัด ม.1/6 มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ๓. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การฟงั และการดูทม่ี ีประสิทธิภาพนัน้ ต้องฝึกใหม้ ีมารยาทในการฟังและการดู ๔. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. ความรู้ (K) - อธิบายมารยาทในการฟังและการดูได้ ๒. ทักษะกระบวนการ (P) - ทักษะกระบวนการฟัง - ทักษะกระบวนการพูด ๓. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) - มวี นิ ยั - ใฝ่เรยี นรู้ - ม่งุ ม่ันในการทำงาน ๕. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๕.1 ความสามารถในการส่ือสาร ๕.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการต้ังเกณฑ์ 2) ทักษะการประเมิน 3) ทักษะการสรุปลงความเหน็
๕.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ๖. บูรณาการ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง อาเซยี น ท้องถน่ิ ๗. สาระการเรียนรู้ - มารยาทในการฟังและการดู ๘. กิจกรรมการเรยี นรู้ วธิ ีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน คาบท่ี 1 ขนั้ ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ 1. ครสู นทนากับนักเรียนเกยี่ วกับมารยาทไทย จากน้ันใหน้ ักเรียนรว่ มกันบอกความหมายของมารยาท 2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ คำถามกระตุน้ ความคิด การปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีมารยาทเป็นผลดตี ่อตนเองอย่างไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน) ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา 1. นกั เรยี นรวมกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ จากนนั้ ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษาความรู้เร่ือง การฟงั และการดูส่ือ จากหนังสอื เรียน ตามประเด็นท่ีครูกำหนด ดังนี้ - การสือ่ สารจากการฟังและการดู - จดุ มุ่งหมายของการรับสารด้วยทกั ษะการฟัง และการดู - ลักษณะของผู้ฟงั และผดู้ ูท่ีดี - มารยาทในการฟงั และการดูสอื่ ตา่ งๆ 2. สมาชิกในแตล่ ะกล่มุ แบง่ หน้าทก่ี ันศึกษาความรู้ในประเด็นต่างๆ ตามความสนใจ หรือตามความเหมาะสม ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ 1. สมาชิกแตล่ ะกล่มุ ผลัดกนั อธิบายความร้ใู นประเดน็ ที่ตนรับผดิ ชอบ จากนัน้ รว่ มกันซักถามข้อสงสัย และหา คำตอบรว่ มกันเพ่ืออธบิ ายข้อสงสัยใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจมากย่ิงขน้ึ 2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ อภิปรายเพือ่ สรปุ ประเดน็ ความรู้ 3. นกั เรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระต้นุ ความคิด การปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มมี ารยาทเป็นผลดตี อ่ ตนเองอย่างไร (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน)
คาบท่ี 2 ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ 1. นักเรียนทำใบงานท่ี 1 เรื่อง การฟังและการดูสื่อ เป็นรายบคุ คล 2. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ นำคำตอบมาอภิปรายรว่ มกันจนไดค้ ำตอบทสี่ มบรู ณ์และมคี วามเขา้ ใจกนั ทุกคน แลว้ แก้ไขหรอื ปรับปรงุ คำตอบในใบงานของตนเองให้ถูกต้องและสมบรู ณ์ เสรจ็ แล้วนำสง่ ครตู รวจ 3. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ คำถามกระตนุ้ ความคิด ถา้ นักเรยี นฟังและดูส่อื ตา่ งๆจากทบี่ ้านซึง่ เป็นสถานทสี่ ่วนบุคคล จำเป็นตอ้ งมีมารยาทในการฟงั และดูส่ือ หรือไม่ เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน) ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล 1. ครูสุ่มเลอื กใบงานที่ 1 จำนวน 2-3 ใบงาน แล้วให้นกั เรียนทีเ่ ป็นเจ้าของใบงานออกมานำเสนอคำตอบที่หนา้ ชนั้ เรียน 2. ครใู ห้กำลังใจและยกยอ่ งกลมุ่ นักเรยี นที่ตอบคำถามไดถ้ ูกต้องมากทีส่ ดุ เพื่อเสริมกำลังใจ 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรูเ้ ก่ียวกับมารยาทในการฟังและการดู ๙. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ แบบทดสอบก่อนเรียน (ประเมินตามสภาพจริง) วิธกี าร ใบงานท่ี 1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1 รายบุคคล สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ สงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มั่นในการทำงาน ๑๐. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ ๑๐.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ม.1 2) ใบงานท่ี 6.1 เร่ือง การฟังและการดูส่ือ ๑๐.2 แหล่งการเรยี นรู้ —
แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง การฟงั และการดสู ื่อ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดแสดงวา่ ผฟู้ ังและผดู้ ูไมม่ ลี ักษณะของผูฟ้ งั และผู้ดทู ด่ี ี 6. การพดู ดหี มายความว่าอย่างไร ก. เด็กหญงิ เดือนมคี วามสนใจในสาร ก. พดู มเี หตผุ ล ข. เดก็ หญิงจนั ทรไ์ มม่ ีอคตติ ่อผสู้ ง่ สาร ข. พูดออ่ นหวาน ค. เด็กหญงิ เพญ็ เชื่อข้อมลู จากสารทไ่ี ดร้ ับฟัง ค. พดู ให้ผู้อ่ืนชนื่ ชม ง. เด็กหญิงดาวมีความสามารถในการจบั ใจความ ง. พดู ไพเราะ นา่ ฟัง และพดู ถกู ตอ้ ง 2. ข้อใดเปน็ การฟังหรอื ดูเพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ คดิ 7. ข้อใดคอื มารยาทสำคญั ในการพูดสนทนา ก. นายดำรงดูรายการพระธรรมเทศนา ก. พดู ตรงประเดน็ ข. นายดำรดิ รู ายการท่องเท่ียวไทยไมไ่ ปไมร่ ู้ ข. เคารพความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื ค. นายริเรม่ิ ดรู ายการแนะนำการทำอาหารของหมกึ แดง ค. ไม่พดู เรอื่ งของตนเองมากจนเกินไป ง. นายรอบรชู้ มนทิ รรศการเฉลิมพระเกยี รติ ง. พดู เรอื่ งทท่ี ัง้ 2 ฝา่ ย มคี วามสนใจและพอใจร่วมกนั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช 8. เหตุใดต้องรักษามารยาทการพดู ในทส่ี าธารณะมากกวา่ 3. ข้อใดไมใ่ ช่ผลดีของการมมี ารยาทในการฟงั และการดู การพูดระหวา่ งบุคคล ก. ทำใหเ้ ป็นผู้นำในสงั คม ก. เพราะเป็นเรอ่ื งทส่ี ังคมมคี วามสนใจ ข. ทำใหเ้ ป็นทยี่ กยอ่ งของสังคม ข. เพราะมผี ้ฟู งั ซงึ่ มคี วามแตกต่างกันอยา่ งหลากหลาย ค. ทำใหเ้ ปน็ ผทู้ ่มี มี นุษยสมั พนั ธด์ ี ค. เพราะเปน็ เร่อื งทอ่ี าจจะมกี ารฟ้องร้องเปน็ คดคี วามได้ ง. ทำใหเ้ ปน็ ผู้ท่ีมคี วามสามารถใหค้ ำแนะนำแก่สังคมได้ ง. เพราะเปน็ การสร้างศรัทธาใหเ้ กิดขึน้ ในกลมุ่ มวลชน ตามทต่ี อ้ งการ 4. ขอ้ ใดไมไ่ ดแ้ สดงว่าเป็นผ้มู คี วามสำรวม ก. นงั่ ตัวตรง 9. การใช้คำพดู ข้อใดทที่ ำใหผ้ ู้ฟังมีความรู้สกึ ทด่ี เี กดิ ขนึ้ ได้ ข. มีอาการสงบ ก. ใช้คำพูดที่ใหเ้ กยี รตแิ กผ่ ฟู้ ังเสมอ ค. มใี จจดจอ่ กบั เร่อื งทฟี่ ัง ข. ไมพ่ ดู หยาบโลนหรือตลกคะนอง ง. รอถามเมือ่ ผพู้ ดู เปดิ โอกาสให้ถาม ค. พูดใหด้ งั พอไดย้ นิ ท่ัวกันและไม่พูดเกินเวลาท่กี ำหนด ง. ไมพ่ ดู พาดพิงถึงเรอื่ งส่วนตัวของบคุ คลอื่นในท่ปี ระชมุ 5. ถ้าจำเปน็ ต้องออกจากสถานทท่ี ี่ไปฟังการพูดกอ่ นเวลา ควรทำอยา่ งไร 10. ขอ้ ใดเป็นการใชภ้ าษาพูดใหผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจจดุ ประสงค์ ก. นง่ั แถวหลังสดุ ก. ใช้ภาษาให้สมั พนั ธก์ ันทุกด้าน ข. นงั่ ใกลท้ างออก ข. หลีกเลยี่ งการใชภ้ าษาซ่งึ ตคี วามหลายแงห่ ลายมุม ค. บันทกึ ขออนุญาตออกก่อน ค. ใชภ้ าษาที่ชว่ ยให้ผู้รับสารเข้าใจไดถ้ ูกต้องรวดเร็ว ง. แจ้งให้ทราบลว่ งหน้าถึงความจำเป็น ง. ใชภ้ าษาแสดงความรู้ ความคดิ และเหตผุ ลประกอบกัน เฉลย 1. ค 2. ก 3. ง 4. ก 5. ข 6. ง 7. ง 8. ข 9. ก 10. ข
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124