Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล)

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล)

Published by julasak.mind, 2022-06-14 13:10:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้
วีรศักดิ์ ปกป้อง

Search

Read the Text Version

แบบวิเคราะหก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วตั ถุประสงคก์ ารเรียนรทู้ ต่ี ้อง การวดั และความสอดคล้องดา้ นพทุ ธิพิสัย ทักษะพสิ ยั และจิตพิสยั วตั ถปุ ระสงค์ พทุ ธพิ สิ ยั พฤตกิ รรมการประเมิน จติ พิสัย เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ 1 2 3 45 1 2 3 4 5 รวม ประเมิน ทกั ษะพิสยั 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1.นกั เรียน 44 3 3 33 20 4 444 1. แบบประเมิน สามารถอธบิ าย กิจกรรม เน้อื หา 2. การประเมิน จุดประสงคแ์ ละ ตนเอง 4 20 4 4 4 4 4 20 ข้อตกลงเบ้อื งตน้ ในการเรียนวิชา ฟุตซอลได้ 2. นกั เรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถบอก 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กจิ กรรม วิธีการวัดผลและ 10 10 10 10 10 10 60 2. การประเมนิ ประเมนิ ผลวชิ า ตนเอง ฟุตซอลได้ 3. นักเรียนมีเจต 1. แบบ สัมภาษณ์ คตทิ ด่ี ีต่อกฬี า ความคิดเห็น 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอ่ื งหมายในการวิเคราะห์  หมายถึง ปรากฏพฤตกิ รรมด้านนนั้ ๆ ตารางวิเคราะห์การประเมิน จิตพิสัย ทกั ษะพสิ ัย พุทธพิ ิสยั 1 = การรบั รู้ส่ิงเร้า 1 = การรบั รู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรยี ม 1 = ความจา 3 = การสรา้ งคณุ ค่า 3 = การตอบสนองตามคาชีแ้ นะ 2 = เข้าใจ 4 = การจดั ระบบคณุ ค่า 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ยั 5 = การตอบสนองทซ่ี บั ซอ้ นข้นึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินค่า 7 = การรเิ ร่มิ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมิน ด้านพทุ ธพิ สิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรือ่ ง ปฐมนเิ ทศ คาชแี้ จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทาการประเมนิ กจิ กรรม เรื่อง ปฐมนเิ ทศ ลาดับ ชอ่ื - สกลุ ระดบั คะแนน สรุปการประเมนิ ที่ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผ้ปู ระเมิน (นายวีรศกั ด์ิ ปกปอ้ ง) วันท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมินกิจกรรม เรอื่ ง ปฐมนิเทศ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเด็นท่ปี ระเมิน 4 ระดับคะแนน 1 0 32 อธิบาย เนื้อหา ผลงานมีความถูกตอ้ ง - อธิบาย เนอื้ หา - อธบิ าย เนอ้ื หา - อธบิ าย เนอ้ื หา - อธบิ าย เนื้อหา จดุ ประสงคแ์ ละ สมบูรณ์ จุดประสงคแ์ ละ จดุ ประสงค์และ จุดประสงค์และ จดุ ประสงค์และ ข้อตกลง ขอ้ ตกลงเบือ้ งตน้ ขอ้ ตกลง ข้อตกลง ขอ้ ตกลงเบอ้ื งต้น เบ้อื งต้นในการ ในการเรยี นวชิ า เบอ้ื งต้นในการ เบอ้ื งตน้ ในการ ในการเรยี นวิชา เรียนวชิ าฟุต ฟุตซอลไดถ้ กู ต้อง เรียนวิชาฟุตซอ เรยี นวิชาฟตุ ฟตุ ซอล 3 ในขอ้ ซอล ไมถ่ กู ต้อง - สามารถบอก ลอย่างใดอย่าง ซอล 2 ในข้อ 4 4 ไมถ่ กู ต้อง - บอกวิธีการ วธิ กี ารวัดผลและ หน่ึงในข้อ 4 ไม่ ไม่ถูกตอ้ ง - บอกวิธกี าร วัดผลและ ประเมินผลวิชา ถกู ตอ้ ง - บอกวธิ กี าร วดั ผลและ ประเมินผลวิชา ฟตุ ซอลได้ถูกตอ้ ง - บอกวธิ กี าร วัดผลและ ประเมนิ ผลวชิ า ฟุตซอลไม่ วัดผลและ ประเมนิ ผลวิชา ฟตุ ซอล 3 ในข้อ ถกู ตอ้ ง ประเมินผลวิชา ฟตุ ซอล 2 ในข้อ 4 ไมถ่ กู ตอ้ ง ฟุตซอลได้ 4 ไมถ่ ูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งอยา่ งใด อยา่ งหนึ่งใน ข้อ 4 ไมถ่ กู ตอ้ ง เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมีระดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป)

คาอธบิ ายประกอบการประเมิน ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เรื่อง ปฐมนเิ ทศ คาช้ีแจง : ให้ผู้ประเมินทาการประเมนิ กจิ กรรม เร่อื ง ปฐมนเิ ทศ ลาดบั ท่ี ชื่อ – สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมิน 1 4 3 2 1 0 ผา่ น ไม่ผา่ น 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ ( นายวีรศกั ดิ์ ปกปอ้ ง ) วนั ท่ี.............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เรอื่ ง ปฐมนเิ ทศ เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ ทป่ี ระเมิน 43 ระดบั คะแนน 1 0 การตอบแบบ - นักเรยี นสามารถ - นกั เรียน 2 - นกั เรยี น - นักเรยี นไม่ สัมภาษณ์ สามารถบอก สามารถบอก บอกวธิ กี ารวัดผล สามารถบอก - นักเรยี น วิธกี ารวัดผลและ วธิ ีการวัดผล สามารถบอก ประเมนิ ผลวชิ า และประเมินผล และประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล วธิ ีการวดั ผล ฟตุ ซอลได้เปน็ วิชาฟตุ ซอลได้ และประเมินผล บางข้อของเกณฑ์ วิชาฟุตซอลได้ และประเมนิ ผล วชิ าฟตุ ซอลได้ การวดั และ ถูกต้องคร่ึงหนง่ึ ประเมนิ ผล ถูกตอ้ งทุกเกณฑ์ วชิ าฟตุ ซอลได้ ของทุกเกณฑ์ การวดั และ การวัดและ ถกู ต้องเกือบทกุ ประเมินผล ประเมนิ ผล เกณฑ์การวดั และประเมินผล เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคดิ เห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรยี นได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากข้นึ 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นกั เรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 ชอื่ วิชา ฟตุ ซอล หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เวลา 1 คาบ ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 รหสั วิชา พ32102 ปกี ารศึกษา 2564 เรือ่ ง ประวัติและกตกิ ากีฬาฟตุ ซอล ครผู ู้สอน นายวรี ศกั ด์ิ ปกป้อง ภาคเรยี นท่ี 2 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มีน้าใจนกั กฬี า มจี ติ วิญญาณในการแข่งขันและชน่ื ชมในสุนทรยี ภาพของการกีฬา 2. ตวั ช้ีวัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพ่ือเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลที่เกิดต่อ ผอู้ น่ื และสังคม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพม่ิ ศักยภาพของทีม ลดความเปน็ ตวั ตนคานึงถงึ ผลที่เกิดตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอยา่ งมีความสขุ ช่นื ชมในคุณค่าและความงามของการกีฬา 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นกั เรยี นมีความรู้เร่อื งประวัติและกตกิ ากฬี าฟตุ ซอล (K) 3.2 นกั เรียนสามารถอธิบายประวตั ิและกติกากีฬาฟุตซอลได้ (P) 3.3 นกั เรยี นมเี จตคตทิ ดี่ ีต่อกีฬาฟุตซอล (A) 4. สาระสาคญั กีฬาฟุตซอลมีประวัติความเป็นมา และวิวัฒนาการมากีฬาฟุตบอลและได้เผยแพร่เข้ามาในประเทศไทย การ เล่นฟุตซอลก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน ทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม ปัจจุบันฟุตซอลเป็นกีฬาประเภทหน่ึงทีได้รับ ความนยิ มจากบคุ คลทวั่ ไปทกุ ชนชั้น ท้งั ในประเทศและต่างประเทศ การเล่นกีฬาทุกชนิด ผู้เล่นจะตอ้ งเล่นอยู่ในกฎกตกิ า และระเบยี บทว่ี างไว้ โดยมีผู้ตดั สนิ ทาหน้าที่ควบคุมดูแล การเล่น การแขง่ ขนั ให้เปน็ ไปดว้ ยความเรียนรอ้ ยและถกู ตอ้ งตามกติกา ซง่ึ ผ้เู ล่นทกุ คนจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และ ปฏบิ ตั ติ ามกฎกตกิ า และระเบียบน้ันอยา่ งเคร่งครดั 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ 5.1.1 ประวตั ิและกติกากฬี าฟุตซอล 5.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 5.2.1 การอธิบายประวัติและกตกิ ากฬี าฟตุ ซอล 5.3 ดา้ นคุณลักษณะ 5.3.1 มคี วามใฝเ่ รยี นรู้

5.3.2 มีความมงุ่ มน่ั ในการทางาน 6. สมรรถนะของผู้เรยี น 6.1 ความสามารถในการส่ือสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 ใฝ่เรียนรู้ 7.2 ม่งุ มั่นในการทางาน 7.3 มวี นิ ยั 8. ช้ินงานหรือภาระงาน/ทกั ษะการปฏิบัติ 8.1 รายงานประวัติและกติกากีฬาฟตุ ซอล 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขนั้ เตรียม 9.1.1 นักเรยี นเขา้ ลิงค์ google classroom วิชาเรยี น พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครสู ารวจชื่อนักเรยี น 9.2 ข้นั อธิบายและสาธติ ครูอธบิ ายประวัติความเปน็ มาของกฬี าฟตุ ซอลและกตกิ ากีฬาฟตุ ซอล ให้นักเรียนฟงั โดยใหน้ ักเรยี นดจู าก ส่อื วีดีโอท่เี ตรยี มไวใ้ ห้นกั เรยี น ดงั นี้ 9.3 ข้ันฝกึ ปฏิบตั ิ 9.3.1 ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกิจกรรมตอบคาถามเกย่ี วกบั ประวัตแิ ละกติกากีฬาฟุตซอลทค่ี รูเตรียมไว้ 9.3.2 นกั เรียนคนใดตอบถูกต้องและเร็ว จานวนมากที่สดุ จะได้คะแนนบวกข้อละ 1 คะแนน 9.4 ข้นั นาไปใช้ 9.4.1 นกั เรยี นศกึ ษาประวัตแิ ละกตกิ ากีฬาฟุตซอล และจาทาเปน็ รูปเล่มรายงานส่งครูผสู้ อน 9.5 ข้นั สรุป 9.5.1 ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ เนือ้ หาเร่อื งประวัติและกติกากีฬาฟุตซอลรว่ มกนั

10. ส่ือ-อุปกรณ์/แหลง่ การเรียนรู้ 10.1 สื่อ-อุปกรณ์การเรียน 10.1.1 สนามกีฬา หรือลานหนา้ บา้ น 10.1.2 ชดุ กีฬา รองเท้าผา้ ใบ 10.1.3 ลกู ฟุตซอล หรอื อปุ กรณท์ ่สี ามารถใช้แทนลกู ฟตุ ซอลได้ 10.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 10.2.1 ส่อื วดิ ีโอ youtube เรือ่ งประวัติและกติกากฬี าฟตุ ซอล 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 1. ด้านพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive domain) แบบประเมินตอบปาก - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ โดยได้คะแนน เปลา่ เรอื่ ง ประวัติและ รวมในระดบั ดขี ้ึนไป นกั เรยี นสามารถอธิบายประวตั ิ - การถามตอบปากเปล่า กตกิ ากีฬาฟุตซอล และกตกิ ากฬี าฟตุ ซอลได้ เรอ่ื ง ประวัติและกตกิ า - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน โดยไดค้ ะแนน ชุดคาถามประวตั ิและ รวมในระดับดขี น้ึ ไป กีฬาฟุตซอล กตกิ ากีฬาฟุตซอล - ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน โดยไดค้ ะแนน 2. ดา้ นทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) แบบสมั ภาษณ์ความคิด รวมในระดบั ดขี ึ้นไป เหน็ นกั เรยี นสามารถตอบคาถาม - การตอบคาถามประวตั ิ ประวตั ิและกติกากฬี าฟุตซอล และกติกากีฬาฟตุ ซอลได้ ได้ 3. ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) นกั เรียนมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ กีฬาฟตุ - สัมภาษณ์ ซอล 12. บนั ทึกผลหลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 12.1 ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................ ............................................ ....................................................................................... ....................................................................................... .............. 2) ด้านทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ดา้ นคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................

12.2 ปัญหา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแก้ปัญหา / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงช่อื ........................................ (นายวีรศกั ดิ์ ปกป้อง) ครผู ู้สอน 13. ความคิดเหน็ และข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ได้ตรวจแผนการจดั การเรยี นร้หู น่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่ือง ประวัติและกตกิ ากีฬาฟตุ ซอล เรยี บรอ้ ยแล้ว โดยมีความ คดิ เห็น ดงั น้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  พอใช้  ควรปรับปรุง  ดมี าก  ดี 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวชีว้ ดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้  ได้นากระบวนการเรยี นรู้ทเี่ น้นผ้เู รยี นเป็นสาคญั มาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม  ไม่ไดน้ ากระบวนการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผ้เู รียนเป็นสาคญั มาใช้ 4. การใชส้ ่อื การเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสริมการเรียนร้ขู องผู้เรียน  ไมส่ ่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรูไ้ ปใช้  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้  นาไปใชไ้ ดจ้ ริง

ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชือ่ ..................................................... (นางสาววราพณั ณ์ สมั มาพิสทิ ธ์ิ) ตาแหนง่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา วันที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ประวัติและกตกิ ากฬี าฟตุ ซอล เรยี บร้อยแล้ว โดยมีความ คดิ เหน็ ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  พอใช้  ควรปรับปรงุ  ดมี าก  ดี 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชว้ี ัด  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ที่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญมาใช้ไดอ้ ย่างเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรียนรูท้ ี่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ 4. การใช้ส่ือการเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผ้เู รียน  ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรียนรูไ้ ปใช้  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ................................................................................................................................................................................. ........... ........................................................................................................................ .................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผุดผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผู้อานวยการโรงเรียนวงั จันทร์วิทยา กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ วนั ที่ ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วัตถุประสงค์การเรยี นรูท้ ตี่ ้องการ วดั และความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธพิ สิ ัย ทักษะพิสยั และจิตพิสัย วตั ถุประสงค์ พทุ ธพิ สิ ัย พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พสิ ัย เทคนิค ระดบั พฤติกรรม (%) การ ประเมิน ทกั ษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นกั เรียน 1. แบบประเมนิ กจิ กรรม สามารถอธบิ าย 4 4 3 3 33 20 4 4 4 4 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ประวัติและกติกา ตนเอง กฬี าฟตุ ซอลได้ 2. นกั เรียน 1. แบบประเมนิ สามารถตอบ คาถามประวตั ิ กจิ กรรม และกตกิ ากีฬา 10 10 10 10 10 10 60 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง ฟตุ ซอลได้ 3. นกั เรียนมเี จต 1. แบบ สัมภาษณ์ คตทิ ี่ดีตอ่ กฬี า ความคดิ เห็น 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟุตซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเคร่อื งหมายในการวเิ คราะห์  หมายถึง ปรากฏพฤติกรรมด้านนนั้ ๆ ตารางวิเคราะหก์ ารประเมนิ จิตพสิ ัย ทกั ษะพสิ ัย พทุ ธิพสิ ัย 1 = การรบั รู้สิง่ เร้า 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรยี ม 1 = ความจา 3 = การสร้างคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาช้ีแนะ 2 = เข้าใจ 4 = การจดั ระบบคณุ คา่ 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ัย 5 = การตอบสนองทซี่ ับซ้อนข้นึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินคา่ 7 = การรเิ ร่ิมใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธิบายประกอบการประเมิน ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรื่อง ประวัตแิ ละกติกากฬี าฟุตซอล คาช้แี จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทาการประเมินกิจกรรม เรือ่ ง ประวัติและกตกิ ากฬี าฟุตซอล ลาดับ ชือ่ – สกลุ ระดบั คะแนน สรุปการประเมิน ท่ี 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 ลงชือ่ .....................................................ผปู้ ระเมนิ (นายวรี ศกั ดิ์ ปกปอ้ ง) วันท่ี.............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง ประวตั แิ ละกติกากฬี าฟุตซอล เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเดน็ ทปี่ ระเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 ผลงานมีความถูกตอ้ ง - อธิบายประวัติ - อธิบายประวัติ - อธบิ ายประวัติ - อธิบายประวตั ิ - อธบิ ายประวัติ สมบรู ณ์ และกติกากีฬา และกตกิ ากีฬา และกติกากฬี า และกตกิ ากฬี า และกติกากฬี า ฟุตซอลได้ถกู ตอ้ ง ฟตุ ซอลได้ ฟุตซอลได้ ฟุตซอลไดถ้ กู ต้อง ฟตุ ซอลได้ ท้งั หมด ถกู ตอ้ ง 80% ถกู ตอ้ ง 60% 50% ถูกตอ้ งต่ากวา่ 50% เกณฑ์การผ่านการประเมิน : นักเรยี นมรี ะดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป)

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เรือ่ ง ประวตั ิและกติกากีฬาฟตุ ซอล คาชี้แจง : ใหผ้ ้ปู ระเมนิ ทาการประเมินกจิ กรรม เรื่อง ประวัตแิ ละกติกากีฬาฟุตซอล ลาดบั ที่ ชื่อ – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมิน 4 3 2 1 0 ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผปู้ ระเมิน ( นายวรี ศักดิ์ ปกป้อง ) วันท่.ี ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เรือ่ ง ประวตั ิและกติกากีฬาฟุตซอล เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางต่อไปน้ี ประเดน็ ทีป่ ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - ตอบคาถาม - ตอบคาถาม ผลงานมคี วามถูกต้อง - ตอบคาถาม - ตอบคาถาม - ตอบคาถาม เก่ยี วกับประวตั ิ เกย่ี วกับประวตั ิ สมบูรณ์ เกีย่ วกบั ประวตั ิ เกยี่ วกับประวตั ิ เกีย่ วกบั ประวตั ิ และกตกิ ากฬี า และกติกากีฬา และกติกากฬี า และกติกากฬี า และกตกิ ากีฬา ฟุตซอลได้ถกู ต้อง ฟตุ ซอลได้ ฟุตซอลได้ถูกต้อง ฟุตซอลได้ ฟตุ ซอลได้ น้อยกว่า 60% ถูกตอ้ งนอ้ ยกว่า มากกวา่ 80% ถูกตอ้ งนอ้ ยกว่า ถกู ตอ้ งน้อยกว่า 50% 80% กวา่ 70% เกณฑ์การผา่ นการประเมิน : นักเรียนมีระดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ขนึ้ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาให้นกั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากขึ้น 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทีด่ ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ชื่อวิชา ฟุตซอล หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เวลา 2 คาบ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 รหสั วชิ า พ32102 ปีการศึกษา 2564 เรื่อง การเลี้ยงลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เทา้ ครผู ้สู อน นายวรี ศกั ดิ์ ปกปอ้ ง ภาคเรียนที่ 2 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี า้ ใจนกั กีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และช่นื ชมในสุนทรียภาพของการกีฬา 2. ตัวชี้วดั พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพ่ือเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลท่ีเกิดต่อ ผูอ้ ื่นและสงั คม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพม่ิ ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตนคานึงถึงผลท่เี กิดต่อสังคม พ 3.2 ม.5/4 ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ชนื่ ชมในคุณคา่ และความงามของการกีฬา 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรียนสามารถอธบิ ายทักษะการเลยี้ งลกู ฟตุ ซอลด้วยฝ่าเทา้ ได้ (K) 3.2 นักเรยี นสามารถปฏิบตั ทิ ักษะการเล้ียงลกู ฟตุ ซอลด้วยฝ่าเทา้ ได้ (P) 3.3 นกั เรยี นมีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล (A) 4. สาระสาคญั การเล้ียงลูกฟุตซอลเป็นทักษะท่ีสาคัญมากในการเล่นฟุตซอล เพราะการเล้ียงลูกฟุตซอลสามารถใช้ได้ทั้ง หลังเท้า ฝ่าเท้า ข้างเท้าด้านในและด้านนอก รวมทั้งการรุก และการรับ ถ้าหากมีทักษะในการเลี้ยงที่ดีก็จะทาให้การ เล่นมีประสทิ ธิภาพ 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ดา้ นความรู้ 5.1.1 ทกั ษะการเลย้ี งลูกฟุตซอลดว้ ยฝา่ เทา้ 5.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 5.2.1 การปฏบิ ัติทกั ษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลด้วยฝ่าเท้า 5.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ 5.3.1 มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ 5.3.2 มีความมงุ่ มัน่ ในการทางาน

6. สมรรถนะของผู้เรยี น 6.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 7.2 มงุ่ ม่ันในการทางาน 7.3 มวี นิ ัย 8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน/ทักษะการปฏบิ ัติ 8.1 วดิ ีโอทกั ษะการเลย้ี งลูกฟุตซอลด้วยฝ่าเทา้ 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขน้ั เตรยี ม 9.1.1 นกั เรยี นเข้าลิงค์ google classroom วชิ าเรยี น พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครสู ารวจชื่อนักเรียน 9.2 ขน้ั อธบิ ายและสาธิต ครอู ธิบายและพร้อมสาธิตทักษะการเลยี้ งลูกฟุตซอลดว้ ยฝ่าเทา้ ให้นักเรียนดู และนกั เรยี นปฏิบตั ิตาม ทลี ะขน้ั ตอน โดยใหน้ กั เรยี นดูจากสือ่ วดี โี อที่เตรียมไวใ้ ห้นักเรียน ดังนี้ 9.2.1 วิธีปฏิบัติทกั ษะการเลยี้ งบอลดว้ ยฝา่ เท้า - ยนื ยอ่ ตัวเล็กนอ้ ย เปิดสน้ เท้าเล็กนอ้ ย ให้ลูกบอลอยู่ดา้ นข้าง โนม้ ตวั ไปด้านหนา้ ย่อเข่า - ถา่ ยน้าหนักตัวไปท่ีเท้าหลัก (เท้าซ้าย) ยกเทา้ ขวาใชฝ้ ่าเทา้ แตะลกู บอลด้านบน - ใช้ฝ่าเท้าขวาดึงลกู บอลไปข้างหน้าพร้อมกับบิดสะโพกหนั ลาตัวมาทางขวา ฝา่ เทา้ ขวายงั แตะอยู่ เหนอื ลูกบอลเช่นเดมิ - ยกเท้าขวาลงจากลูกบอลพร้อมกับเปดิ ขา้ งเท้าดา้ นในเตะ หรือสมั ผัสลูกบอล เคลอื่ นทเ่ี ลี้ยงต่อไป 9.3 ขั้นฝึกปฏบิ ตั ิ 9.3.1 นักเรยี นฝกึ ปฏิบตั ิทักษะการเล้ยี งลกู ฟุตซอลดว้ ยฝ่าเท้าในท่าทางที่ถกู ต้อง โดยเรม่ิ จากการเลย้ี งใน ระยะใกลๆ้ ประมาณ 3-5 เมตรกอ่ น แลว้ จงึ ค่อยเพิ่มระยะการเลยี้ งมากข้นึ เรื่อยๆโดยให้ทาการเลย้ี งไปแล้วเล้ยี งกลบั ยงั จดุ เร่มิ ตน้ โดยใหฝ้ กึ ทาประมาณ 1-2 นาทใี นแตล่ ะระยะ เพื่อให้ร่างกายคนุ้ ชินและจดจากับท่าทางท่ีถูกต้อง 9.3.2 ขณะการฝกึ ปฏิบัติทักษะการเล้ยี งลูกฟตุ ซอลด้วยฝา่ เทา้ ให้ตั้งกล้องโทรศัพทม์ ือถืออดั วดิ ีโอเพ่ือดู ท่าทางของตวั เองว่าต้องแก้ไขจดุ ใดบา้ ง เพ่ือจะไดป้ รับปรุงใหด้ ีขึน้ และถูกต้อง

9.4 ขน้ั นาไปใช้ 9.4.1 นกั เรยี นปฏบิ ัติทกั ษะการเลยี้ งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เท้า ในท่าทางที่ถูกต้องแลว้ ถา่ ยวิดีโอสง่ ครูผูส้ อน 9.5 ขนั้ สรปุ 9.5.1 ครเู สนอแนะและให้คาแนะนาในการแก้ไขข้อบกพร่องทักษะเลี้ยงลกู ฟตุ ซอลด้วยฝา่ เทา้ สาหรบั นกั เรียนท่ยี งั ทาไม่ถูกต้อง 9.5.2 ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรปุ เนื้อหาเร่ืองทักษะการเล้ียงลกู ฟตุ ซอลด้วยฝ่าเทา้ รว่ มกัน 10. ส่อื -อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้ 10.1 สอ่ื -อุปกรณก์ ารเรยี น 10.1.1 สนามกฬี า หรือลานหน้าบา้ น 10.1.2 ชดุ กีฬา รองเทา้ ผ้าใบ 10.1.3 ลูกฟุตซอล หรืออุปกรณท์ ่ีสามารถใชแ้ ทนลูกฟุตซอลได้ 10.2 แหล่งการเรียนรู้ 10.2.1 ส่ือวิดีโอ youtube เร่ืองทักษะการเล้ียงลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝ่าเทา้ 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วิธีการวดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านพทุ ธิพสิ ยั (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ ายทกั ษะ - การถามตอบปากเปลา่ แบบประเมนิ ตอบปาก - ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ โดยไดค้ ะแนน การเลย้ี งลูกฟตุ ซอลด้วยฝ่าเทา้ เรือ่ ง ทักษะการเล้ียงลูก เปล่า เรือ่ ง ทักษะการเลยี้ ง รวมในระดบั ดขี ึ้นไป ได้ ฟตุ ซอลดว้ ยฝ่าเทา้ ลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เท้า 2. ดา้ นทักษะพิสัย (Psychomotor domain) นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิทกั ษะ - ตรวจกิจกรรม เรื่อง แบบประเมินการฝกึ ทักษะ - ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ โดยไดค้ ะแนน การเลยี้ งลูกฟุตซอลด้วยฝา่ เทา้ ทักษะการเลยี้ งลูกฟุตซอล เรือ่ ง ทกั ษะการเล้ยี งลูก รวมในระดับดีข้นึ ไป ได้ ดว้ ยฝา่ เท้า ฟุตซอลด้วยฝ่าเทา้ 3. ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) นกั เรยี นมเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ กีฬาฟตุ - สัมภาษณ์ แบบสัมภาษณ์ความคดิ - ผา่ นเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน ซอล เห็น รวมในระดับดีขนึ้ ไป 12. บนั ทึกผลหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 12.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ด้านความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. ......... .......................................................................................................................... ..................................................................

2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ดา้ นคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................ 12.2 ปัญหา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแกป้ ัญหา / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงชื่อ........................................ (นายวรี ศกั ด์ิ ปกป้อง) ครูผูส้ อน 13. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง ทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลดว้ ยฝา่ เท้าเรยี บรอ้ ยแลว้ โดยมี ความคิดเห็น ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวัด  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้  ได้นากระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ผ้เู รยี นเป็นสาคญั มาใช้ได้อย่างเหมาะสม  ไม่ไดน้ ากระบวนการเรยี นรทู้ ่เี นน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญมาใช้ 4. การใช้ส่ือการเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผูเ้ รียน  ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

6. การนาแผนการจดั การเรียนรไู้ ปใช้  ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้  นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................................................................. ............... .................................................................................................................... ........................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสาววราพัณณ์ สัมมาพิสิทธ์)ิ ตาแหน่ง หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา วันท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นร้หู นว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 เร่ือง ทักษะการเล้ียงลูกฟุตซอลด้วยฝา่ เทา้ เรียบร้อยแล้ว โดยมี ความคิดเห็น ดงั น้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ  ดีมาก  ดี 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้  ได้นากระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ผ้เู รียนเป็นสาคญั มาใช้ได้อย่างเหมาะสม  ไมไ่ ดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทีเ่ น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญมาใช้ 4. การใชส้ ื่อการเรยี นรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสริมการเรียนรขู้ องผู้เรยี น  ไม่ส่งเสริมการเรียนรขู้ องผ้เู รียน 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรียนรไู้ ปใช้  นาไปใช้ได้จรงิ  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นางสมัชญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผู้อานวยการโรงเรียนวังจนั ทรว์ ทิ ยา กล่มุ บริหารงานวิชาการ วนั ที่ ............ เดือน ........................... พ.ศ. ..............

แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ต้องการ วดั และความสอดคล้องด้านพุทธพิ สิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจิตพิสยั วัตถุประสงค์ พทุ ธิพสิ ัย พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พสิ ัย เทคนิค ระดับพฤตกิ รรม (%) การ ประเมนิ ทกั ษะพิสยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นกั เรียน 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทักษะการเลย้ี ง กจิ กรรม ลกู ฟุตซอลด้วย 4 4 3 3 33 20 4 4 4 4 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ตนเอง ฝา่ เทา้ ได้ 2. นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ัติ 10 10 10 10 10 10 60 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทักษะการเลย้ี ง 2. การประเมิน ลกู ฟตุ ซอลด้วย ตนเอง ฝ่าเทา้ ได้ 3. นกั เรียนมีเจต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คติท่ดี ีต่อกฬี า ความคดิ เหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟุตซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอื่ งหมายในการวิเคราะห์  หมายถงึ ปรากฏพฤติกรรมดา้ นนนั้ ๆ ตารางวเิ คราะหก์ ารประเมนิ จติ พสิ ัย ทกั ษะพสิ ยั พุทธิพสิ ยั 1 = การรบั รสู้ ง่ิ เรา้ 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรยี ม 1 = ความจา 3 = การสร้างคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาชแ้ี นะ 2 = เข้าใจ 4 = การจัดระบบคุณค่า 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ยั 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขน้ึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมนิ คา่ 7 = การรเิ รม่ิ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธิบายประกอบการประเมิน ด้านพทุ ธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมินกจิ กรรม เร่อื ง ทกั ษะการเล้ียงลูกฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ เทา้ คาชี้แจง : ใหผ้ ู้ประเมินทาการประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง ทักษะการเลย้ี งลกู ฟตุ ซอลด้วยฝ่าเท้า ลาดับ ช่อื – สกลุ ระดบั คะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นายวรี ศักด์ิ ปกปอ้ ง) วนั ท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เร่อื ง การเลีย้ งลูกฟตุ ซอลด้วยฝ่าเท้า เกณฑ์การให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเดน็ ที่ประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - อธิบายทกั ษะ ผลงานมีความถูกต้อง - อธิบายทกั ษะ - อธบิ ายทกั ษะ - อธิบายทกั ษะ - อธบิ ายทักษะ การเลยี้ งลูก สมบรู ณ์ การเลย้ี งลกู การเลยี้ งลกู การเลยี้ งลูก การเลยี้ งลกู ฟุตซอลด้วย ฟุตซอลด้วยฝ่าเท้า ฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ ฟตุ ซอลดว้ ยฝา่ ฟุตซอลด้วยฝ่า ฝ่าเท้าไมถ่ ูกตอ้ ง 1) ยืนย่อตัว เท้าอยา่ งใด เทา้ 2 ในขอ้ 4 เทา้ 3 ในข้อ 4 เลก็ นอ้ ย เปิดสน้ อย่างหนึ่งในขอ้ ไมถ่ ูกต้อง ไมถ่ ูกตอ้ ง เทา้ เลก็ น้อย ให้ลกู 4 ไมถ่ ูกตอ้ ง บอลอยดู่ ้านข้าง โน้มตัวไปด้านหน้า ย่อเข่า 2) ถา่ ยนา้ หนกั ตัว ไปท่เี ทา้ หลัก (เทา้ ซ้าย) ยกเท้าขวา ใชฝ้ า่ เท้าแตะลกู บอลด้านบน 3) ใช้ฝา่ เท้าขวาดึง ลกู บอลไป ขา้ งหน้าพรอ้ มกับ บิดสะโพกหนั ลาตัวมาทางขวา ฝา่ เท้าขวายงั แตะ อยู่เหนือลูกบอล เช่นเดิม 4) ยกเทา้ ขวาลง จากลูกบอลพร้อม กับเปิดขา้ งเท้า ดา้ นในเตะ หรอื สมั ผสั ลกู บอล เคลอ่ื นทีเ่ ลี้ยง ตอ่ ไป เกณฑก์ ารผ่านการประเมิน : นกั เรียนมีระดบั คะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ขนึ้ ไป

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมินกิจกรรม เรือ่ ง การเล้ียงลูกฟตุ ซอลด้วยฝา่ เทา้ คาชแ้ี จง : ให้ผปู้ ระเมินทาการประเมินกจิ กรรม เร่ือง การเล้ียงลูกฟตุ ซอลด้วยฝ่าเท้า ลาดบั ที่ ช่ือ – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมิน 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผปู้ ระเมิน ( นายวรี ศกั ดิ์ ปกปอ้ ง ) วนั ที่.............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมินกจิ กรรม เรอ่ื ง การเลีย้ งลูกฟุตซอลด้วยฝ่าเทา้ เกณฑ์การให้คะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปนี้ ประเด็นที่ประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - ปฏิบตั ิทกั ษะ - ปฏบิ ตั ทิ กั ษะ ผลงานมีความถูกตอ้ ง - ปฏบิ ัตทิ ักษะการ - ปฏิบัติทกั ษะ - ปฏบัติทักษะ การเลย้ี งลกู การเลยี้ งลูก สมบรู ณ์ การเลยี้ งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยฝ่า ฟุตซอลด้วย เลีย้ งลกู ฟตุ ซอล การเลย้ี งลกู ฟุตซอลดว้ ยฝา่ เทา้ 3 ในข้อ 4 ฝ่าเท้าไม่ถกู ตอ้ ง เท้า 2 ในขอ้ 4 ไม่ถกู ต้อง ดว้ ยฝ่าเท้า ฟตุ ซอลด้วยฝ่า ไมถ่ ูกต้อง 1) ยนื ยอ่ ตวั เท้าอยา่ งใด เล็กน้อย เปิดส้น อย่างหนงึ่ ในข้อ เทา้ เล็กนอ้ ย ใหล้ กู 4 ไม่ถูกตอ้ ง บอลอยูด่ า้ นขา้ ง โนม้ ตวั ไปดา้ นหน้า ยอ่ เขา่ 2) ถ่ายน้าหนกั ตวั ไปทเ่ี ท้าหลกั (เทา้ ซ้าย) ยกเทา้ ขวา ใชฝ้ า่ เทา้ แตะลกู บอลดา้ นบน 3) ใช้ฝา่ เท้าขวาดงึ ลกู บอลไป ข้างหนา้ พรอ้ มกบั บิดสะโพกหนั ลาตวั มาทางขวา ฝ่าเท้าขวายงั แตะ อย่เู หนอื ลูกบอล

เชน่ เดิม 4) ยกเท้าขวาลง จากลูกบอลพร้อม กบั เปดิ ขา้ งเท้า ด้านในเตะ หรือ สัมผสั ลูกบอล เคลอื่ นที่เลย้ี ง ตอ่ ไป เกณฑ์การผา่ นการประเมิน : นกั เรยี นมรี ะดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพรา่ งกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟตุ ซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากข้นึ 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นักเรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาค่าเฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถ้าได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รหสั วิชา พ32102 ช่ือวชิ า ฟุตซอล เวลา 2 คาบ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง การเลี้ยงลกู ฟตุ ซอลดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน ปกี ารศกึ ษา 2564 ระดับชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 ครูผูส้ อน นายวีรศักด์ิ ปกปอ้ ง 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มีน้าใจนกั กฬี า มีจติ วญิ ญาณในการแขง่ ขนั และชน่ื ชมในสนุ ทรยี ภาพของการกฬี า 2. ตัวช้ีวดั พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพื่อเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลท่ีเกิดต่อ ผู้อ่ืนและสงั คม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพ่มิ ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตนคานึงถึงผลท่เี กดิ ต่อสังคม พ 3.2 ม.5/4 รว่ มกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสขุ ช่ืนชมในคุณคา่ และความงามของการกีฬา 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายทักษะการเล้ียงลูกฟตุ ซอลด้วยข้างเท้าดา้ นในได้ (K) 3.2 นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิทักษะการเล้ียงลูกฟุตซอลด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้ (P) 3.3 นักเรยี นมีเจตคตทิ ี่ดีต่อกีฬาฟตุ ซอล (A) 4. สาระสาคัญ การเลี้ยงลูกฟุตซอลเป็นทักษะท่ีสาคัญมากในการเล่นฟุตซอล เพราะการเลี้ยงลูกฟุตซอลสามารถใช้ได้ทั้ง หลังเท้า ฝ่าเท้า ข้างเท้าด้านในและด้านนอก รวมท้ังการรุก และการรับ ถ้าหากมีทักษะในการเลี้ยงที่ดีก็จะทาให้การ เล่นมีประสิทธิภาพ 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ดา้ นความรู้ 5.1.1 ทกั ษะการเลีย้ งลูกฟตุ ซอลด้วยขา้ งเท้าดา้ นใน 5.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 5.2.1 การปฏิบตั ทิ กั ษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน 5.3 ด้านคุณลักษณะ 5.3.1 มีความใฝ่เรยี นรู้ 5.3.2 มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน

6. สมรรถนะของผู้เรยี น 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 7.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7.3 มีวินยั 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน/ทักษะการปฏิบตั ิ 8.1 วิดโี อทักษะการเลีย้ งลูกฟุตซอลดว้ ยขา้ งเทา้ ด้านใน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขน้ั เตรียม 9.1.1 นักเรียนเข้าลงิ ค์ google classroom วิชาเรียน พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครสู ารวจช่ือนกั เรียน 9.2 ข้นั อธิบายและสาธิต ครูอธบิ ายและพร้อมสาธิตทักษะการเล้ียงลกู ฟุตซอลดว้ ยข้างเทา้ ดา้ นในเทา้ ใหน้ ักเรยี นดู และนักเรยี น ปฏิบัตติ ามทลี ะขน้ั ตอน โดยให้นักเรยี นดูจากสื่อวีดีโอที่เตรียมไวใ้ หน้ ักเรยี น ดงั น้ี 9.2.1 วิธปี ฏิบตั ิทักษะการเลีย้ งลกู ฟุตซอลด้วยขา้ งเท้าด้านใน - ยืนอยหู่ ลังลูกบอล ห่างประมาณ 1 ช่วงตวั ย่อตวั เปดิ สน้ เทา้ เลก็ นอ้ ย โน้มตัวไปดา้ นหน้า เขา่ งอ เลก็ น้อย - กา้ วเท้าหลกั เขา้ หาลูกบอล วางเทา้ หลกั (เท้าซา้ ย) ใหป้ ลายเท้าขนานกบั ลูกบอลหรอื ต่ากว่าลูกบอล เลก็ น้อย ใช้เท้าที่จะใช้เตะ (เทา้ ขวา) ยกขน้ึ ประมาณ 1 ฝา่ มอื บดิ สะโพกออกไปทางทางด้านข้าง หันปลายเท้าไปทาง เดียวกัน ยึดข้อเทา้ ข้อเข่าใหแ้ นน่ ใช้สะโพกเป็นจุดหมนุ เหวี่ยงเท้าสมั ผัสกับลูกบอล - จดุ ทีส่ ัมผัสบอลบรเิ วณกงึ กลางของลูกบอล - ก้าวเทา้ ตามลกู บอล พร้อมท่ีจะเล่นในจงั หวะต่อไป

9.3.1 นักเรียนฝึกปฏบิ ัตทิ กั ษะการเล้ียงลูกฟุตซอลด้วยข้างเท้าด้านใน ในท่าทางที่ถูกต้อง โดยเร่มิ จากการ เลย้ี งในระยะใกลๆ้ ประมาณ 3-5 เมตรก่อน แลว้ จึงคอ่ ยเพิ่มระยะการเลีย้ งมากขึ้นเรอ่ื ยๆโดยใหท้ าการเล้ียงไปแล้วเลยี้ ง กลับยังจุดเร่ิมตน้ โดยให้ฝึกทาประมาณ 1-2 นาทใี นแต่ละระยะ เพ่ือให้ร่างกายคนุ้ ชินและจดจากบั ท่าทางท่ีถกู ต้อง 9.3.2 ขณะการฝึกปฏบิ ัตทิ ักษะการเลี้ยงลกู ฟุตซอลดว้ ยข้างเทา้ ด้านใน ให้ตง้ั กล้องโทรศพั ทม์ อื ถืออดั วดิ โี อ เพ่ือดูทา่ ทางของตัวเองว่าต้องแก้ไขจุดใดบ้าง เพ่ือจะได้ปรับปรงุ ใหด้ ขี ึ้นและถูกตอ้ ง 9.4 ขนั้ นาไปใช้ 9.4.1 นกั เรยี นปฏบิ ัติทกั ษะการเลยี้ งลกู ฟตุ ซอลด้วยขา้ งเท้าดา้ นใน ในทา่ ทางที่ถกู ต้องแล้วถา่ ยวิดโี อส่ง ครูผู้สอน 9.5 ขน้ั สรุป 9.5.1 ครเู สนอแนะและให้คาแนะนาในการแกไ้ ขข้อบกพร่องทักษะเล้ียงลูกฟุตซอลดว้ ยข้างเทา้ ด้านใน สาหรับนกั เรยี นที่ยังทาไม่ถกู ต้อง 9.5.2 ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรุปเนื้อหาเรื่องทกั ษะการเลี้ยงลกู ฟตุ ซอลด้วยขา้ งเท้าด้านในร่วมกนั 10. สอ่ื -อุปกรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 ส่อื -อปุ กรณ์การเรียน 10.1.1 สนามกีฬา หรอื ลานหนา้ บา้ น 10.1.2 ชุดกีฬา รองเท้าผา้ ใบ 10.1.3 ลกู ฟตุ ซอล หรอื อปุ กรณท์ ส่ี ามารถใช้แทนลกู ฟุตซอลได้ 10.2 แหลง่ การเรียนรู้ 10.2.1 สื่อวิดีโอ youtube เร่อื งทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลดว้ ยข้างเท้าด้านใน 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพทุ ธพิ ิสัย (Cognitive domain) นักเรียนสามารถอธบิ ายทักษะ - การถามตอบปากเปล่า แบบประเมนิ ตอบปาก - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ โดยไดค้ ะแนน การเลยี้ งลกู ฟุตซอลดว้ ยขา้ ง เรอ่ื ง ทักษะการเลี้ยงลกู เปล่า เร่ือง ทกั ษะการเลย้ี ง รวมในระดับดขี ้นึ ไป เทา้ ด้านในได้ ฟุตซอลด้วยขา้ งเทา้ ด้าน ลูกฟุตซอลด้วยข้างเท้า ใน ดา้ นใน 2. ด้านทักษะพสิ ยั (Psychomotor domain) นักเรียนสามารถปฏิบตั ิทักษะ - ตรวจกิจกรรม เร่ือง แบบประเมนิ การฝกึ ทักษะ - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ โดยไดค้ ะแนน การเลยี้ งลกู ฟตุ ซอลด้วยข้าง ทักษะการเลย้ี งลกู ฟตุ ซอล เร่ือง ทักษะการเลย้ี งลูก รวมในระดบั ดขี น้ึ ไป เทา้ ดา้ นในได้ ด้วยข้างเทา้ ดา้ นใน ฟตุ ซอลดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน 3. ด้านจติ พสิ ัย (Affective domain) นักเรียนมเี จตคตทิ ีด่ ีต่อกีฬาฟุต - สมั ภาษณ์ แบบสมั ภาษณค์ วามคดิ - ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ โดยไดค้ ะแนน ซอล เหน็ รวมในระดับดีข้นึ ไป

12. บันทึกผลหลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 12.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ ................................................................ 2) ด้านทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ด้านคุณลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................ 12.2 ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแก้ปญั หา / ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงชื่อ........................................ (นายวรี ศกั ด์ิ ปกป้อง) ครผู ู้สอน 13. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ไดต้ รวจแผนการจัดการเรยี นรหู้ นว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง ทักษะการเลย้ี งลูกฟตุ ซอลด้วยขา้ งเท้าด้านในเรียบรอ้ ยแล้ว โดยมคี วามคดิ เหน็ ดังน้ี 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ช้วี ัด  สอดคลอ้ ง  ไมส่ อดคล้อง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั มาใช้ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไม่ได้นากระบวนการเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั มาใช้

4. การใช้สอื่ การเรยี นรู้  มคี วามเหมาะสมและส่งเสรมิ การเรียนรขู้ องผูเ้ รยี น  ไมส่ ง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องผูเ้ รยี น 5. การวดั และการประเมินผล  สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นร้ไู ปใช้  นาไปใช้ได้จริง  ควรปรับปรุงก่อนนาไปใช้ ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงช่อื ..................................................... (นางสาววราพัณณ์ สัมมาพสิ ทิ ธ์)ิ ตาแหนง่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคิดเห็นและขอ้ เสนอแนะของรองผอู้ านวยการกลุม่ บริหารงานวชิ าการ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรหู้ น่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ทักษะการเลยี้ งลูกฟตุ ซอลด้วยข้างเทา้ ด้านในเรียบรอ้ ยแล้ว โดยมีความคดิ เห็น ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชี้วดั  สอดคลอ้ ง  ไม่สอดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ท่เี นน้ ผ้เู รียนเป็นสาคญั มาใช้ได้อย่างเหมาะสม  ไม่ได้นากระบวนการเรยี นร้ทู ่เี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั มาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้  มคี วามเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นร้ขู องผเู้ รยี น  ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวดั และการประเมนิ ผล  สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้  นาไปใชไ้ ด้จริง

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวิเคราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์การเรียนร้ทู ต่ี ้องการ วัดและความสอดคล้องด้านพุทธิพิสยั ทักษะพสิ ัย และจติ พิสัย วตั ถปุ ระสงค์ พทุ ธพิ สิ ัย พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พิสัย เทคนิค ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ ประเมิน ทักษะพสิ ยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นักเรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทกั ษะการเล้ยี ง กจิ กรรม ลกู ฟตุ ซอลด้วย 4 4 3 3 33 20 4 4 4 4 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง ข้างเทา้ ด้านในได้ 2. นกั เรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ตั ิ 10 10 10 10 10 10 60 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กจิ กรรม ทักษะการเลย้ี ง 2. การประเมนิ ลูกฟตุ ซอลด้วย ตนเอง ข้างเท้าดา้ นในได้ 3. นกั เรียนมีเจต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คติท่ดี ีต่อกฬี า ความคดิ เหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอ่ื งหมายในการวิเคราะห์  หมายถงึ ปรากฏพฤติกรรมด้านนนั้ ๆ ตารางวเิ คราะหก์ ารประเมนิ จติ พสิ ัย ทักษะพิสัย พทุ ธพิ สิ ยั 1 = การรับร้สู ่งิ เร้า 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรียม 1 = ความจา 3 = การสร้างคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาช้ีแนะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจดั ระบบคุณค่า 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ัย 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขนึ้ 4 = วเิ คราะห์ 6 = การดดั แปลงใหเ้ หมาะสม 5 = ประเมินค่า 7 = การรเิ รม่ิ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านพทุ ธพิ สิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เร่อื ง ทกั ษะการเลย้ี งลูกฟตุ ซอลด้วยขา้ งเท้าด้านใน คาชแี้ จง : ให้ผ้ปู ระเมินทาการประเมนิ กิจกรรม เรือ่ ง ทักษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน ลาดบั ช่ือ – สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมิน (นายวรี ศกั ดิ์ ปกปอ้ ง) วันท.ี่ ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมนิ กิจกรรม เร่อื ง การเล้ยี งลูกฟตุ ซอลด้วยข้างเท้าดา้ นใน เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ทป่ี ระเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - อธิบายทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกตอ้ ง - อธบิ ายทักษะ - อธิบายทักษะ - อธบิ ายทักษะ - อธบิ ายทักษะ การเลยี้ งลูก สมบูรณ์ การเลยี้ งลกู การเลยี้ งลูก การเลยี้ งลูก การเลย้ี งลกู ฟุตซอลดว้ ย ฟุตซอลดว้ ยข้าง ฟตุ ซอลดว้ ยข้าง ฟตุ ซอลด้วยข้าง ฟุตซอลด้วยข้าง ขา้ งเท้าด้านใน เทา้ ดา้ นใน เทา้ ด้านในอยา่ ง เทา้ ด้านใน 2 ใน เท้าด้านใน 3 ใน ไม่ถูกตอ้ ง 1)ยืนอยู่หลังลูก ใดอย่างหน่ึงใน ข้อ 4 ไมถ่ ูกต้อง ข้อ 4 ไม่ถกู ต้อง บอล ห่าง ขอ้ 4 ไม่ถกู ตอ้ ง ประมาณ 1 ชว่ ง ตัว ยอ่ ตวั เปดิ สน้ เทา้ เล็กนอ้ ย โนม้ ตวั ไปด้านหนา้ เขา่ งอเล็กนอ้ ย 2) กา้ วเท้าหลกั เข้าหาลูกบอล วางเทา้ หลกั (เท้า ซ้าย) ให้ปลายเท้า ขนานกบั ลกู บอล หรือต่ากว่าลกู บอลเลก็ น้อย ใช้ เท้าท่จี ะใชเ้ ตะ (เทา้ ขวา) ยกข้ึน ประมาณ 1 ฝ่ามอื บิดสะโพกออกไป ทางทางด้านข้าง หันปลายเท้าไป ทางเดยี วกนั ยดึ ข้อเทา้ ขอ้ เขา่ ให้ แนน่ ใช้สะโพก เปน็ จุดหมุน เหวย่ี งเท้าสมั ผสั กับลูกบอ 3)จุดทส่ี ัมผสั บอล บริเวณกึงกลาง ของลกู บอล 4) กา้ วเท้าตามลูก บอล พร้อมทจี่ ะ เล่นในจังหวะ ต่อไป เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ข้นึ ไป

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เรือ่ ง การเล้ียงลูกฟตุ ซอลด้วยข้างเท้าด้านใน คาช้ีแจง : ให้ผ้ปู ระเมินทาการประเมินกิจกรรม เร่อื ง การเล้ียงลกู ฟตุ ซอลดว้ ยข้างเทา้ ด้านใน ลาดับที่ ชือ่ – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมิน 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงชอ่ื .....................................................ผู้ประเมิน ( นายวีรศักด์ิ ปกป้อง ) วันท.ี่ ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ารประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง การเล้ียงลกู ฟตุ ซอลด้วยข้างเท้าดา้ นใน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเดน็ ท่ปี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - ปฏิบัติทักษะ - ปฏบิ ัติทักษะ ผลงานมีความถูกตอ้ ง - ปฏิบัตทิ กั ษะการ - ปฏบิ ัตทิ ักษะ - ปฏิบตั ิทกั ษะ การเลย้ี งลกู การเลยี้ งลูก สมบูรณ์ เล้ยี งลกู ฟตุ ซอล การเลยี้ งลกู การเลยี้ งลูก ฟุตซอลดว้ ยข้าง ฟตุ ซอลดว้ ย ดว้ ยข้างเท้าดา้ น ฟตุ ซอลด้วยขา้ ง ฟตุ ซอลดว้ ยขา้ ง เท้าดา้ นใน 3 ใน ข้างเทา้ ด้านใน ใน เท้าดา้ นในอยา่ ง เทา้ ดา้ นใน 2 ใน ขอ้ 4 ไม่ถกู ต้อง ไมถ่ ูกตอ้ ง 1)ยนื อยู่หลังลกู ใดอยา่ งหน่งึ ใน ขอ้ 4 ไม่ถกู ตอ้ ง บอล ห่าง ขอ้ 4 ไม่ถกู ต้อง ประมาณ 1 ชว่ ง ตวั ยอ่ ตวั เปิดส้น เทา้ เล็กนอ้ ย โนม้ ตัวไปด้านหนา้ เขา่ งอเลก็ น้อย 2) ก้าวเทา้ หลกั เขา้ หาลกู บอล วางเท้าหลกั (เท้า ซ้าย) ให้ปลายเท้า ขนานกับลูกบอล หรอื ต่ากว่าลูก บอลเล็กน้อย ใช้ เท้าที่จะใชเ้ ตะ (เทา้ ขวา) ยกขนึ้ ประมาณ 1 ฝ่ามือ

บิดสะโพกออกไป ทางทางด้านข้าง หนั ปลายเทา้ ไป ทางเดียวกนั ยึด ข้อเทา้ ขอ้ เข่าให้ แนน่ ใชส้ ะโพก เป็นจดุ หมุน เหว่ียงเท้าสมั ผสั กบั ลกู บอ 3)จดุ ทีส่ มั ผสั บอล บรเิ วณกงึ กลาง ของลูกบอล 4) กา้ วเท้าตามลูก บอล พร้อมทีจ่ ะ เลน่ ในจังหวะ ต่อไป เกณฑก์ ารผา่ นการประเมิน : นักเรียนมรี ะดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ขึ้นไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาให้นกั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากขึ้น 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทีด่ ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 กล่มุ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รหสั วชิ า พ32102 ชื่อวิชา ฟุตซอล เวลา 2 คาบ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เร่อื ง การเล้ยี งลูกฟุตซอลดว้ ยหลังเทา้ ปกี ารศกึ ษา 2564 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 ครผู สู้ อน นายวีรศักด์ิ ปกปอ้ ง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี า้ ใจนกั กฬี า มีจิตวิญญาณในการแข่งขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา 2. ตวั ชีว้ ัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพ่ือเพ่ิมศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลที่เกิดต่อ ผูอ้ นื่ และสงั คม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพิ่มศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตนคานึงถึงผลทเ่ี กดิ ตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสขุ ชนื่ ชมในคุณคา่ และความงามของการกีฬา 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 นกั เรยี นสามารถอธิบายทักษะการเล้ยี งลกู ฟตุ ซอลดว้ ยหลังเทา้ ได้ (K) 3.2 นกั เรยี นสามารถปฏิบัติทักษะการเล้ียงลูกฟตุ ซอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้ (P) 3.3 นกั เรยี นมเี จตคตทิ ่ีดีต่อกฬี าฟุตซอล (A) 4. สาระสาคัญ การเล้ียงลูกฟุตซอลเป็นทักษะที่สาคัญมากในการเล่นฟุตซอล เพราะการเล้ียงลูกฟุตซอลสามารถใช้ได้ทั้ง หลังเท้า ฝ่าเท้า ข้างเท้าด้านในและด้านนอก รวมท้ังการรุก และการรับ ถ้าหากมีทักษะในการเลี้ยงท่ีดีก็จะทาให้การ เล่นมปี ระสทิ ธภิ าพ 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ดา้ นความรู้ 5.1.1 ทกั ษะการเลี้ยงลูกฟตุ ซอลด้วยหลังเท้า 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 5.2.1 การปฏิบตั ทิ กั ษะการเลี้ยงลกู ฟตุ ซอลด้วยหลงั เท้า 5.3 ด้านคณุ ลักษณะ 5.3.1 มีความใฝเ่ รยี นรู้ 5.3.2 มีความมงุ่ มัน่ ในการทางาน

6. สมรรถนะของผู้เรียน 6.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รียนรู้ 7.2 มุ่งมน่ั ในการทางาน 7.3 มวี ินัย 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน/ทกั ษะการปฏิบตั ิ 8.1 วิดีโอทกั ษะการเล้ยี งลูกฟุตซอลดว้ ยหลงั เท้า 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขั้นเตรียม 9.1.1 นักเรียนเข้าลงิ ค์ google classroom วชิ าเรยี น พ32102 ฟุตซอล 9.1.2 ครสู ารวจชอื่ นักเรยี น 9.2 ขัน้ อธบิ ายและสาธติ ครูอธบิ ายและพร้อมสาธติ ทักษะการเลีย้ งลกู ฟุตซอลดว้ ยหลังเท้าใหน้ กั เรยี นดู และนักเรียนปฏบิ ัติตามทีละ ขนั้ ตอน โดยให้นักเรยี นดจู ากสื่อวดี ีโอท่ีเตรียมไว้ใหน้ ักเรยี น ดังน้ี 9.2.1 วิธปี ฏบิ ัตทิ ักษะการเลย้ี งลกู ฟุตซอลด้วยหลงั เทา้ - ยืนอยหู่ ลงั ลกู บอล หา่ งประมาณ 1 ช่วงตวั ยอ่ ตวั เปิดส้นเทา้ เล็กนอ้ ย โนม้ ตัวไปด้านหน้า เข่างอ เล็กน้อย - ก้าวเทา้ หลกั เข้าหาลูกบอล วางเทา้ หลกั (เท้าซ้าย) ให้ปลายเท้าขนานกบั ลูกบอลหรอื ต่ากว่าลูกบอล เลก็ นอ้ ย ใชเ้ ทา้ ทจี่ ะใชเ้ ตะ (เท้าขวา) ยกขนึ้ ประมาณ 1 ฝา่ มอื หันปลายเทา้ ไปทางเดียวกนั เทา้ หลกั ยดึ ขอ้ เท้าข้อเขา่ ให้ แนน่ และเหวี่ยงหลงั เท้าสมั ผัสกบั ลกู บอล - จดุ ทส่ี ัมผัสบอลบรเิ วณกึ่งกลางของลกู บอล - กา้ วเท้าตามลูกบอล พร้อมทจี่ ะเลน่ ในจงั หวะตอ่ ไป

9.3.1 นักเรยี นฝกึ ปฏิบัตทิ ักษะการเลย้ี งลูกฟุตซอลด้วยหลังเทา้ ในท่าทางที่ถกู ต้อง โดยเร่มิ จากการเลี้ยงใน ระยะใกลๆ้ ประมาณ 3-5 เมตรก่อน แลว้ จึงค่อยเพิ่มระยะการเล้ยี งมากข้นึ เรอ่ื ยๆโดยให้ทาการเลี้ยงไปแลว้ เลีย้ งกลับยงั จุดเร่ิมตน้ โดยให้ฝกึ ทาประมาณ 1-2 นาทีในแตล่ ะระยะ เพ่อื ให้รา่ งกายคุ้นชินและจดจากบั ทา่ ทางท่ีถูกต้อง 9.3.2 ขณะการฝึกปฏบิ ัติทักษะการเลย้ี งลูกฟุตซอลด้วยหลงั เทา้ ใหต้ ้งั กล้องโทรศัพท์มือถืออดั วิดโี อเพื่อดู ทา่ ทางของตวั เองวา่ ต้องแก้ไขจดุ ใดบ้าง เพ่ือจะไดป้ รับปรงุ ให้ดขี ึ้นและถูกต้อง 9.4 ขัน้ นาไปใช้ 9.4.1 นกั เรยี นปฏิบตั ิทักษะการเล้ยี งลูกฟุตซอลดว้ ยหลังเท้าในท่าทางท่ถี ูกต้องแล้วถ่ายวิดีโอสง่ ครูผสู้ อน 9.5 ข้ันสรปุ 9.5.1 ครูเสนอแนะและให้คาแนะนาในการแกไ้ ขข้อบกพร่องทักษะเล้ียงลกู ฟุตซอลด้วยหลงั เท้าสาหรับ นักเรยี นที่ยงั ทาไม่ถูกต้อง 9.5.2 ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ เนื้อหาเรอื่ งทกั ษะการเล้ียงลูกฟตุ ซอลด้วยหลงั เทา้ ร่วมกนั 10. สอื่ -อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 ส่อื -อปุ กรณก์ ารเรยี น 10.1.1 สนามกีฬา หรอื ลานหน้าบ้าน 10.1.2 ชดุ กีฬา รองเท้าผา้ ใบ 10.1.3 ลกู ฟตุ ซอล หรอื อปุ กรณ์ที่สามารถใชแ้ ทนลกู ฟุตซอลได้ 10.2 แหล่งการเรยี นรู้ 10.2.1 สือ่ วิดโี อ youtube เร่อื งทักษะการเลีย้ งลูกฟตุ ซอลดว้ ยหลังเทา้ 11. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ วิธกี ารวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านพทุ ธิพิสยั (Cognitive domain) นักเรยี นสามารถอธบิ ายทักษะ - การถามตอบปากเปล่า แบบประเมนิ ตอบปาก - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ โดยได้คะแนน การเลย้ี งลกู ฟตุ ซอลด้วยหลงั เรอื่ ง ทกั ษะการเล้ียงลูก เปล่า เรือ่ ง ทกั ษะการเลยี้ ง รวมในระดับดขี น้ึ ไป เท้าได้ ฟตุ ซอลด้วยหลังเทา้ ลกู ฟุตซอลดว้ ยหลงั เท้า 2. ด้านทกั ษะพสิ ยั (Psychomotor domain) นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติทักษะ - ตรวจกจิ กรรม เรื่อง แบบประเมินการฝกึ ทกั ษะ - ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน โดยได้คะแนน การเลยี้ งลกู ฟุตซอลด้วยหลงั ทักษะการเลย้ี งลูกฟุตซอล เร่อื ง ทกั ษะการเลย้ี งลกู รวมในระดบั ดขี ้นึ ไป เทา้ ได้ ดว้ ยหลงั เทา้ ฟตุ ซอลด้วยหลงั เท้า 3. ด้านจติ พิสยั (Affective domain) นกั เรยี นมเี จตคติท่ีดตี ่อกีฬา - สมั ภาษณ์ แบบสัมภาษณ์ความคิด - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ โดยไดค้ ะแนน ฟุตซอล เหน็ รวมในระดับดขี ึน้ ไป

12. บนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 12.1 ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ด้านความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ ................................................................ 2) ด้านทกั ษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ....................................................................................................................................................................... ..................... 3) ดา้ นคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... 12.2 ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแกป้ ัญหา / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงชื่อ........................................ (นายวรี ศกั ด์ิ ปกป้อง) ครูผู้สอน 13. ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของหัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรูห้ นว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง ทักษะการเล้ียงลูกฟตุ ซอลดว้ ยหลงั เทา้ เรยี บร้อยแล้ว โดยมี ความคดิ เห็น ดังนี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรียนรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ัด  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทเี่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม  ไม่ไดน้ ากระบวนการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั มาใช้

4. การใชส้ อ่ื การเรียนรู้  มคี วามเหมาะสมและสง่ เสรมิ การเรยี นร้ขู องผเู้ รยี น  ไม่สง่ เสริมการเรียนรูข้ องผูเ้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้  นาไปใช้ไดจ้ ริง  ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงช่ือ ..................................................... (นางสาววราพณั ณ์ สัมมาพิสิทธ์ิ) ตาแหน่ง หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของรองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง ทักษะการเล้ียงลกู ฟุตซอลดว้ ยหลงั เท้าเรยี บร้อยแล้ว โดยมี ความคิดเหน็ ดังนี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ดั  สอดคลอ้ ง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทีเ่ นน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม  ไม่ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทีเ่ น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั มาใช้ 4. การใช้สอ่ื การเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรู้ของผูเ้ รยี น  ไม่ส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช้  ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้  นาไปใช้ไดจ้ ริง

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวเิ คราะหก์ ารประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วัตถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ต้องการ วัดและความสอดคล้องดา้ นพุทธพิ สิ ยั ทกั ษะพสิ ยั และจติ พิสยั วัตถปุ ระสงค์ พุทธพิ สิ ยั พฤตกิ รรมการประเมนิ จติ พสิ ัย เทคนิค ระดับพฤติกรรม (%) การ ประเมนิ ทกั ษะพสิ ัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นักเรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทกั ษะการเลย้ี ง กจิ กรรม ลกู ฟุตซอลดว้ ย 4 4 3 3 33 20 4 4 4 4 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ตนเอง หลังเทา้ ได้ 2. นกั เรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ัติ 10 10 10 10 10 10 60 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทักษะการเลย้ี ง 2. การประเมิน ลูกฟตุ ซอลดว้ ย ตนเอง หลงั เทา้ 3. นกั เรียนมีเจต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คติที่ดตี ่อกฬี า ความคดิ เหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอ่ื งหมายในการวเิ คราะห์  หมายถึง ปรากฏพฤติกรรมดา้ นนัน้ ๆ ตารางวิเคราะหก์ ารประเมิน จติ พสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั พทุ ธพิ ิสยั 1 = การรบั รสู้ ง่ิ เร้า 1 = การรบั รู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรียม 1 = ความจา 3 = การสรา้ งคณุ คา่ 3 = การตอบสนองตามคาชแ้ี นะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจัดระบบคุณค่า 4 = การสรา้ งกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสรา้ งลกั ษณะนสิ ยั 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขน้ึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินค่า 7 = การรเิ ร่มิ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธพิ ิสยั (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เร่ือง ทกั ษะการเลี้ยงลูกฟุตซอลดว้ ยหลังเท้า คาชีแ้ จง : ให้ผ้ปู ระเมินทาการประเมินกิจกรรม เร่ือง ทักษะการเล้ยี งลกู ฟุตซอลดว้ ยหลงั เทา้ ลาดบั ชอ่ื – สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ ท่ี 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผ้ปู ระเมนิ (นายวรี ศักด์ิ ปกปอ้ ง) วนั ท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรม เรอื่ ง การเลีย้ งลูกฟุตซอลด้วยหลังเท้า เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเดน็ ทีป่ ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - อธิบายทักษะ ผลงานมคี วามถูกต้อง - อธบิ ายทกั ษะ - อธิบายทักษะ - อธิบายทกั ษะ - อธิบายทกั ษะ การเลยี้ งลกู สมบรู ณ์ การเลยี้ งลกู การเลย้ี งลกู การเลย้ี งลูก การเลย้ี งลูก ฟุตซอลด้วย ฟตุ ซอลดว้ ยหลงั ฟุตซอลดว้ ยหลงั ฟตุ ซอลดว้ ยหลงั ฟตุ ซอลด้วยหลงั หลงั เทา้ ไม่ เทา้ เทา้ อยา่ งใด เท้า 2 ในขอ้ 4 เท้า 3 ในขอ้ 4 ถกู ตอ้ ง 1) ยืนอย่หู ลงั ลกู อย่างหนึง่ ในขอ้ ไมถ่ ูกตอ้ ง ไม่ถูกตอ้ ง บอล หา่ ง 4 ไมถ่ กู ตอ้ ง ประมาณ 1 ช่วง ตวั ยอ่ ตวั เปิดสน้ เท้าเล็กนอ้ ย โนม้ ตวั ไปด้านหนา้ เข่างอเลก็ นอ้ ย 2) กา้ วเทา้ หลกั เข้าหาลูกบอล วางเท้าหลกั (เทา้ ซา้ ย) ใหป้ ลายเท้า ขนานกับลกู บอล หรือตา่ กวา่ ลกู บอลเล็กนอ้ ย ใช้ เทา้ ที่จะใชเ้ ตะ (เทา้ ขวา) ยกข้ึน ประมาณ 1 ฝา่ มอื หนั ปลายเทา้ ไป ทางเดยี วกันเท้า หลัก ยดึ ขอ้ เท้าขอ้ เขา่ ให้แน่น และ เหวี่ยงหลังเท้า สมั ผสั กบั ลูกบอล 3) จดุ ทส่ี มั ผสั บอล บริเวณก่ึงกลาง ของลกู บอล 4) กา้ วเทา้ ตามลูก บอล พรอ้ มที่จะ เล่นในจงั หวะ ตอ่ ไป เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นกั เรยี นมรี ะดบั คะแนน 2 ขึ้นไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ข้นึ ไป

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เร่อื ง การเลยี้ งลูกฟตุ ซอลด้วยหลังเท้า คาช้ีแจง : ให้ผปู้ ระเมินทาการประเมินกจิ กรรม เรือ่ ง การเล้ียงลูกฟตุ ซอลดว้ ยหลงั เท้า ลาดับที่ ชอื่ – สกลุ ระดบั คะแนน สรุปการประเมนิ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นายวีรศกั ดิ์ ปกปอ้ ง ) วนั ท่ี.............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การประเมนิ กิจกรรม เร่ือง การเลี้ยงลูกฟตุ ซอลด้วยหลังเท้า เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางตอ่ ไปนี้ ประเดน็ ทปี่ ระเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - ปฏบิ ัตทิ ักษะ - ปฏบิ ตั ิทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกต้อง - ปฏิบัติทักษะการ - ปฏบิ ัตทิ ักษะ - ปฏิบตั ทิ กั ษะ การเลยี้ งลกู การเลย้ี งลูก สมบูรณ์ เล้ยี งลกู ฟตุ ซอล การเลย้ี งลกู การเลย้ี งลูก ฟุตซอลดว้ ยหลงั ฟตุ ซอลด้วย ด้วยหลงั เทา้ ฟุตซอลด้วยหลัง ฟุตซอลด้วยหลงั เท้า 3 ในขอ้ 4 หลังเท้าไม่ 1) ยนื อยู่หลงั ลูก เท้าอยา่ งใด เทา้ 2 ในข้อ 4 ไม่ถกู ต้อง ถกู ต้อง บอล หา่ ง อย่างหนง่ึ ในข้อ ไม่ถูกตอ้ ง ประมาณ 1 ช่วง 4 ไม่ถูกตอ้ ง ตวั ยอ่ ตัวเปิดส้น เทา้ เล็กนอ้ ย โนม้ ตวั ไปด้านหนา้ เขา่ งอเลก็ นอ้ ย 2) ก้าวเทา้ หลัก เขา้ หาลูกบอล วางเทา้ หลกั (เทา้ ซา้ ย) ใหป้ ลายเทา้ ขนานกับลูกบอล หรือต่ากวา่ ลูก บอลเล็กนอ้ ย ใช้ เทา้ ทจ่ี ะใช้เตะ (เทา้ ขวา) ยกขนึ้ ประมาณ 1 ฝา่ มอื หันปลายเท้าไป

ทางเดียวกันเทา้ หลัก ยดึ ข้อเท้าข้อ เขา่ ให้แน่น และ เหว่ยี งหลังเท้า สัมผสั กบั ลกู บอล 3) จดุ ที่สมั ผสั บอล บริเวณกึ่งกลาง ของลูกบอล 4) ก้าวเท้าตามลูก บอล พรอ้ มทีจ่ ะ เล่นในจงั หวะ ตอ่ ไป เกณฑ์การผา่ นการประเมิน : นกั เรยี นมรี ะดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาให้นกั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากขึ้น 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทีด่ ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี ึน้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook