Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนหน่วย 2 ความหลากหลายทางชีวภาพ

แผนหน่วย 2 ความหลากหลายทางชีวภาพ

Published by Jiab Chanchira, 2021-01-16 07:53:45

Description: แผนหน่วย 2 ความหลากหลายทางชีวภาพ

Search

Read the Text Version

การจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ ความหลากหลายทางชีวภาพ 2 โดย นางสาวจนั จิรา ธนนั ชยั ตาแหน่งครูผู้ชว่ ย

วช-ร 04 การออกแบบการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า ชวี วทิ ยา 6 รหัสวชิ า ว33206 ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 จดั ทำโดย นางสาวจนั จริ า ธนนั ชัย ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแมแ่ จม่ จงั หวัดเชียงใหม่ สำนกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนกั งานการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ผังมโนทัศน์ รายวชิ าชีววทิ ยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ จำนวน 32 ชั่วโมง : 40 คะแนน ชื่อเรื่องความหลากหลายทางชวี ภาพ จำนวน 2 ช่ัวโมง : 3 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ จำนวน 15 ชว่ั โมง ชื่อเรอื่ งความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ ชื่อเร่อื งการศกึ ษาความหลากหลายของ จำนวน 6 ช่วั โมง : 12 คะแนน สง่ิ มีชวี ติ จำนวน 14 ช่ัวโมง : 15 คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง อนุกรมวิธาน รายวชิ า ชวี วทิ ยา 6 รหัสวชิ า ว33206 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 นำ้ หนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 32 ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2 ชัว่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสำคญั อนกุ รมวธิ าน เปน็ การจัดจำแนกสง่ิ มีชวี ิตส่ิงมชี ีวิตออกเปน็ หมวดหมตู่ ามสายววิ ัฒนาการ ในอดีตการจดั จำแนก กลมุ่ สง่ิ มีชวี ิตแบบผิวเผิน แตใ่ นปจั จุบนั ไดจ้ ดั กลุ่มสิง่ มชี ีวติ ออกเปน็ 5 กลุ่มใหญๆ่ คอื อาณามอเนอรา อาณาจกั รโพทิสตา อาณาจกั รฟังไจ อาณาจักรพืช และอาณาจกั รสัตว์ 2. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู/้ เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ 2. เขา้ ใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหนา้ ทข่ี องสารพนั ธุกรรม การเกดิ มวิ เทชัน เทคโนโลยที างดีเอน็ เอ หลักฐาน ข้อมลู และแนวคดิ เกี่ยวกบั ววิ ฒั นาการของสิ่งมชี ีวติ ภาวะสมดลุ ของ ฮาร์ดี-ไวน์เบิรก์ การเกดิ สปชี ีสใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของสิ่งมีชวี ติ ความหลากหลายของส่งิ มชี ีวิต และ อนุกรมวธิ าน รวมท้ังนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. อภิปรายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และความเช่ือมโยงระหวา่ งความหลากหลายทาง พันธกุ รรมความหลากหลายของสปชี ีส์และความหลากหลายของระบบนิเวศ 3. สาระการเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของอนุกรมวิธานได้ (K) 2. นำเสนอความเช่ือมโยงระหวา่ งความหลากหลายทางพันธกุ รรมและความหลากหลายของระบบนิเวศได้ (P) 3. สนใจใฝเ่ รียนรทู้ างการศึกษา (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของนักเรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 5. คณุ ลักษณะของ 1. ความรบั ผดิ ชอบ 6. คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - หนงั สือเลม่ เล็ก เรอ่ื ง ความหลากหลายของสง่ิ มีชีวติ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. กระตนุ้ นักเรียนดว้ ยคำถาม - การจดั ประเภทของส่งิ มชี วี ติ อาศัยหลกั เกณฑ์ใด (อาศยั ลกั ษณะภายนอกท่คี ล้ายกัน หรือพจิ ารณา จากประเภทเดียวกัน) - ในปัจจุบันใชเ้ กณฑ์ใดในการจดั ประเภทของสิง่ มีชวี ิต (พิจารณาจากหลายปัจจยั เช่น ลกั ษณะ ภายนอกและภายใน การเจริญเติบโต วิวัฒนาการร่วมกนั สารเคมแี ละสง่ิ แวดลอ้ มทอ่ี ยู่อาศัย) ขัน้ ท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. ให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 4 – 5 คน ศกึ ษาคน้ ควา้ ข้อมลู เรื่อง การจัดจำแนกประเภทของสิง่ มีชวี ติ เพ่อื ใหง้ า่ ยตอ่ การศกึ ษาต้งั แต่อดีตจนถงึ ปจั จุบนั 2. ให้นกั เรยี นแลกเปลี่ยนข้อมลู ท่ไี ด้จากการศกึ ษาคน้ คว้ากบั เพือ่ นนักเรยี นในห้อง 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายผลทไี่ ดจ้ ากการศึกษาคน้ คว้า เรอื่ ง การจัดจำแนกประเภทของส่ิงมชี วี ติ เพือ่ ใหง้ ่ายตอ่ การศึกษาต้ังแตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จุบัน เพอ่ื สรปุ ผลและสร้างองคค์ วามรู้ใหมร่ ว่ มกัน ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) - อนกุ รมวธิ านวิทยา (taxonomy) ซึง่ มีรากศพั ทจ์ ากคำในภาษากรีกโบราณวา่ taxis (การจัดเรยี ง) และ nomos (กฎ, ธรรมเนยี ม) เป็นการจัดจำแนกสิ่งมีชวี ิตออกเป็นหมวดหมู่ตามสาย วิวฒั นาการ อนุกรมวิธานเปน็ วิชาที่ว่าด้วยกฎเกณฑ์เกี่ยวกับ - การจดั จำแนกสิ่งมีชวี ติ (classification) ออกเปน็ หมวดหม่ตู า่ ง ๆ - การกำหนดช่อื สากลของหมวดหมแู่ ละชนิดของส่งิ มชี วี ติ (nomenclature) - การตรวจสอบชื่อวทิ ยาศาสตรข์ องสิง่ มีชีวิต (identification) - ในการศึกษาอนุกรมวธิ านจะมศี พั ทท์ ใี่ ชเ้ รยี กแตกตา่ งกนั ออกไป ถ้าหากการศกึ ษาเปน็ ไปในทาง รวบรวมตวั อย่าง (specimen) บดิ าแห่งอนกุ รมวธิ านวิทยา คือ คารล์ ลนิ เนยี ส นกั พฤกษศาสตร์ ชาวสวเี ดน ข้นั ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ให้นักเรยี นออกแบบหนังสอื เล่มเล็ก เรื่อง ความหลากหลายของสิง่ มีชวี ิต สรปุ เน้ือหาใหก้ ระชับและ เขา้ ใจงา่ ย และตกแตง่ ใหส้ วยงาม ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (Evaluation) 1. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี จี ดุ เดน่ จุดบกพรอ่ งอะไรบา้ ง มคี วาม สงสยั ความอยากรู้อยากเห็นในเรือ่ งใด 2. นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ - สิ่งทน่ี กั เรยี นได้เรียนรู้ในวนั นีค้ อื อะไร

- นักเรยี นมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด - เพือ่ นนักเรียนในกลมุ่ มสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากน้อยเพยี งใด - นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรียนในวันนีห้ รือไม่ เพียงใด - นกั เรยี นจะนำความรู้ที่ไดน้ ไ้ี ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทวั่ ไปไดอ้ ย่างไร จากนัน้ แลกเปลย่ี นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนวา่ จะเพมิ่ คณุ ค่าไปสสู่ งั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สังคม ให้มากขึ้นกว่าเดมิ ในข้ันตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครั้งตอ่ ไป 9. สือ่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ จำนวน สภาพการใชส้ ือ่ รายการสือ่ 1 ชดุ อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 1. ส่อื Power Point เร่อื ง ความหลากหลายของ สำรวจและคน้ หา (Exploration) ส่ิงมีชีวติ 2. แหล่งเรียนรใู้ นและนอกหอ้ งเรียน

10. การวดั และประเมนิ ผลแบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิการทำกจิ กรรม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 321 1. การทำกจิ กรรม ทำกจิ กรรมตามวิธีการ ทำกิจกรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมไมถ่ ูกต้องตาม ตามแผนทีก่ ำหนด และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไวอ้ ย่าง และข้นั ตอนทีก่ ำหนดไว้ และขัน้ ตอนท่กี ำหนดไวโ้ ดย วิธีการและข้ันตอนท่ี ถูกตอ้ งด้วยตนเองมีการ ด้วยตนเอง มกี ารปรบั ปรงุ มีครหู รอื ผอู้ ่ืน กำหนดไว้ ไม่มีการ ปรบั ปรุงแกไ้ ขเป็นระยะ แก้ไขบา้ ง เป็นผูแ้ นะนำ ปรับปรุงแก้ไข 2. การใชอ้ ปุ กรณ์ ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรือ ใชอ้ ุปกรณแ์ ละ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณ์และ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณ์และ/หรอื และ/หรอื เคร่อื งมอื ในการทำ เคร่อื งมือในการทำ เครื่องมือในการทำ เครอื่ งมอื ในการทำ เคร่อื งมือ กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถูกต้องตาม กิจกรรมไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง กิจกรรมได้อยา่ งถูกต้องโดย กิจกรรมไม่ถูกต้อง และไม่ หลักการปฏบิ ัตแิ ละคลอ่ งแคลว่ ตามหลักการปฏิบตั ิ แต่ มีครู หรอื ผู้อ่นื เป็นผ้แู นะนำ มคี วามคล่องแคล่วในการ ไมค่ ล่องแคล่ว ใช้ 3. การบนั ทกึ ผล บนั ทึกผลเป็นระยะ บนั ทกึ ผลเปน็ ระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทึกผลไม่ครบ การทำกจิ กรรม อย่างถกู ตอ้ ง มีระเบียบมกี าร อยา่ งถูกตอ้ ง มรี ะเบยี บมี แต่ไม่เปน็ ระเบียบ ไม่มีการระบุหน่วย ระบหุ น่วย มกี ารอธิบายขอ้ มลู การระบุหนว่ ย มีการ ไม่มกี ารระบหุ น่วย และไมเ่ ปน็ ไปตาม ใหเ้ ห็นความเชื่อมโยงเป็นภาพรวม อธบิ ายข้อมูลให้เห็นถึง และไมม่ กี ารอธบิ ายข้อมลู ให้ การทำกิจกรรม เปน็ เหตุเปน็ ผล และเป็นไปตาม ความสมั พันธเ์ ป็นไป เหน็ ถึงความสมั พันธ์ของการ การทำกจิ กรรม ตามการทำกจิ กรรม ทำกิจกรรม 4. การจัดกระทำ จัดกระทำข้อมูล จดั กระทำขอ้ มลู จัดกระทำข้อมูล จัดกระทำข้อมลู อยา่ งไม่ ขอ้ มลู และการ อยา่ งเปน็ ระบบมีการเชื่อมโยง อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อยา่ งเป็นระบบมีการ เปน็ ระบบ และมีการ นำเสนอ ให้เหน็ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอ จำแนกข้อมลู ให้เห็น ยกตวั อยา่ งเพิ่มเติมให้เขา้ ใจ นำเสนอไมส่ ือ่ ความหมาย ด้วยแบบตา่ ง ๆอย่างชดั เจน ความสมั พนั ธ์ นำเสนอ ง่าย และนำเสนอดว้ ยแบบ และไมช่ ดั เจน ถกู ต้อง ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ ได้ ตา่ ง ๆ แต่ยังไม่ชัดเจนและไม่ แต่ยงั ไมช่ ัดเจน ถูกต้อง 5. การสรุปผลการ สรปุ ผลการทำกิจกรรม สรปุ ผลการทำกิจกรรม สรุปผลการทำกิจกรรมไดโ้ ดย สรุปผลการทำกิจกรรม ทำกจิ กรรม ไดอ้ ย่างถูกต้อง กระชบั ชดั เจน ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง แตย่ ัง มีครหู รือผู้อื่น ตามความร้ทู ่พี อมีอยู่ และครอบคลุมขอ้ มลู จากการ ไม่ครอบคลุมข้อมูล แนะนำบ้าง จงึ สามารถ โดยไม่ใช้ข้อมลู วิเคราะห์ จากการวิเคราะหท์ ้ังหมด สรปุ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง จากการทำกิจกรรม ทั้งหมด 6. การดแู ลและ ดูแลอุปกรณ์และ/หรือเคร่ืองมือ ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื ดแู ลอุปกรณแ์ ละ/หรือ ไมด่ ูแลอุปกรณแ์ ละ/หรือ การเกบ็ อุปกรณ์ ในการทำกิจกรรม และมกี าร เครอ่ื งมือในการทำ เคร่อื งมือในการทำกิจกรรม เครื่องมอื ในการทำ และ/หรือ ทำความสะอาดและเก็บอยา่ ง กจิ กรรม และมกี าร มกี ารทำความสะอาด แต่ กิจกรรม และไม่สนใจทำ เครือ่ งมอื ถูกต้องตามหลกั การและแนะนำ ทำความสะอาดอย่าง เก็บไมถ่ กู ตอ้ ง ต้องใหค้ รหู รอื ความสะอาด รวมท้ังเก็บ ให้ผ้อู น่ื ดแู ลและเก็บรักษาได้ ถูกต้อง แตเ่ ก็บ ผู้อนื่ แนะนำ ไมถ่ กู ต้อง ถูกตอ้ ง ไมถ่ กู ต้อง

แบบประเมนิ ช้ินงาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนผงั รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ การจัดกระทำและ 432 1 นำเสนอแผนผงั จัดกระทำและนำเสนอ จัดกระทำแลนำเสนอ จัดกระทำและ จดั กระทำและ แผนผังได้ แต่ไม่ สอดคลอ้ งกบั หัวข้อ แผนผัง ไดส้ มั พนั ธ์กนั นำเสนอ แผนผงั ได้ นำเสนอแผนผังได้ เรื่องทีก่ ำหนด และถกู ตอ้ งตามหัวข้อ สัมพนั ธ์กบั หัวขอ้ เรอ่ื ง ตามหัวข้อเร่ือง เร่ืองท่กี ำหนด มกี าร ทกี่ ำหนด มกี าร โดยมีครหู รือผู้อนื่ วางแผน มกี าร ออกแบบ มีความคิด ใหค้ ำแนะนำ ออกแบบ และมี ริเร่มิ แต่ไมม่ ีการ ความคดิ สรา้ งสรรค์ เชื่อมโยงใหเ้ ห็นเปน็ มีการเช่อื มโยงใหเ้ หน็ ภาพรวม เป็นภาพรวม

แบบประเมนิ การสบื สอบขอ้ มลู รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การ วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าข้อมลู จาก วางแผนท่ีจะค้นควา้ วางแผนทจ่ี ะคน้ ควา้ ไม่มีการวางแผนท่ี วางแผน แหลง่ การเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ข้อมูลจากแหล่งการ ข้อมลู จากแหลง่ การ จะคน้ คว้าข้อมูลจาก คน้ คว้าข้อมลู เชือ่ ถอื ไดแ้ ละมีการเชือ่ มโยงให้ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เรียนรู้โดยมคี รหู รือผอู้ น่ื แหล่งการเรียนรู้ จากแหล่งการ เห็นเป็นภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ และเหมาะสมแต่ไมม่ ี แนะนำบ้าง อยา่ งเปน็ ระบบ เรยี นรู้ ถงึ ความสมั พนั ธ์ของ การเชอ่ื มโยงให้เหน็ วธิ กี ารท้ังหมด เปน็ ภาพรวม 2. การเกบ็ เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู รวบรวม ตามแผนท่ีกำหนด โดยคดั เลือกและ/หรอื โดยไม่มกี ารคัดเลือก เป็นระยะ ขาดการ ขอ้ มลู ทุกประการ ประเมินขอ้ มูล และ/หรอื ประเมินข้อมูล ประเมินเพอ่ื คดั เลือก 3. การจดั จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู กระทำข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อย่างเป็นระบบ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ จำแนกขอ้ มูลให้เหน็ มกี ารยกตัวอย่าง และนำเสนอไม่สอ่ื นำเสนอ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอดว้ ย ความสมั พันธ์ นำเสนอ เพิ่มเติมใหเ้ ข้าใจง่ายและ ความหมายและไม่ แบบตา่ ง ๆ อยา่ งชัดเจนถูกตอ้ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ นำเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ชดั เจน อยา่ งถกู ต้อง แต่ยังไม่ถกู ต้อง 4. การ สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ สรปุ ผล กระชบั ชัดเจน และ แต่ยงั ไม่ชัดเจนและ กะทัดรดั แตไ่ มช่ ดั เจน ข้อมูล และไม่ ครอบคลมุ มีเหตผุ ล ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล ถูกต้อง ที่อา้ งอิงจากการสืบสอบได้ จากการวเิ คราะห์ ทงั้ หมด 5. การเขยี น เขยี นรายงานตรงตาม เขียนรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสื่อ เขยี นรายงานได้ตาม รายงาน จุดประสงคถ์ กู ต้องและ จุดประสงคอ์ ยา่ ง ความหมายได้โดยมคี รู ตัวอยา่ ง แต่ใชภ้ าษา ชัดเจน และมีการเชือ่ มโยงให้ ถกู ตอ้ งและชัดเจนแต่ หรือผอู้ ่ืนแนะนำ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ เห็นเปน็ ภาพรวม ขาดการเรียบเรยี ง ชัดเจน

วช-ร 06 แบบบันทกึ หลังการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ือหน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ……………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เรอ่ื ง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ชนั้ …………………………. รหสั วิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตาแหนง่ …………………………………… เวลาท่ใี ช้ ……… ช่วั โมง ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อคน้ พบระหวา่ ง ปัญหาทพ่ี บ แนวทางแกไ้ ข ที่มกี ารจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของผู้เรียน ลงชื่อ …..........………….......................…….. ครผู จู้ ดั กิจกรรมการเรียนรู้ (นางสาวจันจิรา ธนนั ชยั ) ตำแหน่ง ครผู ชู้ ่วย

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ แผนจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง การจดั จำแนกกลุม่ สง่ิ มีชีวติ รายวชิ า ชีววิทยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 นำ้ หนักเวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 32 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 2 ชว่ั โมง 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด อนุกรมวธิ าน เป็นการจัดจำแนกสง่ิ มชี วี ติ สง่ิ มชี ีวติ ออกเปน็ หมวดหมตู่ ามสายวิวัฒนาการ ในอดตี การจัดจำแนก กลมุ่ สงิ่ มีชีวติ แบบผิวเผิน แต่ในปจั จุบนั ได้จดั กลุ่มสงิ่ มชี ีวติ ออกเปน็ 5 กลุ่มใหญๆ่ คอื อาณามอเนอรา อาณาจกั ร โพทิสตา อาณาจกั รฟงั ไจ อาณาจักรพืช และอาณาจักรสตั ว์ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ 2. เขา้ ใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม การถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าท่ขี องสาร พนั ธกุ รรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลกั ฐาน ข้อมูลและแนวคิดเกีย่ วกบั วิวัฒนาการของสง่ิ มชี ีวิต ภาวะ สมดุลของฮาร์ด-ี ไวน์เบริ ์ก การเกดิ สปชี ีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของสง่ิ มชี ีวติ ความหลากหลายของ สงิ่ มชี วี ิต และอนกุ รมวธิ าน รวมท้งั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 4. อธิบาย และยกตัวอย่างการจำแนกสง่ิ มชี ีวติ จากหมวดหมใู่ หญจ่ นถงึ หมวดหมู่ย่อย และวธิ ีการเขยี นชือ่ วทิ ยาศาสตร์ในลำดบั ขั้นสปชี ีส์ 5. สร้างไดโคโทมัสคียใ์ นการระบุสง่ิ มชี วี ติ หรือตวั อย่างที่กำหนดออกเป็นหมวดหมู่ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (K,P,A) 1. อธบิ ายหลักการจัดจำแนกสง่ิ มชี วี ิตได้ (K) 2. ยกตวั อยา่ งการจัดจำแนกสิง่ มชี ีวิตออกเปน็ หมวดหมไู่ ด้ (K) 3. จดั จำแนกส่งิ มชี ีวิตเปน็ หมวดหมู่ได้ (P) 4. สนใจใฝเ่ รียนรทู้ างการศกึ ษา (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - การจำแนกสง่ิ มีชวี ิต

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) 1. กระตุน้ นกั เรยี นด้วยคำถาม - ทำไมเราจึงตอ้ งจำแนกประเภทของสง่ิ มชี วี ิต (เพื่อให้งา่ ยตอ่ การศกึ ษาและร้สู ายวิวฒั นาการของ ส่ิงมีชวี ิต) - ปัจจุบนั จำแนกกลุ่มของสงิ่ มชี วี ิตทงั้ หมดก่ีกลุ่ม (5 กลุ่ม) - อะไรบ้าง (อาณาจกั รมอเนอรา อาณาจกั รโพทิสตา อาณาจักรฟงั ไจ อาณาจักรพืช และอาณาจกั ร สตั ว)์ - ใช้เกณฑ์อะไรในการจัดจำแนก (ลกั ษณะภายนอก โครงสรา้ งของสงิ่ มชี วี ิต การอยู่อาศยั และสาย ววิ ฒั นาการ) ขั้นท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4 – 5 คน ศกึ ษาค้นควา้ จากการทำกจิ กรรมใบงาน เร่ือง การจัดจำแนก ประเภทของส่งิ มชี วี ิต เพอ่ื ให้งา่ ยต่อการศกึ ษาตั้งแตอ่ ดตี จนถึงปจั จุบัน 2. ใหน้ กั เรียนแลกเปล่ียนขอ้ มูลทีไ่ ด้จากการศึกษาคน้ คว้าจากการทำกิจกรรมกับเพอ่ื นนักเรยี นในหอ้ ง 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภิปรายผลทีไ่ ดจ้ ากการศึกษาค้นคว้าจากการทำกจิ กรรม เรือ่ ง การจดั จำแนก ประเภทของสง่ิ มีชวี ติ เพื่อใหง้ า่ ยต่อการศึกษาตัง้ แตอ่ ดตี จนถึงปัจจบุ ัน เพือ่ สรุปผลและสรา้ งองค์ ความรู้ใหมร่ ่วมกัน ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) - การจดั จำแนกส่ิงมีชวี ิต (classification of organisms)การจัดจำแนกสง่ิ มชี ีวิตออกเป็นหมวดหมู่ ไม่ใช่เพยี งเปน็ การบอกชอื่ ชนิดของสง่ิ มชี วี ิตเทา่ นนั้ แตจ่ ะตอ้ งสามารถบ่งบอกถึงลำดบั ของ สง่ิ มีชีวติ และตำแหน่งในการเกดิ ขึ้นของชนดิ ในขบวนการวิวฒั นาการไดด้ ้วยการศกึ ษาชนิด ความ หลากหลายของส่งิ มชี วี ิตและความสมั พนั ธ์ในเชิงววิ ฒั นาการระหว่างส่ิงมชี วี ิตต่างๆ เรยี กว่า อนกุ รมวธิ าน taxonomy หรอื อาจเรยี กวา่ systematics แตน่ กั ชวี วทิ ยาบางส่วนอาจจะแยกทั้ง สองศาสตรน์ อ้ี อกจากกนั โดยถือว่า taxonomyเป็นการศกึ ษาเพื่อใหค้ ำอธบิ ายรายละเอยี ด เกีย่ วกบั ส่งิ มชี ีวติ นัน้ ๆ (description of species) ส่วน systematics เป็นการศึกษาเพ่อื จดั กลมุ่ ของสงิ่ มีชวี ติ ที่มีวิวฒั นาการมาเหมอื นกนั ให้อย่ใู นกลมุ่ เดยี วกัน ซึ่งสามารถ ใชใ้ นการอธบิ าย ความสมั พนั ธข์ องชาตวิ งศว์ านและนำมาจดั เป็นประวัตชิ าติพันธ์(ุ phylogeny) ของสิง่ มีชีวิตกล่มุ ต่างๆได้ การจดั ทำphylogeny ของส่ิงมชี ีวิตสามารถทำไดใ้ นทุกระดับของสิง่ มีชีวติ เช่นการ ทำ phylogeny เพื่อแสดงความสัมพนั ธข์ องสงิ่ มชี ีวติ ทอ่ี ยใู่ น อาณาจักรพชื อาณาจกั รสัตวแ์ ละ ความสัมพันธข์ องส่งิ มชี ีวติ ในระดับอนื่ ๆเชน่ ในระดับสกลุ (genus)การจำแนกสง่ิ มีชวี ิตมหี ลาย ระบบ ดังนี้ 1. Artificial system จดั จำแนกสงิ่ มชี วี ติ โดยพิจารณาลกั ษณะภายนอกท่ัว ๆ ไปเท่าท่ี สังเกตได้ พวกทมี่ ีลักษณะคล้ายกนั จัดไวพ้ วกเดยี วกนั พวกทม่ี ลี ักษณะต่างกนั ก็แยก ออกไป ระบบนน้ี ยิ มใชใ้ นระยะ ค.ศ. ท่ี 17 – 18

2. Natural system จำแนกโดยอาศัยลักษณะธรรมชาติ ลกั ษณะภายนอก ลักษณะ ภายใน พฤตกิ รรมและนเิ วศนว์ ิทยา ระบบนี้ใช้ระหว่างกลาง ค.ศ. ที่ 18 – 19 3. Phylogenetic system พิจารณาถงึ ความสัมพนั ธ์ทางวิวฒั นาการของ ส่งิ มชี ีวติ และการมีบรรพบุรษุ รว่ มกนั และได้นำความร้แู ผนใหม่ทางชีววทิ ยาและ วิทยาศาสตร์สาขาอื่น ๆ เข้ามาประกอบดว้ ย ระบบน้ไี ด้รบั ความนยิ มนำมาใช้จานถงึ ปจั จบุ นั 4. Modern system ระบบนีเ้ ปน็ การผสมระหวา่ ง Natural system กบั Phylogenetic system เข้าด้วยกันโดยรวมลักษณะภายนอก ลักษณะภายใน เอมบริ โอ ลกั ษณะทางชีวเคมี เช่นผนังเซลล์ประกอบด้วยสารอะไรบ้าง มีอาหารเกบ็ ไวท้ ไ่ี หนมรี งค วตั ถุอะไร จำนวนโครโมโซม รวมทงั้ สภาวะแวดล้อมของพชื และซากดกึ ดำบรรพ์(fossil) มา เป็นเกณฑพ์ ิจารณา ข้นั ที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ใหน้ กั เรียนออกแบบหนงั สือเล่มเลก็ เร่อื ง ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ติ สรปุ เนอื้ หาให้กระชับและ เข้าใจง่าย และตกแต่งใหส้ วยงาม ขั้นที่ 5 ประเมนิ (Evaluation) 1. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี จี ดุ เดน่ จุดบกพรอ่ งอะไรบา้ ง มคี วาม สงสยั ความอยากร้อู ยากเหน็ ในเรื่องใด 2. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรู้สึกหลังการเรยี น ในประเดน็ ต่อไปน้ี - สงิ่ ท่ีนักเรียนได้เรียนร้ใู นวันนี้คืออะไร - นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพียงใด - เพือ่ นนักเรยี นในกลมุ่ มสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด - นักเรียนพงึ พอใจกับการเรียนในวนั น้หี รือไม่ เพยี งใด - นักเรียนจะนำความรทู้ ี่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่ัวไปได้อย่างไร จากน้นั แลกเปล่ียนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทกุ ขั้นตอนว่าจะเพมิ่ คุณค่าไปสู่สงั คม เกิดประโยชน์ต่อสังคม ใหม้ ากขึน้ กวา่ เดมิ ในขน้ั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป

6. สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้ - สื่อ Power Point เรือ่ ง ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ติ - ใบงาน เร่อื ง การจัดจำแนกสิ่งมชี วี ติ - แหล่งเรียนรูใ้ นและนอกห้องเรยี น 7. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยการเรียนร้)ู - ใบงาน เรอื่ ง การจัดจำแนกส่ิงมีชวี ติ - หนังสือเล่มเลก็ เร่อื ง ความหลากหลายของส่งิ มีชีวิต

8. การวดั และประเมินผล แบบประเมินการปฏบิ ัติการทำกิจกรรม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การทำ ทำกจิ กรรมตามวธิ กี าร ทำกิจกรรมตามวิธีการ ทำกจิ กรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมไม่ กจิ กรรม และขัน้ ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขนั้ ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ ถกู ต้องตามวธิ กี าร ตามแผนท่ี อย่างถูกต้องด้วยตนเองมี ด้วยตนเอง มกี าร โดยมคี รูหรือผู้อน่ื และขนั้ ตอนที่ กำหนด การปรับปรุงแก้ไขเป็น ปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง เป็นผู้แนะนำ กำหนดไว้ ไม่มีการ ระยะ ปรับปรุงแกไ้ ข 2. การใช้ ใช้อุปกรณ์และ/หรอื ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรอื ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ อุปกรณแ์ ละ/ เคร่ืองมือในการทำ เครอ่ื งมอื ในการทำ เคร่อื งมอื ในการทำ เครอ่ื งมือในการทำ หรอื เครื่องมอื กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง กิจกรรมได้อย่างถกู ตอ้ ง กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กิจกรรมไมถ่ ูกต้อง ตามหลกั การปฏิบัตแิ ละ ตามหลักการปฏิบตั ิ แต่ โดยมีครู หรอื ผอู้ ื่นเปน็ ผู้ และไม่มคี วาม คล่องแคล่ว ไมค่ ลอ่ งแคล่ว แนะนำ คล่องแคลว่ ในการใช้ 3. การบันทกึ บันทกึ ผลเปน็ ระยะ บนั ทกึ ผลเปน็ ระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทกึ ผลไมค่ รบ ผลการทำ อย่างถกู ต้อง มีระเบยี บมี อย่างถูกตอ้ ง มีระเบยี บ แต่ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ไมม่ ีการระบุหน่วย กจิ กรรม การระบุหนว่ ย มกี าร มีการระบหุ นว่ ย มีการ ไม่มีการระบหุ น่วย และไมเ่ ปน็ ไปตาม อธบิ ายข้อมลู ให้เห็นความ อธิบายข้อมลู ใหเ้ หน็ ถงึ และไมม่ กี ารอธบิ ายข้อมูล การทำกิจกรรม เช่ือมโยงเปน็ ภาพรวมเปน็ ความสมั พนั ธ์เป็นไป ให้เห็นถึงความสมั พันธ์ เหตเุ ปน็ ผล และเปน็ ไปตาม ตามการทำกิจกรรม ของการทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม 4. การจัด จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำข้อมูล จัดกระทำขอ้ มลู จัดกระทำข้อมูล กระทำข้อมูล อย่างเปน็ ระบบมกี าร อย่างเปน็ ระบบ มีการ อยา่ งเปน็ ระบบมีการ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ เช่ือมโยงใหเ้ หน็ เป็น จำแนกข้อมลู ให้เหน็ ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ ให้ และมกี ารนำเสนอไม่ นำเสนอ ภาพรวม และนำเสนอ ความสัมพนั ธ์ นำเสนอ เข้าใจง่าย และนำเสนอ ส่อื ความหมายและไม่ ด้วยแบบตา่ ง ๆอย่าง ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ แต่ยังไม่ ชัดเจน ชัดเจนถูกตอ้ ง แต่ยังไมช่ ัดเจน ชัดเจนและไม่ถกู ต้อง 5. การสรุปผล สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรมได้ สรปุ ผลการทำ การทำกิจกรรม ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง กระชบั ได้อยา่ งถูกตอ้ ง แตย่ งั โดยมคี รูหรอื ผู้อน่ื กจิ กรรม ชดั เจน และครอบคลุม ไม่ครอบคลมุ ขอ้ มลู แนะนำบา้ ง จงึ สามารถ ตามความรู้ทพ่ี อมอี ยู่ ข้อมลู จากการวิเคราะห์ จากการวิเคราะห์ สรปุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง โดยไม่ใช้ขอ้ มลู ทง้ั หมด ทัง้ หมด จากการทำกิจกรรม

6. การดูแลและ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรอื ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/ การเก็บอปุ กรณ์ เคร่อื งมือในการทำ เครือ่ งมอื ในการทำ เคร่ืองมือในการทำ หรอื เครื่องมอื ในการ และ/หรือ กิจกรรม และมีการ กิจกรรม และมีการ กจิ กรรม มกี ารทำความ ทำกิจกรรม และไม่ เครื่องมือ ทำความสะอาดและเกบ็ ทำความสะอาดอย่าง สะอาด แต่เก็บไมถ่ ูกต้อง สนใจทำความ ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ นื่ สะอาด รวมท้งั เกบ็ อยา่ งถูกต้องตามหลักการ ถูกตอ้ ง แต่เก็บ แนะนำ ไม่ถกู ตอ้ ง และแนะนำใหผ้ ู้อน่ื ดูแล ไมถ่ กู ตอ้ ง และเกบ็ รกั ษาได้ถูกต้อง แบบประเมินช้นิ งาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนผงั รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ การจดั กระทำและ 432 1 นำเสนอแผนผัง จัดกระทำและนำเสนอ จดั กระทำแลนำเสนอ จดั กระทำและ จดั กระทำและ แผนผังได้ แตไ่ ม่ สอดคล้องกบั หัวขอ้ แผนผงั ไดส้ ัมพันธ์กัน นำเสนอ แผนผงั ได้ นำเสนอแผนผงั ได้ เร่อื งทก่ี ำหนด และถกู ตอ้ งตามหวั ขอ้ สัมพนั ธก์ บั หวั ข้อเรือ่ ง ตามหัวข้อเรอ่ื ง เรื่องที่กำหนด มีการ ทีก่ ำหนด มีการ โดยมคี รูหรอื ผอู้ ่นื วางแผน มกี าร ออกแบบ มีความคิด ใหค้ ำแนะนำ ออกแบบ และมี รเิ ร่มิ แต่ไม่มกี าร ความคิดสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงให้เห็นเป็น มีการเชอ่ื มโยงให้เหน็ ภาพรวม เปน็ ภาพรวม

แบบประเมินการสบื สอบขอ้ มลู รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การ วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าข้อมลู จาก วางแผนท่ีจะค้นควา้ วางแผนทจ่ี ะคน้ ควา้ ไม่มีการวางแผนท่ี วางแผน แหลง่ การเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ข้อมูลจากแหล่งการ ข้อมลู จากแหลง่ การ จะคน้ คว้าข้อมูลจาก คน้ คว้าข้อมลู เชือ่ ถอื ไดแ้ ละมีการเชือ่ มโยงให้ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เรียนรู้โดยมคี รหู รือผอู้ น่ื แหล่งการเรียนรู้ จากแหลง่ การ เห็นเป็นภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ และเหมาะสมแต่ไมม่ ี แนะนำบ้าง อยา่ งเปน็ ระบบ เรยี นรู้ ถงึ ความสมั พนั ธ์ของ การเชอ่ื มโยงให้เหน็ วธิ กี ารท้ังหมด เปน็ ภาพรวม 2. การเกบ็ เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู รวบรวม ตามแผนท่ีกำหนด โดยคดั เลือกและ/หรอื โดยไม่มกี ารคัดเลือก เป็นระยะ ขาดการ ขอ้ มูล ทุกประการ ประเมินขอ้ มูล และ/หรอื ประเมินข้อมูล ประเมินเพอ่ื คดั เลือก 3. การจัด จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู กระทำขอ้ มูล อยา่ งเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อย่างเป็นระบบ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ จำแนกขอ้ มูลให้เหน็ มกี ารยกตัวอย่าง และนำเสนอไม่สอ่ื นำเสนอ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอดว้ ย ความสมั พันธ์ นำเสนอ เพิ่มเติมใหเ้ ข้าใจง่ายและ ความหมายและไม่ แบบตา่ ง ๆ อย่างชัดเจนถูกตอ้ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ นำเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ชดั เจน อยา่ งถกู ต้อง แต่ยังไม่ถกู ต้อง 4. การ สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ สรปุ ผล กระชบั ชัดเจน และ แต่ยงั ไม่ชัดเจนและ กะทัดรดั แตไ่ มช่ ดั เจน ข้อมูล และไม่ ครอบคลมุ มีเหตผุ ล ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล ถูกต้อง ที่อา้ งอิงจากการสืบสอบได้ จากการวเิ คราะห์ ทงั้ หมด 5. การเขยี น เขยี นรายงานตรงตาม เขียนรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสื่อ เขยี นรายงานได้ตาม รายงาน จุดประสงคถ์ กู ต้องและ จุดประสงคอ์ ยา่ ง ความหมายได้โดยมคี รู ตัวอยา่ ง แต่ใชภ้ าษา ชัดเจน และมีการเชือ่ มโยงให้ ถกู ตอ้ งและชัดเจนแต่ หรอื ผอู้ ่ืนแนะนำ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ เห็นเปน็ ภาพรวม ขาดการเรียบเรยี ง ชัดเจน

วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรู้ท่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครผู ู้สอน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ทม่ี กี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผเู้ รียน ลงชือ่ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจนั จริ า ธนันชัย) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง การตง้ั ช่ือวิทยาศาสตร์ รายวชิ า ชีววทิ ยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 น้ำหนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 32 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1 ชัว่ โมง 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด อนกุ รมวธิ าน เป็นการจัดจำแนกส่งิ มีชวี ติ สงิ่ มีชีวิตออกเปน็ หวมดหมู่ตามสายวิวฒั นาการ ในอดตี การจัดจำแนก กลุ่มส่งิ มชี วี ิตแบบผวิ เผิน แตใ่ นปัจจบุ ันได้จัดกลุ่มสง่ิ มีชวี ิตออกเป็น 5 กลุ่มใหญๆ่ คอื อาณามอเนอรา อาณาจักร โพทสิ ตา อาณาจกั รฟังไจ อาณาจกั รพชื และอาณาจกั รสตั ว์ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยนี บนโครโมโซม สมบตั ิ และหน้าท่ีของสาร พันธุกรรม การเกดิ มิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ หลกั ฐาน ขอ้ มลู และแนวคดิ เก่ยี วกบั วิวฒั นาการของสิ่งมีชวี ติ ภาวะ สมดลุ ของฮารด์ -ี ไวน์เบิรก์ การเกดิ สปชี สี ์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของส่งิ มีชวี ติ ความหลากหลายของ สง่ิ มีชวี ติ และอนกุ รมวิธาน รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 4. อธบิ าย และยกตวั อย่างการจำแนกส่งิ มชี ีวติ จากหมวดหมใู่ หญจ่ นถงึ หมวดหมูย่ ่อย และวิธกี ารเขยี นช่อื วทิ ยาศาสตรใ์ นลำดับขั้นสปชี สี ์ 5. สรา้ งไดโคโทมัสคยี ใ์ นการระบุส่งิ มีชีวติ หรือตวั อยา่ งที่กำหนดออกเปน็ หมวดหมู่ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (K,P,A) 1. อธิบายหลกั การต้งั ชื่อวิทยาศาสตร์ของส่งิ มชี ีวิตได้ (K) 2. ยกตัวอยา่ งชอ่ื วิทยาศาสตร์ของสง่ิ มีชีวิตได้ (K) 3. ออกแบบการนำเสนอการตงั้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ได้ (P) 4. สนใจใฝเ่ รียนรทู้ างการศกึ ษา (A) 4. สาระการเรียนรู้ - การต้ังช่อื วิทยาศาสตร์

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engagement) 1. กระตุน้ นักเรยี นด้วยคำถาม - ส่ิงมีชีวิตทค่ี น้ พบจะเรียกชือ่ เป็นอนั หนง่ึ อนั เดยี วโดย (ตง้ั ช่ือวิทยาศาสตร)์ - การตัง้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ต้ังตามเกณฑอ์ ะไร (ใช้จนี สั และสปีชสี ์ หรือบางครง้ั จะใสช่ อื่ ผทู้ คี่ ้นพบ ด้วย) - ใครเป็นคนกำหนดการตงั้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตรเ์ ป็นคนแรก (คาโรลัส ลนิ เนียส) ขั้นท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 4 – 5 คน ศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูล เร่ือง วธิ ีการต้งั ช่ือวทิ ยาศาสตร์ และ หลักเกณฑ์การต้ังชอ่ื วิทยาศาสตร์ 2. ให้นักเรยี นแลกเปลย่ี นข้อมลู ท่ไี ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ กับเพอื่ นนกั เรยี นในหอ้ ง 3. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายผลท่ีไดจ้ ากการศกึ ษาคน้ ควา้ เร่อื ง วธิ ีการตัง้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ และ หลักเกณฑ์การต้ังชอื่ วทิ ยาศาสตร์ เพอื่ สรปุ ผลและสรา้ งองค์ความรู้ใหมร่ ว่ มกนั ขั้นที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) - หลักเกณฑ์ในการตง้ั ชอื่ ในทางวทิ ยาศาสตร์ - ใช้ชอ่ื ภาษาละตินเสมอ เพราะภาษาละตินเป็นภาษาทไ่ี มม่ กี ารใช้เปน็ ภาษาพดู แล้ว โอกาสท่ี ความหมายจะเพย้ี นไปเมื่อเวลาผา่ นไปนาน ๆ จึงมีน้อย - ชื่อทางวิทยาศาสตรข์ องพืชและสัตว์จะเป็นอิสระไมข่ ึน้ ต่อกัน - ชอื่ วิทยาศาสตรข์ องพชื และสตั ว์แตล่ ะหมวดหมู่จะมีช่ือทถ่ี กู ตอ้ งทีส่ ดุ เพยี งชื่อเดียว - ช่ือหมวดหมูใ่ นลำดบั ขนั้ วงศ์ลงไป ตอ้ งมตี ัวอยา่ งต้นแบบของสิง่ มีชีวิตน้ันประกอบการ พจิ ารณา เช่น ชอ่ื วงศใ์ นพืช จะลงท้ายด้วย -aceae แตใ่ นสัตว์ จะลงทา้ ยดว้ ย -idea - ชอ่ื ในลำดับขน้ั สกุลจะใช้ตัวอกั ษรตวั ใหญน่ ำหน้า และตามด้วยอักษรตัวเลก็ - ชอื่ ในลำดับขนั้ สปีชีสจ์ ะประกอบดว้ ย 2 คำ โดยคำแรกจะดงึ เอาช่อื สกุลมา แล้วคำทส่ี องจึง เปน็ คำระบชุ นิด (specific epithet) ซึ่งจะข้นึ ตน้ ดว้ ยอักษรตวั เลก็ - ชอ่ื ในลำดบั ขน้ั สปีชสี ์จะเขียนตวั เอน หรอื ขีดเส้นใตเ้ สมอ ขน้ั ที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ใหน้ ักเรียนออกแบบหนังสือเล่มเล็ก เรื่อง ความหลากหลายของสงิ่ มีชีวติ สรปุ เนือ้ หาใหก้ ระชบั และ เข้าใจงา่ ย และตกแตง่ ให้สวยงาม ข้ันที่ 5 ประเมนิ (Evaluation) 1. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี จี ดุ เดน่ จุดบกพรอ่ งอะไรบา้ ง มคี วาม สงสยั ความอยากร้อู ยากเหน็ ในเร่ืองใด 2. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ กึ หลงั การเรียน ในประเดน็ ต่อไปน้ี - สงิ่ ทน่ี ักเรยี นไดเ้ รยี นรูใ้ นวนั น้ีคอื อะไร

- นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกล่มุ มากน้อยเพียงใด - เพื่อนนักเรียนในกล่มุ มีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด - นกั เรยี นพึงพอใจกบั การเรียนในวันน้หี รือไม่ เพยี งใด - นกั เรียนจะนำความรู้ที่ไดน้ ีไ้ ปใชใ้ ห้เกิดประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสังคมทัว่ ไปได้อยา่ งไร จากนัน้ แลกเปล่ียนตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนว่าจะเพ่มิ คณุ ค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคม ให้มากขนึ้ กวา่ เดมิ ในขัน้ ตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในครัง้ ต่อไป 6. สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้ - สอื่ Power Point เรื่อง ความหลากหลายของส่ิงมชี ีวติ - แหล่งเรยี นรู้ในและนอกหอ้ งเรียน 7. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยการเรียนร)ู้ - หนงั สือเล่มเลก็ เรือ่ ง ความหลากหลายของส่ิงมีชวี ติ

8. การวดั และประเมินผล แบบประเมนิ การปฏบิ ัติการทำกิจกรรม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การทำ ทำกจิ กรรมตามวธิ กี าร ทำกิจกรรมตามวิธีการ ทำกจิ กรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมไม่ กจิ กรรม และขัน้ ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ ถกู ต้องตามวธิ กี าร ตามแผนท่ี อย่างถูกต้องด้วยตนเองมี ด้วยตนเอง มกี าร โดยมคี รูหรือผู้อน่ื และขนั้ ตอนที่ กำหนด การปรับปรุงแก้ไขเป็น ปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง เป็นผู้แนะนำ กำหนดไว้ ไม่มีการ ระยะ ปรับปรุงแกไ้ ข 2. การใช้ ใช้อุปกรณ์และ/หรอื ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรอื ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ อุปกรณ์และ/ เคร่ืองมือในการทำ เครอ่ื งมอื ในการทำ เคร่อื งมอื ในการทำ เครอ่ื งมือในการทำ หรือเครอ่ื งมอื กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง กิจกรรมได้อย่างถกู ตอ้ ง กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กิจกรรมไมถ่ ูกต้อง ตามหลกั การปฏิบัตแิ ละ ตามหลักการปฏิบตั ิ แต่ โดยมีครู หรอื ผอู้ ื่นเปน็ ผู้ และไม่มคี วาม คล่องแคล่ว ไมค่ ลอ่ งแคล่ว แนะนำ คล่องแคลว่ ในการใช้ 3. การบันทกึ บันทกึ ผลเปน็ ระยะ บนั ทกึ ผลเปน็ ระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทกึ ผลไมค่ รบ ผลการทำ อย่างถกู ต้อง มีระเบยี บมี อย่างถูกตอ้ ง มีระเบยี บ แต่ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ไมม่ ีการระบุหน่วย กจิ กรรม การระบุหนว่ ย มกี าร มีการระบหุ นว่ ย มีการ ไม่มีการระบหุ น่วย และไมเ่ ปน็ ไปตาม อธบิ ายข้อมลู ให้เห็นความ อธิบายข้อมลู ใหเ้ หน็ ถงึ และไมม่ กี ารอธบิ ายข้อมูล การทำกิจกรรม เช่ือมโยงเปน็ ภาพรวมเปน็ ความสมั พนั ธ์เป็นไป ให้เห็นถึงความสมั พันธ์ เหตเุ ปน็ ผล และเปน็ ไปตาม ตามการทำกิจกรรม ของการทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม 4. การจัด จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำข้อมูล จัดกระทำขอ้ มลู จัดกระทำข้อมูล กระทำขอ้ มูล อย่างเปน็ ระบบมกี าร อย่างเป็นระบบ มีการ อยา่ งเปน็ ระบบมีการ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ เช่ือมโยงใหเ้ หน็ เป็น จำแนกข้อมลู ให้เหน็ ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ ให้ และมกี ารนำเสนอไม่ นำเสนอ ภาพรวม และนำเสนอ ความสมั พนั ธ์ นำเสนอ เข้าใจง่าย และนำเสนอ ส่อื ความหมายและไม่ ด้วยแบบตา่ ง ๆอย่าง ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ แต่ยังไม่ ชัดเจน ชัดเจนถูกตอ้ ง แต่ยังไม่ชัดเจน ชัดเจนและไม่ถกู ต้อง 5. การสรปุ ผล สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรมได้ สรปุ ผลการทำ การทำกจิ กรรม ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง กระชับ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง แตย่ งั โดยมคี รูหรอื ผู้อน่ื กจิ กรรม ชดั เจน และครอบคลุม ไม่ครอบคลมุ ขอ้ มลู แนะนำบา้ ง จงึ สามารถ ตามความรู้ทพ่ี อมอี ยู่ ข้อมลู จากการวิเคราะห์ จากการวิเคราะห์ สรปุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง โดยไม่ใช้ขอ้ มูล ทง้ั หมด ทัง้ หมด จากการทำกิจกรรม

6. การดูแลและ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรอื ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/ การเก็บอปุ กรณ์ เคร่อื งมือในการทำ เครือ่ งมอื ในการทำ เคร่ืองมือในการทำ หรอื เครื่องมอื ในการ และ/หรือ กิจกรรม และมีการ กิจกรรม และมีการ กจิ กรรม มกี ารทำความ ทำกิจกรรม และไม่ เครื่องมือ ทำความสะอาดและเกบ็ ทำความสะอาดอย่าง สะอาด แต่เก็บไมถ่ ูกต้อง สนใจทำความ ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ นื่ สะอาด รวมท้งั เกบ็ อยา่ งถูกต้องตามหลักการ ถูกตอ้ ง แต่เก็บ แนะนำ ไม่ถกู ตอ้ ง และแนะนำใหผ้ ู้อน่ื ดูแล ไมถ่ กู ตอ้ ง และเกบ็ รกั ษาได้ถูกต้อง แบบประเมินช้นิ งาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนผงั รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ การจดั กระทำและ 432 1 นำเสนอแผนผัง จัดกระทำและนำเสนอ จดั กระทำแลนำเสนอ จดั กระทำและ จดั กระทำและ แผนผังได้ แตไ่ ม่ สอดคล้องกบั หัวขอ้ แผนผงั ไดส้ ัมพันธ์กัน นำเสนอ แผนผงั ได้ นำเสนอแผนผงั ได้ เร่อื งทก่ี ำหนด และถกู ตอ้ งตามหวั ขอ้ สัมพนั ธก์ บั หวั ข้อเรือ่ ง ตามหัวข้อเรอ่ื ง เรื่องที่กำหนด มีการ ทีก่ ำหนด มีการ โดยมคี รูหรอื ผอู้ ่นื วางแผน มกี าร ออกแบบ มีความคิด ใหค้ ำแนะนำ ออกแบบ และมี รเิ ร่มิ แต่ไม่มกี าร ความคิดสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงให้เห็นเป็น มีการเชอ่ื มโยงให้เหน็ ภาพรวม เปน็ ภาพรวม

แบบประเมินการสบื สอบขอ้ มลู รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การ วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าข้อมลู จาก วางแผนท่ีจะค้นควา้ วางแผนทจ่ี ะคน้ ควา้ ไม่มีการวางแผนท่ี วางแผน แหล่งการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ข้อมูลจากแหล่งการ ข้อมลู จากแหลง่ การ จะคน้ คว้าข้อมูลจาก คน้ คว้าข้อมลู เชือ่ ถอื ไดแ้ ละมีการเชือ่ มโยงให้ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เรียนรู้โดยมคี รหู รือผอู้ น่ื แหล่งการเรียนรู้ จากแหลง่ การ เห็นเป็นภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ และเหมาะสมแต่ไมม่ ี แนะนำบ้าง อยา่ งเปน็ ระบบ เรยี นรู้ ถงึ ความสมั พนั ธ์ของ การเชอ่ื มโยงให้เหน็ วธิ กี ารท้ังหมด เปน็ ภาพรวม 2. การเกบ็ เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู รวบรวม ตามแผนท่ีกำหนด โดยคดั เลือกและ/หรอื โดยไม่มกี ารคัดเลือก เป็นระยะ ขาดการ ขอ้ มูล ทุกประการ ประเมินขอ้ มูล และ/หรอื ประเมินข้อมูล ประเมินเพอ่ื คดั เลือก 3. การจัด จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู กระทำขอ้ มูล อยา่ งเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อย่างเป็นระบบ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ จำแนกขอ้ มูลให้เห็น มกี ารยกตัวอย่าง และนำเสนอไม่สอ่ื นำเสนอ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอดว้ ย ความสมั พันธ์ นำเสนอ เพิ่มเติมใหเ้ ข้าใจง่ายและ ความหมายและไม่ แบบตา่ ง ๆ อย่างชัดเจนถูกตอ้ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ นำเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ชดั เจน อยา่ งถกู ต้อง แต่ยังไม่ถกู ต้อง 4. การ สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ สรปุ ผล กระชบั ชัดเจน และ แต่ยงั ไม่ชัดเจนและ กะทัดรดั แตไ่ มช่ ดั เจน ข้อมูล และไม่ ครอบคลมุ มีเหตผุ ล ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล ถูกต้อง ที่อ้างอิงจากการสืบสอบได้ จากการวเิ คราะห์ ทงั้ หมด 5. การเขยี น เขยี นรายงานตรงตาม เขียนรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสื่อ เขยี นรายงานได้ตาม รายงาน จุดประสงคถ์ กู ต้องและ จุดประสงคอ์ ยา่ ง ความหมายได้โดยมคี รู ตัวอยา่ ง แต่ใชภ้ าษา ชัดเจน และมีการเชือ่ มโยงให้ ถกู ตอ้ งและชัดเจนแต่ หรอื ผอู้ ่ืนแนะนำ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ เห็นเปน็ ภาพรวม ขาดการเรียบเรยี ง ชัดเจน

วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรู้ท่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครผู ู้สอน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ทม่ี กี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผเู้ รียน ลงชือ่ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจนั จริ า ธนันชัย) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ แผนจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง ไดโคโทมสั คีย์ รายวิชา ชวี วทิ ยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 น้ำหนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 32 ชว่ั โมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 3 ชว่ั โมง 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด อนุกรมวธิ าน เป็นการจดั จำแนกสง่ิ มชี วี ติ ส่งิ มีชีวติ ออกเป็นหมวดหม่ตู ามสายววิ ัฒนาการ ในอดีตการจดั จำแนก กลมุ่ สงิ่ มชี วี ิตแบบผวิ เผนิ แตใ่ นปจั จบุ นั ไดจ้ ัดกลมุ่ สง่ิ มีชวี ิตออกเป็น 5 กลุ่มใหญๆ่ คือ อาณามอเนอรา อาณาจกั ร โพทิสตา อาณาจักรฟงั ไจ อาณาจักรพชื และอาณาจักรสตั ว์ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ัด มาตรฐานการเรียนรู้ 2. เขา้ ใจการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหนา้ ทีข่ องสาร พนั ธุกรรม การเกิดมวิ เทชนั เทคโนโลยที างดเี อ็นเอ หลักฐาน ข้อมลู และแนวคดิ เกี่ยวกบั วิวฒั นาการของสง่ิ มชี วี ิต ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิรก์ การเกิดสปชี สี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสง่ิ มีชีวติ ความ หลากหลายของสิ่งมชี ีวิต และอนกุ รมวธิ าน รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 4. อธิบาย และยกตัวอยา่ งการจำแนกส่งิ มชี วี ิต จากหมวดหมู่ใหญจ่ นถงึ หมวดหมู่ยอ่ ย และวธิ กี ารเขียนช่ือ วิทยาศาสตร์ในลำดับข้นั สปชี ีส์ 5. สร้างไดโคโทมัสคียใ์ นการระบุสิ่งมีชีวิตหรอื ตวั อยา่ งทกี่ ำหนดออกเป็นหมวดหมู่ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (K,P,A) 1. อธิบายหลักการการสรา้ งไดโคโทมัสคยี ์ได้ (K) 2. สรา้ งและนำเสนอไดโคโทมัสคีย์ได้ (P) 3. สนใจใฝเ่ รยี นรทู้ างการศึกษา (A) 4. สาระการเรียนรู้ - ไดโคโทมสั คยี ์

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) 1. กระตุ้นนักเรยี นดว้ ยคำถาม - กอ่ นการจดั จำแนกสิ่งมีชวี ิตในปจั จุบัน ในอดตี ใช้วิธกี ารใดในการจัดจำแนก (ระบบความ คล้ายคลึงกนั และจัดจำแนกเปน็ หมวดหม)ู่ - ใครเป็นคนต้ังการจดั จำแนกน้ี (คารโรลสั ลนิ เนยี ส) - มีหลักเกณฑ์อยา่ งไร (โดยการจัดความคลา้ ยคลงึ้ ของสง่ิ มชี วี ติ จนมีลักษณะคลา้ ยคลงึ กนั มาทีส่ ุด และจดั ส่ิงมีชวี ติ กลมุ่ น้ีไวอ้ ยกู่ ลมุ่ เดียวกัน) ขน้ั ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ใหน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 4 – 5 คน ศกึ ษาคน้ ควา้ จากการทำกจิ กรรมใบงาน เรอ่ื ง การจดั จำแนก ประเภทของสงิ่ มชี ีวติ เพอื่ ให้งา่ ยตอ่ การศึกษาตั้งแตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ ัน 2. ใหน้ กั เรยี นแลกเปลย่ี นข้อมูลที่ไดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้าจากการทำกจิ กรรมกบั เพ่ือนนักเรยี นในห้อง 3. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายผลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษาค้นคว้าจากการทำกิจกรรม เรือ่ ง การจดั จำแนก ประเภทของส่งิ มชี ีวติ เพ่ือให้งา่ ยตอ่ การศึกษาตง้ั แต่อดตี จนถึงปจั จุบนั เพอ่ื สรปุ ผลและสรา้ งองค์ ความรใู้ หม่รว่ มกัน ข้นั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) - การระบชุ นิด นกั วทิ ยาศาสตร์มีหลายแนวทางในการจัดจำแนกหมวดหมสู่ ่ิงมชี วี ติ ไดโคโตมสั คีย์ (Dichotomous key) เปน็ เครอ่ื งมอื อย่างหนึ่งท่ใี ช้จำแนกสงิ่ มีชีวิตออกเป็นกลุ่มย่อยได้ โดย พจิ ารณาโครงสร้างทีละลักษณะทแี่ ตกตา่ งกันเป็นค่ๆู ดังตัวอยา่ ง - ไดโคโตมัสคยี ข์ องสตั วม์ กี ระดูกสันหลัง 1 ก. มขี น ……………………………………………………………………ดขู อ้ 2 1 ข. เปน็ สตั ว์เลีย้ ง………………………………………………………..ดขู ้อ 3 2 ก. ขนเปน็ เสน้ …………………………………………………………..สนุ ขั พันธุ์บางแก้ว 2 ข. ขนเปน็ แผงแบบขนนก……………………………………………เปด็ เทศกบินทรบ์ รุ ี 3 ก. เปน็ สตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนม……………………………………….. ดูขอ้ 4 3 ข. เป็นสตั วน์ ้ำ………………………………………………………….ดูข้อ 5 4 ก. เป็นสัตวข์ ้ี เลน่ ……………………………………………………..แมว (Felis Catus) 4 ข. เปน็ สัตว์เศรษฐกิจ………………………………………………. ววั พนั ธไุ์ ทย 5 ก. ผิวหนงั มี เกลด็ …………………………………………………… ปลานลิ (Oreochromis niloticus ) 5 ข. ผวิ หนงั ไมม่ ี เกล็ด………………………………………………..ปลาดกุ ด้าน (Clarias batrachus ) 6.ก.เหมอื นสนุ ขั ไทยพนั ธุ์ Mid-rord………………………………สุนขั พนั ธบ์ุ างแก้ว 6.ข.เป็นสนุ ัขพันธร์ุ อ็ คไวเลอร…์ ………………………………….. ดูขอ้ 7 7.ก.แยกออกมาจากต้นตระกูลเสือไซบีเรีย…………………….. แมว

7.ข.ไมม่ ีตน้ ตระกูล…………………………………………………….. ดูข้อ 8 8.ก.มีช่อื เรียกวา่ ปลาจติ ลดา………………………………………..ปลานิล (Oreochromis niloticus ) 8.ข.มชี อ่ื เรยี กวา่ ปลาทองลายคราม……………………………….ดูขอ้ 9 9.ก.เป็นปลานำ้ จืดในวงปลา ดกุ …………………………………… ปลาดุกดา้ น (Clarias batrachus ) 9.ข.เป็นปลาน้ำเค็ม……………………………………………………..ดูข้อ 10 10.ก.มีสายพันธ์จุ ากสิงโต…………………………………………….แมว (Felis Catus) 10.ข.มสี ายพันธจ์ุ ากเสอื ชนดิ ตา่ งๆ………………………………….. แมว (Felis Catus) - จากตวั อยา่ งไดโคโตมสั คีย์นี้จะเหน็ ว่าส่ิงมชี ีวติ กลุม่ ใหญท่ ่เี ป็นกลุ่มเดียวกนั จะจำแนก เปน็ กลุม่ ยอ่ ยๆ ไดอ้ ีกโครงสร้างบางชนดิ ของสตั วอ์ าจมีลักษณะทคี่ ล้ายคลึงกนั เมื่อพิจารณาดู เพียงแต่ภายนอก ขัน้ ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ให้นกั เรยี นออกแบบหนงั สอื เล่มเล็ก เร่ือง ความหลากหลายของสงิ่ มชี วี ติ สรุปเนอื้ หาใหก้ ระชับและ เขา้ ใจงา่ ย และตกแต่งใหส้ วยงาม ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (Evaluation) 1. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี จี ดุ เดน่ จุดบกพรอ่ งอะไรบา้ ง มคี วาม สงสยั ความอยากรูอ้ ยากเห็นในเร่ืองใด 2. นกั เรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ กึ หลงั การเรียน ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - สงิ่ ทนี่ กั เรยี นไดเ้ รยี นรู้ในวันนค้ี ืออะไร - นกั เรียนมีส่วนร่วมกจิ กรรมในกล่มุ มากนอ้ ยเพียงใด - เพ่ือนนักเรยี นในกล่มุ มสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด - นักเรยี นพึงพอใจกับการเรียนในวันนีห้ รือไม่ เพยี งใด - นักเรยี นจะนำความรู้ทไ่ี ดน้ ไ้ี ปใช้ให้เกดิ ประโยชนแ์ กต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทว่ั ไปไดอ้ ยา่ งไร จากนัน้ แลกเปล่ยี นตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทุกขน้ั ตอนวา่ จะเพิม่ คณุ ค่าไปสสู่ ังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคม ให้มากขน้ึ กวา่ เดมิ ในขน้ั ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครั้งต่อไป 6. สื่อ / แหลง่ การเรยี นรู้ - สอื่ Power Point เรือ่ ง ความหลากหลายของสิง่ มชี วี ติ - ใบงาน เรื่อง การจัดจำแนกสงิ่ มชี วี ิต - แหลง่ เรียนรู้ในและนอกหอ้ งเรียน 7. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยการเรยี นร้)ู - ใบงาน เรอื่ ง การจัดจำแนกสง่ิ มีชีวิต - หนงั สอื เลม่ เลก็ เรือ่ ง ความหลากหลายของสิง่ มชี วี ติ

8. การวดั และประเมินผล แบบประเมินการปฏบิ ัติการทำกิจกรรม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การทำ ทำกจิ กรรมตามวธิ กี าร ทำกิจกรรมตามวิธีการ ทำกจิ กรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมไม่ กจิ กรรม และขัน้ ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ ถกู ต้องตามวธิ กี าร ตามแผนที่ อย่างถูกต้องด้วยตนเองมี ด้วยตนเอง มกี าร โดยมคี รูหรือผู้อน่ื และขนั้ ตอนท่ี กำหนด การปรับปรุงแก้ไขเป็น ปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง เป็นผู้แนะนำ กำหนดไว้ ไม่มกี าร ระยะ ปรับปรุงแก้ไข 2. การใช้ ใช้อุปกรณ์และ/หรอื ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรอื ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรือ อุปกรณ์และ/ เคร่ืองมือในการทำ เครอ่ื งมอื ในการทำ เคร่อื งมอื ในการทำ เครอ่ื งมือในการทำ หรือเคร่อื งมอื กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง กิจกรรมได้อย่างถกู ตอ้ ง กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กิจกรรมไม่ถูกตอ้ ง ตามหลกั การปฏิบัตแิ ละ ตามหลักการปฏิบตั ิ แต่ โดยมีครู หรอื ผอู้ ื่นเปน็ ผู้ และไม่มคี วาม คล่องแคล่ว ไมค่ ลอ่ งแคล่ว แนะนำ คล่องแคล่วในการใช้ 3. การบันทึก บันทกึ ผลเปน็ ระยะ บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทกึ ผลไม่ครบ ผลการทำ อย่างถกู ต้อง มีระเบยี บมี อย่างถูกตอ้ ง มีระเบยี บ แต่ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ไมม่ ีการระบหุ น่วย กจิ กรรม การระบุหนว่ ย มกี าร มีการระบหุ น่วย มีการ ไม่มีการระบหุ น่วย และไมเ่ ป็นไปตาม อธบิ ายข้อมลู ให้เห็นความ อธิบายข้อมูลใหเ้ หน็ ถงึ และไมม่ กี ารอธบิ ายข้อมูล การทำกิจกรรม เช่ือมโยงเปน็ ภาพรวมเปน็ ความสมั พนั ธ์เป็นไป ให้เห็นถึงความสมั พันธ์ เหตเุ ปน็ ผล และเปน็ ไปตาม ตามการทำกิจกรรม ของการทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม 4. การจัด จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำข้อมูล จัดกระทำขอ้ มลู จัดกระทำขอ้ มูล กระทำขอ้ มูล อย่างเปน็ ระบบมกี าร อย่างเป็นระบบ มีการ อยา่ งเปน็ ระบบมีการ อยา่ งไม่เป็นระบบ และการ เช่ือมโยงใหเ้ หน็ เป็น จำแนกข้อมูลให้เหน็ ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ ให้ และมกี ารนำเสนอไม่ นำเสนอ ภาพรวม และนำเสนอ ความสมั พนั ธ์ นำเสนอ เข้าใจง่าย และนำเสนอ ส่อื ความหมายและไม่ ด้วยแบบตา่ ง ๆอย่าง ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ แต่ยังไม่ ชัดเจน ชัดเจนถูกตอ้ ง แต่ยังไม่ชัดเจน ชัดเจนและไม่ถกู ต้อง 5. การสรุปผล สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรมได้ สรปุ ผลการทำ การทำกิจกรรม ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง กระชับ ได้อยา่ งถูกต้อง แตย่ งั โดยมคี รูหรอื ผู้อน่ื กจิ กรรม ชดั เจน และครอบคลุม ไม่ครอบคลมุ ขอ้ มลู แนะนำบา้ ง จงึ สามารถ ตามความร้ทู พ่ี อมอี ยู่ ข้อมลู จากการวิเคราะห์ จากการวิเคราะห์ สรปุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง โดยไม่ใช้ข้อมลู ทง้ั หมด ทัง้ หมด จากการทำกจิ กรรม

6. การดูแลและ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรอื ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/ การเก็บอปุ กรณ์ เคร่อื งมือในการทำ เครือ่ งมอื ในการทำ เคร่ืองมือในการทำ หรอื เครื่องมอื ในการ และ/หรือ กิจกรรม และมีการ กิจกรรม และมีการ กจิ กรรม มกี ารทำความ ทำกิจกรรม และไม่ เครื่องมือ ทำความสะอาดและเกบ็ ทำความสะอาดอย่าง สะอาด แต่เก็บไมถ่ ูกต้อง สนใจทำความ ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ นื่ สะอาด รวมท้งั เกบ็ อยา่ งถูกต้องตามหลักการ ถูกตอ้ ง แต่เก็บ แนะนำ ไม่ถกู ตอ้ ง และแนะนำใหผ้ ู้อน่ื ดูแล ไมถ่ กู ตอ้ ง และเกบ็ รกั ษาได้ถูกต้อง แบบประเมินช้นิ งาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนผงั รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ การจดั กระทำและ 432 1 นำเสนอแผนผัง จัดกระทำและนำเสนอ จดั กระทำแลนำเสนอ จดั กระทำและ จดั กระทำและ แผนผังได้ แตไ่ ม่ สอดคล้องกบั หัวขอ้ แผนผงั ไดส้ ัมพันธ์กัน นำเสนอ แผนผงั ได้ นำเสนอแผนผงั ได้ เร่อื งทก่ี ำหนด และถกู ตอ้ งตามหวั ขอ้ สัมพนั ธก์ บั หวั ข้อเรือ่ ง ตามหัวข้อเรอ่ื ง เรื่องที่กำหนด มีการ ทีก่ ำหนด มีการ โดยมคี รูหรอื ผอู้ ่นื วางแผน มกี าร ออกแบบ มีความคิด ใหค้ ำแนะนำ ออกแบบ และมี รเิ ร่มิ แต่ไม่มกี าร ความคิดสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงให้เห็นเป็น มีการเชอ่ื มโยงให้เหน็ ภาพรวม เปน็ ภาพรวม

แบบประเมนิ การสบื สอบขอ้ มลู รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การ วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าข้อมลู จาก วางแผนท่ีจะค้นควา้ วางแผนทจ่ี ะคน้ ควา้ ไม่มีการวางแผนท่ี วางแผน แหล่งการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ข้อมูลจากแหล่งการ ข้อมลู จากแหลง่ การ จะคน้ คว้าข้อมูลจาก คน้ คว้าข้อมลู เชือ่ ถอื ไดแ้ ละมีการเชือ่ มโยงให้ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เรียนรู้โดยมคี รหู รือผอู้ น่ื แหล่งการเรียนรู้ จากแหลง่ การ เห็นเป็นภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ และเหมาะสมแต่ไมม่ ี แนะนำบ้าง อยา่ งเปน็ ระบบ เรยี นรู้ ถงึ ความสมั พนั ธ์ของ การเชอ่ื มโยงให้เหน็ วธิ กี ารท้ังหมด เปน็ ภาพรวม 2. การเกบ็ เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู รวบรวม ตามแผนท่ีกำหนด โดยคดั เลือกและ/หรอื โดยไม่มกี ารคัดเลอื ก เป็นระยะ ขาดการ ขอ้ มลู ทุกประการ ประเมินขอ้ มูล และ/หรอื ประเมินข้อมูล ประเมินเพอ่ื คดั เลือก 3. การจดั จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู กระทำข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อย่างเป็นระบบ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ จำแนกขอ้ มูลให้เห็น มกี ารยกตัวอย่าง และนำเสนอไม่สอ่ื นำเสนอ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอดว้ ย ความสมั พันธ์ นำเสนอ เพิ่มเติมใหเ้ ข้าใจง่ายและ ความหมายและไม่ แบบตา่ ง ๆ อยา่ งชัดเจนถูกตอ้ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ นำเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ชดั เจน อยา่ งถกู ต้อง แต่ยังไม่ถกู ต้อง 4. การ สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ สรปุ ผล กระชบั ชัดเจน และ แต่ยงั ไม่ชัดเจนและ กะทัดรดั แตไ่ มช่ ดั เจน ข้อมูล และไม่ ครอบคลมุ มีเหตผุ ล ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล ถูกต้อง ที่อ้างอิงจากการสืบสอบได้ จากการวเิ คราะห์ ทงั้ หมด 5. การเขยี น เขยี นรายงานตรงตาม เขียนรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสื่อ เขยี นรายงานได้ตาม รายงาน จุดประสงคถ์ กู ต้องและ จุดประสงคอ์ ยา่ ง ความหมายได้โดยมคี รู ตัวอยา่ ง แต่ใชภ้ าษา ชัดเจน และมกี ารเชือ่ มโยงให้ ถกู ตอ้ งและชัดเจนแต่ หรอื ผอู้ ่ืนแนะนำ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ เห็นเปน็ ภาพรวม ขาดการเรียบเรยี ง ชัดเจน

วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรู้ท่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครผู สู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ทม่ี กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผู้เรียน ลงชือ่ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจนั จริ า ธนันชัย) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เร่ือง อาณาจักรมอเนอรา รายวชิ า ชีววิทยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 น้ำหนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 32 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาทใ่ี ชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3 ช่ัวโมง 1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด อนุกรมวิธาน เปน็ การจดั จำแนกสง่ิ มชี ีวิตสงิ่ มีชีวติ ออกเปน็ หมวดหมูต่ ามสายวิวฒั นาการ ในอดีตการจัดจำแนก กลุม่ สงิ่ มชี วี ิตแบบผวิ เผนิ แตใ่ นปจั จุบันได้จัดกลุ่มสิ่งมีชีวติ ออกเป็น 5 กลมุ่ ใหญๆ่ คอื อาณามอเนอรา อาณาจักร โพทิสตา อาณาจักรฟงั ไจ อาณาจักรพืช และอาณาจกั รสตั ว์ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้วี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม สมบตั ิ และหนา้ ที่ของสาร พันธกุ รรม การเกดิ มวิ เทชนั เทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ หลกั ฐาน ขอ้ มูลและแนวคดิ เกย่ี วกบั ววิ ฒั นาการของส่งิ มชี วี ิต ภาวะ สมดุลของฮารด์ -ี ไวน์เบริ ์ก การเกิดสปีชสี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนิดของสง่ิ มชี ีวิต ความหลากหลายของ ส่งิ มีชวี ิต และอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 2. อธบิ ายการเกิดเซลล์เรมิ่ แรกของส่งิ มีชวี ิตและววิ ฒั นาการของสง่ิ มีชวี ิตเซลล์เดียว 3.อธบิ ายลักษณะสำคัญและยกตัวอย่างสง่ิ มชี วี ิตกลมุ่ แบคทเี รยี สิ่งมีชีวติ กล่มุ โพรทสิ ต์ ส่งิ มีชวี ิต กลมุ่ พืช ส่งิ มชี วี ติ กลุ่มฟงั ไจ และส่งิ มชี วี ิตกล่มุ สัตว์ 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (K,P,A) 1. อธิบายการวิวัฒนาการของส่งิ มชี วี ิตแรกเริม่ ได้ (K) 2. อธิบายลกั ษณะสำคัญของสง่ิ มีชีวติ ในอาณาจกั รมอเนอราได้ (K) 3. ยกตวั อย่างของสงิ่ มชี ีวติ ในอาณาจกั รมอเนอราได้ (K) 4. นำเสนอส่งิ มชี วี ติ ในอาณาจกั รมอเนอราได้ (P) 5. สนใจใฝเ่ รยี นรทู้ างการศึกษา (A) 4. สาระการเรียนรู้ - อาณาจักรมอเนอรา

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. กระตนุ้ นักเรยี นดว้ ยคำถาม - ปจั จบุ ันมีการจดั จำแนกส่งิ มีชีวติ ไดก้ กี่ ลุ่ม อะไรบ้าง (5 กลุ่ม คอื มอเนอรา โพทิสตา ฟังไจ พชื และสัตว์) - การเรียงลำดบั กลุ่มสิง่ มชี วี ิตใหญ่ พิจารณาจากอะไร (โครงสรา้ งภายในและสายววิ ฒั นาการ) - ส่งิ มีชีวิตพวกมอเนอรามีลกั ษณะเด่นอย่างไรบา้ ง (เปน็ ส่งิ มีชีวติ ทเ่ี ปน็ โพรคารโิ อตทัง้ หมด หรอื พวกแบคท่เี รยี ) ขัน้ ท่ี 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ให้นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน ศึกษาค้นควา้ ขอ้ มลู เร่ือง อาณาจักรมอเนอราและตวั อยา่ ง ของสง่ิ มีชวี ติ 2. ใหน้ ักเรียนแลกเปลย่ี นข้อมลู ทไ่ี ด้จากการศึกษาค้นควา้ กับเพ่อื นนกั เรยี นในหอ้ ง 3. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายผลที่ได้จากการศกึ ษาคน้ ควา้ เร่ือง อาณาจักรมอเนอราและตัวอยา่ ง ของสิ่งมชี วี ิต เพ่อื สรปุ ผลและสร้างองค์ความรู้ใหม่รว่ มกัน ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. อาณาจักรมอเนอรา (Kingdom Monera) - ลกั ษณะสำคญั ของส่งิ มีชีวติ ในอาณาจกั รมอเนอรา - เป็นส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียวทมี่ โี ครงสร้างเซลลแ์ บบโพรคาริโอต (prokaryotic cell) ในขณะที่ สิง่ มีชวี ติ อื่นๆทกุ อาณาจักรมโี ครงสร้างเซลลแ์ บบยคู ารีโอต (eukaryotic cell) - ไม่มอี อรแ์ กเนลล์ชนดิ มีเยอื่ ห้มุ เช่น รา่ งแหเอนโดพลาสซมึ กอลจิคอมเพลกซ์ ไลโซโซม คลอ โรพลาสต์ มเี ฉพาะออรแ์ กเนลล์ทไี่ ม่มีเยอ่ื หมุ้ คือไรโบโซม สิ่งมชี วี ิตใรอาณาจกั รนี้มีความสำคญั อย่างมากตอ่ ระบบนเิ วศ กล่าวคอื กลมุ่ แบคทเี รียทำหนา้ ทีเ่ ป็นผู้ยอ่ ยอนิ ทรยี สารกอ่ ใหเ้ กิดการ หมุนเวียนสารอนนิ ทรยี ์และอนิ ทรยี ส์ ารต่างๆ สาหร่ายสเี ขยี วแกมน้ำเงินทำหนา้ ทเี่ ป็นผผู้ ลิตใน ระบบนิเวศและส่งิ มชี ีวติ 2 กลุม่ นยี้ ังมีความสำคญั ในแง่เทคโนโลยชี วี ภาพซ่งึ ได้มกี ารศกึ ษาวิจยั เพ่ิมมากข่นึ เพือ่ นำไปใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อตุ สาหกรรม การแพทย์ และการศกึ ษาพันธศุ าสตร์ซ่งึ ช่วยพัฒนาคุณภาพชวี ิตของประชากรให้ดียิง่ ขนึ้ - สิ่งมชี วี ิตในอาณาจกั รนแ้ี บง่ เป็น 2 ไฟลมั คอื 1. ไฟลัมชิโซไมโคไฟตา (PHYLUM SCHIZOMYCOPHYTA) แบคทีเรียเปน็ สิ่งมชี วี ติ เซลล์ เดียว เซลลข์ องแบคทีเรยี มผี นังเซลลซ์ ึ่งเป็นพวกคาร์โบไฮเดรตและกรดอะมโิ น บางชนดิ มแี คปซลู เปน็ สารเมือกหุ้มอยู่ เพอ่ื ป้องกนั อันตรายแบ่งออกเปน็ 3 กลมุ่ คอื รปู ร่างกลม (COCCUS) รูปร่างเป็นท่อน (BACILLUS) และพวกทมี่ ีรูปรา่ งเปน็ เกลียว (SPIRILLUM)

ตวั อยา่ งแบคทีเรยี งรปู ร่างตา่ งๆ 2.ไฟลมั ไซยาโนไฟตา (PHYLUM CYANOPHYTA) สาหรา่ ยสีเขยี วแกมนำ้ เงิน (BLUE GREEN ALGAE) เช่น Oscillatoria Sp.,Spirulina Sp.,Anabaena Sp. เปน็ ตน้ สาหร่ายสเี ขียวแกมน้ำเงิน ขน้ั ท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ให้นักเรยี นออกแบบหนงั สือเลม่ เล็ก เรือ่ ง ความหลากหลายของส่งิ มีชีวติ สรุปเน้อื หาให้กระชบั และ เขา้ ใจงา่ ย และตกแตง่ ให้สวยงาม ขน้ั ท่ี 5 ประเมิน (Evaluation) 1. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี จี ดุ เดน่ จุดบกพรอ่ งอะไรบา้ ง มคี วาม สงสยั ความอยากรอู้ ยากเห็นในเร่อื งใด 2. นกั เรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรูส้ กึ หลังการเรยี น ในประเดน็ ต่อไปนี้ - ส่งิ ที่นักเรยี นได้เรยี นรูใ้ นวนั น้ีคืออะไร - นักเรยี นมีสว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพียงใด - เพ่ือนนักเรยี นในกลมุ่ มีส่วนร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพยี งใด - นกั เรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั น้หี รือไม่ เพยี งใด - นักเรียนจะนำความรู้ทไี่ ดน้ ไ้ี ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมท่วั ไปไดอ้ ยา่ งไร จากนั้นแลกเปลยี่ นตรวจสอบขัน้ ตอนการทำงานทกุ ข้นั ตอนว่าจะเพม่ิ คณุ ค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสงั คม ให้มากขึ้นกว่าเดิมในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครัง้ ตอ่ ไป

6. สื่อ / แหล่งการเรยี นรู้ - สอ่ื Power Point เรือ่ ง ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิต - แหล่งเรยี นรู้ในและนอกหอ้ งเรียน 7. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยการเรยี นรู้) - หนงั สอื เล่มเลก็ เร่อื ง ความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ติ

8. การวดั และประเมินผล แบบประเมินการปฏบิ ัติการทำกิจกรรม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การทำ ทำกจิ กรรมตามวธิ กี าร ทำกิจกรรมตามวิธีการ ทำกจิ กรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมไม่ กจิ กรรม และขัน้ ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ ถกู ต้องตามวธิ กี าร ตามแผนที่ อย่างถูกต้องด้วยตนเองมี ด้วยตนเอง มกี าร โดยมคี รูหรือผู้อน่ื และขนั้ ตอนที่ กำหนด การปรับปรุงแก้ไขเป็น ปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง เป็นผู้แนะนำ กำหนดไว้ ไม่มีการ ระยะ ปรับปรุงแกไ้ ข 2. การใช้ ใช้อุปกรณ์และ/หรอื ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรอื ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ อุปกรณ์และ/ เคร่ืองมือในการทำ เครอ่ื งมอื ในการทำ เคร่อื งมอื ในการทำ เครอ่ื งมือในการทำ หรือเคร่อื งมอื กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง กิจกรรมได้อย่างถกู ตอ้ ง กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กิจกรรมไมถ่ ูกต้อง ตามหลกั การปฏิบัตแิ ละ ตามหลักการปฏิบตั ิ แต่ โดยมีครู หรอื ผอู้ ื่นเปน็ ผู้ และไม่มคี วาม คล่องแคล่ว ไมค่ ลอ่ งแคล่ว แนะนำ คล่องแคลว่ ในการใช้ 3. การบันทึก บันทกึ ผลเปน็ ระยะ บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทกึ ผลไมค่ รบ ผลการทำ อย่างถกู ต้อง มีระเบยี บมี อย่างถูกตอ้ ง มีระเบยี บ แต่ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ไมม่ ีการระบุหน่วย กจิ กรรม การระบุหนว่ ย มกี าร มีการระบหุ น่วย มีการ ไม่มีการระบหุ น่วย และไมเ่ ปน็ ไปตาม อธบิ ายข้อมลู ให้เห็นความ อธิบายข้อมูลใหเ้ หน็ ถงึ และไมม่ กี ารอธบิ ายข้อมูล การทำกิจกรรม เช่ือมโยงเปน็ ภาพรวมเปน็ ความสมั พนั ธ์เป็นไป ให้เห็นถึงความสมั พันธ์ เหตเุ ปน็ ผล และเปน็ ไปตาม ตามการทำกิจกรรม ของการทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม 4. การจัด จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำข้อมูล จัดกระทำขอ้ มลู จัดกระทำข้อมูล กระทำขอ้ มูล อย่างเปน็ ระบบมกี าร อย่างเป็นระบบ มีการ อยา่ งเปน็ ระบบมีการ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ เช่ือมโยงใหเ้ หน็ เป็น จำแนกข้อมูลให้เหน็ ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ ให้ และมกี ารนำเสนอไม่ นำเสนอ ภาพรวม และนำเสนอ ความสมั พนั ธ์ นำเสนอ เข้าใจง่าย และนำเสนอ ส่อื ความหมายและไม่ ด้วยแบบตา่ ง ๆอย่าง ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ แต่ยังไม่ ชัดเจน ชัดเจนถูกตอ้ ง แต่ยังไม่ชัดเจน ชัดเจนและไม่ถกู ต้อง 5. การสรุปผล สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรมได้ สรปุ ผลการทำ การทำกิจกรรม ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง กระชับ ได้อยา่ งถูกต้อง แตย่ งั โดยมคี รูหรอื ผู้อน่ื กจิ กรรม ชดั เจน และครอบคลุม ไม่ครอบคลมุ ขอ้ มลู แนะนำบา้ ง จงึ สามารถ ตามความรู้ทพ่ี อมอี ยู่ ข้อมลู จากการวิเคราะห์ จากการวิเคราะห์ สรปุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง โดยไม่ใช้ขอ้ มูล ทง้ั หมด ทัง้ หมด จากการทำกิจกรรม

6. การดูแลและ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรอื ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/ การเก็บอปุ กรณ์ เคร่อื งมือในการทำ เครือ่ งมอื ในการทำ เคร่ืองมือในการทำ หรอื เครื่องมอื ในการ และ/หรือ กิจกรรม และมีการ กิจกรรม และมีการ กจิ กรรม มกี ารทำความ ทำกิจกรรม และไม่ เครื่องมือ ทำความสะอาดและเกบ็ ทำความสะอาดอย่าง สะอาด แต่เก็บไมถ่ ูกต้อง สนใจทำความ ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ นื่ สะอาด รวมท้งั เกบ็ อยา่ งถูกต้องตามหลักการ ถูกตอ้ ง แต่เก็บ แนะนำ ไม่ถกู ตอ้ ง และแนะนำใหผ้ ู้อน่ื ดูแล ไมถ่ กู ตอ้ ง และเกบ็ รกั ษาได้ถูกต้อง แบบประเมินช้นิ งาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนผงั รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ การจดั กระทำและ 432 1 นำเสนอแผนผัง จัดกระทำและนำเสนอ จดั กระทำแลนำเสนอ จดั กระทำและ จดั กระทำและ แผนผังได้ แตไ่ ม่ สอดคล้องกบั หัวขอ้ แผนผงั ไดส้ ัมพันธ์กัน นำเสนอ แผนผงั ได้ นำเสนอแผนผงั ได้ เร่อื งทก่ี ำหนด และถกู ตอ้ งตามหวั ขอ้ สัมพนั ธก์ บั หวั ข้อเรือ่ ง ตามหัวข้อเรอ่ื ง เรื่องที่กำหนด มีการ ทีก่ ำหนด มีการ โดยมคี รูหรอื ผอู้ ่นื วางแผน มกี าร ออกแบบ มีความคิด ใหค้ ำแนะนำ ออกแบบ และมี รเิ ร่มิ แต่ไม่มกี าร ความคิดสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงให้เห็นเป็น มีการเชอ่ื มโยงให้เหน็ ภาพรวม เปน็ ภาพรวม

แบบประเมนิ การสบื สอบขอ้ มลู รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การ วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าข้อมลู จาก วางแผนท่ีจะค้นควา้ วางแผนทจ่ี ะคน้ ควา้ ไม่มีการวางแผนท่ี วางแผน แหล่งการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ข้อมูลจากแหล่งการ ข้อมลู จากแหลง่ การ จะคน้ คว้าข้อมูลจาก คน้ คว้าข้อมลู เชือ่ ถอื ไดแ้ ละมีการเชือ่ มโยงให้ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เรียนรู้โดยมคี รหู รือผอู้ น่ื แหล่งการเรียนรู้ จากแหลง่ การ เห็นเป็นภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ และเหมาะสมแต่ไมม่ ี แนะนำบ้าง อยา่ งเปน็ ระบบ เรยี นรู้ ถงึ ความสมั พนั ธ์ของ การเชอ่ื มโยงให้เหน็ วธิ กี ารท้ังหมด เปน็ ภาพรวม 2. การเกบ็ เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู รวบรวม ตามแผนท่ีกำหนด โดยคดั เลือกและ/หรอื โดยไม่มกี ารคัดเลือก เป็นระยะ ขาดการ ขอ้ มลู ทุกประการ ประเมินขอ้ มูล และ/หรอื ประเมินข้อมูล ประเมินเพอ่ื คดั เลือก 3. การจดั จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู กระทำข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อย่างเป็นระบบ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ จำแนกขอ้ มูลให้เห็น มกี ารยกตัวอย่าง และนำเสนอไม่สอ่ื นำเสนอ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอดว้ ย ความสมั พันธ์ นำเสนอ เพิ่มเติมใหเ้ ข้าใจง่ายและ ความหมายและไม่ แบบตา่ ง ๆ อย่างชัดเจนถูกตอ้ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ นำเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ชดั เจน อยา่ งถกู ต้อง แต่ยังไม่ถกู ต้อง 4. การ สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ สรปุ ผล กระชบั ชัดเจน และ แต่ยงั ไม่ชัดเจนและ กะทัดรดั แตไ่ มช่ ดั เจน ข้อมูล และไม่ ครอบคลมุ มีเหตผุ ล ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล ถูกต้อง ที่อ้างอิงจากการสืบสอบได้ จากการวเิ คราะห์ ทงั้ หมด 5. การเขยี น เขยี นรายงานตรงตาม เขียนรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสื่อ เขยี นรายงานได้ตาม รายงาน จุดประสงคถ์ กู ต้องและ จุดประสงคอ์ ยา่ ง ความหมายได้โดยมคี รู ตัวอยา่ ง แต่ใชภ้ าษา ชัดเจน และมีการเชือ่ มโยงให้ ถกู ตอ้ งและชัดเจนแต่ หรอื ผอู้ ่ืนแนะนำ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ เห็นเปน็ ภาพรวม ขาดการเรียบเรยี ง ชัดเจน

วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรู้ท่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครผู ู้สอน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ทม่ี กี ารจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผเู้ รียน ลงชือ่ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจนั จริ า ธนันชัย) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 6 เรอื่ ง อาณาจกั รโพรทิสตา รายวิชา ชวี วิทยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 น้ำหนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 32 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3 ช่วั โมง 1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด อนุกรมวธิ าน เปน็ การจดั จำแนกสิ่งมีชีวิตสง่ิ มชี ีวติ ออกเป็นหมวดหมูต่ ามสายวิวัฒนาการ ในอดตี การจดั จำแนก กลุ่มส่งิ มชี วี ิตแบบผิวเผนิ แตใ่ นปจั จุบนั ได้จัดกลมุ่ สง่ิ มีชวี ิตออกเปน็ 5 กลมุ่ ใหญๆ่ คอื อาณามอเนอรา อาณาจักร โพทิสตา อาณาจกั รฟงั ไจ อาณาจกั รพชื และอาณาจกั รสตั ว์ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบตั ิ และหนา้ ท่ีของสาร พันธกุ รรม การเกิดมวิ เทชนั เทคโนโลยีทางดเี อน็ เอ หลักฐาน ข้อมูลและแนวคดิ เกีย่ วกับวิวัฒนาการของสิง่ มีชวี ติ ภาวะ สมดลุ ของฮาร์ด-ี ไวน์เบริ ์ก การเกดิ สปชี สี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของสิง่ มชี ีวิต ความหลากหลายของ สง่ิ มชี วี ิต และอนุกรมวิธาน รวมทงั้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ 2. อธิบายการเกดิ เซลล์เรม่ิ แรกของสิ่งมีชีวิตและววิ ฒั นาการของสิง่ มชี ีวติ เซลลเ์ ดยี ว 3.อธิบายลกั ษณะสำคัญและยกตัวอย่างสง่ิ มชี ีวิตกลมุ่ แบคทเี รียสง่ิ มชี วี ติ กลุ่มโพรทิสต์ สงิ่ มีชีวิต กลุ่มพืช สง่ิ มีชวี ิตกลุ่มฟงั ไจ และสง่ิ มีชวี ติ กลมุ่ สัตว์ 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (K,P,A) 1. อธิบายลกั ษณะสำคัญของส่ิงมีชวี ิตในอาณาจกั รโพทิสตาได้ (K) 2. ยกตัวอย่างของส่งิ มีชวี ิตในอาณาจกั รโพทสิ ตาได้ (K) 3. นำเสนอส่งิ มชี ีวติ ในอาณาจักรโพทิสตาได้ (P) 4. สนใจใฝเ่ รียนรทู้ างการศึกษา (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - อาณาจักรโพทิสตา

5. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี 1 สร้างความสนใจ (Engagement) 1. กระต้นุ นกั เรยี นดว้ ยคำถาม - ปัจจบุ ันมกี ารจดั จำแนกส่ิงมีชีวติ ได้กีก่ ล่มุ อะไรบา้ ง (5 กลุ่ม คอื มอเนอรา โพทิสตา ฟังไจ พชื และสตั ว)์ - การเรียงลำดับกลุม่ สงิ่ มีชีวติ ใหญ่ พจิ ารณาจากอะไร (โครงสรา้ งภายในและสายวิวฒั นาการ) - ส่งิ มีชีวิตพวกโพทสิ ตามลี ักษณะเดน่ อย่างไรบ้าง (เปน็ สงิ่ มชี วี ติ ท่เี ปน็ ยคู ารโิ อต ทโี่ ครงสรา้ งภายใน ไมซ่ ับซอ้ น เช่น พวกโพรโทซวั สาหร่าย และราเมอื ก) ขนั้ ที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน ศึกษาคน้ ควา้ ข้อมูล เร่ือง อาณาจกั รโพทิสตาและตวั อย่างของ ส่งิ มีชีวติ 2. ให้นกั เรียนแลกเปล่ยี นขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาคน้ คว้ากับเพ่ือนนักเรียนในห้อง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ รายผลทไี่ ด้จากการศึกษาค้นคว้า เรอ่ื ง อาณาจักรโพทิสตาและตัวอยา่ ง ของสิง่ มีชีวิต เพอื่ สรุปผลและสรา้ งองคค์ วามรใู้ หมร่ ่วมกนั ขนั้ ที่ 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 1. อาณาจกั รโปรติสตา (PROTISTA KINGDOM) - โปรตสิ ต์ เป็นสง่ิ มีชีวติ ท่ีมโี ครงสร้างไม่ซบั ซอ้ น ประกอบด้วยเซลล์ชนดิ ยคู าริโอติกเซลล์โดยอาจ ประกอบด้วยเซลลเ์ ดียว หรอื หลายเซลล์ทม่ี ไิ ดร้ วมกันเป็นเนอื้ เยือ่ สามารถทำหน้าทข่ี องสงิ่ มชี วี ิต ได้ครบถว้ นในเซลล์เดียว - ไฟลัมโปรโตซวั (PHYLUMPROTOZOA) อะมบี า พารามเี ซียม ยูกลนี า - ไฟลัมคลอโรไฟตา (PHYLUM CHLOROPHYTA) สาหร่ายสเี ขียวเช่น สไปโรไจนา (Spirogyra sp.) และ คลอเรลลา(Chlorella sp.) ซึง่ เป็นอาหารที่มโี ปรตนี สูง เปน็ โปรตสิ ตก์ ลุ่ม ใหญท่ ี่สดุ - ไฟลมั คริโซไฟตา (PHYLUM CHRYSOPHYTA) สาหรา่ ยสีน้ำตาล แกมเหลือง ได้แก่ ได อะตอม

ตัวอย่างของไดอะตอม - ไฟลัมฟโี อไฟตา (PHYLUM PHAEOPHYTA) สาหรา่ ยสนี ำ้ ตาล เช่น เคลป์ (KELP) มีขนาดใหญ่ สาหร่ายทสี่ ำคัญ ไดแ้ ก่ Laminaria sp. และ สาหรา่ ยทุ่น (Sargassum sp.) สาหร่ายทุ่น - ไฟลัมโรโดไฟตา (PHYLUM RHODOPHYTA) สาหร่ายสแี ดง เช่น จฉี ่าย (Prophyra sp.) และ Gracilaria sp. สาหรา่ ยจีฉ่ายที่ใสใ่ นแกงจืด - ไฟลมั มกิ ไซไมโคไฟตา (PHYLUM MYXOMYCOPHYTA) ราเมอื ก(SLIME MOLD เปน็ ส่งิ มีชีวติ ทีม่ ลี กั ษณะร่วมกนั ระหวา่ งพชื และสัตว์ สว่ นใหญจ่ ะดำรงชพี เป็นผูย้ ่อยสลาย ขั้นท่ี 4 ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ใหน้ ักเรยี นออกแบบหนงั สอื เลม่ เล็ก เร่ือง ความหลากหลายของส่ิงมีชีวติ สรุปเน้อื หาให้กระชับและ เข้าใจง่าย และตกแต่งให้สวยงาม

ข้ันท่ี 5 ประเมนิ (Evaluation) 1. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี จี ดุ เดน่ จุดบกพรอ่ งอะไรบา้ ง มคี วาม สงสยั ความอยากรอู้ ยากเห็นในเรอ่ื งใด 2. นักเรยี นประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - สิง่ ท่นี ักเรยี นไดเ้ รยี นรู้ในวนั นค้ี อื อะไร - นักเรยี นมีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลมุ่ มากนอ้ ยเพียงใด - เพอื่ นนักเรียนในกลมุ่ มสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด - นกั เรยี นพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นห้ี รือไม่ เพียงใด - นักเรียนจะนำความรู้ทีไ่ ด้นไ้ี ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมท่ัวไปไดอ้ ยา่ งไร จากนน้ั แลกเปลย่ี นตรวจสอบข้นั ตอนการทำงานทกุ ขัน้ ตอนว่าจะเพม่ิ คณุ ค่าไปสสู่ งั คม เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คม ใหม้ ากข้ึนกว่าเดมิ ในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครงั้ ต่อไป 6. ส่ือ / แหลง่ การเรยี นรู้ - สอ่ื Power Point เรอื่ ง ความหลากหลายของส่งิ มชี ีวิต - แหล่งเรียนร้ใู นและนอกห้องเรียน 7. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยการเรยี นรู้) - หนังสอื เล่มเลก็ เรอ่ื ง ความหลากหลายของสง่ิ มีชีวิต

8. การวดั และประเมินผล แบบประเมินการปฏบิ ัติการทำกิจกรรม รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การทำ ทำกจิ กรรมตามวธิ กี าร ทำกิจกรรมตามวิธีการ ทำกจิ กรรมตามวิธกี าร ทำกิจกรรมไม่ กจิ กรรม และขัน้ ตอนทกี่ ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ และขน้ั ตอนทก่ี ำหนดไว้ ถกู ต้องตามวธิ กี าร ตามแผนที่ อย่างถูกต้องด้วยตนเองมี ด้วยตนเอง มกี าร โดยมคี รูหรือผู้อน่ื และขนั้ ตอนที่ กำหนด การปรับปรุงแก้ไขเป็น ปรับปรุงแกไ้ ขบา้ ง เป็นผู้แนะนำ กำหนดไว้ ไม่มีการ ระยะ ปรับปรุงแกไ้ ข 2. การใช้ ใช้อุปกรณ์และ/หรอื ใช้อุปกรณแ์ ละ/หรอื ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ อุปกรณ์และ/ เคร่ืองมือในการทำ เครอ่ื งมอื ในการทำ เคร่อื งมอื ในการทำ เครอ่ื งมือในการทำ หรือเคร่อื งมอื กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง กิจกรรมได้อย่างถกู ตอ้ ง กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง กิจกรรมไมถ่ ูกต้อง ตามหลกั การปฏิบัตแิ ละ ตามหลักการปฏิบตั ิ แต่ โดยมีครู หรอื ผอู้ ื่นเปน็ ผู้ และไม่มคี วาม คล่องแคล่ว ไมค่ ลอ่ งแคล่ว แนะนำ คล่องแคลว่ ในการใช้ 3. การบันทึก บันทกึ ผลเปน็ ระยะ บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทกึ ผลไมค่ รบ ผลการทำ อย่างถกู ต้อง มีระเบยี บมี อย่างถูกตอ้ ง มีระเบยี บ แต่ไมเ่ ปน็ ระเบียบ ไมม่ ีการระบุหน่วย กจิ กรรม การระบุหนว่ ย มกี าร มีการระบหุ น่วย มีการ ไม่มีการระบหุ น่วย และไมเ่ ปน็ ไปตาม อธบิ ายข้อมลู ให้เห็นความ อธิบายข้อมูลใหเ้ หน็ ถงึ และไมม่ กี ารอธบิ ายข้อมูล การทำกิจกรรม เช่ือมโยงเปน็ ภาพรวมเปน็ ความสมั พนั ธ์เป็นไป ให้เห็นถึงความสมั พันธ์ เหตเุ ปน็ ผล และเปน็ ไปตาม ตามการทำกิจกรรม ของการทำกจิ กรรม การทำกจิ กรรม 4. การจัด จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำข้อมูล จัดกระทำขอ้ มลู จัดกระทำข้อมูล กระทำขอ้ มูล อย่างเปน็ ระบบมกี าร อย่างเป็นระบบ มีการ อยา่ งเปน็ ระบบมีการ อยา่ งไมเ่ ปน็ ระบบ และการ เช่ือมโยงใหเ้ หน็ เป็น จำแนกข้อมูลให้เหน็ ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ ให้ และมกี ารนำเสนอไม่ นำเสนอ ภาพรวม และนำเสนอ ความสมั พนั ธ์ นำเสนอ เข้าใจง่าย และนำเสนอ ส่อื ความหมายและไม่ ด้วยแบบตา่ ง ๆอย่าง ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ ดว้ ยแบบตา่ ง ๆ แต่ยังไม่ ชัดเจน ชัดเจนถูกตอ้ ง แต่ยังไม่ชัดเจน ชัดเจนและไม่ถกู ต้อง 5. การสรุปผล สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกจิ กรรมได้ สรปุ ผลการทำ การทำกิจกรรม ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง กระชับ ได้อยา่ งถูกต้อง แตย่ งั โดยมคี รูหรอื ผู้อน่ื กจิ กรรม ชดั เจน และครอบคลุม ไม่ครอบคลมุ ขอ้ มลู แนะนำบา้ ง จงึ สามารถ ตามความรู้ทพ่ี อมอี ยู่ ข้อมลู จากการวิเคราะห์ จากการวิเคราะห์ สรปุ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง โดยไม่ใช้ขอ้ มูล ทง้ั หมด ทัง้ หมด จากการทำกิจกรรม

6. การดูแลและ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรอื ดแู ลอปุ กรณแ์ ละ/หรอื ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/ การเก็บอปุ กรณ์ เคร่อื งมือในการทำ เครือ่ งมอื ในการทำ เคร่ืองมือในการทำ หรอื เครื่องมอื ในการ และ/หรือ กิจกรรม และมีการ กิจกรรม และมีการ กจิ กรรม มกี ารทำความ ทำกิจกรรม และไม่ เครื่องมือ ทำความสะอาดและเกบ็ ทำความสะอาดอย่าง สะอาด แต่เก็บไมถ่ ูกต้อง สนใจทำความ ตอ้ งใหค้ รูหรือผอู้ นื่ สะอาด รวมท้งั เกบ็ อยา่ งถูกต้องตามหลักการ ถูกตอ้ ง แต่เก็บ แนะนำ ไม่ถกู ตอ้ ง และแนะนำใหผ้ ู้อน่ื ดูแล ไมถ่ กู ตอ้ ง และเกบ็ รกั ษาได้ถูกต้อง แบบประเมินช้นิ งาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนผงั รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ การจดั กระทำและ 432 1 นำเสนอแผนผัง จัดกระทำและนำเสนอ จดั กระทำแลนำเสนอ จดั กระทำและ จดั กระทำและ แผนผังได้ แตไ่ ม่ สอดคล้องกบั หัวขอ้ แผนผงั ไดส้ ัมพันธ์กัน นำเสนอ แผนผงั ได้ นำเสนอแผนผงั ได้ เร่อื งทก่ี ำหนด และถกู ตอ้ งตามหวั ขอ้ สัมพนั ธก์ บั หวั ข้อเรือ่ ง ตามหัวข้อเรอ่ื ง เรื่องที่กำหนด มีการ ทีก่ ำหนด มีการ โดยมคี รูหรอื ผอู้ ่นื วางแผน มกี าร ออกแบบ มีความคิด ใหค้ ำแนะนำ ออกแบบ และมี รเิ ร่มิ แต่ไม่มกี าร ความคิดสรา้ งสรรค์ เชอ่ื มโยงให้เห็นเป็น มีการเชอ่ื มโยงให้เหน็ ภาพรวม เปน็ ภาพรวม

แบบประเมนิ การสบื สอบขอ้ มลู รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 4 3 21 1. การ วางแผนทีจ่ ะคน้ คว้าข้อมลู จาก วางแผนท่ีจะค้นควา้ วางแผนทจ่ี ะคน้ ควา้ ไม่มีการวางแผนท่ี วางแผน แหล่งการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย ข้อมูลจากแหล่งการ ข้อมลู จากแหลง่ การ จะคน้ คว้าข้อมูลจาก คน้ คว้าข้อมลู เชือ่ ถอื ไดแ้ ละมีการเชือ่ มโยงให้ เรียนรทู้ ่ีหลากหลาย เรียนรู้โดยมคี รหู รือผอู้ น่ื แหล่งการเรยี นรู้ จากแหลง่ การ เห็นเป็นภาพรวม แสดงใหเ้ หน็ และเหมาะสมแต่ไมม่ ี แนะนำบ้าง อยา่ งเปน็ ระบบ เรยี นรู้ ถงึ ความสมั พนั ธ์ของ การเชอ่ื มโยงให้เหน็ วธิ กี ารท้ังหมด เปน็ ภาพรวม 2. การเกบ็ เก็บรวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมขอ้ มลู เก็บรวบรวมขอ้ มลู เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู รวบรวม ตามแผนท่ีกำหนด โดยคดั เลือกและ/หรอื โดยไม่มกี ารคัดเลือก เป็นระยะ ขาดการ ขอ้ มลู ทุกประการ ประเมินขอ้ มูล และ/หรอื ประเมินข้อมูล ประเมินเพือ่ คัดเลือก 3. การจดั จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำขอ้ มูล จดั กระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มูล กระทำข้อมลู อยา่ งเปน็ ระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ อย่างเป็นระบบ อยา่ งไมเ่ ป็นระบบ และการ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ จำแนกข้อมูลให้เห็น มกี ารยกตัวอย่าง และนำเสนอไมส่ อ่ื นำเสนอ เปน็ ภาพรวม และนำเสนอดว้ ย ความสมั พันธ์ นำเสนอ เพิ่มเติมใหเ้ ข้าใจง่ายและ ความหมายและไม่ แบบตา่ ง ๆ อย่างชัดเจนถูกตอ้ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ นำเสนอด้วยแบบต่าง ๆ ชดั เจน อยา่ งถกู ต้อง แต่ยังไม่ถกู ต้อง 4. การ สรุปผลไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง สรุปผลไดอ้ ยา่ งกระชับ สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรปุ ผลโดยไมใ่ ช้ สรปุ ผล กระชบั ชัดเจน และ แต่ยงั ไม่ชัดเจนและ กะทัดรดั แตไ่ มช่ ดั เจน ข้อมูล และไม่ ครอบคลมุ มีเหตผุ ล ไม่ครอบคลุมขอ้ มูล ถูกต้อง ที่อ้างอิงจากการสืบสอบได้ จากการวเิ คราะห์ ทงั้ หมด 5. การเขยี น เขยี นรายงานตรงตาม เขียนรายงานตรงตาม เขยี นรายงานโดยสื่อ เขยี นรายงานไดต้ าม รายงาน จุดประสงคถ์ กู ต้องและ จุดประสงคอ์ ยา่ ง ความหมายได้โดยมคี รู ตัวอย่าง แตใ่ ช้ภาษา ชัดเจน และมีการเชือ่ มโยงให้ ถกู ตอ้ งและชัดเจนแต่ หรอื ผอู้ ่ืนแนะนำ ไม่ถูกตอ้ ง และไม่ เห็นเปน็ ภาพรวม ขาดการเรียบเรยี ง ชัดเจน

วช-ร 06 แบบบันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรู้ท่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ชั้น…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครผู สู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาที่ใช้ ……… ชว่ั โมง ************************* ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปัญหาที่พบ แนวทางแกไ้ ข ทม่ี กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ เนื้อหา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของผู้เรียน ลงชือ่ …..........………….......................…….. ครผู ู้จดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวจนั จริ า ธนันชัย) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย

แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรือ่ ง อาณาจกั รฟังไจ รายวชิ า ชวี วทิ ยา 6 รหัสวิชา ว33206 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2563 นำ้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 32 ชัว่ โมง/สัปดาห์ เวลาที่ใช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3 ชั่วโมง 1. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด อนุกรมวธิ าน เป็นการจัดจำแนกสง่ิ มีชวี ติ สิ่งมีชวี ติ ออกเป็นหมวดหมตู่ ามสายววิ ฒั นาการ ในอดตี การจัดจำแนก กลุ่มสง่ิ มชี วี ติ แบบผิวเผิน แตใ่ นปจั จุบนั ได้จดั กลุ่มสิง่ มีชีวติ ออกเปน็ 5 กลุม่ ใหญๆ่ คอื อาณามอเนอรา อาณาจกั ร โพทสิ ตา อาณาจกั รฟังไจ อาณาจักรพชื และอาณาจกั รสัตว์ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ 2. เขา้ ใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม การถา่ ยทอดยีนบนโครโมโซม สมบัติ และหน้าทข่ี องสาร พนั ธุกรรม การเกิดมิวเทชนั เทคโนโลยีทางดีเอน็ เอ หลกั ฐาน ขอ้ มูลและแนวคิดเกย่ี วกับวิวัฒนาการของสง่ิ มชี ีวติ ภาวะ สมดุลของฮารด์ -ี ไวน์เบิรก์ การเกดิ สปชี สี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ กำเนดิ ของสิ่งมชี ีวิต ความหลากหลายของ ส่ิงมชี ีวติ และอนกุ รมวธิ าน รวมทง้ั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรียนรู้ 2. อธิบายการเกิดเซลลเ์ ร่ิมแรกของส่งิ มีชีวิตและววิ ฒั นาการของสง่ิ มีชวี ติ เซลล์เดยี ว 3. อธิบายลักษณะสำคัญและยกตวั อยา่ งสิง่ มีชีวติ กล่มุ แบคทีเรียส่ิงมชี วี ิตกลมุ่ โพรทสิ ต์ สิ่งมชี วี ติ กลมุ่ พชื ส่ิงมีชีวิตกลุม่ ฟงั ไจ และสง่ิ มชี วี ติ กล่มุ สตั ว์ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (K,P,A) 1. อธบิ ายลักษณะสำคญั ของส่งิ มีชีวิตในอาณาจักรฟงั ไจได้ (K) 2. ยกตัวอยา่ งของสง่ิ มีชวี ิตในอาณาจักรฟงั ไจได้ (K) 3. นำเสนอสิง่ มีชีวติ ในอาณาจักรฟังไจได้ (P) 4. สนใจใฝ่เรยี นรทู้ างการศึกษา (A) 4. สาระการเรยี นรู้ - อาณาจกั รฟงั ไจ

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. กระต้นุ นกั เรยี นด้วยคำถาม - ปัจจุบนั มกี ารจัดจำแนกสิ่งมีชวี ิตไดก้ ก่ี ลุม่ อะไรบา้ ง (5 กลุ่ม คือ มอเนอรา โพทิสตา ฟังไจ พืช และสตั ว์) - การเรยี งลำดับกลมุ่ สิง่ มชี ีวิตใหญ่ พจิ ารณาจากอะไร (โครงสร้างภายในและสายววิ ฒั นาการ) - สิง่ มีชีวติ พวกฟังไจมีลักษณะเดน่ อย่างไรบา้ ง (กลุ่มสิ่งมชี วี ิตนี้เปน็ กล่มุ ของผู้ยอ่ ยสลาย ทงั้ มี ลักษณะคล้ายพืช และลกั ษณะคลา้ ยสัตว์) ขั้นท่ี 2 สำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. ใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 – 5 คน ศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู เรอื่ ง อาณาจกั รฟังไจและตัวอยา่ งของ ส่งิ มชี วี ิต 2. ใหน้ ักเรยี นแลกเปลีย่ นข้อมลู ท่ไี ดจ้ ากการศกึ ษาค้นควา้ กับเพ่อื นนักเรียนในหอ้ ง 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายผลทไ่ี ด้จากการศึกษาคน้ คว้า เรอ่ื ง อาณาจกั รฟงั ไจและตวั อย่างของ ส่งิ มชี วี ิต เพ่ือสรุปผลและสรา้ งองค์ความรใู้ หมร่ ่วมกัน ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. อาณาจกั รฟังใจ (KINGDOM FUNGI) - เหด็ ราและยสี ต์มีลกั ษณะทวั่ ไปคลา้ ยกบั พชื และโปรติสต์ ตา่ งกันตรงทไ่ี ม่มีรงควตั ถุเพอ่ื ใช้ ในการสังเคราะห์ด้วยแสง สว่ นใหญ่จงึ ดำรงชีพ โดยเป็นผู้ย่อยสลายอินทรีย์สาร ประกอบด้วยกลุ่มของ เซลล์ ซ่งึ มีลกั ษณะเปน็ เส้นใยเรียกว่า (HYPHA) ซง่ึ เจรญิ มาจากสปอร์ กลุม่ ของไฮฟา เรียกวา่ ไมซเี ลยี ม (MYCELIUM) โดยมไี รซอยดช์ ่วยยดึ ไฮฟาติดกับแหลง่ ทอี่ ยู่ - ราแยกเป็นกลมุ่ ต่างๆดังนี้ 1. DIVISION ZYGOMYCOTA ราดำ (Rhizopus sp.) ทข่ี นึ้ บนขนมปัง ราดำท่ีขน้ึ ขนมปัง 2. DIVISION ASCOMYCOTA ยีสต์ (Saccharocyces sp.) และราสีแดง (Monascus sp.) 3. DIVISION BASIDIOMYCOTA เห็ดชนิดต่างๆ ตวั อย่างเชน่ เหด็ ฟาง เห็ดหอม และราสนมิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook