Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่มรายงาน อพ.สธ.62 มทร.ธัญบรี

เล่มรายงาน อพ.สธ.62 มทร.ธัญบรี

Published by WebsiteRMUTT rmutt, 2021-10-25 07:35:14

Description: เล่มรายงาน อพ.สธ.62 มทร.ธัญบรี

Search

Read the Text Version

รายงานผลการดำเนินงาน โครงการอนรุ กั ษ์พนั ธุกรรมพชื อนั เนื่องมาจาก พระราชดำรสิ มเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2562 สนองพระราชดำรโิ ดย มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี อำเภอธญั บรุ ี จงั หวดั ปทมุ ธานี

คำนำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้เข้าร่วมสนองพระราชดาริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเน่ืองมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต้ังแต่ปี พ.ศ. 2546 ในโครงการพิพิธภัณฑ์บัว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซ่ึงอยู่ในช่วงแผนการดาเนินงานโครงการ ระยะ 5 ปีที่หก (ตุลาคม 2559 – กันยายน 2564) ในกิจกรรมปลูกรักษาทรัพยากร กิจกรรมอนุรักษ์และใช้ ประโยชน์ทรัพยากร กิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนอง พระราชดาริในโครงการอนุรักษ์พันธกุ รรมพืชอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี จนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยได้ดาเนินโครงการประจาปีงบประมาณ 2562 ภายใต้กิจกรรม สารวจเก็บรวบรวมทรพั ยากร จานวน 3 โครงการ กิจกรรมปลูกรกั ษาทรัพยากร จานวน 1 โครงการ กิจกรรม อนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรจานวน 31 โครงการ กิจกรรมศูนย์ข้อมูลทรัพยากรจานวน 2 โครงการ กิจกรรมสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร จานวน 3 โครงการ และกิจกรรมพิเศษสนับสนุนการอนุรักษ์ ทรพั ยากร จานวน 5 โครงการ รวมท้ังส้ิน 45 โครงการ ซ่ึงพ้ืนท่ีและกิจกรรมของโครงการ เป็นการดาเนินงาน ที่หลากหลาย เพื่อสง่ ผลให้เกดิ ประโยชนต์ ่อประเทศชาตอิ ย่างสูงสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ตลุ าคม 2562

สำรบญั หนำ้ สรุปจานวนและโครงการ ประจาปงี บประมาณ 2562 1 รายงานผลการดาเนนิ โครงการวจิ ยั ประจาปีงบประมาณ 2562 8 กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมสารวจเกบ็ รวบรวมทรพั ยากร 9 โครงการวจิ ยั ความหลากหลายของสาหร่ายที่เจริญในสภาพแวดล้อมวกิ ฤต 9 เพอ่ื การเก็บรักษาสายพนั ธุ์และการจัดทาฐานข้อมลู โครงการวจิ ัยความหลากหลายทางชวี ภาพของไส้เดือนดนิ ในพืน้ ทีเ่ กษตรเพ่อื การพัฒนา 15 ข้าวและผักอินทรีย์ในพ้นื ท่ีชุมชน จงั หวดั ปทมุ ธานี กิจกรรมท่ี 4 กิจกรรมอนุรักษแ์ ละใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากร 19 โครงการวจิ ัยการปรบั ปรงุ พนั ธุ์แบบมาตรฐานและการกู้ชพี คพั ภะของบวั อุบลชาติ 19 เขตร้อนบานกลางคืนของไทยสายพันธุแ์ ม่พลอย โครงการวจิ ัยการปรบั ปรงุ พันธบ์ุ วั อุบลชาตเิ ขตร้อนบานกลางคนื ของไทย 22 สายพันธุ์แมพ่ ลอยดว้ ยสารยับยงั้ การเจริญเติบโตของพชื บางชนดิ โครงการวจิ ยั ผลของน้าหมกั ชีวภาพจากวสั ดบุ วั ตอ่ การเจริญเติบโตของบวั หลวงและบัวผัน 25 โครงการวจิ ัยการพัฒนาผลิตภัณฑไ์ รซ์เบอรร์ ่เี ฟลกปลอดกลเู ตนโดยการใชแ้ ป้งกลว้ ย 28 ทดแทนแป้งสาลี โครงการวจิ ัยการพฒั นาผลิตภณั ฑ์อาหารจากกลว้ ยเพื่อเพ่ิมมลู คา่ 30 โครงการวจิ ัยการพฒั นาคณุ ภาพบรรจภุ ัณฑย์ ่อยสลายตามธรรมชาตจิ ากใยบัว 36 โครงการผลของอุณหภมู ิในการอบแหง้ และอตั ราส่วนของผงดอกบวั สายต่อคณุ ภาพ 44 ของเครื่องด่ืมพร้อมบริโภค โครงการวจิ ัยการศึกษาองค์ประกอบทางโภชนาการ และการใช้ประโยชน์ทางยา 46 จากข้าวพันธ์ุพ้ืนเมืองในจงั หวัดปทุมธานี (ระยะที่ 3) โครงการวจิ ัยการศึกษาปริมาณสารต้านอนุมูลอสิ ระและคลอโรฟลิ ล์ในใบบวั บาทีป่ ลูก 48 ในพ้ืนท่ีจังหวัดปทมุ ธานีเพ่ือต่อยอดสู่การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ โครงการวจิ ัยผลไม้อัดเม็ดเสริมโปรไบโอติก 51 โครงการวิจัยการพฒั นาผลติ ภณั ฑเ์ สน้ บะหมี่ผา 54 โครงการการพัฒนาเครื่องดื่มสมนุ ไพรเสริมกลบี ดอกบัวหลวงทดแทนสารให้ความหวาน 63 จากหญ้าหวาน โครงการวจิ ัยการพัฒนากา้ นบัวหลวงอัดแหง้ สาหรับผลติ ภัณฑง์ านประดษิ ฐ์ 69 โครงการวิจัยการศึกษาความหลากหลายของแบคทเี รียยอ่ ยสลายสารเคมกี าจดั ศัตรพู ชื 77 ที่ตกค้างในพนื้ ที่เกษตรกรรม เพ่อื การประยุกต์ใช้สาหรบั พัฒนาพ้ืนทเ่ี กษตรอนิ ทรยี ์ โครงการวิจัยการเพิม่ ผลผลิตแคลลัสกานพลทู ี่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนอ้ื เย่อื 85 โครงการวิจยั การอนรุ ักษ์สายพนั ธ์ขุ า้ วหอมพืน้ เมืองจังหวัดปทุมธานี 89 โครงการวจิ ัยนวตั กรรมผนังอาคารอนรุ ักษ์พลงั งานและส่ิงแวดล้อมโดยการใชป้ ระโยชน์ 99 จากพืชเศรษฐกิจอัตลกั ษณ์ของ จ ปทมุ ธานี : ข้าวและบวั โครงการวิจยั เครอ่ื งผ่าครง่ึ ลูกมะพร้าวสาหรับทากะทิอัตโนมัติแบบไม่แยกเปลอื ก 102

สำรบญั หนำ้ 109 โครงการวจิ ัยการทดลองเนื้อดินปั้นบงึ บา อาเภอหนองเสือ จังหวัดปทมุ ธานี 118 โครงการวิจัยการพัฒนาฟางข้าวเปน็ ฉนวนป้องกันความรอ้ น 121 โครงการวิจยั ฤทธท์ิ างชวี ภาพดา้ นสรรพคุณทางยาของสายพนั ธบ์ุ ัว (บวั ผัน) 124 โครงการวจิ ัยการพัฒนาแป้งจากกระจบั เพื่อใช้ในผลติ ภัณฑ์ยาและเคร่ืองสาอาง 130 โครงการวจิ ัยการศึกษาฤทธิท์ างชีวภาพของสารสกัดบัวสตั ตบรรณเพื่อพฒั นาผลติ ภัณฑ์ 134 สุขภาพและความงาม โครงการวจิ ยั การพัฒนาผลติ ภัณฑเ์ พื่อสุขภาพ และความงามจากพชื สมุนไพรในท้องถนิ่ 141 ตาบลบ่อเงนิ อาเภอลาดหลมุ แก้ว จงั หวัดปทุมธานี 144 โครงการวิจยั ข้อกาหนดมาตรฐานสมุนไพร องค์ประกอบทางเคมแี ละฤทธ์ิทางชวี ภาพ 147 ของพกิ ดั บัวทั้ง 5 ตามภูมปิ ญั ญาไทย 153 โครงการวิจัยการพฒั นาเทคโนโลยกี ารผลิตผลติ ภัณฑ์มูลคา่ สูงสารสีธรรมชาติ 167 ดว้ ยเชอ้ื โมแนสคัสจากขา้ วพนั ธุพ์ ้ืนเมืองและเศษวสั ดุเหลอื ใช้ทางการเกษตร 177 โครงการวจิ ัยการพฒั นาคารบ์ อกซีเมทิลเซลลโู ลสจากเปลอื กขา้ วสายพันธุ์ปทุมธานี 1 โครงการวิจยั การพฒั นาผลติ ภัณฑ์ธรรมชาติจากพืชพืน้ เมอื งของไทย 180 โครงการวจิ ยั ความหลากหลายทางชวี ภาพของเชอื้ ราเอนโดไฟตจ์ ากบวั ทส่ี ร้างสาร 180 ชวี โมเลกลุ ต่อตา้ นเชอื้ ดื้อยา Methicillin-resistant staphylococcus aureus 184 โครงการวจิ ัยคณุ สมบตั ิของสารสกดั จากบัวหลวงต่อการทางานของระบบภูมิคุ้มกนั 187 188 ของมนุษย์ 188 กิจกรรมที่ 5 กิจกรรมศนู ย์ข้อมูลทรัพยากร 201 201 โครงการวิจยั การพัฒนาเซน็ เซอร์สาหรับเกษตรกรรมชาญฉลาดเพ่ือการปลูกข้าว 206 ในเขตพื้นท่ภี าคกลางของไทย 206 โครงการวิจัยการออกแบบและจดั ทาฐานข้อมลู สารสนเทศพันธุพ์ ชื ทมี่ ีค่าหายาก 216 รายงานผลการดาเนนิ โครงการท่ัวไป ประจาปีงบประมาณ 2562 216 กิจกรรมที่ 2 กจิ กรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร 221 โครงการเก็บรวบรวมพันธบ์ุ ัวหลวงและบวั สายของแต่ละจงั หวัดที่ติดกับจังหวดั ปทุมธานี กจิ กรรมที่ 3 กจิ กรรมปลูกรกั ษาทรัพยากร โครงการขยายพนั ธบุ์ วั จงกลนีเพื่อการอนรุ ักษ์ กจิ กรรมที่ 4 กจิ กรรมอนรุ ักษ์และใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากร โครงการการพัฒนาผลผลิตจากส่วนต่างๆของขา้ วปทุมธานี และบัวหลวงเพ่ือยกระดับ คุณภาพชีวิตชุมชนหมู่บ้านกระแชง อาเภอสามโคก จงั หวดั ปทมุ ธานี กจิ กรรมที่ 7 กจิ กรรมสร้างจิตสานึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร โครงการขยายพันธบุ์ วั จงกลนีเพ่ือปลูกเล้ียงภายในพ้นื ทม่ี หาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โครงการกิจกรรมสรา้ งจติ สานึกในการอนรุ กั ษ์พันธข์ ้าวจงั หวดั ปทมุ ธานสี กู่ ารสรา้ งอาชีพ อย่างยั่งยืน

สำรบัญ หน้ำ โครงการสืบสานศาสตร์พระราชาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสานกึ รักษ์พนั ธกุ รรมพืช 239 เพื่อพฒั นาชุมชนสู่ความม่นั คงและย่ังยนื กจิ กรรมที่ 8 กจิ กรรมพิเศษสนับสนนุ การอนุรักษ์ทรัพยากร 249 โครงการกิจกรรมสรา้ งจติ สานึกในการอนุรักษ์พันธ์ุบวั ไทย 249 โครงการการจัดทาหนงั สอื ภาพอิเล็กทรอนิกส์ (e-book) เพอื่ การเรียนรู้เรอ่ื งสายพันธบ์ุ ัวสาย 263 โครงการการอนุรักษ์การแสดงพ้ืนบ้าน จงั หวดั ปทมุ ธานี (ลาพาขา้ วสาร) 268 โครงการพฒั นาสื่อความรู้ในรูปแบบ Infographic และประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมบนเว็บไซต์ 277 อพ.สธ. มทร.ธัญบุรี โครงการการอนุรักษก์ ารแสดงพืน้ บา้ น จงั หวดั ปทมุ ธานีโครงการจดั นิทรรศการทรัพยากรไทย 308 :ชาวบ้านไทยได้ประโยชน์

-1- สรปุ จำนวนและโครงกำร ประจำปงี บประมำณ 2562

-2- สรุปโครงกำรตำมกรอบกำรเรียนรู้ ประจำปงี บประมำณ 2562 มหำวทิ ยำลยั รำชมงคลธัญบุรี โครงกำรวจิ ยั โครงกำรทวั่ ไป รวม กรอบ จำนวน งบประมำณ จำนวน งบประมำณ จำนวน งบประมำณ โครงกำร โครงกำร โครงกำร 1 F1A2 กรอบการเรียนรู้ ทรัพยากร : กจิ กรรมสารวจ 2 495,000 1 100,000 3 595,000 เกบ็ รวบรวมทรัพยากร -- 1 40,000 1 40,000 2 F1A3 กรอบการเรียนรู้ ทรัพยากร : กจิ กรรมปลกู 30 11,805,000 1 350,000 31 12,155,000 รักษาทรัพยากร 2 773,000 2 773,000 -- 3 310,000 3 F2A4 กรอบการใช้ประโยชน์ : 5 890,000 กจิ กรรมอนรุ ักษ์และใช้ ประโยชน์ทรัพยากร 4 F2A5 กรอบการใชป้ ระโยชน์ : กจิ กรรมศนู ย์ข้อมูลทรัพยากร 5 F3A7 กรอบการสร้างจิตสานึก : -- 3 310,000 45 14,763,000 กจิ กรรมสร้างจิตสานึกในการ -- 5 890,000 อนุรักษ์ทรัพยากร 34 13,073,000 11 1,690,000 6 F3A8 กรอบการสร้างจิตสานกึ : กจิ กรรมพิเศษสนบั สนนุ การ อนุรักษ์ทรัพยากร รวมทงั้ ส้ิน สรปุ หน่วยงำนทไ่ี ดร้ ับงบประมำณประจำปี 2562 มหำวิทยำลัยรำชมงคลธญั บรุ ี ลำดบั หนว่ ยงำน โครงกำรวิจยั งบประมำณ โครงกำรบริกำรวิชำกำร งบประมำณ รวมงบประมำณ 1 คณะครุศำสตร์อตุ สำหกรรม - - 2 280,000 280,000 2 คณะเทคโนโลยกี ำรเกษตร 7 2,700,000 1 130,000 2,830,000 3 คณะเทคโนโลยคี หกรรมศำสตร์ 3 650,000 1 350,000 1,000,000 4 คณะเทคโนโลยส่ือสำรมวลชน - - 1 330,000 330,000 5 คณะวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี 7 2,668,000 - - 2,668,000 6 คณะวิศวกรรมศำสตร์ 2 840,000 - - 840,000 7 คณะศิลปกรรมศำสตร์ 1 250,000 1 120,000 370,000 8 คณะสถำปตั ยกรรมศำสตร์ 1 300,000 - - 300,000 9 วิทยำลัยกำรแพทยแ์ ผนไทย 10 5,365,000 - - 5,365,000 10 สำนกั วทิ ยบริกำรฯ - - 1 80,000 80,000 11 สถำบนั วิจยั และพฒั นำ - - 1 230,000 230,000 12 กองอำคำรสถำนท่ี 3 300,000 3 170,000 470,000 รวม 34 13,073,000 11 1,690,000 14,763,000

-3- รำยละเอยี ดโครงกำรวิจัย ท่ไี ด้รบั งบประมำณโครงกำรอนุรักษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เนื่องมำจำกพระรำชดำริฯ ประจำปงี บประมำณ 2562 มหำวทิ ยำลัยรำชมงคลธัญบรุ ี ลำดับ ชอ่ื โครงกำร ผูร้ บั ผิดชอบโครงกำร งบประมำณ กจิ กรรม 1 ความหลากหลายของ ดร.สุทธวรรณ สุพรรณ 280,000 สารวจเก็บรวบรวมทรพั ยากร สาหรา่ ยทีเ่ จรญิ ใน สภาพแวดล้อมวกิ ฤตเพอ่ื การ เก็บรกั ษาสายพนั ธุ์และการ จดั ทาฐานขอ้ มลู 2 ความหลากหลายทางชีวภาพ ดร.เออ้ื งฟ้า บรรเทาวงษ์ 215,000 สารวจเก็บรวบรวมทรพั ยากร 100,000 อนรุ ักษแ์ ละใช้ประโยชน์ทรัพยากร ของไสเ้ ดอื นในพ้ืนทเ่ี กษตร เพื่อการพัฒนาขา้ วและผัก อนิ ทรียใ์ นพืน้ ทช่ี มุ ชน จังหวัด ปทุมธานี 3 การปรับปรงุ พนั ธแ์ุ บบ นายอศิ ราพงษ์ แคนทอง มาตรฐานและการกู้ชพี คพั ภะ ของบัวอุบลชาติเขตร้อนบาน กลางคนื ของไทยสายพันธ์ุแม่ พลอย (โครงการใหม่ แบบตอ่ เน่ือง 2 ปี * งบประมาณตลอด โครงการวิจยั ทง้ั หมด 300,000 บาท ) 4 การปรับปรุงพนั ธ์ุบัวอบุ ลชาติ นายอิศราพงษ์ แคนทอง 100,000 อนรุ กั ษแ์ ละใชป้ ระโยชน์ทรพั ยากร เขตรอ้ นบานกลางคนื ของ 100,000 อนรุ กั ษแ์ ละใชป้ ระโยชนท์ รัพยากร 410,000 อนรุ ักษ์และใช้ประโยชนท์ รพั ยากร ไทยสายพันธแุ์ ม่พลอยด้วย 200,000 อนรุ ักษแ์ ละใชป้ ระโยชน์ทรัพยากร 230,000 อนรุ กั ษ์และใชป้ ระโยชน์ทรัพยากร สารยบั ย้ังการเจริญเตบิ โต ของพชื บางชนดิ 5 ผลของน้าหมักชวี ภาพจาก นางเยาวมาลย์ นอ้ ยใหม่ วัสดบุ วั ตอ่ การเจริญเติบโต ของบวั หลวงและบัวผัน 6 การพัฒนาผลติ ภณั ฑไ์ รซ์ ดร.ลลิตา ศริ วิ ัฒนานนท์ เบอร์รเ่ี ฟลกปลอดกลเู ตนโดย การใช้แป้งกลว้ ยทดแทนแปง้ สาลี 7 การพัฒนาผลติ ภณั ฑอ์ าหาร ผศ.ประดิษฐ์ คาหนองไผ่ จากกล้วยเพือ่ เพม่ิ มูลคา่ 8 การพัฒนาคณุ ภาพบรรจุ ผศ.ดร.นันท์ชนก นันทะไชย ภณั ฑย์ ่อยสลายตาม ธรรมชาตจิ ากใยบวั

-4- รำยละเอียดโครงกำรวจิ ัย ทไ่ี ดร้ ับงบประมำณโครงกำรอนรุ ักษพ์ ันธุกรรมพชื อันเนอ่ื งมำจำกพระรำชดำรฯิ ประจำปงี บประมำณ 2562 มหำวิทยำลัยรำชมงคลธญั บรุ ี (ต่อ) ลำดับ ชอื่ โครงกำร ผู้รับผดิ ชอบโครงกำร งบประมำณ กจิ กรรม 9 ผลของอุณหภมู ใิ นการ ผศ.ดร.อนิ ทริ า ลิจนั ทรพ์ ร 300,000 อนุรกั ษ์และใชป้ ระโยชน์ทรพั ยากร อบแห้งและอตั ราสว่ นของผง ดอกบัวสายตอ่ คณุ ภาพของ เครอ่ื งด่ืมพรอ้ มบรโิ ภค 10 การศึกษาองคป์ ระกอบทาง ผศ.ดร.อนิ ทิรา ลิจันทรพ์ ร 800,000 อนุรกั ษแ์ ละใช้ประโยชนท์ รัพยากร โภชนาการ และการใช้ ประโยชน์ทางยาจากขา้ ว พันธพ์ุ ้นื เมอื งในจงั หวดั ปทุมธานี (ระยะที่ 3) 11 การศึกษาปริมาณสารตา้ น ดร.ลลิตา ศิริวฒั นานนท์ 410,000 อนรุ กั ษ์และใช้ประโยชน์ทรพั ยากร อนุมลู อสิ ระและคลอโรฟลิ ล์ ในใบบัวบาทีป่ ลูกในพ้ืนที่ จังหวัดปทมุ ธานีเพอ่ื ตอ่ ยอดสู่ การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ 12 ผลไมอ้ ัดเมด็ เสริมโปรไบโอ ผศ.ดร.ปาลดิ า ตั้งอนุรัตน์ 350,000 อนุรกั ษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร 200,000 อนรุ กั ษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากร ติก 200,000 อนรุ ักษ์และใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากร 13 การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์เสน้ ผศ.ดร.เลอลักษณ์ เสถยี รรตั น์ 250,000 อนรุ กั ษ์และใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากร 440,000 อนุรกั ษ์และใชป้ ระโยชนท์ รัพยากร บะหม่ีผา 14 การพฒั นาเคร่อื งดม่ื สมุนไพร นางสาวอรอุมา คาแดง เสรมิ กลบี ดอกบัวหลวง ทดแทนสารใหค้ วามหวาน จากหญ้าหวาน 15 การพฒั นาก้านบวั หลวงอัด ดร.สภุ า จฬุ คุปต์ แหง้ สาหรบั ผลติ ภณั ฑง์ าน ประดิษฐ์ 16 การศกึ ษาความหลากหลาย ดร.จันทิมา ฑฆี ะ ของแบคทเี รียยอ่ ยสลาย สารเคมีกาจดั ศัตรพู ชื ท่ี ตกค้างในพื้นทเี่ กษตรกรรม เพ่ือการประยกุ ตใ์ ช้สาหรับ พฒั นาพืน้ ท่ีเกษตรอนิ ทรีย์ 17 การเพม่ิ ผลผลติ แคลลัส ผศ.ดร. นพรัตน์ พุทธกาล 360,000 อนุรกั ษ์และใช้ประโยชน์ทรพั ยากร 600,000 อนรุ ักษ์และใชป้ ระโยชน์ทรพั ยากร กานพลูทไ่ี ดจ้ ากการ เพาะเลีย้ งเนือ้ เยื่อ 18 การอนุรกั ษ์สายพนั ธ์ขุ า้ วหอม ผศ.ดร. เนตรนภสิ แก้วช่วย พนื้ เมืองจังหวดั ปทมุ ธานี

-5- รำยละเอียดโครงกำรวจิ ัย ทีไ่ ดร้ บั งบประมำณโครงกำรอนรุ ักษพ์ นั ธุกรรมพชื อันเน่ืองมำจำกพระรำชดำริฯ ประจำปีงบประมำณ 2562 มหำวิทยำลยั รำชมงคลธญั บรุ ี (ต่อ) ลำดบั ชื่อโครงกำร ผรู้ ับผดิ ชอบโครงกำร งบประมำณ กจิ กรรม 19 นวตั กรรมผนังอาคารอนรุ กั ษ์ ผศ.ดร.ฉนั ทท์ ิพ สกุลเขมฤทัย 400,000 อนุรักษแ์ ละใช้ประโยชน์ทรัพยากร พลงั งานและสงิ่ แวดล้อมโดย การใชป้ ระโยชนจ์ ากพืช เศรษฐกิจอตั ลักษณข์ อง จ ปทุมธานี : ขา้ วและบัว 20 เคร่ืองผ่าครง่ึ ลูกมะพรา้ ว ดร.กลุ ชาติ จลุ เพญ็ 440,000 อนุรักษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร 250,000 อนรุ ักษแ์ ละใช้ประโยชนท์ รพั ยากร สาหรบั ทากะทอิ ตั โนมตั ิแบบ 300,000 อนุรกั ษ์และใชป้ ระโยชน์ทรพั ยากร 480,000 อนรุ ักษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร ไม่แยกเปลือก 400,000 อนรุ กั ษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร 500,000 อนุรักษแ์ ละใชป้ ระโยชน์ทรพั ยากร 21 การทดลองเนื้อดนิ ปั้นบงึ บา วา่ ที่รอ้ ยตรหี ญงิ ปัญจลักษณ์ 925,000 อนุรักษแ์ ละใช้ประโยชน์ทรัพยากร อาเภอหนองเสอื จังหวดั หรีรักษ์ ปทุมธานี 22 การพัฒนาฟางขา้ วเป็นฉนวน นางสาวนฤมล แสนเสนา ป้องกันความรอ้ น 23 ฤทธทิ์ างชวี ภาพดา้ น ผศ.วรเชษฐ์ ขอบใจ สรรพคณุ ทางยาของสายพนั ธุ์ บวั (บวั ผัน) 24 การพัฒนาแป้งจากกระจับ นางสาวสุรตั ิวดี ทงั่ มง่ั มี เพ่ือใชใ้ นผลิตภณั ฑย์ าและ เคร่ืองสาอาง 25 การศกึ ษาฤทธท์ิ างชีวภาพ นางสาวณกันตว์ ลัย วิศฎิ ศรี ของสารสกดั บวั สัตตบรรณ เพ่ือพฒั นาผลติ ภัณฑส์ ุขภาพ และความงาม 26 การพฒั นาผลติ ภณั ฑ์เพื่อ นางสาวกญั ญธ์ ศยา สขุ ภาพ และความงามจาก อัครศริ ิฐรตั นา พชื สมุนไพรในท้องถน่ิ ตาบล นายไฉน น้อยแสง บอ่ เงิน อาเภอลาดหลมุ แก้ว จงั หวดั ปทุมธานี 27 ขอ้ กาหนดมาตรฐานสมุนไพร นางสาวสริ ภิ ัทร ชมัฒพงษ์ 500,000 อนรุ ักษแ์ ละใชป้ ระโยชนท์ รพั ยากร องค์ประกอบทางเคมีและ ฤทธิท์ างชวี ภาพของพิกดั บัว ทงั้ 5 ตามภมู ิปญั ญาไทย

-6- รำยละเอยี ดโครงกำรวจิ ัย ท่ไี ด้รบั งบประมำณโครงกำรอนรุ ักษ์พันธุกรรมพชื อนั เน่ืองมำจำกพระรำชดำรฯิ ประจำปีงบประมำณ 2562 มหำวิทยำลัยรำชมงคลธัญบุรี (ตอ่ ) ลำดบั ชอ่ื โครงกำร ผ้รู บั ผิดชอบโครงกำร งบประมำณ กิจกรรม 28 การพฒั นาเทคโนโลยีการ นายสรุ ชัย เตชะเอ้ย 600,000 อนุรักษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร ผลติ ผลติ ภณั ฑม์ ูลค่าสงู สารสี ธรรมชาตดิ ้วยเชื้อโมแนสคสั จากข้าวพันธุ์พนื้ เมอื งและ เศษวสั ดเุ หลือใช้ทาง การเกษตร 29 การพฒั นาคาร์บอกซเี มทิล นางสาวเขมจริ า จามกม 700,000 อนรุ กั ษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร 400,000 อนรุ กั ษ์และใชป้ ระโยชนท์ รัพยากร เซลลโู ลสจากเปลือกขา้ วสาย 360,000 อนุรกั ษแ์ ละใช้ประโยชนท์ รพั ยากร พนั ธ์ุปทมุ ธานี 1 30 การพัฒนาผลติ ภณั ฑ์ ผศ.กรวนิ ท์วชิ ญ์ ธรรมชาติจากพชื พ้ืนเมอื ง บุญพสิ ุทธินันท์ ของไทย 31 ความหลากหลายทางชวี ภาพ นายสรุ ชัย เตชะเอ้ย ของเช้อื ราเอนโดไฟตจ์ ากบัว ทีส่ รา้ งสารชวี โมเลกลุ ตอ่ ตา้ น เชอื้ ดอ้ื ยา Methicillin- resistant staphylococcus aureus 32 คณุ สมบตั ขิ องสารสกดั จาก ดร.รงุ่ นภา ศรานุชิต 500,000 อนรุ กั ษ์และใช้ประโยชนท์ รัพยากร 223,000 ศนู ย์ขอ้ มูลทรพั ยากร บัวหลวงตอ่ การทางานของ 550,000 ศูนยข์ ้อมูลทรัพยากร ระบบภมู ิคุม้ กันของมนุษย์ 13,073,000 33 การออกแบบและจดั ทา ผศ.ดร.นิพัทธ์ จงสวสั ดิ์ ฐานข้อมูลสารสนเทศพันธพุ์ ชื ทมี่ ีค่าหายาก 34 การพัฒนาเซ็นเซอร์สาหรบั ผศ.ดร. ชตุ ิมา ประสาทแก้ว เกษตรกรรมชาญฉลาดเพ่อื การปลกู ขา้ วในเขตพ้ืนที่ภาค กลางของไทย รวม 34 โครงกำร

-7- รำยละเอียดโครงกำรท่วั ไป ท่ีไดร้ ับงบประมำณโครงกำรอนุรกั ษพ์ นั ธุกรรมพชื อนั เนอื่ งมำจำกพระรำชดำรฯิ ประจำปีงบประมำณ 2562 มหำวทิ ยำลยั รำชมงคลธัญบรุ ี ลำดบั ชื่อโครงกำร ผู้รบั ผิดชอบโครงกำร งบประมำณ กจิ กรรม 1 เก็บรวบรวมพันธุ์บวั หลวงและ นายกฤษณะ กลัดแดง 100,000 สารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร บัวสายของแต่ละจงั หวัดทต่ี ิด กับจงั หวดั ปทมุ ธานี 2 ขยายพันธ์บุ วั จงกลนเี พอ่ื การ นายกฤษณะ กลัดแดง 40,000 ปลกู รักษาทรัพยากร 350,000 อนรุ ักษแ์ ละใช้ประโยชนท์ รัพยากร อนรุ กั ษ์ 3 การพัฒนาผลผลติ จากส่วน นายณฐั ชรัฐ แพกุล ต่างๆของขา้ วปทมุ ธานี และบวั หลวง เพ่ือยกระดับคณุ ภาพชีวติ ชมุ ชนหมู่บา้ นกระแชง อาเภอ สามโคก จังหวัดปทมุ ธานี 4 โครงการ ขยายพันธบ์ุ ัวจงกลนี นายกฤษณะ กลัดแดง 30,000 สร้างจติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์ทรพั ยากร 150,000 สรา้ งจิตสานกึ ในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากร เพ่อื ปลกู เล้ียงภายในพน้ื ท่ี 130,000 สร้างจติ สานึกในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากร มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราช มงคลธัญบรุ ี 5 โครงการกจิ กรรมสร้างจติ สานกึ ดร.ทศพร แสงสวา่ ง ในการอนุรกั ษ์พันธ์ข้าวจงั หวดั ปทุมธานีส่กู ารสร้างอาชีพ อย่างย่ังยืน 6 โครงการสบื สานศาสตร์ นายทองมี เหมาะสม พระราชาตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงสานกึ รักษ์พันธกุ รรม พืชเพือ่ พัฒนาชุมชนสู่ความ มั่นคงและยง่ั ยืน 7 โครงการกจิ กรรมสรา้ งจติ สานึก ดร.ทศพร แสงสว่าง 130,000 พิเศษสนับสนุนการอนรุ ักษ์ทรพั ยากร 330,000 พเิ ศษสนับสนุนการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากร ในการอนุรกั ษ์พนั ธ์ุบัวไทย 120,000 พเิ ศษสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากร 80,000 พิเศษสนับสนุนการอนุรกั ษ์ทรัพยากร 8 การจดั ทาหนงั สือภาพ ผศ.ดร ประภาภร ดลกจิ 230,000 พิเศษสนับสนุนการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากร อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-book) เพอื่ 1,690,000 การเรยี นรเู้ รือ่ งสายพนั ธบ์ุ ัวสาย 9 การอนรุ กั ษ์การแสดงพื้นบ้าน ผศ.ดร.รจนา สุนทรานนท์ จังหวดั ปทุมธานี 10 โครงการพัฒนาสื่อความรู้ใน นางสาวเบญสริ ย์ า ปานปญุ ญเดช รปู แบบ Infographic และ ประชาสมั พันธ์กจิ กรรมบน เว็บไซต์ อพ.สธ. มทร.ธัญบุรี 11 โครงการจัดนทิ รรศการ นางสาวคณธวัลย์ ศุภรัตนาภริ กั ษ์ ทรพั ยากรไทย : ชาวบ้านไทยได้ ประโยชน์ รวม 11 โครงกำร

-8- รำยงำนผลกำรดำเนนิ โครงกำรวิจัย ประจำปีงบประมำณ 2562

-9- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 ให้ดาเนินโครงการวิจัย ภายใต้กิจกรรมที่ 2: กิจกรรมสารวจเกบ็ รวบรวมทรพั ยากร จานวน 2 โครงการ ได้แก่ 1. ชอื่ โครงกำรวจิ ัย : ควำมหลำกหลำยของสำหร่ำยทีเ่ จริญในสภำพแวดลอ้ มวกิ ฤตเพ่ือกำร เกบ็ รกั ษำ สำยพนั ธุ์และกำรจัดทำฐำนขอ้ มลู Diversity of Extremophilic Algae for Strain Preservation and Database Management. 1. ประเภทเงนิ อดุ หนุนโครงกำรวจิ ยั  โครงการวจิ ยั พน้ื ฐาน  โครงการวิจัยประยกุ ต์  โครงการวิจัยและพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ัย  ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพอื่ สรา้ งองค์ความรู้  ผลผลติ ผลงานวิจยั เพอ่ื ถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่ือผู้วิจัย 3.1 ดร. สุทธวรรณ สพุ รรณ หัวหน้าโครงการวจิ ยั 3.2 ผศ.ดร. สริ แิ ข พงษ์สวสั ดิ์ ผรู้ ว่ มวจิ ยั 3.3 ผศ.ดร. วนั ทนยี ์ เขตตก์ รณ์ ผ้รู ่วมวิจัย 4. ได้รบั จัดสรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เป็นเงนิ จานวน 280,000 บาท (สองแสนแปดหมน่ื บาทถ้วน) 5. เร่มิ ทำกำรวจิ ัยเมื่อ 1 ต.ค. 2561 ถึง 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเก่ยี วกบั ผลงำนควำมก้ำวหนำ้ ของกำรวิจัย 6.1 วัตถุประสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพื่อสนองพระราชดารโิ ครงการอนรุ กั ษ์พันธกุ รรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพ่อื ศึกษาความหลากหลายของสาหรา่ ยยึดเกาะทเ่ี จริญในสภาพแวดลอ้ มวกิ ฤตจากระดบั ความเข้มขน้ ของรังสีอลั ตราไวโอเลตสงู 6.1.3. เพ่ือเกบ็ รักษาสายพนั ธุข์ องสาหร่ายที่คดั แยกได้

-10- 6.2 กำรดำเนินงำนวจิ ยั ตำมท่เี สนอไวใ้ นโครงกำรวิจัยกับงำนวจิ ยั ทีไ่ ด้ดำเนนิ กำรไปแล้ว การดาเนนิ งาน 2561 2562 1. ทบทวนวรรณกรรม และ ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. วางแผนการทดลอง 2. เกบ็ ตวั อยา่ งสาหร่ายและ ผล ข้อมลู ด้านส่ิงแวดลอ้ มตา่ งๆ 3. วนิ จิ ฉัยชนดิ ของสาหร่าย 4. คัดแยกและเพาะเลี้ยง สาหร่ายในห้องปฏบิ ัติการเพอื่ การเก็บรักษาสายพันธุ์ 5. สรุปผลและจดั ทารายงาน 6. จัดอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร หมำยเหตุ : แผน 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจัยทไ่ี ดด้ ำเนนิ กำรไปแล้ว คิดเปน็ รอ้ ยละ....100...ของโครงการ ได้แก่ 1) จุดเกบ็ ตวั อยา่ ง ทาการเก็บตัวอย่างที่บริเวณพ้ืนผิวต่างๆ เช่น พื้นปูน พ้ืนไม้ และ อิฐ ใช้อุปกรณ์เก็บตัวอย่างสาหร่าย (forceps) ใสล่ งในขวดเก็บตวั อยา่ ง หลังจากน้นั บันทึกสถานท่ี เวลา และถา่ ยภาพ กข .. .. คง .ง .. จ . .

-11- ภำพที่ 1 พ้ืนทเี่ ก็บตวั อย่างในเขตอุทยานประวตั ิศาสตร์ จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา ก. จดุ เกบ็ ตวั อยา่ งวัดพระศรสี รรเพชญ์ ข. จดุ เกบ็ ตัวอยา่ งวัดพระราม ค. จดุ เกบ็ ตวั อย่างวดั ไชยวฒั นาราม ง. จดุ เก็บตวั อยา่ งวัดใหญช่ ัยมงคล จ. จดุ เก็บตวั อย่างวัดพุทไธศวรรย์ ภำพท่ี 2 พืน้ ทเี่ ก็บตัวอย่างพิพิธภัณฑ์บัวมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี ก. แผนท่ภี ายในมหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี ข. พพิ ิธภัณฑ์บัวมหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี 2) ความหลากหลายทางชวี ภาพของสาหร่ายสีเขยี วแกมนา้ เงนิ และสาหรา่ ยสเี ขยี ว 2.1 การศึกษาดา้ นลกั ษณะทางสัณฐานวทิ ยา ทาสไลด์ด้วยวิธี wet mount และถ่ายรูปใต้กล้องจุลทรรศน์ จากนั้นระบุชนิดของสาหร่ายสีเขียว แกมนา้ เงนิ และสาหร่ายสีเขยี วด้วยขอ้ มลู ทางสณั ฐานวทิ ยา 2.2 การศกึ ษาลักษณะโครงสร้างทางโมเลกุล ทาการคัดแยกสาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงินและสาหร่ายสีเขียวชนิดต่าง ๆ ที่ได้นามาเลี้ยง ในอาหาร BG11 Agar และ Chlorella Agar ตามชนิดที่ระบุจากการศึกษาด้านสัณฐานวิทยา ใช้เทคนิค streak plate บน อาหาร BG11 agar หรือ Chlorella agar ตามชนิดของสาหร่าย ด้วยวิธี Aseptic technique ในตู้ปลอดเช้ือ

-12- (Laminar flow) ย่ีห้อ ESCO รุ่น HB 2436 แล้วนาไปวางใต้ไฟท่ีอุณหภูมิห้อง Re-streak จนเป็นเช้ือบริสุทธ์ิ เข่ีย โคโลนีเด่ียวมาเลี้ยงใน ขวดแก้ว (Glass vail) ท่ีมีอาหาร BG11 Broth ด้วยวิธี Aseptic technique นาไปเขย่าที่ เคร่ืองเขย่า (Incubator shaker) ย่ีห้อ N – BIOTEK รุ่น NB – 205 VL 160 rpm. จากนั้นทาสไลด์ด้วยวิธี wet mount และถ่ายรปู ใตก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ จากนน้ั ระบชุ นดิ ของสาหรา่ ยดว้ ยหนังสอื คยี ์ 2.3 การคัดเลอื กสาหร่ายสเี ขยี วแกมน้าเงนิ และสาหร่ายสีเขยี วทที่ นแสง UV ชนดิ ต่าง ๆ นาสาหร่ายที่ทาการคัดแยกได้มาทดสอบการเจริญเติบโตภายใต้แสงยูวี โดยใช้เทคนิคการ Drop Plate ดูดสารละลายตัวอย่าง 10 ไมโครลิตร หยดลงบนอาหาร BG11 agar หรือ Chlorella agar ตามชนิดของ สาหร่าย ด้วยวิธี Aseptic technique ในตู้ปลอดเชื้อ (Laminar flow) ยี่ห้อ ESCO รุ่น HB 2436 วางใต้หลอดไฟ ฟลูออเรสเซนต์ (ชุดควบคุม) และวางใต้UV (UVA, UVB และ UVC) โดยให้แสง 12 ช่ัวโมง และไม่ให้แสง 12 ช่ัวโมง บนั ทึกผลการเจรญิ เตบิ โตเปน็ เวลา 7 วนั เก็บผลการทดลอง วนั ท่ี 0, 1, 3, 5 และ 7 2.4 ระบชุ นดิ ของสาหรา่ ยสีเขียวแกมนา้ เงินและสาหรา่ ยสีเขียว นาสาหร่ายท่ีคัดแยกไว้เป็นโคโลนีเดียวท้ังในจานเพาะเชื้อ (Plate) และขวดแก้วเล็ก (vail) มา wet mo และถ่ายรูปใต้กล้องจลุ ทรรศน์ จากนนั้ ระบชุ นิดของสาหรา่ ยดว้ ยหนังสอื ท่ีเกย่ี งข้อง ผลกำรทดลอง จากการศึกษาความหลากหลายและการแยกสาหร่ายที่อาศัยอยู่สิ่งแวดล้อมที่มีรังสีอัลตราไวโอเลตสูง ในเขต อุทยานประวัติศาสตร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพิพิธภัณฑ์บัวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัด ปทุมธานี พบ 10 จีนัส 7 แฟมิล่ี ใน 2 ดิวิชัน สามารถคัดแยกในห้องปฏิบัติการได้ 9 ไอโซเลต ได้แก่ Phormidium sp. (NM01), Phormidium sp. (NM02), Pseudanabaena sp. (NM03), Oscillatoria sp (NM04), Lyngbya sp. (NM05), Chroococcidiopsis sp. (NM06), Chamydomonas sp. (NM07), Chlorella sp. (NM08) และ Chlorella sp. (NM09) จากนนั้ นาสาหร่ายท้ัง 9 สายพนั ธุ์ มาทดสอบความสามารถในการทน UV โดยนาสาหร่ายมา หยดลงบนอาหาร BG-11 และ Chlorella medium วางใต้ UV ชนิดต่างๆ UVA, UVB และ UVC เป็นเวลา 7 วันให้ แสง 12 ช่ัวโมง และไม่ให้แสง 12 ชั่วโมงพบว่ามี 6 สายพันธุ์ ที่สามารถเจริญเติบโตใต้แสง UV ท้ัง 3 ชนิด ได้แก่ Phormidium sp. (NM01), Phormidium sp. (NM02), Pseudanabaena sp. (NM03), Oscillatoria sp (NM04), Lyngbya sp. (NM05) และ Chroococcidiopsis sp. (NM06) และพบมี 1 สายพันธุ์ ท่ีสามารถ เจริญเติบโตได้ภายใต้การฉาย UVC เพียงอย่างเดียว คือ Chamydomonas sp. (NM07) จากน้ันจึงนาสารสกัด สาหร่ายสายพันธุ์ดังกล่าวมาศึกษา ช่วงดูดกลืนรังสี UV ปริมาณสารสีหรือรงควัตถุ ฤทธ์ิการต้านอนุมูลอิสระ และ ปริมาณฟีนอลรวม หลังการเพาะเล้ียงภายใต้รังสี UV เป็นเวลา 7 วันให้แสง 12 ช่ัวโมง และไม่ให้แสง 12 ช่ัวโมง พบวา่ สารสกัดสาหรา่ ยทุกสายพันธ์ุในการเล้ียงใต้ UV ทุกชนิดมีคุณสมบัติดูดซับรังสี UVC ซ่ึงอยู่ในช่วงความยาวคลื่น 100-280 นาโนเมตร การเพาะเลีย้ งสาหร่ายใต้ UV มีผลตอ่ ปริมาณการผลติ รงควตั ถุ พบว่า สาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงิน สายพันธ์ุ NM01 มีปรมิ าณการผลิตรงควัตถุมากท่ีสุด ทั้งคลอโรฟิลล์ เอ แคโรทีนอยด์ แอลโลไฟโคไซยานิน และไฟโค ไซยานิน สาหรับการเพราะเลี้ยงใต้แสงไฟปกติ ยังพบอีกว่าสาหร่ายสีเขียวแกมน้าเงินสายพันธ์ุ NM01 มีปริมาณสาร ต้านอนุมูลอิสระสูงท่ีสุดสาหรับการเพราะเล้ียงใต้หลอดดไฟฟลูออเรสเซนต์ (ชุดควบคุม) และสาหร่ายสีเขียวแกมน้า เงินสายพนั ธุ์ NM05 มีปริมาณปรมิ าณฟีนอลรวม สงู สุดสาหรับการเพาะเลีย้ งใตร้ งั สี UVC

-13- ภำพ 3 สาหร่ายท่ีคดั แยกได้ในหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร 1) Phormidium sp. (NM_01) 2) Phormidium sp. (NM_02) 3) Pseudanabaena sp. (NM_03) 4) Oscillatoria sp. (NM_04) ภำพ 4 การคัดแยกสาหร่ายในหอ้ งปฏิบตั ิการเพื่อการเกบ็ รักษา

-14- 6.4 งบประมำณทไ่ี ด้จ่ำยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถึง 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 0 280,000 บำท 2. งบประมำณท่ีใช้ไป 0 279,370 บำท 0 บาท 2.1 งบบคุ ลากร 0 630 บาท  ค่าตอบแทนนักวจิ ยั 0 บาท  คา่ ตอบแทนผูช้ ว่ ยนักวจิ ยั 5,355 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 บาท  ค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทาง 274,015 บาท  คา่ ใชจ้ า่ ยในการฝึกอบรม 0 บาท  ค่าจา้ งพิมพ์เอกสาร 0 บาท  คา่ ไปรษณีย์ โทรเลข คา่ โทรศัพท์ 0 บาท  ค่าวัสดอุ ปุ กรณ์ บาท บาท 2.3 งบลงทนุ (ถา้ มี) บำท  ค่าใชจ้ ่ายในการจัดซ้อื ครภุ ณั ฑ์/ส่ิงก่อสรา้ ง 2.4 ค่าสาธารณูปโภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ดร. สุทธวรรณ สุพรรณ หัวหนา้ โครงการ

-15- 2. ชื่อโครงกำรวจิ ัย : ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพของไส้เดอื นดินในพนื้ ทเ่ี กษตรเพอื่ กำรพัฒนำข้ำว และผกั อินทรียใ์ นพน้ื ท่ีชมุ ชน จังหวัดปทุมธำนี Diversity of terrestrial earthworms in agricultural area for development of organic rice and vegetable fields, Phathumthani province 1. ประเภทเงินอุดหนนุ โครงกำรวิจยั  โครงการวจิ ัยพืน้ ฐาน  โครงการวจิ ัยประยกุ ต์  โครงการวจิ ัยและพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ยั  ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพื่อสรา้ งองคค์ วามรู้  ผลผลติ ผลงานวจิ ัยเพอื่ ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยชอ่ื ผู้วิจัย 3.1 ดร. เอือ้ งฟ้า บรรเทาวงษ์ หัวหนา้ โครงการวิจยั 4. ไดร้ บั จดั สรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 215,000 บาท (สองแสนหน่ึงหม่ืนหา้ พันบาทถ้วน) 5. เร่มิ ทำกำรวจิ ัยเมื่อ 1 ต.ค. 2561 ถงึ 30 ก.ย. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเก่ียวกับผลงำนควำมก้ำวหน้ำของกำรวิจัย 6.1 วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพอื่ สนองพระราชดารโิ ครงการอนรุ กั ษ์พนั ธุกรรมพชื อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดารฯิ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพือ่ สรา้ งความตระหนักในการอนุรักษท์ รัพยากรท้องถิน่ ให้กบั บุคลากร นกั ศกึ ษาและบุคคล ทัว่ ไป6 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจยั ตำมทเี่ สนอไว้ในโครงกำรวิจยั กับงำนวิจัยทไ่ี ด้ดำเนินกำรไปแลว้ การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ทบทวนวรรณกรรม 2. วางแผนการทดลอง 3. เก็บตัวอย่างไสเ้ ดอื นและ ข้อมลู ด้านสง่ิ แวดล้อม 4. ตรวจสอบลกั ษณะสณั ฐาน วทิ ยาและกายวภิ าค 5. วิเคราะหต์ ัวอยา่ งดนิ 6. สรุปผลและจดั ทารายงาน 7. จัดอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวจิ ัยที่ไดด้ ำเนินกำรไปแล้ว คิดเป็นรอ้ ยละ...100...ของโครงการไดแ้ ก่ วิธกี ำรทดลอง 1) ตรวจสอบเอกสารการวจิ ัยทผี่ ่านมาและดาเนนิ การวเิ คราะห์ข้อมลู เบื้องต้น 2) เก็บตวั อย่างโดยสารวจไส้เดอื นในพ้ืนทีเ่ กษตรประเภทต่างๆ และพ้ืนท่ชี ุมชนในจังหวัดปทมุ ธานี โดยทาการ เกบ็ ตวั อย่างไส้เดือนดนิ แบบ visual encounter survey โดยเลอื กพืน้ ท่ีตัวอย่างใหค้ รอบคลุมทว่ั ทง้ั พืน้ ทีไ่ ด้แก่ พนื้ ที่ นาข้าว สวนปาล์ม สวนกลว้ ย แปลงผกั ประเภทตา่ งๆ แปลงไม้ดอกไม้ประดบั และพน้ื ท่ีชมุ ชน ในจงั หวัดปทมุ ธานี

-16- 3) การเก็บตัวอยา่ งไส้เดือนดิน โดยวิธกี ารขุดดนิ แลว้ แยกด้วยมอื ดัดแปลงจาก Edwards and Bohlen (1996) และ Julka (1988) ตัวอยา่ งไสเ้ ดอื นจะถูกเกบ็ รักษาและคงสภาพในฟอรม์ าลินเขม้ ข้น 5% เปน็ เวลา 24 ชว่ั โมง หลงั จากนน้ั จงึ เกบ็ รักษาไวใ้ น 95% เอทลิ แอลกอฮอล์ เพื่อศึกษาลักษณะทางสณั ฐานภายนอกและลักษณะทาง กายวิภาค (Stephenson, 1923; Gate, 1972; Sims and Easton, 1972) เพ่อื ระบุชนดิ ของไส้เดือนโดย เปรยี บเทยี บกบั เอกสารอ้างอิงของ Gates (1972) Sims and Easton (1972) และเอกสารอื่น ๆ ท่เี กี่ยวข้อง 4) เกบ็ ตวั อย่างดนิ จานวน 500 กรัม เพื่อนามาหาค่าความเปน็ กรด ดา่ งอณุ หภมู ิ ความช้นื โดยใชเ้ ครือ่ งวัด pH มเิ ตอร์ เทอโมมเิ ตอร์ และ ไฮโกรมเิ ตอร์ ตามลาดบั ทาการวิเคราะหล์ ักษณะทางกายภาพของดนิ ณ หอ้ งปฏิบัติการสาขาชวี วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มทร. ธัญบรุ ี ภำพท่ี 1 เกบ็ ตวั อย่างไส้เดือนในพื้นทีเ่ กษตรกรรมและพน้ื ที่ชุมชนในเขตจงั หวัดปทุมธานี ผลกำรทดลอง จากการการศึกษาความหลากหลายของไส้เดือนดนิ ในจงั หวัดปทุมธานีทัง้ ในพ้นื ท่ีเกษตรกรรมและพ้นื ที่ชุมชน โดยใชว้ ธิ กี ารขุด คดั แยกดว้ ยมอื และเกบ็ ตวั อย่างมาจดั จาแนกชนดิ พบไส้เดอื นจานวน 6 วงศ์ 17ชนิด ได้แก่ วงศ์ Almidae จานวน 2 ชนดิ คอื Glyphidrilus horsti และ Glyphidrilus sp. วงศ์ Eudrilidae จานวน 1 ชนดิ คือ Eudrilus eugeniae วงศ์ Glossoscolecidae จานวน 1 ชนดิ คือ Pontoscolex corethrurus วงศ์ Megascolecidae จานวน 10 ชนิด ได้แก่ Amynthas alexandri, A. Amynthas sp., Metaphire houlleti, M. peguana, M. posthuma, Metaphire sp. และ Polypheretima elongate, Lampito mauritii, Perionyx excavates, Perionyx sp. วงศ์ Moniligastridae จานวน 2 ชนิด ได้แก่ Drawida beddardi และ Drawida sp. และวงศ์ Octochaetidea จานวน 1 ชนิด ได้แก่ Dichogaster sp. ในจานวนนมี้ ไี ส้เดอื นที่ไมเ่ คยมีรายงานพบใน ประเทศไทยมาก่อนจานวน 6 ชนิด และพบไส้เดือนตา่ งถิน่ 2 ชนดิ คือ Pontoscolex corethrurus และ Eudrilus eugeniae

-17- ตำรำงท่ี 2 ชนดิ ไสเ้ ดือนที่พบในพ้นื ทตี่ ่างๆ ในเขตจังหวดั ปทุมธานี วงศ์ ชนิดไส้เดอื น ถ่ินอำศยั Almide Glyphidrilus horsti นาข้าว Glyphidrilus sp. นาข้าว Eudrilidae Eudrilus eugeniae แปลงผัก สวนผสม Glossoscolecidae Pontodrilus corethrurus ชุมชน สวนปาล์ม Megascolecidae Amynthas alexandri แปลงผกั Amynthas sp. ชุมชน Metaphire houlleti แปลงผกั Metaphire peguana ชมุ ชน Metaphire posthuma นาข้าว ชมุ ชน Metaphire sp. แปลงผกั Polypheretima elongata ชมุ ชน Lampito mauritii แปลงผัก สวนกล้วย สวนผสม Perionyx excavatus ถิ่นอำศัย ตำรำงที่ 2 ชนิดไส้เดือนท่ีพบในพ้ืนท่ตี า่ งๆ ในเขตจังหวัดปทุมธานี (ต่อ) สวนกล้วย สวนผสม นาข้าว วงศ์ ชนดิ ไส้เดอื น นาข้าว Moniligastridae Perionyx sp. ชมุ ชน Octochaetidea Drawida beddardi Drawida sp. Dichogaster sp.

-18- ภำพท่ี 2 ไส้เดอื นชนดิ ต่างๆ ท่พี บในพ้ืนท่ี 6.4 งบประมำณทีไ่ ดจ้ ่ำยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถึง 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 215,000 บำท 2. งบประมำณทใี่ ช้ไป 214,852 บำท บาท 2.1 งบบุคลากร 0 บาท  คา่ ตอบแทนนกั วจิ ยั 0 บาท  ค่าตอบแทนผชู้ ว่ ยนักวจิ ยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 0 บาท  ค่าใช้จา่ ยในการเดินทาง 4,100 บาท  ค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม 0 บาท  คา่ จา้ งพิมพเ์ อกสาร 0 บาท  ค่าไปรษณยี ์ โทรเลข คา่ โทรศพั ท์ 210,752 บาท  ค่าวสั ดุอุปกรณ์ 0 บาท 0 2.3 งบลงทนุ (ถ้ามี) บาท  คา่ ใช้จา่ ยในการจดั ซื้อครุภัณฑ์/ 0 บำท ส่งิ กอ่ สรา้ ง 148 2.4 คา่ สาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ดร. เอือ้ งฟ้า บรรเทาวงษ์ หวั หนา้ โครงการ

-19- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 ให้ดาเนินโครงการวิจัย ภายใต้กิจกรรมท่ี 2: กจิ กรรมสารวจเก็บรวบรวมทรัพยากร จานวน 30 โครงการ ไดแ้ ก่ 1. ชื่อโครงกำรวจิ ัย : กำรปรับปรงุ พันธแ์ุ บบมำตรฐำนและกำรกู้ชีพคพั ภะของบวั อุบลชำติ เขตรอ้ นบำนกลำงคืนของไทยสำยพนั ธ์แุ ม่พลอย Conventional breeding and embryo rescue of Thai Tropical Night- Blooming Nymphaea rubra Roxb. cv. ‘Maeploi’ (Nymphaea spp.) 1. ประเภทเงินอุดหนนุ โครงกำรวิจัย  โครงการวิจัยพนื้ ฐาน  โครงการวจิ ัยประยุกต์  โครงการวิจัยและพัฒนา 2. ผลผลติ งำนวิจัย  ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพ่ือสรา้ งองคค์ วามรู้  ผลผลิตผลงานวิจัยเพ่ือถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยชอื่ ผวู้ จิ ัย 3.1 นายอศิ ราพงษ์ แคนทอง หัวหนา้ โครงการวิจยั 3.2 ผศ.ดร. งามนิจ ช่นื บุญงาม ผู้ร่วมวิจัย 3.3 นางอัจฉรา เมืองครุธ ผูร้ ว่ มวจิ ยั 4. ได้รบั จดั สรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 100,000 บาท (หนงึ่ แสนบาทถว้ น) 5. เรม่ิ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กันยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกย่ี วกบั ผลงำนควำมกำ้ วหนำ้ ของกำรวจิ ัย 6.1 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพื่อสนองพระราชดาริโครงการอนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพชื อนั เนอ่ื งมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพื่อศึกษาลักษณะทางจีโนไทปข์ องบัวสายลกู ผสมที่ได้จากการปรับปรุงพนั ธแุ์ บบมาตรฐาน ด้วยเทคนิคทางอณูชวี วิทยา

-20- 6.2 กำรดำเนินงำนวจิ ยั ตำมทเ่ี สนอไว้ในโครงกำรวิจยั กบั งำนวจิ ยั ท่ไี ดด้ ำเนินกำรไปแล้ว การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. วางแผนการดาเนินการ (P_Plan) ผล 0.100 2. การดาเนินการจัดโครงการ (D_Do) 3. ตดิ ตามและประเมินผล การดาเนินงาน (C_Check) 4. ปรับปรุง/พัฒนา/แกไ้ ขจาก ผลการติดตามและประเมนิ ผล (A_Act) 5. แผนการเบกิ จา่ ยเงิน หน่วย : ล้านบาท (ทศนยิ ม 3 ตาแหน่ง) หมายเหตุ : แผน 6.3 ผลของกำรดำเนินกำรวิจยั ทีไ่ ด้ดำเนินกำรไปแลว้ คิดเปน็ รอ้ ยละ........90.....ของโครงการ ได้แก่ ไดว้ ิธีการตรวจสอบจโี นไทป์ของบัวสายลูกผสมที่ได้จากการปรบั ปรงุ พนั ธแ์ุ บบมาตรฐานด้วยเทคนิคทางอณู ชวี วทิ ยา ได้องค์ความรู้ทเี่ กี่ยวกับการตรวจสอบลักษณะทางจโี นไทป์ของบวั สายลูกผสมด้วยเทคนิคทางอณชู วี วทิ ยา พบวา่ มีตาแหน่งความแตกต่างทัง้ ส้ิน 2,455 SNPs ที่เป็น Homozygous และจัดอยู่ใน class 1 และ class 2 โดยแยกเป็นบัวสายสีขาว พบ 2,433 SNPs จาก 439 scaffold สามารถแยกเป็น class 1 มีจํา นวน 1,819 SNPs และ class 2 มีจานวน 614 SNPs ส่วนบัวสายสีแดง พบ 22 SNPs จาก 18 scaffold สามารถแยกเป็น class 1 มี จานวน 16 SNPs และ class 2 มีจานวน 6 SNPs จากข้อมูลข้างต้น สามารถกาหนดคุณลักษณะของ DNA marker ท่ีสามารถนามาใช้จาแนกสายพันธุ์ลูกผสมของบัวสายท่ีศึกษา คือ ใช้ข้อมูล SNPs ที่เป็น Homyzygous ระหว่างกัน, จัดอยู่ใน class 1 และ class 2 มาทาการออกแบบ Primer ที่มีความจาเพาะโดยคัดเลือกจากเป็นบริเวณ 18sRNA และ ITS อีกทั้งยังเป็น repeatative sequences และสามารถสังเคราะห์โปรตีนได้ โดยการทดลองนี้ใช้ Primer3 เป็นเครื่องมือในการออกแบบ Primer เพ่ือใช้ในการคัดเลือกบัวสายลูกผสม โดยกาหนด Product size อยู่ในช่วง ระหวา่ ง 100 ถึง 150 bp ได้คัดเลือกมาเป็นจานวนท้งั หมด 10 ตาแหน่ง ดงั ภาพ

-21- ภำพที่ 1 แสดงไพรเมอรส์ าหรบั ใช้ตรวจสอบบัวสายลูกผสมระหวา่ งบัวสายสขี าว และบวั สายสแี ดงที่ออกแบบได้จากการทดลอง 6.4 งบประมำณทีไ่ ดจ้ ่ำยไปแล้ว แยกตำมหมวดรำยจ่ำย (สารวจถึง 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 0 100,000 บำท 2. งบประมำณท่ีใชไ้ ป 0 94,400 บำท บาท 2.1 งบบคุ ลากร 0 0 บาท  คา่ ตอบแทนนกั วจิ ยั 85,600 0 บาท  ค่าตอบแทนผ้ชู ว่ ยนักวิจัย 4,000 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 80,000 บาท  ค่าใช้จ่ายในการเดนิ ทาง 10,400 4,000 บาท  ค่าจ้างเหมาตรวจสอบจีโนไทปบ์ วั สายลกู ผสม บาท  ค่าจา้ งพมิ พ์เอกสาร 0 0 บาท  คา่ ไปรษณยี ์ โทรเลข คา่ โทรศพั ท์ 10,400 บาท  ค่าวสั ดุอุปกรณ์ 100,000 บาท 0 บาท 2.3 งบลงทุน (ถ้ามี) บำท  ค่าใช้จ่ายในการจัดซือ้ ครภุ ณั ฑ์/สง่ิ ก่อสร้าง 5,600 2.4 ค่าสาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ นายอศิ ราพงษ์ แคนทอง หัวหนา้ โครงการ

-22- 2. ช่ือโครงกำรวิจัย : กำรปรับปรงุ พนั ธบุ์ ัวอบุ ลชำติเขตรอ้ นบำนกลำงคืนของไทยสำยพนั ธแ์ุ มพ่ ลอย ด้วยสำรยับย้ังกำรเจริญเติบโตของพืชบำงชนดิ Improvement of Thai Tropical Night - Blooming Nymphaea rubra Roxb. cv. ‘Maeploi’ using some plant growth retardants 1. ประเภทเงินอุดหนุนโครงกำรวจิ ัย  โครงการวจิ ัยพื้นฐาน  โครงการวจิ ยั ประยกุ ต์  โครงการวจิ ัยและพฒั นา 2. ผลผลิตงำนวิจัย  ผลผลิตผลงานวจิ ยั เพ่อื สรา้ งองค์ความรู้  ผลผลติ ผลงานวจิ ยั เพื่อถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยชอ่ื ผวู้ ิจัย 3.1 นายอิศราพงษ์ แคนทอง หวั หนา้ โครงการวิจัย 4. ได้รบั จดั สรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงินจานวน 100,000 บาท (หน่ึงแสนบาทถ้วน) 5. เรม่ิ ทำกำรวจิ ัยเม่ือ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กันยายน พ.ศ. 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกย่ี วกับผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวิจัย 6.1 วตั ถุประสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพือ่ สนองพระราชดาริโครงการอนรุ กั ษ์พันธุกรรมพืชอันเนอื่ งมาจากพระราชดารฯิ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอ่ื ปรบั ปรงุ พันธ์ุบัวสายแม่พลอยด้วยการใช้สารพาโคลบวิ ทราซอลในสภาพโรงเรือน 6.2 กำรดำเนนิ งำนวจิ ัยตำมทเ่ี สนอไวใ้ นโครงกำรวจิ ยั กับงำนวจิ ยั ท่ไี ดด้ ำเนนิ กำรไปแลว้ การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. เตรยี มตัวอย่างเมล็ดบวั สายพันธแ์ุ มพ่ ลอยสารเคมี และวสั ดอุ ุปกรณ์สาหรบั การวิจยั และค้นควา้ งานวจิ ัยท่ีเกย่ี วข้อง 2. ปีที่ 1 กจิ กรรมท่ี 1: การ เพาะเมลด็ บัวสายแม่พลอย ในสภาพโรงเรอื น 3. ปที ่ี 1 กิจกรรมท่ี 2: การ พัฒนาสารกระตนุ้ ที่ เหมาะสมสาหรับการเพาะ เมลด็ บวั สายแมพ่ ลอย 4. คา่ สาธารณปู โภค

-23- การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 5. ปีท่ี 1 กจิ กรรมที่ 3: การ พฒั นาสภาวะอุณหภูมทิ ่ี เหมาะสมสาหรับการเพาะ เมล็ดบัวสายแมพ่ ลอยและ การนาตน้ กลา้ ออกปลูกสู่ เรอื นอนบุ าล 6. เก็บข้อมลู ผลการทดลอง และวิเคราะห์ข้อมูลดว้ ย วิธกี ารทางสถติ ิเพอื่ การวิจยั และจัดทารายงานวจิ ัยฉบบั สมบูรณ์ 7. คา่ ลงทะเบียนสาหรบั การนาเสนอผลงานวจิ ยั ใน การประชมุ วชิ าการ 8. ค่าพิมพโ์ ปสเตอร์ ผลงานวิจยั และค่าพิมพ์ รายงานฉบบั สมบรู ณ์ หมายเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนินกำรวิจัยทีไ่ ด้ดำเนนิ กำรไปแลว้ คิดเปน็ ร้อยละ.....90...ของโครงการ ได้แก่ - ไดว้ ัตถุดบิ สารเคมีและอุปกรณท์ ่ีใชใ้ นงานวิจัย - ได้วธิ กี ารเพาะเมล็ดบวั สายแมพ่ ลอยและวธิ ีการใช้สารกระตุ้นท่ีเหมาะสมก่อนการเพาะเมล็ดบัวสายแม่ พลอย อยา่ งน้อย 1 วิธกี าร - ไดอ้ ณุ หภูมิท่เี หมาะสมสาหรบั เพาะเมลด็ บัวสายแมพ่ ลอย อย่างน้อย 1 วิธีการ - ได้ขอ้ มลู งานวิจัยทผ่ี า่ นการวิเคราะหผ์ ลทางสถิติ

-24- 6.4 งบประมำณท่ีได้จำ่ ยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 30,000 100,000 บำท 2. งบประมำณทใี่ ช้ไป 10,000 97,048.40 บำท 20,000 บาท 2.1 งบบุคลากร 62,548.40 2,951.60 บาท  คา่ ตอบแทนนกั วิจัย บาท  คา่ ตอบแทนผู้ชว่ ยนกั วจิ ยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 0 บาท  คา่ ใช้จ่ายในการเดินทาง 0 บาท  ค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม 62,548.40 บาท  ค่าจ้างพิมพ์เอกสาร 0 บาท  ค่าไปรษณยี ์ โทรเลข คา่ โทรศพั ท์ 0 บาท  ค่าวสั ดอุ ปุ กรณ์ 4,500 บาท บาท 2.3 งบลงทุน (ถ้ามี) บำท  คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดซอ้ื ครภุ ณั ฑ์/ส่งิ ก่อสร้าง 2.4 ค่าสาธารณูปโภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ นายอศิ ราพงษ์ แคนทอง หวั หนา้ โครงการ

-25- 3. ชอื่ โครงกำรวจิ ัย : ผลของนำ้ หมักชีวภำพจำกวัสดุบวั ตอ่ กำรเจริญเติบโตของบวั หลวงและบัวผนั Effective of Bio-Fertilizer from Waterlily Waste for Nelumbo nucifera Gaertn. and Nymphaea Growth 1. ประเภทเงนิ อดุ หนนุ โครงกำรวิจัย  โครงการวจิ ัยพ้ืนฐาน  โครงการวิจยั ประยุกต์  โครงการวิจยั และพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวิจัย  ผลผลิตผลงานวิจยั เพ่ือสรา้ งองคค์ วามรู้  ผลผลิตผลงานวิจัยเพือ่ ถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยชือ่ ผวู้ ิจัย 3.1 นางเยาวมาลย์ น้อยใหม่ หัวหนา้ โครงการวิจัย 3.2 ผศ.ดร.สมพร เพลินใจ ผู้ร่วมวจิ ยั 3.3 นายกฤษณะ กลดั แดง ผู้รว่ มวจิ ยั 4. ไดร้ ับจัดสรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงินจานวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถว้ น) 5. เรมิ่ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ตลุ าคม 2561 ถงึ 30 กันยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกีย่ วกบั ผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพอ่ื สนองพระราชดารโิ ครงการอนุรักษ์พนั ธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพือ่ ศึกษาวิธีการผลิตและคุณสมบัตทิ างเคมนี ้าหมักชีวภาพหัวเชือ้ จุลินทรีย์จากวัสดุบัว 6.1.3 เพื่อศึกษาผลของน้าหมักชีวภาพจากวสั ดุบวั ตอ่ การเจรญิ เติบโตของบวั หลวงราชนิ ีและบวั ผัน พันธุ์ฉลองขวัญ 6.2 กำรดำเนินงำนวจิ ยั ตำมที่เสนอไวใ้ นโครงกำรวิจัยกับงำนวิจยั ทไ่ี ดด้ ำเนนิ กำรไปแล้ว การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. จดั ซอื้ วัสดุ ต้นพันธุ์บวั สารเคมี และวัสดอุ ปุ กรณ์ทางการเกษตร 2. ดาเนินการปลูกต้นพันธุ์บวั หลวงราชนิ ีและบัวฉลองขวัญ 3. หมักนา้ หมกั ชีวภาพหวั เชอ้ื จุลนิ ทรีย์จากวสั ดุบวั 4. ตรวจวดั คุณสมบัตทิ างกายภาพ และปริมาณธาตุอาหารน้าหมกั ชวี ภาพ

-26- การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 5. เก็บข้อมูลผลของน้าหมัก ชวี ภาพจากวัสดบุ ัวตอ่ การ เจรญิ เติบโตของบวั หลวงราชนิ ี และบวั ผนั พนั ธุฉ์ ลองขวญั เป็น เวลา 3 เดอื น 6. สรุปผลดาเนินโครงการและ รายงานผลการวิจัย หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจัยที่ไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ คิดเป็นรอ้ ยละ..........95.............ของโครงการ ได้แก่ 6.3.1 ดาเนินการปลูกตน้ พันธ์บุ วั หลวงราชนิ แี ละบวั ฉลองขวัญ และหมักน้าหมกั ชีวภาพหัว เชื้อจลุ ินทรยี ์จากวัสดุบัว 6.3.2 ตรวจวดั คุณสมบัตทิ างกายภาพและปรมิ าณธาตอุ าหารนา้ หมักชวี ภาพ 6.3.3 ทดสอบผลนา้ หมักชีวภาพจากวสั ดุบวั ตอ่ การเจริญเติบโตของบัวหลวงราชนิ แี ละบัวผนั พันธ์ุ ฉลองขวญั และเก็บขอ้ มลู การเจรญิ เติบโต เปน็ ระยะเวลา 3 เดือน 6.3.4 วิเคราะหข์ ้อมลู สรปุ ผลการดาเนินโครงการ 6.4 งบประมำณทไี่ ดจ้ ่ำยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจ่ำย (สารวจถงึ 30 กันยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 100,000 บำท 2. งบประมำณท่ใี ชไ้ ป 99,712 บำท 0 บาท 2.1 งบบคุ ลากร 0 บาท  ค่าตอบแทนนักวิจยั 0 บาท  คา่ ตอบแทนผชู้ ว่ ยนกั วจิ ยั 0 บาท 0 53,712 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 บาท  คา่ ใชส้ อย 0 บาท  คา่ ใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม 0 บาท  ค่าจ้างพิมพ์เอกสาร 0 46,000 บาท  คา่ ไปรษณีย์ โทรเลข ค่าโทรศพั ท์ 0 บาท  ค่าวสั ดุ 0 บาท 2.3 งบลงทนุ (ถา้ มี) 0 บาท  ค่าใช้จา่ ยในการจดั ซอ้ื ครภุ ัณฑ์/ 288 บำท ส่ิงก่อสร้าง 2.4 คา่ สาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ

-27- 7.5 งำนทจ่ี ะทำต่อไปและกำหนดเวลำดำเนินกำร การดาเนินงาน 2562 2563 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. จดั ทารายงานผลการวจิ ยั และสง่ เลม่ รายงานโครงการวจิ ยั 7.6 คำชีแ้ จงเพ่ิมเติม เน่ืองจากน้าหมกั ชีวภาพหวั เชอ้ื จุลินทรยี จ์ ากวัสดุบวั เปน็ นา้ หมักท่ีมีสภาพเปน็ ของเหลว เม่ือตรวจ วเิ คราะห์ปริมาณธาตุอาหารของนา้ หมักชีวภาพ พบว่าปริมาณธาตอุ าหารหลกั (N, P และ K) และธาตุอาหารรองของ พชื (Ca, Mg, Na, Cu, Fe, Zn และ S) นอ้ ยกวา่ เกณฑม์ าตรฐานปุ๋ยหมกั อนิ ทรยี ์ จงึ ต้องทาการตรวจวิเคราะหป์ ริมาณ ความเข้มขน้ ของของแขง็ ท่ลี ะลายไดใ้ นนา้ (Total dissolved solid, TDS) ของนา้ หมักชวี ภาพหวั เชือ้ จลุ นิ ทรียจ์ าก วสั ดบุ ัว เพอ่ื ทราบปริมาณของแข็งท่มี ีอยู่ในนา้ ซง่ึ จะประกอบด้วยสารอนิ ทรีย์ทล่ี ะลายน้าได้ (dissolved organic matter) สารอินทรียท์ แี่ ขวนลอย (particulate organic matter) สารอนินทรีย์ที่ละลายนา้ ได้ (dissolved inorganic substances) ปรมิ าณของแขง็ ประเภทต่างๆ ในน้าเหล่านี้เปน็ สาเหตสุ าคัญที่ไปขดั ขวางการส่องผา่ นของ แสงลงไปในนา้ ถ้าหากมขี องแขง็ ปะปนมาก มีผลให้การสงั เคราะห์แสงของพืชลดน้อยตามไปดว้ ย นางเยาวมาลย์ นอ้ ยใหม่ หัวหนา้ โครงการ

-28- 4. ช่ือโครงกำรวจิ ัย : กำรพัฒนำผลิตภัณฑไ์ รซ์เบอร์รเี่ ฟลกปลอดกลูเตนโดยกำรใช้แป้งกล้วยทดแทน แปง้ สำลี Development of Gluten Free Riceberry Flake Product using Banana Flour Substituted for Wheat Flour 1. ประเภทเงนิ อุดหนุนโครงกำรวิจยั  โครงการวิจยั พื้นฐาน  โครงการวจิ ยั ประยกุ ต์  โครงการวจิ ยั และพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวจิ ัย  ผลผลติ ผลงานวจิ ยั เพ่ือสร้างองคค์ วามรู้  ผลผลติ ผลงานวิจยั เพ่อื ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยชอื่ ผู้วจิ ัย 3.1 ดร.ลลิตา ศริ ิวฒั นานนท์ หวั หนา้ โครงการวจิ ัย 3.2 ดร.นวพร ลาภส่งผล ผรู้ ่วมวิจัย 4. ได้รบั จดั สรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงนิ จานวน 410,000 บาท (สี่แสนหนึง่ หม่ืนบาทถว้ น) 5. เรมิ่ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ตลุ าคม 2561 ถงึ 30 กนั ยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกย่ี วกับผลงำนควำมกำ้ วหนำ้ ของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถปุ ระสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพื่อสนองพระราชดาริโครงการอนุรกั ษ์พันธุกรรมพืชอันเนอื่ งมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2. เพ่ือศึกษาคุณสมบตั ิของแปง้ กลว้ ยจากกล้วยชนิดตา่ งๆ ในจงั หวดั ปทมุ ธานี 6.1.3 เพ่ือพัฒนาผลิตภัณฑ์ไรซเ์ บอรเ่ี ฟลกปลอดกลเู ตนดว้ ยการทดแทนขา้ วไรซเ์ บอรี่ดว้ ยแปง้ กลว้ ย 6.2 กำรดำเนนิ งำนวิจัยตำมที่เสนอไว้ในโครงกำรวจิ ัยกบั งำนวจิ ยั ท่ีได้ดำเนนิ กำรไปแล้ว การดาเนนิ งาน 2561 2562 ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. 1. กาหนดแผนดาเนินการใน รายละเอยี ด 2. รวบรวมเอกสารทเ่ี กีย่ วขอ้ ง และนาผลการวิจัยดา้ นต่างๆ มาเชอื่ มโยงองค์ความรู้เข้า ด้วยกนั 3. สารวจพ้ืนทเ่ี พ่ือให้ไดว้ ตั ถุดิบ 4. ทาการทดลอง 5. วเิ คราะหแ์ ละเปรยี บเทยี บ ผลการทดลอง 6. ประมวลผลขอ้ มลู 7. จดั ทารายงานความกา้ วหนา้ 8. จัดทารายงานฉบบั สมบูรณ์ หมำยเหตุ : แผน ผล

-29- 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวจิ ยั ท่ีไดด้ ำเนนิ กำรไปแลว้ คิดเป็นรอ้ ยละ...100....ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 ทราบคุณสมบัติของแป้งกลว้ ยจากกลว้ ยหอมและกลว้ ยนา้ ว้า 6.3.2 ได้ผลิตภณั ฑ์ไรซ์เบอร่ีเฟลกจากแปง้ ข้าวไรซ์เบอรีแ่ ละแปง้ กล้วย ภำพที่ 1 ผลิตภณั ฑ์ไรซเ์ บอรเี่ ฟลก 6.4 งบประมำณที่ไดจ้ ่ำยไปแล้ว แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 0 410,000 บำท 2. งบประมำณที่ใชไ้ ป 0 404,905 บำท 0 บาท 2.1 งบบุคลากร 0 5,095 บาท  ค่าตอบแทนนักวิจยั 0 บาท  ค่าตอบแทนผชู้ ว่ ยนกั วจิ ัย 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 0 บาท  คา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทาง 404,905 บาท  คา่ ใช้จา่ ยในการฝึกอบรม 0 บาท  คา่ จา้ งพิมพเ์ อกสาร 0 บาท  คา่ ไปรษณยี ์ โทรเลข ค่าโทรศัพท์ 0 บาท  ค่าวสั ดอุ ุปกรณ์ บาท บาท 2.3 งบลงทุน (ถา้ มี) บำท  คา่ ใชจ้ ่ายในการจดั ซื้อครุภัณฑ์/สิ่งก่อสรา้ ง 2.4 ค่าสาธารณูปโภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ดร. ลลติ า ศริ ิวฒั นานนท์ หวั หนา้ โครงการ

-30- 5. ชอื่ โครงกำรวิจัย : กำรพัฒนำผลติ ภณั ฑอ์ ำหำรจำกกลว้ ยเพื่อเพมิ่ มูลคำ่ Development of Banana Food Products for Value Added 1. ประเภทเงินอดุ หนุนโครงกำรวจิ ัย  โครงการวิจัยพ้ืนฐาน  โครงการวิจัยประยุกต์  โครงการวจิ ยั และพฒั นา 2. ผลผลติ งำนวิจัย  ผลผลติ ผลงานวิจัยเพอ่ื สรา้ งองคค์ วามรู้  ผลผลิตผลงานวจิ ัยเพอ่ื ถา่ ยทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่ือผวู้ ิจัย 3.1 ผศ. ประดษิ ฐ์ คาหนองไผ่ หัวหนา้ โครงการวจิ ยั 4. ได้รบั จัดสรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถว้ น) 5. เริ่มทำกำรวจิ ัยเม่ือ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กันยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกีย่ วกับผลงำนควำมกำ้ วหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถุประสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพ่ือสนองพระราชดารโิ ครงการอนรุ กั ษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดารฯิ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพ่อื ศึกษาเทคโนโลยีการผลติ และการเก็บรักษากล้วยน้าวา้ ทอดกรอบปรุงรสต้นแบบ 2 รสชาติ 6.1.3 เพอื่ ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลติ และการเก็บรักษากล้วยนา้ วา้ ทอดกรอบปรุงรส ให้กบั ชุมชน ในพนื้ ท่ีจงั หวดั ปทุมธานี 6.2 กำรดำเนนิ งำนวจิ ัยตำมทเี่ สนอไวใ้ นโครงกำรวิจัยกับงำนวจิ ัยท่ีไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ศึกษาความหนาของช้นิ กลว้ ยก่อนการทอดและเวลา ในการอบไล่นา้ มันต่อคณุ ภาพ ของกลว้ ยนา้ ว้าทอดกรอบ 2. การพัฒนากล้วยนา้ วา้ ทอด กรอบปรงุ รส 3. การศกึ ษาอายกุ ารเกบ็ รักษากลว้ ยน้าวา้ ทอดกรอบ ปรงุ รส 4. สรปุ องค์ความรแู้ ละ เทคโนโลยกี ารผลติ และการ เก็บรกั ษากลว้ ยนา้ วา้ ทอด กรอบปรุงรสทงั้ 2 รสชาติ 5. การเตรยี มการและลงพื้นที่ ถา่ ยทอดองคค์ วามรู้และ เทคโนโลยีการผลติ และการ

-31- การดาเนินงาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. เกบ็ รักษากล้วยนา้ วา้ ทอด กรอบปรงุ รสทง้ั 2 รสชาติ ใหก้ บั กลมุ่ เป้าหมาย 6. จดั ทาเลม่ วิจยั ฉบบั สมบรู ณ์ หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวิจยั ท่ไี ด้ดำเนินกำรไปแล้ว คิดเป็นรอ้ ยละ..........100.....ของโครงการ ได้แก่ 6.3.1 ศึกษาความหนาของช้ินกล้วยก่อนการทอดและเวลาในการอบไล่น้ามันต่อคุณภาพของกล้วย น้าว้าทอดกรอบ การศึกษาความหนาและระยะเวลาในการอบไล่น้ามันในกระบวนการผลิตกล้วยน้าว้าทอดกรอบ ที่ ความหนา 1 2 และ 3 มิลลเิ มตร ทอดทอี่ ณุ หภูมิ 160 องศาเซลเซียส และอบไล่น้ามันที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เวลา 10 นาที และ 20 นาที พบว่าสภาวะที่เหมาะสมคือ ใช้กล้วยน้าว้าทอดกรอบท่ีมีชิ้นหนา 1 มิลลิเมตร และอบไล่ น้ามนั 10 นาที จะไดก้ ล้วยทอดกรอบทม่ี สี ีเหลอื งทอง มกี ล่นิ กล้วยและกลิ่นน้ามนั ที่ใช้ทอด ลกั ษณะเป็นแผ่นชิ้นบาง มี ไขมัน 31.80 % และความช้ืน 4.29 % ผู้ทดสอบให้การยอมรับสูง จึงเลือกสภาวะดังกล่าวไปทาการพัฒนาเป็นกล้วย น้าวา้ ทอดกรอบปรุงรสต่อไป 6.3.2 การพัฒนากลว้ ยนา้ ว้าทอดกรอบปรุงรส การศึกษาการพัฒนากล้วยน้าว้าทอดกรอบปรุงรส พบว่า กล้วยทอดกรอบรสชีส รสหวาน รสปา ปริก้า รสต้มยาได้รับการยอมรับของผู้บริโภคสูงไม่แตกต่างกัน แต่จากการสารวจตลาดพบว่ารสชาติที่มียอดการ จาหน่ายมากทีส่ ดุ คือรสหวานและรสเคม็ จึงได้นากลว้ ยนา้ วา้ ทอดกรอบรสหวานและรสเค็มไปหาคุณค่าทางโภชนาการ พบวา่ กลว้ ยนา้ ว้าทอดกรอบรสหวานมปี รมิ าณเสน้ ใย โปรตนี ไขมัน ความชนื้ เถ้าและคาร์โบไฮเดรต 4.34 1.81 25.84 3.47 1.47 และ 63.06 % ตามลาดับ ส่วนรสเค็มมีค่าเท่ากับ 3.94 1.63 29.05 3.46 2.77 และ 59.15 % ตามลาดบั 6.3.3 การศกึ ษาอายุการเกบ็ รักษากลว้ ยนา้ ว้าทอดกรอบปรุงรส การเก็บรักษากล้วยทอดกรอบรสหวาน 6 สัปดาห์ พบว่าถุงอะลูมิเนียมฟอยล์ ถุง Orient Poly Propylene ชนิดขนุ่ แบบซิปล็อค และถุงกระดาษคราฟท์เคลือบฟิล์มพลาสติกแบบซิปล็อค สามารถเก็บรักษาได้นาน 4 สปั ดาห์ สว่ นถงุ Polypropylene หนาพเิ ศษ เก็บรกั ษาไดน้ าน 3 สปั ดาห์\\ การศึกษาการเก็บรักษากล้วยทอดกรอบรสเค็ม 6 สัปดาห์ พบว่าถุงกระดาษคราฟท์เคลือบฟิล์ม พลาสตกิ แบบซปิ ลอ็ ค และถุง Polypropylene หนาพิเศษ เก็บรักษาได้นาน 3 สัปดาห์ ส่วนถุงอะลูมิเนียมฟอยล์และ ถงุ Orient Poly Propylene ชนิดขนุ่ แบบซิปล็อค สามารถเกบ็ รกั ษาได้นาน 4 สัปดาห์ 6.3.4 สรุปองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตและการเก็บรักษากล้วยน้าว้าทอดกรอบปรุงรสทั้ง 2 รสชาติ 6.3.5 การเตรียมการและลงพ้ืนที่ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตและการเก็บรักษา กล้วยนา้ วา้ ทอดกรอบปรงุ รสทงั้ 2 รสชาตใิ หก้ ับกลมุ่ เปา้ หมาย 6.3.6 จัดทาเลม่ วิจัยฉบับสมบรู ณ์

-32- ปรมิ ำณเพอร์ออกไซด์ของกล้วยทอดกรอบรสหวำน 45.00 40.00 ปริมำณเพอร์ออกไซ ์ด (mg/kg) 35.00 30.00 25.00 20.00 15.00 10.00 5.00 0.00 สปั ดา1ห์ที่ 1 สัปดา2ห์ท่ี 2 สัปดา3ห์ท่ี 3 สปั ดา4ห์ที่ 4 สปั ดา5หท์ ่ี 5 สปั ดา6หท์ ี่ 6 PP 9.33 16.67 19.33 30.67 38.00 40.67 OPP 9.33 12.00 16.00 28.00 36.00 41.33 Kraft 8.67 12.00 20.00 30.00 39.33 41.33 Foil 8.67 10.67 15.33 22.00 39.33 40.00 STD 30.00 30.00 30.00 30.00 30.00 30.00 ภำพที่ 1 กราฟแสดงความสัมพันธข์ องปริมาณเพอร์ออกไซดท์ เ่ี กดิ ข้นึ เปรียบเทียบกบั มาตรฐาน ชมุ ชนของกลว้ ยทอดกรอบรสหวาน

-33- ปรมิ ำณเพอร์ออกไซด์ของกลว้ ยทอดกรอบรสเคม็ 45.00 40.00 ป ิรมำณเพอ ์รออกไซ ์ด (mg/kg) 35.00 30.00 25.00 20.00 15.00 10.00 5.00 0.00 สัปดา1หท์ ี่ 1 สัปดา2หท์ ่ี 2 สปั ดา3ห์ที่ 3 สัปดา4ห์ท่ี 4 สัปดา5ห์ท่ี 5 สัปดา6ห์ที่ 6 PP 10.00 18.00 18.67 32.00 34.00 40.00 OPP 8.67 10.67 14.67 26.00 34.37 38.67 Kraft 9.33 12.67 18.67 30.67 40.67 41.33 Foil 8.67 10.00 12.67 21.33 36.00 40.00 STD 30.00 30.00 30.00 30.00 30.00 30.00 ภำพที่ 2 กราฟแสดงความสัมพันธข์ องปริมาณเพอรอ์ อกไซดท์ ีเ่ กิดข้ึนเปรยี บเทยี บกับมาตรฐาน ชุมชนของกล้วยทอดกรอบรสเคม็ หมำยเหตุ PP = Polypropylene หนาพเิ ศษ OPP = Orient Poly Propylene ชนิดขุ่นแบบซิปล็อค Kraft = ถุงกระดาษคราฟทเ์ คลือบฟลิ ม์ พลาสติกแบบซปิ ล็อค Foil = ถงุ อะลูมเิ นยี มฟอยล์ STD = มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน

-34- PP OPP หมำยเหตุ Kraft Foil ภำพ 3 บรรจุภัณฑท์ ใ่ี ช้ในการทดสอบการเก็บรักษากลว้ ยนา้ วา้ ทอดกรอบ PP = Polypropylene หนาพิเศษ OPP = Orient Poly Propylene ชนดิ ขุ่นแบบซปิ ล็อค Kraft = ถงุ กระดาษคราฟทเ์ คลอื บฟลิ ์มพลาสติกแบบซิปล็อค Foil = ถงุ อะลูมิเนียมฟอยล์ STD = มาตรฐานผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน

-35- 6.4 งบประมำณท่ไี ด้จำ่ ยไปแลว้ แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถงึ 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 200,000 บำท บำท 2. งบประมำณท่ีใชไ้ ป 191,000 บาท บาท 2.1 งบบคุ ลากร - บาท บาท คา่ ตอบแทนนักวจิ ัย - บาท บาท ค่าตอบแทนผ้ชู ่วยวิจัย - บาท บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 191,000 บาท บาท คา่ ใชจ้ ่ายในการเดนิ ทาง - บาท บาท คา่ ใช้จา่ ยในการฝกึ อบรม 96,800 บำท ค่าจา้ งพิมพเ์ อกสาร - คา่ ไปรษณีย์ โทรเลข คา่ โทรศัพท์ - ค่าวสั ดุอปุ กรณ์ 94,200 2.3 งบลงทุน (ถ้าม)ี - คา่ ใชจ้ า่ ยในการซ้อื ครุภัณฑ/์ ส่ิงก่อสรา้ ง - 2.4 ค่าสาธารณูปโภค 5% - 3. งบประมำณคงเหลือ 9,000 ผศ. ประดิษฐ์ คาหนองไผ่ หวั หนา้ โครงการ

-36- 6. ช่ือโครงกำรวิจัย : กำรพัฒนำคณุ ภำพบรรจภุ ัณฑย์ อ่ ยสลำยตำมธรรมชำตจิ ำกใยบัว QUALITY IMPROVEMENT OF BIODEGRADABLE PACKAGE FROM LOTUS FIBER 1. ประเภทเงนิ อดุ หนนุ โครงกำรวิจยั  โครงการวจิ ยั พนื้ ฐาน  โครงการวิจยั ประยุกต์  โครงการวิจัยและพฒั นา 2. ผลผลิตงำนวจิ ยั  ผลผลิตผลงานวิจยั เพ่อื สร้างองคค์ วามรู้  ผลผลติ ผลงานวจิ ัยเพือ่ ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่อื ผวู้ จิ ัย 3.1 ผศ.ดร.นันทช์ นก นันทะไชย หวั หนา้ โครงการวิจยั 3.2 ผศ.ดร.อนิ ทิรา ลจิ นั ทรพ์ ร ผูร้ ว่ มวจิ ัย 3.3 ผศ.ดร.ปาลดิ า ตัง้ อนุรัตน์ ผูร้ ่วมวจิ ัย 3.4 ผศ.ภรู นิ ทร์ อัครกุลธร ผู้รว่ มวจิ ยั 4. ไดร้ บั จัดสรรงบประมำณ  งบประมาณรายจา่ ยประจาปี 2562 เป็นเงินจานวน 230,000 บาท (สองแสนสามหมืน่ บาทถ้วน) 5. เรมิ่ ทำกำรวจิ ัยเมื่อ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กนั ยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเก่ียวกบั ผลงำนควำมก้ำวหน้ำของกำรวจิ ัย 6.1 วัตถุประสงค์ของโครงกำร 6.1.1 เพ่ือสนองพระราชดารโิ ครงการอนุรักษ์พันธกุ รรมพชื อันเนื่องมาจากพระราชดาริฯ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอื่ ศึกษาความเข้มข้นของสารเติมแตง่ (ไคโตซาน และแป้งมันสาปะหลัง) ท่เี หมาะสมต่อการ ข้ึนรูปบรรจุภณั ฑก์ ระดาษจากใยบวั 6.1.3 เพอ่ื ศึกษาอตั ราสว่ นของสารเติมแต่ง (ไคโตซาน และแป้งมนั สาปะหลัง) ทีเ่ หมาะสมตอ่ การข้นึ รูปบรรจุภัณฑ์กระดาษจากใยบัว 6.1.4 การศึกษาอัตราสว่ นระหว่างเส้นใยและสารเตมิ แต่ง (ไคโตซาน และแป้งมนั สาปะหลัง) ที่ เหมาะสมต่อการข้นึ รปู บรรจุภณั ฑก์ ระดาษจากใยบัว 6.2 กำรดำเนินงำนวจิ ัยตำมทเี่ สนอไว้ในโครงกำรวจิ ัยกับงำนวจิ ยั ที่ไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. เตรียมแผนงานการทดลอง 2. เตรยี มอุปกรณ์และสารเคมี 3. ทาการทดลอง 4. วเิ คราะหผ์ ลการทดลอง 5. เขยี นรายงาน สรุปผลและ จดั ทารายงานฉบบั สมบรู ณ์ หมำยเหตุ : แผน ผล

-37- 6.3 ผลของกำรดำเนินกำรวจิ ัยท่ีได้ดำเนินกำรไปแล้ว คิดเปน็ ร้อยละ.....100....ของโครงการ ได้แก่ 6.3.1 ผลกำรศึกษำควำมเขม้ ข้นของสำรเตมิ แตง่ ที่เหมำะสมต่อกำรขึ้นรปู กระดำษจำกใบบัว (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ฉ) (ช) (ซ) (ฌ) ภำพท่ี 1 ลกั ษณะของกระดาษจากใบบัวหลวงใช้สารเติมแตง่ ท่ีแตกตา่ งกัน ดังน้ี (ก) ไคโตซาน 1 % แปง้ มันสาปะหลงั 10 % (ข) ไคโตซาน 3 % แปง้ มันสาปะหลัง 10 % (ค) ไคโตซาน 5 % แปง้ มนั สาปะหลัง 10 % (ง) ไคโตซาน 1 % แป้งมนั สาปะหลงั 20 % (จ) ไคโตซาน 3 % แป้งมันสาปะหลัง 20 % (ฉ) ไคโตซาน 5 % แป้งมนั สาปะหลัง 20 % (ช) ไคโตซาน 1 % แปง้ มันสาปะหลัง 30 % (ซ) ไคโตซาน 3 % แป้งมนั สาปะหลงั 30 % (ฌ) ไคโตซาน 5 % แปง้ มนั สาปะหลงั 30 %

-38- (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ฉ) (ช) (ซ) (ฌ) ภำพท่ี 2 เสน้ ใยของกระดาษจากใบบัวหลวงใชค้ วามเข้มข้นของสารเติมแตง่ ทแ่ี ตกต่างกัน โดยการสอ่ งกล้องจลุ ทรรศนก์ าลังขยาย 4X (ก) ไคโตซาน 1 % แปง้ มนั สาปะหลัง10 % (ข) ไคโตซาน 3 % แป้งมนั สาปะหลัง 10 % (ค) ไคโตซาน 5 % แปง้ มนั สาปะหลงั 10 % (ง) ไคโตซาน 1 % แป้งมันสาปะหลัง 20 % (จ) ไคโตซาน 3 % แปง้ มนั สาปะหลัง 20 % (ฉ) ไคโตซาน 5 % แปง้ มันสาปะหลงั 20 % (ช) ไคโตซาน 1 % แป้งมนั สาปะหลงั 30 % (ซ) ไคโตซาน 3 % แป้งมนั สาปะหลงั 30 % (ฌ) ไคโตซาน 5 % แปง้ มันสาปะหลงั 30 %

-39- 6.3.2 ผลกำรศึกษำอัตรำสว่ นของสำรเตมิ แตง่ ทเ่ี หมำะสมต่อกำรขึน้ รปู กระดำษจำก ใบบัว (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (จ) ภำพท่ี 3 ลักษณะของกระดาษจากใบบวั หลวงใช้อัตราส่วนของสารเติมแต่งทแ่ี ตกตา่ งกนั (ก) อัตราส่วนของไคโตซาน แปง้ มนั สาปะหลงั และกลีเซอรอล เท่ากับ 1:1:0.25 (ข) อัตราส่วนของไคโตซาน แปง้ มันสาปะหลงั และกลีเซอรอล เท่ากบั 2:1:0.25 (ค) อัตราสว่ นของไคโตซาน แป้งมนั สาปะหลัง และกลีเซอรอล เท่ากบั 1:2:0.25 (ง) อัตราสว่ นของไคโตซาน แป้งมนั สาปะหลงั และกลีเซอรอล เทา่ กับ 1:1:0.5 (จ) อตั ราสว่ นของไคโตซาน แปง้ มนั สาปะหลัง และกลีเซอรอล เท่ากบั 2:1:0.5 (ฉ) อตั ราสว่ นของไคโตซาน แป้งมันสาปะหลัง และกลเี ซอรอล เทา่ กับ 1:2:0.5

-40- (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) (ฉ) ภำพท่ี 4 เสน้ ใยของกระดาษจากใบบัวหลวงใช้อตั ราสว่ นของสารเติมแตง่ ที่แตกตา่ งกนั โดยการส่องกล้องจลุ ทรรศน์กาลังขยาย 4X (ก) อตั ราสว่ นของไคโตซาน แปง้ มนั สาปะหลงั และกลเี ซอรอล เทา่ กับ 1:1:0.25 (ข) อัตราสว่ นของไคโตซาน แปง้ มนั สาปะหลงั และกลีเซอรอล เทา่ กับ 2:1:0.25 (ค) อัตราสว่ นของไคโตซาน แป้งมนั สาปะหลัง และกลเี ซอรอล เท่ากบั 1:2:0.25 (ง) อตั ราสว่ นของไคโตซาน แป้งมนั สาปะหลงั และกลีเซอรอล เทา่ กบั 1:1:0.5 (จ) อัตราสว่ นของไคโตซาน แปง้ มันสาปะหลงั และกลีเซอรอล เทา่ กบั 2:1:0.5 (ฉ) อัตราส่วนของไคโตซาน แป้งมันสาปะหลงั และกลเี ซอรอล เท่ากับ 1:2:0.5

-41- 6.3.3 ผลกำรศึกษำอัตรำส่วนระหว่ำงเส้นใยและสำรเติมแต่งที่เหมำะสมต่อกำรขึ้นรูปกระดำษ จำกใบบัว (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) ภำพที่ 5 ลักษณะของกระดาษจากใบบวั หลวงใชอ้ ตั ราส่วนระหวา่ งเสน้ ใยและสารเติมแต่งท่แี ตกต่างกนั (ก) เส้นใยและสารเติมแต่ง 1:1 (ข) เสน้ ใยและสารเตมิ แต่ง 2:1 (ค) เส้นใยและสารเติมแตง่ 3:1 (ง) เสน้ ใยและสารเตมิ แต่ง 4:1 (จ) เส้นใยและสารเติมแต่ง 5:1

-42- (ก) (ข) (ค) (ง) (จ) ภำพที่ 6 เสน้ ใยของกระดาษจากใบบวั หลวงใชอ้ ัตราสว่ นระหว่างเส้นใยและสารเติมแต่งทแ่ี ตกต่างกัน โดยการสอ่ งกล้องจลุ ทรรศน์กาลงั ขยาย 4X (ก) เส้นใยและสารเติมแต่ง 1:1 (ข) เส้นใยและสารเติมแต่ง 2:1 (ค) เสน้ ใยและสารเตมิ แต่ง 3:1 (ง) เส้นใยและสารเตมิ แต่ง 4:1 (จ) เส้นใยและสารเติมแต่ง 5:1 สรปุ ผล 1. ผลการศกึ ษาความเข้มข้นของสารเติมแต่งท่ีเหมาะสมต่อการขึ้นรูปกระดาษจากใบบัว พบว่า ความเข้มข้น ของไคโตซาน และแป้งมันสาปะหลัง ไม่มีผลต่อน้าหนักของกระดาษ แต่มีผลต่อความหนาและการดูดซึมน้าของ กระดาษจากใบบัวหลวง โดยกระดาษมีค่าการดูดซึมของน้าอยู่ระหว่าง 4.87 – 8.37 g/m2 กระดาษใบบัวที่ใช้ไคโต ซานและแป้งมันสาปะหลังร้อยละ 1 และ 30 ตามลาดับ เป็นสารเติมแต่ง มีค่าการดูดซึมของน้าต่าท่ีสุด ในขณะท่ี กระดาษใบบัวทีใ่ ช้ไคโตซานและแป้งมันสาปะหลังร้อยละ 5 และ 20 ตามลาดับ มีค่าการดูดซึมของน้าสูงที่สุด การใช้ ไคโตซานและแปง้ มันสาปะหลงั ที่ระดับความเขม้ ขน้ แตกตา่ งกันไม่ผลต่อค่า pH ค่าสี และลักษณะปรากฏของกระดาษ ใบบวั หลวง ดงั น้นั ไคโตซานความเขม้ ข้นร้อยละ 1 และแปง้ มนั สาปะหลังความเข้มขน้ ร้อยละ 30 จึงเป็นความเข้มข้นท่ี เหมาะสมสาหรับการขึ้นรปู กระดาษมากทสี่ ุด 2. ผลการศึกษาอัตราส่วนของสารเติมแต่งที่เหมาะสมต่อการข้ึนรูปกระดาษจากใบบัว พบว่า กระดาษใบบัว หลวงท่ีใช้สารเติมแต่งไคโตซาน แป้งมันสาปะหลัง และกลีเซอรอล ในอัตราส่วนเท่ากับ 1:2:0.25 มีค่าน้าหนัก ความ หนา และการดดู ซึมน้า เท่ากับ 0.27 กรมั 0.55 มิลลิเมตร และ 7.10 g/m2 ตามลาดับ ซ่ึงเป็นค่าสูงท่ีสุด ในขณะที่ กระดาษใบบัวหลวงที่ใช้สารเติมแต่งไคโตซาน แป้งมันสาปะหลัง และกลีเซอรอล ในอัตราส่วนเท่ากับ 2:1:0.5 มีค่า น้าหนักและความหนา น้อยที่สุด เท่ากับ 0.19 กรัม และ 0.43 มิลลิเมตร ตามลาดับ สาหรับค่าการดูดซึมน้า พบว่า กระดาษใบบัวหลวงท่ีใช้สารเติมแต่งไคโตซาน แป้งมันสาปะหลัง และกลีเซอรอล ในอัตราส่วนเท่ากับ 2:1:0.25 มีค่า

-43- นอ้ ยท่ีสุด เท่ากับ 5.15 g/m2 ค่า pH ของกระดาษใบบัวหลวงจากการทดสอบท่ีอุณหภูมิต่างๆ มีค่าอยู่ระหว่าง 6.32 – 6.74 สาหรับค่าสี L* a* และ b* ของกระดาษใบบัวหลวง มีค่าอยู่ระหว่าง 64.98 – 67.42, 13.24 – 15.71 และ 27.19 – 31.41 ตามลาดบั ดงั น้ันการใชส้ ารเติมแต่งไคโตซาน แป้งมันสาปะหลัง และกลีเซอรอล ในอัตราส่วนเท่ากับ 2:1:0.25 จึงเหมาะสมสาหรบั ข้ึนรปู กระดาษใบหลวงมากท่ีสดุ 3. ผลการศึกษาอัตราส่วนระหว่างเส้นใยและสารเติมแต่งที่เหมาะสมต่อการข้ึนรูปกระดาษจากใบบัว พบว่า การเพ่ิมปริมาณเส้นใยมผี ลตอ่ น้าหนัก ความหนา และการดูดซึมน้าของกระดาษใบบัวหลวง โดยการใช้เส้นใยปริมาณ มากทาให้กระดาษมีน้าหนัก ความหนา และการดูดซึมน้าเพ่ิมข้ึน กระดาษใบบัวที่ใช้เส้นใยและสารเติมแต่งใน อัตราส่วน 1:1 มีค่าน้าหนัก ความหนา และการดูดซึมน้าเท่ากับ 0.19 กรัม 0.30 มิลลิเมตร และ 4.75 g/m2 ตามลาดบั ค่า pH ของกระดาษใบบัวหลวงมีคา่ อยู่ระหว่าง 6.47 – 6.73 การเพิ่มปริมาณเส้นใยไม่มีผลต่อค่า pH ของ กระดาษ แต่มีผลต่อค่าความสว่าง และความเป็นสีเขียว-แดง ของกระดาษ โดยกระดาษใบบัวที่ใช้เส้นใยและสารเติม แต่งในอัตราสว่ น 1:1 และ 2:1 มคี า่ L* เท่ากบั 73.52 และ 74.23 ตามลาดับ ซึ่งมีค่าสูงกว่ากระดาษใบบัวท่ีใช้เส้นใย และสารเติมแต่งในอัตราส่วน 3:1, 4:1 และ 5:1 กระดาษใบบัวท่ีใช้เส้นใยและสารเติมแต่งในอัตราส่วน 5:1 มีค่า a* สูงทีส่ ดุ เท่ากบั 7.18 สาหรบั ค่า b* ของกระดาษใบบวั หลวง มีค่าอยู่ระหว่าง 18.93 – 26.29 ซ่ึงไม่มีความแตกต่างกัน (p › 0.05) กระดาษจากใบบัวหลวงที่ใช้อัตราส่วนเส้นใยต่อสารเติมแต่ง 1:1 สามารถขึ้นรูปได้ง่าย กระดาษมีลักษณะ เกาะกันเป็นแผน่ ไดด้ ี มองเห็นเส้นใยกระจายตัวได้ชัดเจน มีช่องว่างเล็กน้อย และกระดาษท่ีได้มีความเรียบสม่าเสมอ เม่ือเพิ่มปริมาณเส้นใยในการทากระดาษทาให้กระดาษมีลักษณะเกาะกันได้ดี แต่ได้กระดาษไม่เรียบ และมีความ ขรุขระ ไม่สม่าเสมอ ดังน้ันการใช้เส้นใยต่อสารเติมแต่งในอัตราส่วน 1:1 จึงเหมาะสมสาหรับขึ้นรูปกระดาษใบหลวง มากที่สุด 6.3 งบประมำณทีไ่ ดจ้ ่ำยไปแล้ว แยกตำมหมวดรำยจ่ำย (สารวจถงึ 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 0 230,000 บำท 2. งบประมำณทใี่ ช้ไป 0 228,674.72 บำท 0 บาท 2.1 งบบุคลากร 0 1,325.28 บาท  ค่าตอบแทนนักวจิ ยั 0 บาท  คา่ ตอบแทนผชู้ ว่ ยนกั วจิ ยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนินการ 0 บาท  คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง 228,674.72 บาท  ค่าใช้จา่ ยในการฝึกอบรม 0 บาท  คา่ จา้ งพิมพเ์ อกสาร 0 บาท  คา่ ไปรษณยี ์ โทรเลข ค่าโทรศพั ท์ 0 บาท  ค่าวัสดอุ ปุ กรณ์ บาท บาท 2.3 งบลงทนุ (ถา้ มี) บำท  ค่าใช้จา่ ยในการจัดซ้ือครุภัณฑ์/ส่ิงก่อสร้าง 2.4 คา่ สาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ผศ.ดร.นนั ทช์ นก นนั ทะไชย หวั หน้าโครงการ

-44- 7. ชอื่ โครงกำรวิจัย : ผลของอณุ หภูมใิ นกำรอบแหง้ และอตั รำสว่ นของผงดอกบวั สำยตอ่ คณุ ภำพของ เครอื่ งดม่ื พร้อมบริโภค Effect of Temperature Drying and Ratio of Water Lily Powder on Quality of Ready to Drink 1. ประเภทเงินอุดหนุนโครงกำรวิจยั  โครงการวจิ ัยพนื้ ฐาน  โครงการวจิ ัยประยุกต์  โครงการวจิ ัยและพฒั นา 2. ผลผลิตงำนวจิ ัย  ผลผลิตผลงานวจิ ยั เพอ่ื สร้างองคค์ วามรู้  ผลผลิตผลงานวิจยั เพอื่ ถ่ายทอดเทคโนโลยี 3. รำยช่อื ผวู้ จิ ัย 3.1 ผศ.ดร.อินทริ า ลจิ นั ทร์พร หัวหนา้ โครงการวจิ ยั 3.2 ผศ.ภรู นิ ทร์ อคั รกุลธร ผูร้ ว่ มวจิ ยั 3.3 ดร.ปาลิดา ต้งั อนุรตั น์ ผู้รว่ มวิจยั 4. ไดร้ บั จดั สรรงบประมำณ  งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เปน็ เงินจานวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) 5. เร่มิ ทำกำรวิจัยเมื่อ 1 ตุลาคม 2561 ถงึ 30 กนั ยายน 2562 รวมระยะเวลำโครงกำร 1 ปี 6. รำยละเอียดเกีย่ วกับผลงำนควำมก้ำวหนำ้ ของกำรวิจัย 6.1 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 6.1.1 เพ่ือสนองพระราชดาริโครงการอนรุ ักษ์พนั ธุกรรมพืชอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ (อพ.สธ.) 6.1.2 เพอ่ื ศึกษาผลของอณุ หภมู ิ และระยะเวลาในการอบแห้งต่อคณุ ภาพของดอกบัวสาย 6.1.3 เพ่ือศึกษาอัตราส่วนท่เี หมาะสมของผงดอกบวั สายเพ่ือพฒั นาเป็นเครอื่ งดม่ื ต่อคุณภาพและ การทดสอบทางประสาทสมั ผัสของผ้บู รโิ ภค 6.2 กำรดำเนนิ งำนวจิ ยั ตำมทเี่ สนอไวใ้ นโครงกำรวจิ ัยกบั งำนวจิ ัยที่ไดด้ ำเนินกำรไปแลว้ การดาเนนิ งาน 2561 2562 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. เตรยี มอุปกรณแ์ ละสารเคมี 2.ดาเนินการทดลองและ วิเคราะหผ์ ล 3. เขียนรายงานและสรปุ ผล หมำยเหตุ : แผน ผล 6.3 ผลของกำรดำเนนิ กำรวจิ ัยท่ไี ดด้ ำเนินกำรไปแลว้ คิดเป็นร้อยละ......100......ของโครงการ ไดแ้ ก่ 6.3.1 จากการศึกษาผลของอุณหภูมิอบแห้งดอกบัวสายที่อุณหภูมิ 45 55 และ 65 องศาเซลเซียส และระยะเวลาในการอบแหง้ 3 ชว่ั โมง พบวา่ ดอกบวั สายท่อี บแห้งอุณหภมู ิ 45 องศาเซลเซียส มีคุณภาพทางกายภาพ ด้านสี และคณุ ภาพทางเคมไี ด้แก่ปรมิ าณฟีนอลิกท้ังหมด สารต้านอนุมูลอิสระ และแอนโทไซยานินสูงกว่าดอกบัวสาย ท่อี บแหง้ อุณหภูมิ 55 และ 65 องศาเซลเซียส

-45- 6.3.2 จากการศึกษาอัตราส่วนท่ีเหมาะสมของดอกบัวสายต่อคุณภาพทางกายภาพ เคมี และการ ทดสอบทางประสาทสัมผัสของผู้บริโภค พบว่าผู้บริโภคให้การยอมรับด้านลักษณะปรากฏ สี กล่ิน รสชาติ และ ความชอบโดยรวมของเคร่ืองดื่มดอกบัวสายผงผสมเก๊กฮวยมากที่สุด โดยมีค่า L* a* b* เท่ากับ 4.64 2.55 -6.98 มี ปรมิ าณสารต้านอนุมูลอิสระเท่ากับ 0.22 mg Trolox eq./g สารประกอบฟีนอลิกท้ังหมดสูงเท่ากับ 0.06 mg Gallic eq./g และแอนโทไซยานินเท่ากบั 0.60 mg/L 6.3 งบประมำณทไี่ ดจ้ ำ่ ยไปแล้ว แยกตำมหมวดรำยจำ่ ย (สารวจถึง 30 กนั ยายน 2562) 1. งบประมำณรวมโครงกำร 0 300,000 บำท 2. งบประมำณท่ีใช้ไป 0 300,000 บำท 0 บาท 2.1 งบบคุ ลากร 0 0 บาท  คา่ ตอบแทนนกั วิจัย 0 บาท  คา่ ตอบแทนผชู้ ว่ ยนกั วิจยั 0 บาท 0 บาท 2.2 งบดาเนนิ การ 0 บาท  คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทาง 300,000 บาท  ค่าใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม 0 บาท  คา่ จา้ งพิมพเ์ อกสาร 0 บาท  ค่าไปรษณยี ์ โทรเลข คา่ โทรศัพท์ - บาท  คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์ บาท บาท 2.3 งบลงทนุ (ถา้ มี) บำท  ค่าใช้จ่ายในการจัดซ้อื ครุภัณฑ์/สง่ิ ก่อสร้าง 2.4 ค่าสาธารณปู โภค 5% 3. งบประมำณคงเหลือ ผศ.ดร. อินทิรา ลจิ ันทร์พร หัวหน้าโครงการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook