Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Agri-Map จังหวัดตราด

Agri-Map จังหวัดตราด

Description: 1_จังหวัดตราด

Search

Read the Text Version

กกาารรววิเิเคครราาะะหหด ดาา นนเเศศรรษษฐฐกกิจจิ สสินนิ คคาาเเกกษษตตรร เเพพอ� อ� เเปปนน ททาางงเเลลืออื กกปปรรับบั เเปปลลยี่ ่ยี นนกกจิ จิ กกรรรรมมกกาารรผผลลิตติ ใในนพพื้น้นื ทท่ีไ่ีไมมเเหหมมาาะะสสมม ตตาามมแแผผนนทท่ี ่ี AAggrrii--MMaapp จจงั ังหหววัดดั ตตรราาดด NW E S ¹¤Ã¹Ò¡ »ÃÒ¨¹Õ ºØÃÕ º‹Íäà ÊÁ·Ø »ÃÒ¡Òà ©Ðàª§Ô à·ÃÒ ÊÃÐá¡ÇŒ ªÅºÃØ Õ ¨¹Ñ ·ºÃØ Õ àÁÍ× § ¨§Ñ ËÇÑ´µÃÒ´ ÃÐÂͧ à¢ÒÊÁÔ§ áËÅÁ§Íº ¤ÅͧãËÞ‹ สำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตรท่ี 6 REGIONAL OFFICE OF AGRICULTURAL ECONOMICS 6 สำนกั งานเศรษฐกิจการเกษตร OFFICE OF AGRICULTURAL ECONOMICHS กระทรวงเกษตรและสหกรณ MINISTRY OF AGRICULTURE AND COOPERATIVES กันยายน 2562 SEPTEMBER 2019



การวิเคราะห์ดา้ นเศรษฐกจิ สินค้าเกษตร เพ่อื เปน็ ทางเลือก ปรับเปล่ียนกิจกรรมการผลิต ในพ้ืนที่ไม่เหมาะสม ตามแผนที่ Agri-Map จังหวดั ตราด โดย สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตรที่ 6 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

ข บทสรปุ ผู้บริหาร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดขับเคลื่อนการบริหารจัดการพ้ืนที่ เกษตรกรรมเชิงรุก (Zoning by Agri–Map) โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรท่ี 6 ในฐานะผู้เกี่ยวข้อง ได้ทำ การวเิ คราะห์ด้านเศรษฐกิจสนิ ค้าเกษตร เพ่ือเป็นทางเลือกปรับเปล่ียนกิจกรรมการผลิต ในพ้ืนท่ีไม่เหมาะสม ตามแผนท่ี Agri-Map ตราด โดยวิเคราะห์สินค้า TOP 4 ในจังหวัดตราด ได้แก่ ยางพารา กุ้งขาวแวนนาไม ทุเรียน และเงาะ และสินค้าทางเลือกที่มีศักยภาพ เพื่อเป็นทางเลือกปรับเปล่ียนกิจกรรมการผลิต ในพ้ืนท่ีไม่ เหมาะสมตามแผนที่ Agri-Map ตราด และเพื่อใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในพ้ืนที่ ซึ่งจาก การศึกษาครัง้ นี้เลือกสนิ ค้าขา้ วเป็นสินคา้ เป้าหมาย และเป็นสินค้าตามนโยบายปรับเปล่ียนผลการวเิ คราะหด์ ังน้ี ข้าวจังหวัดตราด มีผลผลิตต่อไร่ของพ้ืนที่เหมาะสม (S) ไร่ละ 442.66 กิโลกรัมต่อไร่ พ้ืนท่ี ไม่เหมาะสม (N) 422.29 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นท่ีเหมาะสมให้ผลผลิตท่ีสูงกว่า 20.37 กิโลกรัมต่อไร่ หรือคิดเป็น ร้อยละ 13.68 ต้นทุนต่อไร่ของพ้ืนท่ีเหมาะสม (S) 3,235.58 บาท ต้นทุนต่อไร่ของพ้ืนที่ไม่เหมาะสม (N) 3,352.48 บาท พ้ืนท่ีไมเ่ หมาะสมมีต้นทุนต่อไร่ท่ีสูงกวา่ 116.9 บาท พ้ืนที่ไม่เหมาะสมมีตน้ ทุนต่อไร่สูงกวา่ ถึง ร้อยละ 3.49 ผลตอบแทนต่อไร่ พบว่า พื้นท่ีเหมาะสมให้ผลตอบแทนต่อไร่ 3,842.30 บาท ส่วนพื้นท่ี ไม่เหมาะสม (N) ให้ผลตอบแทนต่อไร่ 3,665.48 บาท พ้ืนท่ีเหมาะสมให้ผลตอบแทนต่อไร่มากกว่า 176.82 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 4.60 ท้งั นี้เน่ืองจากผลผลิตที่สูงกวา่ ไรล่ ะ 20.37 กโิ ลกรมั ดงั นั้นเกษตรกรใน พื้นที่เหมาะสม (S) เมื่อปลูกข้าว 1 ไร่ แล้วจะได้ผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ หรือกำไรต่อไร่เท่ากับ 606.72 บาท คิดเป็นร้อยละ 18.75 ของต้นทุนการผลิต ส่วนการปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม (N) เม่ือเกษตรกรปลูกข้าว 1 ไร่ แลว้ เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ เท่ากบั 312.99 บาท คิดเป็นร้อยละ 9.34 ของตน้ ทุนการผลิต จากต้นทุนและผลตอบแทนดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเกษตรกรท่ีปลูกข้าวในพื้นที่เหมาะสม (S) จะมีผลตอบแทน ต่อหน่วยที่สูงกว่าการปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม สำหรับสินค้าเกษตรอื่น ๆ ที่มีศักยภาพในจังหวัดตราด ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอม ฟักทอง แตงกวา มันเทศ และพริก มีผลตอบแทนท่ีดีกว่าการปลูกข้าวในพื้นที่ ไม่เหมาะสม (N) จากการทาการศกึ ษาการวเิ คราะหด์ า้ นเศรษฐกจิ สนิ คา้ เกษตรระดบั จงั หวดั ตราด และสนิ ค้าเกษตร ทม่ี ีศักยภาพในการผลติ สินค้าเกษตรในพนื้ ทดี่ ังกล่าว เม่ือนำมาวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับสภาวะแวดล้อมในจงั หวัด ตราดแล้วนั้น ทำให้สามารถกำหนดแนวทางในการศกึ ษาการวเิ คราะห์ด้านเศรษฐกิจสนิ ค้าเกษตรระดบั จงั หวดั ตราด ได้ดังนี้ 1. แนวทางพัฒนาสินค้าเกษตรในเขตพื้นที่ความเหมาะสม (S1 และ S2) ในการปลูกข้าว ซ่ึงเป็นการ ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในเขตพื้นที่ความเหมาะสม (S1) ส่งเสริมสนับสนุนการแปรรูปผลผลิตเพ่ือเพิ่ม มูลคา่ การใชน้ วตั กรรม เทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลติ เพือ่ ลดตน้ ทนุ และเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการผลติ 2. แนวทางพัฒนาสินค้าเกษตรในเขตพื้นท่ีไม่เหมาะสม (N) ในการปลูกข้าวให้เป็นกิจกรรมท่ีให้ ผลตอบแทนดีกว่า เช่น การทำเกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงแทนการปลกู พืช เชิงเดีย่ ว ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอม ฟักทอง แตงกวา มันเทศ และพริก เป็นต้น ทั้งน้ี ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเกษตรกร ได้ร่วมกันทำโครงการบริหาร จัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรท่ีสำคัญ (Zoning) ซึ่งทางภาครัฐได้จัดเวทีประชาคมอย่างมี

ค ส่วนร่วมกับเกษตรกรในพ้ืนที่จังหวัดตราด และร่วมกันวางแผนการปรับเปลี่ยนการผลิต เป็นพืชเศรษฐกิจท่ี เหมาะสมแทนการปลูกข้าว ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพ้ืนท่ีเพื่อปลูกพืชท่ีมีผลตอบแทนในการลงทุนดีกว่า ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอม และปาล์มน้ำมัน เป็นต้น โดยสนับสนุนงานโครงสร้าง ได้แก่ การยกร่อง ปรับรูปแปลงนา เป็นต้น 3. การส่งเสริมกิจกรรมเสริมรายได้ในยางพาราในพื้นท่ีเหมาะสม (S) และพื้นท่ีไม่เหมาะสม (N) ทเี่ กษตรกรไม่ยอมปรบั เปลยี่ นพืน้ ท่ี ได้แก่ กาแฟ (โรบัสตา้ ) จะเปน็ อำเภอบอ่ ไร่ ในตำบลหนองบอน (จดุ รับซอ้ื ) ตำบลช้างทูน ตำบลบ่อพลอย และตำบลนนทรีย์ (ตำบลใกล้เคียง) ระยะทางขนส่งผลผลิตประมาณ 12.8, 20.3, 28.0 กิโลเมตร ตามลำดับ และอำเภอเขาสมิง ในตำบลสะตอ ตำบลเทพนิมิต ตำบลวังตะเคียน และ ตำบลประณีต ระยะทางขนส่งผลผลติ ประมาณ 22.4, 30.1, 32.6, 32.8 กิโลเมตร เนอื่ งจากในการสง่ เสริมให้ เกษตรกรปลูกกาแฟ (โรบัสต้า) ต้องใช้หลัก “ตลาดนำการผลิต” เป็นตัวต้ัง คือ มีแหล่งรับซ้ือผลผลิตที่ ไม่ห่างไกลมากนัก เพราะจะมีต้นทุนค่าขนส่งเข้ามาเก่ียวข้อง โดยในตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จะมีการ จัดต้ังเปน็ “วิสาหกจิ ชุมชนขนำตนต้นน้ำ” และจะรับซื้อผลผลติ ของเกษตรกรในราคาประกนั ของกลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนฯ ซ่ึงจะสูงกว่าราคาตลาดทั่วไป และเป็นการประกันความเส่ียงเมื่อสินค้าราคาตกต่ำด้วย แต่ผลผลิตที่ เกษตรกรนำมาขายตอ้ งไดค้ ณุ ภาพตามท่ีกลมุ่ วิสาหกจิ ชุมชนฯ กำหนดไว้เป็นเกณฑ์ 3.1 สนับสนุนการปรับเปลี่ยนจากยางพาราในพ้ืนท่ีไม่เหมาะสม (N) เป็นไม้ผล ได้แก่ ทุเรียน มังคุด และเงาะ เป็นกิจกรรมที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ซ่งึ ภาครฐั มีโครงการพัฒนาอาชพี ชาวสวนยางรายย่อยเพื่อความ ยั่งยนื ไรล่ ะ 10,000 บาท เพือ่ พัฒนาอาชพี เกษตรกรรมใหม่ทดแทนการทำสวนยาง เป้าหมายลดพื้นที่ปลกู ยาง ท่ัวประเทศ สร้างทางเลือกในอาชีพเพ่ือเพ่ิมรายได้ และสร้างความยั่งยืน โดยเกษตรกรในจังหวัดตราด ปรบั เปล่ียนไปปลกู ไม้ผลเปน็ ส่วนใหญ่ ประมาณร้อยละ 80-90 ได้แก่ ทเุ รียน มงั คดุ และเงาะ เป็นต้น ไม้ยืนต้น ได้แก่ ไผ่ หมาก และพืชไร่ ซ่ึงทางภาครัฐได้มีการแนะนำถึงความเส่ียงท่ีอาจเกิดข้ึนในอนาคตหลังจากการ ปรับเปลี่ยนการปลูกพืช โดยเดิมการปลูกยางพาราเป็นพืชท่ีไม่ได้ใช้น้ำ หรือใชน้ ้ำน้อยมาก แต่การปรับเปล่ียน ไปปลูกไม้ผลต้องใช้นำ้ เป็นจำนวนมาก จงึ มีการให้คำแนะนำในการแบ่งพื้นที่บางส่วนขุดสระน้ำ เพ่ือเกบ็ กักน้ำ ไว้ใช้ในไร่นาของตนเอง เป็นการป้องกันความเส่ียงได้ในระดับหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ที่ส่งเสริมนอกจากจะให้ คำแนะนำเรื่องการเก็บกักน้ำแล้ว ต้องมีการศึกษาขอ้ มูลพื้นท่ีความเหมาะสมของไม้ผลดว้ ย โดยซ้อนทับพื้นที่ ปลูกยางพารา ปรับเปล่ียนเป็นการปลูกไม้ผล ได้แก่ เงาะ ทุเรียน และมังคุด ก่อนที่เข้าไปส่งเสริมว่าพื้นที่ ส่งเสรมิ น้นั ๆ อยู่ในพน้ื ทท่ี ่มี ีความเหมาะสมปานกลาง (S2) สำหรับการปลกู ไม้ผล อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมโครงการบริหารจัดการพ้ืนท่ีเกษตรกรรมเชิงรุก (Zoning by Agri–Map) เป็นภาคสมัครใจของเกษตรกรท่ีจะร่วมปรับเปล่ียนหรือเพ่ิมเติมเสริมรายได้ จึงทำให้การขับเคลื่อนบรรลุ เป้าหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น คณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราดและ คณะกรรมการอำนวยการขับเคล่ือนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัดตราด (Chief of Operation) และเกษตรกรที่ผลิตข้าวในพ้ืนท่ีไม่เหมาะสมควรกำหนดเป้าหมายพื้นท่ีนำร่องในการ ปรับเปลยี่ น เพ่ือดำเนินการอย่างมีส่วนร่วมกับเกษตรกรในพื้นท่ีไม่เหมาะสมจึงจะเกิดผลสัมฤทธิ์ยกระดับรายได้ ใหเ้ กษตรกรในพืน้ ที่ไม่เหมาะสมได้



ง คำนำ ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยมีฐานสำคัญมาจากภาคเกษตร ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเรว็ ทำให้แตล่ ะประเทศตอ้ งปรบั ตวั เพ่ือใหด้ ำรงอยู่ได้ โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดแนวทางในการบริหารจัดการสินค้าเกษตร เพอ่ื ให้สอดรบั กับสถานการณ์ท่ีปรับเปล่ยี นโดยมุ่งเนน้ การบรหิ ารจัดการการผลติ ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพสอดคล้องกับ ดา้ นการตลาด อุปสงค์และอปุ ทาน ให้เหมาะสมกับศักยภาพของพน้ื ทีเ่ พ่ือใหเ้ กิดประสิทธภิ าพสงู สุด โครงการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าเกษตรจึงเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ได้ทำการวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจสินค้าเกษตร เพื่อ เป็นทางเลือกปรับเปล่ียนกิจกรรมการผลิตข้าว ในพื้นท่ีไม่เหมาะสมตามแผนที่ Agri-Map จังหวัดตราด เพ่ือใช้เป็น แนวทางการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในพื้นที่ ตามแนวทางของการบริหารจัดการพ้ืนท่ีเกษตรกรรมเชิงรุก (Zoning by Agri - Map) ซึ่งได้มีการวิเคราะห์ศักยภาพของพ้ืนที่ทั้งด้านกายภาพและด้านเศรษฐกิจ เพื่อกำหนดเป็นเขตบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่เหมาะสมในพ้ืนที่น้ัน ๆ และสรุปเป็นแนวทางในการบริหาร จดั การดงั กลา่ ว สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรท่ี 6 ขอขอบคุณความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 2 สถานีพัฒนาที่ดินตราด สำนักงานเกษตรจังหวัดตราด สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตราด รวมทั้ง เกษตรกรจังหวัดตราดที่อำนวยความสะดวกเร่ืองข้อมูลในการศึกษาคร้ังน้ีเป็นอย่างดี และข้อคิดเห็นท่ีเป็น ประโยชน์จากคณะทำงานขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการพัฒนาพ้ืนท่ีระดับภาค กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ภาคตะวันออก) คณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวดั ตราด และคณะกรรมการอำนวยการ ขบั เคล่ือนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจงั หวัดตราด (Chief of Operation) สุดทา้ ยนี้ สำนกั งานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 หวังว่าการศกึ ษาการวเิ คราะห์ดา้ นเศรษฐกจิ สินค้าเกษตรระดบั จงั หวัดตราด ท่ีไดจ้ ัดทำขนึ้ ในครง้ั น้ีจะเปน็ ประโยชน์กบั ผ้ทู ่ีเกย่ี วข้องจะไดน้ ำไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไป สว่ นแผนพฒั นาเขตเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตรท่ี 6 กนั ยายน 2562



จ สารบัญ หน้า บทสรุปผู้บรหิ าร ข คำนำ ง สารบัญ จ สารบญั ตาราง ฉ สารบญั ตารางผนวก ซ สารบญั ภาพ ฌ บทท่ี 1 บทนำ 1.1 หลักการและเหตุผล 1 1.2 วตั ถุประสงค์ 2 1.3 ขอบเขตการศึกษา 2 1.4 วธิ กี ารศกึ ษา/กรอบแนวคดิ 2 1.5 ประโยชน์ท่ีคาดจะได้รบั 5 บทที่ 2 สภาพทวั่ ไป 2.1 ข้อมูลสภาพทัว่ ไปของจังหวดั 7 2.2 การใชท้ ี่ดินทางการเกษตรตามแผนที่ Agi-Map 18 2.3 สนิ ค้าเกษตรที่มีมลู ค่าสูงของจังหวดั ตราด (Top 4) 22 บทท่ี 3 ผลการศกึ ษาวเิ คราะห์ 3.1 ต้นทุนและผลตอบแทนตามระดบั ความเหมาะสมของพน้ื ท่ีสินค้าเกษตรทส่ี ำคญั (TOP 4) 34 3.2 การบรหิ ารจดั การสินคา้ เกษตรที่สำคญั จงั หวดั ตราด 53 3.3 การวิเคราะห์เพื่อหาพืชทางเลือกทางเศรษฐกิจ 77 3.4 การวิเคราะหเ์ พ่ือหาพชื ทางเลือกทางเศรษฐกิจ และปลูกพืชเสรมิ รายได้ 85 3.5 การปลกู พชื ทดแทนในพน้ื ทีไ่ ม่เหมาะสม 91 บทท่ี 4 ผลสรปุ ข้อเสนอแนะ 4.1 สรปุ 92 4.2 ขอ้ เสนอแนะ 93 บรรณานุกรม 102 ภาคผนวก ตารางผนวกท่ี 1 แบบรายงานท่ตี ั้งแปลงดำเนนิ งานการปรับเปล่ียนการผลิต ในพน้ื ที่ ไมเ่ หมาะสมแบบบูรณาการปี 2561 จงั หวัดตราด (จากฐานข้อมูล Zoning by Agri Map) 104

ฉ สารบัญตาราง ตารางที่ หนา้ 1 ปริมาณนำ้ ฝน ปี 2552 – 2561 9 2 อณุ หภมู แิ ละความช้นื สมั พทั ธส์ ูงสุด - ต่ำสุด ปี 2552 – 2561 10 3 เขตการปกครองของจงั หวัดตราด 10 4 จำนวนประชากรของจังหวัดตราด ปี 2561 11 5 จำนวนครวั เรอื นเกษตรกรและจำนวนแรงงานภาคเกษตรของจงั หวดั ตราด ปี พ.ศ. 2561 12 6 การใชท้ ด่ี นิ เพอื่ การเกษตรแยกตามรายอำเภอ จังหวดั ตราด 15 7 โครงการชลประทานการขนาดกลาง 16 8 โครงการชลประทานขนาดเลก็ 17 9 จำนวนสระเกบ็ น้ำในไรน่ านอกเขตชลประทาน ขนาด 1,260 ลบ.ม. ปี 2550-2561 18 10 ดา้ นการปลกู พืชเศรษฐกิจของจังหวัด ปกี ารผลติ 2561 20 11 พืน้ ที่ปลกู ข้าวตามความเหมาะสมทางกายภาพ จังหวดั ตราด 21 12 การผลิตในพ้นื ทรี่ ะดบั ความเหมาะสมของยางพารารายอำเภอ 24 13 ปริมาณการผลติ กุ้งขาวแวนนาไม จังหวัดตราด 28 14 การผลิตในพน้ื ทร่ี ะดบั ความเหมาะสมของเงาะ และทุเรียน รายอำเภอ 32 15 ตน้ ทนุ การผลิตยางพาราปี 2559/60 จังหวดั ตราด ในการผลติ ในพ้ืนทเ่ี หมาะสม (S) 37 16 ตน้ ทุนการผลติ ยางพาราปี 2559/60 จังหวดั ตราด ในการผลิตในพื้นทไี่ ม่เหมาะสม (N) 39 17 ตารางเปรียบเทยี บตน้ ทนุ การผลติ การปลกู ยางพาราในพื้นที่เหมาะสม (S) และในพน้ื ท่ไี ม่เหมาะสม (N) 40 18 ต้นทนุ การผลิตกงุ้ ขาวแวนนาไมปี 2559 จงั หวดั ตราด ไมม่ ีแยกตามลกั ษณะความเหมาะสม 42 19 ต้นทุนการผลิตเงาะปี 2559/60 จังหวดั ตราด ในพื้นทเี่ หมาะสม (S) 44 20 ตน้ ทนุ การผลิตเงาะปี 2559/60 จังหวดั ตราด ในพื้นที่ไมเ่ หมาะสม (N) 46 21 ตารางเปรียบเทยี บตน้ ทุนการผลิตการปลูกเงาะในพื้นท่ีเหมาะสม (S) และในพ้นื ทไ่ี มเ่ หมาะสม (N) 47 22 ตน้ ทุนการผลิตทุเรียนปี 2559/60 จงั หวัดตราด ในพนื้ ที่เหมาะสม (S) 49 23 ต้นทุนการผลติ ทเุ รียนปี 2559/60 จงั หวดั ตราด ในพ้ืนทีไ่ ม่เหมาะสม (N) 51 24 ตารางเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตการปลกู ทุเรียนในพน้ื ที่เหมาะสม (S) และในพื้นทไ่ี ม่เหมาะสม (N) 52

ช สารบญั ตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 25 ตารางเปรียบเทยี บต้นทุนการผลิต ผลตอบแทน สินคา้ ท่ีสำคญั (สนิ ค้า TOP 4) จังหวดั ตราด 53 26 จำนวนใบอนญุ าตค้ายางในจงั หวัดตราด แยกตามอำเภอ และตำบลปี 2560 55 27 การบริหารจัดการสินคา้ ยางพาราของจงั หวัดตราด ปี 2560 57 28 จำนวนเกษตรกรท่ีข้ึนทะเบียนผ้เู ลยี้ งกุง้ ทะเลของจังหวดั ตราดปี 2560 59 29 จำนวนผลผลติ และพนื้ ที่เลีย้ งกุ้งขาวแวนนาไมของจงั หวดั ตราด ตามใบกำกับการจำหนา่ ย สตั ว์นำ้ ปี 2558-2560 60 30 พ้ืนทแี่ ละผลผลติ กงุ้ ขาวแวนนาไมของจังหวดั ตราด แยกรายอำเภอปี 2559-2560 60 31 ประมาณการรอ้ ยละผลผลิตกงุ้ ขาวแวนนาไมออกสตู่ ลาดรายเดอื น ของจังหวดั ตราดปี 2560 60 32 การบริหารจัดการสินค้ากงุ้ ขาวแวนนาไมของจงั หวัดตราดปี 2560 64 33 เนอ้ื ท่ปี ลกู ผลผลติ ผลผลิตต่อไร่ของเงาะ จงั หวดั ตราดปี 2560 จำแนกรายอำเภอ 66 34 ปฏทิ ินแสดงร้อยละของปริมาณผลผลติ เงาะทอ่ี อกสตู่ ลาดในปี 2560 จังหวัดตราด 66 35 การบริหารจดั การสนิ คา้ เงาะของจังหวัดตราด ปี 2560 69 36 เนอื้ ทปี่ ลูก ผลผลิต ผลผลิตตอ่ ไร่ของทเุ รียน จังหวดั ตราด ปี 2560 จำแนกรายอำเภอ 71 37 ปฏทิ นิ แสดงร้อยละของปรมิ าณผลผลติ ทุเรยี นทอ่ี อกส่ตู ลาดในปี 2560 จังหวัดตราด 71 38 การบรหิ ารจดั การสินคา้ ทุเรียนของจงั หวดั ตราด ปี 2560 76 39 การเปรยี บเทยี บต้นทุนการผลติ การปลกู ข้าวในพ้ืนที่เหมาะสม (S) และในพน้ื ทไ่ี ม่เหมาะสม (N) 79 40 การเปรยี บเทียบตน้ ทุนการผลติ การปลูกข้าวในพ้นื ทไี่ ม่เหมาะสม (N) กบั การปลกู มะพรา้ วน้ำหอม 80 41 การเปรียบเทียบต้นทนุ การผลิตการปลกู ข้าวในพนื้ ท่ีไม่เหมาะสม (N) กับการปลูกฟักทอง 82 42 การเปรยี บเทียบต้นทุนการผลติ การปลูกข้าวในพ้ืนท่ีไมเ่ หมาะสม (N) กับการปลกู แตงกวา 83 43 การเปรียบเทยี บตน้ ทุนการผลติ การปลกู ขา้ วในพ้นื ทไี่ ม่เหมาะสม (N) กับการปลูกมันเทศ 84 44 การเปรยี บเทยี บต้นทนุ การผลิตการปลกู ข้าวในพ้นื ทไี่ มเ่ หมาะสม (N) กับการปลูกพริก 86 45 การเปรียบเทียบต้นทุนการผลติ การปลกู ยางพาราในพื้นทเ่ี หมาะสม (S) และในพื้นทไ่ี มเ่ หมาะสม (N) 87 46 การเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตการปลกู ยางพาราในพนื้ ทไ่ี ม่เหมาะสม (N) กับการปลูกเงาะ 89 47 การเปรียบเทียบตน้ ทนุ การผลติ การปลูกยางพาราในพ้นื ท่ีไม่เหมาะสม (N) กบั การปลกู ทเุ รยี น 90 48 การเปรยี บเทยี บต้นทุนการผลิตการปลูกยางพาราในพื้นทไี่ มเ่ หมาะสม (N) กับการปลกู กาแฟ 91 49 สรปุ พนื้ ที่ปลูกข้าวในชัน้ ความเหมาะสมตา่ ง ๆ ในแตล่ ะอำเภอ จังหวดั ตราด 92

ซ หน้า 104 สารบญั ตารางผนวก ตารางผนวกท่ี 1 แบบรายงานที่ตั้งแปลงดำเนินงานการปรบั เปลยี่ นการผลติ ในพน้ื ท่ีไมเ่ หมาะสมแบบบูรณาการปี 2561 จังหวดั ตราด (จากฐานข้อมูล Zoning by Agri Map)

ฌ สารบัญภาพ ภาพท่ี หน้า 1 แผนทกี่ ารใช้ทดี่ ินจงั หวดั ตราด ปี 2560 19 2 แผนที่การปลูกพืชเศรษฐกจิ จงั หวดั ตราด 20 3 พนื้ ที่ปลกู ขา้ วตามความเหมาะสมทางกายภาพ จงั หวดั ตราด 22 4 ยางพารา เนอื้ ทใ่ี ห้ผล ผลผลิต ผลผลิตตอ่ ไร่ จังหวดั ตราด 23 5 พ้นื ทค่ี วามเหมาะสมในการปลกู ยางพารา จงั หวัดตราด 26 6 พ้นื ท่ปี ลกู ยางพาราตามระดับความเหมาะสม จงั หวัดตราด 26 7 กุ้งขาวแวนนาไม เนอ้ื ท่ีเพาะเลีย้ ง ผลผลิต ผลผลิตต่อไร่ จงั หวดั ตราด 27 8 เงาะ เนือ้ ทใ่ี หผ้ ล ผลผลติ ผลผลิตตอ่ ไร่ จังหวดั ตราด 29 9 ทุเรียน เนอ้ื ทใี่ หผ้ ล ผลผลติ ผลผลติ ตอ่ ไร่ จงั หวดั ตราด 29 10 พืน้ ท่คี วามเหมาะสมในการปลูกเงาะ และทุเรียน จงั หวัดตราด 30 11 พนื้ ที่ปลกู เงาะ และทุเรียนตามระดับความเหมาะสม จังหวดั ตราด 31 56 12 วถิ กี ารตลาดยางพาราในจงั หวดั ตราด 62 63 13 โครงสร้างตลาดกุง้ ขาวแวนนาไมของจังหวัดตราด 67 14 วิถีการตลาดกุ้งขาวแวนนาไมของจังหวัดตราด 74 15 วิถีการตลาดเงาะของจังหวัดตราด 96 16 วถิ กี ารตลาดทเุ รยี นจงั หวดั ของตราด 97 17 แผนทแ่ี สดงขอ้ มูลพน้ื ทคี่ วามเหมาะสมของขา้ วจังหวัดตราด 98 18 แผนทแี่ สดงขอ้ มูลพ้ืนท่คี วามเหมาะสมของยางพาราซ้อนทับขอ้ มูลการปลูกยางพาราจริง จงั หวดั ตราด 19 แผนที่แสดงขอ้ มลู พื้นทีค่ วามเหมาะสมของไมผ้ ล ได้แก่ เงาะ ทเุ รียน มังคดุ ลองกอง จังหวัดตราด



บทท่ี 1 บทนำ 1.1 หลกั การและเหตุผล การผลิตสินค้าเกษตรหลายชนิดของประเทศไทยยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร เนื่องจากเกษตรกร สว่ นหนึ่งนำพื้นทท่ี ี่มคี วามเหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสม มาใชเ้ พ่ือปลกู พืช ส่งผลให้ประสิทธภิ าพการผลิตโดย เฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ต่ำมีตน้ ทุนการผลิตสูง และในหลายสินค้าผลผลิตสินค้าเกษตรมากเกินความตอ้ งการประสบ สภาวะราคาตกต่ำเกิดภาระด้านงบประมาณให้กับภาครัฐท่ีต้องเข้าไปช่วยเหลือแทรกแซงราคา การบริหาร จัดการพ้นื ท่เี กษตรกรรมเป็นแนวคิดที่ดำเนินการภายใต้นโยบายของรฐั บาลในการจัดการและใชป้ ระโยชน์ท่ีดิน ของประเทศเพ่ือประโยชนส์ งู สดุ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศเขตเหมาะสมสำหรับการผลิต ได้แก่ ด้านพืช ประกอบด้วย ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาลม์ น้ำมัน ขา้ วโพดเลี้ยงสัตว์ ออ้ ยโรงงาน ลำไย และสบั ปะรดโรงงาน ซง่ึ รวมถึง เงาะ ทุเรียน มังคุด กาแฟ และมะพร้าว ด้านปศุสัตว์ ประกอบด้วย โคนม โคเน้ือ สุกร ไก่เนื้อ ไก่ไข่ และด้าน ประมง ประกอบด้วย กุ้ง ปลานิล ปลาน้ำจืด โดยในการประกาศเขตเหมาะสมการผลิต คำนึงถึงปัจจัย ธรรมชาติท่ีเก่ียวข้อง ได้แก่ ดิน น้ำ อากาศ แสงแดด ความช้ืนสัมพัทธ์ (Land Suitability) และระดับความ ต้องการของพืช (Crop Requirement) การผลิตสินค้าเกษตรในปัจจุบัน (Existing Land Use) หรือเงื่อนไข สำหรับการผลิตอื่น ๆ เช่น กำหนดเขตเป็นพื้นที่ปลอดโรค เป็นต้น ซ่ึงในการบริหารจัดการพื้นท่ีเกษตรกรรม นอกจากคำนงึ ถงึ เขตการผลติ ทเ่ี หมาะสมแล้ว ยงั ตอ้ งพิจารณาประเด็นท่ีเกยี่ วขอ้ ง คอื การปรับรปู แบบการผลิต ในเขตเหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสม เพ่ือสร้างความสมดุลระหว่างการผลิตและการตลาด การเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มมูลค่าด้วยการพฒั นามาตรฐานสินค้าและลดต้นทนุ ด้วยการจัดการระบบขนส่ง สินคา้ (Logistic) เปน็ ต้น เม่ือมีการประกาศเขตเหมาะสมสำหรับการผลิตแล้ว ต้องถือว่าพ้ืนที่น้ันคือยุ ทธศาสตร์ในการ พัฒนาการผลิต ซึ่งระดับพื้นที่/จังหวัดต้องพิจารณาใช้พ้ืนที่ที่มีความเหมาะสมเป็นยุทธศาสตร์การผลิตด้าน การเกษตร โดยวางระบบการจัดการท้ังหมดเขา้ ไปในพื้นท่ี การสนับสนุนด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ (1) พ้ืนท่ี (2) ชนิดสินค้า พืช ปศุสัตว์ และประมงที่เหมาะสมกับพ้ืนท่ี (Commodities) และ (3) บุคคล ได้แก่ เกษตรกรผปู้ ระกอบการ และเจ้าหนา้ ที่ของรัฐ (Human Resource) โดยใชก้ ารตลาดเป็นตวั ชี้นำในการส่งเสริม การผลิต ซึ่งต้ังเป้าหมายว่าผลิตออกมาแล้วต้องขายได้ในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ และมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ใหค้ ำแนะนำ และประสานงานกับทกุ ภาคสว่ นที่เกี่ยวขอ้ งภายในพ้ืนที่ ทง้ั ภาครัฐ และ ภาคเอกชน เพ่ือให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมศี ูนย์เรยี นรู้การเพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลิตสนิ คา้ เกษตร (ศพก.) ซ่ึง เป็นศูนย์ระดับชุมชนที่จัดตั้งขึ้นโดยใช้หลักการของ Zoning ร่วมกับความต้องการของเกษตรกร เป็นแหล่ง ศึกษาและเรียนรู้ของเกษตรกรและประชาชนท่ีสนใจในด้านการเกษตรจากสถานที่จริง เรียนรู้จากเกษตรกร ต้นแบบทที่ ำอาชีพการเกษตรและประสบความสำเรจ็ เนน้ การผลติ ท่ีเหมาะสมกับศักยภาพของพื้นท่ี ลดต้นทุน

2 การผลิต พร้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ให้เกดิ ประโยชน์สูงสุด สาเหตุหลักของผลผลิต ขาดคุณภาพและไม่ตรงตามความต้องการของตลาด ส่งผลให้เกษตรกรขาดทุนจากการผลิต คือ เกษตรกรทำ การผลิตสนิ คา้ เกษตรในพน้ื ทีไ่ ม่เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของพ้ืนที่ ดงั น้ัน เพ่ือเสนอแนะข้อเสนอเชงิ นโยบายในการสนบั สนนุ การปรบั เปลย่ี นการผลติ สินคา้ เกษตรในพื้นที่ ไม่เหมาะสมตามแผนท่ี Agri-Map เป็นสินค้าทางเลอื ก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรท่ี 6 จังหวัดชลบุรี จึงได้ จัดทำการวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจสินค้าเกษตรระดับจังหวัด ในจังหวัดตราดสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง 4 อันดับ (Top 4) เพื่อให้มีการผลิตที่เหมาะสมกับศักยภาพของพ้ืนท่ี เพ่ิมประสิทธิภาพและคุณภาพผลผลิต และสร้างความสมดลุ ระหว่างอุปสงค์ และอุปทาน 1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1) เพอื่ ศกึ ษาตน้ ทนุ และผลตอบแทนสนิ คา้ เกษตรที่มีมูลค่าสูง 4 อนั ดับ (Top 4) ในจงั หวดั ตราด 2) เพื่อศึกษาความสมดุลระหว่างอุปสงค์ อุปทาน ( Demand & Supply) สินค้าเกษตรท่ีมีมูลค่าสูง 4 อันดับ (Top 4) และสินค้าทางเลือกในจงั หวัดตราด 3) เพ่ือเสนอแนะมาตรการในการปรับเปลย่ี นการผลิตสินค้าในพ้ืนทไี่ ม่เหมาะสมเป็นสินคา้ ทางเลอื กใน ระดบั พืน้ ที่ของจังหวัดตราด 1.3 ขอบเขตการศึกษา ศกึ ษาสินค้าเกษตรที่มีมูลคา่ สูง 4 อันดับ (Top 4) ไดแ้ ก่ ยางพารา กุ้งขาวแวนนาไม ทุเรียน เงาะและ สินค้าทางเลอื ก ครอบคลมุ ในพ้นื ท่ีจังหวดั ตราด 1.4 วธิ กี ารศกึ ษา/กรอบแนวคดิ 1.4.1 การวิเคราะห์ความเหมาะสมและศักยภาพของพื้นท่ี โดยการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะหข์ ้อมลู จากแผนท่ี Agri-map โดยการประเมินคุณภาพที่ดิน (Qualitative Land Evaluations) ซึง่ เป็นการพิจารณาศกั ยภาพของหน่วยทรัพยากรท่ีดินต่อการใช้ประโยชน์ ที่ดินประเภทต่าง ๆ นอกจากการประเมินทางด้านคุณภาพหรือเรียกอีกอย่างหน่ึงว่าเป็นการประเมินเชิง กายภาพ การประเมินทางด้านปริมาณหรือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะให้ค่าตอบแทนในรูปผลผลิตที่ได้รับ ตัวเงินใน การลงทุน และตัวเงินจากผลตอบแทนที่ได้รับเป็นส่ิงบ่งชี้ท่ีถึงความเหมาะสม หรือการจัดการเขตเกษตร เศรษฐกิจอย่างแท้จริง ตามแผนที่ความเหมาะสม 4 ระดับ คือ (1) ระดับขั้นท่ีมีความเหมาะสมสูง (Highly suitable : S1) (2) ระดับช้ันที่มีความเหมาะสมปานกลาง (Moderately suitable : S2) (3) ระดับช้ันที่มี ความเหมาะสมน้อย (Marginally suitable : S3) และ (4) ระดับช้ันท่ีไม่เหมาะสม (N) วา่ มจี ำนวนพื้นที่เท่าใด และอย่ใู นพื้นที่บรเิ วณใดบา้ ง และนำข้อมูลมาจัดชนั้ พ้ืนที่เป็น 2 ระดบั คอื (1) พ้ืนท่ีทีม่ ีความเหมาะสมการปลูก (Suitability : S) คอื พื้นที่ทมี่ ีความเหมาะสมมาก (S1) รวมกับพน้ื ท่ีช้นั ทมี่ ีความเหมาะสมปานกลาง (S2) และ (2) พื้นท่ีไม่เหมาะสม (Not suitability : N) คือพ้ืนที่ท่ีมีความเหมาะสมน้อย (S3) และพ้ืนที่ท่ีไม่มีความ เหมาะสม (N) ของสินค้าเกษตรท่ีมีมูลค่าสงู 4 อันดับ (Top 4) ได้แก่ ยางพารา กุ้งขาวแวนนาไม เงาะ ทุเรียน

3 และสนิ ค้าทางเลอื ก ในจังหวดั ตราด และลงพ้นื ทเ่ี พื่อตรวจสอบข้อเทจ็ จรงิ ว่าในปัจจบุ ันมีปลกู อยมู่ ากน้อยเทา่ ไร และปลูกอยู่ในแตล่ ะพ้นื ทร่ี ะดบั ความเหมาะสมจำนวนเทา่ ไรของการปลูกพืชเศรษฐกจิ แตล่ ะชนิดสนิ ค้าในพื้นท่ี จังหวดั ตราด และสำรวจพืน้ ท่ีเพอื่ ยืนยันข้อมูลตามแผนที่ความเหมาะสม 1.4.2 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 1) การรวบรวมขอ้ มลู รวบรวมข้อมลู โดยการสัมภาษณ์จากแบบสอบถามแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ปเี พาะปลูก 2559 รวมทง้ั การสำรวจขอ้ มูลภาคสนามเพอ่ื รบั ทราบสถานการณก์ ารผลิต การตลาด และแนวคิด ความคดิ เห็นจากส่วนราชการท่เี ก่ยี วขอ้ ง 2) แหล่งขอ้ มูล 2.1) ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) เป็นการสำรวจข้อมูลภาคสนามเพื่อรับทราบ สถานการณ์การผลติ และการตลาด ณ ชว่ งเวลานั้น ๆ โดยขอ้ มลู ที่ได้รบั มาจากเกษตรกร และหน่วยงานราชการ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง 2.2) ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) รวบรวมข้อมูลทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย การจัดทำเขตเกษตรเศรษฐกิจ เอกสารทางวิชาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เก่ียวขอ้ งท้ังภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถงึ สื่อสิ่งพิมพ์อเิ ลคทรอนกิ สท์ ี่เก่ยี วขอ้ ง 1.4.3 การวิเคราะห์ขอ้ มลู 1) การวเิ คราะหเ์ ชงิ คุณภาพ (Qualitative Analysis) เชน่ การวเิ คราะห์เนื้อหา 2) การวเิ คราะหเ์ ชิงปริมาณ (Quantitative Analysis) 2.1) การวิเคราะห์โดยใช้วิธีการทางสถิติ โดยสถิติพรรณนา (Descriptive Statistics) เช่น ร้อยละ และค่าเฉล่ยี 2.2) การวิเคราะห์โดยใชว้ ิธีการทางคณิตศาสตร์ เช่น การวเิ คราะหต์ ้นทนุ ผลตอบแทน 3. การวิเคราะหข์ อ้ มลู จากแผนที่ Agri-Map และสำรวจพื้นทเ่ี พ่อื ยนื ยันข้อมลู ตามแผนที่ 1.4.4 กรอบแนวคดิ ต้นทุนและผลตอบแทน 1) ทฤษฎีต้นทุนการผลิตและผลตอบแทน การวิเคราะห์ต้นทุนจะพิจารณาท้ังต้นทุนที่เป็น เงนิ สด (Explicit Cost) และตน้ ทุนท่ีไม่เป็นเงินสด (Implicit Cost) โดยสภาพการผลิตท่ีเป็นจริงของเกษตรกร ต้นทุนท่ีเป็นเงินสด คือต้นทุนที่เกษตรกรจ่ายออกไปจริงเป็นเงินสด ส่วนต้นทุนที่ไม่เป็นเงินสด คือต้นทุนท่ี เกษตรกรไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย แต่ได้ประเมินให้สำหรับค่าปัจจัยการผลิตและแรงงานที่เป็นของเกษตรกรเอง ซงึ่ องคป์ ระกอบของตน้ ทนุ การผลติ แบ่งออกได้ 2 ประเภท คอื 1.1) ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) เป็นค่าใช้จ่ายท่ีไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต หรือไม่เปล่ียนแปลงแม้ไม่ทำการผลิตเลย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึนจากการใช้ปัจจัยคงที่ในการผลิต ประกอบด้วยต้นทุนคงท่ีท่ีเป็นเงินสด ได้แก่ ค่าเช่าที่ดิน ค่าภาษีที่ดิน เป็นต้น ต้นทุนคงท่ีท่ีไม่เป็นเงินสด เป็น

4 คา่ ใช้จ่ายทผ่ี ู้ผลิตไม่ได้จ่ายออกไปจริง เช่น ค่าใช้ท่ีดิน และค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์ ซึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่า 1 ปี เปน็ ตน้ สำหรับการคำนวณค่าเสอื่ มราคาใช้วธิ คี ิดแบบเสน้ ตรง (The Straight – Line Method) การ คำนวณโดยวิธีนีจ้ ะไดค้ ่าเส่ือมราคาทรัพย์สินต่อปีคงทเี่ ท่ากนั ซงึ่ มวี ธิ กี ารคอื คา่ สึกหรอหรอื ค่าเสอ่ื มราคาต่อปี = (ราคาทรัพย์สนิ ท่ีซ้ือมา – มลู คา่ ซาก) อายกุ ารใช้งาน (ปี) 1.2) ตน้ ทุนผนั แปร (Variable Cost) เป็นค่าใช้จา่ ยที่เปล่ียนแปลงไปตามปรมิ าณผลผลิต ท่ีได้รับ ซึ่งประกอบด้วย ต้นทุนผันแปรที่เป็นเงินสด เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ค่าจ้าง แรงงาน ค่าปุ๋ย เป็นต้น และ ต้นทุนผันแปรท่ีไม่เป็นเงินสด เป็นค่าใช้จ่ายเก่ียวกับปัจจัยการผลิตที่เป็นของ ตนเอง และได้ประเมินค่าออกมาเป็นเงินสด เช่น ค่าแรงงานในครัวเรือนจะประเมินค่าเป็นเงินสด ตามอัตรา ค่าจา้ งแรงงานในท้องถ่นิ นัน้ เปน็ ตน้ สำหรบั การวิเคราะห์ตน้ ทุนและรายได้ จะทำให้ทราบถงึ กำไรทเ่ี กษตรกรจะไดร้ ับ เพ่อื ใชเ้ ป็น ข้อมลู ในการพจิ ารณาความสำเร็จหรอื ลม้ เหลวในการผลิต โดยมีวิธีการคำนวณ ดงั นี้ ต้นทนุ ทงั้ หมด = ตน้ ทุนคงที่ + ตน้ ทนุ ผันแปร ต้นทุนคงที่ = คา่ ใช้ทด่ี ินหรอื คา่ เช่าที่ดิน + คา่ เสอื่ มราคาอปุ กรณ์การเกษตร ตน้ ทนุ ผนั แปร = คา่ แรงงาน + คา่ วสั ดอุ ุปกรณ์การเกษตร รายได้ท้งั หมด = ผลผลิตทั้งหมด x ราคาทเ่ี กษตรกรได้รับ รายได้สุทธิ = รายได้ทง้ั หมด - ต้นทนุ ผนั แปร กำไร = รายได้ทง้ั หมด - ต้นทุนท้งั หมด 2) กรอบแนวคดิ Demand และ Supply แนวคิดการทำบัญชีสมดุลสินค้าเกษตรมีความใกล้เคียงกับการทำบัญชีสมดุลทางการเงิน ทั่วไปที่เรารู้จักกัน ในขณะท่ีบัญชีสมดุลทางการเงินเป็นการทำข้อมูลเกี่ยวกับ “รายรับและผลประโยชน์” เท่ากับ “รายจ่ายและการเสียผลประโยชน์” หรือ “กำไร” เท่ากับ “ขาดทุน” ซึ่งเป็นการลงข้อมูลเป็นมูลค่า ของเงินที่เกิดข้ึน บัญชีสมดุลสินค้าเกษตรเป็นการบันทึกปริมาณของสินค้าเกษตร และสามารถจัดทำได้ทั้งใน ระดบั ประเทศและระดบั จงั หวดั ด้านการบันทกึ ข้อมลู สามารถจัดทำเป็นไดท้ ัง้ รายปีและรายเดอื น บญั ชีสมดุลสนิ ค้าเกษตรนัน้ มีองค์ประกอบ 2 ดา้ น คือ ด้านอุปทาน (Supply) และด้านการ นำไปใช้ประโยชน์ (Utilization) และต้องทำให้ตวั เลขท้งั 2 ดา้ นน้ีให้สมดุลหรอื เท่ากัน (1) อุปทาน (Supply) = (2) การนำไปใชป้ ระโยชน์ (Utilization) โดยที่ ด้านอุปทาน เป็นผลรวมของ (1) สต็อกต้นปีหรือสต็อกท่ียกมาจากสต็อกปลายปีของปีท่ีแล้ว (2) การผลิตสินค้าเกษตรในช่วงระยะเวลา 12 เดือน หรือ 1 ปีการตลาด และ (3) การนำเข้าสินค้าจาก ตา่ งประเทศในช่วงระยะเวลา 12 เดอื น หรอื 1 ปกี ารตลาด ดังสมการต่อไปน้ี

5 (1) อปุ ทาน = สตอ็ กต้นปี + ปรมิ าณการผลติ + การนำเขา้ สนิ ค้า และ ด้านการนำไปใช้ประโยชน์ เป็นผลรวมของ (1) การใช้ภายในประเทศ เช่น การบริโภค ช่วงระยะเวลา 12 เดือน หรือ 1 ปีการตลาด (2) การส่งออกสินค้าจากต่างประเทศในช่วงระยะเวลา 12 เดือน หรือ 1 ปี การตลาด และ (3) ปริมาณสต็อกสินค้าเกษตรที่ยังเหลืออยู่ ณ ช่วงเดือนสุดท้ายของปีการตลาด อาจเรียกว่า สตอ็ กปลายปหี รือปลายงวด และจะถูกยกยอดไปเป็นสตอ็ กต้นปีของปีตอ่ ไป สามารถเขียนสมการไดด้ ังน้ี (2) การนำไปใชป้ ระโยชน์ = การใชภ้ ายในประเทศ + การส่งออกสนิ ค้า+สตอ็ กปลายปี โครงสร้างบัญชีสมดลุ สินคา้ เกษตรน้ันมีองค์ประกอบหลายอย่าง แม้จะมีองค์ประกอบหลัก เหมือนกัน แต่องค์ประกอบย่อยน้ันอาจมีความแตกต่างกันไปตามสินค้าเกษตรแต่ละชนิด ซึ่งขึ้นอยู่กับ โครงสร้าง ห่วงโซอ่ ุปทานของสินค้าเกษตรน้นั ๆ อย่างไรก็ตาม จะต้องมี 1 องค์ประกอบที่ทำหนา้ ท่เี ป็นตัวเศษ เหลอื (Residual) และตวั แปรที่มักมีการใช้เปน็ Residual ในการทำบัญชีสมดุลสินค้าเกษตร คือ สต็อกปลายปี หรือสต็อกปลายงวด เน่ืองจาก โดยปกติแล้วจะเป็นองค์ประกอบที่ไม่มขี ้อมูลตวั เลขที่ดี ถูกต้อง หรือน่าเช่อื ถือ ในการนำมาใช้ อปุ ทาน = สตอ็ กต้นปี + ปรมิ าณการผลติ + การนำเข้าสนิ คา้ การนำไปใช้ประโยชน์ = การใช้ภายในประเทศ + การส่งออกสนิ ค้า + สต็อกปลายปี สต็อกต้นปี + ปริมาณการผลิต + การนำเข้าสินค้า = การใช้ภายในประเทศ + การส่งออกสินค้า + สตอ็ กปลายปี ดังน้ัน สต็อกปลายปี = (สต็อกต้นปี + ปริมาณการผลิต + การนำเข้าสินค้า) – (การใช้ภายในประเทศ + การสง่ ออกสินคา้ ) แต่วิธีการดงั กลา่ วน้ี ควรมีขอ้ มูลหรือการประมาณการสตอ็ กต้นปีที่ดี มีหลักการและมีความน่าเชื่อถือ สำหรับข้อมูลในอดีต ถ้าหากไม่มีตัวเลขดังกล่าว ผู้จัดทำสามารถประมาณการการเปล่ียนแปลงทางสต็อก (Stock changes) ได้ดงั สมการต่อไปน้ี สต็อกต้นปี + ปริมาณการผลิต + การนำเข้าสินค้า = การใช้ภายในประเทศ + การส่งออกสินค้า + สตอ็ กปลายปี (สต็อกปลายปี – สต็อกต้นปี) = (ปริมาณการผลิต + การนำเข้าสินค้า) – (การใช้ภายในประเทศ + การสง่ ออกสินค้า) ปริมาณสต็อกทีเ่ ปล่ียนแปลงไป = (ปริมาณการผลติ + การนำเข้าสินค้า) – (การใช้ภายในประเทศ + การส่งออกสนิ คา้ ) 1.5 ประโยชนท์ ี่คาดจะได้รบั การจดั ทำแนวทางพฒั นาการบรหิ ารจัดการการผลิตสินค้าเกษตร จะก่อให้เกดิ ประโยชนต์ ่อกล่มุ บุคคล ตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1.5.1 เกษตรกร 1) สามารถทราบถงึ ศกั ยภาพของพื้นที่ในการผลติ ของตัวเองใหช้ ัดเจน

6 2) เป็นเคร่ืองมือชว่ ยในการตัดสินใจเลือกผลิตสินคา้ เกษตรต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 3) สามารถลดต้นทุนการผลติ มีรายไดเ้ พมิ่ ข้นึ ลดความเส่ยี งในเรอื่ งการตลาด 4) สามารถขอรบั การสนับสนุนได้ตรงกบั ความตอ้ งการ 1.5.2 ผู้ประกอบการมีความมั่นคงในธุรกจิ ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการเกษตร เนื่องจากมีความมั่นใจถึง ปริมาณของผลิตที่สม่ำเสมอ ทำให้สามารถตัดสินใจในเร่ืองการลงทุนและการวางแผนด้านการตลาดได้ชัดเจน ขึ้น 1.5.3 ผู้บรโิ ภคได้รับประโยชน์จากการผลิตด้านการเกษตรท่ีมีคณุ ภาพขึ้น มีความแน่นอนในเรื่องของ ราคา ปรมิ าณ และระยะเวลาของสนิ ค้าเกษตรท่ีออกสู่ตลาด 1.5.4 ภาครัฐสามารถนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบในการวางแผนการผลิต ให้เกิดดุลยภาพท้ังอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) เพ่ิมขีดความสามารถของรัฐในการสนับสนุน ส่งเสริมในเร่ืองต่าง ๆ เนื่องจากมเี ป้าหมายท่ชี ดั เจนและแน่นอน สง่ ผลใหร้ ะบบการผลติ มีเสถยี รภาพ และสามารถแขง่ ขันได้

บทท่ี 2 สภาพท่วั ไป 2.1 ขอ้ มูลสภาพทั่วไปของจงั หวดั 2.1.1 สภาพท่วั ไปของจงั หวัดตราด ท่ีตั้ง “จังหวัดตราด” เป็นจงั หวัดชายแดนสุดฝั่งทะเลตะวันออก มีรูปร่างลักษณะคล้ายหัวช้าง อาณาเขตด้านชายแดนตดิ กับประเทศกมั พูชาท้งั ทางบกและทางทะเลยาว 330 กิโลเมตร โดยทางบกตดิ กบั ทาง จังหวัดของประเทศกัมพูชา ได้แก่ จังหวัดพระตะบอง จังหวัดโพธิสัต และจังหวัดเกาะกง ซึ่งมีแนวชายแดน ธรรมชาติติดทิวเขาบรรทัด เป็นเส้นแบ่งเขตแดนตลอดแนวยาว 165 กิโลเมตร และมีแนวอาณาเขตทางทะเล ยาว 165.5 กิโลเมตร มีพื้นท่ีขนาดเล็กเป็นอันดับ 4 ของภาคตะวันออก และเป็นอันดับที่ 56 ของประเทศ อยูห่ ่างจากกรุงเทพมหานครตามเสน้ ทางสายใหม่ บางนา-บ้านบงึ -แกลง-ตราด เป็นระยะทาง 315 กิโลเมตร 2.1.2 ทต่ี ัง้ และอาณาเขตจงั หวดั ตราด อาณาเขต มีอาณาเขตพ้ืนทที่ างบก 2,819 ตารางกิโลเมตร หรอื 1,761,000 ไร่ มีพื้นที่ ปกครอง ทางทะเล 7,257 ตารางกิโลเมตร ทศิ เหนือติดกับอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี และราชอาณาจักรกัมพูชา ทิศใต้ ติดกับอ่าวไทยและน่านน้ำทะเลราชอาณาจักรกัมพชู า ทิศตะวันออกตดิ กับประเทศกัมพูชา มที ิวเขาบรรทดั เป็น แนวกน้ั เขตและทศิ ตะวนั ตกตดิ กับอำเภอขลุง จังหวัดจันทบรุ ี 2.1.3 ลักษณะภมู ิประเทศ 1) สภาพพื้นที่ แบ่งออกเป็น 4 เขต ดังนี้ (1) ที่ราบลุ่มบริเวณลุ่มน้ำ ได้แก่ บริเวณที่ราบ ตอนกลางและตะวนั ออก ประกอบดว้ ย ลำนำ้ สำคัญหลายสาย ซง่ึ เกิดจากภเู ขาสงู ทางตอนเหนือและตะวันออก เช่น คลองสะตอ คลองแอ่ง และคลองห้วยแร้ง ท่ีราบบริเวณน้ี ไดแ้ ก่ ตำบลสะตอ ตำบลวงั ตะเคียน และตำบล เขาสมิง เขตท้องท่ีอำเภอเขาสมิง และตำบลวังกระแจะ ตำบลเนินทราย ตำบลท่ากุ่ม ตำบลท่าพริก ตำบล ตะกาง ตำบลชาราก และตำบลแหลมกลัด เขตท้องท่ีอำเภอเมืองตราด (เหมาะสำหรับการทำนาข้าว และ ปลกู ผลไม้) (2) ท่ีราบบรเิ วณภูเขา มีพื้นที่กว้างขวางมากเนื่องจากมีภูเขากระจายอยู่ท่ัวไปในแทบทุกส่วนของ จงั หวัด โดยเฉพาะทางตอนเหนือ ได้แก่ ตำบลหนองบอน ตำบลช้างทูน ตำบลบอ่ พลอย และตำบลด่านชุมพล เขตท้องท่ีอำเภอบ่อไร่ เป็นบรเิ วณที่มภี ูเขาสูงเป็นส่วนมากพ้ืนที่แถบน้ีจึงมีความชุ่มชื้นมากเปน็ พิเศษ มีปา่ ไม้สี เขียวปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น ด้านทิศตะวันตกตำบลประณีต เขตท้องท่ีอำเภอเขาสมิง เป็นบริเวณแคบ ๆ ติดต่อกับอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี มีภูเขาเตี้ย ๆ สลับกันอยู่ทั่วไปบริเวณนี้โดยปกติอาจนับรวมเข้าเป็นที่ ราบลุ่มน้ำได้แห่งหนึ่ง แต่เน่ืองจากมีภูเขาสลับกันอยู่จึงนับรวมเข้าไว้เป็นโครงสร้างลักษณะนี้ ในบริเวณ ตอนกลางของตอนใต้ มีภูเขาสลับกันอยู่อย่างหนาแน่น แต่ป่าไม้บริเวณน้ีมีเหลืออยู่ไม่มากนัก เนื่องจาก ประชาชนเข้าไปบุกรุกเพื่อใช้เป็นท่ีทำกิน ความช่มุ ชื้นจึงลดลง เนื่องจากป่าซ่ึงเปน็ ต้นน้ำถูกทำลาย ตอนกลาง ของตำบลทา่ โสม เขตทอ้ งท่อี ำเภอเขาสมิง ตำบลวงั กระแจะ และตำบลหนองโสน เขตท้องทีอ่ ำเภอเมือง ตำบล น้ำเช่ียว ตำบลแหลมงอบ และตำบลบางปิด เขตท้องที่อำเภอแหลมงอบซ่ึงบริเวณ ดังกล่าวเป็นพื้นท่ีทำ การเกษตรเป็นส่วนใหญ่ เชน่ สวนผลไม้ สวนยางพารา และปลูกสับปะรด (3) ทสี่ ูงบรเิ วณภูเขา ภูเขาในจังหวัด ตราดมีบริเวณกว้างขวางมากทางตอนเหนือแผ่ลงมาทางตอนใต้ตามพรมแดนจนถึงสุดเขตทางตอนใต้ของ

8 จงั หวัด ซ่ึงเป็นแนวภูเขาสลับซับซ้อนส่วนด้านตะวนั ตกมีภูเขาท่ีไม่สูงนักรวมกันอยู่ในบริเวณแคบ ๆ ซึ่งได้แก่ บรเิ วณตอนกลางของอำเภอแหลมงอบตดิ กบั อำเภอเขาสมิง อีกบรเิ วณหน่ึงท่ีมภี ูเขาครอบคลมุ เกือบตลอดพ้นื ที่ ได้แก่ เกาะต่าง ๆ เชน่ เกาะกูด เกาะช้าง และเกาะไม้ซี้ ฯลฯ เกาะเหล่านี้คงมีที่ราบเฉพาะชายฝั่งทะเลเทา่ นั้น (4) บรเิ วณท่ีราบตำ่ ฝัง่ ทะเล ตามบริเวณฝั่งเกือบตลอดแนวเป็นบรเิ วณทถี่ ูกน้ำจากแมน่ ้ำ ลำคลองตา่ ง ๆ พัดเอา โคลนมาทับถมเป็นจำนวนมากทำให้เกิดที่ราบต่ำข้ึน บริเวณดังกล่าวได้แก่ บริเวณฝ่ังแม่น้ำเวฬุ ตำบลแสนตุ้ง ตำบลท่าโสม และบางส่วนของตำบลบางปดิ ซงึ่ มคี ลองเลก็ ๆ หลายสายไหลลงส่ทู ะเลทีร่ าบต่ำ ริมฝั่งทะเล จึงมี บรเิ วณเป็นแนวยาวเกือบตลอดชายฝ่ัง ต้ังแต่ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ ลงมาจนถึงสุดชายแดนท่ีตำบล หาดเลก็ เขตทอ้ งท่อี ำเภอคลองใหญ่บริเวณนจ้ี ะมีน้ำทะเลท่วมถึงอยู่เสมอจึงเป็นบรเิ วณทม่ี ีปา่ ไม้ชายเลนเกิดขึ้น อย่างหนาแน่นตลอดแนวผลิตผลส่วนใหญ่ที่ได้จากบริเวณน้ี ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ด้านการประมง เช่น หอยแครง หอยนางรม และกุ้ง รวมทั้งการทำนาขา้ วในบางพื้นที่ 2) ลักษณะดิน ทรัพยากรดินของจังหวัดตราดเป็นที่ลุ่มมีศักยภาพในการทำนาประมาณ 300,982 ไร่ หรือร้อยละ 17.08 ของพ้ืนที่จังหวัด เป็นที่ดอนมีศักยภาพในการปลูกพืชไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นหรือ ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ประมาณ 920,273 ไร่ หรือร้อยละ 52.23 ของพ้ืนท่ีจังหวัด และเป็นพื้นที่อ่ืน ๆ เช่น พ้ืนท่ี ป่าไม้ แหล่งน้ำ และชุมชนอีกประมาณ 540,620 ไร่ หรือร้อยละ 30.69 ของพ้ืนที่จังหวัด และจากการศึกษา ข้อมูลแผนที่กลุ่มชดุ ดนิ พบว่า ทรัพยากรดนิ ของจงั หวัด ประกอบดว้ ย กลุ่มชุดดินท้ังหมด 26 กล่มุ คือ กลุ่มชุด ดินท่ี 2 ,6 ,7 ,9 ,11 ,12, 13 , 14 ,17 ,18 ,22 ,23 ,25 ,26 ,27 ,34 ,39 ,42 ,43 ,45 ,50 ,51 ,53 ,59 ,60 และ 62 โดยแต่ละกลุ่มชุดดินนั้นมีลกั ษณะเด่นและคุณสมบัตทิ ่แี ตกต่างกนั ซึง่ สามารถแบง่ ตามสภาพพ้ืนท่ีที่พบ ได้เป็น 4 กลุ่ม ดังน้ี (1) กลุ่มชุดดินในพื้นท่ีลุ่มหรือพ้ืนท่ีน้ำขัง ได้แก่ กลุ่มชุดดินท่ี 2, 6, 7, 9, 11, 12, 13, 14, 17, 18, 22, 23, 25 และ 59 (2) กลุ่มชดุ ดินในพนื้ ที่ดอนที่อยใู่ นเขตดนิ แหง้ ได้แก่ กลุ่มชุดดนิ ที่ 60 (3) กลุ่มชุด ดินในพื้นที่ดอนที่อยู่ในเขตดินช้ืน ได้แก่ กลุ่มชุดดินที่ 26, 27, 34, 39, 42, 43, 45, 50, 51 และ 53 (4) กลุ่ม ชุดดินทีม่ ีความลาดชันสูง ได้แก่ กลุ่มชุดดนิ ที่ 62 กลุม่ ชุดดินทีพ่ บมากท่ีสุด ไดแ้ ก่ กลุ่มชุดดินที่ 45 เป็นกลุ่มดิน ต้ืนถึงลูกรัง เศษหินหรือก้อนหิน ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดการระบายน้ำของดินดีถึงดีปานกลางความอุดม สมบูรณ์ดินต่ำ ได้แก่ ชดุ ดินชุมพร (Cp) ชุดดินหาดใหญ่ (Hy) ชดุ ดินคลองชาก (Kc) ชุดดินเขาขาด (Kkt) ชุดดิน หนองคล้า (Nok) ชุดดนิ ท่าฉาง (Tac) และชุดดินยะลา (Ya) สำหรบั กลุ่มชุดดินน้ีมีพ้ืนท่ีรวมประมาณ 478,475 ไร่ พบมากบริเวณอำเภอเมือง อำเภอบ่อไร่ อำเภอเขาสมิง และอำเภอคลองใหญ่ กลุ่มชุดดินที่ 62 เป็นกลุ่ม ชุดดินท่ีมีความลาดชันสูงท่ีมีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ พื้นท่ีลาดชันเชิงซ้อน (Sc : slope complex) ไม่ควรนำมาใชป้ ระโยชน์ทางการเกษตร สำหรับกลุม่ ชุดดินนี้มีพื้นท่ปี ระมาณ 427,618 ไร่ พบมาก บริเวณอำเภอบ่อไร่ อำเภอเกาะช้าง อำเภอเมือง และอำเภอเกาะกูด และกลุ่มชุดดินที่ 34 เป็นกลุ่มดินร่วน ละเอียดลึกถึงลึกมากที่เกิดจากตะกอนลำน้ำ หรือวัตถุต้นกำเนิดดิน เนื้อหยาบปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดการ ระบายน้ำดีถึงดีปานกลาง ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ ได้แก่ ชุดดินฉลอง (Chl) ชุดดินฝั่งแดง (Fd) ชุดดิน ควนกาหลง (Kkl) ชุดดินคลองท่อม (Km) ชุดดินคลองนกกระทุง (Knk ) ชุดดินละหาน (Lh) ชุดดินนาท่าม (Ntm) และชุดดินท่าแซะ (Te) สำหรับกลุ่มชุดดินน้ีมีพ้ืนท่ีรวมประมาณ 148,767 ไร่ พบมากบริเวณอำเภอเมือง อำเภอเกาะช้าง อำเภอเขาสมิง และอำเภอเกาะกูด (แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัดตราด (พ.ศ. 2561 - 2565) ฉบับทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ.2562)

9 2.1.4 ลกั ษณะภมู อิ ากาศและปรมิ าณนำ้ ฝน 1) ฤดูกาล ลักษณะภมู ิอากาศของจังหวดั ตราด มีสภาพที่แตกตา่ งไปจากจังหวัดอื่น ๆ ในภาค ตะวันออก เพราะนอกจากจะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมที่พัดผ่านประจำแล้วยังได้รบั อิทธพิ ลจากลมทะเลอีก ด้วย จึงทำให้ภูมิอากาศเป็นแบบร้อนช้ืน กล่าวคืออุณหภูมิท่ัวไปจะไม่แตกต่างกันมากไม่ร้อนหรือหนาว จนเกินไปและมีปริมาณฝนมาก ท้งั น้เี พราะจังหวดั ตราดมีอาณาเขตติดกบั ทะเลโดยตลอด ลมทะเลสามารถชว่ ย บรรเทาความรอ้ นที่แผ่มาพร้อมกับลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉียงใต้ สว่ นในฤดูหนาวก็มที ิวเขาบรรทัด ซึ่งขนานกบั แนว ชายฝั่งชว่ ยบรรเทา กำลังแรงของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออันมีผลทำให้ความหนาวเย็นลดลงและยังเป็น กำแพงต้านพายโุ ซนร้อน ซ่ึงเคลือ่ นตัวจากประเทศสาธารณะรัฐเวยี ดนามเข้าสู่ประเทศไทยทางทิศตะวนั ออกทำ ให้พายุออ่ นกำลงั ลงไม่ก่อใหเ้ กิดความเสียหาย ในทางตรงกันข้ามกลับทำใหม้ ีฝนตกในฤดูร้อนบ่อยครั้ง แมช้ ่วง มรสมุ ตะวันตกเฉียงใต้พัดผา่ นแนวทิวเขาบรรทดั จะเป็นสิ่งกีดขวางทางลมได้ดี มีผลทำให้ฝนตกชุกและมีฤดูฝน ที่ค่อนข้างยาว แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูหนาว เริ่มต้ังแต่เดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนพฤศจิกายน ระยะเวลารวม 6 เดือน โดยในปี 2561 2) ปริมาณน้ำฝน ปี 2561 มปี ริมาณน้ำฝนรวม 4,885.00 มิลลเิ มตร จำนวนวนั ที่มีฝนตกตลอด ปี จำนวน219 วัน ในเดือนกรกฎาคม มีฝนตกมากที่สดุ ปรมิ าณน้ำฝนที่วัดได้ 1,222.80 มิลลลิ ิตร จำนวนวันที่ ฝนตก 30 วัน รองลงมาเดอื นสงิ หาคม ปริมาณน้ำฝนทว่ี ัดได้ 840.40 มิลลลิ ติ ร จำนวนวันทฝี่ นตก 30 วัน ตารางท่ี 1 ปริมาณน้ำฝน ปี 2552 – 2561 ปี ปรมิ าณน้ำฝน (มม.) จำนวนวันทีฝ่ นตก (วนั /ป)ี 2552 6,114.80 207 2552 3,686.30 188 2554 5,496.30 209 2555 5,497.90 224 2556 6,111.30 184 2557 5,361.00 191 2558 4,551.10 184 2559 5,733.80 196 2560 4,672.00 212 2561 4,885.00 219 ทม่ี า: แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัดตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบบั ทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2561 3) อุณหภูมิและความช้ืนสัมพัทธ์ ในปี 2561 มีอุณหภูมิเฉล่ีย 27.54 องศาเซลเซียล ส่วน ความชืน้ สมั พัทธ์เฉลีย่ ทง้ั ปี 83.03% ซงึ่ ใกลเ้ คียงกับปี 2560

10 ตารางท่ี 2 อณุ หภมู ิและความช้นื สัมพทั ธ์สงู สุด - ตำ่ สดุ ปี 2552 – 2561 ปี อณุ หภมู ิ (°C) ความชน้ื สมั พัทธ์ (%) สูงสุด ต่ำสดุ เฉลีย่ ทงั้ ปี สงู สุด ต่ำสุด เฉลย่ี ท้ังปี 2552 35.00 18.10 27.36 99.00 33.00 81.58 2553 35.20 20.00 27.94 99.00 35.00 81.32 2554 36.20 17.20 27.36 99.00 36.00 80.67 2555 34.50 21.00 27.64 99.00 40.00 83.60 2556 35.30 20.00 27.66 99.00 33.00 81.49 2557 35.60 15.70 24.58 99.00 36.00 81.64 2558 35.70 18.50 27.83 99.00 32.00 81.25 2559 35.90 15.30 28.00 99.00 37.00 82.21 2560 35.50 19.10 27.61 99.00 33.00 81.61 2561 35.20 17.80 27.54 99.00 38.00 83.03 ทมี่ า : แผนพฒั นาการเกษตรและสหกรณข์ องจงั หวัดตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบบั ทบทวนปีงบประมาณ พ.ศ.2562 2.1.5 ขอ้ มลู ด้านการปกครองและประชากร 1) การแบ่งเขตการปกครอง พื้นทอ่ี ำเภอเมอื งตราด มีพืน้ ที่มากท่ีสุด 999.29 ตารางกโิ ลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 35.38 ของพ้ืนท่ีในจังหวัดตราด และอำเภอคลองใหญ่ มีพ้ืนท่ีน้อยที่สุด 50.18 ตาราง กโิ ลเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 1.78 ของพนื้ ท่ใี นจังหวัดตราด ตารางที่ 3 เขตการปกครองของจงั หวดั ตราด พน้ื ท่ี ทีว่ ่าการอำเภอ จำนวน ตร.กม. อำเภอ ร้อยละ หา่ งจากศาลา เทศบาล กลางจงั หวดั ตำบล หมู่บา้ น นคร/เมือง/ อบต. ชมุ ชน (กม.) ตำบล 1.เมืองตราด 999.29 35.38 1 13 98 5 9 7 2.เขาสมิง 668.73 23.68 16 8 66 2 8 - 3.แหลมงอบ 153.30 5.43 17 4 27 2 3 - 4.คลองใหญ่ 50.20 1.78 74 3 20 2 2 - 5.บ่อไร่ 680.00 24.07 59 5 33 2 4 - 6.เกาะกดู 118.00 4.18 82 28 0 2- 7.เกาะช้าง 154.80 5.48 27 29 1 1- รวม 2824.32 100 - 37 261 14 29 7 ทมี่ า : แผนพฒั นาการเกษตรและสหกรณข์ องจงั หวัดตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบับทบทวนปีงบประมาณ พ.ศ.2562

11 2) ประชากร ในอำเภอเขาสมิง มีจำนวนครัวเรือนมากท่ีสุด 19,779 ครัวเรือน หรือคิดเป็น ร้อยละ 18.97 ของจำนวนครัวเรือนท้ังจังหวัดตราด และอำเภอเกาะกูด มีจำนวนครัวเรือนน้อยท่ีสุด 1,897 ครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.82 ของจำนวนครัวเรือนท้ังจังหวัดตราด ส่วนอำเภอเมืองตราด มีจำน วน ประชากรรวมมากท่ีสุด 93,724 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 40.79 ของจำนวนประชากรท้ังจังหวัดตราด และ อำเภอเกาะกดู มีจำนวนประชากรรวมน้อยทสี่ ุด 2,507 คน หรือคิดเป็นรอ้ ยละ 1.09 ของจำนวนประชากรท้ัง จังหวดั ตราด ตารางที่ 4 จำนวนประชากรของจังหวดั ตราด ปี 2561 อำเภอ ชาย (คน) หญงิ (คน) รวมประชากร (คน) จำนวนครวั เรือน 1.เมืองตราด 45,683 48,041 93,724 43,029 2.เขาสมิง 22,493 22,571 45,064 19,779 3.แหลมงอบ 94,55 9,777 19,232 7,603 4.คลองใหญ่ 12,737 12,680 25,417 9,506 5.บอ่ ไร่ 18,225 17,261 35,486 16,775 6.เกาะกูด 1,318 1,189 2,507 1,897 7.เกาะช้าง 4,239 4,080 8,319 5,652 รวม 114,150 115,599 229,749 104,241 ทีม่ า : แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจงั หวดั ตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบับทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ.2562 3) ครัวเรือนเกษตรกรและแรงงานภาคเกษตร ในอำเภอเมือง มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกร มากท่ีสุด 7,041 ครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 36.94 ของจำนวนครัวเรือนเกษตรกรทั้งจังหวัดตราด และ อำเภอเกาะกูด มีจำนวนครัวเรือนเกษตรกรน้อยที่สุด 298 ครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 1.56 ของจำนวน ครัวเรือนเกษตรกรท้ังจังหวัดตราด ในอำเภอเขาสมิง มีร้อยละจำนวนครวั เรอื นเกษตรกรเมื่อเทียบกับจำนวน ครัวเรือนมากท่ีสุด คิดเป็นร้อยละ 28.43 และอำเภอคลองใหญ่ มีร้อยละจำนวนครัวเรือนเกษตรกรเมื่อเทียบ กบั จำนวนครวั เรอื นน้อยทส่ี ดุ คิดเปน็ ร้อยละ 5.62

12 ตารางท่ี 5 จำนวนครัวเรือนเกษตรกรและจำนวนแรงงานภาคเกษตรของจังหวดั ตราด ปี พ.ศ. 2561 อำเภอ จำนวนครัวเรอื น1 จำนวนครวั เรือน รอ้ ยละจำนวน จำนวนแรงงาน เกษตรกร2 ครวั เรือนเกษตร/ ภาคเกษตร (ราย) ครวั เรอื นท้ังหมด 1.เมืองตราด 43,029 7,041 16.36 - 2.เขาสมงิ 19,779 5,624 28.43 - 3.แหลมงอบ 7,603 2,111 27.77 - 4.คลองใหญ่ 9,506 534 5.62 - 5.บอ่ ไร่ 16,775 2,755 16.42 - 6.เกาะกูด 18,97 298 15.71 - 7.เกาะช้าง 5,652 699 12.37 - รวม 104,241 19,062 18.29 - ท่มี า : แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณข์ องจงั หวัดตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบบั ทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ.2562 2.1.6 ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมของจังหวัดตราด 1) เศรษฐกิจจงั หวดั ตราด ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดตราด (GPP) 16 สาขา ปี 2558 ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ตราด ณ ราคาประจำปี มีมูลค่า 39,597 ล้านบาท เพิ่มข้ึนจาก 38,357 ล้านบาท ในปี 2557 เท่ากับ 1,240 ล้านบาท ซ่ึงสามารถแยกประเภท ได้ดังนี้ 1) ภาคเกษตร มีมูลค่า 18,971 ล้านบาท (สัดส่วนรอ้ ยละ 47.90) สาขาการผลิตที่สำคัญ ได้แก่ สาขาเกษตรกรรม การล่าสัตว์และการป่าไม้ มีมูลค่า 13,826 ล้านบาท (สัดส่วน ร้อยละ 34.90) สาขาประมง มีมูลค่า 5,145 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 13.00) 2) ภาคนอกเกษตร ณ ราคา ประจำปี มีมูลค่า 20,626 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 52.10) สาขาการผลิตท่ีสำคัญ ได้แก่ สาขาขายส่ง ขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน มีมูลค่า 5,319 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 13.40) สาขาขนส่ง สถานที่เก็บสินค้าและการคมนาคม มีมูลค่า 3,443 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 8.70) และสาขาโรงแรมและภัตตาคาร มีมูลค่า 2,121 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 5.40 ) สำหรับอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดตราด ณ ราคาคงท่ี ในปี 2558 เพ่ิมข้ึนร้อยละ 2.0 จากที่ขยายตัวร้อยละ 3.0 ในปี พ.ศ. 2557 เนื่องมาจากการผลิตท้ังภาคเกษตรและนอกภาค เกษตรมีการ ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะสาขาขายส่ง ขายปลีกฯ และสาขาโรงแรมและภัตตาคาร ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ต่อหัว (GPP Per Capita) รายได้เฉลี่ยต่อหัวในปี 2558 เท่ากับ 148,446 บาทต่อคนต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 145,932 บาท ในปี พ.ศ. 2557 คดิ เป็นอตั ราทีเ่ พ่มิ ขนึ้ รอ้ ยละ 1.69 (สำนักงานคลังจงั หวัดตราด, 2559)

13 2.1.7 ข้อมูลด้านอตุ สาหกรรม อุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2560 มีสถานประกอบการท้ังหมด 479 แห่ง จำนวนเงินลงทุน 4,944,699,100 บาท จำนวนคนงาน 5,561 คน ส่วนใหญ่เป็นอตุ สาหกรรม รอ้ ยละ 22.96 อุตสาหกรรมขนส่ง ร้อยละ 17.33 อุตสาหกรรมไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ร้อยละ 8.98 อุตสาหกรรมเคร่ืองจักรกล ร้อยละ 7.52 การค้าชายแดน จังหวัดตราดมีแนวชายแดนตามธรรมชาติติดทิวเขาบรรทัดตลอดแนวยาว 165 กิโลเมตร มีอาณาเขตติดกับราชอาณาจักรกัมพูชาถึง 3 จังหวัด ได้แก่ อำเภอบ่อไร่ ติดกบั บ้านคลองรถถัง (โฮว์รถเกาะ) อำเภอสำรูด จังหวัดพระตะบอง อำเภอเมืองตราด ติดกับบ้านทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิสัต อำเภอ คลองใหญ่ ติดกับบ้านจามเยี่ยม อำเภอมลฑลสีมา จังหวัดเกาะกง จึงทำให้เกิดตลาดการค้าชายแดนขึ้น เป็น เสมือนประตูเชื่อมโยงการค้า การทอ่ งเที่ยว การลงทุนและการสร้างความสัมพันธอ์ ันดีระหว่างประเทศ พร้อม ท้ังนำไปสู่การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคอื่น การค้าชายแดนมี ช่องทางการค้า 3 ช่องทาง ดังน้ี 1) จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก พ้ืนท่ีตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ ตรงข้ามกับบ้านจามเย่ียม อำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เปิดทำการทุกวัน ต้ังแต่ เวลา 06.00 - 22.00 น. และการขนส่งสนิ คา้ ลงเรือ เพ่ือขนส่งไปยังราชอาณาจกั รกมั พูชา โดยทา่ เทยี บเรอื ของ เอกชน 5 แหง่ คือ ท่าเทียบ เรอื ชลาลยั ทา่ เทยี บเรือกลั ปังหา ทา่ เทียบเรือ ป.เกษมศิริ ท่าเทียบเรือ ส.กฤตรวัณ และท่าเทียบเรือทรัพย์ชโลธร 2) จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง พื้นท่ีอำเภอบ่อไร่ (เนิน 400) วันเวลาเปิด - ปิดทุกวัน ต้ังแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. 3) ช่องทางการค้าทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น พ้ืนท่ีตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด วันเวลาเปิด - ปิดคือ ทุกวันเสาร์ ตั้งแตเ่ วลา 10.00 - 16.00 น. เป็นการค้าของชาวบ้านทมอดา ตำบลทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิสัต โดยลงทะเบียนเข้า - ออกท่ีฐานกองร้อย ทพ.นย.ท่ี 535 (บ้านท่าเส้น) (แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัดตราด (พ.ศ. 2561 - 2565) ฉบับทบทวน ปีงบประมาณ พ.ศ.2562) 2.1.8 ข้อมูลดา้ นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมในจังหวัดตราด แหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ คลอง และบึง จังหวัดตราดมีปริมาณน้ำฝนสูง แต่มักมีปัญหา เร่ืองน้ำเค็ม แหล่งน้ำท่สี ำคัญของจังหวัดคือ แหล่งน้ำจากน้ำฝน แหล่งน้ำผิวดิน และแหล่งน้ำจากชลประทาน แหลง่ น้ำธรรมชาติจังหวดั ตราด มแี มน่ ้ำท่ีสำคัญ 2 สาย ไดแ้ ก่ 1) แมน่ ้ำตราด ซง่ึ เปน็ แมน่ ้ำท่ีใหญ่ท่สี ดุ ตน้ น้ำเกิด จากเทือกเขาบรรทัดไหลผา่ นหลายท้องที่ตง้ั แต่อำเภอคลองใหญ่ อำเภอบ่อไร่ อำเภอเขาสมิง และไหลลงทะเล ท่ีอำเภอเมืองตราด 2) แม่น้ำเวฬุ เป็นแม่น้ำท่ีแบ่งเขตแดนจังหวัดตราดและจังหวัดจันทบุรี ซ่ึงไหลผ่านเขต เกษตรกรรมของท้งั สองจังหวดั แหล่งน้ำชลประทานโครงการชลประทานจงั หวัดตราดได้ให้ความสำคัญในการ กักเก็บน้ำไว้ใช้เพ่ือการเกษตร โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งท่ีไม้ผลเจริญเติบโตใกล้เก็บเกี่ยว ดำเนินการป้องกัน น้ำเค็มหนุนส่งเสริมให้ใช้แหล่งน้ำสำหรับเพาะเล้ียงสัตว์น้ำจืด นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนอีกด้วย ประกอบด้วย โครงการอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 15 แห่ง มีพ้ืนที่ชลประทาน 194,264 ไร่ ความจุ 185.59 ล้าน ลบ.ม. โครงการอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 90 แห่ง ความจุ 17.189 ลา้ น ลบ.ม. รวมพนื้ ที่ได้รบั ประโยชน์ 60,445 ไร่ ลุ่มน้ำ – ลำน้ำพ้นื ท่ีจงั หวัดตราด ประมาณ 2,8324.32 ตารางกิโลเมตร ตัง้ อยูใ่ นบริเวณพืน้ ที่ลมุ่ น้ำชายฝั่งทะเล

14 ตะวันออกร้อยละ 99.93 ส่วนที่เหลืออยู่ในลุ่มน้ำโตนเลสาป ลำน้ำและลุ่มน้ำท่ีสำคัญ ได้แก่ แม่น้ำเวฬุตราด ตะวันตก แมน่ ้ำตราด ตราดตะวันออกและคลองโป่งน้ำร้อน ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ (สำนักงานทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมจงั หวดั ตราด, 31 ธันวาคม 2561) ทรัพยากรป่าไม้จังหวัดตราด มีพ้ืนท่ีท้ังหมด 1,791,577.83 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าไม้ 560,121.87 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 31.26 ของพื้นท่ีทั้งจังหวัดตราด (ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมไทยโชต, กรมป่าไม้ 2560) สภาพป่า บกเป็นป่าดงดิบ และป่าเบญจพรรณ พันธ์ุไม้ท่ีสำคัญ ได้แก่ ยาง ชุมแพรก กะบาก พนอง และป่าชายเลน พันธุ์ไม้ท่ีสำคัญ ได้แก่ โกงกาง แสม ประสัก ลำพู ลำแพน โปรง และตะบูน พื้นท่ีป่าไม้ของจังหวัด มีดังนี้ 1. พ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติมี 2 แห่ง รวมเน้ือที่ 529,950 ไร่ ได้แก่ 1.1 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 99 ตอนที่ 197 ลงวันท่ี 31 ธันวาคม 2525 ครอบคลุมพ้ืนที่ 47 เกาะ มีเนื้อท่ีทั้งหมด 406,250 ไร่ ซ่ึงเป็นพ้ืนที่ป่าบก ประมาณ 91,562 ไร่ และเป็นพื้นท่ีทะเล ประมาณ 314,688 ไร่ 1.2 อุทยาน แห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว ครอบคลุมพื้นท่ี 123,700 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าบกท้ังหมด (ประกาศเมื่อวันท่ี 25 ธันวาคม 2552) 2. ป่าสงวนแหง่ ชาติ จำนวน 14 ปา่ ปา่ คมุ้ ครอง จำนวน 3 ป่า รวมเน้ือท่ี 459,667.40 ไร่ 2.1.9 การใช้ทีด่ ินและเนื้อท่ีชลประทานจังหวัดตราด 1) การใช้ทด่ี ินเพ่ือการเกษตร ในอำเภอเขาสมิง มีพ้ืนที่ทำการเกษตรมากท่ีสุด จำนวน 206,060.98 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 34.68 ของพื้นท่ีทำการเกษตรของจังหวัดตราด ส่วนอำเภอเกาะกูด มีพ้ืนท่ีทำการเกษตรน้อยที่สุด จำนวน 12,212.00 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.06 ของพื้นที่ทำการเกษตรของจังหวัดตราด ส่วนอำเภอแหลมงอบ เมื่อเทียบสดั ส่วนพ้ืนทีท่ ้ังหมดกับพ้ืนท่ีทำการเกษตร มีสัดส่วนพ้ืนทีท่ ำการเกษตรมากท่ีสุดร้อยละ 54.61 และ อำเภอเกาะช้าง เม่ือเทียบสัดส่วนพื้นที่ทั้งหมดกับพ้ืนที่ทำการเกษตร มีสัดส่วนพ้ืนที่ทำการเกษตรน้อยท่ีสุด รอ้ ยละ 11.77

15 ตารางท่ี 6 การใชท้ ดี่ ินเพ่ือการเกษตรแยกตามรายอำเภอ จงั หวัดตราด อำเภอ พ้ืนท่ี พ้นื ทท่ี ำการเกษตร รวมพน้ื ที่ ทั้งหมด ทำการเกษตร (ไร)่ พืชไร/่ พืชผัก/ไม้ เกษตรอน่ื ๆ (เลย้ี ง ทีน่ า ไมผ้ ล/ไมย้ ืนต้น ดอก สตั ว์ ประมง เพาะเลยี้ ง) ร้อย จำนวน ร้อย ร้อย จำนวน ร้อย จำนวน รอ้ ยละ จำนวน ละ (ไร่) ละ จำนวน ละ (ไร)่ ละ (ไร)่ พนื้ ท่ี (ไร)่ พ้ืนที่ พนื้ ท่ี (ไร่) พ้ืนท่ี พ้นื ท่ี เกษตร เกษตร เกษตร เกษตร เกษตร เมือง ตราด 628,556.25 14,251 2.28 165,089 26.43 11,387 1.82 5,340.24 0.86 196,067.24 31.39 เขา สมงิ 417,956.25 217 0.05 195,900 46.87 5,703 1.36 4,240.98 1.01 206,060.98 49.30 แหลม งอบ 95,812.50 365 0.38 45,277 47.26 4,017 4.19 2,662.00 2.78 52,321.00 54.61 คลอง ใหญ่ 31,375 32 0.10 5,098 16.25 59 0.19 714.23 2.28 5,903.23 18.82 บ่อไร่ 425,000 483 0.11 103,759 24.41 3,718 0.87 2,300.24 0.54 110,260.24 25.94 เกาะ กูด 73,750 - - 12,162 16.49 - - 50.00 0.07 12,212.00 16.56 เกาะ ช้าง 96,750 - - 11,066 11.44 - - 323.49 0.33 12,389.49 11.77 รวม 1,765,200 15,348 0.87 538,351 30.50 24,884 1.41 15,631.18 0.89 594,214.18 33.66 ทมี่ า : แผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจงั หวดั ตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบบั ทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ.2562 2) แหลง่ น้ำเพ่อื การเกษตร พื้นที่ชลประทานและระบบชลประทานจังหวัดตราด ประกอบด้วย โครงการชลประทาน ขนาดกลาง จำนวน 15 โครงการ โครงการชลประทานขนาดเล็ก จำนวน 90 โครงการ และแหล่งน้ำอื่น ๆ ขอ้ มูลสระเก็บน้ำในไรน่ านอกเขตชลประทาน ขนาด 1,260 ลบ.ม. จำนวน 1,082 บอ่ 2.1) โครงการชลประทานขนาดกลาง มีจำนวน 15 โครงการ ความจุท่ีระดับน้ำสูงสุด 230.695 ล้าน ลบ.ม. ความจุท่ีระดับนำ้ เก็บกกั 185.59 ล้าน ลบ.ม. รวมมีพ้ืนที่ชลประทาน 194,264 ไร่

16 ตารางท่ี 7 โครงชลประทานการขนาดกลาง ท่ี ช่อื อา่ ง/ประตูระบายน้ำ ความจุท่ีระดบั น้ำ ความจุทร่ี ะดบั นำ้ เก็บ พ้ืนที่ชลประทาน สงู สดุ (ล้าน ลบ.ม.) กกั (ลา้ น ลบ.ม.) (ไร)่ 1 อา่ งเกบ็ นำ้ เขาระกำ 57.165 47.69 7,849 ต.วงั กระแจะ อ.เมืองตราด 2 อ่างเกบ็ น้ำด่านชมุ พล 7.520 5.60 3,337 ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ 3 อา่ งเกบ็ น้ำบา้ นมะนาว 2.410 2.35 2,714 ต.บอ่ พลอย อ.บอ่ ไร่ 4 อา่ งเก็บน้ำหว้ ยแรง้ 49.919 36.80 40,903 ต.ดา่ นชุมพล อ.บอ่ ไร่ 5 อ่างเก็บนำ้ วงั ปลาหมอ 8.981 8.15 6,290 ต.เขาสมิง อ.เขาสมงิ 6 อ่างเก็บนำ้ สะพานหนิ 21.700 20.00 3,000 ต.แหลมกลัด อ.เมืองตราด 7 อา่ งเก็บนำ้ คลองโสน 83.000 65.00 60,000 ต.นนทรยี ์ อ.บอ่ ไร่ ปตร.คลองไม้ชี้ (เขาระกำขยาย) 8 ต.หนองเสม็ด อ.เมืองตราด - - 19,043 (คลองบางพระ ระดับตลง่ิ 1.00 ม.) ปตร.เขาสมิง ต.หนองเสมด็ 9 ต.ทุ่งนนทรี อ.เขาสมิง - - 17,114 (แม่นำ้ เขาสมงิ ระดบั ตลิง่ 5.50 ม.) 10 ปตร.คลองรา่ งหวาย ต.เขาสมงิ อ.เขาสมงิ - - 5,729 (คลองร่างหวาย ระดบั ตล่งิ 6.00 ม.) 11 ปตร.เวฬุ ต.ประณตี อ.เขาสมงิ - - 17,500 12 ปตร.คลองทา่ เล่อื น - - 3,144 ต.ชำราก,ตะกาง อ.เมือง 13 คนั กน้ั นำ้ เค็มวงั กระแจะ - - 2,418 ต.วังกระแจะ อ.เมืองตราด 14 คนั กั้นน้ำเคม็ คลองนาเกลือ - - 2,493 ต.หนองคนั ทรง อ.เมืองตราด 15 คนั กัน้ น้ำเค็มคลองใหญ่ - - 2,730 ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ รวม 15 โครงการ 230.695 185.59 194,264 ทม่ี า : แผนพฒั นาการเกษตรและสหกรณ์ของจงั หวดั ตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบับทบทวนปีงบประมาณ พ.ศ.2562

17 2.2) โครงการชลประทานขนาดเล็ก มีจำนวน 90 โครงการ แบ่งเป็น ในอำเภอเมืองตราด มีโครงการมากท่ีสุด จำนวน 34 โครงการ รวมพ้ืนท่ีได้รับประโยชน์ 26,190 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 43.33 อำเภอแหลมงอบ โครงการน้อยที่สุดมีเพียง 1 โครงการ รวมพน้ื ท่ีได้รบั ประโยชน์ 200 ไร่ หรือคดิ เป็นร้อยละ 0.33 สว่ นพืน้ ทอ่ี ำเภอเกาะกูด ถงึ แมจ้ ะมโี ครงการ จำนวน 2 โครงการ แต่ไมม่ พี ้นื ทไี่ ด้รบั ประโยชน์เลย ตารางท่ี 8 โครงการชลประทานขนาดเลก็ โครงการ รวมปริมาณ รวมพน้ื ท่ไี ดร้ บั ประโยชน์ (ไร)่ ท่ี อำเภอ อา่ ง ทรบ. ฝาย ระบบ สถานี รวม นำ้ เก็บน้ำ สง่ นำ้ สบู น้ำ (ลา้ น ลบ.ม.) 1 เมอื งตราด 16 8 12 1 5 34 7.552 26,190 2 เขาสมิง 10 2 12 - 6 23 3.266 18,905 3 แหลมงอบ 1 - - - - 1 0.475 200 4 คลองใหญ่ 2 - 1 - - 4 0.866 1,350 5 บ่อไร่ 8 3 17 3 - 27 5.02 13,100 6 เกาะกดู 1 - 1 - - 2 0.01 - 7 เกาะชา้ ง - - 2 - -2 - 700 รวมท้ังจงั หวัด 38 13 45 4 11 90 17.189 60,445 ที่มา : แผนพฒั นาการเกษตรและสหกรณข์ องจงั หวัดตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบบั ทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ.2562 3) แหล่งน้ำอืน่ ๆ ข้อมูลสระเก็บน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ขนาด 1,260 ลบ.ม. ในอำเภอ เขาสมิง มีจำนวนสระเก็บน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานมากท่ีสุด จำนวน 420 บ่อ หรอื คิดเปน็ รอ้ ยละ 38.82 สว่ นในอำเภอเกาะช้าง มีจำนวนสระเก็บน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานน้อยท่ีสุด จำนวน 4 บ่อ หรือคิดเป็น ร้อยละ 0.37

18 ตารางท่ี 9 จำนวนสระเกบ็ น้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน ขนาด 1,260 ลบ.ม. ปี 2550-2561 ท่ี อำเภอ ปี 2550-2560 ปี 2561 รวม ราย บอ่ ราย บ่อ ราย บ่อ 1 เมอื งตราด 299 306 41 41 340 347 2 เขาสมิง 370 371 49 49 419 420 3 แหลมงอบ 41 41 15 15 56 56 4 คลองใหญ่ 6 6 - - 66 5 บอ่ ไร่ 232 232 21 21 253 253 6 เกาะกดู - - - - - - 7 เกาะชา้ ง - - - - 44 รวม 948 956 126 126 1,074 1,082 ทมี่ า : แผนพฒั นาการเกษตรและสหกรณ์ของจงั หวดั ตราด (พ.ศ.2561-2565) ฉบบั ทบทวนปงี บประมาณ พ.ศ.2562 ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 ธนั วาคม 2561 2.2 การใชท้ ่ดี นิ ทางการเกษตรตามแผนท่ี Agi-Map จากข้อมูล Agi-Map-online ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พบว่าข้อมูลการใช้ท่ีดิน กรมพัฒนาท่ีดิน) ปี 2560- 2561 ของจงั หวดั ตราด พบว่ามีพ้ืนทร่ี วม 1,786,051 ไร่ แบง่ เปน็ พ้ืนที่ป่ามากท่ีสดุ มีเนื้อที่ 598,771 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 33.52 ของพื้นทท่ี ั้งหมด รองลงมา ไม้ยืนตน้ มีเนื้อท่ี 569,606 ไร่ (31.89%) ไม้ผล มเี นื้อที่ 207,502 ไร่ (11.61%) พ้ืนที่เบ็ดเตล็ด มีเนื้อที่ 97,534 ไร่ (5.46%) พ้ืนที่น้ำ มีเนื้อที่ 69,069 ไร่ (3.86%) พ้ืนที่นาข้าว มีเน้ือท่ี 62,726 ไร่ (3.51%) พื้นท่ีสิ่งปลูกสร้าง มีเน้ือที่ 59,422 ไร่ (3.32%) สถานที่เพาะเล้ียง สตั วน์ ้ำ มีเนอ้ื ท่ี 54,802 ไร่ (3.06%) พืชไร่ มเี นอ้ื ท่ี 53,720 ไร่ (3.00%) พน้ื ที่ลุม่ มีเนอื้ ที่ 11,684 ไร่ (0.65%) พชื สวน มีเนื้อที่ 892 ไร่ (0.04%) และเล้ียงสัตว์ มเี นอื้ ที่ 323 ไร่ (0.01%)

19 บอ่ ไร่ เขาสมงิ แหลมงอบ อำเภอเมอื ง เกาะชา้ ง คลองใหญ่ เกาะกูด ภาพท่ี 1 แผนที่การใชท้ ี่ดินจังหวัดตราด ปี 2560 ทมี่ า : http://agri-map-online.moac.go.th 2.2.1 พืน้ ท่ีเพาะปลกู พชื เศรษฐกิจจงั หวัดตราด จังหวัดตราด มีพ้ืนที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ รวมพื้นที่ 764,911 ไร่ โดยพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ และปลูกมากทส่ี ุดในจังหวัดตราด ได้แก่ ยางพารา ซึ่งมีพนื้ ที่ปลกู 379,225 ไร่ หรือคิดเปน็ ร้อยละ 49.57 ของ พนื้ ที่เพาะปลกู พืชเศรษฐกจิ ทง้ั หมด รองลงมาได้แก่ ทเุ รียน เงาะ และมังคดุ พ้นื ท่ีปลูก 217,296 ไร่ (28.39%) ปาล์มน้ำมัน พ้ืนท่ีปลูก 62,406 ไร่ (8.15%) สับปะรด พื้นท่ีปลูก 55,442 ไร่ (7.24%) ข้าว พ้ืนท่ีปลูก 37,160 ไร่ (4.85%) มะพร้าว พื้นที่ปลูก 11,295 ไร่ (1.47%) ลำไย พ้ืนที่ปลูก 2,199 ไร่ (0.28%) และ ขา้ วโพด พืน้ ทป่ี ลูก 8 ไร่ (0.001%)

20 ตารางที่ 10 ด้านการปลกู พชื เศรษฐกิจของจังหวัด ปีการผลิต 2561 ประเภท เนอ้ื ที่ (ไร่) รอ้ ยละ ยางพารา 379,225 49.57 ทเุ รยี น เงาะ และมังคุด 217,196 28.39 ปาลม์ น้ำมัน 62,406 8.15 สบั ปะรด 55,422 7.24 37,160 4.85 ข้าว 11,295 1.47 มะพรา้ ว 2,199 0.28 ลำไย 0.001 ขา้ วโพด 8 ที่มา : agri-map-online ภาพท่ี 2 แผนทกี่ ารปลูกพืชเศรษฐกจิ จงั หวดั ตราด ที่มา : http://agri-map-online.moac.go.th

21 2.2.2 พืน้ ท่ีปลกู ขา้ วตามความเหมาะสมทางกายภาพ พ้ืนที่ปลูกข้าวตามความเหมาะสมทางกายภาพของจงั หวัดตราด ตามตารางท่ี 11 จะเห็นได้ว่า อำเภอทีม่ ีการปลกู ขา้ วเยอะที่สุดไดแ้ ก่ อำเภอเมือง จำนวนพ้ืนท่ปี ลกู ขา้ ว 32,366 ไร่ หรอื คิดเป็นร้อยละ 87.09 แบ่งเป็นพ้ืนที่เหมาะสม 14,140 ไร่ และพื้นท่ีไม่เหมาะสม 18,226 ไร่ รองลงมา ได้แก่ อำเภอเขาสมิง จำนวน พื้นท่ีปลูกข้าว 2,113 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 5.69 แบ่งเป็นพ้ืนท่ีเหมาะสม 1,277 ไร่ และพื้นที่ไม่เหมาะสม 836 ไร่ อำเภอบ่อไร่ จำนวนพื้นทปี่ ลูกขา้ ว 1,410 ไร่ หรือคดิ เป็นรอ้ ยละ 3.79 แบง่ เป็นพ้ืนท่ีเหมาะสม 848 ไร่ และพ้ืนท่ีไม่เหมาะสม 562 ไร่ อำเภอคลองใหญ่ จำนวนพ้ืนท่ีปลูกข้าว 959 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 2.58 แบง่ เปน็ พื้นทีเ่ หมาะสม 262 ไร่ และพนื้ ที่ไมเ่ หมาะสม 697 ไร่ อำเภอแหลมงอบ จำนวนพ้ืนทป่ี ลูกขา้ ว 314 ไร่ หรือคดิ เป็นรอ้ ยละ 0.84 เปน็ พืน้ ที่ไมเ่ หมาะสมทั้งหมด 314 ไร่ ตารางที่ 11 พืน้ ทปี่ ลูกขา้ วตามความเหมาะสมทางกายภาพ จังหวดั ตราด หนว่ ย : ไร่ อำเภอ เหมาะสมสูง เหมาะสม เหมาะสม ไม่เหมาะสม รวม ร้อยละ (S1) ปานกลาง เลก็ นอ้ ย (N) (S2) (S3) เมือง 11,564 2,576 13,682 4,544 32,366 87.09 เขาสมิง 1,277 - 57 779 2,113 5.69 บอ่ ไร่ 848 - 104 458 1,410 3.79 คลองใหญ่ - 262 348 349 959 2.58 แหลมงอบ - - - 314 314 0.84 รวม 13,689 2,838 14,191 6,444 37,162 100.00 ท่ีมา : Agri-map online กรมพัฒนาท่ดี นิ ปี 2557

22 พนื้ ท่ปี ลกู ข้าวตามความเหมาะสมทางกายภาพ จงั หวัดตราด แหลมงอบ 314 คลองใหญ่ 458 342963248 บ่อไร่ 848 เขาสมิง 104 เมอื ง 779 57 1,277 2,576 4,544 11,564 13,682 - 2,000 4,000 6,000 8,000 10,000 12,000 14,000 16,000 ไมเ่ หมาะสม เหมาะสมเล็กนอ้ ย เหมาะสมปานกลาง เหมาะสมสงู ภาพท่ี 3 พนื้ ท่ีปลกู ขา้ วตามความเหมาะสมทางกายภาพ จงั หวดั ตราด ท่ีมา : Agri-map online กรมพฒั นาท่ีดิน ปี 2557 2.3 สินคา้ เกษตรที่มีมูลค่าสูงของจังหวัดตราด (Top 4) 1) ยางพารา 1.1) สถานการณ์การผลิต ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้เป็นอันดับที่ 1 ของจังหวัดตราด โดยยางพารามีมูลค่าใน ปี 2558 จำนวน 2,641 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.92 ของมูลคา่ ผลิตภัณฑม์ วลรวมในภาคการเกษตร ข้อมูล จากศูนย์สารสนเทศการเกษตร ในปี 2561 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าจังหวัดตราดจะมีพ้ืนท่ีให้ ผลได้ จำนวน 304,935 ไร่ หรอื ลดลงรอ้ ยละ 0.12 จากปีท่ผี า่ นมา ผลผลติ 60,987 ตนั หรอื ลดลงร้อยละ 9.75 ผลผลิตตอ่ ไร่ 200 กิโลกรมั ต่อไร่ หรือลดลงร้อยละ 9.50

23 ไร่ , ตัน ยางพารา เนื้อทใี่ ห้ผล ผลผลิตรวม ผลผลิตตอ่ ไร่ จงั หวดั ตราด 350 350,000 ปี 2556-2561 300 300,000 250 250,000 290 294 200 200,000 150 237 221 100 200 50 212 0 150,000 100,000 66,906 69,958 70,527 62,334 67,579 60,987 50,000 230,724 237,760 297,239 293,409 305,307 304,935 0 2556 2557 2558 2559 2560 2561 เนื้อทใี่ หผ้ ล ผลผลติ รวม ผลผลติ ต่อไร่ ภาพที่ 4 ยางพารา เน้ือทใ่ี หผ้ ล ผลผลติ ผลผลิตต่อไร่ จังหวัดตราด ท่มี า : สำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร 1.2) การผลิตในพ้นื ที่ระดบั ความเหมาะสม จากข้อมูล Agri-map online ของกระทรวงเกษตรและสหกรณพ์ บวา่ จงั หวดั ตราด มีพน้ื ที่ความ เหมาะสม (S) ในการปลูกยางพารา รวมทั้งหมด 767,908 ไร่ แบ่งเป็นพื้นท่ีความเหมาะสมปานกลาง (S2) จำนวน 767,908 ไร่ พ้ืนทคี่ วามเหมาะสมนอ้ ย (S3) จำนวน 20,990 ไร่ และพ้ืนท่ีปลูกไม่เหมาะสม (N) จำนวน 32,714 ไร่ และพน้ื ท่ีปลูกยางพาราจังหวดั ตราด มพี นื้ ทป่ี ลูกจริงในพ้ืนทคี่ วามเหมาะสมปานกลาง (S2) จำนวน 320,841 ไร่ รวมพ้ืนที่ปลูกในพ้ืนที่ความเหมาะสม (S) จำนวน 320,841 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 41.78 ของพืน้ ท่ปี ลกู

24 ตารางที่ 12 การผลิตในพ้ืนทีร่ ะดับความเหมาะสมของยางพารารายอำเภอ ระดบั พื้นท่คี วามเหมาะสม รวม พท. ร้อยละ รอ้ ยละ ปลูก (%) อำเภอ รายการ S1 S2 พท. รอ้ ยละ S3 N พท.ไม่ เหมาะสม 3,898 เหมาะสม 4,581 เกาะชา้ ง Suitability - 7,156 7,156 100.00 6,213 8,752 Existing - 1,967 1,967 27.49 35 9,005 3,933 1.05 5,900 1.58 พน้ื ทคี่ งเหลือ - 5,189 5,189 72.51 เมอื ง Suitability - 254,097 254,097 100.00 Existing - 125,536 125,536 49.40 6,758 11,339 3.03 136,875 36.54 พนื้ ทคี่ งเหลือ - 128,561 128,561 50.60 24 เขาสมงิ Suitability - 288,333 288,333 100.00 Existing - 106,020 106,020 36.76 4,986 11,199 2.99 117,219 31.30 พน้ื ทค่ี งเหลือ - 182,313 182,313 63.23 แหลมงอบ Suitability - 56,043 56,043 100.00 Existing - 35,383 35,383 63.13 3,830 12,582 3.36 47,965 12.81 พ้นื ท่ีคงเหลอื - 20,660 20,660 36.87 บ่อไร่ Suitability - 162,279 162,279 100.00 Existing - 51,935 51,935 32.00 4,439 13,444 3.59 65,379 17.46 พื้นทค่ี งเหลอื - 110,344 110,344 68.00

ตารางที่ 12 การผลิตในพืน้ ท่รี ะดบั ความเหมาะสมของยางพารารายอำเภอ (ตอ่ ) 25 ระดบั พืน้ ทีค่ วามเหมาะสม รวม พท. ร้อยละ รอ้ ยละ ปลูก (%) อำเภอ รายการ S1 S2 พท. รอ้ ยละ S3 N พท.ไม่ เหมาะสม 265 เหมาะสม 32,714 คลองใหญ่ Suitability - - - - Existing - - - - 942 1,207 0.32 1,207 0.32 25 พนื้ ที่คงเหลือ - - - - Suitability - 767,908 767,908 100.00 รวม Existing - 320,841 320,841 41.78 20,990 53,704 14.34 374,545 100.00 พื้นท่ีคงเหลือ - 447,067 447,067 58.22 ทีม่ า : agri-map-online

26 เขาสมงิ บอ่ ไร่ แหลมงอบ อำเภอเมือง เกาะช้าง คลองใหญ่ เกาะกูด ภาพที่ 5 พ้ืนท่ีความเหมาะสมในการปลกู ยางพารา จงั หวัดตราด ทม่ี า : agri-map-online บ่อไร่ เขาสมิง อำเภอเมือง แหลมงอบ เกาะช้าง เกาะกูด คลองใหญ่ ภาพท่ี 6 พ้นื ทีป่ ลูกยางพาราตามระดับความเหมาะสม จังหวัดตราด ท่ีมา : agri-map-online

27 2) กุ้งขาวแวนนาไม 2.1 สถานการณ์การผลิต กุ้งขาวแวนนาไมเป็นสัตว์เศรษฐกิจสำคัญชนิดหนึ่งของจังหวัดตราด โดยมีมูลค่าใน ปี 2558 จำนวน 2,053 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.82 ของมลู คา่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคการเกษตร ข้อมูลจากศูนย์ สารสนเทศการเกษตร ในปี 2561 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าจังหวัดตราดจะมีพื้นที่เพาะเล้ียงใน จำนวน 7,787 ไร่ หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 12.75 จากปีท่ีผ่านมา ผลผลิต 23,649 ตัน หรือเพิ่มข้ึนร้อยละ 17.88 ผลผลติ ตอ่ ไร่ 3,037 กโิ ลกรมั ต่อไร่ หรอื เพมิ่ ขึ้นรอ้ ยละ 4.54 ไร่ , ตนั กงุ้ ขาวแวนนาไม เน้อื ท่เี พาะเล้ียง ผลผลติ รวม ผลผลิตตอ่ ไร่ จงั หวัดตราด 60,000 50,000 3,716 ปี 2552-2561 4,000 40,000 3,500 3,686 49,141 3,147 3,107 2,531 2,835 2,905 3,037 3,000 46,739 2,500 42,673 37,936 2,168 2,310 30,000 20,878 21,400 20,878 21,017 20,062 23,649 2,000 20,000 1,500 10,000 12,679 13,225 13,561 12,208 9,630 9,266 8,247 7,412 6,906 7,787 1,000 500 0 0 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 เนื้อทเ่ี พาะเล้ียง ผลผลิตรวม ผลผลติ ตอ่ ไร่ ภาพท่ี 7 กงุ้ ขาวแวนนาไม เนื้อที่เพาะเลย้ี ง ผลผลิต ผลผลิตต่อไร่ จังหวัดตราด ทีม่ า : สำนกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร

28 ตารางท่ี 13 ปริมาณการผลิตกุ้งขาวแวนนาไม จงั หวัดตราด หนว่ ย : ตัน ปี พน้ื ทเ่ี พาะเลี้ยง (ไร่) ปรมิ าณการผลิต (ตนั ) ผลผลิตตอ่ ไร่ (กโิ ลกรัม) 2552 12,679 46,739 3,686 2553 13,225 49,141 3,716 2554 13,561 42,673 3,147 2555 12,208 37,936 3,107 2556 9,630 20,878 2,168 2557 9,266 21,400 2,310 2558 8,247 20,878 2,531 2559 7,412 21,017 2,835 2560 6,906 20,062 2,905 2561 7,787 23,649 3,037 ที่มา : สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร 3) เงาะ และทุเรยี น 3.1) สถานการณก์ ารผลติ เงาะ และทุเรียน เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้เป็นอันดับที่ 3 และ 4 ของจังหวัดตราด โดยมี มูลค่าในปี 2558 จำนวน 1,442 ล้านบาท และ 1,318 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.60 และ 6.95 ของมูลค่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคการเกษตร ข้อมูลจากศูนย์สารสนเทศการเกษตร ในปี 2561 สำนักงานเศรษฐกิจ การเกษตร คาดว่าจังหวดั ตราดในสินค้าเงาะมีพื้นท่ีใหผ้ ลได้ จำนวน 49,021 ไร่ หรอื เพมิ่ ขึ้นร้อยละ 0.20 จากปี ที่ผ่านมา และผลผลิต จำนวน 76,181 ตัน หรือลดลงร้อยละ 9.68 จากปีที่ผ่านมา ส่วนสินค้าทุเรียนพื้นที่ให้ ผลได้ จำนวน 24,187 ไร่ หรือลดลงร้อยละ 2.34 จากปีที่ผา่ นมา และผลผลิต จำนวน 38,951 ตัน หรือลดลง รอ้ ยละ 12.44 จากปีท่ีผ่านมา

29 100ไ,ร0่ 0,0ตัน เงาะ เน้ือท่ีใหผ้ ล ผลผลิตรวม ผลผลิตต่อไร่ จงั หวัดตราด ปี 2552-2561 2,000 80,000 1,342 1,415 1,598 1,461 1,634 1,618 1,141 1,753 1,500 60,000 1,003 1,554 1,000 40,000 500 20,000 61,755 77,651 79,089 83,015 72,930 76,009 76,853 54,382 84,349 76,181 61,570 57,862 55,893 51,949 49,918 46,512 47,513 47,667 48,123 49,021 0 0 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 เนอ้ื ทใี่ หผ้ ล ผลผลติ รวม ผลผลิตต่อไร่ ภาพท่ี 8 เงาะ เน้อื ท่ีให้ผล ผลผลติ ผลผลิตตอ่ ไร่ จังหวดั ตราด ที่มา : สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร ไร่ , ตนั ทเุ รียน เนือ้ ทใี่ ห้ผล ผลผลิตรวม ผลผลิตตอ่ ไร่ จังหวดั ตราด ปี 2552-2561 2,000 50,000 1,500 40,000 1,796 1,000 30,000 500 20,000 1,182 1,184 1,262 1,198 1,235 1,385 1,610 10,000 1,379 1,237 32,752 28,703 29,160 24,361 25,736 29,784 31,922 29,904 44,483 38,951 0 27,709 24,242 23,106 20,335 20,941 21,507 23,155 24,178 24,766 24,187 0 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 เนอื้ ทใ่ี หผ้ ล ผลผลติ รวม ผลผลติ ตอ่ ไร่ ภาพที่ 9 ทเุ รยี น เนอื้ ทใี่ หผ้ ล ผลผลติ ผลผลติ ต่อไร่ จงั หวัดตราด ที่มา : สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร

30 3.2) การผลติ ในพ้ืนที่ระดับความเหมาะสม จากข้อมูลกรมพัฒ นาที่ดิน (2558) htpp://agri-map-online.moac.go.th มีพื้นที่ความ เหมาะสม (S) ในการปลูกเงาะ และทุเรียน รวมทั้งหมด 217,195 ไร่ แบ่งเป็นพ้ืนท่ีความเหมาะสมปานกลาง (S2) จำนวน 178,020 ไร่ พื้นท่ีความเหมาะสมน้อย (S3) จำนวน 28,749 ไร่ และพื้นท่ีปลูกไม่เหมาะสม (N) จำนวน 10,426 ไร่ และพืน้ ที่ปลูกเงาะ และทุเรียนจังหวดั ตราด มีพ้นื ที่ปลูกจริงในพื้นทีค่ วามเหมาะสมปานกลาง (S2) จำนวน 178,019 ไร่ รวมพ้ืนที่ปลูกในพ้ืนที่ความเหมาะสม (S) จำนวน 178,020 ไร่ หรอื คิดเป็นรอ้ ยละ 57.08 ของพน้ื ทีป่ ลูก ภาพท่ี 10 พ้ืนท่ีความเหมาะสมในการปลูกเงาะ และทุเรยี น จังหวดั ตราด ทม่ี า : agri-map-online

31 ภาพที่ 11 พนื้ ท่ปี ลูกเงาะ และทเุ รยี นตามระดับความเหมาะสมจังหวัดตราด ทม่ี า : agri-map-online

32 ตารางท่ี 14 การผลิตในพ้ืนทีร่ ะดบั ความเหมาะสมของเงาะ และทเุ รยี น รายอำเภอ อำเภอ รายการ ระดับพน้ื ทค่ี วามเหมาะสม พท.ไมเ่ หมาะสม ร้อยละ รวม พท.ปลูก รอ้ ยละ (%) S1 S2 พท.เหมาะสม รอ้ ยละ S3 N - เกาะชา้ ง Suitability - 5,119 5,119 100.00 เมอื ง Existing - เขาสมิง พื้นทีค่ งเหลอื 14,980 1,594 1,594 31.14 814 1,387 2,201 0.59 3,795 1.01 แหลมงอบ Suitability - บอ่ ไร่ Existing 14,980 3,525 3,525 68.86 พ้ืนทค่ี งเหลือ 26,212 Suitability - 82,948 97,928 100.00 Existing 26,212 พื้นท่ีคงเหลือ 7,020 45,340 45,340 46.30 3,518 2,438 5,956 1.59 51,296 13.70 Suitability - Existing 7,020 37,608 52,588 53.70 32 พน้ื ที่คงเหลอื 19,532 Suitability - 117,300 143,512 100.00 Existing 19,532 พืน้ ท่คี งเหลือ 99,075 99,075 69.04 15,196 2,751 17,947 4.79 117,022 31.24 18,225 44,437 30.96 6,268 13,288 100.00 5,924 5,924 44.58 3,275 846 4,121 1.10 10,045 2.68 344 7,364 55.42 28,664 48,196 100.00 25,207 25,207 52.30 5,621 2,436 8,057 2.15 33,264 8.88 3,457 22,989 47.70

33 ตารางที่ 14 การผลิตในพ้นื ทีร่ ะดบั ความเหมาะสมของเงาะ และทุเรยี น รายอำเภอ (ต่อ) อำเภอ รายการ ระดับพ้ืนท่ีความเหมาะสม พท.ไม่เหมาะสม ร้อยละ รวม พท.ปลูก ร้อยละ (%) 893 0.24 1,773 0.47 S1 S2 พท.เหมาะสม ร้อยละ S3 N - 3,851 39,175 18.04 217,195 100.00 คลองใหญ่ Suitability - 880 3,851 100.00 รวม Existing - 2,971 พน้ื ท่คี งเหลือ 67,744 244,150 880 22.85 325 568 33 Suitability - 178,020 Existing 67,744 66,130 2,971 77.15 พ้นื ทค่ี งเหลือ 311,894 100.00 178,020 57.08 28,749 10,426 133,874 42.92 ทม่ี า : agri-map-online



36 35 บทท่ี 3 ผลการศกึ ษาวเิ คราะห์ แนวทางการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ (Zoning) สินค้าข้าวในพื้นที่จังหวัดตราด มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาการปลูกข้าวในพื้นที่ที่แบ่งตามพื้นที่เขตความเหมาะสม โดยแยกเป็นพื้นท่ี เหมาะสมมากรวมกับพื้นที่เหมาะสมปานกลาง (S1,S2) และพื้นที่เหมาะสมน้อยรวมกับพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ซึ่งจังหวัดตราด มีพืชเศรษฐกิจในอันดับต้น ๆ ที่มีความสำคัญ ได้แก่ ยางพารา กุ้งขาวแวนนาไม เงาะ และทุเรียน เป็นต้น เมื่อพิจารณาข้อมูลด้านการผลิตจากความเหมาะสมทางกายภาพ โดยใช้แผนที่ความ เหมาะสมทางกายภาพของกรมพัฒนาที่ดิน ข้อมูลปริมาณเศรษฐกจิ สินคา้ เกษตร พื้นที่ ผลผลิต และชนิดพันธุ์ ข้อมลู ของสำนกั งานเศรษฐกิจการเกษตรท่ี 6 จังหวดั ชลบุรี สำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร จากการสำรวจด้วย ตัวอย่างของต้นทุนการผลิตข้าวนาปี การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนพืชทางเลือกอื่น ๆ รวมทั้งศึกษา ศกั ยภาพของพน้ื ที่ โครงสร้างการตลาด การคา้ การกระจายผลผลิตและข้อมูลทางสังคม รวมถึงมาตรการและ นโยบายของรฐั บาล และการส่งเสรมิ ในพน้ื ที่ และกำหนดแนวทางการพฒั นาสินคา้ ข้าวของจังหวัดตราด โดยมี ผลการศึกษาดงั น้ี 3.1 ตน้ ทนุ และผลตอบแทนตามระดับความเหมาะสมของพ้ืนทส่ี ินค้าเกษตรทสี่ ำคญั (TOP 4) การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิตและผลตอบแทนตามระดับความเหมาะสมทางด้านกายภาพของสินค้า เกษตรที่สำคัญท่ีมีมูลคา่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในสาขาเกษตรของจงั หวัดตราด ใน 4 อันดับ สินค้าเกษตรทีส่ ำคัญ ในด้านการเพาะปลกู ของจังหวัดตราด ไดแ้ ก่ ยางพารา กุง้ ขาวแวนนาไม เงาะ และทเุ รียน ซ่ึงการศกึ ษาครั้งนีไ้ ด้ สุ่มตัวอย่างสอบถามเกษตรกรตามระดับความเหมาะสมของพื้นที่ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระดับ คือ 1. พื้นท่ี ที่เหมาะสม Suitability : S คอื พ้ืนทที่ ่ีมีความเหมาะสมสูง S1 (Highly Suitable) และพน้ื ท่ีท่ีมีความเหมาะสม ปานกลาง S2 (Moderately Suitable) และ 2. พื้นที่ไม่เหมาะสม (Not Suitable : N) คือพื้นที่มีความ เหมาะสมนอ้ ย (Marginally Suitable : S3) และพื้นที่ทีไ่ ม่มีความเหมาะสม (Not Suitable : N) โดยกระจาย ตวั อย่างไปตามแหล่งเพาะปลูกหรือแหล่งผลติ ที่สำคญั ในอำเภอ และตำบลต่าง ๆ ของจงั หวดั ตราด อย่างละ 20 ตัวอย่าง จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุน รายได้ และผลตอบแทนจำแนกตามพื้นที่เพาะปลูก และระดับ ความเหมาะสมทางกายภาพของที่ดินซึ่งแตกต่างกัน ทำให้ผลผลิตที่ได้รับแตกต่างกัน รวมถึงคุณภาพ ราคา ผลผลิต จากนั้นนำผลที่ได้มาพิจารณาประกอบกับความต้องการของตลาด วิเคราะห์แนวทางการตลาด วเิ คราะห์อปุ สงค์ และอุปทาน (Demand and Supply) และวางแผนการผลิตและการปลูกพืชทดแทนในพ้ืนที่ ไมเ่ หมาะสม เพือ่ เปน็ แนวทางในการพฒั นาสินค้าต่าง ๆ ต่อไป 3.1.1 ยางพารา 1) ต้นทนุ และผลตอบแทนในการผลติ ยางพาราในพืน้ ทเี่ หมาะสม (S) ผลจากการสำรวจต้นทุนการผลติ และผลตอบแทนการผลิตยางพาราในจังหวัดตราด ในพ้ืนที่ เหมาะสม (Suitability : S) เกษตรกรมีต้นทุนการผลิตยางพาราเฉลี่ย จำนวน 9,595.79 บาทต่อไร่ โดยเป็น

36 ตน้ ทนุ ผนั แปร จำนวน 6,176.84 บาทตอ่ ไร่ หรือคดิ เปน็ รอ้ ยละ 64.37 และตน้ ทุนคงที่ จำนวน 3,418.95 บาท ต่อไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 35.63 ของต้นทุนทั้งหมด ตามลำดับ เมื่อพิจารณาในรายละเอียดพบว่าต้นทุนที่เป็น เงนิ สด 2,523.87 บาทต่อไร่ หรือคดิ เป็นร้อยละ 26.30 และต้นทนุ ท่ีไม่เปน็ เงนิ สด 7,071.92 บาทตอ่ ไร่ หรอื คิด เปน็ ร้อยละ 73.70 โดยต้นทนุ ผนั แปรท่เี ปน็ เงินสดส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างแรงงาน ไดแ้ ก่ คา่ เก็บเกยี่ ว ค่าดูแลรักษา รองลงมาเป็นค่าปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ได้แก่ ค่าปุ๋ย ค่าวัสดุการเกษตรและวัสดุสิ้นเปลือง และค่ายาปราบ ศตั รพู ืชและวัชพืช สว่ นต้นทุนไมเ่ ป็นเงนิ สดน้ัน สว่ นใหญเ่ ป็นคา่ แรงงานตนเอง สำหรบั ตน้ ทุนคงที่ที่เป็นต้นทุน ไม่เป็นเงินสด ส่วนใหญเ่ ป็นคา่ เช่าทีด่ นิ รองลงมาเป็นค่าเส่ือมอุปกรณ์การเกษตร ผลการวิเคราะห์เมื่อพิจารณาถึงผลตอบแทนที่เกษตรกรได้รับในการผลิตยางพารา ในพื้นที่ ความเหมาะสม ผลผลติ เฉล่ีย 229.71 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อพิจารณาถงึ ผลตอบแทนจากราคาท่ีเกษตรกรขายได้ เฉล่ีย 46.85 บาทตอ่ กิโลกรัม เกษตรกรจะมีรายได้ 10,761.91 บาทต่อไร่ ดงั น้นั เกษตรกรจะมผี ลตอบแทนสทุ ธิ ต่อไร่ เทา่ กบั 1,166.12 บาท โดยท่ีปรมิ าณผลผลิต ณ จดุ คมุ้ ทนุ ในการผลิตยางพาราเท่ากับ 204.82 กิโลกรัม ตอ่ ไร่ (ตารางท่ี 15)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook