Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 5484227827 (1)

5484227827 (1)

Published by pwilaikit, 2020-05-04 00:42:32

Description: 5484227827 (1)

Search

Read the Text Version

290 ตอนที่ 2 สภาพการเรียนรู้ทน่ี าไปส่กู ารเปล่ยี นแปลงด้านความมัน่ คงทางอาหารของชุมชน 5. ในความคดิ ของทา่ น ลักษณะของชมุ ชนหรอื ครอบครวั ท่ีมีความมนั่ คงทางอาหาร เป็น อยา่ งไร 6. ความสนใจของทา่ นทีม่ ีต่อเรอื่ งความมน่ั คงทางอาหารในชุมชนนนั้ เกิดขึน้ เมื่อใด? เพราะเหตุใด? (โปรดอธิบายเหตุผลท่ที าให้ทา่ นเกดิ ความสนใจในเรอ่ื งดังกล่าว) 7. จากประสบการณ์การเรยี นร้เู พอ่ื เสริมสรา้ งความม่นั คงทางอาหาร 1) ประสบการณเ์ รียนรู้ครัง้ ใดทที่ าให้ทา่ นสนใจและเห็นความสาคญั ของความ มน่ั คงทางอาหารมาอย่างต่อเนือ่ ง 2) กจิ กรรมดังกลา่ วมีอะไรบา้ ง โปรดอธิบายโดยลาดับกิจกรรมกอ่ นหลงั ที่ทา่ นได้ เขา้ รว่ ม 3) แตล่ ะกิจกรรมเหลา่ นัน้ ใช้เวลานานเท่าไหร่ ใครบา้ งท่เี ข้าร่วมเรียนรู้ในกิจกรรม ดงั กลา่ ว 4) เร่อื งอะไรท่ที ่านไดเ้ รยี นรู้แล้วทาให้มคี วามเขา้ ใจและตระหนักถึงความสาคญั ของความมั่นคงทางอาหารมากท่สี ดุ 5) สมาชิกในชมุ ชนที่เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรดู้ งั กลา่ ว มสี ว่ นสนับสนนุ การ เรียนรู้ของท่านหรือไม่ อย่างไร 6) ท่านชว่ ยเหลอื หรอื สนับสนนุ การเรียนร้ขู องสมาชิกคนอน่ื ๆในชมุ ชนทเ่ี ข้ารว่ ม การเรยี นรู้ดงั กลา่ วหรอื ไม่ ถ้ามี เหตใุ ดท่านจึงให้การชว่ ยเหลือหรือสนับสนุน ดังกล่าว 7) ทา่ นมีความพึงพอใจตอ่ กจิ กรรมใดมากที่สุด เพราะเหตุใด (เชน่ วธิ ีการ ช่อง ทางการเรยี นรู้ บรรยากาศการเรียนร)ู้ 8) ระหวา่ งการเรียนร้มู ีอปุ สรรคหรอื ปัญหาเกิดขึน้ หรือไม่ ถ้ามี ท่านจดั การหรือ แก้ปญั หานน้ั อย่างไร 9) มีปจั จัยหรือเง่ือนไขอะไรท่สี ง่ เสรมิ ให้ท่านสนใจเรยี นรู้จนประสบความสาเร็จ หรือไม่ 8. ทา่ นและคนในชมุ ชน มกี ารรวมตวั กันหรือจดั กิจกรรมเพื่อการพฒั นาชมุ ชนอ่ืนๆ ซ่งึ อาจ เชือ่ มโยงหรือไมเ่ ชือ่ มโยงกบั ความม่ันคงทางอาหารหรือไม่? ถ้ามี กิจกรรมดงั กล่าวคอื อะไร? เหตุใดจึงจดั กจิ กรรมนั้นข้นึ ? และใครเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ ดงั กล่าว?

291 ตอนท่ี 3 ผลการเปลยี่ นแปลงทีเ่ กิดขน้ึ จากการได้รบั ประสบการณก์ ารเรยี นรูท้ ีส่ ่งเสริมการ เปลีย่ นแปลงดา้ นความม่นั คงทางอาหารในชมุ ชนเกษตร 9. ประสบการณ์ที่ทา่ นได้รับจากการเรยี นรู้เพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารที่ผ่านมา (มผี ลต่อการเปล่ยี นแปลงความรู้ ทกั ษะ ทัศนคติ และการแสดงออกดา้ นพฤติกรรมที่ เปล่ียนแปลงไปอย่างชดั เจน) เชน่ 1) ทาใหท้ า่ นไดร้ บั ความรูเ้ พิ่มขึ้นดา้ นความมัน่ คงทางอาหาร ได้แก่ เร่อื งอะไรบ้าง 2) ทาใหท้ า่ นเห็นความสาคญั ของการเรียนรู้เก่ียวกับความมั่นคงทางอาหารมากข้ึน หรอื ไม่ เหตุใดจึงคิดเช่นนัน้ 3) มผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงความคิดของท่านที่เคยมีเกยี่ วกับเร่อื งความมน่ั คงทาง อาหารหรือไม่ ถา้ มีการเปล่ยี นแปลงนั้นคือ เปน็ อย่างไร 4) ทาให้ทา่ นมีการปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงแบบแผนการผลติ การบรโิ ภค หรอื การ ดาเนินชวี ติ ทเี่ ปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ ทา่ นคดิ วา่ อะไรบ้างที่เปล่ยี นแปลงไป เพราะเหตุใด 5) หากชุมชนอื่นจะมีการเรียนรู้ร่วมกนั เพื่อเสรมิ สรา้ งความมน่ั คงทางอาหารขน้ึ ในชมุ ชน ท่านมี ขอ้ คิดเห็นหรอื ข้อแนะนาอย่างไรบา้ ง

292 เครือ่ งมือการวิจยั ชุดที่ 3 ชุดท่ี 3 แบบสัมภาษณ์ความคิดเหน็ ที่มตี อ่ สถานะความม่ันคงทางอาหาร คาช้ีแจง แบบสัมภาษณ์ชุดน้ีใช้สาหรับสัมภาษณ์ความคิดเห็นท่ีมีสถานะความมั่นคงทางอาหาร ซ่ึง เป็นผลจากประสบการณ์ท่ีสมาชิกในชุมชนได้รับจากเข้าร่วมกระบวนการส่งเสริมการเรียนรู้สู่การ เปล่ียนแปลงด้านความมั่นคงทางอาหารในชุมชนต้นแบบที่เป็นกรณีศึกษา ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง ความรู้ ความคิด และการกระทาเก่ียวกับการเสริมสร้างความม่ันคงทางอาหารของสมาชิกในชุมชน ตามวัตถุประสงค์การวิจัยข้อท่ี 1 เพื่อศึกษากระบวนการเรียนรู้ท่ีเสริมสร้างความม่ันคงทางอาหารใน ชมุ ชนตน้ แบบ ชมุ ชน..................................................... วัน/เดือน/ปี ทสี่ ัมภาษณ์.................................................. ท่านพบว่าตนเองมีการเปล่ียนแปลงในประเด็นต่อไปน้ีหรือไม่ ซึ่งเป็นผลที่เกิดจาก ประสบการณ์ที่ท่านได้รับจากการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมการเปล่ียนแปลงด้านความมั่นคงทางอาหารใน ชุมชน ประเดน็ ความมนั่ คงทางอาหาร การเปล่ยี นแปลง มี ไม่มี การพึ่งตนเองดา้ นอาหาร 1) มกี ารบรโิ ภคอาหารท่ีมคี วามหลากหลายในแตล่ ะมอื้ 2) มอี าหารบรโิ ภคเพียงพอกับความต้องการอาหารตลอดทง้ั ปี 3) มีการบริโภคอาหารท่สี ่วนใหญผ่ ลติ ขนึ้ เองในครวั เรอื น 4) มอี าหารทเ่ี ก็บหามาจากทรพั ยากรธรรมชาตใิ นชมุ ชนท้องถนิ่ 5) มีอาหารทีไ่ ดม้ าจากการแลกเปลีย่ นแบ่งปนั ของคนในชุมชน สทิ ธใิ นฐานทรัพยากรการผลติ 6) มีพนั ธพุ์ ืชของตนเองซ่ึงหาได้จากในครัวเรอื นหรือชมุ ชน 7) มพี ันธสุ์ ตั วข์ องตนเองซ่ึงหาไดจ้ ากในครวั เรือนหรอื ชมุ ชน 8) มีทีด่ นิ ทากนิ เป็นของตนเองทเ่ี พยี งพอต่อการผลิต 9) มแี หลง่ น้าเพื่อการเกษตรในไรน่ าทเ่ี พยี งพอ 10) มคี วามรู้ สทิ ธขิ องชุมชนในการเขา้ ถึงและจัดการทรัพยากรธรรมชาติมากข้นึ 11) เหน็ ความสาคัญของสิทธิของชุมชน มิติทางเศรษฐกิจและสิทธใิ นระบบอาหาร 12) มรี ายได้จากการคา้ ขายผลผลติ ในไรน่ าเพยี งพอ 13) มสี ัดสว่ นคา่ ใชจ้ า่ ยในการซอ้ื อาหารจากภายนอกมากกว่าภายในชุมชน (ส่วน ใหญจ่ ะไปซ้ือท่ตี ลาดนดั ต่างตาบล)

293 ประเด็นความมั่นคงทางอาหาร การเปล่ียนแปลง มี ไมม่ ี 14) มคี วามสมดุลระหว่างรายได้ รายจา่ ย หนสี้ ิน และการออม (รายได้ของ ครัวเรอื น) 15) มแี หล่งท่มี าของรายได้ทห่ี ลากหลาย เชน่ มีรายไดห้ ลัก รายไดเ้ สริม 16) เข้าถึงนโยบายสร้างหลักประกนั ในการดารงชพี ของครัวเรอื น 17) มแี หล่งซื้ออาหารหรือตลาดที่หลากหลาย 18) มรี ะบบตลาดทเ่ี ปน็ ธรรมและเกอ้ื กูลกันระหวา่ งผ้ผู ลติ และผ้บู รโิ ภค การเขา้ ถึงอาหารทมี่ ีคุณภาพ 19) มีกระบวนการผลติ ท่ไี ม่ใช้สารเคมี ครอบคลมุ ท้ังในการผลิต การแปรรปู และ บรรจภุ ณั ฑ์ หรือในกระบวนการจัดจาหนา่ ย 20) มกี ารตดั สนิ ใจเลือกซอื้ อาหารทใี่ ห้ความสาคัญกบั การมีข้อมูลของแหลง่ ทมี่ า ของอาหาร และกระบวนการผลติ 21) ให้ความสาคญั กับสขุ ภาพของคนในครวั เรอื นและชุมชนทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับอาหาร 22) สามารถเขา้ ถึงข้อมูลข่าวสารดา้ นการบรโิ ภค ดา้ นความปลอดภัยดา้ นอาหาร และโภชนาการ มิตทิ างวฒั นธรรมและการพัฒนา 23) มคี วามเชือ่ และการปฏบิ ตั ติ อ่ กันของคนในชุมชน ซ่ึงเกย่ี วขอ้ งกับการใช้ ประโยชนห์ รอื การอนุรักษ์ทรัพยากรสว่ นรวม การผลิต และการเก็บสารอง อาหาร 24) มีการแบ่งปนั อาหารระหวา่ งคนในชุมชน หรือการแลกเปลยี่ นอาหารระหวา่ ง ชุมชนอน่ื ๆ 25) มีระบบการช่วยเหลือกันของชุมชน ในรปู กองทนุ ต่างๆ เช่น ธนาคารข้าว กองทนุ การเงนิ ชมุ ชน 26) มวี ัฒนธรรมอาหารพน้ื บา้ น (ภูมิปัญญาในการเกบ็ หาอาหารจากธรรมชาติ) และ การใช้วัตถดุ ิบจากท้องถน่ิ ในการประกอบอาหาร 27) มกี ารฟืน้ ฟแู ละถา่ ยทอดความรเู้ กยี่ วกับภูมปิ ัญญาในการเกบ็ หาอาหารจาก ธรรมชาติ ศักยภาพของครัวเรอื นและชุมชน 28) มคี วามสามารถในการแก้ไขปัญหาเกีย่ วกับอาหารของครวั เรอื น 29) มีการรวมกลมุ่ ชว่ ยเหลอื กนั ด้านอาหารของชุมชน

294 ภาคผนวก ค แบบการสัมภาษณเ์ พ่ือรบั รองการยกร่างกระบวนการเรียนรู้ ในการเปล่ยี นแปลงดา้ นความมั่นคงทางอาหารในชุมชนเกษตร

295 ตอนท่ี 1 ข้อมลู สวนบุคคลของผูท้ รงคุณวฒุ ิ 1. ช่ือ – สกุล 2. ตาแหน่ง 3. ชอื่ หนว่ ยงาน / สถาบนั / องค์กร 4. ประเดน็ ความเช่ยี วชาญ ตอนท่ี 2 ร่างกระบวนการและประเด็นในการสมั ภาษณเ์ พ่ือสอบถามข้อคดิ เห็นท่ีมีต่อความสอดคล้อง และความตรงกับเน้ือหา และความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของกระบวนการส่งเสริมการ เรียนรู้สู่การเปล่ยี นแปลงดา้ นความมนั่ คงทางอาหารในชุมชนเกษตร กระบวนการสง่ เสรมิ การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้านความม่ันคงทางอาหารในชุมชนเกษตร หมายถึง การเปล่ียนแปลงของความรู้ ความคิด ความเช่ือที่มีต่อวิถีการดาเนินชีวิตของสมาชิกใน ครัวเรือนที่สัมพนั ธก์ ับสถานการณ์ความมนั่ คงทางอาหารท่เี ปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และส่งผลต่อความ พยายามที่จะแสวงหาทางเลือกเพื่อหาแนวทางการปฏิบัติใหม่ท่ีจะนาไปสู่การปรับเปล่ียนวิถีการ ดาเนนิ ชวี ิตท่ีใหค้ วามสาคญั กบั การพ่งึ พาตนเองทางด้านอาหารมากข้ึน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทาง อาหารของครวั เรอื นและชุมชน ขอบเขตเน้อื หากระบวนการสง่ เสรมิ การเรยี นรสู้ ู่การเปลยี่ นแปลงดา้ นความมนั่ คงทางอาหาร ในชุมชนเกษตร ได้แก่ เปูาหมายของการเรียนรู้ ตัวบ่งช้ีการเปล่ียนแปลงที่เกิดขึ้น (ด้านความรู้ ความคิด และการกระทา) เน้ือหา วิธีการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ ปัจจัยและเงื่อนไขท่ีเกี่ยวข้องกับ กระบวนการเรียนรู้ และกระบวนการสง่ เสรมิ การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงทางอาหาร ในชุมชนเกษตร โดยกาหนดเกณฑ์การประเมินค่าไว้ ดงั นี้ ระดับความคิดเหน็ ต่อความสอดคล้องและตรงกับเน้ือหา 5 หมายถงึ มคี วามสอดคล้องและตรงกับเน้อื หา มากท่สี ดุ 4 หมายถงึ มีความสอดคล้องและตรงกบั เนือ้ หา มาก 3 หมายถึง มีความสอดคล้องและตรงกบั เน้ือหา ปานกลาง 2 หมายถงึ มคี วามสอดคล้องและตรงกบั เน้ือหา น้อย 1 หมายถงึ มีความสอดคลอ้ งและตรงกับเนื้อหา นอ้ ยท่ีสุด ระดับความคดิ เหน็ ต่อความเป็นไปได้ในทางปฏบิ ตั ิ 5 หมายถึง มีความเปน็ ไปได้มากที่สุด 4 หมายถึง มีมีความเป็นไปได้มาก

296 3 หมายถึง มคี วามเป็นไปได้ปานกลาง 2 หมายถึง มคี วามเปน็ ไปได้น้อย 1 หมายถึง มีความเปน็ ไปได้น้อยทส่ี ดุ และสรุปความเห็นท่ีประเมิน ด้วยการใส่เครื่องหมายขีดถูก ( / ) ลงในชอ่ งท่ีตรงตาม ความคิดเห็นของท่านมากท่ีสุด 1) องคป์ ระกอบในการพัฒนากระบวนการสง่ เสริมการเรยี นรู้สู่การเปล่ยี นแปลงดา้ นความม่นั คง ทางอาหารในชุมชนเกษตร 1 หลกั การ 2 วตั ถปุ ระสงค์ 3 วธิ ีการเรยี นรู้ 4 แหล่งเรยี นรู้ 5 ตวั บ่งชก้ี ารเปล่ยี นแปลงท่ีเกดิ ข้นึ จากการเรยี นรู้ 6 ปจั จัยและเงื่อนไขที่เกีย่ วข้องกับกระบวนการเรยี นรู้ โดยในแต่ละองคป์ ระกอบจะได้รบั การประเมิน 2 สว่ น คอื 1) มีความสอดคล้องและตรงกับเน้ือหา มีข้อพิจารณาและขอ้ คิดเห็น ดงั นี้ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… สรุปความเหน็ ทีป่ ระเมิน มคี วามสอดคล้องและตรงกับเนื้อหา คือ  มากทีส่ ุด  มาก  ปานกลาง  น้อย  ไม่เหมาะสม ควรแกไ้ ขเปน็ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2) มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบตั ิ มีขอ้ พิจารณาและขอ้ คดิ เหน็ ดังนี้ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… สรปุ ความเห็นทปี่ ระเมนิ คือ  มากทสี่ ุด  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไม่เหมาะสม ควรแก้ไขเป็น ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………

297 ข้อคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติมอน่ื ๆ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2) ร่างกระบวนการสง่ เสรมิ การเรียนรูส้ ูก่ ารเปล่ยี นแปลงด้านความมัน่ คงทางอาหารในชุมชน เกษตร ประกอบด้วย 5 ระยะ 12 ขั้นตอนย่อย ดังนี้ ระยะท่ี 1 รบั รแู้ ละรู้สกึ ไมพ่ อใจกบั สถานการณ์ปญั หา 1.1 รับรู้สถานการณป์ ญั หา 1.2 เข้าใจแนวคดิ ความมน่ั คงทางอาหารของชุมชน 1.3 รู้สึกไมพ่ อใจและต้องการเปลย่ี นแปลงสถานการณน์ ัน้ ระยะท่ี 2 ทบทวน วิเคราะห์สถานการณ์ และกาหนดเปาู หมายรว่ มกัน 2.1 ทบทวนสถานการณแ์ ละสาเหตุความไม่มัน่ คงทางอาหารร่วมกนั 2.2 วิเคราะห์วิธกี ารจัดการกับความไมม่ ั่นคงทางอาหารทผี่ า่ นมา 2.3 กาหนดเปาู หมายในการเสริมสรา้ งความมนั่ คงทางอาหาร ระยะที่ 3 แสวงหาทางเลือกและวางแนวทางปฏิบัติ 3.1 สารวจทางเลือกทเี่ ป็นไปได้ 3.2 วางแผนปฏิบัติ รายบุคคล ครวั เรอื น กล่มุ ชุมชน ระยะท่ี 4 เรียนรู้และปฏิบัติตามแนวทางที่กาหนด เพ่ือตรวจสอบความคดิ และ แนวทางใหม่ 4.1 เรียนร้แู ละพฒั นาความสามารถเพอ่ื ดาเนนิ ตามแผนที่กาหนด 4.2 ปฏิบตั ติ ามแผน ขน้ั ที่ 5 สรุปบทเรียนและใช้เปน็ แนวทางในการดาเนินชวี ิต 5.1 ติดตามและประเมนิ ผลการดาเนนิ ตามแผนอย่างต่อเนื่อง 5.2 ทบทวนและประเมินสิ่งทไ่ี ด้เรียนรู้ 5.3 ยอมรับแนวคิด และแนวปฏบิ ตั ใิ หม่เขา้ สู่วถิ ีชวี ติ โดยแตล่ ะขัน้ จะได้รับการประเมนิ 2 ส่วน คือ 1) มีความสอดคล้องและตรงกบั เนอ้ื หา มขี อ้ พจิ ารณาและข้อคิดเห็น ดงั นี้ ……………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………

298 สรุปความเห็นท่ีประเมิน มคี วามสอดคล้องและตรงกับเนื้อหา คอื  มากที่สดุ  มาก  ปานกลาง  น้อย  ไม่เหมาะสม ควร แกไ้ ขเปน็ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… 2) มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบตั ิ มีขอ้ พจิ ารณาและข้อคิดเหน็ ดงั นี้ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… สรุปความเห็นทีป่ ระเมนิ คือ  มากทส่ี ุด  มาก  ปานกลาง  น้อย  ไม่เหมาะสม ควร แกไ้ ขเป็น ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอนื่ ๆ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………… ทง้ั นีผ้ วู้ ิจัย ขอความอนุเคราะห์รับผลการประเมิน ฯ กลับด้วยตนเอง ขอขอบพระคุณท่านผทู้ รงคุณวฒุ ทิ ุกทา่ น ท่ใี หค้ วามอนเุ คราะห์เสนอขอคิดเหน็ และขอเสนอแนะอนั มีค่ายง่ิ ผู้วจิ ัย

299 ภาคผนวก ง ประเด็นในการสัมภาษณ์เพอ่ื ศกึ ษาข้อคดิ เห็นท่ีมีต่อร่างข้อเสนอเชิงนโยบายเพอื่ ส่งเสรมิ การเรียนรู้ส่กู ารเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงทางอาหารในชุมชนเกษตร

300 ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลสวนบุคคลสาหรบั ประกาศเกยี รตคิ ณุ รายนามผู้ทรงคุณวุฒิ 5. ชือ่ – สกลุ 6. ตาแหน่ง 7. ช่อื หน่วยงาน / สถาบนั / องค์กร 8. ประเดน็ ความเช่ยี วชาญ ตอนที่ 2 ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายและประเด็นการสัมภาษณ์เพื่อสอบถามข้อคิดเห็นท่ีมีต่อความ สอดคลอ้ งและตรงกบั เนอ้ื หา และความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติของข้อเสนอเชิงนโยบายเพ่ือ สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ส่กู ารเปล่ยี นแปลงดา้ นความมน่ั คงทางอาหารในชมุ ชนเกษตร คาชี้แจง แนวทางการสัมภาษณ์น้ีจัดทาข้ึนเพื่อศึกษาข้อคิดเห็นที่มีต่อร่างข้อเสนอเชิงนโยบายเพ่ือ ส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงทางอาหารในชุมชนเกษตร เพื่อผู้ทรงคุณวุฒิจะ ใชป้ ระโยชน์สาหรับให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอต่อร่างข้อเสนอเชิงนโยบายท่ีจัดทาข้ึน เพ่ือให้เกิดความ สมบูรณ์ และเสนอแนะความคดิ เห็นทีจ่ ะเป็นประโยชนอ์ ย่างยิ่ง สาหรับผู้วิจัยท่ีจะนาข้อเสนอแนะของ ท่านไปปรับปรุงแก้ไขให้มีความถูกต้องเหมาะสมและครอบคลุมตรงตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ตอ่ ไป จดุ มงุ่ หมายของข้อเสนอเชิงนโยบาย ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเปล่ียนแปลงด้านความมั่นคงทาง อาหารในชุมชนเกษตร มีวัตถุประสงค์เพ่ือนาเสนอจุดมุ่งหมายและแนวทางปฏิบัติในการส่งเสริมการ เรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงทางอาหารในชุมชนเกษตร สาหรับใช้เป็นแนวทางในการ ตัดสินใจเพื่อการวางแผนและการดาเนินการต่าง ๆ ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยให้ความสาคัญกับการ สง่ เสรมิ การเรยี นรเู้ พือ่ สร้างความเขา้ ใจและการเปล่ียนแปลงวิธีคิดและเปูาหมายที่มีต่อระบบการผลิต และวถิ กี ารบริโภคของครัวเรือนชุมชนเกษตรที่สัมพันธ์กับสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารมาสู่การ พึ่งพาตนเองจากภายในครัวเรือนและชุมชนมากขึ้น ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายน้ี สังเคราะห์ข้ึนจากผล

301 การศึกษาของวัตถุประสงค์ข้อท่ี 1 และข้อที่ 3 ซึ่งได้จากจากการสัมภาษณ์ การสังเกต และการ สนทนากลุ่ม ร่วมกับผู้นาชุมชน ผู้นาการเปลี่ยนแปลงในชุมชน เกษตรกร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องใน ประเด็นทเี่ กยี่ วขอ้ งกับสถานการณ์ ปัญหา และข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ท่ี นาไปสู่การเปลย่ี นแปลงความคิดและการกระทาของสมาชิกกลุม่ และชมุ ชนด้านความมั่นคงทางอาหาร ของชมุ ชน เปา้ หมายของข้อเสนอเชงิ นโยบาย ผลการวิจัยสังเคราะห์ข้อเสนอเชิงนโยบายเพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเปล่ียนแปลงด้าน ความมั่นคงทางอาหารในชมุ ชนเกษตร (ดงั ตาราง) ประกอบดว้ ย 3 เปูาหมายสาคญั ได้แก่ 1) เกษตรกรและสมาชิกในชุมชนให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสาคัญ ของการเสริมสร้างความม่ันคงทางอาหารของชุมชน และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการเรียนรู้สู่การ เปลี่ยนแปลงด้านความมัน่ คงทางอาหารในชุมชนเกษตร 2) ชุมชนมกี ลมุ่ หรอื คณะทางานที่เหน็ ความสาคัญและส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันของคน ในชมุ ชนเพื่อเสริมสรา้ งความมั่นคงทางอาหารท้ังในระดบั ครวั เรือนและชมุ ชนอยา่ งต่อเน่ืองในชมุ ชน 3) ชุมชนมีกลไกความร่วมมือในทุกระดับท่ีส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ การพัฒนาองค์ ความรู้ ให้คาปรกึ ษา และสนับสนุนการดาเนินงานต่าง ๆ เป็นเครือข่ายทั้งภายในและภายนอกชุมชน ในการสง่ เสรมิ การเรียนรู้เพือ่ การเปลี่ยนแปลงทีเ่ สริมสร้างความม่ันคงทางอาหารของชุมชน ตารางผลการสังเคราะห์ข้อเสนอเชงิ นโยบายเพอ่ื สง่ เสรมิ การเรยี นรู้ส่กู ารเปล่ียนแปลงด้าน ความมั่นคงทางอาหารในชมุ ชนเกษตร ผลจากการศึกษา รา่ งข้อเสนอเชิงนโยบาย (วตั ถุประสงค์ข้อที่ 1) ภูมิหลังของผู้นาและเกษตรกรเป็นปัจจัยท่ีมีผลต่อการเรียนรู้สู่ พัฒนาเกษตรกรและผู้มี การเปลยี่ นแปลงดา้ นความมัน่ คงทางอาหาร ส่วนเก่ียวข้องให้มีความรู้ ควรมีการรวบรวมและเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ที่ช่วย ความเข้าใจ ตระหนัก เสรมิ สร้างความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิดความมั่นคงทางอาหารให้เกษตรกร และมีส่วนร่วมในการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างต่อเน่ือง โดยเฉพาะอย่างย่ิงกรณีตัวอย่างของ เสริมสร้างความม่ันคง ความไม่มั่นคงทางอาหารท่ีเกิดข้ึนกับตัวเกษตรกร และความม่ันคงใน ทางอาหารของชุมชน อาชีพเกษตรกร โดยมีเน้ือหาเก่ียวกับความหมายและตัวช้ีวัดความม่ันคง อย่างตอ่ เน่ืองร่วมกนั ทางอาหาร ครอบคลุมทั้งความรู้เก่ียวกับสถานการณ์ แนวโน้ม และ

302 ผลจากการศึกษา รา่ งขอ้ เสนอเชิงนโยบาย ผลกระทบท่ีเกิดจากความไม่ม่ันคงทางอาหารโดยเฉพาะอย่างย่ิงในมิติ ของการเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ ความปลอดภัยด้านอาหารและ โภชนาการ และใส่ใจถงึ ทม่ี าของอาหารท่ที กุ คนบรโิ ภค การพึ่งตนเองด้าน อาหาร สิทธิในระบบอาหารทเ่ี ปน็ ธรรม และการเข้าถึงอาหารท่ีมีคุณภาพ ข้อมลู ขา่ วสารความรตู้ า่ ง ๆ ควรมรี ปู แบบท่หี ลากหลาย เช่น เอกสารสรุป ค่มู อื วดี ที ศั น์ เพื่อใช้เปน็ สื่อประกอบการประชุม การสนทนารว่ มกนั (วัตถุประสงค์ท่ี 3) ควรมีการจัดทาและเผยแพร่แบบประเมินตนเองด้าน ความม่ันคงทางอาหารซึ่งเป็นแบบประเมินเบ้ืองต้นที่มีข้อคาถามให้ผู้ทา แบบประเมินได้ทบทวนตนเองและควรออกแบบสาหรับกลุ่มคนท่ี หลากหลาย เช่น แบบประเมินตนเองด้านความม่ันคงทางอาหารสาหรับ เกษตรกร แบบประเมินตนเองสาหรับลูกหลานเกษตร แบบประเมิน ตนเองสาหรบั ผูบ้ ริโภคสินค้าเกษตร เป็นต้น เพือ่ นามาเปน็ แนวทางในการ ตั้งคาถามและสนทนารว่ มกัน (วตั ถปุ ระสงคท์ ี่ 1) พัฒนาผนู้ าชุมชนให้มีความสามารถในการจัดประชุมท่ี พัฒนาผู้นาหรือกลุ่มเพื่อ ส่งเสริมให้คนในชุมชนท้ังเกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้เกิดความ ส่งเสริมการเรียนรู้สู่การ สนใจท่ีจะเรียนรู้และดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ต้องให้ความสาคัญ เปลี่ยนแปลงด้านความ กับการส่งเสรมิ สนับสนุนให้เกษตรกรได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เปิด มน่ั คงทางอาหารในชุมชน โอกาสให้เกษตรกรได้ประเมินตนเอง เห็นช่องทางในการเรียนรู้และ เกษตรอยา่ งต่อเนอ่ื ง พฒั นาตนเองทา่ มกลางบทบาทใหม่ที่กาหนดขนึ้ ท้ังนี้การประชุมหรือการ สนทนาดงั กล่าวเกดิ ข้ึนได้ (วัตถุประสงค์ที่ 1 และ 3) การรวมตัวกันเป็นกลุ่มหรือคณะทางานเพื่อ แก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารของชุมชน มีส่วนสาคัญในการเพิ่ม ความม่ันใจในการเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้ พัฒนาตนเอง ดาเนินกิจกรรม ตา่ ง ๆ (วัตถุประสงค์ท่ี 3) พัฒนากลุ่มทางานร่วมกันดาเนินกิจกรรมดังกล่าว โดยเฉพาะ ดงั ท่มี ีข้อเสนอวา่ ควรเป็นผู้แทนฝาุ ยปกครอง เช่น ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อสม. เพราะมีบทบาทสาคัญในการจัดทาแผนชุมชน ผู้แทนจาก หน่วยงานภาครัฐที่จะช่วยให้คาแนะนาและให้ข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับ การเกษตร สุขภาพ เช่น เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจาตาบล

303 ผลจากการศกึ ษา รา่ งข้อเสนอเชิงนโยบาย ผู้แทนจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาวะตาบล ร่วมเป็นคณะทางาน จะ ช่วยสร้างความเช่ือมั่นให้กับเกษตรกรที่จะร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้และ นาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ิรว่ มกันอย่างตอ่ เนอื่ ง (วตั ถปุ ระสงคท์ ี่ 1 และ 3) การสนทนาเก่ียวกับสถานการณ์ความไม่ม่ันคงทางอาหารที่เกิดข้ึน ส่งเสริมกระบว นการ ในชุมชน จะช่วยทาให้ความคิด ความเชื่อ และบทบาทของเกษตรกรที่ เรียนรู้ที่ให้ความสาคัญ เก่ียวข้องกับประเด็นดังกล่าวได้รับการวิเคราะห์และสนทนาให้มีความ กับการเปลี่ยนแปลงมโน ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากย่ิงข้ึน และเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความ ทัศน์ด้านความม่ันคงทาง ตระหนักในการเรยี นรู้และพฒั นาตนเองของเกษตรกรในลาดบั ต่อไป อาหารของชุมชนเกษตร ประสบการณ์และภูมิหลังของเกษตรกร มีผลต่อการรับรู้และการ ทาความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิดและสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหาร ของชมุ ชน การส่งเสรมิ ให้เกษตรกรได้เรียนรู้อย่างต่อเน่ืองผ่านกิจกรรมกลุ่ม หรือชุมชน เป็นปัจจัยสาคัญท่ีมีผลต่อการตัดสินใจเข้าร่วมกิจกรรมท่ี สง่ เสรมิ การเรยี นรูเ้ พอื่ เสรมิ สร้างความมั่นคงทางอาหาร และมีส่วนสาคัญ ในการเสริมความมั่นใจให้กับเกษตรกรในการปรับเปล่ียนวิถีชีวิต ยอมรับ บทบาทใหม่จากมุมมองท่ีเปล่ียนไปและดาเนินกิจกรรมด้านความมั่นคง ทางอาหารมาอยา่ งตอ่ เน่อื ง (วตั ถุประสงคท์ ่ี 3) ควรมีหลักสูตรอบรม มีคู่มือ และส่ือสาหรับเกษตรกรที่สนใจ รวมกลุ่มกันเรียนรู้ประเด็นดังกล่าว เป็นแนวทางหรือกรณีตัวอย่างให้ได้ ไปศึกษาเพ่ือนามากาหนดแนวทางเรียนรู้ร่วมกัน เช่น ถ้าเป็นผู้นาชุมชน เป็นเกษตรกร หรือเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข จะมีแนวทางส่งเสริมการ เรียนร้อู ย่างไร เพราะกรณศี กึ ษาทีมอี ยู่ส่วนใหญ่จะเน้นไปว่าทาอย่างไรจึง สาเร็จ แต่ไม่มีรายละเอียดของข้ันตอน หรือประชุมควรเริ่มอย่างไร ตั้ง คาถามอะไร อะไรไมค่ วรถาม คล้ายกับหนังสอื ค่มู อื การจัดการเรยี นรู้ (วตั ถุประสงคท์ ี่ 1) ชุมชนทมี่ ีการดาเนนิ กจิ กรรมร่วมกันอย่างต่อเน่ืองเพื่อเสริมสร้าง สร้างกลไกความร่วมมือ ความมั่นคงทางอาหาร พบว่า ผู้นากลุ่ม ผู้นาชุมชน และสมาชิกได้รับการ ในทุกระดับท่ีส่งเสริมให้

304 ผลจากการศึกษา รา่ งข้อเสนอเชิงนโยบาย พัฒนาความรู้และความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างความมั่นคง เกิดการเรียนรู้และการ ทางอาหารมาอย่างตอ่ เนอ่ื ง และการสนับสนุนทางวิชาการจากหน่วยงาน เปลี่ยนแปลงเพ่ือนาไปสู่ องค์กร และสถานศึกษาต่าง ๆ ตรงกับปัญหาและความต้องการของ ความม่ันคงทางอาหาร เกษตรกร/สมาชกิ ลุ่ม/ชุมชน ของชุมชน ชุมชนท่ีสามารถเชื่อมโยงประเด็นความมั่นคงทางอาหารเข้ากับ นโยบายหรือแผนพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนได้ มีแนวโน้มท่ีโครงการหรือ กิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกับการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารจะได้รับการ ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ท้ังจากภายในและภายนอกชุมชน ควรสนับสนุนให้มีการสารวจและจัดทาระบบฐานข้อมูลที่ เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน และ ส่งเสริมให้มีการสารวจและนาข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการวิเคราะห์และ ประเมินสถานะความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน เพ่ือ นาไปใชใ้ นการวางแผนปฏิบัตกิ ารเพอ่ื เสรมิ สร้างความม่ันคงทางอาหารทั้ง ระดบั ครวั เรอื น ชุมชน และท้องถิน่ (วัตถุประสงค์ที่ 1 และ 3) สถาบันการศึกษาท้ังในระบบและนอกระบบโรงเรียน ควรให้ ความสาคัญกับการเช่ือมโยงประเด็นความมั่นคงทางอาหารกับรายวิชา พื้นฐานในหลักสูตรหรือกิจกรรมในโรงเรียน เช่น รู้วิธีปลูก รู้ที่มาของ อาหารกบั วิชาวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมให้นักเรียนได้มาเรียนรู้ในไร่ นา สวน กับพอ่ แม่ รู้จกั เลอื กทานอาหารปลอดภยั ถูกหลักโภชนาการ เป็นตน้ รัฐบาลควรให้ความสาคัญกับการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงาน องค์กรท่ีเก่ียวข้องในการพัฒนาความรู้ การวิจัย และ จดั การความรู้ในเร่ืองความมั่นคงทางอาหาร การรักษาเสถียรภาพในการ ผลิตอาหารอย่างยั่งยืนของชุมชนเกษตรกร เช่น การส่งเสริมให้มีการ คมุ้ ครองพน้ื ท่ีทาการเกษตร การจดั การทรพั ยากรอยา่ งยั่งยืน การส่งเสริม ให้เกษตรกรและประชาชนท่วั ไปมีความรู้ด้านความมั่นคงทางอาหาร เช่น การเข้าถึงอาหารและการพึ่งตนเองด้านอาหารในระดับครัวเรือนและ ชุมชน การเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ สิทธิในระบบอาหาร รวมไปถึงการ ให้ความรูแ้ ละการสง่ เสริมพฤตกิ รรมการบรโิ ภคทเ่ี หมาะสมในระดับบุคคล ครัวเรอื น และชมุ ชน

305 จากตารางข้างตน้ นามาส่รู า่ งขอ้ เสนอเชงิ นโยบายเพอื่ ส่งเสรมิ การเรยี นรสู้ กู่ ารเปล่ียนแปลง ดา้ นความมัน่ คงทางอาหารในชุมชนเกษตร แบ่งเปน็ 4 ด้าน ดงั นี้ ข้อเสนอเชิงนโยบายท่ี 1 ส่งเสริมเกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนัก และมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความม่ันคงทางอาหารของชุ มชนอย่างต่อเน่ือง ร่วมกัน ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายที่ 2 ส่งเสรมิ ให้มกี ลุ่มปฏิบัติการหรือคณะทางานเพ่ือสง่ เสริมการเรยี นรสู้ ู่การ เปลีย่ นแปลงดา้ นความมั่นคงทางอาหารในชมุ ชนเกษตรอย่างต่อเนื่อง ขอ้ เสนอเชงิ นโยบายที่ 3 สง่ เสรมิ กระบวนการเรียนรู้ท่ีให้ความสาคญั กับการเปล่ียนแปลงมโนทัศน์ ด้านความมั่นคงทางอาหารของชุมชนเกษตร ข้อเสนอเชงิ นโยบายท่ี 4 สรา้ งกลไกความรว่ มมือในทุกระดับท่สี ง่ เสริมใหเ้ กิดการเรยี นรู้และการ เปลีย่ นแปลงเพื่อนาไปสู่ความมั่นคงทางอาหารของชมุ ชน ในแต่ละขอ้ เสนอเชิงนโยบายจะสอบถามความคิดเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ส่วน คือ ความ สอดคล้องและความตรงกับเนื้อหาซึ่งเป็นข้อค้นพบจากการวิจัยในคร้ังนี้ และความเป็นไปได้ในทาง ปฏบิ ตั ขิ องขอ้ เสนอเชิงนโยบายและแนวปฏบิ ตั ขิ องร่างขอ้ เสนอเชงิ นโยบายท่จี ดั ทาขนึ้

306 ข้อเสนอเชิงนโยบายท่ี 1 ส่งเสริมเกษตรกรและผู้มีส่วนเก่ียวข้องให้มีความรู้ ความเข้าใจ เห็น ความสาคัญ และมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชน อย่างต่อเนอื่ งรว่ มกัน แนวปฏบิ ัติ 1.1 จัดทาส่ือเพื่อเผยแพร่แนวคิดพื้นฐานได้แก่ ความหมาย ตัวชี้วัด ตัวอย่างสถานการณ์ แนวโน้ม และผลกระทบท่ีเกิดจากความไม่มั่นคงทางอาหารในชุมชนเกษตร มีกรณีตัวอย่างของ สถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นกับเกษตรกรจากภูมิภาคและภูมินิเวศน์ต่าง ๆ เช่น ปัญหาอาหารไม่เพียงพอต่อ การบริโภคในชีวิตประจาวนั ปญั หาอาหารไม่ปลอดภัย ปัญหาหน้ีสินจากระบบเกษตรมุ่งผลิตเพื่อขาย โดยนาเสนอในรูปแบบที่หลากหลายเพ่ือง่ายต่อการเข้าถึง เช่น เอกสาร คู่มือ แผ่นพับ วีดีทัศน์ โปสเตอร์ และผ่านสถาบันต่าง ๆ ท่ีมีบทบาทสาคัญในชุมชน ได้แก่ ผู้นาชุมชน สถานศึกษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาตาบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมู่บ้าน เจ้าหน้าภาครัฐ หอ กระจายขา่ วชุมชน หรอื ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลนต์ า่ ง ๆ 1.2 มีการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับความสาเร็จของกลุ่มและชุมชนที่มีการเรียนรู้และ เสรมิ สร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนบนฐานของการพัฒนาความสามารถในการพึ่งตนเองและ จัดการตนเองด้านอาหารของครัวเรือนและชุมชน เพ่ือนาเสนอข้อมูลท่ีเป็นแนวทางปฏิบัติในการ เปล่ียนแปลงแบบแผนการผลิตและการบริโภค การเปล่ียนแปลงบทบาทและความสัมพันธ์ทางสังคม รวมทง้ั การจัดการทรัพยากรทั้งในระดับครวั เรือนและชุมชน 1.3 จัดให้มีแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้สาหรับเผยแพร่ชุดความรู้ ท่ีเป็นรูปธรรมและเป็น ประโยชน์ต่อการปรับเปล่ียนวิถีการผลิตและการบริโภคท่ีเก่ียวข้องกับการเข้าถึงอาหารท่ีมีคุณภาพ ความปลอดภัยด้านอาหารและโภชนาการ การพึ่งตนเองด้านอาหาร และสิทธิในระบบอาหารที่เป็น ธรรม โดยมีการจาแนกกรณีศกึ ษาเปน็ หมวดหมูใ่ ห้ง่ายต่อการเข้าถึงและนาไปใช้ เช่น จาแนกตามผู้นา การเปล่ียนแปลง เช่น กลุ่มเกษตรกร อสม. หรือผู้ใหญ่บ้าน ผู้นาท้องถิ่น หรือจาแนกตามมิติความ ม่ันคงทางอาหาร เช่น ผลกระทบจากการใช้ยาฆ่าหญ้าที่มีต่อสุขภาพ สิทธิเข้าถึงแหล่งอาหาร ความ ปลอดภัยในอาหาร และความไม่สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่ายในการผลิตพืชอาหารและพืช เศรษฐกิจ 1.4 สนับสนุนให้มีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจให้ผู้คนทั่วไปตระหนักว่า ปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารเป็นปัญหาท่ีเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกคนมีส่วนท้ังในการสร้างและ แก้ปญั หาเหลา่ น้นั เช่น ปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหารของเกษตรกร ท่ีสัมพันธ์กับความไม่ม่ันคงทาง อาหารและคุณภาพชีวิตของคนเมืองซึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ เช่น เรียนรู้ด้วยตนเองจากแผ่นพับ วีดี ทัศน์ หรอื เรียนร้จู ากการอบรม การประชุม การสัมมนาต่าง ๆ

307 1.5 ส่งเสริมให้มีการศึกษา พัฒนา และเผยแพร่แบบประเมินสถานะความมั่นคงทางอาหาร ด้วยตนเองในระดับบุคคล ระดับครัวเรือน ที่เหมาะสมกับสมาชิกในชุมชนเกษตรท่ีมีความแตกต่าง ในชว่ งวัยและบทบาทหน้าที่ทางสังคม ซึ่งเป็นแบบประเมินเบ้ืองต้นท่ีมีข้อคาถามให้ผู้ทาแบบประเมิน ได้ทบทวนตนเองและควรออกแบบสาหรับกลุ่มคนที่หลากหลาย เช่น แบบประเมินตนเองด้านความ มั่นคงทางอาหารสาหรับเกษตรกร แบบประเมินตนเองสาหรับลูกหลานเกษตร แบบประเมินตนเอง สาหรับผู้บริโภคสินค้าเกษตร เป็นต้น เพ่ือใช้แบบประเมินเป็นเคร่ืองมือในการเรียนรู้ ความเข้าใจ มุมมอง ความคิดเห็น เกี่ยวกับสถานการณ์ ก่อนจะนาไปสู่การศึกษาข้อมูลตัวชี้วัดความมั่นคงทาง อาหารซึ่งมีหลายหน่วยงานจัดทาและเผยแพร่ออกมาเพื่อนามาประกอบการวิเคราะห์และวางแผน ชมุ ชนต่อไป ผลการประเมนิ ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 1 1) มีความสอดคล้องและตรงกับเนื้อหา มีข้อพจิ ารณาและขอ้ คิดเห็น ดงั นี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรุปความเหน็ ทีป่ ระเมนิ มีความสอดคล้องและตรงกับเนือ้ หา คอื  มากทีส่ ดุ  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไมเ่ หมาะสม ควรแกไ้ ขเปน็ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… 2) มคี วามเป็นไปไดใ้ นทางปฏิบตั ิ มขี อ้ พจิ ารณาและข้อคดิ เหน็ ดงั นี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรุปความเหน็ ท่ปี ระเมนิ คือ  มากที่สดุ  มาก  ปานกลาง  น้อย  ไม่เหมาะสม ควรแก้ไข เป็น

308 …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติมอืน่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอเชิงนโยบายท่ี 2 ส่งเสรมิ ให้มกี ารพฒั นาผู้นาและต้งั คณะทางานเพ่ือส่งเสรมิ การเรียนรสู้ ู่ การเปลยี่ นแปลงดา้ นความม่ันคงทางอาหารในชุมชนเกษตรอย่างต่อเนื่อง แนวปฏบิ ตั ิ 2.1 กาหนดให้มีการสรรหาผู้แทนชุมชนเพ่ือเป็นคณะทางานในการส่งเสริมการเรียนรู้ รวม ประเมินและติดตามสถานการณ์ความม่ันคงทางอาหารของชุมชน คณะทางานควรประกอบด้วย ผู้ใหญบ่ า้ นและกรรมการหมู่บ้าน ผู้แทนจากองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน ผู้แทนจากส่วนงานราชการที่ เก่ียวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจาตาบล ผู้แทนจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาวะ ตาบล ครู เป็นต้น เพื่อเป็นคณะทางานส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงทาง อาหารในชุมชนเกษตร โดยคานึงถึงการวิเคราะห์ข้อมูลของบุคคล กลุ่ม องค์กรต่าง ๆ ในชุมชน เพื่อ กาหนดโครงสร้างของกลุ่มหรือองค์กรในการจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมกับบริบทของชุมชน ซ่ึงอาจ เชอ่ื มโยงกบั กลุ่มกิจกรรมทม่ี อี ย่เู ดิมหรอื ตัง้ คณะทางานข้นึ มาเฉพาะเพอ่ื ดาเนนิ การในประเดน็ ดงั กลา่ ว 2.2 ส่งเสริมบทบาทและพัฒนาศักยภาพคณะทางานเพื่อการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงเพื่อ ดาเนินกิจกรรมท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ของเกษตรกรและสมาชิกในชุมชนท่ีให้ความสาคัญของการ เสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน เช่น พัฒนาหลักสูตรอบรมเก่ียวกับ เทคนิคการสนทนากลมุ่ เพอ่ื การเปลีย่ นแปลงและการวางแผนเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารใน ระดับครอบครัวและชุมชน สร้างเครือข่ายการเรียนรู้เพ่ือเป็นช่องทางในการแลกเปล่ียน เรียนรู้ และ พัฒนาศกั ยภาพผู้แทนชมุ ชนและคณะทางานดังกล่าว 2.3 ศึกษาและพัฒนาคู่มือหรือแนวปฏิบัติสาหรับผู้นาและคณะทางานในการส่งเสริม กระบวนการเรยี นรู้ของเกษตรกรท่ีให้ความสาคัญกับการประชุมหรือการสนทนาเพื่อนาไปสู่การสร้าง ความตระหนักถงึ ความจาเป็นในการเปล่ียนแปลงตนเองและครอบครัวเพ่ือเสริมสร้างความม่ันคงทาง อาหารครอบครัวและชมุ ชน

309 ผลการประเมินข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 2 1) มีความสอดคล้องและตรงกับเนือ้ หา มีขอ้ พิจารณาและขอ้ คิดเหน็ ดงั นี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ความเหน็ ท่ีประเมิน มคี วามสอดคล้องและตรงกับเน้อื หา คือ  มากทีส่ ุด  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไมเ่ หมาะสม ควรแกไ้ ข เป็น …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… 2) มคี วามเปน็ ไปไดใ้ นทางปฏบิ ัติ มีขอ้ พิจารณาและขอ้ คิดเห็น ดงั นี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรุปความเห็นทป่ี ระเมิน คอื  มากท่ีสุด  มาก  ปานกลาง  น้อย  ไมเ่ หมาะสม ควรแกไ้ ขเป็น …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติมอื่น ๆ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………

310 ขอ้ เสนอเชิงนโยบายท่ี 3 ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ท่ใี ห้ความสาคัญกบั การเปล่ียนแปลงมโนทัศน์ ดา้ นความมั่นคงทางอาหารของชุมชนเกษตร แนวปฏิบัติ 3.1 ให้ความสาคัญกับการสร้างความตระหนักถึงความจาเป็นในการเปลี่ยนแปลงเพื่อ เสรมิ สร้างความม่นั คงทางอาหารทัง้ ในระดับครัวเรือนและชุมชน ว่าเป็นการเรียนรู้บนฐานของการทา ความเข้าใจในสถานการณ์ แนวโน้ม และผลกระทบท่จี ะเกิดจากความไม่มั่นคงทางอาหารร่วมกัน โดย เกษตรกรเปน็ ผปู้ ระเมนิ ตนเอง ผ่านการวิเคราะห์เชือ่ มโยงความคิด ความเช่ือ บทบาท และพฤติกรรม ในปจั จบุ นั ว่ามีความสัมพันธ์กับสถานการณ์ความไม่ม่ันคงทางอาหารหรือความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคง ทางอาหารในประเดน็ ใด เพอ่ื สร้างความตระหนกั ถงึ ความตอ้ งการจาเป็นในการเปล่ียนแปลง จากน้ัน จึงหาข้อสรุปร่วมกันเพ่ือกาหนดเปูาหมายที่พึงประสงค์ว่าจะเปล่ียนแปลงสถานการณ์ดังกล่าว และ นาไปสู่การพิจารณาทางเลือกและแนวปฏิบัติใหม่ของเกษตรกรเพื่อนาไปสู่สถานการณ์ดังกล่าวได้ ชัดเจนข้ึน 3.2 มีการศึกษาและเผยแพร่แนวทางการจัดสภาพแวดล้อมท่ีเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้ ประเมินตนเอง ยอมรับความเชื่อ และพร้อมเรียนรู้และพัฒนาตนเองท่ามกลางบทบาทใหม่ท่ีกาหนด ขนึ้ เปน็ การสนทนาทเี่ ปดิ โอกาสให้เกษตรกรได้รบั ร้แู ละเข้าใจถึงสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหาร ที่เกิดข้ึน ผ่านการวิเคราะห์เชื่อมโยงกับประสบการณ์ของเกษตรกรในระดับปัจเจกและครัวเรือนท่ี เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ภายในบริบทชุมชน ณ ขณะน้ันที่มีผลต่อสถานการณ์ความไม่ม่ันคงทางอาหารที่ เกดิ ข้นึ เชน่ ค่มู ือการจัดประชมุ หรือสนทนากลุ่ม 3.3 ส่งเสริมให้เกษตรกรได้เรียนรู้ต่อเน่ืองผ่านกิจกรรมกลุ่มหรือชุมชนในลักษณะของการ เป็นเพ่ือนร่วมทางเรียนรู้และปฏิบัติการ โดยมีการกาหนดเปูาหมายของการเรียนรู้ บทบาทของ สมาชิกในการทากิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันในระดับกลุ่มหรือคณะทางานระดับชุมชน กาหนดเงื่อนไข และข้อตกลงทท่ี าให้สมาชิกได้แลกเปล่ียนและรับฟังความรู้ ข่าวสาร ข้อมูล ความคิดเห็นต่าง ๆ อย่าง ต่อเนื่อง รวมทั้งกระบวนการที่ทาให้เกษตรกรได้แลกเปล่ียน รับฟัง และร่วมกันหาแนวทางเพ่ือ แก้ปัญหาท่ีเกิดข้ึนระหว่างการดาเนินตามแผนของครัวเรือนและชุมชน ในบรรยากาศของการ ช่วยเหลือพงึ่ พาอาศยั กันและกัน 3.4 พัฒนาระบบและกลไกการใหค้ าแนะนาปรึกษารายครัวเรือนเกี่ยวกับการจัดการระบบ การผลิตและการบริโภคภายในครัวเรือนท่ีทาให้เกษตรกรเห็นแนวทางในการเรียนรู้ การปฏิบัติ และ ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกษตรกรรายย่อยท่ีมีภาวะหนี้ สิน ครัวเรือนและมีความจาเป็นในการใช้จ่ายทั้งด้านการศึกษาของลูกหลานหรือการเพาะปลูกในรอบ ถัดไป เช่น จัดให้มีการประชุมหรือการสนทนาในการวิเคราะห์สถานการณ์และการแสวงหาทางเลือก

311 โดยมีผู้เชียวชาญท้ังด้านความมั่นคงทางอาหาร ด้านการเกษตร ด้านสุขภาพ และด้านการศึกษาร่วม อย่ใู นการประชมุ หรอื การสนทนา ผลการประเมินข้อเสนอเชงิ นโยบายท่ี 3 1) มีความสอดคล้องและตรงกับเนอ้ื หา มขี ้อพิจารณาและข้อคิดเหน็ ดงั นี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ความเห็นทปี่ ระเมนิ มคี วามสอดคล้องและตรงกับเน้ือหา คอื  มากที่สดุ  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไม่เหมาะสม ควรแก้ไขเปน็ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… 2) มคี วามเป็นไปไดใ้ นทางปฏิบตั ิ มีข้อพจิ ารณาและขอ้ คดิ เห็น ดงั น้ี …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ความเหน็ ทป่ี ระเมิน คือ  มากทสี่ ดุ  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไม่เหมาะสม ควรแก้ไข เป็น …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอืน่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………

312 ข้อเสนอเชิงนโยบายที่ 4 สร้างกลไกความรว่ มมอื ในทกุ ระดบั ท่ีส่งเสริมให้เกิดการเรียนรูแ้ ละการ เปล่ียนแปลงเพ่ือนาไปสคู่ วามมน่ั คงทางอาหารของชุมชน แนวปฏบิ ัติ 8.1 พัฒนาระบบฐานข้อมูลและสารสนเทศท่ีเก่ียวข้องกับความมั่นคงทางอาหารในระดับ ครัวเรือนและชุมชน และส่งเสริมให้มีการสารวจและนาข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการวิเคราะห์และ ประเมินสถานะความม่ันคงทางอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน เพ่ือประกอบการวางแผน ปฏบิ ตั กิ ารเพ่ือเสรมิ สรา้ งความม่นั คงทางอาหารท้ังระดับครัวเรือน ชุมชน และทอ้ งถน่ิ ต่อไป 8.2 กาหนดให้ประเด็นความม่ันคงทางอาหารเป็นประเด็นสาคัญท่ีควรระบุในนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือแผนพัฒนาท้องถ่ินและชุมชน เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาโครงการหรือกิจกรรมท่ี เก่ียวข้องกับการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซ่ึงเอ้ือต่อการเข้าถึงการสนับสนุนทั้งด้าน งบประมาณและทรพั ยากรจากภายในและภายนอกชุมชน 8.3 สารวจความรู้และพฤติกรรมที่เส่ียงต่อความไม่มั่นคงทางอาหารของประชาชนในกลุ่ม ต่าง ๆ เพื่อกาหนดแนวทางในการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านความมั่นคงทางอาหารได้สอดคล้องกับ สถานการณ์ และการสง่ เสริมพฤติกรรมการบริโภคท่ีเหมาะสมในระดบั บุคคล ครัวเรอื น และชุมชน 8.4 สร้างเครือข่ายสนับสนนุ ทางวิชาการ ประกอบด้วยหน่วยงาน องค์กร และสถานศึกษา ต่าง ๆ โดยคานึงถึงปัญหาและความต้องการของชุมชนเกษตร เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อ ประเมินสถานะความม่ันคงทางอาหารของชุมชน การให้ความรู้และสนับสนุนเทคโนโลยีในการการ เพิ่มผลติ ภาพการผลติ ในระบบเกษตรกรรมยง่ั ยนื การจัดการทรพั ยากรดินและน้า การจัดการตลาดท่ี เป็นธรรม การฟื้นฟู ปรบั ปรุง และพฒั นาพันธุพ์ ืช 8.5 ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน มีบทบาทในการ เช่ือมโยงประเด็นความม่ันคงทางอาหารเข้ากับรายวิชาพ้ืนฐานในหลักสูตรหรือกิจกรรมในโรงเรียน เช่น รู้วิธีปลูก รู้ที่มาของอาหารกับวิชาวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมให้นักเรียนได้มาเรียนรู้ในไร่ นา สวนกับ พอ่ แม่ รูจ้ ักเลือกทานอาหารปลอดภัยถูกหลกั โภชนาการ เปน็ ต้น 8.6 ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน องค์กรท่ีเก่ียวข้องในการพัฒนาความรู้ การวิจัย และจัดการความรู้ในเร่ืองความม่ันคงทางอาหาร การรักษาเสถียรภาพในการผลิตอาหาร อย่างยั่งยืนของชุมชนเกษตรกร เช่น การส่งเสริมให้มีการคุ้มครองพ้ืนที่ทาการเกษตร การจัดการ ทรพั ยากรอย่างยงั่ ยนื 8.7 สง่ เสริมใหเ้ กษตรกรและประชาชนทั่วไปมีความรู้ด้านความมั่นคงทางอาหาร เช่น การ เขา้ ถึงอาหารและการพ่ึงตนเองด้านอาหารในระดับครัวเรือนและชุมชน การเข้าถึงอาหารท่ีมีคุณภาพ สทิ ธใิ นระบบอาหาร รวมไปถงึ การใหค้ วามรู้และการส่งเสรมิ พฤตกิ รรมการบริโภคที่เหมาะสมในระดับ บุคคล ครวั เรอื น และชมุ ชน

313 ผลการประเมนิ ข้อเสนอเชงิ นโยบายท่ี 4 1) มีความสอดคล้องและตรงกับเนอ้ื หา มีข้อพิจารณาและข้อคิดเหน็ ดังนี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรุปความเห็นทป่ี ระเมิน มคี วามสอดคล้องและตรงกับเนอ้ื หา คือ  มากทส่ี ุด  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไมเ่ หมาะสม ควรแกไ้ ขเปน็ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… 2) มีความเปน็ ไปไดใ้ นทางปฏิบัติ มขี ้อพจิ ารณาและข้อคดิ เหน็ ดังนี้ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… สรปุ ความเห็นทป่ี ระเมนิ คอื  มากท่ีสดุ  มาก  ปานกลาง  นอ้ ย  ไม่เหมาะสม ควรแกไ้ ขเปน็ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ คิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ อน่ื ๆ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ทัง้ น้ผี ้วู ิจัย ขอความอนุเคราะหร์ บั ผลการประเมนิ ฯ กลบั ด้วยตนเอง ขอขอบพระคุณทา่ นผู้ทรงคุณวุฒทิ กุ ทา่ น ที่ใหค้ วามอนเุ คราะห์เสนอขอคิดเห็นและขอเสนอแนะอันมีคา่ ยิง่ ผู้วจิ ัย

314 ภาคผนวก จ ภาพกจิ กรรมการลงพื้นทีศ่ ึกษาชุมชน

315 ภาพกจิ กรรมตามวัตถุประสงคท์ ่ี 1 การศกึ ษากระบวนการสง่ เสริมการเรียนรู้ของชมุ ชนตน้ แบบทนี่ าไปสกู่ ารเปล่ยี นแปลงด้านความ มน่ั คงทางอาหารในชุมชน

316

317 ประวัติผเู้ ขียนวิทยานิพนธ์ นางสาวพรรณภัทร ปลั่งศรีเจริญสุข เกิดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พุทธศักราช 2522 ท่ี ประวัติผูเ้ ขยี นวิทยา นพิ นธ์ กรุงเทพมหานคร สาเร็จการศึกษาระดับปริญญาบัณฑิต สังคมสงเคราะห์ศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปีการศึกษา 2543 จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษา และ สาเร็จการศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนาสังคม คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2551 และได้เข้าศึกษาต่อระดับดุษฎีบัณฑิต ภาควิชา การศึกษาตลอดชีวิต คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เม่ือปีการศึกษา 2554 ปัจจุบัน เป็นอาจารย์ประจาภาควชิ าการศกึ ษาตลอดชวี ิต คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook