เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 101 พนื้ ท่ี และ การใชง้ านงานกา๊ ซชวี ภาพส�ำ หรบั ชมุ ชน ชุมชน และการเงินการลงทนุ ณ ต.ค�ำ แคน อ.มญั จาครี ี จ.ขอนแกน่ ถ่ายทอดผลการศึกษาแนวทางการแก้ • เรยี นรรู้ ว่ มสรา้ งระบบผลติ และจา่ ยกา๊ ซ ปัญหาการใช้เทคโนโลยีก๊าซชวี ภาพ ชวี ภาพจากฟาร์มสุกร วัตถปุ ระสงค์ วตั ถุประสงค์ • เพ่ือนำ�เสนอความเป็นไปได้ แนวโน้ม • เพอ่ื เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ชมุ ชนกบั การเปลย่ี นแปลง ของความผันผวนหรือการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิด มาใชพ้ ลังงานทดแทน ขึน้ ในอนาคต • เพอ่ื เรยี นรรู้ ะบบผลติ และจา่ ยกา๊ ซชวี ภาพ • เพอื่ น�ำ เสนอเทคโนโลยแี ละแนวทางการ จากฟารม์ สุกร ใช้ประโยชน์ระบบกา๊ ซชวี ภาพสำ�หรับชมุ ชน • เพอ่ื เรยี นรเู้ งื่อนไขข้อจำ�กัดในการสรา้ ง • เพ่ือนำ�เสนอต้นทุนการประมาณการ ระบบผลติ และจา่ ยกา๊ ซชีวภาพจากฟารม์ สกุ ร การติดตัง้ ระบบก๊าซชวี ภาพส�ำ หรับชุมชน • เพอ่ื เรยี นรูก้ ารสรา้ งระบบผลติ และจา่ ย • เพื่อรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมของ ก๊าซชวี ภาพ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ เพ่ือปรับเปลี่ยนเน้ือหาและ ความเขา้ ใจ วิธีการดำ�เนนิ งาน วธิ กี ารด�ำ เนินงาน • เรียนรู้เร่ืองความปลอดภัย การติดตั้ง • นำ�เสนอผลการศึกษาแนวทางการแก้ ระบบก๊าซชีวภาพสำ�หรับครัวเรือน และร่วมสร้าง ปัญหาการใช้เทคโนโลยีก๊าซชีวภาพ ณ องค์การ ระบบต่อขยายระบบจ่ายก๊าซชีวภาพ อีก 9 ครัว บรหิ ารส่วนต�ำ บลค�ำ แคน เรือน ณ บ้านคำ�ปากดาว ต.คำ�แคน อ.มัญจาคีรี • การบรู ณาการกบั ภารกจิ หลกั ดา้ นอน่ื ๆ จ.ขอนแก่น กระบวนการดำ�เนินการ วเิ คราะหศ์ กั ยภาพชมุ ชนและแนวทางการ แกป้ ญั หาด้วยเทคโนโลยกี ๊าซชวี ภาพ โครงการเรียนรู้และถ่ายทอดระบบผลิต และจ่ายแก๊สชีวภาพจากฟาร์มสุกรระดับชุมชน วัตถุประสงค์ ต.ค�ำ แคน อ.มัญจาครี ี จ.ขอนแก่น ภายใตโ้ ครงการ • ศกึ ษาศกั ยภาพฟารม์ และชมุ ชนในการ บริการวชิ าการสูช่ ุมชน “1 หลกั สตู ร 1 ชุมชน” กอ่ ผลติ และจ่ายกา๊ ซชวี ภาพ เกดิ การบรู ณการ ประโยชนแ์ ละสรา้ งคณุ คา่ ตอ่ สงั คม และชุมชนโดยมรี ายละเอียดดังต่อไปนี้ วิธกี ารดำ�เนนิ งาน บูรณาการกับการเรียนการสอน • วเิ คราะหช์ มุ ชนดา้ นสขุ ภาพ สงิ่ แวดลอ้ ม ชมุ ชน สงั คม การผลิต วัตถดุ บิ ทรพั ยากร เทคนคิ การเรยี นการสอนจากทเี่ คยเรยี นในหอ้ งเรยี น วชิ าการ เทคโนโลยี การจัดการ การมสี ว่ นร่วมของ เปลย่ี นเปน็ การลงมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ผา่ นการบรณู าการ
102 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ รายวชิ าตา่ งๆ ประกอบดว้ ย รายวชิ าแหลง่ พลงั งาน ผลลัพธ์จากการดำ�เนินงานโครงการ และการเปล่ียนรูป รายวิชาการประเมินผลกระ ทบส่ิงแวดล้อม และรายวิชาพลังงานชุมชนและ ผลลัพธจ์ าการดำ�เนนิ งานโครงการเรียนรู้ การวางแผน นิสิตได้เรียนรู้วิธีชีวิตของชุมชนผ่าน และถ่ายทอดระบบผลิตและจ่ายแก๊สชีวภาพจาก แบบสอบถามขอ้ มลู การใชพ้ ลงั งาน และลงมอื ปฏบิ ตั ิ ฟารม์ สกุ รระดบั ชมุ ชน โดยมนี สิ ติ เปน็ สอื่ การในการ ไดม้ าซงึ่ ขอ้ มลู และน�ำ มาวเิ คราะหเ์ พอ่ื การวางแผน ลงพน้ื ทจี ดั เกบ็ ขอ้ มลู และน�ำ เสนอภายรว่ มของฟารม์ และพัฒนาการใช้พลังงานภายในชุมชนตอ่ ไป ในพนื้ ท่ี พรอ้ มทง้ั เสนอแนะแนวทางการพฒั นาการ อยู่ร่วมกันของฟาร์มปศุสตั ว์กับชมุ ชน การบริหาร บูรณาการกับการวิจัย จัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด ต่อประชากรภายในพื้นท่ี ผ่าน ภายใต้การดำ�เนินโครงการมีการส่งข้อ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจ จัด เสนอโครงงานนวัตกรรม เร่ือง การจัดการส่ิง ทำ�โครงการระบบผลิตและจ่ายก๊าซชีวภาพจาก แวดล้อมด้วยระบบก๊าซชีวภาพจากฟาร์มสุกรส่ง ฟารม์ สกุ รระดบั ชุมชนเพ่ือทดแทนการใช้พลงั งาน จา่ ยชมุ ชน ต�ำ บลค�ำ แคน เสนอ ส�ำ นกั งานนวตั กรรม ในภาคครัวเรือนเพื่อเป็นการพัฒนาที่มุ่งสู่ “การ ชาติ(องค์การมหาชน)เพื่อขอรับการสนับสนุนงบ พึง่ พาตนเอง” โดยในการประชุมคณะกรรมการสิง่ ประมาณวิจัยต่อย่อสู่ตน้ แบบชุมชนที่มีการจดั การ แวดลอ้ มต�ำ บลค�ำ แคน ประจ�ำ เดอื นมนี าคม 2560 ปญั หาดว้ ยเทคโนโลยีพลังงานทดแทน และยงั พบ มีมติจัดสร้างระบบผลิตและจ่ายก๊าซชีวภาพจาก โจทย์วิจัยท่ีชุมชนต้องการเพ่ือต่อยอดสู่ผลสำ�เร็จ ฟารม์ สกุ รระดบั ชมุ ชน ต�ำ บลค�ำ แคน อ�ำ เภอมญั จาครี ี อย่างยั่งยืน เช่น แนวทางการนำ�แก๊สไปใช้ในการ จงั หวัดขอนแก่น ระยะท่ี 2 ณ ฟาร์มคมสนั และ ผลิตไฟฟ้าเหมาะสมหรือไม่ การลดปัญหากล่ิน ฟาร์มหินวิเศษ โดยการสร้างระบบก๊าซชีวภาพท่ี ในขณะเร่ิมต้นปล่อยก๊าซ การศึกษาแนวทางการ มีปริมาณรองรับน้ำ�เสียจากมูลสัตว์ ขนาดไม่น้อย ขยายผลหรือความเหมาะสมของฟาร์มในพื้นท่ีท่ี กวา่ 300 ลูกบาศกเ์ มตร (ใหม่) ที่ฟาร์มหนิ วิเศษ ยงั ไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ประกอบด้วยบ่อรวมน้ำ�เสีย บ่อหมักก๊าซชีวภาพ บ่อดึงกากตะกอน ลานตากตะกอน ร่วมกับก๊าซ บู ร ณาก าร กับ ก ารทำ�นุบำ�รุงศิลป ชีวภาพจากระบบบำ�บัดฯ ขนาด 500 ลูกบาศก์ วัฒนธรรม เมตร (เดิม) จากฟาร์มคมสัน ซ่ึงนอกเหนือจาก เป็นการแก้ไขปัญหามลภาวะทางด้านสงิ่ แวดลอ้ ม นิสิตผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้วิธีชีวิต ดังกลา่ วขา้ งต้นได้แล้ว ยงั กอ่ ให้เกิดประโยชน์ดา้ น ชุมชน ศิลปวัฒนธรรม ความเช่ือของคนในชุมชน พลังงานทดแทนในครวั เรอื น โดยก๊าซชีวภาพท่ีได้ วิสาหกิจชุมชนผ้าฝ้ายทอด้วยมือ การพัฒนาต่อย สามารถส่งจ่ายให้ชุมชนรอบฟาร์มฯ ไม่น้อยกว่า อดสู่ผลิตภัณฑ์ชุมชน(OTOP) ผ่านกระบวนการ 100 ครัวเรือน เพ่ือใช้ทดแทนก๊าซหุงต้ม (LPG) ส�ำ รวจลงพนื้ ทส่ี อบถามขอ้ มลู รายครวั เรอื น การพกั หรอื ถา่ นไม้ ตอ่ ไป อาศยั ในชมุ ชน นสิ ติ เปรยี บเสมอื นลกู หลานในชมุ ชน
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 103 บทสรุป การจดั กจิ กรรมโครงการเรยี นรแู้ ละถา่ ยทอด ระบบผลติ และจา่ ยแกส๊ ชวี ภาพจากฟารม์ สกุ รระดบั ชมุ ชน ต.ค�ำ แคน อ.มญั จาคีรี จ.ขอนแก่น เป็นการ ด�ำ เนนิ การระหวา่ งมหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม รว่ มกบั ฝา่ ยกิจการเพ่อื สังคม บรษิ ทั ปตท.จำ�กัด(มหาชน) องค์การบริหารส่วนตำ�บลคำ�แคน และสำ�นักงาน พลังงานจงั หวดั ขอนแก่น ผา่ นการดำ�เนนิ การโดย นสิ ติ ลงพน้ื ทเ่ี กบ็ ขอ้ มลู ส�ำ รวจฟารม์ และชมุ ชน เรยี น รวู้ ถิ ชึ วี ติ รว่ มหาแนวทางการแกไ้ ขปญั หาอยา่ งมสี ว่ น รว่ มโดยการน�ำ เอาหลกั การควบคมุ คณุ ภาพ (PDCA) มาใชใ้ นการวางแผนการด�ำ เนนิ งาน ควบคกู่ ับการ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมและศักยภาพ (SWOT) เพ่ือให้การดำ�เนินงานเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกภาคส่วนลว้ นมจี ุดมุ่งหมายในการใช้เทคโนโลยี พลังงานทดแทนในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสงั คม ในชุมชน โดยมกี ลไกในการ ขบั เคลอื่ นคอื นสิ ิต อาจารย์ หลักสูตร วท.บ.ฟิสกิ ส์ ประยกุ ต(์ พลงั งาน/อเิ ลก็ ทรอนกิ ส)์ คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เนน้ การมสี ว่ นร่วมของ ประชาชนทม่ี สี ว่ นไดแ้ ละเสยี ประโยชนจ์ ากโครงการ ก่อเกิดโครงการระบบผลติ และส่งจา่ ยก๊าซชีวภาพ จากฟาร์มสุกรระดับชุมชน ตำ�บลคำ�แคน อำ�เภอ มัญจาคีรี จังหวดั ขอนแกน่ ระยะที่ 2 ผลการประเมนิ จากแบบสอบถามประชาชน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการเรียนรู้และถ่ายทอด ระบบผลติ และจา่ ยแกส๊ ชวี ภาพจากฟารม์ สกุ รระดบั
104 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ชุมชน พบวา่ กิจกรรมมีความสอดคล้องกบั ปญั หา และความตอ้ งการของชมุ ชน/กลมุ่ เปา้ หมาย ความ พึงพอใจอย่ใู นระดบั ดมี าก สามารถนำ�ความรแู้ ละ ประสบการณ์จากการร่วมกิจกรรมไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำ�วัน / การปฏิบัติงานได้ ต่อตนเอง ต่อหน่วยงาน และต่อสังคม ความพึงพอใจอยู่ใน ระดับดีมาก ดีมาก และดมี าก ตามลำ�ดับ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมท�ำ ใหเ้ กดิ การสรา้ งเครอื ขา่ ยในชมุ ชน/ สังคม ความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก การได้ รับความรู้และประสบการณ์ท่ีเป็นประโยชน์ และ สามารถถา่ ยทอดความรแู้ ละประสบการณแ์ กช่ มุ ชน/ สงั คมความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ดมี าก สามารถนำ� ความรูแ้ ละประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรม มาพฒั นาองค์ความรใู้ หม่หรือนำ�ไปสูก่ ารขยายผล ไดอ้ ยใู่ นระดบั ดีมาก
โครงการส�ำ รวจ ปรวิ รรตและสงั คายนาภมู ปิ ญั ญาพน้ื บา้ นจากเอกสารโบราณ ชมุ ชนบ้านเชยี งเหียน ต�ำ บลเขวา อำ�เภอเมือง จงั หวดั มหาสารคาม ดร.สมยั วรรณอุดร หลักสูตรภาษาและวฒั นธรรมอาเซยี น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โครงการหนง่ึ หลักสตู รหน่งึ ชมุ ชน ประจ�ำ ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 1. หลักการและเหตุผล ชุมชนบา้ นเชียงเหียน ต�ำ บลเขวา อ�ำ เภอเมอื ง จังหวัดมหาสารคาม เปน็ ชุมชนโบราณแห่งหน่งึ ของจังหวัดมหาสารคามทม่ี ีหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏใหเ้ หน็ จนถึงปจั จุบัน ทัง้ วัตถุโบราณในยุค กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ ยุควฒั นธรรมขอม และยุควฒั นธรรมลา้ นชา้ ง อีกทัง้ ยงั มคี ติความเชือ่ ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั วรรณกรรมอสี านโดยเฉพาะเรือ่ งผาแดงนางไอ่ และกระรอกดอ่ น (กระรอกเผอื ก) ซ่ึงยังมีอยู่มากมายใน ดอนปู่ตาของหมู่บ้าน และในปัจจุบันชุมชนบ้านเชียงเหียนยังมีวิถีชีวิต ฮีตคองประเพณีท่ียังยึดถือตาม แบบโบราณอยู่อยา่ งเหนยี วแน่น มีการรกั ษาโรคตามแบบหมอยาพน้ื บา้ น ใชต้ ำ�รายาและยาสมนุ ไพรพ้นื บ้านในบำ�บัดการรักษาโรคก่อนในเบ้ืองต้นแล้วจึงรักษาผสมผสานกับการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เนอ่ื งจากชมุ ชนบา้ นเชยี งเหน็ มหี มอยาพน้ื บา้ น มปี ราชญพ์ น้ื บา้ นทม่ี คี วามช�ำ นาญในการรกั ษา อกี ทง้ั มกี าร ส่งเสรมิ การปลกู ปา่ สมนุ ไพรในป่าชมุ ชนของบ้านเชยี งเหยี น การท�ำ พธิ บี ายศรีสู่ขวัญ แต่งแก้เสยี เคราะห์ ตามแบบฉบบั โบราณ งานบญุ ประเพณเี ลยี้ งผปี ตู่ าของชมุ ชน มตี �ำ นานเรอ่ื งเลา่ ทเี่ ปน็ เอกลกั ษณข์ องชมุ ชน นอกจากน้นั ภายในวัดก็ยังมสี ิมโบราณท่เี ปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะหน่งึ เดียวในจังหวดั มีคมั ภรี ์ใบลานจ�ำ นวน มากภายในวดั มพี ิพิธภณั ฑภ์ ายในชมุ ชน 2 แห่งทัง้ ภายในวัดและในหม่บู ้าน ดงั นน้ั หลกั สตู รภาษาและวฒั นธรรมอาเซยี น สาขาภาษาและวฒั นธรรมลาวซง่ึ ไดเ้ ปดิ สอนรายวชิ า การปริวรรตเอกสารโบราณลาว ได้เล็งเห็นความสำ�คัญของชุมชนท่ีมีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม ประเพณดี งั กลา่ วมา อีกทั้งมภี ูมปิ ญั ญาที่บนั ทกึ ไวใ้ นเอกสารโบราณอีกจ�ำ นวนมาก จึงมีความตอ้ งการที่ จะส�ำ รวจ อนรุ ักษ์ และส่งเสริมภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมของชุมชนทบ่ี ันทึกไวใ้ นเอกสารโบราณท้งั ภายใน วัดและสมบัติส่วนตัวของบุคคลในชุมชนให้คงอยู่ และมีการนำ�มาปริวรรตจากอักษรโบราณเป็นอักษร ไทยปัจจุบัน เผยแพร่องค์ความรู้ของชุมชนให้กับชุมชนได้รับรู้อย่างกว้างขวางขึ้น และเพื่อเป็นข้อมูลใน การจัดทำ�มรดกภูมิปัญญาด้านเอกสารโบราณให้กับชุมชนเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดกิจกรรมอ่ืน ของชุมชนตอ่ ไปในอนาคต
106 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 2. วัตถุประสงค์ 4. ผลการดำ�เนินงาน 1. เพอื่ ส�ำ รวจ และจดั ระบบเอกสารโบราณ 4.1 ระยะตน้ น�้ำ ในชุมชนบ้านเชียงเหียน ตำ�บลเขวา อำ�เภอเมือง ทางหลกั สตู รภาษาและวฒั นธรรมอาเซยี นได้ จงั หวดั มหาสารคาม ลงพน้ื ทพี่ รอ้ มกบั คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ทไี่ ดจ้ ดั เวทชี าวบา้ นเพอ่ื ระดมความคดิ แลกเปลยี่ น 2. เพอ่ื ปรวิ รรตและสงั คายนาเอกสารโบราณ และหารือแนวทางในการทำ�งานร่วมกันระหว่าง ด้านภมู ปิ ญั ญาพนื้ บา้ น ของบา้ นเชียงเหียน ตำ�บล ชุมชนและมหาวิทยาลัยทั้งกิจกรรมของโครงการ เขวา อ�ำ เภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม หนง่ึ หลกั สตู รหนง่ึ ชมุ ชน และโครงการหนงึ่ คณะหนงึ่ ศลิ ปวฒั นธรรม ซงึ่ หลกั สตู รสว่ นมากไดจ้ ดั กจิ กรรม 3. วิธีดำ�เนินงาน ในพื้นท่ีบ้านเชียงเหียนตามอัตลักษณ์ของแต่ละ หลักสูตรตามนโยบายของคณะที่ได้เลือกให้พ้ืนที่ การด�ำ เนนิ โครงการในครงั้ นี้ มรี ปู แบบการ บ้านเชียงเหียนเป็นพ้ืนที่ base area เพื่อให้การ จัดกจิ กรรมและวธิ ดี �ำ เนนิ งาน 3 ขั้นตอน ได้แก่ จัดโครงการต่างๆ ของคณะเป็นรูปธรรมท่ีชัดเจน ซง่ึ คณะกรรมการด�ำ เนนิ โครงการฯ ไดร้ บั รถู้ งึ ความ 1. ข้นั เตรียมการ เป็นการจดั เวทชี าวบา้ น ตอ้ งการของชมุ ชนทตี่ อ้ งการจะอนรุ กั ษภ์ มู ปิ ญั ญาที่ เพอื่ ระดมความคดิ แลกเปลย่ี น และหารอื แนวทาง บันทกึ ไวใ้ นเอกสารใบลานให้มีการน�ำ มาถ่ายทอด ในการท�ำ งานรว่ มกนั ระหวา่ งชมุ ชนและมหาวทิ ยาลยั ในชมุ ชนในรูปแบบที่งา่ ยขึ้น คอื ปริวรรตเป็นภาษา ไทยท่ีทุกคนสามารถเขา้ ถึงได้ 2. ขั้นดำ�เนินการ ได้แบ่งออกเป็น 4 กจิ กรรมหลัก ได้แก่ ภาพกจิ กรรมการจดั เวทีชาวบา้ นเพือ่ ระดมความคดิ แลกเปล่ียน และหารือแนวทางในการทำ�งาน กิจกรรมที่ 1 ลงพื้นที่เพอ่ื ส�ำ รวจเอกสาร ร่วมกนั ระหวา่ งชุมชนและมหาวิทยาลัย ใบลาน จากวดั โพธศิ์ รเี ชยี งเหยี น จากปราชญช์ มุ ชน บา้ นเชยี งเหียน กิจกรรมท่ี 2 ลงพ้ืนที่ทำ�ความสะอาด เอกสารใบลานภายในวดั โพธศ์ิ รเี ชยี งเหยี น และคดั เลือกภูมิปัญญาจากเอกสารใบลานเรื่องประเภท ต่างๆ มาเพอ่ื ท�ำ การถา่ ยภาพและปรวิ รรต กิจกรรมที่ 3 จัดเวทีสังคายนาความถูก ต้องของภูมิปัญญาท่ีปริวรรตจากเอกสารใบลาน เสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ กจิ กรรมท่ี 4 จัดรูปแบบข้อมูลทป่ี ริวรรต จากเอกสารใบลานทที่ �ำ การแกไ้ ขความถกู ตอ้ งจาก เวทีสงั คายนาแลว้ น�ำ เขา้ โรงพิมพ์ 3. ขั้นสรุปผล เป็นการจัดเวทีเพื่อการ สรุปผลการจัดกิจกรรมต่างๆ ถอดบทเรียนคืน ข้อมูลส่ชู มุ ชน
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 107 4.2 ระยะกลางนำ้� จากการที่สำ�รวจพบว่ามีเอกสารใบลานเก็บไว้อยู่ ระยะกลางน้ำ�เป็นขั้นตอนในขั้นดำ�เนิน 2 แห่งดว้ ยกนั คอื เอกสารใบลานทีเ่ ก็บไว้ท่ีกุฏิเจ้า การ ซึ่งไดแ้ บ่งออกเปน็ 3 กจิ กรรมหลัก ดังตอ่ ไปนี้ อาวาสซ่ึงส่วนมากเป็นเอกสารใบลานส้ันท่ีมีผู้นำ� มาถวายไว้ แต่มีจำ�นวนไม่มาก ส่วนอีกแหง่ คอื ทตี่ ู้ เกบ็ เอกสารใบลานท่เี กบ็ ไวภ้ ายในอโุ บสถ ซงึ่ สว่ น มากเป็นเอกสารใบลานขนาดยาวและเป็นผูกเปน็ มัดสวยงามและมีการสำ�รวจและจัดระบบไว้แล้ว โดยโครงการอนุรักษ์ใบลาน ภาคตะวันออกเฉียง เหนอื มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม เมอื่ ปี พ.ศ. 2547 ส่วนสภาพเอกสารใบลานท่เี ก็บไว้ทีเ่ จา้ อาวาสนนั้ บางสว่ นอยู่ในสภาพดี บางส่วนชำ�รดุ เสยี หายมาก และบางส่วนกแ็ ตกผกู แยกจากกันกระจดั กระจาย ภาพลงพ้นื ทเ่ี พื่อส�ำ รวจเอกสารใบลาน จากวัดโพธศ์ิ รี เชยี งเหยี น จากปราชญช์ มุ ชน บ้านเชยี งเหียน กจิ กรรมที่ 1 เปน็ ขน้ั ตอนการลงพน้ื ทเี่ พอื่ ภาพลงพนื้ ทีเ่ พอ่ื ส�ำ รวจเอกสารใบลาน จากวดั โพธิศ์ รี สำ�รวจเอกสารใบลาน จากวัดโพธิ์ศรีเชียงเหียน เชยี งเหียน จากปราชญช์ ุมชน บ้านเชยี งเหยี น จากปราชญ์ชุมชน บ้านเชียงเหียน พบว่าเอกสาร ใบลานในชุมชนบ้านเชียงเหียนส่วนมากจะเก็บไว้ ท่ีวัด ส่วนท่ีเก็บไว้ที่ปราชญ์ชุมชนน้ันไม่มี เพราะ ส่วนมากอ่านไม่ได้และนำ�มาเก็บไว้ท่ีวัด ส่วนอีก ที่หน่ึงท่ีทราบว่ามีเอกสารใบลานคือท่ีพิพิธภัณฑ์ บ้านเชียงเหียน แต่เนื่องจากผู้รักษาไม่พร้อมที่จะ ให้เขา้ ส�ำ รวจจงึ ตอ้ งยกเลกิ ไป และสำ�รวจเอกสาร ใบลานท่ีเก็บไวภ้ ายในวดั โพธศิ์ รีเชียงเหียนเท่านั้น
108 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ กิจกรรมที่ 2 ลงพ้ืนท่ีทำ�ความสะอาด กิจกรรมท่ี 3 จัดเวทีสังคายนาความถูก เอกสารใบลานภายในวดั โพธศิ์ รเี ชยี งเหยี น และคดั ต้องของภูมิปัญญาท่ีปริวรรตจากเอกสารใบลาน เลือกภูมิปัญญาจากเอกสารใบลานเรื่องประเภท เสรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ โดยไดล้ งพนื้ ทจ่ี ดั เวทสี งั คายนา ตา่ งๆ มาเพอ่ื ท�ำ การถา่ ยภาพและปรวิ รรต โดยนสิ ติ เอกสารใบลานทป่ี รวิ รรตแลว้ ณ ศาลาการเปรยี ญ ไดน้ �ำ เอกสารใบลานทง้ั หมดมาท�ำ ความสะอาดโดย วดั โพธศิ์ รเี ชยี งเหยี น ซง่ึ ในวนั ทจี่ ดั เวทสี งั คายนานน้ั ใชแ้ อลกอฮอลแ์ ละส�ำ ลเี ชด็ ท�ำ ความสะอาดเอกสาร ตรงกบั วนั พระทผี่ สู้ งู อายชุ าวบา้ นเชยี งเหยี นมานอน ใบลานทต่ี ดิ กัน สกปรก และแตกผกู ช�ำ รดุ เสียหาย วัดรักษาศีล ทำ�ให้มีปราชญ์ชาวบ้านและผู้สูงอายุ ตลอดถงึ เปลยี่ นสายสนองหรอื เชอื กรอ้ ยเอกสารใบ ทง้ั ผหู้ ญงิ และผู้ชายเข้ารว่ มจำ�นวนมากและทกุ คน ลานใหมใ่ หม้ คี วามคงทนและรวบรวมเอกสารใบลาน ให้ความรว่ มมอื เปน็ อย่างดี ท�ำ ให้ข้อมลู ทีป่ ริวรรต ที่แตกผูกให้รวมเข้าเป็นเรื่องเดียวกันผูกเดียวกัน จากเอกสารใบลานได้รับการสังคายนาให้ถูกต้อง เพอ่ื ความสมบรู ณข์ องเนอื้ หา แลว้ คดั เลอื กเอกสาร และสมบรู ณม์ ากที่สุด ใบลานทง้ั ขนาดสน้ั และขนาดยาวทม่ี คี วามสมบรู ณ์ ทง้ั เนอื้ หาและสภาพเอกสารใบลาน โดยไดเ้ อกสาร ใบลานท่ีจะนำ�มาปริวรรตท้ังหมด 8 เรื่องจากใบ ลานสั้น 6 ผูกจารด้วยอักษรธรรมอีสาน และ ใบ ลานยาว 1 ผูก จารดว้ ยอักษรไทยน้อย ซ่งึ เนือ้ หา ทั้ง 8 เรอื่ ง ไดแ้ ก่ สูข่ วญั แกก้ �ำ เลดิ ธรณีสาร (เสีย เคราะห์) ธรณสี ารหลวง บาศรพี ระเจ้า ส่ขู วัญนาค คารวะ และอาณาจกั รธรรมจกั ร (กฎหมายโบราณ) ซ่ึงเร่ืองเหล่านี้ส่วนมากยังมีบทบาทและมีความ ส�ำ คญั ในชมุ ชนบ้านเชียงเหยี นอย่ใู นปจั จุบัน ภาพจัดเวทสี ังคายนาความถกู ตอ้ ง ของภูมปิ ัญญาทปี่ ริวรรตจากเอกสารใบลาน ภาพลงพืน้ ที่ท�ำ ความสะอาด เอกสารใบลานภายในวัดโพธิศ์ รีเชียงเหียน
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 109 ปริวรรตเป็นภาษาไทยและนำ�มาจัดรูปแบบใหม่ เพื่อให้อ่านง่ายและต่อเนื่องกันไปตั้งแต่ต้นจนจบ เนือ้ เรอ่ื ง ซึ่งเน้ือหามที ้ังหมด 8 เรอ่ื งได้แก่ สู่ขวญั แก้กำ�เลิด ธรณสี าร (เสยี เคราะห์) ธรณีสารหลวง บาศรีพระเจ้า สู่ขวัญนาค คารวะ และอาณาจักร ธรรมจกั ร (กฎหมายโบราณ) จากใบลานส้นั 6 ผูก จารด้วยอักษรธรรมอีสาน และ ใบลานยาว 1 ผูก จารดว้ ยอักษรไทยน้อย ภาพจดั เวทสี ังคายนาความถูกตอ้ ง ตัวอยา่ งปกหนงั สือ ของภมู ิปญั ญาที่ปรวิ รรตจากเอกสารใบลาน ตัวอยา่ งเนอื้ หาสว่ นปรวิ รรตจากใบลาน 4.3 ระยะปลายนำ้� ระยะปลายน้ำ�เป็นขั้นตอนในข้ันดำ�เนิน การขั้นสุดทา้ ยของโครงการ ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 2 กจิ กรรมหลกั ดงั ต่อไปนี้ กจิ กรรมที่ 1 จัดรูปแบบข้อมลู ทป่ี รวิ รรต จากเอกสารใบลานท่ีทำ�การแก้ไขความถูกต้อง จากเวทีสังคายนาแล้วนำ�เข้าโรงพิมพ์ โดยได้นำ� ข้อมูลภูมิปัญญาท่ีแก้ไขความถูกต้องจากที่มีการ สงั คายนาแลว้ มาจดั เปน็ รปู เลม่ หนงั สอื ซงึ่ มเี นอื้ หา ภายในเล่มแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนท่ี 1 เป็นส่วนท่ีมีต้นฉบับใบลาน พร้อมด้วยเนื้อหาท่ี ปรวิ รรตจากใบลานแบบหนา้ ตอ่ หนา้ ลานเปน็ อกั ษร ไทยปัจจบุ นั เพ่อื ให้ผทู้ ตี่ อ้ งการศึกษาจากเอกสาร โบราณได้อ่านควบคู่กับตัวอักษรโบราณที่บันทึก ไว้ในเอกสารใบลาน ส่วนท่ี 2 มีเฉพาะเน้ือหาท่ี
110 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ตวั อย่างส่วนจัดรูปแบบเรียบเรียงใหม่ รองคณบดฯี ถวายหนงั สือแก่เจา้ อาวาส ในฐานะผ้แู ทนชุมชน กิจกรรมที่ 2 จัดเวทีคืนความรู้สู่ชุมชน เป็นกิจกรรมท่ีคณะจัดเพ่ือให้หลักสูตรต่างๆ ได้ 5. การบูรณาการและการเกิดประโยชน์และ นำ�ความรู้ หรือผลงานที่ได้จากการจัดโครงการท่ี สร้างคุณค่าต่อการเรียนการสอนแลชุมชน ชุมชนบ้านเชียงเหียน ร่วมนำ�เสนอให้แก่ชุมชนรับ รแู้ ละมอบใหก้ ับชมุ ชน โดยมีผู้เขา้ รว่ มทง้ั พระสงฆ์ การบรู ณาการภารกจิ (4 In 1) ตามกจิ กรรม ชาวบา้ น นสิ ติ คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ท่ดี �ำ เนนิ มาแล้วนั้น สามารถบรู ณาการได้เพยี ง 2 และครนู ักเรียนโรงเรียนบา้ นหันเชียงเหียน อย่างได้แก่การเรียนการสอนและการทำ�นุบำ�รุง ศลิ ปวฒั นธรรม โดยเฉพาะนสิ ติ สาขาวชิ าภาษาและ หนังสือและรปู ภาพเตรยี มมอบคนื สชู่ ุมชน วฒั นธรรมอาเซยี น (ภาษาและวฒั นธรรมลาว) ทไ่ี ด้ เรยี นในรายวชิ าเกย่ี วกบั การปรวิ รรตเอกสารโบราณ ตำ�นานและพิธีกรรม คติชนวิทยา และภาษาและ วัฒนธรรมลาว จะไดร้ ับประโยชน์มากทสี่ ุดเพราะ นสิ ติ นอกจากจะไดเ้ รยี นในหอ้ งแลว้ ยงั ไดอ้ อกพน้ื ที่ ปฏิบัติการจริงเกี่ยวกับการสำ�รวจ อนุรักษ์และ ปรวิ รรตองคค์ วามรจู้ ากเอกสารใบลาน ซงึ่ เปน็ องค์ ความรูใ้ หมท่ ี่ได้จากชมุ ชนบา้ นเชียงเหยี น สามารถ ท่ีจะนำ�ไปเป็นข้อมูลในการศึกษาคติชน พิธีกรรม ของทอ้ งถน่ิ ไดอ้ ยา่ งดี และในสว่ นของชมุ ชนนน้ั กไ็ ด้ ขอ้ มลู หรอื ภมู ปิ ญั ญาของตนเองทม่ี กี ารจดั พมิ พเ์ ปน็ รปู เลม่ หนังสอื ทีเ่ ป็นมาตรฐาน ทุกคนสามารถเขา้ ถึงได้เพราะเป็นสมบัติร่วมกันของชุมชนซ่ึงข้อมูล ภูมิปัญญาท่ีได้รับจากการจัดโครงการนั้นน้ันบาง เร่ืองยังมีบทบาทอยู่ในชุมชนในปจั จุบนั
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 111 ภาพกจิ กรรมการจัดเวทคี นื ความรูส้ ชู่ มุ ชน 6. บทสรุปผลการดำ�เนินงาน ลาน ซง่ึ มกี ารพูดคยุ กันอย่างสนุกสนานและไดร้ บั ความร้รู ่วมกนั ทั้งชุมชน คณาจารย์และนสิ ติ สว่ น จากการไดจ้ ดั โครงการในครง้ั นี้ สามารถ นิสิตได้รับประสบการณ์ตรงและได้ใช้ความรู้ท่ีได้ บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งในส่วนของกลุ่มคณาจารย์ จากการศึกษาในรายวิชาต่างๆ ในหลักสูตร โดย และนิสิตที่ร่วมโครงการและบรรลุเกินเป้าหมาย เฉพาะวิชาการปริวรรตวรรณกรรมจากเอกสาร ที่ตั้งไว้ในส่วนของชุมชนที่เข้าร่วมโครงการโดย โบราณ ไดฝ้ กึ ทกั ษะการส�ำ รวจ การท�ำ ความสะอาด เฉพาะกิจกรรมการจัดเวทีสังคายนาภูมิปัญญา เอกสารใบลาน การเขา้ หาชมุ ชนและการปรบั ตวั ใน พ้ืนบ้านจากเอกสารใบลานชุมชนได้ให้ความร่วม ชุมชน อกี ทั้งเปน็ แบบอยา่ งให้นิสิตสามารถน�ำ เอา มือเป็นอย่างดี โดยผู้สูงอายุในชุมชนทั้งหญิงและ ประสบการณท์ ไี่ ดไ้ ปปรบั ใชห้ รอื ปฏบิ ตั จิ รงิ ในชมุ ชน ชายได้ช่วยกันวิเคราะห์คำ�ศัพท์โบราณท่ีปัจจุบัน ของตนเองได้ด้วย อาจหลงลืมไปแล้ว แต่ยังปรากฏอยู่ในเอกสารใบ
โครงการใหค้ วามรเู้ รอื่ งโรคและยาแกผ่ สู้ งู อายแุ ละคน้ หาอาสาสมคั รดแู ลผปู้ ว่ ย ดา้ นยาในครอบครวั ปปปปปปปปป 1. ความเป็นมาของปัญหา โครงการใหค้ วามรเู้ รอ่ื งโรคและยาแกผ่ สู้ งู อายแุ ละคน้ หาอาสาสมคั รดแู ลผปู้ ว่ ยดา้ นยาในครอบครวั (อสยค) ของคณะเภสชั ศาสตร์ ประจ�ำ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 ไดจ้ ดั ท�ำ ขน้ึ ภายใตก้ ระบวนการขบั เคลอื่ น ภารกจิ ด้านการบริการวิชาการของมหาวิทยาลยั มหาสารคาม เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ตอ่ การเรยี นการ สอน และเกดิ ประโยชน์ตอ่ ชมุ ชนอย่างย่ังยืน ซ่งึ จะด�ำ เนินการในชมุ ชนในเขตรับผิดชอบ ของ อบต. เหลา่ ดอกไม้ อำ�เภอช่นื ชม จังหวดั มหาสารคาม ซ่ึงเปน็ ชุมชนท่ีมีทุนทางสังคม คอื เปน็ ชุมชนตน้ แบบเศรษฐกิจ พอเพยี ง เป็นชุมชนตน้ แบบการก�ำ จดั ขยะ ในพน้ื ท่ีมีโรงเรยี น 3 แหง่ และศูนย์เด็กเลก็ 4 มพี นื้ ที่ป่าชุมชน 5,780 ไร่ มีกล่มุ อาชีพในชมุ ชน 23 กล่มุ และได้รบั การสนบั สนนุ งานบรกิ ารวชิ าการจากมหาวิทยาลยั (ดา้ นอนุรกั ษ์ปา่ ) สภาฮักแพงฯ (ดา้ นการเกษตร) และ ปตท. (ด้านสขุ ภาพ) ด้านปญั หาของชุมชน เปน็ ต�ำ บลทม่ี คี วามแหง้ แลง้ ทส่ี ดุ ในจงั หวดั มหาสารคาม มจี �ำ นวนผสู้ อู ายุ 1 ใน 5 ของประชากรทงั้ หมด ปญั หา ยาเสพตดิ ของเยาวชนในชมุ ชน และมรี ถพว่ งในชมุ ชน จากการส�ำ รวจเบอ้ื งตน้ ชมุ ชนต�ำ บลบา้ นเหลา่ ดอกไม้ ตอ้ งการความชว่ ยเหลอื ในดา้ นการแกป้ ญั หาและการดแู ลผสู้ งู อายุ การพฒั นาแหลง่ เรยี นรโู้ คกขา่ ว การแก้ ปัญหายาเสพติดในชุมชน การทำ�กา๊ ซชวี ภาพจากขยะอนิ ทรยี ์ และการพัฒนากลุ่มอาชีพเลี้ยงไหม (กล่มุ ปลกู หมอ่ นเล้ียงไหม บ้านเหล่าดอกไม้) จากการประชุมหารอื แนวทางการดำ�เนินการบริการวิชาการ เมื่อ วนั พุธท่ี 28 ธนั วาคม 2559 ณ ห้องประชมุ ชน้ั 1 ณ ศนู ย์ความเปน็ เลศิ ทางนวตั กรรมหมอ่ นไหม มีขอ้ เสนอแนะท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั คณะเภสชั ศาสตรค์ อื ตอ้ งการใหด้ �ำ เนนิ การบริการวิชาการด้านสขุ ภาพทเ่ี น้นการ ดูแลผูส้ งู อายใุ ห้สามารถดแู ลตนเองได้ โดยอาศัยข้อเสนอจากที่ประชมุ ของผู้สูงอายุในพืน้ ที่ ทีต่ อ้ งการมี คู่มือการใช้ยา มีกล่องยาประจำ�ตัวที่เป็นกล่องยาประจำ�วันท่ีผู้สูงอายุจำ�เป็นต้องรับประทานยาทุกวัน รวมถงึ ต้ยู า จากปญั หาและข้อเสนอแนะเกีย่ วกับการใชย้ าของผู้ป่วยในปี 2560 น้ี คณะเภสชั ศาสตร์ได้ วางแผนด�ำ เนนิ การโดยในปแี รกจะเปน็ การปพู น้ื ฐานโดยการอบรมความรเู้ รอื่ งยาใหแ้ กผ่ สู้ งู อายุ และผดู้ แู ล ด้านยา โดยจะประสานกบั พน้ื ทีเ่ พอ่ื หางอาสาสมัครดูแลการใช้ยาในครอบครัว (อสยค) ทีจ่ ะเปน็ ตน้ แบบ จ�ำ นวน 30 ราย เพ่อื ให้มีหนา้ ท่ใี นการดแู ลผู้ป่วยในดา้ นการจัดยาและใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยกิจกรรม นจี้ ะดำ�เนินการผ่านทางนสิ ติ เภสชั ศาสตร์ภายใต้การก�ำ กับดูแลของอาจารย์ โครงการนค้ี าดหวงั วา่ อาจารยแ์ ละนสิ ติ จะไดป้ ระสบการณท์ งั้ การสรา้ งสมั พนั ธภาพกบั บคุ คลอน่ื การดแู ลรกั ษาผปู้ ว่ ย การใหค้ วามรแู้ กผ่ ปู้ ว่ ยและคนในครอบครวั ไดเ้ รยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ และประสบการณต์ รงของ ผปู้ ว่ ยและคนในครอบครวั เพอ่ื ทา้ ยทส่ี ดุ ใหน้ สิ ติ ไดเ้ ปน็ บณั ฑติ ทพ่ี งึ ประสงค์ ตามปรชั ญาของมหาวทิ ยาลยั
114 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ คอื ผมู้ ปี ญั ญาพงึ เปน็ อยเู่ พอ่ื มหาชน โดยตอ้ งมคี วาม ในโรงเรยี นผูส้ ูงอายบุ า้ นเหลา่ ดอกไม้ และ ค้นหา รับผิดชอบต่อตนเองในการศึกษาหาความรู้ท่ีพอ อาสาสมัครดูแลผู้ปว่ ยสงู อายุดา้ นยาในครอบครวั เพียงท่จี ะไปให้การดแู ลผู้ปว่ ยและคนในครอบครวั ได้ เป็นการรบั ผดิ ชอบตอ่ ท้งั ตนเองและสงั คม ภาย เม่ือส้ินสุดโครงการในปีท่ี 2 มีเป้าหมาย ใตห้ ลกั การเรยี นรคู้ กู่ ารใหบ้ รกิ ารวชิ าการ คอื เรยี น คือ ให้ความรู้เรื่องโรคและยาเพ่ิมเติมแก่ผู้สูงอายุ รใู้ นหอ้ งเรยี น และศกึ ษาคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ดว้ ยตนเอง ในโรงเรียนผสู้ ูงอายุบ้านเหลา่ ดอกไม้ และ พัฒนา และท�ำ งานเปน็ ทมี เมอื่ พรอ้ มกน็ �ำ ความรแู้ ละทกั ษะ อาสาสมัครดูแลผปู้ ว่ ยสูงอายดุ า้ นยาในครอบครวั ตา่ งๆ ทจี่ ำ�เป็นไปใหบ้ ริการวิชาการ เช่น วัดระดับ ความดันโลหิต วัดระดับนำ้�ตาลในเลือด ให้ความ เม่อื สน้ิ สดุ โครงการในปที ่ี 3 มเี ปา้ หมาย รเู้ รือ่ งยา และการปฏบิ ัตติ วั ท่ีเหมาะสมใหแ้ กค่ นไข้ คือ ให้ความรู้เรื่องโรคและยาเพิ่มเติมแก่ผู้สูงอายุ แต่ละราย รวมถึงคนในครอบครัว และคาดหวงั ว่า ในโรงเรียนผู้สูงอายุบ้านเหล่าดอกไม้ และ สร้าง จะได้ อสยค ทมี่ อี งคค์ วามรแู้ ละสามารถดแู ลผปู้ ว่ ย ต้นแบบอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยสูงอายุด้านยาใน สงู อายทุ เี่ ปน็ โรคเรอ้ื รงั ทางกายเบอื้ งตน้ ไดจ้ รงิ รวม ครอบครวั อยา่ งยัง่ ยืน ถงึ เพิ่มคณุ ภาพชวี ิตและลดปัญหาดา้ นยาในผ้ปู ว่ ย สูงอายทุ ่ีเปน็ โรคเรื้อรงั ทางกาย ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการในปที ี่ 1 มี วตั ถุประสงค์ 2 ข้อ คือ การใหค้ วามร้เู ร่อื งโรคและ โครงการน้ีจึงมีแนวคิดในการค้นหาและ ยาแกผ่ สู้ งู อายใุ นชมุ ชน และคน้ หาอาสาสมคั รดแู ลผู้ สรา้ ง อสยค เพ่ือให้คนในชมุ ชนสามารถพึง่ ตนเอง ปว่ ยสงู อายดุ า้ นยาในครอบครวั ดงั นนั้ กระบวนการ ไดใ้ นดา้ นการดแู ลการใชย้ า และมรี ะบบเชอื่ มโยงใน ดำ�เนินการจึงจะแยกอธบิ ายเปน็ 2 สว่ น ดังน้ี การรบั บรกิ ารจาก อสม. หรอื หนว่ ยงานสาธารณสขุ ชุมชน เช่น รพ.ส.ต. และคณะเภสัชศาสตร์อย่าง สว่ นท่ี 1 การใหค้ วามรเู้ รอื่ งโรคและยาแก่ ต่อเน่ือง ผสู้ งู อายใุ นชมุ ชน ผจู้ ดั ท�ำ โครงไดท้ �ำ การประชมุ วาง กรอบการให้ความรู้ และขั้นตอนการดำ�เนินงาน 2. วัตถุประสงค์โครงการ ระหว่างทีมอาจารย์ นิสิตเภสัชศาสตร์ และเจ้า หน้าท่ีของ อบต บ้านเหล่าดอกไม้ เพ่ือจัดเตรียม 1) การด�ำ เนนิ โครงการในปที ่ี 1 มวี ตั ถปุ ระสงค์ สถานทแี่ ละอปุ กรณป์ ระกอบการเรยี นการสอน โดย เพ่อื ใหค้ วามร้เู รือ่ งโรคและยาแกผ่ สู้ งู อายใุ นชมุ ชน แบ่งเน้ือหา และวิธีการเรียนการสอน เพื่อให้เกิด ประโยชนแ์ ละประสทิ ธภิ าพ ภายใตก้ รอบการสอน 2) ค้นหาอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ทตี่ อ้ งกระชบั ไมเ่ ยอะจนเกนิ ไปเพราะผสู้ งู อายจุ ะไม่ ดา้ นยาในครอบครวั สามารถนงั่ เรยี นหรอื รบั ขอ้ มลู วชิ าการทมี่ ากเกนิ ไป ความสนกุ สนานเพอื่ ใหบ้ รรยากาศการเรยี นเตม็ ไป 3. กระบวนการดำ�เนินการ ดว้ ยความสขุ ไมน่ า่ เบอ่ื น�ำ ปญั หาทพี่ บจรงิ ในชมุ ชน มาเปน็ หวั ขอ้ ในการเรยี นการสอนเพอ่ื ใหผ้ สู้ งู อายนุ �ำ โครงการให้ความรู้เร่ืองโรคและยาแก่ ไปปรบั ใชไ้ ดจ้ รงิ ในชวี ติ ประจ�ำ วนั และใหก้ ารบา้ นแก่ ผู้สูงอายุและค้นหาอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยด้านยา ผสู้ งู อายโุ ดยการใหท้ อ่ งบทสรภญั ญะเรอื่ งยาชดุ เพอ่ื ในครอบครวั มีเป้าหมายในระยะ 3 ปี คือ ผสู้ ูงอายุ ใหผ้ สู้ งู อายไุ ดท้ อ่ งและจดจ�ำ ไดด้ ว้ ยตนเอง การสอน ในชมุ ชนมอี งคค์ วามรเู้ รอ่ื งโรคและยาเบอ้ื งตน้ และ สมนุ ไพรในครวั เรอื นพรอ้ มน�ำ ตวั อยา่ งสมนุ ไพรใหผ้ ู้ มอี าสาสมคั รดแู ลผู้ป่วยด้านยาในครอบครวั โดย สงู อายุได้เหน็ ต้นสมนุ ไพรของจรงิ เพ่อื ให้ผสู้ ูงอายุ ไดร้ จู้ กั สมุนไพรและประโยชนข์ องสมนุ ไพรใน การ เมอ่ื สนิ้ สดุ โครงการในปที ี่ 1 มเี ปา้ หมายคอื ใหค้ วามรเู้ รอ่ื งโรคและยาอยา่ งเหมาะสมแกผ่ สู้ งู อายุ
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 115 ใหค้ วามรเู้ รอื่ งโฆษณาชวนเชอ่ื โดยจดั ท�ำ เปน็ ละคร ชมุ ชน โดยมรี ายช่อื ผทู้ ่เี ข้าเกณฑใ์ นการเปน็ อสยค และมตี ัวอยา่ งเปน็ วดี ีทัศนใ์ ห้ผสู้ ูงอายไุ ด้ร่วมแสดง ท้งั ส้ิน 67 คน ซง่ึ จะคัดเลือกอาสาสมคั รทส่ี มคั รใจ และเรยี นรไู้ ปดว้ ยกนั หลงั จากด�ำ เนนิ การเรยี นการ เป็น อสยค จำ�นวน 30 คน จากรายช่ือดังกล่าว สอนมกี ารประเมนิ ความพงึ พอใจ พบวา่ ผสู้ งู อายมุ ี และอสยค ท้ัง 30 คนน้ี จะได้รับการพัฒนาให้มี ความพึงพอใจในเฉลย่ี อยู่ในระดับดีถงึ ดีมาก และ องค์ความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยด้านยาใน มีการแสดงความคิดเห็นว่าการเรียนการสอนมี การด�ำ เนนิ โครงการในปตี อ่ ๆ ไป ประโยชน์ อยากให้มาสอนบอ่ ยๆ ความร้สู ามารถ น�ำ ไปปรับใช้กับชีวิตจรงิ ชอบทม่ี ีการถามตอบและ 4. การบูรณาการกับภารกิจหลักด้านอื่นๆ มรี างวลั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ ท�ำ ใหร้ ู้สกึ มคี วามสขุ และได้ ความรู้ อยา่ งไรกต็ ามการด�ำ เนนิ โครงการในปที ่ี 1 นี้ 4.1 บรู ณาการกบั การเรยี นการสอน : ใน ทางทมี ผดู้ �ำ เนนิ โครงการไมไ่ ดม้ กี ารประเมนิ ความรู้ ด้านการเรียนการสอน เน่ืองจากโครงการดำ�เนิน เรอ่ื งโรคและยากอ่ นและหลงั การเรยี นการสอน จงึ การในช่วงปดิ เทอม จึงมนี ิสิตเภสัชศาสตร์เข้ารว่ ม ได้วางแผนในปีตอ่ ๆ ไปควรมกี ารประเมนิ ในสว่ น ไดเ้ พยี งบางสว่ น และไมไ่ ดบ้ รู ณาการกบั วชิ าใด แต่ นี้เพื่อจะได้นำ�ปัญหา ข้อดี ข้อด้อยไปพัฒนาการ นิสติ ไดส้ ะทอ้ นวา่ เกดิ การเรียนรู้ คอื ได้เหน็ ปัญหา เรยี นการสอนใหด้ ยี ง่ิ ขนึ้ ในดา้ นปญั หาและอปุ สรรค ทีเ่ กิดขึ้นจริงกบั ผู้สงู อายใุ นชมุ ชน และตระหนกั ถึง ของการด�ำ เนนิ โครงการคอื สถานทเ่ี รยี นมกี ารปรบั ปญั หา เกดิ ความเขา้ อกเขา้ ใจ เหน็ ใจ และอยากชว่ ย เปล่ียนเน่ืองจาก ทาง อบต บ้านเหล่าดอกไม้ มี เหลือผสู้ ูงอายุให้มีคณุ ภาพชีวิตทด่ี ีขน้ึ หนว่ ยงานอน่ื เขา้ มาดงู าน จงึ ตอ้ งปรบั เปลยี่ นสถาน ท่ีอย่างกะทนั หัน แต่เนอ่ื งจากสถานทจ่ี ดั การเรยี น 4.2 บรู ณาการกบั การวจิ ยั : ในดา้ นการ การสอนของ อบต บา้ นเหลา่ ดอกไม้ มหี ลายจดุ จงึ วจิ ยั มกี ารวางแผนการทำ�วจิ ยั เพ่ือเปรียบเทียบผล สามารถปรับเปล่ียนได้ตามสถานการณ์ ข้อดีของ การมีอสยคกับผลทางคลินิกของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง การด�ำ เนนิ โครงการคอื โรงเรียนผสู้ งู อายุท่ีดำ�เนิน ที่เป็นผู้สูงอายุในชุมชน และเปรียบเทียบความรู้ การโดย อบต บ้านเหล่าดอกไม้มีการดำ�เนินงาน ทักษะการดแู ลผู้ป่วยดา้ นยาของ อสยค ก่อนและ อย่างเป็นระบบ และทีม อบต บ้านเหล่าดอกไม้ หลงั การศกึ ษา โดยวางแผนจะท�ำ วจิ ยั ในการด�ำ เนนิ ประธาน อบต และเจา้ หนา้ ทเี่ หน็ ความส�ำ คญั และ โครงการในครั้งตอ่ ไป โดยบูรณาการกับวชิ า ลงมาร่วมดำ�เนินกิจกรรมตลอดโครงการ ทำ�ให้ โครงการสามารถด�ำ เนนิ การได้อย่างลุลว่ งด้วยดี 4.3 บูรณาการกับการทำ�นุบำ�รุงศิลป วฒั นธรรม ในทน่ี ไ้ี มไ่ ดบ้ รู ณาการโดยตรงกบั โครงการ ส่วนท่ี 2 การค้นหาอาสาสมัครดูแลผู้ หนง่ึ ชมุ ชนหนง่ึ ศลิ ปวฒั นธรรม แตจ่ ะสอดแทรกการ ป่วยสูงอายุด้านยาในครอบครวั (อสยค) ในปีท ี่ 1 เรียนการสอนด้านศิลปวัฒนธรรมสุขภาพ โดยให้ ด้างแผนเพือ่ คน้ หาบคุ คลที่เหมาะสมและสามารถ นกั เรยี นผสู้ งู อายรุ อ้ งสรภญั ญะ เกย่ี วกบั เรอื่ งยาชดุ น�ำ มาพัฒนาใหม้ ีองคค์ วามรู้และทักษะในการเปน็ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การตระหนกั ถงึ ผลเสยี จากยาชดุ โดยใช้ อสยค การดำ�เนินการจึงเป็นการประชุมวางแผน เนื้อเพลงที่เป็นทำ�นองสรภัญญะท่ีเป็นวัฒนธรรม ค้นหา อสยค ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต บ้านเหล่า อันดงี ามของไทย ดอกไม้ และได้มตริ ่วมกันวา่ เปน็ กล่มุ ดูแลผู้ป่วยท่ี มีอยแู่ ลว้ ในชมุ ชน และอาสาสมคั รดูแลผู้สูงอายุใน 5. ผลลัพธ์จากการดำ�เนินงานโครงการ 5.1 ข้อคน้ พบตามวตั ถปุ ระสงค์
116 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ การด�ำ เนนิ การในปที ี่ 1 มวี ตั ถปุ ระสงค์ 6. บทสรุป 2 ข้อ และสามารถดำ�เนินไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์ คอื ไดอ้ บรมความรเู้ รอ่ื งโรคและยาเบอ้ื งตน้ และไดร้ าย โครงการให้ความรู้เร่ืองโรค และยาแก่ ชอ่ื อาสาสมคั รดแู ลผปู้ ว่ ยดา้ นยาครบตามจ�ำ นวนที่ ผู้สูงอายุและค้นหาอาสาสมัครดูแลผู้ป่วยด้านยา ตอ้ งการ ในครอบครวั หลงั จากได้ลงชมุ ชน พบวา่ ผสู้ งู อายุ มีความต้องการในด้านข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับ 5.2 ข้อค้นพบอ่ืนๆท่ีนอกเหนือจาก ยาและสุขภาพ และผู้สูงอายุหลายคนไม่มีผู้ดูแล วัตถุประสงค์ (Impact) ในแตล่ ะระดับ :- อาจส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการใช้ยาไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม หรือไม่ได้รับยาอย่างถูกต้อง ครบ 5.3 การขยายผลไปสู่หนว่ ยงานอ่นื ๆ ที่ ถ้วน จนทำ�ให้ไม่ได้ประสิทธิภาพในการรักษา ไม่ เกยี่ วขอ้ ง :- หายจากโรค รวมถึงมีการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นได้ ดังนั้น หากมี อสยค น่าจะช่วยให้ลดปัญหาด้าน ยาและสขุ ภาพแก่ผ้ปู ่วยสูงอายุได้ จงึ จำ�เป็นที่ต้อง มีการศึกษาและด�ำ เนนิ การต่อไป ภาพประกอบการดำ�เนินกิจกรรม รูปที ่ 1 วางแผนร่วมกันกบั ทีม อบต บา้ นเหล่าดอกไม้
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 117 รูปท่ี 2 การสอนพร้อมกบั ยกตัวอยา่ ง รปู ที่ 4 นสิ ิตเภสัชศาสตร์รว่ มลงชมุ ชน เร่อื งสมนุ ไพรในครัวเรือน ให้ความร้เู รอื่ งภยั จากโฆษณาชวนเชอ่ื รูปท่ี 3 อาจารย์ นสิ ิตเภสัชศาสตร์ รูปที่ 5 ความรู้ ความสุข ท่ีมีรว่ มกันระหว่างอาจารย์ และชาวบา้ นร่วมกนั แสดงละครเร่ืองภัยจากยาชุด นสิ ติ อบต และชาวบา้ น หมบู่ ้านเหลา่ ดอกไม้
บทสรปุ โครงการโครงการหนง่ึ หลกั สตู รหนง่ึ ชมุ ชน เรอื่ ง “การจดั ท�ำ ฐานขอ้ มลู ภาวะโภชนาการและเมนูอาหารสุขภาพของชุมชนบ้านนาสีนวน” ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ.2560 สริ พิ ร ลาวัลย์ ความเป็นมาและความสำ�คัญของปัญหา จากแนวโนม้ ของปญั หาภาวะสขุ ภาพในประเทศไทยโดยเฉพาะในเขตชนบทยงั พบวา่ กลมุ่ ประชากร ท่ีรฐั ใหค้ วามสำ�คญั หลักๆ มสี องกลุม่ ด้วยกันคอื 1. เดก็ วยั เรยี น และ 2. ประชากรสงู วัย เนอ่ื งจากเดก็ วัยเรียนเปน็ กลมุ่ ประชากรสำ�คัญทเี่ ป็นเปา้ หมายในการพฒั นาพฤตกิ รรมอนามยั และสร้างสุขนสิ ัย เพราะ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นผ้ใู หญท่ ี่มสี ุขภาวะท่ีดี และการบูรณาการความรูด้ า้ นโภชนาการในกลุ่มเด็ก วัยเรียนท่ีจะกระตุ้นให้เด็กกลุ่มน้ีนำ�ความรู้มาใช้ในหมู่บ้านยังไม่มีแนวคิดในการดำ�เนินการท่ีชัดเจนนัก จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจท่ีจะพัฒนาแนวทางของการบูรณาการความรู้ของเด็กวัยเรียนด้านโภชนาการใน หมบู่ า้ นให้เกดิ ประโยชนไ์ ดจ้ ริง โดยในคร้ังนเ้ี ร่มิ ที่วยั สูงอายุ เพราะเปน็ กลมุ่ ทมี่ ปี ัญหาดา้ นสุขภาพในกลุ่ม โรคไรเ้ ชอ้ื ทก่ี อ่ ปญั หาสขุ ภาพเรอ้ื รงั สง่ ผลใหผ้ สู้ งู อายกุ ลมุ่ นสี้ ว่ นใหญก่ ลายเปน็ วยั พงึ่ พงิ ทง้ั ในเชงิ เศรษฐกจิ สงั คม และสขุ ภาพ ดังนั้นแนวทางท่จี ะแกไ้ ขปัญหาสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ จำ�เปน็ ตอ้ งมพี ี่เลยี้ งหรือผูช้ ่วย ในการตดิ ตามประเมนิ ภาวะสขุ ภาพ ดงั นนั้ การจดั การใหก้ ลมุ่ เดก็ วยั เรยี นทเี่ ปน็ กลมุ่ ทป่ี ระจ�ำ อยใู่ นหมบู่ า้ น มคี วามรคู้ วามสามารถดา้ นการดแู ลสขุ ภาพผสู้ งู อายโุ ดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การประเมนิ ภาวะโภชนาการ เพอื่ เป็นการเฝ้าระวังภาวะสขุ ภาพของผสู้ งู อายุ ก็เสมอื นเปน็ การติดอาวธุ ทางสขุ ภาพใหก้ บั เด็กวยั เรียนทจี่ ะมี โอกาสได้ท�ำ กิจกรรมร่วมกับผสู้ ูงอายุ เป็นการเรยี นรูแ้ บบบูรณาการกับความรดู้ า้ นโภชนาการที่ไดร้ ับจาก อบรม อกี ทงั้ เปน็ การสรา้ งประสบการณใ์ ห้กบั เดก็ ในการดแู ลตนเองเม่ือเตบิ โตขึน้ ไปเปน็ ผใู้ หญ่ จะไดเ้ ห็น ถึงคณุ ค่าของการดูแลรักษาสขุ ภาพ การเอาใจใส่การเปลีย่ นแปลงภาวะโภชนาการของตนเอง ตลอดจน ปลูกฝังนสิ ยั การรักสขุ ภาพใหก้ ับเดก็ วัยเรียนในคราวเดยี วกัน จากการท่ีชุมชนบา้ นนาสีนวน ต.กนั ทรวิชัย จังหวดั มหาสารคาม เปน็ ชุมชนเปา้ หมายของคณะเทคโนโลยี ดงั นนั้ ทางคณะเทคโนโลยีจึงมีความสนใจ ทจ่ี ะด�ำ เนนิ โครงการน�ำ รอ่ งในการส�ำ รวจขอ้ มูลด้านสขุ ภาพและพฒั นาเป็นคมู่ อื การท�ำ อาหารท่เี หมาะสม กบั สภาวะสขุ ภาพของผสู้ งู อายใุ นชมุ ชนเปน็ แหง่ แรก โดยมกี ารบรู ณาการการเรยี นการสอน เกบ็ ขอ้ มลู วจิ ยั เชงิ ส�ำ รวจ และบูรณาการท�ำ นศุ ลิ ปวฒั นธรรมอาหารท้องถนิ่ ข้ึน เพื่อให้ได้ฐานข้อมูลภาวะโภชนาการและ เมนสู ุขภาพของชุมชนโดยเร่มิ จากกลมุ่ ผสู้ งู อายซุ ่ึงนับเปน็ ประชากรกลุม่ พงึ่ พงิ ในหมบู่ ้าน
120 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ วัตถุประสงค์ของโครงการ ภาวะโภชนาการผู้สูงอายุ จัดเตรียมวิดิทัศน์ และ กิจกรรมเพื่อทำ�การอบรมให้แก่เด็กวัยเรียนใน 1. เพื่อให้ได้ผลการวิจัยภาวะโภชนาการ ชุมชน(ภาพท่ี 2) ของประชากรผู้สูงอายุในชุมชนบ้านนาสีนวนมา จัดทำ�เปน็ ฐานขอ้ มูลของชมุ ชน ขนั้ ดำ�เนนิ การ(DO and Check) 1. อาจารยน์ �ำ แผนกจิ กรรม“การอบรมเรอ่ื ง 2. เพอื่ ใหไ้ ดต้ วั แทนชมุ ชนกลมุ่ เดก็ วยั เรยี น โภชนาการและ การประเมนิ ภาวะโภชนาการผู้สงู เปน็ ผชู้ ว่ ยประเมนิ ภาวะโภชนาการในกลมุ่ ผสู้ งู อายุ อาย”ุ ตามก�ำ หนดเวลาการด�ำ เนนิ งานกบั ชมุ ชน และ ใหก้ บั บา้ นนาสนี วน ทำ�การมอบหมายใหก้ บั นสิ ติ ในรายวชิ าท่เี ก่ยี วข้อง คอื รายวชิ า0803352 การประเมนิ ภาวะโภชนาการ 3. เพื่อให้ได้เมนูสุขภาพจากอาหารท้อง 0803453 โภชนาการคลนิ กิ 0803450 โภชนาการ ถ่ินชมุ ชนทีส่ อดคลอ้ งกับภาวะโภชนาการผู้สงู อายุ ในชว่ งวยั ตา่ งๆ และรายวชิ า 0803451 หลกั โภชน ส�ำ หรับชุมชน บำ�บัดและการกำ�หนดอาหาร ซ่ึงเป็นนิสิตชั้นปีท่ี 3 และปีที่ 4 ของสาขาวิชาเทคโนโลยีการอาหาร กระบวนการดำ�เนินงาน ทำ�การอบรมให้กับเด็กวัยเรียน ตัวแทนชุมชน เม่ือจบการอบรม ได้กระตุ้นให้กลุ่มเด็กวัยเรียนที่ ในการด�ำ เนนิ งานครง้ั นเี้ ปน็ การด�ำ เนนิ งาน ได้รับการอบรมทำ�การให้ความรู้กับผู้สูงอายุและ โครงการตามหลงั วงจรบรหิ ารงานคณุ ภาพ(PDCA) ชกั ชวนผสู้ งู อายใุ นหมบู่ า้ นมาท�ำ การประเมนิ ภาวะ โดยความรว่ มมอื ทงั้ ในสว่ นของอาจารย์ นสิ ิต และ โภชนาการ โดยท�ำ รว่ มกบั อาจารย์ และนสิ ติ ภาควชิ า ชุมชนโดยมีการจัดการอยา่ งเปน็ ระบบดงั นี้ เทคโนโลยีการอาหาร เพ่ือจะได้ทำ�การเก็บข้อมูล ภาวะโภชนาการของผสู้ งู อายใุ นชมุ ชน(ภาพที่ 3-4) ขั้นวางแผนและเตรียมการดำ�เนินงาน 3. นิสิตและอาจารย์ ทำ�การเก็บข้อมูล (PLAN) ภาวะโภชนาการของผู้สูงอายุ โดยมีการพัฒนา แบบสอบถามและแบบประเมนิ ภาวะโภชาการ เพอ่ื 1. อาจารย์ประจำ�หลักสูตร ดำ�เนินการ ทำ�การเก็บข้อมูลในรูปแบบการเก็บข้อมูลวิจัยเชิง ประชมุ เพ่อื หารปู แบบการบรกิ ารวิชาการใหก้ บั ใน ส�ำ รวจภาวะโภชนาการของผสู้ งู อายใุ นบา้ นนาสนี วน การทำ�โครงการครง้ั นีไ้ ดเ้ ลอื กกลุ่มนิสติ เทคโนโลยี หมู่ 16 และ หมู่ 17 โดยมีการตดิ ตาม กำ�กบั ดแู ล การอาหารทเ่ี นน้ ดา้ นโภชนาการเพอ่ื นสิ ติ วางแผน ตรวจสอบวธิ กี ารประเมนิ ภาวะโภชนาการใหถ้ กู ตอ้ ง กิจกรรมร่วมกับอาจารย์ คิดหลักสูตรการอบรม เพอ่ื น�ำ ผลการศกึ ษาวจิ ยั น�ำ มาจดั ท�ำ เปน็ ฐานขอ้ มลู และรปู แบบการเก็บขอ้ มลู เพื่อวิจัย ภาวะโภชนาการของผสู้ ูงอายุ (ภาพที่ 5-9) 4. ผลทไี่ ดจ้ ากการประเมนิ ภาวะโภชนาการ 2. นำ�ความเห็นจากการประชุม ออก ของผู้สูงอายุ ได้นำ�กลับมาที่คณะเทคโนโลยี ประสานงานกบั ผนู้ �ำ ชมุ ชนเพอื่ หาขอ้ แกไ้ ขปรบั ปรงุ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม จากนนั้ นสิ ติ และอาจารย์ ใหเ้ หมาะสมยง่ิ ขน้ึ โดยทางผนู้ �ำ ชมุ ชนเปน็ ผกู้ �ำ หนด รว่ มกนั ท�ำ การน�ำ ขอ้ มลู มาท�ำ การวเิ คราะหแ์ ละจดั ท�ำ วันเวลาและสถานที่ โดยในครั้งน้ีทางชุมชนให้ใช้ เปน็ ฐานขอ้ มลู ภาวะโภชนาการของผสู้ งู อายเุ บอื้ งตน้ ท่ีทำ�การคณะกรรมการหมู่บ้าน หมู่ 17 เป็นที่ได้ จดั ท�ำ กจิ กรรม (ภาพท่ี 1) 3. นิสิตจัดเตรียมเอกสารแผ่นพับ แผ่น ภาพโปสเตอร์เก่ียวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ การจัดทำ�แบบสอบถาม แบบสำ�รวจเพื่อบันทึก
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 121 เพอ่ื เปน็ แนวทางในการจดั ท�ำ คมู่ อื การดแู ลสขุ ภาพ 2. บรู ณาการกบั การวิจัย ผู้สูงอายุและตัวอย่างเมนูอาหารท่ีสอดคล้องกับ ในการจดั ท�ำ โครงการครงั้ นนี้ สิ ติ ไดท้ �ำ การ ภาวะโภชนาการของกลมุ่ ตา่ งๆ เพอ่ื ท�ำ การสง่ มอบ เกบ็ ขอ้ มลู ภาวะโภชนาการของผสู้ งู อายใุ นชมุ ชน ซง่ึ กลับมายังชุมชนให้เป็นแนวทางในการศึกษาและ เปน็ วธิ ีการในการเกบ็ ข้อมลู วจิ ัยในรปู แบบวจิ ยั เชิง ทำ�ความเข้าใจเก่ียวกับผู้สูงอายุ การดูแลผู้สูง สำ�รวจ และยังได้เรียนรู้ถึงวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล อายุ และการเลือกอาหารท่เี หมาะสมกบั ผสู้ ูงอายุ การจัดกระท�ำ กับข้อมลู เพอื่ ใหไ้ ด้ค�ำ ตอบถึงปญั หา โดยเน้นอาหารท่ีเป็นอาหารอสี าน สขุ ภาพของผ้สู ูงอายุในชุมชนอกี ด้วย 3. บรู ณาการกบั การบ�ำ รงุ ศลิ ปวฒั นธรรม ข้นั ตดิ ตามและสรปุ ผล(ACT ในการจัดทำ�โครงการครั้งนี้นิสิตได้มีการ ภายหลังดำ�เนินการโครงการได้มรการ พัฒนาเอกสารแนะนำ�ความรู้ด้านโภชนาการการ ท�ำ การประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุและตัวอย่างเมนูอาหารที่ นิสิต และอาจารย์ โดยใช้แบบประเมินที่สร้างข้ึน สอดคล้องกับภาวะโภชนาการของของผู้สูงอายุ และทำ�รายงานสรปุ โครงการ มกี ารพัฒนาเอกสาร ในชุมชน ซึ่งเป็นการเรียนรู้ถึงวิถีแนวทางการกิน เมนูอาหารแนะนำ� เอกสารแนะแนว การบริโภค อยู่ตามแบบอีสาน ถือเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรม เพือ่ สุขภาพท่ีดีของผู้สูงอายุ ส่งมอบตอ่ ชมุ ชนเพอ่ื การกินของอีสาน ทำ�ให้เกิดความรู้ความเข้าใจถึง การเผยแพร่ตอ่ ไป ขนบประเพณีการใช้ชีวิตอีสาน และการใช้ความ รูเ้ กีย่ วกบั การจัดรายการอาหารมาใช้ในชุมชนได้ การบูรณาการกับภารกิจหลกั อนื่ ๆ 1. บูรณาการกบั การเรียนการสอน ผลลัพธ์ที่ได้จากการดำ�เนินการโครงการ ในการจดั ท�ำ โครงการนเ้ี ปน็ การบรู ณาการ เขา้ กบั การศกึ ษาในรายวชิ า 0803352 การประเมนิ 1. ขอ้ คน้ พบตามวตั ถุประสงค์ ภาวะโภชนาการ 0803453 โภชนาการคลินิก ในการจัดทำ�โครงการในครั้งน้ีได้ทำ�การ 0803450 โภชนาการในชว่ งวยั ตา่ งๆ และรายวชิ า อบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่เด็กวัยเรียนและผู้สนใจ 0803451 หลกั โภชนบ�ำ บดั และการก�ำ หนดอาหาร โดยนิสิตได้มีการบูรณาการความรู้ท่ีได้จากการ ส�ำ หรบั นสิ ิตชัน้ ปีที่ 3 และปที ่ี 4 สาขาเทคโนโลยี เรียนในรายวิชาต่างๆ ทำ�การอบรมเพ่ือติดอาวุธ การอาหาร เนน้ โภชนาการ โดยเปน็ การเรยี นการ ทางปญั ญาเกย่ี วกบั การดแู ลและการประเมนิ ภาวะ สอนทเี่ นน้ ใหน้ สิ ติ เขา้ ใจถงึ ผลของโภชนาการทม่ี ตี อ่ โภชนาการผสู้ งู อายุใหก้ บั เด็กในชมุ ชนพบวา่ เด็กๆ สขุ ภาพ หลกั การจดั อาหารสำ�หรบั บคุ คลในชว่ งวยั มีความสนใจและซักถาม พร้อมทั้งเป็นผู้นำ�พาผู้ ตา่ งๆ การลงชมุ ชนในการท�ำ โครงการนนี้ สิ ติ ไดม้ อง สูงอายุเช่น คุณตา คุณยาย ในหมู่บ้านมาทำ�การ เหน็ ถงึ สภาพการของสถานการณจ์ รงิ ในชมุ ชน นสิ ติ ตรวจประเมนิ ภาวะโภชนาการ นอกจากนั้นยงั พบ ไดใ้ ชค้ วามรทู้ ไี่ ดจ้ ากการเรยี นลงมปี ฏบิ ตั จิ รงิ ท�ำ ให้ ว่ามีการพูดคุยอธิบายให้ผู้สูงอายุท่ีตนเองรู้จักได้ เกดิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ มที กั ษะการแกป้ ญั หาในการ ฟังถึงเร่ืองท่ีได้รับการอบรม อาจเป็นเพราะเป็น ปฏบิ ตั งิ านทางดา้ นโภชนาการในชมุ ชนไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เร่ืองที่ใกล้ตัว โดยธรรมชาติเด็กและผู้สูงอายุจะ มีความสนิทสนมกัน ดังน้ันการท่ีเด็กรู้สึกว่าตนมี ความสามารถในการดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุได้จึง
122 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ เป็นการสร้างความม่ันใจ และคุณค่าแก่เด็กๆ ใน รายการอาหารที่เหมาะสมกับวัย และภาวะการ ชุมชน ทำ�ให้เด็กมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม เจ็บป่วยท่ีเป็นอยู่ กิจกรรมหลักท่ี 2 คือประเมิน กิจกรรมโครงการ ในส่วนของผู้สูงอายุพบว่าผู้สูง ภาวะโภชนาการของผสู้ งู อายโุ ดยตรง เพอื่ ทราบถงึ อายุส่วนใหญ่มีสุขภาพแข็งแรงมีภาวะโภชนาการ ปญั หาทางโภชนาการและเปน็ แนวทางในการจดั ท�ำ อยู่ในเกณฑ์ปกติ มีโรคประจำ�ตัวกลุ่มโรคไร้เช้ือ หนงั สอื เกย่ี วกบั ภาวะสขุ ภาพผสู้ งู อายุ การดแู ลดา้ น ที่พบมากคือโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โภชนาการ และลักษณะอาหาร ตลอดจนตวั อยา่ ง ซง่ึ โครงการกม็ กี ารจดั ท�ำ เอกสารการดแู ละสขุ ภาพ รายการอาหารท่ีเหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของ และเมนูอาหารสำ�หรับผู้สูงอายุ เพ่ือเป็นการเผย ผสู้ งู อายุในชมุ ชนบา้ นนาสนี วน และสามารถถอด แพร่ความรู้ท่ีถูกต้องในการปฏิบัติตัวสำ�หรับผู้สูง บทเรียนไปใช้ในกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนอื่นได้ โดย อายุอย่างต่อเนื่องต่อไป กจิ กรรมที่จดั ขนึ้ มีนิสิตของภาควชิ าเทคโนโลยกี าร อาหารและโภชนศาสตร์ ทงั้ หลกั สตู รเทคโนโลยกี าร 2. ข้อค้นพบอน่ื ๆ อาหาร ในระดบั ปรญิ ญาตรี และนสิ ติ ระดบั บณั ฑติ ในการจดั ท�ำ โครงการครงั้ นไ้ี ดม้ องเหน็ จดุ ศกึ ษา เปน็ ผดู้ ำ�เนนิ กจิ กรรม โดยมอี าจารยข์ องภาค แขง็ ของชมุ ชน โอกาสในการสรา้ งความเขม้ แขง็ ของ วิชาเปน็ ผคู้ วบคุมการด�ำ เนินกจิ กรรม จากผลการ ชุมชนโดยการจัดการติดอาวุธทางปัญญาภายใน ดำ�เนินพบว่า ทั้งผู้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเป้าหมาย ชุมชน ชุมชนสามารถดูแลกันเองได้ ขอเพียงแต่ ไมว่ า่ จะเปน็ ผสู้ งู อายุ เดก็ วยั เรยี น ผนู้ �ำ ชมุ ชน หรอื ผู้ ได้รับการสนับสนุนในเร่ืองความรู้ความเข้าใจท่ี สนใจในชมุ ชน และนสิ ติ ทเ่ี ขา้ รว่ มด�ำ เนนิ กจิ กรรมมี ถกู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ ซง่ึ ในการจัดท�ำ โครงการ ความพงึ พอใจในการท�ำ กจิ กรรม และคดิ วา่ กจิ กรรม ครง้ั นเี้ นน้ สรา้ งความสมั พนั ธใ์ นกลมุ่ เดก็ วยั เรยี นกบั นเี้ ปน็ กจิ กรรมท่ีมปี ระโยชนแ์ ต่ทง้ั สถาบนั นักเรยี น กลุ่มผูส้ ูงอายุ โดยมอบบทบาทผดู้ ูแลและประเมิน และตวั นิสิตท่เี ข้ารว่ มกิจกรรม ภาวะโภชนาการใหก้ บั เดก็ ๆ ทธี่ รรมชาตมิ เี วลาวา่ ง และมคี วามใกลช้ ดิ กบั ผสู้ งู อายอุ ยแู่ ละ ในโอกาสตอ่ ไปการวางโครงการถา้ ไดด้ งึ เอากลมุ่ บคุ คลในชมุ ชน มาสรา้ งความสมั พนั ธก์ นั กจ็ ะเปน็ แนวทางทด่ี ใี นการ สรา้ งความเขม้ แขง็ ให้กบั ชมุ ชนต่อไป บทสรุปของโครงการ การด�ำ เนนิ ของโครงการครง้ั นแี้ บง่ ออกเปน็ 2 กจิ กรรมหลกั ๆ ได้แก่ กจิ กรรมหลกั ที่ 1 คอื การ อบรมเพ่อื ใหค้ วามรแู้ ก่เยาวชนในหมบู่ ้าน ในเร่ือง ภาวะโภชนาการผู้สูงอายุและโภชนาการผู้สูงอายุ โดยเน้นเร่ืองการดูแลเก่ียวกับภาวะโภชนาการท่ี เกิดการเปล่ียนแปลงในผู้สูงอายุ และในเรื่องการ ดูแลด้านอาหารเพ่ือให้ผู้สูงอายุมีโอกาสเข้าถึง
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 123 ภาพที่ 1 ภาพที่ 1
124 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ภาพท่ี 2 ภาพที่ 2
ภาพที่ 3 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 125 ภาพที่ 3
126 ภาพที่ 4เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ภาพที่ 4
ภาพที่ 6 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 127 ภาพที่ 5
128 ภาพเอทกี่ส7ารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ภาพที่ 6
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 129 ภาพที่ 8 ภาพที่ 7
130 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ภาพท่ี 9 ภาพที่ 8
โครงการ “การบรหิ ารจดั การวันฮูปแต้มเพือ่ การพฒั นาทอ้ งถิ่นทย่ี ่งั ยนื : ชุมชนดงบัง อำ�เภอนาดูน จังหวดั มหาสารคาม” “โครงการหน่งึ หลกั สตู รหนึ่งชมุ ชน” ประจ�ำ ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 วิทยาลัยการเมอื งการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 1. ความเป็นมาของปัญหา โครงการบรหิ ารจดั การวนั ฮปู แตม้ เพอื่ การพฒั นาทอ้ งถน่ิ ทยี่ ง่ั ยนื โดยวทิ ยาลยั การเมอื งการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มกี ารริเรม่ิ สืบเนอ่ื งจากปีงบประมาณ 2559 ในการดำ�เนนิ โครงการ 1 คณะ 1 ศิลปวัฒนธรรม ในช่วงการสรุปโครงการมีการสอบถามความต้องการของชุมชน และการส�ำ รวจความ ตอ้ งการของชมุ ชนในปงี บประมาณ 2560 โดยโครงการหน่ึงหลกั สูตรหนึ่งชุมชนของวทิ ยาลัยฯ พบว่า มี ความตอ้ งการใหเ้ กดิ กจิ กรรมเกย่ี วกบั การอนรุ ักษแ์ ละพฒั นาฮปู แตม้ จงึ เกดิ โครงการบรหิ ารจดั การวนั ฮปู แตม้ เพื่อการพฒั นาท้องถน่ิ ทยี่ ่ังยืนขึน้ เพ่ือระดมความคิดเหน็ แนวทางในการพัฒนานวตั กรรมท้องถิน่ ใน การจดั การวนั ฮปู แตม้ และเพอ่ื จดั ท�ำ รวบรวมขอ้ มลู ประวตั ชิ มุ ชนต�ำ บลดงบงั ทสี่ ามารถน�ำ ไปใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู แนะนำ�พน้ื ทแ่ี กผ่ ู้มาเยือนได้ หลักสูตรรฐั ศาสตรบัณฑิตและหลกั สูตรศิลปศาสตรบณั ฑิต (สิทธมิ นุษยชน ศกึ ษา) จงึ ด�ำ เนินการเปน็ ผูอ้ ำ�นวยบรกิ ารแกช่ ุมชนในการระดมความคดิ เหน็ และท�ำ ขอ้ มูลชุมชนขน้ึ ภาพท่ี 1 สมิ วดั โพธาราม
132 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 2. วัตถุประสงค์โครงการ ระยะปลายน้ำ� มีการนำ�เสนอขอ้ มูล กระบวนการทำ�งานและประวัติชุมชนแก่ชาวบ้าน 1. เพอื่ ระดมความคิดเห็นแนวทางในการ ในงานวนั “ฮกั แพงเบิ่งแงงฮปู แต้มดงบัง” เม่อื วันท่ี พัฒนานวัตกรรมท้องถ่ินในการจัดการวันฮูปแต้ม 20 พฤษภาคม 2560 ณ วดั โพธาราม และมกี าร ของ อบต.ดงบงั อ�ำ เภอนาดนู จงั หวดั มหาสารคาม ส่งมอบเอกสารประวัติชุมชนและวัฒนธรรมดงบัง เอกสารแนวทางในการจัดการวันฮูปแตม้ รวมถึง 2. เพ่ือจดั ทำ�รวบรวมข้อมูลประวัติชุมชน แผน่ พบั แนะน�ำ พน้ื ที่ แกท่ อ้ งถนิ่ ในวนั สรปุ โครงการ ตำ�บลดงบัง เพื่อให้ชุมชนตระหนักในความเป็น มาและสามารถน�ำ ไปใช้เปน็ ขอ้ มลู แนะนำ�พน้ื ทแี่ ก่ ผู้มาเยอื นได้ 3. กระบวนการดำ�เนินการ ภาพท่ี 2 การระดมความคิดเห็น แนวทางการบริหารจดั การวันฮูปแตม้ ระยะตน้ น�้ำ มกี ารประชมุ และประสานงาน กบั คณาจารย์ เจา้ หนา้ ที่ เพอ่ื คดิ คน้ ประเดน็ ในการ 4. การบูรณาการกับภารกิจหลักด้านอื่นๆ ศึกษาและการจัดทำ�โครงการ และความต้องการ ของชุมชนท้องถ่ิน ซึ่งชุมชนมีความต้องการจัดกิจ 4.1 บูรณาการกับการเรยี นการสอน กรรมวันฮูปแต้ม และต้องการข้อมูลประวัติและ มีการบูรณาการกับรายวิชา 1302304 วฒั นธรรมชุมชนดงบัง เพื่อเปน็ ข้อมูลแนะน�ำ พนื้ ที่ สิทธิชุมชนกับการบริหารงานท้องถิ่น โดยให้นิสิต โดยมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงทางวิชาการ ได้เรียนรู้และสรุปประวัติศาสตร์ชุมชนดั้งเดิม ว่า ระหว่างเครือขา่ ยความร่วมมอื ส่ภี าคี คือ 1) อบต. มรี ากเหงา้ และประวตั ิศาสตรท์ ่ตี ่อเนอ่ื งยาวนานมี ดงบงั 2) คณะกรรมการชุมชนและชาวบา้ นต�ำ บล ความผูกพนั ระหวา่ งคนและชมุ ชน รวมถึงมติ ทิ าง ดงบัง 3) โรงเรียนดงบังพิสัยนวการนุสรณ์ และ วฒั นธรรมและประเพณขี องคนดงบงั นอกจากนยี้ งั 4) วิทยาลัยการเมืองการปกครอง โดยโครงการ มกี ารบรู ณาการกบั รายวชิ า 1302411 การจดั การ 1 หลักสตู ร 1 ชุมชน ประจ�ำ ปี 2560 นวัตกรรมท้องถ่ิน ซึ่งมีการแบ่งกลุ่มนิสิตโดยให้ นิสิตได้ช่วยอำ�นวยการระดมความเห็นจากชุมชน ระยะกลางน้ำ� มีการดำ�เนินการหลาย เก่ียวกับกระบวนการหาแนวทางในการจัดการวัน กจิ กรรม ได้แก่ 1. การสืบคน้ ขอ้ มลู ชมุ ชนโดยการ ฮปู แตม้ รวมถงึ การรว่ มลงพน้ื ทช่ี มุ ชนเพอื่ สอบถาม สนทนากลุ่มย่อย และการเปิดพ้ืนที่ให้กับผู้เฒ่าผู้ แก่ในชุมชนได้บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็น มาและวัฒนธรรมของชาวดงบัง 2. การบรรยาย ให้ความรู้แนวทางการใช้ทุนทางวัฒนธรรมในการ พฒั นาท้องถ่ิน เพอื่ เปน็ แนวทางในการดำ�เนนิ งาน ของชมุ ชน โดยวทิ ยากรผทู้ รงคณุ วฒุ ดิ า้ นศลิ ปะอสี าน และการระดมความเห็นเพื่อร่วมกันหาแนวทางใน การพัฒนานวัตกรรมท้องถ่ินในการจัดการวันฮูป แต้มของชาวดงบัง
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 133 ความเหน็ ของชมุ ชนตอ่ การจดั งานดงั กลา่ ว และอกี ฮอ้ งคอื งว่ งอยดู่ ง(บงั )” รวมถงึ การเรยี นรศู้ ลิ ปะและ หนงึ่ รายวชิ าคอื 1300300 สมั มนาประเดน็ เฉพาะ วฒั นธรรมในสมิ และฮูปแตม้ ตำ�บลดงบัง และเพอ่ื เร่ืองทางรัฐศาสตร์ โดยมีนิสิตศึกษาในประเด็น เปน็ การสรา้ งความตอ่ เนอ่ื งและความยงั่ ยนื ทางโค “การศกึ ษาทนุ ทางวฒั นธรรมกบั การพฒั นาทอ้ งถน่ิ รงการฯมีการระดมทุนจากคณาจารย์ เจ้าหน้าท่ี กรณีศึกษาชุมชนดงบัง ตำ�บลดงบัง อำ�เภอนาดูน ศิษย์เก่าและสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป โดยการ จังหวัดมหาสารคาม” ทำ�ให้นิสิตได้เรียนรู้ชุมชน ท�ำ กองผ้าปา่ ไดย้ อดรวมกว่า 36,889 บาท เพื่อ และเขา้ ใจการบรหิ ารจดั การท้องถ่นิ โดยการใชท้ นุ ตง้ั เปน็ กองทนุ อนรุ กั ษแ์ ละพฒั นาฮปู แตม้ ตำ�บลดง ทางวฒั นธรรมมาใชใ้ นการบริหารงานท้องถ่นิ ได้ บงั ข้นึ เพ่อื เปน็ พืน้ ที่ให้คนในชมุ ชนรว่ มคิดร่วมทำ� ร่วมนำ�ทุนทางวัฒนธรรมมาใช้ในการพัฒนา ท้องถน่ิ ตอ่ ไป ภาพที่ 3 นสิ ติ กับการเรียนร้กู ระบวนการจดั การชมุ ชน 4.2 บูรณาการกับการวิจัย ภาพที่ 4 ผ้าปา่ เพื่อการจดั ตงั้ กองทนุ การไดร้ บั ทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั จากวทิ ยาลยั พัฒนาสมิ และฮูปแตม้ การเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม งบประมาณเงินรายได้ ประจำ�ปี 2560 เรื่อง 5. ผลลัพธ์จากการดำ�เนินงานโครงการ “แนวทางในการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมโดย ความร่วมมือของภาคสว่ นตา่ งๆในท้องถิ่น : กรณี วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ทหี่ นง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ การระดม ศกึ ษาการจดั การสมิ และฮปู แตม้ ต�ำ บลดงบงั อ�ำ เภอ แนวทางในการพฒั นานวตั กรรมท้องถ่นิ ในการจัด นาดูน จงั หวดั มหาสารคาม” โดยอาจารยส์ นุ ทรชัย การวนั ฮปู แตม้ ของ อบต.ดงบงั อ�ำ เภอนาดนู จงั หวดั ชอบยศ เปน็ หัวหน้าโครงการ มหาสารคาม โดยการมสี ว่ นรว่ มจากภาคสว่ นตา่ งๆ 4.3 บูรณาการกับการทำ�นุบำ�รุงศิลป ทงั้ อบต. ประชาชนและกรรมการชมุ ชน โรงเรยี นใน วัฒนธรรม พนื้ ที่ ไดแ้ นวทางการด�ำ เนนิ การออกมาในลกั ษณะ มกี ารเลา่ ประวตั วิ ฒั นธรรมชมุ ชน การเลา่ “งานวดั ” จนน�ำ มาสกู่ ารตอ่ ยอดและด�ำ เนนิ การจรงิ ผญาส�ำ คญั เช่น “ดงบงั น้ีดินด�ำ นำ้�ชมุ่ ปลากลุ่มบอ้ โดยต้ังชื่อใหม่ของงานว่า “งานฮักแพงเบิ่งแงงวัน นคือแข้แกง่ หา ปลานางบอ้ นคือขางฟา้ ลัน่ จักจั่น
134 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ ฮูปแต้มดงบัง” ซึ่งถือเป็นการดำ�เนินการครั้งแรก แลว้ มกี ารให้การตอบรับอยา่ งดจี ากชมุ ชนและใน ขององค์การบริหารส่วนตำ�บลดงบังร่วมกับชุมชน ปีงบประมาณ 2561 โดยทางอบต.สนับสนุนงบ โรงเรยี นและมหาวทิ ยาลยั อนั เปน็ ความสรา้ งสรรค์ ประมาณเพ่มิ ขึน้ เป็น 200,000 บาท เพอื่ การพฒั นาทอ้ งถน่ิ โดยเนน้ ทนุ ทางวฒั นธรรมท่ี มอี ยูม่ าเปน็ ฐานในการพฒั นา ประการที่สอง แสวงหาภาคีท่ีเกี่ยวข้อง การดำ�เนินการเพียงลำ�พังอาจไม่สามารถสร้าง วตั ถปุ ระสงคข์ อ้ ทสี่ อง การรวบรวมขอ้ มลู ความสำ�เร็จของงานได้ต้องอาศัยหน่วยงานต่างๆ ประวัติชุมชนตำ�บลดงบัง เพ่ือให้ชุมชนตระหนัก ที่เกี่ยวข้องมาหนุนเสริมกิจกรรมของชุมชน การ ในความเป็นมาและสามารถนำ�ไปใช้เป็นข้อมูล แสวงหาหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องจะช่วยให้เกิดภาคี แนะนำ�พื้นที่แก่ผู้มาเยือนได้ ประเด็นน้ีมีการรับรู้ การพฒั นาได้ โดยให้แต่ละภาคีมีส่วนในการแสดง ของผู้คนท่ีหลากหลายช่วงเวลาท่ีมีการเข้ามาตั้ง บทบาทหรอื ภารกจิ ของตน หมู่บ้านของบรรพบุรุษชาวดงบัง แต่พ้ืนเพคนดง บงั ชัดเจนว่าอพยพมาจากลาวเวียงจนั ทร์ และตอ่ ประการทสี่ าม การรว่ มแรงพฒั นา กจิ กรรม มาเม่ือชุมชนเติบโตข้ึนก็มีการสร้างวัดเพื่อเป็นที่ ต่างๆ ไม่สามารถดำ�เนินการเพียงลำ�พังเฉพาะ ยดึ เหนี่ยวของชุมชน และมีการสรา้ งสมิ และมกี าร อปท.ได้ เพราะมีหลายภาคส่วนที่ต้องมาร่วมทำ� วาดลวดลายจิตรกรรมฝาผนังหรือฮูปแต้มขึ้น ซ่ึง กจิ กรรมและจะกอ่ ใหเ้ กดิ ความยง่ั ยนื ไดโ้ ดยเฉพาะ สิมองค์ปัจจุบันสร้างขึ้นเม่ือ พ.ศ. 2451 ในสมัย การดำ�เนินการโดยอาศัยชุมชนเข้ามาร่วม รวมถึง ท่ีพระครูจันดี (2441-2473) เป็นเจ้าอาวาส ซึ่ง โรงเรียนและอปท.อื่นใกล้เคียงก็สามารถมาร่วม ข้อมูลต่างๆที่ได้มาจากชุมชน มีการสรุปบอกเล่า และสร้างพลังในการทำ�งานด้านวัฒนธรรม การ ผา่ นหนงั สอื ประวตั แิ ละวฒั นธรรมชมุ ชนดงบงั และ ทอ่ งเทยี่ วทอ้ งถน่ิ ไดด้ ว้ ยการเปดิ พนื้ ทใ่ี หก้ ลมุ่ ตา่ งๆ แผน่ พับทท่ี างโครงการหนง่ึ หลักสตู รไดจ้ ัดพมิ พใ์ ห้ ใหม้ ที ย่ี ืนในพ้นื ทีส่ าธารณะ 6. สรุปบทเรียน ประการทส่ี ่ี การสนบั สนนุ ของผบู้ รหิ ารทอ้ ง ถนิ่ และการมเี จา้ ภาพในการจดั การ การทผ่ี บู้ รหิ าร โครงการ “การบรหิ ารจดั การวนั ฮปู แตม้ เพอ่ื อปท.ให้ความสนใจและนำ�กิจกรรมโครงการบรรจุ การพฒั นาทอ้ งถน่ิ ทยี่ งั่ ยนื ” ชมุ ชนดงบงั ต�ำ บลดงบงั ไว้ในแผนพัฒนาท้องถิ่น สะท้อนถึงการให้ความ อ�ำ เภอนาดนู จงั หวดั มหาสารคาม เปน็ โครงการทมี่ ี ส�ำ คัญในการพัฒนาสมิ และฮูปแต้ม และการมเี จา้ ลกั ษณะสำ�คญั ตอ่ การพฒั นาชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยนื โดย ภาพในการด�ำ เนนิ การท�ำ ใหเ้ กดิ ความชดั เจนในเรอื่ ง ใช้ศกั ยภาพชุมชนเป็นฐานในการพัฒนา กล่าวคอื การแบ่งงานกันทำ� ภายใตภ้ าคที เ่ี ข้มแข็ง มีลกั ษณะการด�ำ เนินการดงั น้ี ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา ประการแรก การค้นหาและตระหนัก ในศักยภาพชุมชน โดยการกระตุ้นเร้าให้ชุมชนได้ ประการแรก การจัดกิจกรรมวันฮูปแต้ม ดึงทุนทางวัฒนธรรมที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ สามารถพัฒนาเป็นเทศกาลประจำ�ปีขององค์กร การจรรโลงคนและชุมชนท้องถิ่น โดยพัฒนาต่อย ปกครองสว่ นท้องถนิ่ ได้ อดให้เกิดมูลค่าได้ ชุมชนเองเดิมก็ไม่ได้มีการให้ ความสำ�คัญกับสิมและฮูปแต้มมากนัก พอผ่าน ประการที่สอง การจัดกิจกรรมสามารถ กระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดงานวันฮูปแต้ม สร้างสัมพันธ์ชุมชนกับวัฒนธรรมชมุ ชนเป็นสิ่งทด่ี ี โดยบูรณาการเข้าร่วมกันได้ เช่น การจัดกิจกรรม ในชว่ งประเพณหี รืองานบุญส�ำ คญั ของชุมชน
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 135 ประการทสี่ าม กจิ กรรมทจ่ี ดั ขนึ้ ตอ้ งมกี าร ประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง ในหลายช่องทาง โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ประการทสี่ ่ี องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ควรสง่ เสรมิ การรวมกลมุ่ เพอ่ื พฒั นาผลติ ภณั ฑข์ อง ท่รี ะลกึ ที่มีความเกยี่ วโยงกับสิมและฮูปแตม้ ดงบัง ประการทห่ี า้ การขยายพนื้ ทก่ี จิ กรรมเพอื่ รองรบั คนทจ่ี ะมาเทย่ี วในลกั ษณะดมื่ ด่ำ�บรรยากาศ ชมุ ชนและวฒั นธรรมอสี าน ซง่ึ อาจมกี ารส�ำ รวจครวั เรือนท่ีมีความพร้อมและสามารถรองรับแขกท่ีมา เยือนในลักษณะโฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวอาจได้มี ส่วนร่วมในกิจกรรมยามคำ่�ของชุมชน เช่น อาจมี พธิ บี ายศรสี ขู่ วัญแขกผมู้ าเยอื น เป็นต้น
โครงการศูนย์เรยี นรู้เครอื ข่ายเกษตรอนิ ทรยี ต์ ลาดโรงเรยี น ความยัง่ ยนื สชู่ มุ ชน อาจารยอ์ งอาจ ญาตนิ ยิ ม โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ความเป็นมาของปัญหา ในปัจจุบัน การทำ�เกษตรกรรม ของเกษตรกร ส่วนใหญ่มักผูกติดกับระบบเกษตรที่พ่ึงพิงการ ตลาด ซงึ่ พชื ทนี่ �ำ มาเพาะปลกู หรอื สตั วท์ เี่ ลยี้ ง มกั ถกู กลมุ่ ทนุ ขนาดใหญเ่ ขา้ มาเปลย่ี นแปลงระบบการปลกู พชื และเลย้ี งสตั วแ์ บบเดมิ ใหม้ าอยภู่ ายใตก้ ารดแู ลของกลมุ่ ทนุ รายใหญ่ พนั ธพุ์ ชื และพนั ธสุ์ ตั วต์ อ้ งเปน็ พชื ท่ีสามารถวางขายหรอื ส่งขายได้ในทอ้ งตลาดได้ตามความต้องการของลูกคา้ เกษตรกรจงึ พึง่ พาสารเคมี ปยุ๋ เคมี และยาฆา่ แมลง เพอ่ื ใหพ้ ชื ทป่ี ลูก มกี ารเจรญิ เตบิ โตเตม็ ที่ สวยงาม ดงึ ดดู ใจผู้บริโภค และเมล็ด พันธุท์ ่ีนำ�มาใชใ้ นการเพาะปลกู ส่วนใหญเ่ กษตรกร ตอ้ งซือ้ จากบริษัท ซ่ึงใชข้ ยายพันธ์ตุ ่อไมไ่ ด้ เนื่องจาก เมลด็ ถกู ดดั แปลงพันธุกรรมหรือถูกท�ำ ให้เปน็ หมนั ไว้แลว้ เกษตรกรรายยอ่ ยทปี่ ลูกผกั ปลอดสารพษิ หรือ ปลูกไว้ในสวนครัวเรือน ขาดความรู้เร่อื งการดูแลป้องกันและปราบศัตรูพชื ดว้ ยวิถที างธรรมชาติ และเมอ่ื ปลูกหรือผลติ สนิ คา้ ทางการเกษตรแบบปลอดสารพษิ ก็ไมร่ ้จู ะน�ำ ผลผลติ ของตนไปขายทีใ่ ด กลายเปน็ ว่า ถา้ มาทำ�เกษตรกรรมท่ีบา้ นไม่วา่ จะเป็นการเพาะปลกู หรือเลี้ยงสตั ว์ มันก็ไมย่ ่งั ยนื ไม่มีตลาดรองรับ ไม่มี รายได้ผ่านมือเข้ามาในแต่ละวัน ก็ไม่เหมือนหรือไม่เท่ากับการเข้าไปทำ�งานในเมืองใหญ่ที่มีเงินผ่านมือ ทกุ เดอื น ประเด็นท่ีนา่ สนใจจากกรณดี ังกล่าวนีก้ ็คอื เร่ือง ตลาด แมน้ หนว่ ยงานทง้ั ภาครัฐหรือเอกชนจะ ส่งเสรมิ หรือสนบั สนนุ ใหค้ นในทอ้ งถ่ินมีอาชพี หรือทำ�อะไรอกี มากมาย แตส่ ิ่งหนึ่งทไ่ี ม่พบการสนบั สนุน ชาวชมุ ชนอยา่ งเปน็ รูปธรรม นั่นก็คือเร่ืองการตลาดนน่ั เอง จากกรณดี งั กลา่ วจงึ ท�ำ ให้ คณะผจู้ ดั ท�ำ โครงการมคี วามสนใจ ในการศกึ ษาการเพาะปลกู พชื และ เลี้ยงสัตวพ์ ้ืนบ้านแบบอินทรยี ์ในพน้ื ทีโ่ รงเรยี น เพ่อื ทดสอบกระบวนการปลูกพชื และเลยี้ งสัตวท์ ่ไี ม่พ่ึงพา กลมุ่ ทนุ ขนาดใหญเ่ นน้ การปลกู พชื และเลยี้ งสตั วแ์ บบเกษตรอนิ ทรยี ไ์ มพ่ งึ่ พาปยุ๋ เคมี ยาฆา่ แมลง และอาหาร สัตว์จากกลุ่มทนุ ตลอดจนสรา้ ง “เครือขา่ ยเกษตรอนิ ทรยี ์”ไปยังชมุ ชนที่อยใู่ กลเ้ คยี งโรงเรียน โดยมีระบบ การตรวจสอบและควบคมุ คณุ ภาพผลติ ภณั ฑส์ นิ คา้ จากทางโรงเรยี น จากนนั้ น�ำ สนิ คา้ ทผ่ี า่ นการตรวจสอบ บรรจุในบรรจุภัณฑข์ องทางโรงเรยี น เพ่อื ด�ำ เนินการจดั จ�ำ หนา่ ยใน “ตลาดโรงเรียน” ใหก้ บั นักเรียนและผู้ ปกครอง ตลอดจนบคุ คลทสี่ นใจเพอื่ บรโิ ภคในครวั เรอื น หรอื จดั จ�ำ หนา่ ยใหก้ บั รา้ นคา้ ทป่ี ระกอบอาหารขาย ในโรงเรยี นเพอื่ สขุ ภาพทดี่ ขี องนกั เรยี น หรอื จดั จ�ำ หนา่ ยผา่ นเครอื ขา่ ยออนไลนโ์ ดยการสงั่ จองผา่ นชอ่ งทาง ส่อื ออนไลนข์ องทางโรงเรยี น ซึง่ ผลิตภณั ฑท์ างการเกษตรอ่ืนๆนน้ั กม็ าจากเครอื ขา่ ยชมุ ชนตน้ แบบเกษตร อนิ ทรยี แ์ ละเกษตรพอเพยี ง คือ ชุมชนบ้านดอนยม ต.ทา่ ขอนยาง อ.กนั ทรวิชัย จ.มหาสารคาม ท่โี รงเรยี น จดั ให้เปน็ ชุมชนต้นแบบด้านการสร้างเครอื ขา่ ยความรว่ มมือ ในการสง่ สนิ ค้าทางการเกษตรท่ีปลอดสาร
138 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ พษิ เขา้ มาจาหนา่ ยในโรงเรยี นทกุ วนั ศกุ รส์ ดุ สปั ดาห์ 3. กระบวนการดำ�เนินการ (อธิบาย จะมีผลติ ภณั ฑ์ทางการเกษตรท่หี ลากหลายพรอ้ ม กระบวนการ PDCA โดยชาวบ้านและนิสิต เขา้ มา แกก่ ารจดั จ�ำ หนา่ ยเชน่ ไกเ่ นอื้ ไขไ่ ก่ ไขเ่ ปด็ ปลา กบ มสี ว่ นรว่ มในโครงการอยา่ งไร ในกจิ กรรมอะไรบา้ ง เปด็ ไก่ เปน็ ตน้ เปน็ ตวั อยา่ งการสรา้ ง “ความยง่ั ยนื สู่ชมุ ชน” ให้เห็นเปน็ รปู ธรรมท่ชี ดั เจน และในขณะ ระยะเตรียมการ (ระยะต้นน�้ำ ) เดยี วกนั กด็ �ำ เนนิ การจดั ท�ำ ธนาคารเมลด็ และพนั ธุ์ 3.1.1. เตรียมความพร้อมในการจัด พชื พน้ื บา้ น สะสมไวเ้ พอ่ื การอนรุ กั ษพ์ นั ธกุ รรมพชื ต้ังศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างเครือข่าย เพื่อเป็นแหล่งเรยี นรู้ภายในโรงเรียน เมอ่ื ธนาคาร เกษตรอินทรีย์ ดำ�เนินการในด้านการบริการทาง มีผลกำ�ไรที่เป็นเมล็ดพันธุ์และต้นพันธ์ุพืชจำ�นวน ความรู้ ให้กับสมาชิกในเครือข่าย เป็นศูนย์การ มากก็ดำ�เนินการขยาย ส่งเสริมพื้นที่การปลูก ไป อบรมข้อมูลด้านความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ การ ยังชุมชน วัด และโรงเรียนในชุมชน ใกล้เคียงเพ่ือ ปลูกพืชปลอดสารพิษ การใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดศัตรู เป็นการบริการแก่ชุมชนอื่นๆข้างเคียงสร้างเครือ พืชที่สกัดจากธรรมชาติ โดยพึ่งพิงองค์ความรู้ ข่ายด้านเมล็ดพันธ์ให้มีความเข้มแข็งและย่ังยืน วิทยากร หรือเครือข่ายปราชญ์ชุมชน จากทาง ตา้ นการครอบง�ำ ทางพนั ธกุ รรมพชื ของกลมุ่ ทนุ ราย มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม ซงึ่ มคี วามพรอ้ มในเรอ่ื ง ใหญ่ นอกเหนือจากนำ้�โรงเรียนจะพัฒนาให้เป็น ทรัพยากรตา่ งๆมากกวา่ จดั ตง้ั ธนาคารเมลด็ และ “ศูนย์การเรียนรู้ เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ตลาด พนั ธ์ุพชื พืน้ บา้ น เพื่อชว่ ยใหช้ าวชมุ ชนสามารถยมื โรงเรยี น ความยงั่ ยนื สชู่ มุ ชน” ทเี่ ปน็ ศนู ยก์ ลางดา้ น เมล็ดพันธ์ุ หรือต้นพันธุ์ไปปลูกในครัวเรือน หรือ การบริการข้อมูล ความรู้ให้กับ หน่วยงาน,ชุมชน พน้ื ทข่ี องชมุ ชน แลว้ สง่ คนื ดอกเบยี้ ในรปู ของเมลด็ หรือโรงเรียนอื่นๆที่สนใจนำ�ไปปรับใช้กับท้องถ่ิน พนั ธ์ุ หรอื ตน้ พนั ธ์ุ ทเ่ี พมิ่ จำ�นวนมากขน้ึ เปน็ การสง่ ของตนอย่างถูกต้องเหมาะสม เสริมการขยายพนั ธุพ์ ืชในทอ้ งถ่ิน เพ่ือการอนุรักษ์ พนั ธกุ รรมพชื ด�ำ เนนิ การ รวบรวม รบั บรจิ าค เมลด็ วัตถุประสงค์โครงการ พันธุ์พืชพื้นบ้าน ต้นพันธ์ุ จากชาวบ้าน หรือท้อง ถนิ่ ในเขตภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เพอื่ เปน็ ตน้ ทนุ จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ในธนาคารเมลด็ พนั ธ์ ต้นแบบชุมชนบ้านดอนยม ตำ�บลท่าขอนยาง ท้ังน้ี ทางโรงเรียนได้เร่มิ รับสมัครสมาชิก อำ�เภอกนั ทรวชิ ยั จงั หวดั มหาสารคาม เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ ตลาดโรงเรียน ย่ังยืนสู่ ชุมชน ได้จำ�นวนสมาชิกทั้งส้นิ 35 คน เพอ่ื จดั เข้า หาแนวทางจัดทำ�ตลาดโรงเรียน เพ่ือรับ อบรมเพอื่ เตรยี มจดั ตงั้ ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ กษตรอนิ ทรยี ์ จัดจำ�หน่าย สินค้าเกษตรอินทรีย์ พืชผัก ปลอด ท้ังน้ีเมื่อได้วัน เวลา สถานท่ีในการจัดการอบรม สารพษิ จากชมุ ชนบา้ นดอนยม ตำ�บลท่าขอนยาง สมาชกิ เครอื ขา่ ยแลว้ ทางโรงเรยี นกท็ �ำ หนงั สอื เรยี น อ�ำ เภอกันทรวิชยั จงั หวัดมหาสารคาม เชิญวิทยากรมาให้ความรู้และจัดการอบรมตาม ปฏทิ นิ การอบรมดงั ตอ่ ไปนี้ ก�ำ หนดการวนั เสารท์ ี่ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนต้นแบบ คือ 26 มีนาคม 2560 08.00-08.30น.ลงทะเบียน ชุมชนบ้านดอนยม ต.ท่าขอนยาง อ. กันทรวิชัย (ณ ที่ประชุมหมู่บ้านดอนยม) 08.30-12.00 น. จ.มหาสารคาม เพือ่ ให้เป็นชมุ ชนที่ใช้หลกั ปรชั ญา พิธีเปิดกิจกรรมอบรมภาคทฤษฎี และอบรมเร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ในการเลี้ยงชุมชนของตนเอง “วถิ เี กษตรอนิ ทรยี ์ วถิ แี หง่ การอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม” ไดอ้ ย่างยั่งยนื เปน็ รปู ธรรมให้ชมุ ชนอน่ื ๆ สามารถ นำ�องค์ความรู้ดังกล่าวน้ีไปปรับใช้ได้กับชุมชน ตนเองต่อไป
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 139 โดย มลู นธิ สิ ง่ิ แวดลอ้ มศกึ ษา โดย ผศ.ดร.ประยรู วงศ์ เกษตรอินทรีย์ จัดต้ังธนาคารเมล็ดและ จนั ทรา ประธานมลู นธิ สิ ง่ิ แวดลอ้ มศกึ ษา เวลา13.00 พนั ธุ์พชื พ้นื บ้าน เพอื่ ช่วยให้ชาวชุมชนสามารถยมื - 16.00 น. ฟังบรรยายเร่ือง “การปลูกพืชและ เมล็ดพันธุ์ หรือต้นพันธุ์ไปปลูกในครัวเรือน หรือ เลยี้ งสตั วแ์ บบเกษตรอนิ ทรยี ”์ วทิ ยากรจากปราชญ์ พน้ื ทขี่ องชมุ ชน แลว้ สง่ คนื ดอกเบย้ี ในรปู ของเมลด็ ชุมชน กำ�หนดการวันอาทติ ย์ที่ 26 มีนาคม 2560 พนั ธ์ุ หรอื ตน้ พนั ธ์ุ ทเี่ พม่ิ จำ�นวนมากขนึ้ เปน็ การสง่ 08.00-08.30 น. ลงทะเบยี น (ณ ทป่ี ระชมุ หมบู่ า้ น เสริมการขยายพนั ธพ์ุ ชื ในทอ้ งถนิ่ เพอื่ การอนรุ ักษ์ ดอนยม) 08.00 -12.00 น. พธิ ีเปิดกิจกรรมอบรม พนั ธกุ รรมพชื ด�ำ เนนิ การ รวบรวม รบั บรจิ าค เมลด็ เชงิ ปฏบิ ัติการ และอบรมเรือ่ ง “การสร้างเครอื ข่าย พนั ธุ์พืชพื้นบ้าน ตลาดผกั ปลอดสารพษิ แบบเกษตรอนิ ทรยี ”์ วทิ ยากร จากปราชญ์ชมุ ชน เวลา 13.00 -15.00 น. “การ 3.2.2 เดอื นพฤษภาคม 2560 ด�ำ เนนิ อบรมการท�ำ น�้ำ หมกั ชวี ภาพรปู แบบตา่ งๆ”วทิ ยากร การให้ ความรใู้ ห้กบั สมาชกิ เครอื ข่าย ในวันศกุ ร์ท่ี จากปราชญช์ มุ ชน เวลา 15.10 - 16.10 น. “การ 5 พฤษภาคม 2560 เวลา 09.00 – 10.00 น. บร อบรมการเล้ียงไส้เดือนในบ่อวงปูน การทำ�ปุ๋ยมูล รายาสรุปโครงการ ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ไส้เดือนไว้จำ�หน่าย” วิทยากรจากปราชญ์ชุมชน ตลาดโรงเรยี น ยง่ั ยนื สชู่ มุ ชน เวลา 10.10 – 12.00 และ เวลา 16.10 - 17.10 “อบรมการเลี้ยงสัตว์ น. เยี่ยมชมการดำ�เนนิ งานสมาชิกเครือข่ายเกษตร พื้นบ้านสำ�หรับการบริโภคและจำ�หน่าย”วิทยากร อินทรีย์ 13.00 – 15.00 น. ลงนามความร่วม จากปราชญช์ มุ ชน มือ กับเครือข่ายสมาชิก มอบคู่มือการปฏิบัติงาน หลักสูตรเศรษฐศาสตร์รากหญา้ และปดิ โครงการ 3.1.2. เตรียมความพร้อมในด้านการจัด ทำ�ตลาดโรงเรียน เพื่อจัดจำ�หน่าย สินค้าพืชผัก 3.2.3. เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ - กนั ยายน ปลอดสารพิษ ในพ้ืนที่อาคารรับรองผู้ปกครอง 2560 จดั ท�ำ ตลาดโรงเรยี น เพอื่ จดั จ�ำ หนา่ ย สนิ คา้ พชื ของสมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ผกั ปลอดสารพษิ ในพนื้ ทอ่ี าคารรบั รองผปู้ กครอง ของ มหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) จัดประชาสัมพันธ์ไป สมาคมผปู้ กครองและครโู รงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ยังผู้ปกครอง บุคลากรในโรงเรียน บุคลากรใน มหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) จัดประชาสัมพันธ์ไป มหาวทิ ยาลยั มหาสารคามหรอื ผสู้ นใจไดท้ ราบชว่ ง ยังผู้ปกครอง บุคลากรในโรงเรียน บุคลากรใน วนั เวลาในการเปดิ ตลาดเกษตรอนิ ทรยี ์ ตลอดจนจดั มหาวทิ ยาลยั มหาสารคามหรอื ผสู้ นใจไดท้ ราบชว่ ง ทำ�เว็บไซต์ระบบตลาดโรงเรยี นออนไลน์ เพอ่ื ให้ผู้ วนั เวลาในการเปดิ ตลาดเกษตรอนิ ทรยี ์ ตลอดจนจดั สนใจสามารถสงั่ ซอื้ สนิ คา้ ทางการเกษตรปลอดสาร ทำ�เวบ็ ไซตร์ ะบบตลาดโรงเรียนออนไลน์ เพื่อให้ผู้ พิษตามรายการที่โรงเรียนกำ�หนด นัดวันรบั สินค้า สนใจสามารถสงั่ ซอื้ สนิ คา้ ทางการเกษตรปลอดสาร ช�ำ ระคา่ สินค้าไดต้ ามวันเวลาทีส่ ะดวก พษิ ตามรายการทโี่ รงเรียนกำ�หนด นดั วนั รบั สินคา้ ช�ำ ระค่าสนิ คา้ ได้ตามวันเวลาท่สี ะดวก ระยะดำ�เนินงาน (ระยะกลางน้�ำ ) เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน 2560 3.2.4. เดอื นพฤษภาคม – กนั ยายน ได้ดำ�เนินการจัดต้ังศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ 2560 สร้างความย่ังยืนให้ชุมชนต้นแบบ คือ สร้างเครอื ข่าย ชุมชนบ้านดอนยม ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เพ่ือให้เปน็ ชุมชนที่ใชห้ ลักปรชั ญา เศรษฐกิจพอเพยี ง ในการเลยี้ งชมุ ชนของตนเองได้ อยา่ งยง่ั ยนื เปน็ รปู ธรรมใหช้ มุ ชนอนื่ ๆ สามารถน�ำ
140 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ องค์ความร้ดู งั กลา่ วนีไ้ ปปรบั ใช้ได้กับชุมชนตนเอง การรับส่งสินค้า การจัดจำ�หน่าย การจัดทำ�บัญชี ตอ่ ไป ชุมชน การจัดทำ�บัญชีครัวเรือน ซ่ึงเป็นระบบการ เรียนรู้แบบคูข่ นาน 3.3 ระยะเวลาประเมนิ ผล ( ระยะปลายน�ำ้ ) เดือนกันยายน 2560 เป็นต้นไป (หลัง 2.) เป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์และ จากรายงานผลการจัดดำ�เนินโครงการแล้วเสร็จ) เอกลกั ษณใ์ หก้ บั นกั เรยี นโรงเรยี นสาธติ มหาวทิ ยาลยั ตดิ ตามความตอ่ เนอื่ งใหโ้ รงเรยี นเปน็ พนื้ ทกี่ ารเรยี น มหาสารคาม(ฝา่ ย-มธั ยม) และสอดคลอ้ งกบั ปรชั ญา รทู้ ี่ โรงเรยี น หรอื หนว่ ยงานอน่ื ๆทสี่ นใจสามารถมา มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม ศึกษาดูงานเพื่อนำ�เอาแนวความคิดของโครงการ “ศูนย์การเรียนรู้ เกษตรอินทรีย์ ตลาดโรงเรียน อัตลักษณโ์ รงเรียน “กลา้ คดิ กล้าทำ� กลา้ ยั่งยืนสู่ชุมชน”ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ น�ำ มีคุณธรรม และจิตอาสา” ชมุ ชนของตนเอง จากนนั้ ประเมนิ ผลการจดั ด�ำ เนนิ โครงการ ดว้ ยแบบประเมนิ ผลการจดั ด�ำ เนนิ โครงการ ปรัชญาโรงเรยี น “วชิ าการทเ่ี ตม็ ที่ อยู่ใน ควบคู่กับการประเมินผลจากการวิจัยเรื่อง “การ คนท่ีเต็มคน” พัฒนาการสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ สู่ตลาด โรงเรยี น เพอ่ื ความยง่ั ยนื ของชมุ ชน (The Develop- อตั ลกั ษณม์ หาวทิ ยาลยั “นสิ ติ กบั การชว่ ย ment organic agriculture network to Market เหลอื สงั คมและชมุ ชน” in the Schoolfor Sustainable Community.)” ปรชั ญามหาวทิ ยาลยั “พหนู ํ ปณฑฺ โิ ต ชเี ว” การบูรณาการกับภารกิจหลักด้านอื่นๆ ผู้มีปัญญาพึงเปน็ อยเู่ พื่อมหาชน 4.1 บูรณาการกับการเรยี นการสอน (ทำ� 3.) ผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมโครงการไดร้ ับการ อย่างไร ในรายวิชาใด นสิ ติ เข้ามาร่วมอยา่ งไร และ พัฒนาอตั ลักษณท์ ีส่ อดคลอ้ งกนั ท้ังอัตลักษณ์ของ เกิดการ เรียนรู้อยา่ งไร) สถาบันโรงเรียน และอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย มหาสารคาม อย่างมีความสอดคล้องกนั 4.1.1 ประโยชน์และการสร้างคุณคา่ ต่อหลักสตู รและสถาบนั การศกึ ษาโรงเรยี น 4.) เครอื ข่ายชุมชนเกษตรอนิ ทรยี ์ ตลาด โรงเรียน ย่ังยืนสู่ชุมชน เครือข่ายต้นแบบ ชุมชน 1.) ในระดับหลักสูตร ได้มี บ้านดอนยม ต�ำ บล ท่าขอนยาง อ�ำ เภอกนั ทรวิชยั การบรู ณาการการบรกิ ารวิชาการเขา้ กบั หลกั สูตร จงั หวดั มหาสารคาม และชมุ ชนเครอื ขา่ ยอน่ื ๆ ใหก้ าร การเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ยอมรบั ความรว่ มมอื ในการท�ำ งานรว่ มกบั โรงเรยี น ศาสนาและวัฒนธรรม หลักสูตรสังคมพื้นฐาน และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม 11 – 12 เน้ือหาการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง, ภูมิศาสตร์ เร่ือง การอนุรักษ์ 4.1.2 ระดับมหาวิทยาลัย (4in1) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยผู้เรียน ในการดำ�เนินงานแบบ (3in1) คือการมี จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมภาค “ตลาดโรงเรียน”ซึ่ง การบูรณาการการบริการชุมชนกับการเรียนการ นกั เรยี นจะเรยี นรตู้ ง้ั แต่ขัน้ ตอนการผลติ การตรวจ สอนและการวจิ ยั ดงั นี้ สอบคุณภาพสินค้า การตรวจหาสารพิษในสินค้า 1.) การบรกิ ารวชิ าการแกส่ งั คม เปน็ การบรกิ ารวชิ าการแกส่ งั คมผา่ นตวั กจิ กรรมโครงการซง่ึ ประกอบดว้ ยการอบรมความรู้ ภาคทฤษฎี อาทเิ ชน่ เรอื่ ง วถิ เี กษตรอนิ ทรยี ์ วถิ แี หง่
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 141 การอนุรักษส์ งิ่ แวดลอ้ ม,การปลูกพืชและเลีย้ งสตั ว์ โครงการ โดยมชี อื่ โครงการวจิ ยั วา่ “การพฒั นาการ แบบเกษตรอินทรีย์ และการอบรมให้ความรู้ภาค สรา้ งเครอื ขา่ ยเกษตรอนิ ทรยี ์ สตู่ ลาดโรงเรยี น เพอื่ ปฏิบัติ อาทิเช่น เร่ือง การอบรมการทำ�น้ำ�หมัก ความยงั่ ยนื ของชมุ ชน The Development organic ชวี ภาพรปู แบบตา่ งๆ, การเลยี้ งไสเ้ ดอื นในบอ่ วงปนู agriculture network to Market in the School การท�ำ ปยุ๋ มลู ไสเ้ ดอื นไวจ้ �ำ หนา่ ย,การเลยี้ งสตั วพ์ นื้ for Sustainable Community”ซึ่งดำ�เนินการศึ บ้านสำ�หรับการบริโภคและจำ�หน่าย เป็นต้น ใน กษาค้นคว้างานวิจัยโดย ดร.วุฒิศักดิ์ บุญแน่น การจัดด�ำ เนินโครงการได้รับความอนเุ คราะหจ์ าก ประธานหลักสูตร และ นายองอาจ ญาตินิยม มูลนิธิสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ เป็น ผู้รับผิดชอบโครงการ ทัง้ น้ไี ด้ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งดี และสมาชกิ เครอื ขา่ ยชมุ ชนกใ็ หค้ วามสนใจ ท้งั หมดดงั ตอ่ ไปน้ี เข้ารบั การถา่ ยทอดความรอู้ ยา่ งเต็มที่ ผลการวิจัย 2.) การนำ�ไปใชก้ บั การเรยี นการสอน การบรู ณาการการบรกิ ารวชิ าการเขา้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐานของกลุ่ม กับ หลักสูตรการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ตัวอย่าง มชี าวบ้านในชุมชนบา้ นดอนยม เขา้ รว่ ม สงั คมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม หลกั สตู รสงั คม โครงการสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ สู่ตลาด พน้ื ฐาน 11 - 12 เน้อื หาการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ โรงเรียนเพอ่ื ความย่งั ยืนของชมุ ชน ทเ่ี ป็นเพศหญงิ เรอ่ื ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง, ภมู ศิ าสตร์ เรอื่ ง การอนรุ กั ษ์ จ�ำ นวน 18 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 60 และ เพศชาย ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดยผู้เรียน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 40 และประกอบอาชีพ จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมภาค “ตลาดโรงเรียน”ซ่ึง เกษตรกรรมมากท่ีสดุ จ�ำ นวน 18 คน คิดเปน็ ร้อย นกั เรียนจะเรยี นรตู้ งั้ แตข่ น้ั ตอนการผลติ การตรวจ ละ 60 รองลงมาคอื รบั ราชการและคา้ ขาย ผลการ สอบคุณภาพสินค้า การตรวจหาสารพิษในสินค้า วเิ คราะหข์ ้อมลู พนื้ ฐานเกยี่ วกับการปลกู ผกั พบวา่ การรับส่งสินค้า การจัดจำ�หน่าย การจัดทำ�บัญชี ชาวบา้ นในชมุ ชนบา้ นดอนยม รจู้ กั ผกั ปลอดสารพษิ ชุมชน การจัดทำ�บัญชีครัวเรือน ซึ่งเป็นระบบการ และเขา้ ใจวา่ ผกั ปลอดสารพษิ คอื พชื ผกั ทไ่ี มม่ สี าร เรียนรู้แบบคขู่ นานท้ังน้ยี งั บูรณาการการเรยี นรู้เขา้ พิษตกค้าง ร้อยละ 96.67 รองลงมา คือ พืชผัก กับสาขาวิชาอ่ืนๆ ได้ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ด้าน ที่ไม่มีการใช้สารเคมีโดยเด็ดขาด ร้อยละ 86.67 การทำ�บญั ชี การเก็บสถติ ขิ อ้ มลู วิชาวทิ ยาศาสตร์ และ พืชผักที่ไม่มีสารเคมีป้องกันและกำ�จัด ศัตรู ด้าน กระบวนการผลติ ทางการเกษตร ทงั้ การปลูก พืชตกค้าง ร้อยละ 73.33 มีความเข้าใจเกี่ยวกับ พชื และเลย้ี งสตั ว์ รวมถงึ วชิ าการงานการอาชพี และ ผกั อนิ ทรยี ์ คอื เปน็ ผกั ปลอดสารพษิ รอ้ ยละ63.33 วชิ าอน่ื ๆตามความเหมาะสม สามารถน�ำ ไปเปดิ เปน็ และเป็นผกั ที่ไมใ่ ชส้ ารเคมีสังเคราะห์ รอ้ ยละ 50 วชิ าเสรมิ ในกจิ กรรมชมุ นมุ กจิ กรรมวชิ าการอน่ื ๆ ได้ ในชมุ ชนมแี ปลงปลกู ผกั ปลอดสารพษิ และแปลงปลกู สามารถนำ�มาทำ�เปน็ โครงงานในรายวชิ าตา่ งๆ ได้ ผักอินทรีย์ เฉล่ยี ร้อยละ 81.67 คนในชุมชนไมใ่ ช้ ตามความเหมาะสม สารเคมี ในการปลกู พชื ผกั ร้อยละ 83.33 โดยมี 4.2 บูรณาการกับการวิจัย (บูรณาการ มีผลิตภัณฑ์ ที่ทดแทนสารเคมีกำ�จัดศัตรูพืช ร้อย อยา่ งไร ภายใตก้ รอบหรอื ภายใตช้ อื่ โครงการวจิ ยั ใด) ละ 93.33 นำ้�หมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ร้อยละ 60 โครงการน้ผี ู้จัดดำ�เนินโครงการไดด้ ำ�เนิน รองลงมาคือ ปยุ๋ หมักชวี ภาพ ร้อยละ 53.33 รอง การจัดทำ�วิจัยควบคู่กับการจัดดำ�เนินกิจกรรม ลงมาคอื นำ้�หมกั สมนุ ไพรและการปลกู พชื ไลแ่ มลง
ผักปลอดสารพิษ และเข้าใจว่า ผักปลอดสารพิษคือ พืชผักท่ีไม่มีสารพษิ ตกค้าง ร้อยละ 96.67 รองลงมา คือ พืชผักท่ีไม่ มกี ารใช้สารเคมโี ดยเดด็ ขาด ร้อยละ 86.67 และ พืชผกั ท่ีไม่มีสารเคมีปอ้ งกันและกาจัด ศัตรูพืชตกค้าง รอ้ ยละ 73.33 มี ความเข้าใจเก่ียวกับผกั อินทรีย์ คอื เป็นผักปลอดสารพิษ ร้อยละ63.33 และเป็นผกั ที่ไม่ใชส้ ารเคมสี ังเคราะห์ รอ้ ยละ 50 ใ1น4ชุม2ชนมีแปเอลกสงาปรปลรูกะกผอบักกปารลนำ�อเสดนอสผาลรงพานิษการแปลระะชแุมวปิชลากงารปลมหูกาวผิทักยาอลัยินมทหารสียาร์คเาฉมวลิจ่ียัยรค้อรยั้งทลี่ ะ๑๓ 8: 1ส.า6ขา7บรคิกานรวใิชนากชาุมร ชนไม่ใช้สารเคมี ในการ ปลูกพืชผัก ร้อยละ 83.33 โดยมี มีผลิตภัณฑ์ ท่ีทดแทนสารเคมีกาจัดศัตรูพืช ร้อยละ 93.33 น้าหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ ร้อยละ 60 รองลงมาคือ ปุ๋ยหมักชีวภาพ ร้อยละ 53.33 รองลงมาคือน้าหมักสมุนไพรและการปลูกพืชไล่แมลง ตชาาวมบลตใจ้าานานาดกกมับชากลุมผรา�ำชดลรดนสำ�กับบเาัมน้ารผภนินวลาิดเกคกษอาราณนรารตยะวช์ มหลเิาคว์าปพรบดัจาบเ้าจะกวนัยห่าษขช์ปตอปุมจั รงัจชจคอจนยัวินัยบาขคทม้าอวรนสงาียาดคม์ใเอวสนรา็นจาโมเใรยรนงสม็จเกำ�รทาพเีย่ีชรรบน็จดาวาบเน้าินนแปดกใล้าจัหานะจร้คผยัตวสปู้ ลาดมกมาา้ าดคสนชเารนกิกคอษกั เัญงคเต/รมรลรยี าืออกูนกิขนคท่าคทา้ ่ีสยรรมุด/ูใียนบคี ์ใคนคชุวือุามโลรมาชผงกสนู้ปเรร�ำ กียคผแคนญัู้บลรระอมจิหเงาางก/ากนิ ลรกทสูกโาส่ีคนครดุรบัส้างัมสสทกภนว่ ่ีมาานนุ ราษซณ้ือ์ ผลิตผวล่าในปตัจลจาัยดโครวงาเรมียสนำ�สเรม็จาทชี่ิชกาเควรบือ้าขน่ายใหใน้คชวุมาชมนสำ�ผคู้บัญริหารโคอรยงใู่ กนารระแดลบั ะมเงาินกสนับสนุน ที่อยู่ในระดับมากท่ีสุด ส่วน ปัจจัยมดา้ากนทนสี่ ักุดเรคียอื นผคปู้ รกู/บคุครลอางก/รลูกอคยาู้่ในทรี่มะดาซับอื้มผากลติ แผลละใจนากการสัมภาษณผล์นกักาเรรวียเินครพาบะหว่าเ์ ปปรัจยี จบัยเทดยี้าบนคสา่ มเฉาลชยี่ิกเคควราือมข่าย กเใงนานิ ชรสอุมนนโมสตชคบั ุรว่ลานรักสนกผางผนษดลปกแู้บุน์สโกจัาลรริง่ารจอะงแิหรยัเแยจววารลู่ใดาิรเดียนคกละโน้าครร้อเกนะงารมสานิดนะงรมกบัหสขกัสาาม์อเนเัมปรชรางบั ิกภยีรชกแสียนเาาลคนวบษะครบนุเณผือทร้าู้ปทู/ขนน์ียบกา่อี่ชบักคยุคุมยคเรใรลชใู่่านอยีนาุนเงชฉนกร/ุมลบะรลพี่ยชด้าูกอนบนบั คคยดวม้าวผูใ่อ่านาา้บูมนกมปรีรคยทตะจัหิวมรดส่ีจาาะบัดุกัยมรหบัสนนาักคักัญเตสชตรมุรมา่อยี ะรชานกหพกุนานทิษรบกับ่ีสแุ้าดรลตนิโะอ่ภสดกก่วคอานาผนรรลบปอยผรัจนมลโิจุรภิตัยกักคเับกษดผษน์ส้าลตนักผ่ิงรแนเลรอวักติยี ินดเนรกทลียษร้อนียตม์ปรคอลขรนิู/ออบทดงุคชรสยีลาาวป์ารกบพลริ้าอษนดแแลละะ ดา้ น ชาวXบ้าน (N=S5.D). ระดบั นักXเรียน (NS=.D5.) ระดบั t P ความตระหนัก X 3.12S.D. 0.3ร1ะดับ ปาน X 2.97S.D. 0.59ระดับ ปาน -3.021 .004* *นัยสา*คนญัยั สคทาวาคาง(มญัสnตถ=ทริต3าะทิ0ง(ห)สnรี่ นะถ=ักดิต3บัทิ0)ร่ี .ะ0ด5บั (3In..10d25ep(Inendde0pe.3ne1tndt-etenกปstลtาt)าน-tงeกsลt)าง2.97 0.59 ปาน กลาง-3.021 .004* กลาง ผลวเิ คผรลาวะเิหค์เรปาระยี หบเ์ ปเทรียยี บบคเทา่ เียฉบลค่ยี า่ เคฉ่าลเฉยี่ ลคย่ี า่ขเอฉงลรี่ยาขยอไดงร้ ากยอ่ ไนดแ้ กละอ่ หนลแังลกะาหรลเปงั กน็ าสรมเปาชน็ ิกสเมคารชอื กิ ขเา่ คยรขืออขง่าชยาขวอบงา้ ชนาใวนบชา้ ุมนชในนชมุ ชน ดา้ น ด้าน รายไดร้เาฉยลไีย่ ด/เ้ เฉดลอื ีย่ น/เกด่ออื นนเขก้าอ่ นเข้า รายไดร้เาฉยลไี่ยด/้เเฉดลอื ีย่น/เหดลืองันเขหา้ ลังเข้า t t P P รายไดร้ ายได้ โครงกโาครรงการ รว่ มโครร่วงมกโาครรงการ รายไดร้ราวยมไดร้ วม X X S.D. S.D.รายไดร้ ายได้ X X S.D. S.D. (บาท)(บาท) รวม รวม (บาท)(บาท) *ชน(nายั ว=สบ3า*า้ค0ชน(น)nญัาัยว=สทบ3าาา้ค0งน)ัญ1ส6ถท6ิตา,ิท0ง1สี่ร66ะถ06ดิต,บัทิ0ร่ี6.5ะ00,ด55ับ3(P5.a50.3i,5r533t(-P5tae.35isr35tt)6-7te.53s5t)671.83,711580,71560,2386.3,2386.2338.63238-4.3.689-4.6809.00*0.00* สรปุ ผสลรกจุปาาผรกวลกจิ กาัยารรศวึกิจษัยาวิจยั การพัฒนาการสรา้ งเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ สู่ตลาดโรงเรยี นเพอื่ ความย่ังยืนของชุมชน จาก การสารวจข้อมจลู าพก้ืนกฐาารนศขึกอษงาชวุมิจชัยนกาพรพบวัฒ่านกาากราวรเิสครร้าางะเหครข์ อือ้ ขม่าลู ยพเกื้นษฐาตนรขออินงทกรลยี ุ่ม์ สตู่ตัวลอายด่างโรมงเชี ราียวนบเ้าพนื่อใคนวชามุ มชยน่ังบยนื้านขดอองชนมุ ยชมน จาก เขา้ ร่วกมาโครสรงากรวารจสขรอ้ ้ามงลูเคพร้ืนอื ฐขา่านยขเกอษงชตุมรชอนิ ทพรียบ์ วส่าู่ตลกาดรวโริเคงเรราียะนหเข์พอ้ ่ือมคลู วพามื้นยฐ่งัายนืนขขอองงกชลุม่ ชตนวั อทย่เี ่าปง็นมเพีชศาวหบญ้าิงนจในานชุมวนชน1บ8้านคดนอนยม คิดเป็นเขรา้ อรย่วลมะโค6ร0งกแาลระสรเ้าพงศเคชราือยข1่า2ยเคกนษตคริดอเินปท็นรรีย้อ์ ยสล่ตู ะลา4ด0โรแงลเระียปนรเะพก่ืออคบวอามาชยีพงั่ ยเกืนษขอตงรชกุมรชรมนมทา่ีเกปท็นี่สเุพดศจหาญนวิงนจา1น8วนคน18 คน คดิ เปน็ คริด้อเยปล็นะร้อ6ย0ลระอง6ล0งแมลาคะอื เพรศับชราาชยก1า2รแคลนะคคา้ ิดขเาปย็นร้อยละ 40 และประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากที่สุด จานวน 18 คน คดิ กเปาน็รวริเอ้ คยรลาะะห6์0ข้อรมอูลงลพง้ืนมฐาาคนอื เกรี่ยบั วรกาชับกกาารรแปลละูกคผ้าักขาพยบว่า ชาวบ้านในชุมชนบ้านดอนยม รู้จักผักปลอดสารพิษ และเข้าใจว่า ผกักาปรลวอิเคดรสาาะรหพ์ขิษ้อคมือูลพพื้ืนชผฐักานทเ่ีไกม่ีย่มวีสกาับรพกิษารตปกลคูก้าผงักร้อพยบลวะ่า9ช6า.6ว7บ้ารนอใงนลชงมุมาชนคบือ้าพนืชดผอักนทย่ีไมม่มรีกู้จาักรผใักชป้สาลรอเดคสมาี รพิษ
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 143 สรุปผลการวิจัย มากที่สุด ผลการวิเคราะห์ความตระหนักต่อการ บรโิ ภคผลผลติ เกษตรอนิ ทรยี ป์ ลอดสารพษิ และการ จากการศกึ ษาวจิ ยั การพฒั นาการสรา้ งเครอื อนุรักษส์ งิ่ แวดล้อม ของชาวบา้ นชุมชุน บ้านดอน ขา่ ยเกษตรอนิ ทรยี ์ สตู่ ลาดโรงเรยี นเพอ่ื ความยงั่ ยนื ยม และนักเรียน พบว่า ความตระหนักของชาว ของชุมชน จากการส�ำ รวจขอ้ มลู พืน้ ฐานของชมุ ชน บ้านในชุมชน บ้านดอนยม และนักเรียน มีความ พบวา่ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู พนื้ ฐานของกลมุ่ ตวั อยา่ ง ตระหนักอยู่ในระดับปานกลาง โดย ชาวบ้านใน มีชาวบ้านในชุมชนบ้านดอนยม เข้าร่วมโครงการ ชมุ ชน บ้านดอนยม มีคะแนนเฉล่ียความตระหนัก สร้างเครือข่ายเกษตรอนิ ทรีย์ สู่ตลาดโรงเรียนเพ่ือ สงู กวา่ นกั เรยี น และผลการวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บคา่ ความยงั่ ยนื ของชมุ ชน ทีเ่ ป็นเพศหญิง จำ�นวน 18 เฉล่ยี ความตระหนัก ตอ่ การบริโภคผลผลิตเกษตร คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 60 และ เพศชาย 12 คน คดิ อนิ ทรยี ป์ ลอดสารพษิ และการอนรุ กั ษ์ส่ิงแวดลอ้ ม เป็นร้อยละ 40 และประกอบอาชีพเกษตรกรรม ของชาวบา้ นชมุ ชนุ บา้ นดอนยม กบั นกั เรยี น พบวา่ มากทีส่ ดุ จำ�นวน 18 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 60 รอง ความตระหนักของชาวบา้ นในชุมชน บ้านดอนยม ลงมาคอื รบั ราชการและคา้ ขาย และนักเรียน มีความตระหนักท่ีแตกต่างกันอย่าง มนี ัยสำ�คัญทางสถิติ ท่ีระดับ .05 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการ ปลกู ผกั พบว่า ชาวบา้ นในชมุ ชนบ้านดอนยม รู้จัก ผลวเิ คราะหเ์ ปรยี บเทยี บคา่ เฉลย่ี คา่ เฉลยี่ ผกั ปลอดสารพษิ และเขา้ ใจวา่ ผกั ปลอดสารพษิ คอื ของรายได้ ก่อนและหลงั การเปน็ สมาชกิ เครือข่าย พืชผักที่ไม่มีสารพิษตกค้าง ร้อยละ 96.67 รอง ของชาวบ้านในชุมชน พบว่าจากการเก็บข้อมูล ลงมา คอื พืชผกั ทีไ่ มม่ กี ารใชส้ ารเคมโี ดยเด็ดขาด รายได้เฉลี่ย/เดือนของชาวบ้านดอนยม ก่อนและ ร้อยละ 86.67 และ พืชผักท่ีไม่มีสารเคมีป้องกัน หลังเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายช่วงระยะเวลา และกำ�จดั ศตั รูพชื ตกคา้ ง ร้อยละ 73.33 มคี วาม ละ 3 เดือนจากการใช้แบบสำ�รวจรายได้และการ เขา้ ใจเกย่ี วกบั ผกั อนิ ทรยี ์ คอื เปน็ ผกั ปลอดสารพษิ สัมภาษณ์ พบว่า ก่อนเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือ รอ้ ยละ63.33 และเปน็ ผกั ทไี่ มใ่ ชส้ ารเคมสี งั เคราะห์ ขา่ ยชาวบา้ นกลุม่ ตัวอยา่ งจำ�นวน 30 คนมีรายได้ ร้อยละ 50 ในชุมชนมีแปลงปลูกผักปลอดสาร เฉลี่ยคนละ 5,535.33 บาท/เดือน และหลังเข้า พิษและแปลงปลูกผักอนิ ทรยี ์ เฉลี่ยร้อยละ 81.67 ร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายชาวบ้านมีรายได้เฉล่ีย คนในชมุ ชนไมใ่ ชส้ ารเคมี ในการปลกู พชื ผกั รอ้ ยละ คนละ 6,238.3 บาท/เดือน ซง่ึ จากการวิเคราะห์ 83.33 โดยมี มีผลติ ภัณฑ์ ท่ีทดแทนสารเคมกี ำ�จดั เปรียบเทียบค่าเฉลย่ี คา่ เฉล่ียของรายได้ กอ่ นและ ศัตรูพืช ร้อยละ 93.33 นำ้�หมักจุลินทรีย์ชีวภาพ หลงั การเปน็ สมาชกิ เครอื ขา่ ยของชาวบา้ นในชมุ ชน รอ้ ยละ 60 รองลงมาคือ ปุ๋ยหมกั ชีวภาพ ร้อยละ โดยใช้ สถิติ Pair t-test พบวา่ ชาวบา้ นท่เี ขา้ ร่วม 53.33 รองลงมาคอื น�ำ้ หมกั สมุนไพรและการปลกู เป็นสมาชิกเครือข่าย มีรายได้เฉลี่ย/เดือนเพ่ิมขึ้น พืชไล่แมลง ตามลำ�ดับ ผลการวิเคราะหป์ ัจจัยของ อยา่ งมนี ยั สำ�คญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับ.05 ความสำ�เรจ็ ในการดำ�เนนิ การตลาดเกษตรอนิ ทรยี ์ ในโรงเรยี น จากการสมั ภาษณช์ าวบา้ นชุมชนบ้าน 4.3 บูรณาการกับการทำ�นุบำ�รุงศิลป ดอนยมและนักเรียน พบว่า ปัจจัยความสำ�เร็จท่ี วัฒนธรรม (บรู ณาการอยา่ งไร เชอ่ื มโยงอย่างไร) ชาวบ้านให้ความสำ�คัญมากท่ีสุด คือ ผู้ปกครอง/ ลูกค้า ที่มาซื้อผลิตผลในตลาดโรงเรียน สมาชิก โครงการนเ้ี ปน็ สว่ นส�ำ คญั ในการกระ เครือข่ายในชุมชน ผู้บริหารโครงการ ท่อี ยู่ในระดับ ตนุ้ ใหช้ มุ ชนเกดิ การตนื่ ตวั เรอื่ งเกษตรอนิ ทรยี ์ และ
รายไดเ้ ฉลี่ยคนละ 6,238.3 บาท/เดือน ซึ่งจากการวิเคราะห์เปรียบเทียบค่าเฉลี่ย ค่าเฉล่ียของรายได้ ก่อนและหลังการ เป็นสมาชิกเครือข่ายของชาวบ้านในชุมชนโดยใช้ สถิติ Pair t-test พบว่า ชาวบ้านที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่าย มี รายไดเ้ ฉล่ยี /เดือนเพมิ่ ขน้ึ อยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ.05 144 เอกส4าร.3ปรบะกูรอณบกาากรนาำ�รเสกนับอกผาลงราทนากนารุบปราะรชงุ ุมศวิลิชาปกวารัฒมนหธาวริทรยมาล(ัยบมรู หณาสาารกคาารมอวิจยัยา่ งคไรรั้งทเชี่ ่ือ๑๓มโ:ยสงาอขายบ่ารงิกไารร)วิชาการ โครงการนี้เป็นส่วนสาคัญในการกระตุ้นให้ชุมชนเกิดการต่ืนตัวเร่ืองเกษตรอินทรีย์ และต่ืนตัวเรื่องการผลิต สนิ คา้ ทางการเกษตรอนิ ทรยี ส์ ง่ จาหน่ายตอ่ เพ่อื สรา้ งรายไดใ้ นโครงการตลาดโรงเรยี น ตน่ื ตวั เรอ่ื งการผ4ล.3ติ .1สนิเกคดิ าก้ ทาราเปงกลีย่านรแเกปษลงตรระอบนิบนทเิ รวยีศใส์ นง่ โรงเรียชนาใวหช้ดขีมุ ึน้ ชนจาเกกกษาตรปรรกับรปใรนงุ พพน้ืน้ื ททใี่ มี่หป้กั ลจกู ะพนืชำ�ผเกั มพลนั ด็ธพ์พ้นื นั บธา้ พ์นตชื า่ งๆ นจ�ำเิ สเนวหหรอศนล้ากใ่าา่งเนกยห้ันโรตนร ยะือ่อ งับ จเนเ พวรา านกยีอ ่ืม กกนสา าขา4รใรราหา้.ใย3เงหรด้ใร.ี้ยคน1ขีานวตยึ้นาลเรไกมู้าดดจรดิด้าใู้้เาโนนกรรก่ือพงโาคเกงัรนรกรายีเธาปงรน์ุพรกปลสปืชารีย่รลพร้าับูนกตง้ืนรพปลแบาืชปารย้าตดุงไนลดาพโตงมร้ใหื้นร่างแะฝ้เงนทรๆา่บวยี่ใียใเหบนหกอ้้กษนั ับตจนระอันกชพอินาเนยน้ืรทงี่เูิดยบบรสนปขียา้ม์รใอนโนะอรงมโมงเรามจเางรณนเบลียรจข็ดีนยราณนิจไพกดแากันะ้จลคานัธดร้วเขขสเ์้ีใผพาน้ารลย้าโม่ิธพผคงนขลืศชร้ึนิาตูเนงกคจอยกษาา์กยาตกรา่ารรกเรอธงมาเนิตนรรลทีปย่อา็ดรนลเคยีพนูกรา์มู้เพอื่ันรกาืชงเหธษมเมม์กตลุนษรจี ็ดเอตำ�วิพนรียนอนทันวินรนใธทียช์ ์ร้ซซียอ้ืึ่ง์ ปลหูกาเพมลืชด็ ผพักันพธ์ตันลธอ์พดจ้ืนนบซ้าือ้ นวสั ตด่าุองุปๆกรณสรท์ ้า่จี งาเกปร็นะตบ่อกวานรกทาาสรวนเกษตรอินทรีย อ์ ย ่า ง ต 4่อ.เ3น.่อื3งตเกอ่ ไดิ ปภาคเี ครอื ข่ายด้านเกษตร เรียนรู้ด้านพันธ4์ุพ.3.ืช2พสื้น่งเบสร้าิมนกตาร่าองนๆุรักใหษ์พ้กันับธน์ุพักืชพเรื้นียบน้าน แลอะสนิ ่งทเสรรยี ิม์ เตศลรษาดฐกโริจงพเอรยีเพนียงยใง่ันยโรนื งสเรชู่ ียมุ นชแนละแชลุมะชขนยกาายรอองนคุรัก์ ษ์ จโหซโแปรรนง่ึาลางภเพพชงนกหวกูเเเนาั้ืนนมอร็รนเกพคดิกทธียียกคลราข์พชื่ีมษนัฐุนณเรอ็ดืเชักหแตขกงสไคพจพลนเดารษ่ามระื้นะัยนออืข้จ้าลนตเบออจพนิ็ดงัดธาร้ากงราเพทอ์ตนชืสมพชากัน4นิเกรลนรลันยกก.ธลยี็ด้า3ทตธอ์เไาษา.พพใ์งล์พดร3รดยนศตอันิม่ยีืชใใ้เเจดโขปธูนหหรกพเ์ รหจ์พ้นึน็อนิดื้ค้นย้ฝงนอลืชภปนิซเบว์ก่าผยรพา่าัจา้้ือาทยาสู้่ายีคนื้นจนมงนรวรเีนับยน้ัตมครอเใัยีสท้แาร่อจเาู้รยนั์มรนดี่กสียเอือลงันอื่จมนื่าขขาุอนนว้ ่อืงคา่ึ้ะานหๆุป�ำรงกผบยัญนมมู้เดดการลกอำ�นุัางิจ้ารรผีกษงจนขาปเณปลบะควาเตลกัจเเติยียปห์ทขรกูษจใจน็น้ารอัยตพ่ีจนโาะไหินรคำ�ตชืดกใมอนรทเชต้จลกินงป่ึางา้ซารากใทาณก็นนมอื้ดียารรเรกม์ียธาื่์อนตรลจาลงคัดาคผพาดดสู้วื้นรโาารนเทเมงนม่ีใใลเนินจรร็ดียกโู้สอคพนาู่ื่นร555รหันงยจๆ..ธน.ก1่ังัด2์อผยา่วดยรืนลขยาู่เขสสอ้เเลงนก้อูช่มาคัพษินุมอคนน้ ตธโชคท้จนพร์จนนรก้ังพาบงขแรภกกใณลตบาานกะาระคอเขาคชมนรยรื่นราี้ใวัฐาดืนอวๆัตยแบขธ�ำ อลถ่นา้าเทงนยนะุปาค่ีนเคชนิเก์ครอาาอิดะวงรวกาาคสเกชมมชนวุงมเรลนาคโหชู้สม็ดคตน์ู่ตพนหรลเรันกนงือะอธษก่วหจดม์ ยตานีจาจงรรักาากกนนนแรลวทในนะ้ัง คจพปตแเกลาจอ่ัุณนื้5ษกจะก.บคตเยัชผาผมา้ ่าทุมลรรลนอื่ขลกทสี่ชกลัพอราแ�ำน�ำ รธงค ใง555ลส ดจ์พน...พญั กะ123วาา เน้ืสกเนันา อตคขขกน กรทง่าออ้้าก ีเธรนิ4ากอเมรคคใ่ีปือ์พงสรขโน.ษนน้้นา3ดจคัขรยืชนพพการุตร.จมิา่า2พตเบบงกัายรยนัยเากอตรผ้ืนศษอิหนสมเานื่จาลกรงนิผรบพ์น่งมไๆดัาษิดลปเทงว่ึก้านนัทสดผคัตสฐใลนโรน่ีธลนร�ำคูห่ถกุม่วียอตมิมิ์พเปรกุนอจิานก์อ/งารกาง่วืชมผพเกยนิะคยหรกาลพาตสอก์จง่านโรรลขางคืน้รรงดัเืออพัึ้นคนใพตะรดจบนธน์องหายีอ่โ์�ำช้าน่ืดรุคกกเงุมเนนๆกันรวังนาใชงัตักกนจษนิรทนือ่กถแชละโโ่เี์พางปุกรคลารเาตยี่รันงหสรวยะะอ่วเงรบธ็นรเสเขปกุไปห์ุพยีงา้อ้ไปไาคน็นน็นงดดชืร์ ด้(้ Iงัmตp่อaไโเวกปกcคัตลtนย่ีร)ถมุ่้ีงวใปุเนกขปแราอ้ ้าตะรงหล่สส5 ะ มง ร. ร 3ผคปุ าะ ล์ยดไต(กดบักIาmาด้ามเรชรpงั ขโน่ดตaคย�ำ อ่cรราเะtไงนย)ดปกนิผบัในานงกลรี้ าลแไ นุ่มปกตเตลสปล่ าา้มุู่่หะมหรอนมผะง่วาลดคยยผับ์กงลราเติในชน/น่อผช่ืนลมุรๆละชดพันทับธ์่ี ตาราง 1 ผลการดาเนนิ งานตามผลผลติ /ผลลพั ธโ์ ครงการ ผลผลิต/ผลลพั ธ์ของโครงการ/ตัวชีวัด คา่ เปา้ หมาย (หนว่ ยนบั ) ผลผลติ /ผลลัพธ์โครงการ เชิงปริมาณ (30 คน) 30 คน (ร้อยละ 100) 1) จานวนผรู้ บั การถ่ายทอดเทคโนโลยี 2) ร้อยละความพึงพอใจของผู้รบั การถ่ายทอดฯ (ร้อยละ80)หรอื ระดบั มาก คา่ เฉลี่ย 4.72ระดบั มากที่สดุ 3) รอ้ ยละความพึงพอใจของนักเรียนท่ีเข้ารว่ ม (รอ้ ยละ80)หรอื ระดบั มาก ค่าเฉล่ีย 4.72ระดบั มากทีส่ ุด โครงการ 4) ร้อยละผูร้ ับการถ่ายทอดฯ มีการนาไปใช้ (รอ้ ยละ80)หรอื ระดับมาก คา่ เฉลีย่ 4.48ระดับมาก ประโยชน์ 5) จานวนสถานประกอบการทน่ี าองค์ความรู้/ (1แหง่ /ราย) โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลยั ผลงาน มหาสารคาม(ฝา่ ยมธั ยม) ไดน้ าเสนอผลงานเปน็ โปสเตอร์ ผลงานวิจยั เรอื่ ง การพฒั นาการ สร้างเครือข่ายเกษตรอนิ ทรยี ์ สู่ ตลาดโรงเรียน เพื่อความยง่ั ยืน
5.2 ขอ้ คน้ พบอน่ื ๆทน่ี อกเหนือจากวัตถุประสงค์ (Impact) ในแต่ละระดับ เชน่ ระดบั กล่มุ เปา้ หมาย 1) จานวนผตรู้ บัามกโาครรถง่ากยาทร อกดลเ่มุ ทอคงโคน์กโรลในยชี ุมชน (30 คน) 30 คน (รอ้ ยละ 100) 2) ร้อยล5ะ.3ควกามรขพยึงาพยอผใลจไขปอสง่หู ผนู้ร่วับยกงานรถอื่นายๆททอ่เี ดกฯี่ยวขอ้ ง(ร้อยละ80)หรือระดับมาก ค่าเฉล่ีย 4.72ระดบั มากทสี่ ดุ 3) ผรลอ้ กยาลรดะาคเวนานิ มงพานึงพตาอเอมใกจผสลขารผอปลงรตนิะก/ักอผบเลรกายีลรพันนำ�ธทเสโ์ เี่ คนขอรา้ ผงรกลว่ งามารนสการรปุ ปไรดะช(้ดรุมงั วอ้ ติชย่อากลไาปะร8นม0้ี ห)าหวิทรยอื าลรัยะมดหับาสมาราคกามวิจัคย า่ คเรฉั้งลท่ยีี่ ๑4๓ .7: 2สารขะาบดรบั ิกามราวิกชาทกา่ีสรุด 145 โครงการ 4) รอ้ ยละผู้รับการถ่ายทอดฯ มกี ารนาไปใช้ (ร้อยละ80)หรือระดับมาก คา่ เฉล่ีย 4.48ระดับมาก ตปารระาโงย1ชนผ์ลการดาเนนิ งานตามผลผลติ /ผลลพั ธโ์ ครงการ 5) จาผนลวผนลสติ ถ/าผนลปลรพั ะธก์ขออบงกโาครรทงี่นกาาอรง/ตค์ควั ชวาีวมัดรู/้ คา่ เป้า(ห1มแาหยง่ /(รหานย่ว) ยนับ) โรงเผรลยี ผนลสติาธ/ติผมลหลาพั วธิทโ์ ยคารลงัยการ เผชลิงงปานริมาณ มหาสารคาม(ฝา่ ยมัธยม) ไดน้ าเสนอผลงานเปน็ โปสเตอร์ ผลงานวิจัยเรื่อง การพฒั นาการ สร้างเครอื ข่ายเกษตรอินทรีย์ สู่ ตลาดโรงเรียน เพอื่ ความยั่งยืน 6) บทความวิชาการ ผลงานที่ไดร้ บั การตพี ิมพ์ 1 เร่ือง ของชมุ ชน The Development เผยแพร่ organic agriculture network to Market in the School for Sustainable Community นาเสนอในสาธติ วิชาการ ครัง้ ท่6ี โรงเรยี นสาธิต \"พิบลู บาเพ็ญ\" มหาวทิ ยาลยั บรู พา -ศูนย์การเรยี นรูเ้ กษตรอินทรีย์ฯ ชุมชนบา้ นดอนยม -คมู่ อื การจดั ต้งั ศูนย์การเรียนรู้ 7) อนื่ ๆ (ตวั อย่างเช่น) ( 1 แหง่ ) เครอื ข่ายเกษตรอนิ ทรีย์ฯ - ศูนย์การเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรูช้ ุมชน ( 1 เลม่ /เรือ่ ง) - ธนาคารกรงุ ไทย โครงการ - คมู่ ือ ชุดความรู้ ( 1 แห่ง) “กรุงไทยตน้ กลา้ สีขาว” - ภาคเี ครอื ข่ายการดาเนินงาน ( 1 เล่ม/เร่อื ง) - เร่อื ง การพัฒนาการสร้าง - ผลผลติ อน่ื ๆ งานวจิ ยั คู่ขนานการจดั ดาเนนิ เครือข่ายเกษตรอินทรยี ์ ส่ตู ลาด โรงเรียน เพอ่ื ความย่ังยนื ของชมุ ชน โครงการ (The Development organic agriculture network to Market in the School for Sustainable Community) 6. บทสรปุ (กระบวนการหรือองค์ความรใู้ หมท่ ่คี วรพฒั นาหรือต่อยอดเพื่อใหเ้ กดิ ความย่ังยืนในชมุ ชน)
146 เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ บทสรุป มีการอบรมภาคทฤษฎี เร่ืองวิถีเกษตร อินทรีย์ วิถีแห่งการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม โดย โครงการศูนย์การเรียนรู้เครือข่ายเกษตร มูลนิธิส่ิงแวดล้อมศึกษา โดย ผศ.ดร.ประยูร อินทรีย์ ตลาดโรงเรียน ความย่ังยืนสู่ชุมชน เป็น วงศจ์ นั ทรา ประธานมลู นธิ สิ ง่ิ แวดลอ้ มศกึ ษา เรอื่ ง โครงการภายใต้โครงการหนึ่งหลักสูตรหนึ่งชุมชน การปลกู พชื และเลยี้ งสตั วแ์ บบเกษตรอนิ ทรยี ์ เรอื่ ง ประจำ�ปีงบประมาณ 2560 ของโรงเรียนสาธิต “เศรษฐศาสตร์รากหญ้า ตลาดโรงเรียน ยั่งยืนสู่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(ฝ่ายมัธยม) โดยมี ชมุ ชน” เรอ่ื ง “ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ กษตรอนิ ทรยี ์ ตลาด วตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ จดั ตง้ั ศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ กษตรอนิ ทรยี ์ โรงเรยี น ความยัง่ ยนื สู่ชุมชน” โดยปราชญช์ าวบ้าน ชุมชนตน้ แบบ ไดแ้ ก่ ชมุ ชนบา้ นดอนยม ตำ�บลท่า มกี ารอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเรอ่ื ง “การสรา้ งเครอื ขา่ ย ขอนยาง อำ�เภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ตลาดผักปลอดสารพิษแบบเกษตรอินทรีย์” เร่ือง และหาแนวทางจัดทำ� “ตลาดโรงเรยี น” เพ่อื รบั จดั “การท�ำ น�ำ้ หมักชวี ภาพรูปแบบต่างๆ” เรื่อง “การ จ�ำ หนา่ ย สนิ คา้ เกษตรอนิ ทรยี ์ พชื ผกั ปลอดสารพษิ เลี้ยงไส้เดือนในบอ่ วงปนู การทำ�ปุ๋ยมูลไสเ้ ดอื นไว้ จากชุมชนต้นแบบมาบริการจัดจำ�หน่ายให้กับ จ�ำ หนา่ ย” เร่ือง “การเล้ียงสัตวพ์ นื้ บา้ นสำ�หรับการ ผู้ปกครองนักเรียน บุคลากร ตลอดผู้สนใจอื่นๆ บรโิ ภคและจ�ำ หนา่ ย” เรอ่ื ง “การท�ำ บญั ชชี มุ ชนและ ได้เลือกซ้ือหาไปบริโภค และเป็นการสร้างความ ท�ำ บญั ชคี รวั เรอื น”โดยปราชญช์ าวบา้ น และวทิ ยากร เข้มแข็งให้ชุมชนต้นแบบ เพ่ือให้เป็นชุมชนท่ีใช้ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ในการเลยี้ งชุมชน ของตนเองได้อย่างย่ังยืน เป็นรูปธรรมให้ชุมชน มกี ารด�ำ เนนิ งานภาคปฏบิ ตั กิ าร โรงเรยี นสาธติ อื่นๆ สามารถนำ�องค์ความรู้ดังกล่าวนี้ไปปรับ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายมัธยม) ได้จัด ใชไ้ ดก้ บั ชมุ ชนตนเองตอ่ ไป โครงการดงั กลา่ วนไี้ ดม้ ี ด�ำ เนนิ งานโครงการศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ครอื ขา่ ยเกษตร การบรู ณาการเขา้ กบั การเรยี นการสอนดา้ นสงั คมศกึ ษา อินทรีย์ ตลาดโรงเรียน ความย่ังยืนสู่ชุมชน ด้วย เนื้อหาการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์ และบูรณาการ การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ จนเกิดงานวิจัยเร่ือง การพัฒนาเครือข่ายเกษตร ณ ศาลาประชาคมบ้านดอนยม หมู่ท่ี 7 ตำ�บล อินทรีย์ สู่ตลาดโรงเรียน เพื่อความยั่งยืนสู่ชุมชน ท่าขอนยาง อ�ำ เภอกนั ทรวชิ ัย จงั หวดั มหาสารคาม มีระยะการดำ�เนินงานอยู่ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม เป็นศูนย์ถ่ายทอดความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ และ 2559 จนสิ้นสุดโครงการในวันท่ี 30 กันยายน จัดดำ�เนินการแต่งตั้งผู้ประสานงานชุมชน เรื่อง 2560 มผี เู้ ขา้ รว่ มโครงการทงั้ สน้ิ เปน็ อาจารย(์ คณะ การด�ำ เนินงานด้าน“ตลาดโรงเรียน” โดยเปน็ ผ้นู ำ� ทำ�งานและทีมวิจัย)จำ�นวน 2 คน นักเรียน นิสิต ชมุ ชนและตัวแทนชุมชน รวมท้ังสน้ิ จ�ำ นวน 2 คน บุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้ปกครอง ทำ�หน้าที่ประสานงาน แจ้งข้อมูลข่าวสาร รับส่ง ผสู้ นใจอนื่ จ�ำ นวนไมต่ �ำ่ กวา่ 100 คน สมาชกิ เครอื สินค้าเกษตรอินทรีย์ ทำ�บัญชีชุมชน ในส่วนพื้นท่ี ขา่ ยเกษตรอนิ ทรยี จ์ ากชมุ ชน จ�ำ นวน 35 คน ภาค/ี ของทางโรงเรยี น ไดจ้ ดั ตงั้ ศนู ยจ์ ำ�หนา่ ยสนิ คา้ เกษตร องคก์ รทงั้ ภายนอกและภายใน จ�ำ นวน 2 เครอื ขา่ ย อินทรีย์ ตลาดโรงเรียน โดยนำ�นักเรียนท่ีเรียนใน คือ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม รายวชิ าสงั คมศกึ ษา มาด�ำ เนนิ งานดา้ นตลาดโรงเรยี น (ฝ่ายมัธยม) ชุมชนหรือองค์กรอ่ืนท้ังภาครัฐ ควบคกู่ บั การเรยี นการสอนดา้ นเศรษฐศาสตร์ การ และเอกชนทสี่ นใจขอเข้าร่วมเปน็ เครอื ข่ายสมาชกิ ท�ำ บญั ชรี บั สง่ สนิ คา้ การตรวจสอบหาสารพษิ ตกคา้ ง โครงการ ได้แก่ชุมชนบ้านขี และชุมชนบ้านกลาง ในผกั การท�ำ บญั ชคี รวั เรือน การลงพืน้ ทช่ี ุมชนใน ต�ำ บลขามเรยี ง อ�ำ เภอกนั ทรวชิ ยั จงั หวดั มหาสารคาม
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 147 การเกบ็ ขอ้ มลู ทางดา้ นสถติ ิ การท�ำ การเกษตร การ แลว้ นักเรียนยังเรยี นรู้จากประสบการณต์ รง ผา่ น ใชส้ ารเคมใี นภาคการเกษตร ตลอดจนให้นักเรียน การขายสินค้าในตลาดโรงเรียน ควบคู่กันกับชาว ไดท้ ดลองปฏบิ ตั งิ านดา้ นการขายสนิ คา้ ผลติ ภณั ฑ์ ชุมชนต้นแบบและสมาชิกเครือขา่ ยเกษตรอนิ ทรีย์ พืชผกั เนอื้ สัตว์พื้นบ้าน ปลา เป็ด ไก่ กบ เปน็ ตน้ กไ็ ดร้ บั คา่ ตอบแทนจากการผลติ สนิ คา้ เกษตรอนิ ทรยี ์ ซง่ึ นอกเหนอื จากกระบวนการเรยี นรใู้ นรายวชิ าเรยี น สง่ ขายตลาดโรงเรยี น เช่นกัน เอกสารอ้างอิง เชษฐา จงกนกพล. รปู แบบการพฒั นาการด�ำ เนินงานเครือข่ายตลาดผกั ปลอด สารพษิ ในโรงพยาบาล บรบือ อำ�เภอบรบอื จังหวดั มหาสารคาม. วิทยานิพนธ.์ สาธารณสขุ ศาสตรมหา บณั ฑิต. มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. มหาสารคาม. 2557. บุญชม ศรสี ะอาด. การวจิ ยั เบ้ืองตน้ . พมิ พ์ครั้งท่ี 2. สวุ รี ิยาสาส์น. กรุงเทพฯ, 2535. บุญร่วม คำ�จันทราช. กิจกรรมในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่เอ้ือต่อการพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนใน ชนบท. วิทยานิพนธ์. ปร.ด.สาขาสิ่งแวดล้อมศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. มหาสารคาม. 2554. ยรรยง อินม่วงและคณะ. การจัดการระบบนิเวศฟาร์มเกษตรอินทรีย์. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. มหาสารคาม. 2550. สรุ วาท ทองบุ. การวจิ ัยทางการศกึ ษา. คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม. มหาสารคาม. 2550. วนิ ยั บญุ ย.ู้ การพฒั นาการด�ำ เนนิ งานตลาดจ�ำ หนา่ ยผกั ปลอดสารพษิ ระดบั ชมุ ชนโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำ�บลบ้านนิคม ตำ�บลกระจาย อำ�เภอป่าต้ิวจังหวัดยโสธร. วิทยานิพนธ์. สาธารณสขุ ศาสตรมหาบณั ฑติ . มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. มหาสารคาม. 2554. รชั ดา สิรภิ าณุพงศ์. พฤตกิ รรมผู้บริโภคและอปุ สงค์ในการบริโภคผักของครวั เรือนในกรงุ เทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร : ฐานข้อมูลวทิ ยานิพนธไ์ ทย. 2546.
ยรรยง อนิ มว่ งและคณะ. การจดั การระบบนิเวศฟาร์มเกษตรอินทรีย.์ รายงานการวิจยั . มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม. มหาสารคาม. 2550. สรุ วาท ทองบุ. การวิจยั ทางการศึกษา. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม. มหาสารคาม. 2550. 148 เอกสารประกอบการนำ�เสวนินอัยผลบงุญานยกู้. ารกปารรพะชัฒุมวนิชาากกาารรด้ามเหนาินวงิทายนาลตัยลมาหดาจส้าาหรคนา่ามยวผิจักัยปลคอรัด้งทสี่าร๑พ๓ ิษ:รสะดาขับาชบุรมิกชานรโวริชงาพกยาราบาลส่งเสริม สุขภาพต้าบลบ้านนิคม ต้าบลกระจาย อ้าเภอป่าติวจังหวัดยโสธร. วิทยานิพนธ์. สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. มหาสารคาม. 2554. รัชดา สริ ิภาณพุ งศ์ . พฤตกิ รรมผบู้ ริโภคและอปุ สงคใ์ นการบริโภคผกั ของครวั เรอื นใน รูปการจัดดำ�เนกรินุงเทกพิจมหกานรครร. มกรโุงคเทรพมงหากนคารร: ฐานขอ้ มูลวิทยานิพนธไ์ ทย. 2546. รปู การจดั ดา้ เนินกิจกรรมโครงการ
เอกสารประกอบการนำ�เสนอผลงานการประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาสารคามวิจัย ครั้งที่ ๑๓ : สาขาบริการวิชาการ 149 หมายเหตุ : 1. ทั้งนบี้ ทสรปุ โครงการดังกล่าวจะถกู นาไปพิมพ์เผยแพรเ่ ป็น “เอกสารประกอบการประชมุ ” ในวันงานประชมุ วิชาการฯ 2. จานวนบทความ 4 หนา้ กระดาษ A4 โดยใช้อกั ษร TH SarabunPSK ขนาดตวั อักษร 16 พรอ้ มแนบภาพถา่ ย 5-10 รปู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176