ผงั มโนทศั น์ รายวชิ า ภาษาอังกฤษ รหสั วิชา อ 21101 ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง First Day at School จำนวน 15 ช่ัวโมง : 20 คะแนน Greeting and introduction + กจิ กรรม New Languag (5 ช่ัวโมง) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ือง First Day at School จำนวน 15 ชว่ั โมง โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ Verb to be Wh- Questions: Who, What, - ประโยคบอกเลา่ Where -ประโยคปฏเิ สธ (5 ช่ัวโมง) -ประโยคคำถาม (5 ชัว่ โมง)
แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง First Day at School แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง Greeting and introduction รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหสั วชิ า อ 21101 ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 น้ำหนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 3 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 5 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสำคัญ การเรียนรู้นีม้ จี ุดม่งุ หมายใหน้ ักเรียนเรียนร้คู ำศัพท์ อ่านออกเสยี งบทสนทนา เขา้ ใจบทสนทนาท่อี ่านและ ฟงั เขียนเปรียบเทยี บข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรยี นของไทยกบั ต่างประเทศ พดู เก่ียวกับข้อมลู สว่ นตัว และคน้ คว้าข้อมูล เก่ียวกับโรงเรียนของประเทศต่าง ๆ แล้วนำเสนอผลงานการค้นควา้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ชัน้ ปี/ผลการเรยี นร/ู้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ (ใหต้ รงกับหลักสตู รแกนกลาง 2551 ปรบั ปรงุ 2560) ต. 1.1 ม.2/4 ระบหุ วั ข้อเร่ือง (topic) ใจความสำคญั (main idea) และตอบคำถามจากการฟังและ อ่าน บทสนทนา นิทาน และเรือ่ งส้นั ต. 3.1 ม.2/1 ค้นควา้ รวบรวม และสรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจรงิ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ จาก แหล่งเรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น ต. 4.1 ม.2/1 ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองท่ีเกดิ ขึ้นในหอ้ งเรียนและ สถานศึกษา 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge 1. การทกั ทาย ถามและแนะนำตัวเองและผู้อ่ืนเก่ียวกบั ข้อมลู สว่ นตวั และเรอื่ งในโรงเรยี น 2. คำศพั ทใ์ นบทเรียน grade (n.) ordinal numbers ,(n.) school subjects (n.) = Math, Health, Science, Family and consumer Scienes, Computer Science ,Language Arts, Languages, History, Music, Geography, P.E. , 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process 1. นักเรยี นแสดงบทบาทสมมติจากบทสนทนาท่ฟี ังและอา่ นได้ 2. นกั เรยี นบอกความหมายคำศัพทร์ ายละเอียดจากข้อมูลท่ฟี งั และอ่านได้
3.3 คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุง่ ม่ันในการทำงาน 4. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น 1 ความสามารถในการสื่อสาร 2 ความสามารถในการคิด 3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. คณุ ลักษณะของวิชา ใหเ้ ลอื กเฉพาะที่ตรงหรือสอดคล้องกบั กจิ กรรมการเรยี นในหนว่ ยนีแ้ ละต้องประเมนิ ได้ 1. การฟงั : ฟงั ขอ้ มูลและระบุรายละเอยี ด 2. การพดู : พดู ทักทายตวั เองและผู้อ่ืน 3. การอา่ น : อา่ นคำ และประโยค 4. การเขยี น: เขียนคำและเขียนบรรยายข้อมูลทีค่ ้นคว้า 6. คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน 1. การแสดงบทบาทสมมตจิ ากบทสนทนาที่ฟงั และอ่านได้ 2. เขียนตามคำบอก 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ (จัดกิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใชก้ ระบวนการใด แสดงตามข้ันตอน : เวลาทใ่ี ช้ 5 ชัว่ โมง ชว่ั โมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวิเคราะห/์ ใฝ่เรียนร/ู้ เทคนิคการสืบคน้ ) 1.นำเข้าสู่บทเรียน (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่เรียนรู้/เทคนิคการสืบคน้ ) - ครพู ูดแนะนำตนเองและบอกข้อมลู สว่ นตวั ของครโู ดยยอ่ ให้นกั เรียนฟงั - ครใู หน้ ักเรียนแนะนำตนเองและบอกข้อมลู ส่วนตัวแก่เพื่อนและครู โดยใชโ้ ครงสรา้ ง ดงั นี้ - I’m (…..first name + last name….). My favorite subject is English. - ครูพยายามให้นักเรยี นพดู และครไู ม่แก้ไขข้อผดิ พลาดในขณะท่นี ักเรยี นพูด และใหน้ ักเรียนพูดหนา้ ช้ัน เรยี นจนครบทุกคน - ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ เก่ยี วกับคำนำหนา้ นาม โดยเขยี นบนกระดาน ดังนี้ Mr. ใช้กบั ผู้ชาย Mrs. ใช้กับผหู้ ญิงท่ีแตง่ งานแลว้ Miss ใช้กับผหู้ ญิงทย่ี งั ไม่แตง่ งาน Ms. ใชไ้ ด้ท้ังกับผหู้ ญงิ ที่แตง่ งานแลว้ และยังไม่แตง่ งาน
- ครูช้ไี ปท่นี กั เรียน 1 คน แลว้ พดู วา่ This is (name). และครใู หน้ ักเรยี นคนน้นั พูดวา่ I’m (name). เสรจ็ แล้วนกั เรียนคนเดิมชี้ ไปที่เพื่อน แล้วพดู เหมือนทีค่ รูพูด แล้วนักเรียนคนท่ีเพ่ือนชี้กพ็ ูดแนะนำตนเองเหมือนท่ี เพื่อนทำ ครูใหน้ ักเรียนทำกจิ กรรมนีจ้ นครบทุกคน 2. แจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ - ครบู อกนักเรียนวา่ ในหนว่ ยการเรียนรนู้ น้ี กั เรยี นจะได้ฟงั และอา่ นบทสนทนาเก่ียวกบั ข้อมูลสว่ นตวั ของ บคุ คล แลว้ สามารถบอกความหมายของคำศพั ทแ์ ละรายระเอียดของข้อมูลท่ีไดจ้ ากการฟงั และอา่ น และแสดง บทบาทสมมติได้ 3. ฟังและอา่ นข้อมลู ของบุคคล (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่เรียนร/ู้ ชว่ ยกันคดิ ชว่ ยกนั เรยี น) - ครูให้นักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 2 ให้นักเรียนดูรูปภาพและให้นักเรียนบอกว่า นักเรียนเห็นอะไร ในรปู ภาพ โดยครใู ชค้ ำถามนำเพ่อื กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนพูด ดังน้ี - Who are the people? - Where are they? - How old are they? - What are they doing? 4. กจิ กรรม New Language (ข้นั อธิบายและลงขอ้ สรุป/ขั้นดำเนินการค้นหาคำตอบและตรวจสอบคำตอบ) - ครูเปดิ บทสนทนาในกิจกรรม New Language ให้นักเรียนฟงั แลว้ เปิดสือ่ บัตรคำใหน้ กั เรยี นดู 1. Grade = 7. Math= 2. school subjects 8. Computer Science = 3. Science= 9. History= 4. Family and consumer Scienes= 10. P.E. = 4.Languages = 11. Music= 5.Geography= 12.Health = 6. Ordinal numbers = - จากนนั้ ครอู ่านแล้วให้นักเรียนอ่านตามแลว้ รว่ มกันหาคำแปล 1. Grade = ระดบั ชั้นเรยี น 6. Ordinal numbers = เลขลำดบั 2. school subjects วชิ าเรยี น 7. Math= คณิตศาสตร์ 3. Science= วิชาวิทยาศาสตร์ 8.Computer Science = วิชาวทิ ยาศาสตร์คอมพวิ เตอร์ 4. Family and consumer Scienes=,วิทยาศาสตรค์ รอบครวั และการบรโิ ภค, 4.Languages = วิชาภาษาศาสตร์ 9.History= วชิ าประวติ ศาสตร์ 11. Music= วชิ าดนตรี 5.Geography= วิชาภมู สิ ตร์ 10. P.E. =วชิ าพละศึกษา 12Health = วชิ าสขุ ศึกษา
- เมือ่ นักเรียนเรยี นรู้คำศพั ท์แล้ว ครูให้นักเรยี นฟังบทสนทนาอีก 1 ครง้ั เพือ่ เดาบริบทของสถานการณ์ในบท สนทนา จากนน้ั ครูพานกั เรยี นอ่านทลี ะประโยคแล้วร่วมกันแปลความหมายของบทสนทนาน้นั ชวั่ โมงที่ 3 (ขน้ั ขยายความรูแ้ ละนำเสนอผลการคน้ หาคำตอบ) - นกั เรียนทบทวนคำศัพท์ที่ไดเ้ รยี นโดยการอ่านและแปลพร้อมกนั - ครูทบทวนบทสนทนาและให้นกั เรยี นนำคำศัพทท์ ไ่ี ด้เรียนไปประยุกตใ์ นบทสนทนาเพือ่ แสดงบทบาท สมมตุ เิ ปน็ กลมุ่ ชั่วโมงที่ 4-5 ( ขัน้ สรปุ และประเมนิ ผล ) - ครูสุ่มเขยี นตามคำบอก 10 คำพร้อมเขียนคำแปล 1. Grade= ระดบั ชน้ั เรยี น 10. History= วชิ าประวิติศาสตร์ 2. school subjects วิชาเรยี น 3. Computer Science = วชิ าวิทยาศาสตร์คอมพวิ เตอร์ 4.Family and consumer Scienes=,วิทยาศาสตร์ครอบครัวและการบริโภค, 5. Languages = วชิ าภาษาศาสตร์ 6. Geography= วชิ าภูมสิ ตร์ 7. Ordinal numbers = เลขลำดบั 8. Science= วิชาวิทยาศาสตร์ 9. Physical education (P.E.) = วิชาพละศึกษา - ครูใหน้ ักเรยี นแสดงบทบาทสมมตุ ิเปน็ กลมุ่ - ครูและนักเรยี นสรปุ บทเรยี นรว่ มกัน จำนวน สภาพการใชส้ อ่ื 9. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ 1 ชุด ขนั้ ตรวจสอบความรู้เดิม รายการส่อื 1 ชดุ ขน้ั สร้างความสนใจ 1 ชดุ ขน้ั ขยายความรู้ 1. หนังสอื เรยี น New World 2. คลปิ เสียงบทสนทนา 3. ส่ือบตั รคำศัพท์
10. การวัดผลและประเมนิ ผล เป้าหมาย หลักฐานการเรียนรู้ วธิ วี ัด เครื่องมอื วดั ฯ ประเด็น/ เกณฑ์การใหค้ ะแนน การเรยี นรู้ ชิน้ งาน/ภาระงาน แบบทดสอบ เฉลยคำศัพทแ์ ละคำ 5 คะแนน ดมี าก เขยี นตามคำ แปล 4 คะแนน ดี - บอกความหมาย เขียนตามคำบอก บอก 3 คะแนน ปานกลาง 2 คะแนน พอใช้ คำศัพท์รายละเอยี ด 1 คะแนน ปรบั ปรงุ 5 คะแนน ดมี าก จากข้อมูลท่ีฟังและ 4 คะแนน ดี 3 คะแนน ปานกลาง อ่านได้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรุง - แสดงบทบาทสมมติ แสดงบทบาทสมมติ แสดงบทบาท แบบประเมินบทบาท จากบทสนทนาท่ีฟงั สมมตเิ ปน็ กล่มุ สมมติ (การสนทนา) และอ่านได้ 11. การบรู ณาการตามจุดเน้นของโรงเรยี น หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ ครู ผ้เู รียน พอเพยี ง พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ 1. ความพอประมาณ รู้จกั ใช้เทคโนโลยีมาผลติ สื่อท่ี มีจิตสำนึกที่ดี เอ้อื อาทร 2. ความมเี หตผุ ล เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนื้อหาเป็น ประนีประนอม นึกถึงประโยชน์ 3. มีภมู คิ มุ กนั ในตัวที่ดี ประโยชนต์ ่อผู้เรยี นและพัฒนาจากภมู ิ สว่ นรวม/กล่มุ ปัญญาของผู้เรียน - ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดนง่ิ ท่หี าหนทางในชวี ิต หลุดพน้ ถูกต้อง สุจรติ แมจ้ ะตกอยู่ในภาวะขาด จากความทุกขย์ าก (การคน้ หาคำตอบ แคลน ในการดำรงชวี ติ เพื่อให้หลุดพ้นจากความไมร่ )ู้ ภมู ิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวัง ระมดั ระวัง สร้างสรรค์
4. เงอื่ นไขความรู้ ความรอบรู้รอบดา้ น ความ ความรอบร้ปู รมิ าณที่เกย่ี วข้อง การ รอบคอบทจ่ี ะนำความรเู้ หล่าน้นั มา คำนวณสูตรทต่ี ้องใช้ สามารถนำ พจิ ารณาใหเ้ ชื่อมโยงกนั เพ่อื ความรู้เหลา่ นัน้ มาพจิ ารณาให้เชอื่ มโยง ประกอบการวางแผน การดำเนนิ การ กัน สามารถประยุกต์ จดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้กบั ผเู้ รียน ใช้ในชวี ิตประจำวนั 5. เงอื่ นไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซอ่ื สตั ย์สจุ รติ และมีความอดทน ความซ่ือสตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการ มคี วามเพียร ใชส้ ติปัญญาในการ ดำเนินชวี ติ ดำเนินชีวิต สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ครู ผเู้ รยี น คำศพั ทท์ ่ีเกียวกับรายวิชา การนำสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน -จับใจความสำคัญจากบทสนทนา สวนพฤกษศาสตร์ บรู ณา การส่กู ารเรียนการสอน นิทาน เร่อื งสน้ั เกยี่ วกบั ตน้ ไม้ ส่ิงแวดล้อม ครู ผู้เรียน คำศัพท์และการบรรยายเกยี ว - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นเป็น - พดู /เขยี นบรรยายข้อมลู เกีย่ วกับ กบั รายวิชาสวนพฤกษศาสตร์ สอ่ื การเรียนการสอน (พูด/เขียน ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ บรรยายข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง กิจวัตร เกี่ยวกับงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประจำวนั ประสบการณ์ เกีย่ วกบั งาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น) ลงชื่อ..................................................ผ้สู อน (นางสาวพิทยา วิทยาจัดการ) หมายเหตุ - แบบทดสอบเขียนตามคำบอก - เฉลยแบบทดสอบเขียนตามคำบอก - เกณฑ์การคะแนนเขียนตามคำบอก - แบบประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ
Vocabulary แบบทดสอบเขยี นตามคำบอก Name……………………………………………………………………No…………………..Class………… 1. = 2. = 3. = 4. = 5. = 6. = 7. = 8. = 9. = 10. = รวมคะแนน =
Vocabulary เฉลยแบบทดสอบเขยี นตามคำบอก Name……………………………………………………………………No…………………..Class………… 1. Physical education (P.E.) = วิชาพละศึกษา 2. Family and consumer Scienes = วิทยาศาสตร์ครอบครัวและการบริโภค 3. Computer Science = วชิ าวทิ ยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ 4. History = วชิ าประวิตศิ าสตร์ 5. Languages = วชิ าภาษาศาสตร์ 6. Geography = วิชาภูมสิ ตร์ 7. Science = วชิ าวิทยาศาสตร์ 8. Ordinal numbers = เลขลำดับ 9. Grade = ระดับช้นั เรยี น 9. school subjects = วิชาเรยี น = วิชาประวิติศาสตร์ 10. History
เกณฑ์การคะแนนเขยี นตามคำบอก 5 คะแนน 4คะแนน 3คะแนน 2คะแนน 1คะแนน 0คะแนน (ปรบั ปรุง) (ไม่ผา่ นเกณฑ์) (ดีมาก) (ด)ี (ปานกลาง) (พอใช้) เขยี นคำศัพท์และ เขยี นคำศัพท์และ ความหมายถูกต้อง ความหมายถูกต้อง เขยี นคำศัพท์และ เขยี นคำศัพท์และ เขยี นคำศัพท์และ เขียนคำศัพท์และ 3-2 คะแนน 0-1 คะแนน ความหมายถูกต้อง ความหมาย ความหมาย ความหมาย 9-10 คะแนน ถกู ต้อง 7-8 ถูกต้อง 5-6 ถูกต้อง 4-5 คะแนน คะแนน ปาน คะแนน กลาง
แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ ผปู้ ระเมนิ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ครู นกั เรยี น วิชา ภาคเรยี นที่ ปีการศกึ ษา ชัน้ / วันที่ เดือน พ.ศ... กลมุ่ ที่ ชือ่ -สกุล ูพดโต้ตอบได้ตรงประเด็น ขอ้ เสนอแนะ/ ใ ้ชภาษา ูถกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม แสดงบทบาทและใช้น้ำเสียงสมจริง น้ำเสียงชัดเจน ออกเสียง ูถก ้ตอง ูพดคล่องแคล่ว รวม 111115 เกณฑก์ ารประเมนิ ลงชอ่ื ……………………….ผปู้ ระเมนิ (........................................) 5 คะแนน ดมี าก 4 คะแนน ดี 3 คะแนน ปานกลาง 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ควรปรบั ปรงุ
แบบบันทกึ หลังสอน ผลการจดั การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ลงช่ือ…………………………………..….…………………….. ( นางสาวพทิ ยา วิทยาจัดการ ) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู วนั ท.่ี .....เดอื น..................พ.ศ............
ความคิดเห็นของครูพี่เลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ......................................................ผตู้ รวจ (นายชาญยุทธ สทุ ธธิ รานนท์) ครพู เ่ี ลย้ี ง วนั ท่ี ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ……………………………………………………………….... (นางวิลาวลั ย์ ปาลี) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 วนั ที่ ....../ ........... / ........
แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง First Day at School แผนจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง Verb to be รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 21101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 น้ำหนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สาระสำคัญ การเรยี นรู้น้ีมีจุดมุ่งหมายให้นักเรยี นเรยี นรูค้ ำศัพท์ อา่ นออกเสียงบทสนทนา เขา้ ใจบทสนทนาทอี่ ่านและ ฟงั เขยี นเปรียบเทียบข้อมลู เกี่ยวกับโรงเรยี นของไทยกบั ต่างประเทศ พดู เก่ียวกับข้อมลู ส่วนตัว และค้นควา้ ข้อมูล เกี่ยวกับโรงเรยี นของประเทศตา่ ง ๆ แลว้ นำเสนอผลงานการค้นคว้า 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั ช้นั ป/ี ผลการเรียนรู/้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ (ให้ตรงกบั หลกั สตู รแกนกลาง 2551 ปรับปรุง 2560) ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสียงข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ต 2.2 ม.2/1 เปรียบเทยี บและอธบิ ายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยค ชนิดตา่ ง ๆ และการลำดับคำตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ต 4.2 ม.2/1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/คน้ คว้า รวบรวมและสรุปความร/ู้ ข้อมูลต่าง ๆ จาก ส่อื และแหล่งการเรียนรูต้ ่าง ๆ ในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชีพ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge - ภาษาที่ใช้ในการสอบถามและใหข้ ้อมูลสว่ นบคุ คล - คำศัพท์และสำนวนภาษาที่เกี่ยวข้อง - โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Verb to be - Wh- Questions: Who, What, Where 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - อ่านออกเสียงบทสนทนาท่ีกำหนดไดถ้ ูกต้อง - พูดนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง - ใช้ภาษาในการกรอกแบบฟอร์มใบสมัครได้ถูกต้อง
3.3 คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ : Attitude - ใช้ภาษาถูกกาลเทศะ - มนั่ ใจในการใช้ภาษา 4. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น 1 ความสามารถในการสื่อสาร 2 ความสามารถในการคิด 3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. คุณลกั ษณะของวชิ า ให้เลอื กเฉพาะทตี่ รงหรือสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนในหน่วยนแี้ ละตอ้ งประเมนิ ได้ 1. การฟงั : ฟงั ข้อมูลและระบุรายละเอยี ด 2. การพดู : พดู ทักทายตัวเองและผู้อืน่ 3. การอา่ น : อ่านคำ และประโยค 4. การเขยี น: เขยี นคำและเขียนบรรยายข้อมลู ที่ค้นควา้ 6. คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุง่ ม่นั ในการทำงาน 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน -ถอ้ ยคำอา่ นออกเสียง บทสนทนาในกจิ กรรม Grammar A -การกรอกแบบฟอร์มใบสมัครในกิจกรรม Grammar C 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (จดั กิจกรรมการเรียนรโู้ ดยใช้กระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาทใ่ี ช้ 5 ชว่ั โมง ชวั่ โมงท่ี 1-2 (ความสามารถในการวิเคราะห/์ ใฝเ่ รยี นร/ู้ เทคนคิ การสืบคน้ ) 1.นำเข้าสู่บทเรียน - ทบทวนความรเู้ ดิมเรื่อง Verb to be โดยครเู ขยี นคำสรรพนามทั้งที่เปน็ เอกพจน์และพหพู จน์บน กระดาน หลงั จากนนั้ ครูวาดตารางซง่ึ มหี ัวข้อ is/am/are และใหน้ ักเรยี นจัดกลุ่มคำสรรพนามกบั Verb to be ท่ี เหมาะสม ครูและนักเรียนเฉลยคำตอบร่วมกนั 2. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ - ครูบอกนักเรยี นว่า ในหนว่ ยการเรียนร้นู ้นี ักเรียนจะได้เรียนร้เู กี่ยวกับโครงสรา้ งทางไวยากรณ์เร่ือง Verb to be และ Wh- Questions แล้วสามารถนำความรูม้ าประยุกตใ์ ช้ได้ 3. เขา้ ใจและใช้ Verb to be - ครใู ห้นกั เรียนศึกษารายละเอยี ดเรอ่ื ง Verb to be จากกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หน้า 5 หลังจากนั้นครเู ขยี นคำสรรพนามบนกระดาน และให้นักเรียนบอก Verb to be ทีใ่ ช้กับคำสรรพนามเหลา่ น้ี
- I You We They He She - ครูให้นกั เรยี นบอกรปู ย่อของคำสรรพนามกับ Verb to be และครเู ขียนรปู เต็ม เช่น - He’s = He is - I’m = I am - You’re = You are - She’s = She is - We’re = We are - They’re= They are - ครอู ธบิ ายนกั เรยี นวา่ I, He, She เปน็ คำสรรพนามเอกพจน์ We, They เป็นคำสรรพนามพหูพจน์ และ อธิบายนักเรยี นเพิ่มเติมว่า You เป็นได้ท้ังคำสรรพนามเอกพจน์และพหูพจน์ - ครูใหน้ กั เรียนฝกึ การใช้ Verb to be โดยครูพูดคำสรรพนาม I/You/He/She/We/They แล้วให้ นักเรยี นพดู รูปย่อของคำสรรพนามและ Verb to be ดงั นี้ - Teacher: He is - Students: He’s - ครพู ดู เป็นรปู ประโยคเต็ม ๆ และนักเรียนพูดเป็นประโยครปู ยอ่ เช่น - Teacher: He is tall. - Students: He’s tall. - ครูเขยี นประโยคทีส่ มบูรณ์บนกระดาน และใหน้ ักเรียนเขียนเปน็ ประโยคปฏเิ สธ เช่น - Teacher: They are from Mexico. - Students: They aren’t from Mexico. - ครูบอกนักเรยี นวา่ ในการเขียนเปน็ ประโยคปฏเิ สธสามารถเขยี นได้ 2 แบบ และครเู ขียนใหน้ กั เรยี นดบู น กระดาน ดงั น้ี - Teacher: They are from Mexico. - Students: They aren’t from Mexico. They’re not from Mexico. - ครเู ขียนคำสรรพนาม I/You/He/She/We/They แล้วใหน้ กั เรยี นแต่งประโยคเปน็ รูปปฏิเสธทั้ง 2 แบบ ครูบอกนักเรยี นวา่ การเขยี นประโยคปฏิเสธของประธาน I เขยี นรูปยอ่ ได้แบบเดยี วเทา่ นั้น ครเู ขยี นตัวอยา่ งให้ นกั เรยี นดู บนกระดาน คอื I am not… = I’m not… - ครเู ขียนประโยคบอกเล่าบนกระดาน และใหน้ ักเรียนอาสาสมัครเปลีย่ นเปน็ ประโยคปฏิเสธ เช่น
- I’m in seventh grade. = …………………………………. - He’s from France. = …………………………………. - ครูใหน้ กั เรยี นทบทวนความร้จู ากกรอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หนา้ 5 อกี คร้ัง เสร็จแล้วครถู ามและ ใหน้ ักเรียนตอบโดยใชค้ ำถามเหลา่ น้ี คือ - Are you French? - Is John in seventh grade? - หลงั จากน้ันครใู หน้ ักเรียนศึกษาเน้ือหาเกีย่ วกับการถามและการตอบคำถามแบบสั้นจากกรอบ Grammar แลว้ ครูสรปุ ให้นักเรียนฟังว่า รูปแบบการปฏิเสธมี 2 รูปแบบ แตส่ ำหรับประธานที่เป็นสรรพนาม I สามารถตอบได้ แบบเดียวเท่านั้น - ครอู า่ นคำถามทางซ้ายมือในกรอบ Grammar ให้นักเรียนตอบรับในรปู ประโยคบอกเล่า หลังจากน้นั ให้ ตอบปฏเิ สธ โดยใหน้ กั เรียนตอบปฏิเสธท้ัง 2 รปู แบบ - ครูใหน้ ักเรยี นเขยี นประโยคคำถามและคำตอบโดยใช้ Verb to be และให้นักเรยี นพดู นำเสนอคำถาม และให้เพอ่ื นในช้ันเรียนตอบแบบส้ัน - Wh- Questions: Who, What, Where - ครวู าดตารางและเขียน Who, What, Where บนกระดาน และเขียนคำตอบกำกับ ดังน้ี Question words Question words Who’s that? That’s Ivan. It’s Petrovitch. What’s his last name? He’s from Russia. Where’s he from? - ครูอา่ นประโยคคำถามและชี้คำตอบใหน้ ักเรยี นอา่ นพร้อมกนั หลังจากนนั้ ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาเน้ือหา เรือ่ ง Wh- Questions จากกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หน้า 5 อกี ครงั้ เป็นการทบทวน และครยู ำ้ ว่า Who’s และ What’s เป็นรูปย่อของ Who is และ What is - ครูอา่ นคำถามทางซา้ ยมือในกรอบ Grammar และครูใหน้ กั เรียนอ่านคำตอบพร้อมกัน - ครูเขยี นคำถามและคำตอบบนกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี นจับคู่คำถามและคำตอบที่ถูกต้อง ดังนี้ Match the question words with the answers. Question words Answers 1. What’s Emma’s favorite subject? A. It’s Ivan. 2. Who is the new math teacher? B. It’s science. 3. What’s your name? C.He’s Mr. Wilson. (เฉลยคำตอบ: 1 = B, 2 = C, 3 = A)
- ครอู าจใหน้ ักเรยี นฝึกทำแบบฝกึ หดั ใหม้ าก ๆ เพื่อฝกึ ความชำนาญ 4. อา่ นออกเสยี งบทสนทนาท่ีใช้ Verb to be - ครูให้นักเรยี นทำกจิ กรรม Grammar A ในหนงั สือเรียน หน้า 5 - ครอู ่านออกเสียงคำสง่ั และอ่านประโยคคำถามแรก และใหน้ ักเรียนเตมิ Verb to be ที่ถกู ต้องลงใน ชอ่ งวา่ ง ครูพูดประโยคที่สมบูรณ์ ดงั น้ี Who is that boy? ครูใหน้ กั เรยี นพูดประโยคท่ใี ช้รูปย่อของ Who is คอื Who’s และครูอธิบายนักเรียนเพ่มิ เติมว่า Who’s นยิ มใช้ในภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน - ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม Grammar A เป็นรายบุคคลหรือเป็นคู่ได้ เมื่อนักเรยี นทำเสรจ็ ครใู หน้ กั เรียน จับคู่อา่ น ออกเสียงบทสนทนาทีส่ มบูรณ์เพือ่ ตรวจสอบคำตอบที่ถูกต้อง (ดเู ฉลยท้ายเลม่ ) - ครูย้ำว่า รปู ยอ่ ของ Verb to be นยิ มใช้หลังคำสรรพนาม และ Wh- Questions - ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่อ่านบทสนทนา ครูสังเกตการออกเสียง - ครปู ระเมินการอ่านออกเสยี งของนักเรยี นโดยใช้แบบประเมินการอ่านออกเสยี ง และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ - ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่แต่งบทสนทนาโดยใชข้ อ้ มลู ของนกั เรยี นเอง ทง้ั ขอ้ มลู รายวิชา หอ้ งเรยี น และ ครผู ูส้ อน หลงั จากนนั้ ใหน้ ักเรียนพดู นำเสนอข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง - ครปู ระเมนิ การพดู ของนักเรียนโดยใชเ้ กณฑ์การประเมินการพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้ 5. เขียนกรอกแบบฟอร์ม - ครใู หน้ กั เรยี นทำกจิ กรรม Grammar C ในหนังสอื เรียน หน้า 6 ใหน้ กั เรยี นบอกช่อื สถานท่ีหรอื สถานการณ์ท่ีผู้คนจำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง โดยครูใหแ้ นวคดิ วา่ จะเป็นข้อมูลเพื่อ to register for a class, to get official government documents, to buy things online หลังจากนัน้ ครูถาม นักเรียนว่า นักเรียนกรอกแบบฟอร์มครั้งลา่ สุดเม่ือไหร่ - ครูให้นกั เรียนดแู บบฟอร์ม School Registration ในกิจกรรม Grammar C ในหนังสอื เรยี น หน้า 6 และให้นกั เรยี นศกึ ษาทำความเขา้ ใจประเด็นในแบบฟอรม์ ครูอนุญาตใหน้ ักเรียนถามถ้านกั เรยี นไม่เขา้ ใจ และให้ นักเรียนทำกจิ กรรม Grammar C - ครูตรวจการทำกจิ กรรม Grammar C ของนักเรียนเป็นรายบุคคล และประเมินโดยใช้เกณฑ์การประเมิน การเขยี น และใชเ้ กณฑ์ผ่านระดบั พอใช้ - ครใู หน้ กั เรียนจับคู่ และให้นักเรียนถาม-ตอบกันเก่ยี วกับข้อมูลท่นี ักเรยี นเตมิ ในแบบฟอรม์ โดยครูให้ ตวั อย่างคำถาม เช่น What’s your first name? และครูบอกนักเรียนวา่ นกั เรยี นสามารถใช้คำถาม What ในการ ต้งั คำถามได้ทุกประเด็นในแบบฟอร์ม กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
- ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหัด ข้อ C, D และ E ในหนังสือแบบฝกึ หัด New World 2 หน้า 2-3 เพอ่ื ฝึก ความชำนาญเก่ียวกับการแนะนำตวั และการใช้ Verb to be และ Wh- Questions (ดเู ฉลยท้ายเลม่ ) ชั่วโมงที่ 3 พูดสนทนา - ครใู หน้ กั เรยี นดรู ายวชิ าในตาราง ในกจิ กรรม Grammar B ในหนังสือเรียน หน้า 6 - ครูแบง่ นักเรียนเปน็ 2 กลุ่ม A และ B ใหน้ ักเรียนอ่านบทสนทนาในกจิ กรรม Grammar B ในหนงั สอื เรียน หน้า 6 และครูตัง้ คำถามใหน้ กั เรียนตอบ โดยใชข้ ้อมูลในตาราง ตัวอยา่ งคำถาม เช่น - Where’s the geography class? - Who’s the art teacher? - ครูใหน้ ักเรยี นจับคู่แต่งบทสนทนาโดยใชโ้ ครงสรา้ งเหมอื นบทสนทนาตัวอยา่ ง และใช้ข้อมลู ในตาราง หลังจากน้ันครใู หน้ ักเรยี นแต่ละคู่อ่านบทสนทนาค่ลู ะ 1 บทสนทนา ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งและให้นักเรียน ปรบั ปรงุ แก้ไขตามคำแนะนำของครู ช่ัวโมงที่ 4-5 - ครใู หน้ ักเรียนจับคแู่ ต่งบทสนทนาโดยใชข้ ้อมลู ของนักเรยี นเอง ทง้ั ขอ้ มูลรายวชิ า ห้องเรียน และ ครผู ูส้ อน หลังจากน้นั ใหน้ ักเรียนพดู นำเสนอขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง - ครูประเมินการพดู ของนักเรียนโดยใช้เกณฑ์การประเมนิ การพูด และใช้เกณฑ์ผ่านระดบั พอใช้ เขยี นกรอกแบบฟอร์ม - ครูให้นักเรยี นทำกจิ กรรม Grammar C ในหนังสอื เรยี น หนา้ 6 ใหน้ ักเรียนบอกชื่อสถานทห่ี รือ สถานการณ์ที่ผ้คู นจำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มข้อมลู เก่ยี วกับตนเอง โดยครูใหแ้ นวคิดว่า จะเป็นข้อมลู เพื่อ to register for a class, to get official government documents, to buy things online หลังจากนน้ั ครูถาม นกั เรียนว่า นกั เรียนกรอกแบบฟอร์มครง้ั ล่าสุดเมื่อไหร่ - ครใู หน้ กั เรยี นดแู บบฟอร์ม School Registration ในกิจกรรม Grammar C ในหนงั สอื เรียน หนา้ 6 และให้นกั เรยี นศกึ ษาทำความเขา้ ใจประเด็นในแบบฟอรม์ ครอู นุญาตให้นกั เรยี นถามถ้านกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ และให้ นักเรยี นทำกิจกรรม Grammar C - ครูตรวจการทำกจิ กรรม Grammar C ของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล และประเมินโดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ การเขยี น และใช้เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้ - ครูให้นกั เรียนจับคู่ และใหน้ ักเรียนถาม-ตอบกันเกีย่ วกบั ข้อมูลท่นี ักเรียนเติมในแบบฟอรม์ โดยครใู ห้ ตัวอย่างคำถาม เชน่ What’s your first name? และครบู อกนักเรยี นวา่ นกั เรียนสามารถใชค้ ำถาม What ในการ ตงั้ คำถามได้ทุกประเด็นในแบบฟอร์ม กิจกรรมเสริมทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา
- ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ข้อ C, D และ E ในหนงั สือแบบฝึกหดั New World 2 หน้า 2-3 เพื่อฝึก ความชำนาญเกี่ยวกับการแนะนำตัวและการใช้ Verb to be และ Wh- Questions (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) สำนวนภาษา - หน้าทภี่ าษา -To give and ask for personal information โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Verb to be - Wh- Questions: Who, What, Whereา 9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน New World 2 หน้า 5-6 2. หนงั สือแบบฝกึ หัด New World 2 หน้า 2-3
10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธีวดั เครือ่ งมอื วดั ฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน ใบงานการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน อา่ นออกเสยี งบท ถ้อยคำอา่ นออกเสียง สนทนา สนทนา บทสนทนาในกิจกรรม ประเมนิ การอา่ นออก 5 คะแนน ดีมาก ท่กี ำหนดไดถ้ ูกต้อง Grammar A แสดงบทบาท สมมตเิ ป็นกลุ่ม เสยี งโดยใช้แบบ 4 คะแนน ดี พดู นำเสนอขอ้ มูล ถ้อยคำ นำ้ เสยี ง สีหน้า เกย่ี วกับ และอากัปกริ ยิ าทใี่ ช้ใน ประเมินการอ่านออก 3 คะแนน ปานกลาง ตนเอง การพูดนำเสนอ เสยี ง และใช้เกณฑผ์ า่ น 2 คะแนน พอใช้ ระดับพอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรงุ ประเมนิ การพูดโดยใช้ 5 คะแนน ดมี าก เกณฑ์การประเมินการ 4 คะแนน ดี พดู และใชเ้ กณฑผ์ า่ น 3 คะแนน ปานกลาง ระดับพอใช้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรุง ใช้ภาษาในการกรอก การกรอกแบบฟอรม์ ใบ แบบกรอกใบ ประเมนิ การเขยี นโดย 5 คะแนน ดมี าก แบบฟอรม์ ใบสมัคร สมคั รในกิจกรรม สมคั ร ใช้เกณฑ์การประเมนิ 4 คะแนน ดี ไดถ้ ูกต้อง Grammar C การเขยี น และใชเ้ กณฑ์ 3 คะแนน ปานกลาง ผ่านระดบั พอใช้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรงุ
11. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรยี น หลักปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผเู้ รยี น พอเพียง พอดีด้านเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 1. ความพอประมาณ รู้จักใช้เทคโนโลยีมาผลิตสอื่ ทเี่ หมาะสม มีจติ สำนึกที่ดี เอ้ืออาทร ประนีประนอม นึกถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวม/กลุ่ม 2. ความมเี หตุผล และสอดคล้องเน้ือหาเป็นประโยชน์ต่อ ผู้เรยี นและพัฒนาจากภมู ปิ ญั ญาของ ไม่หยดุ น่งิ ทหี่ าหนทางในชีวติ หลุดพ้นจาก 3. มีภูมิคมุ กนั ในตวั ทดี่ ี ผ้เู รียน ความทุกขย์ าก (การค้นหาคำตอบเพื่อให้ - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพด้วยความ หลุดพน้ จากความไมร่ ู้) ถกู ต้อง สจุ รติ แมจ้ ะตกอย่ใู นภาวะขาด ภูมิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ แคลน ในการดำรงชีวติ ภูมปิ ัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวงั สรา้ งสรรค์ ระมัดระวงั 4. เงอ่ื นไขความรู้ ความรอบรู้รอบด้าน ความรอบคอบ ความรอบรู้ปรมิ าณทเี่ ก่ยี วข้อง การ ที่จะนำความรู้เหลา่ นนั้ มาพจิ ารณาให้ คำนวณสตู รทีต่ ้องใช้ สามารถนำความรู้ เชอ่ื มโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน เหลา่ นน้ั มาพิจารณาให้เชื่อมโยงกนั การดำเนนิ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ สามารถประยุกต์ ใหก้ ับผ้เู รยี น ใช้ในชวี ติ ประจำวนั 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มคี วาม ซ่ือสัตยส์ จุ ริตและมีความอดทน มีความ ซอื่ สัตยส์ จุ ริตและมีความอดทน มคี วาม เพยี ร ใชส้ ติปญั ญาในการดำเนินชีวติ เพียร ใช้สติปญั ญาในการดำเนินชวี ติ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผู้เรียน คำศัพทท์ ี่เกยี วกับรายวิชา การนำสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น -จับใจความสำคัญจากบทสนทนา นทิ าน เรอ่ื งสัน้ เก่ยี วกบั ตน้ ไม้ สวนพฤกษศาสตร์ บูรณา การสกู่ ารเรยี นการสอน
สงิ่ แวดล้อม ครู ผเู้ รียน คำศัพท์และการบรรยาย - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นเป็นส่อื - พูด/เขียนบรรยายข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เกียวกับรายวิชาสวน การเรียนการสอน (พูด/เขยี นบรรยาย กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ เกี่ยวกบั พฤกษศาสตร์ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง กิจวัตรประจำวัน งานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ประสบการณ์ เกย่ี วกบั งานสวน พฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น) ลงช่อื ..................................................ผู้สอน (นางสาวพทิ ยา วิทยาจดั การ) เกณฑ์การคะแนนเขยี นกรอกแบบฟอร์ม 5 คะแนน 4คะแนน 3คะแนน 2คะแนน 1คะแนน 0คะแนน (ปรบั ปรุง) (ไม่ผ่านเกณฑ์) (ดีมาก) (ด)ี (ปานกลาง) (พอใช้) เขียนกรอก ไม่สามารถกรอก แบบฟอร์มไมต่ รง แบบฟอรม์ ได้ 0- เขียนกรอก กรอกแบบฟอร์ม กรอกแบบฟอร์ม กรอกแบบฟอรม์ ประเด็น 3-2 1 คะแนน คะแนน แบบฟอร์มตรง ได้ค่อนขา้ งตรง ไดบ้ า้ งไม่ได้บา้ ง ไดน้ อ้ ย 4-5 ประเด็นและ ประเด็น 7-8 5-6 คะแนน คะแนน ถกู ต้องทุกประเดน็ คะแนน 9-10 คะแนน
เกณฑ์การประเมินการพดู ระดบั คะแนน นา้ หนกั 2 1 ความ ประเดน็ 4 3 คะแนน การประเมนิ สาคัญ รวม - สื่อสารได้ - สอ่ื สารได้ ตรง ความถกู ต้อง ตรงประเด็น ประเดน็ เป็น - สอ่ื สารได้ ตรง - สอื่ สารไมค่ ่อยตรง 2 8 ด้านเนือ้ หา ส่วนใหญ่ ประเดน็ เป็น ประเดน็ 2 8 - เนอื ้ หาถกู ต้อง บางสว่ น การออกเสยี ง ตามหวั ข้อท่ี - เนอื ้ หาถกู ต้อง - เนอื ้ หาไม่คอ่ ย 4 การใช้คาศัพท์ กาหนด เป็นสว่ นใหญ่ - เนอื ้ หาถูกต้องเป็น ถกู ต้อง สานวน และ บางสว่ น 20 โครงสร้ างภาษา - ออกเสียง - ออกเสยี ง - ออกเสียง ถกู ต้อง ได้ถกู ต้อง - ออกเสยี งถกู ต้อง ไมถ่ กู ต้อง เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน - ใช้คาศพั ท์ - ใช้คาศพั ท์ สานวน สานวน และ - ใช้คาศพั ท์ - ใช้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้ าง โครงสร้ าง สานวน และ และโครงสร้ าง ภาษาแบบ ภาษาถกู ต้อง โครงสร้ างภาษา ภาษาแบบ ง่าย ๆ และ และเหมาะสม ถกู ต้องเป็นส่วน ง่าย ๆ และ มขี ้อผิดมาก ใหญ่ มขี ้อผดิ บ้าง - พดู ได้ - พดู ได้ - พดู ได้คลอ่ งแคล่ว - พดู เหมือนทอ่ งจา 1 คล่องแคลว่ คลอ่ งแคลว่ แตไ่ มเ่ ป็น - ประสานสายตากบั - พดู เป็น - พดู เป็น ธรรมชาติ ธรรมชาติ ธรรมชาติ ผ้ฟู ังบ้างเป็นระยะ - ประสาน - ประสานสายตา - ประสานสายตากบั สายตากบั ผ้ฟู ัง กบั ผ้ฟู ัง ความสามารถ ผ้ฟู ังน้อย ในการพูด - แสดงออกทาง - แสดงออกทางสี สีหน้าและ หน้าและทา่ ทาง ท่าทางอย่าง บ้างเล็กน้อย เหมาะสม รวม 5
.ใบงาน หนงั สือ New World 2 หนา้ 6
แบบบันทกึ หลังสอน ผลการจดั การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถา้ มี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ลงช่อื …………………………………..….…………………….. ( นางสาวพทิ ยา วทิ ยาจดั การ ) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู วันท่.ี .....เดือน..................พ.ศ............
ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ......................................................ผู้ตรวจ (นายชาญยุทธ สุทธิธรานนท์) ครูพ่เี ลี้ยง วนั ท่ี ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ……………………………………………………………….... (นางวิลาวลั ย์ ปาลี) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 วันที่ ....../ ........... / ........
แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง First Day at School แผนจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง Wh- Questions: Who, What, Where รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ 21101 ระดบั ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 นำ้ หนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ใี ช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5 ชว่ั โมง ............................................................................................................................. ............................. 1. สาระสำคญั (ความเขา้ ใจที่คงทน) การเรยี นรูน้ ม้ี จี ดุ มุ่งหมายใหน้ ักเรยี นเรียนรู้คำศัพท์ อ่านออกเสียงบทสนทนา เขา้ ใจบทสนทนาท่ีอ่านและ ฟัง เขยี นเปรียบเทียบข้อมูลเก่ียวกับโรงเรยี นของไทยกับต่างประเทศ พูดเกี่ยวกับข้อมลู สว่ นตัว และคน้ คว้าข้อมลู เก่ยี วกับโรงเรียนของประเทศต่าง ๆ แล้วนำเสนอผลงานการคน้ ควา้ 2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั ชั้นปี/ผลการเรียนร/ู้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ (ใหต้ รงกบั หลกั สตู รแกนกลาง 2551 ปรับปรงุ 2560) ต 1.2 ม.2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว และสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชวี ิตประจำวันอยา่ งเหมาะสม ต 4.1 ม.2/11. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ ำลองที่เกดิ ขน้ึ ในห้องเรียน สถานศกึ ษา และ ชุมชน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลกั : Knowledge - ภาษาที่ใช้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง - คำศัพท์และสำนวนภาษาท่ีเก่ยี วขอ้ ง - โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ Wh- Questions: Who, What, Where 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเอง 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude - มั่นใจในการใช้ภาษา - มีปฏิสัมพนั ธ์ทด่ี ีกับผู้อนื่ )
4. สมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1 ความสามารถในการส่ือสาร 2 ความสามารถในการคิด 3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา ใหเ้ ลอื กเฉพาะทตี่ รงหรือสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรียนในหนว่ ยนแี้ ละตอ้ งประเมนิ ได้ 1. การฟัง : ฟังข้อมูลและระบุรายละเอียด 2. การพูด : พูด ทกั ทายตวั เองและผู้อน่ื 3. การอา่ น : อา่ นคำ และประโยค 4. การเขียน: เขยี นคำและเขียนบรรยายข้อมลู ทีค่ น้ คว้า 6. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน -ถอ้ ยคำ น้ำเสียง สหี น้า และอากปั กริ ยิ าทีใ่ ชใ้ น การสนทนา 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (จัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาทีใ่ ช้ 5 ชั่วโมง ช่ัวโมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวเิ คราะห์/ใฝ่เรยี นรู้/เทคนิคการสืบคน้ ) กจิ กรรม Speaking 1. นำเขา้ สบู่ ทเรียน - ครูเขียนชอ่ื คน ตวั เลข จำนวนนักเรยี นในห้องเรยี น ตัวเลขระดับชั้น ชอ่ื รายวิชา และชอื่ นักเรยี นใน หอ้ งเรยี น บนกระดาน และให้นกั เรยี นทายวา่ ข้อมูลทค่ี รูหมายถึงอะไรบา้ ง (คำตอบอาจหลากหลาย) - ครใู ชค้ ำถามทีใ่ ช้ Wh- Questions: Who, What, และ Where ในการถามเพ่ือใช้ข้อมลู ท่ีครเู ขยี นบน กระดานเปน็ คำตอบ 2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ - ครูบอกนักเรียนวา่ ในหน่วยการเรยี นรู้นนี้ ักเรยี นจะได้ฝึกพูดถาม-ตอบเกีย่ วกบั ข้อมลู ส่วนตวั แลว้ สามารถพูดสนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเองได้ 3. สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง - ครอู า่ นออกเสียงประโยคคำถามจากกจิ กรรม Speaking ในหนังสือเรยี น หน้า 6 และเปิดโอกาสให้ นักเรียนถามถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจประโยคคำถาม - ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นตามประโยคแล้วแปลความหมาย
- ครใู หน้ ักเรียนจับคูท่ ำกจิ กรรม Speaking และให้นักเรยี นผลัดเปลย่ี นกันถาม-ตอบ โดยครูคอยสังเกต การสนทนาของนักเรยี น และใหค้ วามช่วยเหลือในเร่อื งคำศัพทแ์ ละการออกเสียงที่ถกู ต้อง - ครูให้นักเรียนแต่ละคผู่ ลัดเปลีย่ นกนั ถาม-ตอบหนา้ ชั้นเรยี น - ครปู ระเมินการสนทนาของนักเรียนโดยใชแ้ บบประเมินการสนทนากิจกรรมคู่ และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ ช่ัวโมงท่ี 3 ครใู หน้ ักเรียนค้นหาความรูเ้ พ่ิมเตมิ ในการใช้ โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ Wh- Questions: Who, What, Where โดยครใู ห้นกั เรยี นคน้ หาพร้อมท้งั ตัวอย่างในการใช้ ซ่งึ ครูให้นักเรยี นคน้ หาได้ในแหล่งหาความร้ใู น ที่ตา่ งๆที่นอกเหนือจากในหนังสอื เรยี น ชว่ั โมงที่ 4-5 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรยี นรู้ / ชว่ ยกนั คดิ ชว่ ยกันเรยี น) ครูให้นักเรยี นออกมาพูดความหมายและวธิ กี ารใช้โครงสร้าง ประโยค/ไวยากรณ์ Wh- Questions: Who, What, Where พรอ้ มท้งั ยกตัวอยา่ งให้ได้มากทีส่ ุด โดยให้นักเรยี นออกมาพดู นำเสนอเป็นรายบุคคล คำศพั ท์ - สำนวนภาษา - หน้าท่ภี าษา - To give and ask for personal information โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ - Verb to be - Wh- Questions: Who, What, Whereา 9. สอื่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น New World 2 หน้า 6 2. พจนานุกรมองั กฤษ-ไทย
10. การวัดผลและประเมินผล เป้าหมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธวี ดั เครื่องมอื วัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ชนิ้ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การใหค้ ะแนน คำถามจากใบ สนทนาแลกเปลย่ี น ถ้อยคา นา้ เสยี ง สีหน้า งาน ประเมนิ การสนทนา 5 คะแนน ดีมาก ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง และอากปั กิริยาท่ีใช้ใน การสนทนา โดยใช้แบบประเมนิ 4 คะแนน ดี การสนทนากจิ กรรมคู่ 3 คะแนน ปานกลาง และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดับ 2 คะแนน พอใช้ พอใช้ 1 คะแนน ปรบั ปรงุ 11. การบูรณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรียน หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจ ครู ผูเ้ รยี น พอเพยี ง พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดดี ้านจติ ใจ 1. ความพอประมาณ ร้จู ักใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตส่ือท่ี มีจิตสำนึกทีด่ ี เออื้ อาทร 2. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคล้องเนอ้ื หาเปน็ ประนปี ระนอม นกึ ถึงประโยชน์ 3. มีภูมคิ มุ กันในตวั ทดี่ ี 4. เงื่อนไขความรู้ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรียนและพัฒนาจากภมู ิ ส่วนรวม/กล่มุ ปญั ญาของผู้เรยี น - ยดึ ถือการประกอบอาชีพด้วยความ ไม่หยุดน่ิงทหี่ าหนทางในชวี ติ หลดุ พน้ ถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยูใ่ นภาวะขาด จากความทุกข์ยาก (การค้นหาคำตอบ แคลน ในการดำรงชีวติ เพื่อใหห้ ลุดพ้นจากความไม่ร)ู้ ภมู ปิ ัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวงั ระมดั ระวงั สรา้ งสรรค์ ความรอบร้รู อบด้าน ความ ความรอบรูป้ รมิ าณทเี่ ก่ยี วขอ้ ง การ รอบคอบทจ่ี ะนำความรเู้ หล่านั้นมา คำนวณสูตรท่ีต้องใช้ สามารถนำ พิจารณาให้เชื่อมโยงกนั เพื่อ ความรเู้ หล่านั้นมาพจิ ารณาให้เชื่อมโยง ประกอบการวางแผน การดำเนนิ การ กนั สามารถประยกุ ต์ ใชใ้ นชีวิตประจำวัน
จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ใหก้ บั ผูเ้ รียน 5. เงอื่ นไขคุณธรรม มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนักใน คุณธรรม มี ความซือ่ สัตยส์ ุจริตและมีความอดทน ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริตและมีความอดทน มีความเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการ มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการ ดำเนินชวี ิต ดำเนนิ ชีวิต สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ครู ผเู้ รยี น คำศัพท์ทีเ่ กียวกับรายวิชา การนำสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน -จับใจความสำคญั จากบทสนทนา สวนพฤกษศาสตร์ บูรณา การสกู่ ารเรยี นการสอน นทิ าน เร่อื งสั้น เกยี่ วกับตน้ ไม้ สิง่ แวดล้อม ครู ผ้เู รียน คำศัพท์และการบรรยายเกยี ว - การใช้สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี นเปน็ - พดู /เขยี นบรรยายข้อมลู เก่ียวกบั กับรายวชิ าสวนพฤกษศาสตร์ สื่อ การเรียนการสอน (พูด/เขียน ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ บรรยายขอ้ มลู เกีย่ วกับตนเอง กจิ วตั ร เกย่ี วกบั งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ประจำวนั ประสบการณ์ เก่ยี วกบั งาน สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น) ลงชอื่ ..................................................ผู้สอน (นางสาวพทิ ยา วิทยาจัดการ)
เกณฑ์การประเมินความสามารถในการสนทนา ระดบั คะแนน นา้ หนัก ความสา ประเดน็ 4 3 2 1 คะแนนรวม การประเมนิ คญั ออกเสยี งถกู ต้องตาม ออกเสยี งถกู ต้อง ออกเสียงถกู ต้อง ออกเสียง 4 การออกเสยี ง หลกั การ ตามหลกั การ เป็นบางส่วน ไม่ถกู ต้อง 1 ออกเสียง มีเสียง ออกเสียง แตพ่ อเข้าใจ ทาให้ไมเ่ ข้าใจ 12 คาศัพท์ สานวน และ เน้นหนกั ในคา/ เป็นส่วนใหญ่ 12 โครงสร้ างภาษา ประโยคอย่าง ใช้คาศพั ท์ สานวน ใช้คาศพั ท์ สานวน 3 8 สมบรู ณ์ ใช้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้ าง และโครงสร้ าง 4 เนือ้ หา ใช้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้ าง ประโยคแบบ ประโยคแบบ 3 และโครงสร้ างภาษา ประโยคถกู ต้อง ง่าย ๆ และ งา่ ย ๆ และ 2 40 ความ ถกู ต้องและ เป็นส่วนใหญ่ มีข้อผดิ บ้าง มีข้อผดิ มาก 1 คล่องแคล่ว เหมาะสม แต่ไม่หลากหลาย เนอื ้ หาถกู ต้อง เนอื ้ หาไมถ่ กู ต้อง เนอื ้ หาถกู ต้อง เป็นบางส่วน หรือมีข้อผิดมาก การแสดงท่าทาง เนอื ้ หาถกู ต้อง เป็นสว่ นใหญ่ และนา้ เสียง มรี ายละเอียด พดู คล้ายแบบ พดู เป็นแบบ ครบถ้วนสมบรู ณ์ พดู ติดขดั บางครัง้ ท่องจา พอส่อื สาร ท่องจา ตะกกุ ตะกกั ประกอบการพดู พดู ได้อย่าง แตย่ งั สามารถ ได้บ้าง สอ่ื สารได้น้อยมาก เป็นธรรมชาติ สือ่ สารได้ชดั เจน หรือไม่ได้เลย คล่องแคลว่ พดู โดยไม่แสดง พดู โดยไม่แสดง ส่ือสารได้ชดั เจน แสดงทา่ ทางและ ทา่ ทางประกอบ ท่าทางประกอบ แสดงท่าทางและ พดู ด้วยนา้ เสยี ง นา้ เสียงคล้าย นา้ เสยี งเป็น พดู ด้วยนา้ เสียงที่ ท่ีเหมาะสมกบั การอ่านหรือ การพดู แบบท่องจา เหมาะสมกบั บทบาท บทบาทและ การทอ่ งจา และสถานการณด์ ี สถานการณ์ มาก ในระดบั ดี รวม 10 หมายเหตุ นาคะแนนทงั้ หมดหาร 2
ใบงาน หนงั สือ New World หนา้ 6
แบบบันทึกหลงั สอน ผลการจดั การเรยี นรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ลงชือ่ …………………………………..….…………………….. ( นางสาวพิทยา วทิ ยาจดั การ ) นักศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู วันท่ี......เดือน..................พ.ศ............
ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ......................................................ผู้ตรวจ (นายชาญยุทธ สุทธิธรานนท์) ครพู ่ีเลยี้ ง วนั ท่ี ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………………………………….... (นางวลิ าวลั ย์ ปาลี) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 วันท่ี ....../ ........... / ........
ผังมโนทัศน์ รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 21101 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง Where Are You Going? จำนวน 15 ชั่วโมง : 10 คะแนน Traveling + กิจกรรม New Languag (5 ชัว่ โมง) หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง Where Are You Going? จำนวน 15 ชัว่ โมง โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ A Trip To Iceland - Present Progressive : Question - ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ประเทศไอซแ์ ลนด์ - with - คำศัพทแ์ ละสำนวนภาษาที่เกี่ยวขอ้ ง - What - Yes/No (5 ชัว่ โมง) - Questions (5 ชั่วโมง)
แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง Where Are You Going? แผนจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง Traveling รายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ 21101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 นำ้ หนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 5 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสำคญั หน่วยการเรยี นรนู้ ้มี ีจดุ มงุ่ หมายใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงบทสนทนาโต้ตอบระหวา่ งผู้โดยสารและเจา้ หนา้ ท่ี ภาคพื้นดินของสายการบินและระหว่างผู้โดยสารด้วยกัน ฟังประกาศที่สนามบิน พูดบรรยายเหตุการณ์ที่กำลังเกิด ในขณะท่ีกำลังรอเครื่องบิน เขียนบรรยายเกี่ยวกับสถานที่ท่องเท่ียวท่ีน่าสนใจในประเทศไทย และค้นคว้าข้อมูล เกย่ี วกับสถานทท่ี ่ีตอ้ งการไปพักผ่อนตอนปดิ ภาคเรยี น และนำเสนอในช้นั เรยี น 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั ช้ันปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ (ใหต้ รงกับหลกั สตู รแกนกลาง 2551 ปรับปรุง 2560) ต 1.1 ม.2/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองสั้น ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ต 1.1 ม.2/4 เลือกหัวข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั บอกรายละเอยี ด สนับสนนุ (supporting detail) และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังและอ่าน พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างง่าย ๆ ประกอบ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge - ภาษาทีใ่ ช้ส่ือสารในสนามบนิ - คำศัพทแ์ ละสำนวนภาษาทีเ่ ก่ียวข้อง - โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ Present Progressive 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process - อ่านออกเสยี งบทสนทนาถูกต้องตามหลักการอา่ น - ระบุรายละเอยี ดจากข้อมลู ที่ฟงั และอ่าน 3.3 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude - ใช้ภาษาถกู กาลเทศะ - มัน่ ใจในการใช้ภาษา 4. สมรรถนะสำคัญของนกั เรยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา ใหเ้ ลือกเฉพาะท่ตี รงหรือสอดคล้องกบั กิจกรรมการเรยี นในหน่วยน้ีและตอ้ งประเมนิ ได้ 1. การฟัง : ระบรุ ายละเอียด 2. การพูด : สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มลู เก่ียวกับการเดนิ ทางทอ่ งเที่ยว 3. การอา่ น : อา่ นออกเสียงและระบรุ ายละเอยี ด 4. การเขยี น : เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สถานทีท่ ่องเที่ยวทีน่ ่าสนใจ 6. คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ รทู้ ันโลก : การเรียนรู้หรือเดนิ ทางท่องเที่ยวทำใหเ้ หน็ โลกกวา้ ง 7. ช้ินงาน/ภาระงาน 1. การแสดงบทบาทสมมตจิ ากบทสนทนาที่ฟังและอ่านได้ 2. คำตอบท่ีไดจ้ ากการทำกจิ กรรม Language Check 8. กิจกรรมการเรียนรู้ (จัดกิจกรรมการเรยี นรูโ้ ดยใชก้ ระบวนการใด แสดงตามขนั้ ตอน : เวลาทใี่ ช้ 5 ช่ัวโมง ช่ัวโมงที่ 1-2 (ความสามารถในการวิเคราะห/์ ใฝ่เรยี นร้/ู เทคนคิ การสืบคน้ ) 1. นำเขา้ ส่บู ทเรียน - ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยเดินทางโดยเคร่ืองบินหรือไม่ และถ้าเคยเดินทางโดยเครื่องบิน นักเรียน ต้องทำอะไรบ้างเมื่อถึงท่าอากาศยานหรือก่อนจะข้ึนเครื่องบิน ครูพยายามกระตุ้นให้นักเรียนพูดเป็นภาษาอังกฤษ เท่าทส่ี ามารถทำได้ และครูให้ความชว่ ยเหลอื นักเรียนในเรอ่ื งคำศพั ท์ ครูอาจใชค้ ำถาม ดงั นี้ - Have you ever travelled by plane? - What do you have to do when you got to the airport? - What do you have to do before you boarded a plane? - ครูให้นักเรียนระดมพลงั สมองเกี่ยวกับคำศัพทภ์ าษาอังกฤษท่ีเกี่ยวข้องกับ air travel มอี ะไรบ้าง โดยครู ใช้คำถาม ดังน้ี What English words related to air travel? และครูเขียนคำศัพท์ที่นักเรียนบอกบนกระดาน เชน่ - airplane - airport - luggage - arrival - departure แล้วครถู ามความหมายคำศพั ท์ท่นี ักเรียนบอก และใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงพร้อมกนั 2. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ครบู อกนักเรยี นวา่ ในหนว่ ยการเรียนรูน้ ี้นกั เรียนจะได้ฟังและอา่ นบทสนทนาเก่ยี วกบั การพดู โตต้ อบ ระหวา่ งผู้โดยสารกับเจา้ หนา้ ทภ่ี าคพ้ืนดิน แลว้ สามารถอ่านออกเสียงบทสนทนาและระบรุ ายละเอยี ดจากการฟัง และอ่านบทสนทนาได้ 3. ฟงั และอา่ นบทสนทนา - ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพในกจิ กรรม New Language ในหนงั สือเรียน หนา้ 8 และถามนักเรียนว่าเกิดอะไร ขึน้ ในภาพ โดยใช้คำถามว่า What is happening? และครูพยายามใหน้ ักเรียนบอกให้มากที่สดุ เท่าทจี่ ะมากได้ และครใู ช้คำถามนำในการท่ีจะช่วยใหน้ ักเรยี นพูด เช่น - Where are the people? - What are they doing? - ครใู หต้ ัวอยา่ งคำตอบ เช่น They are at the airport. The people are checking in for their flights. - ครูอ่านคำส่ังในกิจกรรม New Language และให้นักเรียนดูข้อความในถ้อยคำพูดจากภาพในหนังสือ เรียน หน้า 8 หลังจากนั้นครูให้นักเรียนจับคู่และอ่านออกเสียงคำศัพท์ที่นักเรียนทราบ และครูให้นักเรียน อาสาสมคั รอ่านคำศัพท์ที่ทราบใหค้ รูและเพื่อนฟงั - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 9 ให้นักเรียนฟังและช้ีไปที่ภาพคนที่กำลังคุยกันท่ีตรงกับที่นักเรียน ฟงั - ครูทบทวนคำศัพท์ในบทสนทนา และให้นักเรียนอธิบายความหมายคำศัพท์ท่ีไม่คุ้นเคย โดยครูบอกให้ นกั เรียนเดาจากบริบท - ครูเลือกนักเรยี น 1 คู่ ให้อ่านออกเสียงบทสนทนา ครูคอยช่วยเหลือและแก้ไขการออกเสียงคำศัพท์และ การใช้เสยี งสูงตำ่ ในบทสนทนา - ครใู ห้นกั เรียนฟังซีดบี ันทึกเสียง CD 1 Track 9 อีกครงั้ และให้นักเรยี นฝึกอา่ นบทสนทนา - ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่อา่ นออกเสยี งบทสนทนาให้ครูและเพอ่ื นฟงั หนา้ ช้ันเรยี น ครปู ระเมนิ การอา่ นออก เสยี งโดยใชแ้ บบประเมินการอ่านออกเสยี ง และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้ - ครูให้นักเรียนจับคู่แต่งบทสนทนา โดยให้นักเรียนคนท่ี 1 อ่านคำถามจากบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 8 และคนที่ 2 ตอบโดยใช้ข้อมูลของนักเรียนเอง หลังจากนั้นครูให้นักเรียนสลับบทบาทกัน ครูให้นักเรียน อาสาสมัครอา่ นบทสนทนาท่นี ักเรยี นแตง่ เองใหค้ รูและเพื่อนฟงั หนา้ ชนั้ เรียน ครกู ลา่ วชมนกั เรียนคู่ดงั กลา่ ว - ครูอธบิ ายสรุปเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงสรา้ งประโยค ที่ใช้ Verb to be และ Verb + ing ว่าเป็นโครงสร้าง Present Progressive หลังจากนน้ั ครใู หน้ ักเรยี นพดู เกีย่ วกับกิจกรรมทน่ี กั เรียนกำลังกระทำคนละ 1 ประโยค - ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลใน Boarding Pass แล้วให้นักเรยี นพูดบอกความหมายของคำศัพท์แต่ละคำท่ี ปรากฏใน Boarding Pass
- ครูอ่านข้อมลู ใน Boarding Pass แลว้ ให้นักเรยี นอา่ นตามครู - ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ ประตูทางเขา้ และหมายเลขทีน่ ่งั ทท่ี ่าอากาศยาน มกั ใช้ผสมผสานกนั ระหว่างตัวเลข และพยัญชนะ และครูอธบิ ายเกี่ยวกบั รหัส 3 ตัวที่ใช้โดยเขยี นบนกระดานใหน้ กั เรยี นดู ตัวอย่างเชน่ JFK is New York City’s John F. Kennedy Airport. SYD is for Sydney, Australia. - ครูอธิบายเก่ยี วกับ Frequent Flyer Programs วา่ เปน็ โปรแกรมท่ีสายการบนิ เสนอเพื่อมดั ใจลูกคา้ เชน่ การเดนิ ทางฟรี หรือการขอบคณุ กรณพี เิ ศษ เป็นต้น - ครูอธบิ ายว่าแต่ละสายการบินมีความแตกตา่ งกนั มหี ลายระดับ คอื ระดับ economy หรือ coach เป็น ระดับท่ีราคาถูกท่ีสุด ระดับ business class เป็นสายการบินสำหรับนักธุรกิจ ระดับ first class เป็นระดับที่มี คา่ บริการแพงทีส่ ุด สำหรบั ระดบั business class และ first class มีการบริการที่นงั่ ท่ีใหญ่กว่า สะดวก สบายกว่า มีบรกิ ารอาหารและเคร่ืองดมื่ - ครูให้นักเรยี นตอบคำถามเพื่อประเมินความเข้าใจเกย่ี วกบั เนื้อหาใน Boarding Pass โดยใช้คำถาม เชน่ - What time is the flight boarding? - What seat is Mr. Roberts in? - ครเู ปดิ ซีดีบนั ทกึ เสียง CD 1 Track 9 ให้นกั เรียนฟังและอ่านตาม - ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพในหนังสอื เรียน หน้า 9 และถามนกั เรียนวา่ เกดิ อะไรขน้ึ ในภาพน้นั โดยใชค้ ำถามวา่ - What is happening? - ครอู ธิบายนักเรียนว่า ผู้โดยสารจะต้องได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนขน้ึ เครื่องบินทุกคร้ัง พวก เขาต้องเดินผา่ นเครอื่ งสแกนเพือ่ ตรวจหาปืนหรอื วตั ถรุ ะเบดิ - ครูเขียนตัวอย่างบทสนทนาและอ่านออกเสียงบทสนทนาให้นักเรียนฟัง หลังจากนั้นให้นักเรียน อาสาสมัครอา่ น - ครถู ามนักเรียนเกยี่ วกับบทสนทนาท่อี า่ นในหนงั สือเรยี น หน้า 9 เพ่อื ประเมินความเขา้ ใจ โดยใช้คำถาม - What is the boy taking? (Teddy bear) - What clothing do the passengers need to take off? (belt, shoes, and jewelry) - ครูและนักเรียนอ่านประโยคบอกเล่าในกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรียน หน้า 9 และครู ตรวจสอบ ความเข้าใจของนักเรียน และเปิดโอกาสให้ถามถ้านักเรียนไม่เข้าใจ หลังจากน้ันให้นักเรียนดูภาพใน หนังสือเรียน หน้า 8-9 เพื่อทำกิจกรรม Language Check โดยให้นักเรียนเขียน true or false ลงหน้าประโยค เหลา่ นน้ั - ครูและนักเรียนตรวจสอบคำตอบร่วมกัน (ดเู ฉลยท้ายเล่ม) ช่ัวโมงท่ี 3-4 (ขัน้ ขยายความรู้และนำเสนอผลการค้นหาคำตอบ)
- ครูทบทวนคำศัพท์ในบทสนทนา และให้นักเรยี นอธิบายความหมายคำศัพท์ท่ไี มค่ นุ้ เคย โดยครบู อกให้ นกั เรยี นเดาจากบริบท - ครูเลือกนกั เรียน 1 คู่ ให้อ่านออกเสยี งบทสนทนา ครูคอยช่วยเหลอื และแก้ไขการออกเสียงคำศัพท์และ การใช้ เสียงสูงตำ่ ในบทสนทนา - ครใู หน้ ักเรียนฟังซดี บี นั ทึกเสยี ง CD 1 Track 9 อีกคร้ัง และให้นกั เรียนฝกึ อา่ นบทสนทนา - ครูให้นกั เรยี นจบั คู่อา่ นออกเสียงบทสนทนาใหค้ รูและเพอื่ นฟงั หนา้ ชนั้ เรยี น ครูประเมนิ การอ่านออก เสียงโดยใชแ้ บบประเมินการอ่านออกเสียง และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้ - ครูให้นักเรียนจับคู่แต่งบทสนทนา โดยให้นักเรียนคนท่ี 1 อ่านคำถามจากบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 8 และคนท่ี 2 ตอบโดยใช้ข้อมูลของนักเรียนเอง หลังจากน้ันครูให้นักเรียนสลับบทบาทกัน ครูให้นักเรียน อาสาสมคั รอา่ นบทสนทนาท่ีนกั เรยี นแต่งเองให้ครูและเพ่ือนฟังหน้าช้นั เรยี น ครกู ล่าวชมนักเรยี นคู่ดังกล่าว - ครอู ธบิ ายสรุปเพิ่มเติมเก่ียวกับโครงสร้างประโยค ที่ใช้ Verb to be และ Verb + ing ว่าเป็นโครงสร้าง Present Progressive หลงั จากน้ันครูใหน้ ักเรียนพูดเก่ยี วกบั กิจกรรมท่ีนักเรียนกำลงั กระทำคนละ 1 ประโยค - ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลใน Boarding Pass แล้วใหน้ ักเรียนพูดบอกความหมายของคำศัพท์แตล่ ะคำท่ี ปรากฏใน Boarding Pass - ครูอา่ นข้อมูลใน Boarding Pass แลว้ ให้นกั เรยี นอา่ นตามครู - ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ วา่ ประตูทางเข้าและหมายเลขทน่ี ั่งท่ีท่าอากาศยาน มักใช้ผสมผสานกนั ระหว่างตวั เลข และพยญั ชนะ และครอู ธบิ ายเกี่ยวกับรหัส 3 ตัวทใ่ี ช้โดยเขียนบนกระดานใหน้ ักเรียนดู ตัวอยา่ งเช่น JFK is New York City’s John F. Kennedy Airport. SYD is for Sydney, Australia. - ครูอธบิ ายเก่ยี วกบั Frequent Flyer Programs วา่ เปน็ โปรแกรมท่ีสายการบินเสนอเพื่อมดั ใจลูกคา้ เช่น การเดนิ ทางฟรี หรอื การขอบคุณกรณพี เิ ศษ เป็นตน้ - ครอู ธบิ ายว่าแต่ละสายการบินมีความแตกต่างกนั มหี ลายระดับ คอื ระดับ economy หรือ coach เป็น ระดับท่ีราคาถูกท่ีสุด ระดับ business class เป็นสายการบินสำหรับนักธุรกิจ ระดับ first class เป็นระดับท่ีมี ค่าบริการแพงทสี่ ดุ สำหรับระดับ business class และ first class มีการบริการท่ีนั่งที่ใหญ่กว่า สะดวก สบายกว่า มบี ริการอาหารและเครอื่ งดมื่ - ครูใหน้ ักเรียนตอบคำถามเพ่ือประเมนิ ความเข้าใจเกยี่ วกับเนือ้ หาใน Boarding Pass โดยใชค้ ำถาม เช่น - What time is the flight boarding? - What seat is Mr. Roberts in? - ครูเปดิ ซดี บี ันทกึ เสยี ง CD 1 Track 9 ให้นกั เรียนฟงั และอ่านตาม
- ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพในหนังสือเรยี น หนา้ 9 และถามนกั เรียนวา่ เกิดอะไรข้ึนในภาพนน้ั โดยใชค้ ำถามว่า - What is happening? - ครอู ธิบายนักเรียนว่า ผู้โดยสารจะต้องได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนขึ้นเคร่ืองบินทุกครั้ง พวก เขาต้องเดินผ่านเครอ่ื งสแกนเพื่อตรวจหาปืนหรือวัตถุระเบดิ - ครูเขียนตัวอย่างบทสนทนาและอ่านออกเสียงบทสนทนาให้นักเรียนฟัง หลังจากน้ันให้นักเรียน อาสาสมคั รอา่ น - ครถู ามนักเรยี นเกยี่ วกบั บทสนทนาทอ่ี า่ นในหนงั สอื เรียน หน้า 9 เพอ่ื ประเมนิ ความเขา้ ใจ โดยใช้คำถาม - What is the boy taking? (Teddy bear) - What clothing do the passengers need to take off? (belt, shoes, and jewelry) - ครูและนักเรียนอ่านประโยคบอกเล่าในกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรียน หน้า 9 และครู ตรวจสอบ ความเข้าใจของนักเรียน และเปิดโอกาสให้ถามถ้านักเรียนไม่เข้าใจ หลังจากนั้นให้นักเรียนดูภาพใน หนังสือเรียน หน้า 8-9 เพ่ือทำกิจกรรม Language Check โดยให้นักเรียนเขียน true or false ลงหน้าประโยค เหลา่ น้นั - ครแู ละนกั เรียนตรวจสอบคำตอบร่วมกนั (ดเู ฉลยท้ายเล่ม) ชว่ั โมงท่ี 5 ( ขัน้ สรปุ และประเมินผล ) - ครูประเมินผลความเข้าใจจากจำนวนคำตอบท่ีถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 80 สนทนา จากนั้นครูพา นกั เรยี นอ่านทลี ะประโยคแลว้ ร่วมกนั แปลความหมายของบทสนทนานน้ั 9. สื่อการเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จำนวน สภาพการใช้สื่อ รายการสือ่ 1 ชดุ ขั้นตรวจสอบความรูเ้ ดิม 1 ชดุ ข้นั สร้างความสนใจ 1. หนังสือเรยี น New World 1 ชดุ ขั้นขยายความรู้ 2. คลิปเสยี งบทสนทนา 3. สอื่ บตั รคำศัพท์ 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการ วธิ วี ัด เครื่องมือวดั ฯ ประเดน็ / เกณฑ์การใหค้ ะแนน การเรียนรู้ เรยี นรู้
ชิน้ งาน/ภาระงาน - บอกความหมาย เขยี นตามคำบอก แบบทดสอบ เฉลยคำศัพทแ์ ละคำ 5 คะแนน ดีมาก แปล 4 คะแนน ดี คำศัพท์ เขียนตามคำ 3 คะแนน ปานกลาง แบบประเมินบทบาท 2 คะแนน พอใช้ รายละเอยี ดจาก บอก สมมติ (การสนทนา) 1 คะแนน ปรับปรงุ 5 คะแนน ดมี าก ข้อมูลที่ฟังและอ่าน 4 คะแนน ดี 3 คะแนน ปานกลาง ได้ 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ปรับปรุง - แสดงบทบาท แสดงบทบาทสมมติ แสดงบทบาท สมมติจากบท สมมตเิ ป็นกลุ่ม สนทนาทีฟ่ งั และ อ่านได้ 11. การบรู ณาการตามจุดเนน้ ของโรงเรียน หลักปรัชญาเศรษฐกจิ ครู ผู้เรียน พอเพยี ง พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดีด้านจติ ใจ 6. ความพอประมาณ รูจ้ ักใชเ้ ทคโนโลยมี าผลติ สอ่ื ท่ี มีจติ สำนึกที่ดี เอือ้ อาทร 7. ความมีเหตุผล เหมาะสมและสอดคลอ้ งเนอื้ หาเป็น ประนปี ระนอม นึกถึงประโยชน์ 8. มีภมู คิ มุ กนั ในตวั ทด่ี ี 9. เงอ่ื นไขความรู้ ประโยชนต์ ่อผเู้ รยี นและพฒั นาจากภมู ิ สว่ นรวม/กลุม่ ปญั ญาของผ้เู รยี น - ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความ ไม่หยุดนง่ิ ท่หี าหนทางในชวี ติ หลดุ พ้น ถูกต้อง สุจริต แมจ้ ะตกอยใู่ นภาวะขาด จากความทุกขย์ าก (การคน้ หาคำตอบ แคลน ในการดำรงชีวติ เพื่อใหห้ ลดุ พน้ จากความไมร่ )ู้ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ระมดั ระวัง ระมดั ระวัง สร้างสรรค์ ความรอบรู้รอบดา้ น ความ ความรอบรู้ปรมิ าณทเี่ กีย่ วข้อง การ รอบคอบทจ่ี ะนำความรู้เหล่าน้นั มา คำนวณสูตรท่ีต้องใช้ สามารถนำ พจิ ารณาให้เช่ือมโยงกัน เพื่อ ความรู้เหลา่ น้ันมาพิจารณาให้เชอื่ มโยง ประกอบการวางแผน การดำเนนิ การ กนั สามารถประยุกต์
จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ใหก้ บั ผู้เรียน ใชใ้ นชวี ิตประจำวัน 10. เงอื่ นไขคุณธรรม มีความตระหนักใน คุณธรรม มี มคี วามตระหนกั ใน คุณธรรม มี ความซ่ือสตั ย์สจุ ริตและมีความอดทน ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริตและมีความอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ติปญั ญาในการ มีความเพียร ใชส้ ติปัญญาในการ ดำเนินชวี ิต ดำเนนิ ชวี ติ สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น ครู ผเู้ รียน คำศัพทท์ ีเ่ กียวกับรายวิชา การนำสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน -จบั ใจความสำคญั จากบทสนทนา สวนพฤกษศาสตร์ บรู ณา การสกู่ ารเรยี นการสอน นทิ าน เร่อื งสน้ั เกีย่ วกบั ตน้ ไม้ ส่ิงแวดล้อม ครู ผู้เรยี น คำศพั ท์และการบรรยายเกียว - การใชส้ วนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียนเป็น - พูด/เขยี นบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับ กับรายวชิ าสวนพฤกษศาสตร์ สอ่ื การเรยี นการสอน (พูด/เขียน ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ บรรยายข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง กจิ วตั ร เก่ียวกับงานสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ประจำวนั ประสบการณ์ เก่ียวกบั งาน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน) ลงชือ่ ..................................................ผสู้ อน (นางสาวพิทยา วทิ ยาจัดการ) หมายเหตุ - บทสนทนาในกจิ กรรม New Language - กิจกรรม Language Check - เกณฑ์การคะแนนกจิ กรรมตอบคำถาม
บทสนทนาในกิจกรรม New Language กิจกรรม Language Check
เกณฑ์การคะแนนกจิ กรรมตอบคำถาม 5 คะแนน 4คะแนน 3คะแนน 2คะแนน 1คะแนน 0คะแนน (ปรบั ปรุง) (ไม่ผ่านเกณฑ)์ (ดีมาก) (ด)ี (ปานกลาง) (พอใช้) ตอบคำถามได้ ตอบคำถามไม่ถูก น้อยกว่า 2 ข้อ 0-1 คะแนน ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ 3-2 คะแนน ถกู ต้องท้ังหมด นอ้ ยกว่า 5 ข้อ น้อยกว่า4ขอ้ 5-6 น้อยกวา่ 3ขอ้ ได้ 9-10 คะแนน 7-8 คะแนน คะแนน ปานกลาง 4-5 คะแนน
แบบประเมินการแสดงบทบาทสมมติ ผูป้ ระเมิน กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ครู นกั เรยี น วิชา ภาคเรียนท่ี ปีการศกึ ษา ชัน้ / วันที่ เดือน พ.ศ... กลมุ่ ที่ ชือ่ -สกุล ูพดโต้ตอบได้ตรงประเด็น ข้อเสนอแนะ/ ใ ้ชภาษา ูถกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ข้อคิดเห็นเพ่ิมเตมิ แสดงบทบาทและใช้น้ำเสียงสมจริง น้ำเสียงชัดเจน ออกเสียงถูก ้ตอง ูพดคล่องแคล่ว รวม 111115 เกณฑก์ ารประเมนิ ลงชอื่ ……………………….ผปู้ ระเมิน (........................................) 5 คะแนน ดมี าก 4 คะแนน ดี 3 คะแนน ปานกลาง 2 คะแนน พอใช้ 1 คะแนน ควรปรบั ปรงุ
แบบบันทึกหลังสอน ผลการจดั การเรียนรู้ (Learning Outcome) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………… ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถ้ามี (Optional) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………..….…………………… ( นางสาวพิทยา วทิ ยาจดั การ )
นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู วนั ท.ี่ .....เดือน..................พ.ศ............ ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ......................................................ผู้ตรวจ (นายชาญยุทธ สุทธิธรานนท์) ครูพเ่ี ล้ยี ง วันท่ี ....../ ........... / ............. ความคิดเห็นของผู้บรหิ าร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………………………………………….... (นางวลิ าวัลย์ ปาลี) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 วนั ท่ี ....../ ........... / ........
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147