Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติครู 16 มกราคม 2563

ประวัติครู 16 มกราคม 2563

Published by Napash.bie, 2020-02-03 02:56:50

Description: ประวัติครู 16 มกราคม 2563 เป็นหนังสือที่ยกย่องเชิดชูเกียรติคุณของครูผู้ล่วงลับไปแล้ว และเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งมีคุณลักษณะที่จะเป็นแบบอย่างให้ผู้ประกอบวิชาชีพครู โดยรวบรวมเป็นรูปเล่มหนังสือ มาตั้งแต่ปี 2500 เป็นต้นมา

Keywords: คุรุสภา, วิชาชีพครู, ประวัติครู

Search

Read the Text Version

ข้อมลู อ้างองิ ๑. สมดุ ประวตั ปิ ระจ�ำตวั สมาชกิ ชอื่ นายประยรู สรุ นวิ งศ์ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวัดอดุ รธานี หมายเลขทะเบียนท่ี ๑๑๕/๒๕๑๘ ทะเบยี นที่ ๑๒๖/๒๕๒๒ ทะเบียนท่ี ๑๓๑/๒๕๒๖ และ ทะเบียนที่ ๑๕๑/๒๕๓๑ ๒. ประวัติรองหัวหน้าพรรคของพรรคปวงชนชาวไทย (นายประยูร สุรนิวงศ์) ๓. บทความเรอื่ ง “ประยรู สรุ นวิ งศ์ : ผนู้ ำ� นกั ศกึ ษา ๒๕๐๐ - นกั คณติ ศาสตรก์ ารเมอื ง” โดย ปราโมทย์ นาครทรรพ เขียนลงในหนังสือพมิ พ์แนวหนา้ เมือ่ วนั ที่ ๑๔ มิถนุ ายน ๒๕๔๑ ๔. ประวตั ิโดยสังเขป นายเมธี สุรนวิ งศ์ บดิ าของนายประยรู สุรนิวงศ์ ๕. เรอื่ งแตเ่ กา่ กอ่ น เขยี นโดยนางมลั ลิกาและนางปญั ญา น้องสาวของนายประยรู สุรนวิ งศ์ ๖. ความเปน็ มา เขยี นโดยนายปณิธิ และนางสาวอรวชิ ชา สุรนวิ งศ์ บุตร ๗. สมั ภาษณร์ องศาสตราจารย์ วทิ ยา รงุ่ อดลุ พศิ าล ผเู้ คยเปน็ อธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั ราชภฏั พระนครศรอี ยุธยา ๘. สัมภาษณ์รองศาสตราจารย์ช�ำนิ สุนทราคม ผู้เคยเป็นอาจารย์คณะ วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ๙. สัมภาษณ์ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์อุกฤษณ์ ขาวเมอื งนอ้ ย ผูเ้ คยเปน็ อาจารยค์ ณะ วทิ ยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภฏั นครสวรรค์ ๑๐. สมั ภาษณ์นายปณิธิ สุรนิวงศ์ บุตร ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 97



นายสมเดช สีวงั ลาศ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๖๑ ครูผู้อุทิศตน ทุ่มเท เอาใจใส่ในหน้าท่ี ปฏิบัติ การสอนและงานอื่นท่ีได้รับมอบหมาย อย่างเต็มก�าลัง ‘ความสามารถ และยังเป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีจิตอาสา และเป็นครูผู้สนับสนุนนักเรียนเข้าแข่งขัน เพื่อส่งเสริมศักยภาพของนักเรียน อีกดว้ ย นายสมเดช สีวังลาศ เกิดเมื่อวันท่ี ๑๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๐๓ ทบ่ี า้ นเหลา่ นอ้ ย ตา� บลนาสนี วล อา� เภอพยคั ฆภูมิพสิ ัย จงั หวัดมหาสารคาม เปน็ บุตร คนที่ ๒ ของนายจันทร์ และนางทอง สีวังลาศ มีพ่ี ๑ คน คือ นางสายัณห์ ภักดีภาร มีน้อง ๒ คน คือ นางสมยงค์ พรจ�าศิลป์ และนางบุญเติม ไชยมาคา�

๑00 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายสมเดชเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ท่ีโรงเรียนบ้านเหล่าน้อย อ�ำเภอ พยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ใน พ.ศ. ๒๕๑๓ จบช้ันประถมศึกษาปีที่ ๗ ท่ีโรงเรียนชุมชนนาสีนวล อ�ำเภอเดียวกัน ใน พ.ศ. ๒๕๑๖ ด้วยความที่นายสมเดช เป็นคนสนใจในการเรียน อยากเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษา แต่โรงเรียนที่เปิดสอนในระดับน้ี อยหู่ ่างจากบา้ นเป็นระยะทางถงึ ๑๖ กโิ ลเมตร การคมนาคมสมัยน้นั ไมส่ ะดวก ประกอบกับ ฐานะทางบา้ นไม่เอ้อื อำ� นวย น้าของนายสมเดชซงึ่ เห็นความวิรยิ ะอตุ สาหะ ความต้งั ใจและ สนใจท่ีจะเรียนต่อของหลาน จึงรับไปอยู่ด้วยท่ีอ�ำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ท�ำให้ ไดเ้ รียนต่อจนจบช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ ทีโ่ รงเรยี นบรบอื วทิ ยาคาร ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ จากนัน้ ไดร้ บั ทนุ ไปเรยี นตอ่ ทว่ี ทิ ยาลยั ครมู หาสารคาม (มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม ในปจั จบุ นั ) ได้รับประกาศนยี บตั รวิชาการศึกษา (ป.กศ.) ใน พ.ศ. ๒๕๒๑ เม่ือเข้ารับราชการแล้ว ได้ศึกษาด้วยตนเองจนสอบได้ประโยคครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) ใน พ.ศ. ๒๕๒๖ จากนั้นไปศึกษาต่อท่ีวิทยาลัยครูมหาสารคาม ได้รับปริญญา ครศุ าสตรบณั ฑิต (ค.บ.) วิชาเอกการประถมศึกษา ใน พ.ศ. ๒๕๓๐ นายสมเดชเริ่มรับราชการ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๑ ในต�ำแหน่งครู ๑ ระดับ ๑ ท่ีโรงเรียนชุมชนนาสีนวล อ�ำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สอนที่โรงเรียนน้ี จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๖ ก็ย้ายไปสอนท่ีโรงเรียนบ้านเหล่าน้อย ซ่ึงเป็นโรงเรียนบ้านเกิดของ ตนเอง ด้วยความมุ่งม่ันที่จะพัฒนาโรงเรียนในชนบทให้มีความเจริญทัดเทียมกับ โรงเรียนข้างเคียง จนถึง พ.ศ. ๒๕๖๑ ระหว่าง ท่ีรับราชการเป็นครูอยู่นั้น นายสมเดชได้ปฏิบัติ ราชการเจริญก้าวหน้ามาตามล�ำดับ ต้ังแต่ เป็นครู ๑ ระดับ ๑ ต่อมาได้เลื่อนต�ำแหน่งเป็น ครู ๒ ระดับ ๒ เป็นอาจารย์ ๑ ระดับ ๓ อาจารย์ ๒ ระดับ ๕ อาจารย์ ๒ ระดับ ๗ ครูวิทยฐานะช�ำนาญการ และต�ำแหน่งสุดท้าย พ.ศ. ๒๕๕๒ ด�ำรงต�ำแหน่งครูวิทยฐานะ ช�ำนาญการพิเศษ แต่เนื่องจากสุขภาพไม่ แข็งแรงจึงได้ลาออกเม่ือวันท่ี ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 101

นายสมเดชเป็นครูท่ีดี อุทิศตน ทุ่มเทเอาใจใส่ในหน้าที่ ปฏิบัติการสอนและ งานอ่ืนที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มก�ำลังความสามารถ รับผิดชอบเป็นครูประจ�ำช้ัน ประถมศึกษาปีที่ ๖ เป็นผู้ฝึกสอนนักเรียนเพื่อเข้าร่วมแข่งขันกิจกรรมต่าง ๆ ในงาน ศิลปหัตถกรรมนักเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ ๖๓ ประจ�ำปีการศึกษา ๒๕๕๖ ที่จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร ได้รับรางวัลที่สร้างชื่อเสียงให้กับ โรงเรียนจ�ำนวนมาก อาทิ มนี กั เรยี นไดร้ ับรางวลั ดเี ด่น ในการแขง่ ขนั โปรแกรม Paint ระดับช้ัน ป.๔ - ป.๖ รางวัลชมเชย ระดับช้ัน ป.๑ - ป.๓ และได้รับรางวัลชมเชย ในการแขง่ ขันโปรแกรม PowerPoint ระดบั ชัน้ ป.๔ - ป.๖ เป็นต้น ในขณะเดยี วกนั กไ็ ดฝ้ กึ สอนนกั เรยี นเพอ่ื เขา้ แขง่ ขนั กระโดดเชอื ก ระดบั ชน้ั ป.๑ - ป.๓ ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง ในการแข่งขันมหกรรมและส่งเสรมิ ศกั ยภาพนักเรียนอกี ด้วย ผลงานท่ีปรากฏจากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน หรือ O-NET (Ordinary National Educational Test) ซึ่งเป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และ ความคิดของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ ประเมินตามมาตรฐานการเรียนรู้ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ปรากฏว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี กลุ่มสาระ สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมของโรงเรียน บ้านเหล่าน้อย พ.ศ. ๒๕๕๖ สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๗ กลุ่มสาระ การงานอาชพี และเทคโนโลยี สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ และ พ.ศ. ๒๕๕๘ กล่มุ สาระ การเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ สูงกวา่ คา่ เฉลยี่ ระดบั ประเทศ งานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย นายสมเดชได้ทุ่มเททั้งก�ำลังกาย ก�ำลังสติปัญญา ให้กับงานน้ัน ๆ เพ่ือให้เกิดสัมฤทธ์ิผลในงานอย่างสม่�ำเสมอตลอดมา เช่น รับผิดชอบ ดูแลระบบงานคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน คือ โปรแกรมระบบบริหารจัดการสถานศึกษา (School Management Information System (SMIS)) โปรแกรมสำ� นกั งานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (Office of Basic Education Commission (OBEC)) การจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล ผ่านระบบ DMC (Data Management Center) เปน็ ตน้ นอกจากรบั ผดิ ชอบงานคอมพวิ เตอรข์ องโรงเรยี นแลว้ นายสมเดชยงั ไดร้ บั มอบหมาย ใหเ้ ปน็ เจา้ หนา้ ทก่ี ารเงนิ ของโรงเรยี น เปน็ หวั หนา้ งานวชิ าการ รบั ผดิ ชอบงานสง่ เสรมิ ความรู้ ด้านวิชาการแก่ชุมชน ประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาอ่ืน 102 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยและวินัยนักเรียน เป็นผู้ริเริ่มโครงการออมทรัพย์ นักเรียน เป็นต้น โดยเฉพาะในปีการศึกษา ๒๕๕๐ นายสมเดชได้รับมอบหมาย ให้เปน็ ผ้ปู ระสานงานกับผ้นู �ำชุมชน ผปู้ กครองนักเรยี น ศษิ ยเ์ กา่ และผู้มจี ิตศรทั ธา จัดผ้าปา่ สามัคคเี พอ่ื การศึกษา สร้างห้องสมดุ โรงเรยี นไดเ้ ปน็ ผลส�ำเร็จ นายสมเดชเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนและมีจิตอาสา ยามใดที่ญาติมิตรและสังคม ต้องการความช่วยเหลือ นายสมเดชจะให้การช่วยเหลือเต็มก�ำลังความสามารถด้วย ความเต็มใจ ดังท่ี นายวันชัย เพ็ญนวลประเสริฐ เพ่ือนร่วมงานคนหน่ึงที่โรงเรียน บ้านเหลา่ นอ้ ย เขยี นค�ำไว้อาลยั เป็นบทสัมภาษณ์ ความตอนหน่งึ ว่า “ ระยะเวลาที่ร่วมงานกันมาเป็นเวลา ๒๘ ปี นายสมเดชเป็นคนมีจิตเมตตา จริงจัง และจริงใจ ทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงงานในการท�ำงานโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นท่ีปรึกษา ในด้านงานการสอนและเรื่องอื่น ๆ งานโครงการต่าง ๆ ของโรงเรียนและของชุมชนได้ เป็นอย่างดี ในช่วงระยะเวลา ๓ ปี ท่ีป่วยต้องเข้ารับการรักษาฉายแสงและให้คีโมเป็นระยะ ๆ แต่ก็ยังมาปฏิบัติหน้าท่ีตามปกติ (กลับจากการฉายแสงและคีโมไม่เคยลาพักผ่อน) จนกระท่ัง ”เดอื นกรกฎาคม เหน็ วา่ รา่ งกายทรดุ หนกั จึงไดล้ าออกเพือ่ พกั ผอ่ นอยู่ที่บา้ น จากแฟ้มสะสมผลงานของนายสมเดช มีบันทึกข้อความท่ีบ่งบอกถึงความรู้สึก นกึ คิดของนายสมเดชไว้เป็นทนี่ า่ สนใจ อาทิ แนวคิดในการท�ำงาน “ท�ำงานให้เต็มความรู้ความสามารถท่ีมีอยู่ในวันนี้อย่าง สมำ่� เสมอ โดยยึดม่นั ความถกู ต้องและความเปน็ ธรรม” วสิ ยั ทศั นใ์ นการทำ� งาน “ในชว่ งเวลาทเี่ หลอื ในการรบั ราชการครู ขา้ พเจา้ จะสรา้ ง ฐานะให้มั่นคง อบรมส่ังสอนลูกหลานให้มีความรู้และเป็นคนดี จะร่วมมือกับชุมชน ในการพัฒนาสงั คมที่อาศัยอยูใ่ หเ้ ปน็ สังคมท่เี ขม้ แข็ง สามารถพงึ่ ตนเองได้” ความมุ่งม่ันในการท�ำงาน “ถ้าท�ำงานทีส่ ร้างความรู้ความสามารถให้กับเด็กและ เยาวชน งานท่ีสร้างความสามัคคี ความเข้มแข็ง ความเจริญในชุมชนและสังคม ข้าพเจ้าจะสละเวลา สละความคิด และทุนทรัพย์บางส่วน ช่วยเหลืออย่างเต็มความรู้ ความสามารถ ดว้ ยความเต็มใจและจรงิ ใจ” ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 103

รางวัลและเกียรติคุณที่ได้รับการยกย่องมีจ�ำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นรางวัล ระดับจังหวัดและระดับภาค ซ่ึงเป็นผลงานสะท้อนไปท่ีตัวผู้เรียนดังได้กล่าวมาแล้ว ขา้ งตน้ ส่วนรางวัลระดับชาตทิ ่ีนายสมเดชภูมใิ จมาก คอื พ.ศ. ๒๕๕๔ ไดร้ บั เครอื่ งหมาย เชิดชูเกียรติ “หน่ึงแสนครูดี” จากส�ำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ในฐานะผู้ปฏิบัติตนตาม มาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณของวิชาชพี ทางการศึกษา เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้ันสูงสุดที่ได้รับพระราชทาน คือ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวตี ยิ าภรณ์มงกฎุ ไทย และเหรียญจักรพรรดมิ าลา นายสมเดชสมรสกับ นางสาวสุชีลา บุญถม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๗ มีบุตร ๒ คน คอื นางสาวชนม์ชนก และสิบต�ำรวจตรี กนกศิลป์ สวี งั ลาส นายสมเดชเป็นคนร่าเริง โอบอ้อมอารี มีความเสียสละ ชอบช่วยเหลือสังคม มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับของชุมชน แม้ระยะหลังมานี้ นายสมเดชจะมี สุขภาพไม่แข็งแรง เจ็บป่วยบ่อยคร้ังก็ตาม นายสมเดชก็ยังทุ่มเทชีวิตให้กับงานราชการ ท่ีรับผิดชอบ และช่วยเหลือสังคมเป็นประจ�ำ จนกระท่ังถึงแก่กรรมเมื่อวันท่ี ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วยโรคมะเร็งท่อน้�ำดี ท่ีโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย สิริอายุ ๕๘ ปี ๕ เดือน ๑๓ วนั นายยุทธชยั อตุ มา ผู้เรียบเรยี ง 104 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ข้อมูลอ้างอิง ๑. เอกสารประวัติและผลงานครูผู้ถึงแก่กรรม นายสมเดช สีวังลาศ ต�ำแหน่ง ครูวิทยฐานะช�ำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านเหล่าน้อย อ�ำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัด มหาสารคาม ๒. แฟ้มสะสมงาน นายสมเดช สีวงั ลาศ โรงเรยี นบา้ นเหลา่ นอ้ ย ๓. บทสมั ภาษณ์ นายวนั ชยั เพญ็ นวลประเสรฐิ เพอ่ื นรว่ มงานทโ่ี รงเรยี นบา้ นเหลา่ นอ้ ย อ�ำเภอพยคั ฆภูมิพิสยั จงั หวดั มหาสารคาม ๔. นางสชุ ีลา สีวังลาศ ภรรยา ผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 105



นายอศั วิน ภคู รองตา พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๖๒ ครูและนักบริหาร ผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค ในการเรียน พัฒนาตนเองจากครูสู่ผู้บริหาร และ ‘พัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ทีพ่ ร้อมสมบูรณส์ �าหรับนักเรยี นเสมอ นายอัศวิน ภูครองตา เดิมชื่อ บัวไข เกิดเม่ือวันท่ี ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๓ ที่ต�าบลอิต้ือ อ�าเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นบุตรคนท่ี ๔ ของนายบุ่น และนางดอกไม้ ภคู รองตา มพี ี่ ๓ คน คอื นายทองใบ (ถึงแกก่ รรรม) นางร�าไพ ค�าวิเชียร และนายวิชัย ภูครองตา (ถึงแก่กรรม) มีน้อง ๓ คน คือ นางบัวไหล จุดทะสิงห์ นายวิลยั และนายกิตติพิชญ์ ภูครองตา

๑08 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายอัศวินเรียนจบช้ันประถมศึกษาปีที่ ๗ ที่โรงเรียนดงบังวิทยา ต�ำบลหัวนาค�ำ อ�ำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ใน พ.ศ. ๒๕๑๖ จบช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ (ม.ศ. ๓) ท่ีโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร อ�ำเภอเดียวกัน ใน พ.ศ. ๒๕๑๙ สมัยน้ันต�ำบลอิต้ือ แห้งแล้งกันดาร อยู่ไกลจากตัวอ�ำเภอเกือบ ๒๐ กิโลเมตร นับว่าห่างไกลความเจริญ เป็นอยา่ งมาก ไม่มโี รงเรียนประจำ� ตำ� บล เด็ก ๆ ในต�ำบลน้ีจึงต้องไปเรียนในต�ำบลใกลเ้ คียง โดยเฉพาะทต่ี ำ� บลหวั นาคำ� ซงึ่ นายอศั วนิ กไ็ มไ่ ดย้ อ่ ทอ้ ตอ่ อปุ สรรค เพราะเปน็ ผมู้ นี สิ ยั รกั และ สนใจในการศกึ ษาหาความรู้ตลอดมา ประกอบกับมคี วามมุง่ มั่นอดทนและมีวริ ิยะอุตสาหะ สูงยิ่ง จึงท�ำให้สามารถเรียนจนจบชั้นประถมศึกษา ซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับตามเวลา ท่ีก�ำหนดได้ และนับว่าเป็นโชคดีของนายอัศวิน ที่ทางราชการได้เปิดโรงเรียนมัธยมประจ�ำอ�ำเภอ ข้ึนที่ต�ำบลยางตลาด อ�ำเภอยางตลาด ใน พ.ศ. ๒๕๑๓ แม้ขณะนั้นการคมนาคมจะเป็น อปุ สรรคใหญห่ ลวงในการเดนิ ทางไปโรงเรยี นกต็ าม แตก่ ไ็ มท่ ำ� ใหน้ ายอศั วนิ ตอ้ งเลกิ ลม้ ความตง้ั ใจแนว่ แน่ น้ันได้ ต่างจากเพ่ือนอีกหลายคนที่ต้องหยุดเรียน กลางคนั เม่ือจบชั้นประโยคมัธยมศึกษาตอนต้น แล้ว ได้ไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูมหาสารคาม (มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ในปัจจุบัน) ได้รบั ประกาศนียบตั รวิชาการศกึ ษา (ป.กศ.) ใน พ.ศ. ๒๕๒๑ ต่อมา เมอื่ เข้ารบั ราชการแล้ว ก็ได้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี จบครุศาสตรบัณฑิต (ค.บ.) ที่วิทยาลัยเดิม ใน พ.ศ. ๒๕๒๙ และศึกษาต่อระดับปริญญาโท จบศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศษ.ม.) ที่ มหาวิทยาลัยรามค�ำแหง ใน พ.ศ. ๒๕๔๘ นายอัศวินเริ่มรับราชการ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๒ในต�ำแหน่ง ครู ๒ โรงเรียน บ้านเลิงแฝก อ�ำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นโรงเรียนสังกัดองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๒๓ โรงเรียนบ้านเลิงแฝก โอนไปสังกัดส�ำนักงาน คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ซ่ึงต่อมา พ.ศ. ๒๕๒๖ นายอัศวินได้เล่ือนต�ำแหน่งเป็นอาจารย์ ๑ ด�ำรงต�ำแหน่งครูสายผู้สอนท่ีโรงเรียนเดิม จนกระทง่ั ถงึ พ.ศ. ๒๕๓๑ ตอ่ มาไดด้ ำ� รงตำ� แหนง่ เปน็ ครใู หญ่ ระดบั ๖ โรงเรยี นบา้ นโรงเลอ่ื ย ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 109

(ลีล้ อยอุทศิ ) ปจั จบุ นั คือ “โรงเรยี นบ้านไพศาล (ลี้ลอยอทุ ิศ)” สำ� นกั งานการประถมศึกษา อำ� เภอกดุ รงั จงั หวดั มหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๓๔ เปน็ ครใู หญ่ โรงเรยี นบา้ นศรอี รณุ อำ� เภอเดยี วกนั พ.ศ. ๒๕๓๙ เลื่อนต�ำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ ระดับ ๗ โรงเรียนบ้านเหล่าค้อ อ�ำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม พ.ศ. ๒๕๔๓ ด�ำรงต�ำแหน่งเดิมท่ีโรงเรียน บ้านหนองแดงสหมิตร อ�ำเภอเดียวกัน และ พ.ศ. ๒๕๔๖ เล่ือนเป็นผู้อ�ำนวยการ โรงเรียน ระดับ ๘ โรงเรียนบ้านห้วยแคนโนนสูง อ�ำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม ปฏิบตั ิราชการท่โี รงเรยี นนี้จนถึง พ.ศ. ๒๕๖๒ เพ่ือนของนายอัศวินหลายคน เขียนค�ำไว้อาลัยในหนังสือ “อนุสรณ์งาน พระราชทานเพลิงศพ ผอ.อัศวิน ภูครองตา” กล่าวถึงอุปนิสัยใจคอและบุคลิกที่ โดดเดน่ ของนายอัศวินไวแ้ ตกตา่ งกนั ไป อาทิ นายบัญญัติ ปรีพล ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนหนองแวงม่วง เพ่ือนร่วมรุ่น ป.กศ. ห้องเดยี วกัน วิทยาลัยครมู หาสารคาม กลา่ วว่า “เม่ือประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๙ หนุ่มสาว บ้านนอกต่างก็ใฝ่ฝันจะเข้าสถาบันแห่งหน่ึง นั่นคือ วิทยาลัยครูมหาสารคาม รวมท้งั หนุ่มบวั ไขคนนดี้ ว้ ย... เพอื่ นเกง่ อยู่ ๒ อย่างคอื เรยี นเก่ง และร้องเพลงเก่ง” 110 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ดอกเตอร์สวัสดิ์ สุวรรณศรี ผอู้ ำ� นวยการโรงเรียนบ้านหนองแวง กล่าววา่ “เป็นเพื่อนกันมาต้ังแต่เรียน ป.กศ. อยู่ วิทยาลัยครูมหาสารคาม... มาเจอกันอีกครั้ง ตอนสอบครูใหญ่ได้รุ่นเดียวกัน... ล่าสุด เรายังมาสอบได้อาจารย์ใหญ่รุ่นเดียวกันอีก อัศวินเป็นคนรักเพ่ือน มีความจริงใจ ขยัน ขนั แขง็ พดู น้อย รกั ครอบครวั ชอบสนั โดษ...” นางวัลลิณีย์ ชื่นชมภู เพื่อน รุ่นเดียวกันท่ีโรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร กล่าวเป็นร้อยกรองว่า “เพื่อนบัวไข ลูกยาง หล่นจากต้นใหญ่ เจริญงาม นามกระเด่ือง ในแดนไกล ช่วยพฒั นาเด็กไทยเป็นคนด”ี นายอภิสิทธิ์ กุลธวัชศิริ ประธานรุ่นเดียวกันที่โรงเรียนยางตลาดวิทยาคาร กล่าวว่า “เราเรียนน่ังโต๊ะเดียวกัน กินข้าวเท่ียงท่ีห่อด้วยใบตองแห้งมาจากบ้าน สถานที่ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ข้างหอประชุมด้วยกันเสมอ บัวไขเป็นคนตัวเล็ก แต่แข็งแรงมาก เรียนเก่ง ร้องเพลงเพราะ และช่วยสอนช่วยซ้อมให้ผมร้องเพลงเพ่ือสอบ ขับร้องจนคลอ่ ง...” นายเทียนทอง จันทรเจริญ เพื่อนอีกคนหน่ึง กล่าวว่า “เราอยู่บ้านเดียวกัน เรียนมาต้ังแต่ ป.๑ ถึง ม.ศ.๓ และยังไปเรียนครู ป.กศ. ท่ีวิทยาลัยครูมหาสารคาม... เราจ�ำได้ เพอ่ื นตักนำ�้ ให้พวกเราอาบทุกวนั ... จบ ป.กศ. กอ็ อกไปเป็นครูกอ่ น ...บัวไขเปน็ คนสขุ มุ พดู นอ้ ย เรยี นเกง่ ” จากค�ำกล่าวของเพื่อนร่วมรุ่นที่อ้างถึงข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่านายอัศวิน เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือผู้คนรอบข้าง เป็นคนขยันในการด�ำรงชีวิตและ การศึกษาเล่าเรียน มีความรับผิดชอบสูง อดทน ชอบร้องเพลง ร้องเพลงเพราะ และมีหลักวิชาในการร้องเพลงอีกด้วย แสดงว่าเป็นครูที่อารมณ์ดี ใจเย็น รัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้ก�ำลังใจแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า และเป็นผู้บริหารท่ีดี ให้ความช่วยเหลือเก้ือกูลแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาและเพ่ือนร่วมงาน มีวิสัยทัศน์ในการ บริหารงานในระดบั สูง ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 111

ดงั ท่ี นางกาญจนา ศรพี ระนาม นายกสมาคมผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาอำ� เภอกุดรงั กล่าวไว้อาลัยในหนงั สอื เล่มเดียวกันความว่า “ท่านเป็นอภิชาตบุตร เป็นสามีท่ีดีของภรรยา เป็นพ่อท่ีดีของลูก เป็นผู้ที่มี ความขยันหม่ันเพียร เสียสละ ประหยัด อดออม สร้างฐานะมั่นคงให้กับครอบครัว ด้วยความรัก ความเมตตา ...ด้านการงานในหน้าท่ี ผอ.อัศวิน ภูครองตา เป็นผู้ที่มี ความรู้ความสามารถในการบริหารโรงเรียนตามหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองท่ีดี ท�ำให้คณะครู นักเรยี น และชุมชน พึงพอใจในผลงาน และยงั ใชห้ ลกั ธรรมพรหมวิหาร ๔ ในการปกครอง ท�ำให้คณะครูให้ความรักความเคารพ นักเรียนในความปกครองของท่าน เปน็ เดก็ ทมี่ คี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ ...ดว้ ยความทที่ า่ นเปน็ ผทู้ มี่ คี วามรกั ความจรงิ ใจ จึงทำ� ให้ท่าน เปน็ กลั ยาณมติ รกับทกุ คน ร่วมทุกข์ร่วมสขุ กับเพอื่ น ตลอดจน เสียสละก�ำลังกาย ก�ำลังใจให้เพื่อนเสมอ แบบ “เราและนายไม่ท้ิงกัน” ด้วยอุปนิสัยท่ี เป็นคนจริง พูดตรง ๆ เป็นผู้ที่มีจิตอาสา และด�ำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ใช้ชวี ติ เรยี บงา่ ยและเป็นสมถะ ท่านจงึ เป็นท่ีรกั ของเพอื่ นทุกคน” ด้วยเหตุน้ี การบริหารสถานศึกษาในฐานะครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ และ ผูอ้ �ำนวยการโรงเรียนของนายอัศวินจงึ บงั เกดิ ผลงานมากมาย แยกเปน็ ด้าน ๆ ได้ดังน้ี 112 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ด้านบริหารงานท่ัวไป ได้จัดระบบงานโครงสร้างการบริหารงานทั่วไป เพ่ือให้การด�ำเนินงานมีระบบ จัดสภาพแวดล้อมให้มีความมั่นคง ได้ติดต้ังกล้องวงจรปิด เพ่อื ความปลอดภัยในโรงเรยี น ด้านการบริหารงานทางวิชาการ ได้จัดท�ำและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา อย่างต่อเน่ือง เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างเหมาะสม พร้อมกับจัดให้มี การพัฒนาส่ือนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา ได้นิเทศและประเมินผลการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง เพ่ือส่งเสริมและจัดการศึกษาให้กับผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยค�ำนึงถึง ความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อการพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ รวมท้ังจัดให้มี ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (Distance Learning Television (DLTV)) และการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Distance Learning Information Technology (DLIT)) ครอบคลุมทุกห้องเรียน พร้อมกับติดต้ังระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และมีห้องผู้ใช้งาน (User) ในการเรียนและค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ เพ่ือยกระดับและพัฒนาคุณภาพตามมาตรฐาน การศกึ ษาของสถานศึกษาให้เป็นทย่ี อมรับของชุมชน ด้านการบริหารงานบุคคล ได้วางแผนการบริหารงานบุคคลเพ่ือเสริมสร้าง ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากร โดยจัดท�ำมาตรฐานภาระงานของ ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 113

บุคลากรให้ชัดเจน พร้อมกับส่งเสริมสนับสนุนบุคลากรให้มีการพัฒนาอย่างต่อเน่ือง รวมทั้งได้สร้างขวัญก�ำลังใจอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ให้ครูมีความสุขกับการท�ำงาน ได้รับการพัฒนาตามความเหมาะสม มีความสามารถในการท�ำงาน และมีความสามัคคี ในหมคู่ ณะ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ได้จัดระบบงานให้ถูกต้องตามระเบียบ ติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบบัญชีและทะเบียนต่าง ๆ ให้ถูกต้อง และเป็นปัจจุบัน และเร่งรัดการเบิกจ่ายตามแผนปฏิบัติราชการประจ�ำปี รวมท้ังได้ ระดมทรพั ยากรเพอ่ื พฒั นาโรงเรยี นดา้ นตา่ ง ๆ ไดส้ รา้ งโรงอาหารใหมด่ ว้ ยเงนิ บรจิ าค เปน็ ตน้ ด้านอาคารสถานที่และสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ได้พัฒนาบริเวณโรงเรียน ซ่อมแซมปรับปรุงให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย จัดห้องเรียน ส่ิงแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ ป้ายต่าง ๆ ให้มีความน่าดู น่าอยู่ น่าเรียน พร้อมกับจัดกิจกรรมส่งเสริม ใหน้ ักเรยี นมีความรักในโรงเรียนของตน ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ได้จัดกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีเต็มรูปแบบ ฝึกความมีระเบียบวินัย มีจิตสาธารณะ มีส่วนร่วมในการท�ำงานเป็นทีม และมีความรู้ รักสามัคคีในหมู่คณะ ควบคู่ไปกับการฝึกคุณธรรมตามแนวทาง “โรงเรียนคุณธรรม” ฝึกให้นักเรียนน่ังสมาธิก่อนเข้าเรียน จนได้รับโล่รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ 114 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

การสวดมนต์หมู่สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ท�ำนองสรภัญญะ รางวัลการแข่งขัน ศิลปหัตถกรรมระดับชาติ คร้ังท่ี ๖๗ ของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมกับมีนักเรียน ของโรงเรียนบ้านห้วยแคนโนนสูง เข้าแข่งขันอ่านเอาเรื่องตามแนวทางการส�ำรวจ ระดับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment (PISA)) ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ – ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ไดร้ บั รางวลั เหรยี ญทอง (ชนะเลศิ ระดบั ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) อีกด้วย และโดยเฉพาะการจัดการเรียนระดับปฐมวัย มีการ จัดห้องเรียน สนามเด็กเล่น ที่เอื้อต่อพัฒนาการของเด็ก นับเป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครอง ใหค้ วามสนใจและพงึ พอใจ เปน็ อย่างมาก ความส�ำเร็จท่ีเกิดข้ึนจากความตั้งใจจริงของนายอัศวิน เป็นตัวอย่างที่ดีและ เป็นท่ีชื่นชมของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาตลอด ดังที่ นายชัยณรงค์ แสงค�ำ ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต ๓ กล่าวถึง นายอัศวินไว้ในหนังสือเล่มเดียวกันว่า “ท่านเป็นบุคคลท่ีมีความสามารถในการบริหาร โรงเรียน สร้างความส�ำเร็จให้แก่โรงเรียน บุคลากร นักเรียน และชาวบ้านได้อย่าง นา่ ภาคภูมใิ จ ทงั้ ในระดับจังหวัด ระดับเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา และระดบั ประเทศ” ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 115

รางวลั และประกาศเกียรตคิ ณุ ท่ไี ด้รบั ทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่ พ.ศ. ๒๕๔๗ เป็นบุคลากร ต้นแบบการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ของส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ช้ันสูงสุดท่ีได้รับพระราชทาน คือ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีตยิ าภรณ์มงกฎุ ไทย และเหรียญจกั รพรรดิมาลา นายอศั วนิ สมรสกบั นางสาวกุหลาบ ค�ำสา เมอื่ พ.ศ. ๒๕๒๕ มีบตุ ร ๒ คน คอื นางอัจฉรา ธัญญวิศษิ ฐ์ และ นายอภสิ ทิ ธิ์ ภูครองตา (ถงึ แก่กรรม) บ้ันปลายชีวิต ในระหว่างท่ีนายอัศวินด�ำรงต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการโรงเรียน บ้านห้วยแคนโนนสูง เร่ิมมีอาการเจ็บป่วย แต่ก็ยังปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ ภายหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคามได้พียง ๗ วัน ก็ถึงแก่กรรม ด้วยโรคปอดติดเชือ้่ เมอื่ วันท่ี ๒ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒ สริ ิอายุ ๕๘ ปี ๗ เดือน ๑๗ วัน นายยทุ ธชยั อุตมา ผเู้ รียบเรียง 116 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ขอ้ มลู อา้ งอิง ๑. หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ผอ.อัศวิน ภูครองตา ณ เมรุวัด ปา่ เลงิ นกเตน็ ตำ� บลเลงิ แฝก อำ� เภอกดุ รงั จงั หวดั มหาสารคาม วนั พฤหสั บดที ่ี ๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๒ ๒. เวบ็ ไซด์ “ผลงาน นายอศั วนิ ภคู รองตา ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี นบา้ นหว้ ยแคนโนนสงู ” - http://www.youtube.com/watch?v=miqUWyq๖๖Bw ๓. นางกุหลาบ ภูครองตา ภรรยา ผใู้ ห้ขอ้ มูลเพ่มิ เติม ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 117

ครูผ้รู ิเรมิ่ นาำ ความรู้ มาพฒั นาใหเ้ กดิ ผลสัมฤทธิ์ ตอ่ การศึกษาไทย ๑๑8 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ศาสตราจารย ดอกเตอรชยั อนันต สมทุ วณชิ ‘พ.ศ. ๒๔๘๗ - ๒๕๖๑ ผู้บริหารที่ปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอน กิจกรรมการพัฒนาครูและบุคลากรภายใต้บังคับบัญชา ตามพระบรมราโชวาท “ต้องการให้การศึกษาเป็น สิ่งเพลดิ เพลินสา� หรับเด็ก” ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ชัยอนันต์ สมุทวณิช เกิดเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๗ เป็นบุตรของ พลต�ารวจตรี ชนะ และนางส�าเหนียก สมุทวณิช มีน้องชาย ๑ คน คือ นายชัยสิริ สมุทวณิช สกุล “สมุทวณิช” เป็น นามสกุลพระราชทาน ล�าดับที่ ๑๙๐๓ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจา้ อยูห่ วั ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๑๑9

๑๒0 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

เริ่มการศึกษาครั้งแรกท่ีบ้านกับคุณย่า เม่ืออายุ ๔ ปี จากนั้นมาเข้าโรงเรียนประจ�ำ บา้ นป้าครู หรือครเู นยี้ น สโรชมาน ญาติทางมารดา ท่ีบา้ นพักครบู รเิ วณสนามหลังวชริ าวุธ วทิ ยาลัย หรอื ตึกอศั วพาหุ ในปัจจบุ ัน พ.ศ. ๒๔๙๓ เข้าศึกษาที่วชิราวุธวิทยาลัยในชั้นประถมปีที่ ๒ เน่ืองจากได้ ศึกษาวิชาชั้นต้น มีความรู้พื้นฐานเทียบเท่าช้ันประถมปีที่ ๑ แล้ว เป็นนักเรียนรุ่นแรก ของคณะเด็กเล็ก ๓ (คณะสราญรมย์ในปัจจุบัน) เม่ือเรียนช้ันมัธยมได้ย้ายฟาก ไปอยู่ที่คณะพญาไท จนจบชั้นมัธยมปีท่ี ๖ แล้วเดินทางไปศึกษาต่อช้ันมัธยมศึกษา ตอนปลายท่ีโรงเรียนเซนต์ออกุสตีน (St.Augustine) เมืองดาร์จีลิง (Darjeeling) ประเทศอินเดีย เรียนได้ไม่นานเกิดกรณีพิพาทระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ต้องกลับมา ศึกษาต่อที่วชิราวุธวิทยาลัย ในชั้นเตรียมอุดมศึกษา แผนกวิทยาศาสตร์ สอบผา่ นชน้ั ประโยคเตรยี มอดุ มศกึ ษา เขา้ ศกึ ษาตอ่ ในแผนกนติ ศิ าสตร์ คณะรฐั ศาสตร์ ปจั จบุ นั คอื คณะนติ ศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ๒ สอบขึน้ ชัน้ ปที ่ี ๒ ไดเ้ ปน็ ท่ี ๑ ของรุน่ ศาสตราจารย์ชัยอนันต์เรียนท่ีคณะรัฐศาสตร์ได้ปีเศษ สอบชิงทุนโคลัมโบได้ไปศึกษาต่อท่ีมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย แห่งเวลลิงตัน (Victoria University of Wellington) ประเทศนิวซีแลนด์ สำ� เรจ็ การศกึ ษา Bachelor of Arts (B.A.) กลับประเทศไทย ใน พ.ศ. ๒๕๐๙ เร่ิมทำ� งานทก่ี รมวเิ ทศสหการ ส�ำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทุนส�ำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่าง ประเทศสหรฐั อเมริกา (United States Agency for International Development : USAID) ศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (University of Wisconsin) สหรัฐอเมริกา ส�ำเร็จการศึกษารัฐศาสตร์มหาบัณฑิต ในเวลาเพยี ง ๑ ปี จากนน้ั ไดศ้ กึ ษาตอ่ ในระดบั ปรญิ ญาเอก ทมี่ หาวทิ ยาลยั เดิมโดยใชท้ นุ เดมิ สำ� เร็จการศกึ ษา Doctor of Philosophy ใน พ.ศ. ๒๕๑๔ ตอ่ มาได้รับ Certificate in Social Planning, United Nations Asian Institute ในระหวา่ งการเสนอหวั ขอ้ และทำ� วทิ ยานพิ นธ์ ไดเ้ ขา้ รบั ราชการเปน็ อาจารยป์ ระจำ� คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบนั บัณฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร์ (NIDA) ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้โอนเป็นอาจารย์ประจ�ำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นศาสตราจารย์ ระดับ ๑๐ และ ๑๑ ประจำ� คณะรัฐศาสตร์ ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๗ ตามลำ� ดับ ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 121

ศาสตราจารย์ชัยอนันต์มีผลงานวิชาการ บทความ ออกเผยแพร่อย่าง สม�่ำเสมอ เป็นท่ีปรึกษาและนักการเมืองท้ังในระบบรัฐสภา และกิจกรรมท่ีน�ำมาสู่ การเปล่ียนแปลงทางการเมือง เป็นหนึ่งในผู้ลงชื่อเรียกร้องรัฐธรรมนูญในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ร่วมรณรงค์เร่ืองนายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกต้ัง โดยใช้ทฤษฎีและเอกสารจดหมายเหตุเป็นรูปแบบการน�ำเสนอทางวิชาการ น�ำมาซ่ึงความเชื่อถือในแนวคิด ของตน เร่ิมจาก “แผนพัฒนาการเมืองฉบับแรก ของไทย : ค�ำกราบบังคมทูลของเจ้านายและข้าราชการให้เปล่ียนแปลงการปกครอง ร.ศ. ๑๐๓” ทีม่ มี าก่อนแนวคิดเปลยี่ นแปลงการปกครองของคณะราษฎร ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ได้คิดค้นทฤษฎีสังเคราะห์ สังคมไทย สร้างผลงานเขียนท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษกว่า ๑๐๐ รายการ อาทิ รัฐกับสังคมไทย : ไตรลักษณรัฐไทยในพหุสังคมสยาม (พ.ศ. ๒๕๓๓) แผนพัฒนาการเมืองฉบับแรกของไทย (พ.ศ. ๒๕๓๘) เมืองไทยในสิบปีข้างหน้า (พ.ศ. ๒๕๔๒) Thailand : State Building Democracy and Globalization (พ.ศ. ๒๕๔๕) ถา่ ยทอดผลงานวชิ าการท่เี กี่ยวกบั การเมือง การพฒั นาประชาธิปไตย และ การปฏิรูปการศึกษา เพื่อปลูกจิตส�ำนึกให้คนไทยตระหนักในเสรีภาพและประชาธิปไตย สันติภาพ ส่ิงแวดล้อม และคุณค่าทางวัฒนธรรม เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดการศึกษา 122 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

เพื่อสร้างพลเมือง (Civic Education) ส�ำหรับประเทศไทย ผลงานเขียนและกิจกรรม หลากหลาย แสดงถึงความส�ำคัญของ “การสร้างคน” ให้สนใจสังคมและการเมือง ดังคำ� กลา่ วทว่ี า่ “การเปน็ ครสู อนเดก็ ๆ ในโรงเรยี น คือความใฝ่ฝนั ” พ.ศ. ๒๕๓๙ ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ได้ด�ำรงต�ำแหน่งผู้บังคับการวชิราวุธ วิทยาลยั นับเปน็ นักเรยี นเก่าวชิราวธุ คนแรกทไ่ี ดเ้ ปน็ ผู้บังคับการ นน่ั คอื ผูร้ ับผิดชอบสงู สุด ในการดูแลจัดการวิทยาลยั เปน็ ทง้ั หัวหน้าฝา่ ยบรหิ าร ครใู หญ่ และผรู้ บั ใบอนญุ าตจัดการ โรงเรยี นที่ผ่านพระบรมราชานุมตั ิ วชริ าวุธวทิ ยาลัย เดมิ ชื่อ โรงเรียนมหาดเล็กหลวง เป็นสถานศกึ ษาในพระราชด�ำริ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้ังแต่วันท่ี ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ เพื่อการวางแผนจัดการศึกษาให้กุลบุตรชาวไทยในรูปแบบพับลิคสกูล (public school) ของประเทศอังกฤษ โดยพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สนับสนุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายใตก้ ารดูแลของกรมมหาดเล็ก ดังรายละเอียดในพระราชหัตถเลขาทพ่ี ระราชทานไปยงั มหาอ�ำมาตย์เอก เจ้าพระยาพระเสด็จสเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ซ่ึงผู้บังคับการทุกท่านได้น้อมน�ำมาปฏิบัติและปรับเปลี่ยน ให้เหมาะสมกบั ยคุ สมยั ตลอดมา “ส่ิงท่ีข้าพเจ้าต้องการในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงน้ัน มิใช่ว่าเพียงจะให้สร้างเด็ก ตัวอย่างให้มีมาตรฐานอันเดียวกันทั้งหมด คือ ให้เป็นเด็กมัธยมอันรุ่งโรจน์ แต่ละคน มคี ะแนนนับเปน็ พัน ๆ ไมล์ เช่นนนั้ หามิได้ ขา้ พเจ้า ต้องการท่ีจะสร้างคนหนุ่ม อันมีความสามารถ คนหนุ่มผู้ซ่ึงมีก�ำลังกายและใจใสสะอาด และเป็น ผู้ซึ่งเต็มใจคอยจะท�ำการหนักอันอนาคต จะพึง น�ำมาให้ไม่ว่าจะชนิดใด ข้าพเจ้าไม่ต้องการ ให้คนหนุ่มเป็นเสมือนอนุสาวรีย์แห่งการเล่าเรียน และได้ผ่านการสอบไล่ทั้งหมดของท่านด้วย เกียรตินิยมอย่างสูง ข้าพเจ้าไม่ต้องการเป็น ประหนึ่งต�ำราเดินได้ สิ่งท่ีข้าพเจ้าต้องการก็คือ ชายหนุ่มอันมีลักษณะผ่ึงผาย ซื่อตรง มีความสัตย์ มีนสิ ยั และความคิดบรสิ ทุ ธิ์สะอาด... ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 123

ทีโ่ รงเรยี นมหาดเลก็ หลวง ขา้ พเจ้า ต้องการจะให้การศึกษา มีความหมายว่า แปลงเด็กให้เป็นคนหนุ่มท่ีผึ่งผายและเป็น พลเมอื งดี และมใิ หน้ ำ้� หนกั ของหลกั สตู รบดขย้ี บคุ ลิกลกั ษณะของเขา และขา้ พเจา้ ตอ้ งการใหก้ ารศกึ ษา เป็นส่ิงเพลิดเพลินส�ำหรับเด็ก เพื่อว่า ในภายหน้า เขาเหล่าน้ัน จะได้หวนร�ำลึก ถึงชีวิตท่ีได้ผ่านมาเมื่ออยู่ในโรงเรียนว่า เปน็ ส่ิงสนกุ ขา้ พเจ้าไม่ต้องการใหเ้ อาโรงเรียนของขา้ พเจา้ ไปเปรียบเทยี บกับโรงเรียนอนื่ ๆ ซ่งึ มีจดุ ประสงค์ตา่ งกนั ถา้ ข้าพเจ้าต้องการโรงเรียนประเภทธรรมดาแล้ว ข้าพเจ้าก็คงจะได้ สร้างโรงเรยี นเช้ามาเยน็ กลบั หาใช่โรงเรยี นกนิ นอนไม”่ พ.ศ. ๒๔๖๙ ไดม้ พี ระบรมราชโองการโอนโรงเรยี นมหาดเลก็ หลวงเขา้ สงั กดั กระทรวง ธรรมการ กอปรกับรฐั บาลมีวตั ถปุ ระสงคร์ ่วมพัฒนาโรงเรยี นใหเ้ ป็นพระบรมราชานุสาวรยี ์ เชดิ ชพู ระเกยี รติ โดยใหม้ ที นุ ของโรงเรยี น มกี รรมการเปน็ ผจู้ ดั การโรงเรยี น และพระราชทาน นามใหม่ว่า “วชริ าวุธวิทยาลยั ” การเป็นผู้บังคับการโรงเรียนประจ�ำ ต้องเป็นทั้งครู นักบริหาร และนักปกครอง มีภาวะผู้น�ำสูง มีอุปนิสัย บุคลิกภาพ และมารยาทท่ีดี ประกอบกับการรู้เท่าทัน การเปล่ียนแปลง การมีวิสัยทัศน์ การรู้ภาษาต่างประเทศ การติดตามความก้าวหน้าของ นวัตกรรมทางการศึกษา การสอนให้เด็กมีระเบียบวินัย รู้จักปกครองตนเองและปกครอง กันเอง มอี สิ ระ ร้จู กั คิด รู้จักรับผดิ ชอบการกระทำ� ของตน รวมทง้ั การมคี วามสัมพันธอ์ ันดี กับผูป้ กครอง ด้วยความมุ่งมั่นในแนวทางการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองในสังคมไทย สังคมประชาธิปไตย ดังท่ีกล่าวข้างต้น ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ ผู้บังคับการวชิราวุธ วิทยาลัยคนที่ ๑๐ ได้พัฒนาให้ระบบการศึกษาแบบใหม่เป็นเหมือนน�้ำ เหมือนปุ๋ย ที่หล่อเลี้ยงเด็กรุ่นใหม่ ผู้สร้างสังคมใหม่ที่สมบูรณ์ให้กับแผ่นดิน โดยเริ่มต้นหว่านหน่อ พืชพันธุ์ใหม่ในแผ่นดินในแปลงเกษตรท่ีอุดมสมบูรณ์ในร้ัววชิราวุธวิทยาลัย ได้ปรับ แผนการศึกษาของสถาบัน เปล่ียนแปลงกระบวนการเรียนการสอน พัฒนาครูและ บุคลากรให้ทันกับความก้าวหน้าของโลก ร่วมกันส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนให้มี 124 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

แนวคดิ สร้างสรรค์ สนับสนุนการศกึ ษาอย่างเต็มศกั ยภาพ ม่งุ พฒั นาและปรบั ปรงุ คณุ ภาพ การศึกษาของวชิราวุธวิทยาลัยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่นเดียวกับ กีฬา ดนตรี และศาสนา กจิ กรรมส�ำคญั ท่ีพึงปฏบิ ัติ จัดเปน็ Way of Life กลา่ วคอื ช่วงเช้า จะเป็นการเรียนวิชาการ บ่ายโมงครึ่ง คือ เวลาเรียนดนตรีตามความถนัด ความสนใจ สโี่ มง - หกโมงเยน็ เป็นเวลาเลน่ กฬี า เป็นการเรียนรวู้ ถิ ชี วี ติ ของมนุษย์ อาทิ การเปน็ ทีม การเป็นสุภาพบุรุษ กีฬารักบี้ จะเป็นการเรียนรู้ถึงการปะทะกัน กระแทกกระทั้นกัน เม่ือเล่นตามกติกา เรยี นรู้การเป็นผู้รแู้ พ้ ร้ชู นะ และรู้อภยั ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ได้ปรับเปลี่ยน หลักสูตรการเรียนการสอน การพัฒนาครูและ บุคลากร ด้วยความเชื่อว่าความรู้เกิดจาก การสร้างในตัวเด็ก โลกของเด็กจะได้รับการ สร้างและพัฒนาต่อไปเร่ือย ๆ ตามประสบการณ์ ของเขาตามทฤษฎี Constructivism โดยน�ำ ทฤษฎีการศึกษา การเรียนรู้ที่สนับสนุนให้เด็ก ได้แสวงหาความรู้อย่างมีความสุข ปรับเปล่ียน กระบวนการเรียนการสอนในวชิราวุธวิทยาลัย ด้วยความเช่ือว่า “การเล่นเพ่ือรู้” เป็นวิธี ส�ำคัญในการพัฒนาเด็ก ศัพท์ Plearn (play + learn) เป็นการเปล่ียนการเรียน ต ล อ ด ชี วิ ต ใ ห ้ เ ป ็ น ก า ร เ พ ลิ น ต ล อ ด ชี วิ ต เ พื่ อ ด� ำ เ นิ น ต า ม ร อ ย พ ร ะ บ ร ม ร า โ ช ว า ท “ต้องการให้การศึกษาเป็นสิ่งเพลิดเพลิน ส�ำหรับเด็ก” ซึ่งเป็นกระบวนการที่วชิราวุธ วิทยาลัยใช้จัดการศึกษาก่อนการประกาศใช้ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มุ่งจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบใหม่ ให้นักเรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ เน้นให้มีความรู้ภาษาอังกฤษข้ันสูง เพือ่ ศกึ ษาเรยี นรใู้ นบางวชิ าด้วยภาษาองั กฤษ รวมท้งั ความสามารถในการใช้อนิ เทอรเ์ น็ต เพื่อสืบคน้ ข้อมูลไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ และรวดเร็ว ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 125

วชิราวุธวิทยาลัยมีการจัดพิมพ์หนังสือปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือให้ การศึกษาเป็นสิ่งที่เพลิดเพลินส�ำหรับเด็ก ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ให้ข้อคิด การปรับการเรียนเปล่ียนการสอน “ท�ำไม-อะไร-อย่างไร : Why-What-How” แนะให้ครูและเด็กรู้จักใช้และควบคุมทักษะการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ด้วยทักษะ ของตนเอง เพลินเพ่ือรู้ เป็นหน่ึงในรายช่ือหนังสือท่ีได้รับความนิยม ให้ท้ังแนวคิด และบันทึกประสบการณ์ การเรียนรู้ที่เพลิดเพลินเหมือนกับการจุดไฟ และ เมื่อไฟติดแล้ว ความเพลินก็เหมือนลมที่พัดไม่ให้ไฟมอดดับ รวมทั้งจัดแนวทาง การเรียนรู้รูปแบบใหม่ จัดหาผู้เช่ียวชาญ วิทยากรชาวต่างประเทศ อบรมและแนะน�ำ การสอนแก่ครูและบคุ ลากร ดงั เชน่ โครงการ Learning to Learn Computer in School กลุ่มผู้มผี ลสัมฤทธิ์สูง (Fast Track) มีความสามารถพิเศษดา้ นภาษา การใช้อนิ เทอร์เนต็ ในปีการศึกษา ๒๕๔๐ ได้จัดให้มีการสอนวิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อการเป็นสังคมความรู้ท่ีมีความคิด Know How และความคล่องแคล่ว มีการจัดสร้างตึกเวสสุกรรมสถิตให้เป็นอาคาร Art & Design Technology เน้นศิลปะการออกแบบและเทคโนโลยี ส่งเสริม ความสามารถเฉพาะตัว มีการดัดแปลงอาคารเรียนให้เป็นโรงละคร จัดหาครูสอนและ สนับสนุนการแสดงละครพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ ท้ังภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นประจำ� ทุกปี 126 ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

รวมทั้งปรับการเรียนในวันเสาร์เป็นการปฏิบัติกิจกรรมวันเสาร์ เปิดโอกาส ให้เด็กมีทางเลือก โดยมียุทธวิธีสอดแทรกความรู้ไปในกิจกรรม ดังค�ำกล่าวของ ผู้บังคับการ ที่ว่า “ผมเลิกเรียนวันเสาร์มา ๓ ปี ทดลองดูว่าให้เด็กเลือก ใครอยากท�ำ อะไรในโลกนี้ ใครอยากจะเรียนขี่ม้า หรือใครอยากนอนไม่อยากท�ำอะไรเลย ก็นอนไป แล้วแทนที่จะมีโปรแกรมว่า ศิลป์ค�ำนวณ ศิลป์ฝร่ังเศส เราเปิดทางเลือกให้ วันเสาร์ ไม่มีเรียน แต่ให้ครูกับเด็กมาร่วมกันศึกษาวัฒนธรรมและภาษาจีนแมนดาริน วัฒนธรรมและภาษาญี่ปุ่น วัฒนธรรมและภาษาเยอรมัน ก็มีเด็กกับครูเรียน เพราะฉะนั้น ๓ - ๔ ปีน้ี เราน่าจะมองได้ว่าวิชาใดน่าจะเป็นวิชาเลือกให้เขาเรียน แต่ถ้าบอกว่าเป็น วิชาเลอื ก มนั กลายเปน็ วชิ าไปแลว้ แตถ่ า้ เราบอกว่ากิจกรรมวนั เสาร์ ไมต่ ้องเรยี น ใครสนใจ กไ็ ป ทน่ี ี้พวกท่ีสนใจจะไปเอง” กิจกรรมวันเสาร์ได้รับการพัฒนาในหลักสูตรใหม่ของวิทยาลัย มีกิจกรรมและ ชมรมรวม ๒๘ ประเภท อาทิ ดนตรี กีฬา ลกู เสือรกั ษาดินแดน ถ่ายรปู และภาพยนตร์สน้ั หนังสือพิมพ์ อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมพิเศษ ค่ายธรรมชาติ การข่ีม้า และชมรมหนอนหนงั สอื กิจกรรมศาสนาเป็นแนวปฏิบัติที่เข้มแข็งและต่อเน่ือง นักเรียนวชิราวุธ ต้องถือปฏิบัติ การสวดมนต์เช้า - เย็น เป็นจริยธรรมที่ปฏิบัติ เพราะโรงเรียนคือ โรงเรียนประจ�ำ เป็นท้ังบ้าน วัด และโรงเรียน ซ่ึงวันอาทิตย์จะมีการฟังพระธรรมเทศนา เรียนรู้เร่ืองราชาศัพท์ และฝึกปฏิบัติวิชามหาดเล็ก ซ่ึงนักเรียนวชิราวุธมีโอกาส เข้าเฝา้ ร่วมงานพระราชพธิ ี และรบั เสดจ็ พระบรมวงศ์ชน้ั สงู เปน็ เนืองนจิ ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 127

กิจกรรมวิชาการ กิจกรรมวันเสาร์ และกิจกรรมกีฬา ดนตรี ศาสนา เป็น ภารกิจที่ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ มุ่งม่ันจัดการเรียนการสอนตามพระบรมราโชบาย ดังค�ำสัมภาษณ์ท่ีระบุว่า “ท่ีวชิราวุธ เราเน้นการสอนที่ไม่ได้สอนให้จ�ำ แต่สอน ให้ท�ำ น�ำให้คิด จัดเป็นแนวทางง่าย ๆ ที่มีมากับวชิราวุธนานแล้ว” คุณลักษณะ เด่นท่ีภาคภูมิใจของลูกวชิราวุธ คือ การศึกษา ดนตรี และกีฬา ที่นักเรียนทุกคนได้รับ การสอน ฝึกปฏิบตั ิ ให้มีการแบ่งปันกบั คนอ่ืน แบง่ เวลา และตรงต่อเวลา ศาสตราจารย์ชยั อนันตเ์ ปน็ “นักวิชาการ” ท่ีมีบทบาทในวงวิชาการและวงการเมือง แบบเชิงรุก ผู้สร้างนวัตกรรมต่าง ๆ อาทิ การกล่าวถึง globalization ที่มีผู้ใช้ค�ำว่า “โลกานุวัตร” ซึ่งไม่ตรงกับความหมาย จึงเสนอ ให้ราชบัณฑิตยสภาบัญญัติศัพท์เป็นภาษาไทย ว่า “โลกาภิวัตน์” ได้รับการแต่งตั้งให้ด�ำรง ต�ำแหน่งส�ำคัญทั้งในภาครัฐและเอกชนอย่าง ต่อเนื่อง อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ) สมาชิกวุฒิสภา ประธาน กรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ ทางรัฐศาสตร์ นายกสภามหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมาธิราช ท่ีปรึกษาส�ำนักงานปฏิรูปการศึกษา กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ท่ีปรึกษาพิเศษให้กับ องค์การสหประชาชาติร่วมจัดท�ำร่างรัฐธรรมนูญ ของราชอาณาจกั รกมั พชู า นายกราชบณั ฑติ ยสถาน กรรมการพฒั นาระบบราชการ สมาชกิ สภานติ ิบัญญตั ิแหง่ ชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้รับแต่งตั้งเป็นราชบัณฑิตประจ�ำส�ำนักธรรมศาสตร์และการเมือง สาขา วิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๒๕ ร่วมสร้างผลงาน ทางการเมืองการปกครอง อาทิ พจนานุกรม ศัพท์รัฐศาสตร์ สารานุกรมการเมือง การปกครองไทย ศัพท์บัญญัติวิชาการ ๒๙ สาขา ต่อมาได้รับเลือกเป็นอุปนายก ราชบัณฑิตยสถาน คนท่ี ๑ และนายกราชบัณฑิตยสถาน ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๘ - ๒๕๕๒ 128 ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ราชบัณฑิตยสถานในรูปแบบต่าง ๆ ท้ังในและต่างประเทศ จดั ประชุมเชงิ ปฏบิ ตั ิการทุกสองปี เกียรติคุณส�ำคัญท่ีท�ำให้ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ได้รับพระราชทานเหรียญ ดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา ประจ�ำปี ๒๕๔๐ สาขาสังคมศาสตร์ คือ การเป็น ที่ปรึกษาจัดท�ำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๘ ส่วนที่ ๗ และ ๘ การพัฒนาท่ีย่ังยืน โครงการศึกษาก�ำลังคนภาครัฐ ๑๐๐ ปี แห่งการปฏิรูประบบ ราชการ การพิจารณาสมรรถนะขององค์กรฝ่ายนิติบัญญัติ ส�ำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี และไตรลักษณรัฐกับการเมืองไทย ซึ่งเป็นผลงานท่ีได้รับการยอมรับ ในวงวิชาการ และปรากฏผลส่วนใหญ่เป็นท่ีประจักษ์ว่า ได้มีการน�ำไปสู่การปฏิบัติ จนเกิดประโยชนต์ ่อประเทศชาติ ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ได้รับการยกย่องเป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจ�ำปี ๒๕๒๙ สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สภาวิจัยแห่งชาติ รางวัลนักศึกษาเก่า ดีเด่นพร้อมดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ใน พ.ศ. ๒๕๔๒ รฐั ศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิตกติ ตมิ ศกั ดิ์ จากมหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดท่ีไดร้ บั พระราชทาน คือ มหาปรมาภรณ์ชา้ งเผือก มหาวชิรมงกุฎ ทุติยดิเรกคุณาภรณ์ เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาสังคมศาสตร์ และเหรยี ญจกั รพรรดิมาลา ศาสตราจารย์ชัยอนันต์สมรสกับ นางสาวสุภาธร สาครบุตร มีบุตร ๓ คน คือ นายพชร นางพลอย จริยะเวช และนายพลาย สมุทวณิช ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ถึงแก่อนิจกรรม ด้วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เม่อื วันท่ี ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สริ อิ ายุ ๗๓ ปี ๖ เดือน ๑๙ วัน นางสาวพฒุ สิ าร์ อัคคะพู ผู้เรยี บเรียง ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 129

ขอ้ มลู อ้างอิง ชยั อนนั ต์ สมทุ วณิช (๒๕๔๑) การปฏวิ ัตหิ ลกั สูตรการศึกษาไทย : จากแท่งหลกั สูตร สู่มณฑลของการเรียนรู้อยา่ งมบี รู ณาการ กรุงเทพฯ : วชิราวุธวิทยาลยั (๒๕๕๐) จากผบู้ งั คบั การ ๒๕๓๙ – ๒๕๔๙ กรุงเทพฯ : วชริ าวธุ วทิ ยาลัย (๒๕๔๒) เพลินเพอ่ื ร.ู้ กรงุ เทพฯ : พ.ี เพรส (๒๕๔๐) เพลิน-สมาธทิ ่ีสนุก : สติ.สมาธิ.ปัญญา. กรุงเทพฯ : วชริ าวุธวทิ ยาลัย ศาสตราจารย์ ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช ผู้บังคับการวชิราวุธ จาก จดหมายเหตุ วชิราวุธ (๓๙) ใน http://www.vajuravudh.ac.th/vc_Annals/vc_an nal39.htm สบื คน้ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๒ อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิช ม.ป.ช., ม.ว.ม. ราชบัณฑิต อดีตนายกราชบัณฑิตยสถาน ณ เมรุหน้าพลับพลา อิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร วันเสาร์ท่ี ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ โดยราชบัณฑติ ยสภา 130 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายพนสั สุวรรณะบณุ ย พ.ศ. ๒๔๖๖ - ๒๕๖๑ ครแู ละศกึ ษานเิ ทศก์ ผสู้ รรคส์ รา้ งแนวคดิ แนวทาง การพัฒนาการเรียนการสอนวิชาศิลปะและมีความรู้ ‘ความสามารถดา้ นศลิ ปะสูงยงิ่ ในทุกแขนง “เปน็ ครูและศอนอทีส่ ามารถการวาดภาพ ท้ังกลอนกาพยเ์ ล่นได้ใหก้ ล่าวขาน เป็นศิลปินโดยสายเลอื ดท่เี ชี่ยวชาญ โดยสบื สานสุวรรณะบุณยส์ กลุ ดี” คมคาย ณ หนองคาย ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๑๓๑

๑๓๒ ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายพนัส  สุวรรณะบุณย์  เกิดเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ ท่ีต�ำบล มหาชัย อ�ำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรรองอ�ำมาตย์ตรีสนัด และนางแพรศรี  สุวรรณะบุณย์ มีพี่ ๒ คน ซ่ึงถึงแก่กรรมแล้ว คือ พันเอก(พิเศษ) นร และนายพนม  มีน้อง ๑ คนคือ นายพินิจ  สุวรรณะบุณย์ โดยสกุล “สุวรรณะบุณย์” เป็นนามสกุลพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นตระกูล ศลิ ปินสืบต่อกนั มา การศกึ ษาเบือ้ งตน้ จบการศกึ ษาชน้ั ประถมปที ่ี ๓  ท่ีโรงเรยี นวดั จักรวรรดิ จังหวดั พระนคร ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ แล้วศึกษาต่อระดับมัธยม จบชั้นมัธยมปีที่ ๔ ท่ีโรงเรียน อ�ำนวยศิลป์ จังหวัดพระนคร ใน พ.ศ. ๒๔๗๙ จากน้ันได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียน เพาะช่าง จังหวัดพระนคร (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง) ส�ำเร็จได้รับประกาศนียบัตรประโยคครูมูลการช่าง (ป.ช.) ใน พ.ศ. ๒๔๘๑ และไดร้ บั ประกาศนยี บตั รประโยคครปู ระถมการชา่ ง (ป.ป.ช.) ใน พ.ศ. ๒๔๘๔ หลังเข้ารับราชการได้ศึกษาด้วยตนเองและสมัครสอบกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับ ประกาศนยี บัตรประโยคครมู ัธยมการช่าง (ป.ม.ช.) ใน พ.ศ. ๒๔๙๓ นายพนัสได้รับทุนของกระทรวง ศกึ ษาธกิ ารไปศกึ ษาดงู านทมี่ หาวทิ ยาลยั ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับ Certificate of Achievement in the Field of Practical and Industrial Arts. เม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๒ ได้ทุนไปศึกษาที่ มหาวทิ ยาลยั อลั เบอรต์ า้ ประเทศแคนาดา ไดร้ บั Graduate Diploma of Education in the Philosophy, Curriculum and Administration of Comprehensive high school. ใน พ.ศ. ๒๕๑๓ และ  พ.ศ. ๒๕๒๔  ศกึ ษาดงู านดา้ น Graphic Arts and Book Design ที่ Biological Science Curriculum Study (BSCS) รัฐโคโลราโด ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 133

นายพนัสเร่ิมเข้ารับราชการเป็นครูช้ันจัตวา ต�ำแหน่งครูโรงเรียนมัธยมวัดราชโอรส จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันคือ โรงเรียนวัดราชโอรส) ใน พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยเป็นครูสอน วิชาวาดเขียนและการฝีมือ จนถึง พ.ศ. ๒๕๐๐ ต่อมา พ.ศ. ๒๕๐๑ ขณะด�ำรง ต�ำแหน่งครูตรี กรมวิสามัญศึกษาได้แต่งต้ังให้เป็นครูประจ�ำกรม แล้วโอนมา ด�ำรงต�ำแหน่งศึกษานิเทศก์โท หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมวิสามัญศึกษา (ปัจจุบันคือ ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน) ในปีเดียวกัน โดยท�ำหน้าท่ีหัวหน้า ภาควชิ าศลิ ปศกึ ษา ฝา่ ยนเิ ทศงานปฏิบตั ิการสอน ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๖ ขณะด�ำรงต�ำแหน่ง ศึกษานิเทศก์เอก ได้ไปช่วยงานที่สถาบันส่งเสริม การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตำ� แหนง่ ผ้ชู ำ� นาญสาขาเทคโนโลยี สัปดาห์ละ ๒ วนั และ พ.ศ. ๒๕๑๗ - ๒๕๑๘ ไปชว่ ยงานท่สี ถาบนั ส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.) สปั ดาหล์ ะ ๕ วัน พ.ศ. ๒๕๒๐ได้ลาออกจากราชการ ไปปฏิบัติงานท่ีสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (สสวท.) จนเกษียณอายุการท�ำงาน ใน พ.ศ. ๒๕๒๖ ในต�ำแหน่ง ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศกึ ษา  134 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

นายพนสั เปน็ ผทู้ ไี่ ดร้ บั การยอมรบั วา่ เปน็ ครแู ละศกึ ษานเิ ทศกท์ มี่ คี วามรคู้ วามสามารถ ดา้ นศลิ ปะสูงยงิ่ ในทกุ แขนง  ขณะเปน็ ครศู ิลปศกึ ษาทีโ่ รงเรยี นมัธยมวดั ราชโอรส ไดป้ ฏิบตั ิ การสอนด้วยความเอาใจใส่ ทุ่มเท ขยันขันแข็ง ถ่ายทอดความรู้แก่ศิษย์อย่างเต็มก�ำลัง ความสามารถ มีศิษย์ท่ีประสบความส�ำเร็จในหน้าท่ีการงาน เขียนร�ำลึกความทรงจ�ำถึง นายพนสั ไว้หลายคน เช่น  พลเอก ชชั ชม  กันหลง ได้เขยี นถงึ ความประทับใจทม่ี ีต่อนายพนสั ในหนังสอื ครบ ๘๔ ปี พนัส สวุ รรณะบุณย์ ๒๖ ก.ค. ๕๐ ความตอนหนึ่งวา่ “ภาพในอดีตยังแจ่มชัดในความทรงจ�ำ ภาพของคุณครูหนุ่ม ใจดี รูปหล่อ รา่ งสูงโปร่ง ใบหน้าระบายยมิ้ ตลอดเวลา นนั่ คือคุณครูพนัสฯ ในความทรงจำ� ของพวกเรา ท่านสอนวิชาศิลปศึกษา ซึ่งแยกออกเป็น ๒ แขนงคือ วิชาวาดเขียนและการฝีมือ (ปน้ั และจกั สาน) สำ� หรบั วชิ าวาดเขยี นนนั้ จำ� ไดว้ า่ ทา่ นเรม่ิ สอนใหว้ าดภาพจากของจรงิ กอ่ น เช่น ดอกต้อยตงิ่ บานบรุ ี ภาพแจกนั อะไรท�ำนองน้ี แลว้ ต่อด้วยภาพประดิษฐ์ ซ่ึงพวกเรา ถนัดนักที่จะวาดภาพวิวชายทะเล มีภูเขาสองเทือกซ้อนเหลื่อมกัน  มีต้นมะพร้าวคู่ และพระอาทิตย์โรยตัวอัสดงระหว่างช่องเขา มีฝูงนกบินกลับรัง แล้วแต่ใครจะมี จินตนาการอะไรก็ใส่ลงไป จากนั้นจึงสอนให้ระบายสี เร่ิมแต่สีดินสอแล้วต่อด้วย สีน้�ำ สูงข้ึนไปคือการลงสีแบบสเตนซิล (STENCIL) เป็นการระบายสีด้วยการ โปรยละอองสีลงบนภาพในกระดาษ อุปกรณ์ก็คือ สีน�้ำ แปรงสีฟัน และ ตะแกรงลวดตาละเอียด วิธีการต้องใช้ความประณีตเป็นพิเศษ เริ่มตั้งแต่การตัดรูป ท่ีต้องการระบายสี จะต้องใช้ปลายมีดท่ีแหลมคม ตัดให้เรียบ กระดาษอย่าให้มีรอยยับ สีต้องละลายน้�ำให้พอดี ไม่ข้นหรือ ใสเกินไป การใช้แปรงจุ่มสีมาปัดบน ตะแกรงต้องไม่มากน้อเกินไป ระยะสูง พอเหมาะ ไม่ปัดแรงหรือค่อยเกินไป จึงจะได้เม็ดสีที่เป็นระเบียบสวยงาม ความหนาบางของเม็ดสี ก็เป็นส่วนส�ำคัญ ท่ีจะให้ภาพออกมาดีหรือไม่ แต่ที่ยากย่ิง คือ การแรเงาภาพ ด้วยวิธีสเตนซิลให้ ออกมาเปน็ ภาพสามมติ ิ ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 135

ส่วนการปั้น เราเริ่มเรียนปั้นผลไม้ท่ีมีในสวน เช่น มะม่วง มังคุด และ ตามด้วยภาชนะของใช้ เช่น แจกันแบบต่าง ๆ ด้านจักสาน ก็มีการหัดสาน ลายขัด ลายสอง ลายสาม และยกดอก สุดท้ายคือ การสานพัด ต่อไปก็เป็น การประยุกต์ใช้วัสดุในท้องถ่ิน เช่น ทางมะพร้าว (ใบมะพร้าว) ใบจากแก่บ้าง อ่อนบ้าง (สีเขียว-สีเหลือง) มาสานภาชนะของใช้ ท�ำเป็นหมวก กระจาด ตะกร้า อะไรต่าง ๆ ท�ำนองนี้ ผลงานของนักเรียนชิ้นดี ๆ ก็จะส่งประกวดในงานศิลปหัตถกรรม นักเรียน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการจัดเป็นงานใหญ่ประจ�ำปีที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และมักจะได้รับรางวัลต่าง ๆ เสมอ เหล่าน้ีคือภาพของความทรงจ�ำในอดีต เราเรียน 136 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

หนังสือกันหลังสงครามโลกครั้งที่สองสงบลง ท่ามกลางความขาดแคลนทุกอย่าง อุปกรณ์การเรียนการสอนมีไม่มากนัก แต่เราก็ได้รับความรู้ความเข้าใจมามากพอควร เพราะเรามีคุณครูท่ีดี เอาใจใส่และมีศิลปะในการสอน น�ำพาให้นักเรียนมีอารมณ์ร่วม เกดิ ความสนใจและสนกุ สนานในการเรียน” พลอากาศเอก วีระ  สิเนหะสาร เขียนถึงความเป็นครูของนายพนัส ไว้ใน หนังสือเล่มเดยี วกัน ความตอนหนึ่งวา่     “ครูพนัสไม่ได้สอนผมในแบบข้ึนไปยืนบรรยายหน้าช้ัน พอหมดเวลา ก็ออกจากห้องเรียนไป แต่ท่านสอนแบบจับมือสอน ผิดถูก แก้ไขกันตรงน้ันเลย สอนกันด้วยจิตวิญญาณเช่นเดียวกับครูมวย ครูกระบ่ี ครูดาบสอนศิษย์ ในกองทัพอากาศท่ีโรงเรียนการบิน ครูผู้สอนบินต้องสอนศิษย์แบบจับมือกันสอน เป็นตายด้วยกันก็เรียกครูผู้สอนว่า ครูการบิน และในกองทัพเรือก็เหมือนกัน ครูที่สอนนักเรียนจะต้องลงเรือล�ำเดียวกัน มีชีวิตร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน เรียกผู้สอนทุกคนว่าครู ดังนั้นผมจึงมีความรู้สึกชนิดใกล้ชิดและซึ้งใจที่จะเรียก ครูว่า ครูพนัส ผมเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของครูพนัสคนหนึ่ง เพราะเม่ือผมเรียนชั้น ม.๔ (ปีแรกของชั้นมัธยมปลาย) ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ ครูพนัสได้เรียกให้ผมไปปั้นยักษ์ ตัวสูงประมาณ ๑ ฟุต เพื่อส่งเข้าประกวดในงานแสดงศิลปหัถตกรรมนักเรียน ทั่วประเทศ เป็นเวลาเกือบเดือน ครูได้เฝ้าดูแลพร�่ำสอนแก้ไขจนส�ำเร็จด้วยดี แต่พอน�ำเข้าเผา ปรากฏว่ายักษ์ท่ีปั้นอกแตก อาจเป็นเพราะดินไม่แห้งสนิท แต่ไม่มีเวลา ป้นั ใหมแ่ ล้ว จึงตอ้ งส่งเข้าประกวด ปรากฏวา่ โชคดีได้รับรางวัลที่ ๑ ... ครูพูดเสมอว่า วิชาท่ีครูสอนไม่ใช่วิชาหลัก แต่ผมก็ใช้วิชาของครูไปช่วย ในการปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายตลอดเวลาตั้งแต่เป็นนักเรียนนายเรืออากาศ เป็นนักบินขับไล่ เป็นครูการบิน เป็นอาจารย์โรงเรียนเสธฯ โดยใช้วิชาของครูไปสร้าง เคร่อื งช่วยสอนการบรรยายมากมายหลายชนดิ   ... ครูพนัสเป็นท่ีเคารพรักของลูกศิษย์มากมาย เพราะครูมีแต่ให้วิชาความรู้ ครูไม่เคยดุด่าว่ากล่าวศิษย์คนใดเลยแม้แต่คร้ังเดียว ส�ำหรับผม ความส�ำเร็จในชีวิต การรบั ราชการของผม มีผลมาจากความรทู้ คี่ รูสอนเปน็ สว่ นชว่ ยท้ังส้นิ ” พลเอก ทวี  สมไร่ขิง  เขียนแสดงความรู้สึกและคุณค่าที่ได้รับในการเรียน ศิลปะไว้ในหนงั สอื เลม่ เดยี วกัน ความตอนหนงึ่ วา่    ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 137

“ท่านเป็นผู้แต่งกายดี มีอารมณ์เย็น กิริยาวาจาน่ิมนวล มีแววตาท่ีเปี่ยมไปด้วย ความเมตตา กรุณา การเรียนวิชาศิลปะกับท่านจึงเป็นช่วงเวลาท่ีลูกศิษย์ท้ังหลายมีความ รสู้ ึกเพลดิ เพลินและมคี วามสขุ กับการเรยี นและการท�ำงานศลิ ปะ  การเรียนวิชาศิลปะถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายจากการเคร่งเครียด อันเกิดจากการเรียนวิชา หรือสาเหตุอื่น นอกจากนั้นวิชาศิลปะยังส่งเสริม จินตนาการ ท�ำให้มีสมาธิ ช่วยกล่อมเกลาจิตใจ ให้มีความสุนทรีย์ เมื่อเราท�ำงาน ศิลปะไม่ว่าจะเป็นการวาดเขียน การปั้น หรือการฝีมืออื่น ๆ เมื่องานมีความคืบหน้า เร่ิมเป็นรูปเป็นร่าง เราจะรู้สึกมีความอิ่มเอม เปรมใจ และในท่ีสุดเม่ือท�ำงานเสร็จ ผลงานเปน็ ทพ่ี งึ พอใจ เราจะร้สู กึ ยินดีและมคี วามสุขมาก” ในขณะท่ีเป็นศึกษานิเทศก์ นายพนัสเป็นก�ำลังส�ำคัญในการปรับปรุงหลักสูตร วิชาศิลปศึกษา ระดับมัธยมศึกษา โดยเป็นประธานอนุกรรมการปรับปรุงหลักสูตร วิชาศิลปะ โรงเรียนมัธยมแบบประสมและยังเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเรียน การสอนวิชาศิลปะของหน่วยศึกษานิเทศก์ ต้ังครั้งแรกท่ีโรงเรียนสวนกุหลาบ วิทยาลัย ต่อมาย้ายมาที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เพ่ือปฏิรูปการเรียนการสอน วิชาศิลปะในโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ซึ่งเร่ืองนี้ นายประพันธ์ บุญเลิศ ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา ระดับ ๙ สาขาศิลปะ ได้เขียนไว้ ในหนงั สอื เลม่ เดียวกัน ความตอนหนงึ่ วา่   “อาจารย์พนัส สุวรรณะบุณย์ หนึ่งในผู้สรรสร้างแนวคิด แนวทางการพัฒนา การเรียนการสอนวิชาศิลปะระดับมัธยมศึกษาในประเทศไทย ได้เอาใจใส่ นิเทศติดตาม เป็นก�ำลังใจการด�ำเนินงานของศูนย์ศิลปะอย่างต่อเนื่อง ซ่ึงแนวคิด แนวทางการนิเทศของท่านได้ถูกน�ำไปสานต่อสู่การปฏิรูปการเรียนรู้วิชาศิลปะ ทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ด้วยการก�ำหนดเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ หนังสือเรียนตามหลักสูตรประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นพุทธศักราช ๒๕๒๑ รวมทั้งหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายพุทธศักราช ๒๕๒๔ ซ่ึงเป็นทิศทางการจัดการ เรียนรู้วิชาศลิ ปะสืบตอ่ มา” นายพะนอม แก้วก�ำเนิด  ผู้เคยด�ำรงต�ำแหน่งหัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ กรมสามัญศึกษา (ปัจจุบันคือ ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)) และอธิบดีกรมสามัญศึกษา ซึ่งเคยเป็นผู้บังคับบัญชาของนายพนัส ได้เขียนถึงบุคลิกและ อปุ นิสัยของนายพนสั ไวใ้ นหนงั สอื เลม่ เดยี วกัน ความตอนหนง่ึ ว่า 138 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

“ทุกครั้งท่ีผมนึกถึงอาจารย์พนัส สุวรรณะบุณย์  มโนภาพที่เกิดข้ึนเป็นใบหน้า ที่ย้ิมแย้มแจ่มใส มีกิริยาท่าทางสุภาพ เรียบร้อย ผมจ�ำเสียงพูดท่ีนิ่มนวล มีสาระ แฝงไว้ซึ่งอารมณ์ขันได้เป็นอย่างดี เมื่อผมได้สนทนากับอาจารย์พนัส ผมมีความรู้สึกว่าผมไม่ได้พูดกับผู้ปฏิบัติงานทางสายราชการ แต่ผมก�ำลังพูดกับ พ่ีชาย ด้วยสายตาที่แสดงถึงความเมตตาอารี ใบหน้าท่ียิ้มแย้ม ค�ำพูดที่แสดง ความเป็นกันเอง ความเห็นอกเห็นใจในภารกิจหน้าที่ที่เรารับผิดชอบร่วมกัน สรา้ งขวัญ กำ� ลังใจเป็นอยา่ งมากใหก้ ับผม” ระหว่างปฏิบัติงานท่ีสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นายพนัสได้ท�ำหน้าท่ีหัวหน้าฝ่ายศิลปะจัดท�ำภาพประกอบหนังสือเรียน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และได้รับ ต�ำแหน่งรักษาการหัวหน้าสาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา ท�ำหน้าท่ีดูแลและ ก�ำกับการจัดท�ำส่ือโสตทัศนศึกษา ประกอบการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาด้วย นอกจากนี้ นายพนัส ยังได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยายและฝึกปฏิบัติการผลิตต้นแบบ Slides การท�ำภาพโปร่งใส เพื่อใช้กับ Overhead Projector และงาน Graphic อื่น ๆ แก่ครู วทิ ยาศาสตร์ จากประเทศอนิ โดนเี ซีย เป็นเวลา ๖ สัปดาห์ ที่ SEAMEO Regional Centre for Education in Science and Mathematics (RECSAM) เมืองปีนงั ประเทศมาเลเซยี ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 139

นายพนัสเป็นศิลปินท่ีสืบทอดมาทางสายเลือด เป็นผู้ที่มีความสามารถ ในหลาย ๆ ด้าน นอกจากเป็นครูท่ีสอนเก่ง เป็นศึกษานิเทศก์ที่เป็นผู้น�ำทางวิชาการ แล้ว ยังเป็นนักเขียนภาพการ์ตูนและภาพล้อ เป็นที่ชื่นชอบของท้ังเด็กและผู้ใหญ่ ซง่ึ ภาพการ์ตูน (cartoon) กบั ภาพลอ้ (caricature) มวี ตั ถุประสงคอ์ ยา่ งเดยี วกนั คอื เป็น ภาพลอ้ เลียนการกระทำ� ของบคุ คลในกิจกรรมหรอื เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ผลงานการเขียนหนังสือการ์ตูนเรื่องยาวที่สร้างชื่อเสียงให้แก่นายพนัสอย่างมาก คือ นิยายภาพเรื่อง “เจ้าชายด�ำรงฤทธิ์” ตีพิมพ์โดยส�ำนักพิมพ์ผดุงศึกษา ในเวิ้งนาครเขษม นายพนัสเขียนต่อเนื่องรวม ๕๐ ตอน นิยายภาพ เรื่องนี้เยาวชน และผู้ใหญ่ติดกันงอมแงม เพราะเป็นนิยายภาพที่ตลกขบขัน ใช้ค�ำพูดสุภาพ ไม่หยาบโลน บางตอนก็แฝงคติสอนใจ บางตอนก็สะท้อนให้เห็นความเปล่ียนแปลง ในสังคมยุคน้ันด้วย วิธีการเขียนภาพการ์ตูนของนายพนัสนั้น จะร่างภาพด้วยดินสอ ไปกอ่ น เพราะสมยั นน้ั ไมม่ ปี ากกาสำ� เรจ็ รปู เชน่ รอตตรงิ้ จงึ ตอ้ งใชป้ ากกา หรอื พกู่ นั จมุ่ หมกึ อนิ เดียนอิงค์ลงทบั เส้นดนิ สออกี ที ต่อจากนนั้ นายพนัสไดเ้ ขียนหนังสอื การ์ตูน ต่อเนื่องอีกหลายเล่ม เช่นเร่ือง “เดช-ด�ำผจญภัย” “สามสหาย” “นางสิบสอง” “พระนางปทุมทอง กับทิพเกสร” “ไพรวันกับทรงกลด” “โจรหนวดแดง กับเจ้าปู่” เป็นต้น ซึ่งเขียนลงในหนังสือเด็ก ก้าวหน้าและยังมีงานเขียนการ์ตูนส้ัน ๆ เขียนไว้ ในหนังสือ “A Holiday at Hua-Hin” นอกน้ันยังเขียนภาพประกอบในหนังสือ วันเด็ก หนังสือนิทานอีกหลายเล่ม รวมทั้งเขียนภาพ ประกอบใหห้ นงั สือพมิ พ์สุภาพบรุ ษุ ประชามติ ร และนติ ยสารสตรสี ารนารีนาถ เป็นต้น นอกจากความสามารถในการวาดภาพแล้ว นายพนัสยังร้องเพลงเก่ง แต่งเพลง พวงมาลัยได้ดีเย่ียม ไม่ว่าจะมีกิจกรรมของชมรม หรือกลุ่มสมาชิกใด นายพนัสจะใช้ เพลงธรรมดาและเพลงแปลงเป็นที่ถูกใจและตลกขบขันของสมาชิกจนได้ฉายาว่า “พอ่ พวงมาลัยเจ้าเกา่ ” เปน็ ท่เี ล่อื งลือและช่ืนชอบในหมคู่ นทรี่ ้จู กั คนุ้ เคย การเขียนภาพกีฬาชนไก่ท่ีนายพนัสใช้ชื่อว่า มวยไก่ (Rooster Fighting) เป็นภาพเขียนท่ีน่าสนใจ เมื่อไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ นายพนัสได้เขียนภาพ 140 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

พร้อมกันท้ังมือขวาและมือซ้าย ขณะเขียนภาพก็เปิดเพลง “สะระหม่าปี่มวย” ที่ใช้ ในการชกมวยไทยประกอบด้วย โดยใช้มือท้ังสองข้างเขียนไก่ชนกันพร้อม ๆ กัน เม่ือเพลงประกอบใกล้จบจังหวะจะเร่งเร็วข้ึน นายพนัสก็รีบเขียนเร็ว ๆ มีขนไก่กระจุย กระจายปลิววอ่ นจนจบ เปน็ ท่นี ่าท่ึงและพอใจของผู้ชมเป็นอยา่ งยิ่ง นายพนัสเป็นผู้มีความสามารถทางด้านศิลปะหลาย ๆ ด้าน ในขณะที่ศึกษา ดูงาน ณ มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา มหาวิทยาลัยได้จัดงานประกวด ปั้นหิมะ จากผู้เข้าประกวดประมาณ ๒๐ คน นายพนัสได้ปั้นรูปช้างงัดซุง ได้รับรางวัล “The Grand Aggregate Winner” ซึง่ เปน็ รางวัลสูงสดุ ในการประกวดปน้ั หิมะคร้งั นนั้ ผลงานการออกแบบท่ีนายพนัสภาคภูมิใจมากที่สุดคือ การออกแบบตรา สัญลักษณ์โรงเรียนมัธยมวัดราชโอรส และตราสัญลักษณ์สถาบันส่งเสริมการสอน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดท่ีได้รับพระราชทานคือ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย และเหรยี ญจักรพรรดมิ าลา นายพนัสสมรสกับนางสาวลออ  วงศ์นาค (ถึงแก่กรรม) เม่ือ พ.ศ. ๒๔๘๗ มีบตุ ร ๔ คน คอื นายพลั ลภ  นางพรทพิ ย ์ สีทอง  นางพรพิไล สิทธิรัตน ์ และนางไพลิน  สกุลสงเคราะห์ หลังเกษียณอายุ นายพนัสได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ใน พ.ศ. ๒๕๓๖ และยังท�ำงานเพ่ือสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นสมาชิกหลายชมรม ซึ่งในทุกชมรม นายพนัสได้เป็นก�ำลังส�ำคัญในการคิด และน�ำท�ำกิจกรรมให้มีสาระ เกิดประโยชน์ สนุกสนาน มชี วี ติ ชีวาอย่างต่อเน่ือง เชน่ การเขียน การวาดภาพการต์ นู ล้อเลยี น การทำ� ปก หนงั สอื ใหว้ ารสารชมรม เปน็ “พ่อพวงมาลยั เจ้าเกา่ ” แต่งแปลงเน้อื ร้อง และนำ� สมาชิกร้อง ขับกล่อมกันในโอกาสต่าง ๆ นายพนัสจึงเป็นท่ีรัก เคารพ ช่ืนชมจากสมาชิกชมรม ได้รับฉายาที่สมาชิกชมรมต้ังให้หลายฉายา เช่น “เอกบุรุษ” “สุภาพบุรุษกัลยาณมิตร ผเู้ สียสละ” เปน็ ตน้ ปกตินายพนัสเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง เพราะดูแลร่างกายดีมาโดยตลอด พออายุมากข้ึน มีโรคประจ�ำตัวเก่ียวกับปอดอักเสบเร้ือรัง และถึงแก่กรรม เมื่อวนั ท่ี ๕ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๑ สิรอิ ายุ ๙๕ ปี ๒ เดอื น ๑๐ วนั นายธเนศ ข�ำเกิด ผูเ้ รยี บเรยี ง ประวตั ิครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 141

ขอ้ มลู อา้ งอิง ๑. สมุดประวัตปิ ระจ�ำตวั ขา้ ราชการ ของนายพนสั สวุ รรณะบณุ ย์ สังกดั กระทรวง ศกึ ษาธิการ กรมวิสามัญศึกษา กองโรงเรียนรัฐบาล ๒. หนังสอื ครบ ๘๔ ปี พนัส สวุ รรณะบณุ ย์ ๒๖ ก.ค. ๕๐ ๓. หนงั สือ เกบ็ ตกภาพล้อ จากสาร ช.อ.ศ. พนัส สุวรรณะบณุ ย์ ๑๕๐๗ ๔. จดหมายถงึ พ่พี นัส โดย พรอ้ มพรรณ ศริ พิ ัฒน์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ ๕. นางไพลิน สกุลสงเคราะห์ (บุตร) นายธนกฤต สีทอง (บุตรเขย) นายวิทย์ พิณคันเงิน (ผู้ร่วมงาน) และ นายประพันธ์ บุญเลิศ (ผู้ร่วมงาน) ผ้ใู หข้ อ้ มลู เพ่ิมเติม 142 ประวัติครู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

ศาสตราจารยกติ ติคุณ ดอกเตอรร ะวี ภาวิไล ‘พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๕๖๐ ครูผู้น�านิสิตศึกษาด้วยวิธีค้นคว้า ทดลองปฏิบัติ ท้ังในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เพื่อสร้างเสริม ประสบการณ์จริง และเป็นผู้เปดโลกทัศน์ทางด้าน ดาราศาสตรแ์ กว่ งการการศกึ ษาไทย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดอกเตอร์ระวี ภาวิไล เกิดเมื่อวันท่ี ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ ท่ีบ้านถนน บ้านหม้อ อ�าเภอพระนคร จังหวัดพระนคร (ปัจจุบัน คือ กรุงเทพมหานคร) เป็นบุตรคนท่ี ๒ ของนายวัน กับหม่อมหลวง สุหร่าย ภาวิไล มีพี่ ๑ คน คือ นายอุดม (ถึงแก่กรรม) มีน้อง ๖ คน คือ นางสุภาพ กียะกูล (ถึงแก่กรรม) ศาสตราจารย์เกียรติคุณดอกเตอร์ คุ ณ ห ญิ ง พ ย อ ม สิ ง ห ์ เ ส น ่ ห ์ พันโทหญิงวิญญาณ์ นายวัฒนา รองศาสตราจารย์นายแพทย์ด�ารง และนายปรดี า ภาวไิ ล (ถงึ แกก่ รรม) ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๑4๓

๑44 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓

เข้าเรียนระดับอนุบาลและประถม ๑ – ๓ ท่ีโรงเรียนหุตะวณิชย์ ซ่ึงเป็นโรงเรียน เอกชนใกล้บ้าน พ.ศ. ๒๔๗๖ เข้าเรียนระดับมัธยมท่ีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เรยี นจบ ใน พ.ศ. ๒๔๘๑ เขา้ เรียนตอ่ ทโ่ี รงเรยี นเตรยี มอดุ มศึกษา เรยี นจบ ใน พ.ศ. ๒๔๘๔ เขา้ ศกึ ษาทคี่ ณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ไดร้ บั ปรญิ ญาตรวี ทิ ยาศาสตรบณั ฑติ สาขาฟิสกิ ส์ ใน พ.ศ. ๒๔๘๘ รับราชการแลว้ จงึ ศึกษาตอ่ ระดบั ปรญิ ญาโท สำ� เร็จการศกึ ษา สาขาฟิสิกส์ ที่ University of Adelaide ประเทศออสเตรเลีย ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ต่อมา ไดศ้ ึกษาตอ่ และรบั ปริญญาเอกสาขาดาราศาสตร์ จาก Australian National University (ANU) ซงึ่ เปน็ มหาวทิ ยาลัยแห่งชาติ ประเทศออสเตรเลีย ใน พ.ศ. ๒๕๐๗ ระหวา่ งทำ� งาน ไดไ้ ปฝกึ งาน รบั การฝกึ อบรม ศกึ ษาดงู าน ประชมุ วจิ ยั เสนอผลงาน วิจัย และผลงานวิชาการ ณ ต่างประเทศหลายครั้ง ซ่ึงเป็นงานด้านวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ ศาสตราจารย์ระวี เร่ิมรับราชการเป็น อาจารย์ประจ�ำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ในต�ำแหน่งอาจารย์ตรี อาจารย์โท อาจารย์เอก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ จนเกษียณอายุราชการ ใน พ.ศ. ๒๕๒๙ โดยท�ำหน้าท่ีสอนควบคู่กับการท�ำวิจัย และจัดท�ำบทความทางวิชาการเผยแพร่ พร้อมท้ัง ท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับนิสิต และในปีสุดท้าย ได้ท�ำหน้าท่ีที่ปรึกษาของอธิการบดีจุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย ดว้ ย วิธีคิด วิธีการท�ำงาน และการด�ำเนินชีวิตของศาสตราจารย์ระวี มีท่ีมาจาก การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมในวัยเยาว์ที่ได้รับการปลูกฝังด้านพระพุทธศาสนา และช่วย บิดาประกอบอาชีพที่บ้าน คือ การซ่อมและผลิตอุปกรณ์เครื่องมือเคร่ืองใช้ต่าง ๆ ซึ่งใน สมัยนั้นหาได้ยากและมีราคาแพง เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เคร่ืองชุบนิเกิล น�้ำมันหยอด เครอื่ งมอื ซงึ่ ทำ� จากเมลด็ ละหุ่ง เป็นตน้ ท�ำใหศ้ าสตราจารย์ระวี มนี สิ ัยอยากร้อู ยากเรยี น อยากทดลอง และต่นื เตน้ กบั สงิ่ ที่ทำ� ได้ดว้ ยตนเอง ประวัตคิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ 145

เมื่อเรียนระดับมัธยมก็มีความสนใจ และวางเป้าหมายที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดังที่เลา่ ไว้ใน วารสารไฮคลาส ฉบบั ที่ ๓๒ ตอนหน่งึ วา่ “...สมัยน้ันคนทจี่ ะเขา้ เรยี นเตรยี ม จะต้องก�ำหนดเลยว่าจะเรียนสาขาไหน เม่ือจะเข้าต่อจุฬาฯ ผมสมัครเลยว่าจะเรียน ทางด้านวิทยาศาสตร์ เพราะท่ีสวนกุหลาบมีห้องเตรียมการสอน มีเคร่ืองมือมากมาย ทั้งเคมี ฟิสิกส์ ได้อ่านต�ำราภาษาไทยเท่าที่มี จนท�ำให้อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ บ้านผมอยู่แถวบ้านหม้อ มีช่างทอง มีร้านขายของส�ำหรับช่างทอง เช่น กรดต่าง ๆ หากจะทดลองอะไรกซ็ ้ือเอาตามร้านพวกน้นั ...” เช่นเดียวกับตอนท่ีตัดสินใจประกอบอาชีพครู หลวงประวัติวรวิชชุการี (ม.ล.ประวัติ อิศรางกูร) อาจารย์และหัวหน้าภาควิชาฟิสิกส์ในขณะน้ัน เป็นผู้ชักชวน ศาสตราจารย์ระวีให้เป็นอาจารย์ เพราะรู้ว่าเด็กคนน้ีชอบทดลอง ชอบเล่นเคร่ืองมือ ศาสตราจารย์ระวี ได้สรุปความคิดตอนตัดสินใจเป็นอาจารย์ ไว้ในหนังสือที่ระลึก เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการว่า “สรุปว่า ผมเป็นอาจารย์เพราะอยากจะเล่น เคร่ืองมือ ตอนนั้นไม่ได้คิดที่จะเป็นครูที่ดีอะไร ไม่ได้นึกถึงว่า เป็นงานมีเกียรติหรือ โกอ้ ะไรดว้ ยเลย” 146 ประวตั คิ รู ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook