Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ60-61V2

คู่มือ60-61V2

Published by qaudru, 2020-05-07 03:58:11

Description: คู่มือ60-61V2

Search

Read the Text Version

เกณฑก์ ำร ตรี โท เอก หมำยเหตุ ประเมนิ 3. มรี ะสบการณใ์ น ส่วนหน่งึ ของ ระดบั ปริญญาโทและปรญิ ญาเอก การทาวจิ ยั ทไี่ ม่ใช่ การศึกษาเพอื่ รับ ได้ สว่ นหนงึ่ ของ ปรญิ ญา การศึกษาเพอ่ื รับ ปรญิ ญา 5. คุณสมบตั ขิ อง 1. เ ป็ น อ า จ า ร ย์ 1. เ ป็ น อ า จ า ร ย์ ก า ร พิ จ า ร ณ า ก ร ณี อ า จ า รย์ อาจารย์ท่ี ประจาท่ีมีคุณวุฒิ ป ร ะ จ า ท่ี มี คุ ณ วุ ฒิ เกษียณอายุงานหรือลาออกจาก ปรกึ ษา ปริญญาเอก หรือ ป ริ ญ ญ า เ อ ก ห รื อ ราชการ ดังน้ี วิทยานพิ นธห์ ลกั ดารงตาแหนง่ ทาง ดารงตาแหน่งทาง 1) หลักสูตรสามารถจ้าง และอาจารย์ วิชาการไม่ตา่ กวา่ วชิ าการไมต่ ่ากว่า อาจารย์ท่ีมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ทปี่ รึกษาการ รองศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ มาตรฐานหลักสูตรซง่ึ เกษียณอายุ คน้ ควา้ อสิ ระ ใ น ส า ข า วิ ชา น้ัน ในสาขาวิชาน้ันหรือ งานหรือลาออกจากราชการ ห รือ สา ข า วิชา ที่ สาขาวิชาท่ีสัมพันธ์ กลับเข้ามาทางานแบบเต็มเวลา สัมพันธก์ นั และ กนั และ หรือบางเวลาได้โดยใช้ระบบการ 2. มปี ระสบการณ์ 2. มีประสบการณใ์ น จ้างพนักงานมหาวิทยาลัย คือมี ในการทาวจิ ัยที่ การทาวจิ ยั ทไี่ มใ่ ช่ สัญญาจ้างที่ให้ค่าตอบแทนเป็น ไม่ใชส่ ่วนหน่ึงของ ส่วนหนึ่งของ รายเดือนและมีการกาหนดภาระ การศึกษาเพอ่ื รับ การศกึ ษาเพอื่ รับ งานไว้อย่างชัดเจนอาจารย์ ปรญิ ญา ปริญญา ดงั กลา่ วสามารถปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีเปน็ อาจารย์ประจาหลักสูตร อาจารย์ ที่ปรึกษาวทิ ยานิพนธห์ ลัก อาจารย์ ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ร่วม อาจารย์ ผู้สอบวิทยานิพนธ์ และอาจารย์ ผ้สู อนได้ 2) “อาจารย์เกษียณอายุ งาน” สามารถปฏิบัติหน้าที่ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ หลักได้ต่อไปจนนักศึกษาสาเร็จ การศึกษา หากนักศึกษาได้รับ อนุมัติโครงร่างวิทยานิพนธ์ก่อน การเกษยี ณอายุ

เกณฑ์กำร ตรี โท เอก หมำยเหตุ ประเมนิ 6. คณุ สมบัติของ 1. เปน็ อาจารย์ 1. เป็นอาจารย์ แนวทางบริหารเกณฑม์ าตรฐาน อาจารย์ท่ีปรกึ ษา ประจาหรอื ประจาหรอื หลักสูตระดับอุดมศึกษา พ.ศ. วิทยานพิ นธ์รว่ ม ผ้ทู รงคุณวุฒิ ผู้ทรงคณุ วฒุ ภิ ายนอก 2548 ข้อ 7.6 ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ (ถา้ ม)ี ภายนอกท่มี ีคณุ วฒุ ิ ท่ีมีคุณวฒุ ปิ ริญญา หมายถึง บุคลากรที่มีความรู้ ปรญิ ญาเอกหรอื เอกหรือดารง ความเชีย่ วชาญในสาขาวชิ าท่ีเปดิ ดารงตาแหนง่ ทาง ตาแหนง่ ทางวิชาการ สอนเป็นอย่างดี ซึ่งอาจเป็น วชิ าการไมต่ ่ากวา่ ไม่ตา่ กว่ารอง บุคลากรท่ีไม่อยู่ในสายวิชาการ รองศาสตราจารย์ ศาสตราจารยใ์ น หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก ในสาขาวชิ านน้ั สาขาวชิ าน้นั หรือ สถาบัน โดยไม่ต้องพิจารณาด้าน หรือสาขาวชิ าท่ี สาขาวชิ าทสี่ ัมพนั ธ์ คุณวุฒิและตาแหน่งทางวิชาการ สมั พนั ธ์กัน และ กัน และ ผู้ เ ช่ี ย ว ช า ญ เ ฉ พ า ะ ท่ี จะเป็น 2. มีประสบการณ์ 2. มปี ระสบการณ์ใน อาจารย์ท่ีปรึกษาวิทยานิพนธ์หลัก ในการทาวจิ ัยที่ การทาวจิ ยั ทีไ่ ม่ใช่ ต้อ งเป็ นบุ คลาก รป ระจาใน ไม่ใช่สว่ นหน่งึ ของ สว่ นหน่ึงของ สถาบันเท่าน้ัน ส่วนผู้เช่ียวชาญ การศึกษาเพอ่ื รับ การศึกษาเพอ่ื รับ เฉพาะท่ีจะเป็นอาจารย์ท่ีปรกึ ษา ปรญิ ญา ปริญญา วิ ท ย า นิ พ น ธ์ ร่ ว ม อ า จ เ ป็ น บุคคลากรประจาในสถาบันหรือ ผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกสถาบันท่ีมี ความรู้ ความเช่ียวชาญและ ประสบการณ์สงู ในสาขาวิชานั้นๆ เป็นท่ียอมรับในระดับหน่วยงาน หรือระดับกระทรวงหรือวงการ วิชาชีพด้านนั้นเทียบได้ไม่ต่ากว่า ระดับ 9 ข้ึนไป ตามหลักเกณฑ์ แ ล ะ วิ ธี ก า ร ที่ ส า นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ข้ า ร า ช ก า ร พ ล เรือนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง กาหนด ในกรณีหลักสูตรปริญญาเอก ไม่มีอาจารย์ทีป่ รึกษาวทิ ยานพิ นธ์ ร่วม อาจารย์ผู้สอบวิทยานิพนธ์ ห รือ อ า จารย์ผู้สอน ที่ได้รับ คุณวุฒิปริญญาเอก หรือไม่เป็น ผ้ดู ารงตาแหน่งทางวชิ าการต้ังแต่ รองศาสตราจารย์ขน้ึ ไปในสาขาวิชา ที่เปิดสอน สถาบันอุดมศึกษา อาจ

เกณฑ์กำร ตรี โท เอก หมำยเหตุ ประเมนิ แต่งต้ังผู้เช่ียวชาญเฉพาะด้านแทน เปน็ กรณีๆ ไป โดยความเหน็ ชอบของ สภาสถาบันอุดมศึกษา และต้อง แจ้งคณะกรรมการการอุดมศึกษา ให้รบั ทราบการแต่งตั้งนัน้ ด้วย 7. คณุ สมบตั ิของ 1. อาจารยป์ ระจา 1. อาจารย์ประจา อาจารยผ์ ูส้ อบ และผทู้ รงคณุ วฒุ ิ และผู้ทรงคณุ วุฒิ วทิ ยานิพนธ์ ภายนอกสถาบันที่ ภายนอกสถาบนั มีคุณวุฒิปริญญา ท่ีมคี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญา เอกหรอื เทียบเท่า เอกหรือเทยี บเท่า หรอื ดารงตาแหนง่ หรอื ดารงตาแหนง่ ทางวิชาการไมต่ ่า ทางวชิ าการไมต่ า่ กวา่ กวา่ รอง รองศาสตราจารย์ใน ศาสตราจารย์ สาขาวิชาน้นั หรือ ในสาขาวชิ านัน้ สาขาวิชาทสี่ ัมพนั ธ์ หรอื สาขาวชิ าท่ี กนั และ สมั พันธ์กนั และ 2. มีประสบการณ์ใน 2. มีประสบการณ์ การทาวจิ ยั ท่ไี มใ่ ช่ ในการทาวจิ ัยที่ สว่ นหน่งึ ของ ไมใ่ ช่ส่วนหน่ึงของ การศกึ ษาเพอื่ รับ การศกึ ษาเพอ่ื รบั ปริญญา ปรญิ ญา 8. การตพี ิมพ์ (เฉพาะแผน ก วารสารหรอื สิง่ พมิ พ์ วิทยานิพนธ์ซ่ึงเก่ียวข้องกับ เผยแพรผ่ ลงาน เท่านั้น) ตอ้ งเปน็ วิชาการท่มี กี รรมการ สิ่งประดิษฐ์ การจดทะเบียน ของผูส้ าเร็จ รายงานสบื เน่อื ง ภายนอกมาร่วม สิ ท ธิ บั ต ร ห รื อ อ นุ สิ ท ธิ บั ต ร การศึกษา ฉบบั เตม็ ในการ กลนั่ กรอง (peer สามารถทดแทนการตีพิมพ์ใน ประชุมทางวิชาการ review) ซึง่ อย่ใู น วารสารหรือส่ิงพิมพ์ทางวิชาการ (proceedings) รปู แบบเอกสารหรอื ได้ โดยพิจารณาจากปีที่ได้รับ หรอื วารสาร หรอื สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ สิทธิบัตร หรืออนุสิทธิบัตร ไม่ใช่ สิ่งพมิ พว์ ชิ าการ ซึง่ ปที ี่ขอจด อยู่ในรูปแบบ เอกสารหรอื สือ่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์

เกณฑก์ ำร ตรี โท เอก หมำยเหตุ ประเมิน 9. ภาระงาน วทิ ยำนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ - ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ อาจารยท์ ่ี อาจารย์ 1 คน ตอ่ อาจารย์ 1 คน ต่อ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ปรกึ ษา นกั ศกึ ษา 5 คน นักศกึ ษา 5 คน ระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2548 วทิ ยานพิ นธ์ ข้อ 10 กาหนดว่า อาจารยป์ ระจา และการคน้ คว้า กำรค้นคว้ำอิสระ 1 คน ให้เป็นอาจารย์ทป่ี รึกษาได้ อสิ ระในระดบั อาจารย์ 1 คน ต่อ ไม่เกิน 5 คน หากหลักสูตรใดมี บัณฑติ ศึกษา นักศกึ ษา 15 คน อ า จ า ร ย์ ป ร ะ จ า ท่ี มี ศั ก ย ภ า พ พ ร้อ มที่จ ะ ดูแ ลนัก ศึก ษ า ได้ 10. อาจารย์ หากเป็นที่ปรกึ ษา ควรมอี ยำ่ งน้อย มากกว่า 5 คน ใหอ้ ยูใ่ นดุลยพินิจ ท่ีปรกึ ษา ทงั้ 2 ประเภท ให้ 1 เรื่องในรอบ 5 ปี ของสถาบันอุดมศึกษานั้น แต่ วิทยานพิ นธ์และ เทยี บสดั สว่ น โดยนบั รวมปที ่ี ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 10 คน เพ่ือ การคน้ คว้าอิสระ นักศกึ ษาท่ที า ประเมนิ สนับสนุนนักวิจัยท่ีมีศักยภาพสูง ในระดบั บัณฑิต วทิ ยานพิ นธ์ 1 คน ที่มีความพร้อมทางด้านทุนวิจัย ศึกษามผี ลงาน เทียบเทา่ กบั และเครื่องมือวิจัย รวมท้ังผู้ที่ วิจยั อย่าง นักศึกษาที่ค้นควา้ ดาเนินโครงการวิจัยขนาดใหญ่ ตอ่ เน่ือง อิสระ 3 คน อย่างต่อเน่ืองในการผลิตผลงาน และสม่าเสมอ ควรมีอยำ่ งนอ้ ย เป็นเจตนารมณ์ท่ีประสงค์ให้มี 11. การปรับปรุง 1 เรือ่ งในรอบ 5 ปี ก า ร พั ฒ น า ง า น วิ จั ย อ ย่ า ง หลักสูตรตาม โดยนบั รวมปที ่ี สม่าเสมอ รอบระยะเวลา ประเมิน ทก่ี าหนด ต้องไมเ่ กนิ 5 ปี (จะต้องปรบั ปรุง ตอ้ งไมเ่ กิน 5 ปี ใหเ้ สร็จและอนมุ ตั ิ/ (จะต้องปรบั ปรงุ ใหค้ วามเหน็ ชอบ ให้เสรจ็ และอนุมัติ/ โดยสภา ให้ความเหน็ ชอบ มหาวทิ ยาลยั / โดยสภา สถาบนั เพ่อื ให้ มหาวทิ ยาลยั / หลักสตู รใช้งาน สถาบัน เพอื่ ให้ ในปที ี่ 6) หลักสูตรใชง้ าน ในปีที่ 6)

เกณฑก์ ำร ตรี โท เอก หมำยเหตุ ประเมิน เกณฑ์ 11 ข้อ เกณฑ์ 11 ขอ้ หมำยเหตุ สาหรับ รวม หลักสูตร 5 ปี ประกาศใช้ในปที ่ี 7 หรอื หลกั สตู ร 6 ปี ประกาศใช้ในปีที่ 8) เกณฑ์ 3 ข้อ เกณฑ์การประเมินดังกล่าวเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2548 และกรอบมาตรฐาน คณุ วุฒริ ะดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 หากมกี ารประกาศใชเ้ กณฑ์มาตรฐานต่างๆ ท่เี ก่ยี วขอ้ งใหม่ เกณฑ์ การประเมนิ ตามตวั บง่ ชน้ี จ้ี ะต้องเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานใหมฉ่ บับทีป่ ระกาศใชล้ ่าสุด

ตัวบง่ ช้ที ่ี 1.1 กำรบริหำรกำรจดั กำรหลักสตู รตำมประกำศกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร เร่อื ง เกณฑ์ มำตรฐำนหลกั สูตรระดับปรญิ ญำตรี และบณั ฑติ ศกึ ษำ พ.ศ. 2558 กำรคิดรอบปี ปกี ารศึกษา ผู้รับผดิ ชอบ สานกั ส่งเสริมวชิ าการและงานทะเบยี น/บณั ฑิตวิทยาลยั ผกู้ ำกับดูแล รองอธิการบดี / คณบดีบณั ฑติ วิทยาลัย 1) หลักสูตรระดบั ปรญิ ญาตรี เกณฑก์ ำรประเมนิ ประเภทวิชำกำร คณุ ลักษณะหลกั สตู ร ประเภทวชิ ำชพี / ปฏบิ ตั ิกำร 1. จานวนอาจารย์ - ไม่นอ้ ยกว่า 5 คน และ ผู้รับผิดชอบหลกั สูตร - เป็นอาจารยผ์ ูร้ บั ผดิ ชอบหลักสูตรเกนิ กว่า 1 หลกั สูตรไม่ได้ และ - ประจาหลักสูตรตลอดระยะเวลาท่จี ัดการศกึ ษาตามหลักสตู รน้นั 2. คณุ สมบัติอาจารย์ - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือ - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือดารง ผรู้ บั ผิดชอบหลกั สูตร ดารงตาแหน่งทางวิชาการไม่ต่ากว่าผู้ช่วย ตาแหน่งทางวิชาการไม่ต่ากว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศาสตราจารย์ ในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับ ในสาขาทต่ี รงหรือสัมพันธ์กบั สาขาวชิ าทีเ่ ปดิ สอน สาขาวชิ าท่ีเปดิ สอน - มีผลงานทางวิชาการอย่างนอ้ ย 1 รายการในรอบ - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการ 5 ปยี ้อนหลัง ในรอบ 5 ปียอ้ นหลงั - อาจารย์ผู้รบั ผิดชอบหลักสตู ร จานวน 2 ใน 5 คน ตอ้ งมปี ระสบการณ์ ในด้านการปฏิบตั กิ าร 3. คุณสมบัติอาจารย์ - คณุ วุฒิระดบั ปริญญาโทหรือเทยี บเท่า หรอื ดารงตาแหนง่ ทางวิชาการไม่ต่ากวา่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจาหลกั สตู ร ในสาขาทต่ี รงหรือสัมพนั ธก์ ับสาขาวิชาท่เี ปดิ สอน - มผี ลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง - ไม่จากัดจานวนและประจาได้มากวา่ หนึ่งหลักสตู ร 4. คุณสมบัติ • อำจำรยป์ ระจำ อาจารย์ผู้สอน - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือดารงตาแหน่งทางวิชาการไม่ต่ากว่าผู้ช่วย ศาสตราจารย์ ในสาขาวชิ านัน้ หรอื สาขาวิชาทีส่ มั พนั ธ์กนั หรอื สาขาวิชาของรายวชิ าที่สอน - หากเป็นอาจารยผ์ ู้สอนกอ่ นเกณฑน์ ้ีประกาศใช้ อนโุ ลมคณุ วุฒริ ะดบั ปริญญาตรไี ด้ • อำจำรย์พิเศษ - คุณวฒุ ริ ะดับปรญิ ญาโท หรอื คณุ วุฒปิ รญิ ญาตรหี รือเทยี บเท่า และ - มีประสบการณ์ทางานทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั วิชาท่ีสอนไมน่ ้อยกวา่ 6 ปี - ท้ังนี้ มชี วั่ โมงสอนไม่เกินรอ้ ยละ 50 ของรายวิชา โดยมอี าจารยป์ ระจาเป็นผรู้ บั ผิดชอบรายวิชานัน้ 10. การปรับปรงุ - ต้องไมเ่ กนิ 5 ปี ตามรอบระยะเวลาของหลักสตู ร หรอื อย่างน้อยทกุ ๆ 5 ปี หลักสูตรตามรอบ ระยะเวลาทก่ี าหนด รวม เกณฑ์ 5 ขอ้ เกณฑ์ 5 ขอ้

2) หลกั สูตรระดับปริญญาโทและเอก เกณฑ์กำรประเมิน หลักสตู รระดบั บณั ฑิตศึกษำ ปริญญำโท ปริญญำเอก 1. จานวนอาจารย์ - ไม่น้อยกวา่ 3 คน และ ผู้รับผิดชอบหลักสตู ร - เป็นอาจารยผ์ ้รู บั ผดิ ชอบหลกั สูตรเกินกว่า 1 หลักสตู รไม่ได้ และ - ประจาหลักสูตรตลอดระยะเวลาท่จี ัดการศึกษาตามหลกั สูตรน้นั 2. คุณสมบัติอาจารย์ - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือข้ัน ผู้รบั ผดิ ชอบหลักสูตร ห รื อ ข้ั น ต่ า ป ริ ญ ญ า โ ท ห รื อ เ ที ย บ เ ท่ า ที่ มี ต่ า ป ริ ญ ญ า โ ท ห รื อ เ ที ย บ เ ท่ า ท่ี มี ต า แ ห น่ ง ตาแหน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป ศาสตราจารย์ขน้ึ ไป - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการ - มีผลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการในรอบ ในรอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็น รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวจิ ัย ผลงานวิจยั 3. คุณสมบตั อิ าจารย์ - คณุ วุฒิข้นั ต่าปรญิ ญาโทหรือเทยี บเทา่ - คุณวุฒิขั้นต่าปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือข้ัน ประจาหลกั สูตร ต่าปริญญาโท หรือเทียบเท่าที่มีตาแหน่งรอง - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการ ศาสตราจารย์ขึน้ ไป ในรอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 - มีผลงานทางวิชาการอยา่ งน้อย 3 รายการในรอบ รายการตอ้ งเปน็ ผลงานวจิ ัย 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็น ผลงานวิจยั 4. คณุ สมบัติ • อำจำรย์ประจำ • อำจำรย์ประจำ อาจารย์ผ้สู อน - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า ใน - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือข้ัน สาขาวิชาน้ันหรือสาขาวิชาที่สัมพันธก์ ัน หรือ ต่ า ป ริ ญ ญ า โ ท ห รื อ เ ที ย บ เ ท่ า ท่ี มี ต า แ ห น่ ง ร อ ง สาขาวิชาของรายวิชาทส่ี อน ศาสตราจารย์ในสาขาวิชาน้ันหรือสาขาวิชาท่ี สมั พันธก์ นั หรือสาขาวิชาของรายวิชาท่สี อน - ต้องมีประสบการณ์ด้านการสอนและมี - ตอ้ งมปี ระสบการณ์ด้านการสอนและมีผลงานทาง ผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการใน วิชาการอยา่ งนอ้ ย 1 รายการในรอบ 5 ปยี ้อนหลัง รอบ 5 ปยี อ้ นหลงั

เกณฑ์กำรประเมนิ หลกั สูตรระดบั บณั ฑติ ศกึ ษำ 5. คุณสมบัติของ ปริญญำโท ปริญญำเอก อาจารย์ที่ปรกึ ษา วิทยานิพนธ์หลัก • อำจำรยพ์ เิ ศษ • อำจำรย์พิเศษ แ ล ะ อ า จ า ร ย์ ท่ี ปรึกษาการค้นคว้า - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าใน - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือข้ัน อสิ ระ สาขาวชิ านน้ั หรือสาขาวชิ าทีส่ ัมพันธก์ นั หรอื ต่าปรญิ ญาโทหรือเทยี บเท่า 6. คุณสมบัตขิ อง อาจารย์ท่ปี รกึ ษา สาขาวิชาของรายวิชาทส่ี อน วิทยานพิ นธร์ ว่ ม (ถา้ ม)ี - มีประสบการณ์ทางานท่ีเก่ียวข้องกับวิชาที่ - มีประสบการณ์ทางานท่ีเก่ียวข้องกับวิชาท่ีสอน สอนและมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการใน รายการในรอบ 5 ปียอ้ นหลงั รอบ 5 ปยี ้อนหลัง - ท้ังนี้ มีช่ัวโมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของ - ท้ังนี้ มีช่ัวโมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของรายวชิ า ร า ย วิ ช า โ ด ย มี อ า จ า ร ย์ ป ร ะ จ า เ ป็ น โดยมีอาจารยป์ ระจาเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบรายวชิ านน้ั ผรู้ ับผดิ ชอบรายวชิ านนั้ - เป็นอาจารย์ประจาหลักสูตรท่ีมีคุณวุฒิ - เป็นอาจารย์ประจาหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญา ปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือขั้นต่า เอกหรอื เทยี บเทา่ ปริญญาโทหรือเทียบเท่าและดารงตาแหน่ง หรือข้ันต่าปริญญาโท หรือเทียบเท่าและดารง ทางวิชาการไม่ต่ากว่ารองศาสตราจารย์ใน ตาแหนง่ ทางวิชาการ สาขาวิชานั้น หรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน ไม่ต่ากว่ารองศาสตราจารย์ในสาขาวิชาน้ัน หรือ และ สาขาวิชาทีส่ มั พนั ธก์ นั - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการ - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ ในรอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็น รายการตอ้ งเป็นผลงานวิจยั ผลงานวจิ ัย • อำจำรย์ประจำ - คุณวฒุ ริ ะดับปริญญาเอกหรือเทยี บเทา่ หรือขัน้ ต่าปริญญาโท หรอื เทยี บเทา่ และดารงตาแหน่งทาง วชิ าการไม่ตา่ กวา่ รองศาสตราจารย์ ในสาขาวิชาน้นั หรือสาขาวิชาที่สมั พนั ธ์กนั - มีผลงานทางวชิ าการอย่างน้อย 3 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเปน็ ผลงานวิจยั

เกณฑ์กำรประเมิน หลักสูตรระดบั บณั ฑติ ศึกษำ 7. คณุ สมบัตขิ อง ปริญญำโท ปริญญำเอก อาจารย์ผสู้ อบ วทิ ยานิพนธ์ • ผู้ทรงคุณวุฒภิ ำยนอก • ผทู้ รงคุณวฒุ ิภำยนอก - คุณวุฒิระดับปรญิ ญาเอกหรอื เทียบเท่า - คุณวุฒริ ะดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า - มีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ - มีผลงานทางวชิ าการที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ใน เผยแพร่ในระดับชาติ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับ ระดับนานาชาติ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อ หัวข้อวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระไม่ วิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระไม่น้อยกว่า 5 น้อยกวา่ 10 เรื่อง เรือ่ ง - หากไม่มีคุณวุฒิหรือประสบการณ์ตามท่ี - หากไม่มีคุณวุฒิหรือประสบการณ์ตามที่กาหนด กาหนดจะต้องมีความรู้ความเช่ียวชาญและ จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ประสบการณ์สูงเป็นที่ยอมรับ ซึ่งตรงหรือ สูงเป็นท่ียอมรับ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อ สัมพันธ์กบั หัวขอ้ วทิ ยานพิ นธห์ รือการคน้ คว้า วิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระโดยผ่านความ อิสระ โดยผ่านความเห็นชอบของสภา เหน็ ชอบของสภาสถาบันและแจ้ง กกอ. ทราบ สถาบันและแจ้ง กกอ. ทราบ • อำจำรย์ผู้สอบวิทยำนิพนธ์ ประกอบด้วย • อำจำรย์ผู้สอบวิทยำนิพนธ์ ประกอบด้วย อาจารย์ประจาหลักสูตรและผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์ประจาหลักสูตรและผู้ทรงคุณวุฒิจาก จากภายนอกไม่น้อยกว่า 3 คน ประธาน ภายนอกไม่น้อยกว่า 5 คน ประธานผู้สอบ ผู้สอบวิทยานิพนธ์ต้องไม่เป็นท่ีปรึกษา วิทยานิพนธต์ ้องเป็นผู้ทรงคุณวฒุ ิจากภายนอก วิทยานิพนธ์หลักหรือที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ รว่ ม • อำจำรย์ประจำหลกั สูตร • อำจำรยป์ ระจำหลักสูตร - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือขั้น หรือข้ันตา่ ปรญิ ญาโทหรอื เทียบเทา่ และดารง ต่าปริญญาโทหรือเทียบเท่าและดารงตาแหน่งทาง ต า แ ห น่ ง ท า ง วิ ช า ก า ร ไ ม่ ต่ า ก ว่ า ร อ ง วิชาการไม่ต่ากวา่ รองศาสตราจารยใ์ นสาขาวิชานัน้ ศาสตราจารย์ในสาขาวิชาน้ัน หรือสาขาวิชา หรือสาขาวชิ าทสี่ ัมพนั ธ์กนั ท่ีสมั พันธ์กนั - มีผลงานทางวิชาการอยา่ งนอ้ ย 3 รายการในรอบ - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 รายการต้องเป็น ในรอบ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 ผลงานวิจัย รายการต้องเป็นผลงานวิจยั

เกณฑ์กำรประเมนิ หลกั สตู รระดบั บณั ฑติ ศึกษำ 8. การตีพมิ พเ์ ผยแพร่ ปรญิ ญำโท ปรญิ ญำเอก ผลงานของผู้สาเร็จ การศกึ ษา • ผูท้ รงคณุ วฒุ ภิ ำยนอก • ผูท้ รงคุณวฒุ ภิ ำยนอก 9. ภาระงานอาจารย์ - คณุ วุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทยี บเท่า - คุณวุฒริ ะดบั ปรญิ ญาเอกหรอื เทียบเทา่ ท่ปี รึกษาวิทยานพิ นธ์ และการคน้ คว้าอสิ ระ - มีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ - มีผลงานทางวิชาการที่ไดร้ ับการตีพมิ พ์เผยแพร่ใน ในระดบั บัณฑิตศกึ ษา เผยแพร่ในระดับชาติ ซ่ึงตรงหรือสัมพันธ์กับ ระดับนานาชาติ ซ่ึงตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อ หัวข้อวิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระไม่ วิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระไม่น้อยกว่า 5 นอ้ ยกว่า 10 เร่ือง เร่ือง - หากไม่มีคุณวุฒิหรือประสบการณ์ตามท่ี - หากไม่มีคุณวุฒิหรือประสบการณ์ตามท่ีกาหนด กาหนดจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญและ จะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ประสบการณ์สูง เป็นที่ยอมรับ ซึ่งตรงหรือ สูง เป็นท่ียอมรับ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับหัวข้อ สมั พนั ธก์ ับหัวขอ้ วิทยานิพนธห์ รอื การค้นคว้า วิทยานิพนธ์หรือการค้นคว้าอิสระโดยผ่านความ อิสระโดยผา่ นความเหน็ ชอบของสภาสถาบนั เห็นชอบของสภาสถาบันและแจ้ง กกอ. ทราบ และแจง้ กกอ. ทราบ • แผน ก1 • แบบ 1 - ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร - ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร ระดับชาติหรือนานาชาติท่ีมีคุณภาพตาม ระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศ ประกาศของ กกอ. ของ กกอ. อย่างนอ้ ย 2 เรอ่ื ง • แผน ก2 • แบบ 2 - ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร - ต้องได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร ระดับชาติหรือนานาชาติท่ีมีคุณภาพตาม ระดับชาติหรือนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศ ประกาศของ กกอ. หรอื นาเสนอตอ่ ทป่ี ระชุม ของ กกอ. วิชาการโดยบทความท่ีนาเสนอได้รับการ ตีพิมพ์ในรายงานสืบเน่ืองจากการประชุม ทางวชิ าการ (Proceeding) • แผน ข - รายงานการค้นคว้าหรือส่วนหน่ึงของการ ค้ น ค ว้ า อิ ส ร ะ ต้ อ ง ไ ด้ รั บ ก า ร เ ผ ย แ พ ร่ ใ น ลักษณะใดลักษณะหนึ่งทีส่ ืบค้นได้ • วิทยำนิพนธ์ - อาจารยค์ ุณวุฒิปรญิ ญาเอก 1 คนต่อนักศกึ ษา 5 คน • กำรคน้ คว้ำอสิ ระ - อาจารย์คณุ วุฒิปริญญาเอก 1 คนตอ่ นกั ศกึ ษา 15 คน - หากอาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอกและมีตาแหน่งทางวิชาการ หรือปริญญาโท และมีตาแหนง่ ทางวิชาการระดบั รองศาสตราจารยข์ ึน้ ไป 1 คนต่อนักศกึ ษา 10 คน - หากเป็นท่ปี รึกษาทัง้ 2 ประเภทใหเ้ ทียบสดั สว่ นนักศกึ ษาท่ที าวิทยานพิ นธ์ 1 คนเทยี บเท่ากบั นักศึกษาทค่ี น้ ควา้ อิสระ 3 คน

เกณฑ์กำรประเมิน หลกั สูตรระดบั บณั ฑติ ศกึ ษำ 10. ก า รป รับ ป รุ ง ปรญิ ญำโท ปริญญำเอก ห ลัก สูตรตามรอบ ระยะเวลาทก่ี าหนด - ต้องไม่เกนิ 5 ปี ตามรอบระยะเวลาของหลกั สูตร หรอื อย่างนอ้ ยทุกๆ 5 ปี รวม เกณฑ์ 10 ข้อ เกณฑ์ 10 ขอ้ 3) หลักสตู รระดับประกาศนยี บัตรบณั ฑติ และประกาศนยี บตั รบัณฑติ ช้ันสูง เกณฑก์ ำรประเมิน หลักสตู รระดบั บณั ฑติ ศึกษำ ประกำศนียบตั รบณั ฑิต ประกำศนยี บตั รบณั ฑิตชน้ั สูง 1. จานวนอาจารย์ - ไม่นอ้ ยกว่า 5 คน และ - ไมน่ อ้ ยกวา่ 5 คน และ ผู้รบั ผดิ ชอบหลักสตู ร - เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเกินกว่า 1 - เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเกินกว่า 1 หลกั สูตรไม่ได้ และ หลักสตู รไม่ได้ และ - ประจาหลักสูตรตลอดระยะเวลาท่ีจัดการศึกษา - ประจาหลักสูตรตลอดระยะเวลาที่ จัด ตามหลักสูตรน้นั การศึกษาตามหลักสูตรน้นั 2. คณุ สมบัติอาจารย์ - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือ - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือ ผ้รู ับผิดชอบหลักสตู ร ข้ันต่าปริญญาโท หรือเทียบเท่าท่ีมีตาแหน่งรอง ขั้นต่าปริญญาโทหรือเทียบเท่าที่มีตาแหน่ง ศาสตราจารย์ข้ึนไป ศาสตราจารยข์ น้ึ ไป - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน รอบ 5 ปีย้อนหลัง โดยอย่างน้อย 1 รายการตอ้ ง รอบ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 รายการ เป็นผลงานวิจัย ต้องเปน็ ผลงานวจิ ยั 3. คณุ สมบัติอาจารย์ - คณุ วุฒขิ ้ันต่าปริญญาโทหรอื เทยี บเทา่ - คุณวุฒิขั้นต่าปริญญาเอกหรือเทียบเทา่ หรือ ประจาหลกั สตู ร ขั้นต่าปริญญาโทหรือเทียบเท่าที่มีตาแหน่ง รองศาสตราจารยข์ ้นึ ไป - มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 3 รายการใน - มีผลงานทางวิชาการอย่างนอ้ ย 3 รายการใน รอบ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 รายการต้อง รอบ 5 ปีย้อนหลังโดยอย่างน้อย 1 รายการ เป็นผลงานวจิ ัย ต้องเป็นผลงานวิจยั 4. คุณสมบัติอาจารย์ • อำจำรย์ประจำ • อำจำรยป์ ระจำ ผ้สู อน - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าใน - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทยี บเท่า หรือ สาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาท่ีสัมพันธ์กัน หรือ ข้ันต่าปริญญาโทหรือเทียบเท่าที่มีตาแหน่ง สาขาวชิ าของรายวิชาทสี่ อน ร อ ง ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ใ น ส า ข า วิ ช า นั้ น ห รื อ สาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน หรือสาขาวิชาของ รายวิชาท่ีสอน

เกณฑก์ ำรประเมิน หลักสูตรระดบั บณั ฑิตศกึ ษำ 10. การปรบั ปรงุ ประกำศนียบตั รบณั ฑติ ประกำศนยี บตั รบณั ฑิตชัน้ สูง หลกั สูตรตามรอบ ระยะเวลาที่กาหนด - ต้องมีประสบการณ์ด้านการสอนและมีผลงาน - ต้องมีประสบการณ์ด้านการสอนและมี รวม ทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปี ผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการใน ยอ้ นหลัง รอบ 5 ปียอ้ นหลัง • อำจำรยพ์ ิเศษ • อำจำรย์พเิ ศษ - คุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าใน - คุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือเทียบเท่า หรือ สาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กัน หรือ ข้นั ต่าปรญิ ญาโทหรือเทียบเท่า สาขาวิชาของรายวชิ าทีส่ อน - มปี ระสบการณท์ างานทเ่ี กยี่ วข้องกบั วชิ าที่สอน - มีประสบการณ์ทางานท่ีเก่ียวข้องกับวิชาท่ี ไม่น้อยกวา่ 6 ปี สอน ไม่น้อยกว่า 4 ปี - ท้ังนี้ มีชั่วโมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของ - ทั้งน้ี มีชั่วโมงสอนไม่เกินร้อยละ 50 ของ รายวิชา โดยมีอาจารย์ประจาเป็นผู้รับผิดชอบ รายวิชา โดยมีอาจารย์ประจาเป็นผู้รับผดิ ชอบ รายวชิ านน้ั รายวิชานั้น - ต้องไม่เกิน 5 ปี ตามรอบระยะเวลาของหลกั สตู ร หรืออย่างนอ้ ยทุกๆ 5 ปี เกณฑ์ 5 ข้อ เกณฑ์ 5 ข้อ เกณฑ์การประเมินดังกล่าวเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2558 และกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2552 ผลกำรประเมินตวั บง่ ชี้ที่ 1.1 กาหนดไว้เป็น “ผา่ น” และ “ไม่ผา่ น” หากไม่ผา่ นเกณฑ์ข้อใดข้อหน่ึง ถือว่า หลกั สตู รไม่ได้มาตรฐาน และผลเป็น “ไม่ผา่ น” (คะแนนเปน็ ศนู ย)์ หลักฐำนเอกสำรทต่ี อ้ งกำรนอกเหนือจำกเอกสำรประกอบแต่ละรำยตัวบง่ ช้ี 1. เอกสารหลักสตู รฉบบั ท่ี สกอ. ประทบั ตรารบั ทราบ 2. หนงั สือนาท่ี สกอ. แจง้ รับทราบหลักสตู ร (ถา้ มี) 3. กรณหี ลกั สตู รยงั ไมไ่ ดแ้ จ้งการรับทราบ ให้มีหนังสือนาส่ง สกอ.หรอื หนังสอื สง่ คนื จาก สกอ. และรายงานการประชมุ สภาที่อนมุ ตั ิ / ให้ความเห็นชอบหลักสตู ร

องคป์ ระกอบท่ี 2 บัณฑิต พันธกิจที่สาคัญที่สุดของสถาบันอุดมศึกษาคือ การผลิตบัณฑิต หรือการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนใหผ้ ้เู รียนมีความรูใ้ นวิชาการและวิชาชพี มคี ณุ ลักษณะตามหลักสูตรที่กาหนด บณั ฑติ ระดบั อุดมศกึ ษา จะต้องเป็นผู้มีความรู้ มีคุณธรรมจริยธรรม มีความสามารถในการเรียนรแู้ ละพัฒนาตนเองสามารถประยุกตใ์ ช้ ความรูเ้ พ่อื การดารงชีวิตในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ ทั้งทางรา่ งกายและจติ ใจ มีความสานึก และความรับผดิ ชอบ ในฐานะพลเมืองและพลโลก มีคุณลักษณะตามอัตลักษณ์ของสถาบันอุดมศึกษา สานักงานคณะกรรมการการ อุดมศึกษาในฐานะท่ีเป็นหน่วยงานในการกากับและส่งเสริม การดาเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาได้จัดทา มาตรฐานต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการผลิตบัณฑิต เช่น เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ เพ่ือมุ่งเน้นเป้าหมาย การจัดการศึกษาท่ีผลการเรียนรู้ของนักศึกษา ซึ่งเป็นการ ประกันคุณภาพบัณฑิตท่ีได้รับคุณวุฒิแต่ละคุณวุฒิและส่ือสารให้สังคม ชุมชน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างๆ ได้เชื่อม่ันถึงคุณภาพของบัณฑิตท่ีผลิตออกมาเป็นไปตามท่ีกาหนดไว้ในผลลัพธ์การเรียนรู้ในแต่ละ หลักสูตรคุณภาพบัณฑิตในแต่ละหลักสูตรจะสะท้อนไปท่ีคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยพิจารณาจากผลลัพธ์การเรียนรู้ การมีงานทา และคุณภาพผลงานวิจัยของ นักศึกษาและผู้สาเร็จการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในปีการศึกษานั้นๆ คุณภาพบัณฑิตจะพิจารณาได้จาก ตวั บง่ ช้ี ดังต่อไปนี้ ตัวบง่ ช้ีที่ 2.1 คณุ ภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ ตวั บง่ ช้ีที่ 2.2 การไดง้ านทาหรอื ผลงานวจิ ยั ของผสู้ าเร็จการศึกษา - รอ้ ยละของบณั ฑิตปริญญาตรีทไี่ ดง้ านทาหรอื ประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี - ผลงานของนักศึกษาและผู้สาเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทท่ีได้รับการ ตีพมิ พ์หรอื เผยแพร่ - ผลงานของนักศึกษาและผู้สาเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกที่ได้รับการ ตพี มิ พ์หรอื เผยแพร่

ตวั บ่งช้ที ี่ 2.1 คณุ ภำพบณั ฑติ ตำมกรอบมำตรฐำนคุณวฒุ ิระดับอดุ มศึกษำแหง่ ชำติ ชนิดของตวั บง่ ชี้ ผลลัพธ์ กำรคดิ รอบปี ปีการศกึ ษา ผ้รู บั ผดิ ชอบ สถาบนั วจิ ัยและพัฒนา ผกู้ ำกับดแู ล รองอธิการบดี คำอธิบำยตัวบ่งช้ี กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education: TQF) ได้มีการกาหนดคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ตามท่ีหลักสูตรกาหนดไว้ใน มคอ.2 ซึ่ง ครอบคลุมผลการเรียนรู้อย่างน้อย 5 ด้าน คือ 1) ด้านคุณธรรมจริยธรรม 2) ด้านความรู้ 3) ด้านทักษะทาง ปัญญา 4) ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบและ 5) ด้านทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลข การส่ือสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวบ่งชี้น้ีจะเปน็ การประเมินคุณภาพบัณฑิต ในมุมมอง ของผู้ใชบ้ ณั ฑติ เกณฑ์กำรประเมนิ ใชค้ ่าเฉลีย่ ของคะแนนประเมินบัณฑิต (คะแนนเต็ม 5) สูตรกำรคำนวณ คะแนนทีไ่ ด้ = ผลรวมของคา่ คะแนนท่ีได้จากการประเมินบณั ฑติ คำนวณได้จำกสูตร จานวนบณั ฑติ ท่ีไดร้ ับการประเมนิ ทั้งหมด ผลรวมของค่าคะแนนท่ีไดจ้ ากการประเมินบณั ฑติ = ∑(������������������������) เมอื่ ������ ������������ หมายถงึ ค่าความถีข่ องแต่ละระดับของค่าการประเมนิ บณั ฑติ ที่กาหนดคา่ คะแนน เป็นแบบมาตราสว่ นประมาณคา่ ( Rating scale) 5 ระดบั ������i หมายถึง ระดบั ของคา่ การประเมนิ บณั ฑติ ท่ีกาหนดคา่ คะแนนเปน็ แบบมาตราสว่ น ประมาณค่า ( Rating scale) 5 ระดบั ������ หมายถงึ จานวนของข้อคาถามเพือ่ การประเมนิ บณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิ ระดบั อดุ มศกึ ษาแหง่ ชาตทิ ้ังหมดทกุ ขอ้

ขอ้ มูลประกอบ จานวนบัณฑิตท่ีรับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจานวนบัณฑิตท่ี สาเร็จการศึกษา หมำยเหตุ : - ในกรณีหลักสูตรปรับปรุงที่ยังไม่ครบรอบ สถำบันอุดมศึกษำต้องประเมินตวั บ่งชี้ 2.1 ด้วย แม้ว่ำ หลักสูตรนั้นจะยังไมค่ รบรอบกำรปรับปรุงก็ตำม โดยนำผลกำรดำเนินงำนของหลกั สูตรในรอบท่ี ผำ่ นมำใช้ประกอบกำรประเมนิ - กรณบี ัณฑิตที่มีอำชพี อสิ ระ ไมต่ ้องเอำมำนับในกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจของผู้ใชบ้ ัณฑติ - ในกรณีบัณฑิตหลกั สตู รนำนำชำติ เป็นนักศึกษำต่ำงชำติประมำณ 90% กำรประเมินบัณฑติ อำจ ไม่ถึงร้อยละ 20 เน่ืองจำกเดินทำงกลับประเทศไปแล้ว สำมำรถอนุโลมให้ใช้บัณฑิตท่ีเป็น นักศึกษำชำวไทยเป็นฐำนในกำรคิด เช่น มีนักศึกษำต่ำงชำติ 90 คน มีนักศึกษำไทย 10 คนให้ ประเมนิ โดยคิดจำกนักศึกษำไทยจำนวน 10 คนเปน็ ฐำนที่ 100 %

ตวั บง่ ช้ีท่ี 2.2 (ปริญญำตรี) ร้อยละของบัณฑิตปริญญำตรีที่ได้งำนทำหรือประกอบอำชีพ อิสระภำยใน 1 ปี ชนดิ ของตวั บ่งช้ี ผลลัพธ์ กำรคิดรอบปี ปีการศกึ ษา ผู้รบั ผดิ ชอบ สถาบันวิจยั และพฒั นา ผู้กำกบั ดูแล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตัวบง่ ชี้ บณั ฑติ ปรญิ ญาตรที ่สี าเรจ็ ศกึ ษาในหลกั สตู รภาคปกติ ภาคพิเศษ และภาคนอกเวลาในสาขานั้นๆ ที่ได้ งานทาหรอื มีกิจการของตนเองที่มรี ายไดป้ ระจาภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวนั ทสี่ าเร็จการศกึ ษาเมือ่ เทียบกับ บณั ฑิตทส่ี าเร็จการศึกษาในปีการศึกษานนั้ การนับการมงี านทานับกรณกี ารทางานสุจรติ ทุกประเภททสี่ ามารถ สร้างรายได้เข้ามาเป็นประจาเพ่ือเล้ียงชีพตนเองได้ การคานวณร้อยละของผู้มีงานทาของผู้สาเร็จการศึกษาท่ี ลงทะเบยี นเรยี นในภาคพิเศษหรือภาคนอกเวลาใหค้ านวณเฉพาะผทู้ ่เี ปลย่ี นงานใหม่หลงั สาเรจ็ การศึกษาเทา่ นน้ั เกณฑ์กำรประเมิน โดยการแปลงค่าร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีท่ีได้งานทาหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี เปน็ คะแนนระหวา่ ง 0-5 กาหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 100 สูตรกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีทีไ่ ด้งานทาหรอื ประกอบอาชพี อสิ ระภายใน 1 ปี ตามสตู ร จานวนบณั ฑิตปริญญาตรที ีไ่ ด้งานทาหรอื ประกอบอาชพี อิสระภายใน 1 ปี x 100 จานวนบัณฑติ ท่ตี อบแบบสารวจทง้ั หมด การคานวณค่าร้อยละนี้ไม่นาบัณฑิตท่ีศึกษาต่อ เกณฑ์ทหาร อุปสมบท และบัณฑิตที่มีงานทาแล้วแต่ไม่ได้ เปล่ียนงานมาพจิ ารณา 2. แปลงค่าร้อยละทคี่ านวณไดใ้ นขอ้ 1 เทยี บกบั คะแนนเต็ม 5 คะแนนทีไ่ ด้ = ค่ารอ้ ยละของบัณฑติ ปริญญาตรที ี่ได้งานทาหรอื ประกอบอาชีพอสิ ระภายใน 1 ปี x 5 100

หมำยเหตุ : - จำนวนบัณฑติ ทต่ี อบแบบสำรวจจะตอ้ งไม่นอ้ ยกวำ่ ร้อยละ 70 ของจำนวนบัณฑติ ทส่ี ำเร็จกำรศกึ ษำ - กรณีหลักสูตรใหม่ ไม่ต้องประเมินตัวบ่งช้ีท่ี 2.1 และ 2.2 เน่ืองจำกไม่มีผู้สำเร็จกำรศึกษำ สำหรับ หลักสูตรปรับปรุงท่ีมีนักศึกษำเรียนอยู่ ต้องประเมินตัวบ่งช้ีท่ี 2.1 และ 2.2 ด้วย เน่ืองจำกมีผู้สำเร็จ กำรศึกษำแล้ว

ตัวบ่งชท้ี ี่ 2.2 (ปรญิ ญำโท) ผลงำนของนักศึกษำและผูส้ ำเร็จกำรศกึ ษำในระดับปรญิ ญำโทที่ ไดร้ บั กำรตพี มิ พ์หรือเผยแพร่ ชนิดของตวั บ่งชี้ ผลลพั ธ์ กำรคิดรอบปี ปกี ารศกึ ษา ผรู้ บั ผดิ ชอบ บณั ฑติ วิทยาลยั ผกู้ ำกบั ดูแล คณบดบี ัณฑิตวทิ ยาลยั คำอธิบำยตัวบง่ ชี้ การศึกษาในระดับปริญญาโทจะต้องมีการค้นคว้าคิดอย่างเป็นระบบวิจัย เพ่ือหาคาตอบที่มีความ น่าเช่ือถือผู้สาเร็จการศึกษาจะต้องประมวลความรู้เพ่ือจัดทาผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการใช้ความรู้ อย่างเป็นระบบและสามารถนาเผยแพร่ให้เปน็ ประโยชน์ต่อสาธารณะ ตวั บง่ ชีน้ ีจ้ ะเปน็ การประเมินคณุ ภาพของ ผลงานของผู้สาเรจ็ การศกึ ษาในระดบั ปริญญาโท เกณฑ์กำรประเมิน โดยการแปลงคา่ รอ้ ยละของผลรวมถว่ งน้าหนัก ของผลงานทตี่ ีพิมพเ์ ผยแพร่ตอ่ ผู้สาเร็จการศึกษาเป็น คะแนนระหวา่ ง 0-5 กาหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเต็ม 5 = รอ้ ยละ 40 ขน้ึ ไป สูตรกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ ร้อยละของผลรวมถว่ งน้าหนกั ของผลงานที่ตพี มิ พ์เผยแพรต่ อ่ ผสู้ าเร็จการศกึ ษา ตามสูตร ผลรวมถว่ งนา้ หนักของผลงานท่ตี พี มิ พ์หรอื เผยแพร่ของนกั ศึกษาและผสู้ าเร็จการศึกษาระดบั ปริญญาโท x 100 จานวนผ้สู าเร็จการศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาโทท้ังหมด 2. แปลงคา่ รอ้ ยละที่คานวณไดใ้ นข้อ 1 เทยี บกับคะแนนเตม็ 5 คะแนนที่ได้ = รอ้ ยละของผลรวมถว่ งนา้ หนกั ของผลงานที่ตีพิมพห์ รือเผยแพรต่ ่อผสู้ าเรจ็ การศึกษา x 5 40 หมำยเหตุ : - กำรนับกำรตีพิมพ์เผยแพรผ่ ลงำนของนักศึกษำและผู้สำเร็จกำรศกึ ษำ นับ ณ วันท่ีได้รับกำรตพี มิ พ์ ผลงำนในวำรสำรระดับชำติหรือนำนำชำตมิ ิได้นบั จำกวนั ทไี่ ดร้ บั กำรตอบรบั (Accepted)

กำหนดระดบั คณุ ภำพผลงำนทำงวชิ ำกำร ดงั น้ี ค่ำนำ้ หนกั ระดบั คุณภำพ 0.10 • บทความฉบับสมบรู ณท์ ี่ตีพิมพใ์ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ 0.20 • บทความฉบับสมบูรณท์ ต่ี ีพิมพ์ในรายงานสบื เน่ืองจากการประชมุ วชิ าการระดับชาติ 0.40 • บทความฉบับสมบูรณ์ทีต่ ีพมิ พใ์ นรายงานสบื เนอื่ งจากการประชมุ วชิ าการระดบั นานาชาติ หรือในวารสารทางวิชาการระดับชาติที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือ 0.60 ระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการ 0.80 สาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 แต่สถาบันนาเสนอสภาสถาบันอนุมัติ และจัดทาเป็นประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไป และแจ้งให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบภายใน 30 1.00 วนั นบั แตว่ ันทีอ่ อกประกาศ • ผลงานที่ได้รับการจดอนสุ ทิ ธบิ ัตร • บทความท่ีตีพิมพ์ในวารสารวชิ าการทป่ี รากฏในฐานข้อมลู TCI กลุ่มที่ 2 • บทความท่ีตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสาร ทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 แต่สถาบันนาเสนอสภา สถาบันอนมุ ตั แิ ละจดั ทาเป็นประกาศให้ทราบเป็นการทัว่ ไป และแจ้งให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบ ภายใน 30 วัน นับแต่วันท่ีออกประกาศ (ซึ่งไม่อยู่ใน Beall’s list) หรือตีพิมพ์ใน วารสารวชิ าการทป่ี รากฏในฐานข้อมูล TCI กลุ่มที่ 1 • บทความท่ีตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดบั นานาชาติที่ปรากฏในฐานข้อมูลระดบั นานาชาติ ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การ พิจารณาวารสารทางวิชาการสาหรบั การเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2556 • ผลงานทไ่ี ด้รับการจดสิทธบิ ัตร การสง่ บทความเพื่อพจิ ารณาคัดเลือกให้นาเสนอในการประชุมวิชาการต้องส่งเปน็ ฉบบั สมบรู ณ์ (Full Paper) และเมื่อได้รับการตอบรับและตีพิมพ์แล้ว การตีพิมพ์ต้องตีพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ซ่ึงสามารถอยู่ใน รูปแบบเอกสาร หรือส่ืออเิ ลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้

กำหนดระดับคุณภำพงำนสร้ำงสรรค์ ดังน้ี คำ่ น้ำหนกั ระดบั คณุ ภำพ 0.20 งานสร้างสรรค์ที่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะในลักษณะใดลักษณะหน่ึง หรือผ่านส่ือ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ Online 0.40 งานสรา้ งสรรค์ที่ได้รบั การเผยแพรใ่ นระดับสถาบัน 0.60 งานสร้างสรรคท์ ีไ่ ดร้ ับการเผยแพร่ในระดบั ชาติ 0.80 งานสร้างสรรค์ทไ่ี ด้รับการเผยแพร่ในระดับความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศ 1.00 งานสรา้ งสรรคท์ ่ไี ด้รับการเผยแพรใ่ นระดบั ภูมิภาคอาเซียน/นานาชาติ ผลงานสรา้ งสรรคท์ กุ ช้นิ ต้องผา่ นการพจิ ารณาจากคณะกรรมการท่ีมีองคป์ ระกอบไมน่ อ้ ยกว่า 3 คน โดยมบี ุคคลภายนอกสถาบันรว่ มพิจารณาดว้ ย หมำยเหตุ 1. ผลงานวจิ ัยทม่ี ีชอ่ื นกั ศกึ ษาและอาจารย์ร่วมกันและนบั ในตัวบ่งช้นี ี้แล้ว สามารถนาไปนบั ในตวั บ่งชี้ ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ 2. ผลงานของนักศึกษาและผู้สาเร็จการศึกษาให้นับผลงานทุกช้ินที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ในปีการ ประเมนิ น้ันๆ 3. ในกรณีที่ไมม่ ผี ้สู าเรจ็ การศกึ ษาไมพ่ จิ ารณาตัวบ่งชน้ี ี้

ตัวบ่งชีท้ ่ี 2.2 (ปรญิ ญำเอก) ผลงำนของนกั ศึกษำและผู้สำเร็จกำรศึกษำในระดับปริญญำเอก ทไี่ ด้รับกำรตีพิมพ์หรือเผยแพร่ ชนิดของตวั บ่งช้ี ผลลพั ธ์ กำรคดิ รอบปี ปีการศึกษา ผู้รบั ผดิ ชอบ บัณฑติ วทิ ยาลัย ผู้กำกับดูแล คณบดบี ัณฑติ วิทยาลยั คำอธบิ ำยตวั บ่งชี้ การศึกษาในระดับปริญญาเอกเป็นการศึกษาในระดับสูงจะตอ้ งมีการคน้ ควา้ คิดอยา่ งเป็นระบบ วิจัย เพื่อหาประเด็นความรู้ใหม่ท่ีมีความน่าเช่ือถือ เป็นประโยชน์ ผู้สาเร็จการศึกษาจะต้องประมวลความรู้ เพ่ือ จัดทาผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการใช้ความรู้อย่างเป็นระบบและสามารถนาเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ ตอ่ สาธารณะ ตวั บง่ ชีน้ จ้ี ะเปน็ การประเมินคุณภาพของผลงานของผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาเอก เกณฑก์ ำรประเมิน โดยการแปลงค่ารอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้าหนัก ของผลงานที่ตีพมิ พ์เผยแพรี่ตอ่ ผู้สาเร็จการศึกษาเป็น คะแนนระหวา่ ง 0-5 กาหนดใหเ้ ป็นคะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 80 ข้ึนไป สตู รกำรคำนวณ 1. คานวณคา่ รอ้ ยละของผลรวมถ่วงนา้ หนักของผลงานทต่ี พี ิมพเ์ ผยแพร่ต่อผสู้ าเร็จการศกึ ษาตามสตู ร ผลรวมถว่ งน้าหนักของผลงานทต่ี ีพิมพห์ รือเผยแพร่ของนักศกึ ษาและผู้สาเรจ็ การศกึ ษาระดบั ปริญญาเอก x 100 จานวนผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาระดับปริญญาเอกท้งั หมด 2. แปลงค่าร้อยละทค่ี านวณไดใ้ นข้อ 1 เทียบกับคะแนนเต็ม 5 คะแนนท่ไี ด้ = ร้อยละของผลรวมถว่ งนา้ หนกั ของผลงานท่ีตีพิมพห์ รอื เผยแพรต่ อ่ ผ้สู าเร็จการศกึ ษา x 5 80 หมำยเหตุ : - กำรนับกำรตีพิมพ์เผยแพรผ่ ลงำนของนักศึกษำและผู้สำเรจ็ กำรศึกษำ นับ ณ วันที่ได้รับกำรตีพมิ พ์ ผลงำนในวำรสำรระดับชำติหรือนำนำชำติมไิ ดน้ บั จำกวนั ทไ่ี ด้รับกำรตอบรบั (Accepted)

กำหนดระดบั คุณภำพผลงำนทำงวิชำกำร ดังน้ี ค่ำนำ้ หนัก ระดบั คณุ ภำพ 0.20 • บทความฉบบั สมบูรณท์ ่ีตพี มิ พใ์ นรายงานสบื เน่อื งจากการประชุมวิชาการระดบั ชาติ 0.40 • บทความฉบับสมบูรณ์ที่ตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ หรือในวารสารทางวิชาการระดับชาติทไี่ ม่อยใู่ นฐานขอ้ มลู ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบ คณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณา วารสารทางวิชาการสาหรับ การเผยแพร่ผลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2556 แต่สถาบันนาเสนอสภาสถาบนั อนมุ ตั ิและจดั ทา เป็นประกาศให้ทราบเป็นการท่ัวไป และแจ้งให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบภายใน 30 วัน นับแต่ วนั ท่ีออกประกาศ • ผลงานทไ่ี ด้รับการจดอนสุ ิทธบิ ัตร 0.60 • บทความท่ีตีพมิ พ์ในวารสารวชิ าการทีป่ รากฏในฐานขอ้ มลู TCI กลุม่ ท่ี 2 0.80 • บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติท่ีไม่อยู่ในฐานข้อมูล ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสาร ทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 แต่สถาบันนาเสนอสภา สถาบนั อนมุ ัตแิ ละจดั ทาเป็นประกาศใหท้ ราบเปน็ การทั่วไป และแจง้ ให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบ ภายใน 30 วัน นับแต่วันท่ีออกประกาศ (ซ่ึงไม่อยู่ใน Beall’s list) หรือตีพิมพ์ใน วารสารวิชาการที่ปรากฏในฐานข้อมลู TCI กลุม่ ที่ 1 1.00 • บทความท่ีตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดบั นานาชาตทิ ่ีปรากฏในฐานข้อมลู ระดับนานาชาติ ตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การ พจิ ารณาวารสารทางวิชาการสาหรับการเผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ พ.ศ. 2556 • ผลงานทีไ่ ดร้ ับการจดสทิ ธิบตั ร การส่งบทความเพ่อื พจิ ารณาคดั เลอื กให้นาเสนอในการประชุมวิชาการตอ้ งส่งเปน็ ฉบบั สมบูรณ์ (Full Paper) และเมื่อได้รับการตอบรับและตีพิมพ์แล้ว การตีพิมพ์ต้องตีพิมพ์เป็นฉบับสมบูรณ์ซึ่งสามารถอยู่ใน รปู แบบเอกสาร หรือสอื่ อิเลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้

กำหนดระดบั คณุ ภำพงำนสรำ้ งสรรค์ ดังนี้ คำ่ นำ้ หนัก ระดบั คณุ ภำพ 0.20 งานสร้างสรรค์ที่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือผ่านส่ือ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ Online 0.40 งานสรา้ งสรรค์ทไี่ ดร้ ับการเผยแพรใ่ นระดับสถาบนั 0.60 งานสรา้ งสรรคท์ ่ีได้รบั การเผยแพรใ่ นระดบั ชาติ 0.80 งานสรา้ งสรรค์ทไ่ี ดร้ บั การเผยแพร่ในระดับความรว่ มมอื ระหวา่ งประเทศ 1.00 งานสร้างสรรค์ท่ีได้รับการเผยแพร่ในระดับภมู ภิ าคอาเซียน/นานาชาติ ผลงานสร้างสรรค์ทุกช้ินต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการที่มีองค์ประกอบไม่น้อยกว่า 3 คน โดยมีบคุ คลภายนอกสถาบันร่วมพจิ ารณาด้วย หมำยเหตุ : 1. ผลงานวจิ ัยทมี่ ีชื่อนักศกึ ษาและอาจารย์ร่วมกันและนับในตวั บ่งช้นี ้แี ล้ว สามารถนาไปนบั ในตวั บ่งช้ี ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ 2. ผลงานของนักศึกษาและผู้สาเร็จการศึกษาให้นับผลงานทุกชิ้นท่ีมีการตีพิมพ์เผยแพร่ในปีการ ประเมินน้ันๆ 3. ในกรณที ีไ่ ม่มผี สู้ าเรจ็ การศกึ ษาไมพ่ จิ ารณาตัวบง่ ชนี้ ี้

องค์ประกอบที่ 3 นกั ศึกษำ ความสาเร็จของการจัดการศึกษาขึ้นอยู่กับปัจจัยสาคัญปัจจัยหน่ึง คือ นักศึกษา ระบบประกัน คณุ ภาพนกั ศกึ ษา ตอ้ งใหค้ วามสาคญั กบั การรับหรอื คดั เลือกนักศึกษาเข้าศึกษาในหลักสตู ร ซ่งึ ตอ้ งเปน็ ระบบที่ สามารถคัดเลือกนักศึกษาท่ีมีคุณสมบัติและความพร้อมในการเรียนในหลักสูตรจนสาเร็จการศึกษา และการ ส่งเสริมพัฒนานักศึกษาให้มีความพร้อมทางการเรียน และมีกิจกรรมการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ เพ่ือให้ นักศึกษามีความรู้ความสามารถตามหลักสูตร มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 และสาหรับหลักสูตรระดบั บัณฑิตศึกษามที ักษะการวิจยั ทส่ี ามารถสร้างองค์ความรไู้ ด้ ทกั ษะทจี่ าเป็นสาหรบั การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ประกอบด้วย 4 กล่มุ หลัก ไดแ้ ก่ (1) กลุม่ วชิ าหลัก (core subjects) (2) กลุ่มทักษะชีวิตและอาชีพ (life and career skills) (3) กลุ่มทักษะการเรียนรู้และ นวัตกรรม (learning and innovation skills) และ (4) กลุ่มทักษะสารสนเ ทศ ส่ือและเทคโนโลยี (information, media and technology skills) ทกั ษะสาคัญท่คี นสว่ นใหญ่ให้ความสาคญั มาก คอื 1. กลุ่มทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ได้แก่ (1) การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหา (critical thinking and problem solving) (2) นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ (innovation and creativity) (3) การ สื่อสารและความร่วมมือกนั (communication and collaboration) 2. กลุ่มทักษะสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี (information, media and technology skills) ประกอบด้วย การรู้สารสนเทศ (information literacy) การรู้สื่อ (media literacy) และการรู้ ICT (ICT literacy) 3. กลุ่มทักษะชีวิตและอาชีพ (life and career skills) ประกอบด้วยความสามารถในการปรับตัว และยืดหยุ่น (adaptability and flexibility) ความคิดริเริ่มและการเรยี นรู้ไดด้ ้วยตนเอง (initiative and self- direction) ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและข้ามวัฒนธรรม (social and cross-cultural interaction) ความ รับผิดชอบและความสามารถผลติ ผลงาน (accountability and productivity) ความเป็นผู้นาและรบั ผิดชอบ ต่อสังคม (leadership and social responsibility) การประกันคุณภาพหลักสูตรในองค์ประกอบด้านนักศึกษา เริ่มดาเนินการต้ังแต่ระบบการรับ นักศึกษาการส่งเสริม และพัฒนานักศึกษา และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาภายใต้การดาเนินการดังกล่าวให้ พิจารณาจากตวั บ่งช้ดี งั ต่อไปนี้ ตวั บ่งชท้ี ี่ 3.1 การรับนักศกึ ษา ตัวบ่งชท้ี ี่ 3.2 การสง่ เสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา ตวั บ่งชี้ที่ 3.3 ผลทเ่ี กิดกับนกั ศึกษา

ตวั บ่งช้ที ี่ 3.1 กำรรบั นกั ศกึ ษำ ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปีการศกึ ษา ผ้รู บั ผิดชอบ สานกั ส่งเสริมวชิ าการและงานทะเบียน ผู้กำกบั ดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตัวบ่งช้ี คุณสมบัติของนักศึกษาท่ีรับเข้าศึกษาในหลักสูตรเป็นปัจจัยพื้นฐานของความสาเร็จ แต่ละหลักสูตร จะมีแนวคดิ ปรัชญาในการออกแบบหลักสูตร ซง่ึ จาเป็นต้องมีการกาหนดคณุ สมบัติของนักศึกษาที่สอดคล้องกับ ลักษณะธรรมชาตขิ องหลักสตู ร การกาหนดเกณฑ์ทใี่ ช้ในการคัดเลือกต้องมคี วามโปร่งใส ชัดเจน และสอดคล้อง กับคณุ สมบัติของนักศึกษาทก่ี าหนดในหลักสูตร มีเคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการคดั เลือกขอ้ มูล หรอื วธิ ีการคัดนกั ศึกษาให้ ได้นักศึกษาท่ีมีความพร้อมทางปัญญา สุขภาพกายและจิต ความมุ่งม่ันที่จะเรียน และมีเวลาเรียนเพียงพอ เพื่อให้สามารถสาเร็จการศึกษาไดต้ ามระยะเวลาทห่ี ลักสตู รกาหนด ในการรายงานการดาเนินงานตามตัวบ่งชี้นี้ ให้อธิบายกระบวนการหรอื แสดงผลการดาเนินงานอย่าง นอ้ ยให้ครอบคลมุ ประเด็นต่อไปน้ี - การรบั นกั ศกึ ษา - การเตรยี มความพรอ้ มก่อนเขา้ ศึกษา ในการประเมินเพ่ือให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการดาเนินงาน ทัง้ หมด ท่ที าให้ไดน้ ักศกึ ษาที่มีความพรอ้ มท่จี ะเรยี นในหลักสตู ร

เกณฑ์กำรประเมนิ 0 1 2 3 4 5 • ไม่มีระบบ • มรี ะบบ • มีระบบ • มีระบบ • มีระบบ • มีระบบ มีกลไก • ไม่มกี ลไก มกี ลไก มีกลไก มีกลไก มกี ลไก • มีการนาระบบ กลไก • ไมม่ แี นวคิด • ไมม่ กี ารนา • มีการนา • มกี ารนา • มีการนา ไปส่กู ารปฏบิ ตั /ิ ในการ ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบ ดาเนินงาน กากบั ไปสู่การ ไปสกู่ าร ไปสู่การ กลไกไปสู่ • มกี ารประเมิน ติดตาม ปฏบิ ัต/ิ ปฏิบตั /ิ ปฏิบตั ิ/ การปฏบิ ตั /ิ กระบวนการ และ ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน • มีการปรับปรงุ / ปรับปรงุ • มีการ • มกี าร • มีการ พฒั นากระบวนการ • ไม่มขี อ้ มลู ประเมนิ ประเมิน ประเมนิ จากผลการประเมนิ หลักฐาน กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ • มีผลจากการ • ไมม่ ีการ • มีการ • มีการ ปรับปรงุ เหน็ ชัดเจน ปรับปรงุ / ปรับปรุง/ ปรบั ปรงุ / เปน็ รปู ธรรม พัฒนา พัฒนา พฒั นา • มแี นวทางปฏิบตั ิทีด่ ี กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ โดยมีหลกั ฐานเชิง จากผลการ จากผลการ ประจกั ษย์ ืนยนั และ ประเมนิ ประเมิน กรรมการผูต้ รวจ • มีผลจากการ ประเมิน สามารถให้ ปรบั ปรุงเห็น เหตผุ ลอธบิ าย การ ชัดเจนเป็น เปน็ แนวปฏิบตั ิทด่ี ไี ด้ รปู ธรรม ชัดเจน

ตัวบง่ ช้ที ่ี 3.2 กำรส่งเสรมิ และพฒั นำนักศึกษำ ชนดิ ของตวั บ่งช้ี กระบวนการ กำรคดิ รอบปี ปกี ารศึกษา ผู้รับผดิ ชอบ กองพัฒนานักศกึ ษา / บณั ฑติ วทิ ยาลยั ผ้กู ำกบั ดแู ล รองอธิการบดี / คณบดบี ณั ฑิตวิทยาลัย คำอธบิ ำยตวั บง่ ช้ี ในช่วงปีแรกของการศึกษา ต้องมีกลไกในการพัฒนาความรู้พื้นฐานหรือการเตรียมความพร้อม ทางการเรียนแก่นักศึกษา เพ่ือให้มีความสามารถในการเรียนรู้ระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีความสุข อัตราการ ลาออกกลางคนั นอ้ ย ในระหว่างการศกึ ษามีการจดั กจิ กรรมการพัฒนาความรู้ความสามารถในรูปแบบต่างๆ ทง้ั กิจกรรมในห้องเรียนและนอกห้องเรียน มีกิจกรรมเสริมสร้างความเป็นพลเมืองดีท่ีมีจิตสานึกสาธารณะมีการ วางระบบการดูแลให้คาปรึกษาจากอาจารยท์ ีป่ รกึ ษาวิชาการ (ระดบั ปริญญาตรี โท เอก) ระบบการป้องกันหรือ การบริหารจดั การความเสยี่ งของนักศึกษา เพ่ือให้สามารถสาเร็จการศกึ ษาได้ตามระยะเวลาท่ีหลกั สตู รกาหนด รวมท้ังการส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานวิชาการของนักศึกษา การสร้างโอกาสการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการพัฒนา ศักยภาพนกั ศกึ ษาและทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ให้ได้มาตรฐานสากล ในการรายงานการดาเนินงานตามตัวบ่งช้ีนี้ ให้อธิบายกระบวนการหรอื แสดงผลการดาเนินงานอยา่ ง นอ้ ยให้ครอบคลุมประเด็นตอ่ ไปนี้ - การควบคุมการดแู ลการให้คาปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นกั ศึกษาปรญิ ญาตรี - การควบคุมดูแลการใหค้ าปรกึ ษาวทิ ยานพิ นธแ์ ก่บณั ฑติ ศกึ ษา - การพฒั นาศักยภาพนักศกึ ษาและการเสริมสร้างทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 ในกำรประเมินเพื่อให้ทรำบว่ำอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจำรณำในภำพรวมของผลกำร ดำเนินงำนท้ังหมด ท่ีทำให้ได้นักศึกษำเรียนอย่ำงมีควำมสุขและมีทักษะท่ีจำเป็นต่อกำรประกอบอำชีพใน อนำคต

เกณฑก์ ำรประเมนิ 0 1 2 3 4 5 • ไม่มีระบบ • มีระบบ • มรี ะบบ • มรี ะบบ • มีระบบ มี • มรี ะบบ มกี ลไก • ไมม่ ีกลไก มกี ลไก มกี ลไก มกี ลไก กลไก • มีการนาระบบ • ไมม่ ี • ไมม่ กี ารนา • มีการนา • มกี ารนา • มกี ารนา กลไกไปสู่การ แนวคิดใน ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบ ปฏิบตั /ิ การกากับ ไปสู่การ ไปสู่การ ไปสกู่ าร กลไกไปสู่ ดาเนินงาน ติดตาม ปฏิบตั /ิ ปฏบิ ัติ/ ปฏบิ ัต/ิ การปฏิบัต/ิ • มีการประเมิน และ ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน กระบวนการ ปรับปรุง • มีการ • มกี าร • มกี าร • มีการปรบั ปรงุ / • ไมม่ ีขอ้ มูล ประเมนิ ประเมนิ ประเมิน พฒั นา หลกั ฐาน กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการจาก • ไมม่ ีการ • มีการ • มีการปรับปรงุ / ผลการประเมนิ ปรบั ปรงุ / ปรบั ปรงุ / พฒั นา • มผี ลจากการ พัฒนา พฒั นา กระบวนการ ปรบั ปรงุ เหน็ กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ ชัดเจนเปน็ จากผลการ ประเมนิ รปู ธรรม ประเมนิ • มผี ลจากการ • มแี นวทางปฏบิ ตั ิ ปรบั ปรงุ เห็น ท่ีดโี ดยมีหลักฐาน ชดั เจนเป็น เชิงประจกั ษ์ รูปธรรม ยนื ยันและ กรรมการผตู้ รวจ ประเมนิ สามารถ ใหเ้ หตุผลอธิบาย การเปน็ แนว ปฏิบตั ิทีด่ ีได้ ชัดเจน

ตัวบง่ ชีท้ ่ี 3.3 ผลทเี่ กดิ กบั นักศกึ ษำ ชนดิ ของตัวบง่ ชี้ ผลลัพธ์ กำรคิดรอบปี ปกี ารศกึ ษา ผรู้ ับผิดชอบ สานกั สง่ เสรมิ วิชาการและงานทะเบยี น ผู้กำกับดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตัวบ่งช้ี ผลการประกันคณุ ภาพควรทาให้นกั ศกึ ษามคี วามพร้อมทางการเรียนมอี ัตราการคงอย่ขู องนักศกึ ษาใน หลักสูตรสูง อัตราการสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตรสูง นักศึกษามีความพึงพอใจต่อหลักสูตร และผลการ จัดการขอ้ รอ้ งเรยี นของนักศึกษา ในการรายงานการดาเนินงานตามตัวบ่งช้ีน้ี ให้อธิบายกระบวนการหรือแสดงผลการดาเนินงานใน ประเดน็ ต่อไปนี้ - การคงอยู่ - การสาเร็จการศกึ ษา - ความพงึ พอใจและผลการจดั การขอ้ รอ้ งเรียนของนักศึกษา หมำยเหตุ : - กำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจของนกั ศกึ ษำ เป็นกำรประเมนิ ควำมพงึ พอใจของนักศึกษำต่อกระบวนที่ ดำเนนิ กำรใหก้ บั นกั ศึกษำตำมกิจกรรมในตวั บ่งช้ี 3.1 และ 3.2 - อัตรำกำรคงอยู่ของนักศึกษำ คิดจำกจำนวนนักศึกษำท่ีเข้ำในแต่ละรุ่น ลบด้วยจำนวนนักศึกษำท่ี ออกทุกกรณีนับถึงส้ินปีกำรศึกษำท่ีประเมิน ยกเว้น กำรเสียชีวิต กำรย้ำยสถำนท่ีทำงำนของ นักศึกษำในระดับบัณฑิตศึกษำ คิดเป็นร้อยละของจำนวนท่ีรับเข้ำในแต่ละรุ่นท่ีมีบัณฑิตสำเร็จ กำรศกึ ษำแลว้ - กำรคิดร้อยละของจำนวนนกั ศกึ ษำทยี่ งั คงอยู่ของแต่ละรุ่น

ตวั อย่างการคานวณหลักสตู ร 4 ปี ปกี ารศกึ ษา จานวนรบั เขา้ จานวนสาเร็จการศึกษาตามหลักสตู ร จานวนท่ลี าออก   และคดั ช่ือออกสะสมจนถงึ 2553 สิน้ ปีการศึกษา 2558  2554 2556 2557 2558 2555 X X X อัตราการสาเรจ็ การศกึ ษา =  x 100  อตั ราการคงอยู่ =  -  x 100  เกณฑ์กำรประเมิน 0 123 4 5 • มีการ • มีการรายงานผลการ • ไม่มกี าร • มีการ • มกี าร • มีการ รายงาน ดาเนินงานครบทุกเรือ่ ง ผลการ ตามคาอธบิ ายในตัวบ่งช้ี รายงาน รายงาน รายงาน รายงาน ดาเนินงาน • มแี นวโน้มผลการ ครบทุก ดาเนินงานท่ีดขี ึ้นในทุก ผลการ ผลการ ผลการ ผลการ เรอื่ งตาม เรอ่ื ง คาอธิบาย • มีผลการดาเนนิ งานทโ่ี ดด ดาเนินงาน ดาเนินงาน ดาเนิน ดาเนนิ งาน ในตวั บง่ ชี้ เด่นเทยี บเคยี งกับหลักสตู ร • มแี นวโน้ม น้นั ในสถาบนั กลุ่มเดียวกนั ในบาง งานครบ ครบทกุ การดาเนิน โดยมหี ลักฐานเชงิ ประจักษ์ งานทีด่ ีขนึ้ ยืนยนั และกรรมการ เรอื่ ง ทุกเร่ือง เร่อื งตาม ในทกุ เรื่อง ผูต้ รวจประเมนิ สามารถให้ เหตุผลอธิบายว่าเป็นผล ตามคา คาอธบิ าย การดาเนนิ งานทีโ่ ดดเด่น อยา่ งแท้จรงิ อธิบายใน ในตัวบ่งช้ี ตัวบ่งชี้ • มแี นวโนม้ ผลการ ดาเนินงาน ที่ดขี น้ึ ใน บางเรือ่ ง

องค์ประกอบท่ี 4 อำจำรย์ อาจารย์เป็นปัจจัยป้อนท่ีสาคัญของการผลิตบัณฑิต ผู้เก่ียวข้องต้องมีการออกแบบระบบประกันการ บริหารและพัฒนาอาจารย์ เพื่อให้ได้อาจารย์ที่มีคุณภาพเหมาะสม มีคุณสมบัติสอดคล้องกับสภาพบริบท ปรัชญา วิสัยทัศน์ของสถาบัน และของหลักสูตร และมีการส่งเสริมให้อาจารย์มีความรักในองค์กรและการ ปฏิบัติงานตามวชิ าชีพผู้บริหารต้องมีการกาหนดนโยบาย แผนระยะยาว และกิจกรรม การดาเนนิ งานตลอดจน การกากับดูแลและการพัฒนาคุณภาพอาจารย์ การวางระบบประกันคุณภาพอาจารย์ เป็นการดาเนินงา น เพ่ือให้ได้อาจารย์ที่มีคุณสมบัติท้ังเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพที่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กาหนด โดยสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และมีพัฒนาการเพิ่มยิ่งข้ึนด้วยการวางแผนและการลงทุน งบประมาณและทรัพยากร เพื่อให้อัตรากาลังอาจารย์มีจานวนเหมาะสมกับจานวนนักศึกษาที่รับเข้าใน หลักสูตร มีจานวนอาจารย์ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางสาขาวิชาของหลักสูตร และมีประสบการณ์ที่ เหมาะสมกับการผลิตบณั ฑิต อันสะท้อนจากวุฒิการศกึ ษา ตาแหน่งทางวิชาการ และความกา้ วหน้าในการผลิต ผลงานทางวิชาการอย่างตอ่ เน่อื ง องค์ประกอบด้านอาจารย์ เริ่มดาเนินการตั้งแต่การบริหารและพัฒนาอาจารย์ คุณภาพอาจารยแ์ ละ ผลลพั ธ์ท่ีเกดิ กบั อาจารย์ ให้พิจารณาจากตวั บง่ ช้ี ดังตอ่ ไปนี้ ตัวบ่งชท้ี ่ี 4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ ตวั บ่งชีท้ ่ี 4.2 คุณภาพอาจารย์ ตวั บง่ ชีท้ ่ี 4.3 ผลที่เกิดกับอาจารย์

ตวั บ่งชี้ที่ 4.1 กำรบรหิ ำรและพฒั นำอำจำรย์ ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปงี บประมาณ ผ้รู บั ผดิ ชอบ กองบรหิ ารงานบุคคล ผูก้ ำกับดแู ล รองอธิการบดี คำอธิบำยตัวบ่งชี้ การบริหารและพัฒนาอาจารย์ เริ่มต้นตั้งแต่ระบบการรับอาจารย์ใหม่ ต้องกาหนดเกณฑ์คุณสมบัติ อาจารยส์ อดคลอ้ การสภาพบริบท ปรัชญา วสิ ัยทศั น์ของสถาบนั และของหลกั สูตร มีกลไกการคดั เลือกอาจารย์ ทีเ่ หมาะสม โปรง่ ใส นอกจากน้ีตอ้ งมีระบบการบรหิ ารอาจารย์ โดยมกี ารกาหนดนโยบาย แผนระยะยาวเพ่อื ให้ ได้อาจารย์ที่มีคุณสมบัติทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพท่ีเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรท่ีกาหนดโดย สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์มีการวางแผนและลงทุน งบประมาณและทรัพยากรและกิจกรรมการดาเนินงาน ตลอดงานการกากับดูแล และการพัฒนาคุณภาพ อาจารย์ ในการรายงานการดาเนินงานตามตวั บง่ ชน้ี ใ้ี หอ้ ธิบายกระบวนการหรือแสดงผลการดาเนินงานอยา่ งนอ้ ย ใหค้ รอบคลมุ ประเด็นตอ่ ไปน้ี - ระบบการรบั และแตง่ ต้ังอาจารย์ประจาหลกั สตู ร - ระบบการบรหิ ารอาจารย์ - ระบบการสง่ เสริมและพฒั นาอาจารย์ ในกำรประเมนิ เพ่ือให้ทรำบวำ่ อย่ใู นระดับคะแนนใด ใหพ้ ิจำรณำภำพรวมของผลกำรดำเนนิ ท้ังหมด ท่ีทำให้หลักสูตรมีอำจำรย์ท่ีมีคุณสมบัติเหมำะสมทั้งในด้ำนวุฒิกำรศึกษำและตำแหน่งทำงวิชำกำรเป็นไป ตำมเกณฑม์ ำตรฐำนหลักสูตรอยำ่ งตอ่ เนือ่ ง และมกี ำรสง่ เสรมิ กำรเพิ่มพูนควำมรู้ควำมสำมำรถของอำจำรย์ เพอ่ื สร้ำงควำมเข้มแขง็ ทำงวชิ ำกำรของหลกั สตู ร

เกณฑ์กำรประเมนิ 0 12 3 4 5 • ไม่มรี ะบบ • มีระบบ • มรี ะบบ • มีระบบ • มรี ะบบ มกี ลไก • มีระบบ มกี ลไก • ไม่มีกลไก มีกลไก มกี ลไก มกี ลไก • มีการนาระบบ • มกี ารนาระบบกลไก • ไมม่ ี • ไมม่ กี ารนา • มกี ารนา • มีการนา กลไกไปสกู่ าร ระบบ ระบบ ระบบกลไก ปฏบิ ัต/ิ ไปสูก่ ารปฏิบตั /ิ แนวคิด กลไกไปสู่ กลไก ไปสกู่ าร ดาเนินงาน ดาเนินงาน ในการ การ ไปสู่การ ปฏบิ ตั /ิ • มกี ารประเมิน • มกี ารประเมิน กากับ ปฏบิ ตั /ิ ปฏบิ ัต/ิ ดาเนนิ งาน กระบวนการ กระบวนการ ตดิ ตาม ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน • มกี าร • มกี ารปรับปรุง/ • มกี ารปรับปรุง/ และ ประเมิน พฒั นา พฒั นากระบวนการ ปรับปรุง • มกี าร กระบวนการ กระบวนการจาก จากผลการประเมิน • ไมม่ ีข้อมลู ประเมิน • มกี าร ผลการประเมนิ • มีผลจากการ หลกั ฐาน กระบวน ปรับปรุง/ • มผี ลจากการ ปรบั ปรุงเหน็ ชดั เจน การ พัฒนา ปรบั ปรงุ เหน็ เปน็ รปู ธรรม • ไมม่ กี าร กระบวน ชัดเจนเปน็ • มีแนวทางปฏบิ ัตทิ ด่ี ี ปรับปรุง/ การจากผล รปู ธรรม โดยมีหลักฐานเชงิ พัฒนา การประเมนิ ประจักษย์ ืนยันและ กระบวน กรรมการผตู้ รวจ การ ประเมนิ สามารถให้ เหตุผลอธบิ าย การ เป็นแนวปฏิบัตทิ ี่ดี ได้ชดั เจน

ตัวบง่ ช้ที ี่ 4.2 คุณภำพอำจำรย์ ชนิดของตวั บ่งช้ี ปัจจยั นาเข้า กำรคิดรอบปี ปกี ารศกึ ษา / ปปี ฏิทนิ ผู้รับผดิ ชอบ กองบรหิ ารงานบุคคล / คณะ / บัณฑิตวิทยาลยั ผูก้ ำกบั ดูแล รองอธิการบดี / คณบดีบณั ฑิตวิทยาลยั คำอธิบำยตัวบ่งช้ี การส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ต้องทาให้อาจารย์ในหลักฐานมีคุณสมบัตทิ ่ีเหมาะสมและเพียงพอโดยทา ให้อาจารย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางสาขาวิชาท่ีเปิดให้บริการ และมีประสบการณ์ที่เหมาะสมกับการผลิต บัณฑิตอันสะท้อนจากวุฒิการศึกษาตาแหน่งทางวิชาการ และความก้าวหน้าในการผลิตผลงานทางวิชาการ อยา่ งตอ่ เน่อื ง ประเดน็ ในการพจิ ารณาตวั บง่ ชีจ้ ะประกอบดว้ ย - ร้อยละของอาจารย์ประจาหลกั สตู รท่มี ีวุฒปิ รญิ ญาเอก - ร้อยละของอาจารย์ประจาหลักสูตรทดี่ ารงตาแหน่งทางวชิ าการ - ผลงานวิชาการของอาจารยป์ ระจาหลักสูตร - จานวนบทความของอาจารย์ประจาหลักสูตรปริญญาเอกท่ีได้รับการอ้างอิงในฐานข้อมูล TCI และ Scopus ต่อจานวนอาจารย์ประจาหลกั สูตร รอ้ ยละของอำจำรย์ประจำหลกั สูตรประจำหลักสูตรทม่ี ีคุณวุฒิปรญิ ญำเอก การศกึ ษาระดับอดุ มศึกษาถือเปน็ การศกึ ษาระดับสูงสดุ ท่ีตอ้ งการบุคลากรที่มคี วามร้คู วามสามารถและ ความลุ่มลึกทางวิชาการ เพ่ือปฏิบัติพันธกิจสาคัญของสถาบันในการผลิตบัณฑิต ศึกษาวิจัย เพ่ือการติดตาม ความกา้ วหน้าทางวิชาการและการพฒั นาองค์ความรู้ ดงั นัน้ หลกั สตู รจงึ ควรมอี าจารย์ทม่ี ีคุณวุฒิทางการศึกษา ระดับปริญญาเอกที่ตรงหรือสัมพันธ์กับหลักสูตรท่ีเปิดสอนสัดส่วนท่ีเหมาะสมกับพันธกิจหรือจุดเน้นของ หลักสตู รนนั้ ๆ เกณฑก์ ำรประเมนิ โดยการแปลงคา่ รอ้ ยละองอาจารย์ประจาหลักสตู รท่มี คี ุณสมบตั ปิ รญิ ญาเอกเป็นคะแนนระหวา่ ง 0-5

หลกั สูตรระดับปริญญำตรี ค่ารอ้ ยละของอาจารย์ประจาหลกั สตู รทม่ี ีวฒุ ปิ รญิ ญาเอก ทกี่ าหนดให้เป็นคะแนนเตม็ 5=ร้อยละ 20 ขึ้นไป หลักสูตรระดับปริญญำโท คา่ รอ้ ยละของอาจารย์ประจาหลักสตู รท่มี วี ุฒิปริญญาเอก ที่กาหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5=รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป หลกั สูตรระดบั ปรญิ ญำเอก ค่ารอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาหลักสตู รทม่ี ีวุฒิปริญญาเอก ที่กาหนดให้เป็นคะแนนเตม็ 5=รอ้ ยละ 100 สตู รกำรคำนวณ 1. คานวณค่ารอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รทมี่ คี ณุ วฒุ ิปรญิ ญาเอกตามสตู ร จานวนอาจารย์ประจาหลกั สูตรที่มีคุณวฒุ ิปรญิ ญาเอก X 100 จานวนอาจารย์ประจาหลกั สูตรทง้ั หมด 2. แปลงค่าร้อยละที่คานวณได้ในขอ้ 1 เทยี บกบั คะแนนเตม็ 5 คะแนนท่ีได้ = รอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาหลกั สูตรทม่ี ีคุณวุฒปิ รญิ ญาเอก X- 100 รอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาหลักสูตรทมี่ คี ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอกท่กี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 หมำยเหตุ : คุณวุฒิปริญญำเอก พิจารณาจากระดับคุณวุฒิท่ีได้รับหรือเทียมเท่าตามหลักเกณฑ์การพิจารณาคณุ วุฒิ ของกระทรวงศึกษาธิการ กรณีท่ีมีการปรับวุฒิการศึกษาให้มีหลักฐานการสาหรับการศึกษาภายในรอบปี การศึกษานน้ั ท้งั น้อี าจใช้คณุ วฒุ อิ น่ื เทยี บเทา่ คณุ วฒุ ปิ ริญญาเอกได้สาหรบั กรณที บ่ี างสาขาวชิ าชพี มคี ณุ วุฒิอื่นที่ เหมาะสมกวา่ ทัง้ นีต้ อ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา

ร้อยละของอำจำรย์ประจำหลกั สตู รทด่ี ำรงตำแหนง่ ทำงวิชำกำร สถาบันอุดมศกึ ษาถอื เปน็ ขมุ ปัญญาของประเทศ และมคี วามรับผดิ ชอบทจี่ ะส่งเสรมิ ใหอ้ าจารยใ์ นสถาบนั ทาการวจิ ยั เพ่ือแสวงหาและพฒั นาองคค์ วามรูใ้ นศาสตรส์ าขาตา่ งๆ อยา่ งต่อเนือ่ งเพอื่ นาไปใช้ในการเรยี นการ สอน รวมทงั้ การแก้ไขปญั หาและพฒั นาประเทศ การดารงตาแหนง่ ทางวชิ าการเป็นส่งิ สะทอ้ นการปฏบิ ัตงิ าน ดงั กลา่ วของอาจารย์ตามพนั ธกจิ ของหลกั สตู ร เกณฑก์ ำรประเมนิ โดยการแปลงค่าร้อยละของอาจารย์ประจาหลักสตู รทีด่ ารงตาแหน่งทางวิชาการเปน็ คะแนน ระหวา่ ง 0-5 หลกั สูตรระดบั ปริญญำตรี ค่าร้อยละของอาจารยป์ ระจาหลักสูตรทด่ี ารงตาแหนง่ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และ ศาสตราจารย์รวมกันท่กี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 60 ข้ึนไป หลักสตู รระดับปริญญำโท ค่ารอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาหลกั สูตรทด่ี ารงตาแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และ ศาสตราจารยร์ วมกนั ที่กาหนดใหเ้ ป็นคะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 80 ข้ึนไป หลักสูตรระดบั ปรญิ ญำเอก คา่ ร้อยละของอาจารย์ประจาหลักสูตรทดี่ ารงตาแหนง่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และ ศาสตราจารยร์ วมกันทีก่ าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 100 สูตรกำรคำนวณ 1. คานวณค่ารอ้ ยละของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รทดี่ ารงตาแหนง่ ทางวชิ าการ ตามสตู ร จานวนอาจารยป์ ระจาหลักสตู รทีด่ ารงตาแหนง่ ทางวชิ าการ X 100 จานวนอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รท้ังหมด 2. แปลงค่ารอ้ ยละที่คานวณไดใ้ นขอ้ 1 เทียบกบั คะแนนเต็ม 5 คะแนนทีไ่ ด้ = ร้อยละของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รท่ดี ารงตาแหน่งทางวิชาการ -X5 ร้อยละของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รที่ดารงตาแหน่งทางวชิ าการที่กาหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5

ผลกำรทำงวชิ ำกำรของอำจำรย์ประจำหลักสูตร ผลงานทางวิชาการเป็นข้อมูลท่ีสาคญั ในการแสดงให้เหน็ ว่าอาจารยป์ ระจาได้สร้างสรรค์ข้ึน เพื่อแสดงให้ เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิชาการและการพัฒนาองคค์ วามรู้อย่างต่อเน่อื ง เปน็ ผลงานทมี่ ีคุณคา่ สมควรสง่ เสริม ให้มีการเผยแพร่และนาไปใช้ประโยชน์ท้ังเชิงวิชาการที่ตีพิมพ์ในรายงานสืบเน่ืองจากการประชุมทางวิชาการ ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติ ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ผลงานได้รับการจด อนุสิทธิบัตรหรือสิทธิบัตร หรือเป็นผลงานวิชาการรับใช้สังคมท่ีผ่านการประเมินตาแหน่งทางวิชาการแล้ว ผลงานวิจัยที่หน่วยงานหรือองค์การระดับชาติว่าจ้างให้ดาเนินการ ตาราหรือหนังสือท่ีใช้ในการขอผลงาทาง วิชาการและผ่านการพิจารณาตามเกณฑ์การขอตาแหน่งทางวิชาการแล้ว รวมทั้งงานสร้างสรรค์ต่างๆ โดยมี วิธกี ารคิด ดังนี้ เกณฑ์กำรประเมิน หลกั สูตรระดับปรญิ ญำตรี ค่าร้อยละของผลรวมถ่วงน้าหนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร ทีก่ าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 20 ข้นึ ไป หลักสูตรระดบั ปรญิ ญำโท ค่ารอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้าหนกั ของผลงานทางวิชาการของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร ทก่ี าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = รอ้ ยละ 40 ขนึ้ ไป หลักสูตรระดบั ปริญญำเอก ค่าร้อยละของผลรวมถว่ งน้าหนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร ทกี่ าหนดใหเ้ ปน็ คะแนนเตม็ 5 = ร้อยละ 60 ข้ึนไป สตู รกำรคำนวณ 1. คานวณค่าร้อยละของผลรวมถว่ งน้าหนกั ของผลงานทางวชิ าการของอาจารย์ประจาหลักสูตรตามสตู ร ผลรวมถ่วงนา้ หนักของผลงานทางวิชาการของอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร X 100 จานวนอาจารยป์ ระจาหลักสตู รท้ังหมด 2. แปลงคา่ ร้อยละทคี่ านวณไดใ้ นขอ้ 1 เทยี บกบั คะแนนเตม็ 5 คะแนนท่ีได้ = รอ้ ยละของผลรวมถ่วงน้าหนักของผลงานทางวชิ าการของอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร X5 รอ้ ยละของผลรวมถ่วงนา้ หนกั ของผลงานทางวชิ าการของอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร ที่กาหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5

กำหนดระดบั คณุ ภำพผลงำนทำงวชิ ำกำรดังน้ี คำ่ น้ำหนกั ระดับคุณภำพ 0.20 • บทความวจิ ัยหรอื บทความวชิ าการฉบับสมบูรณ์ท่ตี พี ิมพใ์ นรายงานสบื เน่ืองจากการประชุม วชิ าการ 0.40 • บทความวิจัยหรือบทความวิชาการฉบับสมบูรณ์ที่ตพี ิมพ์ในรายงานสืบเน่ืองจากการประชมุ วชิ าการระดบั นานาชาตหิ รอื ในวารสารทางวชิ ารระดบั ชาติที่ไม่อยูใ่ นฐานข้อมูลตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษาว่าด้วย หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสาร ทางวิชาการสาหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ พ.ศ. 2556 แต่สถาบันนาเสนอสภา สถาบันอนุมตั ิและจัดทาเปน็ ประกาศให้ทราบเป็นการทว่ั ไป และแจ้งให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ออกประกาศ • ผลงานท่ีไดร้ ับการจดอนสุ ิทธบิ ัตร 0.60 • บทความวิจยั หรือบทความวิชาการท่ีตพี ิมพ์ในวารสารวชิ าการทปี่ รากฏในฐานข้อมูล TCI กลมุ่ ที่ 2 0.80 • บทความวิจัยหรือบทความวิชาการที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติท่ีไม่อยู่ใน ฐานข้อมูลตามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศึกษา ว่าด้วย หลักเกณฑก์ ารพิจารณาวารสารทางวชิ าการสาหรบั การเผยแพร่งานทางวชิ าการ พ.ศ. 2556 แตส่ ถาบนั นาเสนอสภาสถาบนั อนมุ ัตแิ ละจัดทาเปน็ ประกาศใหท้ ราบโดยเป็นการท่วั ไป และ แจ้งให้ ก.พ.อ./กกอ. ทราบภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ที่ออกประกาศ (ซึ่งไม่อยู่ใน Beall’s list) หรือตีพมิ พใ์ นวารสารวชิ าการทป่ี รากฏในฐานขอ้ มลู TCI กล่มุ ท่ี 1 1.00 • บทความวจิ ัยหรอื บทความวชิ าการท่ตี ีพิมพใ์ นวารสารวชิ าการระดบั นานาชาติที่ปรากฏใน ฐานข้อมลู ระดับนานาชาตติ ามประกาศ ก.พ.อ. หรือระเบียบคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา วา่ ดว้ ยหลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวชิ าการสาหรับการเผยแพรง่ านทางวชิ าการ พ.ศ. 2556 • ผลงานไดร้ ับการจดสิทธบิ ัตร • ผลงานวิชาการรับใช้สังคมไดร้ ับการประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารขอตาแหน่งทางวิชาการแล้ว • ผลงานวิจัยทหี่ นว่ ยงานหรือองคก์ รระดบั ชาติวา่ จ้างให้ดาเนินการ • ผลงานคน้ พบพนั ธพุ์ ชื พนั ธ์สุ ัตว์ พนั ธ์ทุ คี่ ้นพบใหมแ่ ละไดร้ บั การจดทะเบียน • ตาราหรือหนงั สือหรอื งานแปลทไี่ ด้รบั การประเมนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ขอตาแหนง่ ทาง วิชาการแล้ว • ตาราหรือหนังสอื หรืองานแปลทผ่ี ่านการพิจารณาตามหลกั เกณฑ์การประเมนิ ตาแหนง่ ทาง วชิ าการแตไ่ มไ่ ด้นามาขอรบั การประเมนิ ตาแหนง่ ทางวชิ าการ

การส่งบทความเพื่อพิจารณาคัดเลือกให้นาเสนอการประชุมวิชาการต้องส่งเป็นฉบับสมบูรณ์ (Full Paper) และเม่อื ไดร้ บั การยอมรบั และตพี มิ พ์แล้ว การตพี ิมพต์ อ้ งตพี ิมพ์ในฉบบั สมบูรณซ์ ่ึงสามารถอยู่ในรปู แบบ เอกสาร หรอื ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ สไ์ ด้ กำหนดระดับคณุ ภำพงำนสร้ำงสรรค์ ดังนี้ คำ่ นำ้ หนกั ระดับคณุ ภำพ 0.20 งานสรา้ งสรรคท์ ่มี กี ารเผยแพรส่ ่สู าธารณะในลกั ษณะใดลักษณะหนึง่ หรอื ผา่ นส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ Online 0.40 งานสรา้ งสรรค์ทไี่ ด้รบั การเผยแพรใ่ นระดับสถาบนั 0.60 งานสรา้ งสรรค์ทไ่ี ด้รับการเผยแพรใ่ นระดับชาติ 0.80 งานสร้างสรรคท์ ไี่ ดร้ ับการเผยแพรใ่ นระดบั ความรว่ มมือระหว่างประเทศ 1.00 งานสรา้ งสรรค์ทไี่ ดร้ ับการเผยแพรใ่ นระดับภมู ิภาคอาเซียน/นานาชาติ ผลงานสร้างสรรค์ทุกช้ินต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการท่ีมีองค์ประกอบไม่น้อยกว่า 3 คน โดยมบี คุ คลภายนอกสถาบนั รว่ มพจิ ารณาดว้ ย จำนวนบทควำมของอำจำรยป์ ระจำหลักสูตรปริญญำเอกทไี่ ด้รับกำรอ้ำงองิ ในฐำนขอ้ มลู TCI และ Scopus ตอ่ จำนวนอำจำรยป์ ระจำหลกั สตู ร หลักสูตรในระดับปริญญาเอกถือได้ว่าเป็นหลักสูตรสูงสุดของสถาบันการศึกษาเป็นหลักสูตรท่ีสาคัญ และเนน้ การสรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่เพอ่ื เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ดงั น้ัน อาจารย์ประจาหลักสูตรระดบั ปริญญาเอกจงึ มีความสาคญั อย่างมากตอ่ หลักสตู รนนั้ ๆ บทความวิจัยและบทความทางวิชาการ Review Article ของอาจารย์ประจาหลักสูตรปริญญาเอกท่ี ได้รับการอ้างอิง ย่อมแสดงให้เห็นว่าอาจารย์ประจาหลักสูตรปริญญาเอกมีความสามารถ ในการทาวิจัยมี ผลงานท่ีได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติในฐานข้อมูล TCI และ Scopus และบทความท่ี ตีพิมพ์ได้รับการอ้างอิง แสดงให้เห็นว่ามีการนาไปใช้ประโยชน์และเป็นฐานในการพัฒนางานวิจัยใหม่ๆ ให้มี ความก้าวหน้ามากขึ้น จานวนบทความของอาจารย์ประจาหลักสูตรท่ีได้รบั การอ้างอิงมากย่อมแสดงให้เห็นวา่ อาจารยป์ ระจาหลักสูตรเป็นผทู้ ่ีมผี ลงานและได้รบั การยอมรับในวงวชิ าการนั้นๆ

การคานวณตัวบ่งช้ีน้ี ให้เปรียบเทียบจานวนบทความท่ีได้รับการอ้างอิง ตั้งแต่หนึ่งครั้งขึ้นไป รวมทั้ง การอ้างอิงตนเอง ที่เป็นผลงานของอาจารย์ประจาหลักสูตรปริญญาเอกน้ัน โดยนาเสนอในรูปสัดส่วน ทั้งน้ี พิจารณาผลการดาเนนิ งาน 5 ปี ยอ้ นหลังตามปปี ฏิทนิ ซึง่ นบั รวมปีทีป่ ระเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ กลุม่ สำขำวชิ ำวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี อัตราสว่ น จานวนบทความทไ่ี ดร้ บั การอา้ งองิ ตอ่ จานวนอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร ทก่ี าหนดให้เปน็ คะแนนเตม็ 5 = 2.5 ขึน้ ไป กล่มุ สำขำวิชำวิทยำศำสตร์สขุ ภำพ อตั ราสว่ น จานวนบทความท่ไี ดร้ บั การอา้ งองิ ตอ่ จานวนอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร ที่กาหนดให้เป็นคะแนนเตม็ 5 = 3.0 ขนึ้ ไป กลมุ่ สำขำวชิ ำมนษุ ยศำสตรแ์ ละสงั คมศำสตร์ อัตราส่วน จานวนบทความทไี่ ดร้ ับการอ้างองิ ต่อจานวนอาจารย์ประจาหลักสตู ร ท่ีกาหนดให้เปน็ คะแนนเต็ม 5=0.25 ขนึ้ ไป สตู รกำรคำนวณ 1. อัตราจานวนบทความทไี่ ดร้ บั การอา้ งองิ ตอ่ จานวนอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร = จานวนบทความที่ไดร้ บั การอ้างองิ จานวนอาจารย์ประจาหลกั สตู ร 2. แปลงคา่ ทีค่ านวณได้ในขอ้ 1 เทียบกบั คะแนนเตม็ 5 อัตราสว่ นจานวนบทความท่ไี ดร้ บั การอ้างอิงต่อจานวนอาจารยป์ ระจาหลกั สตู ร X 5 คะแนนทีไ่ ด้ = อตั ราส่วนจานวนบทความท่ไี ด้รบั การอ้างองิ ต่อจานวนอาจารย์ประจาหลกั สตู ร ท่ีกาหนดให้เป็นคะแนนเต็ม 5

ตัวอย่ำงกำรหำอัตรำส่วนจำนวนบทควำมท่ีได้รับกำรอ้ำงอิงตอ่ จำนวนอำจำรย์ประจำหลกั สตู ร ถา้ อาจารยป์ ระจาหลกั สตู รระดับปรญิ ญาเอกของหลักสตู รหนึง่ ในกลุ่มสาขาวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยมี จี านวน 5 คน โดยอาจารย์ทงั้ 5 คนมีผลงานตพี ิมพ์บทความวจิ ยั หรือ Review article ใน ฐานข้อมูลTCI และ Scopus ในปี พ.ศ. 2553-2557 (ค.ศ. 2010-2014) ซ่งึ ดาเนินการประเมินคณุ ภาพ การศึกษาภายใน ของหลกั สตู รใน พ.ศ. 2557 (ประเมินในปี ค.ศ. 2014) เปน็ ดงั น้ี - จานวนบทความท่ีตีพิมพ์ของอาจารย์ ทัง้ 5 คนในฐานขอ้ มลู Scopus ระหวา่ ง ค.ศ. 2010-2014 เทา่ กบั 15 บทความ และจานวนบทความทีต่ ีพมิ พ์ในฐานขอ้ มูลของ TCI เท่ากบั 5 บทความ - ในจานวนนี้มบี ทความ 8 บทความ ในฐานข้อมูล Scopus ทไ่ี ด้รับการอา้ งอิง อย่างน้อย 1 คร้ัง และมี บทความ 2 บทความที่ตีพมิ พใ์ นฐานข้อมลู TCI ไดร้ ับการอ้างอิงอย่างน้อย 1 คร้งั ดงั นั้น อตั ราส่วนจานวนบทความท่ีไดร้ ับการอา้ งองิ ตอ่ จานวนอาจารยป์ ระจาหลักสตู ร = จานวนบทความทไี่ ดร้ บั การอา้ งอิงอย่างนอ้ ย 1 คร้ัง = 8+2 = 10 = 2.0 จานวนอาจารยป์ ระจาหลกั สตู รทั้งหมด 5 5 นามาคานวณคะแนน = 2.0 × 5 = 4.0 คะแนน 2.5

ตัวบ่งช้ที ี่ 4.3 ผลท่เี กิดกับอำจำรย์ ชนิดของตัวบ่งช้ี ผลลพั ธ์ กำรคดิ รอบปี ปีงบประมาณ ผู้รบั ผดิ ชอบ กองบรหิ ารงานบุคคล ผู้กำกบั ดูแล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตวั บง่ ชี้ ผลการประกันคุณภาพ ต้องนาไปสกู่ ารมอี ัตรากาลังอาจารย์ที่มีจานวนเหมาะสมกับจานวนนักศกึ ษา ทร่ี ับเขา้ ในหลกั สูตร อัตราคงอยู่ของอาจารยส์ ูง และอาจารยม์ คี วามพงึ พอใจต่อการบรหิ ารหลักสตู ร ในการรายงานการดาเนินงานตามตัวบ่งช้ีนี้ให้อธิบายกระบวนการหรือแสดงผลการดาเนินงานใน ประเด็นตอ่ ไปนี้ - การคงอยู่ของอาจารย์ - ความพึงพอใจของอาจารย์ เกณฑก์ ำรประเมิน 0123 4 5 • ไมม่ กี าร • มกี าร • มกี าร • มกี าร • มกี ารรายงาน • มกี ารรายงาน รายงาน รายงาน รายงาน รายงาน ผลการ ผลการดาเนนิ งาน ผลการ ผลการ ผลการ ผลการ ดาเนนิ งาน ครบทุกเร่ืองตาม ดาเนนิ งาน ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนินงาน ครบทกุ เร่อื ง คาอธบิ ายในตัวบ่งช้ี ในบางเรอ่ื ง ครบทกุ เร่อื ง ครบทกุ เร่ือง ตามคาอธบิ าย • มีแนวโน้มผลการ ตาม ตาม ในตวั บ่งช้ี ดาเนินงานท่ดี ีข้นึ ในทกุ คาอธิบาย คาอธิบาย • มแี นวโนม้ ผล เรือ่ ง ในตัวบ่งช้ี ในตวั บง่ ชี้ การดาเนนิ งาน • มผี ลการดาเนินงานท่ีโดด • มแี นวโนม้ ผล ทีด่ ขี น้ึ ในทกุ เด่นเทียบเคยี งกับ การ เร่ือง หลกั สูตรนั้นในสถาบนั ดาเนินงาน กลมุ่ เดยี วกันโดยมี ทด่ี ีข้นึ ในบาง หลักฐานเชงิ ประจักษ์ เรอ่ื ง ยืนยนั และกรรมการ ผู้ตรวจประเมินสามารถ ใหเ้ หตุผลอธบิ ายวา่ เปน็ ผลการเนนิ งานท่ี โดดเดน่ อยา่ งแท้จรงิ

องค์ประกอบท่ี 5 หลักสูตร กำรเรยี นกำรสอน กำรประเมนิ ผูเ้ รียน แม้ทุกหลักสูตรที่สถาบันการศึกษาเปิดสอนต้องผ่านการรับรองจากสานักงานคณะกรรมการการ อดุ มศกึ ษา และมกี ารปรับปรงุ ทุก 5 ปี แต่ผู้บรหิ ารตอ้ งรบั ผิดชอบและควบคมุ กากบั การบรหิ ารจัดการหลกั สูตร ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างต่อเนื่อง คณะการบริหารหลักสูตรควรมีบทบาทหน้าท่ีในการบริหาร จัดการ 3 ด้านทีส่ าคัญ คือ (1) สาระของรายวชิ าในหลกั สูตร (2) การวางระบบผู้สอนและกระบวนการเรยี นการ สอน (3) การประเมินผู้เรียน ระบบการประกันคุณภาพในการดาเนินการหลักสูตรประกอบด้วย หลักสูตร การ เรียนการสอน และการประเมินผู้เรียน เพ่ือให้สอดคล้องกับกรอบ มาตรฐานคุณวุฒิตามท่ีสานักงาน คณะกรรมการการอุดมศึกษากาหนด ตัวบ่งช้ีในการประเมินต้องให้ความสาคัญกับการกาหนดรายวิชาท่ีมี เนื้อหาทีท่ ันสมัย กา้ วทนั ความก้าวหนา้ ทางวิทยาการทเ่ี ปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมทั้งการวางระบบผสู้ อนและ อาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งต้องเป็นบุคคลท่ีมคี วามรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และมีคุณสมบัติเหมาะสมในการ พฒั นานกั ศึกษาให้เตม็ ศกั ยภาพ จัดการเรียนการสอนท่ีเนน้ นักศึกษาเปน็ สาคญั และสง่ เสรมิ ทักษะการเรยี นรใู้ น ศตวรรษที่ 21 การประกนั คุณภาพหลักสตู รในองคป์ ระกอบน้ีพจิ ารณาจากตวั บง่ ช้ีดงั ตอ่ ไปน้ี ตัวบ่งชี้ท่ี 5.1 สาระของรายวิชาในหลกั สตู ร ตัวบ่งชี้ที่ 5.2 การวางระบบผสู้ อนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน ตัวบ่งชี้ที่ 5.3 การประเมนิ ผเู้ รยี น ตัวบ่งชท้ี ่ี 5.4 ผลการดาเนนิ งานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒริ ะดับอดุ มศกึ ษา แห่งชาติ

ตวั บง่ ช้ที ่ี 5.1 สำระของรำยวิชำในหลักสูตร ชนดิ ของตัวบ่งชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปกี ารศึกษา ผู้รบั ผิดชอบ สานักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบยี น ผกู้ ำกับดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธบิ ำยตวั บง่ ชี้ แม้ทุกหลักสูตรท่ีสถาบันการศึกษาเปิดให้บริการต้องผ่านการรับทราบจากสานักงานคณะ กรมการการอุดมศกึ ษา และมกี ารปรับปรุงทุก 5 ปี แต่ผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตรตอ้ งมีการออกแบบหลกั สตู รควบคมุ กากับการจัดการรายวิชาตา่ งๆ ให้มีเน้ือหาทที่ ันสมัยก้าวหน้าวิทยาการที่เปลีย่ นแปลงตลอดเวลา มีการบรหิ าร จัดการการเปิดรายวิชาต่างๆ ท้ังวิชาบังคับและวิชาเลอื กท่ีเน้นกับนักศึกษาเป็นสาคัญ โดยสนองความต้องการ ของนักศึกษาเป็นสาคัญ และตลอดแรงงาน สาหรับหลักสูตรบัณฑิตศึกษาต้องเน้นการพัฒนาทักษะด้านการ วิจยั และการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง ในการรายงานการดาเนินการตามตวั บ่งชี้นี้ให้อธิบายกระบวนการหรือแสดงผลการดาเนินงาน อย่างน้อยให้ครอบคลุมประเด็นตอ่ ไปน้ี - การออกแบบหลกั สูตรและสาระรายวชิ าในหลกั สตู ร - การปรบั ปรงุ หลักสตู รให้ทันสมัยกา้ วหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ ในกำรประเมินให้ทรำบว่ำอยู่ในระดับคะแนนใดให้พิจำรณำในภำพรวมของผลกำร ดำเนินงำนทัง้ หมดที่ทำใหห้ ลกั สตู รมคี วำมทนั สมัยสอดคล้องกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำนและควำม ตอ้ งกำรของประเทศ

เกณฑก์ ำรประเมนิ 0 1 23 4 5  ไม่มรี ะบบ  มรี ะบบ  มีระบบ  มีระบบ  มีระบบ  มรี ะบบ มกี ลไก มกี ลไก มีกลไก มกี ลไก มีกลไก  ไม่มกี ลไก  มีการนาระบบกลไก  ไมม่ ีการ  มกี ารนา  มีการนา  มีการนา ไปสู่การปฏิบตั ิ /  ไม่มี นาระบบ ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบกลไก ดาเนนิ งาน แนวคิดใน กลไกไปสู่ ไปสู่การ ไปสู่การ ไปส่กู าร การกากับ การปฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ิ / ปฏบิ ัติ / ปฏิบัติ /  มีการประเมิน ตดิ ตาม /ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนินงาน กระบวนการ และ ปรับปรงุ  มกี าร  มีการ  มีการประเมนิ  มกี ารปรบั ปรุง/ ประเมิน ประเมนิ กระบวนการ พัฒนากระบวนการ  ไม่มีข้อมลู กระบวนการ กระบวนการ จากผลการประเมนิ หลกั ฐาน  มกี าร  ไม่มีการ  มีการ ปรับปรุง/  มผี ลจากการ ปรับปรงุ / ปรับปรงุ / พัฒนา ปรบั ปรงุ เห็นชดั เจน พฒั นา พัฒนา กระบวนการ เปน็ รปู ธรรม กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ จากผลการ ประเมิน  มแี นวทางปฏบิ ัตทิ ดี่ ี ประเมิน โดยมหี ลกั ฐานเชงิ  มผี ลจากการ ประจกั ษย์ ืนยัน และ ปรับปรงุ เห็น กรรมการผตู้ รวจ ชัดเจนเปน็ ประเมิน สามารถให้ รปู ธรรม เหตุผลอธิบาย การ เปน็ แนวปฏิบตั ิทีด่ ี ไดช้ ัดเจน

ตัวบง่ ชท้ี ่ี 5.2 กำรวำงระบบผสู้ อนและกระบวนกำรกำรจดั กำรเรยี นกำรสอน ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปกี ารศึกษา ผรู้ ับผดิ ชอบ สานักสง่ เสริมวชิ าการและงานทะเบยี น ผกู้ ำกบั ดแู ล รองอธิการบดี ตัวอธิบำยตวั บง่ ชี้ หลักสูตรต้องให้ความสาคัญกับการวางระบบผู้สอนในแต่ละรายวิชา โดยคานึงถึงความรู้ ความสามารถและความเช่ียวชาญในวิชาที่สอน และเป็นความรู้ที่ทันสมัยของอาจารย์ที่มอบหมายให้สอนใน วิชาน้ันๆ เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้ประสบการณ์ และได้รับการพัฒนาความสามารถจากผู้รู้จริง สาหรับ หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ต้องให้ความสาคัญสาหรับการกาหนดหัวข้อวิทยานิพนธ์ การกาหนดอาจารย์ที่ ปรึกษาวิทยานิพนธ์ การค้นคว้าอิสระท่ีเหมาะสมกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ การค้นคว้าอิสระ และลักษณะของ นักศึกษา ให้นักศึกษาได้รับโอกาสแลการพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ การ ค้นคว้าอิสระตอ้ งสามารถใหค้ าปรึกษาวิทยานิพนธ์การค้นคว้าอิสระตั้งแต่กระบวนการ พัฒนาหัวข้อจนถึงการ ทาวทิ ยานพิ นธ์ การค้นคว้าอสิ ระ การสอบป้องกนั และการเผยแพรผ่ ลงานวจิ ัย จนสาเรจ็ การศกึ ษา กระบวนการเรียนการสอนสาหรับศตวรรษท่ี 21 ต้องเน้นการพัฒนานักศึกษาให้มคี วามรู้ ตาม โครงสร้างหลักสูตรท่ีกาหนด และได้รับการพัฒนาตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ คุณธรรมจริยธรรม ทักษะการ เรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 โดยเฉพาะทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทักษะทางภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ทกั ษะการทางานแบบมีส่วนรว่ ม ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถในการดแู ลสขุ ภาพ ฯลฯ การเรียนการสอนสมัยใหมท่ ีต่ อ้ งใช้สือ่ เทคโนโลยี และทาใหน้ กั ศกึ ษาเรียนรไู้ ดต้ ลอดเวลา และในสถานที่ใดก็ได้ ผู้สอนเป็นผู้มีหน้าท่ีอานวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ และสนับสนุนการเรียนรู้ สาหรับหลักสูตร บณั ฑติ ศึกษา เทคนิคการสอนจะเน้นการวิจยั เปน็ ฐาน การเรียนแบบใชป้ ญั หาเป็นฐาน เปน็ ตน้ ในการรายงานการดาเนินการตามตัวบ่งชน้ี ้ี ให้อธิบายกระบวนการหรือแสดงผลการดาเนินงาน ในอย่างน้อยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ต่อไปน้ี - การกาหนดผสู้ อน - การกากบั ติดตาม และตรวจสอบการจดั ทาแผนการเรยี นรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการ จดั การเรียนการสอน - การจัดการเรยี นการสอนในระดบั ปริญญาตรที ่ีมีการบรู ณาการกบั การวิจยั การบริการ วิชาการทางสงั คม และการทานุบารงุ ศิลปะและวฒั นธรรม - การควบคุมหัวขอ้ วิทยานิพนธ์และการคน้ ควา้ อสิ ระในระดับบณั ฑติ ศกึ ษาให้สอดคลอ้ งกบั สาขาวชิ าและความกา้ วหน้าทางศาสตร์

- การแต่งตง้ั อาจารย์ท่ปี รกึ ษาวทิ ยานพิ นธ์และการค้นควา้ อิสระในระดับบณั ฑติ ศึกษา ที่มี ความเช่ยี วชาญสอดคลอ้ งหรอื สัมพนั ธก์ ับหัวข้อวิทยานิพนธ์ - การช่วยเหลือ กากับ ตดิ ตามในการทาวทิ ยานิพนธแ์ ละการค้นคว้าอสิ ระ และการตพี ิมพ์ ผลงานในระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา ในกำรประเมินให้ทรำบว่ำอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจำรณำในภำพรวมของผลกำร ดำเนินงำนทั้งหมด ที่ทำให้กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนตอบสนองควำมแตกต่ำงของผู้เรียน กำร จัดกำรเรยี นกำรสอนท่เี นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคัญ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกำรเรียนร้บู รรลุตำมเปำ้ หมำย เกณฑ์กำรประเมนิ 01 2 3 4 5  ไม่มรี ะบบ  มีระบบ  มรี ะบบ  มรี ะบบ  มรี ะบบ  มรี ะบบ มีกลไก  ไม่มกี ลไก มกี ลไก มีกลไก มีกลไก มกี ลไก  มีการนาระบบ  ไม่มี  ไมม่ ีการนา  มีการนา  มีการนา  มีการนา กลไกไปสูก่ าร แนวคดิ ใน ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบกลไก การกากบั ไปสู่การ ไปสกู่ าร ไปสกู่ าร ระบบกลไก ปฏิบตั /ิ ดาเนนิ งาน ติดตาม ปฏบิ ตั ิ / ปฏบิ ัติ / ปฏิบตั ิ / และ ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนนิ งาน ไปสู่การ  มีการประเมนิ ปรบั ปรงุ ปฏบิ ัติ / กระบวนการ  มีการ  มีการประเมิน  ไม่มีข้อมลู ประเมิน กระบวนการ ดาเนนิ งาน  มกี ารปรบั ปรงุ / หลักฐาน กระบวนการ  มีการประเมิน พฒั นากระบวนการ  มีการ กระบวนการ จากผลการประเมนิ  ไมม่ กี าร ปรบั ปรุง/ ปรับปรงุ / พัฒนา  มกี ารปรบั ปรงุ /  มีผลจากการ พฒั นา กระบวนการ พฒั นา ปรับปรงุ เห็น กระบวนการ จากผลการ กระบวนการ ชัดเจนเป็น ประเมิน จากผลการ รูปธรรม ประเมิน  มีแนวทางปฏบิ ัตทิ ี่  มีผลจากการ ดโี ดยมีหลักฐาน ปรบั ปรงุ เหน็ เชงิ ประจักษ์ยนื ยนั ชัดเจนเปน็ และกรรมการ รูปธรรม ผูต้ รวจประเมนิ สามารถให้เหตผุ ล อธบิ าย การเปน็ แนวปฏิบตั ทิ ด่ี ไี ด้ ชดั เจน

ตวั บ่งชีท้ ่ี 5.3 กำรประเมนิ ผู้เรียน ชนิดของตวั บง่ ชี้ กระบวนการ กำรคิดรอบปี ปกี ารศกึ ษา ผรู้ บั ผดิ ชอบ สานกั สง่ เสรมิ วชิ าการและงานทะเบยี น ผูก้ ำกบั ดูแล รองอธิการบดี คำอธบิ ำยตัวบง่ ชี้ การประเมินนกั ศกึ ษามจี ดุ มุ่งหมาย 3 ประการ คอื การประเมนิ ผลนกั ศกึ ษาเพือ่ ใหข้ อ้ มูลสารสนเทศที่ เป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงการเรียนการสอนของผู้สอน และนาไปสู่การพัฒนาการเรียนรู้ของนักศึกษา (assessment for learning) การประเมินท่ีทาให้นักศึกษาสามารถประเมินตนเองเป็น และมีการนาผลการ ประเมินไปใช้ในการพัฒนาวิธีการเรียนของตนเองใหม่จนเกดิ การเรียนรู้ (assessment as learning) และการ ประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาที่แสดงผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตร (assessment of learning) การประเมนิ สว่ นใหญ่จะใชเ้ พอื่ จดุ มงุ่ หมายประการหลงั คอื เน้นการได้ข้อมลู เก่ียวกับสมั ฤทธิผลการ เรียนรู้ของนักศึกษาการจัดการเรียนการสอนจึงควรส่งเสริมให้มีการประเมินเพ่ือจุดมุ่งหมายสองประการแรก ด้วย ท้ังน้ัน ความเหมาะสมของระบบประเมนิ ต้องให้ความสาคัญกับการกาหนดเกณฑ์การประเมินวิธปี ระเมิน เคร่ืองมือประเมินท่ีมีคุณภาพและวิธีการให้เกรดที่สะท้อนผลการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมมีการกากับให้มีการ ประเมินตามสภาพจริง (authentic assessment) มีการใช้วิธีการประเมินท่ีหลากหลายให้ผลการประเมินท่ี สะท้อนความสามารถในการปฏิบัติงานในโลกแห่งความจริง (real world) และมีวิธีการให้ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) ท่ีทาให้นกั ศึกษาสามารถแก้ไขจุดอ่อนหรือสง่ เสริมจดุ แข็งของตนเองได้ให้ผลการประเมินที่สะท้อน ระดับความสามารถท่ีแท้จริงของนักศึกษา สาหรับหลักสูตรบัณฑิตศึกษาต้องให้ความสาคัญกับการวางระบบ ประเมินวิทยานพิ นธ์ การคน้ คว้าอสิ ระท่ีมีคุณภาพดว้ ย ในการรายงานการดาเนินงานตามตัวบ่งช้ีนี้ ให้อธิบายกระบวนการหรือการแสดงผลการดาเนินงาน อย่างน้อยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - การประเมนิ ผลการเรยี นร้ตู ามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิระดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ - การตรวจสอบการประเมินผลการเรียนร้ขู องนกั ศึกษา - การกากับการประเมนิ การจดั การเรียนการสอนและประเมินหลักสตู ร (มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7) - การประเมนิ วิทยานิพนธแ์ ละการคน้ คว้าอสิ ระในระดบั บณั ฑติ ศกึ ษา

ในกำรประเมินเพ่ือให้ทรำบว่ำอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจำรณำในภำพรวมของผลกำร ดำเนินงำนทัง้ หมดทส่ี ะท้อนสภำพจริงด้วยวิธกี ำรหรือเคร่ืองมือประเมินที่เชอ่ื ถอื ได้ ให้ข้อมูลท่ีชว่ ยเหลอื ให้ ผสู้ อนและผเู้ รียนมแี นวทำงในกำรปรบั ปรงุ พฒั นำกำรเรียนกำรสอนตอ่ ไป เกณฑ์กำรประเมิน 0123 4 5  ไม่มรี ะบบ  มีระบบ  มีระบบ  มีระบบ  มรี ะบบ  มีระบบ มกี ลไก  ไม่มีกลไก มกี ลไก มกี ลไก มีกลไก มีกลไก  มีการนาระบบ กลไกไปส่กู าร  ไม่มแี นวคดิ  ไม่มกี ารนา  มกี ารนา  มกี ารนา  มีการนา ปฏิบัต/ิ ดาเนินงาน ในการกากบั ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบกลไก ระบบกลไก ติดตามและ ไปส่กู าร ไปสู่การ ไปสู่การ ไปสู่การ  มกี ารประเมนิ ปรับปรุง ปฏบิ ตั ิ/ ปฏิบตั /ิ ปฏบิ ัติ/ ปฏบิ ัติ/ กระบวนการ ดาเนนิ งาน ดาเนนิ งาน ดาเนินงาน ดาเนินงาน  ไม่มขี อ้ มลู  มกี ารปรบั ปรุง/ หลกั ฐาน  มีการ  มีการ  มกี าร พฒั นา ประเมิน ประเมนิ ประเมิน กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ  ไม่มกี าร  มีการ  มีการ ประเมนิ ปรับปรงุ / ปรบั ปรงุ / ปรับปรงุ /  มผี ลจากการ พัฒนา พฒั นา พฒั นา ปรับปรุงเห็น กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ ชดั เจนเปน็ จากผลการ จากผลการ รูปธรรม ประเมิน ประเมนิ  มีแนวทางการ  มผี ลจากการ ปฏิบัติทด่ี โี ดยมี ปรบั ปรุงเห็น หลกั ฐานเชิง ชดั เจนเปน็ ประจกั ษย์ นื ยัน รปู ธรรม และกรรมการ ผตู้ รวจประเมิน สามารถให้ เหตุผลอธิบาย การเป็นแนว ปฏบิ ตั ิที่ดไี ด้ ชัดเจน

ตัวบ่งช้ที ี่ 5.4 ผลกำรดำเนนิ งำนหลักสตู รตำมกรอบมำตรฐำนคณุ วฒุ ิระดับอุดมศกึ ษำ แห่งชำติ ชนดิ ของตวั บง่ ช้ี ผลลัพธ์ กำรคิดรอบปี ปีการศกึ ษา ผูร้ บั ผดิ ชอบ สานกั ส่งเสรมิ วชิ าการและงานทะเบียน ผู้กำกับดแู ล รองอธกิ ารบดี คำอธิบำยตัวบง่ ชี้ ผลการดาเนินงานของหลักสูตร หมายถงึ รอ้ ยละของผลการดาเนนิ งานตามตงั บ่งชกี้ ารดาเนนิ งานตาม กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาที่ปรากฏในหลักสูตร (มคอ.2) หมวดที่ 7 ข้อ 7 ที่หลักสูตรแต่ละ หลักสูตรดาเนินงานได้ใน แต่ละปีการศึกษา อาจารย์ประจาหลักสูตรจะเป็นผู้รายงานผลการดาเนินงาน ประจาปใี นแบบรายงานผลการดาเนนิ การของหลักสูตร (มคอ.7) เกณฑก์ ำรประเมิน - มกี ารดาเนินงานนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของตวั บ่งช้ีผลการดาเนนิ งานที่ระบุไวใ้ นแตล่ ะปี มคี ่าคะแนน เท่ากบั 0 - มกี ารดาเนนิ งานรอ้ ยละ 80 ของตัวบง่ ชผี้ ลการดาเนนิ งานทร่ี ะบไุ วใ้ นแตล่ ะปี มคี า่ คะแนน เทา่ กบั 3.50 - มกี ารดาเนนิ งานรอ้ ยละ 80.01-89.99 ของตวั บ่งชีผ้ ลการดาเนนิ งานท่รี ะบไุ ว้ในแตล่ ะปี มคี า่ คะแนน เทา่ กบั 4.00 - มกี ารดาเนินงานร้อยละ 90.00-94.99 ของตัวบ่งชีผ้ ลการดาเนินงานท่รี ะบุไวใ้ นแตล่ ะปี มคี า่ คะแนน เทา่ กบั 4.50 - มีการดาเนนิ งานรอ้ ยละ 95.00-99.99 ของตัวบ่งช้ีผลการดาเนนิ งานที่ระบุไว้ในแตล่ ะปี มคี า่ คะแนน เท่ากับ 4.75 - มีการดาเนนิ งานร้อยละ 100 ของตัวบ่งช้ีผลการดาเนินงานท่ีระบไุ ว้ในแต่ละปี มคี ่าคะแนน เท่ากับ 5 หมำยเหตุ : คณะกรรมกำรอุดมศึกษำได้มีประกำศคณะกรรมกำรกำรอุดมศึกษำ เร่ือง แนวทำงกำรปฏิบัติตำม กรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดับอุดมศึกษำแห่งชำติ (ฉบับท่ี 3 ) พ.ศ.2558 ลงวันที่ 26 พฤศจิกำยน 2558 ได้ กำหนดแนวทำงกำรปฏิบตั ิตำมกรอบมำตรฐำนคุณวุฒิระดบั อุดมศึกษำแหง่ ชำติเพิ่มเติมไว้ ดงั น้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook