Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 8-63-04-17-คู่มือครูรายวิชาลำดับการทำงานและการสร้างสรรค์งาน-Scratch

8-63-04-17-คู่มือครูรายวิชาลำดับการทำงานและการสร้างสรรค์งาน-Scratch

Published by t.panida.noisri, 2020-04-18 02:34:12

Description: 8-63-04-17-คู่มือครูรายวิชาลำดับการทำงานและการสร้างสรรค์งาน-Scratch

Search

Read the Text Version

ปกหนา

คํานาํ สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไดมีขอตกลงความรวมมือกับ มหาวิทยาลัยพะเยา ภายใตโ ครงการปฏิรูปหลักสูตรการศกึ ษาแหง ชาติ ไดใ หม กี ารพัฒนาหลักสตู รและแผนการ สอน เอกสารประกอบการสอน คมู อื ครู ทบ่ี รู ณาการความรดู านเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารกับกลุม อาชีพ เพ่อื ใชประกอบการเรียนการสอนของสถานศกึ ษาทเ่ี ขารวมโครงการ คูมือครูรายวิชา ลําดับการทํางานและการสรางสรรคงาน มีเนื้อหาสาระสอดคลองกับเอกสาร ประกอบการสอน โดยนาํ เสนอบทเรยี นจํานวน 10 บทเรียน แตละบทเรียนประกอบไปดวย จํานวนคาบที่ใช สอน จุดประสงคการเรียน แนวคิดตัวอยาง ส่ืออุปกรณ ใบงานวิธีการดําเนินการการวัดและการประเมินผล และ แหลงขอ มูลเพม่ิ เตมิ ผูจดั ทําเลม คมู ือครหู วงั เปนอยา งยง่ิ วา คูมือเลมน้ีจะเปนแนวทางใหครูผูสอนใชเปนแนวทางในการ วางแผนการจัดการเรียนรูใหบรรลุวัตถุประสงคท่ีตั้งไวและสามารถนําไปจัดการเรียนการสอนตามความ เหมาะสมและความพรอมของโรงเรียนซ่ึงจะเปนประโยชนตอผูเรียนและผูที่เกี่ยวของ เพื่อพัฒนาทักษะ กระบวนการเรยี นรใู หส ามารถนําไปประยุกตใชความรูไดอยางมีประสิทธิภาพขอขอบคุณ สาขาคอมพิวเตอร สถาบันสงเสริมการสอนวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ที่ไดมอบความรูพื้นฐานเกี่ยวกับการใชงานโปรแกรม สาํ หรับการเร่มิ ตนการสรา งสรรคง านใหเปน อยา งดี ผูจดั ทํา จริ ปรยี า ชัยทะ 12 กุมภาพันธ 2557

สารบัญ หนา คาํ นาํ 1 บทที่1 เริ่มตนกบั โปรแกรม Scratch 6 8  ใบงานที่ 1.1 เรื่องภาพเคลอ่ื นไหว 10  ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื งการสรา งเสยี งเพลง และเตน รํา 12  ใบงานท่ี 1.3 เร่ืองการสรางเรือ่ งราวที่มกี ารปฏสิ ัมพันธกนั 14  ใบงานที่ 1.4 เร่อื งเกม  ใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื งมารจู กั โปรแกรม Scratch กันเถอะ 16 21 บทที่2 ตวั ละครและพน้ื หลงั  ใบงานที่ 2 เรือ่ งเปลย่ี นสี และแปลงราง 24 29 บทท3่ี การสรางการเคล่ือนท่ี 32  ใบงานท่ี 3.1 เรื่องการเคลอ่ื นท่ี เคลอ่ื นไหว 36  ใบงานท่ี 3.2 เรื่องเดนิ เลนชมววิ สวย 39  ใบงานที่ 3.3 เรอ่ื งวนซ้าํ กบั repeat และ forever  ใบงานที่ 3.4 เรอ่ื งดินแดนในฝน 45 49 บทท4่ี การนําเขาภาพ และการสรา งภาพกราฟก 54  ใบงานที่ 4.1 เรื่องลากเสน เลน ลาย  ใบงานท่ี 4.2 เร่ืองตวั ปม 57 61 บทที5่ การใสเสียงตวั ละคร และเสยี งประกอบ  ใบงานท่ี 5 เร่ืองสนกุ กับเสียง 64 69 บทที่6 ตวั ดําเนินการ การกําหนดเงอ่ื นไข และการกําหนดตัวแปร 70  ใบงานท่ี 6.1 เร่อื งกลมุ บลอ็ ก Operators 72  ใบงานท่ี 6.2 เรอ่ื งมารูจกั เง่ือนไขกนั เถอะ  ใบงานที่ 6.3 เรื่องกลุมบล็อก Variables

บทที7่ รับรูสมั ผสั และการสรางบทพูด หนา  ใบงานท่ี 7.1 กลมุ บลอ็ ก Sensing 76  ใบงานที่ 7.2 เรื่องตามรอยนทิ าน 82  ใบงานท่ี 7.3 เร่อื งสรางบทละครโตต อบ 84  ใบงานที่ 7.4 เรื่องกระจายสารและเปลี่ยนพน้ื หลัง 85  ใบงานที่ 7.5 เรอ่ื งศึกษาบทบาทจากสคริปต 87  ใบงานที่ 7.6 เร่ืองนกั เลา นิทานนอ ย 90 94 บทที่8 เกมและองคป ระกอบ  ใบงานท่ี 8.1 เร่อื งคิดสรา งสรรคเกมที่ฉันเลน 97  ใบงานท่ี 8.2 เรอื่ งกําหนดเวลาใหกบั เกม 104  ใบงานท่ี 8.3 เรอ่ื งผเี สอื้ นอย 105  ใบงานที่ 8.4 เร่อื ง and, or, not คืออะไร 106  ใบงานที่ 8.5 เรอ่ื งเตมิ ความสนกุ ใหผ เี สือ้ นอ ย 110 116 บทท9ี่ การสรา งสรรคงานดว ยโปรแกรม Scratch  ใบงานท่ี 9 เร่ืองการสรางสรรคช้ินงาน 117 123 บทท1่ี 0 การรายงานและการนําเสนอ  ใบงานท่ี 10 เร่อื งการนําเสนองาน 137 144

บทที่ 1 เรอื่ ง เริม่ ตน กับโปรแกรม Scratch ครงั้ ที่เรียน ครง้ั ท่ี 1-3 คาบท่ีเรยี น คาบท่ี 1-6 จดุ ประสงคการเรยี นรู ผเู รยี นสามารถ 1. ดานความรู (K) บอกขอบเขตและความสามารถของโปรแกรม Scratch 2. ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. เรยี นรจู ากช้ินงานตัวอยาง 2. รูจกั โปรแกรม Scratch 3. ดา นคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค (A) 1. ใฝเ รยี นรู 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 4. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี สาระสาํ คญั Scratch เปนภาษาคอมพิวเตอรสําหรับสรางผลงานตางๆ เชน การทําแอนิเมชัน การจําลองทาง วทิ ยาศาสตร เกม ดนตรี ศลิ ปะ การสรางสอื่ แบบมปี ฏสิ มั พนั ธ โดยมวี ิธกี ารโปรแกรมทไี่ มต องมีการพิมพคําสั่ง ท่ียุงยากซับซอ น เหมาะกบั การสอนหลักการโปรแกรมท่สี ง เสรมิ ความคดิ รเิ ริ่ม สรางสรรค การคิดอยางมี ระบบและการทาํ งานรว มกันโดยการเผยแพรแ ละแลกเปลีย่ นผลงานผา นทางเว็บไซต http://scratch.mit.edu/ ชน้ิ งานในโปรแกรม Scratch เรยี กวา โปรเจกต ซ่ึงประกอบดวยโครงสรางหลักที่สําคัญอยู 3 สวนไดแก เวที (Stage) ตวั ละคร (Sprite) และสคริปต (Script) โดยแตละสว นมีความสมั พันธกนั และทํางานรว มกัน ~1~

สอ่ื การเรียนรู  เอกสารการเรยี นรบู ทท่ี 1 เรือ่ ง เรม่ิ ตนกบั โปรแกรม Scratch  โปรเจกตช้นิ งานตางๆ ในโปรแกรม Scratch  ใบงานที่ 1.1 เรื่องภาพเคลอื่ นไหว  ใบงานท่ี 1.2 เรื่องการสรา งเสยี งเพลง และเตน ราํ  ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื งการสรา งเร่ืองราวทม่ี กี ารปฏสิ มั พนั ธก นั  ใบงานท่ี 1.4 เรื่องเกม  ใบงานที่ 1.5 เรื่องมารูจ ักโปรแกรม Scratch กนั เถอะ อนื่ ๆ  เครอื่ งคอมพวิ เตอร  โปรเจคเตอร กิจกรรมการเรยี นรู 1.ข้นั นาํ คาบท่ี 1 1. ครชู ีแ้ จงจุดประสงคการเรียนรู ภาพรวมของเนอื้ หา กจิ กรรมการเรียนการสอน การวัดผล และการประเมนิ ผลทจ่ี ะตองดาํ เนินการ 2. ครทู าํ ความรจู กั กับนักเรยี นโดยการเชค็ ชอ่ื แลว แบง กลุม นักเรียนออกเปน 8 กลมุ โดยต้งั ช่ือกลมุ ดงั น้ี กลมุ ท่ี 1 ช่ือ Control กลุมที่ 5 ช่ือ Sound กลมุ ที่ 2 ชือ่ Looks กลมุ ที่ 6 ชอื่ Operators กลุมที่ 3 ชอ่ื Sensing กลุมท่ี 7 ชื่อ Pen กลมุ ท่ี 4 ชื่อ Motion กลมุ ที่ 8 ชือ่ Variables คาบท่ี 2 1. ครอู ธิบายการใชงานเอกสารประกอบการเรียน เรือ่ งลาํ ดบั การทํางานและการ สรางสรรคงาน ทจี่ ัดเตรยี มไวแ ลว 2. ครเู ปดโอกาสใหน กั เรียนทาํ ความรูจกั กบั เอกสารประกอบการเรียน และเปด ประเดน็ ซกั ถามเกี่ยวกบั เนอ้ื หาในเอกสารวา มีความนาสนใจมากนอยเพยี งไร ~2~

2.ขั้นสอน คาบที่ 3-4 1. นักเรียนศกึ ษาขอบเขตและความสามารถของโปรแกรม Scratch 2. นกั เรียนศกึ ษาตัวอยางชิน้ งานโปรเจกตของโปรแกรม Scratch เพื่อใหเกิดการ เรยี นรูด ว ยตวั เอง 3. ครูอธิบายองคประกอบตา งๆ และวธิ กี ารใชง านโปรแกรม Scratch 4. จากการศึกษาตัวอยางช้ินงานโปรเจกต และครูอธิบายเก่ียวกับโปรแกรม Scratch ใหน ักเรียนทาํ ใบงานท่ี 1.1 ถึงใบงานท่ี 1.4 คาบที่ 5 5. นกั เรียนทําใบงานที่ 1.5 6. ครูใหนักเรียนสงใบงาน และ สุมเลือกนักเรียนเพื่อออกมาอภิปรายงานของ ตนเองในแตล ะใบงาน ครชู วยอธิบายเพิ่มเติม พรอ มใหนักเรยี นซักถามขอสงสัย 3.ขัน้ สรปุ คาบท่ี 6 1. นกั เรียนและครูรว มกันสรุปเรือ่ งขอบเขตและความสามารถในการใชง าน ผลงาน และ การสรางช้นิ งานดว ยโปรแกรม Scratch 2. ครนู ดั หมายเนอ้ื หาท่จี ะเรยี นในคร้งั ตอ ไป ~3~

การวัดและประเมนิ ผล ชิ้นงาน/ภาระงาน น้ําหนกั นํ้าหนกั วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด คะแนน คะแนน - ใบงานท่ี 1.5 1. ตอบคําถามเก่ียวกบั - ตรวจการเขียน ขอบเขตและความสามารถ 3 KAP อธิบายความ ของโปรแกรม Scratch 3 เขาใจ ตามท่ไี ดศ ึกษาอยา งเขา ใจ (ใบงานท่ี 1.5 ) 2. ออกแบบผงั งานมโนทศั น 4 4 - ประเมนิ การ - แบบประเมิน สรปุ ความสามารถของ 3 ออกแบบผงั งาน โปรเจกตช้ินงานที่สรางขน้ึ การออกแบบ ดว ยโปรแกรม Scratch มโนทศั น ผังงานมโนทัศน (ใบงานท่ี 1.1 -1.4 ) 3 - สังเกตการ - แบบประเมนิ 4. มคี วามรบั ผดิ ชอบและ ทํางานทไี่ ดร บั การทาํ งานและ ใฝเรียนรูในงานทีไ่ ดรบั คณุ ลกั ษณะ มอบหมาย มอบหมาย ที่พงึ ประสงค ของผูเรยี น รวม 10 3 3 4 ~4~

เกณฑก ารประเมนิ ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดมี าก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) 3 (ด)ี 2 (พอใช) ตอบคําถามเกย่ี วกบั ตอบคาํ ถามได ตอบคาํ ถามได ขอบเขตและ ถกู ตอง ชดั เจน ตอบคําถามได ตอบคาํ ถามได ถูกตอ ง ชัดเจน ความสามารถของ รอ ยละ 80 ขนึ้ ไป ถกู ตอง ชัดเจน ถูกตอง ชดั เจน ตํา่ กวารอ ยละ 50 โปรแกรม Scratch รอยละ 70 – 79 รอ ยละ 50 – 69 ตามทไี่ ดศ ึกษาอยา ง เขาใจ( ใบงานที่ 1.5 ) ออกแบบผงั งานมโน สรปุ ความคิดรวบ สรปุ ความคดิ รวบ สรปุ ความคดิ รวบ สรปุ ความคดิ รวบ ทัศนส รปุ ยอดจากการสงั เกต ยอดจากการสงั เกต ยอดจากการสงั เกต ยอดจากการสงั เกต ความสามารถของโปร โปรเจกตชิ้นงานได โปรเจกตช้นิ งานได โปรเจกตช ิ้นงานได โปรเจกตช้ินงานได เจกตช ิ้นงานทีส่ รา ง อยา งละเอียดและ เขา ใจ สอดคลอ ง สอดคลอ งเหมาะสม ไดบ าง ขึ้นดว ยโปรแกรม เขาใจ สอดคลอ ง เหมาะสม Scratch เหมาะสม และ (ใบงานที่ 1.2 -1.6 ) สมบรู ณ ทุก รายการ มีความรับผดิ ชอบ สงงานทไ่ี ดร บั สง งานทไี่ ดรบั หมอบ สง งานทไี่ ดร บั หมอบ ไมสง งานและไม และใฝเ รยี นรใู นงานท่ี หมอบหมายตาม หมายตามกําหนด หมายลาชา และ รับผิดชอบงานที่ ไดรับมอบหมาย กาํ หนดและ และคณุ ภาพของ คณุ ภาพของงานไม ไดรบั มอบหมาย คณุ ภาพของงาน งานถูกตองครบถวน ถูกตองไมค รบถว น ถกู ตองครบถว น แตไมคอยเรยี บรอย และเรียบรอ ยเปน แบบอยางได เกณฑก ารตัดสิน - นักเรยี นทกุ คนจะตอ งมผี ลรวมของคะแนนทง้ั หมดของหนวยที่ 1 ไมตาํ่ กวารอ ยละ 50 ~5~

ใบงานท่ี 1.1 เรื่องภาพเคลื่อนไหว คําชแี้ จง 1. ใหนักเรียนแบง กลมุ กลุม ละ 5 คน สงั เกตการแสดงผลของโปรเจกตในกลมุ ของ Animation ซึ่งมี ทั้งหมด 8 เร่ือง ใหแตล ะกลมุ ออกมาจบั ฉลากเลอื กเร่ืองทีไ่ ด แลวบันทกึ สง่ิ ที่สงั เกตเห็นได ลงบน กระดาษโนตของตนเองภายในเวลา 5 นาที (ครูแจกกระดาษโนตใหค นละ 1 แผน) 2. สรปุ สงิ่ ท่แี ตละคนเขยี นตอบในกระดาษโนต โดยวาดเปน ผังความคิดของกลุม ~6~

3. ปดหนา ตา งโปรเจกต ดังน้ี 3.1 คลกิ เมนู File -> Quit หรอื คลกิ ทีม่ มุ บนขวามือ 3.2 จะปรากฏกรอบโตต อบ Quit ถามวา ตอ งการจะบันทกึ การเปลีย่ นแปลงกอนปด โปรแกรมหรอื ไม 3.3 ใหคลกิ ปุม เน่ืองจากไมต อ งการเปลี่ยนแปลงโปรเจกตข องโปรแกรมที่มอี ยเู ดมิ ~7~

ใบงานท่ี 1.2 เรือ่ งการสรา งเสียงเพลง และเตนราํ คําช้ีแจง 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 4 คน สังเกตการแสดงผลของโปรเจกตในกลุมของ Music and Dance ซ่ึงมีท้ังหมด 9 เรื่อง ใหแตละกลุมออกมาจับฉลากเลือกเร่ืองที่ได แลวบันทึกสิ่งท่ี สงั เกตเห็นได ลงบนกระดาษโนตของตนเองภายในเวลา 5 นาที (ครูแจกกระดาษโนตใหคนละ 1 แผน ) 2. สรปุ สงิ่ ทแี่ ตละคนเขียนตอบในกระดาษโนต โดยวาดเปนผงั ความคดิ ของกลุม ~8~

3. ปดหนา ตา งโปรเจกต ดังน้ี 3.1 คลกิ เมนู File -> Quit หรอื คลกิ ทีม่ มุ บนขวามือ 3.2 จะปรากฏกรอบโตต อบ Quit ถามวา ตอ งการจะบันทกึ การเปลีย่ นแปลงกอนปด โปรแกรมหรอื ไม 3.3 ใหคลกิ ปุม เน่ืองจากไมต อ งการเปลี่ยนแปลงโปรเจกตข องโปรแกรมที่มอี ยเู ดมิ ~9~

ใบงานที่ 1.3 เรอื่ งการสรา งเรอื่ งราวทีม่ ีการปฏิสัมพันธกัน คําชแี้ จง 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน สังเกตการแสดงผลของโปรเจกตในกลุมของ Stories ซึ่งมี ท้งั หมด 7 เรือ่ ง ใหแตล ะกลมุ ออกมาจบั ฉลากเลอื กเร่อื งท่ไี ด แลว บนั ทกึ สง่ิ ทส่ี งั เกตเห็นได ลงบน กระดาษโนต ของตนเองภายในเวลา 5 นาที (ครแู จกกระดาษโนตใหค นละ 1 แผน) 2. สรุปสิง่ ที่แตล ะคนเขยี นตอบในกระดาษโนต โดยวาดเปน ผงั ความคดิ ของกลมุ ~ 10 ~

3. ปดหนาตา งโปรเจกต ดังน้ี 3.1 คลิกเมนู File -> Quit หรือ คลกิ ที่มุมบนขวามือ 3.2 จะปรากฏกรอบโตต อบ Quit ถามวา ตองการจะบนั ทกึ การเปลีย่ นแปลงกอนปด โปรแกรมหรอื ไม 3.3 ใหค ลกิ ปมุ เนอื่ งจากไมตอ งการเปลี่ยนแปลงโปรเจกตข องโปรแกรมที่มอี ยเู ดมิ ~ 11 ~

ใบงานที่ 1.4 เร่อื งเกม คําชแี้ จง 1. ใหนักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน สังเกตการแสดงผลของโปรเจกตในกลุมของ Games ซ่ึงมี ท้งั หมด 8 เร่ือง ใหแ ตล ะกลมุ ออกมาจบั ฉลากเลอื กเร่อื งที่ได แลวบนั ทึกสง่ิ ท่ีสงั เกตเหน็ ได ลงบน กระดาษโนต ของตนเองภายในเวลา 5 นาที (ครแู จกกระดาษโนต ใหค นละ 1 แผน) 2. สรปุ สิ่งท่แี ตล ะคนเขียนตอบในกระดาษโนต โดยวาดเปนผงั ความคดิ ของกลมุ ~ 12 ~

3. ปดหนาตา งโปรเจกต ดังน้ี 3.1 คลิกเมนู File -> Quit หรือ คลกิ ที่มุมบนขวามือ 3.2 จะปรากฏกรอบโตต อบ Quit ถามวา ตองการจะบนั ทกึ การเปลีย่ นแปลงกอนปด โปรแกรมหรอื ไม 3.3 ใหค ลกิ ปมุ เนอื่ งจากไมตอ งการเปลี่ยนแปลงโปรเจกตข องโปรแกรมที่มอี ยเู ดมิ ~ 13 ~

ใบงานที่ 1.5 เรอื่ งมารูจักโปรแกรม Scratch กนั เถอะ คาํ ช้แี จง ใหน ักเรยี นตอบคําถามตอไปน้ใี หถกู ตอ ง 1. เปด โปรเจกตตัวอยา ง Aquarium ซ่งึ อยใู นโฟลเดอร Animation แลว ตอบคาํ ถามตอไปน้ี 1.1 โครงสรา งหลกั ของโปรเจกตม กี ีส่ วน อะไรบา ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 เวทขี องโปรเจกตนีม้ ีพน้ื หลังหรอื ไม ถา มใี หบ อกชื่อพน้ื หลังท่ใี ชท ง้ั หมด ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 เวทีของโปรเจกตน ้ีมเี สยี งหรอื ไม ถา มใี หบ อกช่ือไฟลเ สียงทีใ่ ชท ้ังหมด ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 ตําแหนงตัวละคร Creature3 คือ……………………………………………………………..…………… ระบุตําแหนง โดยประมาณของคา ดังกลาวบนกราฟทก่ี าํ หนดให ~ 14 ~

2. บลอ็ กตอไปนี้อยใู นกลุมบล็อกใด กลุมบลอ็ ก บลอ็ ก 3. จงอธบิ ายความหมายและหนาทขี่ องสวนประกอบของโปรเจกต พอสงั เขป 3.1 เวที (Stage)……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.2 ตัวละคร (Sprite)……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.3 ชุดคาํ สั่ง (Scripts)……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ~ 15 ~

บทที่ 2 เรอื่ ง ตัวละครและพืน้ หลงั ครั้งทเี่ รยี น ครั้งที่ 4-6 คาบที่เรยี น คาบที่ 7-12 จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ผเู รียนสามารถ 1. ดานความรู (K) 1. บอกถึงวิธกี ารสรา งตัวละครและพืน้ หลงั การเพมิ่ ตวั ละคร และการเปลย่ี นสี 2. ใชค ําสั่งในกลุม บลอ็ ก Look ไดอยา งถกู ตอ ง 2. ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. สรา งตวั ละคร และพื้นหลงั การเพม่ิ ตวั ละคร และการเปลย่ี นสี 2. ใชคําสงั่ ในกลุมบลอ็ ก Look สรา งสรรคช นิ้ งาน 3. ดานคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค (A) 1. ใฝเรียนรู 2. มีความรับผิดชอบ 4. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี สาระสําคญั การสรางตัวละครและพื้นหลัง ในโปรแกรม Scratch สามารถสรางไดโดยใช Paint Editor จึง จําเปนตองเรียนรูวิธีการใชงานเคร่ืองมือของ Paint Editor ท่ีใชในการสรางหรือแกไขตัวละคร ชุดตัวละคร และ พื้นหลัง การเพิ่มตัวละคร ในโปรแกรม Scratch สามารถเพม่ิ ไดหลายวธิ ีดงั น้ี 1. การเพมิ่ ตัวละครจากไฟลภ าพ 2. การเพิ่มตวั ละครแบบสมุ โดยคลิกทป่ี มุ (Get surprise sprite) 3. การเพ่ิมตัวละครโดยใช Paint Editor โดย คลิกปุม (Paint new sprite) จะปรากฏ หนาจอ Paint Editor ~ 16 ~

การเปล่ียนสี และแปลงราง การเขียนสคริปตโดยใชกลุมบล็อก Control และ Looks เพื่อทําใหตัว ละครเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยใชห ลักการเหมอื นกบั การสรา ง ภาพ Animation สอ่ื การเรียนรู  เอกสารการเรยี นรบู ทที่ 2 เรือ่ ง ตัวละครและพื้นหลัง  โปรเจกต look ท่อี ยใู นโฟลเดอร Scratch\\activity1\\  ใบงานท่ี 2 เรอ่ื งเปล่ยี นสี และแปลงรา ง อนื่ ๆ  เครอื่ งคอมพวิ เตอร  โปรเจคเตอร กิจกรรมการเรยี นรู 1.ข้นั นํา คาบท่ี 7 1. ครูชแี้ จงจดุ ประสงคการเรยี นรู ภาพรวมของเน้ือหา กิจกรรมการเรยี นการสอน การวัดผล และการประเมนิ ผลทจี่ ะตองดาํ เนนิ การ 2. ครอู ธิบาย พรอมสาธติ วธิ กี ารสรา งตวั ละครและพ้นื หลัง ในโปรแกรม Scratch สามารถสรางไดโดยใช Paint Editor 3. นกั เรยี นทดลองสรางตัวละคร และพืน้ หลงั ในโปรแกรม Scratch ตามความ สนใจ คาบท่ี 8 1. ครอู ธบิ าย พรอ มสาธิตวธิ กี ารเพิ่มตัวละคร ในโปรแกรม Scratch สามารถเพมิ่ ได หลายวิธีดงั นี้ * การเพ่ิมตัวละครจากไฟลภาพ ** การเพมิ่ ตัวละครแบบสุม โดยคลิกทป่ี มุ (Get surprise sprite) *** การเพิม่ ตวั ละครโดยใช Paint Editor โดย คลกิ ปมุ (Paint new sprite) จะปรากฏหนา จอ Paint Editor 2. นักเรยี นทดลองเพม่ิ ตัวละคร ในโปรแกรม Scratch ดว ยวธิ กี ารตา งๆ ~ 17 ~

คาบ 9 1. นกั เรยี นศกึ ษาตวั อยาง การเปลย่ี นสี และแปลงราง จากโปรเจกต look ที่อยูใน โฟลเดอร Scratch\\activity1\\ 2. ครอู ธบิ าย พรอ มสาธิตวิธกี ารเปลี่ยนสี และแปลงราง การเขยี นสคริปตโ ดยใชกลมุ บลอ็ ก Control และ Looks เพือ่ ทําใหตวั ละครเกดิ การเปลย่ี นแปลง โดยใช หลักการ เหมอื นกบั การสรา ง ภาพ Animation คาบ 10 ใหน ักเรียนทาํ ใบงานที่ 2 คาบที่ 11 สุม เลือกนกั เรียนเพอ่ื ออกมาอภปิ รายงานของตนเองใน โดยครชู ว ยอธิบายเพมิ่ เตมิ พรอมใหน ักเรียนซกั ถามขอ สงสยั คาบท่ี 12 3.ขน้ั สรปุ 1. นกั เรยี นและครรู วมกนั สรปุ เรอื่ งตวั ละครและพื้นหลัง 2. ครูนดั หมายเนอื้ หาทจี่ ะเรียนในครง้ั ตอ ไป ~ 18 ~

การวัดและประเมินผล ชิ้นงาน/ภาระงาน นา้ํ หนัก นํ้าหนกั วิธีวัด เครอ่ื งมอื วัด คะแนน คะแนน - ใบงานท่ี 2 ขอ 2 1. ตอบคําถามเกี่ยวกับตัว - ตรวจการเขียน ละครและพนื้ หลงั การใช 2 KAP ตอบคาํ ถาม คําสงั่ กลมุ บลอ็ ก Look 2 ตามที่ไดศกึ ษาอยางเขา ใจ (ใบงานที่ 2 ขอ 2 ) 2. สรางตัวละคร และพืน้ 5 5 - ตรวจสอบการ - ใบงานที่ 2 ขอ หลงั การเพ่ิมตวั ละคร และ สรางโปรเจกต 3-6 การเปลีย่ นสี (ใบงานท่ี 2 ขอ 3-6 ) และการเขียน สคริป 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบและ 3 3 - สงั เกตการ - แบบประเมิน ใฝเรยี นรใู นงานทไี่ ดร ับ ทาํ งานที่ไดรบั การทํางานและ มอบหมาย มอบหมาย คุณลกั ษณะ ที่พึงประสงค ของผเู รยี น รวม 10 2 3 5 ~ 19 ~

เกณฑก ารประเมิน ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช) 1 (ปรับปรงุ ) 1. ตอบคาํ ถาม เก่ียวกับตวั ละคร ตอบคําถามได ตอบคําถามได ตอบคาํ ถามได ตอบคาํ ถามได และพืน้ หลงั การใช ถกู ตอ ง ชัดเจน ถกู ตอ ง ชัดเจน ถูกตอ ง ชัดเจน ถูกตอ ง ชัดเจน คาํ สงั่ กลมุ บลอ็ ก รอ ยละ 80 ขน้ึ ไป ตํ่ากวา รอ ยละ 50 Look ตามทไ่ี ด รอยละ 70 – 79 รอยละ 50 – 69 ศึกษาอยางเขา ใจ (ใบงานท่ี 2 ขอ 2 ) สรางตัวละคร และ สรางโปรเจกตใ หมได สรา งโปรเจกตใ หม สรา งโปรเจกตใหม สรางโปรเจกตใ หม พื้นหลงั การเพ่มิ ตวั ตามทโ่ี จทยกาํ หนด ไดตามที่โจทย ไดต ามท่ีโจทย ไดต ามที่โจทย ละคร และการ เขยี นสครปิ ตต าม กาํ หนด กําหนด กําหนด เปลี่ยนสี (ใบงานท่ี โจทยก ําหนดใหและ เขียนสครปิ ตต าม เขยี นสครปิ ตตาม เขยี นสครปิ ตต าม 2 ขอ 3-6 ) แสดงผลลัพธไ ด โจทยก ําหนดใหและ โจทยก ําหนดใหและ โจทยกําหนดใหไ ด ถูกตอง และสมบรู ณ แสดงผลลพั ธได แสดงผลลัพธได บา ง ผลลัพธท ี่ไดไ ม ทกุ รายการ ถกู ตอง แตย งั ขาด ถกู ตอ งบางขอ ถกู ตอ ง ความสมบรู ณ มคี วามรบั ผิดชอบ สง งานทไ่ี ดร ับหมอบ สงงานทไี่ ดรับหมอบ สงงานท่ไี ดร ับหมอบ ไมส ง งานและไม และใฝเ รยี นรใู นงาน หมายตามกําหนด หมายตามกาํ หนด หมายลาชา และ รับผิดชอบงานท่ี ทไ่ี ดร บั มอบหมาย และคณุ ภาพของงาน และคณุ ภาพของ คณุ ภาพของงานไม ไดรบั มอบหมาย ถูกตองครบถวน งานถกู ตองครบถว น ถูกตองไมค รบถว น และเรยี บรอ ยเปน แตไ มคอ ยเรยี บรอย แบบอยา งได เกณฑการตัดสิน - นักเรยี นทกุ คนจะตองมีผลรวมของคะแนนทงั้ หมดของหนว ยที่ 2 ไมต่าํ กวารอ ยละ 50 ~ 20 ~

ใบงานท่ี 2 เรือ่ งเปลี่ยนสี และแปลงราง คําชแี้ จง 1. ศึกษา เร่อื งกลมุ บล็อก Looks 2. เปดโปรเจกต look ทอี่ ยูในโฟลเดอร Scratch\\activity1\\ 2.1 โปรเจกตน ี้มีอะไรอยบู า ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2.2 เมื่อคลกิ ตวั ละครแตละตวั มกี ารแสดงอยา งไร 2.3 ตวั ละครใดบางทสี่ รา งข้นึ เอง และตวั ละครใดบางทถี่ กู นําเขา มา ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. 2.4บลอ็ ก Look ใดทท่ี าํ หนา ท่ี เปล่ยี นสตี ัวละคร และบลอ็ ก Look ใดทีท่ าํ หนา ที่ แปลงรา งใหตวั ละคร ~ 21 ~

3. สรางโปรเจกตใหม 4. เขยี นสครปิ ตโ ดยใชกลุมบล็อก Control และ Looks จากนัน้ คลกิ และบนั ทึกผลลพั ธ สคริปต ผลลพั ธ 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 ~ 22 ~

5. สมมติวา มีตัวละครอยบู นเวทีดังน้ี Sprite 1 Sprite2 5.1 เขยี นสครปิ ตใ ห Sprite2 อยางไร จงึ จะเกิดผลลพั ธเปน ภาพทางขวามอื …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… Sprite3 5.2 เขยี นสครปิ ตใ ห Sprite3 อยา งไร จงึ จะเกิดผลลพั ธเปน ภาพทางขวามอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. นาํ เขาตวั ละคร ท่ีตองการ 6.1 เม่อื กดแปนลูกศรขนึ้ ตัวละครแสดงคาํ พูด “I Love You” จากน้ันใหเ ปลย่ี นชุดตัวละคร และแสดงคําพูด “So good” ตวั อยา งการเขียนสครปิ ต เมอื่ กดแปนลกู ศรขึ้น ตวั ละครแสดงคาํ พูด “I Love You” 6.2 เม่อื กดแปน ตวั อักษร Y ตวั ละครเปล่ียนสีสองครง้ั 6.3 เมอ่ื กดแปนลกู ศรดา นขวา ตวั ละครเคลอ่ื นไปดานหนา 6.4 เมอื่ กดแปนลกู ศรดา นซา ยตวั ละครเคลอ่ื นทีถ่ อยหลงั โดยมกี ารเปลย่ี นชดุ ตัวละครในการ กดแปนแตล ะคร้งั ~ 23 ~

บทที่ 3 เรื่อง การสรางการเคล่อื นที่ ครง้ั ทเ่ี รยี น ครั้งที่ 7-10 คาบทีเ่ รียน คาบที่ 13-20 จดุ ประสงคการเรยี นรู ผูเ รียนสามารถ 1. ดานความรู (K) 1. บอกถึงวิธีการสรางการเคลื่อนที่ เคล่ือนไหว การควบคุมการทํางานซํ้า การทํางานท่ี ขน้ึ กบั เงื่อนไข 2. ใชค าํ สงั่ ในกลุม บลอ็ ก Motion และ กลมุ บลอ็ ก Control ไดอยา งถกู ตอง 2. ดานทักษะ/กระบวนการ (P) 1. สรา งการเคลอื่ นที่ เคลอื่ นไหว การควบคมุ การทาํ งานซา้ํ การทํางานทีข่ ึน้ กบั เงือ่ นไข 2. ใชคําส่งั ในกลมุ บลอ็ ก Motion และ กลมุ บลอ็ ก Control สรางสรรคช นิ้ งาน 3. ดานคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค (A) 1. ใฝเ รยี นรู 2. มคี วามรับผิดชอบ 3. ความมีระเบียบวนิ ยั 4. สมรรถนะสําคญั ของผเู รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใชเทคโนโลยี สาระสาํ คญั การเคลื่อนท่ี เคลอ่ื นไหวของตัวละคร เปนการ เขยี นสครปิ ตโดยใชก ลุม บล็อก Control และ Motion เพื่อทาํ ใหตวั ละครเกิดการเคลอ่ื นที่ การสั่งงานท่ีขึ้นกับเงื่อนไขนั้น ตองศึกษาเงื่อนไขในการส่ังงานใหชัดเจนหากไมศึกษาใหดีอาจตอง เขียน script ยาว และสับสนได แตเม่ือหากรูจักแกปญหาและศึกษาเง่ือนไขไดเปนอยางดีแลวก็สามารถ แกปญหาโจทยไ ดง า ย และมีขน้ั ตอนทล่ี ดลง เขียน script ไดส้ันข้นึ ~ 24 ~

สือ่ การเรยี นรู  เอกสารการเรียนรบู ทที่ 3 เร่ือง การสรา งการเคลื่อนท่ี  โปรเจกต Motion ทีอ่ ยใู นโฟลเดอร Scratch\\activity1  ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื งการเคลอื่ นที่ เคลอ่ื นไหว  ใบงานท่ี 3.2 เร่ืองวนซา้ํ กบั repeat และ forever  ใบงานท่ี 3.3 เร่ืองเดนิ เลนชมววิ สวย  ใบงานท่ี 3.4 เร่อื งดนิ แดนในฝน อน่ื ๆ  เครอ่ื งคอมพวิ เตอร  โปรเจคเตอร กจิ กรรมการเรยี นรู 1.ขั้นนํา คาบท่ี 13 1. ครชู แ้ี จงจุดประสงคการเรียนรู ภาพรวมของเนื้อหา กิจกรรมการเรียนการสอน การวดั ผล และการประเมนิ ผลที่จะตองดําเนินการ 2. ครใู หน ักเรียนดูตัวอยา ง การเคลื่อนท่ี เคลอ่ื นไหว จากโปรเจกต Motion ท่ีอยูใน โฟลเดอร Scratch\\activity1\\ แลวใหนักเรยี นสังเกตการเคล่อื นไหวของตวั ละคร คาบท่ี 14 1. นกั เรยี นทําใบงานที่ 3.1 เรื่องการเคลอ่ื นท่ี เคลอ่ื นไหว 2. ครูสุมตัวอยางใบงานของนักเรียนเพ่ือเฉลยใบงาน และเปดโอกาสใหนักเรียน อภิปรายซักถาม คาบ 15 1. ครูอธิบายและสาธติ การควบคมุ การทํางานซํ้าท่ีมีหลายลักษณะ แลวใหนักเรียน ชว ยกนั เปรียบเทยี บการทํางานแตละลกั ษณะ 2. ครูอธิบาย พรอมยกตัวอยางกิจกรรมท่ีใหนักเรียนเรียนรูเกี่ยวกับการทํางานที่ ขน้ึ กบั เงื่อนไข แลวเชิญชวนใหนักเรียนออกแบบกิจกรรมเกี่ยวกับการทํางานท่ีข้ึนกับ เงื่อนไข แบบตา งๆ ~ 25 ~

คาบ 16 นักเรยี นทําใบงานที่ 3.2 วนซํ้ากับ Repeat และ Forever และ สมุ เลอื ก คาบท่ี 17 1. ครูอธบิ ายการทํางานของกลุมบลอ็ ก Motion และกลมุ บล็อก Control ท่ีจาํ เปน ในการสรา งการเคล่อื นที่ เคลอ่ื นไหว และการทํางานแบบมเี งอ่ื นไข 2. ใหนักเรยี นทาํ ใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง เรือ่ งเดนิ เลนชมววิ สวย ใหนักเรียนออกมา อภิปรายงานของตนเอง ครชู วยอธบิ ายเพ่ิมเตมิ พรอ มใหนกั เรยี น ซักถามขอ สงสัย คาบที่ 18 1. ครอู ธบิ ายการแกป ญ หาจากสถานการณท ีก่ าํ หนดให โดยมีแบบฟอรมสําหรบั ฝก แกป ญหา 2. นักเรียนแบง กลุมตามทก่ี าํ หนดไวในชั่วโมงแรก แลวชว ยกนั ทําใบงานท่ี 3.4 เรอื่ ง ดินแดนในฝน คาบท่ี 19 1. นักเรียนนาํ เสนอการสรางสรรคชนิ้ งานของกลมุ ตัวเอง เรอื่ งดินแดนในฝน คาบท่ี 20 3.ข้นั สรุป 1. นกั เรียนและครรู วมกนั สรปุ เรอื่ งการสรา งการเคลื่อนท่ี 2. ครนู ัดหมายเนอื้ หาทจ่ี ะเรยี นในครงั้ ตอ ไป ~ 26 ~

การวดั และประเมนิ ผล ชิ้นงาน/ภาระงาน นา้ํ หนัก นํา้ หนัก วิธีวัด เครื่องมือวัด คะแนน คะแนน - ใบงานท่ี 3.1 - ตรวจการเขยี น 1. ตอบคําถามเก่ียวกับการ 2 KAP ตอบคําถาม เคลื่อนท่ี เคลื่อนไหว การใช 2 กลุมบล็อก Motion และ Control (ใบงานท่ี 3.1 ) 2. สรา งโปรเจกตการส่ังงาน 5 5 - ตรวจสอบการ - ใบงานท่ี 3.2 แบบวนซ้าํ และ การควบคมุ การทาํ งานซ้าํ สรา งโปรเจกต และ 3.4 (ใบงานท่ี 3.2 และ 3.4) และการเขียน สครปิ ต 3. มีความรับผิดชอบและ 3 3 - สังเกตการ - แบบประเมนิ ใฝเ รยี นรูในงานทไ่ี ดรับ ทํางานท่ีไดร บั การทํางานและ มอบหมาย มอบหมาย คณุ ลักษณะ ที่พงึ ประสงค ของผูเ รยี น รวม 10 2 3 5 ~ 27 ~

เกณฑการประเมนิ ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช) 1 (ปรับปรุง) ตอบคาํ ถามเกยี่ วกบั การเคล่อื นที่ ตอบคาํ ถามได ตอบคําถามได ตอบคําถามได ตอบคาํ ถามได เคลือ่ นไหว การใช ถกู ตอง ชดั เจน ถกู ตอ ง ชัดเจน ถูกตอง ชดั เจน ถกู ตอง ชดั เจน กลมุ บล็อก Motion รอ ยละ 80 ขน้ึ ไป ต่ํากวา รอ ยละ 50 และ Control (ใบ รอ ยละ 70 – 79 รอ ยละ 50 – 69 งานท่ี 3.1 ) สรางโปรเจกตก าร สรางโปรเจกตใ หมไ ด สรา งโปรเจกตใ หม สรา งโปรเจกตใ หม สรางโปรเจกตใหม สงั่ งานแบบวนซ้ํา ตามท่ีโจทยกาํ หนด ไดต ามท่ีโจทย ไดตามทโี่ จทย ไดตามทโ่ี จทย และ การควบคมุ เขียนสครปิ ตตาม กาํ หนด กาํ หนด กําหนด การทํางานซํ้า โจทยกําหนดใหและ เขยี นสครปิ ตต าม เขยี นสครปิ ตต าม เขียนสครปิ ตตาม (ใบงานที่ 3.2 และ แสดงผลลัพธได โจทยก าํ หนดใหและ โจทยกาํ หนดใหแ ละ โจทยกาํ หนดใหไ ด 3.4) ถกู ตอ ง และสมบรู ณ แสดงผลลพั ธได แสดงผลลพั ธไ ด บาง ผลลัพธที่ไดไ ม ทุกรายการ ถกู ตอ ง แตย งั ขาด ถกู ตองบางขอ ถูกตอง ความสมบรู ณ มีความรบั ผดิ ชอบ สง งานที่ไดรับหมอบ สงงานทไ่ี ดรับหมอบ สง งานทีไ่ ดรับหมอบ ไมส งงานและไม และใฝเ รยี นรูในงาน หมายตามกําหนด หมายตามกาํ หนด หมายลา ชาและ รบั ผดิ ชอบงานท่ี ทไ่ี ดร บั มอบหมาย และคุณภาพของงาน และคุณภาพของ คุณภาพของงานไม ไดร ับมอบหมาย ถกู ตองครบถวน งานถกู ตองครบถวน ถูกตอ งไมครบถว น และเรียบรอยเปน แตไมค อ ยเรียบรอย แบบอยา งได เกณฑก ารตัดสนิ - นักเรยี นทุกคนจะตองมผี ลรวมของคะแนนทง้ั หมดของหนว ยท่ี 3 ไมต ่าํ กวารอยละ 50 ~ 28 ~

ใบงานที่ 3.1 เรื่องการเคลือ่ นท่ี เคลื่อนไหว คําชแี้ จง ใหน ักเรยี นปฏิบัตติ ามคําส่งั ตอไปนี้ 1. ศกึ ษา เรื่องกลมุ บล็อก Motion 2. เปด โปรเจกต Motion ทีอ่ ยใู นโฟลเดอร Scratch\\activity1\\ 2.1 โปรเจกตน ้ีมอี ะไรอยบู าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2.2 เมอื่ คลกิ ตัวละครแตล ะตัว มกี ารแสดงอยางไร 3. สรางโปรเจกตใ หม 4. จะไดโปรเจกตใหมท ่ีมตี วั ละครสุนัขหนึง่ ตวั บนเวทวี างเปลา ตัวละครสนุ ขั นช้ี อื่ …………………… ~ 29 ~

5. เขียนสครปิ ตใหต วั ละครสนุ ขั เดิน 10 หนว ย โดยทําตามขนั้ ตอนดงั นี้ ไปวางบนพ้นื ทเ่ี ขยี น 5.1คลิกกลมุ บลอ็ ก Motion แลว ลากบล็อก สคริปต 5.2 คลิกทบี่ ล็อกใหเกดิ เปน ขอบลอ มรอบสีขาว แลวดผู ลลัพธบ นเวที จะพบวา………………. 5.3 คลิกกลมุ บล็อก Control แลว ลากบลอ็ ก มาวางตอเช่อื ม ดา นบน 5.4 คลิก ท่มี มุ ขวาบนของเวที ปรากฏผลลัพธคอื ……………………….…………………. 5.5 ผลลพั ธในขอ 5.2 และ 5.4 ตา งกันหรือไม… …………………………………………………… ~ 30 ~

6. ลบสครปิ ตโ ดยการลากกลบั ไปวางทบ่ี ล็อกคาํ สง่ั 7. เขยี นสคริปตใ หต ัวละครดงั นี้ เม่ือคลกิ แลว ผลลพั ธทไ่ี ดค ือ ..................................................................................... ..................................................................................... ทดลองเปล่ยี นคา ตัวเลขในชองวา ง แลวคลิก เพื่อสังเกตผลลพั ธ 8. ลากเสน จบั คสู ครปิ ตด า นซา ยกบั ลกั ษณะการเคลอื่ นที่ดา นขวา ระบทุ ศิ ทางโดยหนั ไปทางทิศตะวันตกเฉยี งเหนอื ระบทุ ิศทางตามตวั ชี้เมาส เคล่อื นทไ่ี ปยงั ตาํ แหนง ที่ (80, -20) ถอยหลงั 150 หนว ย เปล่ียนตาํ แหนง ไปทางซาย 100 หนว ย หมุนทวนเขม็ นาฬิกา 45 องศา ~ 31 ~

ใบงานท่ี 3.2 เร่อื งเดนิ เลนชมวิวสวย คําชแี้ จง ใหน ักเรยี นปฏบิ ัติตามคาํ สงั่ ตอ ไปนี้ 1. สรา งโปรเจกตใหม 2. เลอื กพื้นหลังของเวทีดังนี้ 1. คลกิ ที่ Stage 2. คลิกแทบ็ Backgrounds 3. เลอื กพนื้ หลงั จากไฟลภ าพ โดยคลกิ ปุม Background จะปรากฏหนา ตา ง Import จะมโี ฟลเดอรภาพตา งๆ จากโฟลเดอร ดงั นี้ ~ 32 ~

4. เลือกรปู ภาพพ้ืนหลงั จากโฟลเดอร Outdoors ชอ่ื ไฟล all-sport-mura 5. คลกิ ปุม จะปรากฏภาพพน้ื หลงั ดงั นี้ 6.เขียนสครปิ ตใ ห ตัวละคร Sprite2 ดงั นี้ 7.คลกิ ผลลพั ธคือ............................................................................................. ~ 33 ~

8.เมอ่ื ทดลองคลิกปมุ รปู แบบการหมนุ ท้ัง 3 ลักษณะดังน้ี ( ) แลว สังเกตผลลัทธ จะเปน แบบใด 8.1 เมอื่ คลิกปมุ แบบท่ี 1 แบบที่ 2 แบบที่ 3 8.2 เมอ่ื คลิกปุม แบบที่ 1 แบบที่ 2 แบบท่ี 3 8.3 เมอ่ื คลกิ ปมุ แบบท่ี 1 แบบท่ี 2 แบบท่ี 3 ~ 34 ~

9. บันทึกโปรเจกต ชอ่ื Mybutifullway ในโฟลเดอรท ่ตี อ งการบนั ทกึ ~ 35 ~

ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื งวนซ้าํ กบั repeat และ forever คําช้แี จง ใหนักเรยี นปฏบิ ัติตามคําสั่งตอ ไปนี้ 1. ศึกษา เรอ่ื งการสง่ั งานแบบวนซ้าํ 2. สรา งโปรเจกตชอ่ื loop1_1 และ loop1_2 โดยเขยี นสคริปตดังนี้ 2.1 โปรเจกต loop1_1 2.2 โปรเจกต loop1_2 คลกิ ผลลัพธท ่ไี ดค ือ คลกิ ผลลพั ธท่ีไดค ือ …………………………………………………………… ……………………………………………………………. …………………………………………………………… ……………………………………………………………. ~ 36 ~

3. สรางโปรเจกตช ื่อ loop2 3.1 เขียนสครปิ ตดงั นี้ คลิก ผลลพั ธทีไ่ ดคือ ……………………………………………………………........ ……………………………………………………………........ ……………………………………………………………........ 3.2 ปรับปรุงสครปิ ตข อ 3.1 ใหไดผ ลลัพธเชน เดมิ โดยใชบ ลอ็ ก repeat สคริปตท ี่ปรบั ปรงุ คอื ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ 3.3 ปรบั ปรุงสครปิ ตข อ 3.2 ใหทาํ งานวนซาํ้ ไมร จู บสคริปตท ป่ี รับปรงุ คือ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ 4. สรา งโปรเจกตชื่อ loop3 คลิก ผลลัพธท ่ไี ดค อื 4.1 เขียนสครปิ ตด งั นี้ ……………………………………………………………........ 4.2 ……………………………………………………………........ ……………………………………………………………....... เพ่มิ ตวั ละครใหม กี ารเคลอื่ นท่เี ปนสว นโคง ดงั น้ี ~ 37 ~

สครปิ ตท ป่ี รบั ปรงุ คือ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... 4.3 ปรบั ปรงุ ใหต วั ละครเคลอ่ื นท่ีแบบวนซ้าํ ไมร จู บสครปิ ตท ป่ี รบั ปรงุ คอื ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ 5. เพ่ิมตัวละครท่สี รางขึน้ มาใหม (ออกแบบตามใจชอบ) แลว เขยี นสครปิ ตด งั นี้ คลิก ผลลัพธท่ไี ดคือ ……………………………………………………………........ ……………………………………………………………........ ……………………………………………………………........ 6. ปรับปรงุ ตวั ละครในขอ 5 ใหม ขี นาดเล็กลงตามตองการ และคัดลอกใหม ีตัวละครในขอ 5 ท้งั หมดในโปรเจกต loop3 คลกิ ผลลัพธที่ไดค อื …………………………………………………………………………………………………………………….............. …………………………………………………………………………………………………………………………....... ……………………………………………………………………………………………………………………............. การคดั ลอกตวั ละคร สคริปตจ ะถกู คดั ลอกมาดวยหรือไม… ……………….………………… 7. ปรับปรงุ โปรเจกตตามความตองการ และบันทกึ โปรเจกตท ี่ปรบั ปรุงใหม ชอื่ loop4 ~ 38 ~

ใบงานท่ี 3.4 เรื่องดินแดนในฝน คาํ ชีแ้ จง ใหน กั เรยี นปฏิบัติตามคําสั่งตอ ไปน้ี อ่านสถานการณ์/ปัญหาต่อไปนี นักเรียนเดนิ ทางหลงเขา ไปในดนิ แดนท่ีไมร จู กั และระหวา งการเดนิ ทาง นักเรยี นพบกับสัตวป ระหลาด หรอื วัตถุประหลาดอยางนอย 3 ชนิด ซ่ึงนักเรียนจะตองทักทายสัตวหรือวัตถุแตละชนิด กอนเดินทางตอไป จนถึงท่ีหมาย ใหใชโปรแกรม Scratch แสดงสถานการณด ังกลา วเปนภาพเคล่ือนไหว 1. วิเคราะหส ถานการณ 1.1 โจทยตอ งการใหท าํ อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ 1.2 โจทยกาํ หนดอะไรมาให ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............…… …………………………………………………………………………………………………………............................. ~ 39 ~

2. ออกแบบและวางแผนโปรเจกต 2.1 จับคูวาดภาพเสนทางพรอมพ้นื หลัง และอธิบายการวางแผนการเดินทางเพ่อื ไปใหถึงจดุ หมาย สองเสนทาง  เสนทางและคาํ อธบิ ายแบบที่ 1 คาํ อธบิ าย ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ~ 40 ~

 เสนทางและคําอธบิ ายแบบท่ี 2 คําอธิบาย ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ~ 41 ~

2.2 เลือกเสนทาง 1 เสนทางหรือออกแบบใหม ใหระบุจุดเดนจุดดอยของเสนทางท้ัง 2 แบบวา เปน อยา งไร และนํามาปรบั ปรงุ ใหไดเ สนทางใหมอยา งไร ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................. เสน ทางใหม (ถาม)ี และคําอธบิ าย เสนทางใหม คาํ อธิบาย ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ ~ 42 ~

2.3 ออกแบบตัวละครและเขยี นอธบิ ายลักษณะการเคลอื่ นไหว ทพ่ี บในเสนทาง เพื่อนาํ ไป สรา งในโปรเจกตด งั นี้ 3. สรางโปรเจกตช่อื Activity1 และเขียนสคริปตเพื่อใหไ ดผลลพั ธต ามทไ่ี ดอ อกแบบและวางแผนไว 4. ตรวจสอบการทํางานและผลลพั ธ 4.1 การทาํ งานและผลลัพธไดผ ลตามท่ีไดอ อกแบบและวางแผนไวห รือไม เพราะเหตใุ ด ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ 4.2 ระหวา งเขยี นสครปิ ตเพ่อื สรางโปรเจกต พบขอผิดพลาดทท่ี าใหไ มส ามารถเขียนสครปิ ตต ามที่ได ออกแบบไวหรอื ไม และถาพบแกไ ขอยางไร ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... …………………………………………………………………………………………………………………………...... ~ 43 ~

4.3 ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอยอดโปรเจกตอยา งไร ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ …………………………………………………………………………………………………………………………...... ……………………………………………………………………………………………………………………............ ……………………………………………………………………………………………………………………............ ~ 44 ~

บทท่ี 4 เรอื่ ง การนาํ เขา ภาพและการสรา งภาพกราฟก ครง้ั ทเี่ รียน คร้ังที่ 11-13 คาบทเ่ี รียน คาบท่ี 21-26 จดุ ประสงคการเรียนรู ผูเรียนสามารถ 1. ดา นความรู (K) 1. นาํ เขา ภาพตามตวั อยางไดถ กู ตองตามหลักการนาํ เขา ภาพ 2. ใชคาํ ส่งั ในกลมุ บล็อก Pen ไดอยา งถูกตอ ง 2. ดานทกั ษะ/กระบวนการ (P) ใชค าํ สงั่ ในกลุมบลอ็ ก Pen สรา งสรรคช ิ้นงาน 3. ดานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค (A) 1. ใฝเรยี นรู 2. มีความรบั ผดิ ชอบ 3. ความมีระเบยี บวนิ ัย 4. สมรรถนะสาํ คัญของผูเรยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี สาระสาํ คัญ การนําเขา ภาพสามารถทาํ ไดท ้ังการนําไฟลภาพท่ีเปน ตัวละคร หรือ Sprite และไฟลภาพ พ้นื หลัง หรอื Stage การสรางกราฟก รปู แบบตา งๆ สามารถใชก ลุม บลอ็ ก Pen ซึง่ เปรียบเสมอื นปากกาที่ชวยในการวาดรปู ตางๆ โดยสามารถกําหนดลกั ษณะปากกาได เชน กําหนดสี ขนาดเสน การยกปากกา การวางปากกา เปน ตน ~ 45 ~

สอื่ การเรียนรู  เอกสารการเรยี นรบู ทที่ 4 เร่ือง การนําเขา ภาพ และการสรา งภาพกราฟก  ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื งลากเสนเลนลาย  ใบงานท่ี 4.2 เรื่องตัวปม อืน่ ๆ  เครื่องคอมพวิ เตอร  โปรเจคเตอร กจิ กรรมการเรยี นรู 1.ขน้ั นาํ คาบท่ี 21 1. ครชู แ้ี จงจดุ ประสงคการเรยี นรู ภาพรวมของเน้ือหา กิจกรรมการเรียนการสอน การวัดผล และการประเมนิ ผลที่จะตอ งดาํ เนนิ การ 2. ครูใหนกั เรยี นดตู ัวอยางการนําไฟลภาพเขาทงั้ ทเ่ี ปน สว นของตัวละคร Sprite และ สว นทเี่ ปนเวที Stage พรอมอธบิ ายหลกั การนาํ ไฟลภ าพเขาประกอบ คาบท่ี 22 1. ครสู าธติ วิธกี ารนาํ เขา ภาพแบบตา งๆ และใหน กั เรียนลองปฏบิ ัติดวยตนเอง 2. ครูอธบิ ายการทาํ งานของกลุมบลอ็ ก Pen พรอมสาธิตใหน กั เรยี นดเู ปนตวั อยาง คาบท่ี 23 1. นักเรียนทําใบงานท่ี 4.1 เรอื่ งลากเสนเลนลาย 2. ครูเฉลยใบงาน และเปดโอกาสใหน กั เรียนอภปิ ราย ซักถาม คาบท่ี 24 1. ครอู ธบิ ายการทํางานของคาํ สง่ั การสรา งกราฟกดวย Stamp หรือตัวปม พรอม สาธิต ใหน กั เรียนดเู ปนตัวอยา ง 2. ใหน ักเรยี นทําใบงานท่ี 4.2 เรื่องตัวปม ~ 46 ~