Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PLC ปีการศึกษา 2563

PLC ปีการศึกษา 2563

Published by ยุทธนันต์ งามนา, 2022-04-26 13:59:07

Description: PLC ปีการศึกษา 2563

Search

Read the Text Version

ภาพการประชุม คร้งั ที่ 9 การวิเคราะหผ์ ลการจัดการเรียนรู้ ของ ครตู ้นแบบ Model Teacher

การนิเทศก์กิจกรรมการเรียนการสอน โดยศกึ ษานเิ ทศก์ กาแพง ไชยมาตย์



รปู การจดั กจิ กรรมการสอนของครู Buddy Teacher ครูจรญั ญา วะเกิดเป้ง

รปู การจดั กิจกรรมการสอนของครู Buddy Teacher ครูสกณุ า รันพศิ าล

บันทึกกิจกรรมชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ โรงเรียนเดอื่ ศรีไพรวัลย์ ช่ือกลุ่ม “ห้องเรยี นคณติ ศาสตร์” ครงั้ ที่ 10 ภาคเรียนท่ี 1/2563 วัน/เดือน/ปี : 28 สิงหาคม 2563 เริม่ ดาเนินการเวลา 15.30 น. เสรจ็ สิน้ เวลา 17.30 น. รวมระยะเวลาทง้ั สิ้น 2 ชั่วโมง กิจกรรมครง้ั นี้อยคู่ วามสอดคล้องกับการพัฒนาบทเรียนร่วมกนั (Lesson study) (ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่อง ) ข้ันท่ี 1 วเิ คราะหแ์ ละวางแผนการจดั การเรยี นรู้ (Analyze & Plan) ขั้นท่ี 2 ปฏิบตั ิและสงั เกตการเรียนรู้ (Do & See) ขนั้ ที่ 3 สะทอ้ นความคิดและปรับปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign) ข้นั ท่ี 4 ประเมนิ เพ่ือพัฒนาสมรรถนะครู (Evaluation) ข้นั ท่ี 5 สรา้ งเครือข่ายการพัฒนา (Network Development) จานวนครทู ่ีเขา้ ร่วมกจิ กรรม 7 คน โดยมรี ายชอ่ื และบทบาทต่อกิจกรรม ดังนี้ ที่ ชือ่ -สกลุ บทบาทหน้าท่ี ลายมือช่ือ 1 นายสทุ ัศน์ สวุ รรณโน ผอู้ านวยการโรงเรียน Administrator 2 นายพิทักษ์ สรอ้ ยสนธิ์ รองผู้อานวยการโรงเรียน Administrator 3 นายกาแพง ไชยมาตย์ ผูเ้ ชยี่ วชาญ Expert 4 นางสาวลาพนู อาแพงพนั ธ์ ครูใหค้ าปรึกษา Mentor 5 นายยทุ ธนนั ต์ งามนา ครูตน้ แบบ Model Teacher 6 นางสาวสกณุ า รนั พศิ าล ครรู ว่ มเรยี นรู้ Buddy Teacher 7 นางสาวจรญั ญา วะเกิดเป้ง ครรู ว่ มเรียนรู้ Buddy Teacher 1. สภาพหรอื กลุม่ ปญั หา นักเรยี นไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแสดงความคิดเหน็ เพราะกลัวตัวเองตอบผิด กลัวเพือ่ นล้อ ของนกั เรียนกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ 2. งาน/กจิ กรรม ประเมนิ เพื่อพัฒนาสมรรถนะครู (Evaluation) ครรู ่วมเรยี นรูค้ รัง้ ที่ 2 3. สมาชกิ ในกลุ่มนาเสนอแนวทางแก้ปัญหา หลังจากทีไ่ ดส้ ังเกตการสอนของครูรว่ มเรียนเรียนรู้ ได้แก่ ครูสกุณา รนั พิศาล ตามตารางสอน คือ วันท่ี 24, 25 สงิ หาคม 2563 จานวน 3 ชัว่ โมง และ ครูจรัญญา วะเกดิ เป้ง ในวนั ท่ี 26, 27 สงิ หาคม 2563 จานวน 3 ช่ัวโมง ซึง่ รวมเวลาการทดลองสอนโดยใชร้ ปู แบบแผนตามที่ Model

Teacher ของครทู ง้ั สอง 2 ท่าน เปน็ เวลาท้งั ส้ิน 7 ชวั่ โมง ประธานใหค้ รลู าพนู อาแพงพนั ธ์ ทป่ี รึกษา ประเมนิ การสอน ตามแบบสังเกตการณจ์ ัดกจิ กรรมการเรียนการสอน นเิ ทศ 01 พบวา่ ครสู กุณา รนั พิศาล ในข้นั Do Now มีกจิ กรรมใหน้ กั เรยี นฝึกการทางานของระบบประสาท โดย นา Brain Gym เขา้ มาใช้ในการนาเข้าสู่บทเรียน จดั ลาดบั การสอนตรงกับแผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ กาหนดจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่หี ลากหลาย ให้ผู้เรยี นฝึกค้นควา้ สังเกต รวบรวมขอ้ มูล วเิ คราะห์ คดิ อย่างหลากหลายและสรา้ งสรรค์ สามารถสร้างองค์ความรู้ไดด้ ้วยตนเองผู้เรียนมสี ว่ นรว่ ม แสดงความคดิ เห็น ค้นควา้ แสวงหาคาตอบดว้ ยตนเอง ผู้เรียนมีการเรยี นรู้จากสื่อทีห่ ลากหลายรูปแบบมี เครอื่ งมอื การวดั ผลและประเมินผลทม่ี ีคณุ ภาพ ดมี าก ครจู รญั ญา วะเกดิ เป้ง ครูมีในขนั้ Do Now มีเกมสม์ าใหน้ ักเรียนเลน่ กระตุ้นความสนใจของ นักเรียนได้ดี มีการ จัดลาดับการสอนตรงกบั แผนการจัดกรเรียนรทู้ ีก่ าหนดไว้ทุกข้นั เวลาทใ่ี ช้ในการสอน เหมาะสม มีกจิ กรรมใหผ้ ูเ้ รยี นได้ฝกึ ค้นคว้าและสงั เกตรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ คิดอยา่ งหลากหลายและ สรา้ งสรรค์ สามารถสรา้ งองค์ความรู้ไดด้ ้วยตนเอง ในการสอนมีสว่ นรว่ มแสดงความคิดเห็น คน้ ควา้ แสวงหาคาตอบด้วยตนเอง จัดบรรยากาศการเรยี นร้ทู ่ีดึงดูดความสนใจ ก่อให้เกดิ ความสขุ และเพลิดเพลิน แกผ่ เู้ รยี นมเี คร่ืองมือการวดั ผลและประเมินผลที่มคี ุณภาพ ดมี าก 4. ผลที่ไดจ้ ากการจดั กิจกรรม การจดั การสอนตามรปู แบบกระบวนการเทคนคิ การสบื เสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับการสอนคิด Thinking School (ร.ร. อบจ.เชยี งราย) และแนวคดิ ห้องเรียนกลับด้าน สามารถสรุปเปน็ ข้ันตอน ได้ 4 ขั้นตอน คือ ขัน้ ที่ 1 Do Now กระตนุ้ ผู้เรียน ข้นั ที่ 2 Purpose แจง้ ช่อื เรอื่ งที่จะเรียนและจดุ ประสงค์ การเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 3 Work Mode การจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนครูเป็นโค้ช (Coach) คอยช่วยเหลือ แนะนานกั เรยี น ข้นั ท่ี 4 Reflective thinking สะทอ้ นผลของการเรยี นในชั่วโมงสามารถแก้ปญั หา นกั เรยี นไม่กล้าออกความคิดเหน็ เพราะกลัวตัวเองตอบผิด กลวั เพอ่ื นล้อ ช้ันมัธยมศกษาปที ่ี 4 ได้ เนื่องจากมี ในรปู แบบท่ีการสอนท่ีกลุ่มสมาชิกไดร้ ่วมกนั วเิ คราะหม์ ีขน้ั ตอนการจดั กิจกรรมทไี่ ม่ซบั ซ้อน และเน้นการสื่อสารกับนักเรียน และมีกจิ กรรมท่ีนักเรียนได้แสดงความคดิ เหน็ ในการทางานมากยงิ่ ข้นึ มี การทางานเป็นกล่มุ ทาให้เกดิ การสอ่ื สารกนั ในกลมุ่ นักเรยี นแสดงความคิดเห็นได้มากข้ึน ครตู ้ังประเดน็ ถามใหน้ ักเรียนตอบบ่อย ๆ จึงทาให้ลดการประหม่า และครูไม่ชนี้ าคาตอบ หรือตอบว่าถกู หรอื ผดิ แต่ใช้ คาถามเชื่อมโยงสูก่ ารคดิ วเิ คราะห์ของนักเรียน จนนักเรียนสามารถค้นหาคาตอบไดด้ ว้ ยตนเอง ประธานแจ้งใหก้ ลุ่มPCL “หอ้ งเรียนคณติ ศาสตร์”ให้นารูปแบบการสอนท่ีได้สงั เคราะห์ขน้ึ นาเขา้ ทป่ี ระชมุ เพอื่ แจ้งผลการจดั ทากลุ่ม PLC “หอ้ งเรียนคณติ ศาสตร์”ขยายผลกับครูผสู้ อนกล่มุ สาระอื่น ๆ โดยให้ Model Teacher ดาเนนิ รปู แบบขยายผลใหก้ บั ครูในลาดบั ต่อไป เลกิ ประชุมเวลา 17.30 น. (ลงชอ่ื )..........................................ผบู้ นั ทกึ (นายยทุ ธนนั ต์ งามนา)

(ลงช่อื )............................................ (ลงชื่อ)............................................... (นางสาวลาพนู อาแพงพนั ธ์) (นายพทิ ักษ์ สร้อยสนธิ์) หวั หนา้ ฝา่ ยวชิ าการ รองผู้อานวยการโรงเรียนเดอื่ ศรีไพรวัลย์ (ลงชอื่ )........................................ (นายสุทศั น์ สุวรรณโน) ผ้อู านวยการโรงเรยี นเดอ่ื ศรีไพรวัลย์

ภาพการประชุม คร้งั ที่ 10 การวเิ คราะห์ผลการจดั การเรยี นรู้ ของ ครูรว่ มเรยี นรู้





บนั ทึกกิจกรรมชุมชนแหง่ การเรียนร้ทู างวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ โรงเรยี นเด่อื ศรีไพรวัลย์ ช่ือกลุ่ม “ห้องเรียนคณติ ศาสตร์” ครง้ั ที่ 11 ภาคเรียนที่ 1/2563 วนั /เดอื น/ปี : 28 สิงหาคม 2563 เร่มิ ดาเนินการเวลา 14.30 น. เสร็จสิน้ เวลา 17.30 น. รวมระยะเวลาทง้ั สิ้น 3 ชั่วโมง กจิ กรรมคร้ังน้ีอยคู่ วามสอดคลอ้ งกับการพัฒนาบทเรียนรว่ มกัน (Lesson study) (ทาเครื่องหมาย ลงในช่อง ) ขัน้ ที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจดั การเรียนรู้ (Analyze & Plan) ขนั้ ท่ี 2 ปฏิบัตแิ ละสังเกตการเรยี นรู้ (Do & See) ข้นั ท่ี 3 สะทอ้ นความคดิ และปรบั ปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign) ขัน้ ที่ 4 ประเมนิ เพื่อพัฒนาสมรรถนะครู (Evaluation) ขั้นท่ี 5 สรา้ งเครือขา่ ยการพัฒนา (Network Development) จานวนครทู เี่ ขา้ ร่วมกิจกรรม 7 คน โดยมีรายช่อื และบทบาทต่อกิจกรรม ดงั น้ี ท่ี ชื่อ-สกลุ บทบาทหนา้ ท่ี ลายมือชือ่ 1 นายสทุ ศั น์ สุวรรณโน ผอู้ านวยการโรงเรียน Administrator 2 นายพิทักษ์ สร้อยสนธิ์ รองผ้อู านวยการโรงเรยี น Administrator 3 นายกาแพง ไชยมาตย์ ผู้เช่ยี วชาญ Expert 4 นางสาวลาพนู อาแพงพันธ์ ครูให้คาปรึกษา Mentor 5 นายยุทธนันต์ งามนา ครูต้นแบบ Model Teacher 6 นางสาวสกุณา รันพิศาล ครรู ่วมเรยี นรู้ Buddy Teacher 7 นางสาวจรัญญา วะเกดิ เป้ง ครูร่วมเรยี นรู้ Buddy Teacher 1. สภาพหรือกลุ่มปญั หา นักเรียนไม่กลา้ แสดงออก ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวตวั เองตอบผิด กลวั เพ่อื นล้อ ของนักเรียนกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ 2. งาน/กจิ กรรม สรา้ งเครือขา่ ยการพัฒนา (Network Development) 3. ผลทีไ่ ด้จากการจดั กิจกรรม Model Teacher ได้ นาเสนอแนวทางการการแกป้ ัญหา นกั เรยี นไม่กล้าออกความคิดเห็นเพราะกลวั ตัวเองตอบผดิ กลวั เพ่อื นล้อ ของนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 เขา้ ในท่ีประชุมของโรงเรยี น โดยช้ีแจง รายละเอยี ดดังนี้

การจดั การสอนตามรปู แบบกระบวนการเทคนิคการสบื เสาะหาความรู้(5E) ร่วมกับการสอนคิด Thinking School (ร.ร. อบจ.เชยี งราย) และแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน สามารถสรุปเป็นขน้ั ตอน ได้ 4 ขัน้ ตอน คือ ขน้ั ที่ 1 Do Now กระต้นุ ผ้เู รียน ขั้นท่ี 2 Purpose แจง้ ชอื่ เร่อื งท่ีจะเรียนและจุดประสงค์ การเรยี นรู้ ข้นั ที่ 3 Work Mode การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนครเู ปน็ โคช้ (Coach) คอยช่วยเหลอื แนะนานกั เรยี น ขนั้ ที่ 4 Reflective thinking สะท้อนผลของการเรียนในชัว่ โมงสามารถแกป้ ญั หา นักเรยี นไม่กลา้ ออกความคิดเหน็ เพราะกลัวตวั เองตอบผิด กลวั เพ่ือนล้อ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ได้ เน่ืองจากมี ในรปู แบบทก่ี ารสอนท่ีกลุ่มสมาชกิ ไดร้ ว่ มกันวเิ คราะห์มีข้นั ตอนการจดั กจิ กรรมทไ่ี ม่ซบั ซ้อน และเน้นการสื่อสารกบั นักเรยี น และมีกจิ กรรมท่ีนักเรียนได้แสดงความคดิ เห็นในการทางานมากยิ่งขนึ้ มี การทางานเป็นกลมุ่ ทาให้เกดิ การส่อื สารกันในกลมุ่ นักเรียนแสดงความคิดเห็นได้มากข้ึน ครูต้ังประเด็น ถามให้นักเรยี นตอบบ่อย ๆ จึงทาให้ลดการประหมา่ และครูไมช่ น้ี าคาตอบ หรอื ตอบว่าถูกหรอื ผดิ แต่ใช้ คาถามเชื่อมโยงสูก่ ารคิดวเิ คราะห์ของนักเรยี น จนนักเรยี นสามารถค้นหาคาตอบได้ด้วยตนเองและได้แจ้ง ในท่ปี ระชมุ ในเร่ืองการการขยายผลการการทา PLC ให้กับครูในสังกดั อบจ.สกลนครที่สนใจต่อไป เลกิ ประชุมเวลา 17.30 น. (ลงชอ่ื )..........................................ผ้บู นั ทึก (นายยทุ ธนนั ต์ งามนา) (ลงช่ือ)............................................ (ลงชอ่ื )............................................... (นางสาวลาพนู อาแพงพนั ธ์) (นายพทิ ักษ์ สร้อยสนธิ์) หัวหนา้ ฝ่ายวชิ าการ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นเดอื่ ศรไี พรวัลย์ (ลงชื่อ)........................................ (นายสุทศั น์ สวุ รรณโน) ผ้อู านวยการโรงเรยี นเด่ือศรีไพรวลั ย์

ภาพการประชมุ ครั้งท่ี 11 การประชุมขยายผลขยายผลในโรงเรยี น





บันทึกกจิ กรรมชุมชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ โรงเรียนเดือ่ ศรีไพรวลั ย์ ชอ่ื กลุ่ม “ห้องเรยี นคณติ ศาสตร์” ครัง้ ท่ี 12 ภาคเรียนท่ี 1/2563 วนั /เดอื น/ปี : 16-17 พฤศจกิ ายน 2563 เริม่ ดาเนินการเวลา 8.00 น. เสรจ็ สน้ิ เวลา 16.00 น. รวมระยะเวลาทง้ั ส้ิน 12 ช่วั โมง กิจกรรมคร้งั นีอ้ ย่คู วามสอดคลอ้ งกับการพฒั นาบทเรียนรว่ มกนั (Lesson study) (ทาเคร่ืองหมาย ลงในช่อง ) ขนั้ ที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจดั การเรยี นรู้ (Analyze & Plan) ขั้นที่ 2 ปฏิบตั แิ ละสังเกตการเรยี นรู้ (Do & See) ข้นั ที่ 3 สะทอ้ นความคิดและปรับปรงุ ใหม่ (Reflect & Redesign) ข้ันที่ 4 ประเมนิ เพื่อพฒั นาสมรรถนะครู (Evaluation) ข้ันท่ี 5 สร้างเครอื ข่ายการพัฒนา (Network Development) จานวนครทู เี่ ขา้ ร่วมกิจกรรม 7 คน โดยมรี ายชือ่ และบทบาทตอ่ กิจกรรม ดังนี้ ท่ี ช่ือ-สกลุ บทบาทหน้าท่ี ลายมือช่ือ 1 นายสทุ ัศน์ สุวรรณโน ผู้อานวยการโรงเรียน Administrator 2 นายพิทักษ์ สรอ้ ยสนธ์ิ รองผอู้ านวยการโรงเรยี น Administrator 3 นายกาแพง ไชยมาตย์ ผู้เชย่ี วชาญ Expert 4 นางสาวลาพูน อาแพงพนั ธ์ ครูให้คาปรึกษา Mentor 5 นายยุทธนันต์ งามนา ครูตน้ แบบ Model Teacher 6 นางสาวสกณุ า รันพศิ าล ครรู ่วมเรียนรู้ Buddy Teacher 7 นางสาวจรญั ญา วะเกิดเปง้ ครูรว่ มเรยี นรู้ Buddy Teacher 1. สภาพหรือกลุม่ ปัญหา นักเรยี นไม่กล้าแสดงออก ไมก่ ล้าแสดงความคิดเหน็ เพราะกลัวตัวเองตอบผดิ กลัวเพือ่ นล้อ ของนกั เรยี นกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ 2. งาน/กิจกรรม สรา้ งเครือขา่ ยการพัฒนา (Network Development) 3. ผลทไี่ ดจ้ ากการจดั กิจกรรม Model Teacher ได้ นาเสนอแนวทางการการแก้ปัญหา นกั เรียนไม่กลา้ ออกความคิดเห็นเพราะ กลัวตวั เองตอบผิด กลวั เพื่อนล้อ ของนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ใหก้ ับกลุ่มครเู ครือข่ายสงั กัด อบจ. สกลนคร โดยชีแ้ จงรายละเอียดดังน้ี

การจัดการสอนตามรูปแบบกระบวนการเทคนิคการสบื เสาะหาความรู้(5E) รว่ มกบั การสอนคิด Thinking School (ร.ร. อบจ.เชียงราย) และแนวคดิ หอ้ งเรียนกลับด้าน สามารถสรปุ เปน็ ข้นั ตอน ได้ 4 ขัน้ ตอน คือ ข้ันที่ 1 Do Now กระต้นุ ผ้เู รยี น ขั้นท่ี 2 Purpose แจง้ ชือ่ เร่อื งที่จะเรยี นและจดุ ประสงค์ การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 3 Work Mode การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนครเู ป็นโค้ช (Coach) คอยชว่ ยเหลอื แนะนานักเรียน ขัน้ ที่ 4 Reflective thinking สะทอ้ นผลของการเรยี นในช่ัวโมงสามารถแกป้ ญั หา นกั เรยี นไม่กล้าออกความคิดเห็นเพราะกลัวตัวเองตอบผิด กลัวเพอื่ นล้อ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ได้ เน่ืองจากมี ในรูปแบบทกี่ ารสอนท่ีกลุ่มสมาชกิ ไดร้ ว่ มกันวเิ คราะหม์ ีข้ันตอนการจดั กิจกรรมท่ไี ม่ซับซ้อน และเนน้ การสื่อสารกบั นักเรยี น และมกี ิจกรรมท่นี ักเรียนได้แสดงความคดิ เหน็ ในการทางานมากย่งิ ขึน้ มี การทางานเป็นกลุ่มทาให้เกิดการสือ่ สารกนั ในกลุ่ม นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ได้มากข้ึน ครูตงั้ ประเด็น ถามใหน้ ักเรยี นตอบบ่อย ๆ จึงทาใหล้ ดการประหมา่ และครไู ม่ชน้ี าคาตอบ หรอื ตอบว่าถกู หรือผดิ แต่ใช้ คาถามเชื่อมโยงสกู่ ารคิดวเิ คราะหข์ องนักเรียน จนนักเรียนสามารถคน้ หาคาตอบไดด้ ว้ ยตนเอง เลิกประชุมเวลา 16.00 น. (ลงชอื่ )..........................................ผบู้ นั ทกึ (นายยุทธนนั ต์ งามนา) (ลงชอื่ )............................................ (ลงชอ่ื )............................................... (นางสาวลาพูน อาแพงพนั ธ)์ (นายพทิ ักษ์ สรอ้ ยสนธ์ิ) หัวหนา้ ฝ่ายวชิ าการ รองผอู้ านวยการโรงเรยี นเด่ือศรไี พรวลั ย์ (ลงชอ่ื )........................................ (นายสุทัศน์ สวุ รรณโน) ผ้อู านวยการโรงเรียนเดื่อศรีไพรวลั ย์

ภาพการประชมุ คร้ังท่ี 12 การประชุมขยายผลขยายผลใน โรงเรียนสังกดั อบจ.สกลนครให้กบั ครูทีส่ นใจ









ผลการดาเนินกจิ กรรมชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูท้ างวชิ าชพี 1. หลักการและเหตุผล ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้เชิงวชิ าชพี (Professional Learning community : PLC) หมายถึง การ รวมกลุ่ม กนั ของครูผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษา ในลักษณะของชมุ ชนเชิงวิชาการท่ีมีเปา้ หมายเพื่อ พฒั นาคณุ ภาพ การศึกษา โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรจู้ ากการปฏิบัติ การถอดบทเรยี น และการแลกเปล่ยี น เรยี นรู้ รว่ มกันอยา่ ง ต่อเนื่อง (ราชบัณฑิตยสถาน, 2558) จากผลการวิจัยของ สุรพล ธรรมร่มดี (2553) ยืนยนั วา่ การดาเนินการในรปู แบบ PLC นาไปส่กู าร เปลี่ยนแปลงเชงิ คณุ ภาพท้งั ด้านวิชาชพี และผลสัมฤทธิ์ ของนักเรยี น โดย มีผลดที งั้ ต่อครผู ้สู อนและนักเรียน ในแงผ่ ลดี ตอ่ ครผู ู้สอน พบว่า PLC สง่ ผลตอ่ ครูผสู้ อน กล่าวคือลดความร้สู กึ โดดเดี่ยวในงานสอนของครู เพมิ่ ความรสู้ ึกผกู พนั ตอ่ พันธกิจและเป้าหมายของ โรงเรียนมากขน้ึ โดยเพ่ิมความกระตือรือรน้ ทจ่ี ะปฏิบัตใิ ห้บรรลุพันธกิจอยา่ งแขง็ ขนั จนเกดิ ความรสู้ กึ ว่า ตอ้ งการรว่ มกันเรยี นรแู้ ละรบั ผิดชอบตอ่ พฒั นาการโดยรวมของนักเรยี น ถือเปน็ พลังการเรยี นรซู้ ึง่ ส่งผล ให้ การปฏิบัตกิ ารสอนในชั้นเรียนให้มีผลดยี งิ่ ข้นึ รวมทัง้ เข้าใจบทบาทและพฤติกรรมการสอนทจี่ ะชว่ ยให้ นกั เรียนเกิด การเรียนรู้ไดด้ ีที่สดุ ซง่ึ จะเกิดจากการคอยสงั เกตอย่างใสใ่ จในแงข่ องผลดตี ่อผเู้ รียนพบวา่ PLC สามารถลดอัตราการ ตกซา้ ช้ัน และจานวนช้นั เรยี นท่ตี ้องเล่อื นหรือชะลอการจัดการเรยี นรูใ้ หน้ ้อยลง อัตราการขาดเรยี นลดลงมีผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียนในวิชาคณิตศาสตร์และวชิ าการอา่ นที่สูงข้นึ อยา่ ง เดน่ ชดั สุดท้ายคือมีความแตกตา่ งด้าน ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนระหวา่ งกลุม่ นักเรียนทมี่ ีภูมหิ ลังไม่ เหมือนกนั ลดลงอย่างชัดเจน จากการศึกษาประโยชนข์ องกระบวนการดังกลา่ ว ผูจ้ ดั ทาจึงเกิดความคดิ ที่ จะนากระบวนการ PLC (Professional Learning Community) เพอ่ื เปน็ การปรับปรงุ แก้ปัญหาการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้รว่ มกัน และรว่ มกนั พฒั นานวัตกรรมท่ีใช้ในการแก้ปญั หาเกย่ี วกบั การจดั การเรยี นร้แู ก่ นกั เรียนในแตล่ ะกิจกรรมการเรียนรู้ ตลอดจนพฒั นา ทักษะการทางานเป็นทีม โดยไดเ้ ริ่มดาเนนิ กจิ กรรม กับนกั เรยี นระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เพ่ือแกไ้ ขปัญหาที่เกิดขนึ้ จริงในหอ้ งเรยี น คอื นักเรียนไมก่ ล้า แสดงออก ไมก่ ลา้ แสดงความคดิ เห็น เพราะกลัวตัวเองตอบผดิ กลัวเพอ่ื นลอ้ ของนักเรยี นกลมุ่ สาระการ เรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ สง่ ผลใหน้ ักเรยี นไม่ประสบผลสาเร็จในการเรยี นและเป็นอปุ สรรคต่อการจัดการเรยี น การสอน 2. วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้นักเรียนมคี วามกลา้ แสดงออก กลา้ แสดงความคดิ เหน็ 2. เพอ่ื ใหน้ ักเรียนเกิดความม่ันใจในตนเอง 3. เพ่ือให้นักเรียนมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนในระดบั ทสี่ ูงขน้ึ 4. เพอ่ื ปรบั พฤติกรรมของนักเรยี นท่ีมีปญั หาให้เปลี่ยนไปในทางทดี่ ีข้ึน 5. มีนวตั กรรมหรือคู่มอื การใชท้ มี่ ีความเหมาะสมและเรา้ ความสนใจของผ้เู รียน

3. วธิ ีการดาเนินงาน  แนวทางการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการสรา้ งชุมชนการเรยี นรูท้ างวิชาชพี (PLC) 1.สรา้ งกลมุ่ ชุมชนแหง่ การเรียนรู้ข้ึน มา 1 กลมุ่ โดยเป็นครกู ล่มุ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ 3. จัดทาโครงการ/กิจกรรม การสร้างชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ (PLC)  กระบวนการของ PLC ข้ันตอนที่ 1 Community สร้างทมี ครู ขน้ั ตอนท่ี 2 Practice จดั การเรยี นรู้ เชน่ การวิเคราะห์หน่วยการเรยี นรู้ ร่วมกันออกแบบกิจกรรม การเรียนรใู้ นการจัดทาแผนการเรยี นรู้ เพื่อแกป้ ัญหา หรอื พัฒนา และนาสู่การปฏบิ ัติ โดยมกี ารเปิด หอ้ งเรยี น เพ่ือการสงั เกตการณส์ อน เครอ่ื งมือในการประเมิน - แบบนเิ ทศ 01 แบบสงั เกตการณจ์ ัดกิจกรรมการเรียนการสอน ขัน้ ตอนท่ี 3 Reflection สะทอ้ นคิดเพื่อการพฒั นาการปฏบิ ัติ ขน้ั ตอนที่ 4 Evaluation ประเมนิ เพอ่ื พฒั นาสมรรถนะครู ข้นั ตอนท่ี 5 Network Development สร้างเครอื ข่ายการพฒั นา

บทบาทหน้าทข่ี องสมาชกิ กล่มุ ตามกระบวนการ PLC - Model Teacher หมายถงึ ครูผรู้ บั การนิเทศ หรือครผู ู้สอน - Buddy Teacher หมายถงึ ครคู นู่ เิ ทศ หรือครูรว่ มเรยี นรู้ - Mentor หมายถึง หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ - Expert หมายถึง ผ้เู ชยี่ วชาญ เชน่ ครู คศ.3 นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลยั ศึกษานิเทศก์ - Administrator หมายถงึ ผู้บรหิ ารโรงเรียน - Recorder หมายถงึ ผู้บันทึกรายงานการประชมุ 4. วนั เวลา สถานท่ี ในการดาเนนิ งาน ระยะเวลา : ตั้งแต่ วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 – 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 สถานท่ี : โรงเรียนเดอ่ื ศรไี พรวลั ย์ 5. สรุปผลการดาเนินงาน  ประเดน็ ดา้ นผูเ้ รียน 1. พฤติกรรมของนักเรยี นท่ีมีปญั หาเปลย่ี นไปในทางท่ีดีข้นึ ตามข้อตกลงท่ีตั้งไว้ นกั เรยี นมีความ กระตือรอื ร้น มีความกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเหน็ มีความมัน่ ใจในตัวเองมากยง่ิ ขึ้น และมสี ่วน รว่ มในชนั้ เรียนมากขนึ้ ซึ่งดูผลไดจ้ ากหลกั ฐานผลงานตา่ ง ๆ ที่แสดงถึงด้านความรู้ ความเขา้ ใจ กระบวนการ คิด กระบวนการเรียนรู้ และผลการเรียนตา่ ง ๆ ของนักเรียน นกั เรียนมีการทบทวนเน้อื หา ก่อนเขา้ เรียนผ่านกระบวกการ สอนคดิ แบบ Thinking School 4 Step ท่ีครูสร้างข้ึน โดยนกั เรียนมสี ว่ น รว่ มในการบวนการเรยี นการสอนทาให้การเรียนรู้ในชนั้ เรยี นเปน็ ไปได้อยา่ งรวดเรว็ ยิงข้นึ 2. นกั เรยี นไดม้ สี ว่ นรว่ มในกระบวนการเรยี นการสอน กลา้ แสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก มี ความมน่ั ใจในตัวเองมากขนึ้ ประเด็นดา้ นกิจกรรม - ลกั ษณะ ความเหมาะสม ประสทิ ธภิ าพของกิจกรรม ขน้ั ตอนของกระบวนการเรียนการ สอน วิธกี ารสอน เทคนิคการสอนต่าง ๆ มีประสทิ ธภิ าพ - กจิ กรรมมีลาดับขัน้ ตอนและความต่อเนื่อง - กิจกรรมมคี วามเหมาะสม สอดคล้องกบั จุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนรู้ และการวดั และประเมนิ ผล - การบรหิ ารจดั การชั้นเรียน การจัดช้ันเรยี น วิธีการคุมชนั้ เรียน หรอื การจดั กล่มุ เพ่ือทา กจิ กรรม - ครูและผ้เู รยี นมีปฏิสมั พันธ์/การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ - กจิ กรรมการเรียนร้นู าไปสูก่ ารพฒั นาความสามารถของผูเ้ รียน - การกาหนดเวลาและโครงสร้างเหมาะสมกบั เน้ือหา บทเรียน ระดบั ความสามารถของ ผ้เู รยี น

ประเดน็ ดา้ นครู - ครมู ีการใช้คาถาม คาส่งั คาอธิบาย หรอื การใช้ส่อื ได้ทันสมัยและหลากหลายมากขน้ึ มีการ กระตุ้นผู้เรียนให้กลา้ แสดงความคดิ เหน็ กลา้ แสดงออก โดยผ่านขัน้ ตอน Do Now ทาให้การสอนนา่ สนใจ และกระตุ้นผเู้ รยี นมากขนึ้ - ครูมกี ารเรยี งลาดับข้ันตอนการนาเสนอประเด็นคาถาม คาสั่ง หรือคาอธบิ าย - มกี ารเสรมิ แรงของครู  ประเดน็ สอื่ การสอน - ส่อื กจิ กรรมและแหล่งการเรียนรู้มีความถูกตอ้ ง เหมาะสม มปี ระสทิ ธภิ าพ (ดา้ นคณุ ภาพ) - สือ่ มีความเพียงพอ เหมาะสม (ด้านปรมิ าณ) - สือ่ มคี วามหลากหลาย นาเทคนิคการสอนแบบ Thinking School 4 Step มาใช้ ประเดน็ ด้านบรรยากาศ - สภาพแวดลอ้ มของช้ันเรยี น หรอื สถานทเี่ รยี นมผี ลตอ่ ประสิทธภิ าพของการจัดการเรยี นการสอน และการเรยี นรู้ของผู้เรียน - การยอมรบั ความคิดเหน็ คาถาม และการชว่ ยเหลือของผู้เรยี น - บทเรียนสง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนสรา้ งความคิด คาถาม ขอ้ คาดเดา และ/หรือข้อเสนอ 6. อภปิ รายผลการดาเนินงาน 6.1 ผลลัพธ์ทเ่ี กิดจากกระบวนการ 1) มีองคค์ วามรู้ นวตั กรรม และประเด็นความรู้ทน่ี ่าสนใจ ทเี่ กิดขึ้นจากการแลกเปลย่ี น เรยี นรขู้ องสมาชิก เครือขา่ ย ท่ีเปน็ ประโยชนก์ บั ครู และครูสามารถนาไปใช้ในการพัฒนาให้เกดิ ประโยชน์ กับผเู้ รียนได้อย่างเป็นรปู ธรรม (สมาชกิ เครือขา่ ยมีการนาไปใชไ้ ดอ้ ย่างชดั เจน) 2) มีร่องรอยการรายงานผลการนาองค์ความรู้ นวตั กรรม และประเด็นความรทู้ ่ีน่าสนใจ ที่เกิดขึน้ ของ สมาชกิ เครือขา่ ยไปใช้ตลอดระยะท่ดี าเนนิ โครงการทุกครั้งที่มีการแลกเปล่ียนเรยี นรูโ้ ดย สมาชกิ ทกุ คน 6.2 ผลลัพธ์ที่เกิดกับผูเ้ รียน / ครู / สมาชิกท่ีเข้าร่วมเครือขา่ ย PLC 1) ผเู้ รียนไดก้ ารเรียนรู้ตามเป้าหมาย และวตั ถปุ ระสงค์ที่กาหนดไวท้ ุกประการ และมคี วามชดั เจน ท้งั เชิงปริมาณและคุณภาพ 2) ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของผูเ้ รียนดีข้ึน และทาใหผ้ ้เู รยี นไดพ้ ัฒนาและเกิดคุณลกั ษณะอย่าง ชัดเจน 3) กจิ กรรมทกุ กจิ กรรมของสมาชิกในกล่มุ PLC ส่งผลใหผ้ เู้ รียนเกิดแรงบนั ดาลใจ เปน็ ผูใ้ ฝเ่ รียนรู้ มีความ กระตอื รือรน้ ในการเรียน 4) สมาชกิ ทีเ่ ข้ารว่ มเครือข่าย PLC ทุกคนเกดิ การเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมการจดั การเรยี นรู้ และ การดูแลผูเ้ รยี น

6.3 คุณคา่ ที่เกิดต่อวงการศึกษา 1) มีเครือข่ายทช่ี ัดเจน และการขยายเครือขา่ ยแล้วและมคี วามชดั เจน เป็นรูปธรรมและมแี นวโนม้ การ เกิดเครือข่ายเพิ่มข้นึ 2) การรว่ มกันรบั ผิดชอบตอ่ การเรยี นรขู้ องนักเรยี น ให้ผลการเรียนรูท้ ต่ี อ้ งการให้เกิดข้ึนในตัว นกั เรยี น โดยครทู เ่ี ป็นสมาชกิ ในชุมชนการเรียนร้ทู างวิชาชพี ทุกคนวางเปา้ หมายรว่ มกัน 7. ผลทเ่ี กิดจากการดาเนนิ งาน 7.1 ได้นวัตกรรมในการแก้ไขปญั หา 7.2 ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนกั เรียนดีขน้ึ หรอื เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ตี กลงกันไว้ 7.3 พฤติกรรมของนักเรยี นท่ีมปี ญั หาเปล่ยี นไปในทางท่ดี ขี ึ้นตามข้อตกลงท่ีตง้ั ไว้ 7.4 นาไปสู่การพฒั นาวชิ าชพี หลักฐานในการรายงานตามหลักเกณฑ์การประเมนิ ผลงงานท่ีเกิด จากการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีการสอน เพ่อื ประกอบการมีหรอื เล่ือนวทิ ยฐานะในข้ันต่อไป 8. ร่องรอย/หลกั ฐาน 8.1 แผนการจดั การเรยี นรู้ Thinking School 4 Step พร้อมบนั ทึกหลงั สอน 8.2 แบบสังเกตการณจ์ ดั กจิ กรรมการเรียนการสอนของ Buddy Teacher 8.3 ภาพการพูดคุย ปรกึ ษากับสมาชกิ กลุ่ม PLC , ภาพกจิ กรรมการเรียนการสอน ภาพการนิเทศการสอน 9. บทเรียนท่ไี ด้จากการดาเนินงาน ครูผสู้ อนไดเ้ ลง็ เหน็ ถึงปัญหาท่ีหลากหลายในห้องเรียน และพฤติกรรมของนกั เรียนทแ่ี ตกตา่ งกัน ในแตล่ ะ บุคคล รวมไปถึงเรยี นร้ทู จ่ี ะหาแนวทางในการแก้ปญั หาในสถานการณท์ ี่แตกต่างกนั ผา่ นการ อภิปรายรว่ มกนั กบั เพ่ือน ครูและนักเรียน 10. สิ่งท่ีจะดาเนนิ การต่อไป นากระบวนการจัดกิจกรรม Thinking School 4 Step ทส่ี รา้ งขึ้นเผยแผ่และขยายผลให้กบั ครทู ้ัง ในโรงเรยี นและนอกโรงเรยี น และผ้ทู สี่ นใจต่อไป 11. ปญั หา /อุปสรรค การพบปะพูดคยุ ระหวา่ งครูผู้สอนประจาวชิ าไม่ค่อยตอ่ เน่ืองเท่าทคี่ วร บางคร้งั ครผู ูส้ อนมีภาระ นอกเหนืองานสอนมาก จงึ ไม่สะดวกในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

12. ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีเครือข่ายออนไลน์เป็นส่ือกลางในการตดิ ต่อแลกเปล่ียนประสบการณร์ ะหว่างครูท่ีทางาน ร่วมกนั 2. เพ่มิ ช่วั โมงแลกเปล่ียนเรียนร้ใู นแต่ละระดับชนั้ นอกเหนือจากชวั่ โมงแลกเปลีย่ นเรียนร้ทู ่ีทาง วิชาการจดั ให้ ในแต่ละกล่มุ สาระ นิเทศ 01 แบบสงั เกตการณจ์ ดั กิจกรรมการเรยี นการสอน Model Teacher ช่อื ครูผูส้ อน........นายยทุ ธนนั ต์ งามนา.............หอ้ งทสี่ อน..............ห้องคณติ ศาสตร.์ .............. รายวิชา ………คณติ ศาสตร์………รหัสวชิ า.. ค31201......เรอื่ ง เซต วันท่ี....................เดอื น...............พ.ศ...................…. ที่ รายการ ระดับคุณภาพ ขอ้ สังเกต 543 2 1 1 ครดู าเนนิ การสอนตามลาดับของแผนการจัดการเรยี นรู้ 2 จดั กจิ กรรมการเรียนรูด้ ้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย 3 จดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ ห้ผ้เู รียนฝึกคน้ ควา้ สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล วิเคราะห์ คิดอยา่ งหลากหลายและ สรา้ งสรรค์ สามารถสรา้ งองค์ความรู้ได้ดว้ ยตนเอง 4 กระตนุ้ ใหผ้ ู้เรียนมสี ว่ นรว่ มแสดงความคิดเหน็ ค้นควา้ แสวงหาคาตอบด้วยตนเอง 5 ใหผ้ ูเ้ รียนมกี ารเรยี นรจู้ ากสื่อทีห่ ลากหลายรูปแบบ 6 มกี ารสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ให้แรงเสริมกบั ผเู้ รียนในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 7 จดั บรรยากาศการเรยี นรู้ท่ีดงึ ดดู ความสนใจ ก่อใหเ้ กิด ความสุขและเพลิดเพลนิ แก่ผเู้ รียน 8 มีกระบวนการวัดผลและประเมนิ ผลตามสภาพจริง 9 มีเครื่องมือการวัดผลและประเมนิ ผลทม่ี คี ณุ ภาพ 10 การมสี ่วนร่วมในการวัดผลและประเมนิ ผล รวม ระดับคุณภาพ 5 = มากที่สดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = น้อย 1= ไม่ปฏิบตั ิ สรุปเร่ืองท่ตี อ้ งปรบั ปรุง ............................................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการปรับปรงุ ไปพฒั นาใหด้ ีกวา่ เดิม ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ....................................................ผู้นเิ ทศการสอน (นางสาวลาพูน อาแพงพันธ์) หวั หน้าฝ่ายวชิ าการ

นเิ ทศ 01 แบบสงั เกตการณจ์ ดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน Buddy Teacher ชอ่ื ครผู สู้ อน........นางสาวสกณุ า รันพิศาล.............ห้องที่สอน..............ห้องคณิตศาสตร.์ .............. รายวชิ า ………คณิตศาสตร์………รหัสวชิ า...ค23101.......เรอ่ื ง.....พนื้ ที่ผิวและปริมาตร........ วนั ท่ี................เดือน..................พ.ศ.................. ท่ี รายการ ระดับคุณภาพ ขอ้ สงั เกต 543 2 1 1 ครดู าเนนิ การสอนตามลาดบั ของแผนการจัดการเรียนรู้ 2 จดั กจิ กรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยวิธีการท่หี ลากหลาย 3 จัดกจิ กรรมการเรยี นรูใ้ ห้ผ้เู รียนฝกึ คน้ คว้า สงั เกต รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ คิดอย่างหลากหลายและ สรา้ งสรรค์ สามารถสร้างองค์ความร้ไู ดด้ ้วยตนเอง 4 กระตุ้นใหผ้ ้เู รยี นมสี ว่ นรว่ มแสดงความคิดเห็น คน้ คว้า แสวงหาคาตอบดว้ ยตนเอง 5 ใหผ้ ู้เรียนมีการเรียนรู้จากส่ือที่หลากหลายรปู แบบ 6 มีการสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ให้แรงเสริมกบั ผู้เรยี นในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 7 จัดบรรยากาศการเรยี นร้ทู ี่ดงึ ดดู ความสนใจ ก่อใหเ้ กิด ความสุขและเพลิดเพลินแก่ผู้เรยี น 8 มีกระบวนการวัดผลและประเมนิ ผลตามสภาพจริง 9 มีเคร่อื งมอื การวัดผลและประเมินผลทมี่ คี ณุ ภาพ 10 การมสี ่วนรว่ มในการวดั ผลและประเมินผล รวม ระดับคณุ ภาพ 5 = มากที่สดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1= ไม่ปฏิบัติ สรปุ เร่อื งทต่ี อ้ งปรับปรงุ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ................ ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการปรบั ปรงุ ไปพฒั นาให้ดกี ว่าเดมิ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... .. ลงชอื่ ....................................................ผู้นเิ ทศการสอน (นางสาวลาพูน อาแพงพันธ์) หัวหนา้ ฝ่ายวิชาการ

นิเทศ 01 แบบสังเกตการณ์จดั กิจกรรมการเรียนการสอน Buddy Teacher ชื่อครูผู้สอน........นางสาวจรญั ญา วะเกิดเป้ง.............หอ้ งทส่ี อน..............ห้องคณติ ศาสตร.์ .............. รายวิชา ……คณิตศาสตร์………รหัสวชิ า...ค21101.......เรอื่ ง...........จานวนเต็ม....... วันท.่ี ..................เดอื น.......................พ.ศ............…. ท่ี รายการ ระดบั คณุ ภาพ ขอ้ สงั เกต 543 2 1 1 ครูดาเนินการสอนตามลาดบั ของแผนการจดั การเรยี นรู้ 2 จัดกิจกรรมการเรยี นรูด้ ้วยวธิ กี ารท่ีหลากหลาย 3 จดั กิจกรรมการเรยี นรู้ใหผ้ เู้ รียนฝกึ คน้ ควา้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู วิเคราะห์ คิดอย่างหลากหลายและ สร้างสรรค์ สามารถสรา้ งองค์ความรไู้ ด้ด้วยตนเอง 4 กระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนรว่ มแสดงความคิดเหน็ ค้นคว้า แสวงหาคาตอบดว้ ยตนเอง 5 ให้ผู้เรียนมีการเรยี นร้จู ากสื่อทีห่ ลากหลายรูปแบบ 6 มกี ารสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ให้แรงเสรมิ กับ ผเู้ รียนในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 7 จัดบรรยากาศการเรียนรทู้ ี่ดงึ ดูดความสนใจ ก่อให้เกิด ความสขุ และเพลิดเพลินแก่ผู้เรียน 8 มีกระบวนการวดั ผลและประเมินผลตามสภาพจริง 9 มีเครอ่ื งมือการวดั ผลและประเมนิ ผลท่ีมคี ณุ ภาพ 10 การมสี ่วนรว่ มในการวัดผลและประเมนิ ผล รวม ระดับคณุ ภาพ 5 = มากที่สดุ 4 = มาก 3 = ปานกลาง 2 = นอ้ ย 1= ไม่ปฏบิ ัติ สรปุ เรอื่ งทต่ี อ้ งปรบั ปรงุ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการปรับปรุงไปพัฒนาให้ดกี วา่ เดมิ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ....................................................ผู้นเิ ทศการสอน (นางสาวลาพูน อาแพงพันธ)์ หัวหน้าฝ่ายวชิ าการ

บรรณานกุ รม เกศทิพย์ ศุภวานิช.(2561) การพฒั นาและกระบวนการPLC สสู่ ถานศกึ ษา.สานักพัฒนาครแู ละ บุคลากรการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน. เอกสารประกอบการบรรยาย.เชยี งใหม่:สพป.เชยี งใหม่ เขต3. รชั ศกั ด์ิ แกว้ มาลา. (2560). คูม่ อื การพัฒนาตนเองและวิชาชีพเพื่อรกั ษาและยกระดับมาตรฐาน วทิ ยฐานะครู ตาม ว20,ว21,ว22. หนว่ ยพัฒนาครู(นติ ิบคุ คล)ในใบกากบั ของสถาบนั ครุ ุ พัฒนา หจก.เพ่ือครู.อุบลราชธาน.ี สุรพล ธรรมรม่ ดี, ทศั นยี ์ จันอินทร์, และคงกฤช ไตรยวงค์. (2553).อาศรมศิลป์วิจัย : การวิจยั และ พัฒนาชุมชนแห่งการเรียนรู้ แนวจิตตปัญญา. โครงการเอกสารวชิ าการการเรียนรูส้ ู่ การเปล่ยี นแปลง ลาดบั ท่ี 8. นครปฐม: เอม่ี เอน็ เตอร์ไพรส์ จากดั . ศราวธุ สุตะวงค.์ สอนคดิ ตามแนวทาง Thinking School. กรุงเทพฯ : นานมบี ุค๊ , 2562.

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค31201 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง เซต แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เบ้ืองต้นเกย่ี วกบั เซต เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 ชือ่ ผู้สอน นายยทุ ธนนั ต์ งามนา ตาแหนง่ ครู คศ.2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. สาระสาคญั การเขียนเซตมสี องแบบ คือ เขยี นแบบแจกแจงสมาชกิ และเขยี นแบบบอกเงื่อนไขของสมาชกิ การใช้ สญั ลักษณแ์ ทนเซตและสมาชิกของเซต ชนดิ ของเซตประกอบด้วย เซตว่าง เซตจากัด และเซตอนนั ต์ การ เทา่ กันของเซต 2. มาตรฐาน / ตัวช้ีวัด 1. เขา้ ใจและใช้ความรเู้ กย่ี วกบั เซต ในการสื่อสารและสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. เนอ้ื หา / สาระการเรยี นรู้ ความรู้เบื้องต้นและสญั ลักษณ์พ้ืนฐานเก่ยี วกับเซต 4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - ใบงานที่ 1.1 - แบบฝกึ ทักษะ 1.1 5. เครอื่ งมือการคิด Diagram 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ Do Now (3 นาที) เกมทายตัวเลขปริศนาท่ีครเู ตรียมเอาไว้ ( 12 ) นักเรียนยกมือตอบ โดยครูตอบ มากกวา่ น้อย กวา่ จนกว่านกั เรยี นจะตอบได้ถกู ต้อง Purpose (2 นาที) เราจะเรียน ความรู้เบ้ืองตน้ และสัญลกั ษณ์พน้ื ฐานเกีย่ วกบั เซต Work Mode (80 นาที) 1. ครกู ระตุน้ ความสนใจของนกั เรียนโดยให้นกั เรียนดภู าพหน้าหนว่ ย จากนนั้ ครยู กสถานการณ์ ของภาพหนา้ หน่วย จากหนังสือเรยี นหนา้ 2 แล้วให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ หมายเหต*ุ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั เฉลยคาถาม BIG QUESTION หลังเรยี นหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 2. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สนทนาจากหนา้ ควรรูก้ ่อนเรยี น เกี่ยวกบั การแบ่งสตั วเ์ ปน็ 2 กลุม่ ว่าใช้ หลักในการแบ่งกลมุ่ อยา่ งไร เพอื่ เชื่อมโยงไปสู่การแบง่ กลุ่มของจานวนทางคณิตศาสตร์

3. ครูใหน้ กั เรียนพิจารณาประโยคต่อไปน้ี หนงั สือกองหนึ่ง ลงิ ฝูงหนงึ่ ชา้ งโขลงหนง่ึ ไพ่สารับหนงึ่ คณะกรรมการนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 จากนนั้ ครูอธิบายว่า ประโยคข้างต้นกลา่ วถึงลกั ษณะของกลมุ่ ซงึ่ เราทราบแนน่ อนว่ามีสิ่งใดอยู่ ในกลุม่ และสงิ่ ใดไมอ่ ยู่ในกลุ่ม ซง่ึ ในทางคณิตศาสตร์จะเรียกวา่ เซต 4. ครบู อกความหมายของเซต สัญลักษณ์การเขยี นแทนเซต และวธิ ีการเขียนเซตแบบแจกแจงสมาชกิ และ แบบบอกเงอื่ นไขของสมาชกิ 5. ครยู กตัวอย่างเซตบนกระดาน แล้วตั้งคาถามดงั น้ี  เซตของชือ่ วนั ในหน่งึ สปั ดาห์มีสมาชกิ อะไรบ้าง (แนวตอบ อาทติ ย์ จนั ทร์ อังคาร พธุ พฤหัสบดี ศกุ ร์ เสาร์)  เซตของชอ่ื วนั ในหน่ึงสปั ดาห์เขยี นแบบแจกแจงสมาชกิ ได้อยา่ งไร (แนวตอบ A = { อาทติ ย์, จนั ทร์, องั คาร, พุธ, พฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์ })  เซตของชอ่ื วนั ในหน่ึงสัปดาหเ์ ขียนแบบบอกเงื่อนไขได้อย่างไร (แนวตอบ A = { | เปน็ ชือ่ วันในหน่ึงสัปดาห์ })  เซตของจานวนเต็มเขยี นแบบแจกแจงสมาชิกได้อยา่ งไร และมีจานวนสมาชกิ ของเซตเท่าใด (แนวตอบ A = { … , -3, -2, -1, 0, 1, 2, 3, … } จะได้ว่า มสี มาชิกมากมายนบั ไม่ถ้วน)  เซตของจานวนเต็มท่ีอยรู่ ะหว่าง -5 ถึง 5 เขยี นแบบแจกแจงสมาชกิ ได้อย่างไร และมจี านวน สมาชิก ของเซตเทา่ ใด (แนวตอบ A = { -4, -3, -2, -1, 0, 1, 2, 3, 4 } จะได้วา่ มีสมาชกิ 9 ตวั )  เซตของจานวนเตม็ บวกท่ีอยู่ระหวา่ ง -1 ถงึ 1 เขยี นแบบแจกแจงสมาชิกได้อยา่ งไร และมี จานวน สมาชิกของเซตเท่าใด (แนวตอบ ไม่มจี านวนเต็มบวกท่ีอยู่ระหว่าง -1 ถงึ 1 จะไดว้ ่า มสี มาชิก 0 ตวั ) 6. ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ วา่ เซตทีส่ ามารถบอกจานวนสมาชิกได้ เรียกวา่ เซตจากัด และเซตทไี่ ม่ สามารถบอกจานวนสมาชกิ ได้ เรยี กวา่ เซตอนนั ต์ และเวตที่มสี มาชิก 0 ตวั หรอื ไมม่ สี มาชิกอยู่เลย เรยี กว่าเซตว่าง 7. ครเู ขียนบทนยิ ามเซตจากดั เซตอนันต์ และเซตว่าง พร้อมทงั้ บอกสญั ลกั ษณจ์ านวนสมาชกิ ของ เซต จากดั ใด ๆ และสัญลักษณข์ องเซตว่าง และเนน้ ย้าวา่ เซตว่างเป็นเซตจากัด เพราะเปน็ เซตท่มี ี สมาชิก 0 ตวั 8. ครูให้นักเรียนร่วมกันทางานโดยใหเ้ ครื่องมือ Mind Map โดยแบง่ เป็นกลุ่ม 9. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยการบา้ น ครเู ขยี นเซตของจานวนตา่ ง ๆ และบอกสัญลกั ษณแ์ ทนการเขยี นเซต จากนนั้ ให้นักเรียนอา่ น “คณิตน่ารู้” จากหนงั สือเรยี นหน้า 6 และอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เกยี่ วกับการใช้สัญลักษณ์ของจานวน เต็ม Reflective Thinking (5 นาที)

1. 2 ส่ิงท่นี กั เรียนไดร้ บั จาการเรียนในวนั น้ี 2. ครถู ามตอบนกั เรียนเพื่อทบทวนความรู้ ความรูเ้ บื้องต้นเกี่ยวกบั เซต 3. ครใู หน้ ักเรยี นสรปุ ความร้รู วบยอดเร่ือง ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกับเซต ลงในสมุด 4. ตวั อย่างข้อสอบ 7. สอื่ ส่อื การเรียนรู้ 1) หนังสือเรยี นรายวชิ าเพ่ิมเติม คณติ ศาสตร์ ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เซต 2) หนังสือแบบฝกึ หัดรายวิชาเพ่ิมเติม คณิตศาสตร์ ม.4 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เซต 3) ใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกบั เซต 4) ใบงาน Diagram แหล่งการเรยี นรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหล่งชุมชน 3) อินเทอร์เน็ต 8. วิธวี ัดผล 1. ประเมินใบงาน 2. ตรวจแบบฝึกหดั แนวทางการแกไ้ ขปัญหา

ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ(ก่อนการนาแผนการสอนไปใช)้ ลงช่ือ.................................................................หวั หนา้ กลุ่มสาระ ( นายยทุ ธนนั ต์ งามนา ) ความคิดเห็นของผ้ตู รวจทาน ลงช่อื ..............................................................ผตู้ รวจทาน ( นายสุทัศน์ สุวรรณโน ) ผอู้ านวยการโรงเรียน ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ(หลังการนาแผนการสอนไปใช)้ ลงชื่อ.................................................................หวั หนา้ กลุ่มสาระ ( นายยทุ ธนนั ต์ งามนา )

แบบตรวจใหค้ ะแนนแบบฝกึ หดั เลขท่ี ชอื่ – สกลุ ข้อ รวม ผลการประเมิน (15) 12345 ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์การให้คะแนน 1. แสดงวิธที าและเขียนคาตอบครบถว้ น ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์ 3 คะแนน 2. แสดงวธิ ที าแนวทางถูกตอ้ งแต่คานวณเลขหรือเรียงคาตอบผิด 2 คะแนน 3. แสดงวิธีทาแนวทางผิดและเขียนคาตอบผดิ 1 คะแนน 4. ไม่แสดงวธิ ที าและไมเ่ ขียนคาตอบ 0 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 – 15 ดมี าก 8 – 11 ดี 4 – 7 พอใช้ 0 – 3 ปรับปรงุ เกณฑ์การสรุปผลการประเมนิ นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไป ผา่ น

แบบประเมนิ ใบงาน เร่ือง ......................................................................................... คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมนิ กาหนดตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram ลาดับ ช่อื – สกุล รปู แบบ เนอื้ หา นาเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปการการ ที่ ของผู้ประเมนิ (4) (4) (4) สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน (4) (4) ผา่ น/ไม่ผ่าน ลงชอื่ ............................................................................ผปู้ ระเมิน () ...................... / ........................................./ ............................ เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 18 – 20 ดีมาก 14 – 17 ดี 10 – 13 พอใช้ ตา่ กวา่ 10 ปรบั ปรงุ นกั เรยี นไดร้ ะดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขึน้ ไปถอื วา่ ผา่ น

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน เกณฑก์ าร ระดับการประเมนิ ประเมิน รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) การแสดงความ คิดเห็น -ครบองคป์ ระกอบ -ครบองค์ประกอบ -ครบองคป์ ระกอบ -ครบองค์ประกอบ -เปรียบเทียบส่งิ ท่ี -เปรยี บเทียบสง่ิ ที่ เนือ้ หา -เปรยี บเทียบส่ิงทเ่ี หมือน -เปรียบเทียบสงิ่ ที่ เหมือนและตา่ งได้ เหมือนและตา่ งได้ ตรงตามเน้ือหาอยา่ ง ตรงตามเน้ือหาอยา่ ง การนาเสนอ และต่างได้ตรงตาม เหมือนและต่างไดต้ รง ถกู ต้อง ถกู ต้อง ต่ากวา่ 60 – 79 % 59 % ความสวยงาม เน้ือหาอย่างถูกต้อง ตามเนอื้ หาอยา่ ง สมบรู ณ์ ถูกต้อง 80 – 99 % -แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเห็น แสดงความคดิ เหน็ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของ ผลกระทบของ เหตกุ ารณ์ได้ 10 ข้อข้ึน เหตกุ ารณ์ได้ 8 – 9 ข้อ ปญั หา/เหตกุ ารณ์ได้ ปัญหา/เหตกุ ารณ์ได้ ไป 5 – 7 ขอ้ นอ้ ยกวา่ 5 ข้อ -เนอื้ หาครบถว้ นตาม เนอ้ื หาครบถว้ นตาม เนอ้ื หาครบถว้ นตาม เน้ือหาครบถ้วนตาม สาระท่ีกาหนด สาระทีก่ าหนด สาระท่กี าหนด สาระทกี่ าหนด 100 % 80 – 99 % 60-79 % 59 % -เขยี นถกู ต้องตามหลัก -เขียนถกู ต้องตามหลกั -เขียนถูกต้องตาม -เขียนถกู ต้องตาม ภาษา 100 % ภาษา 80-99 % หลักภาษา60-79 % หลกั ภาษา 59 % -ลาดบั หวั ขอ้ เน้อื หา -ลาดับหัวข้อเนอื้ หา -มกี ารสรปุ ได้อย่าง -มกี ารสรุปได้อย่าง ชัดเจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล สมเหตุสมผล 59 % -มีการสรปุ ได้อย่าง -มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง 60-79 % สมเหตสุ มผล 100 % สมเหตสุ มผล 80-99% -พูดชัดเจนเสยี งดังฟังชดั -พูดชดั เจนเสียงดงั ฟัง -การพดู เหมาะสม -สามารถพูกนาเสนอ -ใช้ภาษาทางการถูกต้อง ชัด -ใชภ้ าษาทางการ ได้ ตามอักขระ 100 % -ใช้ภาษาทางการ ถูกต้องตามอักขระ -ใช้ภาษาทางการ -บุคลิกภาพดีและมีความ ถูกต้องตามอกั ขระ 60-79% ถูกต้องตามอักขระ ม่นั ใจ 80-99 % -บุคลกิ ภาพเหมาะสม 59% -มกี ารใชส้ อื่ ประกอบการ -บคุ ลิกภาพดี -บุคลิกภาพเหมาะสม นาเสนอ -ความพรอ้ มในการ -ความพรอ้ มในการ นาเสนอได้บางสว่ น นาเสนอ -ใช้สสี ันสวยงาม -ใช้สีสันสวยงาม -ใช้สีสันสวยงามและ ใช้สสี นั สวยงามหรอื -มคี วามสะอาด -มคี วามสะอาด มคี วามสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์ -มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ -มคี วามคดิ สร้างสรรค์ อย่างใดอย่างหน่ึง -ความเปน็ ระเบียบอา่ น ง่าย

ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ียวกบั เซต คาชีแ้ จง : ให้นักเรยี นตอบคาถามในแต่ละข้อต่อไปน้ี 1. ให้เขยี นเซตตอ่ ไปนแี้ บบแจกแจงสมาชกิ 1) เซตของจานวนคู่บวกทนี่ ้อยกว่า 25 ………………………………………………………………………………………................................................................ 2) เซตของจานวนเตม็ ลบทม่ี ากกวา่ – 100 ………………………………………………………………………………………................................................................ 3) { | เป็นจานวนเตม็ ท่มี ากกว่า 3 และน้อยกว่า 15 ………………………………………………………………………………………................................................................ 4) { | เป็นจานวนเตม็ ทอ่ี ยูร่ ะหว่าง 5 กบั 6 ………………………………………………………………………………………................................................................ 5) { | โดยท่ี เป็นจานวนนับ ………………………………………………………………………………………................................................................ 2. ให้เขยี นเซตต่อไปนี้แบบบอกเงื่อนไขของสมาชกิ 1) A = { ………………………………………………………………………………………................................................................ 2) B = { ………………………………………………………………………………………................................................................ 3) C = { ………………………………………………………………………………………................................................................ 4) D = { ………………………………………………………………………………………................................................................ 5) E = { ………………………………………………………………………………………................................................................

3. เซตตอ่ ไปนี้ เซตใดเปน็ เซตจากดั เซตใดเป็นเซตอนนั ต์ เพราะเหตใุ ด 1) A = { ………………………………………………………………………………………................................................................ 2) B = { ………………………………………………………………………………………................................................................ 3) C = { | เปน็ จานวนเตม็ บวก และ ………………………………………………………………………………………................................................................ 4) D = { | เปน็ จานวนจริง และ ………………………………………………………………………………………................................................................ 5) E = { | เป็นจานวนเต็มท่ีหารด้วย 10 ลงตวั ………………………………………………………………………………………................................................................ 4. เซตในแตล่ ะขอ้ ตอ่ ไปนมี้ ีเซตใดบ้างทเี่ ทา่ กนั 1) A = { B={ ………………………………………………………………………………………................................................................ 2) C = { D={ ………………………………………………………………………………………................................................................ 3) E = { F={ { ………………………………………………………………………………………................................................................ 4) G = { | เปน็ จานวนเต็มทหี่ ารด้วย 3 ลงตวั H={ ……………………………………………………………………………………................................................................... 5) J = { | เป็นจานวนเตม็ ลบ และ K={ ………………………………………………………………………………………................................................................ 6) M = { | เปน็ จานวนคท่ี ่นี อ้ ยกว่า 9 N={ ………………………………………………………………………………………................................................................ 7) P = { | เป็นจานวนตรรกยะ และ Q={ ………………………………………………………………………………………................................................................ 8) S = { | เป็นจานวนเต็ม และ T={ ………………………………………………………………………………………................................................................

ใบงานท่ี 1.1 เฉลย เรื่อง ความรู้เบ้ืองตน้ เกย่ี วกบั เซต คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามในแตล่ ะข้อต่อไปนี้ 1. ใหเ้ ขียนเซตตอ่ ไปนีแ้ บบแจกแจงสมาชิก 1) เซตของจานวนคู่บวกท่นี ้อยกวา่ 25 { 2, 4, 6, 8, … , 24 } ………………………………………………………………………………………............................................................... 2) เซตของจานวนเตม็ ลบทม่ี ากกวา่ – 100 { - 2, - 4, - 6, … , - 98 } ……………………………………………………………………………………................................................................... 3) { | เป็นจานวนเตม็ ทีม่ ากกว่า 3 และน้อยกว่า 15 { 4, 5, 6, … , 14 } ………………………………………………………………………………………............................................................... 4) { | เป็นจานวนเต็มทอ่ี ยู่ระหว่าง 5 กบั 6 ………………………………………………………………………………………............................................................... 5) { | เมื่อ เปน็ จานวนนบั { 7, 9, 11, 13, … } ………………………………………………………………………………………................................................................ 2. ใหเ้ ขยี นเซตต่อไปนี้แบบบอกเงือ่ นไขของสมาชิก 1) A = { ……{…x…|………………เม…่ือ…n…เ…ป็น…จ…า…นว…น…น…บั …} ……………………………................................................................... 2) B = { { x | เมื่อ n เป็ นจานวนเตม็ } ………………………………………………………………………………………................................................................ 3) C = { { x | เมอื่ n เป็ นจานวนนบั ทไี่ มเ่ กิน 50 } ………………………………………………………………………………………................................................................ 4) D = { { x | เมื่อ n เป็ นจานวนนบั } ………………………………………………………………………………………................................................................ 5) E = { {x n เมอ่ื n เป็ นจานวนนบั ท่ีไมเ่ กิน 100 } n+ ………………………………………………………………………………………................................................................ 3. เซตตอ่ ไปนี้ เซตใดเปน็ เซตจากดั เซตใดเปน็ เซตอนนั ต์ เพราะเหตุใด

1) A = { เซตอนนั ต์ เพราะมสี มาชิกมากมายนบั ไมถ่ ้วน ………………………………………………………………………………………................................................................ 2) B = { เซตจากดั เพราะมสี มาชิก 10 ตวั ………………………………………………………………………………………................................................................ 3) C = { | เป็นจานวนเต็มบวก และ เซตจากดั เพราะเป็ นเซตวา่ ง มีสมาชิก 0 ตวั ………………………………………………………………………………………................................................................ 4) D = { | เปน็ จานวนจรงิ และ เซตอนนั ต์ เพราะมสี มาชิกมากมายนบั ไมถ่ ้วน ………………………………………………………………………………………................................................................ 5) E = { | เปน็ จานวนเต็มท่หี ารด้วย 10 ลงตวั เซตอนนั ต์ เพราะมสี มาชิกมากมายนบั ไมถ่ ้วน ………………………………………………………………………………………................................................................ 4. เซตในแตล่ ะขอ้ ตอ่ ไปนมี้ ีเซตใดบ้างที่เท่ากนั 1) A = { B={ A=B ………………………………………………………………………………………................................................................ 2) C = { D={ ……C…=…D……………………………………………………………………………................................................................ 3) E = { F={ { ……E…≠……F………………………………………………………………………................................................................... 4) G = { | เป็นจานวนเตม็ ทีห่ ารดว้ ย 3 ลงตัว H={ ……G……≠…H…………………………………………………………………………................................................................ 5) J = { | เป็นจานวนเตม็ ลบ และ K={ ……J…≠……K………………………………………………………………………................................................................... 6) M = { | เปน็ จานวนคท่ี ีน่ ้อยกว่า 9 N={ ……M……≠…N…………………………………………………………………………................................................................ 7) P = { | เปน็ จานวนตรรกยะ และ

Q={ ……P…=…Q……………………………………………………………………………................................................................ 8) S = { | เปน็ จานวนเตม็ และ T={ ……S……≠…T…………………………………………………………………………................................................................

Diagram เซต

แผนการจัดการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค31201 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง เซต แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 แผนภาพเวนน์และเอกภพสัมพัทธ์ เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 ช่อื ผ้สู อน นายยุทธนันต์ งามนา ตาแหน่ง ครู คศ.2 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……. 3. สาระสาคัญ การเขยี นแผนภาพเวนนแ์ ทนเซตจะช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหวา่ งเซตตา่ ง ๆ ไดง้ ่ายและชัดเจนมาก ข้ึน ซึง่ จะกาหนดให้เซตของสมาชิกทง้ั หมดทีอ่ ย่ภู ายใต้ขอบเขตสิง่ ทีเ่ ราต้องการจะศกึ ษาโดยมีข้อตกลงวา่ ตอ่ ไปจะกลา่ วถึงสมาชิกของเซตนี้เท่าน้ัน เรียกเซตนวี้ ่า เอกภพสมั พัทธ์ เขยี นแทนด้วยสญั ลักษณ์ U 4. มาตรฐาน / ตัวช้ีวัด ค 1.1 ม.4/1 เข้าใจและใช้ความรู้เกี่ยวกับเซตและตรรกศาสตร์เบื้องต้น ในการส่ือสารและสื่อ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. เนือ้ หา / สาระการเรียนรู้ ความร้เู บ้ืองต้นและสัญลักษณ์พนื้ ฐานเก่ียวกบั เซต 4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน - ใบงานที่ 1.5 - แบบฝกึ ทักษะ 1.2 ข้อ 1 5. เคร่ืองมือการคิด 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ Do Now (3 นาที) เกมบอกชอ่ื 3 พยางค์ จังหวัดท่มี ี 3 พยางค์ Purpose (2 นาที) 1) บอกสมาชิกของเซตเม่อื กาหนดแผนภาพเวนนใ์ หไ้ ด้ 2) บอกความหมายของเอกภพสัมพทั ธ์ได้ 3) เขียนแผนภาพเวนน์แทนเซตได้ 4) รับผิดชอบตอ่ หน้าท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย Work Mode (80 นาที) 1. ครถู ามคาถาม ครทู บทวนความรูเ้ กี่ยวกับการเขยี นเซตแบบบอกเงื่อนไขของสมาชิก โดยตัง้ คาถาม ดงั น้ี  การเขยี นเซตแบบบอกเง่ือนไขของสมาชิก มปี ระโยชน์อย่างไร

(แนวตอบ เช่น เพ่ือใหท้ ราบว่าตวั แปรน้ันแทนสมาชิกใดบา้ ง เพ่ือให้ระบุสมาชิกของเซตไดง้ า่ ย ขน้ึ เปน็ ต้น) 2. ครูเขยี นตัวอย่างเซต 3 เซต บนกระดาน เชน่ A = {2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ,10} B = {x | x ∈ R และ -5 > x > -9} C = {x | x เปน็ จานวนเตม็ บวก และ 2 ≤ x < 11} 3. ครใู ห้นักเรยี นพจิ ารณาตัวอยา่ งเซตทค่ี รเู ขียนบนกระดาน แล้วถามคาถาม ดงั นี้  เซต B และเซต C เขียนแบบแจกแจงสมาชกิ ได้อย่างไร (แนวตอบ เซต B ไม่สามารถเขยี นแบบแจกแจงสมาชิกได้ และ C = {2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ,10})  เพราะเหตุใดนักเรยี นจึงไม่สามารถเขียนเซต B แบบแจกแจงสมาชิกได้ (แนวตอบ เพราะเซต B ไมส่ ามารถระบสุ มาชิกทแี่ น่นอนได้)  เซตใดบ้างเปน็ เซตท่ีเท่ากัน (แนวตอบ เซต A เทา่ กบั เซต C)  ถ้าเซต C ไมไ่ ด้กาหนดให้ x เปน็ จานวนเต็มบวก นกั เรยี นคิดวา่ สมาชิกของเซต C จะเป็น อยา่ งไร (แนวตอบ เซต C จะมีสมาชกิ เป็นจานวนจริงทอ่ี ยรู่ ะหวา่ ง -5 กับ -9) 4. ครูกลา่ วสรปุ ดงั น้ี จากตวั อยา่ งดังกล่าวข้างตน้ นักเรยี นรูแ้ ล้วว่า เซต B กาหนดขอบเขตของเซตเปน็ จานวนจริง และเซต C กาหนดขอบเขตของเซตเป็นจานวนเต็มบวก เราจะเรียกการกาหนด ขอบเขตของสมาชกิ ดังกล่าววา่ เอกภพสัมพัทธ์ เขียนแทนดว้ ยสัญลักษณ์ U เช่น U = {-1, -2, - 3}, U = {x | x ∈ R} และ U = {x | x ∈ ������} เป็นต้น 5. ครยู กตัวอย่างการเขียนแผนภาพแทนเซตบนกระดาน ดังน้ี A U 1 4 23 5 6. ครูใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาการเขียนแผนภาพแทนเซตดงั กล่าว แลว้ อธบิ ายว่า นักเรียนจะเห็นรปู สี่เหลีย่ มมุมฉากแสดงถึงเซตของจานวนสมาชกิ ทั้งหมดท่ีอยู่ภายใต้เอกภพสัมพัทธท์ ีเ่ ราต้องการจะ ศกึ ษา และสว่ นวงกลมในรูปแสดงถงึ เซต A เราเรยี กแผนภาพแทนเซตน้ีว่า แผนภาพเวนน์ (Venn Diagram) แล้วถามคาถาม ดังนี้  เขยี นเซตเอกภพสมั พัทธ์แบบแจกแจงสมาชิกได้อย่างไร (แนวตอบ U = {1, 2, 3, 4, 5})

 เขยี นเซต A แบบแจกแจงสมาชกิ ได้อยา่ งไร (แนวตอบ A = {1, 2, 3}) 7. ครูยกตัวอย่างที่ 4 ในหนังสือเรยี น หน้า 11 บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณา พร้อมถามคาถาม ดงั น้ี  เซต A และเซตของเอกภพสมั พัทธม์ คี วามสัมพันธก์ ันอย่างไร (แนวตอบ สมาชิกของเซต A เปน็ สมาชกิ ทีอ่ ยู่ในเซตของเอกภพสมั พัทธ์) 8. ครใู ห้นักเรียนทา “ลองทาดู” ในหนังสอื เรียน หน้า 12 จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยคาตอบ Reflective Thinking (5 นาที) 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรู้ โดยการถาม-ตอบ ดังน้ี  เอกภพสัมพัทธ์ หมายถงึ อะไร (แนวตอบ เอกภพสัมพัทธ์ หมายถงึ เซตของสมาชิกทงั้ หมดทเี่ ราตอ้ งการจะศึกษา โดยมี ขอ้ ตกลงว่าตอ่ ไป จะกลา่ วถงึ สมาชิกของเซตนี้เท่านนั้ )  แผนภาพเวนน์ มีลกั ษณะอยา่ งไร (แนวตอบ เป็นรูปสเ่ี หล่ียมมุมฉากทภ่ี ายในมสี มาชกิ ทั้งหมดท่ีอยู่ภายใตเ้ อกภพสัมพัทธบ์ รรจอุ ย)ู่ 2. ครูกลา่ วทบทวนเกี่ยวกับการเขียนแผนภาพแทนเซต U และเซต A จากตัวอยา่ งท่ี 4 ในหนังสอื เรยี น หน้า 11 3. ครูแจกใบงานท่ี 1.5 เรอื่ ง แผนภาพเวนน์ ให้นกั เรยี นทา จากน้ันครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลย คาตอบ 4. ครใู ห้นกั เรยี นทาแบบฝกึ ทกั ษะ 1.2 ข้อ 1 จากนั้นครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบ 5. ครูถามนักเรียนว่าได้อะไรบ้างจากการเรยี นเรื่องนี้ไปแลว้ 7. ส่ือ สอื่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ ม.4 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เซต 2) แบบฝึกหัดรายวิชาพืน้ ฐาน ม.4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เซต 3) ใบงานท่ี 1.5 เร่ือง แผนภาพเวนน์ แหล่งการเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ชมุ ชน 3) อนิ เทอรเ์ น็ต 8. วิธีวดั ผล 1. ประเมินใบงานท่ี 1.5 3. ตรวจแบบฝกึ หดั

แนวทางการแก้ไขปัญหา ความคดิ เห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระ(ก่อนการนาแผนการสอนไปใช)้ ลงชื่อ.................................................................หวั หนา้ กลมุ่ สาระ ( นายยทุ ธนนั ต์ งามนา ) ความคิดเห็นของผตู้ รวจทาน ลงชื่อ..............................................................ผู้ตรวจทาน ( นายสทุ ัศน์ สวุ รรณโน ) ผอู้ านวยการโรงเรียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook