แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 45ขั้นตอนการดาเนินกิจกรรม 1. ผูส้ อนกลา่ วทกั ทายผู้เรยี น แจ้งจดุ ประสงค์ แล้วแบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 10 คน 2. ผูส้ อนนาเขา้ สู่กิจกรรมด้วยการใหผ้ ้เู รียนชมวีดิทัศน์เกย่ี วกบั การทุจริต เร่อื ง “ทุจรติ แก้คะแนน” https://www.youtube.com/watch?v=hRazlm5WuPO 3. สนทนาประกอบส่อื การเรียนรู้เกยี่ วกับผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม 4. ผู้สอนชีแ้ จงกิจกรรม “คิดเป็นโปร่งใส คิดได้ไมโ่ กง” ใหผ้ เู้ รียนทราบโดย ๔.๑ ผสู้ อนโชวแ์ ผ่นป้ายทายคา ซ่ึงอาจใชศ้ ัพทเ์ ก่ยี วกับการทจุ ริตและให้แต่ละกล่มุ ยกมือตอบ ๔.๒ กลุ่มใดตอบได้ก่อนจะมีโอกาสเลือกป้ายฟิวเจอร์บอร์ด (มีข้อความซึ่งเป็นประโยค บอกเล่าเกี่ยวกับพฤติกรรม) แล้วนามาติดที่ฟลิบบอร์ดของกลุ่มตนเอง โดยเลือกใส่ ดา้ นผลประโยชน์ส่วนตน หรอื ประโยชน์สว่ นรวม ๔.๓ ทาเช่นนไ้ี ปเร่ือย ๆ จนครบหรือตามเวลาท่เี หมาะสม ๔.๔ ผู้สอนเฉลยแต่ละแผ่นป้าย กลุ่มใดมีคะแนนสูงที่สุดคือผู้ชนะ ผู้สอนมอบรางวัลเพ่ือ เป็นแรงจูงใจ 5. ผ้สู อนใหผ้ เู้ รียนช่วยสรปุ กจิ กรรมดว้ ยการตงั้ คาถาม เช่น ผูเ้ รยี นไดอ้ ะไรจากกิจกรรมน้ี 6. สรุปกจิ กรรมดว้ ยการชมวดี ทิ ศั น์เกีย่ วกบั การทจุ ริต เรื่อง “แก้ทุจริตคิดฐานสอง” https://www.youtube.com/watch?v=FEfrARhWnGcขอ้ เสนอแนะ 1. พ้นื ที่ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมควรเป็นพนื้ ท่โี ล่ง มีเครื่องขยายเสยี งช่วยในการจดั กจิ กรรม 2. ความเหมาะสมของจานวนกลมุ่ ขน้ึ อยูก่ บั จานวนผเู้ รียน โดยสมาชกิ กล่มุ ไมค่ วรเกนิ 10 คน 3. ผูส้ อนควรควบคุมเวลาในการทากจิ กรรมเพ่ือให้เปน็ ไปตามเวลาทกี่ าหนดแนวทางการประเมิน 1. ประเมนิ ผลจากการทากจิ กรรมกลมุ่ 2. ประเมนิ พฤติกรรมของผู้เรยี นโดยใชก้ ารสงั เกตหรือแบบสังเกต หลัก รายการพฤตกิ รรมที่ประเมนิ สัดสว่ นคะแนนคุณธรรม - ทากจิ กรรมดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ (รอ้ ยละ) พอเพียง - รบั ฟังความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ในกลุ่ม 25 - รบั ผิดชอบกิจกรรมของตนเอง มวี ินยั - ทากจิ กรรมตรงตามกติกา และข้อกาหนด 25 สุจรติ - ม่งุ มั่นทากจิ กรรมด้วยความซื่อสตั ย์ 50 100 รวม
46 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา คา ตวั อยา่ งข้อความ ๑. ฉอ้ ฉล ๒. ตุกติก ความหมาย ๓. ซอ่ื ตรง ใชอ้ ุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากลา่ วเพื่อให้ผอู้ นื่ หลงผิด ๔. สามภิ ักดิ์ มเี ล่หเ์ หลี่ยม ๕. ตงฉนิ ประพฤตติ รงและจรงิ จงั ๖. คอร์รัปชัน การเต็มใจมอบตนอยใู่ ตอ้ านาจ ๗. แปรพักตร์ ซือ่ ตรง ๘. กลง้ิ กลอก การทจุ รติ โดยใช้หรืออาศัยตาแหน่งหนา้ ทอ่ี านาจ ๙. ยกั ยอก เอาใจออกห่าง ๑๐. เชดิ เอาแนเ่ อานอนไม่ได้ ๑๑. ตบตา เบยี ดบงั ทรพั ยข์ องผู้อ่นื ซงึ่ ตนดแู ลอยู่มาเปน็ ของตน ๑๒. ตระบัดสตั ย์ ถกู ใชใ้ หอ้ อกหนา้ แทน ๑๓. ซ่อนเรน้ หลอกหรือลวงให้เขา้ ใจผิด ๑๔. กลโกง ไมร่ กั ษาคามนั่ สัญญา ๑๕. อสัตย์ ปิดบัง ๑๖. เขน็ ครกข้นึ ภเู ขา วิธีการที่ผดิ ศลี ธรรมเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย ๑๗. คดในขอ้ งอในกระดกู ไม่ซ่ือตรง ๑๘. เข้าเมืองตาหล่ิว ทางานทย่ี ากลาบากตอ้ งใชค้ วามเพยี รพยายามและอดทนมาก กมลสันดาน เกดิ มากช็ อบคดโกง ต้องหลว่ิ ตาตาม ทาตัวให้เหมาะกบั สภาพแวดลอ้ มทคี่ นในสงั คมนั้นเขาทากนั ๑๙. จบั เสือมอื เปล่า หาผลประโยชน์โดยตวั เองไม่ลงทุน ๒๐. ขชี่ า้ งจบั ตั๊กแตน ลงทนุ มาก แต่กลบั ได้ผลนดิ หนอ่ ย
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา 47ตัวอยา่ งบตั รคาประโยคบอกเล่าเกี่ยวกับพฤติกรรมตา่ ง ๆท่ีเก่ียวกับผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวมท่ี บัตรคาประโยคบอกเล่า๑. สาวติ รแี อบเอากระดาษจากท่ีทางานไปให้ลูกทางานเอกสาร๒. เอกวชิ ญไ์ ปช่วยทางานทแี่ ผนกในสัปดาห์แขง่ ขันทกั ษะวชิ าชพี๓. วิสาให้สาอางลอกข้อสอบในการสอบปลายภาค เพื่อสอบผา่ นและทาให้แผนกตนเองมี คะเเนน GPA สูงทสี่ ดุ ในวทิ ยาลยั ฯ๔. อารญาเสียสละทน่ี ง่ั คอนเสริ ต์ GOT7 บตั รราคาถกู ให้คนอ่นื เพอ่ื ใหต้ นเองไดบ้ ตั รทนี่ ั่ง ทด่ี กี วา่๕. ผู้อานวยการเปล่ยี นเครื่องแบบนักเรยี น เพื่อใหท้ นั ยคุ สมยั โดยให้ผปู้ กครองสั่งเคร่อื งแบบ กบั ทางวทิ ยาลัยฯ ซง่ึ รา้ นทตี่ ัดชดุ เป็นญาตขิ องผู้อานวยการ๖. คอนสแตนตินฟอลคอนชว่ ยเหลอื พระนารายณต์ ดิ ต่อการคา้ ในสมัยอยุธยาของไทย จนทาให้ ตนเองร่ารวย๗. นายก อบต. หนองบวั จดั ทาโครงการสร้างถนนคอนกรตี ผ่านหม่บู า้ นเพื่อให้ตนเองเดินทาง สะดวก๘. โนบติ ะใชไ้ ทม์แมชชนี เพื่อย้อนเวลากลบั ไปแกไ้ ขผลการสอบ เพ่ือใหต้ นเองไดค้ ะแนนเตม็ 100 คะแนน๙. ศกั ดช์ิ ัยฝากเพื่อนเช็กชอื่ เวลาเรยี นของตนเอง เพอ่ื ไปเเข่งฟตุ บอลระดบั จงั หวัด๑๐. ครใู ชง้ บวิทยาลัยฯ จดั ซอื้ เคร่อื งผลิตนา้ ด่มื เพอื่ จาหนา่ ยใหก้ บั นักเรยี นและชุมชนรอบ วทิ ยาลยั ฯ ในราคาท่ีถูก๑๑. กมลรตั น์นารายงานของรุ่นพป่ี ีทเี่ เลว้ ทีต่ ้งั ในหอ้ งพักครูไปแกไ้ ขหน้าปก เพอื่ ให้กลมุ่ มีงานสง่๑๒. วนิ ัยใหเ้ พอื่ นชว่ ยทาหัวฆ้อนให้จนทาให้มงี านสง่ ครทู นั ตามเวลาท่ีกาหนด โดยไม่ทง้ิ หวั ฆ้อน ที่ไมเ่ สรจ็ เปน็ เศษวัสดุ๑๓. บอยเปน็ คนขบั รถของหน่วยงานราชการแหง่ หนึ่ง ในวันหยุดสดุ สปั ดาหบ์ อยมกั นารถของ หนว่ ยงานพาครอบครวั ไปเทยี่ วต่างจงั หวดั๑๔. ผอู้ านวยการใหน้ ักเรยี นตัดหญา้ หน้าบา้ นพกั ของผ้อู านวยการ เพอื่ ให้ดสู ะอาดตามากขึน้๑๕. ครูนาขอ้ สอบจริงมาให้นักเรียนศึกษากอ่ นทาการสอบจริง เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสอบผ่านและ วิทยาลยั ฯ มีเกณฑ์คะแนนสงู๑๖. พ่อให้เงนิ สนบั สนนุ วทิ ยาลยั ฯ เพอื่ ให้ลกู ไดเ้ รยี นโรงเรียนประจาจงั หวดั ทม่ี ีชื่อเสียงโดง่ ดงั17. นายก อบต. ห้วยคด ใช้งบสรา้ งสนามเดก็ เลน่ ของหมู่บา้ นมาขุดบอ่ น้า เพื่อใหม้ ีน้ามาใช้ ในการทาการเกษตรของชมุ ชน
48 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทจุ ริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา ที่ บตั รคาประโยคบอกเลา่ 18. นายเอกภพมาเรยี นสายในคาบเรยี นของครูสุดใจ ครูสดุ ใจทาโทษเพอื่ เปน็ แบบอยา่ ง โดยให้ ลา้ งรถของครูสุดใจ 19. เจา้ จอ้ ยจะไปซอื้ ขา้ ว เเต่คิวยาวเลยฝากให้พีแ่ ย้มชว่ ยซื้อขา้ วให้ 20. เจ้าหนา้ ท่โี รงพยาบาลนาสายชาร์จแบตเตอรี่ มาชาร์จทที่ างาน
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 49 ตัวอยา่ งตารางคะแนน
50 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทุจริตด้านอาชวี ศกึ ษา ตัวอย่างบัตรทายคา
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา 51 ตวั อยา่ งบัตรทายคา
52 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา เฉลยประโยคบอกเล่าเกย่ี วกบั พฤติกรรมต่าง ๆ ท่ีเก่ยี วกบั ผลประโยชนส์ ว่ นตน และผลประโยชน์ส่วนรวมท่ี พฤตกิ รรม ทุจรติ เพอื่ ทจุ รติ เพื่อ ผลประโยชน์ ผลประโยชน์1. สาวิตรแี อบเอากระดาษจากทท่ี างานไปให้ลูกทางานเอกสาร2. เอกวชิ ญ์แอบหนงี านประจา ไปช่วยธุระกจิ ทบ่ี ้าน ส่วนตน สว่ นรวม3. วิสาให้สาอางลอกขอ้ สอบในการสอบปลายภาค เพื่อสอบผา่ น √ √ และทาให้แผนกตนเองมีคะเเนน GPA สูงทีส่ ุดในวทิ ยาลัยฯ √4. อารญาเสยี สละทีน่ งั่ คอนเสิร์ต GOT 7 บตั รราคาถูกให้คนอ่นื √ √ √ √ เพอ่ื ใหต้ นเองได้บตั รทีน่ ั่งทีด่ กี วา่ √ √5. ผูอ้ านวยการเปล่ยี นเครอ่ื งแบบนกั เรียนเพ่ือให้ทนั ยคุ สมัยโดย √ √ ใหผ้ ปู้ กครองสั่งเคร่อื งแบบกับทางวทิ ยาลัยฯ ซงึ่ ร้านท่ีตดั ชดุ √ เป็นญาติของผู้อานวยการ6. คอนสแตนตนิ ฟอลคอนชว่ ยเหลอื พระนารายณต์ ดิ ต่อการคา้ √ ในสมัยอยุธยาของไทย จนทาให้ตนเองรา่ รวย7. นายก อบต. หนองบัว จัดทาโครงการสร้างถนนคอนกรตี ผ่าน หมูบ่ า้ น เพ่อื ใหต้ นเองเดนิ ทางสะดวก8. โนบิตะใชไ้ ทม์แมชชนี เพ่อื ยอ้ นเวลากลบั ไปแกไ้ ขผลการสอบ เพ่อื ใหต้ นเองได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน9. ศกั ด์ชิ ัยฝากเพ่ือนเช็กชอ่ื เวลาเรยี นของตนเอง เพ่ือไปเเข่ง ฟุตบอลระดบั จังหวดั10. ครูใชง้ บวทิ ยาลัยฯ จดั ซ้ือเคร่ืองผลิตนา้ ดมื่ เพอื่ จาหนา่ ยให้กับ นกั เรยี นและชมุ ชนรอบวทิ ยาลัยฯ ในราคาท่ีถูก11. กมลรตั น์นารายงานของรุน่ พป่ี ที เี่ เล้วท่ีตง้ั ในหอ้ งพักครูไปแกไ้ ข หน้าปก เพือ่ ใหก้ ลุ่มมงี านสง่ ครู12. วนิ ัยใหเ้ พื่อนช่วยทาหวั ฆ้อนใหจ้ นทาใหม้ ีงานส่งครทู นั ตามเวลา ท่ีกาหนด โดยไมท่ ้งิ หัวฆ้อนทไ่ี มเ่ สรจ็ เปน็ เศษวสั ดุ13. บอยเปน็ คนขบั รถของหนว่ ยงานราชการแห่งหนงึ่ ในวันหยุด สดุ สัปดาหบ์ อยมักนารถของหนว่ ยงานพาครอบครวั ไปเทยี่ ว ต่างจงั หวดั
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา 53ท่ี พฤติกรรม ทจุ ริตเพือ่ ทจุ รติ เพอ่ื ผลประโยชน์ ผลประโยชน์14. ผู้อานวยการให้นกั เรยี นตัดหญ้าหน้าบา้ นพักของผอู้ านวยการ เพอื่ ใหด้ ูสะอาดตามากขน้ึ สว่ นตน สว่ นรวม15. ครนู าข้อสอบจรงิ มาใหน้ กั เรียนศกึ ษากอ่ นทาการสอบจรงิ √ √ เพือ่ ให้นักเรยี นสอบผา่ นและวทิ ยาลยั ฯ มีเกณฑค์ ะแนนสูง √ √16. พ่อใหเ้ งินสนบั สนนุ วทิ ยาลัยฯ เพอ่ื ใหล้ กู ไดเ้ รียนโรงเรียนประจา จังหวดั ท่ีมีชื่อเสยี งโดง่ ดัง √ √17. นายก อบต. หว้ ยคด ใชง้ บสร้างสนามเด็กเลน่ ของหมู่บา้ น √ มาขุดบ่อน้า เพ่อื ให้มีน้ามาใชใ้ นการทาการเกษตรของชมุ ชน18. นายเอกภพมาเรยี นสายในคาบเรียนของครูสุดใจ ครสู ุดใจทา โทษเพื่อเปน็ แบบอย่างโดยให้ล้างรถของครสู ุดใจ19. เจา้ จ้อยจะไปซอ้ื ขา้ ว เเตค่ วิ ยาวเลยฝากใหพ้ ่แี ยม้ ช่วยซื้อขา้ วให้20. เจ้าหนา้ ทีโ่ รงพยาบาลนาโทรศพั ท์มาชารจ์ แบตเตอรี่ที่ทางาน
54 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา สอ่ื การเรียนรูเ้ สนอแนะหนว่ ยที่ ๑ ปรบั พน้ื ฐานความคดิ ต้านทุจริตส่วนตนและส่วนรวมหน่วยยอ่ ยท่ี ๑.๒ การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมรายการ เนือ้ หาสาระ เวลา แหลง่ สอื่ QR Code๑. วดี ิทัศน์ เรื่อง ทา่ นร่ัว มีตาแหน่งเป็นเจา้ เมือง 1.45 สานกั งาน“Paoboonjin ซึ่งเปน็ เจ้าหน้าทร่ี ฐั หา นาที ป.ป.ช.(รับทรพั ย์สนิ + ผลประโยชนเ์ พื่อตนเอง โดยรบัเป็นคู่สญั ญา)” เงินจากเถ้าแก่หวังเพือ่ ไมใ่ ห้ เถา้ แกห่ วงั จา่ ยภาษใี หห้ ลวง และรับงานขดุ บ่อบาดาลและทา ประปาหมบู่ ้าน๒. วดี ิทัศน์ เร่อื ง พนกั งานการรถไฟ ซ่งึ เปน็ 6.35 https://www. “MOST-The เจ้าหนา้ ทข่ี องรฐั วนั หนง่ึ เขาได้ นาที youtube.com Bridge v.2 พาลกู ชายมาที่ทางาน ขณะนัน้ มี /watch?v=q8 ไทย” รถไฟขบวนหน่ึงกาลงั วงิ่ เข้ามา 44OgsP4_4 ใกล้สะพาน ลูกชายเหน็ รถไฟ๓. วีดิทศั น์ เรอ่ื ง กาลงั มาจึงว่ิงไปทสี่ ะพานเพื่อท่ี สานักงาน “แกท้ ุจรติ จะดึงคันโยกใหส้ ะพานลงเพื่อให้ ป.ป.ช. คดิ ฐานสอง” รถไฟว่ิงผ่าน แตเ่ กดิ พลดั ตกลง ไปใต้สะพาน ซ่งึ ขณะนนั้ พนักงานฯ มองเห็นลกู ชายตกไป ใต้สะพาน และรถไฟวงิ่ ใกล้จะถงึ สะพาน จงึ เปน็ วนิ าทที ี่ต้อง ตัดสินใจว่าจะดงึ คันโยกให้ สะพานลงเพอ่ื ใหร้ ถไฟวงิ่ ผ่าน และรกั ษาชีวติ ของคนบนรถไฟ หรือจะไม่ดึงคนั โยกให้สะพานลง เพือ่ รักษาชีวิตลูกของตนเอง อธิบายรปู แบบการขดั ขัดกัน 4.37 ระหว่างผล ประโยชน์สว่ นรวม นาที กับประโยชนส์ ่วนตนระบบคดิ ฐานสิบ ระบบคดิ ฐานสอง
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 55รายการ เนอื้ หาสาระ เวลา แหลง่ ส่ือ QR Code๔. คลิปข่าว เรือ่ ง เพ่ือศึกษากรณตี ัวอย่างการยดึ 3.18 ข่าวจากสานัก“เตอื น ส่งั เก็บ พื้นทีส่ าธารณะเพอ่ื ประโยชน์ นาที ข่าวอรณุโต๊ะร้านผดั ไทย ส่วนตนประตผู ี” อมรินทร์๕. วีดิทศั น์ เร่อื ง เพื่อศกึ ษาการจดั ระเบยี บทาง 3.51 ข่าวจาก “บงั คับใช้วนั สังคม นาที Nation tv แรก พ.ร.บ. หา้ มขอทาน ผดิ โทษอาญา”๖. ข่าว เรอื่ ง กรมทางหลวงมีนโยบายจดั 4.37 ข่าวจากกระปุก “อวสานแผง ระเบียบแผงค้าและสิ่งปลกู สร้าง นาที ดอทคอม คา้ รมิ ทาง ท่รี ุกลา้ ทางกลวงท่ัวประเทศ ทง้ั หลวง ลั่น แผงถาวร คอื ขายตลอดทั้งปี ภายใน 2 ปี และแผงช่ัวคราว รอ้ื เกลี้ยง”๗. “แก้ไม่จบ นักเรข่ ายกลว้ ยทอดลงมาเรข่ าย - ขา่ วจากโพสต์สแี่ ยกกล้วยแขก บนถนน เปน็ การกีดขวาง ทเู ดย์ทารถตดิ -ผดิ การจราจร สร้างความเดอื ดร้อนกฎหมาย” กบั ผู้ใช้ถนน ทางเท้าในเขต นางเลงิ้๘. ขา่ ว เรื่อง กรณีท่ีโรงเรียนเบญจมราชูทศิ - ขา่ วจากเวบ็“ตะลงึ จ.นครศรีธรรมราช ขน้ึ ปา้ ย DMCTODAYเบญจมฯ ขนาดใหญ่หนา้ โรงเรยี น โดยมีเมอื งคอน ข้อความเขียนระบุ ปกี ารศกึ ษาขึ้นป้ายยกเลกิ 2559 รว่ มยกระดับคณุ ภาพเด็กฝาก การศกึ ษาพฒั นาโรงเรยี นสคู่ วามเข้าเรียน” เป็นเลิศ ยกเลกิ เด็กฝากเขา้ เรยี น
56 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทุจริตดา้ นอาชีวศกึ ษารายการ เนอ้ื หาสาระ เวลา แหลง่ สือ่ QR Code๙. ข่าว เร่ือง เดก็ โรงเรยี นเบญจมราชูทิศ - VoiceTV“เด็กโรงเรยี น นครศรฯี คะแนนสอบสงู สุด ติดเบญจมราชูทศิ นิเทศฯ จุฬา เปน็ การยกเลิกเดก็นครศรฯี ฝากเข้าเรียนคะแนนสอบสงู สดุ ตดินิเทศฯ จฬุ า๑๐. เอกสารเรอื่ ง ประมวลจริยธรรมของ - https://www.o“ประมวล ขา้ ราชการพลเรือน csc.go.th/sites/จรยิ ธรรม โดยเฉพาะข้อ 6 ข้าราชการต้อง default/files/dขา้ ราชการ ละเวน้ จากการแสวงประโยชน์ท่ี ocument/praพลเรือน” มิชอบโดยอาศัยตาแหน่งหนา้ ท่ี mwlcchriythrr และไม่กระทาการอนั เปน็ การ m_khaaraachk ขัดกันระหว่างประโยชนส์ ่วนตน aarphleruuen- และประโยชนส์ ่วนรวม elmhnangsuue .pdf สานักงาน ก.พ.๑๑. วีดทิ ศั น์ เรือ่ ง อธบิ ายเกี่ยวกับความหมายและ 5.44 สานักงาน“INFO- รปู แบบของผลประโยชน์ทบั นาที ป.ป.ช.GRAPHIC ซ้อนผลประโยชน์ทบั ซอ้ น”๑๒. วดี ิทศั น์ เรื่อง บทสมั ภาษณเ์ ก่ียวกับการทุจรติ 30.46 สานักงาน “รายการคยุ และผลประโยชน์ทบั ซ้อน นาที ป.ป.ช. กบั ป.ป.ช. 2.22 พพิ ธิ ภัณฑต์ ้าน ตอน นาที โกง สานกั งาน ผลประโยชน์ ทบั ซ้อน” ป.ป.ช.๑๓. วีดทิ ศั น์ เร่อื ง กรณตี ัวอยา่ งเกย่ี วกบั “ผลประโยชน์ ผลประโยชนท์ บั ซอ้ น ทบั ซ้อน
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา 57รายการ เน้ือหาสาระ เวลา แหล่งส่อื QR Code๑๔. วีดิทศั น์ เรอ่ื ง เพอ่ื ศึกษาตวั อย่างการขดั กัน 9.05 สานกั งาน“ทจุ ริตแก้ ระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนรวมกบั นาที ป.ป.ช. รว่ มกบัคะแนน” ประโยชนส์ ว่ นตน โรงเรยี นบ้าน แพ้ววิทยา (ต่ีตง)
58 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา กจิ กรรมป้องกันการทุจรติ หน่วยที่ ๑ ปรับพน้ื ฐานความคดิ ต้านทุจริตสว่ นตนและสว่ นรวม หน่วยย่อยที่ ๑.๓ Strong : จิตพอเพียงตา้ นทุจริตสาระสาคญั โมเดล STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ซึ่งประกอบด้วย S (sufficient) : ความพอเพียง,T (transparent) : ความโปร่งใส, R (realize) : ความตื่นรู้, O (onward) : มุ่งไปข้างหน้า, N(knowledge) : ความรู้, G (generosity) : ความเอ้ืออาทร เป็นการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ต์ใช้ เพื่อสร้างฐานคดิ จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทุจริตใหเ้ กิดข้นึ ในแต่ละบคุ คลจดุ ประสงค์ 1. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับโมเดล STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต และการ ประยุกต์ใช้ 2. เพ่ือให้สามารถประยุกต์ใช้โมเดล STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ในการพัฒนาฐานคิด จติ พอเพยี งต่อต้านการทจุ ริตท้งั ในสว่ นตนและสว่ นรวม 3. เพ่อื ให้ตระหนักถึงการดารงตนโดยยึดหลักหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเนอ้ื หาสาระ • หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียงมีใจความว่า “เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาช้ีถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับต้ังแต่ ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ท้ังในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพ่ือให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียงหมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปล่ียนแปลงท้ังภายนอกและภายใน ท้ังนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างย่ิงในการนาวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกข้ันตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจา้ หนา้ ที่ของรัฐ นกั ทฤษฎี และนักธุรกจิ ในทกุ ระดบั ใหม้ ีสานกึ ในคุณธรรมความซื่อสัตย์สจุ ริตและใหม้ คี วามรอบรู้ท่เี หมาะสม ดาเนนิ ชีวติ ด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปญั ญา และความรอบคอบเพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางท้ังด้านวัตถุ สังคมส่ิงแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เปน็ อยา่ งดี”
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา 59 • ความหมายของ “STRONG : จิตพอเพยี งต้านทุจริต” S (sufficient) : ความพอเพียง ผู้นา ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชนน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ต์ใช้เปน็ หลกั ความพอเพียงในการทางาน การดารงชวี ติ การพัฒนาตนเองและส่วนรวม รวมถงึ การปอ้ งกนั การทจุ ริตอย่างยัง่ ยืน ความพอเพียงต่อส่ิงใดสิ่งหน่ึงของมนุษย์แม้ว่าจะแตกต่างกันตามพื้นฐาน แต่การตัดสินใจต่อความพอเพียงของตนเองต้องต้ังอยู่บนความมีเหตุมีผล รวมทั้งต้องไม่เบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และสว่ นรวม ความพอเพียงดังกล่าวจึงเป็นภูมิคุ้มกันให้บุคคลน้ันไม่กระทาการทุจริต ซึ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจและปลุกใหต้ ืน่ รู้ T (transparent) : ความโปร่งใส ผู้นา ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชนต้องปฏิบัติงานบนฐานของความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ดังนั้นจึงต้องมีและปฏิบัติตามหลักปฏิบัติ ระเบียบข้อปฏิบัติ กฎหมายดา้ นความโปรง่ ใส ซึง่ ตอ้ งใหค้ วามร้คู วามเข้าใจและปลกุ ใหต้ ื่นรู้ R (realize) : ความต่ืนรู้ ผู้นา ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชน มีความรู้ ความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงรากเหง้าของปัญหาและภัยร้ายแรงของการทุจริตประพฤติมิชอบภายในชุมชนและประเทศ ความต่ืนรู้จะบังเกิดเมื่อได้พบเห็นสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการทุจริต ย่อมจะมีปฏิกิริยาเฝ้าระวังและไม่ยินยอมต่อการทุจริตในที่สดุ ซ่ึงต้องให้ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสถานการณ์การทุจริตทีเ่ กดิ ขึน้ ความรา้ ยแรงและผลกระทบต่อระดบั บุคคลและส่วนรวม O (onward) : มุ่งไปข้างหน้า ผู้นา ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชมุ ชนมุ่งพฒั นาและปรับเปล่ียนตนเองและสว่ นรวมให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน บนฐานความโปร่งใส ความพอเพียงและรว่ มสร้างวฒั นธรรมสุจริตใหเ้ กดิ ขน้ึ อย่างไม่ยอ่ ทอ้ ซึง่ ตอ้ งมคี วามรคู้ วามเข้าใจในประเดน็ ดังกลา่ ว N (knowledge) : ความรู้ ผู้นา ผู้บริหาร บุคคลทุกระดับ องค์กรและชุมชนต้องมีความรู้ความเข้าใจ สามารถนาความรู้ไปใช้ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินได้อย่างถ่องแท้ ในเรื่องสถานการณ์การทุจริต ผลกระทบที่มีต่อตนเองและส่วนรวม ความพอเพียงต้านทุจริต การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตวั และผลประโยชนส์ ่วนรวมท่ีมีความสาคญั ยงิ่ ต่อการลดการทจุ รติ ในระยะยาว รวมทง้ัความอายไม่กล้าทาทุจริตและความไม่ทนเมื่อพบเห็นว่ามีการทุจริตเกิดข้ึน เพื่อสร้างสังคมไม่ทนต่อการทจุ ริต G (generosity) : ความเอื้ออาทร คนไทยมีความเอื้ออาทร มีเมตตา น้าใจต่อกันบนฐานของจิตพอเพยี งต้านทจุ รติ ไมเ่ อ้ือตอ่ การรับหรอื การให้ผลประโยชน์ต่อบคุ คลหรือต่อพวกพอ้ ง
60 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา การประยุกต์หลกั ความพอเพยี งด้วยโมเดล STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริตรว่ มพัฒนาใหเ้ กดิ ความเออื้ อาทรต่อกนั การน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงบนพื้นฐานของจริยธรรมและจติ พอเพยี ง มาเปน็ หลักความพอเพยี ง G : Generosity S : Sufficient บุคคลและหน่วยงานปฏบิ ัตงิ าน บนฐานของความโปร่งใส ความเออื้ อาทร พอเพียง N : Knowledge จิตพอเพียง T : Transparent ตา้ นทุจริต ความรู้ โปรง่ ใส R : Realise ตื่นรู้พฒั นาองคค์ วามรอู้ ยา่ งสม่าเสมอ O : Onward มีความเข้าใจและตระหนกั รถู้ งึ รากเหง้าเพ่ือใหเ้ ทา่ ทนั ต่อสถานการณ์ทุจรติ ของปัญหา เขา้ ใจอยา่ งถอ่ งแทใ้ นเรื่อง มุ่งไปข้างหนา้ ปัญหาการทจุ ริต ผู้นามุ่งพัฒนาใหเ้ กิดความเจริญอย่างยงั่ ยนื โดยร่วมสร้างวัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต อยา่ งไมย่ ่อทอ้พัฒนาโดย รศ. ดร. มาณี ไชยธรี านวุ ัฒศริ ิ, ๒๕๖๐กจิ กรรมเสนอแนะ กจิ กรรมท่ี ๑.๓.๑ จิตพอเพียง หลีกเลี่ยงทจุ รติ
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา 61กิจกรรมป้องกนั การทจุ ริตหน่วยท่ี ๑ ปรับพน้ื ฐานความคิดตา้ นทุจริตสว่ นตนและสว่ นรวมหน่วยย่อยท่ี ๑.๓ Strong : จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติกจิ กรรมท่ี ๑.๓.๑ จติ พอเพยี ง หลีกเลย่ี งทจุ รติ เวลา ๑๒๐ นาทีสาระสาคญั สาเหตุของการทุจริตมักเกิดจากการท่ีบุคคลไม่รู้จักพอเพียง ไม่มีความพอประมาณ ไม่ยึดหลักทางสายกลาง ดังน้ันจึงจาเป็นต้องเสริมสร้างพ้ืนฐานจิตใจให้มีสานึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตรวมท้ังให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญาและความรอบคอบตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นภูมิคุ้มกันให้บุคคลนั้นไม่กระทาการทุจริต และมยิ อมให้ผ้อู ่ืนกระทาการทจุ ริตท่ีจะสง่ ผลใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อสงั คมและสว่ นรวมจุดประสงค์ของกจิ กรรม ๑. เพ่อื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความพอเพยี ง ๒. เพื่อให้สามารถประยุกต์ใช้โมเดล STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ในการพัฒนาฐานคิด จิตพอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริตทง้ั ในสว่ นตนและสว่ นรวม ๓. เพื่อให้ตระหนักถึงการประพฤติปฏิบัติพัฒนาตนโดยยึดหลักหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร ซ่ือสัตย์สุจริต มีสติ ปัญญา ความรอบรู้ และความรอบคอบส่อื วัสดุ อปุ กรณ์ แหล่งเรียนรู้ กลมุ่ ละ ๑ แท่ง ๑. ปากกาเคมี กลุ่มละ ๕ แผ่น ๒. กระดาษฟลปิ ชารท์ กลุ่มละ ๑ แผน่ ๓. แบบแสดงความคดิ เห็น กลมุ่ ละ ๑ แผน่ ๔. แบบประเมินผลงานกลุ่มและแบบสังเกตพฤตกิ รรม กลมุ่ ละ ๑ ชดุ ๕. ขาตง้ั บอร์ด จานวน ๑ ชดุ ๖. ขาตั้งบอร์ดสาหรับการนาเสนอหน้าช้ันเรียน ๗. แบบประเมนิ ผลงานกลมุ่ และแบบประเมนิ พฤติกรรม
62 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตด้านอาชีวศกึ ษาขนั้ ตอนการดาเนินกจิ กรรม ๑. ผูส้ อนกลา่ วทักทายผู้เรยี น จากนั้นแจ้งชอ่ื กจิ กรรมและจุดประสงคก์ จิ กรรมแก่ผ้เู รียน ๒. แบง่ กลุม่ ผูเ้ รยี นเปน็ ๕ กลมุ่ ๆ ละเทา่ ๆ กนั แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลอื กหวั หน้ากลุ่ม พรอ้ มต้งั ชือ่ กลมุ่ แล้วส่งตัวแทนรับอปุ กรณ์สาหรบั การทากจิ กรรม ๓. ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนการกระทาของตนเองที่เก่ียวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ซึง่ ตนเองปฏบิ ตั อิ ยูเ่ ป็นประจา โดยเปน็ ข้อ ๆ ภายในระยะเวลา ๑๕ นาที ๔. ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแต่ละกลุ่มระหว่างทากิจกรรม และในช่วงหมดเวลาว่า มกี ลุ่มใดประพฤตทิ จุ รติ หรือไม่ (กล่มุ ใดทุจริตใหห้ ักคะแนน ๕ คะแนน) ๕. ผสู้ อนอธิบายการกระทาที่เปน็ ไปตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ไดแ้ ก่ - การกระทานนั้ แสดงถงึ การมีองคค์ วามรู้ทถี่ งึ พร้อม (รมู้ าก-สาเร็จ, รนู้ อ้ ย-ล้มเหลว) - การกระทานน้ั ประกอบด้วยความเมตตาเอือ้ อาทรซงึ่ กนั และกนั (มีคุณธรรม) - การกระทานั้นได้มาตรฐานและทนั สมัย มีความเรียบร้อย บริบูรณ์ ไม่เกิดปัญหาตามมา ในภายหลัง (มภี ูมคิ ุ้มกัน) - การกระทานนั้ ประหยัด พอดี เหมาะสม พอประมาณ (ไม่เบยี ดเบยี น) ๖. เมือ่ แต่ละกลมุ่ ปฏิบตั กิ ิจกรรมสาเรจ็ ครบทุกกลุ่ม ให้แตล่ ะกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชน้ั เรียน โดยนากระดาษฟลิปชาร์ทของกลุ่มมาติดที่บอร์ดหน้าช้ันเรียน ประกอบ การนาเสน อ (ใหเ้ วลาในการนาเสนอกลมุ่ ละ ๑๐ นาที) ๗. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมวิพากษ์คาตอบของกลุ่มท่ีนาเสนอ พร้อมให้คะแนน (ใช่/ไมใช่ หลัก ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง) (๒๐นาท)ี ๘. ผู้สอนประกาศผลคะแนนของแต่ละกลุ่ม ๙. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปผลการเรียนรู้ท่ีได้จากการทากิจกรรม และเน้นย้าว่า ถ้าเรา นอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในการดารงชวี ติ ย่อมไม่ทุจรติข้อเสนอแนะ ๑. กิจกรรมน้ีเหมาะสมกบั ผูเ้ รียน จานวน 4๐ คน หรือ ๑ หอ้ งเรยี น ๒. ผู้สอนตอ้ งสรุปประเดน็ สาคญั ใหผ้ ู้เรยี นฟงั ๓. ผู้สอนอาจเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นทกุ คนรว่ มกันโหวตให้คะแนนแตล่ ะกลมุ่ ๔. ผู้สอนควรควบคมุ เวลาในการทากจิ กรรมให้เป็นไปตามเวลาทก่ี าหนดแนวทางการวดั และประเมินผล ๑. ประเมนิ จากผลการทากิจกรรม ๒. ประเมินพฤตกิ รรมระหวา่ งการทากิจกรรมโดยการสงั เกตหรือใช้แบบสงั เกต
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา 63 สัดสว่ นคะแนน หลัก รายการพฤตกิ รรมท่ีประเมินคณุ ธรรม - ทากจิ กรรมดว้ ยความละเอียดรอบคอบ (รอ้ ยละ) พอเพียง - รับฟงั ความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ในกลมุ่ 50 - ใชว้ สั ดุส่งิ ของด้วยความประหยัด และมีประสทธภิ าพ มีวนิ ัย - รับผิดชอบกจิ กรรมของตนเอง 15 สจุ รติ - ทากิจกรรมตรงตามกตกิ า และข้อกาหนด 20 จติ อาสา - มุ่งมัน่ ทากจิ กรรมด้วยความซื่อสตั ย์ 15 - ชว่ ยเหลอื สมาชกิ ในกลมุ่ ดว้ ยความเต็มใจ 100 รวม
64 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา สอื่ การเรียนรเู้ สนอแนะหนว่ ยท่ี ๑ ปรับพื้นฐานความคิดต้านทจุ ริตสว่ นตนและส่วนรวมหนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ ริตรายการ เน้อื หาสาระ เวลา แหล่งสอ่ื QR Code๑. วีดิทศั น์ เรอ่ื ง พระราชดารสั พระบาทสมเด็จ 1.01 สานักงานสารคดีตาม พระเจ้าอยหู่ ัวรัชกาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช.รอยพอ่ ขอทาดี เก่ยี วกับแนวพระราชดาริตอน แนว “ทฤษฎีใหม่”พระราชดาริ“ทฤษฎีใหม”่๒. วีดิทศั น์ เร่ือง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ 1.01 สานักงาน สารคดีตาม พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพ่อขอทาดี เกย่ี วกับทานหรือการให้ ตอน ทานหรอื การให้๓. วีดิทศั น์ เร่อื ง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ 1 สานกั งาน สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลที่ ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพอ่ ขอทาดี เกย่ี วกับแนวพระราชดาริ “การ ตอน การ พึง่ ตนเอง” พ่ึงตนเอง๔. วีดิทัศน์ เรอ่ื ง พระราชดารสั พระบาทสมเด็จ 1 สานักงาน สารคดีตาม พระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพอ่ ขอทาดี เก่ียวกบั ความเสยี สละ ตอน ความ เสยี สละ
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา 65รายการ เน้อื หาสาระ เวลา แหลง่ ส่ือ QR Code๕. วีดิทศั น์ เรอ่ื ง พระราชดารสั พระบาทสมเด็จ 1.01 สานกั งานสารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลที่ ๙ นาที ป.ป.ช.รอยพ่อขอทาดี เก่ยี วกบั ความเมตตาตอน ความเสยี สละ๖. วีดิทัศน์ เรื่อง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ 1 สานกั งาน สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพ่อขอทาดี เกี่ยวกับความอดทนนาพาให้ 1.01 สานักงาน ตอน ความ ชีวติ มคี วามเจริญรุ่งเรอื ง นาที ป.ป.ช. อดทนนาพาให้ ชวี ิตมคี วาม เจรญิ รุ่งเรอื ง๗. วีดิทศั น์ เร่ือง พระราชดารสั พระบาทสมเด็จ สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลท่ี ๙ รอยพอ่ ขอทาดี เกี่ยวกับความเพยี ร ตอน ความ เพียร๘. วีดิทัศน์ เรื่อง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ 1 สานักงาน สารคดีตาม พระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพ่อขอทาดี เกีย่ วกบั ความออ่ นโยน ตอน ความ อ่อนโยน๙. วีดิทัศน์ เรอ่ื ง พระราชดารัสพระบาทสมเดจ็ 58 สานกั งาน สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลท่ี ๙ วินาที ป.ป.ช. รอยพอ่ ขอทาดี เกี่ยวกบั การแกป้ ัญหาดว้ ย ตอน การ ปญั ญา แก้ปัญหาด้วย ปญั ญา
66 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษารายการ เนอื้ หาสาระ เวลา แหล่งสือ่ QR Code๑๐. วีดิทัศน์ เรื่อง พระราชดารัสพระบาทสมเดจ็ 1 สานักงานสารคดีตาม พระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช.รอยพ่อขอ เกย่ี วกบั เศรษฐกจิ พอเพยี ง 1 สานกั งานทาดี ตอน นาที ป.ป.ช.เศรษฐกจิ 1 สานกั งานพอเพียง นาที ป.ป.ช. 1 สานักงาน๑๑. วีดิทศั น์ เรอ่ื ง พระราชดารสั พระบาทสมเด็จ นาที ป.ป.ช. สารคดตี าม พระเจ้าอยหู่ วั รัชกาลท่ี ๙ 1 สานักงาน รอยพอ่ ขอ เกย่ี วกับความซอื่ สตั ยส์ ุจรติ นาที ป.ป.ช. ทาดี ตอน ความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ๑๒. วีดิทัศน์ เรื่อง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ สารคดีตาม พระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลที่ ๙ รอยพ่อขอ เกย่ี วกบั ขนั ติหรอื ความอดทน ทาดี ตอน ขนั ตหิ รือ ความอดทน๑๓. วีดิทัศน์ เร่ือง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลที่ ๙ รอยพอ่ ขอ เกีย่ วกบั การทางานด้วยความ ทาดี ตอน รอบคอบ การทางาน ดว้ ยความ รอบคอบ๑๔. วีดิทศั น์ เรอ่ื ง พระราชดารสั พระบาทสมเด็จ สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลที่ ๙ รอยพอ่ ขอ เกย่ี วกบั ความไมเ่ บยี ดเบยี น ไม่ ทาดี ตอน เอาเปรยี บผูอ้ ื่น ความไม่- เบียดเบยี น ไม่เอาเปรียบ ผู้อน่ื
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตด้านอาชีวศกึ ษา 67รายการ เน้ือหาสาระ เวลา แหล่งสือ่ QR Code๑๕. วีดิทศั น์ เรื่อง พระราชดารัสพระบาทสมเดจ็ 1 สานกั งานสารคดีตาม พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลที่ ๙ นาที ป.ป.ช.รอยพอ่ ขอ เกี่ยวกบั การยดึ มน่ั ความเทย่ี งทาดี ตอน ธรรมการยดึ มนั่ความเท่ยี งธรรม๑๖. วีดิทัศน์ เร่อื ง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ 1 สานักงานสารคดีตาม พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช.รอยพ่อขอ เก่ียวกับการชว่ ยเหลอื ซงึ่ กนั และทาดี ตอน กันการช่วยเหลอืซ่ึงกนั และกัน๑๗. วีดิทัศน์ เร่อื ง พระราชดารัสพระบาทสมเดจ็ 1 สานักงาน สารคดีตาม พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพอ่ ขอ เกี่ยวกับการตง้ั ม่นั ในศลี มี ทาดี ตอนการ คุณธรรม ตัง้ มั่นในศีล มีคุณธรรม๑๘. วีดิทศั น์ เรื่อง พระราชดารัสพระบาทสมเด็จ 1 สานกั งาน สารคดตี าม พระเจา้ อยหู่ ัวรัชกาลท่ี ๙ นาที ป.ป.ช. รอยพอ่ ขอ เกย่ี วกับการตงั้ มั่นที่จะเปน็ คนดี 9.47 กทม. และ ทาดี ตอนการ ในสังคม นาที ศูนย์สาธารณ- ตั้งมัน่ ท่ีจะเปน็ คนดีในสงั คม ประโยชน์ และประชา-๑๙. วีดิทัศน์ เรอ่ื ง แกไ้ ขเวลาจอดรถเพ่อื ให้ตนเอง สังคม (นิดา้ ) โตไปไมโ่ กง ไดจ้ อดรถฟรี และองคก์ ร ตอนสาว เพ่ือความ นกั ช้อป โปร่งใสใน ประเทศ
68 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตด้านอาชวี ศกึ ษา กจิ กรรมป้องกันการทจุ รติ หนว่ ยท่ี ๑ ปรบั พืน้ ฐานความคดิ ต้านทจุ รติ ส่วนตนและสว่ นรวม หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๔ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อการทุจริตสาระสาคัญ การทุจริตมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมากในหลายด้าน เช่น ทาให้ประเทศสูญเสียภาษีที่จะนามาใช้ในการพัฒนาประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศลดลง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง เป็นต้น ดังน้ันจึงจาเป็นต้องปลูกจิตสานึก สร้างความร่วมมือและความรับผิดชอบของพลเมือง ในการยอมรบั เคารพหลักการ กฎระเบยี บ กตกิ าและขอ้ บงั คับทางสงั คม ทั้งนี้ เยาวชนถือเป็นรากฐานท่ีสาคัญต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตจึงจาเป็นต้องเร่ิมต้ังแต่ต้นทางคือเด็กและเยาวชน โดยมุ่งสร้างให้เยาวชนมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เชน่ ความมวี ินัยและความรบั ผิดชอบ การเห็นแกป่ ระโยชนส์ ว่ นรวมมากกวา่ส่วนตน ดว้ ยการสร้างจติ สานึก “ความเป็นพลเมอื ง”จุดประสงค์ 1. เพอ่ื ให้มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความรบั ผิดชอบของพลเมืองตอ่ การตา้ นทุจรติ 2. เพือ่ ให้สามารถพัฒนาตนใหม้ ีความเป็นพลเมือง มีส่วนร่วมและรบั ผิดชอบต่อการตา้ นทุจรติ 3. เพ่ือให้ตระหนักถึงการมสี ่วนร่วมปลูกจิตสานึก ยอมรับ เคารพหลักการ กฎระเบียบ กติกา และขอ้ บงั คบั ทางสังคมเน้อื หาสาระ • ความหมายของคาท่เี กย่ี วขอ้ งกับพลเมือง “พลเมือง” มีความหมายในหลายแง่มุมและมีการนาไปใช้เทียบกับคาอ่ืน ๆ อาทิ ประชากรประชาชน ปวงชน และราษฎร ฯลฯ คาว่า “พลเมือง” เกิดข้ึนคร้ังแรกเม่ือเกิดการปฏิวัตใิ หญ่ในฝร่งั เศสเร่ิมตน้ เมือ่ ปี ค.ศ. 1789 ชาวฝร่ังเศสลุกฮือกนั ขน้ึ มาลม้ ลา้ งระบอบการปกครองของพระเจา้ หลุยสท์ ี่ 16ล้มล้างระบบชนช้ันต่าง ๆ ขณะน้ันได้แก่ พระราชวงศ์ ขุนนางข้าราชการ สมณะ นักพรต นักบวชและไพร่ประกาศความเสมอภาคของชาวฝร่งั เศสทกุ คน ตอ่ มาคาวา่ \"Citoyen\" จึงแปลเป็น \"Citizen\" ในภาษาองั กฤษ คาว่า “พลเมือง” ในประเทศไทย น่าจะถูกนามาใช้สมัยหลังเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 เน่ืองจากผู้นาคณะราษฎรบางท่านเคยเรียนท่ีประเทศฝร่ังเศส จึงได้นาเอาคานี้มาใส่ไว้ในรัฐธรรมนญู ฉบับถาวร ซึ่งประกาศใชเ้ ม่อื วันที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2475
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทุจริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 69 “พลเมือง” ตามความหมายของพจนานุกรมนักเรียนฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึงชาวเมอื ง ชาวประเทศ ประชาชน “ความเป็นพลเมือง” วราภรณ์ สามโกเศศ อธิบายว่าหมายถึง การเป็นคนท่ีรับผดิ ชอบไดด้ ้วยตนเอง มคี วามสานกึ ในสนั ติวธิ ี มกี ารยอมรับความคิดเหน็ ของผอู้ ่นื “ความเป็นพลเมืองของระบอบประชาธิปไตย” ปริญญา เทวานฤมิตรกุล กล่าวว่าหมายถึงการท่ีสมาชิกมีอิสรภาพควบคูก่ บั “ความรับผิดชอบ” และมอี สิ ระเสรภี าพควบคกู่ ับ “หนา้ ท่ี” สรุปได้ว่า “ความเป็นพลเมือง” คือ ประชาชนท่ีมีอิสรภาพ มีหน้าท่ีและความรับผิดชอบต่อประเทศของตนเอง โดยจะต้องเคารพสิทธิผู้อื่น ไม่ละเมิดสิทธิผู้อ่ืน พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยจึงต้องเคารพสิทธิผู้อื่นและจะต้องไม่ใช้สิทธิเสรีภาพของตนไปละเมิดสิทธิของผู้อ่ืน มีความรับผิดชอบต่อสังคม ใช้สิทธิเสรีภาพของตนโดยรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ด้วยเหตุที่สังคมหรือประเทศชาติมิได้ดีข้ึนหรือแย่ลงโดยตวั เอง หากสังคมจะดขี ึ้นได้กด็ ้วยการกระทาของคนในสังคม • คุณลกั ษณะของพลเมอื ง พลเมืองในระบบประชาธิปไตย ประกอบด้วยลักษณะ ๖ ประการ (ปริญญา เทวานฤมิตรกุล๒๕๕๕) คอื ๑. มีอสิ รภาพและพึ่งพาตนเอง ๒. เห็นคนเท่าเทยี มกัน ๓. ยอมรับความแตกต่าง ๔. เคารพสิทธิผูอ้ นื่ ๕. รับผดิ ชอบต่อสังคม ๖. เขา้ ใจระบบประชาธิปไตยและการมีส่วนรว่ ม • การทจุ รติ และผลกระทบของการทุจริตต่อการพฒั นาประเทศ การทุจริตมีผลกระทบต่อการพฒั นาประเทศในทุก ๆ ด้าน เป็นพื้นฐานที่ก่อให้เกิดความขดั แยง้ของคนในชาติ จากการเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ของประเทศ ประชาชนได้รับบริการสาธารณะหรือส่ิงอานวยความสะดวกไม่เต็มท่ีอย่างที่ควรจะเป็น เงินภาษีของประชาชนตกไปอยู่ในกระเป๋าของผู้ทจุ ริต และมผี ลกระทบอ่ืน ๆ อกี มากมาย นอกจากนแ้ี ล้ว หากพิจารณาในแงก่ ารลงทนุ จากต่างประเทศเพ่ือประกอบกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ พบว่านักลงทุนต่างประเทศจะมองวา่ การทุจริตถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหน่ึง ซึ่งนักลงทุนจากต่างประเทศจะใช้ประกอบการพิจารณาการลงทุนร่วมกับปัจจัยด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ หากต้นทุนที่ต้องเสียจากการทุจริตเป็นต้นทุนท่ีสงู นักลงทุนจากต่างประเทศอาจพิจารณาตดั สินใจการลงทนุ ไปยงั ประเทศอื่น ส่งผลให้การจ้างงาน การสร้างรายได้ให้แกป่ ระชาชนลดลงเม่ือประชาชนมีรายได้ลดลงก็จะส่งผลต่อการจัดเก็บภาษอี ากรซ่ึงเปน็ รายได้ของรัฐลดลง มีผลกระทบตอ่การจัดสรรงบประมาณและการพฒั นาประเทศในทสี่ ุด
70 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริตดา้ นอาชีวศกึ ษา พฤติกรรมของพลเมืองทว่ั ไปทเี่ จตนาทุจรติ แสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้ มดี งั นี้ ๑. การติดสินบน เป็นการเสนอให้ สัญญาว่าจะให้ผลประโยชนใ์ นรูปของเงิน ส่ิงของ หรือสิ่งตอบแทนต่าง ๆ เพ่ือจงู ใจให้เกดิ การกระทาผิดกฎหมายหรือศลี ธรรมอันดี ๒. การยักยอก เป็นการนาเงินหรือสงิ่ ของที่ได้รับมอบหมายให้ใช้ในราชการมาเพ่ือประโยชน์สว่ นตนหรอื กจิ กรรมอืน่ ที่ไมเ่ กีย่ วข้อง ๓. การอุปถัมภ์ เป็นการท่ีผู้มีอานาจใช้ประโยชน์กับผู้รับอุปถัมภ์ โดยหวังจะได้รับประโยชน์ตอบแทนกลับมาในรปู แบบของทรพั ยส์ นิ การบรกิ าร ความจงรกั ภักดี การสนบั สนุนในรูปแบบต่าง ๆ ๔. การเลือกท่ีรกั มักทชี่ ัง เปน็ รปู แบบของการเกื้อหนุนต่อญาติมิตร เลน่ พรรคเล่นพวก โดยจะใช้อานาจที่มีในการให้ผลประโยชน์แก่ครอบครัว เพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิด โดยไม่คานึงถึงคุณสมบัติและความเหมาะสม ๕. การมีประโยชน์ทับซ้อนหรือการขัดแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมหรือการทุจริตเชิงนโยบาย เป็นการใช้อานาจหนา้ ท่ีตัดสินใจเพือ่ ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองหรือพวกพ้องมากกว่าประโยชน์ทจี่ ะเกิดแกส่ ่วนรวม • พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบต่อการทจุ ริต ดังทก่ี ลา่ วแลว้ วา่ ประเทศท่ีกาลังพฒั นามีแนวโน้มท่ีจะเกิดการทจุ ริตขึ้นได้อยา่ งมาก เน่ืองจากมีปัจจยั ภายในทีเ่ ออ้ื หรือสนบั สนนุ ตอ่ การเกิดการทุจริตหลายปจั จัย ได้แก่ ๑. ปัจจัยด้านประชาชนหรือพลเมือง เช่น อยากมีรายได้มากขึ้นเพราะความยากจน ค่าจ้างแรงงานหรือรายได้ต่า มีความเส่ียงสูงในด้านตา่ ง ๆ เช่น ความเจ็บป่วย อุบัติเหตุหรือการว่างงาน ความเจรญิ ทางวตั ถุทาใหอ้ ยากไดอ้ ยากมนี าไปสปู่ ัญหาหน้ีสิน ๒. ปจั จยั ดา้ นการเมอื งการปกครองประเทศ เช่น มีสถานการณห์ รือโอกาสท่ีอาจกอ่ ให้เกิดการทุจริตได้เป็นจานวนมาก มีกฎระเบียบต่าง ๆ ท่ีอาจนาไปสู่การทุจริต มีกฎหมายและกระบวนการยตุ ธิ รรมที่ไมเ่ ขม้ แข็ง มกี ฎหมายและประมวลจริยธรรมทล่ี า้ สมยั การเมอื งไมม่ เี สถียรภาพและมีเจตจานงทไ่ี มเ่ ขม้ แข็ง ชัดเจน การสร้างความเป็นพลเมืองที่ไม่ทนต่อการทุจริต จะต้องเร่ิมต้นจากการปรับกระบวนการคิดต้ังแต่เด็ก ๆ โดยการปลูกฝังเร่ืองคุณธรรม จริยธรรม จัดการศึกษาอบรมส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับคิดได้ คิดดีและคิดเป็น เพื่อให้สามารถแยกแยะประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวมได้ นาไปสู่สังคมปลอดการทุจรติ ในท่ีสดุกิจกรรมเสนอแนะ กจิ กรรมท่ี ๑.๔.๑ ใครใหญ่ กจิ กรรมที่ ๑.๔.๒ ใจเขา ใจเรา
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตด้านอาชวี ศกึ ษา 71 กิจกรรมปอ้ งกนั การทุจรติหน่วยที่ ๑ ปรบั พ้นื ฐานความคดิ ตา้ นทจุ ริตสว่ นตนและสว่ นรวมหนว่ ยยอ่ ยที่ ๑.๔ พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบต่อการทจุ รติกิจกรรมท่ี ๑.๔.๑ ใครใหญ่ เวลา ๑๒๐ นาทีสาระสาคญั เยาวชนไทยมีพฤติกรรมชอบเลียนแบบมากข้ึน เช่น การขับขี่รถจักรยานยนต์แบบแว้น การปิดถนนแข่งขันรถจักรยานยนต์ การขับข่ีรถจักรยานยนต์ฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขบั รถจักยานยนต์ เป็นต้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าเยาวชนขาดระเบยี บวินยั ในหลายลักษณะ ทั้งการแสดงออกทางกายหรือการกระทา ไม่เคารพกฎกติกา การใช้วาจาไม่เหมาะสม การฝึกให้ผู้เรียนให้อยู่ในระเบียบวินัย รู้จักเคารพกติกาต่าง ๆ จะเป็นการช่วยให้ผู้เรียนคุ้นเคยต่อการอยู่ในกรอบระเบียบวินัยของสังคมไมเ่ อาเปรยี บสงั คม การสร้างลักษณะนิสยั ทเ่ี ป็นระเบยี บจะทาให้ผ้เู รยี นออกไปสูส่ ังคมและประกอบอาชีพไดอ้ ย่างมคี วามสุขจดุ ประสงค์ของกจิ กรรม ๑. เพ่อื ให้มีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั ระเบียบวินยั และความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๒. เพ่อื ให้สามารถประพฤติปฏบิ ัติตนตามกฎระเบยี บ วนิ ยั ไม่เอาเปรยี บสังคม ๓. เพอื่ ใหเ้ หน็ ความสาคญั ของการมีระเบยี บวนิ ยั และเคารพสทิ ธิของผอู้ น่ื ในสังคมสอ่ื วสั ดุ อปุ กรณ์ แหลง่ เรยี นรู้๑. คอมพวิ เตอร์ พรอ้ มเครอ่ื งฉาย LCD และจอ๒. ไมโครโฟนและเครอ่ื งเสยี ง๓. คลิปวิดีโอ เร่ือง “อดทน อดกลั้น”https://www.youtube.com/watch?v=dWmZDGYtE_k๔. กระดาษ โพสต์อทิ สีชมพู สีเหลือง สีเขยี ว จานวน ๓ แผน่ ต่อคน๕. ปากกาเคมี คละสี จานวน ๑ แทง่ ต่อคน๖. กระดานบอรด์ สาหรับติด กระดาษโพสต์อทิ จานวน ๒ แผ่น๗. แบบประเมินผลงานกลุ่มและแบบประเมินพฤตกิ รรม
72 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทุจริตด้านอาชวี ศกึ ษาข้ันตอนการดาเนนิ กจิ กรรม ๑. ผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน ชี้แจงกิจกรรมและจุดประสงค์ของกิจกรรมแก่ผู้เรียน โดยเน้น ให้ผู้เรียนเข้าใจและตระหนักในความสาคัญของการปฏิบัติตามกฎ กติกาและระเบยี บวนิ ยั อยา่ งเครง่ ครัดและความรับผิดชอบตอ่ สังคม ๒. ผู้สอนเปดิ คลปิ วิดีโอ เรือ่ ง อดทน อดกลัน้ ใหผ้ เู้ รยี นดู ๓. หลังจากดคู ลปิ วิดีโอ ผสู้ อนแจกกระดาษ โพสตอ์ ิท ให้ผเู้ รียนคนละ ๒ แผ่น สีแตกตา่ งกนั โดยกาหนดให้ สที ี่ ๑ สีชมพู คอื ดา้ นบวก สีท่ี ๒ สีเหลอื ง คอื ด้านลบ ต้ังคาถามว่าผู้เรียนคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่ดูในด้านบวกและด้านลบ ให้เขียนลงใน กระดาษสีทีก่ าหนด แล้วนาไปตดิ ท่ีกระดานบอร์ดหนา้ ชัน้ เรียนบอร์ดท่ีหน่ึง ๔. ครูผู้สอนสุ่มหยิบกระดาษคาตอบด้านลบ มา ๒ แผ่น ให้ผู้เรียนท่ีเป็นเจ้าของออกมา แลกเปล่ียนเรียนรู้ และสุ่มหยิบกระดาษคาตอบด้านบวก มา ๒ แผ่น ให้ผู้เรียนที่เป็น เจ้าของออกมาแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ จากนัน้ ใหผ้ เู้ รียนน่ังประจาท่ี ๕. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากการดูคลิปวิดีโอ โดยผู้สอนต้ังคาถาม เป็นการกระตุ้นการมีส่วนร่วม เช่น ใครเป็นผู้ไม่เคารพกติกา เร่ืองใดควรประพฤติ เร่ืองใด ไม่ควรประพฤติ สิ่งที่ประพฤตนิ น้ั มผี ลดผี ลเสยี อยา่ งไร เป็นต้น ๖. ผสู้ อนแจกกระดาษ โพสตอ์ ิท สเี ขยี ว ใหผ้ ูเ้ รียนคนละ ๑ แผน่ ให้แตล่ ะคนเขียนแสดงความ คิดเห็นว่า “เราจะแก้ปัญหาการไม่เคารพกฎ กติกาในสังคมอย่างไร” นาออกมาติดท่ี กระดานบอรด์ หนา้ ชั้นเรยี นบอรด์ ที่สอง ๗. จากนนั้ ผู้สอนสุ่มหยิบกระดาษ Post it จากบอร์ดที่ 2 จานวน ๔ แผ่น แลว้ ให้ผูเ้ รียนทีเ่ ป็น เจา้ ของทัง้ ๔ แผน่ ออกมานาเสนอ ๘. ผู้สอนและผูเ้ รียนชว่ ยกันสรุปสิง่ ทไี่ ด้จากการเรียนรู้ โดยเน้นยา้ ถึงการมีระเบยี บวินยั ความ รบั ผิดชอบต่อสงั คมและต้านการทจุ ริตเปน็ หนา้ ทข่ี องพลเมืองทกุ คนข้อเสนอแนะ ๑. กิจกรรมนเี้ หมาะสมกับผเู้ รยี น จานวน ๓๐ คน เพือ่ ให้ทกุ คนมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมและการ แสดงความคิดเหน็ ๒. ผู้สอนอาจเลือกคลปิ วีดิโอเร่อื งอ่นื ๆ ทีส่ ามารถดงึ ดูดความสนใจได้มากกว่านี้ ๓. ผู้สอนต้องคอยกระตุ้นให้ผเู้ รียนทุกคนมีสว่ นร่วมในการทากิจกรรม การแสดงความคิดเห็น เพอ่ื ควบคมุ เวลาให้เปน็ ไปตามทกี่ าหนด ๔. ผู้สอนอาจปรับหรือลดจานวนผู้เรียนที่ส่มุ ให้ออกมานาเสนอได้ตามเวลาทม่ี ี และควรเลือก ประเด็นคาตอบท่แี ตกต่างกันเพอ่ื ใหม้ มี มุ มองท่หี ลากหลายในการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา 73แนวทางการวดั และประเมนิ ผล ๑. ประเมนิ จากผลการทากจิ กรรม ๒. ประเมินพฤติกรรมระหว่างการทากจิ กรรมโดยการสังเกตหรอื ใช้แบบสงั เกต หลกั รายการพฤติกรรมที่ประเมิน สัดส่วนคะแนนคณุ ธรรม - รบั ผดิ ชอบกิจกรรมของตนเอง (รอ้ ยละ) - ทากิจกรรมตรงตามกติกา และขอ้ กาหนด 25 มวี ินัย - ม่งุ ม่นั ทากิจกรรมดว้ ยความซื่อสตั ย์ 50 สจุ รติ - ชว่ ยเหลือสมาชิกในกลุ่มด้วยความเต็มใจ 25 จิตอาสา 100 รวม
74 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษากิจกรรมปอ้ งกันการทุจริตหน่วยที่ ๑ ปรับพื้นฐานความคิดต้านทุจริตสว่ นตนและสว่ นรวมหนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๔ พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ การทจุ รติกิจกรรมท่ี ๑.๔.๒ ใจเขา ใจเรา เวลา ๑๒๐ นาทีสาระสาคญั ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน เกิดจากสาเหตุมาจากประชาชนในสังคมท่ีไม่ได้ทาหน้าทโ่ี ดยสจุ รติ หรอื ขาดความรบั ผดิ ชอบในการเป็นพลเมอื งทดี่ ีของสงั คม นาไปสพู่ ฤตกิ รรมการทุจรติในระดับต่าง ๆ เชน่ การเอารดั เอาเปรียบ การละเลยจารีตประเพณีวัฒนธรรมอนั ดงี าม การไมป่ ฏบิ ัตติ ามปทัสถานของสังคมเหล่าน้ีถือเป็นการทุจริตในพฤติกรรมทั่วไปของมนุษย์ท่ีนาไปสู่ปัญหาสังคม การรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นแนวทางหน่งึ ในการสรา้ งความรับผิดชอบตอ่ การทุจริตของพลเมอื ง อนั จะนาไปสู่สังคมทีม่ คี วามสขุ ตอ่ ไปจุดประสงคข์ องกิจกรรม ๑. เพ่ือใหม้ ีความรูค้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ การทจุ รติ ของพลเมอื ง ๒. เพ่ือให้สามารถจาแนกพฤติกรรมการทุจริตและการรับผิดชอบต่อการทุจริต เพื่อนาไป ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันในฐานะพลเมอื งดี ๓. เพ่อื ใหต้ ระหนกั ถึงความรับผิดชอบตอ่ การทจุ ริตของตนเองและสังคมสอื่ วัสดุ อุปกรณ์ แหล่งเรยี นรู้ ๑. โตะ๊ สาหรบั วางของ จานวน 1 ตวั ๒. โตะ๊ รับประทานอาหาร จานวน ๑ ตัว พร้อมเกา้ อี้ ๔ ตวั ๓. แกว้ นา้ ด่ืมพลาสติก จานวน ๑๐ ใบ และแก้วนา้ ธรรมดา จานวน ๓ ใบ ๔. หลอดกาแฟ จานวน ๑๐-๒๐ หลอด ๕. กระดาษรปู หัวใจ สดี า สชี มพู/สแี ดง ตามจานวนผู้เรยี น ๖. ไมโครโฟน จานวน 4 ตัว พร้อมลาโพง 1 ชดุ ๗. ถังขยะ จานวน 1 ใบ ๘. กระดาษทิชชู จานวน 1 มว้ น ๙. มงกุฎกระดาษ จานวน ๑ อัน มงกุฎกะโหลกไขว้จานวน ๑ อัน และสายสะพายกระดาษ จานวน ๒ ชิ้น ๑๐. ปากกาเคมี จานวน 10 ดา้ ม เทปกาว/ลวดเยบ็ กระดาษ จานวน 1 ช้ิน ๑๑. แบบประเมนิ ผลงานกล่มุ และแบบประเมนิ พฤติกรรม
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา 75ขน้ั ตอนการดาเนนิ กิจกรรม 1. ผ้สู อนอธิบายทบทวนเร่ืองหนา้ ท่ี ความรบั ผดิ ชอบของพลเมืองต่อการทจุ รติ แลว้ ตง้ั คาถาม ผเู้ รียน ดังนี้ คาถามที่ ๑ ......พลเมืองคอื ใคร..... คาถามท่ี ๒ ......พลเมอื งมีหน้าทอี่ ะไร.... คาถามที่ ๓ ......ทาอย่างไรพลเมอื งถงึ มคี วามสุข.... 2. ผู้สอนจัดพื้นที่หน้าชั้นเรียนเพ่ือจาลองให้เป็นโรงอาหารของวิทยาลัยแห่งหน่ึง และขอ อาสาสมคั รผเู้ รียนเข้าร่วมในสถานการณจ์ าลอง ดงั นี้ - ผู้เรียนจานวน ๓ คน กาลงั เขา้ แถวซ้อื นา้ ทโ่ี รงอาหาร - ผู้เรยี นจานวน ๔ คน กาลงั น่ังรบั ประทานอาหาร - ผู้เรียนจานวน ๒ คน เป็นแม่ค้าขายน้าอยู่ที่โต๊ะขายของ (คนหน่ึงเป็นเจ้าของร้าน อีกคนหนึ่งเปน็ ลกู จา้ ง) - ผู้เรยี นจานวน ๑ คน เปน็ คนขายนา้ อยู่ตรงทางเดนิ 3. ผสู้ อนอธบิ ายซกั ซ้อมใหผ้ ู้เรยี นแสดงสมมุตบิ ทบาทตามสครปิ ต์ ดงั นี้ ๓.๑ เหตุการณ์ท่ีร้านขายน้า มีผู้เรียนคนหน่ึงไปแซงคิวซ้ือน้า แม่ค้าบอกว่าให้ไปต่อคิว และแม่ค้าก็ขายน้าต่อไป ปรากฏว่าหลอดดูดน้าหมด จึงหันไปบอกให้ลูกจ้างเอา หลอดดดู น้ามาเพ่ิม แตล่ ูกจ้างหันไปดึงหลอดจากแกว้ ทใี่ ช้แล้วมาลา้ ง และขายคนอื่น ต่อ ๆ ไป ๓.๒ เหตกุ ารณ์ที่โต๊ะอาหาร คนที่ ๑ เอาแกว้ พลาสติกไปท้งิ ถงั ขยะแล้วเดนิ ไป คนที่ ๒ เดนิ ไปเลย โดยทงิ้ กระดาษทชิ ชไู วบ้ นโต๊ะอาหาร คนท่ี ๓ เรียกคนท่ี ๒ ให้มาเก็บไปท้ิง แต่คนท่ี ๒ ไม่สนใจ คนท่ี ๓ ลุกตามไปด้วย โดยเอาเฉพาะของตัวเองไปท้ิง คนท่ี ๔ กนิ เสรจ็ เก็บแกว้ จานและกระดาษทชิ ชูท่ีวางบนโต๊ะไปท้งิ ๓.๓ ระหว่างนน้ั แมค่ ้าขายน้าทท่ี างเดินตะโกนขายนา้ ตัดราคาอยู่ตลอดเวลา ๓.๔ ตัวแทนผู้แสดงบทบาทสมมติ ๑ คน เดินมาหน้าเวทีบอกจบการแสดง ผู้เรียนทุกคน ปรบมอื และผู้แสดงทุกคนกลับไปอย่ใู นท่ตี ง้ั เดมิ 4. ผู้สอนแจกกระดาษรปู หวั ใจสีแดงและกระดาษรปู หัวใจสดี าให้ผู้เรยี นกลุม่ ผู้ชม สีละ ๑ แผน่ ให้แต่ละคนนากระดาษรูปหัวใจสีแดงไปให้ผู้แสดงที่ตัวเองเห็นว่ามีพฤติกรรมที่ดี และนา กระดาษรปู หัวใจสีดาไปใหผ้ ู้แสดงท่ีตัวเองเหน็ วา่ มีพฤติกรรมทุจรติ 5. ผู้สอนมอบมงกุฎและสายสะพายให้กับผู้ท่ีได้หัวใจสีแดงมากท่ีสุด และมอบมงกุฎกะโหลก ไขว้และสายสะพายให้ผู้ท่ีได้หวั ใจสีดามากทส่ี ุด แล้วถามผ้เู รียนถึงเหตผุ ล 6. ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ เรือ่ งพลเมอื งกับการรับผดิ ชอบต่อการทุจริต 7. หลังเสรจ็ กจิ กรรมทั้งหมดผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกนั เกบ็ ของให้เรยี บรอ้ ยโดยไม่ต้องส่ัง
76 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษาข้อเสนอแนะ 1. กิจกรรมนเี้ หมาะกบั ผ้เู รยี น ไม่น้อยกวา่ ๒๕ คน 2. ผสู้ อนตอ้ งต้ังคาถามนาเรื่องการทจุ ริตกอ่ นแสดงบทบาทสมมติ 3. การจัดผู้เรียนแสดงบทบาทสมมติควรเป็นไปตามความสมัครใจ และควรฝึกซ้อมก่อน เพ่อื ให้การแสดงราบรน่ื สมจรงิ 4. หัวใจกระดาษที่ส่ือถึงพฤติกรรมท่ีดีและไม่ดี นอกจากสื่อด้วยสีแดงกับสีดา อาจใช้รูป หนา้ ยิม้ และหนา้ โกรธกไ็ ด้ 5. ผสู้ อนตอ้ งคอยกระตุน้ และควบคมุ เวลาใหเ้ ปน็ ไปตามทก่ี าหนดแนวทางการวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ จากผลการทากิจกรรม 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมระหวา่ งการทากิจกรรมโดยการสังเกตหรือใชแ้ บบสังเกต 3. ประเมนิ ทศั นคติต่อการทจุ ริตจากการแสดงความคดิ เหน็ ของผ้เู รียน หลกั รายการพฤตกิ รรมท่ีประเมนิ สัดส่วนคะแนนคณุ ธรรม - รับผิดชอบกจิ กรรมของตนเอง (ร้อยละ) - ทากจิ กรรมตรงตามกติกา และข้อกาหนด 25 มีวินัย - มุง่ มน่ั ทากจิ กรรมดว้ ยความซือ่ สตั ย์ 50 สจุ รติ - ชว่ ยเหลอื สมาชิกในกลมุ่ ดว้ ยความเตม็ ใจ 25 จติ อาสา 100 รวม
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา 77 ส่อื การเรยี นรูเ้ สนอแนะ QR Codeหนว่ ยที่ ๑ ปรบั พืน้ ฐานความคิดต้านทุจรติ สว่ นตนและส่วนรวมหนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑.๓ พลเมืองกับความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม รายการ เน้อื หาสาระ เวลา แหล่งสอื่๑. ภาพยนตส์ นั้ พ่อกบั ลูกคู่หนง่ึ ลูกอา่ นหนังสอื 5 สานักงาน การ์ตนู ซ่งึ มีเนื้อหาวา่ ทุจรติ จะ นาที ป.ป.ช. เรอ่ื ง GOT ครองโลกโดยจอมมาร GOT STAR STAR พ่อขับรถอย่บู นถนนและ มพี ฤติกรรมคล้ายจอมมารฯ๒. ภาพยนตส์ ้ัน การลอกข้อสอบแล้วอาจารย์ 5.04 สานกั งาน เรือ่ ง ผลลบั จบั ได้ แลว้ ขอใหผ้ ูป้ กครองเด็ก นาที ป.ป.ช. จ่ายเงนิ เพือ่ แลกกบั การใหเ้ ด็ก สอบผ่านแต่ผู้ปกครองไม่ยอม จ่าย๓. วีดิทัศน์ เร่ือง นกั บนิ ฝนหลวงต้องบนิ ผา่ เขา้ ไป 1 สานกั งาน สารคดตี าม ในก้อนเมฆเพ่อื ทาฝนหลวงให้ นาที ป.ป.ช. รอยพ่อขอทาดี ชาวบ้าน ตอน ความ รับผดิ ชอบเพือ่ สว่ นรวม๔. วดี ทิ ัศน์ เร่อื ง อธบิ ายถงึ การคอรร์ ปั ชันของ 1.03 สานกั งาน ขา้ ราชการ ขา้ ราชการ นาที ป.ป.ช. คอรร์ ปั ชนั
78 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา รายการ เน้ือหาสาระ เวลา แหล่งสอ่ื QR Code๕. วีดทิ ัศน์ เรื่อง เป็นการต์ ูนการนาเสนอขอ้ มลู 6.00 สานักงาน การคอรร์ ปั ชนั ในรปู แบบของ นาที ป.ป.ช. หกั เหลยี่ ม การก่อสร้างทลี่ ดมาตรฐานจน คอรร์ ปั ชนั ทาให้เกิดอันตรายตอ่ ชวี ติ และ ทรพั ย์สิน โดยขาดซึ่งความ ละอายทมี่ ตี อ่ การทาทุจรติ๖. ภาพยนตรส์ ั้น เปน็ หนงั ส้นั ท่นี าเสนอเกย่ี วกบั 4.54 สานกั งาน ต้านคอรร์ ปั ชัน การไมส่ นบั สนุนใหเ้ ขา้ ไปมีสว่ น นาที ป.ป.ช. เร่ือง รว่ มในการก่อให้เกดิ การทุจรติ Innocence๗. วดี ทิ ศั น์ เร่ือง การไมต่ ัง้ ใจทางาน โดยเลน่ 1.55 https://www. รู้จกั หน้าท่ี อนิ เทอรเ์ น็ต/โทรศพั ท์ ในเวลา นาที youtube.com ทางาน /watch?v=GA TjrfppBBA จากกรม สง่ เสรมิ วฒั นธรรม๘. วดี ิทศั น์ เรอื่ ง การขับรถแซงผู้อ่นื ไปมา และไม่ 1.55 https://www.y อดทน อดกลน้ั เคารพกฎจราจร นาที outube.com/ watch?v=dW mZDGYtE_k จากกรม ส่งเสริม วฒั นธรรม๙. วีดิทัศน์ เรอ่ื ง วางกระถางตน้ ไมไ้ วบ้ นกาแพงท่ี 1.55 https://www.yเคารพสิทธิ กั้นระหวา่ งบ้าน และรดนา้ ตน้ ไม้ นาที outube.com/ผูอ้ น่ื ทาให้ดินไหลออกไปเลอะบา้ นท่ี watch?v=bztZ มกี าแพงตดิ กัน จงึ ต้องเปลยี่ นที่ Q_hkkNs วางตน้ ไมใ้ หม่ จากกรม สง่ เสริม วัฒนธรรม
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 79รายการ เนื้อหาสาระ เวลา แหลง่ ส่ือ QR Code๑๐. คลิปข่าว เปน็ การนาเสนอข่าวเก่ยี วกับ 2.28 DNNเรือ่ ง กลโกง การตดิ ตามและการสอดส่อง นาที THAILANDหน่วย ดแู ลการเลือกตง้ั โดยให้เป็นไปเลือกตงั้ ตามกฎระเบยี บและให้มกี าร ทจุ ริตเลอื กตง้ั น้อยทส่ี ดุ หรอื ไม่มี
80 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา - หน้าวา่ ง -
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 81 หนว่ ยท่ีสร้างสังคมทไี่ ม่ทนต่อการทจุ รติ
82 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชวี ศกึ ษา - หน้าวา่ ง -
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา 83 กจิ กรรมป้องกันการทุจริต หนว่ ยท่ี ๒ สรา้ งสังคมทไี่ ม่ทนต่อการทจุ รติสาระสาคญั การเปลี่ยนแปลงระบบวิธีการคิดเปน็ เรื่องสาคัญอย่างมากตอ่ การต่อต้านการทจุ ริต นอกจากนี้การมีส่วนร่วมและการขัดเกลาทางสังคม โดยการปลูกฝังความพอเพียง ความมีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริตแก่เยาวชนก็ถือเป็นรากฐานท่ีสาคัญต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตจึงจาเป็นต้องเร่ิมต้ังแต่ต้นทางคือเด็กและเยาวชน โดยมุ่งสร้างให้เยาวชนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยเฉพาะความมีวินัยและความรับผิดชอบ การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนดว้ ยการสร้างจติ สานกึ “ความเปน็ พลเมือง” ใหก้ ับเยาวชนจดุ ประสงค์ ๑. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและการต่อต้านการทุจริตในสังคมหรือ ในสถานศกึ ษา ๒. เพ่ือให้สามารถคิด วิเคราะห์สภาพปัญหาการทุจริตในสังคมหรือในสถานศึกษา และมี ส่วนร่วมในการตอ่ ต้านและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ๓. เพ่ือให้ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดข้ึนจากการทุจริตและเห็นความสาคัญของความร่วมมือ ในการสรา้ งสังคมที่ไมท่ นต่อการทุจรติเนอ้ื หาสาระ การขัดเกลาทางสงั คม หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ทักษะการปรับกระบวนการคดิ หน่วยย่อยที่ ๒.๒ การมีสว่ นรว่ มของชมุ ชน หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๓
84 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา กจิ กรรมปอ้ งกันการทจุ ริต หนว่ ยท่ี ๒ สรา้ งสงั คมทไ่ี ม่ทนต่อการทจุ ริต หน่วยย่อยที่ ๒.๑ การขดั เกลาทางสงั คมสาระสาคัญ คนทั่วไปมักจะมองว่าเรื่องทุจริตเป็นเรื่องไกลตัว แต่แท้ท่ีจริงแล้วการทุจริตนน้ั เป็นเร่ืองใกล้ตัวทุกคนในสังคมมาก เยาวชนส่วนใหญ่มองเห็นการติดสินบนของข้าราชการเป็นเร่ืองปกติ ข้าราชการใช้ทรัพยากรภาครัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองไม่เป็นไร และการป้องกันหรือต่อต้านคอร์รัปชันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ไม่ใช่เรือ่ งของเยาวชน สะท้อนใหเ้ ห็นถงึ การขาดการปลกู ฝงั ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมอยา่ งยั่งยนืซ่ึงจะส่งผลเสียต่อสังคมไทยต่อไป การศึกษาเพ่ือสร้างความเป็นพลเมืองจึงเป็นส่ิงสาคัญ ในการต่อต้านการทุจรติ คอรร์ ัปชนั เน่ืองจากเป็นเร่อื งทเ่ี ก่ียวกบั สทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของคนไทยโดยตรงจดุ ประสงค์ ๑. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการขัดเกลาทางสังคมเพื่อการป้องกันและต่อต้านการ ทจุ ริต ๒. เพือ่ ใหส้ ามารถพัฒนากระบวนการคิดและพฤติกรรมทีพ่ งึ ประสงค์เพ่ือความเป็นพลเมอื ง ๓. เพอ่ื ใหต้ ระหนกั ถึงความสาคัญของคุณธรรม จริยธรรมซ่งึ เปน็ พ้ืนฐานสาคญั ของการอยู่ร่วม ในสังคมเนื้อหาสาระ การสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม เพ่ือป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นสิ่งสาคัญเพ่ือให้เด็กและเยาวชนมีจิตสานึกในการต่อต้านการทุจริต ปลูกจิตสานึก ปรับเปลี่ยนฐานการคิดให้แก่เยาวชนให้เกิดความตระหนักถึงผลกระทบของการทุจริตคอร์รัปชัน พัฒนางานให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้สร้างความแข็งแกร่งใหต้ นเอง องคก์ ร และส่งผลตอ่ ประเทศชาติในที่สุด • ความหมายของการขัดเกลาทางสังคม (socialization) “การขัดเกลาทางสังคม” ตามความหมายทางสงั คมวิทยา คือ การเรียนรู้ของสมาชกิ ในสงั คมทง้ั รปู แบบทเี่ ป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการ เพ่อื พฒั นาบุคลกิ ภาพตามความต้องการของสงั คม “การขัดเกลาทางสงั คม” คอื การนาคนเข้าสูร่ ะบบของสงั คม โดยผา่ นกระบวนการต่าง ๆ ที่ทาหน้าท่ีขัดเกลาอัตตชีวะให้พ้นจากสภาพสัญชาตญาณเดิมจนกลายเป็นมนุษย์สังคม เพราะมนุษย์ไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก จึงต้องผ่านกระบวนการขัดเกลาทางสังคมตลอดชีวิต ทั้งโดยทางตรง จากครอบครัวการศกึ ษา เพือ่ น และโดยทางออ้ มจากการเลยี นแบบกนั
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตดา้ นอาชีวศกึ ษา 85 “การปลูกฝังทางวัฒนธรรม (Enculturation) ตามความหมายทางด้านมานุษยวิทยานิยพรรณ วรรณศิริ (2540) คอื กระบวนการทางสงั คมกบั ทางจติ วิทยาซงึ่ มีผลทาใหบ้ ุคคลมีบคุ ลิกภาพตามแนวทางท่สี ังคมต้องการ การขดั เกลาทางสงั คมทาใหม้ นุษยเ์ ปล่ียนแปลงจากสภาพสตั วต์ ามธรรมชาติให้เป็นมนุษย์ท่ีมีวัฒนธรรม การขัดเกลาทางสังคมเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนถึงตาย โดยมีองค์กรท่ีทาหน้าที่ขัดเกลาทางสังคม ท่ีสาคัญ ๆ ได้แก่ ครอบครัว สถานศึกษา กลุ่มเพื่อนสานักงานหรอื องคก์ รทบี่ ุคคลสังกดั อยู่ สถาบันทางศาสนา และสอ่ื มวลชน • ความสาคัญของการขดั เกลาทางสังคม ผ่องพันธุ์ มณีรัตน์ (2529) ชี้ให้เห็นว่า ปฏิสัมพันธ์และการเรียนรู้หรือการขัดเกลาทางสังคมมีความสาคัญมากต่อการพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมได้ โดยยกตัวอย่าง เด็กผู้หญิงคนหน่ึงซึ่งเกิดจากแม่ปัญญาออ่ น หหู นวกและเป็นใบ้ ไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อเด็ก เด็กอยกู่ บั แมต่ ามลาพงั และถกู ตายายกกั ตวั ไว้ในโรงนา เด็กคนน้ันไม่มีโอกาสติดต่อสัมพันธ์กับใคร โดยเฉพาะไม่มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมกับแม่ได้เลย จนมีผู้มาพบเด็กคนน้ีเม่ือเธออายุได้หกขวบครึ่ง แต่ดูคล้ายเด็กอายุหกเดือน ยังพูดไม่ได้ได้แต่แสดงกิริยาท่าทางและทาเสียงอู้อ้ี มีอากัปกิริยาหวาดผวาและดุร้ายเหมือนสัตว์ หลังจากนาเด็กคนน้ีมาฝึกฝนอบรม พบว่าเธอสามารถพัฒนาตัวเองไปได้รวดเร็วจนมีพัฒนาการทางสังคมสมวัย การท่ีเด็กสามารถเรียนรู้ได้เป็นเคร่ืองพิสูจน์ว่า การท่ีเด็กขาดความสามารถต่าง ๆ เน่ืองจากขาดการติดต่อสัมพนั ธแ์ ละการขัดเกลาทางสังคม ไม่ได้เกดิ จากความบกพร่องของสมองและจติ ใจแตอ่ ย่างใด การขัดเกลาทางสังคมเป็นลักษณะทป่ี รากฏเฉพาะในสังคมมนษุ ย์เท่านนั้ เพราะมสี ่วนได้เปรียบในคุณลักษณะทางร่างกายและสมองที่แตกต่างจากสัตว์ประเภทอ่ืน กล่าวคือ มนุษย์มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ซ่ึงเป็นคุณสมบัติทางชีวภาพของมนุษย์ท่ีติดตัวมาแต่เกิด ทาให้สามารถเรียนรู้และจดจาได้มากข้ึนตามกาลเวลาท่ีผ่านไป มนุษย์ผ่านกระบวนการขัดเกลาทางสังคมโดยเฉพาะการรู้จักใช้ภาษาท่ีมนุษย์ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการติดต่อความหมาย ทาความเข้าใจระหว่างกัน มนุษย์สามารถใช้ภาษาอบรมส่ังสอนและเรียนรู้ได้ ภาษาทาให้มนุษย์สร้างความคิดเป็น สะสม รวบรวมความรู้ ท่าที แบบพฤติกรรมตา่ ง ๆ ได้อยา่ งชดั แจ้ง และในภาษาเขยี นซงึ่ อาจกล่าวไดว้ า่ เป็นมรดกทางสงั คมทีส่ บื ตอ่ เน่อื งกนัมาหลายร้อยหลายพันปี มนุษย์ที่ผ่านผ่านกระบวนการขัดเกลาด้วยภาษานี้เองทาให้มนุษย์เป็นคนโดยสมบูรณ์ ในขณะที่สัตว์ท้ังหลายเหล่านี้มีพฤติกรรมในการดาเนินชีวิตของมันด้วยสัญชา ติญาณเพราะฉะน้ันความเป็นคนโดยสมบูรณ์จึงต้องมีองค์ประกอบ 2 ส่วน ด้วยกันคือ คุณสมบัติทางชีวภาพและการขัดเกลาทางสังคม • จดุ มุ่งหมายของการขดั เกลาทางสังคม การขดั เกลาทางสงั คมมจี ุดมุ่งหมายดังนี้ 1. การปลกู ฝังระเบียบวนิ ัยพื้นฐาน การมีระเบียบวินัยถือเป็นพื้นฐานในการดาเนินชีวิตและกิจกรรมทางสังคมของการอยู่รว่ มกนั ของบุคคล บคุ คลตอ้ งยอมรบั ระเบียบกฎเกณฑท์ ีส่ ังคมกาหนด แมว้ ่าอาจฝนื ใจหรือไม่เตม็ ใจทา
86 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษาระเบียบวินัยจึงเป็นพื้นฐานท่ีบุคคลถูกขัดเกลาให้ประพฤติปฎิบัติต้ังแต่วัยต้นของชีวิตใน กิจกรรมชีวิตประจาวัน เช่น สอนให้รู้จักระเบียบในการขับถ่าย ทุกชาติทุกภาษาจะมีคาง่าย ๆ สั้น ๆ กระทัดรัดใหเ้ ด็กเลก็ สมาชกิ ของตนร้แู ละเข้าใจการปฎิบัติตนในการขบั ถา่ ย เชน่ คาวา่ “ฉ”่ี “อึ” ในชวี ติ ของคนไทยหลายคน กลุ่มที่ต้ังอยู่ริมน้าหรือบา้ นไทยทัว่ ไปที่มีใตถ้ ุนสูง บ้านเรือนเหล่านีจ้ ะถูกเจาะให้เปน็ ช่องเล็ก ๆผใู้ หญ่จะสอนลูกหลานของตนให้มีระเบียบหรือรู้จักมา ฉี่ หรือ อึ ทชี่ อ่ งเล็ก ๆ ดังกลา่ ว นอกจากการสอนให้รู้จักระเบียบในการขับถ่ายแล้ว การขัดเกลาทางสังคมยังสั่งสอนให้รู้จักมารยาททางสังคม เช่น การกราบไหว้ การทักทาย การรู้จักความสะอาด ดังน้ันจุดมุ่งหมายเกี่ยวกับการปลูกฝังระเบียบวินัยพนื้ ฐานผู้ใหญ่ควรทาเป็นแบบอย่าง มีความสม่าเสมอ และมีความยืดหยุ่น อย่างมีเหตุผล เพราะพื้นฐานเหล่าน้ีจะมีผลตอ่ บุคลกิ ภาพของบคุ คลอยา่ งมาก จากผลการวิจัยส่วนใหญ่จึงพบเหมอื นกันว่า บิดามารดาทเ่ี ล้ียงลูกมาอย่างกวดขันเข้มงวดระเบียบวนิ ัยกับลกู ของตนมากเกินไป และลงโทษด้วยการเฆ่ียนตีอย่างรนุ แรงเด็กจะมีบุคลิกภาพที่ก้าวร้าว ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ยากและมีผลต่อการลดความคิดสร้างสรรค์ของเดก็ ด้วย 2. การปลกู ฝังความมงุ่ หวังในชีวติ ทก่ี ลุ่มยอมรบั โดยปกติระเบียบวินัยเป็นสิ่งที่บุคคลไม่ค่อยอยากปฏิบัติ แต่ความมุ่งหวังจะช่วยให้บุคคลมีความมุ่งม่ันและยอมรบั ระเบียบวินัยท่ีจะตอ้ งประพฤติปฏิบัตเิ พ่อื ลลุ ่วงสู่ความต้องการในอนาคต ความลุล่วงท่ีต้องการนั้น คือ ความมุ่งหวังที่บุคคลได้รับจากสังคมหรือกลุ่มท่ีตนเป็นสมาชิกอยู่ได้ถ่ายทอดคุณค่าทางสังคมนน้ั มาถึงตัวบุคคล เช่น คุณค่าทางสังคมของคนไทยยกย่องให้เกียรติคนท่ีมีการศกึ ษาสูงยกยอ่ งอาชีพบางอย่าง เช่น เปน็ วศิ วกร นายแพทย์ นายทหาร คุณคา่ ทางสังคมเหล่าน้บี คุ คลจะไดร้ บั การปลูกฝังท้ังทางตรงและทางอ้อม ทาให้เขาเกิดความมุ่งหวังในคุณค่าเหล่าน้ี และยอมลาบากทาตามบรรทัดฐานท่กี ลมุ่ วางไวเ้ พอ่ื เป้าหมายของตน 3. การสอนใหร้ ู้จกั บทบาททางสงั คมและทัศนคติตา่ ง ๆ การกาหนดบทบาทในสังคม รวมท้ังทัศนคติต่าง ๆ ที่เข้ากับบทบาทนั้น ๆ บุคคลจะได้รับการอบรมให้รู้ระเบียบสังคมต้ังแต่วัยต้นของชีวิตในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เช่น ลักษณะการวางตัวให้มีพฤติกรรมอย่างไรต่อบุคคลอื่น ๆ ท่ีเขามีความสัมพันธ์ด้วย และถูกต้องเหมาะสมกับกาลเทศะด้วยเป็นตน้ ว่า คนไทยส่วนใหญ่จะเริม่ สอนบตุ รหลานของตนเม่อื เรม่ิ รู้ความ ใหร้ จู้ กั “สวัสดี” หรอื “สาธุ” กบัผู้ใหญ่ ขณะเดียวกันก็จะบอกเล่าถึงสถานภาพของผู้ใหญ่เหล่านั้นด้วยว่าท่านคือใคร ต้องวางตัวอย่างไรด้วยการอบรมในลักษณะท่ีสอนให้เด็กสะสมความรู้เกี่ยวกับบทบาทของตัวเขาและคนอื่นทีละเล็ก -ทลี ะนอ้ ยนีเ้ อง ผ้เู รยี นกจ็ ะรับสิ่งตา่ ง ๆ เข้าไว้และประพฤตปิ ฏิบตั ิไดอ้ ย่างไม่ขดั เขิน ถกู ตอ้ งตามกาลเทศะ 4. การสอนให้เกดิ ความชานาญและทักษะตา่ ง ๆ การใหเ้ กดิ ความชานาญหรือทักษะท่จี ะมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในสงั คมกบั คนอ่ืน ๆ จุดมงุ่ หมายข้อน้ีเป็นผลสุดท้ายที่ต่อท้ายท่ีต่อเน่ืองมาจากจุดมุ่งหมายแต่ละข้อตามลาดับในสังคมท่ีมีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ วธิ ีการเรยี นรูข้ องบุคคลมักเกิดจากการเลียนแบบถ่ายทอดกันลงมานบั ชวั่ อายคุ น โดยยึดหลกัขนบธรรมเนียมประเพณีสืบต่อกันมา แต่ในสังคมที่สลับซับซ้อน ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามบี ทบาทในชวี ติ ของบุคคลอย่างมาก วธิ ีการเรียนรู้ของสังคมประเภทหลงั นจ้ี ึงเป็นการเรียนรู้อย่าง
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทจุ ริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา 87เป็นทางการซึ่งใช้ได้ผลมาก เช่น สังคมไทยในอดีต ผู้ชายจะได้รับการถ่ายทอดในด้านวิชาความรู้ศิลปะการป้องกนั ตวั ฯลฯ จากวัด ซง่ึ เปน็ แหลง่ ท่ีให้การขัดเกลาทางสังคมได้อยา่ งดีสาหรับเด็กผู้ชาย ในขณะที่เด็กผู้หญิงจะได้รับการถ่ายทอดทางด้านการบ้าน การเรือน มารยาททางสังคมต่าง ๆ ที่กุลสตรีพึงมีจากภายในวัง แต่ปัจจบุ ันน้กี ารศึกษาเป็นทางการ คอื โรงเรียนไดเ้ ข้ามามสี ว่ นเสรมิ สร้างทกั ษะด้านนอี้ ยู่อย่างมากมาย โดยเฉพาะความรใู้ นดา้ นมนุษย์สมั พันธต์ า่ ง ๆ ท่ีชว่ ยใหก้ ารปฏิบัติต่อผูอ้ ่นื เปน็ ไปอยา่ งราบรน่ื • ประเภทของการขัดเกลาทางสังคม การขัดเกลาทางสงั คมสามารถทาได้ 2 ทาง (จานงค์ อดิวัฒนสทิ ธ์ิ และคณะ, 2540) คือ 1. การขัดเกลาทางสังคมโดยทางตรง เช่น การที่พ่อแม่ฝึกอบรมเด็กให้รู้จักพูด รู้จักกิริยามารยาททางสงั คม ครอู าจารยส์ อนหนังสือนักเรียนและนักศึกษาใหม้ ีศลิ ปะวทิ ยาการตา่ ง ๆ รวมทั้งใหท้ าหน้าที่การเปน็ พลเมืองท่ีดี เป็นต้น 2. การขัดเกลาทางสังคมโดยทางอ้อม เช่น การได้เข้าไปฟังอภิปราย ฟังปาฐกถา ทาให้ได้รับความรู้ความเข้าใจในส่ิงต่าง ๆ การอ่านหนังสือตามห้องสมุด การฟังวิทยุ การดูโทรทัศน์และภาพยนตร์ก็เป็นหนทางที่จะทาให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ระเบียบต่าง ๆ ในสังคม นอกจากน้ี การเข้ากลุ่มเพ่ือนท้ังในท่ีทางานและในสถานศกึ ษาก็ลว้ นชว่ ยใหเ้ กดิ การปรับตัวและพฒั นาบุคลิกภาพได้กจิ กรรมเสนอแนะ กิจกรรมที่ ๒.๑.๑ คนดไี ม่คอร์รปั ชนั
88 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา กจิ กรรมป้องกันการทจุ รติ เวลา ๖๐ นาทีหนว่ ยท่ี ๒ สร้างสังคมท่ีไม่ทนตอ่ การทจุ รติหน่วยยอ่ ยที่ ๒.๑ การขัดเกลาทางสังคมกจิ กรรมท่ี ๒.๑.๑ คนดไี ม่คอรร์ ปั ชนัสาระสาคญั การสร้างสงั คมให้เกิดภาวะท่ี “ไม่ทนต่อการทจุ ริต” ต้องเริ่มต้ังแต่กระบวนการกล่อมเกลาหรอืขัดเกลาทางสังคมในทุกระดบั ชว่ งวัย ต้ังแต่ปฐมวยั เพ่ือปลูกฝังระเบยี บวินยั พน้ื ฐาน ปลูกฝังความมุง่ หวังในชีวิตที่กลุ่มยอมรับ สอนให้รู้จักบทบาททางสังคมและทัศนคติต่าง ๆ รวมท้ังสอนให้เกิดความชานาญและทักษะต่าง ๆ ให้มีความเป็นพลเมืองที่ดี มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ จิตอาสา และเสียสละเพ่ือส่วนรวม ตลอดจนเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนมีพฤติกรรมท่ีไม่ยอมรับและต่อต้านการทุจริตในทกุ รูปแบบจดุ ประสงคข์ องกจิ กรรม ๑. เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการขัดเกลาทางสังคมเพื่อสร้างสังคมที่ไม่ทน ต่อการทจุ ริต ๒. เพือ่ ให้สามารถประพฤตปิ ฏิบตั ิตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีในการสรา้ งสงั คมไมท่ นต่อการทจุ ริต ๓. เพอื่ ให้เห็นความสาคัญของการสร้างสงั คมท่ีไม่ทนตอ่ การทจุ ริตสอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ แหล่งเรยี นรู้๑. เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ พร้อมจอ จานวน ๑ ชดุ๒. คอมพวิ เตอร์ จานวน ๑ ชดุ๓. เคร่อื งเสียง จานวน ๑ ชดุ๔. วดี ทิ ัศน์ เรอ่ื ง “นมิ นต์ย้มิ เดล่ี คนดไี ม่คอร์รปั ชนั ” หรือดาวน์โหลดจาก https://www.youtube.com/watch?v=wv69Dr4DyiU๕. กระดาษฟลิปชาร์ท กลมุ่ ละ ๑ แผ่น๖. ปากกาเคมคี ละสี กลมุ่ ละ ๓ แทง่๗. แบบประเมินผลงานกลมุ่ และแบบประเมนิ พฤตกิ รรมข้นั ตอนการดาเนนิ กจิ กรรม ๑. ผู้สอนกลา่ วนาและแจง้ จดุ ประสงคก์ จิ กรรมเกย่ี วกับ “การสรา้ งสังคมทีไ่ มท่ นตอ่ การทจุ รติ ” ๒. ผู้สอนเปิดวีดิทัศน์ เรื่อง “นิมนต์ย้ิมเดล่ี คนดีไม่คอร์รัปชัน” ให้ผู้เรียนดูพร้อมบันทึก เหตกุ ารณ์หรอื พฤติกรรมของตวั ละครลงในสมดุ บันทึก
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกนั การทจุ ริตด้านอาชีวศกึ ษา 89 ๓. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มอภิปราย พรอ้ มจดบนั ทึกลงในกระดาษฟลิปชาร์ท โดยผู้สอนกาหนดหัวข้อในการอภิปราย ดงั น้ี กลุ่มท่ี ๑ ผู้เรยี นเห็นพฤติกรรมของตัวละครเรือ่ งอะไรบ้าง กลมุ่ ท่ี ๒ ผู้เรยี นมีความรูส้ ึกอย่างไรจากการดูวีดิทัศน์ กลมุ่ ท่ี ๓ ผู้เรยี นไดร้ ับความร้แู ละประสบการณ์อะไรจากกิจกรรมในคร้งั น้ี กลมุ่ ท่ี ๔ ผเู้ รียนจะมสี ว่ นร่วมในการสรา้ งสังคมทไ่ี ม่ทนตอ่ การทจุ รติ ได้อยา่ งไร ๔. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอหัวข้อที่ร่วมกันอภิปรายหน้าช้ันเรียน พร้อมให้เพื่อน ซกั ถามเพิม่ เตมิ ๕. ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ สิง่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรูแ้ ละสิ่งที่จะนาไปปฏิบัติในชีวติ ประจาวันขอ้ เสนอแนะ ๑. หากดาวน์โหลดข้อมูลไม่ได้ ให้ผู้สอนจัดหาคลิปที่มีเน้ือหาท่ีสอดคล้องกับการสร้างสังคม ที่ไม่ทนตอ่ การทุจริตแทนได้ ๒. ผู้สอนสามารถปรบั ข้ันตอนการสอนไดต้ ามความเหมาะสม ๓. ผูส้ อนควรควบคุมเวลาในการทากจิ กรรมเพือ่ ใหเ้ ปน็ ไปตามเวลาทก่ี าหนดแนวทางการวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ผลจากการทากิจกรรมกลุ่ม 2. ประเมินพฤติกรรมของผ้เู รียนโดยใชก้ ารสงั เกตหรือแบบสังเกต
90 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การป้องกันการทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา แบบประเมนิ พฤตกิ รรมหนว่ ยที่ ๒ สร้างสงั คมทไ่ี ม่ทนต่อการทจุ ริต หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ การขัดเกลาทางสงั คมกจิ กรรมท่ี ๒.๑.๑ คนดีไมค่ อรร์ ัปชนักลมุ่ ท่ี .............................................................................. วันท่ีประเมนิ ....................................................คาชแี้ จง ใหส้ งั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี นเปน็ รายบุคคลในระหวา่ งการทากิจกรรม แลว้ ให้คะแนนระดับ พฤตกิ รรมท่ผี ู้เรียนแสดงออกในทางบวก โดย ๑ = น้อย, ๒ = ปานกลาง, ๓ = ดี รายการประเมิน สมาชกิ กลมุ่ ลาดบั ที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐๑. ยอมรบั ความสามารถ ความคดิ เหน็ และการใหข้ ้อมูลปอ้ นกลับจากผูอ้ ื่น๒. สามารถเปน็ ผ้นู าและผตู้ ามทดี่ ี๓. แบ่งปัน แลกเปลี่ยนเรยี นรูก้ บั เพื่อนอย่างเทา่ เทียมกัน๔. เคารพกตกิ าหรือข้อตกลงในการทางานร่วมกัน๕. มีนา้ ใจ ช่วยเหลือ เออ้ื เฟอ้ื ผ้อู นื่ เหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ืน่๖. อดทนกบั สภาพท่ตี นเองไม่ชอบ๗. มที ักษะการสือ่ สาร๘. ใหค้ วามร่วมมอื ในการทางานอยา่ งเตม็ ความสามารถ๙. ม่งุ มนั่ และตัง้ ใจทางานรว่ มกันใหป้ ระสบความสาเร็จตามเป้าหมาย๑๐. แก้ปัญหาเฉพาะหนา้ ในการทางานรว่ มกนั คะแนนรวม ผลการประเมิน ระดับคุณภาพเกณฑก์ ารตัดสนิ ผลประเมนิ คะแนนเตม็ ๓๐ คะแนน ได้คะแนนรวม ๒๐ คะแนนข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนนมากกวา่ ๒๕ หมายถึง ระดบั คุณภาพดีมาก ชว่ งคะแนน ๒๐ - ๒๔ หมายถงึ ระดับคณุ ภาพดี ช่วงคะแนน ๑๕ - ๑๙ หมายถึง ระดับคณุ ภาพพอใช้ ช่วงคะแนน ๑๐ - ๑๔ หมายถงึ ระดับคณุ ภาพตอ้ งปรับปรุง ได้ระดบั คณุ ภาพพอใช้ข้ึนไป ถือว่า ผา่ น
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา 91 กจิ กรรมปอ้ งกันการทุจรติหน่วยที่ ๒ สร้างสังคมที่ไมท่ นต่อการทุจริตหนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๒ ทกั ษะการปรับกระบวนการคดิสาระสาคญั การเปล่ียนแปลงระบบวิธีการคิด การมีส่วนร่วมและการขัดเกลาทางสังคม โดยการปลูกฝังความพอเพียง ความมวี นิ ยั ซอ่ื สัตย์สุจรติ ใหก้ บั คนในสังคมตง้ั แต่วัยเด็ก เป็นเรือ่ งสาคญั อย่างมากต่อการดาเนินงานด้านการต่อต้านการทุจริต เพ่ือให้บุคคลสามารถแยกแยะระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม ตระหนักว่าการกระทาใดเป็นการล่วงล้าสาธารณประโยชน์ การกระทาใดเป็นการกระทาที่อาจเกิดการทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ต้องคา นึงถึงประโยชนข์ องประเทศชาติเป็นอนั ดบั แรก ก่อนท่จี ะคานึงถงึ ผลประโยชน์ส่วนบคุ คลหรือพวกพอ้ งจดุ ประสงค์ ๑. เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงระบบวธิ กี ารคิด ๒. เพอ่ื ให้มีทกั ษะการปรบั กระบวนการคิดเพ่อื การอย่รู ่วมในสงั คมที่ไม่ทนตอ่ การทุจริต ๓. เพ่ือให้ตระหนักถึงความสาคัญของความพอเพียง ความมีวินัย ความซ่ือสัตย์สุจริต ในการ อย่รู ่วมกนั เพ่ือสรา้ งสังคมทีไ่ ม่ทนตอ่ การทุจรติเน้อื หาสาระ • รปู แบบของการทจุ รติ คอรร์ ัปชันในสังคมไทย สังศิต พิริยะรังสรรค์ (2549) ได้นาเสนอไว้ว่ารูปแบบการทุจริตในสังคมไทยมี 15 ลักษณะได้แก่ 1) การแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจ เช่น การผูกขาด การให้สัมปทาน และการเรียกเก็บส่วนแบง่อย่างผิดกฎหมาย 2) การฉกฉวยทรัพยากรของรัฐมาเป็นของครอบครัวและอาจกระทาโดยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ 3) การมีผลประโยชน์ทับซ้อน 4) การใช้อิทธิพลทางการเมืองหาผลประโยชน์จากตลาดหลักทรัพย์ (ป่ันราคาหุ้นของตัวเอง) 5) การปกปิดการบริหารงานที่ไม่ถูกต้อง การปิดบังและให้การเท็จ 6) การใชน้ โยบาย กฎหมาย กฎเกณฑ์ ขอ้ บังคบั ต่าง ๆ อยา่ งมีอคตแิ ละลาเอียง 7) การใชอ้ ทิ ธิพลทางการค้า 8) การใชท้ รพั ยากรของรัฐไปในทางมิชอบ การปลอมแปลงเอกสาร การฉ้อฉล การใช้กองทนุของรัฐเพื่อไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง 9) การไม่กระทาการตามหน้าที่ แต่ใช้ลัทธิพรรคพวกแทน10) การให้และการรับสินบน การขู่เข็ญบังคับและการให้ส่ิงลอ่ ใจ 11) การยอมรับของขวัญท่ีไม่ถูกต้อง12) การท่ีผู้บริหารประเทศทาตัวเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของประเทศ โดยการใช้นโยบายประชา -นิยม 13) การใช้อานาจของตารวจ ทหารและข้าราชการในทางท่ีผิด 14) การทุจริตการเลือกต้ัง และ15) การบริจาคเพื่อช่วยเหลือการณรงค์ทีผ่ ิดกฎหมาย
92 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตดา้ นอาชวี ศกึ ษา • การปรับกระบวนการคิดเพ่ือสร้างสังคมทไ่ี ม่ทนต่อการทจุ รติ จากยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ที่ ๑ สร้างสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต ซึ่งได้กาหนดกลยทุ ธ์และแนวทางการดาเนินงาน ในกลยทุ ธท่ี ๑ คอื การปรับความคดิ ทุกช่วงวัย ตั้งแตป่ ฐมวัยให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยมีแนวทางให้มีการพัฒนาหลักสูตร บทเรียน การเรียนการสอน และรูปแบบการป้องกันการทุจริตตามแนวคิดแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม และกาหนดให้มีการพัฒนาหรือปรับปรุงมาตรฐานทางจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี และมีการใช้อยา่ งจริงจงั กระบวนการคิดของมนษุ ย์ถือเปน็ คุณสมบตั ขิ องมนุษย์ คือ เป็นผู้รู้คิด จากการรู้คิดน้ีเองนาไปสู่กระบวนการคิด เริ่มจากการตีความ พิจารณาไตร่ตรองส่ิงที่ได้รับทางตา หู จมูก ล้ิน กายและใจ เกิดความพอใจในสิ่งนัน้ สรุปออกมาเปน็ ความรู้เฉพาะคร้ัง แล้วนาความรู้หลายคร้ังมาวิเคราะห์เปรียบเทียบสรุปออกมาเป็นความรู้ที่เป็นส่วนรวม ท้ังยังนาความรู้ท่ีได้รับเก็บไวใ้ นความทรงจา เพ่ือนามาคิดอนุมานใชใ้ นการสรุปหาความรู้ใหมเ่ พมิ่ เติม โดยไมต่ ้องอาศยั ประสบการณ์ตรง แต่อาศยั สงิ่ ท่เี กีย่ วเน่อื งกัน ซึง่ จะเห็นได้จากการสรุปหาความรใู้ หม่เพม่ิ เติมแตล่ ะครง้ั จนเป็นความรู้ เป็นหลกั ฐานสนับสนนุ เสมอ การปรับกระบวนทัศน์ หรือ ความเช่ือท่ีเป็นฐานที่ฝังอยู่ในจติ ใจของบคุ คลภายในหนว่ ยงาน ให้มองเหน็ วา่ ปญั หาคอร์รปั ชันเปน็ หนา้ ท่ีของทุกคนที่จะรว่ มกันแกไ้ ข และเรยี นร้ทู จี่ ะปรับเปล่ียนระบบการคิดของตนเองจากระบบฐานสิบ (Analog) ซ่ึงเป็นการคิดโดยใช้ความรู้สึกและอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลนาประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมมาปะปนกัน พฤติกรรมการนาสิ่งของราชการมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล และการแสวงหาประโยชน์จากตาแหน่งหน้าที่เพ่ือตนเอง เครือญาติหรือพวกพ้องเป็นต้น ซ่ึงการกระทาเหล่านี้เป็นสาเหตุสาคัญที่นาไปสู่การคอร์รัปชันได้ในท่ีสุด ไปสู่ระบบคิดฐานสอง(Digital) คือ การคิดแบบตรรกะโดยใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณ์และความรู้สึก เป็นการแยกออกอย่างชดั เจนวา่ สิง่ ใดถูก ส่งิ ใดผิด การเหน็ ประโยชนส์ ่วนรวมหรอื ประโยชนข์ องหนว่ ยงานมากอ่ นประโยชน์ส่วนบุคคล เป็นต้น นอกจากน้ี การพัฒนาคนให้มีระบบคิดฐานสองไม่ได้มีความสาคัญเฉพาะต่อการปฏิบัตงิ านภายในหนว่ ยงานหรอื องค์กรเทา่ นน้ั แตย่ ังก่อให้เกดิ การปรบั เปล่ียนวถิ ชี ีวิตของคนในสังคมไปสู่การมีวัฒนธรรมดิจิทัล อันเป็นองค์ประกอบสาคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคง มั่งค่ังและยัง่ ยืนต่อไป การสร้างความเปน็ พลเมืองท่ีไมท่ นต่อการทจุ ริต จะตอ้ งเร่มิ ตน้ จากการปรับกระบวนการคิด ให้เยาวชน คิดได้ คิดดีและคิดเป็น ได้แก่ คิดไตร่ตรองก่อนลงมือทา คิดถึงผลเสียที่จะเกิดกับสังคมและประเทศชาติ บทลงโทษและหรือผลกระทบที่จะเกิดแก่ตนเอง คิดแบบพอเพียง มีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม เพ่ือให้สามารถแยกแยะประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวมได้ นาไปสู่สังคมปลอดการทจุ ริตในทสี่ ุด
แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกันการทุจริตด้านอาชีวศกึ ษา 93 ตวั อยา่ งระบบการคดิ ทไี่ มถ่ ูกตอ้ งคือ ไมแ่ ยกแยะเรือ่ งตาแหน่งหน้าที่กบั เรื่องส่วนตัวออกจากกันเอาประโยชน์ส่วนรวมไปตอบแทนบุญคุณส่วนตน เอาประโยชน์ส่วนรวมมาเป็นประโยชน์ส่วนตนเห็นประโยชน์ส่วนตนสาคัญกว่าประโยชน์ส่วนรวม เห็นประโยชน์ของเครือญาติพวกพ้องสาคัญกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ เป็นต้น ซ่ึงแนวคิดน้ีอาจเริ่มต้นจากเร่ืองเล็ก ๆ ในชีวิตประจาวัน เช่น การลัดควิ การทจุ รติ ในห้องสอบ การไม่ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บ การฝา่ ฝืนสญั ญาณจราจร เปน็ ตน้ เมอื่ ปฏบิ ัติจนคุ้นชนิ จะกลายเปน็ นิสัยและนาพฤตกิ รรมไปใชก้ ับการทางานและสงั คมในทส่ี ดุ ความไม่ทนต่อการทุจริต เป็นการแสดงออกอย่างใดอย่างหน่ึงเพื่อให้รับรู้ว่าจะไม่ทนต่อบุคคลหรือการกระทาใดๆ ที่ทาให้เกิดการทจุ ริต เช่น หากเพ่ือนลอกข้อสอบเราและเราเห็น เราต้องไม่ยินยอมให้เพื่อนทุจริตในการลอกข้อสอบ โดยใช้มือหรือกระดาษมาบังส่วนที่เป็นคาตอบไว้ เช่นน้ีก็เป็นการแสดงออกถึงการไม่ทนต่อการทุจริต นอกจากการแสดงออกด้วยวิธีดังกล่าวซ่ึงถือเป็นการแสดงออกทางกายแลว้ การว่ากลา่ วตกั เตอื นต่อบคุ คลทที่ จุ รติ การประณาม การประจาน การชมุ นมุ ประท้วง ถือว่าเป็นการแสดงออกซึ่งการไม่ทนต่อการทุจริตท้ังส้ิน แต่จะแตกต่างกันไปตามระดับของการทุจริต ความตืน่ ตัวของประชาชน และผลกระทบที่เกดิ ขึ้นจากการทุจรติ ความจาเป็นของการท่ีไม่ทนต่อการทุจริตถือเป็นสงิ่ สาคัญ เพราะการทุจริตไม่ว่าระดับเลก็ หรือใหญ่ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ประเทศชาติ หากยังมีการปล่อยให้มีการทุจริต หรือยินยอมให้มีการทุจริตโดยเห็นว่าเป็นเรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าท่ีรัฐ ไม่เกี่ยวข้องกับตนเองแล้วสุดท้ายความสูญเสียที่จะได้รับก็จะมีผลกระทบต่อตนเองด้วยไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ดังนั้นจึงจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องสร้างให้เกิดความตระหนักและรับรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทุจริ ตในทุกรูปแบบทุกระดบั เพือ่ สร้างสงั คมทน่ี ่าอยแู่ ละมกี ารพฒั นาในทกุ ๆ ดา้ นกิจกรรมเสนอแนะ กจิ กรรมท่ี ๒.๒.๑ คิดได้ คดิ ดี คดิ เปน็
94 แนวทางการจดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การปอ้ งกนั การทุจริตดา้ นอาชีวศกึ ษา กิจกรรมปอ้ งกนั การทุจริต เวลา ๖๐ นาทีหน่วยท่ี ๒ สรา้ งสงั คมทีไ่ มท่ นตอ่ การทุจริตหน่วยย่อยท่ี ๒.๒ ทกั ษะการปรบั กระบวนการคดิกจิ กรรมที่ ๒.๒.๑ คิดได้ คิดดี คดิ เป็นหลักการและเหตุผล กระบวนการคิดเป็นคุณสมบัติของมนุษย์ คือ เป็นผู้รู้คิด และจากการรู้คิดน้ีก็นาไปสู่กระบวนการคิด การวิเคราะห์เปรียบเทียบสิ่งท่ีได้เรียนรู้ใหม่เพ่ิมเติม สรุปออกมาเป็นความรู้ที่เป็นส่วนรวม การปรับกระบวนทัศน์หรือความเชื่อที่เป็นฐานที่ฝังอยู่ในจิตใจของบุคคลให้มองเห็นว่าปัญหาคอร์รัปชันเปน็ หน้าที่ของทกุ คนท่ีจะต้องร่วมกันแก้ไขและเรียนรู้ทจี่ ะปรับเปลี่ยนระบบการคิดของตนเองจากระบบฐานสิบ (Analog) ซ่ึงเป็นการคิดโดยใช้ความรู้สึกและอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล นาประโยชน์ส่วนบคุ คลและประโยชน์สว่ นรวมมาปะปนกัน ซงึ่ เป็นสาเหตสุ าคัญทน่ี าไปสู่การคอรร์ ปั ชัน ไปสรู่ ะบบคดิฐานสอง (Digital) คือการคิดแบบตรรกะ โดยใช้เหตุผลอยู่เหนืออารมณแ์ ละความรู้สึก สามารถแยกออกอย่างชัดเจนว่าส่ิงใดถูก สิ่งใดผิด เห็นประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์ของหน่วยงานมาก่อนประโยชน์ส่วนบุคคล เป็นต้น การพัฒนาคนให้มีระบบคิดฐานสองจะก่อให้เกิดการปรับเปล่ียนวิถีชีวิตของคนในสังคมไปสูก่ ารมวี ฒั นธรรมดิจิทลั อันเปน็ องคป์ ระกอบสาคัญในการพัฒนาประเทศชาติใหม้ คี วามม่ันคงม่งั คง่ั และยั่งยนื ต่อไปจุดประสงคข์ องกจิ กรรม ๑. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและ ผลประโยชนส์ ่วนรวม ๒. เพ่ือให้สามารถปรับกระบวนการคิดโดยใช้เหตุผลแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตัวและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๓. เพ่อื ให้ตระหนักถงึ การคิดประโยชนส์ ว่ นรวมเป็นสาคญัสือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ แหล่งเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบเบอื้ งตน้ เกีย่ วกบั ระบบความคดิ ของผเู้ รยี น พรอ้ มเฉลย ๒. วดี ทิ ศั น์ เร่ือง แก้ทจุ รติ คิดฐานสอง ๓. แบบบันทึกขอ้ มลู จานวน ๖ แผ่น ๔. กระดาษฟลิปชาร์ท จานวน ๖ แผน่ ๕. ปากกาเคมคี ละสี จานวน ๑๒ แท่ง ๖. แบบประเมนิ ผลงานกล่มุ และแบบประเมินพฤติกรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180