109 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ที่ พฤติกร ความสนใจ การแสดงความ การตอบคำถาม การยอมรบั ฟงั การทำงานท่ี หมา รม คดิ เห็น ความคดิ เห็น ไดร้ ับ ย ชือ่ มอบหมาย เหตุ สกุล ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะกลุม่ ดังนี้ ดมี าก เท่ากบั ๔ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ ๙๐ – ๑๐๐ % ดี เทา่ กบั ๓ ประสทิ ธภิ าพอยใู่ นเกณฑ์ ๗๐ – ๘๙ % ปานกลาง เทา่ กับ ๒ ประสิทธภิ าพอยูใ่ นเกณฑ์ ๕๐ – ๖๙ % ปรับปรงุ เท่ากบั ๑ ประสทิ ธภิ าพตำ่ กว่าเกณฑ์ ๕๐ % ( ลงช่อื ) ผู้สงั เกต (.....................................................) .............../................./....................
110 แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชือ่ หนว่ ย STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ เรือ่ ง ความตื่นรู้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๑ ชัว่ โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั STRONG / จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผทู้ ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ รติ ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสำคญั ของการตอ่ ตา้ นและป้องกนั การทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของการทจุ รติ ได้ ๒.๒ นักเรยี นสามารถบอกลักษณะของบคุ คลท่มี ีความต่ืนรู้ในเรอื่ งการทจุ รติ ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความต่นื รู้ ความตนื่ รู้ หมายถึง การจัดการความเปน็ ไปได้ใหม่ของชวี ติ โดยท่มี ีสติอยู่กบั สง่ิ ท่ีเกิดขนึ้ ร้คู วาม จริงของชีวิตท่เี ปน็ ส่ิงไมแ่ น่นอน เทา่ ทันเหตกุ ารณ์ ๓.๒ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๓.๓ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ซ่ือสัตยส์ ุจรติ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรียนรู้ ๑) ให้นกั เรยี นชมวีดีทศั นเ์ รอื่ ง “แก้คอรร์ ัปชัน เริ่มที่ใคร” เป็นเร่ืองเกี่ยวกับความหมายของ การทจุ ริตทุกรปู แบบ เช่น การรับสินบน การอุปถัมภพ์ วกพ้องเพ่ือให้เข้าทำงาน เป็นต้น ๒) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเรอ่ื งท่ชี มว่า การทุจริตมีหลายรปู แบบ เช่น การใชไ้ ฟหลวงใน การชารจ์ แบตเตอรร์ ีโ่ ทรศัพท์ เป็นต้น ๓) ครูเล่าขา่ วเร่อื ง “สงั่ เด้ง ๑๒ ตำรวจ รับส่วยร้านอะไหลร่ ถ” แล้วถามนกั เรยี นว่าใครรขู้ า่ ว เรือ่ งนี้บา้ ง และใครไม่รู้ขา่ วเรือ่ งนบี้ า้ ง ๔) ครสู รปุ นกั เรยี นที่ติดตามและรขู้ า่ วเร่ืองน้ี แสดงวา่ นกั เรยี นเป็นผตู้ ่นื รู้ ๕) ครอู ธิบายความหมายของคำว่าต่ืนรู้ ๖) ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกลกั ษณะของบคุ คลท่ตี ื่นรู้ ในเร่ืองการทจุ ริต เช่น ตำรวจรับสนิ บน จากคนขับรถผดิ กฎจราจร แล้วมพี ลเมอื งดถี ่ายวดี ีโอแลว้ นำไปเผยแพร่ถงึ การกระทำที่ไม่เหมาะสม แสดงว่าพลเมืองดีคนนเี้ ป็นผู้ต่ืนรู้ในเร่อื งการทุจรติ ๗) ครูให้นกั เรยี นรวบรวมข่าวท่ี เกยี่ วกับการทจุ ริตรปู แบบต่าง ๆ พร้อมวเิ คราะหแ์ สดงความ คดิ เหน็ เก่ียวกบั ข่าวการทุจริต ๘) ครใู หน้ ักเรียนนำเสนอข่าวหน้าชัน้ เรียนแล้วนาไปจดั ปา้ ยนเิ ทศบริเวณโรงเรียน
111 ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้ ๑) ขา่ วจากหนังสือพิมพ์ ๒) วดี ีทัศน์ เรอื่ ง “แกค้ อรร์ ปั ชัน เริ่มทใี่ คร” ๓) ห้องสมดุ ๔) อินเตอรเ์ น็ต ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ตรวจผลงานการวิเคราะห์ข่าว ๕.๒ เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ในการประเมนิ ๑) แบบให้คะแนนการตรวจผลงานการวิเคราะห์ข่าว ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรม เรื่อง ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป 6. บันทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ ...................................................................................... ...................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ......................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่ือ........................................ครผู ู้สอน (..................................................) 7. ความคิดเห็นผู้บริหาร ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .....................................ผู้บรหิ าร (นายจรญั วารนิ ทร์)
112 ที่ ชอ่ื สกลุ แบบประเมินการเขยี นวเิ คราะห์ข่าว รายการ การลำดับ สรุปผล ความคดิ การ เขียนได้ เขียน เขยี นมี การใช้ เหตกุ ารณ์ ประเมนิ ตรง แยกแยะ เหตุผล ภาษาได้ ได้ ๒ ๑๐ ประเดน็ ประเด็น ประกอบ เหมาะสม คะแนน คะแนน ได้ ๒ ได๒้ อยา่ ง ได้ ๒ คะแนน คะแนน เหมาะสม คะแนน ๒๑ ได้ ๒ คะแนน ๒๑๒๑๒๑๒๑ เกณฑ์การประเมนิ ผปู้ ระเมิน นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ลงชื่อ
113 แบบสงั เกตพฤติกรรม เร่อื ง ซ่ือสตั ย์ สุจริต คำชีแ้ จง การบันทึกใหท้ ำเคร่ืองหมาย ลงในช่องทตี่ รงกับพฤติกรรมทเี่ กิดขนึ้ จริง ท่ี ชอื่ สกลุ รายการ สรุปผลการ ประเมนิ พดู ไมล่ กั ตรงไป ทำตัว รู้จัก ความ ขโมย ตรงมา น่าเชอ่ื แยกแยะ ผา่ น ไม่ จรงิ ผา่ น ถือ ประโยชน์ สว่ นตนกบั ประโยชน์ ส่วนรวม เกณฑ์การประเมนิ ผ่านต้ังแต่ ๓ รายการ ถือว่า ผ่าน ผา่ น ๑-๒ รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น
114 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชอื่ หน่วย STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ เรอ่ื ง ตอ่ ตา้ นทจุ รติ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๑ ช่วั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับ STRONG / จิตพอเพียงต่อตา้ นการทุจรติ ๑.๒ ปฏบิ ัติตนเป็นผู้ท่ี STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจรติ ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสำคญั ของการต่อตา้ นและป้องกันการทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกผลเสียของการทจุ รติ ได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกการกระทำทเี่ ป็นการต่อต้านการทุจรติ ได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความหมายของการต่อตา้ นการทุจรติ การต่อตา้ นการทจุ ริต หมายถงึ การไม่สนบั สนุนกจิ การของกลุม่ หรอื บุคคลท่ีกระทำการโดยมิ ชอบในการแสวงหาผลประโยชน์ ๓.๒ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ครูเลา่ ข่าวเกี่ยวกบั ปัญหาการทุจริต เร่ือง “จำคกุ ทายาทซมั ซงุ ๕ ปี ในคดที ุจริต ” แล้ว ถามนักเรยี น ดังนี้ ๑.๑ ผลเสียของการทจุ รติ มีอะไรบา้ ง ๑.๒ ถ้านกั เรียนเปน็ ทายาทซัมซุงคนนี้ นักเรยี นจะทุจริตหรือไม่ เพราะเหตุใด ๒) ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ เร่ือง “รูปแบบการทุจรติ ” แล้วทำแผนผังความคดิ ๓) ครอู ธบิ ายความหมายของการต่อตา้ นการทุจรติ และยกตวั อย่างการกระทำท่ีแสดงถึงการ ตอ่ ต้านการทุจริตทุกรปู แบบ ๔) ครูแบง่ นักเรียนออกเป็น ๔ กลุ่ม ให้แสดงบทบาทสมมติ เร่ือง การต่อตา้ นการทุจริต รปู แบบตา่ ง ๆดงั นี้ กลมุ่ ท่ี ๑ เนื้อหาเกยี่ วกับการต่อต้านการทุจริตในการจำนำข้าวของรฐั บาล กลุม่ ท่ี ๒ เนือ้ หาเก่ียวกบั การต่อต้านการทุจริตการเลือกต้ังนายก อบต. กลมุ่ ท่ี ๓ เนอ้ื หาเกยี่ วกบั การต่อตา้ นการทุจรติ โครงการตา่ ง ๆ เช่น โครงการสรา้ งทางรถไฟ เป็นต้น กลุ่มท่ี ๔ เนื้อหาเกีย่ วกบั การต่อตา้ นการทจุ รติ การใชอ้ ำนาจหนา้ ท่ีแสวงหาผลประโยชน์ เช่น ข้าราชการทหารรบั เงินใตโ้ ต๊ะ เพอื่ รับฝากเขา้ ทำงาน
115 ๕) ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เกีย่ วกบั ลักษณะการกระทำที่แสดงออกใหเ้ หน็ ถึงการต่อตา้ นการ ทุจริต เชน่ นกั เรียนเหน็ เจ้าหนา้ ทีต่ ำรวจจราจรกำลังรับเงนิ จากคนขบั รถฝา่ ไฟแดง นักเรียนโทรแจง้ ๑๙๑ หรอื บอกผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ เปน็ ตน้ ๖) ครูใหน้ ักเรยี นทำใบงาน เร่ือง ผลเสียของการทจุ ริตและการกระทำท่ีเปน็ การต่อต้านทจุ รติ แลว้ นำไปจดั ปา้ ยนเิ ทศ ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ ข่าว “จำคุกทายาทซัมซุง ๕ ปี ในคดีทจุ รติ ” ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน เรอื่ ง ผลเสียของการทจุ ริตและการกระทำท่เี ปน็ การตอ่ ต้านทจุ รติ ๒) สงั เกตการแสดงบทบาทสมมติ ๓) สงั เกตพฤติกรรมการซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ๕.๒ เครือ่ งมือท่ีใชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน เร่อื ง ผลเสยี ของการทุจริตและการกระทำทเ่ี ปน็ การ ตอ่ ต้านทุจริต ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมซ่ือสัตยส์ จุ รติ ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ๓ หมายถงึ ดมี าก ระดบั ๒ หมายถงึ ดี ระดบั ๑ หมายถงึ พอใช้ 6. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงช่อื ........................................ครผู สู้ อน (..................................................) 7. ความคดิ เหน็ ผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ลงช่อื .....................................ผู้บรหิ าร (นายจรญั วารนิ ทร์)
116 ข่าว เรือ่ ง “จำคกุ ทายาทซัมซุง ๕ ปี ในคดที ุจรติ ” นายลีถกู กลา่ วหาวา่ บรจิ าคเงนิ จานวน ๔๑ พนั ล้านวอน ให้กับองค์กรการกุศลของนาง นางชเว ซูน ซลิ เพ่อื นสนิทของประธานาธบิ ดีปัก ซง่ึ ถูกรัฐสภาเกาหลใี ตล้ งมตถิ อดถอนไปเม่อื เดือน ธ.ค.ทผ่ี ่านมา โดยซมั ซุง ถกู กล่าวหาว่าบรจิ าคเงนิ ใหอ้ งค์กรแห่งนี้เพ่ือแลกเปลยี่ นกับผลประโยชนท์ ี่บรษิ ทั จะได้จาก โครงการของรัฐบาล แต่นายลีและบรษิ ัทซมั ซงุ ยืนยันว่าไมเ่ คยกระทำความผดิ ใด ซ่ึงศาลเกาหลใี ตส้ งั่ จาคุกนายลี แจ-ยอง ทายาท มหาเศรษฐีบรษิ ัทซัมซุง เป็นเวลา ๕ ปี ในความผิดฐานคอร์รปั ชัน
117 ใบงาน เรื่อง ผลเสียของการทุจริตและการกระทำทีเ่ ป็นการตอ่ ต้านการทจุ รติ ชอ่ื ...........................................................................................ชั้น.......................... เลขที.่ ................. คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี ๑. จงบอกผลเสยี ของการทุจริตอย่างน้อย ๓ ขอ้ ...................................................................................................................................................... ...... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ...................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................... ๒. จงบอกวธิ กี ารหรอื การกระทำที่เปน็ การต่อต้านการทุจริต อยา่ งน้อย ๓ ข้อ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ...................................................................................................................................... ...................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ...............................
118 แบบสงั เกตพฤติกรรม เรื่อง ซ่ือสัตย์ สจุ รติ คำช้แี จง การบนั ทึกใหท้ ำเครื่องหมาย ลงในช่องท่ีตรงกับพฤติกรรมท่เี กดิ ขน้ึ จริง ท่ี ชื่อสกลุ รายการ สรุปผลการ ประเมิน พดู ไมล่ ัก ตรงไป ทำตัว รจู้ ักแยกแยะ ผ่าน ไม่ผ่าน ความ ขโมย ตรงมา น่าเชอ่ื ถอื ประโยชน์ จรงิ ส่วนตนกับ ประโยชน์ ส่วนรวม เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นตัง้ แต่ ๓ รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผ่าน ๑-๒ รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น
119 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๓ ช่ือหน่วย STRONG /จติ พอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ เร่ือง มงุ่ ไปขา้ งหน้า ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๑ ช่วั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ เพื่อใหน้ กั เรียนบอกความหมายของการมุ่งไปข้างหน้าได้ ๒.๒ เพอื่ ให้นักเรยี นบอกความหมายของความพอเพียงได้ ๒.๒ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างบุคคลทีด่ ำรงชวี ติ อยู่อย่างพอเพยี ง ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ การม่งุ ไปขา้ งหนา้ หมายถงึ การพัฒนาต่อยอดเร่ืองการต่อตา้ นการทจุ รติ โดยใช้ชวี ติ อยา่ งพอเพยี ง เหน็ ประโยชนส์ ว่ นตนมากกว่าประโยชนส์ ่วนรวม ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ / ค่านิยม อยอู่ ย่างพอเพียง ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ ๑) ครใู ห้นักเรยี นดูภาพไรน่ าสวนผสมที่ประสบผลสำเรจ็ ๒) ครตู งั้ คำถามใหน้ ักเรียนตอบ ดังตอ่ ไปน้ี ๒.๑ นักเรยี นเห็นอะไรในภาพ ( ภาพทีด่ ินถูกแบง่ เปน็ ไร่นา สวน บ่อนา้ และบา้ น) ๒.๒ ชาวนาในภาพมคี วามมงุ่ มั่นในการทำงานของตัวเองหรือไม่ อย่างไร ( มคี วามมุ่งม่ัน เพราะตงั้ ใจทจี่ ะยืนหยัดดว้ ยตนเอง ) ๒.๓ จากภาพ นอกจากความมุ่งม่นั แลว้ ชาวนายงั มคี วามโดดเดน่ ในดา้ นใดอีก ( ยดึ ม่ันในเศรษฐกจิ พอเพยี ง ) ๓) ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายถึงเร่อื งเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๔) ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา่ ความมงุ่ ม่นั ในการทางานควรอยู่บนพ้ืนฐานของความพอเพยี ง เพราะหากบุคคลใดมุ่งม่ันทำงานโดยเบยี ดเบยี นผ้อู น่ื การทำงานน้นั ยอ่ มสง่ ผลเสยี มากกว่าผลดี ๕) ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ เกี่ยวกบั การอยู่อยา่ งพอเพียง แลว้ ทำใบงาน ๖) ครนู าแบบสำรวจพฤติกรรมนักเรียนมาให้นกั เรยี นประเมินตนเอง
120 ๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) ภาพไร่นาสวนผสม ๒) ใบงาน ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) สังเกตจากการตอบคำถาม ๒) ตรวจผลงาน ๒.๑ ใบงาน ๒.๒ แบบประเมินพฤติกรรมความพอเพียง ๕.๒ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการประเมนิ แบบสงั เกตพฤติกรรมความพอเพยี ง ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือวา่ ผา่ น 6. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงชอื่ ........................................ครูผู้สอน (..................................................) 7. ความคิดเห็นผบู้ ริหาร ............................................................................................................................. ............................... .................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงช่ือ.....................................ผูบ้ ริหาร (นายจรัญ วารนิ ทร์) ภาพไร่นาสวนผสม
121 ใบงาน คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นผังความคิดแสดงถึงการอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
122 แบบสังเกตพฤตกิ รรมความพอเพยี ง ที่ พฤติกรรม ระดับปฎิบัตกิ าร ประจำ บางครัง้ น้อยครั้ง ไม่ทำ เลย (๓) (๒) (๑) ๑ ใช้ทรัพยส์ ินตา่ ง ๆ ของตนเอง เช่น เงนิ สงิ่ ของ เคร่ืองใช้ อย่างประหยัด คุ้มค่าและเก็บรักษา ดูแลอยา่ งดี ๒ ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยัด คุ้มคา่ และเกบ็ รักษาดูแลอย่างดี ๓ ไมใ่ ช้ส่ิงของเกินฐานะและความจำเป็น ๔ แบง่ ปนั สิ่งของใหเ้ พื่อนท่ีขาดแคลน ๕ ไมอ่ ยากได้ของผู้อ่ืนมาเป็นของตน ๖ รูจ้ กั เก็บออม ๗ ไม่เอาเปรยี บผูอ้ นื่ และทำให้ผอู้ ่ืนเดือดรอ้ น ๘ วางแผนการเรียน และการทำงาน และการใช้ ชวี ติ ประจำวนั บนพน้ื ฐานของความพอเพยี ง ๙ รูเ้ ทา่ ทนั การเปลี่ยนแปลงของสงั คม และ สภาพแวดลอ้ มยอมรับและปรับตวั เพื่ออยู่ ร่วมกับผอู้ นื่ ได้อย่างมีความสุข ๑๐ เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชนส์ ว่ นรวม เกณฑ์การตดั สิน เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ได้คะแนนรวม ระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน ดีเย่ียม ได้คะแนนรวม ระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน ดี ได้คะแนนรวม ระหวา่ ง ๕-๑๐ คะแนน พอใช้ ไดค้ ะแนนรวม ต่ำกว่า ๕ คะแนน ปรับปรุง ผูป้ ระเมิน ครู พอ่ แม/่ ผ้ปู กครอง ตนเอง เพอ่ื น ลงชื่อ ...................................................ผู้ประเมิน (.................................................)
123 แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๓ ชือ่ หน่วย STRONG /จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจริต เรือ่ ง ความเอื้ออาทร ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ ๑. ผลการเรียนรู้ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ เพ่ือใหน้ กั เรยี นบอกความหมายของความเอ้ืออาทรได้ ๒.๒ เพือ่ ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งของความเอื้ออาทรได้ ๒.๓ เพ่ือให้นักเรียนปฏิบตั ิตนเป็นผูม้ ีความเอื้ออาทร ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ความเออ้ื อาทรหมายถึง ความเอื้อเฟ้ือ ความเอ้ืออารี ความมีนา้ ใจ ตัวอย่าง ความเอื้ออาทร ได้แก่ การดแู ล การมนี ้ำใจชว่ ยเหลือกัน และความห่วงใยซึ่งกันและกัน ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการส่อื สาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓.๓ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ / ค่านยิ ม มจี ิตสาธารณะ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรียนรู้ ๑) ให้นกั เรียนดภู าพนทิ านเรอื่ งราชสีห์กบั หนู ๒) ครเู ลา่ นิทานเรื่องราชสีหก์ ับหนใู ห้นักเรยี นฟงั ๓) ให้นักเรียนบอกข้อคิดที่ได้จากการฟัง เชน่ หนูมีน้ำใจช่วยราชสหี ์ ๔) ให้นักเรียนอา่ นนิทานเร่อื งมดกับนกเขาจากใบความรู้ ๕) ใหน้ ักเรียนร่วมกันสรุปข้อคดิ ทไี่ ด้จากเรื่องท่ีอ่าน เชน่ นกเขาช่วยเหลอื มดให้ข้ึนจากน้ำ ๖) ครอู ธิบายเชื่อมโยงความเขา้ ใจใหน้ กั เรยี นฟงั ถึงความหมายของความเอื้ออาทรว่าหมายถงึ ความเอ้ือเฟ้ือ ความเอื้ออารี ความมนี ้าใจ เราสามารถนำแบบอย่างไปประยุกต์ปฏบิ ตั ใิ นการดำเนิน ชีวิตได้ ๗) นกั เรยี นบอกวธิ ีปฏิบัตติ นของนักเรียนท่ีแสดงถึงความเอื้อเฟอ้ื โดยเขยี นลงในใบงานท่ี ๑ ๘) สมุ่ นกั เรียนนำเสนอวิธปี ฏิบัติตนเปน็ ผเู้ ออื้ อาทร ๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) ภาพนิทานเรือ่ งราชสหี ก์ ับหนู ๒) ใบความรู้ นทิ านเรื่อง ราชสีห์กบั หนู ๓) ใบความรู้ นิทานเรอื่ ง มดกับนกเขา ๔) ใบงานที่ ๑ บอกวิธีปฏบิ ตั ิตนของนักเรยี นทแ่ี สดงถึงความเอ้ือเฟ้ือ
124 ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมนิ สงั เกตจากการบอกข้อคิดท่ีไดจ้ ากการฟังนทิ านเร่ืองราชสีหก์ ับหนูและเรือ่ งมดกับนกเขา และ การปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้มู ีความเอ้ืออาทรในโรงเรียน ๕.๒ เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน ๑) แบบสังเกตการบอกขอ้ คิดที่ได้จากการฟังและอา่ นนิทาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรม ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถือว่าผา่ น 6. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................ ลงชอื่ ........................................ครูผู้สอน (..................................................) 7. ความคิดเหน็ ผู้บริหาร ............................................................................................................................. .................................... ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่ือ.....................................ผูบ้ รหิ าร (นายจรญั วารนิ ทร์)
125 นทิ านเรอ่ื งราชสีหก์ ับหนู มรี าชสหี ์ตวั หนงึ่ นอนพักผ่อนยามบา่ ยอยา่ งมคี วามสุข แต่ต้องสะดุ้งต่นื ขึน้ มาเพราะมหี นตู วั หน่ึงข้ึนมาวง่ิ ไตต่ ามลำตวั โดยไม่รวู้ ่าเปน็ รา่ งของเจ้าป่า ราชสหี ์ใชอ้ งุ้ เทา้ ตะครุบเอาไวด้ ว้ ยความโกรธเกร้ยี ว ขณะจะลงมอื สังหารหนูน้นั เองก็ไดย้ ินเสียงหนู กลา่ วคำวงิ วอนขนึ้ วา่ “ทา่ นผู้เปน็ ราชาแหง่ สตั วท์ ้งั ปวง ไดโ้ ปรดไวช้ ีวิตขา้ สกั คร้ังเถดิ ทา่ น เพราะตัวข้านนั้ ทำผดิ ไปโดยหารูไ้ ม่ ตวั ขา้ นัน้ มไิ ดม้ ีเจตนาดหู มิน่ ทา่ นแมแ้ ตอ่ ยา่ งใด” “ฮ.ึ .ก็ ได้ ในเม่ือเจ้าไม่ไดม้ ีเจตนาขา้ ก็จะปลอ่ ยไปสกั ครั้งหนึ่งแล้วเจ้าอย่ามากวนใจอกี ล่ะ ” ราชสหี ไ์ มอ่ ยากได้ช่อื วา่ รังแกผ้ทู ่ีอ่อนแอกวา่ จงึ ยอมเลิกรา “บญุ คุณในครั้งนีข้ า้ จะไมล่ ืมเลย ตราบช่วั ชีวิตของขา้ หากมโี อกาสในวนั หนา้ ข้าต้องตอบแทนท่านอย่างแนน่ อน ถ้าทา่ นมี เรอื่ งเดอื นร้อนอนั ใดหละก็ โปรดสง่ เสียงคำราม ขา้ จะรีบมาหาทา่ นในทนั ที” “ ฮะ..ฮะ..ฮะ ..” ราชสีห์หัวเราะลั่นป่า “สตั วต์ ัวเลก็ เชน่ เจ้าจะทำอะไรให้ขา้ ได้ ไป..รบี ไปให้พน้ ขา้ จะได้นอนตอ่ เสียที ”หลังจากนั้นไม่นาน ในขณะทีร่ าชสหี ์ออกลา่ เหย่ือเกิดพลาดทา่ เสยี ที ไปติดกับบ่วงของนายพรานเข้า ดน้ิ อย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกไปไดจ้ งึ ได้สง่ เสยี งรอ้ งลั่น ปา่ หนูจำเสียงของราชสีห์ได้จงึ รีบ มาช่วยกดั บว่ งของนายพรานจนขาด ราชสีห์จงึ ไดเ้ ป็น อสิ ระอีกคร้งั นิทานเรื่องน้ีสอนให้รู้วา่ อย่าดูถูกคนท่ีต่ำตอ้ ยกว่าตน คนท่อี ย่ดู ว้ ยกนั ควรมนี ้ำใจเอ้อื อาทรต่อกัน สังคมจะ ไดม้ ีความสุข
126 นทิ านอีสป เรื่อง มดกับนกเขา ในวนั ทปี่ า่ แหง้ แลง้ ขาดแคลนนำ้ มดยักษต์ วั หนง่ึ ท่กี าลังกระหายนำ้ อย่างมาก พยายามทีจ่ ะไตไ่ ปกินตามบนน้ำพุทไ่ี หลเชีย่ ว ด้วยความท่ีเขาตวั เลก็ จึงพลาดตกลงไปและ ไหลไปตามลาธาร มดยกั ษต์ ัวน้นั พยายามตะเกยี กตะกายข้นึ ฝง่ั จนเจ้านกตวั หน่ึงเหน็ เขา้ จงึ คาบใบไมท้ ิง้ ลงไปในนำ้ ให้เจ้ามดยกั ษเ์ กาะ “ขอบใจเจา้ มากนะ” เจ้ามดยกั ษก์ ลา่ วขอบคณุ นกในความชว่ ยเหลอื ในคร้ังน้ี “ไม่เปน็ ไรหรอก ชีวิตใครใครก็รัก” เจ้านกกล่าวตอบ “ข้าร้มู าวา่ แถวนน้ี ายพรานเยอะนะ เจ้าไมก่ ลวั ถกู ล่าเหรอ” “ขา้ แค่แวะมาหาอาหารเท่านนั้ แหละ เดี๋ยวก็ไปแล้ว” เจ้านกบอกพร้อมกับก้มลงหาอาหารตามพ้นื เพราะมัวแตห่ าอาหารอยทู่ ำใหเ้ จ้านก ตัวน้ีไม่ได้สังเกตดูวา่ ภัยกำลังมาถึงตัวแตด่ ีทวี่ า่ มีเจ้ามดยกั ษอ์ ยู่เป็นเพื่อนด้วยเลยชว่ ยเหลือ ได้ทันเวลา ระหวา่ งท่กี ำลงั สนทนากันมดยักษ์เหลือบไปเหน็ นายพรานคนหน่ึงกำลังใช้ตา ข่ายเหวีย่ งจับนกตวั น้ี เหน็ ดังนัน้ มดยักษจ์ ึงรีบว่งิ ไปกัดเทา้ ของนายพรานเขา้ ทำให้เขา เหวี่ยงตาขา่ ยผดิ ทาง เจ้านกได้ยินเสียงร้องล่ันด้วยความเจบ็ ปวดของนายพรานจงึ บินหนี ไปเพ่อื เอาชีวติ รอด ส่วนเจ้ามดก็รีบว่งิ หนไี ปก่อนจะโดยนายพรานเหยยี บตายเพราะด้วย ความมนี ้ำใจของนกทำให้มดยกั ษไ์ ดต้ อบแทนความช่วยเหลือทำใหต้ ่าง ๆคนต่าง ๆมชี ีวิต รอด คติสอนใจจากนทิ านอสี ปเรือ่ งน:้ี “การมีนำ้ ใจชว่ ยเหลือผู้อ่ืนย่อมได้รบั ความดีตอบแทน” ท่มี า : http://www.charuaypontorranin.com/ http://dnfe๕.nfe.go.th/download/๘๐storytelling.pdf
127 แบบประเมนิ คุณธรรมความเออื้ อาทร ผ้ปู ระเมิน นักเรยี น ครู ผ้ปู กครอง คาชแี้ จง โปรดทำเคร่ืองหมาย ลงในแตล่ ะข้อรายการต่อไปนีท้ ี่ตรงกับระดับความคิดเหน็ ของผู้ ประเมนิ ตามเกณฑใ์ นการพจิ ารณาดงั น้ี ระดับ ๕ หมายถงึ นกั เรยี นปฏิบตั ไิ ดค้ รบทัง้ ๖ ดา้ น ระดบั ๔ หมายถึง นักเรียนปฏิบัตไิ ดค้ รบ ๕ ด้าน ระดบั ๓ หมายถงึ นกั เรียนปฏบิ ตั ิได้ครบ ๔ ด้าน ระดับ ๒ หมายถงึ นักเรียนปฏิบัติได้ไม่ครบ ๔ ดา้ น โดยมี ๑ – ๒ ดา้ น ท่ีต้องชีแ้ นะกำกับ และควบคุม ระดบั ๑ หมายถงึ นักเรยี นปฏบิ ตั ไิ ด้ไม่ครบ ๔ ด้าน โดยมี ๓ – ๔ ด้าน ท่ตี อ้ งช้ีแนะกำกับ และควบคุม ท่ี รายการพฤติกรรม พฤติกรรมการปฏิบัติ ระดบั ระดบั ระดบั ระดับ ระดบั ๕๔๓ ๒๑ เออ้ื อาทรผู้อืน่ และกตัญญูกตเวที ๑ นกั เรยี นมคี วามเอ้ือเฟื้อเผือ่ แผ่ มีน้ำใจ ใหค้ วาม ช่วยเหลอื ผู้อ่นื ๒ นกั เรยี นมีพฤติกรรมทแ่ี สดงถึงการเปน็ ลกู ที่ดี (รวมถึงผ้ปู กครองและ ผมู้ ีพระคณุ นักเรียนมีพฤติกรรมที่แสดงถึงการเป็นนักเรยี น ท่ดี ี ๔ นกั เรยี นปฏิบตั ิตนบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ สังคม ๕ นักเรยี นมีความโดดเด่นดา้ นบำเพ็ญประโยชน์ ๖ นกั เรียนมีความโดดเด่นด้านอ่นื อกี อยา่ งน้อย ๑ ดา้ น รวมจำนวนความถ่ใี นแตล่ ะระดบั คณุ ภาพ สรุปผลการประเมิน สรปุ ผลการประเมนิ ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ........................................................ ............................................................................................................................. ............................... ............................................................................................................................................................
128 แบบสังเกตขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากการฟังและการอ่านนิทาน ช่ือ สกลุ ราชสีหก์ บั หนู มดกบั นกเขา คะแนนที่ได้ สรปุ (๑๐คะแนน) บอก บอกไม่ บอกถูก บอกไม่ ผา่ น ไม่ ถูก ถกู ถกู ผา่ น รวม เกณฑ์การให้คะแนน บอกถกู ให้ ๕ คะแนน บอกไม่ถูก ให้ ๐ คะแนน เกณฑ์การประเมิน ตอบถูก ๑-๒ เรือ่ งถือว่า ผา่ น ตอบไมถ่ ูกท้ัง ๒ เรอื่ งถอื ว่า ไม่ผ่าน
129 หนว่ ยท่ี ๔ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสังคม
130 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๔ ชอ่ื หน่วย พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ เร่อื ง การเคารพสทิ ธหิ นา้ ท่ตี ่อตนเองและผอู้ น่ื ทมี่ ีต่อครอบครวั เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ความเข้าใจ เกยี่ วกบั พลเมืองและความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏิบัติตนตามหนา้ ท่พี ลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนบอกบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในครอบครัวได้ ๒.๒ นกั เรยี นบอกแนวทางการปฏบิ ตั ิตนในการเคารพสิทธิหน้าที่ของสมาชกิ ในครอบครัวได้ ๒.๓ นกั เรียนบอกผลท่ไี ดร้ ับจากการปฏบิ ัติตนในการเคารพสทิ ธิหนา้ ท่ีของสมาชิกในครอบครวั ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ สิทธิในครอบครัวและความเปน็ ส่วนตวั เป็นสิทธิทชี่ าวไทยทกุ คนได้รบั ตามรฐั ธรรมนญู ทุก ครอบครัวย่อมมสี ทิ ธจิ ดั การภายในครอบครัวของตนเอง ในการนำพาครอบครวั ไปในด้านตา่ ง ๆ ตาม ความต้องการของตนเองได้ โดยจะตอ้ งไม่ขดั ต่อกฎหมาย วัฒนธรรมและประเพณีอันดงี ามของไทย รวมทง้ั จะต้องไมเ่ ป็นการรบกวนสิทธิครอบครวั ของบคุ คลอื่น ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการแกป้ ญั หา ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม ๑) มีวนิ ัย ๒) ใฝ่เรยี นรู้ ๓) มุ่งมนั่ ในการทางาน ๔) รักความเปน็ ไทย ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั การเรียนรู้ ๑) ช่ัวโมงที่ ๑ ๑. นำขา่ ว พอ่ ทำรา้ ยลกู มาอ่านให้นกั เรยี นฟัง ๒. ให้นักเรียนรว่ มกันตอบคำถามต่อไปนี้ ๒.๑ นกั เรียนฟงั ข่าวนแ้ี ลว้ มคี วามรู้สกึ เช่นไร ๒.๒ การกระทำน้ีนักเรียนชอบหรอื ไมช่ อบ ๒.๓ นกั เรยี นคิดวา่ จะเกิดผลอย่างไรกบั ทัง้ ๒ คนบ้าง ๓. นักเรียนอา่ นใบความรู้ เรือ่ ง การเคารพสิทธิหน้าท่ตี ่อตนเองและผู้อ่นื ทม่ี ีต่อครอบครวั ๔. แบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละประมาณ ๔-๕ คน รว่ มกันอภิปราย แสดงความคิดเหน็ คน้ หาข้อมูล ตอบคำถามลงในใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง การเคารพสิทธหิ นา้ ท่ีตอ่ ตนเองและผูอ้ ่นื ท่ีมตี ่อ ครอบครวั
131 ๒) ชวั่ โมงท่ี ๒ ๑. นกั เรยี นฟังเพลง ครอบครวั สุขสนั ตจ์ าก YouTube แล้วรว่ มกันรอ้ ง ๑-๒ เท่ียว ๒. นกั เรยี นวาดภาพ หวั ข้อ “ครอบครัวสุขสันต์” พร้อมบรรยายใตภ้ าพ ๓-๕ บรรทดั และ ระบายสใี ห้สวยงาม ๓. ครูตรวจผลงานนกั เรยี น ๔.๒ สอื่ การเรยี นรู้ ๑) ข่าวพ่อทารา้ ยลกู ๒) ใบความรู้ เรอื่ ง การเคารพสิทธหิ น้าท่ี ตอ่ ตนเองและผอู้ ืน่ ท่ีมตี ่อครอบครวั ๓) ใบงานที่ ๑ เรอ่ื ง การเคารพสิทธหิ น้าท่ี ต่อตนเองและผอู้ ืน่ ท่ีมตี ่อครอบครวั ๔) YouTube เพลง ครอบครัวสขุ สันต์ ๕) กระดาษ / สี ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) ประเมินช้นิ งานการวาดภาพ ๕.๒ เครอ่ื งมอื ในการประเมนิ ๑) ใบงาน เรอื่ ง การเคารพสิทธหิ นา้ ที่ ต่อตนเองและผู้อนื่ ที่มีต่อครอบครัว ๒) แบบประเมนิ ผลงานนักเรยี นเร่อื ง การวาดภาพครอบครัวสุขสันต์ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน ๑) การตรวจใบงาน ร้อยละ ๘๐ ถือว่าผ่าน ๒) ประเมนิ ผลงานการวาดภาพ คะแนน ๖ – ๙ ถอื ว่าผ่าน
132 6. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่ือ........................................ครผู ้สู อน (..................................................) 7. ความคิดเห็นผู้บรหิ าร ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงชือ่ .....................................ผู้บริหาร (นายจรญั วารินทร์)
133 แบบประเมนิ ผลงานนักเรียน เรือ่ ง การวาดภาพครอบครัวสขุ สันต์ ที่ ช่ือสกลุ รายการประเมนิ รวมคะแนน เนอื้ หา ความสวยงาม บรรยายภาพ ผา่ น ไมผ่ ่าน ๓๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ เกณฑ์การตัดสิน คะแนน ๖-๘ ถือว่า ผา่ น เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นทีป่ ระเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน/ระดบั คุณภาพ ๑ เน้อื หา เนือ้ หาสัมพันธ์กับภาพ เน้อื หาสัมพันธ์กบั ภาพ เนอ้ื หาไมส่ ัมพันธ์กับ มากท่สี ุดครบตามที่ ปานกลางครบตามท่ี ภาพและไม่ครบตามท่ี ๒ ความสวยงาม กำหนด กำหนด กำหนด ๓ บรรยายภาพ ความสวยงามระดับมาก ความสวยงามระดับปาน ความสวยงามค่อนขา้ ง ตรงตามหัวข้อ สื่อ กลาง น้อย ความหมายไดม้ ากทส่ี ุด ตรงตามหัวข้อ ส่ือ ตรงตามหวั ข้อ สื่อ ความหมายได้ปานกลาง ความหมายไดค้ ่อนข้าง นอ้ ย ลงชื่อ ...................................................ผู้ประเมิน (.................................................)
- 134 ใบความรู้ การเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่นท่ีมตี ่อครอบครวั ครอบครวั ประกอบดว้ ย พอ่ แม่ ลูก ทกุ ครอบครวั มสี ิทธทิ ่จี ะไดร้ ับความคุ้มครอง ตามรฐั ธรรมนูญ เชน่ เรื่องการใช้ความรุนแรงการปฏิบตั อิ ันไมเ่ ปน็ ธรรม หมายความว่า พ่อแม่ และลูก จะต้องไมใ่ ชค้ วามรนุ แรง หรอื ปฏิบัติตามกันอยา่ งไมเ่ ป็นธรรม สามี ภรรยา จะตอ้ งเคารพและรับฟังความเห็นของกันและกัน ไมต่ ดั สนิ ปัญหา โดยใช้กำลงั สัง่ สอนบตุ รโดยใชเ้ หตผุ ล ไมใ่ ช้การแกไ้ ขพฤตกิ รรมด้วยการเฆีย่ นตี เลีย้ งดู ดว้ ยความเข้าใจ บุตรต้องเคารพเช่อื ฟังบิดา มารดา มสี ทิ ธิเสรภี าพในการแสวงหา ความสุขสว่ นตวั แต่ตอ้ งอยู่ในของเขตและไม่ทาให้เกิดความเดือดร้อนหรอื สร้างปัญหาใด ให้แกบ่ ิดามารดา สิทธิในครอบครวั และความเป็นส่วนตัว เปน็ สทิ ธิ ทชี่ าวไทยทกุ คนไดร้ ับ ตามรัฐธรรมนญู ทุกครอบครัวย่อมมสี ิทธจิ ัดการภายในครอบครวั ของตนเอง ในการนำพา ครอบครัวไปในดา้ นต่าง ๆ ตามความต้องการของตนเองได้ โดยจะต้องไมข่ ดั ตอ่ กฎหมาย วัฒนธรรมและประเพณอี ันดีงามของไทย รวมทง้ั จะตอ้ งไมเ่ ปน็ การรบกวนสิทธคิ รอบครัว ของบุคคลอืน่
135 ใบงานท่ี ๑ การเคารพสิทธขิ องตนเองและผู้อน่ื ทีม่ ตี อ่ ครอบครวั คำช้แี จง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปน้ี ๑. จงบอกบทบาทหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในครอบครัว คนละ ๓ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน บิดา มารดา บตุ ร ๑. ๑. ๑. ๒. ๒. ๒. ๓. ๓. ๓. ๒. จงบอกแนวทางการปฏบิ ัตติ นในการเคารพสทิ ธิหนา้ ท่ีของสมาชกิ ในครอบครวั คน ละ ๓ หวั ข้อ ขอ้ ละ ๑ คะแนน บิดา มารดา บตุ ร ๑. ๑. ๑. ๒. ๒. ๒. ๓. ๓. ๓. ๓. ผลท่ีไดร้ บั จากการปฏิบัตติ นในการเคารพสทิ ธิหน้าท่ีของสมาชกิ ในครอบครัวมี อะไรบา้ ง (๑๐ คะแนน) ๑. ๖. ๒. ๗. ๓. ๘. ๔. ๙. ๕. ๑๐.
136 แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ ๔ ชอ่ื หนว่ ย พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบต่อการทจุ รติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เรอ่ื ง ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับพลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของ ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ขององคก์ รหรอื หน่วยงาน ตา่ ง ๆ ได้ ๒.๒ นักเรยี นสามารถแสวงหาขอ้ มลู เก่ยี วกบั ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ขององค์กรหรือ หน่วยงานตา่ ง ๆ ได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ กฎ คอื ขอ้ บงั คบั ท่ีอยู่ในความเปน็ จรงิ เพ่ือไม่ให้เกดิ ความเสียหายต่อทรัพย์สนิ และ ชีวติ ระเบยี บวินยั นัน้ เปน็ สง่ิ ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะกับนักเรยี นหรือเยาวชน อันจะเป็นกำลงั อยา่ ง มากในการพฒั นาประเทศ ระเบยี บวินยั คือ คุณสมบตั ทิ ีส่ ำคญั ในการดาเนินชีวติ ความสามารถของบุคคลในการควบคมุ อารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง ใหเ้ ปน็ ไปตามทมี่ ่งุ หวงั โดยเกิดจากการสำนึก ซง่ึ ต้องไม่กระทำการ ใด อันเป็นผลทำใหเ้ กดิ ความยุ่งยากแกต่ นเองในอนาคต หากแตต่ ้องเป็นสิ่งที่ก่อใหเ้ กดิ ความ เจรญิ รุ่งเรอื งแก่ตนเองและผ้อู ่ืนโดย กตกิ า คอื กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง หรอื ข้อกำหนด ที่บุคคลตั้งแต่ ๒ ฝ่ายขึน้ ไปใชเ้ ป็นหลกั ปฏิบตั ิ เพื่อให้เกิดความเปน็ ธรรมแก่ทุกฝ่าย กฎหมาย คือ กฎท่สี ถาบัน หรอื ผูม้ ีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึน้ หรอื ท่ีเกิดข้นึ จากจารตี ประเพณี อนั เปน็ ทย่ี อมรบั นับถอื เพอื่ ใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บงั คับบุคคลให้ปฏิบัติตาม ๓.๒ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑) ความสามารถในการส่อื สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ซ่ือสัตย์สุจริต ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชัว่ โมงท่ี ๑ ๑. ครูแบ่งนกั เรียนเป็น ๔ กลมุ่ ใหน้ ักเรยี นศึกษาใบความรู้ และสรปุ ความรเู้ ป็นแผนผัง ความคดิ ดังน้ี กลมุ่ ที่ ๑ เร่อื ง ระเบยี บ กล่มุ ท่ี ๒ เรอ่ื ง กฎ กลุ่มท่ี ๓ เรือ่ ง กติกา
137 กลุม่ ที่ ๔ เรือ่ ง กฎหมาย ๒. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงานแผนผังความคดิ หนา้ ชน้ั เรยี น ๓. ครูติดแผนภมู กิ ติกาในห้องเรยี นแล้วใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกวา่ มีขอ้ ตกลง กติกา อะไรบ้าง ๔. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละกลุม่ คน้ ควา้ เกี่ยวกบั ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมายขององค์กรหรือ หนว่ ยงานต่าง ๆ แลว้ สรุปเพอื่ นำเสนอหน้าชั้นเรยี นในชวั่ โมงตอ่ ไป ดงั นี้ กลุ่มท่ี ๑ เรอ่ื ง กฎ / ระเบียบการใช้ห้องสมดุ กล่มุ ท่ี ๒ เรอ่ื ง กฎ / ระเบยี บการใช้สนามเดก็ เล่น กลมุ่ ท่ี ๓ เรื่อง กฎ / ระเบยี บของสถานทีร่ าชการ กลุ่มที่ ๔ เรื่อง กฎ / ระเบยี บการใช้พ้นื ที่สวนสาธารณะ ๒) ชว่ั โมงท่ี ๒ ๑. ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงานท่ีไปคน้ ควา้ หน้าช้นั เรยี น พรอ้ มท้งั บอกผลดีของ การปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย และบอกผลเสียของการไม่ปฏบิ ัตติ ามระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ๒. ครแู บง่ นกั เรียนเปน็ ๒ กลมุ่ ดังน้ี กล่มุ ท่ี ๑ ใหบ้ อกผลดีของการปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบ กติกา กฎหมาย แล้วจัดทำเปน็ แผนภมู ิ กลุ่มที่ ๒ ให้บอกผลดขี องการปฏิบตั ิตามกฎ ระเบยี บ กติกา กฎหมาย แล้วจดั ทำเป็น แผนภมู ิ ๓. ให้นักเรยี นนำเสนอผลงาน ๔. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การปฏิบัตติ นตามระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ของ สงั คมจะทำให้คนเปน็ คนดี มรี ะเบียบสงั คมก็จะสงบสุข และประเทศชาติ จะสามารถพัฒนาไดร้ วดเร็ว กา้ วทนั อารยประเทศ ๕. ครูใหน้ ักเรียนนำแผนภมู ไิ ปติดปา้ ยนิเทศภายในบรเิ วณโรงเรียน ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู้ / แหล่งเรียนรู้ ๑) ใบความรู้ เรอื่ ง ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมายขององค์กรหรอื หน่วยงานต่าง ๆ ๒) แผนภูมกิ ตกิ าของห้องเรียน ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ตรวจผลงานการทาแผนภูมเิ กีย่ วกบั ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมายขององค์กรหรือ หน่วยงานต่าง ๆ ๕.๒ เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานการทำแผนภูมิเกย่ี วกับ ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมายขององคก์ รหรือหนว่ ยงานต่าง ๆ ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรม เรอ่ื ง ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ๕.๓ เกณฑ์การตัดสิน นักเรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป
138 6. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ............................... ลงช่อื ........................................ครผู สู้ อน (..................................................) 7. ความคดิ เหน็ ผบู้ รหิ าร ............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงช่อื .....................................ผบู้ ริหาร (นายจรญั วารนิ ทร์)
139 ใบความรู้ เร่อื ง ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย ระเบยี บวนิ ัย คอื คุณสมบัติทีส่ ำคญั ในการดำเนนิ ชวี ิต ความสามารถของบุคคลใน การควบคมุ อารมณ์ และพฤตกิ รรมของตนเอง ให้เป็นไปตามทม่ี งุ่ หวัง โดยเกิดจากการ สำนึก ซงึ่ ต้องไม่กระทำการใด อนั เป็นผลทาให้เกิดความยงุ่ ยากแก่ กฎ คอื ขอ้ บังคบั ทอ่ี ย่ใู นความเปน็ จรงิ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและ ชวี ติ ระเบียบวนิ ัย นนั้ เปน็ สง่ิ ซงึ่ ตนเองในอนาคต หากแตต่ อ้ งเป็นสง่ิ ท่ีกอ่ ใหเ้ กดิ ความ เจรญิ รุง่ เรอื งแกต่ นเองและผู้อ่นื โดยมีความสำคญั ยง่ิ โดยเฉพาะกับนักเรียนหรอื เยาวชน อันจะเป็นกำลงั อย่างมากในการพัฒนาประเทศ กติกา คือ กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง หรอื ข้อกำหนด ทบี่ คุ คลตงั้ แต่ ๒ ฝา่ ยไปใช้เปน็ หลัก ปฏบิ ัตเิ พอ่ื ให้เกดิ ความเป็นธรรมแกท่ ุกฝา่ ย กฎหมาย คือ กฎท่สี ถาบัน หรอื ผู้มีอำนาจสูงสุดในรฐั ตราขึ้น หรอื ทเี่ กดิ ข้นึ จาก จารตี ประเพณอี ันเปน็ ที่ยอมรบั นบั ถอื เพือ่ ใช้ในการบรหิ ารประเทศ เพ่อื ใช้บังคับบคุ คลให้ ปฏิบตั ิตาม
140 แบบสังเกตพฤติกรรม เร่อื ง ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต คำช้แี จง การบนั ทึกให้ทำเครื่องหมาย ถกู ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั พฤติกรรมที่เกดิ ข้นึ จรงิ ที่ ชื่อสกุล พดู ความ ไม่ลกั ตรงไป ทำตวั ร้จู กั สรปุ ผลการ จริง ขโมย ตรงมา น่าเชอื่ แยกแยะ ประเมนิ ถอื ประโยชน์ ผ่าน ไม่ สว่ นตนกับ ผ่าน ประโยชน์ สว่ นรวม เกณฑ์การประเมนิ ผ่านตง้ั แต่ ๓ รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน ๒ รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน
141 แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ ๔ ช่ือหน่วย พลเมอื งกับความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม เร่ือง ความรับผิดชอบ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เวลา ๓ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏบิ ัติตนตามหนา้ ท่พี ลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสงั คม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของการมคี วามรับผิดชอบ ๒.๓ ยกตวั อยา่ งการปฏบิ ตั ิตนทแี่ สดงถงึ ความรบั ผิดชอบได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ความหมายของความรับผิดชอบ ความรับผดิ ชอบคือ การปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มีความรบั ผดิ ชอบ มี วินัยต่อตนเอง กระทำได้ โดยการปฏิบัติหน้าทท่ี ่ตี นไดร้ ับมอบหมายในฐานะนกั เรียน และการเป็น บตุ รในครอบครัวด้วยความตงั้ ใจได้เปน็ อยา่ งดี เช่น - การตั้งใจเรียนหนงั สอื - ดแู ลตนเองในกิจวัตรประจาวัน - เช่อื ฟังคาสง่ั สอนของพ่อแม่ - มาโรงเรยี นให้ทนั เวลา - ชว่ ยพ่อแม่ทำงานบ้าน ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ความสามารถในการคิด ๓.๓ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / คา่ นิยม คำนงึ ถงึ ผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกวา่ ผลประโยชน์ของตนเอง ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ๑) ช่ัวโมงท่ี ๑ ๑. นักเรยี นดวู ีดทิ ัศน์ เรอ่ื งรู้จกั หน้าที่ นกั เรียนช่วยกนั วเิ คราะห์ว่า ตวั ละครในเร่อื ง ดังกล่าวมีการกระทำใดที่แสดงออกถึงการมีความรบั ผิดชอบหรือไม่ แลว้ สง่ ผลกระทบต่อสง่ิ ใดบา้ ง ๒. นักเรียนดแู ผนภาพความคดิ เพื่อศึกษาความร้กู ารปฏบิ ัตติ นเปน็ ผมู้ คี วามรับผดิ ชอบ มี วินยั ตอ่ ตนเองจาก แลว้ ช่วยกนั สรุป การปฏิบตั ิตนเป็นผู้มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี นิ ยั ต่อตนเอง แลว้ ให้ นักเรียนแสดงความคิดเห็นถึงผลกระทบจากการกระทำของบคุ คลในภาพวา่ สง่ ผลต่อสังคมละ ประเทศชาติอยา่ งไร ๓. นกั เรยี นดูวดิ ีโอ เร่อื ง ความรบั ผิดชอบ และครูตั้งคาถามรว่ มกันสนทนาเน้ือหาใน วดิ โี อเรื่องความรบั ผดิ ชอบ ๔. ครู และนักเรียนช่วยกนั สรปุ ความหมายของความรับผดิ ชอบวา่ “ความรับผิดชอบ คือการปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู้ ีความรับผดิ ชอบ มวี นิ ยั ต่อตนเอง กระทาได้ โดยการปฏิบตั ิหน้าที่ทตี่ นไดร้ ับ มอบหมายในฐานะนักเรยี น และการเป็นบตุ รในครอบครัวด้วยความตง้ั ใจได้เปน็ อยา่ งดี”
142 ๒) ชัว่ โมงท่ี ๒ ๑. นักเรียนจับกล่มุ ๕ – ๗ คน ทำใบงานเรอื่ ง สดุ ยอดในตัวเรา ๒. นักเรยี นยกตวั อยา่ งการปฏบิ ัติตนใหเ้ ปน็ ผู้มคี วามรับผิดชอบต่อโรงเรียน และต่อพ่อ แม่ วา่ ตอ้ งปฏบิ ตั ิอย่างไรบา้ งโดยใหน้ กั เรียนไปคน้ คว้าจากแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ ๓. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันนำเสนอผลงานกลมุ่ ในชน้ั เรยี นโดยครชู ่วยแนะนาเพิ่มเตมิ ในแนวทางการปฏิบัติตนใหเ้ ป็นผู้ทีม่ คี วามรับผดิ ชอบ แลว้ ทำใบงานเรื่อง เร่ือง สุดยอดในตัวเรา ๔. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ การปฏบิ ัติตนใหเ้ ปน็ ผูม้ คี วามรับผิดชอบ ๕. ครใู ห้นกั เรยี นเขียนเรียงความเร่ือง “ความรบั ผิดชอบของฉัน” ๖. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปหน้าที่และความรับผดิ ชอบ “การปฏบิ ตั ติ นตามความ รับผิดชอบเปน็ การปฏิบตั ิหน้าทที่ ่ีตนได้รับมอบหมายในฐานะนักเรียน และการเป็นบตุ รในครอบครวั ดว้ ยความตง้ั ใจไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เช่น - การต้ังใจเรยี นหนงั สอื - ดแู ลตนเองในกิจวตั รประจาวนั - เช่อื ฟงั คาสั่งสอนของพ่อแม่ - มาโรงเรยี นใหท้ ันเวลา - ชว่ ยพอ่ แม่ทำงานบ้าน ฯลฯ” ๔.๒ ส่อื การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) วีดีโอ เร่อื งรู้จักหนา้ ที่ https://www.youtube.com/watch?v=GATjrfppBBA ๒) วิดีโอ เรอ่ื งความรับผดิ ชอบ https://www.youtube.com/watch?v=๗kbnUOzerjg ๓) ใบงานเร่ือง สดุ ยอดในตัวเรา ๔) แผนภาพความคิด การปฏบิ ตั ิตนให้มีความรับผิดชอบ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงานเรือ่ ง สุดยอดในตวั เรา ๒) ตรวจเรยี งความ “เรื่องความรบั ผิดชอบของฉัน” ๕.๒ เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการประเมนิ ๑) ใบงานเรื่อง เขาทำอะไร ? ๒) เรียงความเรอื่ ง “ความรบั ผิดชอบของฉัน” ๕.๓ เกณฑ์การตัดสนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ๘๐ ข้นึ ไป
143 6. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................... ................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ............................... ลงชอื่ ........................................ครูผู้สอน (..................................................) 7. ความคดิ เหน็ ผูบ้ ริหาร ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... ลงชือ่ .....................................ผบู้ ริหาร (นายจรญั วารนิ ทร์)
144 แผนภาพความคิด การปฏิบตั ิตนให้มีความรบั ผดิ ชอบ ทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายให้ ทำงานการบ้าน และทบทวนวชิ า เสรจ็ ทนั เวลา ท่ีเรียนมาทกุ วัน ตั้งใจเรยี นหนังสือ ความรับผิดชอบ ดแู ลตนเองในกจิ วตั รประจำวนั ทำเวรประจาวัน ชว่ ยพ่อแม่ทำงานบ้าน มาโรงเรียนทนั เวลา
145 ใบงาน สดุ ยอดในตัวเรา คำช้แี จง จงตอบคำถามดังตอ่ ไปน้ี ๑. นักเรยี นจะปฏบิ ตั ติ นเป็นผูม้ ีความรบั ผดิ ชอบ ต่อตนเองในฐานะทีเ่ ปน็ นกั เรยี นได้อย่างไรบา้ ง ๑. ........................................................................................................................... ......................... ๒. .................................................................................................................................................... ๓. .................................................................................................................................................... ๔. ......................................................................................................................... ........................... ๕. .................................................................................................................................................... ๒. นักเรยี นจะปฏบิ ัตติ นเปน็ ผคู้ วามรบั ผิดชอบต่อตนเองในฐานะท่ีเปน็ ลกู ของคุณพ่อคุณแม่ได้ อย่างไร ๑. ............................................................................................................................. ........................ ๒. ..................................................................................................................................................... ๓. ........................................................................................................................... .......................... ๔. ...................................................................................................................................................... ๕. ........................................................................................................................... .............................
146 แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ ๔ ช่ือหนว่ ย พลเมอื งกับความรับผิดชอบต่อสงั คม ชนั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรอ่ื ง ความเปน็ พลเมือง เวลา ๓ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับพลเมืองและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม ๑.๒ ปฏิบัตติ นตามหน้าทพี่ ลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของการเปน็ ผลเมอื งดีได้ ๒.๒ ยกตวั อย่างการปฏบิ ตั ิใหเ้ ป็นพลเมืองทด่ี ีได้ ๒.๓ บอกผลเสียทีเ่ กิดจากการไมป่ ฏิบตั ิตนตามหน้าท่ขี องพลเมืองท่ีดีได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ความหมายของพลเมอื งทดี่ ี พลเมืองดี หมายถึง ผทู้ ีป่ ฏิบัตหิ น้าท่ีพลเมืองได้ครบถ้วน ทั้งกจิ ท่ี ต้องทำและกจิ ที่ควรทำหน้าท่ี หมายถงึ กิจทตี่ ้องทำ หรอื ควรทำ เปน็ สง่ิ ที่กำหนดให้ทำ หรอื ห้ามมิให้ กระทำ ถา้ ทำก็จะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลดี เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครวั หรือสังคมส่วนรวมแลว้ แตก่ รณี ถา้ ไม่ทำหรือไม่ละเวน้ การกระทำตามที่กำหนดจะไดร้ ับผลเสียโดยตรง คอื ได้รบั โทษ หรือถกู บังคบั เชน่ ปรบั จำคกุ หรือประหารชวี ิต เปน็ ต้น โดยทวั่ ไปสิง่ ที่ระบุกิจทีต่ ้องทำ ไดแ้ ก่ กฎหมาย เป็นต้น ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ความสามารถในการคิด ๓.๓ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ / ค่านยิ ม คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ๑) ชั่วโมงที่ ๑ ๑. นักเรียนดู วดี ีโอ เรื่องหักเหล่ยี มคอร์รปั ชัน่ เร่มิ ท่ีคณุ ...จบทค่ี ณุ นักเรยี นชว่ ยกัน วเิ คราะห์วา่ ตวั ละครในเร่ืองดังกลา่ วมีการกระทำใดที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมอื งดี การกระทำใดท่ี แสดงว่าเป็นพลเมืองไม่ดี และการเป็นพลเมืองไมด่ ี มีผลกระทบต่อสังคมอย่างไร ๒. นักเรียนดภู าพกิจกรรมตา่ ง ๆ ท่ีแสดงถึงการมีส่วนรว่ มในสงั คม เชน่ ๒.๑ ภาพการปลูกปา่ ๒.๒ ภาพการเลือกต้ัง แล้วให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็นถึงผลกระทบจากการกระทำของบคุ คลในภาพว่าสง่ ผลต่อ สงั คมละประเทศชาตอิ ย่างไร ๓. นักเรยี นทำใบงานเร่ือง เขาทำอะไร ? ๔. ครู และนกั เรยี นสรุป ความหมายของพลเมอื งที่ดี หมายถงึ “ ผู้ ทีป่ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี พลเมอื งได้ครบถ้วน ท้ังกิจทตี่ ้องทำ และกิจที่ควรทำหนา้ ที่ หมายถงึ กจิ ทต่ี อ้ งทำ หรือควรทำ เปน็ ส่ิง ท่กี ำหนดให้ทำ หรอื ห้ามมใิ ห้กระทำ ถา้ ทำก็จะกอ่ ให้เกดิ ผลดี เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเอง ครอบครัว หรือสังคมส่วนรวมแลว้ แตก่ รณี ถ้าไม่ทำหรือไมล่ ะเวน้ การกระทำตามท่ีกำหนดจะได้รับผลเสีย โดยตรง คอื ได้รบั โทษ หรือถูกบังคับ เชน่ ปรับ จำคุ ก หรือประหารชีวติ เปน็ ตน้ โดยท่ัวไปสงิ่ ทีร่ ะบุ
147 กจิ ที่ต้องทำ ได้แก่ กฎหมาย เปน็ ต้น” ๒) ชัว่ โมงที่ ๒ ๑. นักเรยี นจับกลุ่ม ๕ – ๗ คน ทำใบงานเรื่อง บทบาทหนา้ ที่พลเมืองท่ีดี ๒. นกั เรียนยกตวั อย่างการปฏิบัติตนให้เป็นพลเมอื งท่ดี ี ว่าต้องปฏบิ ตั ิอย่างไรบ้างโดย ให้นกั เรยี นไปค้นคว้าจากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ ๓. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันนำเสนอผลงานกลุ่มในชน้ั เรยี นโดยครชู ่วยแนะนำ เพม่ิ เติมในแนวทางการปฏิบตั ิตนตามบทบาทหน้าที่ผลเมืองที่ดี ๔. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปการปฏิบตั ิตนใหเ้ ป็นพลเมืองดี ๕. ครูให้นกั เรยี นกลุ่มเดมิ ชว่ ยกันวางแผนทำกิจกรรมรว่ มกนั ทีแ่ สดงถงึ การปฏิบัติตน ตามบทบาทหน้าท่ีของพลเมืองดีและผลเสยี จากการไม่ปฏิบตั ติ ามหนา้ ท่ีการเปน็ พลเมืองดีใน ขอบข่าย ดังน้ี ๕.๑ เคารพสทิ ธแิ ละเสรภี าพของตนเองและผู้อน่ื ๕.๒ ทำประโยชน์ตอ่ สังคมและประเทศชาติ ๖. นักเรียนแต่ละกลุม่ เขียนแผนดำเนินกิจกรรมลงในแบบบันทึกปฏิบตั ติ นพลเมืองดี และผลเสียทีเ่ กดิ จากการไมป่ ฏิบัตติ ามหนา้ ท่ีพลเมืองดี แล้วสง่ แผนดำเนินกจิ กรรมต่อครู ๗. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปความเปน็ พลเมืองดีว่า “บุคคลจะเปน็ พลเมืองดีของ สงั คมนัน้ ตอ้ งตระหนักถึงบทบาทหนา้ ท่ี ที่จะตอ้ งปฏิบัติ และมุ่งมน่ั เพื่อให้บรรลุเปา้ หมาย ดว้ ยความ รบั ผดิ ชอบอย่างเต็มทส่ี อดคล้องกับหลักธรรม วัฒนธรรมประเพณี และรฐั ธรรมนูญท่ีกำหนดไว้ รวมทงั้ บทบาททางสงั คมที่ตนดำรงอยู่ เพื่อใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ และไดป้ ระสิทธิผลท้งั ในส่วน ตนและสังคม เมอื่ สามารถปฏิบตั ิหนา้ ทีไ่ ด้อยา่ งถูกต้องสมบูรณย์ อ่ มเกิดความภาคภูมิใจและเกิดผลดี ทัง้ ตอ่ ตนเองและสังคม ดว้ ยการเป็นพลเมืองดีทีเ่ คารพกฎหมาย เคารพสิทธเิ สรีภาพของผู้อืน่ มคี วาม กระตือรอื รน้ ท่จี ะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปญั หาของชมุ ชนและสังคม มคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมเป็น หลักในการดำเนนิ ชีวติ อย่างผาสุข” ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ ๑) วดี โี อ เรอื่ งหักเหลีย่ มคอร์รัปชนั่ เรม่ิ ท่ีคุณ...จบทีค่ ณุ https://www.youtube.com/watch?v=ihrlY๖zniZw ๒) ใบงานเรื่อง เขาทำอะไร ? ๓) ใบงานเรอื่ ง บทบาทหนา้ ทพ่ี ลเมอื งดี ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงานเรื่อง เขาทำอะไร ? ๒) ตรวจใบงานเร่อื ง บทบาทหนา้ ท่ีพลเมืองดี ๕.๒ เคร่อื งมือท่ีใช้ในการประเมนิ ๑) ใบงานเรอ่ื ง เขาทำอะไร ? ๒) ใบงานเร่ือง บทบาทหนา้ ที่พลเมอื งดี ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ๘๐ ขึน้ ไป
148 ใบงาน เรื่อง บทบาทหนา้ ท่พี ลเมืองดี คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นผังมโนทัศนแ์ สดงถึงบทบาทหน้าท่ีพลเมอื งดตี อ่ โรงเรียนและ สังคม บทบาทหนา้ ทพี่ ลเมืองดตี ่อโรงเรยี นและสงั คม
149 แบบบนั ทึกปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดี คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนบนั ทึกปฏบิ ัติตนเป็นเยาวชนทีด่ ี โดยครอบคลุมในเรอ่ื ง การทำ ประโยชน์ในโรงเรยี นและสงั คม ผลเสียจากการไม่ปฏบิ ตั ิ ตวั อย่าง พฤติกรรม ผลดจี ากการปฏบิ ัติ ผลเสียจากการไม่ปฏิบัติ ตวั อย่าง สภาพแวดลอ้ มดี สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ไมม่ ีสิ่งสกปรก บรเิ วณพน้ื ทส่ี ว่ นรวมมสี ง่ิ การเกบ็ ขยะใน สกปรก โรงเรยี น/ชุมชน
150
- 151
152
153
154
155
156
157
158
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169