Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชุมชนเข้มแข็ง ประเทศมั่นคง

ชุมชนเข้มแข็ง ประเทศมั่นคง

Description: ประสบการณ์การเรียนรู้ในพื้นที่ และการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งนายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ เขียนเผยแพร่ทาง Face Book 2562-64 มาตามลำดับ

Keywords: อำพล จินดาวัฒนะ

Search

Read the Text Version

101 (36) ยุทธศาสตร์เสรมิ พลงั มด “แก้จน ลดเหล่อื มล้ำ ดว้ ยการจดั หาแหล่งน้ำขนาดเล็ก” ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 23 กพ.64 อภิปรายสนับสนุนรายงานของ กมธ.แก้จนลดเหลื่อมล้ำ “เรื่องการจดั การนำ้ อยา่ งยัง่ ยืน” เติมบทเรยี นในพนื้ ที่ 4 กรณี แลว้ สรปุ แนวคิดเชงิ ยุทธศาสตร์ ไวด้ งั นี้ เรยี นทา่ นประธานวฒุ ิสภา การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน หัวใจคือ มุ่งการแก้ความ ยากจนลดความเหลื่อมล้ำเป็นหลัก ไม่ไช่เรื่องการ จดั การทรพั ยากรนำ้ ทัง้ ระบบ “นำ้ คือชีวิต” ครบั ชาวบ้านเขาบอกอยา่ งนน้ั เมืองไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม น้ำคือปัจจัยการ ผลิตที่สำคัญ ถ้าทำให้ชาวบ้านมีน้ำ ทำการผลิตได้ ก็ จะมีรายได้เพิ่ม ลดรายจ่าย แก้จน ลดความเหลื่อมลำ้ ได้ ผมขอเลา่ ถึงประสบการณ์ 4 กรณี ดงั น้ี กรณที ี่ 1 ทบ่ี ้านแพะสา อ.แจ้หม่ จ.ลำปาง อยตู่ ดิ กับเขตอทุ ยานแห่งชาติ ในอดีตแห้งแล้ง มาก ดินเป็นผง ปลูกอะไรไม่ขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปก็เมื่อมีการรวมตัวของประชาชนและชุมชน โดยมอี งค์กรเอกชนขา้ งนอก (SCG) เขา้ ไปสนับสนนุ ชาวบ้านทำ 2 เรื่อง คือ (1) ทำฝายชะลอน้ำในพื้นที่อุทยาน โดยพลังประชาชนรวมตัวกันทำ เดิมเมื่อฝนตกมา น้ำก็หายไปหมด พอมีฝายชะลอน้ำ ความชุ่มชื้นก็กลับมา เรื่องที่ (2) ที่ทำ คือทำบ่อพวงรองด้วยวัสดุกันซึม ทำบ่อจากบ่อ 1 บ่อ 2 บ่อ 3 ลดหลั่นไล่เรียงกันไป

102 ประชาชนบริจาคที่ดินให้ทำ สิ่งที่ตามมาคือ มีน้ำเพียงพอทำเกษตรกรรมประเภทใช้น้ำน้อย ทำเกษตรกรรมได้ตลอดทั้งปี โดยทำเกษตรพันธสัญญาผลิตสินค้าเกษตรที่มีมูล ค่าสูง ชาวบ้านสูงวัยอายุ 70 กว่าปี ก็ยังทำเกษตรกรรมได้ มีการใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือ รดน้ำ ปิดน้ำ ดูแลเกษตรกรรม น้ำคือชีวิตจริงๆ เมื่อมีน้ำ ชีวิตเปลี่ยน หายจน คุณภาพชีวิตดีขึ้น ชัดเจน ความสมัครสมานสามัคคีในชุมชนก็เกิดขึ้น คนรุ่นหลังๆที่เคยไปทำงานในเมือง เร่ิม กลับบา้ น มาทำเกษตรผสมผสาน กรณีที่ 2 ที่ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น แต่เดิมพื้นที่แถวนั้นแห้งแล้งมาก มองไปทางไหน แดด เป็นระยิบ ปลูกอะไรก็ไปไม่รอด ต่อเมื่อมีการส่งเสริมให้ขุดบ่อบาดาลตื้น บวกด้วยการติด พลังงานแสงอาทิตย์ สูบน้ำขึ้นมาจากบ่อบาดาลโดยไม่ต้องเสียเงินค่าไฟฟ้า แล้วต่อด้วย ระบบน้ำหยด ลงทนุ ไมม่ าก ทำเกษตรกรรมใชน้ ำ้ น้อยได้ตลอดปี มคี นมาซือ้ ผลติ ภณั ฑต์ ลอดปี ชาวบ้านบางคนที่เคยไปอยู่กรุงเทพฯ ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ตอนนี้กลับมาอยู่ที่บ้าน สามารถปลูกพืชผักได้ตลอดปี มีรายได้ทุกวัน ไม่จนแล้ว คุณภาพชีวิตดีขึ้น ยิ้มอย่ างมี ความสขุ ได้ทง้ั วนั ตอนไปดูเมื่อปีก่อน พบว่ามีชาวบ้านไหวตัวทัน ทำไปแล้ว 60 ครอบครัว ไม่ต้องรอน้ำจากฟ้า อย่างเดียว ไมต่ ้องรอนำ้ จากคลองส่งน้ำซเี มนต์ทไ่ี มม่ ีนำ้ เลย

103 เกิดพน้ื ท่ีเกษตรกรรมเขยี วขจเี ป็นหย่อมๆ ทา่ มกลางพืน้ ดนิ อันแหง้ แล้ง เห็นไดช้ ัดเลยว่าครอบครัวใดไหวตวั ทนั แลว้ ก็ทำ ชีวิตดขี น้ึ เห็นๆ (เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ผมเคยไปเห็นหย่อมเกษตรกรรมเขียวขจีแบบนี้ ที่อยู่กลางทะเลทราย ที่ ประเทศอสิ ราเอล เมอื งไทยเราทำไดแ้ น่ๆ ถ้าหนนุ ให้ถกู ทาง) กรณีท่ี 3 อ.พฒั นานิคม จ.ลพบรุ ี มอี ่างเก็บน้ำเหนอื เขอ่ื นป่าสกั ชลสิทธ์ิ มคี ลองซอยซีเมนต์ ส่งน้ำจำนวนมากผ่านไปตามพื้นที่เกษตรกรรมของอำเภอและจังหวัดข้างเคียง แต่ในคลองส่ง น้ำเหลา่ น้นั ไมม่ นี ้ำใหส้ ง่ มานบั 10 ปแี ล้ว ลงทนุ ไปแลว้ นบั ร้อยนับพันล้าน แตเ่ กษตรกรก็ยังไม่ มีนำ้ ใชท้ ำเกษตรกรรมเหมือนเดิม! กรณที ี่ 4 อบจ.หนองบัวลำภู ในชดุ ท่ีแล้ว ไดส้ ่งเคร่อื งจักรเท่าท่ีมอี อกไปช่วยขดุ น้ำบ่อน้ำตื้น บอ่ บาดาลใหก้ ับประชาชนท่ีความตอ้ งการแหล่งเก็บน้ำเพ่อื การเกษตรของครอบครัว โดยผ่าน การพิจารณาจากกรรมการของเทศบาลและ อบต.ในพื้นที่พิจารณาว่าเดือดร้อน มีความ จำเปน็ ไม่ใช่ไปขุดให้เครือญาตโิ ดยให้ชาวบ้านออกค่านำ้ มนั เอง ปรากฏว่าขุดได้เป็นร้อยเป็นพันแห่ง สามารถเก็บกักน้ำเพื่อทำเกษตรกรรมได้เพิ่มขึ้นชัดเจน ไมต่ ้องรอแต่นำฝ้ น ทำไร่อ้อย หรือพชื เชงิ เดียวราคาถูกๆ ท่านประธานครับ ประสบการณ์ที่ได้ไปสัมผัสมา เห็นชัดว่าเป็นสิ่งที่เกิดได้จริง ทำได้จริง โดยในพื้นท่ีต่างๆย่อม มีลกั ษณะท่แี ตกตา่ งกัน มีการใช้วิธกี ารและเทคโนโลยี และการจัดการทแี่ ตกตา่ งกนั ไม่ใช่ว่าต้องทำให้เหมือนกันทั้งประเทศ หรือพยายามลงทุนสูงๆเพื่อทำระบบชลประทานท้ัง ประเทศ ซง่ึ ทำไม่ได้ แต่การทำให้มีแหล่งน้ำขนาดเล็ก แบบหลากหลาย สอดคล้องกับภูมิศาสตร์ สอดคล้องวิถีถิ่น สอดคล้องกับเทคโนโลยีและวิทยาการ สามารถเกิดขึ้นได้จริง โดยชุมชนท้องถิ่นก็มีส่วนร่วม หนว่ ยงาน องค์กรภายนอกเขา้ ไปสง่ เสรมิ สนบั สนุน

104 ทา่ นประธานครบั ผมอยากเสนอแนะวา่ เราต้องกลับมามงุ่ ทีส่ ยู่ ุทธศาสตร์ใหม่ โดยขอเรยี กว่า “ยทุ ธศาสตรเ์ สรมิ พลังมด” ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการร่วมด้วยช่วยกันทุกภาคส่วน สนับสนุนให้เกิดการจัดหาแหล่งน้ำ ขนาดเล็ก รูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายกันทั้งประเทศ เราจะใช้ทรัพยากรไม่มาก แต่ตรงจุด และได้ผลมากกวา่ ที่เราใช้ทรัพยากรจำนวนมากไปกับการจำทำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ๆ ถ้าปรับตรงนั้นบางส่วน แล้วไปลงในจดุ เล็กๆ เราจะได้งานมหาศาล เต็มแผน่ ดนิ ซึ่งต้องมีการปรับนโยบาย สนับสนุนวิทยาการเทคโนโลยี ปรับกฎระเบียบที่ไม่เอื้อ ให้มาเอื้อ ตอ่ พลังมดทั้งหลายอยา่ งจริงจัง ทา่ นประธานครับ สิ่งที่ผมเล่าตอนต้น จะเห็นว่า กรณีท่ี 1,2 และ 3 เป็นความสำเร็จด้วย “พลังมด” ถ้ามีการ หนุนเสริม ไม่ต้องรอหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำ แต่ทุกภาคส่วนมีโอกาสทำได้ ถ้ามี นโยบายชัดเจน มีการสนับสนนุ ชัดเจน ในขณะที่ 1 ใน 4 กรณี ที่ผมเล่านั้น เป็นการลงทุนไปในโครงการขนาดใหญ่ แล้วในที่สุดกลับ ได้ผลน้อย ซึง่ กไ็ มไ่ ดห้ มายความว่าควรหยุดท้ังหมดบางแห่งอาจจะยังต้องทำอยา่ งนัน้ แต่เราควรปรับน้ำหนักมาเน้นยุทธศาสตร์เสริมพลังมดให้เด่นชัดมากขึ้น เน้นลงทุนพัฒนา แหล่งน้ำขนาดเล็ก ใช้ทรัพยากรน้อย เกิดแหล่งน้ำขนาดเล็กจำนวนมาก สิ่งแวดล้อมก็จะดี ตามมาดว้ ย

105 ทั้งหมดนี้ จะส่งผลต่อการเพิ่มปัจจัยการผลิต เพิ่มผลผลิต ลดความยากจน ลดความเหลื่อม ลำ้ เชงิ โครงสร้างและการเข้าถึงทรพั ยากรได้อย่างเปน็ รูปธรรม บนั ทึก สว. (391) 27 กพ. 64

106 (37) ขุนยวม เมอื งเลก็ ทร่ี ่มุ รวย “ทุ่งบัวตอง” แม่ฮ่องสอน ซึ่งงามเหลืองสะพรั่ง ณ ดอยแม่อุคอ ทุกเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ อำเภอขุนยวม ขุนยวมไม่ไชม่ แี ค่ทงุ่ บัวตอง ขนุ ยวมยังมีอะไรดีๆอีกมากมาย “เมืองปอน” ชุมชนดั้งเดิมในหุบเขา ต้นกำเนิดเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อ 200 กว่าปีก่อน ก็ตั้งอยู่ ที่ขนุ ยวม ชุมชนไตใหญเ่ ก่าแกเ่ กิน200ปี ก็อยูท่ ่ีขุนยวม จุดประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่2 ที่กองทัพญี่ปุ่นบุกผ่านไทยไปพม่า และลำเลียงทหาร บาดเจบ็ ล้มตาย พา่ ยแพส้ งครามนบั แสนคนกลับจากพมา่ กท็ ขี่ นุ ยวม ตน้ ตะเคยี นทอง ตน้ บุนนาค ตน้ ขนุน ตน้ ไม้ฯลฯ ขนาดใหญ่ อายุเกนิ 100ปี กอ็ ย่ทู ี่ขุนยวม วัดเก่าแก่ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมประเพณีไทยใหญ่ ที่สืบทอดกันมาเกิน100ปี ก็อยู่ที่ ขุนยวม ภูมิทัศน์งามตา ภูเขาสูงลูกแล้วลูกเล่า แทรกสลับด้วยที่ราบที่เขียวขจีด้วยพืชเกษตร เมฆ หมอกในฤดฝู น กท็ ข่ี ุนยวม ผู้คนใชช้ ีวิตเรียบง่าย อยู่กบั ธรรมชาติและพทุ ธศาสนา จิตใจดี เป็นมิตร กท็ ีข่ นุ ยวม อาหารการกนิ วิถไี ทยใหญ่ ซ่ึงทำจากผลิตภัณฑธ์ รรมชาติ ที่ดตี ่อสขุ ภาพ กอ็ ย่ทู ข่ี ุนยวม การแพทยพ์ น้ื บ้าน สุขภาพวิถวี ัฒนธรรม ก็มมี ากมายทข่ี นุ ยวม

107 การพัฒนาอาชีพ เศรษฐกจิ ฐานรากใหมๆ่ กม็ ีทีข่ ุนยวม ฯลฯ สิ่งต่างๆเหล่านี้ สามารถต่อยอดเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์เชิงการท่องเที่ยว เพื่อรอรับ นกั ทอ่ งเท่ียวจากไทยและเทศได้อกี มาก หากไดร้ ับการส่งเสรมิ สนับสนนุ จากรัฐและองค์กรภายนอกอย่างเหมาะสม ขุนยวมทหี่ ลบั กจ็ ะตื่นไดอ้ ย่างมีคุณภาพและยง่ั ยนื อยา่ ให้เปน็ เชน่ อำเภอปาย ซึ่งไปไม่กลับแล้ว (จากการเย่ยี มเยยี นของทมี สว.พบประชาชน 5-6 มคี . 64) บนั ทึก สว. (399) 7 มคี . 64

108 (38) เมอื งปอน ไม่ใช่เมอื งปอน ๆ ปอนๆ แปลวา่ “ซอมซ่อ อัตคดั ขัดสน” แต่เมืองปอน ตรงกันขา้ มกนั เลย “เมืองปอน” เป็นชุมชนโบราณ อายุกว่า 200 ปี เป็นต้นกำเนิดของเมืองแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่ปี 2340 เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมเล็กๆ ที่สงบเงียบ ตั้งอยู่ในหุบเขา ริมถนนแม่สะเรียง-ขุนยวม อยู่ ทางทิศใต้ของตวั อำเภอขุนยวมในปัจจบุ ัน ราว10กม. ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างไทย-พม่า ซึ่งค้าขายเลยลึกเข้าไปถึงสันป่าตอง เชยี งใหม่ ดว้ ยระบบการขนส่งสินค้าด้วย “ววั ต่าง” ประชากรหลักเป็นเชื้อสายไทยใหญ่ ที่มีวิถีชีวิตแนบแน่นอยู่กับศาสนาและวิถีธรรมชาติ และ มกี ลุม่ ชาติพนั ธุก์ ระจายอยใู่ นพ้ืนท่เี ดียวกันดว้ ย มีศิลปวัฒนธรรม ประเพณเี ป็นของตัวเอง มีศาสนาพทุ ธเปน็ ทยี่ ึดเหนีย่ วสำหรบั การดำรงชวี ิต งดงามยิ่งนัก ยังมธี รรมชาติอันอุดมสมบรู ณ์ ซึ่งรอดพ้นจากการทำลายทม่ี ากับการพฒั นาสมัยใหม่ ยังมีตน้ ไมย้ กั ษอ์ ายุเกนิ ร้อยปีใหไ้ ดเ้ หน็ อากาศเย็นสบายๆ และสั่นสะท้านในฤดูหนาว มีความเป็นอยู่ และการทำมาหากินที่เชื่อมโยงและใกล้ชิดกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ จารีตประเพณี มชี วี ิตเรียบง่าย อยูก่ นั แบบเกือ้ กลู อิงอาศัย เปน็ ญาตมิ ติ รกัน

109 มอี าหารการกินวิถีถน่ิ ทำจากผลิตภัณฑ์พน้ื บา้ น ท่ีอดุ มไปด้วยคณุ คา่ ตอ่ สุขภาพ บางชนิดควร กินปลี ะคร้งั บางชนิดควรกนิ เดอื นละคร้ัง บางชนดิ ควรกนิ ทุกวนั “กินอาหารพื้นบ้านที่เมอื งปอน นอน 1 คนื อายยุ ืนขนึ้ 1 ปี” มีระบบการแพทย์พื้นบ้าน ที่กำลังต่อเชื่อมการพัฒนาเข้าเป็นการแพทย์ร่วมสมัย ที่ฝรั่งมังค่า กำลังตามหา ผคู้ นยิม้ แยม้ มีไมตรจี ติ เป็นมติ ร มีการพัฒนาดา้ นตา่ งๆ ไปอยา่ งช้าๆ เพ่อื ใหไ้ ดพ้ ร้าเล่มงาม อาจเรียกได้ว่าเป็นชุมชนชนบทดั้งเดิม ขนาดเล็ก ที่รุ่มรวยทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ (little traditional natural and cultural-rich rural community) ท่เี มอื งปอน มสี งิ่ ดๆี เร่ืองราวดๆี มากมาย สาธยายไม่หมด เปรียบไดก้ บั การมี “ดอกไม้งามหลากชนิด หลากสีสรร หากได้จัดร้อยเรียงเป็นพวงมาลัย จะได้พวงมาลัยท่ี งดงาม” โดยท่ีต้นไม้ยังคงอยู่ และเจรญิ งอกงามต่อไป ไมร่ ู้จบ ระวังอย่าเผลอ “โค่นหรือล้อมต้นไม้ขาย หรือเก็บแต่ดอกผลขาย เอามาก เอารวย เอาเร็ว ตามกระแสทนุ นยิ มทบี่ ้าคลง่ั ซ่ึงในที่สดุ ความงามจะหมดส้ินไป” เพอื่ ที่ว่า “เมืองปอนที่ม่งั คงั่ ทางคุณค่า จะได้ไมก่ ลายเปน็ เมืองปอนๆ หรอื เมืองปายๆ” ครบั บนั ทกึ สว. (400) 8 มคี . 64

110

111 (39) ชุมทางรถไฟแก่งคอย สู่เศรษฐกจิ สร้างสรรค์ ชุมทางรถไฟในบ้านเรามีหลายแห่ง ได้แก่ มักกะสัน ทุ่งสง บ้านภาชี บัวใหญ่ แก่งคอย เป็น ต้น แต่ละแห่งมีอายุเกินร้อยปีทงั้ นั้น ที่แก่งคอย เป็นชุมทางรถไฟสายอีสาน สระบุรีไปโคราช เชื่อมกับสายแก่งคอยไปบัวใหญ่ เปน็ รถไฟสายท้องถ่นิ ผา่ นลำนารายณ์ ไปเช่ือมกนั ทบ่ี ัวใหญ่ ปัจจุบัน รถไฟสายนี้วิ่งผ่านอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ทิวทัศนส์ วยงาม เมื่อมีชุมทางรถไฟ ก็มีชุมชนรอบๆชุมทาง เกิด “วิถีชีวิตชาวบ้าน” มาตั้งแต่ราวปี 2460 พัฒนาต่อมาจนถึงทกุ วันนี้ ชุมทางแก่งคอยเล็กๆแห่งนี้ จึงมีเรื่องราว รับใช้บ้านเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ช่วง สงครามโลกครั้งท่ี 2 เมื่อ 80 ปีก่อน ก็เคยถูกทิ้งระเบิดเสียหายหนักมาแล้ว หลังจากนั้นก็ ได้รบั การบูรณะและพฒั นากลับคนื มา ณ วันนี้ รถไฟรางคู่สายอีสานสร้างเสรจ็ แล้ว กำลังจะเกิด “รถไฟความเร็วสูง” ผ่านเหนือหัว ชมุ ชนแกง่ คอยในอีกไมน่ านนี้ ซึ่งนับเป็นการพัฒนาที่นโยบายมหภาคเข้ามากระทบกับชุมชนอย่างจัง ในขณะที่ชุมชนคน แก่งคอยไดร้ ับประโยชน์นอ้ ยมาก เมื่อวันเสาร์ท่ี 20 มีค.64 แกนนำประชาสังคมคนแก่งคอย นำโดยคุณพี่ประสิทธิ์ พิบูลชัย สิทธิ์ นายกพุทธสมาคมปึงเถ่ากงม่า แก่งคอย คุณพี่พิชัย เจริญกุล นายกสมาคมแก่งคอย เมตตาธรรม และตัวแทนองค์กรประชาสังคมอื่นๆ กว่า 10 ท่าน โดยการประสานงานของ คุณหมอประสิทธิชัย มั่งจิตร ผอ.รพ.แก่งคอย ได้ขอให้ผมไปแวะเยี่ยมชุมทางรถไฟแก่งคอย เพ่ือขอคำปรึกษาการอนุรักษช์ ุมชนเก่าแก่รอบชุมทางรถไฟแหง่ นี้

112 ทำให้ทราบว่า ในอดีตที่ผ่านมา ภาคประชาสังคมแก่งคอยเคยเรียกร้องต่อรัฐมาแล้วหลาย เรื่อง มานับสิบปีแล้ว ได้แก่ เรื่องการขอสร้างอนุสาวรีย์หัวรถจักรไอน้ำ, การแก้ปัญหาการ กอ่ สรา้ งโรงซ่อมรถจกั รแห่งใหม่, การขอให้รถไฟความเรว็ สงู จอดทชี่ มุ ทางแกง่ คอย เปน็ ตน้ แตด่ วู า่ จะไร้ผลแทบจะทุกเรือ่ ง!! ล่าสุด มีความพยายามที่จะขออนุรักษ์ชุมชนด้านหน้าของชุมทางรถไฟไว้ ซึ่งกำลังจะถูกไล่ร้ือ ถอน เน่ืองจากอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟความเรว็ สูงทก่ี ำลังจะพาดผ่านเหนอื หัวชาวบ้าน ผมเห็นพื้นที่และทราบข้อมูลเรื่องราวต่างๆของแก่งคอยแล้ว เห็นได้ชัดเจนว่า ความเป็นแก่ง คอยมีเรื่องราว มีวิถีชีวิตวัฒนธรรม ความเป็นมาเป็นไปของตัวเอง ที่ควรค่าแก่การคุ้มครอง อนุรักษ์ ส่งเสริม และพัฒนาในแนวทางที่ยั่งยืน ตามแนวทางพัฒนา “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” (creative economy) ดา้ นการทอ่ งเทีย่ วเชิงวถิ ีชีวิตและวฒั นธรรมได้อีกยาวนาน ถดั จากสถานีชมุ ทางแก่งคอยไปทางปากช่อง ประมาณ 10 กม. ในเขตตำบลทบั กวาง มีสถานี รถไฟผาเสด็จ มีหินก้อนใหญ่อยู่ข้างรางรถไฟ มีเรื่องเล่าในอดีตมากมายในสมัยก่อสร้างทาง รถไฟสายอสี าน ซึ่งพระปยิ ะมหาราชเจา้ ท่านเคยเสดจ็ มาเมอ่ื กว่า 100 ปกี ่อน หากมถี นนท้องถ่ิน (local road) เชอื่ มกับชมุ ทางแกง่ คอย แลว้ ไปเช่ือมกับสถานรี ถไฟความเร็ว สูง ที่กำลังจะสร้างถัดไปทางสระบุรี ลงทุนไม่มาก แต่จะเกิดประโยชน์แก่ชาวบ้านในการ เดนิ ทาง และกลายเป็นช่วงหนึ่งของเสน้ ทางทอ่ งเท่ียวชุมชนเมอื งแก่งคอยได้สบายๆ แก่งคอยไม่ไช่แค่มีโรงปูนใหญ่ หรืออุตสาหกรรมหนักเดิมๆ หรือแค่เกษตรกรรมเดิมๆ หรือ เปน็ แค่เส้นทาง/ชมุ ทางรถไฟผา่ น ถนนมติ รภาพ/ถนนมอเตอรเ์ วย์ตัดผ่าน ซึ่งแทบไม่มใี ครแวะ เท่านนั้ ผมให้ข้อคิดเห็นเบอ้ื งตน้ ไปดังนี้ หน่งึ เปน็ สทิ ธิตามรธน. ทีช่ ุมชนมีสทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั ทราบและเขา้ ถงึ ข้อมูลหรือขา่ วสารสาธารณะ ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐ และมีสิทธิอนุรักษ์ ฟื้นฟู หรือส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะ วฒั นธรรม...ฯลฯ อนั ดีงามทงั้ ของท้องถ่ินและของชาติ (ม.41และ 43)

113 สงิ่ ที่ภาคประชาสังคม คนรักบ้านรกั เมืองแกง่ คอยทำน้นั ถกู ตอ้ งดีงามแลว้ สอง การเรียกร้องเป็นเรื่องๆ เป็นชิ้นๆ ที่มีมายาวนาน ควรทำการสังเคราะห์ด้วยความรู้ให้ รอบด้าน (และทำบันทึกเป็น timeline ไว้ด้วย) เพื่อที่จะขับเคลื่อนงานด้วยฐานความรู้ให้เท่า ทนั ภาครฐั และเท่าทันการเปลยี่ นแปลงทถ่ี าโถมเข้ามาเรว็ มาก สาม ควรสร้างกระบวนการสาธารณะที่มีส่วนร่วมของคนทุกภาคส่วน ทุกเพศทุกวัยในชุมชน เชื่อมกับองค์กรวิชาการและองค์กรภาคประชาสังคมภายนอก เพื่อสร้างพลังการเคลื่อนไหว ในทางสรา้ งสรรค์ให้เข้มแขง็ และตอ่ เนอื่ ง ได้ทราบวา่ กำลังจะมีกิจกรรมทำนองนี้ในเดือนเมษายนทจี่ ะถงึ นี้ ซ่ึงเปน็ เรอ่ื งที่ดมี าก สี่ ภาคประชาสังคมควรรวมพลังกนั พฒั นาข้อเสนอการพฒั นาชมุ ชนและเมอื งในระยะยาว บน ฐานวิชาการ (evidence based public policy) ในลักษณะที่ชุมชนเห็น ชุมชนคิด ชุมชน ต้องการ เชน่ ผังเมือง การใช้พื้นทีย่ า่ นต่างๆ เสน้ ทางคมนาคม ฯลฯ (ซง่ึ วันนีไ้ ม่ดีเอาเสียเลย) เป็นการทำงานเชิงรุก ประกาศให้เป็นนโยบายสาธารณะของชุมชนคนแก่งคอย เป็นการ กำหนดอนาคตของชุมชนเอง เอาไว้ถ่วงดลุ กับนโยบายการพัฒนาที่กำหนดมาจากภายนอก ถา้ ชมุ ชนไมเ่ ขม้ แข็ง ก็ต้องรอรับทุกอยา่ งท่ีกำหนดจากภายนอกอยูร่ ่ำไป ถ้าชุมชนเข้มแข็ง แม้กำหนดอนาคตของตัวเองไม่ได้ตามใจทั้งหมด อย่างน้อยก็ยังพอต่อรอง กับภายนอกไดบ้ า้ ง ใหเ้ กิดการพฒั นาแบบ “ได้ด้วยกนั ” (Win-Win) ผมเอาใจช่วยคนแก่งคอยครับ สำหรับบทบาทของสมาชิกวุฒิสภา ก็จะได้นำข้อมูลมาใช้ประกอบการทำหน้าทีเ่ ท่าที่จะพอทำ ไดต้ อ่ ไปครับ บนั ทกึ สว. (408) 22 มีค. 64

114

115 (40) ไปเรยี นร้ดู ูสวรรค์บนดนิ ย้อนไปเมื่อปี 60 คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) นำที่ดิน สปก.ซึ่งอยู่ในการ ครอบครองอยา่ งผดิ กฎหมาย ประมาณ 1,000 ไร่ แถวๆปากช่อง นครราชสมี า มาจัดสรรให้ เป็นทีท่ ำอยูท่ ำกินของเกษตรกรรายไดน้ อ้ ย ซง่ึ ไมม่ ที ่ีทำกนิ เกือบ 100 ครอบครัว ซง่ึ เป็น 1 ในโครงการนบั รอ้ ยของ คทช. ท่กี า้ วหนา้ มาก ไม่เหมอื นท่ีใด “เกือบทั้งหมดเป็นคนแถวๆนี้ บางคนได้รับผลกระทบจากการใช้พื้นที่ของหน่วยงานรัฐ และ ผลกระทบจากท่ีดินปฏิรปู แปลงทม่ี กี ารครอบครองผดิ กม. ทุกคนต้องลงทะเบียนขอที่ทำกินกับทางการไว้ เมื่อทางการนำที่ สปก.มาจัดสรรให้ เขาคัด กรองคุณสมบัติอย่างเคร่งครัด 7 ขั้นตอน ทุกครอบครัวที่ได้รับสิทธิต้องเข้าไปลงมือทำ เกษตรกรรมจรงิ ๆ ได้รับจัดสรรที่ดินครอบครัวละ 6 ไร่ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย 1 ไร่ ที่ทำเกษตรกรรม 5 ไร่ ทำ สัญญาเชา่ ไมไ่ ดก้ รรมสิทธิ์ ซ้อื ขายเปล่ยี นมือไม่ได้ ถ้าไมท่ ำอยู่ทำกนิ สิทธิกจ็ ะหมดไป” นิรนั ดร์ สมพงษ์ (โอ๋) แกนนำชมุ ชน เกษตรกรคนหนุ่มเลา่ ใหฟ้ ัง “สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) และหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือสนับสนุน ที่เด่นมาก คอื พอช.นำแนวคิดแนวทาง “บา้ นม่นั คงชนบท” เข้ามาให้พวกเรารูจ้ ัก เรยี นรแู้ ละใชร้ ่วมกนั นั่นคือการสร้างกระบวนการกลุ่ม เรียนรู้ด้วยกัน คิดด้วยกัน ตัดสินใจร่วมกัน สร้างกติกา ชุมชนร่วมกัน และลงมือทำด้วยกัน จากที่ต่างคนต่างมา ไม่รู้จักกัน หรือรู้จักการผิวเผิน ก็ รจู้ กั กนั เขา้ ใจกนั เปน็ นำ้ หนง่ึ ใจเดยี วกนั เราแบ่งที่ดินเป็นโซนที่อยู่อาศัย โซนที่ทำกิน โซนส่วนกลาง แหล่งน้ำ ป่าชุมชน ฯลฯ ใคร อยากอยู่ใกล้ๆกับใครก็ชวนกันเป็นกลุ่ม เลือกโซนย่อย มีหัวหน้าโซน มีตัวแทนด้านต่างๆ ทั้ง คร-ู คลัง-ช่าง-หมอ

116 ใครจะทำปศุสตั ว์ ก็เลอื กไปอยเู่ ปน็ กลุ่มในโซนยอ่ ยใกล้ๆกนั ส่วนที่ทำกิน ก็ใช้วิธีจบั ฉลาก ทกุ อย่างลงตวั ไม่มีขดั แย้งกัน ทางการให้เงินสร้างบ้านครอบครัวละ 4 หมื่นบาท ชาวบ้านต้องออมเงินสมทบด้วย ก็ใช้ แนวคิดบ้านม่ันคงของพอช. ซื้อหาวัสดุ ช่วยลงแรงกันสร้างตามกลุ่มย่อยๆ ที่ทำเองไม่ได้ก็ จ้างช่างภายนอกบ้าง แบบบ้านก็ออกกันตามที่ต้องการ กัดฟันสู้จนกระทั่งแต่ละครอบครัวมี บา้ นอยอู่ าศัยครบหมดแล้ว” “ปีแรกไม่มีไฟฟ้า ก็ไม่มีน้ำ แต่พวกเราต้องเริ่มต้นทำกิน ก็ยากลำบากันหน่อย ปีต่อมา ทางการเอาไฟฟ้าเขา้ ไป มีการขุดเจาะน้ำบาดาลให้ เราก็มีน้ำใช้ มีการทำเกษตรกรรมไดด้ ีข้นึ มีระบบแบง่ ปันนำ้ ใช้ มสี หกรณ์ รวมตวั ช่วยเหลือพงึ่ พากันทุกเร่อื ง” “เราทำเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด ทั้งชุมชนไม่มีการใช้สารเคมี ทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพใช้กันทุก บ้าน คัดแยกขยะ หมุนเวียนในประโยชน์ เหลือเป็นขยะจำนวนน้อยที่ต้องส่งให้รถขยะอบต. สัปดาหล์ ะ 1 วนั เราปลูกพืชผสมผสาน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กินน้อย ใช้นอ้ ย ทำงานมาก ไมม่ ีอบายมขุ ทกุ ครอบครวั ก็มรี ายได้ทกุ วัน ลืมตาอา้ ปากกนั ได้ อยูก่ ันอยา่ งญาตมิ ิตร อุดมความสุข ตอนนี้เราส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาช่วยควบคุมระบบให้น้ำให้ปุ๋ยแก่พืช เพื่อการประหยัดน้ำ และลดแรงงานคน ซึ่งเรามีน้อย ทั้งชุมชน เรามีคนทั้งผู้สูงอายุ คนวัย ทำงาน เยาวชนและเด็กแค่ 200 คนเอง” “ปีที่แล้ว (2563) เราเจอโควิด การค้าขายผลผลิตก็ซบเซาไปหน่อย เหมือนกันทุกที่ ปีนี้ค่อย ดขี ้ึนหน่อย ผลผลติ บางอยา่ ง เช่น ฝรงั่ ผลิตไม่ทนั ขาย มคี นมาจอง แต่ไม่พอสง่ ” เกษตรกรหนุ่มโสดอีกคนหนึ่งที่กำลังง่วนอยู่กับงานเกษตรกลางแปลงปลูกบนเชิงเขา เล่าว่า เดิมทำงานเป็นพนักงานโรงงาน รายได้น้อย มีปัญหาสุขภาพ ไม่เห็นอนาคต ก็สมัครเข้า โครงการ ในที่สุดได้รับเลือกเข้ามาเป็นสมาชิก ได้รับจัดสรรที่ทำกิน วิถีชีวิตเปลี่ยนไป ต้อง ขยัน ทำงานทั้งวัน แต่ก็มีความสุขดี มีรายได้เฉลี่ยวันละ 7-800บาท ยังมีพื้นที่เพาะปลูกเพ่ิม

117 ได้อีก แต่ต้องค่อยทำค่อยไป ตอนนี้เริ่มปลูกต้นไม้ยืนต้นแทรกบ้าง เพื่อให้ร่มเงา กันลมกัน พายุ และให้มลู คา่ ระยะยาว ท่ดี ินทนี่ โ่ี ล่งมาก ตน้ ไมใ้ หญ่ถูกเจา้ ของเดิมตดั ไปจนหมดสน้ิ ” ชุมชนบ้านมั่นคงชนบท ปากช่อง เกษตรกรรุ่นใหม่ สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน (คทช.) จำกัด กำลังก้าวเดินไปบนเส้นทางที่สวยงาม ทั้งหลักคิด แนวทาง วิธีการ และการรวมตัวร่วมคิด รว่ มทำ เรียนรรู้ ว่ มกันจากการปฏบิ ตั ริ ว่ มกันจรงิ ๆ เป็นการรว่ มกนั สรา้ งสวรรคบ์ นดินท่ีเป็นรูปธรรม กำลังเป็นบทพิสูจน์ว่า คนไทยรวมตัวกันทำอะไรดีๆได้อีกมาก ถ้าลดความเห็นแก่ตัว คิดถึง ส่วนรวม เฉล่ียทรัพยากร เฉลย่ี สขุ เฉลีย่ ทุกขก์ ัน โดยภาครัฐให้โอกาส แก้ปัญหาข้อติดขัด และสนับสนุนให้ถูกทิศทาง ไม่ครอบงำด้วยวิธีคิด และการพัฒนาแบบสตู รสำเรจ็ เหมาโหลทใ่ี ช้กนั มากในอดตี คนไทย ชมุ ชนไทย สงั คมไทย นา่ จะมสี ขุ ร่วมกันไดจ้ ริง ผมสรุปจากการเรยี นรู้ดูงานนี้ เมื่อ 19มีค. 64 สรุปขอ้ คน้ พบสำคัญได้ 3 ประการคอื หนึ่ง ภาครัฐจัดหาทรัพยากรพื้นฐาน (ที่ดิน) ให้กับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย อย่างเป็นระบบ ในรปู ของการใหส้ ทิ ธทิ ำอยูท่ ำกนิ แบบแปลงรวม (แต่ไมใ่ หก้ รรมสทิ ธิร์ ายบุคคลเพอ่ื ป้องกนั การ เปล่ยี นมือและผดิ วัตถปุ ระสงคเ์ หมือนโครงการอนื่ ๆในอดีต) สอง รัฐให้หน่วยงานต่างๆเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ได้แก่ ดิน น้ำ พลงั งาน การเพาะปลูก การตลาด การสหกรณ์ การเงนิ การออม เปน็ ต้น ที่สำคัญท่ีสุด คอื การเสริมสร้างกระบวนการ “ชุมชนรวมตัว ร่วมคิด-ร่วมทำ ร่วมเรียนรู้ ร่วมพัฒนา” ซึ่งถ้า ขาดสงิ่ นี้ ชุมชนจะกา้ วมาไม่ได้อยา่ งนี้

118 สาม มีผู้นำ/กลุ่มผู้นำตามธรรมชาติเกิดขึ้น ซึ่งเป็นคนดี มีจิตสาธารณะ มีปัญญา ใส่ใจใน ความรู้ ประสานงานเก่ง บริหารจัดการเก่ง สื่อสารเกง่ จึงส่งผลใหก้ ระบวนการชุมชนเติบโต ก้าวหน้า และเดนิ ไปถูกทศิ ทาง บันทึก สว. (409) 23 มคี . 64

119

120 (41) อดตี กบั อนาคต “ลงทุนกับเดก็ เลก็ เปน็ การลงทนุ เพ่ืออนาคต ให้ผลตอบแทนตอ่ การพัฒนาสูงมากในทกุ ดา้ น ลงทุนกับผู้สงู อายุ เป็นการลงทุนเพือ่ ดูแลอดีตอยา่ งรู้บุญคณุ ” ศุกร์ 19 มีค.64 กมธ.พัฒนาสังคมฯ โดยอนุกมธ.ตสร.ปฏิรูปด้านสังคม กิจการสูงอายุและ สังคมสูงวัย ไปเรียนรู้ดูงานกิจการดูแลเด็กปฐมวัย และกิจการผู้สูงอายุ ที่เทศบาลเมือง ทบั กวาง อ.แกง่ คอย จ.สระบรุ ี มีปลัดเทศบาล (นายชัยพฤกษ์ ฉายพุทธ) ให้การต้อนรับและ ให้ข้อมลู ทับกวางเป็นชุมชนกึ่งเมือง มีทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ ประชากรเกือบ 2 หม่ืนคน ชายและหญงิ ไลเ่ ลีย่ กัน มีผู้สูงอายุ 2,489 คน คิดเป็นร้อยละ 13.6 ซึ่งถือว่าไม่สูงมาก เนื่องจากทับกวางมีโรงงาน อุตสาหกรรม ท่ีมวี ยั แรงงานจำนวนมาก ไมเ่ หมอื นกบั ชนบทเกษตรกรรมอื่นๆ ผสู้ ูงอายุรบั เบ้ียยังชีพ 2,304 คน นอกนนั้ รับบำนาญ และมีบางคนไมข่ อรับเบ้ียยงั ชพี เทศบาลสนับสนนุ กิจการผ้สู งู วัยท้งั กิจกรรมโรงเรียนผ้สู ูงอายุ ซึง่ ผู้สงู อายตุ งั้ ช่ือกนั เองว่า “โรงเรียนฟา้ วนั ใหม”่ มีกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ พัฒนาอาชีพ นันทนาการ ดูแลสุขภาพ พัฒนา สิ่งแวดล้อมของบ้าน สร้างบ้านให้ผู้สูงอายุยากไร้ ดูแลผู้สูงอายุติดบ้าน ติดเตียง ด้วย “ทีม โอบอุ้ม” ซึ่งเป็นทีมอาสาสมัครดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ยากไร้ตามบ้าน (เป็นความคิดริเริ่ม ของคนแกง่ คอย สนบั สนุนโดยสาธารณสุขอำเภอแก่งคอยและ รพสต.ในพื้นที่) เทศบาลสนบั สนนุ งบประมาณทำกิจกรรมตา่ งๆ มเี อกชนบริจาครว่ มดว้ ยช่วยเหลอื และใช้เงิน จากกองทุนหลักประกันสุขภาพที่ สปสช.อุดหนุนทุกปี และเทศบาลจัดงบประมาณอุดหนุนให้ เท่าๆกนั ทุกปี

121 เรยี กไดว้ ่า กิจการล่ืนไหล คุณภาพชวี ติ ผสู้ งู อายทุ ท่ี บั กวางไปไดด้ ีทเี ดยี ว สำหรับการดูแลเด็กปฐมวัย (หลัง 2 ปี-ครบ 5 ปี) ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต เทศบาล ทับกวางดูแลศูนย์เด็กเล็ก 2 แห่ง ปี 2563 มีเด็กเล็กในการดูแลรวม 143 คน ให้การดูแล เด็กเล็กตามมาตรฐาน มีครูผู้ดูแลเด็กเล็กที่มีคุณวุฒิตามเกณฑ์ เน้นการส่งเสริมพัฒนาการ ของเด็กเลก็ ตามวยั เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มของเด็กเขา้ สู่ระดบั อนบุ าล ไมเ่ ชน่ น้นั ถา้ ปลอ่ ยท้ิงไว้ “เม่ือถงึ อนุบาล กส็ ายเสยี แลว้ ” เด็กเล็กได้รับการดูแลเรื่องอาหาร โภชนาการ สุขภาพ สุขนิสัย การสังคม การพัฒนาทาง กาย ทางจติ ใจ อารมณ์ และทางสติปญั ญา ศิลปะ วัฒนธรรม ฯลฯ ทเ่ี หมาะสมตามวัย มีการเรยี นภาษาองั กฤษกบั ครูต่างชาติทีเ่ ทศบาลจ้างพเิ ศษ และเรียนภาษาจีนดว้ ย ท้ังโรงเรียนและครูผู้ดูแลเดก็ เล็ก ได้รางวัลดเี ดน่ เป็นจำนวนมาก เห็นกิจการเด็กเล็กของเทศบาลทับกวางแล้ว ดีใจที่เห็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทำงานด้านพัฒนาคนและพัฒนาคุณภาพชีวติ คนในพนื้ ที่ได้ดมี ากๆ ลบข้อครหาทวี่ ่า อปท.”เอาแต่ขยันทำงานก่อสร้าง” ลงไปได้แยะ ถ้าเราส่งเสริมให้ อปท.ทำงานในแนวนี้ได้ดีขึ้นๆ ลดภารกิจพวกนี้ที่ยังอยู่ในมือหน่วยงาน ส่วนกลางและภูมิภาคลงให้มาก แล้วหันไปทำงานพัฒนาวิชาการ มาตรฐาน และพัฒนาคน และสง่ เสริมสนับสนนุ อปท.ให้จริงจังมากข้ึน งานบรกิ ารสาธารณะเพือ่ ประชาชน งานพัฒนาคุณภาพชีวติ ชาวบา้ นจะดีข้ึนได้อีกมากมาย ปฏิรปู ประเทศ ควรเดนิ ไปในทิศทางน้คี รบั บนั ทึก สว. (410) 24 มีค. 64

122

123

124 สรปุ เสวนา “พลเมอื งกมั มนั ตะ (Active Citizen) กับตำบลเขม้ แข็ง” จัดโดย คณะกรรมาธิการการแกป้ ัญหาความยากจนและลดความเหล่ือมลำ้ วุฒิสภา คณะกรรมการธิการพฒั นาสังคม และกิจการเดก็ เยาวชน สตรี ผสู้ ูงอายุ คนพกิ าร และผดู้ ้อยโอกาส วฒุ สิ ภา ร่วมกบั สำนกั งานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) สำนักงานกองทนุ สนับสนนุ การสร้างเสริมสุขภาพ และกองทุนสานพลงั เพอ่ื สงั คมสขุ ภาวะ วนั พฤหสั บดีที่ 20 สิงหาคม 2563 ณ ห้องประชุมไพบูลย์ วฒั นศริ ธิ รรม ชั้น 1 สถาบันพฒั นาองคก์ รชุมชน (องค์การมหาชน) แขวงคลองจน่ั เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร กลา่ วต้อนรับผเู้ ข้ารว่ มสมั มนา โดย นายไมตรี อนิ ทสุ ุต ประธานกรรมการสถาบนั พฒั นาองค์กรชุมชน สถาบนั พฒั นาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ...ชาวบ้านเกิดการรวมตัว เรื่องคนไร้บ้านมีศูนย์อยู่ 3 ศูนย์ เรื่องภัยพิบัติ บ้านชั่วคราว ดนิ ถล่ม น้ำท่วม แกนที่ 4 สินเชื่อชุมชน ทำบ้านต้องมีสินเชื่อ คนมีรายได้น้อยไม่สามารถจุนเจือได้ บ้านมั่นคงต่าง ๆ บ้านริมคลองคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร เรื่องสินเชื่อเป็นเรื่องสำคัญ 3-6 เดือนนี้จะพักชำระหนี้ให้ชาวบ้าน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำออมในระยะต่อไป สุดท้าย เศรษฐกิจและทุนชุมชน เร่ืองนตี้ รงกับกรมการพฒั นาชุมชน สุขภาวะ สง่ เสรมิ อาชพี ใหช้ าวบา้ นคดิ ทุนที่มากกว่าทุน ต่อยอดการผลิต นี่คือบทบาทของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กราบขอบคุณ วุฒิสภาที่ใช้เวทีน้เี ป็นเวทกี ลาง เพราะฐานรากของข้างลา่ งอยูท่ ี่ผ้นู ำชมุ ชน กราบเรียนว่า การที่จะมองตำบลเข้มแข็ง เมืองไทยมี 4 เมือง เมืองหลวง เมืองใหญ่ My set มีความต่างกันคุณลักษณะประชากร พื้นที่ต่างกัน เมืองไทย Bangkok เมืองใหญ่ คือ เมือง ศูนย์กลาง เมืองถิ่น ที่ตั้งอบต. สุดท้ายเมืองไทย ทุ่ง ไร่ ปลายนา ขอกล่าวสั้นๆให้ท่านเห็นงานของ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน วันนี้มาแตะฐานราก ฐานของแผ่นดิน ฐานของชุมชนคือหัวใจในการ พัฒนา เรากำลังช่วยราษฎร ราชการ ราษประชา และรัฐบาลที่มีมาตรการเห็นชัดช่วง Covid-19 และกราบขอบคุณผ้อู าวโุ ส ปราชญแ์ ละแกนนำชาวบ้านทมี่ าร่วม

125 กล่าวรายงาน โดย นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา เสนอแนะ แก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้านสังคม และประธานคณะอนุ กรรมาธกิ ารตดิ ตามการปฏริ ูปดา้ นสงั คม กจิ การผู้สูงอายุและสงั คมสงู วยั เรียนคุณหมอประเวศ วะสี ท่านรัฐมนตรีจุติ ไกรฤกษ์ ท่านผู้อาวุโส และท่านผู้มีเกียรติใน ห้องนี้ รวมทั้งพี่ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม จากภาพที่อยู่ด้านหลังและเป็นพลังที่จะเคลื่อนไปข้างหน้า ในนาม 2 คณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา และในนามของประธานอาจารย์สังศิต มอบหมายให้ผม รองประธานกรรมการคนที่ 1 ทำหน้าที่ กล่าวรายงานและกล่าวเปิดเวทีวันนี้เกิดขึ้นมาเป็นวงรอบ ท่ี 2 และจะมวี งรอบ 3 4 5 ไปเรือ่ ย ๆ หวั ข้อในวันน้ี คำว่า ตำบลเข้มแขง็ มี 2 คำ 1 ตำบลเขม้ แขง็ 2 พลเมืองกัมมันตะ ตำบลเข้มแข็งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับท่านประธานคณะกรรมการพอช. กล่าวถึง วิสัยทัศน์ 2579 ของพอช. ชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งเต็มพื้นที่ของประเทศไทย คุณ หมอประเวศ พูดและชี้มานานเรื่องฐานของเจดีย์ หากฐานเจดีย์เข้มแข็งประเทศจะมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน ตำบลเป็นหน่วยงาน หรือเป็นพื้นที่ที่มีองคาพยพที่ค่อนข้างครบถ้วนในแง่องค์กร ไม่ว่า ท้องถิ่นท้องที่ หน่วยงานอื่นๆ และภาคประชาสังคม คนที่เป็นคนวิเคราะห์เรื่องนี้ไว้ คือ อาจารย์ ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ซึ่งมีความชัดเจนมาถึงในวันนี้ โครงสร้างในระดับตำบลมีองค์กร 4 พลัง เรียกวา่ จตพุ ลงั ครบถว้ น ฉะนน้ั ตำบลกลายเปน็ เป้าหมายเชงิ ยุทธศาสตร์ ตำบลเข้มแข็ง คือ อะไร ในแผนปฏิรูปได้ระบุไว้ชัดเจนว่า หมายถึง ตำบลที่คนและองค์กร ในตำบลจะได้เข้ามาจัดการกันเอง ไม่ได้หมายความว่าทิ้งภาคใด 4 ภาคส่วนพลังร่วมตัว ร่วมคิด ร่วมรับผิดชอบ ร่วมรับประโยชน์ เศรษฐกิจจะดี สุขภาพดี ชีวิตดี มีความสุข สิ่งแวดล้อมดี มีภูมิ ต้านทานกับปัญหาปัจจัยต่าง ๆ ที่จะมากระทบ คำว่าตำบลเข้มแข็ง จึงมีความหมายราวๆ นี้และมี พื้นที่มีองค์กรค่อนข้างชัดเจน วันนี้จะได้เรียนรู้จากผู้รู้ทั้งหลาย ที่อยู่ในพื้นที่มาจากหลายภาคส่วน 4 พลังนี้ ตำบลเข้มแข็งไม่ได้มีเพียงพลังใดพลังหนึ่ง เราอาจเคยคุ้นชินกับการบริหารที่มีบังคับ บัญชา แต่ในพนื้ ทต่ี ำบลมจี ตพุ ลัง 4 มมุ ทสี่ ำคญั ดูเหมอื นตำบลเข้มแข็ง คือ การเรยี นรู้ ขับเคล่ือน ไปด้วยกนั จุดยึดโยง เกี่ยวอะไรกับสมาชิกวุฒิสภา เรื่องตำบลเข้มแข็ง ถูกระบบุอยู่ในยทุ ธศาสตร์ชาติ 2 ยุทธศาสตร์ด้วยกัน ยุทธศาสตร์ที่ 1 ยุทธศาสตร์ความมั่นคง ได้ระบุตำบลมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการพัฒนา 2 ยุทธศาสตร์สร้างโอกาสและเสมอภาคทางสังคม ระบุเร่ือง ชมุ ชนเขม้ แข็งไวช้ ดั เจนมาก วา่ คือยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาประเทศ โอกาสแบบนี้ไมค่ ่อยเห็น ในแผน ปฏิรูปด้านสังคม ท่านปลัดไมตรี ได้ทำแผนปฏิรูปสังคมและฟังเสียงประชาชนมาหมดแล้ว มีการ

126 ปฏิรูประบบเสริมสร้างตำบลเข้มแข็ง โดยให้กำหนดพื้นที่เป้าหมายตำบลและอยู่ในแผน ขั้นตอน การปฏริ ปู ประเทศ จุดยดึ โยงมีตรงน้ี มีทัง้ ในยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละในแผนปฏริ ปู ประเทศ รัฐธรรมนูญปี 2560 ในบทเฉพาะกาลหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ 5 ปี หน้าที่สำคัญ คือ ติดตามเสนอแนะเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ผมได้เข้าไปทำงานและ ต้องเข้าไปดูแลเรื่องการขับเคลื่อนสังคม แก้ความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและดูแลเรื่องระบบ เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง ด้วยเหตุนี้ทำให้มาคิดว่าวิธีทำงาน หากติดตามเร่งรัดไปยังรายงาน หาก ไปตามระบบรัฐสภา มีข้อเสนอแนะดี แต่เป็นเพียงเอกสาร จึงได้ตัดสินใจว่า วิธีการติดตาม เสนอแนะ น่าจะมาติดตามร่วมกับขบวนที่ทำงานจริง ๆ เป็นลักษณะติดตามเร่งรัดโดยเป็นเพื่อน กันและไปด้วยกัน เป็นกระบวนการทางปัญญาที่เรียนรู้ร่วมกัน เวทีวันนี้เป็นเวทีปัญญาไม่ใช่เวที อำนาจ ไม่ใช่เวทีสั่งการ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จากตำบลที่ทำจริง ๆ เราจึงตัดสินใจว่าจะ ทำงานโดยวิธีการสร้างเวทีแบบนี้ เดือนเว้นเดือนและเวียนกันไป เดือนที่แล้วไปจัดที่สช.หลาย หน่วยเป็นเจ้าภาพ วันนี้จัดที่พอช.เออื้ เฟือ้ สถานท่ี สองเดือนท่ีแล้ว จัดเรื่องตำบลเขม้ แข็งหลงั ยุค Covid-19 มี การจัดทำเป็นหนังสือ เป็นปัญญาที่เกิดขึ้นจาการเรียนรู้ มีตัวจริงของจริงมาเล่า มีหน่วยงานที่ สนับสนุนตำบลเข้มแข็งทั้งภาครัฐ กรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน หน่วยงานต่าง ๆ เรา ทำ 2 ส่วน ตัวจริงของจริงตำบลขับเคลื่อนและหน่วยงานสนับสนุนมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทำ หน้าที่ของตัวเองแต่ละส่วนผนึกกำลังกัน ส่งเสริมสนับสนุนให้ตำบลเข้มแข็งได้จริง คนท่ีจะ ดำเนนิ การขับเคลอื่ นใหต้ ำบลเข้มแขง็ คอื ประชาชนและองคก์ รในตำบล เขาเป็นคนขับเคล่ือน รัฐบาลมีหน้าที่ขับเคลื่อน เหมือนพอช. กรมการพัฒนาชุมชน กรมการปกครอง สสส. หน่วยงานต่างๆ สมาชิกวุฒิสภาเป็นมุมที่ 3 ของสามเหลี่ยมนี้ ทำหน้าทีเ่ ช่ือมโยงประสานทำหนา้ ที่ ให้เกิดเวทีน้ี อีก 2 เดือนจะไปทำงานที่หน่วยงานที่พร้อมที่สนับสนุน เข่น กรมการพัฒนาชุมชน สสส. หรอื สปสช. หน่วยงานต่าง ๆ ท่ีมามีความสำคญั เพราะสนบั สนุนการทำงานของชมุ ชนอยู่แล้ว วันนี้ความงดงามเกิดขึ้น ด้วยมีคุณหมอประเวศ วะสี กรุณามาให้ปัญญาแก่พวกเรา มาย้ำให้พวก เราเห็นความสำคัญทางจิตวิญญาณว่าทำไมถึงมุ่งชุมชนเข้มแข็ง ได้รับเกียรติจากรมต.ว่าการ กระทรวงพม. เพื่อจะมาร่วมให้มุมคิด มุมมอง รวมถึงบทบาทหน้าที่พม.ทำอยู่ นี่คือการถักทอท้ัง ฝ่ายบริหารนโยบายเจตนารมณ์ทางการเมือง ถักทอผู้ที่เป็นสติปัญญาของสังคม ถักทอระหว่าง หน่วยงานของรัฐทีม่ ีหน้าทหี่ นนุ เสรมิ ผลักดันการพัฒนาประเทศ ถักทอไปถึงคนจรงิ เสียงจริงทำจริง คือประชาชนพี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ในตำบล และมีกัลยาณมิตรจำนวนมากที่เข้ามาร่วมงานในที่นี้ ใน นามของคณะกรรมาธกิ ารท้งั 2 และคณะหนว่ ยงานตา่ งๆ ต้องขอบคุณท่านทัง้ หลายที่ได้มาในวันน้ี

127 ทราบว่าตอนนี้ สช. และมูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา กำลังทำงานวิจัยระบบการจัดการ ตำบลเข้มแข็ง กำลังจะถอดบทเรียนว่า ที่ตำบลท่านเข้มแข็งได้ ระบบการจัดการ การถักทอการ เชื่อมโยงการบริหารจัดการเป็นอย่างไร ไม่ใช่เป็นการสร้างระบบใหม่ลงไปครอบ แต่เป็นการดูว่า ระบบที่มีอยู่แล้วทำให้เข้มแข็งได้อย่างไรและต่อยอดได้อย่างไร เพื่อเราจะได้เห็นว่าหน่วยงานท่ี สนบั สนนุ ตำบลเข้มแข็ง ไปหนุนตรงไหนและจะเปน็ เคล่ือนระบบการจดั การตำบลเขม้ แข็ง หากเรา เข้าใจระบบการจัดการตำบลเข้มแข็งแบบพหุภาคี แบบหุ้นส่วน ในส่วนของสว.หากสามารถ ผลักดันนโยบายผลักดันข้อเสนอแนะ จะไปทำต่อยอด กราบขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้ง วันนี้เรา จะสานพลัง พลังพลเมืองกัมมันนมาโยงกับเรื่องตำบลเข้มแข็ง เราจะแลกเปลี่ยนกันแล้วถอด บทเรียนและมีการเผยแพร่ ที่สำคัญคือการเชื่อมโยงผลักกำลัง เป็นกัลยาณมิตรต่อไปและขอเปิด การประชุม ณ บัดนี้ ปาฐกถานำ “พลเมอื งกัมมนตะ (Active Citizen) กับตำบลเข้มแขง็ โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวโุ ส พณท่านรฐั มนตรีจุติ คุณหมออำพล ประธานคณะอนุกรรมาธิการ ท่านประธานพอช. ท่าน กรรมาธิการของวุฒิสมาชิกหลายท่าน ท่านผู้นำชุมชนท้องถิ่น เพื่อนคนไทยทุกคน ตามที่คุณหมอ อำพลพูดไป สะท้อนเรื่องดี ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย คือการถักทอพลังบวกเพื่อเคลื่อน ไปข้างหน้า แทนที่การด่าทอ คนจำนวนนึงเชื่อในการด่าทอ แต่ว่าอีกพวกนึงเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เช่ือ ในการถักทอพลังบวก ซึ่งกำลังเกิดขึ้นมากมายแล้วเห็นชัดว่าจะพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า อย่างแนน่ อน หลายเรือ่ งหลายราวท่กี ำลงั จะเกดิ ขึ้น หากการเมืองลงตัวก้าวข้ามความขัดแย้งที่ผมเสนอแนะและมติชนลงเมื่อวาน เราจะ ประเทศไทยจะก้าวไปสู่ประเทศ ทีน่ ่าอย่ทู สี่ ดุ ในโลก โดยท่คี นทกุ คนมีศักด์ิศรแี ห่งความเป็นมนุษย์ มีความถูกต้องเป็นธรรมและความงดงามเรื่องความยากจนและความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ยาก ที่สุดในโลก อย่างประเทศมหาอำนาจอย่างสหกรัฐอเมริกาเขากำลังมีความเหลื่อมล้ำสุดสุด ที่ เรียกว่าปรากฎการณ์ 99 : 1 การพัฒนาเป็นประโยชน์ส่วนเดียว 99% เสียประโยชน์ และเขาไม่มี ทางออกขณะนี้ การประชุมคราวนี้ ที่ตั้งหัวข้อ พลังพลเมืองกัมมันตะ กับตำบลเข้มแข็ง ได้กลั่นกรองมา เป็นอย่างดี เป็นกุญแจแก้ความยากจนความเหลื่อมล้ำ พลังพลเมืองกัมมันตะ กับ่ตำบลเข้มแข็ง หากทำความเข้าใจตรงนี้ทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยพยายามดิ้นร้นที่อยากให้การเมืองดี เศรษฐกิจดี และศีลธรรมดี พยายามพัฒนาการเมืองพยายามพัฒนาเศรษฐกิจพยายามพัฒนา ศีลธรรม แต่ไม่สำเร็จ ความสำเร็จอยู่ท่ไี หนหากจะทำให้ 3 อย่างนด้ี ี มคี นไปวิจยั จากหลกั ความเปน็

128 จริงประเทศอิตาลี ๆ ตอนเหนือกบั ตอนใต้ไม่เหมือนกันท้ังที่ใช้รัฐธรรมนูญเดยี วกัน เพราะฉะนั้นใช้ รัฐธรรมนูญอย่างเดียวไม่พอ กฎหมายใช้กฎหมายเดียวกันไม่พอ ภาคเหนือของอิตาลี เศรษฐกิจดี การเมืองดี ศีลธรรมดี แต่ภาคใต้ยากจน การเมืองไม่ดี ศีลธรรมไม่ดี ทั้งที่เป็นประเทศเดียวกันใช้ กฎหมายเดียวกัน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เจอว่า ปัจจัยที่เจอและทำให้แตกต่างกันคือ หัวข้อที่นำมา ภาคเหนือมีพลเมืองที่กัมมันตะ ภาคใต้เป็นสังคมที่สัมพันธ์เชิงอำนาจ เพราะฉะน้ัน พลเมืองที่กัมมันตะ พลเมืองที่มีความตื่นรู้ Active มีจิตสาธารณะ คือปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจดี การเมืองดี และศลี ธรรมดี มีหลกั ฐานการวิจัยและของจรงิ ตำบลเข้มแข็ง หากตำบลเข้มแข็งหายจนหายเหลื่อมล้ำ อันนี้คือ key ที่จะไป หากเราทำ ความเข้าใจตรงนี้ ขับเคลื่อนไป ประเทศไทยหายยากจน หายเหลื่อมล้ำก่อนอเมริกาแน่นอน ทีมที่ กรราธิการสมาชิกวุฒิสภาตั้งขึ้น ก็นำมาเป็นหัวข้อเสวนาวันนี้ คือกุญแจแก้ความยากจนและลด ความเหลือ่ มล้ำ ทิศทางใหญ่ในการพัฒนาอย่างหนึ่ง คือการสร้างพระเจดีย์จากฐาน โครงสร้างอะไรจะ ยั่งยืนถึงจะมั่นคงแข็งแรง พระเจดีย์ต้องสร้างจากฐานสร้างจากยอดไม่ได้จะพังลง ๆ ที่ผ่านมา ประเทศไทยทำจากยอด การพัฒนาจะเอาจากข้างบน เศรษฐกิจจะเอาจากข้างบน หวังว่าจะทำให้ ข้างบนใหญ่จะได้กระเด็นข้างล่าง tickle down ตามหลักเศรษฐศาสตร์ตอนตั้งสภาพัฒน์ใหม่ ๆ การศึกษาจะทำจากข้างบน ให้คนรับปริญญาและไปทำอะไรไม่เป็น ประชาธิปไตยจะเอาจาก ขา้ งบนตอ้ งเป็นจากฐาน แต่ประชาธิปไตยจากขา้ งบนไม่มีฐานจากชุมชน ประชาธปิ ไตยที่สำคัญคือ ประชาธปิ ไตยชมุ ชนซงึ่ มคี ุณภาพมากทสี่ ดุ แต่ไปเอาประชาธปิ ไตยจากข้างบนกไ็ ม่สำเรจ็ แต่มีคนจำนวนหนึ่ง และพระเจ้าอย่หู ัวรชั กาลที่ 9 พยายามทำเร่ืองสร้างพระเจดยี ์จากฐาน อย่างที่พอช.ทำอยู่ก็เป็นเครื่องมือ อ.ป๋วยนักเศรษฐศาสตร์ พูดเรื่องนี้ ตั้งมูลนิธิขึ้นมา ไพบูลย์เป็น ลกู ศษิ ย์อ.ปว๋ ย และคนอื่นๆ อกี จนกระท่งั บัดนี้ฐานพระเจดยี ์ ชุมชนท้องถิ่นมีผู้นำหลายแสนคนใน อนาคตเพิ่มเป็นล้านคน ตอนนี้มีหลายแสนคนแล้ว เพราะฉะนั้นขณะนี้ฐานของประเทศแข็งแรง ขึ้นมา ที่ประเทศไทยไม่พังเพราะ Covid-19 และยังได้ชื่อว่ายุติ Covid-19 ได้ดีที่ 1 ของโลก ส่วนนึงเป็นเพราะสังคมเข้มแข็ง หากมีแต่เศรษฐกิจและเศรษฐกิจทั้งโลกพังราบหมด แต่สังคม เข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็งไม่พังและยังช่วยควบคุม Covid-19 คนไทยได้ชื่อว่าเป็นที่หนึ่งในโลก ต้อง ให้กำลังใจและคนไทยควรภูมิใจตรงนี้และพยายามทำให้เป็นที่หนึ่งในโลกทุกเรื่องไป The best Thailand นเ่ี ปน็ ทนุ ของเรา ตอ่ ไปกอ็ ยากมาเที่ยวเมืองไทยวา่ คนไทยเกง่ เรือ่ งสาธารณสุข สังคมข้างบนและสังคมข้างล่างไม่เหมือนกัน สังคมข้างล่าง เป็น real sector เป็นภาพที่ เป็นจริง คือ ประชาชนทำมาหากิน เป็นเศรษฐกิจจริง ต้องอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ต้องดูแล

129 สิ่งแวดล้อม เป็น real sector สังคมข้างบนเกิดจากการปกครอง คนพวกนึงเริ่มทำการปกครอง เริ่มก่อตัวขึ้น และไปเกี่ยวข้องกับอำนาจ กฎหมาย รูปแบบ มายาคติ ต่อไปความฉ้อฉน เศรษฐกิจ ข้างบนเป็นเศรษกิจมายาคติ เงินที่ในเศรษฐกิจในโลก 90 % ไม่มีเศรษฐกิจรองรับ เพราะฉะนั้นก็ ผันผวน ล้มลุกคลุกคลาน เดี๋ยวจะได้เย็นว่าเกิดวิกฤตต่างๆ แต่ว่า real sector เพราะฉะนั้น ข้างบนไม่มีที่อยู่ของศีลธรรม ศีลธรรมอยู่ข้างล่าง อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ระหว่างคนกับคน คนกับ สิ่งแวดล้อม ข้างบนถึงแม้มีสอนเรื่องศีลธรรม ๆ ไม่เกิด เพราะศีลธรรมคือระบบชีวิต ที่อยู่ของ ศีลธรรมอยู่ข้างล่าง ข้างบนจะไปกำหนดข้างล่างให้ดีเป็นไปไม่ได้ไม่ได้ เพราะข้างบนไม่ real sector ที่ร้ายคือระบบการศึกษาของเราสร้างคนข้างบน เอาวิชาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาความคิดของ ประเทศไทยเป็นตัวตั้ง เราสร้างคนไทย 4-5 Generation ที่ไม่รู้ความจริงของประเทศแล้ว และไป ต่างประเทศ ทำให้ไม่รู้ความจริงของประเทศไทย แต่ว่าเป็นคนสำคัญมหน้าที่สำคัญทำอะไรไม่ถูก เพราะความจริงเป็นฐานที่จะทำให้ถูกต้อง ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากที่ระบบการศึกษาไม่ได้อยู่บน ฐานความจริง ...จารึกไว้ว่า ความจริงมชี ยั เหนอื ทกุ สงิ่ สัตยะ ความจริง มีชัยกวา่ ทกุ สิง่ ทำอะไรต้องอยู่บน ฐานความจริง การศึกษาไม่ใช่อยู่บนฐานความจริง วิชาไม่ใช่ วิชาเป็นวิชา ซึ่งเป็นปัญหาของ ประเทศ เรื่องการศึกษาตอนคุณทกั ษิณเป็นนายก ผมอยากทำจริงๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่เข้าใจ ว่าต้องทำอย่าง ต้องเปลี่ยนฐานว่าต้องศึกษาจากความจริง เพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบที่ผิดสร้างคน ข้างบนเลยไม่เข้าใจข้างล่าง เขาเลยทำอะไรไม่ถูก จริง ๆ ประเทศไทยมีทรัพยากรเยอะมากไม่ควร ยากจน ไม่ควรลำบากอย่างนี้ เรามีทรัพยากรมากกว่าสิงคโปร ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์อีก การสร้าง พลังพลเมืองที่ตื่นรู้ และกัมมันตะ เป็นวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจดี การเมอื งดี และศีลธรรมดี แตเ่ ราไปทำกลไกทางการเมือง กลายเป็นกลโกง เรามีอำเภอประมาณ 800 อำเภอ ตำบลประมาณ 8,000 ตำบล ชุมชนมีหมู่บ้านประมาณ 80,000 ชุมชน ขนึ้ ไป หากจับตรงตำบลเช่อื มโยงกบั 10 หมู่บา้ น 10 ตำบลลงไป ตรงนเี้ ราสามารถ ทำแผนและยุทธศาสตร์เต็มพื้นที่ ทั้ง 800 อำเภอ 8,000 ตำบล 80,000 หมู่บ้าน มีเอกสารแจก แผนและยทุ ธศาสตร์ เป้าหมายตำบล 16 ประการ ที่จะเห็นตำบลเข้มแข็ง อันนี้เป็นหลัก ว่าเราทุกฝ่ายเป็นการ จัดการแบบใหม่ ต้องสร้างเป้าหมายและวิสัยทัศนร่วมเพราะทุกฝ่ายมีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วม ผมได้ลงรายละเอยี ดหากบรรลุ 16 ประการ ตำบลเข้มแขง็

130 1) ทุกตำบลมีองค์กรชุมชน จะเรียกว่าสภาผู้นำชมุ ชนก็ได้ ผู้นำชุมชนท่ีอยู่ในหมู่บ้าน ผู้นำ ชมุ ชนประมาณ 40-50 คน หากเทียบกับ 80,000 หมบู่ า้ น เทา่ กับ 4 ลา้ นคน ทกุ ตำบล ตอ้ งมีองคก์ รชมุ ชนครบในทกุ ชมุ ชน 2) ไดร้ ับการจัดสรรทรพั ยากรอย่างเปน็ ธรรม เรอื่ งทีด่ ิน ภาษอี ากร 3) มีความสามารถในการวิเคราะห์รายรับรายจ่าย เช่น ตำบลเขาคราม จ.กระบี่วิเคราะห์ รายรับรายจ่ายของเขาและปรบั พฤตกิ รรม 4) มีเป้าหมายสรา้ งสัมมาชีพเต็มพน้ื ที่ คนในทกุ หมู่บ้านทกุ ตำบลมีสัมมาชีพหมด 5) ผลิตอาหารเพื่อบริโภคอย่างพอเพียง เป็นภูมิคุ้มกันมีบ้านอยู่มีข้าวกินมีครอบครัว อบอุ่น มีชมุ ชนเข้มแข็ง พระเจา้ อยูห่ วั รชั กาลท่ี 9 สอนเร่ืองเศรษฐกจิ พอเพียง 6) มีการขุดสระน้ำประจำครอบครัวที่สามารถเก็บน้ำได้ตลอดปี เมื่อมีสระน้ำสามารถ ปลดหนี้ มีเงินออม เลี้ยงปลาได้ ช่วยเก็บน้ำได้ทั้งปี ช่วยป้องกันความแห้งแล้ง ค่าขุด สระ 15,000-30,000 บาท 7) สามารถจัดการวสิ าหกิจชุมชน การค้าขาย การท่องเที่ยว หากมีข้าวกินแล้ว มีกิจกรรม อย่างอนื่ ทำอกี ก็จะชว่ ยให้หายจน 8) มีการฝึกอบรมกำลังคนของตำบลอย่างเต็มที่ หากทุกตำบลมีวิชาช่าง ช่างซ่อม ช่าง ถนน ซ่อมถนน ซ่อมรถยนต์ทุกชนิด จะหายจน วิทยาลัยช่างมากมาย ในอนาคตหาก ถนนตำบลใดพังให้ตำบลนั้นซ่อมแซมต้องให้ตำบลซ่อมแซมเอง เขาจะอยากรักษาดูแล ความปลอดภัย 9) มีการจัดการโครงสร้างพ้ืนฐานทางกายภาพ มกี ารจดั การเร่อื งถนนปลอดภยั ไฟฟา้ 10) ทุกตำบลเป็นตำบลปลอดภัย พอเป็นตำบลปลอดภัยคนจะมาทอ่ งเท่ียว เรื่องเด็กจมน้ำ ต้องแกไ้ ขปญั หาให้ได้ 11) พัฒนาคุณภาพเด็ก เยาวชน และครอบครัวดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ เด็กกำพร้า อย่าง ทวั่ ถึง มตี ำบลที่ทำไดแ้ ลว้ เปน็ สังคมทค่ี นไทยไมท่ อดทง้ิ กนั 12) มีระบบสุขภาพตำลที่ดูแลทุกคนประดุจญาติ เรามีรพสต.แล้วทุกตำบล หมอวิขัยที่น้ำ พองลองแลว้ วา่ นอกจาก รพสต.แล้ว มีพยาบาล 1 ชมุ ชน มีผชู้ ่วยพยาบาล 2 หมู่บา้ น มพี ยาบาล 1 คน มผี ชู้ ่วย 2 คน สามารถดแู ลคนอยา่ งใกล้ชิด สามารถดูแลคนประมาณ 1,000 คนทง้ั หมดได้เลย จากครรภ์มารดาถงึ เชงิ ตะกอน ไดเ้ ลย มีข้อมลู ในคอมพวิ เตอร์

131 เราจึงใช้คำว่า บรกิ ารใกลบ้ า้ นใกลใ้ จ บริการราคาถกู กวา่ ไปรพ.ไกลบา้ น บริการใกลช้ ิด ประดุจญาติ รพ.ใหญ่ ๆ ที่แน่น ๆ เพราะฉะนั้น สปสช. ต้องสนับสนุนเรื่องนี้เพื่อลด ค่าใชจ้ ่ายได้ 13) ศูนย์การเรียนรู้ตำบล คือ ห้องสมุดตำบล พิพิธภัณฑ์ตำบล ศูนย์ศิลปะ ศูนย์กีฬา และ ศูนย์การเรียนรู้พิเศษ มีคนทำศูนย์การเรียนรู้พิเศษ ใครอยากเรียนอะไรก็มีการจัดทำ อยากเรียนคอมพิวเตอร์ก็จัดขึ้น ศูนย์ศิลปะ เป็นที่ฉายหนังเพราะคนไม่ชอบดู ภาพยนตร์ หากเราสร้างภาพยนตรด์ ี ๆ และฉายทุกตำบล 14) ระบบความยุตธิ รรมชมุ ชน ความยตุ ิธรรมทีเ่ ป็นทางการ 15) ระบบสื่อสารชุมชน ดิจิตัล คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ อดีตเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า จำเปน็ ตอ้ งมีดิจิตลั เต็มพ้ืนที่เพอ่ื ลดความเหล่ือมลำ้ 16) ทุกตำบลเป็นตำบลทำความดี มีคนทำจริง ๆที่ ต.หัวง้ม อ.พาน ทุกส่วนทำความดีหมด เลย และมธี นาคารความดี เป็นนวตั กรรมทางสังคมท่คี นไทยและเขาอยากขยายความดี ให้เกดิ ทกุ ตารางน้ิว เป้าหมาย 16 ประการ คอื ตำบลเข้มเขง็ ผมได้เขียนแผนและยุทธศาสตร์สร้างแผ่นดินสุขภาวะ ใน 800 อำเภอ และ 8,000 ตำบล นายอำเภอ 800 อำเภอ หากเรามีนายอำเภอดี 800 อำเภอ ไม่ยาก นายอำเภอที่ดีเราเห็นตวั อย่าง นอพ. นักอำนวยภูมิพลัง ก่อให้เกิดเครือข่ายระบบสุขภาพ เครือข่ายครู เครือข่ายพระสงฆ์ เครอื ขา่ ยเยาวชน ช่วยกันทำงาน เกดิ ขึ้นได้ และเกดิ ขนึ้ แลว้ และพอช.รว่ มอย่ขู ้นึ ที่เรยี กว่า เบญจ ภาคี มีพอช. สสส. กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน กรมการปกครอง ซึ่งพอช. ร่วมอยู่ กำลังทำงานกันอยู่ มันมีความเป็นไปได้มากมายและคนไทยกำลัง Organize คนทำงาน หากฝ่ายพัฒนานโยบายสง่ เสริมมา ผมว่า ย้งั ไมอ่ ยทู่ ีป่ ระเทศไทยจะไปไดด้ ี มหาวิทยาลัยกว่า 100 มหาวิทยาลัย นิสิตกว่า ล้านคน นี่เป็นพลังเพื่อการพัฒนามหาศาล แต่ต้องปรับจากต้ังรับเปน็ รุก หากเป็นกัมมันตะ ผมพยายามบอกมานาน ว่า 1 มหาวิทยาลยั ต่อ 1 จังหวัด หลักสูตรชุมชนซึ่งสามารถปฏิบัติ นำนิสิตนักศึกษาทั้งหมด ลงชุมชน 3 เดือนไปร่วมกับ พลังพลเมืองกัมมันตะ ตำบลเข้มแข็ง สุดท้ายน่าจะมีการจัดทัวร์ชุมชนให้คนยข้างบนไปสัมผสั เรื่อง ขา้ งลา่ ง จะมีความสขุ ท่ีได้เรียนรู้ คนข้างบนมีอิทธพิ ลกำหนดเรือ่ งทิศทางตา่ งๆ ควรมีการศึกษาเรื่องพลเมืองตื่นรู้ และกัมมันตะ มีความพยายามสื่อสารต่อไปให้เยอะ ๆ รวมตัวร่วมคิดร่วมทำขับเคลื่อนประเทศ ผมเรียกว่าเป็น ทิศทางอนาคตประเทศไทยหลัง Covid-

132 19 เป็นมหาสันติวรบท วร ประเสริฐ บท หนทาง หนทางอันประเสริฐใหญ่ที่สันติ ที่ว่าประเสริฐ เพราะเป็นหนทางแห่งการใช้ปัญญาเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติทั้งหมด ทำเกิดปัญญาร่วม เกิด ปัญญาร่วมประดุจบรรลุนิพพาน เพื่อสร้างประเทศไทย ให้เป็นประเทศไทย ให้เป็นประเทศที่ทุก คนมีศักดศิ์ รีแห่งความเป็นมนุษย์ถูกต้องเป็นธรรม และงดงาม “กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กับการส่งเสริมบทบาทพลเมืองในการ สร้างเสริมตำบลเข้มแขง็ ” โดย นายจตุ ิ ไกรฤกษ์ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ กราบเรียน นายแพทย์ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านสังคมฯ เลขาธิการ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ผู้อำนวยการพอช. ท่านประธานพอช. ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน วันน้ี มีความเชื่อว่า ประเทศไทยดีขึ้นอีกนิดนึง สำหรับในการทำงานในครั้งนี้ ขอบพระคุณคุณหมออำ พล จินดาวัฒนะ ได้ติดตามการขับเคลื่อนสังคมอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า วุฒิสภาชุดนี้น่าจะเป็นชุด แรกที่มีกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ พลเมืองกัมมันนตะกับตำบล เข้มแข็ง คือภารกิจของกระทรวงพัฒนาสังคม คือ การพัฒนาทุนมนุษย์ พันธกิจของกระทรวงคือ ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ คุณภาพของชีวิตด้วย ขออนุญาต ให้ ข้อคิดเหน็ สง่ิ ทีจ่ ะเป็นประโยชนต์ ่อการทำงาน เพ่อื ให้เกดิ ประโยชน์ให้มคี วามสำเรจ็ ให้มากทส่ี ดุ ผมเข้ามาที่กระทรวงนี้ ผมได้สัมผัสกับสมาชิกระดับกรรมการระดับภูมิภาค นี่คือ ฐานราก ของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เพราะประชาชนกำหนดเอง และกำหนดจากฐานราก พวกผม อาชีพนักการเมืองต้องอยู่กับประชาชน ผมเชื่อว่านักการเมืองต้องฟังประชาชน เพราะประชาชน เป็นนายเรา การปรับวิธีคิดไม่ยาก เพราะคิดเหมือนกันอยู่แล้วว่าเจตนารมรณ์ที่จะพัฒนาประเทศ ต้องมาจากหมู่บ้านจากชุมชนเป็นหลัก เห็นพอช.ทำงาน ผมคิดว่ามีจุดอ่อนในการทำงาน สิ่งท่ี อยากเห็น กระทรวงขับเคลื่อนมากขึ้น พอช.ก็ต้องปรับปรุงสมรรถนะมากขึ้น สิ่งที่ต้องเชิญและ ขอบคุณสภาพัฒน์ ที่ส่งผู้เชี่ยวชาญผู้ชำนาญการพิเศษมา เชื่อว่าท่านคือเป็นตัวแปร แนวคิดไปสู่ การปฏิบัติ ขาดแต่สำนักงประมาณ หากสภาพัฒน์และสำนักงบประมาณเข้าใจปรัชญานี้เชื่อว่า การพัฒนาความยากจน พัฒนาตำบลเข้มแข็ง จะขับเคลื่อนไปได้ดีมาก วันนี้ผมเห็นคนที่คิดมอบ นโยบายขาดความเข้าใจในความเข้มแขง็ ของชุมชน หากสภาพัฒน์ทีม่ าวันนี้ สามารถไปสร้างความ เชื่อมั่นว่าทิศทางนี้เป็นทิศทางที่ถูกและท่านไปชักชวนสำนักงบประมาณมา ผมเชื่อว่าน่าจะมี Work Shop อีกสัครั้งนึง เฉพาะสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพม.

133 อาจจะเกี่ยวกับคนที่ทำยุทธศาสตร์ชาติด้วย ร่วมกับคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจน จะ เป็นตัวขับเคลอื่ นท่รี วดเร็ว กา้ วกระโดด วันนี้ ระบบราชการทำงานไม่ได้เชื่อมโยงกัน ฉะนั้นข้อมูลดี ๆ ไม่ได้ถูกถ่ายทอดสู่กัน แม้กระทั่งภายในกระทรวงพม.เอง มีความยากลำบากมาก ที่จะให้เชื่อมข้อมูล เป็นข้อมูลเดียวกัน คดิ ว่าองคค์ วามรู้ของชมุ ชน ตำบลท่เี ข้มแขง็ ไม่ไดถ้ ูกเผยแพร่ ไมไ่ ด้ถกู ถ่ายทอดไปสูร่ ะดับปฏิบตั ิงาน คือ ราชการ หากให้ทุกคนได้สร้างความรู้ความเข้าใจ ข้อมูลที่ตรงกัน ต้องเป็นการแลกเปลี่ยน ความรู้ สภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ กับสังคมชุมชน คอื พอช.เปน็ ตวั แทน ไม่ใชแ่ คเ่ พยี งส่วนกลาง ต้องนำชุมชนส่วนภูมิภาคมาร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนให้ข้อคิดเห็นด้วย เพื่อที่จะได้สะท้อนปัญหาท่ี แท้จรงิ ของเขาว่าคอื อะไร กระทรวงพม.ลงพื้นท่ีต้ังแต่ มิถุนายน 63 รับฟังปัญหาทั่วประเทศ สิ่งที่ได้พบ คือ เรื่องการ ซ่อมบ้านพอเพียง พอช. ท่านประธาน และผอ. คิดถูกแล้วที่เปลี่ยนจากบ้านมั่นคงมาเป็นบ้าน พอเพียง เพราะว่าเมื่อคุยแล้วเงินที่ซ่อมบ้านพอเพียงแม้น้อย แต่ใช้พลังชุมชน นายกอบตมาช่วย ทำงาน ผมได้ใช้ทหารช่างเข้ามาเสริมด้วย อยากให้เห็นว่า ความมั่นคงในชีวิต กรณีที่คุณหมอ ประเวศกล่าวถึง มีบ้านอยู่ ชุมชนอยู่อย่างมั่นคงมันจำเป็น เห็นบ้านที่บุกรุกนำงบไปดูแลก็ผิด ระเบียบอีก ต้องให้นายกอบต.ไปเจรจา จึงน้ำเงินไปซ่อม ต้องใช้ทหารช่างประหยัดค่าแรงอีก ประหยัดขึ้น วันนี้ สภาพัฒน์ อยู่ในที่นี่ กระทรวงพม.ได้ทำเรื่องของบประมาณซ่อมบ้าน จำนวน 40,000 กว่าหลัง ทั่งประเทศ ไม่ใช่ส่วนบนเป็นคนกำหนดว่าจะซ่อมอย่างไร ชุมชนเป็นคนกำหนด เองว่าใครจนที่สุด เหมาะสมได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด พอช.ไม่ใช่คนกำหนด เราเป็นเพียงนำ ความปรารถนาของชุมชนมาสู่รัฐบาลตัวแปร คือ กระทรวงการคลงั และสภาพฒั น์ พิจารณาว่าตรง นี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ผมมองว่าบ้านพอเพียงกระตุ้นเศรษฐกิจแน่นอน 1)คนมีควา มั่นคง 2)จ้างงาน 3)ซื้อวัสดุในพื้นที่ ฉะนั้นเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ในพื้นที่โดยตรง ผมเชื่อว่า สว่ นใหญค่ นที่ขาดมมุ มองน้ี คือ กระทรวงการคลงั เพราะยังไม่เคยสมั ผัสมิตินี้ กราบเรยี นใหท้ ราบ วนั น้ีความเข้มแข็งของตำบลไมท่ ั่วถงึ มเี ป็นเพียงบางจุด ภาคเหนอื ใต้ อีสาน กลางมีนิดนึง หากจะขยายให้เข้มแข็งเร็วขึ้น ผมเชื่อว่าทำลักษณะพี่เลี้ยง ตำบลที่เข้มแข็งไปช่วยตำบลที่ไม่ เข้มแข็ง ประกบการทำงานร่วมกับท้องถิ่น อาจทำให้อัตราเร่งในการพัฒนาตำบลเข้มแข็งมี ความเร็วข้ึน จะมตี ำบลเขม้ แข็งท่มี คี วามพรอ้ มในระยะเวลาส้ันข้ึน ปีนงึ นา่ จะพอที่จะเป็นพเี่ ลย้ี งวัด ความคบื หนา้ ได้ อาจเป็นสมุดพกของตำบลพ่ีตำบลน้องวัดความคืบหนา้ ทกุ ไตรมาส สกสว. แสดงผลงานที่รัฐสภาฯ ข้อมูลในการพัฒนาชุมชน งานวิจัย เยอะมาก แต่ไม่เคยมี ใครนำมา share ข้อมูลนั้นเพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน นำมาสิ่งที่เขาวิจัยแล้วนำมาปรับใช้ ประยุกต์

134 เข้ากับการทำงานจะสามารถทำงานได้มากขึ้น วันนี้รัฐบาลได้ปรับปรุงการทำงานพอสมควร ปีน้ี เป็นปีแรกที่ทำนอกกรอบ ด้วยการสนับสนุนของท่านนายกรัฐมนตรี ที่ว่าทำดีแล้วให้ทำเลย เมื่อพ ม.ลงไปในพื้นที่เหมือนตัวคนเดียวทำอะไรไม่สำเร็จหรอก พอเราไปไปคุยกับท้องถิ่นมหาดไทย ซึ่ง ใหก้ ารสนบั สนุนดมี าก กรณปี ญั หาแมเ่ ล้ยี งเดี่ยวจำนวนมากขึน้ ทกุ ปี ท้งั ประเทศประมาณ 700,000 ครอบครัว และจะมากขึ้นทุกวัน หากไม่เร่งแก้ไข ครอบครัวไม่เข้มแข็งพลังชุมชน อาจจะทำให้ ครอบครัวลำบากมากขึ้น ไปเจอครอบครัวจ.สุราษธานี กรณีย่าอายุ 64 ปี เลี้ยงหลาน 3 คน พ่อ อาชีพรับจ้าง ค่าแรงรายวัน 300 กว่าบาท ดูแล 5 ชีวิตและแบ่งให้ลูก 3 คนไปโรงเรียน แม่ติดคุก เพราะค้ายา พบว่า ย่าเล้ยี งหลานดี หลาน 3 คนสุขภาพจิตดคี ดิ บวก คดิ วา่ ทอ้ งถ่นิ คิดว่าจะส่งเสริม อาชีพได้อย่างไรบ้าง ทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาฝีมือ แรงงาน สำหรับกระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการร่วมกับศูนย์คุณธรรม ๆ ทำเรื่อง บวร บ้านวัด โรงเรียน กับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมมหาดไทย กระทรวงพม. ทำงานร่วมปรับให้เด็กคิด บวก ผู้ปกครอง เด็ก ครู ผู้บริหารสถานศึกษา 4 ประสานเพื่อให้โครงการนี้ได้พัฒนาเด็ก พัฒนา ชุมชนให้เข้มแข็ง จะทำได้อย่างไร เห็นว่า บางครั้งเราสามารถบูรณาการได้มากกว่าที่คิด ผมเสนอ นายกรัฐมนตรีว่า กระทรวงพม. มีงบประมาณ แต่ละกระทรวงต่างมีงบประมาณ มาร่วมบูรณการ ร่วมกัน วิธีการที่บูรณาการกัน ทำให้เกิดพลังกัมมันตะได้โดยอาศัยพลเมืองในพื้นที่ ประชาชนใน พน้ื ทท่ี ำดว้ ยกนั ปจั จยั ความสำเรจ็ ขน้ึ อยกู่ บั ทค่ี ณุ หมอประเวศพูด คือ นายอำเภอ หากนายอำเภอ สนใจ ผู้ว่าให้ลำดับความสำคัญเรื่องใดมาก่อน จังหวัดนั้นจะไปได้ คนจะมีความสุขมากขึ้น เพราะ ให้ทั้งทรัพยากร หลายหน่วยงานที่มองข้ามไป คือ ชุมชนไม่ได้ต้องการเงินไม่ได้ต้องการทรัพย์สิน ผมว่าเขาต้องการความสุขใจ ความเอาใจใส่ ภูมิปัญญา มีเวลาให้เขาได้แก้ไข สามารถเดินเองได้ ตรงนี้สำคัญที่สุด คนกระทรวงพม. ลงพื้นที่หมด ทุกคนแข่งกันว่าทุกคนมี case ที่จะทำ เรียนให้ ทราบว่าสง่ิ ท่เี ราเรียนรู้ไปดว้ ยกนั แก้ปัญหาไปดว้ ยกัน พอช. มีคลังปัญญาท้องถิ่นเยอะ มีภูมิปัญญาท้องถิ่น ท่านเก็บไว้ในตู้ ไม่ค่อยได้ share เท่าไหร่ วันนี้มีเทคโนโลยีการสื่อสารสารสนเทศเยอะมาก อยากให้พอช.ปรับตรงน้ี ให้เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือในการบริหาร สิ่งที่จะถูกวัดถูกประเมิน ไม่ปรับตัวคงไม่ได้ เราต้องปรับตัวเองให้เป็น มาตรฐานสากล และมาตราฐานแบบไทยที่ต้องเข้าใจบริบทองค์ประกอบด้วย ผมคิดว่า สิ่งที่เป็น ความเข้มแข็งของชุมชนคือ เรื่องวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นจุดที่ต้องรักษาไว้ วันนี้เทคโนโลยีการ เปลี่ยนแปลงไปไกลมาก และจะไมย่ อ้ นกลับมาแลว้ จะใช้ประโยชนอ์ ย่างไร ผมคดิ วา่ ผูบ้ ริหารชุมชน ผู้บริหารพอช. ว่าทำอย่างไรจะนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ

135 มากขึ้น ข้อมูลขนาดใหญ่ เรามีทรัพยากรน้อย เราจะได้ทราบว่าทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดจะลงไปที่ ไหนทีเ่ กดิ ประโยชน์สงู สดุ ผมคดิ วา่ เป็นส่ิงทีจ่ ำเป็นสำหรบั พอช. ท่ีจะเปน็ หวั ใจในการสร้างตำบลให้ เข้มแข็ง เรื่อง Covid-19 มันได้เกิดขึ้นแล้วภายใน 5 เดือนเร็วมาก มีการประเมินแล้วว่า ผลของ Covid-19 ทำให้ทั้งโลกย้อนหลังไป 30 ปี เรื่องการต่อสู้กับความยากจน เพราะหนี้สินที่มีมหาศาล ในชุมชนทุกคนเริ่มเป็นหนี้กันมากขึ้น ต้องกลับมาที่เศรษฐกิจพอเพียง แต่ต้องแก้ไขปัญหาหนี้สิน กระทรวงพม. ทำกับกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน ประนอมหนี้หาคลินิกหมอนี้ มาช่วยดูแล หากทำงานเชื่อมโยง บูรณาการได้ จะทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำแก้ไขได้เร็วขึ้น ปัญหาจะไม่หมด ไป ในฐานะนักการเมือง คิดว่าการเมืองจะมีวิกฤตทุกสัปดาห์ เราต้องดูว่าจะอยู่กับวิกฤต อย่างไร หากต้องมีเป้าหมายที่ต้องดำเนินการ มีความนิ่งในภูมิคุ้มกันของท้องถิ่น ผมเชื่อว่าเจอกับ กรรมการหลายคนที่น่ังอยูท่ ีน่ ี่ มีความเขม้ แข็งในความมุ่งมั่น ท่านเหล่านี้ทำใหเ้ ตมิ พลงั ใหต้ นเองว่า เขายังเขม้ แขง็ อยู่ ฉะนั้น รัฐบาลต้องจดั สรรทรพั ยากรมาให้ หารอื สภาพฒั นว์ า่ บ้านเปน็ ปัจจยั 4 ทัง้ ชีวิต สำนักงบประมาณสภาพัฒน์ ชี้ว่า คือปัจจัยความสำเร็จในการสร้าง ความเข้มแข็งกับ ประชาชนมีบ้านอยู่อาศัยที่พอเพียงและมีความอบอุ่น ผมเชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่ง ประเทศไทยประกอบด้วย 22 ล้านครอบครัว หากทำให้ครอบครัวเข้มแข็งได้ เชื่อว่าสังคมจะ เข้มแข็งตามไปด้วย ผมคิดว่าเราทำถูกแล้วที่เริ่มที่ฐานราก เริ่มที่ชุมชนและต่อยอดไปที่อื่น ๆ ผม อนุญาตขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในฐานะคนที่ทำงานด้วยกันและอยากเห็นผมสำเร็จแบบก้าว กระโดด ต้องมียุทธวิธี ต้องอาศัยกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจน “ลดความเหลื่อมล้ำ”เป็น เรื่องสำคัญที่ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมและมาช่วยกันปรับตกแต่งและดำเนินการอย่างมีวิ นัยและ รวดเร็ว อภิปรายแลกเปล่ียนเรียนรู้อยา่ งมีส่วนร่วม ดำเนินรายการโดย นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนา ประธานคณะอนุกรรมาธิการศกึ ษา เสนอแนะ การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำด้านสังคม และประธานคณะอนุกรรมาธิการ ติดตามการปฏิรูปด้านสงั คม กจิ การผสู้ งู อายแุ ละสงั คมสงู วัย เราไดเ้ ติมพลังปัญญา พลงั ทางดา้ นการเมืองความมุ่งมน่ั ทางการเมือง ตอนนกี้ ำลังกลับมาสู่ พลังพลเมืองกัมมันตะ จะได้เรียนรู้จากพ่ีน้องที่ทำจริงเคลื่อนจริง ขออนุญาตขึ้น Qr Code อ.หมอ ประเวศ ให้ไว้ตลอดการทำอะไรคือการก่อตัวขึ้นมา ขอเชิญชวนเข้ากลุ่ม line เครือข่ายสานพลัง ขับเคลือ่ นตำบลเขม้ แข็ง ทา่ นสนใจในฐานบุคคลหรือองค์กร สานพลังการเรยี นร้รู ่วมกัน เมื่อถักทอ

136 เชื่อมโยงจะสานพลังครั้งใหญ่ การไปด้วยกันจะสำเร็จ หากต่างคนต่างไปพลังจะน้อยอาจไม่เร็วไป ได้ไม่ไกล กลมุ่ line น้ีเพื่อส่งขอ้ มูลส่อื สารการ หลายท่านองค์ในองค์กรวันนงึ ทา่ นอาจจะพ้นหน้าที่ ไปแต่ทา่ นยังเปน็ พลเมอื งกัมมนั ตะไปอกี ยาว หากอยู่ในกลุม่ นจ้ี ะเสริมพลังกันได้ ฉะนั้น 1)ขอเชิญชวนเข้ากลุ่ม line 2) ตำบลเข้มแข็งเรามีจตุพลัง (1)ท้องถิ่นเทศบาลอบต. มีหน้าที่ชัดเจน มีบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย มีทรัพยากร การมีท้องถิ่นก็ทำให้ชุมชนท้องถิ่น เติบโตเข้มแข็งตามลำดับ นี่คือทุนทางสังคมที่สำคัญ (2)ท้องที่เรามีท้องที่ ผู้ใหญ่ กำนัน เป็นกำลัง สำคัญของบ้านเมืองอยู่ในพลังหนึ่งของตำบลที่ชัดเจนมาก (3)เรามีสภาองค์กรชุมชน เป็นการ รวมตัวขององค์กรชุมชนในตำบลจดแจ้งรวมกันเป็นสภา เรื่องนี้งดงามมาก หากย้อนไปสัก 40 ปีท่ี แล้ว สมัยผมออกไปทำงานใหมๆ่ ไม่ค่อยมี วันนี้เรามีองค์กรชุมชนเยอะมากรวมตัวเปน็ สภาองคก์ ร ชุมชนและมีกฎหมายรองรับ (4) เรามีหน่วยงานอื่น วเห็นประจักษ์คือ รพสต. ไม่เคยมีใครรู้ว่า มี รพสต.มากมาย จนถึงสถานการณ์ช่วง Covid-19 ครั้งนี้ ในรพสต.มีเครือข่ายอสม. พลังองค์กร ชมุ ชน ในรพสต.มีโรงเรียนอกี บางแห่งมโี รงพักมีหน่วยงานของรัฐและมีเอกชน น่คี ือพลัง 4 เห็นว่า มีเครื่องยนต์ 4 เครื่องอยู่ในตำบล กำลับขับเคลื่อนไปข้างหน้า มีเรื่องดีๆ เยอะมากแต่คนในสังคม ส่วนใหญไ่ ม่รูจ้ กั ไมค่ อ่ ยเหน็ ว่าสงิ่ ดๆี เหลา่ นีเ้ คลอ่ื นตวั วันนี้ขอถอดบทเรยี นเรียนรูจ้ าก 4 มุม ได้แก่ 1) คุณฑิฆัมพร กองสอน ทำเรือ่ งต่างๆ ขับรถ มา 2)นายกกนกศักด์ิ ดวงแก้วเรือน ต.แม่ทา อ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ มุมนี้ท้องถิ่น และมุม ทอ้ งที่ 3)กำนนั ประสาน ขันติวงศ์ 3 มุม มมุ ท่ี 4 รพสต.ติดภารกิจ ผมอยากขอความรู้แทนเราในห้องนี้ และเดี๋ยวมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มี 3 ระดับ ระดับที่ 1 ในตำบล 3 คนนี้เป็นคนเคลื่อน เป็นพลเมืองกัมมันตะ เป็นองค์กรเป็นผู้ที่มีบทบาท หน้าที่เคลื่อนอยู่ ระดับที่ 2 อำเภอและจังหวัด คุณหมอประเวศ และท่านรมต.พูดไปแล้วว่าตรง อำเภอและจงั หวัดมคี วามสำคัญ เป็นตัวหนนุ ระดบั ที่ 3 ส่วนกลาง มีหน้าทส่ี ่งเสรมิ สนบั สนุนให้เขา เปน็ พลงั ขับเคล่ือน สำหรับ 3 ท่าน เราอยากฟังว่าในตำบลของท่านจัดการตำบลเข้มแข็งอย่างไร เช่น แม่ กำนันอยู่ในสภาองค์กรชุมชนตำบล ไปเชื่อมกับพลัง 3 พลังอย่างไร การจัดการอย่างไร รูปแบบ วิธีการทำงานทางการและไม่ทางการอย่างไร ทำให้สามารถทำงานได้มากมาย มีกลยุทธอย่างไร เวลาทำมีปญั หาอุปสรรคอยา่ งไร อะไรท่เี ปน็ จุดสำคญั ที่ทำ ตามขอ้ เท็จจริง 1. นางฑิฆัมพร กองสอน ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลบัวใหญ่ อำเภอนาน้อย จังหวัด น่าน

137 การจัดการตำบลเข้มแข็งอย่างไร ทุกพื้นที่มาจากปัญหาทั้งนั้น หากจะลุกขึ้นมาจัดการ ปัญหา ในระดับหมู่บ้าน ตำบล ปัญหามากระทบพวกเรา เมื่อเจอปัญหาจึงลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหา และไม่สามารถทำคนเดียวได้ 1) เป็นการรวมคน 2)ร่วมคิด 3) ร่วมกันทำ และ 4) ร่วมรับผลประ โยขน์ ร่วมรับผิดรับชอบร่วมกัน หากผิดต้องช่วยกันแก้ไขต่อ หากทำได้ดีร่วม ยินดีร่วมรับ ผลประโยชน์ ในการจัดการต้องมีกิจกรรม หากไม่มีกิจกรรมหรือไม่มีแผนงานจะไม่สามารถทำได้ ตำบลบัวใหญ่ใช้เครื่องมือในการจัดทำแผนชุมชน ยกระดับเป็นแผนพัฒนาตำบลโดยมีส่วนร่วมทุก ภาคส่วน แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมพัฒนาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตำบล ประกาศชัดเจนว่าใช้ จะใชเ้ ปน็ แผนของตำบล นำไปส่กู ารแกไ้ ขปัญหาแลว้ พัฒนาเรอ่ื งทมี่ ีอย่แู ล้วต่อยอดข้นึ ไปขา้ งบน แผนได้มาจากการรวมคน นั่งคิดบางทีเป็นความต้องการ สิ่งที่ได้มาที่ชัดเจนมากคือได้มา จากข้อมลู ตำบลบัวใหญเ่ ริม่ ทำข้อมลู ตง้ั แต่ปี 2547 ใช้ระบบเทคโนโลยเี ข้าไปสำรวจเรื่องทีด่ ิน เริ่ม จากพี่น้องประชาชนที่มีปัญหา ชาวบ้าน สภาองค์กรชุมชนในพื้นที่ เริ่มชักชวนท้องที่ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน บางเรื่องต้องใช้งบประมาณ ประสานภาคีอื่น อบต.อยู่ใกล้กับชาวบ้าน บางครั้ง ความสัมพนั ธส์ ว่ นตวั อาจมตี ิดขดั บา้ ง แต่ในระบบงานต้องประสานความรว่ มมอื กัน สรุปประเด็นเริ่มต้นจากชาวบ้านมีทุกข์ปัญหาเรื่องที่ดิน เริ่มรวมตัวกัน ค้นหาข้อมูล ข้อมูล อยากทำแผนเพื่อแก้ไข เริ่มมีประเด็นร่วม เรา คือ ภาคประชาชน ทำงานผ่านสภาองค์กรชุมชน เป็นแกน มีอีก 3 มุม ท้องถิ่น ท้องที่ หน่วยงานรัฐต่างๆ ด้วย เห็นชัดเจนว่ามี 4 กลุ่ม บางเรื่องอาจ มีขบเหลี่ยมกันอยู่บ้างแต่ต้องวางไว้ ฝ่ายสภาองค์กรชุมชน พยายามดึงความร่วมมือนั้น เข้ามาโดย ไม่ละเลยกันและกัน ปญั หาเรื่องทดี่ ินไมใ่ ชเ่ ฉพาะแคต่ ำบลบัวใหญ่ ท้งั จงั หวดั เชื่อมโยงไปยงั องคก์ รภาคีในระดับ จังหวัด พี่น้องสภาองค์กรชุมชนตำบล หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องชวนมาร่วมทำงานด้วย เมื่อทำงานกับหน่วยงานภาครัฐบางครั้งติดขัดหลายเรื่อง เช่น เรื่องทรัพยากรที่ดิน เกษตรอินทรีย์ ระบบน้ำ แต่พื้นที่ปัจจุบันบ้านยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ เพราะเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ คิดทำ โครงการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งตำบล ปรากฎว่าติดข้อกฎหมาย หากวิเคราะห์ลึกๆ เอกสาร สิทธิ์ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย การใช้ประโยชน์ที่ดินและรักษาแผ่นดินให้อยู่กับเราถึงรุ่นลูกหลาน ตอ้ งไดร้ ับสทิ ธิ์ในการทำกนิ อย่างถูกกฎหมาย 1) รกั ษาแผน่ ดินไว้ให้ได้ 2) ได้ทำกินไดอ้ ย่อู าศยั อย่าง ถกู ต้องไม่ผิดกฎระเบยี บ พื้นที่ตำบลบัวใหญ่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน มีพ.ร.บอุทยาน ปัญหาใหญ่ปัญหา เรื่องที่ทำกิน เลยเป็นทุกข์ในส่วนของชาวบ้าน สภาองค์กรชุมชนมีความสำคัญมากในเรื่องนี้ และ ไปจับกับพลังอื่นๆ ปัญหาก็อยู่ราวๆน้ี ถึงแม้ให้ทำกิน แต่ความยั่งยืนมั่นคงยังไม่มี จะไปทำพื้นท่ี

138 กทช.ก็ไม่ได้เพราไม่ใช่ป่าสงวน จึงมีประเด็นติดค้างอยู่ ถือว่ามีความสำเร็จ แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ ตำบลบัวใหญ่ถอื วา่ เปน็ ตำบลเข้มแขง็ ไดห้ รอื ไมห่ ากใหค้ ะแนนตัวเอง 10 คะแนน หากประเมินตัวเองถือว่าเข้มแข็ง ในความเข้มแข็งให้ 9 คะแนน ความสำเร็จจะสำเร็จ 100% ไม่มี ตดิ เรือ่ งกฎระเบยี บ กฎหมายทเ่ี กี่ยวข้องมากมาย หากมองเรอ่ื งองคก์ ร หรอื บริบทของ ตำบล จะกลา้ ประกาศไดว้ า่ เข้มแข็ง เพราะเราสามารถไปเชื่อมโยงแกไ้ ขปญั ของเราได้ด้วยตัวเอง เมื่อสภาองค์กรชุมชนตำบลบัวใหญ่เชิญประชุม นายกอบต. กำนันผู้ใหญ่บ้าน อุทยานมา เข้าร่วม ถือว่ามีบารมีพอสมควรเวลาการทำงาน กลยุทธ์ คือ กัลยานมิตร สานพลังและเข้าใจ หน่วยงานด้วย ว่าเขามีปัญหาข้อจำกัดไม่ได้ราบรื่นไปหมด มีการต่อว่ากันได้ ยังมีความไม่ลงตัว เขาไม่ได้รู้สึกว่าไม่เอาด้วยหรือยืนคนละมุม หมายความว่ามีการเข้ามาหากัน เมื่อท้องถิ่นทำงาน ชุมชนเข้าร่วม การทำงานระดับท้องที่ ท้องถิ่นทำงานก็ทำงานเพื่อประชาชน เพื่อพี่น้องชาวบ้าน ทั้งหมด หากเราไม่ไปมสี ่วนเข้ารว่ ม บอกตามตรงวา่ เรากไ็ มร่ ู้ คำว่า “แผน” อบต.ตั้งคณะทำงาน 3 ชุด พัฒนาแผน ติดตามแผน ประเมินแผน สภา องค์กรชุมชนจะเข้าไปนั่งทั้ง 3 ชุด ตอนนี้ตำบลมีแผนการพัฒนาตำบล สายท้องที่มีสายมหาดไทย แผนอบต.มีอีกแผนนึงแผนของชมุ ชนก็อกี แผน คนละแผนหรอื ไม่ หากแผนปลกี ย่อยแตล่ ะองค์กรมี อยู่ แต่แผนเป็นแผนรวมแผนพัฒนาตำบล ที่ได้มาจากพี่น้องสภาองค์กรชุมชนจะประมวลแผน ทั้งหมดของระดับพื้นที่ รวบรวมจากการประชุม คณะกรรมการที่อยู่ 3 ชุดนี้จะนำแผนนี้เข้าไป อบต.ลงไปทบทวนแผน ใช้เล่มแผนที่เสนอ และอบต.จะพิจารณาว่าเรื่องใดจะนำไปแก้ไขปัญหา มี ปฏิสัมพันธ์กันในระหว่างการทำแผน ตำบลนี้มีลักษณะปัญหาร่วม คือ ปัญหาเรื่องที่ดิน ส่วนใหญ่ เปน็ ญาตพิ ่นี ้องกันแต่ไปอยใู่ นแตล่ ะบทบาท ในนามของสภาองค์กรชุมชน ในระดับอำเภอ ขณะนี้นำแผนมาสู่การปฏิบัติ แผนความ มั่นคงทางอาหารเกี่ยวกับเรื่องการใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน เรื่องเกษตรอินทรีย์ จดแจ้งเป็นวิสาหกิจ ชุมชน ในระดับตำบลนำแผนเรื่องนี้ไปบรรจุไว้เลย เป็นข้อบัญญัติงบประมาณพร้อมสนับสนุน ใน ระดับอำเภอ เราไม่ได้ทำแค่ตำบลบัวใหญ่ มีอยู่องค์กร คือ พชอ. ในระดับตำบลไปนั่ง แต่ในระดับ อำเภอเรียกว่า โครงสร้างนี้ไม่มีสภาองค์กรชุมชน ทราบว่าเลขา คือ สาธารณสุข ว่าขอสภาองค์กร ชมุ ชนไปนั่งเป็นกรรมการด้วย เพราะว่า พชอ. จะรวบรวมท้ังหมดเปน็ ยทุ ธศาสตร์ของระดับอำเภอ เมื่อได้เข้าไปร่วมประชุมกับนายอำเภอ นำเสนอเรื่องเกษตรอินทรีย์ ขอรับเป็นคณะทำงานชุดเล็ก เรื่องความมั่นคงทางอาหาร มีเรื่องเกษตรอินททรีย์ มีเกษตร ปศุสัตว์ สภาองค์กรชุมชนทุกตำบล เพื่อผลักดันแผนความมั่นคงทางอาหาร เพื่อผลักดันบรรจุแผนไปสู่ยุทธศาสตร์ไปทุกอำเภอ ไปสู่ ยุทธศาสตร์จังหวัด โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลระดับจังหวัด ทำงานเชื่อมโยงกันทั้งจังหวัด การ

139 เช่ือมโยงประสานงานเฉพาะหนว่ ยงานในระดับพ้ืนทย่ี ังไม่พอ ไปเช่อื มโยงกับภาคเอกชนหลายภาค สว่ น ทีเ่ ขา้ ไปบูรณาการการทำงานเพอ่ื สรา้ งเศรษฐกิจฐานรากใหค้ วามเขม้ แข็ง รวมถงึ การเชอ่ื มโยง ภาคีวิชาการ มทร.น่าน ลำปาง เชียงใหม่ สวทช.ช่วยการพัฒนาเมล็ดพันธ์ฟักทองพื้นเมือง เชื่อม หนว่ ยงาน นำแผนไปเชอ่ื มโยง หากหนว่ ยงานมีแผนสอดรบั กับเราน่ีคอื เครอ่ื งมือ นี่คือพลเมืองกัมมันตะ พชอ. ของระเบียบสำนักนายก กระทรวงสาธารณสุขเป็นเลขา เป็น เครื่องมือระดับอำเภอ เมื่อรู้ว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้อง ขอเข้าไปเกี่ยวไปเชื่อมโยง แสดงถึงความมกี นั มันตะ จังหวะไหนช่องไหนที่จะเชื่อมได้ และเสริมพลังทำให้งานสำเร็จ แก้ไขปัญหาได้ เขาทำทันที น่าจะมีการถอดบทเรียนลึก ๆ ว่ามีเทคนิคการทำงานกี่ข้อ เพื่อให้ตำบลอื่นได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การถอดบทเรียนในระเวลาสั้นอาจได้คร่าวๆตรงนี้ ผมคิดว่ามันมีคุณค่ามาก ตรงกับที่คุณหมอ ประเวศว่า การเรียนรู้ต้องเรียนตรงนี้ ไม่ใช่เรียนหนังสือตามหลักสูตร input output process เพียงแค่นั้น นีค่ อื จากโลกความจริง และทำจริงดว้ ย 2. นายกนกศักด์ิ ดวงแก้วเรือน นายกองค์กรบริหารส่วนตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัด เชียงใหม่ คิดว่าไม่ต่างจากแม่กำนัน ลักษณะภาคเหนือทำงานคล้ายๆ กัน ผมในฐานะองค์กรท้องถิ่น กลยุทธ์กอ่ นเข้าไปบริหารท้องถิ่น หลายคนรู้จักแมท่ า ทำหลายเรื่อง ตั้งแต่รุ่นผู้อาวุโสทำ ป่าชุมชน เกษตรกรรมย่ังยนื สุดท้ายพอมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดขึ้นในตำบลถือเป็นตัวช้ีขาด เพราะ เมื่อก่อนแม่ทา เป็นตำบลล่าโอกาส ตำบลเข้มแข็งแล้วหลายพื้นที่อยากทำงานด้วยขอเงิน งบประมาณหนว่ ยงาน สสส. พอช.งา่ ยหลงั ๆ กแ็ มท่ าเข้มแข็งแล้ว กลายเปน็ วา่ แมท่ า เงนิ จะลงไม่ ทันและอาจจะเกิดปัญหา เงินต้องใช้ งานต้องเกิด ลุงพัฒน์ อภัยมูล ไม่ไหวแล้ว ของบประมมาณ มา 1 แสน ทำงานเกือบ 50 หน้า กลายเป็นว่าต้องทำงานสนองแหล่งทุน สรุปร่วมกันว่าต้องไปที่ องค์กรปกครองท้องถิ่น รวมถึงเรื่องอำนาจ เราทำเรื่องทรัพยากร เรื่องเกษตรยั่งยืน ด้วย ท้องถิ่น ด้วยวิธีงบประมาณ จะทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ไม่สนใจเรื่องทรัพยากร ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญที่สดุ ของภาคเหนือ ทำไมไม่สนับสนุนเรา ในเมื่อเขาไม่ทำ เราก็เข้าไปทำยึดและทำเลย งั้นส่งคนเข้าไป เปน็ ผบู้ ริหารท้องถ่ิน โชดที ่ีมีการการเลือกต้งั โดยตรง เราก็เข้าไป เริ่มเห็นว่าทำไมหลายองค์กรภาคชาวบ้าน องค์กรชุมชน ให้เขาทำอะไรแทนเขา ทำไมไม่ ทำ ผมใช้คำว่า “ภัยคุกคามจากข้างนอก” ที่ทำให้ไม่ขยับตัวได้ แม่ทาก็มี 4 เสือ ท้องที่ ท้องถิ่น หากสภาองค์กรชุมชนชาวบ้านเรียก ท้องทุ่ง หน่วยงานรัฐคุณหมอ คุณครู เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ มี 4 เสือที่ทำงาน เราเริ่มไปวิเคราะห์ทำไมคณุ ครู ปล่อยให้เด็กมาเดินเล่นฟุตบอลตากแดดทำไมไม่ สอน ทำไมช่วงเที่ยงหมอต้องพักเที่ยง เวลาเจ็บป่วยไม่ได้บอกเวลา ทำไมผอ. เชิญประชุมถึงส่งครู

140 น้อยมา พอชาวบ้านไปเปิดประเด็นกับผู้ใหญ่บ้าน เมื่อก่อน ผู้ใหญ่ บ้านพ่อกำนัน พ่อผู้ใหญ่ พ่อ หลวง เวลาพ่อหลวง ประชุมจะไปตำหนิ ครู หมอ กลายเป็นประเด็นความขัดแย้ง กลายเป็นว่า 4 เสอื หลายพน้ื ที่อย่รู ว่ มกันไม่ได้ สำคัญที่สุดภัยคุกคามจากข้างนอกสำหรับ 4 เสือ คือ “คุณฟังคนข้างนอกมากกว่าคนข้าง ใน” ทุกคนฟังเจ้านาย ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ผู้ช่วย นายสั่งต้องไป ลูกบ้าน 2 คนมีปัญหา วันนี้ต้องจบ ตอนเช้าเดี๋ยวขอไปอำเภอก่อน ปรากฎว่าคนให้ความสำคัญประประจำเดือน มากกว่าความสำคัญ ของลูกหลานในชุมชน ใครเป็นคนเลือกคุณเข้ามา ที่เกิดปัญหาอยู่ ดูจากระเบียบต่างๆ ว่าให้ทำ หรือไม่ให้ทำ หลายเรื่องชาวบ้านอยากทำ อบต.มีเงินมีคนแตไ่ ม่กล้า นายกไม่รู้วา่ ปลัดให้ทำหรือไม่ ฟังหนังสือส่ังการ ฟังจากความรูส้ ึก วิธีแก้ไขปัญหาดูว่าเขาทำอะไร คุณหมอเขาฟังจากสาธารณสขุ อำเภอว่าให้ทำอะไร คุณครูฟังจากศึกษาเขตว่าให้เขาทำอะไร สภาองค์กรชุมชนฟังจากพอช.ว่าทำ อะไรได้บ้าง สำคัญว่าคุณไม่ได้ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้งในการทำงาน ยึดจากข้างนอกภัยคุกคามเป็น ปญั หาใหญ่ กลายเป็นว่าศักยภาพขององค์กรภารกิจคณุ ไม่ได้ตอบสนองชาวบ้าน คุณตอบสนองกรมส่ัง การว่าให้ทำอะไรได้ จึงมานั่งคุยกัน หากไม่เคลียร์ 4 องค์กรจะขัดแย้งกันเอง โทษกันไปมา กำนัน หมอ ครู จะสื่อสารกัน เวลาสะท้อน ๆ ผ่านผู้นำ ในเวทีทะเลาะกัน เช่น ผอ.ของบประมาณนายก อบต.ไปเด็กไปศึกษาดูงาน นายกอบต.ไม่ให้ แตไ่ มไ่ ดบ้ อกว่ามรี ะเบียบการสนบั สนนุ เปน็ ตน้ สำคัญ ที่สดุ คือมรี ะเบียบอะไรท่คี มุ ตวั เอง พอเราคยุ เสรจ็ ตงั้ ตน้ วา่ ต้องนำ 4 เสอื มาอยรู่ ่วมกนั ให้ได้ ตำบลแม่ทา เสนอพ.ร.บสภาองคก์ รชมุ ชนชว่ งแรก ๆ แต่เพ่งิ จดแจง้ สภาองค์กรชุมชนเม่ือปี ที่แล้ว เรารู้ว่ามีปัญหา แม่ทาตั้งสถาบันพัฒนาทรัพยากรเกษตรกรรมเพื่อความยั่งยืน คือการ ความสัมพันธ์ของ 4 เสือ ให้ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง ฟังความรู้สึกของพี่น้องเป็นตัวตั้งก่อน สิ่งที่ 4 เสือ คลี่คลายได้คือการเจอกันบ่อย ๆ ตกลงว่า 1 ปี ต้องมีการประชุม 4 ครั้ง 3 ครั้ง 1 เดือนทุกคนมา คุยกัน แม่ทามี 22 องค์กร แม่บ้าน เยาวชน ผู้สูงอายุ เครือข่ายเกษตร เครือข่ายปราชญ์ ที่เป็น องค์กรชาวบ้าน อบต. คุณครู คุณหมอ ผู้ใหญ่บ้าน กำนันทุกคน ครั้งที่ 4 เป็นวันสรุปงาน จากน้ัน เรมิ่ เห็นปญั หาวา่ แต่ละองค์กรมขี อ้ จำกัดของตัวเอง แต่บางครง้ั ไมส่ ามารถคยุ กับคนอื่นฟังได้ วิเคราะห์ชัดว่ามี 4 หมวก และมีปัญหาว่า “ภัยคุกคามของภายนอก” ภายนอกแทนที่จะ เป็นตัวสนับสนุนกลายเป็นภัยคุกคามของชุมชนโดยไม่ทันตั้งใจ เพราะกฎระเบียบกติกา บางทีไป ฟังนายมากกว่าฟังชาวบ้าน เป็นความจริงที่มโหฬาร แสดงว่าตำบลเข้มแข็งกลไกต่างๆ ไปฟงแต่ นาย ไปยาก คือ ชาวบ้านเข้าไปทำงานอปท.ซะเลย ใช้กลไก อปท. นี้เป็นตัวถักตัวเชื่อม ทัศนคติ สำคัญมาก เอาพื้นที่เป็นบานยึดตรงนี้ ไม่ได้ไปแก้ไขปัญหาเรื่องกฎระเบียบ พยายามสร้างความ

141 เข้าใจ 4 หัว ว่าต้องสนองพื้นที่ การมีเวทีร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ 2 ตำบลนี้ เหมือนกันคือมีที่คุย กัน ๆ ดูจะเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ต้องไปชี้หน้าว่ากฎกติกาของใคร ตรงนั้นเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก แนน่ อนวา่ มนั เตือนพวกเราทั้งต่างจังหวัดและส่วนกลาง หากทำไมด่ ีมนั กลายเปน็ ภยั คุกคาม แทนท่ี ปรารถนาดีจะไปช่วยเขา การที่ตำบลมี 4 หมวก ต้องมีกลไกบริหารตำบลเบ็ดเสร็จหรือไม่ ความ จริงมี 4 หัว มีบางคนมีคนบอกว่าต้องรวบ ความจริงรวบไม่ได้ ฟังทั้ง 2 ตำบล บอกว่าไม่ต้องรวบ แต่ต้องมีวิธีการทำ ต้องมีตัวละครชาวบ้านจริงคนเข้าไปอยู่ในองค์กรเหล่านั้นแล้วเข้าใจ เตะมือมี กระบวนการในการเสวนากัน ปฏสิ มั พันธ์กันโดยตลอด 3. นายประสาน ขนั ติวงศ์ กำนันตำบลเสยี ว อำเภอโพธ์ิศรีสวุ รรณ จังหวดั ศรีสะเกษ ดีใจมาก ด้วยมีอาจารย์ผมอยู่ที่นี่ อ.ไมตรี อินทุสุต ตั้งแต่ท่านเป็นรองผู้ว่าราชการจ. ศรีษะเกษ เรื่องบทบาทของนักปกครอง นำความรู้เหล่านี้มาปรับใช้ ปี 2548 กผมเป็นนายกที่คัด สรร ปี 2540 เข้ามาอยู่ในโครงการ SIF คณะทำงานจังหวัดศรีษะเกษ เข้ามาร่วมงานกับพอช. 2545 ทำวิจัย 200 ชุมชนทั่วประเทศ เป็นผู้ช่วยของผู้ใหญ่บ้าน ในมติที่ประชุมของสภาผู้เฒ่า ให้ ผมเป็นนายก น่ีคอื การคัดสรรของสภาผู้เฒ่า น่ีคอื ท่ีมาของคนพันธุ์เสียว สภาผู้เฒ่าคัดกรอง แม้กระท่ังคนที่จะมาเป็นผูใ้ หญ่บ้านต้องผ่านเวทีคัดกรองของสภาผู้เฒา่ มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต.อยู่ร่วมกันทั้งหมด คัดเลือกว่าใครลงและจะได้เป็นหรือไม่ ผมคุย ตลอดว่า การเลือกผู้ใหญ่บ้านต้องไม่ทะเลาะกัน เกิดกระบวนการทำงาน นี่คือการสานพลังตรงนี้ ทำให้คนพันธุ์เสียว ยืนหยัด ไม่มีเงินก็ทำงานได้ ประชาธิปไตยชุมชนคนพันธุ์เสียว เพราะคนตำบล เสียวตั้งขึ้นมา มีกฎร่วมกัน จึงไม่มีการทะเลาะกัน ทำหลายเรื่องเป็นสิ่งดี ๆ ปี 2540 ก่อนพ.ร.บส ภาองค์กรชุมชนจะคลอดออกมา ผมร่างกับผู้ใหญ่โชค โดยมีอาจารย์ไพบูลย์ ลงไปดูสภาผู้เฒ่า ประชมุ เขาคัดสรรกนั อย่างไรไปเสวนาอย่ทู ่ีหนองกลางดง ทำงานมาเรื่อยๆ ท่นี งึ ขยายไปสพู่ ้ืนที่อ่นื ปัจจุบันมีสภาองค์กรชุมชนครบทั้งตำบล เกิดกองทุนสวัสดิการชุมชนครบทั้งตำบล หลายแห่ง กองทุนสวัสดกิ ารชมุ ชนตำบลเสยี วดูแลท้ังครอบครวั มี 10 คน ดูแลทั้ง 10 คน ด้วยเหตุผลท่วี ่าคน ไม่ป่วยพร้อมกันทั้ง 10 คน ตอนนี้ผมเป็นกำนัน สายท้องที่ และญาติเป็นนายก สภาองค์กรชุมชน ตำบลผมกำนนั เปน็ ประธาน ตำบลเสียวมีความเป็นเอกลักษณ์ มีความเห็นหนึ่งเดียวกัน มีเรื่องสภาผู้เฒ่า คนพันธุ์เสียว คนเหล่านี้กลุ่มเดียวกัน เข้าไปอยู่ใน 4 หมวก หมอ อนามัย รพสต. ผู้อำนวยการ เป็นคนในศรีสะ เกษ นายอำเภอมาจากจังหวัดอ่างทอง กรณีสภาองค์กรชุมชนทำบ้านพอเพียง เสนอขอ งบประมาณสมทบเพิ่ม ได้จากอำเภอบ้าง ได้จากคณะสงฆ์บ้าง ค่าแรงพี่น้องจัดการกันเอง พชอ. จะหางบประมาณช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ผมใช้คำว่า “แล่นเอาบุญ” ได้งบประมาณ 200,000

142 บาท ปั่นจักรยานไปบริจาคร่วมกันก็มี การทำงานร่วมกันทั้งหมด ถือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในพื้นที่ นี่ คือกลยุทธ์ในการทำงาน มีความเป็นเอกภาพ เชื่อมโยงกันทั้งหมด ภัยคุกคามจากภายนอกเขาจบั มาเป็นพลังหมด นายอำเภอ พชอ. ใช้ประโยชนต์ ่างๆ ได้หมด แลกเปลย่ี นข้อคิดเหน็ : ตัวแทน : อสม. ทางกรมร่วมกับปฐมภูมิ สอดคล้องกับเป้าหมายตำบล ระบบสุขภาพดูแล ใกลช้ ิดประชาชนดจุ ญาตพิ ่ีนอ้ ง มีแนวทางทำใหเ้ กดิ 3 หมอ 1)หมอประจำบา้ น อสม 2)หมอสาธาร สุข รพสต. เจ้าหน้าที่และพยาบาลล 3)หมอเวชปฏิบัติครอบครัว หมอที่จบมาเฉพาะที่เป็นแพทย์ หาก 3 คนทำงานโดบยึดหลักประชาชนเป็นตัวตั้ง เหมือนกับพื้นที่ไดพ้ ูดไว้ น่าจะตอบโจทย์การบรู ณาการในส่วนท่ีเป็นเป้าหมายของตำบลเข้มแข็งได้ ขอเติม ขณะนี้เรื่องของ self ประชาชนภายใต้ แนวคิด อ.ประเวศ ให้กับพวกเรา ประชาชนตื่นรู้ เป็นยุทธวิธีสำคัญ กระบวนการให้ประชาชน ตื่นรู้สำคัญกว่า ทัศนะในการมองว่ามีส่วนร่วม และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เรื่องสาธารณสุข เรื่องสุขภาพ ให้เกิดชุมชนเกิดการเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง เกิดการสร้างทีมเรียนรู้ร่วมกันแบบนี้ โดยที่ไม่คิดว่าใครอยู่เหนือว่าใคร แต่เรียนรู้เพื่อให้เกิดสังคมเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน อะไรคือ เครื่องมือ กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันสำคัญ ขอใช้คำของอาจารย์อมร ที่ริเริ่มการสร้างความ เข้มแข็งของภาคประชาชนโดยกลไกอสม. การเสริมพลังชีวิต กระบวนการที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ ร่วมกัน แบบเสริมพลังชีวิตร่วมกัน บทเรียนความสำเร็จไม่สำคัญเท่ากับบทเรียนเบื้องหลังของ บทเรียนความสำเร็จที่ต้องมาถอดร่วมกัน ว่าอะไรคือจุดคานงัดต่อการเปลี่ยนแปลง ทั้งภาค ราชการ ภาคท้องถิ่น ภาคประชาชน รวมท้งั เอกชนที่เขา้ หนุนเสรมิ สาธารณสุขช่วยเติม อสม. เป็นกลุ่มประชาชน อสม.ได้เงิน และเหน็ดเหนื่อยช่วง covvid-19 แต่ คนอนื่ กเ็ หน็ดเหนือ่ ยด้วย ความรสู้ กึ จริง ๆ อสม. คือชาวบ้านที่อาสามาช่วย เมื่อได้เงินค่าตอบแทน เปลี่ยนไปแต่ไม่ทั้งหมด พอตนเอง ลาออก เริ่มชวนคนของตนเองเข้ามา ในระบบทั้งหมดไม่เสียหายด้วยสภาองค์กรชุมชนมีการ ประสานไปที่รพสต. อสม.ประกอบอยู่ด้วย การประสานความร่วมมือทำกิจกรรม ได้รับความ ร่วมมือจากทุกภาคส่วน ช่วง Covid-19 ทั้งชุมชนและอสม. ในระดับพื้นที่จะยอมรับซึ่งกันและกัน เพราะอสม.แนะนำชุมชนเพราะอสม.ได้ผ่านการอบรม ฟัง อสม. ทำตามกติกา ทุกคนให้ความ ร่วมมือของส่วนรวม ยอมรับบทบาทของแต่ละคน เพราะเป็นหน้าที่ที่ทุกคนร่วมกัน ยอมรับว่าใคร อยบู่ ทบาทอะไร คุณหมอ : ฝากคำถามทิ้งไว้ โครงการฟื้นฟูเงินกู้ฟ้ืนฟเู ศรษฐกิจ ตำบลเข้มแข็งของท่านมีบทบาทได้ เสนอหรอื ไม่ ทา่ นไดด้ ำเนินการหรือไม่ หรอื คนอ่ืนคดิ แทนทำแทน

143 ตวั แทน สป.สช. : อ.ประเวศได้กล่าวถงึ กองทุนตำบล ไว้ หากสอดคลอ้ งกับ 16 เปา้ หมาย สป.สช. เอง ได้สร้างกองทุนสุขภาพตำบลภายใต้กรอบ ต้องการใช้พื้นที่เป็นฐานประชาชนเป็น ศูนย์กลาง ผมได้ฟังเวทีได้ประโยชน์มากว่าต้องไปปรับอะไร 1) เราไม่เคยวางกรอบ ให้กองทุน ตำบลมีแผนระยะยาว เราใช้วธิ กี ารงบประมาณรายปี ทำแผนงานโครงการ ซ่ึงผมตอ้ งรีบกลับไปทำ กองทุนตำบลต้องมีแผนระยะยาวสอดคล้องกับวิธีการทำงานและไปหนุนเสริมการทำงานร่วมกับ พชอ. 2)มเี วทแี ลกเปลยี่ นเปน็ ประจำ สม่ำเสมอ กองทุนตำบลไม่ได้กำหนดวา่ ประชุมปีละก่ีครั้ง 3) ได้รบั รู้แลว้ า่ การเขยี นกฎระเบยี บท่แี คบเกินไปทำให้เกิดปัญหา ทำใหเ้ หน็ ประโยชน์จากการเขา้ ร่วม เวทีครัง้ น้ี และไปหนุนเสริมให้เป็นตำบลเขม้ แข็ง กองทุนตำบลจะต้องมีอยู่อาจต้องผ่อนคลายกว่านี้ จากสถานการณ์ Covid-19 มีข้อมูลว่า กองทุนท้องถิ่นทั้งหมด 7,738 แห่ง ขาดอยู่ 37 แห่ง ยังไม่ครบทั่วประเทศ ใช้งบประมาณในการ แก้ไขปัญหาช่วง Covid-19 ถึง 1,400 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา พอมีทรัพยากรเข้าไปอยู่ในพื้นท่ี สามารถใช้กองทุนนี้ในการแก้ไขปัญหานีไ้ ด้ สิ่งที่เห็นภาพ การสอนโดยราชการนา่ จะไม่ได้ผล คนที่ เป็นวิทยากรกองทุนตำบล ไม่เคยบริหารกองทุนตำบลเลย ต้องจับคู่ต้องให้เขาเรียนด้วยกัน แลกเปลี่ยนขนาดบัดดี้ กองทุนท้องถิ่นน่าจะเป็นแหล่งทุน และใช้ตามสภาพพื้นที่โดยใช้ภูมิปัญญา ในพน้ื ท่ี ประเด็น 1)กองทุนสุขภาพตำบล เป็นกองทุนที่มีจุดเด่นมีการลงขันไปเรื่อย ๆ และท้องถิ่น เข้ามา massing ด้วย คณะกรรมการกองทุนน้ี พบว่ามีความหลากหลาย 4 มุม 4 พลังชัดเจน มี แบบฝึกหัดให้เขาคดิ งานเอง พอมี Covid-19 จึงสามารถปรับไปใชง้ านได้เลย เรื่องนี้ คือ เครื่องมอื ที่ทำให้ชุมชนจัดการกันเองได้ 2)ทำแผนระยะยาว อาจไปชวนมองแต่อย่าบังคับ ท่านไม่ได้มีกงอ ทุนเดียวในตำบล รอบโต๊ะข้างในมีหน่วยงานมีกองทุนอีกเยอะ ขณะนี้ต่างคนต่างอยู่ ฝ่ายที่มีกงอ ทุนทั้งหลาย ควรจะมีโอกาสได้คุยกันกเพื่อสนับสนุนที่แท้จริง แทนที่จะต้องระวัง กลายเป็นภัย คุกคาม ฝ่ายที่มีกองทุนทั้งหลาย น่าจะต้องมีเวทีคุยกัน 3)ชื่อ สปสช.ยังไม่ได้ปรากฎเป็นภาคี เชิญ เข้าร่วมด้วย ในฐานะสว.จะเป็นตัวเชื่อมให้มาช่วยกันเสริมซึ่งกันและกัน หากมีการจัดประชุมเพ่ือ การเรียนรู้ด้วย ผู้ใหญ่โชคชัย จ.ประจวบคีรีขันธ์ : ขอบคุณวุฒิสภา ให้มาเรียนรู้เวทีนี้ คำว่า พลเมืองกัม มันตะ เป็นเรื่องการไปเสริมอะไรที่มีอยู่แล้วให้มีพลังมากขึ้น เช่น พลเมือง กัมมันตะ เสริมแรงข้ึน สัมมากัมมันตะ การละเว้นไปเสริมศีล กระบวนการที่จะนำไปสู่ พลเมืองกัมมันตะ Active citizen กระบวนการที่หนุนเสริม ในฐานะเป็นผญ.บ้านมา 20 ปี จากชุมชนล่มสลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของ ทั่วประเทศ ได้ร่างพ.ร.บปกครองท้องที่ พยายามจะถอดเรื่องสภาผู้นำ สภาองค์กรชุมชน หรือ

144 สภาผูน้ ำ หรอื สภาผุ้เฒา่ ของกำนันประสาน สภาแปลว่าที่สำหรับพดู คุย ผนู้ ำ ผ้เู ฒ่า องคก์ รชุมชนที่ มีส่วนร่วม องค์ประกอบการที่ได้มาโดยธรรมชาติ เป็นตัวแทนต่างๆ ที่คนในชุมชนหมู่บ้านร่วมกัน เข้ามา ให้เกิดการ Active citizen กระตุ้นให้เกิดพลังในการดูแลตนเอง เรื่องพลเมืองกัมมันตะ ชุมชนเข้มแข็งจัดการตนเอง ผมมองว่า เป็นเรื่องเดียวกัน โดยส่วนตัวหากพูดถึงตำบล จะลงไม่ ถงึ หมู่บ้าน ครวั เรอื น เร่อื งสภาทีท่ ำกนั ควรจะลงไปส่หู มู่บา้ น ขึ้นไปสตู่ ำบล หรอื สภาองค์กรชมุ ชนตำบลคงจะลง ล่างไปถึงหมู่บ้านด้วย ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่สภาผู้นำทำในระดับหมู่บ้านมีผู้นำ 30-50 คน พอครบ ทั้งหมู่บ้านยกระดับมาหมู่บ้าน 5 คน ยกระดับสภาผู้นำตำบลขึ้นมา ดำเนินการ คือการมีส่วนร่วม ในการทำแผน พอมีโครงสร้างลักษณะนี้แล้วอบต.ไม่ต้องทำอะไรไม่คิดอะไร ให้แต่ละหมู่บ้านทำ แผนของตนเองมา และเก็บเอาแผนของแต่ละหมูบ่ ้านมาบรรจุข้อบัญญัติงบประมาณของอบต. จบ เลย ถือเป็นการสร้างประชาธิปไตยชมุ ชนอย่างแทจ้ รงิ วันนี้ทุกภาคส่วนเห็นว่าตำบลเข้มแข็ง ว่าจะเป็นทางรอดของประเทศ จุดเปลี่ยนของความ เป็นประชาธิปไตยที่มาในลักษณะรูปของการปรองดอง การสร้างความเข้มแข้งจากความรู้สึก จาก การเกิดพลัง Active จากข้างล่าง หรือการสนับสนุนหนุนเสริมน่าจะเป็นวิธีการที่ถูกต้อง วันนี้ พอช. จดแจ้งจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบลทั้งประเทศกว่า 90 % แล้ว มี 7,000 กว่าตำบลแล้ว ทางราชการมีส่วนหนุนเสริม เมื่อก่อนจัดตั้งได้ยังห่างไกลคำว่าเต็มพื้นท่ี ในยุคท่านประธานสมพร ใช้บางยาง ซึ่งเป็นรองอธิบดีกระทรวงมหาดไทย ผมได้หารือกับท่าน ท่านใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว พูดคุยกับกรมการปกครอง กรมการปกครองพูดไปยังท่านผู้ว่านายอำเภอ ให้หนุนเสริมจดแจ้ง จดั ต้งั หลงั จากนัน้ เกือบเต็มพ้นื ท่ี ความสำคัญของส่วนราชการ ในการใหค้ วามสำคญั เรื่องหนงึ่ เรื่อง ใด ขอความร่วมมือในสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บัญชา สามารถกระจายได้รวดเร็ว ยิ่งขึ้น การจัดตั้งสภาองค์กรชุมชนตำบล กว่า 60% เป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน หาก เชื่อมโยงกัน ระหว่างกรมการปกครองกับสภาองค์กรชุมชน องค์กรพันธมิตรอื่น ๆ ระหว่างผู้นำท่ี เปน็ ทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ ทำเร่อื งพลเมืองกมั มนั ตะจะสามารถขยาผลได้ วันนี้แม้จัดตั้งได้ในปริมาณจะมากแต่เชิงคุณภาพยังเป็นปัญหา ต้องฝากพอช. และ กระทรวงพม. ในขั้นตอนการจดแจ้งจัดตั้งเป็นไปตามเป้าหมาย แต่เรื่องการพัฒนาคุณภาพผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญอาจต้องมีงบประมาณในการพัฒนา เปรียบเหมือนหว่านเมล็ด พันธุ์แล้วไม่ดูแลอาจเหี่ยวเฉาตายไปได้ หากใช้โอกาสในการจดแจ้งจัดตั้งและทุกส่วนเข้าไปช่วย พัฒนาให้มคี ณุ ภาพกัมมันตะใหเ้ กิดขนึ้ ทเต็มประเทศ

145 คุณภานุ สมาชิกวุฒิสภา : การก่อตัว จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อยากรวบรวมความคิด ประสบการณ์ของทุกคนที่ทำงานในพื้นที่ ผมเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เคยเป็นปลัดอำเภอ นายอำเภอ สิ่งที่ท่านผู้ใหญ่ได้นำเรียนเป็นความจริงที่เกิดขึ้นในพื้นท่ี คำว่า “นายสั่ง” ท่านรมต. พม.พูดว่า ท่านนายก มีหลักคิดว่า “อะไรที่ดีแล้วทำเลย” ในที่ประชุมมีสภาพัฒน์ ๆ ซึ่งเป็นกำลัง สำคัญในการพิจารณาเงิน 400,000 ล้านบาท วันนี้ดูเหมือนจะพิจารณา 40,000 ล้านบาท กำลัง พิจารณาอีกส่วนหนึ่ง การพิจารณาวันนี้จะมีผลต่อการบริหารจัดการ และเราคิดตรงกันว่า ตำบล เข้มแขง็ คอื จุดแตกหักของการพฒั นาช่วยเหลอื แก้ไขปัญหาของพี่นอ้ งประชาชนได้อย่างชดั เจน วันนี้เห็นว่าคุณลักษณะแนวทางที่จะนำไปสู่ตำบลเข้มแข็งคืออะไรบ้าง คือ 16 ประการ ที่ นำเสนอในที่ประชุมนี้ ไม่ว่าจะเป็น 4 แกนหลัก ท้องที่ ท้องถิ่น สภาองค์กรชุมชน กลุ่มผู้บริหาร รพสต. เกษตรตำบล การศึกษาตำบล ผมอยากคิดว่า หากเราทบทวนแล้ว เรามีองค์กรเหล่านี้ มี แกนหลักที่อยู่ในหมู่บ้าน มีตรงไหนบ้างที่แสดงบทบาทผิดไป หากเราคิดว่าตำบลคือประชาธิปไตย ทางตรง ผมอยากมองสภาองค์กรชุมชน คือสภาที่รวบรวมความคิดเห็นของประชาชน ให้แก่ฝ่าย บริหาร 4 หน่วยงาน รพสต. ท้องที่มีกฎหมาย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น มีงบประมาณ เข้ามา บริหารจัดการ หากนำระเบียบกฎหมายของบ้านเมืองมาเป็นตัวหลัก มันว่าถูกจำกัด ทำอะไรไม่ได้ เรามีมีปลัดอำเภอ มีนายอำเภอ คนเหล่านี้คือคนที่จะมาดูกฎหมาย กับปัญหาของชาวบ้านและหา วิธีการบริหารจัดการอย่างไร ให้ไม่ผิดหลักกฎหมาย มีช่องอะไรให้เป็นข้อยกเว้นได้ ผมคิดว่าสภา องค์กรชุมชนกำลังเล่นบทบาทของผู้ปฏิบัติหรือไม่ ผมอยากให้สภาองค์กรชุมชนเป็นเหมือนฝ่าย นโยบาย คิด ชี้ทิศทางให้กับฝ่ายบริหารเดินไป บทบาทนายสั่ง นายอำเภอมีอำนาจตามกฎหมาย นายอำเภอดูแลทั้งอำเภอดูแลตำบล ปลัดที่รับผิดชอบในตำบล คือนายอำเภอประจำตำบล เรื่อง เหลา่ น้เี ปน็ ความคิดท่ีดีมาก มนั แกไ้ ขปญั หาแตไ่ ม่ถูกจุด ผมอยากให้มเี จา้ ภาพเกิดขนึ้ ในระดบั ตำบล เจ้าภาพคือคนที่ทำตามสั่ง ทำโดยความรับผิดชอบ หากนายสั่งว่าให้ดูแลคุณภาพชีวิตตำบลนี้ให้ดี ขึ้น มีหรือที่นายอำเภอจะไม่ขยับ เงิน 400,000 ล้านบาท วันนี้มีนักบริบาลตำบลเกิดขึ้น งาน สาธารณสุข มีบัณฑิตอาสา จัดจ้าง 2 คน เกิดขึ้นในตำบล มีเกษตร ขยับเรื่องเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่ มีเกษตรอาสา พช. โคกหนองนาโมเดล ดูแลเรื่องอาชพี ยังมีเรื่องการศกึ ษา ให้เงิน 400,000 ล้าน บาท ให้ไปตกกับคนที่รับผิดชอบในตำบลให้ได้ คณะอนุกรรมการธิการน่าจะเชิญกรมการปกครอง ไปคุยสักครง้ั คุณทินกร : ประสานโครงการนำร่องพลเมืองตื่นรู้ช่วง Covid-19 กรุงเทพฯ พลเมืองกัม มันตะ ชุมชนเข้มแข็ง มีอยู่จริง . พื้นที่เข้มแข็ง ใช้พื้นที่เป็นฐานปฏิบัติการ ใช้วิกฤตโรคอุบัติใหม่ เป็นพลงั รวบรวม 4 มมุ จตุพลงั รวบรวม 1) ราษฎร แกนนำชมุ ชน ชาวบ้าน อาสา ทม่ี ีอยใู่ นตำบล

146 นั้น 2)สนง.เขต 3)ศูนย์บริการสาธารณสุข 4)ตำรวจ สน.นครบาลที่อยู่ในพื้นที่ 5)โรงเรียน มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ภาคีวิชาการในพื้นที่ และส่วนของรัฐบาล คือ สช. พอช. สป.สช. ส่ือ Thai Pbs สภาองค์กรชุมชน กองทุนสวัสดิการชุมชน เหล่านี้ที่มีอยู่ในพื้นที่ ภารกิจทำอย่างไรเพื่อ ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 โครงการนี้จะรวบรวมแกนนำอาสาสมัครมาเป็นกลไก สำคัญ Impact ได้ธรรมนูญป้องกัน covid-19 ใน 120 วัน เราชนะโดยไม่มีใครติดเชื้อ Covid-9 เลย ประชาชนทง้ั หมด 87,502 คน จำนวน 2,000 กวา่ หลงั คาเรอื น สรุปคอื เมื่อมีวิกฤตจตุพลังอยู่ ในพื้นที่ ขับเคลือ่ นอยูใ่ นชุมชน จะเป็นพลังสำคัญในการปอ้ งกันและแก้ไขปญั หาได้ ตัวแทน สสส. : สสส.มี 1 สำนัก ทำเรื่องตำบลเข้มแข็ง ใช้คำว่าตำบลสุขภาวะ หรือตำบล น่าอยู่ สนับสนุนให้เกิดตำบลสุขภาวะ เกิดกลไกหลักในการเคลื่อน ใช้องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ คณะกรรมการตำบล เริ่มดำเนินการจำนวน 60 ตำบล มีการสรุปบทเรียนว่า หากกลไกตำบลจะ ดำเนนิ การไดใ้ หเ้ กดิ เป็นตำบลเขม้ แขง็ เปน็ 4 หนว่ ยงานหลัก 1) อปท.ท้องถน่ิ ทอ้ งท่ี องค์กรชมุ ชน ภาคประชาชน สุดท้ายภาครัฐ รพสต. ในส่วนขององค์กร มี 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ ผู้นำ ประชาชน ทีมงาน ข้อมูลของตำบลเอง นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากที่ตำบลทำไปส่งผลกระทบต่อเรื่อง อื่นๆ และสุดท้ายเรื่องแผนการพัฒนา เมื่อรู้ว่ามีกลไกอะไร มีแนวทางอย่างไร เรามาร่วมกับ 4 องค์กร พอช. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมการพัฒนาชุมชน สสส. ทำเรื่องตัวชี้วัดชุมชน ท้องถิ่นเข้มแข็ง ว่ามีเครื่องมือการวัดอย่างไร โดย อ.พงษ์เทพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำมา ตลอด 4 ปี และจะมีการสรุปงานร่วมกันว่า จะไปเสริมชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง สรุปบทเรียนทั้งหมด วนั ที่ 27-29 ตุลาคม 2563 คุณรัตนะ / ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบล จ.ปราจีนบุรี : อดีตเป็นพยาบาล เป็น 1 ใน 4 ทหารเสือ ๆ ทุกคนมีนายสั่ง ประกอบการทำงานของ 4 ทหารเสือ จะมีตัวชี้วัด ๆ จะพัฒนาไป เรื่อย ๆ จะตอบโจทย์การทำงานที่เป็นกระดาษ พยายามเขียนตัวชี้วัด สิ่งที่ต้องตอบตัวชี้วัดได้เป็น กระดาษ ซึ่งไม่เกี่ยวกับชาวบ้านชุมชนเข้มแข็งเลย ทราบว่าวันนี้มีหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึง สภาพัฒน์ ข้อเท็จจริงของชาวบ้าน ๆ ใน 1 ตำบล จะมีกลุ่มคนที่ดำเนินไปได้ไม่กี่คน คนที่ไปได้คือ คนที่รวมกลุ่มได้จริง ๆ ตอนตั้งสภาองค์กรชุมชนต้องไปสำรวจว่าคนในตำบลมีกี่กลุ่มกี่องค์กร ได้มา 40-50 องค์กร ซึ่งเป็นองค์กรที่ถูกจัดตั้งให้มีชื่อ ถามว่าทำอะไรหรือไม่ ไม่ได้ทำไม่ได้มีตัวตน ไม่ได้เกดิ ประโยชน์กับวิถชี วี ติ ตนเอง มีต่าง ๆ ไป ตามตวั ชี้วัด คิดว่ากลุ่มคนที่เข้มแข็ง รวมกลุ่ม สร้างประโยชน์ให้เกิดเศรษฐกิจครัวเรือน เกิดการพึ่งพา อาศัย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดความเข้มแข็ง กลุ่มนี้ไปได้ ส่วนกลุ่มชาวบ้านอื่นๆ เป็นผู้รับบริการ ทางสังคมแทบไม่ได้รับประโยขน์อะไรเลย ฝึกอาชีพฝึกแล้วถูกทิ้ง ทุกคนใช้ขาวบ้านเป็นเป้าหมาย

147 ว่าฝึกใหแ้ ล้ว ตอนนี้มีโครงการที่เด็กด้อยโอกาสทีไ่ ดร้ บั การฝึกอาชีพเพราะไม่ได้เรียนหนงั สือ คิดว่า เป็นข้อเท็จจริงของสังคมท่ีต้องรว่ มกนั คดิ ว่าทกุ คนไปรว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งไร ไม่ใช่ไปไดแ้ ค่กลมุ่ เดยี ว ทุก คนต้องไปด้วยกัน ชุมชนเข้มแข็งชาวบ้านทุกครัวเรือนต้องไปได้ เหมือนตนเองมีกลุ่มทำเครือข่าย เกษตรอินทรีย์ พยายามไปทุกกลุ่ม คณะผุ้ทรงคุณวุฒิ กองทุนฟื้นฟู ได้รับสิทธิหมดเลยแต่ชาวบ้าน ไปไม่ถึง ชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังไม่สามารถพาทุกไปได้ กลับมาย้อนคิดว่า ทำอย่างไรให้ ทุกคนได้มี สขุ ภาวะองคร์ วม มเี ศรษฐกิจครัวเรือนภายใตเ้ ศรษฐกิจพอเพียง กำนันประสาน ตำบลเสียว : ข้อบังคับตำบล ทำเป็นธรรมนูญตำบล นำงบประมาณ หน่วยงานมาทำให้สวยจัดทำเป็นเล่ม แจกทุกหลังคาเรือนในพื้นที่ 17 หมู่บ้าน ข้อบังคับตำบลน้ี ไม่ได้บอกว่าหากใครทำผิดได้รับโทษ คนทำผิด เรียกว่า ละเมิดข้อบังคับสังคมจะลงโทษอย่างไร เป็นข้อปฏิบัติและควบคู่กัน เป็นสิ่งภูมิใจที่ทำตรงน้ี จนได้รับรางวัลหลังจากดำเนินการตาม ธรรมนูญฉบับน้ี นายกกนกศักด์ิ : หลายเรื่องที่ผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย หลายเรื่องที่ชุมชนแตก คือเรื่อง งบประมาณ เรื่องการจัดการ ตำบลแม่ทา 80 กม. อยู่ไกลจากพื้นที่จ.เชียงใหม่ ใกล้ ๆ ก็ไม่ใกล้ ไกลก็ไม่ไกล ไม่มีใครอยากไปอยู่ พอมีการนั่งคุยกับทุกคนรับรู้ปัญหา เป็นเรื่องการผสมผสาน 4 เสือ เรื่องพื้นที่ห่างไกลมีข้อเสนอ ว่าส่งคนในชุมชนไปเรียน สุดท้ายต้องตั้งรับและร่วมกันแก้ไข ปัญหา กรณีงบประมาณ 4 แสนล้านบาท มีเวลาเน้นมากในการเขียนโครงการ ถือว่าได้ส่ง โครงการได้ทัน ชุมชนเข้มแข็งและตั้งรับถือว่าดึงทรัพยากรงบประมาณจากหน่วยงานภายนอกมา ได้ ตั้งแต่ปี 2551 ก็ยังทำงานร่วมกัน เช่น ปตท. สสส. พอช. เมื่อตั้งรับแล้ว สามารถทำงานได้ สุดท้าย วันนี้เราใช้เงินทำงาน มีการทำข้อบัญญัติการมีส่วนร่วม มีกรณี เงิน 25 ล้านบาท ประชุม ร่วมกัน 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ทุกคนตั้งเป้าหมายว่าต้องนำเงินไปใช้ พื้นที่ผมไม่มีปลัดมา 5 ปีแล้ว เมื่อคิดว่าปลัดเงินเดือนเท่าไหร่ ชาวบ้านคิดว่าอะไรที่จำเป็นในตำบลคนในตำบลต้องพิจารณา ร่วมกัน ต้องบริหารเงินถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องทำงานเพื่อส่วนร่วม บรรทัดฐานการวัดตำบล เข้มแข็ง กรณีของอ.ประเวศ 16 ประการ ผมผ่าน 7 ประการ ผ่าน 50% ที่เหลือผมยังต้อง ดำเนินการให้ดีขึน้ ตัวแทน สก.สว. : ตอนนี้มีเงินกองทุนของตัวเอง กองทุนด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม คำว่าสภาองค์กรชุมชนเป็นตัวขับเคลื่อน ใน 3 พื้นที่มีอะไรที่น่าสนใจเยอะ มีบริบทการเคลื่อน เรื่องคน ความรู้ ไม่เหมือนกัน เป็นเสน่ห์ที่สำคัญ หากถอดลึกๆจะเห็นในรายละเอียดและคิดว่ามี อีกหลายชุมชน โครงสร้างหรือแผนเป็นเพียงตัวทำให้ขับเคลื่อน แต่นัยะหัวใจมีความสำคัญ รายละเอียดมากกว่าน้ี สนับสนุนความคิดของ ผญ.โชค size unit อยู่ที่ชุมชน ระดับตำบลควรเป็น

148 การแลกเปลี่ยน ในการขับเคลื่อน unit ที่จะชนะจริงๆ คือ ชุมชน เป็นเครือข่ายที่มาขับเคลื่อน ตำบล อยู่ในกระทรวง อว.มหี น่วยงานด้านการศกึ ษา เรามโี จทย์จากยุทธศาสตร์ชาตติ อ้ งขับเคลื่อน พื้นที่เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ กำลังวิเคราะห์ value chain ตน้ น้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ วิเคราะห์วันนี้เห็นว่า ต้นน้ำ กลางน้ำอาจจะมีคนทำอยู่แล้ว มหาวิทยาลัย ระดับพื้นที่ Are base อาจไม่ต้องไปทำที่ชุมชนตำบล อาจจะหนุนเสริมกลางน้ำ ปลายน้ำที่ยังขาด อยู่ จะนำไปกลบั ไปหารอื ในหนว่ ยงาน คุณหมออำพล : ควรมีการถอดบทเรียนชุมชนเข้มแข็ง เพราะยังไม่มีใครถอดบทเรียน หา ประเดน็ รว่ มกนั จรงิ ๆ ท่จี ะตอ่ ยอดไปอกี ถอดบทเรยี นจะเปน็ เรือ่ งเฉพาะเรื่อง ยังไม่เห็นขอ้ ตอ่ อ.วินัย / กรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม : ส่วนตัวได้เปิดวิสัยทัศน์ของตนเอง ผมเป็น อาจารย์มหาวิทยาลัยโอกาสที่จะสัมผัสเกี่ยวกับชุมชนอย่างที่พวกท่านได้ทำยาก เรื่องการพัฒนา ตำบล เรื่องพลเมืองกัมมันตะ กับเรื่องตำบลเข้มแข็ง ซึ่ง อ.หมอประเวศได้พูดถึง ซึ่งสามารถสร้าง ความเข้มแข็งจากด้านล่างขึ้นไป เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเราชินการสั่งการจากด้านบนมา นาน หากทั้ง 2 ทางมาประสานกับตรงกลาง บทเรียนจากวิทยากรทั้ง 3 ท่านเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ สิ่งที่ขาดในสัคมคือการตั้งคำถามความสำคัญ และแสวงหาคำตอบจะเป็นเรื่องสำคัญ สำคัญ ยิ่งกว่านั้นคือจะทำให้ชุมชนที่สังกัดอยู่เข้าใจคำถามร่วมกัน และในที่สุดจะมีความเห็นตรงกันว่า คำตอบจะตอบอย่างไร คำตอบนั้นจะถูกไม่ถูก พลังสังคมทำให้สิ่งที่ท่านตอบมันถูกต้อง เรื่องต่างๆ เหล่านี้จะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง หากทั้งหมด 8,000 ตำบลสามารถนำประสบการณ์ต่างๆ เหล่าน้ี เข้ามาร่วมกัน ท่าน รมต.พูดถึงเรื่องเทคโนโลยี สำคัญอย่างยิ่ง การใช้ platform การนำเอาองค์ ความรู้ที่เกิดขึ้นในตำบลหมู่บ้าน ในชุมชนมารวมกัน ในที่สุดแล้วเราไม่สามารถนำพลังต่างๆ มาใช้ ในการพฒั นาสงั คมของเรา หากนำเทคโนโลยมี าใชต้ รงนี้ได้จะเกิดประโยชน์ ทางคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสังคม พูดคุยอยู่มากอยากมาฟังความเห็นของท่าน อาจตอบในกลุ่ม line ก็ได้ มีอยู่หลายเรื่องที่ทำงานร่วมกัน การมีส่วนร่วมจากชุมชนจริง จะมี ประโยชน์สำคัญ การสร้างสิ่งที่พวกเราเรียกว่าวิเคราะห์ การขยับเขยื้อนสังคม ประเด็นที่อาจเปน็ ประโยชนต์ ่อพวกเรา คือ เร่อื งระบบการออม พวกเราทำงานท้ังชีวติ หลงั จากท่ีไมส่ ามารถทำงานได้ มีระบบอะไรบ้างที่จะสามารถทำให้เราใช้ชีวิตในช่วงวัยที่เหลืออย่างมีความสุข 1) ระบบการออม ของประเทศจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ฝากไปด้วยวา่ หากท่านมีแนวคิด คณะกรรมการฯ ยินดีที่จะ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ 2) การสร้างฐานข้อมูลในชุมชน ข้อมูลกลุ่มคนที่เปราะบาง ผู้พิการ เด็ก เยาวชน สิ่งที่ได้ทำไปแล้วน่าตจะเป็นประโยชน์แก่ทา่ นได้แก่ การสร้างมูลค่าให้แก่ท่ีดิน เช่น ต้นไม้ เปน็ ทุน ทำใหท้ า่ นไดม้ คี วามมัน่ คงมากขน้ึ และเร่อื งวิสาหกิจเพ่ือสังคม หรอื วิสาหกจิ เพอื่ ชมุ ชน

149 คุณพัชรา / รองเลขาธิการ สช. : ตั้งแต่ SIF ปี 2540 มีความพยายามในการทำเรื่อง ชุมชนเข้มแข็ง ตำบลเข้มแข็ง เท่าที่มีข้อมูลเท่าที่สสส. พอช. หรือ สช.ทำ มีเป็น 1,000 แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้มีการประเมินว่ามีความเข้มแข็งจริง อย่างที่ทีมคุณหมอจะลงไปทำกับ สช.กับ LDI ดำเนินการ 1) จากทั้ง 3 ท่านได้เล่าให้ฟัง คิดว่ายังมี 2-3 เรื่องสำคัญ ที่น่าจะเหมือนๆกัน มองว่า (1)หากมีผู้นำแกนนำเข้มแข็ง ไม่ท้อ ดำเนินการต่อเนื่อง จะทำให้ดำเนินการไปได้ (2)เรื่องการ ประชุม สม่ำเสมอช่วยให้แลกเปลี่ยนและคิดอะไรต่างๆ ได้ 3) เรื่องกิจกรรม ทำไมถึงมีโครงการท่ี เราส่งไปให้ภาคประชาสังคมทำตลอด สมัชชา สปจ. องค์กรชุมชนในพื้นที่ เพราะ จะทำให้มีการ รวมกลุ่มและพัฒนาตนเองทั้งดำเนินประโยชน์ให้กับชุมชนและการบริหารจัดการงบประมาณ (3)การองค์กรชุมชนทำให้เกิดการขยายวง หากมีองค์กรนายกบอกว่ามี 22 กลุ่ม จะขยายวงการ ทำงานออกไปเร่ือย 2) สช. เองมีเครื่องมืออยู่หลายเครื่องมือ ที่จะสร้างการมีส่วนร่วม มติสมัชชาสุขภาพปี 2556 ว่าด้วยสุขภาวะชุมชน ทำให้ ได้สำรวจข้อมูลชุมชนต่างๆ ทำงานร่วมกันมาตลอด เราได้รับ โครงการสนับสนุนจากรัฐบาลทำเรื่องตำบลเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากเพิ่งจบไป มีตำบลเข้าร่วม กว่า 2,000 ตำบล 3) เราอาจไม่ได้เรียกว่าธรรมนูญชุมชน แผนแม่บท ธรรมนูญชุมชนที่สร้างกรอบสร้าง เป้าหมายของพื้นที่ตำบลตนเอง ฟังจากที่อาจารย์หมอประเวศ 16 ประการ ถือว่าเป็นกรอบ ธรรมนูญตำบลได้เลย เพียงแต่ว่าหากตำบลจะไปถึงตรงนั้นได้ตำบลพื้นที่จะมีกิจกรรมอะไรทำ ร่วมกบั ข้ีนอยู่กบั บรบิ ทของพื้นที่ สรุปประเด็นสำคัญสำคัญที่ได้จากการเสวนาและแนวทางการสานพลังก้าวต่อไป และกล่าว เปดิ การเสวนา โดยนายแพทย์อำพล จินดาวฒั นะ ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาเสนอแนะ การแก้ไขปัญหา ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำดา้ นสงั คม และประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามการปฏิรูป สังคม กจิ การผู้สงู อายุและสงั คมสงู วัย ขอสรุป 3 ขอ้ เบอ้ื งตน้ 1) คนที่อยู่ในตำบลพื้นที่เดียวกัน ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องกัน เผชิญสุข เผชิญทุกข์ร่วมกัน ที่ ไหนเข้มแข็งจะมาร่วมทุกข์ร่วมสุข ในนั้นมีพลเมืองกัมมันตะปนอยู่ไม่น้อย อาจมีราษฎรที่ยังไม่ใช่

150 พลเมืองแต่มีพลเมืองกัมมันตะปนอยู่มากขึ้นเรื่อย ๆ พลเมืองกัมมันตะไม่ได้อยู่นิ่ง เพราะเขา เปน็ กัมมันตะเขาเข้าไปใช้จตุพลังที่มีอยู่แลว้ ในหมวกต่างๆ บทบาทต่างๆ กำนนั อบต. 2) จัดการกันอย่างไร 10 เรื่อง (1) มี positive mind set ถักทอสานพลัง ไม่ใช่ด่าทอ (2) มุ่งประโยขนช์ าวบ้านแก้ไขปญั หาชาวบ้าน (3) มีปฏิสัมพนั ธอ์ ย่างสร้างสรรค์ มองการคบหาสมาคม กันร่วมคิดร่วมทำคือ วิธีทำงาน ไม่ได้มองใครเปน็ ศัตรู ไม่มองคนละค่ายคนละพวก มันมีม่านบังตา เขาเห็นว่าไม่ใช่ (4) มีเวทีร่วมสม่ำเสมอด้วยรูปแบบวิธีการต่างๆ (5) มีงานร่วม ความจริงที่ทำให้ เขาทำงานอยู่ได้ (6) ดูเหมือนว่ามองทุกอย่างเป็นโอกาสมากกว่ามองเป็นวิกฤติหรือปัญหา รับสิ่ง ดีๆ ได้หมดเลยไม่รู้สึกอ้างนู้นน่ี (7) มีความเป็นกัมมันตะคือ เข้าไปร่วมเข้าไปเชื่อม ชวนคนไปร่วม ชวนคนมาเชื่อม ไมร่ อความช่วยเหลอื อาสาไปชวนมา (8) ความเป็นผู้นำทางธรรมชาตแิ ละทีมงาน และอาจเข้าไปเป็นผู้นำทางทางการด้วย (9) ทำงานบนข้อมูลและมีแผน (10)มีความคิดสร้าง นวัตกรรมใหม่ๆตลอดเวลา ไม่รอใครคิดเบ็ดเสร็จสำเร็จรูปมามีการนอกกรอบและเกิดนวัตกรรม มากมาย 3) องคก์ รภายนอกมคี วามปรารถนาดสี งู ต่อการทจี่ ะใช้ชุมชนทอ้ งถิ่นเขม้ แขง็ มงี านภารกิจ เข้าไปสนับสนุนตามภารกิจของหน่วยงานต่างๆ เยอะเลย ดูเหมือนองค์กรต้องเรียนรู้ และเข้า ชาวบ้านและตำบลมากกว่าที่จะไปกำหนดอะไรให้เขา ไปหนุนเสริมให้เขาจัดการแบบหุ้นส่วนให้มี พลังมากกว่านี้ ไม่เอาตัวเราเป็นตัวตั้งอย่างเดียว ต้องเอาชุมชนท้องถิ่นประชาชนเป็นตัวตั้งเข้าใจ ชุมชนใหม้ าก เพ่อื เป็นเครอ่ื งมอื หนนุ เสรมิ ไมใ่ ช่เป็นภัยคุกคามโดยไม่ต้งั ใจ ปดิ การเสวนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook