Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore hrCR225631125

hrCR225631125

Published by narapath1, 2020-11-26 14:40:46

Description: hrCR225631125

Keywords: กัญชา,กัญชง,กระท่อม

Search

Read the Text Version

-๓- หมวด ๑ คณะกรรมการ มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึงเรียกว่า “คณะกรรมการพชื ควบคุมเพอ่ื ประโยชน์ ทางการแพทย์แหง่ ชาติ” ประกอบด้วย นายกรฐั มนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรวี ่าการ กระทรวงสาธารณสุขเป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลดั กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงการคลงั ปลัดกระทรวงอุดมศกึ ษาวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตกรรม เลขาธิการคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพติด ผู้บญั ชาการตารวจ แห่งชาติ อธิบดกี รมอัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎกี า อธบิ ดกี รมโรงงานอุตสาหกรรม อธบิ ดี กรมศลุ กากร อธิบดีกรมสรรพสามติ อธบิ ดกี รมวชิ าการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสรมิ การเกษตร อธิบดี กรมส่งเสรมิ สหกรณ์ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมสขุ ภาพจิต อธบิ ดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธบิ ดกี รมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธบิ ดีกรมสนบั สนุนบริการสขุ ภาพ เลขาธิการ คณะกรรมการอาหารและยา นายกแพทยสภา นายกสภาการแพทย์แผนไทย นายกสภาเภสัชกรรม นายกสภาสัตวแพทย์ ประธานกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีน นายกทันตแพทยสภา ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประธานหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผ้ทู รงคุณวุฒิอืน่ อกี ไม่เกินเจ็ดคนซ่ึงนายกรฐั มนตรีแต่งตั้งเปน็ กรรมการ ให้ผู้อานวยการเป็นกรรมการและเลขานุการและขา้ ราชการสถาบันทผี่ ูอ้ านวยการมอบหมาย อกี ไมเ่ กนิ สองคนเป็นผู้ชว่ ยเลขานุการ มาตรา ๘ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒอิ ยใู่ นตาแหนง่ คราวละสามปี กรรมการซึ่งพ้นจาก ตาแหน่งอาจไดร้ บั การแต่งตั้งอีกได้ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิพน้ จากตาแหนง่ ก่อนวาระ เม่ือ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) นายกรฐั มนตรใี ห้ออก (๔) เปน็ บุคคลลม้ ละลาย (๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรอื เสมือนไรค้ วามสามารถ (๖) ไดร้ บั โทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถึงท่ีสุดให้จาคุก เว้นแตเ่ ปน็ โทษสาหรับความผิดท่ีได้ กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหโุ ทษ เมือ่ กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิพน้ จากตาแหน่งก่อนวาระ นายกรัฐมนตรอี าจแต่งตงั้ ผูอ้ ่ืน เป็นกรรมการแทนได้ ในกรณีที่มีการแตง่ ตง้ั กรรมการในระหว่างท่กี รรมการซ่ึงแต่งตงั้ ไว้แลว้ ยังมีวาระอยูใ่ น ตาแหนง่ ไม่ว่าจะเปน็ การแต่งต้ังเพิ่มขึ้นหรือแต่งตั้งซ่อม ให้ผูไ้ ดร้ บั แต่งต้ังนัน้ อยูใ่ นตาแหนง่ เทา่ กับ วาระทเี่ หลืออยขู่ องกรรมการซ่ึงแต่งตง้ั ไว้แล้ว

-๔- มาตรา ๙ การประชุม คณะกรรมการ ตอ้ งมีกรรมการมาประชุมไมน่ ้อยกวา่ ก่ึงหนง่ึ ของจานวนกรรมการทงั้ หมดจงึ จะเปน็ องค์ประชมุ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีได้ ให้รองประธานเป็นประธานในท่ปี ระชุม หากรองประธานไม่มาประชมุ หรือไม่อาจ ปฏบิ ัติหนา้ ทไ่ี ด้ ให้ทปี่ ระชุมเลอื กกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานในท่ีประชุม การวินจิ ฉยั ชี้ขาดของท่ีประชุมใหถ้ ือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธาน ในทป่ี ระชุมออกเสียงเพ่ิมขนึ้ อีกเสียงหน่งึ เป็นเสยี งชข้ี าด มาตรา ๑๐ ให้คณะกรรมการ มีหนา้ ทแ่ี ละอานาจดงั ต่อไปนี้ (๑) กาหนดประเภท ลักษณะและรายละเอียดของสถานประกอบการท่ีได้รบั อนญุ าต (๒) กาหนดหลกั เกณฑ์ วิธกี ารและเง่อื นไขในการนาเขา้ นาผา่ น ส่งออก ครอบครอง ปลูก แปรรปู ผลิตและจาหนา่ ย (๓) กาหนดประเภทของผลิตพันธุ์ควบคุมสาหรบั ผู้มีสทิ ธสิ งั่ จา่ ยแต่ละประเภท (๔) พจิ ารณาการพักใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนญุ าต (๕) ใหค้ วามเห็นชอบเก่ียวกบั การกาหนด ขนาดพ้นื ท่ีเพาะปลกู แหลง่ ปลูกพืชควบคมุ เฉพาะ เพือ่ การผลติ ผลิตภัณฑค์ วบคุมและรายละเอยี ดอนื่ ๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ ง (๖) กาหนดมาตรฐานในการเพาะปลูก การแปรรูป และการผลติ ท่เี กย่ี วขอ้ งกับพชื ควบคุม และผลิตภัณฑค์ วบคมุ (๗) กาหนดหลกั เกณฑ์ วิธกี ารและเง่อื นไขในการรบั รองการตรวจวเิ คราะห์ พชื ควบคมุ ผลติ ภณั ฑแ์ ละผลติ ภณั ฑ์ควบคมุ (๘) พจิ ารณาเสนอความเหน็ ในการกาหนดประเภทพืชควบคุมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ต่อรัฐบาล (๙) พิจารณาดาเนนิ การเพ่ือทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตัง้ และพจิ ารณาถอดถอน ผอู้ านวยการ (๑๐) ออกระเบยี บ ข้อบงั คับ และประกาศของสถาบนั เพือ่ ประโยชน์ในการปฏิบัติงานของ สถาบัน (๑๑) ออกระเบยี บขา้ ราชการของสถาบนั และข้อบังคบั ว่าด้วยการบริหารงานบคุ คลของ สถาบนั (๑๒) ให้ความเหน็ ชอบในการกาหนด กรอบ จานวนอตั รา ระดับ ตาแหน่ง และ ความก้าวหนา้ ของขา้ ราชการในสถาบนั บรรดาประกาศ หลกั เกณฑ์ วิธกี ารและเงื่อนไข ระเบยี บหรือข้อบังคบั หากประกาศในราช กจิ จานเุ บกษาแลว้ ใช้บงั คบั ได้ มาตรา ๑๑ คณะกรรมการมีอานาจแตง่ ต้งั คณะอนกุ รรมการ หรือที่ปรกึ ษาเพ่ือให้ปฏบิ ัติ หน้าที่ตามพระราชบัญญัตนิ ้ีหรอื ตามท่ีคณะกรรมการมอบหมาย ให้นาความในมาตรา ๙ มาใชบ้ ังคับ กับการประชมุ คณะอนุกรรมการโดยอนุโลม

-๕- หมวด ๒ สถาบนั พืชควบคุมเพ่อื ประโยชน์ทางการแพทย์แห่งชาติ มาตรา ๑๒ ใหม้ สี ถาบนั พชื ควบคุมเพื่อประโยชนท์ างการแพทย์แหง่ ชาติ เป็นหน่วยงานรัฐ มีฐานะเปน็ นิติบุคคล ซ่งึ ไมเ่ ป็นสว่ นราชการตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บบริหารราชการแผน่ ดนิ กฎหมายวา่ ดว้ ยการปรับปรงุ กระทรวง ทบวง กรม ไม่เปน็ รัฐวสิ าหกจิ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการ งบประมาณและกฎหมายอนื่ อยภู่ ายใตก้ ารกากับดูแลของนายกรฐั มนตรี กจิ การของสถาบันไม่อยภู่ ายใต้บงั คับแห่งกฎหมายวา่ ดว้ ยการคมุ้ ครองแรงงาน กฎหมาย ว่าดว้ ยแรงงานสมั พันธ์ กฎหมายว่าดว้ ยการประกันสงั คม และกฎหมายว่าดว้ ยเงินทดแทน ทงั้ น้ี ขา้ ราชการของสถาบนั ถือเป็นข้าราชการตามกฎหมายวา่ ดว้ ยกองทนุ บาเหนจ็ บานาญขา้ ราชการ และให้ข้าราชการมสี ิทธแิ ละสวสั ดิการอ่นื ๆ เช่นเดยี วกบั ข้าราชการพลเรือนอนื่ มาตรา ๑๓ ใหส้ ถาบนั พชื ควบคมุ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แห่งชาติต้งั อยูท่ ี่ กรงุ เทพมหานคร หรือในเขตจังหวัดใกลเ้ คยี ง ให้คณะกรรมการมีอานาจในการจดั ตง้ั การรวม การแบ่งหรือการยุบเลิกหนว่ ยงานภายใน หรอื สาขาในเขตพืน้ ที่ โดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา การจัดตง้ั หนว่ ยงานภายในหรอื สาขาในเขตพ้ืนท่ี ให้คานึงถึงความจาเปน็ ความคุ้มคา่ ในการ ดาเนนิ การเมื่อเปรียบเทยี บกับค่าใช้จา่ ยและใหค้ ณะกรรมการมีอานาจมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน ทาหน้าท่แี ทนสาขาก็ได้ โดยให้ไดร้ ับค่าใช้จ่ายในการดาเนนิ การ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ ทีค่ ณะกรรมการกาหนด มาตรา ๑๔ ใหส้ ถาบนั มีหนา้ ท่ีและอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) รบั ผิดชอบงานธรุ การของคณะกรรมการ (๒) รบั ซ้ือพชื ควบคุมสาหรับการผลิต ผลิตภัณฑ์ควบคมุ จากผ้รู บั อนญุ าตโดยไม่อยภู่ ายใต้ บังคบั แหง่ กฎหมายว่าดว้ ยการจัดซือ้ จัดจ้างภาครฐั (๓) รบั ซ้อื ผลติ ภัณฑ์ควบคมุ จากผรู้ ับอนญุ าตโดยไม่อยภู่ ายใต้บงั คบั แหง่ กฎหมายวา่ ดว้ ย การจดั ซอื้ จดั จ้างภาครัฐ (๔) จาหนา่ ยพืชควบคุมและผลติ ภัณฑค์ วบคุมให้กบั ผู้มีสิทธิสั่งจา่ ยหรอื ผู้รับอนญุ าต (๕) รบั จดแจง้ ขน้ึ ทะเบยี น เก่ียวกับพชื ควบคมุ และผลติ ภณั ฑค์ วบคมุ ตามที่คณะกรรมการ ประกาศกาหนด (๖) กาหนดขนาดพ้ืนทแ่ี ละรายละเอียดทเ่ี กีย่ วข้อง และพ้นื ทเ่ี พาะปลูกพชื ควบคุมสาหรับ การผลิตผลิตภัณฑค์ วบคุม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ (๗) รับรองมาตรฐานการตรวจวิเคราะหแ์ ละหน่วยวิเคราะห์ ตามท่ีคณะกรรมการกาหนด (๘) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ วจิ ยั และพัฒนาเกี่ยวกับพชื ควบคมุ และผลติ ภัณฑท์ ีเ่ กย่ี วข้อง เพือ่ ประโยชนท์ างการแพทย์ ทางการพาณชิ ย์ และเศรษฐกิจ

-๖- (๙) ตรวจติดตามประเมินผลการดาเนนิ การของผู้รบั อนุญาต เพือ่ ให้เปน็ ไปตามมาตรฐาน ที่คณะกรรมการประกาศกาหนด (๑๐) ถือกรรมสิทธิ์ มสี ิทธคิ รอบครอง และมที รัพยสิทธิต่าง ๆ (๑๑) ก่อต้ังสทิ ธแิ ละทานิติกรรมสัญญาหรอื ข้อตกลงใด ๆ เกีย่ วกับทรัพย์สนิ (๑๒) เรียกเก็บค่าธรรมเนยี มหรือคา่ บรกิ ารในการดาเนนิ กิจการของสถาบัน (๑๓) จัดทารายงานเกยี่ วกบั ผลงานและอุปสรรคในการดาเนินงาน รวมท้ังบัญชแี ละการเงนิ ทกุ ประเภทของสถาบัน แลว้ รายงานตอ่ คณะรฐั มนตรี สภาผูแ้ ทนราษฎร และวฒุ สิ ภาเปน็ ประจาทุกปี ภายในหกเดอื นนับแตว่ ันส้ินปงี บประมาณ (๑๔) ปฏิบตั ิงานร่วมกบั หน่วยงานระหว่างประเทศในส่วนทีเ่ กยี่ วข้องตามกฎหมายระหว่าง ประเทศ (๑๕) ปฏิบัติหน้าที่อนื่ ตามที่พระราชบญั ญตั ิน้หี รอื กฎหมายอ่ืนบัญญัติใหเ้ ป็นหนา้ ที่และ อานาจของสถาบนั หรือตามที่ไดร้ บั มอบหมาย มาตรา ๑๕ ทรัพยส์ นิ ของสถาบนั ไม่อยูใ่ นความรบั ผิดแหง่ การบงั คบั คดี และรายได้ ของสถาบัน มดี ังนี้ (๑) เงินอุดหนุนท่ัวไปท่ีรัฐบาลจดั สรรให้เป็นรายปี (๒) ค่าธรรมเนยี มขายในอัตราไมเ่ กนิ รอ้ ยละสิบของราคาผลิตภัณฑ์ควบคมุ ที่ผ้รู ับอนญุ าต จาหนา่ ยตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนดโดยความเหน็ ชอบของคณะรฐั มนตรี (๓) ค่าธรรมเนยี ม ค่าบารุง ค่าตอบแทน เบ้ยี ปรบั และค่าบรกิ ารต่าง ๆ ของสถาบนั (๔) รายได้จากการจาหน่ายพืชควบคมุ และผลิตภณั ฑ์ควบคุม (๕) รายไดห้ รือผลประโยชน์ที่ได้รับมาจากการใช้ท่ีราชพัสดุ หรือจัดหาประโยชนใ์ นที่ ราชพัสดุ ซงึ่ สถาบันปกครอง ดแู ล ใช้ หรือจดั หาประโยชน์ (๖) รายได้หรือผลประโยชนอ์ ยา่ งอน่ื เงินอดุ หนุนทัว่ ไปตาม (๑) นน้ั รฐั บาลพงึ จดั สรรให้แก่สถาบันโดยตรงเป็นจานวนที่เพียงพอ สาหรบั คา่ ใช้จา่ ยทจี่ าเปน็ ในการดาเนนิ การตามหน้าทแ่ี ละอานาจ มาตรา ๑๖ รายได้ของสถาบันจานวนกง่ึ หน่งึ ให้นาสง่ คลังเป็นรายได้แผ่นดิน รายไดห้ ลังจากหักแล้วตามวรรคหนึ่งถอื เปน็ เงินนอกงบประมาณสาหรบั เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ย ในการบริหารงานของสถาบนั ไมถ่ ือเปน็ รายไดแ้ ผ่นดินตามกฎหมายวา่ ด้วยเงนิ คงคลงั กฎหมาย วา่ ดว้ ยวิธกี ารงบประมาณ หรือกฎหมายอื่น ในการเบกิ จ่ายให้เปน็ ไปตามระเบียบทค่ี ณะกรรมการ กาหนดโดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลัง มาตรา ๑๗ บรรดาอสงั หาริมทรัพยท์ ี่สถาบนั ได้มาโดยมีผู้บริจาคให้ หรอื ไดม้ าโดยการซ้อื หรอื แลกเปลีย่ นจากรายได้ของสถาบัน ให้เปน็ กรรมสิทธิ์ของสถาบัน ใหส้ ถาบันมีอานาจในการปกครอง ดูแล บารุงรักษา ใชแ้ ละจัดหาผลประโยชน์จากทรพั ย์สิน ของสถาบัน

-๗- มาตรา ๑๘ ใหค้ ณะกรรมการเสนอขอรับงบประมาณรายจ่ายประจาปีต่อคณะรัฐมนตรี เพ่ือเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยในการบรหิ ารงานของสถาบนั มาตรา ๑๙ การเก็บรักษาและการใช้จา่ ยเงนิ ของสถาบนั ให้เปน็ ไปตามระเบยี บท่ีคณะกรรมการ กาหนด การบัญชีของสถาบนั ให้จดั ทาตามหลกั สากลตามแบบและหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการ กาหนด และต้องจัดให้มีการตรวจสอบภายในเกยี่ วกบั การเงิน การบญั ชี และการพสั ดขุ องสถาบนั ตลอดจนรายงานผลการตรวจสอบใหค้ ณะกรรมการทราบอยา่ งน้อยปลี ะคร้งั มาตรา ๒๐ ให้สถาบนั มีผอู้ านวยการเปน็ ผูร้ บั ผิดชอบการบริหารกิจการของสถาบันให้เปน็ ไป ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ขอ้ กาหนด นโยบาย มติ และประกาศของคณะกรรมการ และเป็น ผบู้ ังคบั บัญชาข้าราชการและลกู จ้างของสถาบันทกุ ตาแหนง่ ผอู้ านวยการน้ัน จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยคาแนะนาของคณะกรรมการ ใหค้ ณะกรรมการคดั เลือกคณะกรรมการสรรหาจานวนหา้ คนซงึ่ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิและ ไม่มลี กั ษณะต้องหา้ มตามมาตรา ๒๑ (๑) (๓) (๔) (๕) (๖) (๙) (๑๐) (๑๑) และ (๑๒) ใหค้ ณะกรรมการสรรหาทาหนา้ ทส่ี รรหาบุคคลที่มีความรคู้ วามสามารถและประสบการณ์ เหมาะสมที่จะเปน็ ผู้อานวยการซึง่ ต้องมคี ณุ สมบตั ิและไม่มลี กั ษณะต้องหา้ มตามาตรา ๒๑ (๑) (๓) (๔) (๕) (๖) (๙) (๑๐) (๑๑) และ (๑๒) นอกจากน้ี จะต้องไมเ่ ป็นกรรมการในคณะกรรมการและมอี ายุ ไม่เกินหกสิบปบี รบิ รู ณใ์ นวันย่ืนใบสมัครเพ่ือเสนอให้คณะกรรมการพจิ ารณาทาสญั ญาจา้ งและแต่งตง้ั เป็นผอู้ านวยการ ท้งั น้ี โดยอาจเสนอชอื่ ผูม้ คี วามเหมาะสมมากกว่าหน่งึ ช่อื กไ็ ด้ กรรมการสรรหาไมม่ สี ิทธิได้รับการเสนอชอ่ื เป็นผ้อู านวยการ ให้กรรมการสรรหาประชมุ และเลอื กกนั เองให้คนหนงึ่ เปน็ ประธานในกรรมการสรรหาและ เลอื กอีกคนหนึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการสรรหา ให้สถาบันทาหนา้ ที่เปน็ หนว่ ยธุรการในการดาเนินการสรรหาและคดั เลือกผู้อานวยการ มาตรา ๒๑ ผู้อานวยการต้องมีคณุ สมบตั ิและไมม่ ลี ักษณะต้องหา้ ม ดงั ต่อไปนี้ (๑) มสี ญั ชาตไิ ทย (๒) สามารถทางานใหแ้ ก่สถาบันไดเ้ ตม็ เวลา (๓) ไมเ่ ป็นบุคคลวิกลจริตหรือจติ ฟนั่ เฟือน (๔) ไมเ่ ป็นหรือเคยเปน็ บคุ คลล้มละลาย (๕) ไม่เคยได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถงึ ท่ีสดุ ใหจ้ าคุก เวน้ แต่เปน็ โทษสาหรบั ความผิด ทไ่ี ด้กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ (๖) ไมเ่ คยตอ้ งคาพิพากษาหรอื คาสงั่ ของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดนิ เพราะรา่ รวย ผดิ ปกติหรือมีทรัพยส์ นิ เพิ่มข้ึนผิดปกติ (๗) ไมเ่ ป็นผ้บู รหิ ารหรือพนักงานของรฐั วสิ าหกิจอ่ืน หรือกิจการอนื่ ที่แสวงหาผลกาไร

-๘- (๘) ไมเ่ ป็นข้าราชการ พนักงาน หรอื ลกู จ้างซ่งึ มตี าแหน่งหรือเงินเดือนประจาของราชการ ส่วนกลาง ราชการส่วนภูมภิ าค ราชการส่วนทอ้ งถิ่น หรอื หน่วยงานอ่นื ของรัฐ (๙) ไม่เป็นขา้ ราชการการเมือง สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร สมาชิกวฒุ ิสภา สมาชกิ สภาทอ้ งถ่ิน หรอื ผบู้ ริหารทอ้ งถ่นิ (๑๐) ไม่เป็นกรรมการหรือทีป่ รกึ ษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าท่ีในพรรคการเมือง (๑๑) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยงานของรฐั รัฐวสิ าหกจิ หรือบริษัท มหาชนจากัด เพราะทจุ รติ ต่อหน้าที่ มาตรา ๒๒ ผู้อานวยการพ้นจากตาแหนง่ เม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ิหรือมลี กั ษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๐ (๔) ต้องคาพิพากษาถึงท่ีสดุ ให้จาคกุ เว้นแตใ่ นความผิดอนั ไดก้ ระทาโดยประมาทหรือ ความผดิ ลหโุ ทษ (๕) ขาดการประชมุ คณะกรรมการเกนิ สามครงั้ ติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร (๖) คณะกรรมการถอดถอนจากตาแหน่งเพราะบกพรอ่ งตอ่ หนา้ ท่ี มีความประพฤตเิ สอ่ื มเสีย หรือหย่อนความสามารถ (๗) ถูกเลิกสญั ญาจ้าง มาตรา ๒๓ ใหผ้ ู้อานวยการมีวาระอยู่ในตาแหนง่ คราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตัง้ อีกได้ แต่จะดารงตาแหนง่ เกนิ สองวาระติดต่อกนั ไม่ได้ เม่ือตาแหนง่ ผ้อู านวยการวา่ งลงและยงั ไมม่ ีผู้อานวยการคนใหม่ หรอื กรณผี ูอ้ านวยการไม่อาจ ปฏบิ ัตหิ น้าท่ไี ด้เปน็ การชวั่ คราว ให้คณะกรรมการแต่งตัง้ ข้าราชการของสถาบนั คนหน่ึงเป็น ผรู้ กั ษาการแทนผอู้ านวยการ ใหผ้ ูร้ ักษาการแทนมีหน้าท่แี ละอานาจเชน่ เดยี วกบั ผู้อานวยการ มาตรา ๒๔ ใหผ้ ูอ้ านวยการเป็นเจ้าหนา้ ที่ของรฐั ซงึ่ เปน็ ผู้ดารงตาแหนง่ ระดับสูงและให้ถือ เปน็ ผดู้ ารงตาแหนง่ ซง่ึ ตอ้ งห้ามมใิ หด้ าเนินกิจการที่เป็นการขัดกนั ระหว่างประโยชนส์ ่วนบคุ คลและ ประโยชนส์ ่วนรวมตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ ด้วย มาตรา ๒๕ ผอู้ านวยการมีหนา้ ท่ีและอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) บรรจุ แต่งต้ัง เลือ่ น ลด ตัดเงนิ เดอื น หรอื คา่ จ้าง ลงโทษทางวนิ ยั ขา้ ราชการของสถาบนั ตลอดจนให้ขา้ ราชการของสถาบันออกจากตาแหน่ง ทั้งน้ี ตามข้อบงั คบั ท่ีคณะกรรมการกาหนด และ ในกรณขี องข้าราชการท่ีปฏบิ ัติงานในสานักงานตรวจสอบ ให้ฟังความเห็นของคณะอนุกรรมการ ตรวจสอบประกอบการพจิ ารณาดว้ ย

-๙- (๒) ออกระเบียบหรอื ประกาศเกี่ยวกับการดาเนนิ งานสถาบันโดยไมข่ ดั หรือแย้งกบั ระเบียบ ขอ้ บังคบั ประกาศ ข้อกาหนด นโยบาย หรือมติของคณะกรรมการ (๓) บรหิ ารกิจการของสถาบนั ในกจิ การที่เก่ียวกบั บุคคลภายนอก ใหผ้ ู้อานวยการเป็นผ้แู ทนของสถาบัน เพ่ือการนี้ ผอู้ านวยการจะมอบอานาจให้ขา้ ราชการของสถาบันปฏิบตั งิ านเฉพาะอย่างแทนก็ได้ ท้ังนี้ ตามข้อบังคบั ที่คณะกรรมการกาหนด มาตรา ๒๖ ใหม้ ีสานกั งานตรวจสอบข้นึ ในสถาบันทาหนา้ ที่เปน็ สานักงานเลขานุการของ คณะอนกุ รรมการตรวจสอบ และใหร้ บั ผิดชอบขึ้นตรงต่อคณะอนกุ รรมการตรวจสอบและรายงาน ผ้อู านวยการตามระเบียบท่ีคณะกรรมการกาหนด หมวด ๓ พชื ควบคุมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และผลติ ภัณฑ์ควบคุม มาตรา ๒๗ ให้ผลติ ภัณฑ์ควบคมุ ไมอ่ ยภู่ ายใตบ้ งั คบั แหง่ กฎหมายวา่ ด้วยยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ มาตรา ๒๘ ใหค้ ณะกรรมการกาหนดหลกั เกณฑ์ วธิ ีการและเงือ่ นไขในการข้ึนทะเบยี น หรอื จดแจง้ ผลิตภัณฑ์ควบคุม ให้กับผรู้ ับอนญุ าตผลติ หรอื นาหรอื สง่ั เข้ามาในราชอาณาจักร โดยประกาศ กาหนดในราชกิจจานเุ บกษา หมวด ๔ การขออนญุ าตและออกใบอนุญาต มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผูใ้ ดปลูก แปรรปู ผลติ จาหน่าย ขนส่ง ครอบครอง นาเข้า ส่งออก ซง่ึ พืชควบคมุ หรือผลิตภณั ฑ์ควบคมุ เว้นแต่จะไดร้ ับใบอนญุ าตจากผู้อนุญาต การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๓๐ บทบัญญตั ิตามมาตรา ๒๙ ไมใ่ ห้บงั คับแก่ (๑) การนาตดิ ตัวเขา้ มาซ่ึงผลติ ภณั ฑ์ควบคุมในราชอาณาจักร ซ่ึงไม่เกนิ จานวนทจี่ าเปน็ จะต้องใช้เฉพาะตัวได้สามสิบวันหรอื ตามทค่ี ณะกรรมการประกาศกาหนดในราชกิจจานุเบกษา (๒) การนาหรือสงั่ เขา้ มาในราชอาณาจกั รโดยหน่วยงานที่มีหนา้ ท่ตี ามกฎหมาย ในกระทรวง ทบวง กรม สภากาชาดไทย องคก์ ารเภสชั กรรม สถาบนั อุดมศึกษาตามกฎหมาย และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ซึง่ จะต้องแสดงรายละเอยี ดตามใบสง่ ของหรือใบส่งั นาเขา้ ต่อสถาบนั เพือ่ ทราบภายใน สามสิบวันนับแต่ดาเนินการ

- ๑๐ - (๓) การนาหรอื ส่ังเข้ามาซึ่งผลิตภัณฑ์ควบคุมในราชอาณาจักรสาหรบั ผู้ป่วยเฉพาะรายของ สถานพยาบาลตามกฎหมาย ซึง่ ไมเ่ กนิ จานวนที่จาเป็นจะต้องใช้สาหรับผปู้ ่วยไม่เกนิ หนงึ่ ร้อยแปดสบิ วนั หรอื ตามท่ีคณะกรรมการประกาศกาหนดในราชกิจจานเุ บกษา (๔) การครอบครองผลติ ภณั ฑ์ควบคมุ ของผปู้ ่วยสาหรบั บริโภคในทางการแพทย์หรือการวิจัย ตามการส่งั จ่ายของผู้มีสิทธสิ ง่ั จา่ ย (๕) การปลกู พชื ควบคมุ สาหรับใช้ประโยชน์เฉพาะในครัวเรือนของตนในการสง่ เสรมิ สขุ ภาพ และป้องกนั โรค โดยความยินยอมของคณะกรรมการชุมชน หรอื คณะกรรมการหมบู่ า้ น ตาม หลกั เกณฑ์ วิธีการและเง่ือนไขทคี่ ณะกรรมการประกาศกาหนดในราชกจิ จานุเบกษา หมวด ๕ หน้าท่ขี องผู้รบั อนุญาต ผ้ดู าเนนิ การ และผมู้ ีหนา้ ทีป่ ฏิบัติการ มาตรา ๓๑ หน้าทขี่ องผรู้ บั อนุญาต ผ้ดู าเนนิ การ และผู้มหี น้าทีป่ ฏิบตั กิ ารให้เปน็ ไปตามท่ี คณะกรรมการประกาศกาหนดในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา ๓๒ ผูร้ บั อนุญาตผใู้ ดจะเลกิ กิจการที่ไดร้ บั อนุญาตตามพระราชบัญญตั นิ ีใ้ ห้แจง้ การเลิกกิจการเปน็ หนงั สือให้ผอู้ นุญาตทราบล่วงหนา้ และให้ถือว่าใบอนุญาตสน้ิ อายุตง้ั แต่วันทเี่ ลกิ กิจการตามทแี่ จ้งไว้นั้น ผ้รู บั อนญุ าตท่ีเลิกกิจการโดยมไิ ดป้ ฏบิ ตั ติ ามความในวรรคหน่งึ ตอ้ งแจง้ การเลิกกจิ การเป็น หนังสอื ให้ผู้อนญุ าตทราบภายในสบิ ห้าวนั นบั แต่วนั ที่เลกิ กิจการ และให้ถอื วา่ ใบอนญุ าตส้ินอายตุ ง้ั แต่ วันทเ่ี ลกิ กิจการ มาตรา ๓๓ ผรู้ บั อนุญาตซ่งึ ไดแ้ จง้ การเลกิ กิจการจะขายของตนทเี่ หลืออยู่แก่ผูร้ บั อนุญาต รายอืน่ หรอื แกผ่ ูซ้ ึ่งผ้อู นุญาตเหน็ สมควรไดภ้ ายในเก้าสบิ วันนับแตว่ นั เลกิ กจิ การ เว้นแต่ผอู้ นญุ าต จะผ่อนผันขยายระยะเวลาดังกลา่ วให้ มาตรา ๓๔ ถา้ ผู้รับอนุญาตตายและมที ายาทหรือผ้ทู ีไ่ ดร้ ับความยินยอมจากทายาทแสดง ความจานงต่อผูอ้ นญุ าตภายในสามสบิ วนั นับแต่วันทีผ่ ู้รบั อนุญาตตายเพ่ือขอประกอบกจิ การทีไ่ ดร้ บั อนญุ าตน้ันต่อไป เม่อื ผู้อนุญาตตรวจสอบแลว้ เห็นวา่ บคุ คลนัน้ มคี ณุ สมบัตแิ ละไม่มีลักษณะต้องหา้ ม ตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง กอ็ นญุ าตให้ผู้แสดงความจานงนั้นประกอบกิจการต่อไปได้จนกว่า ใบอนญุ าตสน้ิ อายุ ในกรณีเช่นนใ้ี หถ้ ือวา่ ผแู้ สดงความจานงเป็นผูร้ บั อนญุ าตตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ ตัง้ แตว่ นั ทผี่ รู้ ับอนญุ าตตาย การแสดงความจานง การตรวจสอบ และการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และ เง่อื นไขที่คณะกรรมการประกาศกาหนด

- ๑๑ - มาตรา ๓๕ พชื ควบคุมหรือผลิตภัณฑค์ วบคุมที่นาหรอื สงั่ เขา้ มาในราชอาณาจักรจะต้องผา่ น การตรวจสอบของพนกั งานเจ้าหน้าที่ ณ ดา่ นนาเข้า การตรวจสอบของพนกั งานเจ้าหนา้ ทีใ่ หเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารทกี่ าหนด ในกฎกระทรวง หมวด ๖ พนกั งานเจา้ หน้าท่ี มาตรา ๓๖ ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ให้พนักงานเจ้าหนา้ ที่มอี านาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) เขา้ ไปในสถานท่ีซง่ึ ได้รบั อนุญาตของผู้รับอนุญาต ในระหวา่ งเวลาทาการของผู้รับอนุญาต เพือ่ ตรวจสอบควบคุมการดาเนนิ การให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ในการนี้ให้มีอานาจบันทึกภาพ หรือกระทาการอย่างอ่ืนที่จาเป็นเพือ่ ใชเ้ ปน็ ข้อมูลหรอื พยานหลักฐานได้ด้วย โดยแสดงหนงั สอื ท่ไี ดร้ บั มอบหมายให้กระทาการจากผอู้ นญุ าตก่อน (๒) นาพชื ควบคุมหรอื ผลติ ภัณฑค์ วบคุมจากสถานทซ่ี ง่ึ ไดร้ ับอนุญาตของผู้รับอนุญาต ในปรมิ าณพอสมควรเพื่อเป็นตวั อยา่ งในการตรวจสอบหรือวเิ คราะห์ (๓) ยดึ หรอื อายัดพชื ควบคุมหรือผลติ ภณั ฑ์ควบคุมทม่ี ีไวโ้ ดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรอื ทรพั ยส์ ินอ่ืนใดท่ีไดใ้ ชห้ รือจะใช้ในการกระทาความผิดตามพระราชบญั ญัตนิ ้ีในสถานท่ที ่ีได้รบั อนุญาต ของผู้รับอนุญาต โดยตอ้ งทาบัญชีและสง่ มอบให้แกส่ ถาบันทนั ทีเพื่อทาลายหรือใช้ประโยชน์ต่อไป ตามท่ีสถาบันเหน็ สมควร ในการปฏิบัติหนา้ ที่ของพนกั งานเจา้ หนา้ ทีต่ ามวรรคหนึง่ ใหผ้ รู้ ับอนุญาตและผมู้ ีหน้าที่ เกย่ี วข้องกบั การปลกู แปรรูป ผลิต จาหน่าย นาหรือส่งั เขา้ มาในราชอาณาจกั รในสถานท่ีดงั กล่าว อานวยความสะดวกแก่พนักงานเจา้ หนา้ ทต่ี ามสมควรแก่กรณี มาตรา ๓๗ ในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี พนักงานเจา้ หน้าทีต่ ้องแสดงบัตรประจาตัวต่อบคุ คล ทเี่ กีย่ วข้องบตั รประจาตัวพนักงานเจา้ หนา้ ท่ีให้เป็นไปตามแบบที่รฐั มนตรปี ระกาศกาหนด มาตรา ๓๘ ในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ตี ามพระราชบญั ญัติน้ี ใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ทีเ่ ป็นเจา้ พนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา

- ๑๒ - หมวด ๗ การพักใชใ้ บอนญุ าตและการเพกิ ถอนใบอนญุ าต มาตรา ๓๙ เมอ่ื ปรากฏต่อผู้อนุญาตวา่ ผู้รบั อนุญาตใดไม่ปฏิบัติตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี กฎกระทรวง หรือประกาศทอ่ี อกตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ผอู้ นญุ าตโดยความเหน็ ชอบของ คณะกรรมการมีอานาจสง่ั พักใชใ้ บอนุญาตไดค้ รั้งละไมเ่ กินหนึ่งร้อยย่ีสิบวนั ในกรณีที่มกี ารฟ้องผูร้ ับอนญุ าตตอ่ ศาลว่าได้กระทาความผดิ ตามวรรคหนึง่ ใหผ้ ู้อนญุ าตมี อานาจส่ังพักใชใ้ บอนุญาตในระยะเวลาใดเวลาหน่งึ ตามที่เห็นสมควรหรอื จนกวา่ ศาลจะมีคาพิพากษา ถึงท่สี ดุ ก็ได้ ผู้รบั อนญุ าตซึ่งถกู ส่ังพักใช้ใบอนุญาตต้องหยดุ ดาเนินการที่ไดร้ บั อนญุ าตแลว้ แต่กรณี และ ระหวา่ งทถี่ ูกส่ังพักใชใ้ บอนญุ าตน้ันจะขอรบั ใบอนญุ าตตามพระราชบญั ญตั ินอี้ ีกไม่ได้ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทย่ี ึดพชื ควบคมุ หรอื ผลติ ภณั ฑ์ควบคมุ ที่เหลือของผถู้ กู สงั่ พกั ใบอนุญาต ตามความในวรรคหนึ่ง และใบอนุญาตที่ถูกสัง่ พักใช้น้ันไปเก็บรักษาไว้ท่ีสถาบันหรือใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ตามระเบียบทีร่ ัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ีก้ าหนด หรอื ในกรณจี าเปน็ จะเก็บรักษาไวท้ อ่ี ื่น ตามท่สี ถาบันกาหนดกไ็ ด้ มาตรา ๔๐ การเพิกถอนใบอนญุ าต หากผรู้ ับอนญุ าตถูกพักใบอนุญาตตามมาตรา ๓๔ แล้ว ยงั ไม่หยดุ ดาเนินการ ให้ผอู้ นุญาตดาเนนิ การเพิกถอนใบอนุญาตโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ มาตรา ๔๑ คาสง่ั พกั ใช้ใบอนุญาตและคาสง่ั เพิกถอนใบอนุญาตให้ทาเป็นหนังสือแจ้ง ใหผ้ ูร้ ับอนญุ าตทราบ ในการแจ้งคาส่งั น้นั หากไม่พบตัวผรู้ บั อนุญาตหรือผู้รับอนุญาตไม่ยอมรับคาส่งั ดงั กลา่ ว ให้ปดิ คาสัง่ ไว้ในที่เปิดเผย เหน็ ไดง้ า่ ย ณ สถานทผ่ี ลติ ผลิตภัณฑค์ วบคมุ สถานที่ขาย ผลิตภณั ฑ์ควบคุม หรอื สถานท่นี าหรือสั่งผลิตภัณฑ์ควบคุมเขา้ มาในราชอาณาจักร และใหถ้ อื ว่า ผ้รู บั อนญุ าตไดท้ ราบคาส่งั นั้นแล้ว ต้งั แต่วันท่ปี ิดคาสง่ั คาส่ังพักใชใ้ บอนญุ าตและคาสงั่ เพิกถอน ใบอนุญาต จะแจ้งโดยวิธปี ระกาศในหนงั สือพิมพ์รายวัน หรือโดยวิธีอื่นอีกดว้ ยก็ได้ มาตรา ๔๒ ผอู้ นญุ าตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมอี านาจเพิกถอนคาส่ังพักใช้ ใบอนุญาตได้ เม่ือปรากฏว่าผู้รับอนุญาตซงึ่ ถูกสัง่ พักใช้ใบอนญุ าตได้ปฏิบตั ิถกู ต้องตามพระราชบัญญตั ิ น้ี กฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญตั นิ ี้แล้ว มาตรา ๔๓ ผรู้ ับอนญุ าตซ่ึงถูกพักใชใ้ บอนุญาตหรอื ถูกเพกิ ถอนใบอนญุ าต มสี ิทธอิ ทุ ธรณ์ เป็นหนงั สือตอ่ รัฐมนตรีภายในสามสิบวนั นบั แต่วันท่ีไดร้ บั ทราบคาสัง่ ของผู้อนญุ าตที่แจ้งการพักใช้ ใบอนุญาตหรือการเพิกถอนใบอนญุ าตแลว้ แต่กรณี ให้รัฐมนตรวี ินิจฉยั อุทธรณ์ให้แล้วเสรจ็ ภายใน สามสิบวนั นับแตว่ ันทีไ่ ด้รับหนงั สอื อุทธรณ์ คาวินิจฉัยของรฐั มนตรใี ห้เป็นทีส่ ดุ

- ๑๓ - การอุทธรณ์ตามวรรคหนงึ่ ไมเ่ ป็นเหตุใหท้ เุ ลาการบังคบั ตามคาสง่ั พักใชใ้ บอนุญาตหรือคาสั่ง เพกิ ถอนใบอนุญาตแลว้ แตก่ รณี มาตรา ๔๔ ผ้ถู ูกเพิกถอนใบอนญุ าตจะขายผลิตภณั ฑ์ควบคมุ ของตนที่เหลืออยู่แก่ ผรู้ บั อนญุ าตอื่นหรือแกผ่ ซู้ ึ่งผู้อนุญาตเหน็ สมควรได้ภายในเก้าสบิ วนั นบั แตว่ ันท่ไี ดร้ บั ทราบคาสง่ั ของ ผูอ้ นุญาตทแ่ี จ้งการเพิกถอนใบอนุญาตหรือนับแตว่ ันท่ีไดร้ ับหนงั สอื แจ้งคาวินจิ ฉยั ของรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี เว้นแตผ่ ู้อนุญาตหรอื รฐั มนตรีจะมีหนงั สอื แจ้งการผอ่ นผันขยายระยะเวลาดงั กล่าวให้ หมวด ๘ มาตรการควบคุมพิเศษ มาตรา ๔๕ หา้ มมิให้ผูใ้ ดบริโภคผลิตภณั ฑ์ควบคุม เวน้ แต่การบริโภคเพอ่ื ประโยชน์ทาง การแพทย์หรือเพื่อประโยชน์ทางการวจิ ัย ตามคาส่งั ของผู้มสี ิทธ์สิ ่ังจ่าย หมวด ๙ การนาผ่านพืชควบคุมและผลติ ภณั ฑค์ วบคมุ มาตรา ๔๖ ในการนาผา่ นซ่ึงพชื ควบคุมหรือผลติ ภัณฑค์ วบคุม ตอ้ งมีใบอนญุ าตของ เจา้ หนา้ ที่ผูม้ ีอานาจของประเทศทสี่ ่งออกนั้นมาพร้อมกับพืชควบคมุ หรอื ผลิตภณั ฑ์ควบคุมและ ตอ้ งแสดงใบอนุญาตดงั กล่าวต่อพนักงานศลุ กากร กับต้องยนิ ยอมให้พนักงานศลุ กากรเกบ็ รักษา หรอื ควบคมุ พืชควบคุมหรือผลิตภัณฑค์ วบคุมนัน้ ไว้ ให้พนักงานศลุ กากรเกบ็ รักษาหรือควบคมุ พชื ควบคุมหรือผลิตภณั ฑค์ วบคุมนัน้ ไว้ในท่สี มควร จนกวา่ ผ้ทู ี่นาผ่านซ่ึงพชื ควบคุมหรอื ผลิตภัณฑ์ควบคุมดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักร ในกรณีท่ีผู้นาผ่านพชื ควบคุมหรือผลิตพนั ธ์ควบคมุ ไมน่ าพืชควบคมุ หรอื ผลติ ภณั ฑ์ควบคุม ดังกล่าวออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกาหนดเวลาสามสบิ วนั นับแต่วนั นาเข้า ให้พนักงานศุลกากร รายงานใหผ้ อู้ านวยการทราบ ผู้อานวยการมีอานาจออกคาสั่งให้ผูน้ าผ่านซึ่งพืชควบคุมหรือผลติ ภณั ฑ์ ควบคมุ ซึง่ พชื ควบคมุ หรือผลิตภัณฑ์ควบคุมดงั กล่าวออกไปนอกราชอาณาจักรภายในกาหนดหกสบิ วัน นับแตว่ ันออกคาส่งั ในกรณีผู้ได้รับคาสั่งไมป่ ฏบิ ัติตาม ให้พชื ควบคมุ หรือผลิตภณั ฑค์ วบคุมดงั กลา่ ว ตกเป็นของสถาบนั

- ๑๔ - หมวด ๑๐ การอุทธรณ์ มาตรา ๔๗ ในกรณีผู้ไดร้ บั คาสง่ั ของผู้อานวยการตามมาตรา ๔๖ ไม่เห็นดว้ ยกับคาสงั่ ดงั กลา่ ว ใหม้ สี ทิ ธิอุทธรณ์ตอ่ คณะกรรมการได้ การอุทธรณ์ตามวรรคหน่งึ ให้ยนื่ ต่อคณะกรรมการภายในสิบส่ีวนั นับแตว่ นั ท่ผี ู้อทุ ธรณ์ ได้รับทราบคาสั่งของผอู้ านวยการ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการย่นื อุทธรณ์ และวธิ ีพจิ ารณาอุทธรณ์ใหเ้ ป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ ประกาศกาหนดในราชกจิ จานเุ บกษา การอุทธรณ์คาสั่งตามวรรคหนงึ่ ยอ่ มไมเ่ ป็นการทเุ ลาการบังคับตามคาส่งั ของผู้อานวยการ เว้นแต่คณะกรรมการจะส่งั เป็นอย่างอื่นเปน็ การชว่ั คราวก่อนการวนิ ิจฉัยอทุ ธรณ์ คาวนิ จิ ฉัยของคณะกรรมการให้เป็นท่ีสุด หมวด ๑๑ บทกาหนดโทษ มาตรา ๔๘ ผู้ใดผลติ นาเขา้ หรือส่งออกผลิตภัณฑ์ควบคุม อันเปน็ การฝ่าฝืนมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ สองปี และปรับไมเ่ กนิ สองแสนบาท ถา้ การกระทาผิดตามวรรคหนึ่งเปน็ การกระทาเพ่ือจาหนา่ ย ตอ้ งระวางโทษจาคุกตั้งแต่หนง่ึ ปี ถึงสามปี และปรับตั้งแตห่ นงึ่ แสนบาทถงึ สามแสนบาท ถ้าการกระทาผดิ ตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทาของผรู้ บั อนุญาตทอี่ ย่หู ว่างทพี่ ักใช้ใบอนุญาต ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี และปรับไมเ่ กินสองแสนบาท ถ้าการกระทาผดิ ตามวรรคสามเป็นการกระทาเพ่ือจาหน่าย ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แตห่ นง่ึ ปี ถงึ สามปี และปรับตงั้ แตห่ น่ึงแสนบาทถงึ สามแสนบาท มาตรา ๔๙ ผใู้ ดมไี ว้ครอบครองเพ่ือจาหน่ายซึ่งผลติ ภัณฑค์ วบคมุ อนั เป็นการฝา่ ฝนื มาตรา ๒๙ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กินหกเดอื น หรือปรบั ไม่เกินสองหมื่นบาท กรณีตามวรรคหน่ึง ถ้ามีผลติ ภัณฑ์ควบคุม เกินจานวนท่คี ณะกรรมการประกาศกาหนดใน ราชกิจจานุเบกษา ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกินสองปี และปรบั ไม่เกนิ สองแสนบาท

- ๑๕ - มาตรา ๕๐ ผูใ้ ดบรโิ ภคผลิตภัณฑค์ วบคุม อันเปน็ การฝ่าฝนื มาตรา ๔๕ ต้องระวางโทษปรบั ไม่เกนิ สองพนั บาท มาตรา ๕๑ ผู้ใดปลูกพชื ควบคมุ อนั เป็นการฝา่ ฝืนมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไมเ่ กิน สองหมนื่ บาท ถ้าการกระทาผิดตามวรรคหน่ึงเป็นการกระทาเพื่อจาหน่าย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หกเดอื น หรอื ปรับไม่เกินหน่งึ หมื่นบาท หรือทั้งจาทงั้ ปรบั หมวด ๑๒ บทเฉพาะกาล มาตรา ๕๒ ผูใ้ ดมไี ว้ในครอบครองซึ่งพชื ควบคุมหรือผลิตภัณฑค์ วบคุม เพื่อประโยชน์ ทางการแพทย์ การรักษาผู้ป่วย การใช้รกั ษาโรคเฉพาะตัว หรอื การศึกษาวิจัย อยู่ก่อนวนั ท่ี พระราชบัญญัตินใี้ ช้บังคบั ไม่ต้องรบั โทษสาหรับการกระทานัน้ ภายในระยะเวลาหนงึ่ รอ้ ยย่สี ิบวัน นับแต่กฎหมายน้มี ีผลใช้บังคับ มาตรา ๕๓ ให้ยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท ๕ ตามกฎหมายวา่ ด้วยยาเสพติดใหโ้ ทษซ่ึงใช้อยู่ กอ่ นวันท่ีพระราชบัญญัตนิ ีใ้ ช้บังคับ เปน็ พชื ควบคุม และยาจากยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษซ่งึ ใช้อยกู่ ่อนวนั ทพ่ี ระราชบญั ญัตินี้ใชบ้ ังคบั เป็นผลติ ภัณฑ์ ควบคมุ ตามความในพระราชบญั ญตั นิ ้ี ใหผ้ ู้รบั อนุญาตผลติ จาหน่าย นาเขา้ สง่ ออก หรือมีไวเ้ พื่อครอบครองซ่งึ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ประเภท ๕ ดงั กลา่ วตามวรรคหนึ่ง ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยยาเสพติดใหโ้ ทษ ย่นื คาขอรับใบอนญุ าตใหม่ ตามมาตรา ๒๙ ภายในกาหนดเวลาหนง่ึ ร้อยแปดสบิ วนั นับแต่วนั ทีพ่ ระราชบญั ญตั ิน้ีใช้บังคบั และ เม่อื ไดย้ ืน่ คาขอรบั ใบอนญุ าตและคาขอขน้ึ ทะเบยี นตารับยาดังกล่าวแล้วใหผ้ ยู้ นื่ คาขอดาเนินกิจการ ไปพลางก่อนได้ แต่ถา้ ผูอ้ นญุ าตมีคาส่ังเปน็ หนงั สือไม่ออกใบอนุญาตใหห้ รือผู้นน้ั ไม่มายื่นคาขอรับ ใบอนุญาตผลติ จาหนา่ ย นาเข้า ส่งออก และคาขอขน้ึ ทะเบียนตารับยาภายในกาหนดเวลาดังกลา่ ว ใหเ้ ปน็ อนั หมดสิทธติ ามมาตราน้นี ับแต่วันท่ีทราบคาสัง่ หรอื วันทพ่ี ้นกาหนดหนึง่ ร้อยแปดสบิ วัน นบั แต่วันทพ่ี ระราชบญั ญัตนิ ีใ้ ช้บงั คบั แลว้ แตก่ รณี และให้นาความในมาตรา ๓๙ วรรคสี่ มาบังคับ โดยอนุโลม

- ๑๖ - มาตรา ๕๔ กฎกระทรวง ระเบยี บ หรือประกาศที่ออกตามพระราชบญั ญัติยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และท่แี ก้ไขเพิม่ เตมิ ท่ีใช้บงั คับอย่ใู นวนั ก่อนวันทพ่ี ระราชบัญญตั ินี้ใช้บงั คับ ให้ใช้บังคบั ไดต้ อ่ ไปเท่าที่ไมข่ ัดหรือแยง้ กับพระราชบัญญัตนิ ี้ จนกว่าจะมกี ฎกระทรวง ระเบียบ หรอื ประกาศ ทอ่ี อกตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคบั การดาเนนิ การออกกฎกระทรวง ระเบยี บ หรือประกาศตามวรรคหนึ่ง ใหด้ าเนินการ ให้แลว้ เสรจ็ ภายในสองปีนบั แต่วันท่ีพระราชบัญญตั นิ ีใ้ ชบ้ ังคับ หากไมส่ ามารถดาเนนิ การได้ ใหน้ ายกรัฐมนตรรี ายงานเหตุผลทไ่ี ม่อาจดาเนนิ การได้ต่อคณะรัฐมนตรี ผูร้ ับสนองพระบรมราชโองการ ................................... ...................................

- ๑๗ - อัตราคา่ ธรรมเนยี ม (๑) ใบอนุญาตให้ปลูกซ่ึงพชื ควบคมุ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๒) ใบอนุญาตให้ผลิตซึ่งผลิตภัณฑ์ควบคมุ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๓) ใบอนญุ าตให้แปรรปู ซึ่งพืชควบคุมเพ่ือประโยชนท์ างการแพทย์ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๔) ใบอนญุ าตให้นาเข้าซ่งึ พชื ควบคมุ เพอ่ื ประโยชนท์ างการแพทย์ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๕) ใบอนญุ าตให้นาเขา้ ซงึ่ ผลิตภณั ฑค์ วบคุม ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๖) ใบอนุญาตให้สง่ ออกซงึ่ พืชควบคมุ เพ่ือประโยชนท์ างการแพทย์ ฉบบั ละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๗) ใบอนุญาตให้ส่งออกซึง่ ผลิตภัณฑค์ วบคมุ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๘) ใบอนุญาตจาหนา่ ยพืชควบคุมเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๙) ใบอนญุ าตจาหนา่ ยผลิตภัณฑค์ วบคุม ฉบบั ละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๑๐) ใบอนุญาตมีไวใ้ นครอบครองซ่ึงพชื ควบคุมเพ่ือประโยชนท์ างการแพทย์ ฉบบั ละ ๒,๐๐๐ บาท (๑๑) ใบอนญุ าตมีไว้ในครอบครองซ่ึงผลิตภัณฑ์ควบคุม ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท (๑๒) ใบอนญุ าตให้ดาเนินการขนส่งซึ่งพชื ควบคุมเพ่อื ประโยชน์ทางการแพทย์ ฉบบั ละ ๑,๐๐๐ บาท (๑๓) ใบสาคัญการข้นึ ทะเบียนผลิตภัณฑ์ควบคุม ฉบบั ละ ๒,๐๐๐ บาท (๑๔) การตอ่ อายใุ บอนญุ าตหรือใบสาคญั การขนึ้ ทะเบียนผลิตภัณฑค์ วบคุม คร้ังละเทา่ กับ ค่าธรรมเนยี ม

ภาคผนวก ข ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรือ่ ง ระบชุ ือ่ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๕ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

หน้า ๑ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๑๘ ง ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกระทรวงสาธารณสขุ เรอ่ื ง ระบุช่อื ยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท ๕ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๘ (๑) และ (๒) แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดใหโ้ ทษออกประกาศไว้ ดังตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ให้ยกเลิกชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ลาดับที่ ๑ ในบัญชีท้ายประกาศ กระทรวงสาธารณสุข เร่ือง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใชค้ วามตอ่ ไปน้แี ทน ลาดับท่ี ช่อื ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ชอ่ื ทางเคมี เงือ่ นไข ๑ กัญชา (cannabis) - ซึ่งเปน็ พืชในสกุล Cannabis ทัง้ นี้ ให้หมายความรวมถึง - ทกุ ส่วนของพชื กัญชา เช่น ใบ ดอก ยอด ผล ลาตน้ - วัตถุหรอื สารตา่ ง ๆ ทมี่ อี ย่ใู นพชื กัญชา เชน่ ยาง นา้ มัน ยกเว้น ๑. กัญชง (hemp) ที่ไดป้ ระกาศเป็นยาเสพตดิ ใหโ้ ทษในประเภท ๕ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยยาเสพตดิ ให้โทษ ๒. แคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) ท่ีสกัดจากกัญชา ซ่ึงมีความบริสุทธ์ิมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๙๙ โดยมีปรมิ าณ สารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินรอ้ ยละ ๐.๐๑ โดยน้าหนัก ๓. สารสกัดหรือผลิตภัณฑ์จากสารสกัดท่ีมีสารแคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบหลักและมีสารเตตรา ไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกิน ร้อยละ ๐.๒ โดยน้าหนัก ซ่ึงเป็นยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร ตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร และต้องใช้ ตามวตั ถปุ ระสงคท์ างยาหรอื ผลิตภณั ฑส์ มนุ ไพร เทา่ นนั้ ทั้งนี้ ภายในระยะเวลา ๕ ปีแรกนับแต่วันที่ประกาศน้ี มผี ลใชบ้ งั คับ การยกเว้นให้ใช้บงั คบั เฉพาะกบั การผลิตในประเทศ ของผรู้ บั อนญุ าตตามกฎหมายนั้น ๆ ๔. เปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และผลิตภัณฑ์ ทผี่ ลติ จากเปลือกแห้ง แกนลาต้นแหง้ เส้นใยแห้ง

หน้า ๒ ๓๐ สงิ หาคม ๒๕๖๒ เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๑๘ ง ราชกิจจานเุ บกษา ข้อ ๒ ให้เพิ่มความต่อไปน้ี เป็นลาดับท่ี ๕ ของชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ ในบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข เร่ือง ระบุช่ือยาเสพตดิ ให้โทษในประเภท ๕ พ.ศ. ๒๕๖๑ ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ลาดบั ท่ี ชื่อยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ชอื่ ทางเคมี เงอื่ นไข ๕ กญั ชง (hemp) - ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannabis sativa L. subsp. sativa อันเป็นชนิดย่อยของพืชกัญชา (Cannabis sativa L.) ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถงึ ทุกสว่ นของพืชกัญชง เชน่ ใบ ดอก ยอด ผล ลาต้น ท่ีมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) และลักษณะเป็นไปตามท่ี คณะกรรมการประกาศกาหนด ยกเวน้ ๑. แคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) ที่สกัดจากกัญชง ซ่ึงมีความบริสุทธิ์มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๙๙ โดยมีปรมิ าณ สารเตตราไฮโดรแคนนาบนิ อล (tetrahydrocannabinol, THC) ไมเ่ กินร้อยละ ๐.๐๑ โดยน้าหนกั ๒. สารสกัดหรือผลิตภัณฑ์จากสารสกัด ท่ีมีสารแคนนาบไิ ดออล (cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบหลักและ มี ส า ร เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ โดยน้าหนัก ซ่ึงเป็นยาหรือผลิตภัณฑ์ สมุนไพร ตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร และ ตอ้ งใช้ตามวตั ถปุ ระสงคท์ างยาหรือผลติ ภณั ฑ์สมุนไพร เท่าน้ัน ๓. เมล็ดกัญชง (hemp seed) หรือน้ามันจากเมล็ดกัญชง (hemp seed oil) ซ่ึงเป็นอาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร และตอ้ งใช้ตามวตั ถปุ ระสงค์ทางอาหารเท่านน้ั ๔. น้ามันจากเมล็ดกัญชง (hemp seed oil) หรือสารสกัดจาก เมล็ดกัญชง ซ่ึงเป็นเครื่องสาอางตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสาอาง และตอ้ งใชต้ ามวตั ถุประสงค์ทางเครอื่ งสาอางเทา่ น้ัน ทั้งนี้ เมล็ดกัญชงท่ีนาไปเป็นอาหาร หรือเคร่ืองสาอางตอ้ งเปน็ เมลด็ ท่ไี มส่ ามารถนาไปเพาะพนั ธ์ุได้ (non-viable seed) หรอื ถกู ทาให้ ไม่มีชีวิต ซ่ึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขตามที่ คณะกรรมการประกาศกาหนด

หน้า ๓ ๓๐ สงิ หาคม ๒๕๖๒ เล่ม ๑๓๖ ตอนพิเศษ ๒๑๘ ง ราชกจิ จานุเบกษา ลาดับท่ี ชื่อยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ชอื่ ทางเคมี เงอื่ นไข ๕. เปลือกแห้ง แกนลาต้นแห้ง เส้นใยแห้ง และผลิตภัณฑ์ ทผ่ี ลิตจากเปลอื กแห้ง แกนลาต้นแหง้ เส้นใยแหง้ ภายในระยะเวลา ๕ ปีแรกนับแต่วันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ การยกเว้นตามข้อ ๒ ถึงข้อ ๔ ให้ใช้บังคับเฉพาะกับการผลิต ภายในประเทศของผู้รบั อนญุ าตตามกฎหมายนั้น ๆ ขอ้ ๓ ประกาศนีใ้ ห้ใชบ้ ังคับตง้ั แตว่ นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ 2๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖2 อนทุ ิน ชาญวรี กูล รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ

ภาคผนวก ค ความจรงิ เก่ยี วกับกญั ชาทางการแพทย์

ความจริงเกยี วกบั กญั ชาทางการแพทย์ ราชวทิ ยาลยั แพทยเ์ วชศาสตร์ครอบครัว แห่งประเทศไทย สภานิติบญั ญตั ิแห่งชาติ ไดแ้ กไ้ ขพระราชบญั ญตั ิยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เปิ ดโอกาสให้มีการนาํ กญั ชามาใชใ้ นทางการแพทยไ์ ด้ ประเด็นทีแพทยเ์ วชศาสตร์ครอบครัวควรรู้ ไดแ้ ก่ การใชก้ ญั ชาทางการแพทย์ ในอดีต เภสัชวิทยาของยากญั ชา สรรพคุณของยากญั ชารักษาโรค การใชก้ ญั ชาเพือป้องกนั โรค วิธีใชก้ ญั ชาและ ขนาดยากญั ชา ภาวะแทรกซอ้ น และทิศทางการพฒั นาในอนาคต การใช้กญั ชาทางการแพทย์ในอดีต จากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ พบว่ามีการใชก้ ญั ชาทางการแพทยใ์ นอารยธรรมต่างๆของโลกมา มากกวา่ 5,000 ปี 1 กญั ชาเป็นส่วนผสมของตาํ รับยาไทยหลายตาํ รับ ในสมยั พระนารายณ์ เมือ 360 ปี ก่อน2 ในช่วง ศตวรรษที 18 นายแพทย์ William O’Shaughnessy ไปพบเห็นชาวอินเดียใชก้ ญั ชารักษาโรคอย่างไดผ้ ลดีจึงนาํ กลบั มาเผยแพร่ทีประเทศองั กฤษ3 นายแพทย์ John Reynolds แพทยป์ ระจาํ สํานักราชวงศ์ขององั กฤษบนั ทึก ประสบการณ์การใชก้ ญั ชารักษาโรค ในช่วง 30 ปี ของตนว่า กญั ชามีสรรพคุณในการรักษาโรคหลายประการ4 นายแพทย์ Sir William Osler เขียนตาํ ราแพทยแ์ ผนปัจจุบนั เล่มแรก เมือปี ค.ศ. 1895 บรรยายสรรพคุณของกญั ชา รักษาโรคไวห้ ลายตอน5 เภสัชตาํ รับของประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กญั ชามีสรรพคุณรักษาโรคต่อไปนี ปวด เส้นประสาท, โรคเกา้ ท,์ รูมาตอยด์, บาดทะยกั , โรคกลวั นาํ , อหิวาตกโรค, โรคลมชกั , เคลือนไหวผิดปกติจาก ระบบประสาท, บุคลิกภาพผดิ ปกติ, ซึมเศร้า, ภาวะถอนพิษสุรา, จิตเภท, และเลือดออกจากมดลูก6 บริษทั ยาใน ศตวรรษที 18 ผลิตยาจากกญั ชาวางจาํ หน่ายตามร้านขายยาอยา่ งแพร่หลาย ผปู้ ่ วยซือมาใชไ้ ดโ้ ดยไม่ตอ้ งมีใบสัง แพทย์ 7 8 แต่แลว้ การใชก้ ญั ชาทางการแพทยก์ ลบั สูญหายไป เพราะในช่วงปลายของศตวรรษที 18 ธุรกิจปิ โตรเคมี ทีทรงอิทธิพล มุ่งทาํ ลายคู่แข่งจากธรรมชาติคือกญั ชา มีการใส่ร้ายป้ายสี ใหร้ ้ายกญั ชา โดยใชง้ านวิจยั ทีลาํ เอียง สร้างภาพยนตร์เผยแพร่ขา่ วเทจ็ เมือประชาชนหลงเชือ กอ็ อกกฎหมายจดั ใหเ้ ป็นยาเสพติด รุกคืบผลกั ดนั จนเป็น มติของสหประชาชาติในปี ค.ศ.1961 ใหท้ ุกประเทศออกกฎหมายบญั ญตั ิใหก้ ญั ชาเป็นสิงเสพติดใหโ้ ทษ ทงั ๆทีมี การใชป้ ระโยชน์ทางการแพทยม์ านบั ร้อยปี 9 การใช้กญั ชาทางการแพทย์ในยุคปัจจุบนั 1

เมือความจริงเกียวกบั กญั ชาถูกเปิ ดเผย ทาํ ใหป้ ระชาชนเกิดตืนตวั ผลกั ดนั ให้แกไ้ ขกฎหมายนาํ กญั ชามา ใชท้ างการแพทยไ์ ดส้ าํ เร็จแลว้ ใน 67 ประเทศ และสามารถใชแ้ บบสันทนาการไดใ้ น 34 ประเทศ10 ความรู้ใหม่ๆทางเภสัชวทิ ยาของยากญั ชา จากการคน้ ในปี ค.ศ.2019 พบว่ามีผลงานตีพิมพเ์ รืองกญั ชาทางการแพทยใ์ นฐานขอ้ มูลของห้องสมุด แห่งชาติของสหรัฐอเมริกา สะสมมากถึง 26,000 เรือง11 ขอ้ คน้ พบทีสาํ คญั คือ เซลลใ์ นร่างกายของมนุษยส์ ามารถ สร้างสารกญั ชาขึนมาไดเ้ อง เรียกว่า สารเอน็ โดแคนนาบินอยด์ (endocannabinoids)12 มีหนา้ ทีทาํ ใหร้ ะบบต่างๆ ของร่างกายทุกระบบทาํ งานไดต้ ามปกติ เกิดความสมดุล (Homeostasis) เมือร่างกายไม่สามารถผลิตสารเอ็นโดแคนนาบินอยด์ไดเ้ พียงพอ ซึงส่วนหนึงเป็ นเพราะการไดร้ ับ สารพิษสารเคมี (Toxicity) หรือการขาดสารอาหารทีจาํ เป็ น (Deficiency) เรียกว่า ภาวะพร่องเอ็นโดแคนนาบิ นอยด์ (endocannabinoid deficiency syndrome)13 การรับสารจากพืชกญั ชาเขา้ สู่ร่างกายจะไปกระตุน้ การทาํ งาน ของระบบกญั ชาตามธรรมชาตินี ให้สามารถหลงั สารเอ็นโดแคนนาบินอยด์มากขึน ทาํ ให้ร่างกายเขา้ สู่ภาวะ สมดุลอีกครัง กญั ชาจึงมีฤทธิกวา้ งขวาง14 15 ในพชื กญั ชามีสารออกฤทธิมากกวา่ 500 ชนิด แบ่งเป็น 1. Cannabinoids 2.Terpenes 3. Flavonoids สาร กลุ่ม Cannabinoids มีมากกว่า 110 ชนิด16 ทีพบมาก คือ Tetrahydrocannabinol (THC) และ Cannabidiol (CBD) และคน้ พบว่า THC และ CBD มีสรรพคุณทางการแพทยห์ ลายประการ THC มีผลทาํ ให้เกิดอาการมึนเมาได้ ในขณะที CBD ไม่มีฤทธิมึนเมา แต่ไปช่วยยบั ยงั อาการมึนเมาจาก THC ได้ ดงั นนั จึงพบว่า การใชส้ ารกญั ชา สกดั จากพชื แบบรวมๆ มีสารออกฤทธิหลายชนิดร่วมกนั จะไดผ้ ลดีกวา่ การใชส้ ารกญั ชาแบบเดียวๆ เรียกวา่ เป็น Entourage effect 17 กญั ชารักษาได้หลายโรคมาตังแต่ยุคประวตั ศิ าสตร์จนถงึ ปัจจุบัน จากบนั ทึกในประวตั ิศาสตร์ ประสบการณ์ของภาคประชาชนและการศึกษาวิจยั พบว่า ยาจากกญั ชามี สรรพคุณรักษาและช่วยบรรเทาอาการของโรคไดห้ ลายโรค 18 19 20 21 22 23 24 25 26 แบ่งเป็ นกลุ่ม ไดด้ งั นี โรคของระบบประสาท เช่น 1. อาการปวด ทงั ปวดระบบประสาท ปวดไมเกรน ปวดมะเร็ง ปวดจากการ อกั เสบของอวยั วะต่างๆ 2. อาการกลา้ มเนือ ชัก เกร็ง กระตุก สัน จากโรคระบบประสาทและไขสันหลงั 3. 2

ความจาํ เสือม อลั ไซเมอร์ พาร์กินสัน และภาวะตวั แขง็ จากยารักษาโรคจิต 4. อาการเบืออาหาร 5. การบาดเจบ็ ที ศีรษะ ไขสันหลงั โรคทางจิตเวช เช่น 1. อาการนอนไม่หลบั 2. อาการวิตกกงั วล โรคเครียดจากเหตุการณ์รุนแรง (Post Traumatic Stress Disorder, PTSD) 3. อาการทางจิต พฤติกรรมเปลียน เช่น จากโรคจิตเภท โรคออติสติก โรค สมองเสือม 4. อาการลงแดงจากการถอนยาเสพติดต่างๆ เช่น สุรา ยาบา้ เฮโรอีน โรคกลุ่มภูมิคุ้มกัน เช่น 1. อาการอกั เสบ จากโรคระบบภูมิคุม้ กนั ทาํ ร้ายตนเอง เช่น โรคพุ่มพวง โรครู มาตอยด์ 2. อาการแพท้ างผวิ หนงั เช่น โรคสะเกด็ เงิน 3. ทาํ ใหร้ ่างกายไม่ปฏิเสธการปลูกถ่ายอวยั วะ โรคระบบทางเดินอาหารและการเผาผลาญ เช่น 1. โรคเบาหวาน 2. ระบบเผาผลาญอาหารผดิ ปกติ โรค อว้ น 3. คลืนไสอ้ าเจียน จากสาเหตุต่างๆ รวมทงั โรคเอดส์ แพย้ าเคมีบาํ บดั โรคอืนๆ เช่น 1. โรคความดนั โลหิตสูง 2. แผลเรือรัง 3. ลดความดนั ในลูกตา ในโรคตอ้ หิน 4. โรคหอบ หืด 5. โรคมะเร็ง การใช้กญั ชาเพือป้องกนั โรค นอกจากจะช่วยรักษาบรรเทาอาการเจ็บป่ วยแลว้ พบว่า กญั ชายงั มีคุณค่าในการป้องกนั โรคอีกดว้ ย ไดแ้ ก่ โรคสมองเสือม การทดลองทีประเทศอิสราเอล พบว่า เมือให้ THC ขนาดตาํ เพียง 0.002 mg/kg ในหนู เพียง 1 ครัง หลงั จากนนั ให้สาร lipopolysaccharide (LPS) ซึงมีฤทธิทาํ ลายสมอง สามารถปกป้องสมองไม่ให้ เกิดภาวะ neuroinflammation-induced cognitive damage27 มีการจดสิทธิบตั รระบุว่ากญั ชามีสรรพคุณปกป้อง สมอง และตา้ นอนุมูลอิสระ (neuroprotectant and anti-oxidant) 28 โรคเบาหวาน จากการสํารวจทางระบาดวิทยาทีประเทศสหรัฐอเมริกา ในคนมากกว่า 10,000 คน พบว่า คนอเมริกนั ทีบริโภคกญั ชามีโอกาสเป็ นโรคเบาหวานนอ้ ยกว่าคนทีไม่ไดใ้ ชก้ ญั ชา คนทีไม่เคยใชก้ ญั ชา เลยเป็ นเบาหวาน ร้อยละ 8.7, คนทีใชก้ ญั ชา 1-4 ครังต่อเดือน เป็ นเบาหวาน ร้อยละ 4.2, คนทีใชก้ ญั ชาตงั แต่ 5 ครังต่อเดือนขึนไป เป็นเบาหวาน เพยี งร้อยละ 3.2 29 3

โรคไตเรือรัง การรักษาโรคเบาหวานและโรคความดนั โลหิตสูงไปนานๆ ในทีสุดคนไขจ้ ะเกิดภาวะโรค ไตเรือรัง การรักษาเบาหวานและความดนั โลหิตสูงแบบธรรมชาติทีไดผ้ ลดี น่าจะมีส่วนช่วยลดภาวะโรคไต เรือรัง นอกจากนีเพราะยากญั ชาสามารถรักษาบรรเทาอาการปวดเรือรังไดด้ ีมาก 30 ป้องกนั การฆ่าตัวตาย การศึกษาทีประเทศสหรัฐอเมริกาพบวา่ รัฐทีแกก้ ฎหมายใหน้ าํ กญั ชามาใชใ้ นทาง การแพทยไ์ ด้ จะมีอตั ราการฆ่าตวั ตายลดลง มากกว่ารัฐทียงั ไม่ไดแ้ กก้ ฎหมาย 31 เพราะยากญั ชามีฤทธิในการลด ความเครียด ภาวะป่ วยทางจิตหลงั เหตุการณ์รุนแรง (PTSD) และลดอาการปวดทรมานไดด้ ี 32 ลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการบริโภคสุรา หลงั จากทีรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา แกก้ ฎหมายให้ สามารถใชก้ ญั ชาเพือสนั ทนาการได้ ทาํ ใหอ้ ตั ราการมาหอ้ งฉุกเฉินจากสุราลดลงจาก อตั รา 40 ต่อพนั ในปี ค.ศ. 2011 เป็น อตั รา 37.5 ต่อพนั ในปี ค.ศ. 2014 33 เพราะคนใชก้ ญั ชาทดแทนสุรา และลดอาการลงแดงจากสุรา วธิ ีใช้กญั ชาและขนาดยากญั ชา ยาจากกญั ชา มีความแตกต่างจากยาแผนปัจจุบนั อืนๆ อยา่ งมาก ไม่สามารถกาํ หนดขนาดการใชไ้ ดอ้ ยา่ ง ตายตวั จาํ เป็ นตอ้ งปรับให้เหมาะสมกบั แต่ละคน มีปัจจยั ทีมีผลต่อขนาดของกญั ชาทีเหมาะสม หลายประการ ไดแ้ ก่ 1) สายพนั ธุ์กญั ชา ยากญั ชา 2 ชนิด ทีมี ขนาดของ THC เท่ากนั แต่ถา้ มีส่วนผสมของ Terpenes ทีแตกต่าง กนั กใ็ หผ้ ลลพั ธ์ในการรักษาแตกต่างกนั 2) ความเขม้ ขน้ ของยาสกดั 3) วิธีใชย้ า ใชแ้ บบสูบ แบบพน่ แบบหยอด ใตล้ ิน แบบกิน แบบสวนทวาร แบบทาภายนอก หรือการผสมผสานหลายวิธี 4) โรคทีผปู้ ่ วยเป็น รวมถึง ระยะ ของโรค ระดบั ความรุนแรง โรคร่วมอืนๆ 5) การรักษาแบบอืนๆทีไดร้ ับ 6) การตอบสนองต่อยากญั ชาของแต่ละ คน ทีมี endocannabinoid tone ไม่เท่ากนั และ 7) การดือยา เมือใชไ้ ปนานๆ 34 แต่ปัจจยั ทงั หมดนี ถูกนาํ มาพิจารณาประยกุ ตใ์ ชก้ าํ หนดขนาดยากญั ชา โดยใชห้ ลกั การสาํ คญั คือ “เริมที ละน้อย แล้วค่อยๆ เพมิ ขนาดจนควบคุมอาการเจบ็ ป่ วยได้ (Titration)” (Start Low, Go slow) ตวั อยา่ งเช่น เริมตน้ ดว้ ยยากญั ชาทีเจือจางดว้ ยนาํ มนั มะพร้าวสกดั เยน็ ใหเ้ หลือตวั ยากญั ชาเพียง 3% ให้ ครังละ 1 หยดใตล้ ิน วนั ละครังก่อนนอน คืนต่อมาเพมิ เป็น 2 หยดก่อนนอน แบบนีไปเรือยๆ จนกญั ชาออกฤทธิ คือ นอนหลบั ลึกหรือควบคุมอาการปวดได้ อาจจะมีการให้ยากญั ชา เพิมตอนกลางวนั ไดอ้ ีก วนั ละ 1-2 ครังใน ตอนกลางวนั ตามอาการ บางคนอาจจะตอ้ งใชม้ ากถึงวนั ละรวม 200 มิลลิกรัมจึงจะคุมอาการเจบ็ ป่ วยได้ 4

การดือยากญั ชา เมือใชย้ ากญั ชาไปนานๆแลว้ จะไม่ไดผ้ ล เช่น ไม่หายปวด หรือนอนไม่หลบั ใหห้ ยดุ ใช้ ยากญั ชาอยา่ งนอ้ ย 48 ชวั โมง แลว้ เริมขนาดนอ้ ยๆใหม่ ตวั รับสารกญั ชา (Cannabinoid receptors) จะฟื นตวั ภาวะแทรกซ้อนและข้อควรระวงั จากการทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเป็นระบบ พบวา่ ภาวะแทรกซอ้ นจากการใชก้ ญั ชา 5 อนั ดบั แรกไดแ้ ก่ อาการวิงเวียน (Dizziness) อาการง่วง (Sedate) อาการหลอน (hallucinations) อาการชวนง่วง (somnolence) อาการคลืนไส้ (Nausea) 35 ผลเสียและอาการแทรกซ้อนทีเกิดขึน มกั จะเกิดจากการใชย้ ากญั ชาทีมากเกินไป โดยเฉพาะคนทีเพิงใชค้ รังแรก วธิ ีแก้ไขภาวะแทรกซ้อน เมือเกิดอาการขา้ งตน้ คือ 1) ใหไ้ ปนอนพกั ผอ่ น หลบั ไปเลย 2) อมเกลือ 3) อมเมลด็ พริกไทย 4) กินนาํ สกดั รางจืด เมือร่างกายขจดั ยากญั ชาออกจากร่างกาย ภายในเวลา 12 – 24 ชวั โมง ก็ จะหายจากอาการดงั กล่าว วิธีป้องกันภาวะแทรกซ้อน ควรเริมใชย้ าขนาดนอ้ ยๆ (เช่น 3% เพียง 1 หยด) และก่อนให้ยากญั ชา 15 นาที ควรดืมนาํ ผสมนาํ ผงึ มะนาว ใส่เกลือเลก็ นอ้ ย 1 แกว้ หรือเลือกใชว้ ิธีแบบทาภายนอก เช่น ใชก้ ญั ชาผสม นาํ มนั มะพร้าวสกดั เยน็ หรือยาหม่อง นาํ มาทาบริเวณทีปวด วนั ละ 2 - 3 ครัง คาํ กล่าวหาเรืองผลเสียของกญั ชาทถี ูกหักล้างแล้วว่าไม่เป็ นความจริง มีการกล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสีกญั ชามากมาย และตอกยาํ ความเชือผิดๆนี อย่างต่อเนือง36 แต่ขอ้ กล่าวหา เหล่านีถูกหกั ลา้ งแลว้ ดว้ ยงานวิจยั จาํ นวนมาก ตวั อยา่ งเช่น x กญั ชาจากธรรมชาติไม่ไดท้ าํ ใหเ้ กิดโรคจิต แต่ใชร้ ักษาโรคจิตได้ 37 38 39 x ประเทศองั กฤษมีคนใชก้ ญั ชาเพิมขึนถึง 20 เท่า แต่ความชุกและอุบตั ิการณ์ของการเป็นโรคจิต กลบั มีแนวโนม้ ลดลง40 41 x กญั ชามีฤทธิเสพติดน้อยกว่ากาแฟ ไม่ไดน้ าํ ไปสู่การใชส้ ารเสพติดรุนแรง แต่กลบั ทาํ ให้เลิก หรือลดการใชย้ าเสพติดร้ายแรงอืนๆลงได้ 42 x กญั ชาไม่ไดท้ าํ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนมีปัญหาทางทางสมอง งานวจิ ยั โจมตีกญั ชาเรืองนีมกั จะไม่ได้ ตดั ตวั แปรกวนเรืองการใชส้ ารเสพติดตวั อืนๆและปัจจยั ดา้ นครอบครัว 43 44 45 5

x เดก็ ทีเป็นโรคลมชกั ทีใชย้ าแผนปัจจุบนั มากถึง 7 ขนานก็ไม่หายชกั พอมาใชก้ ญั ชา หยดุ อาการ ชกั ไดแ้ ละสมองดีขึน46 x เดก็ ทารกทีเกิดจากมารดาทีสูบกญั ชาในระหวา่ งการตงั ครรภม์ ีสมองและพฒั นาการทีดีกวา่ กลุ่ม ควบคุม47 x ในสหรัฐอเมริกา พบว่ามลรัฐทีแกก้ ฎหมายแลว้ คดีความเกียวกบั กญั ชาลดลง ทาํ ใหต้ าํ รวจและ ระบบยตุ ิธรรมมีเวลาไปทาํ งานอืน ๆ ทีสาํ คญั ไดม้ ากขึน ส่งผลทาํ ใหอ้ าชญากรรมลดลง การตาย จากอุบตั ิเหตุลดลง ระบบเศรษฐกิจดีขึน รัฐเก็บภาษีไดม้ ากขึน นาํ ไปอุดหนุนโรงเรียน เด็ก นกั เรียนจบการศึกษาเพมิ ขึน สถิติการตกออกกลางครันลดลง48 สิงทนี ่าห่วงจริง คือ กญั ชาสังเคราะห์ (Synthetic cannabinoids) ปัจจุบนั มีบริษทั ยาหลายแห่ง ผลิตยาจากกญั ชา มีทงั แบบสกดั จากพชื กญั ชา และแบบสงั เคราะห์ 49 แต่พบว่า กญั ชาสังเคราะห์มีสรรพคุณสู้กญั ชาจากธรรมชาติไม่ได้ และอนั ตรายมากกว่า เช่น ยากญั ชา สังเคราะห์ชือ Rimonabant ของบริษทั ซาโนฟี ประเทศฝรังเศส นาํ มาใชร้ ักษาโรคเบาหวานและโรคอว้ น พบว่า ทาํ ใหม้ ีอาการทางจิตประสาทและฆ่าตวั ตาย 50 สิงทีน่าห่วงมากคือ มีการจาํ หน่ายกญั ชาสังเคราะห์ทางอินเตอร์เน็ต นาํ มาพ่นผสมใส่ในพืชกญั ชาจาก ธรรมชาติ การวิจยั ทีประเทศองั กฤษ พบว่า คนใชก้ ญั ชาสังเคราะห์มีอาการทางจิตมากขึนกวา่ กลุ่มควบคุมอยา่ ง ชดั เจน 51 เมือเกิดผลเสีย จึงกล่าวหากญั ชาโดยรวม อยา่ งไม่แยกแยะ อุปสรรคทขี ัดขวางการพฒั นา แมจ้ ะมีการแกก้ ฎหมายใหน้ าํ กญั ชามาใชไ้ ดใ้ นทางการแพทยแ์ ลว้ แต่สถิติการใชใ้ นสถานบริการภาครัฐ ยงั มีนอ้ ยมาก เพราะแพทยย์ งั ขาดประสบการณ์และความมนั ใจ กฎระเบียบทียงุ่ ยาก การไดร้ ับขา่ วสารวา่ มีการใช้ แบบเกินขนาดแลว้ มีภาวะแทรกซอ้ น แต่ทีสาํ คญั คือ แพทยไ์ ม่เคยไดข้ อ้ มูลอีกดา้ นหนึงของกญั ชาทีครบถว้ น เพียงพอ แพทยบ์ างคนถึงกบั หา้ มประชาชนไม่ให้ไปใชก้ ญั ชา ประชาชนทีเจบ็ ป่ วยจาํ นวนมากจึงไม่มีทีพึง ตอ้ ง ไปแสวงหาวธิ ีการรักษาดว้ ยตนเอง เพราะการรักษาทีไดร้ ับอยไู่ ม่อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้ 6

บทส่งท้าย ข้อเสนอเพือการพฒั นาในอนาคต แพทยเ์ วชศาสตร์ครอบครัวมีความใกลช้ ิดกบั ประชาชน ประชาชนใหค้ วามไวว้ างใจ ควรเปิ ดใจเรียนรู้ ประสบการณ์ของชาวบา้ น โดยใช้วิธีการวิจัยทงั เชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ บวกด้วยการคน้ ควา้ ให้เห็น ความกา้ วหน้าในเรืองนีในระดบั โลก นาํ มาสังเคราะห์และออกแบบระบบการให้บริการทีเหมาะสม ร่วมกบั ทีมงาน เพอื ใหผ้ ปู้ ่ วยไดป้ ระโยชน์สูงสุด มีผลเสียนอ้ ยทีสุด เอกสารอ้างองิ 1 Hui-Lin L. An archaeological and historical account of cannabis in China. Econ Bot 1974;28:437-48. 2 วรี ยา ถาอุปชิต, นุศราพร เกษสมบูรณ์. การใชก้ ญั ชาทางการแพทย.์ วารสารเภสชั ศาสตร์อีสาน. 2560; 13 (Suppl.): 228-40. 3 Hand A, Blake A, Kerrigan P et al. History of medical cannabis. J Pain Manage 2016;9(4):387-94. 4 Reynolds JR. On the therapeutic uses and toxic effects of cannabis indica. The Lancet 1890; March 22,637-38. 5 Osler W. The Principles and Practice of Medicine. (Second Edition) New York: D Appleton and Company. 1895. 6 Hempshopper. Marijuana is listed in the U.S. Pharmacopoeia. Available at http://www.hempshopper.com/en/19th-century/94- 1851. [Accessed 2019-04-22] 7 Holland J (Ed.). The Pot Book: A Complete Guide to Cannabis – Its Role in Medicine, Politics, Science and Culture. Rochester: Park Street Press. 2010. 8 Merck. Materia Medica: A Ready Reference Pocket Book for The Physician and Surgeon. Published by E.Merck Daemstad (Germany). 1899. Available at https://www.gutenberg.org/ebooks/41697 [Accessed 2019-12-03] 9 Sicard C. The Unholy Trinity: Anslinger, Hearst and Rockefeller – Cannabis History. (October 14, 2015) Available at: https://www.seniorstoner.com/education/anslinger-hearst-rockefeller-cannabis-history/ [Accessed 2019-12-03] 10 Wikipedia. Legality of cannabis. Available at: https://en.wikipedia.org/wiki/Legality_of_cannabis [Accessed 2019-12-03] 11 US National Library of Medicine. The Institute of Health. Available at https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/?term=cannabinoid [Accessed 2019-12-03] 12 Pertwee RG (Ed.). Endocannabinoids. London: Springer International Publishing Switzerland 2015. 13 Russo EB. Clinical endocannabinoid deficiency reconsidered: current research supports the theory in migraine, fibromyalgia, irritable bowel, and other treatment-resistant syndromes. Cannabis and Cannabinoid Research.2016;Volume 1.1. 14 Grotenhermen F. Pharmacology of cannabinoids. Neuro Endocrinol Lett. 2004 Feb-Apr;25(1-2):14-23. 7

15 Russo EB. Taming THC: potential cannabis synergy and phytocannabinoid-terpenoid entourage effects. Br J Pharm. 2011;163 (7): 1344–1364. 16 Aizpurua-Olaizola O, Soydaner U, Öztürk E, et al. Evolution of the Cannabinoid and Terpene Content during the Growth of Cannabis sativa Plants from Different Chemotypes. J Nat Prod. 2016;79 (2): 324–31. 17 Mechoulam R (Ed.). Cannabinoids as therapeutics. Basel: Birkhäuser Verlag 2005. 18 McCormick M (eds). The Health Effects of Cannabis and Cannabinoids: The Current State of Evidence and Recommendations for Research. 2017. Available at http://www.nationalacademies.org/hmd/Reports/2017/health-effects-of- cannabis-and-cannabinoids.aspx [Accessed 2019-04-25] 19 Landschaft Y. Medical Grade Cannabis. The Israeli Medical Cannabis Agency (IMCA), Ministry of Health. 2017. 20 ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์. ขนาดยาจากกญั ชา. เอกสารประกอบการบรรยาย เรือง กญั ชาทางการแพทย.์ จดั โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. วนั ที 23-24 พฤษภาคม 2562. ณ โรงแรมรามาการ์เดน้ ท์ กรุงเทพมหานคร. 21 Broers B, Patà Z, Mina A et al. Prescription of a THC/CBD-Based Medication to Patients with Dementia: A Pilot Study in Geneva. Med Cannabis Cannabinoid. 2019. DOI: 10.1159/000498924 22 Russo EB. Cannabis Therapeutics and the Future of Neurology. Frontier in Integrative Neuroscience 2018. doi: 10.3389/fnint.2018.00051 23 International Association for Cannabinoid Medicines. Available at https://www.cannabis-med.org [Accessed 2019-12-03] 24 Granny Storm Crow (penned name). Available at https://grannystormcrowslist.wordpress.com/the-list/ [Accessed 2019- 12-03] 25 Simpson R. The Rick Simpson Story. Available at http://phoenixtears.ca [Accessed 2019-04-23] 26 Sulak D. Strategies for Non-Psychoactive Cannabis Use. Available at www.healer.com [Accessed on 2019-04-22] 27 Fishbein-Kaminietsky M, Gafni M, Sarne Y. Ultralow doses of cannabinoid drugs protect the mouse brain from inflammation- induced cognitive damage. J Neurosci Res 2014;92:1669–77. 28 https://patents.google.com/patent/US6630507B1/en 29 Rajavashisth TB, Shaheen M, Norris KC, Pan D, Sinha SK, Ortega J, Friedman TC. Decreased prevalence of diabetes in marijuana users: cross-sectional data from the National Health and Nutrition Examination Survey (NHANES) III.BMJ Open. 2012 Feb 24;2:e000494. 30 Nugent SM, Morasco BJ, O'Neil ME, et al. The Effects of Cannabis Among Adults With Chronic Pain and an Overview of General Harms: A Systematic Review. Ann Intern Med. 2017 Sep 5;167(5):319-331. 31 Anderson DM, Rees DI, Sabia JJ. Medical marijuana laws and suicides by gender and age. Am J Public Health. 2014 Dec;104(12):2369-76. doi: 10.2105/AJPH.2013.301612. Epub 2014 Jan 16. 32 Shannon S, Lewis N, Lee H, Hughes S. Cannabidiol in Anxiety and Sleep: A Large Case Series. Perm J. 2019;23:18-041. 33 Howell A. Will Marijuana Legalization Increase Hospitalizations and Emergency Visits? Reason Foundation. 2018. Available at: www.reason.org/topics/drugpolicy 8

34 Pedraza J. Cannabinoid dosage in clinical practice. Available at https://www.fundacion-canna.es/en/cannabinoid-dosage- clinical-practice. [Accessed on 2019-04-10] 35 ขจรศกั ดิ สีวาที. อาการขา้ งเคียงจากการใชย้ าสกดั กญั ชา. รายงานผลการทบทวนวรรณกรรมอยา่ งเป็นระบบ. ภาควชิ าเวช ศาสตร์ชุมชน. คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น. 2562. 36 Carl Hart. Why research is biased against pot to focus on its harm and not its benefits. Available at https://www.dallasnews.com/opinion/commentary/2014/09/11/why-research-is-biased-against-pot-to-focus-on-its-harm-and- not-its-benefits [Accessed 2019-04-24] 37 Ksir C, Hart CL. Cannabis and Psychosis: a Critical Overview of the Relationship. Curr Psychiatry Rep. 2016 Feb;18(2):12. 38 McGuire P, Robson P, Cubala WJ, et al. Cannabidiol (CBD) as an Adjunctive Therapy in Schizophrenia: A Multicenter Randomized Controlled Trial. AJP in Advance. 39 Leweke FM, Piomelli D, Pahlisch F, et al. Cannabidiol enhances anandamide signaling and alleviates psychotic symptoms of schizophrenia. Transl Psychiatry. 2012;2:e94. 40 Hickman M, Vickerman P, Macleod J, Kirkbride J, Jones PB. Cannabis and schizophrenia: model projections of the impact of the rise in cannabis use on historical and future trends in schizophrenia in England and Wales. Addiction. 2007 Apr;102(4):597-606. 41 Kirkbride JB et al. Systematic review of the incidence and prevalence of Schizophrenia and other psychoses in England. 2012. Available at https://www.psychiatry.cam.ac.uk/files/2014/05/Final-report-v1.05-Jan-12.pdf [Accessed 2019-12-03] 42 Reed JK. Impacts of Marijuana Legalization in Colorado: A Report Pursuant to Senate Bill 13‐283. Denver: Colorado Department of Public Safety. 2018. 43 Weiland BJ, Thayer RE, Depue BE, Sabbineni A, Bryan AD, Hutchison KE. Daily marijuana use is not associated with brain morphometric measures in adolescents or adults. J Neurosci. 2015 Jan 28;35(4):1505-12. 44 Mokrysz C., Landy R., Gage S., Munafò M., Roiser J., Curran H.. Are IQ and educational outcomes in teenagers related to their cannabis use? A prospective cohort study. J Psychopharmacol 2016; 30: 159–68. 45 Meier M. H., Caspi A., Danese A., Fisher H. L., Houts R., Arseneault L. et al. Associations between adolescent cannabis use and neuropsychological decline: a longitudinal co-twin control study. Addiction 2018; 113: 257–65. 46 Tzadok M, Uliel-Siboni S, Linder I, et al. CBD-enriched medical cannabis for intractable pediatric epilepsy: The current Israeli experience. Seizure. 2016;35:41-4. 47 Deher MC, Nugent K, Hudgins R. Prenatal marijuana exposure and neonatal outcomes in Jamaica: an ethnographic study. Pediatrics. 1994 Feb;93(2):254-60. PMID:8121737 48 Reed JK. Impacts of Marijuana Legalization in Colorado: A Report Pursuant to Senate Bill 13‐283. Denver: Colorado Department of Public Safety. 2018. 9

49 Wikipedia. List of cannabis companies. Available at https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_cannabis_companies. [Accessed on 2019-04-22] 50 Wikipedia. Cannabinoid. Available at https://en.wikipedia.org/wiki/Cannabinoid [Accessed 2019-12-03] 51 Di Forti M, Marconi A, Carra E, et al. Proportion of patients in south London with first-episode psychosis attributable to use of high potency cannabis: a case-control study. Lancet Psychiatry. 2015 Mar;2(3):233-8. 10

ภาคผนวก ง ขอ้ เสนอตอ่ รัฐสภา เพอ่ื ให้ “กัญชา” เกิดประโยชน์ต่อคนไทยมากท่ีสุด

ขอ้ เสนอต่อรฐั สภา เพอื ทําให้ “กญั ชา” เกดิ ประโยชนต์ ่อคนไทยมากทีสุด ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบรู ณ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น เอกสารประกอบการนาํ เสนอต่อคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั เพือแก้ปัญหาเรืองกญั ชา กญั ชงและกระทอ่ ม วนั ที 14 กรกฎาคม 2563 บทสรุปสําหรบั ผูบ้ ริหาร 1. คนไทยเจบ็ ป่ วยด้วยโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเรง็ โรคทางสมอง โรคปวดเรือรัง ทุกข์ทรมานอย่างแสน สาหัส เกิดความยากจนทับถม เพราะคนในครอบครัวเจ็บป่ วย ไม่สามารถออกไปหารายได้เลียง ครอบครัว ต้องหยุดงานมาดูแล ค่าใช้จ่ายทเี กยี วเนืองมมี ูลค่าสงู ต้องกู้หนียมื สนิ มาใช้จ่าย 2. ระบบบริการทมี ีอยู่ไม่สามารถตอบสนองต่อการเจบ็ ป่ วยทเี กดิ ขึนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรักษา หลายอย่างไม่คุ้มครองโดยระบบประกันสุขภาพ การรักษาหลายอย่างกลับมีผลเสีย ก่อให้เกิด ภาวะแทรกซ้อน ไตวาย ก่อมะเร็ง และมีราคาแพง มูลค่ายาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์มากกว่า 400,000 บาทต่อปี นัน ส่วนใหญ่ยดึ ครองโดยบริษัทต่างชาติ มูลค่าการนาํ เข้ายารักษามะเรง็ เพิมสงู ขนึ ปี ละร้อยละ 16 คาดการณ์ว่ามูลค่าการนาํ เข้ายารักษามะเรง็ จะสงู ถงึ 140,000 ล้านบาทในอกี 10 ปี ข้างหน้า 3. ยากัญชามีสรรพคุณในการรักษาโรคและใช้ประโยชน์ในด้านอืนๆ มากมาย จากประสบการณ์ของ ผู้ป่ วยและการศึกษาวิจัยจาํ นวนมากกว่า 10,000 งาน พบว่า ยากัญชามีสรรพคุณในการรักษาและ บรรเทาอาการเจบ็ ป่ วยหลายโรค ได้แก่ 1) กลุ่มโรคของระบบประสาทและจิตเวช 2) กลุ่มโรคระบบ ภมู ิคุ้มกนั 3) กลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร 4) กลุ่มโรคเกยี วกับการเผาผลาญ 5) กลุ่มโรคผิวหนัง 6) ใช้พยุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่ วยระยะสุดท้าย 7) สามารถนํามาใช้ลดอาการลงแดงและใช้บําบัด ทดแทนสารเสพติดอนื ๆ เช่น ยาบ้า เหล้า บุหรี 8) นอกจากนียังมีสรรพคุณป้ องกนั โรคเบาหวาน โรค ไต และโรคสมองเสอื ม 4. ยาเคมีแผนปัจจุบันจาํ นวนมาก มีสรรพคุณเพียงไม่กปี ระการ และบางตัวมีผลข้างเคียงถึงขึนเสยี ชีวิต กลับได้รับอนุญาตให้นํามาใช้กับผู้ป่ วย แต่ไฉนยากัญชาซึงมีสรรพคุณหลายประการและมีความ ปลอดภัยสงู จงึ มอี ปุ สรรคขวางกนั ไม่ให้ประชาชนเข้าถงึ 5. ความจริงทางประวัตศิ าสตร์ถูกเปิ ดเผยออกมาแล้วว่า มีการใช้กญั ชารักษาโรคในอารยธรรมต่างๆ ของ โลกมาอย่างยาวนาน แต่ถูกกลุ่มอทิ ธพิ ลระดับโลกสร้างข้อมูลเทจ็ มาใส่ร้ายป้ ายสกี ญั ชา และจัดให้เป็น 1

ยาเสพตดิ เพือขจดั คู่แข่งของผลิตภัณฑ์จากปิ โตรเคมี และทาํ ลายการพึงตนเองของประชาชนและของ ประเทศ 6. ประเทศต่างๆทรี ู้ทนั ได้มีการแก้กฎหมายยาเสพติดให้นาํ กัญชามาใช้ทางการแพทย์ได้แล้ว รวม 67 ประเทศ นํามาใช้แบบสันทนาการได้ใน 34 ประเทศ และยังมีอีกหลายประเทศทีกาํ ลังเตรียมแก้ กฎหมาย ทาํ ให้เศรษฐกจิ ของประเทศเหล่านันดีขนึ ลดค่าใช้จ่ายด้านสขุ ภาพ เกบ็ ภาษีได้มากขนึ นาํ ไป อุดหนุนระบบการศึกษา คนมีงานทาํ มากขึน ลดจาํ นวนอาชญากรรม ลดค่าใช้จ่ายด้านกระบวนการ ยุติธรรม ลดจาํ นวนผู้ต้องขงั จนทาํ ให้บางประเทศต้องปิ ดเรือนจาํ บางแห่งลง 7. ประเทศไทยแก้กฎหมายอนุญาตให้นาํ กัญชามาใช้ในทางการแพทย์แล้ว แต่การเข้าถึงยากัญชาของ ประชาชนยังมีข้อจาํ กัด เพราะแพทย์ไม่กล้าสังใช้ยากัญชาให้ผู้ป่ วย ทาํ ให้ผู้ป่ วยต้องปลูกกัญชาเพือ รักษาตนเอง แต่กลับถูกตาํ รวจจับกุม สร้างความทุกข์ทรมานซาํ เติมคนเจบ็ ไข้ ค่าใช้จ่ายในการถูก ดาํ เนนิ คดีคือสาเหตซุ าํ เตมิ ความยากจน 8. ยังคงมีการใช้ข้อมูลเทจ็ มากล่าวร้ายโจมตีกัญชาอย่างต่อเนืองจนถึงปัจจุบัน เช่น ทาํ ให้สมองเสอื ม มี อาการทางจิต ก่อมะเรง็ เสพติด ฯลฯ เพือทาํ ให้แพทย์ไม่กล้าสงั ใช้ยากญั ชา โดยใช้ข้อมูลผลเสียจาก “กญั ชาเคมสี งั เคราะห์” มาโจมตี “กญั ชาจากธรรมชาติ” แบบเหมารวม ทงั ๆทมี ีงานวจิ ัยจาํ นวนมากที สามารถหักล้างข้อกล่าวหาต่างๆเหล่านันแล้วว่า ไม่เป็นความจริง เพราะกญั ชาจากธรรมชาติมีความ ปลอดภัยสงู มาก ทาํ ให้ความจาํ และสมองดีขนึ ใช้รักษาอาการทางจิตได้ รักษามะเรง็ ระยะแรกได้ และ ไม่มีฤทธใิ นการเสพติด 9. การพัฒนายากัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทยให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรมีเป้ าหมายเพือทาํ ให้ ประเทศไทยสามารถพึงตนเองด้านสขุ ภาพได้มากขึน จัดระบบให้มยี ากญั ชาในสถานพยาบาลทุกแห่ง ทงั ภาครัฐและเอกชน สร้างมันคงทางยาของประเทศ ประหยัดค่ารักษาพยาบาล ส่งเสริมการทาํ ธุรกจิ ยากญั ชาเพือสร้างรายได้มาจุนเจือประเทศในยามวิกฤตเช่นในปัจจุบนั 10. โดยการแก้กฎหมายให้ประชาชนมีสทิ ธิปลูกกัญชา เพือทาํ ให้ประชาชนเข้าถึงยากญั ชาจากธรรมชาติ อย่างสะดวกมากยิงขึน ลดการไปใช้กัญชาใต้ดิน ซึงไม่รู้คุณภาพ มีการปนเปื อนโลหะหนัก สารเคมี กาํ จัดศตั รพู ืช และเลียงการหันไปใช้กญั ชาสงั เคราะห์ทอี นั ตรายมาก 11. บรรจุกัญชาไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ทาํ ให้แพทย์และบุคลากรสาธารณสุขมีความรู้ความเข้าใจ เกยี วกบั กญั ชาทางการแพทยท์ ถี ูกต้อง มหาวทิ ยาลัยและสถาบนั ให้ทุนวิจัย ลงทุนกบั เรืองนีไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10 ของงบประมาณทมี ี 12. ตังองค์กรใหม่หรือมอบหมายให้สาํ นักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทาํ หน้าทสี ่งเสริมการทาํ ธุรกิจ กญั ชา ต้องห้ามอนุญาตการนาํ เข้ากญั ชาสงั เคราะห์ และสร้างระบบป้ องกนั การผูกขาด 2

13. ถ้าทุกฝ่ ายช่วยกนั ทาํ ให้สาํ เรจ็ จะทาํ ให้ปัญหาสขุ ภาพของคนไทยลดลง ลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์และ สาธารณสขุ ประเทศไทยพึงตนเองด้านยาได้มากขึน มศี ักยภาพทางเศรษฐกจิ เพิมขนึ ประเทศไทยจะ เป็นศูนย์กลางกญั ชาทางแพทย์ของโลก และสมาชิกรัฐสภาทุกคนชุดนี ได้รับการยกย่องจากสังคมว่า “เป็นผู้มสี ่วนทาํ ให้ประชาธปิ ไตยแก้ปัญหาของประชาชนได้” 1. บทนาํ แม้ว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้แก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เปิ ดโอกาสให้มี การนาํ กญั ชามาใช้ในทางการแพทย์ได้แล้ว แต่การเข้าถึงยากญั ชาของประชาชนยังมีข้อจาํ กดั เพราะแพทย์ไม่ กล้าสงั ใช้ยากญั ชาให้ผู้ป่ วย ทาํ ให้ผู้ป่ วยต้องปลูกกญั ชาเพือรักษาตนเอง แต่กลับถูกตาํ รวจจับกุม สร้างความ ทุกข์ทรมานซาํ เติมคนเจบ็ ไข้ ประเดน็ สาํ คัญเกยี วกบั กญั ชาทผี ู้เขยี นขอนาํ เสนอในเอกสารนีได้แก่ x ปัญหาสขุ ภาพของคนไทย x สาเหตขุ องปัญหา และสาเหตุของสาเหตุ x บทเรียนจากต่างประเทศและของไทย x เป้ าหมายการแก้ปัญหา x กญั ชาทางการแพทย์ เป็นส่วนหนึงของมาตรการการแก้ปัญหา x หลักการสาํ คัญในกฎหมายทคี วรมี 2. ปัญหาสขุ ภาพของคนไทย 2.1 คนไทยเจ็บป่ วยเพมิ มากขึน คนไทยเจบ็ ป่ วยจนต้องไปใช้บริการสุขภาพเพิมมากขึน ในรอบ 8 ปี จากร้อยละ 17.5 ในปี พ.ศ. 2550 เพิมเป็นร้อยละ 22.9 ในปี พ.ศ. 25581 คนไทย 65-66 ล้านคน เจบ็ ป่ วยเพิมขึนจาก 11.5 ล้านคน ไปเป็น 15.1 ล้านคน นนั คือ ถ้าเหน็ คนไทยเดนิ มา 4.5 คน ในนีจะเป็นคนทเี จบ็ ป่ วยเสยี 1 คน (ภาพที 1) 3

25.0 22.9 20.4 20.9 21.2 20.0 17.5 15.0 10.0 5.0 0.0 ปี 2550 ปี 2552 ปี 2554 ปี 2556 ปี 2558 ภาพที 1 ร้อยละของคนไทยทเี จบ็ ป่ วยจนต้องไปรับบริการ 2.2 คนไทยเสียชีวิตดว้ ยโรครา้ ยแรงเพมิ มากขึน พบว่า อตั ราการเสยี ชีวิตด้วยโรคมะเรง็ ของคนไทยเป็นสาเหตุอนั ดบั 1 ต่อเนืองมามากกว่า 20 ปี โดย เพิมขนึ เกอื บ 3 เทา่ ตัว จากปี พ.ศ. 2537 มอี ตั ราเพียง 48.9 คนต่อแสน กลับเพิมขนึ เป็น 120.5 คนต่อแสน ในปี พ.ศ. 2560 นันคือในแต่ละปี จะมีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเรง็ สงู ถึง 8 หมืนกว่าคน หรือคิดเป็นวันละ 219 คน หรือเทา่ กบั ชัวโมงละ 9 คน นอกจากนียังพบว่า คนไทยเสยี ชีวิตจากโรคร้ายแรงอนื ๆ เพิมขึนอย่างน่า ตกใจ ได้แก่ โรคหลอดเลือดในสมอง กลุ่มโรคปอด และโรคเบาหวาน 2 (ภาพที 2) ภาพที 2 อตั ราการเสยี ชีวิตของคนไทย 2.3 เดก็ ไทยพกิ ารจํานวนมาก เดก็ ไทยจาํ นวนมาก ซึงควรจะเป็ นอนาคตของชาติ กลับจะกลายเป็นภาระของชาติ จากการสาํ รวจ ขนาดใหญ่ใน 9 จังหวัด ครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทย ในช่วงปี พ.ศ.2557 – พ.ศ.2558 จากกลุ่ม ตัวอย่างเดก็ อายุ 2 – 12 ปี จาํ นวน 6,334 ราย พบว่า มีสัดส่วนเด็กพิการมากถึง ร้อยละ 13 หรือคิดเป็น จาํ นวนสงู ถึงเกอื บ 1 ล้านคนทวั ประเทศ (983,381 คน) แบ่งเป็นความพิการทางการเรียนรู้สงู สดุ ร้อยละ 9 4

รองลงมาคือความพิการทางสติปัญญา ร้อยละ 3 พิการซาํ ซ้อน ร้อยละ 0.3 พิการแบบออทสิ ติกร้อยละ 0.1 และมเี ดก็ อกี ร้อยละ 21 มปี ัญหาอนื ๆ 3 (ภาพที 3) ภาพที 3 สดั สว่ นของเดก็ ไทย อายุ 2-12 ปี ทมี คี วามพิการ ในขณะทีผู้ใหญ่กเ็ จบ็ ป่ วยแสนสาหัสโดยโรคร้าย เดก็ ทคี วรจะเติบโตมาแบกรับภาระของสังคมแทน ผู้ใหญ่กลับกลายเป็นภาระอนั หนกั องึ ของสงั คมแทน 2.4 ค่าใชจ้ ่ายทางการแพทยเ์ พมิ สูงขึนเกินอตั ราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายในระบบประกนั สขุ ภาพ 3 ระบบของไทย เพิมสงู ขนึ อย่างต่อเนือง เพิมขนึ ต่อปี ประมาณร้อย ละ 10 นับว่ามีอัตราเพิมทีสูงกว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าในอีก 15 ปี ข้างหน้า ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพรวมจาก 293,000 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2560 จะเพิมขึนเป็น 454,000 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2575 4 ทงั นีตัวเลขทงั หมดนียังไม่นับทปี ระชาชนและครอบครัวควักกระเป๋ าจ่ายเองเมือไปรับบริการทงั จากสถานบริการภาครัฐและเอกชนอกี ประมาณร้อยละ 22 ของค่าใช้จ่ายด้านสขุ ภาพทงั หมด 5 (ภาพที 4) ภาพที 4 แนวโน้มและการประมาณการค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล ของ 3 กองทุน ปี พ.ศ. 2546-2575 (หน่วย:พันล้านบาท) 5

2.5 ค่ายารกั ษาโรคมะเร็งจะเป็ นภาระอนั ไม่สามารถแบกรบั ได้ คนไทยเจบ็ ป่ วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเรง็ เพิมขึน ค่ายารักษาโรคมะเรง็ มีมูลค่าเพิมสูงขึนอย่างก้าว กระโดด มีอัตราเพิมสูงถึงร้อยละ 16 ต่อปี 6 คาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี ข้างหน้า มูลค่าการนําเข้ายารักษา โรคมะเรง็ จะสงู ถึง 140,000 ล้านบาท อนั นียังไม่นับราคาขายปลีกทจี ะสงู กว่านีไม่ตาํ กว่า 3-20 เท่าของราคา นาํ เข้า (ภาพที 5) ภาพที 5 คาดการณม์ ูลค่าการนาํ เข้ายารักษาโรคมะเรง็ ค่ายารักษามะเรง็ บางรายการสงู ถงึ ปี ละ 1.5 ล้านบาท เมือระบบประกนั ไม่สามารถจ่ายให้ได้กต็ ้องตก มาเป็นภาระของผู้ป่ วยและครอบครัว คนทไี ม่สามารถแบกรับได้บางคนจงึ ตัดสนิ ใจฆ่าตัวตายอย่างน่าอนาจใจ นอกจากนีหลายคนยงั ไปเจอสภาพทวี ่า จ่ายแพงแล้วกย็ ังไม่รอด เสมอื นจ่ายเงินให้ไปทดลองยาทไี ม่รู้ ผลลัพธท์ แี น่นอน 3. สาเหตุของปัญหา และสาเหตุของสาเหตุ 3.1 สารพิษสารเคมี คือ สาเหตุหนงึ ทีสําคญั ทีไปทําใหร้ ะบบกญั ชาของคนบกพร่อง ปัญหาความทุกข์ของคนไทยข้างต้น มีสาเหตุหลายประการทเี กยี วพันกนั แต่ทมี ีลาํ ดับความสาํ คัญสงู มาก ได้แก่ อาหารพิษ อากาศพิษ นาํ พิษ และแผ่นดนิ อาบยาพิษ (ภาพที 6) 6

ภาพที 6 อาหารและนาํ ดมื ปนเปื อนสารพิษ ซึงประเดน็ นี รัฐสภาแห่งนีได้มีมติเป็ นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 423 เสียง ต่อ 0 ไปแล้วเมือวันที 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 เหน็ ชอบรายงาน กมธ. วิสามัญศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีเกษตร 7 ทวี าง แนวทางการควบคุมการขึนทะเบียน การใช้ สารเคมีอย่างเข้มงวด และส่งเสริมการผลิตอาหารทไี ม่ใช้สารพิษ อย่างครบถ้วน การผลักดันการปฏิบัติในเรืองนีให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง จะช่วยชีวิตคนไทย ทังเดก็ และ ผู้ใหญ่ได้จาํ นวนมาก ความเกียวโยงของเรืองนี กบั เรืองกญั ชา คือ สารพิษสารเคมีเหล่านีมีผลไปทาํ ให้สารกญั ชา ตามธรรมชาติของคนเราบกพร่อง การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ทสี าํ คัญมากในระยะทผี ่านมา คือ การค้นพบว่า ร่างกายของมนุษยแ์ ละสตั ว์มีความสามารถสร้าง “สารกญั ชา” ขึนมาเอง เพือเยียวยาการเจบ็ ป่ วยของตน และ ทาํ ให้ระบบต่างๆของร่างกายทุกระบบทาํ งานได้ตามปกติ เกดิ ความสมดุล (ภาพที 7) เมือร่างกายไม่สามารถสร้างสารกญั ชาขนึ มาได้ เพราะสารพิษ สารเคมี (Toxicity) และการบริโภคอาหารทไี ร้ คุณค่าทางโภชนาการ (Deficiency) จงึ ทาํ ให้คนเราเจบ็ ป่ วยด้วยสารพัดโรค 8 7

ภาพที 7 สารกญั ชาทรี ่างกายคนสร้างขนึ ได้เอง และตัวรับสารกญั ชา การได้รับกัญชาจากพืช (Phytocannabinoid) จะไปกระตุ้นและฟื นฟูระบบกัญชาตามธรรมชาติของ ร่างกายมนุษย์ให้กลับมาทาํ งานตามปกตอิ กี ครังหนึง 9 ในอดีตคนไทยปลูกกัญชาเป็นพืชผักสวนครัว นาํ มาใช้ปรุงอาหารหลายชนิด ในต้มไก่ ในก๋วยเตียว เพิมความเอรด็ อร่อย โดยไม่ได้ก่อให้เกดิ ปัญหาใดๆ เมือประเทศไทยออกกฎหมายจัดให้กญั ชาเป็นสารเสพ ตดิ คนไทยจงึ ไม่สามารถเข้าถงึ สารปรงุ รสจากธรรมชาติ ซึงดตี ่อสขุ ภาพ หันไปใช้สารปรุงรสเคมี สงิ นีจงึ เป็นอกี สาเหตหุ นึงทที าํ ให้คนไทยเจบ็ ป่ วยเพิมมากขนึ 3.2 สาเหตุของสาเหตุ คือ ผลประโยชนอ์ นั มหาศาล การจัดให้กญั ชาเป็นยาเสพติดไม่ได้องิ อยู่บนพืนฐานของข้อเทจ็ จริงทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นเรืองของ ผลประโยชน์ ทมี ุ่งทาํ ลายการพึงตนเองของประชาชน เพราะในช่วงปลายของศตวรรษที 18 ธุรกจิ ปิ โตรเคมีทที รงอทิ ธิพล มุ่งทาํ ลายคู่แข่งจากธรรมชาติคือ กญั ชา มีการใส่ร้ายป้ ายสี ให้ร้ายกญั ชา โดยใช้งานวิจัยทลี าํ เอยี ง สร้างภาพยนตร์เผยแพร่ข่าวเทจ็ เมอื ประชาชน หลงเชือ กอ็ อกกฎหมายจัดให้เป็นยาเสพติด รุกคืบผลักดันจนเป็นมติของสหประชาชาติในปี ค.ศ.1961 ให้ ทุกประเทศออกกฎหมายบัญญัติให้กญั ชาเป็นสงิ เสพติดให้โทษ ทงั ๆทมี ีการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มานับ ร้อยนับพันปี (ภาพที 8) 10 8

ภาพที 8 มายาคตทิ กี ลุ่มผลประโยชน์เผยแพร่ เพือใส่ร้ายป้ ายสกี ญั ชา 3.3 กญั ชาดูแลและเยยี วยาสุขภาพมนุษยม์ าไม่ตํากว่า 5,000 ปี จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่ามีการใช้กัญชาทางการแพทย์ในอารยธรรมต่างๆของโลกมา มากกว่า 5,000 ปี 11 กญั ชาเป็นส่วนผสมของตาํ รับยาไทยหลายตาํ รับ ในสมยั พระนารายณ์ เมอื 360 ปี ก่อน12 ในช่วงศตวรรษที 18 นายแพทย์ วิลเลียม โอชอร์เนสซี (William O’Shaughnessy) ไปพบเหน็ ชาว อนิ เดียใช้กญั ชารักษาโรคอย่างได้ผลดจี ึงนาํ กลับมาเผยแพร่ทปี ระเทศองั กฤษ13 นายแพทย์จอห์น เรโนลด์ (John Reynolds) แพทย์ประจําสํานักราชวงศ์ของอังกฤษบันทึก ประสบการณก์ ารใช้กญั ชารักษาโรค ในช่วง 30 ปี ของตนว่า กญั ชามสี รรพคุณในการรักษาโรคหลายประการ14 นายแพทย์ วิลเลียม ออสเลอร์ (Sir William Osler) ผู้เขียนตาํ ราแพทย์แผนปัจจุบันเล่มแรก เมือปี ค.ศ. 1895 บรรยายสรรพคุณของกญั ชารักษาโรคไว้หลายตอน และระบุว่า กญั ชาใช้รักษาโรคไมเกรนได้ดีกว่า การรักษาวิธอี นื ๆ 15 เภสัชตาํ รับของประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กัญชามีสรรพคุณรักษาโรคต่อไปนี ปวดเส้นประสาท, โรคเก้าท์, รูมาตอยด์, บาดทะยัก, โรคกลัวนํา, อหิวาตกโรค, โรคลมชัก, เคลือนไหวผิดปกติจากระบบ ประสาท, บุคลกิ ภาพผดิ ปกติ, ซึมเศร้า, ภาวะถอนพิษสรุ า, จติ เภท, และเลือดออกจากมดลกู 16 บริษัทยาในศตวรรษที 18 ผลิตยาจากกญั ชาวางจาํ หน่ายตามร้านขายยาอย่างแพร่หลาย ผู้ป่ วยซือมา ใช้ได้โดยไม่ต้องมีใบสงั แพทย์ 17 18 9

ภาพที 9 การใช้ยากญั ชาในช่วงศตวรรษที 18 ของประเทศตะวนั ตก เมือออกกฎหมายบัญญัติให้กญั ชาเป็นสงิ เสพติดให้โทษ จึงเข้าทางเขา เป็นการผลักให้ประชาชนต้อง ไปพึงพายาเคมี เมอื เจบ็ ป่ วย ทงั ๆทเี คยพึงตนเองด้านยาได้มานับพันปี 3.5 ปัญหาของยาเคมี ยาเคมีทเี รานาํ เข้ามารักษาคนไทยมีมูลค่ามากมายมหาศาลดังทกี ล่าวไปแล้ว แต่ประเดน็ ทไี ม่ค่อยมี การพูดถงึ กนั มากนัก คือ ผลเสยี ของการใช้ยาเคมเี ป็นหลักในการดูแลรักษาผู้ป่ วย จากข้อมูลในสหรัฐอเมริกา พบว่า ความผิดพลาดทางการแพทย์และภาวะแทรกซ้อนจากยาทใี ช้รักษา เป็นสาเหตุการตายของคนอเมริกัน สงู เป็นอนั ดับสาม หรือคิดเป็น ปี ละ 250,000 คน รองจากการตายจาก โรคหัวใจและโรคมะเรง็ 19 20(ภาพที 10) ภาพที 10 ความผดิ พลาดทางการแพทย์เป็นสาเหตกุ ารตายอนั ดบั 3 ในสหรัฐ 10

ทีมา: https://www.bmj.com/content/353/bmj.i2139 ทงั นียังไม่ได้นับภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาหรือการทาํ ให้เกิดความผิดปกติหรือเกิดโรคต่างๆ แต่ ยังไม่ทาํ ให้เสยี ชีวิต เช่น ก่อมะเรง็ กดภมู ิคุ้มกนั ทาํ ให้กระเพาะทะลุ ทาํ ให้เป็นเบาหวาน ทาํ ให้สมองเสอื ม ฯลฯ ทเี กดิ ขนึ ตามมาหลังการรักษา ซึงคาดว่าจะมีอกี จาํ นวนมาก ภาพที 11 ยาเคมีบางตัวก่อมะเรง็ เมือเกิดภาวะแทรกซ้อนแล้ว ผู้ป่ วยกต็ ้องไปใช้ยาเคมีตัวอืน เพือแก้ภาวะแทรกซ้อนนันอีก จึงเป็น ธุรกจิ ทที าํ กาํ ไรหลายต่อ นอกจากนีสารเสพติดทกี ฎหมายอนุญาตให้ใช้ได้อยู่แล้วในปัจจุบัน เช่น มอร์ฟี น และสารอนื ๆทสี กดั จากฝิ น เช่น Oxycodone, Tramadol สารออกฤทธิต่อจิตประสาทหลายชนิดทีใช้ ในวงการจิตเวช เช่น Quetiapine ทาํ ให้มีคนเสยี ชีวิตเป็นจาํ นวนมาก 21 22 23 24 25 ภาพที 12 สถติ ิการตายจากยาแก้ปวดทที าํ จากอนุพันธขุ์ องฝิน ในสหรัฐอเมริกา 11

3.6 การฟื นฟูกญั ชาทางการแพทยใ์ นยคุ ปัจจุบนั ปัจจุบันเมอื คนร้คู วามจริงมากขนึ ประเทศต่างๆจงึ แก้ไขกฎหมายยาเสพติด ให้สามารถนาํ กญั ชามาใช้ ทางการแพทย์ได้ จาํ นวน 67 ประเทศ และสามารถใช้เพือการสันทนาการได้ จาํ นวน 34 ประเทศ 26 เกิด ผลลัพธท์ ดี ีทางสขุ ภาพ ลดค่าใช้จ่ายด้านสขุ ภาพ เกดิ ผลดีทางเศรษฐกจิ และสงั คม คนมงี านทาํ มากขึน และลด อาชญากรรมลงได้ (ภาพที 13) ภาพที 13 ประเทศต่างๆทแี ก้กฎหมายยาเสพตดิ หรือจากคาํ สงั ศาล ให้นาํ กญั ชามาใช้ทางการแพทย์ได้ 3.7 โรคและอาการทีกญั ชารกั ษาหรือลดอาการได้ จากประสบการณ์ของภาคประชาชนและการศึกษาวิจัยจาํ นวนมากกว่า 10,000 เรือง พบว่า ยาจาก กัญชามีสรรพคุณรักษาและช่วยบรรเทาอาการของโรคได้หลายโรค 27 28 29 30 31 32 33 34 35 แบ่งเป็ น กลุ่ม ได้ดงั นี (ภาพที 14) 12

ภาพที 14 กลุ่มโรคทกี ญั ชามีสรรพคุณรักษาหรือลดอาการได้ 3.7.1 โรคของระบบประสาท เช่น 1. อาการปวด ทงั ปวดระบบประสาท ปวดไมเกรน ปวดมะเรง็ ปวดจาก การอกั เสบของอวัยวะต่างๆ 2. อาการกล้ามเนอื ชัก เกรง็ กระตุก สนั จากโรคระบบประสาทและไขสนั หลัง 3. ความจําเสือม อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน และภาวะตัวแขง็ จากยารักษาโรคจิต 4. อาการเบืออาหาร 5. การ บาดเจบ็ ทศี ีรษะ ไขสนั หลัง 3.7.2 โรคทางจิตเวช เช่น 1. อาการนอนไม่หลับ 2. อาการวิตกกงั วล โรคเครียดจากเหตกุ ารณ์รนุ แรง (Post Traumatic Stress Disorder, PTSD) 3. อาการทางจิต พฤติกรรมเปลียน เช่น จากโรคจิตเภท โรคออติสติก โรคสมองเสอื ม 4. อาการลงแดงจากการถอนยาเสพติดต่างๆ เช่น สรุ า ยาบ้า เฮโรอนี 3.7.3 โรคกลุ่มภูมิคุม้ กนั เช่น 1. อาการอกั เสบ จากโรคระบบภมู ิคุ้มกนั ทาํ ร้ายตนเอง เช่น โรคพุ่มพวง โรค รูมาตอยด์ 2. อาการแพ้ทางผวิ หนัง เช่น โรคสะเกด็ เงิน 3. ทาํ ให้ร่างกายไม่ปฏเิ สธการปลูกถ่ายอวยั วะ 3.7.4 โรคระบบทางเดินอาหารและการเผาผลาญ เช่น 1. โรคเบาหวาน 2. ระบบเผาผลาญอาหารผดิ ปกติ โรคอ้วน 3. คลืนไส้อาเจยี น จากสาเหตตุ ่างๆ รวมทงั โรคเอดส์ แพ้ยาเคมีบาํ บัด 3.7.5 โรคอืนๆ เช่น 1. โรคความดันโลหิตสงู 2. แผลเรือรัง 3. ลดความดันในลูกตา ในโรคต้อหิน 4. โรค หอบหืด 5. โรคมะเรง็ นอกจากนี ยงั พบว่า กญั ชายงั มีสรรพคุณในการป้ องกนั โรคได้อกี ด้วย เช่น 3.7.6 โรคสมองเสือม การทดลองทีประเทศอิสราเอล พบว่า เมือให้สารสกัดจากกัญชาเพียงขนาดน้อยๆ เพียง 0.002 มิลลิกรัม/นาํ หนัก 1 กโิ ลกรัม ในหนูเพียง 1 ครัง หลังจากนัน ให้สารกลุ่มไลโปโพลีแซกคาไรด์ 13

ซึงมีฤทธิทาํ ลายสมอง สามารถปกป้ องสมองไม่ให้เกิดภาวะสมองเสือมจากพิษสารเคมีนีได้ 36 มีการจด สทิ ธบิ ัตรระบวุ ่ากญั ชามีสรรพคุณปกป้ องสมอง และต้านอนุมูลอสิ ระ 37 การศึกษานาํ ร่องทปี ระเทศอิสราเอลพบว่า การให้ยาสกัดกญั ชาทมี ี THC เด่น ทาํ ให้คนไข้โรคสมอง เสอื มอลั ไซเมอร์มอี าการดีขนึ อย่างมีนัยสาํ คญั 38 นอกจากนี ยังมีการศึกษาทางห้องปฏบิ ัติการพบว่า สารสกดั จากกญั ชา CBD มีสรรพคุณไปช่วยปรับ การทาํ งานของเซลล์คาํ จุนระบบประสาทส่วนกลาง (Astrocyte) และลดการอกั เสบ จึงมีผลดีต่อโรคทางระบบ ประสาทหลายโรค เช่น โรคเส้นเลือดสมอง โรคปลอกหุ้มประสาทอักเสบ โรดอัลไซเมอร์ การบาดเจบ็ ของ เส้นประสาท โรคลมชัก และโรคจิต 39 3.7.7 โรคเบาหวาน จากการสาํ รวจทางระบาดวิทยาทปี ระเทศสหรัฐอเมริกา ในคนมากกว่า 10,000 คน พบว่า คนอเมริกนั ทบี ริโภคกญั ชามีโอกาสเป็นโรคเบาหวานน้อยกว่าคนทไี ม่ได้ใช้กญั ชา คนทไี ม่เคยใช้กญั ชา เลยเป็นเบาหวาน ร้อยละ 8.7, คนทีใช้กัญชา 1-4 ครังต่อเดือน เป็นเบาหวาน ร้อยละ 4.2, คนทใี ช้กัญชา ตงั แต่ 5 ครังต่อเดอื นขนึ ไป เป็นเบาหวาน เพียงร้อยละ 3.2 40 3.7.8 โรคไตเรือรงั การรักษาโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสงู ไปนานๆ ในทสี ดุ คนไข้จะเกดิ ภาวะโรค ไตเรือรัง การรักษาเบาหวานและความดันโลหิตสูงแบบธรรมชาติทไี ด้ผลดี น่าจะมีส่วนช่วยลดภาวะโรคไต เรือรัง นอกจากนีเพราะยากญั ชาสามารถรักษาบรรเทาอาการปวดเรือรังได้ดมี าก 41 3.8 คาํ กล่าวหาเรืองผลเสียของกญั ชาทีถูกหกั ลา้ งแลว้ ว่าไม่เป็ นความจริง มีการกล่าวหา ใส่ร้ายป้ ายสกี ญั ชามากมาย และตอกยาํ ความเชือผิดๆนี อย่างต่อเนือง มกี ารตงั องค์กร เพือทาํ หน้าทนี ี มีทุนสนับสนุนจาํ นวนมาก และขยันเผยแพร่ตามสอื ต่างๆ 42 แต่ข้อกล่าวหาเหล่านีถูกหักล้าง แล้วด้วยงานวิจัยจาํ นวนมาก ตัวอย่างเช่น 3.8.1 กญั ชาจากธรรมชาติไม่ไดท้ ําใหเ้ กดิ โรคจิต มีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า กัญชาไม่ได้ทาํ ให้เกิดโรคจิต การศึกษาของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์และ คิงสค์ อลเลจ ประเทศองั กฤษ พบว่า แม้ว่าจะมีการใช้กญั ชาในองั กฤษเพิมมากขึนถึง เท่าในระยะเวลา ปี ทีผ่านมา แต่สถิติอุบัติการณ์และความชุกของการเป็ นโรคจิตในอังกฤษกย็ ังคงทีมาโดยตลอดและกลับมี แนวโน้มลดลงเลก็ น้อย 43 44 45 (ภาพที 15) 14

ภาพที 15 ทอี งั กฤษคนใช้กญั ชาเพิมขนึ 20 เท่า แต่อตั ราป่ วยด้วยโรคจติ มแี นวโน้มลดลง 3.8.2 กญั ชาจากธรรมชาติใชร้ กั ษาโรคจิตได้ และกลับพบว่า กญั ชา (แคนนาบิไดออล) มสี รรพคุณในการรักษาโรคจิต จึงพบว่าคนไข้โรคจิตจะใช้ กญั ชา เพราะทาํ ให้อาการเขาดีขึน46 มกี ารทดลองแบบมาตรฐาน (RCT) แล้ว ชิน ทพี บว่า กญั ชา (แคนนา บิไดออล) มีสรรพคุณในการรักษาโรคจิตเภทได้เท่ากบั ยาแผนปัจจุบนั แต่มีอาการข้างเคียงน้อยกว่า 47 48 3.8.3 การเสพติด กญั ชามฤี ทธเิ สพติดน้อยกว่ากาแฟ ไม่ได้นาํ ไปส่กู ารใช้สารเสพตดิ รนุ แรง แต่กลับทาํ ให้เลิกหรือลดการ ใช้ยาเสพติดร้ายแรงอืนๆลงได้ การสาํ รวจทีประเทศแคนาดา พบว่า ผู้ป่ วย 2,030 คน ทีใช้กัญชาอย่างถูก กฎหมาย นาํ ไปใช้เพือทดแทนสารเสพติดชนิดต่างๆ ได้แก่ สุรา ร้อยละ 44.5, ยาแก้ปวดมอร์ฟี น ร้อยละ 35.3, บุหรี ร้อยละ 31.1, ยาเสพตดิ อนื ๆ ร้อยละ 26.6 49 50 3.8.4 ทําลายสมองเยาวชน กญั ชาไม่ได้ทาํ ให้เดก็ และเยาวชนมีปัญหาทางทางสมอง งานวิจัยโจมตีกญั ชาเรืองนีมักจะไม่ได้ตัดตัว แปรกวนเรืองการใช้สารเสพตดิ ตวั อนื ๆและปัจจัยด้านครอบครัว มีรายงานวิจยั ทางระบาดวิทยาพบว่า ถ้าวัยร่นุ ใช้กญั ชาจะมผี ลต่อพัฒนาการทางสมอง แต่งานวิจัยชินนี มีข้อผดิ พลาดทสี าํ คัญคือ ไม่ได้ขจัดตัวแปรกวนต่างๆในการวิเคราะห์ผล เช่น การใช้สรุ าและยาเสพติดอนื ๆ51 ในขณะทกี ารวิจัยอีกงานหนึงซึงวัดผลโดยใช้ high-resolution MRI scans เปรียบเทียบเยาวชนทใี ช้กับไม่ใช้ กญั ชา ไม่พบความแตกต่างของทงั สองกลุ่ม นนั คือ กญั ชาไม่ได้ทาํ ให้เดก็ และเยาวชนมีปัญหาทางทางสมอง52 15

การวิจัยทปี ระเทศองั กฤษ โดย University College London นักวจิ ัยติดตามเดก็ นักเรียน , ราย วัด สติปัญญา (IQ) และผลการเรียน ตอนทีเด็ก อายุ ปี และ ปี พบว่า การใช้กัญชา ไม่มีผลต่อ สตปิ ัญญา และผลการสอบ 53 การวิจัย โดยคิงคอลเลจ ประเทศอังกฤษ ร่วมกับมหาวิทยาลัย อริโซน่าสเตต และมหาวิทยาลัยดุ๊ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ติดตามเดก็ คู่แฝด จาํ นวน , คู่ เพือควบคุมอทิ ธิพลของตัวแปรทางชีววิทยา คน หนึงใช้กญั ชา อีกคนไม่ได้ใช้กัญชา พบว่า การใช้กญั ชา ไม่มีผลต่อสติปัญญา (IQ) และความสามารถในการ ปฏบิ ตั ิหน้าที (Executive Function, EF) สงิ ทมี ผี ลต่อ IQ และ EF คือ ปัจจยั ด้านครอบครัว 54 งานวิจยั ทอี สิ ราเอล ให้ยากญั ชาในเดก็ โรคลมชัก อายุ 1 – 18 ปี จาํ นวน 74 ราย ทกี ารรักษาโดยใช้ยา แผนปัจจุบันไม่ได้ผล แม้จะเพิมยาจนถึง 7 ขนาน เมือมาใช้ยากญั ชา (CBD:THC=20:1) พบว่า ผู้ป่ วย ร้อย ละ 89 อาการดีขนึ อาการชักลดลง ตังแต่ ร้อยละ 25 จนถึงหยุดชักได้เลย นอกจากนียังพบว่า นอนหลับได้ดี ขนึ สอื สารได้ดีขนึ ทกั ษะหัตถการดขี นึ นันคอื เดก็ กลุ่มนีสมองดขี นึ 55 3.8.5 ผลต่อเด็กถา้ มารดาใชก้ ญั ชาในระหว่างตงั ครรภ์ การวิจัยทปี ระเทศจาไมก้า โดย ศาสตราจารย์เมลานี เดรเฮอร์ คณบดีของคณะพยาบาล เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา ติดตามหญิงตังครรภ์ กลุ่ม กลุ่มที สบู กญั ชา กลุ่มที ไม่ได้สบู กญั ชา ผลการวิจัย พบว่า ลูกทีเกิดจากแม่ทีสูบกัญชา มีพัฒนาการ ความตืนตัว การควบคุมตนเอง ทดี ีกว่า และคนดูแลเลียงเดก็ พึง พอใจมากกว่า นันคือ เดก็ มสี มองและพัฒนาการทดี ีกว่า 56 3.8.6 กญั ชากบั โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด มีการพยายามกล่าวหาว่าการใช้กญั ชาทาํ ให้ความเสยี งต่อการเกดิ โรคหัวใจและเส้นเลือดสมองมากขนึ แต่จากการวิจัยแบบอภิมาน ทบทวนงานวิจัยต่างๆ อย่างเป็นระบบ (systematic review) ตีพิมพ์เมือปี ค.ศ. 2018 สรุปว่า ข้อกล่าวหานีไม่มีหลักฐานการวิจัยยืนยันใดๆ57 ความจริงคือ กัญชากลับทาํ ให้เป็นโรคเหล่านี ลดลง เพราะมีสรรพคุณในลดนาํ ตาลในเลือด ลดความดนั โลหิต ทาํ ให้ลดปัญหาของผนังเส้นเลือด 58 ยนื ยันด้วยผลการศึกษาของนกั วจิ ัยจากมหาวทิ ยาลัย South Carolina, Texas & Florida ทพี บว่า คนที มีอาการเจบ็ หน้าอก จาํ นวน 1,420 คน ตรวจด้วยเครือง CT scan (Coronary CT angiography) พบว่า “คน ทใี ช้กญั ชา” มีแนวโน้ม จะเป็นโรคหัวใจขาดเลือด “น้อยกว่า” คนทไี ม่ได้ใช้ นันคือ คนใช้กญั ชา เป็นโรคเส้น เลือดหัวใจเพียง ร้อยละ 6.8 ในขณะทคี นไม่ใช้กญั ชา เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจถงึ ร้อยละ 15 แตกต่างกนั อย่าง มนี ัยสาํ คัญทางสถิติ 59 3.8.7 กญั ชาทําใหเ้ ป็ นหมนั 16

มีการกล่าวหาว่าการใช้กัญชาทาํ ให้ผู้ชายเป็นหมัน แต่การวิจัยต่อมาพบว่า กัญชาไม่ได้ทาํ ให้จาํ นวน อสจุ ิ ลดลงหรือเคลือนไหวช้าลง แต่อย่างใด 60 3.9 สิงทีน่าห่วงจริง คือ กญั ชาสงั เคราะห์ (Synthetic cannabinoids) ปัจจุบนั มีบริษทั ยาหลายแห่ง ผลิตยาจากกญั ชา มที งั แบบสกดั จากพืชกญั ชา และแบบสงั เคราะห์ 61 แต่พบว่า กญั ชาสงั เคราะห์มสี รรพคุณส้กู ญั ชาจากธรรมชาติไม่ได้ และอนั ตรายมากกว่า เช่น ยากญั ชา สงั เคราะห์ชือ “ไรโมนาแบนท”์ (Rimonabant) ของบริษัทซาโนฟี ประเทศฝรังเศส นาํ มาใช้รักษาโรคเบาหวาน และโรคอ้วน พบว่า ทาํ ให้มอี าการทางจติ ประสาทและฆ่าตวั ตาย 62 63 สงิ ทนี ่าห่วงมากคือ มีการจาํ หน่ายกญั ชาสงั เคราะห์ทางอนิ เตอร์เนต็ นาํ มาพ่นผสมใส่ในพืชกญั ชาจาก ธรรมชาติ การวิจัยทปี ระเทศอังกฤษ พบว่า คนใช้กัญชาสังเคราะห์มีอาการทางจิตมากขึนกว่ากลุ่มควบคุม อย่างชัดเจน 64 65 นอกจากนียังพบว่า กญั ชาสงั เคราะห์มผี ลต่อการเต้นของหัวใจ ทาํ ให้หัวใจหยุดเต้นได้ 66 เมือประชาชนไปใช้กัญชาสังเคราะห์แล้วเกิดผลเสีย ฝ่ ายทีจ้องจะทาํ ลาย จึงกล่าวหากัญชาโดยรวม อย่างไม่แยกแยะ 3.10 ผลดีทางเศรษฐกิจและสงั คม 3.10.1 ลดค่าใชจ้ ่ายดา้ นสุขภาพ การศึกษาของมหาวิทยาลัยจอร์เจีย ทีสหรัฐอเมริกา พบว่า มลรัฐทีแก้กฎหมายให้นํากัญชามาใช้ ทางการแพทยไ์ ด้ สามารถลดค่าใช้จ่ายให้กบั ระบบประกนั สขุ ภาพสาํ หรับผู้สงู อายุ ได้ถึง 165 ล้านเหรียญในปี ค.ศ.2013 และคาํ นวณว่า ถ้าแก้กฎหมายทวั ประเทศ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายได้รวม 470 ล้านเหรียญ 67 เมือประชาชนสามารถพึงตนเองด้านสุขภาพได้มากขึน ก็ลดความจําเป็ นในการมารับบริการที สถานพยาบาล ลดภาระของบุคลากร บคุ ลากรน่าจะมีเวลาทาํ งานได้อย่างมคี ุณภาพมากขนึ จากสถติ ิการเจบ็ ป่ วยในประเทศไทย พบว่า เมือคาํ นวณจาํ นวนคนทมี ีโรคหรือสภาวะดังกล่าวทงั หมด ในประเทศไทย จะพบว่ามีคนทีน่าจะได้ประโยชน์จากการใช้กัญชาทางการแพทย์ อย่างน้อย 14.9 ล้านคน (ตารางที 1) ตารางที 1 ผลกระทบดา้ นบวกต่อสุขภาพ 17

ผลกระทบดา้ นสุขภาพ ความชุก จํานวนคนทีจะ งานวิจยั ที (ลดอตั ราป่ วย หรือควบคุมโรคให้สงบ หรือลด ไดป้ ระโยชน์ พบว่า (จาก 66 ล้าน กญั ชามี ความทุกข์ทรมาน) คน) 68 ประโยชน์ 1.1 โรคทางระบบประสาท มากกว่า 170,000 1.1.1 โรคพาร์กนิ สนั 0.25/1,00069 475,200 โทษ 930,000 1.1.2 โรคลมชัก 7.2/1,00071 [1]70 180,000 [2]72 1.1.3 โรคอลั ไซเมอร์ (ในคนอายุ > 60 ปี 11.6 8.1/10074 1,320 [3]75 ล้านคน)73 4,092,000 [4]77 1.1.4 โรคออตสิ ติก 2.8/1,00076 5,501,600 [5]79 260,495 [6]81 1.1.5โรคปลอกหุ้มประสาทอกั เสบ 2/100,00078 1.1.6 โรคปวดระบบประสาท 6.2/10080 462,000 [7]83 198,000 [9]85 86 87 (รวมโรคปวดหัวไมเกรน) 8.3/10082 2,706,000 1.2 โรคเบาหวาน 14,976,615 [10] 89 [11]91 1.3 โรคมะเร็ง ทุกอวยั วะ สถติ ิโรคมะเรง็ รายใหม่ 246.4/100,000 [12]93 170,495 รายต่อปี เสยี ชีวิต 85,000 รายต่อปี ยังมี 84 ชีวติ สะสมมา 175,000 ราย 7/1,00088 1.4 ผูป้ ่ วยระยะสุดทา้ ย 1.5 โรควิตกกงั วล 0.3/10090 1.6 โรคติดสุรา 4.1/10092 รวมทงั หมด หมายเหตุ – ผู้ป่ วยบางรายมมี ากกว่า 1 ภาวะ แม้ว่าประเทศไทยจะมีระบบประกันสุขภาพครอบคลุมประชากรเกือบทุกคน แต่ผู้ป่ วยยังคงต้องมี ค่าใช้จ่ายเพิมเติมในรายการทีระบบหลักประกันสุขภาพไม่ได้คุ้มครอง นอกจากนียังมีค่าใช้จ่ายอืนๆที เกยี วเนือง เช่น ค่าเดนิ ทาง ค่าทพี ัก ค่าเสยี โอกาสของผู้ป่ วยและครอบครัว เพราะต้องหยุดงาน 18

ดังนันถ้าการใช้ยากญั ชาทาํ ให้สามารถลดความจาํ เป็นในการมารับการรักษาทโี รงพยาบาลได้ ย่อมจะมี ส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้มาก จะประหยัดงบประมาณของรัฐบาล และลดการนําเข้ายาจาก ต่างประเทศได้จาํ นวนมาก นอกจากนีเมอื ประชาชนสามารถพึงตนเองด้านสขุ ภาพได้มากขนึ กล็ ดความจาํ เป็นในการมารับบริการ ทสี ถานพยาบาล ลดภาระของบุคลากร บุคลากรน่าจะมเี วลาทาํ งานได้อย่างมคี ุณภาพมากขนึ ภาพที 16 การใช้ยาเคมีลดลง 3.10.2 เพมิ ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มูลค่ากัญชาในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2019 ทังทีค้าขายถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย สูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท และคาดการณว์ ่าจะเพิมสงู ขนึ ไปถงึ 1.6 ล้านล้านบาท ในปี ค.ศ. 2025 94 ภาพที 17 มูลค่ากญั ชา ในสหรัฐอเมริกา จากการศกึ ษาทมี ลรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา หลังจากแก้กฎหมายให้มกี ารใช้กญั ชาทางการแพทย์ได้ และต่อมาขยายเป็นสามารถใช้แบบสนั ทนาการได้ พบว่า ในเดือนมนี าคม 2560 US News and World Report จัดอนั ดับให้โคโลราโดเป็นรัฐทมี ีเศรษฐกจิ ดีทสี ดุ ในประเทศ พบว่าภายในปี 2558 อตุ สาหกรรมกญั ชาฯ สร้าง กจิ กรรมทมี มี ูลค่าทางเศรษฐกจิ รวมแล้วถงึ 2.4 พันล้านเหรียญ95 19


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook