Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore JOURNAL-BMRC14-002-3

JOURNAL-BMRC14-002-3

Published by pollajan.y, 2019-11-12 03:37:37

Description: JOURNAL-BMRC14-002-3

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวจิ ยั คร้งั ที่ 14 “50 ปี มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม ผู้มปี ัญญาพงึ เป็นอยเู่ พอ่ื มหาชน: 50 years Mahasarakham University: Public Devotion is a Virtue of the Learned” วนั ท่ี 6-7 เดือนกนั ยายน พ.ศ. 2561 ณ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม “สาขาบรกิ ารวิชาการ” กองสง่ เสริมการวจิ ัยและบริการวชิ าการ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม

เจา้ ของ: กองสง่ เสรมิ การวิจัยและบรกิ ารวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ทีป่ รกึ ษา: ศาสตราจารย์ ดร.สัมพนั ธ์ ฤทธิเดช รองศาสตราจารย์ ดร.ประยกุ ต์ ศรวี ิไล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ฉนั ทนา เวชโอสถศักดา ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกพร รัตนสธุ ีระกลุ อาจารย์ ดร.สมุ ลวรรณ ชมุ่ เชื้อ อาจารย์ ดร.มลฤดี เชาวรตั น์ ผู้ช่วยศาสตราจารยศ์ ศิธร แกว้ มน่ั อาจารยศ์ กั ด์เิ จริญ ภวภูตานนท ์ อาจารย์กนกกลุ มาเวยี ง อาจารย์สนั ทนา ภริ มย์เกยี รต ิ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จนิ ดาพร จำ�รัสเลิศรกั ษ์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.วิภาวี ไทเมืองพล อาจารยว์ รรณา ค�ำ ปวนบตุ ร นางฉววี รรณ อรรคะเศรษฐัง เรยี บเรียง: นางวชั ญา ออ่ นนางใย คณะท�ำ งาน: นายสถาพร กินณรนิ ทร์ นายบรรจง บรุ ินประโคน ออกแบบรูปเลม่ : นายปรชี า ศรบี ญุ เศษ

คำ�นำ� เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานฉบับนี้เป็นส่วนหน่ึงของงานประชุมวิชาการมหาวิทยาลัย มหาสารคามวิจัย ครั้งท่ี 14 “50 ปี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้มีปัญญาพึงเป็นอยู่เพ่ือมหาชน: 50 years Mahasarakham University: Public Devotion is a Virtue of the Learned” สาขา บริการวิชาการแก่สังคม จัดทำ�ข้ึนเพ่ือเป็นเอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานและเผยแพร่ผลงาน โครงการท่ีได้รับทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และเพื่อ เป็นการแลกเปล่ียนเรียนรู้ เสนอความคิดเห็น ประเด็นปัญหา และหาวิธีการพัฒนาปรับปรุงแก้ไข การใหบ้ รกิ ารวิชาการแกส่ งั คม ของมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากข้นึ ทง้ั นี้ หาก มีข้อผิดพลาดประการใด ทางกองส่งเสริมการวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พรอ้ มที่จะน้อมรบั ข้อเสนอแนะดงั กล่าวทุกประการ กองส่งเสรมิ การวจิ ัยและบรกิ ารวชิ าการ มหาวิทยาลยั มหาสารคาม กันยายน 2561

สารบัญ ช่ือโครงการ หนา้ ผลการจัดการเรยี นรู้ของการพัฒนาปา่ โคกข่าวและชุมชนต�ำ บลเหล่าดอกไม้ใหเ้ ปน็ แหลง่ เรยี นร้แู บบมีชีวิตเพ่อื ส่งเสริม การทอ่ งเท่ียวเชิงนิเวศในจังหวัดมหาสารคามแบบการปฏิบัตกิ ารมีส่วนรว่ ม กรณ:ี องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำ�บล เหลา่ ดอกไม้ อำ�เภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม 7 กนกกุล มาเวยี ง, พิมพพ์ ร ภคู รองเพชร, วรรณา คำ�ปวนบตุ ร, ธายุกร พระบ�ำ รุง, ปฏิวตั ิ ฤทธเิ ดช, อจั ฉริยา อิสระไพบูลย์ โครงการบริการวชิ าการแบบมุ่งเป้า การบูรณาการการสร้างชมุ ชนตน้ แบบท่สี ามารถพึง่ พาตนเองได้ตามอตั ลกั ษณ์และเอกลักษณ์ของชุมชน อำ�เภอชน่ื ชม จงั หวดั มหาสารคาม 24 สมุ ลวรรณ ชมุ่ เช้อื และคณะ โครงการบริการวชิ าการแบบมุง่ เปา้ แนวทางการพฒั นาพ้ืนทศี่ ูนยก์ ารเรยี นรแู้ ละทอ่ งเท่ยี วเชงิ นเิ วศวฒั นธรรมหนองเรอื : องค์การบริหารสว่ นตำ�บลกมลาไสย อำ�เภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสนิ ธ ุ์ 31 วชิ าภรณ์ ช�ำ นกิ ำ�จร และคณะ โครงการบูรณาการหนงึ่ หลกั สูตรหนงึ่ ชุมชน การพฒั นาต้นแบบการดูแลสขุ ภาพของผูส้ ูงอายใุ นชุมชน 38 ดรุณี รจุ กรกานต์ และคณะ โครงการบรู ณาการหนงึ่ หลักสตู รหน่ึงชุมชน นวตั กรรมเพ่อื พฒั นาสมรรถนะดา้ นการส่อื สารส�ำ หรบั นักเรียนระดับการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน กลมุ่ โรงเรยี นทา่ ประทาย-โนนตูม ต�ำ บลเกงิ้ อำ�เภอเมือง จงั หวดั มหาสารคาม 46 ประสงค์ สายหงษ์, ดนิตา ดวงวิไล และ มานิตย์ อาษานอก โครงการบูรณาการหน่ึงหลักสูตรหนึง่ ชุมชน การพัฒนาเครือข่ายเกษตรอนิ ทรยี ์ ตลาดโรงเรียน สูค่ วามยงั่ ยนื ของชุมชน 58 องอาจ ญาตนิ ยิ ม และคณะ โครงการบรู ณาการหนึง่ หลักสูตรหนึ่งชุมชน โรงเรียนตน้ แบบการสร้างพลเมืองเพอ่ื เสรมิ สร้างประชาธิปไตยจากฐานราก 68 ศราวฒุ ิ วสิ าพรม และ วชิรวตั ติ์ อารยิ ะสิริโชติ โครงการบรู ณาการหนึง่ หลกั สตู รหน่งึ ชมุ ชน การบรู ณาการความรู้ดา้ นวิทยาศาสตร์สขุ ภาพในการเฝ้าระวงั โรคหนอนพยาธิในชุมชนต�ำ บลแกง่ เลิงจาน อ�ำ เภอเมือง จังหวดั มหาสารคาม 73 ปยิ าภรณ์ แสนศลิ า และคณะ โครงการบรู ณาการหนึ่งหลักสูตรหน่งึ ชุมชน

สารบัญ (ตอ่ ) หนา้ 78 ชือ่ โครงการ การกกั เกบ็ คารบ์ อนในมวลชวี ภาพและมูลค่าของป่าชุมชนบา้ นน�ำ้ จน้ั อำ�เภอเมอื ง จังหวัดมหาสารคาม 88 พาทิศ สทิ ธโิ ชติ, สิทธิกร วงศศ์ ร,ี ธายกุ ร พระบ�ำ รุง, ธรพร บศุ ย์น�ำ้ เพชร, นพิ นธ์ ตนั ไพบลู ยก์ ุล, 95 105 ชฤพนธ์ เจริญสขุ , กนกวรรณ ศกุ รนันทน,์ พรหมมา จนั ทแมน, ทรงศักด์ิ กะตารตั น์, ปัญญา บุตะกะ 109 โครงการบรู ณาการหนึ่งหลักสูตรหนง่ึ ชุมชน 115 การพัฒนากระบวนการแปรรปู ข้าวอนิ ทรยี ์คณุ ภาพสงู : ชุดอุปกรณ์แช่และเพาะงอกขา้ วเปลอื กในขนั้ ตอนเดียว 121 ส�ำ หรับการผลิตข้างฮางงอก 127 สพุ รรณ ยง่ั ยนื และคณะ โครงการบรู ณาการหนงึ่ หลกั สูตรหนึ่งชุมชน การเล้ยี งแหนแดง ปลา และเป็ดในนาข้าวท่มี ผี ลต่อผลผลิตและคณุ ภาพของขา้ วขาวดอกมะลิ 105 ด้วยการใช้ปยุ๋ อินทรียช์ วี ภาพในระบบอนิ ทรยี ์ พีระยศ แขง็ ขนั และคณะ โครงการบรู ณาการหนึ่งหลกั สูตรหนง่ึ ชมุ ชน การบรู ณาการการจัดการสุขภาพและระบบสืบพนั ธ์ุโคนมเพ่ือเพ่ิมประสิทธภิ าพฟาร์มโคนม ในกล่มุ ผเู้ ล้ียงโคนมจงั หวดั มหาสารคาม ปฏญิ ญา ปะทเิ ก และคณะ โครงการบูรณาการหนงึ่ หลักสูตรหนึ่งชุมชน หมอยาอาสา Care ธารนิ ี ศรีศักดิน์ อก และคณะ โครงการบูรณาการหน่ึงหลกั สูตรหนง่ึ ชมุ ชน การพัฒนาชุมชนตน้ แบบเครอื่ งจกั สานหวายหมู่บ้านวงั ไผส่ เู่ ศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ไทยแลนด์ 4.0 สุมิตรา จิระวฒุ ินนั ท์, อจั ฉรยิ า อสิ สระไพบูลย์ และ เอกภมู ิ วงษาไฮ โครงการบูรณาการหน่ึงหลกั สตู รหนึ่งชุมชน การให้ความร้แู กเ่ ดก็ มัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนอนบุ าลมหาสารคาม เพื่อลดความเส่ียงในการตกเปน็ ผกู้ ระท�ำ ความผิด ตามพระราชบญั ญตั ิว่าด้วยการกระท�ำ ความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2560 อมรเทพ เมืองแสน และคณะ โครงการบูรณาการหนึ่งหลกั สูตรหนึ่งชมุ ชน การส่งเสรมิ การปลูกข้าวพน้ื เมอื งเพ่ือการอนรุ ักษ์พันธุกรรมพชื ในชุมชนบ้านวังจานโนนสำ�ราญ ต�ำ บลนาขา่ อ�ำ เภอวาปปี ทุม จังหวดั มหาสารคาม สมบัติ อัปมระกา และคณะ โครงการบรู ณาการหนง่ึ หลกั สูตรหนง่ึ ชุมชน



ผลการจัดการเรยี นรู้ของการพฒั นาป่าโคกขา่ วและชมุ ชนตาบลเหลา่ ดอกไมใ้ ห้เปน็ แหลง่ เรียนรูแ้ บบมี ชีวิตเพอ่ื สง่ เสริมการท่องเที่ยวเชิงนเิ วศในจังหวัดมหาสารคาม แบบการปฏิบัติการมีสว่ นร่วม กรณี : องค์การบรหิ ารส่วนตาบลเหล่าดอกไม้ อาเภอชน่ื ชม จังหวดั มหาสารคาม โครงการบรกิ ารวชิ าการแบบมงุ่ เป้า กนกกุล มาเวยี ง, พมิ พพ์ ร ภคู รองเพชร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วรรณา คาปวนบตุ ร คณะการทอ่ งเท่ียวและการโรงแรม ธายุกร พระบารงุ คณะสิง่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรศาสตร์ ปฏวิ ตั ิ ฤทธิเดช คณะวทิ ยาการสารสนเทศ อัจฉริยา อสิ ระไพบลู ย์ คณะการบญั ชีและการจดั การ บทคดั ย่อ การศึกษาครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning and Action; PLA) มีวตั ถปุ ระสงค์ (1) เพือ่ พัฒนาแหล่งเรยี นรแู้ บบมชี วี ิตเกย่ี วกับเสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติในป่าโคกขา่ ว และแหล่งวัฒนธรรมในชุมชน 4 หมู่บ้าน (2) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเก่ียวกับแผนที่ทรัพยากร ธรรมชาติและวัฒนธรรมให้แก่ชุมชนตาบลเหล่าดอกไม้ (3) เพ่ือพัฒนาเส้นทางนาเท่ียวเชิงนิเวศ สร้าง กลุ่มมัคคุเทศก์เชิงพื้นที่ และมัคคุเทศก์น้อย สาหรับรองรับกลุ่มนักท่องเท่ียวเชิงนิเวศ (4) เพ่ือพัฒนา ผลิตภัณฑ์จากพืชและผักธรรมชาติในป่าโคกข่าวให้เป็นสินค้า ของฝาก ของที่ระลึกเพ่ือส่งเสริมการ ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยศึกษาในพื้นที่ป่าโคกข่าวและหมู่บ้านที่มีเขตติดต่อกับป่าโคกข่าวในพื้นท่ีตาบล เหล่าดอกไม้ อาเภอชนื่ ชม จังหวัดมหาสารคาม จานวน 4 หม่บู ้าน ได้แก่ บา้ นนาคานอ้ ย หมู่ท่ี 1 บ้านสม้ กบ หมู่ท่ี 2 บ้านผักแว่น หมู่ท่ี 3 และบ้านผักแว่น หมู่ที่ 4 ขององค์การบริหารส่วนตาบลบ้านเหล่า ดอกไม้ ระหวา่ งเดือน 1 พฤษภาคม ถึง 30 กรกฎาคม 2561 การศึกษาแบง่ เป็น 5 ระยะคอื ระยะท่ี 1 เป็นการศึกษาหาความต้องการของชุมชน ระยะท่ี 2 เป็นระยะพัฒนาศักยภาพนิสิตของคณะจานวน 6 คณะๆละ 50 คน รวม 300 คนใหเ้ ข้าถึงขอ้ มูลจากชาวบ้าน ระยะท่ี 3 เป็นการสร้างกิจกรรมโดยการออก ภาคสนามโดยลงพื้นท่ีในชมุ ชนโดยพลังกลุ่มของนิสิต ซึ่งมีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ให้ขอ้ มูลแบบ เฉพาะเจาะจง ในกลุ่มชาวบ้าน กลุ่มผู้นาชุมชน กลุ่มอาสาสมัครเครือข่ายราษฎรอาสาพิทักษ์ป่าโคกข่าว (รสทป.) กลุ่มแกนนาสตรี จานวน 200 คน ระยะที่ 4 การเก็บรวบรวมข้อมูลจะใช้วิธีการสังเกตแบบมี ส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม การสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม ระยะท่ี 5 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ วธิ ีการวเิ คราะหเ์ ชิงเน้ือหาและสะทอ้ นข้อมลู แกช่ มุ ชน ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มนิสิตและชุมชนเกิดการเรยี นรู้รูปแบบการมีสว่ นร่วมตามวัตถุประสงค์ ทั้งส่ีข้อ และมีทัศนคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ดังกล่าว ซึ่งถือว่าสามารถเป็นแกนนาในการขับเคล่ือนการศึกษา และทากิจกรรมเพ่ือคนในชุมชน โดยการมีส่วนร่วมระหว่างอาจารย์ นิสิตและชุมชน และก่อให้เกิด กิจกรรมในการสง่ เสริมการเรียนรใู้ นชุมชนอยา่ งตอ่ เนื่อง คาสาคญั การเรียนรู้แบบเชงิ ปฏบิ ัติของการมีสว่ นรว่ ม การท่องเทีย่ วเชงิ นิเวศ แหลง่ เรียนรู้แบบมชี ีวิต

8I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวิจยั คร้งั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” 1. บทนา ตามที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้การกาหนดปรัชญาว่า \"พหูน ปณฺฑิโต ชีเว\" แปลว่า ผู้มี ปัญญาพึงเป็นอยู่เพื่อมหาชน จงึ ได้กาหนดเป็นแนวปฏิบัติของหลักสูตรต่างๆในมหาวิทยาลัยฯ ได้ดาเนิน จัดการเรียนการสอนมุ่งด้านทักษะความรู้ ทักษะทางปัญญาคู่คุณธรรมอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการนา ความรู้และประสบการณ์มาใช้การพัฒนาหรือบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน( สานักงานรับรอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน). 2555 : 37) ซ่ึงได้กาหนดไว้ในกระบวนการ จดั การเรียนการสอนเปน็ ไปตามแนวทางที่กาหนดในพระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 แกไ้ ข เพิ่มเติม(ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2545 ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ(สานักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา. 2554 : 78) จึงมีการจัดรูปแบบการจัดการเรียนการสอนท่ีเหมาะสมและยืดหยุ่น โดยการมีส่วนร่วมจากบุคคล หรือ ชุมชนภายนอก โดยให้มกี ารจดั กระบวนการเรยี นรู้ทค่ี านึงถึงความแตกตา่ งเฉพาะตวั ของนสิ ิต ซ่งึ เป็นเร่ือง สาคัญมากต่อความสนใจใฝ่รู้และต่อศักยภาพในการแสวงหาความรู้ของนิสิต เช่นการฝึกประสบการณ์ ภาคสนามหรือนอกหอ้ งเรียน ดังนั้นผู้ศึกษาจึงไปแสวงหาพ้ืนที่ท่ีใช้ความรู้ทางวิชาการและได้เลือกชุมชนองค์การบริหารส่วน ตาบลบ้านเหล่าดอกไม้ อาเภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคามเป็นพื้นทศ่ี ึกษา ท้ังน้ีเพราะชุมชนดังกล่าวมีป่า โคกข่าวได้ประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อปี พ.ศ.2506 มีเขตพ้ืนท่ีตั้งอยู่ในอาเภอช่ืนชม จังหวัด มหาสารคาม มีพื้นท่ีรวมท้ังหมด 5,387 ไร่ ลักษณะของป่าโคกข่าวเป็นป่าเบญจพรรณที่อุดมสมบูรณ์ มี พ้ืนท่ีครอบคลุม 3 ตาบล 9 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย บ้านนาคาน้อย บ้านสมกบ บ้านผักแว่น หมู่ท่ี 3 และหมู่ท่ี 4 ตาบลเหล่าดอกไม้ บ้านโคกอินทนนิ บ้านหลุบแซง ตาบลหนองกุง บ้านน้าจัน่ บา้ นโคกกลาง บา้ นหนองหว้า ตาบลชนื่ ชม อาเภอชืน่ ชม จังหวัดมหาสารคาม ซ่งึ แต่เดมิ เป็นแหล่งไมเ้ พื่อการใชส้ อยของ ราษฎร จงึ มีการตัดไม้ แผ้วถางป่าโดยรอบเพื่อนาพื้นที่มาทาการเกษตร พบวา่ พ้ืนทป่ี า่ แห่งนีม้ คี วามสาคัญ ในฐานะเปน็ แหล่งอาหารที่อดุ มสมบูรณ์ท้ังเห็ด พืชผัก และสมุนไพรต่างๆ ให้แก่ชุมชนทีต่ ้ังอยู่โดยรอบป่า โคกข่าว นอกจากนั้นยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเฉพาะถิ่นที่มีขนาดเล็ก เช่น สนุขจ้ิงจอก กระต่าย นก และหนูชนิดต่างๆ ในอดีตท่ีผ่านมาพบว่าได้มีการใช้ประโยชน์จากป่าโคกข่าวอย่างขาดการรู้คุณค่าและ ขาดมาตรการในควบคมุ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาตทิ ง้ั พนั ธไุ์ ม้และสัตว์ปา่ จงึ สง่ ผลให้ปา่ โคก ข่าวประสบปัญหาการมีสภาพป่าท่ีเสื่อมโทรมลง จนถึงปี พ.ศ.2537 ได้มีการจัดโครงการสร้างจิตสานึก ให้กับชาวบ้านในการอนุรักษ์และทาหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ป่า ด้วยโครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาพิทักษ์ป่า (รสทป.) ขึ้น ด้วยการสนับสนุนการดาเนินงานและกิจกรรมการอบรมโดยสานักงานป่าไม้เขตจังหวัด มหาสารคาม สานักงานป่าไม้เขตจังหวัดขอนแก่น ส่วนป้องกันและปราบปราม 2 (ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ) กองอานวยการรกั ษาความมั่นคงภายในภาค 2 ภายหลังจากการท่ีประชาชนได้เข้าร่วมโครงการอบรมราษฎรอาสาพิทักษ์ป่า(รสทป.) จึงได้มี โอกาสรับความช่วยเหลือเก่ียวกับโครงการอนุรักษ์ป่าโคกข่าวจากองค์กรท้ังภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น ศนู ย์พัฒนาชนบทผสมผสานมหาสารคาม (ศูนยม์ ีชัย) โดยเฉพาะอย่างยิง่ การปิโตรเลยี่ มแห่งประเทศไทย (ปตท.) เป็นหน่วยงานหลักท่ีช่วยพัฒนาหมู่บ้านด้วยการจัดตั้งโครงการหมู่บ้าน ปตท.พัฒนา ซึ่งมีวัตถุ

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 9 ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจยั คร้ังที่ 14 : สาขาบริการวิชาการ” ปรสงค์ของโครงการเพ่อื ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในด้านการสรา้ งแหลง่ อาหารใกล้ตัว รวมถึงการจัดทา โครงการเล้ียงปลาและการเล้ียงกบในครอบครัวขึ้น ตลอดจนให้ทุนทรัพย์แก่ชุมชนเพ่ือจัดต้ังกองทุน จานวน 9 หมู่บ้านเพื่อช่วยเหลอื ด้านคณุ ภาพชีวิตของราษฎรและสง่ เสริมการฟื้นฟูสภาพป่าโคกข่าวให้มี ความสมบรู ณ์และเป็นฐานอาหารใหแ้ กช่ ุมชน ด้วยความสาคัญของป่าโคกข่าวท่ีมีต่อประชาชนท่ีอาศัยและตั้งชุมชนอยู่โดยรอบ จึงทาให้ หน่วยงานรัฐท่ีมีอานาจหน้าท่ีในการควบคุมดูแลและพัฒนาพ้ืนที่ป่าโคกข่าว ได้แก่ องค์การบริหารส่วน ตาบลเหล่าดอกไม้ เทศบาลตาบลหนองกุง องค์การบริหารส่วนตาบลช่ืนชม และองค์การบริหารส่วน จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดงบประมาณประจาปีเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าด้วยการจัดโครงการฝึกอบรมทักษะ ให้กับราษฎรอาสาพิทักษ์ป่า(รสทป.) โครงการปลูกต้นไม้เฉพาะถิ่นเพ่ือทดแทนป่าที่เส่ือมโทรมและคืน สภาพป่าให้มีความสมบูรณ์โดยเร็ว จากการเห็นความสาคัญของป่าโคกข่าวในส่วนประชาชนและ หนว่ ยงานท้งั ภาครัฐและเอกชนดังกลา่ วขา้ งต้น จงึ ส่งผลให้เกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นในระดบั หนึ่งแกร่ าษฎรได้เกดิ จิตสานึกและรู้สึกรักหวงแหนทรัพยากรในป่าไม้ ตลอดจนเกิดความเข้าใจในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับป่าได้ พบว่าการให้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชนได้ส่งผลให้กลุ่มราษฎร อาสาสมัครพิทักษ์ป่าโคกข่าว(รสทป.) ได้รับพระราชทานธงพิทักษ์ป่าเพื่อรักษาชีวิต ชั้นที่ 1 จากสมเด็จ พระบรมราชินีนาถ ในวันท่ี 26 พฤศจิกายน 2543 ณ วัดป่าน้าทิพย์ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งนามาซ่ึงความ ภาคถมู ใิ จของชมุ ชนทต่ี งั้ โดยรอบป่าโคกข่าวและชาวอาเภอช่นื ชมทไ่ี ดร้ ับรางวลั อนั ทรงเกยี รตนิ ้ี ต่อมาในปี พ.ศ.2560 มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ส่งเสริมให้นักวิชาการได้เกิดการบูรณาการ ความรู้ในหลายศาสตร์ข้ึน ซึ่งเป็นความรู้ท่ีเกี่ยวเน่ืองกับทรัพยากรทางธรรมชาติในป่าโคกข่าวและ ทรัพยากรทางวัฒนธรรมในชุมชนตาบลเหล่าดอกไม้ ด้วยโครงการการบริการวิชาการมุ่งเป้า ประจาปี งบประมาณ พ.ศ.2560 เรื่อง “การจัดทาข้อมูลพื้นฐานเชิงพื้นท่ีด้านทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญา ทอ้ งถ่นิ ในตาบลเหลา่ ดอกไม้ เพอื่ สง่ เสรมิ การพฒั นาป่าโคกข่าวและการสร้างมูลคา่ เพ่ิมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เชิงนเิ วศ” โดยสถาบันวิจยั วลยั รุกขเวชมบี ทบาทและทาหน้าที่ในการสารวจ จัดทาบญั ชีทรัพยากรชวี ภาพ (พืช สัตว์ เห็ด) และภูมิปัญญาท้องถ่ินในชุมชน เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและ ทรัพยากรทางวฒั นธรรมของชุมชน หลักสตู รภูมิสารสนเทศ คณะวิทยาการสารสนเทศให้ความสาคัญกับ การสร้างฐานข้อมูลเชิงพื้นท่ีให้กับพ้ืนท่ีป่าโคกข่าวและชุมชนตาบลเหล่าดอกไม้ เพ่ือการติดตามความ เปล่ียนแปลงของพ้ืนท่ีป่าโคกข่าวและการจัดการทรพั ยากรป่าไม้ หลักสูตรการจัดการท่องเที่ยวและการ จัดการโรงแรม คณะการท่องเท่ียวและการโรงแรม ได้นาทรัพยากรทางธรรมชาติของป่าโคกข่าวและ ทรัพยากรทางวัฒนธรรมของชุมชนตาบลเหล่าดอกไม้ มาพัฒนาให้เป็นกิจกรรมท่องเท่ียว เส้นทางนา เท่ียวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยชุมชน หลักสูตรเศรษฐศาสตร์ธุรกิจและบริหารธุรกิจ(การ จัดการ) คณะการบัญชีและการจัดการ ได้ทาการประเมินมูลค่าของทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมในระบบ นิเวศ เพ่ือจัดการความเส่ียงและลดผลกระทบที่จะเกิดข้ึนจากการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติและ วฒั นธรรมของชุมชน

10 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวิจยั คร้งั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” ผลการดาเนนิ โครงการการบริการวิชาการมุ่งเป้า ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ดังกล่าว ทา ให้ทราบว่าชาวบ้านท่ีอาศัยอยู่ในหมู่บ้านซ่ึงมีอาณาเขตติดกับป่าโคกข่าว จานวน 4 หมู่บ้าน มีความ ตอ้ งการต่อยอดโครงการบริการวิชาการดว้ ยการพัฒนาศกั ยภาพของกลมุ่ ราษฎรอาสาสมคั รพิทักษป์ ่าโคก ข่าว(รสทป.) ซ่ึงเป็นกล่มุ ที่มบี ทบาทและความสาคัญต่อการอนุรักษ์ พิทกั ษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ในป่าโคกข่าว ท้ังน้ีเพ่ือให้บุคลากรกลุ่มดังกล่าวมีองค์ความรู้จากฐานวิชาการที่ได้รับการถ่ายทอดและ ทางานร่วมกับนักวิชาการ ได้แก่ (1) การพัฒนาแหล่งเรียนรู้แบบมีชีวิตเกี่ยวกบั เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ในป่าโคกข่าวและแหลง่ วัฒนธรรมในชมุ ชน 4 หมู่บ้าน จากฐานขอ้ มูลดา้ นพืช สัตว์และภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน (2) การพัฒนาระบบสารสนเทศเก่ียวกับแผนที่ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมให้แก่ชุมชน เพื่อ ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและป้องกันการบุกรุกป่าโคกข่าวด้วยอากาศยานไร้ คนขับ (3) การพัฒนาเสน้ ทางนาเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างกลมุ่ มัคคุเทศก์เชิงพ้ืนที่ - มคั คเุ ทศก์นอ้ ย เพ่ือรองรับ กลุ่มนกั ท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติและดูงาน (4) การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชและผักธรรมชาติใน ปา่ โคกขา่ วให้เปน็ สินคา้ ของฝาก ของท่รี ะลกึ เพื่อส่งเสรมิ การทอ่ งเทยี่ วเชงิ นิเวศ ดงั นั้นการบรู ณาการองค์ ความรู้ข้ามศาสตร์ของ 4 หน่วยงานดังกล่าว จะเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาป่าโคกข่าวให้ เปน็ แหลง่ เรียนร้แู บบมีชีวติ และการท่องเท่ียวเชิงนเิ วศจากการใชฐ้ านเศรษฐกิจชุมชนให้เกิดขึ้นจรงิ ภายใน อนาคตได้ ดังน้ัน ผู้ศึกษาจึงเลือกพื้นท่ีนี้เป็นพ้ืนท่ีต้นแบบของการจัดการเรียนรู้เชิงปฏิบัติแบบการมีส่วน ร่วม Participatory Learning and Action;PLA)ระหว่างผู้สอน นิสิต และชุมชน 2. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่ือพัฒนาแหล่งเรียนร้แู บบมีชีวิตเก่ียวกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าโคกข่าวและแหล่ง วฒั นธรรมในชุมชน 4 หมบู่ า้ น 2.2 เพ่ือพัฒนาระบบสารสนเทศเก่ียวกับแผนที่ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมให้แก่ชุมชน ตาบลเหลา่ ดอกไม้ 2.3 เพื่อพัฒนาเส้นทางนาเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างกลุ่มมัคคุเทศก์เชิงพ้ืนที่ และ มัคคุเทศก์น้อย สาหรับรองรบั กลุ่มนกั ท่องเท่ียวเชิงนเิ วศ 2.4 เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชและผักธรรมชาติในป่าโคกข่าวให้เป็นสินค้า ของฝาก ของท่ี ระลกึ เพือ่ สง่ เสรมิ การท่องเท่ียวเชิงนเิ วศ 3. กระบวนการดาเนนิ การ การศึกษาครัง้ นีม้ ีแนวปฏบิ ัตดิ ังนี้ 3.1 วิธีการศึกษา การศึกษาครั้งนี้ เป็นงานศึกษาเชิงคุณภาพท่ีได้นารูปแบบของการวิจัย ปฏิบัติการ (Participatory Research Action; PRA) มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิง ปฏบิ ัตกิ ารแบบมีสว่ นร่วม (Participatory Learning and Action; PLA)

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 11 ในงานการประชุมวชิ าการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย คร้งั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวิชาการ” 3.2 กลุ่มตัวอย่าง ในการศึกษาคร้ังนี้ได้กาหนดกลุ่มตัวอย่างมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มตัวอย่างหลัก จานวน 410 คน คอื 1. อาจารย์ (คณะทางานและทมี วิจยั ) จานวน 5 คน 2. กลุ่มนิสิต คือ นิสิตปริญญาโทและปริญญาเอกหลักสูตรความหลากหลายทางชีวภาพ สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช จานวน 5 คน นิสิตปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม จานวน 50 คน นิสิตปริญญาตรีหลักสูตรภูมิสารสนเทศ จานวน 50 คน นิสิตปริญญาตรีหลักสูตรการจัดการท่องเที่ยว และ หลักสูตรการจดั การการโรงแรม จานวน 50 คน นิสติ ปริญญาตรหี ลักสูตรบรหิ ารธุรกิจ (การจดั การ) และ เศรษฐศาสตร์ธุรกจิ จานวน 50 คน 3. ชมุ ชนคอื เครอื ขา่ ยราษฎรอาสาพทิ ักษ์ป่าโคกข่าว (รสทป.) จานวน 50 คน และชุมชน ตาบลเหล่าดอกไม้ จานวน 150 คน 3.3 เครอื่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวิจยั เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบจัดการเรียนรู้ที่ใช้เทคนิคการสอนด้วยวิธีการ เรียนรู้แบบมีส่วนร่วม 2) แบบบันทึกพฤติกรรมด้วยวิธีการสังเกตแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม 3) แบบสอบถามทัศนะคติต่อวิธีใช้กระบวนการเรียนรู้จากรูปแบบดังกล่าว 4) การใช้ Mind mapping เพื่อ การออกแบบ แผนการจัดการเรยี นรูใ้ นรูปแบบการมีส่วนรว่ ม 5) การสัมภาษณ์แบบเจาะลกึ 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล ลักษณะข้อมูลการสังเกตพฤติกรรม บันทึกพฤติกรรมในการทากิจกรรมร่วมกันและทัศนะ เชิงสร้าง สรรค์จะกระทาโดยการบรรยายข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ด้วยสถิติ จะกระทาโดยการ พรรณนาความ 3.5 วิธกี ารดาเนินการศกึ ษา มีการกาหนดวิธกี ารศึกษาเปน็ 4 ขน้ั ตอน ดงั นี้ 1) ขน้ั ตอนท่ี 1 ข้นั เตรียมความพร้อมแก่นสิ ติ มดี ังน้ี 1.1 การให้ความรู้เก่ียวกับความรู้และแนวคิดทฤษฏี และการประยุกต์ทฤษฎีทาง วรรณกรรมตะวนั ออก รวมท้ังกิจกรรมทีร่ ะบุไว้ในแผนการเรยี นรปู้ กติ 1.2 การเพิ่มความสมรรถนะ โดยกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมได้แก่ การให้นิสิต วิเคราะห์ตนเอง การวิเคราะห์กลุ่ม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแบ่งบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคนใน กลมุ่ น้นั และการให้คะแนนต่อกิจกรรมต่างๆตามหน้าที่ความรับผิดชอบ 1.3 การให้นิสิตฝึกการทดลองเก็บรวบรวมข้อมูลจากกิจกรรมการเรียนการสอนที่ กาหนด โดยเร่ิมบทการบรรยายเนื้อหา วิชาการให้ประเด็นช้ีนาเพื่อการประยุกต์ การแบ่งกลุ่มนิสิตเป็น กลุ่ม 4 กลุ่ม เพ่ือทางานร่วมกัน นาเสนอกิจกรรมที่ให้ สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของนิสิต บันทึก และวิเคราะห์ปัญหาสาเหตุ ข้อเสนอแนะ แนวทางแก้ไขปัญหา หลังจากนั้นจะทาการประเมินผล โดยใช้ แบบการประเมินผลให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ ทั้งน้ีผู้ศึกษาใช้จากแบบประเมินพฤติกรรมและ การบนั ทึกอาจารย์ รวมทง้ั ประเมินผลสัมฤทธก์ิ ารเรียนรู้

12 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจยั ครั้งท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” 2) ขั้นตอนท่ี 2 ข้ันปฏิบัติ โดยท่ีนิสิตจะมีส่วนร่วมและมีการกาหนดแนวทางการปฏิบัติดัง ตารางท่ี1 การออกแบบกิจกรรมเป็นแบบบูรณาการกับการเรียนการสอนของการเรียนการสอนของคณะ ท้ังหกคณะดงั นี้ ตารางที่ 1 การกาหนดแนวปฏิบตั ิ ขอ้ มลู การปฏิบตั ิ จุดประสงค์ ผลทีค่ าดว่าจะเกดิ รปู แบบการเรียนการสอนที่มีการมี 1. การแบง่ บทบาทและหนา้ ทีข่ อง นสิ ิตจดั การประชุมเพอ่ื มอบหมาย ส่วนรว่ มของการเรยี นรู้ และการ ปรบั ทัศนคติของนสิ ติ ทตี่ ่อการ นิสติ ตามโครงสรา้ งและการแบ่ง งานใหส้ มาชกิ กลมุ่ เรยี นการสอนดงั กล่าว งานที่รบั ผิดชอบซงึ่ ไดม้ อบหมาย 1. การคน้ หาขอ้ มลู และการเรยี บ 1.นิสติ ไดแ้ บ่งกลุ่มทง้ั หมดมี 4 กล่มุ และออกเดินทางไปสารวจข้อมูล ให้สมาชิกแตล่ ะคนภายในกลมุ่ เรยี งเน้ือหา ภาคสนามท่ีป่าโคกข่าวของ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลเหล่า ทา 2. การวิเคราะหท์ ฤษฎีโดยนามา ดอกไม้ เพ่ือค้นหาข้อมลู มติ ิทาง ทอ่ งเที่ยวเชิงนเิ วศ จากผูน้ าชุมชน เทียบเคยี งกบั กรณีศกึ ษา จานวน 4 หมู่บา้ น ไดแ้ ก่ หมู่ที่ 1 บ้านนาคานอ้ ย หมทู่ ี่ 2 บ้านสม้ กบ 3. การตรวจทานเน้อื หา หมทู่ ่ี 3 บ้านผักแวน่ และหมู่ที่ 4 บ้านผกั แวน่ โดยวธิ ีการสมั ภาษณ์ 4. การจดั ทาสอื่ เพ่ือนาเสนองาน เจาะลึกจากผูใ้ หข้ อ้ มลู และเมื่อได้ ขอ้ มลู ท่ีการแบ่งประเดน็ เกย่ี วกับ 5. การนาเน้อื งานมาช่วยกนั ป่าโคกขา่ วมี 4 ประเภท คือ จงึ นา ผลการสารวจดังกลา่ วมาเขียนแผน วิเคราะห์และอภปิ ราย ที่ โดยใชส้ ญั ลักษณท์ ่ีบง่ บอก ลกั ษณะประเภทของป่าโคกข่าวนนั้ 6. การจดั ทางานทสี่ มบรู ณ์ เม่ือได้แผนที่กน็ าไปตรวจสอบอกี คร้งั โดยชาวบา้ นไดต้ รวจสอบ 2. ขนั้ ประสบการณ์ อาจารย์ 1. สมาชกิ กลุม่ ค้นหาประเด็นท่ี กระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รยี นนาประสบการณ์ ตอ้ งการ เดมิ ของตนมาพฒั นาเป็นองค์ 2. สรุปประเด็นการประชุมกล่มุ ความรู้ หรอื พัฒนาความรู้อย่าง ยอ่ ยและเน้อื หา ตอ่ เน่อื ง 3. นาเสนออาจารยผ์ สู้ อนเพอื่ ปรึกษาและแกไ้ ขขอ้ บกพร่อง 4. การวิเคราะห์ทรพั ยากร และ การรวบรวมอปุ กรณท์ ่มี ีอย่แู ละ ตอ้ งใช้เชน่ คอมพิวเตอร์ฉบับ พกพา เงิน ระยะเวลา เป็นต้น

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 13 ในงานการประชุมวิชาการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวจิ ยั คร้งั ท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” ข้อมลู การปฏบิ ัติ จดุ ประสงค์ ผลที่คาดว่าจะเกิด 3. ขัน้ การสะทอ้ นความคดิ และ ขอ้ เทจ็ จรงิ ตอ่ จากนนั้ นิสติ ในแต่ อภปิ ราย จัดกจิ กรรมใหผ้ เู้ รียนได้ มีโอกาสแสดงออกในการ ละกลมุ่ ก็ออกเดินทางเกบ็ ข้อมลู แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น และ เรยี นรซู้ ง่ึ กันและกันเป็นระบบ ทางทง้ั 4 ประเภท นั้นให้ไดเ้ น้อื หา กลุ่ม ที่สมบูรณม์ ากทสี่ ดุ ทปี่ รากฏตาม 4. ข้นั ความคดิ รวบยอด ผู้เรียน เกดิ ความเขา้ ใจความคดิ รวบ แผนทีด่ ังกล่าว ทง้ั นีโ้ ดยการบนั ทึก ยอดจากผลงานของกลุม่ ซง่ึ อาจ เกดิ โดยผเู้ รยี นเป็นฝา่ ยรเิ ริ่มแล้ว เสยี ง บันทกึ ภาพและการจดบันทกึ อาจารย์เพม่ิ เตมิ ให้ 2.ระยะเวลาเป็นจานวน 4 สปั ดาห์ ทกุ วันเสาร์และวนั อาทติ ย์ 3.ผู้ให้ข้อมลู ดงั นี้ -เครือข่ายราษฎรอาสาพทิ กั ษ์ปา่ โคกขา่ ว (รสทป.) 50 คน - ชุมชนตาบลเหลา่ ดอกไม้ 150คน 1. การประชุมตกลงในเง่อื นไขการ 1. นิสิตไดม้ ีการประชมุ เพ่อื แลก ทางาน การอภปิ รายประเด็นท่ี เปลี่ยนเรียนรแู้ ละการสรปุ ผล สนใจรว่ มกนั การศกึ ษาข้อมูลภาคสนามโดยการ 2. สรปุ ผลและประเมนิ ข้อตกลง ดาเนนิ การถอดเสยี งสัมภาษณ์ 3. จัดทาระบบการติดตาม แลว้ นามาจดั แบง่ ประเภทของ ตรวจสอบผลงานของสมาชกิ ใน เนอื้ หาดงั กลา่ ว และสามารถทราบ กลุ่ม บรบิ ทของพน้ื ท่ีปา่ โคกขา่ วดังกลา่ ว 4. จดั ทาระบบการกล่ันกรอง โดยจดั ทาลงในMind Map ตรวจสอบผลงาน 2. นิสติ นาข้อมูลดังกล่าวมา 5. ประเมินผลงานของกลมุ่ ตรวจสอบโดยใหผ้ ูน้ าชาวบา้ นได้ ตรวจสอบและกลน่ั กรองขอ้ มูลอีก ครัง้ แลว้ ดาเนินการลงแผนท่ีของ บริบทปา่ โคกขา่ วน้ัน 3. นสิ ิตได้รว่ มการการวเิ คราะห์ เน้อื ทปี่ รากฏในเนอื้ หาตามวัตถุ ประสงค์ทง้ั สี่ข้อ สรา้ งกรอบแนวคดิ ทฤษฎีท่ีไดจ้ าก นสิ ติ สามารถกาหนดแนวทางการ ขอ้ ตกลง โดยจดั เปน็ ผังหรือ ศกึ ษาจากการเรยี นรู้แบบมีสว่ น เครือข่ายความคิดเพอื่ ทาใหเ้ กดิ ร่วมโดยสามารถสรา้ งผลงานคอื ชดุ ความชดั เจนเขา้ ใจได้งา่ ย และเพื่อ ความรู้เร่อื งป่าโคกขา่ วทส่ี ่อื สารใน แลกเปลย่ี น เรียนรกู้ บั กลมุ่ อนื่ ๆ รูปวดิ ที ศั น์ และแผนท่รี ะบบออน ไลท์ดงั กลา่ ว

14 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวิจยั ครงั้ ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” ข้อมูลการปฏบิ ตั ิ จุดประสงค์ ผลที่คาดว่าจะเกดิ 5. ขน้ั ประยุกต์แนวคดิ ผู้เรยี น 1. กลมุ่ ต่างเนอ้ื หามคี วาม 1. นสิ ติ ไดม้ โี อกาสมสี ว่ นร่วมกนั คดิ นาเอาการเรยี นรทู้ ไ่ี ดไ้ ป คลุมเครือไม่ชดั เจน มบี างกลุม่ รว่ มกันการแกป้ ญั หาและเตมิ เตม็ ประยุกตใ์ ชใ้ นสถานการณจ์ ริง เทา่ นน้ั ทีม่ ปี ระเดน็ ชดั เจนข้อมูล ความรแู้ ละทักษะการออก หรือ เงอ่ื นไขอ่ืนๆ จนเกิดเปน็ แนว ครบถว้ นอย่างไรกต็ ามเนื้อหาท่ีได้ ภาคสนามและการคืนขอ้ มลู แก่ ปฏิบัตขิ องผูเ้ รยี นเอง จากการแลกเปลย่ี นมีประโยชนท์ ัง้ ชุมชนแลว้ นามาสรุปผลเปน็ ในดา้ นการเรียนและการนาไปใช้ บทเรียนกรณีศึกษาปา่ โคกข่าวเพอ่ื ในชีวิต การทางานในอนาคต นาไปสู่การศึกษาเปรียบเทียบกับ 2. มีการประสานร่วมมอื กันและ ชมุ ชนอื่นตอ่ ไป การแบ่งงานกันอย่างชดั เจน 3. สามารถเรียนรู้สาเหตุของ ปัญหาของกรณีศกึ ษาและแนว ทางแกไ้ ขจากการนาเสนอ แลกเปลย่ี นระหวา่ งกลมุ่ และทาให้ ทราบถงึ ทศิ ทางการเปลยี่ น แปลง ของปรากฏการณข์ องสาเหตุ ปัญหาและแนวทางแก้ไข 6. ประโยชน์จากแลกเปลย่ี น 1. ได้ความรเู้ พ่ิมเติมจากกลุ่มอ่ืนๆ 1. นิสติ ไดฝ้ ึกการอดทน การเขา้ ใจ ความรู้กนั ภายในกลมุ่ และระหว่าง นอกเหนอื การค้นควา้ ของตนและ และยอมรับการสิง่ ที่แตกต่าง กล่มุ กล่มุ ของตน 2. นสิ ิตไดท้ ศั คตทิ ่ีดีขน้ึ ต่อสง่ิ ต่างๆ 2. เรยี นรู้การทางานเป็นทีม ทีเ่ กดิ ข้ึนโดยการปรกึ ษาการแลก 3. เรยี นร้กู ารนาเสนอและการ เปลย่ี นเรยี นร้แู ละนาไปสกู่ ารมอง เขยี นรายงานเชิงวิชาการทช่ี ัดเจน ส่ิงตา่ งๆอยา่ งรอบครอบและเปน็ ข้นึ ผ้ใู ช้ความรทู้ างวชิ าการดงั ตวั อยา่ ง 4. เรยี นรู้ท่ีจะเคารพความคดิ เห็น ของ นางสาว ก (นามสมมุติ) กล่าว และความสามารถของคนอ่ืน วา่ “เริม่ แรก คอื การรว่ มวาง 5. ไดค้ วามคดิ ทห่ี ลากหลาย แผนการทางานซึง่ ในครัง้ นี้เปน็ การ สามารถนาไปปรบั ปรงุ ให้มสี าระ รว่ มวางแผนทีค่ ่อนข้างแตกตา่ ง มากข้ึน จากการสารวจพืน้ ท่ีท่เี คยได้ทามา 6. ความขัดแยง้ ที่เกดิ ขึ้นนาไปสู่ คอื การวางแผนท่ปี า่ ไม้ซ่งึ พวกเรา การทางานรูปแบบใหมๆ่ ต้องเดนิ สารวจปา่ โคกขา่ วไปทีล่ ะ 7. สามารถพฒั นาความรคู้ วาม สว่ นเพื่อเปรยี บ เทียบขอ้ มลู ทไี่ ด้ สามารถในการทางานร่วมกัน รับมาในตอนแรกจากผูใ้ หญบ่ ้าน นาไปสกู่ ารแก้ไขปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ และสอบถามขอ้ มูลเพม่ิ เติมก่อนที่ รว่ มกนั จะแบง่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มลงพน้ื ท่ีเกบ็

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 15 ในงานการประชุมวิชาการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวจิ ัย ครง้ั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” ข้อมูลการปฏบิ ตั ิ จุดประสงค์ ผลท่ีคาดวา่ จะเกิด 8. การใหค้ าปรึกษาเพื่อการแกไ้ ข ขอ้ มูลจรงิ หลังจากทเ่ี ราได้เดนิ ปญั หาของกลุ่มตา่ งๆจากผู้สอนทา สารวจจนครบทกุ หลงั แล้วนาข้อมลู ใหก้ ารทางานราบรน่ื มีระบบมาก ท่ไี ดม้ าแลกเปล่ียนกนั โดยวาดแผน ขึ้น ที่ป่าโคกขา่ วลงบนกระดานและใส่ 9. ทาให้เข้าใจในรายละเอียดของ ข้อมลู วา่ บา้ นไหนมีขอ้ มลู อะไรบ้าง งานในแต่ละกลมุ่ เพอื่ ใชใ้ นการการเกบ็ ขอ้ มูลฉบับ 10. ทาใหม้ องเห็นข้อดีขอ้ เสยี ของ เต็มในครั้งตอ่ ไปและตรวจสอบ การทางานและนาไปปรบั ปรุง ขอ้ มลู ทต่ี กหล่นหรอื ตกสารวจการ แก้ไข ทางานด้วยกระบวนการนี้ถอื ว่าวา่ 11. เกิดความรสู้ ึกอยากคน้ ควา้ เป็นครั้งแรกทีไ่ ดล้ องทาและรสู้ กึ วา่ เพ่อื การแลกเปล่ียนมากขึน้ เป็นการรวบรวมขอ้ มลู ทเ่ี ป็นระบบ ระเบียบและเข้าใจง่ายสามารถทา ให้มองเห็นภาพของหมู่บ้านที่พวก เราตอ้ งลงเกบ็ ข้อมลู ได้อย่างชัดเจน และรวดเรว็ สามารถชจี้ ุดขอ้ มลู ที่ ตกสารวจไดจ้ ึงทาให้งา่ ยต่อการ เนน้ วา่ ต้องไปสารวจเพมิ่ เตมิ ตรงไหนถอื เปน็ ขน้ั ตอนการทางาน ท่ปี ระทบั ใจมากที่สดุ ในการลงพน้ื ท่ี คร้ังน”ี้ 7. ขอ้ คิดเห็นตอ่ แนวคดิ และ ในแตล่ ะกลุ่มนิสติ มีการนาเสนอ นสิ ติ เกดิ ทัศนคตขิ องวธิ กี ารเรียนรู้ ประเด็นการนาเสนอของกลุ่มอ่ืนๆ แบบตรงไปตรงมา เพ่ือก่อใหเ้ กดิ แบบการมสี ว่ นร่วมทง้ั ทางบวกและ การทางานที่มีคุณภาพ เน่อื งจาก ทางลบ ตลอดจนการเปล่ยี นแปลง การแลก เปล่ยี นดังกลา่ วเป็นการ ทง้ั ภายในและภายนอกคอื ความรู้ แลกเปลยี่ น เพ่ือประโยชนด์ ้าน ปญั ญาและความรู้สกึ ทางจติ ใจ วิชาการเปน็ หลกั และมผี ลตอ่ การ ประเมนิ ผลความรูข้ องนิสิตแตล่ ะ กลุ่มและแตล่ ะคน ดงั นนั้ จงึ มกี าร แสดงความคดิ เห็นทไ่ี ม่มีการ เกรงใจกัน แต่ความคดิ เหน็ ดงั กลา่ วได้รับการยอมรับจากกลมุ่ ต่างๆ เพอ่ื นาไปแกไ้ ขคน้ คว้าหา คาตอบ เพ่ือนามานาเสนอใน คราวตอ่ ไป ข้อคดิ เหน็ ได้แก่ (1)

16 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย ครั้งท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” ข้อมลู การปฏบิ ตั ิ จุดประสงค์ ผลทคี่ าดว่าจะเกดิ 8. ประโยชนแ์ ละความรสู้ กึ ในการ ความไม่ชัดเจนของการนาเสนอ เรยี นรจู้ ากประสบการณ์และการ (2)เขา้ ใจยากคลมุ เครอื (3) ไม่ 1.นิสติ ไดเ้ กดิ เปน็ ผมู้ ีความรคู้ ู่ แลกเปลย่ี นรวมถงึ ข้อเสนอแนะ ครบถว้ น ขอ้ มลู ไม่เพียงพออยาก คุณธรรมทไ่ี ดจ้ ากประสบการณ์ ได้ข้อมลู ท่ีมากและเพยี งพอ (4) ตรงที่ไดจ้ ากการลงมือปฏบิ ัตท่ี 9. การให้คะแนนเพอื่ นภายใน น่าสนใจ เปน็ ต้น แทจ้ รงิ และกอ่ ใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ กลุ่ม เรอ่ื งดังกล่าวอยา่ งคงทนและ 1. ทาให้กลา้ คดิ กลา้ นาเสนอมาก สามารถนาไปประยุกตก์ ับการ ขึ้น ทางานอยา่ งอ่ืน และการนาไป 2. ทาให้เกิดความรสู้ กึ ที่ดีต่อการ ประกอบอาชีพได้ในอนาคต ดงั ทางานเปน็ กลมุ่ และเกดิ ทกั ษะใน ตวั อยา่ ง นางสาว ข (นามสมมตุ ิ) การทางาน กลา่ ววา่ “ข้นั แรกคือไดร้ ้จู ากการ 3. ไดร้ บั รู้ถงึ ความคดิ เหน็ และ วางแผนงาน กอ่ นเริ่มลงพนื้ ท่ีจริง ความ รู้สึกนกึ คดิ ของผอู้ ืน่ กาหนดเปา้ หมายและขอบเขตของ 4. ทาใหท้ ราบจดุ แข็งและจดุ ออ่ น การลงพื้นท่ี เมื่อลงพ้นื ทแ่ี ลว้ กไ็ ด้ ของตนเอง เรียนร้กู ารบนั ทึกสิง่ ที่ได้ออกมา 5. ทาใหเ้ กิดการเรียนรปู้ ญั หา เปน็ mind mapping เพื่อท่จี ะใช้ ความขดั แยง้ ของการทางานเปน็ ในการศึกษาหาข้อมูลเพ่ิมเตมิ กลุ่มเกดิ ทักษะการแกไ้ ขปัญหา ต่อไป จากนน้ั กเ็ จาะกลมุ่ เปา้ หมาย การอย่รู ว่ มกบั ผ้อู ืน่ และการแก้ไข ผทู้ ม่ี คี วามร้ใู นด้านทีเ่ ราต้องการ ปญั หา ความขัดแยง้ ศึกษาไดง้ ่ายข้นึ จาก mindทเี่ รา 6. ก่อให้เกดิ ความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการ ทาไว้ ซึ่งการเรยี นรู้ครงั้ น้ีทาให้ได้ แสวงหาและการทาความเขา้ ใจ เรียนร้กู ารคิด การทางานเปน็ ดว้ ยตนเองและการแลกเปลยี่ นกับ ลาดบั ขน้ั ตอนและยังได้ความรู้ ผอู้ ืน่ เพ่มิ เตมิ ด้านสมุนไพร ตน้ ไม้ 7. การเรียนการสอนรปู แบบให้ พ้นื เมอื งจากป่าโคกขา่ วอกี ด้วย นสิ ิตมสี ่วนร่วมในการเรยี นการ คะ่ ” สอนการ ค้นควา้ ด้วยตนเองการ นสิ ติ ไดเ้ กดิ การเรยี นรู้การประเมนิ แลกเปลยี่ นเป็นส่งิ ท่อี ยากใหเ้ ป็น การทางานอย่างมวี จิ ารณญาณมา รูปแบบการเรียนการสอนต่อไป กกขนึ้ 8. ทาใหเ้ กดิ ทกั ษะของการ ตัดสนิ ใจเพอื่ ประโยชน์สูงสดุ คะแนนโดยมคี า่ เฉล่ียทสี่ มาชิกแต่ ละคนใหก้ ับสมาชิกอนื่ ๆในกลมุ่ คอื 4.5

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 17 ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวจิ ัย คร้ังท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” 3) ขัน้ ตอนที่ 3 ขั้นตรวจขอ้ มลู โดยทีน่ สิ ิตจะมีสว่ นร่วมและมีการกาหนดแนวทางการปฏบิ ตั ิ คือ นสิ ติ ได้มกี ารสรุปข้อมลู ภาคสนามของแต่ละกลุม่ โดยใชก้ ระบวนการการแลกเปลยี่ นเรยี นรูแ้ ลว้ นามาเสนอ ตอ่ ผศู้ กึ ษาแล้วดาเนินการสรุปและสร้างเป็นส่ือ 2 ดา้ น คือ 1) แผนที่เสน้ ทางท่องเทย่ี วป่าโคกขา่ ว จานวน 1 เส้น 2) ด้านความเป็นผู้นาของนักเรยี น พร้อมแนวทางการสรา้ งส่ือด้านสิ่งแวดล้อมในปา่ โคกข่าว และ ตราสินค้าของชุมชน ทง้ั น้ีนิสติ ไดใ้ ห้ผู้นาชุมชนตรวจสอบและเพิ่มเติมข้อมูลอีกครั้ง และนาเสนอเผยแพร่ ทางเครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ ตอ่ ไป 4) ขั้นตอนที่ 4 ขั้นการรายงานผลการดาเนินงาน โดยทน่ี ิสติ จะมสี ่วนรว่ มและมีการกาหนดแนว ทางการปฏบิ ตั ิดา้ นการรายงานดว้ ยการเขียนแบบบรรยายเชิงพรรณนา 4. ผลลัพธ์จากการดาเนนิ งานโครงการ ดงั นี้ 4.1.เพ่ือพัฒนาแหล่งเรียนรู้แบบมีชีวิตเกี่ยวกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าโคกข่าวและแหล่ง วัฒนธรรมในชุมชน 4 หมู่บ้าน มีการออกแบบเส้นทางการเดินศึกษาธรรมชาติในป่าโคกข่าว และมีการ จัดทาส่อื ในการเรียนรูผ้ า่ นแอปพเิ คช่ัน โดยการสแกนควิ อาร์โคด้ ภาพท่ี 1-2 แหล่งเรยี นแหลง่ เรียนรูแ้ บบมชี วี ิตเกี่ยวกบั เสน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติในปา่ โคกข่าว 4.2.เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเก่ียวกับแผนท่ีทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมให้แก่ชุมชน ตาบลเหล่าดอกไม้ และการสร้างแบบจาลองลักษณะภมู ิประเทศเชิงสามมติ ิ (3D)

18 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย ครั้งท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” ภาพที่ 3-5 แสดงระบบสารสนเทศเก่ียวกับแผนทท่ี รพั ยากรธรรมชาตชิ มุ ชนตาบลเหลา่ ดอกไม้ และการ สรา้ งแบบจาลองลักษณะภูมปิ ระเทศเชงิ สามมติ ิ (3D) 4.3 รปู แบบการเรียนรู้แบบมีสว่ นรว่ มของเสน้ ทางนาเทย่ี วเชงิ นิเวศ สรา้ งกลุ่มมัคคเุ ทศกเ์ ชิงพืน้ ที่ และ มคั คเุ ทศก์น้อย สาหรบั รองรบั กลมุ่ นกั ท่องเทย่ี วเชิงนิเวศ ภาพท่ี 6-8 กิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบมีสว่ นรว่ มของกลุ่มมัคคเุ ทศก์เชงิ พืน้ ท่ี และมคั คเุ ทศก์น้อย แผนการเรียนการสอนปกติได้จัดทาตามแนวทางกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้รายวิชาตาม กรอบคุณ ภาพบัณฑิต โดยมีการกาหนดระยะเวลาการเรียนการสอนไว้ 4 สัปดาห์ ท้ังนี้ได้นา กระบวนการเรียนการสอนในรูปแบบนิสิตมีส่วนร่วมซึ่งได้ออกแบบไว้ (ตารางท่ี 1) มาสอดแทรกเป็ น กิจกรรมสาหรับการเรียนการสอนเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning and Action;PLA)ควบคู่ไปกับการสอนปกติ (Input) ซึ่งวิธีการปฏิบัติตามรูปแบบกระบวนการเรียนการสอน แบบมสี ่วนรว่ ม (Processes)และผลผลติ (Out put)มีประเด็นต่างๆดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้ 4.3.1 การมีส่วนร่วมการจัดทาแผนท่ีเส้นเดินทางท่องเท่ียวเชิงนิเวศของป่าโคกข่าว ดัง รปู ภาพที่ 1 ซงึ่ ปรากฏจากขอ้ เขยี นของนสิ ิตชือ่ วา่ นางสาว ค (นามสมมุติ) ช้ันปที ี่ 3 กลา่ วว่า “ จากการได้ลงพืน้ ท่ีป่าโคกข่าวของชุมชนนั้น ก็ได้ทาส่ิงต่างๆมากมายโดยเร่ิมต้นจากการ ทาแผนที่ซึ่งในเรื่องการทาแผนท่ีนั้นก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีข้ันตอนการทาอย่างไร โดยเราได้เรียน เพยี งพอในบทเรยี นแต่ในการลงชุมชนนี้เราได้ลงมอื ปฏบิ ัติจรงิ ๆ และทากันเองสร้างกันเองนับเปน็ การทา

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 19 ในงานการประชมุ วิชาการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวจิ ัย คร้ังท่ี 14 : สาขาบรกิ ารวิชาการ” แผนทีท่ ีเ่ รียกได้วา่ จริง ประยุกตค์ วามรจู้ ากในหนงั สือในบทเรียนมาใช้กับชวี ิตจริงท่ีคุ้มคา่ ที่สดุ ที่พวกเราได้ ทามา จากจุดน้ีเองที่จะกลายเป็นภูมิคุ้มกันให้เราว่าเราได้ผ่านการทาแผนท่ีเดินทางท่องเที่ยวมาแล้วกับ มือ สัญลักษณ์ต่างๆที่ได้ร่วมกันคิดร่วมกันสร้าง การลงมือวางแผนที่จริงท่ีไม่ใช้เพียงแค่ทาในห้องเรียน เท่าน้ันนับได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีทีเดียว ตัวอย่างการวางแผนที่เรานาไปประยุกต์ใช้ก็คือการวาด “Map” เพ่อื ใชใ้ นการวางแผนงาน รวมถงึ การสรปุ งานด้วยดังรูปภาพท่ี 1” รูปภาพท่ี 9-10 แผนทท่ี ่องเที่ยวเชิงนิเวศของป่าโคกข่าวการแสดงผลแบบ 3 มติ ิ 4.3.2. การมีส่วนร่วมการสรุปผลการรวบรวม การจัดแบ่งประเภท และจานวนข้อมูลของ ป่าโคกข่าว ซึ่งมี คือ ประเภท (1) ต้นไม้มีจานวน11 ต้น (2)สมุนไพรมี 7 ชนิด (3)สัตว์ มี 9 ตัว (4) เห็ด จานวน ชนิด และ(5) โสก จานวน 2 แหล่ง ดังรูปภาพที่ 2 ท้ังนี้ได้ผ่านการคืนข้อมูลให้ชาวบ้าน ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งดงั รูปภาพท่ี 3ดงั นี้ รปู ภาพท่ี 11 ข้อมูลป่าไม้ของหมบู่ า้ นการแสดงผลแบบ 3 มติ ิ

20 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย คร้งั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” รูปภาพที่ 12-13 การตรวจสอบและการกร่นั กรองขอ้ มลู จากชาวบา้ นของหมูบ่ ้าน 4.4 เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชและผักธรรมชาติในป่าโคกข่าวให้เป็นสินค้า ของฝาก ของท่ี ระลึกเพือ่ สง่ เสรมิ การท่องเท่ยี วเชิงนิเวศ รูปภาพท่ี 14-15 การประชุมเพ่ือออกแบบตราผลิตภัณฑจ์ ากพชื และผกั ธรรมชาติในปา่ โคกขา่ ว 4.5 ข้อคน้ พบอ่นื ๆ ท่นี อกเหนอื จากวัตถุประสงค์ (Impact) ในแต่ละระดับ เช่น ระดับกลุ่มเป้าหมายตามโครงการ คือ ทัศนคติของนิสิตที่มีต่อการจัดการ เรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม ในด้านทัศนะต่อการจัดการเรียนการสอนเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning and Action;PLA)ปรากฏว่านิสิตชอบการทางานเป็นกลุ่มเน่ืองจากจะมีการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดที่หลากหลาย และได้เรียนรู้ความผิดพลาดและเห็นค่าของผู้อื่นและชอบการ แก้ไขงานที่ได้รับมอบหมายรวมท้ังการคอยให้คาปรึกษาจากผู้ศึกษา ซ่ึงผู้ศึกษาได้ประเมินทัศนะต่อ กระบวนการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วมจากให้นิสิตทุกคนได้เขียนบันทึกความประทับใจ ดัง ตัวอยา่ งเชน่ นาย ง(นามสมมตุ ิ) กล่าวว่าจากประสบการณ์ท่กี ระผมไดล้ งพื้นท่ี ณ ป่าโคกข่าว ทาให้ดิฉัน ได้เรียนรู้ถึงวิถีการใช้ชีวิตของชาวบ้านมากมาย ในการลงไปสารวจป่าครั้งนี้นั้น คณะของกระผมได้เริ่ม ออกสารวจปา่ โคกขา่ วไปเรือ่ ยๆ เป็นระยะเวลาประมาณ 2 อาทติ ย์ และมีการพูดคุยกับชาวบ้านในแต่ละ บ้าน โดยกระผมและเพ่ือนได้รับมอบหมายให้ไปสารวจเกี่ยวกับประวัติป่าไม้และอื่นๆในป่าโคกข่าว ซ่ึง กว่าจะได้ข้อมูลก็ไม่ใช่เร่ืองง่ายเลย กระผมและเพ่ือนต้องเจอทั้งแด ฝนตก หรือบางทีจะไปตามตัวคนๆ

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 21 ในงานการประชุมวิชาการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวิจยั ครง้ั ที่ 14 : สาขาบริการวชิ าการ” หนง่ึ ก็ต้องหาใหเ้ จอวา่ อย่ทู ี่ไหน แตก่ ระผมกับเพ่ือนก็สามารถผ่านมาได้ สิ่งหนึ่งที่ไดเ้ รียนรู้ก็คือการทางาน เปน็ ขัน้ เปน็ ตอน และความสามคั คใี นกลมุ่ การทางานลงสารวจในหม่บู า้ นคร้ังนเ้ี หนอ่ื ยแต่ก็สนกุ ” นอกจากนี้นิสิตมีความกล้าแสดงความคิดเห็นกล้าแสดงออกมากข้ึน และมีความเข้าใจเน้ือหา ลึกซ้ึงครบถ้วน มีประโยชน์ ดังคากล่าวของนางสาว ง (นามสมมุติ) กล่าวว่า“ การเรียนที่ได้รับมานี้เป็น การเรียนรู้ภาคปฏิบัติ เรียนรู้จริง และพบอุปสรรคจริงๆ จากการที่เราได้พบอุปสรรคจากการทางานนั้น ส่งผลให้ในชีวิตประจาวัน เม่อื เราพบปัญหาอุปสรรคสามารถแก้ไขไดง้ า่ ยดายและตรงจุดนน้ั การลงพื้นทน่ี ้ี เรม่ิ แรกนนั้ กลุ่มนสิ ติ ไดร้ ว่ มกันจดั ทาแผนทห่ี มู่บ้านก่อน การทาแผนทีน่ ัน้ ทาใหน้ ิสติ ในกลมุ่ มีความสามัคคี กันมากยิ่งขึ้นนอกจากน้ีคือยงั เป็นประโยชน์ต่อชมุ ชนอกี ด้วย ” และนางสาว จ (นามสมมุต)ิ กล่าวว่า “ได้ รจู้ ักการวางแผนก่อนการทางาน คือ ไปเข้าพบผู้ใหญ่บ้านแลว้ เขยี นแผนท่ีหมู่บ้านทาใหเ้ ราหาบ้านแต่ละ หลงั ได้ง่ายขึ้น และยังเป็นการประหยัดเวลาในการทางานอีกด้วย และยังได้รู้จักความสามัคคีในหมู่คณะ คือ แบ่งงานเป็นกลุ่มแล้วทางานที่ได้รับมอบหมาย คือช่วยกันหาข้อมูลของบ้านแต่ละหลัง จากนั้นก็นา ขอ้ มูลท่ีได้มารวบรวมแล้วสรุปผลท่ีได้ ซึ่งวิธีการทางานแบบน้ีสามารถนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวัน ได้ ตอ้ งขอขอบคณุ อาจารยท์ ไ่ี ดใ้ ห้คาแนะนาในการทางาน งานจึงประสบผลสาเรจ็ ในครง้ั นี้” การแสดงความคดิ เหน็ ทั้งด้านลบและดา้ นบวกต่อกระบวนการเรียนการสอนที่มกี ารมสี ่วนรว่ มซึ่ง ผู้ศึกษาเปิดกว้างให้มีการแสดงความคิดเห็นโดยให้หลักประกันว่าจะไม่กระทบต่อผลการศึกษา นอกจากนั้นยังปรบั เปล่ียนความสัมพันธ์ ให้มีความเปน็ กนั เอง เพ่ือให้ลดความเกรงใจลง ทาให้นิสิตแสดง ความคิดเหน็ อย่างตรงไปตรงมา สามารถกระตนุ้ ให้นิสติ ออกไปนาเสนอรายงาน 5. บทสรุป การออกแบบการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning and Action; PLA)โดยให้นิสิตมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอนโดยที่ผู้ศึกษาได้ ใช้Mind Map เป็นเครื่องมือใน การออกแบบ เพื่อจัดทาเป็นแบบแผนของรูปแบบ การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ดังปรากฏในตารางภาพที่ 1 และ ใช้สอดแทรกเป็นกิจกรรมรวมทงั้ หมด ซึ่งการติดตามประเมินผลและการศกึ ษา เพ่ือตรวจสอบผล ของการนารูปแบบดังกล่าวมาใช้ ทาให้สามารถพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม รูปแบบและวิธีการเรียนรู้ยังพบข้อบกพร่องบางประการท่ีได้จากการประเมินทัศนะของนิสิตท่ีแสดง ออกมาในด้านลบในประเด็นระยะเวลาของการออกภาคสนามทท่ี ากจิ กรรม ก็แก้ไขโดยการลดระยะเวลา การเก็บข้อมูลและให้มุ่งการศึกษาข้อมูลให้ชาวบ้านตรวจสอบข้อมูลเพ่ือจะทาให้ได้ข้อมูลถูกต้องและ แม่นยามากขึ้น นอกจากน้ัน ทัศนะด้านบวกได้แสดงถึงความเห็นด้วยและความพึงพอใจในรูปแบบการ เรียนรู้ดังกล่าว เน่ืองจากได้รับประโยชน์จากรูปแบบการเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้จากกระบวนการ กลุ่ม การได้ประสบการณ์จากการค้นหาปรากฏการณ์ทางสังคมที่เป็นจริง รวมท้ังการค้นคว้าจากแหล่ง ความรู้ ท่ีได้จัดทาข้อมูลเผยแพร่ผลงานของนิสติ เป็นเว็บไซด์ และการเปิดช่องทางการส่ือสารทั้งโดยตรง และโดยเว็บไซด์ที่จัดทาไว้ หน้า Facebook, ทาให้การปรึกษาหารือกิจกรรมสัมฤทธิผล นิสิตมีความพึง พอใจและมีความสนใจที่จะทากิจกรรมต่างๆท่ี ได้รับมอบหมายมากขึ้น นอกจากนั้น สามารถกระตุ้นให้

22 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย ครั้งท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” นิสติ กระตือรือรน้ ในการทางานและตรวจสอบซึ่งกันและกัน กิจกรรมการวเิ คราะห์ตนเอง เพ่ือนร่วมงาน เพ่ือประเมินศักยภาพ รวมทั้งการ ประชุมกลุ่มเพื่อแบ่งหน้าท่ีรับผิดชอบ ทาให้การทางานร่วมกันเป็นไป อย่างราบรืน่ นสิ ิตและชุมชนส่วนใหญ่แสดงความรู้สกึ ว่า การทางานในกิจกรรมของกระบวนการเรยี นรแู้ บบมี ส่วนร่วมมีคุณค่าในแง่ของการมองเห็นว่าความสามารถของเพื่อร่วมงานมีคุณค่า มองเห็นคุณค่าในการ ทางาน ท่ีมีความเป็นอิสระ และได้รับผลตอบแทนท่ีได้จากการทางาน ความเข้าใจเพื่อนร่วมงาน ความ สามัคคี ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ โดยเฉพาะรูปแบบการทางาน ความรู้ได้จากการศึกษาค้นคว้าจะเป็น ประโยชน์ ต่อการทางานในอนาคตซักถาม ได้เรียนรู้การทางานเป็นกลุ่มและ เห็นว่า การจัดการเรียนรู้ ดังกล่าวเป็นรปู แบบท่ีต้องการอยา่ งไรก็ตาม การศึกษานี้ไม่ได้ละเลยการแสดงความทัศนคติในด้านลบซึ่ง ความคิดเห็นดังกล่าว จะเป็น ประโยชน์ต่อการปรบั ปรุงกระบวนการเรียนรทู้ ี่ออกแบบมาใชก้ ับนิสิตและ ชุมชน เช่น ส่ือและ อุปกรณ์ท่ีใช้ในการดาเนินการศึกษา รูปแบบการบรรยาย เนื้อหาสาระของการ บรรยาย ส่งิ ดงั กลา่ วแม้วา่ จะเป็นความคดิ เห็นของนิสติ สว่ นน้อยกต็ าม 6. ขอ้ เสนอแนะ รูปแบบการเรียนรู้เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning and Action; PLA) นิสิตมีส่วนรว่ ม เปน็ รูปแบบที่เป็นท่ีนิยมกันในปัจจุบนั ท้ังน้ีเป็นการกระต้นุ ให้นสิ ิตคน้ คว้าด้วยตัวเองแล้ว นาความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนกันโดยการนาเสนอ การอภิปรายโต้แย้ง การตั้งข้อซักถาม ตลอดจนการ วิเคราะห์ตนเองและผู้อ่ืน นาไปสู่ แรงผลักดัน หรือแรงเสริม ให้เกิดความตั้งใจในการทางาน เรียนรู้ ศกั ยภาพท่มี ีอยู่ในตนเอง ศักยภาพของเพื่อนสมาชิกภายในและชมุ ชนภายนอกห้องเรียนกลุ่ม โดยเฉพาะ อยา่ งยง่ิ การเรยี นรคู้ ุณคา่ ของกนั และกนั ภายใต้รูปแบบการจดั การเรียนการสอนแบบมสี ่วนรว่ ม สง่ิ ท่ตี ้อง นามาใชใ้ นการส่งเสริมรูปแบบ ดังกลา่ ว ควรต้องมาจากทง้ั ผู้สอนและสถาบันการศึกษา 1. ผู้สอนในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียนการสอนควรจัดเตรียมความพร้อมทั้งด้านความรู้ ในเนื้อ หาวชิ า ส่ือ อุปกรณ์ รวมท้งั แหล่งความรเู้ ช่น เว็บไซด์ของผูส้ อนซึง่ ผู้สอนสามารถจัดทาได้ง่าย ซึ่ง จะชว่ ยเสริม ให้รูปแบบดังกล่าวดาเนนิ ไปดว้ ยความมปี ระสทิ ธิผล 2. หลักสูตรต่างๆควรมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม มีแบบแผนของการ จดั การเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วมสามารถใชโ้ ปรแกรมประยุกตเ์ ข้ามาช่วยในการ ออกแบบการจัดการ เรยี นการสอน ซง่ึ ในระยะส้ัน สามารถหาโปรแกรมประยุกต์ที่เป็นโปรแกรม ตวั อย่างมาใชไ้ ด้ แตใ่ นระยะ ยาว มหาวิทยาลัยต้องสนับสนุนโปรแกรมดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการเรียนการ สอน ท้ังน้ี เน่ืองจาก โปรแกรมประยกุ ต์ของรปู แบบการเรยี นการแบบมสี ่วนร่วมมีตน้ ทนุ ที่สูงมาก 3. การจัดการเรียนรูใ้ นรูปแบบการศกึ ษาแบบมสี ว่ นรว่ ม ควรใหช้ ุมชนมสี ่วนรว่ มกบั การถา่ ยทอด องคค์ วามรทู้ ่เี ปน็ ภมู ิปัญญาทฝ่ี ังลึกไวน้ าน และควรจาเปน็ ตอ้ งจัดให้กิจกรรมดาเนินไปดว้ ยความสม่าเสมอ เพอ่ื ไมใ่ หน้ ิสติ เกดิ ความเบือ่ หน่ายในการเรียน ซง่ึ หากจะใชร้ ปู แบบการเรียนการสอน

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 23 ในงานการประชุมวิชาการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวิจยั ครง้ั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” เอกสารอา้ งองิ ณพศษิ ฏ์ จกั รพทิ กั ษ์. 2552 \"ทฤษฎกี ารจดั การความรู\"้ , บริษทั ธนาเพรส จากัด. กรงุ เทพฯ สาธารณสุข, กระทรวง.กรมสขุ ภาพจติ . 2544. คูม่ ือฝกึ อบรมแบบมสี ว่ นรว่ ม. พิมพ์ครั้งที่ 4 กรงุ เทพมหานคร : วงศ์กมล โปรดกั ชน่ั จากดั . ออนไลน์ การจัดการความรู้ (http://www.thaiall.com/km/indexo.html#km1. (สบื คน้ วนั ทเี่ ข้าถงึ 24 พฤษภาคม 2561) การกาหนดรูปแบบการบูรณาการงานบริการวชิ าการกับการเรียนการสอน(http://wserv.rmutto.ac.th/ agri/images/stories/Administers/Management_Section/KM/km_learning.pdf : เวบไซด์ [สบื คน้ วันทีเ่ ขา้ ถงึ 24 พฤษภาคม 2561] ศภุ วฒั น์ ปภสั สรากาญจน์. การศึกษาแบบมสี ่วนรว่ มในกระบวนการเรียนการสอนแบบมสี ่วนรว่ มของ นกั ศึกษา ชน้ั ปที ี่ 3 หลกั สตู รรัฐประศาสนศาสตร์ ภาคการศึกษาท่ี 1 ปีการศกึ ษา2554 [ออน ไลน]์ เขา้ ถึงได้จาก :http://rotoratuk.blogspot.com/p/1-1.html. (วนั ทเี่ ขา้ ถงึ 2 มถิ นุ ายน 2561)

การบูรณาการการสร้างชมุ ชนตน้ แบบทสี่ ามารถพ่งึ พาตนเองได้ตามอตั ลักษณ์และเอกลักษณข์ อง ชุมชน อาเภอชน่ื ชม จังหวัดมหาสารคาม โครงการบรกิ ารวิชาการแบบมงุ่ เป้า สุมลวรรณ ชมุ่ เชอ้ื และคณะ คณะเทคโนโลยี 1. หลกั การและเหตผุ ล มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ถือการให้บริการวิชาการเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจหลักของ มหาวทิ ยาลัย ที่ต้องเชือ่ มโยงภารกิจดงั กลา่ วใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายของชาติตามแนวทางการดาเนนิ งาน ตามแผนปรองดองแห่งชาติ ที่ ครม.เห็นชอบเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2553 และสอดคล้องกับกรอบแผน อุดมศกึ ษาระยะยาว 15 ปี ฉบบั ท่ี 2 (พ.ศ.2551-2565) ท่ีมุ่งเน้นให้สถาบันอุดมศึกษาทางานตามภารกิจ ของตนเองโดยเช่ือมโยงชุมชน ท้องถ่ิน ในการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้าทางสังคม ปี พ.ศ. 2560 มหาวิทยาลัยมกี ระบวนการในการแสวงหาพื้นทแ่ี ละความร่วมมือกับองค์กรภายนอกที่มคี วาม ต้องการขับเคล่ือนให้เห็นการเปล่ียนแปลงชุมชนเชิงพ้ืนที่ โดยการมีส่วนระหว่างมหาวิทยาลัยกับชุมชน ทั้งนี้ได้มีการจัดเวทีเสวนาและแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ึนกับตัวแทนพ้ืนที่จากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจาก อาเภอต่างๆในเขตจังหวัดมหาสารคาม เพ่ือกาหนดโจทย์และปัญหาร่วมกัน จากการจัดเวทีเสวนา ดังกล่าว มหาวิทยาลัยได้กาหนดให้ “ตาบลเหล่าดอกไม้ อาเภอช่ืนชม จังหวัดมหาสารคาม” เป็นพื้นที่ Area based ในการให้บริการวิชาการของมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นให้เกิด “นวัตกรรมเพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่ม” และ “การสร้างชุมชนต้นแบบ” ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งตาบลเหล่าดอกไม้ อาเภอชื่นชม จังหวัด มหาสารคาม ประกอบด้วย 11 หมู่บ้าน มีประชากรประมาณ 6,600 คน ถือได้ว่าเป็นชุมชนเข้มแข็ง มี โครงการท่ีดาเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ โครงการเก่ียวกับการจัดการขยะชุมชน โครงการโรงเรียน ผู้สูงอายุ การจัดการป่าชุมชน มีบ่อหมักแก๊สชีวภาพท่ีสามารถใช้งานได้บางส่วน ทั้งนี้จากบริบทชุมชน และทุนเดิมท่ีมีพ้ืนท่ีตาบลเหล่าดอกไม้ มีความต้องการให้มหาวิทยาลัยเข้าไปดาเนินการให้ความรู้และ พฒั นาชุมชนดา้ นต่างๆ ดังนี้ คือ 1) การพัฒนาผู้สูงอายุ 2) การบริหารจัดการและพัฒนาป่าชมุ ชน และ 3) การบรหิ ารจัดการบ่อหมกั แก๊สชีวภาพและหาแหลง่ พลงั งานทดแทน เนื่องจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นสถาบันการศึกษาท่ีพร้อมซ่ึงองค์ความรู้ท้ังด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และองค์ความรู้ในเร่ืองการบริหารจัดการ ดังนั้นจึงมีวัตถุประสงค์ในการ ให้บริการวิชาการที่มุ่งเน้นให้เกิด “การสร้างชุมชนต้นแบบ” เพ่ือให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง สามารถ พึ่งพาตนเองได้ และเป็นต้นแบบของชุมชนอื่นต่อไป โดยเร่ิมดาเนินงานต้ังแต่ ปี พ.ศ.2560 และมี นโยบายที่จะขับเคล่ือนและต่อยอดขยายผลการดาเนินงานไปสู่ระดับอาเภอ ในอีก 3 ตาบล ภายในเขต อาเภอชน่ื ชม โดยเนน้ การดาเนนิ งานแบบบรู ณาการจากทกุ ภาคสว่ น ในปงี บประมาณ พ.ศ. 2561

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 25 ในงานการประชุมวชิ าการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวิจัย คร้งั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพ่อื สนบั สนนุ ใหเ้ กดิ องค์กร/ชุมชนแหง่ การเรียนรตู้ ามนโยบายของมหาวทิ ยาลยั 2.2 เพอ่ื สนับสนุนการสรา้ งชุมชนต้นแบบทส่ี ามารถพงึ่ พาตนเองไดแ้ ละขยายผลไปสชู่ ุมชนอนื่ 3. วธิ กี ารการดาเนนิ งาน 1. ศึกษา ถอดบทเรียน จากการลงพ้ืนท่ีให้บริการวิชาการแก่ชุมชนในพื้นท่ี อบต. เหล่าดอกไม้ ร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ไดแ้ ก่ อบต.หนองกุง อบต.กดุ ปลาดุก และ อบต.ช่ืนชม และรวบรวมประเดน็ ความ ตอ้ งการของพน้ื ที่กลุ่มเปา้ หมาย โดยมีผ้เู ขา้ รว่ มโครงการประกอบด้วยผู้นาองค์กรได้แก่ นายก อบต. รอง นายก อบต. และเจ้าหน้าท่ี อบต. ตัวแทนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน (รพ.สต.) สหกรณ์ การเกษตรอาเภอ วัฒนธรรมอาเภอ สภาองคก์ รชุมชน ผใู้ หญบ่ ้าน และ ตัวแทนผสู้ งู อายุ 2. ขยายผลการให้บริการวิชาการ โดยประชุมร่วมระหวา่ งมหาวทิ ยาลัยและกลุ่มเป้าหมายเพ่ือ กาหนดแผนงานการดาเนนิ งานรว่ มกนั 3. รว่ มดาเนนิ งานกบั กลุ่มเป้าหมายผ่านกิจกรรม 4. ถอดบทเรยี น และสรปุ ผลการดาเนนิ งาน 4. ผลการดาเนนิ งาน 4.1 ผลการศึกษา ถอดบทเรียน จากการลงพ้ืนท่ีให้บริการวิชาการแก่ชุมชนในพ้ืนที่ อบต. เหล่าดอกไม้ รว่ มกบั กลุม่ เปา้ หมาย และรวบรวมประเดน็ ความตอ้ งการของพน้ื ทกี่ ลุ่มเป้าหมาย 1.1 ผลการถอดบทเรยี นจากการลงพ้ืนที่ใหบ้ ริการวิชาการแก่ชุมชนในพ้นื ที่ อบต. เหล่าดอกไม้ พบวา่ ทุนเดมิ /ภมู ปิ ัญญา/ มหาวทิ ยาลัยใหบ้ ริการวชิ าการ ความเขม้ แข็ง/ ตน้ แบบ ทรพั ยากร ของชุมชน หลักสูตรเพม่ิ เตมิ ไดแ้ ก่ 1.โรงเรียนผู้สูงอายุ - การพฒั นาหลกั สูตรการเรยี นรู้แบบมสี ่วนรว่ ม 1. การบรหิ ารจดั การ เพ่อื เสรมิ สรา้ งพลังทางสงั คมของผู้สูงอายุ โรงเรยี นผู้สูงอายแุ บบมสี ว่ น - การใช้องค์ความรดู้ า้ นแพทย์แผนไทยในการ รว่ มของ อบต. รพ.สต. ดูแลสุขภาพผสู้ งู อายุ ขา้ ราชการและประชาชนใน - การสร้างอาสาสมคั รดแู ลผู้สงู อายดุ า้ นยาใน ทอ้ งถิ่น (ปราชญ์ ผ้รู )ู้ ครอบครัว 2. ตน้ แบบโรงเพาะเห็ด - การจดั การอาการปวดเม่ือยกลา้ มเน้ือของ 3. ต้นแบบโรงเลีย้ งไก่ขนาด ผู้สูงอายุ เล็ก - การดแู ลสขุ ภาพดว้ ยการออกกาลังกาย - การผลติ ไขไ่ ก่

26 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชมุ วิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจยั ครง้ั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” ทนุ เดิม/ภมู ิปัญญา/ มหาวิทยาลยั ให้บรกิ ารวิชาการ ความเข้มแข็ง/ ต้นแบบ ทรพั ยากร ของชมุ ชน - การส่งเสริมการเพาะเหด็ ตามหลกั เศรษฐกจิ 2.การจัดการขยะ พอเพียง ธนาคารขยะ/กองทนุ ขยะ/ - การพัฒนาตารบั อาหารอสี านเพื่อผสู้ งู วัย สวัสดิการสมาชกิ - การปลกู ผกั ไฮโดรโพนิค 1. การดูแลปา่ โดยชุมชน - 2. ฐานขอ้ มูลด้าน - ความหลากหลายทาง 3.ปา่ โคกขา่ ว 1. ความหลากหลายทางชวี ภาพ ชีวภาพ 2. การจดั การท่องเทยี่ ว - พืชเศรษฐกิจและมลู คา่ 3. ภมู สิ ารสนเทศ จากป่าโคกขา่ ว 4. การจดั การและเศรษฐศาสตรธ์ ุรกจิ - ภูมสิ ารสนเทศ 3. การจัดการพื้นท่ปี า่ บาง 4.บอ่ แกส๊ ชีวภาพเดมิ - การฝกึ อบรมใหค้ วามรู้ดา้ นการดแู ลบอ่ สว่ นเพ่ือการท่องเทย่ี วเชิง แก๊สชีวภาพ (คลินิกการดูแล) นเิ วศน์ - การสร้างต้นแบบถงั เกบ็ / การกระจายแกส๊ ตน้ แบบถังเก็บ/การกระจาย ชวี ภาพ แก๊สชีวภาพ

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 27 ในงานการประชมุ วิชาการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย ครง้ั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวิชาการ” 1.2 ผลการศกึ ษา รวบรวมประเด็นปัญหา และความต้องการของพื้นที่กลุ่มเปา้ หมาย พบว่า พนื้ ที่ ทุนเดิม/ภมู ปิ ัญญา/ ปญั หา ความตอ้ งการ อบต.กุดปลาดกุ ทรัพยากร อบต.หนองกงุ 1. ทรพั ยากรในชุมชนมนี อ้ ย 2. พน้ื ท่ีอยไู่ กล 3. ชุมชนขาดความเข้มแข็ง โรงเรยี นผ้สู งู อายุ 1. ขาดการบริหารจัดการทด่ี ี ต้องการใหม้ หาวทิ ยาลัย มีชุมชนเหลา่ ดอกไม้ 2. ขาดการประสานงาน / มหาสารคาม และ อบต. เป็นตัวอยา่ ง ทางานเชื่อมโยงของภาคีใน เหลา่ ดอกไมเ้ ปน็ พ่ีเล้ยี ง ท้องท่ีชุมชน ทงั้ น้ียงั ไมพ่ รอ้ มพฒั นา ร่วมกบั มหาวทิ ยาลัย ในปีงบประมาณ 2561 การคัดแยกขยะมีชมุ ชน ขาดการบรหิ ารจดั การท่ดี ี ต้องการใหม้ หาวทิ ยาลยั เหลา่ ดอกไมเ้ ปน็ มหาสารคาม และ อบต. ตัวอยา่ ง เหลา่ ดอกไม้เปน็ พเ่ี ลยี้ ง ใหเ้ กดิ การบริหารจัดการ แบบครบวงจร

28 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน พนื้ ที่ ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวิจัย ครง้ั ท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” อบต.ชน่ื ชม ทนุ เดมิ /ภูมปิ ญั ญา/ ปญั หา ความต้องการ ทรพั ยากร ตอ้ งการให้มหาวิทยาลยั มหาสารคาม และ อบต. โรงเรยี นผูส้ งู อายุ โดย ขาดการประสานงาน / เหล่าดอกไมเ้ ปน็ พ่เี ล้ยี ง ท้งั นย้ี ังไมพ่ รอ้ มพฒั นา รพ.สต.เป็นผดู้ าเนนิ การ ความร่วมมือระหวา่ ง รว่ มกบั มหาวิทยาลัย ในปีงบประมาณ 2561 หนว่ ยงานในพ้นื ที่ 1. ความรู้ / ทักษะการ ทาบายศรี 1. ภมู ปิ ัญญา 2. อาชพี เสรมิ - หมอเปา่ รักษาตุ่ม - ด้านการเกษตร (GAP) หนอง - ด้านปศุสตั ว์ (สัตว์ - ภูมปิ ัญญาทาบายศรี เศรษฐกิจ) - ภมู ิปัญญาจกั สาน - การเลี้ยงไหม / การ กล่องข้าว ทอผา้ ไหม - ภมู ิปัญญาการทอผา้ - ดา้ นการตลาด ตีนจก ความรู้ การบรหิ าร จดั การ และการตลาด 2. การปลกู ผกั อนิ ทรยี ์ ความรู้ / การบรหิ าร จัดการ ยาเสพตดิ ในเยาวชน 1. การบริหารจดั การ 2. หลกั สตู ร / ความรู้ โรงเรียนผูส้ งู อายุ (เร่งด่วน) 3. พ่ีเล้ยี ง

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 29 ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย ครง้ั ที่ 14 : สาขาบริการวชิ าการ” 4.2 ผลการขยายผลการใหบ้ ริการวชิ าการ จากการประชุมร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยมหาสารคามและกลุ่มเป้าหมายท้ัง 3 อบต. เพื่อ กาหนดแผนงานการดาเนินงานร่วมกัน โดยท่ีประชุมได้มีข้อตกลงร่วมกันใหท้ าการขยายผลการใหบ้ ริการ วิชาการแก่ชุมชนเป้าหมายท่ีมีความพร้อมและมีความต้องการเร่งด่วน ได้แก่โครงการโรงเรียนผู้สูงอายุ ของ อบต.ชื่นชม โดยมีการดาเนินงาน ดังน้ีคือ 1) อาจารย์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามให้ คาแนะนา ในการจัดตั้งคณะกรรมการในการดาเนินงานโรงเรียนผู้สูงอายุ 2) อาจารย์ นักวิชาการ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคามและพื้นที่ อบต.ชื่นชม จัดเวทีศกึ ษาพดู คุย แลกเปลยี่ น ความคดิ ความต้องการ ของนักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุ จานวนประมาณ 120 คน โดยพบว่านักเรียนโรงเรียนผู้สูงอายุมีความ ต้องการเรียนรู้ พัฒนา ในประเด็นต่างๆดังต่อไปน้ี ได้แก่ อยากมีรายได้เพิ่มจากอาชีพเสริม อยากมี สุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี อยากมีความรู้ด้านกฎหมายท่ัวไป เช่น กฎหมายท่ีดิน กฎหมาย ครอบครัว เป็นต้น 3) อาจารย์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามและพ้ืนท่ี อบต.ช่ืนชม ร่วมจัดทา แผนการเรียนการสอนในหลักสูตร ท้ังน้ีโรงเรียนผู้สูงอายุของ อบต.ช่ืนชม มีการเปิดการเรียน การสอน เดือนละ 2 ครง้ั คอื วนั ที่ 15 และ 31 ของทุกเดอื น และต้องไม่ใชว่ ันเสาร์ อาทิตย์ หรอื วันหยดุ นักขัตฤกษ์ 4.3 ผลการรว่ มดาเนินงานกับกลมุ่ เป้าหมายผา่ นกิจกรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ร่วมดาเนินงานโรงเรียนผู้สูงอายุของ อบต.ชื่นชมตามความ ต้องการตามอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของชุมชน โดยบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน การวิจัย และ การทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม ในหลักสูตรต่างๆที่เก่ียวข้อง มีอาจารย์ นักวิชาการที่มีความรู้และความ เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยนิสิต ไปให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ดังน้ีคือ 1) การจัดการสุขภาพกาย 2) การใช้ยา สาหรับผู้สูงอายุ 3) การทาบายศรี 4) การให้ความรู้ด้านกฎหมายทั่วไป 5) การเล้ียงสัตว์เศรษฐกิจเป็น อาชีพเสริม 6) การจัดการสุขภาพจิต และ 7) การผลิตยากันยุง ทั้งนี้ในการทากิจกรรมการให้ความรู้จะมี เจ้าหน้าที่จาก อบต. เหล่าดอกไม้ ช่วยเป็นพี่เล้ียงและมีผู้บริหารโรงเรียนผู้สูงอายุ บุคลากรในพ้ืนท่ีที่ เกีย่ วขอ้ ง และเจา้ หน้าท่ี รพ.สต. รว่ มแลกเปล่ยี นเรยี นรูแ้ ละถอดบทเรียนร่วมกัน

30 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชมุ วิชาการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย คร้งั ท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” 5. สรปุ การดาเนนิ งาน โครงการน้ีเป็นการบูรณาการความร่วมมือของโครงการบริการวิชาการแบบมุ่งเป้าเชิง Area based ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อให้เกิดเครือข่ายการทางานร่วมกับกับองค์กรในชุมชน อาเภอ ชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม และจากการถอดบทเรียนร่วมกันสรุปได้ว่าความสาเร็จของการเป็นชุมชน พึง่ ตนเองตามอัตลกั ษณ์และเอกลักษณ์ของชมุ ชนขึ้นอยกู่ บั ทุนทรัพยากร ภูมปิ ัญญาชมุ ชน ศกั ยภาพของ ผู้นา การทางานเป็นทีมขององค์กร การเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การยอมรับความช่วยเหลือจากหน่วยงาน ภายนอกการมีสว่ นรว่ มของคนในชุมชน และการจัดสรรงบประมาณจากองคก์ รในการสนบั สนนุ กจิ กรรม

แนวทางการพัฒนาพ้นื ทศี่ นู ย์การเรยี นรู้และท่องเทย่ี วเชงิ นเิ วศวฒั นธรรมหนองเรือ : องคก์ ารบริหาร ส่วนตาบลกมลาไสย อาเภอกมลาไสย จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ โครงการบูรณาการหน่ึงหลักสตู รหนง่ึ ชุมชน วชิ าภรณ์ ชานิกาจร และคณะ คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ ผังเมอื งและนฤมติ ศิลป์ 1. ความเป็นมาของปัญหา องค์การบริหารส่วนตาบลกมลาไสยเป็นเขตการปกครองของอาเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ พ้ืนที่โดยประมาณ 31 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอาเภอกมลาไสย มีภูมิประเทศ เป็นท่ีราบลุ่มที่มีความอุดมสมบูรณ์ และส่วนมากเป็นพ้ืนที่สาหรับเพาะปลูกชั้นดี เป็นที่ต้ังที่มีสภาพภูมิ ทัศน์ที่สวยงาม เน่ืองด้วยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนแหล่งวัฒนธรรมโบราณ โดยมีอาณาเขตติดกับพื้นท่ี เมืองฟ้าแดดสงยาง เมืองโบราณสมัยทวาราวดี หลักฐานที่ยงั คงแสดงให้เห็นชัดเจนมาจนถงึ ปัจจุบัน คือ การมีคูน้า คันดิน ท่ียังคงความสมบูรณ์ ณ พื้นท่ีหมู่บ้านเสมา ประกอบด้วยปูชนียสถานที่สาคัญคือ พระ ธาตุยาคู ใบเสมาในสมัยโบราณ จึงเป็นท่องเที่ยวท่ีสาคัญทางด้านประวัติศาสตร์ในระดับภูมิภาค เมือง โบราณฟ้าแดดสงยางนี้ถือเป็นสถานทีท่องเท่ียวสาคัญของจังหวัดและเป็นสถานท่ีประกอบพิธี ประเพณี สาคัญของจังหวัด เช่น ประเพณีสรงน้าพระธาตุยาคู งานแสงสีเสียงเมืองฟ้าแดดสงยาง ปัจจุบันได้รับ ความสนใจและทาให้มีจานวนผูค้ นเขา้ มาท่องเท่ียวในพนื้ ทีม่ ากยิง่ ขึน้ ทุกปี จากการสรุปผลแผนพฒั นาของสานักงานท่องเที่ยวและการกฬี าจังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ ได้สรุปประเดน็ ปัญหาด้านการท่องเท่ียว สาเหตุน้ันมาจากในพ้ืนที่ขาดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีความต่อเนื่อง ขาด กจิ กรรมที่นา่ สนใจในเส้นทางการท่องเที่ยว สง่ ผลให้สถานท่ีท่องเที่ยวเมืองโบราณฟ้าแดดสงยางถูกลดท่ี มีความสาคัญและถูกมองข้ามการเป็นเป้าหมายของการท่องเที่ยว ทาให้เกิดความซบเซาตามมา ท้ังนี้ องคก์ ารบริหารส่วนตาบลกมลาไสยจึงวางแผนพัฒนาแหล่งท่องเท่ยี วในพ้ืนทรี่ ับผิดชอบ เพื่อสร้างความ ต่อเน่ืองของเส้นทางและกิจกรรมระหว่างเมืองโบราณฟ้าแดดสงยางและพ้ืนท่ีโดยรอบ โดยคานึงถึงอัต ลกั ษณท์ ส่ี าคัญของทอ้ งถิ่นเพอ่ื สร้างเป็นลักษณะเฉพาะของชุมชน โดยพ้ืนท่ีองค์การบริหารส่วนตาบลกมลาไสยได้มีแผนพัฒนาศักยภาพพื้นท่ี เส้นทางและ กิจกรรมการท่องเที่ยวเน่ืองด้วยมีสภาพสังคมและวัฒนธรรมชุมชนเข้มแข็ง จึงได้มีแผนนโยบายในการ พัฒนาพ้ืนที่นาร่องบริเวณพ้ืนทหี่ นองเรือ ซง่ึ เปน็ บึงขนาดใหญ่และมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีธรรมชาติที่ สวยงามนี้ให้เปน็ บึงที่มกี ิจกรรมเชงิ นเิ วศ การปรับปรงุ ภูมทิ ศั น์สร้างบรรยากาศรม่ รนื่ และเป็นพืน้ ที่พกั ผอ่ น หย่อนใจ มีป่าอนุรักษ์ชุมชนที่ยังคงพบพรรณไม้พ้ืนถ่ินหายาก ส่วนการพัฒนาทางด้านสังคมและ วัฒนธรรมโดยพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ชุมชนซ่ึงประกอบไปด้วยกลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้แก่ วิธีการสาน ทอเส่ือ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มชุมชน ด้านการอาชีพเกษตรกรรมและอาหาร ได้แก่ กลุม่ ผลติ ภณั ฑ์ปลอดสารพษิ ข้าวไรซ์เบอรร์ ่ี

32 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชมุ วิชาการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวิจยั ครงั้ ท่ี 14 : สาขาบรกิ ารวิชาการ” ทั้งนี้คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ ได้รับหนังสือขอความอนุเคราะห์จาก องค์การบริหารส่วนตาบลกมลาไสยใหเ้ ป็นท่ีปรกึ ษาในโครงการการวางแนวทางการพัฒนาพ้ืนท่ีศูนย์การ เรียนรู้และท่องเที่ยวเชงิ นเิ วศวฒั นธรรมหนองเรือ : องค์การบรหิ ารส่วนตาบลกมลาไสย อาเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธ์ุ มาเบ้ืองต้นนั้น ทางคณะฯได้ตระหนักเห็นความสาคัญในแนวนโยบายการพัฒนาชุมชน ควบคู่ไปกับการบูรณาการพัฒนาการเรียนการสอนศาสตร์ด้านการออกแบบทั้ง 5 สาขา ได้แก่ สาขา สถาปัตยกรรมผังเมือง ภูมิสถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรม สถาปัตยกรรมภายใน และสาขานฤมิตศิลป์ ด้วยคณะมีวสิ ัยทัศน์ในการพัฒนาเป็นศูนยร์ วมการสร้างสรรคแ์ ละถ่ายทอดองคค์ วามรู้ด้านสถาปัตยกรรม และการออกแบบเพ่ือความยง่ั ยืนของท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมถึงพันธกิจในการสืบทอดองค์ ความรู้โดยการบูรณาการงานวิชาการผสานภูมิปัญญาท้องถ่ินเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม จึงได้เลือก พ้ืนที่องค์การบริหารส่วนตาบลกมลาไสยเป็นพ้ืนที่ศึกษา และเสริมสร้างศาสตร์ด้านกระบวนการมีส่วน ร่วมของชุมชนเพ่ือค้นหาและสร้างอัตลักษณ์ของท้องถ่ินให้เกิดแหล่งเรียนรู้ และส่งเสริมพัฒนาให้เกิด การเชื่อมโยงของแหล่งท่องเที่ยว ได้มเี ส้นทางและกิจกรรมทีต่ ่อเนอ่ื ง ท้ังน้ีเพอ่ื สร้างสภาพสังคมชมุ ชนท่ีดี เกิดการเรียนรู้ สร้างสรรค์องค์ความรู้ และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้ดียิ่งขึ้นด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม ของนสิ ิตและชุมชนสกู่ ารปฏิบัตจิ ริง 2.วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ ศึกษาศักยภาพพนื้ ท่ีชมุ ชนเพอื่ เสรมิ เปน็ แหล่งเรยี นรแู้ ละทอ่ งเทีย่ วเชงิ นเิ วศวฒั นธรรม 2. เพือ่ พัฒนาพ้นื ท่ีแหล่งเรยี นรู้และทอ่ งเที่ยวเชงิ วฒั นธรรมในชมุ ชนใหเ้ กดิ อัตลกั ษณ์ทอ้ งถนิ่ 3. เพอื่ เสนอแนวทางพัฒนาพื้นทศ่ี นู ยก์ ารเรียนรู้และทอ่ งเท่ยี วเชิงนิเวศวฒั นธรรมหนองเรือ 3. กล่มุ เป้าหมาย/ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ คณะทางาน - อาจารย์ (คณะทางานและทป่ี รกึ ษา) จานวน 8 คน - นสิ ิตคณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ฯ จานวน 150 คน - ชมุ ชน (บา้ นข้าวหลามและในเขต อบต.กมลาไสย) จานวน 30 คน - ภาค/ี องคก์ รเครอื ข่ายทั้งภายนอกและภายใน จานวน 3 เครอื ข่าย 1. องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลกมลาไสย อาเภอกมลาไสย จงั หวัดกาฬสินธ์ุ 2. ทว่ี ่าการอาเภอกมลาไสย อาเภอกมลาไสย จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ 3. สานักงานทอ่ งเทีย่ วและกฬี าจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ 4.กระบวนการดาเนนิ การ 4.1 ข้นั เตรียมการ การเกบ็ รวบรวมข้อมูลของพื้นที่

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 33 ในงานการประชมุ วิชาการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวจิ ยั ครงั้ ที่ 14 : สาขาบริการวชิ าการ” ศกึ ษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวขอ้ ง เปน็ การศกึ ษาแนวความคิดเรื่องการมสี ่วนร่วมของชุมชน การบูรณาการงานบริการวิชาการกับการเรียนการสอน เพ่ือการเรียนรู้ของนิสิตและชุมชนร่วมกันศึกษา แนวความคิดและงานวิจัยอื่นทเี่ ก่ียวข้อง การจัดประชุมกลุ่มย่อยเพ่ือสอบถามเกี่ยวกับความสาคัญของพ้ืนที่โดยมีผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องของ ชุมชนตัวแทนจากท้องถ่ิน ท้ังภาครัฐและเอกชนและจากตัวแทนคณาจารย์ท้ัง 5 สาขาและนิสิตคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ผงั เมืองและนฤมติ ศลิ ป์ 4.2 ขั้นตอนการดาเนนิ การ ศกึ ษาข้อมูลเบื้องตน้ เกี่ยวกับพน้ื ที่ชุมชน โดยการประสานงานภาครฐั ได้แก่ องคก์ ารบรหิ ารส่วน ตาบลกมลาไสย เครือข่ายชาวบ้านเพ่ือการสารวจพื้นท่ีชุมชนเบื้องต้น การพบปะตัวแทนชาวบ้านเพื่อ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการหาประเด็นในการศึกษาพื้นที่ ลักษณะกายภาพของพ้ืนท่ี และ ความสาคัญของพ้ืนที่ ตลอดจนข้อมูลเพื่อการเตรียมงานเบื้องต้น เพ่ือนาเป็นโจทย์บูรณาการการเรียน การสอนในปีการศึกษา 2560 ท้ัง 5 สาขาและสร้างกจิ กรรมอนุรักษแ์ ละสืบสานศลิ ปวัฒนธรรมของชมรม อนรุ กั ษ์ศิลปวัฒนธรรมของคณะ 1) การตรวจเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ร่วมกับภาพถ่ายทางอากาศ แผนท่ีทางทหาร แผนที่ โบราณ และภาพถ่ายของชาวบ้าน เพ่ือวิเคราะห์ข้อมูลด้านลักษณะกายภาพของพ้ืนที่ในอดีตความ เปล่ยี นแปลงท่เี กิดขนึ้ 2) กระบวนการศึกษาพ้ืนท่ีเบ้ืองต้นการศึกษาในคร้ังนี้ใช้กระบวนการศึกษาเชิงสารวจ ร่วมกับกระบวนการออกแบบในศาสตร์ของสาขาวิชา ได้แก่ สาขาสถาปัตยกรรม สาขาสถาปัตยกรรม เมืองและชุมชน สาขาภูมิสถาปัตยกรรม สาขาสถาปัตยกรรมภายใน สาขานฤมิตศิลป์ โดยเก็บข้อมูล จากการสารวจพ้ืนที่ การให้ข้อมูล ความต้องการเบ้ืองต้นร่วมกับเจ้าหน้าท่ี ภาครัฐและเอกชนรวมถึง ปราชญ์ชาวบ้านที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่ เพ่ือเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ความเป็นมาความสาคัญ เพ่ือ วิเคราะห์ความต้องการของภาครัฐให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนา และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ต่อยอดเศรษฐกจิ ทย่ี ่งั ยนื 3) การลงพื้นท่ี การรวมกลุ่มชาวบ้านและการสัมภาษณ์เชิงลึก เพ่ือการแลกเปลี่ยนข้อมูล ด้านกายภาพ สังคม เศรษฐกิจของชุมชน รวมทั้งการสัมภาษณ์เจ้าหน้าท่ีของรัฐเก่ียวกับนโยบาย แผนพัฒนาเพ่ือให้สอดคล้องกับแนวคิดและการออกแบบพ้ืนที่ เพ่ือนาไปสู่ขั้นตอนการออกแบบซึ่งเป็น การบูรณาการความตอ้ งการของชมุ ชนกับรายวชิ าการเรยี นการสอนด้านการออกแบบ 4.3 ขนั้ ตดิ ตามและสรุปผล การนาผลงานมาตรวจในรายวชิ า การปรบั แกไ้ ขและสรุปงานสุดท้ายเพือ่ นาเสนอจดั นทิ รรศการ แสดงผลงาน เปน็ การบูรณาการการเรยี นการสอนของนิสิตทัง้ 5 สาขาเพอื่ สร้างองคค์ วามรู้ดา้ นการ ออกแบบ ดังน้ี 1. การวางผังบริเวณพื้นท่ีบึงหนองเรือ/แผนท่ีเส้นทางท่องเท่ียว โดย สาขาสถาปัตยกรรม ผงั เมอื ง

34 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวจิ ยั คร้งั ที่ 14 : สาขาบริการวิชาการ” 2. การปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาแหล่งเรียนรู้รอบบึงหนองเรือ โดย สาขาภูมิสถาปัตย- กรรม 3. การออกแบบพื้นท่ีศูนย์การเรียนรู้หรือพิพิธภัณฑ์ชุมชน/ศูนย์กระจายสินค้าและอาหาร ชุมชน โดย สาขาสถาปัตยกรรม 4. การออกแบบภายในพ้ืนที่ศูนย์การเรยี นรู้หรือพิพิธภัณฑ์ชุมชน/ศูนย์กระจายสินค้าและ อาหารชมุ ชน โดย สาขาสถาปัตยกรรมภายใน 5. การพฒั นาบรรจุภัณฑ์และแนวทางการพฒั นาผลิตภัณฑ์ชมุ ชน โดย สาขานฤมติ ศลิ ป์ 6. สมุดระบายสี องค์การบริหารส่วนตาบล เพื่อเปน็ การปลุกฝังความรแู้ ละทักษะทางด้าน ศิลปกรรมท่ีเกี่ยวกับวิถีชุมชน ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และนิเวศวัฒนธรรม โดย นิสิตชมรม ศิลปวัฒนธรรม 5. การบูรณาการกบั ภารกจิ หลกั ดา้ นอนื่ ๆ 5.1 การบูรณาการกับการเรียนการสอน 5 วิชา ท้ัง 5 สาขา โดยได้รับโจทย์จากท้องถ่ินและ เป็นช้ินงานในการเรยี นการสอนตามสาขารายวชิ าและมีการตรวจ แกไ้ ขจากคณาจารย์ และโดยชมุ ชนโดย การใหช้ ุมชนมสี ว่ นร่วมในการนาเสนอ แก้ไข ปรับปรุงผลงานของนิสิต 1. หลักสตู รสถาปตั ยกรรมผังเมือง วิชาการวางแผนการใช้ประโยชน์ทดี่ ินและโครงสร้าง พนื้ ฐาน 2. หลักสูตรภมู ิสถาปตั ยกรรม วิชาปฏิบัตกิ ารออกแบบภูมสิ ถาปตั ยกรรม

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 35 ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวจิ ัย ครง้ั ท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” 3. หลักสูตรสถาปตั ยกรรม วชิ าปฏิบตั กิ ารออกแบบสถาปัตยกรรม 4. หลกั สูตรสถาปัตยกรรมภายใน วิชาปฏบิ ตั ิการออกแบบสถาปตั ยกรรมภายใน 5. หลักสูตรนฤมิตศิลป์ วชิ าวฒั นธรรมอีสาน 5.2 การบูรณาการกับการวิจยั แนวทางการพัฒนาเส้นทางท่องเท่ียวอาเภอกมลาไสย จังหวัด กาฬสนิ ธุ์ 5.3 การบูรณาการกับการทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม ผลงานภาพสมุดระบายสี อบต.กมลา ไสย และพันธกิจเข้าร่วมงานประเพณีชุมชนของชมรมศิลปวัฒนธรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ การ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของชุมชนในการจัดนทิ รรศการประกวดชมุ ชนเศรษฐกิจพอเพยี งระดบั จังหวดั 6. ผลลพั ธจ์ ากการดาเนนิ งานโครงการ 6.1 ข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ หนองเรือเป็นพื้นท่ีที่มีศักยภาพยุทธศาสตร์ในการส่งเสริม และพัฒนาขีดความสามารถเร่ืองการท่องเที่ยวภายใต้วิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัด คือ กาฬสินธ์ุเมือง อาหารปลอดภัย ภูมิปัญญาวิถีท้องถ่ินไทย น่าอาศัย ท่องเทย่ี วและลงทุน โดยมีพนั ธกจิ คอื เป็นแหล่งผลิต เน้นการพฒั นาข้าว สง่ เสรมิ ผลติ ภณั ฑ์จากภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น จงึ ไดม้ ีแผนนโยบายในการพัฒนาพื้นท่นี าร่อง บริเวณหนองเรือ ซึ่งเป็นบึงขนาดใหญ่และมีระบบนิเวศท่ีสมบูรณ์ มีธรรมชาติท่ีสวยงามน้ีให้เป็นบึงท่ีมี กิจกรรมเชิงนิเวศการปรับปรุงภูมิทัศน์สร้างบรรยากาศร่มรื่นและเป็นพ้ืนท่ีพักผ่อนหย่อนใจ มีป่าอนุรักษ์ ชุมชนท่ียังคงพบพรรณไม้พ้ืนถ่ินหายาก การสร้างเส้นทางชมและเรียนรู้ธรรมชาติ และการสร้างศูนย์ เรียนรชู้ มุ ชนเพอื่ ส่งเสรมิ และพฒั นาเศรษฐกิจ ไดแ้ ก่ กล่มุ ภูมิปัญญาชุมชนเครื่องจกั สาน กล่มุ ทอเสอื่ กลุ่ม เย็บปักลายเสื้อด้วยมอื กลุ่มตะกร้าสานจากพลาสติก ด้านการอาชีพเกษตรกรรมและอาหาร ได้แก่ กลุ่ม ผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ ข้าวไรซ์เบอร์ร่ี โดยพ้ืนท่ีชุมชนเป็นพื้นที่เกษตรช้ันดีท่ีควรได้รบั การพัฒนาและ ใหค้ วามสาคัญเรือ่ งข้าวและพืชผกั และศนู ยเ์ รียนร้เู กษตรอินทรยี ต์ ้นแบบ 6.2 ข้อค้นพบอ่ืนๆ ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์(ในแต่ละระดับ) เช่น ระดับกลุ่มเป้าหมาย ตามโครงการ 1. ประโยชน์ที่นิสิตได้รับคือประสบการณ์ทางานรูปแบบใหม่ มีความภาคภูมิใจในการ ทางานให้ชุมชน และได้รับการตอบรับที่ดีจากชุมชน รวมท้ังชุมชนเองมีความพึงพอใจในผลงานการ ออกแบบของนสิ ติ 2. ชุมชนมีความสามัคคีและความเข้มแข็งเพ่ิมข้ึน จากกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่าง ชุมชนและนิสิต การพัฒนางานทาให้เกิดผู้นากลุ่ม และการให้ความสนใจของชุมชนท่ีร่วมมือร่วมใจกัน อยา่ งเข้มแขง็ 3. การสานึกรักษ์ในสภาพแวดล้อมและศิลปวัฒนธรรมชุมชน พร้อมที่จะร่วมกันอนุรักษ์ และพัฒนาชุมชนร่วมกัน 6.3 การขยายผลไปสู่หนว่ ยงานอื่นๆท่ีเกีย่ วขอ้ ง 1. การพฒั นาพ้ืนทีท่ อ่ งเที่ยว/พื้นทชี่ มุ ชน ขยายผลสอู่ งค์การบริหารสว่ นตาบลกมลาไสย

36 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจยั ครง้ั ท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” 2. การพฒั นาผลิตภณั ฑช์ มุ ชน ขยายผลสู่องค์กรพฒั นาชุมชน - การพัฒนาองคค์ วามรู้/ชุมชน/โรงเรียน ขยายผลสอู่ งค์การบรหิ ารสว่ นตาบลกมลาไสย 7. บทสรปุ ความรใู้ หม่ที่ควรพัฒนาหรือต่อยอดเพื่อใหเ้ กดิ ความยงั่ ยืนในชมุ ชน 1. พ้ืนที่ชุมชนเป็นพ้ืนที่เกษตรชั้นดีท่ีควรได้รับการพฒั นาและให้ความสาคัญเร่ืองข้าวและ พชื ผัก และศนู ยเ์ รียนรเู้ กษตรอินทรีย์ต้นแบบ 2. การพฒั นาและส่งเสริมเพอื่ ยกระดบั ผลติ ภณั ฑช์ ุมชน 3. การพฒั นาพน้ื ที่ท่องเทย่ี ว/พ้ืนทช่ี ุมชน ใหเ้ กดิ ความความตอ่ เนื่องของกจิ กรรม 4. ควรมีการต่อยอดการดาเนินงานโดยผลักดันให้เกิดความชัดเจนของโครงการ เช่น การ จดั ทาขอ้ เสนอแนะทีเ่ ป็นรูปเลม่ ลายลักษณ์อกั ษรและทาโครงการของบประมาณการพัฒนา และนาแบบ แนวคิดเสนอเข้าสู่องค์กรทีมีส่วนเก่ียวข้องเพ่ือสร้างความร่วมมือในแนวทางพัฒนาอย่างต่อเน่ือง เพ่ือ สรา้ งสภาพแวดลอ้ มชมุ ชนทด่ี ี และสร้างอตั ลกั ษณช์ ุมชน

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 37 ในงานการประชมุ วิชาการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวิจยั ครง้ั ที่ 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ”

การพฒั นาต้นแบบการดูแลสุขภาพของผ้สู งู อายุในชมุ ชน โครงการบูรณาการหนึ่งหลักสูตรหนึง่ ชุมชน ดรณุ ี รุจกรกานต์ และคณะ คณะพยาบาลศาสตร์ 1. ความเปน็ มาของปัญหา จากผลการสารวจปัญหาและความต้องการของผู้สงู อายุในชมุ ชนเปา้ หมาย พบว่า ความเจ็บปว่ ย 5 อันดับแรก ไดแ้ ก่ โรคกระเพาะอาหาร โรคข้อเสือ่ ม/เก๊าท์/รูมาตอยด์/ปวดข้อ โรคสมองเส่อื ม/หลงลมื / ความจาเส่ือม โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และต้อกระจก ตามลาดับ ซ่ึงมักเป็นอุปสรรคต่อการ เคล่ือนไหว และการดาเนินชีวิตประจาวันของผู้สูงอายุ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น ปัญหาการมองเห็นไม่ ชัดเจน และปัญหาการเคยหกล้ม ก็นับเป็นปัญหาสาคัญของผู้สูงอายุ ซึ่งผู้สูงอายุบางคนเคยหกล้มถึง 4 ครงั้ สถานทเี่ กดิ อบุ ตั ิเหตุส่วนใหญ่เป็นบริเวณบา้ นของผสู้ ูงอายุเอง นอกจากน้ี พบว่า การคัดกรองภาวะหกล้มโดยวิธีการทดสอบ TUGT ด้วยการจับเวลา พบว่า ผสู้ งู อายุส่วนใหญ่มีความเสยี่ งน้อยคือรอ้ ยละ 15.38 และเดินไม่ได้ ร้อยละ 3.85 แสดงวา่ ผู้สูงอายุมีความ เสี่ยงต่อการ หกล้มรวมถึงร้อยละ 19.23 ซึ่งการหกล้มจะนาสู่ความพิการ และภาวะพ่ึงพิงกลายเป็น ผูส้ งู อายตุ ิดบ้านหรอื ติดเตียงในทีส่ ุด ในด้านทางจิตใจ พบวา่ ผู้สูงอายุมีความเสย่ี งหรอื มแี นวโน้มที่จะเกิด ภาวะซึมเศร้า ถึงรอ้ ยละ 21.81 2. วตั ถปุ ระสงค์โครงการ 2.1 เพือ่ พัฒนาศกั ยภาพของผสู้ งู อายุ ผู้อยู่ในวัยก่อนสูงอายุ และวยั เรยี นในการดูแลผสู้ ูงอายุ 2.2 เพอ่ื ออกแบบลักษณะชุมชนต้นแบบโดยมสี ว่ นรว่ มจากสมาชกิ ในชมุ ชน 3. กระบวนการดาเนินโครงการ การดาเนินการแบง่ ออกเปน็ ระยะ ดงั น้ี 3.1 ระยะเตรียมการ 1) แต่งตั้งคณะกรรมการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน ประกอบด้วย อาจารย์ และนิสิตทั้ง 3 คณะ วางแผนการดาเนินการทาความเข้าใจกับโครงการ นาผลการประเมินโครงการใน พ.ศ. 2560 มา พิจารณาประกอบการวางแผนงานโครงการ พ.ศ. 2561 และกาหนดหน้าท่ีของท้ัง 3 คณะ ได้แก่ คณะ พยาบาลศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยใช้ กรอบแนวคดิ จากกรมอนามยั มาดดั แปลงในการดูแลผู้สงู อายุ ดังนี้ บล่ ้ม รับผิดชอบโดย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผงั เมืองและนฤมิตศิลป์ บล่ มื รบั ผดิ ชอบโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 39 ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวจิ ัย ครั้งที่ 14 : สาขาบริการวิชาการ” บ่ซมึ เศร้า กินขา้ วแซบหลาย รบั ผิดชอบโดย คณะพยาบาลศาสตร์ ชวี ติ มีความหมายมีคณุ คา่ รับผิดชอบรว่ มกนั ทง้ั 3 คณะ 2) สารวจปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุ โดยสัมภาษณ์ผู้สูงอายุในชุมชนเป้าหมาย ร่วมกนั ระหว่างอาจารย์ นิสิต และสมาชิกชุมชน รว่ มกับนักเรยี นโรงเรียนผ้สู งู อายุ โดยใช้แบบสัมภาษณ์ที่ ได้กาหนดโดยคณะพยาบาลศาสตร์ และคณะกรรมการ 3) จัดประชาคมท่ีวัดธรรมนิมิต เพ่ือเป็นการคืนข้อมูลแก่ชุมชน โดยมีผู้เข้าร่วมประชาคม ได้แก่ สมาชิกชุมชน ผู้อานวยการและเจ้าหน้าท่ีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการ วัด อาสาสมัครชุมชน ผู้สูงอายุ โดยมีนิสิตเป็นผู้นาการทาประชาคม ภายใต้การให้คาแนะนาและ คาปรกึ ษาของอาจารย์ ผลการประชาคม สมาชิกประชาคมสรุปความตอ้ งการ ดังนี้ (1) ผู้สูงอายุต้องการ อยากให้มีการช่วยเหลือในเรื่องการเดิน ต้องการให้มีการจัด กิจกรรมออกกาลังกาย กจิ กรรมสันทนาการ ร่วมกบั นิสติ การเดินออกกาลงั กาย (2) ผู้สูงอายตุ ้องการใหม้ ีการใช้สมุนไพรในการลดปวด เช่น ลกู ประคบ น้ามันนวด มี สมนุ ไพรไว้นวด โดยสมุนไพรที่ใช้ คือ สมนุ ไพรท่ีหาได้ง่ายในท้องถิ่น ได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น อีก ทั้ง ผูส้ ูงอายตุ ้องการใชส้ มุนไพร มาชว่ ยในการผอ่ นคลาย ได้แก่ ชาจากสมุนไพร เช่น มะลิ ใบเตย ตะไคร้ นา้ มันนวดผอ่ นคลาย และสบู่สมุนไพร เป็นตน้ (3) ผสู้ ูงอายตุ ้องการลดการใชผ้ งชรู สในการประกอบอาหาร โดยการนาสมุนไพรมาใช้ ทาผงนวั แทนผงชูรส รวมถงึ สนบั สนนุ ใหร้ บั ประทานปลาและผลไมแ้ ทน (4) ผู้สูงอายุมีความต้องการ กิจกรรมสันทนาการ การร้องหมอลาเพื่อความผ่อน คลายและการทากิจกรรมรว่ มกับบุคคลอืน่ ๆ ในชมุ ชน (5) ผู้สูงอายุมีความต้องการให้มีการพัฒนาห้องน้าวัดใหม่ให้เป็นแบบชักโครก เนื่องจากผู้สูงอายุมีปัญหาเร่ืองการลุกน่ังลาบาก ปวดเอวและขาโดยให้ทาเป็นชักโครกสูงแบบนั่ง ผนัง ห้องน้าให้มรี าวจบั ขา้ งผนงั ห้องนา้ ดว้ ย จากการทาประชาคมดังกล่าว ภายใตก้ ารบูรณาการโครงการนี้เข้ากับการจดั การเรียนการ สอนรายวิชาหน่ึงหลักสูตรหน่ึงชุมชน นิสิตร่วมกับผู้สูงอายุในชุมชน จึงได้จัดโครงการขึ้นจานวน 6 โครงการ ได้แก่ โครงการที่ 1 “เดนิ เหนิ ปลอดภยั สงู วัยไมห่ กลม้ ” (บล่ ม้ ) โครงการที่ 2 “อารมณด์ กี ับสมนุ ไพรบาบดั ” (บ่ซมึ เศรา้ ) โครงการที่ 3 “นา้ พรกิ ปลาปน่ อรอ่ ย ครบเคร่อื งเรื่องสมนุ ไพร” (กินขา้ วแซบ) โครงการท่ี 4 “สง่ เสรมิ สุขภาพสูงวยั ใสใ่ จการออกกาลังกาย” (บล่ ้ม) โครงการที่ 5 “ผลติ ภณั ฑส์ มุนไพรส่งเสริมการผ่อนคลายและการนอนหลบั ” (บซ่ มึ เศรา้ ) โครงการท่ี 6 “อยู่ดมี ีแฮง แข็งแรงดว้ ยผงนวั สมนุ ไพร” (กนิ ขา้ วแซบ) 4) วางแผนการอบรมแกนนานักเรียนดแู ลสุขภาพผสู้ งู อายุในชมุ ชน

40 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวิชาการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวิจยั ครง้ั ท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” นาผลการประเมนิ ของโครงการ “บดั ดี้ตา่ งวยั ใส่ใจสขุ ภาพในชุมชน” ซึ่งอยภู่ ายใตโ้ ครงกรหน่ึง หลกั สูตรหนงึ่ ชุมชน ปี พ.ศ. 2560 มาปรบั ใชใ้ นการออกแบบหลกั สูตรในโครงการน้ี โดยเน้นกลุ่มผสู้ ูงอายุ ติดบ้านติดเตียง และมีการอบรมแกนนาผู้สูงอายุเพ่ือฟื้นฟูความรู้ และการฝึกปฏิบัติในพ้ืนท่ีจริงโดยการ เย่ียมบ้านและให้การดูแล และคาแนะนาผู้สูงอายุในชุมชน ทั้งน้ี การอบรมในโครงการนี้ได้ขยายจานวน แกนนาใหม้ ากขึ้น 3.2 ระยะดาเนนิ การ 1) นิสิตกับผู้สูงอายุ และสมาชิกชุมชนได้ออกแบบกิจกรรมในโครงการทั้ง 6 โครงการ ร่วมกัน และจัดงาน “มหกรรมสร้างสุขภาพผู้สูงอายุบ้านแหย่ง” โดยจัดโครงการทั้ง 6 โครงการเพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการของผสู้ ูงอายุ และสร้างคณุ ค่าและความหมายของชีวติ แก่ผสู้ งู อายุ 2) อบรมแกนนานักเรยี น จานวน 40 คน โดย 20 คน เคยผ่านการอบรมแล้วในโครงการ “บัดด้ีต่างวัย ใส่ใจสุขภาพในชุมชน” และขยายเพิ่มจานวนอีก 20 คน โดยรูปแบบการจัดอบรมมีทั้ง ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ คือ ระยะเวลาอบรมภาคทฤษฎี จานวน 2 วัน และภาคปฏิบัติในพ้ืนท่ีจริง จานวน 2 วนั โดยการเย่ียมบ้าน ให้การดูแล ใหค้ าแนะนา และสร้างความสขุ เป็นเพ่อื นพดู คยุ กับผสู้ งู อายุ ตดิ บ้าน ติดเตียง จานวน 4 หลังคาเรือน มีการเยี่ยมบ้านเป็นทีมซ่ึงอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ คณะ พยาบาลศาสตร์ ผู้อยู่ในวยั ก่อนสูงอายุ เข้ารว่ มอบรม จานวน 7 คน ซ่ึงมคี วามสนใจ และสามารถปฏิบัติ ในพื้นทีไ่ ด้ดี สาหรับเด็กในวยั เรยี นไม่สามารถทาได้ตามที่กาหนดในโครงการ จงึ เป็นการอบรมบุตรหลาน ทอี่ ยู่ในวัยเรยี น จานวน 1 คน ท่ดี ูแลผู้สงู อายุขณะเย่ยี มบา้ น 3) การออกแบบบ้านและปรบั ส่ิงแวดล้อมในบา้ น การออกแบบและปรับบ้านตามความจาเป็น และความต้องการของผู้สูงอายุและผู้ดูแล ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินร่วมกันของอาจารย์ ทั้ง 3 คณะและผู้ดูแล เมื่อวางแผนร่วมกันได้แล้วการ ออกแบบก็เกิดขึ้น โดยการก่อสร้างเป็นความร่วมมือระหว่างคณะทางานกับชุมชน ได้แก่ ช่างในชุมชน และสมาชิกในครัวเรือน ร่วมกับคณาจารย์และนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ เน่ืองจากระยะเวลาจากัด รวมถึงข้อจากัดในการเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการนีจ้ งึ ทาการปรบั บ้านและสิ่งแวดล้อมได้ 3 หลงั คาเรอื น จาก 4 หลงั คาเรอื นทวี่ างแผนไว้ ดงั นี้ หลงั คาเรือนท่ี 1 ปรับห้องน้าให้สะดวกต่อผู้สูงอายุนั่งรถเข็น และทาอุปกรณ์เสียงเรียก เมื่อผสู้ งู อายตุ ้องการความช่วยเหลอื หลังคาเรอื นที่ 2 ปรับพ้ืนบ้านผู้สูงอายุท่ีมีแขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถขึ้นบันไดนอนบน บ้านได้ ผู้สูงอายุนอนใตถ้ ุนบ้านท่ีเป็นดิน และใช้ชีวติ ทั้งวันอยู่บนพ้ืนบ้านเป็นดิน จึงได้ปรึกษาและตกลง รว่ มกนั ท่จี ะราดพื้นซเี มนตท์ ง้ั หมด จนถึงบรเิ วณหน้าห้องน้า เพอ่ื ไมใ่ หล้ ่นื ล้ม หลงั คาเรอื นท่ี 3 ผ้สู งู อายุมีความพิการทางสายตาสว่ นมากจะเดินไปหอ้ งน้าตามลาพงั ซึ่ง ไกลจากท่ีพักผ่อนประมาณ 6-7 เมตร โดยระหว่างทางมี ร้ัวด้านหน่ึงเป็นลวดหนาม เพื่อความปลอดภัย จึงได้ปรับรั้วใหม่ ให้เป็นอิฐบล็อก โดยรื้อลวดหนามออก และติดกล่องสัญญาณไว้หน้าห้องน้า แสดงว่า ผ้สู งู อายุอยใู่ นห้องน้า

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 41 ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวจิ ยั คร้ังท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” 4) ปรับวัดให้เป็นมติ รกับผู้สงู อายุ ผู้สงู อายุส่วนใหญ่ชอบไปวัด เพ่ือประกอบกิจกรรมทาง ศาสนา ซึ่งเปน็ ส่วนหนงึ่ ของชวี ติ ชาวชนบท แต่เมอ่ื สงู วยั จึงมีข้อจากัดในการนั่ง และลุกบนพืน้ ศาลา ทาให้ ผู้สงู อายุส่วนหนง่ึ ไม่สามารถไปวดั อกี ได้ ด้วยการปรึกษาร่วมกันกับกรรมการวัด และผู้สูงอายุ บนการทางานอย่างมีส่วนร่วม เห็นชอบร่วมกันให้มี “มุมผู้สูงอายุ” โดยจัดเก้าอ้ีน่ังให้กับผู้สูงอายุ ที่ไม่สะดวกน่ังบนพืน้ โดยผู้ใหญ่บ้าน ได้ขอบริจาคเก้าอ้ีที่ไม่ใช้งานแล้ว และจาหน่ายออก นอกจากนั้นได้ปรับปรุงห้องส้วมให้เป็นชักโครก จานวน 5 ห้อง ให้เป็นห้องส้วมของวดั สาหรบั ผสู้ ูงอายุ ซ่ึงเป็นไปตามความต้องการของผสู้ ูงอายุ และเป็น การป้องกนั ภาวะเสย่ี งตอ่ การลืน่ ล้มในหอ้ งน้า ตลอดกระบวนการทกุ ขั้นตอน อาจารย์ นิสติ และผ้สู ูงอายุ รวมถงึ ผ้ดู ูแล และสมาชิกชุมชน โดยเฉพาะผู้นาชุมชน ได้ช่วยกันสารวจปัญหา และความต้องการ ออกแบบงานทุกกิจกรรมร่วมกันและ ปรับปรุงงานให้เป็นที่พอใจหลังจากศึกษาขอ้ ดีข้อเสีย และดาเนินการต่อจนส้ินโครงการ เม่ือสิ้นโครงการ ได้ร่วมกันประเมินผลกิจกรรมในทุกโครงการ เช่น การจัดมหกรรมสุขภาพสร้างสุขผู้สูงอายุ ได้ร่วมกัน ออกแบบทดลองใช้และทดลองทา ติชมศึกษาข้อดีข้อเสียที่อาจไม่สร้างความพึงพอใจและทาขึ้นมาใหม่ การปรับบ้านเป็น ความร่วมมือในการศกึ ษาสรปุ ปญั หา และความต้องการ ออกแบบทดลองใช้ และปรบั ปรุง เม่ือมีขอ้ ด้อยท่ี พบจนพึงพอใจในท่สี ดุ 4. การบูรณาการกับภารกิจหลกั 4.1 บูรณาการกับการเรียนการสอน ในรายวิชาหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน สาหรับนิสิตปี 2 จานวน 100 คน ซ่ึงผลการประเมินจากนิสิต มดี งั น้ี (1) นสิ ิตเรยี นรจู้ ักชุมชน (2) ได้ทางานร่วมกับชุมชน และกลุ่มเป้าหมายผู้สงู อายใุ นพ้ืนทจ่ี รงิ (3) ไดเ้ รียนร้กู ารศกึ ษาปัญหา และความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมาย (4) ไดเ้ รยี นรกู้ ารทาประชาคม อยา่ งมีสว่ นร่วมกบั ชุมชน เรยี งลาดบั ปัญหาและหาข้อตกลง ร่วมกนั (5) ได้ทากิจกรรมสนองตอบต่อความต้องการของชุมชน ร่วมกับผู้สูงอายุ เรียนรู้จาก ผสู้ ูงอายุ ในเรื่องสมุนไพร การนากลุ่มสมนุ ไพรมาประกอบอาหาร เปน็ ตน้ (6) กระบวนการชุมชนในการนาโครงการสู่ชุมชน อย่างมีส่วนร่วมกับชุมชน ก่อให้เกิด ผลสาเรจ็ มากกว่าทาตามลาพัง (7) ไดด้ ูแลผสู้ ูงอายุทมี่ ปี ัญหาสขุ ภาพ รว่ มกบั นกั เรียนผ้สู ูงอายุแกนนา (8) เข้าใจหลักการ service learning (การเรียนรู้โดยให้บริการแก่สังคม) โดยบูรณาการ ในรายวชิ าของหลักสูตร

42 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวจิ ยั ครัง้ ที่ 14 : สาขาบริการวิชาการ” (9) ได้ความรู้ท่ีเกิดจากการปฏิบัติ ความรู้เหล่าน้ีจะทาให้นิสิตสามารถใช้ในวิชาการ พยาบาลชุมชนในช้นั ปที สี่ งู ขน้ึ 4.2 บูรณาการกบั การวิจยั การนาไปใช้กับการวจิ ยั โครงการ “การพฒั นาต้นแบบการดูแลสุขภาพของผู้สงู อายุในชุมชน” บรู ณาการกับการวิจัยนาร่องภายใต้กรอบการดาเนนิ การของโครงการน้ี ภายใตช้ ือ่ โครงการวจิ ยั “ชมุ ชนที่ เปน็ มิตรกบั ผ้สู ูงอายใุ นบรบิ ทอสี าน : กรณีตวั อย่าง บา้ นแหย่ง ตาบลนาสนี วน อาเภอกันทรวิชยั จังหวัด มหาสารคาม” 4.3 การบรกิ ารวชิ าการ เป็นโครงการบริการวิชาการที่มีการให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎี การฝึกทักษะในการปฏิบัติการ ในห้องปฏิบัติการของคณะพยาบาลศาสตร์ และแกนนาผู้สูงอายุมีการออกฝึกปฏิบัติงานในชุมชนตาม สถานการณ์จริง โดยเป็นการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการท่ีออกแบบเป็นหลักสูตรที่ชัดเจน ซ่ึงหลักสูตร ประกอบด้วย การอบรมภาคทฤษฎีจานวน 2 วัน (8 ชม.) ภาคปฏิบัติจานวน 2 วัน (10 ชม.) และจัด กจิ กรรมโครงการในชมุ ชน (4 ชม.) รวมท้ังสนิ้ 22 ชม.จากผลการประเมนิ ไมเ่ พยี งแตแ่ กนนาผู้สูงอายทุ เี่ ขา้ รับการอบรมจะนาความร้ทู ่ไี ดร้ ับไปดแู ลสุขภาพผู้สงู อายุในชุมชนเทา่ น้ัน แต่ยงั สามารถนาความรู้ไปใชใ้ น การดูแลตนเองและบคุ คลในครอบครวั อกี ด้วย ในการจัดโครงการคร้ังนี้ไดใ้ หก้ ารการดูแลสุขภาพผ้สู ูงอายุ ท่ตี ิดบา้ นติดเตียง และพกิ าร ตลอดจนการจัดการส่งิ แวดล้อมท้ังภายในและภายนอกบา้ นให้เหมาะสมกับ การดารงชวี ิตประจาวันของผู้สูงอายุ เช่นปรบั ปรุงห้องน้า ห้องส้วม ปรับปรงุ พื้นที่สิ่งแวดล้อมในบ้านและ รว้ั บา้ น จดั สงิ่ แวดล้อม เพื่อความสะดวกปลอดภัย รวมทัง้ ปรับปรุงวัดใหเ้ ป็นมติ รกบั ผ้สู ูงอายุ 4.4 การบูรณาการกับทานศุ ิลปวัฒนธรรม ส่วนหนง่ึ ในโครงการนไ้ี ด้พบวา่ ผูส้ งู อายุมีความเก่ยี วพนั กับวัด การประกอบกิจกรรมทางศาสนา เป็นวัฒนธรรมของคนไทยในชนบท เมื่อสูงวัยมีข้อจากัดให้มาวัดไม่ได้จึงได้จัดวัดท่ีเป็นมิตรกับผู้สูงอายุ เพ่ือส่งเสริมให้ผู้สูงอายุยังคงปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาได้ นอกจากน้ี นิสิตยังร่วมกับผู้สูงอายุ ได้ศึกษา สมุนไพรในชุมชนที่นามาใช้เป็นอาหาร ส่วนมากนิสิตจะเรียนรู้สอบถามจากผู้สูงอายุ ซึ่งทาให้ผู้สูงอายุมี ความภาคภูมิใจ และรู้สึกมีคุณค่า รวมถึงโครงการนี้เป็นการส่งเสริมบุตรหลานให้มีความกตัญญู ในการ ดูแลพ่อแม่ท่ีสูงอายุ และพิการไม่ให้คิดว่าเป็นภาระ โดยทางโครงการได้ส่งเสริมความสามารถของบุตร หลานในการดูแลผู้สูงอายุ และแก้ไขปัญหาแต่ละคน ซึ่งเป็นการดูแลอย่างเป็นองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และจิตวญิ ญาณของผูส้ งู อายุ และครอบครวั 5. ผลลัพท์จากการดาเนนิ งานโครงการ 5.1 ข้อคน้ พบตามวัตถุประสงค์ จากวัตถุประสงค์ของโครงการข้อท่ี 2 ทาให้ได้ข้อสรุปลักษณะของชุมชนต้นแบบการดูแล ผ้สู งู อายุ ดงั น้ี (1) มผี ูด้ ูแลทม่ี ีความรู้ความสามารถในชมุ ชน (ผา่ นการอบรม)

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 43 ในงานการประชมุ วิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครงั้ ที่ 14 : สาขาบริการวชิ าการ” (2) มีการยกย่องครอบครัวตวั อย่างดูแลสขุ ภาพผูส้ งู อายใุ นบ้าน (3) มบี ้านและวดั ทีเ่ ป็นมติ รกับผสู้ ูงอายุ (4) มสี มาชิกชุมชนที่ร่วมกนั ดแู ลผูส้ ูงอายุ ซงึ่ ควรจะนาไปทดสอบในชุมชนอ่ืนตอ่ ไป 5.2 ข้อค้นพบอ่ืนๆท่ีนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ (Impact) ในแต่ละระดับ เช่น ระดับ กลมุ่ เปา้ หมาย ตามโครงการ กล่มุ องค์กรในชมุ ชน ผลกระทบท่ีเกิดข้ึนในระดับสังคม ชุมชน และกลุ่มเป้าหมายและครอบครัวผู้สูงอายุ การ พยาบาลท่ีจะสร้างชุมชนต้นแบบสาหรับดูแลผู้สูงอายุ ต้องมาจากการที่คน บ้านและพื้นที่ส่วนรวมเป็น มิตรกับผู้สูงอายุ ผลท่ีเกดิ ขน้ึ จากการนาแนวคิดปฏบิ ัติในชมุ ชน ทาใหช้ ุมชนเกิดความภาคภมู ใิ จเหน็ คณุ คา่ ของการแลผูส้ งู อายุ การมอบรางวัลยกย่องครอบครัวตัวอยา่ งดเี ด่น ที่ดูแลผสู้ ูงอายุในบ้านของตน ไดเ้ กิด ความภาคภูมิใจ และจะเป็นตวั อย่างให้แก่ครอบครัวอื่นต่อไป ส่วนของกลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นนักเรียนแกน นาผู้สงู อายุเกิดความภาคภูมใิ จในศกั ยภาพ และคณุ ค่าของตนเองท่ีไดใ้ หค้ วามชว่ ยเหลือดูแลผู้อนื่ ได้ สง่ิ ที่ เป็นรูปธรรมท่ีเห็นได้ และเป็นตัวอย่างแก่ครอบครัวอ่ืนๆ และชุมชนอื่น คอื การปรับบ้านและปรับวัดให้ เปน็ มติ รกับผ้สู งู อายุ 6. บทสรุป โครงการได้ดาเนินการตามวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้ โดยในทุกกิจกรรมมีส่วนร่วมจากชุมชน กลุ่มเป้าหมาย นิสิต อาจารย์ และผู้นาชุมชน ผลสาเร็จท่ีเกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย การ ทางานกบั ชุมชน สิง่ ทส่ี าคญั คือ ความจริงใจคู่กบั การทางานอย่างจริงจงั โดยใหค้ วามสาคัญกบั ชมุ ชน และ ความต้องการท่ีแท้จริงของชุมชน รวมถึงการติดตามอย่างต่อเน่ือง แม้โครงการจะส้ินสุดลงซ่ึงมีความ จาเปน็ ต่อความยง่ั ยนื ของโครงการ ความรู้ที่เกิดจากโครงการน้ีคือ ลักษณะของชุมชนต้นแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ควรได้รับ การศกึ ษา/วิจัยต่อเนื่อง เพ่ือขยายผลตอ่ ไปยังชมุ ชนอื่น ภาพกิจกรรม 1. ลงพ้นื ท่ีการสารวจ และการทาประชาคม

44 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลัยมหาสารคามวจิ ยั ครั้งที่ 14 : สาขาบรกิ ารวิชาการ” 2. ประชาคม ณ วดั ธรรมนมิ ิตบา้ นแหยง่ 3. มหกรรมสรา้ งสุขภาพผสู้ ูงอายุบา้ นแหยง่

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 45 ในงานการประชมุ วิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจยั ครง้ั ท่ี 14 : สาขาบรกิ ารวชิ าการ” 4. การปรับปรงุ บา้ น ภาพก่อนทา ภาพหลังทา

นวัตกรรมเพ่อื พฒั นาสมรรถนะดา้ นการส่อื สารสาหรับนกั เรยี นระดับการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กลมุ่ โรงเรยี นท่าประทาย-โนนตมู ตาบลเกง้ิ อาเภอเมอื ง จงั หวดั มหาสารคาม โครงการบรู ณาการหน่ึงหลักสูตรหน่ึงชุมชน ประสงค์ สายหงษ์, ดนิตา ดวงวไิ ล และ มานติ ย์ อาษานอก คณะศึกษาศาสตร์ 1. ความเปน็ มาของปัญหา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กาหนดสมรรถนะสาคัญของ ผู้เรียน (Competencies of learners) เพื่อผลักดันให้ผลการปฏิบัติงานบรรลุตาม เป้าหมาย ได้แก่ ความรู้ ทักษะ บุคลิกภาพ แรงจงู ใจทางสังคมลกั ษณะ นิสัยส่วนตวั ตลอดจนรูปแบบความคิดและวิธีการ คิด ความรู้สึกและการกระทา การพัฒนาผู้เรียนจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ได้แก่ ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการ ใช้ทกั ษะชวี ิต และความสามารถในการใช้เทคโนโลยี อันเป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรยี นให้เป็นคนดี มี ปัญญา มีคุณภาพชีวิตท่ีดี และมีขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระดับโลก อยา่ งไรกต็ ามสมรรถนะ สาคญั ของผู้เรียนด้านการสื่อสารของนักเรียนระดบั การศึกษาขั้นพน้ื ฐานยงั มปี ัญหา เพราะนกั เรยี นยังไม่มี ความสามารถในสมรรถะน้ีเท่าที่ควร และยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ทาให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา สมรรถนะในด้านนี้ นอกจากน้ันยงั มีนักเรียนบางกลุ่มท่มี ีปัญหาในด้านการเรียนรหู้ รือมีความยากลาบาก ในการเรียนรู้ นักเรียนกลุ่มนี้จึงพัฒนาด้านการเรียนรู้ทางด้านสมรรถนะทางการส่ือสารจึงไม่เต็ม ประสิทธิภาพ ดังน้ันการให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาทางด้านการเรียนรู้ในด้านการพัฒนาศักยภาพ ทางดา้ นการสอ่ื สารเปน็ เร่ืองเรง่ ดว่ นทีท่ างโรงเรียนแต่ละโรงเรียนจะต้องมนี วัตกรรมและเทคโนโลยีในการ ช่วยเหลือนักเรียนในกลุ่มนี้เป็นพิเศษ และทุกภาคส่วนที่เก่ียวข้องกับการให้บริการการศึกษาและ สาธารณสขุ ต้องรว่ มมือและช่วยกันดาเนินงานบูรณาช่วยเหลือเด็กทีม่ ีความบกพรอ่ งการเรียนรู้หรือเด็กท่ี มคี วามอยากลาบากในการเรยี นอย่างทนั ถว่ งที่และมรี ะบบ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม จึงเห็นสมควรให้มีการส่งเสริมนักเรยี นในกลุ่มที่มี ปัญหาในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จึงเห็นสมควรจัดโครงการ นวัตกรรมเพ่ือพัฒนาสมรรถนะด้านการ สื่อสารสาหรับนักเรียนระดบั การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนบ้านหนองหวา้ โนนทอง ต. บ่อใหญ่ อ. บรบือ จ. มหาสารคาม ตั้งอยู่เลขท่ี 5 หมู่ท่ี 9 ตาบลบ่อใหญ่ อาเภอบรบอื จังหวัดมหาสารคาม สังกัดสานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคามเขต1 สานักงาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนบ้านหนองหว้าโนนทองต้องการพัฒนาสมรรถนะทางด้านภาษาและการ สื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษของนักเรียน โดยให้ครูเป็นผู้มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และสามารถนาไปปรับใช้ในการเรียนการสอนได้ และเพ่ือตอบโจทย์ปัญหาต่างๆ ของโรงเรียน เพ่ือให้ เกิดการแก้ไขให้ตรงจุด คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้บูรณาการ 4 หลักสูตรในคณะศึกษาศาสตร์ มมส.

เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน I 47 ในงานการประชุมวิชาการมหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย คร้งั ที่ 14 : สาขาบริการวชิ าการ” มีหลักสูตรดังต่อไปน้ี 1.การศึกษาบัณฑิต..การศึกษาพิเศษ 2.หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต ภาษาไทย 3.การศึกษามหาบัณฑิต หลักสูตรและการสอน และ 4.กศ.บ.สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษาและ คอมพิวเตอรศ์ ึกษา โดยโครงการนี้จะเปน็ การบูรณาตามแนวทางเพื่อพฒั นายุทธศาสตร์ของชาติ โดยเน้น ที่การผลิตบัณฑิต การบริการวิชาการ การทานุบารุงศิลปะ และเทคโนโลยีและไอที ในยุทธศาสตร์การ ผลิตบัณฑิต จะมุ่งส่งเสริมให้บัณฑิตมีคุณลักษณะในตรงกับวิชาชีพครู และมีความพร้อมในความเป็นครู ยุทธศาสตร์บริการวิชาการ คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้ส่งเสริมศักยภาพของการบริการชุมชนของ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยยดึ ปรชั ญาของมหาวิทยาลัย คณะศกึ ษาศาสตร์ มคี วาม พร้อมในคุณภาพของบุคลลากรทพ่ี ร้อมท่ีจะให้ความรู้แก่ชมุ ชนรอบนอกของมหาวิทยาลัย สาหรับในดา้ น เทคโนโลยีและไอที ทางคณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้พัฒนานวัตกรรมท่ีช่วยให้นักเรียนให้มีสมรรถนะ ด้านการสื่อสารโดยการใช้เคร่ืองมือ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ที่ได้จากการปฏิบัติโครงการ โครงการนี้ไดส้ าเรจ็ ลุล่วงไปดว้ ยดี และเปน็ โครงการท่ีสง่ เสริมให้ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมคี ุณลักษณะคณุ สมบัติ ตรงตามสมรรถนะด้านการสื่อสารตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ.2551 เพ่ือเป็นรากฐานในการ พฒั นาประเทศในอนาคตต่อไป 2. วัตถปุ ระสงค์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยามหาสารคามมีความตระหนักถึงการให้บริการทางวิชาสาหรับ โรงเรียนท่ีมีปัญหาในด้านนี้มากเป็นพิเศษ จึงได้สารวจโรงเรียนท่ีมีความจาเป็นเร่งด่วนในการพัฒนา นักเรียนที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ จึงได้โครงการนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการสื่อสารสาหรับ นักเรียนระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานสาหรับโรงเรียนบ้านหนองหว้าโนนทอง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม โดยดาเนินงานใช้รูปแบบวิจัยและพัฒนา ร่วมกับกระบวนการทางานแบบ PDCD โดยมี วัตถุประสงคด์ ังต่อไปน้ี 1. เพื่อพัฒนานวัตกรรมส่งเสริมสมรรถนะด้านการสอ่ื สารแก่นกั เรยี นระดับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กลุ่มโรงเรยี นบ้านหนองหวา้ โนนทอง ต.บอ่ ใหญ่ อ.บรบอื จ.มหาสารคาม 2. เพ่ือศกึ ษาผลการใช้นวัตกรรมสง่ เสรมิ สมรรถนะด้านการส่อื สาร 3. เพ่ือบูรณาการความรู้ข้ามศาสตร์ในการบริการวิชาการและพัฒนาคุณภาพการศึกษาใน ท้องถิ่นอยา่ งเป็นระบบและยั่งยืน 3. กระบวนการดาเนินการ โครงการนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาสมรรถนะด้านการสื่อสารสาหรับนักเรียนระดับการศึกษาข้ัน พื้นฐาน โรงเรียนบ้านหนองหว้าโนนทอง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ดาเนินจัดทาโครงการด้วย รปู แบบกระบวนการ PDCA โดยการจดั ทาแผนการดาเนินงานแบบมีส่วนร่วมร่วมกับชุมชน พร้อมท้ังได้ ดาเนินการตามรูปแบบวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่งระยะดาเนินการเป็น 4 ระยะ คือ ระยะท่ี 1 P = Plan คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้การวางแผนงานจากวัตถุประสงค์ และ

48 I เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน ในงานการประชุมวิชาการมหาวิทยาลยั มหาสารคามวจิ ัย ครั้งท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” เป้าหมายที่ได้กาหนดข้ึน ระยะที่ 2 D = Do คณะกรรมการดาเนินงานได้มีการปฏิบัติตามข้ันตอนใน แผนงานท่ีได้เขียนไว้อย่างเป็นระบบและมีความต่อเน่ือง ระยะท่ี 3 C = Check คณะกรรมการ ดาเนินการฯ ได้มีการตรวจสอบผลการดาเนินงานในแต่ล่ะขั้นตอนของแผนงานว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น จาเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนงานในข้ันตอนใด และระยะที่ 4 A = Action คณะกรรมการ ดาเนินงานฯ ได้มีการปรับปรุงแก้ไขส่วนท่ีมีปัญหา หรือถ้าไม่มีปัญหาใดๆ ก็ยอมรับแนวทางการปฏิบัติ ตามแผนงานทไ่ี ดผ้ ลสาเรจ็ เพือ่ นาไปใช้ในการทางานคร้งั ต่อไปโดยได้กระบวนการทางานดงั รปู ภาพที่ 1. กิจกรรม 1. ประชุมผู้รับผิดชอบโครงการบูรณาการทั้ง 3 หลักสูตร ได้แก่ กศ.บ. ภาษาไทย, กศ.บ. การศึกษาพเิ ศษ และ กศ.บ. เทคโนโลยกี ารศกึ ษาและคอมพิวเตอร์ศกึ ษา ระยะท่ี 1 2. สารวจความต้องการของชุมชนเพือ่ จดั ทาโครงการบรกิ ารวิชาการ P = Plan 3. ประชุมคณะกรรมการดาเนินงานฯ และคณาจารย์โรงเรียนบ้านหนองหว้าโนน ทอง 4. รวมมือกาหนดกจิ กรรมกับคณาจารยโ์ รงเรยี นบา้ นหนองหวา้ โนนทอง 5. จัดกาหนดการการจัดกจิ กรรม 1. จดั ประชุมระหว่างคณะกรรมการดาเนินงานฯ และคณาจารย์โรงเรียนบ้านหนอง หวา้ โนนทองในเรีอ่ งตา่ ง ๆ ตอ่ ไปน้ี ระยะท่ี 2 2. จัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ทีก่ าหนด เช่น การอบรมครู การอบรมนิสติ ฯลฯ D = Do 3. สารวจขอ้ มูลพืน้ ฐานของโรงเรยี นและนกั เรียน 4. พฒั นานวตั กรรมสาหรบั ดา้ นการสอื่ สารฯ 5. ทาแบบสอบถามประเมนิ โครงการฯ 1. สรุปการประชุมระหว่างคณะกรรมการดาเนินงานฯ และคณาจารย์โรงเรียนฯ 2. ประเมินกจิ กรรมต่าง ๆ ที่จดั ขน้ึ ว่ามคี วามพงึ พอใจในระดับใด และกจิ กรรมต่าง ๆ ระยะที่ 3 สามารถสมรรถะการสอ่ื สารของนักเรยี นมากนอ้ ยเพียงใด C = Check 3. ศึกษาขอ้ มลู ของโรงเรยี นและนกั เรียนสามารถนาไปใชใ้ นการพัฒนาดา้ นใดบา้ ง 4. ประเมินนวตั กรรมต่าง ๆ ท่พี ฒั นาขึน้ ว่าสามารถนาไปใช้ได้ในด้านใดบา้ ง 5. สรปุ โครงการว่ามผี ลลพั ท์อย่างไร และมีดา้ นใดควรแก้ไข ระยะที่ 4 เสนออุปสรรค ปัญหา และวิธีการแก้ไข ของกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดทาในระยะที่ 2 เพ่ือ A = Action เปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ติ ่อไป

เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงาน I 49 ในงานการประชมุ วชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจัย ครงั้ ท่ี 14 : สาขาบริการวชิ าการ” ข้ันตอนการพฒั นาสมรรถนะด้านการสอื่ สารสาหรับนักเรียนระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน โครงการนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสมรรถนะด้านการสื่อสารสาหรับนักเรียนระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน โรงเรียนบ้านหนองหว้าโนนทอง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคามได้พัฒนาขั้นตอนในการ พฒั นาสมรถนะดา้ นการส่ือสื่อดังไดส้ รุปตามระยะตา่ งๆ ต่อไปนี้ ข้ันที่ 1 ศึกษาสภาพปัญหาและขอ้ มลู พนื้ ฐาน กาหนดกลุ่มเปา้ หมาย และเอกสาร และงานวิจัย ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ขั้นท่ี 2 การศึกษานวัตกรรม รูปแบบและกระบวนการจัดการเรียนรู้ การศึกษาหลักการ การจดั การเรยี นการสอนอ่านและเขียน และการศึกษาหลักการวดั และประเมินผล ข้ันท่ี 3 การพัฒนาสมรรถนะด้านการส่ือสารสาหรับนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน โรงเรียนบ้านหนองหวา้ โนนทอง ต.บอ่ ใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม 4. การบรู ณาการกับภารกจิ โครงการนวัตกรรมเพ่ือพัฒนาสมรรถนะด้านการสื่อสารสาหรับนักเรียนระดับการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน โรงเรียนบ้านหนองหว้าโนนทอง ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 1 คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้นามาบูรณาการในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แก่นักเรียนที่ก่อให้เกิดประโยชน์และสร้างคุณค่าต่อสังคมและชุมชน การดาเนินการ โครงการฯ ท่ีผ่านมาก่อให้เกิดการบริการด้านวิชาการแก่สังคม การสร้างประโยชน์และคุณค่าต่อสถาบัน รวมถงึ นิสิตทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการสามารถนาความรู้และประสบการณ์ไปบูรณาการกบั การเรยี นการสอน การ วจิ ยั และการทานุบารงุ ศลิ ปวัฒนธรรม ไดด้ งั น้ี 4.1 การบริการวิชาการแก่สงั คม คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้ออกแบบพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาสมรรถนะด้าน การสื่อสารของนักเรยี นระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยมแี นวคดิ วา่ การพัฒนาดา้ นการสมรรถนะดา้ นการ สื่อสารของนักเรยี นจะต้องพัฒนาแบบบูรณาการ นาความร่วมมือของชุมชนและมหาวิทยาลยั เข้าร่วมกัน การดาเนินการของโครงการฯ ได้ยืดตามรูปแบบวิจัยและพัฒนา (Research and Development) แบ่ง ระยะดาเนินการเป็น 4 ระยะ คือ ระยะท่ี 1 P = Plan คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้การวางแผนงาน จากวัตถุประสงค์ และเป้าหมายท่ีได้กาหนดขึ้น ระยะที่ 2 D = Do คณะกรรมการดาเนินงานได้มีการ ปฏิบัติตามขั้นตอนในแผนงานท่ีได้เขียนไว้อย่างเป็นระบบและมีความต่อเน่ือง ระยะท่ี 3 C = Check คณะกรรมการดาเนนิ การฯ ได้มีการตรวจสอบผลการดาเนินงานในแต่ละ่ ขน้ั ตอนของแผนงานวา่ มีปัญหา อะไรเกิดขึ้น จาเป็นต้องเปล่ียนแปลงแก้ไขแผนงานในขั้นตอนใด และระยะท่ี 4 A = Action คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้มีการปรับปรุงแก้ไขส่วนที่มีปัญหา หรือถ้าไม่มีปัญหาใดๆ ก็ยอมรับแนว ทางการปฏิบัติตามแผนงานที่ได้ผลสาเร็จ ดังนั้นการบริการวิชาการสังคมของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคามในครงั้ นจี้ ึงเปน็ การนาชมุ ชนเขา้ มามีส่วนรว่ มในการพัฒนาอย่างแมจ้ รงิ สว่ นใน การจัดกิจกรรม ทางคณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้กาหนดกิจกรรมบริการวชิ าการท่ีสอดคล้องกับบริบท

50 I เอกสารประกอบการน�ำ เสนอผลงาน ในงานการประชุมวชิ าการมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามวิจยั คร้งั ท่ี 14 : สาขาบริการวิชาการ” ของโรงเรียน พรอ้ มท้ังได้พัฒนาสื่อและเคร่ืองมือการจัดการเรียนรู้ ดว้ ยการศกึ ษาแนวคดิ ทฤษฎี วิธีการ จัดการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ จนได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมสาหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 คือ รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะด้านการสอ่ื สาร โครงการฯ ประสบความสาเร็จ ใจการบริการวิชาการ มีความเรียบร้อย ผลการดาเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของ มหาวิทยาลัยท่ีมงุ่ สรา้ งกระบวนการเรยี นรู้แบบมสี ว่ นร่วม หรอื การเรียนรู้คกู่ ารให้บริการวิชาการ ระหว่าง มหาวทิ ยาลัยกบั ชุมชน ดว้ ยการเน้นผูเ้ รียนเปน็ สาคัญ ผลการดาเนนิ งานตามเป้าหมาย รอ้ ยละ 100 บรรลุ ตามเป้าหมาย ร้อยละ 100 การบรรลผุ ลประเมนิ ตัวชว้ี ดั ความสาเร็จ พบวา่ บรรลุตามตัวช้ีวดั ความสาเร็จ ร้อยละ 100 4.2 การนาไปใช้กับการเรียนการสอน คณะกรรมการดาเนินโครงการฯ ได้นาโครงการน้บี รู ณาการร่วมกบั การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา และการพัฒนาท้องถิ่น โครงการน้ีได้บูรณาการกับ 0506202 การศึกษาแบบบเรียนรวมหลักสูตร กศ.บ. การศึกษาบัณฑิต 0506720 การศึกษาแบบบเรียนรวม หลักสูตร กศ.ม.การศึกษามหาบัณฑิต รายวิชา นวตั กรรมและการออกแบบการจัดการเรียนรู้ หลักสูตร กศ.ม.การศกึ ษามหาบัณฑิต และรายวิชา 0503 323 Assistive Technology for Children with Learning Disabilities เทคโนโลยีส่ิงอานวยความ สะดวกสาหรับเด็กบกพร่องทางการเรียนรู้ซึ่งเป็นรายวิชาท่ีนิสิตจะต้องออกแบบการจัดการเรียนรู้ โดย อาจารย์ผู้สอนแต่ละท่านได้นานิสิตเข้าร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น 2.6. กิจกรรมการเผยแพร่นวัตกรรม และเทคโนโลยี โครงการ “บูรณาการ การอ่านและเขียนเพื่อเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ระดับช้ัน ประถมศึกษา” การอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เร่ือง ความรู้เรื่องนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการ เรียนรู้และมีความยากลาบากในการเรียนรู้ และการผลิตสื่อการสอน พัฒนานวัตกรรมเพ่ือส่งเสริม สมรรถนะด้านการสื่อสารของนักเรยี น การผลิตส่อื ดจิ ิดลั และการจัดทาฐานขอ้ มูลออนไลน์ ทีส่ าคัญและ เป็นประโยชน์ต่อนสิ ิตในการบูรณาการครัง้ น้ีคอื นสิ ิตได้นาความรู้ที่เรยี นนาไปใช้ในสถานการณ์จริง คือได้ ไปช่วยเหลือครูได้ผลิตส่ือและนวัตกรรมต่างๆ สาหรับการเรียนการสอนของครูต่อไป ในการ บูรณาการการทางานคร้ังน้ีนิสิตได้เรียนรู้เทคนิควิธีการสอนที่ทันสมัย สามารถแก้ปัญหาหรือพัฒนา ความสามารถผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยรปู แบบการเรียนรู้ท่เี น้น ผู้เรียนเป็นสาคัญ (Child-centered learning) และการบูรณาการความรู้กับหลักสูตรท้องถ่ิน เน้นการ พัฒนาความคิดอย่างสร้างสรรค์ โดยนาความรู้ทั้งด้านการอ่าน การเขียน และการคิดวิเคราะห์มาบูรณา การกับความเป็นท้องถ่ิน ดังการผลิตส่ือนิทานพ้ืนบ้านในรูปแบบหนังสืออิเล็คทรอนิค และส่ือการสอน หนังสือภาพ ตลอดจนนิสิตไดท้ าการวจิ ยั ในชนั้ เรยี นควบคู่กับการเรยี นการสอนด้วย การดาเนินการโครงการในครั้งน้ี คณะกรรมการดาเนินงานฯ ได้ร่วมกันวางแผนกับชุมชน สารวจความต้องการของชุมชน หาแนวทางการพัฒนาและวางแผนการออกแบบการจัดการเรียนรู้ การ สร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผล ตลอดจนการเขียนรายงานการวิจัย การดาเนินโครงการสามารถ สะท้อนให้เห็นว่า นิสิต อาจารย์ท่ีปรึกษาโครงการ และชุมชน ได้ร่วมกันวางแผนการดาเนินงานและ ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน สามารถพัฒนาความสามารถของ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook