Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลการดำเนินโครงการจัดทำรุปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพจังหวัดสุพรรณบุรี "Suphanburi Model"

รายงานผลการดำเนินโครงการจัดทำรุปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพจังหวัดสุพรรณบุรี "Suphanburi Model"

Published by orrawan kummak, 2020-09-21 02:48:47

Description: ebook

Keywords: Suphanburi

Search

Read the Text Version

๔๔ ตารางที่ ๑๙ ผลการประเมินความพงึ พอใจในการจดั การเรยี นการสอน รายการ X S.D. ระดับ 1. ดา้ นเน้ือหาความรู้ 0.๕๑ มากที่สดุ 4.๕๑ 0.๔๘ มากทส่ี ดุ 0.๖๔ มากท่ีสดุ 2. ด้านการลงมือปฏิบัติ 4.๕๔ รวมเฉลี่ย 4.๓๑ จากตารางที่ ๑๙ พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพ ระยะสั้น ในภาพรวม อยู่ในระดับ “มากที่สุด” (X = ๔.๓๑ , S.D. = ๐.๖๔) เมือ่ พิจารณาเปน็ รายด้าน พบวา่ ด้านการลงมือปฏบิ ัติ อยู่ในระดบั “มากทีส่ ดุ ” ( X = ๔.๕๔ , S.D. = ๐.๔๘) และด้านเนอ้ื หาความรู้ อยใู่ นระดบั “มากท่ีสดุ ” (X = ๔.๕๑ , S.D. = ๐.๕๑) ตามลำดับ ตารางท่ี ๒๐ ผลการประเมินความพงึ พอใจดา้ นเน้ือหาความรู้ X S.D. ระดบั รายการ ๔.๕๓ ๐.๗๐ มากทส่ี ุด ๔.๔๓ ๐.๗๐ มาก ๑. ความถกู ตอ้ งครบถ้วนสมบูรณ์ของเนื้อหา ๔.๔๔ ๐.๗๐ มาก ๒. ความชัดเจนในการอธิบายเน้ือหา ๔.๕๕ ๐.๖๑ มากทส่ี ดุ ๓. การเรียบเรียงเนอ้ื หาเข้าใจง่าย ๔.๖๑ ๐.๗๗ มากที่สดุ ๔. เนอ้ื หาสอดคล้องกบั วัตถุประสงค์การเรียนรู้ ๕. เน้ือหาสาระมีประโยชน์ สามารถประยกุ ต์ใช้งานได้จริง 4.๕๑ ๐.๕๑ มากที่สุด รวมเฉลยี่ จากตารางที่ ๒๐ พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพ ระยะสั้น ด้านเนื้อหาความรู้ อยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = ๔.๕๑ , S.D. = ๐.๕๑) เมื่อพิจารณาเป็น รายด้าน พบว่า ด้านเนื้อหาสาระมีประโยชน์ สามารถประยุกต์ใช้งานได้จริง อยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = ๔.๖๑ , S.D. = ๐.๗๗) รองลงมาคือ ดา้ นเนือ้ หาสอดคล้องกับวัตถุประสงค์การเรยี นรู้ อยู่ในระดับ “มากทส่ี ุด” ( X = ๔.๕๕ , S.D. = ๐.๖๑) และด้านความถูกต้องครบถว้ นสมบูรณ์ของเน้ือหา อยู่ในระดับ “มากทส่ี ดุ ” ( X = ๔.๕๓ , S.D. = ๐.๗๐) ตามลำดบั ตารางท่ี ๒๑ ผลการประเมินความพึงพอใจดา้ นลงมือปฏบิ ัติ รายการ X S.D. ระดับ ๑. เคร่ืองมอื อุปกรณท์ นั สมยั ๔.๔๕ ๐.๗๗ มาก ๒. วัสดอุ ปุ กรณเ์ พียงพอตอ่ การเรียนรู้ ๔.๓๒ ๐.๗๕ มาก ๓. มกี ารใหค้ ำแนะนำตลอดของภาคปฏบิ ตั ิ ๔.๖๗ ๐.๖๐ มากทสี่ ุด ๔. สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ๔.๗๑ ๐.๕๕ มากทส่ี ดุ รวมเฉลี่ย 4.๕๔ ๐.๔๘ มากที่สดุ

๔๕ จากตารางที่ ๒๑ พบว่า ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพ ระยะสั้น ด้านลงมือปฏิบัติ อยู่ในระดับ “มากที่สุด” (X = ๔.๕๔ , S.D. = ๐.๔๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า สามารถนำไปปฏิบัติ ได้จริง อยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = ๔.๗๑ , S.D. = ๐.๕๕) รองลงมาคือ มีการให้คำแนะนำตลอดของภาคปฏิบัติ อยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = ๔.๖๗ , S.D. = ๐.๖๐) และ เครือ่ งมืออุปกรณ์ทันสมัย อยใู่ นระดับ “มาก” ( X = ๔.๔๕ , S.D. = ๐.๗๗) ตามลำดับ การเรยี นการสอนงานไฟฟา้ งานอิเลก็ ทรอนกิ ส์ และงานคอมพิวเตอร์

๔๖ ๒.๒ วิทยาลยั การอาชพี สองพี่น้อง จัดหลักสตู รฝึกอบรมวชิ าช่างเชื่อมโลหะ ณ โรงเรียน บ้านละวา้ วงั ควาย และโรงเรยี นบ้านพนุ ำ้ รอ้ น อำเภอดา่ นช้าง จงั หวดั สพุ รรณบุรี ระหวา่ งเดือน พฤษภาคม - กนั ยายน ๒๕๖๒ (เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์) มีผ้เู ขา้ รับการฝกึ อบรมและผา่ นการฝึกอบรม รวมทัง้ สิ้น ๒๙ คน จากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรช่างเชื่อมโลหะ มผี ตู้ อบแบบสอบถาม จำนวน ๒๘ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๙๖.๕๕ ปรากฏผล ดงั น้ี ตารางท่ี ๒๒ ขอ้ มูลทั่วไปของผ้ตู อบแบบสอบถาม ข้อมูลทั่วไป จำนวน รอ้ ยละ เพศ ๑๐๐.๐๐ ๐ ชาย ๒๘ ๑๐๐.๐๐ หญงิ ๐ 57.14 รวม ๒๘ 14.29 10.71 อายุ 14.29 3.57 16 ปี 16 100 17 ปี 4 18 ปี 3 19 ปี 4 20 ปี 1 28 จากตารางที่ ๒๒ พบว่า มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๒๘ คน เพศชาย ๒๘ คน คิดเป็น รอ้ ยละ ๑๐๐ มอี ายรุ ะหว่าง ๑๖ - ๒๐ ปี โดยอายุ ๑๖ ปี มากทีส่ ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ ๕๗.๑๔ ตารางที่ ๒๓ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เข้ารับการฝกึ อบรมวิชาชา่ งเชื่อมโลหะ รายการ X S.D. ระดับ ด้านวทิ ยากร 1. การถา่ ยทอดความรูข้ องวิทยากรมีความชัดเจน ๔.๔๓ 0.๖๓ มากท่ีสดุ 2. ความสามารถในการอธิบายเน้อื หา 4.๔๓ 0.๖๙ มากท่สี ดุ 3. การเชือ่ มโยงเนื้อหาในการฝกึ อบรม 4.3๖ 0.๗๘ มากทส่ี ดุ 4. มีความครบถ้วนของเนื้อหาในการฝึกอบรม 4.๓๖ 0.๖๘ มากที่สุด ๕. การตอบข้อซกั ถามในการฝึกอบรม 4.๓๖ 0.๕๖ มากทส่ี ดุ เฉล่ีย 4.๓๙ 0.5๕ มากที่สดุ ดา้ นสถานที่ / ระยะเวลา / อาหาร ๑. สถานทส่ี ะอาดและมีความเหมาะสม ๓.๙๖ ๐.๙๒ มาก ๒. ความพร้อมของอปุ กรณ์โสตทัศนปู กรณ์ ๓.๘๙ ๐.๖๓ มาก ๓. ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม ๓.๘๒ ๐.๖๑ มาก ๔. อาหารมคี วามเหมาะสม ๓.๙๖ ๐.๕๘ มาก เฉลย่ี ๓.๙๑ ๐.๔๖ มาก

๔๗ รายการ X S.D. ระดับ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ๒.๔๓ ๐.๕๗ นอ้ ย 1. ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองน้ีกอ่ นการอบรม ๓.๗๙ ๐.๔๒ มาก 2. ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองนี้หลังการอบรม ๓.๓๐ ๐.๓๖ ปานกลาง เฉล่ยี 3.95 0.51 มาก ดา้ นการนำความรู้ไปใช้ 3.80 0.62 มาก 1. สามารถนำความรทู้ ี่ไดร้ บั ไปประยกุ ต์ใช้ในการปฏบิ ตั ิงานได้ 3.65 0.59 มาก 2. มคี วามม่ันใจและสามารถนำความรทู้ ไ่ี ดร้ ับไปใช้ได้ 3. สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่/ถา่ ยทอดได้ 3.80 0.50 มาก เฉลย่ี ๔.๐๖ ๐.๔๑ มาก รวมเฉลยี่ จากตารางที่ ๒๓ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ระดับ “มาก” ( X = ๔.๐๖ , S.D. = ๐.๔๑) โดยในด้านวิทยากร ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = ๔.๓๙ , S.D. = ๐.๕๕) ด้านสถานที่/ระยะเวลา/อาหาร ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๑ , S.D. = ๐.๔๖) ด้านความรู้ ความเข้าใจในภาพรวม อยู่ในระดับ “ปานกลาง” ( X = ๓.๓๐ , S.D. = ๐.๓๖) และด้าน การนำความร้ไู ปใช้ในภาพรวม อยู่ในระดบั “มาก” ( X = ๓.๘๐ , S.D. = ๐.๕๐) ตามลำดับ การฝึกอบรมวชิ าชา่ งเชื่อมโลหะ

๔๘ ๒.๓ โรงเรียนอู่ทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๙ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดหลักสูตรฝึกอบรมเสริมอาชีพ ได้แก่ การทำพวงกุญแจตุ๊กตา ไหมพรม กระเป๋าจากเส้นพลาสติก พวงกุญแจนกฮูก ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา และช่อบูเก้ด อกรวงผึ้ง ให้แก่นกั เรยี นระดับชนั้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย และระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระหวา่ งวันที่ ๒๔ และ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ รวมท้งั สน้ิ ๙๒๐ คน จากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมดังกล่าว มีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน ๙๒๐ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๐๐ ปรากฎผลดังน้ี ตารางที่ ๒๔ ข้อมูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มูลทั่วไป จำนวน รอ้ ยละ เพศ ๔๑.๒๐ ๕๘.๘๐ ชาย ๓๗๙ ๑๐๐.๐๐ หญิง ๕๔๑ รวม ๙๒๐ จากตารางที่ ๒๔ พบว่า มีผู้เรียนเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๙๒๐ คน เพศชาย ๓๗๙ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๑.๒๐ เพศหญิง ๕๔๑ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๘.๘๐ ตารางที่ ๒๕ ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรมเสริมอาชีพ รายการ X S.D. ระดบั ด้านวทิ ยากร มากที่สุด มากท่ีสดุ 1. การถ่ายทอดความรขู้ องวิทยากรมีความชดั เจน ๔.๗๙ 0.๔๘ มากที่สุด มากที่สดุ 2. ความสามารถในการอธิบายเนือ้ หา 4.๗๑ 0.๖๗ มากทส่ี ุด มากทส่ี ุด 3. การเชื่อมโยงเนอื้ หาในการฝกึ อบรม 4.๘๕ 0.๓๗ มากทส่ี ุด 4. มคี วามครบถว้ นของเน้ือหาในการฝกึ อบรม 4.๕๙ 0.๗๖ มากทส่ี ุด มากทส่ี ุด ๕. การตอบข้อซักถามในการฝึกอบรม 4.๘๕ 0.๔๑ มากที่สุด มากที่สุด เฉลี่ย 4.๗๖ 0.๒๕ มาก ด้านสถานที่ / ระยะเวลา / อาหาร มากทีส่ ดุ ๑. สถานที่สะอาดและมีความเหมาะสม ๔.๙๒ ๐.๒๗ มาก ๒. ความพรอ้ มของอุปกรณโ์ สตทศั นูปกรณ์ ๔.๗๙ ๐.๕๑ ๓. ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม ๔.๖๔ ๐.๗๕ ๔. อาหารมคี วามเหมาะสม ๔.๘๑ ๐.๔๙ เฉลี่ย ๔.๗๙ ๐.๒๘ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ 1. ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องนี้ก่อนการอบรม ๓.๕๖ ๑.๑๔ 2. ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องน้ีหลังการอบรม ๔.๘๔ ๐.๔๐ เฉล่ีย ๔.๒๐ ๐.๖๒

๔๙ รายการ X S.D. ระดับ ดา้ นการนำความร้ไู ปใช้ ๔.๘๐ 0.5๒ มากทีส่ ุด 1. สามารถนำความร้ทู ี่ไดร้ บั ไปประยุกต์ใชใ้ นการปฏบิ ัติงานได้ ๔.๘๐ 0.๔๕ มากทีส่ ุด 2. มีความมนั่ ใจและสามารถนำความรทู้ ี่ไดร้ ับไปใช้ได้ ๔.๗๓ 0.๔๖ มากท่ีสดุ 3. สามารถนำความร้ไู ปเผยแพร/่ ถา่ ยทอดได้ ๔.๘๖ ๐.๓๖ มากทส่ี ุด ๔. นักเรยี นมคี วามพงึ พอใจในการเข้ารบั การอบรมครงั้ นี้ ๔.80 0.๑๙ มากทส่ี ุด เฉลี่ย ๔.๖๔ ๐.๒๐ มากทส่ี ุด รวมเฉลีย่ จากตารางที่ ๒๕ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ระดับ “มากที่สุด” (X = ๔.๖๔ , S.D. = ๐.๒๐)โดย ด้านวิทยากร ในภาพรวมอยใู่ นระดบั “มากท่สี ุด” ( X = ๔.๗๖ , S.D. = ๐.๒๕) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านสถานที่/ระยะเวลา/อาหาร ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” (X = ๔.๗๙ , S.D. = ๐.๒๘) ด้านความรู้ ความเข้าใจในภาพรวม อยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๔.๒๐ , S.D. = ๐.๖๒) และดา้ นการนำความรไู้ ปใช้ ในภาพรวมอยใู่ นระดับ “มากทีส่ ุด” ( X = ๔.๘๐ , S.D. = ๐.๑๙) ตามลำดบั ฝกึ อบรมเสริมอาชีพการทำพวงกุญแจต๊กุ ตาไหมพรม กระเปา๋ จากเสน้ พลาสติก พวงกญุ แจนกฮูก ผลติ ภัณฑจ์ ากผักตบชวา และช่อบูเกด้ อกรวงผึ้ง

๕๐ ๒.๔ โรงเรยี นธรรมโชติศึกษาลัย สังกดั สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๙ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดหลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐานกับ อาชีวศึกษาและอุดมศึกษา รูปแบบกิจกรรมเสริมหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ในสายอาชพี เพ่ือเป็นการเพิ่มศักยภาพทางด้านอาชีพให้แก่ผู้เรียน ประกอบดว้ ย การทำอิฐบล็อก การทำ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน และการสานตะกร้าจากเส้นพลาสติกและเปลญวน ระหว่างวันที่ ๒๗ - ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๒ กลุ่มเป้าหมายนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ จำนวน ๗๙ คน และนักเรียนชั้น ปวช.๑ - ๒ จำนวน ๑๐๓ คน รวมทัง้ สิน้ ๑๘๒ คน จากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมการทำอิฐบล็อก และการทำ เฟอร์นิเจอร์ เครอ่ื งใช้ในบา้ น นักเรียนในระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ จำนวน ๗๙ คน ปรากฏ ดงั น้ี ตารางที่ ๒๖ ข้อมูลทว่ั ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มูลทั่วไป จำนวน ร้อยละ เพศ ๑๐๐.๐๐ ๐ ชาย ๗๙ ๑๐๐.๐๐ หญงิ ๐ รวม ๗๙ จากตารางที่ ๒๖ พบว่า มีผู้เรียนเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๗๙ คน เพศชาย ๗๙ คน คิดเป็น ร้อยละ ๑๐๐ ตารางที่ ๒๗ ความพึงพอใจการเข้าร่วมกจิ กรรมการทำอิฐบล็อก X S.D. ระดับ รายการ 3.94 0.25 มาก 3.84 0.37 มาก ดา้ นการจดั กิจกรรม 3.97 0.16 มาก 1. ความพอใจในรูปแบบการจัดกจิ กรรม 3.96 0.19 มาก 2. ความพอใจในด้านสถานท่ีจัดกิจกรรม 3.87 0.33 มาก 3. ความพอใจต่อครูผู้สอน 3.92 0.16 มาก 4. ความพอใจในการบริการและการอำนวยความสะดวก 5. ความพอใจในการมสี ่วนร่วมของนักเรียนทเ่ี ขา้ ร่วมกจิ กรรม 3.99 0.11 มาก 3.94 0.29 มาก เฉลี่ย 3.97 0.16 มาก ด้านกระบวนการ 3.99 0.11 มาก 6. นักเรียนมคี วามร้/ู ทกั ษะมากขนึ้ จากเดมิ 3.97 0.10 มาก 7. นักเรยี นมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรียนรู้ 3.94 0.12 มาก 8. การจดั กิจกรรมเนื้อหา สาระ ตรงกบั ความต้องการ ของนักเรยี น 9. นกั เรยี นนำความรทู้ ีไ่ ด้รบั ไปปรับใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ เฉลย่ี เฉล่ียรวม

๕๑ จากตารางที่ ๒๗ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๔ , S.D. = ๐.๑๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๒ , S.D. = ๐.๑๖) โดยนักเรียนพึงพอใจต่อครูผู้สอน ( X = ๓.๙๗ , S.D. = ๐.๑๖) การบริการ และการอำนวยความสะดวก ( X = ๓.๙๖ , S.D. = ๐.๑๙) และรูปแบบการจัดกิจกรรม ( X = ๓.๙๔ , S.D. = ๐.๒๕) ตามลำดับ ด้านกระบวนการ อยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๗ , S.D. = ๐.๑๐) โดย นักเรียน มีความรู้/ทักษะมากขึ้นจากเดิม ( X = ๓.๙๙ , S.D. = ๐.๑๑) นักเรียนนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ ในชีวติ ประจำวันได้ ( X = ๓.๙๙ , S.D. = ๐.๑๑) และการจัดกจิ กรรมเนื้อหา สาระ ตรงกับความต้องการ ของนกั เรียน ( X = ๓.๙๗ , S.D. = ๐.๑๖) ตามลำดบั การทำอฐิ บลอ๊ ก

๕๒ จากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝกึ อบรมทำเฟอรน์ เิ จอร์ เคร่ืองใช้ในบา้ น ปรากฏผล ดงั น้ี ตารางที่ ๒๘ ขอ้ มูลทว่ั ไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มูลท่ัวไป จำนวน รอ้ ยละ เพศ ๑๐๐.๐๐ ๐.๐๐ ชาย ๗๙ ๑๐๐.๐๐ หญงิ ๐ รวม ๗๙ จากตารางที่ ๒๘ พบว่า มีผู้เรียนเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๗๙ คน เพศชาย ๗๙ คน คิดเป็น รอ้ ยละ ๑๐๐ ตารางท่ี ๒๙ ความพึงพอใจการเขา้ ร่วมกจิ กรรมการทำเฟอรน์ ิเจอร์ เคร่อื งใช้ในบา้ น รายการ X S.D. ระดบั ด้านการจดั กจิ กรรม มาก มาก 1. ความพอใจในรูปแบบการจัดกิจกรรม 3.95 0.22 มาก มาก 2. ความพอใจในด้านสถานท่ีจดั กิจกรรม 3.81 0.39 มาก มาก 3. ความพอใจต่อครูผู้สอน 3.99 0.11 มาก 4. ความพอใจในการบริการและการอำนวยความสะดวก 3.94 0.25 มาก มาก 5. ความพอใจในการมสี ว่ นรว่ มของนักเรียนทเี่ ข้ารว่ มกิจกรรม 3.89 0.32 มาก มาก เฉล่ยี 3.91 0.13 มาก ด้านกระบวนการ 6. นักเรียนมีความรู้/ทกั ษะมากขึ้นจากเดมิ 4.00 0.00 7. นกั เรียนมีส่วนร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3.86 0.35 8.การจดั กิจกรรมเน้ือหา สาระ ตรงกับความต้องการของนักเรยี น 3.95 0.22 9. นกั เรียนนำความรูท้ ี่ไดร้ ับไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ 3.97 0.16 เฉลย่ี 3.95 0.10 เฉลีย่ รวม 3.93 0.09 จากตารางที่ ๒๙ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๓ , S.D. = ๐.๐๙) เมื่อพิจารณาเป็นรายดา้ น พบว่า ด้านการจัดกิจกรรม อยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๑ , S.D. = ๐.๑๓) โดย นักเรียนพึงพอใจต่อครูผู้สอน ( X = ๓.๙๙ , S.D. = ๐.๑๑) รูปแบบ การจดั กิจกรรม (X = ๓.๙๕ , S.D. = ๐.๒๒) และ การบรกิ ารและการอำนวยความสะดวก ( X = ๓.๙๔ , S.D. = ๐.๒๕) ตามลำดับ ด้านกระบวนการ อยใู่ นระดบั “มาก” ( X = ๓.๙๕ , S.D. = ๐.๑๐) โดย นกั เรียนมี ความรู้/ทักษะมากขึ้นจากเดิม ( X = ๔.๐๐ , S.D. = ๐.๐๐) นักเรียนนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้ ( X = ๓.๙๗ , S.D. = ๐.๑๖) และการจัดกิจกรรมเนื้อหา สาระ ตรงกับความต้องการ ของนกั เรยี น ( X = ๓.๙๕ , S.D. = ๐.๒๒) ตามลำดบั

๕๓ การทำเฟอร์นิเจอร์ เคร่อื งใช้ในบา้ น

๕๔ จากการสอบถามความพึงพอใจของผ้เู ข้ารับการฝกึ อบรมการสานตะกรา้ เส้นพลาสตกิ และ เปลญวน ปรากฏผล ดงั นี้ ตารางท่ี ๓๐ ขอ้ มูลท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ขอ้ มูลท่ัวไป จำนวน รอ้ ยละ เพศ ชาย ๒๕ ๒๔.๒๗ หญิง ๗๘ ๗๕.๗๓ รวม ๑๐๓ ๑๐๐.๐๐ จากตารางที่ ๓๐ พบว่า มีผู้เรียนเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๑๐๓ คน แบ่งเป็น เพศชาย ๒๕ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๔.๒๗ เพศหญิง ๗๘ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๗๕.๗๓ ตารางที่ ๓๑ ผลการประเมนิ ความพึงพอใจของผูเ้ ข้ารบั การฝกึ อบรมเสริมอาชพี สานตะกรา้ เสน้ พลาสตกิ และเปลญวน รายการ X S.D. ระดบั ดา้ นวทิ ยากร 1. การถา่ ยทอดความรูข้ องวิทยากรมีความชดั เจน ๓.๙๕ 0.๒๒ มาก 2. ความสามารถในการอธิบายเนื้อหา ๓.๙๔ 0.๒๔ มาก 3. การเชอื่ มโยงเน้อื หาในการฝึกอบรม ๓.๙๐ 0.๓๐ มาก 4. มคี วามครบถ้วนของเนื้อหาในการฝกึ อบรม ๓.๙๖ 0.๑๙ มาก ๕. การตอบข้อซกั ถามในการฝกึ อบรม ๓.๙๑ 0.๒๘ มาก เฉลย่ี ๓.๙๓ 0.๑๐ มาก ด้านสถานที่ / ระยะเวลา / อาหาร ๑. สถานทส่ี ะอาดและมีความเหมาะสม ๓.๙๓ ๐.๒๕ มาก ๒. ความพร้อมของอปุ กรณโ์ สตทัศนูปกรณ์ ๓.๙๕ ๐.๒๒ มาก ๓. ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม ๓.๙๖ ๐.๑๙ มาก ๔. อาหารมคี วามเหมาะสม ๓.๙๒ ๐.๓๐ มาก เฉล่ีย ๓.๙๔ ๐.๑๓ มาก ด้านความรู้ ความเข้าใจ 1. ความรู้ ความเข้าใจในเรื่องน้ีก่อนการอบรม ๒.๖๒ ๐.๖๐ ปานกลาง 2. ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องน้ีหลังการอบรม ๓.๘๔ ๐.๓๖ มาก เฉลี่ย ๓.๒๓ ๐.๓๘ ปานกลาง ด้านการนำความรู้ไปใช้ 1. สามารถนำความรู้ท่ีได้รับไปประยกุ ต์ใชใ้ นการปฏบิ ัตงิ านได้ 3.95 0.๒๖ มาก 2. มคี วามมน่ั ใจและสามารถนำความรูท้ ไ่ี ดร้ บั ไปใชไ้ ด้ 3.8๒ 0.๓๙ มาก 3. สามารถนำความรไู้ ปเผยแพร่/ถ่ายทอดได้ 3.๘๘ 0.๓๒ มาก ๔. นกั เรียนมคี วามพึงพอใจในการเข้ารับการอบรมครง้ั นี้ ๔.๐๐ ๐.๐๐ มาก เฉลย่ี 3.๙๑ 0.๑๓ มาก รวมเฉลยี่ ๓.๗๖ ๐.๑๐ มาก

๕๕ จากตารางที่ ๓๑ พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ระดับ “มาก” โดย ด้านวิทยากร ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๓ , S.D. = ๐.๑๐) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านสถานที่/ระยะเวลา/อาหาร ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๔ , S.D. = ๐.๑๓) ด้านความรู้ ความเข้าใจ ในภาพรวม อยู่ในระดับ “ปานกลาง” ( X = ๓.๒๓ , S.D. = ๐.๓๘) และ ด้านการนำความรไู้ ปใช้ ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๓.๙๑ , S.D. = ๐.๑๓) ตามลำดับ การฝกึ อบรมสานตะกร้าเส้นพลาสติกและเปลญวน

๕๖ ๒.๕ โรงเรียนวัดบางสะแก (วิทยารังสรรค์) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต ๒ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพ สองพี่น้อง จัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพระยะสั้นที่เชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐานกับอาชีวศึกษา รายวิชาการเดินสายไฟฟ้าในบ้าน และรายวิชาพิมพ์ดีดไฟฟ้า ให้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ ระหว่างเดือน พฤษภาคม - กันยายน ๒๕๖๒ และจัดหลักสูตรฝึกอบรมทักษะพื้นฐานอาชีพ การปลูก มะเขือเทศเชอรี่ การแปรรูปอาหาร (ขนมกล้วย เผือกฉาบ ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล) ให้แก่นักเรียนระดับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ – มัธยมศึกษาปีที่ ๓ รวมทั้งสิ้น ๙๑ คน ระหว่างวันที่ ๓๑ สิงหาคม , ๑ -๘ กันยายน ๒๕๖๒ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ เริ่มตั้งแต่กระบวนการปลูก กระบวนการแปรรูป การวางแผนรูปแบบการจัดจำหน่าย โดยให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เกิดทักษะ สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่ อาชีพเสริมหรือเป็นอาชพี หลกั ได้ จากการสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมการฝึกอบรมทักษะพื้นฐาน อาชีพดังกลา่ ว ปรากฏผล ดังนี้ ตารางท่ี ๓๒ ผลการวเิ คราะห์ความพงึ พอใจของนกั เรียนทเี่ ข้าร่วมกิจกรรมฝกึ อบรมทักษะพ้นื ฐานอาชีพ รายการ X S.D. ระดบั มากที่สดุ 1. เน้ือหาความรทู้ ไี่ ดร้ บั 4.33 0.70 มากทสี่ ุด 2. กจิ กรรมสร้างบรรยากาศในการเรยี นรู้ทีแ่ ปลกใหม่ 4.42 0.60 มากท่ีสุด มากท่ีสุด น่าสนใจ มากที่สดุ มากทีส่ ุด 3. ชว่ ยทำใหน้ ักเรยี นสนุกสนานกับการเรียนรู้ 4.37 0.66 มากท่ีสุด มากท่ีสุด 4. ทำให้นักเรยี นมีทักษะพื้นฐานอาชีพ 4.66 0.72 มาก 5. นักเรียนมีความกระตอื รือร้นในการเรียนมากข้ึน 4.49 0.68 มากทส่ี ุด 6. อุปกรณ์ / สอ่ื การเรียนการสอน 4.25 0.67 7. สถานท่ใี นการเรียนรู้ทักษะพนื้ ฐานอาชพี 4.15 0.92 8. การถา่ ยทอดความรู้จากวิทยากร 4.58 0.60 9. ความรู้ทไ่ี ด้รบั สามารถนำไปถ่ายทอดให้ผอู้ ่ืนปฏบิ ตั ิตามได้ 4.01 0.79 10. สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวันได้ 4.31 0.72 รวมเฉลี่ย 4.36 0.49 มากทีส่ ุด จากตารางที่ ๓๒ พบว่า นักเรียนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรมทักษะพื้นฐานอาชีพ มีความพึงพอใจ ในภาพรวมอยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = 4.36 , S.D. = 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทำให้ นักเรียนมีทักษะพื้นฐานอาชีพ อยู่ในระดับ “มากที่สุด” ( X = 4.66 , S.D. = 0.72) การถ่ายทอดความรู้ จากวิทยากร อยู่ในระดับ “มากที่สุด” (X = 4.58 , S.D. = 0.60) นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน มากขึน้ อยู่ในระดับ “มากทสี่ ดุ ” (X = 4.49 , S.D. = 0.68) ตามลำดบั

๕๗ การเรียนการสอนการเดนิ สายไฟฟ้าในบ้าน การเรยี นการสอนวิชาพมิ พ์ดีดไฟฟ้า

๕๘ การปลูกมะเขือเทศเชอรร์ ี่

๕๙ การแปรรูปอาหาร (ขนมกล้วย เผือกฉาบ) การแปรรปู อาหาร (ถ่ัวลสิ งเคลือบน้ำตาล)

บทท่ี 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ กิจกรรมการจัดทำรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพจังหวัดสุพรรณบุรี “Suphanburi Model” มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ จังหวัด สุพรรณบรุ ี ทเ่ี นน้ อาชีพเปน็ ฐาน (Career-Based-Education) มีกิจกรรมการดำเนนิ งาน ดงั นี้ กิจกรรมที่ ๑ วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่ด้านทรัพยากรและศักยภาพของบุคลากรในพ้ืนท่ี เพื่อ หาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคด้านทรัพยากรและบุคลากร และแนวโน้มอาชีพใน ๕ กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลมุ่ อาหาร เกษตร และเทคโนโลยี กลมุ่ สาธารณสุขและเทคโนโลยกี ารแพทย์ กลมุ่ หุน่ ยนต์อจั ฉรยิ ะ และระบบเครื่องกล อิเล็กทรอนิกส์ควบคุม กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อ และ กลมุ่ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วฒั นธรรมและบริการทีม่ ีมลู คา่ สงู กิจกรรมที่ ๒ แสวงหาความร่วมมอื ภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิน่ และชมุ ชน เพ่ือสร้างการรบั รู้ ความเข้าใจในการดำเนินการรว่ มกบั หนว่ ยงานการศึกษา สถาบนั การศกึ ษา หนว่ ยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในจังหวัดสพุ รรณบุรี กิจกรรมที่ ๓ สรุปอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ และความต้องการของผู้เรียน จากแนวโน้มด้านอาชพี ๕ กลุ่มอาชพี โดยการสอบถามความคิดเห็นจากผเู้ รียน ครู บคุ ลากรทางการศึกษา และผูป้ กครอง เกยี่ วกบั กลุม่ อาชีพท่ีสนใจ ลักษณะการจัดการศึกษา/อบรม วนั เวลาในการจัดการศึกษา/ อบรม ความคิดเห็นตอ่ ประโยชน์ของหลักสูตรที่สนใจ และความต้องการหลังผา่ น/จบการศึกษาหรืออบรม ซึ่งกลุ่มอาชีพที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ กลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อ รองลงมา ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรม สร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง กลุ่มอาหาร เกษตร และ เทคโนโลยี กลุ่มสาธารณสุขและเทคโนโลยีการแพทย์ และกลุ่มหุ่นยนต์อัจฉริยะและระบบเครื่องกล อเิ ล็กทรอนกิ สค์ วบคุม ตามลำดับ กจิ กรรมท่ี ๔ ประสานความรว่ มมือจากสถาบนั การศึกษาในพื้นท่ี เพื่อเข้ารว่ มพฒั นารูปแบบ แนวทาง/หลักสูตรการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมดำเนินการ จำนวน ๙ แห่ง ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี วิทยาลัยการอาชีพสองพี่น้อง วิทยาลัยการอาชีพอู่ทอง วิทยาลัยสารพัดช่างบรรหาร-แจ่มใส สุพรรณบุรี วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี โรงเรยี นอู่ทอง โรงเรียนธรรมโชติศึกษาลัย และโรงเรยี นวัดบางสะแก (วทิ ยารังสรรค)์ กจิ กรรมที่ ๕ กำหนดรปู แบบแนวทาง/หลกั สตู รการจัดการศึกษาเพ่ืออาชีพ มีการดำเนนิ การ ๒ รูปแบบ คือ การพัฒนาบุคลากรด้านการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมวิชาชีพ และการเสริมสร้างศักยภาพ ผูเ้ รยี นด้านความรู้ ทกั ษะ และสมรรถนะ เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนรตู้ วั ตน รู้จักอาชพี และปพู น้ื ฐานด้านความรู้ ทกั ษะ และสมรรถนะด้านอาชีพ และมีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพที่ตนเองถนัดและสนใจ และเป็นข้อมูลประกอบ การตดั สนิ ใจศึกษาต่อในระดับทส่ี ูงข้ึน และ/หรือประกอบอาชพี กจิ กรรมที่ ๖ จดั ทำรายละเอียดหลักสตู ร และนำหลักสูตรไปใช้ มกี ารดำเนนิ การ ดงั น้ี ๑. การพฒั นาบคุ ลากรใหม้ ีความร้คู วามสามารถในการพัฒนาหลกั สตู รฝึกอบรมวชิ าชพี สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี จัดทำหลักสูตร “การออกแบบฝึกอบรมวิชาชีพ โดยประยุกตห์ ลัก Job Analysis” เพ่อื พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจในการ พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพ สามารถพัฒนาหลักสูตรและนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้

๖๑ อย่างมีประสิทธภิ าพ ผลจากการพฒั นาบคุ ลากรในครั้งนี้ ผู้เขา้ รบั การฝกึ อบรมได้พฒั นาหลักสูตรฝึกอบรม วชิ าชพี ที่เป็นการบูรณาการเนื้อหา รายวิชา ท้งั ในระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน อาชวี ศกึ ษา และอุดมศึกษา จำนวน ๕ สาขาวิชา ประกอบด้วย สาขาช่างยนต์ สาขาช่างเชื่อมโลหะ สาขานักออกแบบป้ายโฆษณา สาขาพนักงานขาย และสาขาธรุ กิจแปรรปู กล้วยน้ำว้าด้วยพลังงานแสงอาทติ ย์ ผลการประเมินความพงึ พอใจของผ้เู ข้ารบั การฝึกอบรมหลักสูตร “การออกแบบฝึกอบรม วิชาชีพ โดยการประยุกต์หลัก Job Analysis” พบว่า มีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับ “มาก” (X = ๓.๗๘ , S.D. = ๐.๔๑) ๒. การเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนด้านความรู้ ทักษะ และสมรรถนะตามความสนใจและ ความถนัดดา้ นอาชพี ดำเนินการ ดงั น้ี ๒.๑ วิทยาลัยสารพัดช่างบรรหาร-แจ่มใส สุพรรณบุรี จัดการเรียนการสอนหลักสูตร อาชีพระยะสั้น สาขาวิชางานไฟฟ้า งานอิเล็กทรอนิกส์ งานยานยนต์ งานคอมพิวเตอร์ และงานช่างเชือ่ ม เพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนต่อสายอาชีพให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนเทศบาล ๒ วดั ปราสาททอง โรงเรียนวัดพระธาตุ และโรงเรียนวดั ไผ่เกาะโพธ์ิงาม รวมท้งั สนิ้ ๔๘๐ คน ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนหลักสูตรอาชีพระยะสั้น พบว่า ผู้เรียน มีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพระยะสั้นในภาพรวม อยู่ในระดับ “มากที่สุด” (X = ๔.๓๑ , S.D. = ๐.๖๔) ๒.๓ วิทยาลัยการอาชีพสองพี่น้อง จัดหลักสูตรฝึกอบรมวิชาช่างเชื่อมโลหะให้แก่นกั เรียน ณ โรงเรียนบ้านละว้าวังควาย และโรงเรียนบ้านพุน้ำร้อน อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี มีจำนวน ๒๙ คน ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมวิชาช่างเชื่อมโลหะ พบว่า ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมมีความพึงพอใจในการเข้ารับการฝึกอบรมวิชาช่างเชื่อมโลหะในภาพรวมอยู่ในระดับ “มาก” ( X = ๔.๐๖ , S.D. = ๐.๔๑) ๒.๔ โรงเรียนอู่ทอง จัดหลักสูตรฝึกอบรมเสริมอาชีพ การทำพวงกุญแจตุ๊กตาไหมพรม กระเปา๋ จากเส้นพลาสติก พวงกุญแจนกฮูก ผลติ ภณั ฑ์จากผกั ตบชวา และชอ่ บูเก้ดอกรวงผึ้ง ใหแ้ ก่นักเรยี น ในระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย และระดบั ชน้ั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ รวมทง้ั ส้นิ ๙๒๐ คน ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมอาชีพ พบว่า ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมมีความพึงพอใจในการเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเสริมอาชีพ ในภาพรวม อยู่ในระดับ “มากทสี่ ุด” ( X = ๔.๖๔ , S.D. = ๐.๒๐) ๒.๕ โรงเรียนธรรมโชติศึกษาลัย จัดกิจกรรมเสริมอาชีพหลักสูตรสถานศึกษา การทำ อิฐบล็อก การทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน การสานตะกร้าเส้นพลาสติก และเปลญวน ให้แก่นักเรียน ระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย และระดับช้ันประกาศนียบัตรวชิ าชีพ รวมทั้งสิน้ ๑๘๒ คน ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการฝึกอบรมเสริมอาชีพ พบว่า ผู้เข้ารับ การฝึกอบรมมคี วามพึงพอใจในภาพรวม อยใู่ นระดับ “มาก” (X = ๓.๙๔ , S.D. = ๐.๑๒) ๒.๖ โรงเรียนวัดบางสะแก (วิทยารังสรรค์) จัดหลักสูตรฝึกอบรมทักษะพื้นฐานอาชีพ การปลูกมะเขือเทศเชอรี่ การแปรรูปอาหาร (ขนมกล้วย เผือกฉาบ ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล) เพื่อเพิ่มทักษะ พื้นฐานด้านอาชีพให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ - มัธยมศึกษาปีที่ ๓ รวมทั้งสิ้น ๙๑ คน และ ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพสองพี่น้อง จัดการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพระยะสั้นที่เชื่อมโยงการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐานกับอาชีวศึกษา ในรายวิชาการเดินสายไฟฟา้ ในบ้าน และรายวชิ าพิมพ์ดดี ไฟฟ้า

๖๒ ผลการประเมินความพึงพอใจของผูเ้ ข้ารับการอบรม พบว่า ผูเ้ ข้ารับการฝึกอบรมพึงพอใจ อยใู่ นระดับ “มากทสี่ ดุ ” (X = ๔.๓๖ , S.D. = ๐.๔๙) ข้อคน้ พบ จากการติดตามการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาที่ร่วมกิจกรรมการจัดทำรูปแบบแนวทาง การจัดการศึกษาเพื่ออาชีพจังหวัดสุพรรณบุรี “Suphanburi Model” ซึ่งกิจกรรมที่สถานศึกษาจัด มีหลายรูปแบบ เช่น การจัดหลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรเสริมอาชีพ และผู้เรียนมีทั้งประถมศึกษา มัธยมศึกษา และระดับอาซีวศึกษา ซึ่งพบว่า กิจกรรมที่จัดในระดับประถมศึกษา เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ ผู้เรียนรู้จักอาชีพ และวัดความสนใจในอาชีพ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้เรียน ร้ตู วั ตน รู้ข้อมูลด้านอาชีพ เปน็ การเปิดโลกทัศน์อาชีพใหก้ ับผู้เรียนและผู้ปกครอง ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย และอาชีวศึกษา เป็นกิจกรรมพฒั นาทักษะความสามารถดา้ นอาชพี และเตรียมสู่การประกอบอาชีพ หรือ ประกอบการตัดสนิ ใจในการศึกษาตอ่ อาจกล่าวได้ว่า กิจกรรมตามโครงการจัดทำรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ จังหวัดสุพรรณบุรี “Suphanburi Model” เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักอาชีพ รู้ตัวตน ความถนัด และความต้องการของตนเอง เป็นการปูพื้นฐานความรู้ ทักษะเพื่อการศึกษาต่อสายอาชีพ และเป็น แนวทางในการเสริมสร้างศกั ยภาพผเู้ รยี นเพ่ือมุ่งส่กู ารมีงานทำ/ประกอบอาชีพในอนาคต ขอ้ เสนอแนะ ๑. ควรส่งเสริม สนับสนุน ให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะอาชีพให้แก่ ผู้เรียน และ/หรือให้ผู้เรียนได้เข้าฝึกประสบการณ์ในสถานประกอบการ โดยดำเนินการในรูปแบบ ห้องเรียนอาชีพ หลักสูตรฝึกอาชีพระยะสั้น ทวิศึกษา ทวิภาคี ไตรภาคี Work Experience โครงงานฝึก อาชพี การเป็นผปู้ ระกอบการ เปน็ ต้น ๒. ควรส่งเสริมสถานศึกษาทุกสังกัดได้มีการพัฒนาหลักสูตรที่มีความต่อเนื่องเชื่อมโยง หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานกับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อปูพื้นฐานด้านความรู้และทักษะด้าน อาชพี ให้แกผ่ ู้เรยี น และเพ่ิมโอกาสใหผ้ เู้ รียนได้มที างเลอื กในการตัดสนิ ใจศึกษาต่อในสายอาชีพเพ่ิมมากขึ้น ๓. ควรส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดการศึกษารูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ โดย ความร่วมมอื ของสถานศึกษากับสถานประกอบการ ๔. สถานศึกษาควรทำความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ในการประเมิน ทดสอบ มาตรฐานฝีมือแรงงาน เพอ่ื เปน็ การเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพแกผ่ เู้ รยี น ๕. ควรมีการขยายผลการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพไปยังสถานศึกษาระดับ การศึกษาขั้นพืน้ ฐานในพื้นทีห่ ่างไกล เพื่อเป็นการเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนทีไ่ ม่ได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไดม้ ี ทักษะเพื่อการประกอบอาชพี

บรรณานกุ รม สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรฐั มนตรี. (๒๕๕๙). กกกกกกกกกกแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ีสิบสอง พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔. กกกกกกกกกกราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนท่ี ๑๑๕ ก (๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗). สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๐). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙. บริษทั พริกหวานกราฟฟิค จำกดั : กรงุ เทพมหานคร. สำนกั งานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและ กกกกกกกกกกสงั คมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตร.ี (พ.ศ. ๒๕๖๒). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐. กกกกกกกกกกเล่ม ๑๓๕ ตอนท่ี ๘๒ ก (๑๓ ตลุ าคม ๒๕๖๑). สำนกั บริหารงานการมัธยมศกึ ษาตอนปลาย สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. กกกกกกกกกก(๒๕๖๐). การขับเคลอ่ื นการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาไทย ๔.๐ เพือ่ การมีงานทำแหง่ ศตวรรษท่ี ๒๑. กกกกกกกกกกโรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกดั : กรงุ เทพมหานคร.

ภาคผนวก

๖๕

๖๖

๖๗

๖๘

๖๙

๗๐

๗๑

๗๒

๗๓

๗๔

๗๕

๗๖

คณะผ้จู ดั ทำ ที่ปรกึ ษา นายวีระ ทวสี ขุ ศึกษาธิการจงั หวัดสุพรรณบรุ ี วา่ ที่ ร.ต.นันตช์ ัย แกว้ สุวรรณ์ รองศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี ผูจ้ ัดทำ นักวิเคราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการพิเศษ นางสาวอรวรรณ คำมาก ศกึ ษานเิ ทศกช์ ำนาญการพเิ ศษ นางสาวปวณี า ธิติวรนนั ท์ ศกึ ษานเิ ทศก์ชำนาญการพเิ ศษ นางธันชนกย์ พลศารทลู นักวิเคราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการ นางสาวภูษณิศา หงษ์โต นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนปฏิบัตกิ าร นางศรีวดี ขนุ สะอาดศรี นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนปฏบิ ัตกิ าร นายสุภวจั น์ อบุ ลทศั นีย์ เจา้ พนักงานธุรการชำนาญงาน นางรสสคุ นธ์ ชมเจริญ บรรณาธิการกิจ นกั วิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพเิ ศษ นางสาวอรวรรณ คำมาก ศกึ ษานิเทศก์ชำนาญการพเิ ศษ นางสาวปวณี า ธิติวรนันท์ ออกแบบปก นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชำนาญการพเิ ศษ นางสาวอรวรรณ คำมาก

รายงานผลการดำเนินงาน การจดั ทำรปู แบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชพี จังหวดั สพุ รรณบุรี “Suphanburi Model” ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวัดสพุ รรณบุรี สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ก บทสรปุ สำหรับผูบ้ ริหาร การจัดทำรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพจังหวัดสุพรรณบุรี “Suphanburi Model” เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษาจังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ มีวัตถุประสงคเ์ พือ่ สรา้ งรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพือ่ อาชีพของจังหวัด สุพรรณบุรี ที่เน้นอาชีพเป็นฐาน (Career-Based-Education) มีกิจกรรมดำเนินงาน ๖ กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ ๑ วิเคราะห์ศักยภาพพื้นที่ด้านทรัพยากรและศักยภาพของบุคลากรในพื้นที่ กิจกรรมที่ ๒ แสวงหาความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น และชุมชน กิจกรรมที่ ๓ สรุปอาชีพท่ี สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ และความต้องการของผู้เรียน กิจกรรมที่ ๔ ประสานความร่วมมือจาก สถาบันการศึกษาในพื้นที่ กิจกรรมที่ ๕ กำหนดรูปแบบแนวทาง/หลักสูตรการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ กิจกรรมที่ ๖ จัดทำรายละเอยี ด และนำไปใช้ ผลการดำเนนิ งาน จากการดำเนินกิจกรรม ๖ กิจกรรมดังกล่าวข้างต้น ทำให้ได้รูปแบบแนวทางการจัด การศึกษาเพื่ออาชีพในการพัฒนาครู บุคลากรทางการศึกษา และการเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียน ด้าน ความรู้ ทกั ษะ และสมรรถนะตามความสนใจและความถนัดด้านอาชีพ ดงั นี้ ๑. หลักสูตรฝึกอบรม “การออกแบบการฝึกอบรมวิชาชีพ โดยการประยุกต์หลัก Job Analysis” ๒. หลักสูตรอาชีพระยะสั้น สาขาวิชางานไฟฟ้า สาขาวิชางานอิเล็กทรอนิกส์ สาขาวิชา งานยานยนต์ สาขาวชิ างานคอมพิวเตอร์ และสาขางานช่างเชอ่ื ม ๓. หลกั สตู รฝกึ อบรมวิชาช่างเชอ่ื มโลหะ ๔. หลักสตู รฝกึ อบรมเสริมอาชีพ การทำพวงกุญแจตุ๊กตาไหมพรม กระเป๋าจากเส้นพลาสติก พวงกญุ แจนกฮกู ผลิตภณั ฑ์จากผักตบชวา และชอ่ บเู กด้ อกรวงผึ้ง ๕. กิจกรรมเสริมหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรายวิชาเพิ่มเติมสายอาชีพ การทำอิฐบล็อก การทำเฟอร์นเิ จอร์ เครื่องใช้ในบา้ น การสานตะกรา้ จากเส้นพลาสติก และเปลญวน ๖. หลกั สตู รอาชพี ระยะสน้ั วชิ าการเดนิ สายไฟฟ้าในบ้าน และรายวิชาพิมพ์ดีดไฟฟ้า ๗. หลักสูตรฝึกอบรมทักษะพื้นฐานอาชีพ การปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ การแปรรูปอาหาร (ขนมกล้วย เผือกฉาบ ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล) จากการติดตามการจัดกิจกรรม พบว่า เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักอาชีพ รู้ตัวตน ความถนัดและความต้องการของตนเอง รวมทั้งเป็นการปูพื้นฐานความรู้ ทักษะ และเสริมสร้างศักยภาพ ใหแ้ กผ่ เู้ รียนเพอื่ การศกึ ษาตอ่ สายอาชีพ และมุง่ สกู่ ารมีงานทำ ข้อเสนอแนะ ๑. ควรส่งเสริม สนับสนุน ให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอนที่ส่งเสริมทักษะอาชีพให้แก่ ผู้เรียน และ/หรือให้ผู้เรียนได้เข้าฝึกประสบการณ์ในสถานประกอบการ โดยดำเนินการในรูปแบบ ห้องเรียนอาชีพ หลักสูตรฝึกอาชีพระยะสั้น ทวิศึกษา ทวิภาคี ไตรภาคี Work Experience โครงงาน ฝกึ อาชีพการเปน็ ผู้ประกอบการ เปน็ ตน้

ข ๒. ควรส่งเสริมสถานศึกษาทุกสังกัดได้พัฒนาหลักสูตรที่มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐานกับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อปูพื้นฐานด้านความรู้และทักษะด้านอาชีพให้แก่ ผู้เรียน และเพ่ิมโอกาสให้ผ้เู รียนไดม้ ที างเลือกในการตดั สนิ ใจศึกษาต่อในสายอาชพี เพ่ิมมากขน้ึ ๓. ควรส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดการศึกษา รูปแบบการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ โดย ความร่วมมือของสถานศึกษากับสถานประกอบการ ๔. สถานศึกษาควรทำความร่วมมือกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ในการประเมิน ทดสอบ มาตรฐานฝมี ือแรงงาน เพือ่ เปน็ การเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพแก่ผเู้ รียน ๕. ควรมีการขยายผลการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพไปยังสถานศึกษาระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานในพื้นทีห่ ่างไกล เพื่อเป็นการเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รียนทีไ่ ม่ได้เรียนต่อในระดับทีส่ ูงขึ้นไดม้ ี ทกั ษะเพื่อการประกอบอาชพี

คำนำ รายงานผลการดำเนินงาน การจัดทำรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ จังหวัด สุพรรณบรุ ี “Suphanburi Model” นี้ เป็นกิจกรรมหนึง่ ของโครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษาจังหวัด สพุ รรณบุรี ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งได้รบั การสนบั สนุนงบประมาณจากจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี การดำเนินกิจกรรม การจัดทำรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพ จังหวัด สุพรรณบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรูปแบบแนวทางการจัดการศึกษาเพื่ออาชีพของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่เน้นอาชีพเป็นฐาน (Career-Based-Education) ซึ่งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับ ความร่วมมือจากสถานศึกษาทุกสังกัดในจังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี วิทยาลัยการอาชีพสองพี่น้อง วิทยาลัยสารพัดช่างบรรหาร-แจ่มใส สุพรรณบุรี วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี วิทยาลัย การอาชีพอู่ทอง โรงเรียนอู่ทอง โรงเรียนธรรมโชติศึกษาลัย และโรงเรียนวัดบางสะแก (วิทยารังสรรค์) ในการร่วมพัฒนาหลักสูตรที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะพื้นฐานด้านอาชีพ และ สมรรถนะให้พร้อมต่อการประกอบอาชีพในอนาคต หรอื ศึกษาต่อสายอาชพี ในระดบั ที่สูงขึ้น สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี ขอขอบพระคุณผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้บริหารหน่วยงานการศึกษา สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ครูและบุคลากรทางการศึกษา และ ผู้มสี ว่ นเกี่ยวข้องทกุ ฝา่ ย ท่ใี หก้ ารสนับสนุนงบประมาณ ใหข้ ้อเสนอแนะ และใหค้ วามร่วมมอื ในการดำเนิน กิจกรรมตา่ ง ๆ จนสำเรจ็ ลลุ ่วงดว้ ยดี จึงขอขอบคณุ มา ณ โอกาสนี้ สำนกั งานศึกษาธกิ ารจังหวดั สุพรรณบรุ ี ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒

สารบญั หนา้ ก บทสรปุ สำหรับผบู้ ริหาร คำนำ ๑ บทที่ ๑ บทนำ ๑ ๒ ความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ ๒ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ ๒ เป้าหมายของโครงการ ๒ ระยะเวลาดำเนินการ ๓ ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั ๓ บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ียวข้อง ๖ ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ๑๒ แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ ๒๑ แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ ๒๙ การขับเคล่ือนการศึกษามธั ยมศกึ ษาไทย ๔.๐ เพ่ือการมีงานทำแหง่ ศตวรรษที่ ๒๑ ๒๙ บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ การ ๓๐ กิจกรรมท่ี ๑ วิเคราะหศ์ กั ยภาพพน้ื ที่ดา้ นทรัพยากรและศักยภาพของบุคลากร ๓๐ กิจกรรมที่ ๒ แสวงหาความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถน่ิ และชุมชน ๓๑ กจิ กรรมท่ี ๓ สรุปอาชพี ทส่ี อดคล้องกับศักยภาพพนื้ ที่ และความต้องการของผู้เรียน ๓๑ กิจกรรมที่ ๔ ประสานความรว่ มมือจากสถาบันการศกึ ษาในพน้ื ท่ี ๓๒ กิจกรรมท่ี ๕ กำหนดกรอบหลกั สตู ร ๓๓ กิจกรรมท่ี ๖ จดั ทำรายละเอียดหลักสูตร และนำหลกั สูตรไปใช้ ๖๐ บทท่ี 4 ผลการดำเนินงาน ๖๓ บทที่ 5 สรุปผล และขอ้ เสนอแนะ ๖๔ บรรณานุกรม ภาคผนวก

บทที่ 1 บทนำ ความเปน็ มาและความสำคัญของโครงการ การศึกษาเป็นรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ตลอดจนการยกระดับความพร้อมในทุกด้าน เพื่อให้ประเทศพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและมั่นคง สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล รัฐบาลจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและ ย่ังยืน จงึ กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศท่ีมีความ “มนั่ คง มงั่ ค่งั ย่ังยืน” เป็นประเทศ ที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันจะนำไปสู่การพัฒนาให้คนไทย มคี วามสขุ และตอบสนองต่อการบรรลุซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติในการที่จะพฒั นาคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ ระดับสูง และสร้างความสุขของคนไทย สังคมมีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม ประเทศสามารถ แขง่ ขันได้ในระบบเศรษฐกิจ ดงั น้ัน ในการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ถือได้ว่าเป็นทิศทางร่วมกันของคนไทยที่มุ่งเน้นการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพพลเมืองให้มี คุณภาพ ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศทุกด้านในระยะยาว การศึกษาและการเรียนรู้จึงเป็นยุทธศาสตร์ สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายโดย “ให้ทุกคนมีการศึกษาอย่างมีคุณภาพ อย่าง ทวั่ ถงึ อย่างเทา่ เทยี ม และทุกช่วงวัย” การวางรากฐานการพัฒนาประเทศไปสู่สังคมที่มีความสุขอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ได้กำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์และแนวทาง การพัฒนาประเทศในระยะ ๕ ปี เพือ่ วางรากฐานการพัฒนาประเทศไปสสู่ งั คมท่ีมีความสุข สอดคล้องตาม ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ที่เปน็ กรอบการพัฒนาประเทศในระยะยาว รวมทั้ง เร่งสร้างสังคมที่มีคุณภาพ โดยการขจัดอุปสรรคต่าง ๆ ที่มีต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลด ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตลอดจนการวางแผนการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน โดยทกุ ภาคสว่ นในสงั คมต้องร่วมมอื กนั เพือ่ ผลกั ดนั ใหเ้ กิดผลสมั ฤทธ์ิอย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๙ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ซ่งึ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญของแนวทางการขับเคลื่อนด้านการศึกษา โดยมุ่งเนน้ บูรณาการความร่วมมือ กับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงองค์กรประชาสังคม เพื่อให้การพัฒนาด้านการศึกษามีความ ต่อเน่ืองและเกิดความย่งั ยนื ในระยะยาวต่อไป รวมทั้งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และอตุ สาหกรรมไทยแลนด์ ๔.๐ ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นักเรียนระดับมัธยมศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ การเรียนสายอาชีพ โดยมุ่งหวังที่จะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งก็มีนักเรียนที่ประสบความสำเร็จได้เข้า เรียนต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัย และมีนักเรียนบางส่วนที่ไม่ประสบความสำเร็จ บางคน จำเป็นต้องเรียนตามที่ได้รับโควต้า หรือศึกษาต่อด้านที่ตนเองไม่ชอบ บางคนศึกษาต่อเพียงเพื่อให้ได้ ปริญญา แตเ่ ม่ือจบออกมากไ็ มส่ ามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใชใ้ นการประกอบอาชีพได้ ซ่ึงถือว่า เป็นการลงทุนท่ีไม่คุ้มค่า ภาพเดมิ ๆ นี้นอกจากจะแสดงถงึ ค่านยิ มของสังคมแลว้ ยังสะท้อนวา่ ทีผ่ า่ นมาการ จัดการศึกษาไมส่ อดคลอ้ งกับคนและบรบิ ทของพื้นที่ ดังนั้น ค่านิยมเกี่ยวกับการศึกษาต้องเป็นการพัฒนา

2 คุณภาพชีวิตตนเอง ที่สามารถต่อยอดเป็นการพัฒนาคุณภาพของสังคมและท้องถิ่น ตลอดจนตอบสนอง ความตอ้ งการของประเทศชาติ อันจะสง่ ผลตอ่ ปญั หาการไมม่ งี านทำในสังคมใหล้ ดลงและหมดไปในท่ีสดุ สำนกั งานศกึ ษาธิการจังหวัดสุพรรณบุรี เปน็ หนว่ ยงานสงั กดั สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ มีหนา้ ท่ีในการส่งเสรมิ สนบั สนนุ และดำเนนิ การเกี่ยวกับงานด้านวิชาการการศึกษา ทุกระดับและทุกประเภท และปฏิบัติภารกิจตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการตามที่ได้รับมอบหมาย เล็งเห็นความสำคัญของการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมถึงองค์กรประชาสังคม เพอ่ื ใหก้ ารพฒั นาด้านการศึกษามีความต่อเนื่องและเกิดความยั่งยืนใน ระยะยาวต่อไป รวมทั้งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและอุตสาหกรรมไทยแลนด์ ๔.๐ และคำนงึ ถึงปญั หาการจดั การศึกษาทผี่ ่านมา จงึ ไดจ้ ดั ทำโครงการนี้ขึ้น วตั ถุประสงคข์ องโครงการ เพอื่ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เนน้ อาชพี เปน็ ฐาน (Career Path) เปา้ หมายของโครงการ พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นอาชีพเป็นฐาน ระดับอุดมศึกษา ระดับอาชีวศึกษา และระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน อย่างน้อย ๓ หลักสตู ร ระยะเวลาการดำเนินโครงการ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ ๑. ผ้เู รยี นได้รบั การพฒั นาทักษะและสมรรถนะทีส่ อดคล้องกบั ความต้องการของตนเอง และ ตลาดแรงงาน ผปู้ ระกอบการ ๒. หลักสูตรที่พัฒนามีการบูรณาการเนื้อหาในรายวิชาในระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา และ การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน ๓. สถานศกึ ษาทกุ ระดับ ทุกสังกัด ประสานความร่วมมอื กนั ในการจดั การเรยี นการสอน โดย การบรู ณาการด้านบุคลากร งบประมาณ และวสั ดุอปุ กรณ์ในการจัดการเรียนการสอน

บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี ก่ยี วข้อง ๑. ยทุ ธศาสตรช์ าติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ วสิ ัยทัศนป์ ระเทศไทย “ประเทศไทยมีความม่นั คง มง่ั คงั่ ยงั่ ยนื เป็นประเทศพฒั นาแลว้ ดว้ ย การพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคติพจนป์ ระจำชาติว่า “มน่ั คง มั่งค่ัง ยั่งยืน” เพื่อสนองตอบต่อผลประโยชน์แห่งชาติ อันได้แก่ การมีเอกราช อธิปไตย การดำรงอยู่อย่างมั่นคง และ ย่ังยนื ของสถาบันหลกั ของชาตแิ ละประชาชนจากภัยคุกคามทกุ รูปแบบ การอยู่ร่วมกนั ในชาติอย่างสันติสุข เป็นปึกแผ่น มีความมั่นคงทางสังคมท่ามกลางพหุสังคมและการมีเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ความเจริญเติบโตของชาติ ความเป็นธรรมและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความยั่งยืนของฐาน ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร ความสามารถในการรักษา ผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยู่ร่วมกัน อยา่ งสันติประสานสอดคล้องกนั ด้านความมนั่ คงในประชาคมอาเซยี นและประชาคมโลกอย่างมีเกียรติและ ศกั ดศิ์ รี ความมั่นคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลง ท้ัง ภายในประเทศและภายนอกประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจก บุคคล และมีความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีการปกครองระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยว จิตใจของประชาชน มีระบบการเมืองทีม่ ั่นคงเป็นกลไกที่นำไปสู่การบริหารประเทศทีต่ ่อเนื่องและโปรง่ ใส ตามหลักธรรมาภิบาล สังคมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกำลังเพื่อพัฒนาประเทศ ชุมชนมีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่มั่นคง พอเพียงกับการดำรงชีวิต มีการออมสำหรับวัยเกษียณ ความมั่นคงของอาหาร พลังงาน และน้ำ มีที่อยู่อาศัย และความปลอดภัยในชีวิตทรพั ยส์ นิ ความมั่งคั่ง หมายถึง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีความยั่งยืน จนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมีสุขได้รับ ผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันมากขึน้ และมีการพัฒนาอย่างท่ัวถึงทกุ ภาคส่วน มีคุณภาพ ชีวิตตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ ไม่มีประชาชนที่อยู่ในภาวะความยากจน เศรษฐกิจใน ประเทศมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ทงั้ ในตลาดโลก และตลาดภายในประเทศเพื่อให้สามารถสร้างรายได้ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนมีการ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคตเพื่อให้สอดรับกับบริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนแปลงไป และประเทศ ไทยมีบทบาทที่สำคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นแฟ้นกับประเทศ ในภูมิภาคเอเชีย เป็นจุดสำคัญของการเชื่อมโยจงในภูมิภาค ทั้งการคมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทนุ และการทำธุรกิจ เพื่อให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีความสมบูรณ์ในทุนที่จะสามารถสร้าง การพัฒนาต่อเนื่องไปได้ ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็นเครื่องมือเครื่องจักร ทุนทางสงั คม และทุนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม

๔ ความยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของ ประชาชนให้เพมิ่ ขึน้ อย่างต่อเนื่อง ซง่ึ เปน็ การเจริญเติบโตของเศรษฐกจิ ท่ีอยู่บนหลักการใช้ การรักษาและ การฟื้นฟูฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อ สิ่งแวดล้อมจนเกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดม สมบูรณ์มากขึ้นและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีขึ้น คนมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอื้ออาทร เสียสละ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม รัฐบาลมีนโยบายที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างยั่งยืน และให้ความสำคัญกับ การมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสังคมยึดถือและปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงเพอื่ การพฒั นาอยา่ งสมดลุ มเี สถยี รภาพและยงั่ ยืน โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่งคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศ ในหลากหลายมิติ พัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ สร้างโอกาสและ ความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีภาครัฐของ ประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม โดยการประเมินผลการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบดว้ ย ๑) ความอยดู่ ีมสี ขุ ของคนไทยและสงั คมไทย ๒) ขีดความสามารถในการแขง่ ขัน การพฒั นาเศรษฐกจิ และการกระจายรายได้ ๓) การพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ยข์ องประเทศ ๔) ความเท่าเทยี มและความเสมอภาคของสงั คม ๕) ความหลากหลายทางชีวภาพ คุณภาพส่ิงแวดลอ้ ม และความยงั่ ยนื ของทรัพยากรธรรมชาติ ๖) ประสทิ ธิภาพการบริหารจัดการและการเข้าถงึ การใหบ้ รกิ ารของภาครัฐ ประเดน็ ยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยกระดับการพัฒนาให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมี ความม่ันคง ม่งั ค่งั ย่งั ยนื เปน็ ประเทศพัฒนาแลว้ ดว้ ยการพัฒนาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป้าหมายการพัฒนาประเทศข้างต้น จึงจำเป็นต้องกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาวท่ี จะ ทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัย ภายในและภายนอกประเทศในทุกมิตทิ ุกรูปแบบและทุกระดับ ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาค บริการของประเทศได้รับการพัฒนายกระดับไปสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพ่ิม และพัฒนากลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ที่จะสร้างและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของ ประเทศ เพื่อยกระดับฐานรายได้ของประชาชนในภาพรวมและกระจายผลประโยชน์ไปสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม คนไทยได้รับการพัฒนาให้เป็นคนดี เก่ง มีวินัย คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และมี ศักยภาพ ในการคิดวิเคราะห์ สามารถ “รู้ รับ ปรับใช้” เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง สามารถเข้าถึง บริการพน้ื ฐาน ระบบสวัสดิการ และกระบวนการยุติธรรมได้อยา่ งเท่าเทยี มกัน โดยไมม่ ใี ครถกู ทง้ิ ไวข้ ้างหลงั การพัฒนาประเทศในช่วงระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะมุ่งเน้นการสร้างสมดุลระหว่าง การพัฒนาความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ” โดยประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ชาติ

๕ ด้านการสรา้ งการเติบโตบนคุณภาพชวี ิตทเ่ี ป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม และยุทธศาสตรช์ าติด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐ โดยแตล่ ะยุทธศาสตร์มเี ปา้ หมายและประเด็นการพัฒนา ดงั นี้ ๑. ยุทธศาสตรช์ าติด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ คือ ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เครื่องมือเทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและ ภยั พบิ ตั ิไดท้ กุ รปู แบบ และทกุ ระดับความรนุ แรง ควบค่ไู ปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความม่ันคง ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการทั้งกับ ส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ ทั่วโลกบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการดำเนินการของยุทธศาสตร์ชาติ ด้านอืน่ ๆ ใหส้ ามารถขับเคลอื่ นไปได้ตามทศิ ทางและเป้าหมายทีก่ ำหนด ๒. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนา ที่มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด ๓ ประการ ได้แก่ (๑) “ตอ่ ยอดอดีต” โดยมองกลบั ไปทร่ี ากเหง้าทางเศรษฐกิจ อตั ลักษณ์ วฒั นธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และ จุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้าน อื่น ๆ นำมาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและ สังคมโลกสมัยใหม่ (๒) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐานของประเทศ ในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (๓) “สร้างคุณค่า ใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่ รวมถึงปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ที่รองรับอนาคต บนพื้นฐานของ การต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้ประเทศไทยสามารถ สร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับ การยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนชั้นกลาง และลดความเหลื่อมล้ำของคน ในประเทศได้ในคราวเดียวกนั ๓. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมาย การพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทย มีความพรอ้ มท้ังกาย ใจ สตปิ ัญญา มีพัฒนาการท่ีดรี อบด้านและมสี ขุ ภาวะท่ดี ีในทุกชว่ งวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบตอ่ สังคมและผู้อนื่ มัธยสั ถ์ อดออม โอบออ้ มอารี มวี ินัย รักษาศลี ธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาที่สามและ อนรุ กั ษ์ภาษาท้องถิ่น มนี สิ ัยรักการเรียนรู้และการพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทย ที่มีทักษะสงู เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอืน่ ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัด ของตนเอง ๔. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมาย การพัฒนาที่สำคัญที่ให้ความสำคัญกับการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่นมาร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทำ เพื่อส่วนรวม การกระจายอำนาจและความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้างความเขม้ แข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทย

๖ ท้งั ในมิตสิ ขุ ภาพ เศรษฐกิจ สงั คม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรท่ีมีคุณภาพ สามารถพ่ึงตนเองและ ทำประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการเข้าถึงบริการและ สวสั ดกิ ารทม่ี ีคณุ ภาพอยา่ งเป็นธรรมและทั่วถึง ๕. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเปน็ หนุ้ ส่วนความร่วมมอื ระหวา่ งกนั ทัง้ ภายในและภายนอก ประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการกำหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเป็นการดำเนินการบน พืน้ ฐานการเติบโตรว่ มกนั ไม่ว่าจะเปน็ ทางเศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม และคุณภาพชวี ิต โดยให้ความสำคัญกับ การสร้างสมดลุ ทง้ั ๓ ดา้ น อนั จะนำไปสู่ความย่ังยืนเพอื่ คนรนุ่ ต่อไปอย่างแท้จรงิ ๖. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐทีย่ ดึ หลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและ ประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาทหน่วยงาน ของรัฐที่ทำหน้าที่ในการกำกับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขัน มีสมรรถนะสูง ยึดหลัก ธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการทำงานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และ พร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการทำงานที่เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่า และปฏิบัติงาน เทยี บได้กับมาตรฐานสากล รวมทง้ั มีลักษณะเปิดกว้าง เช่อื มโยงถึงกนั และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามา มีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยทุกภาคส่วน ในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์ และสร้างจิตสำนึกในการปฏิเสธ ไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าท่ี จำเป็น มีความทันสมัย มีความเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำและเอื้อต่อ การพัฒนา โดยกระบวนการยุติธรรมมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และ การอำนวยความยุติธรรมตามหลักนิตธิ รรม ๒. แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ ความท้าทายที่เป็นพลวัตของโลกศตวรรษที่ ๒๑ ทั้งในส่วนที่เป็นแรงกดดันภายนอก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของบริบทเศรษฐกิจและสังคมโลก อันเนื่องจากการปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) การเปลี่ยนแปลงสู่อุตสาหกรรม ๔.๐ (The Fourth Industrial Revolution) การดำเนินงานเพื่อบรรลุ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ๒๕๗๓ (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน รวมทั้งผลกระทบของการเป็นประชาคมอาเซียน และ ความต้องการกำลังคนที่มีทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ประกอบกับแรงกดดันจากภายในประเทศจาก การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่ส่งผลให้ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้น้ี การติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ทัศนคติ ความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรม และพฤติกรรมของ ประชากรที่ปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ส่งผลให้ ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลายและเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งระบบการศึกษาที่ยังมีปัญหา หลายประการ นับตั้งแต่ปัญหาคุณภาพคนไทยทุกช่วงวัย ปัญหาคุณภาพและมาตรฐานการจัดการศึกษา ในทุกระดับ จุดอ่อนของระบบการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ

๗ เทคโนโลยี และการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่ยังไม่เหมาะสม ขาดความคล่องตัว ยังมี ความเหลื่อมล้ำในด้านโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา รวมทั้งปัญหาด้านคุณธรรม จริยธรรม และ การขาดความตระหนักถึงความสำคัญของการมีวิจัย ความซอ่ื สตั ยส์ ุจริต และการมจี ติ สาธารณะของคน ไทยส่วนใหญ่ ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษาที่ตอ้ งปรับเปล่ียนให้สนองและรองรับความทา้ ทายดงั กล่าว จึงมีความสำเป็นที่ประเทศไทยต้องปฏิรูปการศึกษา เพื่อให้ระบบการศึกษาเป็นกลไกหลักของการ ขับเคลือ่ นประเทศ ภายใตร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ กรอบยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) และกรอบทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) เพื่อให้สามารถนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในอีก ๒๐ ปี ขา้ งหนา้ ผลการพัฒนาการศึกษาในช่วงปี ๒๕๕๒ – ๒๕๕๙ พบว่า ประเทศไทยประสบความสำเร็จ ในหลายดา้ น และมีอีกหลายดา้ นยงั เปน็ ปญั หาท่ตี ้องได้รบั การพัฒนาอยา่ งเรง่ ดว่ นในระยะตอ่ ไป ด้านโอกาสทางการศึกษา รัฐมีนโยบายส่งเสริมสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาค่อนข้างมาก ส่งผลให้ประชากรในวัยเรียน รวมทั้งเด็กด้อยโอกาสและผู้มีความต้องการจำเป็นพิเศษมีโอกาสได้รับ การศกึ ษาสูงขนึ้ แตย่ ังเขา้ เรียนได้ไม่ครบทุกคนและมีปัญหาการออกกลางคันอยู่บ้าง นอกจากนี้ประชากร ที่อยู่ในวัยกำลังแรงงานแม้จะได้รับการศึกษาเพิ่มขึ้น แต่จำนวนแรงงานที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับ มัธยมศึกษาตอนตน้ ยังมอี ยู่จำนวนมาก จึงต้องเรง่ ดำเนนิ การสนบั สนนุ ส่งเสริมการพฒั นาคนตลอดช่วงชีวิต และมีมาตรการต่าง ๆ ให้เด็กและประชาชนทุกช่วงวัยสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ มาตรฐานเพิ่มขึ้น เพื่อยกระดับการศึกษาของคนไทยให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ของประเทศ ด้านคณุ ภาพการศึกษา ผลการพฒั นายังไม่เป็นท่นี ่าพึงพอใจ เน่อื งจากผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีคะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก และต่ำกว่าหลายประเทศในแถบเอเชีย ส่วนประเด็นคุณธรรม จริยธรรมของเด็กและเยาวชนยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้น นอกจากนี้คุณภาพของ กำลงั แรงงานอายุ ๑๕ ปีขนึ้ ไป ยงั ไม่ตรงกับความตอ้ งการของตลาดงาน และผู้เรยี นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ประเภทอาชีวศึกษามีสัดส่วนน้อยกว่าประเภทสามัญศึกษา ทำให้มีการขาดแคลนแรงงานระดับกลาง ส่วนแรงงานที่สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษามีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ไม่ตรงกับความต้องการของ ตลาดงาน และยังมีสมรรถนะหรือคุณลักษณะอื่น ๆ ที่ไม่ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ ทำให้มีผู้ว่างงานอยู่จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้เรียนและกำลังแรงงานที่มี ทักษะ และคุณลักษณะที่พร้อมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของภาคส่วนต่าง ๆ โดยจะต้องมี การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคน เพื่อวางเป้าหมายการจัดการศึกษา ทั้งเพื่อการผลิตกำลังคนเข้าสู่ ตลาดงานและการพฒั นากำลังคนเพอ่ื ยกระดับคุณภาพกำลังแรงงานให้สูงข้ึน ด้านประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการ และการใช้จ่าย งบประมาณทางการศึกษา ซ่ึงเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและระบบการจัดการที่ต้องได้รับการปรับปรุงเป็น ลำดับแรก โดยเฉพาะการบริหารจัดการสถานศึกษาขนาดเล็กซึ่งมีอยู่จำนวนมาก เพื่อเพิ่มคุณภาพ การศึกษาและลดภาระงบประมาณ การใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการศึกษาซึ่งได้รับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบ กับประเทศอื่น ๆ แต่ใช้จ่ายเพื่อพัฒนาผู้เรียน พัฒนาการเรียนการสอน และพัฒนาครูค่อนข้างน้อย การพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศทางการศึกษาที่เชื่อมโยงกันเพื่อใช้ในการบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษาโดยเฉพาะสถานศึกษาขนาดเล็ก การส่งเสริมการมีส่วนร่วม

๘ ของทุกภาคส่วนในการจัดและสนับสนุนการศึกษาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ และปฏิรูประบบ การเงนิ เพ่ือการศกึ ษา แนวคิดการจัดการศกึ ษา แนวคิดการจัดการศึกษา (Conceptual Design) ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ยึดหลักการ แนวคิด ตอ่ ไปนี้ ๑. หลกั การจัดการศึกษา ๑) หลกั การจดั การศึกษาเพอ่ื ปวงชน (Education for All) เป็นการจัดการศึกษาเพื่อให้ประชาชนทุกคน ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงวัยมีโอกาสในการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้แต่ละบุคคลได้พัฒนาตาม ความพร้อมและความสามารถให้บรรลุขีดสูงสุด มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ใน การดำรงชีวิต และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม รวมทั้งมีสมรรถนะในการทำงานเพื่อการประกอบอาชีพ ตามความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศ อนั จะนำไปพัฒนาตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ แผนการศึกษาแหง่ ชาตจิ ึง ต้องกำหนดเป้าหมายการจัดการศึกษาที่ครอบคลุม โดยไม่ปล่อยปละละเลยหรือทิ้งใครไว้ข้างหลัง (No one left behind) ๒) หลักการจดั การศึกษาเพื่อความเทา่ เทยี มและท่ัวถงึ (Inclusive Education) เป็นการจัดการศึกษาสำหรับผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เรียนกลุ่มปกติ กล่มุ ด้อยโอกาสท่ีมีความยากลำบากและขาดโอกาสเนื่องด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจและภูมิสังคม ซ่ึงรัฐต้อง ดูแลจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษาสนับสนุนผู้เรียนกลุ่มนี้ให้ได้รับการศึกษาตามศักยภาพและ ความพร้อมอย่างเท่าเทียม กลุ่มที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ซึ่งหมายรวมกลุ่มผู้มีความบกพร่องทาง ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม อารมณ์ การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือร่างกายพิการ หรือทุพพลภาพ รวมทั้งบุคคลซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้หรือไม่มีผู้ดูแล รัฐต้องจัดให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิและโอกาสได้รับ การศึกษาร่วมกับเด็กปกติในกรณีที่สามารถเรียนได้ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดและปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นในสังคม หรือจัดให้เป็นพิเศษตามระดับความบกพร่อง นอกจากนี้ บุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ รัฐต้องจัดรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสมโดยคำนึงถึงความสามารถของ บุคคลนั้น ด้วยเหตุผลสำคัญคือบุคคลที่มีความสามารถพิเศษเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ หากจัด การศึกษารูปแบบปกติอาจทำให้ไม่สามารถพัฒนาบุคคลดังกล่าวให้มีความรู้ความสามารถตามศักยภาพ ของเขาได้ รัฐจงึ มีหน้าที่ลงทนุ ทางการศึกษาท่ีเหมาะสมสำหรบั การพัฒนาศกั ยภาพของคน แผนการศึกษา แห่งชาติจึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมการดูแลและพัฒนาบุคคล ทุกกลมุ่ เป้าหมายอย่างเท่าเทียมและท่วั ถึง ๓) หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) เป็นแนวทางการดำรงชีวิตและการประพฤติปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับ เพ่ือการดำรงชีวติ ในสังคมอยา่ งพอเพยี ง เทา่ ทนั และเปน็ สุข การศกึ ษาจึงต้องพฒั นาผเู้ รียนให้มีความรอบรู้ มีทักษะที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอก โดยยึดหลัก ความพอประมาณ ที่เป็นความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น มีการตัดสินใจที่มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เก่ียวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการกระทำน้ัน ๆ อย่างรอบคอบ และมภี มู คิ ้มุ กันที่ดีในตัว ซง่ึ เปน็ การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเปน็ ไปได้ของสถานการณต์ ่าง ๆ ที่คาดว่า

๙ จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล โดยใช้ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและ ความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต อดทน พากเพียร และ ใชส้ ติปญั ญาในการดำเนินชวี ิต ๔) หลกั การมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ นของสังคม (All for Education) การจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพให้กับประชาชนทุกคนเป็นพันธกจิ ที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของสังคมทุกภาคส่วน เนื่องจากรัฐต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากในการจัด การศึกษาที่ต้องครอบคลุมทุกช่วงวัย ทุกระดับการศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้วยรูปแบบวิธีการ ที่หลากหลาย สนองความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคลและสนองยุทธศาสตร์ชาติและ ความจำเป็นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐจึงต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนการมี ส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่นในการจัดการศึกษาโดยบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรต่าง ๆ จะได้รับการส่งเสริมให้เข้าร่วมจัดการศึกษา เสนอแนะ กำกับติดตาม และ สนับสนนุ การจัดการศกึ ษาในรปู แบบตา่ ง ๆ ตามความพร้อมเพือ่ ประโยชนข์ องสงั คมโดยรวม ๒. เป้าหมายการพฒั นาท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) เป็นเป้าหมายที่ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติจำนวน ๑๙๓ ประเทศ ได้ลงมติ รับรองในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจะใช้เปน็ วาระแห่งการพัฒนา ของโลกในอีก ๑๕ ปีข้างหน้า (ค.ศ. ๒๐๑๖ - ๒๐๓๐) มีทั้งหมด ๑๗ เป้าหมาย โดยเป้าหมายด้าน การศึกษา คือ เป้าหมายที่ ๔ สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและ เท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวติ แผนการศึกษาแห่งชาติจึงต้องพัฒนาคุณภาพและ ประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของประเทศ เพือ่ สร้างหลกั ประกันวา่ เดก็ ปฐมวัยทกุ คนจะได้รับการเตรียม ความพร้อมก่อนเข้าเรียนประถมศึกษา ทุกคนสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่มี คุณภาพและมีผลลัพธ์ทางการเรียนที่มีประสิทธิผล ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและ อดุ มศกึ ษาด้วยค่าใชจ้ ่ายทเี่ หมาะสมและมีคุณภาพ กำลงั แรงงานมที ักษะทจ่ี ำเปน็ รวมถึงทักษะทางเทคนิค และอาชีพสำหรับการจ้างงาน การมงี านท่ีดีและการเป็นผู้ประกอบการ กลุม่ ผูพ้ ิการและด้อยโอกาสเข้าถึง การศึกษาและการฝึกอาชีพทกุ ระดับอย่างเทา่ เทยี ม มกี ารเพ่มิ จำนวนครทู ่มี ีคุณภาพ เพื่อการศกึ ษาสำหรับ การพฒั นาอยา่ งย่งั ยืนและการมวี ิถีชีวิตที่ยง่ั ยืน ๓. ประเด็นภายในประเทศ (Local Issues) อาทิ คุณภาพของคนทุกช่วงวัย การเปลี่ยนแปลง โครงสร้างประชากรของประเทศ ความเหล่อื มลำ้ ของการกระจายรายได้ และวิกฤตดา้ นสงิ่ แวดล้อม ๔. ยุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) ซึ่งได้ กำหนดเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำ แผนงานต่าง ๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมายดังกล่าว กรอบยุทธศาสตร์ชาติ ครอบคลุมนโยบายการพัฒนาประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม ๔.๐ การสร้างขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (Growth & Competitiveness) การสร้างโอกาสบนความเสมอภาค และเท่าเทียมกันทางสังคม (Inclusive Growth) และการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ภาครฐั

๑๐ วสิ ยั ทศั น์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ (Vision) “คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และการเปล่ียนแปลงของโลกศตวรรษท่ี ๒๑” พันธกจิ ๑. พัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาท่ีคนไทยทุกคนเข้าถึงโอกาสในการศึกษาและ เรียนรู้ตลอดชีวิต สร้างความเสมอภาคด้านการศึกษาแก่ผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ยกระดับคุณภาพและ ประสิทธิภาพของการจัดการศึกษาทุกระดับ และจัดการศึกษาที่สอดคล้องและรองรับกระแส การเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษที่ ๒๑ ๒. พัฒนาคุณภาพของคนไทยให้เป็นผู้มีความรู้ คุณลักษณะ และทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ ๒๑ สามารถพฒั นาศักยภาพและเรียนรไู้ ดด้ ้วยตนเองอยา่ งต่อเนอ่ื งตลอดชีวติ ๓. สร้างความมั่นคงแก่ประเทศชาติ โดยสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และ สงั คมคุณธรรม จริยธรรมทีค่ นไทยทุกคนอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งปลอดภัย สงบสขุ และพอเพยี ง ๔. พัฒนาศักยภาพและความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศไทย เพอ่ื การก้าวข้ามกับดัก ประเทศรายได้ปานกลาง สู่การเป็นประเทศในโลกที่หนึ่ง และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยการเพิ่ม ผลิตภาพของกำลังแรงงาน (productivity) ให้มีทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดงานและการพัฒนาประเทศ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เป็นพลวัตของโลกศตวรรษที่ ๒๑ ภายใต้ ยุคเศรษฐกจิ และสงั คม ๔.๐ วัตถปุ ระสงคข์ องแผนการศกึ ษาแห่งชาติ (Objectives) ๑. เพอื่ พฒั นาระบบและกระบวนการจดั การศึกษาทมี่ ีคุณภาพและมปี ระสทิ ธภิ าพ ๒. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับ บทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย พระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ และยุทธศาสตรช์ าติ ๓. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และร่วมมือผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ๔. เพื่อนำประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำ ภายในประเทศลดลง เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายในการจัดการศึกษาดังกล่าวข้างต้น แผนการศึกษา แหง่ ชาตไิ ด้วางเปา้ หมายไว้ ๒ ดา้ น คอื เปา้ หมายด้านผูเ้ รยี น (Learner Aspirations) โดยมงุ่ พฒั นาผู้เรยี นทุกคนใหม้ ีคณุ ลักษณะและทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ (๓Rs๘Cs) ประกอบดว้ ย ทักษะและคณุ ลกั ษณะต่อไปน้ี ๓Rs ได้แก่ การอ่านออก (Reading) การเขียนได้ (Writing) และการคิดเลขเป็น (Arithmetics) ๘Cs ได้แก่ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross – cultural Understanding) ทักษะด้าน ความร่วมมอื การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะ

๑๑ ด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และการรู้เท่าทันสื่อ (Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning Skills) และความมีเมตตา กรุณา มวี ินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (Compassion) เป้าหมายของการจัดการศกึ ษา (Aspirations) แผนการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดเป้าหมายในระยะ ๒๐ ปี ไว้ ๕ ประการ ซึ่งมีตัวชี้วัด เพอื่ การบรรลเุ ปา้ หมาย ๕๓ ตัวชว้ี ดั ประกอบด้วย เปา้ หมายและตัวชีว้ ดั ทสี่ ำคญั ดงั น้ี ๑) ประชากรทกุ คนเข้าถึงการศึกษาทีม่ ีคุณภาพและมมี าตรฐานอยา่ งทัว่ ถึง (Access) - เดก็ ปฐมวยั มพี ฒั นาการสมวัย - ประชากรทุกคนมีโอกาสได้รับบริการทางการศึกษาตั้งแต่ปฐมวัยถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่าท่มี ีคณุ ภาพและมาตรฐาน - ประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงานได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถ และ สมรรถนะที่ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดงานและการพฒั นาประเทศ - ประชากรสูงวัยได้เรียนรู้ ฝึกฝนเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถ และทักษะเพื่อ การทำงานหรือการมชี วี ิตหลังวยั ทำงานอยา่ งมคี ณุ คา่ และเป็นสุข ตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น ประชากรกลุ่มอายุ ๖ – ๑๔ ปีทุกคนได้เข้าเรียนในระดับประถมศึกษา และมธั ยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเทา่ ที่รัฐต้องจัดให้ฟรี โดยไม่เก็บคา่ ใชจ้ ่าย ผู้เรยี นพิการได้รับการพัฒนา สมรรถภาพหรือบริการทางการศึกษาที่เหมาะสมทุกคน และประชากรวัยแรงงานมีการศึกษาเฉล่ียเพิ่มข้ึน เป็นต้น ๒) ผเู้ รยี นทุกกลมุ่ เป้าหมายไดร้ ับบริการการศกึ ษาอยา่ งเสมอภาคและเท่าเทยี ม (Equity) ผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มปกติ ผู้มีความสามารถพิเศษ ผู้มีความบกพร่อง ด้านต่าง ๆ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีภูมิหลังทางสังคมหรือฐานะทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันได้รับ โอกาสและการบรกิ ารทางการศกึ ษาอย่างเสมอภาคและเทา่ เทยี ม ตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น ผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกคนได้รับการสนับสนุน ค่าใช้จา่ ยในการศึกษา ๑๕ ปี เป็นต้น ๓) ระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนใหบ้ รรลขุ ีดความสามารถเต็มตาม ศักยภาพ (Quality) ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อพัฒนา คุณลักษณะ ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และสมรรถนะของแต่ละบุคคลให้ไปได้ไกลที่สุดเท่าที่ศักยภาพ และความสามารถของแต่ละบุคคลพึงมี ภายใต้ระบบเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้ สังคมแห่งปัญญา และ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ที่ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต มคี ุณธรรม จริยธรรมและสามารถดำรงชวี ิตได้อย่างเปน็ สขุ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตวั ชี้วัดทส่ี ำคัญ เช่น นกั เรยี นมีคะแนนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) แต่ละวิชาผ่านเกณฑ์คะแนนร้อยละ ๕๐ ขน้ึ ไปเพิม่ ข้นึ และคะแนนเฉล่ียผลการทดสอบโครงการ ประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Program for International Student Assessment : PISA) ของนักเรยี นอายุ ๑๕ ปสี งู ข้ึน เปน็ ตน้