P a g e | ๑๐๐ ความสาเร็จอย่างสูง ผลงานของคณะอนุกรรมาธิการ เร่ือง การปฏิรูประบบบริหารจัดการข้อมูล ด้านแรงงานเป็นเร่ืองทต่ี รงใจมากท่ีสดุ และเป็นความคาดหวังตง้ั แต่วนั แรกท่ีดิฉันเร่ิมเข้ามาเปน็ สว่ นหน่งึ ของกรรมาธิการแรงงานใน ปี ๒๕๔๓ ท่ีได้รับเกียรติจากท่านประธานกรรมาธิการแรงงานของวุฒิสภา นายไสว พราหมณี ใหท้ ากรอบการบรหิ ารจดั การด้านแรงงาน คร้ังนั้นดิฉันก็เอาฐานข้อมูลแรงงานเป็นตัวต้ัง แต่ ๑๗ ปีผ่านมาแล้ว ก็ยังไม่เห็นฐานข้อมูล แรงงานท่ีเป็นรูปธรรมที่จะนามาใช้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของประเทศได้ ดังน้ันผลงานของ อนุกรรมาธกิ าร เรอ่ื ง การปฏิรูประบบบรหิ ารจัดการข้อมูลด้านแรงงาน เป็นสิง่ ที่ตรงใจและภมู ิใจมากทสี่ ดุ ไม่ใช่เรื่องง่ายท่ีการปฏิรูปนี้จะมีสัมฤทธิผลอย่างที่วาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกลุ่มคนที่คิด แนวทางการปฏิรูป ไม่ใช่กลุ่มคนท่ีนาไปสู่การปฏิบัติ เพราะการขับเคลื่อนการปฏิรูปนี้เป็นภารกิจของ รัฐบาลต่อไป หากเรื่องการขับเคล่ือนตามแผนการปฏิรูปฯ ในด้านต่าง ๆ ไม่ใช่เร่ืองท่ีมีความสาคัญ ในลาดับต้น ๆ ของรัฐบาลใหม่ ต่อให้คิดว่าได้บรรจงสร้างแผนการปฏิรูปท่ีสมบูรณ์แค่ไหนก็คงไปไม่ถึง ดวงดาว โดยเฉพาะอย่างย่ิงเร่ือง “แรงงาน” ที่ไม่เคยเป็นความสาคัญลาดับต้นไม่ว่าจะในยุครัฐบาล พลเรือนหรอื รัฐบาลทหาร ความสาเรจ็ ของการปฏิรปู ตอ้ งใช้พลังมวลชน ภาวะผู้นา วิสัยทัศน์ดา้ นการเมืองและต้องใช้เวลา การบูรณาการครั้งใหญ่ น่ันคือ ความร่วมมือของ พรรค “การเมือง” ท่ีบริหารประเทศ พรรค “ข้าราชการ” ทเี่ ปน็ กลไกหลกั ในการขบั เคล่ือนประเทศ และจิตสานกึ ถึงหน้าท่ีพลเมอื งของประชาชน สาหรับดิฉัน ปัจจัยที่คิดว่ามีผลอย่างสูงสาหรับความสาเร็จ คือ การปฏิรูป \"การสอนและการ สื่อสาร\" ดิฉันคิดว่า การปฏิรูปการศึกษาท่ีทุกคนเห็นว่าเป็นส่ิงที่สาคัญที่สุดควรต้องเริ่มจากการปฏิรูป “การสอน” การสอน ที่ต้องทาทุกระดับ ต้ังแต่หน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม คือ ครอบครัว การสอน ในสถาบันการศึกษาทุกระดับ การได้รับ “การสอน” ท่ีถูกต้องมาต้ังแต่เยาว์วัย ก็จะทาให้เติบโตเป็น พลเมืองที่ดี มีวินัย มีคุณธรรม มีใจใฝ่รู้ ใคร่ศึกษาพัฒนาตนเอง เราจะไม่ได้ไม่ต้องออกกฎหมาย ฉบบั แล้วฉบบั เล่าเพื่อเป็นเคร่ืองมือควบคุมพฤตกิ รรมของประชาชน สาหรับ “ส่ือ” โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล ที่ข้อมูลข่าวสารแพร่ไวย่ิงกว่าโรคระบาดในยุคก่อน ควรต้องมีการควบคุมส่ือไม่ให้ส่งสัญญาณผิด ๆ ให้สังคม นิทานพ้ืนบ้านบางเรื่อง เช่น ศรีธนญชัย ก็ต้องมาปรับวิธีการถ่ายทอดใหม่ ไม่ควรให้เด็กอ่านโดยไม่ได้รับ “การสอน” ว่าการเอาชนะด้วยกลโกง เลห่ ์เพทบุ าย ไมใ่ ชค่ นเกง่ คนดใี นสงั คม เม่ือสิ้นสุดคณะอนุกรรมการชุดนี้ สิ่งที่ไม่น่าจะสิ้นสุดตามวาระ คือ สัมพันธภาพของอนุ กรรมาธิการ การทางานร่วมกันในห้องประชุมท่ีรัฐสภา การมีโอกาสไปดูงานในสถานที่และวาระต่าง ๆ ท่ีเปน็ ประโยชนม์ ากมาย ทงั้ ในดา้ น “เรียนรู้” แนวปฏิบัติท่ีดี และ “รับรู้” ปัญหาที่ควรจะไดร้ ับการแกไ้ ข ในแต่ละพื้นท่ี ช่วยทาให้เราสามารถ สังเคราะห์ วิเคราะห์ สรุปเป็นผลงานท่ีน่าภาคภูมใิ จ และส่ิงท่ีมคี ่า ควรจดจา คอื การได้รว่ มเดนิ ทาง สอื่ สารพูดคุยเพ่มิ ความสมานฉนั ทข์ องอนกุ รรมาธกิ ารนี้ สุดท้ายนี้ คณะอนุกรรมาธิการทุกทา่ นน่าจะคดิ เหมือนดฉิ ัน คือ เราต้องขอบคณุ เทคโนโลยกี ารส่ือสาร LINE ทีท่ าใหท้ ุกคนมีความใกล้ชิดสนทิ สนมเหมอื นรจู้ กั กันมานาน เรามาจากต่างที่ ตา่ งเพศ ตา่ งวยั แต่เรามคี วามกลมกลนื ไรช้ อ่ งว่าง เราได้ เรียนรู้ ท้ังด้านวิชาการ ด้านสังคม ด้านวัฒนธรรม ความเป็นมาของแต่ละชาติเชื้อ ได้พบ เจอกับ “ปราชญ์” ในคณะอนุกรรมาธิการ ของเราผ่านเทคโนโลยีนี้ ได้รู้จักน้องที่น่ารัก
P a g e | ๑๐๑ คนรุ่นใหม่ทเ่ี สยี สละทาตัวเป็นมดงาน ทางานหนกั เพื่อคณะอนุกรรมาธิการ ได้รบั ฟงั เร่ือง เล่าท่ีทรงคุณค่าประเทืองปัญญาหลากหลาย จนตัวดิฉันเมื่อมีความสงสัยข้องใจใน เรื่องศาสตร์และศิลปะ วัฒนธรรมแขนงไหนก็ตาม ดิฉันจะม่ันใจว่าสามารถ หาคาตอบได้ในหอ้ งสนทนาของอนุกรรมาธิการชดุ นี้ ย่ิงไปกว่านั้นยังได้ผ่อนคลายได้สุขสงบจากการส่งเพลงกล่อมก่อนนอนของ เพ่ือนร่วมกลุ่ม ดิฉันไม่เคยมีความสุข สนุกกับการทางานอนุกรรมาธิการไหน เหมอื นเม่ือมาเป็นสว่ นหนึ่งของคณะอนุกรรมาธิการนี้ ขอขอบคุณท่านประธานอนุกรรมาธิการ เพ่ือนร่วมคณะอนุกรรมาธิการและ น้อง ๆ เจ้าหน้าที่ของรัฐสภาทุกท่านนะคะท่ีทาให้ได้ทางานเพื่อชาติคร้ังน้ีอย่างมี ความสุขและมีความทรงจาทงี่ ดงาม
P a g e | ๑๐๒ นำยพิภู สุโชคชยั กลุ อนกุ รรมำธิกำร หอการค้าเป็นองค์การนิติบุคคลท่ีจัดตั้งข้ึนตามพระราชบัญญัติหอการค้า มีสมาชิกซึ่งเป็น ผู้ประกอบการ กระจายอยู่ทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทยในนามหอการค้าจังหวัดน้ัน ๆ จึงเป็นจุด ศูนย์รวมประสบการณ์ตรงในการใช้แรงงานเพื่อสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศ มุมมองใน ฐานะท่ีเป็นรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร ซ่ึงได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชกิ ของหอการค้าโดยตรง เห็นควรให้ความสาคัญในการให้หอการค้าเข้ามามีส่วนร่วม ในการกาหนด นโยบายเพือ่ การปฏิรูประบบแรงงานของประเทศ รวมถึงการจะเขา้ ไปปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม กบั สภาพปัจจุบันด้วย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในรูปแบบพิเศษของไทยที่ผ่านมา จนรัฐบาลได้กาหนดให้มี สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เพ่ือจัดทาข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในวาระเร่งด่วนท่ีควรมีการ ปฏิรูปพร้อมแนวทางและวิธีการ ส่วนตัวกระผมมีประสบการณ์ตรงเก่ียวกับเร่ืองแรงงาน โดยมีสถานะ เป็นผู้ประกอบการที่มีการใช้แรงงานเป็นปัจจัยหน่ึงท่ีสาคัญในการผลิต เป็นเลขานุการสภาองค์กร นายจ้างและนายกสมาคมนายจ้างอุตสาหกรรมพลาสติก เป็นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ของ กระทรวงแรงงาน และเป็นอดตี ผูพ้ ิพากษาสมทบศาลแรงงานกว่า ๑๐ ปี ฯลฯ กอปรกับเคยได้ร่วมงานกับท่านอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ประธานกรรมาธิการขับเคลื่อน การปฏิรูปประเทศด้านสังคม สมัยสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรุ่นท่ี ๑ จึงได้รับ ความไว้วางใจเข้ามาเป็นอนุกรรมาธิการ เพื่อนาประสบการณ์มาร่วมในการแลกเปลี่ยนกับเพ่ือน อนุกรรมาธิการจากต่างสายอาชีพ ต่างมุมมอง เพ่ือสกัดองค์ความรู้ อันจะนาไปสู่การค้นพบแนวทาง การเสนอแนะประเด็นการปฏิรูปเร่งด่วน แนวทางพร้อมวิธีการท่ีเหมาะสมตามบริบทในปัจจุบัน อนั จะเปน็ ประโยชนต์ ่อระบบแรงงานไทย และประเทศชาตใิ นระยะยาว ข้อเด่นในความหลากหลายของท่ีมาขององค์คณะอนุกรรมาธิการ ทาให้เกิดมุมมอง ข้อแลกเปลย่ี นท่หี ลากหลาย เกิดขอ้ คดิ อนั เป็นองคค์ วามรทู้ ี่ครอบคลุมประเดน็ ไดม้ ากขน้ึ โดยเฉพาะเมอื่ ได้ ผ่านการบันทึกจากคณะเจ้าหน้าท่ีกองงานวิชาการฝ่ายเลขาของสภาฯ ทาให้ได้ผลการรายงานเป็น ลายลกั ษณอ์ กั ษร เป็นรปู ธรรมและจบั ต้องได้ การได้ลงไปศึกษาดูงาน ร่วมรับฟังและประสบกับเหตุการณ์จริงในพ้ืนท่ี เป็นส่ิงจาเป็นเพ่ือได้ ขอ้ มลู อนั เชงิ ประจักษ์ และเป็นจริง
P a g e | ๑๐๓ ประสบการณ์ทางานในคณะอนุกรรมาธิการ พบว่า ความหลากหลายของท่ีมาพร้อม ประสบการณ์ท่ีแตกต่างของแต่ละท่านในคณะอนุกรรมาธิการ อาจทาให้เกิดการขัดแย้งในเชิงความคิด และอาจทาใหก้ ารทางานเกดิ ความลา่ ช้าในการทางานได้ โดยกระผมเห็นว่า การมาทาหน้าที่ในคณะอนุกรรมาธิการไม่ว่าตาแหน่งใด หากไม่ละวางการเป็น ตัวแทนของกลุ่มผลประโยชนใ์ ด หรือที่มาท่ีส่งมาเปน็ อนุกรรมาธิการ ก็จะไม่มีการสร้างสรรค์ในความรูท้ ี่ ไดม้ าในระหวา่ งประชมุ เพอ่ื นาไปสงั เคราะหเ์ ป็นนโยบาย และปฏเิ สธไม่ได้ว่าฐานที่มาของแตล่ ะบคุ คลใน คณะอนุกรรมาธกิ าร มีผลต่อการนาเสนอ บทบาทการแสดงออก นักวิชาการหรอื ประธานผู้สามารถชี้นาได้ จึงต้องมีความเป็นกลางสูง ละวางตัวตน ฐานที่มาในนามตัวแทน มองถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ เปน็ สาคญั ไม่องิ การเมอื ง กล่มุ ผลประโยชนใ์ ด แม้แต่ตนเอง ตอ้ งละอคติส่วนตนลง อุปสรรคที่พบในเร่ืองงบประมาณคืออานาจหน้าที่ วิธีทางงบประมาณ ยังไม่มีความอิสระจาก คณะใหญเ่ ทา่ ท่คี วร ทาใหเ้ กิดความล่าช้า หรอื บางกรณอี าจทาใหไ้ มส่ ามารถปฏิบัติไดเ้ ลย ประสบการณ์ตรงที่ได้เป็นประธานคณะทางานพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นการทางานท่ีไม่มี งบประมาณหรือระเบียบรองรับ ผู้รับผิดชอบต้องใช้ศักยภาพส่วนตัวในการจัดหาสถานที่ และ งบประมาณในการประชุม มีความยุ่งยากในขั้นตอนการเชิญผู้มีส่วนเก่ียวข้องมาร่วมแสดงความคิดเหน็ และหากไม่ไดร้ ับความรว่ มมอื จากประธานหรอื คณะทางาน ยิ่งทางานไดย้ ากมากขึน้ การทางานใดทไี่ ด้รับ มอบหมายในคณะทางานต่าง ๆ ภายใต้ข้อจากัดดังกล่าว ผู้ปฏิบัติทุกคนแม้จะไม่ได้รับความสะดวก ในเรื่องงบประมาณหรือสถานท่ี แต่เมื่อได้ทุ่มเทความตั้งใจและเสียสละอย่างเต็มท่ีในการทางานแล้ว ควรได้รับเครดิตในการทางาน เพ่ือเป็นกาลังใจในการทางานเพ่ือส่วนรวมต่อไปในอนาคต การไม่ให้เกียรติ ผปู้ ฏิบัติย่อมเหมือนการไมใ่ ห้เกียรติตนเอง การปฏิรูปดา้ นแรงงาน เป็นหัวข้อใหญ่ท่มี ีผลกระทบ (impact) ต่อระบอบเศรษฐกิจของประเทศมาก อาจมากจนกล่าวได้ว่าเป็น Super Impact เพราะถ้าจะมีการปฏิรูปต้องมองถึงความเชื่อมโยงถึงอีก หลาย ๆ องค์กรซ่ึงเก่ียวเน่ืองกัน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนุษย์ สานักงานตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ ซ่ึงแต่ละหน่วยงานล้วนมีกฎหมายรองรับแยกออกจากกัน อย่างชัดเจน หากไม่มีกฎหมายพิเศษเฉพาะรองรับ จะทาให้นโยบายที่นาเสนอเปน็ ไปไมไ่ ด้ในทางปฏิบัติ จงึ อาจตอ้ งกลบั มามององคร์ วม หากจะมีการปฏิรูปฯ ต้องกลับมาปฏิรูปกฎหมายท่ีเก่ียวข้องเป็นปฐมบทก่อน ด้วยระบบ การปกครองของไทย คือ ระบอบนิติรัฐ ยึดหลกั กฎหมายเป็นฐาน จึงนาสูค่ วามชอบธรรมหลัก authority ทล่ี งไปปฏิบัติหน้าทีไ่ ด้ โดยไมผ่ ิดตวั หลักกฎหมาย หรอื เลือกปฏิบตั ิ ชว่ ยลดการต่อตา้ น และส่งเสรมิ การมี ส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในท่สี ดุ จากประสบการณ์ทางานในคณะอนุกรรมาธิการ กระผมได้มีโอกาสแสดง ความคิดเห็นแลกเปล่ียนประสบการณ์ เพ่ิมมุมมองในมิติท่ีแตกต่างจากผู้ร่วมทางาน ในคณะอนกุ รรมาธกิ าร อย่างตรงไปตรงมา ไมม่ อี คติ หรอื อิงกลุ่มผลประโยชนใ์ ด นอกจากน้ียังได้เข้าร่วมในกิจกรรมประชุม การสัมมนา การแสดงความ คิดเห็น การศกึ ษาดูงาน โดยใหค้ วามร่วมมือกบั เพ่อื น ๆ อนุกรรมาธกิ ารเป็นอย่างดี อย่างเต็มความสามารถในการทางานในทุกหน้าท่ีกระผมตั้งใจทางานอย่างเต็มท่ี
P a g e | ๑๐๔ ในทุกตาแหน่งที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ได้เรียกร้องชื่อเสียงหรือเครดิตจาก สว่ นกลาง ท้ังนี้ ด้วยข้อจากัดในการทางานหลายประการและความหลากหลายในวิธีคิด วิธีทางานจากหลายฝ่าย กระผมจึงมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพ ประสบการณ์ ความ เชอื่ มโยงกบั องค์กรอ่นื ที่เกีย่ วเน่อื งในระดบั ปานกลางเท่านนั้
P a g e | ๑๐๕ นำยวรพงษ์ รวริ ฐั อนกุ รรมำธกิ ำร ประสบการณ์ บทเรยี น การทางานในคณะอนุกรรมาธิการขับเคล่ือนการปฏริ ูประบบแรงงาน และระบบคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกรรมาธิการขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม สภาขบั เคลอื่ นการปฏิรปู ประเทศ วันหนึ่งผมได้มโี อกาสพบทา่ นอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ประธานกรรมาธกิ ารขบั เคล่ือนการปฏิรูป ประเทศด้านสังคม ในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกสภาท่ีปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มาด้วยกัน นอกจากถามสารทุกข์สุกดิบแล้ว ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกันถึงงานด้านสภาปฏิรูปแล้ว ท่านก็เล่าให้ฟังว่า มีคณะอนุกรรมาธิการดา้ นพัฒนาระบบแรงงาน (ผมเคยเปน็ รองประธานคณะทางานด้านแรงงานในสภา ทปี่ รึกษาฯ ) และทา่ นก็ไดเ้ อย่ ปากชวนผมเขา้ มาร่วมดว้ ยเพราะเหน็ วา่ มปี ระสบการณ์ ผมตอบรบั ทนั ที แล้วท่านกไ็ ดแ้ นะนาใหร้ ู้จักกับคณุ ศริ ชิ ัย ไม้งาม ประธานอนุกรรมาธิการพรอ้ ม กับบอกว่า ผมชวนคณุ วรพงษ์ รวริ ัฐ มาร่วมงานในอนกุ รรมาธกิ าร หลงั จากนน้ั คุณศริ ชิ ัยกไ็ ด้โทรศพั ท์ถึงผมเพื่อขอคายนื ยันและแจง้ ว่ากาลังทาหนังสอื คาสั่งแตง่ ตัง้ ผมเข้ามาหลงั จากทค่ี ณะอนกุ รรมาธกิ าร ทางานกันไปสกั ระยะเวลาหนึ่งแล้ว (กน็ านพอสมควร) ผมเข้ามาด้วยความหวัง ความมุ่งมั่น ท่ีเชื่อว่าในภาวะท่ีสังคมอยู่ในช่วงท่ีคนส่วนใหญ่ อยากเห็นการเปล่ียนแปลง อยากเห็นการปฏิรูป และการปกครองประเทศอยู่ในช่วงท่ีมีรัฐบาล คสช. บรหิ ารงานอยู่ ผมก็มคี วามคาดหวังวา่ เราน่าจะทาอะไรได้มากมาย ผมมาถึงห้องประชุมตรงเวลาเสมอ ๆ และเม่อื มกี ารเริ่มประชมุ ซกั ๒-๓ ครง้ั ผมก็เร่ิมรูส้ ึกผิดหวงั เล็กน้อยท่ีเห็นว่า เร่ืองหรือประเดน็ ต่าง ๆ ท่ีถูกนามาเข้าสู่ที่ประชุมไม่สามารถดาเนินการได้ง่ายและเร็ว อยา่ งทคี่ ิด ทีเ่ ปน็ อย่างนีส้ ่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคณะอนกุ รรมาธิการมที ่ีมาท่ีแตกตา่ งกนั เชน่ มีท้ังราชการ นักวิชาการ นายจ้าง ลูกจ้าง ซ่ึงแต่ละท่านกเ็ ป็นผู้ท่ีมคี วามรู้ ประสบการณ์ และความเช่ือที่แตกตา่ ง กนั น้ันสว่ นหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากการท่ีคณะทางานต่างมีความรู้มีความคิด แต่ประเด็นท่ีพวกเราเสนอ จาเป็นอย่างย่ิงท่ีเราต้องมีข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทางานกันอยู่ คณะทางานก็จาเป็นต้องขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เก่ียวข้องด้วย เชิญมาให้ข้อมูลบ้าง ซ่ึงก็ทาให้ต้องใช้ เวลามากพอสมควร งานท่ีคิดว่าจะทาได้เร็ว ก็ไม่เร็วอย่างที่คาดหวัง ผมอึดอัดบ้างในช่วงแรก เพราะไม่ได้ด่ังใจ แต่ก็พอใจท่ีเราได้มีโอกาสพูดคุยกัน ได้แสดงความคิดเห็นต่อกันอย่างให้เกียรติ ระมัดระวัง ถนอมน้าใจ กันพอสมควร และก็ไดม้ ปี ระเดน็ สาคัญที่คณะทางานเห็นวา่ เป็นความสาคัญระดับประเทศ คือ เรื่องการ
P a g e | ๑๐๖ ปฏิรูประบบการบริหารจัดการข้อมูลด้านแรงงาน ซึ่งผลเป็นเร่ืองที่ผมพอใจที่คณะทางานได้มีส่วนกระตุ้น และผลกั ดันเรอื่ งน้ไี ปสู่รัฐบาล ภาพโดยรวมผมกค็ ดิ ว่า อย่ทู ่ผี ลงานท่อี อกมากับส่งิ ที่ผมคาดหวังกอ็ ยูใ่ นระดับนา่ พอใจ ดังที่ผมได้กล่าวไว้แล้วว่าท่ีมาของคณะอนุกรรมาธิการ มีที่มาจากหลากหลายทาให้ข้อคิดเห็น และมุมมองอาจแตกต่างกัน ต้องใช้เวลาในการแสดงความคิดเห็นเพื่อให้สามารถหาข้อสรุปได้ อาจต้องใช้เวลามาก แต่การแสดงความคิดเห็นกันอย่างให้เกียรติ ระมัดระวัง ทาให้เราสามารถหา ข้อสรุปได้ด้วยดเี กือบทุกเรอื่ ง และทีส่ าคญั คือเรามคี วามรสู้ ึกท่ีดตี ่อกนั แมค้ วามคิดเหน็ จะแตกตา่ งกัน เรามีการออกไปศึกษาข้อมูลในพื้นที่จริงหลายแห่ง / ทุกคร้ังท่ีไป เราใช้เวลากันอย่างจริงจัง เตม็ ทท่ี กุ ครั้ง ทาใหเ้ ราได้ข้อมลู ทีช่ ดั เจนมากขึ้น ข้อเสนอกม็ เี หตมุ ผี ลมากข้ึน ดังที่ได้เรียนไปแล้วว่า นอกจากคณะอนุกรรมาธิการมีท่ีมาแตกต่างกัน ทาให้ต้องใช้เวลาในการ พูดคุย ทาความเข้าใจกันนานมากในแต่ละเรื่อง ทั้งคณะทางานยังขาดข้อมูลภาคปฏิบัติ จาเป็นต้องขอ ขอ้ มูลจากหน่วยงานท่เี กย่ี วขอ้ ง ซ่ึงกท็ าใหต้ ้องใช้เวลามากพอสมควร ควรมีนักวิชาการประจาคณะฯ ที่ทาหน้าที่ไปค้นคว้าข้อมูล ไปขอข้อมูลจากหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพ่ือช่วยสนบั สนุนใหค้ ณะทางาน สามารถทางานไดง้ ่ายและรวดเร็วมากขน้ึ ในส่วนตัวผมเองนั้น ผมคงบอกไม่ได้ว่าเมื่อประเมินผลงานแล้วออกมาเป็นอย่างไร เพราะเราทางานเป็นคณะ แต่ถ้ามองในรูปของคณะทางาน ผมก็ค่อนข้างพอใจ เพราะคณะทางานทางานแบบประชุมหารอื อยา่ งใหเ้ กียรติ เรารู้ว่าอะไรที่เราควรทา อะไรไม่ควรทา อะไรที่ต้องใช้เวลามากกว่าอายุการ ทางานของคณะเรา เราก็หาทางออกด้วยการจัดเสวนาบ้าง เช่น เราจัดเสวนาเรื่อง “ประเทศไทย ๔.๐ อย่าทิ้งใครไว้ขา้ งหลงั ” เราจัดทาข้อเสนอเร่ือง - เร่ือง “การจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ ณ จุดผ่านแดนถาวร เพ่ือจัดระเบียบ แรงงานขา้ มชาตเิ ข้าสรู่ ะบบ” - เร่อื ง “กำรปฏริ ูประบบบรหิ ำรจดั กำรข้อมลู ด้ำนแรงงำน” ซงึ่ ทง้ั สองเรอ่ื งผมเห็นว่าเปน็ เรอื่ งสาคัญ เปน็ เรอ่ื งทีน่ ่าภมู ใิ จของคณะทางาน
P a g e | ๑๐๗ มมุ จาก ลกู จา้ ง
P a g e | ๑๐๘ นำยชำลี ลอยสงู อนุกรรมำธิกำร ตอนท่ีได้รับเชิญจำกประธำนอนุกรรมำธิกำรขับเคลื่อนกำรปฎิรูประบบแรงงำนและระบบ คุ้มครองผู้บริโภคก็คิดว่ำ ครั้งน้ีจะนำประเด็นปัญหำของพ่ีน้องขบวนกำรแรงงำนมำผลักดัน ซ่ึงเป็น ปัญหำที่ยังค้ำงคำของรัฐบำลท่ีเป็นประชำธิปไตยและไม่สำมำรถแก้ไขให้บรรลุได้ ซึ่งเป็นรัฐบำลท่ีมี ควำมอ่อนแอและไม่มีนโยบำยจะผลักดันประเด็นปัญหำของแรงงำน อีกท้ังไม่มีตัวแทนของคนงำน เข้ำไปเปน็ ผู้แทนรำษฎร เปน็ รฐั บำลท่มี ำจำกทุนเสยี ส่วนใหญ่ จึงไมส่ ำมำรถผลกั ดนั ได้ตำมท่ีต้องกำร อีกท้ังไม่มีอำนำจพิเศษ ขณะเดียวกันในปัจจุบันท่ีมีรฐั บำลทมี่ ำจำกช่องทำงพิเศษท่ีมีนโยบำยชัดเจน เร่ืองกำรปฎิรูปประเทศไทยทุกภำคส่วน ซ่ึงมีสภำขับเคลือนกำรปฎิรูปประเทศมีหน้ำที่ขับเคล่ือน ปฎิรูปด้ำนต่ำง ๆ หน่งึ ในนัน้ กม็ ีเร่ืองเศรษฐกิจ สงั คม และแรงงาน จึงมีความรูส้ ึกว่า จะต้องผลักดันได้อย่างรวดเรว็ ซ่ึงพี่น้องได้ผลักดันมาเป็นเวลาช้านาน แต่ก็ไม่สาเร็จเสียเวลาและเสียเงินมากมาย อย่างเช่น ประเด็น ปัญหาของพ่ีน้องแรงงานที่กาลังขับเคล่ือนกันในขณะนี้ เร่ืองการถูกละเมิดสิทธิของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน การใช้แรงงานเด็ก แรงงานข้ามชาติ และแก้ปัญหาเร่ืองการรวมตัวของคนงาน สอดคล้องกับอนุสัญญา ILO ฉบับท่ี ๘๗ ๙๘ และการแก้ไขกฎหมายแรงงานที่ยังล้าหลังไม่ทันสมัยให้เข้ากับยุคปัจจุบัน การปฎิรูป ระบบข้าราชการท่ีทางานการแก้ไขปัญหามาเปน็ การปอ้ งกัน และการทางานเชงิ สากลของราชการ เช่น จะตอ้ งปฎิบตั ติ ามกฎบตั รขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ เปน็ ต้น คิดว่า จะมีการปฎิรูปเชิงโครงสร้างเพื่อรองรับกับการพัฒนาประเทศในอีก ๒๐ ปี ซึ่งเป็นงาน ท้าทายท่ีมีความยากลาบาก เพียงแต่ได้รับประสบการณ์ท่ีได้ลงมือปฎิบัติ รู้ในขั้นตอนการทางาน ในรัฐสภาว่า ทาไมงานถึงไม่ไปถึงไหน เพราะถ้าผู้นาไม่ติดตามเกาะติดแล้ว จะทาให้เสียเวลาไปเร่ือย ๆ สุดท้ายงานกไ็ มอ่ อกมา ทาให้ประชาชนพ่ีน้องขบวนการแรงงานไม่เช่ือม่นั ในระบบรัฐสภาเหมือนในอดีต ท่ผี า่ น ๆ มา มุมมองเม่ือเข้ามาครั้งแรกก็รู้สึกพอใจ เนื่องจากผู้เป็นประธานเป็นผู้นาแรงงานที่มีบทบาท เร่ืองการต่อสู้เรื่องการถูกเอารัดเอาเปรียบของทุน และการแก้ไขกฎหมายแรงงานต่าง ๆ คณะอนุ กรรมาธิการท่ีมาจากนายจ้างและลกู จ้างอีกหลายคน รวมท้ังข้าราชการเอน็ จีโอ ซ่ึงบุคคลที่เข้ามาไมเ่ คย รู้จักกันมาก่อนเลย เมือ่ เขา้ มาประชุมร่วมกนั เมือ่ แรก ๆ รสู้ กึ ว่า ความคิดเหน็ หลากหลายมาก ยังคิดว่าจะ ทางานร่วมกันสาเร็จไหม ? แต่เมื่ออยู่ ๆ ไปก็ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป จนเวลาล่วงเลยมาระยะหน่ึงก็ได้เห็นในความต้ังใจของ คณะคือ ต้องการทางานให้เสร็จตามระยะเวลาที่กาหนด และเห็นความขยันเอาจริงเอาจังของประธาน
P a g e | ๑๐๙ ที่พยายามศึกษาข้อมูลจากองคก์ รบุคคลท่ีเกี่ยวข้อง และความคิดเห็นต่าง ๆ ในประเด็นท่ีตอ้ งการปฎริ ปู โดยมีการประชุมทกุ อาทติ ย์ ในการประชมุ แตล่ ะครั้งมีความคบื หนา้ ของเน้ืองานอยา่ งต่อเน่อื ง จะเห็นไดว้ ่า เม่ือมีกรรมาธกิ าร และอนุกรรมาธิการแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ นั้น ประธานไม่เคยตัดบท และนาไปพิจารณา พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขให้ครบถ้วน ซึ่งอนุกรรมาธิการแต่ละคนต่างกม็ ีความคดิ ท่ีแตกตา่ งกันทาให้เน้ืองาน ท่ีออกมาค่อนขา้ งสมบรู ณ์ เน่ืองจากประเด็นท่ีต้ังใจจะผลักดันให้เกิดในครั้งนี้ไม่ได้เป็นโจทย์ในการพิจารณา จึงต้องใช้ เวลานานในการตั้งหลักเพื่อปรับพ้ืนฐาน ข้ันตอนการจัดทาข้อมูลใช้เวลามาก เพราะหัวข้อท่ีจัดทาน้ัน เกี่ยวข้องกับหลาย ๆ หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานข้าราชการ เอกชน นักวิชาการ นายจ้าง ลูกจ้าง หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวกับความมั่นคง ข้อมูลของแต่ละกรม กระทรวงก็ไม่มีการเผยแพร่ให้ต่างกระทรวง และไมค่ ่อยใหข้ ้อมลู ซ่งึ เป็นความลบั ซ่ึงต่างคนต่างจดั ทากันเอง โดยยงั ไม่เป็นการรวมศูนย์ การทางานตอ้ งใช้ความสามารถและการรูจ้ ักกนั เป็นการส่วนบุคคลถึงจะได้ขอ้ เท็จจรงิ เพื่อนามา พิจารณา เป็นส่งิ ท่ียากตอ่ การท่จี ะนามาเปน็ ขอ้ เท็จจริง อกี ทงั้ ผทู้ จี่ ะต้องถกู ปฎบิ ัตจิ ะมีผลกระทบไปทาง ท่ีดีหรือไม่ดี เม่ือนาเสนอต่อกรรมาธิการยังถูกถามประเด็นต่าง ๆ ท่ียังไม่ครบถ้วน ต้องนากลับมา พิจารณาและเชิญองค์กรมาให้ข้อมูล บางครั้งต้องไปพบกับข้าราชการท่ีเกี่ยวข้องเพื่อสอบถามวิธีการ ปฎิบัติและการปฎบิ ัตขิ องหนว่ ยงานน้นั ๆ ซึง่ ตอ้ งใชค้ วามพยายามและความอดทนอยา่ งมาก เม่อื ไดข้ อ้ มูลพรอ้ มตามทค่ี ณะกรรมมาธกิ ารแล้ว กต็ อ้ งนาเสนอใช้เวลาระยะส้นั ๆ แต่เมื่อฟงั แล้ว ต้องเข้าใจ เน่ืองจากกรรมาธิการท้ังคณะไม่มีความรดู้ ้านตา่ ง ๆ จึงทาให้มีการแสดงความคิดเหน็ แบบไม่ เข้าใจ จึงทาใหใ้ ชเ้ วลามาก กว่าจะเขา้ ส้กู ารพจิ ารณาในที่ประชมุ สภาขบั เคลื่อนประเทศ ในช่วงระยะเวลา ๑ ปี ๘ เดือนได้มีการพิจารณางานที่กรรมาธิการมอบหมายโจทย์ให้ทา ๓ ประเดน็ ๑. การจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ ณ จุดผ่านแดนถาวร เพ่ือจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติเข้าสู่ระบบ ๒. การพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของแรงงานไทย ๓. การปฏริ ูประบบบรหิ ารจดั การขอ้ มูลดา้ นแรงงาน เนอื่ งจากมีความจริงจงั กับงานทใ่ี หม้ า และความรับผดิ ชอบของประธานอนุกรรมาธิการ จึงทาให้ งานทั้ง ๓ ประเด็นสาเร็จเสร็จตามเป้าหมายที่กาหนด พร้อมท้ัง ได้รับความร่วมมือจากอนุกรรมาธิการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ข้าราชการทุก ๆ คน สุดท้ายเมื่องานได้ผ่านสภาขับเคล่ือนการปฎิรูปประเทศแล้ว อยากเห็นการนาไปปฎิบัติดว้ ย อยากเห็นการปฎิรูปกระทรวงแรงงานให้ทาหน้าที่เชิงป้องกันปัญหาต่าง ๆ เช่น การระเมิดสิทธิ การค้ามนุษย์ การกดขี่คุกคาม การปรับโครงสร้างค่าจ้าง การแกไ้ ขกฎหมายที่ล้าสมัยใหท้ ันกับเหตกุ ารณ์ และการรบั รองอนุสัญญาหลกั ๘๗ ๙๘ แก้ไขกฎหมายแรงงานสมั พันธใ์ ห้สอดคล้องกับอนุสญั ญา ๘๗ ๙๘ การแก้ไขกฏหมายประกนั สังคมใหเ้ ป็นองคก์ รอสิ ระ โปร่งใส ตรวจสอบได้ การใชก้ ฎหมายอยา่ งจรงิ จงั และมีขอ้ มูลด้านแรงงานเผยแพรใ่ ห้กบั สงั คม เจ้าหน้าท่ีจะต้องมีการประเมินผลงานในปลายปี เพ่ือให้ความดีความชอบ เพ่อื การตอบแทน เพ่อื การกา้ วหนา้ ในหนา้ ทกี่ ารงาน
P a g e | ๑๑๐ นำยสำวทิ ย์ แก้วหวำน อนกุ รรมำธกิ ำรและเลขำนุกำร ก่อนหน้าท่ีจะมีรัฐบาล คสช. รวมท้ัง สปช./สนช./และ สปท. ผมเป็นคนหนึ่งท่ีเข้าร่วมกับ ขบวนการภาคประชาชนในการเคล่ือนไหวทางการเมืองเพ่ือให้เกิดการเปล่ียนแปลง หรือให้มี กระบวนการในการบรหิ ารจัดการประเทศใหม่ เหตุเพราะว่า สามทศวรรษที่ผา่ นมาการเมืองบา้ นเรา ต้องเผชิญกับปัญหาเร่ืองความเหลื่อมล้า ความไม่เป็นธรรมทางสังคม การทุจริตได้แพร่กระจาย จากโครงสร้างการใช้อานาจทางการเมืองของนักการเมืองและชนชั้นนาในสังคมทาให้ประชาชน ต้องตกอยใู่ นสภาวะที่มีความเป็นอยู่อย่างยากลาบากในการใชช้ วี ติ อยา่ งปกตสิ ุขในสงั คม ดังน้ัน การปฏิรูปแบบรอบด้าน ครอบคลุม โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนจากภาคส่วน และสาขาอาชีพต่าง ๆ นา่ จะเปน็ หนทางในการนาพาประเทศไปสู้เป้าหมายแหง่ ความเป็นอยู่ท่ีมีความสุข มีศักดิ์ศรี โดยเฉพาะงานท่ีทาได้เก่ียวข้องกับคนยากจน คนด้อยโอกาสทางสังคมมาอย่างยาวนาน ความรา้ วลกึ ความเจ็บปวดอยู่ในใจกไ็ ดแ้ สดงออกผ่านกจิ กรรมต่าง ๆ เสมอมา แต่ปญั หาก็ใช่ว่าจะเบาบางลง ภายหลังที่ คสช. ยดึ อานาจจากรัฐบาลยิง่ ลักษณ์ ก็ไดน้ าข้อเสนอดา้ นแรงงานหลายข้อที่เกบ็ เกยี่ ว จากการระดมความคดิ เหน็ จากพีน่ อ้ งผใู้ ชแ้ รงงาน คนจน คนด้อยโอกาส เสนอตอ่ คสช. ในหลายเวที แตป่ ระเดน็ แรงงานซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกลับคนกลุ่มใหญเ่ กอื บ ๔๐ ล้านคน กลบั มิไดเ้ ปน็ ประเด็นเรง่ ดว่ น ในการแก้ไขปัญหาดูได้จากประเด็นการปฏิรูปของสภาเพื่อการปฏิรูปประเทศ (สปช.) ใน ๑๒ ประเด็น แต่ประเด็นแรงงานกลับไปอยู่ในส่วนหน่ึงของการปฏิรูปด้านสังคม ความหวังท่ีจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็เร่ิมลดทอนลงจน สปช. ถูกยุบไป ความเปล่ียนแปลงต่างท่ีคาดหวังก็ไม่เกิดข้ึน ซ้าสถานการณ์กลับย่าแย่ กว่าเดมิ จากคาสั่ง และนโยบายของรัฐบาล ดังน้ัน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐสภา โดยรัฐบาล คสช. ได้ยุบ สปช. และได้ประกาศ ตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และได้มีการแต่ต้ังบุคคลเป็นสมาชิก สปท. ซ่ึงก็มีรายชื่อ นายศิริชัย ไม้งาม ซง่ึ เป็นผนู้ าแรงงานจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟา้ ฝ่ายผลติ แหง่ ประเทศไทย (สร.กฟผ.) ซึ่งตอ่ มาคณุ ศิริชยั ฯ ก็ได้ติดต่อมายงั ผมวา่ อยากให้เข้ามาชว่ ยทางานเป็นอนุกรรมาธิการคมุ้ ครอง ระบบแรงงานและระบบคมุ้ ครองผู้บริโภค ซ่ึงผมยังไม่ได้ตอบตกลง เพราะตอนนัน้ ผมดารงตาแหนง่ เปน็ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขอนาเรื่องไปหารือกรรมการบริหาร สรส. ก่อน และกรรมการบริหารก็ได้พจิ ารณา และมีมตใิ ห้เข้ามา เหตุผลอกี ด้านหนึง่ คือ ผมไม่แนใ่ จวา่ จะทาอะไรไดแ้ คไ่ หน เพราะบทเรยี นจาก สปช. ท่ีกล่าวมา ทาให้ความคาดหวังของผมลดทอนลงไปมากกับความเปล่ียนแปลงท่ีอยากเห็นอยากให้เป็น แต่ก็ด้วย
P a g e | ๑๑๑ ความเป็นเพื่อนท่ีได้ร่วมกันต่อสู้บนเส้นทางสายขบวนการแรงงานก็ตอบตกลง และเสนอตัวจะเป็น เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธกิ ารและที่ประชมุ อนุกรรมาธิการก็มมี ตเิ หน็ ชอบ สาหรับความคาดหวังก็ไม่ได้ต้ังอะไรไว้มากมายเพียงเข้ามาช่วยเพ่ือน และด้านหนึ่งหากมีโอกาส จะได้นาปัญหาจากภายนอกเข้ามาสะท้อนให้บุคคลอื่นๆที่อยู่นอกวงการขบวนการแรงงานได้ทราบบ้าง กเ็ พยี งเท่าน้ัน ต้องยอบรับว่า อนุกรรมาธิการท่ีเข้ามาตั้งแต่ต้นและท่ีแต่งตั้งเข้ามาใหม่มีความหลากหลาย ทั้งภาครัฐ ข้าราชการ ทหาร และภาคแรงงาน อันประกอบด้วยนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกอบการ นักวิชาการ นักกฎหมาย ซ่ึงแน่นอนวา่ แตล่ ะคนท่เี ข้ามากม็ ีวธิ ีคดิ มีมมุ มองท่หี ลากหลายและแตกต่างกัน ดงั นั้น การถกเถยี ง การแลกเปล่ยี น การหาแนวทาง การหาข้อสรปุ ยอ่ มเปน็ ไปไมไ่ ด้ทีจ่ ะทาให้ได้ รวดเร็วตามท่ีต้องการ ซ่ึงจะเห็นได้จากประเด็นท่ีอนุกรรมาธิการหยิบยกขึ้นมาทาเพื่อให้เกิดการปฏิรูป ล่าช้าจนรัฐบาลก้าวหน้า หรือประกาศนโยบายไปก่อนแล้ว หรือถกเถียงกันว่า ทาหรือไม่ทาในประเด็น ทไ่ี ม่ได้ถกู มอบหมาย ซ่ึงทีป่ ระชมุ มมี ตวิ า่ ไมท่ า แต่พอรัฐบาลบอกว่า ควรจะทา ก็มาทากัน เป็นต้น ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงกรอบทัศนะที่อนุ กรรมาธิการบางคนกย็ งั ยดึ ตดิ กรอบแบบเดิม ๆ บางครง้ั กไ็ ม่แน่ใจว่า จะเสนอดีหรอื ไม่ จนบางคร้ังต้องพูดกันดว้ ยความท้าทายว่า “ถ้าจะปฏิรูปแล้วทาในเรื่องเดิม ๆ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง กไ็ มต่ ้องทา เพราะการปฏิรูปตอ้ งกล้าทา ตอ้ งกลา้ คดิ กลา้ เปล่ียนแปลง” เพราะมีบางเร่ืองเกิดข้อกังวลว่า เสนอไปแล้วรัฐบาล หน่วยงานของรัฐจะเห็นด้วยและทาตาม หรือเปล่า และอีกประการหน่ึงในอนุกรรมาธิการชุดน้ี ได้ถูกกาหนดให้คิด ให้ทาในประเด็นที่สาคัญ เก่ียวข้องกับประชาชนเป็นจานวนมาก ทั้งในเรื่องระบบแรงงานและระบบคุ้มครองผู้บริโภค ก็เป็นส่วน สาคัญท่ีทาให้เกิดข้อถกเถียง ความไม่เข้าใจ จึงได้เชิญหน่วยงานหลายหน่วยงานมาช้ีแจง มานาเสนอ เพ่ือให้อนุกรรมาธิการเกดิ ความเขา้ ใจถงึ ปัญหาอุปสรรค ความเป็นไปไดใ้ นแต่ละเรอ่ื ง ซึ่งต้องใช้เวลา จน ต้องมีการแยกกันทางานในแต่ละเร่ือง รวมท้ัง แยกไปต้ังอนุกรรมาธิการใหม่เก่ียวกับระบบคุ้มครอง ผูบ้ ริโภค อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ทางานไปสักระยะหน่ึง ความเข้าใจในวธิ ีคิดและการทางานของแต่ละ คนก็ได้ถูกหลอมรวมกันคอ่ นข้างมคี วามเป็นเอกภาพมากขึน้ และมีความเป็นกนั เองมากข้ึน กล้าถกเถยี ง แลกเปลี่ยนมากข้นึ เมอ่ื เปรียบเทยี บกับช่วงแรก ๆ บุคคลที่เข้ามาเป็นอนุกรรมาธิการส่วนมากอาสาสมัครเข้ามาทางานและแต่ละคนมีงานมาก เพราะการแต่งตั้งอนุกรรมาธกิ ารเข้าใจได้ว่า ต้องการคนท่ีมีความรู้ ความเข้าใจในประเด็นของงานทที่ า รวมทัง้ การตัดสนิ ใจ ซงึ่ แตล่ ะคนกม็ งี านประจามากพออยแู่ ลว้ ดงั น้นั การประชมุ ในแต่ละครั้งท่จี ะให้พร้อมกนั ทั้งหมดแทบเป็นไปไม่ได้เลย บางคร้ังการประชุม ก็ไม่ครบองค์ประชุม หรือแม้กระทั่งการแบ่งงานกันทาแล้ว ก็จะมีบางส่วนท่ีทา บางคนก็มีภารกิจ และ อีกประการหน่ึง คือ เวลาประชมุ คณะทางานตอ้ งไปประชุมสถานทีอ่ ื่นท่ีไม่ใช่รัฐสภา เพราะไม่มีห้องวา่ ง รองรบั การไปใชท้ ่ีอืน่ กไ็ มไ่ ด้มงี บประมาณรองรบั รวมทัง้ คณะทางานทตี่ ัง้ ขึ้นมาเป็นคณะทางานในแตล่ ะ ประเดน็ คนท่ีรบั ผดิ ชอบต้องไปเชญิ บคุ คลท่ีเหมาะสมมาเป็นคณะทางาน และเช่นกนั ก็ไมไ่ ดม้ งี บประมาณ รองรับในส่วนผ้รู ับผิดชอบในประเดน็ กต็ อ้ งรบั ผิดชอบไป
P a g e | ๑๑๒ ส่วนเร่ืองการไปศึกษาดูงาน ในส่วนปัญหาอุปสรรคของอนุกรรมาธิการก็ไม่ต่างกันจาก การประชุม แต่ปัญหาอีกประการหน่ึงการไปดูงานก็เป็นพิธีการมากไป ดูงานหลายจุด เวลาน้อย และส่วนมากก็จะฟังจากรายงานข้อสรุปจากขา้ ราชการในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา จรงิ ไม่ไดล้ งไปสมั ผัส หรือเขา้ มามสี ่วนร่วมมากนัก ส่วนการสัมมนาก็อาจมีปัญหาอยู่บ้างในเรื่องงบประมาณที่มีอยู่อย่างจากัด แต่ด้วยประเด็น ที่สาคัญ สอดคล้องกับสถานการณ์ และด้วยการประสานงาน โดยข้าราชการรัฐสภาที่เกี่ยวข้องกับอนุ กรรมาธิการชุดนี้ รวมทั้ง อนุกรรมาธิการท่ีมีท่ีมาจากองค์กรก็สามารถเชิญคนเข้ามาร่วมในเวทีได้อย่าง นา่ ชนื่ ชม ประเด็นเรื่องแรงงานเก่ียวข้องกับผู้ใช้แรงงานท้ังที่เป็นคนไทย และแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีจานวนกว่า ๔๐ ล้านคน มีประเด็นปัญหามากมาย หลากหลาย แต่ด้วยเง่ือนไขท่ีต้องทาตามกรอบ เงื่อนไขของเวลา ทาให้ไม่สามารถทาในส่วนท่ีเป็นความต้องการของพ่ีน้องผู้ใช้แรงงานท่ีแท้จริงได้ เช่น การละเมิดสิทธิ แรงงาน เรื่องประกันสังคม เรื่องค่าจ้าง เรื่องคุณภาพชีวิต และบางเร่ืองต้องทาเพื่อสนองนโยบาย ของรัฐบาล ก็ทาให้สภาพปัญหาทีม่ ีอย่จู รงิ และเป็นปัญหาเร่งดว่ น เรือ่ งรอ้ นไมไ่ ดท้ า เป็นต้น ยกตวั อย่างเชน่ เรอ่ื งธนาคารแรงงาน ซึ่งเปน็ ข้อเสนอของขบวนการแรงงาน แต่ก็ถกู ดึงเรอ่ื งไปยงั คณะกรรมาธิการด้านสังคม ซ่ึงก็ยังไม่มีความคืบหน้า และท่ีสาคัญเจตนารมณ์ก็แปรเปลี่ยนไป จากเจตจานงของพนี่ ้องผูใ้ ช้แรงงาน ดังนั้น หากมองถึงนโยบายของรัฐบาลท่ีประกาศว่า จะนาพาประเทศไปสู่ความม่ันคง มั่งค่ัง และยั่งยืน ประเด็นปัญหาแรงงานท่ีเกี่ยวข้องกระบวนการผลิต ท้ังในวันน้ีและวันข้างหน้า แม้ว่ารัฐบาล จะประกาศนโยบาย “ไทยแลนด์ ๔.๐” แต่สาระท่ีสาคัญจากการท่ีอนุกรรมาธิการชุดนี้จัดเสวนา ความสาคัญยังอยู่ทค่ี น ยังอยู่ที่ผู้ใช้แรงงานทอี่ ยู่ในกระบวนการผลิต ยังคงมีความจาเปน็ ที่จะต้องพัฒนา ศักยภาพของคนให้ก้าวทันเทคโนโลยี ก้าวทันกระบวนการผลิตที่เปล่ียนไป ซึ่งสามารถทาได้เร็วกว่า ทาไดท้ นั ที ดงั น้นั เรื่องของแรงงานจงึ นา่ จะเปน็ ประเด็นสาคญั เรง่ ด่วนที่จะตอ้ งดาเนนิ การ ทง้ั เร่อื งศกั ยภาพ การผลติ พัฒนาทกั ษะเพ่ือกระบวนการผลิตท่พี ฒั นาเปล่ยี นแปลงไป รวมทง้ั การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของ คนงาน และครอบครัวใหอ้ ยูอ่ ย่างม่ันคง มศี กั ด์ิศรีความเปน็ มนุษย์ สาหรับตนเองแล้วการทางานกพ็ ยายามทาอย่างเต็มที่รบั ผดิ ชอบงานเร่งดว่ นเร่อื งการจดทะเบยี น แรงงานข้ามชาติ ณ จุดผ่านแดนถาวร อาสาเป็นประธานคณะทางานประสานงานจนงานสาเร็จลุล่วง แต่ด้วยงานท่ีทา ตาแหน่งในขบวนการแรงงานที่ต้องรับผิดชอบ ซ่ึงมีหลายเร่ืองหลายประเด็น และต้อง เดินทางไปยังต่างจังหวัดบ่อยคร้ัง ทาให้ไม่สามารถเข่าร่วมการประชุมได้ทุกครั้ง ซึ่งก็เป็นปัญหาอย่างที่ กล่าวมา ซึ่งก็อาจเป็นภาระแก่คณะอนุกรรมาธิการชุดนี้ที่อาจต้องเสียเวลามาประชุมใ นขณะที่องค์ ประชมุ ไมค่ รบ แ ต่ ก่ อ น เ ข้ า ป ร ะ ชุ ม ทุ ก ค รั้ ง ก็ พ ย า ย า ม ติ ด ต า ม จ า ก เ พ่ื อ น อ นุ ก ร ร ม า ธิ ก า ร ถึ ง ค ว า ม ก้ า ว ห น้ า ของประเด็น เพ่ือเตรยี มการก่อนการประชมุ ในการแสดงความคิดเห็นและพยายามเสนอประเด็นทค่ี ดิ ว่า อนุกรรมาธิการควรจะเร่งดาเนินการ และบางคร้ังก็อาจใช้เวลาในการอธิบายท่ีต้องใช้เวลาอาจทาให้ การประชุมเยิ่นเย้อออกไป ซง่ึ ก็พยายามทาให้ดที ่ีสดุ
P a g e | ๑๑๓ สุ ด ท้ า ย ต้ อ ง ข อ บ คุ ณ ที่ ป รึ ก ษ า อ นุ ก ร ร ม า ธิ ก า ร ที่ ต้ อ ง เ อ่ ย น า ม คื อ รองศาสตราจารย์ แล ดิลกวิทยรัตน์ เป็นท้ังที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการเป็นทั้ง อาจารยใ์ ห้ประสบการณ์ ใหค้ วามรู้ ใหค้ วามเห็นที่เปน็ ประโยชน์ยิ่งมากมาย รวมทงั้ ท่ีปรึกษาท่านอ่ืน ขอบคุณประธานอนุกรรมาธิการท่ีได้เชิญผมเข้ามาทางาน ทาให้ ได้เรียนรู้การทางานของรัฐสภา ได้รับทราบแนวคิดของบุคคลต่างๆ เรียนรู้การ ทางานร่วมกันเพ่ือผลสัมฤทธิ์ของงานและขอขอบคุณอนุกรรมาธิการทุกท่านท่ีร่วมกัน ทางาน รว่ มรับฟงั ร่วมถกเถียงแลกเปล่ียน ขอบคุณภาคส่วนต่าง ๆ ที่เข้ามาร่วมช้ีแจง ร่วมให้ความเห็น และขอบคณุ ทมี ข้าราชการรัฐสภาที่รับผิดชอบอนุกรรมาธิการชุดนี้ และผู้จัดทารายงานเสนอต่อ กรรมาธิการดา้ นสังคมและต่อสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศท่ีทางานกันอย่างเข้มแข็ง และทาให้ทกุ เรอื่ งผา่ นไปดว้ ยดี
P a g e | ๑๑๔ นำยอำนำจ พละมี อนุกรรมำธิกำร นับตงั้ แต่เกดิ การเปล่ยี นแปลงรฐั บาลโดยเหตกุ ารณ์พเิ ศษ เมื่อปี ๒๕๕๗ เป็นตน้ มา สังคมไทย คาดหวังกับว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศกนั ครั้งใหญ่ในรอบหลายปี เวลาผ่านไปปีกว่า เริ่มได้เห็นโครงร่างการปฏิรูประเทศ โดย คสช. ได้จัดให้มีสภาปฏิรูปฯ ศึกษาแนวทางและเร่ืองที่ควร เร่งปฏริ ปู ประเทศไวห้ ลายเรือ่ งจนสิ้นสภาพไปในที่สดุ ต่อมาได้มีการต้ังสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) และมีการต้ังกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการในคณะตา่ ง ๆ ให้มาดาเนนิ การขับเคลื่อนในประเดน็ ต่าง ๆ ท่ี สปช. ไดเ้ คยศกึ ษาไว้ จงึ ทา ให้ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมงานในคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูประบบแรงงานและคุ้มครองผู้บริโภค โดยการ เชิญจากประธานคณะทีเ่ คยร่วมงานกนั มาในแวดวงแรงงาน และการเคลือ่ นไหวภาคประชาชน ท้ังยังเปน็ ทเ่ี คารพนบั ถือในความตั้งใจและจริงใจ จากทเี่ คยสัมผัสในการทางานร่วมกนั เมอื่ แรกเร่มิ เข้ามาทาหน้าท่ี เป็นท่ปี รึกษาใหก้ บั คณะอนุกรรมาธกิ าร ไม่ได้มบี ทบาทอะไรมากนัก ด้วยคิดว่า เป็นผู้น้อยในสายตาของแวดวงท่ีมีผู้ใหญ่หลายท่าน มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ และ ตาแหน่งหน้าที่ รับผิดชอบอันสูงยิ่ง จึงถือโอกาสเรียนรู้เพ่ิมเติมจากท่านเหล่านั้น ไปโดยปริยาย ทาให้ ไดเ้ ห็นมุมมอง วิธคี ิดที่ตา่ งออกไปในสาขาอาชพี ต่าง ๆ ท่มี ตี อ่ ปญั หาแรงงาน “แรงงาน คือ พลังในการขับเคลื่อนประเทศไทย” คากล่าวนี้เป็นจริงหรือไม่ ? และเราจะ ปฏิรูปหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงานจากการนาเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศไทย ในครั้งน้ีได้หรือไม่? บทสรุป คือ ไม่สามารถเสนอแนวทางอะไรเพิ่มเติมจากที่ สปช. เดิมได้ศึกษาไว้ อาจเป็นด้วย ข้อจากัดเรื่องเวลา หรือประเด็นความไม่จริงใจของผู้มีอานาจก็เป็นได้ ท่ีมุ่งแก้ปัญหาในส่วนที่มองว่า แรงงานเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดาเนินกิจการของทุนใหญ่ ทาให้ต้องเร่งแก้ไข โ ดยยก ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแรงงานมาเป็นตัวตั้ง นับแต่การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานในกิจการประมง การลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ท่ีหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีโดยตรงกับปล่อยปละละเลย จนกลายเป็น ช่องทางในการหาประโยชน์ของใครบางกลุม่ ท่ามกลางภาวะข้อจากัดดังกล่าวข้างต้น ทาให้ต้องมาขบคิดกันในประเด็นที่แก้ปัญหาให้รฐั บาล เพอื่ จดั การกลุ่มผลประโยชนใ์ ต้ดินต่าง ๆ ให้สลายไปในอนาคต สง่ิ ท่นี า่ สนใจมาก คอื การผลักดันประเด็นให้มีการจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ ณ จุดผ่านแดน ที่ได้รับการยอมรับ และนาไปสานงานตอ่ ไปในอนาคต ถึงแม้วา่ จะมปี ัญหาใหม่รออยู่ก็ตาม แต่ถือได้วา่ เป็นความกา้ วหน้าในระดบั ทีม่ ีนัยสาคัญต่อการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ แม้เราจะดูเหมอื นไม่ได้สนใจกับ
P a g e | ๑๑๕ ปัญหาของแรงงานในประเทศก็ตาม แต่จะทาอย่างไรได้ เพราะเราถูกตั้งมาให้ช่วยงานแก้ปัญหารฐั บาล ในระดับต้น ทาให้ความคาดหวังท่ีจะเสนอแนวทางการปฏิรูประบบแรงงานของไทย ที่จะต้องคุ้มครอง แรงงานในเบ้ืองแรกถูกลดระดับลงไป แตก่ ็มไิ ด้ทอดท้ิงประเดน็ ปญั หาเหล่านัน้ ในเสยี ทเี ดียว อุปสรรคในการทางานในคณะอนุกรรมาธิการ คือ ในบางครั้งไม่สามามารถมาประชุมได้หลาย คร้ังติดต่อกัน โดยเหตุท่ีมีภาระงานประจาที่รับผิดชอบอยู่ต้องดาเนินการ และทาง สปท. เองมิได้มี เอกสารแจ้งไปยังหนว่ ยงานต้นสงั กดั ท่ีรับราชการอยู่อย่างเปน็ ระบบ การเดนิ ทางมาประชมุ ร่วมกิจกรรมในหลายครั้งยังตอ้ งอาศัยวนั ลาพักผ่อนไปร่วมกจิ กรรม แต่ก็ ไม่เป็นปัญหาใดมากนัก เพราะคิดว่าหากพอจะทาอะไรให้ขบวนการแรงงาน และประเทศเดินต่อไปได้ บ้างกย็ ินดี อีกทั้ง บางคราวต้องลาประชุมด้วยเหตุที่บิดา และมารดาทสี่ งู อายุ ปว่ ย ต้องดูแลเองก็มี ระยะเวลาที่ยังพอมีเหลืออยู่ตลอดอายุของ สปท. หากเป็นไปไดใ้ นอนาคตทอ่ี าจจะมีการต้ังสภา ใด ๆ กต็ าม มาแก้ไขปญั หา ควรเป็นการใหเ้ ขาเสนอปญั หา วิธกี ารปัญหาทตี่ อบโจทย์ของเรอื่ งน้นั โดยตรง เช่น ในกรณีของแรงงาน ปัญหาการกดข่ีแรงงาน การละเมิดสิทธิแรงงาน การแบ่งผลประโยชน์ จากผลผลิตแรงงานและทุน ควรปฏิรูปแนวคิดท่ีมองแรงงานเป็นเพียงแค่ลูกจ้างที่รับค่าจ้างก็เพียงพอแล้ว ให้เป็นแนวคิดท่ีแรงงานและทุนเป็นหุ้นส่วนกันในกิจการนั้น ๆ และมีการแบ่งปันผลประโยชน์กันอย่าง เป็นธรรม และพร้อมรบั ความเสยี่ งในการดาเนินกิจการไปด้วยกัน อยา่ งภาคภูมิ และรบั ผดิ ชอบรว่ ม เปน็ ต้น หากจะให้ประเมินการทางานในคณะอนุกรรมาธิการ ขับเคลื่อนการปฏิรูประบบแรงานและ ระบบคุ้มครองผู้บริโภคแล้วนั้น คิดว่า ส่วนตัวยังไม่น่าพึงพอใจนัก ดังที่กล่าวข้างต้น เพราะปัญหาของ แรงงานในประเทศท่ีมีหลายมิติท่ีไม่ไดร้ ับการกล่าวถึง แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยความขยันขันแข็งของทุก คนในคณะอนุกรรมาธิการทาให้ได้รับการยอมรับในประเด็นสาคัญที่นาเสนอหลัก ๆ ใน ๓ เรื่องใหญ่ ๆ เป็นท่ีปรากฏ คือ ๑. การจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ ณ จุดผ่านแดนถาวร เพ่ือจัดระเบียบแรงงาน ข้ามชาติเข้าสู่ระบบ ๒. การพัฒนาฝีมือแรงงานแห่งชาติ เพ่ือยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน ของแรงงานไทย และ ๓. การปฏิรูประบบบริหารจดั การข้อมลู ด้านแรงงาน ๓ เร่ืองนี้ หากต่อไปในอนาคตรัฐบาลนาไปประยุกต์และขับเคล่ือนอย่าง จริงจัง จะสามารถทาให้ระบบแรงงานในประเทศมีการวางแผนและออกแบบการ พัฒนากาลังแรงงาน บนฐานข้อมูลที่นาไปพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ที่ต้องการ ได้ในอนาคต ที่สาคัญองค์กรหลักที่แรงงานฝากความหวังไว้สูงย่ิง คือ กระทรวง แรงงาน ต้องปรับตัวให้เป็นกระทรวงแรงงานอย่างแท้จริง เป็นกระทรวงแรงงาน ท่ีดูแลแรงงาน คุ้มครองแรงงาน พัฒนาแรงงาน ใส่ใจแรงงาน ให้เป็นที่พึ่ง ของแรงงานได้อย่างแท้จริง จะทาให้การปฏิรูปและขับเคล่ือนประเทศด้วยแรงงาน เป็นจริงข้นึ มาได้
P a g e | ๑๑๖ มมุ จาก เจา้ หนา้ ทฝ่ี ายเลขานุการ
P a g e | ๑๑๗ สำนกั งำนเลขำธกิ ำรสภำผู้แทนรำษฎรไดม้ อบหมำยให้กลุ่มงำนคณะกรรมำธิกำรกำรแรงงำน สำนักกรรมำธิกำร ๓ ปฏิบัติหน้ำที่ฝ่ำยเลขำนุกำรให้กับคณะอนุกรรมำธิกำรขับเคลื่อนกำรปฏิรูป ระบบแรงงำนและระบบคุ้มครองผู้บริโภค ในคณะกรรมำธิกำรขับเคลื่อนกำรปฏิรูปประเทศด้ำนสังคม สภำขับเคล่ือนกำรปฏิรูปประเทศ ซ่ึงเป็นกำรปฏิบัติหน้ำที่ฝ่ำยเลขำนุกำรต่อเนื่องมำจำก คณะกรรมำธิกำรปฏิรูปกำรแรงงำน สภำปฏิรูปแห่งชำติ มำตั้งแต่วันท่ี ๕ ตุลำคม ๒๕๕๘ จนถึง ปัจจุบนั ๒๘ มถิ นุ ำยน ๒๕๖๐ ถึ ง แ ม้ เ จ้ า ห น้ า ที่ ห ล า ย ค น จ ะ เ ค ย มี ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ใ น ก า ร ท า ง า น เ ป็ น ฝ่ า ย เ ล ข า นุ ก า ร ใ ห้ คณะกรรมาธิการการแรงงานในสภาผู้แทนราษฎร แต่การทางานของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ สภาขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จะเน้นหนักในด้านวิชาการเป็นหลักจึงต้องมีการปรับตัว ซึ่งเจ้าหน้าท่ีทุกคนต่างยึดมั่นในหลักความเป็นกลางทางการเมือง ร่วมกันปฏิบัติหน้าท่ีอย่างเต็มท่ี มีการแบ่งงานกันทาตามตาแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบร่วมกัน ในการเป็นหน่วยสนับสนุนการทางาน ของคณะอนุกรรมาธิการท้ังงานด้านธุรการและด้านวิชาการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการปฏิรูปประเทศ อย่างเปน็ รปู ธรรม เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ต่อประชาชน ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมาธิการมีภารกิจงานทั้งด้านการประชุม การจัดสัมมนา การศึกษาดูงาน และงานอ่ืน ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมายจากคณะกรรมาธิการ โดยการปฏิบัติงานเพ่ือตอบสนองภารกิจ ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายเลขานุการทุกคนต่างมีความคาดหวังที่จะทาให้ภารกิจงานต่าง ๆ ของคณะอนุกรรมาธิการบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ซ่ึงต้องยอมรับว่าในแต่ละภารกิจงานของคณะอนุ กรรมาธกิ ารจะมบี รบิ ท รายละเอียดของงาน ปจั จยั เงื่อนไขทีแ่ ตกตา่ งกันขึ้นอยกู่ บั สถานการณ์ในขณะนนั้ และแนน่ อนว่าในการทางานยอ่ มมปี ัญหาเกิดข้ึน จากการทางานท่ีผ่านมา เจ้าหน้าท่ีฝ่ายเลขานุการได้พบปัญหาต่าง ๆ มากมาย ท้ังปัญหา ภายในที่มาจากข้อจากัดของสานักงานเอง ปัญหาที่มาจากปัจจัยภายนอกท่ีเจ้าหนา้ ท่ีไม่สามารถควบคุม ได้ เชน่ ปัญหาในการประสานงานระหวา่ งบคุ คลหรอื หน่วยงาน ปัญหาข้อจากัดด้านเวลาทบี่ างครง้ั ในการ ปฏบิ ัติงานมเี ง่ือนไขระยะเวลาท่เี ร่งรีบมาเปน็ ตัวกาหนด เปน็ ตน้ อีกท้ังยังมีปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งลงมือแก้ไขหรือปฏิบัติให้ทันท่วงที ซ่ึงปัญหาต่าง ๆ ท่ีกล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ท้าทายในความสามารถและศักยภาพการทางานและการแก้ไขปัญหาใน นามกลุ่มงาน จึงขอยกตัวอย่างปัญหาท่ีเกิดข้ึนจริงจากการปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายเลขานุการในการสนับสนุน ภารกิจงานของคณะอนุกรรมาธกิ าร ดังนี้ (๑) งำนด้ำนกำรประชุม การปฏิบัติหน้าท่ีฝ่ายเลขานุการเพื่อสนับสนุนภารกิจงานด้านการ ประชุมของคณะอนุกรรมาธิการ เจ้าหน้าท่ีฝ่ายเลขานุการมีความมุ่งหวังให้การประชุมคณะอนุ กรรมาธิการแต่ละครั้งสาเร็จลุล่วงไปด้วยด้วยดี บางคร้ังฝ่ายเลขานุการต้องประสบปัญหาเรื่องการจอง ห้องประชุม เนื่องจากอาคารที่ตั้งของรัฐสภามีพื้นที่จากัด ทาให้ห้องประชุมมีจานวนจากัดเช่นกัน ห้อง ประชมุ บางห้องมีพ้นื ทีข่ นาดเลก็ ไม่เหมาะสมกบั การประชมุ ที่มผี เู้ ขา้ รว่ มประชุมจานวนมาก ประกอบกับจานวนคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศมีหลายคณะ และมักจะกาหนดการประชุมในวันและเวลาใกล้เคียงกัน ทาให้ห้องประชุมท่ีมี ขนาดเหมาะสมกับการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการมีไม่เพียงพอ ซ่ึงฝ่ายเลขานุการได้แจ้งประธาน
P a g e | ๑๑๘ อนุกรรมาธิการให้รับทราบในประเด็นปัญหาดังกล่าว ทาให้คณะอนุกรรมาธิการกาหนดวันและเวลา ในการประชุมที่แน่นอนและเป็นประจาทุกสัปดาห์ ฝ่ายเลขานุการจึงสามารถประสานในการจองห้อง ประชุมท่ีมีขนาดเหมาะสมให้ได้ แต่บางคร้งั ก็มีกรณีพิเศษจาเปน็ เรง่ ด่วนที่คณะกรรมาธกิ ารคณะอนื่ ท่ีมผี ู้เข้ารว่ มประชมุ จานวน มากกว่า มาขอใช้ห้องประชุมท่ีฝ่ายเลขานุการได้จองไว้เป็นห้องประชุมคณะอนุกรรมาธิการแล้ว ฝ่ายเลขานุการก็จาเป็นต้องยอมยกเลิกการจองห้องประชุมนั้น และหาห้องประชุมท่ีมีขนาดเหมาะสม ทดแทนให้ ซ่ึงเป็นเร่ืองที่ค่อนข้างยาก เพราะห้องประชุมแต่ละห้องจะมีคณะกรรมาธิการหรือคณะอนุ กรรมาธิการคณะอ่ืน ๆ ที่มีฝ่ายเลขานุการคณะน้ัน ๆ จองไว้เพ่ือใช้สาหรับจัดการประชุมเป็นประจา เช่นกนั ซึง่ ปญั หาท่ีเกิดข้นึ เปน็ ข้อจากัดของสานักงานเอง ดังน้ัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการจึงต้องประสาน ต่อรอง แลกเปล่ียนห้องประชุมกันกับ ฝ่ายเลขานุการคณะอื่น ๆ เพ่ือให้คณะอนุกรรมาธิการสามารถจัดการประชุมได้ตามที่นัดหมายไว้ ซ่ึงภารกิจงานด้านการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการท่ีผ่านมา ถือว่าประสบผลสาเร็จและเป็นไปด้วยดีทุกครัง้ โดยนับต้ังแต่วันที่๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ - วันท่ี ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ คณะอนุกรรมาธิการได้มีการประชมุ จานวนท้ังส้ิน ๗๒ คร้ัง ทาให้สามารถพิจารณาจัดทารายงานเพ่ือการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านแรงงาน เสนอต่อคณะกรรมาธิการขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมและสภาขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ จานวน ๓ เรือ่ ง มีการพจิ ารณาข้อเสนอแนะเพอื่ การปฏิรูปและเรื่องร้องเรยี นต่าง ๆ เพือ่ ช่วยเหลือผูใ้ ช้แรงงาน จานวน ๗ เร่ือง นอกจากน้ีคณะอนุกรรมาธิการยังได้มีการพิจารณาเร่ืองอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับ การขับเคล่อื นการปฏริ ูปด้านแรงงานอกี จานวนมาก (๒) งำนด้ำนกำรจัดสัมมนำ การปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายเลขานุการในการสนับสนนุ ภารกิจงานด้าน การจัดสัมมนาของคณะอนุกรรมาธิการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการมีความมุ่งหวังให้การจัดสัมมนาแต่ละ ครั้งบรรลุวัตถุประสงค์ตามความมงุ่ หมายของคณะอนุกรรมาธกิ าร ใหเ้ ป็นไปตามกาหนดการโครงการทีว่ างไว้ และจะต้องใช้จ่ายงบประมาณของรฐั ให้คมุ้ คา่ ที่สุด เป็นไปตามระเบยี บกระทรวงการคลังว่าดว้ ยค่าใชจ้ า่ ย ในการฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ.๒๕๔๙ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม ซ่งึ บางครั้งฝ่ายเลขานุการตอ้ งพบกับปัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ อาทิ ในการจัดสัมมนาของคณะอนกุ รรมาธิการคร้ังหน่ึง คณะอนุกรรมาธิการได้มีมติให้จัดการ สัมมนาข้ึน และกาหนดกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมสัมมนาซง่ึ เป็นผู้แทนหน่วยงานท่ีเกี่ยวขอ้ งไว้ จานวน ๖๐ คน ฝ่ายเลขานุการจึงได้เสนอของบประมาณในการจัดสัมมนาจากสานักการคลังและงบประมาณ ของ สานักงานตามจานวนผู้เข้าร่วมสัมมนาท่ีกาหนดไว้ แต่ก่อนจะถึงวันสัมมนาคณะอนุกรรมาธิการได้มีการ ประชมุ เพอื่ หารอื กนั และไดข้ อ้ มลู ว่ายงั มหี น่วยงานที่เกยี่ วข้องอกี จานวนหน่ึงทีย่ ังไมไ่ ด้เชญิ มาเขา้ รว่ มสมั มนา คณะ อนุกรรมาธิการ จึงมีมติให้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องน้ัน ๆ มาร่วมสัมมนาเพิ่มเติมอีก ฝา่ ยเลขานกุ ารจงึ ไดอ้ อกหนงั สอื เชญิ หน่วยงานต่าง ๆ มาเข้ารว่ มสมั มนาเพิ่มเติม แต่ในขณะน้ันได้เบิกงบประมาณมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนาตามมติเดิมแล้ว และ เนอ่ื งจากการขออนมุ ัติเป็นคา่ ใช้จ่ายในการจัดสมั มนาเพม่ิ เตมิ จะต้องมกี ารดาเนนิ การหลายขั้นตอนทีอ่ าจ ไม่ทันการเพราะมีระยะเวลากระช้ันชิด อีกท้ังยังเกรงว่าผู้เข้าร่วมสัมมนาอาจจะมาไม่ครบตามจานวน กลุ่มเป้าหมายท่ีเพิ่มเติม อันจะส่งผลเสียหายกับทางราชการในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐไม่คุ้มค่า และไมเ่ ป็นไปตามระเบียบกฎหมายทว่ี างไว้ ฝา่ ยเลขานกุ ารจึงไม่ไดม้ ีการขออนมุ ตั ิงบประมาณมาเพิม่ เตมิ และ
P a g e | ๑๑๙ เมื่อถึงวันสัมมนา มีผู้มาเข้าร่วมสัมมนาจานวนท้ังส้ิน ๘๕ คน ซึ่งเกินจานวนกลุ่มเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ ทาให้เกิดปัญหาอาหารว่างท่ีจัดเตรียมไวใ้ ชร้ ับรองผ้เู ขา้ รว่ มสมั มนามีไมเ่ พยี งพอ ฝ่ายเลขานุการจึงต้องรีบแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพราะอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ของคณะอนุกรรมาธิการได้ จึงได้แจ้งให้ประธานอนุกรรมาธิการทราบ โดยประธานอนุกรรมาธิการ ได้มอบเงินส่วนตัวให้กับฝ่ายเลขานุการเพื่อไปจัดหาอาหารว่างมาให้เพียงพอกับจานวนผู้เข้าร่วมสัมมนา ฝ่ายเลขานุการจึงต้องเร่งเสาะหาร้านขายอาหารว่างในพ้ืนที่ใกล้เคียงและจัดซ้ืออาหารว่างมาให้เพียงพอ โดยเร็วที่สุด ซ่ึงก็สามารถดาเนนิ การได้อย่างทันท่วงที และการสัมมนาในครัง้ ดังกล่าวกผ็ ่านพ้นไปด้วยดี เป็นไปตามกาหนดการโครงการที่วางไว้ คณะอนุกรรมาธิการบรรลุตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย ได้รบั ทราบขอ้ คิดเห็นและขอ้ เสนอแนะตา่ ง ๆ จากผ้เู ข้ารว่ มสัมมนาท่ีจะเป็นประโยชนต์ ่อการพิจารณาศึกษา และการจะทาขอ้ เสนอแนะเพอื่ การขบั เคล่ือนการปฏิรปู ดา้ นแรงงาน และเปน็ การใชจ้ ่ายงบประมาณภาครฐั ไดอ้ ย่างคุ้มค่า (๓) งำนดำ้ นกำรศึกษำดูงำน การปฏบิ ัตหิ น้าท่ีฝ่ายเลขานกุ ารในการสนับสนุนภารกิจงานด้าน การเดนิ ทางศึกษาดูงานของคณะอนุกรรมาธกิ าร ซึง่ เปน็ การเดนิ ทางรว่ มกนั ในนามของคณะกรรมาธิการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการมีความมุ่งหวังให้การเดินทางศึกษาดูงา นของคณะกรรมาธิการแต่ละคร้ังให้ เปน็ ไปโดยสวัสดภิ าพ ตามกาหนดการศึกษาดงู านและบรรลตุ ามวัตถุประสงคท์ ี่วางไว้ รวมท้งั ต้องใช้จ่ายเงิน งบประมาณทไ่ี ดร้ บั อยา่ งคุม้ คา่ เปน็ ไปตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปราชการ พ. ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพมิ่ เติม ในการเดินทางศึกษาดูงานของคณะอนุกรรมาธิการที่ผ่านมา มีปัญหาท่ีพบ คือ ในกรณีท่ีต้อง เดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่ห่างไกล ท่ีต้องใช้เครื่องบินโดยสารเป็นพาหนะในการเดินทาง มักเกิด ความไม่แน่นอนในการเดินทางจากคณะผู้ร่วมเดินทางศึกษาดูงาน เนื่องจากฝ่ายเลขานุการจะต้องจองและ ซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าประมาณ ๑ - ๒ วันให้กับคณะผู้ร่วมเดินทางทุกคน จึงต้องการความแน่นอนหรือ คายืนยันที่ชัดเจนว่าจะร่วมเดินทางไปด้วย เพราะเมื่อฝ่ายเลขานุการจ่ายเงินซ้ือตั๋วโดยสารให้แล้วจะไม่ สามารถขอคืนเงินดังกล่าวได้ภายหลังตามหลักเกณฑ์ของระเบียบและกฎหมายที่เก่ียวข้อง หากผู้ร่วม เดินทางผใู้ ดยืนยนั แล้ววา่ จะรว่ มเดินทางไป แต่เม่ือถงึ วันและเวลาเดินทางผู้ใดท่ไี ม่สามารถเดินทางไปได้ ก็จะต้องจ่ายเงินคืนเพื่อชดเชยงบประมาณท่ีใช้ในการซ้ือตั๋วเคร่ืองบินไปแล้วด้วยเงินของผู้นั้นเอง ซงึ่ อาจทาให้เกดิ ความรูส้ กึ ท่ไี ม่ดีต่อฝ่ายเลขานกุ ารได้ ดังน้ันในการเดนิ ทางศึกษาดงู านที่ต้องใช้เครอื่ งบนิ โดยสารเปน็ พาหนะในการเดินทางในแตล่ ะคร้ัง ฝ่ายเลขานุการจะต้องช้ีแจงและทาความเข้าใจในหลักเกณฑ์ของระเบียบกฎหมายท่ีเก่ียวข้องให้กับ คณะผู้ร่วมเดินทางทุกคนได้เข้าใจก่อน และก่อนการซื้อต๋ัวโดยสารเคร่ืองบินเพื่อเดินทางศึกษาดูงาน ฝ่ายเลขานุการก็จะต้องประสานทางโทรศัพท์จานวนหลายคร้ังไปยังคณะผู้ร่วมเดินทางแต่ละท่าน เพื่อยนื ยันว่าจะสามารถร่วมเดนิ ทางไปได้อย่างชัดเจน จะทาให้ไม่ใหเ้ กิดปัญหาข้ึนในภายหลงั ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการได้ร่วมกันเดินทางไปศึกษาดูงานในพ้ืนที่ต่าง ๆ จานวน ๕ ครงั้ การเดนิ ทางเปน็ ไปโดยสวสั ดภิ าพและใช้จ่ายงบประมาณอย่างคมุ้ ค่า เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ ของระเบียบกฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง ทาให้คณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลและ
P a g e | ๑๒๐ ข้อเท็จจริงท่ีสาคัญในด้านการบริหารจัดการด้านแรงงานท่ีเกิดข้ึนในแต่ละพ้ืนที่ เพื่อใช้ประกอบการ พิจารณาศึกษาจัดทารายงานและการขับเคลื่อนการปฏริ ูปประเทศด้านแรงงาน ตัวอย่างปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น ส่ิงสาคัญที่เปรียบเสมือนกุญแจไขไปสู่ ประตูแห่งการแก้ไขปัญหา คือ การเจ้าหน้าท่ีฝ่ายเลขานุการทุกคนได้ร่วมมือร่วมใจกัน ในการปฏิบัติหน้าท่ีอย่างเต็มความสามารถ ยึดหลักการปฏิบัติตามวิธีการ ระเบียบ และกฎหมายของทางราชการมาโดยตลอด ผู้บังคับบัญชาทุกระดับต่างให้คาปรึกษา แนะนาและให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี อีกทั้งอนุกรรมาธิการและที่ปรึกษาอนุ กรรมาธิการทุกคนต่างมีอัธยาศัยท่ีดีและเข้าใจการทางานของฝ่ายเลขานุการ จงึ ทาให้ปญั หาอุปสรรคตา่ ง ๆ ที่เกิดข้ึนผ่านพ้นไปดว้ ยดี
P a g e | ๑๒๑ ตอนที่ ๔ บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ
P a g e | ๑๒๒ จากการที่ได้รับมอบงานการขับเคล่ือน ปฏิรูปประเทศด้านแรงงานต่อจากสปช. ทางคณะกรรมาธิการขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม (สปท.) โดยอนุกรรมาธิการขับเคล่ือน การปฏริ ปู ระบบแรงงานและระบบคุ้มครองผ้บู ริโภค ได้นามาดาเนินการแล้วเสร็จ โดยผ่านกระบวนการ มีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ รวมท้ังภาคส่วนท่ีเก่ียวข้อง เร่ิมต้ังแต่การเชิญผู้ท่ี เกยี่ วข้องขา้ งตน้ มาร่วมใหข้ ้อคิดเหน็ การจดั สมั มนา และการลงไปดงู านในพนื้ ที่ เพื่อนาขอ้ มลู ดังกล่าว มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ จนตกผลึก เป็นร่างการปฏิรูปด้านแรงงานท้ัง 3 ฉบับ และนาเสนอผ่าน สปท. เป็นทเ่ี รยี บร้อย รายละเอียดดังกลา่ วปรากฏตามเอกสาร การทางานต่อจาก สปช. เพ่ือขับเคลื่อนการปฏิรูประบบแรงงาน นับเป็นข้อจากัดประการหน่ึง ของคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบแรงงานฯ ที่มีความต้ังใจจริงจะผลักดันงาน ท่ีเกี่ยวข้องกับพ่ีน้องแรงงานโดยตรง เพ่ือให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น มีหลักประกันในระหว่างการทางาน และหลงั เกษยี ณการทางาน รวมถึงการใหค้ วามสาคัญในพนั ธะกรณกี บั องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ที่มีผลต่อเศรษฐกิจด้านการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งการแก้ไขปัญหา ด้านแรงงานต้องมองทั้งระบบ ได้แก่ แรงงานไทย แรงงานข้ามชาติ ซ่ึงแรงงานท่ีเป็นคนไทย มีทั้งท่ีอยู่ ในระบบและนอกระบบประกันสังคม เราจะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติของเราอย่างไร และที่เป็นปัญหาอยู่ ในเวลานี้ คือ แรงงานข้ามชาติท่ีเข้ามาเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ได้แก่ การอยู่ร่วมกับคนไทย การสาธารณปู โภคข้ันพ้ืนฐาน การสาธารณสุขและสวัสดกิ ารที่รฐั จัดหาให้ รวมทงั้ ปัญหาทปี่ ระเทศไทย ต้องอยู่ในสถานะเป็นประเทศท่ีถูกจับตามองจากต่างประเทศในด้านการค้ามนุษย์ ปัญหาเหล่านี้ ยังไม่ไดร้ ับการแกไ้ ข อีกประการหน่งึ ประเทศไทยมกี ฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งกับแรงงานหลายฉบบั แล้วมีหนว่ ยงานตงั้ แต่ ระดับกรมขึ้นไป ถือกฎหมายเหล่านั้น จึงเกิดปัญหาขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน อนั เนื่องมาจากขาดหนว่ ยงานท่ีเป็นเจ้าภาพ บัดน้ี ถึงเวลาแล้วหรอื ยัง ท่ีตอ้ งยกปญั หาดา้ นแรงงานเป็น วาระแหง่ ชาติ ทผี่ ู้มีอานาจทางบริหารตอ้ งลงแกป้ ัญหาดว้ ยตัวเอง ลาพงั ให้หนว่ ยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เป็นเจ้าภาพ หรือระดับรองนายกรัฐมนตรีท่ีรับผิดชอบงานด้านใดด้านหน่ึง ลงมาแก้ไขก็ยากที่จะ ประสบความสาเร็จไดอ้ ยา่ งยง่ั ยนื และแท้จริง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123