Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วรรณคดีลาว เรื่องพื้นเวียงจันทน์

วรรณคดีลาว เรื่องพื้นเวียงจันทน์

Description: วรรณคดีลาว เรื่องพื้นเวียงจันทน์
คัมภีร์ใบลาน 7 ผูก วัดเวียงเกษม
ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
ปริวรรตจากอักษรธรรมเป็นอักษรไทย
โดยพระภานุวัฒน์ อภิชฺชโว (ศรีสุระ)
จัดพิมพ์เผยแพร่เนื่องในโอกาสมงคลสมัย
พระภานุวัฒน์ อภิชฺชโว (ศรีสุระ)
สำเร็จการศึกษาปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)
จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตอุบลราชธานี

Keywords: วรรณคดีลาว-อีสาน พื้นเวียงจันทน์ วัดเวียงเกษม,พระภานุวัฒน์ อภิชฺชโว (ศรีสุระ) เรียบเรียง

Search

Read the Text Version

วรรณคดลี าว พ้ื น เ วี ย ง จั น ท น์ พระภานวุ ัฒน์ อภชิ ชฺ โว (ศรีสุระ) ปริวรรตจากอกั ษรธรรมเปน็ อกั ษรไทย จดั พิมพ์เผยแพร่เน่อื งในโอกาสมงคลสมยั “พระภานุวฒั น์ อภิชฺชโว (ศรีสุระ)” สำเร็จการศกึ ษาปริญญาพุทธศาสตรบัณฑติ (พธ.บ.) สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ (เกียรตินยิ มอนั ดับ ๑) มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั

ก คำปรารภ ในประวัติศาสตร์ไทยและลาวจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสองประเทศนี้ มี ความสัมพันธ์กันและมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายคลึงกันมากที่สุดกว่าประเทศอื่น ๆ ในแถบดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือที่เราพูดกันจนติดปากว่าดินแดน อุษาคเนย์ จนทำให้คนทัง้ สองประเทศมีการนับถือกันเป็นบ้านพี่เมืองน้องสองฝัง่ โขงซ้ายขวา โดยเฉพาะในสมัยแผ่นดนิ ของสมเดจ็ พระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรี อยธุ ยา และสมเด็จพระไชยเชษฐาธริ าชแห่งกรุงศรสี ัตนาคนหตุ หรอื ปจั จุบนั คือนคร หลวงเวยี งจนั ทน์ ซึง่ ทัง้ สองพระองคไ์ ด้ผกู ความสมั พนั ธ์อันดีงามระหวา่ งกัน โดย ที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันในทุก ๆ ด้าน เพื่อที่จะต่อสู้กับพม่าซึ่งใน ขณะนน้ั พมา่ เรืองอำนาจและบุกรุกดนิ แดนในสว่ นต่าง ๆ ของลาวและไทย ทงั้ สอง พระองค์จงึ ได้ผกู สมั พนั ธไมตรีต่อกนั และได้มีการสร้างพระธาตศุ รีสองรักขึน้ เพ่อื เป็นสกั ขพี ยานแหง่ การจงรักภักดีตอ่ กัน ถงึ แม้วา่ ก่อนหนา้ นี้ลาวและไทยจะมีการ บาดหมางกันในหลาย ๆ เรื่องก็ตาม แตใ่ นปัจจุบันประชาชนชาวไทยและลาวต่างก็ รักกนั ฉนั ท์พนี่ อ้ งเสมือนหนึง่ เป็นดนิ แดนเดยี วกนั หนงั สอื ประวัตพิ น้ื เวยี งจนั ทน์เล่มน้ี ขา้ พเจ้าได้ปรวิ รรตจากอักษรธรรมเป็น อกั ษรไทยตั้งแตเ่ มื่อครั้งเป็นสามเณร ซึง่ ใชเ้ วลาในการปรวิ รรตอยู่ ๑ เดือนเต็ม โดยใช้เวลาว่างจากช่วงปิดภาคเรียน ซงี่ มสี าเหตุมาจากท่ีขา้ พเจ้าเข้าไปค้นดูในตู้ คัมภีร์ใบลานของวัดจงึ ได้พบหนังสือเร่ืองนีจ้ ำนวน ๗ ผูก ซึ่งจารไว้ด้วยอักษร ธรรมอีสาน ข้าพเจ้าจึงลองอ่านดูผูกที่หนึ่งหรือผูกต้น แล้วมีความชอบใจใน เนื้อหาและสำนวนของวรรณคดีเรื่องนี้ จึงได้ตั้งปณิธานไวว้ า่ ในชว่ งปิดภาคเรียนน้ี ถ้ามีเวลาว่างจะปริวรรตหนังสือเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จให้ได้ พอปิดภาคเรียนที่ ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๒ (ขณะนั้นศึกษาจบชั้นปีที่ ๓) หลังจากว่างจากกิจต่าง ๆ จึงได้ นำหนังสือใบลานเรื่องนี้มาทำการปริวรรต เมื่อปริวรรตจนจบผูกที่ ๗ แล้ว ปรากฏว่านิทานยังไม่จบเรื่อง ก็เลยได้นำพื้นเวียงจันทน์จากหนังสือประเพณี วรรณคดลี าวเรอื่ งพื้นเวยี งจนั ทน์

ข อีสาน ฉบับ ส. ธรรมภักดี จำนวน ๗ หน้า คือตั้งแต่หน้า ๘๒ - ๘๙ มาเสรมิ ให้เป็นผูกทีแ่ ปดและนิทานก็จบเร่ืองพอดี ข้าพเจา้ กต็ ้องขอกราบขอบพระคณุ ผทู้ ีจ่ ารหนังสือเรือ่ งน้ี คือ ทา่ นอาจารย์ สอน เป็นผู้จาร ท่านปลัดยงยทุ ธ เปน็ ผู้สรา้ งถวายไวท้ ี่วดั เวียงเกษม เป็นรายชือ่ ที่ ถกู จารึกไว้ในหนงั สอื ใบลานเรื่องน้ี ถา้ ไมม่ ที ัง้ สองท่านนีข้ า้ พเจ้าคงจะไม่ไดอ้ า่ นและ ปริวรรตนิทานเรื่องนอ้ี อกมาใหท้ ่านทง้ั หลายไดอ้ า่ นดว้ ย ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ นี้ เป็นโอกาสมงคลสมัยที่ข้าพเจ้าได้สำเร็จ การศึกษาปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ.) สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ (เกียรตินิยมอันดับ ๑) จากมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ข้าพเจ้าจึง ถือโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้นำหนังสือวรรณคดีลาวเรื่องพื้นเวียงจันทน์ ออก เผยแพร่ในโลกออนไลน์ เพื่อให้บุคคลผู้สนใจได้นำไปศึกษา อันจักเป็นประโยชน์ แก่ตนและสาธารณประโยชนต์ อ่ ไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ คงจะมีประโยชน์แก่ท่านผู้สนใจ ทัง้ หลายไม่มากกน็ ้อย อนงึ่ หากมสี ว่ นที่ผิดพลาดประการใด ข้าพจะน้อมรบั ไว้แต่ เพียงผู้เดียว หากหนังสือเล่มนี้มีประโยชน์แก่ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าก็ขออุทิศ ผลานิสงส์ในส่วนนีใ้ ห้แก่บูรพาจารย์ ท่านอาจารย์สอน (ผู้จารหนังสอื ) ท่านปลัด ยงยุทธ (ผู้สร้างหนังสือ) ญาติ เทวดาประจำตัว เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ ทงั้ หลายทว่ั สากลพภิ พ ขอจงมีส่วนแหง่ บญุ น้ีโดยถว้ นทวั่ กัน เทอญ พระภานุวฒั น์ อภชิ ฺชโว (ศรสี ุระ) พฤษภาคม ๒๕๖๕ ภานวุ ัฒน์ ศรีสรุ ะ ปริวรรต

ค สารบญั ชอ่ื ผูก หน้า คำปรารภ ก สารบญั ค ผูกท่ี ๑...................................................................... ๑ ผกู ท่ี ๒...................................................................... ๑๘ ผกู ท่ี ๓...................................................................... ๓๑ ผกู ที่ ๔...................................................................... ๔๘ ผกู ที่ ๕...................................................................... ๖๔ ผูกที่ ๖...................................................................... ๗๖ ผกู ที่ ๗...................................................................... ๙๒ ผูกที่ ๘...................................................................... ๑๐๕ วรรณคดีลาวเรอื่ งพน้ื เวยี งจนั ทน์

๑ วรรณคดีลาวเรื่อง........พนื้ เวียงจันทน์ คัมภรี ์ใบลาน ๗ ผกู วัดเวียงเกษม อาเภอเดชอดุ ม จังหวดั อบุ ลราชธานี ปรวิ รรตจากอกั ษรธรรมเป็นอักษรไทย โดย....สามเณรภานวุ ฒั น์ ศรีสุระ ผกู ที่ ๑ ผกู ที่ ๑ ลานที่ ๑ นะโม ตัสสะ ภะวะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพทุ ธสั สะ บดั น้ี ขา้ จักนบนอบนิ้ว ถวายบาทนาโถ ยามเมือ่ ยอมือนบ ก็ ดั่งเทียนตามไต้ ขอให้มีปัญญาส่องแจ้ง ให้ฮู้แห่งคาสอน ฟังเนอ เจ้า เฒ่าแม่บัวผัน เจ้าเวียงจันทน์อานุ เจ้าธง1อยู่ เมืองหลวงพระ บาง ฟังเนอเจ้า เฒ่าแม่ท้ังหลาย ข่อยสิอธิบาย ต้ังแต่เวียงจันทน์ ฮ้าง ต้ังแต่เค้า เฮาบ่เคยเห็น เคราะห์เข็ญเขา เวียงจันทน์มาฮอด ข่อยสิบอกขอขอด ต้ังแต่ช้างมาเลว เวียงจันทน์เป็นควันเท่าฟ้า เพราะว่าเจ้าหน่อหล้า คึดโศกโศกา ก็จิงเอาบุตรา ท้ังสามมาเว้า กับทั้งเสนาเจา้ มุนตรีน้อยใหญ่ มาซ่อยบ้าน เดียวนี้อย่านาน เจ้า เอ้ย ไผผู้อยากเห็นแท้ คนดเี มืองอ่นื มาซอ่ ยบ้าน เดยี วนอี้ ยา่ นาน เจ้าเอย้ ให้เจ้าคดึ ซ่อยข่อย เดียวนี้สู่ประการ แด่ถ่อน แต่นั้น ยังมี 1 ธง หรอื ทง หมายถึง ทรง แปลวา่ ดารง วรรณคดีลาวเรือ่ งพ้นื เวียงจันทน์

๒ เสนาเจ้า คนดีเฒ่าเก่า ท่านก็เว้าภาคพ้ืน ถวายให้สู่อัน ยังมีพระ ยาศรีโคตรเจ้า เสวยราชย์เป็งจาน ท่านบ่กลัว พลายสารช้างเถื่อน กับท้งั อาคมแก้ว ศาสตรศิลปด์ สี ุทธะยงิ่ อันว่าฤทธีดขี นาดกลา้ บุญ เพี้ยงเกิ่งพระอินทร์ เจ้าเอ้ย เดียวนี้ เฮาควรแปลงสาส์น1ใช้ ไป วอนน้อมเหนี่ยว ขออัญเชิญมหาราชเจ้า ไปบ้านซ่อยพระองค์ แด่ ถ่อน เดียวนี้ เฮาสิเวนเมืองให้ ถวายพระองค์หมดทุกส่ิง มอบให้ เจา้ หมดถ้วนสู่ประการ แท้แหลว แตน่ ัน้ เสนาไหว้ ถวายองคภ์ วู นาถ2 พระก็ตกแตง่ หา่ ง สาส์นแกว้ เขิ่งถวาย มีทงั้ เงนิ คาแกว้ สาม ประการถวายบาท พระก็จัดเสนา สูฮบี นาเอาสาส์น เท่ียวไปอยา่ ช้า จิงไปฮอดแจ่มเจ้า ศรีโคตรบุญเพ็ง แล้วจิงยอยื่นให้ สาส์นแก้วแก่ บา แลว้ จิงนบนอบนิว้ ขอพรอนุญาต ขออญั เชญิ มหาราชเจา้ เมอื บา้ นซ่อยพระองค์ แด่ถ่อน ฯ จบลานท่ี ๑ ผกู ท่ี ๑ ลานที่ ๒ ยังมีกุญชโร3ช้าง พลายสาร4ล้านหน่ึง มันหากมาแปร่ม้าง เวียงจันทน์กว้างอย่แู ต่ดน นับแต่คนตายเสย่ี ง หลวงหลายมมี าก ก็ 1 สาส์น แปลว่า จดหมาย 2 ภูวนาถ แปลวา่ พระเจ้าแผน่ ดิน 3 กุญชโร แปลวา่ ชา้ ง 4 พลายสาร แปลว่า ช้าง ภานวุ ฒั น์ ศรสี ุระ ปรวิ รรต

๓ จิงทุกข์ยากแค้น เดียวนี้ฮอดพระองค์ เดียวนี้โขงเวียงกว้าง คน แปนเป็นป่า เสียแล้ว ขออัญเชิญมหาราชเจ้าไปซ่อยบ้าน เดียวนี้ ด่วนพลัน แด่ถ่อน แต่นั้น พระบ่ช้า รับราชนิมนต์ ท้าวก็ขัว ๆ เสียง ว่าดี ๆ แล้ว แต่น้ัน พระยาศรีโคตรเจ้า บายจีกดูสาส์น ก็จิง เห็นเวียงจันทน์ ขุ่นมัวดอมช้าง พระองค์ก็หนหวย1ฮ้อน ในใจกร้ิว โกรธ ก็จิงบายเอาได้ ศรีคันไชยกับดาบ ทยานเวหา ล่วงไปตาม น้า ยามเดียวแท้ เถิงเมืองเซาจอด เหาะฮอดวัดพระแก้ว ลงแล้ว ไหว้พระองค์ แล้วจิงย้ายจากหั่น ข้ึนสู่โฮง2พระยา ฝูงหมู่เสนาไหล หลั่งมาวอนไหว้ แล้วจิงเล่าภาคพื้น ช้างใหญ่มาเลว ในเวียงจันทน์ ขนุ่ มัวเดียวน้ี พระเอ้ย ฝูงหมู่เขาหาขา้ ว โภชนงั ถวายบาท มหาราช เจ้า เสวยแล้วเลิกรา ศกึ กเ็ ขา้ โคบบา้ น เมอื งสิหลม่ ลมหลวง อันวา่ แพงศรีแก้ว บาคานศรีโคตร พระจิงเติน3ไทเวียง สู่คนดาถ้วน แล้วจิงย้ายจากห้อง สนามใหญ่โคงเวียง แล้วจิงเอาตนเข้า ภายในหลิงหลา่ แต่นนั้ พลายสารเห็น หลูบ4ทยานมาใกล้ บาคาน ท้าว ยืนซันตั้งต่อ ช้างเข้าไง้ บาท้าวบ่หวั่นไหว ท้าวก็บายเอาค้อน ทัณฑังเลยฟาด ช้างก็มรณาตาย จากกันฮามฮ้าง ฝูงหมู่พวกหนุ่ม น้อย แตกผ่ายพังหนี พุ้นเยอ ยังแต่กุญชโรช้าง พลายสาร ช้างเผือก ช้างก็ก้มกราบไหว้ ยอมท้าวว่ากลัว มีแต่ตนตัวข้า ขอ 1 หนหวย หมายถึง ราคาญ ไม่สบายใจ หงุดหงิด 2 โฮง หมายถึง โรง แปลว่า เรอื นเปน็ ทีอ่ ยู่ของเจา้ เมอื ง 3 เติน หมายถึง ปา่ วรอ้ ง บอกใหร้ ู้ 4 หลบู หมายถึง พุ่งตวั เขา้ วรรณคดีลาวเรือ่ งพืน้ เวียงจันทน์

๔ ยอมยังโทษ ขอให้มหาราชเจ้า กูณาข้าอีดู1 แด่ถ่อน ฝูงข้าได้เป็น เชื้อ เดียรัจฉานสัตว์ป่า จริงดาย ข้าบ่ฮู้ว่าองค์พระแก้ว เนาสร้าง อยเู่ วยี ง เจ้าเอย้ ฯ จบลานที่ ๒ ผูกที่ ๑ ลานที่ ๓ เดยี วน้ี ข่อยนอ้ ยขอเป็นขอ่ ย พลายสารให้เจา้ ขี่ เมอื ถ่อน กบั ท้ังช้างล้านน้ี ถวายให้แก่พระองค์ กับทั้งมุงกุฏแก้ว ของพระองค์ ช้างเผือก ผู้ข้าขอมอบแก่เจ้า องค์อ้ายหน่อพุทโธ เจ้าเอ้ย แต่นั้น ชา้ งกเ็ อาตนเขา้ หาพระองค์เมอื งใหญ่ มาเชิญมหาราชเจ้า ธงชา้ งข่ี มา ยาบ ๆ ย้าย ฟ้าเหง่าระงมฝน พุ้นเยอ ฝูงหมู่เสนาเข้า เขาก็ เอาตนลงจากโฮง หล่าแลคอยเยี่ยม เห็นท้ังกุญชโรช้าง พลายสาร แหนแห่ พุ้นเยอ มหาราชเจ้า ธงช้างเผือกขาว พุ้นเยอ ยาบ ๆ ย้าย ขน้ึ ส่โู ฮงคา นาเมอื ถวาย แห่งพระยาเปน็ เจา้ อานุภาวนั ดีเจ้า เสวยเมอื งชมชน่ื ยอยืน่ ให้ นางหลา่ มอบถวาย ใหเ้ ปน็ เทวีแก้ว พระ ยาหลวงศรีโคตร ท้าวก็ได้นาถน้อย ใจสะอ้ืนช่ืนชม แท้แหลว แต่ น้ัน ท้าวจิงสอนสั่งช้าง พลายสารล้านหนึ่ง เฮาจักเสินเทินตาม จากพระยาองค์อ้าย ให้สูปลุกหอโฮงกว้าง ช้างใหญ่งานิลขาวเผือก อย่าให้มันไปค่ัวด้าว กินหญ้าอยู่ดง โขงเมืองน้ี มีพลายสารเป็นท่ี เพิ่ง ให้เจ้าหาหญ้าป้อน ถวายให้สู่วัน ให้มันเนาอยู่ห้อง โฮงกว้าง 1 อีดู หมายถึง สงสาร ภานุวฒั น์ ศรสี ุระ ปรวิ รรต

๕ จ่ิงดี แท้แหลว ให้เจ้าบัวระบัด1แท้ ของมีคุณส่ีอย่าง กับทั้งนาคะ ห้อง ฮูหลวงนาคอยู่ ให้เจ้าฮักษาของสี่อย่างนี้ เมืองบ้านฮุ่งเฮือง เจ้าเอ้ย บาส่ังแล้ว ย้ายจากโฮงทอง มือคัวจับ จีกเอาตะบองง้าว แล้วจิงเอาตนขึ้น เวหา2เหินเมฆ ตามแม่น้า วังกว้างฮอดนคร สอนลอน3น้ิว เสนาหลายหม่ืน มาไหว้มหาราชเจ้า ทั้งฟ้าวเที่ยว พลัน แต่นั้น มหาราชเจ้า ก็เล่าภาคพ้ืน ตามเร่ืองเหตุมีมา ใน เมืองจันทน์ ก็แม่นเฮาเป็นเจ้า ยังมีช้างเผือกขาว กูก็ไปแปร่ม้าง4 เสิกใหญ่สงคราม เขาจิงเอานางแก้ว กุมารีถวายมอบ แท้แหลว ตั้งแต่เลวยังช้าง สามวันทัดเที่ยง อนั ว่า เสิกใหญก่ ็จิ่งย้าน กูแท้จ่ิง ผ่ายหนี ฯ จบลานที่ ๓ ผูกท่ี ๑ ลานที่ ๔ เขาจิงเอานางมา มอบถวายเอาให้ ก็จิงมีคาต้าน นาพระยา ทุกส่ิง กับท้ังช้าง สอนให้คู่ตัว กับทั้งเวียงจันทน์กว้าง ถวายเฮา ทุกอย่าง เมืองพุ้นพี้ เป็นเฝื้องเป่ียง5เดียว มันหากบรบวนแล้ว 1 บัวระบดั หมายถึง ดแู ลรกั ษา 2 เวหา หมายถึง ท้องฟา้ อากาศ 3 สอนลอน หมายถงึ สลอน แปลว่า เปน็ แถวเปน็ แนวกนั 4 แปร่มา้ ง หมายถึง ทาลาย 5 เปยี่ ง หมายถึง ก้อน แผ่น วรรณคดีลาวเรอ่ื งพ้ืนเวียงจันทน์

๖ พระยาศรีพักไว้ก่อน บัดน้ี จักกล่าวเถิง พระยาอนุภาวันดีแก้ว เสวยเมืองเปน็ ใหญ่ พระก็มลี ูกน้อย ท้งั หา้ บุตรา ทง้ั ผู้ชาย ฮปู งาม ปานแตม้ ผหู้ ้านนั้ เปน็ ผู้หญงิ ฮูปงาม ปานนครเมืองฟ้า พระก็เอา ถวายให้ พระยาหลวงศรีโคตร แต่น้นั ลกู แกน่ ไท้ คึดฮ่าคนงิ หา ให้ เจา้ พากันสรา้ ง นครเวียงกว้างใหญ่ แตน่ ัน้ พระยาส่ังแลว้ ลูกกย็ อ บาทา1ใส่หัวเลยไห้ ก็จิงต้านส่ังเจ้า พระยาพ่อปิตตา ทั้งมารดา แม่คีงตนเล้ียง แต่น้ัน แม่ก็แถมพรใหญ่ บุตราตนลูก ขอให้สอง แจ่มเจ้า เดินได้ดั่งประสงค์ ลูกเอ้ย กับท้ังสามอ่อนเจ้า อย่าวาง ให้แก่ไผ พ่อเนอ ทั้งบุตรากูพ่อก็แพง เสมอเพี้ยง2เก่ิงตา แท้แหลว ท้าวก็ย้ายจากห้อง ส่ังแม่มารดา บาก็เอาดาของ แต่งดีดาห่าง แล้วจิงพากันผ่าย กลายเขตนครหลวง เวียงจันทน์เฮา อยู่ไกล กันพุ้น ท้าวก็เอาตนเข้า หิมพานต์ดงใหญ่ เข้าป่าไม้ โขงกว้าง เถ่ือนผา หาซอกไซ้ แก้วกู่องค์รัสสี3 ก็บ่เห็นในภูผา ป่าดอยเย็น จ้อย เฮียม4ก็พลัดพรากน้อง ให้เหินห่างไกลกัน สามคนพลัด พรากกันในห่ัน สามองค์อ้าย ทั้งสองเจียรจาก เฮามาหลงพลอย พลัด พรากกันยามน้ัน เพราะว่าเทวดาด้าว จาจองให้พลัดพราก น้องทั้งอ้าย หลดหลงพร้อมพร่ากัน จาเป็นแล้ว บุญคุณพ่อแม่ ท้าวก็ระลกึ แลว้ ต้ังต่อบารมี ท้าวจิงยอมอื นบ พ่อพระอนิ ทรพ์ รหม 1 บาทา หมายถึง เทา้ 2 เพ้ยี ง หมายถึง เสมอ 3 รสั สี หมายถึง พระฤาษี 4 เฮียม หมายถึง เรยี ม แปลว่า ตัวเรา คาใชเ้ รียกแทนตัวเรา ภานวุ ัฒน์ ศรีสรุ ะ ปริวรรต

๗ ฟ้า กับทั้งนางธรณีเจ้า อีสูรย์ครุฑนาค กับท้ังสี่ทีป1ท้าว ถึงเท่า ฮอดพระอินทร์ แด่ถ่อน ขอให้มาชูค้า ให้เถิงองค์รัสสีตนประเสริฐ ขอให้ผูม้ ฤี ทธ์เิ ดชกล้า กูณาข้าโผดผาย2 แดถ่ อ่ น ฯ จบลานท่ี ๔ ผูกท่ี ๑ ลานท่ี ๕ ท้าวจ่มแล้ว เลยล่วงคีรี ยังมีโลกาห้อง หิมพานต์พอจ่องป่อง สองแจ่มเจ้า เถิงเท่าฮอดรัสสี รัสสีเจ้า ตาไฟองค์หน่ึง อยู่ถ้าแก้ว ดอยกว้างป่าจวง พระก็เห็นบาคาน3 โจดถามจาเว้า ว่าดูราท้าว มาแต่แดนใด๋ เจา้ หลากหลงพลอยพลัด แตเ่ มืองใด๋แท้ แตน่ น้ั บา คานท้าว จาต่อองค์รัสสี ข้าน้อยบ่มีโภยภัย ท่ีใด๋มาใกล้ ข้าก็เนา ในห้อง เวียงจันทน์นครเทศ ภายพุ้น เฮียมก็เป็นลูกเจ้า อานุราช เวียงจันทน์ อนั ว่านามกรข้า เหลาคาเป็นช่ือ พระพ่อเจ้า แถมข้ึน ราชวงศ์ เพ่ินหากบงการให้ เดินดงด้ันดุ่ง เฮาจิงพลัดพรากน้อง สองเจ้าก็บ่เห็น เจ้าเอ้ย จาเป็นแล้ว เป็นตายบ่ฮู้เหตุ ตัวข้าจิงได้ หลงประเทศห้อง เถิงเจ้าพ่อรัสสี ตัวข้าจิงได้มา เพ่ิงบุญจอมเจ้า ข้าขอเฮียนเอาแก้ว ศาสตรศิลป์อันวิเศษ ดอมแจ่มเจ้า องค์ท่านสู่ 1 ทีป หมายถึง เขต แดน ทวีป 2 โผดผาย หมายถึง เมตตา ปราณี 3 บาคาน หมายถึง ชายหนมุ่ วรรณคดีลาวเรอื่ งพนื้ เวียงจันทน์

๘ ประการ แด่ถ่อน แต่นั้น พระก็ขัว ๆ เสียง ว่าดี ๆ แล้ว คันว่า ต้านต่อท้าว เหลาคาอ้ายอย่าเคือง อนั วา่ สองอา้ ยน้อง หลงเข้าฮอด เมือง แท้แหลว ยังแต่ตนเดียวเดนิ ป่าไพรไกลบ้าน เอาตนขนึ้ ภู สูงสุดชั่ว มีทั้งดวงดอกไม้ เป็นถ่านซ่องชัน มีท้ังจักจ่ันฮ้อง กองกอยเสียงว่อน มีทั้งจันทน์ไดพร้อม จันทน์แดงหอมออ่ น มีท้ัง ต้นดอกซ้อน เดียรดาษภูชัน สรรพสรรมี สู่อันในหั่น ท้าวจงเมือ สืบสร้าง เสวยราชย์แดนเมือง พ่อถ่อน ให้เจ้ามีเตโช นั่งเมืองเป็น เจ้า ท้าวก็ยอมือใส่เกล้า ไหว้พ่อองค์รัสสี แล้วจึงหาดอกไม้ มาลา เทียนธูป มาบูชา สู่แลงยามเช้า แต่น้ัน แพงคาแก้ว เหลาคา เฮียนอยู่ ทุกค่าเช้า บ่มีได้ขายสาย แท้แล้ว บัดนี้ จักกล่าวเถิงเจ้า อานุราชเวียงจันทน์ ก่อนแหลว แต่น้ัน บาคานท้าว ท้ังสองเมือ ฮอด อันว่า พระพ่อเจา้ เห็นแล้วเลา่ ถาม อนั ว่า เหลาคาท้าว ชาย ฮามลูกพอ่ นั้นเด้ ท้าวตอบต้าน ขานต่อปติ ตา1 ทั้งมารดา แม่ตน ผายเผี้ยน ลูกก็เอาตนเข้า ดงหลวงหลายหลั่น เสียงสนั่นก้อง ดง กว้างป่าหนา เห็นท้ังหมู่แฮดช้าง เห็นอ้มหมู่ชะนี แฮดกระทิงช้าง มา้ โตนเตน้ ไล่กัน ฯ จบลานท่ี ๕ 1 ปติ ตา หมายถึง พ่อ ภานวุ ัฒน์ ศรสี ุระ ปริวรรต

๙ ผูกท่ี ๑ ลานที่ ๖ มีท้ังสักกุณา นกกระทาเขาตู้ เฮาก็เดินไปหน้า บ่เซาย้ังอยู่ อนั ว่า บาคานเท้า เหลาคาตนพ่อ พากันเอิน้ อิดออ่ นโฮยแฮง1 ก็ บ่เห็นจอมแพง ที่ใด๋เย็นจ้อย เฮียมก็พาน้องแก้ว กลับต่าวคืนมา เฮาบ่กลัวเกรงสัง ท่อใยยองน้อย เฮาบ่กลัวเดชเจ้า จอมสร้อยส่วน สิคอง แท้แหลว แต่น้ันเหลาคาท้าว บุญเพ็งก็กลัวเดช บุตราลูก ไปใสแท้ก็บ่ลืม เม่ือนั้น เฮาก็นอนคืนฟ่ัน ฝันเห็นสองอ่อน ทุกค่า เช้า คาฮ้ายเจ้าอย่าเคือง บาก็ธงเสื้อผ้า ผืนนุ่งแพรคา กับทั้ง สงั วาลแก้ว ศรีคันไชยของประเสริฐ กบั ทง้ั ปากคาบแกว้ ทยานผา่ ย เวิ่นบน เทิงบนฟ้า พวงมาลัยเกี้ยวกาด แต่น้ัน พระพ่อเจ้า คนิง ลูกบุตรา ว่าโอนอ เสียหน่ึงแล้ว ซ้าผัดเหล่าเสียสอง แท้นอ กูจัก มรณาตาย จากพระอวน2องค์อา้ ย ท้าวก็หยั่ง ๆ ไห้ ตายแท้สบิ ่เหน็ บ่กลัวแตเ่ จ้า บตุ ราทั้งสองฝ่าย ใหไ้ ปปอง คดึ ยาดนางมาให้ คนั ว่า บ่เห็นท้าว เห็นนางกะไคแด่ เฮาก็เฒ่าแก่แล้ว บ่เห็นหน้าก็ห่างกัน อันว่า เวียงจันทน์นี้ เพม้างมุ่นผง แท้แหลว ช้างก็หากย้อย องค์ พระแก้วก็หากสูญ กับทั้งกองหมากแค้ง ก็หากหล่ันสามที แท้ แหลว เดยี วน้ี เฮยี มก็อศั จรรยแ์ ท้ ของคูณสามอยา่ ง มากระทาเหตุ ให้ เฮาแทส้ ิ่งใด๋ หรือว่าบาคานท้าว เฮาตายบ่เหน็ จิ่ม เสียลือ หรอื ว่าเมืองอ่ืนพุ้น เขายาดชิงเมือง แท้แลว พระฮู้แล้ว เลยอยู่ตุณหิ3 1 โฮยแฮง หมายถึง อดิ โรย หมดกาลงั 2 พระอวน หมายถึง ตัวเราหรอื คนท่ีเราพดู ถงึ 3 ตุณหิ หมายถึง นิ่งอยู่ วรรณคดีลาวเรือ่ งพืน้ เวียงจันทน์

๑๐ แต่น้ัน เสนาผู้ ขุนหลวงผู้ใหญ่ เขาก็เอาตนเข้า ลงศาลาพีพาก เขาก็คึดโลภเล้ียว กูแท้ผู้พระยา โมโหโทโสแท้ ฝูงคนใจบาป ก็ บ่คึดเหตุแท้ คุณพระยามีมาก มันหากใจบาปแท้ หินชาติปาปัง มนั บก่ ลัวเวรา บาปเวรเมอื หนา้ หรอื ว่าเกณฑเ์ มอื งส่วย เวียงจนั ทน์ ม้างมุ่น เฮาจิงแปลงสาส์นใช้ ทูลเถิงภูวนาถ ขอให้นางนาถน้อย แพงล้านซอ่ ยปอง แด่ถอ่ น ฯ จบลานที่ ๖ ผกู ท่ี ๑ ลานที่ ๗ ขอให้ถามเถิงแก้ว สามีโกผัวม่ิง นางน้ัน คันว่าทาโลภเล้ียว ฉันใด๋แท้จ่ิงตาย น้องเอ้ย พี่สิผิเอาเจ้า เมือเมืองของเก่า เฮาแหลว อันว่า ผัวม่ิงเจ้า บ่มีได้ต่าวคืน อันว่า พระพ่อเจ้า ท้ังแม่มารดา เฮานั้น เพิ่นบ่เห็นนางงาม เวทนานาเจ้า ให้น้องเอาใจต้ัง นาอ้าย เที่ยงจริง ให้เจ้าคืนเมอื ห้อง เวียงจันทน์ของเก่า อวนเอ้ย เม่ือนน้ั นางก็เห็นบางคานน้อง บายถ่ิมใส่ไฟ ก็จิงเอาใจไว้ ในมโนบ่คึดอั่ง อนั ว่า ผวั แจ่มเจ้า นางแก้วเหล่าฝัน ฝันว่าไฟลามไม้ เมืองเป็งจาน มุดมอด เลยเล่าติดต่อขึ้น เถิงเท่าฮอดเวียง องค์พระแก้ว เสด็จ จากเวียงจันทน์ เพ่ินเสด็จไปเข้า อยุธยาเมืองใหญ่ ไปพร่าพร้อม ทั้งช้างเผือก ผู้ขาวผ่องงานิล กับท้ังองค์พุทธเจ้า พิจารณาแท้ ภานวุ ฒั น์ ศรสี ุระ ปรวิ รรต

๑๑ ในพระทัยเป็นประหลาด ไผผู้บ่ฮ้เู หตุข้อ คาฮา้ ย1แห่งพระองค์ พระ ก็ฝันอาไว้ ในทวงบ่ต้านปาก เสียแหลว บัดนี้ จักกล่าวเถิงเกศีแกว้ นางงามมาบวช ครองสบื สรา้ ง ศลี แก้วกบ็ ่ไล แทแ้ ลว้ แต่นัน้ ท้าว จิงต้าน จาต่อเมียแพง อันว่า คนในชุมพูทีป2นี้ มาปองข้าก็บ่ตาย เว้นไว้แต่ฮูเกา่ แท้ กูอ้ายก็จงิ่ ตาย น้องเอย้ นางได้ยินคาเหตุแลว้ ก็ จิงแปลงสาส์นใช้ เถิงอา้ ยฮอดบ่แต พระพี่อา้ ย ตนเจ้าส่างปอง ห่ัน ถ่อน พอแต่ท้าวฮู้แล้ว เตินหมู่เสนา มาโฮมในศาลา กล่าวจา แถลงต้าน ไผผู้ปัญญากล้า อาคมแข็งขนาด ให้ไปแต่งยนต์หลาว ง้าว เดียวน้ีอย่าสินาน แต่นั้น ยังมีเสนาผู้ คนดีล้านหน่ึง มารับ บาดผู้ แพงล้านว่าดี ท่านก็เคยแปลงแท้ ยนต์ปืนหอกดาบ เฮา เอาซุกเซ่ยี ง3ไว้ ฐานน้นั บ่เหน็ แตน่ นั้ ท่านก็เอาคากอ้ น ทองคาล้าน หนงึ่ ยอย่นื ให้ เสนาเฒา่ เกา่ นนั้ เทอญ ฯ จบลานที่ ๗ ผูกที่ ๑ ลานท่ี ๘ แตว่ า่ ท้าวสัง่ แล้ว แล้วเหล่าไปเถิง เมืองเป็งจาน ที่นครเซาย้ัง แล้วจิงเอาตนเข้า ไปในเซาอยู่ ทาเป็นนายพ่อค้า ถามซ้ือช้างพระ ยาเจ้าว่าบ่ขาย แต่น้ัน พระตอบเจ้า วันงายมื้ออื่น ตื่นม้ือเช้า วัน 1 คาฮา้ ย หมายถึง สิง่ ไม่ดี 2 ชุมพทู ีป หมายถึง ชมพูทวปี 3 ซุกเซ่ยี ง หมายถึง ซุกซ่อน วรรณคดีลาวเรือ่ งพน้ื เวียงจันทน์

๑๒ หนา้ จ่งั ไป ท่านเอย้ บดั นี้ จกั กลา่ วเถิงพระยาศรโี คตรเจา้ เสวยเมือง เป็นใหญ่ ก่อนแหลว พระก็ไปบรรทมหั่น บ่มีฮู้กลเล้ียวล่วงเถิง พอเม่ือวันฮุ่งเช้า แจงฮุ่งสวยลวย บาคานลุก อาบสีสรงนา้ แล้วจิง เจบ็ ปวดท้อง อยากถ่ายอาจม จอมแพงนาง ลุกมาทัง้ ฟา้ ว ไปฮอด แล้ว เลยถ่ายอาจม เลยตกลง ถืกสายยนต์ตาก้น ยนต์ตาก้น ก็ ครางฮ้องว่าโอย โอย ๆ เสียง ว่าพระยาใจเลี้ยว พุทโธนอ เขาหาก เอามาขดผูกไว้ ใจเลี้ยวใส่กู แท้นอ เม่ือโตมีใจนั้น ถามผัวบ่เว้าซ่ือ กูบ่ฮู้จัก ว่าเพิ่นอยากฆ่าโตแท้ เขานั้นก็ด่ังเดียว คันว่า เฮาหาก มรณาเม้ยี น เขาพนุ้ กห็ ากตาย แท้แหลว เมอื งเขาสมภาคให้ ทุกข์ ยากแท้ สมเพ้ียงดั่งกู น้ีถ่อน คันว่า ศาสนาส่วย พระโคดมคล้อย เง่ียง เม่ือใด ให้เขาดับดั่งกล้วย ส่วยด่ังลาปี แท้เนอ ค้อมว่าแล้ว ขอขอดกรรมเวร มนั ก็มรณาตาย จากนครเมืองกวา้ ง แตน่ ้นั เขาก็ พากันกลับ ต่าวคืนเมืองบ้าน แต่นั้น พระยาเมืองเจ้า มรณาลดชัว่ เสียแล้ว เขาก็ตกแต่งสร้าง เสาพระเมรุใส่โกศ ก็จิงจุดคาบท้าว เก็บดูกบรบวน ก็จิงแปลงเจดีย์ ก่อกวมมุงไว้ สาเร็จแล้ว บรบวน ทุกส่ิง บัดน้ี จักกล่าวเถิงห้อง นครเทศเป็งจาน กับทั้งฝูงเสนา แห่นาพระองค์อ้าย นางก็เอาตนเข้า เวียงจันทน์ของเก่า แต่นั้น นางก็เหน็ แจม่ เจา้ บาท้าวช่ืนชม แท้แหลว ฯ จบลานท่ี ๘ ภานุวัฒน์ ศรีสุระ ปริวรรต

๑๓ ผูกท่ี ๑ ลานที่ ๙ บดั นี้ จกั กล่าวเหลาคาทา้ ว ราชวงศต์ นประเสรฐิ พระเสดจ็ จาก ห้อง แก้วกู่องค์รัสสี ก็จิงมาเถิงห้อง เวียงจันทน์ของพ่อ พ่อก็ เห็นแจ่มเจ้า มาแล้วชื่นชม แล้วจิงต้านต่อเจ้า สามหน่อบุตรา บา คานไป ที่ใด๋จริงแท้ เฮาก็คึดฮอดเจ้า ทุกข์โศกแสนถนัด พ่อได้ วอนอินตา ให้ไปชูค้า เดียวนี้ เจ้าหากมาแต่ด้าว หนแห่งเมืองใด๋ ลูกเอย้ เยยี ววา่ สายใจกู แมเ่ ฮาบ่เห็นหน้า เปน็ แต่บญุ ตขู ้า ท้ังสอง กวมโลก แม่บ่เห็นหน้าเจ้า แพงล้านแม่ตน แต่น้ัน ท้าวตอบต้าน ฮับแม่ปิตตา ท้ังมารดา แม่คีงจอมเจ้า เฮาสิเล่าภาคพื้น หลงป่า หิมพานต์ เฮาก็พากันเข้า ดงเลาเลาะเลียบบุ่ง เฮาหากพลัดพราก อ้าย ท้ังน้องก็บ่เห็น ข่อยกะเอาตนขึ้น ภูชันหลายหลั่น ฮอดฮ่อม ห้วย เหวกว้างพ่อรัสสี ไปพักยั้ง หลิงหล่าไปมา ก็จิงอัศจรรย์แท้ คืออินทราเทวโลก ขอให้เห็นผู้เพ้ียง ผญากว้างโผดผาย แด่ถ่อน เฮาก็เดินมาแท้ วอนหาองค์ประเสริฐ เฮียมก็สอนสั่งให้ วิชาแก้ว เย่ียงดี แด่ถ่อน เฮียมก็อธิษฐานแล้ว พอคราวน้อยหนึ่ง เฮาก็ เห็นรัสสี ยอดธรรมบุญกว้าง เฮาก็มาสมสร้าง โฮงเวียงแก้วกู่ สุข สืบสร้าง สาราญล้วนอยู่ดี อันว่าบาคานท้าว บาบุญเจ้ามิ่งกูเอ้ย อันว่าสีแจ่มเจ้า มาแต่เมืองใด๋ ลูกเอ้ย เจ้าหากมาพักยั้ง แคมน้าผู้ เดียว นี้นอ แต่น้ัน ท้าวตอบต้าน จาต่อองค์รัสสี ข้าขอเฮียนเอา แก้ว วิชาดีอันประเสริฐ ดอมแจ่มเจ้า รัสสีแท้สู่ประการ แต่น้ัน วรรณคดีลาวเรอื่ งพื้นเวียงจันทน์

๑๔ เฮาก็ตกในห้อง หิมพานต์แถวเถือ่ น ได้สิบสองขวบมอ้ื ระดู1ได้ถ่าย ปี แต่นั้น พระรัสสเี จา้ มีความสอนส่ัง ให้ค่อยเมือดีถ่อน เหลาคา ผู้ปประเสริฐ ให้เจ้าเมือสืบสร้าง เวียงจันทน์นาพ่อ พุ้นถ่อน ให้ เจ้าจาจ่ือไว้ คาข้าสั่งสอน แด่ถ่อน เจ้าอย่าได้ปเลวแท้ เอาเขามา สว่ ย พระองค์นน้ั มนั จกั เปน็ เหตฮุ ้อน เมอื งบา้ นสขิ ุ่นมัว เจ้าเอย้ ฯ จบลานที่ ๙ ผูกท่ี ๑ ลานที่ ๑๐ อันว่า เวียงจันทน์น้ี ราศีคล้อยเหงี่ยง ไปดาย ใก้เจ้าตุ้มไพร่ น้อย เมืองบ้านให้ฮงุ่ เฮือง ลูกเอย้ พ่อส่ังแล้ว แก้วแก่นท้ังสอง ก็ จงิ โดย ๆ ฮบั ต่อคาบิดาต้าน แตน่ ัน้ อนภุ าวนั ดีกล่าวตา้ น ดอมลกู กุมาร เดียวน้ี ให้เจ้าพากันสร้าง เอาการต่างพ่อ จริงถ่อน ฉันใด๋ แท้ เวียงจันทน์จ่ิงสิฮุ่ง ให้เจ้าคึดสืบสร้าง แพงไว้เพิ่งบุญ แต่ น้นั พอ่ กล่าวแล้ว ตกแตง่ เดาดา ลาพ่อพากันเลาะ เลยี บไปเพม้าง ไปตีขา้ ง กรงุ ศรใี หม้ นั มนุ่ เอาใหม้ ่นุ อยุ้ ปุ้ย เสมอด้ามด่งั ผง พระ จิงได้กล่าวต้าน ดอมลูกบุตรา อันว่า กรุงศรีน้ัน บ่เลว2จักเท่ือ มี แต่เมืองอื่นพุ้น เลวท้าวก็บ่ถอง พ่อแหลว คนในเมืองกรุงศรีพุ้น มีผญาเลิกแลบ เป็นดั่งดวงดอกไม้ หอมเฮ้าท่ัวแดน แต่น้ัน พ่อ กลา่ วแล้ว ท้าวตอบคาคืน เฮยี มหากเครยี ดแท้ ๆ คาเว้าบเ่ คย พอ่ 1 ระดู หมายถึง ฤดู แปลวา่ กาล หรือสว่ นของปีท่แี บ่งตามลกั ษณะอากาศ 2 เลว หมายถึง รบ (ในที่นี)้ หรือที่เรารู้กนั ทัว่ ไปคาวา่ เลว คอื ช่ัว ไมด่ ี ภานวุ ฒั น์ ศรสี รุ ะ ปริวรรต

๑๕ เอ้ย ฝูงไพร่น้อย คนเดียวกย็ ังง่าย คันบ่แพ้ สิตายแท้ผู้เดียว แต่ น้ัน พระตอบต้าน ขานต่อบุตรา บางคานเอ้ย จงค่อยฟังคาเว้า พ่อสิเล่าภาคพ้ืน ปางก่อนกรงุ ศรี ยังมีสัพพัญญูเจ้า โคดมเดินโลก ตกเขตขน้ั แคมยงั้ หนองสะโน พระกเ็ อาตนพกั อยู่แคมวงั น้า กจ็ งิ หลิงหล่าเย่ียม ไปมาทุกส่ิง ก็จิงเห็นตัวสัตว์ อยู่เนาในหั่น อันว่า สัตตาน้ัน สามตัวถ้วนถ่ี พระบาทเจา้ เห็นแล้วเลา่ หัว ตัวถ้วนสาม นั้น เห็นพอมับแมบ แล้วเล่าเลยกลาย แต่นั้น เฮาก็ยอมือไหว้ องค์พุทโธเลยกล่าว อานนท์หนองอันเป็นยอดเย่ียมกว่าหนอง ท้ังหลาย เฮียมจักได้สืบสร้าง เมืองนี้อยู่สบาย คันว่ากลายไปหน้า ราศีคล้อยเหง่ียง อนั เถิงองคถ์ ้วนเจ็ดน้ัน เขาแปลงกฎหมาย เขาก็ ฟันกันตาย คอบผญาเขากว้าง แต่นั้น องค์สัพพัญญูเจ้า เทศนา แก่อานนท์ว่า ดูราอานนท์ ! คันว่าเจ้าจักไปเลวท้อน ขอให้เจ้าเซา เสียก่อน เดียวน้ี กรุงศรีพุ้น เขาก็มีอานาจแก่กลา้ เมืองบ้านก็ ฮุง่ เฮือง แท้แหลว ฯ จบลานท่ี ๑๐ ผูกท่ี ๑ ลานท่ี ๑๑ เมืองใด๋ไปเลวแท้ เสียเมืองแปนเปล่า เป็นแต่ว่า เมืองอื่น ๆ พุ้น ถวายให้แก่เฮา ให้เจ้าเซาเสียถ่อน อย่าไปเลวเมืองใหญ่ ย้าน มันเสียไพร่น้อย เมืองบ้านขุ่นมัว คันจักไปเลวแท้ ให้เถิงเกณฑ์ปี วอก ก่อนถ่อน พระบาทเจ้าบอกให้ ปีน้ันก็จิ่งเพ การท่ีลูกไปเลว น้ัน ขอนาเสียก่อน คันว่าปีวอกน้ัน อวนเจ้าจิ่งเลว พ้อแต่กรุง วรรณคดีลาวเร่อื งพน้ื เวียงจันทน์

๑๖ ศรีพุ้น บ่เลวไผจักเทื่อ มีแต่เมืองอื่นพุ้น เลวท้าวบ่ถอง ได้แหลว ไผก็บ่ปองเอาได้ กรุงศรีไปซ่อย คันว่าเกณฑ์ เมืองเวียงจันทน์ส่วย แล้ว สเิ พม้างม่นุ ผง เซยี งเหมย่ี งเจา้ กบั พระยาปางก่อน คราวน้นั เมืองใด๋มาต่อยต้อง เมืองท้าวก็บ่ตาย ตราบต่อเท่า อา้ ยพ่ีเหลาคา กระทากันตาย จากเมืองสูญเศร้า ก็จิงได้ องค์ใหม่มาเสวย มัน หากหมดเกณฑ์เวียง ต่อมาเดียวนี้ เจ้าอย่าไปเลวถ่อน เขาสิมาเพ ม้าง เวียงจันทน์มันสิมุ่น พ่อแหลว เดียวน้ี พ่อก็ขอถามแจ่มเจ้า สามหน่อแนวกษัตริย์ อันว่า บาคานเอ้ย เจ้าอย่ากลายคาอ้าย แต่ น้ัน กษัตราแก้ว ทั้งสามขานต่อพ่อ พ่อก็ต้านต่อเจ้า แพงล้านพ่อ เมือง เม่ือนั้น เหลาคาท้าว ปิตตาก็ขอเหนี่ยว เดียวน้ี ข้าบ่เอาไผ แท้ เสนาน้อยใหญ่ กับทั้งช้างและม้า ของเจ้าข่อยบ่เอา ดอกนา พ่อเอ้ย เดียวนี้เฮาจักไปเลวแท้ คนเดียวมันก็ง่าย พ่อเอ้ย แต่นั้น พ่อตอบต้าน ท้าวหน่อเหลาคา เจ้าจงฟังนิทาน พ้ืนเมืองกรุงศรี กวา้ ง พ่อจกั เลา่ ให้แจง้ ยังลกู ทัง้ สาม ฟังเนอ ยามนน้ั ยังมสี พั พัญญู เจ้า โคดมเดินโลก ตกเขตขั้น หนองกว้างแห่งสะพัง ยังมีสาใหญ่ กว้าง สัตว์อยู่สามตัว มันก็เห็นพระบาทเจ้า เลยเล่าถามดู แต่น้ัน เขาก็เห็นองค์พุทโธ หน่อเวียงคอยเย่ียม หนองอันน้ีฮุ่งเฮือง ไผ อยากเป็นพระยาแท้ ให้มาไหว้สัพพัญญูองค์เอก เสียถ่อน ก็จิง หายกลายไปหน้า ตัวขาวก้นก่าน มาไหว้องค์พระพ่อเจ้า หมาย พรอ้ มพรา่ กัน ฯ จบลานที่ ๑๑ ภานวุ ัฒน์ ศรสี ุระ ปรวิ รรต

๑๗ ผูกที่ ๑ ลานท่ี ๑๒ กับท้ังลิงวอกพร้อม กับท้ังหมู่นกยาง มันก็มาไหว้เจ้า องค์ นั้นสู่ตัว คันว่า องค์ถ้วนเจ็ดน้ัน แม่นนกใส่หัวแดง มันก็มาไหว้ พระพทุ ธเจ้า เห็นแลว้ ก็เลา่ กลาย มันก็มาหมายหนองอันน้ี นานไป หนา้ ได้เปน็ เมืองนาหมู่ พอแต่ม้าง เบียดเบยี นผใู้ ห้แปรเ่ พ องคท์ ี่ สามน้ัน บ่มีผู้ต่อยต้อง เลวเจ้าแห่งเขา เพราะว่า องค์พระพุทธเจ้า เมตไตยลงมาเกิด มาโผดให้ เฮาแล้วอยู่สบาย อันว่า สีแจ่มเจ้า เหลาคาทา้ ว คาปนผูป้ ระเสริฐ กูเอ้ย เฮยี มก็มาแตด่ ้าว เมืองกว้าง ประเทศแกว พุ้นแหลว ฯ อันน้ี คุณปลัดยงยุทธ์ เป็นผู้มีใจใสศรัทธาได้สร้างหนังสือลา พื้นเวียงจันทน์ไว้กับพระศาสนา ขอให้ได้บุญมากหลาย ๆ แด่ถ่อน ท่านอาจารย์สอนเป็นผู้เขียนแล คุณปลัดยงยุทธเป็นที่นับถือแล คอบใจดแี ล ฯ จบลานท่ี ๑๒ จบผกู ท่ี ๑ วรรณคดีลาวเรอื่ งพื้นเวียงจันทน์

๑๘ ผูกท่ี ๒ ผกู ที่ ๒ ลานที่ ๑ บัดนี้ จักกล่าวเถงิ ช้างเผอื ก มีแท้ท่อใด เฮากม็ คี นกลา้ ทหาร ดีสองหม่ืน จกั ได้เลวผ่ามา้ ง กรงุ ศรีกว้างใหม้ ุ่นผง แตว่ ่าคนในห้อง กรุงศรีนับโกฏิ อันว่าช้างและม้า หลายล้นโกฏิกือ1 แท้แหลว ปืน สะบูนั้น มีหลายเหลือมาก อยู่นอกต้าย2 มีแท้อย่างดี เฮาบ่มีสะบู ม้า ฉันใด๋จ่ังไปฮอด พ่อเด้ เขาก็เอาตนเข้า ล้อมกาแพงสามหม่ืน ตดิ ต่อข้ึน เปน็ ชั้นอยา่ งหนา บางกอกน้นั หลายภาษามมี าก มีเผ่า กุลาพร้อม คนพวนหมแู่ ขก มีท้ังจีนเจ๊กฮอ่ ญวนย้อหมู่แกว มีท้ัง มวลหมู่โส้ มวลแม้วแขกกะเลิง เขาก็ก่อตลาดไว้ ท้ังซ้ือและขาย ฝงู หม่เู ยอรมนั พร้อม ไทยลาวหลายมาก เขากอ่ ตั้งตลาดไว้ กาแพง ล้อมท่วั เมอื ง เขากแ็ ปลงเปน็ ถ่าน สามชนั้ ยอดสูง หมู่ทหารเข้าเฝ้า ตันไว้สู่ทาง เจ้าเอย้ ฉันใด๋เจ้า ปุนไปได้ง่าย เจ้าเอย้ พ่อก็ขอนาเจา้ เหลาคาสาก่อน พ่อก็ขอห้ามแจ่มเจ้า บาท้าวอย่าเลว พ่อถ่อน อัน ว่า กรงุ ศรพี นุ้ คนบุญยอดยง่ิ จรงิ ดาย เพราะว่ามหากษตั ริยเ์ จ้า จา ศีลบ่ได้ขาด กินทานพร้อม แลงเช้าบ่ขาดสาย ให้เจ้าตั้งต่อองค์ พุทธเจ้า ธรรม สงฆ์เป็นที่เพง่ิ เป็นที่ต้ัง จาไว้บ่ให้ไล แม่นว่าเจ้า จักไปเลวก็ยินยาก ย้านแต่เสียไพร่ฟ้า เมืองบ้านเปล่าแปน แต่น้ัน พระกล่าวแล้ว ท้าวตอบคาควร เฮาก็บ่กลัวเกรงสัง ท่อใยยองน้อย 1 โกฏิ หมายถึง สบิ ลา้ น สิบโกฏิ เรียกว่า กอื 2 ต้าย หมายถึง กาแพง รว้ั ปราการ เสาเขอ่ื น ภานวุ ัฒน์ ศรีสุระ ปรวิ รรต

๑๙ เฮาจักไปเลวเล่น ลองฤทธีสิทธิเดช ให้มันฮู้เหตุเร่ือง เมือหน้า ต่อไป พ่อเอย้ ท้าวกล่าวแลว้ เลยส่ังปิตตา ท้ังมารดา แม่เฮาสอง ท้าว เฮากเ็ อาตนเขา้ เลวกรุงศรลี องเบง่ิ ขอใหพ้ ระบาทเจา้ คอยถ่า เบิง่ สาสน์ แด่ถอ่ น เมื่อนน้ั ทา้ วสั่งแลว้ ขน้ึ ขอี่ าชาไนย ทยาน1เวหา ล่วงไปมีช้า ม้าก็ย่อง ๆ ผ้าย กวมเมฆเมโฆ พุ้นเยอ มีทั้งวาโย2 พัด ตา่ วลงทางพื้น ก็จิงไปเถิงเท่า ปักตูเวียงอนันต์เนก ท้าวก็ปากกล่าวต้าน เสียงห้าวบ่กลัว แท้ แหลว ฯ จบลานที่ ๑ ผูกท่ี ๒ ลานท่ี ๒ แต่ว่าสมเด็จเจ้า เสวยเมืองเป็นใหญ่ ให้เจ้าไปส่วยแท้ เวียงจันทน์พุ้นจ่ังสิยอม แท้แหลว องค์พระยาเมืองท่าน จิงขานคา เว้าว่า ดูราเจ้า เวียงจันทน์ของพ่อ กูเอ้ย พ่อสิมอบให้เจ้า สะบู3 พร้อมดาบพระขรรค์4 ท่านเอ้ย แต่น้ัน พระกล่าวแล้ว เลยลั่นสะบู หลวง บาคานพระ บ่กลัวเกรงย้าน แต่นั้น เฮาก็ยิงแจ่มเจ้า บา ท้าวบ่ถอง ท้าวจิงฟันคนไทย ก็ส่วนตายอนันต์เนก ท้าวก็ชักแค่ม ม้า5 ไล่เหยียบมรณา คนไทยตาย มากหลายเหลือล้น อันว่า 1 ทยาน หมายถึง เผน่ ไป 2 วาโย หมายถึง ลม 3 สะบู หมายถึง ปนื 4 พระขรรค์ หมายถึง ดาบ งา้ ว 5 แค่มมา้ หมายถงึ บงั เหยี นม้า วรรณคดีลาวเร่อื งพ้นื เวียงจันทน์

๒๐ ราชวงศ์ท้าว บ่มีกลัวย้านหยอ่ น อันว่า ปืนต่อจ้า บาท้าวบ่หวั่นไหว อันว่า อาชาไนย1ม้า จนดาตัวก่า ปานว่าทาหมิ่นหม้อ เสมอด้าม ท่านไฟ ไทยก็ถือหอกง้าว ฟันเข้าบ่ถอง หมดปญั ญาแล้ว เซาแฮง พักเหม่ือย อันว่า บาบ่าวท้าว ลงอาบสรงสี มีแฮงแล้ว ธงเคร่ือง อาภรณ์ ท้าวก็ข่ีม้าแก้ว เข้าสู่วังหลวง ฝูงพลทหาร แตกทลาย ครางฮ้อง แต่น้ัน เขาก็ตั้งสติได้ ไปขอยอมยังโทษ พระบ่ฮู้จักบาด ขอ้ เขาเวา้ เลยี้ วใสโ่ ต แตน่ ัน้ บาคานทา้ ว เลวกรุงศรียอมออ่ น นับ ไดเ้ จ็ดขวบมอ้ื ไทยทา้ วจง่ิ ยอม เจ้าเอ้ย แต่นน้ั ท้าวก็สเี ทยี นได้ พอ แสนหนักหมื่น มาไหว้เจ้า องค์น้อยหน่อเวียง เดียวนี้ ข้าขอยอม เป็นเมืองขึ้น เวียงจันทน์เขตที่ เมืองพุ้นพี้ ก็เป็นเฝื้องเป่ียงเดียว แต่น้ัน เหลาคาท้าว มีใจชมช่ืน เขาก็มาชมเดชเจ้า บุญกว้างพ่อรัส สี2 ท้าวจ่ิงมีคาต้าน ดอมพระยาทุกสิ่ง ดูราสมเด็จเจ้า เสวยเมือง เป็นใหญ่ เฮาจิงเว้าเพียรไว้ สูเจ้าจ่ิงค่อยฟัง มันหากบ่ยอมแท้ ๆ สิเวนให้ค่สู แู่ นว เมือ่ น้นั ทา้ วก็ยอเอานา้ ไหคามาต่ง ยอยืน่ ให้ หด ขม่อมเหนือหัว แล้วจิงเอาโอ3ตัก จูบกินยังน้า แล้วจิงอัญเชิญข้ึน ผาสาทเสวยสุข แต่น้ัน พระยาก็เสด็จขึ้น หอปรางค์ผาสาท พระ บาทเจา้ ธงสรา้ งสืบเมือง ท่านเอ้ย ฯ จบลานที่ ๒ 1 อาชาไรย หมายถงึ มา้ 2 รสั สี หมายถึง พระฤาษี 3 โอ หมายถึง ขนั นา้ , ภาชนะใส่น้าหรือตักน้า ภานวุ ฒั น์ ศรีสุระ ปรวิ รรต

๒๑ ผกู ที่ ๒ ลานท่ี ๓ อันว่า นางสนมหนุ่มน้อย ก็ยอให้มอบถวาย แต่น้ัน นางก็ตก แต่งตั้ง โภชนังทุกสิ่ง มอบแก่เจ้า วางให้สู่อัน ท้าวก็อยู่สนุกสร้าง ศลี ทานบ่ไดข้ าด ตักบาตรทั้งหยาดนา้ ใหบ้ ุญยู้ซ่อยชู แด่ถ่อน ท้าว ก็ดีใจได้ เมืองกรุงศรีไปส่วย1 ท้าวก็อยูส่ ืบสร้าง กรุงศรีกว้างได้ขวบ เดือน เขาก็มีสติได้ กระทากลตกแต่ง แปลงไว้เฝ้าบ้าน พลทหาร สามหมื่น นอกกว่าน้ัน ก็ขอขอดไปหมด เขาก็เอาใจเจ้า นายกรม ทุกส่ิง หมายจักเพไพร่บ้าน เวียงจันทน์กว้างให้มุ่นผง ให้เขาเสีย ไพร่น้อย แนวหน่อเวียงจันทน์ แท้แหลว แต่น้ัน เฮาก็ปรึกษาต้าน คาเดียวตัดขาด เฮาก็ตกแต่งเน้ือ ดาถ้วนสู่คน ก็จิงยาบ ๆ ย้าย ขน้ึ สู่เวยี งจนั ทน์ พนุ้ เยอ เฮาก็เอากนั กลาย เขตเขาโคราช เขาก็เอา กันไป หม่ืนกอื กองล้น ตง้ั แตพ่ ลทหารกลา้ ทหารดีสามหมืน่ แฮง เก่ิงชา้ ง พลายสารสามหมืน่ กบั ทง้ั ขุนพนั แกว้ เสนาผใู้ หญ่ เขาขนั เข้า สู่เวียงจันทน์ทั้งดาบ คันไชยเจ้า เหลาคากระทาเหตุ มันเกาะ ด้วยง้าว บาท้าวมากหลาย แท้แหลว แต่นั้น ไทยจิงคาหมายม้าง เพเวียงลองเบ่ิง ซ้าฮ่าน้ี ลาวสิไห้คอบไทย แท้นอ เฮาก็จากันแล้ว เดาดา2ตกแต่ง เลยย่างย้าย ออกส่วู ังหลวง พุ้นเยอ ในเม่อื เดอื นสบิ สองขึ้น คา่ หนง่ึ วนั พหสั พอเมื่อตาวนั ข้ึน พอแถใกลเ้ ที่ยง ยามนนั้ บาบ่าวท้าว จอมแก้วแก่นธรรม แต่น้ัน เสนาผู้ ต่างภาษามีมาก 1 ส่วย หมายถึง เมอื งข้ึน หรือเงนิ ทองขา้ วของที่คนเมืองขึน้ จะตอ้ งส่งใหแ้ กเ่ มอื งที่ตนขนึ้ 2 เดาดา หมายถึง ประดับตกแต่ง วรรณคดลี าวเร่อื งพนื้ เวียงจันทน์

๒๒ ท้าวก็พากันข้ึน ภูสูงหลายหล่ัน เข้าป่าไม้ หลายม้ือก็จิ่งเถิง ฮอด แห่งห้อง นครเทศเวียงจันทน์ เฮาก็พากันเข้า เถิงพระยาอานุราช เขาก็จบั มหาราชเจา้ ทง้ั ท้าวลกู พระยา อีกกับทง้ั บุตรา ราชวงศ์เป็น เค้า กับทั้งเสนาผู้ มุนตรีทุกแหง่ เขาก็จับมัดไว้ เสมอดา้ มดั่งหมา กับทั้งเสนาผู้ ขุนหลวงผู้ใหญ่ เขาก็กวาดเอาได้ หมดเสี่ยงสู่คน กับทัง้ เชอ้ื ชาตชิ น้ั แนวหนอ่ ราชา เขาก็จับเอามา ผูกเลียนกนั ไว้ ฯ จบลานที่ ๓ ผูกที่ ๒ ลานที่ ๔ ไทยก็เข้าซอกคน้ หาเอาทุกสิ่ง กับทั้งเงินคาแก้ว ขอขอดเอา หมด แล้วจิงเอาไปไว้ ของคูณสามอย่าง คือว่ากลองหมากแค้ง มุงคุลช้างเผือก กับท้ังองค์พระแก้ว จอมเอกมหานิล เขาก็เอาไป โฮม หมูท่ หารฮกั ษาไว้ คราวนน้ั พระหนอ่ ต้น องค์เอกแนวกษตั ริย์ บาคานโตน ออกหนีในห้อง ท้าวก็ลงตามน้า นทีหลวงลอยล่อง ตามแม่น้า ของกว้างล่องลอย ไทยก็นาไปฆ่า ให้เสียแนวดับหน่อ บ่ให้มีหน่อแก้ว แนวท้าวราชวงศ์ ไทยก็นาไปฆ่า หน่ึงเดือนทัด เที่ยง ก็จิงทันแจ่มเจ้า ในน้าแม่กระดิง อันว่า บุญเพ็งท้าว เห็น ไทยไปฮอด ทา้ วก็ถอดดาบกล้า ปนื พรอ้ มพรา่ กัน ท้าวกย็ ิงแทงฆ่า ภานุวัฒน์ ศรสี ุระ ปริวรรต

๒๓ คนไทยตายอนนั ตเ์ นก ทา้ วก็ฟนั อีกซ้า ตายเส่ยี งมดุ มรณ์1 เขาก็จับ จ่องท้าว พร้อมพร่าเมียแพง สองก็วายชีวัง มอดมลายตายเส่ียง แต่น้ัน ไทยก็มัดศอกไว้ ทั้งลูกบุตรา ทั้งมารดา พ่อแม่เฮาหมด ถ้วน เขาก็ใส่หีบแก้ว ไว้ในน้าแม่กระดิง เขาก็แปลงสาส์นไว้ อุปราชบุญเพ็ง ไทยก็ไปเอามา ฆ่าเสียในห่ัน ก็จิงเอาจมน้า ทั้ง เมียท้ังลูก เขาเอาหินทับไว้ ในน้าแม่กระดิง ไทยเขาเอ้ินปากน้า กระดิงน้ันต่อมา นี้แหลว ไทยก็กลับต่าวข้ึน มาฮอดเวียงจันทน์ เถิงสนาม พักเซาเนาย้ัง สาเร็จแล้ว บรบวน2ทุกสิ่ง ฝูงหมู่ไทย เสพซ้อน ลาวแง้วหมู่แกว แต่นั้น ไทยก็ตีเสพฆ้อง ดังเท่าท่ัวนคร พุ้นเยอ หมดทุกโขงเวียงจันทน์ ก็แม่นไทยเป็นเจ้า แต่น้ัน เขาก็ แปลงสาส์นใช้ เถิงหัวเมืองขึ้นส่วย กับท้ังสาวส่าน้อย มาพร้อมสู่ คน บัดนี้ จักกล่าวเถิงองค์แจ่มเจ้า อานุราชมหากษตั ริย์ ก่อนแหลว ท้าวก็โอ ๆ ฮ้อง เฮฮน3ทกุ ขเวทน์ มากแหลว พระกน็ อนอยคู่ ้าง คา โซ่มัดขา ให้เจ้ามาซ่อยอ้าย ยามพลอยพลัดพราก เฮาก็มระม่ิง เมยี้ น4 เสยี จากจอมพระนาง พสี่ ิต้านส่งั นอ้ ง คาแจง้ สูอ่ นั ฯ จบลานท่ี ๔ 1 มดุ มรณ์ หมายถึง ตาย เสียชีวิต 2 บรบวน หมายถึง บรบิ รู ณ์ ครบ ถว้ น เต็ม 3 เฮฮน หมายถึง กระวนกระวาย 4 มระม่งิ เม้ียน หมายถึง เสยี ชวี ิต ตาย วรรณคดีลาวเร่ืองพืน้ เวียงจันทน์

๒๔ ผูกท่ี ๒ ลานท่ี ๕ แต่น้ัน นางได้ยินเสียงเจ้า พระยาเมืองฮ้องกูก ผูดหลูดได้ เลยฟ้าวแล่นมา นางก็เห็นพระพ่ีเจ้า ทุกข์โศกแสนถนัด เห็นกระ แจจวนเหล็ก ผูกคอเคียนเน้ือ ท้าวก็หนีบ่ได้ หิวหอดฮนตาย มาก แหลว กับทั้งราชวงศ์ผู้ ธงเมืองลาบาก ทุกข์ยากแท้ ปุนด้ามด่ัง เดียว นางก็ยอมือขน้ึ ตีทวงล้มทา่ ว โอนอ สังมาทกุ ข์ยากโอ้ ดอม ท้าวลูกคีง เฮาได้ยินว่าเหลาคาท้าว มีชัยแพ้เพ่ิน สังบ่หลบต่าวป้ีน มาพ้ีฮอดพระองค์ น้ีเด้ หรือว่าเหลาคาท้าว หลานกูมรณาต แล้ว หรือ ก็จิงปะปล่อยให้ เขาล้วงยาดเมือง นี้เด้ ค้อมว่า1นางจ่มแล้ว นั่งอยู่ตุณหิ แต่นั้น อานุภาวันดีเจ้า จาดอมนางนาถ ฟังเนอ เฮาสิ สอนส่ังให้ สองเจ้าให้จ่ือเอา นั้นเนอ ให้นางเอาข้าวต้ม อันแซบ แสนหวาน ให้เจ้าเอายังสาส์น ใส่ในมาให้ ฉันใด๋แท้ ให้เอามาม้ือ อนื่ ตนื่ ม้อื เช้า พระอวนข่อยจงิ่ กนิ นอ้ งเอย้ โอนอ ข่อยก็มาคดึ ฮอด เจ้า คาระห้อยเกิ่งอินทร์ แต่น้ัน อ้ายสั่งเจ้า นางหล่าให้จ่ือจา แด่ ถ่อน แต่น้ัน ขอให้นางนาถน้อย ไปปล่อยช้าง ล้านโกฏิกุญชโร ตง้ั แต่พลายสารชา้ ง ใหไ้ ปอยูภ่ ูหงส์ อย่าใหพ้ ลายสารหลวง ลว่ งเข้า มาเวียงแท้ อนั หนึ่ง ใหน้ างสอนส่งั ช้าง ใหเ้ ขาจ่อื จากู แด่เนอ คนั บ่ เห็นกูมา อย่าให้ไผเอาได้ คันว่ากูมาแล้ว ให้ตีกลองของเก่า ไป ต่อยต้อง ตีฆ้องเอ้ินออกมา ว่าเนอ ให้เจ้าคืนมาเข้า เวียงจันทน์ ของเก่า คันว่า ศาสนาพระพุทธเจ้า โคดมคล้อยเหง่ียง เม่ือใด๋ ห้า 1 คอ้ มว่า หมายถึง ครนั้ เมอ่ื ภานุวัฒน์ ศรสี ุระ ปริวรรต

๒๕ พันปีขวบเข้า สูเจ้าจิ่งค่อยมา คันว่า ไทยเป็นเจ้า เสวยเวียงกวม โลกอยู่ สอู ย่าได้ออกทง่ กว้าง เดินดา้ วประเทศไกล น้นั เนอ ให้สูเอา ตนเข้า ภูเขาคนบ่เท่ียว ดงเปล่ียวแท้ คนเข้าบ่เถิง นั้นเนอ คนั ว่า กูหากลุโชคได้ มาเกิดอยู่เวียงจันทน์ คนไทยเอาตนหนี จากนคร หมดแล้ว อีกท้ังกุญชโรแก้ว พลายสารมาโฮมอยู่ ถ้วนแล้ว เจ้าจง ได้ปล่อยช้าง สอนให้สู่ตัว นางได้ยินพ่ีต้าน ก็ทุกข์โศกแสนถนัด โศกาทุกข์ เวทนาหลายล้น นางก็ยมนาไห้ น้าตาไหลย้อยหยั่ง หยงั่ ๆ ยอ้ ย ฮาแก้มอยบู่ ่วาย แท้แหลว ฯ จบลานท่ี ๕ ผกู ที่ ๒ ลานที่ ๖ แต่นั้น นางก็ไปเถิงห้อง เตาไฟหม้อใหญ่ นางก็ปลงหม้อ ขา้ วตม้ ลงแลว้ เหล่าหนี ก็จงิ ไปเอาได้ โอคามาใส่ นางกต็ กั ขา้ วตม้ เต็มแล้วเหล่าไป ไปแบ่งให้ จอมศรีโพธิราช เขาก็เอาไปขัง ใส่กระ จวนจาโซ่ เขาก็เอาขังไว้ วังหลวงคุกใหญ่ นางก็ลักลอบด้ัน เถิง ราชาอา้ ยพี่ ก็ได้ยินเสียงฮา่ ไห้ บาท้าวหน่อเวียง แต่นั้น พระก็ต้าน ต่อน้อง นางเกศเกศี สายใจเอย้ จงค่อยฟังเอาถ่อน เฮาน้ีย้านแต่ เส่ียง เสียแท้หน่อเวียง จริงแหลว อันว่า เวรบาปฮ้าย อ้ายพี่มี หลาย น้องเอ้ย เม่ือใด๋ นางหากได้เมือสร้าง กรุงศรีนาเพ่ิน ให้เจ้า ได้ไพร่ผู้ ผัวแก้วอยู่เคียง ขอให้ได้ลูกแก้ว แนวหน่อราชา มีบุญ หลาย โลกลอื ธงสรา้ ง แต่นนั้ นางกย็ อมอื นบ แทบตนี พระองคอ์ า้ ย วรรณคดีลาวเรอ่ื งพนื้ เวียงจันทน์

๒๖ นางก็ยมนาไห้ ตีทวงกลิ้งเกลื่อน ก้มกราบไหว้ พระองค์เจ้าเหล่า ชุลี ใหน้ างจาจื่อไว้ ของเวียงทุกสิง่ คันวา่ นางหากไดล้ ูกแกว้ แนว หน่อเวียงจันทน์ อันหน่ึง ให้เจ้าเอาการสร้าง ครองเมืองนาเพ่ิน ให้เจ้าลักลอบดั้น เอาได้สู่อัน นั้นเนอ อันหน่ึง ให้เขาเลวต่อสู้ กรุง ศรีกว้างให้เปล่าแปน แท้แหลว เอาให้ได้ ดับแนวเสียหน่อ อย่าให้ มีไผได้สืบสร้าง เสมอด้ามด่ังเวียง น้ีเนอ ให้คึดเห็นคาเฮาแท้ แสนป้ีนเวทนา คันเจ้าคึดฮอดอ้าย ให้หยาดน้า หมายขอดกรรม เวร ท้ังกรุงศรีกับเวียงจันทน์ ให้ผูกเวรเวียนต้อง คันว่า พระสั่ง แล้ว เฮาเหล่าเลยเมือ เถิงโฮงหลวง ท่ีนครเซายั้ง นางจิงหมาย หยาดน้า ขอฝากธรณี สาธุเนอ ขอให้ไปชูค้า เถิงอินทร์พรหม เทวโลก ขอให้ส่ีทีปพร้อม เถิงแท้สู่ทาง ผู้ข้าได้หยาดน้า หมาย บอกธรณี ขอให้เมืองกรุงศรี มุ่นกระจวน1เพม้าง อย่าให้มีคนค้าง เสวยเมืองให้ดับหน่อ นั้นเนอ เขาหากบังเบียดผู้ บุญกว้างแห่ง พระองค์ น้ันแหลว มีแต่ราชวงศ์ผู้ เหลาคาไปบังเบียด ไทยก็จิงได้ ฆ่า เมืองนเ้ี ทย่ี งจริง แทแ้ หลว ฯ จบลานที่ ๖ 1 กระจวน หมายถึง แตก ไหม้ ละเอยี ด ภานวุ ฒั น์ ศรีสุระ ปริวรรต

๒๗ ผูกที่ ๒ ลานท่ี ๗ ขอให้พระอินทร์อยู่ฟ้า หลิงหล่าสรญาณ1 แด่ถ่อน ขอให้เวร เวยี นเกี้ยว ปาปังเปน็ บาป นัน้ ถอ่ น แต่นัน้ ไทยจิงเอาค้อนฟาดฆ้อง ตีป่าวเสนา ให้เขาเอากันมา สู่คนดาถ้วน เมื่อน้ัน พระยาเมืองเจ้า มรณาลดชั่ว ฝูงหมู่ไทยเขาก็เอาคาบเจ้า ออกจากตารางหลวง คน ท้ังปวง แห่เอาไปถ่ิม เขาก็เอาลงไว้ ในฮูพญานาค มหาราชเจ้า บาท้าวป่อนลง กับทั้งเสนาผู้ มุนตรีทั้งส่ี เขาก็เอาคาบเจ้า ลงห่ัน คู่พระองค์ แต่นั้น เขาก็ก่อธาตุตั้ง เจดีย์งามยิ่ง จริงแหลว ขอให้ ท่านไปเกิดก้า หนแห่งนีรพาน พุ้นเนอ อย่าให้มีเวรกรรม แก่กัน ภายหน้า ตั้งแต่ตัดกันแท้ ธงธรรมบ่ได้ขาด ไทยก็หากบ่ได้ฆ่า พระองค์เจ้าก็หากตาย มรณามุด ผู้เดียวจริงแท้ คือว่าเวียงจันทน์ แก้ว ของหลายนับบ่ข่วย เป็นโกฏิต้ือ ปลายล้านคู่อัน เฮาก็ขอ มอบให้เจ้า องคอ์ ้วนอยู่เสวย นั้นเนอ บรบวนถ้วน ทาบุญพระธาตุ ใหญ่ มหาราชเจ้า ลงห่ันสู่พระยา ไทยก็เอาลงไว้ ฮูหลวงพระยา นาค ไทยกเ็ ลยก่อธาตตุ ั้ง กวมไว้บ่ใหเ้ หน็ แท้แหลว เม่ือนั้น ไทยก็ แปลงสาสน์ ใช้ ไปเถงิ หวั เมอื งใหญ่ เมอื งพนุ้ พ้ี ใหม้ าข้ึนคู่เมือง ห่นั ถ่อน เฮาจักถามบ่อนบ้ัน โขงเขตเวียงจันทน์ ไผบ่มาทันแท้ สิ นาไปทาโทษ คันว่า เจ้าหากขัดอยู่ได้ สินาฆ่ามอดชีวัง แท้แหลว บัดน้ี จักกล่าวเถิงเจ้า อานุราชเวียงจันทน์ ก่อนแหลว แต่น้ัน เขาก็ เอากันมา สู่เมืองมาไหว้ แล้วจิงเอาเงินคาแก้ว มาเคนมวนมอบ 1 สรญาณ หมายถึง ญาณทิพย์ วรรณคดีลาวเรอ่ื งพืน้ เวียงจันทน์

๒๘ เสื้อและผ้า สิถวยเจ้าสู่อัน แท้แหลว ทางเหนือพุ้น สององคข์ ัดอยู่ ก้าฝ่ายใต้ สองเจ้าหน่อเวียง เขาก็ยังโกงแท้ บ่ฟังคาภูวนาถ เฮาก็ เอาอานาจเข้า เอาไดค้ ู่เมอื ง ทา่ นเอ้ย ฯ จบลานท่ี ๗ ผูกที่ ๒ ลานที่ ๘ เจ้าอย่าได้กากโกรธเข้ม เค็มเครียดในใจ คันไผมีใจโกง ผูก เอาเดยี วนี้ กจู กั ถามมันน้ัน เปน็ ฉันใดจงิ ขดั อยู่ ฉนั นัน้ มนั บ่ฟังเผา่ ผู้ บุญกวา้ งเกิ่งอินทร์ แตน่ ัน้ เพชฌฆาตผู้ ฝูงหมู่ทหารแดง เขาก็ เอากันมา เที่ยวพะลันบ่มีช้า คันว่า จับเอาได้ พระยาใหญ่เมือง เชียงแสน จับเอามาแต่สะหวันนะเขตกว้าง เอาได้บ่ถอง เจ้าเอ้ย เขาก็เอามาหมด คู่คนตรงถ้วน แต่น้ัน ยังแต่พระหน่อแก้ว ครอง อยู่จาปาศักด์ิ ท้าวก็มีคาจา ต่อเขาคนใช้ เฮาได้ยินดีแท้ ในใจเป็น อันมาก มหาอามาตย์ผู้ ขุนหลวงเพชฌฆาต เขาก็กวาดเอาได้ หลบตา่ วคืนมา เขากเ็ อามาถวายเจา้ เชยี งแสนเอกราช ไปฮอดหอ้ ง เมืองใหญ่เชียงตุง พระยาเชียงสีเจ้าหากเป็นคนดี แต่งการตางเจ้า เขาก็ย้ายจากห่ัน ขึ้นสู่หลวงพระบาง เขาก็เอากันไป ฮอดเมืองพระ ยาเจ้า เฮาก็ยอมือนบ กราบลงมีช้า ราชาเจ้า ขุนหลวงเฒ่าแก่ พากนั ไปฝัง่ ฟา้ ว เดยี วน้ีเที่ยวพะลนั ว่าดาย แต่นน้ั ราชทูตเจา้ พระ ยาใหญ่เมืองหลวง มีคาจา ต่อเขาคนใช้ เฮาได้ยินว่าเจ้า มาแต่ ภานุวฒั น์ ศรสี รุ ะ ปรวิ รรต

๒๙ เวียงจันทน์ ว่าสิมายามเมืองหลวง แห่งเฮาภายพ้ี พอแต่เฮามาช้า หลายวันดายเปล่า ก็บ่เห็นเผ่าผู้ บุญกว้างเที่ยวพะลัน เพราะว่ามี คาแขง็ ใส่เฮาพอย้าน เฮาบ่มีภยั ตอ้ ง ในทรวงจักสง่ิ สังมาเคราะห์ คาดฮ้าย สิครองเมืองตุ้มไพร่ เฮาบ่ได้บังเบียดผู้ บุญกว้างแห่งไผ แต่ว่า เวียงจันทน์พุ้น ไปเลวบ่บอกข่าว ฉันน้ี บัดว่าเหตุต่อนฮ้าย ใหเ้ ถิงเทา่ ฮอดเวยี ง ฯ จบลานท่ี ๘ ผกู ท่ี ๒ ลานที่ ๙ พระก็บนบอกให้ ฝูงหมู่นายทหาร ให้สูจับเอามา กราบถวาย พระยาเจ้า เฮาก็ได้หมายไว้ สองสามวันสิไปฮอด โทษบ่ท่อน้ิวก้อย กูท้าวสิค่อยไป แท้แหลว บัดนี้ จักกล่าวเถิงเจ้า องค์มหาอามาตย์ ทา่ นก็คึดเอาได้ หวั เมอื งมาส่วย ฝูงหมู่เชือ้ ชาตชิ ัน้ เคยขึน้ ส่วยเวยี ง เขาก็เอาตนเข้า โฮมเวียงปัดขอด1 ตั้งแต่พระยอดแก้ว สามหน่อ องคก์ ษัตริย์ กับท้ังราชทูตทา้ ว เสวยราชยจ์ าปาสัก ท่านก็ไดม้ าเขา้ เถิงเวียงยามเที่ยง สามกษัติย์หน่อไท้ ก็ยืนไห้ต่อกัน อันว่าสอง แจ่มเจ้า พระยาใหญ่เชียงโขง เขาก็เอากันมา ก่อการกินย่าง อัน ว่า อามาตย์ผู้ ขุนหลวงเล่าเหตุ ก็จิงบอกเพชฌฆาต ท้ังหมู่ทหาร แดง เขาก็เดาดาตก แต่งดีดาถว้ น แลว้ จิงไปฮับเจา้ สามหน่อแนว 1 ปดั ขอด หมายถึง หมด ส้ิน วรรณคดลี าวเร่อื งพนื้ เวียงจันทน์

๓๐ กษัตริย์ ยามเท่ียงเถิงหาดแก้ว ทรายน้าแม่ของ แต่น้ัน มหา อามาตย์ผู้ ขุนหลวงไปฮอด ท่านก็ไปพร่าพร้อม ยอมือขึ้นใส่เศียร แต่นั้น สามแจ่มเจ้า เข้าสู่สนามหลวง คนท้ังปวง หม่ืนกือกองล้น แต่นั้น ราชาเจ้า มีวาจาถามพ่ี อนั ว่า สีแจ่มเจ้า ถามข่อยด่ังใด๋ น้ี เด้ เฮาก็หมายคาแม้ง เปน็ กระบวนเวา้ ม่วน หนอ่ ยบช่ า้ เพชฌฆาต มาเถิง ก็จิงพากันมา ฮอดนครเมืองฟ้า เด๋ียวนี้มีการแท้ ฉันใด๋ก็ ให้ว่า มาเทอญ ให้เจ้าไปตุ้มไพร่น้อย เมืองบ้านให้ฮุ่งเฮือง แด่ ถ่อน อันว่า อามาตย์ผู้ ขุนหลวงไขข่าว แต่ว่าเวียงจันทน์นั้น คนโฮมหลายโกฏิ เป็นโกฏติ อื้ ปลายลา้ นโกฏิกือ อนั ว่า เมืองจาปา ศักด์ิน้ัน ก็เป็นน้องผู้หล่า บาท้าวหน่อเวียง คือว่าโคราชพุ้น ก็ เป็นเมืองขึ้นส่วย เดียวนี้ เป็นแต่ราชวงศ์ท้าว เหลาคากระทาเหตุ พ่อกห็ ้ามแจม่ เจา้ หลานนอ้ ยก็บ่ฟัง ตามใจเจา้ ไผเดส้ มิ าซอ่ ย เฮา นี้ มีแต่สามกษัตรยิ ท์ า้ ว องค์เอกมหานลิ แนวดีแท้ ของคูณเมืองปู่ เพิ่นหากเวนมอบให้ องค์อ้วนอยู่เสวย พระเอ้ย ค้อมว่า พระกล่าว แล้ว มหาอามาตย์ขุนหลวง ไขวาจา ต่อพระยาสามเจ้า เอาแต่ใจ ถ่อนธรรมดาฮีตบา้ น ครองเฒา่ แตห่ ลงั เจ้าเอ้ย ฯ คุณปลัดยงยุทธ์ เป็นผู้มีเจตนาศรัทธาในหนังสือพ้ืนเวียงจันทน์ เป็นของวัตถบุ ฮู านไวก้ บั ศาสนา ขอใหไ้ ดบ้ ุญมากหลายแด่ ก็ขา้ เทอญ นพิ ฺพาน ปจฺจโย โหตุ อนั นที้ ่านอาจารย์สอนเปน็ ผ้เู ขยี นแล ฯ จบลานท่ี ๙ จบผกู ท่ี ๒ ภานวุ ัฒน์ ศรีสรุ ะ ปรวิ รรต

๓๑ ผกู ท่ี ๓ ผูกที่ ๓ ลานท่ี ๑ คันบ่ยอมเฮาแท้ เอาเวียงเป็นที่หนึ่ง บ้านพุ้นพี้ ให้เป็นเฟ้ือง เปี่ยงเดียว แท้แหลว ขอให้สาบานให้ เป็นคาสัตย์ซื่อ ให้เป็นพี่และ น้อง ใจเลี้ยวบ่ให้มี เจ้าเอ้ย แต่นั้น ราชบุตรเจ้า พระยาใหญบ่ ัพพา ทั้งเจ้าเมอื งจาปาศกั ด์ิ ตอบทลู คาแจง้ การท่สี าบานนี้ ให้โฮมกันทั้ง สี่ ไผผู้คิดโลภเลย้ี ว คาเวา้ ตงั้ แต่หลงั ไผหากมใี จเลีย้ ว วิวาทหลา่ ย คาคิด อยากได้เมืองพุ้นพ้ี เป็นแท้แห่งคา ขอให้ฉิบหายแท้ เสีย เมอื งมุดมอด ขอขอดเสี่ยง เสยี ทา้ วหน่อเวยี ง แต่นน้ั มหาอามาตย์ ผู้ ชายเซ็งบุญมาก เชิญแก่นท้าว ยอเมืองมวนมอบ กับท้ังเมือง ส่วยเจ้า เถิงฮ้อยหน่อเวียง จิงได้พากันเข้า อารามหลวงวัดใหญ่ แต่นั้น องค์กษัตริย์เจ้า พระยาเมืองหลวงท่าน ก็มีวาจาถาม แห่ง พระยาเวียงเจา้ อนั ว่าของในห้อง เวียงจันทน์ของปู่ กับทั้งองค์พระ แกว้ ทัง้ ชา้ งเผือกขาว กบั ท้งั กลองและฆอ้ ง ตุริยา1เคร่ืองเสพ ของ อยู่ในเวียงจันทน์ มอบถวายจอมเจ้า แต่นั้น มหาอามาตย์ผู้ ขุน หลวงต้านตอบ ไผมีใจโลภเลี้ยว เข้ามาเบียดเบียนเฮา ขอให้ฉิบ หายแท้ แนวนามเช้ือชาติ ขอให้มันมรณาตเม้ียน เสียด้ามด่ังเวียง แต่นั้น สองก็จากันแล้ว ฮับพากษ์คาถาม ก็จิงยอเมืองนบ ใส่หัว เลยไหว้ แล้วจิงบายเอาเต้า คันทีล้างส่วย องค์พระแก้ว แลแล้ว ช่ืนชม แล้วจิงเอาดวงศร สู่อันดาถ้วน แล้วจิงยอย่ืนให้ องค์อาจ 1 ตรุ ยิ า หมายถึง ดนตรี วรรณคดีลาวเร่ืองพนื้ เวียงจันทน์

๓๒ กรมหลวง ท่านก็ เอามือแปะใส่เกล้า เสร็จแล้วเลิกรา บัดนี้ จัก กล่าวเถิง มหาราชเจ้า ผู้ประเสริฐขุนหลวง อยู่เสวยเวียงจันทนน์ ุราช ล้า นานปนี ับบข่ ว่ ย นับอา่ นถว้ น ดาพรอ้ มพร่ากนั เอาท้ังพระบาง เจ้า มรกตองค์เอก ได้ไปหมดท่ัวถ้วน บ่มีย้ังอยู่หลอ กับทั้งหน่อ เวียงเจ้า สังขารมาฮอด เลยตลอดทั่วเท่า ฮอดขวบสามพัน พระ ยาธรรมมาเอาไว้ รอองค์ไทพ้ ระเมตไตรย ท่านเอย้ ฯ จบลานที่ ๑ ผกู ที่ ๓ ลานที่ ๒ ไผผู้มาเลวแท้ เอาอาคมเป้ียงป่าย คอขาดเสี่ยง ตายเกล้ียงสู่ คน แทแ้ หลว แต่น้ัน ไทยก็ไปบไ่ ด้ หลบตา่ วคนื เมือ เถิงเวียงจนั ทน์ กล่าวจาเถิงเจ้า เฮาก็ไปบ่ได้ ก็ย้านหลีกหนีไกล พระเอ้ย แต่นั้น เขาก็โฮมกันเข้า เอาของเวียงทุกสิ่ง เขาก็ขอขอดได้ ของเจ้าหน่อ เวยี ง กับทั้งเช้อื หนอ่ ท้าว เอาแทส้ คู่ น แตว่ ่าคนในหอ้ ง เวยี งจันทน์ นับหม่ืน เขาก็ขอขอดเสี่ยง เอาแท้คู่อัน เอาเมือห้อง กรุงศรีปัด ขอด บ่ให้มีอยู่ค้าง เมืองบ้านถ่องคน อันว่า ช้างและม้า ขอขอด เอาหนี เมืองกรุงศรสี ูอ่ ันเอาเกล้ียง แล้วจงิ เมอื เถิงห้อง กรุงศรยี าม คา่ ช้างก็ฮ้อง แสงพระแก้วฮุง่ เฮอื ง อันว่า คนในห้อง กรุงศรีสดุ้ง ตื่น เห็นแสงพระแก้ว ก็ฮนย้านแล่นหนี เสียงสน่ันเท่า กรุงกว้าง ทั่วนคร อันว่า เหลาคาท้าว ราชวงศ์ผู้ประเสริฐ ท้าวก็ผูดลุกแล้ว ภานุวัฒน์ ศรีสรุ ะ ปรวิ รรต

๓๓ เลยเยี่ยมเบ่ิงดู ก็เห็นใสแสงเหล่ือม สีสวยเฮืองฮุ่ง ก็แม่นองคพ์ ระ แก้ว มาเย่ียมเบิ่งเฮา ท้าวก็เหลียวไปหน้า วังพระยาเฮืองฮุ่ง ก็ เห็นแสงพระแก้ว ในห่ันฮุ่งเฮือง เสียงคนฮ้อง นันเนืองก้องสนั่น คอื ด่ังจักจ่ันฮ้อน เดือนห้าชั่วแซว แนวไทยนี้ ปนกันลาวส่วย ท้าว ก็คึดประหลาดแท้ ใจสล้างหวั่งเวง ท้าวก็ข้ึนสู่ห้อง ผาสาท1มุงมณี ท้าวก็เอาของดี สู่อันดาเน้ือ แล้วจิงสุบสอดเสื้อ ขัดดาบดวงพระ ขรรค์ เฮาก็เอาคันไชย ดาบดีดวงกล้า บาก็เอาตนผ่าย ลง แลหลิงหล่า บาก็เหาะฮอดคุม้ กลางบ้านหมู่พระยา อนั ว่า ราชวงศ์ ทา้ ว คอยแลหลงิ หล่า กจ็ ิงเห็นนาถนอ้ ย นางเกศเกศี ทง้ั ของดี สู่ แนวในหั่น โอนอ กูบ่เคยเห็นแหล่ว พระยาไทยล่อหลอก แท้นอ เป็นด่ังลิงวอกเฒ่า ประสงค์ล่อหลอกคน เจ้าเอ้ย แต่นั้น ท้าวก็เสิน เทินเอิ้น หาอาเจ้าแม่ เขาอยากได้ อันได๋แท้บอกมา แม่เอ้ย อัน ว่า เวียงจันทน์พุ้น เป็นฉันใด๋เจ้าแม่ กูเอ้ย เขาจิงได้พระแก้ว องค์ อาจมหานลิ อีกกับทง้ั องค์อา ด่วนมาทางนี้ นน้ั นอ จบลานที่ ๒ 1 ผาสาท หมายถงึ ปราสาท วรรณคดลี าวเร่ืองพืน้ เวียงจันทน์

๓๔ ผกู ที่ ๓ ลานท่ี ๓ แต่น้ัน นางกล่าวต้าน ฮับพากษ์หลานกู ในเวียงจันทน์ ก็ แม่นไทยเป็นเจ้า อันว่า ของในห้อง เวียงจันทน์นบั โกฏิ ไทยก็ไหล หลัง่ เขา้ เอาไดค้ อู่ นั เดียวนีเ้ วยี งจนั ทน์พุ้น บม่ สี ังจักส่งิ อนั วา่ พอ่ แม่เจ้า ก็ตายแท้สู่คน กับทั้งเสนาพร้อม มุนตรีมรณาต มันหาก มุดมอดเมี้ยน ตายเส่ียงบ่หลอ อันว่า ของในห้อง เวียงจันทน์ก็ หลายยิ่ง กับท้ังคนมากล้น เหลือด้ามโกฏิกือ เขาก็เอากันเข้า นครหลวงหลายหม่นื หลานเอ้ย อาก็เป็นเมียเจ้า ขุนหลวงอามาตย์ เพ่ินก็ทศราชแท้ เป็นเจ้าแผ่นดิน แท้แหลว แต่นั้น ท้าวก็มีคาต้าน ขานอาเอิน้ สั่ง ว่าดูราเกศีสร้อย ตนอาพระแม่ กูเอ้ย หลานก็ขอสั่ง เจ้า อาแก้วให้จ่ือเอา แด่ถ่อน คันว่า เจ้าหากได้ลูกแก้ว แนวหน่อ ลาชาย กด็ ี ให้เจ้ามคี าสอนสง่ั เขา จงฟงั จาไว้ ของเก่าเวยี งจันทน์ให้ เขาจาเอาทุกสิง่ ลักลอบด้ัน เอาแท้บใ่ ห้เหลือ ฉันใด๋แท้ กรุงศรจี ง่ั สิมุ่น ก็ดีถ่อน ตราบต่อเท่า ศาสนาคล้อยเหงี่ยง ไปนั้น ให้เขา ลักลอบด้ัน เอาได้เค่ิงเวียง แท้เนอ แต่นั้น พอว่าท้าวสั่งแล้ว พระ ยาโกรธโกรธา ฟันคนตาย มากหลายเหลือล้น เขาก็โฮมกันเข้า หาบายีย่อง ว่าจักฆ่าแจ่มเจ้า บาท้าวเท่ียวพะลัน ท้าวก็หายตัวได้ ไปทางใดบ๋ ่ฮู้แหง่ เขาก็ตกแต่งเต้า ตนเจา้ แวดระวงั ทา้ วก็ยอยังง้าว คันไชยเลยฟาด เขาก็มรณาตเม้ียน ตายข่วยคว่ ยขีน เฮาก็หนหวย ฮ้อน เลวลมดายเปล่า ก็บ่เห็นเผ่าผู้ ตัวแท้ท่ีใด๋ อันว่า สมเด็จผู้ เมืองไทยเศร้าโศก ข้าขอยอมแจ่มเจ้า บาท้าวหน่อเวียง แท้แหลว ภานวุ ัฒน์ ศรีสุระ ปรวิ รรต

๓๕ ตัง้ แตเ่ ลวบาทา้ ว สามเดอื นทดั เท่ยี ง กบ็ ่แพ้ บาทา้ วทใี่ ด๋ มีแต่ทา้ ว หากแพ้ บาทา้ วสู่ที ฯ จบลานท่ี ๓ ผูกท่ี ๓ ลานที่ ๔ แต่น้ัน ราชาท้าว ราชวงศ์ตนประเสริฐ ท้าวก็ลงจอดย้ัง ผา สาทมุงมณี นางสนม แวดระวังเลียนลอ้ ม เขาก็เดาดาตก แต่งดี ดาถ้วน อันว่า ของครบแล้ว ยอเข้ามแบถวาย บาคานท้าว เสวย พาลาเลิก น้าดอกไม้ ประสงคล์ ้างส่วยสี แล้วจิงธงนุ่งผ้า ธามรงค์ สุบสอด บาบ่าวท้าว น้ิวมืออ้วนอ่อนงาม แต่น้ัน ท้าวกล่าวต้าน น้อยอ่อนจุลลา นางก็ธงครรภ์ได้ สิบเดือนจิงประสูติ บัดนี้ น้อง นาถไท้ นางเกศแพงขวัญ พี่เอ้ย สายคอเอ้ย อย่าให้มีโภยต้อง อันหน่ึง คันว่าเจ้าหากได้ ลูกประเสริฐเป็นชาย ก็ดี ให้เจ้ามีคาสอน สั่งเขาตรงถ้วน อนั หน่ึง ให้เจ้าผิ1เอาได้ ของเวียงเมืองปู่ เฮานั้น มี มากล้น เมืองน้ียาดชิง เจ้าเอ้ย อันหนึ่ง ให้ลูกผิเบียนเจ้า เสวย เมืองเป็นใหญ่ ของให้ลูกท่อนท้าว บุญกว้างเก่ิงสวรรค์ ฉันใด๋แท้ เวียงจันทน์เมืองปู่ จิงผิปองให้ได้ เมืองน้ีให้มุ่นผง แน่เนอ อ้ายจัก พลัดพรากน้อง นางหล่าม่ิงเมือง พี่ก็คิดเถิงเวียงจันทน์พุ้น แนว นามพ่อแม่ เพิ่นหากมรม่ิงเม้ียน ตายเส่ียงสู่คน คนั ว่า กรุงศรีพุ้น บ่เลวไผจักเท่ือ เมืองนี้จักฉิบหายมุดมอด พังเส่ียงบ่ยัง แท้แหลว 1 ผิ หมายถึง หาก แม้ วรรณคดีลาวเรื่องพนื้ เวียงจันทน์

๓๖ บาดว่าคนื มาสร้าง เวียงจันทน์บ่มีคู่ ฝูงหมู่ญาตพิ ่นี อ้ ง พงศ์เช้อื ก็บ่ มี อันว่า เวียงจันทน์นี้ ชาตาเวียงมันขาด เอาแต่คุณพระพุทธเจ้า บแ่ ปรม่ ้าง กรุงกว้างกบ็ ่ยอม พอว่าทา้ วสง่ั แล้ว เจยี ระจากนางคราน เอาตนผาย ข่ียนต์ยานแก้ว เอาตนข้ึน อาชาไนยเนาน่ัง ชัก แค่มมา ผันเข้าค่วงเวียง ม้าก็เสินเทนิ ต้าน ดอมพระยาเอนิ้ ใส่ ซ้า บัดนี้ หมายเมี้ยนมอบเมือง แท้แหลว แต่น้ัน เขาก็พากันอ้อม บา คานหมดหมู่ ปืนและง้าว ฟันเข้าส่วนสน ท้าวก็หายตัวได้ ไปใสบ่ ฮ้แู ห่ง ทา้ วกย็ นื อยหู่ น่ั เขานั้นก็บเ่ ห็น ท้าวก็กาดาบกลา้ ฟันผ่ายัง เขา เขาก็กองกันตาย หม่ืนกือกองล้น ท้าวก็โกลาหลแท้ มัวเมา เหมน็ สาบ ทา้ วกค็ ดึ หน่ายแท้ เลยล้าลว่ งหนี ฯ จบลานที่ ๔ ผูกท่ี ๓ ลานท่ี ๕ ต้ังแต่บาคานท้าว เลวไทยได้เดือนหนึ่ง นับแต่บาคานเข้า เสวยเมืองนานยิ่ง ได้สามขวบเข้า เดือนต้ังถ่ายมา นี้แหลว แต่นั้น ท้าวก็เอาตนผ่าย หนีจากกรุงศรี แล้วจิงยอมือนบ ฮอดพระ อนิ ทร์เทิงฟ้า กับทั้งเทพาห้อง เขาทองเวรมาศ กับท้ังครุฑนาคน้า นางนอ้ ยเมขลา ขอให้มาชขู า้ ไปเถิงไทเมอื งไดเ้ พง่ิ ขอให้เฮาไดล้ ่วง ข้าม ไปแท้อย่านาน แด่ถ่อน แต่นั้น ท้าวก็ชักแค่มม้า เวียนปิ่น สามที แล้วจิงยอมือนบ ฮอดสวรรค์เมืองฟ้า บาจิงพาบาท้าว คนื ภานวุ ัฒน์ ศรสี รุ ะ ปริวรรต

๓๗ มาทางเก่า มาฮอดห้อง นครกว้างเหล่ากาย ก็จิงเอาตนข้ึน ภูชุน เมืองใหญ่ เป็นพ่อเสี่ยวเจ้า เมืองแก้วตั้งแต่แกว1 แท้แหลว กูนี้ขอ สมสร้าง นาแกวเป็นคู่ จริงแหลว ท้าวก็แลหล่าเย่ียม หลิงใต้ผ่อ เหนือ ก็จิงค่อยเห็นมั่งผู้ เห็นอ้มหมู่กวาง เห็นท้ังดอยฮูปแฮ้ง หัว ต้ังต่อเวียง เจ้าเอ้ย แต่น้ัน ท้าวก็คึดคั่งแค้น ทั้งโศกโศกา เฮาก็มี ใจคิด ฮอดปิตตาไท้ ทั้งสองท้าว มารดาพ่อแม่ กูเด้ กับท้ังฝูงพี่ น้อง พงศ์เชื้อสู่คน กับทั้งเวียงจันทน์กว้าง เพลงเป็นป่า แท้นอ ทา้ วจม่ แลว้ เลยลา้ ลว่ งไป ทา้ วกช็ กั แคม่ ม้า เต้นแล่นตามภู หลาย วันคืน ฮอดนครเลยม้ม ก็จิงเอาตนขึ้น นาหลังภูวอก เห็นแต่กอ บงซ้อน กอซางซ่องช่อ มีทั้งนกก่อฮ้อง ขวาซ้ายส่งลาง มีท้ังลิง ค่างเต้น กวางฟานเดียรดาษ พระก็พ้อหมู่ช้าง ไปหน้าเหล่ากาย ท้าวก็ชักแคม่ ม้า เตน้ แลน่ ไวเปยี ง หลายวนั คืน บเ่ ซาไปหน้า บาก็ ข้ามย่านน้า หลายหล่ันภูสูง พุ้นเยอ ก็จิงเถิงแห่งห้อง เทิงภูไม้ฮ่ม แบง ยามเม่ือลมพัดต้อง เสียงก้องด่ังฝน มีทั้งมณฑลห้อง กุ ททณกี ล้วยปา่ เตม็ เลียบตา้ ย ภกู ว้างมากหลาย ทา้ วกก็ ลายไปหนา้ ภูผาหลายหน่วย มันก็มีตาดห้วย เหวน้ามากหลาย ท้าวก็คอยไป หนา้ ผาหลวงตันอยู่ เหน็ ภูพานผ่านซ้อน ตันหนา้ บอ่ นไป ฯ จบลานท่ี ๕ 1 แกว หมายถึง ชอ่ื ชนชาติอินโดจีนพวกหนึง่ ท่ีมเี ชอื้ ชาติแกว (ญวน) หรือชนชาตเิ วยี ดนาม วรรณคดลี าวเรอ่ื งพนื้ เวียงจันทน์

๓๘ ผกู ที่ ๓ ลานที่ ๖ ให้เจ้าค่อยเมือดีถ่อน ทางไทยพุ้น ภูพานเมฆผ่าน เมือทาง บ้านเก่าอ้าย เวียงจันทน์พุ้นก็บ่เห็น มันหากจาเป็นแท้ เวรมีแต่ ปางก่อน พอว่าท้าวกล่าวแล้ว ก็จิงเอาตนเข้า ภูหลวงเหลียวผ่อ บาก็คิดฮอดบ้าน คนิงโอ้อ่าววอน เฮามาคิดเถิงพ่อเจ้า ท้ังบ้าน เหม่ือยมโน ท้าวก็คอยเมือก้า เมืองแกวเป็นหมอกอ่อน คือด่ังฝน ห่าน้อย ฮายอ้ ยหน่วงหนาว ท้าวจิงเอาตนขนึ้ เทงิ ดอยภแู บง่ เปน็ เขตเจ้า อานรุ าชบพั พาวัน บ่อนนา้ สุด แบ่งกนั ในนี้ ตงั้ แต่ก้ี เมือง แบ่งเป็นดิน ลาวกับแกว แบ่งกันในน้ี แต่น้ัน พอว่าท้าวสั่งแล้ว คิดฮอดปิตตา ท้ังมารดา หย่าวยมหัวไห้ แต่น้ัน ท้าวก็เอาตนข้ึน ภูสูงเหลียวผ่อ หอมดอกไม้ ยามแล้งเม่ือแลง โอนอ สังมาคือดั่ง เจ้า นางจุลลาเมียมิ่ง ฮาเด้ พอเมื่อท้าวจ่มแล้ว แจ้งฮุ่งสวยรวย1 พนุ้ เยอ ธานขี องนงคราญ2 ส่งเสียงสญู เสี่ยง เฮามาพากนั ไห้ เสยี ง วอนวีว่อน พุ้นเยอ แต่นั้น ท้าวก็ลุกส่วยหน้า เสวยโภชน์3พางาย บรบวนแล้ว ถวายพาลาเลิก แตน่ นั้ น้าดอกไม้ ประสงคล์ า้ งสว่ ยมอื แท้แหลว แต่นั้น ท้าวก็ซิกข้ึนม้า ทยานล่วงเวหา ม้าก็พาบาคาน ผ่ายไปมีช้า ไปเถิงห้อง ตีนเขาเหลียวผ่อ ก็จิงฮอดแห่งห้อง เมือง แก้วประเทศแกว ท้าวก็เอาตนผ่าย เถิงเมืองยามค่า บุญเฮืองเจ้า เหลาคาธงเพศ ฝูงหมู่สาวส่าน้อย เห็นท้าวก็ว่างาม แท้นอ แต่ว่า 1 สวยรวย หมายถึง สวยงาม 2 นงคราญ หมายถงึ นางงาม นางสาว 3 โภชน์ หมายถึง อาหาร ภานวุ ฒั น์ ศรีสรุ ะ ปรวิ รรต

๓๙ อันนี้หากแม่นแนวนามเช้ือ กษัตราได้มาฮอด เฮานี้ สังมางามลื่น ล้น เหลือแท้กว่าเฮา แท้นอ แต่นั้น ท้าวกล่าวแล้ว จาต่อสาวแกว พี่ก็เนาเวียงจันทน์ ด่วนมาเถิงพี้ ได้ยินว่าสาวในห้อง ภูชุนงามย่ิง แท้นอ อ้ายก็เดินดุ่งผ่าย มาพ้ีฮอดเมือง นี้แหลว เมื่อน้ัน สาวก็ ซอแซเว้า หญิงใด๋สิปุนเปรียบ อ้ายเด้ อันแต่คือหมู่น้อง บ่สมอ้าย หน่อเวียง ดอกนา ฯ จบลานท่ี ๖ ผูกท่ี ๓ ลานที่ ๗ แต่น้ัน พอแต่ท้าวกล่าวแล้ว กลายหมู่ฝูงสาว ก็จิงถามหาทาง ล่วงเข้าเวียงคอยเยี่ยม อันว่า มหาราชเจ้า สิเนาก้าฝ่ายใด๋ แต่นั้น เขาก็บอกให้ท้าว หลังอยู่ทางเหนือ นั้นแหลว มีกาแพง แวดระวัง เวียนล้อม หอสูงต้ัง บังคะโยมยังเมฆ เจ็ดหน่วยล้อม หอแก้วอยู่ กลาง มันหากมีคนเข้า ทหารแดงเขากวาด มหาราชเจ้า ไปหั่น ส่วนถาม บ่อย่าแหลว แต่นั้น ท้าวก็เดินดุ่งด้ัน ตามที่ทางเทียว เท่ียวไปมา ขอกทางขวาซ้าย ก็จงิ เหน็ ยอดชอ่ ฟ้า ผาสาทหลังสงู พุ้ นเยอ บาคานแพง เบง่ิ ทางท้งั หา้ หอเจ้าฟ้า หม่องแผน่ ทองเหลือง กระดิงทองแขวน หม่ีนันเสียงก้อง มีท้ังทองสมุทรสร้อย อินถวา หอมอ่อน บานแบ่งซ้อน หอมเท่าทั่วเวียง มันหากมีมวลพร้อม สรรพสรรทุกส่ิง ฝูงหมู่ดวงดอกต้าง บานต้ายเลียบสะพัง มีวังน้า วรรณคดีลาวเรื่องพื้นเวียงจันทน์

๔๐ บัวคาอ้อมอยู่ ฝูงหมู่ดวงดอกไม้ ในต้ายห่ืนหอม มันก็เป็นดั่งเบื้อง เมืองสวรรคป์ ุนเปรียบ กันนอ เมืองอันน้ี งามล้นด่ังสวรรค์ แท้นอ แต่ว่ากรุงศรีพุ้น ก็ดูงามสุทธะย่ิง ยังบ่ปุนเปรียบเสี้ยว เวียงจันทน์ น้ีเค่ิงเสมอ ได้แหลว แต่น้ัน ท้าวย่างย้าย เข้าสู่ปักตูเวียง ฝูงหมู่ นายทหารแดง กวาดถามดูถ้วน ท้าวนี้เดินดุ่งดั้น มาแต่เมืองใด๋ มึงบ่ฮจู้ ักกู ผู้กวาดคนในนี้ อนั ว่า นามกรท้าว ฉันใด๋เป็นชอ่ื ใด๋น้ัน กับท้ังท่ีอยู่แท้ เมืองข้ึนส่วยเงิน แต่นั้น เหลาคาท้าว ขานเขาคา ม่วน ขา้ ก็อย่แู หง่ ห้อง เมืองแกว้ ประเทศลาว แท้แหลว ขา้ กเ็ ป็นลกู เจ้า อนุราชพระยาเมือง ข้าก็เนานครเวียง ประเทศลาวเวียงกว้าง เฮาก็มีการแท้ จิงมายามพระยาพ่อ น้ีแหลว เพิ่นก็เป็นพ่อเสี่ยวแท้ ปุนด้ามด่ังพ่อเฮา ท่านเอ้ย แต่นั้น เขาก็อนุญาตให้ องค์พระบาท เข้าโฮงหลวง ราชวัง แห่งพระยามีช้า แต่นั้น ราชวงศ์เจ้า เหลียว เห็นดูหลาก คนน้ีมาแต่ห้อง เมืองบ้านท่ีใด๋ น้ีเด้ โฉมสีหน้า คือ พระยาเชือ้ หน่อ มันหากพลดั พรากห้อง มาแท้แต่ทีใ่ ด๋ นเ้ี ด้ ฯ จบลานท่ี ๗ ผกู ที่ ๓ ลานท่ี ๘ แต่นั้น พระก็ทันเอาผู้ เสนาผู้ใหญ่ มันก็ไปกล่าวต้าน ถาม แท้สู่ประการ ท้าวน้ีลุกแต่ห้อง ทางใด๋เดินฮอด อนั ว่า นามกรท้าว บานั้นดั่งลือ เจ้าก็จิงมาเถิงห้อง ภูชุนเมืองใหญ่ เป็นเหตุฮ้อน ภานุวัฒน์ ศรีสุระ ปรวิ รรต

๔๑ อันใด๋แท้จิ่งมา เจ้าเอ้ย แต่น้ัน ท้าวก็ยอมือไหว้ เหนือหัวก้มขาบ ปากกล่าวถ้อย จาต้านต่อพระองค์ ข้าน้อยนี้เป็นลูกเจ้า อานุราช เวยี งจันทน์ ท่านกเ็ นานครหลวง ประเทศลาวจรงิ แท้ อันว่า นามกร ขา้ เหลาคาเป็นชอ่ื พระพอ่ เจา้ ขึน้ ชอื่ ราชวงศ์ ต่อมาเดยี วน้ี เมอื ง ไทยพุ้น มาเลวพระยาพ่อ เพ่ินก็มรมิ่งเมี้ยน ตายข่วยมอดชวี ัง แท้ แหลว ในเวียงจันทน์ ก็แม่นไทยเป็นเจ้า ข้าจิงเอาตนเข้า เดินมา บนบอก ก็จิงเถิงแห่งห้อง นครกว้างพระยอดเมือง น้ีเด้ ขอแก่ พระองค์เจ้า กูณาผายโผด แหน่ถ่อน คันแม่นพระบ่เล้ียง สิได้ดุ่ง เดนิ หนี เอาแตบ่ ุญพาเป็น เกดิ มาภายหนา้ ลูกก็ย้าน เสียแนวดับ หน่อ ย้านบ่มีกิ่งแก้ว แนวเชื้อสืบเวียง พ่อเอ้ย ขอจิงจาข้าน้อย เดินมาขอเพ่ิง พระยาพ่อสั่งให้ ก็เลยด้ันดุ่งมา แต่นั้น ท้าวกล่าว แล้ว พระยาเหลา่ เลยหัว โตหากไปกระทาเขา ก็จิงเวยี นมาต้อง ท้าว เอ้ย บัดนี้ พ่อก็ถามข่าวเจ้า ทางบ้านด่ังใด๋ ลูกเอ้ย อันว่า ปิตตาไท้ มารดาพ่อแม่ ท้ังพ่ีน้อง เมืองบ้านค่อยอยู่ดี แด่ลือ แต่น้ัน ท้าว กล่าวตา้ น ขานตอบพ่อสหาย อนั ว่า ปิตตาไท้ มารดาพ่อแม่ เพน่ิ หากมรม่ิงเมี้ยน เมือฟ้าสู่สวรรค์ นับแต่คนในห้อง เวียงจันทน์ อนันต์เนก เขาก็มรมิ่งเมี้ยน ตายเส่ียงบ่หลอ หากยังแต่ตนตัวข้า จิงหนีมาขอเพ่ิง ขอให้พระผายโผดให้ คราวน้ีคึดอีดู แด่ถ่อน แต่ นัน้ พระพอ่ เจา้ ต้านตอบบาคาน สายใจเอ้ย ลูกแพงกูแกว้ นบั วา่ ดี ๆ แล้ว สายใจมาฮอด เหมือนด่ังลูกขอดท้อง กูแก้วเกิดมา น้ัน แหลว พ่อก็ธงนครสร้าง เสวยเมอื งตุ้มไพร่ อนั ว่า ลูกแก่นแก้ว กู วรรณคดีลาวเรอื่ งพืน้ เวียงจันทน์

๔๒ นี้กบ็ ่มี ลูกเอ้ย อันวา่ กรงุ ศรีพุ้น กเ็ ปน็ เมอื งพ่อเสย่ี ว เฮาแหลว เฮา อย่าไปบังเบียดผู้ บุญกว้างบ่ฮอ่ นดี ลกู เอ้ย ฯ จบลานท่ี ๘ ผกู ที่ ๓ ลานท่ี ๙ อันว่า กรุงศรีพุ้น เวียงจันทน์กับพ่อ ภายพ้ี เหมือนด่ังเป็น ชาติชั้น สายไส้แห่เดียว แท้แหลว คันว่า ลูกจักมาสมสร้าง นาเฮา เท่าหมดช่ัว ด่ังน้ัน ก็จักปันแบ่งให้ เมืองบ้านให้อยู่กิน ให้ลูก สาบานแท้ มีใจสัตย์ซ่ือ คาคดเลี้ยว เมือหน้าอย่าให้มี ลูกเอย้ แต่ นัน้ พระกล่าวแล้ว ตา้ นตอบปิตตา ท้ังมารดา แมส่ หายสองเจ้า บ่ กลัวแต่พระพ่อเจ้า สิตกแต่งการเมือง ลูกบ่เคืองคาสัง ด่ังเดียวกัน แท้ ลูกบ่ขีนขัดแท้ กฎหมายมีตามฮีต ให้มันผิดฮีตบ้าน ครอง เฒ่าแต่หลัง พ่อเอ้ย แต่นั้นท้าวกล่าวแล้ว พระยาเหล่าเดาดา ยอ คันที ใส่หัวเลยไหว้ ยังมีฝูงดอกไม้ การะเกดของหอม พวงพยอม เงางาม ส่องใสปานแก้ว แล้วจิงเอาดอกไม้ เทียนธูปบูชา วันทา นบ พระยอดคุณจริงแท้ แล้วจิงตกแต่งตั้ง น้าโอหลวงหน่วยใหญ่ ยอยกขึ้น เหนือเกล้าเกศผม แล้วจิงขอขอดให้ ทุกส่ิงกรรมเวร มันหากบรบวนสุด สู่อันผายเผี้ยน1 แล้วจิงยอย่ืนให้ บาบุญตนลูก แต่นั้น ท้าวฮับแล้ว ท้าวเหล่าเลยกิน กินอิ่มแล้ว ล้างอาบสรงสี บุญมีเจ้า เหลาคาพ้นโศก โชคเจ้าเข้า ปีน้ีได้เมีย เจ้าเอ้ย แต่น้ัน 1 ผายเผี้ยน หมายถึง ทุกหมู่ ทกุ เหล่า ภานวุ ัฒน์ ศรีสุระ ปรวิ รรต

๔๓ พระเจา้ ฟ้า เลยบอกอ่อนเมียแพง เจ้าจงเอานางเงิน มอบถวายเวน ให้ บาคานท้าว เหลาคาตนลูก เป็นม่ิงแก้ว เมียท้าวราชวงศ์ ก็ หากขันมาสร้าง อาสาเสวยราชย์ อามาตย์กล้า บุญกว้างดั่งเฮา ท้าวก็เคยไปม้าง สงครามชิงยาด มอบให้เป็นราชผู้ กองทหารมี คร้าน ยามเม่ือสงครามแท้ เขามายาดเมืองเฮา ขอให้องค์เผ่าผู้ จอมเจา้ น้ันแตง่ การ คนั ว่า การมีแท้ เมอื งใดช๋ งิ ยาด บ่กลวั มหาราช เจ้า เป็นเค้าแต่งเลว หั่นถ่อน แต่น้ัน ท้าวก็เอาเมียซ้อน นางเงิน เป็นคู่ ท้าวก็อยู่สืบสร้าง เมืองแก้วประเทศแกว นับแต่ได้อยู่ซ้อน นางนาถบัวเงิน มีประมาณ ห้าเดือนจริงแท้ เฮาก็พรรณนาถ้วน เจ็ดปีทัดเท่ยี ง จรงิ แหลว ตง้ั แต่ทา้ วอยูซ่ อ้ น เมยี แกว้ ผดู้ ี เจา้ เอ้ย ฯ จบลานท่ี ๙ ผูกท่ี ๓ ลานที่ ๑๐ บัดน้ี จักกล่าวเถิงกรุงศรีพุ้น เมืองไทยก็คิดชั่ว เขาได้ยินว่า ท้าวไปยั้ง เมืองใหญ่ภูชุน ก็จิงเขียนจดหมายมา ส่งสหายภายพ้ี ว่าให้จับเอาท้าว เหลาคามาส่ง คันบ่ได้เป็นแท้ ให้เอาตายมาส่ง เฮาเทอญ ใหท้ ่านฆา่ มนั น้ันให้ตาย แทเ้ นอ แลว้ จิงเอายงั งา้ ว ศรี คนั ไชยมาสง่ กบั ทัง้ เสื้อผา้ พร้อม คาเขม้ ข่มเหง หั่นแหลว พ่อกท็ ัน เอาท้าว เหลาคาให้มาส่ง เฮาดาย คันบ่กระทาดั่งนั้น เฮาน้ีบ่เชื่อใจ เฮาสิไปเลวแท้ เป็นเมืองวีวาท กันแหลว แต่นั้น พระยาก็เว้าแจ้ว ๆ วรรณคดลี าวเรอื่ งพ้นื เวียงจันทน์

๔๔ สองเจา้ ก็บ่ฟงั พระก็มีคาเข้ม ขมเค็มใจอยู่ ห่นั บ่ทนั เอาทา้ ว เหลา คาใหม้ าสง่ น้แี หลว จงิ เอาเสือ้ ผ้าพรอ้ ม ท้งั ดาบพระคนั ไชย แลว้ จงิ เขียนจดหมาย ส่งไปมีช้า ไปเถิงห้อง กรุงศรีเมืองใหญ่ อันว่า เหลาคาน้ัน มันหากยีย่องให้ มันน้ันก็จ่ิงตาย เฮาก็เอายังง้าว กับ เครื่องบาคาน เถิงกรุงศรี มอบถวายภายพี้ แต่น้ัน ท้าวก็ดีใจแท้ หลิงแลเยี่ยมเบ่งิ ก็หากครบเครอื่ งถว้ น ของทา้ วสู่อัน ทา้ วกด็ ใี จแท้ เย็นใจสงัดอยู่ ก็หากตุ้มไพร่นอ้ ย เมืองบ้านอยเู่ ย็น แท้แหลว บดั น้ี จักกล่าวเถิงราชวงศ์ท้าว เหลาคาตนประเสริฐ ท้าวก็อยู่สืบสร้าง เมืองกว้างประเทศแกว ท้าวก็อยู่สนุกย้อน สมภารพระยาพ่อ ท้าว ก็อยู่สืบสร้าง เมืองกว้างแต่งการ นั้นแหลว นับแต่มาสมสร้าง ภู ชุนนานขนาด ท้าวก็ฝันหลากร้าว มีแท้เที่ยงจริง ฝันว่าแก้วเจิดจ้า หน่วยประเสริฐมุงคลุ เสด็จมาแต่เวียงจันทน์ ถิ่นนครเมืองเค้า บา ก็จับเอาแก้ว มหานิลลูกประเสริฐ ท้าวก็เสด็จข้ึน หลิงโลกชุมพู ทัศนาไป ที่นครท้ังค่าย แล้วเหล่าลงเวียนอ้อม จักรวาลส่องโลก แล้วจิงเห็นนรกหม้อ เปลวไฟฮ้อนเฮ่ง จริงแหลว ก็จิงหลบต่าวปี้น ปีนขึ้นสู่อัน เฮาก็มะเนมะนาลุก ต่ืนตนท้ังสะบ้ัน กูก็นอนในห้อง ทิพพอาสน์บรรทม ท้าวก็ลุกส่วยหน้า แล้วเหล่าเลยคึด กูก็เนา ราตรี ก็หากฝนั จรงิ แท้ ฯ จบลานที่ ๑๐ ภานุวัฒน์ ศรีสุระ ปรวิ รรต

๔๕ ผูกท่ี ๓ ลานท่ี ๑๑ แต่นั้น ท้าวก็ทันเอาเจ้า หมอดูดีฉลาด ดูประเสริฐแท้ คือควิ้ ดง่ั เห็น หมอก็ยอมือขน้ึ ถวยพรภวู นารถ เดียวนี้ มหาราชเจ้า ฝนั ร้าวต่างกะใจ คือสิได้ลูกแก้ว ผู้ประเสริฐลาชาย มีสองคน คูเ่ ทียม กันพร้อม มีบุญแท้ โพธิญาณลงเกิด เป็นชาติเช้ือ แนวท้าวหน่อ เวียง พุ้นแหลว ยังจักได้พ่ายแพ้ เมืองเก่าคืนมา ทั้งเมืองแกว แม่นพระองค์เป็นเจ้า กับทั้งกรุงศรีพุ้น เป็นเมืองบาบ่าว ยังจักได้ แปร่ม้าง กรุงศรีกว้างมุ่นกระจวน แท้แหลว ยังจักได้พระแก้ว ของ เก่าคืนมา ยังจักมีบุญหลาย กว่าพระองค์จริงแท้ ยังจักได้พราก บ้าน หนีจากเมืองตน นานหลายปี ก็จิงคืนมาบ้าน บาก็มาเสวย สร้าง ธงเมืองตุ้มไพร่ ฝูงไพร่น้อย ก็ยอย่องทั่วแดน นับแต่ชุมพู พ้ืน จักรวาลในโลก เฮานี้ สองอ้ายน้อง เป็นเจ้าข่มพล แท้แหลว แต่น้ัน หมอกล่าวแล้ว ท้าวเหล่าเลยเมือ ลาภูธร1 ต่าวคนื เมือห้อง แต่นั้น บาคานท้าว เหลาคาชมชื่น ขอให้ได้ลูกแก้ว ผู้ประเสริฐคือ ฝัน แด่แม ขอให้มีเตโช ด่ังคาหมอเว้า แต่นั้น ท้าวจ่มแล้ว นอน อยู่ในปรางค์ พอเมื่อราตรีเดิ๊ก เท่ียงคนื จวนแจง้ ราชวงศ์ท้าว ชม นางกลงิ้ กล่อม พลอดฮกั อิ้ง เฝือฟน่ั ดัง่ เชอื กควาย แตน่ ้ัน นางก็ธง ครรภ์แก้ว ผู้ประเสริฐบุตรา ยามเม่ือเดือนเจ็ดขึ้น เจ็ดค่าวันเสาร์ ท้าวก็เอาตนเข้า อุทรท้องแม่ ได้สิบเดือนเที่ยงแท้ หลายม้ือ ผ่อเดือน แท้แหลว เม่ือนั้น บาคานท้าว ทั้งสองเลยประสูติ ออก 1 ภธู ร หมายถึง พระผู้ปกครองแผน่ ดิน วรรณคดลี าวเรอ่ื งพน้ื เวียงจันทน์