Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รูปเล่มรายงานการอบรม สพม.หลักสูตร 3

รูปเล่มรายงานการอบรม สพม.หลักสูตร 3

Published by suwanna_dang, 2022-07-04 23:20:53

Description: รูปเล่มรายงานการอบรม สพม.หลักสูตร 3

Search

Read the Text Version

1



แบบรายงานสรุปผลการอบรม หลกั สูตรท่ี 3 นวัตกรรมการเรียนรู้ สูท่ กั ษะอาชีพ โครงการพัฒนาการจัดการเรยี นรู้ทั้งระบบสกู่ ารเตรียมผ้เู รียนให้มที ักษะที่จำเปน็ สำหรับศตวรรษที่ 21 โดยศูนยฝ์ ึกอบรมพฒั นาบุคลากรดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยี (Digital Training Center : DTC) สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษามหาสารคาม ระหว่างวันที่ 7 – 8 สงิ หาคม 2564 เรียน ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นเขวาทุ่ง ด้วยข้าพเจา้ นางสวุ รรณา เทพนนท์กลาง ตำแหนง่ ครู โรงเรยี นบ้านเขวาท่งุ สังกดั สำนกั งาน เขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 2 ได้เข้ารับการอบรมใน รปู แบบออนไลน์ หลักสตู รที่ 3 นวตั กรรมการเรยี นรู้ สูท่ กั ษะอาชีพ ตามโครงการพฒั นาการจัดการ เรยี นรทู้ ง้ั ระบบสู่การเตรยี มผู้เรียนให้มที กั ษะทจ่ี ำเปน็ สำหรบั ศตวรรษที่ 21 จำนวน 20 ชว่ั โมง โดยจดั อบรมระหว่างวนั ท่ี 7 – 8 สงิ หาคม 2564 ดงั น้ี รายชื่อวิทยากร 1. ดร.กรนันท์ วรรณทวี และคณะ (สำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษามหาสารคาม) 2. ดร.ฐติ ารีย์ วิลัยเลศิ (สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษามหาสารคาม) 3. ดร.นงลกั ษณ์ มีแก้ว (สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษามหาสารคาม) 4. ดร.วชิ ยั ลาธิ (โรงเรยี นโพนงามพิทยานกุ ลู สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา มหาสารคาม) 5. นางสาวสทุ ธญาณ์ จำปาทอง (โรงเรยี นโนนราษีวิทยา สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา มัธยมศึกษามหาสารคาม)

บดั นี้ ขา้ พเจ้าไดด้ ำเนินการกิจกรรมดงั กล่าวเรยี บร้อยแลว้ จึงขอรายงานสรุปผลการอบรมใหท้ ราบดงั น้ี 1. ความร้คู วามสามารถ ประสบการณ์ ทกั ษะ หรืออ่นื ๆ ทไี่ ดร้ ับในการอบรมนำมาเพอ่ื พฒั นางานของหนว่ ยงาน ดังนี้ 1) การพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษาใหส้ อดคล้องกับการส่งเสริมอาชพี ผเู้ รยี น 2) การจัดการเรียนรโู้ ดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project – การพฒั นาหลกั สตู ร สถานศกึ ษาให้สอดคล้องกบั การส่งเสรมิ อาชีพผู้เรียนbased learning) และปญั หาเป็นฐาน (Problem – based learning) สู่การพัฒนาทักษะอาชีพ 3) Design Thinking กับการพฒั นาผู้เรยี นให้เปน็ ผู้ประกอบการร่นุ เยาว์ (Young Entrepreneur) 2. รปู แบบการอบรม 1) ผเู้ ขา้ อบรมต้องสมัครสมาชิกของศนู ยฝ์ ึกอบรมพฒั นาบุคลากรด้านนวัตกรรมและ เทคโนโลยี (Digital Training Center : DTC) ของสำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา มหาสารคาม ผา่ นเว็บไซต์ https://dtc.ses26.go.th 2) เขา้ อบรมออนไลน์ โดยใช้ แอปพลิเคชั่น Webex การบรรยาย โดยมีเอกสารการ สัมมนาเชงิ ปฏิบัติการ มีการทดสอบก่อนอบรม - หลังการอบรม มกี ารส่งงานผ่านระบบ DTC บน เวบ็ ไซต์ https://dtc.ses26.go.th และมกี ารทำแบบประเมินความพึงพอใจหลังการอบรม 3) วิทยากรบรรยายโดยใชส้ ือ่ คอมพวิ เตอร์โปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 4) ผูเ้ ขา้ อบรมสามารถสอบถามปญั หา และแนวทางการปฏบิ ัตงิ าน โดยวทิ ยากรให้ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการปฏบิ ัติในทางที่ถูกต้อง ผ่านช่องแชทของ แอปพลเิ คชนั่ Webex และ Line กลุ่ม DTC 3. การเผยแพร่ความรู้ ประสบการณ์ ทกั ษะ และอ่นื ๆ แกผ่ ทู้ ่ีเกี่ยวข้อง คอื 3.1. การจดั การเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project – based learning) และปญั หา เปน็ ฐาน (Problem – based learning) สกู่ ารพฒั นาทกั ษะอาชพี 1) การพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษาใหส้ อดคล้องกับการส่งเสรมิ อาชพี ผู้เรียน 2) การจดั การเรยี นรู้โดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน (Project – based learning) และ ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem – based learning) สกู่ ารพฒั นาทกั ษะอาชพี ๓) Design Thinking กับการพฒั นาผู้เรยี นใหเ้ ป็นผปู้ ระกอบการร่นุ เยาว์ (Young Entrepreneur) 3.2. นำผลการอบรม มาปรับในการจัดการเรียนรู้โดยใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน (Project – based learning) และปัญหาเปน็ ฐาน (Problem – based learning) สกู่ ารพฒั นาทกั ษะอาชีพให้มี ประสทิ ธิภาพ มที ักษะกระบวนการคิด Design Thinking กับการพัฒนาผู้เรยี นให้เปน็ ผปู้ ระกอบการรุ่นเยาว์ เพื่อพัฒนาผ้เู รียนไปพร้อมกับการพัฒนางานในหนา้ ท่ีใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ ต่อทางราชการ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณา (นางสวุ รรณา เทพนนทก์ ลาง)

ภาคผนวก

เกยี รตบิ ตั ร



ภาพกิจกรรม

รายงานการอบรมออนไลน์ โปสเตอรป์ ระชาสมั พันธ์การอบรม และตารางการอบรม

รายงานการอบรมออนไลน์ ฐานข้อมลู ในระบบ DTC บนเวบ็ ไซต์ https://dtc.ses26.go.th

รายงานการอบรมออนไลน์ ภาพกิจกรรมระหว่างการเขา้ ร่วมการอบรม

รายงานการอบรมออนไลน์ ภาพกิจกรรมระหว่างการเข้าร่วมการอบรม

รายงานการอบรมออนไลน์ ภาพกิจกรรมระหวา่ งการเขา้ ร่วมการอบรม

รายงานการอบรมออนไลน์ ภาพกจิ กรรมระหวา่ งการเข้าร่วมการอบรม

ตวั อยา่ ง กจิ กรรมโครงงานเปน็ ฐาน (Project-based Learning : PBL)

PBL Project-based Learning ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เรอ่ื ง สะอาดได้ไรส้ ง่ิ เจอื ปน สำนักงานคณะกรรมการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ข ก คำนำ การพัฒนาทรัพยากรมนุษยเ์ ปน็ กลไกที่สำคัญยิ่งในการนำประเทศเข้าสู่สังคมโลกและเป็น ประเด็นหลักที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 เพื่อเตรียมความ พร้อมและรู้เท่าทันต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่มีพลวัตการแข่งขันอย่างเสรีและไร้ พรมแดน เพอ่ื ตอบสนองความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ทีร่ องรับอนาคต มุ่งเน้น การวจิ ัย มเี ปา้ หมายเพื่อพฒั นาคนไทยในทกุ มติ ิและในทุกช่วงวยั ให้เปน็ คนดี คนเกง่ และมีคณุ ภาพ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาจึงได้จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 -2579 ข้นึ เพ่อื วางกรอบเปา้ หมายและทิศทางการจัดการศึกษาของประเทศโดยมุ่งจดั การศึกษาให้คนไทย ทุกคนซ่ึงสอดคลอ้ งกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน มคี วามมุ่งม่นั ในการขบั เคล่ือน การเรียนรู้ของนักเรียนในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นไปที่ 3 Rs ได้แก่ การอ่าน (Reading), การเขียน (Writing) และคณิตศาสตร์ (Arithmetic) และ 8Cs ได้แก่ ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปัญหา(Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรมต่างกระบวน ทัศน์ (Cross–cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมือการทำงานเป็นทีมและภาวะ ผู้นำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสื่อสารสารสนเทศและการ รู้เท่าทันสื่อ(Communications, Information and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพและ ทักษะการเรียนรู้(Career and Learning Skills) และความมีเมตตา กรุณา มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม (Compassion) รวมถึงการพัฒนาครูที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนมาเป็นผู้สร้างครูรุ่น ใหม่อย่างเปน็ ระบบ และวดั ผลงานจากการพฒั นาผูเ้ รียนโดยตรง ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนโดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-based Learning : PBL) เป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยศาสตร์พระราชา กระบวนเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและเปิดโลกทัศน์มุมมองร่วมกันของผู้เรียนและครู ด้วยการจดั การเรียนการสอนทเี่ นน้ ทกั ษะต่าง ๆ ดังทกี่ ล่าวมา เกิดการเรยี นรู้ตลอดเวลา และตลอด ชีวิต โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการ แกป้ ัญหา จนไดช้ ้นิ งานท่หี ลากหลายทงั้ ท่เี ปน็ ตน้ แบบและใช้งานไดจ้ รงิ ทำให้ผเู้ รยี นเกิดองค์ความรู้ และประสบการณ์ท่แี ปลกใหม่ ผ้จู ดั ทำหวงั ว่าคมู่ ือการจัดการเรยี นการสอบแบบโครงงานเปน็ ฐาน PBL เรอื่ ง สะอาดได้ไร้ สิ่งเจือปนเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ และผู้ที่ต้องการจะศึกษาค้นคว้าทุก ๆ ท่านได้อย่าง แท้จริง คณะผู้จดั ทำ

ข สารบญั เร่ือง หนา้ คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………… ก สารบัญ…………………………………………………………………………………………………………………… ข สารบญั ภาพ.................................................................................................................... ....... ง สารบัญตาราง.................................................................................................................. ...... จ ปกกิจกรรมโครงงานเป็นฐาน................................................................................................. 1 คำชีแ้ จงสำหรับคร.ู ................................................................................................................ 2 การวเิ คราะห์สถานการณป์ ัญหา………………………………………………………………………………… 7 สถานการณ…์ ………………………………………………………………………………………………………….. 9 กจิ กรรมที่ 1 วิเคราะหป์ ญั หาจากสถานการณ์…………………………………………………………...... 10 การตั้งชื่อเรื่องโครงงาน PBL ……………………………………………………………………………….….... 11 กิจกรรมท่ี 2 การตง้ั ช่อื เรอ่ื งของโครงงาน PBLจากสถานการณ.์ ............................................ 12 กจิ กรรมที่ 3 การตั้งวตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน PBLจากสถานการณ.์ .................................... 13 การต้งั สมมตฐิ านและระบุตัวแปร........................................................................................... 14 กิจกรรมที่ 4 การต้งั สมมตฐิ านและการกำหนดตัวแปรท่ีเก่ียวข้อง.......................................... 16 กิจกรรมท่ี 5 การศึกษาเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง............................................................................. 18 กจิ กรรมที่ 6 วิธดี ำเนินการ...................................................................................................... 21 กิจกรรมที่ 7 การประดษิ ฐช์ ิ้นงาน........................................................................................... 25 กิจกรรมที่ 8 ผลการทดสอบประสทิ ธิภาพช้นิ งาน.................................................................. 26 การสรปุ ผลการศกึ ษา.............................................................................................................. 27 กจิ กรรมที่ 9 สรุปผลการดำเนินงาน....................................................................................... 28 การอภปิ รายผลการดำเนนิ งาน............................................................................................... 29 กจิ กรรมท่ี 10 การอภิปรายผลการดำเนินงาน........................................................................ 30 กิจกรรมท่ี 11 ประโยชน์และขอ้ เสนอแนะที่ไดร้ บั จากการทำโครงงาน PBL.......................... 32 การเขียนเอกสารอา้ งองิ .......................................................................................................... 33 กิจกรรมท่ี 12 การเขยี นเอกสารอ้างอิง................................................................................... 35 การเขยี นบทคดั ย่อโครงงาน.................................................................................................... 36 กจิ กรรมท่ี 13 การเขียนบทคัดยอ่ .......................................................................................... 37 การนำเสนอผลงานโครงงาน PBL........................................................................................... 38

ค สารบญั (ตอ่ ) การประเมนิ สภาพความสำเร็จของนักเรยี นกับการเรยี นรแู้ บบโครงงาน................................. 39 ตวั อย่างแบบประเมนิ โครงงาน................................................................................................ 40 กจิ กรรมท่ี 14 การนำเสนอผลงานและประเมินผลโครงงาน PBL .......................................... 42 คณะทำงาน..................................................................................................................... .......

ง สารบัญภาพ เรื่อง หนา้ ภาพท่ี 1 วิธกี ารเก็บเกีย่ วข้าวโดยใชร้ ถสีข้าว ......................................................................... 4 ภาพที่ 2 วธิ ีการคัดแยกส่ิงเจือปนโดยใชแ้ รงงานคน .............................................................. 4 ภาพท่ี 3 วธิ กี ารแยกสิง่ เจือปนโดยใชแ้ รงงานคน ................................................................... 4 ภาพท่ี 4 การออกแบบอปุ กรณด์ กั จับคราบนำ้ มนั จากเส้นใยพชื ........................................... 16

จ สารบญั ตาราง เร่ือง หน้า ตารางท่ี 1 ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง.................................................................................. 26

1 กจิ กรรมโครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning : PBL) 1. โครงงานเรือ่ ง ............................................................................................................................. ...………………………………………… ……………………………………………………………………… 2. ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี............................................................................... 3. กลมุ่ ที่............................................................................................................................ 4. สมาชกิ 4.1 ชอ่ื ........................................................................................เลขท.่ี .................... 4.2 ชอื่ ........................................................................................เลขท.่ี .................... 4.3 ช่ือ........................................................................................เลขท.่ี .................... 4.4 ชอ่ื ........................................................................................เลขท.่ี .................... 4.5 ช่ือ........................................................................................เลขท.ี่ .................... 5. ครูท่ีปรึกษา 5.1 ชอ่ื ..................................................................................................................... .. 5.2 ช่ือ....................................................................................................................... 5.3 ช่ือ..................................................................................................................... .. โรงเรียน................................................................................................................ อำเภอ.............................................จังหวดั ......................................................... สงั กัดสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา.................................เขต..... สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

2 คำชีแ้ จงสำหรับครู กจิ กรรมการเรียนการสอนโดยใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning : PBL) เรื่อง สะอาดได้ไร้ สิ่งเจือปน เล่มนี้มีจุดมุ่งหมายจัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนตามศาสตร์ พระราชาโดยใช้หลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่จะสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะที่ พึงประสงค์ และสมรรถนะที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ โดยกิจกรรมการเรียนรู้ได้รบั การออกแบบตามแนวทางการจัดการเรยี นรโู้ ดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ด้วยกระบวนเรียนรู้แบบ Active Learning ซึ่งมีองค์ประกอบของการจัดกิจกรรมและกระบวนการจัดกิจกรรม ดงั น้ี 1. กิจกรรมการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ยกิจกรรม 14 กิจกรรม ดงั น้ี กิจกรรมที่ 1 วเิ คราะห์ปญั หาจากสถานการณ์ กจิ กรรมที่ 2 การตั้งชื่อเร่อื งของโครงงาน PBLจากสถานการณ์ กิจกรรมท่ี 3 การตั้งวัตถุประสงคข์ องโครงงาน PBLจากสถานการณ์ กจิ กรรมท่ี 4 การตงั้ สมมตฐิ านและการกำหนดตัวแปรที่เก่ียวขอ้ ง กจิ กรรมท่ี 5 การศึกษาเอกสารท่ีเกย่ี วข้อง กิจกรรมท่ี 6 วิธดี ำเนนิ การ กจิ กรรมที่ 7 การประดิษฐ์ชน้ิ งาน กิจกรรมที่ 8 ผลการทดสอบประสิทธิภาพชิน้ งาน กิจกรรมที่ 9 สรุปผลการดำเนินงาน กจิ กรรมที่ 10 การอภิปรายผลการดำเนนิ งาน ประโยชน์และขอ้ เสนอแนะของโครงงาน กิจกรรมท่ี 11 ประโยชนแ์ ละขอ้ เสนอแนะท่ีไดร้ ับจากการทำโครงงาน PBL กิจกรรมที่ 12 การเขียนเอกสารอ้างองิ กจิ กรรมที่ 13 การเขียนบทคัด กจิ กรรมที่ 14 การนำเสนอผลงานและประเมนิ ผลโครงงาน PBL 2. ใหน้ กั เรียนฝึกปฏิบตั ิตามลำดับขัน้ ตอนดงั น้ี 2.1 อ่านคำชแ้ี จงก่อนทำกิจกรรมในแต่ละเร่ือง 2.2 ศกึ ษารายละเอยี ดของใบกิจกรรมแต่ละเรื่องก่อนลงมือปฏิบตั ทิ กุ คร้งั 2.3 ปฏิบัตติ ามคำส่งั ในกิจกรรมทกุ ข้อพร้อมบนั ทึกผลทเ่ี กิดขึ้น 2.4 เม่อื เสร็จกิจกรรมแล้ว ครูและนักเรียนและครรู ่วมกนั อภิปราย และรว่ มกนั ประเมนิ ผลงาน และ บันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนนด้านความรู้ ทักษะ คุณลกั ษณะและสมรรถนะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 3 2.5 ทำแบบทดสอบหลังเรยี น 2.6 ตรวจคำตอบแบบทดสอบจากเฉลยทา้ ยเล่ม บันทกึ คะแนนท่ีไดล้ งในแบบบันทึกคะแนนและสรปุ คะแนนส่งครู

3. วสั ดุอุปกรณท์ ี่ครูตอ้ งจดั เตรยี มในแต่ละกลมุ่ 1. กรรไกร จำนวน 1 อนั 2. ไมบ้ รรทดั จำนวน 1 อัน 3. คดั เตอร์ จำนวน 1 อัน 4. กาวลาแทก็ ซ์นาดกลาง จำนวน 1 ขวด 5. ดนิ สอ จำนวน 4 แท่ง 6. ยางลบ จำนวน 1 อนั 7. กบเหลาดนิ สอ จำนวน 1 อัน 8. ปากกาเคมี 3 สี (แดง ดำ นำ้ เงนิ ) จำนวน 3 แทง่ 9. เทปใสนาดกลาง จำนวน 2 มว้ น 10. แล็กซนี 1 นิว้ คละสี จำนวน 2 มว้ น 11. กระดาษปร๊ฟู ขาว (กลุ่มละ 8 แผ่น) จำนวน 8 แผ่น 12. ดินสอสไี ม้ 12 สี จำนวน 1 กล่อง 13. สตกิ๊ เกอรโ์ นต๊ คละสี จำนวน 3 ห่อ 14. ปืนกาวเล็ก จำนวน 1 อัน 15. กาวแท่ง จำนวน 15 แทง่ 16. มอเตอร์ DC Motor 3-6 V กลม ขนาดเลก็ จำนวน 1 ตวั 17. ขวดนำ้ พลาสติก ขนาด 1.5 ลติ ร ขนึ้ ไป จำนวน 1 ใบ 18. กระปุกพลาสติก ทรงสีเ่ หล่ยี มมีฝาปิด (ชุดอ่อน) จำนวน 1 อนั 19. สวิตซ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 2 ขา เปิด ปิด 12 V จำนวน 1 ตวั 20. ตาข่ายไนล่อน จำนวน 1 มว้ น 21.ขั้วถา่ น 9 V พร้อมสาย จำนวน 1 อัน 22. ถ่าน PANASONIC 9V MANGANESE 6F22 battery จำนวน 1 กอ้ น 23. ถ่านขนาด AA จำนวน 8 ก้อน 24. รางถ่าน AA 8 ช่อง จำนวน 1 ชุด 25. ใบพัดพลาสติกแบบ 3 ใบ จำนวน 1 อัน 26. ใบพัดพลาสตกิ แบบ 2 ใบ จำนวน 1 อัน 27. ฝาขวดนำ้ จำนวน 1 อนั 28. กระป๋องน้ำอดั ลม จำนวน 1 กระป๋อง 4. เวลาทใี่ ช้ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 40 ช่ัวโมง 4 ข้อควรปฏิบตั ิสำหรับครใู นการจดั การเรยี นรู้โดยใช้โครงงานเปน็ ฐาน

ครตู อ้ งดำเนนิ การปรบั การจดั การเรยี นรู้ 6 ขัน้ ตอนใหม้ คี วามเหมาะสมกบั บรบิ ทของสถานศกึ ษา และ ลกั ษณะของผูเ้ รยี น โดยมีข้นั ตอนดังนี้ 1. Define จัดการเรียนรูเ้ พ่ือม่งุ เนน้ ให้ผู้เรยี นค้นพบแรงบันดาลใจ รับรู้ และเข้าใจปญั หาใกลต้ ัว โดยครูมี บทบาทเปน็ ผสู้ รา้ งแรงบันดาลใจ (inspirer) ใชค้ ำถามขับเคล่ือนกระบวนการเรยี นรู้ (Driving question) กระต้นุ และสรา้ งแรงจงู ใจในการเรยี น (feed up) กระบวนการคิดเชงิ ออกแบบ (design thinking) รว่ มกับการสะท้อนผล (reflection) 2. Plan จดั การเรยี นรูเ้ พ่ือมุง่ เน้นให้ผเู้ รยี นวางแผนแก้ปญั หาดว้ ยตนเอง โดยครูมบี ทบาทเปน็ ผอู้ ำนวย ความสะดวก (facilitator) หรือทีป่ รกึ ษา (mentor)หรือโคช้ (coach) โดยบทบาทของครูต้องปรับให้ เหมาะกบั บริบทของสถานศึกษา และความแตกตา่ งของผูเ้ รียน ใช้การใหแ้ รงเสรมิ ทางบวก การให้ข้อมูล ยอ้ นกลับอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ (feedback) กระบวนการคดิ เชงิ ออกแบบ (design thinking) ร่วมกับ การสะท้อนผล (reflection) 3. Do จัดการเรียนรู้เพ่ือมุ่งเนน้ ให้ผ้เู รียนออกแบบ หาประสิทธภิ าพ และปรบั ปรุงช้นิ งาน โดยครมู บี ทบาท เป็นผ้อู ำนวยความสะดวก (facilitator) หรอื ทปี่ รึกษา (mentor) หรอื โค้ช (coach) โดยบทบาทของครู ตอ้ งปรบั ให้เหมาะกบั บริบทของสถานศกึ ษา และความแตกตา่ งของผเู้ รียน ใช้การใหแ้ รงเสรมิ ทางบวก การให้ข้อมลู ยอ้ นกลบั อย่างมีประสิทธภิ าพ (feedback) กระบวนการคิดเชงิ ออกแบบ (design thinking) ร่วมกบั การสะท้อนผล (reflection) 4. Review จัดการเรียนรเู้ พื่อมุ่งเนน้ ให้ผู้เรยี นประเมินชิ้นงานและสะท้อนคิดโดยครูมบี ทบาทเป็นผวู้ ิพากษ์ อย่างสรา้ งสรรค์ (creative reviewer) และผจู้ ดั การเรียนรู้ (learning organizer) ซงึ่ ใช้การให้แรงเสริม ทางบวก การให้ข้อมูลย้อนกลบั อยา่ งมีประสิทธิภาพ (feedback) การใหข้ ้อมูลย้อนกลับเพ่อื กระตุ้น ความกา้ วหน้าในการเรยี นทีม่ ีประสทิ ธภิ าพ (feed forward) ร่วมกับการสะท้อนผล (reflection) 5. Presentation จัดการเรยี นรูเ้ พื่อม่งุ เนน้ ใหผ้ ูเ้ รียนสรปุ รายงานผล และแบ่งปนั โดยครมู บี ทบาทเปน็ ผู้ วพิ ากษ์อยา่ งสรา้ งสรรค์ (creative reviewer) และผ้จู ัดการเรียนรู้ (learning organizer) เนื่องจากครู เปน็ ผู้ใช้คำถามเพื่อให้ผเู้ รียนสามารถสะทอ้ นคิดด้วยตนเอง (metacognition) และเป็นผสู้ รา้ งโอกาส และประสบการณ์การเรยี นรู้ผา่ นการแบง่ ปัน เชน่ เวทีการประกวดโครงงาน หรือเวทกี ารนำเสนอผลงาน นกั เรยี น ท้งั ท่ีครูจัดข้ึนเอง และสง่ นักเรียนเขา้ รว่ มในโอกาสตา่ ง ๆ เป็นต้น ซึ่งใชก้ ารใหแ้ รงเสรมิ ทางบวก การให้ข้อมูลย้อนกลบั อย่างมีประสทิ ธิภาพ (feedback) การใหข้ ้อมูลยอ้ นกลับเพื่อกระต้นุ 5 ความกา้ วหน้าในการเรียนที่มีประสิทธภิ าพ (feed forward) รว่ มกับการสะท้อนผล (reflection) 6. Service and Expand เน้นใหผ้ ูเ้ รยี นระบปุ ระโยชน์ทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการทำโครงงานต่อสังคม และการเสริม เติมแนวคิดอื่น ๆ เพื่อให้ชิ้นงานสามารถทำงานได้สมบูรณ์ขึ้นสู่การเป็นวัตกรครูจะต้องสังเกต ทำความ รู้จักและเข้าใจศิษย์เป็นรายบุคคล และเรียนรู้หรือฝึกทำหน้าท่ีผู้จัดกระบวนการเรียนรู้ (Facilitator) เทา่ น้ัน ตารางสรปุ ขน้ั ตอนการจดั การเรยี นรู้

ข้ันตอนการ เป้าหมาย กิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน บทบาทของ การดำเนินงาน จดั การเรียนรู้ ผู้เรยี นค้นพบแรง ชั่วโมง ครู เฉพาะ Define บนั ดาลใจ รบั รู้ - สรา้ งแรงบันดาล และเขา้ ใจปญั หา ใจ 12 ผู้สรา้ งแรง Driving question Plan ใกลต้ วั - ทกั ษะ บันดาลใจ Feed up กระบวนการ 7 (inspirer) Reflection Do ผู้เรยี นวางแผน - วิธกี ารทาง Design thinking แก้ปญั หาด้วย วิทยาศาสตร์ 12 ผูอ้ ำนวย ตนเอง - สถานการณ์ ความสะดวก Reinforcement ปญั หา ประเด็น (facilitator) Feed back ผู้เรยี นออกแบบ ความทา้ ทาย / โค้ช Reflection หาประสิทธภิ าพ - วางแผนการ (coach) / ท่ี Design thinking และปรับปรงุ ทำงาน ปรึกษา ชิ้นงาน - คำถาม/ปญั หา (mentor) Reinforcement - ชือ่ เร่อื ง หมายเหตุ Feed back - วตั ถุประสงค์ บทบาทของ Reflection - สมมตฐิ าน ครูขนึ้ กับ Design thinking - ตัวแปร บรบิ ท และ ความ - ออกแบบ สรา้ ง/ แตกตา่ งของ ประดษิ ฐ์ ผเู้ รยี น - ทดสอบ ผอู้ ำนวย ประสทิ ธภิ าพ ความสะดวก ปรบั ปรุง (facilitator) - สรุป/อภิปราย / โค้ช (coach) / ที่ ปรึกษา (mentor) หมายเหตุ บทบาทของ ครูขึ้นกับ บรบิ ท และ ความ แตกตา่ งของ ผู้เรยี น

ขั้นตอนการ เปา้ หมาย กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน บทบาทของ การดำเนนิ งาน จัดการเรยี นรู้ ชัว่ โมง ครู เฉพาะ Review ผเู้ รยี นประเมนิ - ทบทวนความร้ทู ่ี ชน้ิ งาน และ เป็นขั้นตอน การ 5 ผวู้ พิ ากษ์ Reinforcement สะท้อนคดิ ทำงานท่ีเป็น อยา่ ง Feed back พฤติกรรม หรือ 2 สรา้ งสรรค์ Feed forward Presentation ผเู้ รยี นสรุป เหตุการณท์ ี่ภมู ใิ จ (creative Reflection รายงานผล และ เหตกุ ารณท์ ่ีควร 2 reviewer) Design thinking แบ่งปัน แกไ้ ข และผจู้ ัดการ - ประโยชน์ เรียนรู้ Reinforcement Service and ระบปุ ระโยชน์ ข้อเสนอแนะ (learning Feed back อา้ งอิง organizer) Feed forward Expand และตอ่ ยอด - รายงาน นำเสนอ Reflection ประเมนิ ผ้วู พิ ากษ์ Design thinking อย่าง - นำผลงานไปใช้ สร้างสรรค์ Reinforcement - เสริมเพม่ิ เตมิ (creative Feed back ชิ้นงานให้สมบูรณ์ reviewer) Reflection ขนึ้ และผจู้ ดั การ Design thinking เรยี นรู้ (learning organizer) ผูอ้ ำนวย ความสะดวก (facilitater) 7 การวิเคราะห์สถานการณป์ ญั หา การแก้ปัญหาเป็นกิจกรรมพื้นฐาน ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ปัญหาบางปัญหาเราสามารถหาทาง แก้ปัญหาได้ทันที แต่บางปัญหาอาจต้องใช้เวลานานในการค้นหาคำตอบ ซึ่งคำตอบที่ได้ต้องพิสูจน์ได้ว่าเป็น คำตอบที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือและสามารถนำไปอ้างอิงต่อได้การแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใช้เวลาท่ี แตกตา่ งกัน เน่อื งจาก ความรแู้ ละประสบการณ์ จะส่งผลต่อความสามารถในการแก้ปัญหา ขนั้ ตอนการแก้ปัญหา 4 ข้ันตอน ดังน้ี 1. การวเิ คราะห์และกำหนดรายละเอยี ดของปญั หา 1.1 ส่ิงท่ตี อ้ งการคืออะไร 1.2 ขอ้ มลู ที่กำหนดให้มีอะไรบา้ ง

พิจารณาข้อมูลและเงื่อนไขที่กำหนดให้เพียงพอที่จะหาคำตอบของปัญหาหรือไม่ ถา้ ไม่เพียงพอควรหาข้อมลู เพ่ิมเติม 2. การวางแผนในการแก้ปญั หา เมือ่ ทำความเข้าใจแลว้ ควรวางแผนในการแก้ปัญหาดว้ ยการเลือกใชเ้ ครื่องมือ และวธิ กี ารเพ่ือให้ได้ ซึ่งคำตอบ ประสบการณ์จะนำมาใช้ในขั้นตอนนี้ \"เคยแก้ปัญหาในลักษณะนี้หรือไม่\" ในกรณีที่มีประสบการณ์มา ก่อน ควรใช้ประสบการณม์ าเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาโดยปรับปรุงให้เหมาะสมกบั ปัญหาใหม่ 3. การดำเนินการแกไ้ ขปัญหา เม่อื วางแผนในขั้นตอนที่ 2 แลว้ จึงดำเนนิ การเพ่ือแก้ปัญหา 4. การตรวจสอบและปรบั ปรุง เมื่อดำเนินการตามขั้นที่ 3 แล้ว จึงนำผลมาตรวจสอบว่าแก้ปัญหาได้หรือไม่ ถ้าแก้ได้ ถือว่าสำเร็จ แตถ่ ้าแกไ้ มไ่ ด้ จะตอ้ งมีวธิ ปี รับปรงุ ใหด้ ีขนึ้ คำชแี้ จง 1. ให้นักเรยี นวิเคราะห์ปัญหาในการจดั ทำโครงงาน PBLจากสถานการณ์ท่ีกำหนด 2. เวลาในการทำกิจกรรม 30 นาที ตัวอย่างที่ 1 วุน้ เสน้ สงั เกตเหน็ นกพริ าบมาถา่ ยมูลทห่ี นา้ ระเบยี งห้องเรียนเปน็ ประจำ ซ่ึงมูลของนกพิราบเป็น ปัญหาใหก้ ับโรงเรยี น คอื สรา้ งความสกปรก และกอ่ ให้เกดิ เชอ้ื โรค 1.1 ปัญหา คอื นกพิราบมาถ่ายมูลทำให้สกปรก และเกิดเชือ้ โรค 1.2 ทีม่ าของปัญหา คือ ปญั หาสง่ิ แวดล้อมในท้องถิ่น 8 1.3 เร่อื งที่จะทำ คือ เคร่อื งไล่นกพริ าบ ตัวอย่างที่ 2 ทุก ๆ วัน น้องพีพีต้องช่วยคุณแม่ปลอกไข่นกกระทา วันละ 5 กิโลกรัม สำหรับทำกระเพาะปลา ไปขายทต่ี ลาด กว่าจะเสร็จใชเ้ วลานาน 2.1 ปญั หา คือ การแกะไขน่ กกระทา 2.2 ที่มาของปัญหา คือ เร่อื งใกลต้ ัว 2.3 เร่ืองทจี่ ะทำ คือ เครือ่ งปลอกไข่นกกระทา ตัวอยา่ งท่ี 3 คณุ ยายอายุ 70 ปี ชอบก่อไฟประกอบอาหารโดยใช้เตาถา่ น ในการก่อไฟแต่ละครั้งจะนำพัดมาพัด เตาถา่ น เพ่ือให้ไฟติดแตใ่ ช้เวลานานกว่าถ่านจะติดไฟ 3.1 ปญั หา คือ ถา่ นติดไฟช้า 3.2 ที่มาของปัญหา คือ เรื่องใกลต้ ัว 3.3 เรือ่ งท่จี ะทำ คือ ประดษิ ฐ์อปุ กรณช์ ว่ ยพัดไฟให้เตาถ่าน ตัวอย่างที่ 4 นักเรียนชั้น ป.5/3 ได้วิ่งเล่นบริเวณโรงอาหารสังเกตเห็นท่อน้ำทิ้งมีคราบของน้ำมันจากการล้าง จาน และประกอบอาหารเปน็ จำนวนมาก ทำให้ส่งกล่นิ เหมน็ 4.1 ปญั หา คือ ต้องการกำจัดคราบนำ้ มนั

4.2 ที่มาของปัญหา คือ เรือ่ งใกล้ตวั 4.3 เร่อื งที่จะทำ คือ อุปกรณ์ดักจบั คราบน้ำมัน 9 สถานการณ์ ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม และมีการส่งออกข้าวเป็นรายได้หลักของประเทศ เมื่อถึงฤดูเกบ็ เกยี่ วเกษตรกรจะเกบ็ เกย่ี วข้าวโดยการใชร้ ถสีข้าวเป็นสว่ นใหญ่ ซงึ่ พบว่าขา้ วทีไ่ ด้จากการสหี รือเก็บ เกี่ยวมีเศษฟางข้าว เศษวัชพืช และสิ่งเจือปน เมื่อนำไปขายจึงไม่ได้ราคา ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เกษตรกรจะต้องนำขา้ วไปตากเพ่ือลดความช้ืน และทำการคัดแยกส่ิงเจือปน ซง่ึ จะต้องใช้แรงงานเป็นจำนวน มาก ตอ้ งเสียค่าจา้ งแรงงาน

ภาพที่ 1 วิธีการเกบ็ เก่ยี วขา้ วโดยใช้รถสีขา้ ว ท่มี า : https://www.matichon.co.th/region/news_162551 ภาพที่ 2 วธิ ีการคัดแยกสง่ิ เจือปนโดยใช้แรงงานคน ทมี่ า : http://emunahinyeshua.blogspot.com/ ภาพที่ 3 วธิ ีการแยกส่งิ เจือปนโดยใช้แรงงานคน ทมี่ า : https://guru.sanook.com/756/

10 กจิ กรรมที่ 1 วเิ คราะหป์ ัญหาจากสถานการณ์ กล่มุ ท.ี่ ................................ วัตถปุ ระสงค์ 1. นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ปัญหาจากสถานการณ์ท่กี ำหนดให้ได้ 2. นกั เรียนสามารถระบุปัญหา ท่มี าของปัญหา ระบุหวั เร่ืองทจ่ี ะแก้ปัญหาจากสถานการณท์ ่ี กำหนดใหไ้ ด้ คำช้ีแจงในการทำกจิ กรรม 1. นกั เรียนศกึ ษาจากสถานการณ์ท่ีครูกำหนดให้ 2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวเิ คราะห์ปญั หาจากสถานการณท์ ี่กำหนด โดยร่วมกันอภปิ รายและเขยี น ผลการวเิ คราะห์ในรูปแบบแผนผังความคดิ ตารางหรืออนื่ ๆ 3. เวลาในการทำกิจกรรม 60 นาที 4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงานการวเิ คราะห์สถานการณ์ ใชเ้ วลา 30 นาที ผลการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ปญั หาที่ ปญั หา ท่ีมาของปัญหา เรื่องท่ีจะทำ ..ก..า..ร..เ.ก..บ็..เ.ก..ยี่...ว.ข..้า..ว..โ.ด..ย..ใ..ช..ร้ .ถ..... .ป...ัญ...ห...า.ใ..ก..ล..ต้...วั ..................... ...เ.ค..ร..ื่อ..ง.เ.ก...่ยี ..ว.ข..า้..ว................... 1 ..ส..ีข..้า..ว..ท..ำ..ใ.ห..้ม...ีส..่งิ .เ.จ..อื...ป..น..ใ.น....... ......................................... ...T..w..o....I.n...O..n...e..................... ..เ.ม..ล..ด.็ ..ข..้า.ว..เ.ป...ล..อื ..ก..ม..า..ก............ ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ก..า.ร..ค..ดั..แ..ย...ก..ส..่ิง.เ.จ..อื..ป...น..อ..อ..ก........ .ป...ัญ...ห..า..ใ..ก..ล..ต้..ว.ั ..................... ...อ..ุป..ก..ร..ณ...ค์..ดั..แ..ย..ก..เ.ศ...ษ..ว..ชั ..พ..ชื..... จ..า.ก..เ.ม...ล..ด็ ..ข..้า..ว.เ..ป..ล..ือ..ก..โ.ด...ย..ใ.ช..้ .... ......................................... ...แ..ล..ะ..ส..ิ่ง.เ..จ.ือ...ป..น..อ..อ..ก...จ.า..ก......... 2 แ..ร.ง..ง..า.น...ค..น..ท..า..ใ..ห..ส้..นิ้...เ.ป..ล..อื..ง...... ......................................... ...เ.ม..ล..ด็..ข..า้..ว..เ.ป..ล..ือ..ก.................. ค..า่ ..จ..า้..ง.แ..ร..ง..ง.า..น....................... ......................................... ......................................... ..ข..า้ ..ว.เ.ป...ล..อื..ก..ม..สี..่ิง..เ.จ..อื..ป..น........... ...ป..ั.ญ...ห..า..ใ..ก..ล..ต้..วั.................... ...ต..ู้อ..บ..ล..ด..ค...ว.า..ม..ช..้นื...ใ.น..เ.ม...ล..ด็...... ..แ..ล..ะ..ม..คี..ว..า..ม..ช..้นื..................... ......................................... ...ข..า้ ..ว.เ..ป..ล..ือ..ก......................... 3 ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... ......................................... สรุปปัญหาที่จะแก้ไขและเร่ืองทจ่ี ะทำ 11 ..........อ...ปุ ..ก...ร..ณ...์ค..ดั...แ..ย...ก..เ.ศ...ษ..ว..ัช...พ...ืช..แ..ล...ะ..ส..ิง่..เ.จ...ือ..ป...น..อ...อ..ก..จ...า..ก..เ.ม...ล..็ด...ข..้า..ว..เ.ป...ล..อื...ก................................................. การต้งั ชอ่ื เรอื่ งโครงงาน PBL

หลังจากที่นักเรียนเลือกหัวข้อเรื่องที่จะศึกษาทำโครงงาน PBLแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อไปคือ การตั้งชื่อ โครงงาน PBL ซง่ึ ควรมีลักษณะ ดงั น้ี 1. ตรงกับเรื่องที่จะศึกษา ซึ่งเมื่ออ่านชื่อเรื่องแล้วทำให้สามารถบอกได้ว่า เรื่องนั้นมีลักษณะและ วิธกี ารศกึ ษาอยา่ งไร เชน่ การสรา้ งอุปกรณ์ดกั จับคราบนำ้ มนั จากเสน้ ใยของพืช 2. กะทัดรัดได้ใจความสมบูรณ์ สื่อความหมายตรง เข้าใจง่าย เช่น อุปกรณ์ดักคราบน้ำมันอย่าง ง่าย 3. ควรมคี วามเร้าความสนใจ แตต่ ้องไม่ตั้งช่ือให้เห็นว่าเปน็ เร่ืองทีส่ ำคัญเกนิ ความเป็นจริง เช่น มี เส้นใยก็ไร้คราบนำ้ มัน 4. ชื่อเรื่องที่ดีควรแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่สำคัญต่าง ๆ กลุ่มตัวอย่าง หรือ จุดมุ่งหมายของการศึกษาโครงงานนั้น ๆ เช่น การศึกษาเปรียบเทียบชนิดของเส้นใยจากพืชในการดักจับคราบ นำ้ มนั การต้ังวตั ถปุ ระสงค์ วัตถปุ ระสงค์ คือ การกำหนดจุดม่งุ หมายปลายทางท่ีต้องการให้เกิดจากการทำโครงงาน ในการเขียน วัตถุประสงค์ต้องเขียนให้ชัดเจน อ่านเข้าใจง่ายสอดคล้องกับชื่อโครงงาน หากมีวัตถุประสงค์หลายประเด็น ให้ ระบุเป็นข้อๆ การเขียนวัตถุประสงค์มีความสำคัญกับแนวทางการศึกษา ตลอดจนข้อความรู้ที่ค้นพบ หรือ สิ่งประดิษฐ์ทีค่ ้นพบนน้ั ตอ้ งมคี วามสมบูรณค์ รบถ้วน คือ ต้องสอดคลอ้ งกบั วัตถปุ ระสงค์ทุก ๆ ขอ้ ตวั อย่างการตั้งวัตถุประสงค์ โครงงาน เรื่อง อุปกรณด์ ักคราบน้ำมันจากเส้นใยของพชื วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อประดิษฐ์อุปกรณด์ ักคราบนำ้ มนั จากเส้นใยมะพรา้ วแหง้ เสน้ ใยกาบกลว้ ย และเส้นใย ฟางขา้ ว 2. เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเส้นใยพืชแตล่ ะชนดิ ต่อการดักจบั คราบนำ้ มนั

12 กจิ กรรมท่ี 2 การตงั้ ชือ่ เรอื่ งของโครงงาน PBLจากสถานการณ์ กล่มุ ที.่ ................................ วัตถุประสงค์ 1. นกั เรียนสามารถต้งั ชื่อเรื่องจากสถานการณท์ ี่กำหนดให้ได้ 2. ปฏิบตั กิ ิจกรรมต้ังชอื่ เร่ืองจากสถานการณท์ ี่กำหนดให้ได้ คำช้ีแจงในการทำกิจกรรม 1. ใหส้ มาชิกในกลุม่ รว่ มกนั ตง้ั ชือ่ เรอื่ งจากสถานท่ีกำหนดใหม้ าท้ังหมด 3 ช่อื พรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ และเลือกช่อื เร่ืองทด่ี ที ี่สุดมา 1 ชือ่ พร้อมบอกประเภทของโครงงาน PBL 2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอการตงั้ ช่อื เรือ่ ง 3. เวลาในการทำกจิ กรรม 60 นาที โครงงาน เรือ่ ง.......เ.ค...ร..่อื ..ง..เ.ก...่ยี ..ว..ข..า้..ว....T..w...o....I.n....O...n..e..................................................................................... ..............................ข..า้..ว..เ.ป..ล..อื..ก.................................................................................. ................................... เหตุผลทต่ี ัง้ ชือ่ น้ี .......ต..ร..ง..ก..ับ...เ.ร..่อื...ง.ท...่จี..ะ...ศ..ึก..ษ...า...ส...า..ม..า..ร..ถ...บ..อ...ก..ไ..ด..ว้..า่..ใ.ช...้เ.ก...็บ..เ.ก...ีย่ ..ว..ข...้า..ว..ไ.ด...้ .แ..ล...ะ..แ..ย...ก..เ.ศ...ษ..ส...ิง่ .เ.จ..ือ...ป..น...อ..อ...ก..จ..า..ก...ข..า้..ว..ไ.ด้ ............................................................................................................................. ................................... โครงงาน เร่อื ง.......อ..ุป...ก..ร..ณ....์ค..ดั...แ..ย..ก...เ.ศ..ษ...ว..ัช...พ..ืช...แ..ล..ะ...ส..ิง่..เ.จ..ือ...ป..น...อ..อ...ก..จ..า..ก...เ.ม..ล...ด็ ..ข...า้ ..ว..เ.ป...ล..ือ..ก............................. ................................................................................................................................................................เหตผุ ล ทตี่ ง้ั ชอ่ื น้ี ...............ต...ร..ง..ก..บั...เ.ร..ื่อ..ง..ท...่จี ..ะ..ศ...ึก..ษ...า...ส..่ือ...ค..ว..า..ม...ห..ม...า..ย..ต..ร..ง.....ส..า..ม...า..ร..ถ..บ...อ..ก...ไ.ด..ว้...่า..ม..ลี..ัก...ษ..ณ....ะ..แ..ล...ะ..ว..ิธ..กี...า.ร..ศ...ึก..ษ...า....... .....อ..ย..า่..ง..ไ..ร...แ..ล...ะ..ม..ีค...ว..า..ม..ส...มั ..พ...ัน...ธ..์ร..ะ..ห...ว..า่ ..ง.ต...วั ..แ..ป...ร..ท...่ีจ..ะ..ศ..ึก...ษ...า........................................................................ โครงงาน เร่อื ง....ต...อู้ ..บ...เ.ม..ล...ด็ ..ข..้า..ว..เ..ป..ล...ือ..ก..................................................................................................... 13 ...........................ข..้า..ว..เ.ป..ล..ือ..ก......................................................................... ............................................... เหตุผลท่ตี งั้ ช่อื นี้ ............ต..ร..ง..ก...ับ..เ..ร..อ่ื ..ง..ท..ีจ่...ะ..ศ..กึ...ษ..า................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ชื่อโครงงานท่ีดีทสี่ ดุ เร่ือง ........อ..ุป...ก..ร..ณ....์ค..ดั..แ...ย..ก..เ..ศ..ษ...ว..ัช..พ...ชื..แ...ล..ะ..ส...่ิง..เ.จ..อื..ป...น...อ..อ...ก..จ..า..ก...เ.ม..ล...ด็ ..ข..้า..ว..เ..ป..ล...อื ..ก.................................................... กจิ กรรมที่ 3

การตง้ั วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน PBLจากสถานการณ์ กล่มุ ที.่ ................................ วตั ถุประสงค์ 1. นกั เรียนสามารถตง้ั วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน PBLจากสถานการณ์ที่กำหนดใหไ้ ด้ 2. ปฏบิ ัติกจิ กรรมต้งั วัตถุประสงค์จากสถานการณ์ท่ีกำหนดใหไ้ ด้ คำช้ีแจงในการทำกิจกรรม 1. ให้สมาชิกในกลมุ่ ตง้ั วัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน PBLจากสถานท่กี ำหนดให้ 2. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ นำเสนอการตั้งวตั ถปุ ระสงค์ 3. เวลาในการทำกิจกรรม 60 นาที .จ...ดุ ..ป...ร..ะ..ส..ง..ค..์............................................................................................................................................. .......1......เ.พ...ื่อ..แ...ย..ก..เ..ศ..ษ...ว..ชั..พ...ชื....เ.ช..่น....เ..ศ..ษ...ฟ...า.ง....เ.ม..ล...็ด..ข..า้..ว...ล..บี....เ.ศ...ษ..ว..ชั..พ...ืช....เ.ศ..ษ...ห...นิ ....แ..ล..ะ...ด..นิ....อ..อ...ก..จ..า..ก...เ.ม...ล..ด็.......... .ข...า้ ..ว..เ.ป...ล..ือ..ก................................................................................................................................................ ........2......เ.พ...่อื..ห...า..ป..ร..ะ...ส..ิท...ธ..ภิ ..า..พ...ข..อ...ง..อ..ุป...ก..ร..ณ...์ค...ัด..แ...ย..ก..เ..ศ..ษ...ว..ัช..พ...ชื..แ...ล..ะ..ส...ง่ิ .เ..จ..อื..ป...น...อ..อ..ก...จ..า..ก..เ..ม..ล...ด็ ..ข..า้..ว..เ..ป..ล...ือ..ก. .ท...ีใ่ .ช. ้ .ใ..บ..พ...ัด....2...ใ..บ....แ..ล...ะ...3....ใ.บ.......................................................................................... .................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ....................................................................................... ......................................................................... ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................................................................................. .............. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. ................................... 14 การต้งั สมมติฐาน และการระบตุ วั แปร

1. การตงั้ สมมตฐิ าน หมายถึง การคิดหาคำตอบลว่ งหน้ากอ่ นทำการทดลองโดยอาศยั การสังเกต ความรู้ หรอื ประสบการณเ์ ดมิ เป็นพื้นฐาน เปน็ ข้อความทีบ่ อกความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ตัวแปรต้นกบั ตัวแปรตาม สมมตฐิ านจะ ถูกหรอื ผิดกไ็ ด้ ซ่ึงสามารถทราบไดภ้ ายหลงั ทำการทดลอง การต้ังสมมติฐาน ทำได้ 2 แบบ คือ 1.1 ตอบคำถามโดยทวนคำถามท่ไี ด้ตง้ั ไว้ 1.2 เขียนให้อยใู่ นรปู ของประโยค ถ้า..............................ดงั นั้น................................ ตัวอย่าง ปัญหา : นักเรียนชั้น ป.5/3 ได้วิ่งเล่นบริเวณโรงอาหารสังเกตเห็นท่อน้ำทิ้งมีคราบของน้ำมัน จากการล้างจาน และประกอบอาหารเปน็ จำนวนมาก ทำให้ส่งกล่นิ เหม็น สมมติฐานแบบท่ี 1 อุปกรณด์ ักจบั คราบน้ำมนั ถา้ ใช้เสน้ ใยพชื ท่ีมีความหนา ความเหนยี ว และมี รูพรุน จะสามารถดักจับคราบน้ำมนั ไดด้ ีทีส่ ุด สมมติฐานแบบที่ 2 ถ้าอุปกรณ์ดักจับคราบน้ำมันใช้พืชที่มีเส้นใยต่างชนิดกัน ดังน้ัน ประสทิ ธิภาพในการกำจดั คราบนำ้ จะแตกตา่ งกัน เมื่อเลือกสมมติฐานแบบใดแบบหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้นำข้อมูลที่ศึกษาเพิ่มเติมเข้ามาช่วย กำหนดตัวแปรให้รัดกุมยิ่งขึ้น และกำหนดตัวแปรควบคุมเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ การออกแบบ การทดลอง ถูกตอ้ ง ป้องกนั ความคลาดเคลือ่ นของขอ้ มูล 2. การระบุตัวแปร ช่วยให้การค้นคว้า การตั้งสมมติฐานและออกแบบการทดลองทำได้ง่ายขึ้น ดงั นน้ั จึงต้องใช้ทักษะการกำหนดและควบคุมตัวแปร เพื่อเปน็ การช้ีบ่งตัวแปรต้น ตวั แปรตาม และตวั แปรควบคุม ท่ีต้องควบคุมในการตงั้ สมมตฐิ านนนั้ ๆ ตวั แปรตน้ หมายถงึ สิ่งทเี่ ปน็ สาเหตุทท่ี ำใหเ้ กิดผลตา่ ง ๆ ตวั แปรตาม หมายถึง สงิ่ ท่ีเป็นผลมาจากตัวแปรตน้ ตัวแปรควบคุม หมายถึง สิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากตัวแปรต้นที่อาจทำให้ผลการทดลอง คลาดเคลอ่ื น ถ้าหากไม่มีการควบคุมให้เหมอื นกัน ในขั้นตอนการระบุตัวแปรเบื้องต้น เมื่อทราบปัญหาให้ระบุตัวแปรต้นเหตุ คือ ตัวแปรต้น ส่วนสิ่งที่ เกิดตามมาเนื่องจากตัวแปรต้นเป็นผลที่เกิดตามมาคือ ตัวแปรตาม ซึ่งตัวแปรทั้งสองตัวนี้ต้องบอกได้ว่าจะทำ อะไร จะปฏิบัติอย่างไร สามารถสังเกตได้ วัดได้โดยการกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการให้แก่ตัวแปร เบื้องต้น กำหนดตวั แปรตน้ และตัวแปรตามกอ่ น 15 ตัวอย่าง ปัญหา : นกั เรยี นช้ัน ป.5/3 ไดว้ ิ่งเลน่ บริเวณโรงอาหารสงั เกตเหน็ ทอ่ นำ้ ทิง้ มีคราบของนำ้ มันจาก การลา้ งจาน และประกอบอาหารเป็นจำนวนมาก ทำให้ส่งกลิน่ เหมน็

สมมติฐานแบบที่ 1 ถ้าเส้นใยของพืชมีความหนา เหนียว และมีรูพรุนแตกต่างกัน ดังนั้นจะ สามารถดักจบั คราบน้ำมนั ไดแ้ ตกตา่ งกัน ตัวแปรต้น คือ อุปกรณ์ดักจับคราบน้ำมันจากเส้นใยมะพร้าวแห้ง เส้นใยกาบกล้วย และ เสน้ ใยฟางข้าว ตัวแปรตาม คือ ประสิทธิภาพในการดักจบั คราบน้ำมันของเส้นใยมะพรา้ วแห้ง เส้นใยกาบ กล้วย และเสน้ ใยฟางข้าว ตัวแปรควบคุม คอื ปริมาณเส้นใยพชื ความหนา ระยะเวลา ชนดิ ของน้ำมนั ฯลฯ

16 กจิ กรรมท่ี 4 การต้ังสมมติฐาน และการกำหนดตัวแปรท่ีเกยี่ วขอ้ งกัน กล่มุ ท.ี่ ................................ วตั ถปุ ระสงค์ 1. นักเรียนต้งั สมมตฐิ านจากสถานการณป์ ญั หาท่ีกำหนดให้ 2. นกั เรยี นสามารถกำหนดตัวแปรทเ่ี กย่ี วข้องจากปญั หาท่กี ำหนดให้ได้ คำชแี้ จงในการทำกิจกรรม 1. ใหส้ มาชิกในกลุ่มตง้ั สมมติฐานและกำหนดตวั แปรทเี่ กีย่ วข้องจากสถานท่กี ำหนดให้ได้ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมเกีย่ วกับปัญหาเพื่อนำข้อมูลมาต้ังสมมติฐานและกำหนด ตวั แปรท่เี กยี่ วข้อง 3. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ นำเสนอผลการตั้งสมมตฐิ านและกำหนดตัวแปรทีเ่ ก่ียวข้อง 4. เวลาในการทำกิจกรรม 120 นาที 1. ปญั หาจากสถานการณ์ .........ก...า..ร.ค...ัด..แ...ย..ก..ส...งิ่ .เ..จ..ือ..ป...น...อ..อ..ก...จ..า..ก..เ..ม..ล..ด็...ข..า้..ว..เ..ป..ล...ือ..ก..โ..ด..ย..ใ..ช..แ้...ร..ง.ง..า..น...ค..น...ท..ำ..ใ..ห...้ส..นิ้...เ.ป..ล...ือ..ง..ค...่า..จ..้า..ง..แ..ร..ง..ง..า.น..... 2. สมมติฐาน ........ถ..้า..อ...ปุ ..ก...ร..ณ...์ค..ัด...แ..ย...ก..เ.ศ...ษ..ว..ชั...พ...ชื ..แ..ล...ะ..ส..ิ่ง..เ.จ...ือ..ป...น..อ...อ..ก..จ...า..ก..เ.ม...ล..็ด...ข..้า..ว..เ.ป...ล..อื...ก..ใ.ช...จ้ ..ำ..น..ว..น...ใ.บ...พ...ัด........................................ .แ..ต...ก..ต..า่..ง....ด..ัง..น..น้ั...จ..ะ..ม...ปี ...ร..ะ..ส..ทิ...ธ..ิภ...า..พ..ใ..น..ก...า..ร..แ..ย..ก...เ.ศ...ษ..ว..ชั...พ..ืช...แ..ล...ะ..ส..ิ่ง..เ.จ..อื...ป..น...อ..อ...ก..จ...า..ก..เ.ม. .ล..ด็............ .ข..้า..ว..เ.ป...ล..ือ...ก..จ..ะ..แ...ต..ก..ต...า่ ..ง.ก...นั ......................................................................................................................... 3. ตวั แปรท่ีเกี่ยวขอ้ ง 3.1 ตัวแปรต้น คอื ...อ..ุป...ก..ร..ณ....์ค..ดั...แ..ย..ก...เ.ศ..ษ...ว..ชั..พ...ชื...แ..ล..ะ..ส...ิง่ ..เ.จ..ือ..ป...น...อ..อ..ก...จ..า..ก..เ..ม..ล..็ด...ข..า้..ว..เ.ป...ล..อื...ก..ท...ี่ใ.ช...้ใบพดั ..................................................พ...ล..า..ส...ต..กิ ...จ..ำ..น..ว..น....2....ใ.บ....แ...ล..ะ....3...ใ..บ......................... ................................... 3.2. ตัวแปรตาม คอื ...เ.ม...ล..็ด..ข...้า..ว..เ.ป...ล..ือ..ก...ไ.ม...่ม..ีเ.ศ...ษ...ว..ชั ..พ...ืช...แ...ล..ะ..ส...ง่ิ ..เ.จ..อื..ป...น.................................... ............................................................................................................................................................. 3.3 ตวั แปรควบคมุ คือ............................ข..น...า.ด...ข..อ...ง.ม...อ..เ..ต..อ..ร..์...ป...ร..ิม..า..ณ....ข..้า..ว..เ.ป...ล..ือ...ก.....ข..น...า.ดของเศษ 17 .ช..น...ดิ ..ข...อ..ง..ว..ัช..พ...ชื..แ...ล..ะ..ส...่งิ .เ..จ..ือ..ป...น.....เ..ว..ล..า..ท..ว.ี่ใ.ชั ..พ.ใ้ .น.ืช..ก..า..ร..ก..ำ..จ...ดั ..เ.ศ...ษ..ว...ัช..พ...ืช...ป...ร..ิม...า..ณ...ข..อ...ง.เ..ศ..ษ..ว..ชั...พ..ชื...แ..ล..ะ.................. .ส..ง่ิ..เ.จ...ือ..ป...น.....ร..ะ..ย..ะ...ห..่า..ง..ร..ะ..ห...ว..่า..ง..ช..ุด...อ..ุป...ก..ร..ณ...์ท...ี่ใ..ช..้เ.ป...า่ ..ก..บั...ก..อ...ง.ข...า้ ..ว..เ.ป...ล..ือ...ก..ท...ม่ี ..เี.ศ...ษ..ว..ัช...พ...ชื ..เ.จ..ือ..ป...น....ช..น...ดิ..ข...อ..ง...... .ว..ัส..ด...ทุ ..ที่...ำ..ใ..บ..พ...ดั....ก..า..ร..อ..อ...ก..แ...บ..บ...ร..ูป...ท..ร..ง..ข..อ...ง..อ..ปุ...ก..ร..ณ...์ค...ัด..แ...ย..ก..เ..ศ..ษ...ว..ชั ..พ..ืช....ค...ว..า..ม..ย..า..ว..ข...อ..ง..ใ..บ..พ...ัด....ต..ำ..แ..ห...น...่ง...... .ข..อ...ง.ก...า..ร..ว..า..ง..ใ.บ...พ...ดั ..ก..บั...ม...อ..เ.ต...อ..ร..์.............................................................................................................. การศึกษาเอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

1. จดุ มุง่ หมายในการศึกษาเอกสารทเ่ี ก่ยี วข้อง เพ่อื หาข้อมูลใช้ในการกำหนดวางแผนกรอบโครงงาน ของตนเอง โดยมงุ่ ศกึ ษาสว่ นท่ีเกยี่ วขอ้ งและสมั พันธโ์ ครงงานของตนเอง ดังขน้ั ตอนตอ่ ไปนี้ 1.1 คน้ หาเอกสารทเ่ี กยี่ วข้องกับปญั หาทตี่ ้องการศึกษา 1.2 สร้างความชัดเจนและกระจา่ งในปัญหาของโครงงาน 1.3 เป็นแนวทางในการตอบคำถามการทำโครงงาน 1.4 หลกี เล่ียงการทำโครงงานซ้ำโดยไม่จำเปน็ 1.5 เปน็ แนวทางในการวางแผนและออกแบบการทำโครงงาน 2. แหลง่ การค้นควา้ เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง นบั ว่ามคี วามสำคัญอย่างมากในการคน้ คว้าศึกษาเพิ่มเติมใน สว่ นทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั โครงงานของตนเองซึ่งสามารถสรุปได้ ดังน้ี 2.1. ประเภทตำราหรือบทความทางวิชาการ 2.2.1 หนงั สือหรอื ตำรา 2.2.2 วารสาร 2.2.3 สารานุกรม 2.2.4 เอกสารรายงานการประชมุ สัมมนาตา่ ง ๆ 2.2 ประเภทงานวจิ ยั ลกั ษณะงานวิจยั ทเ่ี หมาะสมต่อการค้นคว้ามีดงั น้ี 2.2.1 รายงานวจิ ยั ทบ่ี คุ คลหรอื สถาบันหรือหน่วยงานใดหนว่ ยงานหน่งึ จัดทำข้นึ 2.2.2 งานวิจัยเป็นผลงานของนกั ศึกษาเรียกวา่ \"วทิ ยานพิ นธ\"์ หรือ\"ปริญญานิพนธ\"์ 2.2.3 หนงั สอื รวบรวมผลงานวิจัย 3. หลักการเขยี นรายงานของโครงงาน คือ การกำหนดขอบเขตการศึกษาท่เี ก่ยี วเนื่องกับนวัตกรรมท่ี สร้าง/พัฒนาเป็นการศึกษาความสำคัญและที่มาของปัญหาของโครงงานแบบกว้าง ๆ ช่วยให้ผู้จัดทำโครงงาน สามารถเขียนส่วนต่าง ๆ ของโครงงานได้ โดยกำหนดหัวขอ้ ใหญ่ หัวข้อรอง และหัวข้อย่อยของเนื้อหาสาระที่จะ ศกึ ษาก่อน แนวทางการกำหนดหวั ขอ้ ควรยึดตามปัญหาของโครงงานหลัก (ชื่อเร่ือง) และปัญหาของโครงงานรอง (วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน) เป็นหลักในการนำเสนอเนื้อหาและเป็นทิศทางในการอภิปรายของโครงงาน ต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้

18 กิจกรรมที่ 5 การศึกษาเอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง กลมุ่ ที.่ ................................ วัตถปุ ระสงค์ นักเรยี นสามารถระบุเน้ือหาและสืบค้นเอกสารทเี่ กีย่ วขอ้ งกับสถานการณห์ รือปัญหาทกี่ ำหนดได้ คำช้แี จงในการทำกิจกรรม 1. ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มระบุเน้อื หาและเอกสารที่เกย่ี วขอ้ งเพ่ือนำมาใชใ้ นการแก้ปญั หาและจัดทำ โครงงาน PBL 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอเนื้อหาและเอกสารที่เกย่ี วข้องเพื่อนำมาใชใ้ นการแกป้ ัญหาและจัดทำ โครงงาน PBL 3. นักเรียนและครรู ว่ มกนั อภิปรายเกยี่ วกบั ความเกยี่ วข้องของเน้ือหาเอกสารที่เกย่ี วข้องกับหวั เร่อื ง ประเดน็ ปัญหาทจ่ี ะแกไ้ ข และนกั เรียนนำผลการอภปิ รายไปปรบั ปรงุ แก้ไขหรือสืบคน้ เพิ่มเตมิ 4. เวลาในการทำกจิ กรรม 180 นาที 1. ความรู้ เนื้อหาทจี่ ำเปน็ ต้องสบื ค้นเพิ่มเติม 1.1 ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตร์ .............................1...1...1....แ..ร..ง.................................................................................. .................................................... .............................1...1...2....ก..า..ร..เ.ค...ล..่อื...น..ท...ี่ ................................................................................... .............................1...1...3....ม..อ...เ.ต..อ...ร..์ ............................................................................................................................. .................................................................................................................................. ............ 1.2 ความรูด้ ้านคณติ ศาสตร์ ..............................1....2.....1....ร..ปู ..ท...ร..ง................................................................................................................................ ..............................1....2.....2...ค...ว..า..ม..ย..า..ว........................................................................................ ..............................1....2.....3...พ...นื้ ...ท..่ี............................................................................. .................................................... ................................................................................................................................... ........... 19 1.3 ความรดู้ ้านเทคโนโลยี ...........................1....3...1....ก..า..ร..อ..อ...ก..แ..บ...บ...ก..า..ร..ส..ร..า้..ง..ช...ิน้ ..ง..า..น............................................................................................... ...........................1...3....2...ก...า..ร..อ..อ..ก...แ..บ...บ..ก...า..ร..ท..ด...ส..อ...บ..ป...ร..ะ..ส..ทิ...ธ..ภิ ...า.พ...ข...อ..ง..อ..ปุ...ก..ร..ณ....์ ...................... 1.3.3 การสืบค้นข้อมูล

............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................................................................................. 1.4 ศาสตร์พระราชา ..............................1.....4....1....ค..ว..า..ม..พ...อ...เ.พ...ยี ..ง.................................................................................................................... ..............................1.....4....2....เ.ก..ษ...ต..ร..ท...ฤ..ษ...ฎ...ีใ.ห...ม..่.......................................................................... ..............................1.....4....3....ก..า..ร..เ.พ...มิ่ ..ม...ูล..ค...่า..ผ..ล..ิต...ท..า..ง..ก...า..ร.เ..ก..ษ...ต..ร...................................................................................... .................................................................................................................................. ............ 2. แหลง่ ท่ใี ช้สบื คน้ ..............2...1....แ..ห...ล..่ง..เ.ร..ีย..น...ร..้อู..อ...น..ไ..ล..น...์ ........................................................................................................................... .............2....2...เ..อ..ก..ส...า..ร..เ.ล..่ม...ก..้า..ว..แ...ร.ก............................................................................................. .............2....3...เ..อ..ก..ส...า..ร..ค..ู่ม...อื ..ก..า..ร..เ..ร..ยี ..น..ร..ู้แ...บ..บ.....P..B..L........................................................................................................... ..............................................................................................................................................

20 การออกแบบช้นิ งาน การออกแบบชิ้นงาน เป็นการสร้างรูปลักษณ์ของชิ้นงาน โดยอาศัยความคิดสร้างสรรค์ความรู้ความ เข้าใจ ในหลักการออกแบบและนำมาใช้ ทำให้การออกแบบชิ้นงานน้นั มีคณุ ค่าและนา่ สนใจ 1. การออกแบบ หมายถงึ การทำต้นแบบ หรือการทำโครงสรา้ งของชิน้ งานทตี่ ้องการจดั ทำ เพอื่ ใหไ้ ด้ ผลงานสำเรจ็ ตามท่มี ุ่งหวงั โดยการเลอื กวสั ดุ เลอื กสี ทีน่ ำมาใช้ให้เหมาะสมสวยงาม 2. ท่มี าของการออกแบบชนิ้ งาน 2.1 การศกึ ษาแบบของงานที่ตนสนใจจากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ 2.2 การดัดแปลงแบบที่มีอยู่เดิม หรือแบบตัวอย่างโดยทำการศึกษาแบบ จนเกิดความเข้าใจ จึง ปฏิบัติการสรา้ งแบบ โดยการนำเอาแนวความคดิ หรือความคิดสร้างสรรค์ของตนเองไปผสมผสานทำให้ได้แบบที่ เปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะไมเ่ หมือนใคร 2.3 การออกแบบดว้ ยตนเองคือการออกแบบท่เี กิดจากแนวคิดของตนเอง และทดลองปฏิบัติสร้าง แบบจนได้แบบทสี่ วยงาม เหมาะสมตามความต้องการ ตวั อยา่ ง การออกแบบชนิ้ งาน ภาพท่ี 4 การออกแบบอุปกรณ์ดักจบั คราบนำ้ มันจากเส้นใยพืช

21 กิจกรรมที่ 6 วิธดี ำเนินการ กลมุ่ ท.่ี ................................ วัตถุประสงค์ 1. นักเรียนบอกวัสดุอุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการดำเนินการจัดทำโครงงาน PBLได้ 2. นักเรยี นสามารถออกแบบการทดลองหรือออกแบบชน้ิ งานได้ 3. นกั เรียนบอกวธิ ีการดำเนินการการจัดทำโครงงาน PBL คำชีแ้ จงในการทำกจิ กรรม 1. ให้สมาชกิ ในกลมุ่ ระบุวัสดุ อปุ กรณ์ที่จำเป็นต้องใชใ้ นการดำเนินการจัดทำโครงงาน PBL 2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันออกแบบการทดลองหรอื ออกแบบชนิ้ งาน เขียนรา่ งแบบชิ้นงานหรอื ผัง การสรา้ งช้นิ งาน 3. นกั เรยี นนำเสนอผลการออกแบบการทดลองหรือออกแบบชน้ิ งานและรว่ มกันแลกเปลยี่ นเรียนรู้กับ เพือ่ น ครูให้คำแนะนำเพื่อให้นักเรียนสามารถปรับปรุงแนวคิดเพื่อใหส้ ามารถทำการทดลองหรือสร้างช้ินงานได้ ต่อไป 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ปรบั ปรงุ ร่างการออกแบบการทดลองหรือรา่ งการออกแบบชนิ้ งานตาม คำแนะนำของครแู ละเพ่ือนๆ 5. เวลาในการทำกจิ กรรม 180 นาที 1. วสั ดุอุปกรณท์ ่ใี ช้ .................1.....ก...ร..ร..ไ.ก...ร............................................................................................. .................................................... .................2.....ไ..ม..บ้...ร..ร..ท...ดั ........................................................................................................... .................3.....ค...ดั ..เ..ต..อ..ร..์............................................................................................................................................... .................4.....ป...ืน...ก..า..ว..เ.ล...ก็ ......................................................................................................... .................5.....ก...า..ว..แ..ท...ง่ ................................................................................................................................................ .................6.....ม...อ..เ.ต...อ..ร..์..D..C....M....o..t..o..r...3..-.6....V....ก..ล..ม....ข...น..า..ด..เ.ล...็ก....................................................... .................7.....ข...ว..ด..น...้ำ..พ...ล..า..ส..ต...ิก...ข...น..า..ด....1....5....ล..ิต...ร...ข..น้ึ...ไ..ป............................................ .................................................... .................8.....ก...ร..ะ..ป...ุก..พ...ล..า..ส..ต...ิก....ท..ร..ง..ส..ีเ่..ห..ล...ี่ย..ม...ม..ฝี ..า..ป...ดิ ....(.ช..ดุ...อ..่อ...น..)................................... ............ .................9.....ส...ว..ิต..ซ...์อ..เิ .ล...็ก..ท...ร..อ..น...ิก..ส..์..2...ข...า...เ.ป...ดิ ....ป..ิด....1..2....V........................ ..................................................................... .................1..0......ต..า..ข..่า..ย...ไ.น...ล..่อ...น................................................................................. ................. .................1..1....ข...ัว้ ..ถ..า่..น....9...V....พ...ร..้อ..ม...ส..า..ย....................................................................................................... .................2. 2 ..................................1....112....34.........ถ..รถ..า่..า..า่น..ง..น..ถ..Pข....า่ A..นน....Nา....ดAA......SA..A..O..A..8..N....ช..I..C..อ่ ....ง..9....V........M......A......N....G......A....N......E....S....E........6....F....2......2......b......a....t..t....e....r....y....................................................................................... 15. ใบพัดพลาสตกิ แบบ 3 ใบ 16. ใบพัดพลาสติกแบบ 2 ใบ 17. ฝาขวดน้ำ

...................................................................................... ........................................................................................... ............................................................................................................................. ................. ......................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................................................................................. ........................................................................................................................ ......................................................... ............................................................................................................................. ................. 2. การออกแบบ (ภาพร่างโมเดลชนิ้ งาน) 2.1. ภาพร่างช้ินงานตน้ แบบ หลอดชานม 23 ตาข่ายไนลอน สวติ ส์ มอเตอร์ 2.2. ภาพรา่ งชิ้นงานที่ปรบั ปรุงแกไ้ ขแล้ว

ตัวอย่างช้ินงาน ใบพัด ขวดนำ้ พลาสตกิ หรือกระปุก มอเตอร์ 3-6 V รูสำหรบั เป่า สายไฟสำหรบั ตอ่ เขา้ กบั แบตเตอร่ี 24 3. ขั้นตอนการดำเนนิ การ ............1......อ..อ..ก...แ..บ...บ....แ..ล...ะ..เ.ข..ีย...น..ร..า่..ง..แ..บ...บ...โ.ค...ร..ง.ร..่า..ง..ช...นิ้ ..ง..า..น............................................................................................. .............2.....น...ำ..เ.ส..น...อ..ผ...ล..ก..า..ร..อ...อ..ก...แ..บ...บ..โ..ค..ร..ง..ร..่า..ง.ข...อ..ง..ช..น้ิ...ง..า..น..แ...ล..ะ..ร..ว่..ม...ก..ัน....................................... แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ร่วมกนั 3. ประเมนิ ความเหมาะสม และเป็นไปไดข้ องรา่ งแบบชิน้ งาน 4. ปรับปรุงร่างการออกแบบชน้ิ งานตามข้อแนะนำ ขอ้ เสนอแนะ

............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................ ..................................................................... ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................................ .. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. ................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ................................... หมายเหตุ ครูอาจให้นักเรยี นเปรียบเทียบวิธกี ารคัดแยกเศษวชั พชื และส่ิงเจือปนออกจากเมล็ด ขา้ วเปลอื กโดยวิธีการเปา่ ด้วยปาก กบั การใชอ้ ุปกรณค์ ัดแยกทนี่ กั เรียนได้สร้างขึน้ หรือวิธีการอ่นื ๆ เพ่ือท่ี นกั เรียนจะได้ตระหนักและรวู้ ่ายังมีวิธีการคดั แยกเศษวชั พชื และสิ่งเจือปนออกจากเมล็ดข้าวเปลอื กท่สี ะดวก และ ประหยัดเวลาได้ 25 กจิ กรรมที่ 7 การประดิษฐช์ น้ิ งาน กลุ่มที่.................................

วตั ถปุ ระสงค์ นกั เรยี นสามารถประดิษฐช์ ิ้นงานตามทอี่ อกแบบตามทกี่ ำหนดไว้ได้ คำชแ้ี จงในการทำกิจกรรม 1. ใหส้ มาชิกในกล่มุ ประชมุ แบง่ ภาระงานตามแผนการดำเนนิ งาน 2. นกั เรียนรว่ มกันปฏิบัตงิ านตามบทบาทหน้าทีท่ ี่ได้รับมอบหมายตามแผนการดำเนินงานท่ีกำหนดไว้ 3. เวลาในการทำกิจกรรม 240 นาที 26 กจิ กรรมที่ 8 ผลการทดสอบประสทิ ธิภาพของชิน้ งาน กลมุ่ ที่................................. วัตถุประสงค์

นักเรียนบันทึกผลการทดสอบประสิทธิภาพของชิ้นงานและข้อมูลการปรับปรุงพัฒนาชิ้นงานให้มี ประสิทธิภาพตามวตั ถุประสงคข์ องการจัดทำโครงงานได้ คำช้ีแจงในการทำกจิ กรรม 1. ให้สมาชกิ ในกลุ่มดำเนนิ การทดสอบประสิทธิภาพของชิ้นงานและข้อมลู การปรับปรุงพัฒนาช้ินงาน ใหม้ ีประสิทธภิ าพตามวัตถปุ ระสงคข์ องการจดั ทำโครงงานได้ 2. นักเรียนออกแบบรูปแบบการนำเสนอผลการทดสอบหาประสิทธิภาพของชิ้นงานได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ 3. เวลาในการทำกจิ กรรม 180 นาที ขน้ั ตอนการพัฒนาและปรับปรุงชิ้นงาน (การเขียนบรรยายและการวาดเป็นภาพใหเ้ หน็ การพฒั นาของช้ินงาน ตามลำดับ) ผลการทดสอบประสิทธิภาพของช้ินงานทปี่ ระสบผลสำเร็จ ตัวอย่างแนวทางการออกแบบตารางบนั ผลการทดสอบหาประสิทธิภาพของชน้ิ งาน .................ต...า.ร..า..ง..ท..่ี..1...ก..า..ร..ท...ด..ส..อ..บ...ป..ร..ะ..ส..ทิ...ธ..ิภ..า..พ...ข..อ..ง..อ..ปุ...ก..ร..ณ...์ค..ดั...แ..ย..ก..เ.ศ...ษ..ว..ชั...พ..ืช..แ...ล..ะ..ส..ิ่ง..เ.จ..ือ...ป..น................................ ..ก..ับ...เ.ม..ล..็ด...ข..้า..ว..เ.ป...ล..ือ..ก...ท..ี่ใ..ช..้ใ..บ..พ...ัด..พ...ล..า..ส..ต...ิก...2....ใ.บ....แ...ล..ะ...3....ใ.บ.....โ..ด..ย..ท...ด..ส..อ...บ..ก..ั.บ..เ.ม...ล..็ด..ข...้า..ว..เ.ป..ล...ือ..ก................................ ..5..0..0...ก...ร.มั....ผ..ส..ม...ก..ับ..เ..ศ..ษ..ว..ัช...พ..ืช....5..0...ก..ร..ัม....ท..ำ..ก..า..ร..ท...ด..ส..อ..บ....3...ค...ร..้ัง...แ..ต..ล่..ะ..ค...ร.ัง้..จ..บั...เ.ว..ล..า 5 นาที จำนวนใบพัด (ใบ) คร้งั ท่ี 2 3 ปรมิ าณเศษวัชพชื ขา้ วเปลอื กผสมเศษ ปรมิ าณเศษวัชพชื และ รอ้ ยละของเศษวชั พืช ขา้ วเปลือกผสมเศษ และส่งิ เจือปนทค่ี ดั รอ้ ยละของเศษวชั พืช และสง่ิ เจือปนทีค่ ัด วัชพชื และสงิ่ เจือปน ส่งิ เจือปนทค่ี ัดแยกได้ และสิ่งเจือปนที่คดั แยก วชั พชื และสิง่ เจอื ปน แยกได้ (กรัม) 43 แยกได้ (%) (กรมั ) (กรมั ) ได้ (%) (กรมั ) 41 86.0 40 82.0 1 550 34 68.0 550 41.33 80.0 82.66 2 550 30 60.0 550 3 550 31 62.0 550 เฉลยี่ 550 31.66 63.32 550 27 สรปุ ผลการดำเนินการ

การสรุปผลการดำเนินการ เป็นการฝึกให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษามาสรุปผลโดยใช้ กระบวนการจำแนก วิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปข้อคิดเห็น โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนนำข้อมูลที่ได้ค้นพบมาสรุปผล ข้อเทจ็ จรงิ จากการทไ่ี ดค้ ้นควา้ เพือ่ ตอบวัตถุประสงค์ท่ตี ้องการศึกษา อยากรู้ การสรุปผลการดำเนินการ นักเรียนจะต้องนำข้อมูลที่ได้จากการการดำเนินการ มาจัดกระทำแล้วแต่ ลักษณะของข้อมูล ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังน้ี การจำแนก การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การเชื่อมโยง ความสัมพันธ์ การหาค่าความถี่ การหาค่าร้อยละ ฯลฯ เพื่อทำการสรุปผลการดำเนินการ ในการสรุปผลที่ได้ นกั เรียนสามารถนำเสนอการสรุปผลได้หลากหลาย ตามความเหมาะสม เช่น การนำเสนอรายงาน การเขียน รายงานโครงงาน การจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน การจัดนิทรรศการ ฯลฯ ซึ่งการสรุปผลการศึกษา ค้นคว้ามี แนวคดิ ทีส่ ำคญั ในการสรปุ ผล ดังนี้ 1. หลกั ในการสรุปผลการดำเนนิ การ การสรุปผลการศึกษาค้นคว้าในการจัดทำโครงงาน จะต้องสรุปผลโดยคำนึงถึงหลักในการสรุป ดังนี้ 1.1 ตอ้ งตอบวัตถปุ ระสงค์ (คำถามทอ่ี ยากรู้ สงสัย เป็นปัญหา) ทต่ี อ้ งการศกึ ษา ค้นควา้ ในการจดั ทำโครงงานให้ไดค้ รบทกุ ข้อ ทงั้ ในด้านกระบวนการและผลทีไ่ ด้ค้นพบจากการศึกษาคน้ คว้า 1.2 ถา้ มีข้อคน้ พบทมี่ ากกว่าวัตถปุ ระสงค์ท่ตี ้องการศกึ ษา กค็ วรนำเสนอขอ้ ค้นพบ ไวด้ ้วย 2. วธิ กี ารสรุปผลการดำเนินการ การสรุปผลการศกึ ษา คน้ ควา้ มวี ิธกี ารสรปุ ดงั น้ี 2.1 การสรปุ ผลเป็นความเรียง 2.2 การสรปุ ผลเรยี งลำดับเป็นขอ้ ๆ 2.3 สรปุ เป็นแผนผังความคดิ ประกอบคำอธิบาย ตวั อยา่ ง สรปุ ผลการดำเนนิ การ โครงงานเรอื่ ง อปุ กรณด์ ักจบั คราบนำ้ มนั จากเส้นใยของพืช สรุปผลการดำเนินการ ได้ว่า อุปกรณ์ดักจับคราบน้ำมันที่ทำจากเส้นใยมะพร้าวแห้ง มี ประสิทธภิ าพในการดักจับคราบน้ำมันได้ดีที่สุด คดิ เปน็ ร้อยละ 80 รองลงมา เปน็ เส้นใยกาบกล้วย คิดเป็นร้อย ละ 50 และเส้นใยฟางขา้ ว คิดเปน็ รอ้ ยละ 20 ตามลำดับ

28 กิจกรรมท่ี 9 สรุปผลการดำเนนิ การ กล่มุ ท.ี่ ................................ วัตถุประสงค์ นกั เรยี นสามารถสรุปผลการดำเนินงานตามวตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ทำโครงงานได้ คำชี้แจงในการทำกจิ กรรม 1. ใหส้ มาชกิ ในกลุ่มร่วมกนั สรุปผลการดำเนนิ งานตามวตั ถุประสงคข์ องการจัดทำโครงงาน 2. เวลาในการทำกจิ กรรม 120 นาที สรุปผลการดำเนินการ โครงงานเรื่อง ……อ…ปุ …กร…ณ…ค์ …ัด…แ…ยก…เ…ศ…ษว…ัช…พ…ชื …แล…ะ…ส…่ิงเ…จ…ือป…น…อ…อ…ก…จา…ก…เม…ล…็ด…ขา้…ว…เป…ล…ือ…ก………………… .....................ส...ร..ุป..ผ...ล..ก...า.ร..ด...ำ..เ.น...ิน..ก...า..ร...ไ..ด..้ว..่า...อ...ุป..ก...ร..ณ...์ค...ดั ..แ..ย...ก..เ.ศ...ษ..ว...ัช..พ...ืช..แ..ล...ะ..ส..่งิ..เ.จ...ือ..ป...น..อ...อ..ก...จ.า..ก..เ..ม..ล...ด็ .......... .....ข...า้ ..ว..เ.ป...ล..ือ..ก...ท..ี่ใ..ช..้ใ..บ..พ...ัด...พ..ล...า..ส..ต..ิ.ก..จ..ำ..น...ว..น....2...ใ..บ....แ..ล..ะ....3...ใ..บ....ส..า..ม...า..ร..ถ..ค...ดั ..แ..ย...ก..เ.ศ...ษ..ว...ัช..พ...ชื ..แ..ล...ะ..ส..่ิง..เ.จ...อื ..ป...น........................ .....ใ..น..เ..ม..ล...ด็ ..ข..า้..ว..เ..ป..ล...อื ..ก..ไ..ด..้เ..ฉ..ล..ยี่.....3...1....6..6....ค..ิด...เ.ป..น็...ร..อ้..ย...ล..ะ.....6..3.....3..2...แ...ล..ะ....เ.ฉ..ล...ย่ี ...4...1....3..3...ค..ดิ...เ.ป...น็ ..ร..้อ...ย..ล..ะ.............................. .....8...2....6..6....ต..า..ม...ล..ำ..ด..บั............................................................................................... .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................................... ................. ........................................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................. .................................................. .................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................. ........................................................................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................................................................. ........................................................................................................................................... ..................... 29 อภปิ รายผลการดำเนินการ

1. อภิปรายผลการดำเนินการเขียนเรียงตามวัตถุประสงค์ของโครงงาน โดยเสนอผลการดำเนินการใน ภาพรวม เพื่อตอบวัตถุประสงค์ของโครงงาน และถ้าวัตถุประสงค์ของโครงงานดังกล่าวมีสมมุติฐาน ให้ระบุว่า ผลการดำเนนิ การเปน็ ไปตามสมมตฐิ านหรือไม่ 2. อภปิ รายผลการดำเนินการว่าที่เปน็ ผลดังน้ันเพราะเหตุใด สอดคล้องและไมส่ อดคล้องกับงานวิจัย ของใคร เพราะเหตุใด อาจจะเสนอข้อมูลประกอบเพื่อการยืนยันตามหลักการ แนวคิดทฤษฎีของนักวิชาการ เพือ่ ให้เกดิ ความน่าเชื่อถือ โดยเขียนเปน็ ความเรียง 3. คำกล่าวหรืองานวิจัยที่นำมาอ้างอิง เพื่อประกอบการอภิปรายผลต้องมีสาระอยู่ในเอกสารท่ี เก่ียวข้อง ตัวอยา่ ง การอภปิ รายผลการดำเนินการ โครงงานเรื่อง อุปกรณด์ กั จบั คราบน้ำมันจากเสน้ ใยของพชื วัตถุประสงคข์ องโครงงาน 1. เพ่อื สร้างอุปกรณด์ ักคราบนำ้ มนั จากเสน้ ใยของพชื 2. เพ่อื ศึกษาประสทิ ธิภาพของเส้นใยพืชแต่ละชนิดต่อการดักจบั คราบนำ้ มัน อภปิ รายผลการดำเนินการ จากการศึกษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ดักจับคราบน้ำมันจากเส้นใยของพืช พบว่า อุปกรณ์ดักจับ คราบน้ำมันที่ทำจากเส้นใยมะพร้าวแห้งสามารถดักจับคราบน้ำมันได้ดีกว่าเสน้ ใยกาบกล้วย และเส้นใยฟางข้าว ตามลำดบั เนือ่ งจากเสน้ ใยมะพรา้ วแห้งมีความเหนียว มรี พู รนุ และมขี ุยมาก สอดคลอ้ งกับการศกึ ษาลักษณะเส้น ใยจากมะพร้าวแห้ง ของ ศิริพร พงศ์สันติสุข (2541) ที่ได้ทำการศึกษาการขจัดคราบน้ำมันในน้ำโดยใช้วัสดุ ธรรมชาติเป็นตัวดูดซับ ซึ่งพบว่าเส้นใยมะพร้าวแห้งสามารถขจัดคราบน้ำมันได้ วิวัฒน์ ตัณฑะพานิชกุล (2547) ได้ศึกษาการผลิตเซลลูโลสที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ จากวัสดุเหลือใช้เพื่อเป็นตัวดูดซับและหรือเร่งปฏิกิริยาใน อุตสาหกรรมปิโตรเลียม และงานวิจัยของ ไมตรี จิรไมตรี (2551)ได้ทำการศึกษา พัฒนาถังดักไขมันด้วยการดูด ซับด้วยกาบมะพร้าว ดังนั้นเส้นใยจากกาบมะพร้าวจึงเหมาะสมที่จะนำมาทำอุปกรณ์ใช้ดักจับคราบน้ำมันก่อน ปลอ่ ยนำ้ ทง้ิ ลงในทอ่ ระบายนำ้ เปน็ การรักษาส่ิงแวดล้อมอกี ทางหน่งึ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook