Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 2562-บีบอัด

คู่มือกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 2562-บีบอัด

Published by krittiyaporn0610, 2021-02-26 08:45:51

Description: คู่มือกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา 2562-บีบอัด

Search

Read the Text Version

92

93

94

95

96

97

98

99

100

101

102

103

104 ประกาศคณะกรรมการกองทุนเงนิ ใหก้ ู้ยมื เพอ่ื การศึกษา เรื่อง กาหนดลกั ษณะของเงนิ กู้ยืมเพื่อการศึกษา ขอบเขตการใหเ้ งินกยู้ ืมเพื่อการศกึ ษา ประเภทวชิ า สถานศกึ ษาหรือระดบั ช้ันการศกึ ษา และหลักสูตรทจ่ี ะใหเ้ งนิ กยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษา ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๒ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๕) และมาตรา ๓๗ วรรคหน่ึง แห่งพระราชบัญญัติกองทุน เงินให้กู้ยืมเพ่ือการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐ คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือการศึกษา ในการประชุมครั้งท่ี 8/๒๕๖1 เมอ่ื วนั ที่ 25 กันยายน 2561 ได้มีมตใิ ห้ออกประกาศไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑. ในประกาศน้ี “กองทนุ ” หมายความวา่ กองทนุ เงินให้กู้ยมื เพอื่ การศึกษา “เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา” หมายความว่า เงินที่กองทุนจัดสรรให้ผู้กู้ยืมเงิน เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใชจ้ า่ ยทเ่ี กยี่ วเนอ่ื งกับการศึกษา และค่าครองชพี “นักเรียนหรือนักศึกษา” หมายความว่า ผู้ซ่ึงศึกษาอยู่ในสถานศึกษา และให้หมายความรวมถึง ผู้ซึ่งไดร้ บั การตอบรับใหเ้ ข้าศกึ ษาในสถานศึกษาดว้ ย “สถานศึกษา” หมายความว่า โรงเรียน สถาบันอุดมศึกษา หรือสถานศึกษาอ่ืนของรัฐ โรงเรียน ข อ งเอ ก ช น ท่ี ได้ รับ ใบ อ นุ ญ าต ให้ จั ด ต้ั งโรงเรีย น ใน ระ บ บ ต าม ก ฎ ห ม าย ว่าด้ ว ย โรงเรีย น เอ ก ช น และสถาบันอดุ มศกึ ษาของเอกชนท่ไี ดร้ บั ใบอนุญาตให้จัดต้ังตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน “ค่าเล่าเรียน” หมายความว่า เงินค่าเล่าเรียน ค่าบารุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่สถานศึกษา เรียกเก็บจากนักเรียนหรอื นักศึกษา “ค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวเนื่องกับการศึกษา” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายอ่ืนที่มิใช่ค่าเล่าเรียนท่ีสถานศึกษา เรียกเก็บจากนักเรียนหรือนักศึกษาตามระเบียบ ประกาศ หรือคาสั่งของสถานศึกษาโดยมีวัตถุประสงค์ เกี่ยวเนือ่ งกับการศกึ ษา “ค่าครองชพี ” หมายความว่า คา่ ใช้จา่ ยท่จี าเปน็ ในการดารงชพี ระหว่างศกึ ษา “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการกองทุนเงนิ ให้กู้ยืมเพื่อการศกึ ษา “ผจู้ ดั การ” หมายความวา่ ผูจ้ ัดการกองทุนเงนิ ใหก้ ูย้ มื เพือ่ การศึกษา

105 -2- ขอ้ ๒. ในปีการศึกษา ๒๕๖๒ กองทุนจะสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา ด้วยการให้เงินกู้ยืม เพอื่ การศกึ ษาใน ๒ ลกั ษณะ ดงั ต่อไปนี้ (๑) เงินก้ยู ืมเพอ่ื การศกึ ษา ใหแ้ ก่นกั เรียนหรือนกั ศึกษาทีข่ าดแคลนทนุ ทรัพย์ (๒) เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ให้แก่นักเรียนหรือนักศึกษาท่ีศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก ซึง่ มคี วามชัดเจนของการผลติ กาลังคนและมคี วามจาเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ขอ้ ๓. นักเรียนหรือนักศึกษาท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์ กองทุนจะให้กู้ยืมเงินกู้ยืมเพ่ือการศึกษา ไม่เกินขอบเขตการให้เงินกู้ยืมเพ่ือการศึกษา ประเภทวิชา สถานศึกษาหรือระดับช้ันการศึกษา และหลักสูตร ทีจ่ ะใหเ้ งินกยู้ มื เพอื่ การศกึ ษา ตามทีก่ าหนดไว้ในแต่ละรายการ ดงั นี้ ระดับการศึกษา/สาขาวิชา ค่าเลา่ เรยี นและคา่ ใชจ้ ่าย ค่าครองชพี รวม ที่เกยี่ วเน่อื งกบั การศึกษา บาท/ราย/ปี บาท/ราย/ปี บาท/ราย/ปี ๑. มัธยมศึกษาตอนปลาย ๑๔,๐๐๐ ๑๔,๔๐๐ ๒๘,๔๐๐ ๒. ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ๒๑,๐๐๐ ๒๘,๘๐๐ ๔๙,๘๐๐ ๓. ปวท./ปวส.หรือเทียบเท่า กองทุนจะให้ ขอบเขตการใหเ้ งินกู้ยืมเพ่ือ ขอบเขตการ ขอบเขตการ กู้ยืมไม่เกินขอบเขตการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา การศกึ ษา ประเภทวิชา ใหเ้ งนิ กู้ยืม ใหเ้ งนิ กยู้ มื ประเภทวิชาและสาขาวิชา ดงั นี้ และ เพื่อการศึกษ เพ่อื ๓ .๑ ป ระเภ ท วิช าบ ริห ารธุรกิ จ ศิ ล ป ก รรม ๒๕,๐๐๐ ๒๘,๘๐๐ ๕๓,๘๐๐ คหกรรม และอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียว ๓ . ๑ ป ร ะ เ ภ ท วิ ช า ๓ . ๑ ๓ . ๑ ๓.๒ ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ประมง บริหารธุรกิจ ศิลปกรรม ประเภทวิชา ประเภทวิชา อุ ต ส าห ก รรม ส่ิ งท อ เท ค โน โล ยี ส ารส น เท ศ คหกรรม และอุตสาหกรรม บริหารธุรกิจ บริหารธุรกิจ และการสื่อสาร และวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ การ ศิลปกรรมร ศลิ ปกรรมร ๓.๒.๑ สาขาวิชาช่างอากาศยาน ช่างเทคนิค ๖๐,๐๐๐ ๒๘,๘๐๐ ๘๘,๘๐๐ ระบบขนส่งทางราง การตรวจสอบโดยไม่ทาลาย และการเดินเรอื ๓.๒.๒ สาขาอนื่ ๆ นอกจาก ๓.๒.๑ ๓๐,๐๐๐ ๒๘,๘๐๐ ๕๘,๘๐๐

106 -3- ระดับการศกึ ษา/สาขาวชิ า คา่ เลา่ เรียนและค่าใช้จ่าย คา่ ครองชีพ รวม ที่เก่ียวเนื่องกับการศึกษา บาท/ราย/ปี บาท/ราย/ปี บาท/ราย/ปี อนุ อนุปรญิ ญา/ สาขาท่ี ขาด สาขาที่ ขาด ๔. อนปุ ริญญา/ปรญิ ญาตรี แคลนและ แคลนและ ๒๘,๘๐๐ ๘๘,๘๐๐ ๔.๑ สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สาขาทีข่ าดแคลนและ ศกึ ษาศาสตร์ นอกจา นอกจ สาขาท่ีขา ๔ .๑ ๔ .๑ .๑ สาขาที่ ขาดแคลนและ/หรือเป็ น ๖๐,๐๐๐ ๒๘,๘๐๐ ๗๘,๘๐๐ ความต้ องการของตลาดแรงงาน ได้ แก่ บั ญ ชี ๒๘,๘๐๐ 9๘,๘00 เศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ ส า ร ส น เท ศ นิ ติ ศ า ส ต ร์ เปน็ ๔.๑.๒ สาขาอน่ื ๆ ๒๘,๘๐๐ 9๘,๘00 ภาษาต่างประเทศ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ นอกจาก ๔.๑.๑ควา ๒๘,๘๐๐ 9๘,๘00 ๒๘,๘๐๐ 11๘,๘00 ครุศาสตร์อุตสาหกรรม โลจิสติกส์ อุตสาหกรรมบริการ ๒๘,๘๐๐ 22๘,๘00 ธุรกจิ อตุ สาหกรรมและธุรกจิ การบนิ ๔.๑ ๔.๑.๒ สาขาอื่น ๆ นอกจาก ๔.๑.๑ ๕๐,๐๐๐ ๔.๒ ศลิ ปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ๗๐,๐๐๐ ๔.๓ วศิ วกรรมศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๗๐,๐๐๐ ๔.๔ เกษตรศาสตร์ ๗๐,๐๐๐ ๔.๕ สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัช 90,000 ศาสตร์ 200,000 ๔.๖ แพทยศาสตร์ สตั วแพทยศาสตร์ ทนั ตแพทยศาสตร์ ข้อ ๔. นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และศึกษาอยู่ในระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ใหก้ ู้ยมื เงินกยู้ ืมเพอ่ื การศึกษาไดต้ ามหลกั เกณฑ์ ดังนี้ (๑) นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาของรัฐ ไม่อนุมัติให้กู้ยืมเงินค่าเล่าเรียน เว้นแตเ่ ปน็ เงินค่าเล่าเรียนทีไ่ ด้รบั อนมุ ัตจิ ากตน้ สังกดั ให้เรียกเก็บ (๒) นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสถาบันการศึกษาของเอกชน ให้กู้ยืมเงินค่าเล่าเรียน เฉพาะในส่วนทีร่ ฐั ไม่ได้อดุ หนุน ท้งั นี้ ตอ้ งไม่เกนิ อตั ราทส่ี านกั งานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษาเอกชนกาหนด

107 -4- (๓) นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาเฉพาะทางของหน่วยงานอื่น ท่ีไม่ได้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ หากไม่ได้ขอรับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายบุคคลจากรัฐ อนุมัติให้กู้ ยืมเงิน ค่าเล่าเรียนได้ ตามความเป็นจริง โดยเม่ือรวมกับเงินค่าใช้จ่ายที่เก่ียวเน่ืองกับการศึกษาแล้ว ต้องไม่เกินขอบเขต ทก่ี าหนด ข้อ ๕. นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักซึ่งมีความชัดเจน ของการผลิตกาลังคนและมีความจาเป็นต่อการพัฒนาประเทศ กองทุนจะให้กู้ยืมค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่าย ที ่เก่ี ยวเนื่ องกั บการศึ กษา ไม่ เกิ นขอบเขตการให้ เงินกู้ ยืมเพื่ อการศึ กษา ประเภทวิชา สถานศึ กษา หรือระดับช้นั การศึกษา และหลกั สตู รทจ่ี ะใหเ้ งินกู้ยืมเพื่อการศกึ ษา ตามท่ีกาหนดไวใ้ นแต่ละรายการ ดังน้ี ระดบั การศกึ ษา/ประเภทวิชา สาขาวิชาสาขาวิชา ค่าเลา่ เรียนและคา่ ใช้จา่ ย ทเ่ี กี่ยวเน่ืองกบั การศึกษา 1. ปวท./ปวส. หรอื เทียบเทา่ ทุกสาขาวิชา 1.๑ ประเภทวิชาบริหารธรุ กิจ ศลิ ปกรรม คหกรรม บาท/ราย/ปี และอุตสาหกรรมการทอ่ งเทยี่ ว 25,000 1.๒ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ประมง 1.2.1 สาขาวิชาช่างอากาศยาน 60,๐๐๐ อุตสาหกรรมสิ่งทอ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ช่างเทคนิคระบบขนส่งทางราง การตรวจสอบระบบขนสง่ และวทิ ยาศาสตร์สุขภาพ การต รวจสอบ โดยไม่ ท าลาย ระบบขนส่ง ระบบขนส่ง 1.๓ และการเดินเรือ 1.2.2 สาขาอ่ืน ๆ นอกจาก ระบบขนส่ง 1.2.1 30,000 ๒. อนุปริญญา/ปริญญาตรี 60,000 2.1 สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ รายละเอยี ดสาขาวิชาให้เป็นไป ศึกษาศาสตร์ ตามบญั ชแี นบทา้ ยประกาศ 2.๒ ศลิ ปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ รายละเอยี ดสาขาวิชาให้เป็นไป 70,000 ตามบัญชีแนบทา้ ยประกาศ 2.๓ วศิ วกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายละเอยี ดสาขาวิชาให้เป็นไป 70,000 ตามบญั ชแี นบท้ายประกาศ

108 -5- ระดบั การศึกษา/ประเภทวิชา สาขาวชิ าสาขาวชิ า ค่าเล่าเรยี นและคา่ ใชจ้ ่าย 2.๔ เกษตรศาสตร์ ท่เี กย่ี วเน่ืองกับการศกึ ษา บาท/ราย/ปี รายละเอยี ดสาขาวิชาให้เป็นไป 70,000 ตามบัญชีแนบทา้ ยประกาศ 2.๕ สาธารณสขุ ศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสชั ศาสตร์ รายละเอยี ดสาขาวิชาให้เป็นไป 90,000 ตามบญั ชแี นบทา้ ยประกาศ 2.๖ แพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ รายละเอยี ดสาขาวิชาให้เป็นไป 200,000 ทนั ตแพทยศาสตร์ ตามบญั ชแี นบทา้ ยประกาศ ขอ้ ๖. นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักซึ่งมีความชัดเจน ของการผลิตกาลังคนและมีความจาเป็นต่อการพัฒนาประเทศ ท่ีมีรายได้ครอบครัวไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี นอกจากจะกู้ยืมค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายท่ีเก่ียวเนื่องกับการศึกษาตามข้อ ๕ แล้ว อาจกู้ยืมเงินค่าครองชีพ ได้ในอัตรา ๒,๔๐๐ บาทตอ่ เดือน หรอื ๒๘,๘๐๐ บาทตอ่ ปี ข้อ ๗. นักเรียนหรือนักศึกษาจะกู้ยืมเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้เพียงหน่ึงหลักสูตรในแต่ละ ปีการศึกษา ไม่เกินอัตราค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เก่ียวเนื่องกับการศึกษาท่ีสถานศึกษาเรียกเก็บตามจานวนปีท่ี กาหนดไวใ้ นแต่ละหลกั สูตร กรณีที่นักเรียนหรอื นักศึกษาไดร้ ับทุนคา่ เล่าเรียนหรอื มีสิทธเิ บกิ ค่าเล่าเรยี นหรือค่าใช้จ่ายท่ีเก่ียวเนื่อง กับการศึกษา ให้นักเรียนหรือนักศึกษากู้ยืมค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายท่ีเกี่ยวเน่ืองกับการศึกษาได้เฉพาะส่วนต่าง เทา่ นน้ั ขอ้ ๘. ให้ผู้จัดการเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอานาจวินิจฉัยปัญหาในการปฏิบัติ ตามระเบยี บนี้ แลว้ รายงานให้คณะกรรมการทราบ ข้อ ๙. ประกาศนี้ใหใ้ ช้บังคับกบั การดาเนินงานกองทนุ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๘ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ (นายประสงค์ พนู ธเนศ) ปลดั กระทรวงการคลัง ประธานกรรมการกองทนุ เงนิ ใหก้ ูย้ มื เพื่อการศึกษา

109109 บัญชแี นบท้ายประกาศคณะกรรมการกองทนุ ให้กูย้ ืมเพื่อการศกึ ษา เรื่อง กาหนดลักษณะของเงนิ กู้ยมื เพื่อการศกึ ษา ขอบเขตการให้เงนิ กู้ยืมเพือ่ การศกึ ษา ประเภทวชิ า สถานศกึ ษาหรือระดับชนั้ การศึกษา และหลกั สูตรทจี่ ะให้เงินกยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษา ประจาปีการศกึ ษา 2562 ดูรายละเอยี ดในเวป็ ไซต์ของกองทุน www.studentloan.or.th

110

111

112

113

114

115

116

117

118

119

120 ประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรื่อง กาหนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไขการหกั เงนิ ได้พงึ ประเมนิ เพื่อชาระเงนิ กยู้ มื คืน กองทนุ เงินใหก้ ยู้ มื เพื่อการศกึ ษาตามพระราชบญั ญตั ิกองทนุ เงินใหก้ ยู้ ืมเพอ่ื การศกึ ษา พ.ศ. 2560 อาศัยอานาจตามความในวรรคหนึ่งของมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือ การศึกษา พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้จ่ายเงินได้ พงึ ประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ใหพ้ นักงานหรือลูกจ้างซึ่งเป็นผู้กู้ยืมเงินจากกองทุน เงนิ ใหก้ ยู้ ืมเพ่อื การศึกษาหกั เงินไดพ้ ึงประเมินเพ่ือชาระเงินกู้ยืมคืนให้กองทนุ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ในประกาศนี้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุน เงนิ ให้กยู้ มื เพ่อื การศกึ ษา พ.ศ. 2560 “เงินกู้ยืม” หมายความว่า เงินกู้ยืมตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ข้อ 2 ให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นกระทรวง ทบวง กรม สานักงานหรือหน่วยงานอ่ืนใดของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม หักเงนิ ไดพ้ ึงประเมินของข้าราชการและลูกจ้างประจาในสงั กดั ซ่ึงเปน็ ผกู้ ูย้ ืมเงิน ตามจานวนที่กองทนุ แจง้ ใหท้ ราบ แล้วนาส่งผ่านระบบของกรมบัญชีกลางตามกฎหมายว่าด้วยการกาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงิน บางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้กรมบัญชีกลางโอนเงินดังกล่าวให้กรมสรรพากรผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ช่ือบัญชี “กรมสรรพากร 1 เพ่ือรับชาระเงินคืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือ การศกึ ษา” ข้อ 3 ประกาศนใี้ ห้ใช้บงั คับต้งั แต่วนั ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕61 เอกนติ ิ นิตทิ ณั ฑป์ ระภาศ (นายเอกนิติ นติ ิทณั ฑป์ ระภาศ) อธิบดีกรมสรรพากร

121 ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เร่ือง กาหนดหลกั เกณฑ์ วิธกี าร และเงอ่ื นไขการนาสง่ เงนิ ใหก้ องทุนเงินใหก้ ้ยู ืมเพ่ือการศึกษา ตามพระราชบญั ญตั กิ องทนุ เงินใหก้ ้ยู มื เพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 อาศัยอานาจตามความในวรรคสามของมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือ การศึกษา พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไข เพ่ือให้เจ้าพนักงาน นาส่งเงนิ ให้กองทนุ เงนิ ให้กยู้ มื เพอ่ื การศกึ ษา ดังต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ในประกาศนี้ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุน เงินให้กู้ยืมเพ่อื การศึกษา พ.ศ. 2560 “เงินกู้ยืม” หมายความว่า เงินกู้ยืมตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพ่ือการศึกษา พ.ศ. 2560 ขอ้ 2 ให้เจ้าพนักงานสรรพากรดาเนินการโอนเงินกู้ยืมท่ีได้รับจากกรมบัญชีกลางเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย จากัด (มหาชน) ช่ือบัญชี “บัญชีรับชาระหน้ีจากกรมสรรพากร” เลขท่ีบัญชี 989-8- 570911-0 ขอ้ 3 ประกาศนใ้ี ห้ใช้บงั คับต้งั แตว่ นั ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันท่ี 26 กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕61 เอกนติ ิ นติ ิทณั ฑป์ ระภาศ (นายเอกนติ ิ นติ ิทณั ฑป์ ระภาศ) อธิบดีกรมสรรพากร

122 กฎหมาย ระเบยี บ และประกาศ ที่ออกตามพระราชบัญญตั ิกองทุนเงินใหก้ ูย้ มื เพอ่ื การศกึ ษา พ.ศ. 2541 ทยี่ ังคงใช้บังคบั ตอ่ ไปตาม มาตรา 64 แหง่ พระราชบญั ญตั กิ องทุนเงินใหก้ ู้ยืม เพอื่ การศกึ ษา พ.ศ. 2560

123

124

125 กฎหมายอน่ื ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง

126 พระราชบัญญตั ิ บตั รประจําตวั เจาหนาทีข่ องรัฐ พ.ศ. 2542 ------------------------- ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร. ใหไว ณ วันท่ี 23 เมษายน พ.ศ. 2542 เปน ปที่ 54 ในรัชกาลปจ จบุ ัน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ ใหป ระกาศวา โดยที่เปนการสมควรปรับปรงุ กฎหมายวา ดวยบตั รประจาํ ตัวขา ราชการ พนกั งานเทศบาล พนกั งาน สขุ าภบิ าล และพนกั งาน องคก ารของรฐั จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหต ราพระราชบญั ญัติขน้ึ ไวโ ดยคําแนะนาํ และยนิ ยอมของรัฐสภา ดงั ตอ ไปน้ี มาตรา 1 พระราชบัญญัติน้เี รียกวา \"พระราชบญั ญัตบิ ตั รประจําตวั เจา หนาทข่ี องรัฐ พ.ศ. 2542\" มาตรา 2 พระราชบัญญตั นิ ้ีใหใ ชบังคบั ตงั้ แตวันถดั จากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปนตนไป มาตรา 3 ใหยกเลกิ (1) พระราชบัญญัตบิ ัตรประจาํ ตวั ขา ราชการ พนกั งานเทศบาล พนักงานสุขาภบิ าล และพนกั งาน องคการของรัฐ พ.ศ. 2498 (2) พระราชบญั ญัติบตั รประจําตวั ขา ราชการ พนกั งานเทศบาล พนักงานสุขาภบิ าล และพนักงาน องคก ารของรฐั (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2498 (3) พระราชบัญญตั ิบัตรประจาํ ตวั ขาราชการ พนกั งานเทศบาล พนักงานสุขาภบิ าล และพนักงาน องคก ารของรฐั (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2530 (4) พระราชบญั ญตั ิบัตรประจาํ ตวั ขา ราชการ พนกั งานเทศบาล พนักงานสุขาภิบาล และพนักงาน องคการของรฐั (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2535 มาตรา 4 ในพระราชบัญญตั นิ ้ี \"เจาหนาท่ีของรฐั \" หมายความวา (1) ขาราชการการเมอื งตามกฎหมายวาดวยระเบียบขา ราชการการเมือง (2) ขา ราชการกรงุ เทพมหานครตามกฎหมายวาดว ยระเบียบขา ราชการกรงุ เทพมหานคร (3) ขาราชการครตู ามกฎหมายวาดวยระเบียบขา ราชการครู (4) ขา ราชการตาํ รวจตามกฎหมายวา ดวยระเบยี บขาราชการตํารวจ (5) ขาราชการทหารตามกฎหมายวา ดว ยระเบยี บขาราชการทหาร (6) ขา ราชการฝา ยตุลาการตามกฎหมายวาดว ยระเบยี บขาราชการฝายตุลาการ (7) ขา ราชการฝายรัฐสภาตามกฎหมายวา ดวยระเบยี บขาราชการฝายรฐั สภา (8) ขา ราชการฝายอยั การตามกฎหมายวา ดวยระเบียบขาราชการฝา ยอัยการ

127 (9) ขา ราชการพลเรือนตามกฎหมายวา ดวยระเบยี บขา ราชการพลเรอื น (10) ขา ราชการพลเรือนในมหาวทิ ยาลัยตามกฎหมายวาดวยระเบียบขา ราชการพลเรือนในมหาวทิ ยาลยั (11) สมาชิกสภาผแู ทนราษฎร และสมาชิกวฒุ สิ ภา (12) สมาชิกสภาทอ งถนิ่ และหรอื ผบู รหิ ารทอ งถ่ิน ตามกฎหมายวาดว ยองคการบริหารสว นจังหวัด กฎหมายวา ดวย เทศบาล กฎหมายวา ดวยสขุ าภบิ าล กฎหมายวาดว ยสภาตาํ บลและองคก ารบรหิ ารสวนตาํ บล และกฎหมายวาดว ยระเบียบ บรหิ ารราชการเมอื งพทั ยา (13) ขา ราชการหรือพนกั งานองคก ารบรหิ ารสว นทอ งถิน่ ตามกฎหมายวา ดว ยองคการบริหารสวนจังหวัด กฎหมายวา ดวยเทศบาล กฎหมายวา ดว ยสุขาภิบาล กฎหมายวา ดว ยสภาตําบลและองคก ารบรหิ ารสว นตําบล และกฎหมายวา ดวย ระเบียบบริหารราชการเมืองพทั ยา (14) กํานนั ผใู หญบ าน แพทยประจําตําบล สารวตั รกาํ นัน และผูชว ยผใู หญบา น (15) เจาหนาที่หรือพนกั งานของรฐั วสิ าหกจิ องคการของรฐั หรอื องคการมหาชนท่ีตง้ั ขน้ึ โดยพระราช บัญญตั หิ รือพระ ราชกฤษฎีกา (16) ขาราชการ พนักงาน หรอื เจา หนาทอี่ ื่นซ่ึงมีพระราชกฤษฎีกากําหนดใหเ ปนเจาหนา ทข่ี องรัฐตาม พระราชบัญญตั ินี้ \"เจาหนา ท่ีของรฐั ผรู บั บําเหนจ็ บํานาญ\" หมายความวา เจา หนา ทขี่ องรัฐซ่ึงออกจากราชการหรอื พนจาก ตําแหนงโดย มสี ิทธไิ ดร ับบําเหนจ็ บํานาญตามกฎหมายวาดว ยบําเหน็จบํานาญขาราชการ กฎหมายวาดว ยกองทุน บําเหนจ็ บาํ นาญ ขา ราชการ กฎหมายวาดวยบาํ เหน็จบาํ นาญขาราชการสว นทอ งถนิ่ และกฎหมายวา ดว ยบําเหนจ็ บาํ นาญขาราชการ กรงุ เทพมหานคร หรอื กฎหมายอน่ื ใดอนั เกี่ยวกบั บําเหนจ็ บํานาญของเจา หนาทขี่ องรัฐ มาตรา 5 ใหเ จาหนาทขี่ องรัฐมีบตั รประจําตวั สําหรบั เจาหนาทขี่ องรฐั เจาหนา ทขี่ องรัฐผูรับบําเหน็จบํานาญมีสทิ ธิขอมบี ัตรประจาํ ตวั สําหรบั เจา หนาทข่ี องรฐั ผูรับบําเหน็จ บํานาญได และใหส ว น ราชการเจา สังกดั ออกบัตรประจาํ ตวั ดงั กลา วให การขอมบี ัตรประจําตัว การออกบตั รประจาํ ตัว และลกั ษณะของบตั รประจาํ ตวั ใหเ ปนไปตามหลักเกณฑ วิธกี าร และแบบที่ กําหนดในกฎกระทรวง มาตรา 6 ใหบุคคลดงั ตอ ไปน้ี เปนผูออกบัตรประจาํ ตวั สาํ หรบั เจา หนาทข่ี องรฐั (1) นายกรัฐมนตรี สาํ หรบั ตําแหนง ขาราชการการเมืองตามกฎหมายวา ดว ยระเบยี บขา ราชการการเมอื ง ทุกตาํ แหนง นอกจากทร่ี ะบุใหบ ุคคลอื่นเปน ผอู อกบตั ร (2) รฐั มนตรเี จา สังกดั สาํ หรบั ตาํ แหนง ปลดั กระทรวง ปลดั ทบวง หรือหัวหนาสวนราชการซึ่งดาํ รง ตําแหนง เทียบเทา ทป่ี รึกษารัฐมนตรี เลขานกุ ารรัฐมนตรีวาการกระทรวง ผชู วยเลขานุการรัฐมนตรวี า การ กระทรวง เลขานุการรฐั มนตรีวา การ ทบวง และผชู วยเลขานุการรฐั มนตรีวาการทบวง (3) รฐั มนตรวี า การกระทรวงกลาโหมหรือผซู งึ่ รฐั มนตรวี า การกระทรวงกลาโหมมอบหมาย สําหรับ ตําแหนง ขาราชการ ทหารตามกฎหมายวาดว ยระเบยี บขา ราชการทหาร (4) ปลัดกระทรวงหรอื ปลดั ทบวง สาํ หรบั ตาํ แหนง อธิบดหี รอื หวั หนา สวนราชการของสวนราชการทม่ี ี ฐานะเปน กรม ในกระทรวงหรือทบวง ตาํ แหนง อนื่ ทกุ ตําแหนงในสาํ นักงานปลดั กระทรวงหรอื สาํ นกั งานปลัดทบวง และตําแหนงผูวา การ ผูอํานวยการ หรอื ผูบริหารสงู สุดทเี่ รียกช่อื อยางอนื่ ของรัฐวิสาหกิจ องคก ารของรฐั หรอื องคการมหาชนท่อี ยใู นสงั กดั หรือกาํ กับ ดูแลของกระทรวงหรอื ทบวงน้ัน (5) อธบิ ดีหรือหัวหนาสว นราชการของสว นราชการทมี่ ฐี านะเปนกรม สาํ หรบั ตาํ แหนง อน่ื ทกุ ตําแหนงใน กรมหรอื สวน ราชการน้ัน (6) ผูวาราชการกรงุ เทพมหานคร สาํ หรบั ตําแหนงขาราชการกรุงเทพมหานครระดบั 11 (7) ปลัดกรุงเทพมหานคร สําหรับตาํ แหนง ขา ราชการกรุงเทพมหานครต้ังแตระดับ 10 ลงมา (8) ประธานรฐั สภา สําหรบั ตาํ แหนงประธานรฐั สภา รองประธานรฐั สภา และขาราชการรฐั สภาฝา ย การเมืองใน รัฐสภา

128 (9) ประธานสภาผูแ ทนราษฎร สาํ หรับตาํ แหนง ประธานสภาผูแ ทนราษฎร รองประธานสภาผแู ทนราษฎร สมาชกิ สภาผแู ทนราษฎร เลขาธกิ ารสภาผูแ ทนราษฎร และขาราชการรฐั สภาฝายการเมอื งในสภาผแู ทนราษฎร (10) ประธานวฒุ สิ ภา สาํ หรับตาํ แหนง ประธานวฒุ ิสภา รองประธานวุฒสิ ภา สมาชกิ วุฒิสภา เลขาธิการ วุฒิสภา และขาราชการรฐั สภาฝายการเมืองในวฒุ สิ ภา (11) เลขาธกิ ารสภาผูแทนราษฎร สําหรบั ตาํ แหนง ขาราชการรัฐสภาสามัญในสาํ นกั งานเลขาธกิ าร สภาผูแ ทนราษฎร (12) เลขาธกิ ารวุฒิสภา สาํ หรับตาํ แหนง ขาราชการรฐั สภาสามญั ในสํานกั งานเลขาธกิ ารวุฒสิ ภา (13) ประธานศาลฎกี า สาํ หรบั ตําแหนงขา ราชการตลุ าการตามกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการ ฝา ยตลุ าการ (14) ผวู า ราชการจงั หวดั สําหรบั ตาํ แหนงทต่ี าํ่ กวาผวู าราชการจงั หวัดในราชการสว นภมู ิภาคที่สงั กัด จงั หวดั นัน้ และ ตาํ แหนง สมาชกิ สภาทองถนิ่ และหรอื ผูบรหิ ารทอ งถนิ่ ตามกฎหมายวา ดวยองคการบริหารสวน จังหวดั กฎหมายวาดวยเทศบาล กฎหมายวา ดวยสขุ าภิบาล และกฎหมายวา ดวยระเบียบบรหิ ารราชการเมอื ง พทั ยา (15) นายอาํ เภอ สาํ หรับตาํ แหนงสมาชกิ สภาทอ งถ่ินและผบู รหิ ารทองถ่ินตามกฎหมายวา ดว ยสภาตาํ บล และ องคก ารบริหารสว นตาํ บล และตาํ แหนงกํานนั ผูใหญบ าน แพทยป ระจาํ ตาํ บล สารวัตรกํานนั และผชู ว ย ผใู หญบ า น (16) ผูบ ริหารสงู สดุ ขององคก รปกครองทอ งถ่ิน สาํ หรับตาํ แหนงขา ราชการองคก ารบรหิ ารสว นจงั หวดั พนกั งาน เทศบาล พนกั งานสขุ าภบิ าล พนกั งานสว นตําบล และพนักงานเมอื งพัทยา (17) ผวู าการ ผูอาํ นวยการ หรือผบู ริหารสงู สุดที่เรยี กช่อื อยางอ่ืนของรัฐวสิ าหกิจ องคก ารของรัฐ หรอื องคก ารมหาชน สําหรบั ตาํ แหนงเจาหนา ทห่ี รอื พนกั งานในหนว ยงานนัน้ มาตรา 7 พระราชกฤษฎกี ากาํ หนดเจา หนา ทขี่ องรฐั ท่อี อกตามบทนยิ ามคาํ วา \"เจา หนาทีข่ องรฐั \" ใน มาตรา 4 ให กําหนดผูมอี ํานาจออกบัตรประจาํ ตวั ไวด ว ย มาตรา 8 บตั รประจําตัวซงึ่ ออกตามพระราชบัญญัตนิ ้ีใหใ ชไ ดหกปนบั แตวนั ออกบตั ร เวน แตบ ตั ร ประจําตวั สําหรบั เจา หนาที่ของรฐั ท่ีมวี าระการดาํ รงตาํ แหนง นอ ยกวาหกปใ หใชไ ดจ นถงึ วันท่ีผูถือบตั รครบวาระ การดํารงตําแหนง และบตั ร ประจําตัวสําหรับเจาหนาที่ของรัฐผรู ับบําเหน็จบาํ นาญทใี่ ชไ ดใ นวนั ที่ผถู อื บัตรมอี ายุ ครบเจด็ สิบปบรบิ รู ณใหค งใชไ ดต ลอดชีวติ มาตรา 9 ในกรณที ี่บตั รประจาํ ตวั จะหมดอายุ ผูถือบตั รตองขอมีบตั รภายในสามสบิ วนั กอนวนั ที่บตั รนน้ั หมดอายุ ในกรณที บ่ี ตั รหาย ถกู ทําลาย หรอื ชํารุดในสาระสาํ คญั ผถู อื บัตรตอ งขอมีบตั รใหม หรือขอเปล่ียนบัตร แลวแตก รณี ภายใน สามสิบวันนับแตว นั ท่ีบตั รนั้นหาย ถกู ทําลาย หรอื ชํารุด ในกรณที ผี่ ูถือบัตรเปลย่ี นชื่อตวั ชื่อสกุล หรือชอ่ื ตัวและชือ่ สกลุ ผูถือบตั รตองขอเปลี่ยนบตั รภายใน สามสบิ วนั นบั แตว นั ที่ไดร ับ อนญุ าตใหเปลี่ยนชอ่ื ตวั ช่อื สกุล หรอื ชื่อตวั และช่ือสกุล แลว แตกรณี มาตรา 10 ในกรณที เี่ จาหนา ท่ีของรฐั ทไี่ ดร บั บัตรประจาํ ตัวตามพระราชบัญญัตินี้ ออกจากราชการหรอื พน จาก ตาํ แหนง ใหเ ปนอนั หมดสิทธทิ จี่ ะใชบ ัตรประจําตัวนั้นตอ ไป ในกรณที ผี่ ถู อื บัตรประจําตวั ไดเ ลอื่ นยศ เลอ่ื นชน้ั เลื่อนระดับ เปล่ยี นตาํ แหนงหรอื ยา ยสังกดั ใหผ ูนน้ั ขอ บตั รประจําตวั ใหมตาม ยศ ชัน้ ระดับ ตาํ แหนง หรอื สังกดั ใหมน ้ันภายในสามสบิ วนั นับแตวนั เลือ่ นยศ เล่ือนชัน้ เลื่อนระดบั เปลีย่ นตาํ แหนง หรอื ยาย สังกดั มาตรา 11 ถาผูถ อื บัตรประจําตวั สําหรบั เจาหนาทข่ี องรัฐผรู ับบําเหน็จบาํ นาญผใู ดไดร บั โทษจําคกุ โดย คําพพิ ากษา ถงึ ที่สุดใหจาํ คกุ เวนแตเปนโทษสาํ หรบั ความผิดทไี่ ดกระทาํ โดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษหรอื เปนบุคคลลมละลายทจุ ริต ตามกฎหมายวาดว ยลมละลาย หรือยินยอมใหผูอนื่ นาํ บัตรประจําตัวนั้นไปใชใ นทาง ทุจรติ ใหเปนอนั หมดสทิ ธทิ ่ีจะใชบัตร ประจําตวั นั้นตอ ไป มาตรา 12 ผใู ดมไิ ดเ ปน เจา หนา ท่ีของรฐั หรอื เจา หนา ทขี่ องรฐั ผูร บั บาํ เหน็จ บาํ นาญ ใชหรอื แสดงบตั ร ประจําตัววาตน เปน เจาหนา ท่ีของรัฐหรอื เจาหนา ทีข่ องรัฐผรู ับบาํ เหนจ็ บาํ นาญ ตอ งระวางโทษจําคกุ ตง้ั แต หกเดือนถึงหา ป และปรบั ต้งั แตห นึ่ง หม่นื บาทถึงหน่ึงแสนบาท มาตรา 13 บรรดาบัตรประจาํ ตัวขาราชการ บัตรประจาํ ตัวขา ราชการการเมอื ง บัตรประจําตวั ขา ราชการ กรงุ เทพมหานคร บัตรประจําตวั พนกั งานเทศบาล บตั รประจําตัวพนกั งานสขุ าภบิ าล บัตรประจําตวั พนักงาน องคการของรฐั

129 และบัตรประจาํ ตวั ขา ราชการบาํ เหนจ็ บาํ นาญทไ่ี ดอ อกกอนวนั ที่พระราชบัญญตั นิ ใ้ี ชบงั คับใหค ง ใชไดตอ ไปจนถึงวนั ทีบ่ ตั รนนั้ หมดอายุ มาตรา 14 บรรดากฎกระทรวงทอ่ี อกตามกฎหมายวาดวยบัตรประจําตวั ขา ราชการพนักงานเทศบาล พนกั งาน สขุ าภิบาล และพนักงานองคการของรฐั ทใ่ี ชบ ังคับอยูในวนั ที่พระราชบญั ญตั นิ ้ปี ระกาศใน ราชกจิ จานุเบกษา ใหค งใชบ ังคับได ตอไปเทาทไี่ มข ดั หรอื แยงกับพระราชบัญญัตินจ้ี นกวา จะมีการออกกฎ กระทรวงตามพระราชบัญญัตนิ ี้ มาตรา 15 ใหนายกรฐั มนตรีรกั ษาการตามพระราชบัญญตั ิน้ี และใหม อี าํ นาจออกกฎกระทรวง เพ่ือ ปฏิบตั ิการตาม พระราชบญั ญตั นิ ้ี กฎกระทรวงนนั้ เมือ่ ไดประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาแลวใหใ ชบ ังคับได ผูร ับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลกี ภยั นายกรฐั มนตรี

130 วธิ ีปฏบิ ตั ิ

131 131  วธิ ีปฏบิ ัติ 1. การตรวจสอบ Version ของ Internet Explorer และการต้งั คา่ เพอ่ื ใช้งาน 1.1 เลือกรายการที่เมนบู าร์ โดยเลอื กเมนู Help และเลอื ก About Internet Explorer 1.2 ระบบจะทาการแสดง Version ของ Internet Explorer วา่ เปน็ Version 11 1.3 หากสถานศกึ ษายังไม่สามารถใชง้ านระบบ e-Studentloan ได้ ให้ตั้งค่า Compatibility ดังน้ี

132 132  2. การต้ังคา่ บราวเซอร์เพือ่ ใช้งานระบบ e-Studentloan 2.1 การปลดล็อค Block Pop Up บน Browser Internet Explorer และ Google Chrome 2.1.1 Internet Explorer (1) คลกิ ที่ Icon (เมนู Tools) เลือก “Internet options” (2) คลิกท่ี Tap เมนู “ Privacy ” และให้ต๊ิกเคร่ืองหมายถูกหน้าข้อความ “Turn On Pop-up Blocker” ออก จากนั้นคลกิ ป่มุ

133 133 2.1.2 Google Chrome (1) คลิกที่ Icon (2) เลือก “การต้ังคา่ ” หรือ “Settings” (3) คลิกท่ี “ขน้ั สูง” หรือ “Advanced” (4) คลกิ เลือก “การตง้ั คา่ เน้ือหา” หรือ “Content settings”

134 134  (5) คลกิ เลือก “ป๊อบอปั และการเปลี่ยนเสน้ ทาง” หรอื “Pop-ups redirects” “Blocked” (6) คลิก “อนุญาตแล้ว” หรือ “Allowed” ให้เปลี่ยนเป็น “ถูกบล็อก” หรือ เพื่อปดิ การ Block Pop Up

135 135  3. การดาเนินการขอยกเลิกสัญญา หรือแบบลงทะเบียนเรียนฯ ผ่านระบบ e-Studentloan กรณีสถานศึกษา ยนื ยันการตรวจสอบเอกสารแลว้ ในการจัดทาเอกสารขอยกเลิกเอกสารต่างๆ นี้ ผู้บริหารของสถานศึกษาจะต้องเป็นผู้ดาเนินการ จัดทาเอกสารยกเลิกต่างๆ เน่ืองจากกองทุนฯ เห็นว่าการยกเลิกเอกสารจะต้องได้รับความเห็นชอบ จากผู้บริหารของสถานศึกษาก่อน จากนั้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงนามในเอกสาร กรณีที่นักเรียน นักศึกษาหรือ สถานศึกษาได้รับการโอนเงินประเภทใดประเภทหนึ่งแล้ว นักเรียน นักศึกษา หรือสถานศึกษาจะต้องทาการ คืนเงินท่ีได้รับให้กับกองทุนฯ ก่อน ข้อมูลการยกเลิกนั้นจึงจะสามารถดาเนินการได้โดยสมบูรณ์ วิธีการ ดังกลา่ ว มีดงั ตอ่ ไปน้ี การทาเอกสารขอยกเลกิ แบบลงทะเบยี นเรยี น/แบบยืนยันฯ 1. สถานศึกษา Login เข้าสู่ระบบงาน e-Studentloan โดยใช้รหัสผู้บริหารของสถานศึกษา เลอื กเมนทู ่ี 4. ขอยกเลิกเอกสารหลังจากส่งธนาคาร → 4.2 ขอยกเลิกแบบลงทะเบยี นเรียนฯ หลังจากส่ง ธนาคาร → ขอยกเลิกแบบลงทะเบียนเรียนฯ หลังจากส่งธนาคาร ดังรูปจอภาพที่ SLFUE-0017-01 ใหส้ ถานศกึ ษาทาการระบเุ ลขบัตรประจาตวั ประชาชน และเลขทแ่ี บบลงทะเบียนเรียนฯ จากนน้ั กดปุ่ม จะปรากฏขอ้ มูลดังรปู จอภาพที่ SLFUE-0017-02 รูปจอภาพที่ SLFUE-0017-01 รูปจอภาพที่ SLFUE-0017-02

136 136  2. กดปุ่ม จะปรากฏหน้าจอของเอกสาร เป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1. แบบขอยกเลิกเอกสารแบบลงทะเบียนเรียนฯ ดังรูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-03 และ ส่วนที่ 2. ใบรบั ชาระคนื เงนิ ตามแบบใบยืนยนั ฯ ดังรปู จอภาพที่ SLFUE-0017-04 รูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-03 รปู จอภาพที่ SLFUE-0017-04

137 137  3. กดที่ปุ่ม จะปรากฏข้อความดังรูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-05 ให้คลิกปุ่ม เพ่ือทาการยืนยันการขอยกเลิกแบบลงทะเบียนฯ และจะปรากฏ ข้อความดงั รูปจอภาพที่ SLFUE-0017-06 ใหค้ ลิกปมุ่ รูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-05 รูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-06 การตรวจสอบผลการขอยกเลิกแบบลงทะเบียน สถานศึกษา Login เข้าสู่ระบบงาน e-Studentloan โดยใช้รหัสผู้บริหารของสถานศึกษา เลอื กเมนทู ี่ 4. ขอยกเลกิ เอกสารหลังจากส่งธนาคาร → 4.2 ขอยกเลิกแบบลงทะเบียนเรียนฯ หลงั จากส่ง ธนาคาร → ตรวจสอบผลการขอยกเลิกแบบลงทะเบียนฯ ระบบจะแสดงหน้าจอดังรูปจอภาพที่ SLFUE- 0017-07 ให้สถานศึกษาทาการระบุปีการศึกษา ภาคเรียนท่ี เลขประจาตัวประชาชน (ถ้าทาการระบุเลขบัตร ประจาตัวประชาชนจะเป็นการค้นหาข้อมูลตามเลขบัตรประจาตัวประชาชนที่ได้ระบุไว้) และทาการเลือก สถานะล่าสุดของแบบลงทะเบียนฯ หลังจากน้ันกดปุ่ม จะปรากฏรูปจอภาพดังรูปจอภาพท่ี SLFUE- 0017-08 รปู จอภาพท่ี SLFUE-0017-07

138 138  รูปจอภาพที่ SLFUE-0017-08 หมายเหตุ : เมื่อบันทึกแบบยกเลิกเอกสารลงทะเบียนเรยี นเรียน/แบบยืนยนั จานวนเงินค่าเลา่ เรียน ค่าใช้จ่าย ท่ีเก่ียวเน่ืองกับการศึกษา และค่าครองชีพเรียบร้อยแล้วให้สถานศึกษาพิมพ์แบบยกเลิกลงทะเบียนฯ และใบรับชาระคืนเงิน ตามแบบใบยืนยนั ฯ ออกจากระบบ และนาส่งผูบ้ ริหารและจัดการเงินให้กยู้ ืม การขอยกเลิกสญั ญากู้ยมื เงิน 1. สถานศึกษา Login เข้าสู่ระบบงาน e-Studentloan โดยใช้รหัสผู้บริหารของสถานศึกษา เลือกเมนูท่ี 4. ขอยกเลิกเอกสารหลังจากส่งธนาคาร → 4.1 ขอยกเลิกสัญญาหลังจากส่งธนาคาร → ขอยกเลิกสัญญาหลังจากส่งธนาคาร ระบบจะแสดงหน้าจอดังรปู จอภาพท่ี SLFUE-0017-09 ให้สถานศึกษา ระบุเลขบัตรประจาตัวประชาชน และเลขที่สัญญา หลังจากนั้นกดปุ่ม จะปรากฏรูปจอภาพ ดังรูป จอภาพท่ี SLFUE-0017-10 รูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-09 รปู จอภาพที่ SLFUE-0017-10

139 139 2. ให้สถานศึกษาคลิกที่ปุ่ม ระบบจะแสดงแบบขอยกเลิกสัญญาฯ ดังรูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-11 รปู จอภาพท่ี SLFUE-0017-11 3. กดท่ีปุ่ม จะปรากฏข้อความดังรูปจอภาพที่ SLFUE-0017- 12 ให้คลิกปุ่ม เพื่อทาการยืนยันการยกเลิกสัญญา และจะปรากฏข้อความดังรูปจอภาพท่ี SLFUE- 0017-13 ใหค้ ลิกป่มุ รปู จอภาพท่ี SLFUE-0017-12 รปู จอภาพท่ี SLFUE-0017-13

140 140  การตรวจสอบผลการขอยกเลกิ สญั ญา 1. สถานศึกษา Login เข้าสู่ระบบงาน e-Studentloan โดยใช้รหัสผู้บริหารของสถานศึกษา เลือกเมนูท่ี 4. ขอยกเลิกเอกสารหลังจากส่งธนาคาร → 4.1 ขอยกเลิกสัญญาหลังจากส่งธนาคาร → ตรวจสอบผลการขอยกเลิกสัญญา ระบบจะแสดงหน้าจอดังรูปจอภาพท่ี SLFUE-0017-14 ให้สถานศึกษา ระบปุ ีการศึกษา เลขประจาตวั ประชาชน (ถ้าทาการระบุเลขประจาตวั ประชาชนจะเป็นการคน้ หาข้อมูลตาม เลขบัตรประจาตัวประชาชนท่ีได้ระบุไว้) และทาการเลือกสถานะล่าสุดของสัญญาหลังจากนั้นกดปุ่ม จะปรากฏรปู จอภาพ ดงั รูปจอภาพที่ SLFUE-0017-15 รปู จอภาพที่ SLFUE-0017-14 รูปจอภาพที่ SLFUE-0017-15 หมายเหตุ : เม่ือบันทึกแบบขอยกเลิกสญั ญากู้ยมื เงิน สัญญาค้าประกัน และหนังสือให้ความยินยอม เรียบร้อย แล้วใหส้ ถานศึกษาพมิ พ์แบบขอยกเลิกสญั ญากยู้ ืมเงนิ ฯ จากระบบ และนาสง่ ผบู้ ริหารและจดั การเงินใหก้ ้ยู มื

141 แบบฟอรม์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook