Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภูมิศาสตร์หน่วยที่ 4

ภูมิศาสตร์หน่วยที่ 4

Published by kingmanee2614, 2021-02-22 03:49:53

Description: ภูมิศาสตร์หน่วยที่ 4

Search

Read the Text Version

ภมู ศิ าสตร์ ม. 5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การจดั การดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ ม 1



มาตรการในการจดั การวิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของโลก การจดั การดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม หมายถงึ การดาํ เนินการตอ่ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพื่อใหท้ รพั ยากร ธรรมชาตสิ ามารถเอ้อื อาํ นวยใหม้ วลมนุษยม์ ใี ชไ้ ด้ ตลอดไป โดยไมข่ าดแคลนและมปี ัญหาใด ๆ 3

มาตรการดา้ นกฎหมายระหว่างประเทศกเ็ ป็ นอกี มาตรการหนงึ่ ทีม่ ีความสาํ คญั ในการจดั การกบั วิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ มของโลก ขอ้ ตกลงทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั และนาํ มาใชเ้ ป็ นมาตรการในการจดั การแกไ้ ข ปัญหาวิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ มของโลก มดี งั น้ี 4

มาตรการในการจดั การวิกฤตการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของโลก อนุสญั ญาไซเตส (CITES) อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ งประเทศซง่ึ ชนิดพนั ธุส์ ตั วป์ ่ าและพืช ป่ าทใ่ี กลส้ ญู พนั ธุ์ เกิดข้ึนจากความตระหนกั ถึงผลกระทบทเ่ี กิดจาก การคา้ สตั วป์ ่ าและพืชป่ าซง่ึ มปี รมิ าณและมูลคา่ มหาศาล จนกลาย เป็นธุรกิจการคา้ ระหวา่ งประเทศทผ่ี ิดกฎหมาย ประเทศตา่ ง ๆ จงึ รว่ มกนั ลงนามในการประชมุ นานาชาตขิ องสหภาพสากลวา่ ดว้ ยการ อนุรกั ษธ์ รรมชาตแิ ละทรพั ยากรธรรมชาติ ทกี่ รุงวอชงิ ตนั ด.ี ซ.ี เม่อื พ.ศ. 2516 5

วตั ถุประสงค์ เพื่อควบคมุ การคา้ ระหวา่ งประเทศซง่ึ สตั วป์ ่ าและพืช ป่ าทใ่ี กลจ้ ะสญู พนั ธุ์ ตลอดจนผลิตภณั ฑข์ องสตั วป์ ่ าและพืชป่ า โดย การสรา้ งระบบการออกใบอนุญาตในการนาํ เขา้ สง่ ออก นาํ ผา่ น หรอื สง่ กลบั ออกไป เพื่อป้ องกนั มใิ หส้ ตั วป์ ่ าและพืชป่ าสญู พนั ธุไ์ ป จากโลก ประเทศไทยไดม้ กี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรม การไซเตสประจาํ ประเทศไทย และจดั ทาํ รายงานประจาํ ปีใหแ้ กค่ ณะเลขาธกิ าร ไซเตสเพื่อตรวจสอบสถิตเิ กี่ยวกบั การ สง่ ออกสตั วแ์ ละพืชของแตล่ ะปี 6

อนสุ ญั ญาเวียนนา (Vienna Convention) และพธิ ีสารมอนทรี ออล (Montreal Protocal) เป็ นขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศทสี่ บื เนื่องมาจากความวติ กกงั วลเก่ยี วกบั ปัญหา โอโซนของโลกถกู ทาํ ลาย ซง่ึ เป็ นผลมาจากการใชส้ ารทม่ี ีตวั ทาํ ลายโอโซนใน กิจกรรมตา่ ง ๆ วตั ถุประสงค์ เพ่ือลดและยกเลิกการใชส้ ารซเี อฟซี สารฮาลอน และสารอนื่ ๆ ทมี่ ีผลทาํ ใหช้ น้ั โอโซนเบา บางลงประเทศไทยปฏิบตั ติ ามพนั ธกรณขี องพิธีสาร ฉบบั น้ีโดยมีหนว่ ยงานหลกั ทร่ี บั ผดิ ชอบ คอื กรม โรงงานอตุ สาหกรรม กระทรวงอตุ สาหกรรม จดั ตงั้ คณะกรรมการกาํ หนดนโยบายเพื่อการปฏิบตั ใิ ห้ เป็นไปตามพิธีสารมอนทรอี อล 7

อนุสญั ญาสหประชาชาตวิ ่าดว้ ยการเปลยี่ นแปลงสภาพ ภมู ิอากาศ(The United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) อนุสญั ญาดงั กลา่ วเป็ นผลมาจากการเปล่ยี นแปลงของ สภาพอากาศของโลก ซงึ่ สบื เน่ืองมาจากปรมิ าณกา๊ ซ เรอื นกระจกทสี่ ะสมเพิ่มมากข้ึนในชนั้ บรรยากาศโลก ทาํ ใหเ้ กดิ ภาวะโลกรอ้ น สง่ ผลใหร้ ะดบั นาํ้ ทะเลเพ่ิมมาก ข้ึน สภาพภมู อิ ากาศทวั่ โลกแปรปรวน 8

วตั ถุประสงค์ เพื่อปกป้ องชนั้ บรรยากาศโลก โดยการรกั ษาระดบั ปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกในชนั้ บรรยากาศใหอ้ ยู่ ระดบั ทป่ี ลอดภยั ขอ้ ผูกพนั ทรี่ ฐั ภาคตี อ้ งปฏิบตั ติ าม อนุสญั ญาฯ ไดแ้ ก่ รวบรวมขอ้ มลู ทเี่ ก่ยี วกบั ปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก กาํ หนดนโยบาย แผนงาน และกลยุทธภ์ ายในประเทศ สง่ เสรมิ ความเขา้ ใจ ตลอดจนใหก้ ารศกึ ษาแกป่ ระชาชนใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั ปัญหาดงั กลา่ ว 9

ประเทศไทยไดม้ กี ารจดั ตงั้ คณะอนุกรรมการ ระดบั ชาติ และคณะผเู้ ชย่ี วชาญ เพื่อดแู ลและให้ คาํ ปรกึ ษาและวางนโยบาย และไดม้ กี ารจดั ประชุม เผยแพรค่ วามรูท้ างเอกสาร สงิ่ ตพี ิมพ์ และเผยแพร่ ขอ้ มลู ตลอดจนสารสนเทศทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั การ เปลี่ยนแปลงชนั้ บรรยากาศโลก 10

อนสุ ญั ญาว่าดว้ ยความหลากหลายทางชวี ภาพ (Convention on Biological Diversity-CBD) อนุสญั ญาฯ ทส่ี บื เนื่องมาจากความวติ กกงั วลของ ประชาคมโลกทมี่ ตี อ่ ปัญหาวกิ ฤตการณข์ องการ สญู เสยี ชนิดพนั ธุแ์ ละระบบนิเวศของโลก โดยเฉพาะ การตดั ไมท้ าํ ลายป่ าทนี่ าํ ไปสกู่ ารทาํ ลายระบบนิเวศและ สรา้ งมลภาวะตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม 11

วตั ถปุ ระสงค์ มี 3 ประการ ไดแ้ ก่ การอนุรกั ษค์ วามหลากหลายทางชีวภาพ การใชป้ ระโยชนข์ ององคป์ ระกอบความหลากหลายทาง ชวี ภาพอยา่ งยงั่ ยนื การแบง่ ปันผลประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการใชท้ รพั ยากร พนั ธุกรรม โดยทร่ี ฐั ภาคจี ะตอ้ งใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ อยา่ งยงั่ ยนื ประเทศไทยไดด้ าํ เนินกจิ กรรมทเี่ กีย่ วเนื่องกบั อนุสญั ญาทด่ี าํ เนินการไปแลว้ เชน่ จดั ทาํ นโยบายอนุรกั ษ์ ประกาศจดั ตงั้ อทุ ยานแหง่ ชาติ เขตรกั ษาพนั ธุส์ ตั วป์ ่ า เขตหา้ มลา่ สตั วป์ ่ า พ้ืนทอ่ี นุรกั ษป์ ่ าชายเลน 12

อนุสญั ญาบาเซลิ (Basel Convention) เป็นอนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการเคล่อื นยา้ ยขา้ มแดนของเสยี อนั ตรายและการกาํ จดั ซง่ึ เป็นผลสบื เน่ืองมาจากปัญหาของ การถา่ ยเทกากของเสยี อนั ตรายจากประเทศอตุ สาหกรรม ทพ่ี ฒั นาแลว้ ไปสปู่ ระเทศทก่ี าํ ลงั พฒั นา กอ่ ใหเ้ กิดการกระจาย มลภาวะไปยงั ดนิ แดนทม่ี มี ลภาวะนอ้ ยใหม้ มี ลภาวะมากยง่ิ ข้นึ 13

วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อควบคมุ การขนสง่ สารเคมีอนั ตรายขา้ มพรมแดนและควบคมุ การ กาํ จดั กากของเสยี อนั ตราย และลดความเสยี่ งของความเสยี หายทอ่ี าจ เกิดกบั มนุษยแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มทอี่ าจเกิดจากการขนยา้ ยกากสาร อนั ตราย รวมถึงควบคมุ การนาํ เขา้ สง่ ออก หรอื นาํ ผา่ น จะตอ้ งไดร้ บั อนุญาตจากประเทศผูเ้ กี่ยวขอ้ ง หากมอี ุบตั ภิ ยั ตอ้ งมีการชดใชใ้ หก้ บั ประเทศนนั้ ๆ 14

นําตวั อกั ษรในกรอบเตมิ หนา้ ขอ้ ทมี่ คี วามสมั พนั ธก์ นั ก อนุสญั ญาไซเตส ข อนุสญั ญาเวยี นนาและพธิ สี ารมอนทรอี อล ค อนุสญั ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ ง อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยความหลากหลายทางชวี ภาพ จ อนุสญั ญาบาเซลิ ก 1. เรยี กอกี ชอื่ วา่ อนุสญั ญาวอชงิ ตนั ค 2. มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ปกป้องชนั้ บรรยากาศโลก ง 3. ทําใหเ้ กดิ การตน่ื ตัวดา้ นพันธพุ์ ชื และพันธสุ์ ตั ว์ จ 4. อนุสญั ญาทเ่ี กย่ี วกบั การถา่ ยเทกากของเสยี อนั ตราย ข 5. ตอ้ งการยกเลกิ การใชส้ ารซเี อฟซแี ละสารทมี่ ผี ลตอ่ ชนั้ โอโซน ค 6. เกดิ จากความวติ กกงั วลเกยี่ วกบั ปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจก ก 7. เกดิ จากความตระหนักถงึ ผลกระทบจากการคา้ สตั วป์ ่ าและพชื ป่ า 15

เรอื่ งน่ารู ้ “ขยะกบั การยอ่ ยสลาย” กระดาษ 2‒5 เดอื น 16 เปลอื กสม้ 6 เดอื น 13 ปี ไม ้ 15 ปี กน้ กรองบหุ รี่ 80–100 ปี 450 ปี อะลมู เิ นยี ม ไมย่ อ่ ยสลาย พลาสตกิ โฟม

สรปุ มาตรการในการจดั การวกิ ฤตการณ์ดา้ น ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของโลก อนสุ ญั ญาไซเตส อนสุ ญั ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ย อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการคา้ ระหวา่ งประเทศซงึ่ ชนดิ พนั ธุ์ ความหลากหลายทางชวี ภาพ สตั วป์ ่ าและพชื ป่ าทใ่ี กลส้ ญู พันธุ์ เกดิ ขน้ึ จากความ อนุสญั ญาฯ ทสี่ บื เนอ่ื งมาจากความวติ กกงั วลของ ตระหนักถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการคา้ สตั วป์ ่ า และพชื ป่ า ประชาคมโลกทม่ี ตี อ่ ปัญหาวกิ ฤตการณข์ องการ วตั ถปุ ระสงค ์ เพอื่ ควบคมุ การคา้ ระหวา่ งประเทศซงึ่ สญู เสยี ชนดิ พันธแุ์ ละระบบนเิ วศของโลก โดยเฉพาะ สตั วป์ ่ าและพชื ป่ าทใ่ี กลจ้ ะสญู พันธุ์ ตลอดจนผลติ ภัณฑ์ การตดั ไมท้ ําลายป่ าทน่ี ําไปสกู่ ารทําลายระบบนเิ วศ โดยการสรา้ งระบบการออกใบอนุญาตในการนําเขา้ และสรา้ งมลภาวะตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม สง่ ออก นําผา่ น หรอื สง่ กลบั ออกไป วตั ถปุ ระสงค ์ มี 3 ประการ ไดแ้ ก่ อนสุ ญั ญาเวยี นนาและพธิ สี ารมอนทรอี อล เป็ นขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศทสี่ บื เนื่องมาจากความวติ ก • การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชวี ภาพ เกยี่ วกบั ปัญหาโอโซนของโลกถกู ทําลาย ซง่ึ เป็ นผลมา • การใชป้ ระโยชนข์ ององคป์ ระกอบความหลากหลาย จากการใชส้ ารทม่ี ตี วั ทําลายโอโซนในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ทางชวี ภาพอยา่ งยงั่ ยนื วตั ถปุ ระสงค ์ เพอ่ื ลดและยกเลกิ การใชส้ ารซเี อฟซี • การแบง่ ปันผลประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากการใชท้ รพั ยากร สารฮาลอน และสารอน่ื ๆ ทท่ี ําใหช้ นั้ โอโซนเบาบางลง พันธกุ รรม อนสุ ญั ญาบาเซลิ อนสุ ญั ญาสหประชาชาตวิ า่ ดว้ ย การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ เป็ นอนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการเคลอื่ นยา้ ยขา้ มแดนของของ เป็ นผลมาจากการเปลยี่ นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศ เสยี อนั ตรายและการกําจดั ซง่ึ เป็ นผลสบื เนื่องมาจาก ของโลก สบื เนอื่ งมาจากปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกที่ ปัญหาของการถา่ ยเทกากของเสยี อนั ตรายจาก สะสมเพม่ิ มากขนึ้ ทําใหเ้ กดิ ภาวะโลกรอ้ น ประเทศอตุ สาหกรรมทพ่ี ฒั นาแลว้ ไปสปู่ ระเทศทก่ี ําลงั วตั ถปุ ระสงค ์ เพอื่ ปกป้องชนั้ บรรยากาศของโลก โดย การรกั ษาระดบั ปรมิ าณกา๊ ซเรอื นกระจกในชนั้ บรรยากาศ พัฒนา ใหอ้ ยรู่ ะดบั ทปี่ ลอดภยั วตั ถปุ ระสงค ์ เพอ่ื ควบคมุ การขนสง่ สารเคมอี ันตราย ขา้ มพรมแดนและควบคมุ การกําจดั กากของเสยี อันตราย และลดความเสยี่ งของความเสยี หาย ทอี่ าจเกดิ กบั มนุษยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม 17

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ปัญหาความเสอ่ื มโทรมทเี่ กดิ ขนึ้ กบั ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มสง่ ผลให ้ ภาครัฐตลอดจนองคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชนของประเทศตา่ ง ๆ ทั่วโลก ใหค้ วามสําคญั ตอ่ การดําเนนิ กจิ กรรมเพอ่ื แกป้ ัญหาทเี่ กดิ ขนึ้ องคก์ รในประเทศทม่ี บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ในประเทศไทย องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจัดการดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม มี 2 กลมุ่ คอื องคก์ รภาครัฐ และองคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชน องคก์ รภาครฐั 18 องคก์ รภาครัฐทมี่ บี ทบาทในดา้ นการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มโดยตรง ในปัจจบุ นั คอื กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม มอี ํานาจหนา้ ทเ่ี กยี่ วกบั การ สงวน อนุรักษ์ และฟื้นฟทู รัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม การจัดการใชป้ ระโยชน์ อยา่ งยง่ั ยนื และราชการอน่ื ตามทก่ี ฎหมาย กําหนดใหเ้ ป็ นอํานาจหนา้ ทข่ี องกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มกี ารกําหนดนโยบายการดําเนนิ งานไว ้ ดังน้ี 1. อนุรักษ์และจัดการใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาตใิ หเ้ ป็ นไปอยา่ งสมดลุ และสอดคลอ้ งกับแนวทางการพัฒนาทย่ี ั่งยนื 2. บรหิ ารจัดการเพอื่ ใหม้ กี ารใชป้ ระโยชนจ์ ากความหลากหลายทางชวี ภาพอยา่ งยัง่ ยนื และเป็ นธรรม 3. บรหิ ารจัดการทรัพยากรนํ้าแบบบรู ณาการเป็ นระบบลมุ่ นํ้า 4. บรหิ ารจัดการและการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรธรรมชาตแิ ละคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม โดยการมสี ว่ นรว่ มและมกี ารบรู ณาการในทกุ ระดับ 5. ป้องกันและควบคมุ มลพษิ จากขยะ น้ําเสยี ฝ่ นุ ละออง กา๊ ซ กลน่ิ และเสยี ง ใหอ้ ยใู่ นระดับมาตรฐาน 6. พัฒนาระบบบรหิ ารจัดการไปสคู่ วามเป็ นเลศิ 19

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทม่ี บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชน องคก์ รประชาชน หมายถงึ องคก์ รทเ่ี กดิ จากการรวมตวั ของประชาชนทอ้ งถน่ิ เป็ นองคก์ รทไ่ี มไ่ ดจ้ ดทะเบยี นเป็ นองคก์ รเอกชนตามกฎหมาย องคก์ รเอกชน หมายถงึ องคก์ รทจี่ ัดตัง้ จากการรวมตัวของเอกชนโดยมกี ารจด ทะเบยี นเป็ นองคก์ รเอกชนดา้ นการคมุ ้ ครองสง่ิ แวดลอ้ มและอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตติ ามพระราชบัญญัตสิ ง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพของสงิ่ แวดลอ้ ม แหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 บทบาทองคก์ รประช าช นและองคก์ รเอกช นในแตล่ ะภมู ภิ าคของประเทศไทย ภาคเหนอื เป็ นภาคทม่ี คี วามเขม้ แข็งและมศี ักยภาพในการพัฒนาตนเอง กจิ กรรมทป่ี ระสบ ความสําเร็จ ไดแ้ ก่ การอนุรักษ์ป่ าตน้ น้ําและการจัดการป่ าชมุ ชน องคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชนทสี่ ําคัญในภาคเหนอื เชน่ กลมุ่ ฮักป่ าเชยี งดาว กลมุ่ ฮักเมอื งน่าน องคก์ รเครอื ขา่ ยกะเหรย่ี งรักษ์ลมุ่ นํ้าแมอ่ งิ คณะกรรมการรักษาป่ าไมแ้ ละ ตน้ นํ้าลําธาร คณะกรรมการชาวบา้ นอนุรักษ์และฟื้นฟลู มุ่ แมน่ ้ําโขง 20

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทม่ี บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม บทบาทองคก์ รประช าช นและองคก์ รเอกช นในแตล่ ะภมู ภิ าคของประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื องคก์ รสําคญั ทม่ี กี ารเคลอื่ นไหวและแสดงบทบาท เชน่ องคก์ ร สมัชชาคนจนภาคอสี าน กลมุ่ สมาพันธเ์ กษตรกรฝายราศไี ศล กลมุ่ สมัชชาเกษตรกรภาคอสี าน คณะกรรมการเครอื ขา่ ยลมุ่ นํ้ามลู ภาคใต ้ เป็ นภาคทช่ี มุ ชนมคี วามเป็ นทอ้ งถน่ิ สงู กอ่ ใหเ้ กดิ การรวมกลมุ่ ทมี่ คี ณุ ภาพ จนเกดิ เครอื ขา่ ยขององคก์ รประชาชนทเี่ ขม้ แข็งภายใตช้ อื่ สมาพันธป์ ระมงพนื้ บา้ นภาคใต ้ ยังมกี าร จัดตัง้ ชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของเมอื งหลักชายฝั่งทะเล 5 จังหวัด ไดแ้ ก่ จังหวัดสงขลา ภเู กต็ นครศรธี รรมราช ตรัง และสรุ าษฎรธ์ านี ภาคตะวันตก เป็ นภาคทมี่ กี ารรวมตวั ของประชาชนในทอ้ งถนิ่ จนเป็ นองคก์ รประชาชนทม่ี ี บทบาทในการอนุรักษ์และฟ้ืนฟทู รัพยากรธรรมชาติ องคก์ รชาวบา้ นทมี่ บี ทบาทสําคญั เชน่ ชมรมอนุรักษ์สงิ่ แวดลอ้ มเมอื งกาญจนบรุ กี ับผลงานรณรงคเ์ รยี กรอ้ งใหม้ กี ารระงับการกอ่ สรา้ ง เขอื่ นนํ้าโจนในเขตพน้ื ทเ่ี ขตรักษาพันธสุ์ ัตวป์ ่ าทงุ่ ใหญน่ เรศวร กลมุ่ คนรักเมอื งเพชร จังหวัด เพชรบรุ กี ับการจัดกจิ กรรมสรา้ งความสนใจและกระตนุ ้ ใหช้ มุ ชนเกดิ ความคดิ ในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม โดยผา่ นรปู แบบกจิ กรรมตา่ ง ๆ 21

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ตวั อยา่ งองคก์ รเอกช นเพอื่ การพฒั นาทรพั ยากรธรรมช าตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มลู นธิ คิ มุ ้ ครองสัตวป์ ่ าและพรรณพชื แหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชนิ ูปถัมภ์ มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื อนุรักษ์ระบบธรรมชาตใิ หค้ งไวซ้ งึ่ ความหลากหลายของพรรณพชื และ พันธสุ์ ัตวร์ วมทงั้ ภาวะสมดลุ ของธรรมชาติ เพอ่ื คณุ คา่ ของชวี ติ และความสําเร็จจากการพัฒนา ประเทศในระยะยาวตอ่ ไป แตป่ ัจจบุ ันไดห้ ยดุ ดําเนนิ การชว่ั คราว ตงั้ แตว่ ันท่ี 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 เป็ นตน้ มา มลู นธิ ไิ ดด้ ําเนนิ งานในดา้ นตา่ ง ๆ ทส่ี ําคญั เชน่ จัดทําโครงการสํารวจนเิ วศวทิ ยาป่ าไมแ้ ละสตั วป์ ่ า เพอ่ื นําผลการสํารวจมาใชใ้ นการจัดทํา สอื่ ประชาสมั พันธก์ ารอนุรักษ์ทรัพยากรใหป้ ระชาชนเขา้ ใจและเหน็ ถงึ ความสําคัญ การเขา้ รว่ มโครงการปลกู ป่ าถาวรเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั เนอ่ื งในโอกาส ครองราชยป์ ี ท่ี 50 บรเิ วณเขตรักษาพันธสุ์ ัตวป์ ่ าเขาแผงมา้ จังหวัดนครราชสมี า จัดทําโครงการรว่ มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม 22 ในลมุ่ นํ้าปิงตอนบนโดยใหป้ ระชาชนในทอ้ งถนิ่ ไดม้ สี ว่ นรว่ มในการดําเนนิ โครงการ

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มลู นธิ สิ บื นาคะเสถยี ร มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื สง่ เสรมิ และสนับสนุนการกอ่ ใหเ้ กดิ ความรู ้ ความคดิ เห็น และเผยแพรค่ วามรทู ้ างวชิ าการ เกยี่ วกบั การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละรักษา คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนทอี่ ยใู่ น บรเิ วณใกลเ้ คยี งพน้ื ทเ่ี ขตป่ าอนุรักษ์ ตระหนักถงึ ความสําคัญของการอนุรักษ์ป่ าไมแ้ ละสตั วป์ ่ า การดําเนนิ งานของมลู นธิ นิ ม้ี หี ลายกจิ กรรมบางกจิ กรรม ยังกระทํามาตอ่ เนอื่ งจนถงึ ปัจจบุ ัน เชน่ การใหก้ าร สนับสนุนงานอนุรักษ์ผนื ป่ าและสตั วป์ ่ าของเขตรักษา พันธสุ์ ตั วป์ ่ าหว้ ยขาแขง้ 23

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทม่ี บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม สมาคมหยาดฝน มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ เป็ นองคก์ รเอกชนทส่ี ง่ เสรมิ และดําเนนิ การพัฒนาชนบท เพอื่ ยกระดับ คณุ ภาพชวี ติ และการพง่ึ พาตนเองของชมุ ชน โดยสนับสนุนใหอ้ งคก์ รชมุ ชนเกดิ จติ สํานกึ และ ตระหนักถงึ ความสําคญั ของทรัพยากรในทอ้ งถน่ิ โดยเฉพาะความหลากหลายทางชวี ภาพของ ทรัพยากรชายฝ่ัง ป่ าชายเลนชมุ ชน และวถิ กี ารประมงพน้ื บา้ น รวมทงั้ การสง่ เสรมิ อาชพี ทอ้ งถน่ิ บทบาทและผลงานของสมาคมหยาดฝน ไดแ้ ก่ 24  ดําเนนิ โครงการอนุรักษ์ป่ าชายเลน  ดําเนนิ โครงการอนุรักษ์หญา้ ทะเลและปะการัง  ดําเนนิ โครงการอนุรักษ์เตา่ ทะเลและพะยนู  ดําเนนิ โครงการสมั มนาสง่ เสรมิ ระบบเกษตรนเิ วศ  ดําเนนิ โครงการสมั มนาสทิ ธชิ มุ ชนในการจัดการทรัพยากร  ดําเนนิ โครงการฟื้นป่ าอนุรักษ์ทะเลภาคตะวันออกในพน้ื ทจี่ ังหวัดระยอง  ดําเนนิ โครงการอนุรักษ์สตั วป์ ่ าเขาอา่ งฤๅไน

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มลู นธิ เิ พอ่ื นชา้ ง มวี ัตถปุ ระสงคท์ จี่ ะชว่ ยเหลอื ชา้ งใหม้ คี วามเป็ นอยทู่ ดี่ ขี น้ึ สามารถดํารงพันธแุ์ ละปรับตวั ในสภาพธรรมชาตไิ ด ้ นอกจากนย้ี งั ชว่ ยรวบรวมเก็บขอ้ มลู เกยี่ วกบั ชา้ ง เผยแพรข่ อ้ มลู รายงานสถานการณ์ชา้ ง ตลอดจน ชว่ ยเหลอื ผมู ้ อี าชพี เกย่ี วขอ้ งกับชา้ ง บทบาทและผลการดาํ เนนิ งานของมลู นธิ เิ พอื่ นชา้ ง  ผลกั ดันใหม้ กี ารออกระเบยี บการหา้ มนําชา้ งเขา้ มาเดนิ ในเขตกรงุ เทพมหานคร  รว่ มกับการทอ่ งเทยี่ วแหง่ ประเทศไทยในการแกป้ ัญหาการทรมานชา้ งและรับรักษาชา้ งใน พน้ื ทภี่ าคเหนอื ตลอดจนการทําทะเบยี นประวัตชิ า้ ง  รว่ มกอ่ สรา้ งโรงพยาบาลชา้ งทจ่ี ังหวัดลําปาง เป็ นโรงพยาบาลชา้ งแหง่ แรกของโลก  ผลักดนั ใหม้ กี ารคมุ ้ ครองชา้ งโดยยตุ กิ ารยงิ ชา้ งใหต้ ายเมอื่ ชา้ งเกดิ อาการตกมัน 25

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รตา่ งประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย องคก์ รจากตา่ งประเทศทเ่ี ขา้ มาดําเนนิ กจิ กรรมในประเทศไทย มกี ารดําเนนิ งาน 2 ลักษณะ คอื เนน้ การทํางานดา้ นสทิ ธมิ นุษยชนและการพัฒนาพน้ื ที่ องคก์ รกรนี พซี เป็ นองคก์ รพัฒนาเอกชนนานาชาติ ทท่ี ํางานดา้ นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ้ มทไี่ มไ่ ดม้ งุ่ หวังผลกําไรและไมไ่ ดร้ ับการ สนับสนุนทางดา้ นการเงนิ จากภาครัฐหรอื องคก์ ร ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับการทํางานการเมอื งตา่ ง ๆ แตไ่ ดร้ ับ การสนับสนุนเฉพาะจากกลมุ่ เอกชน ตัง้ แต่ พ.ศ. 2541 กลมุ่ กรนี พชี เรมิ่ แสดงบทบาทเพอ่ื ใหม้ กี ารยตุ กิ ารทดลองระเบดิ นวิ เคลยี ร์ ของสหรัฐอเมรกิ า ทเ่ี กาะแอมชติ กา จากนัน้ กไ็ ดด้ ําเนนิ กจิ กรรมทเ่ี กยี่ วกบั การปกป้ อง สงิ่ แวดลอ้ มของโลกอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เชน่ ปัญหาของการตัดไมท้ ําลายป่ าทเี่ กดิ ขน้ึ ในแหลง่ ตา่ ง ๆ ของโลก การปกป้ องความหลากหลายทางชวี ภาพทางทะเล 26

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม องคก์ รตา่ งประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย องคก์ รกรนี พซี ไดเ้ ลอื กใหป้ ระเทศไทยเป็ นทต่ี งั้ สํานักงานเพอ่ื ประสานงานกบั องคก์ รกรนี พซี สากลในเนเธอรแ์ ลนด์ โดยใชช้ อื่ วา่ กรนี พซี เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต ้ เปิดดําเนนิ การ เมอื่ วันท่ี 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ในประเทศไทย กรนี พซี เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตไ้ ดด้ าํ เนนิ การในเรอ่ื ง ดงั ตอ่ ไปน้ี  รณรงคต์ อ่ ตา้ นการจัดสรา้ งเตาเผาขยะทไี่ มไ่ ดม้ าตรฐาน  รณรงคใ์ หค้ นไทยลดการใชเ้ ชอ้ื เพลงิ จากพลงั งานเชอ้ื เพลงิ ฟอสซลิ ทไี่ ดช้ อ่ื วา่ เป็ น พลังงานสกปรก  รณรงคใ์ หเ้ กดิ ความความตระหนักถงึ มลภาวะทเ่ี ป็ นพษิ จากการใชส้ ารเคมี  รณรงคใ์ หค้ นไทยตนื่ ตวั กับการเอากระบวนการทางพันธวุ ศิ วกรรมมาใชใ้ นการผลติ อาหาร 27

องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม องคก์ รตา่ งประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย องคก์ ารกองทนุ สตั วป์ ่ าโลก มวี ัตถปุ ระสงคใ์ นการทํางานดา้ นการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของโลก กองทนุ สัตวป์ ่ าโลกในปัจจบุ ันดํารงสถานะเป็ นองคก์ ารทใี่ หค้ ําปรกึ ษา แกส่ มชั ชาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ สหประชาชาตลิ ําดบั แรก นับตัง้ แตก่ ารกอ่ ตัง้ เป็ นตน้ มา กองทนุ สตั วป์ ่ าไดด้ ําเนนิ โครงการดา้ น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มมากกวา่ 12,000 โครงการใน 153 ประเทศท่วั โลก และไดข้ ยายเครอื ขา่ ยจากกองทนุ สัตวป์ ่ าโลกออกไปเป็ นหน่วยงานบรหิ ารและปฏบิ ตั กิ ารตา่ ง ๆ ใน พ.ศ. 2546 กองทนุ สัตวป์ ่ าโลกไดป้ ระกาศใหผ้ นื ป่ า 200 แหง่ ทั่วโลก เป็ นผนื ป่ า ทม่ี คี วามหลากหลายทางชวี ภาพทตี่ อ้ งมกี ารป้ องกันและรักษาไว ้ ปัจจบุ นั โครงการ กองทนุ สตั วป์ ่ าโลกไดด้ ําเนนิ การอนุรักษ์และแกไ้ ขปัญหาในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. การเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศ 4. ทะเล 5. พันธพุ์ ชื พันธสุ์ ัตว์ 2. ป่ าไม ้ 3. นํ้าจดื 6. การพัฒนาทย่ี ั่งยนื 28

เขยี น ถ หนา้ ขอ้ ทถี่ กู และเขยี น ผ หนา้ ขอ้ ทผี่ ดิ ผ 1. องคก์ รเอกชน คอื องคก์ รทเ่ี กดิ จากการรวมตัวของประชาชนใน ทอ้ งถน่ิ ถ 2. องคก์ รทม่ี บี ทบาทในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ มมที งั้ ทเ่ี ป็ นองคก์ รของรัฐ ประชาชน และเอกชน ผ 3. กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยมี หี นา้ ทใี่ นการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ผ 4. กลมุ่ ฮกั ป่ าเชยี งดาวเป็ นองคก์ รเอกชนทจี่ ดั ตัง้ ขน้ึ ในเขตภาค ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ผ 5. กลมุ่ สมาพนั ธเ์ กษตรกรฝายราษีไศลเกดิ จากการรวมตัวของ ชาวบา้ นเพอื่ อนุรักษ์และฟ้ืนฟปู ่ าในรปู แบบการจัดการป่ าชมุ ชน ถ 6. ชมรมอนุรักษ์สง่ิ แวดลอ้ มเมอื งกาญจนบรุ เี ป็ นองคก์ รชาวบา้ นทมี่ ี บทบาทและผลงานทสี่ ําคัญในภาคตะวนั ตก ผ 7. องคก์ ารทอี่ ยใู่ นความดแู ลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ้ ม เชน่ องคก์ ารจดั การน้ําเสยี องคก์ ารสวนพฤษศาสต2ร9 ์

เรอ่ื งนา่ รู้ “การพลชี พี ของสบื นาคะเสถยี ร” สบื นาคะเสถยี ร (สบื ยศ นาคะเสถยี ร) เกดิ เมอื่ วนั ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2482 ผลงานชนิ้ สําคญั คอื การเป็ นหวั หนา้ โครงการอพยพสตั วป์ ่ าทกี่ ําลังจะ ถกู นํ้าทว่ ม อนั เป็ นผลมาจากการกอ่ สรา้ งเขอื่ นเชย่ี วหลาน ตอ่ มารฐั บาลมโี ครงการสรา้ งเขอ่ื นน้ําโจนขนึ้ ในเขตรักษาพันธสุ์ ตั วป์ ่ า ทงุ่ ใหญน่ เรศวร ซง่ึ จะทําใหผ้ นื ป่ ากวา่ 140,000 ไร่ ตอ้ งกลายเป็ นอา่ งเกบ็ น้ํา ซงึ่ การคัดคา้ นประสบผลชนะในทสี่ ดุ วลเี ด็ดของเขาคอื “ผมขอพดู ในนามของสตั วป์ ่ า” ตอ่ มาเมอื่ ดํารงตําแหน่งหัวหนา้ เขตรักษาพันธสุ์ ตั วป์ ่ าหว้ ยขาแขง้ ตอ้ ง เจอกบั การลักลอบตดั ไมแ้ ละลา่ สตั วโ์ ดยมผี มู ้ อี ทิ ธพิ ล ทหาร และตํารวจอยู่ เบอ้ื งหลัง หน่วยงานสว่ นกลางไมส่ นใจปัญหา ไมท่ นั ครบปี เชา้ มดื ของวนั ท่ี 1 กนั ยายน พ.ศ. 2533 สบื ไดล้ น่ั กระสนุ ปลดิ ชพี ตนเอง หมายใหโ้ ลกรบั รวู ้ า่ เกดิ อะไรขน้ึ ทปี่ ่ าหว้ ยขาแขง้ และเพอื่ ปกป้องชวี ติ อกี นับไมถ่ ว้ นทยี่ งั อยู่ 30

เรอื่ งนา่ รู้ “3 อนั ดบั ประเทศทอี่ ากาศดที สี่ ดุ ในโลก” 1. สาธารณรัฐมอลตา มอี ณุ หภมู เิ ฉลยี่ 21 องศาเซลเซยี สในเวลากลางวนั มแี สงแดดเฉลย่ี ประมาณวนั ละ 5 ชว่ั โมง 2. สาธารณรัฐเอกวาดอร์ ตัง้ อยใู่ นบรเิ วณเสน้ ศนู ยส์ ตู ร จงึ ไดร้ ับแสงแดด ถงึ วนั ละ 12 ชวั่ โมง สภาพอากาศแปรผันตามภมู ปิ ระเทศ เชน่ กโี ต ้ เมอื งหลวง ของประเทศ มสี ภาพอากาศเหมอื นอยใู่ นฤดใู บไมผ้ ลติ ลอดทงั้ ปี มอี ณุ หภมู เิ ฉลย่ี 24 องศาเซลเซยี สในเวลากลางวนั และ 10‒13 องศาเซลเซยี สในเวลากลางคนื 3. สาธารณรัฐเม็กซโิ ก เป็ นประเทศทมี่ สี ภาพอากาศขนึ้ อยกู่ บั ความสงู ของ พน้ื ที่ กระแสลม และกระแสนํ้าในมหาสมทุ รแปซฟิ ิก บรเิ วณชายฝั่งมภี มู อิ ากาศ แบบเขตรอ้ น สว่ นพนื้ ทบี่ นความสงู เหนอื ระดับน้ําทะเลตัง้ แต่ 900 เมตรขนึ้ ไป จะมสี ภาพอากาศทคี่ อ่ นขา้ งเย็น และทางตอนเหนอื ของประเทศแทบไมม่ ฝี น 31

เรอ่ื งนา่ รู้ “แมน่ ํา้ ทส่ี กปรกทสี่ ดุ ในโลก” แมน่ ้ําซติ ารัม ประเทศอนิ โดนเี ซยี แมน่ ้ําสายหนง่ึ ทป่ี นเปื้อนมากทสี่ ดุ ในโลก รัฐบาลตอ้ งใชเ้ งนิ กวา่ หา้ รอ้ ยลา้ นเหรยี ญสหรัฐ เพอื่ บําบดั นํ้าในแมน่ ํ้า แหง่ น้ี ผลจากการเจรญิ เตบิ โตอยา่ งรวดเร็วในชว่ ง 20 ปีทผี่ า่ นมา ทําใหเ้ กดิ นํ้าเสยี จากครวั เรอื น ขยะมลู ฝอยและสง่ิ ปฏกิ ลู อตุ สาหกรรม ทม่ี ผี ลตอ่ สขุ ภาพ ของประชาชน คนงานจากสาธารณสขุ จะเกบ็ ขยะตามแมน่ ้ําสองครงั้ ตอ่ สปั ดาหเ์ พอ่ื หลกี เลย่ี งนํ้าทว่ มทอี่ าจเกดิ ขนึ้ ในฤดฝู น การทํานํ้าใหส้ ะอาดชว่ ยใหก้ าร เพาะปลกู นาขา้ วไดร้ บั ประโยชนเ์ พม่ิ อกี 25,000 ไร่ คดิ เป็ นครอบครวั เกษตรกรรมอกี 25,000 ครอบครัว การจัดการแมน่ ้ํายงั มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื จัดหาแหลง่ นํ้าสะอาดให ้ ประชาชน 200,000 ครัวเรอื นในกรงุ จาการต์ าไดใ้ ช ้ ซงึ่ จะมอี ตั ราความตอ้ งการ น้ําประปาสงู ขน้ึ รอ้ ยละ 2.5 ตอ่ ปี 32

สรปุ องคก์ รทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม องคก์ รในประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ตวั อยา่ งองคก์ รเอกช นเพอ่ื การพฒั นา ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ทรพั ยากรธรรมช าตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม มลู นธิ คิ มุ ้ ครองสตั วป์ ่ าและพรรณพชื แหง่ ประเทศไทย องคก์ รภาครฐั ทม่ี บี ทบาทในดา้ นการจดั การ ในพระบรมราชนิ ูปถมั ภ์ เพอ่ื อนุรักษ์ระบบธรรมชาตใิ ห ้ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มโดยตรงในปัจจบุ นั คงความหลากหลายของพรรณพชื และพันธสุ์ ตั ว์ คอื กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม มี มลู นธิ สิ บื นาคะเสถยี ร สง่ เสรมิ และสนับสนุนการ อํานาจหนา้ ทเี่ กยี่ วกบั การสงวน อนุรกั ษ์ และฟ้ื นฟู กอ่ ใหเ้ กดิ ความรู ้ ความคดิ เห็น และเผยแพรค่ วามรู ้ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ทางวชิ าการเกยี่ วกบั การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ องคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชน และรกั ษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม บทบาทขององคก์ รประชาชนและองคก์ รเอกชนในแตล่ ะ สมาคมหยาดฝน สง่ เสรมิ และพฒั นาชนบท เพอ่ื ภมู ภิ าคของประเทศไทย ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ และการพงึ่ พาตนเองของชมุ ชน ภาคเหนอื เป็ นภาคทมี่ ศี กั ยภาพในการพฒั นาตนเอง มลู นธิ เิ พอ่ื นชา้ ง ชว่ ยเหลอื ชา้ งใหม้ คี วามเป็ นอยทู่ ดี่ ี กจิ กรรมทป่ี ระสบความสําเร็จ ไดแ้ ก่ การอนุรกั ษ์ป่ าตน้ นํ้าและการจดั การป่ าชมุ ชน องคก์ รตา่ งประเทศทมี่ บี ทบาทในการจดั การ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เชน่ องคก์ รสมชั ชาคนจน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ภาคอสี าน กลมุ่ สมาพันธเ์ กษตรกรฝายราศไี ศล ของประเทศไทย ภาคใต ้ สมาพันธป์ ระมงพน้ื บา้ นภาคใต ้ ภาคตะวนั ตก องคก์ รชาวบา้ นทมี่ บี ทบาทสําคญั เชน่ องคก์ รกรนี พซี เป็ นองคก์ รพัฒนาเอกชนนานาชาติ ชมรมอนุรักษ์สง่ิ แวดลอ้ มเมอื งกาญจนบรุ ี เรยี กรอ้ งใหม้ ี การระงบั การกอ่ สรา้ งเขอื่ นน้ําโจนในเขตพนื้ ทเ่ี ขตรักษา ทท่ี ํางานดา้ นการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ พันธสุ์ ตั วป์ ่ าทงุ่ ใหญน่ เรศวร สง่ิ แวดลอ้ ม องคก์ ารกองทนุ สตั วป์ ่ าโลก มวี ตั ถปุ ระสงคใ์ นการ ทํางานดา้ นการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ้ มของโลก 33

กฎหมายทเี่ กี่ยวกบั การอนรุ กั ษทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอม ของประเทศไทย พระราชบญั ญัติสง เสรมิ และรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. 2535 ความหมายของสิง่ แวดลอมและคณุ ภาพส่งิ แวดลอ ม ส่งิ แวดลอ ม หมายถึง สิ่งตาง ๆ ทม่ี ีลักษณะทางกายภาพและชวี ภาพท่อี ยู รอบตัวมนษุ ย ซึง่ เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาตหิ รือมนุษยส รางขึน้ คณุ ภาพ สิง่ แวดลอม หมายถงึ ดลุ ยภาพของธรรมชาติ ไดแ ก สตั ว พืช และ ทรพั ยากร ธรรมชาติตา ง ๆ และส่งิ ทมี่ นุษยส รางข้ึน เพื่อประโยชนในการ ดาํ รงชีพของประชาชนและความสมบรู ณของมนษุ ยชาติ 34

สทิ ธิและหนา ท่ขี องประชาชนในการรวมกนั สง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพ สง่ิ แวดลอ มของชาติ เพื่อประโยชนในการรวมกันสง เสรมิ และรกั ษา คณุ ภาพสิ่งแวดลอ มของชาติ ประชาชนมีสทิ ธแิ ละหนาที่ ดังนี้ 1. มสี ิทธไิ ดรบั ขอ มูลขา วสารทางราชการเกย่ี วกบั การสง เสริมและรกั ษา คณุ ภาพสง่ิ แวดลอม 2. มสี ทิ ธไิ ดร ับชดเชยคาเสยี หายจากรฐั ในกรณที ี่ไดรับความเสยี หายทเ่ี กดิ จากการแพรกระจายมลพิษทดี่ าํ เนินการโดยรัฐ 3. มีสิทธริ อ งเรยี นกลา วโทษผูกระทําการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกบั การ ควบคมุ มลพิษหรืออนรุ ักษท รพั ยากรธรรมชาติ 4. ใหความรว มมือและชวยเหลือเจา พนักงานในการสงเสรมิ และรักษา คุณภาพสง่ิ แวดลอ ม 5. ปฏิบัตติ ามพระราชบญั ญัตินี้ สงเสรมิ และรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอม แหง ชาตโิ ดยเครง ครัด 35

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 การคมุ้ ครองสง่ิ แวดลอ้ ม มาตรฐานคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม หมายถงึ คา่ มาตรฐานคณุ ภาพน้ํา อากาศ เสยี ง และสภาวะ อนื่ ๆ ของสง่ิ แวดลอ้ ม เพอ่ื ประโยชนใ์ นการสง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม คณะกรรมการสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาตมิ อี ํานาจการกําหนดมาตรฐานคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มในเรอ่ื ง ตา่ ง ๆ เชน่ มาตรฐานคณุ ภาพนํ้าในแมน่ ํ้า มาตรฐานคณุ ภาพอากาศ โดยตอ้ งคํานงึ ถงึ เศรษฐกจิ สังคม และเทคโนโลยที เ่ี กย่ี วขอ้ ง เขตอนุรักษ์และพน้ื ทค่ี มุ ้ ครองสงิ่ แวดลอ้ ม สําหรับเขตอทุ ยานแหง่ ชาตแิ ละเขตรักษาพันธุ์ สตั วป์ ่ า โดยกําหนดมาตรการคมุ ้ ครองอยา่ งใด อยา่ งหนงึ่ หรอื หลายอยา่ ง เชน่  กําหนดการใชป้ ระโยชนใ์ นทดี่ นิ เพอ่ื รักษา สภาพธรรมชาติ  หา้ มกระทําการทอี่ าจเป็ นอันตรายและ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบในทางเปลยี่ นแปลง ระบบนเิ วศของพน้ื ทนี่ ัน้ 36

กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบัญญตั สิ ง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 การควบคมุ มลพษิ เขตควบคมุ มลพษิ มลพษิ หมายถงึ ของเสยี วัตถอุ นั ตราย ทอ้ งทใ่ี ดมปี ัญหามลพษิ ทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ความ และมวลสารอน่ื ๆ รวมทงั้ กากตะกอน หรอื เสยี หายตอ่ สขุ ภาพประชาชนและคณุ ภาพ สงิ่ ตกคา้ งจากสง่ิ เหลา่ นัน้ ทถ่ี กู ปลอ่ ยทงิ้ สง่ิ แวดลอ้ ม คณะกรรมการสงิ่ แวดลอ้ ม จากแหลง่ กําเนดิ ซงึ่ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบ ตอ่ คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม แหง่ ชาตมิ อี ํานาจประกาศใหท้ อ้ งทนี่ ัน้ เป็ น เขตควบคมุ มลพษิ มลพษิ ทางอากาศและเสยี ง 37 • ยานพาหนะทน่ี ํามาใชจ้ ะตอ้ งไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ เกนิ กวา่ มาตรฐานควบคมุ มลพษิ จากแหลง่ กําเนดิ • ในการออกคําสัง่ พนักงานเจา้ หนา้ ทจ่ี ะทํา ขอ้ ความ “หา้ มใชเ้ ด็ดขาด” หรอื “หา้ มใช ้ ชวั่ คราว”สว่ นใดสว่ นหนงึ่ ของยานพาหนะนัน้ ให ้ เหน็ เดน่ ชดั • ในการตรวจสอบยานพาหนะ พนักงานเจา้ หนา้ ทมี่ ี อํานาจส่งั ใหย้ านพาหนะหยดุ เพอื่ ตรวจสอบ • เจา้ ของแหลง่ กําเนดิ มลพษิ ทางอากาศ มหี นา้ ที่ ตดิ ตงั้ ระบบบําบดั อากาศเสยี

กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบัญญัตสิ ง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 มลพษิ ทางน้ํา • เจา้ ของหรอื ผคู ้ รอบครองแหลง่ กําเนดิ มลพษิ มหี นา้ ทก่ี อ่ สรา้ ง ตดิ ตัง้ ใหม้ รี ะบบบําบัดนํ้าเสยี ตามทเี่ จา้ หนา้ ทคี่ วบคมุ มลพษิ กําหนด • ในเขตควบคมุ มลพษิ ทท่ี างราชการไดจ้ ัดใหม้ รี ะบบบําบัดน้ําเสยี รวมไว ้ ใหเ้ จา้ ของ แหลง่ กําเนดิ มลพษิ ทไี่ มป่ ระสงคจ์ ะกอ่ สรา้ งระบบบําบดั น้ําเสยี ขน้ึ เอง มหี นา้ ทที่ ต่ี อ้ งจัดสง่ นํ้าเสยี หรอื ของเสยี เหลา่ นัน้ ไปทําการบําบดั ในเขตควบคมุ มลพษิ เขตทอ้ งทนี่ ัน้ แตต่ อ้ งเสยี คา่ บรกิ ารตามอัตราทก่ี ําหนด • ในกรณีทรี่ าชการยงั ไมม่ กี ารจัดระบบบําบดั นํ้าเสยี ในเขตควบคมุ มลพษิ หรอื เขตทอ้ งทใี่ ด ใหเ้ จา้ พนักงานกําหนดวธิ กี ารชวั่ คราวสําหรับการกําจัดของเสยี ไดต้ ามทจ่ี ําเป็ น มลพษิ อน่ื และของเสยี อันตราย • การเก็บรวบรวม การขนสง่ และการจัดการมลพษิ อนื่ และของเสยี อันตรายใหเ้ ป็ นไปตาม กฎหมายทวี่ า่ ดว้ ยเรอื่ งนัน้ ๆ • ในกรณที ไี่ มม่ กี ฎหมายบญั ญัตไิ วโ้ ดยเฉพาะ ใหร้ ัฐมนตรโี ดยคําแนะนําของคณะกรรมการ ควบคมุ มลพษิ มอี ํานาจออกกฎกระทรวง กําหนดชนดิ ประเภท การเก็บ การขนสง่ และการ จัดการมลพษิ อนื่ และของเสยี อนั ตรายดว้ ยวธิ กี ารทเ่ี หมาะสมและถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าท่ี เกย่ี วขอ้ ง 38

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 คา่ บรกิ ารและคา่ ปรบั อัตราคา่ บรกิ าร อตั ราคา่ บรกิ ารสําหรับการบําบัดน้ําเสยี หรอื กําจัดของเสยี จากแหลง่ กําเนดิ ใหม้ อี ัตราแตกตา่ งกันตามความเหมาะสม คา่ ปรับ มบี ทบญั ญัตทิ คี่ วรรู ้ ดงั น้ี 1. เจา้ ของแหลง่ กําเนดิ มลพษิ ทไี่ มท่ ําการบําบัดน้ําเสยี และลกั ลอบปลอ่ ยน้ําเสยี ทง้ิ สู่ สง่ิ แวดลอ้ มภายนอก จะตอ้ งเสยี คา่ ปรับ 4 เทา่ ของอัตราคา่ บรกิ าร 2. เจา้ ของแหลง่ กําเนดิ มลพษิ ทางอากาศหรอื ทางนํ้า ไมใ่ ชอ้ ปุ กรณเ์ ครอ่ื งมอื ของตนในการ บําบดั นํ้าเสยี และลักลอบปลอ่ ยนํ้าเสยี ทง้ิ ออกสสู่ ง่ิ แวดลอ้ มภายนอกจะตอ้ งเสยี คา่ ปรับ รายวัน 4 เทา่ ของจํานวนเงนิ ทใี่ ชจ้ า่ ยประจําวันสําหรับการเปิดเดนิ เครอื่ งของอปุ กรณท์ ใี่ ช ้ ทํางาน 3. พนักงานทอ้ งถน่ิ สว่ นราชการจัดใหม้ รี ะบบบําบดั นํ้าเสยี รวม มหี นา้ ทจ่ี ัดเก็บคา่ บรกิ าร คา่ ปรับ และเรยี กรอ้ งคา่ เสยี หาย 39

กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบัญญตั สิ ง่ เสรมิ และรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 ความผดิ ทางแพง่ และบทกาํ หนดโทษ ความผดิ ทางแพง่ มบี ทบัญญตั ทิ ค่ี วรรู ้ ดงั น้ี • แหลง่ กําเนดิ มลพษิ ของการรั่วไหลหรอื แพรก่ ระจายมลพษิ อนั เป็ นเหตใุ หผ้ อู ้ น่ื ไดร้ ับอนั ตราย ตอ่ ชวี ติ รา่ งกายหรอื สขุ ภาพอนามัย เจา้ ของแหลง่ กําเนดิ มลพษิ ตอ้ งชดใชค้ า่ เสยี หาย • ผทู ้ กี่ ระทําหรอื ละเวน้ การกระทําอันเป็ นการทําลาย หรอื ทําใหท้ รัพยากรธรรมชาตขิ องรัฐ หรอื สาธารณสมบัตขิ องแผน่ ดนิ สญู หายหรอื เสยี หาย ตอ้ งรับผดิ ชอบชดใชค้ า่ เสยี หาย บทกาํ หนดโทษ มบี ทบญั ญัตทิ คี่ วรรู ้ ดงั น้ี • ผทู ้ ฝ่ี ่ าฝืนหรอื ไมป่ ฏบิ ตั ติ ามคําส่ังหรอื ขัดขวางการกระทําใด ๆ มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 100,000 บาท หรอื ทัง้ จําทัง้ ปรับ • ผฝู ้ ่ าฝืนเป็ นผกู ้ อ่ ใหเ้ กดิ อันตรายหรอื ความเสยี หายจากภาวะมลพษิ มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 5 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 500,000 บาท หรอื ทัง้ จําทัง้ ปรับ 40

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบัญญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. 2535 และแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2550 การกําจดั สงิ่ ปฏกิ ลู และมลู ฝอย สง่ิ ปฏกิ ลู หมายถงึ อจุ จาระหรอื ปัสสาวะ และสงิ่ อนื่ ใดซง่ึ เป็ นสงิ่ โสโครกหรอื มกี ลนิ่ เหม็น มลู ฝอย หมายถงึ เศษซากสง่ิ ตา่ ง ๆ หรอื มลู ฝอยตดิ เชอื้ มลู ฝอยทเ่ี ป็ นพษิ หรอื อันตราย การจัดการสง่ิ ปฏกิ ลู และมลู ฝอย การเก็บ ขนสง่ หรอื กําจัดสงิ่ ปฏกิ ลู และมลู ฝอยในเขตราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ ใด ใหเ้ ป็ นอํานาจหนา้ ทขี่ อง ราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ นัน้ สขุ ลกั ษณะของอาคาร 41 1. เมอื่ พบอาคารมสี ภาพชาํ รดุ ทรดุ โทรม อาจเป็ น อันตรายตอ่ ผอู ้ าศัย ใหเ้ จา้ พนักงานทอ้ งถน่ิ ออกหนังสอื คําส่งั ใหเ้ จา้ ของอาคารนัน้ ปรับปรงุ เเกไ้ ขตามระยะเวลาทกี่ ําหนด 2. เมอ่ื พบวา่ อาคารใดมสี นิ คา้ หรอื สัมภาระสะสม มากเกนิ สมควร จนเป็ นเหตใุ หเ้ ป็ นอันตรายตอ่ ผอู ้ าศยั ใหเ้ จา้ หนา้ ทอี่ อกหนังสอื คําสั่งเพอื่ ให ้ เจา้ ของขนยา้ ยสมั ภาระออกจากอาคารนัน้ ตาม เวลาทกี่ ําหนด

กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญตั กิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. 2535 และแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2550 เหตรุ าํ คาญ  ในกรณีทม่ี เี หตอุ ันกอ่ ใหเ้ กดิ ความเดอื ดรอ้ นแกผ่ อู ้ ยอู่ าศัยในบรเิ วณใกลเ้ คยี งใหถ้ อื วา่ เป็ น เหตรุ ําคาญ  เจา้ พนักงานทอ้ งถน่ิ มอี ํานาจหา้ มผใู ้ ดกอ่ เหตรุ ําคาญในทหี่ รอื ทางสาธารณะในเขตของตน ตลอดทัง้ การดแู ล ปรับปรงุ ทางถนน ทางนํ้า คู คลอง สถานทตี่ า่ ง ๆ  ในกรณีทม่ี เี หตรุ ําคาญในทส่ี าธารณะ เจา้ หนา้ ทพี่ นักงานทอ้ งถน่ิ สามารถออกหนังสอื ให ้ บคุ คลตน้ เหตรุ ะงับเหตรุ ําคาญภายในเวลาอนั สมควร  ในกรณที มี่ เี หตรุ ําคาญในสถานทเี่ อกชน เจา้ หนา้ ทพ่ี นักงานทอ้ งถนิ่ มอี ํานาจออกหนังสอื ให ้ เจา้ ของสถานทนี่ ัน้ ระงับเหตรุ ําคาญภายในเวลาอันสมควร ตลาด สถานทจี่ ําหนา่ ยอาหาร และสถานทสี่ ะสมอาหาร  หา้ มไมใ่ หผ้ ใู ้ ดจัดตงั้ ตลาด ยกเวน้ ไดร้ ับใบอนุญาตจากเจา้ พนักงานทอ้ งถน่ิ  ผขู ้ ายตอ้ งปฏบิ ัตติ ามหลกั เกณฑท์ ก่ี ําหนดไวใ้ นขอ้ กําหนดของทอ้ งถนิ่  ผทู ้ จ่ี ะตัง้ สถานทจี่ ําหน่ายอาหารในอาคารหรอื พนื้ ทใี่ ดทเ่ี กนิ 200 ตารางเมตรและไมใ่ ชก่ าร ขายของในตลาด ตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาตจากเจา้ พนักงานทอ้ งถน่ิ ถา้ พน้ื ทไี่ มเ่ กนิ 200 ตาราง เมตร ตอ้ งแจง้ พนักงานในทอ้ งทน่ี ัน้ เพอื่ ขอหนังสอื รับรองการแจง้ กอ่ นการจัดตัง้  ผจู ้ ัดตัง้ สถานทจ่ี ําหน่ายอาหาร ประกอบ ปรงุ หรอื เก็บสะสมอาหาร ตอ้ งปฏบิ ัตติ าม หลักเกณฑท์ กี่ ําหนดของทอ้ งถน่ิ 42

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบัญญัตกิ ารสาธารณสขุ พ.ศ. 2535 และแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2550 บทลงโทษ 1. ผดู ้ ําเนนิ กจิ การทําการเกบ็ ขน หรอื กําจัดสง่ิ ปฏกิ ลู และมลู ฝอย โดยทําเป็ นธรุ กจิ คดิ คา่ บรกิ าร โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาตจากเจา้ หนา้ ทพ่ี นักงานในทอ้ งถนิ่ มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดอื น หรอื ปรับไมเ่ กนิ 50,000 บาท หรอื ทัง้ จําทัง้ ปรับ 2. ผทู ้ จี่ ัดตัง้ สถานทจี่ ําหน่ายอาหารหรอื สะสมอาหาร มพี น้ื ทเี่ กนิ 200 ตารางเมตรโดยไมไ่ ด ้ รับอนุญาต มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดอื น หรอื ปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท สว่ นผทู ้ ม่ี พี นื้ ทไี่ ม่ เกนิ 200 ตารางเมตร โดยไมม่ หี นังสอื รับรองการแจง้ มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 3 เดอื น หรอื ปรับไมเ่ กนิ 5,000 บาท 3. เจา้ ของอาคารไมป่ ฏบิ ัตติ ามเจา้ พนักงานทมี่ คี ําสัง่ ใหแ้ กไ้ ข รอ้ื ถอนอาคารทมี่ สี ภาพทรดุ โทรม หรอื ขัดขวางการทํางานของเจา้ พนักงานมโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 1 เดอื น หรอื ปรับไม่ เกนิ 2,000 บาท หรอื ทัง้ จําทัง้ ปรับ 43

กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบัญญตั ริ ักษาความสะอาดและความเป็ นระเบยี บเรยี บรอ้ ยของบา้ นเมอื ง พ.ศ. 2535 เป็ นกฎหมายทบี่ ัญญตั ขิ น้ึ เพอื่ ควบคมุ การดําเนนิ ชวี ติ ของประชาชนมิ ใหก้ ระทําการใด ๆ อนั เป็ นอนั ตรายตอ่ สง่ิ แวดลอ้ ม ซงึ่ ควรศกึ ษามี ดังน้ี – การรักษาความสะอาดในทสี่ าธารณะและสถานสาธารณะ – การดแู ลรักษาสนามหญา้ และตน้ ไมบ้ นถนนและสาธารณะ – การหา้ มทงิ้ สงิ่ ปฏกิ ลู – การรักษาความเป็ นระเบยี บเรยี บรอ้ ย 44

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญตั ปิ ่ าสงวนแหง่ ชาติ พ.ศ. 2507 ความหมายของป่ าและป่ าสงวนแหง่ ชาติ ป่ า หมายถงึ ทด่ี นิ รวมถงึ ภเู ขา หว้ ย หนอง คลอง บงึ บาง ลํานํ้า ทะเลสาบ เกาะ และทช่ี ายทะเล ป่ าสงวนแหง่ ชาติ หมายถงึ ป่ าทไ่ี ดก้ ําหนดใหเ้ ป็ นป่ าสงวนแหง่ ชาติ ตาม พระราชบัญญัตฉิ บบั น้ี การควบคมุ และรกั ษาป่ าสงวนแหง่ ชาติ 1. ในเขตป่ าสงวนชาติ หา้ มยดึ ครอง ครอบครอง และทําประโยชน์ หรอื กระทําการใด ๆ อนั เป็ นการเสอ่ื มเสยี แกส่ ภาพป่ าสงวนแหง่ ชาติ เวน้ แตไ่ ดร้ ับอนุญาตตามกฎหมาย 2. ผรู ้ ับใบอนุญาตตาม พ.ร.บ. ตอ้ งจัดคนงานใหค้ นงาน ผรู ้ ับจา้ ง หรอื ผแู ้ ทน มใี บคมู่ อื สําหรับทําการตามทไี่ ดร้ ับอนุญาต ตามแบบ ระเบยี บ และวธิ กี ารในกฎกระทรวง บทกาํ หนดลงโทษ 1. ผทู ้ ยี่ ดึ ถอื ครอบครอง ทําประโยชน์ หรอื กระทําการใด ๆ โดยไมไ่ ดอ้ นุญาตมโี ทษจําคกุ ตัง้ แต่ 6 เดอื น ถงึ 5 ปี และปรับตัง้ แต่ 5,000 บาท ถงึ 10,000 บาท 2. ผทู ้ ไ่ี ดร้ ับใบอนุญาตไมจ่ ัดใหค้ นงาน ผรู ้ ับจา้ ง หรอื ผแู ้ ทนมใี บคมู่ อื สําหรับทําการ จะมี โทษปรับไมเ่ กนิ 1,000 บาท 45

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญัตสิ งวนและคมุ ้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 ความหมายของสตั วป์ ่ า สัตวป์ ่ า หมายถงึ สตั วท์ กุ ชนดิ ไมว่ า่ สตั วบ์ ก สัตวป์ ีก แมลง หรอื แมง ซงึ่ โดยธรรมชาตยิ อ่ มเกดิ และดํารงชวี ติ อยใู่ นป่ า หรอื ในนํ้า และหมายความรวมถงึ ไขข่ องสัตวป์ ่ าเหลา่ นัน้ ทกุ ชนดิ ดว้ ย ประเภทของสตั วป์ ่ า นกเจา้ ฟ้าหญิงสิรินธร สตั วป์ ่ าตามพระราชบญั ญัติ มี 2 ประเภท สัตวป์ ่ าสงวน หมายถงึ สตั วป์ ่ าหายาก 15 ชนดิ ไดแ้ ก่ นกเจา้ ฟ้าหญงิ สริ ธิ ร แรด กระซู่ กปู รี ควายป่ า ละม่ัง สมนั เลยี งผา กวางผา นกแตว้ แลว้ ทอ้ งดํา นกกระเรยี น แมวลายหนิ ออ่ น สมเสร็จ เกง้ หมอ้ และพะยนู สัตวป์ ่ าคมุ ้ ครอง หมายถงึ สตั วป์ ่ าทก่ี ฎกระทรวงกําหนดใหเ้ ป็ นสตั วค์ มุ ้ ครอง แบง่ เป็ น 7 พวก 1. สตั วเ์ ลยี้ งลกู ดว้ ยน้ํานม เชน่ กระจงเลก็ กระตา่ ยป่ า กวางป่ า คา่ งดํา เสอื โครง่ 2. สตั วป์ ่ าจําพวกนก เชน่ นกกระจอกใหญ่ เหยยี่ วดํา นกตะกรมุ นกปากหา่ ง อกี า 3. สัตวเ์ ลอื้ ยคลาน เชน่ กง้ิ กา่ หวั สฟี ้า งจู งอาง ตะกวด เตา่ ตนุ 4. สตั วส์ ะเทนิ นํ้าสะเทนิ บก เชน่ กบอกหนาม คางคกตน้ ไม ้ จงโครง่ 5. สัตวป์ ่ าไมม่ กี ระดกู สนั หลงั พวกแมลง เชน่ ดว้ งกวา่ งดาว ผเี สอื้ ถงุ ทองป่ าสงู 6. สตั วป์ ่ าจําพวกปลา เชน่ ฉลามวาฬ ปลาพลวงถํ้า ปลาหมอู ารยี ์ 7. สัตวป์ ่ าไมม่ กี ระดกู สันหลังอนื่ ๆ เชน่ ปเู จา้ ฟ้า ปรู าชนิ ี หอยสงั ขแ์ ตร 46

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญัตสิ งวนและคมุ ้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 การลา่ การเพาะพนั ธุ์ การครอบครอง และการคา้ 1. หา้ มลา่ หรอื พยายามลา่ สตั วป์ ่ าสงวน เวน้ แตไ่ ดร้ ับอนุญาตจากอธบิ ดกี รมป่ าไมห้ รอื อธบิ ดี กรมประมง 2. หา้ มเพาะพันธสุ์ ตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองเวน้ แต่ – คณะกรรมการสตั วส์ งวนและคมุ ้ ครองสัตวป์ ่ าแหง่ ชาตใิ หเ้ พาะพันธไุ์ ด ้ โดยไดร้ ับ ใบอนุญาตใหเ้ พาะพันธจุ์ ากอธบิ ดี – ผรู ้ ับใบอนุญาตจัดตงั้ สวนสตั วส์ าธารณะ ซง่ึ ไดร้ ับใบอนุญาตจากอธบิ ดี 3. หา้ มมสี ัตวป์ ่ าสงวน สัตวป์ ่ าคมุ ้ ครอง รวมถงึ ซากของสตั วไ์ วใ้ นครอบครอง 4. หา้ มคา้ สตั วป์ ่ าสงวน สัตวป์ ่ าคมุ ้ ครอง รวมถงึ ซากของสัตว์ และผลติ ภณั ฑท์ ท่ี ําจากซาก 5. หา้ มเกบ็ ทําอันตราย หรอื มรี ังของสัตวป์ ่ าสงวนหรอื สัตวป์ ่ าคมุ ้ ครองไวใ้ นครอบครอง 6. หา้ มยงิ สัตวป์ ่ าในระหวา่ งเวลาพระอาทติ ยต์ กและพระอาทติ ยข์ น้ึ การนําเขา้ สง่ ออก นาํ ผา่ น และนําเคลอ่ื นทซ่ี งึ่ สตั วป์ ่ า และดา่ นตรวจสตั วป์ ่ า 1. หา้ มนําเขา้ หรอื สง่ ออกสตั วป์ ่ า เวน้ แตไ่ ดร้ ับอนุญาตจากอธบิ ดี 2. การนําเขา้ สง่ ออก หรอื นําผา่ นตอ้ งมใี บอนุญาตจากอธบิ ดี 3. การนําสัตวป์ ่ าคมุ ้ ครองหรอื ซากของสตั วเ์ คลอื่ นทเี่ พอ่ื การคา้ ตอ้ งมใี บอนุญาตจากอธบิ ดี 4. ผใู ้ ดนําสัตวป์ ่ าสงวน สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง หรอื ซากของสัตวด์ งั กลา่ วเคลอ่ื นทผี่ า่ นดา่ นตรวจสัตว์ ป่ า ตอ้ งแจง้ เป็ นหนังสอื ตามแบบทอี่ ธบิ ดกี ําหนด 47

กฎหมายทเี่ กยี่ วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญัตสิ งวนและคมุ ้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 สวนสตั วส์ าธารณะ ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตจากอธบิ ดใี นการดําเนนิ กจิ การสวนสัตวส์ าธารณะ ผรู ้ ับใบอนุญาตตอ้ ง ทําตามกฎของกระทรวงและเงอื่ นไขทกี่ ําหนดไวใ้ นใบอนุญาต บรเิ วณหรอื สถานทหี่ า้ มลา่ สตั วป์ ่ า 1. หา้ มลา่ สัตวป์ ่ าไมว่ า่ จะเป็ นสัตวป์ ่ าสงวนหรอื สัตวป์ ่ าคมุ ้ ครองหรอื มใิ ช่ รวมทงั้ หา้ มเกบ็ หรอื ทําอันตรายแกร่ ังของสตั วป์ ่ า 2. หา้ มยดึ ถอื หรอื ครอบครองทด่ี นิ ปลกู สรา้ งสงิ่ กอ่ สรา้ ง หรอื แผว้ ถาง เผาทําลายตน้ ไม ้ เลยี้ ง สตั ว์ ปลอ่ ยสัตว์ เปลยี่ นแปลงทางน้ํา หรอื ทําใหน้ ้ําเป็ นพษิ 3. หา้ มลา่ สตั วป์ ่ า ไมว่ า่ จะเป็ นสตั วป์ ่ าสงวนคมุ ้ ครองหรอื มใิ ช่ รวมทัง้ หา้ มเก็บหรอื ทําอนั ตราย แกร่ ังของสตั วป์ ่ าในบรเิ วณวัด หรอื สถานทที่ างศาสนา 4. ในกรณีทพ่ี นักงานเจา้ หนา้ ทหี่ รอื เจา้ พนักงานอนื่ ใดทจ่ี ําเป็ นตอ้ งเขา้ ไปปฏบิ ัตกิ ารตาม กฎหมายเพอื่ การศกึ ษาวจิ ัยทางวชิ าการในเขตหา้ มลา่ สตั วป์ ่ า พนักงานเจา้ หนา้ ทต่ี อ้ ง ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บทอ่ี ธบิ ดกี ําหนด โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสงวนและ คมุ ้ ครองสัตวป์ ่ าแหง่ ชาติ 48

กฎหมายทเี่ กย่ี วกบั การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มของประเทศไทย พระราชบญั ญัตสิ งวนและคมุ ้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 บทกําหนดโทษ 1. ผทู ้ ลี่ า่ หรอื พยายามลา่ สตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง หรอื คา้ หรอื มสี ตั วป์ ่ าสงวน สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง ซากของสตั วป์ ่ าสงวน ซากของสตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง หรอื ผลติ ภณั ฑท์ ที่ ําจากซากของสตั วป์ ่ าดงั กลา่ ว มี โทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 4 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 40,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั 2. ผทู ้ นี่ ําเขา้ สง่ ออก หรอื นําผา่ น ซงึ่ สตั วป์ ่ าสงวน สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง ซากของสตั ว์ มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 4 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 40,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรับ 3. ผทู ้ เี่ พาะพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง จดั ตงั้ และดําเนนิ กจิ การสวนสตั วส์ าธารณะโดยไมไ่ ดร้ ับ อนุญาต มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 3 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 30,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั 4. ผทู ้ ม่ี สี ตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองทไี่ ดม้ าจากการเพาะพันธหุ์ รอื ซากของสตั วป์ ่ าทค่ี มุ ้ ครองทไ่ี ดม้ าจากการ เพาะพนั ธุ์ โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั 5. ผทู ้ ที่ ําการคา้ สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองทไี่ ดม้ าจากการเพาะพนั ธุ์ ซากของสตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองทไี่ ดม้ าจากการ เพาะพนั ธุ์ หรอื ผลติ ภณั ฑจ์ ากสตั วด์ งั กลา่ ว โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 2 ปี หรอื ปรับไม่ เกนิ 20,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรับ 6. ผทู ้ เ่ี ก็บ ทําอนั ตราย หรอื มรี งั ของสตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองไวใ้ นครอบครอง มโี ทษจําคกุ ไม่ เกนิ 1 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรับ 7. ผทู ้ นี่ ําสตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองหรอื ซากของสตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองเคลอื่ นทเ่ี พอ่ื การคา้ โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต มโี ทษ ปรับไมเ่ กนิ 5,000 บาท 8. ในเขตรกั ษาพนั ธสุ์ ตั วป์ ่ า ผใู ้ ดลา่ สตั วป์ ่ า ไมว่ า่ สตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง หรอื มใิ ช่ หรอื เกบ็ ทํา อนั ตรายแกร่ ังของสตั วป์ ่ า มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 5 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 50,000 บาทหรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั ผทู ้ ช่ี ว่ ยซอ่ นเรน้ ชว่ ยจําหน่าย ชว่ ยพาเอาไปเสยี ซอื้ 9. 10,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรับ รับจํานํา มโี ทษจําคกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี หรอื ปรับไม4เ่ 9กนิ

พจิ ารณาการกระทาํ แลว้ ระบโุ ทษตามพระราชบญั ญตั สิ งวนและคมุ้ ครองสตั วป์ ่ า พ.ศ. 2535 1. ลา่ หรอื พยายามลา่ สตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง จําคกุ ไมเ่ กนิ 4 ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ 40,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั 2. นําเขา้ สง่ ออก หรอื นําผา่ นสตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครอง จําคกุ ไมเ่ กนิ 4 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 40,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั 3. มสี ตั วป์ ่ าสงวนหรอื สตั วป์ ่ าคมุ ้ ครองไวใ้ นครอบครองโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต จําคกุ ไมเ่ กนิ 4 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 40,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรับ 4. ซอ่ นเรน้ ชว่ ยจําหน่วย ซอื้ รับจํานํา หรอื รับสตั วป์ ่ าหรอื ซากของสตั วป์ ่ า จําคกุ ไมเ่ กนิ 1 ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ 10,000 บาท หรอื ทงั้ จําทงั้ ปรบั 50


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook