Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล)

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล)

Published by julasak.mind, 2022-06-14 13:10:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้
วีรศักดิ์ ปกป้อง

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รหสั วชิ า พ32102 ชอ่ื วชิ า ฟุตซอล เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง การรบั – ส่งลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝ่าเท้า ปีการศึกษา 2564 ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ครูผ้สู อน นายวรี ศกั ด์ิ ปกป้อง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี ้าใจนักกีฬา มีจติ วิญญาณในการแข่งขนั และชน่ื ชมในสุนทรียภาพของการกฬี า 2. ตัวชีว้ ดั พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพื่อเพิ่มศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลที่เกิดต่อ ผอู้ นื่ และสังคม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพมิ่ ศักยภาพของทีม ลดความเป็นตัวตนคานึงถึงผลทเ่ี กิดตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ช่นื ชมในคณุ คา่ และความงามของการกีฬา 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายทักษะการรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เทา้ ได้ (K) 3.2 นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ิทกั ษะการรบั – สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วยฝา่ เทา้ ได้ (P) 3.3 นกั เรยี นมเี จตคติทด่ี ีต่อกีฬาฟตุ ซอล (A) 4. สาระสาคัญ การการรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลดว้ ยฝา่ เทา้ เปน็ ทกั ษะทีส่ าคัญมากในการเลน่ ฟตุ ซอล เพราะการรับ – ส่งลูกฟุตซอล ด้วยฝ่าเท้าน้ันต้องใช้ในการหยุดบอลและส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม เพ่ือที่จะไม่ให้เสียการครอบครองบอล และยัง สามารถลาเลียงลกู บอลไปไปทาประตฝู งั่ ตรงข้ามได้ ถา้ หากมที ักษะในการรับ-ส่งลูกฟุตบอลด้วยฝ่าเท้าท่ีดีก็จะทาให้การ เลน่ มปี ระสทิ ธภิ าพ 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ด้านความรู้ 5.1.1 ทกั ษะการการรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยฝ่าเท้า 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 5.2.1 การปฏบิ ัตทิ ักษะการรับ – ส่งลูกฟุตซอลดว้ ยฝ่าเท้า 5.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ 5.3.1 มคี วามใฝ่เรยี นรู้ 5.3.2 มคี วามมุ่งมัน่ ในการทางาน

6. สมรรถนะของผูเ้ รยี น 6.1 ความสามารถในการส่ือสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 ใฝ่เรียนรู้ 7.2 มงุ่ ม่ันในการทางาน 7.3 มวี นิ ยั 8. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน/ทกั ษะการปฏบิ ัติ 8.1 วดิ โี อทักษะการรับ – สง่ ลกู ฟตุ ซอลด้วยฝา่ เทา้ 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ 9.1 ข้ันเตรยี ม 9.1.1 นกั เรียนเขา้ ลิงค์ google classroom วชิ าเรียน พ32102 ฟุตซอล 9.1.2 ครูสารวจชอื่ นักเรียน 9.2 ขน้ั อธบิ ายและสาธติ ครูอธิบายและพร้อมสาธติ ทักษะการรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลด้วยฝ่าเทา้ ให้นักเรียนดู และนกั เรยี นปฏบิ ตั ิตาม ทลี ะข้นั ตอน โดยใหน้ กั เรยี นดูจากสือ่ วดี โี อทเ่ี ตรียมไวใ้ ห้นักเรียน ดงั น้ี 9.2.1 วิธีปฏิบัตทิ กั ษะการรบั – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยฝ่าเท้า - เท้าหลกั วางอย่หู ลังบอลเลก็ นอ้ ย ปลายเทา้ ช้ไี ปทางด้านหนา้ - ฝ่าเท้าขา้ งถนดั สัมผัสส่วนบนของลูกบอล และเหวย่ี งขาไปดา้ นหลังเลก็ นอ้ ย โดยใช้เข่าเปน็ จุดหมุน และออกแรงคลงึ บอลไปด้านหนา้ - เมือ่ จะหยดุ บอล ให้ใชฝ้ า่ เท้าเชิดข้นึ เล็กน้อย ให้ตรงกบั ทิศทางท่ลี ูกบอลจะมาและใชฝ่ ่าเท้ากดไปท่ี หวั ลูกฟุตซอล 9.3.1 นกั เรียนฝึกปฏิบตั ทิ ักษะการรับ – ส่งลูกฟุตซอลด้วยฝา่ เท้าในท่าทางที่ถูกต้อง โดยเรมิ่ จากการ รบั – สง่ ลกู ฟุตซอลในระยะใกล้ๆประมาณ 3-5 เมตรก่อน แลว้ จงึ ค่อยเพิ่มระยะการรับ - ส่งมากขน้ึ เร่ือยๆ โดยให้ฝึกทา ประมาณ 1-2 นาทใี นแตล่ ะระยะ เพอ่ื ใหร้ า่ งกายค้นุ ชินและจดจากบั ทา่ ทางที่ถูกต้อง

9.3.2 ขณะการฝกึ ปฏิบตั ิทักษะการรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลด้วยฝ่าเท้า ใหต้ ัง้ กล้องโทรศัพทม์ ือถืออัดวดิ ีโอเพื่อ ดูท่าทางของตัวเองว่าต้องแกไ้ ขจดุ ใดบ้าง เพอื่ จะไดป้ รับปรุงใหด้ ีขึน้ และถูกต้อง 9.4 ขน้ั นาไปใช้ 9.4.1 นักเรยี นปฏบิ ัติทกั ษะการรบั – สง่ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เทา้ ในท่าทางที่ถกู ต้องแล้วถา่ ยวดิ โี อส่งครูผู้สอน 9.5 ขน้ั สรปุ 9.5.1 ครูเสนอแนะและให้คาแนะนาในการแกไ้ ขข้อบกพร่องทักษะการรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยฝา่ เท้า สาหรับนักเรยี นท่ียงั ทาไม่ถูกต้อง 9.5.2 ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรปุ เน้ือหาเรือ่ งทักษะการรบั – ส่งลูกฟุตซอลดว้ ยฝา่ เท้ารว่ มกนั 10. สื่อ-อุปกรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 สื่อ-อปุ กรณ์การเรียน 10.1.1 สนามกฬี า หรอื ลานหน้าบา้ น 10.1.2 ชุดกีฬา รองเท้าผ้าใบ 10.1.3 ลกู ฟตุ ซอล หรืออุปกรณ์ทสี่ ามารถใช้แทนลูกฟตุ ซอลได้ 10.2 แหลง่ การเรียนรู้ 10.2.1 ส่ือวดิ โี อ youtube เรือ่ งทักษะการรบั – สง่ ลกู ฟุตซอลดว้ ยฝ่าเท้า 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์ วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) นกั เรยี นสามารถอธิบายทกั ษะ - การถามตอบปากเปลา่ แบบประเมินตอบปาก - ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน เปล่า เรอื่ ง ทกั ษะการรบั รวมในระดับดขี ้ึนไป การรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยฝ่า เรอื่ ง ทักษะการรบั – สง่ – ส่งลูกฟุตซอลด้วยฝา่ เทา้ - ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ โดยไดค้ ะแนน เท้าได้ ลูกฟุตซอลด้วยฝา่ เทา้ แบบประเมนิ การฝกึ ทักษะ รวมในระดบั ดีขึ้นไป เร่ือง ทักษะการรบั – สง่ 2. ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) ลกู ฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เทา้ - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ โดยไดค้ ะแนน รวมในระดับดีขึน้ ไป นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั ิทักษะ - ตรวจกิจกรรม เรอื่ ง แบบสมั ภาษณค์ วามคิด เหน็ ทกั ษะการรับ – ส่งลูกฟุตซอล ทกั ษะการรับ – ส่งลูกฟุต ด้วยฝา่ เท้าได้ ซอลด้วยฝ่าเทา้ 3. ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) นักเรียนมเี จตคติทดี่ ีต่อกีฬา - สัมภาษณ์ ฟตุ ซอล

12. บันทกึ ผลหลังการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 12.1 ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) ด้านความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ ................................................................ 2) ดา้ นทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ....................................................................................................................................................................... ..................... 3) ดา้ นคุณลักษณะ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... 12.2 ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแกป้ ญั หา / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงชอ่ื ........................................ (นายวรี ศักด์ิ ปกป้อง) ครผู ู้สอน 13. ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง ทักษะการรบั – สง่ ลกู ฟตุ ซอลด้วยฝา่ เท้าเรียบรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคดิ เหน็ ดังน้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั  สอดคลอ้ ง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั มาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไม่ได้นากระบวนการเรียนรทู้ ่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้

4. การใช้สอ่ื การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผ้เู รยี น  ไม่ส่งเสรมิ การเรยี นร้ขู องผ้เู รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นร้ไู ปใช้  นาไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสาววราพณั ณ์ สัมมาพสิ ิทธ)์ิ ตาแหนง่ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา วนั ท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง ทักษะการรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยฝ่าเท้าเรียบรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคิดเหน็ ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั  สอดคลอ้ ง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทเี่ น้นผ้เู รียนเปน็ สาคญั มาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม  ไม่ได้นากระบวนการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั มาใช้ 4. การใชส้ ือ่ การเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รียน  ไม่ส่งเสริมการเรียนรขู้ องผเู้ รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้  นาไปใช้ได้จริง

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ต้องการ วดั และความสอดคล้องดา้ นพุทธพิ สิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พิสยั วตั ถปุ ระสงค์ พุทธพิ สิ ยั พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พสิ ัย เทคนิค ระดับพฤติกรรม (%) การ ประเมนิ ทกั ษะพสิ ัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทกั ษะการรบั – 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 กจิ กรรม ส่งลูกฟุตซอลด้วย 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ตนเอง ฝ่าเท้าได้ 2. นกั เรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ัติ 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทักษะการรับ – 10 10 10 10 10 10 60 2. การประเมิน สง่ ลูกฟุตซอลดว้ ย ตนเอง ฝ่าเท้า 3. นกั เรียนมเี จต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คตทิ ดี่ ตี อ่ กฬี า ความคดิ เหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอ่ื งหมายในการวเิ คราะห์  หมายถึง ปรากฏพฤติกรรมดา้ นนัน้ ๆ ตารางวิเคราะหก์ ารประเมิน จติ พสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั พทุ ธพิ ิสยั 1 = การรบั รสู้ ง่ิ เร้า 1 = การรบั รู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรียม 1 = ความจา 3 = การสรา้ งคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาชแ้ี นะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจัดระบบคุณค่า 4 = การสรา้ งกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสรา้ งลกั ษณะนสิ ยั 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขน้ึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินค่า 7 = การรเิ ร่มิ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เรอื่ ง ทกั ษะการรบั – สง่ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เท้า คาชีแ้ จง : ให้ผ้ปู ระเมินทาการประเมินกจิ กรรม เรอื่ ง ทกั ษะการรับ – สง่ ลูกฟุตซอลด้วยฝ่าเท้า ลาดบั ชือ่ – สกลุ ระดบั คะแนน สรปุ การประเมนิ ท่ี 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นายวรี ศักดิ์ ปกปอ้ ง) วนั ท.ี่ ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรม เร่ือง ทักษะการรับ – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยฝ่าเทา้ เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 ผลงานมีความถูกตอ้ ง - อธิบายทกั ษะ - อธิบายทักษะ - อธบิ ายทักษะ - อธิบายทกั ษะ - อธบิ ายทกั ษะ สมบูรณ์ การรับ – สง่ ลูก การรบั – ส่งลกู การรบั – ส่งลกู การรบั – ส่งลูก การรบั – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยฝา่ เท้า ฟุตซอลด้วยฝา่ ฟุตซอลด้วยฝ่า ฟุตซอลดว้ ยฝ่า ฟตุ ซอลดว้ ยฝ่า 1) เทา้ หลกั วางอยู่ เท้าอยา่ งใด เทา้ 2 ในข้อ 4 เทา้ 3 ในขอ้ 4 เท้าไมถ่ ูกต้อง หลังบอลเล็กนอ้ ย อย่างหนึง่ ในขอ้ ไมถ่ กู ต้อง ไมถ่ ูกต้อง ปลายเทา้ ชไี้ ป 4 ไม่ถกู ต้อง ทางด้านหนา้ 2) ฝา่ เท้าข้างถนดั สมั ผสั สว่ นบนของ ลกู บอล และ เหว่ียงขาไป ด้านหลงั เลก็ น้อย โดยใชเ้ ข่าเปน็ จดุ หมุน และออกแรงคลงึ บอลไปดา้ นหน้า 3) เมอ่ื จะหยุด บอล ใหใ้ ชฝ้ ่าเท้า เชิดขนึ้ เลก็ น้อย ใหต้ รงกับทศิ ทาง ทล่ี ูกบอลจะมา และใชฝ่ ่าเท้ากด ไปท่หี วั ลูกฟตุ ซอล เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป

คาอธิบายประกอบการประเมิน ด้านทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เร่อื ง การรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยฝ่าเท้า คาช้แี จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินทาการประเมนิ กจิ กรรม เร่อื ง การรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝ่าเท้า ลาดบั ที่ ช่ือ – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผปู้ ระเมนิ ( นายวีรศกั ดิ์ ปกป้อง ) วันที.่ ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง การรบั – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยฝา่ เท้า เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นที่ประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - ปฏบิ ตั ิทกั ษะ - ปฏิบัติทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกต้อง - ปฏบิ ัติทกั ษะการ - ปฏิบัติทกั ษะ - ปฏบิ ัติทักษะ การรับ – ส่งลูก การรับ – สง่ ลกู สมบรู ณ์ รับ – สง่ ลกู ฟุต การรับ – สง่ ลูก การรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยฝ่า ฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ ซอลดว้ ยฝา่ เท้า ฟุตซอลด้วยฝา่ ฟุตซอลดว้ ยฝ่า เทา้ 3 ในขอ้ 4 เท้าไม่ถูกตอ้ ง 1) เท้าหลักวางอยู่ เท้าอยา่ งใด เทา้ 2 ในขอ้ 4 ไมถ่ ูกต้อง หลงั บอลเล็กนอ้ ย อย่างหนง่ึ ในข้อ ไมถ่ กู ตอ้ ง ปลายเท้าชไี้ ป 4 ไมถ่ กู ตอ้ ง ทางด้านหน้า 2) ฝา่ เท้าขา้ งถนัด สัมผสั สว่ นบนของ ลกู บอล และ เหว่ยี งขาไป ดา้ นหลงั เล็กนอ้ ย โดยใชเ้ ขา่ เปน็ จดุ หมนุ และออกแรงคลึง บอลไปดา้ นหนา้ 3) เมอื่ จะหยุด บอล ใหใ้ ชฝ้ า่ เท้า เชิดขนึ้ เลก็ น้อย ให้ตรงกบั ทิศทาง ท่ีลกู บอลจะมา

และใช่ฝา่ เทา้ กด ไปท่ีหวั ลูกฟุตซอล เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นักเรยี นมีระดบั คะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ขึ้นไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพรา่ งกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟตุ ซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากข้นึ 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นักเรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาค่าเฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถ้าได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รหัสวชิ า พ32102 ช่อื วชิ า ฟุตซอล เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เร่ือง การรับ – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยข้างเท้าดา้ นใน ปีการศึกษา 2564 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ครูผู้สอน นายวีรศักดิ์ ปกป้อง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มนี า้ ใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณในการแข่งขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา 2. ตัวช้ีวัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพื่อเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลท่ีเกิดต่อ ผู้อื่นและสังคม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพ่มิ ศักยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตนคานึงถึงผลท่ีเกิดตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬาอยา่ งมีความสุข ชืน่ ชมในคณุ คา่ และความงามของการกีฬา 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายทกั ษะการรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยข้างเทา้ ด้านในได้ (K) 3.2 นกั เรยี นสามารถปฏิบัติทกั ษะการรับ – ส่งลกู ฟุตซอลดว้ ยขา้ งเท้าด้านในได้ (P) 3.3 นักเรยี นมเี จตคติท่ดี ีต่อกีฬาฟุตซอล (A) 4. สาระสาคญั การการรบั – ส่งลูกฟุตซอลดว้ ยขา้ งเท้าด้านในเป็นทกั ษะที่สาคัญมากในการเลน่ ฟุตซอล เพราะการรับ – ส่งลูก ฟุตซอลด้วยข้างเท้าด้านในนั้นต้องใช้ในการหยุดบอลและส่งบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม เพื่อที่จะไม่ให้เสียการครอบครอง บอล และยังสามารถลาเลียงลูกบอลไปไปทาประตูฝ่ังตรงข้ามได้ ถ้าหากมีทักษะในการรับ-ส่งลูกฟุตซอลด้วยข้างเท้า ด้านในทด่ี กี จ็ ะทาให้การเลน่ มปี ระสิทธิภาพ 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ด้านความรู้ 5.1.1 ทักษะการการรับ – สง่ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน 5.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 5.2.1 การปฏิบัตทิ กั ษะการรับ – สง่ ลูกฟุตซอลด้วยข้างเท้าด้านใน 5.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ 5.3.1 มคี วามใฝเ่ รียนรู้ 5.3.2 มีความมุ่งมัน่ ในการทางาน

6. สมรรถนะของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการส่ือสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รียนรู้ 7.2 มุง่ ม่นั ในการทางาน 7.3 มวี ินัย 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน/ทักษะการปฏบิ ตั ิ 8.1 วดิ โี อทกั ษะการรบั – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยข้างเท้าด้านใน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขั้นเตรียม 9.1.1 นักเรียนเขา้ ลงิ ค์ google classroom วชิ าเรยี น พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครูสารวจช่อื นกั เรียน 9.2 ข้ันอธบิ ายและสาธิต ครอู ธิบายและพร้อมสาธิตทักษะการรบั – สง่ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยขา้ งเท้าด้านในใหน้ ักเรยี นดู และนกั เรียน ปฏิบตั ติ าม ทีละข้ันตอน โดยใหน้ กั เรยี นดจู ากส่ือวดี โี อทเี่ ตรียมไวใ้ หน้ กั เรียน ดงั นี้ 9.2.1 วธิ ีปฏบิ ัตทิ กั ษะการรับ – สง่ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยขา้ งเท้าด้านใน - ยนื ในท่าเตรียมพร้อม ตามองท่ีลูกบอล - เคล่อื นท่เี ข้าหาลูกบอล - วางเท้าหลกั ให้ปลายเท้าอยู่แนวเดยี วกนั กบั ลกู บอล หา่ งจากลูกบอลประมาณ 1 ฝา่ มือ ตามองลูก บอลตลอดเวลา - ยกเทา้ ทีจ่ ะใช้จะใชเ้ ตะข้ึนประมาณ 1 ฝ่ามอื บิดสะโพกไปทางขวา บดิ ปลายเท้า ออกไปดา้ นขา้ ง เหวย่ี งไปด้านหลงั เกร็งข้อเทา้ ลอ็ คข้อเขา่ ข้อเท้า โดยใช้ขอ้ สะโพกเป็นจุดหมนุ โดยเทา้ หลัก กับเทา้ ที่ใชเ้ ตะต้องต้งั ฉากทามมุ 90 องศา พรอ้ มกับถา่ ยน้าหนักตวั ไปทเ่ี ท้าหลัก ใชข้ า้ งเท้าดา้ นในเตะที่กง่ึ กลางของลูกบอล - ถ่ายนา้ หนกั ตวั ไปตามแรงเหวี่ยงของเท้า

9.3.1 นกั เรียนฝกึ ปฏิบตั ิทักษะการรบั – ส่งลูกฟุตซอลด้วยด้วยข้างเทา้ ด้านในในทา่ ทางท่ีถูกต้อง โดยเริม่ จากการรับ – ส่งลกู ฟุตซอลในระยะใกล้ๆประมาณ 3-5 เมตรกอ่ น แล้วจึงค่อยเพ่มิ ระยะการรับ - สง่ มากขน้ึ เรื่อยๆ โดย ให้ฝึกทาประมาณ 1-2 นาทีในแต่ละระยะ เพ่ือให้ร่างกายคุ้นชินและจดจากบั ท่าทางที่ถกู ต้อง 9.3.2 ขณะการฝกึ ปฏิบัติทักษะการรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยด้วยข้างเท้าดา้ นใน ใหต้ ั้งกล้องโทรศัพท์มือถอื อดั วดิ ีโอเพ่ือดูท่าทางของตวั เองวา่ ตอ้ งแก้ไขจดุ ใดบา้ ง เพอื่ จะได้ปรบั ปรงุ ใหด้ ีขน้ึ และถูกตอ้ ง 9.4 ขั้นนาไปใช้ 9.4.1 นักเรียนปฏบิ ตั ิทกั ษะการรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยดว้ ยขา้ งเท้าด้านใน ในทา่ ทางท่ีถูกตอ้ งแล้วถ่าย วิดีโอส่งครูผสู้ อน 9.5 ขนั้ สรปุ 9.5.1 ครเู สนอแนะและให้คาแนะนาในการแก้ไขข้อบกพร่องทักษะการรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยด้วยขา้ ง เท้าด้านในสาหรบั นักเรียนทยี่ ังทาไม่ถูกต้อง 9.5.2 ครูและนักเรียนช่วยกนั สรุปเนือ้ หาเร่อื งทักษะการรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยข้างเท้าด้านในร่วมกนั 10. สอื่ -อุปกรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้ 10.1 สือ่ -อปุ กรณ์การเรียน 10.1.1 สนามกฬี า หรอื ลานหน้าบ้าน 10.1.2 ชดุ กีฬา รองเทา้ ผ้าใบ 10.1.3 ลกู ฟตุ ซอล หรืออุปกรณท์ สี่ ามารถใชแ้ ทนลกู ฟตุ ซอลได้ 10.2 แหล่งการเรยี นรู้ 10.2.1 สื่อวิดโี อ youtube เร่อื งทักษะการรบั – สง่ ลูกฟุตซอลด้วยข้างเทา้ ดา้ นใน 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวัด เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านพทุ ธิพิสัย (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธบิ ายทักษะ - การถามตอบปากเปล่า แบบประเมินตอบปาก - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน โดยได้คะแนน เปลา่ เรื่อง ทกั ษะการรบั รวมในระดบั ดขี น้ึ ไป การรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ย เรื่อง ทักษะการรบั – สง่ – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยด้วย ขา้ งเทา้ ดา้ นใน - ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ โดยได้คะแนน ข้างเทา้ ดา้ นใน ลูกฟตุ ซอลดว้ ยข้างเท้า รวมในระดบั ดขี ้ึนไป แบบประเมนิ การฝกึ ทักษะ ดา้ นใน เรอื่ ง ทกั ษะการรับ – สง่ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ โดยไดค้ ะแนน ลูกฟตุ ซอลดว้ ยดว้ ยขา้ งเทา้ รวมในระดับดีขึน้ ไป 2. ดา้ นทักษะพสิ ยั (Psychomotor domain) ด้านใน นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิทักษะ - ตรวจกิจกรรม เรื่อง แบบสมั ภาษณค์ วามคิด เหน็ ทกั ษะการรบั – ส่งลูกฟุตซอล ทักษะการรับ – ส่งลกู ฟตุ ดว้ ยดว้ ยข้างเท้าดา้ นในได้ ซอลด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นใน 3. ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นักเรยี นมเี จตคติทด่ี ีต่อกฬี า - สัมภาษณ์ ฟตุ ซอล

12. บันทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 12.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ ................................................................ 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ดา้ นคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................ 12.2 ปญั หา / อุปสรรค ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแกป้ ญั หา / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................... ............................................................................................... .......................... ลงชือ่ ........................................ (นายวรี ศกั ดิ์ ปกป้อง) ครูผสู้ อน 13. ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ได้ตรวจแผนการจัดการเรียนรูห้ นว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง ทักษะการรบั – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยข้างเทา้ ดา้ นในเรียบรอ้ ย แลว้ โดยมคี วามคิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทีเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั มาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไม่ได้นากระบวนการเรียนรทู้ ่เี น้นผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้

4. การใช้สื่อการเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสริมการเรียนรูข้ องผู้เรยี น  ไม่สง่ เสรมิ การเรยี นรขู้ องผูเ้ รียน 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้  นาไปใชไ้ ด้จริง  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นางสาววราพณั ณ์ สัมมาพสิ ทิ ธ์)ิ ตาแหน่ง หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา วนั ที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของรองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง ทักษะการรบั – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยข้างเท้าดา้ นในเรียบรอ้ ย แลว้ โดยมคี วามคดิ เหน็ ดงั นี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทเี่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นร้ขู องผเู้ รียน  ไมส่ ่งเสริมการเรยี นร้ขู องผู้เรียน 5. การวดั และการประเมนิ ผล  สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรียนรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรูไ้ ปใช้  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้  นาไปใช้ได้จริง

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวิเคราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์การเรียนร้ทู ต่ี ้องการ วัดและความสอดคลอ้ งด้านพุทธพิ ิสยั ทักษะพิสัย และจติ พิสัย วตั ถุประสงค์ พทุ ธพิ สิ ัย พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พิสัย เทคนิค ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ ประเมิน ทักษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นกั เรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทักษะการรบั – 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 กจิ กรรม ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วย 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง ขา้ งเทา้ ด้านในได้ 2. นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ัติ 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กจิ กรรม ทกั ษะการรับ – 10 10 10 10 10 10 60 2. การประเมนิ ส่งลูกฟุตซอลดว้ ย ตนเอง ข้างเทา้ ดา้ นใน 3. นักเรียนมีเจต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คตทิ ด่ี ตี ่อกีฬา ความคดิ เหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอื่ งหมายในการวิเคราะห์  หมายถงึ ปรากฏพฤตกิ รรมด้านนนั้ ๆ ตารางวิเคราะหก์ ารประเมนิ จิตพสิ ัย ทกั ษะพิสัย พทุ ธิพิสยั 1 = การรับรสู้ ง่ิ เรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรียม 1 = ความจา 3 = การสร้างคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาช้ีแนะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจัดระบบคุณค่า 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ยั 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขนึ้ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงใหเ้ หมาะสม 5 = ประเมนิ คา่ 7 = การรเิ ร่ิมใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพุทธพิ ิสยั (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรอ่ื ง ทักษะการรบั – สง่ ลกู ฟตุ ซอลด้วยด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นใน คาช้ีแจง : ให้ผู้ประเมนิ ทาการประเมนิ กจิ กรรม เรื่อง ทักษะการรับ – สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วยดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน ลาดับ ชอื่ – สกลุ ระดบั คะแนน สรปุ การประเมนิ ท่ี 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงชื่อ.....................................................ผปู้ ระเมนิ (นายวีรศักด์ิ ปกป้อง) วันท.ี่ ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมนิ กจิ กรรม เรื่อง ทกั ษะการรับ – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยด้วยข้างเทา้ ด้านใน เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเด็นทป่ี ระเมิน 4 ระดับคะแนน 1 0 32 ผลงานมคี วามถูกต้อง - อธิบายทักษะ - อธบิ ายทกั ษะ - อธบิ ายทกั ษะ - อธิบายทักษะ - อธบิ ายทกั ษะ สมบูรณ์ การรับ – สง่ ลกู การรบั – ส่งลูก การรบั – สง่ ลกู การรบั – ส่งลกู การรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยดว้ ย ฟตุ ซอลดว้ ยด้วย ฟุตซอลด้วยดว้ ย ฟุตซอลด้วยด้วย ฟตุ ซอลด้วยด้วย ข้างเท้าด้านใน ข้างเท้าด้านใน ขา้ งเท้าด้านใน ขา้ งเทา้ ด้านใน 3 ข้างเทา้ ด้านใน 1) ยืนในท่า อยา่ งใดอยา่ ง 2 ในข้อ 4 ไม่ ในขอ้ 4 ไม่ ไมถ่ กู ต้อง เตรียมพร้อม ตา หนึง่ ในขอ้ 4 ไม่ ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง มองทล่ี ูกบอล ถกู ต้อง 2) เคลอื่ นที่เข้าหา ลกู บอล 3) วางเทา้ หลกั ให้ ปลายเทา้ อยแู่ นว เดยี วกันกับลกู บอล ห่างจากลกู บอลประมาณ 1 ฝ่ามอื ตามองลูก บอลตลอดเวลา 4) ยกเทา้ ท่จี ะใช้ จะใช้เตะข้นึ ประมาณ 1 ฝา่ มือ บดิ สะโพกไป ทางขวา บดิ ปลาย เทา้ ออกไป ด้านข้าง เหวยี่ งไป ดา้ นหลัง เกรง็ ขอ้ เทา้ ลอ็ คขอ้ เขา่ ขอ้ เทา้ โดยใชข้ ้อ สะโพกเป็นจดุ หมนุ โดยเท้าหลกั กับเทา้ ทใี่ ชเ้ ตะ ต้องตง้ั ฉากทามุม 90 องศา พรอ้ ม กับถ่ายนา้ หนกั ตวั ไปท่เี ทา้ หลกั ใช้ ขา้ งเท้าดา้ นในเตะ ทก่ี ่งึ กลางของลกู บอล 5) ถา่ ยนา้ หนกั ตวั ไปตามแรงเหว่ียง ของเท้า เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นกั เรยี นมรี ะดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินกจิ กรรม เร่ือง การรับ – สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วยขา้ งเท้าด้านใน คาชแ้ี จง : ให้ผปู้ ระเมนิ ทาการประเมนิ กจิ กรรม เร่ือง การรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยขา้ งเท้าด้านใน ลาดับท่ี ช่อื – สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมิน 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 ลงชอ่ื .....................................................ผปู้ ระเมนิ ( นายวีรศกั ดิ์ ปกปอ้ ง ) วันท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรม เรอื่ ง การรับ – สง่ ลูกฟุตซอลด้วยขา้ งเท้าด้านใน เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเด็นที่ประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - ปฏบิ ัติทักษะ - ปฏบิ ัติทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง - ปฏิบตั ิทกั ษะการ - ปฏิบตั ิทักษะ - ปฏบิ ัติทกั ษะ การรบั – สง่ ลูก การรบั – ส่งลกู สมบูรณ์ รับ – สง่ ลูกฟุต การรบั – ส่งลกู การรบั – ส่งลูก ฟตุ ซอลดว้ ยด้วย ฟุตซอลด้วยดว้ ย ซอลด้วยดว้ ยขา้ ง ฟุตซอลด้วยดว้ ย ฟุตซอลดว้ ยดว้ ย ข้างเท้าดา้ นใน 3 ขา้ งเท้าดา้ นใน เทา้ ด้านใน ข้างเท้าดา้ นใน ขา้ งเท้าด้านใน ในข้อ 4 ไม่ ไมถ่ ูกต้อง 1) ยนื ในท่า อย่างใดอยา่ ง 2 ในขอ้ 4 ไม่ ถกู ตอ้ ง เตรียมพรอ้ ม ตา หน่งึ ในข้อ 4 ไม่ ถกู ต้อง มองที่ลกู บอล ถกู ต้อง 2) เคลือ่ นทเ่ี ขา้ หา ลูกบอล 3) วางเทา้ หลกั ให้ ปลายเท้าอยู่แนว เดยี วกันกับลกู บอล ห่างจากลกู บอลประมาณ 1 ฝา่ มือ ตามองลูก บอลตลอดเวลา 4) ยกเทา้ ท่จี ะใช้ จะใชเ้ ตะข้ึน ประมาณ 1 ฝา่ มอื บิดสะโพกไป ทางขวา บดิ ปลาย

เท้าออกไป ด้านขา้ ง เหว่ียงไป ดา้ นหลงั เกรง็ ขอ้ เท้า ลอ็ คขอ้ เขา่ ขอ้ เทา้ โดยใชข้ ้อ สะโพกเป็นจุด หมนุ โดยเท้าหลกั กบั เทา้ ที่ใชเ้ ตะ ต้องต้ังฉากทามุม 90 องศา พร้อม กบั ถ่ายน้าหนกั ตัว ไปท่เี ท้าหลัก ใช้ ขา้ งเทา้ ด้านในเตะ ทีก่ ึ่งกลางของลกู บอล 5) ถา่ ยนา้ หนักตัว ไปตามแรงเหวี่ยง ของเทา้ เกณฑก์ ารผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมีระดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพรา่ งกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟตุ ซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากข้นึ 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นักเรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาค่าเฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถ้าได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 กลุม่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ32102 ช่อื วชิ า ฟุตซอล เวลา 2 คาบ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง การรับ – ส่งลกู ฟุตซอลดว้ ยข้างเทา้ หลังเท้า ปกี ารศกึ ษา 2564 ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 ครูผ้สู อน นายวีรศักดิ์ ปกป้อง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนา้ ใจนกั กีฬา มจี ติ วญิ ญาณในการแข่งขนั และชืน่ ชมในสุนทรยี ภาพของการกีฬา 2. ตวั ชีว้ ัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพ่ือเพิ่มศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลที่เกิดต่อ ผู้อ่นื และสังคม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพ่ิมศกั ยภาพของทีม ลดความเปน็ ตัวตนคานึงถึงผลทเี่ กิดต่อสังคม พ 3.2 ม.5/4 รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ชื่นชมในคณุ คา่ และความงามของการกีฬา 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นกั เรียนสามารถอธิบายทักษะการรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยหลังเท้าได้ (K) 3.2 นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิทักษะการรับ – สง่ ลูกฟุตซอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้ (P) 3.3 นักเรยี นมีเจตคติทีด่ ีต่อกีฬาฟุตซอล (A) 4. สาระสาคัญ การการรับ – ส่งลูกฟุตซอลด้วยหลังเท้าเป็นทักษะที่สาคัญมากในการเล่นฟุตซอล เพราะการรับ – ส่งลูกฟุต ซอลดว้ ยหลงั เทา้ นนั้ ตอ้ งใชใ้ นการหยุดบอลและสง่ บอลในระยะไกลใหก้ บั เพื่อนร่วมทีม เพ่ือท่จี ะไม่ให้เสียการครอบครอง บอล และยงั สามารถลาเลียงลูกบอลไปไปทาประตูฝ่ังตรงข้ามได้ ถา้ หากมีทกั ษะในการรับ-ส่งลูกฟุตซอลด้วยหลังเท้าที่ดี ก็จะทาให้การเลน่ มปี ระสทิ ธิภาพ 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ดา้ นความรู้ 5.1.1 ทักษะการการรับ – ส่งลูกฟุตซอลด้วยหลงั เทา้ 5.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 5.2.1 การปฏบิ ัติทกั ษะการรับ – สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วยหลงั เท้า 5.3 ด้านคุณลักษณะ 5.3.1 มคี วามใฝเ่ รียนรู้ 5.3.2 มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน

6. สมรรถนะของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการส่ือสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 7.2 ม่งุ ม่นั ในการทางาน 7.3 มวี นิ ยั 8. ช้นิ งานหรือภาระงาน/ทกั ษะการปฏบิ ัติ 8.1 วิดีโอทักษะการรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยหลงั เท้า 9. กิจกรรมการเรียนรู้ 9.1 ขนั้ เตรยี ม 9.1.1 นกั เรียนเข้าลงิ ค์ google classroom วิชาเรียน พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครสู ารวจช่ือนักเรยี น 9.2 ข้นั อธบิ ายและสาธติ ครอู ธิบายและพร้อมสาธิตทักษะการรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลดว้ ยหลังเทา้ ใหน้ ักเรียนดู และนักเรียนปฏิบตั ิตาม ทลี ะขน้ั ตอน โดยใหน้ ักเรียนดูจากส่ือวดี โี อทเ่ี ตรียมไวใ้ หน้ ักเรียน ดังนี้ 9.2.1 วิธปี ฏิบัตทิ ักษะการรับ – ส่งลูกฟุตซอลดว้ ยหลังเท้า - ยนื ในทา่ เตรยี มพร้อม ยนื ดา้ นหลงั ลกู บอล - ก้าวเข้าหาลูกบอล วางเท้าหลักให้ปลายเท้าอยู่แนวเดยี วกันกบั ลกู บอลห่างจากบอลประมาณ 1 ฝา่ มือ คว่าหนา้ ลง ตามองลูกบอล ยกเทา้ ที่จะใช้เตะขึน้ ยดึ เท้าเปน็ ทอ่ นเดยี วกนั เกรง็ ข้อเท้างุ้มข้อเท้าวาไปดา้ นหลงั เอียง ตวั ไปทางซ้าย ใช้สะโพกเป็นจุดหมุน - เตะลูกบอลที่กลางลกู ด้วยหลังเท้า เอียงตัวเตะลกู บอล - ถา่ ยนา้ หนักตวั ไปตามแรงเหวย่ี งของเท้า ตามไปพร้อมกับงอตวั ก้มหนา้ ลง

9.3.1 นกั เรยี นฝึกปฏิบตั ิทักษะการรบั – ส่งลกู ฟุตซอลดว้ ยดว้ ยหลังเท้าในท่าทางทถี่ ูกตอ้ ง โดยเริ่มจากการ รับ – สง่ ลูกฟุตซอลในระยะใกลๆ้ ประมาณ 3-5 เมตรก่อน แลว้ จงึ คอ่ ยเพ่ิมระยะการรบั - ส่งมากข้ึนเรื่อยๆ โดยให้ฝึกทา ประมาณ 1-2 นาทใี นแต่ละระยะ เพอื่ ให้รา่ งกายคนุ้ ชินและจดจากบั ท่าทางที่ถูกต้อง 9.3.2 ขณะการฝกึ ปฏิบัติทักษะการรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลดว้ ยดว้ ยหลังเท้า ใหต้ ั้งกล้องโทรศัพทม์ ือถืออัด วิดโี อเพ่ือดูท่าทางของตัวเองว่าตอ้ งแก้ไขจุดใดบา้ ง เพ่ือจะไดป้ รบั ปรุงใหด้ ขี ้นึ และถูกตอ้ ง 9.4 ขั้นนาไปใช้ 9.4.1 นกั เรียนปฏบิ ตั ิทักษะการรบั – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยหลงั เท้าดา้ นใน ในท่าทางท่ถี ูกตอ้ งแล้วถ่ายวิดีโอ ส่งครูผสู้ อน 9.5 ขน้ั สรุป 9.5.1 ครเู สนอแนะและให้คาแนะนาในการแก้ไขข้อบกพร่องทักษะการรบั – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยหลงั เท้า สาหรบั นกั เรียนทย่ี งั ทาไม่ถกู ต้อง 9.5.2 ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ เนอื้ หาเรือ่ งทกั ษะการรับ – สง่ ลกู ฟตุ ซอลด้วยหลังเท้าร่วมกัน 10. สือ่ -อุปกรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้ 10.1 สอ่ื -อปุ กรณก์ ารเรียน 10.1.1 สนามกีฬา หรอื ลานหน้าบา้ น 10.1.2 ชดุ กฬี า รองเทา้ ผ้าใบ 10.1.3 ลูกฟุตซอล หรอื อปุ กรณท์ ส่ี ามารถใช้แทนลูกฟุตซอลได้ 10.2 แหล่งการเรียนรู้ 10.2.1 ส่อื วดิ โี อ youtube เรอ่ื งทักษะการรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลด้วยหลงั เทา้ 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นพทุ ธพิ ิสัย (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธิบายทักษะ - การถามตอบปากเปล่า แบบประเมินตอบปาก - ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน โดยได้คะแนน เปล่า เรือ่ ง ทกั ษะการรบั รวมในระดบั ดขี ึ้นไป การรบั – สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วย เรอื่ ง ทกั ษะการรบั – ส่ง – สง่ ลูกฟุตซอลด้วยหลัง เท้า - ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน หลงั เทา้ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยหลังเทา้ รวมในระดับดีขึน้ ไป แบบประเมินการฝึกทักษะ 2. ดา้ นทักษะพิสยั (Psychomotor domain) เร่ือง ทักษะการรับ – สง่ - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ โดยไดค้ ะแนน ลกู ฟุตซอลด้วยดว้ ยหลงั รวมในระดับดีข้ึนไป นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ิทักษะ - ตรวจกจิ กรรม เร่ือง เท้า ทกั ษะการรับ – ส่งลกู ฟุตซอล ทกั ษะการรับ – ส่งลกู ฟุต แบบสัมภาษณ์ความคิด เหน็ ดว้ ยหลังเท้าได้ ซอลดว้ ยหลังเท้า 3. ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) นักเรียนมเี จตคติที่ดีตอ่ กีฬา - สัมภาษณ์ ฟตุ ซอล

12. บนั ทกึ ผลหลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 12.1 ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................. ............................................... .................................................................................... .......................................................................................... .............. 2) ด้านทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ด้านคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................ 12.2 ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแก้ปญั หา / ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงชื่อ........................................ (นายวรี ศกั ดิ์ ปกป้อง) ครูผูส้ อน 13. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ทักษะการรับ – ส่งลกู ฟุตซอลด้วยหลงั เท้าเรียบรอ้ ยแล้ว โดยมี ความคดิ เห็น ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้  ได้นากระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญมาใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรียนรูท้ ี่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใช้

4. การใชส้ ื่อการเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องผเู้ รยี น  ไมส่ ่งเสรมิ การเรียนรู้ของผ้เู รียน 5. การวดั และการประเมนิ ผล  สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรียนรไู้ ปใช้  นาไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอ่ืน ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชอื่ ..................................................... (นางสาววราพัณณ์ สัมมาพิสิทธ์ิ) ตาแหน่ง หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา วันที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง ทักษะการรับ – ส่งลกู ฟตุ ซอลด้วยหลังเทา้ เรียบรอ้ ยแล้ว โดยมี ความคิดเหน็ ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชว้ี ดั  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้  ได้นากระบวนการเรียนรู้ท่ีเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม  ไม่ไดน้ ากระบวนการเรยี นรทู้ เี่ นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ 4. การใช้สือ่ การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น  ไมส่ ง่ เสริมการเรียนรู้ของผเู้ รียน 5. การวดั และการประเมนิ ผล  สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรไู้ ปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้  นาไปใช้ไดจ้ รงิ

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวิเคราะหก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ต้องการ วดั และความสอดคลอ้ งด้านพุทธิพิสัย ทกั ษะพสิ ยั และจติ พิสยั วตั ถปุ ระสงค์ พทุ ธพิ ิสยั พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พสิ ัย เทคนคิ ระดบั พฤติกรรม (%) การ ประเมิน ทักษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทักษะการรับ – 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 กจิ กรรม สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วย 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง หลังเท้า 2. นกั เรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ตั ิ 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทักษะการรบั – 10 10 10 10 10 10 60 2. การประเมิน ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ย ตนเอง หลงั เทา้ 3. นักเรียนมีเจต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คติท่ดี ีตอ่ กฬี า ความคิดเห็น 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเคร่ืองหมายในการวิเคราะห์  หมายถงึ ปรากฏพฤตกิ รรมดา้ นน้ัน ๆ ตารางวิเคราะหก์ ารประเมนิ จิตพสิ ัย ทกั ษะพสิ ยั พทุ ธิพสิ ัย 1 = การรบั รสู้ ิ่งเรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรยี ม 1 = ความจา 3 = การสร้างคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาชแ้ี นะ 2 = เข้าใจ 4 = การจัดระบบคณุ คา่ 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ัย 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขน้ึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินค่า 7 = การรเิ รมิ่ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมิน ด้านพุทธพิ ิสัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรื่อง ทกั ษะการรบั – สง่ ลูกฟุตซอลดว้ ยหลงั เท้า คาช้แี จง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทาการประเมินกิจกรรม เร่อื ง ทักษะการรับ – ส่งลูกฟุตซอลด้วยหลงั เท้า ลาดบั ชื่อ – สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ท่ี 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงชื่อ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นายวรี ศกั ด์ิ ปกปอ้ ง) วันท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑ์การประเมนิ กจิ กรรม เรอ่ื ง ทกั ษะการรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลด้วยดว้ ยหลงั เท้า เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเด็นที่ประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 0 32 ผลงานมคี วามถูกต้อง - อธบิ ายทกั ษะ - อธิบายทักษะ - อธบิ ายทักษะ - อธิบายทักษะ - อธิบายทกั ษะ สมบูรณ์ การรับ – สง่ ลกู การรับ – ส่งลกู การรบั – ส่งลกู การรบั – สง่ ลกู การรบั – สง่ ลูก ฟุตซอลด้วยด้วย ฟตุ ซอลด้วยด้วย ฟุตซอลดว้ ยดว้ ย ฟุตซอลดว้ ยดว้ ย ฟตุ ซอลด้วยดว้ ย หลงั เทา้ หลงั เทา้ อยา่ งใด หลังเทา้ 2 ในขอ้ หลังเทา้ 3 ในข้อ หลังเท้าไม่ 1) ยนื ในท่า อยา่ งหนึ่งในขอ้ 4 ไมถ่ ูกต้อง 4 ไม่ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง เตรยี มพรอ้ ม ยนื 4 ไม่ถกู ตอ้ ง ดา้ นหลังลูกบอล 2) ก้าวเขา้ หาลกู บอล วางเท้าหลัก ให้ปลายเทา้ อยู่ แนวเดียวกนั กบั ลกู บอลหา่ งจาก บอลประมาณ 1 ฝ่ามอื ควา่ หน้าลง ตามองลูกบอล ยก เทา้ ที่จะใชเ้ ตะขนึ้ ยดึ เทา้ เปน็ ทอ่ น เดียวกนั เกร็งข้อ เทา้ งุ้มข้อเท้าวาไป ดา้ นหลงั เอยี งตวั ไปทางซ้าย ใช้ สะโพกเป็นจุด หมนุ 3) เตะลกู บอลที่ กลางลูกดว้ ยหลงั เทา้ เอียงตวั เตะ ลกู บอล 4) ถา่ ยน้าหนกั ตัว ไปตามแรงเหวีย่ ง ของเทา้ ตามไป พรอ้ มกับงอตัว ก้มหนา้ ลง เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นกั เรียนมีระดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมินกจิ กรรม เรอ่ื ง การรบั – สง่ ลูกฟตุ ซอลด้วยหลังเท้า คาชีแ้ จง : ให้ผ้ปู ระเมินทาการประเมินกจิ กรรม เร่อื ง การรับ – สง่ ลกู ฟุตซอลดว้ ยหลงั เท้า ลาดับที่ ชื่อ – สกลุ ระดบั คะแนน สรุปการประเมนิ 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผปู้ ระเมิน ( นายวรี ศักดิ์ ปกปอ้ ง ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ารประเมนิ กิจกรรม เร่อื ง การรับ – ส่งลูกฟตุ ซอลด้วยหลังเทา้ เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ท่ปี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - ปฏิบตั ิทกั ษะ - ปฏบิ ัติทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง - ปฏบิ ตั ิทักษะการ - ปฏิบัติทักษะ - ปฏิบัติทกั ษะ การรับ – ส่งลูก การรับ – ส่งลกู สมบูรณ์ รับ – ส่งลกู ฟุต การรบั – ส่งลูก การรบั – ส่งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยดว้ ย ฟตุ ซอลด้วยดว้ ย ซอลดว้ ยด้วยหลงั ฟุตซอลด้วยดว้ ย ฟุตซอลด้วยดว้ ย หลังเท้า 3 ในข้อ หลงั เท้าไม่ เท้า หลังเทา้ อย่างใด หลังเทา้ 2 ในข้อ 4 ไมถ่ ูกต้อง ถกู ตอ้ ง 1) ยืนในท่า อยา่ งหนึง่ ในขอ้ 4 ไมถ่ กู ต้อง เตรียมพร้อม ยนื 4 ไมถ่ กู ตอ้ ง ด้านหลังลกู บอล 2) กา้ วเข้าหาลกู บอล วางเทา้ หลกั ใหป้ ลายเท้าอยู่ แนวเดียวกนั กับ ลกู บอลห่างจาก บอลประมาณ 1 ฝ่ามอื ควา่ หน้าลง ตามองลกู บอล ยก เทา้ ทจ่ี ะใช้เตะขึ้น ยดึ เทา้ เป็นทอ่ น เดยี วกัน เกรง็ ข้อ เทา้ งุ้มขอ้ เทา้ วาไป ด้านหลงั เอียงตวั ไปทางซา้ ย ใช้

สะโพกเป็นจดุ หมุน 3) เตะลกู บอลท่ี กลางลกู ด้วยหลงั เท้า เอยี งตัวเตะ ลูกบอล 4) ถา่ ยน้าหนกั ตัว ไปตามแรงเหวย่ี ง ของเทา้ ตามไป พรอ้ มกับงอตัว ก้มหน้าลง เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นกั เรียนมรี ะดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาให้นกั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากขึ้น 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทีด่ ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา รหัสวิชา พ32102 ช่ือวิชา ฟุตซอล เวลา 2 คาบ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 เรอื่ ง การยิงประตูดว้ ยข้างเทา้ ด้านใน ปีการศกึ ษา 2564 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 2 ครผู ู้สอน นายวรี ศกั ดิ์ ปกปอ้ ง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ้าใจนกั กีฬา มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขันและชน่ื ชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า 2. ตัวชวี้ ัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพื่อเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลท่ีเกิดต่อ ผอู้ น่ื และสงั คม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพิ่มศกั ยภาพของทีม ลดความเปน็ ตัวตนคานึงถงึ ผลที่เกิดตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 รว่ มกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสขุ ชืน่ ชมในคุณคา่ และความงามของการกีฬา 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นักเรียนสามารถอธบิ ายทกั ษะการยงิ ประตดู ้วยขา้ งเท้าดา้ นในได้ (K) 3.2 นกั เรียนสามารถปฏิบัติทักษะการยิงประตดู ว้ ยข้างเทา้ ด้านในได้ (P) 3.3 นกั เรยี นมเี จตคติทด่ี ตี ่อกีฬาฟตุ ซอล (A) 4. สาระสาคญั การยิงประตูในการเล่นกีฬาฟุตซอล เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในการแข่งขันและเป็นสิ่งท่ีทาให้การเล่นฟุตซอล สนุกสนาน ต่ืนเต้นเร้าใจและจะตัดสนิ ผลการแพ้ชนะด้วย ผลของการยิงประตู ทีมที่เก่งอาจไม่ชนะเสมอไปถ้ายิงประตูคู่ ต่อสู้ไม่ได้ ดังน้ันการเล่นกีฬาฟุตซอลจึงจาเป็นท่ีผู้เล่นจะต้องเรียนรู้ท้ังทางทฤษฎีและการฝึกทักษะปฏิบัติเพ่ือผลของ การเลน่ กีฬาฟุตซอลทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ 5.1.1 ทักษะการยิงประตดู ว้ ยข้างเท้าด้านใน 5.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 5.2.1 การปฏบิ ัตทิ กั ษะการยิงประตดู ว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน 5.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ 5.3.1 มีความใฝ่เรยี นรู้ 5.3.2 มีความมุ่งมัน่ ในการทางาน

6. สมรรถนะของผู้เรยี น 6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รียนรู้ 7.2 มุง่ มั่นในการทางาน 7.3 มวี ินัย 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน/ทักษะการปฏิบตั ิ 8.1 วดิ โี อทักษะการยิงประตูด้วยขา้ งเท้าด้านใน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขน้ั เตรียม 9.1.1 นกั เรยี นเข้าลิงค์ google classroom วิชาเรยี น พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครูสารวจชอ่ื นกั เรยี น 9.2 ข้ันอธิบายและสาธติ ครอู ธิบายและพร้อมสาธิตทักษะการยงิ ประตูดว้ ยขา้ งเท้าด้านในใหน้ กั เรียนดู และนักเรียนปฏิบัติตาม ทีละขัน้ ตอน โดยใหน้ ักเรยี นดูจากส่อื วดี โี อท่ีเตรียมไว้ให้นักเรียน ดงั น้ี 9.2.1 วธิ ีปฏบิ ัตทิ กั ษะการยิงประตูด้วยขา้ งเท้าดา้ นใน ยนื ในทา่ เตรียมพรอ้ ม ตามองท่ลี กู บอล - เคลอ่ื นท่เี ข้าหาลูกบอล - วางเทา้ หลักให้ปลายเท้าอยู่แนวเดยี วกนั กับลกู บอล หา่ งจากลกู บอลประมาณ 1 ฝ่ามอื ตามองลูก บอลตลอดเวลา - ยกเทา้ ท่ีจะใช้จะใช้เตะขึ้นประมาณ 1 ฝา่ มอื บดิ สะโพกไปทางขวา บิดปลายเท้า ออกไปดา้ นขา้ ง เหวีย่ งไปดา้ นหลงั เกร็งข้อเทา้ ล็อคข้อเขา่ ข้อเท้า โดยใช้ขอ้ สะโพกเป็นจุดหมุน โดยเทา้ หลกั กับเท้าที่ใช้เตะต้องตัง้ ฉากทามุม 90 องศา พร้อมกับถา่ ยน้าหนักตวั ไปที่เทา้ หลัก ใชข้ ้างเทา้ ด้านในเตะที่ก่ึงกลางของลูกบอล - ถา่ ยน้าหนกั ตวั ไปตามแรงเหวีย่ งของเท้า 9.3.1 นกั เรียนฝกึ ปฏบิ ัติทักษะการยิงประตูด้วยข้างเท้าด้านใน ในทา่ ทางที่ถูกต้อง โดยเร่มิ จากการยิง ประตูดว้ ยขา้ งเท้าด้านในให้เข้าเป้าหมาย ในระยะใกลๆ้ ประมาณ 3-5 เมตรก่อน แลว้ จึงค่อยเพ่ิมระยะการการยิงประตู ดว้ ยข้างเท้าด้านในมากข้นึ เร่ือยๆ โดยใหฝ้ ึกทาประมาณ 1-2 นาทใี นแตล่ ะระยะ เพื่อให้ร่างกายคนุ้ ชนิ และจดจากับ ท่าทางที่ถูกต้อง

9.3.2 ขณะการฝกึ ปฏบิ ตั ทิ ักษะการการยิงประตดู ว้ ยขา้ งเทา้ ด้านใน ให้ตงั้ กล้องโทรศัพท์มือถืออัดวิดโี อเพื่อ ดูทา่ ทางของตัวเองวา่ ต้องแก้ไขจดุ ใดบา้ ง เพ่อื จะไดป้ รับปรุงใหด้ ขี ึ้นและถูกต้อง 9.4 ขน้ั นาไปใช้ 9.4.1 นักเรียนปฏิบัติทักษะการการยงิ ประตดู ้วยข้างเทา้ ด้านใน ในทา่ ทางทถ่ี ูกต้องแล้วถ่ายวิดโี อสง่ ครผู ู้สอน 9.5 ขัน้ สรปุ 9.5.1 ครเู สนอแนะและให้คาแนะนาในการแกไ้ ขข้อบกพร่องทักษะการการยิงประตดู ้วยขา้ งเท้าด้านใน สาหรับนักเรียนทีย่ ังทาไม่ถกู ต้อง 9.5.2 ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรุปเน้อื หาเรอื่ งทกั ษะการการยิงประตดู ้วยข้างเท้าด้านในร่วมกนั 10. ส่อื -อุปกรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 สือ่ -อปุ กรณก์ ารเรยี น 10.1.1 สนามกฬี า หรือลานหน้าบ้าน 10.1.2 ชุดกฬี า รองเท้าผา้ ใบ 10.1.3 ลกู ฟตุ ซอล หรืออุปกรณ์ท่ีสามารถใช้แทนลกู ฟตุ ซอลได้ 10.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 10.2.1 สื่อวดิ ีโอ youtube เร่ืองทักษะการการยงิ ประตูดว้ ยขา้ งเท้าด้านใน 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นพทุ ธิพิสัย (Cognitive domain) นกั เรียนสามารถอธิบายทกั ษะ - การถามตอบปากเปลา่ แบบประเมนิ ตอบปาก - ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ โดยได้คะแนน เปล่า เร่อื ง ทกั ษะการยงิ รวมในระดับดขี ้ึนไป การยงิ ประตดู ว้ ยข้างเท้าด้านใน เร่อื ง ทักษะการยงิ ประตู ประตดู ว้ ยขา้ งเท้าด้านใน ได้ ด้วยข้างเทา้ ดา้ นใน แบบประเมินการฝึกทักษะ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ โดยได้คะแนน เรือ่ ง ทกั ษะการยิงประตู รวมในระดับดีขน้ึ ไป 2. ด้านทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) ด้วยข้างเทา้ ด้านในเท้า นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติทักษะ - ตรวจกิจกรรม เร่ือง แบบสัมภาษณค์ วามคดิ - ผา่ นเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน เหน็ รวมในระดบั ดีข้นึ ไป ทกั ษะการยิงประตูดว้ ยขา้ งเทา้ ทักษะการยงิ ประตดู ว้ ย ด้านในได้ ขา้ งเทา้ ดา้ นใน 3. ด้านจติ พสิ ัย (Affective domain) นกั เรยี นมเี จตคตทิ ด่ี ีต่อกฬี า - สมั ภาษณ์ ฟุตซอล 12. บันทกึ ผลหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 12.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1) ด้านความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ................................................................................... .............. 2) ด้านทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ดา้ นคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................ 12.2 ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแก้ปัญหา / ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงชือ่ ........................................ (นายวีรศักด์ิ ปกป้อง) ครผู ้สู อน 13. ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนร้หู นว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง ทักษะการการยงิ ประตดู ว้ ยข้างเทา้ ดา้ นใน เรยี บร้อยแลว้ โดย มีความคดิ เหน็ ดังนี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ  ดีมาก  ดี 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทีเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั มาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรยี นรูท้ ่เี น้นผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ 4. การใชส้ อ่ื การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผเู้ รียน

 ไมส่ ง่ เสริมการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมินผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นรไู้ ปใช้  นาไปใชไ้ ดจ้ ริง  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงช่อื ..................................................... (นางสาววราพัณณ์ สัมมาพสิ ิทธ)ิ์ ตาแหน่ง หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา วันที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของรองผ้อู านวยการกลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ ง ทักษะการยิงประตดู ้วยขา้ งเท้าดา้ นใน เรยี บรอ้ ยแล้ว โดยมี ความคดิ เห็น ดงั นี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชี้วัด  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ได้นากระบวนการเรยี นรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทเ่ี น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั มาใช้ 4. การใชส้ ่ือการเรยี นรู้  มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนร้ขู องผู้เรียน  ไม่สง่ เสรมิ การเรยี นรขู้ องผเู้ รียน 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกับจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้  นาไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ

............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นางสมัชญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรยี นวงั จนั ทร์วิทยา กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ วันที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............

แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ต้องการ วัดและความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธพิ สิ ัย ทกั ษะพสิ ยั และจิตพิสยั วตั ถปุ ระสงค์ พทุ ธิพสิ ยั พฤติกรรมการประเมิน จติ พสิ ัย เทคนิค ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ ประเมนิ ทกั ษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นกั เรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย กจิ กรรม ทักษะการยงิ 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง ประตูดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน 2. นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ตั ิ 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทกั ษะการยงิ 10 10 10 10 10 10 60 2. การประเมนิ ประตดู ้วยขา้ งเท้า ตนเอง ด้านใน 3. นักเรียนมเี จต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คติทด่ี ตี อ่ กีฬา ความคิดเหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟุตซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอ่ื งหมายในการวิเคราะห์  หมายถงึ ปรากฏพฤติกรรมดา้ นน้นั ๆ ตารางวิเคราะหก์ ารประเมนิ จติ พสิ ยั ทักษะพสิ ยั พุทธพิ สิ ัย 1 = การรบั รู้สง่ิ เรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรียม 1 = ความจา 3 = การสรา้ งคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาชแ้ี นะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจดั ระบบคุณค่า 4 = การสรา้ งกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสรา้ งลกั ษณะนสิ ัย 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขน้ึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินค่า 7 = การรเิ ร่ิมใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ด้านพทุ ธพิ ิสัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรอ่ื ง การยิงประตูด้วยข้างเทา้ ดา้ นใน คาชี้แจง : ให้ผ้ปู ระเมนิ ทาการประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง การยิงประตดู ว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน ลาดบั ชอื่ – สกลุ ระดบั คะแนน สรุปการประเมนิ ที่ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงชือ่ .....................................................ผปู้ ระเมนิ (นายวีรศักด์ิ ปกปอ้ ง) วนั ที.่ ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เร่ือง ทกั ษะการยิงประตูดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน เกณฑ์การให้คะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ที่ประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - อธบิ ายทักษะ ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง - อธบิ ายทักษะ - อธิบายทกั ษะ - อธิบายทักษะ - อธบิ ายทกั ษะ การยิงประตูดว้ ย สมบูรณ์ การยิงประตูดว้ ย การยิงประตดู ้วย การยิงประตู การยงิ ประตดู ้วย ขา้ งเทา้ ด้านใน ข้างเทา้ ดา้ นใน ข้างเท้าด้านใน ด้วยข้างเทา้ ดา้ น ข้างเทา้ ด้านใน 3 ไมถ่ กู ตอ้ ง 1) เคล่อื นที่เขา้ หา อย่างใดอยา่ ง ใน 2 ในข้อ 4 ในขอ้ 4 ไม่ ลกู บอล หนึง่ ในขอ้ 4 ไม่ ไม่ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง 2) วางเทา้ หลักให้ ถกู ตอ้ ง ปลายเท้าอยแู่ นว เดียวกนั กับลกู บอล หา่ งจากลูก บอลประมาณ 1 ฝา่ มือ ตามองลูก บอลตลอดเวลา 3) ยกเท้าทจี่ ะใช้ จะใช้เตะขนึ้ ประมาณ 1 ฝา่ มือ บิดสะโพกไป ทางขวา บดิ ปลาย เทา้ ออกไป ดา้ นขา้ ง เหวย่ี งไป ด้านหลัง เกร็งข้อ เท้า ลอ็ คขอ้ เขา่ ขอ้ เทา้ โดยใชข้ ้อ สะโพกเป็นจุด หมุน โดยเท้าหลัก กับเทา้ ทใี่ ชเ้ ตะ ตอ้ งตงั้ ฉากทามมุ 90 องศา พรอ้ ม กบั ถา่ ยนา้ หนักตวั ไปทเ่ี ทา้ หลัก ใช้ ข้างเท้าด้านในเตะ ทีก่ งึ่ กลางของลกู บอล 4) ถ่ายน้าหนกั ตัว ไปตามแรงเหวีย่ ง ของเท้า เกณฑ์การผา่ นการประเมิน : นักเรยี นมรี ะดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ข้ึนไป

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรอ่ื ง การยงิ ประตูด้วยขา้ งเท้าด้านใน คาชแี้ จง : ให้ผู้ประเมนิ ทาการประเมินกจิ กรรม เร่ือง การยิงประตดู ้วยขา้ งเท้าดา้ นใน ลาดบั ที่ ชือ่ – สกลุ ระดบั คะแนน สรปุ การประเมนิ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผปู้ ระเมิน ( นายวีรศักดิ์ ปกป้อง ) วันท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ารประเมนิ กิจกรรม เรอื่ ง การยิงประตดู ้วยขา้ งเท้าดา้ นใน เกณฑ์การให้คะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเด็นทป่ี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - ปฏบัติทักษะ - ปฏบตั ิทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกต้อง - ปฏบัติทักษะการ - ปฏบตั ิทักษะ - ปฏบัติทกั ษะ การยงิ ประตดู ว้ ย การยงิ ประตดู ้วย สมบูรณ์ ข้างเท้าดา้ นใน 3 ขา้ งเท้าดา้ นใน ยงิ ประตดู ้วยขา้ ง การยิงประตูด้วย การยงิ ประตู ในข้อ 4 ไม่ ไมถ่ ูกต้อง ถกู ตอ้ ง เท้าดา้ นใน ข้างเท้าดา้ นใน ด้วยขา้ งเท้าดา้ น 1) เคลือ่ นทีเ่ ขา้ หา อย่างใดอย่าง ใน 2 ในขอ้ 4 ลูกบอล หนง่ึ ในข้อ 4 ไม่ ไมถ่ ูกตอ้ ง 2) วางเท้าหลกั ให้ ถูกต้อง ปลายเทา้ อย่แู นว เดียวกนั กับลกู บอล หา่ งจากลกู บอลประมาณ 1 ฝ่ามือ ตามองลูก บอลตลอดเวลา 3) ยกเท้าที่จะใช้ จะใช้เตะขนึ้ ประมาณ 1 ฝา่ มอื บิดสะโพกไป ทางขวา บิดปลาย เทา้ ออกไป ดา้ นข้าง เหวีย่ งไป ดา้ นหลงั เกร็งขอ้ เทา้ ลอ็ คขอ้ เขา่

ขอ้ เทา้ โดยใช้ข้อ สะโพกเปน็ จุด หมุน โดยเทา้ หลัก กับเท้าที่ใช้เตะ ตอ้ งตงั้ ฉากทามุม 90 องศา พร้อม กบั ถา่ ยน้าหนักตัว ไปที่เท้าหลกั ใช้ ขา้ งเทา้ ด้านในเตะ ท่กี ่งึ กลางของลูก บอล 4) ถา่ ยน้าหนักตัว ไปตามแรงเหวย่ี ง ของเท้า เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นักเรยี นมรี ะดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากข้นึ 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา รหสั วชิ า พ32102 ชือ่ วชิ า ฟตุ ซอล เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรื่อง การยงิ ประตดู ้วยหลังเท้า ปีการศกึ ษา 2564 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 ครูผู้สอน นายวีรศักด์ิ ปกป้อง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มีนา้ ใจนักกีฬา มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขันและช่ืนชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า 2. ตัวชี้วัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพื่อเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลท่ีเกิดต่อ ผ้อู ่นื และสงั คม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพ่ิมศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตัวตนคานึงถงึ ผลทเ่ี กิดตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 รว่ มกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ชืน่ ชมในคุณคา่ และความงามของการกีฬา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายทกั ษะการยงิ ประตดู ว้ ยหลังเทา้ ได้ (K) 3.2 นักเรียนสามารถปฏบิ ัติทักษะการยิงประตดู ว้ ยหลงั เทา้ ได้ (P) 3.3 นกั เรยี นมเี จตคติทดี่ ีต่อกีฬาฟุตซอล (A) 4. สาระสาคญั การยิงประตูในการเล่นกีฬาฟุตซอล เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในการแข่งขันและเป็นส่ิงที่ทาให้การเล่นฟุตซอล สนุกสนาน ต่นื เตน้ เร้าใจและจะตดั สนิ ผลการแพช้ นะดว้ ย ผลของการยิงประตู ทีมที่เก่งอาจไม่ชนะเสมอไปถ้ายิงประตูคู่ ต่อสู้ไม่ได้ ดังนั้นการเล่นกีฬาฟุตซอลจึงจาเป็นที่ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้ท้ังทางทฤษฎีและการฝึกทักษะปฏิบัติเพ่ือผลของ การเล่นกีฬาฟตุ ซอลทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ 5.1.1 ทักษะการยงิ ประตูด้วยหลงั เทา้ 5.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 5.2.1 การปฏิบตั ิทักษะการยงิ ประตูด้วยหลังเทา้ 5.3 ด้านคณุ ลักษณะ 5.3.1 มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ 5.3.2 มคี วามมงุ่ ม่นั ในการทางาน

6. สมรรถนะของผเู้ รียน 6.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รียนรู้ 7.2 มงุ่ มนั่ ในการทางาน 7.3 มีวนิ ัย 8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน/ทกั ษะการปฏบิ ตั ิ 8.1 วดิ โี อทกั ษะการยิงประตดู ้วยหลังเทา้ 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 9.1 ข้นั เตรยี ม 9.1.1 นักเรยี นเข้าลงิ ค์ google classroom วิชาเรยี น พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครูสารวจชื่อนักเรยี น 9.2 ขนั้ อธิบายและสาธติ ครูอธิบายและพร้อมสาธติ ทักษะการยิงประตูด้วยหลงั เท้าให้นักเรียนดู และนักเรยี นปฏบิ ตั ติ าม ทลี ะข้ันตอน โดยใหน้ กั เรียนดูจากสือ่ วีดีโอทเี่ ตรียมไว้ใหน้ ักเรยี น ดงั นี้ 9.2.1 วธิ ีปฏบิ ัตทิ กั ษะการยงิ ประตดู ้วยหลงั เทา้ - ยนื ในท่าเตรยี มพร้อม ยืนดา้ นหลงั ลูกบอล - กา้ วเข้าหาลูกบอล วางเท้าหลักให้ปลายเท้าอยูแ่ นวเดียวกันกับลูกบอลห่างจากบอลประมาณ 1 ฝา่ มอื คว่าหนา้ ลง ตามองลูกบอล ยกเทา้ ท่จี ะใช้เตะข้ึน ยดึ เท้าเปน็ ทอ่ นเดยี วกนั เกรง็ ข้อเท้างมุ้ ข้อเท้าไปด้านหลังเอยี งตัว ไปทางซ้าย ใชส้ ะโพกเปน็ จดุ หมุน - เตะลูกบอลที่กลางลกู ด้วยหลังเทา้ เอียงตัวเตะลูกบอล - ถา่ ยน้าหนักตวั ไปตามแรงเหวีย่ งของเท้า ตามไปพร้อมกบั งอตัว กม้ หน้าลง 9.3.1 นกั เรยี นฝึกปฏิบตั ทิ ักษะการยิงประตูดว้ ยหลังเทา้ ในท่าทางท่ีถกู ต้อง โดยเร่มิ จากการยงิ ประตดู ว้ ย หลงั เทา้ ใหเ้ ข้าเป้าหมาย ในระยะใกล้ๆประมาณ 3-5 เมตรก่อน แลว้ จงึ คอ่ ยเพิ่มระยะการการยิงประตูดว้ ยหลังเท้า มาก ข้ึนเร่ือยๆ โดยใหฝ้ ึกทาประมาณ 1-2 นาทีในแตล่ ะระยะ เพอื่ ใหร้ ่างกายคนุ้ ชนิ และจดจากับท่าทางท่ีถูกต้อง 9.3.2 ขณะการฝกึ ปฏบิ ัตทิ ักษะการการยงิ ประตูด้วยหลังเท้า ให้ต้ังกลอ้ งโทรศัพทม์ ือถืออัดวิดโี อเพอื่ ดู ทา่ ทางของตัวเองว่าต้องแก้ไขจุดใดบ้าง เพ่ือจะไดป้ รบั ปรุงใหด้ ีข้ึนและถกู ต้อง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook