Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ60-61V2

คู่มือ60-61V2

Published by qaudru, 2020-05-07 03:58:11

Description: คู่มือ60-61V2

Search

Read the Text Version

ข้อ 2 ระบุว่ำ “ กรณีที่สถำบันอุดมศึกษำจะจัดทำรำยละเอียดของรำยวิชำ รำยละเอียดของ ประสบกำรณ์ภำคสนำม (ถ้ำมี) รำยงำนผลกำรดำเนินงำนของรำยวิชำ รำยงำนผลกำรดำเนินเนินกำรของ ประสบกำรณ์ภำคสนำม (ถ้ำมี) และรำยงำนผลกำรดำเนินงำนของหลักสูตรในลักษณะอื่น สถำบันอุดมศึกษำ สำมำรถดำเนินกำรจัดทำระบบเก็บข้อมูลรำยละเอียดตำมแนวทำงของ มคอ.3 มคอ.4 มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7 โดยสำมมำรถปรับเปล่ียนหวั ข้อรำยละเอียดใหเ้ หมำะสมกับบรบิ ทเฉพำะของสถำบันอุดมศกึ ษำน้ันๆ ได้ ท้ังนี้ ใหค้ ำนงึ ถงึ เจตนำรมณข์ องกำรจดั ทำ มคอ.3 มคอ.4 มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7 ” ข้อ 3 ระบุว่ำ “ ให้ถือว่ำ ตัวบ่งชี้ผลกำรดำเนินงำนตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิ จำนวน 12 ตัวบ่งชี้ เป็นเพียงแนวทำงเท่ำนั้นโดยสถำบันอุดมศึกษำสำมำรถกำหนดตัวบ่งช้ีผลกำรดำเนินงำนตำมกรอบมำตรฐำน คณุ วุฒิได้เอง ซ่ึงแตล่ ะหลกั สูตรมอี ิสระในกำรกำหนดตัวบ่งชี้ผลกำรดำเนนิ งำนทใี่ ช้ในกำรติดตำม ประเมนิ และ รำยงำนคุณภำพของหลกั สูตรประจำปีระบุไว้ในหมวด 1-6 ของแต่ละหลกั สตู ร ตำมบริบทและวัตถุประสงคใ์ น กำรผลิตบัณฑิต ทง้ั นี้ ตอ้ งได้รบั ควำมเหน็ ชอบหรอื อนมุ ัติจำกสถำบันอุดมศกึ ษำ ในระหวำ่ งทสี่ ถำบันอุดมศกึ ษำ ยังไม่สำมรถเสนอขอปรบั ตัวบ่งชี้ใหม่ได้แลว้ เสรจ็ ให้ใช้ตัวบ่งชี้เดิมก่อนได้ หรือหำกหลกั สตู รใดมคี วำมประสงค์ กำหนดตัวบ่งชี้แบบเดิมก็สำมมำรถกระทำได้ กรณีหลักสูตรมีกำรปรับตัวบ่งช้ีใหม่ ให้นำเสนอสำนักงำน คณะกรรมกำรกำรอดุ มศกึ ษำรบั ทรำบในกำรปรับปรุงหลกั สูตรคร้ังต่อไป”

องคป์ ระกอบท่ี 6 ส่งิ สนับสนุนกำรเรยี นรู้ ในการดาเนินการบริหารหลักสูตร จะต้องมีปัจจัยที่สาคัญอีกประการหน่ึง คือ สิ่งสนับสนุน การ เรียนรู้ซึ่งประกอบด้วย ความพร้อมทางกายภาพ ความพร้อมด้านอุปกรณ์ ความพร้อมด้านเทคโนโลยี ความ พร้อมด้านการให้บรกิ าร เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องทาวิจัย อุปกรณ์การเรียนการสอน ห้องสมุด การ บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ Wifi และอื่นๆ รวมทั้งการบารุงรักษาที่ส่งเสริม สนับสนุนให้ นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ท่ีกาหนดตามกรอบ มาตรฐานคุณวฒุ ิระดับอุดมศกึ ษาแหง่ ชาติ โดยพิจารณารว่ มกับผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั ศึกษาและ อาจารย์ องค์ประกอบดา้ นสิ่งสนบั สนนุ การเรียนรู้จะพจิ ารณาได้จาก ตวั บ่งชี้ 6.1 สิ่งสนบั สนนุ การเรียนรู้

ตวั บ่งช้ที ี่ 6.1 สิง่ สนบั สนุนกำรเรียนรู้ ชนดิ ของตวั บ่งชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปงี บประมาณ ผรู้ บั ผดิ ชอบ กองกลาง ผ้กู ำกบั ดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตัวบ่งช้ี ความพร้อมของส่ิงสนับสนุนการเรียนการสอนมีหลายประการ ได้แก่ ความพร้อมทางกายภาพ เช่น หอ้ งเรยี น หอ้ งปฏบิ ัติการ ท่ีพักของนักศกึ ษา ฯลฯ และความพรอ้ มของอุปกรณ์ เทคโนโลยี และสง่ิ อานวยความ สะดวกหรือทรัพยากรท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้ เช่น อุปกรณ์การเรียนการสอน ห้องสมุด หนังสือ ตารา ส่ิงพิมพ์ วารสาร ฐานข้อมูลเพื่อการสืบค้น แหล่งเรียนรู้ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ส่ิงสนับสนุนเหล่านี้ ต้องมีปริมาณ เพียงพอ และมีคุณภาพพร้อมใช้งาน ทันสมัย โดยพิจารณาการดาเนินการปรบั ปรุงพัฒนาจากผลการประเมนิ ความพึงพอใจของนกั ศกึ ษาและอาจารย์ ในการรายงานการดาเนินงานตามตัวบ่งช้ีนี้ ให้อธิบายกระบวนการหรือแสดงผลการดาเนินงาน อย่างนอ้ ยใหค้ รอบคลุมประเด็นต่อไปน้ี - ระบบการดาเนนิ งานของภาควชิ า/คณะ/สถาบัน โดยมีส่วนรว่ มของอาจารย์ประจาหลกั สูตรเพ่อื ให้ มีส่ิงสนับสนุนการเรยี นรู้ - จานวนสง่ิ สนบั สนนุ การเรยี นรทู้ ี่เพยี งพอและเหมาะสมตอ่ การจัดการเรยี นการสอน - กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อส่ิงสนับสนุน การเรียนรู้ ในกำรประเมิน เพื่อให้ทรำบว่ำอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจำรณำในภำพรวมของผลกำร ดำเนินงำนท้ังหมดทส่ี ะท้อนกำรจดั เตรียมสิง่ สนับสนุนกำรเรยี นรู้ทีจ่ ำเป็นต่อกำรเรยี นกำรสอน และสง่ ผลให้ ผเู้ รียนสำมำรถเรียนรู้ไดอ้ ย่ำงมีประสิทธผิ ล

เกณฑ์กำรประเมนิ 0 1 2 3 4 5  ไมม่ ี  มรี ะบบ  มีระบบ  มรี ะบบ  มีระบบ มีกลไก  มีระบบ มกี ลไก ระบบ มีกลไก มกี ลไก มกี ลไก  มกี ารนา  มกี ารนาระบบ  ไมม่ ี  ไม่มีการ  มกี ารนา  มกี ารนา ระบบ กลไกไปสูก่ าร กลไก นาระบบ ระบบกลไก ระบบกลไก กลไกไปสู่ ปฏิบัต/ิ ดาเนินงาน กลไก ไปสู่การ ไปสู่การ การปฏิบัต/ิ  ไมม่ ี ไปสู่การ ปฏิบัต/ิ ปฏบิ ัติ/ ดาเนินงาน  มกี ารประเมนิ แนวคิด ปฏบิ ัติ/ ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน กระบวนการ ในการ ดาเนนิ งาน  มีการประเมิน กากบั  มีการ  มีการ กระบวนการ  มีการปรบั ปรุง/ ตดิ ตาม ประเมิน ประเมิน พฒั นาระบวนการ และ กระบวนการ กระบวนการ  มีการ จากผลการประเมนิ ปรบั ปรงุ ปรับปรงุ /  ไมม่ กี าร  มกี าร พฒั นา  มีผลจากการ  ไมม่ ี ปรบั ปรงุ / ปรบั ปรุง/ กระบวนการ ปรบั ปรงุ เหน็ ข้อมูล พัฒนา พัฒนา จากผล ชดั เจนเป็น หลักฐาน กระบวนการ กระบวนการ การประเมิน รปู ธรรม จากผลการ ประเมนิ  มีผลจากการ  มีแนวทางปฏิบตั ิที่ ปรบั ปรงุ เห็น ดโี ดยมีหลักฐาน ชัดเจนเปน็ เชิงประจกั ษ์ รปู ธรรม ยืนยันและ กรรมการผตู้ รวจ ประเมนิ สามารถ ใหเ้ หตุผลอธบิ าย การเป็นแนว ปฏบิ ตั ิท่ีดไี ด้ ชัดเจน

บทท่ี 6 ระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยใน ระดับคณะ ระดบั คณะ ประกอบดว้ ย ผลการดาเนินงานระดับหลกั สตู ร และเพมิ่ เติมตวั บง่ ชท้ี ่ดี าเนนิ การ ในระดบั คณะ จานวนรวม 13 ตวั บ่งชี้ ดังน้ี องค์ประกอบในกำร ตัวบง่ ชี้ เกณฑพ์ ิจำรณำ ประกันคณุ ภำพคณะ 1. การผลติ บัณฑิต 1.1 ผลการบริหารจัดการหลกั สูตรโดยรวม ค่าเฉลยี่ ของคะแนนประเมนิ ของ ทกุ หลกั สตู รทีค่ ณะรับผิดชอบ 1.2 อาจารยป์ ระจาคณะท่มี ีคณุ วุฒิปรญิ ญาเอก รอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาคณะ ที่มีคุณวฒุ ิปรญิ ญาเอก 1.3 อาจารยป์ ระจาคณะท่ดี ารงตาแหนง่ ทาง ร้อยละของอาจารยป์ ระจาคณะ วชิ าการ ที่ดารงตาแหน่งทางวชิ าการ 1.4 จานวนนกั ศึกษาเต็มเวลาเทยี บเทา่ ตอ่ จานวน สัดส่วนจานวนนักศึกษาเต็มเวลา อาจารย์ประจา เทียบเท่าต่อจานวนอาจารยป์ ระจา 1.5 การบรกิ ารนกั ศึกษาระดับปรญิ ญาตรี เกณฑ์มาตรฐาน 6 ขอ้ 1.6 กจิ กรรมนักศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี เกณฑ์มาตรฐาน 6 ข้อ 2. การวิจัย 2.1 ระบบและกลไกการบริหารและพัฒนางานวจิ ัย เกณฑ์มาตรฐาน 6 ขอ้ หรอื งานสรา้ งสรรค์ 2.2 เงินสนบั สนุนงานวิจยั และงานสร้างสรรค์ เงนิ สนบั สนุนงานวิจยั และงาน สร้างสรรค์ท้งั ภายในและภายนอก 2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจาและ ต่อจานวนอาจารยป์ ระจาและ นักวิจยั นักวจิ ัย 3. การบรกิ ารวชิ าการ 3.1 การบรกิ ารวชิ าการแกส่ ังคม ผลงานทางวิชาการทุกประเภท ตอ่ อาจารยป์ ระจาและนักวจิ ยั เกณฑม์ าตรฐาน 6 ข้อ 4. การทานุบารุง 4.1 ระบบและกลไกการทานุบารุงศิลปะและ เกณฑ์มาตรฐาน 7 ขอ้ ศิลปะและวัฒนธรรม วฒั นธรรม เกณฑม์ าตรฐาน 7 ข้อ 5. การบริหารจดั การ 5.1 การบรหิ ารของคณะเพื่อการกากับติดตาม ผลลัพธต์ ามพนั ธกิจ กล่มุ สถาบนั และเอกลักษณ์ เกณฑ์มาตรฐาน 6 ขอ้ ของคณะ 5.2 ระบบกากับการประกนั คณุ ภาพ หลักสตู ร

องคป์ ระกอบที่ 1 กำรผลติ บณั ฑติ พันธกิจที่สาคัญที่สุดของสถาบันอุดมศึกษา คือ การผลิตบัณฑิต หรือการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนให้ผู้เรียนมีความรู้ในวิชาการและวิชาชีพ มีคุณลักษณะตามหลักสูตรที่กาหนดการเรียนการสอนในยุค ปัจจบุ ันใช้หลกั การของการจัดกระบวนการเรียนรทู้ เ่ี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ดังน้นั พันธกิจดงั กล่าวจงึ เกี่ยวขอ้ งกบั การบริหารจัดการหลกั สูตรและการเรยี นการสอน เร่ิมตัง้ แตก่ ารกาหนดปจั จยั นาเขา้ ที่ได้มาตรฐานตามที่กาหนด ประกอบด้วย การมีอาจารย์ที่มีปริมาณและคุณภาพตามมาตรฐานหลักสูตร มีกระบวนการบริหารจัดการการ เรยี นการสอนทีอ่ าศัยหลักการร่วมมือรวมพลงั ของทุกฝา่ ยท่ีเกี่ยวขอ้ ง ทง้ั ภายในและภายนอกสถาบัน ตวั บง่ ช้ี จานวน 6 ตวั บ่งชี้ คือ ตัวบ่งชีท้ ่ี 1.1 ผลการบรหิ ารจดั การหลกั สูตรโดยรวม ตวั บ่งชี้ท่ี 1.2 อาจารย์ประจาคณะทมี่ คี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอก ตวั บง่ ช้ีที่ 1.3 อาจารย์ประจาคณะทด่ี ารงตาแหน่งทางวชิ าการ ตวั บ่งชท้ี ี่ 1.4 จานวนนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่าต่อจานวนอาจารย์ประจา ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1.5 การบรกิ ารนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี ตัวบง่ ช้ที ี่ 1.6 กจิ กรรมนกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรี

ตวั บง่ ช้ที ่ี 1.1 ผลกำรบรหิ ำรจัดกำรหลักสตู รโดยรวม ชนิดของตวั บง่ ช้ี ผลลพั ธ์ กำรคิดรอบปี ปีการศกึ ษา ผรู้ ับผดิ ชอบ คณะ ผู้กำกับดแู ล คณบดี คำอธิบำยตวั บ่งชี้ ผลการดาเนินการของแต่ละหลกั สตู รในคณะ ซงึ่ สามารถสะท้อนคุณภาพของบณั ฑติ ในหลกั สตู รที่ คณะรบั ผดิ ชอบ เกณฑก์ ำรประเมิน คา่ เฉลี่ยของคะแนนประเมินทกุ หลักสตู รท่ีคณะรับผดิ ชอบ สูตรกำรคำนวณ ผลรวมของค่าคะแนนประเมนิ ของทกุ หลกั สตู ร คะแนนที่ได้ = จานวนหลกั สตู รทงั้ หมดท่คี ณะรบั ผิดชอบ หมำยเหตุ : - หลกั สูตรที่ไดร้ บั กำรรับรองโดยระบบอ่นื ๆ ตำมที่คณะกรรมกำรประกันคุณภำพภำยใน ระดับอุดมศกึ ษำเหน็ ชอบ ไมต่ ้องนำคะแนนกำรประเมนิ ของหลกั สตู รนน้ั มำคำนวณในตัวบง่ ช้ีนี้ แต่ ตอ้ งรำยงำนผลกำรรับรองตำมระบบน้ันๆ ในตวั บ่งชนี้ ีใ้ ห้ครบถ้วน - ในกำรคำนวณค่ำคะแนน หำกหลักสูตรใช้ระบบอ่นื ท่ไี มใ่ ช่ของ สกอ. ไม่ตอ้ งนำมำคำนวณทัง้ ตัวต้งั ตวั หำร - ทุกหลกั สูตรทมี่ ีกำรจดั กำรเรียนกำรสอน (แมว้ ำ่ จะเปน็ หลักสตู รทขี่ อปิดดำเนนิ กำรแล้วแตย่ งั มี นักศึกษำคงคำ้ งอยู่) ให้นำมำคำนวณด้วยทั้งตวั ตั้งและตวั หำร โดยใชเ้ ฉพำะตวั บง่ ชท้ี ีเ่ กยี่ วขอ้ ง เทำ่ นัน้

ตัวบง่ ชที้ ี่ 1.2 อำจำรยป์ ระจำคณะทมี่ คี ณุ วฒุ ิปริญญำเอก ชนิดของตวั บง่ ช้ี ปจั จยั นาเข้า กำรคิดรอบปี ปกี ารศึกษา ผรู้ ับผดิ ชอบ กองบรหิ ารงานบุคคล ผู้กำกับดูแล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตวั บง่ ช้ี การศึกษาระดับอุดมศึกษาถือเป็นการศึกษาระดับสูงสุดท่ีต้องการบุคลากรท่ีมีความรู้ความสามารถ และความลมุ่ ลกึ ทางวิชาการ เพอื่ ปฏบิ ัตพิ นั ธกจิ สาคัญของสถาบนั ในการผลิตบณั ฑิต ศกึ ษาวิจัย เพอ่ื การติดตาม ความก้าวหน้าทางวิชาการและการพัฒนาองค์ความรู้ ดังนั้น สถาบันจึงควรมีอาจารย์ท่ีมีระดับคุณวุฒิทาง การศกึ ษาที่ตรงหรือสัมพันธก์ ับหลักสตู รทเ่ี ปิดสอนในสัดสว่ นที่เหมาะสมกบั พันธกิจหรือจุดเนน้ ของหลักสตู ร เกณฑก์ ำรประเมนิ โดยการแปลงคา่ ร้อยละของอาจารยป์ ระจาคณะทม่ี ีคณุ วุฒิปรญิ ญาเอกเป็นคะแนนระหวา่ ง 0-5 1. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบนั กลมุ่ ข และ ค2 ค่าร้อยละของอาจารย์ประจาคณะที่มีคุณวุฒิปรญิ ญาเอกทก่ี าหนด ใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 40 ขึ้นไป 2. เกณฑ์เฉพำะสถำบนั กลมุ่ ค1 และ ง ค่ารอ้ ยละของอาจารย์ประจาคณะทมี่ คี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกทกี่ าหนด ใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป สตู รกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ รอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาคณะทมี่ คี ุณวุฒปิ รญิ ญาเอกตามสตู ร จานวนอาจารยป์ ระจาคณะทมี่ ีคณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอก x 100 จานวนอาจารยป์ ระจาคณะท้งั หมด 2. แปลงค่ารอ้ ยละท่ีคานวณได้ในขอ้ 1 เทียบกบั คะแนนเต็ม 5 คะแนนทไ่ี ด้ = ร้อยละของอาจารยป์ ระจาคณะทม่ี คี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอก x 5 ร้อยละของอาจารย์ประจาคณะทมี่ ีคุณวุฒิปรญิ ญาเอก ท่กี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5

หมำยเหตุ : 1. คุณวุฒิปริญญาเอกพิจารณาจากระดับคุณวุฒิท่ีได้รับหรือเทียบเท่าตามหลักเกณฑ์การพิจารณา คุณวุฒิของกระทรวงศึกษาธิการ กรณีที่มีการปรับวุฒิการศกึ ษาให้มีหลักฐานการสาเรจ็ การศึกษาภายในรอบปี การศึกษานนั้ ท้ังนี้ อาจใช้คุณวุฒิอน่ื เทียบเท่าคุณวุฒิปริญญาเอกได้สาหรบั กรณีที่บางสาขาวชิ าชีพมีคุณวฒุ อิ ่ืน ที่เหมาะสมกว่า ทัง้ นี้ ต้องได้รับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา 2. การนับจานวนอาจารย์ประจาให้นับตามปีการศึกษาและนับท้ังปีปฏิบัติงานจริง และลาศึกษาต่อใน กรณที ี่มอี าจารยบ์ รรจุใหม่ใหค้ านวณตามเกณฑอ์ าจารยป์ ระจาท่รี ะบใุ นคาชี้แจงเกี่ยวกบั การนับจานวนอาจารย์ ประจาและนักวิจยั

ตัวบ่งชี้ที่ 1.3 อำจำรย์ประจำคณะที่ดำรงตำแหน่งทำงวิชำกำร ชนดิ ของตัวบ่งช้ี ปัจจยั นาเข้า กำรคิดรอบปี ปีการศกึ ษา ผู้รบั ผิดชอบ กองบริหารงานบคุ คล ผู้กำกับดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตัวบ่งชี้ สถาบนั อุดมศกึ ษาถอื เปน็ ขุมปัญญาของประเทศ และมีความรบั ผิดชอบทจ่ี ะต้องสง่ เสริมใหอ้ าจารย์ใน สถาบนั ทาการศกึ ษาวิจยั เพ่อื แสวงหาและพัฒนาองคค์ วามรใู้ นศาสตร์สาขาวิชาต่างๆ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพือ่ นาไปใช้ ในการเรียนการสอน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ การดารงตาแหน่งทางวิชาการเป็นสง่ิ สะท้อน การปฏบิ ัตงิ านดงั กล่าวของอาจารย์ตามพันธกจิ เกณฑก์ ำรประเมนิ โดยการแปลงค่าร้อยละของอาจารย์ประจาคณะท่ดี ารงตาแหน่งทางวชิ าการเป็นคะแนนระหวา่ ง 0-5 1. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบนั กลมุ่ ข และ ค2 คา่ รอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาคณะทีด่ ารงตาแหนง่ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และ ศาสตราจารย์รวมกนั ที่กาหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป 2. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบนั กลมุ่ ค1 และ ง คา่ รอ้ ยละของอาจารย์ประจาคณะทดี่ ารงตาแหน่งผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และ ศาสตราจารยร์ วมกัน ทก่ี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 80 ข้ึนไป สูตรกำรคำนวณ 1. คานวณค่ารอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาคณะทดี่ ารงตาแหนง่ ทางวชิ าการตามสูตร จานวนอาจารย์ประจาคณะทดี่ ารงตาแหนง่ ทางวชิ าการ x 100 จานวนอาจารย์ประจาคณะทั้งหมด 2. แปลงค่าร้อยละท่คี านวณได้ในขอ้ 1 เทยี บกับคะแนนเต็ม 5 คะแนนทีไ่ ด้ = รอ้ ยละของอาจารย์ประจาคณะทดี่ ารงตาแหน่งทางวชิ าการ x 5 รอ้ ยละของอาจารย์ประจาคณะทดี่ ารงตาแหนง่ ทางวิชาการ ทีก่ าหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5

ตัวบ่งชที้ ่ี 1.4 จำนวนนักศกึ ษำเต็มเวลำเทยี บเท่ำตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำ ชนดิ ของตวั บ่งช้ี ปัจจัยนาเข้า กำรคดิ รอบปี ปกี ารศกึ ษา ผ้รู ับผิดชอบ สานกั ส่งเสรมิ วิชาการและงานทะเบยี น ผ้กู ำกบั ดแู ล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตัวบง่ ช้ี ปัจจัยสาคัญประการหน่ึงสาหรับการจัดการการศึกษาระดับอุดมศึกษา คือสัดส่วนของนักศึกษาต่อ อาจารย์ ทจ่ี ะต้องสอดคลอ้ งกบั ศาสตรใ์ นแต่ละสาขาวิชาและลกั ษณะการเรยี นการสอน รวมทงั้ มีความเชอ่ื มโยง ไปส่กู ารวางแผนตา่ งๆ เช่น การวางแผนอัตรากาลัง ภาระงานอาจารย์ เปา้ หมายการผลิต บณั ฑิตดังนนั้ คณะจึง ควรมีจานวนนักศกึ ษาเต็มเวลาเทยี บเท่าตอ่ จานวนอาจารยป์ ระจาท่ปี ฏิบัตงิ านจริง ไม่เกนิ จานวนเหมาะสม เกณฑก์ ำรประเมนิ ในกรณีทจ่ี านวนนกั ศึกษาเตม็ เวลาต่ออาจารยป์ ระจาน้อยกวา่ หรอื เทา่ กบั เกณฑม์ าตรฐานกาหนดเป็น คะแนน 5 ในกรณีท่ีจานวนนักศึกษาเต็มเวลาต่ออาจารย์ประจามากกว่าเกณฑ์มาตรฐานให้คานวณหาค่าความ แตกต่างระหว่างจานวนนักศึกษาเต็มเวลาต่ออาจารย์ประจากับเกณฑ์มาตรฐาน และนาค่าความแตกต่างมา พจิ ารณา ดงั นี้ ค่าความแตกต่างของจานวนนักศึกษาเต็มเวลาต่ออาจารย์ประจาท่ีสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานต้ังแต่ รอ้ ยละ 20 กาหนดเปน็ คะแนน 0 ค่าความแตกต่างของจานวนนักศึกษาเต็มเวลาต่ออาจารย์ประจาที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ ร้อยละ 0.01 และไม่เกินรอ้ ยละ 20 ให้นามาเทยี บบญั ญัติไตรยางศ์ตามสูตรเพ่ือเป็นคะแนนของหลักสตู รนน้ั ๆ สตู รกำรคำนวณจำนวนนักศกึ ษำเต็มเวลำเทียบเทำ่ 1. คานวณคา่ หนว่ ยกิตนักศึกษา (Student Credit Hours : SCH) ซง่ึ ก็คือผลรวมของผลคณู ระหว่าง จานวน นกั ศึกษาที่ลงทะเบยี นเรยี นกบั จานวนหน่วยกิตแตล่ ะรายวชิ าท่ีเปิดสอนทกุ รายวชิ าตลอดปีการศึกษารวบรวม หลังจากนกั ศึกษาลงทะเบยี นแลว้ เสรจ็ (หมดกาหนดเวลาการเพ่ิม-ถอน) โดยมีสตู รการคานวณ ดังน้ี SCH = Σnici เม่ือ ni = จานวนนักศึกษาทล่ี งทะเบยี นในวิชาที่ i ci = จานวนหน่วยกิตของวชิ าที่ i

2. คานวณคา่ FTES โดยใช้สตู รคานวณ ดงั น้ี Student Credit Hours (SCH) ท้ังปี - จานวนนกั ศกึ ษาเต็มเวลาเทียบเทา่ ตอ่ ปี (FTES) = จานวนหน่วยกิตต่อปีการศึกษาตามเกณฑม์ าตรฐาน การลงทะเบยี นในระดบั ปรญิ ญานนั้ ๆ กำรปรับจำนวนในระหว่ำงปริญญำตรีและบัณฑิตศึกษำ ให้มีการปรับค่าจานวนนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเทา่ ในระดับบัณฑิตศึกษาให้เป็นระดับปริญญาตรี เพ่ือนามารวมคานวณหาสัดส่วนจานวนนักศึกษาเต็มเวลาต่อ อาจารย์ประจา นักศึกษำเตม็ เวลำในหน่วยนับปรญิ ญำตรี 1. กลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ = FTES ระดับปรญิ ญาตรี + FTES ระดบั บณั ฑิตศึกษา 2. กลุม่ สาขาวชิ าวิทยาศาสตรก์ ายภาพ = FTES ระดับปรญิ ญาตรี + (2 x FTES ระดับบณั ฑติ ศึกษา) 3. กลุ่มสาขาวชิ ามนุษยศาสตรแ์ ละ = FTES ระดับปรญิ ญาตรี + (1.8 x FTES ระดบั บัณฑติ ศกึ ษา) สงั คมศาสตร์ สัดส่วนจำนวนนกั ศึกษำเต็มเวลำตอ่ อำจำรยป์ ระจำแยกตำมกลุ่มสำขำ สัดส่วนจำนวนนกั ศกึ ษำ เต็มเวลำตอ่ อำจำรย์ประจำ กลุม่ สำขำ 8:1 1. วทิ ยาศาสตรส์ ุขภาพ 4:1 - แพทยศาสตร์ 6:1 - พยาบาลศาสตร์ 20 : 1 20 : 1 2. วิทยาศาสตร์กายภาพ 8:1 3. วิศวกรรมศาสตร์ 20 : 1 4. สถาปตั ยกรรมศาสตร์และการผงั เมือง 25 : 1 5. เกษตร ป่าไม้ และประมง 50 : 1 6. บริหารธรุ กิจ พาณชิ ยศาสตร์ บัญชี การจดั การ การท่องเที่ยวเศรษฐศาสตร์ 30 : 1 7. นิตศิ าสตร์ 8:1 8. ครุศาสตร/์ ศกึ ษาศาสตร์ 25 : 1 9. ศลิ ปกรรมศาสตร์ วิจิตรศลิ ปแ์ ละประยุกตศ์ ิลป์ 10. สังคมศาสตร/์ มนษุ ยศาสตร์

สูตรกำรคำนวณ 1. คานวณหาค่าความแตกต่างจากเกณฑม์ าตรฐานและนามาคดิ เปน็ คา่ รอ้ ยละตามสตู ร สัดส่วนจานวนนกั ศึกษาเตม็ เวลา สัดสว่ นจานวนนักศกึ ษาเตม็ เวลาต่อ ต่อจานวนอาจารย์ประจาที่เปน็ จรงิ – จานวนอาจารย์ประจาตามเกณฑม์ าตรฐาน X 100 สัดส่วนจานวนนกั ศกึ ษาเตม็ เวลาตอ่ จานวนอาจารยป์ ระจาตามเกณฑม์ าตรฐาน 2. นาคา่ ร้อยละจากข้อ 1 มาคานวณคะแนน ดังน้ี 2.1) ค่าร้อยละทน่ี อ้ ยกว่าหรือเทา่ กบั ร้อยละ 0 คิดเป็น 5 คะแนน 2.2) คา่ รอ้ ยละที่มากกว่าหรือเท่ากบั รอ้ ยละ 20 คดิ เปน็ 0 คะแนน 2.3) ค่าร้อยละท่ีมากกว่าร้อยละ 0 แต่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 20 ใหน้ ามาคดิ คะแนนดงั น้ี คะแนนทไ่ี ด้ = 5 - ( ค่ารอ้ ยละทค่ี านวณได้จาก 2.3 ) 4 ตวั อยำ่ งกำรคำนวณ จานวนนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่าต่อปี (FTES) ต่อจานวนอาจารย์ประจา ของหลักสูตรหนึ่งทางด้าน สังคมศาสตร/์ มนษุ ยศาสตร์ = 24 ค่าความแตกต่างจากเกณฑม์ าตรฐาน = 24 - 25 x 100 = ร้อยละ -4 ได้คะแนน 5 คะแนน 25 จานวนนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่าต่อปี (FTES) ต่อจานวนอาจารย์ประจา ของหลักสูตรหนึ่งทางด้าน สงั คมศาสตร/์ มนษุ ยศาสตร์ = 32 ค่าความแตกตา่ งจากเกณฑม์ าตรฐาน = 32 - 25 x 100 = ร้อยละ 28 ได้คะแนน 0 คะแนน 25

จานวนนักศึกษาเต็มเวลาเทียบเท่าต่อปี (FTES) ต่อจานวนอาจารย์ประจา ของหลักสูตรหน่ึงทางด้าน สังคมศาสตร์/มนุษยศาสตร์ = 28 ค่าความแตกต่างจากเกณฑ์มาตรฐาน = 28 - 25 x 100 = รอ้ ยละ 12 25 คะแนน = 5 – (12) = 5 - 3 = 2 คะแนน 4 หมายเหตุ : - กำรคดิ ค่ำ FTES กรณหี ลกั สูตรทีส่ ภำวชิ ำชพี กำหนดสดั สว่ นจำนวนนักศกึ ษำต่ออำจำรยป์ ระจำไม่ ตรงกับสดั ส่วนทกี่ ำหนดไวใ้ นคมู่ ือกำรประกนั คณุ ภำพกำรศกึ ษำภำยในระดับอดุ มศกึ ษำ พ.ศ.2557 ใหส้ ถำบันอดุ มศึกษำยึดตำมสดั ส่วนท่สี ภำวชิ ำชีพกำหนด - กรณที ี่คณะมีหลำยกลุม่ สำขำ ตอ้ งแยกอำจำรยป์ ระจำว่ำอยู่กล่มุ สำขำใดกอ่ นนำมำหำค่ำคะแนน ของแตล่ ะกลมุ่ แล้วนำมำคดิ คะแนนเฉลี่ยเป็นของคณะ

ตัวบ่งชท้ี ี่ 1.5 กำรบริกำรนกั ศึกษำระดบั ปริญญำตรี ชนิดของตวั บง่ ช้ี กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปีการศึกษา ผู้รบั ผิดชอบ กองพัฒนานกั ศึกษา ผกู้ ำกบั ดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตวั บ่งชี้ คณะควรจัดบริการด้านต่างๆ ให้นักศึกษาและศิษย์เก่าในกิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์กับนักศึกษา เพื่อ การดารงชีวิตอย่างมีความสุขและคุ้มค่าในระหว่างการใช้ชีวิตในคณะ ตั้งแต่การให้คาปรึกษาท้ังด้านวิชาการ และการใช้ชวี ิตจดั บรกิ ารข้อมลู หน่วยงานทีใ่ หบ้ ริการ เชน่ ทนุ กยู้ ืมการศึกษา แหลง่ ทุนการศกึ ษาต่อการบริการ จัดหางาน แหล่งข้อมูลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การเตรียมความพรอ้ มเพ่ือการทางานเมอ่ื สาเร็จการศึกษา ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวในและนอกสถาบันท่ีจาเป็นแก่นักศึกษาและศิษย์เก่าโดยการให้บริการทั้งหมด ต้องใหค้ วามสาคัญกบั การบรกิ ารที่มีคุณภาพและเกดิ ประโยชน์แก่ผู้รบั บรกิ ารอย่างแทจ้ รงิ เกณฑ์มำตรฐำน 1. จัดบริการใหค้ าปรึกษาทางวิชาการ และการใชช้ วี ิตแกน่ กั ศกึ ษาในคณะ 2. มีการให้ข้อมลู ของหน่วยงานท่ีให้บริการ กิจกรรมพเิ ศษนอกหลกั สูตร แหลง่ งานท้งั เต็มเวลาและ นอกเวลาแก่นักศกึ ษา 3. จดั กิจกรรมเตรียมความพร้อมเพอื่ การทางานเมอื่ สาเรจ็ การศึกษาแกน่ ักศกึ ษา 4. ประเมนิ คณุ ภาพของการจดั กิจกรรมและการจดั บรกิ ารในข้อ 1-3 ทุกขอ้ ไมต่ ่ากวา่ 3.51 จาก คะแนนเตม็ 5 5. นาผลการประเมนิ จากข้อ 4 มาปรบั ปรงุ พัฒนาการใหบ้ รกิ ารและการใหข้ ้อมูล เพ่ือสง่ ใหผ้ ลการ ประเมนิ สูงขึน้ หรือเปน็ ไปตามความคาดหวังของนักศกึ ษา 6. ให้ข้อมูลและความรทู้ เี่ ปน็ ประโยชน์ในการประกอบอาชีพแก่ศิษยเ์ ก่า เกณฑ์กำรประเมนิ คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ารดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ 1 ขอ้ 2 ข้อ 3-4 ข้อ 5 ขอ้ 6 ข้อ

ตวั บง่ ชีท้ ่ี 1.6 กิจกรรมนกั ศกึ ษำระดบั ปรญิ ญำตรี ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปีการศกึ ษา ผูร้ บั ผดิ ชอบ กองพัฒนานักศึกษา ผูก้ ำกับดูแล รองอธิการบดี คำอธิบำยตวั บง่ ชี้ คณะต้องส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมนักศึกษาต่างๆ อย่างเหมาะสมและครบถ้วนกิจกรรมนักศึกษา หมายถึง กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตรทีด่ าเนินการทัง้ โดยคณะและโดยองคก์ รนกั ศึกษา เป็นกจิ กรรมที่ ผ้เู ขา้ รว่ มจะมี โอกาสได้รับการพัฒนาสตปิ ญั ญา สังคม อารมณ์ รา่ งกาย และคณุ ธรรมจรยิ ธรรม โดยสอดคลอ้ งกับคณุ ลกั ษณะ บัณฑิตที่พึงประสงค์ ท่ีประกอบด้วยมาตรฐานผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ 5 ประการ ได้แก่ (1) คุณธรรม จริยธรรม (2) ความรู้ (3) ทักษะทางปัญญา (4) ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและ ความรบั ผิดชอบ (5) ทกั ษะการวิเคราะหเ์ ชงิ ตัวเลข การสอื่ สารและการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและคุณลกั ษณะ ของบณั ฑิตท่ีพึงประสงค์ที่คณะ สถาบนั และสภา/องคก์ รวิชาชีพไดก้ าหนดเพม่ิ เตมิ ตลอดจนสอดคลอ้ งกบั ความ ต้องการของผู้ใช้บัณฑิต และนาหลัก PDSA / PDCA (Plan, Do, Study/Check,Act) ไปใช้ในชีวิตประจาวัน เป็นการพฒั นาคุณภาพนักศึกษาอยา่ งยัง่ ยืน เกณฑ์มำตรฐำน 1. จดั ทาแผนการจดั กิจกรรมพัฒนานักศึกษาในภาพรวมของคณะโดยให้นกั ศกึ ษามสี ่วนร่วมในการ จัดทาแผนและการจัดกจิ กรรม 2. ในแผนการจัดกิจกรรมพฒั นานกั ศกึ ษา ใหด้ าเนนิ กจิ กรรมท่ีส่งเสรมิ คุณลักษณะบัณฑติ ตาม มาตรฐานผลการเรยี นรตู้ ามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิแหง่ ชาติ 5 ประการ ใหค้ รบถว้ น ประกอบด้วย (1) คุณธรรม จรยิ ธรรม (2) ความรู้ (3) ทกั ษะทางปัญญา (4) ทกั ษะความสมั พนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรับผดิ ชอบ (5) ทักษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การส่ือสารและการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. จดั กจิ กรรมใหค้ วามรู้และทกั ษะการประกันคณุ ภาพแกน่ ักศึกษา

4. ทกุ กิจกรรมทด่ี าเนนิ การมีการประเมินผลความสาเร็จตามวตั ถุประสงค์ของกจิ กรรมและนาผลการ ประเมินมาปรบั ปรุงการดาเนินงานคร้ังตอ่ ไป 5. ประเมนิ ความสาเรจ็ ตามวัตถุประสงค์ของแผนการจัดกจิ กรรมพฒั นานกั ศกึ ษา 6. นาผลการประเมนิ ไปปรบั ปรุงแผนหรือปรบั ปรุงการจดั กิจกรรมเพ่ือพฒั นานักศกึ ษา เกณฑ์กำรประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ารดาเนินการ มกี ารดาเนินการ มกี ารดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ มกี ารดาเนินการ 1 ข้อ 2 ข้อ 3-4 ข้อ 5 ขอ้ 6 ขอ้

องค์ประกอบท่ี 2 กำรวิจัย สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งอาจมีจุดเน้นในเร่ืองการวิจัยที่แตกต่างกันข้ึนกับสภาพแวดล้อมและ ความพร้อมของแตล่ ะสถาบัน อย่างไรก็ตาม ทุกสถาบันอดุ มศกึ ษาจาเป็นต้องมีพันธกิจนี้เป็นส่วนหนงึ่ ของพนั ธ กิจสถาบัน ดังนั้น จึงต้องมีระบบและกลไกควบคุมให้สามารถดาเนินการในพันธกิจด้านน้ีอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพตามจุดเนน้ เฉพาะของแต่ละสถาบนั เพ่ือให้ได้ผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ที่เกิดประโยชน์ การ วิจยั จะประสบความสาเร็จและเกดิ ประโยชน์จาเป็นต้องมสี ว่ นประกอบท่ีสาคญั 3 ประการ คอื 1) สถาบนั ตอ้ งมี แผนการวิจัยมีระบบและกลไก ตลอดจนมีการสนับสนุนทรัพยากรให้สามารถดาเนินการได้ตามแผน 2) คณาจารย์มสี ว่ นรว่ มในการวิจยั อยา่ งเข้มแข็ง โดยบรู ณาการงานวิจยั กบั การจัดการเรยี น การสอน และพนั ธกิจ ด้านอื่นๆ ของสถาบัน และ 3) ผลงานวิจัยมีคุณภาพมีประโยชน์ สนองยุทธศาสตร์ของชาติและมีการเผยแพร่ อย่างกว้างขวาง ตัวบง่ ชี้ จานวน 3 ตัวบง่ ช้ี คือ ตัวบ่งช้ที ี่ 2.1 ระบบและกลไกการบรหิ ารและพัฒนางานวิจัยหรอื งานสรา้ งสรรค์ ตวั บง่ ช้ีท่ี 2.2 เงินสนับสนุนงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ ตัวบง่ ชี้ท่ี 2.3 ผลงานวิชาการของอาจารยป์ ระจาและนักวิจยั

ตวั บง่ ชีท้ ี่ 2.1 ระบบและกลไกกำรบรหิ ำรและพัฒนำงำนวิจัยหรืองำนสร้ำงสรรค์ ชนดิ ของตวั บ่งช้ี กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปงี บประมาณ ผู้รบั ผิดชอบ สถาบันวจิ ยั และพฒั นา ผูก้ ำกบั ดแู ล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตัวบ่งชี้ สถาบันอุดมศึกษาต้องมกี ารบริหารจัดการงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพโดยมแี นวทางการ ดาเนินงานที่เป็นระบบและมีกลไกส่งเสริมสนบั สนุนครบถ้วน เพ่อื ให้สามารถดาเนนิ การไดต้ ามแผนที่กาหนดไว้ ท้ังการสนับสนุนด้านการจัดหาแหลง่ ทุนวิจยั และการจัดสรรทุนวิจัยจากงบประมาณของสถาบันให้กับบุคลากร ส่งเสริมพัฒนาสมรรถนะแก่อาจารย์และนักวิจัย การสนับสนุนทรัพยากรที่จาเป็นซึ่งรวมถึงทรัพยากรบุคคล ทรัพยากรการเงิน เครื่องมืออุปกรณท์ เี่ ก่ียวขอ้ งต่างๆ ตลอดจนจัดระบบสร้างขวัญและกาลังใจแก่นักวิจัยอย่าง เหมาะสม ตลอดจนมีระบบและกลไกเพ่ือช่วยในการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ท่ีนาไปใช้ ประโยชน์ เกณฑ์มำตรฐำน 1. มีระบบสารสนเทศเพอื่ การบริหารงานวิจัยทส่ี ามารถนาไปใช้ประโยชนใ์ นการบริหารงานวิจยั หรอื งานสร้างสรรค์ 2. สนับสนุนพนั ธกจิ ด้านการวิจยั หรืองานสรา้ งสรรคใ์ นประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - ห้องปฏิบัติการหรือห้องปฏิบัติงานสร้างสรรค์ หรือหน่วยวิจัย หรือศูนย์เคร่ืองมือ หรือศูนย์ให้ คาปรึกษาและสนบั สนุนการวิจยั หรืองานสร้างสรรค์ - ห้องสมุดหรอื แหล่งค้นคว้าขอ้ มูลสนบั สนนุ การวิจยั หรอื งานสร้างสรรค์ - สง่ิ อานวยความสะดวกหรอื การรกั ษาความปลอดภยั ในการวจิ ัยหรือการผลติ งานสร้างสรรค์ เชน่ ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ ระบบรกั ษาความปลอดภยั ในห้องปฏบิ ัติการ - กิจกรรมวิชาการท่ีส่งเสรมิ งานวิจยั หรืองานสรา้ งสรรค์ เชน่ การจัดประชมุ วชิ าการ การจดั แสดง งานสร้างสรรค์ การจัดให้มีศาสตราจารย์อาคันตุกะหรือศาสตราจารย์รับเชิญ ( visiting professor) 3. จดั สรรงบประมาณเพ่ือเปน็ ทุนวิจยั หรืองานสร้างสรรค์

4. จดั สรรงบประมาณเพื่อสนบั สนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยหรอื งานสรา้ งสรรคใ์ นการประชุมวชิ าการ หรือการตีพมิ พ์ในวารสารระดบั ชาติหรือนานาชาติ 5. มีการพัฒนาสมรรถนะอาจารย์และนักวิจัยมีการสร้างขวัญและกาลังใจตลอดจนยกย่องอาจารย์ และนกั วิจยั ที่มผี ลงานวจิ ัยหรืองานสรา้ งสรรคด์ ีเดน่ 6. มีระบบและกลไกเพ่ือช่วยในการคมุ้ ครองสทิ ธ์ิของงานวิจยั หรืองานสรา้ งสรรคท์ ่ีนาไปใช้ประโยชน์ และดาเนนิ การตามระบบท่กี าหนด เกณฑก์ ำรประเมนิ คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ารดาเนินการ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ มกี ารดาเนนิ การ มกี ารดาเนนิ การ 1 ขอ้ 2 ข้อ 3-4 ข้อ 5 ขอ้ 6 ขอ้

ตัวบง่ ช้ที ่ี 2.2 เงนิ สนบั สนนุ งำนวจิ ยั และงำนสรำ้ งสรรค์ ชนดิ ชองตวั บ่งช้ี ปจั จยั นาเข้า กำรคิดรอบปี ปงี บประมาณ ผรู้ บั ผดิ ชอบ สถาบนั วจิ ยั และพฒั นา ผู้กำกบั ดูแล รองอธิการบดี คำอธิบำยตัวบง่ ช้ี ปัจจัยสาคัญที่ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการผลิตงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ในสถาบันอุดมศึกษาคือ เงินสนับสนุนงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ ดังนั้น สถาบันอุดมศึกษาจึงต้องจัดสรรเงินจากภายในสถาบันและที่ ไดร้ ับจากภายนอกสถาบันเพื่อสนับสนุนการทาวิจัยหรืองานสรา้ งสรรคอ์ ย่างมีประสิทธิภาพตามสภาพแวดล้อม และจุดเน้นของสถาบัน นอกจากน้นั เงนิ ทุนวิจยั หรอื งานสร้างสรรค์ท่ีคณะได้รับจากแหล่งทุนภายนอกสถาบนั ยังเป็นตวั บ่งชี้ท่ี สาคัญทแ่ี สดงถึงศักยภาพด้านการวิจัยของคณะ โดยเฉพาะคณะท่อี ยู่ในกลมุ่ ทเ่ี น้นการวิจัย เกณฑ์กำรประเมิน โดยการแปลงจานวนเงนิ ตอ่ จานวนอาจารย์ประจาและนักวิจัยประจาเปน็ คะแนนระหว่าง 0-5 1. เกณฑเ์ ฉพำะคณะกลมุ่ ข และ ค2 จาแนกเปน็ 3 กลุ่มสาขาวิชา กลมุ่ สำขำวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี จานวนเงินสนับสนนุ งานวิจยั หรืองานสร้างสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบันทีก่ าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = 60,000 บาทข้ึนไปต่อคน กลมุ่ สำขำวิชำวิทยำศำสตร์สุขภำพ จานวนเงนิ สนับสนนุ งานวจิ ยั หรอื งานสรา้ งสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบันทีก่ าหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = 50,000 บาทข้ึนไปตอ่ คน กลุ่มสำขำวชิ ำมนุษยศำสตรแ์ ละสังคมศำสตร์ จานวนเงนิ สนบั สนนุ งานวิจยั หรืองานสรา้ งสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบันทกี่ าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = 25,000 บาทข้นึ ไปต่อคน

2. เกณฑเ์ ฉพำะคณะกลมุ่ ค1 และ ง จาแนกเปน็ 3 กลุม่ สาขาวิชา กลมุ่ สำขำวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี จานวนเงินสนบั สนนุ งานวจิ ยั หรอื งานสร้างสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบันทก่ี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = 220,000 บาทข้นึ ไปตอ่ คน กลมุ่ สำขำวิชำวทิ ยำศำสตร์สขุ ภำพ จานวนเงินสนบั สนุนงานวิจยั หรอื งานสรา้ งสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบันที่กาหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = 180,000 บาทขน้ึ ไปต่อคน กลุ่มสำขำวชิ ำมนุษยศำสตร์และสังคมศำสตร์ จานวนเงนิ สนับสนุนงานวิจยั หรอื งานสร้างสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบันทกี่ าหนดใหเ้ ป็น คะแนนเตม็ 5 = 100,000 บาทขน้ึ ไปต่อคน สูตรกำรคำนวณ 1.คานวณจานวนเงินสนบั สนุนงานวจิ ยั หรอื งานสรา้ งสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบนั ต่อจานวนอาจารย์ ประจาและนักวิจัย จานวนเงินสนบั สนุนงานวิจยั ฯ = จานวนเงินสนับสนนุ งานวิจยั ฯ จากภายในและภายนอก จานวนอาจารยป์ ระจาและนักวจิ ยั 2. แปลงจานวนเงินท่คี านวณไดใ้ นขอ้ 1 เทียบกับคะแนนเตม็ 5 คะแนนท่ีได้ = จานวนเงนิ สนับสนนุ งานวิจัยฯ จากภายในและภายนอก - x 5 จานวนเงินสนบั สนนุ งานวจิ ยั ฯ ทีก่ าหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 สรุปคะแนนที่ไดใ้ นระดบั คณะ คะแนนทไ่ี ด้ในระดับคณะ = คา่ เฉล่ยี ของคะแนนท่ไี ดข้ องทุกกลมุ่ สาขาวชิ าในคณะ

หมำยเหตุ 1. จานวนอาจารย์และนักวิจัยให้นับตามปีการศึกษาและนับเฉพาะท่ีปฏิบัติงานจริงไม่นับรวมผู้ลา ศกึ ษาตอ่ 2. ใหน้ บั จานวนเงินทมี่ กี ารลงนามในสัญญารับทนุ ในปกี ารศึกษาหรือปีงบประมาณหรอื ปีปฏทิ นิ นน้ั ๆ ไม่ใชจ่ านวนเงนิ ที่เบกิ จ่ายจรงิ 3. กรณีท่ีมีหลักฐานการแบ่งสัดส่วนเงินสนับสนุนงานวิจัย ซ่ึงอาจเป็นหลักฐานจากแหล่งทุนหรือ หลักฐานจากการตกลงร่วมกันของสถาบันท่ีร่วมโครงการ ให้แบ่งสัดส่วนเงินตามหลักฐานที่ปรากฏ กรณีทไ่ี มม่ ี หลักฐาน ให้แบ่งเงินตามสัดส่วนผรู้ ่วมวิจยั ของแตล่ ะคณะ 4. การนับจานวนเงินสนับสนุนโครงการวิจยั สามารถนบั เงนิ โครงการวจิ ัยสถาบนั ทีไ่ ดล้ งนามในสญั ญา รบั ทุนโดยอาจารย์ประจาหรือนักวิจยั แตไ่ มส่ ามารถนับเงินโครงการวิจยั สถาบันท่ีบุคลากรสายสนับสนุนท่ีไม่ใช่ นักวจิ ัยเปน็ ผดู้ าเนินการ

ตวั บง่ ช้ที ี่ 2.3 ผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรย์ประจำและนกั วจิ ัย ชนิดของตวั บง่ ช้ี ผลลพั ธ์ กำรคดิ รอบปี ปปี ฏทิ นิ ผรู้ ับผิดชอบ สถาบนั วจิ ัยและพฒั นา ผกู้ ำกับดแู ล รองอธิการบดี คำอธิบำยตวั บง่ ช้ี ผลงานทางวิชาการเป็นข้อมูลท่ีสาคัญในการแสดงให้เห็นว่าอาจารย์ประจาและนักวิจัยไดส้ รา้ งสรรค์ ขึ้นเพอื่ แสดงให้เหน็ ถึงความกา้ วหน้าทางวิชาการและการพัฒนาองค์ความรู้อยา่ งตอ่ เนื่อง เป็นผลงานที่มคี ณุ ค่า สมควรส่งเสริมให้มีการเผยแพร่และนาไปใช้ประโยชน์ท้ังเชิงวิชาการและการแข่งขันของประเทศผลงานทาง วิชาการอยู่ในรูปของบทความวิจัยหรือบทความทางวิชาการท่ีตีพิมพ์ในรายงาน สืบเนื่องจากการประชุม วิชาการระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการท่ีปรากฏในฐานข้อมูล TCI หรือ Scopus หรือตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสาร ทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 ผลงานได้รับการจดอนุสิทธิบัตรหรอื สิทธบิ ตั ร หรือเปน็ ผลงานทางวิชาการรบั ใช้สงั คมทีผ่ า่ นการประเมินตาแหนง่ ทางวชิ าการแล้ว ผลงานวิจยั ทหี่ นว่ ยงานหรือ องค์กรระดบั ชาตวิ ่าจ้างให้ดาเนินการ ตาราหรือหนังสือท่ีใชใ้ นการขอผลงานทางวชิ าการและผา่ นการพจิ ารณา ตามเกณฑก์ ารขอตาแหนง่ ทางวชิ าการแลว้ โดยมีวธิ กี ารคดิ ดงั นี้ เกณฑก์ ำรประเมิน โดยการแปลงค่าร้อยละของผลรวมถ่วงนา้ หนกั ของผลงานทางวิชาการของอาจารยป์ ระจาและนักวิจยั เป็นคะแนนระหว่าง 0-5 เกณฑแ์ บง่ กล่มุ ตามสาขาวิชา ดังนี้ 1. เกณฑ์เฉพำะคณะ กลมุ่ ข และ ค2 กลมุ่ สำขำวิชำวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี รอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้าหนักของผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจาและนักวิจยั ท่ีกาหนดไว้เป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 30 ขึน้ ไป กลุ่มสำขำวิชำวิทยำศำสตร์สขุ ภำพ ร้อยละของผลรวมถ่วงน้าหนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ประจาและนกั วจิ ยั ทกี่ าหนดไวเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 30 ขึน้ ไป กลุ่มสำขำวิชำมนุษยศำสตรแ์ ละสงั คมศำสตร์ รอ้ ยละของผลรวมถ่วงนา้ หนกั ของผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจาและนักวิจยั ท่ีกาหนดไวเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 20 ข้ึนไป

2. เกณฑ์เฉพำะคณะกลมุ่ ค1 และ ง กล่มุ สำขำวชิ ำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ร้อยละของผลรวมถ่วงน้าหนกั ของผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจาและนักวิจัย ทก่ี าหนดไว้เป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 60 ขึ้นไป กลุ่มสำขำวชิ ำวทิ ยำศำสตรส์ ุขภำพ ร้อยละของผลรวมถว่ งน้าหนกั ของผลงานทางวิชาการของอาจารยป์ ระจาและนกั วจิ ัย ทีก่ าหนดไวเ้ ป็นคะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป กลุม่ สำขำวชิ ำมนุษยศำสตรแ์ ละสงั คมศำสตร์ รอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้าหนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ประจาและนักวจิ ยั ท่กี าหนดไวเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 40 ข้ึนไป สตู รกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ ร้อยละของผลรวมถว่ งนา้ หนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ประจาและนกั วจิ ัยตามสตู ร ผลรวมถ่วงน้าหนกั ของผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจาและนกั วิจัย x 100 จานวนอาจารยป์ ระจาและนกั วจิ ยั ทั้งหมด 2. แปลงคา่ ร้อยละทคี่ านวณไดใ้ นข้อ 1 เทยี บกับคะแนนเตม็ 5 คะแนนทีไ่ ด้ = รอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้าหนักของผลงานทางวิชาการของอาจารยป์ ระจาและนกั วิจยั x 5 ร้อยละของผลรวมถว่ งน้าหนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ประจาและนักวิจยั ท่กี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5

กำหนดระดับคุณภำพผลงำนทำงวิชำกำร ดงั น้ี ค่ำนำ้ หนัก ระดบั คณุ ภำพ 0.20 • บทความวจิ ยั หรอื บทความวิชาการฉบบั สมบรู ณท์ ต่ี พี ิมพใ์ นรายงานสบื เนือ่ งจากการ ประชุมวชิ าการระดับชาติ 0.40 • บทความวจิ ัยหรอื บทความวชิ าการฉบับสมบูรณ์ทตี่ ีพิมพใ์ นรายงานสืบเนื่องจากการ ประชุมวชิ าการระดับนานาชาตหิ รอื ในวารสารทางวิชาการระดบั ชาตทิ ี่ไม่อยใู่ นฐานขอ้ มลู ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบยี บคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาวา่ ดว้ ย หลกั เกณฑ์การ พิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรบั การเผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 แต่ สถาบนั นาเสนอสภาสถาบันอนุมตั แิ ละจัดทาเปน็ ประกาศใหท้ ราบเปน็ การทั่วไป และแจ้ง ให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั ทีอ่ อกประกาศ • ผลงานทไ่ี ดร้ บั การจดอนสุ ทิ ธบิ ตั ร 0.60 • บทความวจิ ยั หรอื บทความวชิ าการฉบับสมบรู ณท์ ่ตี ีพมิ พ์ในวารสารวชิ าการทีป่ รากฏใน ฐานขอ้ มูล TCI กลุ่มท่ี 2 0.80 • บทความวจิ ยั หรือบทความวิชาการฉบับสมบูรณท์ ่ตี ีพิมพ์ในวารสารวชิ าการระดบั นานาชาติ ที่ไม่อยู่ในฐานข้อมลู ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบยี บคณะกรรมการการอดุ มศึกษาวา่ ด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรบั การเผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 แตส่ ถาบันนาเสนอสภาสถาบันอนมุ ตั ิและจดั ทาเป็นประกาศใหท้ ราบเปน็ การทวั่ ไป และแจง้ ให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบภายใน 30 วนั นับแตว่ ันทอ่ี อกประกาศ (ซง่ึ ไม่อย่ใู น Beall’s list) หรอื ตพี มิ พใ์ นวารสารวิชาการทปี่ รากฏในฐานข้อมูล TCI กลมุ่ ท่ี 1 1.00 • บทความวิจัยหรอื บทความวชิ าการฉบับสมบรู ณ์ท่ีตพี มิ พใ์ นวารสารวชิ าการระดับนานาชาติ ทปี่ รากฏในฐานข้อมลู ระดบั นานาชาตติ ามประกาศ ก.พ.อ. หรอื ระเบียบคณะกรรมการ การอดุ มศกึ ษา ว่าดว้ ยหลักเกณฑก์ ารพิจารณาวารสารทางวิชาการ สาหรบั การเผยแพร่ ผลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2556 • ผลงานไดร้ บั การจดสิทธิบตั ร • ผลงานวชิ าการรับใชส้ ังคมทไ่ี ด้รบั การประเมินผ่านเกณฑ์การขอตาแหนง่ ทางวิชาการแล้ว • ผลงานวจิ ยั ทห่ี นว่ ยงานหรอื องคก์ รระดับชาตวิ า่ จ้างใหด้ าเนินการ • ผลงานค้นพบพันีธพ์ ชื พนั ีธส์ ัตว์ ที่คน้ พบใหมแ่ ละได้รับการจดทะเบียน • ตาราหรือหนังสอื หรืองานแปลที่ไดร้ ับการประเมินผา่ นเกณฑก์ ารขอตาแหนง่ ทางวิชาการแล้ว • ตาราหรือหนังสอื หรอื งานแปลทผี่ ่านการพจิ ารณาตามหลกั เกณฑก์ ารประเมินตาแหนง่ ทาง วิชาการแตไ่ มไ่ ดน้ ามาขอรับการประเมนิ ตาแหนง่ ทางวิชาการ

การส่งบทความเพ่อื พิจารณาคัดเลอื กให้นาเสนอในการประชมุ วิชาการตอ้ งสง่ เป็นฉบับสมบูรณ์ (Full Paper) และเมื่อได้รับการตอบรับและตีพิมพ์แล้ว การตีพิมพ์ต้องตีพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ซึ่งสามารถอยู่ใน รูปแบบเอกสาร หรอื ส่ืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้ กำหนดระดบั คณุ ภำพงำนสรำ้ งสรรค์ ดังน้ี คำ่ น้ำหนัก ระดบั คุณภำพ 0.20 งานสร้างสรรค์ที่มีการเผยแพรส่ สู่ าธารณะในลักษณะใดลกั ษณะหน่งึ หรอื ผ่านสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ Online 0.40 งานสร้างสรรค์ทไี่ ด้รับการเผยแพรใ่ นระดบั สถาบัน 0.60 งานสร้างสรรคท์ ไี่ ดร้ บั การเผยแพรใ่ นระดบั ชาติ 0.80 งานสร้างสรรค์ทไ่ี ดร้ บั การเผยแพรใ่ นระดับความรว่ มมอื ระหว่างประเทศ 1.00 งานสรา้ งสรรคท์ ไ่ี ด้รับการเผยแพรใ่ นระดบั ภมู ิภาคอาเซยี น/นานาชาติ ผลงานสร้างสรรค์ทุกชิ้นต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการท่ีมีองค์ประกอบไม่น้อยกว่า 3 คน โดยมบี คุ คลภายนอกสถาบันรว่ มพจิ ารณาด้วย

องค์ประกอบที่ 3 กำรบรกิ ำรวิชำกำร การบริการทางวิชาการแก่สังคมเป็นหน่ึงในภารกิจหลักของสถาบันอุดมศึกษา สถาบันพึงให้บริการ ทางวิชาการแก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ในรูปแบบต่างๆ ตามความถนัดและในด้านท่ีสถาบันมีความ เชี่ยวชาญ การให้บริการทางวิชาการอาจให้เปล่าโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรืออาจคิดค่าใช้จ่ายตามความเหมาะสม โดยให้บริการท้ังหน่วยงานภาครฐั และเอกชน หน่วยงานอิสระ หน่วยงานสาธารณะ ชุมชน และสังคมโดยกวา้ ง รูปแบบการให้บริการทางวิชาการมีความหลากหลาย เช่น การอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ทรัพยากรของสถาบัน เป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการ ให้คาปรึกษา ให้การอบรม จัดประชุมหรือสัมมนาวิชาการ ทางานวิจัยเพื่อตอบ คาถามตา่ งๆ หรือเพื่อช้ีแนะสงั คม การให้บรกิ ารทางวชิ าการนอกจากเปน็ การทาประโยชน์ให้สังคมแลว้ สถาบัน ยังได้รับประโยชน์ในด้านต่างๆ คือ เพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของอาจารย์อันจะนามาสู่การพัฒนา หลักสูตร มีการบูรณาการเพ่ือใช้ประโยชน์ทางด้านการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยพัฒนาตาแหน่งทาง วิชาการของอาจารย์ สร้างเครอื ข่ายกับหน่วยงานตา่ งๆ ซ่ึงเป็นแหล่งงานของนักศึกษาและเปน็ การสร้างรายได้ ของสถาบนั จากการให้บริการทางวชิ าการดว้ ย ตวั บ่งชี้ จานวน 1 ตัวบง่ ช้ี คือ ตวั บง่ ชี้ที่ 3.1 การบริการวิชาการแกส่ ังคม

ตัวบ่งชี้ที่ 3.1 กำรบริกำรวิชำกำรแก่สงั คม ชนิดของตัวบ่งชี้ กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปีการศึกษา ผู้รบั ผดิ ชอบ สถาบันวจิ ัยและพฒั นา ผู้กำกับดแู ล รองอธิการบดี คำอธิบำยตวั บง่ ช้ี การบริการวิชาการเป็นภารกิจหลักอีกอย่างหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษา คณะควรคานึงถึงกระบวนการในการ ให้บริการวิชาการแก่สังคม โดยศึกษาความต้องการของกล่มุ เปา้ หมายนามาจดั ทาแผนบรกิ ารวิชาการประจาปี ทัง้ การบรกิ ารวิชาการทที่ าให้เกดิ รายได้และการบรกิ ารวชิ าการทีค่ ณะจัดทาเพอื่ สร้างประโยชน์แกช่ ุมชน โดยมี การประเมินความสาเร็จของการบริการวิชาการ และนามาจัดทาเป็นแผน เพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนแก่ นักศึกษาให้มีประสบการณ์จากสภาพจริงและนามาใช้ประโยชน์จนเกิดผลลัพธ์ท่ีสร้างความพึงพอใจต่อชุมชน และสงั คมอย่างตอ่ เน่อื งและยั่งยืน เกณฑม์ ำตรฐำน 1. จดั ทาแผนการบรกิ ารวิชาการประจาปที ส่ี อดคล้องกับความตอ้ งการของสงั คมและกาหนดตัวบง่ ช้ี วดั ความสาเร็จในระดับแผนและโครงการบรกิ ารวิชาการแกส่ งั คมและเสนอกรรมการประจาคณะเพอื่ พจิ ารณา อนมุ ตั ิ 2. โครงการบรกิ ารวิชาการแกส่ ังคมตามแผน มกี ารจดั ทาแผนการใชป้ ระโยชน์จากการบรกิ ารวชิ าการ เพอ่ื ใหเ้ กิดผลตอ่ การพัฒนานกั ศึกษา ชุมชน หรอื สังคม 3. โครงการบรกิ ารวชิ าการแกส่ ังคมในขอ้ 1 อย่างน้อยตอ้ งมีโครงการทีบ่ ริการแบบใหเ้ ปลา่ 4. ประเมินความสาเรจ็ ตามตัวบ่งชข้ี องแผนและโครงการบริการวชิ าการแก่สังคมในข้อ 1 และ นาเสนอกรรมการประจาคณะ เพอ่ื พจิ ารณา 5. นาผลการประเมินตามขอ้ 4 มาปรับปรงุ แผนหรอื พัฒนาการใหบ้ ริการวชิ าการสังคม 6. คณะมสี ่วนร่วมในการบริการวิชาการแกส่ งั คมในระดบั สถาบัน เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ารดาเนนิ การ มีการดาเนนิ การ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ มีการดาเนนิ การ 1 ขอ้ 2 ขอ้ 3-4 ข้อ 5 ขอ้ 6 ข้อ

องค์ประกอบท่ี 4 กำรทำนุบำรุงศลิ ปะและวัฒนธรรม การทานุบารุงศิลปะและวัฒนธรรมถือเป็นพันธกิจสาคัญประการหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษา ดังนั้น สถาบันอุดมศกึ ษาจึงต้องมีระบบและกลไกการดาเนินงานด้านน้ีใหเ้ ป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธิภาพและคุณภาพโดย อาจมีจุดเน้นเฉพาะที่แตกต่างกันตามปรชั ญา และธรรมชาติของแตล่ ะสถาบนั และมีการบรู ณาการเข้ากับพนั ธ กิจอื่นๆ โดยเฉพาะการผลติ บณั ฑิต รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมท่ีฟ้ืนฟู อนุรักษ์ สืบสาน พัฒนาเผยแพร่ศิลปะและ วัฒนธรรมสง่ เสรมิ ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ ใหเ้ ปน็ รากฐานการพฒั นาองค์ความรทู้ ่ีดขี ้นึ ตวั บง่ ชี้ จานวน 1 ตวั บ่งช้ี คอื ตัวบ่งชท้ี ี่ 4.1 ระบบและกลไกการทานุบารงุ ศิลปะและวัฒนธรรม

ตวั บ่งชท้ี ่ี 4.1 ระบบและกลไกกำรทำนบุ ำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ชนิดของตวั บง่ ช้ี กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปีการศึกษา ผ้รู ับผดิ ชอบ สานักศลิ ปะและวฒั นธรรม ผู้กำกบั ดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตวั บ่งช้ี สถาบันอุดมศึกษาต้องมีนโยบาย แผนงาน โครงสร้าง และการบริหารจัดการงานทานุบารุงศิลปะ และวัฒนธรรมท้ังการอนุรกั ษ์ ฟ้ืนฟู สืบสาน เผยแพร่วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาท้องถ่ินตามจุดเนน้ ของสถาบนั อย่างมปี ระสิทธภิ าพและประสทิ ธิผล เกณฑม์ ำตรฐำน 1. กาหนดผู้รบั ผดิ ชอบในการทานบุ ารงุ ศิลปะและวฒั นธรรม 2. จัดทาแผนด้านทานุบารงุ ศิลปะและวฒั นธรรม และกาหนดตวั บง่ ชีว้ ดั ความสาเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงค์ ของแผน รวมท้ังจัดสรรงบประมาณเพอื่ ใหส้ ามารถดาเนินการไดต้ ามแผน 3. กากบั ตดิ ตามใหม้ กี ารดาเนินงานตามแผนดา้ นทานบุ ารงุ ศลิ ปะและวฒั นธรรม 4. ประเมินความสาเร็จตามตวั บ่งช้ีที่วัดความสาเรจ็ ตามวัตถปุ ระสงคข์ องแผนด้านทานบุ ารงุ ศลิ ปะ และวฒั นธรรม 5. นาผลการประเมินไปปรับปรงุ แผนหรอื กิจกรรมดา้ นทานุบารงุ ศลิ ปะและวฒั นธรรม 6. เผยแพร่กจิ กรรมหรอื การบริการดา้ นทานบุ ารุงศิลปะและวฒั นธรรมตอ่ สาธารณชน 7. กาหนดหรือสรา้ งมาตรฐานดา้ นศลิ ปะและวฒั นธรรมซง่ึ เปน็ ทย่ี อมรบั ในระดบั ชาติ เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มีการดาเนินการ มกี ารดาเนนิ การ มีการดาเนินการ มีการดาเนนิ การ มีการดาเนินการ 1 ข้อ 2 ข้อ 3-4 ขอ้ 5 ข้อ 6-7 ขอ้

องคป์ ระกอบท่ี 5 กำรบรหิ ำรจัดกำร สถาบันอุดมศกึ ษาตอ้ งให้ความสาคัญกับการบริหารจัดการโดยมสี ภามหาวทิ ยาลยั ทาหน้าทีใ่ นการ กากับดูแลการทางานของสถาบนั ให้มีประสิทธิภาพ สถาบนั อดุ มศกึ ษาจะตอ้ งบรหิ ารจัดการดา้ นตา่ งๆ ใหม้ ี คุณภาพ เช่น ทรัพยากรบคุ คล ระบบฐานขอ้ มลู การบรหิ ารความเสยี่ ง การบริหารการเปลยี่ นแปลงการบริหาร ทรพั ยากรท้ังหมด ฯลฯ เพื่อสมั ฤทธิผลตามเป้าหมายท่ีกาหนดไวโ้ ดยใช้หลกั ธรรมาภิบาล (Good Governance) ตัวบ่งชี้ จานวน 2 ตวั บง่ ชี้ คอื ตัวบง่ ชท้ี ่ี 5.1 การบริหารของคณะเพอ่ื การกากบั ติดตามผลลัพธต์ ามพันธกิจ กล่มุ สถาบัน และเอกลกั ษณข์ องคณะ ตวั บง่ ชท้ี ี่ 5.2 ระบบกากับการประกันคุณภาพหลักสูตร

ตัวบง่ ชีท้ ี่ 5.1 กำรบริหำรของคณะเพ่อื กำรกำกับติดตำมผลลัพธ์ตำมพนั ธกิจ กลมุ่ สถำบนั และเอกลกั ษณ์ของคณะ ชนดิ ของตัวบ่งชี้ กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปีงบประมาณ / ปีการศึกษา ผ้รู บั ผิดชอบ กองนโยบายและแผน / งานคลงั / คณะกรรมการบรหิ ารความเสยี่ ง / งานเลขานกุ าร / คณะกรรมการจดั การความรู้ / กองบรหิ ารงานบคุ คล / ผกู้ ำกับดแู ล งานประกันคณุ ภาพการศึกษา รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตัวบง่ ช้ี สถาบันอุดมศึกษามีพันธกิจหลัก คือ การเรียนการสอน การวิจัย การบริการทางวิชาการแก่สังคม และการทานุบารงุ ศลิ ปะและวฒั นธรรม ในการดาเนินพันธกจิ หลกั สูตรสถาบันอดุ มศึกษาจาเปน็ ต้องดาเนินงาน ผ่านคณะ ดังน้ัน คณะต้องมีการพัฒนาแผนเพื่อกาหนดทิศทางการพัฒนาและการดาเนินงานของคณะให้ สอดคล้องกับเป้าหมายและกลุ่มสถาบันตลอดจนมีการบริหารท้ังด้านบุคลากร การเงิน ความเสี่ยงและการ ประกนั คณุ ภาพการศึกษา เพอื่ สนบั สนุนการดาเนินงานตามพันธกิจหลกั ให้บรรลตุ ามเปา้ หมายท่กี าหนดไว้ เกณฑม์ ำตรฐำน 1. พัฒนาแผนกลยทุ ธ์จากผลการวิเคราะห์ SWOT โดยเชือ่ มโยงกับวสิ ัยทัศน์ของคณะและสอดคลอ้ ง กบั วิสยั ทศั น์ของคณะ สถาบนั รวมท้ังสอดคลอ้ งกบั กลุ่มสถาบนั และเอกลกั ษณ์ของคณะและพัฒนาไปสแู่ ผนกล ยุทธ์ทางการเงินและแผนปฏิบตั ิการประจาปตี ามกรอบเวลาเพ่ือให้บรรลุผลตามตัวบง่ ชี้และเป้าหมายของแผน กลยทุ ธแ์ ละเสนอผู้บริหารระดบั สถาบนั เพ่อื พิจารณาอนมุ ัติ 2. ดาเนินการวิเคราะหข์ ้อมลู ทางการเงินที่ประกอบไปด้วยต้นทุนต่อหน่วยในแต่ละหลักสูตร สดั สว่ น ค่าใช้จ่ายเพ่ือพัฒนานักศึกษา อาจารย์ บุคลากร การจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องเพื่อวิเคราะห์ความ คุ้มคา่ ของการบริหารหลกั สตู ร ประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธผิ ลในการผลติ บัณฑิต และโอกาสในการแขง่ ขัน 3. ดาเนินงานตามแผนบริหารความเสี่ยงที่เป็นผลจากการวิเคราะห์และระบุปัจจัยเส่ียงที่เกิดจาก ปัจจัยภายนอก หรือปัจจัยท่ีไม่สามารถควบคุมได้ที่ส่งผลตอ่ การดาเนินงานตามพันธกิจของคณะและให้ระดบั ความเสี่ยงลดลงจากเดมิ 4. บรหิ ารงานดว้ ยหลกั ธรรมาภบิ าลอย่างครบถว้ นทง้ั 10 ประการทอี่ ธบิ ายการดาเนินงานอย่างชดั เจน

5. ค้นหาแนวปฏิบัติที่ดีจากความรู้ท้ังท่ีมีอยู่ในตัวบุคคล ทักษะของผู้มีประสบการณ์ตรง และแหล่ง เรียนร้อู ื่นๆ ตามประเดน็ ความรู้ อย่างนอ้ ยครอบคลมุ พนั ธกจิ ด้านการผลติ บณั ฑติ และดา้ นการวิจยั จัดเกบ็ อย่าง เป็นระบบโดยเผยแพรอ่ อกมาเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษรและนามาปรบั ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิงานจริง 6. การกากับตดิ ตามผลการดาเนินงานตามแผนการบรหิ ารและแผนพัฒนาบุคลากรสายวิชาการและ สายสนับสนนุ 7. ดาเนินงานด้านการประกันคุณภาพการศึกษาภายในตามระบบและกลไกท่ีเหมาะสมและ สอดคล้องกับพันธกิจและพัฒนาการของคณะท่ีไดป้ รับให้การดาเนินงานดา้ นการประกันคุณภาพเป็นส่วนหนึง่ ของการบริหารงานคณะตามปกตทิ ่ีประกอบด้วย การควบคมุ คุณภาพ การตรวจสอบคณุ ภาพ และการประเมนิ คณุ ภาพ เกณฑ์กำรประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ารดาเนนิ การ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ มีการดาเนินการ 1 ขอ้ 2 ขอ้ 3-4 ข้อ 5-6 ขอ้ 7 ขอ้

ตัวบ่งชี้ท่ี 5.2 ระบบกำกับกำรประกันคณุ ภำพหลักสูตร ชนดิ ของตวั บง่ ชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปีงบประมาณ / ปีการศึกษา ผูร้ ับผดิ ชอบ งานประกันคุณภาพการศึกษา ผกู้ ำกับดูแล รองอธิการบดี อธิบำยตวั บง่ ชี้ บทบาทหน้าท่ีของคณะในการกากับการประกันคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตร มีการดาเนินการ ตั้งแตก่ ารควบคุมคณุ ภาพ การตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพ และการพฒั นาคณุ ภาพ การพฒั นาตวั บ่งช้ีและเกณฑ์ การประเมินจะมุ่งไปที่ระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษามากกว่าการประเมินคณุ ภาพ เพ่อื ใหส้ ามารถส่งเสรมิ สนบั สนุน กากับ ตดิ ตามการดาเนินงานใหเ้ ป็นไปตามทกี่ าหนด สะทอ้ นการจัดการศกึ ษาอย่างมีคณุ ภาพ เกณฑ์มำตรฐำน 1. มรี ะบบและกลไกในการกากับการดาเนินการประกันคุณภาพหลกั สตู รใหเ้ ป็นไปตามองค์ประกอบ การประกนั คณุ ภาพหลกั สูตร 2. มคี ณะกรรมการกากับ ตดิ ตามการดาเนนิ งานใหเ้ ป็นไปตามระบบทกี่ าหนดในข้อ 1 และรายงาน ผลการตดิ ตามใหก้ รรมการประจาคณะเพอื่ พิจารณาทุกภาคการศกึ ษา 3. มกี ารจดั สรรทรัพยากรเพ่อื สนบั สนนุ การดาเนนิ งานของหลักสตู รให้เกิดผลตามองคป์ ระกอบการ ประกนั คณุ ภาพหลกั สตู ร 4. มกี ารประเมินคณุ ภาพหลักสตู รตามกาหนดเวลาทุกหลักสตู ร และรายงานผลการประเมนิ ให้ กรรมการประจาคณะเพื่อพจิ ารณา 5. นาผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากกรรมการประจา คณะมาปรบั ปรุงหลกั สตู รใหม้ คี ุณภาพดี ข้นึ อย่างต่อเนือ่ ง 6. มีผลการประเมนิ คณุ ภาพทุกหลกั สตู รผา่ นองค์ประกอบที่ 1 การกากับมาตรฐาน เกณฑ์กำรประเมนิ คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน 1 มีการดาเนนิ การ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนนิ การ มีการดาเนนิ การ มีการดาเนินการ 2 ขอ้ 3-4 ขอ้ 5 ขอ้ 6 ขอ้ 1 ข้อ

บทที่ 7 ระบบกำรประกนั คณุ ภำพกำรศึกษำภำยใน ระดับสถำบัน ระดับสถำบัน ประกอบด้วย ผลการดาเนินงานระดบั หลกั สตู ร ระดับคณะ และเพิ่มเติมตัวบ่งช้ีท่ีดาเนินการใน ระดับสถาบัน จานวนรวม 13 ตวั บ่งชี้ ดังน้ี องคป์ ระกอบในกำร ตัวบง่ ชี้ เกณฑ์พิจำรณำ ประกนั คุณภำพสถำบนั 1. การผลติ บัณฑติ 1.1 ผลการบริหารจดั การหลกั สูตรโดยรวม ค่าเฉล่ียของคะแนนประเมินของ ทุกหลักสตู รทสี่ ถาบนั รบั ผดิ ชอบ 1.2 อาจารย์ประจาสถาบันท่ีมีคุณวฒุ ิ รอ้ ยละของอาจารย์ประจาสถาบนั ปรญิ ญาเอก ทม่ี คี ุณวุฒิปรญิ ญาเอก 1.3 อาจารย์ประจาสถาบันท่ีดารงตาแหนง่ ร้อยละของอาจารย์ประจาสถาบัน ทางวิชาการ ที่ดารงตาแหน่งทางวิชาการ 1.4 การบริการนกั ศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี เกณฑม์ าตรฐาน 6 ข้อ 1.5 กิจกรรมนกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรี เกณฑ์มาตรฐาน 6 ข้อ 2. การวจิ ัย 2.1 ระบบและกลไกการบริหารและพัฒนา เกณฑ์มาตรฐาน 6 ขอ้ งานวจิ ยั หรืองานสรา้ งสรรค์ 2.2 เงินสนับสนนุ งานวิจยั และงานสร้างสรรค์ คะแนนเฉลย่ี ของคะแนนประเมิน ระดบั คณะและหน่วยงานวจิ ยั 2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารยป์ ระจา คะแนนเฉลย่ี ของคะแนนประเมนิ และนกั วิจยั ระดับคณะและหน่วยงานวจิ ยั 3. การบริการวิชาการ 3.1 การบรกิ ารวชิ าการแก่สงั คม เกณฑม์ าตรฐาน 6 ขอ้ 4. การทานุบารุงศลิ ปะ 4.1 ระบบและกลไกการทานุบารงุ ศลิ ปะ เกณฑ์มาตรฐาน 7 ข้อ และวฒั นธรรม และวัฒนธรรม 5. การบริหารจัดการ 5.1 การบริหารของสถาบันเพือ่ การกากับตดิ ตาม เกณฑม์ าตรฐาน 7 ข้อ ผลลัพธ์ตามพันธกิจ กลมุ่ สถาบันและ เอกลกั ษณข์ องสถาบัน 5.2 ผลการบริหารงานของคณะ คะแนนเฉลี่ยของผลการประเมิน ระดบั คณะทุกคณะ 5.3 ระบบกากับการประกนั คุณภาพ หลกั สตู ร เกณฑ์มาตรฐาน 6 ข้อ และคณะ

องค์ประกอบท่ี 1 กำรผลิตบณั ฑิต พันธกิจที่สาคัญที่สุดของสถาบันอุดมศึกษา คือ การผลิตบัณฑิต หรือการจัดกิจกรรมการเรียน การ สอนให้ผู้เรียนมีความรู้ในวิชาการและวิชาชีพ มีคุณลักษณะตามหลักสูตรท่ีกาหนด การเรียนการสอนในยุค ปัจจุบันใช้หลักการของการจัดกระบวนการเรียนรทู้ ่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคญั ดังน้ัน พันธกิจดังกล่าว จึงเกี่ยวข้อง กับการบริหารจัดการหลักสูตรและการเรียนการสอน เร่ิมตั้งแต่การกาหนดปัจจัยนาเข้าที่ได้มาตรฐานตามท่ี กาหนด ประกอบด้วย การมีอาจารย์ท่ีมีปริมาณและคุณภาพตามมาตรฐานหลักสูตร มีกระบวนการบริหาร จดั การการเรียนการสอนท่อี าศยั หลักการร่วมมือรวมพลังของทกุ ฝ่ายท่ีเกี่ยวขอ้ งท้ังภายในและภายนอกสถาบนั ตวั บง่ ช้ี จานวน 5 ตัวบ่งช้ี คือ ตวั บ่งชี้ที่ 1.1 ผลการบรหิ ารจดั การหลกั สูตรโดยรวม ตวั บ่งชท้ี ี่ 1.2 อาจารย์ประจาสถาบนั ที่มคี ุณวฒุ ิปริญญาเอก ตัวบง่ ชท้ี ี่ 1.3 อาจารยป์ ระจาสถาบันท่ดี ารงตาแหน่งทางวชิ าการ ตวั บ่งชีท้ ่ี 1.4 การบริการนักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี ตวั บ่งชที้ ี่ 1.5 กจิ กรรมนกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรี

ตัวบ่งชี้ท่ี 1.1 ผลกำรบริหำรจัดกำรหลักสตู รโดยรวม ชนิดของตัวบง่ ช้ี ผลลพั ธ์ กำรคิดรอบปี ปกี ารศกึ ษา ผู้รับผิดชอบ งานประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ผู้กำกบั ดแู ล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตัวบง่ ช้ี ผลการดาเนินการของแตล่ ะหลักสตู รในสถาบัน ซ่ึงสามารถสะท้อนคุณภาพของบณั ฑิตในหลักสตู รที่ สถาบันรับผดิ ชอบ เกณฑ์กำรประเมิน ค่าเฉล่ียของคะแนนประเมินทุกหลกั สูตรท่ีสถาบันรับผดิ ชอบ สตู รกำรคำนวณ คะแนนทไี่ ด้ = ผลรวมของค่าคะแนนประเมนิ ของทกุ หลกั สตู ร จานวนหลกั สตู รท้ังหมดท่สี ถาบันรบั ผิดชอบ หมำยเหตุ : หลักสูตรที่ได้รับการรับรองโดยระบบอื่นๆ ตามท่ีคณะกรรมการประกันคุณภาพภายใน ระดบั อดุ มศึกษาเหน็ ชอบ ไม่ตอ้ งนาคะแนนการประเมินของหลกั สูตรนั้นมาคานวณในตวั บ่งช้ีนี้ แต่ต้องรายงาน ผลการรบั รองตามระบบนน้ั ๆ ในตวั บง่ ชน้ี ้ีให้ครบถ้วน

ตวั บง่ ช้ีที่ 1.2 อำจำรยป์ ระจำสถำบนั ท่มี ีคุณวุฒิปรญิ ญำเอก ชนิดของตวั บ่งช้ี ปจั จัยนาเข้า กำรคดิ รอบปี ปีการศกึ ษา ผ้รู บั ผดิ ชอบ กองบริหารงานบคุ คล ผกู้ ำกับดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตวั บ่งชี้ การศึกษาระดับอุดมศึกษาถือเป็นการศึกษาระดับสูงสุดท่ีต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และความลมุ่ ลกึ ทางวิชาการ เพ่อื ปฏบิ ตั พิ นั ธกิจสาคญั ของสถาบันในการผลิตบัณฑิต ศึกษาวจิ ยั เพ่อื การตดิ ตาม ความก้าวหน้าทางวิชาการและการพัฒนาองค์ความรู้ ดังนั้น สถาบันจึงควรมีอาจารย์ท่ีมีระดับคุณวุฒิทาง การศกึ ษาทตี่ รงหรอื สัมพนั ธ์กับหลักสตู รทเ่ี ปิดสอนในสัดส่วนท่ีเหมาะสมกับพันธกิจ หรือจดุ เน้นของหลักสตู ร เกณฑ์กำรประเมิน โดยการแปลงค่ารอ้ ยละของอาจารย์ประจาสถาบนั ที่มคี ุณวุฒิปริญญาเอกเป็นคะแนนระหวา่ ง 0-5 1. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบันกลุม่ ข และ ค2 ค่ารอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาสถาบนั ท่มี คี ณุ วุฒิปรญิ ญาเอก ทก่ี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 40 ขน้ึ ไป 2. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบนั กลุ่ม ค1 และ ง ค่าร้อยละของอาจารย์ประจาสถาบนั ที่มีคณุ วฒุ ิปริญญาเอก ทก่ี าหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป สตู รกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ ร้อยละของอาจารยป์ ระจาสถาบนั ท่มี ีคุณวุฒปิ ริญญาเอกตามสตู ร จานวนอาจารยป์ ระจาสถาบันทม่ี คี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอก x 100 จานวนอาจารยป์ ระจาสถาบนั ทงั้ หมด 2. แปลงค่ารอ้ ยละท่ีคานวณได้ในขอ้ 1 เทียบกบั คะแนนเตม็ 5 คะแนนทไ่ี ด้ = ร้อยละของอาจารยป์ ระจาสถาบันทมี่ คี ุณวฒุ ิปริญญาเอก - x5 ร้อยละของอาจารยป์ ระจาสถาบันทม่ี คี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอกท่ีกาหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5

หมำยเหตุ : 1. คุณวุฒิปริญญาเอกพิจารณาจากระดับคุณวุฒิที่ได้รับหรือเทียบเท่าตามหลักเกณฑ์การพิจารณา คุณวุฒิของกระทรวงศึกษาธิการ กรณีท่ีมีการปรับวุฒกิ ารศึกษาให้มหี ลักฐานการสาเร็จการศึกษาภายในรอบปี การศึกษานน้ั ทั้งน้ี อาจใช้คุณวุฒิอืน่ เทียบเท่าคณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกไดส้ าหรับกรณที ี่บางสาขาวิชาชีพมีคุณวฒุ ิอนื่ ทเี่ หมาะสมกว่า และต้องได้รบั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการการอุดมศึกษา 2. การนบั จานวนอาจารย์ประจาให้นับตามปกี ารศึกษาและนบั ทง้ั ปีปฏิบัติงานจรงิ และลาศกึ ษาต่อใน กรณที ่มี อี าจารย์บรรจใุ หมใ่ หค้ านวณตามเกณฑอ์ าจารย์ประจาทีร่ ะบใุ นคาชแี้ จงเกีย่ วกบั การนับจานวนอาจารย์ ประจาและนักวจิ ยั

ตวั บ่งช้ีที่ 1.3 อำจำรย์ประจำสถำบันท่ีดำรงตำแหนง่ ทำงวิชำกำร ชนิดของตัวบ่งช้ี ปัจจัยนาเข้า กำรคิดรอบปี ปกี ารศึกษา ผู้รับผดิ ชอบ กองบรหิ ารงานบคุ คล ผู้กำกับดูแล รองอธิการบดี คำอธิบำยตัวบง่ ชี้ สถาบนั อุดมศกึ ษาถือเป็นขุมปัญญาของประเทศ และมีความรับผิดชอบท่ีจะตอ้ งส่งเสรมิ ใหอ้ าจารย์ใน สถาบันทาการศึกษาวจิ ัยเพื่อแสวงหาและพัฒนาองคค์ วามรใู้ นศาสตร์สาขาวิชาต่างๆ อยา่ งตอ่ เนอื่ งเพือ่ นาไปใช้ ในการเรียนการสอน รวมท้ังการแกไ้ ขปัญหาและพัฒนาประเทศ การดารงตาแหน่งทางวิชาการเป็นสิง่ สะทอ้ น การปฏบิ ัติงานดงั กล่าวของอาจารยต์ ามพันธกิจ เกณฑก์ ำรประเมนิ โดยการแปลงค่าร้อยละของอาจารยป์ ระจาสถาบันท่ีดารงตาแหน่งทางวิชาการเป็นคะแนน ระหวา่ ง 0-5 1. เกณฑ์เฉพำะสถำบนั กลุ่ม ข และ ค2 ค่ารอ้ ยละของอาจารย์ประจาสถาบนั ทีด่ ารงตาแหนง่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารยร์ วมกัน ทกี่ าหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป 2. เกณฑเ์ ฉพำะสถำบันกลมุ่ ค1 และ ง คา่ รอ้ ยละของอาจารย์ประจาสถาบันทีด่ ารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์รวมกัน ที่กาหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 80 ขึ้นไป สูตรกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ ร้อยละของอาจารย์ประจาสถาบันท่ดี ารงตาแหนง่ ทางวชิ าการตามสตู ร จานวนอาจารยป์ ระจาสถาบันทีด่ ารงตาแหน่งทางวิชาการ x 100 จานวนอาจารยป์ ระจาสถาบันทง้ั หมด 2. แปลงค่าร้อยละทีค่ านวณไดใ้ นข้อ 1 เทยี บกบั คะแนนเตม็ 5 คะแนนทไี่ ด้ = ร้อยละของอาจารยป์ ระจาสถาบนั ทด่ี ารงตาแหนง่ ทางวิชาการ - x5 ร้อยละของอาจารย์ประจาสถาบนั ท่ีดารงตาแหน่งทางวชิ าการทก่ี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5

ตวั บ่งชี้ท่ี 1.4 กำรบรกิ ำรนกั ศึกษำระดับปริญญำตรี ชนดิ ของตัวบ่งชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปกี ารศกึ ษา ผู้รบั ผิดชอบ กองพฒั นานกั ศึกษา ผู้กำกบั ดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตวั บ่งช้ี สถาบันอุดมศึกษาควรจดั บรกิ ารด้านตา่ งๆ ให้นักศึกษาอยา่ งครบถ้วนต้ังแตก่ ารให้คาปรกึ ษา ท้ังด้าน วิชาการและการใช้ชีวิต จัดบริการข้อมูลหน่วยงานท่ีให้บริการ เช่น ทุนกู้ยืมการศึกษา แหล่งทุน การศึกษาตอ่ การบรกิ ารจัดหางาน แหล่งข้อมลู การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การเตรียมความพรอ้ มเพ่อื การทางานเม่ือสาเร็จ การศึกษา ขอ้ มลู ขา่ วสารความเคลอ่ื นไหวในและนอกสถาบนั ที่จาเป็นแก่นักศกึ ษา และศษิ ย์เกา่ เกณฑ์มำตรฐำน 1. จัดบริการใหค้ าปรึกษา แนะแนวด้านการใชช้ ีวิต และการเขา้ สู่อาชีพแก่นกั ศึกษาในสถาบนั 2. มีการให้ข้อมูลของหน่วยงานที่ให้บริการกิจกรรมพิเศษนอกหลักสูตร แหล่งงานทั้งเต็มเวลา และ นอกเวลาแกน่ ักศึกษา 3. จัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมเพ่อื การทางานเมื่อสาเรจ็ การศึกษาแก่นกั ศึกษา 4. ประเมินคุณภาพของการจัดกิจกรรมและการจัดบริการในข้อ 1-3 ทุกข้อไม่ต่ากว่า 3.51 จาก คะแนนเต็ม 5 5. นาผลการประเมินจากข้อ 4 มาปรับปรุงพัฒนาการให้บริการและการให้ข้อมูล เพื่อส่งให้ผลการ ประเมินสงู ขน้ึ หรือเปน็ ไปตามความคาดหวงั ของนักศึกษา 6. ให้ข้อมลู และความรทู้ ่เี ป็นประโยชน์แกศ่ ิษยเ์ ก่า เกณฑ์กำรประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มีการดาเนนิ การ มีการดาเนินการ มกี ารดาเนินการ มกี ารดาเนินการ มกี ารดาเนนิ การ 1 ขอ้ 2 ข้อ 3-4 ข้อ 5 ข้อ 6 ข้อ

ตัวบ่งชที้ ี่ 1.5 กิจกรรมนักศกึ ษำระดบั ปริญญำตรี ชนดิ ของตัวบง่ ชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปีการศึกษา ผรู้ ับผดิ ชอบ กองพฒั นานักศกึ ษา ผูก้ ำกบั ดูแล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตวั บง่ ชี้ สถาบันอุดมศึกษาต้องส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมนักศึกษาต่างๆ อย่างเหมาะสมและครบถ้วน กิจกรรมนักศึกษาหมายถึงกิจกรรมเสริมหลักสูตรท่ีดาเนินการทั้งโดยสถาบันและโดยองค์กรนักศึกษา เป็น กิจกรรมท่ีผู้เข้าร่วมจะมีโอกาสได้รับการพัฒนาสติปัญญา สังคม อารมณ์ ร่างกาย และคุณธรรม จริยธรรม สอดคลอ้ งกบั คุณลกั ษณะของบัณฑิตท่ีพึงประสงค์ เกณฑ์มำตรฐำน 1. จดั ทาแผนการจดั กิจกรรมพัฒนานกั ศกึ ษาในภาพรวมของสถาบนั โดยใหน้ ักศึกษามสี ว่ นรว่ มในการ จดั ทาแผนและการจดั กิจกรรม 2. ในแผนการจดั กิจกรรมพัฒนานกั ศึกษาให้ดาเนนิ กิจกรรมในประเภทตอ่ ไปนี้ให้ครบถว้ น - กจิ กรรมส่งเสริมคณุ ลกั ษณะบณั ฑติ ทพี่ งึ ประสงคท์ ก่ี าหนดโดยสถาบนั - กจิ กรรมกีฬา หรือการส่งเสรมิ สขุ ภาพ - กจิ กรรมบาเพ็ญประโยชน์ หรือรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม - กิจกรรมเสรมิ สรา้ งคุณธรรมและจริยธรรม - กจิ กรรมส่งเสรมิ ศลิ ปะและวัฒนธรรม 3. จดั กิจกรรมใหค้ วามรแู้ ละทกั ษะการประกันคุณภาพการศึกษาแกน่ กั ศกึ ษา 4. ทุกกิจกรรมทด่ี าเนนิ การ มกี ารประเมนิ ผลความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมและนาผลการ ประเมินมาปรับปรงุ การดาเนนิ งานครง้ั ต่อไป 5. ประเมนิ ความสาเร็จตามวตั ถปุ ระสงคข์ องแผนการจัดกิจกรรมพัฒนานกั ศึกษา 6. นาผลการประเมินไปปรับปรงุ แผนหรอื ปรบั ปรุงการจดั กจิ กรรมเพื่อพัฒนานักศกึ ษา เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มกี ารดาเนนิ การ มีการดาเนินการ มกี ารดาเนินการ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนนิ การ 1 ขอ้ 2 ข้อ 3-4 ขอ้ 5 ข้อ 6 ข้อ

องคป์ ระกอบท่ี 2 กำรวิจยั สถาบันอุดมศึกษาแต่ละแห่งอาจมีจุดเน้นในเรื่องการวิจัยที่แตกต่างกันข้ึนกับสภาพแวดล้อม และ ความพร้อมของแตล่ ะสถาบัน อย่างไรกต็ าม ทุกสถาบันอดุ มศึกษาจาเป็นต้องมีพันธกิจน้ีเป็นสว่ นหนึ่งของพันธ กิจสถาบัน ดังนั้น จึงต้องมีระบบและกลไกควบคุมให้สามารถดาเนินการในพันธกิจด้านนี้อย่างมีประสทิ ธิภาพ และคุณภาพตามจุดเนน้ เฉพาะของแต่ละสถาบนั เพ่ือให้ได้ผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ท่ีเกิดประโยชน์ การ วจิ ัยจะประสบความสาเรจ็ และเกิดประโยชน์จาเป็นตอ้ งมสี ว่ นประกอบท่สี าคัญ 3 ประการ คือ 1) สถาบนั ต้องมี แผนการวิจัย มีระบบและกลไก ตลอดจนมีการสนับสนุนทรัพยากรให้สามารถดาเนินการได้ตามแผน 2) คณาจารย์มีสว่ นร่วมในการวิจัยอย่างเข้มแข็ง โดยบูรณาการงานวิจัยกับการจดั การเรียนการสอน และพันธ กิจด้านอ่ืนๆ ของสถาบัน และ 3) ผลงานวิจัยมีคุณภาพ มีประโยชน์ สนองยุทธศาสตร์ของชาติและมีการ เผยแพร่อยา่ งกว้างขวาง ตวั บ่งช้ี จานวน 3 ตวั บ่งช้ี คือ ตัวบง่ ชที้ ี่ 2.1 ระบบและกลไกการบรหิ ารและพัฒนางานวิจัยหรอื งาน สร้างสรรค์ ตัวบง่ ชท้ี ี่ 2.2 เงนิ สนบั สนนุ งานวจิ ัยและงานสรา้ งสรรค์ ตัวบง่ ชที้ ี่ 2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ประจาและนักวจิ ยั

ตัวบง่ ชที้ ี่ 2.1 ระบบและกลไกกำรบรหิ ำรและพฒั นำงำนวจิ ัยหรอื งำนสร้ำงสรรค์ ชนดิ ของตวั บ่งชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปีงบประมาณ ผู้รบั ผิดชอบ สถาบนั วจิ ยั และพัฒนา ผกู้ ำกับดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตวั บง่ ชี้ สถาบันอุดมศึกษาต้องมีการบริหารจดั การงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพโดยมีแนวทางการ ดาเนินงานท่ีเป็นระบบและมีกลไกส่งเสริมสนบั สนุนครบถ้วนเพ่ือให้สามารถดาเนินการไดต้ ามแผนท่ีกาหนดไว้ ท้ังการสนับสนุนดา้ นการจัดหาแหล่งทุนวิจัยและการจัดสรรทุนวิจัยจากงบประมาณของสถาบันใหก้ ับบุคลากร ส่งเสริมพัฒนาสมรรถนะแก่อาจารย์และนักวิจัย การสนับสนุนทรัพยากรท่ีจาเป็นซ่ึงรวมถึงทรัพยากรบุคคล ทรัพยากรการเงิน เครื่องมืออุปกรณท์ ีเ่ ก่ียวขอ้ งต่างๆ ตลอดจนจัดระบบสร้างขวัญและกาลงั ใจแก่นักวิจัยอยา่ ง เหมาะสม ตลอดจนมีระบบและกลไกเพื่อช่วยในการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัย หรืองานสร้างสรรค์ที่นาไปใช้ ประโยชน์ เกณฑ์มำตรฐำน 1. มีระบบสารสนเทศเพอื่ การบรหิ ารงานวิจัยทส่ี ามารถนาไปใช้ประโยชน์ในการบริหารงานวิจัย และ งานสรา้ งสรรค์ 2. สนับสนนุ พนั ธกิจด้านการวิจยั หรืองานสร้างสรรคอ์ ย่างนอ้ ยในประเด็นตอ่ ไปนี้ - หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารวจิ ัยหรอื งานสร้างสรรค์หรือหนว่ ยวิจยั หรอื งานสร้างสรรค์หรอื ศนู ย์เคร่ืองมือหรือ ศนู ย์ให้คาปรกึ ษาและสนบั สนุนการวจิ ัย - ห้องสมดุ หรือแหล่งคน้ คว้าขอ้ มลู สนบั สนุนการวจิ ัยหรืองานสรา้ งสรรค์ - ส่ิงอานวยความสะดวกหรือการรักษาความปลอดภยั ในการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ เช่น ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบรกั ษาความปลอดภัยในห้องปฏบิ ตั กิ ารวจิ ัย - กิจกรรมวชิ าการทสี่ ง่ เสริมงานวิจัยหรืองานสรา้ งสรรค์ เชน่ การจัดประชุมวิชาการ การจัดแสดง งานสร้างสรรค์ การจัดให้มีศาสตราจารย์อาคันตุกะหรือศาสตราจารย์รับเชิญ ( visiting professor) 3. จดั สรรงบประมาณของสถาบัน เพ่ือเป็นทนุ วิจัยหรืองานสรา้ งสรรค์

4. จัดสรรงบประมาณเพ่อื สนบั สนุนการเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั หรืองานสรา้ งสรรค์ในการประชมุ วิชาการ หรือการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ และมีการเผยแพร่ผลงานวิจัย หรืองานสร้างสรรค์ในการ ประชุมวิชาการหรือการตพี ิมพ์ในวารสารระดบั ชาติหรอื นานาชาติ 5. มีการพัฒนาสมรรถนะอาจารย์และนักวิจัย มีการสร้างขวัญและกาลังใจตลอดจนยกย่องอาจารย์ และนักวิจัยท่ีมผี ลงานวจิ ยั และงานสรา้ งสรรค์ดีเด่น 6. มีระบบและกลไกเพื่อช่วยในการคุ้มครองสิทธิ์ของงานวิจัยหรอื งานสรา้ งสรรค์ท่ีนาไปใช้ประโยชน์ และดาเนินการตามระบบท่ีกาหนด เกณฑก์ ำรประเมนิ คะแนน 1 คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 มีการดาเนินการ มกี ารดาเนินการ มีการดาเนินการ มกี ารดาเนนิ การ มีการดาเนนิ การ 1 ขอ้ 2 ข้อ 3-4 ขอ้ 5 ขอ้ 6 ขอ้

ตัวบ่งชี้ที่ 2.2 เงินสนับสนนุ งำนวจิ ยั และงำนสรำ้ งสรรค์ ชนดิ ชองตวั บ่งช้ี ปัจจัยนาเข้า กำรคิดรอบปี ปีงบประมาณ ผูร้ ับผดิ ชอบ สถาบันวจิ ยั และพฒั นา ผกู้ ำกับดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตัวบง่ ช้ี ปัจจัยสาคัญที่ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการผลิตงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ในสถาบันอุดมศึกษาคือ เงินสนับสนุนงานวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ ดังนั้น สถาบันอุดมศึกษาจึงต้องจัดสรรเงินจากภายในสถาบันและท่ี ได้รบั จากภายนอกสถาบนั เพื่อสนบั สนุนการทาวิจัยหรืองานสรา้ งสรรคอ์ ยา่ งมีประสิทธภิ าพตามสภาพแวดล้อม และจุดเนน้ ของสถาบนั นอกจากนั้นเงินทุนวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ท่ีสถาบันได้รับจากแหล่งทุนภายนอกยังเป็นตัวบ่งช้ีที่ สาคญั ที่แสดงถึงศักยภาพดา้ นการวิจยั ของสถาบนั โดยเฉพาะสถาบันท่อี ย่ใู นกลุ่มทีเ่ น้นการวจิ ยั เกณฑก์ ำรประเมนิ คะแนนที่ได้ในระดับสถาบัน เป็นค่าเฉล่ียของคะแนนผลการประเมิน (เงินสนับสนนุ งานวิจยั หรืองาน สร้างสรรคจ์ ากภายในและภายนอกสถาบนั ) ของทกุ คณะและหนว่ ยงานวจิ ัยในสถาบนั สตู รกำรคำนวณ ผลรวมของผลการประเมนิ เงินสนบั สนนุ งานวจิ ยั ของทุกคณะและหนว่ ยงานวจิ ัย คะแนนที่ได้ = จานวนคณะและหนว่ ยงานวจิ ยั ทัง้ หมดของสถาบนั

ตัวบ่งช้ีที่ 2.3 ผลงำนทำงวิชำกำรของอำจำรยป์ ระจำและนักวิจยั ชนดิ ของตวั บง่ ชี้ ผลลัพธ์ กำรคิดรอบปี ปีปฏิทนิ ผูร้ บั ผดิ ชอบ สถาบันวจิ ัยและพัฒนา ผ้กู ำกบั ดูแล รองอธิการบดี คำอธิบำยตัวบ่งช้ี ผลงานทางวิชาการเป็นข้อมูลที่สาคัญในการแสดงให้เห็นว่าอาจารย์ประจาและนักวิจัยได้สรา้ งสรรค์ ขึ้นเพื่อแสดงใหเ้ หน็ ถึงความกา้ วหน้าทางวิชาการและการพัฒนาองค์ความรู้อยา่ งตอ่ เน่อื ง เป็นผลงานทีม่ ีคุณค่า สมควรส่งเสริมให้มีการเผยแพร่และนาไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงวิชาการและการแข่งขันของประเทศผลงานทาง วิชาการอยู่ในรูปของบทความวิจัยหรือบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการ ระดับชาติหรือระดับนานาชาติตีพิมพ์ในวารสารวิชาการท่ีปรากฏในฐานข้อมูล TCI หรือScopus หรือตาม ประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาว่าดว้ ย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวชิ าการ สาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 ผลงานได้รับการจดอนุสิทธิบัตรหรือสิทธิบัตร หรือเป็น ผลงานทางวิชาการรับใช้สังคมท่ีผ่านการประเมินตาแหน่งทางวิชาการแล้ว ผลงานที่ทาร่วมกับอุตสาหกรรมที่ ผ่านการประเมินตาแหน่งทางวิชาการแล้ว ตาราหรือหนังสือท่ีใช้ในการขอผลงานทางวิชาการและผ่านการ พจิ ารณาตามเกณฑก์ ารขอตาแหนง่ ทางวชิ าการแลว้ โดยมีวิธกี ารคดิ ดงั น้ี เกณฑก์ ำรประเมนิ คะแนนท่ีได้ในระดับสถาบันเป็นค่าเฉล่ียของคะแนนผลการประเมินผลงานทางวิชาการของอาจารย์ ประจาและนักวิจยั ของทกุ คณะและหนว่ ยงานวิจยั ในสถาบนั สูตรกำรคำนวณ คะแนนท่ีได้ = ผลรวมของคะแนนผลการประเมินผลงานทางวชิ าการของทุกคณะและหนว่ ยงานวจิ ยั จานวนคณะและหน่วยงานวิจัยทง้ั หมดในสถาบนั

องค์ประกอบท่ี 3 กำรบรกิ ำรวชิ ำกำร การบริการทางวิชาการแก่สังคมเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของสถาบันอุดมศึกษา สถาบันพึงให้บริการ ทางวิชาการแก่ชุมชน สังคม และประเทศชาติในรูปแบบต่างๆ ตามความถนัดและในด้านท่ีสถาบันมีความ เช่ียวชาญการให้บริการทางวิชาการอาจให้เปล่าโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรืออาจคิดค่าใช้จ่ายตาม ความเหมาะสม โดยให้บริการท้ังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หน่วยงานอิสระ หน่วยงานสาธารณะ ชุมชน และสังคมโดยกวา้ ง รูปแบบการให้บริการทางวิชาการมีความหลากหลาย เช่น การอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ทรัพยากรของสถาบัน เป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการ ให้คาปรึกษา ให้การอบรม จัดประชุมหรือสัมมนาวิชาการ ทางานวิจัยเพ่ือตอบ คาถามต่างๆ หรือเพ่ือช้ีแนะสังคม การให้บริการทางวิชาการ นอกจากเป็นการทาประโยชน์ให้สังคมแล้ว สถาบันยังได้รับประโยชน์ในด้านต่างๆ คือ เพ่ิมพูนความรู้และประสบการณ์ของอาจารย์อันจะนามาสู่การ พฒั นาหลักสตู ร มกี ารบูรณาการเพื่อใช้ประโยชน์ทางด้านการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยพัฒนาตาแหน่ง ทางวิชาการของอาจารย์ สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานต่างๆ ซ่ึงเป็นแหล่งงานของนักศึกษาและเป็นการสร้าง รายได้ของสถาบันจากการใหบ้ ริการทางวชิ าการด้วย ตัวบ่งช้ี จานวน 1 ตวั บง่ ชี้ คอื ตวั บ่งชท้ี ่ี 3.1 การบริการวชิ าการแกส่ งั คม

ตวั บ่งช้ที ่ี 3.1 กำรบริกำรวชิ ำกำรแก่สังคม ชนิดของตวั บ่งชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปีการศึกษา ผรู้ บั ผิดชอบ สถาบนั วจิ ัยและพัฒนา ผ้กู ำกบั ดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตัวบ่งช้ี การบริการวิชาการเป็นภารกิจหลักอีกอย่างหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษา สถาบันควรคานึงถึง กระบวนการในการให้บรกิ ารวิชาการแก่สังคม โดยการศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายนามาจัดทาแผน บริการวิชาการ ทั้งการบริการวิชาการท่ีทาให้เกิดรายได้และการบริการวิชาการท่ีสถาบันจัดทาเพื่ อสร้าง ประโยชน์แก่ชุมชนหรือสังคมโดยมีการประเมินความสาเร็จของการบริการวิชาการ และนามาจัดทาเป็น แผนการใช้ประโยชนจ์ นเกดิ ผลลัพธ์ท่สี ร้างความพึงพอใจตอ่ ชมุ ชนและสังคมอยา่ งต่อเนอ่ื งและยั่งยืน เกณฑ์มำตรฐำน 1. กาหนดชุมชนหรือองค์การเป้าหมายของการให้บริการทางวิชาการแก่สังคมโดยมีความร่วมมือ ระหว่างคณะหรอื หน่วยงานเทยี บเทา่ 2. จดั ทาแผนบรกิ ารวชิ าการโดยมีสว่ นร่วมจากชุมชนหรอื องค์การเป้าหมายท่ีกาหนดในข้อ 1 3. ชมุ ชนหรือองคก์ ารเปา้ หมายได้รบั การพฒั นาและมคี วามเข้มแขง็ ทมี่ ีหลักฐานทป่ี รากฏชดั เจน 4. ชุมชนหรือองค์การเปา้ หมายดาเนนิ การพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง 5. สถาบันสามารถสร้างเครือขา่ ยความร่วมมอื กบั หน่วยงานภายนอกในการพัฒนาชมุ ชนหรือองค์การ เป้าหมาย 6. ทุกคณะมีส่วนร่วมในการดาเนินการตามแผนบริการทางวิชาการแก่สังคมของสถาบันตาม ข้อ 2 โดยมีจานวนอาจารย์เข้าร่วมไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของอาจารย์ท้ังหมดของสถาบัน ท้ังน้ีต้องมีอาจารย์มาจาก ทุกคณะ เกณฑก์ ำรประเมิน คะแนน 2 คะแนน 3 คะแนน 4 คะแนน 5 คะแนน 1 มกี ารดาเนินการ มีการดาเนนิ การ มกี ารดาเนินการ มีการดาเนินการ มกี ารดาเนินการ 2 ข้อ 3-4 ขอ้ 5 ข้อ 6 ข้อ 1 ข้อ