Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มที่ 3 คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ

เล่มที่ 3 คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ

Published by kanya jirathumtrakul, 2021-02-02 16:01:10

Description: เล่มที่ 3 คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ

Search

Read the Text Version

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ - บทที่ 13 การแขง่ ขนั ทางการคา้ ขอ้ 13.1: วตั ถปุ ระสงค์ บทนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าในตลาด และเสริมสร้างประสิทธิภาพ เชิงเศรษฐกิจ ตลอดจนสวัสดิภาพของผู้บริโภค ผ่านการบัญญัติและคงไว้ซึ่งกฎหมายและระเบียบ ข้อบังคับเพื่อปูองกันการกระทาอันเป็นการผูกขาด ลด หรือจากัดแข่งขันทางการค้า รวมถึง ผ่านความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อการพัฒนาและบังคับใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขัน ทางการค้าระหว่างภาคี การดาเนินการตามวัตถุประสงค์เหล่าน้ีจะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ภาคี ตามความตกลงฉบับนี้ รวมถงึ อานวยความสะดวกการค้าและการลงทนุ ระหวา่ งภาคี ข้อ 13.2: หลกั การพื้นฐาน 1. ภาคแี ตล่ ะฝาุ ยตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามบทนโ้ี ดยสอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงคแ์ หง่ บทนี้ 2. ดว้ ยรบั ทราบถึงสทิ ธิและพนั ธกรณขี องภาคีแตล่ ะฝุายภายใตบ้ ทนี้ กลุ่มภาคตี ระหนักถงึ (เอ) สทิ ธิอธปิ ไตยของภาคีแต่ละฝุายในการพัฒนา กาหนด บริหารจัดการ และบังคับใช้ กฎหมาย ระเบยี บขอ้ บงั คบั และนโยบายด้านการแข่งขันทางการคา้ ของตนและ (บี) ความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญระหว่างกลุ่มภาคีในด้านขีดความสามารถ และระดบั การพัฒนาในด้านกฎหมายและนโยบายการแข่งขันทางการค้า 13-1

- ค�ำ แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - ข้อ 13.3: มาตรการที่เหมาะสมตอ่ กจิ กรรมท่ีจากดั การแขง่ ขัน1 1. ภาคีแต่ละฝุายต้องบัญญัติหรือคงไว้ซึ่งกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขัน ทางการค้าเพื่อปูองกันกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน2 และต้องบังคับใช้กฎหมายและระเบียบ ขอ้ บังคับดงั กลา่ วดว้ ย 2. ภาคีแต่ละฝุายต้องจัดต้ังหรือคงไว้ซ่ึงหน่วยงานเพื่อบังคับใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ดา้ นการแขง่ ขันทางการคา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธิผล 3. ภาคีแต่ละฝุายต้องทาให้ม่ันใจถึงความเป็นอิสระในการตัดสินใจของหน่วยงานในประเด็น ท่ีเกีย่ วขอ้ งกับการบงั คับใช้กฎหมายและระเบยี บข้อบังคบั ด้านการแขง่ ขนั ทางการค้าของตน 4. ภาคีแต่ละฝุายต้องบังคับใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้าของตน โดยไม่เลอื กปฏบิ ตั ิโดยอาศัยเหตแุ ห่งสญั ชาติ 5. ภาคีแต่ละฝุายต้องบังคับใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้า แก่ทุกองค์กรที่ดาเนินกิจกรรมทางพาณิชย์โดยไม่คานึงถึงผู้เป็นเจ้าของ การยกเว้น กา ร บั ง คั บ ใช้ ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ ร ะ เ บี ย บ ข้ อ บั ง คั บ ด้ า น ก า ร แ ข่ ง ขั น ท า ง ก า ร ค้ า ต้ อ ง เ ป็ น ไ ป โดยโปร่งใส และตัง้ อย่บู นพนื้ ฐานของนโยบายหรือประโยชนส์ าธารณะ 6. ภาคีแต่ละฝุายตอ้ งเผยแพร่กฎหมายและระเบียบข้อบงั คับดา้ นการแข่งขันทางการค้าของตน แนวปฏิบัติต่าง ๆ ท่ีออกตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับดังกล่าวต่อสาธารณะ เว้นแต่เปน็ กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคบั ทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับกระบวนการดาเนินงานภายใน 1 ข้อนใ้ี ชบ้ งั คับตาม (เอ) ภาคผนวก 13 เอ (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) แกบ่ รูไนดารุสซาลาม) (บ)ี ภาคผนวก 13 บี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความรว่ มมอื ) แกก่ มั พชู า) (ซี) ภาคผนวก 13 ซี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมอื ) แก่ สปป.ลาว) และ (ดี) ภาคผนวก 13 ดี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความรว่ มมือ) แก่เมียนมา) 2 ตัวอย่างของกิจกรรมเช่นว่านั้นอาจรวมถึงการตกลงร่วมกันอันเป็นการผูกขาด ลด หรือจากัดการแข่งขันทางการค้า การใช้อานาจเหนอื ตลาดโดยมิชอบ และการควบรวมและซื้อกิจการอันเปน็ การผกู ขาด ลด หรือจากดั การแข่งขนั ทางการค้า 13-2

- ค�ำ แปลอย่างไม่เปน็ ทางการ - 7. ภาคีแต่ละฝุายต้องเผยแพร่เหตุผลของคาตัดสินหรือคาสั่งลงโทษหรือเยียวยาใด ๆ ภายใตก้ ฎหมายและระเบยี บขอ้ บังคับด้านการแขง่ ขนั ทางการค้าของตนต่อสาธารณะ รวมทั้ง การอุทธรณใ์ ด ๆ สบื เนอื่ งจากคาตัดสนิ หรอื คาส่งั ดังกลา่ ว ท้ังน้ี ภายใต้ (เอ) (หนึ่ง) กฎหมายและระเบยี บข้อบงั คับ (สอง) ความจาเปน็ ในการคุม้ ครองข้อมลู อันเปน็ ความลับ หรือ (สาม) ความจาเป็นในการคุ้มครองข้อมูลบนพ้ืนฐานของนโยบายสาธารณะหรือ ประโยชนส์ าธารณะ และ (บี) การปกปดิ ขอ้ มลู ของคาตัดสินหรือคาสั่งตามเงื่อนไขท่ีระบุไว้ในอนุวรรค (เอ) (หน่ึง) ถึง (สาม) 8. ภาคีแต่ละฝุายต้องทาให้มั่นใจว่า ก่อนที่จะมีการลงโทษหรือเยียวยาแก่บุคคลหรือองค์กรใด สาหรับการฝุาฝืนกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้า บุคคลหรือ องค์กรดังกล่าวจะต้องได้รับทราบเหตุผลแห่งข้อกล่าวหาน้ันว่าตนได้ฝุาฝืนบทบัญญัติ แห่งกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้าเป็นลายลักษณ์อักษร หากเป็นไปได้ และตอ้ งได้รับโอกาสตามสมควรในการชแ้ี จงและแสดงพยานหลกั ฐาน 9. ภายใต้ความจาเป็นในการปกปิดข้อมูลเพื่อคุ้มครองข้อมูลอันเป็นความลับ ภาคีแต่ละฝุาย ต้องเผยแพร่เหตุผลของคาตัดสินหรือคาส่ังลงโทษหรือเยียวยาใด ๆ ภายใต้กฎหมาย และระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้าของตน รวมท้ังการอุทธรณ์ใด ๆ สืบเน่ืองจาก คาตดั สินหรือคาส่ังดังกล่าวต่อบุคคลหรือองค์กรที่จะตกอยู่ภายใต้คาส่ังลงโทษหรือเยียวยา ดังกลา่ ว3 10. ภาคีแต่ละฝุายต้องทาให้มั่นใจว่า บุคคลหรือองค์กรที่จะตกอยู่ภายใต้คาสั่งลงโทษ หรือเยียวยาตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้าของตนนั้น มสี ิทธไิ ดร้ ับการทบทวนโดยอสิ ระหรือมสี ิทธิอุทธรณ์คาสง่ั ลงโทษหรอื เยยี วยานนั้ ได้ 11. ภาคีแต่ละฝุายตระหนักถึงความสาคัญของความรวดเร็วในการดาเนินคดีด้านการแข่งขัน ทางการคา้ 3 วรรคนไ้ี มใ่ ช้บงั คบั แก่การตดั สนิ ของคณะลกู ขุนในการพิจารณาคดอี าญา 13-3

- คำ�แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - ขอ้ 13.4: ความร่วมมอื 4 ก ลุ่ ม ภ า คี ต ร ะ ห นั ก ถึ ง ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ห ว่ า ง อ ง ค์ ก ร ก า กั บ ดู แ ล ก า ร แ ข่ ง ขั น ทางการค้าในการเสรมิ สร้างการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างมีประสิทธิผล ในการนี้ กลุ่มภาคีอาจร่วมมอื กันในประเด็นต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ผ่านองค์กรกากับดูแลการแข่งขันทางการค้า ภายใต้กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และผลประโยชน์ อันสาคัญของภาคีแต่ละฝุาย ในขอบเขตทรัพยากรของแต่ละฝุายเท่าที่มี รูปแบบของความร่วมมือ ดงั กลา่ วอาจรวมถงึ (เอ) การแจ้งโดยภาคฝี ุายหนึ่งไปยังภาคอี ีกฝาุ ยหน่ึงถึงกิจกรรมทเี่ กี่ยวข้องกับการบังคับใช้ ก ฎ ห ม า ย ข อ ง ต น ซึ่ ง อ า จ ส่ ง ผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ อั น ส า คั ญ ข อ ง ภ า คี อกี ฝาุ ยหน่งึ นั้น โดยเร็วเทา่ ทจี่ ะเป็นไปไดต้ ามสมควร5 (บี) เม่ือมีการร้องขอ การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่มภาคีเพ่ือพิจารณาถึงเร่ืองใด ๆ อันเก่ียวเน่ืองกับการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้าซึ่งส่งผลกระทบ อยา่ งมีนยั สาคญั ต่อผลประโยชนอ์ นั สาคญั ของภาคผี ู้ร้องขอ (ซ)ี เมื่อมีการร้องขอ การแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างกลุ่มภาคีเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ ห รื อเ พ่ื ออ า น ว ย ค ว า ม ส ะด ว กใ น ก า ร บั ง คับ ใ ช้ ก ฎ ห ม า ย ก า ร แ ข่ง ขัน ท า ง ก า ร ค้ า อย่างมีประสิทธิผล และ (ดี) เมอ่ื มกี ารร้องขอ การประสานการปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายระหว่างกลุ่มภาคี ที่เกีย่ วข้องกบั กจิ กรรมทจี่ ากัดการแข่งขัน ซง่ึ เปน็ การกระทาเดียวกันหรือเก่ียวข้องกนั 4 ขอ้ นใ้ี ชบ้ ังคับตาม (เอ) ภาคผนวก 13 เอ (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมอื ) แก่บรูไนดารุสซาลาม) (บ)ี ภาคผนวก 13 บี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความรว่ มมอื ) แกก่ มั พชู า) (ซ)ี ภาคผนวก 13 ซี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมอื ) แก่สปป.ลาว) และ (ดี) ภาคผนวก 13 ดี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมอื ) แก่เมยี นมา) 5 ในกรณีท่ีมีการแจ้งเตือนไปยังองค์กรกากับดูแลการแข่งขันทางการค้าของญี่ปุนตามความในอนุวรรคนี้ การแจ้งเตือน ควรไดร้ ับการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางการทตู การยืนยันเช่นว่านั้นควรกระทาทันทีเท่าที่จะเป็นไปได้ หลงั จากมกี ารตดิ ต่อกนั ระหว่างองค์กรกากบั ดูแลการแขง่ ขันทางการคา้ ของภาคที ีเ่ กย่ี วขอ้ งแล้ว 13-4

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ - ขอ้ 13.5: ความลับของขอ้ มลู 1. บทนี้ไม่บังคับให้ภาคีหนึ่งต้องแบ่งปันข้อมูลโดยขัดต่อกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และผลประโยชน์อนั สาคญั ของภาคีนั้น 2. ในกรณีที่ภาคีหน่ึงร้องขอข้อมูลอันเป็นความลับตามบทน้ี ภาคีผู้ร้องขอจะต้องแจ้งต่อภาคี ทไ่ี ด้รบั การร้องขอ เกย่ี วกับ (เอ) วัตถุประสงค์แหง่ การรอ้ งขอนน้ั (บี) เจตนารมณ์ในการนาขอ้ มลู ทรี่ อ้ งขอไปใช้ และ (ซ)ี กฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับใด ๆ ของภาคีผู้ร้องขอซึ่งอาจกระทบต่อความลับ ของข้อมูล หรือซึ่งอาจบังคับให้นาข้อมูลนั้นไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นที่ภาคี ท่ไี ดร้ ับการร้องขอมไิ ด้ตกลงไว้ 3. การแบ่งปันข้อมูลอันเป็นความลับระหว่างกลุ่มภาคีใด ๆ และการใช้ข้อมูลดังกล่าวจะต้อง ตง้ั อยู่บนพ้นื ฐานของขอ้ ตกลงและเง่ือนไขซ่ึงได้ตกลงกนั โดยภาคีทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 4. หากข้อมูลที่ได้รับการแลกเปลี่ยนกันภายใต้บทนี้เป็นข้อมูลท่ีได้รับการแลกเปล่ียนกัน บนพ้ืนฐานอันเป็นความลับ ในกรณีเช่นนี้ เว้นแต่จะสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบ ข้อบงั คบั ภาคที รี่ ับข้อมูลน้นั ตอ้ ง (เอ) รกั ษาความลับของข้อมลู ทไ่ี ด้รับมานน้ั (บี) ใช้ข้อมูลที่ได้รับมานั้นตามวัตถุประสงค์ท่ีได้ระบุไว้ ณ เวลาที่มีการร้องขอเท่านั้น เว้นแต่จะไดร้ บั อนุญาตโดยภาคีท่ีให้ข้อมลู น้นั เปน็ อย่างอ่ืน (ซ)ี ไม่ใช้ข้อมูลท่ีได้รับมาน้ันเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีอาญาโดยศาล หรือผู้พิพากษา เว้นแต่ข้อมูลดังกล่าวน้ันได้จัดหามาเพ่ือใช้ในการพิจารณาคดีอาญา ผา่ นชอ่ งทางการทูตหรือช่องทางอืน่ ทก่ี าหนดไว้ในกฎหมายของภาคีทเ่ี กีย่ วขอ้ ง (ด)ี ไม่เปิดเผยขอ้ มลู ท่ีได้รับมานั้นให้แก่หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาต จากภาคที ่ใี หข้ ้อมลู น้นั และ (อ)ี ปฏบิ ตั ิตามเงื่อนไขอ่นื ใดทภ่ี าคที ใ่ี ห้ขอ้ มลู นนั้ ได้กาหนดไว้ 13-5

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ - ขอ้ 13.6: ความร่วมมือทางเทคนคิ และการสรา้ งขีดความสามารถ กลุ่มภาคีตกลงกันว่า เป็นผลประโยชน์ร่วมกันในอันท่ีจะทางานร่วมกัน ทั้งในระดับพหุภาคี และทวิภาคใี นกจิ กรรมความร่วมมือทางเทคนิค เพ่ือสร้างขีดความสามารถที่จาเป็นในการเสริมสร้าง การพัฒนานโยบายด้านการแข่งขันทางการค้าและการบังคับใช้กฎหมายการแข่งขันทางการค้า โดยคานงึ ถึงทรพั ยากรทมี่ ีอย่ขู องกลุ่มภาคี กจิ กรรมความร่วมมอื ทางเทคนคิ อาจรวมถงึ (เอ) การแลกเปล่ียนประสบการณ์และข้อมูลท่ีไม่เป็นความลับในการพัฒนาและ การบงั คับใช้กฎหมายและนโยบายการแข่งขันทางการคา้ (บี) การแลกเปลี่ยนท่ีปรึกษาและผู้เช่ียวชาญด้านนโยบายและกฎหมายการแข่งขัน ทางการค้า (ซี) การแลกเปลยี่ นเจ้าหน้าที่ขององค์กรกากับดูแลการแข่งขันทางการค้าเพื่อวัตถุประสงค์ ในการฝึกอบรม (ด)ี การเข้าร่วมโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการแข่งขันทางการค้า ของเจ้าหนา้ ทจี่ ากองค์กรกากบั ดูแลการแข่งขันทางการคา้ และ (อ)ี กิจกรรมอื่นใดท่ีกลมุ่ ภาคจี ะได้ตกลงกนั ขอ้ 13.7: การคุม้ ครองผบู้ ริโภค 1. กลุ่มภาคีตระหนักถึงความสาคัญของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคและการบังคับใช้กฎหมาย ดงั กลา่ ว ตลอดจนความร่วมมือระหว่างกลุ่มภาคีในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพือ่ ให้บรรลวุ ตั ถุประสงค์ของบทนี้ 2. ภาคแี ตล่ ะฝาุ ยต้องบญั ญตั หิ รือคงไว้ซ่ึงกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับเพ่ือปูองกันการปฏิบัติ ทางการค้าอนั เปน็ การหลอกลวง หรอื การโฆษณาอนั เป็นความเท็จหรือการหลอกลวง 3. ภาคีแต่ละฝุายตระหนักถึงความสาคัญในการพัฒนาความตระหนักรู้และการเข้าถึงกลไก การเยยี วยาผู้บรโิ ภค 4. กลุ่มภาคีอาจร่วมมือกันในเรื่องท่ีมีผลประโยชน์ร่วมกันในด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ความร่วมมือเช่นว่านั้นจะต้องดาเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ท่เี กยี่ วข้องตามทรัพยากรที่มอี ยู่ของภาคี 13-6

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ - ขอ้ 13.8: การปรึกษาหารือ เพ่ือสร้างเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันในระหว่างกลุ่มภาคี หรือเพ่ือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายใต้บทน้ี เมื่อมีการร้องขอ ภาคีท่ีได้รับการร้องขอต้องเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือกับภาคีผู้ร้องขอ ในการร้องขอดังกล่าว ภาคีผู้ร้องขอต้องช้ีแจง หากเก่ียวข้อง ว่าเร่ืองน้ันกระทบต่อผลประโยชน์ สาคัญ รวมถึงการค้าหรือการลงทุนระหว่างกลุ่มภาคีท่ีเกี่ยวข้องอย่างไร ภาคีท่ีได้รับการร้องขอ ตอ้ งใหก้ ารพจิ ารณาอย่างเตม็ ท่แี ละเต็มใจต่อข้อกังวลของภาคผี ู้ร้องขอ ข้อ 13.9: การไม่ใชบ้ ังคับการระงบั ข้อพพิ าท ไมม่ ีภาคีใดใช้การระงบั ข้อพพิ าทภายใต้บทที่ 19 (การระงับขอ้ พิพาท) สาหรับเรื่องใดที่เกิดขึ้นภายใต้บทนี้ 13-7

- ค�ำ แปลอย่างไม่เปน็ ทางการ - ภาคผนวก 13 เอ การใชบ้ งั คบั ข้อ 13.3 (มาตรการท่เี หมาะสมตอ่ กจิ กรรมที่จากดั การแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) แก่บรูไนดารุสซาลาม 1. ในกรณีท่ีบรูไนดารุสซาลามยังมิได้ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้วรรค 1 และ 2 ของข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกจิ กรรมท่จี ากดั การแขง่ ขัน) ในวันที่ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ บรูไนดารุสซาลามต้องปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าวไม่ช้ากว่าสาม (3) ปีนับแต่วันที่ ความตกลงฉบบั นมี้ ผี ลใชบ้ งั คบั 2. วรรค 3 ถึง 11 ของข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความรว่ มมือ) ใชบ้ งั คับกับบรูไนดารุสซาลามโดยเรว็ ท่ีสุดเท่าท่ีบรูไนดารุสซาลามปฏิบัติตาม พันธกรณีภายใต้วรรค 1 และ 2 ของข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัด การแข่งขัน) และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ไม่ช้ากว่าสาม (3) ปีนับแต่วันที่ความตกลงฉบับน้ี มีผลใช้บงั คบั 3. ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่านสาม (3) ปีดังกล่าว บรูไนดารุสซาลามต้องดาเนินการที่จาเป็น เพ่ือทาให้มั่นใจว่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัด การแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ได้เมื่อส้ินสุดระยะเวลาสาม (3) ปีดังกล่าว และ จะต้องพยายามปฏบิ ตั ิตามพนั ธกรณภี ายใต้ขอ้ เหลา่ น้ันกอ่ นส้นิ สุดระยะเชน่ วา่ น้นั 4. ในกรณีท่ีได้รับคาร้องขอจากภาคีหน่ึง บรูไนดารุสซาลามต้องแจ้งให้กลุ่มภาคีทราบถึง ความก้าวหน้าในการดาเนินการเพ่ือให้เป็นไปตามพันธกรณีภายใต้ข้อ 13.3 (มาตรการ ท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ตั้งแต่วันที่ ความตกลงฉบบั น้มี ีผลใช้บังคับ จนถึงก่อนท่ีห้วงระยะเวลาสาม (3) ปีจะส้ินสดุ ลง 13เอ-1

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ - ภาคผนวก 13 บี การใชบ้ ังคับข้อ 13.3 (มาตรการทเี่ หมาะสมต่อกจิ กรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) แกก่ ัมพูชา 1. ในกรณีท่กี มั พชู ายงั มิไดป้ ฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้วรรค 1 และ 2 ของข้อ 13.3 (มาตรการ ท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) ในวันที่ความตกลงฉบับน้ีมีผลใช้บังคับ กัมพูชา ต้องปฏิบตั ติ ามพันธกรณดี ังกล่าวไมช่ ้ากวา่ หา้ (5) ปนี บั แตว่ ันทค่ี วามตกลงฉบับน้ีมผี ลใชบ้ งั คบั 2. วรรค 3 ถึง 11 ของข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ใช้บังคับกับกัมพูชาโดยเร็วที่สุดเท่าที่กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ วรรค 1 และ 2 ของขอ้ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และไม่ว่า ในกรณีใดก็ตาม ไม่ชา้ กวา่ ห้า (5) ปีนับแตว่ นั ทคี่ วามตกลงฉบับน้มี ีผลใช้บงั คับ 3. ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านห้า (5) ปีดังกลา่ ว กมั พูชาต้องดาเนนิ การทีจ่ าเปน็ เพ่ือประกันว่า จะสามารถปฏิบัติตามข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และ ข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ได้เมื่อส้ินสุดระยะเวลาห้า (5) ปีดังกล่าว และจะต้องพยายาม ปฏบิ ตั ติ ามพันธกรณภี ายใต้ข้อเหลา่ นน้ั กอ่ นส้นิ สุดระยะเชน่ วา่ น้นั 4. ในกรณีที่ได้รับคาร้องขอจากภาคีหน่ึง กัมพูชาต้องแจ้งให้กลุ่มภาคีทราบถึงความก้าวหน้า ในการดาเนินการเพ่ือให้เป็นไปตามพันธกรณีภายใต้ข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสม ต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ต้ังแต่วันท่ีความตกลงฉบับน้ี มีผลใช้บงั คบั จนถงึ ก่อนทหี่ ้วงระยะเวลาหา้ (5) ปจี ะสนิ้ สุดลง 13บ-ี 1

- ค�ำ แปลอย่างไม่เป็นทางการ - ภาคผนวก 13 ซี การใชบ้ งั คบั ข้อ 13.3 (มาตรการท่เี หมาะสมตอ่ กิจกรรมที่จากดั การแขง่ ขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) แก่ สปป.ลาว 1. ในกรณีที่ สปป.ลาว ยังมไิ ดป้ ฏบิ ตั ติ ามพันธกรณีภายใต้วรรค 1 และ 2 ของข้อ 13.3 (มาตรการ ทเ่ี หมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) ในวันท่ีความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ สปป.ลาว ตอ้ งปฏบิ ตั ิตามพันธกรณดี ังกล่าวไม่ช้ากว่าสาม (3) ปีนับแตว่ นั ทีค่ วามตกลงฉบับน้ีมีผลใช้บังคบั 2. วรรค 3 ถงึ 11 ของข้อ 13.3 (มาตรการทเ่ี หมาะสมต่อกจิ กรรมทจี่ ากดั การแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ใช้บังคับกับ สปป.ลาว โดยเร็วท่ีสุดเท่าที่ สปป.ลาว ปฏิบัติตามพันธกรณี ภายใต้วรรค 1 และ 2 ของข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ไม่ช้ากว่าสาม (3) ปนี บั แต่วนั ท่คี วามตกลงฉบบั นี้มผี ลใชบ้ ังคบั 3. ในช่วงระยะเวลาเปล่ียนผ่านสาม (3) ปีดังกล่าว สปป.ลาว ต้องดาเนินการที่จาเป็น เพ่ือประกันว่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัด การแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ได้เม่ือสิ้นสุดระยะเวลาสาม (3) ปีดังกล่าว และ จะต้องพยายามปฏิบัติตามพนั ธกรณีภายใต้ข้อเหล่าน้นั ก่อนส้นิ สุดระยะเชน่ ว่านน้ั 4. ในกรณีทไ่ี ดร้ ับคาร้องขอจากภาคีหนึ่ง สปป.ลาว ต้องแจ้งให้กลุ่มภาคีทราบถึงความก้าวหน้า ในการพัฒนาและใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้า และจัดต้ัง หน่วยงานหนึ่ง (1) แห่ง หรือมากกว่า เพ่ือการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตง้ั แตว่ ันท่คี วามตกลงฉบบั นมี้ ผี ลใช้บังคับ 13ซี-1

- ค�ำ แปลอย่างไม่เป็นทางการ - ภาคผนวก 13 ดี การใช้บังคบั ข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกจิ กรรมที่จากัดการแข่งขนั ) และข้อ 13.4 (ความร่วมมอื ) แกเ่ มียนมา 1. ในกรณีที่เมียนมายังมิได้ปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้วรรค 1 และ 2 ของข้อ 13.3 (มาตรการ ท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) ในวันที่ความตกลงฉบับน้ีมีผลใช้บังคับเมียนมา ต้องปฏบิ ัติตามพันธกรณดี งั กล่าวไม่ช้ากวา่ สาม (3) ปีนบั แตว่ ันทคี่ วามตกลงฉบบั นีม้ ีผลใช้บังคบั 2. วรรค 3 ถงึ 11 ของขอ้ 13.3 (มาตรการทีเ่ หมาะสมต่อกิจกรรมที่จากัดการแข่งขัน) และข้อ 13.4 (ความร่วมมือ) ใช้บังคับกับเมียนมาโดยเร็วที่สุดเท่าท่ีเมียนมาปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ วรรค 1 และ 2 ของขอ้ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขัน) และไม่ว่า ในกรณใี ดก็ตาม ไมช่ า้ กวา่ สาม (3) ปีนบั แต่วนั ทีค่ วามตกลงฉบบั น้ีมผี ลใชบ้ งั คบั 3. ในชว่ งระยะเวลาเปลี่ยนผา่ นสาม (3) ปีดังกล่าว เมยี นมาต้องดาเนินการที่จาเป็นเพ่ือประกัน ว่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อ 13.3 (มาตรการท่ีเหมาะสมต่อกิจกรรมท่ีจากัดการแข่งขันขีด) และขอ้ 13.4 (ความร่วมมอื ) ได้เม่ือสิ้นสดุ ระยะเวลาสาม (3) ปีดังกล่าว และจะต้องพยายาม ปฏบิ ัติตามพนั ธกรณภี ายใต้ข้อเหล่านั้นก่อนสนิ้ สดุ ระยะเชน่ ว่านัน้ 4. ในกรณีที่ได้รับคาร้องขอจากภาคีหนึ่ง เมียนมาต้องแจ้งให้กลุ่มภาคีทราบถึงความก้าวหน้า ในการพัฒนาและใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับด้านการแข่งขันทางการค้า และจัดต้ัง หน่วยงานหนึ่ง (1) แห่ง หรือมากกว่า เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ ต้งั แต่วนั ที่ความตกลงฉบบั น้มี ีผลใช้บังคบั 13ดี-1

- คำ�แปลอย่างไม่เป็นทางการ - บทที่ 14 วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม ขอ้ 14.1: วัตถุประสงค์ 1. ภาคีตระหนักว่าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งวิสาหกิจรายย่อย มีส่วนสาคัญ ในการสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และนวัตกรรม และดังนั้น ต้องการ ส่งเสริม การแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือในการเพิ่มความสามารถของวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม เพื่อใชแ้ ละไดป้ ระโยชน์จากโอกาสที่เกดิ จากความตกลงฉบับนี้ 2. ภาคีรับทราบว่า บทบัญญัติของบทต่าง ๆ ในความตกลงฉบับนี้มีส่วนในการส่งเสริมและ อานวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในความตกลงฉบับนี้ ขอ้ 14.2: การแบ่งปนั ข้อมลู 1. ภาคีแต่ละฝา่ ยจะสง่ เสริมการแบ่งปนั ข้อมูลเกยี่ วกับความตกลงฉบับน้ีที่เกี่ยวข้องกับวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงผ่านทางการจัดต้ังและการบารุงรักษาช่องทางการส่ือสาร ท่ีเข้าถึงโดยสาธารณะ และการแลกเปล่ียนข้อมูลเพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และ แนวปฏิบตั ิที่เป็นเลศิ ระหว่างกลุ่มภาคี 2. ขอ้ มลู ทสี่ ามารถเขา้ ถงึ โดยสาธารณะตามวรรค 1 จะประกอบดว้ ย (เอ) ความตกลงฉบับสมบูรณ์ (บี) ขอ้ มลู กฎหมายและระเบยี บข้อบังคับทเ่ี กย่ี วกบั การคา้ และการลงทุนที่ภาคีพิจารณา วา่ มีความเก่ยี วข้องกบั วิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม และ (ซี) ข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับธุรกิจอ่ืน ๆ ที่ภาคีพิจารณาว่ามีประโยชน์ต่อวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมท่ีมีความสนใจในการได้รับประโยชน์จากโอกาสที่จะได้ จากความตกลงฉบับน้ี 3. ภาคีแต่ละฝ่ายจะดาเนินการตามข้ันตอนที่สมเหตุผล ท่ีจะทาให้ม่ันใจว่าข้อมูลที่กล่าวถึง ในวรรค 2 มคี วามถูกตอ้ งและทนั สมัย ขอ้ 14.3: ความรว่ มมอื ภาคจี ะสรา้ งความเขม้ แขง็ ให้กับความรว่ มมือภายใต้บทนี้ ซง่ึ อาจประกอบดว้ ย 14-1

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ - (เอ) ส่งเสริมการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามกฎและระเบียบ ข้อบังคับทางการคา้ ทโี่ ปร่งใสและอานวยความสะดวก (บี) ปรับปรุงการเข้าถึงตลาดและการเข้าไปมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลกของวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม รวมท้ังโดยส่งเสริมและอานวยความสะดวก การสรา้ งห้นุ สว่ นระหว่างธุรกจิ (ซ)ี ส่งเสริมการใชพ้ าณิชย์อเิ ลก็ ทรอนกิ สโ์ ดยวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ดี) สารวจโอกาสสาหรับการแลกเปล่ียนประสบการณ์ระหว่างโครงการผู้ประกอบการ ของภาคี (อ)ี สง่ เสริมนวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยี (เอฟ) ส่งเสริมความตระหนักรู้ ความเข้าใจ และการใช้อย่างมีประสิทธิภาพของระบบ ทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาระหว่างกลมุ่ วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม (จี) ส่งเสริมการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ดีและสร้างศักยภาพในการจัดทาระเบียบ นโยบายและโครงการทม่ี สี ่วนในการพัฒนาวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และ (เอช) แบ่งปันแนวปฏิบัติท่ีเป็นเลิศในการพัฒนาศักยภาพและความสามารถ ทางการแข่งขนั ของวสิ าหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ข้อ 14.4: จุดตดิ ต่อ ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องกาหนดจุดติดต่อจานวนหนึ่ง (1) จุด หรือมากกว่า เพื่ออานวยความสะดวก ดา้ นความรว่ มมือและการแบ่งปันข้อมูลภายใต้บทน้ี และแจ้งรายละเอียดการติดต่อของจุดติดต่อน้ัน หรือจุดติดต่อเหล่าน้ันแก่ภาคีอ่ืน ๆ ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับสาหรับ ภาคีน้ัน ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งภาคีอ่ืน ๆ ถึงการเปล่ียนแปลงใด ๆ ของรายละเอียดการติดต่อ ดังกลา่ ว ขอ้ 14.5: การไมใ่ ช้บังคับการระงบั ข้อพพิ าท กลไกการระงบั ข้อพิพาทในความตกลงฉบับนี้จะต้องไม่ใช้บงั คับกับเร่ืองใด ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนภายใตบ้ ทนี้ 14-2

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ป็นทางการ - บทท่ี 15 ความร่วมมือทางเศรษฐกจิ และวิชาการ ข้อ 15.1: คานยิ าม เพ่ือความมุ่งประสงค์ของบทน้ี แผนการทางาน หมายถึงรายการสาหรับกิจกรรมความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจและวิชาการ ซึ่งได้กาหนดร่วมกันโดยกลุ่มภาคีตามท่ีสอดคล้องกับข้อ 15.5 (แผนการ ทางาน) ขอ้ 15.2: วัตถุประสงค์ 1. กลุ่มภาคียืนยันอีกคร้ังถึงความสาคัญของโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ดาเนินการอยู่ อย่างต่อเนอ่ื งระหว่างกลุม่ ภาคี และตกลงที่จะเตมิ เต็มความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ ในด้านทกี่ ลุ่มภาคีมผี ลประโยชน์และความสนใจร่วมกนั 2. กลุ่มภาคีจะให้ความสาคัญกับการริเริ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ และการลด ความซ้าซ้อนกับความพยายามที่ดาเนินการอยู่ และการใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะภายใต้ ความตกลงการค้าเสรีระหวา่ งสมาชิกอาเซียนกบั คู่เจรจาการค้าเสรี 3. กลุ่มภาคตี กลงกนั วา่ ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ และวชิ าการในบริบทของอาร์เซ็ปมีเป้าหมาย เพ่ือลดช่องว่างของการพัฒนาระหว่างกลุ่มภาคี และให้ได้ผลประโยชน์ร่วมกันจากการ ปฏิบัติอย่างสูงสุด และการใช้ประโยชน์ความตกลงฉบับน้ี ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และวิชาการจะต้องคานงึ ถึงระดับการพัฒนาและศักยภาพทแี่ ตกต่างของแตล่ ะภาคี 4. กลุ่มภาคีรับทราบถึงบทบัญญัติเพ่ือส่งเสริมและอานวยความสะดวกต่อความร่วมมือ ทางเศรษฐกจิ และวิชาการทรี่ วมอยใู่ นบทตา่ ง ๆ ของความตกลงฉบับนี้ ข้อ 15.3: ขอบเขต 1. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการภายใต้บทน้ีจะสนับสนุนความครอบคลุม การปฏิบัติ ท่ีมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ และการใช้ประโยชน์ความตกลงฉบับน้ีผ่านกิจกรรม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ซ่ึงเกี่ยวข้องกับการค้าหรือการลงทุนท่ีระบุ ในแผนการทางาน 2. กลุ่มภาคีจะต้องสารวจและดาเนินกิจกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ ซง่ึ รวมถงึ การสรา้ งศักยภาพ และการช่วยเหลอื ทางเทคนคิ โดยมงุ่ เนน้ ดงั ตอ่ ไปน้ี 15-1

- คำ�แปลอย่างไม่เปน็ ทางการ - (เอ) การคา้ สินค้า (บี) การคา้ บรกิ าร (ซี) การลงทุน (ดี) ทรัพย์สนิ ทางปัญญา (อ)ี พาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (เอฟ) การแขง่ ขนั ทางการคา้ (จี) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอ่ ม และ (เอช) เรอื่ งอนื่ ๆ ทต่ี กลงร่วมกนั ระหวา่ งกลุ่มภาคี ข้อ 15.4: ทรัพยากร 1. ทรัพยากรสาหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการภายใต้บทน้ีจะต้องจัดสรรตาม ความสมคั รใจ และเปน็ ไปตามที่กลุ่มภาคีที่เก่ียวข้องตกลงร่วมกัน โดยคานึงถึงวัตถุประสงค์ ในขอ้ 15.2 (วตั ถุประสงค์) 2. บนพ้ืนฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน กลุ่มภาคีอาจพิจารณาความร่วมมือกับ และรับ การสนับสนุนจาก (เอ) ประเทศที่ไม่ได้เปน็ ภาคี หรือ (บี) องคก์ าร หรอื สถาบนั ระดับอนภุ ูมิภาค ภูมิภาค หรือระหวา่ งประเทศ ซ่ึงสนใจในการพัฒนาความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน เพ่อื สนบั สนุนการปฏบิ ตั ติ ามแผนการทางาน ขอ้ 15.5: แผนการทางาน 1. โดยสอดคล้องกับวรรค 4 ของข้อ 15.2 (วัตถุประสงค์) กลุ่มภาคีจะต้องพัฒนาแผนการ ทางานท่คี านงึ ถงึ บทบัญญัติเกยี่ วกบั ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวชิ าการทมี่ ีในความตกลง ฉบบั นี้ และความจาเปน็ ทร่ี ะบุโดยคณะกรรมการท่ีจัดต้ังขึ้นตามบทที่ 18 (บทบัญญัติเก่ียวกับ สถาบนั ) 15-2

- คำ�แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - 2. เพ่ือส่งเสริมการปฏิบัติตามและการใช้ประโยชน์จากความตกลงฉบับน้ีอย่างมีประสิทธิภาพ ในแผนการทางาน กล่มุ ภาคีจะให้ความสาคัญกบั กิจกรรมท่ี (เอ) สร้างศักยภาพและช่วยเหลือทางเทคนิคสาหรับภาคีประเทศกาลังพัฒนาและ ภาคปี ระเทศพฒั นาน้อยทส่ี ดุ (บี) เพ่มิ การรับรู้ของสาธารณะ (ซี) เพมิ่ การเข้าถงึ ขอ้ มลู สาหรับธุรกจิ และ (ดี) กิจกรรมอนื่ ทอี่ าจจะตกลงรว่ มกันระหวา่ งกลมุ่ ภาคี 3. กลมุ่ ภาคีอาจจะปรบั ปรุงแผนการทางานเมื่อมีความจาเปน็ และอาจจะต้องตกลงรว่ มกัน ข้อ 15.6: ภาคีประเทศพฒั นานอ้ ยท่ีสดุ ทเี่ ป็นประเทศสมาชิกอาเซยี น กลุ่มภาคีจะต้องนาข้อจากัดเฉพาะที่เผชิญโดยภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุดท่ีเป็น ประเทศสมาชิก อาเซียนมาประกอบการพิจารณา ซ่ึงจะต้องจัดสรรการสร้างศักยภาพและการช่วยเหลือทางเทคนิค ทเี่ หมาะสมตามท่ตี กลงโดยภาคีหรือกลมุ่ ภาคีทใี่ หก้ ารสนบั สนุน และจะต้องใหค้ วามช่วยเหลือแก่ภาคี หรือกลุ่มภาคีท่ีขอรับความช่วยเหลือดังกล่าว เพื่อช่วยให้ภาคีเหล่านี้ปฏิบัติตามพันธกรณีของตน และได้รบั ประโยชนจ์ ากผลประโยชน์ของความตกลงฉบับนี้ ขอ้ 15.7: การไมใ่ ช้บังคับการระงับขอ้ พิพาท กลไกการระงับขอ้ พพิ าทในความตกลงฉบับนจ้ี ะตอ้ งไม่ใช้บังคับกับเร่อื งใด ๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ภายใต้บทนี้ 15-3

- คำ�แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - บทท่ี 16 การจัดซ้อื จัดจ้างโดยรัฐ ขอ้ 16.1: วัตถปุ ระสงค์ กลมุ่ ภาคตี ระหนกั ถึงความสาคญั ในการสง่ เสรมิ ความโปร่งใสของกฎหมาย ระเบียบข้อบังคบั และวธิ ีปฏบิ ตั ิ และพฒั นาความรว่ มมอื ระหว่างกลุ่มภาคีท่เี กย่ี วกบั การจัดซ้อื จัดจ้างโดยรัฐ ขอ้ 16.2: ขอบเขต 1. บทนี้จะใช้บังคับกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติ ท่ีเก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยรัฐของภาคีซึ่งดาเนินการโดยหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ตามท่ีนิยามไว้ หรือแจ้งไว้ โดยภาคนี นั้ เพอ่ื ความมงุ่ ประสงค์ของบทนี้ 2. ไมม่ ีความใดในบทน้ีจะกาหนดให้ภาคีประเทศพัฒนาน้อยท่ีสุดต้องปฏิบัติตามพันธกรณีใด ๆ ท่ีเก่ียวกับความโปร่งใสและความร่วมมือ ภาคีประเทศพัฒนาน้อยที่สุดอาจได้รับประโยชน์ จากความร่วมมอื ระหว่างกลุม่ ภาคี ข้อ 16.3: หลกั การ กลุ่มภาคีตระหนักถึงบทบาทของการจัดซ้ือจัดจ้างโดยรัฐในการส่งเสริมการรวม กลุ่มทางเศรษฐกิจ ของภูมิภาค เพ่ือสนับสนุนการเติบโตและการจ้างงาน ในกรณีที่การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐเปิดกว้าง สาหรับการแข่งขันระหว่างประเทศ ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องดาเนินการจัดซ้ือจัดจ้างโดยรัฐในขอบเขต เท่าท่ีกระทาได้และเหมาะสม ตามหลักการจัดซ้ือจัดจ้างโดยรัฐที่เป็นที่ยอมรับโดยท่ัวไปตามที่ใช้ โดยภาคีนั้น ข้อ 16.4: ความโปรง่ ใส 1. ภาคแี ตล่ ะฝา่ ยต้อง: (เอ) เปดิ เผยกฎหมายและระเบียบขอ้ บังคับต่อสาธารณะ และ (บี) พยายามเปดิ เผยกระบวนการตอ่ สาธารณะ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ซึ่งอาจจะรวมถึงข้อมูลสถานท่ีท่ีมีการเผยแพร่ประกาศ การยืน่ ประมูล 16-1

- คำ�แปลอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ - 2. เท่าที่กระทาได้และเหมาะสม ภาคีแต่ละฝ่ายพยายามเผยแพร่หรือปรับปรุงข้อมูลที่กล่าวถึง ในวรรค 1 ผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 3. ภาคีแต่ละฝ่ายอาจระบุในภาคผนวก 16 เอ (เอกสารหรือวิธีอิเล็กทรอนิกส์ท่ีกลุ่มภาคี ใช้สาหรับการเผยแพร่ข้อมูลความโปร่งใส) เอกสารหรือวิธีอิเล็กทรอนิกส์ท่ีภาคีใช้ โดยภาคีน้นั เพ่อื เผยแพร่ข้อมลู ตามวรรค 1 4. ภาคีแตล่ ะฝ่ายพยายามจัดทาขอ้ มูลตามวรรค 1 ให้เป็นภาษาอังกฤษ ขอ้ 16.5: ความรว่ มมือ กลุ่มภาคีพยายามร่วมมือในเรื่องท่ีเก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐเพื่อมุ่งที่จะให้เกิดความเข้าใจ ยง่ิ ข้นึ เกย่ี วกับระบบการจัดซอ้ื จดั จา้ งโดยรัฐของภาคีแต่ละฝ่าย ความรว่ มมือดงั กล่าวอาจรวมถงึ (เอ) การแลกเปล่ียนข้อมูลของกลุ่มภาคีเท่าที่กระทาได้ในเรื่องกฎหมาย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั และวิธปี ฏบิ ัติ และทีแ่ กไ้ ข (บี) ให้การฝึกอบรม ความช่วยเหลือทางเทคนิค หรือการสร้างขีดความสามารถ ใหก้ ลมุ่ ภาคี และการแบ่งปนั ขอ้ มูลของโครงการเหลา่ นี้ (ซี) แบ่งปันขอ้ มลู เทา่ ที่เป็นไปได้ในเร่ืองแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ รวมถึงในเรื่องที่เก่ียวข้อง กับวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจรายยอ่ ย และ (ดี) การแบง่ ปันขอ้ มลู เท่าทเ่ี ป็นไปไดใ้ นเรอื่ งระบบการจัดซื้อจดั จ้างอิเลก็ ทรอนิกส์ ขอ้ 16.6: การทบทวน กลุ่มภาคอี าจทบทวนบทน้ีภายใตร้ ะยะเวลาท่ีระบุในข้อ 20.8 (การทบทวนทว่ั ไป) โดยม่งุ ทีจ่ ะปรับปรงุ บทน้ี ในอนาคตเพอื่ อานวยความสะดวกในการจดั ซ้ือจัดจ้างโดยรัฐ ตามที่กลมุ่ ภาคีตกลงร่วมกัน ข้อ 16.7: จุดติดต่อ ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องกาหนดจุดติดต่อ จานวนหน่ึง (1) จุด หรือมากกว่า เพื่ออานวยความสะดวก ความร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูลภายใต้บทน้ี ภายใน 30 วันนับต้ังแต่ท่ีความตกลงฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับภาคีน้ัน และแจ้งให้ภาคีอ่ืนทราบรายละเอียดการติดต่อของจุดติดต่อน้ัน หรือจุดตดิ ต่อเหลา่ นั้น ภาคแี ตล่ ะฝา่ ยจะตอ้ งแจ้งภาคีอืน่ ในทันทที ่ีมีการเปลย่ี นแปลงใด ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง กับรายละเอยี ดของจุดตดิ ต่อของตน 16-2

- คำ�แปลอย่างไม่เปน็ ทางการ - ข้อ 16.8: การไมใ่ ช้บังคับการระงับขอ้ พิพาท กลไกการระงับข้อพิพาทในความตกลงฉบับนจ้ี ะไม่ใชบ้ งั คับกับเรื่องใด ๆ ที่เกดิ ขึ้นภายใตบ้ ทน้ี 16-3

- คำ�แปลอย่างไม่เป็นทางการ - ภาคผนวก 16 เอ เอกสารหรือวิธีอิเลก็ ทรอนิกส์ทีใ่ ช้โดยกลุ่มภาคีในการเผยแพร่ขอ้ มลู ความโปร่งใส ออสเตรเลีย: การเผยแพร่กฎหมายและขอ้ บังคบั ทว่ั ไป • www.legislation.gov.au การเผยแพร่กระบวนการในการจดั ซ้ือจัดจ้างโดยรฐั • www.finance.gov.au การเผยแพร่ประกาศจดั ซ้อื จัดจา้ ง • www.tenders.gov.au บรูไนดารุสซาลาม: การเผยแพร่กฎหมายและข้อบังคับการจัดซื้อจดั จา้ ง • https://www.mofe.gov.bn/divisions/state-tenders-board-general- information.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/financial-regulation-1983.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/ministry-of-finance-circulars-22009.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/ministry-of-finance-circulars-32004.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/ministry-of-finance-circulars-12014.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/ministry-of-finance-circulars-12015.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/debarment-policy.aspx • https://www.mofe.gov.bn/divisions/Custom-Duty.aspx 16เอ-1

- คำ�แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - การเผยแพรป่ ระกาศจดั ซ้อื จดั จ้าง • http://www.pelitabrunei.gov.bn/lists/iklaniklan/iklan%20tawaran.aspx จนี : การเผยแพรก่ ฎหมาย ข้อบังคับ วธิ ปี ฏบิ ตั ิการจดั ซื้อจัดจา้ งโดยรัฐ และประกาศจัดซ้อื จดั จา้ ง • www.ccgp.gov.cn อินโดนเี ซยี : การเผยแพรก่ ฎหมาย ขอ้ บังคบั วธิ ปี ฏบิ ตั ิท่วั ไป และประกาศจัดซ้ือจดั จ้าง • www.inaproc.id ญป่ี ุ่น: การเผยแพร่กฎหมายและข้อบังคับทั่วไปที่เก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้างโดยรัฐของหน่วยงาน รฐั บาลกลาง1 • Kanpō or Hōreizensho การเผยแพรป่ ระกาศจัดซ้ือจดั จา้ งสาหรบั การจัดซ้อื จดั จา้ งบางอย่าง2 • Kanpō (มีเป็นแบบสอ่ื กระดาษและที่ http://kanpou.npb.go.jp) 1 เพื่อความมุ่งประสงค์ของบทที่ 16 (การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ) หน่วยงานรัฐบาลกลางสาหรับญี่ปุ่น หมายถึง หน่วยงานจัดซ้ือจัดจ้างท่ีระบุไว้ในภาคผนวก 1 ของญี่ปุ่นภายใต้เอกสารแนบท้าย จี พี เอ จี พี เอ เป็นท่ีเข้าใจว่า การแก้ไขใด ๆ หรือความตกลงทีเ่ กดิ ขึ้นภายหลงั ที่มีผลใชบ้ งั คับกบั ญปี่ ุน่ 2 เพ่ือความมุ่งประสงค์ของภาคผนวกน้ี การจัดซ้ือจัดจ้างบางอย่างสาหรับญี่ปุ่นหมายถึงการจัดซ้ือจัดจ้าง โดยหนว่ ยงานรัฐบาลกลางทคี่ รอบคลมุ ตาม จี พี เอ รวมถึงภาคผนวกของญี่ปุน่ ภายใต้เอกสารแนบท้าย จี พี เอ 16เอ-2

- ค�ำ แปลอย่างไม่เปน็ ทางการ - สาธารณรัฐเกาหลี: การเผยแพรก่ ฎหมาย ขอ้ บังคับ และวธิ ีปฏบิ ัติทวั่ ไปท่เี ก่ยี วกับการจัดซอ้ื จัดจา้ งโดยรฐั • www.pps.go.kr การเผยแพร่ประกาศจัดซือ้ จัดจ้าง • www.g2b.go.kr มาเลเซยี : การเผยแพรก่ ฎหมาย ขอ้ บงั คับ วิธปี ฏิบตั ิท่วั ไป ท่เี กยี่ วข้องกบั การจดั ซอ้ื จดั จา้ งโดยรฐั • http://www.treasury.gov.my นิวซแี ลนด์: การเผยแพร่กฎหมายและข้อบงั คบั ทั่วไป • www.legislation.govt.nz การเผยแพรว่ ิธีปฏบิ ัติในการจดั ซือ้ จัดจา้ งโดยรฐั • www.procurement.govt.nz การเผยแพร่ประกาศจัดซื้อจัดจา้ ง • www.gets.govt.nz ฟลิ ปิ ปินส:์ การเผยแพรก่ ฎหมาย ขอ้ บงั คับ และวิปฏบิ ตั ิท่ัวไปท่เี กีย่ วกับการจัดซอ้ื จดั จ้างโดยรฐั • www.officialgazette.gov.ph/ • www.gppb.gov.ph/ 16เอ-3

- คำ�แปลอย่างไมเ่ ป็นทางการ - การเผยแพรป่ ระกาศจัดซอื้ จดั จา้ ง • www.philgeps.gov.ph/ สงิ คโปร์: การเผยแพร่กฎหมายและขอ้ บังคบั ทวั่ ไป • http://sso.agc.gov.sg/ การเผยแพร่กระบวนการและประกาศจัดซื้อจัดจ้าง • www.gebiz.gov.sg ไทย: การเผยแพรก่ ฎหมาย ข้อบังคบั ข้อปฏบิ ัติทั่วไป และประกาศจัดซอ้ื จัดจ้าง • www.gprocurement.go.th เวียดนาม: การเผยแพร่กฎหมาย ข้อบงั คับ วิธีปฏิบตั ิท่ัวไป และประกาศจัดซือ้ จดั จา้ ง • www.muasamcong.mpi.gov.vn 16เอ-4

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ - บทที่ 17 บทบัญญตั ิทั่วไปและข้อยกเวน้ ข้อ 17.1: คานยิ าม เพื่อความมุ่งประสงค์ของบทนี้ คาวินิจฉัยทางปกครองท่ีใช้โดยทั่วไป หมายถึง คาวินิจฉัย ท า ง ป ก ค ร อ ง ห รื อ ก า ร ตี ค ว า ม ซึ่ ง ใ ช้ บั ง คั บ กั บ ทุ ก ค น แ ล ะ ทุ ก ส ถ า น ก า ร ณ์ ที่ อ ยู่ ภ า ย ใ ต้ ข อ บ เ ข ต ของการพิจารณาคดที างปกครองหรอื การตีความทางปกครองซง่ึ กอ่ ใหเ้ กิดบรรทัดฐาน แต่ไมร่ วมถงึ (เอ) คาตดั สินหรือคาวินิจฉัยโดยกระบวนการปกครองหรือก่ึงตุลาการที่ใช้บังคับในกรณี เฉพาะกับบคุ คลใดบคุ คลหนงึ่ สนิ ค้าเฉพาะ หรือบรกิ ารเฉพาะของภาคีอ่นื หรอื (บ)ี คาวินจิ ฉัยที่วนิ จิ ฉยั ในการกระทาหรอื การปฏิบตั อิ ยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ โดยเฉพาะ ข้อ 17.2: ขอบเขตทางภูมศิ าสตร์ของการใชบ้ งั คบั 1,2 ความตกลงฉบับน้ีจะใช้บังคับในขอบเขตทางภูมิศาสตร์ซึ่งภาคีมีพันธกรณีต่ออีกภาคีหนึ่งภายใต้ ความตกลงดับบลวิ ที โอ ขอ้ 17.3: การเผยแพร่ 1. ภาคีแต่ละฝ่ายจะทาให้มั่นใจว่ากฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ วิธีปฏิบัติ และคาวินิจฉัย ทางปกครองที่ใช้โดยทั่วไปของตนที่เกี่ยวข้องกับเร่ืองใดที่ครอบคลุมโดยความตกลงฉบับนี้ จะได้รับการเผยแพร่โดยพลัน รวมถึงบนอินเทอร์เน็ตหากทาได้ หรือไม่เช่นนั้นมีไว้ให้ โดยวิธที ่ีทาให้บุคคลที่สนใจและภาคอี น่ื สามารถทาความคนุ้ เคยได้ 2. ภายในขอบเขตเทา่ ที่จะเปน็ ไปได้และปฏิบัติได้ ภาคีแต่ละฝ่ายจะตอ้ ง (เอ) เผยแพร่ลว่ งหนา้ กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ วิธีปฏิบัติ และคาวินิจฉัยทางปกครอง ที่ ใ ช้ โ ด ย ท่ั ว ไ ป ใ ด ท่ี เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ เ ร่ื อ ง ใ ด ที่ ค ร อ บ ค ลุ ม โ ด ย ค ว า ม ต ก ล ง ฉ บั บ นี้ ซ่ึงภาคเี สนอท่จี ะนามาใช้ และ 1 ไม่มีความใดในความตกลงฉบับน้ีจะกระทบต่อท่าทีของภาคีใดในประเด็นท่ีเก่ียวกับอธิปไตยเหนือดินแดนหรือ ประเด็นใด ๆ ที่เก่ยี วขอ้ งกบั กฎหมายทะเล 2 เพ่ือความมุ่งประสงค์ของความตกลงฉบับน้ี “ดนิ แดน” มขี อบเขตทางภมู ศิ าสตร์เชน่ เดยี วกับตามท่ีถูกกาหนดไว้ในข้อนี้ 17-1

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ - (บี) ให้โอกาสในกรณีท่ีเหมาะสมต่อบุคคลที่สนใจและภาคีอื่นแสดงความเห็น ต่อกฎหมาย ระเบยี บข้อบังคับ วิธีปฏิบัติ และคาวินิจฉัยทางปกครองท่ีใช้โดยทั่วไป ดังกลา่ วที่เก่ยี วขอ้ งกับเรอ่ื งใดท่ีครอบคลมุ โดยความตกลงฉบบั น้ี ขอ้ 17.4: การให้ขอ้ มูล เม่ือมีการร้องขอจากภาคีฝ่ายหน่ึงฝ่ายใด ภาคีผู้ถูกร้องขอจะต้องให้ข้อมูลและตอบคาถาม เกยี่ วกบั กฎหมาย ระเบยี บข้อบงั คบั วธิ ปี ฏิบัติ และคาวนิ ิจฉยั ทางปกครองที่ใช้โดยทั่วไป ซ่ึงเก่ียวข้อง กับเร่ืองใด ๆ ที่ครอบคลุมโดยความตกลงฉบับน้ีที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือท่ีกาลังเสนอท่ีภาคีผู้ร้องขอ พจิ ารณาว่าอาจกระทบตอ่ การดาเนนิ การของความตกลงฉบับนโี้ ดยพลนั ขอ้ 17.5: กระบวนการทางปกครอง โดยมุ่งท่ีจะบริหารกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ วิธีปฏิบัติ และคาวินิจฉัยทางปกครองที่ใช้โดยทั่วไป ซ่ึงเก่ียวข้องกับเร่ืองใด ๆ ที่ครอบคลุมโดยความตกลงฉบับนี้อย่างมีความเสมอต้นเสมอปลาย ไมล่ าเอยี ง เปน็ กลาง และสมเหตุสมผล ภาคแี ตล่ ะฝา่ ยจะต้องทาให้มั่นใจวา่ กระบวนการทางปกครอง ท่ีใช้บังคับมาตรการดังกล่าวเป็นการเฉพาะกับบุคคล สินค้า หรือบริการของภาคีอีกฝ่ายหน่ึง ในกรณีเฉพาะตอ้ ง (เอ) เม่ือเป็นไปได้ บุคคลของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง จากกระบวนการน้ัน จะได้รับการแจ้งเตือนอย่างสมเหตุสมผลตามกระบวนการ ภายในว่าเม่ือใดจะเร่ิมกระบวนการ รวมถึงคาอธิบายลักษณะของกระบวนการ คาแถลงของหน่ วยงา นที่มี อานา จทา งกฎห มาย ซ่ึงเป็ นผู้รั บเรื่องไว้ ดาเนิ นกา ร และคาอธบิ ายทว่ั ไปของเร่อื งใด ๆ ที่สงสัย (บ)ี บุคคลของภาคีอีกฝ่ายหน่ึงซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากกระบวนการดังกล่าว จะได้รับโอกาสท่ีสมเหตุสมผลเพื่อเสนอข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้งท่ีสนับสนุนจุดยืน ของบุคคลดังกล่าว ก่อนท่ีจะมีการดาเนินการทางปกครองข้ันสุดท้าย เมื่อเวลา ลกั ษณะของกระบวนการ และผลประโยชน์สาธารณะเอ้ือให้ทาได้ และ (ซ)ี เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายและระเบียบข้อบงั คับของตน ขอ้ 17.6: การทบทวนและการอทุ ธรณ์ 1. ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องจัดตั้งหรือคงไว้ซ่ึงศาลหรือกระบวนการตุลาการ กึ่งตุลาการ หรือทางปกครองเพื่อความมุ่งประสงค์ในการทบทวนโดยพลัน และในกรณีท่ีมีการอนุญาต ให้ดาเนินการได้ ให้ทาการแก้ไขการกระทาทางปกครองอันเป็นท่ีสุดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องใด ท่ีครอบคลุมโดยความตกลงฉบับนี้ ทั้งน้ี ศาลดังกล่าวจะต้องไม่ลาเอียงและเป็นอิสระ 17-2

- ค�ำ แปลอย่างไม่เป็นทางการ - จ ากห น่ ว ย งาน ห รื อ ผู้ มีอ าน า จ ท่ีไ ด้รั บ มอบ ห มาย ให้ ก ร ะท ากา ร บั ง คับ ใ ช้ทา ง ป ก คร อ ง และจะตอ้ งไมม่ ีผลประโยชนอ์ ยา่ งมนี ยั สาคญั ในผลการพิจารณาของเรื่อง 2. ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องทาให้ม่ันใจว่า ศาลหรือกระบวนการใดนั้น คู่พิพาทแต่ละฝ่าย ในกระบวนการจะไดส้ ิทธิใน (เอ) โอกาสท่ีสมเหตุสมผลในการสนับสนุนหรือแก้ตา่ งท่าทขี องผู้พิพาทนัน้ และ (บี) คาตัดสินบนพ้ืนฐานของหลักฐานและเอกสารท่ีบันทึกไว้ หรือในกรณีท่ีกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับกาหนดไว้ บันทึกท่ีรวบรวมโดยหน่วยงานหรือผู้มีอานาจ ทเี่ กีย่ วข้อง 3. โดยอยู่ภายใต้บังคับของการอุทธรณ์หรือการทบทวนต่อไปตามที่กาหนดไว้ในกฎหมายและ ระเบียบข้อบังคับของตน ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องทาให้มั่นใจว่า คาตัดสินท่ีอ้างถึง ในอนุวรรค 2 (บี) จะได้รับการปฏิบัติตามโดยและควบคุมการปฏิบัติของหน่วยงาน หรอื ผู้มอี านาจในส่วนที่เกีย่ วขอ้ งกับการกระทาทางปกครองท่ีเป็นประเด็นอยู่ ข้อ 17.7: การเปดิ เผยขอ้ มลู ไม่มีความใดในความตกลงฉบับน้ี จะกาหนดให้ภาคีใดต้องให้ข้อมูลท่ีเป็นความลับ หากการเปิดเผย ข้อมูลดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของภาคีน้ัน หรือขัดขวางการบังคับใช้ กฎหมาย หรือไม่เช่นน้ันจะขัดต่อประโยชน์สาธารณะ หรือทาให้ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ อันชอบธรรมของวสิ าหกจิ แหง่ ใดแหง่ หนึง่ ไมว่ ่าท่ีเป็นของรฐั หรอื เอกชนเส่ือมไป ข้อ 17.8: ความลับ เ ว้ น แ ต่ จ ะ ก า ห น ด ไ ว้ เ ป็ น อ ย่ า ง อื่ น ใ น ค ว า ม ต ก ล ง ฉ บั บ น้ี เ ม่ื อ ภ า คี ใ ห้ ข้ อ มู ล กั บ ภ า คี อี ก ฝ่ า ย ห น่ึ ง โดยสอดคล้องกับความตกลงฉบับนี้ และกาหนดให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นความลับ ภาคีอีกฝ่ายนั้น จะตอ้ งรกั ษาความลับของขอ้ มูลไวภ้ ายใต้กฎหมายและระเบียบขอ้ บังคับของตน ขอ้ 17.9: มาตรการต่อตา้ นการทจุ รติ 1. โดยสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของตน ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องมีมาตรการ ที่เหมาะสมในการป้องกันและต่อต้านการทุจริตเกี่ยวกับเรื่องที่ครอบคลุมโดยความตกลง ฉบับนี้ 2. ไม่มภี าคีใดสามารถใช้การระงบั ข้อพิพาทในบทที่ 19 (การระงับข้อพิพาท) สาหรับเร่ืองใด ๆ ทเ่ี กดิ ขึน้ ภายใต้ข้อน้ีได้ 17-3

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ - ขอ้ 17.10: อนสุ ญั ญาวา่ ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ภาคีแต่ละฝ่ายยืนยันสิทธิและความรับผิดชอบของตนภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลาย ทางชวี ภาพซงึ่ ลงนาม ณ เมืองรโี อเดจาเนโร เมื่อวนั ท่ี 5 มิถุนายน ค.ศ. 1992 ข้อ 17.11: ระบบการคดั กรองและการระงับข้อพิพาท การตัดสินโดยหน่วยงานผู้มีอานาจ รวมถึงหน่วยงานด้านการลงทุนต่างชาติของภาคีหนึ่ง3,4 ว่าจะอนุญาตหรือยอมรับหรือไม่ซ่ึงข้อเสนอของการลงทุนต่างชาติ และการบังคับใช้เง่ือนไข 3 เพอ่ื ความมงุ่ ประสงคข์ องขอ้ นี้ “หน่วยงานผูม้ ีอานาจ รวมถึงหน่วยงานด้านการลงทุนต่างชาติ” หมายถึง ณ วันท่ี ท่ีความตกลงฉบบั น้ีมีผลใชบ้ งั คับ (เอ) สาหรับออสเตรเลีย กระทรวงการคลังของเครือจักรภพออสเตรเลีย ภายใต้กรอบการลงทุนต่างชาติ ของออสเตรเลีย รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการซ้ือและการเข้าครอบครองกิจการต่างชาติ ค.ศ. 1975 (เครือจักรภพ) และทีแ่ กไ้ ขหลงั จากนั้น (บ)ี สาหรับกมั พูชา คณะมนตรสี าหรับการพฒั นาแห่งกัมพูชาซึ่งแต่งต้ังภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ และท่แี ก้ไขหลังจากนั้น ดังตอ่ ไปน้ี (หนึ่ง) พระราชกฤษฎีกา เลขท่ี 03/เอ็น เอส/94 ลงวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 1994 ประกาศกฎหมาย ว่าดว้ ยการลงทนุ ของราชอาณาจักรกมั พชู า (สอง) พระราชกฤษฎีกา เลขที่ เอ็น เอส/อาร์ เค เอ็ม/0303/009 ลงวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2003 ประกาศกฎหมายวา่ ด้วยการแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ กฎหมายวา่ ด้วยการลงทุนของราชอาณาจกั รกมั พูชา (สาม) อนุกฤษฎีกา เลขท่ี 88/เอ เอ็น เค/บี เค ลงวันท่ี 29 ธันวาคม ค.ศ. 1997 ว่าด้วยการอนุวัติ การกฎหมายว่าดว้ ยการลงทุนของราชอาณาจักรกมั พูชา (ส)่ี อนุกฤษฎีกา เลขท่ี 111 เอ เอ็น เค/บี เค ลงวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 2005 ว่าด้วยการอนุวัติ การกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขเพม่ิ เตมิ กฎหมายว่าดว้ ยการลงทนุ ของราชอาณาจกั รกมั พชู า และ (ห้า) อนุกฤษฎีกา เลขที่ 148.เอ เอ็น เค.บี เค ลงวันท่ี 29 ธันวาคม ค.ศ. 2005 ว่าด้วยการจัดตั้ง และบริหารพื้นท่เี ศรษฐกิจพิเศษ (ซี) สาหรบั จีน หน่วยงานรบั ผิดชอบสาหรับใหอ้ นญุ าตการลงทุนต่างชาตสิ าหรับสาขาที่ต้องได้รับการอนุญาต โดยรัฐบาลภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เก่ียวข้องรวมถึงกฎหมายการลงทุนต่างชาติ ของสาธารณรฐั ประชาชนจนี (รบั รอง เมอ่ื วันท่ี 15 มีนาคม ค.ศ. 2019) และท่แี ก้ไขหลังจากนน้ั (ดี) สาหรบั อนิ โดนเี ซีย หน่วยงานผมู้ อี านาจหนา้ ที่รวมถึงหน่วยงานการลงทนุ ต่างชาติที่แต่งตงั้ ภายใต้กฎหมาย เลขที่ 25 ปี ค.ศ. 2007 ว่าด้วยการลงทุน และกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและนโยบายอ่ืนที่เกี่ยวข้อง ตามทอ่ี าจแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ 17-4

- ค�ำ แปลอย่างไม่เป็นทางการ - (อี) สาหรับเกาหลี หนว่ ยงานผูม้ อี านาจตามที่ขึ้นบญั ชีในกฎหมายส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ (กฎหมาย เลขที่ 16479 วันท่ี 20 สิงหาคม ค.ศ. 2019) พระราชกฤษฎีกาออกตามกฎหมายส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ (พระราชกฤษฎีกาประธานาธบิ ดี เลขที่ 29172 วนั ท่ี 18 กนั ยายน ค.ศ. 2018) ขอ้ บังคบั วา่ ด้วยการลงทุน ต่างชาติ (ประกาศกระทรวงการคา้ อุตสาหกรรมและพลังงาน เลขที่ 2018-137 วันท่ี 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2018) รวมประกาศของรัฐสาหรับการลงทุนต่างชาติ (เลขที่ 2018-191 วันท่ี 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 กระทรวงการคา้ อตุ สาหกรรมและพลงั งาน) และกฎหมายว่าดว้ ยการปอ้ งกันการเปดิ เผยและการคุ้มครอง เทคโนโลยอี ุตสาหกรรม (กฎหมาย เลขท่ี 16476 วนั ที่ 20 สงิ หาคม ค.ศ. 2019) และที่แก้ไขหลังจากน้ัน (เอฟ) สาหรับสปป. ลาว กระทรวงแผนงานและการลงทุนภายใต้กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (กฎหมาย เลขท่ี 14 วันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016) และการแก้ไขเพ่ิมเติมใด และกระทรวง อตุ สาหกรรมและการค้าภายใต้กฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจ (กฎหมาย เลขท่ี 46 วันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2013) และทแี่ กไ้ ขหลงั จากนน้ั (จ)ี สาหรับมาเลเซีย รัฐมนตรีท่ีทาหน้าท่ีและใช้อานาจภายใต้กฎหมาย ซ่ึงไม่จากัดแค่พระราชบัญญัติการ ส่งเสริมการลงทุน ค.ศ. 1986 [กฎหมาย 327] พระราชบัญญัติภาษีเงินได้ ค.ศ. 1967 [กฎหมาย 53] พระราชบัญญัติการพัฒนาปิโตรเลียม ค.ศ. 1974 [กฎหมาย 144] และพระราชบัญญัติความเช่ือมโยง ทางอุตสาหกรรม ค.ศ. 1978 [กฎหมาย 156] และท่ีแก้ไขหลังจากน้นั (เอช) สาหรับเมียนมา คณะกรรมาธิการการลงทุนเมียนมาและคณะกรรมการการลงทุนภูมิภาค/รัฐ ภายใต้ กฎหมายการลงทนุ เมียนมา กฎหมายรัฐสภา เลขท่ี 40/2016 ลงวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2016 และกฎการลงทุน เมยี นมา คาประกาศ เลขท่ี 35/2017 ของกระทรวงแผนงานและการคลังของรัฐบาลสาธารณรัฐสหภาพ เมียนมา ลงวนั ที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2017 และคณะกรรมการต่าง ๆ ภายใต้กฎหมายพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เมยี นมา กฎหมายรัฐสภา เลขท่ี 1/2014 ลงวันท่ี 23 มกราคม ค.ศ. 2014 และกฎหมายพ้ืนท่ีอุตสาหกรรม กฎหมายรัฐสภา เลขท่ี 7/2020 ลงวนั ท่ี 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 และที่แก้ไขหลังจากน้ัน (ไอ) สาหรับนิวซีแลนด์ รัฐมนตรีที่มีอานาจตัดสินใจภายใต้กรอบการลงทุนต่างชาติของนิวซีแลนด์รวมถึง พระราชบัญญัติการลงทนุ ต่างชาติ ค.ศ. 2005 และพระราชบญั ญัติประมง ค.ศ. 1996 และทีแ่ ก้ไขหลงั จากน้ัน (เจ) สาหรับไทย หน่วยงานผู้มีอานาจท่ีรับผิดชอบภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับตามที่อาจแก้ไข เพม่ิ เติม สาหรับสาขาหรือกจิ กรรมท่ีมีการเสนอหรืออนญุ าตการลงทนุ ต่างชาติ และ (เค) สาหรบั เวียดนาม หนว่ ยงานผูม้ อี านาจตามท่นี ยิ ามในกฎหมายวา่ ด้วยการลงทุนและกฎหมายและระเบียบ ขอ้ บงั คับอ่ืนท่ีเกีย่ วข้อง อาทิ กฎหมายวา่ ดว้ ยหลกั ทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยสถาบันเครดิต กฎหมายว่าด้วย ธุรกจิ ประกัน และกฎหมายวา่ ด้วยน้ามันและก๊าซ ตามทอ่ี าจแก้ไขเพม่ิ เตมิ หากภาคีจัดตั้งหน่วยงานผู้มีอานาจ รวมถึงหน่วยงานการลงทุนต่างชาติภายหลังวันท่ีที่ความตกลงฉบับนี้มีผล ใช้บังคับ ข้อน้ีจะใช้บงั คับกบั หน่วยงานผู้มอี านาจน้ันดว้ ย 4 เพื่อความม่งุ ประสงคข์ องข้อน้ี “คาตัดสนิ โดยหน่วยงานผูม้ ีอานาจ รวมถึงหนว่ ยงานการลงทุนต่างชาติ” หมายถึง (เอ) สาหรับญ่ีปุ่น การตัดสินภายใต้กฎหมายการแลกเปล่ียนเงินตราต่างประเทศและการค้าต่างประเทศ (กฎหมาย เลขที่ 228 ปี ค.ศ. 1949) ตามทีอ่ าจแกไ้ ขเพิ่มเติม เกีย่ วกับการลงทุนซึ่งต้องมกี ารแจง้ ลว่ งหน้า ภายใตก้ ฎหมายน้นั รวมถึงคาส่ังใหเ้ ปล่ยี นแปลงสาระของการลงทนุ หรือยุตกิ ระบวนการการลงทนุ และ 17-5

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ - หรือข้อบังคับใดของการอนุญาตหรือยอมรับนั้น จะไม่อยู่ภายใต้บทบัญญัติเรื่องการระงับข้อพิพาท ภายใตบ้ ทท่ี 19 (การระงับขอ้ พิพาท) ข้อ 17.12: ข้อยกเวน้ ทวั่ ไป 1. เพ่ือความมุ่งประสงค์ของบทที่ 2 (การค้าสินค้า) บทที่ 3 (กฎถิ่นกาเนิดสินค้า) บทท่ี 4 (พิธีการศุลกากรและการอานวยความสะดวกทางการค้า) บทท่ี 5 (มาตรการ สุขอนามัยและสุขอนามัยพืช) บทที่ 6 (มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการ ตรวจสอบและรับรอง) บทที่ 10 (การลงทุน) และบทท่ี 12 (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) ให้รวม ข้อ 20 ของแกตต์ 1994 เขา้ ไว้และถอื เป็นส่วนหนึ่งของความตกลงฉบบั น้ีโดยอนโุ ลม5 2. เพื่อความมุ่งประสงค์ของบทที่ 8 (การค้าบริการ) บทท่ี 9 (การเคลื่อนย้ายชั่วคราว ของบุคคลธรรมดา) บทที่ 10 (การลงทุน) และบทท่ี 12 (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) ให้รวม ข้อ 14 ของแกตส์ รวมถึงเชิงอรรถของข้อน้ันเข้าไว้และเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงฉบับน้ี โดยอนโุ ลม6 ข้อ 17.13: ข้อยกเวน้ ด้านความม่ันคง ไม่มคี วามใดในความตกลงฉบับนีท้ ่จี ะตคี วามไปในทางท่ีจะ (เอ) กาหนดให้ภาคีใดให้ข้อมูลใด ๆ ที่ตนเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลนั้นจะขัดต่อ ผลประโยชน์ในเรื่องความมั่นคงที่จาเป็นของตน (บ)ี สาหรับฟิลิปปินส์ การตัดสินโดยคณะกรรมาธิการตลาดหลักทรัพย์ภายใต้ กฎหมายสาธารณรัฐ เลขท่ี 11232 หรือที่รู้จักในนามว่า ประมวลกฎหมายบริษัทฉบับแก้ไขของฟิลิปปินส์ คณะมนตรี ความมั่นคงแห่งชาติภายใต้คาส่ังฝ่ายบริหารเลขที่ 292 หรือท่ีรู้จักในนามว่า ประมวลกฎหมายปกครอง ปี ค.ศ. 1987 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม คณะกรรมการลงทุนภายใต้คาสั่งฝ่ายบริหาร เลขที่ 226 หรือที่รู้จัก ในนามว่า ประมวลการลงทุนภาพรวม ค.ศ. 1987 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ท่ีมีเขตอานาจและหน้าที่ในการออกกฎหมายควบคุมสา ขาเฉพาะหรือกิจกรรม ภายใต้กฎหมายแห่งสาธารณรัฐ เลขที่ 7042 หรอื ที่รจู้ กั ในนามวา่ กฎหมายการลงทุนตา่ งชาติ ค.ศ. 1991 และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม และทแ่ี กไ้ ขหลังจากนนั้ 5 กลุ่มภาคีเข้าใจว่ามาตรการท่ีอ้างถึงในอนุวรรค (บี) ของข้อ 20 ของแกตต์ 1994 รวมถึงมาตรการส่ิงแวดล้อม ที่จาเป็นต่อการปกป้องชีวิตมนุษย์ สัตว์และพืช หรือสุขภาพ และอนุวรรค (จี) ของข้อ 20 ของแกตต์ 1994 ใชบ้ งั คับกับมาตรการทีเ่ กยี่ วข้องกับการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตทิ ่หี มดไปไดท้ ้ังทีม่ ชี ีวิตและไม่มชี วี ิต 6 กลุ่มภาคีเข้าใจว่ามาตรการที่อ้างถึงในอนุวรรค (บี) ของข้อ 14 ของแกตส์ รวมถึงมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ท่จี าเปน็ ในการปกปอ้ งชีวิตมนษุ ย์ สัตว์ หรอื พชื หรือสุขภาพ 17-6

- คำ�แปลอยา่ งไม่เปน็ ทางการ - (บี) ห้ามภาคีใดดาเนินการใด ๆ ท่ีตนเห็นว่าจาเป็นสาหรับการปกป้องผลประโยชน์ ในเรื่องความม่นั คงที่จาเปน็ ของตน (หนงึ่ ) เกยี่ วกับวสั ดุท่สี ามารถแตกตัวทางอะตอมหรอื วสั ดุทเ่ี กดิ ขึน้ จากวัสดุนัน้ (สอง) เก่ียวกับการค้าอาวุธ ยุทธภัณฑ์ และเคร่ืองมือเกี่ยวกับการสงคราม และ การค้าสินค้าและวัสดุอื่น หรือเกี่ยวกับการให้บริการ ซ่ึงกระทาโดย ทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อความมุ่งประสงค์ในการจัดหาให้แก่หน่วยจัดตั้ง ทางทหาร (สาม) ดาเนินการเพื่อปกป้องโครงสร้างพ้ืนฐานสาธารณะท่ีสาคัญยิ่ง7 ซ่ึงรวมถึง โครงสร้างพื้นฐานดา้ นการติดต่อสอ่ื สาร พลงั งาน และประปา (สี)่ ดาเนนิ การในยามฉกุ เฉินภายใน หรือในยามสงคราม หรือในยามฉุกเฉินอ่ืน ๆ เกี่ยวกับความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศ หรอื (ซี) ห้ามภาคีใดดาเนินการใด ๆ ตามพันธกรณีของตนภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ เพือ่ การดารงไว้ซง่ึ สนั ตภิ าพและความมน่ั คงระหว่างประเทศ ข้อ 17.14: มาตรการทางภาษี 1. เพอ่ื ความมงุ่ ประสงค์ของข้อน้ี (เอ) อนสุ ญั ญาภาษี หมายถึง ความตกลงเพื่อหลีกเล่ียงการเก็บภาษีซ้อน หรือ ความตกลง หรือขอ้ ตกลงทางภาษีระหว่างประเทศอนื่ ๆ และ (บ)ี ภาษีและมาตรการทางภาษี ไมร่ วมถงึ อากรขาเข้าหรืออากรศลุ กากรใด ๆ 2. ไมม่ คี วามใดในความตกลงฉบับนี้ทีจ่ ะใช้บังคบั กับมาตรการทางภาษี เวน้ แต่ทก่ี าหนดไว้ในข้อนี้ 3. ความตกลงฉบบั นี้จะให้สทิ ธหิ รือกาหนดพันธกรณเี ก่ยี วกบั มาตรการทางภาษเี ฉพาะ (เอ) เท่าท่ีความตกลงดับบลิว ที โอ ให้สิทธิและกาหนดพันธกรณีเกี่ยวกับมาตรการ ทางภาษีดังกล่าว 7 เพือ่ ความชดั เจนยง่ิ ขึ้น คานีห้ มายรวมถึง โครงสร้างพ้ืนฐานสาธารณะทส่ี าคญั ย่ิง ไมว่ า่ จะเปน็ ของรัฐหรอื ของเอกชน 17-7

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ป็นทางการ - (บ)ี เท่าท่ีข้อ 10.9 (การโอน) ให้สิทธิและกาหนดพันธกรณีเกี่ยวกับมาตรการทางภาษี ดังกลา่ ว 4. ไม่มีความใดในความตกลงฉบับนี้ที่จะส่งผลกระทบต่อสิทธิและพันธกรณีของภาคีใด ๆ ภายใต้อนุสัญญาทางภาษี ในกรณีท่ีมีความไม่สอดคล้องซ่ึงเกี่ยวข้องกับมาตรการทางภาษี ระหวา่ งความตกลงฉบับนี้และอนุสญั ญาทางภาษดี งั กล่าว ให้ถือตามอย่างหลัง 5. ไม่มีความใดในความตกลงฉบับนี้ที่จะก่อให้เกิดพันธกรณีให้ภาคีหน่ึงขยายสิทธิประโยชน์ ของการปฏบิ ัติ สิทธพิ เิ ศษ หรอื เอกสทิ ธิ์ใด ๆ ที่เกดิ จากอนุสญั ญาทางภาษีท่ีมีอยู่หรือที่จะทา ในอนาคตท่ีผกู พนั ภาคีนั้น ให้แกภ่ าคีอื่นใด ขอ้ 17.15: มาตรการคุ้มครองดุลการชาระเงิน 1. ในกรณีที่ภาคีอยู่ในภาวะปัญหาดุลการชาระเงินและปัญหาทางการเงินภายนอกที่ร้ายแรง หรอื ภายใตก้ ารคุกคามจากภาวะดังกล่าว ภาคอี าจ (เอ) ในกรณีการค้าสินค้า นามาใช้หรือคงไว้ซ่ึงมาตรการจากัดการนาเข้า โดยสอดคล้อง กบั แกตต์ 1994 และความเข้าใจวา่ ด้วยบทบัญญัตเิ ร่ืองดลุ การชาระเงิน (บี) ในกรณีการค้าบริการ นามาใช้หรือคงไว้ซ่ึงข้อจากัดทางการค้าบริการที่ภาคี ได้ยอมรับข้อผูกพันไว้ รวมถึงการชาระเงินหรือการโอนเงินสาหรับธุรกรรม ซงึ่ เกยี่ วเนอ่ื งกับขอ้ ผูกพันน้ัน 2. ในกรณีการลงทุน เม่ือภาคีอยู่ในภาวะปัญหาดุลการชาระเงินและปัญหาทางการเงิน ภายนอกที่ร้ายแรงหรือภายใต้การคุกคามจากภาวะดังกล่าว หรือในกรณีพฤติการณ์พิเศษ การชาระเงินหรือการโอนเงินที่เกี่ยวข้องกับการเคล่ือนย้ายของเงินทุน ซ่ึงก่อให้เกิด หรือคุกคามท่ีจะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงต่อการจัดการเศรษฐกิจมหภาค ภาคีน้ันสามารถ นามาใช้หรือคงไว้ซ่ึงข้อจากัดการชาระเงินหรือการโอนเงินท่ีเกี่ยวข้องกับการลงทุน ทไ่ี ดร้ ับความคมุ้ ครอง ตามท่ีกาหนดไว้ในขอ้ 10.1 (คานยิ าม) 3. ขอ้ จากัดที่นามาใช้หรือคงไว้ ภายใตอ้ นวุ รรค 1 (บี) หรอื วรรค 2 จะตอ้ ง (เอ) สอดคล้องกับข้อตกลงของไอ เอม็ เอฟ ตามที่อาจแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ (บ)ี หลกี เลย่ี งความเสียหายอนั ไม่จาเป็นตอ่ ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ ทางเศรษฐกิจ และ ทางการเงนิ ของภาคอี นื่ ใด 17-8

- คำ�แปลอยา่ งไม่เปน็ ทางการ - (ซ)ี ไม่ใช้เกินกว่าความจาเป็นเพ่ือแก้ไขพฤติการณ์ที่ได้บรรยายไว้ในอนุวรรค 1 (บี) หรือวรรค 2 (ดี) ใช้เป็นการชั่วคราวและค่อย ๆ ยกเลิกแบบก้าวหน้าเป็นลาดับ เมื่อสถานการณ์ ตามท่ีระบุไว้ในอนวุ รรค 1 (บี) หรอื วรรค 2 ดขี น้ึ และ (อี) ใช้บนพ้ืนฐานของการไม่เลือกปฏิบัติ กล่าวคือ จะไม่มีภาคีใดได้รับการประติบัติ ที่ด้อยกว่าภาคอี ่นื หรอื ประเทศทีไ่ มใ่ ชภ่ าคี 4. ในกรณขี องการค้าบริการและการลงทนุ (เอ) เป็นท่ียอมรับว่า ความกดดันบางกรณีต่อดุลการชาระเงินของภาคีในระหว่าง ขั้นตอนการพัฒนาเศรษฐกิจหรือช่วงปรับเปล่ียนทางเศรษฐกิจ อาจก่อให้เกิด ความจาเป็นท่ีจะต้องใช้ข้อจากัด เพ่ือทาให้มั่นใจในเร่ืองต่าง ๆ อาทิ การรักษาไว้ ซง่ึ ระดบั การสารองทางการเงนิ ท่เี พยี งพอสาหรับการดาเนนิ การตามแผนการพัฒนา ทางเศรษฐกิจหรือการปรับเปล่ยี นทางเศรษฐกจิ (บ)ี ในการกาหนดเหตุการณ์เพื่อใช้ข้อจากัดดังกล่าว ภาคีอาจให้ลาดับความสาคัญ ตอ่ ภาคเศรษฐกิจซ่ึงมีความจาเป็นมากกว่าต่อแผนเศรษฐกิจหรือการพัฒนาของตน อย่างไรก็ตาม ข้อจากัดดังกล่าวจะไม่นามาใช้หรือคงไว้เพ่ือความมุ่งประสงค์ ในการปกป้องภาคเศรษฐกจิ ใดเป็นการเฉพาะ 5. ขอ้ จากดั ใดทนี่ ามาใช้หรอื คงไวโ้ ดยภาคภี ายใต้วรรค 1 หรือ 2 หรอื การเปลี่ยนแปลงข้อจากัด ใดนั้น จะต้องแจ้งให้ภาคีอ่นื ทราบโดยพลัน 6. ภาคีทน่ี ามาใชห้ รือคงไวซ้ ึ่งขอ้ จากดั ใด ๆ ภายใตว้ รรค 1 หรือ 2 จะต้อง (เอ) ในกรณีการลงทุน ตอบสนองต่อการร้องขอของภาคีอ่ืนใดให้มีการปรึกษาหารือ เก่ียวกับข้อจากัดที่ตนนามาใช้ หากการปรึกษาหารือดังกล่าวไม่ได้ดาเนินอยู่ นอกความตกลงฉบบั นี้ (บ)ี ในกรณีการค้าบริการ เริ่มการปรึกษาหารือโดยพลันกับภาคีอื่นใดซึ่งร้องขอ ใหม้ กี ารปรึกษาหารือเก่ียวกับข้อจากัดที่ตนนามาใช้ หากการปรึกษาหารือดังกล่าว ไมไ่ ด้ดาเนนิ อยู่ที่ดบั บลิว ที โอ 17-9

- คำ�แปลอย่างไมเ่ ป็นทางการ - ข้อ 17.16: สนธิสัญญาไวแทงกิ 1. ไม่มคี วามใดในความตกลงฉบบั น้ีทจ่ี ะขัดขวางการใช้มาตรการโดยนิวซีแลนด์ที่เห็นว่าจาเป็น ในการให้การประติบัติท่ีดีกว่าแก่ชนเผ่าเมารีในเร่ืองที่ครอบคลุมโดยความตกลงฉบับนี้ ซ่ึงรวมถึงการปฏิบัติให้เป็นไปตามพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญาไวแทงกิ หากมาตรการ ดังกล่าวไม่ได้ใช้ในลักษณะท่ีก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติตามอาเภอใจหรืออย่างแสดงเหตุผล ไมไ่ ด้ต่อบคุ คลของภาคีอน่ื หรือก่อให้เกดิ ข้อจากดั ทางการคา้ สินค้า การคา้ บริการ และการลงทุน โดยแอบแฝง 2. กลุ่มภาคีตกลงว่าการตีความสนธิสัญญาไวแทงกิ ซ่ึงรวมถึงลักษณะของสิทธิและพันธกรณี ท่ีเกิดขึ้นจากสนธิสัญญาดังกล่าว จะต้องไม่ตกอยู่ภายใต้บังคับของบทบัญญัติว่าด้วย การระงับข้อพิพาทของความตกลงฉบับน้ี นอกจากกรณีน้ีแล้ว ให้บทที่ 19 (การระงับ ข้อพิพาท) ใช้บังคับกับข้อนี้ คณะพิจารณาที่จัดต้ังข้ึนภายใต้ข้อ 19.11 (การจัดต้ังและ การรวมตัวของคณะผู้พิจารณา) อาจได้รับการร้องขอให้พิจารณาว่ามาตรการใดที่อ้างถึงใน วรรค 1 ไม่สอดคลอ้ งกบั สิทธิของภาคภี ายใต้ความตกลงฉบับน้ี 17-10

- คำ�แปลอยา่ งไม่เปน็ ทางการ - บทท่ี 18 บทบญั ญตั ิเกี่ยวกบั สถาบนั ข้อ 18.1: การประชุมรัฐมนตรอี าร์เซป็ 1. รัฐมนตรีของอาร์เซ็ป (ต่อไปในท่ีน้ีจะเรียกว่า “รัฐมนตรีอาร์เซ็ป” ในบทน้ี) จะต้องมี การประชุมภายในหน่ึง (1) ปี นับต้ังแต่ความตกลงฉบับน้ีมีผลใช้บังคับ และทุก ๆ ปีหลังจากนั้น เพื่อพจิ ารณาเรือ่ งใด ๆ เกีย่ วกับความตกลงฉบับน้ี เว้นแต่กลุ่มภาคีจะตกลงเปน็ อยา่ งอื่น 2. รฐั มนตรีอารเ์ ซป็ จะต้องตัดสนิ ใจเรื่องใด ๆ โดยฉันทามติ ขอ้ 18.2: การจัดตงั้ คณะกรรมการร่วมอาร์เซป็ กลุ่มภาคจี ัดตัง้ คณะกรรมการร่วมอารเ์ ซป็ ณ ทนี่ ้ี ประกอบด้วยเจา้ หน้าทอ่ี าวุโสที่ภาคีแตล่ ะฝา่ ยแต่งต้ัง ข้อ 18.3: หนา้ ที่ของคณะกรรมการรว่ มอาร์เซ็ป 1. ให้หนา้ ทีค่ ณะกรรมการรว่ มอารเ์ ซป็ มดี งั ต่อไปนี้ (เอ) พิจารณาเร่ืองใด ๆ ทเ่ี กี่ยวกบั การปฏิบัติตามและการดาเนินการของความตกลงฉบบั นี้ (บี) พจิ ารณาขอ้ เสนอใด ๆ ในการแกไ้ ขความตกลงฉบับนี้ (ซ)ี หารอื ความแตกตา่ งท่อี าจเกิดขึน้ เกย่ี วกับการตีความหรือการใช้บังคับความตกลงฉบับนี้ และมีการตีความบทบัญญัติของความตกลงฉบับนี้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม และจาเปน็ (ดี) แสวงหาคาแนะนาจากผูเ้ ช่ียวชาญในเรือ่ งใด ๆ ภายในหน้าที่ (อ)ี ส่งเร่ือง มอบหมายภารกิจ หรือมอบหมายหน้าที่ให้แก่องค์กรย่อยใด ๆ ที่จัดต้ัง ตามข้อ 18.6 (องค์กรย่อยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป) (ต่อไปในท่ีน้ี จะเรียกว่า “องค์กรยอ่ ย” ในบทนี้) (เอฟ) กากับดูแลและประสานการทางานขององค์กรย่อยท้ังหมด (จี) พจิ ารณาและตดั สินใจในเรอ่ื งทีส่ ง่ มาให้โดยองค์กรยอ่ ยใด ๆ 18-1

- ค�ำ แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - (เอช) ปรับโครงสรา้ ง จดั ระเบียบใหม่ หรือ ยุบสลายองคก์ รย่อยใด ๆ หากจาเป็น (ไอ) จัดตั้งและกากับดูแลสานักเลขาธิการอาร์เซ็ปบนข้อตกลงท่ีกลุ่มภาคีตกลงกัน ให้การสนับสนุนด้านเลขานุการและทางเทคนิคแก่คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป และองค์กรยอ่ ย (เจ) จัดเวทีการหารือในหวั ขอ้ ตามทภ่ี าคีจะตกลงกัน ซึง่ อาจรวมถึงการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจ ผู้เชยี่ วชาญ ภาควิชาการ และผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสียอืน่ ๆ ตามความเหมาะสม และ (เค) ปฏบิ ัติหนา้ ทอ่ี น่ื ใดตามที่กลมุ่ ภาคอี าจตกลงกัน 2. คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปจะต้องรายงานต่อท่ีประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ปและอาจส่งเร่ือง ใหท้ ปี่ ระชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ปเพื่อพจิ ารณาและตดั สินใจตามความเหมาะสม ข้อ 18.4: ขอ้ บงั คับการประชุมของคณะกรรมการร่วมอาร์เซป็ 1. คณะกรรมการรว่ มอาร์เซป็ จะตอ้ งตดั สินใจเร่ืองใด ๆ โดยฉันทามติ1 2. คณะกรรมการรว่ มอารเ์ ซป็ จะต้องกาหนดข้อบังคบั การประชุมในการประชมุ ครง้ั แรก ข้อ 18.5: การประชุมของคณะกรรมการร่วมอาร์เซป็ 1. คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปจะต้องมีการประชุมภายในหน่ึง (1) ปี นับต้ังแต่วันท่ีท่ีความตกลง ฉบับน้ีมีผลใช้บังคับและก่อนการประชุมครั้งแรกของรัฐมนตรีอาร์เซ็ป และทุก ๆ ปี ต่อจากนน้ั เว้นแต่กลุ่มภาคจี ะตกลงเป็นอย่างอื่น 2. คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปจะต้องประชุมโดยผลัดกันจัดและหมุนเวียนระหว่างภาคี ที่เป็นประเทศสมาชิกอาเซียนและภาคีที่มิใช่ประเทศสมาชิกอาเซียน เว้นแต่กลุ่มภาคี จะตกลงเป็นอยา่ งอ่นื 3. คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปจะต้องมีประธานร่วมเป็นผู้แทนท่ีแต่งต้ังโดยกลุ่มภาคี ท่เี ปน็ ประเทศสมาชกิ อาเซยี นและผู้แทนท่ีแต่งต้ังโดยกลุ่มภาคีที่มิใช่ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยหมุนเวียน เว้นแต่กลุ่มภาคีจะตกลงเป็นอย่างอื่น ประธานท้ังสองจะต้องทาให้มั่นใจว่า การบริหารการประชุมมีประสิทธิภาพและเป็นกลาง เพื่ออานวยให้เกิดฉันทามติระหว่าง กล่มุ ภาคี 1 คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปจะถือว่าได้ตัดสินใจโดยฉันทามติหากไม่มีภาคีซ่ึงอยู่ในท่ีประชุมเมื่อมีการตัดสินใจ คัดค้านมตินั้น ๆ ที่มีการเสนอ ในกรณีที่ภาคีไม่อยู่ในที่ประชุม ให้เวียนมติไปยังภาคีน้ันเพื่อพิจารณาแสวงหา คาช้แี จงตามที่จาเป็น และภาคีน้ันอาจแจ้งการรับทราบภายใน 14 วนั นบั จากวันทเ่ี วยี นการตัดสนิ ใจ 18-2

- ค�ำ แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - 4. ภาคีแต่ละฝา่ ยจะเปน็ ผรู้ ับผดิ ชอบในองคป์ ระกอบของคณะผู้แทนตน 5. คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปอาจดาเนินงานโดยวิธีใดก็ได้ท่ีเหมาะสม ซ่ึงอาจรวมถึงไปรษณีย์ อิเลก็ ทรอนิกส์ การประชุมทางไกลผ่านวีดีทัศน์ หรือวิธกี ารอื่น ขอ้ 18.6: องคก์ รย่อยของคณะกรรมการรว่ มอารเ์ ซป็ 1. คณะกรรมการร่วมอารเ์ ซ็ปจะตอ้ งจัดตงั้ ในการประชุมครั้งแรก (เอ) คณะกรรมการด้านสินค้าเพ่ือดูแลงานด้านการค้าสินค้า กฎถ่ินกาเนิดสินค้า พิธีการศุลกากรและการอานวยความสะดวกทางการค้า มาตรการสุขอนามัย และสุขอนามัยพืช มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบ และรับรอง และการเยียวยาทางการค้า (บี) คณะกรรมการด้านบริการและการลงทุนเพื่อดูแลงานด้านการค้าบริการรวมถึง บริการด้านการเงิน บริการโทรคมนาคม และบริการวิชาชีพ การเคล่ือนย้าย ช่วั คราวของบคุ คลธรรมดา และการลงทนุ (ซี) คณะกรรมการด้านการเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อดูแลงานด้านวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม ความรว่ มมือทางเศรษฐกิจและทางวชิ าการ และปัญหาท่เี กดิ ขน้ึ ใหม่ (ด)ี คณะกรรมการด้านสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อดูแลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา พาณชิ ย์อเิ ล็กทรอนิกส์ การแข่งขันทางการคา้ และการจัดซ้อื จดั จา้ งโดยรฐั 2. ให้คณะกรรมการแต่ละคณะท่ีจัดตั้งตามวรรค 1 มีหน้าท่ีตามที่ระบุในภาคผนวก 18 เอ (หนา้ ที่องคก์ รย่อยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป) และหน้าที่อื่นใดท่ีระบุไว้ตามความตกลง ฉบบั นห้ี รอื ตามทก่ี ลมุ่ ภาคีตกลงกัน 3. คณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปอาจจัดตั้งองค์กรย่อยข้ึนเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงคณะกรรมการอ่ืน ตามที่เหน็ จาเปน็ 4. คณะกรรมการที่จัดต้ังขึ้นตามวรรค 1 จะต้องมีการประชุมภายในหนึ่ง (1) ปี นับตั้งแต่วันท่ี ความตกลงฉบบั นี้มผี ลใช้บงั คบั และทุก ๆ ปี ตอ่ จากน้ัน เวน้ แตก่ ลุ่มภาคีจะตกลงเป็นอยา่ งอ่ืน ข้อ 18.7: การประชุมขององค์กรยอ่ ย เว้นแต่จะกาหนดไว้เปน็ อย่างอ่ืนในความตกลงฉบบั นี้ องคก์ รยอ่ ยใด ๆ 18-3

- คำ�แปลอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ - (เอ) จะต้องประกอบดว้ ยผู้แทนจากภาคีแต่ละฝ่าย (บี) จะต้องมีประธานร่วมที่เป็นผู้แทนที่แต่งตั้งโดยกลุ่มภาคีที่เป็นประเทศสมาชิก อาเซยี นและผแู้ ทนท่แี ตง่ ตง้ั โดยกลมุ่ ภาคที ่ีมใิ ช่ประเทศสมาชิกอาเซียนตามหลักการ หมนุ เวียน เว้นแต่กลุ่มภาคจี ะตกลงเป็นอยา่ งอื่น (ซ)ี จะต้องตัดสนิ ใจเรอื่ งใด ๆ ท่อี ยู่ในหน้าท่ีโดยฉนั ทามต2ิ (ด)ี อาจดาเนินงานโดยวิธีใดก็ได้ที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ การประชุมทางไกลผา่ นวดี ที ัศน์ หรือวธิ กี ารอน่ื และ (อ)ี จะต้องประชุมตามท่ีคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปจะสั่งหรือตามที่กลุ่มภาคีจะตกลง เปน็ อยา่ งอืน่ ข้อ 18.8: จุดติดต่อ ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องกาหนดจุดติดต่อทั่วไปเพื่ออานวยความสะดวกในการส่ือสารระหว่างกลุ่มภาคี ในเรื่องใด ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับความตกลงฉบับน้ี และแจ้งรายละเอียดการติดต่อของจุดติดต่อ แกภ่ าคอี ่ืน ๆ ภายใน 30 วัน นับตงั้ แต่ความตกลงฉบับน้ีมีผลใช้บังคับสาหรับภาคีน้ัน ภาคีแต่ละฝ่าย จะต้องแจ้งภาคีอ่ืน ๆ ถึงการเปล่ียนแปลงใด ๆ ของรายละเอียดการติดต่อดังกล่าวโดยพลัน การสื่อสารอยา่ งเปน็ ทางการทั้งหมดจะตอ้ งกระทาเป็นภาษาองั กฤษ 18-4

- ค�ำ แปลอยา่ งไม่เปน็ ทางการ - ภาคผนวก 18 เอ หนา้ ทข่ี ององคก์ รยอ่ ยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป คณะกรรมการดา้ นสนิ คา้ 1. ให้หน้าที่ของคณะกรรมการด้านสินค้าซ่ึงจัดต้ังตามอนุวรรค 1(เอ) ของข้อ 18.6 (องค์กร ย่อยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป) รวมถึงการกากับดูแลและประสานการทางานของ องคก์ รยอ่ ยอืน่ ใดที่เก่ียวข้องและพิจารณาเรื่องใด ๆ ที่เกิดข้ึนภายใต้หรือเกี่ยวกับการปฏิบัติ ตามหรอื การดาเนนิ การของ (เอ) บทที่ 2 (การค้าสนิ ค้า) (บ)ี บทท่ี 3 (กฎถน่ิ กาเนดิ สินค้า) (ซี) บทที่ 4 (พิธีการศลุ กากรและการอานวยความสะดวกทางการค้า) (ด)ี บทท่ี 5 (มาตรการสุขอนามยั และสุขอนามยั พืช) (อ)ี บทท่ี 6 (มาตรฐาน กฎระเบยี บทางเทคนคิ และกระบวนการตรวจสอบและรบั รอง) และ (เอฟ) บทที่ 7 (การเยียวยาทางการค้า) 2. ในส่วนท่ีเกีย่ วกบั บทท่ี 2 (การค้าสินค้า) ให้หนา้ ที่ของคณะกรรมการดา้ นสนิ ค้ารวมถึง (เอ) ติดตามและทบทวนการปฏบิ ตั ิตามและการดาเนนิ การของบทที่ 2 (การค้าสนิ ค้า) (บี) ระบุและใหค้ าแนะนามาตรการเพื่อส่งเสริมและอานวยความสะดวกการเข้าสู่ตลาด ที่ดียิ่งข้ึน รวมถึงผ่านการปรึกษาหารือเรื่องการเร่งหรือปรับปรุงข้อผูกพัน ด้านภาษีศุลกากรภายใตค้ วามตกลงฉบบั นี้ (ซี) จัดการอุปสรรคต่อการค้าสินค้าระหว่างกลุ่มภาคี รวมถึงประเด็นที่เก่ียวข้อง เ กี่ ย ว กั บ ม า ต ร ก า ร ท า ง ภ า ษี ศุ ล ก า ก ร แ ล ะ ม า ต ร ก า ร ท่ี ไ ม่ ใ ช่ ภ า ษี ศุ ล ก า ก ร นอกเหนือจากประเด็นทางเทคนิคท่ีอยู่ภายใต้อานาจหน้าที่ขององค์กรย่อยอื่น เทา่ น้ันทีเ่ กยี่ วเน่อื งกบั บทใดบทหนง่ึ ทก่ี ล่าวถงึ ในวรรค 1 (ดี) พิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับการจาแนกสินค้าภายใต้ระบบฮาร์โมไนซ์เพ่ือการใช้บังคับ ภาคผนวก 1 (ตารางข้อผูกพันทางภาษี) และการแปลงพิกัดศุลกากรในตาราง 18เอ-1

- คำ�แปลอยา่ งไม่เปน็ ทางการ - ข้อผูกพันทางภาษีของภาคีแต่ละฝ่ายในภาคผนวก 1 (ตารางข้อผูกพันทางภาษี) โดยสอดคล้องกับข้อ 2.14 (การแปลงพิกัดศุลกากรในตารางข้อผูกพันทางภาษี) หลังจากมีการแก้ไขระบบฮาร์โมไนซ์เป็นครั้งคราว รวมถึงการรับรองแนวปฏิบัติ สาหรับการแปลงพิกัดศุลกากรในตารางข้อผูกพันทางภาษีในภาคผนวก 1 (ตาราง ข้อผูกพันทางภาษี) และการแลกเปล่ียนตารางข้อผูกพันทางภาษีท่ีแปลงพิกัดแล้ว และตารางเปรยี บเทียบในเวลาท่เี หมาะสม และ (อี) หารือเร่ืองอื่นใดที่เก่ียวกับบทที่ 2 (การค้าสินค้า) รวมถึงแนวปฏิบัติท่ีดี ด้านระเบียบข้อบังคับสาหรับมาตรการท่ีมีผลต่อการค้าสินค้าและสารวจลู่ทาง ในการเสริมสร้างความร่วมมือในเรื่องการใช้แนวปฏิบัติท่ีดีด้าน ระเบียบข้อบังคับ ตามความเหมาะสม 3. ในสว่ นท่ีเกย่ี วกบั บทท่ี 3 (กฎถิน่ กาเนดิ สนิ ค้า) ให้หน้าท่ีของคณะกรรมการดา้ นสินคา้ รวมถึง (เอ) ตดิ ตามการปฏบิ ตั ิตามบทท่ี 3 (กฎถนิ่ กาเนดิ สนิ ค้า) (บี) ทบทวนและให้คาแนะนาท่ีเหมาะสมต่อคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปตามความจาเป็น เก่ียวกบั (หนง่ึ ) การบริหารจัดการบทที่ 3 (กฎถ่ินกาเนิดสินค้า) อย่างมีประสิทธิภาพ และสม่าเสมอ รวมถึงการตีความและการใช้บังคับของบท และ การเสริมสร้างความรว่ มมือที่เก่ยี วกับบทท่ี 3 (กฎถน่ิ กาเนิดสนิ คา้ ) และ (สอง) การแกไ้ ขท่อี าจเปน็ ไปไดต้ อ่ ภาคผนวก 3 เอ (กฎเฉพาะรายสินค้า) และ ภาคผนวก 3 บี (ข้อกาหนดเรื่องข้อมูลขั้นต่า) โดยสอดคล้องกับ ข้อ 3.34 (การแปลงพิกัดศุลกากรกฎเฉพาะรายสินค้า) และข้อ 3.35 (การแก้ไขเพมิ่ เติมภาคผนวก) และ (ซี) อานวยความสะดวกความร่วมมือและการระบุมาตรการเพ่ือ ทาขั้นตอน การดาเนินการเก่ียวกับการรับรองท่ีครอบคลุมโดยส่วน บี (ระเบียบปฏิบัติเก่ียวกับ หนังสือรับรองถิ่นกาเนิดสินค้า) ของบทท่ี 3 (กฎถิ่นกาเนิดสินค้า) ให้เรียบง่ายข้ึน และทาให้มีความโปร่งใส คาดการณ์ได้ และได้มาตรฐานมากขึ้น โดยคานึงถึง แนวปฏิบัตทิ ีเ่ ปน็ เลศิ ของความตกลงการคา้ ระหวา่ งประเทศและระดับภูมิภาคอืน่ ๆ 4. ในส่วนของบทท่ี 4 (พิธีการศุลกากรและการอานวยความสะดวกทางการค้า) ให้หน้าท่ี ของคณะกรรมการด้านสินค้ารวมถงึ 18เอ-2

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ - (เอ) ติดตามการปฏิบัติตามบทที่ 4 (พิธีการศุลกากรและการอานวยความสะดวก ทางการค้า) (บี) ทบทวนและให้คาแนะนาท่ีเหมาะสมต่อคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปเก่ียวกับ การบริหารจัดการบทที่ 4 (พิธกี ารศลุ กากรและการอานวยความสะดวกทางการค้า) อย่างมีประสิทธิภาพและสม่าเสมอ รวมถึงการตีความและการใช้บังคับของบท และการเสริมสร้างความร่วมมือที่เกี่ยวกับบทท่ี 4 (พิธีการศุลกากรและการอานวย ความสะดวกทางการค้า) และ (ซ)ี ติดตามข้อตกลงเก่ียวกับการนาไปปฏิบัติท่ีได้กาหนดไว้ในข้อ 4.21 (ข้อตกลง เกย่ี วกับการนาไปปฏิบตั ิ) 5. ในส่วนของบทท่ี 5 (มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช) ให้หน้าท่ีของคณะกรรมการ ดา้ นสินค้ารวมถงึ (เอ) ตดิ ตามการปฏิบตั ิตามบทที่ 5 (มาตรการสุขอนามยั และสขุ อนามัยพืช) (บ)ี พจิ ารณาเรือ่ งสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชท่ีเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน โดยปรึกษาหารือ กบั ผูเ้ ช่ียวชาญที่เกย่ี วข้องเมอื่ เกีย่ วข้องกบั ประเด็นทางวทิ ยาศาสตร์หรือทางเทคนิค (ซี) อานวยความสะดวกความร่วมมือรวมถึงการประสานงานตามความเหมาะสม กบั แผนการทางานระดับทวิภาคี ภูมิภาค หรือพหุภาคี ตามข้อ 5.13 (ความร่วมมือ และการสรา้ งขีดความสามารถ) 6. ในส่วนของบทที่ 6 (มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการตรวจสอบและ รบั รอง) ใหห้ นา้ ที่ของคณะกรรมการดา้ นสนิ คา้ รวมถงึ (เอ) ตดิ ตามการปฏิบัติตามบทท่ี 6 (มาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิค และกระบวนการ ตรวจสอบและรบั รอง) (บ)ี อานวยความสะดวกความรว่ มมือตามขอ้ 6.9 (ความร่วมมอื ) (ซ)ี ระบุสาขาท่ีตกลงร่วมกันว่าจะให้ลาดับความสาคัญเพื่อความร่วมมือที่เสริมสร้าง มากข้นึ (ดี) จดั ต้งั แผนการทางานตามความเหมาะสมในสาขาท่ใี หล้ าดับความสาคัญตามที่ตกลง ร่วมกันเพ่ืออานวยความสะดวกในการยอมรับผลของกระบวนการตรวจสอบและ 18เอ-3

- คำ�แปลอย่างไม่เปน็ ทางการ - รับรองความเทียบเท่าของกฎระเบียบทางเทคนิค โดยปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญ ท่ีเก่ียวขอ้ งเมอ่ื เกีย่ วขอ้ งกบั ประเด็นทางวทิ ยาศาสตร์หรอื ทางเทคนคิ (อ)ี ติดตามความคืบหน้าของแผนการทางาน และ (เอฟ) กากับดูแลข้อตกลงระดับทวิภาคีหรือหลายฝ่ายท่ีพัฒนาตามข้อ 6.13 (ข้อตกลง เก่ยี วกบั การนาไปการปฏิบัติ) 7. ในสว่ นของบทที่ 7 (การเยียวยาทางการคา้ ) ให้หนา้ ท่ีของคณะกรรมการด้านสินค้ารวมถึง (เอ) ติดตามการปฏบิ ตั ิตามบทที่ 7 (การเยยี วยาทางการคา้ ) (บ)ี เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจของภาคีเก่ียวกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ นโยบาย และการปฏบิ ัติในเร่อื งการเยียวยาทางการค้าของภาคีอ่นื ๆ (ซี) ปรับปรุงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของกลุ่มภาคีที่รับผิดชอบเรื่องการเยียวยา ทางการค้า และ (ดี) รว่ มมอื ในเร่อื งอืน่ ใดทีก่ ลุ่มภาคีตกลงกันตามความจาเปน็ คณะกรรมการดา้ นบริการและการลงทนุ 8. ใหห้ นา้ ท่ีของคณะกรรมการด้านบริการและการลงทุนซึ่งจัดต้ังตามอนุวรรค 1(บี) ของข้อ 18.6 (องค์กรย่อยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป) รวมถึงการกากับดูแลและประสานการทางาน ขององค์กรย่อยอื่นใดที่เก่ียวข้องและพิจารณาเร่ืองใด ๆ ที่เกิดข้ึนภายใต้หรือเกี่ยวกับ การปฏบิ ตั ติ ามหรือการดาเนินการของ (เอ) บทท่ี 8 (การค้าบรกิ าร) (บ)ี บทที่ 9 (การเคลือ่ นย้ายช่วั คราวของบคุ คลธรรมดา) และ (ซ)ี บทท่ี 10 (การลงทนุ ) 9. ในสว่ นของบทที่ 8 (การค้าบรกิ าร) ให้หนา้ ท่ขี องคณะกรรมการดา้ นบริการและการลงทนุ รวมถึง (เอ) ติดตามและทบทวนการปฏิบัติตามและการดาเนินการของบทที่ 8 (การคา้ บริการ) 18เอ-4

- คำ�แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - (บี) ปฏิบัติหน้าท่ีตามท่ีได้กาหนดไว้ในข้อ 8.12 (การเปลี่ยนผ่าน) และข้อ 8.13 (การแกไ้ ขตาราง) และ (ซ)ี อานวยความสะดวกในความร่วมมือและระบุมาตรการเพ่ือส่งเสริมการค้าบริการ เพม่ิ เตมิ 10. ในส่วนของบทท่ี 10 (การลงทุน) ให้หน้าท่ีของคณะกรรมการด้านบริการและการลงทุน รวมถึง (เอ) ติดตามการปฏิบตั ิตามบทท่ี 10 (การลงทนุ ) (บี) นาแผนการทางานทีจ่ ัดตั้งตามขอ้ 10.18 (แผนการทางาน) ไปปฏิบัติตาม และ (ซ)ี อานวยความสะดวกความร่วมมือและระบุมาตรการเพ่ือการส่งเสริมการลงทุน เพ่มิ เตมิ 11. ภาคีแต่ละฝ่ายจะต้องให้ข้อมูลที่ทันสมัยเก่ียวกับมาตรการหรือนโยบายใหม่ด้านการค้า บรกิ ารและการลงทนุ ต่อคณะกรรมการด้านบริการและการลงทุน คณะกรรมการดา้ นการเตบิ โตอย่างย่งั ยืน 12. ให้หน้าทขี่ องคณะกรรมการด้านการเติบโตอย่างย่ังยืนซึ่งจัดต้ังตามอนุวรรค 1(ซี) ของข้อ 18.6 (องค์กรย่อยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป) รวมถึงการพิจารณาเรื่องใด ๆ ท่ีเกิดข้ึนภายใต้ หรอื เกยี่ วกับการปฏบิ ตั ติ ามหรอื การดาเนนิ การของ (เอ) บทท่ี 14 (วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม) และ (บี) บทท่ี 15 (ความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ และวิชาการ) 13. ในส่วนของบทท่ี 14 (วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม) ให้หน้าที่ของคณะกรรมการ ด้านการเติบโตอย่างยั่งยืนรวมถงึ (เอ) ตดิ ตามการปฏิบตั ิตามบทที่ 14 (วสิ าหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ ม) และ (บี) หารือแนวทางที่จะอานวยความสะดวกความร่วมมือในเรื่องวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมระหว่างกลุม่ ภาคี 18เอ-5

- คำ�แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - 14. ในส่วนของบทที่ 15 (ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ) ให้หน้าท่ีของคณะกรรมการ ด้านการเตบิ โตอย่างยง่ั ยืนรวมถึง (เอ) พัฒนาและประสานงานแผนการทางานตามข้อ 15.5 (แผนการทางาน) และกลไก เพอ่ื ปฏบิ ตั ิตาม (บี) ประสานงานกับภาคีหรือกลุ่มภาคีท่ีทาการปฏิบัติตามในการจัดทารายงาน รวมถึง รายงานการเสร็จสิน้ ฉบบั สดุ ทา้ ยสาหรบั แต่ละกจิ กรรม (ซ)ี ติดตามและประเมินการปฏิบัติตามแผนการทางานเพื่อวัดผลประสิทธิภาพโดยรวม และการมีส่วนช่วยการปฏิบตั ิตามความตกลงฉบับนี้ และ (ดี) ทางานกับองค์กรย่อยอ่ืน ๆ รวมถึงคณะกรรมการอื่น ๆ ในการจัดตั้งและคงไว้ ซ่ึงการส่ือสารและประสานงานท่ีมีประสิทธิภาพในกิจกรรมความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจและวชิ าการ และประเด็นทเี่ ก่ยี วข้อง คณะกรรมการด้านสภาพแวดลอ้ มทางธรุ กิจ 15. ใหห้ นา้ ทขี่ องคณะกรรมการดา้ นสภาพแวดลอ้ มทางธรุ กจิ ซงึ่ จัดตงั้ ตามอนวุ รรค 1(ดี) ของข้อ 18.6 (องค์กรย่อยของคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ป) รวมถึงการพิจารณาเร่ืองใด ๆ ที่เกิดข้ึนภายใต้ หรอื เกี่ยวกบั การปฏิบัตติ ามหรอื การดาเนินการของ (เอ) บทที่ 11 (ทรพั ยส์ ินทางปญั ญา) (บ)ี บทท่ี 12 (พาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์) (ซี) บทที่ 13 (การแข่งขันทางการค้า) และ (ด)ี บทที่ 16 (การจดั ซ้ือจัดจ้างโดยรฐั ) 16. ในสว่ นของบทที่ 11 (ทรัพย์สินทางปัญญา) ให้หน้าท่ีของคณะกรรมการด้านสภาพแวดล้อม ทางธรุ กิจรวมถงึ (เอ) ตดิ ตามการปฏิบตั ติ ามและการดาเนินการของบทที่ 11 (ทรัพย์สินทางปญั ญา) (บี) หารอื แนวทางในการอานวยความสะดวกความรว่ มมอื ระหวา่ งกลุ่มภาคี และ 18เอ-6

- ค�ำ แปลอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ - (ซี) แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ระบบ และประเด็นอ่ืน ๆ ที่เป็นผลประโยชนร์ ว่ มกนั เก่ียวกับสิทธิในทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา 17. ในส่วนของบทที่ 12 (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) ให้หน้าที่ของคณะกรรมการด้านสภาพแวดล้อม ทางธรุ กิจรวมถงึ (เอ) ติดตามการปฏิบัติตามบทท่ี 12 (พาณชิ ยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์) (บ)ี ดาเนนิ กิจกรรมตามข้อ 12.16 (การหารอื เรอ่ื งพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส)์ และ (ซ)ี หารือแนวทางในการอานวยความสะดวกความร่วมมือดา้ นเศรษฐกิจดิจิทัลระหว่างกลุ่มภาคี 18. ในส่วนของบทท่ี 13 (การแข่งขันทางการค้า) ให้หน้าที่ของคณะกรรมการด้านสภาพแวดล้อม ทางธรุ กิจรวมถงึ (เอ) ติดตามการปฏิบัตติ ามบทที่ 13 (การแขง่ ขนั ทางการคา้ ) (บ)ี รายงานตามที่กาหนดไว้ต่อคณะกรรมการร่วมอาร์เซ็ปเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม บทท่ี 13 (การแขง่ ขันทางการคา้ ) และพฒั นาการและกจิ กรรมตามบทท่ี 13 (การแข่งขัน ทางการค้า) ของกลุ่มภาคีที่เก่ียวกับการแข่งขันทางการค้า รวมถึงมาตรการในการ ปฏบิ ตั ติ ามพนั ธกรณีตามขอ้ ตกลงการเปล่ียนผา่ นทก่ี าหนดไว้ใน (หน่ึง) ภาคผนวก 13 เอ (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรม ทจี่ ากัดการแขง่ ขัน) และข้อ 13.4 (ความรว่ มมือ) แก่บรูไนดารสุ ซาลาม) (สอง) ภาคผนวก 13 บี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรม ที่จากัดการแข่งขนั ) และข้อ 13.4 (ความร่วมมอื ) แก่กมั พูชา) (สาม) ภาคผนวก 13 ซี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรม ทจ่ี ากดั การแข่งขัน) และขอ้ 13.4 (ความรว่ มมอื ) แก่ สปป.ลาว) และ (ส่ี) ภาคผนวก 13 ดี (การใช้บังคับข้อ 13.3 (มาตรการที่เหมาะสมต่อกิจกรรม ท่จี ากัดการแขง่ ขนั ) และข้อ 13.4 (ความรว่ มมอื ) แกเ่ มยี นมา) (ซ)ี ส่งเสรมิ ความรว่ มมอื ดา้ นประเดน็ การแขง่ ขนั ทางการคา้ ระหว่างกลมุ่ ภาคี 18เอ-7

- คำ�แปลอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ - (ด)ี ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มภาคีด้านความช่วยเหลือทางเทคนิคและกิจกรรม การสร้างขีดความสามารถตามข้อ 13.6 (ความร่วมมือทางเทคนิคและการสร้าง ขดี ความสามารถ) (อี) ส่งเสริมการแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างกลุ่มภาคีเกี่ยวกับประเด็นการแข่งขัน ทางการค้ารวมถึงประเดน็ ที่เกดิ ขนึ้ ภายใตบ้ ทที่ 13 (การแขง่ ขันทางการค้า) และ (เอฟ) ทบทวนบทที่ 13 (การแขง่ ขันทางการคา้ ) บนพืน้ ฐานของฉนั ทามติของภาคที ้ังหมด 19. ในส่วนของบทท่ี 16 (การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ) ให้หน้าท่ีของคณะกรรมการด้านสภาพแวดล้อม ทางธุรกจิ รวมถึง (เอ) อานวยความสะดวกกจิ กรรมความรว่ มมอื เช่นทม่ี กี ารกลา่ วถึงในข้อ 16.5 (ความร่วมมือ) ตามความเหมะสมและท่ีตกลงกัน และ (บ)ี อานวยความสะดวกการทบทวนใด ๆ ของบทที่ 16 (การจัดซ้ือจัดจ้างโดยรัฐ) ทด่ี าเนินการตามข้อ 16.6 (การทบทวน) 18เอ-8

- ค�ำ แปลอยา่ งไม่เป็นทางการ - บทที่ 19 การระงบั ข้อพพิ าท ขอ้ 19.1: คานิยาม เพือ่ ความมุ่งประสงค์ของบทนี้ (เอ) ภาคีผู้ฟ้อง หมายถึง ภาคีหรือกลุ่มภาคีใด ๆ ท่ีร้องขอให้มีการปรึกษาหารือ ตามวรรค 1 ของข้อ 19.6 (การปรึกษาหารอื ) (บ)ี กลุ่มภาคีทพี่ พิ าท หมายถงึ ภาคผี ู้ฟ้องและภาคีผู้ถูกฟ้อง (ซ)ี ภาคที ี่พพิ าท หมายถึง ภาคผี ฟู้ อ้ งหรอื ภาคีผู้ถูกฟ้อง (ด)ี ภาคีผู้ถูกฟ้อง หมายถึง ภาคีใด ๆ ท่ีได้รับการร้องขอเพ่ือปรึกษาหารือตามวรรค 1 ของขอ้ 19.6 (การปรึกษาหารือ) (อี) กฎแห่งวิธีพิจารณา หมายถึง กฎแห่งวิธีพิจารณาสาหรับกระบวนการของ คณะพิจารณา ซงึ่ รบั รองโดยคณะกรรมการร่วมอารเ์ ซ็ป และ (เอฟ) ภาคีฝ่ายท่ีสาม หมายถึง ภาคีใด ๆ ที่ได้แจ้งตามวรรค 2 ของข้อ 19.10 (กลุ่มภาคี ฝ่ายทส่ี าม) ขอ้ 19.2: วัตถุประสงค์ บทน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือจัดให้มีกฎและกระบวนการท่ีมีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส สาหรับการระงับขอ้ พิพาทท่ีเกดิ ข้ึนภายใต้ความตกลงฉบบั นี้ ข้อ 19.3: ขอบเขต1 1. เวน้ แต่จะกาหนดไวเ้ ปน็ อย่างอืน่ ในความตกลงฉบบั น้ี บทนจี้ ะใชบ้ ังคับ (เอ) เพื่อการระงับข้อพิพาทระหว่างกลุ่มภาคีเก่ียวกับการตีความและการใช้บังคับ ของความตกลงฉบับน้ี และ 1 คาฟอ้ งประเภททีม่ ใิ ช่เรือ่ งการละเมิดพนั ธกรณไี มอ่ นญุ าตใหก้ ระทาไดภ้ ายใต้ความตกลงฉบับนี้ 19-1

- คำ�แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ - (บี) เมื่อภาคีหน่ึงเห็นว่ามาตรการของภาคีอื่นไม่สอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้ความตกลง ฉบบั นี้ หรอื ภาคีอืน่ ไม่ปฏบิ ัติตามพนั ธกรณภี ายใต้ความตกลงฉบบั นี้ 2. ภายใตบ้ ังคับของข้อ 19.5 (การเลือกเวทีระงับข้อพิพาท) บทน้ีจะไม่เป็นการกระทบต่อสิทธิ ของภาคีในการใชก้ ระบวนการระงับขอ้ พพิ าทท่มี ีอยู่ภายใต้ความตกลงอืน่ ๆ ทต่ี นเปน็ ภาคี ขอ้ 19.4: บทบัญญตั ทิ ่วั ไป 1. ให้ตีความความตกลงฉบับนี้โดยเป็นไปตามกฎจารีตประเพณีของการตีความสนธิสัญญา ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง 2. ในส่วนที่เก่ียวกับบทบัญญัติใด ๆ ของความตกลงดับบลิว ที โอ ซ่ึงรวมเข้าไว้ในความตกลง ฉบับน้ี คณะพิจารณาจะต้องพิจารณาการตีความที่เก่ียวข้องในรายงานของคณะพิจารณา และองค์กรอุทธรณ์ของดับบลิว ที โอ ซ่ึงได้รับการรับรองโดยองค์กรระงับข้อพิพาท ของดับบลิว ที โอ ผลการพิจารณาและคาตัดสินของคณะพิจารณาไม่สามารถเพ่ิมหรือลด สิทธแิ ละพนั ธกรณที ก่ี าหนดไว้ในความตกลงฉบบั นี้ได2้ 3. การแจ้ง การร้องขอ และการตอบรับท้ังหมดที่กระทาขึ้นตามบทน้ี จะต้องกระทา เปน็ ลายลกั ษณ์อักษร 4. ให้ส่งเสริมกลุ่มภาคีท่ีพิพาทใช้ความพยายามทุกวิถีทาง ในทุกข้ันตอน ผ่านความร่วมมือ และการปรึกษาหารือ เพื่อบรรลุถึงข้อยุติของข้อพิพาทท่ีตกลงร่วมกัน เมื่อบรรลุข้อยุติ ของข้อพิพาทท่ีตกลงร่วมกันได้แล้ว ให้ร่วมกันแจ้งข้อกาหนดและเงื่อนไขของข้อตกลง ดงั กล่าวไปยงั ภาคอี นื่ 5. ระยะเวลาใด ๆ ที่ได้กาหนดไว้ในบทนี้อาจแกไ้ ขได้โดยการตกลงร่วมกันโดยกลุ่มภาคีท่ีพิพาท โดยมีเงื่อนไขว่า การแก้ไขใด ๆ จะต้องไม่กระทบต่อสิทธิของกลุ่มภาคีฝ่ายที่สามที่ให้ไว้ ในขอ้ 19.10 (กลุ่มภาคฝี า่ ยทีส่ าม) 6. การระงับข้อพิพาทโดยเร็ว ซึ่งภาคีเห็นว่า ผลประโยชน์ใดท่ีเกิดขึ้นแก่ตนโดยตรงหรือโดยอ้อม ภายใต้ความตกลงฉบับน้ีกาลังได้รับความเสียหายจากมาตรการซึ่งดาเนินโดยภาคีอ่ืน มคี วามจาเป็นอย่างย่ิงต่อการทางานอย่างมีประสิทธิภาพของความตกลงฉบับนี้ และการรักษา ความสมดลุ ทเี่ หมาะสมระหวา่ งสิทธิและพันธกรณขี องกล่มุ ภาคี 2 กลุ่มภาคียืนยันว่า ประโยคแรกของวรรคน้ีไม่ห้ามคณะพิจารณาท่ีจะพิจารณาการตีความในรายงานที่เกี่ยวข้อง ของคณะพิจารณาและองค์กรอุทธรณ์ของดับบลิว ที โอ ซึ่งรับรองโดยองค์กรระงับข้อพิพาทของดับบลิว ที โอ ในส่วนทเ่ี ก่ียวกับบทบัญญัติของความตกลงดับบลวิ ที โอ ท่ไี มไ่ ด้รวมเขา้ ไว้ในความตกลงฉบับน้ี 19-2

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ - ข้อ 19.5: การเลอื กเวทีระงบั ขอ้ พิพาท 1. เม่ือข้อพิพาทเกี่ยวกับสิทธิและพันธกรณีภายใต้ความตกลงฉบับน้ีท่ีเทียบเท่าในสาระสาคัญ กับสิทธิและพันธกรณีภายใต้ความตกลงด้านการค้าหรือการลงทุนระหว่างประเทศอ่ืน ที่กลุ่มภาคีที่พิพาทเป็นภาคี ภาคีผู้ฟ้องอาจเลือกเวทีระงับข้อพิพาท และให้ใช้เวทีน้ัน เพยี งเวทเี ดยี ว โดยไม่ใช้เวทอี น่ื อีก 2. เพ่ือความมุ่งประสงค์ของข้อนี้ ให้ถือว่าภาคีผู้ฟ้องได้เลือกเวทีระงับข้อพิพาท เม่ือได้ร้องขอ ให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณาตามวรรค 1 ของข้อ 19.8 (การร้องขอให้มีการจัดต้ังคณะ พิจารณา) หรือร้องขอให้มีการจัดต้ัง หรือส่งเรื่องไปยังคณะพิจารณาหรือศาลเพ่ือระงับ ข้อพพิ าทภายใต้ความตกลงด้านการคา้ หรือการลงทนุ ระหว่างประเทศอื่น 3. ข้อน้ีไม่ใช้บังคับในกรณีที่กลุ่มภาคีที่พิพาทตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะไม่ใช้ข้อนี้ บงั คับขอ้ พพิ าทที่เฉพาะเจาะจง ข้อ 19.6: การปรึกษาหารือ 1. ภาคใี ด ๆ อาจรอ้ งขอให้มีการปรึกษาหารือกับภาคีอ่ืน ๆ เก่ียวกับเรื่องใด ๆ ที่ระบุไว้ในวรรค 1 ของข้อ 19.3 (ขอบเขต) ภาคีผู้ถูกฟ้องจะต้องพิจารณาการร้องขอจากภาคีผู้ฟ้องให้มีการปรึกษา หารืออยา่ งเหมาะสม และจะตอ้ งให้โอกาสสาหรับการปรกึ ษาหารอื ดังกล่าวอย่างเพียงพอ 2. การร้องขอเพ่ือให้มีการปรึกษาหารือใด ๆ ท่ดี าเนินการตามวรรค 1 จะต้องให้เหตุผลสาหรับ การร้องขอ รวมถึงการระบุมาตรการที่เป็นประเด็นพิพาท และพื้นฐานของข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายสาหรบั คาฟ้อง 3. ภาคีผู้ฟ้องจะต้องส่งสาเนาการร้องขอเพ่ือให้มีการปรึกษาหารือที่ดาเนินการตามวรรค 1 ใหแ้ ก่ภาคอี ่ืนพร้อม ๆ กัน 4. ภาคีผู้ถูกฟ้องจะต้องยืนยันโดยทันทีว่าได้รับการร้องขอเพื่อให้มีการปรึกษาหารือ ทดี่ าเนินการตามวรรค 1 โดยการแจง้ ไปยงั ภาคผี ฟู้ ้อง โดยระบวุ นั ทีไ่ ด้รับการร้องขอ มิฉะนั้น ให้ถือว่าวันที่ที่ส่งการร้องขอเป็นวันท่ีที่ภาคีผู้ถูกฟ้องได้รับการร้องขอภาคีผู้ถูกฟ้องจะต้อง สง่ สาเนาการแจง้ ดงั กล่าวให้แกภ่ าคีอ่ืนพรอ้ ม ๆ กัน 5. ภาคีผ้ถู กู ฟอ้ งจะต้อง (เอ) ตอบการร้องขอเพ่ือใหม้ ีการปรึกษาหารอื ท่ีดาเนินการตามวรรค 1 ไมช่ ้ากว่าเจ็ด (7) วนั หลังจากวนั ทีไ่ ดร้ ับการรอ้ งขอ และ 19-3

- ค�ำ แปลอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ - (บี) สง่ สาเนาการตอบการร้องขอให้แก่ภาคีอน่ื พร้อม ๆ กนั 6. ภาคผี ู้ถูกฟอ้ งจะตอ้ งเข้าสกู่ ารปรกึ ษาหารอื ไม่ช้ากวา่ (เอ) 15 วันหลังจากวันท่ีได้รับการร้องขอเพื่อให้มีการปรึกษาหารือท่ีดาเนินการ ตามวรรค 1 ในกรณีเรง่ ดว่ น ซ่ึงรวมถึงกรณีทเ่ี กยี่ วข้องกับสนิ คา้ ท่ีเนา่ เสยี ได้ หรอื (บี) 30 วันหลังจากวันที่ได้รับการร้องขอเพ่ือให้มีการปรึกษาหารือท่ีดาเนินการ ตามวรรค 1 สาหรบั เรื่องอ่นื ๆ 7. กลุ่มภาคีท่ีพิพาทจะต้องเข้าร่วมในการปรึกษาหารือโดยสุจริตและพยายามทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุข้อยตุ ิที่ตกลงร่วมกันผา่ นการปรึกษาหารอื เพื่อการน้ี กลุม่ ภาคีทีพ่ ิพาทจะต้อง (เอ) ให้ข้อมูลที่เพียงพอในระหว่างการปรึกษาหารือเพื่อให้สามารถมีการพิจารณา วินิจฉัยเรื่องที่พิพาทโดยสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงว่ามาตรการที่เป็นประเด็นพิพาท อาจมีผลกระทบตอ่ การปฏิบัตติ ามหรือการใช้บงั คับความตกลงฉบับน้ีอย่างไร (บ)ี ปฏิบัติต่อข้อมูลท่ีเป็นความลับหรือท่ีมีกรรมสิทธิ์ท่ีได้แลกเปล่ียนในระหว่าง การปรึกษาหารอื บนพ้ืนฐานเดยี วกนั กบั ภาคีผู้ใหข้ อ้ มลู และ (ซ)ี พยายามให้บุคลากรของหน่วยงานรัฐบาลหรือองค์กรกากับดูแลอ่ืน ๆ ของตน ซง่ึ รับผดิ ชอบ หรือมคี วามเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเร่ืองเข้ารว่ มการปรกึ ษาหารอื 8. การปรึกษาหารือจะต้องเป็นความลับและไม่เป็นการกระทบต่อสิทธิของภาคีที่พิพาทใด ในกระบวนการพจิ ารณาตอ่ ไปหรือกระบวนการพิจารณาอ่ืน ๆ 9. เมื่อใดก็ตามที่ภาคีนอกเหนือไปจากกลุ่มภาคีที่พิพาทเห็นว่าตนมีผลประโยชน์ทางการค้า อย่างมีนัยสาคัญในการปรึกษาหารือ ภาคีนั้นอาจแจ้งไปยังกลุ่มภาคีท่ีพิพาทว่าต้องการ ที่จะเข้าร่วมในการปรึกษาหารือไม่ช้ากว่าเจ็ด (7) วันหลังจากวันที่ได้รับสาเนาการร้องขอ เพื่อการปรึกษาหารือท่ีอ้างถึงในวรรค 3 ภาคีท่ีแจ้งจะต้องส่งสาเนาการแจ้งให้แก่ภาคีอื่น พรอ้ ม ๆ กัน ภาคที ่แี จง้ จะสามารถเข้ารว่ มการปรกึ ษาหารือได้ หากกล่มุ ภาคีที่พพิ าทตกลง ขอ้ 19.7: คนกลาง การประนอม หรอื การไกลเ่ กล่ยี 1. กลุ่มภาคีท่ีพิพาทอาจตกลงที่จะใช้วิธีระงับข้อพิพาททางเลือกโดยสมัครใจเมื่อใดก็ได้ ซึ่งรวมถึง คนกลาง การประนอม หรือการไกล่เกล่ีย กระบวนการสาหรับวิธีการระงับ ข้อพพิ าททางเลือกนั้นอาจเร่มิ เมื่อใดก็ได้และบอกเลกิ โดยภาคที ี่พิพาทใด เม่อื ใดก็ได้ 19-4

- คำ�แปลอย่างไมเ่ ป็นทางการ - 2. หากกลุ่มภาคีท่ีพิพาทตกลงกระบวนการท่ีอ้างถึงในวรรค 1 อาจดาเนินต่อไป ในขณะท่ีเร่ืองดังกล่าว กาลงั ถกู พจิ ารณาวินิจฉัยโดยคณะพิจารณาภายใต้บทนี้ 3. กระบวนพิจารณาที่เก่ียวข้องกับกระบวนการท่ีอ้างถึงในวรรค 1 และท่าทีของภาคีที่พิพาท ระหว่างกระบวนพิจารณาเหล่านี้ จะต้องเป็นความลับและไม่เป็นการกระทบต่อสิทธิ ของภาคีที่พิพาทใดในกระบวนพจิ ารณาต่อไปหรือกระบวนพิจารณาอืน่ ๆ ขอ้ 19.8: การร้องขอให้มีการจัดต้ังคณะพิจารณา 1. ภาคีผู้ฟ้องอาจขอให้มีการจัดตั้งคณะพิจารณาเพ่ือพิจารณาวินิจฉัยเร่ือง โดยการแจ้ง ไปยังภาคีผู้ถกู ฟอ้ ง หาก (เอ) ภาคผี ถู้ กู ฟ้องไม่ (หน่งึ ) ตอบการร้องขอให้มีการปรึกษาหารือโดยเป็นไปตามอนุวรรค 5(เอ) ของขอ้ 19.6 (การปรกึ ษาหารือ) หรือ (สอง) เข้าสู่การปรึกษาหารือโดยเป็นไปตามกับวรรค 6 ของข้อ 19.6 (การปรึกษาหารือ) หรือ (บ)ี การปรึกษาหารอื ไมส่ ามารถยตุ ขิ ้อพิพาทไดภ้ ายใน (หนึ่ง) 20 วันหลังจากวันท่ีภาคีผู้ถูกฟ้องได้รับการร้องขอให้มีการปรึกษาหารือ ท่ดี าเนินการตามวรรค 1 ของข้อ 19.6 (การปรึกษาหารือ) ในกรณีเร่งด่วน ซ่งึ รวมถึงกรณีทเี่ กีย่ วขอ้ งกับสินคา้ ท่เี นา่ เสียได้ หรอื (สอง) 60 วันหลังจากวันท่ีภาคีผู้ถูกฟ้องได้รับการร้องขอให้มีการปรึกษาหารือ ท่ดี าเนนิ การตามวรรค 1 ของข้อ 19.6 (การปรกึ ษาหารือ) เกยี่ วกับเรือ่ งอ่ืนใด 2. การร้องขอให้มีการจัดต้ังคณะพิจารณาซ่ึงดาเนินการตามวรรค 1 จะต้องระบุมาตรการ เฉพาะเจาะจงที่เป็นปัญหา และให้รายละเอียดของพ้ืนฐานของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ของคาฟ้องซ่ึงคณะพิจารณาต้องพิจารณา ซ่ึงรวมถึงบทบัญญัติที่เก่ียวข้องของความตกลง ฉบับนี้ ทีเ่ พียงพอในการแสดงให้เห็นปัญหาอยา่ งชัดเจน 3. ภาคีผู้ฟ้องจะต้องส่งสาเนาของการร้องขอให้จัดตั้งคณะพิจารณาท่ีดาเนินการตามวรรค 1 ใหแ้ กภ่ าคีอ่ืนพรอ้ ม ๆ กัน 19-5


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook