- คาดคะเนผดิ ไม่มีการแสดงความคิดเหน็ เขยี นสะกดคำผิด 101 เป็นจำนวนมาก = ไม่มีคะแนน 2. การนำเสนอความคิดเห็น ( 2 คะแนน ) - นำเสนอดว้ ยท่าทางท่เี หมาะสม มปี ระเด็นครบถ้วน เสยี งดังฟงั ชดั = 2 คะแนน - นำเสนอดว้ ยทา่ ทางที่เหมาะสม มปี ระเด็นไมค่ รบ เสียงเบา = 1 คะแนน - นำเสนอด้วยทา่ ทางไม่เหมาะสม มปี ระเด็นไมค่ รบถ้วน เสียงเบา = ไมม่ ีคะแนน
102 แบบประเ น ทักษะการออกเสียง หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ...................................................................……………………………….…….…………………………………………. กจิ กรรม ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………. คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตการใช้ทักษะการอ่านออกเสียงของผู้เรียนในขณะปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยเขียน ระดับคะแนนลงในตารางท่ีตรงกบั ความสามารถของผูเ้ รยี น เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1= ควรปรบั ปรุง สรุปผล รายการประเมิน การ เลข รวม ประเมิน ท่ี อา่ นออกเสียง คะแนน ช่อื – นามสกลุ บอกช่ือ สะกดคำหรือ ผา่ ไม่ และ อา่ น น ผา่ ออกเสียง ข้อความ ✓ น อักษรไทย ลงช่อื ................................................................................. ผู้ประเมิน
103 เกณฑก์ ารประเมิน : นกั เรียนได้ 4 คะแนนขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ แบบประเ น ทักษะการเขยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ...................................................................……………………………….…….…………………………………………. กิจกรรม ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………. คำช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตการใชท้ กั ษะการเขยี นของผูเ้ รียนในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนน ลงในตารางที่ตรงกับความสามารถของผเู้ รยี น เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง สรุปผล รายการประเมิน การ ประเมนิ เลข ชอ่ื – นามสกลุ เขยี น เขียน ความ รวม ผา่ ไม่ ที่ สะกด ดว้ ย สะอาด คะแนน น ผา่ คำ ลายมือ เรยี บรอ้ ✓ น ถกู ตอ้ ง ที่ สวยงา ย ม
104 ลงชื่อ ................................................................................. ผ้ปู ระเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน : นกั เรียนได้ 6 คะแนนขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ประเมิน แบบประเ น ทักษะการฟงั หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ...................................................................……………………………….…….………………………………………….... กิจกรรม ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………. คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตการใช้ทักษะการฟังของผู้เรียนในขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยเขียนระดับ คะแนนลงในตารางทต่ี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง รายการประเมิน สรปุ ผล การ ประเมนิ เลข ชือ่ – นามสกุล ร้แู ละ ปฏิบตั ิ ฟังดว้ ย มี รวม ไม่ ที่ เขา้ ใจ ตาม ความ มารยาท คะแนน ผา่ ความหม คำส่งั ตัง้ ใจ ในการ ผา่ น ายที่ฟงั อยา่ ง ฟัง น เหมาะส ✓ ม
105 ลงชอ่ื ................................................................................. ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน : นักเรียนได้ 8 คะแนนขนึ้ ไป ถือว่า ผ่านเกณฑป์ ระเมิน ประเมิน
106 แบบประเ น ทกั ษะการพูด หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ...................................................................……………………………….…….…………………………………………. ... กิจกรรม ……………….……………………………………………………………………………………………………………………………. ... คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตการใช้ทักษะการพูดของผู้เรียนในขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยเขียนระดับ คะแนน ลงในตารางท่ตี รงกบั ความสามารถของผู้เรยี น เกณฑ์การใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรงุ สรุปผล รายการประเมิน การ ประเมิน เลข ช่อื – นามสกุล พดู ได้ การ มี รวม ผา่ ไม่ ท่ี คล่องแค ลำดับ มารยาท คะแนน น ผา่ ✓ น ลว่ เนื้อหา ในการ สาระใน พูด การพดู
107 ลงช่อื ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนได้ 6 คะแนนขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ แบบประเมนิ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ชนั้ ป. 2 / …......…… วิชา ............................................................................................ ………………….………………………………………. ... คำชี้แจง: ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏิบัตงิ านของนักเรียนวา่ มกี ารปฏบิ ตั ิหรือไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ัติในรายการใดใหข้ ดี ✓ ถ้าไม่มใี หเ้ ว้นวา่ ง รายการประเมนิ สรุปผล การ ประเมนิ เลข ชอื่ - นามสกลุ เใสีมภ ็หนาคนนใชีวษคุจิวาาใไตมณฝ่ทกปค่รู้ยรราะะขจตือำอง ัวืรกอนาร้รใน ้ชและ รวม ผา่ ไม่ ที่ ีมความรับ ิผดชอบ คะแนน น ผา่ ิกีมจส่กวรนร ่รมวมในการทำ ✓ น เ ีม ีขนิยสันย ัรกการอ่านและ
108 ลงชือ่ ................................................................................. ผูป้ ระเมิน เกณฑก์ ารประเมิน : นกั เรียนมีการปฏิบัติ 3 รายการขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ แบบประเมิน ผลงาน ชื่อ - นามสกลุ .............................................................................................. ช้นั ป. 2 / …………….... เลขท่ี ……………………… หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คำชี้แจง: ใหผ้ ู้ประเมนิ ขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน (ดูเกณฑก์ ารให้คะแนนผลงานท่ีหนา้ ถัดไป) ผู้ประเมนิ รายการประเมิน ตนเอง เพ่ือน ครู 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 21 1. ตรงจดุ ประสงคท์ ี่กำหนด 2. มคี วามถกู ต้องสมบรู ณ์ 3. มคี วามคิดสร้างสรรค์ 4. มคี วามเป็นระเบียบ 5. เสรจ็ ตามเวลาท่กี ำหนด
109 รวม รวมทุกรายการ เฉลยี่ ผู้ประเมนิ ................................................................................. (ตนเอง) ผ้ปู ระเมนิ ................................................................................. (เพ่ือน) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. (ครู) เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นทีป่ ระเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกับ 4 32 1 จดุ ประสงคท์ ี่กำหนด ผลงานทที่ ำ ผลงานทท่ี ำ ผลงานทท่ี ำ ผลงานท่ที ำ 2. ผลงานมคี วามถกู ต้อง สมบรู ณ์ สอดคล้องกับ สอดคล้องกบั สอดคล้องกบั ไมส่ อดคล้องกบั 3. ผลงานมคี วามคิด จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ จุดประสงค์ สรา้ งสรรค์ ทกุ ประเด็น เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ 4. ผลงานมีความเปน็ ระเบียบ เน้ือหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานไมถ่ ูกต้อง ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ บางสว่ น เป็นสว่ นใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคิด ผลงานมีความ ผลงานไมแ่ สดง ถึงความคดิ แปลกใหม่แตย่ ัง นา่ สนใจ แตย่ ัง ไม่ แนวคิดใหม่ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มแี นวคดิ แปลกใหม่ แปลกใหม่ และเปน็ ระบบ ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญม่ ี ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่ ระเบียบ แสดงออก ความเป็น เป็นระเบียบแต่มี เป็นระเบยี บ และมี
110 ถึงความประณตี ระเบยี บแต่ยงั มี ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่องมาก คอ่ นข้างมาก ตง้ั ใจ ข้อบกพร่อง ส่งผลงานช้ากวา่ สง่ ผลงานชา้ กว่า เวลาทก่ี ำหนดเกิน เลก็ นอ้ ย เวลาทีก่ ำหนด กวา่ 5 วนั 3-5 วนั 5. ผลงานเสรจ็ ตามเวลา ส่งผลงานตามเวลา สง่ ผลงานชา้ กว่า ทก่ี ำหนด ทกี่ ำหนด เวลาทีก่ ำหนด 1-2 วัน เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ คุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรบั ปรุง
111 ประเมนิ แบบประเ น สมรรถนะผู้เรียน 5 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รง กบั ระดบั คะแนน สมรรถนะทป่ี ระเมิน ระดบั คะแนน 321 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1.1 มีความสามารถในการรบั – สง่ สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ ภาษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ ีการสอ่ื สารท่เี หมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ เพ่อื การสรา้ งองคค์ วามรู้ 2.2 มีความสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพ่อื การสรา้ งองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4.1 ทางานและอย่รู ว่ มกบั ผอู้ นื่ ดว้ ยความสมั พนั ธอ์ นั ดี 4.2 มวี ธิ ีแกไ้ ขความขดั แยง้ อยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5.1 เลือกใชข้ อ้ มลู ในการพฒั นาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลือกใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื อยา่ งเหมาะสม ลงช่ือ ผู้................................................................................. ประเมิน
112 ประเมิน แบบประเมิน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 ดา้ น คาชีแ้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องท่ตี รง กบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอนั พึง รายการทปี่ ระเมิน ระดบั ประสงคด์ า้ น คะแนน 321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภมู ใิ จในความเป็นชาติ กษตั รยิ ์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนา 1.3 แสดงออกถงึ ความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ 2. ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ 2.1 ปฏิบตั ติ ามระเบยี บการสอนและไม่ลอกการบา้ น 2.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ต่อตนเอง 3. มวี นิ ัย 2.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเป็นจรงิ ต่อผอู้ ่ืน 3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 4. ใฝ่ เรยี นรู้ 3.2 แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ 3.3 ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของหอ้ งและของโรงเรยี น 5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรูต้ า่ งๆ 6. มุง่ ม่นั ในการ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรูอ้ ย่างเป็นระบบ 4.3 สรุปความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล ทางาน 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรูค้ ณุ คา่ 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรค เพ่ือใหง้ านสาเรจ็
113 ประเมิน แบบประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 8 ดา้ น (ต่อ) คณุ ลักษณะอนั พึง รายการทป่ี ระเมิน ระดับ ประสงคด์ ้าน คะแนน 321 7. รักความเป็ นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 8. มีจติ สาธารณะ 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั การใหเ้ พ่อื สว่ นรวมและเพ่อื ผอู้ ่ืน 8.2 แสดงออกถงึ การมีนา้ ใจหรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ ืน่ 8.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมบาเพ็ญตนเพ่อื สว่ นรวมเม่ือมีโอกาส ลงช่ือ ผู้................................................................................. ประเมิน / /......................... ......................... ............................. เกณฑก์ ารให้คะแนน : - พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ิชดั เจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั บิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน
114 ใบงานที่ 16 เร็วไวรีบผันวรรณยุกต์ คิดและเขยี นคำทม่ี พี ยญั ชนะตน้ เป็นอักษรต่ำ คำสงั่ แล้วเขยี นผนั วรรณยุกต์ คำ เสยี งวรรณยุกต์ จตั วา สามัญ เอก โท ตรี 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลกั ษณร์ ูปใบหนา้ ตามความเป็นจรงิ ตนเอง ☺ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง เผพู้ปอ่ื กนครอง☺☺ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง คุณครู ☺
115 ใบงานที่ 17 สนุกกบั คาควบกลา้ ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ชั้น ป. 2 / ............ เลขที่ .......... คำสั่ง จำแนกคำควบแท้ ควบไม่แท้ และเขยี นคำอ่านจากคำท่ีกำหนด กลว้ ย กรับ กวาด สรวง พลอง เศรา้ ปรงุ ทรง พลอย จริง ปราบ ทราบ
116 คำท่ี คำควบแท้ คำอ่าน 1. 2. 3. 4. คา5. เสียงวรรณยกุ ต์ จตั วา 6. สามญั เอก โท ตรี 17. . 2. ค3ำ. ท่ี คำควบไมแ่ ท้ คำอา่ น 41. . 8765432.... ... 95. . 10 การประเมนิ ผลงาน : ระบายสีในสญั ลักษณ์รปู ใบหน้าตามความเป็นจรงิ ตนเอง ☺ ผู้ปกครอง ☺ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง เพอื่ น ☺ คุณครู ☺
117 ช่ือ – นามสกลุ .......................................................................... ชัน้ ป. 2 / ............ เลขที่ ............ คำส่ัง จำแนกอักษรนำจากคำทีก่ ำหนดให้ แล้วเขยี นคำอ่าน ใหถ้ ูกตอ้ ง ใบงานที่ 18 อกั ษรนาจาไว้ ผลติ สลบ ไผท ถนอม ผลผี ลาม ขลกุ ขลกั กรอง สยม ขบวน
118 คำที่ อกั ษรนำ คำอ่าน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. การประเมินผลงาน : ระบายสใี นสัญลกั ษณ์รปู ใบหน้าตามความเป็นจริง ตนเอง ☺ ผปู้ กครอง ☺ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง เพอ่ื น ☺ คณุ ครู ☺
119 ใบงานที่ 19 เพลนใจในนทาน ชื่อ – นามสกลุ .......................................................................... ชน้ั ป. 2 / ............ เลขที่ ............ คาส่งั อ่านเรือ่ ง “เดก็ เลยี้ งแกะ” แลว้ ทำกิจกรรมข้อ 1 และขอ้ 2 เดก็ เลีย้ งแกะ ณ ทุ่งหญ้าใกลห้ มบู่ ้านแห่งหนง่ึ มเี ดก็ คนหน่งึ มหี น้าที่เล้ียงแกะ เด็กเล้ียงแกะคน นม้ี นี สิ ัยชอบพดู โกหก วนั หน่ึงหลงั จากต้อนฝูงแกะออกไปกินหญา้ เด็กเลี้ยงแกะก็รู้สึก เบอ่ื หน่าย จึงเกดิ นึกสนุก และอยากแกล้งชาวบ้าน เด็กเลีย้ งแกะจงึ มงุ่ หนา้ กลับไปทีห่ มบู่ ้าน เมือ่ เขาใกล้ถึงบริเวณหมบู่ า้ นจึงทำทีเป็นรบี ว่ิง พร้อมกับทำหน้าตากระหดื กระหอบ และ รอ้ งตะโกนวา่ “ฝงู หมาปา่ มากนิ แกะหมดแล้ว เดก็ เลยี้ งแกะตะโกนซำ้ ๆ ดงั ขน้ึ เร่อื ยๆ เมือ่ ชาวบา้ นได้ยินจงึ พากนั ตกใจ พวกชาวบ้านรบี ถามเด็กเลยี้ งแกะวา่ เกดิ อะไร ข้นึ เดก็ เลย้ี งแกะจงึ เล่าเรอื่ งโกหกเกยี่ วกบั ฝูงหมาปา่ ชาวบ้านจงึ พากันหยิบจอบ เสียม เพอ่ื เปน็ อาวธุ “เราต้องไปฆ่าหมาป่าให้ได้” ชาวบา้ นคนหนึง่ พูด พวกเขารบี ว่ิงตรงไปท่ี ทงุ่ หญ้าเลีย้ งแกะ เด็กเลยี้ งแกะมองดชู าวบ้านท่ีรบี ร้อนตกใจและสง่ เสยี งหวั เราะดว้ ย ความขบขัน ชาวบา้ นทัง้ หลายตา่ งไม่พอใจเดก็ เลย้ี งแกะ แต่เห็นวา่ ยงั เป็นเด็กจงึ ให้อภัย เดก็ เลีย้ งแกะไมส่ ำนึกและกลับเห็นว่าเป็นเรอื่ งสนกุ เด็กเลย้ี งแกะแตง่ เรื่องโกหกหลายครง้ั เขามีความสุขทที่ ำให้ชาวบา้ นโกรธ วนั หนงึ่ ในขณะท่ีฝูงแกะกำลงั กนิ หญา้ ฝูงหมาปา่ ค่อยๆ ย่างกรายเขา้ มาใกล้ และฝงู หมาป่ากไ็ ล่กัดกนิ แกะ แกะและเด็กเลี้ยงแกะต่างรอ้ งเสียงดังด้วยความตกใจ เดก็ เลย้ี งแกะรีบว่ิงไปขอความชว่ ยเหลือจากชาวบ้าน แต่ไม่มชี าวบา้ นคนไหนเชือ่ เจ้าเดก็ เลี้ยงแกะเลยสกั คน จากนทิ านอีสปเรือ่ ง เด็กเลี้ยงแกะ
120 1. วาดภาพประกอบเรอ่ื ง “เด็กเลย้ี งแกะ” แลว้ ระบายสีใหส้ วยงาม 2. ต้งั คำถามและตอบคำถามจากเรอ่ื ง “เด็กเลยี้ งแกะ” (1) คำวา่ “ยา่ งกราย” หมายถงึ ........................................................................................................ ........................................................................................................ ...................... (2) ทำไมชาวบา้ นจึงไมเ่ ชือ่ ว่าหมาป่ามากนิ ฝูงแกะ ..................................................................................................................... .................................................................................................................
121 (3) เดก็ เลีย้ งแกะมีนสิ ยั อย่างไร .................................................................................................................................. .................................................................................................... (4) คาถาม .................................................................................................................................. .................................................................................................... คาตอบ .................................................................................................................................. .................................................................................................... (5) คาถาม .................................................................................................................................. .................................................................................................... คาตอบ .................................................................................................................................. ....................................................................................................
122 ใบงานท่ี 20 รู้การคาดคะเน ชื่อ – นามสกุล .......................................................................... ช้นั ป. 2 / ............ เลขที่ ............ คำส่งั เขียนแสดงความคิดเหน็ และคาดคะเนเหตกุ ารณ์ จากภาพยนตร์เรอื่ ง “ความสุขของกะทิ” .............................................................................................................. .............................................................................................................. ........................ .............................................................................................................. .............................................................................................................. ........................ .............................................................................................................. .............................................................................................................. ........................ .............................................................................................................. .............................................................................................................. ........................ การ.ป..ร..ะ..เ.ม..ิน...ผ..ล..ง..า.น....:..ร.ะ..บ..า..ย..ส..ีใ.น..ส..ญั...ล..กั..ษ..ณ...ร์..ูป..ใ.บ..ห..น...า้ .ต..า..ม..ค..ว..า.ม...เ.ป..็น..จ..ร.งิ..................... ตนเ.อ..ง.......☺................................................ผ..ู้ป...ก..ค..ร..อ..ง...☺.................................... ...........ด..ี .........พ..อใช้ ควรปรบั ปรุง ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง เพือ่ .น.........☺................................................ค..ณุ....ค..ร.ู......☺..................................... .............................................................................................................. ........................ ..............................................................................................................
123 แผนการจดั การเรียนรรู้ ายหน่วย การนั ตห์ รรษา
124 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๒๑๐๑ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที๑่ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ ช่ือหนว่ ย การันตห์ รรษา เวลา ๑๙ ช่ัวโมง ................................................................................................................................................................ ๑. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ัด สาระท่ี สาระท่ี ๑ การอา่ น สาระท๓่ี การฟงั การดู และการพูด สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษา มาตรฐาน มาตรฐานที่ ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่อื นนำไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดำเนนิ ชวี ติ และ มนี สิ ยั รกั การอา่ น มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึก ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาต ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป.๒/๑อ่านออกเสียงคำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป.๒/๒อธบิ ายความหมายของคำและข้อความที่อ่าน ท ๑.๑ ป.๒/๓ ต้งั คำถามและตอบคำถามเก่ยี วกบั เรื่องท่ีอา่ น ท ๑.๑ ป.๒/๔ระบุใจความสำคญั และรายละเอียดจากเรื่องทีอ่ า่ น ท ๓.๑ ป.๒/๒เล่าเรื่องทีฟ่ ังและดทู งั้ ทเ่ี ป็นความรู้และความบนั เทิง ท ๓.๑ ป.๒/๓ บอกสาระสำคัญของเร่ืองท่ีฟังและดู ท ๓.๑ ป.๒/๔ต้งั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกับเร่อื งทฟี่ ังและดู ท ๓.๑ ป.๒/๕พดู แสดงความคดิ เหน็ และความรูส้ ึกจากเร่อื งที่ฟังและดู ท ๓.๑ ป.๒/๗ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด ท ๔.๑ ป.๒/๒ เขยี นสะกดคำและบอกความหมาย ของคำ ๒.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นักเรียนสามารถบอกคำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ไดถ้ ูกต้อง(K) ๒. นักเรยี นสามารถอา่ นคำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ ได้ถูกตอ้ ง (P) ๓. นกั เรยี นเห็นคุณค่าถงึ การออกเสยี งคำคลอ้ งจองข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆได้ (A) ๔.นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของคำและข้อความทอี่ ่านได้ (K)
125 ๕. นักเรียนสามารถอา่ นความหมายของคำและข้อความทอี่ ่านได้(P) ๖. นกั เรียนเห็นคณุ คา่ ของความหมายของคำและขอ้ ความท่ีอา่ น (A) ๗.นกั เรียนสามารถบอกวิธกี ารต้ังคำถามและตอบคำถามเกยี่ วกับเรอื่ งทอี่ ่านได้ (K) ๘.นักเรียนสามารถต้งั คำถามและตอบคำถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่านได้ (P) ๙. นักเรยี นสามารถระบุใจความสำคญั และรายละเอยี ดจากเรอ่ื งทอี่ า่ นได้ (K) ๑๐.นกั เรยี นสามารถอ่านใจความสำคญั และรายละเอยี ดจากเร่อื งที่อา่ นได้ (P) ๑๑.นกั เรยี นสามารถบอกสาระสำคญั ของเร่ืองท่ีฟงั และดูไดถ้ ูกตอ้ ง (K) ๑๒.นกั เรยี นสามารถเขียนสาระสำคญั ของเร่ืองที่ฟังและดูไดถ้ ูกต้อง ( P ) ๑๓.นักเรยี นเห็นคุณค่าถงึ การฟังและการดู ( A ) ๑๔.นักเรียนสามารถตง้ั คำถามและตอบคำถามเก่ยี วกับเรอ่ื งที่ฟงั และดู (K) ๑๕. นักเรียนสามารถมีส่วนร่วมในการตง้ั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกับเรื่องท่ีฟงั และดไู ด้ ( P ) ๑๖.นกั เรียนสามารถพูดแสดงความคดิ เห็นและความรสู้ กึ จากเรื่องทฟี่ งั และดู ( P ) ๑๗. นักเรยี นเหน็ คุณคา่ ของการฟังและดู ๑๘.นักเรยี นมีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด (A) ๑๙.นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำได้(K) ๒๐. นกั เรยี นสามารถเขยี นสะกดคำและบอกความหมายได้ (P) ๓. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด ๑.อกั ษรการนั ต์ ๒.คำทม่ี ี รร ๓.วรรณกรรมเรื่อง เทพารักษ์กบั คนตัดไม้ ๔.การจับใจความสำคญั ๔.สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. การฟงั ส่งิ ทค่ี รูและเพื่อนพดู ๒.การพูดเลา่ เรอ่ื ง และการพูดแสดงความคิดเหน็ ๓.การอา่ นออกเสียงสะกดคำ ๔.การเขียนสะกดคำ ๕.การคิดวิเคราะห์ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑. การฟงั สงิ่ ท่คี รูและเพื่อนพดู ๒. การพูดเล่าเรอ่ื ง และการพูดแสดงความคดิ เหน็ ๓. การอา่ นออกเสยี งสะกดคำ ๔. การเขียนสะกดคำ
126 ๕. การคิดวเิ คราะห์ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ ๑. เห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยในชีวติ ประจำวัน ๒. มีความกระตอื รือร้น สนใจใฝร่ ู้ ๓. มคี วามรบั ผิดชอบในงานของตน และมีสว่ นรว่ มในการทำกิจกรรม ๔. มีนสิ ยั รกั การอา่ นและเขียน ๕. มีมารยาทในการฟังและดู ๕.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน √ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ √ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี √ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๖. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน สมุด / ใบงานต่างๆ ๗.การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ ตัวการนั ต์ ชวั่ โมงที่ ๑- ๕ ช่ัวโมงที่ ๑ วธิ สี อนโดยใช้เกม (Game Method) ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอก ตวั การันต์ได้ ( k) ๒. นกั เรียนสามารถเขยี นตัวการันตไ์ ด้ (P) ๓. นักเรียนใหค้ วามรว่ มอื ในการเรียนรู้ (A) ๒) กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑.ข้ันผู้สอนนำเสนอเกม ช้แี จงวธิ กี ารเลน่ และกติกาการเล่น ๑.ครกู ลา่ วทักทายนกั เรียน แลว้ ใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมเกม “เติมตวั การนั ต์” โดยครูอธบิ ายวิธีการ เล่นเกมใหน้ กั เรียนฟงั วา่ ครจู ะให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ จะได้บตั รคำ อกั ษรการันต์จำนวน 1 ชุด ซ่งึ บัตรคำแต่ละชุดมีอักษรการนั ตเ์ หมือนกนั แตส่ ีของบัตรคำ แตกตา่ งกนั แล้วครูตดิ บตั รคำทเ่ี วน้ ชอ่ งวา่ งใหเ้ ติมอักษรการันต์ไวบ้ นกระดาน แล้วใหน้ ักเรยี น แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันเตมิ อักษรการนั ต์ทีบ่ ัตรคำบนกระดานจนครบทุกคน กลุม่ ใดเตมิ อักษรการนั ต์ ได้มากทสี่ ุดและถูกตอ้ งท่ีสดุ ถอื เป็นฝ่ายชนะ สำหรบั บตั รคำทเ่ี ว้นชอ่ งวา่ งให้เติมอักษรการนั ต์ มดี ังน้ี
127 โพธิ์ วิทยาศาสตร์ อาภรณ์ กษาปณ์ ดาวพระศุกร์ วเิ คราะห์ ประดิษฐ์ กษตั ริย์ บริสุทธ์ิ ประพนั ธ์ อาวรณ์ พระจันทร์ สรา้ งสรรค์ โรงพมิ พ์ กาญจน์ รามเกยี รต์ิ สงั เคราะห์ ศรีสวสั ด์ิการันต์ สขุ สันต์ * ตวั ที่ขีดเส้นใต้คือ อักษรการันตท์ ่เี วน้ ช่องวา่ งไว้ ให้นกั เรียนเติมบตั รคำอักษรการันต์ ๒.ขั้นผเู้ รยี นเล่นเกมตามกตกิ า ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ ออกเป็น 4 กลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ จะได้บตั รคำ อกั ษรการนั ตจ์ ำนวน 1 ชดุ ซ่ึงบัตรคำแต่ละชดุ มีอักษรการันต์เหมอื นกัน แต่สขี องบัตรคำ แตกตา่ งกัน แล้วครูติดบตั รคำท่ีเว้นชอ่ งว่างใหเ้ ติมอักษรการันตไ์ ว้บนกระดาน แล้วให้นักเรยี น แต่ละกลุม่ ช่วยกนั เตมิ อักษรการันตท์ บ่ี ตั รคำบนกระดานจนครบทกุ คน กล่มุ ใดเติมอกั ษรการันต์ ได้มากทสี่ ดุ และถูกต้องท่ีสุดถือเปน็ ฝ่ายชนะ สำหรบั บัตรคำที่เว้นชอ่ งว่างให้เติมอักษรการนั ต์ . ๓.ข้นั ผ้สู อนและผ้เู รียนอภิปรายเกยี่ วกบั ผลการเล่นและวธิ ีการหรอื พฤตกิ รรมการเลน่ ของผเู้ รยี น - ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยคำตอบ แล้วครูใหน้ ักเรยี นทายวา่ เร่อื งทจี่ ะศึกษาต่อไปนี้คอื เรือ่ งใด ๔.ขน้ั ผู้สอนประเมินผลการเรียนร้ขู องผ้เู รียน ครแู ละนักเรยี นช่วยกันประเมนิ ว่าเกมท่เี ลน่ มปี ระโยชน์หรอื ไม่ ช่ัวโมงท่ี ๒ (ใช้วธิ กี ารสอนแบบแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม (Committee Work Method) ๑) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอก ตัวการนั ต์ได้ ( k) ๒. นักเรียนสามารถเขยี นตัวการนั ตไ์ ด้ (P) ๓. นักเรียนให้ความรว่ มอื ในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรียนรู้ ๑.ข้นั เตรียมการสอน - ครูเตรยี มการสอนใหน้ ักเรียนโดยการให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 8 กลุ่ม กลมุ่ ละเท่าๆกนั แลว้ ให้ นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มหาคำทม่ี ีอักษรการนั ต์จากหนังสือต่างๆ ในห้องสมุด ให้ไดจ้ ำนวนมากทสี่ ดุ จากนัน้ บันทึกคำ ท่ไี ด้ลงในสมุด ๒.ขั้นดำเนินการสอน
128 ครใู หน้ กั เรยี นทำบัตรคำทมี่ ตี ัวการนั ต์จากคำท่นี ักเรียนรวบรวมได้จากหนงั สอื ต่างๆ ในหอ้ งสมดุ และ เขยี นคำอ่านของคำไว้ด้านหลังของบัตรคำ ตกแตง่ บัตรคำใหส้ วยงามจากน้ันคิดปริศนาคำทายของคำทเ่ี ขยี น เพอื่ ใชท้ ายเพื่อนร่วมชนั้ เรยี น ชว่ั โมงท่ี ๓ ๑) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอก ตัวการนั ตไ์ ด้ ( k) ๒. นกั เรียนสามารถเขียนตัวการนั ต์ได้ (P) ๓. นักเรียนใหค้ วามรว่ มอื ในการเรยี นรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรียนรู้ ๓.ข้นั ประเมนิ ผล -ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยให้นักเรยี นทายปริศนาคำทายกับเพ่ือน นักเรยี นกลุ่มอื่นๆ แล้วเฉลยคำตอบด้วยการใหด้ ูบัตรคำ โดยมคี รูเป็นผูส้ งั เกตการณ์ และตรวจสอบความ ถูกต้อง - ครใู ห้นักเรยี นนำบัตรคำไปจดั ป้ายนเิ ทศ เรือ่ ง อักษรการนั ต์ ชว่ั โมงที่ ๔( ใชร้ ปู แบบการเรียนรโู้ ดยใช้คำถาม Questioning Method) ๑) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอก ตัวการันตไ์ ด้ ( k) ๒. นักเรียนสามารถเขยี นตัวการนั ตไ์ ด้ (P) ๓. นักเรียนใหค้ วามรว่ มือในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ ๑ วางแผนการใช้คำถาม -ครวู างแผนว่าจะสอนนกั เรียน โดยอ่าน และเขียนจำแนกคำทีม่ ีอักษรการนั ต์ตามหัวข้อที่กำหนด เขยี นคำอ่าน และเขียนคำจากคำอ่าน จากนัน้ ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยคำตอบ - ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลุม่ ออกเปน็ 8 กลมุ่ กล่มุ ละเทา่ ๆ กัน แล้วครใู หแ้ ตล่ ะกลมุ่ สำรวจรอบบรเิ วณ โรงเรยี นว่ามีส่ิงใดที่มีอกั ษรการันต์อยู่ในชื่อ แลว้ เขียนรวบรวมลงในสมุดใหไ้ ด้จำนวนมากทีส่ ดุ ขั้นท่ี ๒ เตรียมคำถาม ครเู ตรียมคำถามที่จะให้นักเรียนตอบลงในสมุด ดังน้ี ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานที่ 27 การันต์หรรษา โดยเลอื กคำที่นกั เรียนรวบรวมไว้ในช่วั โมงที่ 4 มา เขียนลงในใบงาน แล้วเขยี นคำอ่านของคำเหลา่ นนั้ ให้ถูกตอ้ ง ช่วั โมงท่ี ๕ ๑) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถบอก ตัวการนั ต์ได้ ( k)
129 ๒. นกั เรียนสามารถเขยี นตัวการนั ต์ได้ (P) ๓. นกั เรยี นใหค้ วามร่วมือในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี ๓ การใช้คำถาม - ครใู หน้ กั เรยี นทำกิจกรรมพฒั นาการคิด ข้อ 1 ในหนังสือเรียน หนา้ 135 โดยแต่งประโยคจากคำ ท่กี ำหนดใหล้ งในสมดุ - ครูให้นักเรยี นอาสาสมัครหรือสุ่มเรียกนกั เรียนออกมานำเสนอผลงานของตนเองหนา้ ชั้นเรียน โดย มีครูและเพ่ือนนกั เรยี นรว่ มกันตรวจคำตอบและแสดงความคิดเห็น - ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง อักษรการนั ต์ หน่วยย่อยท่ี ๒ เพลนิ ตาด้วย ร หนั ชว่ั โมงท่ี ๑- ๕ ช่ัวโมงที่ ๑ (วธิ ีสอนโดยใช้ 5 STEPs”) ๑) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถบอกเพลินตาด้วยตวั ร ได้ ( k) ๒. นกั เรียนสามารถเขยี นเพลนิ ตาดว้ ยตัว ร ได้ (P) ๓. นกั เรยี นให้ความรว่ มือในการเรยี นรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑.ขั้นการเรยี นรตู้ ั้งคำถาม หรอื ขั้นตง้ั คำถาม ๑.ครใู ห้นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเปน็ 4 กลุ่ม กลมุ่ ละเท่าๆ กัน แล้วทำกิจกรรมเกม “เขียนดี...มีชยั ” โดยครู อธิบายวา่ ใหน้ ักเรยี นดูบัตรคำอา่ นของคำทส่ี ะกดดว้ ย รร แล้วเขยี นคำบนกระดาน ใหถ้ กู ต้อง ๒. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันเฉลยคำตอบ แลว้ ครใู ห้นกั เรียนทายวา่ เรือ่ งท่ีจะศึกษาคือเร่ืองใด ๓.ครูบอกนกั เรียนวา่ เรื่องท่ีจะศึกษาคือ เรื่อง คำทมี่ ี รร ๔. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังวา่ รร เรียกวา่ ร หัน เป็นพยญั ชนะ ร สองตัวเขียนติดกันโดย ร ตัวแรก ทำ หนา้ ทเี่ ป็นไมห้ ันอากาศ และ ร ตวั หลงั ทำหนา้ ที่เปน็ ตัวสะกดในมาตรา แม่กน จากน้ันครอู ธบิ ายต่อวา่ การ อ่านคำท่ใี ช้ รร อ่านได้ 3 อยา่ ง ดงั น้ี -ถ้า รร อยหู่ ลังพยัญชนะและไม่มตี ัวสะกด ให้ออกเสยี งเปน็ - น - ถ้า รร อยู่หลงั พยญั ชนะและมีตัวสะกด ให้ออกเสยี งเป็น - กบั ตัวสะกดนัน้ ๆ - ถ้า รร อยหู่ ลงั พยญั ชนะและมีอักษรการันต์ให้ออกเสยี งเปน็ - น แลว้ ให้นกั เรยี นฝกึ อ่านออกเสียงจากตวั อย่างคำ
130 ชั่วโมงท่ี ๒ ๑) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถบอกเพลนิ ตาดว้ ยตัว ร ได้ ( k) ๒. นกั เรียนสามารถเขียนเพลินตาด้วยตัว ร ได้ (P) ๓. นักเรยี นใหค้ วามร่วมอื ในการเรยี นรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ ๒.ข้ันการเรยี นร้แู สวงหาสารสนเทศ ๑.ครใู หน้ กั เรยี นทำกิจกรรมพฒั นาการเรยี นรูท้ ี่ 2 ข้อ 1-2 ในหนังสอื เรยี น โดยอ่านคำ แล้วเขยี นจำแนกคำ ทีใ่ ช้ รร ลงในชอ่ งว่าง และเขียนคำอา่ นและเขยี นคำจากคำอ่านท่ีกำหนด ๒.ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจคำตอบ แลว้ ครใู ห้นักเรยี นอ่านออกเสียงคำตอบของกิจกรรมพฒั นาการ เรียนรู้ท่ี 2 ซ้ำอีกครงั้ ช่วั โมงที่ ๓ ๑) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอกเพลนิ ตาด้วยตัว ร ได้ ( k) ๒. นักเรียนสามารถเขียนเพลินตาด้วยตวั ร ได้ (P) ๓. นักเรยี นให้ความรว่ มือในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรียนรู้ ๓.ขั้นการเรียนร้เู พ่อื สรา้ งองค์ความรู้ - ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน แล้วให้นักเรยี นค้นหาคำทม่ี ี รร จากหนังสอื ตา่ งๆ ในหอ้ งสมุด แลว้ บันทึกลงในสมุดให้ไดจ้ ำนวนมากท่สี ุด - ครูให้นักเรยี นทำกิจกรรมบรู ณาการสรา้ งสรรค์ ในหนงั สอื เรยี น หน้า 136 โดยทำบตั รคำทม่ี ี รร เขียน คำอา่ นของคำไวด้ า้ นหลงั ของบัตรคำ และตกแต่งบัตรคำให้สวยงาม แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ คิดปริศนาคำทายของคำ ท่เี ขียน เพื่อใชท้ ายกับเพอ่ื นกลุม่ อ่นื ๆ - ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น และทายปริศนากับเพอื่ นนักเรียน แลว้ เฉลยคำตอบด้วยการให้ดูบัตรคำ โดยมคี รูเป็นผู้สังเกตการณแ์ ละตรวจสอบความถูกตอ้ ง - ครูให้นกั เรียนนำบตั รคำไปจดั ปา้ ยนิเทศ เรือ่ ง คำท่ีมี รร ชั่วโมงท่ี ๔ ๑) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนสามารถบอกเพลนิ ตาด้วยตวั ร ได้ ( k) ๒. นักเรียนสามารถเขยี นเพลนิ ตาดว้ ยตวั ร ได้ (P) ๓. นักเรยี นใหค้ วามร่วมอื ในการเรียนรู้ (A) ๒) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.ชนั้ การเรยี นรู้เพื่อการสอื่ สาร
131 - ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มออกเป็น 8 กล่มุ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน หรอื อาจใช้กลุม่ เดิมก็ได้ และใหน้ กั เรียนแตล่ ะ กล่มุ ออกสำรวจบริเวณรอบโรงเรยี น แล้วหาคำทีม่ ี รร ใหไ้ ด้จำนวนมากทีส่ ุด แล้วนำมาเขยี นลงในใบงานท่ี 28 เพลินตา ร หนั พร้อมเขยี นคำอ่านของคำท่ีรวบรวมมาได้ดว้ ย - ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลงานของตนเองหน้าชน้ั เรียน โดยนักเรียนจะต้องบอกคำที่มี รร ทรี่ วบรวมมาได้ และอ่านออกเสยี งคำใหเ้ พ่อื นฟัง พร้อมทง้ั บอกดว้ ยว่า พบคำ ที่มี รร แต่ละคำทบ่ี ริเวณ ใดของโรงเรยี น จากนั้นครูและเพื่อนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง ชัว่ โมงที่ ๕ ๑) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถบอกเพลินตาดว้ ยตวั ร ได้ ( k) ๒. นกั เรียนสามารถเขยี นเพลินตาดว้ ยตัว ร ได้ (P) ๓. นกั เรยี นใหค้ วามร่วมือในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ ๕.ช้ันการเรียนรูเ้ พื่อตอบแทนสงั คม - ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรมพัฒนาการคิด ข้อ 2-3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 135-136 โดยระบายสี ทบั คำที่ เขียนผดิ แลว้ เขยี นแก้ไขให้ถกู ตอ้ งพรอ้ มทัง้ บอกความหมายของคำ และเขียนคำอา่ น จากคำที่กำหนดให้ - ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบ - ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรุปความร้เู ร่ือง คำท่มี ี รร หน่วยยอ่ ยท่ี ๓ นักเลา่ ตัวน้อย ชัว่ โมงที่ ๑- ๔ ช่ัวโมงท่ี ๑ การจดั การเรียนร้ดู ว้ ยนิทาน (Tales based learning) ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรยี นสามารถเล่านิทาน ได้ (P) ๓. นกั เรยี นให้ความร่วมือในการเรยี นรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน - ครูให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ 4 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กัน ทำกิจกรรมเกม “นักเลา่ นิทานตัวนอ้ ย” โดยให้ นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันอภิปรายในกล่มุ เรอ่ื งนทิ านทนี่ ักเรียนแตล่ ะคนเคยฟัง โดยนกั เรียนแต่ละคน เล่านทิ านทเ่ี คยฟงั ให้เพื่อนในกลมุ่ ฟัง จากน้ันให้สมาชิกในกลมุ่ ร่วมกนั เลอื กนิทานที่น่าสนใจมากทส่ี ดุ 1 เร่ือง มานำเสนอหน้าช้นั เรยี น - ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอนิทานหน้าชน้ั เรยี น แล้วให้เพอื่ นนกั เรยี นร่วมกันแสดงความ คิดเหน็ เก่ียวกับนิทานทเี่ พ่ือนเลา่ ชั่วโมงท่ี ๒ ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้
132 ๑. นักเรียนสามารถเล่านิทาน ได้ (P) ๓. นกั เรยี นให้ความรว่ มือในการเรยี นรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ ชน้ั สอน - ครใู หน้ กั เรียนจับคู่ แลว้ ผลดั กันอา่ นเร่ือง นิทานสขุ สนั ต์ ในหนงั สอื เรียน หน้า 129 ใหเ้ พ่ือนฟงั โดยครเู ป็น ผสู้ งั เกตการณ์ - ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ท่ี 3 ข้อ 1 ในหนังสือเรียน หนา้ 130 โดยเขยี นความหมายของ คำท่พี ิมพ์ตวั สฟี ้าลงในสมดุ - ครูให้นักเรียนแบง่ กล่มุ ออกเปน็ 8 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆกนั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มทำกิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 3 ข้อ 2 -3 ในหนงั สือเรยี น โดยรว่ มกนั อภิปรายและตอบคำถาม จากเรอ่ื ง นทิ านสขุ สันต์ แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอสง่ิ ที่อภปิ รายหน้าช้นั เรยี น โดยมีครแู ละเพ่ือนนกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ชั่วโมงที่ ๓ ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถเล่านิทาน ได้ (P) ๓. นกั เรียนใหค้ วามรว่ มือในการเรียนรู้ (A) ๒) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัน้ สอน - ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลุม่ เป็น 8 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆกัน หรืออาจใช้กลุม่ เดิมกไ็ ด้ แลว้ ใหน้ กั เรยี น ไปท่ี ห้องสมดุ เลือกอา่ นนิทานตามความสนใจ และให้แตล่ ะกลุ่มเลอื กนิทานทก่ี ลุม่ ของตนเองสนใจมา กลมุ่ ละ 1 เรอื่ ง - ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติจากนิทานท่ีกลมุ่ ตนเองเลือกมาที่หนา้ ชนั้ เรยี น โดยครู และเพ่ือนนักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเกย่ี วกับนิทานทแ่ี ต่ละกลุ่มนำเสนอ ชัว่ โมงท่ี ๔ ๑) จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถเล่านิทาน ได้ (P) ๓. นักเรยี นใหค้ วามรว่ มอื ในการเรยี นรู้ (A) ๒) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันสรุป - ครูให้นักเรยี นทำใบงานท่ี 29 สุขสันตว์ รรณกรรม โดยอ่านบทร้อยกรองเร่ือง เทพารักษก์ บั คนตัดไม้ แลว้ บอกความหมายของคำ ตง้ั คำถามและตอบคำถามจากเร่ือง - ครูใหน้ ักเรยี นอาสาสมคั รหรือสมุ่ เรยี กนักเรียนออกมานำเสนอผลงานของตนเองหนา้ ชนั้ เรียน โดยครูและ เพอ่ื นนักเรียนรว่ มกันตรวจคำตอบและแสดงความคิดเหน็ - ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการอา่ นนิทาน
133 หนว่ ยย่อยท่ี ๔ จดจำใจความ ช่ัวโมงที่ ๑- ๕ ช่ัวโมงที่ ๑ วธิ ีสอนแบบแบ่งกล่มุ ทำงาน (Committee Work Method) ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถจำจดใจความ ได้ (P) ๓. นกั เรียนใหค้ วามรว่ มอื ในการเรยี นรู้ (A) ๒) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ - ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน แลว้ ครอู ่านขา่ วจากหนังสอื พมิ พ์ ให้ นกั เรียนฟงั และใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม ชว่ ยกนั จดจำและเรียบเรยี งข่าวที่ครูอา่ นให้ฟงั เปน็ เร่อื งราว นำมา เล่าหน้าชน้ั เรียน - ครแู ละนักเรียนกลุ่มอน่ื ๆ ชว่ ยกนั สงั เกตว่า เรือ่ งท่ีเพื่อนนำมาเลา่ นนั้ ยงั ขาดรายละเอยี ดใดหรือไม่ และเมื่อ เลา่ แล้วเข้าใจตรงกนั กบั ขา่ วที่ครูอา่ นให้ฟังหรือไม่ - ครบู อกนกั เรียนวา่ สิง่ ที่ทำให้นักเรียนจดจำเรื่องราวแล้วสามารถถ่ายทอดให้เพื่อนฟังได้ อย่างเข้าใจ นน้ั คือ การจบั ใจความสำคัญ ชั่วโมงท่ี ๒ ๑) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถจำจดใจความ ได้ (P) ๓. นักเรียนใหค้ วามรว่ มอื ในการเรียนรู้ (A) ๒) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั สอน - ครูให้นักเรียนฟงั เพลงโดยครูเลอื กเพลงที่มีเน้อื หาเป็นการเลา่ เร่อื งราวตา่ งๆ เชน่ เพลงส้มตำ ทม่ี กี าร บอกวธิ กี ารตำส้มตำ เพลงมนต์ขลังลงั กาวี ท่เี ลา่ เรื่องราวของพระนางมสั สุหรี หรอื เจ้าหญิงเลือดขาว เปน็ ตน้ แล้วให้นกั เรยี นตอบคำถามจากเพลงท่ีฟัง - ครใู หน้ ักเรยี นเปดิ หนังสอื เรยี น หนา้ 131 หวั ขอ้ ย่อย หลกั ในการอ่านจับใจความสำคัญ แลว้ ให้นกั เรียนฟัง เพลงเดิมซ้ำอีกครง้ั และจดบันทึกเนือ้ หาสำคัญของเพลงลงในสมดุ จากนั้นสง่ สมดุ ให้ครตู รวจ ชวั่ โมงท่ี ๓ ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถจำจดใจความ ได้ (P) ๓. นกั เรยี นใหค้ วามรว่ มือในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ - ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ 8 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั จากนั้นครใู หน้ ักเรยี นเลอื กอา่ นนิทานกลุม่ ละ 1 เรื่อง แลว้ ออกมาเลา่ ให้เพื่อนฟงั ทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยนกั เรยี นใช้วธิ กี ารสรุปใจความสำคญั จากเรือ่ งทอี่ ่าน แลว้
134 เลา่ เร่อื งดว้ ยภาษาของนักเรียนเอง แล้วครใู ห้นักเรียนกลุ่มอ่ืนพูด แสดงความคิดเห็นตอ่ เร่ืองท่เี พอื่ นนำเสนอ โดยมคี รเู ป็นผสู้ งั เกตการณ์ - ครูใหน้ กั เรยี นเปิดหนังสอื เรียน หัวขอ้ ย่อย การพดู แสดงความคิดเห็น แล้วอธิบายว่าการพดู แสดงความ คดิ เหน็ เป็นการพดู เพ่ือบอกใหผ้ ูฟ้ ังทราบวา่ ผูพ้ ดู มีความคิดเหน็ อยา่ งไร ต่อสิง่ ที่อา่ น ฟัง หรือดู แลว้ ให้ นกั เรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับพฤติกรรมในการพูดแสดงความคิดเหน็ ของเพื่อนนกั เรียนในกิจกรรมทีผ่ า่ น มา และนกั เรยี นคดิ วา่ เพ่ือนนักเรียนควรมี การปรบั ปรุงเปล่ียนแปลงหรอื ไม่ ถา้ มีควรมีการปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงอยา่ งไรบา้ ง ชั่วโมงที่ ๔ ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรียนสามารถจำจดใจความ ได้ (P) ๓. นกั เรยี นให้ความร่วมอื ในการเรยี นรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ - ครใู หน้ ักเรียนแบ่งออกเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ 3-4 คน ทำกิจกรรมพฒั นาการเรยี นรทู้ ี่ 4 ข้อ 1ในหนงั สือเรยี น โดยครใู ห้นกั เรยี นสบื ค้นข้อมูลเรือ่ งที่สนใจ 1 เร่ือง จากห้องสมุด ของโรงเรียน แลว้ ฝกึ เขียนต้ังคำถามและ ตอบคำถาม และสรปุ ใจความสำคญั ของเรอื่ งลงในสมุด - ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรมพัฒนาการเรียนรทู้ ่ี 4 ข้อ 2 ในหนงั สอื เรียน โดยใหน้ ักเรยี นพดู แสดงความ คิดเห็นจากเรื่องทส่ี บื ค้นหนา้ ชัน้ เรยี น แล้วครแู ละเพ่ือนนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เก่ยี วกับการพูดแสดงความคิดเห็นของนักเรียน ชั่วโมงท่ี ๕ ๑) จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นกั เรยี นสามารถจำจดใจความ ได้ (P) ๓. นักเรียนใหค้ วามรว่ มอื ในการเรียนรู้ (A) ๒) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ สรุป - ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมพฒั นาการคิด ข้อ 4 ในหนงั สือเรียน หน้า 136 โดยอ่าน ฟงั หรือดูข่าวทส่ี นใจ มาคนละ 1 ขา่ ว แลว้ เขียนตั้งคำถาม และตอบคำถามจากข่าว พร้อมท้ังเขียนสรุปใจความสำคญั ของข่าวลงใน สมุด - ครูใหน้ ักเรยี นพดู แสดงความคิดเหน็ ของตนเองเกี่ยวกับขา่ วทีห่ ามาใหเ้ พื่อนฟงั หน้าชั้นเรยี น โดยครูและ เพื่อนนักเรียนแสดงความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม - ครูให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบท่ี 7เพอ่ื ทบทวนความรทู้ ี่เรยี นมา ๘.ส่ือการสอน ช่ัวโมงที่ ๑ ๑.เกม “เติมตวั การนั ต์” ๒. บตั รคำ
135 ขั่วโมงท่ี ๒-๓ ๓.อกั ษรการันต์ ๑. หนังสอื ชั่วโมงท่ี ๔ ๒.บตั รคำ ชั่วโมงท๕่ี ๑.กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ท่ี 1 ๑.หนังสอื เรยี น ชั่วโมงที่ ๖ ๒.ใบงานที่ 27 การนั ต์หรรษา ชัว่ โมงท่ี ๗ ๑.เกม “เขยี นดี...มีชยั ” ๑. หนังสือเรียน ชั่วโมงที่ ๘ ๒.บัตรคำ ๑. หนงั สอื เรยี น ชั่วโมงท่ี ๙ ๒.บัตรคำ ช่วั โมงที่ ๑๐ ๑. ใบงานที่ 28 เพลินตา ร หนั ชั่วโมงที่ ๑๑ ๑. กจิ กรรมพัฒนาการคิด ชว่ั โมงที่๑๒ ๑. เกม “นกั เล่านิทานตัวนอ้ ย” ๑.นทิ านสขุ สนั ต์ ชว่ั โมงท๑่ี ๓ ๒.กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ท่ี 3 ชว่ั โมงท๑่ี ๔ ๑.นทิ าน ชวั่ โมงที่๑๖ ๑.ใบงานที่ 29 สขุ สันตว์ รรณกรรม ชวั่ โมงท๑่ี ๗ ๑.เช่น เพลงส้มตำ ๑.หนังสือเรียน ชว่ั โมงท๑่ี ๘ ๒.นิทาน ชัว่ โมงที่๑๙ ๑.กิจกรรมพฒั นาการเรยี นรู้ท่ี 4 ข้อ 1 ๑.ขา่ ว ๒.นกั เรยี นทำแบบทดสอบที่ 7 ๑๐.แหล่งการเรียนร้ใู นและนอกสถานที่ ห้องสมุด
136 ๑๑. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารให้ เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ตวั ชว้ี ดั จากจุดประสงค์ วธิ ีการวัด การเรียนรู้ ๑.นักเรยี นสามารถ ตรวจแบบฝกึ แบบฝกึ ทักษะ การนั ต์ 4 คะแนน ตอบ ประเมินโดย เขยี นตวั การนั ต์ได้ (P) ทกั ษะ การันต์ นกั เรยี นสามารถ หรรษา หรรษา ถกู ต้องทั้งหมด ตอบคำถามไดร้ ้อย ๒. นักเรียนสามารถ ละ80 ถือวา่ ผ่าน บอกเพลนิ ตาด้วยตัว ร ตรวจแบบฝกึ 3 คะแนน ตอบถูก ได้ ( k) ทักษะ เพลินตา ร ประเมินโดย หัน บางข้อ นักเรียนสามารถ ๓.นักเรยี นสามารถเล่า ตอบคำถามได้รอ้ ย นทิ าน ได้ (P) แบบประเมินการ 2 คะแนน ตอบไม่ ละ80 ถือวา่ ผ่าน พูด ๔.นกั เรยี นสามารถจำ ถูกเลย ประเมินโดย จดใจความ ได้ (P) ตรวจแบบฝกึ นักเรียนสามารถ ทกั ษะสุขสันต์ แบบฝึกทกั ษะ เพลิน 4 คะแนน ตอบ ตอบคำถามได้ร้อย วรรณกรรม ละ80 ถือว่าผ่าน ตา ร หัน ถูกต้องทง้ั หมด ประเมนิ โดย 3 คะแนน ตอบถูก นักเรียนสามารถ ตอบคำถามไดร้ ้อย บางข้อ ละ80 ถือวา่ ผ่าน 2 คะแนน ตอบไม่ ถกู เลย แบบประเมินการพดู 4 คะแนน ตอบ ถูกต้องทงั้ หมด 3 คะแนน ตอบถูก บางขอ้ 2 คะแนน ตอบไม่ ถูกเลย แบบฝึกทกั ษะสุขสนั ต์ 4 คะแนน ตอบ วรรณกรรม ถกู ต้องทัง้ หมด 3 คะแนน ตอบถูก บางขอ้ 2 คะแนน ตอบไม่ ถูกเลย
137 ๕.แบบสงั เกต (A) สังเกตการมสี ่วน แบบสังเกตพฤติกรรม 4 คะแนน ตอบ ประเมินโดย รว่ มของนักเรยี น ถูกต้องทัง้ หมด นกั เรียนสามารถ 3 คะแนน ตอบถูก ตอบคำถามไดร้ อ้ ย บางขอ้ ละ80 ถือวา่ ผา่ น 2 คะแนน ตอบไม่ ถูกเลย บันทกึ หลงั สอน 1.ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของหวั หนา้ สถานศึกษาหรือผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย …………………………………………………………………………………………………………………………...................................... …………………………………………………………………………………………………………………………...................................... ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... 2.ปญั หาอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. ................. .................................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ....................................................... (นางสาวเพญ็ พสิ ทุ ธ์ิ หมึกกลม) ๑๒ ความคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระหรอื ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................
138 .. ลงช่ือ....................................................... (.............................................................) หัวหน้ากลุม่ สาระ.................................. ขอ้ เสนอแนะคณะผบู้ ริหาร .......................................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................... ................................... ................................................................................................ .............................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................. ............................................. ...................................................................................... ........................................................................................ ลงช่ือ....................................................... (.............................................................) รองผอู้ ำนวยการกลมุ่ บรหิ ารวิชาการ ขอ้ เสนอแนะผู้บริหาร ....................................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................ ...................... ............................................................................................................. ................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ....................................................... (.............................................................) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน
เกณฑ์ประเมนิ ชิ้นงาน 139 กิจกรรมพฒั นาการคิด ข้อ 1 ( 5 คะแนน ) = 5 คะแนน การแต่งประโยคจากคำทกี่ ำหนด ( 5 คะแนน ) = 4 คะแนน - แต่งประโยคจากคำที่กำหนดไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสมทกุ คำ = 3 คะแนน - แตง่ ประโยคจากคำที่กำหนดไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม 4 คำ = 2 คะแนน - แต่งประโยคจากคำที่กำหนดได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม 3 คำ = 1 คะแนน - แตง่ ประโยคจากคำท่ีกำหนดไดถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม 2 คำ = ไม่มีคะแนน - แตง่ ประโยคจากคำที่กำหนดได้ถูกต้อง เหมาะสม 1 คำ - แต่งประโยคจากคำท่ีกำหนดไม่ได้เลย = 5 คะแนน = 4 คะแนน กิจกรรมพัฒนาการคิด ข้อ 2 ( 10 คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน 1. การเขยี นคำทมี่ ีตัวการนั ต์ คำท่ีมี รร ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขียนคำถกู ต้อง 9-10 คำ = ไม่มีคะแนน - เขียนคำถกู ต้อง 7-8 คำ - เขยี นคำถูกต้อง 5-6 คำ - เขยี นคำถกู ต้อง 3-4 คำ - เขียนคำถกู ต้อง 1-2 คำ - เขียนคำไม่ไดเ้ ลย
เกณฑ์ประเมนิ ช้นิ งาน 140 กิจกรรมพฒั นาการคดิ ข้อ 2 ( ตอ่ ) = 5 คะแนน 2. การบอกความหมายของคำ ( 5 คะแนน ) = 4 คะแนน - บอกความหมายของคำไดถ้ ูกต้อง 9-10 คำ = 3 คะแนน - บอกความหมายของคำได้ถูกตอ้ ง 7-8 คำ = 2 คะแนน - บอกความหมายของคำได้ถูกตอ้ ง 5-6 คำ = 1 คะแนน - บอกความหมายของคำได้ถูกตอ้ ง 3-4 คำ = ไมม่ ีคะแนน - บอกความหมายของคำได้ถูกตอ้ ง 1-2 คำ - ไมส่ ามารถบอกความหมายของคำได้เลย = 5 คะแนน = 4 คะแนน กจิ กรรมพฒั นาการคิด ข้อ 3 ( 5คะแนน ) = 3 คะแนน = 2 คะแนน การเขียนคำอ่านจากคำที่กำหนด ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขียนคำอ่านจากคำท่กี ำหนดให้ถกู ต้อง 9-10 คำ = ไม่มีคะแนน - เขยี นคำอ่านจากคำท่ีกำหนดใหถ้ ูกต้อง 7-8 คำ - เขยี นคำอา่ นจากคำที่กำหนดใหถ้ ูกต้อง 5-6 คำ - เขยี นคำอ่านจากคำทก่ี ำหนดให้ถูกต้อง 3-4 คำ - เขียนคำอา่ นจากคำทก่ี ำหนดใหถ้ ูกต้อง 1-2 คำ - เขียนคำอ่านจากคำทก่ี ำหนดใหไ้ ม่ไดเ้ ลย
เกณฑป์ ระเมินช้นิ งาน 141 กิจกรรมพฒั นาการคิด ขอ้ 4 ( 15 คะแนน ) = 5 คะแนน 1. การตั้งคำถามและตอบคำถาม ( 5 คะแนน ) = 3 คะแนน - ตั้งคำถามและตอบคำถามไดถ้ กู ต้องทุกข้อ = 1 คะแนน - ตง้ั คำถามและตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง 2 ข้อ = ไม่มีคะแนน - ต้งั คำถามและตอบคำถามไดถ้ ูกต้อง 1 ขอ้ - ไม่สามารถต้ังคำถามปละตอบคำถามได้เลย = 5 คะแนน = 3 คะแนน 2. การเขียนสรุปใจความสำคัญของขา่ ว ( 5 คะแนน ) = 1 คะแนน - เขียนสรปุ ใจความสำคญั ของขา่ วไดค้ รบถ้วน สมบรู ณ์ = ไม่มีคะแนน - เขยี นสรปุ ใจความสำคัญของข่าวได้ค่อนข้างครบถว้ น สมบรู ณ์ - เขียนสรุปใจความสำคัญของขา่ วได้บางสว่ น = 5 คะแนน - เขียนสรุปใจความสำคัญของขา่ วไม่ไดเ้ ลย = 3 คะแนน = 1 คะแนน 3. การพดู แสดงความคดิ เหน็ ( 5 คะแนน ) = ไม่มีคะแนน - พูดแสดงความคิดเหน็ อยา่ งสร้างสรรค์ ตามความเป็นจรงิ ใช้ถอ้ ยคำสุภาพมีมารยาทในการพูด - พดู แสดงความคิดเห็นตามความเปน็ จรงิ ใชถ้ ้อยคำสภุ าพ มมี ารยาทในการพดู - พดู แสดงความคิดเห็นดว้ ยความลำเอยี งบ้างเลก็ น้อย ใช้ถ้อยคำสภุ าพ มีมารยาทในการพูด - พดู แสดงความคิดเห็นด้วยความลำเอียง ใช้ถ้อยคำไม่สภุ าพ
142 ประแเมบนิบประเมิน ทกั ษะการอา่ นออกเสยี ง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ...................................................................……………………………….…….………………………………………….... กิจกรรม ……………….…………………………………………………………………………………………………………………………….... คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการอ่านออกเสียงของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงในตารางท่ตี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรุง สรุปผล รายการประเมนิ การ เลข ชือ่ – นามสกลุ รวม ประเมิน ที่ คะแนน บอกชอื่ และ อ่านออกเสยี ง ผา่ น ไม่ อ่านออกเสียง ผา่ น สะกดคาหรือ อักษรไทย ขอ้ ความ ✓
143 แบปบรปะรเะมเินมิน ทกั ษะการเขียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ...................................................................……………………………….…….………………………………………….... กจิ กรรม ……………….…………………………………………………………………………………………………………………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตการใชท้ กั ษะการเขียนของผเู้ รยี นในขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยเขียนระดบั คะแนน ลงในตารางทต่ี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรุง สรุปผล รายการประเมนิ การ เลข รวม ประเมนิ ท่ี คะแนน ช่ือ – นามสกุล เขยี น ไม่ ด้วย ผ่าน เขียน ลายมอื ที่ ความ ผ่าน สะกดคา สวยงาม สะอาด ถกู ต้อง เรียบรอ้ ย ✓
144 แบบปปรระะเเมมินิน ทกั ษะการฟัง หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ...................................................................……………………………….…….………………………………………….... กิจกรรม ……………….…………………………………………………………………………………………………………………………….... คาชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตการใชท้ ักษะการฟังของผูเ้ รียนในขณะปฏิบัติกิจกรรม โดยเขียนระดับคะแนน ลงในตารางท่ตี รงกบั ความสามารถของผเู้ รยี น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรุง สรุปผล รายการประเมนิ การ เลข ชื่อ – นามสกลุ รวม ประเมนิ ท่ี รูแ้ ละ ปฏบิ ัตติ าม ฟังด้วย มีมารยาท คะแนน ผา่ น ไม่ เข้าใจ คาส่ังอยา่ ง ความตง้ั ใจ ในการฟัง ผ่าน ความหมา เหมาะสม ✓ ยทฟ่ี ัง
145 แบบปปรระะเเมมนิ ิน ทักษะการพูด หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ...................................................................……………………………….…….………………………………………….... กจิ กรรม ……………….…………………………………………………………………………………………………………………………….... คาชแี้ จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตการใชท้ กั ษะการพดู ของผเู้ รียนในขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม โดยเขยี นระดบั คะแนนลงใน ตารางท่ตี รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน เกณฑก์ ารให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรบั ปรุง สรุปผล รายการประเมิน การ เลข รวม ประเมิน ท่ี คะแนน ชื่อ – นามสกุล พูดได้ การลาดับ มมี ารยาท ไม่ คล่องแคล่ เนอื้ หา ในการพูด ผา่ น ผ่าน ว สาระใน ✓ การพูด
146 แบบประเมิน แบบประคเุณนลกั ษณะที่พึงประสงค์ ชนั้ ป. 2 / …......…… วชิ า ............................................................................................………………….……………………………………….... คาชแี้ จง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน การปฏิบตั งิ านของนกั เรยี นวา่ มกี ารปฏิบตั ิหรอื ไม่ ถา้ มกี ารปฏบิ ตั ใิ นรายการใดใหข้ ดี ✓ ถา้ ไม่มใี หเ้ วน้ วา่ ง รายการประเ น สรุปผล การประเ น เลขท่ี ช่ือ - นา สกุล เ ็หน ุคณ ่คาของการใ ้ชภาษาไทย รว ไ่ ใน ีชวตประจาวัน ผ่าน ีควา กระ ืตอ ืรอ ้รนและสนใจใ ่ฝ ู้ร คะแนน ผ่าน ีควา ัรบผดชอบ ✓ ี ่สวน ่รว ในการทากจกรร ีน ัสย ัรกการ ่อานและเขียน ลงช่ือ ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน : นกั เรียนมกี ารปฏบิ ตั ิ 3 รายการขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์ประเมิน
147 ประเมนิ แบบประเมิน ผลงาน ช่ือ - นามสกลุ .............................................................................................. ชนั้ ป.2 / …………….... เลขท่ี ……………………… หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี .................................................................... กิจกรรม ……………….………………………………………….... คาชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ขดี ✓ ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน (ดเู กณฑก์ ารใหค้ ะแนนผลงานท่หี นา้ ถดั ไป) ผูป้ ระเมิน รายการประเมิน ตนเอง เพอ่ื น ครู 4 321 4 321 4 321 1. ตรงจดุ ประสงคท์ ่ีกาหนด 2. มีความถูกตอ้ งสมบรู ณ์ 3. มีความคดิ สรา้ งสรรค์ 4. มีความเป็นระเบียบ 5. เสรจ็ ตามเวลาท่กี าหนด รวม รวมทกุ รายการ เฉล่ยี (ตนเอง) ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (เพ่อื น) ผปู้ ระเมิน ................................................................................. ผปู้ ระเมนิ ................................................................................. (ครู)
148 เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน ประเด็นที่ประเมนิ คะแนน 1. ผลงานตรงกับ 4 32 1 จดุ ประสงคท์ ่ีกำหนด ผลงานท่ที ำ ผลงานที่ทำ ผลงานทที่ ำ ผลงานที่ทำ 2. ผลงานมีความถูกตอ้ ง สมบรู ณ์ สอดคล้องกบั สอดคล้องกับ สอดคลอ้ งกับ ไมส่ อดคล้องกับ 3. ผลงานมคี วามคดิ จดุ ประสงค์ จุดประสงค์ จดุ ประสงค์ จุดประสงค์ สรา้ งสรรค์ ทุกประเดน็ เป็นสว่ นใหญ่ บางประเดน็ 4. ผลงานมคี วามเปน็ ระเบียบ เนื้อหาสาระของ เน้ือหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ 5. ผลงานเสรจ็ ตามเวลา ผลงานถกู ต้อง ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานไม่ถูกต้อง ทกี่ ำหนด ครบถว้ น เป็นสว่ นใหญ่ บางส่วน เป็นสว่ นใหญ่ ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคดิ ผลงานมีความ ผลงานไม่แสดง ถึงความคดิ แปลกใหม่แตย่ ัง นา่ สนใจ แต่ยัง ไม่ แนวคิดใหม่ สรา้ งสรรค์ ไมเ่ ปน็ ระบบ มีแนวคดิ แปลกใหม่ แปลกใหม่ และเป็นระบบ ผลงานมคี วามเปน็ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญไ่ ม่ ระเบียบ แสดงออก ความเปน็ เปน็ ระเบียบแต่มี เปน็ ระเบยี บ และมี ถึงความประณตี ระเบียบแต่ยังมี ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่องมาก ต้งั ใจ ข้อบกพร่อง ค่อนข้างมาก เล็กน้อย สง่ ผลงานตามเวลา ส่งผลงานชา้ กว่า สง่ ผลงานชา้ กวา่ ส่งผลงานชา้ กวา่ ทก่ี ำหนด เวลาทก่ี ำหนด เวลาทกี่ ำหนด เวลาที่กำหนดเกนิ 1-2 วัน 3-5 วัน กวา่ 5 วัน เกณฑก์ ารตัดสิน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ คุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 12 - 16 ดี 8 - 11 5-7 ปานกลาง ปรับปรงุ
149 ประเมิน แบบประเมิน สมรรถนะผู้เรียน 5 ด้าน คาชีแ้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน ระดบั คะแนน แลว้ ขีด ✓ ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน 321 สมรรถนะทป่ี ระเมนิ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ ภาษาอยา่ งเหมาะสม 1.3 ใชว้ ธิ ีการสอ่ื สารท่เี หมาะสม 2. ความสามารถในการคิด 2.1 มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ เพ่อื การสรา้ งองคค์ วามรู้ 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ เป็นระบบ เพ่อื การสรา้ งองคค์ วามรู้ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.1 แกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล 3.2 แสวงหาความรูม้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3.3 ตดั สินใจโดยคานึงถึงผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 4.1 ทางานและอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ ื่นดว้ ยความสมั พนั ธอ์ นั ดี 4.2 มวี ิธีแกไ้ ขความขดั แยง้ อยา่ งเหมาะสม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5.1 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการพฒั นาตนเองอย่างเหมาะสม 5.2 เลอื กใชข้ อ้ มลู ในการทางานและอย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื อยา่ งเหมาะสม ลงช่ือ ผู้................................................................................. ประเมิน
150 ใบงานท่ี 27 การันต์หรรษา ชือ่ – นามสกลุ .......................................................................... ชนั้ ป. 2 / ............ เลขท่ี ............ คาส่ั คิดแล้วเขยี นคาทม่ี ตี วั การนั ต์ แลว้ เขยี นคาอา่ น ง คาทม่ี ีตวั การนั ต์ คาอา่ น ................................................... ................................................................... ................................................... ................................................................... ................................................... ................................................................... ................................................... ................................................................... ................................................... ................................................................... ................................................... ................................................................... ................................................... ................................................................... ................................................... การประเม..ิน...ผ...ล...ง..า..น.....:..ร..ะ..บ...า..ย...ส..ีใ..น...ส..ญั....ล...กั ..ษ...ณ....ร์..ูป...ใ.บ.. หนา้ ตามความเป็นจรงิ ตนเอง.........☺.......................................... ผ้ปู กครอง ☺ ควรปรบั ปรุง ...ด...ี ...........พ...อ..ใ..ช...้ ......ค..ว..ร..ป...ร..บั...ป...ร.ุง................ ดี พอใช้ เพอื่ น.........☺.......................................... คุณครู ☺ ................................................................... ................................................... ................................................................... ...................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187