๕๗ วบ่งช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระท่คี วรเรยี นรแู้ ละประสบการณ์สำคญั สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ๑.๑.๑ นำ้ หนักและส่วนสูง ๑. การปฏบิ ตั ิตนตาม ตัวเด็ก ตามเกณฑข์ องกรมอนามัย สุขอนามัย สขุ นสิ ยั ท่ีดีใน - รับประทานอาหารท่เี ป็น ๑.๒.๑ รบั ประทานอาหารท่ีมี กิจวัตรประจำวัน ประโยชน์ ประโยชน์และด่มื น้ำสะอาดได้ ด้วยตนเอง ๑.๒.๒ ล้างมือก่อน ตวั เด็ก รบั ประทานอาหารและ (๑) วิธรี ะวงั รกั ษาร่างกายให้ หลังจากใชห้ ้องนำ้ ห้องส้วม สะอาด ดว้ ยตนเอง (๒) มีสุขภาพอนามยั ที่ดี ๑.๒.๓ นอนผกั ผ่อนเป็นเวลา ๑.๒.๔ ออกกำลงั กายเปน็ (๑) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ ตวั เด็ก วลา (๒) การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี - มีสุขภาพอนามัยที่ดี (๓) การเคล่ือนไหวพรอ้ มวสั ดุ อปุ กรณ์ (๔) การเคลื่อนไหวที่ประสาน สัมพนั ธก์ ลา้ มเน้อื ใหญ่ใน การขว้างการจับ การโยน การเตะ (๕) การเคลื่อนเล่นสนามอย่าง อิสระ
พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ ๑ อ การรักษาความปลอดภยั มาตรฐานท่ี ๑ ๑.๓ รักษาความปลอดภยั (๑.๑.๔) รา่ งกายเจริญเติบโตตาม ของตนเองและผ้อู ่นื วยั และมสี ุขนสิ ัยท่ดี ี การตระหนักรเู้ กีย่ วกับ มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคล่อื นไหวรา่ งกาย ๒ รา่ งกายตนเอง (๑.๑.๕) กล้ามเน้อื ใหญแ่ ละ อย่างคล่องแคล่วประสาน เป กลา้ มเนอื้ เล็กแข็งแรง สัมพันธแ์ ละทรงตัวได้ ต ใช้ได้อยา่ งคลอ่ งแคล่ว และประสานสัมพันธก์ นั ๒ ข ไม ๒ ข
๕๘ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ๑.๓.๑ เล่นและทำกิจกรรม อย่างปลอดภยั ด้วยตนเอง ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ๒.๑.๑ เดินต่อเท้าถอยหลัง (๑) การปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัย ตวั เดก็ ป็นเส้นตรงไดโ้ ดยไม่ ต้องกางแขน ในกจิ วตั รประจำวัน - การระมดั ระวงั ความ ๒.๑.๒ กระโดดขาเดยี วไป ข้างหนา้ ได้อย่างตอ่ เนื่องโดย (๒) การฟังนิทานเร่ืองราว ปลอดภัยของตนเอง ม่เสยี การทรงตวั ๒.๑.๓ วิ่งหลบหลีก ส่งิ กดี เหตกุ ารณเ์ กี่ยวกับ จากผู้อนื่ และภยั ใกล้ตวั ขวางได้อยา่ งคล่องแคล่ว การปอ้ งกนั และรักษา รวมทัง้ การปฏบิ ตั ติ อ่ ความปลอดภัย ผอู้ ่นื อยา่ งปลอดภยั (๓) การเล่นเคร่ืองเลน่ อย่าง ปลอดภยั (๔) การเล่นบทบาทสมมตุ ิ เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ (๑) การเคลื่อนไหวโดย ควบคุมตนเองไปใน ทศิ ทางระดบั และพน้ื ท่ี (๑) การเคล่ือนไหวโดย ควบคุมตนเองไปใน ทิศทางระดบั และพนื้ ที่ (๑) การเคลื่อนไหวขา้ มสิง่ กีด ขวาง
พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ ๒.๑ การตระหนักรู้เกย่ี วกับ ขนึ้ รา่ งกายตนเอง (๑.๑.๕) มาตรฐานที่ ๒ ๒.๑ เคลอ่ื นไหวร่างกาย กล้ามเนือ้ ใหญ่และ อย่างคล่องแคล่วประสาน การใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ กลา้ มเนอ้ื เล็กแข็งแรง สมั พันธ์และทรงตัวได้ (๑.๑.๑) ใช้ไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว และประสานสมั พันธก์ ัน การใชก้ ลา้ มเนื้อเล็ก ๒.๒ ใชม้ ือ-ตาประสาน ๒.๒ (๑.๑.๒) สมั พันธก์ นั เสน้ เซน ๒.๒ ตาม
๕๙ สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๑.๔ รับลกู บอลท่กี ระดอน ประสบการณ์สำคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ นจากพน้ื ได้ (๑) การเคล่ือนไหวท่ีใช้ ตวั เดก็ การประสานสัมพันธ์ของ - การระมัดระวังความ การใช้กล้ามเน้อื ใหญ่ใน ปลอดภยั ของตนเอง การขวา้ ง การจบั การโยน จากผู้อ่นื และภัยใกล้ตวั การเตะ รวมทั้งการปฏิบัติต่อ ผอู้ นื่ อยา่ งปลอดภยั ๒.๑ ร้อยวสั ดุทีม่ รี ขู นาด (๑) การประดิษฐ์สง่ิ ตา่ ง ๆ นผา่ นศนู ยก์ ลาง ๐.๕ ดว้ ยเศษวสั ดุ นติเมตรได้ (๒) การหยบิ จับการใชก้ รรไกร ๒.๒ เขียนรปู สามเหล่ยี ม การฉกี การตัดการปะและ มแบบไดอ้ ย่างมมี ุมชัดเจน การรอ้ ยวัสดุ (๑) การเขียนภาพและการเล่น กบั สี (๒) การป้ัน (๓) การประดิษฐ์สงิ่ ตา่ ง ๆ ดว้ ยเศษวัสดุ
พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ ๒.๒ การใช้กล้ามเนื้อเล็ก มาตรฐานที่ ๒ ๒.๒ ใชม้ ือ-ตาประสาน (๑.๑.๒) กล้ามเน้ือใหญแ่ ละ สมั พนั ธ์กนั กลา้ มเน้อื เล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และประสานสมั พนั ธ์กัน ด้านอารมณ์ มาตรฐานที่ ๓ ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์ ๓.๑ การเลน่ (๑.๒.๒) มีสุขภาพจติ ดแี ละมี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ควา การมอี ัตลกั ษณ์เฉพาะตน ความสุข สถ และเชอ่ื วา่ ตนเองมี ความสามารถ (๑.๒.๕) การเหน็ อกเห็นใจผ้อู ่ืน (๑.๒.๖)
๖๐ สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๒.๓ รอ้ ยวสั ดทุ ี่มีรูขนาด ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ เสน้ ผา่ นศนู ย์กลาง ๐.๒๕ เซนติเมตร.ได้ (๑) การเลน่ เครื่องเล่นสมั ผสั ตัวเดก็ ๑.๑ แสดงอารมณ์ และการสร้างจากแท่งไม้ - การระมดั ระวังความ ามรู้สกึ ไดส้ อดคล้องกับ ถานการณ์อยา่ งเหมาะสม บล็อก ปลอดภยั ของตนเอง (๒) การประดษิ ฐ์สงิ่ ตา่ ง ๆ จากผู้อนื่ และภัยใกล้ตวั ด้วยเศษวัสดุ รวมท้ังการปฏิบัติต่อ ผู้อ่นื อยา่ งปลอดภัย (๑) การเล่นอสิ ระ ตวั เด็ก (๒) การเลน่ รายบุคคล - การแสดงออกทางอารมณ์ กลุ่มยอ่ ย กลมุ่ ใหญ่ และความรสู้ ึกอย่าง (๓) การเลน่ ตามมุม เหมาะสม ประสบการณ์ (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น (๕) การปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ตามความสามารถของ ตนเอง (๖) การแสดงความยินดเี ม่ือ ผอู้ น่ื มีความสุข เหน็ ใจเมื่อ ผ้อู ่นื เศรา้ หรอื เสยี ใจ และ การชว่ ยเหลอื ปลอบโยน เม่อื ผอู้ นื่ ไดร้ บั บาดเจบ็
พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี ๓.๒ มาตรฐานท่ี ๓ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีสุขภาพจติ ดแี ละมี ๓.๒ มคี วามรสู้ ึกท่ดี ตี ่อ (๑.๒.๓) ความสุข ตนเองและผู้อ่ืน การแสดงออกทาง อารมณ์ (๑.๒.๔) มาตรฐานท่ี ๔ ๓.๒ ช่นื ชมและแสดงออก การแสดงออกทาง ทางศิลปะ ดนตรี และ ๔.๑ สนใจ มคี วามสุขและ ๔.๑ อารมณ์ (๑.๒.๔) การเคล่อื นไหว แสดงออก ผ่านงานศลิ ปะ คณุ ธรรม จริยธรรม ดนตรี และการเคลอ่ื นไหว (๑.๒.๓) สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี (๑.๒.๑) การแสดงออกทาง อารมณ์ (๑.๒.๔) สุนทรยี ภาพ ดนตรี ๔.๑ (๑.๒.๑)
๖๑ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ๒.๑ กล้าพูดกล้าแสดงออก (๑) การปฏิบตั ติ นตามศาสนา ตัวเดก็ อยา่ งเหมาะสมตาม ทีน่ ับถอื - การแสดงความคิดเหน็ ของ สถานการณ์ (๒) การเลน่ บทบาทสมมติ ตนเองและรับฟงั ความ คิดเหน็ ของผู้อนื่ ๒.๒ แสดงความพอใจใน (๑) การพูดสะท้อนความรู้สึก ตวั เด็ก - การตระหนักรู้เกี่ยวกบั ผลงานและความ ของตนเองและผอู้ นื่ ตนเอง สามารถของตนเอง (๒) การรว่ มสนทนาและ ตัวเด็ก - ความภมู ิใจในตนเองและ และผ้อู ่นื แลกเปลย่ี นความคดิ เห็น การสะทอ้ นการรับรู้ อารมณแ์ ละความรสู้ ึก เชิงจรยิ ธรรม ของตนเองและผู้อืน่ ๑.๑ สนใจ มีความสุข และ (๑) การทำกิจกรรมศลิ ปะ แสดงออกผา่ นงาน ตา่ ง ๆ ศลิ ปะ (๒) การสรา้ งสรรคส์ ่งิ สวยงาม (๓) การทำงานศิลปะ ๑.๒ สนใจ มีความสขุ และ (๑) การฟังเพลง การร้องเพลง แสดงออกผา่ น และการแสดงปฏิกิริยา เสยี งดนตรี โตต้ อบเสียงดนตรี (๒) การเลน่ เคร่ืองคนตรี ประกอบจังหวะ (๓) การรอ้ งเพลง
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี ๔.๑ แส การแสดงออกทาง มาตรฐานท่ี ๔ ๔.๑ สนใจ มีความสุขและ ปร อารมณ์ ชืน่ ชมและแสดงออก แสดงออก ผ่านงานศิลปะ ดน (๑.๒.๔) ทางศิลปะ ดนตรี และ ดนตรี และการเคลือ่ นไหว การเคลื่อนไหว การดแู ลรกั ษาธรรมชาติ มาตรฐานท่ี ๕ ๕.๑ ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ ๕.๑ และสง่ิ แวดล้อม (๑.๓.๒) มีคุณธรรม จรยิ ธรรม คอ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมจี ิตใจท่ีดีงาม ผอู้ (๑.๒.๓) ๕.๒ มคี วามเมตตา กรุณา ๕.๒ มีนำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แล แบ่งปัน การปฏบิ ัติกจิ วตั ร ๕.๒ ประจำวนั (๑.๓.๑) ผูอ้ ๕.๒ ผู้อ
๖๒ สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ๑.๓ สนใจ มคี วามสขุ และ (๑) การเคล่ือนไหวตาม ตัวเด็ก สดงท่าทาง เคลอ่ื นไหว เสยี งเพลง/ดนตรี - ความภูมิใจในตนเองและ ระกอบเพลงจังหวะ และ การสะท้อนการรับรู้ นตรี อารมณแ์ ละความรู้สกึ ของตนเองและผู้อน่ื ๑.๑ ขออนญุ าตหรือรอ (๑) การเลน่ และการทำงาน ตวั เดก็ อยเม่ือต้องการสง่ิ ของของ รว่ มกับผอู้ นื่ - การกำกับตนเอง การเล่น อื่นดว้ ยตนเอง (๒) การเล่นและการทำงาน และทำสงิ่ ต่าง ๆด้วย รว่ มกับผู้อ่นื ตนเองตามลำพงั หรอื กับ (๓) การทำศลิ ปะแบบรว่ มมือ ผอู้ นื่ ๒.๑ แสดงความรกั เพอ่ื น (๑) การเลี้ยงสัตว์ ตัวเด็ก ละมเี มตตาสตั ว์เลย้ี ง (๒) การฟังนิทานเกย่ี วกบั - การมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (๓) การร่วมสนทนาและ แลกเปล่ียนความคดิ เหน็ เชงิ จริยธรรม ๒.๒ ช่วยเหลอื และแบ่งปนั (๑) การชว่ ยเหลือตนเองใน อ่นื ได้ดว้ ยตนเอง กิจวัตรประจำวนั ๒.๒ ชว่ ยเหลอื และแบง่ ปัน อื่นไดด้ ว้ ยตนเอง
พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี ๕.๓ มคี วามเหน็ อกเห็นใจ การยอมรับในความ ผอู้ ื่น ๕.๓ เหมอื นและความ ทา่ แตกต่างระหว่างบคุ คล ๕.๔ มีความรบั ผิดชอบ อย (๑.๓.๗) สถ ๕.๔ มอ ตน ดา้ นสังคม มาตรฐานที่ ๖ ๖.๑ ชว่ ยเหลือตนเองใน ๖.๑ การปฏิบตั ิกจิ วตั ร มีทักษะชีวติ และปฏบิ ตั ิตน การปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวนั อย ประจำวัน ตามหลกั ปรัชญาของ (๑.๓.๑) เศรษฐกจิ พอเพียง ๖.๑ ด้ว ๖.๑ สะ ห้อ
๖๓ สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ แสดงสีหนา้ และ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ าทางรบั รูค้ วามรูส้ กึ ผู้อ่ืน ยา่ งสอดคล้องกับ (๑) การเลน่ หรือทำกิจกรรม ถานการณ์ ๔.๑ ทำงานท่ไี ด้รบั ร่วมกับกลมุ่ เพื่อน อบหมายจนสำเร็จด้วย นเอง (๑) การทำงานศิลปะทน่ี ำวสั ดุ ตัวเดก็ หรอื ส่งิ ของเคร่ืองใช้ท่ใี ช้ - ความภูมใิ จในตนเอง ๑.๑ แตง่ ตัวดว้ ยตนเองได้ แลว้ มาใช้ซำ้ หรอื แปรรูป การสะทอ้ นการรับรู้ ย่างคล่องแคลว่ แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ อารมณแ์ ละความรู้สึก ของตนเองและผู้อ่ืน (๑) การชว่ ยเหลอื ตนเองใน กจิ วตั รประจำวัน ๑.๒ รับประทานอาหาร (๑) การชว่ ยเหลอื ตนเองใน ตวั เดก็ วยตนเองอย่างถูกวิธี กจิ วัตรประจำวนั - รับประทานอาหารท่ีเปน็ ประโยชน์ ๑.๓ ใชแ้ ละทำความ (๑) การดแู ลห้องน้ำ หอ้ งสว้ ม ะอาดหลังใช้ห้องนำ้ ร่วมกนั ตวั เดก็ องส้วมด้วยตนเอง -วิธีระวงั รักษาร่างกาย ใหส้ ะอาด
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มวี นิ ัย มาตรฐานที่ ๖ ๖.๒ มีวินยั ในตนเอง ๖.๒ มสี ว่ นรว่ มและบทบาท ทอ่ี สมาชิกของสังคม มีทกั ษะชวี ติ และปฏบิ ตั ติ น (๑.๓.๔) ๖.๒ การมีปฏสิ มั พันธ์ มีวนิ ยั ตามหลกั ปรัชญาของ ก่อ มีสว่ นร่วมและบทบาท สมาชิกของสังคม เศรษฐกจิ พอเพียง ๖.๓ (๑.๓.๔) เคร ๖.๓ ประหยดั และเพยี งพอ พอ การปฏิบตั ิกิจวตั ร ประจำวัน (๑.๓.๑) การดูแลรกั ษาธรรมชาติ และสิง่ แวดลอ้ ม (๑.๓.๒)
๖๔ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๒.๑ เกบ็ ของเล่นของใชเ้ ขา้ (๑) การรว่ มกำหนดข้อตกลง ตวั เด็ก อย่างเรียบร้อยดว้ ยตนเอง ของหอ้ งเรียน - วิธรี ะวงั รักษารา่ งกายให้ (๒) การดูแลห้องเรียนรว่ มกัน สะอาด ๒.๒ เข้าแถวตามลำดับ (๑) การปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกที่ อน หลงั ได้ดว้ ยตนเอง ดขี องห้องเรียน ๓.๑ ใชส้ ิง่ ของและ (๓) การให้ความร่วมมือใน รื่องใช้อย่างประหยดั และ การปฏิบัติกจิ กรรมตา่ ง ๆ อเพยี งดว้ ยตนเอง (๑) การปฏิบัตติ นตามแนวทาง ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตัว หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ - การเลือกใชส้ ง่ิ ของ พอเพยี ง เครอ่ื งใช้ ประโยชน์ (๒) การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของ การใช้งาน เครอ่ื งใชอ้ ย่างคุ้มคา่
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ ๗.๑ แล การดแู ลรกั ษาธรรมชาติ มาตรฐานที่ ๗ ๗.๑ ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รกั ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และสิ่งแวดลอ้ ม (๑.๓.๒) วัฒนธรรมและความเปน็ ไทย ๗.๑ การปฏบิ ตั ติ นตาม ๗.๒ มีมารยาทตาม ๗.๒ วัฒนธรรมท้องถ่ินและ วฒั นธรรมไทยและ มา ความเปน็ ไทย รักความเปน็ ไทย (๑.๓.๓)
๖๕ สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ๑.๑ ดแู ลรักษาธรรมชาติ ละส่งิ แวดลอ้ มด้วยตนเอง ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ ๑.๒ ท้งิ ขยะได้ถูกที่ (๑) การใชว้ สั ดแุ ละส่ิงของ บุคคลและสถานที่ เคร่อื งใช้อย่างคุ้มค่า (๑) สถานศึกษา ชมุ ชน (๒) การสนทนาขา่ วและ (๒) สถานทีส่ ำคัญในชุมชน เหตกุ ารณ์ท่เี กี่ยวกบั (๓) แหลง่ วัฒนธรรมในชุมชน ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม (๔) แหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญา ในชวี ติ ประจำวนั ท้องถน่ิ (๑) การศึกษานอกสถานที่ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม (๑) การมสี ว่ นร่วมรบั ผิดชอบ - การอนุรกั ษ์สิง่ แวดลอ้ ม ดูแลสิง่ แวดล้อมทงั้ และการรักษาสาธารณ ภายนอก ภายในห้องเรียน สมบัติ ๒.๑ ปฏิบตั ติ นตาม (๑) การเล่นบทบาทสมมุติ ตวั เดก็ - การแสดงมารยาทที่ดี ารยาทไทยได้ตามกาลเทศะ การปฏิบตั ิตนในความ บคุ คลและสถานท่ี (๑) ปฏิบัติตนตามวัฒนธรรม เป็นไทย ท้องถิ่น ความเป็นไทย (๒) การปฏบิ ตั ิตนตาม (๒) ศาสนา แหลง่ วัฒนธรรม วัฒนธรรมท้องถน่ิ ท่ี ชมุ ชน (๓) แหล่งเรียนรู้ภมู ิปัญญา อาศัยและประเพณี ทอ้ งถิน่ ๓) การประกอบอาหารไทย (๔) การศึกษานอกสถานที่ (๕) การร่วมกจิ กรรมวนั สำคัญ
พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ ๗.๒ แล การปฏบิ ตั ิตนตาม มาตรฐานท่ี ๗ ๗.๒ มีมารยาทตาม วัฒนธรรมท้องถิ่นและ รักธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรมไทยและ ความเปน็ ไทย วัฒนธรรมและความเปน็ รกั ความเปน็ ไทย (๑.๓.๓) ไทย ๗.๒ รอ้ สร
๖๖ สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๒.๒ กลา่ วคำขอบคุณ ละขอโทษด้วยตนเอง ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ ๒.๓ ยนื ตรงและรว่ ม (๑) การเล่นบทบาทสมมตุ ิ ตัวเด็ก องเพลงชาติไทยและเพลง รรเสรญิ พระบารมี การปฏบิ ัติตนในความ - การแสดงมารยาทที่ดี เป็นไทย บุคคลและสถานท่ี (๒) การศึกษานอกสถานท่ี (๑) ปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรม ทอ้ งถนิ่ ความเป็นไทย (๒) ศาสนา แหล่งวัฒนธรรม ชมุ ชน (๓) แหล่งเรียนรภู้ ูมปิ ัญญา ท้องถิ่น (๑) การปฏิบตั ิตนตาม บคุ คลและสถานท่ี วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ท่ี - สญั ลักษณส์ ำคัญของ อาศยั และประเพณี ชาติไทย
พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ การยอมรบั ในความ มาตรฐานท่ี ๘ ๘.๑ ยอมรบั ความเหมือน ๘.๑ และความแตกต่างระหวา่ ง กจิ ก เหมอื นและความ อยู่ร่วมกบั ผู้อน่ื ได้อยา่ ง บุคคล แตก แตกตา่ งระหวา่ งบุคคล มีความสุขและปฏิบตั ิตน ๘.๒ มีปฏิสัมพนั ธท์ ี่ดกี ับ ๘.๒ ผ้อู ื่น ร่วม (๑.๓.๗) เป็นสมาชกิ ทดี่ ีของสงั คม เป้า การมปี ฏสิ มั พันธ์ มวี ินยั ในระบอบประชาธิปไตย ๘.๒ พดู มสี ว่ นรว่ มและบทบาท อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ คนุ้ ทรงเป็นประมุข สถา สมาชิกของสังคม (๑.๓.๔) การเลน่ และการทำงาน แบบรว่ มมือรว่ มใจ (๑.๓.๕) การแก้ปัญหาความ ขัดแย้ง (๑.๓.๖) การมีปฏิสมั พนั ธ์ มวี นิ ยั มีสว่ นรว่ มและบทบาท สมาชกิ ของสังค (๑.๓.๔) การปฏิบตั ติ นตาม วฒั นธรรมท้องถนิ่ และ ความเป็นไทย (๑.๓.๓)
๖๗ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๑.๑ เลน่ และทำ ประสบการณ์สำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ กรรมรว่ มกับเดก็ ที่ กต่างไปจากตน (๑) การเลน่ หรือทำ ตัวเด็ก ๒.๑ เลน่ หรือทำงาน กิจกรรมรว่ มกับ - การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ มมอื กับเพ่ือนได้อย่างมี าหมาย กลมุ่ เพือ่ น ท่ดี ขี องครอบครัวและ โรงเรยี น (๑) การให้ความรว่ มมือ ในการปฏบิ ัติ กิจกรรมต่าง ๆ (๒) การรว่ มสนทนาแลก เปลีย่ นความคดิ เห็น (๓) การมีส่วนรว่ มใน การเลือกวิธีแก้ปญั หา ๒.๒ ยิม้ ทกั ทายและ (๑) การให้ความร่วมมือ บุคคลและสถานท่ี ดคุยกับผใู้ หญ่และบคุ คลท่ี ในการปฏิบตั ิ - มปี ฏิสัมพนั ธใ์ นชีวิต นเคยไดเ้ หมาะสมกับ กจิ กรรมต่าง ๆ ประจำวัน านการณ์ (๒) การรว่ มสนทนาแลก เปล่ียนความคิดเหน็ (๓) การปฏบิ ัติตนตาม วฒั นธรรมท้องถน่ิ ท่ี อาศัย/ประเพณีไทย
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี การมปี ฏสิ มั พันธ์ มวี นิ ยั มี มาตรฐานที่ ๘ ๘.๒ มีปฏิสัมพนั ธท์ ด่ี กี ับ ๘.๒ ส่วนร่วมและบทบาท อยู่ร่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้อยา่ ง ผอู้ ื่น พดู สมาชิกของสงั คม (๑.๓.๔) มคี วามสขุ และปฏบิ ัติตน คุ้น การปฏิบตั ติ นตาม เปน็ สมาชิกท่ีดขี องสงั คม เหม วฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ และ ในระบอบประชาธิปไตย ความเป็นไทย อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ (๑.๓.๓) ทรงเปน็ ประมุข การเลน่ และการทำงาน ๘.๓ ปฏิบัตติ นเบอื้ งตน้ ใน ๘.๓ แบบรว่ มมือร่วมใจ การเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องสงั คม ขอ้ (๑.๓.๕) การมปี ฏสิ มั พันธ์ มวี นิ ยั มี ขอ้ สว่ นรว่ มและบทบาท สมาชิกของสังคม (๑.๓.๔) ๘.๓ การเล่นและการทำงาน ผนู้ แบบรว่ มมือร่วมใจ เหม (๑.๓.๕) ๘.๓ การแกป้ ัญหาความขดั แย้ง แก (๑.๓.๖) ใชค้ ตน
๖๘ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ๒.๒ ย้มิ ทกั ทายและ (๑) การใหค้ วามร่วมมือใน บุคคลและสถานท่ี ดคยุ กบั ผู้ใหญ่และบุคคลท่ี การปฏิบตั ิกิจกรรม - มปี ฏิสมั พันธ์ใน นเคยได้ ตา่ ง ๆ ชวี ิตประจำวัน มาะสมกับสถานการณ์ (๒) การร่วมสนทนาและ แลกเปล่ยี นความ คิดเห็น (๓) การปฏิบัติตนตาม วฒั นธรรมทอ้ งถิ่นที่ อาศัยและประเพณีไทย ๓.๑ มีสว่ นร่วมสรา้ ง (๑) การเลน่ และการ ตวั เดก็ อตกลงและปฏิบัตติ าม ทำงานร่วมกับผู้อื่น - การเคารพสทิ ธขิ องตนเอง อตกลงด้วยตนเอง (๒) การทำศิลปะแบบ และ ร่วมมอื ผู้อนื่ (๓) การร่วมกำหนด ขอ้ ตกลงของหอ้ งเรียน ๓.๒ ปฏบิ ตั ติ นเป็น (๑) การเล่นและการ นำและผ้ตู ามได้ ทำงานร่วมกบั ผ้อู ่ืน มาะสมกับสถานการณ์ (๒) การทำศิลปะแบบ รว่ มมอื ๓.๓ ประนปี ระนอม (๑) การมีส่วนรว่ มใน กไ้ ขปัญหาโดปราศจากการ การเลือกวิธแี ก้ปญั หา ความรนุ แรงดว้ ย (๒) การมีสว่ นรว่ มแก้ปัญหา นเอง ความขัดแย้ง
พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี ๙.๑ แล ดา้ นสติปัญญา มาตรฐานที่ ๙ ๙.๑ สนทนาโตต้ อบและ ตอ่ การใช้ภาษา (๑.๔.๑) ใช้ภาษาส่ือสารได้ เลา่ เรือ่ งใหผ้ ูอ้ ่ืนเข้าใจ ฟัง เหมาะสมกบั วยั ๙.๑ ต่อ
๖๙ สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ๑.๑ ฟังผอู้ ่ืนพดู จนจบ ละสนทนาโต้ตอบอย่าง ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ อเนื่องเช่ือมโยงกับเรื่องท่ี ง (๑) การฟังเสียงตา่ ง ๆ ใน ตวั เด็ก ๑.๒ เล่าเปน็ เรอ่ื งราว สิ่งแวดลอ้ ม บุคคลและสถานที่ อเนอ่ื งได้ (๒) การฟังและปฏบิ ัตติ าม (๑) ครอบครัว คำแนะนำ (๒) บคุ คลตา่ ง ๆ ที่เดก็ (๓) การฟังเพลงนิทาน เกยี่ วข้อง สถานท่สี ำคญั คำคลอ้ งจอง บทละคร วนั สำคญั อาชพี ของคน หรอื เรื่องราวต่าง ๆ ในชุมชน (๔) การพูดแสดงความคิด ธรรมชาติรอบตัว ความรู้สึกความตอ้ งการ สิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว (๕) การพูดกับคนอื่น - การใช้หนังสอื และ เกี่ยวกับประสบการณ์ ตัวหนังสอื ของตนเองหรือผ้เู ล่า เรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง (๖) การพูดอธบิ าย เกีย่ วกับสิง่ ของ เหตุการณแ์ ละ ความสมั พนั ธส์ งิ่ ต่าง ๆ (๑) การพูดอธิบายเกีย่ วกบั สิง่ ของเหตุการณ์และ ความสัมพันธข์ องสิ่งต่าง ๆ (๒) การพูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ใน การเลน่ การกระทำต่าง ๆ
พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี ๙. การใช้ภาษา (๑.๔.๑) สัญ มาตรฐานท่ี ๙ ๙.๒ อา่ น เขียนภาพและ กว ใช้ภาษาสื่อสารได้ สัญลกั ษณ์ได้ จดุ เหมาะสมกบั วัย ข้อ
๗๐ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ .๒.๑ อา่ นภาพ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ ญลักษณค์ ำด้วยการชหี้ รอื วาดตามองจดุ เรม่ิ ต้นและ (๑) การอ่านหนงั สือภาพ ตวั เด็ก ดจบของ อความ นิทาน/หลากหลาย (๑) ชื่อ นามสกลุ ประเภท/รปู แบบ (๒) รา่ งกาย (๒) อา่ นอยา่ งอสิ ระตาม (๓) อาหาร ลำพังการอ่านรว่ มกนั บคุ คลและสถานท่ี การอ่านโดยมผี ู้ช้แี นะ (๑) ครอบครัว (๓) การเหน็ แบบอย่างของ (๒) บุคคลต่าง ๆ ที่เดก็ การอ่านทถ่ี กู ต้อง เก่ียวขอ้ งสถานที่สำคัญ (๔) การสงั เกตทศิ ทางการ วันสำคญั อาชีพของคน อา่ นตวั อักษรคำและ ในชมุ ชน ข้อความ ธรรมชาติรอบตัว (๕) การอ่านและชี้ สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว ขอ้ ความโดยกวาด - การใชห้ นังสือและ สายตาตามบรรทัด ตวั หนังสอื จากซ้ายไปขวาจาก บนลงลา่ ง (๖) การสงั เกตตัวอกั ษรใน ช่อื ของตน/คำค้นุ เคย (๗) การสังเกตตัวอกั ษรท่ี ประกอบเปน็ คำผา่ น การอา่ นหรือการเขียน ของผูใ้ หญ่
พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ ๙. การใชภ้ าษา (๑.๔.๑) สญั มาตรฐานท่ี ๙ ๙.๒ อ่าน เขียนภาพและ กว ใช้ภาษาสื่อสารได้ สัญลกั ษณ์ได้ จุด เหมาะสมกับวยั ข้อ ๙. ตน ขอ้ ข้ึน
๗๑ สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ .๒.๑ อา่ นภาพ ญลกั ษณ์คำด้วยการชห้ี รอื ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ วาดตามองจดุ เร่ิมตน้ และ ดจบของ (๘) การเห็นแบบอยา่ งของ ตวั เดก็ อความ การเขียนทถ่ี ูกต้อง (๑) ชอื่ นามสกุล .๒.๒ เขียนชื่อของ นเองตามแบบเขียน (๙) การเขยี นรว่ มกนั ตาม (๒) รา่ งกาย อความด้วยวธิ คี ดิ นเอง โอกาสและการเขยี นอสิ ระ (๓) อาหาร (๑๐) การเขยี นคำท่ีมความ บคุ คลและสถานที่ หมายกบั ตัวเด็กคำคุ้นเคย (๑) ครอบครัว (๑๑) การที่สะกดและเขยี น (๒) บุคคลต่าง ๆ ทเ่ี ดก็ เพอื่ ส่ือความหมายด้วย เกี่ยวขอ้ งสถานทสี่ ำคัญ ตนเองอย่างอสิ ระ วันสำคญั อาชีพของคน (๑) การเห็นแบบอยา่ งของ ในชุมชน การเขียนทีถ่ ูกต้อง ธรรมชาตริ อบตัว (๒) การเขยี นรว่ มกนั ตาม สิง่ ต่าง ๆ รอบตัว - การใชห้ นงั สอื ตัวหนงั สือ โอกาสและการเขยี น อสิ ระ (๓) การเขยี นคำท่ีมี ความหมายกบั ตัวเด็ก คำคุ้นเคย (๔) การท่ีสะกด และเขยี น เพือ่ ส่อื ความหมาย ด้วยตนเองอยา่ งอสิ ระ
พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ การคดิ รวบยอดการคิด มาตรฐานที่ ๑o ๑๐.๑ มีความสามารถใน ๑๐ เชิงเหตุผล การตดั สินใจ มีความสามารถใน การคิดรวบยอด สว่ น และแก้ปัญหา (๑.๔.๒) การคดิ ทีเ่ ป็นพ้ืนฐาน หรือ ในการเรียนรู้ ส่ิงต โดย
๗๒ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณ์สำคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๐.๑.๑ บอกลกั ษณะ (๑) การสงั เกตลักษณะ ตวั เด็ก นประกอบการเปล่ียนแปลง สว่ นประกอบ - รปู ร่างหนา้ ตา อความสมั พันธข์ อง การเปลี่ยนแปลงหรอื อวัยวะต่าง ๆ ตา่ ง ๆ จากการสงั เกต ความสัมพันธ์ของสิง่ ธรรมชาตริ อบตัว ยใช้ประสาทสัมผัส ตา่ ง ๆ โดยใชป้ ระสาท - ชอ่ื ลกั ษณะส่วนประกอบ สมั ผัสอย่างเหมาะสม การเปลีย่ นแปลงและ (๒) การสังเกตสง่ิ ต่าง ๆ ความสมั พันธม์ นุษย์ และสถานท่จี าก สัตว์ พชื มมุ มองท่ตี ่างกัน สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว (๓) การบอกและแสดง - รู้จกั ชอ่ื ลกั ษณะ สี ตำแหน่งทศิ ทางและ ผวิ สัมผสั ระยะทางของสง่ิ ต่าง ๆ บุคคลและสถานที่ ดว้ ยการกระทำ (๑) สถานศึกษา ชมุ ชน ภาพวาดภาพถา่ ยและ (๒) แหลง่ วัฒนธรรมในชมุ ชน รูปภาพ (๓) แหลง่ เรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญา ทอ้ งถ่นิ
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ๑๐ เปร การคิดรวบยอดการคิด มาตรฐานท่ี ๑o ๑๐.๑ มีความสามารถใน และ เชิงเหตผุ ล การตดั สนิ ใจ มคี วามสามารถในการคิด การคิดรวบยอด สงิ่ ต และแกป้ ัญหา (๑.๔.๒) ที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ สังเ
๗๓ สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๐.๑.๒ จบั คแู่ ละ ประสบการณส์ ำคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ รียบเทียบความแตกต่าง ะความเหมือนของ (๑) การเลน่ กบั ส่ือต่าง ๆ ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตัว ต่าง ๆ โดยใช้ลักษณะท่ี เกตพบ ๒ ลกั ษณะขึน้ ไป ทเี่ ปน็ ทรงกลม - ขนาด รปู รา่ ง รปู ทรง ทรงสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉาก ปริมาตร นำ้ หนัก จำนวน ทรงกระบอก กรวย (๒) การคดั แยกการจดั กลุ่ม และการจำแนก สิง่ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ และรูปรา่ งรูปทรง (๓) การต่อของชน้ิ เลก็ เตมิ ในชิ้นใหญ่ใหส้ มบรู ณ์ และการแยกช้ินสว่ น ๔) การทำซำ้ การต่อเติม และการสรา้ งแบบรปู (๕) การนับและแสดง จำนวนของสิ่งต่าง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั (๖) การเปรยี บเทียบและ เรยี งลำดบั จำนวนของ สงิ่ ตา่ ง ๆ
พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี การคิดรวบยอดการคิด มาตรฐานที่ ๑o ๑๐.๑ มคี วามสามารถใน ๑๐ ส่งิ ต เชงิ เหตุผล การตดั สินใจ มีความสามารถในการคดิ การคิดรวบยอด ลักษ และแก้ปัญหา (๑.๔.๒) ท่เี ป็นพน้ื ฐานในการเรียนรู้
๗๔ สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๐.๑.๓ จำแนกและจัดกลมุ่ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ ตา่ ง ๆ โดยใชต้ ั้งแต่ ๒ ษณะขึ้นไปเปน็ เกณฑ์ (๑) การคัดแยกการจัด สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว กลมุ่ และการจำแนก (๑) ขนาด รปู รา่ ง รปู ทรง สง่ิ ตา่ ง ๆ ตามลักษณะ ปรมิ าตร นำ้ หนกั และรปู รา่ งรปู ทรง จำนวน (๒) การต่อของชิ้นเล็กเติม (๒) เงนิ ในช้ินใหญใ่ ห้สมบูรณ์ (๓) จำนวนของสิง่ ต่าง ๆ และการแยกชิ้นส่วน (๓) การทำซ้ำการต่อเติม และการสร้างแบบรปู (๔) การนับและแสดง จำนวนของส่ิงตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั (๕) การเปรยี บเทียบและ เรียงลำดบั จำนวนของ ส่ิงตา่ ง ๆ (๖) การเปรยี บเทียบและ เรยี งลำดบั จำนวนของ สิ่งตา่ ง ๆ (๗) การบอกและการแสดง อนั ดับท่ขี องสง่ิ ตา่ ง ๆ
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี ๑๐ และ การคิดรวบยอดการคิด มาตรฐานที่ ๑o ๑๐.๑ มีความสามารถใน ลำด เชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจ มคี วามสามารถในการคดิ ท่ี การคิดรวบยอด และแก้ปัญหา (๑.๔.๒) เป็นพ้นื ฐานในการเรยี นรู้
๗๕ สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ๐.๑.๔ เรียงลำดับสิง่ ของ ประสบการณ์สำคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ะเหตุการณอ์ ย่างนอ้ ย ๕ ดบั (๑) การเปรยี บเทียบและ สิง่ ตา่ ง ๆ รอบตัว เรยี งลำดับจำนวนของ - ขนาด รูปรา่ ง รปู ทรง สงิ่ ตา่ ง ๆ ปริมาตร (๒) การบอกและการแสดง นำ้ หนกั จำนวน อนั ดับท่ีของส่งิ ตา่ ง ๆ - เงิน ประโยชน์และการใช้ (๓) การบอกแล้วเรียงลำดับ งาน กิจกรรมหรือเหตุการณ์ - เวลา ตามชว่ งเวลา (๔) การใชภ้ าษาทาง คณติ ศาสตร์กับ เหตุการณ์ใน ชวี ิตประจำวนั (๕) การอธิบายเชื่อมโยง สาเหตุและผลท่ีเกิดขน้ึ ในเหตกุ ารณห์ รือ การกระทำ
พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี ๑๐ สาเ การคดิ รวบยอดการคิด มาตรฐานท่ี ๑o ๑๐.๒ มคี วามสามารถใน เหต เชงิ เหตุผล การตัดสนิ ใจ มคี วามสามารถในการคิด การคดิ เชิงเหตผุ ล ตน และแกป้ ัญหา (๑.๔.๒) ท่ีเป็นพ้ืนฐานในการเรียนรู้
๗๖ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๐.๒.๑ อธบิ ายเช่ือมโยง (๑) การบอกและ ตัวเด็ก เหตุและ ผลท่ีเกิดข้นึ ใน เรยี งลำดับกิจกรรม บุคคลและสถานที่ ตุการณ์หรือการกระทำด้วย หรอื เหตุการณ์ตาม ธรรมชาตริ อบตัวเด็ก นเอง ชว่ งเวลา (๑) ชอื่ ลกั ษณะ (๒) การใชภ้ าษาทาง สว่ นประกอบ คณิตศาสตรก์ ับ การเปลยี่ นแปลงและ เหตุการณใ์ น ความสมั พนั ธข์ องมนุษย์ ชวี ติ ประจำวนั สัตว์ พชื (๓) การอธบิ ายเช่ือมโยง (๒) ดิน น้ำ ท้องฟา้ สาเหตแุ ละผลทเ่ี กิดขึ้น สภาพอากาศ ในเหตกุ ารณ์หรือ ภยั ธรรมชาติ การกระทำ (๓) แรงและพลังงานใน (๔) การมสี ่วนรว่ มใน ชวี ติ ประจำวันท่ี การลงความเหน็ จาก แวดล้อมเด็ก ข้อมูลอยา่ งมเี หตุผล สงิ่ ต่าง ๆ รอบตัว (๕) การตัดสินใจและมี สว่ นร่วมในกระบวนการ แก้ปญั หา
พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ การคดิ รวบยอดการคิด มาตรฐานที่ ๑o ๑๐.๒ มีความสามารถใน ๑๐ เชิงเหตผุ ล การตดั สินใจ มีความสามารถในการคดิ และแกป้ ัญหา (๑.๔.๒) ท่เี ป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้ การคดิ เชิงเหตผุ ล เกดิ ลงค จาก ๑๐.๓ มีความสามารถใน ๑๐ การคดิ แก้ปัญหาและ งา่ ย ตัดสินใจ ๑๐ ทาง แกป้ จนิ ตนาการและความคิด มาตรฐานท่ี ๑๑ ๑๑.๑ ทำงานศลิ ปะตาม ๑๑ สรา้ งสรรค์ (๑.๔.๓) มีจินตนาการและความคดิ จินตนาการและความคิด เพ่ือ สรา้ งสรรค์ ควา สรา้ งสรรค์ ดดั เดิม
๗๗ สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ๐.๒.๒ คาดคะเนสง่ิ ท่อี าจจะ (๑) การคาดเดาหรือ ธรรมชาตริ อบตัว ดขึ้น และมสี ว่ นรว่ มในการ การคาดคะเนสงิ่ ท่ี (๑) ดนิ นำ้ ทอ้ งฟ้า ความเหน็ อาจจะเกดิ ขึน้ อย่างมี สภาพอากาศ กข้อมลู อยา่ งมีเหตุผล เหตุผล ภัยธรรมชาติ ๐.๓.๑ ตดั สินใจในเร่อื ง (๒) การมสี ว่ นร่วมในการลง (๒) แรงและพลังงานใน ยๆและยอมรบั ผลที่เกดิ ข้นึ ความเหน็ จากขอ้ มูล ชวี ิตประจำวนั ท่ี อยา่ งมีเหตผุ ล แวดลอ้ มเด็ก ๐.๓.๒ ระบปุ ัญหาสรา้ ง (๓) การตัดสินใจและมีสว่ น สิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว งเลอื กและเลือกวิธี ร่วม (๑) สว่ นประกอบ ปัญหา ในกระบวนการแกป้ ัญหา การเปลี่ยนแปลงและ ความสมั พนั ธต์ ่อ สิ่งต่าง ๆ รอบตวั (๒) เวลา ประโยชนแ์ ละ การใช้งาน ๑.๑.๑ สร้างผลงานศิลปะ (๑) การรบั รู้ และการสรา้ ง ตวั เด็ก อสื่อสารความคดิ ความคิดความรสู้ กึ บุคคลและสถานที่ ามร้สู กึ ของตนเองโดยมีการ ผา่ นสอ่ื วัสดุของเลน่ ธรรมชาติรอบตัว ดแปลงและแปลกใหม่จาก และช้นิ งาน สงิ่ ตา่ ง ๆ รอบตัว ม มรี ายละเอยี ดเพม่ิ ข้ึน (๒) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ ผา่ นภาษา ทา่ ทางการเคล่ือนไหว และศลิ ปะ
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ จนิ ตนาการและความคิด มาตรฐานท่ี ๑๑ ๑๑.๑ ทำงานศิลปะตาม ๑๑ สรา้ งสรรค์ (๑.๔.๓) มจี ินตนาการและความคิด จินตนาการและความคิด เพอ่ื สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ ควา ดดั เดิม ๑๑.๒ แสดงท่าทาง/ ๑๑ เคลอื่ นไหวตามจินตนาการ เพ่อื อยา่ งสรา้ งสรรค์ ควา หล การใชภ้ าษา (๑.๔.๑) มาตรฐานที่ ๑๒ ๑๒.๑ เจตคติที่ดีตอ่ ๑๒ มีเจตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้ และมคี วามสามารถใน การเรียนรู้ อ่าน การแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตน ต่อเ
๗๘ สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๑.๑.๑ สรา้ งผลงานศิลปะ (๓) การสรา้ งสรรคช์ ิ้นงาน ตวั เด็ก อสื่อสารความคิด โดยใช้รปู รา่ งรูปทรง บคุ คลและสถานท่ี ามรูส้ ึกของตนเองโดยมีการ จากวัสดทุ ่หี ลากหลาย ธรรมชาตริ อบตัว ดแปลงและแปลกใหม่จาก สง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตัว ม มรี ายละเอยี ดเพิม่ ขนึ้ ๑.๒.๑ เคล่ือนไหวท่าทาง (๒) การแสดงความคิด ตัวเดก็ อสื่อสารความคิด สร้างสรรคผ์ ่านภาษา บุคคลและสถานที่ ามรู้สึกของตนเองอย่าง ทา่ ทางการเคล่ือนไหว ธรรมชาตริ อบตัว ลากหลายและแปลกใหม่ และศลิ ปะ สิ่งตา่ ง ๆ รอบตัว ๒.๑.๑ สนใจหยบิ หนังสอื มา (๑) การฟังสียงต่าง ๆ ใน ตวั เดก็ นและเขียนส่อื ความคดิ ด้วย ส่ิงแวดล้อม (๑) รปู ร่างหน้าตา นเองเป็นประจำอย่าง (๒) การฟังและปฏบิ ตั ติ าม อวัยวะตา่ ง ๆ อเน่อื ง คำแนะนำ (๒) อาหาร (๓) การฟังเพลง นิทาน (๓) บุคคลและสถานที่ ชุมชน คำคลอ้ งจองบทร้อย (๔) แหลง่ วัฒนธรรมในชมุ ชน กรองหรือเร่ืองราวต่าง ๆ (๕) แหล่งเรยี นรู้ภูมปิ ญั ญา (๔) การพูดแสดงความคิด ทอ้ งถนิ่ ความรู้สกึ ความต้องการ (๕) การพูดกบั คนอ่ืน เกี่ยวกบั ประสบการณ์ ของตนเองหรือพดู เล่า เร่ืองราวเก่ยี วกับตนเอง
พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ๑๒ การใชภ้ าษา (๑.๔.๑) อ่าน มาตรฐานท่ี ๑๒ ๑๒.๑ เจตคตทิ ด่ี ตี อ่ ตน มเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ตอ่ เ และมคี วามสามารถใน การแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย เจตคติทด่ี ีต่อการเรียนรู้ ๑๒.๒ มคี วามสามารถใน ๑๒ และการแสวงหาความรู้ การแสวงหาความรู้ การ (๑.๔.๔) จน ๑๒ สงส หล ๑๒ ว่า” คน้
๗๙ สภาพทพี่ ึงประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ ๒.๑.๑ สนใจหยิบหนงั สอื มา (๖) การพูดอธบิ ายเกีย่ วกบั ธรรมชาติรอบตัวเด็ก นและเขียนสอ่ื ความคิดด้วย สิง่ ของเหตุการณ์และ (๑) ช่อื ลกั ษณะ นเองเป็นประจำอย่าง ความสัมพันธส์ งิ่ ตา่ ง ๆ สว่ นประกอบ อเนอื่ ง (๗) การพูดอย่างสรา้ งสรรค์ การเปลย่ี นแปลงและ ในการเล่นและ ความสมั พนั ธข์ องมนษุ ย์ การกระทำตา่ ง ๆ สัตว์ พชื ๒.๑.๒ กระตือรือรน้ ใน (๑) การสำรวจสิง่ ตา่ ง ๆ (๒) ดนิ นำ้ ท้องฟา้ และแหลง่ เรยี นรู้รอบตัว สภาพอากาศ รรว่ มกิจกรรมตั้งแต่ต้น ภัยธรรมชาติ นจบ (๒) การตัง้ คำถามในเรื่อง ๒.๒.๑ ค้นหาคำตอบของข้อ สนใจ (๓) แรงและพลังงานใน สยั ต่าง ๆ โดยใชว้ ิธกี ารที่ (๓) การสบื เสาะหาความรู้ ชวี ติ ประจำวันท่แี วดล้อม ลากหลายด้วยตนเอง เด็ก เพ่ือค้นหาคำตอบของ ข้อสงสัยตา่ ง ๆ ๒.๒.๒ ใชป้ ระโยคคำถาม (๔) การมสี ่วนรว่ มใน ”เม่อื ไหร่””อยา่ งไร”ในการ การรวบรวมขอ้ มูล นหาคำตอบ และนำเสนอขอ้ มูล การสืบเสาะหาความรู้ รูปแบบตา่ ง ๆ และแผนภมู ิอยา่ งง่าย
๘๐ การจัดประสบการณ์ การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ ๓ – ๖ ปีเป็นการจัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการผ่าน การเล่น การลงมอื กระทำจากประสบการณต์ รงอย่างหลากหลาย เกดิ ความรู้ ทักษะ คุณธรรมจรยิ ธรรม รวมท้ัง เกิดการพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจสังคม และสติปัญญา ไม่จัดเป็นรายวิชาโดยมีหลักการ และ แนวทางการจดั ประสบการณ์ ดังนี้ ๑. หลักการจดั ประสบการณ์ ๑.๑ จัดประสบการณ์การเล่น และการเรียนรู้อย่างหลากหลายเพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่าง สมดุลและตอ่ เน่ือง ๑.๒ เน้นเด็กเป็นสำคัญสนองความต้องการความสนใจความแตกตา่ งระหว่างบุคคลและบริบทของ สังคมท่ีเดก็ อาศยั อยู่ ๑.๓ จัดใหเ้ ดก็ ไดร้ ับการพฒั นาโดยใหค้ วามสำคัญกบั กระบวนการเรยี นรู้และพัฒนาของเด็ก ๑.๔ จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของการจัด ประสบการณ์พร้อมท้ังนำผลการแระเมินมาพฒั นาเด็กอย่างต่อเนื่อง ๑.๕ ใหพ้ ่อแม่ ครอบครวั ชมุ ชน และทกุ ฝ่ายที่เกีย่ วขอ้ งมีสว่ นร่วมในการพัฒนาเดก็ ๒. แนวทางการจัดประสบการณ์ ๒.๑ จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการและการทำงานของสมอง แนวคิดที่ เหมาะสมกบั อายุวฒุ ภิ าวะและระดบั พัฒนาการ เพื่อใหเ้ ด็กทุกคนได้พฒั นาเดก็ เต็มตามศักยภาพ ๒.๒ จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ของเด็ก ได้ลงมือกระทำ เรียนรู้ผ่านประสาท สมั ผัสทงั้ ห้า ไดเ้ คลื่อนไหวสำรวจ เล่น สงั เกต สบื คน้ ทดลอง และคิดแกป้ ญั หาด้วยตนเอง ๒.๓ จัดประสบการณ์แบบบูรณาการ โดยบูรณาการทั้งกิจกรรม ทักษะ และสาระการเรียนรู้จาก หลกั สตู รแกนกลาง และองค์ความรูใ้ นทอ้ งถน่ิ ๒.๔ จัดประสบการณ์ให้เด็กริเริ่มคิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิด โดยผสู้ อนหรือผู้จัดประสบการณ์เป็นผูส้ นบั สนุนอำนวยความสะดวกและเรยี นรรู้ ่วมกบั เด็ก ๒.๕ จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ในบรรยากาศที่อบอุ่นมีความสขุ และเรยี นร้กู ารทำกิจกรรมแบบร่วมมอื ในลกั ษณะต่าง ๆ กนั ๒.๖ จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ การเรยี นร้ใู นบรรยากาศทีอ่ บอุ่น และเรยี นรู้การทำกิจกรรมแบบรว่ มมอื ในลกั ษณะตา่ ง ๆ กัน ๒.๗ จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลกั ษณะนิสัยทีด่ ี และทักษะการใช้ชีวิตประจำวันตามแนวทางหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนสอดคล้องคุณธรรมจริยธรรมและวนิ ัยในตนเองให้เป็นส่วนหน่ึงของการจัด ประสบการณ์การเรยี นรอู้ ย่างต่อเน่ือง ๒.๘ จัดประสบการณ์ทั้งในลักษณะที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและแผนที่เกิดขึ้นในสภาพจริง โดยไมไ่ ด้คาดการณไ์ ว้
๘๑ ๒.๙ การทำสารนิเทศด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็น รายบคุ คลนำมาไตรตรองใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ตอ่ การพฒั นาเด็กและการวจิ ยั ในชั้นเรียน ๒.๑๐ จัดประสบการณ์โดยให้พ่อแม่ครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมทั้งการวางแผนการสนับสนุน สอ่ื แหลง่ เรยี นรู้การเขา้ ร่วมกจิ กรรมและการประเมินพัฒนาการ ๓. การจัดกิจกรรมประจำวนั กิจกรรมประจำวันสำหรับเด็กอายุ ๓ – ๖ ปีได้หลายรูปแบบเป็นการช่วยให้ผู้สอนหรือผู้จัด ประสบการณ์ทราบว่าแต่ละวันจะทำกิจกรรมอะไร เมื่อใด และอย่างไรทั้งนี้การจัดกิจกรรมประจำวันสามารถ จัดได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำไปใช้ของแต่ละหน่วยงานและสภาพชุมชน ที่สำคัญ ผู้สอนต้องคำนงึ ถึงการจัดประสบการณ์ให้ครอบคลุมพฒั นาการทุกด้านการจัดกิจกรรมประจำวันเปน็ หลักการ จัดและขอบข่ายของกิจกรรมประจำวนั ดงั น้ี ๓.๑ หลกั การจดั กจิ กรรมประจำวัน ๑) กำหนดระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมประจำวันแต่ละกจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั วัยของเด็กใน แตล่ ะวันแตย่ ืดหยนุ่ ได้ตามความตอ้ งการและความสนใจของเด็ก เชน่ วัย ๓ – ๔ ปีเป็นความสนใจประมาณ ๘ – ๑๒ นาที วัย ๔ – ๕ ปีเป็นความสนใจประมาณ ๑๒ – ๑๕ นาที วัย ๕ – ๖ ปีเปน็ ความสนใจประมาณ ๑๕ – ๒๐ นาที ๒) กิจกรรมทตี่ อ้ งใช้ความคดิ ทางในกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ไม่ควรใชเ้ วลาต่อเน่ืองนานเกินกว่า ๒๐ นาที ๓) กิจกรรมที่เด็กมีอิสระเลือกเล่นเสรีเพื่อช่วยให้เด็กรู้จักเลือกตัดสินใจคิดแก้ปัญหาคิด สรา้ งสรรค์ เชน่ การเลน่ ตามมมุ การเล่นกลางแจง้ ฯลฯ ใช้เวลาประมาณ ๔๐ ถึง ๖๐ นาที ๔) กิจกรรมควรมีความสมดุลระหว่างกิจกรรมในห้องเรียนและนอกห้องเรียน กิจกรรมที่ใช้ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก กิจกรรมที่เป็นรายบุคคล กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ กิจกรรมที่เด็กเป็นผู้ริเร่ิม และผู้สอนหรอื ผู้จัดประสบการณเ์ ปน็ ผู้ริเริ่ม และกิจกรรมที่ใชก้ ำลังและไม่ใช้กำลัง จัดให้ครบทุกประเภททั้งนี้ กิจกรรมที่ต้องออกกำลังกายควรจะสลับกับกิจกรรมที่ไม่ต้องออกกำลังกายมากนัก เพื่อเด็กจะได้ไม่เหนื่อย เกินไป ๓.๒ ขอบข่ายของกิจกรรมประจำวนั การเลือกกิจกรรมที่จะนำมาจัดในแต่ละวันสามารถจัดได้หลายรปู แบบ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความ เหมาะสมในการนำไปใช้ของแต่ละหน่วยงานและสภาพชุมชน ที่สำคัญผู้สอนต้องคำนึงถึงการจัดกิจกรรมให้ ครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน ดังตอ่ ไปน้ี ๑) การพัฒนากล้ามเนื้อใหญ่ เป็นการพัฒนาความแข็งแรง การส่วนตัว การยืดหยุ่นความ คล่องแคลว่ ในการใช้อวยั วะตา่ ง ๆ และจังหวะการเคลื่อนไหวในการใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่ โดยจดั กิจกรรมให้เด็กได้ เล่นอิสระกลางแจ้ง เล่นเครือ่ งเลน่ สนาม ปีนป่ายเลน่ อิสระ เคลือ่ นไหวรา่ งกายตามจงั หวะดนตรี
๘๒ ๒) การพัฒนากล้ามเนื้อเล็ก เป็นการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเล็ก กล้ามเนื้อมือ นิ้วมือ การประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมือและระบบประสาทตามือได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน สัมพันธก์ นั โดยจัดกิจกรรมใหเ้ ดก็ ได้เลน่ เครื่องเล่นสัมผัส เลน่ เกมการศึกษา ฝึกช่วยเหลือตัวเองในการแต่งกาย หยบิ จบั ชอ้ นส้อม และใช้วัสดุอปุ กรณศ์ ลิ ปะ เชน่ สีเทยี น กรรไกร พกู่ นั ดนิ เหนยี ว ฯลฯ ๓) การพัฒนาอารมณ์ จิตใจ และปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เป็นการปลูกฝังให้เด็กมี ความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น มีความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก มีวินัย รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ ประหยัด เมตตา กรุณา เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน มีมารยาทและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาท่ีนับถือโดยจัดกิจกรรมตา่ ง ๆ ผ่านการพัฒนาให้เด็กได้มีโอกาสตัดสินใจเลือก ได้รับการตอบสนองความต้องการ ได้ฝึกปฏิบัติโดยสอดคล้อง คณุ ธรรมจริยธรรมอย่างตอ่ เนือ่ ง ๔) การพัฒนาสังคมนิสัย เป็นการพัฒนาให้เด็กมีลักษณะนิสัยที่ดี แสดงออกอย่างเหมาะสม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ช่วยเหลือตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน มีนิสัยรักการทำงาน ระมัดระวังความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น โดยรวมทางระมัดระวังอันตรายจากคนแปลกหน้าให้เด็ก ได้ ปฏิบัตกิ จิ วตั รประจำวันอย่างสม่ำเสมอ รบั ประทานอาหาร พักผอ่ นนอนหลบั ขับถา่ ย ทำความสะอาดร่างกาย เล่นและทำงานร่วมกับผอู้ ื่น ปฏบิ ัตติ ามกฎกติกาข้อตกลงของสว่ นรวม เกบ็ ของเขา้ ท่เี ม่ือเลน่ หรือทำงานเสรจ็ ๕) การพัฒนาการคิด เป็นการพัฒนาให้เด็กมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาความคิดรวบ ยอด และคิดเชิงเหตุผลทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยจัดกิจกรรมให้เด็กด้านสนทนา อภิปราย แลกเปล่ียนความคิดเห็น เชิญวิทยากรมาพูดคุยกบั เด็ก ศึกษานอกสถานที่ เลน่ เกมการศึกษา ฝึกการแก้ปัญหา ในชีวติ ประจำวนั ฝกึ ออกแบบและสรา้ งช้ินงาน และทำกจิ กรรมทำเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่และรายบคุ คล ๖) การพัฒนาภาษา เป็นการพัฒนาให้เด็กใช้ภาษาสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ความรู้ ความเข้าใจมนสิ่งต่าง ๆ ทีเ่ ด็กมปี ระสบการณโ์ ดยสามารถตง้ั คำถามในส่ิงทีส่ งสยั ใครร่ ู้จดั กิจกรรมทางภาษาให้มี ความหลากหลายในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มุ่งปลูกฝังให้เด็กได้กล้าแสดงออกในการฟัง พูด อ่าน เขียน มีนิสัยรักการอ่าน และบุคคลแวดล้อมต้องมีแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษา ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงหลักการจัด กจิ กรรมทางภาษาท่ีเหมาะสมกับเดก็ เปน็ สำคญั ๗) การส่งเสริมจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ ได้ถ่ายทอดอารมณ์ความรสู้ ึกและเห็นความสวยงามของส่ิงต่าง ๆ โดยจัดกจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ ดนตรี การเคลือ่ นไหวและจังหวะตามจินตนาการ ประดษิ ฐส์ ่ิงตา่ ง ๆอยา่ งอสิ ระ เล่นบทบาทสมมุติ เลน่ นำ้ เล่น ทราย เลน่ บลอ็ ก และเลน่ ก่อสร้าง การกำหนดเวลาของแต่ละกิจกรรมเพื่อจัดทำตารางกิจกรรมประจำวันสามารถดำเนินการได้ หลากหลายรูปแบบ ขึ้นกับความเหมาะสม ประเด็นสำคัญผู้สอนต้องคำนึงถึงความครอบคลุมพัฒนาการ ทุกดา้ น ขอ้ เสนอแนะเพ่ือพจิ ารณาโดยประมาณซึ่งสามารถยดื หยุ่นได้ ดงั น้ี
๘๓ รายการพัฒนา อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี ช่ัวโมง : วนั ชัว่ โมง : วนั ช่ัวโมง : วนั ๑. การพฒั นาทักษะพื้นฐานใน (ประมาณ (ประมาณ) (ประมาณ) ชวี ิตประจำวนั (รวมท้งั การช่วยตนเองในการแตง่ กาย ๓ ๒ ๑/๒ ๒ ๑/๔ การรบั ประทานอาหาร สขุ อนามัยและ การนอนพักผ่อน) ๑๑๑ ๒. การเล่นเสรี ๓. การคดิ และความคดิ สรา้ งสรรค์ ๑๑๑ ๔. กจิ กรรมดา้ นสงั คม ๕. กจิ กรรมพฒั นากล้ามเนื้อใหญ่ ๑/๒ ๓/๔ ๑ ๖. กจิ กรรมที่มกี ารวางแผนโดยผู้สอน ๓/๔ ๓/๔ ๓/๔ เวลาโดยประมาณ ๓/๔ ๑ ๑ ๗๗๗ สำหรับทักษะพื้นฐานชีวิตในประจำวัน อายุ ๓ ขวบจะใช้เวลามากกว่า เมื่ออายุมากขึ้นเวลาจะลดลง เพราะเด็กสามารถชว่ ยเหลือตนเอง อายุ ๓ ขวบมกี จิ กรรมทางสงั คมท่ีตอ้ งฝกึ การอยูร่ ่วมกบั ผู้อื่นใชเ้ วลานอ้ ยลง
๘๔ ตารางกจิ กรรมประจำวันของโรงเรยี น เวลา กจิ กรรม ๐๗.๐๐ – ๐๘.๐๐ น. รับเด็ก สนทนากับผูป้ กครอง ๐๘.๐๐ – ๐๘.๓๐ น. เข้าแถวเคารพธงชาติ สวดมนต์ อบรมคุณธรรม จริยธรรม ๐๘.๓๐ – ๐๘.๕๐ น. กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ ๐๘.๕๐ – ๐๙.๒๐ น. กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ ๐๙.๒๐ – ๐๙.๕๐ น. กิจกรรมสรา้ งสรรค์ ๐๙.๕๐ – ๑๐.๐๐ น. พักรับประทานอาหารวา่ ง เข้าหอ้ งนำ้ ๑๐.๐๐ – ๑๐.๔๐ น. กจิ กรรมเสรี ๑๐.๔๐ – ๑๑.๐๐ น. กิจกรรมกลางแจ้ง ๑๑.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. รบั ประทานอาหารกลางวัน แปรงฟัน ๑๒.๐๐ – ๑๔.๐๐ น. นอนหลับพักผ่อน ๑๔.๐๐ – ๑๔.๓๐ น. เกบ็ ทีน่ อน ลา้ งหนา้ ดน่ื นม ๑๔.๓๐ – ๑๕.๐๐ น. กจิ กรรมเกมการศกึ ษา ๑๕.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ทบทวนบทเรยี น เตรียมตัวกลับบ้าน หมายเหตุ ยืดหยุ่นตามความเหมาะสม และกิจกรรมในแต่ละวนั อาจมชี ื่อเรียกแตกต่างกันไป โปรดศึกษา รายละเอียดจากคู่มือการศึกษาปฐมวัย พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ สามารถนำเสมอไดห้ ลากหลาย เช่น ๑. กิจกรรมเสรี หรือการเล่นตามมุม เป็นกิจกรรมที่ให้โอกาสเด็กเล่นอย่างอิสระ ประกอบด้วยมุมต่าง ๆ ควรจดั ไมน่ ้อยกวา่ ๕ มมุ ต่อ วนั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169