ผนังตัวเรือนด้านซ้าย ด้านขวา และด้านหลังแกะสลักฉลุลายระบายสี ลายก้านต่อดอก ตัวลายโปร่งสวยงาม ไมท่ ึบตันและท�ำใหอ้ ากาศภายในตวั เรอื นธรรมาสน์ถา่ ยเทได้สะดวก ลวดลายอสี าน 147
ธรรมาสนว์ ดั ไตรภมู ิ ตำ� บลท่าอเุ ทน อำ� เภอทา่ อเุ ทน จงั หวดั นครพนม ผู้สร้างหลวงปู่ตา ขันติโก เป็นธรรมาสน์ไม้ยอด ทรงมณฑป ๙ ชนั้ ลวดลายโดยรวมเป็นการปิดทองลายฉลุ ล่องชาด มลี ักษณะเฉพาะทอ้ งถ่ิน ซึ่งมลี กั ษณะคล้ายๆ กนั สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบสกุลช่างเดียวกัน ในเขตจังหวัด นครพนม 148 ลวดลายอสี าน
พนักตัวเรอื นธรรมาสนว์ ดั ไตรภูมิ ตำ� บลท่าอเุ ทน อำ� เภอทา่ อุเทน จงั หวัดนครพนม พนักดา้ นซ้ายระหว่างเสาหัวเมด็ ด้านลา่ งแกะสลกั ลายเครือเถาพรรณพฤกษาปดิ ทองล่องชาด พนักดา้ นขวาระหวา่ งเสาหวั เมด็ แกะสลกั ลายนูนตำ่� ก้านขดพรรณพฤกษาปิดทองลอ่ งชาด พนักด้านหลังระหวา่ งเสาหวั เมด็ แกะสลักลายนนู ตำ�่ ก้านไขวพ้ รรณพฤกษาปดิ ทองลอ่ งชาด ส่วนชอ่ งด้านหนา้ ๒ ชอ่ ง แกะสลักนนู ตำ่� ปิดทองล่องชาดลายดอกพุดตาน ลวดลายอสี าน 149
ธรรมาสนว์ ดั โพธช์ิ ยั บ้านนาพึง ต�ำบลนาพงึ อำ� เภอนาแห้ว จงั หวัดเลย ผนงั ตัวเรอื นแบ่งเป็น ๓ ช่อง กันดว้ ยรวิ้ ไม้ ๔ เสน้ ปิดทองลายฉลบุ นพื้นสแี ดงลายดอกซีกดอกซอ้ น ชอ่ งด้านซ้าย และขวาเขยี นลายรดนำ้� ลายขัดสาน ส่วนชอ่ งใหญ่ตรงกลางด้านบนเป็นลายฉลไุ ม้ ปิดทอง ลายก้านขด ด้านล่างเปน็ แกะ สลักไมน้ นู ตำ่� ปิดทอง ลายก้านขดสอดประสานไปมาทำ� ใหเ้ กิดมติ ิการทับซ้อน 150 ลวดลายอสี าน
ลวดลายอสี าน 151
ตพู้ ระธรรม ตพู้ ระธรรมวดั ทงุ่ ศรเี มอื ง ภายในหอไตรวดั ทงุ่ ศรเี มอื ง มตี พู้ ระธรรม โปร่งไว้เก็บพระธรรมคัมภีร์ต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง กับศาสนา จ�ำนวน ๖ ชั้น ลวดลายทั้งฐาน เสาตัวเรือน ลายดาวเพดานเป็นการปิดทอง ลายฉลุ สว่ นยอดบนสุดเปน็ ยอดกระทงแกะสลกั นูนต่�ำ ลายเครือเถาพรรณพฤกษาออกช่อดอก กาละกบั ปดิ ทองลอ่ งชาด 152 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั มณวี นาราม ตู้พระธรรมวัดมณีวนารามเป็นตู้พระธรรมประเภท ขาหมู อ�ำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นตู้ลายรดน้�ำ ลายเครือเถากระหนกเปลว ประกอบภาพสัตว์ จ�ำพวก นก กระรอก และลงิ ดา้ นหลังตู้ เรอ่ื ง ปาจิต อรพิม ตอนท่ี นางอรพมิ ใชม้ ีดฟนั คอนายพราน ลวดลายอสี าน 153
154 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั หลวง ๑ ตู้พระธรรมวัดหลวงเป็นตู้พระธรรมประเภทขาหม ู อำ� เภอเมอื งจงั หวดั อบุ ลราชธานีเปน็ ตลู้ ายรดนำ�้ ดา้ นหนา้ เขยี น ภาพยักษ์ประกอบลายกระหนกเครือเถา ด้านข้างเขียนลาย พมุ่ ขา้ วบณิ ฑห์ นา้ ขบ ฝมี อื ชา่ งพน้ื ถนิ่ พทุ ธศตวรรษที่ ๒๔-๒๕ เกบ็ รกั ษาทหี่ อศิลปว์ ทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาอุบลราชธานี ลวดลายอสี าน 155
156 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั หลวง ๒ อ�ำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันเก็บรักษาท่ีหอศิลป์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี เป็นตู้ ลายรดนำ้� ดา้ นหนา้ และดา้ นขวาเขยี นเรอื่ งรามเกยี รตป์ิ ระกอบลายเครอื เถา ดา้ นซา้ ยเขยี นเรอ่ื งวธิ รุ ชาดก และมโหสถชาดก สว่ นดา้ นหลงั เขยี นเป็นตน้ ไม้ท่มี ีสัตวต์ า่ งๆ มากมาย เชน่ นก ลิง กระรอก และนกยูง ลวดลายอสี าน 157
158 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั สขุ าวาส บา้ นเวยี ง ตำ� บลกระเดียน อ�ำเภอตระการพืชผล จังหวัดอบุ ลราชธานี ตู้ลายรดน้�ำ ด้านหน้า ด้านซ้ายและ ขวาเปน็ เรอ่ื งพระเวสสนั ดรชาดกประกอบลาย เครอื เถา สว่ นดา้ นหลงั เขยี นเปน็ ตน้ มกั กะลผี ล หรือ ต้นนารีผล ซ่ึงเป็นต้นไม้ในป่าหิมพานต์ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ออกผลเป็นหญิงสาว สวยงาม พวกนกั สทิ ธ์ิ วทิ ยาธร (ผวู้ เิ ศษจำ� พวก หนง่ึ ทพี่ ำ� นกั อยใู่ นปา่ หมิ พานต)์ มกั จะเหาะกนั มาอุ้มเด็ดเอาไปเชยชมได้ตามใจ ท�ำให้เหล่า บรรดาดาบส ฤๅษี นกั สทิ ธิ์ วทิ ยาธร คนธรรพ์ หมดอิทธิฤทธ์ิลง เน่ืองจากการเสพสังวาล กับนารผี ล ลวดลายอสี าน 159
160 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั ทงุ่ ใหญ่ ต�ำบลบ้านไทย อ�ำเภอ เขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นตู้ ลายรดน�้ำ เขียนเรื่องนิทานพื้นบ้านสังข์ศิลป์ชัย ประกอบลายเครือเถา ด้านขวาประกอบลายในรูปทรงส่ีเหลี่ยมคล้ายลายพุ่มข้าวบิณฑ์ พรรณพฤกษา ลวดลายอสี าน 161
162 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั บา้ นโพนงาม ต�ำบลหนองบอ่ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั อุบลราชธานี เขียนลายรดน้�ำ เรื่องวรรณกรรมพ้นื บา้ นสังขศ์ ิลป์ชยั ประกอบ ลายกระหนกเปลวในรูปทรงสี่เหลี่ยม แปลกตาเป็นการออกแบบลายท่ีมีเอกลักษณ์เฉพาะถ่ิน แสดงความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ส่วนกรอบดา้ นบนและดา้ นลา่ งเขยี นลายเครอื เถาพรรณพฤกษา ลวดลายอสี าน 163
164 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั ใต้ ๑ อ�ำเภอเมอื ง จงั หวดั อบุ ลราชธาน ี เป็นตู้ลายรดน้�ำ เขียนเรื่องนิทานพ้ืนบ้าน สังข์ศิลป์ชัย ประกอบลายเครือเถา กระหนกเปลว เชิงฐานด้านล่างเขียนลาย พรรณพฤกษา ด้านหลังเขียนภาพต้นไม้ ประกอบภาพสตั วต์ า่ งๆ ทง้ั ฝงู นก และฝงู ลงิ หยอกล้อกันตามต้นไม้ ท่ีแสดงถึงความ อดุ มสมบรู ณ์ของผนื ป่า ท่ีโคนตน้ ไม้มภี าพ ฤาษี และนักสิทธิ์ ลวดลายอสี าน 165
166 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั ใต้ ๒ อำ� เภอเมือง จงั หวัดอุบลราชธานี เปน็ ตลู้ ายรดนำ้� ดา้ นหนา้ เขยี นเรอ่ื งสงั ขศ์ ลิ ปช์ ยั ประกอบลายกระหนกเครอื เถา ดา้ นขวา ตู้เขียนเร่ือง มโหสถชาดก ส่วนด้านหลังเขียนเรื่องพระมาลัย สนทนาธรรมกบั พระอินทร์ และพระศรอี ารยเมตไตรยเทวบตุ ร ทีพ่ ระจุฬามณเี จดีย์ สวรรค์ชัน้ ดาวดึงส์ ลวดลายอสี าน 167
168 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั ราษฎรป์ ระดษิ ฐ์ ตำ� บลกระเดยี น อำ� เภอตระการพชื ผล จงั หวดั อบุ ลราชธานี เปน็ ตลู้ ายรดนำ้� ดา้ นหนา้ และดา้ นขา้ งเขยี นลายเครอื เถากระหนกเปลว ส่วนด้านหลังเขียนเร่ืองต้นมักกะลีผล ซงึ่ ออกผลมรี ปู รา่ งเหมอื นสตรงี ดงามปาน เทพธดิ าบรรดาดาบสฤๅษีนกั สทิ ธ์ิวทิ ยาธร คนธรรพ์ จงึ พากนั ไปเดด็ เพอื่ เสพสงั วาล แต่มักกะลีผลมีชีวิตอยู่ได้เพียง ๗ วัน กจ็ ะเนา่ เปอ่ื ย ลวดลายอสี าน 169
170 ลวดลายอสี าน
ตพู้ ระธรรมวดั ทกั ษณิ าราม ตำ� บลนาเชือก อำ� เภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เปน็ ตพู้ ระธรรมปิดทองลายฉลุ ลายดอกลอย ประกอบลาย ขดั สานกา้ นขด ซงึ่ เปน็ เอกลักษณ์ท้องถิ่นอีสาน สว่ นตรงกลางต้ทู ้งั ๓ ดา้ น เวน้ ชอ่ งสดี �ำ ปดิ ทองลายขูดภาพเทวดา กินรี หนมุ าน และภาพเจ้าชายสทิ ธัตถะตดั เมาลี ลวดลายอสี าน 171
172 ลวดลายอสี าน
เกวยี นวดั มณวี นาราม อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดอุบลราชธาน ี พนักเกวียนแกะสลักลายนูนต่�ำ สวยงามภาพพญานาคประกอบลายกระหนกเปลว และลายดอกลอยประกอบ ลายเครือเถาพรรณพฤกษา ลายก้านขดดอกลอย และลายเครือเถากระหนกเปลวดอกลอย ปัจจุบันเก็บรักษาท่ีหอศิลป์ วิทยาลยั อาชีวศึกษาอุบลราชธาน ี ลวดลายอสี าน 173
174 ลวดลายอสี าน
แทน่ ประดษิ ฐานพระทองทพิ ย์ วดั ศรอี ุบลรตั นาราม อ�ำเภอเมอื ง จังหวดั อุบลราชธานี แทน่ ขาสงิ ห์ ๒ ชน้ั ยอ่ มมุ ไม้ ๑๒ ฐานดา้ นลา่ งเปน็ ลาย เครอื เถาพรรณพฤกษา ประกอบภาพสตั ว์ เชน่ นก ลิง ปจั จบุ ัน อยู่ท่ีพิพธิ ภัณฑ์ศรอี บุ ลรตั นาราม ลวดลายอสี าน 175
บทสรปุ ลวดลายอสี าน ศิลปวัฒนธรรมอีสาน มีรูปลักษณ์เฉพาะถ่ิน เรียบง่าย นอบน้อม พอเพียง ผสมผสานคติความเช่ือ ศาสนา และ ชาตพิ นั ธ ์ุ มกี ลนิ่ อายของศลิ ปะรตั นโกสนิ ทร์ ลา้ นชา้ ง ลา้ นนา และชา่ งญวนทไี่ ดร้ บั อทิ ธพิ ลของศลิ ปะจนี เปน็ ศลิ ปะลกู ผสม ออกมาเปน็ ศลิ ปะรปู แบบใหมแ่ ปลกตาไมเ่ หมอื นใคร โดยเฉพาะลวดลายทใ่ี ชป้ ระดบั ตกแตง่ โบราณสถาน และโบราณวตั ถุ มีรูปแบบศิลปะที่ได้รับอิทธิพลต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ถ่ายทอดออกมาเป็นลวดลายที่งดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ดังต่อไปน้ี ๑. ลายดอกกาละกับ ท่ีได้แรงบันดาลใจจากศิลปะลาวล้านช้าง เป็นดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะล้านช้าง ไม่เหมือนกับศิลปะของภาคกลาง นิยมแพร่หลายในเขตภูมิภาคอีสานใต้ และวัดวาอารามในสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว บา้ งกว็ า่ ดอกกาละกบั ไดร้ บั การคลคี่ ลายรปู แบบมาจากดอกพดุ ตานของไทย สว่ นวดั ในจงั หวดั อบุ ลราชธานี มกี ารแกะสลกั ลายดอกกาละกบั ประดบั อยูต่ ามส่วนต่างๆ หลายวดั เช่นกัน ไม่วา่ จะเป็นบานประตู และหนา้ ต่างอโุ บสถ หลงั เดมิ วัดมณวี นาราม บานประตอู ุโบสถหลังเดิมวดั สปุ ัฏนารามวรวิหาร และแท่นประดษิ ฐานพระทองทิพย์ วดั ศรอี บุ ล รตั นาราม รวมไปถงึ จังหวดั ใกล้เคียง ได้แก่ บานประตูหอไตรวัดมหาธาตุ จงั หวัดยโสธร ดอกกาละกับ จะเป็นดอกไม้หลัก ในการผกู ลายประดบั ส่วนตา่ งๆ ของอาคาร นยิ มผูกเป็นลายเครือเถาพรรณพฤกษา และลายก้านขด จึงเป็นลายดอกไม้ ท่มี ีเอกลกั ษณ์ ได้รบั ความนยิ มอยา่ งมากในสกลุ ชา่ งลา้ นชา้ ง และล้านนา 176 ลวดลายอสี าน
๒. ลายขัดสาน หรือ ท่ีชาวผู้ไท เรียก “ลายบังอาย” เป็นการเขียนลวดลายในลักษณะการสานไม้ไผ่ขัดแตะ ในเครือ่ งจักสานทว่ั ไปหลายรปู แบบ เชน่ ลายบันไดแกะสลกั ไม้ ปิดทองลายฉลทุ ี่ ขื่อ คาน และเสา หอไตรวดั มหาธาตุ รวมถงึ หยอ่ งหนา้ ตา่ งหอไตรวดั ทงุ่ ศรเี มอื ง สว่ นลายสานแบบเกลยี วเชอื ก ตง้ั แตเ่ สน้ ยนื ตง้ั แต่ ๒ เสน้ ไปจนถงึ ๖ เสน้ เพอื่ ให้ ลวดลายมกี ารทบั ซอ้ นละเอียดมากยง่ิ ขึ้น เชน่ ธรรมาสน์วดั จุมจงั เหนือ ธรรมาสนว์ ดั โพธช์ิ ยั จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ เป็นความ ชาญฉลาดของช่างพ้ืนบ้านอีสานที่สามารถประยุกต์ใช้ลวดลายท่ีพบเห็นอยู่ในชีวิตประจ�ำวัน มาประดิษฐ์เป็นลวดลาย ประดบั ตกแตง่ โบราณสถานโบราณวตั ถไุ ดอ้ ยา่ งลงตวั สวยงาม เชน่ หนา้ บนั คนั ทวย สตั ตบรรณ ตพู้ ระธรรม และธรรมาสน์ ฯลฯ บา้ งกว็ า่ ลายขดั สานของภาคอสี านไดแ้ รงบนั ดาลใจจาก “ลายประแจจนี ” ซงึ่ มลี กั ษณะการขดั สานทบั ซอ้ นในรปู แบบ ของศิลปะจนี ท่ีแตกต่างจากลายขดั สานของชา่ งพน้ื บา้ นอีสาน ๓. ลายกา้ นขด ในภาคอสี านมี ๒ รปู แบบ แบบแรกเปน็ ลายกา้ นขดทไ่ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลของชา่ งหลวงภาคกลาง สว่ นใหญ่ เป็นลายก้านขดพรรณพฤกษา ออกชอ่ ดอกกาละกบั ที่มจี ังหวะชอ่ งไฟใกลเ้ คยี งลายก้านขดภาคกลาง เชน่ ประตูแกะสลกั ไม้อุโบสถหลังเก่าวัดสุปัฏนารามวรวิหาร วัดมณีวนาราม ประตูหอพระพุทธบาท วัดทุ่งศรีเมือง และประตูหอไตร วดั มหาธาตุ สว่ นลายกา้ นขดแบบที่ ๒ เปน็ ลายก้านขดอีสานด้งั เดิม ซึ่งจะมลี กั ษณะการขมวดลายคล้ายเลขหน่งึ ไทย และ ใสร่ ายละเอยี ดตวั ลายมากจนเหลอื พนื้ ทช่ี อ่ งไฟนอ้ ย บางแหง่ ขมวดมว้ นเปน็ เลขหนงึ่ ไทยซอ้ นกนั หลายชน้ั ทำ� ใหด้ ตู วั ลายแนน่ มีรายละเอียดเพ่ิมมากข้ึน เช่น ผนังหอธรรมาสน์วัดสว่างสุทธาราม วัดมณฑป สาหร่ายรวงผึ้งวัดพระธาตุขามแก่น จังหวดั ขอนแก่น และผนังเชงิ ธรรมาสนว์ ดั หอคำ� จงั หวดั กาฬสินธ ์ุ ลวดลายอสี าน 177
เทคนคิ วธิ กี ารสรา้ งผลงานศลิ ปะอสี าน ๑. การจ�ำหลักไม้ปิดทองประดับกระจก เหมือนเช่นภาคกลาง การแกะสลักลายนูนสูง อาทิ บานประตู หอพระพุทธบาท วัดทงุ่ ศรีเมือง หน้าบันหอไตรวัดทุ่งศรเี มอื ง จงั หวดั อุบลราชธานี บานประตแู ละผนังตัวเรอื นธรรมาสน์ วัดบ้านโพนงาม จังหวัดอุบลราชธานี ประตูหอไตรวัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร ส่วนลายนูนต่�ำ ได้แก่ พนักเกวียน วดั มณวี นาราม ผนังเชงิ ธรรมาสนว์ ดั หอคำ� จงั หวัดกาฬสนิ ธุ ์ ๒. การฉลลุ ายระบายสี เป็นการฉลไุ มเ้ ปน็ ลวดลายเพ่อื เพ่ิมปรมิ าณแสง ท�ำใหอ้ ากาศถา่ ยเทได้สะดวก และทำ� ให้ ตัวลายดูโปรง่ เพรียวบาง ไม่หนัก ไม่ทบึ ตนั โดยเพิ่มสีสนั ความสวยงามให้กบั ลวดลายด้วยการระบายสี เป็นเทคนคิ ที่นยิ ม ทำ� กนั มากในภาคอสี าน เชน่ ผนงั ตวั เรอื นธรรมาสนว์ ดั ทงุ่ หนองชา้ งทอง (วดั ทงุ่ ขนุ นอ้ ย) วดั ราษฎรป์ ระดษิ ฐ์ และวดั ยางกะเดา จังหวัดอุบลราชธานี ผนังตัวเรือนธรรมาสน์วัดโพธิ์ชัย วัดวังค�ำ และวัดจุมจังเหนือ อ�ำเภอกุฉินารายณ์จังหวัด กาฬสินธ์ุ ๓. การแกะไมฉ้ ลลุ ายปดิ ทอง คอื การฉลไุ มเ้ ปน็ ลวดลาย แลว้ แกะสลกั รายละเอยี ดในตวั ลายใหเ้ กดิ มติ ิ แลว้ จงึ ลงรกั ปิดทองคล้ายภาคกลาง นิยมท�ำเป็นส่วนประกอบของอาคาร เช่น สาหร่ายรวงผึ้งประตู หน้าต่าง หอไตรวัดทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี สาหร่ายรวงผึ้งประตูหน้าต่างหอไตรวัดมหาธาตุ จังหวัดยโสธร บานประตูเก่าหอพระแก้ว วัดพระธาตุพนมวรมหาวหิ าร จังหวดั นครพนม 178 ลวดลายอสี าน
๔. การปดิ ทองลายฉลุ เปน็ การปดิ ทองทม่ี ตี วั ลายขนาดใหญ่ โดยการแกะ เจาะ ตอก โดยเครอื่ งมอื ต่างๆ ลงบน แม่พมิ พท์ เี่ ปน็ กระดาษ หนัง นิยมประดบั ตกแตง่ ลวดลายตามผนงั เสา เพดาน เชน่ ผนังตัวเรือนธรรมาสนว์ ดั ทงุ่ ศรวี ิไล อ�ำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ธรรมาสน์วัดพระธาตุพนม อ�ำเภอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ตู้พระธรรม วัดมหาธาตุ จงั หวดั ยโสธร ตพู้ ระธรรมโปร่งหอไตรวดั ทงุ่ ศรีเมือง ตูพ้ ระธรรมวดั ทกั ษณิ าราม จงั หวัดมหาสารคาม ๕. ลายรดนำ้� เปน็ เทคนิคทน่ี ิยมท�ำกันมากในภาคกลาง ตู้พระธรรมตามวดั ต่างๆ สว่ นใหญ่เปน็ การเขียนลวดลาย ดว้ ยนำ้� ยาหรดาล แลว้ เชด็ รกั ปดิ ทอง และรดนำ้� กจ็ ะไดล้ วดลายสที องบนพน้ื รกั สดี ำ� สวยงาม เปน็ ภมู ปิ ญั ญาชา่ งไทยโบราณ ที่ท�ำสืบต่อกันมา เช่น ตู้พระธรรมวัดหลวง ตู้พระธรรมวัดสุปัฏนารามวรวิหาร และตู้พระธรรมวัดมณีวนาราม จังหวัด อบุ ลราชธานี และยังมกี ารเขยี นลายรดนำ้� ทีผ่ นังตวั เรือนธรรมาสน์วัดนาค�ำใหญ่ อำ� เภอเขอื่ งใน จงั หวัดอุบลราชธานี ศิลปวฒั นธรรมอสี าน เป็นภมู ปิ ญั ญาทีถ่ ่ายทอดจากรุ่นสู่รนุ่ จากแรงศรทั ธาตอ่ พระพทุ ธศาสนา สรา้ งแรงบนั ดาลใจ สผู่ ลงานซงึ่ สะทอ้ นตวั ตนคนอสี านทแ่ี สดงออกถงึ ความเรยี บงา่ ย จรงิ ใจ ตรงไปตรงมา ออ่ นนอ้ มถอ่ มตน และความพอเพยี ง ผสมผสานความเชือ่ ของชุมชนแต่ละทอ้ งถน่ิ ออกมาเป็นศลิ ปะพืน้ บ้านทม่ี ีเอกลกั ษณเ์ ฉพาะถิ่น รวมถงึ การรบั อทิ ธพิ ลของ ศลิ ปะลาวลา้ นชา้ ง และชา่ งชาวตา่ งชาตทิ มี่ าอาศยั อยใู่ นประเทศไทย จงึ เกดิ เปน็ ศลิ ปะลกู ผสมรปู แบบใหมท่ ส่ี วยงาม แปลกตา นา่ สนใจ แต่ยงั คงรูปแบบความเปน็ เอกลักษณพ์ ืน้ ถ่ินอสี าน ตราบใดทม่ี นษุ ยย์ งั มกี ารเดนิ ทางไปมาหาสกู่ นั ยอ่ มมกี ารแลกเปลยี่ นวฒั นธรรมซงึ่ กนั และกนั เปน็ เรอื่ งธรรมดา จงึ เกดิ การผสมผสานระหวา่ งศิลปะแตล่ ะชนชาติ ศิลปะไม่แบ่งเช้ือชาติ ชนช้นั และศาสนา จนเกิดการเช่ือมโยงเปน็ วิวัฒนาการ ทางศิลปะรปู แบบใหมข่ ึน้ มาเป็นวฏั จักรใหม้ นษุ ยไ์ ด้ศกึ ษาเรียนร้ตู ราบนานเท่านาน ลวดลายอสี าน 179
บรรณานุกรม ตกิ๊ แสนบญุ . (๒๕๕๔). เอกลกั ษณห์ ตั ถกรรมอสี านในงานไมท้ เ่ี กย่ี วเนอื่ งในพทุ ธศาสนา กรณศี กึ ษาจงั หวดั อบุ ลราชธาน.ี (ม.ป.ท.). เฉลียว ปยิ ะชน. (๒๕๕๒). เรอื นกาแล. กรงุ เทพฯ : ด่านสุทธาการพิมพ.์ ยุทธนาวรากร แสงอรา่ ม. (๒๕๔๑). พ้ืนถิ่นอีสานในงานจิตรกรรมฝาผนงั อโุ บสถวัดท่งุ ศรีเมอื ง จงั หวดั อุบลราชธานี. วทิ ยานิพนธ์ ศ.ม. กรงุ เทพฯ : มหาวทิ ยาลัยศิลปากร. วราวธุ ผลานนั ต.์ (๒๕๕๗). พพิ ธิ ภณั ฑ์ลำ�้ คา่ ในวดั สปุ ฏั นารามวรวิหาร. (พมิ พ์คร้ังท่ี ๒). อุบลราชธานี : ยงสวัสด์อิ ินเตอรก์ ร๊ปุ . วิโรฒ ศรสี โุ ร. (๒๕๓๖). สมิ อีสาน. กรุงเทพฯ : เมฆาเพรส. สงวน รอดบุญ. (๒๕๔๕). พุทธศลิ ป์ลาว. (พมิ พ์คร้ังท่ี ๒). กรงุ เทพฯ : เดอื นตลุ า. สมคดิ จริ ะทศั นกลุ . (๒๕๔๖). คติ สญั ลกั ษณ์ และความหมายของ “ซมุ้ ประตู – หนา้ ตา่ ง” ไทย กรงุ เทพฯ : อมรนิ ทรพ์ รนิ้ ตง้ิ แอนดพ์ บั ลชิ ชง่ิ . สมเจตน ์ วมิ ลเกษม,สราวธุ รปู นิ .(๒๕๕๑). กรรมวธิ ดี งั เดมิ ในการผลติ งานชา่ งพทุ ธศลิ ปน์ า่ น. เชยี งใหม่:สนั ตภิ าพแพค็ พรนิ ท.์ สมศร ี ชยั วณิชยา. (๒๕๖๑). อปุ ลสังฆาจารย์ สขุ มาภชิ านธ�ำรง. อบุ ลราชธานี : ยงสวัสดิ์อินเตอรก์ รุป๊ .สมศร ี ชัยวณิชยา, ปกรณ ์ ปกุ หตุ . (๒๕๖๐). วดั ทุ่งศรีเมอื ง : สิรพิ ัฒนาภรณนสุ รณ์. อบุ ลราชธานี : ยงสวสั ดอ์ิ นิ เตอร์กรุ๊ป. สุรชยั ศรใี ส, อำ� นวย วรพงศธร. (๒๕๕๔). หอไตรวัดทงุ่ ศรเี มอื ง. อบุ ลราชธานี : ยงสวสั ด์ิอินเตอรก์ รุป๊ . สรุ ชยั ศรีใส. (๒๕๕๕). จิตรกรรมฝาผนงั หอพระพุทธบาท วัดทุ่งศรเี มือง. อบุ ลราชธานี : วิทยาการพมิ พ์. --------. (๒๕๖๑). ตูพ้ ระธรรมในจงั หวัดอบุ ลราชธานี. อบุ ลราชธานี : เอกอารต์ . --------. (๒๕๖๒). ธรรมาสนอ์ ีสาน. อุบลราชธานี : เอกอารต์ . 180 ลวดลายอสี าน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188