Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล)

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล)

Published by julasak.mind, 2022-06-14 13:10:47

Description: แผนการจัดการเรียนรู้
วีรศักดิ์ ปกป้อง

Search

Read the Text Version

9.4 ข้ันนาไปใช้ 9.4.1 นกั เรียนปฏบิ ัติทักษะการการยงิ ประตูด้วยหลังเทา้ ในท่าทางท่ีถกู ต้องแล้วถ่ายวิดโี อส่งครูผ้สู อน 9.5 ขน้ั สรุป 9.5.1 ครูเสนอแนะและให้คาแนะนาในการแกไ้ ขข้อบกพร่องทักษะการการยงิ ประตดู ว้ ยหลังเทา้ สาหรบั นักเรยี นที่ยังทาไม่ถกู ต้อง 9.5.2 ครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรุปเนือ้ หาเรื่องทกั ษะการการยงิ ประตดู ้วยหลังเท้าร่วมกัน 10. ส่อื -อปุ กรณ์/แหลง่ การเรียนรู้ 10.1 สือ่ -อุปกรณ์การเรยี น 10.1.1 สนามกฬี า หรือลานหนา้ บ้าน 10.1.2 ชดุ กฬี า รองเท้าผา้ ใบ 10.1.3 ลูกฟตุ ซอล หรืออุปกรณ์ท่ีสามารถใช้แทนลกู ฟตุ ซอลได้ 10.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 10.2.1 สื่อวิดโี อ youtube เร่อื งทักษะการการยงิ ประตดู ้วยหลงั เท้า 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านพทุ ธพิ ิสัย (Cognitive domain) แบบประเมินตอบปาก - ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน เปลา่ เร่ือง ทักษะการยิง รวมในระดบั ดขี ึน้ ไป นักเรียนสามารถอธิบายทกั ษะ - การถามตอบปากเปล่า ประตดู ว้ ยหลงั เทา้ การยงิ ประตูด้วยหลังเท้าได้ เรอื่ ง ทักษะการยิงประตู แบบประเมินการฝึกทักษะ - ผา่ นเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน ดว้ ยหลงั เท้า เร่ือง ทกั ษะการยิงประตู รวมในระดบั ดีข้นึ ไป ดว้ ยหลังเทา้ 2. ดา้ นทักษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบสมั ภาษณค์ วามคิด - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ โดยได้คะแนน นักเรยี นสามารถปฏิบัติทักษะ - ตรวจกจิ กรรม เรอ่ื ง เหน็ รวมในระดบั ดีขึ้นไป ทกั ษะการยิงประตดู ว้ ยหลงั เท้า ทกั ษะการยงิ ประตดู ว้ ย ได้ หลังเท้า 3. ดา้ นจติ พิสัย (Affective domain) นักเรียนมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ กฬี า - สมั ภาษณ์ ฟตุ ซอล

12. บันทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 12.1 ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) ด้านความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ................................................................................... .............. 2) ด้านทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ด้านคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................ 12.2 ปญั หา / อปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแกป้ ัญหา / ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................................. .......................... ลงช่ือ........................................ (นายวีรศกั ด์ิ ปกป้อง) ครูผ้สู อน 13. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ได้ตรวจแผนการจดั การเรียนรูห้ นว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรื่อง ทักษะการการยิงประตูด้วยหลงั เทา้ เรยี บรอ้ ยแล้ว โดยมคี วาม คิดเห็น ดังน้ี 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้  ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชวี้ ัด  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ทเี่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญมาใช้ได้อย่างเหมาะสม  ไม่ได้นากระบวนการเรียนรทู้ ี่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคญั มาใช้

4. การใชส้ อ่ื การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น  ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรขู้ องผ้เู รียน 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นรูไ้ ปใช้  นาไปใชไ้ ด้จรงิ  ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้ ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชือ่ ..................................................... (นางสาววราพัณณ์ สมั มาพิสิทธ์ิ) ตาแหนง่ หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของรองผู้อานวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ ไดต้ รวจแผนการจัดการเรียนรหู้ นว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เรอ่ื ง ทักษะการยิงประตูด้วยหลังเทา้ เรยี บรอ้ ยแล้ว โดยมีความ คิดเหน็ ดงั นี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชว้ี ดั  สอดคล้อง  ไมส่ อดคลอ้ ง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้  ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทีเ่ น้นผู้เรยี นเปน็ สาคญั มาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม  ไม่ไดน้ ากระบวนการเรียนรู้ท่เี น้นผเู้ รียนเปน็ สาคญั มาใช้ 4. การใช้ส่อื การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรูข้ องผเู้ รียน  ไมส่ ง่ เสริมการเรยี นรูข้ องผู้เรียน 5. การวดั และการประเมินผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรียนรู้  ไม่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจดั การเรยี นรู้ไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้  นาไปใชไ้ ด้จริง

ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชื่อ ..................................................... (นางสมชั ญา ผดุ ผอ่ ง) ตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการโรงเรียนวงั จนั ทรว์ ทิ ยา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) แบบวิเคราะห์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย วัตถุประสงค์การเรยี นรูท้ ตี่ ้องการ วัดและความสอดคลอ้ งดา้ นพุทธิพิสัย ทกั ษะพิสยั และจิตพิสยั วัตถปุ ระสงค์ พุทธิพสิ ยั พฤติกรรมการประเมิน จติ พสิ ัย เทคนคิ ระดับพฤติกรรม (%) การ ประเมนิ ทักษะพิสยั 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นักเรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย ทกั ษะการยงิ กจิ กรรม ประตูด้วยหลงั 4 4 3 3 33 20 4 4 4 4 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง เท้า 2. นกั เรยี น 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ัติ 10 10 10 10 10 10 60 12 8 8 8 8 8 8 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทกั ษะการยงิ 2. การประเมิน ประตดู ว้ ยหลัง ตนเอง เทา้ 3. นักเรียนมเี จต 1. แบบ สัมภาษณ์ คตทิ ด่ี ตี ่อกฬี า ความคิดเห็น 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครอื่ งหมายในการวเิ คราะห์  หมายถึง ปรากฏพฤติกรรมด้านนนั้ ๆ ตารางวเิ คราะห์การประเมนิ จิตพิสยั ทกั ษะพสิ ัย พทุ ธพิ สิ ัย 1 = การรับรู้ส่ิงเร้า 1 = การรับรู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรยี ม 1 = ความจา 3 = การสรา้ งคณุ ค่า 3 = การตอบสนองตามคาช้ีแนะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจัดระบบคณุ คา่ 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลกั ษณะนสิ ัย 5 = การตอบสนองทซี่ ับซ้อนข้นึ 4 = วิเคราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินคา่ 7 = การรเิ ร่ิมใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง ทักษะการยิงประตดู ว้ ยหลงั เท้า คาชแี้ จง : ให้ผูป้ ระเมนิ ทาการประเมินกจิ กรรม เรอ่ื ง ทกั ษะการยงิ ประตูด้วยหลังเทา้ ลาดบั ชือ่ – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ ที่ 4 3 2 1 0 ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ (นายวีรศกั ด์ิ ปกปอ้ ง) วนั ท.ี่ ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมินกิจกรรม เร่อื ง การยิงประตดู ้วยหลงั เท้า เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเด็นท่ปี ระเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 0 32 - อธิบายทกั ษะ ผลงานมคี วามถูกต้อง - อธบิ ายทักษะ - อธบิ ายทกั ษะ - อธิบายทกั ษะ - อธิบายทกั ษะ การยงิ ประตดู ้วย สมบรู ณ์ การยงิ ประตดู ว้ ย การยิงประตูดว้ ย การยงิ ประตู การยิงประตดู ว้ ย หลังเทา้ ไม่ หลงั เท้า หลงั เท้าอยา่ งใด ดว้ ยหลังเท้า 2 หลงั เทา้ 3 ในข้อ ถกู ต้อง 1) เคลื่อนท่ีเขา้ หา อยา่ งหนึ่งในข้อ ในข้อ 4 ไม่ 4 ไม่ถูกต้อง ลูกบอล 4 ไมถ่ ูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง 2) วางเทา้ หลักให้ ปลายเท้าอยูแ่ นว เดียวกันกบั ลกู บอล หา่ งจากลกู บอลประมาณ 1 ฝ่ามือ ตามองลกู บอลตลอดเวลา 3) ยกเท้าทจี่ ะใช้ จะใช้เตะข้ึน ประมาณ 1 ฝา่ มือ บิดสะโพกไป ทางขวา บดิ ปลาย เทา้ ออกไป ด้านขา้ ง เหวี่ยงไป ดา้ นหลัง เกรง็ ขอ้ เท้า ลอ็ คข้อเขา่ ขอ้ เทา้ โดยใชข้ อ้ สะโพกเป็นจุด หมุน โดยเท้าหลกั กับเทา้ ท่ีใชเ้ ตะ ตอ้ งตัง้ ฉากทามุม 90 องศา พร้อม กับถ่ายน้าหนกั ตวั ไปทเี่ ท้าหลกั ใช้ ข้างเท้าด้านในเตะ ทกี่ ึ่งกลางของลกู บอล 4) ถ่ายนา้ หนักตวั ไปตามแรงเหวี่ยง ของเทา้ เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นักเรียนมรี ะดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ขึน้ ไป

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินกจิ กรรม เร่ือง การยิงประตูด้วยหลังเท้า คาชีแ้ จง : ให้ผู้ประเมินทาการประเมินกจิ กรรม เรอื่ ง การยงิ ประตดู ้วยหลงั เท้า ลาดับที่ ชอ่ื – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมนิ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมนิ ( นายวีรศกั ด์ิ ปกป้อง ) วันท.่ี ............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ารประเมินกิจกรรม เรอื่ ง การยิงประตูด้วยหลังเท้า เกณฑ์การให้คะแนน : พิจารณาดังตารางต่อไปน้ี ประเด็นทปี่ ระเมิน 4 ระดับคะแนน 1 0 32 - ปฏบตั ิทกั ษะ - ปฏบตั ิทักษะ ผลงานมีความถูกตอ้ ง - ปฏิบตั ิทกั ษะการ - ปฏบัติทักษะ - ปฏบตั ิทกั ษะ การยงิ ประตดู ว้ ย การยงิ ประตดู ว้ ย สมบรู ณ์ หลงั เท้า 3 ในข้อ หลังเท้าไม่ ยงิ ประตดู ้วยหลัง การยงิ ประตูด้วย การยงิ ประตู 4 ไม่ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง เท้า หลังเทา้ อย่างใด ดว้ ยหลงั เท้า 1) เคลอื่ นท่เี ขา้ อยา่ งหน่ึงในขอ้ 2 ในขอ้ 4 ไม่ หาลูกบอล 4 ไมถ่ ูกตอ้ ง ถกู ต้อง 2) วางเท้าหลักให้ ปลายเทา้ อยแู่ นว เดียวกันกับลูก บอล หา่ งจากลกู บอลประมาณ 1 ฝา่ มอื ตามองลกู บอลตลอดเวลา 3) ยกเทา้ ท่จี ะใช้ จะใชเ้ ตะข้นึ ประมาณ 1 ฝา่ มอื บดิ สะโพกไป ทางขวา บิดปลาย เทา้ ออกไป ด้านขา้ ง เหวยี่ งไป ด้านหลัง เกรง็ ข้อ เทา้ ลอ็ คข้อเข่า

ขอ้ เทา้ โดยใช้ข้อ สะโพกเปน็ จุด หมุน โดยเทา้ หลัก กับเท้าที่ใช้เตะ ตอ้ งตงั้ ฉากทามุม 90 องศา พร้อม กบั ถา่ ยน้าหนักตัว ไปที่เท้าหลกั ใช้ ขา้ งเทา้ ด้านในเตะ ท่กี ่งึ กลางของลูก บอล 4) ถา่ ยน้าหนักตัว ไปตามแรงเหวย่ี ง ของเท้า เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นักเรยี นมรี ะดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป)

คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสัมภาษณค์ วามคิดเห็นเก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเกี่ยวกบั กีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมิน รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรบั ปรงุ (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนไดอ้ อกกาลังกายและมี สุขภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นักเรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาให้นักเรียนได้ร้เู กย่ี วกบั กฎ กติกา ฟตุ ซอล 4. การเรยี นวชิ าฟุตซอลทาให้นักเรยี นไม่กลัวลกู บอล และมีความคุ้นเคยมากข้นึ 5. นกั เรยี นสามารถนาทักษะพนื้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน 6. ครผู ้สู อนมีกจิ กรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยู่เสมอ 7. นกั เรียนมีเจตคติทด่ี ตี ่อกฬี าฟตุ ซอล รวม คะแนนเฉลี่ย *** หาคา่ เฉลย่ี โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถา้ ได้ค่าเฉลย่ี มากกว่า 3 ข้ึนไป ถือวา่ ผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคณุ ภาพ 5 ดีเยย่ี ม 4 ดีมาก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรบั ปรุง - เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี นึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนขน้ึ ไป

กลุม่ สาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 11 ชอ่ื วิชา ฟุตซอล หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เวลา 2 คาบ ระดบั ชั้น มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 รหัสวิชา พ32102 ปกี ารศึกษา 2564 ครผู ูส้ อน นายวีรศักด์ิ ปกปอ้ ง เรอื่ ง การเล่นเป็นทมี ภาคเรียนท่ี 2 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 3 การเคลื่อนไหว การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีนา้ ใจนักกฬี า มีจิตวญิ ญาณในการแข่งขนั และช่ืนชมในสนุ ทรียภาพของการกฬี า 2. ตัวชวี้ ัด พ 3.1 ม.5/2 การใช้ความสามารถของตนในการเล่นกีฬา เพ่ือเพิ่มศักยภาพของทีม โดยคานึงถึงผลที่เกิดต่อ ผอู้ ่ืนและสังคม พ 3.2 ม.5/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเอง เพิม่ ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตนคานึงถึงผลท่ีเกิดตอ่ สังคม พ 3.2 ม.5/4 ร่วมกจิ กรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ช่ืนชมในคณุ ค่าและความงามของการกีฬา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 นักเรียนสามารถอธิบายความสาคญั ของการเล่นทมี ขน้ั ตอนและวธิ กี ารแขง่ ขันได้ (K) 3.2 นักเรียนสามารถเขา้ รว่ มการแข่งขนั และเลน่ เป็นทมี ได้ (P) 3.3 นักเรยี นมีเจตคติท่ดี ตี ่อกีฬาฟตุ ซอล (A) 4. สาระสาคัญ เม่อื ได้ฝกึ ฝนทักษะพนื้ ฐานต่างๆของฟุตซอลมาแลว้ การเล่นระบบทีมนบั ว่าเป็นสง่ิ สาคัญสาหรบั การนาเอา ทกั ษะตา่ งๆ มาใช้จริงในการแข่งขนั ผู้เล่นที่ฝึกฝนทักษะจนเกิดความชานาญย่อมทาใหก้ ารเล่นฟตุ ซอลประสบชัยชนะ ได้ 5. สาระการเรียนรู้ 5.1 ด้านความรู้ 5.1.1 ความสาคญั ของการเล่นทมี ขน้ั ตอนและวธิ กี ารแขง่ ขัน 5.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 5.2.1 เข้ารว่ มการแขง่ ขนั และเลน่ การเป็นทีม 5.3 ด้านคุณลักษณะ 5.3.1 มคี วามใฝ่เรียนรู้ 5.3.2 มคี วามมุ่งมั่นในการทางาน

6. สมรรถนะของผ้เู รียน 6.1 ความสามารถในการสื่อสาร 6.2 ความสามารถในการคิด 6.3 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 ใฝเ่ รยี นรู้ 7.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7.3 มวี ินัย 8. ชนิ้ งานหรือภาระงาน/ทกั ษะการปฏิบัติ 8.1 การแข่งขัน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ 9.1 ขน้ั เตรียม 9.1.1 นักเรียนเข้าลิงค์ google classroom วิชาเรยี น พ32102 ฟตุ ซอล 9.1.2 ครสู ารวจชอ่ื นักเรียน 9.2 ขน้ั อธบิ ายและสาธิต ครูอธบิ ายและพร้อมสาธติ วิธีการเล่นเป็นทีมและการแข่งขันใหน้ กั เรียนดู และนักเรียนปฏบิ ตั ติ าม ทีละขัน้ ตอน โดยให้นกั เรยี นดูจากสื่อวดี ีโอที่เตรียมไวใ้ หน้ ักเรยี น ดงั น้ี 9.2.1 วิธีวธิ กี ารเลน่ เปน็ ทมี และการแข่งขนั - ใหน้ ักเรียนแบ่งทีมทั้งหมด 8 ทีม ทีมละ 5 คน และใหแ้ ต่ละทีมจดั ตัวผเู้ ล่นให้ครบในแตล่ ะตาแหนง่ คือ ผู้เลน่ 4 คน และ ผู้รักษาประตู 1 คน - ใหต้ ัวแทนแตล่ ะทีมจับสลากเอประกบคู่การแข่งขัน - โดยการแข่งขันแต่ละคู่ใชเ้ วลาคลู่ ะ 10 นาที ทมี ใดยิงประตไู ดม้ ากกวา่ เป็นผชู้ นะ 9.3.1 นกั เรยี นที่ยังไม่มีการแขง่ ขนั ใหน้ ัง่ เป็นผูช้ ม 9.4 ขั้นนาไปใช้ 9.4.1 นกั เรยี นทาการแขง่ ขันกันเองภายในห้องเรียน 9.5 ขน้ั สรุป 9.5.1 ครูเสนอแนะและให้คาแนะนาในการแกไ้ ขข้อบกพร่องสาหรับนกั เรยี นทย่ี งั ทาไมถ่ ูกตอ้ งแลละไม่ สามารถเล่นกบั เพ่ือนรว่ มทมี ได้

9.5.2 ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปเนอ้ื หาเรื่องการแข่งขันและการเลน่ เป็นทีมร่วมกัน 10. สอ่ื -อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 10.1 สือ่ -อุปกรณ์การเรยี น 10.1.1 สนามกีฬา หรอื ลานหนา้ บ้าน 10.1.2 ชุดกฬี า รองเท้าผ้าใบ 10.1.3 ลูกฟตุ ซอล หรืออปุ กรณท์ ่สี ามารถใช้แทนลูกฟุตซอลได้ 10.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 10.2.1 สือ่ วิดีโอ youtube เรอ่ื งวิธีการแข่งขันและการเล่นเปน็ ทีม 11. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพสิ ัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ ตอบปาก - ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยไดค้ ะแนน เปล่า เรือ่ ง วิธีการแข่งขัน รวมในระดบั ดขี น้ึ ไป นกั เรยี นสามารถอธบิ ายวธิ ีการ - การถามตอบปากเปล่า และการเลน่ เปน็ ทีม - ผา่ นเกณฑ์การประเมิน โดยได้คะแนน แขง่ ขันและการเล่นเปน็ ทีมได้ เรือ่ ง วิธีการแขง่ ขัน แบบประเมนิ การฝกึ ทกั ษะ รวมในระดบั ดีขน้ึ ไป และการเลน่ เปน็ ทมี เร่อื ง วิธีการแข่งขันและ การเล่นเป็นทีม - ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน โดยได้คะแนน 2. ดา้ นทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) รวมในระดับดขี ึน้ ไป แบบสัมภาษณค์ วามคดิ นักเรยี นสามารถปฏิบตั ิวิธกี าร - ตรวจกิจกรรม เรื่อง เหน็ แข่งขนั และการเล่นเป็นทมี ได้ วธิ กี ารแข่งขนั และการเลน่ เปน็ ทีม 3. ด้านจิตพิสยั (Affective domain) นกั เรยี นมเี จตคติทีด่ ีตอ่ กีฬา - สัมภาษณ์ ฟุตซอล 12. บนั ทกึ ผลหลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 12.1 ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ดา้ นความรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....... ............................................................................................................................ ................................................................ 2) ดา้ นทักษะกระบวนการ ............................................................................................................................. ............................................................... ......................................................................................................................................................................... ................... ................................................................................................................ .............................................................. .............. 3) ด้านคณุ ลักษณะ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................................................................................................................ ............................

12.2 ปัญหา / อปุ สรรค ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... 12.3 แนวทางการแกป้ ัญหา / ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. .............................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ................................................................... ............................................................................................... .......................... ลงช่อื ........................................ (นายวรี ศักด์ิ ปกป้อง) ครผู ู้สอน 13. ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรหู้ นว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 6 เร่ือง วิธกี ารแข่งขนั และการเล่นเป็นทมี เรียบรอ้ ยแล้ว โดยมคี วาม คดิ เห็น ดงั นี้ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้  พอใช้  ควรปรับปรุง  ดมี าก  ดี 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชวี้ ดั  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้  ไดน้ ากระบวนการเรยี นรู้ทเ่ี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั มาใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม  ไมไ่ ด้นากระบวนการเรยี นรทู้ เ่ี นน้ ผ้เู รียนเปน็ สาคญั มาใช้ 4. การใชส้ อ่ื การเรียนรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรียนรูข้ องผู้เรียน  ไม่ส่งเสริมการเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดและการประเมินผล  สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้  ไมส่ อดคล้องกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรยี นร้ไู ปใช้  ควรปรับปรุงกอ่ นนาไปใช้  นาไปใชไ้ ดจ้ ริง ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...............................................................

ลงชอื่ ..................................................... (นางสาววราพัณณ์ สมั มาพสิ ิทธ์)ิ ตาแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา วนั ท่ี ............ เดือน ........................... พ.ศ. .............. 14. ความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะของรองผ้อู านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรอื่ ง วิธีการแขง่ ขันและการเล่นเปน็ ทมี เรียบร้อยแล้ว โดยมีความ คดิ เห็น ดังนี้ 1. คุณภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้  ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ 2. ความสอดคล้องของมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วัด  สอดคล้อง  ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้  ได้นากระบวนการเรยี นรู้ทเี่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสาคัญมาใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม  ไมไ่ ด้นากระบวนการเรยี นรทู้ ่เี นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคญั มาใช้ 4. การใชส้ อื่ การเรยี นรู้  มีความเหมาะสมและส่งเสริมการเรยี นรู้ของผูเ้ รียน  ไม่สง่ เสรมิ การเรียนรขู้ องผู้เรยี น 5. การวัดและการประเมนิ ผล  สอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้  ไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนาไปใช้  นาไปใช้ได้จรงิ ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ลงชอ่ื ..................................................... (นางสมัชญา ผดุ ผ่อง) ตาแหนง่ รองผ้อู านวยการโรงเรยี นวังจนั ทร์วทิ ยา กล่มุ บริหารงานวชิ าการ วันท่ี ............ เดอื น ........................... พ.ศ. ..............

แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรยี นรู้ (Assessment blueprint) แบบวเิ คราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบดว้ ย วตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ต้องการ วดั และความสอดคล้องด้านพุทธิพสิ ัย ทักษะพสิ ยั และจติ พิสยั วตั ถปุ ระสงค์ พทุ ธิพิสัย พฤติกรรมการประเมนิ จติ พสิ ัย เทคนิค ระดบั พฤตกิ รรม (%) การ ประเมนิ ทกั ษะพสิ ัย 1 2 3 4 5 6 รวม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 1 2 3 4 5 รวม 1.นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถอธบิ าย วิธกี ารแขง่ ขัน 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 กจิ กรรม และการเลน่ เปน็ 4 20 4 4 4 4 4 20 2. การประเมนิ ตนเอง ทมี 2. นักเรียน 1. แบบประเมนิ สามารถปฏบิ ัติ 10 10 10 10 10 10 60 12 8 8 8888 60 4 4 4 4 4 20 กิจกรรม ทกั ษะวธิ กี าร 2. การประเมนิ แขง่ ขนั และการ ตนเอง เล่นเป็นทมี 3. นักเรียนมีเจต 1. แบบ สมั ภาษณ์ คติทีด่ ตี อ่ กฬี า ความคิดเหน็ 4 4 4 4 4 20 2. การประเมิน ฟตุ ซอล 4 4 3 3 3 3 20 4 4 4 4 4 20 ตนเอง รวม 100 100 100 *หมายเหตุ: การแสดงเครื่องหมายในการวเิ คราะห์  หมายถึง ปรากฏพฤติกรรมด้านน้นั ๆ ตารางวเิ คราะหก์ ารประเมนิ จติ พสิ ยั ทกั ษะพสิ ยั พทุ ธพิ ิสัย 1 = การรบั รสู้ ง่ิ เรา้ 1 = การรบั รู้ 2 = การตอบสนอง 2 = การตระเตรียม 1 = ความจา 3 = การสรา้ งคณุ ค่า 3 = การตอบสนองตามคาชแ้ี นะ 2 = เขา้ ใจ 4 = การจดั ระบบคณุ ค่า 4 = การสร้างกลไก 3 = นาไปใช้ 5 = การสร้างลักษณะนสิ ยั 5 = การตอบสนองที่ซบั ซ้อนขน้ึ 4 = วเิ คราะห์ 6 = การดดั แปลงให้เหมาะสม 5 = ประเมินคา่ 7 = การรเิ รม่ิ ใหม่ 6 = สรา้ งสรรค์

คาอธบิ ายประกอบการประเมนิ ดา้ นพทุ ธิพิสัย (Cognitive domain) แบบประเมนิ กจิ กรรม เรือ่ ง วธิ กี ารแข่งขนั และการเลน่ เป็นทีม คาช้ีแจง : ให้ผู้ประเมินทาการประเมินกจิ กรรม เรื่อง ทักษะการยิงประตูด้วยหลงั เทา้ ลาดบั ช่ือ – สกลุ ระดบั คะแนน สรปุ การประเมนิ ที่ 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ (นายวรี ศักดิ์ ปกปอ้ ง) วนั ที.่ ............เดอื น.....................พ.ศ............

เกณฑก์ ารประเมินกจิ กรรม เร่อื ง วธิ กี ารแข่งขนั และการเลน่ เปน็ ทีม เกณฑก์ ารให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเด็นที่ประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 0 32 ผลงานมีความถูกต้อง - อธิบายทักษะ - อธิบายทักษะ - อธบิ ายวธิ ีการ - อธบิ ายทักษะ - อธบิ ายทักษะ สมบรู ณ์ วิธีการแขง่ ขันและ วธิ ีการแข่งขนั แขง่ ขนั และการ วิธีการแขง่ ขัน วิธีการแขง่ ขนั การเล่นเป็นทมี และการเลน่ เป็น เลน่ เป็นทีม 2 และการเล่นเปน็ และการเล่นเป็น 1) ตาแหนง่ ผเู้ ลน่ ทีม ในข้อ 4 ไม่ ในข้อ 4 ไม่ ทมี 3 ในขอ้ 4 ไม่ ทมี ไมถ่ กู ต้อง 2) วธิ ีการเล่น ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง 3) การเลน่ เป็นทมี เกณฑก์ ารผา่ นการประเมนิ : นกั เรียนมรี ะดบั คะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป คาอธิบายประกอบการประเมนิ ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมนิ กิจกรรม เร่อื ง วิธีการแข่งขนั และการเล่นเป็นทมี คาชี้แจง : ให้ผู้ประเมนิ ทาการประเมินกจิ กรรม เรอื่ ง การยิงประตูด้วยหลังเทา้ ลาดบั ที่ ชอ่ื – สกลุ ระดับคะแนน สรุปการประเมิน 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงชอ่ื .....................................................ผ้ปู ระเมนิ ( นายวรี ศักดิ์ ปกปอ้ ง ) วันที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............

เกณฑ์การประเมินกิจกรรม เร่อื ง วิธกี ารแข่งขันและการเลน่ เปน็ ทีม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปนี้ ประเด็นทป่ี ระเมิน 4 ระดับคะแนน 10 32 - ปฏบิ ัติทักษะ - ปฏบิ ตั ิทกั ษะ ผลงานมีความถูกตอ้ ง - ปฏบิ ัติทกั ษะ - ปฏบิ ัติทักษะ - ปฏบิ ตั ิวธิ ีการ วิธกี ารแข่งขัน วธิ ีการแขง่ ขัน สมบรู ณ์ วิธีการแข่งขันและ วธิ กี ารแข่งขนั แข่งขันและการ และการเล่นเป็น และการเล่นเปน็ การเลน่ เปน็ ทมี และการเล่นเป็น เล่นเปน็ ทมี 2 ทีม 3 ในขอ้ 4 ไม่ ทมี ไม่ถกู ต้อง 1) ตาแหนง่ ผเู้ ลน่ ทีม ในขอ้ 4 ไม่ ในขอ้ 4 ไม่ ถูกต้อง 2) วิธีการเลน่ ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง 3) การเลน่ เปน็ ทมี เกณฑก์ ารผ่านการประเมนิ : นกั เรียนมีระดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ขน้ึ ไป) คาอธิบายประกอบการประเมนิ ด้านจิตพิสยั (Affective domain) แบบสมั ภาษณค์ วามคิดเหน็ เก่ียวกับกีฬาฟตุ ซอล 1. แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นเก่ยี วกับกีฬาฟุตซอล ระดับคุณภาพการประเมนิ รายการ ดมี าก ดี ปาน นอ้ ย ควร (5) (4) กลาง (2) ปรับปรุง (3) (1) 1. กฬี าฟุตซอลทาใหน้ กั เรียนได้ออกกาลงั กายและมี สขุ ภาพร่างกายแขง็ แรง 2. การฝึกทกั ษะบ่อยๆ ทาให้นกั เรยี นเกิดความชานาญ 3. วิชาฟุตซอลทาใหน้ ักเรยี นได้รเู้ ก่ยี วกบั กฎ กติกา ฟุตซอล 4. การเรยี นวชิ าฟตุ ซอลทาให้นักเรยี นไม่กลวั ลกู บอล และมีความคนุ้ เคยมากข้นึ 5. นักเรยี นสามารถนาทักษะพืน้ ฐานของกีฬาฟุตซอล ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั 6. ครผู ู้สอนมกี ิจกรรมให้นักเรียนได้ร่วมสนกุ อยเู่ สมอ 7. นกั เรียนมเี จตคติทด่ี ีตอ่ กฬี าฟุตซอล รวม คะแนนเฉลย่ี

*** หาคา่ เฉลี่ย โดยตอบแบบความคดิ เหน็ ทุกข้อ ถ้าไดค้ ่าเฉลี่ยมากกว่า 3 ขึ้นไป ถือว่าผ่าน *** 2. สรุปผลการประเมิน คะแนน ระดับคุณภาพ 5 ดีเยี่ยม 4 ดมี าก 3 ดี 2 พอใช้ 1 ปรับปรงุ - เกณฑก์ ารผา่ น ตง้ั แต่ระดับดีขนึ้ ไป คือ ได้คะแนน 3 คะแนนข้ึนไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook