ค่มู ือหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 47 47 หนว่ ยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ จานวน ๘ ชวั่ โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกผลกระทบของกำรทงิ้ ขยะ - ผลกระทบของกำรท้ิงขยะไม่เปน็ ที่ เก่ยี วกับควำมละอำย ไม่เป็นท่ีในชุมชนได้ ในชุมชน และควำมไมท่ นต่อ ๒. ปฏิบตั ิตนในกำรท้ิงขยะให้เปน็ ที่ - กำรทิง้ ขยะให้เปน็ ทแี่ ละคดั แยกขยะ กำรทจุ รติ และคดั แยกขยะก่อนท้ิงลงถังขยะได้ กอ่ นทิ้งลงถังขยะ ๒. ปฏิบตั ิตนเปน็ ๓. สำมำรถโน้มน้ำวใจให้คน - กำรโนม้ น้ำวใจใหค้ นในชมุ ชน ผู้ละอำยและไม่ทนต่อ ในชุมชนทง้ิ ขยะให้ถูกทีแ่ ละ ทิ้งขยะให้ถูกทแี่ ละคัดแยกขยะ กำรทุจริตทุกรปู แบบ คดั แยกขยะได้ 3. ตระหนกั และ ๔. บอกขอ้ ตกลงในกำรใช้สถำนที่ - ขอ้ ตกลงในกำรใช้สถำนที่ เห็นควำมสำคัญ ในชุมชนได้ ในชมุ ชน ของกำรตอ่ ต้ำนและ ๔. ปฏิบัติตนป็นผลู้ ะอำยและ - กำรปฏิบตั ติ นป็นผลู้ ะอำยและ ป้องกนั กำรทจุ ริต ไมท่ นต่อกำรทจุ ริตเกยี่ วกับกำรใช้ ไม่ทนต่อกำรทจุ ริตเก่ยี วกับกำรใช้ สถำนทใี่ นชุมชนได้ สถำนท่ีในชมุ ชน ๕. วเิ ครำะห์ถงึ ควำมละอำยและ - กำรวเิ ครำะห์ถึงควำมละอำยและ ควำมไม่ทนต่อกำรทจุ รติ ในชมุ ชน ควำมไม่ทนต่อกำรทุจรติ ในชมุ ชน เก่ียวกบั กำรละเมิดขอ้ ตกลงในกำร เก่ียวกบั กำรละเมิดขอ้ ตกลงในกำร ใช้สถำนท่ีในชุมชน ใช้สถำนทใี่ นชุมชน ๖. บอกพฤติกรรมท่ีสง่ ผลใหเ้ กดิ - พฤตกิ รรมทส่ี ง่ ผลให้เกดิ ควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อ ควำมละอำยและควำมไมท่ น กำรทุจริตในชมุ ชนได้ ต่อกำรทจุ รติ ในชมุ ชน ๗. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ละอำยและ - กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้ละอำยและ ไมท่ นต่อกำรทจุ รติ ในทุกรปู แบบ ไม่ทนต่อกำรทุจริตในทุกรูปแบบ
คมู่ อื หลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 48 48 หน่วยท่ี 3 STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจรติ จานวน ๖ ช่วั โมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. วิเครำะหส์ ถำนกำรณ์ - สถำนกำรณ์กำรเลือกต้งั ท้องถ่ิน เกี่ยวกับ STRONG : กำรเลือกตัง้ ท้องถนิ่ ทส่ี อดคล้อง ท่ีสอดคล้องกับ STRONG จิตพอเพียงต้ำนทุจรติ กบั STRONG ได้ 2. ปฏิบตั ติ นเป็น ๒. สำมำรถนำควำมรทู้ ี่ได้รับ - กำรนำควำมรเู้ ก่ยี วกับสถำนกำรณ์ ผูท้ ่ี STRONG : ไปปรบั ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ กำรเลือกตงั้ ท้องถน่ิ ทสี่ อดคล้องกบั จิตพอเพยี งตำ้ นทุจรติ STRONG ไปปรับใชใ้ นชวี ิตประจำวัน 3. ตระหนักและ ๓. วเิ ครำะห์สถำนกำรณ์ - สถำนกำรณก์ ำรทิ้งขยะในชุมชน เหน็ ควำมสำคัญ กำรท้งิ ขยะในชมุ ชนท่ีสอดคล้อง ท่ีสอดคล้องกบั STRONG ของกำรตอ่ ต้ำนและ กบั STRONG ได้ ปอ้ งกนั กำรทจุ ริต ๔. สำมำรถนำควำมรทู้ ่ีได้รับ - กำรนำควำมรูเ้ กี่ยวกับสถำนกำรณ์ ไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ กำรทิง้ ขยะในชุมชนที่สอดคล้องกับ STRONG ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำวนั ๕. ระบุอำชพี ของคนในชุมชนได้ - อำชีพของคนในชุมชน ๖. วิเครำะห์กำรประกอบอำชีพ - กำรประกอบอำชีพในชุมชน ในชมุ ชนที่สอดคล้องกบั ทสี่ อดคล้องกับ STRONG STRONG ได้ ๗. สำมำรถนำควำมรูท้ ี่ได้รับ - ควำมรเู้ ก่ยี วกับกำรประกอบอำชพี ไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ ในชุมชนทีส่ อดคล้องกบั STRONG ทน่ี ำไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวัน ๘. วิเครำะหส์ ถำนกำรณ์กำรใช้ - สถำนกำรณก์ ำรใช้พน้ื ทีส่ ำธำรณะ พื้นท่ีสำธำรณะในชมุ ชน ในชมุ ชนที่สอดคล้องกับ STRONG ทส่ี อดคล้องกบั STRONG ได้ ๙. สำมำรถนำควำมรู้ที่ได้รับ - ควำมรูเ้ กยี่ วกับสถำนกำรณ์กำรใช้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ พื้นทส่ี ำธำรณะในชุมชนที่สอดคลอ้ ง กบั STRONG ทนี่ ำไปปรับใช้ใน ชวี ิตประจำวนั
คู่มือหลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา : 49 49 หน่วยท่ี ๔ พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกบทบำทหนำ้ ทีข่ องสมำชิก - บทบำทหน้ำทข่ี องสมำชิก เกย่ี วกบั พลเมอื งและ ในชมุ ชนได้ ในชุมชน มคี วำมรบั ผิดชอบ ๒. บอกแนวทำงกำรปฏบิ ัติตน - แนวทำงกำรปฏบิ ตั ิตนในกำร ต่อสังคม ในกำรเคำรพสิทธิหน้ำท่ีของ เคำรพสิทธหิ น้ำที่ของสมำชกิ ๒. ปฏิบัตติ นตำมหนำ้ ที่ สมำชกิ ในชมุ ชนได้ ในชุมชน พลเมอื งและ ๓. บอกผลท่ีได้รบั จำกกำรปฏบิ ัติตน - ผลทไี่ ด้รับจำกกำรปฏบิ ตั ติ น มีควำมรบั ผดิ ชอบ ในกำรเคำรพสิทธิหนำ้ ท่ขี องสมำชิก ในกำรเคำรพสิทธิหน้ำทข่ี องสมำชิก ต่อสงั คม ในชมุ ชนได้ ในชมุ ชน 3. ตระหนกั และ ๔. บอกสิทธิของตนเองในกำรใช้ - สิทธิของตนเองในกำรใช้ เหน็ ควำมสำคัญ ทำงสำธำรณะได้ ทำงสำธำรณะ ของกำรตอ่ ต้ำนและ ๕. บอกหน้ำทขี่ องตนเองในกำรใช้ - หนำ้ ทขี่ องตนเองในกำรใช้ ป้องกันกำรทจุ รติ ทำงสำธำรณะได้ ทำงสำธำรณะ ๖. ปฏิบัติตนในกำรใช้ทำงสำธำรณะ - วิธกี ำรปฏิบัติตนในกำรใช้ โดยคำนงึ ถงึ สทิ ธิและหน้ำที่ ทำงสำธำรณะที่คำนงึ ถึงสิทธิ และหนำ้ ที่ ๗. บอกควำมหมำยของพ้นื ท่ี - ควำมหมำยของพนื้ ที่สำธำรณะ สำธำรณะได้ ๘. บอกสิทธิของตนเองในกำรใช้ - สิทธิของตนเองในกำรใช้พนื้ ที่ พนื้ ที่สำธำรณะในชุมชนได้ สำธำรณะในชมุ ชน ๙. บอกหนำ้ ทขี่ องตนเองในกำรใช้ - หน้ำที่ของตนเองในกำรใช้พื้นที่ พ้นื ท่สี ำธำรณะในชมุ ชนได้ สำธำรณะในชมุ ชน ๑๐. ปฏบิ ัติตนในกำรใช้พน้ื ที่ - กำรใช้พน้ื ที่สำธำรณะในชมุ ชน สำธำรณะในชุมชนโดยคำนงึ ถึง ทคี่ ำนึงถึงสิทธิและหนำ้ ที่ สทิ ธแิ ละหนำ้ ท่ีได้ ๑๑. บอกควำมหมำยของ - ควำมหมำยของกำรประชำสัมพันธ์ กำรประชำสมั พนั ธช์ ุมชนได้ ในชุมชน ๑๒. บอกสิทธขิ องตนเองทีไ่ ด้รับ - สทิ ธิของตนเองทไ่ี ดร้ บั ในกำร ในกำรประชำสัมพนั ธ์ในชมุ ชนได้ ประชำสัมพันธ์ในชมุ ชน ๑๓. บอกหนำ้ ทข่ี องตนเองต่อ - หน้ำท่ีของตนเองต่อ กำรประชำสมั พันธ์ในชุมชนได้ กำรประชำสมั พนั ธ์ในชมุ ชน ๑๔. ปฏบิ ัติตนตำมสิทธแิ ละหนำ้ ท่ี - กำรปฏบิ ตั ิตนตำมสทิ ธิและหนำ้ ท่ี ตอ่ งำนประชำสมั พนั ธ์ในชมุ ชน ตอ่ งำนประชำสมั พนั ธ์ในชมุ ชน
ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา : 50 50 ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑๕. บอกควำมหมำยของกำรใช้ - ควำมหมำยของกำรใช้ไฟฟ้ำ ไฟฟ้ำสำธำรณะในชุมชนได้ สำธำรณะในชุมชน ๑๖. บอกสิทธิของตนเองที่ได้รบั - สทิ ธขิ องตนเองที่ไดร้ บั ในกำรใช้ ในกำรใช้ไฟฟ้ำสำธำรณะในชุมชนได้ ไฟฟำ้ สำธำรณะในชุมชน ๑๗. บอกหน้ำท่ีของตนเองในกำร - หน้ำที่ของตนเองในกำรใช้ไฟฟำ้ ใช้ไฟฟ้ำสำธำรณะในชุมชนได้ สำธำรณะในชุมชน ๑๘. ปฏบิ ัติตนตำมสทิ ธแิ ละหน้ำที่ - กำรปฏิบัติตนตำมสทิ ธิและหนำ้ ที่ ในกำรใช้ไฟฟ้ำสำธำรณะในชุมชนได้ ในกำรใช้ไฟฟ้ำสำธำรณะในชมุ ชน ๑๙. ให้ควำมช่วยเหลอื ในกิจกรรม - กำรให้ควำมชว่ ยเหลอื ในกจิ กรรม ของชุมชน ของชมุ ชน ๒๐. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มจี ติ สำธำรณะ - กำรปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีจติ สำธำรณะ ในกิจกรรมของชุมชน ในกิจกรรมของชุมชน ๒๑. ปฏบิ ัตติ นในกำรดูแล - กำรปฏบิ ตั ิตนในกำรดูแล สำธำรณะสมบตั ขิ องชมุ ชน สำธำรณะสมบัติของชมุ ชน ๒๒. บอกถงึ ข้อดีของกำรเขำ้ ร่วม - ข้อดีของกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม กิจกรรมในชมุ ชนได้ ในชมุ ชน ๒๓. บอกกฎ กติกำ ระเบียบ - กฎ กติกำ ระเบยี บ ข้อตกลง ข้อตกลง วฒั นธรรมในชุมชน และวฒั นธรรมในชมุ ชนของตนเอง ของตนเอง ๒๔. ปฏิบัตติ นตำมกฎ กตกิ ำ - กำรปฏบิ ตั ิตนตำมกฎ กติกำ ระเบียบ ข้อตกลง และวัฒนธรรม ระเบียบ ข้อตกลง และวฒั นธรรม ในชมุ ชนของตนเอง ในชมุ ชนของตนเอง
คมู่ อื หลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา : 5511 ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรยี นรู้ ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แก่ผูเ้ รียนได้อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพและเอือ้ ต่อกำรวดั ผลและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม จานวน ๑๔ ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. วิเครำะห์ระหว่ำงผลประโยชน์ - กำรวเิ ครำหร์ ะหว่ำงผลประโยชน์ เก่ยี วกับกำรแยกแยะ สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ส่วนตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม ระหว่ำงผลประโยชน์ ในสงั คม ในสังคม สว่ นตนและ ๒. แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตน - กำรแยกแยะผลประโยชนส์ ว่ นตน ผลประโยชนส์ ่วนรวม ออกจำกผลประโยชนส์ ว่ นรวม ออกจำกผลประโยชน์ส่วนรวม ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ ในสังคม โดยใช้ระบบคดิ ฐำนสอง ในสังคม โดยใช้ระบบคิดฐำนสอง ระหว่ำงผลประโยชน์ ๓. ตระหนักถงึ ผลประโยชน์ - ผลประโยชน์ส่วนตนและ ส่วนตนและ ส่วนรวมมำก่อนผลประโยชน์สว่ นตน ผลประโยชนส์ ่วนรวม ผลประโยชน์สว่ นรวม ๔. บอกพฤติกรรมระบบคิดฐำนสิบ - พฤติกรรมระบบคิดฐำนสิบ 3. ตระหนักและ ในสังคมได้ ในสังคม เห็นควำมสำคญั ๕. บอกผลของพฤติกรรมระบบ - พฤตกิ รรมระบบคิดฐำนสิบ ของกำรตอ่ ตำ้ นและ คิดฐำนสบิ ทสี่ ่งผลต่อสังคมได้ ทสี่ ง่ ผลในสงั คม ปอ้ งกันกำรทุจริต ๖. เปรียบเทยี บผลประโยชน์ส่วนตน - กำรเปรียบเทยี บผลประโยชน์ และผลประโยชนส์ ่วนรวมในสงั คมได้ ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๗. บอกข้อดี ขอ้ เสีย ในสงั คม ของผลประโยชน์ส่วนตนและ - ข้อดี ข้อเสยี ของผลประโยชน์ ผลประโยชน์ส่วนรวมในสังคมได้ สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ในสงั คม ๘. บอกควำมหมำยของจริยธรรม - ควำมหมำยของจรยิ ธรรม และ และกำรทจุ ริตได้ กำรทจุ รติ ๙. บอกรูปแบบของกำรทจุ รติ ได้ - รูปแบบของกำรทุจริต ๑๐. บอกควำมแตกต่ำงระหว่ำง - ควำมแตกต่ำงระหวำ่ งจริยธรรม จริยธรรมและกำรทจุ รติ ได้ และกำรทจุ รติ
ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา : 52 52 ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑๑. อธบิ ำยควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำวำ่ “ขดั กัน” “ขดั กนั ” ได้ - ผลกระทบกำรขดั กนั ระหว่ำง ๑๒. บอกผลกระทบของกำรขัดกัน ผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ผลประโยชน์สว่ นรวมในสังคม ผลประโยชนส์ ว่ นรวมในสงั คมได้ - วิธีกำรแกไ้ ขกำรขดั กันระหว่ำง ๑๓. บอกวิธกี ำรแก้ไขกำรขดั กนั ผลประโยชน์ส่วนตนและ ระหวำ่ งผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์สว่ นรวมในสังคม ผลประโยชนส์ ว่ นรวมในสงั คมได้ ๑๔. อธบิ ำยควำมหมำยของ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ ผลประโยชน์ทับซ้อนได้ ทบั ซ้อน ๑๕. บอกสำเหตกุ ำรเกิดผล - สำเหตุกำรเกิดผลประโยชน์ ประโยชนท์ ับซอ้ นในโรงเรยี นได้ ทับซอ้ นในโรงเรยี น ๑๖. บอกแนวทำงกำรปอ้ งกนั - แนวทำงกำรปอ้ งกันผลประโยชน์ ผลประโยชนท์ ับซ้อนในโรงเรียนได้ ทับซอ้ นในโรงเรียน
คูม่ ือหลกั สตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา : 53 53 หน่วยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จานวน ๕ ชว่ั โมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธิบำยเกีย่ วกับควำมละอำย - ควำมละอำยและควำมไม่ทน เก่ยี วกับควำมละอำย และควำมไมท่ นต่อกำรทจุ ริต ตอ่ กำรทจุ รติ ท่เี กิดขึ้นในสงั คม และควำมไมท่ น ท่เี กดิ ขน้ึ ในสังคมได้ - กำรปฏบิ ัติตนเป็นผู้ละอำยและ ต่อกำรทุจริต ๒. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ละอำยและ ไมท่ นต่อกำรทจุ รติ ๒. ปฏิบัตติ นเป็น ไมท่ นต่อกำรทุจริตทุกรปู แบบ ผ้ลู ะอำยและไมท่ นต่อ ๓. บอกกิจกรรมท่ีปฏบิ ัตแิ ละ - กจิ กรรมทีป่ ฏบิ ตั ิและส่งผลให้ กำรทจุ ริตทุกรูปแบบ สง่ ผลให้เกดิ ควำมละอำยและ เกดิ ควำมละอำยและควำมไม่ทน 3. ตระหนกั และ ควำมไม่ทนต่อกำรทจุ ริตในสงั คมได้ ตอ่ กำรทุจรติ ในสังคม เหน็ ควำมสำคญั ๔. บอกแนวทำงกำรปฏิบัตติ น - แนวทำงกำรปฏิบัติตนเป็น ของกำรตอ่ ตำ้ นและ เป็นผู้มีควำมละอำยและควำมไมท่ น ผูม้ คี วำมละอำยและควำมไมท่ น ป้องกันกำรทุจรติ ต่อกำรทุจริตในสังคม ต่อกำรทุจริตในสังคม
คมู่ อื หลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 54 54 หนว่ ยท่ี 3 STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจรติ จานวน ๑๑ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รู้ และเขำ้ ใจเกี่ยวกบั STRONG : - STRONG : จติ พอเพยี งต้ำนทจุ รติ เก่ยี วกับ STRONG : จิตพอเพยี งตำ้ นทจุ รติ จติ พอเพยี งตำ้ นทุจริต ๒. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผทู้ ี่ STRONG : - กำรปฏิบัตติ นเป็นผ้ทู ี่ STRONG : 2. ปฏิบัติตนเปน็ จิตพอเพยี งต้ำนทุจริต จติ พอเพียงต้ำนทจุ ริต ผู้ที่ STRONG : ๓. ปฏิบัตติ นในกำรใชศ้ ำลำ - กำรใช้ศำลำประชำคมท่สี อดคลอ้ ง จติ พอเพยี งตำ้ นทุจรติ ประชำคมท่ีสอดคล้องกบั กับ STRONG : จิตพอเพยี ง 3. ตระหนักและ STRONG : จติ พอเพียงตำ้ นทุจรติ ตำ้ นทจุ ริต เหน็ ควำมสำคัญ ๔. ปฏิบัตติ นในกำรใช้หอ้ งสมุด - กำรใชห้ อ้ งสมุดประชำชน ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ประชำชนทสี่ อดคล้องกับ ที่สอดคล้องกับ STRONG : ป้องกนั กำรทุจรติ STRONG : จิตพอเพยี งตำ้ นทุจริต จติ พอเพยี งตำ้ นทจุ ริต ๕. บอกกำรจอดรถในท่ีสำธำรณะ - กำรจอดรถในทส่ี ำธำรณะ ทส่ี อดคล้องกับ STRONG ได้ ที่สอดคล้องกับ STRONG ๖. ตระหนักและเห็นควำมสำคัญ - ควำมสำคญั ของกำรต่อต้ำนและ ของกำรต่อต้ำนและปอ้ งกนั ป้องกันกำรทุจริตในเร่ืองกำรจอดรถ กำรทจุ รติ ในเรื่องกำรจอดรถ ในทีส่ ำธำรณะ ในทสี่ ำธำรณะ ๗. บอกกำรใช้สำธำรณูปโภค - กำรใช้สำธำรณูปโภค (ไฟฟำ้ , (ไฟฟำ้ , ประปำ) ท่สี อดคล้องกับ ประปำ) ท่สี อดคล้องกบั STRONG STRONG ได้ ๘. ตระหนกั และเห็นควำมสำคัญ - ควำมสำคญั ของกำรต่อต้ำนและ ของกำรตอ่ ตำ้ นและปอ้ งกนั ป้องกันกำรทุจริตในเรอื่ งกำรใช้ กำรทุจริตในเร่ืองกำรใชส้ ำธำรณูปโภค สำธำรณปู โภค (ไฟฟำ้ , ประปำ) (ไฟฟ้ำ, ประปำ) ๙. บอกกำรใช้รถใช้ถนน - กำรใช้รถใชถ้ นนในทสี่ ำธำรณะ ในทีส่ ำธำรณะที่สอดคลอ้ งกบั ท่ีสอดคล้องกับ STRONG : STRONG : จติ พอเพียงต้ำนทุจรติ ได้ จติ พอเพยี ง ตำ้ นทจุ ริต ๑๐. ตระหนักและเหน็ ควำมสำคญั - ควำมสำคัญของกำรตอ่ ตำ้ นและ ของกำรต่อต้ำนและปอ้ งกัน ป้องกันกำรทจุ ริตในเรื่องกำรใชร้ ถ กำรทุจรติ ในเร่ืองกำรใช้รถใช้ถนน ใช้ถนนในที่สำธำรณะ ในทีส่ ำธำรณะ
คมู่ อื หลกั สูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา : 55 55 หนว่ ยที่ ๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกแนวปฏบิ ตั ิตนในกำรเคำรพ - แนวปฏิบัตติ นในกำรเคำรพสทิ ธิ เกยี่ วกบั พลเมืองและ สิทธิหน้ำที่ต่อตนเองและผู้อนื่ หนำ้ ที่ต่อตนเองและผอู้ ืน่ ในสังคม มคี วำมรับผดิ ชอบ ในสังคมได้ ต่อสงั คม ๒. อธบิ ำยผลท่ีได้รบั จำกกำรเคำรพ - ผลทไ่ี ดร้ ับจำกกำรเคำรพสิทธิ ๒. ปฏบิ ตั ิตนตำมหน้ำท่ี สิทธิหน้ำท่ตี ่อตนเองและผูอ้ ่ืน หนำ้ ที่ต่อตนเองและผู้อื่นในสงั คม พลเมอื งและ ในสังคมได้ มีควำมรบั ผิดชอบ ๓. บอกควำมหมำยของคำวำ่ - ควำมหมำยของคำวำ่ สิทธิ ต่อสงั คม สทิ ธิได้ 3. ตระหนกั และ ๔. บอกสทิ ธิทีไ่ ด้รบั ในสงั คมได้ - สทิ ธิทไ่ี ด้รบั ในสงั คม เห็นควำมสำคัญของ ๕. บอกหนำ้ ทีท่ ตี่ ้องปฏบิ ัติ - หนำ้ ทท่ี ีต่ ้องปฏบิ ัติต่อสังคมและ กำรต่อต้ำนและป้องกัน ตอ่ สังคมและประเทศชำตไิ ด้ ประเทศชำติ กำรทุจริต ๖. ปฏิบตั หิ นำ้ ที่ต่อสังคมและ - กำรปฏิบตั ิหน้ำท่ตี ่อสังคมและ ประเทศชำติ ประเทศชำติ ๗. บอกควำมหมำย และ - ควำมหมำย และกำรปฏบิ ัติตน กำรปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดีได้ เป็นพลเมืองดี ๘. ปฏิบัตติ นตำมกฎ กตกิ ำ - กำรปฏบิ ัตติ นตำมกฎ กติกำ ระเบยี บ ข้อตกลงวฒั นธรรม ระเบยี บ ข้อตกลงวฒั นธรรม ในสังคมและประเทศชำติได้ ในสงั คมและประเทศชำติ ๙. ตระหนกั และเหน็ ควำมสำคัญ - ควำมตระหนักและควำมสำคัญ ของกำรตอ่ ตำ้ น กำรทจุ รติ ของกำรต่อตำ้ น กำรทจุ รติ ใน ในสังคมและประเทศชำติ สังคมและประเทศชำติ ๑๐. บอกควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำว่ำ เสรภี ำพ เสรีภำพได้ ๑๑. บอกเสรีภำพของปวงชน - เสรภี ำพของปวงชนชำวไทย ชำวไทยได้
คูม่ ือหลักสูตรตา้ นทุจริตศกึ ษา : 56 56 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ที่กำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงที่ใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แกผ่ ู้เรียนไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธิภำพและเออื้ ตอ่ กำรวัดผลและประเมินผลกำรเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน ๑๔ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธบิ ำยควำมหมำยของประโยชน์ - ควำมหมำยของประโยชน์ส่วนตน เกย่ี วกบั กำรแยกแยะ ส่วนตนได้ ระหวำ่ งผลประโยชน์ ๒. อธิบำยควำมหมำยของประโยชน์ - ควำมหมำยของประโยชนส์ ่วนรวม ส่วนตนและ ส่วนรวมได้ ผลประโยชนส์ ่วนรวม ๓. แยกแยะผลประโยชนส์ ว่ นตน - กำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ ๒. สำมำรถคดิ และผลประโยชน์ส่วนรวมได้ สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม แยกแยะระหวำ่ ง ๔. แยกผลประโยชนส์ ว่ นตน - กำรแยกผลประโยชน์สว่ นตน ผลประโยชน์สว่ นตน ออกจำกผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ ออกจำกผลประโยชน์ส่วนรวม และผลประโยชน์ ๕. ตระหนักถึงผลประโยชน์สว่ นรวม - กำรตระหนักถึงผลประโยชน์ ส่วนรวม มำกกว่ำผลประโยชนส์ ่วนตน สว่ นรวมมำกกว่ำผลประโยชนส์ ว่ นตน 3. ตระหนกั และ ๖. ตระหนักถึงผลประโยชน์ - กำรตระหนกั ถงึ ผลประโยชน์ เหน็ ควำมสำคัญ สำธำรณะก่อนผลประโยชนส์ ว่ นตน สำธำรณะก่อนผลประโยชนส์ ว่ นตน ของกำรต่อต้ำนและ ๗. บอกควำมหมำยของจรยิ ธรรมได้ - ควำมหมำยของจริยธรรม ปอ้ งกนั กำรทุจริต ๘. บอกควำมหมำยของกำรทุจรติ ได้ - ควำมหมำยของกำรทจุ ริต ๙. บอกควำมแตกต่ำงระหวำ่ ง - ควำมแตกต่ำงระหว่ำงจรยิ ธรรม จริยธรรมและกำรทจุ รติ ได้ และกำรทุจรติ ๑๐. บอกกำรกระทำที่เปน็ - กำรกระทำทีเ่ ปน็ ผลประโยชน์ ผลประโยชน์ส่วนตนและกำรกระทำ สว่ นตนและกำรกระทำท่เี ปน็ ท่ีเปน็ ผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ผลประโยชน์สว่ นรวม ๑๑. อธิบำยควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำว่ำ “ขัดแยง้ กนั ” “ขดั แย้งกนั ”ได้ ๑๒. บอกผลกระทบจำก - ผลกระทบจำกกำรขัดแย้งกัน กำรขัดแย้งกันระหวำ่ งผลประโยชน์ ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ผลประโยชน์สว่ นรวม
คมู่ อื หลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา : 57 57 ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑๓. บอกวิธกี ำรแกไ้ ขควำมขัดแย้งกัน - วิธกี ำรแก้ไขควำมขัดแยง้ กัน ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ และผลประโยชนส์ ่วนรวม ๑๔. อธบิ ำยควำมหมำยของ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ ผลประโยชนท์ ับซอ้ นได้ ทับซ้อน ๑๕. ยกตวั อยำ่ งผลประโยชน์ - ตวั อยำ่ งผลประโยชนท์ บั ซ้อน ทบั ซอ้ นได้ ๑๖. บอกวธิ ีกำรปฏิบัตติ น - วิธกี ำรปฏบิ ัตติ นเพอ่ื ป้องกัน เพ่ือป้องกนั ผลประโยชน์ทบั ซ้อนได้ ผลประโยชน์ทบั ซอ้ น ๑๗. บอกรปู แบบของผลประโยชน์ - รูปแบบของผลประโยชน์ทบั ซ้อน ทับซ้อนได้ ๑๘. ยกตวั อย่ำงรูปแบบของ - ตัวอยำ่ งรปู แบบของผลประโยชน์ ผลประโยชน์ทับซอ้ นได้ ทบั ซ้อน
คมู่ อื หลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศกึ ษา : 58 58 หนว่ ยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ จานวน ๖ ช่วั โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รู้ เข้ำใจเก่ยี วกับควำมละอำย - ควำมละอำยและควำมไม่ทน เก่ียวกับควำมละอำย และควำมไม่ทนตอ่ กำรทจุ รติ ต่อกำรทจุ รติ และควำมไมท่ น ๒. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มคี วำมละอำย - วธิ กี ำรปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มีควำมละอำย ตอ่ กำรทุจรติ และไม่ทนต่อกำรทุจริตทกุ รูปแบบ และไมท่ นต่อกำรทุจริตทุกรปู แบบ ๒. ปฏบิ ตั ิตนเป็น ๓. รู้ เข้ำใจเกี่ยวกับกำรแยกแยะ - กำรแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ ผู้ละอำยและควำมไม่ทน ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตน สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ตอ่ กำรทจุ ริตทกุ รปู แบบ และผลประโยชน์สว่ นรวม 3. ตระหนักและ ๔. รู้ เข้ำใจเกีย่ วกบั พลเมือง - พลเมืองทม่ี ีควำมรบั ผิดชอบ เหน็ ควำมสำคญั ทม่ี ีควำมรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ตอ่ สงั คม ของกำรต่อตำ้ นและ ๕. คิดแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ - กำรคิดแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ ป้องกนั กำรทจุ รติ สว่ นตน และผลประโยชน์ส่วนรวม สว่ นตน และผลประโยชน์สว่ นรวม ๖. ปฏิบตั ิตนตำมหน้ำทีพ่ ลเมือง - กำรปฏิบตั ิตนตำมหน้ำท่ีพลเมอื ง ทมี่ ีควำมรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ทม่ี คี วำมรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๗. บอกกฎ ระเบียบ ในกำรสอบได้ - กฎ ระเบยี บ ในกำรสอบ ๘. บอกกำรกระทำที่ไมเ่ หมำะสม - กำรกระทำที่ไม่เหมำะสมในขณะ ในขณะทำกำรสอบได้ ทำกำรสอบ ๙. บอกผลเสียของกำรทจุ ริต - ผลเสียของกำรทุจรติ ในกำรสอบ ในกำรสอบได้ ๑๐. บอกลักษณะของกำรแต่งกำย - ลักษณะของกำรแต่งกำย ที่เหมำะสมถูกต้องตำมกำลเทศะได้ ทเี่ หมำะสมถูกต้องตำมกำลเทศะ ๑๑. บอกลักษณะของกำรแต่งกำย - ลักษณะของกำรแต่งกำย ทีถ่ กู ต้องตำมระเบยี บของ ที่ถกู ต้องตำมระเบียบของ สถำนศึกษำได้ สถำนศกึ ษำ ๑๒. บอกควำมสำคญั ของกจิ กรรม - ควำมสำคัญของกจิ กรรมนักเรยี น นักเรยี นได้ ๑๓. อธิบำยควำมหมำยของกิจกรรม - ควำมหมำยของกจิ กรรมนักเรียน นกั เรยี นได้ ๑๔. ปฏบิ ัตติ ำมกฎระเบยี บและ - กำรปฏบิ ัตติ ำมกฎระเบียบและ ไม่ทจุ ริตต่อกิจกรรมท่ีทำได้ ไมท่ จุ ริตต่อกิจกรรมท่ีทำ ๑๕. ระบปุ ระโยชน์ของกิจกรรม - ประโยชน์ของกิจกรรมนักเรียน นกั เรียนได้
คมู่ อื หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 59 59 ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑๖. บอกควำมหมำยคำวำ่ มำรยำท - ควำมหมำยคำว่ำมำรยำทในสังคม ในสังคมได้ - กำรปฏิบัตติ นอยำ่ งมีมำรยำท ๑๗. ปฏบิ ัติตนอยำ่ งมมี ำรยำท ในสังคม ในสังคมได้
ค่มู ือหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา : 60 60 หน่วยท่ี 3 STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจริต จานวน ๑๐ ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. แสดงบทบำทสมมติกำรสร้ำง - กำรแสดงบทบำทสมมติกำรสรำ้ ง เกยี่ วกบั STRONG : จติ สำนึกควำมพอเพียงต้ำนทจุ รติ ได้ จิตสำนกึ ควำมพอเพียงตำ้ นทุจริต จติ พอเพียงต้ำนทุจริต ๒. รู้ และเข้ำใจเกีย่ วกบั STRONG : - STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทุจริต 2. ปฏิบตั ติ นเปน็ จิตพอเพียงต้ำนทจุ ริต ผทู้ ี่ STRONG : ๓. ปฏิบตั ติ นเป็นผทู้ ี่ STRONG : - กำรปฏบิ ัติตนเปน็ ผทู้ ่ี STRONG : จิตพอเพียงตำ้ นทจุ รติ จิตพอเพียงต้ำนทจุ รติ จติ พอเพยี งตำ้ นทจุ ริต 3. ตระหนกั และ ๔. บอกควำมหมำยของกำรทุจริตได้ - ควำมหมำยของกำรทุจรติ เห็นควำมสำคัญของ ๕.บอกลกั ษณะของบคุ คล - ลักษณะของบุคคลทม่ี ีควำมตื่นรู้ กำรต่อต้ำนและป้องกนั ทีม่ ีควำมต่นื รู้ในเรอ่ื งกำรทจุ ริตได้ ในเรื่องกำรทุจริต กำรทจุ ริต ๖. ตระหนักและเห็นควำมสำคัญ - ควำมสำคัญของกำรต่อต้ำนและ ของกำรตอ่ ต้ำนและปอ้ งกนั ปอ้ งกันกำรทจุ รติ กำรทจุ ริต ๗. บอกผลเสยี ของกำรทจุ รติ ได้ - ผลเสยี ของกำรทจุ รติ ๘. บอกกำรกระทำท่เี ปน็ กำรตอ่ ต้ำน - กำรกระทำท่ีเป็นกำรตอ่ ต้ำน กำรทจุ รติ ได้ กำรทุจรติ ๙. ตระหนกั และเหน็ ควำมสำคญั - ควำมสำคญั ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ของกำรต่อตำ้ นและป้องกนั ปอ้ งกนั กำรทุจรติ กำรทจุ ริต ๑๐. ยกตัวอย่ำงบุคคลที่ดำรงชีวิต - บุคคลทด่ี ำรงชีวิตอยู่อย่ำงพอเพียง อยอู่ ย่ำงพอเพียงได้ ๑๑. ปฏิบตั ติ นโดยดำรงชวี ติ - กำรปฏิบตั ติ นโดยดำรงชวี ิต อยอู่ ยำ่ งพอเพียงได้ อยู่อยำ่ งพอเพยี ง ๑๒. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผทู้ ี่ STRONG : - กำรปฏบิ ัตติ นเป็นผู้ที่ STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทจุ รติ จติ พอเพียงตำ้ นทจุ ริต ๑๓. เขยี นเรอื่ งจำกภำพทเ่ี กย่ี วกับ - กำรเขยี นเรื่องจำกภำพท่ีเกี่ยวกับ ควำมเอื้ออำทร ควำมเอื้ออำทร
คู่มอื หลักสตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 61 61 หน่วยท่ี ๔ พลเมืองกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกแนวปฏบิ ัติในกำรเคำรพ - แนวปฏิบัติในกำรเคำรพสิทธิ เก่ียวกบั พลเมอื งและ สิทธหิ นำ้ ทต่ี ่อตนเองและผอู้ ่ืน หน้ำท่ตี อ่ ตนเองและผู้อน่ื ที่มตี ่อ มคี วำมรับผิดชอบ ทม่ี ีตอ่ ประเทศชำติได้ ประเทศชำติ ตอ่ สงั คม ๒. อธบิ ำยผลท่ีไดร้ ับจำกกำรเคำรพ - ผลทไ่ี ดร้ บั จำกกำรเคำรพสิทธิ ๒. ปฏิบัติตนตำมหนำ้ ที่ สิทธิหน้ำที่ตอ่ ตนเองและผ้อู ่ืน หน้ำทต่ี ่อตนเองและผู้อ่นื ท่มี ีต่อ พลเมืองและ ท่มี ตี ่อประเทศชำติได้ ประเทศชำติ มีควำมรับผิดชอบ ๓. บอกควำมหมำยของ ระเบียบ - ควำมหมำยของ ระเบยี บ กฎ ต่อสงั คม กฎ กตกิ ำ กฎหมำย ขององค์กร กติกำ กฎหมำย ขององคก์ รหรอื 3. ตระหนักและ หรือหน่วยงำนต่ำงๆ ได้ หน่วยงำนต่ำง ๆ เหน็ ควำมสำคญั ของกำรต่อตำ้ นและ ๔. แสวงหำขอ้ มลู เก่ยี วกับระเบียบ ปอ้ งกนั กำรทุจริต กฎ กตกิ ำ กฎหมำย ขององค์กร - กำรแสวงหำข้อมลู เก่ยี วกบั หรอื หน่วยงำนตำ่ งๆ ได้ ระเบยี บ กฎ กติกำ กฎหมำย ขององค์กรหรือหนว่ ยงำนต่ำง ๆ ๕. บอกผลดีของกำรมี - ผลดี ของกำรมีควำมรับผดิ ชอบ ควำมรับผดิ ชอบและบอกผลเสีย และผลเสยี จำกกำรขำด จำกกำรขำดควำมรบั ผิดชอบได้ ควำมรบั ผิดชอบ ๖. บอกควำมหมำยของกำรเปน็ - ควำมหมำยของกำรเป็นพลเมอื งดี พลเมืองดไี ด้ ๗. ยกตวั อย่ำงกำรปฏิบัติตน - ตัวอย่ำงกำรปฏิบัติตนใหเ้ ป็น ใหเ้ ป็นพลเมืองท่ดี ีได้ พลเมืองที่ดี ๘. บอกผลเสียที่เกิดจำกกำรไม่ปฏิบตั ิ - ผลเสีย ที่เกดิ จำกกำรไม่ปฏิบัติ ตนตำมหน้ำที่ของพลเมืองทดี่ ีได้ ตนตำมหน้ำที่ของพลเมืองทด่ี ี
คู่มอื หลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา : 62 62 ผลการเรียนรู้และสาระการเรยี นรู้ ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้นั้น ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่สอดคล้อ งกับสำระกำรเรียนรู้ เพื่อให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ใหแ้ ก่ผ้เู รยี นได้อยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพและเออื้ ต่อกำรวัดผลและประเมินผลกำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม จานวน ๑๒ ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธบิ ำยทฤษฎี ควำมหมำย - ทฤษฎี ควำมหมำยของกำรขัดกัน เกย่ี วกบั กำรแยกแยะ ของกำรขดั กนั ระหว่ำงประโยชน์ ระหวำ่ งประโยชน์สว่ นตนและ ระหว่ำงผลประโยชน์ สว่ นตนและประโยชน์ส่วนรวมได้ ประโยชนส์ ว่ นรวม สว่ นตนและ ๒. บอกสำเหตุของกำรทจุ ริต - สำเหตขุ องกำรทุจรติ ในชุมชน ผลประโยชน์ส่วนรวม ในชุมชนได้ ๒. สำมำรถคดิ แยกแยะ ๓. บอกสำเหตแุ ละแนวทำงกำรแก้ - สำเหตแุ ละแนวทำงกำรแกป้ ัญหำ ระหว่ำงผลประโยชน์ ปัญหำกำรทจุ ริตในกรณีศกึ ษำได้ กำรทุจริตจำกกรณีศึกษำ สว่ นตนและ ๔. บอกแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำ - แนวทำงกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจรติ ผลประโยชน์ส่วนรวม กำรทุจรติ ในชุมชนได้ ในชุมชน 3. ตระหนกั และเห็น ๕. วิเครำะหผ์ ลประโยชน์ส่วนตน - กำรวิเครำะห์ผลประโยชน์ส่วนตน ควำมสำคญั ของ ออกจำกประโยชนส์ ่วนรวมท่สี ่ง ออกจำกประโยชนส์ ่วนรวมที่ส่งผล กำรตอ่ ต้ำนและ ผลกระทบต่อประเทศ โดยใช้ กระทบต่อประเทศ โดยใช้ระบบ ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ ระบบคดิ ฐำนสอง คิดฐำนสอง ๖. วิเครำะหค์ วำมแตกต่ำงระหวำ่ ง - กำรวเิ ครำะห์ควำมแตกต่ำง ระบบคิดฐำนสองและระบบ ระหว่ำงระบบคดิ ฐำนสองและ คดิ ฐำนสบิ ระบบคดิ ฐำนสิบ ๗. ตระหนักและเหน็ ควำมสำคญั - ควำมสำคัญของกำรต่อตำ้ นและ ของกำรต่อตำ้ นและป้องกัน ป้องกนั กำรทุจริต กำรทุจรติ ๘. กำรแยกแยะควำมแตกตำ่ ง - กำรแยกแยะควำมแตกต่ำง ระหว่ำงจริยธรรมกับกำรทจุ ริต ระหว่ำงจรยิ ธรรมกับกำรทจุ ริต ๙. บอกปัญหำกำรทจุ ริตในชุมชน - ปัญหำกำรทุจริตในชุมชนของตน ของตนได้
คมู่ อื หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา : 63 63 ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑๐. ระบแุ นวทำงกำรป้องกัน - แนวทำงกำรปอ้ งกันกำรทุจรติ กำรทจุ ริตในชมุ ชนโดยยึดหลัก ในชุมชนโดยยึดหลักจรยิ ธรรม จริยธรรม ๑๑. วเิ ครำะห์ระหว่ำงกำรขดั กัน - กำรวิเครำะห์กำรขัดกันของ ของประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ ประโยชน์สว่ นตนกับประโยชน์ สว่ นรวมกบั กำรทจุ ริต ส่วนรวมกับกำรทุจรติ ๑๒. ระบแุ นวทำงกำรแกป้ ญั หำ - แนวทำงกำรแก้ปญั หำกำรทุจริต กำรทจุ ริตทีเ่ กิดจำกกำรไม่แยกแยะ ทเ่ี กดิ จำกกำรไมแ่ ยกแยะระหว่ำง ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ ผลประโยชน์สว่ นรวม ส่วนรวม ๑๓. บอกควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำว่ำ กำรขัดกนั กำรขัดกนั ได้ ๑๔. บอกรปู แบบของกำรขัดกนั ได้ - รปู แบบของกำรขัดกนั ๑๕. บอกสำเหตุของกำรเกดิ ผล - สำเหตขุ องกำรเกิดผลประโยชน์ ประโยชน์ทับซอ้ นในสงั คมได้ ทับซ้อนในสังคม ๑๖. บอกรูปแบบของผลประโยชน์ - รูปแบบของผลประโยชน์ทบั ซอ้ น ทับซ้อนในสังคมได้ ในสงั คม ๑๗. บอกแนวทำงกำรป้องกนั - แนวทำงกำรปอ้ งกนั ผลประโยชน์ ผลประโยชน์ทบั ซ้อนในสังคม ทบั ซอ้ นในสงั คม
คมู่ ือหลกั สูตรต้านทุจริตศกึ ษา : 64 64 หน่วยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต จานวน ๘ ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รแู้ ละเข้ำใจเกยี่ วกับลักษณะ - รูปแบบ/ลกั ษณะควำมละอำย เก่ียวกับควำมละอำย ควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อ และควำมไม่ทนตอ่ กำรทุจริต และควำมไม่ทนตอ่ กำรทุจรติ กำรทุจรติ ๒. ตระหนกั และเห็นควำมสำคญั - ควำมสำคญั ของกำรต่อตำ้ นและ ๒. ปฏิบตั ิตนเป็น ของกำรตอ่ ตำ้ นและปอ้ งกัน ปอ้ งกนั กำรทจุ ริต ผู้ละอำยและ กำรทจุ รติ ควำมไม่ทนต่อ ๓. รแู้ ละเขำ้ ใจเกี่ยวกับกำรลงโทษ - กฎหมำย ระเบยี บ บทลงโทษ กำรทจุ รติ ทุกรูปแบบ ทำงสงั คมในระดบั ชมุ ชน ทำงสังคมในระดับชมุ ชน 3. ตระหนกั และเหน็ ๔. บอกบทบำทและหน้ำท่ี - บทบำทและหน้ำท่ีของเยำวชน ควำมสำคญั ของ ของเยำวชนทด่ี ีต่อชุมชน ทดี่ ีตอ่ ชุมชน กำรต่อต้ำนและป้องกัน ๕. เสนอแนวทำงกำรปฏบิ ตั ิตน - แนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ นเป็น กำรทจุ รติ เปน็ ผู้ละอำยและไม่ทนต่อกำรทจุ ริต ผู้ละอำยและไมท่ นต่อกำรทุจริต ในชมุ ชน ในชมุ ชน
คูม่ ือหลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 65 65 หน่วยที่ 3 STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ รติ จานวน ๑๐ ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธิบำยควำมหมำยของ - ควำมหมำยของควำมพอเพียง เกยี่ วกบั STRONG : ควำมพอเพยี งควำมซ่ือสตั ย์ ควำมซอ่ื สตั ย์และควำมดี จติ พอเพยี งตำ้ นทจุ รติ และควำมดี 2. ปฏิบตั ิตนเปน็ ๒. สรปุ องคค์ วำมรู้เชอื่ มโยง - พฤตกิ รรมในชวี ติ ประจำวันกับ ผู้ท่ี STRONG : พฤติกรรมในชวี ิตประจำวนั กับ หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง จติ พอเพยี งต้ำนทุจรติ หลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพียงได้ 3. ตระหนักและ ๓. ตระหนกั ถึงกำรปฏบิ ตั ติ น - กำรปฏบิ ัตติ นตำมหลกั เห็นควำมสำคัญ ตำมหลักควำมพอเพียง ควำมพอเพยี ง ของกำรต่อตำ้ นและ ๔. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้สร้ำงจิตสำนกึ - กำรปฏบิ ัติตนเป็นผู้สรำ้ งจิตสำนกึ ปอ้ งกนั กำรทจุ ริต ในกำรไมค่ ดโกงผู้อนื่ ในกำรไม่คดโกงผู้อนื่ ๕. รู้และเขำ้ ใจควำมหมำย - ควำมหมำยคำว่ำ ควำมโปร่งใส ของคำวำ่ ควำมโปร่งใส ๖. กำรแยกแยะผลกระทบ - กำรแยกแยะผลกระทบจำก จำกพฤตกิ รรมควำมไมโ่ ปรง่ ใส พฤติกรรมควำมไมโ่ ปรง่ ใส ๗. ปฏิบัตติ นเปน็ ผูม้ ีจิตสำนกึ - กำรปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มีจิตสำนึก ในกำรไมค่ ดโกงผู้อื่น ในกำรไม่คดโกงผู้อื่น ๘. ปฏิบตั ิตนเป็นผู้มคี วำมโปร่งใส - กำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีควำมโปรง่ ใส ในกำรปฏบิ ตั งิ ำน ในกำรปฏิบัติงำน ๙. อธบิ ำยควำมหมำย “ต่ืนรู้” ได้ - ควำมหมำย ต่ืนรู้ ๑๐. คิดวเิ ครำะห์ แยกแยะ - กำรคิดวิเครำะห์ แยกแยะ กำรกระทำท่ีมกี ำรตน่ื รู้ กำรกระทำที่มกี ำรต่ืนรู้ ๑๑. อธิบำยควำมหมำย - ควำมหมำยของควำมมุ่งมั่นตงั้ ใจ ของควำมมุ่งมั่นตงั้ ใจได้ ๑๒. อธิบำยควำมหมำย - ควำมหมำยของควำมซอ่ื สตั ย์ ของควำมซื่อสัตย์ได้ ๑๓. ปฏิบตั ิตนให้เป็น - กำรปฏบิ ตั ิตนให้เปน็ ผมู้ ีพฤติกรรม ผู้มพี ฤติกรรมของบุคคลท่ีมี ของบุคคลที่มีควำมมุ่งม่ันตั้งใจ ควำมม่งุ มน่ั ตง้ั ใจในกำรปฏิบตั ิงำน ในกำรปฏบิ ัติงำน ๑๔. สำมำรถสร้ำงฐำนควำมคิด - กำรสรำ้ งฐำนควำมคิดจิตพอเพยี ง จิตพอเพียงต่อต้ำนกำรทุจริต ต่อตำ้ นกำรทจุ ริตให้เกิดขน้ึ เป็น ให้เกดิ ขนึ้ เป็นพื้นฐำนควำมคิด พืน้ ฐำนควำมคิดของปจั เจกบุคคล ของปัจเจกบคุ คลได้
ค่มู อื หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา : 66 66 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑๕. ประยกุ ต์หลกั บูรณำกำร - กำรประยุกตห์ ลักบูรณำกำร “STRONG” เปน็ แนวทำงในกำร “STRONG” เป็นแนวทำงในกำร พัฒนำวฒั นธรรมหนว่ ยงำนได้ พัฒนำวัฒนธรรมหน่วยงำน ๑๖. บอกควำมหมำยของ - ควำมหมำยของควำมเอ้ืออำทร ควำมเอ้ืออำทรได้ ๑๗. ยกตัวอย่ำงของควำมเออ้ื อำทรได้ - ตัวอย่ำงของควำมเอื้ออำทร
คูม่ ือหลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 67 67 หน่วยที่ ๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธบิ ายความหมาย - ความหมายของพลเมอื งศึกษา เก่ียวกับพลเมอื งและ ของพลเมืองศึกษา - ความแตกต่างระหว่างความเปน็ มีควำมรับผิดชอบ ๒. อธิบายความแตกตา่ งระหวา่ ง ราษฎรและความเปน็ พลเมือง ต่อสงั คม ความเป็นราษฎรและความเป็น - คณุ ลกั ษณะของพลเมือง ๒. ปฏบิ ัติตนตำมหนำ้ ที่ พลเมอื ง - แนวทางการสร้างสานึก พลเมืองและ ๓. อธบิ ายคุณลกั ษณะของ ความเป็นเมืองต่อสงั คม มคี วำมรับผิดชอบ พลเมือง ต่อสังคม ๔. บอกแนวทางการสรา้ งสานึก 3. ตระหนกั และ ความเป็นเมืองต่อสังคม เหน็ ควำมสำคญั ของกำรต่อต้ำนและ ป้องกันกำรทจุ รติ
คู่มือหลกั สตู รต้านทจุ ริตศึกษา : 68 68 ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรียนรู้ ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ กำรจัดกำรเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ที่กำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรีย นรู้ ใหแ้ ก่ผู้เรยี นได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพและเอือ้ ต่อกำรวัดผลและประเมินผลกำรเรยี นรู้ หน่วยที่ 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม จานวน ๑๒ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รู้และเข้ำใจเกยี่ วกับสำเหตุ - สำเหตุของกำรทจุ รติ และทิศทำง เกยี่ วกับกำรแยกแยะ ของกำรทุจริตและทิศทำง กำรป้องกันกำรทจุ ริตในสังคม ระหว่ำงผลประโยชน์ กำรปอ้ งกนั กำรทจุ ริตในสังคม สว่ นตนและผลประโยชน์ ๒. ตระหนักและเห็นควำมสำคญั - ควำมสำคัญของกำรตอ่ ต้ำนและ สว่ นรวม ของกำรตอ่ ต้ำนและป้องกนั ป้องกันกำรทจุ รติ ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ กำรทุจรติ ระหว่ำงผลประโยชน์ ๓. วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์ สังเครำะห์ - กำรวเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์ สังเครำะห์ ส่วนตนและผลประโยชน์ ผลประโยชน์ส่วนตนออกจำก ผลประโยชนส์ ่วนตนออกจำก สว่ นรวม ผลประโยชนส์ ว่ นรวม โดยใช้ ผลประโยชน์สว่ นรวม โดยใช้ระบบ 3. ตระหนกั และ ระบบคดิ ฐำนสองท่สี ง่ ผลกระทบ คิดฐำนสองที่ส่งผลกระทบตอ่ เหน็ ควำมสำคญั ตอ่ ประเทศในระดบั อำเซยี น ประเทศในระดบั อำเซยี น ของกำรตอ่ ต้ำนและ ๔. กำรวิเครำะหก์ ำรทุจริตทเี่ กดิ - กำรวิเครำะห์กำรทจุ รติ ทเ่ี กิดจำก ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ จำกระบบกำรคดิ ฐำนสบิ ในอำชีพ ระบบกำรคดิ ฐำนสบิ ในอำชพี ต่ำงๆ ต่ำงๆ ท่ีส่งผลต่อประเทศและ ทส่ี ่งผลต่อประเทศและอำเซยี น อำเซียน ๕. ระบรุ ปู แบบกำรขดั กนั ระหวำ่ ง - รูปแบบกำรขดั กนั ระหว่ำง ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ ผลประโยชนส์ ่วนตนและ ส่วนรวม ผลประโยชน์สว่ นรวม ๖. คิดแยกแยะกำรขัดกันระหวำ่ ง - กำรคดิ แยกแยะกำรขัดกัน ผลประโยชนส์ ่วนตนและ ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวมในชมุ ชน ผลประโยชนส์ ่วนรวมในชมุ ชนและ และสงั คม สงั คม
คูม่ อื หลกั สูตรตา้ นทุจริตศกึ ษา : 69 69 ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๗. วเิ ครำะห์ ควำมสัมพนั ธ์ - กำรวเิ ครำะห์ ควำมสัมพนั ธ์ ของกำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ ของกำรขัดกันระหวำ่ งผลประโยชน์ ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ตอ่ ประเทศและอำเซียน ตอ่ ประเทศและอำเซียน ๘. รแู้ ละเขำ้ ใจเกีย่ วกับกำรทุจริต - กำรทุจริตที่เกิดขนึ้ ระดับประเทศ ทเ่ี กิดขึน้ ภำยในระดบั ประเทศและ และจรยิ ธรรมทใ่ี ชใ้ นกำรป้องกนั จรยิ ธรรมทใี่ ช้ในกำรป้องกัน กำรทุจริตในระดับประเทศ กำรทุจริตในระดบั ประเทศ - ควำมสำคัญของกำรต่อต้ำน ๙. เห็นควำมสำคญั ของกำรต่อต้ำน และปอ้ งกันกำรทุจริต และปอ้ งกนั กำรทุจรติ ๑๐. กำรวิเครำะหส์ ำเหตกุ ำรเกดิ - กำรวเิ ครำะห์สำเหตกุ ำรเกดิ ผลประโยชน์ทบั ซ้อนระดบั ประเทศ ผลประโยชน์ทบั ซ้อนระดบั ประเทศ ๑๑. รูแ้ ละเข้ำใจเก่ียวกบั รูปแบบ - รปู แบบผลประโยชนท์ บั ซอ้ น ผลประโยชน์ทบั ซ้อนระดบั ประเทศ ระดบั ประเทศ ๑๒. หำแนวทำงกำรป้องกนั - แนวทำงกำรปอ้ งกันผลประโยชน์ ผลประโยชน์ทับซ้อนในระดบั ทับซอ้ นในระดับประเทศ ประเทศ
คมู่ ือหลักสตู รต้านทจุ ริตศึกษา : 70 70 หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ จานวน ๘ ชวั่ โมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รู้และเขำ้ ใจเกี่ยวกบั ลักษณะ - ลักษณะควำมละอำยและ เกี่ยวกบั ควำมละอำย ควำมละอำยและควำมไมท่ น ควำมไม่ทนตอ่ กำรทจุ ริต และควำมไมท่ น ต่อกำรทจุ ริต ตอ่ กำรทุจรติ ๒. ตระหนกั และเห็นควำมสำคัญ - กำรสร้ำงตระหนักและ ๒. ปฏบิ ตั ิตนเป็น ของควำมละอำยและควำมไม่ทน เหน็ ควำมสำคัญของกำรต่อต้ำน ผ้ลู ะอำยและควำมไม่ทน ต่อกำรทจุ ริต และป้องกนั กำรทจุ รติ ตอ่ กำรทุจริตทุกรปู แบบ ๓. รู้และเขำ้ ใจเกย่ี วกบั กำรลงโทษ - กำรลงโทษทำงสงั คม 3. ตระหนักและ ทำงสังคม เห็นควำมสำคัญ ๔. คิดวเิ ครำะห์ผลทไ่ี ด้รับจำก - กำรคดิ วิเครำะห์ผลท่ีไดร้ บั ของกำรตอ่ ตำ้ นและ กำรลงโทษทำงสังคมในระดับ จำกกำรลงโทษทำงสังคมในระดบั ป้องกนั กำรทุจรติ ประเทศ ประเทศ ๕. ตระหนักและเห็นควำมสำคญั - กำรสรำ้ งควำมตระหนักและ ของกำรลงโทษทำงสงั คมในระดับ เหน็ ควำมสำคัญของกำรลงโทษ ประเทศ ทำงสังคม ๖. รแู้ ละเขำ้ ใจเก่ยี วกับควำมละอำย - ควำมไม่ทนและควำมละอำย และควำมไม่ทนตอ่ กำรทุจรติ ต่อกำรทจุ ริตจำกกำรศึกษำกรณี จำกกำรศึกษำกรณตี วั อย่ำง ตัวอยำ่ งกำรทจุ ริตในกลุ่มประเทศ กำรทจุ ริตในกลมุ่ ประเทศอำเซยี น อำเซยี น ๗. กำรวิเครำะห์ผลเสยี จำก - กำรวเิ ครำะห์ผลเสียจำก กำรทจุ ริตจำกกรณีตัวอยำ่ งเกี่ยวกบั กำรทจุ ริตจำกกรณตี วั อยำ่ งเกี่ยวกับ ควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อ ควำมละอำยและควำมไม่ทน กำรทุจริตของกลมุ่ ประเทศอำเซยี น ตอ่ กำรทจุ ริตของกลุ่มประเทศ อำเซียน ๘. ตระหนักและเห็นควำมสำคัญ - กำรสรำ้ งตระหนักและ ของกำรตอ่ ตำ้ นและป้องกัน เหน็ ควำมสำคญั ของกำรต่อตำ้ น กำรทจุ รติ ในระดับกลุ่มประเทศ และปอ้ งกันกำรทจุ ริตในระดับ อำเซยี น กลมุ่ ประเทศอำเซยี น
คู่มือหลักสูตรตา้ นทุจริตศกึ ษา : 71 71 หนว่ ยท่ี 3 STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. เลอื กใช้วสั ดทุ อ้ งถิ่น อปุ กรณ์ - กำรประกอบอำชพี ตำมหลัก เกีย่ วกับ STRONG : และเครื่องมือทเ่ี หมำะสมกบั STRONG : จิตพอเพยี งตำ้ นทุจริต จติ พอเพียงต้ำนทุจรติ กำรประกอบอำชีพตำมหลกั เกยี่ วกับ 2. ปฏิบตั ิตนเปน็ STRONG : จิตพอเพียงตำ้ นทุจรติ ๑) กำรทำนำ้ ยำลำ้ งจำน ผทู้ ี่ STRONG : ๒) กำรนวดแผนโบรำณ จติ พอเพยี งต้ำนทจุ ริต ๓) กำรซ่อมรถจักรยำน 3. ตระหนกั และ ๔) กำรทำปยุ๋ ชีวภำพ เหน็ ควำมสำคญั ๕) กำรใหบ้ ริกำร Home Stay ของกำรตอ่ ต้ำนและ - ควำมสำคัญของกำรประกอบ ป้องกนั กำรทจุ รติ อำชพี โดยใชว้ สั ดุทอ้ งถน่ิ ตำมหลัก ๒. ตระหนกั และเห็นควำมสำคัญ STRONG : จิตพอเพียงตำ้ นทุจริต ของกำรประกอบอำชีพโดยใช้ วัสดุทอ้ งถน่ิ ตำมหลกั STRONG : จติ พอเพยี งตำ้ นทุจริต
คมู่ ือหลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา : 72 72 หนว่ ยที่ ๔ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสังคม จานวน ๑๐ ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธิบำยองคป์ ระกอบของ - องคป์ ระกอบของกำรศกึ ษำ เกย่ี วกบั พลเมอื งและ กำรศกึ ษำควำมเปน็ พลเมืองได้ ควำมเป็นพลเมือง เกีย่ วกบั มีควำมรบั ผิดชอบ ๑) ควำมรับผิดชอบทำงสังคม ต่อสังคม ๒) ควำมเก่ยี วพันชมุ ชน ๒. ปฏิบตั ติ นตำมหน้ำที่ ๓) ควำมสำมำรถในกำรอำ่ น พลเมอื งและ กำรเขยี น มีควำมรับผิดชอบ - ควำมหมำยของคำวำ่ กำรเป็น ต่อสังคม ๒. บอกควำมหมำยของคำว่ำ พลเมอื งดี 3. ตระหนักและ กำรเป็นพลเมืองดีได้ - หน้ำทขี่ องกำรเป็นพลเมืองดี เหน็ ควำมสำคญั ๓. ปฏิบัติตนตำมหนำ้ ที่ ได้แก่ ของกำรต่อต้ำนและ ของกำรเปน็ พลเมอื งดีได้ ๑) มงุ่ เนน้ ควำมรับผดิ ชอบ ป้องกนั กำรทจุ ริต ระดบั บุคคล ๒) กำรมสี ่วนรว่ ม ๔. บอกควำมหมำยของคำว่ำ ๓) ควำมยุตธิ รรม สรำ้ งสำนกึ พลเมืองต่อประเทศ - ควำมหมำยของคำวำ่ สรำ้ งสำนกึ ๕. ระบพุ ฤตกิ รรมที่มีต่อ พลเมอื งตอ่ ประเทศ - พฤตกิ รรมท่มี ีต่อกำรสร้ำงสำนกึ กำรสรำ้ งสำนกึ พลเมืองต่อประเทศ พลเมืองตอ่ ประเทศ ๖. เหน็ ควำมสำคัญของ - ควำมสำคัญของกำรสร้ำงสำนกึ กำรสร้ำงสำนกึ พลเมืองท่มี ี พลเมืองทม่ี ีควำมรับผิดชอบต่อ ควำมรบั ผิดชอบต่อประเทศ ประเทศ
ค่มู ือหลกั สตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา : 73 73 ผลการเรยี นร้แู ละสาระการเรียนรู้ ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ กำรจัดกำรเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ที่กำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แกผ่ ้เู รียนไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพและเอ้อื ตอ่ กำรวดั ผลและประเมินผลกำรเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน ๑๒ ชว่ั โมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. กำรวิเครำะห์สถำนกำรณ์ - กำรวิเครำะห์สถำนกำรณ์ เกย่ี วกบั กำรแยกแยะ กำรขัดกนั ระหว่ำงผลประโยชน์ กำรขดั กนั ระหวำ่ งผลประโยชน์ ระหวำ่ งผลประโยชน์ สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม สว่ นตนและผลประโยชน์ ๒. ยกตัวอย่ำงกำรขัดกันระหว่ำง - ตัวอยำ่ งกำรขัดกันระหวำ่ ง ส่วนรวม ผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ผลประโยชน์ส่วนตนและ ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ ผลประโยชน์ส่วนรวม ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ระหว่ำงผลประโยชน์ ๓. วเิ ครำะห์และสงั เครำะห์ - กำรวิเครำะห์ผลประโยชนส์ ว่ นตน ส่วนตนและผลประโยชน์ ผลประโยชนส์ ว่ นตนออกจำก ออกจำกผลประโยชนส์ ่วนรวม สว่ นรวม ผลประโยชน์สว่ นรวมโดยใช้ โดยใชร้ ะบบคิดฐำนสองที่ส่งผล 3. ตระหนกั และ ระบบคดิ ฐำนสองที่ส่งผลกระทบ กระทบต่อประเทศในสงั คมโลก เห็นควำมสำคัญ ต่อประเทศในสงั คมโลก ของกำรตอ่ ต้ำนและ ๔. ตระหนักและเหน็ ควำมสำคญั - ควำมสำคญั ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ ของกำรตอ่ ต้ำนและปอ้ งกนั ป้องกนั กำรทจุ รติ กำรทจุ รติ ๕. กำรแยกแยะกำรทุจรติ ทีเ่ กิด - กำรแยกแยะกำรทุจรติ ทีเ่ กิด จำกกำรคิดระบบคิดฐำนสิบ จำกกำรคิดระบบคิดฐำนสิบ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ท่สี ง่ ผลกระทบ ในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ที่ส่งผลกระทบ ต่อประเทศและสงั คมโลก ตอ่ ประเทศและสงั คมโลก ๖. รู้และเข้ำใจกำรทุจริตทเ่ี กิดข้นึ - กำรทุจริตท่ีเกิดขน้ึ ในโลกและ ในโลกและจรยิ ธรรมท่ใี ชใ้ นกำร จรยิ ธรรมทใ่ี ชใ้ นกำรแกป้ ัญหำ แก้ปัญหำกำรทุจรติ ที่เกดิ ขน้ึ ในโลก กำรทุจรติ ท่ีเกิดข้ึนในโลก
ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา : 74 74 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๗. กำรวิเครำะห์ผลกระทบท่เี กิด - กำรวิเครำะห์ผลกระทบทีเ่ กิด จำกกำรขัดกันระหวำ่ ง จำกกำรขัดกันระหวำ่ งผลประโยชน์ ผลประโยชน์สว่ นตนและประโยชน์ สว่ นตนและประโยชนส์ ่วนรวม ส่วนรวมที่เกิดขน้ึ ในประเทศ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในประเทศ ๘. ร้แู ละเขำ้ ใจเกยี่ วกับรูปแบบ - รูปแบบของผลประโยชน์ทบั ซ้อน ของผลประโยชน์ทับซ้อน และ และแนวทำงป้องกันผลประโยชน์ แนวทำงป้องกันผลประโยชน์ ทับซอ้ นในกลมุ่ ประเทศอำเซียน ทับซ้อนในกลมุ่ ประเทศอำเซียน
คมู่ ือหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 75 75 หนว่ ยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ จานวน ๕ ช่วั โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รู้และเข้ำใจเกย่ี วกบั ลักษณะ - ลักษณะควำมละอำยและ เกย่ี วกับควำมละอำย ควำมละอำยและควำมไมท่ น ควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต และควำมไม่ทน ต่อกำรทุจรติ ต่อกำรทุจริต ๒. รู้และเขำ้ ใจเก่ียวกบั กำรลงโทษ - กำรลงโทษทำงสงั คมในระดบั โลก ๒. ปฏิบตั ิตนเปน็ ทำงสังคมในระดบั โลก ผลู้ ะอำยและไมท่ น ๓. ตระหนกั และเห็นควำมสำคญั - ควำมสำคญั ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ต่อกำรทุจริตทุกรปู แบบ ของกำรต่อต้ำนและปอ้ งกนั ป้องกนั กำรทจุ รติ 3. ตระหนกั และ กำรทุจรติ เหน็ ควำมสำคญั ๔. วเิ ครำะห์ถึงผลเสียจำกกำรศกึ ษำ - กำรวิเครำะห์ผลเสียจำกกำรศึกษำ ของกำรตอ่ ต้ำนและ กรณตี วั อยำ่ งของควำมละอำยและ กรณตี วั อยำ่ งของควำมละอำยและ ป้องกันกำรทุจรติ ควำมไม่ทนต่อกำรทุจรติ ของ ควำมไม่ทนตอ่ กำรทุจริตของ ประเทศตำ่ ง ๆ ในระดบั โลก ประเทศตำ่ ง ๆ ในระดบั โลก ๕. ตระหนักและเห็นควำมสำคญั - ควำมสำคัญของกำรตอ่ ต้ำนและ ของกำรต่อตำ้ นและป้องกัน ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ จำกกรณศี กึ ษำ กำรทจุ ริตของประเทศตำ่ ง ๆ กรณตี ัวอยำ่ งของควำมละอำยและ ในระดบั โลก ควำมไม่ทนตอ่ กำรทจุ รติ ของ ประเทศต่ำง ๆ ในระดบั โลก
คมู่ อื หลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 76 76 หน่วยท่ี 3 STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจรติ จานวน ๑๓ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธบิ ำยควำมหมำยและหลักกำร - ควำมหมำยและหลักกำร เกย่ี วกบั STRONG : ของ STRONG : จิตพอเพยี ง ของ STRONG : จติ พอเพียง จิตพอเพียงตำ้ นทุจริต ต้ำนทุจรติ ตำ้ นทุจรติ 2. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ๒. สรุปองค์ควำมรู้ หลกั กำร - หลกั กำรของ STRONG : ผทู้ ี่ STRONG : ของ STRONG : จติ พอเพียง จติ พอเพยี งต้ำนทุจริตเชอ่ื มโยง จติ พอเพียงตำ้ นทุจริต ตำ้ นทจุ ริต เชื่อมโยงกำรดำเนินกำร กำรดำเนนิ กำรกับบริษัทสร้ำงกำรดี 3. ตระหนักและ กับบริษัทสร้ำงกำรดี เห็นควำมสำคญั ๓. อธบิ ำยควำมหมำยและหลักกำร - ควำมหมำยและหลักกำร ของกำรต่อตำ้ นและ ของบริษทั สรำ้ งกำรดี ของบริษัทสร้ำงกำรดี ป้องกันกำรทุจรติ ๔. สำมำรถจดั ตั้งบรษิ ัทสร้ำงกำรดไี ด้ - กำรจดั ตัง้ บริษทั สรำ้ งกำรดี ๕. สำมำรถดำเนินกำรบริษัท - กำรดำเนนิ กำรบรษิ ัทสร้ำงกำรดี สร้ำงกำรดี โดยประยุกต์ใช้หลักกำร โดยประยกุ ต์ใช้หลักกำร ของ STRONG : จิตพอเพียง ของ STRONG : จิตพอเพยี ง ตำ้ นทจุ รติ ตำ้ นทจุ รติ
คมู่ อื หลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษา : 77 77 หนว่ ยที่ ๔ พลเมอื งกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม จานวน ๑๐ ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธิบำยแนวทำงกำรปฏิบัติตน - แนวทำงกำรปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมอื งดี เก่ยี วกับพลเมอื งและ เปน็ พลเมืองดี ดำ้ นสังคม ดำ้ นเศรษฐกิจและ มีควำมรบั ผดิ ชอบ ดำ้ นกำรเมือง กำรปกครอง ตอ่ สงั คม ๒. วิเครำะห์ควำมเปน็ พลเมอื ง - กำรวเิ ครำะห์ควำมเปน็ พลเมอื ง ๒. ปฏบิ ัติตนตำมหน้ำที่ ดำ้ นคุณค่ำ ค่ำนิยม ควำมรู้ ด้ำนคุณค่ำ ค่ำนยิ ม ควำมรู้ พลเมอื งและ ควำมเขำ้ ใจ ทักษะและพฤติกรรม ควำมเข้ำใจและทักษะและ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ เพ่ือสร้ำงสำนึกพลเมืองต่อสังคมโลก พฤติกรรม ต่อสงั คม - กำรสร้ำงสำนึกพลเมืองต่อ 3. ตระหนักและ สังคมโลก เหน็ ควำมสำคัญ ของกำรตอ่ ต้ำนและ ป้องกันกำรทุจริต
คู่มอื หลกั สูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา : 78 78 ผลการเรียนรู้และสาระการเรยี นรู้ ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพื่อให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงที่ใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ใหแ้ ก่ผู้เรียนได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพและเอ้ือตอ่ กำรวดั ผลและประเมินผลกำรเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม จานวน ๑๓ ชัว่ โมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อภิปรำยกำรคิดแยกแยะ - กำรอภปิ รำยกำรคิดแยกแยะ เก่ียวกบั กำรแยกแยะ ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ระหว่ำงผลประโยชน์ ผลประโยชน์ส่วนรวมที่ส่งผล ผลประโยชน์ส่วนรวมทสี่ ง่ ผล สว่ นตนและ ตอ่ ประเทศ ต่อประเทศ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๒. เสวนำ สัมมนำ ระบบคิดฐำนสอง - กำรเสวนำ สัมมนำ ระบบ ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ ท่สี ง่ ผลต่อตนเอง ประเทศและ คิดฐำนสองที่สง่ ผลต่อตนเอง ระหวำ่ งผลประโยชน์ สงั คมโลก ประเทศและสังคมโลก สว่ นตนและ ๓. ยกตวั อย่ำงพฤตกิ รรมทส่ี อดคล้อง - ตวั อย่ำงพฤติกรรมท่ีสอดคล้อง ผลประโยชน์ส่วนรวม กับระบบคิดฐำนสิบ กบั ระบบคดิ ฐำนสิบ 3. ตระหนกั และ ๔. อภิปรำยถงึ ควำมแตกตำ่ ง - กำรอภปิ รำยควำมแตกต่ำง เหน็ ควำมสำคญั ของคำวำ่ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม ของคำวำ่ จริยธรรม คณุ ธรรม ของกำรต่อต้ำนและ และกำรทจุ รติ และกำรทุจรติ ป้องกันกำรทจุ รติ ๕. บอกประมวลกฎหมำยจรยิ ธรรม - ประมวลกฎหมำยจริยธรรม ในสว่ นทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั นักเรยี น ในสว่ นที่เกย่ี วข้องกับนักเรียน และครู และครู ๖. อภปิ รำยกำรขัดกนั ระหวำ่ ง - กำรอภปิ รำยกำรขัดกันระหวำ่ ง ผลประโยชน์สว่ นตนและ ผลประโยชนส์ ่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมท่ีส่งผล ผลประโยชน์สว่ นรวมทส่ี ่งผล ต่อสงั คม ต่อประเทศ ตอ่ สังคมตอ่ ประเทศ ๗. อภปิ รำยปัญหำของผลประโยชน์ - กำรอภปิ รำยปญั หำ ทับซ้อนที่สง่ ผลตอ่ กำรพัฒนำ ของผลประโยชนท์ ับซ้อนท่สี ง่ ผล ประเทศ ตอ่ กำรพัฒนำประเทศ ๘. อภิปรำย ประมวลกฎหมำย - กำรอภปิ รำยประมวลกฎหมำย อำญำมำตรำ 1 (1)“โดยทุจริต” อำญำมำตรำ 1 (1)“โดยทุจริต”
คู่มือหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา : 79 79 หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จานวน ๔ ช่วั โมง สาระการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ - กำรอภิปรำย เสวนำ สัมมนำ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อภิปรำย เสวนำ สมั มนำ เก่ียวกบั ผลกระทบท่เี กิดจำก เกยี่ วกบั ควำมละอำย เกย่ี วกบั ผลกระทบท่ีเกิดจำก ควำมไมล่ ะอำยและกำรเพิกเฉย และควำมไมท่ น ควำมไมล่ ะอำยและกำรเพิกเฉย ต่อกำรทุจริต ต่อกำรทจุ รติ ตอ่ กำรทุจริต - กำรอภปิ รำยแนวทำงกำรแก้ปญั หำ ๒. ปฏบิ ัตติ นเป็น ๒. อภิปรำย เสวนำ สมั มนำ และวิธปี ฏิบัติเพ่ือไม่ใหเ้ กดิ ผล ผู้ละอำยและไมท่ น เกย่ี วกับแนวทำงกำรแก้ปญั หำ กระทบจำกควำมไมล่ ะอำยและ ตอ่ กำรทจุ ริตทุกรปู แบบ และวิธปี ฏบิ ัติเพือ่ ไม่ใหเ้ กิด กำรเพิกเฉยต่อกำรทจุ รติ ตำม 3. ตระหนักและ ผลกระทบจำกควำมไม่ละอำย ยทุ ธศำสตร์ชำตวิ ่ำด้วยกำรปอ้ งกัน เห็นควำมสำคัญ และกำรเพกิ เฉยตอ่ กำรทุจริต และปรำบปรำมกำรทุจรติ ระยะท่ี 3 ของกำรต่อต้ำนและ (พ.ศ.2560-2564) ป้องกันกำรทจุ ริต
คมู่ ือหลักสูตรตา้ นทุจริตศึกษา : 80 80 หนว่ ยที่ 3 STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต จานวน ๘ ชวั่ โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. สร้ำงสรรค์ภำพยนตร์สน้ั - กำรสรำ้ งสรรคภ์ ำพยนตร์สั้น เกย่ี วกับ STRONG : โดยใช้หลกั STRONG : จติ พอเพยี ง โดยใช้หลัก STRONG : จิตพอเพยี ง จติ พอเพยี งต้ำนทุจรติ ต้ำนทจุ ริต ตำ้ นทจุ ริต 2. ปฏิบตั ิตนเปน็ ๒. วเิ ครำะห์ภำพยนตร์สั้น - กำรวเิ ครำะห์ภำพยนตรส์ ้ัน ผูท้ ี่ STRONG : โดยใชห้ ลัก STRONG : จติ พอเพียง โดยใช้หลัก STRONG : จิตพอเพียง จิตพอเพยี งต้ำนทุจริต ตำ้ นทจุ ริต ตำ้ นทุจริต 3. ตระหนกั และ เห็นควำมสำคัญ ของกำรตอ่ ต้ำนและ ปอ้ งกันกำรทจุ ริต
คูม่ ือหลักสูตรตา้ นทุจริตศึกษา : 81 81 หนว่ ยที่ ๔ พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม จานวน ๑๕ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อภิปรำยแนวทำงกำรเสรมิ สร้ำง - กำรอภปิ รำยแนวทำงกำรสรำ้ งเสรมิ เก่ียวกับพลเมอื งและ สำนึกควำมเป็นพลเมืองแกเ่ ยำวชน สำนึกควำมเป็นพลเมือง กรณีศึกษำ มีควำมรบั ผิดชอบ กรณศี ึกษำภำคเหนือ : ในจงั หวัด ภำคเหนือ : จังหวดั ลำปำง ตอ่ สังคม ลำปำง ๒. ปฏิบตั ิตนตำมหนำ้ ที่ ๒. อภิปรำยปัญหำ อปุ สรรค และ - กำรอภิปรำยปญั หำ อุปสรรค พลเมืองและ ควำมสำเรจ็ ในกำรเสรมิ สรำ้ งสำนกึ และควำมสำเรจ็ ในกำรเสริมสร้ำง มคี วำมรบั ผิดชอบ ควำมเปน็ พลเมืองแกเ่ ยำวชน สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน ตอ่ สงั คม กรณศี ึกษำภำคเหนือ ในจังหวัด กรณีศึกษำภำคเหนือ ในจังหวัด 3. ตระหนกั และ ลำปำง ลำปำง เห็นควำมสำคญั ๓. อภิปรำยแนวทำงกำรพฒั นำ - กำรอภิปรำยแนวทำงกำรพัฒนำ ของกำรตอ่ ต้ำนและ รูปแบบกจิ กรรมเพื่อเสริมสรำ้ ง รปู แบบกจิ กรรมเพ่ือเสรมิ สร้ำง ปอ้ งกันกำรทจุ ริต สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน กรณีศึกษำภำคเหนือ ในจังหวัด กรณีศึกษำภำคเหนือ ในจงั หวัด ลำปำง ลำปำง ๔. อภิปรำยกจิ กรรมเสรมิ สร้ำง - กำรอภิปรำยกจิ กรรมเสรมิ สร้ำง สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน สำนึกควำมเป็นพลเมือง กรณศี ึกษำภำคตะวันออกเฉยี งเหนอื กรณศี ึกษำภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื : ในจังหวดั สกลนคร จังหวดั สกลนคร ๕. อภิปรำยปญั หำ อปุ สรรค และ - กำรอภปิ รำยปัญหำ อุปสรรค ควำมสำเร็จในกำรเสริมสร้ำงสำนกึ และควำมสำเร็จในกำรเสริมสร้ำง ควำมเปน็ พลเมืองแก่เยำวชน สำนกึ ควำมเปน็ พลเมืองแกเ่ ยำวชน กรณศี ึกษำภำคตะวันออกเฉยี งเหนอื กรณศี ึกษำภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ในจังหวัดสกลนคร ในจงั หวดั สกลนคร ๖. อภิปรำยแนวทำงกำรพัฒนำ - กำรอภปิ รำยแนวทำงกำรพัฒนำ รปู แบบกิจกรรมเพื่อเสรมิ สร้ำง รูปแบบกจิ กรรมเพื่อเสริมสรำ้ ง สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน สำนึกควำมเป็นพลเมืองแกเ่ ยำวชน กรณศี ึกษำภำคตะวันออกเฉียงเหนอื กรณีศึกษำภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ ในจงั หวัดสกลนคร ในจงั หวดั สกลนคร ๗. อภปิ รำยกจิ กรรมเสริมสรำ้ ง - กำรอภิปรำยกิจกรรมเสรมิ สรำ้ ง สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่ สำนกึ ควำมเปน็ พลเมือง เยำวชนกรณีศึกษำภำคใต้ กรณีศึกษำภำคใต้ : จังหวัดยะลำ ในจงั หวัดยะลำ
ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา : 82 82 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๘. อภปิ รำยปัญหำ อุปสรรค และ - กำรอภปิ รำยปัญหำ อปุ สรรค ควำมสำเร็จในกำรเสรมิ สร้ำงสำนกึ และควำมสำเรจ็ ในกำรเสริมสรำ้ ง ควำมเปน็ พลเมืองแกเ่ ยำวชน สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน กรณีศึกษำภำคใต้ในจังหวดั ยะลำ กรณศี ึกษำภำคใต้ในจังหวัดยะลำ ๙. อภิปรำยแนวทำงกำรพัฒนำ - กำรอภปิ รำยแนวทำงกำรพัฒนำ รปู แบบกจิ กรรมเพื่อเสรมิ สร้ำง รูปแบบกจิ กรรมเพ่ือเสรมิ สร้ำง สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน สำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เยำวชน กรณีศึกษำภำคใต้ในจังหวัดยะลำ กรณศี ึกษำภำคใต้ในจงั หวัดยะลำ
ค่มู ือหลักสตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 8833 ผลการเรียนรูแ้ ละสาระการเรียนรู้ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ กำรจัดกำรเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพื่อให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงที่ใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แก่ผเู้ รียนได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพและเอ้ือตอ่ กำรวัดผลและประเมินผลกำรเรยี นรู้ หน่วยที่ 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน ๑๒ ชว่ั โมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. เสวนำกำรคดิ แยกแยะระหวำ่ ง - กำรเสวนำกำรคิดแยกแยะ เก่ียวกบั กำรแยกแยะ ผลประโยชน์สว่ นตนและ ระหวำ่ งผลประโยชน์สว่ นตนและ ระหว่ำงผลประโยชน์ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมท่ีมผี ล ผลประโยชนส์ ว่ นรวมทม่ี ีผล ส่วนตนและผลประโยชน์ ตอ่ ประเทศในระดับอำเซยี นได้ ตอ่ ประเทศในระดับอำเซยี น ส่วนรวม ๒. สมั มนำเปรียบเทยี บผล - กำรสัมมนำเปรยี บเทียบผล ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ ของพฤติกรรมทเี่ กิดจำกระบบ ของพฤติกรรมท่เี กดิ จำกระบบ ระหวำ่ งผลประโยชน์ คดิ ฐำนสองไปแก้ระบบคิดฐำนสิบ คดิ ฐำนสองไปแก้ระบบคิดฐำนสบิ สว่ นตนและผลประโยชน์ ท่สี ง่ ผลต่อประเทศและสังคมโลก ท่สี ง่ ผลตอ่ ประเทศและสังคมโลก สว่ นรวม ๓. เสนอแนวทำงกำรแกป้ ญั หำ - แนวทำงกำรแก้ปญั หำกำรขัดกัน 3. ตระหนักและ กำรขัดกันระหวำ่ งผลประโยชน์ ระหวำ่ งผลประโยชน์ส่วนตนและ เห็นควำมสำคญั สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ผลประโยชนส์ ่วนรวมท่ีสง่ ผล ของกำรต่อต้ำนและ ทสี่ ่งผลตอ่ สงั คมและประเทศ ต่อสงั คมและประเทศ ปอ้ งกนั กำรทุจรติ ๔. วเิ ครำะหก์ ฎหมำยท่ีสง่ ผล - กำรวิเครำะห์กฎหมำยทสี่ ง่ ผล ต่อกำรแก้ปญั หำกำรขัดกันระหว่ำง ต่อกำรแกป้ ัญหำกำรขัดกนั ระหวำ่ ง ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ สว่ นตน สว่ นตน ๕. อธบิ ำยประมวลกฎหมำยอำญำ - กำรอธิบำยประมวลกฎหมำย ท่ีเก่ยี วข้องกบั กำรแกป้ ัญหำ อำญำท่เี ก่ียวข้องกับกำรแกป้ ัญหำ กำรทจุ รติ กำรทจุ รติ ๖. อภปิ รำยควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ ง - กำรอภิปรำยควำมสัมพันธ์ จรยิ ธรรมและคุณธรรมท่ีสง่ ผล ระหวำ่ งจรยิ ธรรม และคุณธรรม ตอ่ กำรแกป้ ัญหำกำรทจุ ริต ทสี่ ่งผลต่อกำรแก้ปัญหำกำรทุจริต
ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา : 84 84 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๗. อภิปรำยผลประโยชนท์ บั ซ้อน - กำรอภิปรำยผลประโยชนท์ ับซ้อน เชงิ นโยบำยทส่ี ง่ ผลกระทบต่อ เชงิ นโยบำยท่ีสง่ ผลกระทบต่อ ประเทศ ประเทศ
คูม่ ือหลักสูตรตา้ นทุจริตศกึ ษา : 85 85 หนว่ ยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จานวน ๕ ชวั่ โมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. วเิ ครำะหผ์ ลกระทบจำก - กำรวิเครำะหผ์ ลกระทบจำก เกยี่ วกับควำมละอำย กรณีศึกษำปญั หำกำรทุจรติ กรณีศึกษำปัญหำกำรทจุ ริต และควำมไมท่ น ที่เกิดขนึ้ ในประเทศไทย ที่เกิดข้นึ ในประเทศไทย ต่อกำรทจุ ริต ๒. เสนอแนวทำงกำรแก้ปัญหำ - กำรเสนอแนวทำงกำรแก้ปัญหำ ๒. ปฏิบตั ิตนเป็น กำรทุจริตที่เกดิ ขน้ึ ในประเทศไทย กำรทจุ รติ ท่ีเกิดขนึ้ ในประเทศไทย ผู้ละอำยและ ควำมไม่ทนต่อ กำรทจุ รติ ทุกรปู แบบ 3. ตระหนกั และ เหน็ ควำมสำคญั ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ปอ้ งกันกำรทจุ ริต
คมู่ ือหลักสูตรต้านทุจริตศกึ ษา : 86 86 หน่วยท่ี 3 STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ รติ จานวน ๘ ชัว่ โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อภปิ รำยกรณีตัวอย่ำงกำรแก้ - กำรอภิปรำยกรณีตวั อย่ำงกำรแก้ เก่ยี วกบั STRONG : ปัญหำกำรทจุ รติ ในสงั คมไทย ปัญหำกำรทจุ ริตในสงั คมไทย จติ พอเพียงตำ้ นทจุ ริต โดยยึดหลัก STRONG : จติ พอเพียง โดยยึดหลัก STRONG : จิตพอเพียง 2. ปฏบิ ัติตนเป็น ตำ้ นทจุ ริต ต้ำนทุจรติ ผู้ที่ STRONG : ๒. เสนอแนวทำงกำรนำหลกั - กำรเสนอแนวทำงกำรนำหลัก จิตพอเพียงต้ำนทจุ ริต STRONG : จติ พอเพียงตำ้ นทุจริต STRONG : จติ พอเพยี งต้ำนทุจริต 3. ตระหนักและ มำพฒั นำสังคมไทย มำพฒั นำสงั คมไทย เหน็ ควำมสำคัญ ของกำรตอ่ ต้ำนและ ปอ้ งกันกำรทุจริต
คมู่ อื หลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา : 87 87 หน่วยที่ ๔ พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม จานวน ๑๕ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อภปิ รำยควำมเป็นพลเมือง - กำรอภปิ รำยควำมเป็นพลเมือง เกี่ยวกบั พลเมืองและ ในบรบิ ทตำ่ งประเทศ ในบริบทต่ำงประเทศ มีควำมรับผดิ ชอบ ๒. นำขอ้ คิดจำกกำรศึกษำเกี่ยวกบั - กำรนำขอ้ คิดจำกกำรศึกษำ ตอ่ สงั คม ควำมเปน็ พลเมืองในบรบิ ท เกยี่ วกบั ควำมเปน็ พลเมือง ๒. ปฏิบตั ิตนตำมหน้ำที่ ต่ำงประเทศ (ประเทศญี่ปนุ่ ) ในบรบิ ทตำ่ งประเทศ (ประเทศญปี่ ุ่น) พลเมอื งและ มำประยุกต์ใช้ในประเทศไทย มำประยุกต์ใช้ในประเทศไทย มีควำมรับผิดชอบ ๓. อภิปรำยควำมเปน็ พลเมือง - กำรอภิปรำยควำมเป็นพลเมือง ต่อสังคม ในบริบทตำ่ งประเทศ ในบรบิ ทต่ำงประเทศ 3. ตระหนกั และ ๔. นำข้อคดิ จำกกำรศึกษำเก่ียวกบั - กำรนำข้อคิดจำกกำรศึกษำ เหน็ ควำมสำคัญ ควำมเป็นพลเมืองในบริบท เก่ยี วกบั ควำมเป็นพลเมือง ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ต่ำงประเทศ (ประเทศเกำหลีใต)้ ในบริบทตำ่ งประเทศ (ประเทศ ปอ้ งกนั กำรทจุ ริต มำประยุกตใ์ ช้ในประเทศไทย เกำหลใี ต้) มำประยุกตใ์ ช้ ในประเทศไทย
คูม่ อื หลกั สตู รต้านทจุ ริตศึกษา : 88 88 ผลการเรียนรู้และสาระการเรียนรู้ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๖ กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงที่ใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเ รียนรู้ ให้แก่ผ้เู รียนได้อย่ำงมปี ระสิทธิภำพและเออื้ ต่อกำรวัดผลและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน ๑๒ ชว่ั โมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. วเิ ครำะหห์ ลกั กำรกำรแยกแยะ - กำรวเิ ครำะห์หลักกำรกำรแยกแยะ เกีย่ วกับกำรแยกแยะ ระหว่ำงจริยธรรมและกำรทจุ ริต ระหว่ำงจรยิ ธรรมและกำรทุจรติ ระหว่ำงผลประโยชน์ ๒. แยกแยะควำมแตกต่ำงระหวำ่ ง - กำรแยกแยะควำมแตกตำ่ ง สว่ นตนและผลประโยชน์ จรยิ ธรรมและกำรทุจริต ระหว่ำงจรยิ ธรรมและกำรทุจริต ส่วนรวม ๓. วเิ ครำะห์ผลจำกกำรกระทำ - กำรวิเครำะห์ผลจำกกำรกระทำ ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ ทไี่ มท่ ำใหต้ นเองและผู้อ่นื เดอื ดร้อน ทไ่ี มท่ ำใหต้ นเองและผู้อืน่ เดอื ดร้อน ระหวำ่ งผลประโยชน์ ๔. วเิ ครำะห์กำรกระทำท่ีสอดคล้อง - กำรวิเครำะห์กำรกระทำ สว่ นตนและผลประโยชน์ กับคุณธรรม ทส่ี อดคล้องกบั คุณธรรม สว่ นรวม ๕. วเิ ครำะห์ควำมแตกตำ่ ง - กำรวิเครำะห์ควำมแตกต่ำง 3. ตระหนักและ ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ่วนตน ระหว่ำงผลประโยชน์สว่ นตน เหน็ ควำมสำคัญ และผลประโยชน์ส่วนรวมท่สี ง่ ผล และผลประโยชนส์ ่วนรวม ทส่ี ่งผล ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ต่อประเทศชำติและสงั คมโลก ต่อประเทศชำติและสังคมโลก ปอ้ งกนั กำรทุจรติ ๖. สัมมนำกำรขดั กันทเ่ี กดิ ขนึ้ - กำรวิเครำะห์กำรขัดกันทเ่ี กิดขึ้น ระหว่ำงบคุ คล สังคม ประเทศชำติ ระหวำ่ งบคุ คล สงั คม ประเทศชำติ และโลก และโลก ๗. วิเครำะห์ระเบยี บกำรป้องกนั - กำรวิเครำะห์ระเบียบกำรป้องกัน และปรำบปรำมกำรทุจรติ และปรำบปรำมกำรทจุ ริต พ.ศ.๒๕๖๐ พ.ศ.๒๕๖๐ ๘. สัมมนำระเบียบกำรป้องกัน - กำรสัมมนำระเบยี บกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ และ และปรำบปรำมกำรทุจรติ และ พ.ร.บ. ประกอบรฐั ธรรมนูญว่ำดว้ ย พ.ร.บ.ประกอบรฐั ธรรมนูญวำ่ ดว้ ย กำรปอ้ งกันและปรำบปรำม กำรปอ้ งกนั และปรำบปรำม กำรทจุ ริต พ.ศ.๒๕๔๒ มำตรำ ๔ กำรทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ มำตรำ ๔
คูม่ ือหลกั สูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา : 89 89 ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๙. บอกกฎหมำยที่เก่ยี วข้องกับ - กฎหมำยทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ผลประโยชน์ ผลประโยชนท์ บั ซอ้ นและ ทบั ซ้อนและแนวทำงกำรแกป้ ัญหำ เสนอแนวทำงกำรแกป้ ัญหำ ผลประโยชนท์ ับซ้อน ผลประโยชน์ทบั ซ้อน - กำรวิเครำะห์ลักษณะของ ๙. วเิ ครำะห์ลกั ษณะของ ผลประโยชนท์ บั ซ้อนและรปู แบบ ผลประโยชน์ทับซอ้ นและรปู แบบ ของผลประโยชนท์ บั ซ้อน ของผลประโยชน์ทับซ้อน
คมู่ ือหลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา : 90 90 หน่วยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ จานวน ๘ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธิบำยควำมหมำย รูปแบบ - ควำมหมำยรปู แบบและสำเหตุ เก่ยี วกบั ควำมละอำย และสำเหตุของ “กำรทุจริต” ของกำรทุจรติ และควำมไม่ทน กำรสอบ ตอ่ กำรทุจริต ๒. อธบิ ำยควำมหมำยของ - ควำมหมำยของ “ควำมละอำย ๒. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ “ควำมละอำยและควำมไม่ทน และควำมไม่ทนต่อกำรทจุ รติ ” ผลู้ ะอำยและไมท่ น ตอ่ กำรทจุ รติ ” ต่อกำรทุจริตทุกรปู แบบ ๓. ยกตวั อย่ำงกำรปฏิบตั ติ น - ตัวอยำ่ งกรณีศกึ ษำเก่ยี วกบั 3. ตระหนกั และ เป็นผูล้ ะอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริต ประเทศที่มปี ญั หำกำรทุจรติ เหน็ ควำมสำคญั กรณศี ึกษำเกย่ี วกบั ประเทศ เกดิ ขน้ึ ในประเทศไทยและส่งผล ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ทม่ี ีปญั หำกำรทจุ รติ เกิดขน้ึ กระทบตอ่ ตำ่ งประเทศและโลก ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ ในประเทศไทยและส่งผลกระทบ ตอ่ ตำ่ งประเทศและโลก ๔. อธิบำยควำมหมำยของ - ควำมหมำยของ “กำรลงโทษ “กำรลงโทษทำงสังคม (Social ทำงสงั คม (Social Sanction)” Sanction)” ๕. เสนอวธิ กี ำรปฏิบตั ิตนเปน็ - กำรเสนอวิธกี ำรปฏิบตั ติ นเป็น ผู้ไม่ทนต่อกำรทุจรติ กำรเลือกตงั้ ผไู้ ม่ทนต่อกำรทจุ รติ กำรเลือกตัง้ โดยใช้กำรลงโทษทำงสังคม โดยใช้กำรลงโทษทำงสงั คม ๖. บอกผลกระทบที่เกิดจำก - ผลกระทบทเี่ กิดจำกกำรทุจริต กำรทจุ รติ ๗. จดั ทำโครงงำนสรำ้ ง - กำรจัดทำโครงงำนสรำ้ ง ควำมตระหนักและเห็นควำมสำคัญ ควำมตระหนักและควำมสำคัญ ของกำรตอ่ ต้ำนและป้องกัน ของกำรต่อต้ำนและป้องกนั กำรทุจริตในโรงเรยี นผำ่ นกจิ กรรม กำรทุจรติ ในโรงเรียนผำ่ นกิจกรรม นักเรียน นักเรยี น
คมู่ อื หลกั สูตรตา้ นทจุ ริตศึกษา : 91 91 หนว่ ยท่ี 3 STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต จานวน ๘ ชัว่ โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. รู้และเขำ้ ใจ เร่อื ง ควำมพอเพียง - ควำมพอเพียงกับกำรต่อตำ้ น เกย่ี วกับ STRONG : กบั กำรต่อตำ้ นทจุ รติ ทุจรติ จิตพอเพยี งตำ้ นทจุ รติ ๒. ประยุกตใ์ ช้ควำมพอเพยี ง - กำรประยุกต์ใช้ควำมพอเพยี ง 2. ปฏบิ ตั ติ นเป็น เพอ่ื ต่อตำ้ นทจุ ริต เพอ่ื ต่อตำ้ นทุจริต ผู้ที่ STRONG : ๓. ยกตัวอยำ่ งเหตุกำรณ์กำรใช้ - ตวั อย่ำงเหตุกำรณ์กำรใช้ จิตพอเพียงตำ้ นทจุ ริต ควำมพอเพียงตอ่ ตำ้ นทุจรติ ในชีวิต ควำมพอเพยี งต่อต้ำนทจุ ริต 3. ตระหนักและ ประจำวนั ในชีวติ ประจำวัน เห็นควำมสำคัญ ๔. รู้และเข้ำใจ เรอื่ ง ควำมโปร่งใส - ควำมโปรง่ ใสกบั กำรต่อตำ้ น ของกำรต่อต้ำนและ กบั กำรต่อตำ้ นกำรทุจริต กำรทุจรติ ปอ้ งกันกำรทุจริต ๕. ยกตวั อย่ำงเหตกุ ำรณ์กำรใช้ - ตัวอย่ำงเหตุกำรณ์กำรใช้ ควำมโปรง่ ใสตอ่ ตำ้ นกำรทุจริต ควำมโปรง่ ใสตอ่ ต้ำนกำรทจุ ริต ในชีวิตประจำวัน ในชวี ิตประจำวัน ๖. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผทู้ ม่ี ีควำมโปรง่ ใส - กำรปฏบิ ตั ิตนเป็นผ้ทู ่มี ีควำมโปร่งใส เพ่อื ต่อตำ้ นกำรทจุ ริต เพือ่ ต่อตำ้ นกำรทุจริต ๗. บอกวธิ กี ำรต้ำนทจุ ริตระดับ - วิธกี ำรตำ้ นทุจริตระดับสังคมโลก สังคมโลก ๘. สร้ำงจติ สำนกึ ของตนเพื่อต้ำน - วธิ กี ำรสร้ำงจิตสำนึกของตน ทจุ รติ ระดับสงั คมโลก เพื่อต้ำนทจุ ริตระดับสังคมโลก ๙. รู้และเขำ้ ใจเกย่ี วกับกำรต้ำน - กำรต้ำนทจุ ริตระดับสังคมโลก ทจุ ริตระดบั สงั คมโลก ๑๐. บอกผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้นจำก - ผลกระทบที่เกิดขน้ึ จำกกำรทุจริต กำรทุจริตระดบั สงั คมโลก ระดบั สงั คมโลก ๑๑. บอกแนวทำงกำรป้องกนั - แนวทำงกำรปอ้ งกนั กำรทจุ รติ กำรทุจรติ ระดบั สังคมโลก ระดับสังคมโลก
ค่มู อื หลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 92 92 หนว่ ยที่ ๔ พลเมืองกบั ความรับผิดชอบต่อสงั คม จานวน ๑๒ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. อธิบำยเกี่ยวกับกำรละเมดิ สิทธิ - กำรละเมิดสิทธแิ ละหนำ้ ทีข่ อง เกย่ี วกับพลเมอื งและ และหน้ำทขี่ องพลเมือง พลเมอื ง มคี วำมรบั ผิดชอบ ๒. วเิ ครำะห์สถำนกำรณ์กำรทุจรติ - กำรวเิ ครำะห์สถำนกำรณ์ ตอ่ สังคม จำกกำรละเมดิ สิทธิหน้ำท่ขี องตนเอง กำรทุจริตจำกกำรละเมิดสทิ ธิ ๒. ปฏบิ ัติตนตำมหน้ำที่ และผู้อ่ืน หนำ้ ทขี่ องตนเองและผู้อนื่ พลเมืองและ ๓. สำมำรถหำแนวทำงในกำรแก้ - แนวทำงในกำรแกป้ ญั หำ มีควำมรบั ผิดชอบ ปญั หำกำรละเมิดสิทธิหน้ำที่ กำรละเมิดสิทธิหนำ้ ท่ีต่อตนเอง ตอ่ สังคม ตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน และผอู้ ่นื 3. ตระหนกั และ ๔. ยกตัวอย่ำงพฤติกรรมท่ีแสดงถึง - ตัวอย่ำงพฤติกรรมที่แสดงถึง เห็นควำมสำคญั กำรเคำรพสทิ ธิหน้ำทต่ี ่อตนเอง กำรเคำรพสทิ ธิหนำ้ ที่ต่อตนเอง ของกำรต่อตำ้ นและ และผ้อู ื่น และผอู้ ่ืน ปอ้ งกันกำรทจุ ริต ๕. ปฏิบตั ติ นในกำรเคำรพสิทธิ - กำรปฏบิ ัติตนในกำรเคำรพสิทธิ หน้ำทต่ี อ่ ตนเองและผอู้ น่ื หน้ำที่ต่อตนเองและผู้อนื่ ๖. วเิ ครำะห์ควำมสำคัญของปฏบิ ัติ - กำรวิเครำะห์ควำมสำคัญ ตำมระเบียบ กฎ กติกำ กฎหมำย ของปฏบิ ตั ิตำมระเบยี บ กฎ กตกิ ำ กฎหมำย ๗. อธบิ ำยควำมสมั พันธร์ ะหว่ำง - ควำมสัมพันธร์ ะหวำ่ งกำรปฏบิ ัติ กำรปฏิบัติตำมระเบียบ กฎ กติกำ ตำมระเบียบ กฎ กติกำ กฎหมำย กฎหมำยกบั ควำมรับผดิ ชอบ กับควำมรบั ผิดชอบต่อสังคม ตอ่ สงั คม ๘. จัดทำส่ือเผยแพร่และรณรงค์ - กำรผลติ ส่อื เผยแพร่และรณรงค์ ในกำรปฏบิ ัตติ ำมระเบียบ กฎ ในกำรปฏิบตั ิตำมระเบียบ กฎ กติกำ กฎหมำย กติกำ กฎหมำย ๙. ปฏิบัติตนตำมระเบยี บ กฎ - กำรปฏิบัติตนตำมระเบียบ กฎ กตกิ ำ กฎหมำย กติกำ กฎหมำย ๑๐. ระบพุ ฤติกรรมของพลเมือง - พฤตกิ รรมของพลเมืองทม่ี ี ท่ีมีควำมรบั ผิดชอบต่อกำรปอ้ งกนั ควำมรับผิดชอบต่อกำรป้องกัน กำรทจุ ริต กำรทุจรติ ๑๑. ปฏิบัตติ นตำมหนำ้ ท่พี ลเมือง - กำรปฏิบตั ิตนตำมหนำ้ ท่ีพลเมือง ทีม่ ตี ่อกำรป้องกนั กำรทุจริต ทม่ี ตี ่อกำรป้องกนั กำรทจุ ริต
คูม่ ือหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 93 93 ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑๒. จัดทำสอ่ื เผยแพรแ่ ละรณรงค์ - กำรผลิตส่ือเผยแพรแ่ ละรณรงค์ ใหก้ ำรส่งเสริมให้พลเมือง ให้กำรสง่ เสรมิ ให้พลเมือง รับผิดชอบต่อกำรป้องกนั กำรทุจรติ รับผดิ ชอบต่อกำรป้องกันกำรทจุ รติ ๑๓. ระบุพฤตกิ รรมของพลเมือง/ - พฤตกิ รรมของพลเมือง/พลโลก พลโลกที่มคี วำมรับผิดชอบ ทีม่ ีควำมรบั ผดิ ชอบต่อกำรทุจรติ ตอ่ กำรทุจรติ ๑๔. วิเครำะหพ์ ฤติกรรม - กำรวเิ ครำะห์พฤติกรรม ของพลเมือง/ พลโลกที่มี ของพลเมือง/พลโลกที่มี ควำมรับผิดชอบต่อกำรทจุ ริต ควำมรับผดิ ชอบต่อกำรทุจริต ๑๕ เสนอแนวทำงในกำร - กำรเสนอแนวทำงในกำร สร้ำงเสรมิ สำนกึ ควำมเป็นพลเมอื ง สร้ำงเสริมสำนกึ ควำมเป็นพลเมือง ที่ควำมรบั ผิดชอบต่อกำรทุจริต ท่คี วำมรับผดิ ชอบต่อกำรทุจริต 8. แนวทางการนาหลักสตู รต้านการทุจริตศึกษาไปใช้ กระทรวงศึกษำธิกำรเห็นด้วยกับกำรนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำไปใช้ในสถำนศึกษำ เนื่องจำกจุดมุ่งหมำยของรำยวิชำและผลกำรเรียนรู้ท่ีหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำกำหนด จะเป็น ประโยชน์ต่อประเทศชำติท่ีสร้ำงควำมตระหนัก ควำมเข้ำใจและกำรมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ผ่ำนกำรเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งกำรปลูกฝังคุณธรรมและสร้ำงวัฒนธรรมต่อต้ำนกำรทุจริต ควรปลูกฝังให้ครอบคลุมทุกระดับกำรศึกษำและมีควำมต่อเน่ือง ตั้งแต่กำรศึกษำระดับปฐมวัย ประถมศึกษำ มัธยมศึกษำ จนถึงระดับอุดมศึกษำ รวมท้ังกำรส่งเสริมให้หน่วยงำนภำครัฐ และ ขอควำมร่วมมือจำกภำคเอกชน จัดให้มีกำรฝึกอบรม หรือบูรณำกำรกับหลักสูตรฝึกอบรมในระดับ ต่ำง ๆ เพ่ือให้เกิดพฤติกรรมกำรตระหนักรู้ ค่ำนิยมพื้นฐำนของแต่ละบุคคล และจรรยำบรรณ ในวิชำชีพ กระทรวงศึกษำธิกำรได้เสนอควำมเหน็ เพ่ิมเติมในสว่ นทีเ่ ก่ียวข้องกับหลกั สูตรต้ำนทุจริตศึกษำ (Anti-Corruption Education) ที่เก่ียวกับหลักสูตรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน รำยวิชำเพ่ิมเติม กำรป้องกัน กำรทจุ ริต ดังน้ี ด้ำนกำรนำหลักสูตรไปใช้ เนื่องจำกปัจจุบัน สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำ ข้ันพื้นฐำนได้เปิดโอกำสให้สถำนศึกษำสำมำรถบริหำรจัดกำรหลักสูตรสถำนศึกษำได้ตำมบริบท จุดเน้น ควำมพร้อมและศักยภำพ ทั้งนี้ ต้องอยู่ภำยใต้กรอบของหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทำงดังกล่ำว จึงเห็นควรกำหนด เป้ำหมำยกำรเรียนรู้ของแต่ละช่วงวัยให้ชัดเจน และจัดทำแนวดำเนินกำรที่เป็นรูปธรรม ส่วนวิธีกำร นำไปปฏบิ ัตใิ หส้ ถำนศึกษำเป็นผพู้ ิจำรณำว่ำจะดำเนินกำรในแนวทำงใดบำ้ ง เช่น ๑. เปดิ รำยวิชำเพมิ่ เติม ๒. บูรณำกำรกำรเรียนกำรสอนกับกล่มุ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ๓. บูรณำกำรกำรเรียนกำรสอนกบั กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้อนื่ ๆ
คมู่ อื หลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 94 94 ๔. จัดในกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ๕. จัดเปน็ กิจกรรมเสริมหลักสตู ร หรอื บูรณำกำรกบั วิถชี ีวิตในสถำนศึกษำ สำหรับจำนวนช่ัวโมงท่ีกำหนดไว้ในแต่ละหน่วยกำรเรียนรู้ สถำนศึกษำสำมำรถปรับได้ ตำมควำมเหมำะสม แต่ต้องมเี วลำเรียนทั้ง ๔ หน่วยกำรเรียนรู้ รวม ๔๐ ช่วั โมง การจดั การเรียนรูแ้ ต่ละรปู แบบมีแนวทางในการดาเนนิ การ ดังน้ี ๑. เปิดรายวิชาเพิม่ เติม สถำนศึกษำสำมำรถนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ ส่กู ำรปฏิบัติโดยเปิดเป็นรำยวิชำเพิ่มเติม ตำมขั้นตอน ดงั นี้ ๑.๑ ศกึ ษำหลกั สูตรต้ำนทุจรติ ศึกษำ ๑.๒ ศึกษำคู่มือกำรใชห้ ลักสูตรต้ำนทจุ ริตศกึ ษำ ๑.๓ ประชุมครเู พ่อื กำหนดชัว่ โมงในกำรสอนและจำนวนหน่วยกิต ๑.๔ กำหนดครผู ู้สอนในแต่ละระดบั ชน้ั ๑.๕ ครูนำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ สกู่ ำรสอนในชนั้ เรยี น ๑.๖ ครูวดั และประเมนิ ผลผเู้ รียนเป็นรำยบคุ คล ๑.๗ สรุปผลกำรวัดและประเมินผลผู้เรียนเป็นรำยบุคคล และตัดสินผลกำรเรียน แลว้ รำยงำนผลตอ่ ผู้บริหำรสถำนศกึ ษำ ๑.๘ ผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำสรปุ ผลกำรประเมนิ เปน็ ภำพรวมของสถำนศึกษำ ๑.๙ ครูนำเคร่ืองมือวัดและประเมินผลของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน ไปวัดและประเมนิ ผลผเู้ รียน ๑.๑๐ สถำนศึกษำสรุปผลกำรประเมินเป็นภำพรวมของสถำนศึกษำและรำยงำนผล ตอ่ หน่วยงำนตน้ สังกัด ๒. การบรู ณาการการเรียนการสอนกบั กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สถำนศึกษำสำมำรถนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ สู่กำรปฏิบัติในกำรบูรณำกำรกับ กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ตำมข้นั ตอน ดงั น้ี ๒.๑ ศกึ ษำหลกั สูตรต้ำนทุจรติ ศึกษำ ๒.๒ ศึกษำค่มู อื กำรใชห้ ลกั สูตรตำ้ นทุจริตศกึ ษำ ๒.๓ ประชุม วำงแผนกำรบูรณำกำรกับครูผู้สอน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม โดยครูผู้สอน วิเครำะห์มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัดและเนื้อหำ ในกลุ่มสำระ กำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ที่สอดคล้องกบั หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำในแต่ละหนว่ ย กำรเรยี นรใู้ นแต่ละชั้น ๒.๔ กำหนดสำระกำรเรยี นร้แู ละตัวชว้ี ัด ท่ีจะบูรณำกำรกบั หลักสูตรต้ำนทุจรติ ศกึ ษำ ๒.๕ ครูผู้สอนศึกษำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำในระดับ ชนั้ เรยี น ท่ีจะนำไปบูรณำกำรในกำรสอนกับกล่มุ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม
คู่มือหลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษา : 95 95 ๒.๖ นำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ บูรณำกำรเข้ำกับเน้ือหำ ทจี่ ะสอนในกลุ่มสำระกำรเรยี นร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ๒.๗ ครบู รู ณำกำรแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ส่กู ำรสอนในชนั้ เรียน ๒.๘ ครวู ดั และประเมินผลผเู้ รียนเป็นรำยบคุ คล ๒.๙ สรุปผลกำรวัดและประเมินผลผู้เรียนเป็นรำยชั้น และรำยงำนผลต่อผู้บริหำร สถำนศกึ ษำ ตัวอย่าง การวิเคราะห์การบูรณาการการเรียนการสอนกับกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรมกบั หลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษา เพื่อการบูรณาการ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา หลกั สตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา เน้ือหาท่ีบูรณาการ ศาสนา และวัฒนธรรม กำรปฏบิ ตั ติ นตำม ชั้นประถมศึกษำปีที่ ๒ ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ ๒ ขอ้ ตกลง กตกิ ำ กฎ สาระท่ี ๒ หนำ้ ท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม หนว่ ยท่ี ๔ พลเมืองกบั ระเบยี บ ในสถำนศกึ ษำ และกำรดำรงชวี ติ ในสงั คม ควำมรับผดิ ชอบต่อสงั คม ตวั ช้ีวัดที่ ๑ ปฏิบัตติ นตำมขอ้ ตกลง ผลการเรยี นรู้ ปฏบิ ตั ิตน กตกิ ำ กฎ ระเบยี บและหน้ำที่ ตำมหนำ้ ที่พลเมืองและ ทต่ี อ้ งปฏิบตั ใิ นชีวิตประจำวัน มคี วำมรบั ผดิ ชอบต่อสังคม สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ข้อตกลง สาระการเรียนรู้ที่ ๓ เรอื่ ง กฎ กติกำ กฎ ระเบียบ หนำ้ ทีท่ ี่ต้อง กติกำ ระเบยี บ ในสถำนศึกษำ ปฏิบตั ิในครอบครัว สถำนศกึ ษำ สถำนท่สี ำธำรณะ เชน่ โรงภำพยนตร์ โบรำณสถำน ฯลฯ ๓. การบรู ณาการการเรยี นการสอนกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ ๆ สถำนศึกษำสำมำรถนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ สู่กำรปฏิบัติในกำรบูรณำกำรกับ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้อ่นื ๆ ดงั นี้ ๓.๑ ศึกษำหลกั สตู รต้ำนทจุ ริตศึกษำ ๓.๒ ศกึ ษำคูม่ อื กำรใชห้ ลกั สตู รตำ้ นทจุ รติ ศึกษำ ๓.๓ ประชุม วำงแผนกำรบูรณำกำรกับกลุ่มสำระกำรเรียนรู้อ่ืน ๆ โดยครูผู้สอนแต่ละ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิเครำะห์มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัดและเนื้อหำ ใน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ที่สอดคลอ้ งกบั หลักสูตรตำ้ นทจุ รติ ศกึ ษำในหนว่ ยกำรเรยี นรู้ในแต่ละชนั้ ๓.๔ กำหนดกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสำระกำรเรียนรู้แกนกลำงและมำตรฐำน กำรเรียนรู้ ท่ีจะนำไปบูรณำกำรกับหลักสูตรตำ้ นทุจริตศกึ ษำ ๓.๕ ครูผู้สอนศึกษำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำในระดับช้ัน ท่ีจะนำไปบรู ณำกำรในกำรสอน
คมู่ ือหลกั สตู รต้านทุจริตศึกษา : 96 96 ๓.๖ นำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ บูรณำกำรเข้ำกับเน้ือหำ ที่จะสอนในกล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ ๓.๗ ครนู ำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ สกู่ ำรสอนในชนั้ เรยี น ๓.๘ ครวู ดั และประเมนิ ผลผเู้ รียนเปน็ รำยบคุ คล ๓.๙ สรุปผลกำรวัดและประเมินผลผู้เรียนเป็นรำยช้ัน และรำยงำนผลต่อผู้บริหำร สถำนศกึ ษำ ๔. จดั ในกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รยี น สถำนศึกษำสำมำรถนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ สู่กำรปฏิบัติในกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน สำมำรถดำเนินกำรตำมขั้นตอนได้ ดงั นี้ ๔.๑ ศกึ ษำคูม่ อื หลักสตู รตำ้ นทจุ ริตศึกษำ ใหม้ ีควำมร้คู วำมเขำ้ ใจ ๔.๒ สถำนศึกษำจัดประชุมครู ท้ังสถำนศึกษำเพื่อช้ีแจงสร้ำงควำมเข้ำใจเก่ียวกับ หลักสูตรตำ้ นทจุ รติ ศกึ ษำ ๔.๓ วำงแผนกำรนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำไปจัดในกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ซงึ่ กจิ กรรมทสี่ ำมำรถนำหลักสตู รต้ำนทุจรติ ศึกษำไปจดั ได้แก่ ๔.๓.๑ กจิ กรรมแนะแนว หน่วยกำรเรียนรทู้ คี่ วรนำไปจดั ในกจิ กรรมแนะแนว ไดแ้ ก่ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๑ กำรคิดแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ่วนรวม หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ ควำมละอำยและควำมไม่ทนตอ่ กำรทุจริต หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๓ STRONG : จิตพอเพยี งต้ำนทุจรติ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ พลเมอื งกบั ควำมรับผิดชอบตอ่ สังคม ๔.๓.๒ กจิ กรรมนักเรียน หน่วยกำรเรียนรู้ท่ีควรนำไปจัดในกิจกรรมลูกเสือ เนตรนำรี ยุวกำชำด ผบู้ ำเพ็ญประโยชน์ และชุมนุม/ชมรม ได้แก่ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๑ กำรคิดแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์สว่ นรวม หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี ๒ ควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อกำรทุจรติ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๓ STRONG : จิตพอเพยี งต้ำนทุจริต หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๔ พลเมอื งกับควำมรับผิดชอบต่อสังคม ๔.๓.๓ กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสำธำรณประโยชน์ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ีควรนำไปจัด กจิ กรรมกำรเรียน ได้แก่ หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๒ ควำมละอำยและควำมไมท่ นตอ่ กำรทจุ ริต หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ่ี ๓ STRONG : จิตพอเพยี งต้ำนทจุ ริต หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๔ พลเมอื งกบั ควำมรับผิดชอบตอ่ สังคม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132