Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คำศัพท์ไทย-อังกฤษ สำหรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ

คำศัพท์ไทย-อังกฤษ สำหรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ

Description: คำศัพท์ไทย-อังกฤษ สำหรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ

Search

Read the Text Version

100 คำ�ศพั ทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรับตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ 3.4 คำ�ศัพท์ทีใ่ ชใ้ นพิธกี ารตา่ งๆ ทางราชการ ตัวอย่างหนงั สือเชิญอย่างเปน็ ทางการและคำ�ศัพท์ ส�ำ นวนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง ตัวอยา่ งที่ 1 หนงั สอื เชิญเอกอัครราชทูตเข้ารว่ มพิธเี ปดิ งานของสว่ นราชการหรือจงั หวดั ชื่อสว่ นราชการหรอื จงั หวดั ท่ีจดั งาน has been honored as the host province of ช่ืองาน during กำ�หนดวันเวลาจัดงาน... วัตถุประสงค์และรายละเอียดต่างๆ ของการ จัดงาน... The opening ceremony is scheduled on กำ�หนดวนั และเวลาพธิ ีเปิดงาน. In this connection, ชอ่ื หนว่ ยงานผอู้ อกหนงั สอื has the honor of inviting Your Excellency and spouse to attend the opening ceremony of ชอื่ งาน, and explore the tourist attractions in ชอ่ื จงั หวดั ทจ่ี ดั งาน. A program is attached herewith for Your Excellency’s information and consideration. Your Excellency’s confirmation by ก�ำ หนดวนั สุดท้าย ของการตอบรับคำ�เชิญ would be greatly appreciated. Accept, Excellency, the assurances of our highest consideration. ค�ำ ศัพท์ สำ�นวน คำ�แปล Schedule กำ�หนดวนั และเวลา ตารางเวลา Confirmation การยนื ยัน การตอบรับ to attend the opening ceremony เข้าร่วมพิธเี ปดิ Information ขอ้ มลู รายละเอียด has been honored ไดร้ ับเกยี รต ิ the host province จงั หวัดเจา้ ภาพ Invitation คำ�เชญิ Spouse คู่สมรส คู่สามีภรรยา

โครงการสือ่ การเรยี นรู้ “อาเซียน กูร”ู (Learning Package) 101 ความซาบซง้ึ appreciation พธิ ีเปิด the opening ceremony ฯพณฯ (สรรพนาม) Your Excellency รายการ Program ทส่ี ่งมา ที่แนบมาพร้อมน ้ี Attached ตวั อย่างท่ี 2 หนังสอื เชิญเอกอคั รราชทูตเขา้ ร่วมพธิ เี ปดิ งานสมั มนา ตัวอยา่ งการเขียนหนงั สอื เชญิ I have the honor to inform Your Excellency that ช่ือหน่วยงานผู้ออกหนังสือ in cooperation with ชื่อหนว่ ยงานอนื่ ผู้เป็นเจ้าภาพรว่ มในการจดั งาน will be organizing a four-day seminar to วัตถปุ ระสงค์ของการจดั งาน at สถานทท่ี ี่จัดการสมั มนา during ชว่ ง วันเดือนปที ีจ่ ดั การสมั มนา. I would like to take this opportunity to cordially invite Your Excellency to attend the Opening Ceremony of the seminar at กำ�หนดเวลาร่วมงาน hours, ก�ำ หนดวนั ทร่ี ่วมงาน, or send a representative from your embassy. The seminar will be attended by participants from the following countries and agencies: รายชือ่ ประเทศและหน่วยงานหลกั ตา่ งๆ ทเ่ี ข้าร่วมงาน. I would appreciate it very much if Your Excellency could kindly send your confirmation by กำ�หนดวันสุดท้ายของการตอบรับคำ�เชิญ. Thank you for your cooperation and should Your Excellency have any questions, please do not hesitate to contact me. Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration.

102 ค�ำ ศัพท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรับตดิ ต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ ค�ำ ศพั ท์ สำ�นวน ความหมาย Organizing seminar การจัดสมั มนา to attend เขา้ รว่ ม Cooperation ความรว่ มมือ Confirmation ค�ำ ยืนยนั การตอบรับ Contact ตดิ ต่อ Cordially invite เรียนเชิญ Representative ผู้แทน Participants ผเู้ ข้าร่วม Hesitate ลงั เลใจ กงั วลใจ Embassy สถานเอกอัครราชทตู Opportunity โอกาส ตวั อยา่ งที่ 3 หนงั สอื เชิญเปน็ keynote speaker ตวั อย่างการเขยี นหนงั สือเชญิ On behalf of ชอื่ หนว่ ยงานผอู้ อกหนงั สอื and ชอื่ หนว่ ยงานอน่ื ผเู้ ปน็ เจา้ ภาพรว่ มในการ จดั งาน, I would like to request the honor of having you as the keynote speaker for our seminar on “ชอ่ื หวั ขอ้ การสมั มนา” to be held at สถานทจี่ ดั สมั มนา on กำ�หนดวันจดั สมั มนา. ข้อมูลเกี่ยวกับการสัมมนาโดยสังเขป. The aims of this event are to วัตถปุ ระสงค์ของการจดั สัมมนา. The seminar will be attended by participants from various countries and agencies involved in งานหรือหน้าท่ีความรับผิดชอบหลักของหน่วยงานที่เข้าร่วมสัมมนา including representatives from รายช่ือประเทศท่ีส่งผู้แทนเข้าร่วมสัมมนา in addition to representatives from รายชื่อประเทศอื่นท่ีส่งผู้แทนเข้าร่วมสัมมนา. Please find attached the tentative program for your reference. Your contributions to this event would be greatly appreciated, and I look forward to your favorable response. If you have any questions or need additional information, please do not hesitate to contact me.

โครงการส่ือการเรียนรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 103 ค�ำ ศพั ท์ สำ�นวน ประโยค การชว่ ยเหลือสนับสนนุ Contributions เก่ยี วขอ้ ง Involve กำ�หนดการครา่ ว ๆ the tentative program ขอรอ้ ง ร้องขอ Request ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ additional information ขอบพระคณุ เปน็ อยา่ งสูง Greatly appreciated คอย ตั้งตาคอย look forward จะจัดขึน้ ท(่ี สถานทีจ่ ัดสัมมนา) to be held at จุดประสงค ์ aims, objectives ในนามของ (ชื่อหน่วยงานผู้ออกหนังสือ) On behalf of มากมาย หลากหลาย various ตอบรับ response เป็นเกียรต ิ honor เป็นทนี่ ยิ ม โปรดปราน favorable ผบู้ รรยายหลกั วิทยากรหลกั the keynote speaker เพอื่ ทราบ เพือ่ เปน็ ขอ้ มลู for (your) reference

104 ค�ำ ศัพท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรับติดต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ ตวั อย่างที่ 4 หนงั สอื เชญิ เปน็ ผกู้ ลา่ วต้อนรบั ในพิธเี ปิดการประชมุ ตัวอยา่ งการเขยี นหนังสอื เชิญ I am writing in reference to the ช่อื การประชุม to be hosted by ช่ือเจ้าภาพจัดการ ประชมุ in สถานที่/จงั หวัดที่จดั การประชมุ during กำ�หนดวนั จัดการประชุม under the theme of “ชอื่ หวั ขอ้ การประชุม”, at which it will be our honor to welcome ชอ่ื หนว่ ยงานผสู้ นับสนุนการจดั ประชมุ as a conference sponsor. In this regard, it is my honor to cordially invite you to deliver welcoming remarks on behalf of ชือ่ หน่วยงานผูส้ นับสนุนการจดั ประชมุ during the opening ceremony of the conference ก�ำ หนดวนั เวลาของพธิ เี ปดิ . Your presence and contribution at this important event would be greatly appreciated. I look forward to receiving your favorable reply soon. ค�ำ ศัพท์ สำ�นวน ความหมาย Deliver welcoming remarks กล่าวต้อนรับ Host เจ้าภาพ ผจู้ ัดโครงการ A conference sponsor ผู้สนบั สนุนการสมั มนา Under the theme of “…….” ภายใต้หวั ขอ้ ... On behalf of ในนามของ(หน่วยงาน) In reference to อ้างถงึ

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 105 ส�ำ นวนชวนรเู้ กี่ยวกบั การอวยพรในสถานการณต์ ่าง ๆ ตัวอย่างประโยคภาษาองั กฤษทใ่ี ชอ้ วยพรเกย่ี วกับการท�ำ งาน I hope everything goes well. ฉันหวังว่าทุกอย่างจะไปไดด้ ้วยดี Good luck with your project. ขอให้โชคดีนะกบั โครงการของคณุ May I wish you every success in your new business. ฉนั อยากจะขอให้ธุรกิจใหมข่ องคณุ ประสบความสำ�เรจ็ I wish you success. ฉนั ขอใหค้ ณุ ประสบความสำ�เรจ็ All the very best in your job. ขอใหง้ านของคณุ ออกมาดที ีส่ ดุ ตวั อยา่ งประโยคภาษาองั กฤษท่ีใชอ้ วยพรเวลามีคนลาพกั ร้อน Bon vovage. ขอใหเ้ ดินทางโดยปลอดภยั Have a nice trip. ขอใหเ้ ปน็ การเดินทาง(เท่ยี ว)ท่สี นุก Have a pleasant holiday. ขอใหเ้ ป็นวันหยดุ ทสี่ นกุ สนาน Have a great time. ขอใหเ้ ปน็ ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ตวั อย่างประโยคภาษาอังกฤษบนโตะ๊ อาหาร Have a nice meal. ขอให้ทานใหอ้ ร่อย Enjoy your meal. ทานใหอ้ ร่อย ตวั อยา่ งประโยคท่อี าจจะต้องใช้อวยพรในวนั พิเศษ Have a nice Christmas. ขอให้เป็นวันครสิ ต์มาสทีด่ ี Happy New Year. สุขสนั ต์วนั ปีใหม่ Happy Valentine’s Day. สุขสันตว์ ันวาเลนไทน์ Happy Birthday. สขุ สันต์วันเกดิ

106 คำ�ศัพท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ตอ่ ราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ 4. หมวดการประชมุ ระหวา่ งประเทศ 4.1 คำ�ศัพท์เกี่ยวกับรูปแบบของการประชุมระหวา่ งประเทศ 4.2 ค�ำ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั บคุ คล ต�ำ แหนง่ ผเู้ กยี่ วขอ้ งกบั การประชมุ ระหวา่ งประเทศ 4.3 คำ�ศัพทแ์ ละส�ำ นวนส�ำ หรับการประชุมระหว่างประเทศ 4.4 ค�ำ ศัพทเ์ กีย่ วกบั ตัวย่อทางการทตู และการเมอื งระหว่างประเทศ 4.1 คำ�ศัพท์เก่ยี วกบั รปู แบบของการประชมุ ระหว่างประเทศ การประชมุ ทางวชิ าการ การประชมุ นานาทรรศน์ Convention/Symposium การประชมุ ในดา้ นวชิ าการหรอื วชิ าชพี สว่ นใหญจ่ ะเนน้ ไปทก่ี ารแกป้ ระเดน็ ปญั หา ส�ำ คญั การประชมุ ทางวชิ าการหรือวชิ าชีพ Conference การประชุมของนักวิชาการ หรือนักวิชาชีพเป็นจำ�นวนมากอย่างเป็นทางการ เพื่อนำ�เสนอผลงานหรือผลการค้นคว้า วิจัย โดยการปาฐกถา (Speeches) ปฏิบัติการ (Workshops) หรือดว้ ยวิธกี ารอ่ืน การประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ าร Workshop การประชุมร่วมกันเป็นกลุ่มๆ เป็นระยะเวลานานหลายวัน โดยเน้นการร่วมกัน ทำ�งานเพื่อฝึกการแก้ปัญหาโดยผู้เข้าประชุมทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมลงมือปฏิบัติ (Hands-on training) การประชุมเปน็ ทางการ Congress การประชุมท่ีมีผู้แทนประเทศ หรือผู้แทนภูมิภาคท่ีเป็นสมาชิกเข้าร่วมประชุม อย่างเป็นทางการ

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซยี น กูร”ู (Learning Package) 107 การสมั มนา Seminar การเรียนการสอน หรอื การประชุมเพอื่ ศกึ ษา แลกเปลีย่ น เรียนรรู้ ่วมกนั อาจท�ำ ได้ โดยการแบ่งกลุ่มผู้เรียนหรือผู้เข้าร่วมสัมมนาเป็นกลุ่มเล็กเพ่ืออภิปรายเร่ืองราว เฉพาะตอนใดตอนหน่ึงของบทเรียนหรือหัวข้อสัมมนา โดยผู้เรียนหรือผู้เข้าสัมมนาต้อง เตรียมเอกสารล่วงหนา้ มาเสนอตอ่ กลุ่มด้วย การประชุมสมัชชา Assembly กลุ่มคน ชมรม สมัชชา หรือสมาคม ที่มาร่วมประชุมกันเฉพาะเรื่องใดเรื่องหน่ึง เป็นการฟงั บรรยายเฉพาะประเด็นจากผ้เู ชี่ยวชาญ การประชมุ เฉพาะกจิ Consortium เป็นการประชุม ในประเด็นใดประเด็นหนึ่งผู้เข้าร่วมประชุมมีหลายวิชาชีพ ที่มี ส่วนเก่ยี วขอ้ งในกิจกรรมหรือโครงการนัน้ ๆ มาพดู คุยกนั และยังหมายถงึ การรวมตวั ของ หนว่ ยงานเพอ่ื วตั ถปุ ระสงคบ์ างอย่างเปน็ การเฉพาะ การเจรจาระหวา่ งประเทศ International negotiation เปน็ รปู แบบหนง่ึ ของการเจรจาตอ่ รองในระดบั ประเทศหรอื นานาชาตเิ พอื่ ผลประโยชน์ รว่ มกันทางเศรษฐกิจ สงั คม การเมือง ความม่ันคงและความรว่ มมอื ดา้ นอนื่ ๆ การประชุมนานาชาติ International Conferences การประชุมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการระหว่างผู้แทนผู้มีอำ�นาจเต็มจาก หลายๆ ประเทศ เพือ่ พจิ ารณาหาทางระงับปัญหาระหวา่ งประเทศ การประชุมอย่างไมเ่ ปน็ ทางการ (ระดบั รฐั มนตร)ี Retreat ตวั อยา่ งเชน่ การประชมุ ระดบั รฐั มนตรดี า้ นเศรษฐกจิ ของอาเซยี นอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ (AEM Retreat: ASEAN Economic Ministers Retreat) ใหค้ วามสำ�คญั ในการพิจารณา ประเด็นท่ียังไม่สามารถหาข้อตกลงกันได้ การเตรียมการหรือเสนอแนะประเด็นใหม่ๆ ท่ีจะเสนอต่อทีป่ ระชมุ ผ้นู ำ�อาเซยี นพจิ ารณา เป็นตน้

108 ค�ำ ศพั ท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรับตดิ ตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ การประชมุ ระหว่างผู้นำ�ประเทศ Summit เป็นการประชุมสุดยอดระดับสูงสุดของผู้นำ�ประเทศ เช่น การประชุมสุดยอด อาเซียน (ASEAN Summit) ซ่ึงเป็นการประชุมประจำ�ปีที่จัดข้ึนโดยสมาคมประชาชาติ แหง่ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (Association of South East Asian Nations) หรอื อาเซยี น (ASEAN) ภายใตห้ วั ขอ้ เศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรมของประเทศสมาชกิ ตา่ งๆ ในเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้แนวทางในการดำ�เนินกิจกรรมความร่วมมือ ต่างๆ ของเหล่าสมาชกิ การเจรจาแบบทวิภาคี Bilateral negotiation การเจรจาสองฝ่ายในประเด็นความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างกันซึ่งส่วนใหญ่จะ ดำ�เนินไปอยา่ งไม่เป็นทางการ (Informal) การเจรจาแบบพหุภาคี Multilateral negotiation การเจรจาร่วมกันหลายฝ่าย โดยปกติจะต้องดำ�เนินการเจรจาในลักษณะของการ ประชุมท่ีจัดอยา่ งเปน็ ทางการ (Formal) เสมอ การเจรจาแบบคเู่ จรจา Dialogue การประชมุ หารอื เพอ่ื แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ระหวา่ งคเู่ จรจา (Dialogue Partner) เช่น ASEAN-US Dialogue เป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าท่ีอาวุโส หรือปลัดกระทรวง ต่างประเทศเพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการเมืองและเศรษฐกิจ ระหว่างกนั การอภิปรายแบบระดมสมอง Brain Storming การกระตนุ้ ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มอภปิ รายเกดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ เปดิ โอกาสใหส้ มาชกิ ทกุ คน แสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีและท่ัวถึงเพื่อเป็นการระดมพลังสมองของแต่ละคน ในการแก้ปัญหา

โครงการสือ่ การเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 109 การอภปิ รายกลมุ่ เลก็ Focus Group Discussion มกั ใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลู การวจิ ยั มเี กณฑก์ ารเลอื กคนเขา้ กลมุ่ ใชค้ �ำ ถามเปน็ แนวทาง อภปิ ราย โดยมผี ปู้ ระสานงานเปน็ คนกลาง (Moderator) เปน็ ผยู้ งิ ค�ำ ถาม มเี ทคนคิ ใหก้ ลมุ่ ออกความเหน็ มคี นบันทกึ เทปหรือจดบนั ทกึ การประชมุ แสดงความคดิ เหน็ Forum การประชมุ การเสวนา อภิปราย หรอื บรรยายทีผ่ ฟู้ งั มสี ่วนร่วมแสดงความคิดเห็น เชน่ การประชมุ อาเซยี นวา่ ดว้ ยความรว่ มมอื ดา้ นการเมอื งและความมน่ั คงในภมู ภิ าคเอเชยี - แปซฟิ กิ (ASEAN Regional Forum: ARF) การอภปิ รายแบบคณะ Panel Discussion เทคนิคการสัมมนาแบบคณะเป็นการอภิปรายหัวข้อตามท่ีได้กำ�หนดไว้ จากกลุ่ม ผูท้ รงคุณวุฒิ โดยผอู้ ภปิ รายแต่ละคนเสนอขอ้ มูลความรู้ ข้อเทจ็ จริงและความคดิ เห็นของ ตนเอง เพอ่ื ใหผ้ เู้ ข้าสมั มนาได้รับความรู้ความคิดเห็นทแ่ี ตกตา่ งหลากหลาย 4.2 ค�ำ ศัพท์เกย่ี วกับบคุ คล ต�ำ แหนง่ ผู้เกีย่ วขอ้ งกับการประชุมระหว่างประเทศ เ จา้ ภาพรว่ ม Co-host การประชุมทม่ี เี จา้ ภาพประเทศหรือองคก์ ารรว่ มกนั จดั การประชุมหรือจดั สัมมนา มากกวา่ 1 หนว่ ยงาน องค์การ หรือประเทศ คณะกรรมการบริหาร Board คณะกรรมการบรหิ ารองคก์ าร Board of Directors คอื คณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ที่มีอำ�นาจหน้าท่ีในการกำ�หนด และควบคุมดูแลการดำ�เนินกิจการ นโยบาย เป้าหมาย กลยทุ ธ์ แผนการด�ำ เนนิ งาน งบประมาณประจ�ำ ปี และอ�ำ นาจการบรหิ ารงานตา่ งๆ พรอ้ ม ใหค้ �ำ ปรกึ ษา แนะน�ำ การบรหิ ารจดั การแกผ่ บู้ รหิ ารระดบั สงู นอกจากนย้ี งั มหี นา้ ทกี่ �ำ หนด โครงสรา้ งองค์การและการบรหิ ารจัดการองค์การท่ีมีประสทิ ธิภาพ

110 คำ�ศพั ท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรับตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ คณะอนกุ รรมการและคณะท�ำ งาน Subcommittees and Working Parties การประชุมระหว่างประเทศมีหลักทั่วไปให้แต่งต้ังคณะอนุกรรมการและ คณะทำ�งานขึ้นเพื่อดำ�เนินการพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายเป็นการจำ�เพาะ ซ่งึ ในบางกรณอี าจท�ำ หน้าที่ให้ขอ้ เสนอแนะในฐานะผู้เชยี่ วชาญต่อทีป่ ระชุมได้ดว้ ย ผ้ปู ระสานงาน Coordinator คนที่ทำ�หน้าท่ีติดต่อประสานงานให้ฝ่ายต่างๆ เชื่อมโยงทำ�งานเข้าด้วยกันเพ่ือให้ การด�ำ เนินงานและการจัดประชมุ เปน็ ไปอย่างคลอ่ งตัว ผู้สังเกตการณ์ Observer ผู้ท่ีได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมเพ่ือเฝ้าดูหรือศึกษาเหตุการณ์หรือเรื่องราวพอ รเู้ ร่อื ง แตไ่ มม่ สี ิทธ์ิลงคะแนนเสยี ง ประมขุ ของรฐั หรอื หัวหนา้ รัฐบาลของรัฐสมาชิก Heads of State or Government of the Member States ผแู้ ทน Delegates/ Representatives ผแู้ ทนของ หน่วยงานหรือองคก์ ารในการเข้ารว่ มการประชุมครง้ั น้ันๆ ผจู้ ดบันทึกการประชุม Minute-taker

โครงการสื่อการเรยี นรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 111 ผ้เู ข้ารว่ มประชุมสัมมนา Participant, Audience, Attendant ประธานท่ีประชมุ Chairperson/Chair/President ผู้ท�ำ หน้าทค่ี วบคมุ และน�ำ การประชุม ในการประชุมนานาชาติ มักจะเลอื กหัวหนา้ คณะผ้แู ทนของประเทศเจา้ ภาพให้ทำ�หนา้ ทีป่ ระธานการประชุม ประเทศเจ้าภาพ Host country ประเทศทีท่ �ำ หนา้ ที่เปน็ ผดู้ แู ล จัดการประชมุ ใหส้ ำ�เรจ็ ดว้ ยดี เลขานกุ าร Secretary วทิ ยากร ผบู้ รรยาย Guest Speaker องคป์ ระกอบของคณะผู้แทน Composition of Delegations คณะผแู้ ทนประกอบดว้ ยหวั หนา้ คณะและผู้แทน 4.3 คำ�ศัพท์และสำ�นวนสำ�หรบั การประชมุ ระหว่างประเทศ (26) ขาด (ประชมุ ) absent ยกประเด็น/พดู เกี่ยวกบั address ปิดประชมุ adjourn ระเบยี บวาระการประชมุ agenda มอบหมาย มอบหน้าท่ใี ห้กับบคุ คลใดบุคคลหน่งึ allocate การเชญิ ประชุม an invitation to a meeting เรอ่ื งอืน่ ๆ Any Other Business (AOB) ผลู้ าประชมุ apologies การรับรองรายงานการประชมุ approval of minutes การลงคะแนนเสยี ง โดยการเขียน ballot

112 คำ�ศัพท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ กำ�หนดวันเวลาทจ่ี ะประชมุ to schedule a meeting กำ�หนดวนั เวลาทีจ่ ะประชุมใหม ่ to reschedule a meeting กลา่ วปิดประชมุ closing remarks การประชมุ กลุ่มทางไกล conference call การรบั รอง recognition การลงมตโิ ดยการมอบฉนั ทะให้ผอู้ นื่ ทำ�แทน proxy vote ขอ้ สงวน reservations ขอ้ มต ิ resolution ขอ้ เสนอแนะ คำ�แนะน�ำ recommendation ขอ้ บงั คบั การประชุม rules of procedure เขา้ ประชมุ /เขา้ ร่วมสัมมนา to attend a meeting ขอ้ ตกลง ขอ้ สรปุ ร่วมกัน consensus ค�ำ กลา่ วเปิดประชมุ opening remarks ญตั ติเป็นอนั ตกไป the motion is rejected (lost) ญัตติ หรือขอ้ เสนอเพ่ือการอภิปรายในที่ประชุม motion ตรงเวลา punctual บนั ทึกการประชุมละเอยี ด verbatim record บันทึกการประชมุ minutes ประทว้ งหรอื ขดั จังหวะในระหว่างการประชุม point of order เป็นความลบั confidential เป็นทางการ เป็นพิธีการ formality ผ้เู ขา้ รว่ มประชมุ สัมมนา participant มอบหมาย designate

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซียน กูร”ู (Learning Package) 113 มติเป็นเอกฉนั ท ์ unanimous ยกมอื เพ่ือแสดงความคิดเห็น show of hands เรอ่ื งร้องเรยี น grievance ร่วมมือ ช่วยเหลือกนั collaborate รายการแก้ไขรายงานการประชมุ amendments รบั รอง สนับสนุนข้อเสนอ second, support a proposal เวยี น (เพือ่ ทราบ) to circulate แสดงความคิดเหน็ comment สรุปเร่อื ง เน้อื หา wrap up สมยั ประชุม หรือช่วงการประชมุ session (meeting) เสนอรา่ งข้อมต ิ submit a draft resolution สิ่งที่ตอ้ งมหี รอื ตอ้ งทำ� mandatory ห้องประชุมอาจเรียกตามภารกิจการประชมุ auditorium, assembly hall, boardroom, conference room

114 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ ส�ำ หรบั ติดต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ 4.4 ตวั ย่อ - คำ�ศัพท์เกีย่ วกับการทูต และความรว่ มมือระหวา่ งประเทศ การทูต Diplomacy (18) ค�ำ ว่าการทูต คอื การนำ�เอาสติปัญญา (Intelligence) และปฏิภาณ (Tact) ออก ใช้ในการเจรจาเป็นทางการระหว่างรัฐบาลของรัฐเอกราชด้วยกัน หรือหากจะกล่าว โดยสรุปก็หมายถึงการท่ีรัฐต่อรัฐยกเอาเรื่องต่างๆ ข้ึนเจรจากันอย่างเอาจริงเอาจัง โดยสันตวิ ิธนี ั่นเอง การทูตเพอื่ ประชาชน Diplomacy for the Peoples การดำ�เนินนโยบายต่างประเทศหรือกิจกรรมทางการทูตในส่วนที่เก่ียวข้องกับ ประชาชน เชน่ โครงการสง่ หน่วยแพทย์เคล่อื นทไ่ี ปชว่ ยรักษาพยาบาลชาวกมั พูชา การคา้ ตา่ งตอบแทน Countertrade ระบบการค้าระหว่างประเทศที่ผู้ขายตกลงแลกเปล่ียนสินค้าจากผู้ซ้ือ แทน การช�ำ ระเงนิ ทัง้ หมดหรอื เพียงบางส่วน การเย่ียมคารวะ Courtesy call การเข้าพบเพ่ือทำ�ความรู้จักกันของบุคคลสำ�คัญหรือนักการทูต เช่น การเข้าพบ ระหว่างนักการทูตด้วยกัน หรือนักการทูตเข้าพบรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีของประเทศอื่น เข้าพบนายกรฐั มนตรี ฯลฯ การปักปนั เขตแดน Demarcation การทำ�เครือ่ งหมายแสดงเสน้ เขตแดนลงในภมู ปิ ระเทศโดยวิธีทางกายภาพ

โครงการสือ่ การเรียนรู้ “อาเซียน กูรู” (Learning Package) 115 การส่งผูร้ า้ ยข้ามแดน Extradition สนธสิ ญั ญาหรอื ความตกลงระหวา่ งประเทศในการสง่ คนทถี่ กู กลา่ วหา หรอื ตอ้ งโทษ ฐานกระท�ำ ความผดิ ภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดท่กี ระท�ำ ขน้ึ ในเขตอ�ำ นาจ ของอกี ชาตหิ นงึ่ ซง่ึ มคี วามสามารถทจี่ ะตดั สนิ คดรี วมทง้ั ลงโทษบคุ คลทถี่ กู กลา่ วหานนั้ เชน่ ในกรณที ชี่ นชาตหิ นงึ่ ซง่ึ ถกู กลา่ วหาวา่ ประกอบอาชญากรรมแลว้ หลบหนไี ปยงั ตา่ งประเทศ น้ัน รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิท่ีจะขอให้ต่างประเทศน้ันส่งตัวผู้กระทำ�ผิด กลบั คนื เพอ่ื สง่ ตวั ขน้ึ ศาลเพ่ือพจิ ารณาลงโทษได้ การทูตเชิงรุก Forward Engagement (27) ยทุ ธศาสตรก์ รอบใหญใ่ นนโยบายตา่ งประเทศของไทย ทม่ี เี ปา้ หมายทจี่ ะขยายกรอบ ความร่วมมือให้ครอบคลุมทุกมิติความร่วมมือกับต่างประเทศ รวมทั้งการส่งเสริมและ กระชับความสัมพันธ์กับทุกประเทศท่ัวโลก เพื่อสันติภาพท่ีย่ังยืนและความรุ่งเรืองทาง เศรษฐกิจส�ำ หรับประชาคมโลก การแทรกแซงเพ่ือมนุษยธรรม Humanitarian Intervention แนวคิดที่นายโคฟี อันนาน เลขาธิการสหประชาชาติเสนออย่างเป็นทางการ ครั้งแรกต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยที่ 54 เม่ือปี พ.ศ. 2542 โดยมุ่งจะให้ สหประชาชาติสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนภายในประเทศ ต่างๆ ได้ โดยค�ำ นึงถึงประเดน็ เรือ่ งมนุษยธรรมเปน็ หลกั การใชเ้ อกสทิ ธ์ิโดยมชิ อบ Abuse of privilege การไกลเ่ กล่ีย Conciliation การประชมุ กงสุลกติ ตมิ ศักดไิ์ ทย Conference of Honorary Consuls-General of Thailand

116 ค�ำ ศัพท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรับตดิ ตอ่ ราชการและการประชุมระหว่างประเทศ การเกี่ยวพนั อยา่ งสร้างสรรค ์ Constructive engagement การแทรกแซงอยา่ งสรา้ งสรรค ์ Constructive intervention การก�ำ หนดเขตแดน Delimitation การยืน่ หนังสือประทว้ ง Demarche การปลอดทหาร Demilitarization การปฏิบตั เิ ทา่ เทียมกัน Equality of Treatment การยกเวน้ ภาษอี ากรให้แกต่ ัวแทนทางการทูต Exemption from Taxation of Diplomatic Agent การสรา้ งสันติภาพ Peace Building เป็นการสร้างและพัฒนาเงื่อนไขเพื่อให้เกิดสันติภาพท่ีถาวร อันรวมถึงการสร้าง สถาบนั และโครงสรา้ งพนื้ ฐานของชาตทิ ถี่ กู ท�ำ ลายโดยสงครามกลางเมอื งหรอื การสรู้ บขน้ึ มาใหม่ การรักษาสนั ตภิ าพ Peace Keeping การสง่ คณะเจา้ หนา้ ทที่ ง้ั ฝา่ ยทหารและพลเรอื นในนามของสหประชาชาตเิ ขา้ ไปใน พ้ืนที่ที่มีความขัดแย้งโดยความยินยอมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำ�หน้าที่ดูแลให้มี การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง หรือความตกลงสันติภาพ หรือกระบวนการแก้ไขปัญหา โดยวิถที างการเมอื ง การท�ำ ใหเ้ กิดสนั ตภิ าพ Peace Making เปน็ การด�ำ เนนิ การทางการทตู โดยมกั ใชว้ ธิ ไี กลเ่ กลยี่ และเจรจาเพอื่ ยตุ คิ วามขดั แยง้ โดยสันตวิ ธิ ี

โครงการสอื่ การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ู” (Learning Package) 117 กงสลุ Consul ข้าราชการท่ีได้รับแต่งต้ังอย่างถูกต้องและได้รับมอบหมายให้ไปประจำ�ยัง ต่างประเทศ เพื่อทำ�หน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้านพาณิชย์ การเดินเรือ คมุ้ ครองความเปน็ อยู่อันดขี องพลเมอื งของประเทศตน กงสุลกติ ตมิ ศกั ด์ิ Honorary Consul (27) บคุ คลในทอ้ งถิ่นผซู้ ่งึ ได้รับการแต่งตง้ั และมอบหมายให้ดแู ล สง่ เสรมิ ผลประโยชน์ ของประเทศและคนชาตใิ นพื้นท่ีในเขตอาณา และด�ำ เนนิ การตรวจลงตราหนังสือเดินทาง แก่บุคคลทจ่ี ะเดินทางเขา้ ประเทศทก่ี งสลุ กิตตมิ ศกั ดิ์ ขา้ หลวงใหญ่ High Commissioner ผู้แทนทางการทูตของแต่ละประเทศท่ีเป็นสมาชิกสังกัดเครือจักรภพอังกฤษ (The Commonwealth of Nations) และประจ�ำ อยู่ ณ ประเทศของสมาคมน้ดี ้วยกัน คณบดีคณะทตู Dean of the Diplomatic Corps (27) เอกอัครราชทูตท่อี าวโุ สทีส่ ุด (ยืน่ สาส์นตราตั้งก่อนผ้อู นื่ ) ในประเทศนน้ั ท�ำ หนา้ ที่ เป็นหัวหน้าหรือผู้แทนของคณะทูตานุทูต (ในกรณีที่รัฐผู้รับนับถือศาสนาคริสต์นิกาย โรมันคาธอลกิ สมณทตู วาตกิ ันจะด�ำ รงต�ำ แหนง่ คณบดีทตู ) คณะทูตานุทตู Diplomatic Corps กลมุ่ เอกอคั รราชทตู กงสลุ และหวั หนา้ องคก์ ารระหวา่ งประเทศ รวมทงั้ ภรยิ าและ เจา้ หน้าท่ที างการทตู ท่ีอยู่ในประเทศน้นั ๆ

118 ค�ำ ศพั ท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ ตวั แทนทางทูต Diplomatic Agent หัวหน้าของคณะผู้แทน หรือบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายทูตของคณะผู้แทน ทางการทตู ตราสารรับรอง Instrument of acceptance หนังสือรับรองว่ายินยอมที่จะผูกพันทางสนธิสัญญาหลังจากลงนามในสนธิสัญญา แลว้ ถ้อยค�ำ สำ�นวนท่ีใช้ในวงการทตู Diplomatic Expressions ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำ�สำ�นวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาท่ีสุภาพ ซ่งึ จะมคี วามหมายลกึ ซึ้งในการแสดงถึงท่าทีท่ีไมเ่ ห็นดว้ ย หรือแสดงการประทว้ ง นโยบายต่างประเทศ Foreign Policy แผนการด�ำ เนนิ การในกจิ การระหวา่ งประเทศ ซง่ึ ผกู้ �ำ หนดนโยบายในคณะรฐั บาล เป็นผู้จัดข้ึน ในประเทศท่ีมีรัฐบาลประชาธิปไตยในรูปรัฐสภา ผู้ท่ีจะชี้ขาดเรื่องนโยบาย ต่างประเทศ ไดแ้ ก่ คณะรฐั มนตรี อนั มนี ายกรัฐมนตรีเปน็ หัวหนา้ คณะ ปฏิญญา Declaration มี 3 ความหมาย คือ (1) ความตกลงระหว่างประเทศ ซ่ึงมีลักษณะผูกพัน (2) ปฏญิ ญาฝ่ายเดียว ซงึ่ กอ่ สทิ ธแิ ละหน้าท่ีให้แกป่ ระเทศอ่ืน และ (3) ปฏญิ ญาซ่งึ รฐั หนึ่ง แถลงใหร้ ัฐอื่นทราบความเห็นและเจตนาของตนในเรอื่ งบางเร่อื ง

โครงการสอ่ื การเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 119 ประเทศมหาอ�ำ นาจ Great Powers รัฐทีพ่ อจะเรียกได้ว่าเปน็ ประเทศมหาอ�ำ นาจ คือ รัฐทม่ี อี �ำ นาจอทิ ธิพลครอบงำ�ใน กจิ การระหวา่ งประเทศ ไมม่ กี ฎหมายใดๆ ทจ่ี ะก�ำ หนดวา่ ประเทศนนั้ ประเทศนมี้ สี ถานภาพ เป็นมหาอ�ำ นาจ หากเปน็ เพยี งเพราะรัฐนน้ั ๆ มีขนาด พละกำ�ลัง และอ�ำ นาจอทิ ธิพลทาง เศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน ภาษาการทตู Diplomatic Language ยงั ไมม่ กี ารรบั รองเปน็ ทางการกนั วา่ ใหใ้ ชภ้ าษาใดเปน็ ภาษาทางการทตู ในองคก์ าร ทั้งหมดของสหประชาชาติ ยกเว้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศใช้ 5 ภาษาเป็นภาษา ราชการ คือ ภาษาจีน รัสเซีย สเปน อังกฤษ และฝร่ังเศส ดังนั้น ในการประชุมใดๆ ณ องค์การสหประชาชาติ หากมีการแถลงเป็นภาษาหนงึ่ ก็จะมกี ารแปลเปน็ อีก 4 ภาษา เกือบพรอ้ มกนั ในทันที (Simultaneous Translation) พิธกี ารทูต พธิ ีสาร Protocol (28) หลักปฏิบัติ หรือมารยาททางการทูต (Etiquette) ซึ่งเป็นท่ียอมรับกันใน นานาประเทศจนกลายเป็นรูปแบบท่ีใช้กันในงานพิธีการ หรือรัฐพิธีต่างๆ รวมถึงเร่ือง เอกสิทธ์ิ ความคุ้มกัน ลำ�ดับอาวุโส ฯลฯ ส่วนพิธีสารเป็นความ ตกลงระหว่างประเทศ อยา่ งหนงึ่ โดยมากเปน็ พธิ สี ารตอ่ ทา้ ยสนธสิ ญั ญา หรอื อนสุ ญั ญา หรอื พธิ สี ารแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ สนธสิ ัญญาหรอื อนสุ ญั ญานั้น

120 ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรบั ติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ ผแู้ ทนสนั ถวไมตรี Goodwill Representative การแต่งตั้งบุคคลท่ีมีพ้ืนฐานความรู้ ความประพฤติ และบุคลิกที่เหมาะสม ในการเปน็ ผแู้ ทนของประเทศใหไ้ ปเยอื นตา่ งประเทศ เพอื่ อธั ยาศยั ไมตรหี รอื ผกู มติ รกบั อกี ประเทศหนง่ึ โดยสามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี นฐานะผแู้ ทนของประเทศไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ วธิ กี ารท่ีจะระงับข้อพพิ าทระหว่างรัฐโดยฉันท์มิตร Good Offices and Mediation (28) คำ�วา่ Good Offices หมายถงึ การชว่ ยเป็นสอ่ื กลาง สว่ น Mediation หมายถงึ การไกล่เกล่ีย ศัพท์ท้ังสองน้ีหมายถึงวิธีการท่ีจะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันท์มิตร กลา่ วคือ ในกรณีข้อพพิ าทซ่ึงการเจรจากนั ทางการทตู ไมส่ ามารถตกลงกนั ได้ง่ายๆ ดังนนั้ รฐั ทส่ี ามอาจยน่ื มอื เขา้ ชว่ ยเปน็ สอ่ื กลาง หนา้ ทใ่ี นการนม้ี ใิ ชอ่ อกความเหน็ หรอื วนิ จิ ฉยั ชขี้ าด วา่ ใครถูกใครผดิ ในกรณีขอ้ พิพาท หากเปน็ แต่เพียงแสวงหาลทู่ างท่จี ะระงบั ขอ้ พพิ าท ซงึ่ จะต้องมีใหน้ อ้ ยทีส่ ุดเทา่ ทจี่ ะท�ำ ได้ และถอื ว่าเป็นการกระท�ำ ฉันทม์ ิตร (Friendly Act) สารแสดงความเสียใจ Condolences เปน็ ธรรมเนยี มทผ่ี แู้ ทนทางการทตู ซง่ึ ไดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหป้ ระจ�ำ อยใู่ นรฐั นน้ั หลงั จากท่ี ได้รายงานให้กระทรวงการต่างประเทศของผู้แทนทางการทูตน้ันก่อนทางโทรเลขหรือ โทรสาร จะไปเยี่ยมหรือพบกับเจ้าหน้าท่ีท่ีเหมาะสมของรัฐนั้นเพื่อแสดงความเสียใจ ในนามประมขุ ของรัฐตน สถานกงสลุ ใหญ่ Consulate-General ท่ีทำ�การซึ่งมีหัวหน้าสำ�นักงานเป็นกงสุลใหญ่ และมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเร่ือง หนังสือเดินทาง การคุ้มครองคนไทย ตลอดจนด้านเอกสารและนิติกรรมต่างๆ ในต่าง ประเทศ สันถวไมตรี Amity การเชือ่ มความสัมพันธระหว่างประเทศโดยกระบวนการทางการทูต

โครงการส่ือการเรียนรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 121 สัตยาบนั สาร Instrument of ratification หนังสือแสดงความยินยอมท่ีจะผูกพันทางสนธิสัญญาหลังจากลงนามใน สนธิสัญญาแล้ว หนงั สอื หรอื จดหมายโต้ตอบทางการทูต Notes in Diplomatic Correspondence ระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต (Head of Mission) กับรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศที่หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตน้ันประจำ�อยู่ หรือกับหัวหน้า ผู้แทนทางการทตู อีกแหง่ หนงึ่ เอกอัครราชทตู วิสามญั ผู้มอี ำ�นาจเต็ม Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary เอกอคั รราชทตู ทร่ี ฐั ผสู้ ง่ แตง่ ตง้ั ไปยงั รฐั ผรู้ บั โดยมอบหมายอ�ำ นาจใหใ้ นฐานะหวั หนา้ คณะผู้แทนของรัฐผู้ส่ง ในกรณีท่ีเอกอัครราชทูตมิได้มีถ่ินพำ�นักอยู่ในรัฐผู้รับ เรียกว่า Non-resident Ambassador เอกอคั รราชทตู ผู้แทนพเิ ศษ Ambassador-at-Large ผู้แทนพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศท่ีมีสิทธิและสถานะเทียบเท่า เอกอัครราชทูต ผู้ซ่ึงได้รับมอบหมายให้ดูแลงานและกิจการเฉพาะกิจหรือเฉพาะเร่ืองใน ตา่ งประเทศเปน็ ครง้ั คราว เอกอัครราชทตู ประจำ�กระทรวงการต่างประเทศ Ambassador attached to the Ministry of Foreign Affairs บคุ คลผทู้ ไี่ ดร้ บั แตง่ ตงั้ ใหด้ �ำ รงต�ำ แหนง่ เอกอคั รราชทตู มภี ารกจิ ดแู ลกจิ การภายใน ของกระทรวงการต่างประเทศตามทไี่ ดร้ บั มอบหมายจากปลดั กระทรวงการต่างประเทศ

122 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-อังกฤษ สำ�หรับติดตอ่ ราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ องค์การนริ โทษกรรมสากล Amnesty International มเี ปา้ หมายนโยบายกวา้ งๆ อยู่ 3 ข้อ คือ ตอ้ งการใหป้ ล่อยนักโทษผู้มี มโนธรรม (Prisoners of Conscience) ทั้งหมด ให้มีการยุติการทรมานนักโทษไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ รวมทง้ั การลงโทษประหารชวี ติ และใหม้ กี ารพจิ ารณาพพิ ากษาคดนี กั โทษการเมอื งทง้ั หมด อย่างเปน็ ธรรมและไมร่ อชา้ เอกสทิ ธิแ์ ละความคุ้มกนั ทางการทูต Diplomatic Privileges and Immunities สทิ ธพิ เิ ศษทใ่ี หแ้ กเ่ จา้ หนา้ ทที่ างการทตู โดยถอื วา่ บคุ คลดงั กลา่ วเปน็ ผแู้ ทนสว่ นตวั ประมุขของรัฐ เพราะถือว่ารัฐบาลหน่ึงใดก็ตามจะถูกกีดกันขัดขวางด้วยการจับกุม หรือ กีดกนั มใิ ห้ผู้แทนของรฐั บาลนัน้ ปฏิบตั หิ นา้ ที่ในความสมั พันธ์ระหวา่ งประเทศน้ันมไิ ด้ อกั ษรสาส์นตราตง้ั พระราชสาส์นตราตั้ง (การทตู ) Credential or Letter of Credence ทที่ ตู น�ำ ไปยนื่ แกร่ ฐั บาลทไี่ ปประจ�ำ หนงั สอื แนะน�ำ ตวั หนงั สอื แตง่ ตงั้ เอกอคั รราชทตู จากประมขุ ของรัฐผู้ส่งถึงประมขุ ของรัฐผรู้ บั อนสุ ญั ญา Convention หนงั สือสญั ญาทำ�กนั ระหว่างหลายประเทศที่มาประชุมกนั และจดั วางบทบัญญัติ เปน็ กฎเกณฑ์ของกฎหมายขนึ้

โครงการสื่อการเรียนรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 123 ชว่ งที่ 2 ตัวยอ่ ที่เกยี่ วกบั ประชาคมอาเซยี น (ASEAN Community) 1. ตวั ยอ่ เกย่ี วกบั ประชาคมอาเซยี นท่วั ไป (ASEAN Community) 2. ตัวยอ่ เกี่ยวกับประชาคมสงั คมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community: ASCC) 3. ตัวยอ่ เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น (ASEAN Economic Community: AEC) 4. ตวั ย่อเกี่ยวกับประชาคมการเมืองและความม่ันคง (ASEAN Political Security Community: APSC) 5. ตวั ย่อเกีย่ วกบั องค์การระหวา่ งประเทศทค่ี วรรู้ (International Organizations: IO)

124 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-อังกฤษ สำ�หรับติดต่อราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ 1. ตัวยอ่ เก่ยี วกับประชาคมอาเซยี นท่ัวไป (ASEAN Community) (1) กฎบตั รอาเซียน ASEAN Charter เกิดข้ึนในกรอบกระบวนการปฏิรูปอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพนิติบุคคล โดย วางกรอบกฎหมายและจดั โครงสรา้ งองคก์ ารเพอื่ รองรบั การเปน็ ประชาคมอาเซยี น (ASEAN Community) ภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) กล่มุ ความร่วมมอื ทางเศรษฐกจิ ในเอเชียแปซฟิ ิก APEC: Asia Pacific Economic Cooperation เป็นการรวมตัวระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อส่งเสริมความ รว่ มมือทางเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศในภมู ิภาค กรอบความตกลงของอาเซียนวา่ ด้วยการบรกิ าร AFAS: ASEAN Framework Agreement on Services เพ่ือส่งเสริมความร่วมมือและการเปิดเสรีการค้าบริการระหว่างประเทศสมาชิก อาเซียน เขตการคา้ เสรอี าเซยี น AFTA: ASEAN Free Trade Area ขอ้ ตกลงทส่ี ง่ เสรมิ การคา้ เสรรี ะหวา่ งประเทศสมาชกิ อาเซยี น โดยใหม้ กี ารลดอตั รา ภาษีศุลกากรที่เท่ากันตามระยะเวลาที่กำ�หนด เริ่มต้ังแต่ปี พ.ศ. 2536 โดยให้ประเทศ สมาชกิ อาเซยี นเดมิ 6 ประเทศ ลดอตั ราภาษศี ลุ กากรใหเ้ หลอื รอ้ ยละ 0 – 5 ภายในปี พ.ศ. 2546 และมีระยะเวลาผอ่ นผนั ส�ำ หรับประเทศสมาชิกใหมอ่ กี 4 ประเทศ ตามชว่ งเวลา กอ่ น/หลังทเี่ ข้าเปน็ สมาชิกอาเซียน คณะมนตรเี ขตการลงทุนอาเซยี น AIA Council: ASEAN Investment Area Council เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านการส่งเสริมการลงทุน เพื่อกำ�หนด นโยบายและกำ�กบั การด�ำ เนนิ งานจดั ตง้ั เขตการลงทุนอาเซียน ปกตมิ ีการประชุมปีละครงั้

โครงการสอื่ การเรยี นรู้ “อาเซียน กูร”ู (Learning Package) 125 คณะมนตรเี ขตการค้าเสรีอาเซยี น AFTA Council: ASEAN Free Trade Area Council (34) เปน็ การประชมุ ระดบั รฐั มนตรคี ลงั เพอื่ หารอื และตดิ ตามการด�ำ เนนิ งาน ในการจดั ตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน ปกติจะจัดขึ้นประมาณปีละครั้งในช่วงการประชุมรัฐมนตรี เศรษฐกจิ อาเซียน คณะกรรมการประจ�ำ อาเซยี น ASC: ASEAN Standing Committee ประกอบด้วยอธิบดีกรมอาเซียนของทุกประเทศสมาชิก มีหน้าท่ี ควบคุม ดูแล ติดตามการด�ำ เนนิ งานของกลไกและกจิ กรรมต่างๆ ของอาเซียน ค่เู จรจาอาเซยี น ASEAN Dialogue Partners ประกอบดว้ ย 9 ประเทศ 1 กลุ่มประเทศ และ 1 องค์การระหว่างประเทศ คอื ออสเตรเลยี แคนาดา จนี อนิ เดยี ญปี่ นุ่ สาธารณรฐั เกาหลี นวิ ซแี ลนด์ รสั เซยี สหรฐั อเมรกิ า ประชาคมยโุ รป และโครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาติ โครงการความรว่ มมอื ด้านอตุ สาหกรรมของอาเซียน AICO: ASEAN Industrial Cooperation Scheme (35) โครงการ AICO ตง้ั ขนึ้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพือ่ ส่งเสริมการด�ำ เนนิ กิจกรรมทางด้าน อุตสาหกรรมร่วมกันระหว่างภาคเอกชนในภูมิภาคอาเซียน และสนับสนุนการแบ่งสรร การผลิตภายในประเทศอาเซยี น ประชาคมอาเซยี น ASEAN Community ทป่ี ระชมุ สุดยอดอาเซียน ครัง้ ท่ี 9 เมอื่ เดอื นตุลาคม 2547 ณ เกาะบาหลี ประเทศ อินโดนีเซีย ได้ลงนามปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมือในอาเซียนฉบับท่ี 2 เห็นชอบให้มี การจัดตงั้ ประชาคมอาเซยี นในสามด้านหลกั ภายในปี พ.ศ. 2563 ไดแ้ ก่ ประชาคมความ มัน่ คงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน และประชาคมสังคม-วัฒนธรรมอาเซียน

126 คำ�ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรับตดิ ต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น AEC: ASEAN Economic Community (34) มีเป้าหมายส่งเสริมอาเซียนให้เป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว มีการย้ายสินค้า บริการการลงทุน แรงงานฝมี อื และเงินทนุ อย่างเสรี ภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ประชาคมสงั คม-วัฒนธรรมอาเซยี น ASCC: ASEAN Socio-Cultural Community มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหภ้ มู ภิ าคอาเซยี นเปน็ สงั คมทเี่ ออ้ื อาทร ประชาชนมสี ภาพความ เป็นอยูท่ ่ดี ี ไดร้ บั การพฒั นาในทกุ ดา้ น และมีความม่ันคงทางสังคม นโยบาย “อาเซียนต้องมาก่อน” ASEAN First Policy เป็นนโยบายภาครัฐท่ีให้ความสำ�คัญกับการดำ�เนินงานของอาเซียนเป็นลำ�ดับแรก ในฐานะที่อาเซียนเป็นกลุ่มภูมิภาคที่มีความใกล้ชิดทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มลู นิธิอาเซยี น AF: ASEAN Foundation จดั ตงั้ ขึ้นเมอ่ื ปี พ.ศ. 2540 โดยมีวัตถุประสงคเ์ พอื่ สง่ เสริมการสร้างจิตสำ�นึกของ ความเป็นอาเซียนในหมู่ประชาชน และสนับสนุนกิจกรรม/โครงการเพื่อการพัฒนา ทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกอาเซียนอย่าง เท่าเทยี มกนั มสี �ำ นกั งานอยู่ ณ กรงุ จาการ์ตา ปฏิญญาว่าดว้ ยความร่วมมอื ในอาเซียนฉบับท่ี 2 (ปฏิญญาบาหล)ี Bali Concord II or Declaration of ASEAN (1) เกดิ จากการทผี่ นู้ �ำ ประเทศสมาชกิ อาเซยี นไดล้ งนามในการประชมุ สดุ ยอดอาเซยี น ครงั้ ท่ี 9 ทเ่ี กาะบาหลี เม่ือเดือนตลุ าคม พ.ศ. 2547 กำ�หนดทีจ่ ะจดั ตง้ั ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ภายใน พ.ศ. 2563

โครงการสอื่ การเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 127 แผนแมบ่ ทว่าด้วยความเช่ือมโยงระหวา่ งกันในกลมุ่ อาเซยี น Master Plan on ASEAN Connectivity แผนยุทธศาสตร์เพ่ือการขับเคลื่อนให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันในปี 2554 – 2558 โดยครอบคลมุ ใน 3 มิติ คอื การเชอื่ มโยงทางกายภาพ การเชอื่ มโยงองคก์ าร และ ความเชื่อมโยงประชาชน พันธกรณคี วามตกลงของอาเซยี น ACB: ASEAN Compliance Body ประกอบด้วย เจ้าหน้าท่ีอาวุโสด้านเศรษฐกิจของอาเซียนที่แต่ละประเทศแต่งตั้ง ขึ้น ทำ�หน้าท่ีพจิ ารณาและให้คำ�ปรึกษาเก่ยี วกบั กรณปี ัญหา และข้อพพิ าทในการดำ�เนิน การตามพันธกรณีอาเซียน โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ ประเทศสมาชิกสามารถใช้ยึดถือเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกรณีพิพาท น้ันได้ เลขาธิการอาเซียน Secretary-General of ASEAN (35) คอื ผู้ทำ�หน้าทเี่ ปน็ หัวหน้าส�ำ นกั งานเลขาธิการอาเซียน ปัจจุบันผู้ด�ำ รงต�ำ แหน่งนี้ คอื นายเล เลอื ง มินห์ (Le Luong Minh) จากประเทศเวยี ดนาม เลขาธิการอาเซียนมี วาระการด�ำ รงตำ�แหน่งคราวละ 5 ปี และดำ�รงตำ�แหน่งไดเ้ พยี งสมัยเดยี วเทา่ นัน้ ส�ำ นกั เลขาธกิ ารอาเซยี น ASEAN Secretariat (35) จัดตั้งข้ึนตามข้อตกลงท่ีลงนามโดยรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในระหว่างการ ประชุมสุดยอดอาเซียนคร้ังที่ 1 ในปี พ.ศ. 2519 เพ่ือทำ�หน้าท่ีประสานงานและ ดำ�เนินงานตามโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียน

128 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรับติดต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ สมาคมประชาชาติแห่งเอเซยี ตะวันออกเฉียงใตห้ รอื อาเซียน ASEAN: Association of Southeast Asian Nations (1) เป็นองค์การความร่วมมือซ่ึงถือกำ�เนิดตามปฏิญญากรุงเทพหรือ (Bangkok Declaration) ของผู้นำ�ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซยี ฟิลปิ ปินส์ สิงคโปร์ และไทย ท่จี ะให้มกี ารรวมกลุ่มและร่วมมือกนั เสริมสรา้ งให้ ภมู ภิ าคมสี นั ตภิ าพอนั น�ำ มาซงึ่ เสถยี รภาพทางการเมอื งและความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางเศรษฐกจิ สังคมและวัฒนธรรม เอกสารวิสัยทัศนอ์ าเซยี นปี 2563 ASEAN Vision 2020 (34) อาเซียนปี 2563 เป็นหุ้นส่วนร่วมกันในการพัฒนาอย่างมีพลวัตร “ASEAN 2020: Partnership in Dynamic Development” ทก่ี �ำ หนดทิศทางและเปา้ หมายของ การดำ�เนนิ การในด้านตา่ งๆ ครอบคลุมทง้ั ดา้ นการเมือง เศรษฐกจิ และสังคม รวมทัง้ การ ดำ�เนนิ ความสัมพันธ์กับประเทศภายนอก เอกสารกอ่ ตงั้ สมาคมแหง่ ประชาชาตเิ อเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตห้ รอื อาเซยี น The ASEAN Declaration (Bangkok Declaration) ได้มีการลงนามที่กรุงเทพฯ เม่ือวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 โดยผู้แทนระดับ รัฐมนตรขี อง 5 ประเทศ คอื อนิ โดนีเซยี มาเลเซีย ฟิลปิ ปินส์ สิงคโปร์และไทย 2. ตวั ยอ่ เกีย่ วกบั ประชาคมสงั คมและวัฒนธรรมอาเซยี น (ASEAN Socio-Cultural Community: ASCC) (1) กองทนุ วฒั นธรรมอาเซียน ACF: ASEAN Cultural Fund จดั ตงั้ ขนึ้ เพอ่ื เปน็ กองทนุ สนบั สนนุ การด�ำ เนนิ กจิ กรรม/โครงการความ รว่ มมอื ของ อาเซียนทางด้านวัฒนธรรมและสนเทศ โดยในปี พ.ศ. 2521 รัฐบาลญี่ปุ่นได้บริจาคเงิน จำ�นวน 5,000 ล้านเยน หรือประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่กองทุนฯ เพ่ือ นำ�ดอกผลไปใช้ในการสนบั สนนุ โครงการ/กิจกรรมความรว่ มมอื ต่างๆ

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซยี น กรู ”ู (Learning Package) 129 กติการะหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยสทิ ธิพลเมืองและสทิ ธทิ างการเมือง ICCPR: International Covenant on Civil and Political Rights เปน็ สนธสิ ญั ญาระหวา่ งประเทศภายใตก้ รอบสหประชาชาตหิ ลกั ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชน 1 ใน 2 ฉบับ ซึ่งแปรข้อบทในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนให้มีพันธะผูกพันทาง กฎหมายแก่ประเทศภาคี กองทนุ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ SEAFILD: Southeast Asia Fund for Institutional and Legal Development เพ่ือการพัฒนาสถาบันและกฎหมาย ไทยและแคนาดาได้จัดทำ�ร่างบันทึก ความเขา้ ใจระหว่างกัน เพ่อื จัดตั้งส�ำ นักงานกองทุนฯ ในประเทศไทย การประชมุ รัฐมนตรขี นส่งอาเซยี น ATM: ASEAN Transport Ministers Meeting จดั ขนึ้ ปลี ะครงั้ เพอ่ื หารอื และก�ำ หนดแนวทางความรว่ มมอื ดา้ นการขนสง่ ในอาเซยี น อาทิ เส้นทาง ประเภท/ขนาดรถยนต์ การประกันภัยรถยนต์ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ การตรวจทางศลุ กากร การขนสง่ สนิ คา้ ผา่ นแดน การขนสง่ สนิ คา้ ขา้ มแดน และการพฒั นา โครงขา่ ยทางหลวงอาเซียน เครอื ขา่ ยมหาวทิ ยาลยั อาเซียน AUN: ASEAN University Network ได้จดั ตงั้ ขนึ้ เมอื่ ปี 2538 ตามมติของท่ปี ระชุมสดุ ยอดอาเซยี นครงั้ ที่ 4 เพื่อพฒั นา ทรัพยากรมนุษยข์ องภูมภิ าคและสรา้ งความส�ำ นึกในความเป็นอาเซียน ความตกลงอาเซยี นว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ASEAN-ATHP: Agreement on Trans boundary Haze Pollution ความตกลงด้านสง่ิ แวดลอ้ มทลี่ งนามในปี 2545 (ค.ศ. 2002) ระหวา่ งชาตสิ มาชิก ในกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการลด หมอกพิษในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้

130 คำ�ศัพท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรบั ตดิ ต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ ความมนั่ คงของมนษุ ย์ Human security การสรา้ งสภาพทมี่ น่ั คงใหแ้ กม่ นษุ ยโ์ ดยครอบคลมุ ทกุ ดา้ น ทง้ั ในดา้ นการเมอื ง เชน่ การปลอดจากภัยสงคราม ด้านเศรษฐกิจ เช่น การกนิ ดอี ยู่ดี การมีสขุ อนามัย และดา้ น สงั คม เช่น การมีสิทธพิ น้ื ฐานตามที่กฎหมายกำ�หนด คณะมนตรีอาเซียนดา้ นปิโตรเลยี ม ASCOPE: ASEAN Council on Petroleum กลไกการหารือระหว่างวิสาหกิจแห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนท่ีประกอบ กจิ การด้านปิโตรเลียม มีการประชมุ ปลี ะ 2 – 3 คร้ัง เพ่ือแลกเปล่ียนข้อมลู และแสวงหา ความรว่ มมือระหวา่ งกนั คณะกรรมการสิทธมิ นุษยชน Human Rights Committee: HRC กลไกติดตามผลการอนุวัติกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ ทางการเมือง คณะกรรมการเจ้าหนา้ ที่อาวโุ สดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม SOCA: Socio-Cultural Committee of the Senior Officials of ASEAN การประชมุ ระดบั เจา้ หนา้ ที่อาวุโสประมาณ 4 ครัง้ ต่อปี เพอ่ื ติดตามความคืบหนา้ ในการด�ำ เนนิ มาตรการตา่ งๆ ขององคก์ ารเฉพาะดา้ นใน ASCC ตามแผนงานจดั ตงั้ ประชาคม สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน และสรุปรายงานผลการดำ�เนินการต่อคณะมนตรีฯ ในส่วนของประเทศไทย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นผู้ แทนไทย ปสี ิง่ แวดล้อมอาเซียน AEY: ASEAN Environment Year กำ�หนดให้มีข้ึนทุก 3 ปี เพื่อสร้างจิตสำ�นึกด้านส่ิงแวดล้อมให้กับสาธารณชน พรอ้ มกบั การสง่ เสรมิ ความรดู้ า้ นสงิ่ แวดลอ้ ม เพอื่ น�ำ ไปสกู่ ารปฏบิ ตั เิ พอื่ การพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื

โครงการสือ่ การเรยี นรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 131 ประชาคมสงั คมและวัฒนธรรมอาเซยี น ASCC: ASEAN Socio-Cultural Community (1) กอ่ ตัง้ ขึน้ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 6 ประการ คือ 1) การพัฒนามนษุ ย์ (Human Development) 2) การคุม้ ครองและสวสั ดิการสังคม (Social Welfare and Protection) 3) การสร้างอัตลักษณอ์ าเซียน (Building an ASEAN Identity) 4) การลดช่องว่างทางการพัฒนา (Narrowing the Development Gap) 5) ความย่ังยืนด้านสงิ่ แวดลอ้ ม (Environmental Sustainability) 6) สทิ ธแิ ละความยุตธิ รรมทางสังคม (Social Justice and Rights) อนสุ ัญญาว่าด้วยการขจดั การเลือกปฏบิ ัติตอ่ สตรีในทุกรปู แบบ CEDAW: Convention on Elimination of All Forms of Discrimination against Women เปน็ ผลจากการรับรองจากทป่ี ระชุมสมัชชาสหประชาชาติเมอื่ ปี พ.ศ. 2522 และ มผี ลบงั คบั ใชต้ งั้ แตว่ นั ท่ี 3 กนั ยายน 2527 มวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอ่ื ขจดั การเลอื กปฏบิ ตั ติ อ่ สตรใี นทกุ รูปแบบ และเพอ่ื ความเสมอภาคระหวา่ งสตรแี ละบรุ ษุ ในทกุ ดา้ น 3. ตวั ยอ่ เกย่ี วกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) (1) กรอบความตกลงของอาเซยี นวา่ ดว้ ยการบรกิ าร AFAS: ASEAN Framework Agreement on Services วตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ขยายความรว่ มมอื ดา้ นบรกิ ารและเปดิ เสรกี ารคา้ บรกิ ารระหวา่ ง ประเทศสมาชกิ อาเซยี นใหม้ ากขนึ้ กวา่ การเปดิ เสรใี น WTO ทงั้ นผี้ นู้ �ำ อาเซยี นมมี ตทิ จ่ี ะเปดิ ตลาดการค้าบริการทุกสาขา บรกิ ารจนบรรลเุ ปา้ หมายภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) โดยสมาชิกยังมีสิทธ์ิในการกำ�กับดูแลการค้าบริการ โดยสามารถใช้กฎระเบียบที่ไม่เลือก ปฏบิ ัติ หรือกฎระเบียบทีใ่ ชบ้ งั คับกบั ท้งั คนต่างชาติและคนชาติตน

132 คำ�ศพั ท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรับติดต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ การวัดผลแผนงานและกลไกติดตามการดำ�เนินงาน AEC Scorecard: ASEAN Economic Community Scorecard การวัดผลแผนงานและกลไกติดตามการดำ�เนินงาน เพ่ือไปสู่การเป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน จะมีการวัดผลการดำ�เนินงานตาม AEC Blueprint เป็นรายสาขา ทงั้ ในระดบั ภมู ิภาคและรายประเทศตามกรอบระยะเวลาทก่ี �ำ หนด การใหส้ ทิ ธพิ เิ ศษทางภาษศี ลุ กากรในกรอบของอาเซียน AISP: ASEAN Integration System of Preferences เปน็ ส่วนหน่งึ ในโครงการความร่วมมอื ในกลมุ่ ประเทศอาเซียน เพือ่ ลดช่องวา่ งของ ระดบั การพฒั นาทางเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศสมาชกิ โดยสว่ นใหญจ่ ะเปน็ การยกเวน้ ภาษี ศลุ กากรสำ�หรับสนิ ค้าที่ก�ำ หนด เปน็ การใหแ้ บบ ฝา่ ยเดยี วโดยไมม่ ีการเจรจาต่อรอง กรอบความรว่ มมือสีเ่ หลยี่ มเศรษฐกจิ Quadrangle Economic Cooperation เปน็ กรอบความรว่ มมือที่จะรว่ มกันพฒั นาพ้นื ท่สี ี่เหลีย่ มเศรษฐกิจที่ ประกอบดว้ ย ไทย พมา่ ลาว และจีน (มณฑลยูนนาน) การรเิ ร่มิ การกระชบั การรวมกล่มุ ของอาเซยี น IAI: Initiative for ASEAN Integration เพอ่ื ลดชอ่ งวา่ งของระดบั การพฒั นาทางเศรษฐกจิ และลดความยากจนในประเทศ สมาชกิ อาเซยี น เรมิ่ ด�ำ เนนิ การตง้ั แตป่ ี 2541 โดยใหค้ วามส�ำ คญั ในการขยายความรว่ มมอื 4 ดา้ นหลัก ไดแ้ ก่ การพัฒนาโครงสร้างพนื้ ฐาน (ขนสง่ และส่อื สาร) การพฒั นาบุคลากร เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร และการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจในระดับภูมภิ าค

โครงการสื่อการเรยี นรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 133 เกณฑท์ ใี่ ชใ้ นการพิจารณาว่าสินค้ามีแหล่งก�ำ เนิดจากประเทศใด ROO: Rule of Origin กฎแหล่งกำ�เนิดสินค้าสามารถนำ�มาใช้ประกอบการดำ�เนินนโยบายการค้าต่างๆ ในการพจิ ารณาวา่ สนิ ค้ามีแหลง่ ก�ำ เนดิ จากประเทศใด การบรู ณาการทางเศรษฐกจิ EI: Economic Integration การที่รัฐบาลประเทศตั้งแต่ 2 ประเทศขึ้นไป ตกลงนำ�ระบบเศรษฐกิจของตนมา เชอื่ มกนั เพอื่ เสรมิ สรา้ งและรกั ษาประโยชนท์ างเศรษฐกจิ โดยการยกเลกิ การเรยี กเกบ็ ภาษี ศุลกากรและมาตรการอนื่ ๆ ที่เปน็ อปุ สรรคทางการคา้ ให้แก่กนั และกัน การให้สิทธิพิเศษทางการค้าระหวา่ งประเทศสมาชกิ อาเซียนตามความสนใจ ASEAN-PTA: ASEAN Preferential Trading Arrangement (24) การลดอัตราภาษีขาเข้าลงในอัตราต่างๆ กันสำ�หรับสินค้าแต่ละรายการเพื่อขยายการค้า ระหวา่ งประเทศสมาชิกอาเซยี น ปัจจบุ นั PTA ถกู แทนด้วย AFTA กลไกการระงบั ขอ้ พิพาทของอาเซยี น DSM: Dispute Settlement Mechanism โดยมีพิธีสารว่าดว้ ยกลไกการระงบั ขอ้ พิพาท (ASEAN Protocol on Enhanced Dispute Settlement Mechanism) ฉบบั ใหม่ของอาเซยี น พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) เป็นกรอบการดำ�เนินการ ซึ่งมีผลให้ประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติตามพันธกรณีความตกลง ของอาเซียนอย่างเคร่งครัด เพราะหากมีการละเมิดพันธกรณีดังกล่าว ก็อาจถูกฟ้องร้อง และต้องใหก้ ารชดเชยความเสียหาย หรอื อาจถูกตอบโต้ได้ เขตการค้าเสรี FTA: Free Trade Area การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่ง อันเกิดจากข้อตกลงระหว่างรัฐบาลต้ังแต่ สองประเทศขึ้นไป ซึ่งตกลงจะยกเลิกภาษีศุลกากรและมาตรการอื่นๆ ท่ีเป็นอุปสรรค ทางการค้าให้แก่กันและกัน และอาจรวมถึงการเปิดตลาดด้านการค้า บริการการลงทุน และความร่วมมือตา่ งๆ

134 คำ�ศพั ท์ไทย-องั กฤษ ส�ำ หรับตดิ ต่อราชการและการประชุมระหว่างประเทศ โครงการความรว่ มมือทางอุตสาหกรรมของอาเซียน AICO: ASEAN Industrial Cooperation Scheme จัดตั้งข้ึนเม่ือปี พ.ศ. 2539 เพื่อมุ่งขยายความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่าง ภาคเอกชนของอาเซยี น เพม่ิ พนู การลงทนุ ระหวา่ งอาเซยี นและนอกอาเซยี น สนบั สนนุ การ แบง่ การผลิตและเพ่ิมศกั ยภาพในการแขง่ ขันของภาคอตุ สาหกรรมในอาเซียน ความรว่ มมือเพื่อการพฒั นาอาเซยี น-ลุ่มแม่นํา้ โขง AMBDC: ASEAN-MEKONG Basin Development Cooperation จดั ต้งั ข้นึ ตามมตทิ ีป่ ระชมุ สดุ ยอดอาเซียนครง้ั ที่ 5 เมือ่ ปี พ.ศ. 2538 ท่กี รงุ เทพฯ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมในอนภุ าคลมุ่ แมน่ า้ํ โขงภายใตก้ รอบ ความร่วมมือหลัก 8 สาขา ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานการค้าและการลงทุน การเกษตร ทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ละแรธ่ าตุ อตุ สาหกรรมขนาดกลางและขนาดยอ่ ม การทอ่ งเทย่ี ว ทรพั ยากร มนุษย์ วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี คณะกรรมการประจ�ำ อาเซยี น ASC: ASEAN Standing Committee ประกอบดว้ ย เลขาธกิ ารอาเซยี นและอธบิ ดกี รมอาเซยี นของแตล่ ะประเทศสมาชกิ ท�ำ หนา้ ทด่ี แู ลด�ำ เนนิ งานตดิ ตามผลและพจิ ารณาทบทวนการปฏบิ ตั งิ านในดา้ นตา่ งๆ ของ อาเซยี น โดยจะมกี ารประชมุ คณะกรรมการประจ�ำ อาเซยี นปลี ะ 4 – 5 ครงั้ ประเทศสมาชกิ จะหมุนเวยี นกันเปน็ เจ้าภาพจัดการประชมุ ในแต่ละปี โดยเรยี งล�ำ ดบั ตวั อกั ษร คณะมนตรอี าเซียนดา้ นปิโตรเลยี ม ASCOPE: ASEAN Council on Petroleum กลไกการหารือระหว่างวิสาหกิจแห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนท่ีประกอบ กิจการดา้ นปิโตรเลยี ม มกี ารประชุมปลี ะ 2 – 3 ครัง้ เพอื่ แลกเปลย่ี นขอ้ มูลและแสวงหา ความรว่ มมือระหว่างกัน

โครงการส่ือการเรียนรู้ “อาเซียน กรู ”ู (Learning Package) 135 คณะกรรมการประสานงานด้านการคุ้มครองผู้บรโิ ภคของอาเซยี น ACCCP: ASEAN Coordinating Committee for Consumer Protection วตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ในดา้ นการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภคของอาเซยี นและ ส่งเสรมิ การรวมกล่มุ ทางเศรษฐกิจในภาพรวม คณะกรรมการทป่ี รึกษาดา้ นมาตรฐานและคณุ ภาพของอาเซยี น ACCSQ: ASEAN Consultative Committee on Standards and Quality ท�ำ หนา้ ทปี่ รบั ประสานมาตรฐานสนิ คา้ ของประเทศสมาชกิ อาเซยี นใหส้ อดคลอ้ งกบั มาตรฐานสากล เชน่ มาตรฐาน ISO เปน็ ต้น คณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น AEC Council: ASEAN Economic Community Council ทำ�หน้าท่ีกำ�กับดูแลและดำ�เนินงานเพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และให้แนวทางในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ รวมทั้งดูแลการดำ�เนินงานของรัฐมนตรี รายสาขาทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ดา้ นเศรษฐกจิ เชน่ สาขาการเงนิ คมนาคม และการเกษตร เปน็ ตน้ คณะกรรมการประสานงานด้านศุลกากรของอาเซียน CCC: Coordinating Committee on Custom มีการประชุมปลี ะ 2 ครั้ง เพอื่ กำ�กับการดำ�เนนิ การของหน่วยงานดา้ นศุลกากรใน สว่ นทเี่ ก่ียวข้องกับเขตการค้าเสรีอาเซียน คณะกรรมการประสานงานด�ำ เนนิ การภายใตค้ วามตกลง CEPT ส�ำ หรบั เขตการคา้ เสรี อาเซยี น CCCA: Coordinating Committee on the Implementation of the CEPT Scheme for AFTA (24) มหี น้าทใ่ี นการติดตาม ดแู ล และแก้ไขปัญหาการด�ำ เนนิ การยกเลิกมาตรการภาษี และมาตรการทมี่ ใิ ชภ่ าษภี ายในอาเซยี นตามความตกลง CEPT ส�ำ หรบั เขตการคา้ เสรอี าเซยี น

136 คำ�ศพั ท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรบั ตดิ ตอ่ ราชการและการประชุมระหว่างประเทศ คณะกรรมการประสานงานดา้ นการลงทุนของอาเซียน CCI: Coordinating Committee on Investment มีหนา้ ท่ีติดตามและดูแลการดำ�เนินการต่างๆ ภายใต้เขตการลงทุนอาเซยี น (AIA) ซงึ่ รวมถึงการเจรจาเปิดเสรีด้านการลงทุนภายในอาเซียนด้วย คณะกรรมการประสานงานด้านบรกิ ารของอาเซียน CCS: Coordinating Committee on Services จัดต้ังขึ้นตามมตขิ อง SEOM เพ่อื ดำ�เนินการเจรจาเปดิ เสรกี ารคา้ บรกิ ารระหว่าง ประเทศสมาชกิ อาเซยี นใหบ้ รรลตุ ามวตั ถปุ ระสงคข์ องกรอบความตกลงวา่ ดว้ ยบรกิ ารของ อาเซียน คณะท�ำ งานดา้ นเทคโนโลยสี ารสนเทศและอิเล็กทรอนิกสข์ องอาเซียน EAWG: E-ASEAN Working Group มีหน้าท่ีดำ�เนินงานความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ สนับสนุนการดำ�เนินการให้เป็นไปตามกรอบความตกลงด้านอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน ทม่ี งุ่ ใหอ้ าเซยี นเปน็ เขตเดยี วกนั ทางการสอ่ื สารดา้ นอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ซง่ึ ขอ้ มลู ทงั้ หมดสามารถ เช่ือมโยงถงึ กนั คณะท�ำ งานระดับสงู วา่ ด้วยการรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกิจของอาเซียน HLTF: High Level Task Force on ASEAN Economic Integration ประกอบด้วย ผู้แทนระดับปลัดกระทรวงเศรษฐกิจการค้าของประเทศสมาชิก อาเซยี น ต้งั ข้นึ เพื่อศกึ ษาและเสนอแนะรปู แบบและแนวทางของการดำ�เนนิ การ เพอ่ื ไปสู่ การเปน็ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) คณะท�ำ งานกฎวา่ ดว้ ยแหลง่ ก�ำ เนดิ สนิ คา้ ของอาเซียน ROO-TF: ASEAN Task Force on Rules of Origin ตง้ั ขน้ึ เพอ่ื ปรบั ปรงุ แกไ้ ขกฎวา่ ดว้ ยแหลง่ ก�ำ เนดิ สนิ คา้ ของอาเซยี นใหม้ คี วามชดั เจน เปน็ สากล และเออื้ อำ�นวยประโยชน์ต่อการคา้ ระหวา่ งกลุ่มสมาชิกอาเซยี น

โครงการสื่อการเรยี นรู้ “อาเซียน กูรู” (Learning Package) 137 คณะท�ำ งานดา้ นวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ่ มของเอเปค SME WG: Small and Medium Enterprises Working Group ช่ือเดิมคือ “กลุ่มเฉพาะกิจระดับนโยบายด้านวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม” มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมในภูมิภาคพัฒนาความสามารถ ในการแขง่ ขนั และสรา้ งบรรยากาศการคา้ และการลงทนุ ทเี่ ปดิ กวา้ งเพอื่ กระตนุ้ พฒั นาการ โครงการพฒั นาความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ สามฝา่ ย อินโดนเี ซีย-มาเลเซีย-ไทย IMT-GT: Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle โครงการพฒั นาความรว่ มมอื ทางเศรษฐกจิ สามฝา่ ย อนิ โดนเี ซยี -มาเลเซยี -ไทย เพอื่ เกื้อกูลกันทางเศรษฐกิจและสังคมในระหว่าง 3 ประเทศ โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากร ทางเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการผลิตการลงทุน การถ่ายทอด เทคโนโลยกี ารเชอื่ มโยงดา้ นโครงสรา้ งพน้ื ฐานเพอ่ื ลดตน้ ทนุ การขนสง่ ทง้ั นเี้ พอื่ ใหส้ ามารถ แขง่ ขนั ได้ในตลาดโลก พมิ พ์เขียว การจดั ตั้งประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น AEC Blueprint: ASEAN Economic Community Blueprint (1) การก�ำ หนดแผนงานภาพรวมดา้ นเศรษฐกจิ เพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายการเปน็ ประชาคม เศรษฐกจิ อาเซยี นในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) ทงั้ น้ี AEC Blueprint ไดก้ �ำ หนดยทุ ธศาสตร์ สำ�คัญ 4 ดา้ นหลกั คอื (1) การเป็นตลาดเดียวและฐานการผลิตร่วมกัน (Single market and production base) (2) การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียน (Highly competitive economic region) (3) การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค (Region of equitable economic development) (4) การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก (Fully integrated region into the global economy)

138 ค�ำ ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ สำ�หรับติดต่อราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ ฐานข้อมลู การคา้ อาเซียน ATR: ASEAN Trade Repository เป็นฐานข้อมูลด้านธุรกิจ การค้า การลงทุนในอาเซียน โดยมีการเชื่อมโยงกับ ฐานข้อมูลการคา้ ของแต่ละชาติ National Trade Repository รฐั มนตรเี ศรษฐกิจอาเซียน AEM: ASEAN Economic Ministers จะมีการประชุมเป็นประจำ�ทุกปี โดยแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนจะ ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพการประชุมตามลำ�ดับอักษร เพื่อวางนโยบายและกำ�หนด แนวทางในการขยายขอบเขตความรว่ มมือด้านเศรษฐกิจของอาเซียน สภาทป่ี รึกษาทางธุรกจิ ของอาเซียน ASEAN-BAC: ASEAN Business Advisory Council ประกอบด้วย ผู้แทนภาคเอกชนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศละ 3 คน เพ่ือเป็นช่องทางให้ภาคเอกชนอาเซียนสามารถให้ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะเก่ียวกับ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียนไดโ้ ดยตรง สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมของอาเซยี น ASEAN-CC: ASEAN Chamber of Commerce and Industry ประกอบด้วย ผแู้ ทนจากภาคเอกชนของประเทศอาเซยี น ท�ำ หนา้ ท่ีศกึ ษาติดตาม การดำ�เนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าของภาครัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพิจารณา ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะท่ีเป็นประโยชน์ต่อการกำ�หนดนโยบายด้านเศรษฐกิจของ อาเซียน ศนู ย์พลงั งานอาเซียน ACE: ASEAN Centre for Energy จัดต้ังท่ีกรุงจาการ์ตา เมื่อเดือนมกราคม 2542 มีหน้าที่ในการแสวงหา ความร่วมมือระหว่างสมาชิกอาเซียนและกับประเทศนอกภูมิภาค ในการศึกษาวิจัยและ ด�ำ เนนิ โครงการความร่วมมือเพอื่ การพัฒนาด้านพลงั งาน

โครงการสอื่ การเรียนรู้ “อาเซยี น กูร”ู (Learning Package) 139 ยุทธศาสตร์ความรว่ มมือทางเศรษฐกิจ อริ ะวด-ี เจ้าพระยา-แม่โขง ACMECS: Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy กรอบความร่วมมอื ระหวา่ ง 5 ประเทศ คือ กมั พชู า ลาว พมา่ ไทย และเวยี ดนาม มีแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความรว่ มมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำ�นวย ความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การ เชื่อมโยงเสน้ ทางคมนาคม การทอ่ งเทีย่ ว และการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ 4. ตัวยอ่ เก่ียวกับประชาคมการเมืองและความม่นั คง (APSC: ASEAN Political Security Community) (34) การไมแ่ พรข่ ยายอาวธุ นวิ เคลียร์ Nuclear Non-Proliferation การไมส่ ่งมอบอาวุธและเทคโนโลยีนิวเคลยี รแ์ ก่ประเทศทีไ่ ม่มอี าวธุ นวิ เคลียร์ และ การไมร่ บั หรอื แสวงหาอาวธุ หรือเทคโนโลยนี ิวเคลียรจ์ ากประเทศท่ีมีอาวุธนวิ เคลยี ร์ หน่วยงานด้านกฎหมายอาเซียน ASEAN Legal Unit ให้คำ�ปรึกษาและตีความกฎหมายและความตกลง/พิธีสารฉบับต่างๆ สำ�นักงาน อยู่ ณ กรงุ จากาตาร์ ประเทศอนิ โดนีเซยี คณะกรรมการชายแดนท่วั ไป GBC: General Border Committee ความร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดน ซ่ึงมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของ ไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วมกัน ทำ�หน้าท่ีกำ�หนดแนวทางและมาตรการ ที่เหมาะสมเก่ียวกับการส่งเสริมความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพใน พ้ืนที่บริเวณชายแดน โครงการต่อต้านขีปนาวธุ พิสยั กลางและไกล NMD: National Missile Defense โครงการพัฒนาขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธพิสัยกลางและไกล เพ่ือป้องกันขีปนาวุธ จากภายนอกประเทศของสหรฐั อเมรกิ า NMD จดั ตง้ั ภายในประเทศ สว่ น Theatre Missile Defense (TMD) เปน็ ระบบขปี นาวธุ ในยทุ ธบรเิ วณนอกประเทศ อาทิ พนื้ ทที่ ส่ี หรฐั อเมรกิ า มีฐานทัพอยู่ เปน็ ตน้

140 คำ�ศัพท์ไทย-องั กฤษ สำ�หรับติดตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ เจ้าหน้าท่ีอาวโุ สอาเซยี นดา้ นยาเสพตดิ ASOD: ASEAN Senior Officials on Drugs Matter ประกอบด้วย ผู้แทนระดับปลัดกระทรวงฯ ที่รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด ของประเทศสมาชิกอาเซียน มีการประชมุ ปีละหนึง่ ครง้ั เจา้ หน้าทอ่ี าวโุ สอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ASOEN: ASEAN Senior Officials on the Environment ประกอบดว้ ย ผแู้ ทนระดบั ปลดั กระทรวง มหี นา้ ทด่ี แู ลความรว่ มมอื ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ระหวา่ งประเทศสมาชกิ อาเซยี น และกับประเทศและองค์การอน่ื ๆ มกี ารประชุมปลี ะครง้ั สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ SEANWFZ Treaty: Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone Treaty สนธสิ ญั ญาของประเทศในเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตท้ งั้ 10 ประเทศ ลงนามในระหวา่ ง การประชมุ สดุ ยอดอาเซียนครั้งที่ 5 ณ กรุงเทพฯ เมือ่ ปี พ.ศ. 2538 มีวัตถปุ ระสงค์ในการ สง่ เสรมิ สนั ตภิ าพ และเสถยี รภาพของภมู ภิ าค และสง่ เสรมิ ความพยายามระหวา่ งประเทศ ในระดับภมู ภิ าคในการปอ้ งกันการแพร่ขยายอาวธุ นิวเคลยี ร์ 5. ตัวยอ่ เกยี่ วกับองค์การระหวา่ งประเทศทีค่ วรรู้ (IO: International Organization)(35) กองทนุ การเงินระหว่างประเทศ IMF: International Monetary Fund กองทุนที่ส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงิน อำ�นวยความสะดวกเพื่อให้เกิด ความเจรญิ เติบโตดา้ นการค้าระหวา่ งประเทศ กองทุนเพือ่ เดก็ แหง่ สหประชาชาติ หรอื ยูนิเซฟ UNICEF: United Nations Children’s Fund หน่วยงานของสหประชาชาติ เพ่ือให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พัฒนาการ สุขภาพ รวมถึงความเปน็ อยู่ของเด็กและแมใ่ นประเทศกำ�ลงั พัฒนา

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 141 การประชมุ สหประชาชาตวิ า่ ดว้ ยการคา้ และการพฒั นา หรอื องั คถ์ ดั UNCTAD: United Nations Conference on Trade and Development องค์การถาวรระหวา่ งรัฐบาลทเ่ี ปน็ เคร่อื งมือหลกั ของสหประชาชาติ ทจ่ี ัดการดา้ น การค้า การลงทนุ และการพฒั นา เปา้ หมายขององคก์ ารน้ี คอื การเพิม่ โอกาสทางการค้า การลงทนุ และการพฒั นา และชว่ ยเหลอื ประเทศเหลา่ นนั้ ในการเขา้ สรู่ ะบบเศรษฐกจิ โลก ในพนื้ ฐานแหง่ ความเท่าเทียม ขา้ หลวงใหญ่ผู้ลภ้ี ยั แหง่ สหประชาชาติ UNHCR: United Nations High Commissioner for Refugees ภารกจิ หลกั ขา้ หลวงใหญผ่ ลู้ ภี้ ัยแหง่ สหประชาชาติ คือ เปน็ ผู้นำ�และประสานงาน ในการรวบรวมความช่วยเหลือจากนานาประเทศ เพื่อปกป้องและแก้ปัญหาของผู้ลี้ภัย ทวั่ โลกและการปกปอ้ งสทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐานของผลู้ ภ้ี ยั โดยเฉพาะสทิ ธทิ จี่ ะอาศยั อยอู่ ยา่ งปลอดภยั ในรัฐอ่ืน คณะกรรมาธิการสทิ ธิมนษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ CHR: Commission on Human Rights หน้าที่รับผิดชอบในการเสาะหามาตรการในการส่งเสริมเร่ืองสิทธิมนุษยชน ในประเทศต่างๆ ท่ัวโลก รวมท้ังตรวจสอบและสอดส่องการดำ�เนินการด้านการส่งเสริม และค้มุ ครองสทิ ธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ คณะมนตรีเศรษฐกจิ และสังคม (แหง่ สหประชาชาติ) ECOSOC: Economic and Social Council องค์การหลักของสหประชาชาติที่ทำ�หน้าที่ในการศึกษาและรายงานเกี่ยวกับ เร่ืองระหว่างประเทศทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา อนามัย และอื่นๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง และจดั ท�ำ ค�ำ แนะน�ำ เสนอตอ่ สมชั ชา สมาชกิ ของสหประชาชาติ ตลอดจนทบวง การชำ�นาญพิเศษท่ีเกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการเคารพและการปฏิบัติตามสิทธิ มนุษยชน และอิสรภาพของมวลมนุษย์ ทั้งน้ี ประกอบด้วยสมาชิกของสหประชาชาติ 54 ประเทศ

142 ค�ำ ศพั ทไ์ ทย-อังกฤษ สำ�หรบั ตดิ ตอ่ ราชการและการประชุมระหวา่ งประเทศ คณะกรรมการกฎหมายระหวา่ งประเทศของสหประชาชาติ ILC: International Law Commission of the United Nations วัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมปรับปรุงกฎหมายระหว่างประเทศ รวมท้ังการทำ� ประมวลกฎหมายใหก้ ้าวหนา้ และทนั สมัย คณะมนตรีความม่นั คงแห่งสหประชาชาติ UNSC: United Nations Security Council หนว่ ยงานหนงึ่ ใน 6 หนว่ ยงานหลักของสหประชาชาติ คณะมนตรีนีป้ ระกอบด้วย สมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝร่ังเศส รัสเซีย สหราชอาณาจกั ร และสหรฐั อเมรกิ า และสมาชกิ ไมถ่ าวร (Non-permanent Members) 10 ประเทศ ซึง่ มาจากการเลอื กตั้ง โดยมีวาระการด�ำ รงต�ำ แหนง่ 2 ปี และไมส่ ามารถลง สมคั รรับเลือกตงั้ ช้ําได้ในทนั ทีเม่อื หมดวาระ ธนาคารเพื่อการส่งออกและน�ำ เขา้ EXIM BANK: Export-Import Bank หนว่ ยงานรฐั วสิ าหกจิ สงั กดั กระทรวงการคลงั จดั ตง้ั เมอื่ ปี พ.ศ. 2536 เพอ่ื ประกอบ ธุรกิจอันเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการส่งออก การนำ�เข้า และการลงทุนท้ังในและ ตา่ งประเทศ ธนาคารโลก IBRD: International Bank for Reconstruction and Development (World Bank) เรยี กวา่ ธนาคารเพอื่ การบรู ณะและพฒั นาระหวา่ งประเทศ ปจั จบุ นั ไดข้ ยายขอบเขต ของการบรกิ ารออกไปเปน็ การสนบั สนนุ การลงทนุ เพอื่ การพฒั นาและเพม่ิ ผลผลติ ในประเทศ ที่กำ�ลังพัฒนา เพ่ือยกระดับชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศสมาชิก ตามลักษณะกิจการที่จะลงทุนและตามความจำ�เป็น และยังช่วยเหลือสมาชิกด้วยการให้ บริการดา้ นความรู้และคำ�แนะน�ำ เกีย่ วกับการวางแผนการลงทุนและบรหิ ารการเงิน

โครงการส่อื การเรยี นรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 143 ศาลยุตธิ รรมระหวา่ งประเทศ (ศาลโลก) ICJ: International Court of Justice ตงั้ ข้นึ เม่ือปี 2488 (ค.ศ.1945) ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ ต้งั อยู่ ณ กรงุ เฮก ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ศาลยตุ ธิ รรมระหวา่ งประเทศถอื เปน็ องคก์ ารแหง่ ศาลหรอื แห่งตุลาการสำ�คัญท่ีสุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดท่ีเข้าเป็นภาคีของ กฎข้อบงั คับศาลโลก ย่อมมีสิทธทิ จี่ ะสง่ คดใี ดก็ตามใหศ้ าลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เง่อื นไข ท่ีคณะมนตรคี วามม่ันคงไดจ้ ัดวางไว้ สมัชชาแห่งสหประชาชาติ General Assembly of the United Nations สมชั ชาแหง่ สหประชาชาติ เปน็ ทปี่ ระชมุ และถกปญั หาตา่ งๆ ทเี่ ขา้ สวู่ าระการประชมุ และเพอ่ื แสดงความเหน็ ใหค้ �ำ ปรกึ ษา ขอ้ สงสยั ขอ้ แนะน�ำ ตลอดจนขอ้ โตแ้ ยง้ แกป่ ระเทศ สมาชิก รวมทง้ั คณะมนตรีความมัน่ คงแห่งสหประชาชาติ องค์การการค้าระหว่างประเทศ ITO: International Trade Organization วตั ถุประสงค์ส�ำ คัญขององคก์ าร คือ ต้องการขยายการคา้ โลกให้กวา้ งขวางขน้ึ ซงึ่ เป็นการช่วยให้มีมาตรฐานการครองชีพสูงข้ึน ขจัดการกีดกันการค้า หรือพยายามลดให้ เหลอื น้อยทส่ี ดุ เชน่ การตั้งข้อจำ�กัดโควตา้ เป็นตน้ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก UNESCO: United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization องค์การยูเนสโกมุ่งเน้นการส่งเสริมสันติภาพด้วยการส่งเสริมความร่วมมือของ นานาชาติ ด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม เพื่อให้ทั่วโลกเคารพในความ ยตุ ิธรรม กฎหมาย สิทธิ และเสรีภาพที่มนษุ ยพ์ ึงมี โดยไมถ่ ือ เชอ้ื ชาติ เพศ ภาษา หรอื ศาสนา ตามกฎบัตรสหประชาชาติ ยูเนสโกมีสำ�นักงานใหญ่อยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศ ฝร่งั เศส

144 คำ�ศพั ท์ไทย-อังกฤษ ส�ำ หรับตดิ ตอ่ ราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ องคก์ ารอนามยั โลก WHO: World Health Organization หน่วยงานระหว่างประเทศในสังกัดสหประชาชาติ ทำ�หน้าท่ีดูแลประสานงาน ด้านสาธารณสุข มีหน้าท่ีดังนี้ (1) อำ�นวยความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ ตามความ ต้องการเม่ือได้ร้องขอมา (2) จัดให้บริการด้านสุขภาพอนามัยแก่ประเทศต่างๆ ท่ัวโลก (3) ส่งเสริมและประสานงานด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระหว่างชาติเกี่ยวกับ ปัญหาสุขภาพต่างๆ (4) ทำ�หน้าที่แก้ปัญหาโรคที่ยังไม่สามารถรักษาได้ เช่น โรคซาร์ส ไข้หวัดนก เปน็ ต้น องคก์ ารทรัพยส์ นิ ทางปญั ญาแห่งโลก WIPO: World Intellectual Property Organization หนงึ่ ในองคก์ ารเฉพาะทางของสหประชาชาติ องคก์ ารไดร้ บั การกอ่ ตงั้ ขนึ้ ในปี 2510 (ค.ศ. 1967) “เพ่ือสง่ เสรมิ กิจการทางสรา้ งสรรค์ เพอื่ สนับสนุนการพิทักษ์ทรัพย์สินทาง ปัญญาไปท่ัวโลก” ในปจั จบุ นั องค์การท่มี ีสมาชกิ 184 ประเทศ บริหารสนธสิ ัญญาสากล 24 ฉบับ โดยมีส�ำ นกั งานกลางอยู่ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ องคก์ ารอุตนุ ยิ มวทิ ยาโลก WMO: World Meteorological Organization ทบวงช�ำ นาญการพเิ ศษขององคก์ ารสหประชาชาตสิ บื ตอ่ จากองคก์ ารอตุ นุ ยิ มวทิ ยา ระหวา่ งประเทศ (International Meteorological Organization) จดั ตั้งเมื่อปี 2416 (ค.ศ. 1873) มหี น้าที่ดา้ นอุตุนยิ มวทิ ยา อุทกวิทยาเชงิ ปฏิบัติการ และภูมศิ าสตร์กายภาพ แขนงที่เกยี่ วขอ้ ง องคก์ ารการคา้ โลก WTO: World Trade Organization เป็นองค์การนานาชาติสังกัดองค์การสหประชาชาติ (UN) ทำ�หน้าท่ีเก่ียวข้องกับ ข้อตกลงด้านการค้าระหว่างชาติ เป็นเวทีสำ�หรับการเจรจาต่อรอง ตกลงและขจัด ขอ้ ขดั แยง้ ในเง่ือนไขและกฎเกณฑ์ทางการค้า และการบรกิ ารระหว่างประเทศสมาชกิ

โครงการส่ือการเรียนรู้ “อาเซยี น กูรู” (Learning Package) 145 ชว่ งที่ 3 ตวั อย่างบทสนทนาทจ่ี ำ�เป็น ในการประชุมในบริบทอาเซียน 1. การทักทาย (Greetings) 2. การแนะน�ำ ตัวเอง (Self-Introduction) 3. การใหแ้ ละขอขอ้ มูลสว่ นตวั (Giving and Asking for Personal Information) 4. การกลา่ วขอบคณุ (Thanking) 5. การกลา่ วขอโทษ (Apologizing) 6. การกล่าวลา (Leave Taking) 7. ตัวอยา่ งบทการสนทนาในการประชุมในบริบทอาเซียน (Dialogues in ASEAN Meeting’s Context)

146 คำ�ศัพทไ์ ทย-องั กฤษ ส�ำ หรับติดต่อราชการและการประชมุ ระหว่างประเทศ 1. การทกั ทาย (Greetings) 1.1 การทักทายแบบเปน็ ทางการ (Formal Greetings) 1.2 การทักทายแบบไมเ่ ปน็ ทางการ (Informal Greetings) 1.1 การทักทายแบบเป็นทางการ (Formal Greetings) (36) ส่วนมากเราจะใช้ในสถานที่ท�ำ งาน หรือกบั ผู้มีคุณวฒุ ิสูงกวา่ /ผูท้ เี่ ราไมค่ ุ้นเคย เชน่ Hello. สวสั ดี How are you? คณุ เป็นอยา่ งไร การตอบ เชน่ I’m fine., I’m good. I’m very well. How are you doing? คุณเป็นอย่างไร การตอบ เชน่ I’m doing OK. การกลา่ วสวสั ดี สามารถแบ่งตามชว่ งเวลาได้ คือ สวัสดีตอนเชา้ Good morning. Good afternoon. สวัสดตี อนบ่าย Good evening. สวสั ดตี อนเย็น ตวั อย่างการทักทายและแนะน�ำ ตวั กับคนทเ่ี พงิ่ จะรจู้ ักกัน Preeda: Hello, my name is Preeda. I am from Thailand. สวสั ดีค่ะ ฉันชอ่ื ปรีดา ฉนั มาจากประเทศไทย Peter: Hello, Preeda. I am Peter. I am from Indonesia. สวสั ดีปรีดา ผมชอ่ื ปเี ตอร์ ผมมาจากประเทศอนิ โดนีเซยี Preeda: It’s nice to meet you, Peter. ยินดที ี่ได้รู้จกั ค่ะคณุ ปีเตอร์ Peter: Nice to meet you too. ยนิ ดีเช่นกันครับ

โครงการสื่อการเรยี นรู้ “อาเซยี น กรู ู” (Learning Package) 147 1.2 การทักทายแบบไม่เปน็ ทางการ (Informal Greetings) (37) การทกั ทายแบบไมเ่ ป็นทางสามารถทำ�ไดห้ ลายวิธี เชน่ “How are you?” สบายดมี ยั้ “long time no see” นานแลว้ ทีไ่ มไ่ ดเ้ จอ “What’s up? ” เป็นไงบ้าง (ไมเ่ ป็นทางการ) “คณุ เปน็ อย่างไรบา้ ง” How’ve you been? How’s it going? “สบายดี แล้วคณุ ล่ะ” OK, You? Good, You? Great, You? Fine, You? การทักทายบุคคลทีค่ ณุ ร้จู ักแลว้ เช่น “Hi Jobs, how are you?” สวัสดจี ๊อบส์ เปน็ อยา่ งไรบา้ ง “Hey James, how have you been?” หวดั ดเี จมส์ เปน็ ไงม่ัง การตอบรบั คำ�ทกั ทาย สบายดี ขอบคณุ นะ “Very well, thanks.” ก็งน้ั ๆ แหละ “So so.” 2. การแนะน�ำ ตวั เอง (Self-Introduction) 2.1 การแนะนำ�ตวั แบบไมเ่ ป็นทางการ (Informal Self Introduction) 2.2 การแนะน�ำ ตวั แบบเป็นทางการ (Formal Self Introduction) 2.3 สำ�นวนควรร้เู กีย่ วกับการแนะนำ�ตัวเอง (Useful Expressions)

148 คำ�ศพั ทไ์ ทย-อังกฤษ ส�ำ หรับตดิ ตอ่ ราชการและการประชมุ ระหวา่ งประเทศ 2.1 การแนะน�ำ ตวั แบบไมเ่ ปน็ ทางการ (Informal Self-Introduction) บทสนทนาเกย่ี วกับการแนะนำ�ตัวเอง Anya : Good morning. My name is Anya. สวัสดคี ่ะ ดิฉนั ชอ่ื อัญญา I’m from Bangkok, Thailand. ดฉิ ันมาจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย John : Good morning, Anya. I’m John. สวสั ดี อัญญา ผมชื่อจอห์น I’m from Jakarta, Indonesia. I’m a new student here. ผมมาจากประเทศอนิ โดนีเซยี ผมเปน็ นักเรียนใหมท่ น่ี ี่ Anya : Nice to meet you, John. ดใี จทไี่ ดร้ ู้จักคะ่ คุณจอห์น John : Nice to meet you too. ดใี จที่ได้รจู้ กั คณุ เช่นกัน 2.2 การแนะนำ�ตัวอยา่ งเป็นทางการ (Formal Self-Introduction) (36) การแนะนำ�ตัวอยา่ งเปน็ ทางการต่อท่ปี ระชุม Good morning Ladies and Gentlemen, สวสั ดีครบั สภุ าพบรุ ษุ และสุภาพสตรีทกุ ท่าน Let me introduce myself. My name is Pichai. ผมขออนญุ าตแิ นะน�ำ ตัวเอง ผมชือ่ พิชัย I am from Petchaburi, Thailand. ผมมาจากจงั หวัดเพชรบรุ ี ประเทศไทย I graduated from Thammasat University with MBA.

โครงการสอ่ื การเรียนรู้ “อาเซียน กูร”ู (Learning Package) 149 ผมสำ�เรจ็ การศึกษาปริญญาโทด้านบรหิ ารธุรกจิ ากมหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ I am the Marketing Manager of ABC Company, responsible for wooden toy products. ผมท�ำ งานเปน็ ผจู้ ดั การฝา่ ยการตลาดของบรษิ ทั เอบซี ี ดแู ลสนิ คา้ ของเลน่ ทท่ี �ำ จากไม้ It’s my pleasure to meet all of you here today. ผมรู้สกึ เปน็ เกียรตทิ ไ่ี ดพ้ บกบั ทกุ ท่านทน่ี ีใ่ นวันนี้ การแนะน�ำ เพื่อนหรือบคุ คลทส่ี ามใหร้ จู้ ักกนั Anya: Hi, John. สวัสดีจอหน์ John: Hello, Anya. What are you doing here? สวสั ดีอัญญา มาท�ำ อะไรทน่ี ่ี Anya: I have an appointment with my colleagues at 1 p.m. at the building near here. ฉนั มนี ดั กบั เพ่อื นรว่ มงานเวลาบา่ ยโมงทต่ี กึ แถวๆ น้ี John: Anya, May I introduce my friend to you first, this is Sam, from Singapore. He is my colleague at the Ministry of Foreign Affairs. Sam, this is Anya, my friend from Thailand. อญั ญา ฉันขอแนะน�ำ เพอ่ื นของฉันให้คุณรจู้ ัก นีค่ อื แซม มาจากประเทศสิงคโปร์ เขาเปน็ เพ่ือนร่วมงานของฉนั ที่กระทรวงการตา่ งประเทศ แซม น่ีคอื คณุ อัญญา เพอื่ นของผมจากประเทศไทย Anya: Hello Sam. Nice to meet you. สวัสดีคะ่ แซม ยนิ ดีที่ไดร้ จู้ กั Sam: Hello Anya. Pleased to meet you, too. สวัสดอี ญั ญา ยนิ ดที ีไ่ ดร้ ู้จักคุณเช่นกนั 2.3 ส�ำ นวนควรรู้ในการแนะน�ำ ตนเอง (Useful Expressions) (37) I am + ชือ่ เช่น I am Peter. My name is + ช่ือ เช่น My name is Joe.