Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือหลักสูตรต้านทุจริต(Anti-Corruption Education)

คู่มือหลักสูตรต้านทุจริต(Anti-Corruption Education)

Published by assy2525, 2019-05-14 23:04:08

Description: คู่มือหลักสูตรต้านทุจริต(Anti-Corruption Education)

Keywords: Education

Search

Read the Text Version

1 คู่มือหลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา (Anti-Corruption Education) หลักสูตรการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน ชดุ หลักสูตรต้านทจุ ริตศึกษา (Anti – Corruption Education) สานกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ รว่ มกบั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2561

ค่มู ือหลกั สตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา พมิ พ์ครง้ั แรก พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๓๐,๐๐๐ เล่ม จำ� นวนพิมพ์ สำ� นกั พฒั นานวัตกรรมการจัดการศกึ ษา ส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน ผู้จดั พิมพ์ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ธรรมรตั น์ บญุ แพทย์ แบบปก รูปเล่ม

0 คานา สำนักงำนคณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน (สพฐ.) ได้จัดทำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำสำหรับใช้ ในทุกระดับกำรศึกษำ ในส่วนของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำนได้จัดทำหลักสูตร ต้ำนทุจริตศึกษำ รำยวิชำเพ่ิมเติม “กำรป้องกันกำรทุจริต” ข้ึน และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ เมื่อวันท่ี 22 พฤษภำคม 2561 และให้หน่วยงำนที่เกี่ยวข้องนำหลักสูตร ต้ำนทุจริตศึกษำไปปรับใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในสถำนศึกษำโดยมุ่งเน้นก ำรสร้ำงควำมรู้ ควำมเข้ำใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับควำมหมำยและขอบเขตของกำรกระทำทุจริตในลักษณะต่ำง ๆ ทั้งทำงตรงและทำงอ้อม ควำมเสียหำยที่เกิดจำกกำรทุจริต ควำมสำคัญของกำรต่อต้ำนกำรทุจริต รวมทง้ั จดั ใหม้ ีกำรประเมนิ ผลสมั ฤทธิข์ องกำรจดั หลกั สูตรในแต่ละช่วงวัยของผเู้ รียนด้วย เพ่ือให้กำรนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ รำยวิชำเพ่ิมเติม “ป้องกันกำรทุจริต” ไปใช้ได้ อย่ำงถูกต้องและมีประสิทธิภำพ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนจึงได้จัดทำคู่มือกำรใช้ หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ รำยวิชำเพิ่มเติม “กำรป้องกันกำรทุจริต” ข้ึน เพ่ือให้สถำนศึกษำใช้เป็น แนวทำงในกำรจัดกำรเรยี นรู้และประยุกตใ์ ช้ในกำรจดั กำรเรยี นรู้ได้ตำมควำมเหมำะสมและตำมบริบท ของสถำนศึกษำ คู่มือประกอบด้วยควำมเป็นมำของหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ วัตถุประสงค์ในกำร จดั ทำคู่มือกำรใช้หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ เป้ำหมำยในกำรจัดทำคู่มือกำรใช้หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ เรียนรู้อะไรในหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ สำระและผลกำรเรียนรู้ คุณภำพผู้เรียน ผลกำรเรียนรู้และ สำระกำรเรียนรู้แต่ละระดับช้ัน แนวทำงกำรนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำไปใช้ กำรกำกับติดตำม ประเมินผล และอภิธำนศพั ท์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน หวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ คู่มือกำรใช้หลักสูตร ต้ำนทุจริตศึกษำ รำยวิชำเพิ่มเติม “กำรป้องกันกำรทุจริต” จะเป็นประโยชน์ต่อสถำนศึกษำและ ผเู้ ก่ียวข้องทุกฝำ่ ย หำกมีข้อเสนอแนะอื่นใดที่จะทำใหค้ ู่มือกำรใช้หลักสตู รเลม่ น้ีมีควำมสมบูรณ์ย่ิงขึ้น โปรดแจ้งสำนักงำนคณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ และสำนักงำน คณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพื้นฐำน ทรำบด้วย จักขอบพระคุณย่งิ และขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในกำรจัดทำหลักสตู รตำ้ นทจุ ริตศึกษำ รำยวิชำเพิ่มเติม “กำรปอ้ งกันกำรทุจริต” ทกุ ท่ำนไว้ ณ โอกำสน้ี สำนกั พฒั นำนวัตกรรมกำรจัดกำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พืน้ ฐำน

0 สารบัญ หน้ำ 1 1. ควำมเป็นมำของหลักสตู รตำ้ นทจุ ริตศกึ ษำ 7 2. วตั ถปุ ระสงค์ในกำรจัดทำคู่มือกำรใชห้ ลกั สตู รตำ้ นทจุ ริตศึกษำ 7 3. เป้ำหมำยในกำรจดั ทำคู่มือกำรใช้หลกั สตู รตำ้ นทจุ ริตศึกษำ 7 4. เรยี นรู้อะไรในหลกั สตู รตำ้ นทุจรติ ศกึ ษำ 9 5. สำระและผลกำรเรียนรู้ 10 6. คุณภำพผูเ้ รยี น 7. ผลกำรเรยี นร้แู ละสำระกำรเรียนรู้ 23 29 ผลกำรเรยี นรแู้ ละสำระกำรเรียนรู้ ระดบั ปฐมวยั 36 ผลกำรเรียนรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดบั ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี ๑ 40 ผลกำรเรียนรแู้ ละสำระกำรเรียนรู้ ระดับชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๒ 45 ผลกำรเรียนรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดบั ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๓ 51 ผลกำรเรยี นร้แู ละสำระกำรเรียนรู้ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๔ 56 ผลกำรเรยี นรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดับช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๕ 62 ผลกำรเรยี นรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดับชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๖ 68 ผลกำรเรยี นรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 1 73 ผลกำรเรียนรแู้ ละสำระกำรเรียนรู้ ระดับช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๒ 78 ผลกำรเรยี นรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี ๓ 83 ผลกำรเรยี นรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดับชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ ๔ 88 ผลกำรเรียนรแู้ ละสำระกำรเรียนรู้ ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ ๕ 93 ผลกำรเรยี นรู้และสำระกำรเรียนรู้ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๖ 94 8. แนวทำงกำรนำหลักสตู รต้ำนทจุ รติ ศกึ ษำไปใช้ - เปิดรำยวชิ ำเพ่ิมเติม 94 - กำรบรู ณำกำรกำรเรยี นกำรสอนกับกลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ 95 96 ศำสนำ และวัฒนธรรม 98 - กำรบรู ณำกำรกำรเรยี นกำรสอนกับกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้อ่ืน ๆ 101 - จดั ในกิจกรรมพัฒนำผูเ้ รยี น 121 - จัดเป็นกจิ กรรมเสรมิ หลักสตู ร หรอื บูรณำกำรกบั วิถีชวี ติ ในสถำนศึกษำ 125 9. กำรกำกบั ตดิ ตำมและประเมินผลหลักสตู รต้ำนทุจริตศึกษำ 10. อภธิ ำนศพั ท์ 11. คณะทำงำนจดั ทำคู่มอื กำรใช้หลกั สตู รต้ำนทจุ รติ ศึกษำ

1 คู่มือหลกั สูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา หลักสูตรการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน -------------------------------------------- 1. ความเป็นมาของหลักสูตรตา้ นทุจรติ ศึกษา ปจั จุบัน ปัญหำกำรทุจรติ คอรร์ ัปชันถือได้ว่ำเป็นปัญหำใหญท่ ่ีเกดิ ขึ้นในประเทศต่ำง ๆ ท่ัวโลก รวมท้ังประเทศไทย ซึ่งปัญหำนี้ยังไม่มีทีท่ำว่ำจะหมดไป อีกทั้งยังทวีควำมรุนแรงและซับซ้อนมำกขึ้น อย่ำงต่อเนื่อง แม้ว่ำประเทศไทยจะก้ำวเข้ำสู่ควำมทันสมัย มีระบบกำรบริหำรรำชกำรสมัยใหม่ มีกำรรณรงค์จำกองค์กรของรัฐ หรือองค์กรอิสระต่ำง ๆ ที่เห็นพ้องกันว่ำ กำรทุจริตคอร์รัปชัน เป็นปัญหำที่นำไปสู่ควำมยำกจน และเป็นอุปสรรคท่ีขัดขวำงกำรพัฒนำประเทศอย่ำงแท้จริง สำหรับ ประเทศไทยนั้น เป็นท่ีทรำบกันทั่วไปว่ำปัญหำเร่ืองกำรทุจริตคอร์รปั ชันเป็นปัญหำสำคัญลำดับต้น ๆ ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อกำรพัฒนำประเทศเป็นอย่ำงมำก ปญั หำดังกล่ำวเกดิ ข้ึนมำช้ำนำนจนฝงั รำกลึก และ พบเกือบทุกกลุ่มอำชีพในสังคมไทย เก่ียวพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมำอย่ำงยำวนำน หรือกล่ำวได้ว่ำ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของวฒั นธรรมไทยไปแลว้ สำเหตุของปัญหำที่พบ คือ กำรทุจริตคอร์รัปชันเป็นประเพณีนิยมปฏิบัติที่มีมำต้ังแต่ สมัยด้ังเดิม ยังคงมีอทิ ธิพลต่อควำมคิดของคนในปัจจุบันอยู่คอ่ นข้ำงมำก ฉะนั้น พฤติกรรมกำรปฏิบัติ ของข้ำรำชกำรจึงไม่สอดคล้องกับแนวควำมคิดของกำรเป็นข้ำรำชกำรสมัยใหม่ กำรฉ้อรำษฎร์บังหลวง ของข้ำรำชกำรด้วยควำมไม่รู้หรือด้วยควำมบริสุทธิ์ใจ จึงยังคงปรำกฏอยู่ค่อนข้ำงมำก นอกจำกน้ี กำรทุจริตคอร์รัปชันของข้ำรำชกำรอยู่ท่ีตัวข้ำรำชกำร ปัญหำท่ีเกิดจำกควำมคิด ควำมไม่มีประสิทธิภำพ ของตวั ระบบ และปญั หำของตวั ขำ้ รำชกำรไม่ว่ำจะเป็นเรอ่ื งของรำยได้ สวสั ดิกำร จริยธรรมในกำรทำงำน ควำมคำดหวงั และโอกำสในชีวิตของตัวขำ้ รำชกำร กำรบรหิ ำรรำชกำรแผน่ ดนิ เปน็ สำเหตุที่สำคญั ทสี่ ุด ประกำรหน่ึงของกำรเกิดทุจริตคอร์รัปชันในวงรำชกำร อันนำไปสู่กำรสูญเสียเงินรำยได้ของรัฐบำล ควำมไม่เสมอภำคในกำรให้บริกำรของข้ำรำฃกำรแก่ผู้มำติดต่อ ประชำชนผู้เสียภำษีไม่ได้รับบริกำร ทม่ี ีคณุ ภำพ จำกกำรวัดดชั นีกำรรับรู้กำรทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI) ปี 2557 และปี 2558 ประเทศไทยได้คะแนนกำรประเมิน 38 คะแนน ในปี 2559 ประเทศไทยได้คะแนน กำรประเมิน 35 คะแนน และในปี 2560 ประเทศไทยได้คะแนนกำรประเมิน 37 คะแนน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ำ ประเทศไทยยังมีกำรทุจริตคอร์รัปชันอยู่ในระดับสูงซึ่งสมควรได้รับกำรแก้ไข อย่ำงเร่งด่วน ดังน้ัน คณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ (คณะกรรมกำร ป.ป.ช.) จงึ ได้หำแนวทำงในกำรแก้ไขปัญหำดังกล่ำวมำโดยตลอด เร่ิมต้ังแต่กำรกำหนดยุทธศำสตรช์ ำติว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 1 (พ.ศ. 2551 – 2555) และได้รับกำรถ่ำยทอด สู่ยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตภำครัฐ (พ.ศ. 2552 – 2555) และ เมื่อวันท่ี 27 พฤศจิกำยน 2551 นำยกรัฐมนตรีได้ส่ังกำรให้หน่วยงำนภำครัฐจัดทำแผนยุทธศำสตร์ และแผนปฏิบัติรำชกำรประจำปี ให้สอดคล้องกับยุทธศำสตร์ว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรทุจริตภำครัฐ (พ.ศ. 2552 – 2555) นอกจำกน้ัน ยังมีกลไกที่คณะกรรมกำร ป.ป.ช. แต่งตั้งในรูป คณะอนุกรรมกำรเพื่อนำยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตไปสู่กำรปฏิบัติ

ค่มู อื หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา : 2 2 ในภำคส่วนต่ำง ๆ อำทิ ภำคเอกชน ภำคประชำสังคม เป็นต้น เน่ืองจำกตระหนักถึงควำมสำคัญของ กำรบูรณำกำรควำมร่วมมือและสนับสนุนจำกภำคีทุกภำคส่วน จำกน้ัน คณะกรรมกำร ป.ป.ช. ได้จัดทำ ยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 2 (พ.ศ. 2556 – 2560) ต่อเน่ือง เพ่ือเป็นกรอบให้ทุกภำคส่วนท่ีเกี่ยวข้องแปลงยุทธศำสตร์ แนวทำง และมำตรกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรทุจริตไปสู่กำรปฏิบัติอย่ำงเป็นรูปธรรม และส่งเสริมให้ประชำชนเข้ำมำมีส่วนร่วม ในกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตอย่ำงจริงจัง โดยในส่วนของภำครัฐนั้น คณะรัฐมนตรีมีมติ เม่ือวันที่ 24 กุมภำพันธ์ 2558 เห็นชอบให้แปลงแนวทำงและมำตรกำรตำมยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 2 (พ.ศ. 2556 – 2560) ไปสู่กำรปฏิบัติ โดยให้ กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติรำชกำร 4 ปี และแผนปฏิบัติรำชกำรประจำปี รวมถึงกำรสนับสนุนของ กระทรวงมหำดไทย โดยส่ังกำรให้มีกำรต้ังคณะกรรมกำรร่วมเพื่อป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระดับจังหวัดท่ีมีผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเป็นประธำนข้ึนในทุกจังหวัด ซ่ึงถือเป็นกลไกสำคัญที่มีบทบำท ในกำรนำยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 2 (พ.ศ. 2556 – 2560) ไปสู่กำรปฏิบัติระดับจังหวัดในลักษณะบูรณำกำรในช่วงระยะเวลำของกำรใช้ยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2556 – 2560) ทุกภำคส่วนของสังคมไทย ได้ตระหนักถึงภัยคุกคำมของปัญหำกำรทุจริตท่ีฝังรำกลึกอย่ำงยำวนำน มีกำรเปลี่ยนแปลง ทำงกำรเมืองท่ีสำคัญส่งผลให้รัฐบำลที่เข้ำมำบริหำรประเทศต้องดำเนินกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริต อย่ำงเรง่ ด่วน ต้ังแตป่ ีงบประมำณ พ.ศ. 2558 เป็นต้นมำ นอกจำกน้ี สำนักงำน ป.ป.ช. ได้รับมอบหมำย จ ำ ก รั ฐ บ ำ ล ให้ เป็ น ห น่ ว ย ง ำ น เจ้ ำ ภ ำ พ ห ลั ก ใน ก ำ ร จั ด ท ำ แ ผ น ง บ ป ร ะ ม ำ ณ ลั ก ษ ณ ะ บู ร ณ ำ ก ำ ร เร่ือง กำรป้องกัน ปรำบปรำมกำรทุจริต และประพฤติมิชอบ แผนงบประมำณดังกล่ำว จึงเป็นหนึ่ง ในกลไกสำคัญของกำรบูรณำกำรกำรป้องกัน ปรำบปรำมกำรทุจริต และประพฤติมิชอบของประเทศไทย จนเม่ือวันท่ี 28 มิถุนำยน 2559 คณะกรรมกำร ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกยุทธศำสตร์ชำติ ว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะที่ 2 พ.ศ. 2560 และให้ปรับระยะเวลำของ ยุทธศำสตรช์ ำติวำ่ ด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทจุ รติ ระยะที่ 3 เป็นปี พ.ศ. 2560 – 2564 โดยยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต มีควำมสอดคล้องกับเป้ำหมำย ของแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 12 และเช่ือมโยงไปสู่ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี ที่สำคัญจะตอบสนองกับสภำพปัญหำและสถำนกำรณ์กำรดำเนินงำนด้ำนกำรป้องกันและปรำบปรำม กำรทุจริตท่ีเปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน และควำมเปล่ียนแปลงท่ีจะเกิดขึ้นในอนำคตด้วยองค์ควำมรู้ และนวตั กรรมกำรต่อตำ้ นกำรทจุ ริตทีท่ นั สมัย แผนงบประมำณในลักษณะบูรณำกำร เร่อื งกำรปอ้ งกัน ปรำบปรำมกำรทุจริต และประพฤติมิชอบจึงได้รับกำรทบทวนเป้ำหมำยแผนงำนบูรณำกำร แนวทำง และตัวช้ีวัดของแผนงำนบูรณำกำรให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับร่ำงกรอบยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ควำมพยำยำมบูรณำกำรกำรป้องกัน ปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบให้ต่อเนื่องและ เป็นทิศทำงเดียวกันทั้งประเทศ เพ่ือนำไปสู่กำรบรรลุเป้ำหมำยของกำรเป็นประเทศท่ีมีมำตรฐำน ควำมโปร่งใส เทียบเท่ำระดับสำกล จำเป็นต้องดำเนินกำรจัดทำแผนแม่บทบูรณำกำรกำรป้องกัน ปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ให้กระทรวงและ

คมู่ ือหลักสตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 33 ทุกหน่วยงำนร่วมกันกำหนดอนำคตและแก้ปัญหำกำรทุจริตของประเทศไทย ในลักษณะประสำน เชือ่ มโยงแบบเครือขำ่ ยทีน่ ำไปสกู่ ำรบรรลุจดุ มุ่งหมำยในแตล่ ะชว่ งเวลำอยำ่ งบรู ณำกำร วิสัยทัศน์ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี ของประเทศไทยว่ำด้วยกำรพัฒนำตำมหลักปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพียง หรือเป็นคติพจน์ประจำชำติว่ำ “มั่นคง มั่งค่ัง ยั่งยืน” และแผนพัฒนำเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 12 ยุทธศำสตร์ที่ 6 กำรบริหำรจัดกำรในภำครัฐ กำรป้องกันกำรทุจริต ประพฤติมิชอบ และธรรมำภิบำลในสังคมไทย ว่ำด้วยกำรขำดธรรมำภิบำลในสงั คมไทยทำใหม้ ีกำรทุจริต ประพฤติมิชอบยังเป็นปัญหำสำคัญของประเทศ ในช่วง 5 ปี จึงจำเป็นที่ต้องเร่งปฏิรูปกำรบริหำร จดั กำรภำครัฐให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่ำงจริงจังในช่วงแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 12 ท้ังกำรบริหำรจัดกำรภำครัฐให้โปร่งใส มีประสิทธิภำพ รับผิดชอบ ตรวจสอบได้อย่ำงเป็นธรรม และ ประชำชนมีส่วนร่วม มีกำรกระจำยอำนำจ และแบ่งภำรกิจรับผิดชอบที่เหมำะสมระหว่ำงส่วนกลำง ภูมิภำค และท้องถิ่นและวำงพ้ืนฐำนเพ่ือให้บรรลุตำมกรอบเป้ำหมำยอนำคตในปี 2579 ดังน้ี 1) เพื่อให้ภำครัฐมีขนำดเล็กมีกำรบริหำรจัดกำรท่ีดี และได้มำตรฐำน 2) เพ่ือให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมีกำรบริหำรจัดกำรและให้บริกำรแก่ประชำชนในท้องถิ่นได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ประสิทธิผล และโปร่งใส ตรวจสอบได้ 3) เพื่อลดปัญหำกำรทุจริตและประพฤติมิชอบของประเทศ 4) เพื่อพัฒนำระบบและกระบวนกำรทำงกฎหมำยให้สำมำรถอำนวยควำมสะดวกด้วยควำมรวดเร็ว และเปน็ ธรรมแกป่ ระชำชน ตำมแนวทำงกำรพัฒนำ กำรป้องกันปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ เพ่ือให้ สังคมไทยมีวินัย โปร่งใส ยึดมั่นในควำมซื่อสัตย์สุจริต และยุติธรรม รวมท้ังสร้ำงควำมเข้มแข็ง เป็นภมู ิคุม้ กันของสังคมไทย ใหค้ รอบคลุมภำครฐั ภำคเอกชน องค์กรพฒั นำเอกชนและภำคประชำชน พรอ้ มทั้งสร้ำงพลงั กำรขบั เคลื่อนค่ำนยิ ม ตอ่ ต้ำนกำรทุจรติ ใหด้ ำเนนิ กำรโดย 1. ปลูกฝังให้คนไทยไม่โกง ภำครัฐดำเนินกำรส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภำคส่วน มุ่งสร้ำงจิตสำนึกในกำรรักษำประโยชน์สำธำรณะ ทัศนคติเชิงบวก รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรม และ หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับทุกกลุ่มในสังคม ผ่ำนกลไกครอบครัว สถำบันกำรศึกษำ สถำบันศำสนำ สื่อมวลชน และเครือข่ำยทำงสังคม ควบคู่กับกำรปลูกจิตสำนึกควำมซ่ือสัตย์ สุจริต ค่ำนิยมท่ีถูกต้อง สร้ำงควำมตระหนักถึงภัยร้ำยแรงของกำรทุจริตและกำรรู้เท่ำทันกำรทุจริต ของสังคมไทย โดยอำศัยกลไกทำงสังคมเป็นมำตรกำรในกำรลงโทษผ้กู ระทำผิด หรือผู้กระทำกำรทุจริต และประพฤตมิ ิชอบ 2. กำรป้องกนั กำรทุจริต ภำครัฐไดด้ ำเนนิ กำร ดงั น้ี 1) ปฏิรูปกฎหมำยท่ีเกี่ยวข้องกับกำรบริหำรพัสดุและกำรจัดซื้อจัดจ้ำงภำครัฐ ให้มีระบบที่โปร่งใสตรวจสอบได้ และมีประสิทธิภำพต่อกำรจัดหำวัสดุ ครุภัณฑ์ ท่ีดินและส่ิงก่อสร้ำง กำรจัดซื้อ จัดจ้ำงและกำรทำสัญญำอื่น ๆ ท่ีภำคเอกชนทำสัญญำกับรัฐ ให้มีกฎหมำยห้ำมมิให้ นำงบประมำณแผ่นดินไปใช้ประชำสัมพันธ์ตนเองในเชิงหำเสียง ไม่ให้มีก ำรขัดกันระหว่ำง ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมในขณะดำรงตำแหน่งท่ีสำมำรถใช้อำนำจรัฐได้ และ ปรับปรุงกฎหมำยเก่ียวกับข้อมูลข่ำวสำรสำธำรณะ รวมทั้งกำรลดกำรใช้ดุลพินิจในกำรปฏิบัติงำน ของเจ้ำหน้ำที่รัฐ โดยให้มีกำรกำหนดขั้นตอนกำรดำเนินงำน กระบวนกำร และแนวทำงกำรตัดสินใจ ระยะเวลำแล้วเสร็จ และเอกสำรท่ีใช้ในกำรขออนุญำตหรืออนุมัติจำกทำงรำชกำรให้ระบบงำน

คูม่ อื หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศึกษา : 4 4 ท้ังระบบโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยเฉพำะโครงกำรที่มีควำมเสี่ยงต่อกำรทุจริตให้มีกำรจัดทำสัญญำ คุณธรรม และเพ่ิมบทลงโทษภำคเอกชนดว้ ย 2) จัดตั้งกองทุนสนับสนุนกำรต่อต้ำนกำรทุจริต กำรคุ้มครองพยำนในคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบ และเสริมสร้ำงควำมรู้เกี่ยวกับรูปแบบกลไกกำรทุจริตและวิธีกำรเฝ้ำระวังกำรทุจริต รวมถึงแนวทำงกำรสนับสนุนกำรสรำ้ งกิจกรรมกำรป้องกันกำรทุจริตของภำคประชำชนอย่ำงต่อเน่ือง ตลอดจนพิจำรณำรูปแบบกำรจัดสรรงบประมำณด้ำนกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ประพฤตมิ ิชอบ ให้มีควำมเหมำะสมและเพียงพอกับกำรปฏบิ ัติงำนและสถำนกำรณ์กำรคลังของประเทศ 3) เร่งรัดหน่วยงำนภำครัฐให้มีกำรดำเนินงำนในกำรกำหนดมำตรกำรป้องกันและ แก้ไขปัญหำกำรทุจริตและประพฤติมิชอบอย่ำงเคร่งครัด โดยติดตำมผลกำรดำเนินงำนตำมมำตรกำร ป้องกันและแก้ไขปญั หำกำรทุจริตและประพฤติมชิ อบของหน่วยงำนของรฐั อย่ำงต่อเน่อื ง 4) เสริมสร้ำงศักยภำพและควำมเข้มแข็งให้แก่ศูนย์ปฏิบัติกำรต่อต้ำนกำรทุจริต ให้สำมำรถเป็นหน่วยงำนหลักของภำครัฐในกำรเฝ้ำระวัง ป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและ ประพฤตมิ ชิ อบทีบ่ ูรณำกำรกำรทำงำนร่วมกนั อยำ่ งมีกลยทุ ธ์ ยุทธศำสตร์ชำติวำ่ ดว้ ยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจรติ ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) เป็นห้วงเวลำเดียวกับแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) และเมื่อวันท่ี 30 สิงหำคม พ.ศ. 2559 คณะกรรมกำร ป.ป.ช. ได้มีมติเห็นชอบยุทธศำสตร์ว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ฉบับสมบูรณ์ ท่ีกำหนด วิสัยทัศน์ “ประเทศไทย ใสสะอำด ไทยท้ังชำติต้ำนทุจริต” (Zero Tolerance and Clean Thailand) กำหนดพันธกิจหลัก เพ่ือสร้ำงวัฒนธรรมกำรต่อต้ำนกำรทุจริต ยกระดับธรรมำภิบำลในกำรบริหำร จัดกำรทุกภำคส่วน และปฏิรูปกระบวนกำรปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทุจริตท้ังระบบ ให้มีมำตรฐำน เทียบเท่ำสำกลผ่ำนยุทธศำสตร์ 6 ด้ำน ได้แก่ 1) สร้ำงสังคมที่ไม่ทนต่อกำรทุจริต 2) ยกระดับ เจตจำนงทำงกำรเมืองในกำรต่อต้ำนกำรทุจริต 3) สกัดกั้นกำรทุจริตเชิงนโยบำย 4) พัฒนำระบบ ป้องกันกำรทุจริตเชิงรกุ 5) ปฏิรูปกลไกและกระบวนกำรกำรปรำบปรำมกำรทุจริต และ 6) ยกระดับ ดัชนีกำรรับรู้ กำรทุจริตของประเทศไทย โดยเป้ำประสงค์ของยุทธศำสตร์ชำติฯ ระยะท่ี 3 คือ ประเทศไทยมีค่ำดัชนีกำรรับรู้กำรทุจริต (CPI) สูงกว่ำร้อยละ 50 เพ่ือให้เป็นมำตรฐำนเป็นที่ยอมรับ จำกท้ังภำยในและต่ำงประเทศ รวมทั้งมีกำรกำหนดแนวทำงและกลไกในกำรดำเนินงำนท่ีชัดเจน มีประสิทธิภำพ ประสิทธิผล และตอบสนองต่อกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริตได้อย่ำงทันท่วงที สำหรับ หน่วยงำนภำครัฐ ภำคเอกชน ภำคประชำสังคม รวมถึงภำคส่วนอื่นๆ ในประเทศไทยสำมำรถนำไป ปรบั ใช้ในงำนกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต เพ่ือให้ประเทศไทยของเรำสำมำรถยืนหยัดอยู่ได้ อย่ำงสง่ำงำมท่ำมกลำงกระแสโลกในปจั จุบนั ท้ังนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วย กำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ในกำรประชุมเมื่อวันท่ี 11 ตุลำคม พ.ศ. 2559 และเห็นชอบให้หน่วยงำนภำครัฐแปลงแนวทำงและมำตรกำรตำมยุทธศำสตร์ ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) สู่กำรปฏิบัติ โดยกำหนดไว้ในแผนปฏิบัติรำชกำร 4 ปี และแผนปฏิบัติรำชกำรประจำปี รวมท้ัง สนับสนุน งบประมำณตำมแผนงำนบูรณำกำรกำรป้องกัน ปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ ต้ังแต่

คู่มือหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา : 55 ปงี บประมำณ พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป โดยให้หน่วยงำนภำครฐั ดำเนนิ กำรสอดคล้องกบั ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี และแผนกำรปฏิรปู ประเทศดำ้ นต่ำง ๆ ด้วย ยทุ ธศำสตรช์ ำติว่ำดว้ ยกำรป้องกนั และปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ยทุ ธศำสตรท์ ่ี 1 “สร้ำงสังคมที่ไม่ทนต่อกำรทุจริต” ได้มุ่งเน้นให้ควำมสำคัญกระบวนกำรปรับสภำพสังคม ให้เกดิ ภำวะท่ี “ไม่ทนต่อกำรทจุ ริต” โดยเร่ิมต้ังแต่กระบวนกำรกลอ่ มเกลำทำงสังคมในทุกระดบั ช่วงวัย (ตั้งแต่ปฐมวัย ถึงระดับอุดมศึกษำ) เพ่ือสร้ำงวัฒนธรรมต่อต้ำนกำรทุจริตและปลูกฝังควำมพอเพียง มีวินัย ซ่ือสัตย์สุจริต และมีจิตสำธำรณะ ซ่ึงเป็นคุณธรรมจริยธรรมป้องกันกำรทุจริต ยึดประโยชน์ สว่ นรวมมำกกว่ำประโยชน์ส่วนตน เป็นกำรดำเนินกำรผ่ำนสถำบัน หรอื กลุ่มตัวแทนที่ทำหน้ำที่ในกำร กล่อมเกลำสังคมให้มีควำมเป็นพลเมืองท่ีดี มีจิตสำธำรณะ เสียสละเพ่ือส่วนรวม และเสริมสร้ำงให้ ทุกภำคส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่ยอมรับและต่อต้ำนกำรทุจริตในทุกรูปแบบ และได้กำหนดกลยุทธ์ 4 กลยทุ ธ์ กล่ำวคือ กลยุทธ์ท่ี 1 ปรับฐำนควำมคิดทุกช่วงวัย ตั้งแต่ปฐมวัยให้สำมำรถแยก แยะระหว่ำง ผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมให้มีระบบและกระบวนกำรกล่อมเกลำ ทำงสังคมเพ่ือต้ำนทุจริต กลยุทธ์ท่ี 3 ประยุกต์หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเคร่ืองมือ ตำ้ นทุจริต และกลยุทธ์ท่ี 4 เสริมพลังกำรมีส่วนร่วมของชุมชน (Community) และบูรณำกำรทุกภำคส่วน เพื่อตอ่ ต้ำนกำรทุจริต คณะกรรมกำร ป.ป.ช. จึงได้มีคำสั่งท่ี 646/2560 สั่ง ณ วันที่ 26 เมษำยน พ.ศ. 2560 แต่งตั้งคณะอนุกรรมกำร จัดทำหลักสูตรหรือชุดกำรเรียนรู้และส่ือประกอบกำรเรียนรู้ ด้ำนกำรป้องกัน กำรทุจริต ซง่ึ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เช่ียวชำญจำกหน่วยงำนด้ำนกำรศึกษำ และหน่วยงำน ท่ีเกี่ยวข้องในกำรจัดทำหลักสูตรกำรเรียนกำรสอน จำกทั้งภำยในและภำยนอกหน่วยงำน รวมทั้ง ผู้ทรงคุณวุฒิจำกองค์กรภำคเอกชน เพ่ือดำเนินกำรจัดทำหลักสูตรหรือชุดกำรเรียนรู้และ ส่ือประกอบกำรเรียนรู้ ด้ำนกำรป้องกันกำรทุจริต นำไปใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนให้กับผู้เรียน นักศึกษำในทุกระดับช้ันทั้งในส่วนของกำรศึกษำระดับปฐมวัย ประถมศึกษำ มัธยมศึกษำ และ อุดมศึกษำ ท้ังภำครัฐและเอกชน รวมท้ังอำชีวศึกษำ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย โดยแต่ละระดับกำรศึกษำจัดทำหลักสูตร ดังนี้ 1. หลักสูตรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน (รำยวิชำเพ่ิมเติม กำรป้องกันกำรทุจริต) 2. หลักสูตรอดุ มศึกษำ (วัยใส ใจสะอำด “Youngster with good heart”) 3. หลักสตู รตำมแนวทำงรบั รำชกำร กลุ่มทหำรและตำรวจ 4. หลักสูตรสรำ้ งวิทยำกร ผู้นำกำรเปลย่ี นแปลงสู่สังคมท่ไี ม่ทนต่อกำรทจุ ริต และ 5. หลกั สูตรโคช้ เพอ่ื กำรรคู้ ิดต้ำนทจุ รติ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน ในฐำนะองค์กรรับผิดชอบกำรจัด กำรศึกษำให้แก่ผู้เรียนตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 6 จึงได้จัดทำรำยวิชำเพิ่มเติม “กำรป้องกันกำรทุจริต” ประกอบด้วยเนื้อหำ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ ได้แก่ 1) กำรคิดแยกแยะระหว่ำง ผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 2) ควำมละอำยและควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต 3) STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทจุ ริต และ 4) พลเมอื งกับควำมรบั ผิดชอบต่อสังคม ซึ่งทง้ั 4 หน่วยนี้ จะจัดทำเป็นแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ต้ังแต่ระดับช้ันปฐมวัยจนถึงชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 6 เพื่อให้ สถำนศึกษำทุกแห่งนำไปใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน เพ่ือปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมและป้องกัน กำรทุจริตให้แก่ผู้เรียนทุกระดับ ท้ังนี้ เพ่ือเป็นกำรสร้ำงพลเมืองที่ซ่ือสัตย์สุจริตให้แก่ประเทศชำติ ปัญหำกำรทุจริตคอร์รัปชันลดลง และดัชนีกำรรับรู้กำรทุจริตของประเทศไทย มีค่ำคะแนนสูงข้ึน

คูม่ ือหลักสูตรต้านทุจรติ ศึกษา : 6 6 บรรลุตำมเป้ำประสงค์ของยุทธศำสตร์ชำติว่ำด้วยกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) และนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ รำยวิชำเพิ่มเติมกำรป้องกันกำรทุจริต เสนอต่อคณะกรรมกำร ป.ป.ช. เพ่ือนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้ควำมเห็นชอบ เม่ือวันท่ี 22 พฤษภำคม 2561 คณะรฐั มนตรีมีมติเห็นชอบตำมทีค่ ณะกรรมกำร ป.ป.ช.เสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบหลักกำรเกี่ยวกับหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ (Anti – Corruption Education) และให้หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องนำหลักสูตรดังกล่ำวไปพิจำรณำปรับใช้กับกลุ่มเป้ำหมำย ทั้งน้ี ให้หน่วยงำนท่ีต้องนำหลักสูตรไปดำเนินกำรรับควำมเห็นของกระทรวงศึกษำธิกำร สำนักงำน ก.พ. สำนักงำนคณ ะกรรมกำรพัฒ นำกำรเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ และฝ่ำยเลขำนุกำร คณะกรรมกำรนโยบำยและพัฒนำกำรศึกษำไปพิจำรณำดำเนินกำรต่อไป โดยให้ประสำนงำนกับ สำนักงำน ป.ป.ช. อย่ำงใกล้ชิด เพ่ือให้กำรดำเนินกำรดังกล่ำวบรรลุวัตถุประสงค์ตำมท่ีกำหนดไว้ ส ำ ห รั บ ภ ำ ร ะ ง บ ป ร ะ ม ำ ณ ท่ี อ ำ จ จ ะเกิ ด ขึ้ น ซ่ึ งไม่ ได้ ตั้ ง งบ ป ร ะ ม ำ ณ ร ำ ย จ่ ำ ย ป ร ะ จ ำ ปี ร อ ง รั บ ไว้ ให้หน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องพิจำรณำปรับแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณรำยจ่ำย ประจำปีงบประมำณ พ.ศ. 2561 ไปดำเนินกำรในโอกำสแรกก่อน สำหรับปีงบประมำณต่อ ๆ ไป ให้จัดทำแผนกำรปฏิบัติงำนและแผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณ เพ่ือเสนอขอตั้งงบประมำณรำยจ่ำย ตำมควำมจำเปน็ และเหมำะสมตอ่ ไป ตำมควำมเห็นของสำนกั งบประมำณ 2. ให้กระทรวงกลำโหม กระทรวงมหำดไทย กระทรวงศึกษำธิกำร สำนักงำน ก.พ. สำนักงำนตำรวจแห่งชำติ และหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้องหำรือร่วมกับสำนักงำน ป.ป.ช. เพื่อพิจำรณำ นำหลักสูตรน้ี ไปปรับใช้ในโครงกำรฝึกอบรมหลักสูตรข้ำรำชกำร บุคลำกรภำครัฐ หรือพนักงำน รัฐวิสำหกิจท่ีบรรจุใหม่ รวมท้ังให้พิจำรณำกำหนดกลุ่มเป้ำหมำยของหลักสูตรโค้ชให้มีควำมชัดเจน โดยให้หมำยควำมรวมถึงบุคลำกรทำงกำรศึกษำ เช่น ครู อำจำรย์ หรือผู้ท่ีทำหน้ำท่ีเป็นผู้ถ่ำยทอด ควำมรู้ท้ังในหลักสูตรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน และหลักสูตรอุดมศึกษำด้วย ท้ังน้ีเพ่ือให้บุคลำกร ทำงกำรศึกษำที่เข้ำรับกำรอบรมหลักสูตรดังกล่ำวสำมำรถนำไปใช้ในกำรถ่ำยทอดควำมรู้หรือ ช่วยในกำรจัดกำรเรียนให้เป็นไปอย่ำงมีประสิทธิภำพมำกย่ิงข้ึน นอกจำกน้ีให้กระทรวงศึกษำธิกำร เร่งดำเนินกำรและรำยงำนผลสัมฤทธิ์ของกำรดำเนินโครงกำรดังกล่ำวให้คณะกรรมกำรนโย บำยและ พฒั นำกำรศึกษำทรำบเปน็ ระยะๆ ด้วย 3. ใหก้ ระทรวงศกึ ษำธิกำรเตรียมควำมพร้อมในด้ำนต่ำง ๆ เชน่ ตำรำเรียน ครู อำจำรย์ รำยละเอียดหลักสูตร เพ่ือนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ (Anti – Corruption Education หลักสูตร กำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำนและหลักสูตรอุดมศึกษำ) ไปปรับใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของสถำนศึกษำ ทั้งนี้ ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนหลักสูตรดังกล่ำวให้มุ่งเน้นกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจท่ีถูกต้อง เก่ียวกับควำมหมำยและขอบเขตของกำรกระทำทุจริตในลักษณะต่ำง ๆ ท้ังทำงตรงและทำงอ้อม ควำมเสียหำยที่เกิดจำกกำรทุจริต ควำมสำคัญของกำรต่อต้ำนกำรทุจริต รวมท้ังจัดให้มี กำรประเมินผลสัมฤทธิข์ องกำรจัดกำรเรยี นรู้ตำมหลกั สตู รในแตล่ ะชว่ งวยั ของผู้เรียนด้วย

ค่มู อื หลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 77 2. วตั ถุประสงค์ในการจัดทาคู่มือการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2.1 เพื่อให้ผู้บริหำรสถำนศึกษำและครู มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เกี่ยวกับหลักสูตร ต้ำนทจุ รติ ศึกษำ (Anti – Corruption Education) 2.2 เพอ่ื ให้ผบู้ ริหำรสถำนศึกษำสำมำรถบรหิ ำรจดั กำรหลักสูตรตำ้ นทุจริตศึกษำ (Anti – Corruption Education) ในสถำนศึกษำไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ 2.3 เพื่อให้ครูสำมำรถนำหลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ (Anti – Corruption Education) ไปใช้ในกำรจัดกำรเรียนรู้ให้กับผู้เรียนต้ังแต่ระดับชั้นปฐมวัยจนถึงช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๖ ซ่ึงเป็น กำรปลูกฝังคณุ ธรรมจรยิ ธรรมเพื่อปอ้ งกนั กำรทจุ ริตให้แก่ผู้เรยี น 3. เป้าหมายในการจัดทาคมู่ ือการใช้หลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา 3.1 ผู้บริหำรสถำนศึกษำและครูทุกคน มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ เก่ียวกับหลักสูตร ต้ำนทุจรติ ศกึ ษำ (Anti – Corruption Education) 3.2 ผบู้ รหิ ำรทกุ คนสำมำรถนำควำมร้ไู ปใชใ้ นกำรบริหำรจัดกำรหลักสูตรต้ำนทจุ รติ ศกึ ษำ (Anti – Corruption Education) ในสถำนศึกษำไดอ้ ย่ำงจรงิ จังและตอ่ เนื่อง 3.3 ครูผู้สอนต้ังแต่ระดับช้ันปฐมวัยจนถึงช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๖ ทุกคนนำหลักสูตร ต้ำนทุจริตศึกษำ (Anti – Corruption Education) ไปใช้เป็นแนวทำงในกำรจัดกำรเรียนรู้ เพ่ือ ปลูกฝงั คุณธรรมจรยิ ธรรมป้องกันกำรทจุ รติ และสรำ้ งวัฒนธรรมต่อตำ้ นกำรทจุ รติ ใหแ้ ก่ผเู้ รยี น 4. เรยี นรอู้ ะไรในหลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา หลักสูตรต้ำนทุจริตศึกษำ (Anti – Corruption Education) รำยวิชำเพิ่มเติม “กำรป้องกัน กำรทุจริต” ประกอบด้วย ๔ หน่วยกำรเรียนรู้ ไดแ้ ก่ ๑) กำรคิดแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์ส่วนรวม ๒) ควำมละอำยและควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต ๓) STRONG : จิตพอเพียง ต้ำนทุจริต ๔) พลเมืองกับควำมรับผิดชอบต่อสังคมที่สถำนศึกษำจัดให้กับผู้เรียนเพื่อปลูกฝังและ ป้องกันกำรทุจริตไม่ให้เกิดขึ้น โดยเริ่มปลูกฝังผู้เรียนตั้งแต่ช้ันปฐมวัยจนถึงชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๖ ให้มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ มีทักษะ กระบวนกำร มีสมรรถนะท่ีสำคัญ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดังนน้ั ส่ิงทผี่ เู้ รยี นตอ้ งเรยี นร้ใู นหลักสูตรต้ำนทจุ รติ ศกึ ษำ ได้แก่ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม ผู้เรียนเรียนรู้เก่ียวกับระบบคิดฐำนสิบ ระบบคิดฐำนสอง ผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม กำรคิดแยกแยะ กำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมในชุมชน สังคม ประเทศชำติและโลก ควำมแตกต่ำงระหว่ำงจริยธรรมและกำรทุจริต ผลประโยชน์ทบั ซอ้ น รูปแบบของผลประโยชน์ทับซอ้ น หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ผ้เู รียนเรียนรู้เกี่ยวกับ ควำมหมำยของควำมละอำย ควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต และพฤติกรรมที่แสดงออกถงึ ควำมละอำยและ ควำมไมท่ นตอ่ กำรทจุ รติ

คู่มอื หลกั สูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา : 8 8 หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ผู้เรียนเรียนรู้เกี่ยวกับ STRONG : จติ พอเพียงต้ำนทุจริต ซึ่งประกอบด้วย S (Sufficient) : ความพอเพียง หมำยถึง ผู้เรียนน้อมนำหลักปรัชญำของเศรษฐกิจ พอเพียง มำประยุกต์เป็นหลักในกำรทำงำน กำรดำรงชีวิต กำรพัฒนำตนเองและส่วนรวม รวมถึง กำรป้องกันกำรทุจริตอย่ำงยั่งยืน ควำมพอเพียงต่อส่ิงใดสิ่งหน่ึงของมนุษย์ แม้ว่ำจะแตกต่ำงกัน ตำมพื้นฐำน แต่กำรตัดสินใจว่ำควำมพอเพียงของตนเองต้องต้ังอยู่บนควำมมีเหตุมีผล รวมทั้ง ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น และส่วนรวม ควำมพอเพียงจึงเป็นภูมิคุ้มกันให้บุคคลน้ันไม่กระทำ กำรทจุ รติ ซงึ่ ต้องใหค้ วำมรคู้ วำมเข้ำใจและปลุกให้ตื่นรู้ T (Transparent) : ความโปร่งใส หมำยถึง ผู้เรียนต้องปฏิบัติงำนบนฐำนของ ควำมโปร่งใส ตรวจสอบได้ จึงต้องมีและปฏิบัติตำมหลักปฏิบัติ ระเบียบ ข้อปฏิบัติ กฎหมำย ควำมโปรง่ ใส ซงึ่ ตอ้ งให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจและปลกุ ใหต้ นื่ รู้ R (Realize) : ความตื่นรู้ หมำยถึง ผู้เรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจและตระหนักรู้ ถึงรำกเหง้ำของปัญหำ และภัยร้ำยแรงของกำรทุจริตประพฤติมิชอบภำยในชุมชน และประเทศ ควำมตื่นรู้จะบังเกิดเมื่อได้พบเห็นสถำนกำรณ์ท่ีเสี่ยงต่อกำรทุจริต ย่อมจะมีปฏิกิริยำเฝ้ำระวังและ ไม่ยินยอมต่อกำรทุจริตในท่ีสุด ซ่ึงต้องให้ควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับสถำนกำรณ์กำรทุจริต ทเ่ี กิดข้นึ ควำมรำ้ ยแรงและผลกระทบต่อระดบั บุคคลและสว่ นรวม O (Onward) : มุ่งไปข้างหน้า หมำยถึง ผู้เรียนมุ่งพัฒนำและปรับเปล่ียนตนเองและ ส่วนรวมให้มีควำมเจริญก้ำวหน้ำอย่ำงย่ังยืน บนฐำนควำมโปร่งใส ควำมพอเพียงและร่วมสร้ำง วฒั นธรรมสุจรติ ใหเ้ กิดข้ึนอยำ่ งไมย่ อ่ ทอ้ ซึ่งต้องมีควำมร้คู วำมเขำ้ ใจในประเดน็ ดังกล่ำว N (Knowledge) : ความรู้ หมำยถึง ผู้เรียนต้องมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ สำมำรถ นำควำมรู้ไปใช้วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์ ประเมินไดอ้ ย่ำงถอ่ งแท้ ในเร่อื งสถำนกำรณ์กำรทุจริต ผลกระทบ ที่มีต่อตนเองและส่วนรวม ควำมพอเพียงต้ำนทุจริต กำรแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม ที่มีควำมสำคัญยิ่งต่อกำรลดกำรทุจริตในระยะยำว รวมท้ังควำมละอำย ไม่กล้ำทำทุจรติ และควำมไม่ทนเม่อื พบเหน็ วำ่ มกี ำรทุจริตเกิดขึ้น เพ่ือสร้ำงสังคมไมท่ นต่อกำรทุจริต G (Generosity) : ความเอ้ืออาทร หมำยถึง ผู้เรียนมีควำมเอื้ออำทร มีเมตตำ มีน้ำใจ ต่อกัน บนฐำนของจิตพอเพียงต้ำนทุจริต ไมเ่ ออ้ื ต่อกำรรับหรอื กำรให้ผลประโยชนห์ รอื ต่อพวกพ้อง หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้เรียนเรียนรู้เกี่ยวกับ หน้ำท่ีของพลเมือง ควำมรับผิดชอบของพลเมือง ต่อตนเอง ชุมชน สังคม ประเทศชำติ และโลก กำรเคำรพสิทธิหน้ำท่ีของตนเองและผู้อ่ืน กำรปฏิบัติตนตำมระเบียบ กฎ กติกำ กฎหมำย และ กำรปฏบิ ัติตนเป็นพลเมอื งที่ดใี นกำรป้องกันกำรทจุ รติ

คู่มือหลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 99 5. สาระและผลการเรียนรู้ สาระท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับกำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๑.๒ สำมำรถคดิ แยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวมได้ ๑.๓ ตระหนักและเห็นควำมสำคัญในกำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม สาระที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ผลการเรยี นรู้ ๒.๑ มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจเกย่ี วกบั ควำมละอำยและควำมไม่ทนต่อกำรทุจรติ ๒.๒ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผลู้ ะอำย และไม่ทนต่อกำรทจุ รติ ทกุ รูปแบบ ๒.๓ ตระหนกั และมคี วำมละอำยและไม่ทนตอ่ กำรทุจรติ สาระท่ี ๓ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต ผลการเรยี นรู้ ๓.๑ มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจเกีย่ วกับ STRONG : จติ พอเพียงต้ำนทุจริต ๓.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผทู้ ่ี STRONG : จติ พอเพยี งต้ำนทจุ รติ ๓.๓ ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของ STRONG และมีจิตพอเพียงในกำรต่อต้ำน กำรทุจริตทกุ รูปแบบ สาระท่ี ๔ พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบต่อสังคม ผลการเรยี นรู้ ๔.๑ มีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจเกยี่ วกบั พลเมอื งและมีควำมรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ๔.๒ ปฏิบัตติ นตำมหน้ำท่พี ลเมอื งและมคี วำมรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม ๔.๓ ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรเป็นพลเมืองที่ดีและมีควำมรับผิดชอบ ต่อสงั คมในกำรปอ้ งกนั กำรทุจรติ

คมู่ ือหลกั สูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา : 10 10 6. คุณภาพผู้เรียน จบระดับช้ันปฐมวัย  รูแ้ ละเข้ำใจ ควำมหมำยของของเล่นทเี่ ป็นของใช้ส่วนตนและส่วนรวม ควำมโปร่งใส ควำมตื่นรู้ มุ่งไปข้ำงหน้ำ ควำมเอื้ออำทร ควำมพอเพยี ง กำรแบ่งปนั ควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อ กำรทุจริต ระบบคิดฐำนสองและระบบคดิ ฐำนสิบ  รู้และเข้ำใจ กำรแบ่งปัน กำรจัดเก็บของเลน่ ท่ีเป็นของใช้ส่วนตนและส่วนรวมให้เป็น ระเบียบ กำรเข้ำแถว กำรแต่งกำยด้วยตนเอง กำรรับประทำน กำรใช้น้ำอย่ำงประหยัดขณะแปรงฟัน กำรใช้ห้องน้ำอย่ำงถกู วิธี กำรใชก้ ระดำษอย่ำงประหยัด รูจ้ ักกำรท้ิงขยะให้ถูกประเภทและถูกท่ี  แยกแยะวิธกี ำรใช้ และกำรเกบ็ ของเล่น ระหว่ำงของใชส้ ่วนตนและสว่ นรวม  ปฏิบัติตนเก่ียวกับกำรแบ่งปัน กำรเก็บของเล่นที่เป็นของใช้ส่วนตนและส่วนรวม ให้เป็นระเบียบ เข้ำแถวโดยไม่แซงคิวผอู้ นื่ แต่งกำยถูกต้องเหมำะสมตำมกำลเทศะและสถำนกำรณ์  ปฏิบัติตนในกำรใช้น้ำอย่ำงประหยัดขณะแปรงฟัน ใช้ห้องน้ำอย่ำงถูกวิธี ใช้กระดำษ ๒ หน้ำ รบั ประทำนอำหำรใหห้ มดจำน ทิ้งขยะถูกประเภทและถกู ที่  ปฏิบัติตนตำมระบบคิดฐำนสอง โดยบอกได้ว่ำถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือไม่ได้ และนำไปใช้ในชีวติ ประจำวัน  เกิดควำมละอำยและควำมไม่ทนในกำรนำของเล่นของผู้อ่ืนมำเป็นของตน โดยไม่ได้รับ อนุญำตและไม่เก็บของเล่นของใช้ส่วนตนและส่วนรวม กำรรับประทำนอำหำรไม่หมดจำน เข้ำแถว โดยแซงคิวผู้อื่น กำรแต่งกำยไม่ถูกต้องตำมกำลเทศะ ไม่ประหยัดน้ำขณะแปรงฟัน ใช้ห้องน้ำไม่ถูกวิธี ใช้กระดำษอย่ำงไมป่ ระหยดั รวมทั้งไม่รบั ผิดชอบงำนทีไ่ ดร้ ับมอบหมำยทงั้ ตอ่ ตนเองและผู้อน่ื  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของควำมมีวินัยในกำรเล่นของเล่น กำรใช้ของใช้ ส่วนตนและส่วนรวม กำรรักษำควำมสะอำดของห้องเรียน และมีควำมรับผิดชอบในกำรทำงำน ทไี่ ด้รับมอบหมำยจนสำเร็จ ไม่ลอกหรือนำผลงำนของผู้อนื่ มำเปน็ ผลงำนของตนเอง  เห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับควำมพอเพียง มวี นิ ยั ซ่อื สตั ย์สจุ ริต และมจี ติ สำธำรณะในกำรปอ้ งกนั กำรทุจรติ

คมู่ อื หลักสูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา : 1111 จบระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑  รู้และเข้ำใจควำมหมำยของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวม สถำนที่ส่วนตนและ สถำนท่สี ว่ นรวม ผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ระบบคดิ ฐำนสองและระบบคิดฐำนสบิ  รู้และเข้ำใจควำมหมำยของควำมละอำยและควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต STRONG : จิตพอเพยี งต้ำนทจุ รติ และควำมรบั ผดิ ชอบ  จำแนกของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวม สถำนที่ส่วนตนและสถำนที่ส่วนรวม ผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม  ปฏิบัติตนตำมระบบคิดฐำนสอง โดยบอกได้ว่ำ สิ่งใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือ ไมไ่ ด้ เหมำะสมหรือไมเ่ หมำะสม มำใช้ในห้องเรียนและชีวติ ประจำวนั  ปฏิบัติตนในกำรเข้ำแถว กำรทำเวรภำยในห้องเรียน กำรเลือกหัวหน้ำห้อง กำรทำ ควำมสะอำดหอ้ งเรียน กำรวำงรองเท้ำ กำรประดิษฐ์สงิ่ ของจำกเศษวัสดุอยำ่ งเหมำะสมและถกู ต้อง  ปฏิบัติตนในกำรต่อต้ำนกำรทุจริต โดยมีควำมละอำยและควำมไม่ทนต่อกำรทุจริต ในกำรเข้ำแถว กำรทำเวรภำยในห้องเรียน กำรเลือกหัวหน้ำห้อง กำรทำควำมสะอำดห้องเรียน กำรวำงรองเท้ำ  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรไม่ทุจริตในกำรเข้ำแถว กำรทำเวรภำยใน ห้องเรียน กำรเลือกหัวหนำ้ ห้อง  เห็นควำมสำคัญของควำมรับผดิ ชอบต่อส่งิ ท่ไี ด้รับมอบหมำยท้ังภำยในห้องเรียนและ ในบ้ำน  เห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับควำมพอเพียง มวี นิ ัย ซอ่ื สตั ย์สุจริตและมจี ิตสำธำรณะในกำรปอ้ งกนั กำรทจุ รติ

คู่มือหลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา : 12 12 จบระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒  รู้และเข้ำใจควำมหมำยของสทิ ธิและหน้ำที่ของพลเมือง  รู้และเข้ำใจกฎ ระเบียบ กตกิ ำของโรงเรยี น และเป็นผูม้ ีควำมรับผิดชอบในโรงเรียน  แยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ของใช้ส่วนตนและ ของใช้สว่ นรวม สถำนทีส่ ว่ นตนและสถำนทสี่ ว่ นรวมภำยในโรงเรยี น  ปฏิบตั ิตนตำมกฎ ระเบียบ กตกิ ำของโรงเรียน  ปฏิบัติตนตำมระบบคิดฐำนสองโดยบอกได้ว่ำ ส่ิงใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือ ไมไ่ ด้ เหมำะสมหรอื ไมเ่ หมำะสม และนำไปใช้ในโรงเรยี นและในชีวติ ประจำวนั  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรเป็นผู้ละอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริตเก่ียวกับ กำรใชน้ ำ้ – ไฟฟ้ำ กำรทิง้ ขยะ กำรรบั ประทำนอำหำร และกำรเลอื กตัง้ ประธำนนักเรียน  เห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับควำมพอเพียง มวี ินยั ซ่อื สตั ย์สจุ รติ และมจี ติ สำธำรณะในกำรปอ้ งกันกำรทุจริต

คู่มอื หลกั สูตรต้านทจุ ริตศึกษา : 1133 จบระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓  รู้และเข้ำใจควำมหมำยของกำรขดั กันหรือขัดแย้งกนั ภำยในห้องเรยี นและโรงเรียน  รแู้ ละเข้ำใจกฎ กติกำ ระเบียบ ข้อตกลง วัฒนธรรม สิทธิ หน้ำท่ี และกำรใช้สถำนที่ ส่วนตนและส่วนรวมภำยในหมบู่ ำ้ น  ปฏิบัติตนตำมกฎ กติกำ ระเบียบ ข้อตกลง วัฒนธรรม และกำรใช้สถำนท่ีส่วนตน และสว่ นรวมภำยในหม่บู ำ้ น  ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองท่ดี ีตำมสทิ ธิ หนำ้ ท่ีท่ีไดร้ ับในหมูบ่ ำ้ น  ปฏิบัติตนเป็นผู้ละอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริตในกำรเลือกต้ังผู้ใหญ่บ้ำน กำรทำ ควำมสะอำดหมู่บ้ำน กำรใช้ถนน กำรท้ิงขยะ กำรใช้ทำงสำธำรณะ กำรใช้พ้ืนท่ีสำธำรณะ กำรประชำสมั พันธ์หมบู่ ้ำน และกำรใชไ้ ฟสำธำรณะในหมูบ่ ำ้ น  ปฏิบัติตนตำมระบบคิดฐำนสองโดยบอกได้ว่ำ ส่ิงใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือ ไม่ได้ เหมำะสมหรอื ไมเ่ หมำะสม และนำไปใช้ในหม่บู ำ้ นและในชีวิตประจำวนั  มีเจตคติที่ดีในกำรปฏิบัติตนเป็นผู้ละอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริตในกำรเลือกตั้ง ผู้ใหญ่บำ้ น กำรทำควำมสะอำดภำยในหมบู่ ้ำน กำรใช้ถนน และกำรทิ้งขยะในหม่บู ้ำน  เห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับควำมพอเพียง มวี ินัย ซอ่ื สตั ย์สจุ ริตและมีจติ สำธำรณะในกำรป้องกนั กำรทจุ ริต

คมู่ อื หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 14 14 จบระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔  รแู้ ละเขำ้ ใจควำมหมำยของจรยิ ธรรมและกำรทจุ ริต ผลประโยชนท์ บั ซ้อน  รู้และเขำ้ ใจผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมในระดบั ชมุ ชน  แสดงควำมคิดเห็นและเสนอวิธีกำรแก้ไขผลกระทบจำกกำรขัดกันระหว่ำง ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมในชุมชน  ปฏบิ ัติตำมระบบคิดฐำนสองโดยบอกได้ว่ำ สง่ิ ใดถกู หรือผิด ใชห่ รือไม่ใช่ ได้หรอื ไม่ได้ เหมำะสมหรอื ไม่เหมำะสม และนำไปใช้ในชุมชนและในชวี ิตประจำวัน  ปฏิบตั ิตนตำมสิทธิ หนำ้ ที่ กฎ กตกิ ำ ระเบียบ ขอ้ ตกลง วฒั นธรรมในชมุ ชน  ปฏิบัติตนเป็นผู้ละอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริต ในกำรทิ้งขยะไม่เป็นท่ี และ กำรละเมิดขอ้ ตกลงเก่ยี วกับกำรใชส้ ถำนทใี่ นชุมชน  ตระหนกั และเหน็ ควำมสำคญั ของกำรตอ่ ต้ำนกำรทุจรติ  เห็นผลกระทบท่ีเกิดจำกกำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมในชมุ ชน  เห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับควำมพอเพียง มวี นิ ยั ซอื่ สตั ย์สุจรติ และมจี ิตสำธำรณะในกำรปอ้ งกนั กำรทุจริต

คู่มอื หลกั สตู รต้านทุจรติ ศกึ ษา : 1155 จบระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๕  รู้และเข้ำใจผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม สำเหตุและรูปแบบ กำรเกดิ ผลประโยชนท์ ับซ้อนภำยในโรงเรียน  รู้และเข้ำใจรูปแบบของกำรทุจริต ควำมแตกต่ำงระหว่ำงจริยธรรมและกำรทุจริต ในสงั คมปจั จุบนั  ปฏิบัติตนตำมสิทธิ หน้ำท่ี กฎ กติกำ ระเบียบ ข้อตกลง วัฒนธรรม ในกำรใช้รถใช้ถนน ในที่สำธำรณะ กำรใช้ห้องสมุดประชำชน กำรจอดรถในที่สำธำรณะ กำรใช้สำธำรณูปโภค (ไฟฟ้ำ, ประปำ) และกำรใช้ศำลำประชำคม  ปฏิบัติตนตำมระบบคิดฐำนสองโดยบอกได้ว่ำ สิง่ ใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือไม่ได้ เหมำะสมหรอื ไม่เหมำะสม นำไปใช้ในสงั คม และในชวี ิตประจำวนั  ปฏิบัติตนเป็นผู้มีควำมละอำยและไม่ทนต่อกำรทุจริตในกำรจอดรถไม่เป็นที่ กำรตั้ง แผงขำยของบนทำงเท้ำ กำรเสียภำษี กำรปฏิบัติตำมกฎจรำจร กำรปฏิบัติตำมกฎหมำย และกำรใช้ สทิ ธ์เิ ลอื กตง้ั  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญในกำรต่อต้ำนกำรทุจริตและเห็นควำมสำคัญของ กำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับควำมพอเพียง มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริตและ มีจิตสำธำรณะในกำรปอ้ งกนั กำรทจุ รติ

คมู่ อื หลกั สตู รต้านทจุ รติ ศึกษา : 16 16 จบระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖  รู้และเข้ำใจควำมหมำยของคำว่ำ พลเมือง ประชำชน ประชำกร รำษฎร และ กำรขัดกนั  รู้และเข้ำใจถึงผลกระทบท่ีเกิดจำกกำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมระดับประเทศ  รู้และเข้ำใจสำเหตุและรูปแบบของกำรเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ควำมแตกต่ำง ระหว่ำงจรยิ ธรรมและกำรทจุ ริต  ปฏบิ ัติตนตำมกฎหมำยสิง่ แวดลอ้ มและกฎหมำยกำรรักษำควำมสะอำด  ปฏิบัติตนตำมระบบคิดฐำนสองโดยบอกได้ว่ำ สงิ่ ใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือไม่ได้ เหมำะสมหรือไมเ่ หมำะสม และนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั  ปฏิบัติกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดควำมละอำยและควำมไม่ทนต่อกำรทุจริตในกำรใช้ พื้นท่ีสำธำรณะ กำรอนรุ กั ษ์แหล่งนำ้ กำรเสยี ภำษี กำรเลอื กตัง้ และกำรอนรุ ักษส์ ่ิงแวดลอ้ ม  เหน็ ควำมสำคัญ และมีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ กำรตอ่ ตำ้ นและป้องกันกำรทุจรติ  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับ ควำมพอเพยี ง มีวนิ ัย ซ่อื สัตย์สจุ รติ และมีจติ สำธำรณะในกำรป้องกนั กำรทจุ รติ

คูม่ ือหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 1177 จบระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑  รูแ้ ละเข้ำใจควำมหมำยของกำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมควำมสัมพันธ์ระหว่ำงกำรขัดกันของประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม และ พลเมอื งศกึ ษำ  รู้และเข้ำใจคณุ ลักษณะของพลเมืองในด้ำนอิสรภำพ กำรพ่ึงพำตนเอง ควำมเท่ำเทียมกัน กำรยอมรับควำมแตกต่ำงของควำมเป็นพลเมือง กำรเคำรพสิทธิผู้อื่น กำรรับผิดชอบต่อสังคม ระบบประชำธปิ ไตย และกำรมีสว่ นรว่ ม  ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีด้ำนอิสรภำพ กำรพึ่งพำตนเอง ควำมเท่ำเทียมกัน กำรยอมรับควำมแตกต่ำงของควำมเป็นพลเมือง กำรเคำรพสิทธิผู้อื่น กำรรับผิดชอบต่อสังคม ระบบประชำธิปไตย และกำรมสี ่วนร่วมในชมุ ชนและสงั คม  นำระบบคิดฐำนสองมำปฏิบัติโดยบอกได้ว่ำ ส่ิงใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือไม่ได้ เหมำะสมหรอื ไมเ่ หมำะสม นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวันและประเทศชำติ  ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มคี วำมละอำยและไม่ทนต่อกำรทุจรติ ในชุมชน  ปฏิบัติตนเป็นผู้มีควำมพอเพียง ควำมโปร่งใส ควำมต่ืนรู้ กำรมุ่งไปข้ำงหน้ำ ควำมรู้ ควำมเอ้ืออำทรบนพื้นฐำนกำรไม่ทจุ รติ  เห็นควำมสำคญั ของกำรต่อตำ้ นและปอ้ งกนั กำรทจุ รติ  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับ ควำมพอเพยี ง มีวินยั ซือ่ สตั ย์สุจริตและมีจิตสำธำรณะในกำรปอ้ งกันกำรทจุ รติ

ค่มู อื หลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา : 18 18 จบระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒  ร้แู ละเข้าใจความหมายของสทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องพลเมอื งทม่ี ีในโรงเรียน  รู้และเขา้ ใจผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวมทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ประเทศ ในระดบั อาเซียน  ปฏบิ ตั ติ นตามกฎ ระเบียบ กติกา ของโรงเรยี น ชมุ ชน และสงั คม  ประกอบอาชีพโดยใช้วัสดทุ อ้ งถ่ิน ตามหลกั STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ ในการ ทํานํา้ ยาลา้ งจาน การนวดแผนโบราณ การซอ่ มรถจกั รยาน การทําปุ๋ยชวี ภาพ การใหบ้ รกิ าร Home stay  ปฏบิ ัติตนเป็นแบบอยา่ งที่ดี เปน็ ผู้มคี วามรบั ผดิ ชอบ มคี วามยุติธรรมต่อชุมชน สังคม และสํานึกในการเป็นพลเมอื งดีต่อประเทศ  ปฏิบัติตนเป็นผู้ละอายและไม่ทนต่อการทุจริตในการใช้นํ้า ไฟฟ้า การทิ้งขยะ การรบั ประทานอาหาร และการเลอื กตง้ั ประธานนกั เรยี นในโรงเรียน  นาํ ระบบคดิ ฐานสองมาปฏิบัติโดยบอกได้ว่า สิ่งใดถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ ได้หรือไม่ได้ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม นําไปใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั  ตระหนักและเห็นความสําคัญของการเป็นพลเมืองดีในการต่อต้านและป้องกัน การทจุ รติ ท่จี ะส่งผลเสียตอ่ ส่วนรวมในระดับอาเซียน  เห็นความสําคัญของการปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับความพอเพียง มีวนิ ัย ซอื่ สัตย์สจุ ริตและมีจติ สาธารณะในการปอ้ งกันการทจุ ริต

คูม่ อื หลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 1199 จบระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓  รแู้ ละเข้ำใจกำรขดั กนั ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวมที่ส่งผล ตอ่ ประเทศในระดบั สงั คมโลก  รแู้ ละเขำ้ ใจใช้จรยิ ธรรมในกำรแก้ปัญหำกำรทุจริตที่เกิดขน้ึ ในโลก  รู้และเข้ำใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจำกกำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม ผลประโยชน์ทับซ้อน และแนวทำงกำรป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนในกลุ่ม ประเทศอำเซียน  ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มีควำมละอำยและไมท่ นต่อกำรทจุ รติ ในประเทศและโลก  ดำเนินงำนบรษิ ัทสรำ้ งกำรดโี ดยยดึ หลกั STRONG : จติ พอเพียงตำ้ นทจุ รติ  มเี จตคติท่ีดีและเห็นควำมสำคัญในกำรปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดขี องประเทศและโลก ในกำรตอ่ ต้านการทุจริต  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับ ควำมพอเพยี ง มวี ินัย ซ่อื สตั ย์สจุ รติ และมีจิตสำธำรณะในกำรปอ้ งกนั กำรทจุ รติ

คมู่ ือหลกั สูตรตา้ นทจุ ริตศึกษา : 20 20 จบระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔  รู้และเข้ำใจกำรคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ระบบ คิดฐำนสอง และระบบคิดฐำนสิบทส่ี ่งผลตอ่ ตนเอง ประเทศ และสังคมโลก  รู้และเข้ำใจกฎหมำย ประมวลจริยธรรมที่เก่ียวข้องกับนักเรียน ครู และประมวล กฎหมำยอำญำ มำตรำ 1 (1) โดยทุจรติ และควำมพอเพียง  รูแ้ ละเข้ำใจกำรขัดกนั ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ปญั หำ ของผลประโยชน์ทับซอ้ นท่ีสง่ ผลตอ่ สงั คมและกำรพัฒนำประเทศ  รแู้ ละเข้ำใจสิทธิและหน้ำที่ ท่ีมีต่อสังคม ควำมโปร่งใส ควำมตื่นรู้ กำรมุ่งไปข้ำงหน้ำ และควำมเอื้ออำทร  รู้และเขำ้ ใจแนวทำงกำรสรำ้ งเสรมิ สำนึกควำมเปน็ พลเมือง กรณศี กึ ษำประเทศไทย  รู้และเข้ำใจปัญหำ อุปสรรค และปัจจัยสู่ควำมสำเร็จในกำรสร้ำงเสริมสำนึก ควำมเปน็ พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยำวชน  รู้และเข้ำใจแนวทำงในกำรพัฒนำรูปแบบกิจกรรมเพื่อเสริมสร้ำงสำนึกควำมเป็น พลเมอื งแกเ่ ดก็ และเยำวชน  รู้และเข้ำใจผลกระทบท่ีเกิดจำกควำมไม่ละอำยและกำรเพิกเฉยต่อกำรทุจริต และ มคี วำมละอำยและควำมไมท่ นตอ่ กำรทุจรติ  ร่วมกำหนดแนวทำงกำรแก้ปัญหำและวิธีกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีควำมละอำยและ ไมท่ นต่อกำรทุจริต  ใช้หลัก STRONG : จิตพอเพยี งตำ้ นทจุ ริตในกำรสร้ำงสรรคผ์ ลงำนกำรทำภำพยนตร์สัน้  ปฏบิ ัตติ นตำมระเบียบ กฎ กติกำ และกฎหมำย ดว้ ยควำมรบั ผิดชอบตำมบทบำท หน้ำท่ี ในฐำนะเปน็ พลเมอื งทด่ี ขี องสงั คมและพลเมืองโลก  พฒั นำรปู แบบกิจกรรมเพอ่ื เสรมิ สรำ้ งสำนกึ ควำมเป็นพลเมืองแก่เด็กและเยำวชน  เห็นควำมสำคัญในกำรต่อต้ำนและป้องกันกำรทุจริตอันจะส่งผลให้อยู่ร่วมกัน ในสงั คมได้อยำ่ งสงบสขุ  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับ ควำมพอเพียง มวี นิ ยั ซอ่ื สัตย์สุจริตและมีจิตสำธำรณะในกำรป้องกันกำรทุจริต

คมู่ ือหลักสตู รต้านทจุ ริตศึกษา : 2211 จบระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕  รู้และเข้ำใจควำมหมำยของกำรขัดกันระหว่ำงประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมในระดับสงั คม ประเทศชำติ สังคมโลก  รแู้ ละเขำ้ ใจประมวลกฎหมำยอำญำท่ีเก่ยี วขอ้ งกับกำรแก้ไขปัญหำกำรทจุ รติ  แยกแยะควำมแตกต่ำงระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ทส่ี ่งผลตอ่ ประเทศในระดบั อำเซียน  ร้แู ละเข้ำใจกระบวนกำรในกำรต่อต้ำนกำรป้องกันกำรทุจริต ควำมเป็นพลเมืองและ ควำมเปน็ พลโลกที่ดี  รู้วิธีกำรแก้ปัญหำกำรทุจริตในสังคมไทยโดยยึดหลัก STRONG : จิตพอเพียง ต้ำนทุจรติ  นำพฤติกรรมที่เกิดจำกระบบคิดฐำนสองไปแก้ระบบคิดฐำนสิบท่ีส่งผลต่อระดับ ประเทศและสงั คมโลก  เสนอแนวทำงกำรแก้ปัญหำกำรขดั กันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ สว่ นรวมทส่ี ง่ ผลตอ่ สังคมและประเทศ รูจ้ กั หน้ำทีข่ องตนเองและเคำรพสทิ ธิของผู้อ่ืน  วิเครำะห์ควำมสมั พันธ์ระหว่ำงจรยิ ธรรม คุณธรรม ทส่ี ง่ ผลต่อกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริต  มีควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อกำรทุจริตที่เกดิ ขน้ึ และส่งผลกระทบตอ่ ประเทศไทย  นำหลัก STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทุจริตไปใช้ในกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริต ในสังคมไทย  ปฏิบัติตนเปน็ พลเมอื งทม่ี คี วำมรับผิดชอบตอ่ สังคมและประเทศไทย  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับ ควำมพอเพยี ง มีวนิ ัย ซอ่ื สตั ย์สุจริตและมจี ิตสำธำรณะในกำรป้องกันกำรทจุ ริต

คู่มอื หลักสูตรตา้ นทุจรติ ศกึ ษา : 22 22 จบระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖  วเิ ครำะห์และแยกแยะควำมแตกตำ่ งระหวำ่ งจริยธรรมและกำรทุจรติ ระดบั โลก  ปฏิบตั ติ นตำมจรยิ ธรรมที่ไมท่ ำให้ตนเองและผู้อืน่ เดอื ดร้อน  วิเครำะห์ควำมแตกต่ำงระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ที่ส่งผลตอ่ ประเทศชำติและสงั คมโลก  รู้และเข้ำใจลักษณะของกำรขัดกันระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมทีเ่ กดิ ข้ึนระหวำ่ งบุคคล สังคม ประเทศชำติและสังคมโลก  รู้และเข้ำใจระเบียบกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและ พ.ร.บ. ประกอบ รัฐธรรมนญู ว่ำด้วยกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มำตรำ ๔  รู้และเข้ำใจปัญหำกำรทุจริตที่เกิดข้ึนในประเทศไทยและส่งผลกระทบต่อประเทศ ต่ำง ๆ และโลก  นำเสนอแนวทำงแก้ปัญหำผลประโยชน์ทับซ้อน กำรสร้ำงสำนึกควำมเป็นพลเมือง ทมี่ ีควำมรบั ผิดชอบตอ่ กำรทจุ ริต วิธกี ำรปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ท่มี ีควำมละอำยและควำมไมท่ นต่อกำรทจุ รติ  จัดกิจกรรมอำสำโดยผ่ำนกระบวนกำร STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทุจริต เพ่ือ กำรพฒั นำประเทศส่สู งั คมโลก  นำเสนอแนวทำงกำรแก้ปัญหำและวิธีกำรปฏิบัติในกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริต ในฐำนะเป็นพลเมืองดีและเป็นพลโลก  ตระหนักและเห็นควำมสำคัญของกำรปฏิบัติตนเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมเก่ียวกับ ควำมพอเพียง มวี นิ ยั ซอื่ สตั ย์สุจรติ และมีจิตสำธำรณะในกำรป้องกันกำรทจุ รติ

คมู่ อื หลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา : 2233 ผลการเรยี นรู้และสาระการเรยี นรู้ ระดับปฐมวยั กำรจัดกำรเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ที่กำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงที่ใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แกผ่ ้เู รียนได้อย่ำงมีประสิทธภิ ำพและเอ้อื ต่อกำรวัดผลและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน ๑๔ ชวั่ โมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกควำมหมำยของ ของใช้ - ควำมหมำยของ ของใช้สว่ นตน เกย่ี วกบั กำรแยกแยะ ส่วนตนและของใชส้ ่วนรวมได้ และของใชส้ ว่ นรวม ระหวำ่ งผลประโยชน์ ๒. จำแนกของใชส้ ว่ นตนและ - กำรจำแนกของใช้ส่วนตนและ สว่ นตนและผลประโยชน์ ของใชส้ ่วนรวมได้ ของใชส้ ่วนรวม สว่ นรวม ๓. ปฏบิ ัตติ นในกำรใช้ของใชส้ ว่ นตน - กำรปฏบิ ตั ิตนในกำรใชข้ องใช้ ๒. สำมำรถคดิ แยกแยะ และของใชส้ ่วนรวมไดถ้ ูกต้อง ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมได้ ระหวำ่ งผลประโยชน์ ถูกต้อง สว่ นตนและผลประโยชน์ ๔. ปฏบิ ัติตนในกำรเลน่ ของเล่น - กำรปฏิบัตติ นในกำรเลน่ ของเล่น สว่ นรวมได้ สว่ นตนและของเล่นสว่ นรวมได้ สว่ นตนและของเล่นส่วนรวม 3. ตระหนักและ ถูกต้อง เหน็ ควำมสำคัญในกำร ๕. ปฏิบตั ติ นในกำรรับประทำน - กำรปฏบิ ัติตนในกำรรบั ประทำน แยกแยะระหวำ่ ง อำหำรได้อย่ำงถกู ต้อง อำหำร ผลประโยชนส์ ว่ นตน และผลประโยชน์ ๖. บอกวธิ ีกำรปฏิบัตติ นไดเ้ หมำะสม - กำรปฏิบัตติ นไดเ้ หมำะสม สว่ นรวม ในขณะเข้ำแถวหรือเดินเป็นแถว ในขณะเข้ำแถวหรอื เดนิ เป็นแถว ๗. แยกแยะผลดี และผลเสยี ของ - ผลดี และผลเสยี ของกำรเก็บของ กำรเกบ็ ของและไมเ่ ก็บของท่ีมีตอ่ และไมเ่ กบ็ ของท่มี ตี ่อตนเองและ ตนเองและผอู้ นื่ ผู้อ่นื ๘. บอกผลดี ของกำรมีควำมรับผิดชอบ - ผลดี ของกำรมีควำมรับผดิ ชอบ ในกำรทำงำนที่ได้รับมอบหมำย ในกำรทำงำนทไี่ ด้รับมอบหมำย ทม่ี ีต่อตนเองและผู้อืน่ ทมี่ ตี อ่ ตนเอง และผ้อู น่ื ๙. บอกผลเสยี ของกำรไม่มี - ผลเสยี ของกำรไมม่ ีควำมรับผิดชอบ ควำมรับผดิ ชอบในกำรทำงำน ในกำรทำงำนทีไ่ ดร้ ับมอบหมำย ท่ไี ด้รับมอบหมำยทีม่ ีต่อตนเอง ที่มีตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน และผูอ้ ื่น

ค่มู อื หลกั สตู รต้านทจุ ริตศกึ ษา : 24 24 ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑๐. แยกแยะผลดี และผลเสยี - ผลดี และผลเสยี ของกำรมี ของกำรมคี วำมรบั ผิดชอบในกำร ควำมรบั ผดิ ชอบในกำรทำงำน ทำงำนท่ีได้รับมอบหมำยทีม่ ีต่อ ท่ไี ดร้ ับมอบหมำยที่มีต่อตนเอง ตนเองและผ้อู ่นื และผู้อื่น ๑๑. บอกควำมหมำยของกำรแบ่งปนั - ควำมหมำยของกำรแบ่งปนั แยกแยะประโยชน์ของกำรแบ่งปัน - ประโยชนข์ องกำรแบง่ ปนั ที่มีต่อ ท่ีมตี ่อตนเองและผู้อนื่ ตนเองและผอู้ ่นื ๑๒. บอกควำมสำคัญของกำรแต่งกำย - ควำมสำคัญของกำรแตง่ กำย ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง ๑๓. แยกแยะผลดี ของกำรแต่งกำย - ผลดี ของกำรแต่งกำยดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเองท่ีส่งผลตอ่ ตนเองและผูอ้ ื่น ทส่ี ่งผลต่อตนเองและผู้อน่ื ๑๔. แยกแยะผลเสีย ของกำรแต่งกำย - ผลเสีย ของกำรแตง่ กำยดว้ ยตนเอง ด้วยตนเองไม่ได้ ทส่ี ง่ ผลต่อตนเอง ไม่ได้ ที่ส่งผลต่อตนเองและผู้อ่ืน และผ้อู ่นื ๑๕. บอกวิธีกำรประหยัดน้ำ - วิธกี ำรประหยดั นำ้ ขณะแปรงฟัน ขณะแปรงฟัน ๑๖. บอกผลดี ของกำรประหยัดน้ำ - ผลดี ของกำรประหยัดน้ำ ขณะแปรงฟัน ท่สี ่งผลตอ่ ตนเอง ขณะแปรงฟัน ท่ีสง่ ผลต่อตนเอง และสว่ นรวม และสว่ นรวม ๑๗. บอกผลเสยี ของกำรไม่ - ผลเสยี ของกำรไม่ประหยดั นำ้ ประหยดั น้ำขณะแปรงฟัน ทสี่ ่งผล ขณะแปรงฟัน ท่ีส่งผลต่อตนเอง ตอ่ ตนเองและส่วนรวม และส่วนรวม ๑๘. บอกวธิ ีกำรใชห้ อ้ งนำ้ อยำ่ งถกู วิธี - วธิ กี ำรใชห้ อ้ งนำ้ อย่ำงถกู วธิ ี ๑๙. บอกผลดีของกำรใชห้ ้องน้ำ - ผลดีของกำรใช้ห้องน้ำอยำ่ งถูกวธิ ี อย่ำงถูกวธิ ี ท่สี ่งผลต่อตนเองและ ทส่ี ่งผลตอ่ ตนเองและสว่ นรวม สว่ นรวม ๒๐. บอกผลเสยี ของกำรใช้ห้องน้ำ - ผลเสีย ของกำรใช้หอ้ งนำ้ ที่ไม่ถูกวธิ ี ที่ไม่ถูกวิธี ทส่ี ่งผลต่อตนเองและ ท่สี ง่ ผลต่อตนเองและส่วนรวม ส่วนรวม ๒๑. รู้ และเขำ้ ใจเก่ยี วกับระบบ - ระบบคดิ ฐำนสอง และระบบ คิดฐำนสอง และระบบคิดฐำนสิบ คดิ ฐำนสบิ ๒๒. แยกแยะระหว่ำงระบบ - กำรแยกแยะระหว่ำงระบบ คดิ ฐำนสอง กับระบบคิดฐำนสบิ คิดฐำนสอง กบั ระบบคิดฐำนสิบ

ค่มู อื หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา : 2255 หนว่ ยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต จานวน ๑๒ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกความหมายของความละอาย - ความหมายของความละอาย เก่ียวกบั ควำมละอำย และความไมท่ นต่อการทจุ ริตได้ และความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต และควำมไมท่ น ๒. บอกวธิ ีการปฏิบตั ติ นในการเลน่ - วธิ ีการปฏิบัตติ นในการเล่นของเลน่ ตอ่ กำรทุจริต ของเล่นได้ ๒.ปฏิบัติตนเป็นผู้ละอำย ๓. บอกวิธีในการเก็บของเล่น - วิธใี นการเก็บของเลน่ ใหเ้ ป็น และไมท่ นต่อกำรทุจริต ให้เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยเป็นตัวอย่าง ระเบียบเรียบร้อยเป็นตวั อยา่ ง ทุกรูปแบบ ให้แก่บคุ คลอ่นื ได้ ให้แกบ่ คุ คลอน่ื ได้ 3. ตระหนักและ ๔. บอกโทษของการนาของของผอู้ ่นื - โทษของการนาของ ของผู้อื่น มคี วำมละอำยและ มาเปน็ ของตน โดยไม่ได้รบั อนุญาต มาเปน็ ของตน โดยไม่ได้รบั อนุญาต ไม่ทนต่อกำรทุจรติ ๕. บอกวิธีปฏบิ ตั ิตนในการ - วธิ ีปฏบิ ัตติ นในการรับประทาน รับประทานอาหารได้อยา่ งถกู ตอ้ ง อาหาร ๖. มคี วามละอายและไมแ่ ยง่ หรอื - ความละอายและไมแ่ ย่งหรือ ขโมยอาหารเพ่ือน ขโมยอาหารเพ่อื น ๗. บอกวิธีการเข้าแถวเรียงลาดบั - วิธีการเข้าแถวเรียงลาดับ ๘. ปฏบิ ัตติ นในการเข้าแถว - การปฏบิ ตั ติ นในการเขา้ แถว เรียงลาดบั เรียงลาดบั ๙. มีความละอายและไม่แซงคิวผอู้ ื่น - ความละอายและไมแ่ ซงคิวผู้อื่น ๑๐. บอกชอ่ื ของใชส้ ว่ นตน วิธกี ารใช้ - ของใชส้ ว่ นตน วิธีการใชแ้ ละ และประโยชนข์ องของใชน้ ั้น ๆ ประโยชน์ของของใชน้ น้ั ๆ ๑๑. ใช้ของใชส้ ว่ นตนไดอ้ ย่างถกู ต้อง - การใช้ของใช้สว่ นตนได้ ถูกวิธี มีความละอายและไม่แย่ง อยา่ งถูกต้องถูกวธิ ี หรือขโมยของใชข้ องผู้อนื่ - ความละอายและไมแ่ ย่งหรือ ขโมยของใช้ของผู้อื่น ๑๒. เก็บของใช้ส่วนตนเข้าที่ - การเกบ็ ของใชส้ ่วนตนเข้าที่ อย่างเรยี บร้อย มีความละอายและ อยา่ งเรยี บร้อย ไมแ่ ยง่ หรือขโมยของใชข้ องผ้อู ่ืน - ความละอายและไม่แย่งหรือ ขโมยของใชข้ องผูอ้ ื่น ๑๓. บอกประโยชนข์ องการมี - ประโยชนข์ องการมีความรบั ผดิ ชอบ ความรบั ผิดชอบต่อการทางาน ตอ่ การทางานที่ได้รบั มอบหมาย ที่ได้รับมอบหมายและโทษ และโทษของ การไมม่ ีความรับผดิ ชอบ ของการไม่มคี วามรับผิดชอบ ต่อการทางานที่ได้รับมอบหมาย ตอ่ การทางานท่ีได้รบั มอบหมาย

ค่มู อื หลกั สตู รตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 26 26 ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑๔. มีความรบั ผดิ ชอบทางาน - ความรบั ผดิ ชอบทางานท่ไี ด้รบั ทไ่ี ด้รบั มอบหมายจนสาเรจ็ มอบหมายจนสาเร็จ โดยไม่ลอก โดยไม่ลอกหรือนาผลงานของผู้อนื่ หรือนาผลงานของผูอ้ นื่ มาเป็น มาเปน็ ผลงานของตนเอง ผลงานของตนเอง ๑๕. บอกความหมายของ - ความหมายของการแบ่งปัน การแบง่ ปันได้ ๑๖. มีพฤติกรรมการแบ่งปันและ - พฤติกรรมการแบ่งปันและ ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ทม่ี คี วามละอาย การปฏิบัติตนเปน็ ผู้ท่มี ีความละอาย และไมท่ นต่อการทุจริต และไม่ทนต่อการทจุ รติ ๑๗. บอกขน้ั ตอน และวธิ ีการ - ขน้ั ตอน และวธิ กี ารแต่งกาย แตง่ กายได้ ๑๘. แต่งกายดว้ ยตนเอง โดยไม่ - การแตง่ กายด้วยตนเอง โดยไม่ นาเอาเคร่ืองแตง่ กายของคนอ่ืน นาเอาเคร่ืองแตง่ กายของคนอ่ืน มาเป็นของตน มาเป็นของตน ๑๙. ปฏบิ ัติตน และบอกวิธกี าร - การปฏบิ ตั ิตน และบอกวิธกี าร ปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจาวนั แกบ่ ุคคล ปฏบิ ตั กิ จิ วัตรประจาวนั แกบ่ ุคคลอื่น อนื่ ได้ ๒๐. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้ละอายและ - การปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้ลู ะอายและ เป็นผไู้ มท่ นต่อการทุจรติ เปน็ ผไู้ มท่ นต่อการทุจริต ๒๑. บอกขอ้ ดี และข้อเสยี ของ - ขอ้ ดี และข้อเสีย ของการปฏบิ ตั ิ การปฏิบตั แิ ละไมป่ ฏิบัตกิ จิ วัตร และไม่ปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจาวัน ประจาวัน ๒๒. ปฏบิ ตั ิตน และบอกวิธกี าร - การปฏิบตั ิตน และบอกวธิ กี าร ปฏบิ ตั กิ ิจวัตรประจาวนั แกบ่ คุ คลอ่ืน ปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจาวนั แกบ่ คุ คลอืน่ ๒๓. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ละอายและ - การปฏบิ ตั ิตนเป็นผูล้ ะอายและ เปน็ ผไู้ มท่ นต่อการทุจริตทุกรปู แบบ เปน็ ผ้ไู มท่ นต่อการทจุ รติ ทุกรูปแบบ

คมู่ อื หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศกึ ษา : 2277 หนว่ ยท่ี 3 STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ ริต จานวน ๙ ชว่ั โมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ ๑. บอกความหมายของความพอเพยี ง - ความหมายของความพอเพียง เกย่ี วกบั STRONG : ๒. บอกความหมายของความโปรง่ ใส - ความหมายของความโปรง่ ใส จิตพอเพยี งตำ้ นทจุ ริต ๓. มพี ฤตกิ รรมความตืน่ รู้ - พฤตกิ รรมความต่ืนรู้ 2. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ๔. บอกถึงพระราชกรณียกจิ ของ - พระราชกรณยี กจิ ของในหลวง ผูท้ ี่ STRONG : ในหลวงในการพฒั นาประเทศได้ ในการพัฒนาประเทศ จติ พอเพียงต้ำนทุจริต เหมาะสมกบั วยั ๓. ตระหนักและ ๕. บอกถึงพฤติกรรมของ - พฤติกรรมของการเอือ้ อาทรกัน เหน็ ควำมสำคญั การเอื้ออาทรกัน ของ STRONG และ มจี ิตพอเพียงในกำร ๖. มีพฤติกรรมทีซ่ ื่อสัตยส์ จุ ริต - พฤติกรรมที่ซ่ือสัตย์สุจรติ ต่อตำ้ นกำรทจุ รติ ๗. บอกวธิ กี ารรับประทานอาหาร - วธิ กี ารรับประทานอาหาร ทกุ รูปแบบ อย่างพอเพยี ง แบ่งปัน และเคารพ อย่างพอเพยี ง แบ่งปัน และเคารพ กตกิ าขอ้ ตกลงของการรบั ประทาน กฎกตกิ าขอ้ ตกลงของการรับประทาน อาหาร อาหาร ๘. อธิบายวิธีการช่วยเหลือเพื่อนได้ - วิธีการชว่ ยเหลือเพอ่ื น ๙. บอกวิธีการใช้กระดาษ - วิธกี ารใช้กระดาษอย่างประหยัด อย่างประหยดั ได้ ๑๐. ใช้กระดาษได้อยา่ งประหยัด - การใช้กระดาษได้อยา่ งประหยัด

คมู่ ือหลกั สตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 28 28 หน่วยที่ ๔ พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม จานวน ๙ ชว่ั โมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. ดแู ลรกั ษาฟันได้ดว้ ยตนเอง - วธิ ีดูแลรกั ษาฟันได้ด้วยตนเอง เกยี่ วกับพลเมือง ๒. บอกวิธกี ารแตง่ กายได้ - วิธีการแตง่ กาย มคี วำมรับผดิ ชอบ ๓. แต่งกายได้ดว้ ยตนเอง - การแต่งกายด้วยตนเอง ตอ่ สงั คม ๔. บอกขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นการเรียน - ข้อควรปฏบิ ตั ิในการเรียน ๒. ปฏิบตั ติ นตำม ในหอ้ งเรียน ในห้องเรียน หนำ้ ทพ่ี ลเมืองและ ๕. บอกประโยชน์ของการตั้งใจเรยี น - ประโยชนข์ องการตั้งใจเรียน มคี วำมรับผดิ ชอบ ๖. บอกสิง่ ท่คี วรปฏิบัติและ - สง่ิ ท่คี วรปฏบิ ัตแิ ละไม่ควรปฏิบัติ ตอ่ สังคม ไมค่ วรปฏิบตั ิในห้องเรียน ในห้องเรยี น 3. ตระหนักและ ๗. บอกพฤติกรรมท่ีแสดงถึง - พฤติกรรมที่แสดงถึงการตรงต่อเวลา เหน็ ควำมสำคญั ของ การตรงต่อเวลา ปฏบิ ัติตนเป็นผูท้ ี่ ปฏบิ ัติตนเป็นผู้ทีต่ รงตอ่ เวลา กำรเป็นพลเมืองที่ดี ตรงตอ่ เวลา และมีควำมรบั ผิดชอบ ๘. มวี ินยั ในการรกั ษาความสะอาด - วนิ ัยในการรกั ษาความสะอาด ต่อสงั คมในกำรป้องกัน หอ้ งเรยี น ห้องเรยี น กำรทุจริต

คมู่ ือหลักสูตรต้านทจุ รติ ศกึ ษา : 2299 ผลการเรยี นรูแ้ ละสาระการเรียนรู้ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ กำรจัดกำรเรียนรู้ เพอื่ ให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ทก่ี ำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้นั้น ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพื่อให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ใหแ้ ก่ผ้เู รยี นได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพและเอือ้ ตอ่ กำรวัดผลและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม จานวน ๑๖ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกควำมหมำยของของใช้ - ควำมหมำยของของใชส้ ว่ นตน เกีย่ วกับกำรแยกแยะ ส่วนตนและของใช้สว่ นรวมได้ และของใช้สว่ นรวม ระหวำ่ งผลประโยชน์ ๒. จำแนกของใช้สว่ นตนและ - กำรจำแนกของใช้ส่วนตนและ สว่ นตนและผลประโยชน์ ของใชส้ ่วนรวม (ภำยในบำ้ น, ของใช้สว่ นรวม (ภำยในบ้ำน, สว่ นรวม ภำยในหอ้ งเรยี น) ภำยในหอ้ งเรียน) ๒. สำมำรถคดิ แยกแยะ ๓. ใช้ของใช้สว่ นตน และของใช้ - ใชข้ องใชส้ ่วนตน และของใช้ ระหวำ่ งผลประโยชน์ ส่วนรวมอยำ่ งถกู ต้อง สว่ นรวมอย่ำงถูกต้อง ส่วนตนและผลประโยชน์ 4. บอกควำมหมำยของสถำนท่ี - ควำมหมำยของสถำนท่ีส่วนตน ส่วนรวม ส่วนตน และสถำนที่ส่วนรวมได้ และส่วนรวม 3. ตระหนกั และ 5. จำแนกสถำนทส่ี ว่ นตนและ - กำรจำแนกสถำนท่ีส่วนตนและ เห็นควำมสำคญั สถำนท่ีส่วนรวมได้ (ภำยในบ้ำน, สว่ นรวมได้ (ภำยในบำ้ น, ภำยใน ของกำรต่อต้ำนและ ภำยในห้องเรียน) ห้องเรยี น) ป้องกนั กำรทจุ รติ 6. ปฏิบัติตนได้ดเี มอื่ อย่ใู นสถำนท่ี - กำรปฏบิ ัติตนได้ดีเม่ืออยู่ใน สว่ นตน และสว่ นรวม สถำนทสี่ ่วนตน และสว่ นรวม 7. บอกควำมหมำยของผลประโยชน์ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม 8. จำแนกผลประโยชน์ส่วนตน - กำรจำแนกผลประโยชน์สว่ นตน และผลประโยชน์ส่วนรวมได้ และผลประโยชนส์ ่วนรวม (ภำยในบ้ำน, ภำยในหอ้ งเรยี น) (ภำยในบ้ำน, ภำยในหอ้ งเรียน) 9. บอกควำมหมำยระบบคิดฐำนสอง - ควำมหมำยระบบคิดฐำนสอง 10. บอกพฤติกรรมที่แสดงออก - พฤติกรรมที่แสดงออกแบบระบบ แบบระบบคิดฐำนสอง คิดฐำนสอง

ค่มู อื หลักสตู รต้านทุจริตศกึ ษา : 30 30 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑1. ยกตวั อยำ่ งพฤติกรรมแบบ - พฤตกิ รรมแบบระบบคดิ ฐำนสอง ระบบคิดฐำนสอง จำกสถำนกำรณ์ จำกสถำนกำรณใ์ กล้ตัว (ภำยในบำ้ น, ใกลต้ ัว (ภำยในบำ้ น, หอ้ งเรยี น) หอ้ งเรยี น) ๑2. แยกแยะพฤติกรรมท่ีแสดงออก - พฤตกิ รรมที่แสดงออกถงึ ระบบ ถงึ ระบบคิดฐำนสอง จำกสถำนกำรณ์ คดิ ฐำน ๒ จำกสถำนกำรณใ์ กล้ตัว ใกล้ตัวได้ (ภำยในบ้ำน, ห้องเรียน) (ภำยในบำ้ น, ห้องเรยี น) ๑3. นำระบบคิดฐำนสอง - กำรนำระบบคดิ ฐำนสอง ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน (ภำยในบำ้ น, หอ้ งเรียน) (ภำยในบ้ำน, หอ้ งเรยี น) ๑4. บอกควำมหมำยระบบคดิ ฐำนสิบ - ควำมหมำยระบบคดิ ฐำนสิบ (ภำยในบำ้ น, หอ้ งเรยี น)ได้ (ภำยในบ้ำน, หอ้ งเรียน) ๑5. บอกพฤติกรรมแบบระบบ - พฤติกรรมแบบระบบคดิ ฐำนสบิ คดิ ฐำนสิบได้ (ภำยในบำ้ น, (ภำยในบำ้ น, ห้องเรยี น) ห้องเรียน) ๑6. คดิ แยกแยะพฤติกรรม - กำรคิดแยกแยะพฤติกรรม ที่แสดงออกแบบระบบคดิ ฐำนสบิ ทีแ่ สดงออกแบบระบบคดิ ฐำนสบิ (ภำยในบ้ำน, ห้องเรยี น) (ภำยในบ้ำน, หอ้ งเรยี น) ๑7. ยกตวั อยำ่ งพฤติกรรม - ตวั อย่ำงพฤติกรรมทแี่ สดงออก ท่แี สดงออกแบบระบบคิดฐำนสบิ แบบระบบคิดฐำนสิบ (ภำยในบ้ำน, (ภำยในบำ้ น, หอ้ งเรยี น) หอ้ งเรียน)

ค่มู ือหลกั สูตรต้านทุจริตศึกษา : 3311 หนว่ ยที่ ๒ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต จานวน ๖ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำว่ำ ทจุ รติ เก่ยี วกบั ควำมละอำย ทจุ รติ ได้ และควำมไม่ทนตอ่ ๒. บอกควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำวำ่ “ละอำย” กำรทุจรติ “ละอำย” ได้ ๒. ปฏบิ ัติตนเปน็ ๓. บอกควำมหมำยของควำมไม่ทน - ควำมหมำยของควำมไม่ทนต่อ ผลู้ ะอำยและไม่ทนต่อ ต่อกำรทจุ ริตได้ กำรทุจรติ กำรทุจริตทุกรปู แบบ ๔. บอกควำมหมำยของกำรบ้ำนได้ - ควำมหมำยของกำรบ้ำน 3. ตระหนกั และ ๕. ยกตัวอย่ำงกำรบำ้ นทค่ี ณุ ครู - ตวั อยำ่ งกำรบ้ำนที่คณุ ครูให้ทำ เห็นควำมสำคัญ ให้ทำได้ ของกำรต่อตำ้ นและ ๖. กำหนดแนวทำงกำรปฏิบตั ิตน - แนวทำงกำรปฏบิ ัตติ นเป็น ปอ้ งกันกำรทจุ ริต เป็นผู้ละอำยและไม่ทนต่อ ผูล้ ะอำยและไม่ทนต่อกำรทจุ ริต กำรทจุ รติ ในกำรทำกำรบ้ำนได้ ในกำรทำกำรบ้ำน ๗. ปฎบิ ัติตนไม่ทุจริตในกำรทำ - กำรปฎิบตั ติ นไม่ทุจริตในกำรทำ กำรบำ้ น กำรบำ้ น - กำรปฎบิ ัตติ นในกำรไมท่ นต่อ ๘. ปฎิบัตติ นในกำรไมท่ นตอ่ กำรทจุ ริตเมื่อเห็นเพอื่ นทจุ ริต กำรทจุ ริตเมื่อเหน็ เพือ่ นทจุ ริต ในกำรทำกำรบ้ำน ในกำรทำกำรบำ้ น ๙. บอกควำมหมำยของกำรทำเวรได้ - ควำมหมำยของกำรทำเวร ๑๐. บอกเหตผุ ลของกำรทต่ี ้อง - เหตุผลของกำรท่ีตอ้ งทำเวร ทำเวรได้ ๑๑. กำหนดแนวทำงในกำรปฏบิ ัติ - แนวทำงในกำรปฏบิ ัติตนใหเ้ ป็น ตนใหเ้ ปน็ ผ้ลู ะอำย และไม่ทนต่อ ผู้ละอำย และไม่ทนตอ่ กำรทุจริต กำรทจุ รติ ในกำรทำเวร ในกำรทำเวร ๑๒. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผ้มู คี วำมละอำย - กำรปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มีควำมละอำย เมือ่ ไม่ช่วยเพ่อื นทำเวร เมอ่ื ไมช่ ว่ ยเพ่อื นทำเวร ๑๓. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผไู้ มท่ นตอ่ - กำรปฏบิ ัตติ นเป็นผ้ไู มท่ นตอ่ กำรทุจริตเมื่อเห็นเพอื่ นทจุ ริต กำรทุจริตเมื่อเหน็ เพ่อื นทุจริต ในกำรทำเวร ในกำรทำเวร ๑๔. บอกควำมหมำยของข้อสอบได้ - ควำมหมำยของข้อสอบ ๑๕. กำหนดแนวทำงกำรเปน็ - แนวทำงกำรเปน็ ผู้ละอำย และ ผู้ละอำย และไม่ทนต่อกำรทุจรติ ไม่ทนต่อกำรทุจริตในกำรสอบ ในกำรสอบ

ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา : 32 32 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑๖. ปฏบิ ัติตนเป็นผไู้ มท่ จุ รติ - กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นผไู้ มท่ จุ รติ ในกำรสอบ ในกำรสอบ ๑๗. ปฏบิ ัตติ นเป็นผไู้ มท่ นต่อ - กำรปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ไมท่ นต่อ กำรทุจรติ เมื่อเหน็ เพ่อื นทจุ ริต กำรทุจริตเมื่อเหน็ เพอื่ นทุจรติ ในกำรสอบ ในกำรสอบ

คูม่ อื หลักสูตรต้านทจุ รติ ศึกษา : 3333 หนว่ ยท่ี 3 STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ รติ จานวน ๘ ช่วั โมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกควำมหมำยของ STRONG : - ควำมหมำยของ STRONG : เกีย่ วกับ STRONG : จติ พอเพยี งตำ้ นทจุ รติ ได้ จิตพอเพยี งตำ้ นทุจริต จติ พอเพยี งต้ำนทจุ ริต ๒. บอกควำมหมำยของคำว่ำ - ควำมหมำยของคำวำ่ STRONG 2. ปฏิบตั ิตนเปน็ STRONG ได้ ผทู้ ี่ STRONG : ๓. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG : - กำรปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG : จติ พอเพยี งต้ำนทจุ รติ จติ พอเพียงต้ำนทุจริตในกิจกรรม จิตพอเพียงต้ำนทจุ รติ ในกจิ กรรม 3. ตระหนักและ กำรเลอื กต้ังหวั หน้ำห้อง กำรเลือกต้ังหวั หน้ำห้อง เหน็ ควำมสำคญั 4. ปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG : - ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ทู ี่ STRONG : ของกำรตอ่ ตำ้ นและ จิตพอเพยี งต้ำนทุจริตในกิจกรรม จติ พอเพยี งต้ำนทจุ รติ ในกิจกรรม ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ กำรทำควำมสะอำดหอ้ งเรยี น กำรทำควำมสะอำดหอ้ งเรยี น 5. มวี ินยั ในกำรวำงรองเทำ้ - มวี นิ ยั ในกำรวำงรองเท้ำ 6. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผทู้ ่ี STRONG : - ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG : จิตพอเพียงต้ำนทจุ รติ ในกิจกรรม จิตพอเพียงตำ้ นทจุ ริต ในกิจกรรม กำรวำงรองเท้ำ กำรวำงรองเท้ำ 7. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผทู้ ี่ STRONG : - ปฏิบัตติ นเป็นผูท้ ่ี STRONG : จติ พอเพยี งต้ำนทุจรติ กิจกรรม จิตพอเพยี งต้ำนทุจริต กจิ กรรม งำนประดษิ ฐ์ งำนประดิษฐ์

คมู่ อื หลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา : 34 34 หน่วยท่ี ๔ พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ๑. บอกควำมหมำยของ - ควำมหมำยของควำมรบั ผดิ ชอบ ควำมเขำ้ ใจเก่ียวกบั ควำมรบั ผดิ ชอบได้ พลเมอื งและ ๒. ยกตัวอย่ำงควำมรบั ผดิ ชอบ - ตวั อย่ำงควำมรบั ผิดชอบต่อตนเอง มคี วำมรับผดิ ชอบ ตอ่ ตนเองและผู้อ่นื ได้ และผู้อืน่ ต่อสงั คม ๓. บอกหลักกำรทำควำมสะอำดบ้ำนได้ - หลักกำรทำควำมสะอำดบำ้ นท่ีถูกต้อง ๒. ปฏบิ ตั ิตนตำม ๔. สำมำรถทำควำมสะอำดบำ้ นได้ - กำรทำควำมสะอำดบ้ำนด้วยวธิ ี หนำ้ ที่ พลเมืองและ ดว้ ยวิธีทถ่ี ูกต้อง ท่ีถูกต้อง มคี วำมรบั ผดิ ชอบ ๕. ปฏบิ ัติตนเป็นผู้มคี วำมรบั ผิดชอบ - กำรปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ ีควำมรับผดิ ชอบ ตอ่ สังคม ในกำรทำควำมสะอำดบ้ำน ในกำรทำควำมสะอำดบ้ำน 3. ตระหนกั และ ๖. บอกหลกั กำรล้ำงจำนได้ - หลกั กำรล้ำงจำนทถ่ี ูกต้อง เหน็ ควำมสำคัญ ๗. สำมำรถลำ้ งจำนได้ดว้ ยวธิ ีท่ถี กู ต้อง - กำรล้ำงจำนดว้ ยวธิ ที ถ่ี ูกต้อง ของกำรต่อตำ้ นและ ๘. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ คี วำมรับผิดชอบ - กำรปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มีควำมรบั ผิดชอบ ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ ในกำรล้ำงจำน ในกำรล้ำงจำน ๙. บอกหลักกำรพับผ้ำได้ - หลกั กำรพบั ผ้ำที่ถกู ต้อง ๑๐. สำมำรถพับผำ้ ได้ด้วยวิธีท่ีถกู ต้อง - กำรพับผำ้ ดว้ ยวธิ ที ่ถี ูกต้อง ๑๑. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู คี วำมรบั ผดิ ชอบ - กำรปฏิบตั ิตนเป็นผูม้ ีควำมรับผดิ ชอบ ในกำรพับผ้ำ ในกำรพบั ผ้ำ ๑๒. บอกหลกั กำรวำงรองเท้ำ - หลกั กำรวำงรองเท้ำให้เป็นระเบียบ ใหเ้ ป็นระเบยี บได้ ๑๓. สำมำรถวำงรองเท้ำใหเ้ ป็น - กำรวำงรองเทำ้ ใหเ้ ปน็ ระเบียบ ระเบียบได้ ๑๔. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มคี วำมรบั ผิดชอบ - กำรปฏบิ ัติตนเปน็ ผ้มู ีควำมรับผดิ ชอบ ในกำรวำงรองเทำ้ ในกำรวำงรองเท้ำ ๑5. บอกหลกั กำรใช้อุปกรณ์ในกำร - หลกั กำรใชอ้ ุปกรณ์ในกำรทำ ทำควำมสะอำดห้องเรยี นได้ ควำมสะอำดห้องเรียน ๑6. สำมำรถทำควำมสะอำดหอ้ งเรยี น - กำรทำควำมสะอำดห้องเรยี น ได้ถูกตอ้ ง ดว้ ยวิธีท่ีถกู ต้อง ๑7. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู้ คี วำมรบั ผดิ ชอบ - กำรปฏิบัติตนเปน็ ผมู้ คี วำมรบั ผดิ ชอบ ในกำรทำควำมสะอำดห้องเรียน ในกำรทำควำมสะอำดห้องเรียน ๑8. บอกหลกั กำรใช้หอ้ งนำ้ ท่ถี กู วธิ ีได้ - หลักกำรใช้หอ้ งนำ้ ทถ่ี กู วธิ ี 19. สำมำรถใชห้ อ้ งน้ำได้อย่ำงถูกวธิ ี - กำรใชห้ ้องนำ้ ท่ีถูกวิธี ๒0. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผูม้ ีควำมรบั ผดิ ชอบ - กำรปฏิบัติตนเป็นผู้มคี วำมรบั ผดิ ชอบ ในกำรใชห้ อ้ งน้ำ ในกำรใชห้ อ้ งน้ำ

คมู่ อื หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศกึ ษา : 35 35 ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๒1. บอกข้อตกลงในกำรอยู่ร่วมกนั - ข้อตกลงในกำรอยู่ร่วมกันใน ในหอ้ งเรียนของตนเอง ห้องเรยี นของตนเอง ๒2. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผูอ้ ยูภ่ ำยใต้ - กำรปฏิบัติตนเปน็ ผู้อยู่ภำยใต้ ข้อตกลงของห้องเรียนอย่ำงมีควำมสขุ ข้อตกลงของห้องเรียนอย่ำงมีควำมสขุ

คู่มอื หลักสตู รต้านทจุ รติ ศกึ ษา : 36 36 ผลการเรียนร้แู ละสาระการเรยี นรู้ ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ กำรจัดกำรเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละชั่วโมงที่ใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แกผ่ เู้ รยี นไดอ้ ย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพและเออื้ ตอ่ กำรวดั ผลและประเมินผลกำรเรียนรู้ หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม จานวน ๑๖ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกควำมหมำยของผลประโยชน์ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ เกี่ยวกบั กำรแยกแยะ ส่วนตนได้ สว่ นตน ระหว่ำงผลประโยชน์ ๒. บอกควำมหมำยของผลประโยชน์ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ ส่วนตนและ สว่ นรวมได้ ส่วนรวม ผลประโยชน์ส่วนรวม ๓. กำรแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ - กำรแยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ระหวำ่ งผลประโยชน์ ๔. บอกควำมหมำยของใช้ส่วนตน - ควำมหมำยของใชส้ ่วนตนภำยใน ส่วนตนและ ภำยในโรงเรียนได้ โรงเรยี น ผลประโยชน์สว่ นรวม ๕. บอกควำมหมำยของใชส้ ่วนรวม - ควำมหมำยของใชส้ ่วนรวมภำยใน 3. ตระหนกั และเหน็ ภำยในโรงเรยี นได้ โรงเรยี น ควำมสำคญั ของ ๖. แยกแยะของใช้ส่วนตนและ - กำรแยกแยะของใชส้ ว่ นตนและ กำรต่อต้ำนและป้องกัน ของใช้ส่วนรวมที่ใชใ้ นโรงเรยี นได้ ของใช้ส่วนรวมท่ีใช้ในโรงเรียน กำรทจุ ริต ๗. บอกควำมหมำยของสถำนที่ - ควำมหมำยของสถำนที่ส่วนตน สว่ นตนในโรงเรยี นได้ ในโรงเรียน ๘. บอกควำมหมำยของสถำนที่ - ควำมหมำยของสถำนที่ส่วนรวม ส่วนรวมในโรงเรยี นได้ ในโรงเรยี น ๙. แยกแยะสถำนท่ีส่วนตนและ - กำรแยกแยะสถำนที่ส่วนตนและ สถำนที่ส่วนรวมในโรงเรยี นได้ สถำนท่ีส่วนรวมในโรงเรียน ๑๐. ยกตัวอย่ำงพฤติกรรมทเี่ ป็น - ตัวอย่ำงพฤติกรรมทเี่ ป็นระบบ ระบบคดิ ฐำนสองในระดบั โรงเรยี นได้ คดิ ฐำนสอง ในโรงเรยี น ๑๑. นำระบบคิดฐำนสอง - กำรนำระบบคิดฐำนสอง ไปประยุกต์ใชใ้ นโรงเรียนได้ ไปประยุกต์ใช้ในระดบั โรงเรียน

คู่มือหลกั สูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา : 37 37 ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ ๑๒. บอกพฤติกรรมที่เป็นระบบ - พฤตกิ รรมที่เป็นระบบคดิ ฐำนสบิ คิดฐำนสบิ ในโรงเรยี นได้ ในโรงเรียน ๑๓. บอกพฤติกรรมระบบคิดฐำนสบิ - พฤตกิ รรมระบบคดิ ฐำนสิบ ทีส่ ่งผลในโรงเรียนได้ ทส่ี ง่ ผลในโรงเรียน ๑๔. บอกควำมหมำยของผลประโยชน์ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๑๕. เปรียบเทียบระหว่ำง - กำรเปรียบเทียบระหว่ำง ผลประโยชน์สว่ นตนและ ผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมในโรงเรียนได้ ผลประโยชนส์ ่วนรวมในโรงเรยี น หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ จานวน ๖ ช่ัวโมง สาระการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - พฤติกรรมทีเ่ ก่ยี วกบั ควำมละอำย ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกพฤติกรรมทเี่ กี่ยวกบั และควำมไมท่ นตอ่ กำรทจุ ริต เกยี่ วกบั ควำมละอำย ควำมละอำยและควำมไมท่ น - วธิ ีปฏบิ ตั ิกิจกรรมในโรงเรียน และควำมไมท่ นต่อ ต่อกำรทุจรติ ได้ ท่ีได้รับมอบหมำย กำรทุจรติ ๒. บอกวิธีปฏบิ ตั กิ จิ กรรม - ผลดีของกำรปฏิบัติกจิ กรรม ๒. ปฏิบัตติ นเป็น ในโรงเรียนทไี่ ดร้ ับมอบหมำย ในโรงเรยี น ผลู้ ะอำยและไม่ทนต่อ ๓. บอกผลดขี องกำรปฏิบตั ิ - ผลดใี นกำรปฏบิ ัตติ นตำมหน้ำที่ กำรทจุ ริตทุกรูปแบบ กิจกรรมในโรงเรียนได้ ทีไ่ ด้รับมอบหมำย 3. ตระหนกั และ ๔. บอกผลดีในกำรปฏิบตั ิตน - แนวทำงกำรปฏิบัตติ นเป็น เหน็ ควำมสำคญั ตำมหนำ้ ทท่ี ่ีได้รับมอบหมำย ผ้มู คี วำมละอำยและไม่ทน ของกำรต่อตำ้ นและ ๕. บอกแนวทำงกำรปฏิบตั ิตน ต่อกำรทจุ รติ ปอ้ งกนั กำรทุจรติ เป็นผมู้ ีควำมละอำยและไมท่ น ตอ่ กำรทจุ รติ

คมู่ อื หลักสูตรตา้ นทจุ ริตศกึ ษา : 38 38 หนว่ ยที่ 3 STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจรติ จานวน ๘ ช่ัวโมง ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกประโยชน์ของกำรใช้น้ำ - ประโยชน์ของกำรใช้น้ำและ เก่ยี วกบั STRONG : และไฟฟ้ำอยำ่ งประหยัดในระดบั ไฟฟำ้ อย่ำงประหยัดในระดับ จิตพอเพยี งต้ำนทุจริต โรงเรียนได้ โรงเรยี น 2. ปฏบิ ัติตนเปน็ ๒. บอกวธิ ีกำรใช้นำ้ และไฟฟำ้ - วธิ ีกำรใช้น้ำและไฟฟำ้ ในระดับ ผู้ท่ี STRONG : ในระดบั โรงเรียนอย่ำงประหยัด โรงเรียนอยำ่ งประหยัดและคุ้มค่ำ จติ พอเพยี งต้ำนทุจริต และคุ้มค่ำได้ 3. ตระหนกั และ ๓. เห็นคณุ ค่ำกำรใชน้ ้ำและไฟฟำ้ - คณุ ค่ำกำรใช้น้ำและไฟฟำ้ เห็นควำมสำคัญ อย่ำงประหยัดในระดับโรงเรยี น อยำ่ งประหยดั ในระดับโรงเรียน ของกำรตอ่ ต้ำนและ 4. บอกคุณสมบัตทิ ต่ี ้องกำรในกำร - คณุ สมบตั ทิ ่ตี ้องกำรในกำรเลอื ก ป้องกันกำรทจุ รติ เลือกเปน็ ผ้นู ำในระดับโรงเรยี นได้ เป็นผู้นำในระดบั โรงเรยี น 5. บอกวิธกี ำรคัดเลือกผูน้ ำ - วิธกี ำรคดั เลอื กผนู้ ำในระดบั ในระดับโรงเรยี นอย่ำงถูกตอ้ ง โรงเรยี นอยำ่ งถูกต้องและเหมำะสม และเหมำะสม 6. เลือกผนู้ ำในระดับโรงเรยี น - กำรเลอื กผูน้ ำในระดบั โรงเรียน อยำ่ งเหมำะสม อยำ่ งเหมำะสม 7. บอกวธิ ีกำรคัดแยกขยะ - วิธกี ำรคดั แยกขยะในโรงเรียน ในโรงเรยี นได้ - วธิ กี ำรลดปริมำณขยะในโรงเรียน 8. บอกวิธีกำรลดปรมิ ำณขยะ - คณุ ค่ำและประโยชนข์ อง ในโรงเรยี นได้ กำรคัดแยกขยะในโรงเรียน 9. เหน็ คุณคำ่ และประโยชน์ ของกำรคดั แยกขยะในโรงเรียน 10. บอกวิธีกำรปฏิบตั ิตนในกำร - วิธีกำรปฏิบัตติ นในกำร รบั ประทำนอำหำรกลำงวันได้ รบั ประทำนอำหำรกลำงวนั อย่ำงถูกต้อง อยำ่ งถูกต้อง 11. ปฏิบตั ิตนเป็นแบบอยำ่ งท่ดี ี - กำรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่ำงทดี่ ี ในกำรรับประทำนอำหำร ในกำรรับประทำนอำหำร

คู่มือหลักสูตรตา้ นทจุ ริตศึกษา : 39 39 หนว่ ยท่ี ๔ พลเมืองกับความรบั ผิดชอบต่อสงั คม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกควำมหมำยของสทิ ธิและ - ควำมหมำยของสทิ ธิและหน้ำที่ เกี่ยวกบั พลเมืองและ หน้ำทข่ี องพลเมืองได้ ของพลเมือง มคี วำมรบั ผิดชอบ ๒. บอกสิทธิของควำมเป็นพลเมอื งได้ - สทิ ธิของพลเมือง ต่อสงั คม ๓. บอกสทิ ธิในกำรศึกษำได้ - สทิ ธิในกำรศกึ ษำ ๒. ปฏบิ ัติตนตำมหน้ำท่ี 4. บอกสิทธิและหน้ำท่ีของพลเมือง - สิทธแิ ละหนำ้ ท่ีของพลเมืองทีด่ ี พลเมืองและ ท่ีดไี ด้ มคี วำมรบั ผิดชอบ 5. ยกตวั อยำ่ งพฤตกิ รรมที่ปฏิบัติ - ตัวอย่ำงพฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติ ตอ่ สงั คม ตำมหน้ำที่ของพลเมืองท่ดี ีได้ ตำมหนำ้ ทข่ี องพลเมืองทด่ี ี 3. ตระหนักและหน็ 6. บอกประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จำก - ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จำกกำรปฏบิ ตั ิ ควำมสำคัญของ กำรปฏบิ ตั ิตนตำมหนำ้ ทขี่ อง ตนตำมหนำ้ ท่ีของพลเมืองที่ดี กำรต่อต้ำนและป้องกัน พลเมืองท่ดี ี - ควำมหมำยของสทิ ธแิ ละหน้ำที่ กำรทุจรติ 7. อธิบำยควำมหมำยของสิทธิ และหนำ้ ท่ีของพลเมืองท่ดี ี ของพลเมืองทด่ี ีในโรงเรียน ในโรงเรยี นได้ 8. ปฏบิ ตั ิตนตำมสิทธแิ ละหนำ้ ท่ี - กำรปฏบิ ัติตนตำมสิทธิและ ของตนเองและผอู้ น่ื ได้ หนำ้ ที่ของตนเองและผู้อืน่ 9. จำแนกสิทธิและหนำ้ ที่ - กำรจำแนกสิทธิและหน้ำที่ ในโรงเรยี นได้ ในโรงเรยี น 10. บอกสทิ ธิและหน้ำที่ของตนเอง - สิทธแิ ละหน้ำทข่ี องตนเอง ในโรงเรียนได้ ในโรงเรยี น ๑1. บอกสทิ ธิทีไ่ ด้รับในโรงเรียน - สิทธิทไี่ ด้รับในโรงเรียน ๑2. บอกควำมรับผิดชอบของตน - ควำมรับผิดชอบของตนทม่ี ี ท่ีมใี นโรงเรียน ในโรงเรยี น ๑3. ปฏบิ ตั ติ นใหเ้ ปน็ ผูท้ ่ีมี - กำรปฏิบัตติ นให้เปน็ ผ้ทู มี่ ี ควำมรับผิดชอบในโรงเรยี นได้ ควำมรบั ผิดชอบในโรงเรยี น ๑4. บอกควำมหมำยของกฎ - ควำมหมำยของกฎ ระเบียบ ระเบียบ กติกำของโรงเรียนได้ กติกำของโรงเรยี น ๑5. ปฏิบตั ติ นตำมกฎ ระเบียบ - กำรปฏิบตั ติ นตำมกฎ ระเบียบ กติกำ ของโรงเรียนได้ กตกิ ำ ของโรงเรียน ๑6. ปฏบิ ัตติ นในกำรต่อตำ้ นทจุ ริตได้ - กำรปฏิบตั ิตนในกำรต่อต้ำนทจุ รติ ๑7. ยกตัวอยำ่ งพฤติกรรมกำรทุจรติ - ตวั อย่ำงพฤติกรรมกำรทุจริต ภำยในโรงเรยี นได้ ภำยในโรงเรยี น

ค่มู ือหลักสูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา : 40 40 ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรยี นรู้ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ กำรจัดกำรเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพ่ือให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ให้แก่ผ้เู รยี นไดอ้ ยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพและเอ้ือตอ่ กำรวดั ผลและประเมินผลกำรเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม จานวน ๑๖ ช่ัวโมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกวธิ ีกำรปฏิบัตติ นเพื่อ - กำรปฏิบตั ติ นเพ่ือประโยชน์ เกี่ยวกบั กำรแยกแยะ ประโยชนส์ ่วนตนในหมู่บ้ำนได้ สว่ นตนในหมบู่ ้ำน ระหว่ำงผลประโยชน์ ๒. บอกวิธีกำรปฏิบตั ติ นเพ่ือ - กำรปฏบิ ัตติ นเพื่อประโยชน์ สว่ นตนและผลประโยชน์ ประโยชนส์ ว่ นรวมในหม่บู ้ำนได้ สว่ นรวมในหมู่บำ้ น ส่วนรวม ๓. บอกได้ว่ำสถำนทีใ่ ดเป็นสถำนที่ - ตวั อยำ่ งสถำนท่ีสว่ นรวม ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ สว่ นรวม ระหว่ำงผลประโยชน์ ๔. บอกควำมสำคัญของสถำนท่ี - ควำมสำคัญของสถำนท่ีส่วนรวม สว่ นตนและผลประโยชน์ สว่ นรวมได้ ส่วนรวม ๕. บอกวิธีดแู ลรกั ษำสถำนที่ - วิธดี ูแลรักษำสถำนท่ีสว่ นรวม 3. ตระหนกั และ ส่วนรวมได้ เห็นควำมสำคญั ๖. เปรียบเทียบผลประโยชน์สว่ นตน - กำรเปรียบเทยี บผลประโยชน์ ของกำรตอ่ ตำ้ นและ และผลประโยชน์สว่ นรวม สว่ นตน และผลประโยชนส์ ่วนรวม ป้องกันกำรทจุ ริต ในหมบู่ ้ำนได้ ในหมู่บำ้ น ๗. แยกแยะระหวำ่ งผลประโยชน์ - กำรแยกแยะผลประโยชน์สว่ นตน สว่ นตน และผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ และผลประโยชน์สว่ นรวม ๘. บอกข้อดขี องกำรปฏบิ ตั ิในกำร - ข้อดี ของกำรปฏิบตั ิในกำรใช้ ใชข้ องส่วนรวมในหมู่บำ้ น ของส่วนรวมในหม่บู ำ้ น ๙. บอกข้อเสยี ของกำรไม่ปฏิบตั ิตน - ขอ้ เสีย ของกำรไมป่ ฏิบตั ิตน ในกำรใชข้ องส่วนรวมในหม่บู ้ำน ในกำรใชข้ องส่วนรวมในหม่บู ้ำน ๑๐. บอกพฤติกรรมระบบ - พฤตกิ รรมระบบคดิ ฐำนสอง คดิ ฐำนสองได้ ๑๑. สำมำรถนำระบบคดิ ฐำนสอง - กำรนำระบบคิดฐำนสอง ไปประยุกต์ใชใ้ นหมูบ่ ้ำนได้ ไปประยุกต์ใช้ในหมู่บ้ำน

คู่มอื หลักสตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 41 41 ผลการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑๒. บอกพฤติกรรมที่เกย่ี วกบั - พฤตกิ รรมท่เี ก่ียวกับระบบ ระบบคิดฐำนสบิ ในระดับหมบู่ ้ำนได้ คิดฐำนสิบในระดบั หมูบ่ ้ำน ๑๓. บอกผลเสียของพฤติกรรม - ผลเสยี ของพฤติกรรมระบบ ระบบคดิ ฐำนสิบทีส่ ง่ ผลในระดับ คดิ ฐำนสิบที่ส่งผลในระดบั หมู่บ้ำน หมู่บำ้ นได้ ๑4. สำมำรถนำควำมรู้เร่ือง - กำรนำควำมรู้ เร่อื ง พฤติกรรม พฤติกรรม ระบบคิดฐำนสิบ ระบบคิดฐำนสิบ มำประยุกต์ใช้ มำประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวัน ในชีวติ ประจำวนั ๑5. บอกควำมหมำยของกำรขัดกนั - ควำมหมำยของกำรขัดกันหรอื หรือขดั แยง้ ในโรงเรียนได้ ขัดแยง้ ในโรงเรยี น ๑6. แยกแยะระหว่ำงกำรขดั กัน - กำรแยกแยะระหว่ำงกำรขัดกนั ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและ ระหวำ่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและ ผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ผลประโยชนส์ ว่ นรวม

คมู่ ือหลกั สูตรต้านทุจรติ ศกึ ษา : 42 42 หนว่ ยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ จานวน ๖ ชว่ั โมง ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้มคี วำมละอำย - กำรปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้มีควำมละอำย เก่ยี วกบั ควำมละอำย ต่อกำรท้ิงขยะไมถ่ ูกที่ในหมู่บ้ำน ตอ่ กำรทิง้ ขยะไม่ถูกที่ในหมู่บ้ำน และควำมไม่ทนต่อ ๒. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้มคี วำมละอำย - กำรปฏบิ ัติตนเป็นผู้มีควำมละอำย กำรทจุ ริต เมอ่ื ไมป่ ฏบิ ัตติ นตำมข้อตกลง เมอ่ื ไม่ปฏบิ ัตติ นตำมข้อตกลง ๒. ปฏบิ ัติตนเป็น ของหมู่บ้ำน ของหมู่บ้ำน ผลู้ ะอำยและไม่ทนต่อ ๓. บอกกิจกรรมท่ีควรปฏิบัติ - กจิ กรรมทค่ี วรปฏิบตั ใิ นหมู่บ้ำน กำรทุจริตทุกรูปแบบ ในหมบู่ ำ้ นได้ - ผลดีทเ่ี กิดจำกกำรปฏบิ ัติ 3. ตระหนกั และ ๔. บอกผลดที เี่ กิดจำกกำรปฏิบัติ กจิ กรรมในหม่บู ำ้ น เห็นควำมสำคัญ กิจกรรมในหมูบ่ ้ำนได้ - แนวทำงกำรปฏิบตั ิตนเปน็ ของกำรตอ่ ตำ้ นและ ๕. บอกแนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ น ผมู้ ีควำมละอำยและไม่ทน ปอ้ งกนั กำรทุจริต เปน็ ผ้มู ีควำมละอำยและไม่ทน ต่อกำรทจุ ริตระดบั หมูบ่ ำ้ น ต่อกำรทุจรติ ระดับหมูบ่ ้ำนได้ - กำรปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ละอำย ๖. ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผลู้ ะอำยและ และไมท่ นต่อกำรทจุ ริต ไม่ทนต่อกำรทจุ รติ

คูม่ ือหลักสูตรต้านทจุ ริตศกึ ษา : 43 43 หน่วยที่ 3 STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ ริต จานวน ๘ ชว่ั โมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. สำมำรถคดั แยกขยะได้ถกู ประเภท - กำรคัดแยกขยะได้ถกู ประเภท เก่ยี วกบั STRONG : ๒. บอกผลกระทบจำกกำรทง้ิ ขยะ - ผลกระทบจำกกำรท้งิ ขยะ จติ พอเพยี งตำ้ นทุจรติ ไม่เลือกท่ี ไม่เลอื กที่ 2. ปฏิบัตติ นเปน็ ๓. สำมำรถนำขยะไปประดิษฐ์ - กำรนำขยะไปประดษิ ฐ์ของเล่น ผทู้ ี่ STRONG : ของเลน่ ได้ - ควำมหมำยของคำว่ำเลือกตั้ง จิตพอเพียงตำ้ นทจุ ริต ๔. บอกควำมหมำยของคำว่ำ - ขัน้ ตอนกำรเลือกต้ังผใู้ หญ่บ้ำน 3. ตระหนกั และ เลือกต้ังได้ - บทบำทหนำ้ ท่ีของผูใ้ หญบ่ ้ำน เหน็ ควำมสำคัญ ๕. บอกขนั้ ตอนกำรเลือกต้งั ของกำรต่อต้ำนและ ผู้ใหญ่บ้ำนได้ ปอ้ งกนั กำรทุจริต ๖. บอกบทบำทหนำ้ ที่ของ ผู้ใหญบ่ ำ้ นได้ ๗. บอกควำมสำคัญในกำรทำ - ควำมสำคัญในกำรทำควำมสะอำด ควำมสะอำดในหมู่บ้ำนได้ ในหมบู่ ำ้ น ๘. บอกชือ่ อปุ กรณ์ท่ีใช้ในกำรทำ - อุปกรณท์ ่ีใช้ในกำรทำควำมสะอำด ควำมสะอำดในหมู่บ้ำนได้ ในหมู่บ้ำน ๙. บอกประโยชนข์ องกำรทำ - ประโยชน์ของกำรทำควำมสะอำด ควำมสะอำดในหม่บู ้ำนได้ ในหมูบ่ ำ้ น ๑๐. บอกแนวทำงในกำรใช้ถนน - แนวทำงในกำรใช้ถนน อยำ่ งปลอดภัยในหมู่บำ้ นได้ อย่ำงปลอดภยั ในหมบู่ ้ำน ๑๑. บอกวิธดี ูแลรักษำถนน - วธิ ดี แู ลรกั ษำถนนในหมูบ่ ้ำน ในหม่บู ำ้ นได้

ค่มู ือหลักสูตรต้านทุจริตศกึ ษา : 44 44 หนว่ ยที่ ๔ พลเมอื งกับความรับผิดชอบต่อสังคม จานวน ๑๐ ชั่วโมง ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. บอกสทิ ธิทม่ี ีต่อตนเองและผอู้ ื่น - สิทธิทีม่ ีต่อตนเองและผู้อ่นื เกี่ยวกบั พลเมอื งและ ในหม่บู ้ำนได้ ในหมบู่ ำ้ น มคี วำมรบั ผดิ ชอบ ๒. บอกควำมหมำยของทำง - ควำมหมำยของทำงสำธำรณะ ตอ่ สังคม สำธำรณะ และพน้ื ที่สำธำรณะได้ และพืน้ ที่สำธำรณะ ๒. ปฏบิ ัตติ นตำมหน้ำที่ ๓. อภปิ รำยสิทธิทีจ่ ะได้รับในกำร - สทิ ธิท่จี ะไดร้ บั ในกำรใช้ พลเมืองและ ใชท้ ำงสำธำรณะและพื้นท่ี ทำงสำธำรณะและพน้ื ทสี่ ำธำรณะ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ สำธำรณะได้ ต่อสงั คม ๔. บอกสิทธิทไี่ ดร้ บั จำก - สิทธิที่ไดร้ ับจำกประชำสมั พันธ์ 3. ตระหนกั และ ประชำสัมพนั ธ์หมู่บ้ำนได้ หมบู่ ำ้ น เห็นควำมสำคญั ๕. บอกสทิ ธทิ ไ่ี ดร้ ับจำกกำรใช้ - สทิ ธิทีไ่ ด้รบั จำกกำรใชไ้ ฟ ของกำรต่อตำ้ นและ ไฟสำธำรณะได้ สำธำรณะ ป้องกันกำรทจุ ริต ๖. บอกสิทธิหน้ำที่ทต่ี ้องปฏบิ ัติ - สทิ ธหิ น้ำท่ีทตี่ ้องปฏิบตั ิต่อหมู่บำ้ น ต่อหมู่บำ้ นในกำรร่วมกิจกรรม ในกำรร่วมกิจกรรมหมบู่ ้ำน ในหมูบ่ ้ำนได้ - สิทธิหน้ำท่ีทตี่ อ้ งปฏิบตั ติ ่อหมู่บำ้ น ๗. บอกสิทธิหนำ้ ที่ทต่ี ้องปฏบิ ัติตอ่ ในกำรใหค้ วำมชว่ ยเหลือ หมูบ่ ้ำนในกำรใหค้ วำมชว่ ยเหลือได้ ๘. บอกสิทธิหน้ำท่ีทต่ี ้องปฏิบัติ - สิทธิหน้ำที่ทต่ี ้องปฏบิ ัติต่อหมบู่ ำ้ น ต่อหม่บู ำ้ นในด้ำนจติ สำธำรณะได้ ในด้ำนจติ สำธำรณะ ๙. บอกสทิ ธหิ นำ้ ท่ีทตี่ ้องปฏิบัติ - สทิ ธหิ น้ำท่ีทต่ี ้องปฏบิ ตั ิ ต่อหมู่บ้ำนในกำรดแู ลรักษำ ตอ่ หมบู่ ้ำนในกำรดูแลรักษำ สำธำรณะสมบัติได้ สำธำรณะสมบตั ิ ๑๐. บอกควำมหมำยของ กฎ กติกำ - ควำมหมำยของ กฎ กติกำ และ และระเบียบในสถำนทีส่ ำธำรณะได้ ระเบยี บในสถำนทส่ี ำธำรณะ ๑๑. ปฏิบตั ติ นตำม กฎ กติกำ - กำรปฏิบตั ิตนตำม กฎ กติกำ และระเบียบในสถำนท่สี ำธำรณะได้ และระเบียบในสถำนท่ีสำธำรณะ ๑๒. บอกวธิ กี ำรตอ่ ต้ำนกำรทุจรติ - วิธีกำรต่อตำ้ นกำรทุจรติ ในหม่บู ้ำน ในหมู่บำ้ นได้ ๑๓. บอกควำมหมำยของ - ควำมหมำยของกำรทจุ ริต กำรทุจรติ ได้

คูม่ อื หลักสตู รตา้ นทุจริตศกึ ษา : 45 45 ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรียนรู้ ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ กำรจัดกำรเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนบรรลุตำมผลกำรเรียนรู้ท่ีกำหนดในหน่วยกำรเรียนรู้น้ัน ผู้สอนจะต้องวิเครำะห์ผลกำรเรียนรู้ให้เป็นจุดประสงค์กำรเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสำระกำรเรียนรู้ เพื่อให้ง่ำยต่อกำรนำไปจัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ในแต่ละช่ัวโมงท่ีใช้ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ใหแ้ กผ่ เู้ รียนไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพและเอือ้ ตอ่ กำรวัดผลและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม จานวน ๑๖ ชั่วโมง ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ๑. คิดแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ - กำรคิดแยกแยะระหวำ่ ง เกี่ยวกบั กำรแยกแยะ สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ผลประโยชน์สว่ นตนและ ระหว่ำงผลประโยชน์ ในชมุ ชนได้ ผลประโยชน์สว่ นรวมในชมุ ชน ส่วนตนและ ๒. เปรียบเทยี บผลประโยชน์สว่ นตน - กำรเปรียบเทียบผลประโยชน์ ผลประโยชน์ส่วนรวม และผลประโยชนส์ ่วนรวมในชุมชนได้ สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๒. สำมำรถคิดแยกแยะ ในชุมชน ระหว่ำงผลประโยชน์ ๓. บอกขอ้ ดี-ขอ้ เสีย ของ - ขอ้ ดี-ข้อเสยี ของผลประโยชน์ ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนตนได้ สว่ นตน ผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๔. บอกข้อดี-ข้อเสีย ของ - ขอ้ ดี-ข้อเสยี ของผลประโยชน์ 3. ตระหนักและ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ ส่วนรวม เหน็ ควำมสำคัญของ ๕. แยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ - กำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ กำรต่อตำ้ นและป้องกัน สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม กำรทจุ ริต ๖. แยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ - กำรแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ สว่ นตนออกจำกผลประโยชน์ สว่ นตนออกจำกผลประโยชน์ สว่ นรวม โดยใช้ระบบคิดฐำนสอง ส่วนรวม โดยใช้ระบบคิดฐำนสอง ในระดับชุมชนได้ ในระดับชมุ ชน ๗. บอกพฤติกรรมระบบคดิ ฐำนสบิ - พฤตกิ รรมระบบคิดฐำนสบิ ในระดบั ชมุ ชนได้ ในระดบั ชมุ ชน ๘. นำควำมรู้เกย่ี วกับระบบ - กำรนำควำมร้เู ก่ียวกับระบบ คิดฐำนสิบ ท่ไี ด้รับไปประยุกต์ใช้ คิดฐำนสบิ ที่ได้รบั ไปประยุกต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวันได้ ในชีวิตประจำวัน

ค่มู อื หลักสตู รต้านทจุ รติ ศึกษา : 46 46 ผลการเรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ๙. บอกผลของพฤติกรรมระบบ - พฤติกรรมระบบคิดฐำนสบิ คิดฐำนสิบทสี่ ่งผลในระดับชุมชนได้ ท่สี ่งผลในระดับชุมชน ๑๐. นำควำมรทู้ ีไ่ ด้รบั ไป - กำรนำควำมรู้เกี่ยวกับระบบ ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวันได้ คิดฐำนสิบ ท่ไี ดร้ บั ไปประยุกต์ใช้ ในชวี ิตประจำวัน ๑๑. บอกควำมหมำยของ - ควำมหมำยของจรยิ ธรรม จริยธรรมได้ ๑๒. บอกควำมหมำยของกำรทจุ ริตได้ - ควำมหมำยของกำรทจุ ริต ๑๓. ยกตวั อย่ำงจริยธรรมและ - ตัวอยำ่ งจริยธรรมและกำรทุจรติ กำรทุจริตได้ ๑๔. บอกกำรขัดกนั ระหวำ่ ง - กำรขัดกันระหวำ่ งประโยชน์ ประโยชนส์ ว่ นตนและประโยชน์ สว่ นตนและประโยชน์สว่ นรวม ส่วนรวมในหมบู่ ้ำนได้ ในหมู่บ้ำน ๑๕. บอกผลกระทบจำกกำรขัดกนั - ผลกระทบจำกกำรขัดกนั ระหว่ำง ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์สว่ นตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวมในหมู่บ้ำนได้ ผลประโยชนส์ ่วนรวมในหมู่บ้ำน ๑๖. บอกวธิ ีกำรแกไ้ ขกำรขัดกนั - วิธีกำรแกไ้ ขกำรขดั กนั ระหว่ำง ระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์สว่ นตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวมในหมู่บำ้ น ผลประโยชน์ส่วนรวมในหมบู่ ้ำน ๑๗. บอกควำมหมำยของ - ควำมหมำยของผลประโยชน์ ผลประโยชนท์ ับซ้อนได้ ทับซ้อน ๑๘. ยกตัวอย่ำงของผลประโยชน์ - ตัวอย่ำงของผลประโยชน์ทบั ซอ้ น ทบั ซอ้ นได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook