94 แนวทางปฏิบตั ิงาน ๑) จดั แตง่ ธูปเทยี นเครือ่ งนมสั การพระพุทธปฏมิ าในพระอุโบสถให้เรียบร้อย ๒) จัดโต๊ะหมู่บูชาเพ่ือประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โต๊ะหมู่แถวกลางตัวสูงสุดประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตัวกลาง โต๊ะหมู่ แถวกลางประดิษฐานผ้าพระกฐินพระราชทาน และโต๊ะหมู่ตัวล่างแถวกลางวางพาน ดอกไมธ้ ูปเทยี นแพ ๓) ผ้าพระกฐินพระราชทาน ให้นำพลาสติกออก แล้วจึงติดคำถวายบนผ้าพระกฐิน พระราชทาน และวางผ้าห่มพระประธานไว้บนคำถวายผ้าพระกฐิน ควรใช้เทปใสยึดติดให้แน่น ป้องกันไม่ให้เลื่อนตก (สำหรับพระอารามหลวงท่ีสังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต หรือพระอารามหลวง ที่สังกัดมหานิกาย ซึ่งมีอยู่ ๕ พระอาราม ซึ่งมีผ้าขาวให้ใช้ริบบิ้นผูกผ้าขาวติดกับผ้าพระกฐิน พระราชทานให้เรยี บรอ้ ยก่อน แลว้ จงึ ติดคำถวายไว้บนผา้ ขาว และนำผ้าห่มพระประธานวางไว้บน คำถวาย ใช้เทปใสติดใหแ้ น่นเพอื่ ป้องกันผ้าหม่ พระประธานตก คำถวายผ้าพระกฐนิ พระราชทาน ประธานพิธีหันหน้าไปยงั พระประธานปฏิมากรประจำพระอุโบสถ กลา่ ว นโม ๓ จบ “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมมฺ าสมพฺ ทุ ฺธสฺส” “นโม ตสสฺ ภควโต อรหโต สมมฺ าสมฺพทุ ฺธสฺส” “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมมฺ าสมพฺ ุทธฺ สสฺ ” หันหน้าไปทางพระสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน “ผ้าพระกฐินทานกับท้ังผ้าอานิสงสบริวารทั้งปวงนี้ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร- มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ กอปรด้วยพระราชศรัทธา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้................ .....................(กล่าวช่ือหน่วยงาน หรือองค์กรผู้ขอรับพระราชทาน) น้อมนำถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ซ่ึงจำพรรษากาลถ้วนไตรมาสในอาวาสวิหารน้ี ขอพระสงฆ์จงรับผ้าพระกฐินทาน กระทำกฐินัต- ถารกจิ ตามพระบรมพทุ ธานญุ าตนั้น เทอญ” ๔) เมอื่ ใกลถ้ งึ เวลาตามกำหนดการ ให้อญั เชิญผ้าพระกฐนิ พระราชทานวางไว้บนตะลมุ่ มุก หรือพานเบอ้ื งหนา้ พระบรมฉายาลกั ษณพ์ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ๕) เคร่ืองบริวารผ้าพระกฐินพระราชทาน ให้นำออกจากกล่องหรือพลาสติก แล้วจัดใส่ ตะลุ่มหรือพานหรือภาชนะทีเ่ หมาะสม และจัดวางใหเ้ รียบรอ้ ยสวยงาม ๖) จัดโต๊ะปูด้วยผ้าขาว ต้ังไว้ทางท้ายอาสน์สงฆ์ สำหรับวางเคร่ืองบริวารผ้าพระกฐิน และเครอ่ื งจตุปจั จัยไทยธรรมทีจ่ ดั ถวายพระภกิ ษุสามเณร คมู่ ือการปฏบิ ัติศาสนพธิ ีเบอื้ งต้น
95 ตวั อยา่ ง กำหนดการ ในการ (หน่วยงาน, องค์กร.........................................ถวายผา้ พระกฐินพระราชทาน ณ วดั ............................ตำบล...........................อำเภอ.......................จงั หวดั ........................... วนั ท่.ี .........เดอื น...................................พ.ศ. ................ วันท่ี..........เดือน...................................พ.ศ. ................ เวลา.....................น. - ข้าราชการ ผู้มเี กียรติ ผู้ร่วมพิธี พรอ้ มกนั ณ พระอุโบสถ - ประธานเดินทางถึงหน้าพระอุโบสถ ไปที่โต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั - เปิดกรวยดอกไมถ้ วายสกั การะพระบรมฉายาลกั ษณ์ - ถวายความเคารพ (คำนับ หรือถอนสายบัว แลว้ แต่กรณ)ี - ยกผ้าพระกฐินขึ้นอุ้มประคองไว้ตรงอก ยืนตรง (ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญ พระบารมี) จบ - ถวายความเคารพ - อมุ้ ประคองผา้ พระกฐินพระราชทานเข้าสู่พระอโุ บสถ - วางผา้ พระกฐนิ พระราชทานไวท้ พี่ านแว่นฟ้า ตรงหน้าพระสงฆร์ ปู ที่ ๒ - จุดธูปเทยี นบชู าพระพทุ ธปฏิมากรประจำพระอโุ บสถ - กราบทีแ่ ท่นกราบ ๓ คร้ัง - หยบิ ผา้ ห่มพระประธานซง่ึ วางอยบู่ นคำกลา่ ว สง่ ให้เจ้าหนา้ ท ่ี - ยกผ้าพระกฐนิ พระราชทานขึ้นประคองลักษณะประนมมอื - หันหน้าไปทางพระพทุ ธปฏมิ ากรประจำพระอโุ บสถ กลา่ ว นะโม ๓ จบ - หันหน้าไปยงั พระสงฆ์ กล่าวคำถวายผา้ พระกฐนิ ท่ตี ดิ บนผ้าไตร จบแลว้ - วางผา้ พระกฐนิ พระราชทานไว้บนพานแว่นฟ้า ยกประเคนพระสงฆ์รปู ที่ ๒ - ยกพานเทียนปาฏโิ มกข์ ประเคนพระสงฆร์ ปู ที่ ๒ - ประธานไปนงั่ เก้าอ้ีท่ีจัดเตรียมไว้ - พระสงฆท์ ำพิธีกฐินกรรม คู่มอื การปฏบิ ัติศาสนพิธเี บ้อื งตน้
96 - พระเถระองค์ครองลุกออกไปครองผ้าพระกฐิน เสร็จแล้วกลับเข้ามานั่งยังที่เดิม (ขณะนีถ้ ้ามกี ารบรรเลงดนตรไี ทย จะบรรเลงเพลงสาธุการ เมอื่ พระเถระครองผา้ เสรจ็ จะกลบั มานัง่ ยงั อาสน์สงฆ์ท่เี ดิม ใหด้ นตรีหยุดบรรเลงเพลงทนั ท)ี - ประธานประเคนเคร่ืองพระกฐินพระราชทาน ถ้ามีพัดรองท่ีระลึกให้ประเคนต่อจาก เครื่องพระกฐนิ พระราชทาน) - ประธานและผมู้ ีเกยี รติประเคนจตุปัจจยั ไทยธรรมแดพ่ ระสงฆ์ทุกรปู - ประกาศยอดจำนวนเงินที่มีผู้บริจาคร่วมถวายพระราชกุศล ในการถวายผ้า พระกฐินพระราชทาน - พระสงฆ์อนุโมทนา ถวายอดิเรก - ประธานกรวดน้ำ-รับพร - ประธานกราบลาพระปฏิมากรประจำพระอโุ บสถ - ประธานกราบลาพระสงฆ์ - เสรจ็ พธิ ี คู่มอื การปฏิบัตศิ าสนพธิ ีเบ้อื งตน้
97 หมายเหตุ ๑) ถ้าไม่มีโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ และผ้าพระกฐินพระราชทานให้จัด เจา้ หนา้ ท่ี ซ่ึงแตง่ เครือ่ งแบบปกตขิ าวอญั เชิญผา้ พระกฐินพระราชทานส่งใหผ้ ้เู ปน็ ประธานพธิ ีถวาย ผา้ พระกฐินพระราชทาน ณ เชงิ บันไดหรอื หนา้ ประตพู ระอโุ บสถ ๒) เมื่อประธานพิธีรับผ้าพระกฐินพระราชทานจากเจ้าหน้าที่แล้ว ให้อุ้มประคอง ในลักษณะประนมมือ ยืนตรงแสดงความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ขณะประธานรับผ้าพระกฐินพระราชทานจากเจ้าหน้าที่ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ผู้ร่วมพิธียืนตรงเป็นการถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จบ ประธานอุ้มประคอง ผ้าไตรเข้าสู่พระอุโบสถ) ผู้ร่วมพิธียืนตรงเพ่ือรับผ้าพระกฐินพระราชทานและประธานพิธี เม่ือ ประธานพิธีกล่าวคำถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน และประเคนพระสงฆ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประธานพิธีและผรู้ ่วมพิธีนั่งยงั ที่นง่ั พรอ้ มกนั ๓) ในพิธีนี้ พระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์ใช้พัดยศสมณศักดิ์ พระสงฆ์ที่ไม่มีสมณศักดิ์ให้ใช้วิธี ประนมมือ (ไมใ่ ชพ้ ดั รองหรือตาลปัตร) ๔) ในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ต้องมีการถวายอดิเรก พระอารามที่ไม่ม ี พระราชาคณะ ต้องนิมนต์พระราชาคณะจากพระอารามหรือวัดอื่นมาเป็นผู้ถวายอดิเรก และพระสงฆ์ท่ีจะถวายอดิเรกได้จะต้องเป็นพระราชาคณะ หรือพระครูเจ้าคณะจังหวัด พระครู รองเจา้ คณะจังหวดั และพระครเู จ้าอาวาสพระอารามหลวงช้ันเอก ท่ถี ือพัดเปลวเพลงิ ขึน้ ไป ๕) ในกรณีท่ีเจ้าอาวาสมีสมณศักด์ิต่ำกว่าพระสงฆ์สมณศักดิ์ในพระอารามเดียวกัน ใหเ้ จ้าอาวาสนั่งอาสนะกอ่ นพระสมณศักดร์ิ ูปอืน่ ทม่ี สี มณศกั ด์ิสงู กวา่ แตไ่ ม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ๖) ในกรณีที่ผู้ขอรับพระราชทานจัดสร้างพัดรองที่ระลึกหรือตาลปัตรที่ระลึกถวายพระสงฆ์ ให้ใช้พัดรองหรือตาลปัตรที่ระลึกอนุโมทนา ส่วนรูปอ่ืนที่ไม่มีพัดรองหรือตาลปัตรที่ระลึกถวาย ให้ต้ังพัดยศต้ังแต่อนุโมทนา และพระสงฆ์ที่ถือพัดรองอนุโมทนาให้เปล่ียนมาใช้พัดยศก่อนที่ ประธานสงฆ์จะกลา่ วคำถวายอดิเรก คู่มอื การปฏบิ ัติศาสนพิธเี บ้ืองตน้
98 ๗) ในขณะท่ปี ระธานสงฆ์กล่าวคำถวายอดเิ รก “อติเรกกวสสฺ สตํ ชีวตุ. อตเิ รกกวสสฺ สตํ ชีวต.ุ อตเิ รกกวสฺสสตํ ชวี ตุ. ทฆี ายโุ ก โหตุ อโรโค โหต.ุ ทฆี ายุโก โหตุ อโรโค โหต.ุ สุขิโต โหตุ ปรมินทฺ รมหาราชา. สิทธฺ กิ จิ ฺจํ สทิ ธฺ ิกมมฺ ํ สิทฺธลิ าโภ ชโย นจิ จฺ ํ. ปรมินทฺ มหาราชวรสฺส ภวตุ สพฺพทฺ ขอถวายพระพร” ประธานพิธีและผูร้ ่วมพธิ ที กุ ทา่ นลดมือลง เม่ือพระสงฆร์ ูปท่ี ๒ รบั “ภวตุ สพพฺ มงคฺ .ํ ....” ประธานพธิ แี ละผู้รว่ มพิธจี งึ ยกมือข้ึนประนมเพ่ือรบั พรต่อไป ๘) การถวายเครือ่ งพระกฐินพระราชทานจดั ให้ประธานถวายตามลำดับ ดังน้ ี บาตร เครื่องนอน เครื่องใช้ท่ีเก่ียวกับอาหาร เคร่ืองท่ีเก่ียวกับแสงสว่าง เครื่องมือ โยธา พัดรองหรือตาลปัตรที่ระลึก และเครื่องใช้หรือจตุปัจจัยไทยธรรมที่ผู้ขอรับพระราชทาน จดั ถวาย คูม่ ือการปฏิบัติศาสนพธิ ีเบอื้ งตน้
99 ค่มู ือการปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
100 คู่มอื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้อื งตน้
101 ค่มู ือการปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
102 คู่มอื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้อื งตน้
103 ค่มู ือการปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
105 บทท ี่ แนวทางการจดั งานมงคลพิธ ี การจัดงานที่เป็นพิธีมีลำดับข้ันตอน เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมในพิธีต่าง ๆ เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย ดังนั้น เพ่ือให้ผู้ท่ีทำหน้าที่ประธานพิธี ผู้ร่วมพิธีและผู้ปฏิบัติงานพิธ ี มีความเข้าใจตรงกัน ในการท่ีจะดำเนินกจิ กรรมศาสนพธิ ใี หเ้ ปน็ ไปดว้ ยความเรียบร้อย ศาสนพธิ กี ร จะต้องเป็นผู้ท่ีมีความรู้ความเข้าใจในลำดับขั้นตอน วิธีการ ลักษณะของการจัดกิจกรรมงานพิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเปน็ งานมงคล งานอวมงคล กุศลพธิ ี หรืองานบญุ พธิ อี ย่างชัดเจน เพอื่ ให้การปฏบิ ัติงานพธิ ี เป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย สวยงาม นำมาซ่ึงความศรทั ธาเลื่อมใสของผู้ท่ีเขา้ รว่ มพธิ ี งานกศุ ลพิธ ี งานกุศลพิธี คือ การจัดงานด้วยปรารภเหตุการณ์สร้างกุศลให้แก่ตนเอง เพื่อความเป็น สวัสดิมงคล ซึ่งบุคคลนั้น ๆ จะจัดเองหรือบุคคลอ่ืนจัดให้ก็ได้ เช่น การบรรพชาสามเณร การบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ การสมาทานศีล ๕ ศีล ๘ หรือการรักษาศีลอุโบสถ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เป็นตน้ พิธแี สดงตนเป็นพุทธมามกะ ๑) ไปนมัสการพระอาจารย์เพื่อแจง้ ความประสงค์ นดั วัน เวลา และนมิ นต์พระสงฆ์ ๒) ในวันประกอบพิธี ผู้แสดงตนแตง่ กายชดุ สีขาวลว้ น ชุดนักเรียน หรือชดุ สุภาพสอี ่อน พรอ้ มกนั ณ สถานท่ีประกอบพิธี ๓) จดุ ธูปเทยี นบชู าพระรัตนตรยั เปล่งวาจาบูชาพระรตั นตรยั กราบ ๓ ครง้ั ๔) ถือพานเครอ่ื งสกั การะเข้าไปหาพระอาจารย์ ณ ท่ีชมุ นุมสงฆ์ วางพานแลว้ กราบ ๓ ครง้ั ยกพานเครอ่ื งสกั การะถวาย กราบ ๓ ครั้ง ๕) เปล่งวาจากล่าวคำนมสั การ (นะโม ๓ จบ) และคำปฏิญาณตนเปน็ พทุ ธมามกะ จบ ๖) เม่ือพระสงฆ์รบั วา่ “สาธ”ุ แล้วกราบ ๓ ครง้ั นง่ั ราบกับพื้น ประนมมอื รบั ฟงั โอวาท จากพระอาจารย์ เมอ่ื จบโอวาทแล้ว รับวา่ “สาธุ” แล้วน่ังคุกเขา่ ประนมมอื อาราธนาศีล ๕ รับศีล จบแลว้ กราบ ๓ ครงั้ คมู่ อื การปฏิบตั ศิ าสนพิธเี บ้อื งต้น
106 ๗) ประเคนจตุปัจจยั ไทยธรรมถวายพระสงฆ์ (ถา้ ม)ี ๘) พระสงฆ์อนุโมทนา ๙) กรวดน้ำ-รับพร ๑๐) กราบ ๓ คร้งั เป็นเสร็จพิธ ี คำบชู าพระรตั นตรยั อิมนิ า สักกาเรนะ พทุ ธงั ปูเชม ิ อมิ ินา สักกาเรนะ ธัมมงั ปูเชมิ อิมนิ า สักกาเรนะ สงั ฆัง ปเู ชมิ (ถ้าหลายคน เปล่ียน ปูเชมิ เปน็ ปูเชมะ) คมู่ ือการปฏิบตั ศิ าสนพิธเี บ้อื งตน้
107 คำกล่าวแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คำกล่าวแสดงตนคนเดยี ว (ชาย) ตงั้ นะโม ๓ จบ “เอสาหงั ภันเต สุจริ ะปะรนิ ิพพุตมั ปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณงั คัจฉามิ ธมั มัญจะ สงั ฆญั จะ พุทธะมามะโกต ิ มงั สังโฆ ธาเรต”ุ คำกล่าวสำหรบั ผู้หญิงแสดงตนคนเดยี ว เหมอื นกบั คำแสดงตนของชาย เพยี งแต่เปลยี่ นคำว่า พทุ ธะมามะโกติ เปน็ พุทธะมามะกาติ เท่าน้นั คำกล่าวสำหรับแสดงตนหลายคน (ชาย) “เอเต มะยงั ภันเต สุจิระปะรินพิ พุตมั ปิ ตัง ภะคะวนั ตงั สะระณัง คจั ฉามะ ธมั มัญจะ สังฆัญจะ พุทธะมามะกาติ โน สังโฆ ธาเรต”ุ คำกล่าวสำหรบั ผู้หญงิ หลายคนแสดงตน เหมอื นคำแสดงตนของชายหลายคน เพยี งแต่เปลย่ี นคำวา่ เอเต มะยัง เปน็ เอตา มะยงั เท่านัน้ งานบุญพธิ ี งานบญุ พิธี มี ๒ ประเภท ๑. งานมงคล คือ การทำบุญเพ่ือให้เกิดความสุขสวัสดีและความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ญาตพิ น่ี ้อง ครอบครวั หรอื บคุ คลอนื่ ทีม่ ีความปรารถนาดตี อ่ กันความเป็นสริ มิ งคลแก่สถานท่ี ๒. งานอวมงคล คอื การทำบญุ อุทิศให้แก่บรรพบรุ ุษ หรือบุคคลทเี่ สียชีวติ ไปแล้ว พิธที ำบุญงานมงคลทวั่ ไป พธิ ที ำบุญงานมงคลทวั่ ไป คอื การทำบุญ เม่อื มีโอกาสอันสมควร มิได้ปรารภเหตุการณ์ ใดเหตุการณ์หน่ึงเป็นกรณีพิเศษ เช่น การทำบุญเน่ืองในโอกาสวันข้ึนปีใหม่ เป็นต้น มีลำดับ ขนั้ ตอนของงาน ดังน้ี คมู่ อื การปฏบิ ตั ิศาสนพิธีเบื้องตน้
108 การเตรยี มการ ๑) นิมนต์พระสงฆ์ตามจำนวนท่ีมีความประสงค์ งานมงคลตามประเพณีนิยมจะนิมนต์ พระสงฆ์ จำนวน ๕ รูป ๗ รูป หรือ ๙ รูป หรือตามจำนวนท่ีเจ้าของงานประสงค์จะให้นิมนต ์ ควรแจ้งไว้ในฎีกานมิ นตใ์ ห้เรยี บร้อยในเร่ือง วัน เวลา และสถานท่ใี ห้ชดั เจน การรับ-สง่ พระสงฆ์ ๒) จดั เตรียมโต๊ะหม่บู ูชา และเครอ่ื งนมัสการ พรอ้ มพระพทุ ธรูป ๓) อาสน์สงฆ์สำหรบั พระสงฆ์นงั่ เจริญพระพุทธมนต ์ ๔) เครื่องอุปกรณ์ศาสนพิธีสำหรับงานมงคล เช่น สายสิญจน์ ที่กรวดน้ำ พานรอง สายสญิ จน์ ครอบสำหรบั ทำน้ำพระพุทธมนต์ เทยี นทำนำ้ พระพทุ ธมนต์ (เทียนขผ้ี ้ึง น้ำหนัก ๑ บาท) กำหญ้าคาสำหรับประพรมนำ้ พระพทุ ธมนต ์ ๕) เครื่องรับรองพระสงฆ์ เชน่ ภาชนะใสน่ ำ้ รอ้ น-นำ้ เยน็ กระโถน ๖) ถ้ามกี ารถวายภตั ตาหาร จะตอ้ งมีการจัดเตรียมภตั ตาหารคาว-หวาน ไวถ้ วายพระสงฆ ์ ๗) สำรับหรอื เครื่องใสอ่ าหารคาว-หวาน เพอื่ บชู าพระพทุ ธ และสำรับอาหารคาว-หวาน สำหรบั บูชาพระภูมเิ จ้าท ี่ ๘) จตุปจั จยั ไทยธรรมถวายพระสงฆ์ เท่ากับจำนวนพระสงฆ์ทีน่ มิ นตไ์ ว ้ แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน ๑) ผู้รว่ มพิธพี รอ้ มกนั ณ บริเวณสถานท่ปี ระกอบพธิ ี ๒) เม่อื ถงึ เวลาที่กำหนดประกอบพธิ ี นมิ นตพ์ ระสงฆ์ขึ้นประจำอาสนส์ งฆ ์ ๓) ประธานหรือเจา้ ภาพจดุ ธูปเทยี นบชู าพระรตั นตรยั แลว้ กราบ ๓ คร้งั ๔) เจ้าหน้าที่อาราธนาศลี ๕) เจ้าภาพและผรู้ ว่ มพธิ ีรับศลี ๖) เจ้าหนา้ ท่ีอาราธนาพระปรติ รแล้ว ฟังพระสงฆเ์ จริญพระพุทธมนต์ ๗) เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบทนโม ๘ บท ใกล้จะจบ ประมาณบทท่ี ๖ จุด เทียนชนวน และส่งเทียนชนวนให้เจ้าภาพหรือประธานจุดเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์ เมื่อพระสงฆ์ เจรญิ พระพทุ ธมนต์ถึงบท “อเสวนา จ พาลานํ...” ๘) เมื่อจุดเทียนน้ำพระพุทธมนต์แล้ว ประธานหรือเจ้าภาพยกครอบน้ำพระพุทธมนต์ ประเคนประธานสงฆ ์ ๙) พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบท “พาหํุ...” หรือบท “มหาการุณิโก นาโถ...” ให้จดั เตรยี มยกสำรบั บูชาขา้ วพระพุทธมาตัง้ ยงั ทที่ จ่ี ดั เตรยี มไว้หน้าโต๊ะหมบู่ ูชา ๑๐) จัดเตรยี มและยกภตั ตาหารสำหรบั ถวายพระสงฆม์ าต้งั ไว้ยงั ทท่ี ี่พระสงฆจ์ ะฉนั ภัตตาหาร ๑๑) เชิญประธานหรือเจ้าภาพประเคนภตั ตาหารแด่พระสงฆ์ คู่มอื การปฏิบัตศิ าสนพธิ เี บอ้ื งต้น
109 ๑๒) เม่ือพระสงฆ์เสร็จภัตตกิจแล้ว ให้ยกเคร่ืองจตุปัจจัยไทยธรรมตั้งไว้ ณ เบื้องหน้า พระสงฆแ์ ตล่ ะรูป ๑๓) เชิญเจ้าภาพหรือประธานประเคนเคร่อื งจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ๑๔) พระสงฆ์อนุโมทนา ๑๕) เจ้าภาพหรอื ประธานกรวดน้ำ-รับพร ๑๖) เสร็จพิธีทำบญุ พธิ ที ำบญุ งานมงคลเฉพาะงาน พธิ หี ลอ่ พระพุทธรปู การหล่อพระพุทธรูป หรือพระสงฆ์ท่ีเป็นบูรพจารย์ ในปัจจุบันถือเป็นส่ิงท่ีน่าปีติยินดี และเปน็ กุศลอยา่ งยง่ิ เนื่องจากเปน็ การสรา้ งพระขึ้นดว้ ยตนเอง แทนท่ีจะเปน็ การเช่า (ซื้อ) เพราะ เปน็ การกระทำทเี่ กิดจากความศรัทธาและถกู ต้องตามโบราณประเพณี เน่อื งจากการที่จะหลอ่ หรอื สร้างพระนั้น จะต้องมีการอัญเชิญเทวดามาชุมนุมเพ่ือรับทราบและอนุโมทนาในการอันเป็นมงคล ซ่ึงถือเป็นกุศลสำคัญ ก็เพราะได้ทำบุญโดยช่วยให้ผู้ร่วมพิธีได้มีส่วนร่วมจัดกิจกรรมและ เกิดพุทธานุสสติอยู่เสมอ ย่ิงกว่าน้ันยังเชื่อกันว่า สามารถทำให้ผู้สร้างและผู้ร่วมพิธีมีชาตารุ่งโรจน์ ทำใหห้ มดเคราะห์ หมดโศก การเตรยี มการ ๑) รว้ั ก่าย ๒) ราชวัตรฉตั รธง ๓) ต้นกลว้ ย ต้นอ้อย จำนวน ๘ ค ู่ ๔) สายสิญจน์ สำหรบั วงบรเิ วณราชวัตรฉัตรธง และโยงไปท่ีพิธีสงฆ ์ ๕) มณฑลพิธี ต้งั หา่ งจากบริเวณเผาหนุ่ เททอง ๖) โลหะตา่ ง ๆ ที่จะใช้หลอ่ พระพทุ ธรปู หรอื พระบรุ พาจารย ์ ๗) เคร่อื งนมสั การพระรตั นตรัย (โตะ๊ หมู่บชู า ดอกไม้ ธูป เทยี น เปน็ ต้น) ๘) เทียนวิปสั สี จำนวน ๑ เล่ม น้ำหนักประมาณ ๑๒ บาท ไส้ ๓๒ เสน้ ) ๙) เคร่ืองใช้พธิ ีสงฆ์ (ตามทีก่ ลา่ วไวใ้ นบทที่ ๒ เรื่องการเตรยี มการและปฏิบัตงิ าน) ๑๐) ถา้ มีพิธีบวงสรวง (จะต้องจัดเตรยี มเคร่ืองบวงสรวงบูชาเทวดาประจำฤกษ)์ ๑๑) ช้อนสำหรับประธานหรอื เจา้ ภาพใส่ทองและเทลงส่เู บ้าหลอมทอง ๑๒) นิมนต์พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ (ถ้าเป็นส่วนราชการนิยมนิมนต์พระสงฆ์ ๑๐ รูป ถ้าเป็นเอกชนนยิ มนิมนตพ์ ระสงฆ์ ๙ รูป) คมู่ อื การปฏบิ ัตศิ าสนพิธีเบ้อื งต้น
110 ๑๓) นิมนตพ์ ระสงฆ์อธษิ ฐานจิต ประจำทิศทั้ง ๔ ตามราชวตั รฉตั รธง ๑๔) เทียน ๔๐ เลม่ ธูป ๔๐ ดอก (สำหรับเจ้าภาพหรือประธานจดุ บชู าหรอื สังเวยเทวดา เพื่อบูชาเทวดานพเคราะห์ ๙ องค์ ตามกำลังเทวดาแต่ละองค์ ดาวฤกษ์ ๒๗ พระอินทร์ ๑ พระพรหม ๑ พระยม ๑ และพระกาล ๑) ๑๕) ครอบน้ำพระพุทธมนต์ พรอ้ มกำหญา้ คาสำหรบั ใช้ประพรมนำ้ พระพทุ ธมนต ์ ๑๖) เครอ่ื งจตปุ ัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ ์ แนวทางการปฏิบัติงานพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ (ก่อนถึงเวลาฤกษ์เททองประมาณ ๒ ช่วั โมง) ๑) เจา้ หนา้ ทจี่ ดั โต๊ะเครอ่ื งบวงสรวงบูชาฤกษ-์ สงั เวยเทวดา (กลางแจง้ นอกปะรำพิธี) ๒) จุดธปู เทียนทโี่ ต๊ะเครอ่ื งบวงสรวงบชู าฤกษ์-สงั เวยเทวดา ๓) พราหมณ์ หรอื โหร อา่ นโองการทำพธิ บี วงสรวงบูชาฤกษ์-สังเวยเทวดา ๔) นมิ นต์พระสงฆ์ขึ้นประจำอาสนส์ งฆ์ ๕) ประธานหรือเจา้ ภาพจดุ ธูปเทยี นบูชาพระรตั นตรยั กราบพระ ๓ คร้ัง ๖) เจา้ หน้าที่อาราธนาศีล ๗) ประธานหรอื เจา้ ภาพ และผู้ร่วมพิธรี บั ศลี ๘) เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร ๙) พระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนต ์ ๑๐) กอ่ นทจี่ ะขึน้ บท “พุทธํ...” เชญิ เจา้ ภาพจดุ เทียนชยั และเทียนมงคล ๑๑) เมอ่ื พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตก์ ่อนจะถงึ บท “อเสวนา จ พาลานํ...” เชญิ เจ้าภาพ จุดเทยี นทำนำ้ พระพทุ ธมนต์ และประเคนครอบนำ้ พระพุทธมนตแ์ ดป่ ระธานสงฆ ์ ๑๒) พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบ ๑๓) ใกล้เวลาฤกษ์เททองหล่อพระ นิมนต์พระสงฆ์เถราจารย์นั่งประจำอาสน์สงฆ์ เพ่ือ อธษิ ฐานจิตท่สี ีม่ มุ ของราชวัตรฉัตรธง ๑๔) นมิ นตป์ ระธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนตท์ วั่ บรเิ วณสถานที่ประกอบพิธีเททอง ๑๕) ครั้นได้เวลาปฐมฤกษ์ เจ้าหน้าที่เชิญประธานพิธีหรือเจ้าภาพจุดเทียนวิปัสสีท ่ ี หน้าโต๊ะหมูบ่ ูชา แล้วออกไปยงั สถานทเี่ ททอง ๑๖) เจา้ หน้าที่นำเบ้าหลอมทองมาวาง ณ เบ้ืองหน้าประธานหรือเจ้าภาพ ๑๗) เจา้ หน้าท่นี ำทองท่จี ดั เตรียมไว้สง่ ให้ประธานพธิ ีหรอื เจา้ ภาพ ๑๘) ประธานหรอื เจา้ ภาพรบั ทองจากเจ้าหน้าทแ่ี ล้ว ใส่ทองลงไปในช้อนที่เจา้ หนา้ ที่ถอื ๑๙) ประธานหรือเจา้ ภาพรับดา้ มชอ้ นทีใ่ ส่ทองแลว้ และเทลงในเป้าหลอมทอง คู่มือการปฏิบัตศิ าสนพธิ ีเบื้องต้น
111 ๒๐) ประธานหรือเจ้าภาพถือปลายสายสิญจน์หรือสายสูตรข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่ง เจ้าหน้าที่นำไปเช่ือมต่อกับอุปกรณ์ท่ีเก่ียวกับเบ้าหลอมทอง ประธานหรือเจ้าภาพและผู้ร่วมพิธี ประนมมืออธษิ ฐานจิต จนกวา่ ช่างหลอ่ จะเททองลงหนุ่ หลอ่ พระเสรจ็ เรียบรอ้ ยทุกห่นุ ๒๑) ขณะช่างหล่อเททองลงหุ่นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา “ชยนฺโต โพธิยา มูเล...” ต่อด้วย “โส อตฺถลทฺโธ สุขิโต...” (ถ้าประธานหรือเจ้าภาพเป็น สตรี ให้ต่อด้วย สา อตฺถลทฺธา สขุ ิตา...”) แลว้ ตอ่ ดว้ ย “สกกฺ ตวฺ า พุทฺธรตนํ..., นตฺถิ เม สรณํ อญฺ .ํ .., ยงกฺ ิ ฺจิ รตนํ โลเก..., สพเฺ พ พทุ ฺธา พลปฺปตตฺ า... ๓ จบ, ภวตุ สพฺพมงคล.ํ ..” ๒๒) ประธานหรอื เจา้ ภาพถวายเครอ่ื งจตปุ ัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ๒๓) พระสงฆ์อนุโมทนา ๒๔) ประธานหรือเจ้าภาพกรวดน้ำ-รบั พร ๒๕) เสร็จพิธเี ททองหล่อพระ พิธพี ุทธาภเิ ษก หรือมงั คลาภิเษก เมื่อมีการหล่อพระพุทธรูป หล่อรูปพระเถราจารย์ บุรพาจารย์ การจัดสร้างพระกร่ิง หรือการจัดสร้างวัตถุมงคล มีการปลุกเสกพระพิมพ์หรือเครื่องรางของขลัง ในการเช่นน้ีจะม ี พิธีพุทธาภิเษก หรือมังคลาภิเษก ซึ่งมักจะทำพิธีเช่นนี้ในอุโบสถหรือศาลาที่มีพระประธาน ประดิษฐานอยูป่ ระจำ การจดั พธิ พี ุทธาภเิ ษก คู่มอื การปฏบิ ัตศิ าสนพธิ เี บื้องต้น
112 ผังการจดั พธิ พี ทุ ธาภเิ ษก ค่มู ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
113 การเตรียมการ ๑) จัดเตรียมสถานทีป่ ระกอบพิธีตามผงั ๒) โตะ๊ หม่บู ชู า พรอ้ มเครื่องนมัสการ ๓) อุปกรณ์เคร่อื งใชใ้ นงานพธิ สี งฆ์ (เช่นเดียวกับงานมงคล) ๔) เครอื่ งรบั รองพระสงฆ์ ๕) นมิ นตพ์ ระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ ๑๐ รปู ๖) นิมนต์พระเถราจารยเ์ พื่อนง่ั เจรญิ จติ ภาวนา ตามจำนวนท่เี จ้าภาพกำหนด ๗) พระสงฆส์ วดภาณวาร หรือสวดพุทธาภเิ ษก จำนวน ๔ รูป (สำรบั ละ ๔ รปู เจ้าภาพ จะกำหนดกส่ี ำรับเพอื่ ไวส้ ับเปล่ียนกไ็ ด้ ๘) เทียนชัย ๑ เล่ม ไส้ ๑๐๘ เส้น หนกั ๘๐ บาท สงู เทา่ กับประธานหรือเจา้ ภาพ ๙) ตู้เทยี นชัย เปน็ ตทู้ ีม่ ีกระจกปิดเพอ่ื กนั ลมพัด ๑๐) เทียนมงคล ๑ เล่ม หนัก ๑๐ บาท ไส้เกินกว่าอายุประธานหรือเจ้าภาพ ๑ เส้น สูงเทา่ ความยาวรอบศรี ษะของประธานหรอื เจ้าภาพ ๑๑) เทยี นพทุ ธาภิเษก ๒ เล่ม หนักเล่มละ ๓๒ บาท ไส้ ๕๖ เสน้ สงู ประมาณกง่ึ หนึ่งของ เทียนชยั ๑๒) เทียนนวหรคณุ ๙ เล่ม หนกั เลม่ ละ ๒ บาท ไส้ ๙ เสน้ ๑๓) เทยี นท่โี ต๊ะหม่บู ชู าหน้าพระประธาน ๑ คู่ ขนาดพองาม ๑๔) เทียนหนา้ พระสวดพทุ ธาภเิ ษก ๑ ค ู่ ๑๕) เทียนหนัก ๖ สลึง ไส้ ๙ เส้น ๒๘ เล่ม พรอ้ มธูปจนี ดอกเล็ก จุดท่เี ครอื่ งบวงสรวงสังเวย ๑๖) เครือ่ งบวงสรวงสงั เวย ๑๗) เทียนหนกั เลม่ ละ ๒ สลึง จำนวน ๑๐๘ เลม่ ๑๘) ธูปจีน ๑๐๘ ดอก ๑๙) มดั หญา้ คา สำหรบั ประพรมนำ้ พระพทุ ธมนต์ ๒๐) ใบพลู ๗ ใบ (สำหรับดบั เทียนชัย และเทียนมงคล) ๒๑) เคร่อื งเจมิ (แป้งกระแจะใส่ละลายในโถปริก) ๒๒) เทียนวิปสั สี ๑ เลม่ หนกั ๑๒ บาท ไส้ ๓๒ เสน้ ๒๓) จตุปัจจยั ไทยธรรมถวายพระสงฆ์ในพิธี ๒๔) พานขา้ วตอกดอกไม้ ๒๕) ตู้พระธรรมต้งั เบื้องหน้าพระสงฆ์สวดภาณวาร ๒๖) เครื่องนมัสการพระธรรม ๒๗) ด้ายสายสิญจน ์ ค่มู ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ ีเบื้องต้น
114 แนวทางการปฏิบัติงานพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ (ก่อนถึงเวลาฤกษ์จุดเทียนชัย พธิ พี ุทธาภิเษก หรือมังคลาภิเษก) ๑) เจ้าหน้าท่จี ดั โต๊ะบวงสรวงบูชาฤกษ์-สงั เวยเทวดา (กลางแจง้ นอกปะรำพิธ)ี ๒) จดุ ธูปเทียนท่ีโตะ๊ เครอ่ื งบวงสรวงบูชาฤกษ-์ สังเวยเทวดา ๓) พราหมณ์ หรอื โหร อ่านโองการทำพิธีบวงสรวงบชู าฤกษ์-สงั เวยเทวดา ๔) นมิ นตพ์ ระสงฆ์ขึ้นประจำอาสนส์ งฆ์ ๕) ประธานหรอื เจา้ ภาพจุดธปู เทยี นบูชาพระรตั นตรยั กราบพระ ๓ ครัง้ ๖) เจา้ หน้าทีอ่ าราธนาศลี ๗) ประธานหรอื เจา้ ภาพ และผรู้ ว่ มพิธีรับศลี (กรณีมกี ารกล่าวรายงาน ใหก้ ลา่ วรายงาน หลังจากประธานสงฆ์ให้ศีลแลว้ ) ๘) ประธานสงฆ์เจมิ เทียนชยั เทยี นพุทธาภิเษก และเทยี นมงคล ๙) ประธานพิธีหรือเจ้าภาพถวายเทียนชนวนแด่ประธานสงฆ์ เพื่อจุดเทียนชัย (ขณะน้พี ระสงฆ์ในพิธีสวดคาถาจุดเทียนชัย) ๑๐) ประธานพิธีหรอื เจา้ ภาพโปรยข้าวตอกดอกไม ้ ๑๑) เจ้าหนา้ ท่ีอาราธนาพระปรติ ร ๑๒) พระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ๑๓) พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ก่อนท่ีจะขึ้นบทไตรสรณคมน์ “พุทฺธํ...” เจ้าหน้าที่เชิญ ประธานพธิ ีหรอื เจ้าภาพจดุ เทียนมงคล และเทียนนวหรคณุ ๑๔) เมื่อพระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์กอ่ นถงึ บท “อเสวนา จ พาลาน.ํ ..” เชญิ ประธานพธิ ี หรือเจ้าภาพจุดเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์ (ระหว่างพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ให้บัณฑิตชัก ลูกประคำและจุดเทียน และธูปอย่างละ ๑ เรื่อยไป เพ่ือเป็นการบูชาพระรัตนตรัยมิให้ขาดสาย จนครบอย่างละ ๑๐๘) ๑๕) พระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนต์ จบ ๑๖) ประธานพิธหี รอื เจ้าภาพถวายเคร่อื งจตปุ จั จัยไทยธรรมแดพ่ ระสงฆ ์ ๑๗) พระสงฆอ์ นโุ มทนา ๑๘) ประธานกรวดนำ้ -รับพร ๑๙) เจา้ หนา้ ทร่ี บั พระสงฆเ์ จริญพระพุทธมนตล์ งจากอาสน์สงฆ ์ ๒๐) เจา้ หน้าทีน่ ิมนตพ์ ระสงฆส์ วดพทุ ธาภิเษก หรอื สวดภาณวารข้นึ อาสน์สงฆเ์ ตยี งสวด ๒๑) เจา้ หนา้ ทีน่ ิมนตพ์ ระเถราจารย์เจริญจติ ภาวนาข้นึ น่งั ยังธรรมาสนน์ ่ังปรก คู่มอื การปฏิบัตศิ าสนพธิ เี บอื้ งตน้
115 ๒๒) ประธานในพิธีหรือเจ้าภาพจุดเทียนทองเงิน และจุดธูปเทียนท่ีเคร่ืองนมัสการท่ีเตียง สวดพุทธาภิเษก พระสงฆ์ ๔ รูป สวดพุทธาภเิ ษกเรือ่ ยไป จนครบเวลาตามที่กำหนดไว้ (พระสงฆ์ สวดพุทธาภิเษกจะเปลย่ี นหลายสำรบั ก็ได้ ตามความเหมาะสมของเวลาทเ่ี จ้าภาพกำหนดไว)้ ๒๓) เมอ่ื ครบกำหนดเวลาทเ่ี จ้าภาพกำหนด ถึงฤกษด์ ับเทยี นชยั ๒๔) พระเถราจารย์ผู้ดับเทียนชัย (ไม่ใช่รูปเดียวกับที่จุดเทียนชัย) มาถึงอุโบสถหรือศาลา ทีป่ ระกอบพิธีพุทธาภเิ ษก หรอื มงั คลาภเิ ษก ๒๕) เจ้าหน้าท่ีนำใบพลู จำนวน ๗ ใบ พร้อมโถปริกกระแจะไปให้พระเถราจารย์เจิม แป้งกระแจะทีใ่ บพลู ๒๖) นิมนต์พระเถราจารย์ประกอบพิธีดับเทียนชัยท่ีหน้าตู้เทียนชัย และดับเทียนมงคล พร้อมกัน (ขณะพระเถราจารย์ไปยืนท่ีหน้าตู้เทียนชัย พระสงฆ์ที่เตียงสวดพุทธาภิเษก สวดคาถา ดับเทียนชัย) ๒๗) เม่ือดับเทียนชัยแล้ว พระเถราจารย์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ และโปรยข้าวตอก ดอกไม้ไปรอบ ๆ ส่งิ มงคลหรือเครอื่ งรางของขลัง ๒๘) เจ้าภาพถวายเครือ่ งจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆท์ ั้งปวง ๒๙) พระสงฆอ์ นโุ มทนา ๓๐) เจ้าภาพกรวดนำ้ -รับพร ๓๑) เสรจ็ พธิ ีพทุ ธาภเิ ษก หรอื มงั คลาภิเษก พธิ วี างศิลาฤกษ์ การวางศิลาฤกษ์นี้ บรุ พาจารยก์ ล่าวไวว้ ่า มคี ุณสมบตั เิ ทา่ กับการลงเขม็ ปลกู บ้าน อาคาร หรือสถานที่ต่าง ๆ น่ันเอง ฉะนั้น เม่ือวางศิลาฤกษ์แล้ว ถึงคราวลงเข็มไม่ต้องหาฤกษ์ลงเข็มอีก วิธีการวางศิลาฤกษ์มีลักษณะคล้ายกับการลงเข็มปลูกบ้าน แต่จะแตกต่างกันตรงที่สิ่งของและ วิธกี ารเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ในการวางศลิ าฤกษ์ การจัดทที่ างและโต๊ะหมู่บูชาพงึ ดำเนนิ การเชน่ เดียวกับ การทำบญุ มงคลธรรมดา การเตรียมการ ๑) จดั เตรียมสถานที่ประกอบพธิ ี ๒) จัดโต๊ะหมู่บูชา พระพทุ ธรูป และเคร่อื งนมสั การ ๓) ครอบนำ้ พระพทุ ธมนต์ และกำหญ้าคาประพรมนำ้ พระพุทธมนต์ ๔) ด้ายสายสิญจน ์ ๕) อาสน์สงฆ์ เคร่ืองรับรองพระสงฆ ์ คมู่ ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ ีเบือ้ งตน้
116 ๖) ราชวัตรฉัตรธง ตน้ กล้วย อย่างละ ๘ ต้น ๗) แผ่นศิลาฤกษ์ (เมื่อโหราจารย์กำหนดการให้ฤกษ์ไว้ แล้วนำไปให้ช่างแก่สลักลงบน หนิ อ่อน กว้าง x ยาว ประมาณ ๘ น้วิ x ๑๒ นิ้ว ๘) ไม้เข็มมงคล ๙ ต้น (ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ สักทอง ไผ่สีสุก พะยูง ทองหลาง กันเกรา ทรงบันดาลหรือทรงบาดาล และขนนุ ) ซง่ึ พระเถราจารย์ได้ลงอกั ขระไวแ้ ลว้ ๙) ทรายเสก (ทรายท่ีเสกดว้ ยพระพุทธมนตบ์ ทพระปรติ ร) ๑๐) โถปริก กระแจะแป้งเจิม ๑๑) ทองคำเปลว ประมาณ ๑๕ แผ่น พรอ้ มนำ้ มันที่ทาแผ่นศิลาเพอ่ื ประธานปดิ ทอง ๑๒) อฐิ ทอง-นาก-เงิน (อฐิ ทาบรอนซ์สีทอง-สีเงนิ -สนี าก จำนวนอย่างละ ๓ ก้อน) ๑๓) ตลบั นพรัตน์ ลูกป้องกันพิษภัย เศษทอง นาก เงิน สำหรับลงกน้ หลมุ ๑๔) พานข้าวตอก ดอกไม้ เมลด็ ถว่ั งาดำ ๑๕) คอ้ น หรือสามเกลอ สำหรบั ประธานตอกไม้มงคล ๑๖) เกรียง ปูนซีเมนตผ์ สมเสร็จแลว้ ประมาณ ๑ ขนั พานรอง ๑๗) ก่ออิฐถือปูน หรือทำแท่นสี่เหลี่ยมพร้อมใส่ดินหรือทรายไว้ประมาณ ๓ ใน ๔ ส่วน ตั้งไวบ้ นพน้ื ท่ปี ริมณฑลของสถานทีจ่ ะประกอบพิธวี างศิลาฤกษ์ เคร่ืองบวงสรวงบชู าฤกษ ์ ๑) เครอ่ื งมจั ฉมงั สะ ๖ (กุ้ง ปลา ปู หวั หมู เปด็ และไก)่ ๒) บายศรีปากชาม ๓) ขนม นม และเนย (ขนมต้มแดง ตม้ ขาว ขนมหชู า้ ง ขนมเล็บมือนาง มะพรา้ วออ่ น กล้วยน้ำไทย หรอื กล้วยนำ้ วา้ ผลไม้ตา่ ง ๆ ทีม่ ีชื่อเปน็ มงคล นม เนย ขนมทองหยิบ ขนมทองหยอด ขนมฝอยทอง ขนมถ้วยฟู เปน็ ตน้ ) ๔) นำ้ ๑ ท ี่ ๕) หมาก พลู ๑ ท ่ี แนวทางการปฏิบัตงิ าน ๑) กอ่ นปฐมฤกษ์ประมาณ ๔๐-๕๐ นาที ประธานพิธีและผูร้ ว่ มพิธพี ร้อมกนั ณ บริเวณพธิ ี ๒) จดุ ธปู เทยี นท่เี คร่ืองสงั เวยบวงสรวงบชู าฤกษ ์ ๓) พราหมณ์หรือโหราจารยท์ ำพธิ ีบวงสรวงบชู าฤกษ ์ ๔) เสรจ็ พิธบี วงสรวงบูชาฤกษ ์ ๕) เจ้าหนา้ ทจี่ ัดโตะ๊ วางแผ่นศลิ าฤกษ์ ไม้มงคล อฐิ ทอง-นาก-เงิน ไว้ทด่ี ้านหวั อาสนส์ งฆ์ และนำสายสญิ จนม์ าเช่ือมไว้ยงั สิ่งมงคลดงั กลา่ ว ค่มู ือการปฏบิ ตั ศิ าสนพิธเี บอ้ื งตน้
117 ๖) เมอื่ ใกลถ้ ึงเวลาปฐมฤกษ ์ ๗) ประธานพิธหี รอื เจ้าภาพจดุ ธูปเทียนบชู าพระรัตนตรัย (กราบ ๓ ครั้ง) ๘) เจา้ หนา้ ทอี่ าราธนาศีล ๙) ประธานสงฆใ์ หศ้ ีล ๑๐) ประธานพิธหี รือเจา้ ภาพ และผูร้ ่วมพธิ ีรับศีล ๑๑) เจา้ หน้าที่อาราธนาพระปรติ ร (ถา้ มีการเจริญพระพทุ ธมนต์) ๑๒) พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ จบแลว้ รอเวลาปฐมฤกษ์ ๑๓) เมื่อใกล้เวลาปฐมฤกษ์ (ถ้ามีการกลา่ วรายงานให้กล่าวรายงานชว่ งนี้) ๑๔) ประธานปดิ ทอง และเจมิ แผ่นศิลาฤกษ์ ๑๕) ไดเ้ วลาปฐมฤกษ์ ประธานพิธีไปยนื หนั หน้าไปทางทิศที่เป็นศรีของวันท่ปี ระกอบพธิ ี ๑๖) ประธานพธิ ีรบั ค้อนจากเจ้าหน้าท ่ี ๑๗) ตอกไม้เข็มมงคล ๙ ต้น ตามลำดับเป็นประทักษิณ (เพื่อความสะดวกสำหรับ ประธานพธิ ี เจา้ หนา้ ท่ีควรนำไมเ้ ขม็ มงคลลงไวใ้ นแทน่ สำหรับวางศลิ าฤกษ์ประมาณ ๒ ใน ๓ ส่วน ของไมเ้ ข็มมงคล) ๑๘) พระสงฆเ์ จรญิ ชยั มงคลคาถา จนกว่าพิธวี างศิลาฤกษจ์ ะแลว้ เสร็จ ดนตรบี รรเลงเพลง มหาฤกษ์ พราหมณเ์ ป่าสงั ข์แกว่งบณั เฑาะว์ ลั่นฆอ้ ง ๑๙) ประธานพิธีรับเกรียงตักปูนซีเมนต์ผสมเสร็จที่เตรียมไว้ หยอดท่ีหลักไม้เข็มมงคล จนครบ ๙ ตน้ ๒๐) รบั อิฐทอง อฐิ เงนิ อฐิ นาก วางเรียงเป็นรปู วงกลม หรือสีเ่ หลี่ยมบนซีเมนตผ์ สมเสรจ็ ที่หยอดไว้ท่ีหลักไม้เขม็ มงคล จนครบแผ่นอิฐทอง อฐิ เงิน อิฐนาก ตามทกี่ ำหนดไว้ ๒๑) ประธานพิธีรับเกรียงตักปูนซีเมนต์ผสมเสร็จที่เตรียมไว้หยอดแล้วเกร่ียให้เรียบท่ีแผ่น อิฐทอง อฐิ เงนิ และอิฐนาก ๒๒) ประธานพิธรี ับแผ่นศลิ าฤกษจ์ ากเจา้ หนา้ ที่หรือเจา้ ภาพวางบนแผน่ อิฐ ๒๓) ประธานพธิ วี างตลับนพรตั น์ลงบนแผน่ ศิลาฤกษ ์ ๒๔) ประธานพิธีวางพวงมาลัย และโปรยข้าวตอก ดอกไม้ เหรียญเงิน เหรียญทอง ลงในหลุมศิลาฤกษ์ และเชญิ เจา้ ภาพ แขกผู้มเี กยี รตอิ ื่น ๆ โปรยตาม ๒๕) ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพทุ ธมนต์ ๒๖) เขา้ สปู่ ะรำพธิ ี ถวายเครื่องจตุปัจจยั ไทยธรรม ๒๗) พระสงฆอ์ นุโมทนา ๒๘) ประธานพธิ ีหรือเจา้ ภาพกรวดน้ำ-รับพร ๒๙) เสรจ็ พิธ ี คมู่ อื การปฏบิ ัตศิ าสนพิธีเบ้อื งต้น
118 เครอื่ งบวงสรวง เครอ่ื งบวงสรวง พิธบี วงสรวง แทน่ วางศิลาฤกษ ์ อัฐเงนิ -ทอง-นาก และไม้เขม็ มงคล ๙ ตน้ แผ่นศิลาฤกษ ์ คมู่ อื การปฏิบตั ศิ าสนพิธเี บ้ืองตน้
119 การเจมิ การเตรียมไมเ้ ข็มมงคล การตอกไม้เขม็ มงคล การวางแผ่นศิลาฤกษ์ ค่มู อื การปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
120 คู่มอื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้อื งตน้
121 พธิ ที ำบุญข้ึนบ้านใหม่ การทำบุญข้ึนบ้านใหม่ คือ การทำบุญในคราวท่ีขึ้นบ้านใหม่ หรือย้ายไปอยู่ท่ีใหม่ หรือการทำบุญเปดิ ป้ายสำนักงานใหม ่ การเตรยี มการ ๑) จัดเตรียมสถานทใี่ นการประกอบพธิ ี ๒) โต๊ะหม่บู ชู า พระพุทธรปู และเครือ่ งนมัสการ ๓) เคร่อื งใชใ้ นพิธสี งฆ์สำหรบั ใช้ในงานมงคล ๔) เครื่องรบั รองพระสงฆ์ ภาชนะใสน่ ำ้ รอ้ น นำ้ เยน็ ถวายพระสงฆ ์ ๕) ภตั ตาหารคาว-หวาน ถวายพระสงฆ์ ถ้ามกี ารเลย้ี งพระสงฆ ์ ๖) จตปุ ัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ ์ ๗) นิมนตพ์ ระสงฆ์ ๕, ๗, ๙ รปู ตามความเหมาะสมของสถานท่ ี ๘) กำหนดฤกษ์ หรอื เวลาในการประกอบพธิ ี ๙) โถปรกิ สำหรบั ใส่กระแจะแป้งเจมิ ๑๐) ทองคำเปลว ๙ แผน่ ๑๑) วงสายสญิ จนร์ อบอาหารหรอื บา้ น ไปยงั ฐานของพระพุทธรูป แลว้ นำกลุ่มสายสิญจน์ วางไว้ที่อาสนส์ งฆข์ องประธานสงฆ ์ แนวทางการปฏิบัติงาน ๑) เม่ือได้เวลาตามทเ่ี จ้าภาพกำหนด และผ้รู ่วมพิธีพร้อมกนั ๒) เจ้าภาพจดุ ธูปเทยี นบูชาพระรตั นตรยั (กราบ ๓ ครัง้ ) ๓) เจ้าหน้าท่อี าราธนาศลี ๔) ประธานสงฆ์ให้ศีล ๕) เจา้ ภาพและผูร้ ว่ มพิธีรับศีล ๖) เจา้ หน้าท่อี าราธนาพระปรติ ร ๗) พระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนต์ จบ ๘) เจ้าภาพถวายภตั ตาหารเชา้ หรือเพล ตามโอกาสเวลาทีจ่ ดั งานพธิ ี ๙) พระสงฆเ์ สรจ็ ภตั ตกจิ (ฉันภตั ตาหารเสร็จเรยี บร้อย) ๑๐) เจา้ หน้าท่นี ำเครอ่ื งจตปุ จั จยั ไทยธรรมมาวางไว้ ณ เบื้องหน้าพระสงฆ์ทกุ รปู ๑๑) เจ้าภาพหรือผู้แทนประเคนจตปุ ัจจยั ไทยธรรมแด่พระสงฆ ์ ๑๒) พระสงฆ์อนโุ มทนา ๑๓) เจ้าภาพกรวดนำ้ -รับพร คมู่ ือการปฏบิ ตั ิศาสนพิธเี บอ้ื งต้น
122 ๑๔) เจ้าภาพนิมนต์ประธานสงฆ์ หรือพระสงฆ์รูปใดรูปหน่ึง ไปเจิมท่ีป้าย หรือประตู บริษทั ห้าง ร้าน สำนักงาน บ้าน เรือน หรือหอ้ ง ตามความประสงค์ของเจ้าภาพ (เจิม ปิดทอง) แลว้ ประพรมน้ำพระพทุ ธมนตท์ ่ปี า้ ย หรอื ประตทู ่ีเจมิ แล้ว ๑๕) เสรจ็ พิธ ี หมายเหตุ ๑) สามารถปรบั เปลย่ี นการดำเนนิ พิธกี รรมต่าง ๆ ได้ ตามกำหนดฤกษ์ ๒) ในกรณีเปิดอาคารหรือเปิดป้ายอาคาร ให้เตรียมป้ายและแพรคลุมป้ายและกรรไกร สำหรับตัดรบิ บนิ้ หรือเชือก พธิ มี งคลสมรส เม่ือหญิงชายต่างมีฉันทะร่วมกันในอันที่จะครองเรือนแล้ว ฝ่ายชายจะส่งผู้ใหญ่ของตน ไปสู่ขอกับผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเสียชั้นหน่ึงก่อน ต่อจากน้ัน จะกำหนดวันหม้ัน ของหมั้นตามประเพณี นิยมเปน็ แหวน ในการหมัน้ ไม่คอ่ ยมพี ิธรี ตี องอะไรมากนัก ผู้ท่ที ำหนา้ ท่ีดำเนนิ การในเรอื่ งการหมนั้ เรียกว่า เถ้าแก่ เชิญขันหมากไปถึงที่แล้ว ก็กล่าวคำเป็นท่ีจำเริญใจ และบอกความประสงค์ว่า “มาเพ่ือขอหมั้น ช่ือหญิงสาว...........................ซึ่งเป็นธิดาของ...........................ให้กับ (ชื่อของ ชาย)................................ซ่ึงเป็นบุตรของ............................” แล้วมอบของหม้ันให้กับผู้ใหญ่ของ ฝา่ ยหญงิ ปจั จุบันนี้ ให้ฝา่ ยชายสวมแหวนหมน้ั ท่ีนิ้วนางของฝา่ ยหญิงเลยทเี ดียว การเตรียมการ ๑) ขันหมาก ๒) ขันที่ ๑ บรรจุหมาก ๘ คู่ (ก้านทาด้วยชาดแดง) พลู ๘ เรียง เรียงละ ๘ ใบ กา้ นทาด้วยชาดแดง) ใบพลวู างรอบขัน หันปลายพลูขน้ึ ปากขัน หมากวางไว้ตรงกลาง ๓) ขันที่ ๒ บรรจุดอกรัก ๗ ดอก ดอกบานไม่รู้โรย ๗ ดอก ดอกดาวเรือง ๗ ดอก ยอดใบเงิน ยอดใบทอง อย่างละ ๓ ยอด ข้าวเปลือก ๑ ถุง ถั่วเขียว ๑ ถุง งาดำ ๑ ถุง และ แหวนทองหมั้น วางบนของเหลา่ นี้ คลมุ ปากขันดว้ ยผา้ สีชมพหู รอื ผา้ แดง แนวทางการปฏบิ ตั ิ ๑) ผู้ใหญ่ฝ่ายชาย (เฒ่าแก่) เดินออกหน้า (เวลาจัดต้ังขบวนไปหมั้น) ถัดไปเป็นผู้ท่ีถือ ขนั หมาก เจ้าบา่ ว ญาติอน่ื ๆ ๒) (ฝ่ายเจ้าสาว) จัดคนเชิญขันหมากและรับขันหมากไปวางไว้ในท่ีที่กำหนด (คนเชิญขันหมากมกั ใช้เดก็ หญิงอายปุ ระมาณ ๗-๘ ขวบ) ๓) ผู้ใหญ่ทั้งสองฝา่ ยนั่งล้อมขนั หมาก คมู่ ือการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ เี บอ้ื งต้น
123 ๔) ผ้ใู หญฝ่ า่ ยชายกลา่ วคำขอหมน้ั ๕) ผู้ใหญฝ่ า่ ยหญิงกล่าวตอบ ๖) ผูใ้ หญฝ่ ่ายชายมอบขนั หมากแก่ผใู้ หญ่ฝา่ ยหญิง ๗) ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเปิดขันหมากและตรวจดู พร้อมกับกล่าวคำท่ีเป็นสิริมงคล เช่น “ทุกอย่างล้วนแต่สวยสดงดงาม ทองสุกใสหลายหลาก เงินมากมายก่ายกอง คงจะต้องอำนวย ความสุขสดชนื่ ตลอดช่วั นริ นั ดรทเี ดยี ว” ๘) ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายร่วมกันโปรยวัตถุมงคล (ถ่ัว งา ข้าวตอก ดอกไม้) ลงบนของหม้ัน หรอื พร้อมกบั กลา่ วคำทเี่ ป็นสิรมิ งคล (หลงั จากเสรจ็ พิธีแล้ว นำไปโปรยไว้ในสวนหรอื ทีเ่ หมาะสม) ๙) ฝ่ายหญิงนำเจ้าสาวออกมาและน้อมไหว้ผู้ใหญ่ฝ่ายชายจนครบทุกคน แล้วนั่งในท ี่ ทกี่ ำหนด ๑๐) เม่อื ไดเ้ วลาฤกษ์ ผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงมอบแหวนหม้ันให้ฝา่ ยชาย เพ่อื สวมน้ิวฝ่ายหญงิ สาว ต่อไป ๑๑) ฝา่ ยชายและฝ่ายหญงิ สาวไปกราบผูใ้ หญ่ทั้งสองฝา่ ย (กราบคร้ังเดียว ไม่แบมือ) ๑๒) ฝา่ ยหญงิ แจกของชำรว่ ย และเลีย้ งของวา่ งรับรองแขก พธิ ียกขนั หมาก การเตรียมการ ขันหมากเอก ๔ ขัน ประกอบด้วย ขันใส่หมากพลู ๒ ขัน (หมาก ๘ คู่ ๘ เรียง) ขนั ใสข่ นมจนี หอ่ หมก ๒ ขนั (แตล่ ะขันมขี นมจนี ๘ จบั ห่อหมก ๘ หอ่ ) ขนั สนิ สอด ๑ ขัน (ในกรณี ไมม่ ีการหมั้นไวก้ อ่ น) แนวทางการปฏบิ ตั ิ ๑) เมอื่ ได้ฤกษ์เคลือ่ นขบวนขันหมาก ใหผ้ ้ใู หญ่ฝา่ ยชายนำขบวน ดงั นี้ (๑) คนนำต้นกล้วย ๒ คน (๒) คนนำตน้ ออ้ ย ๒ คน (๓) คนนำขนั หมาก ๔ คน (๔) คนนำขันสนิ สอด ๑ คน (๕) เจ้าบา่ ว (๖) คนถอื ขวดเหล้า ๒ คน (๗) คนถอื ผ้าไหวผ้ ี ๑ คน (ผา้ ขาว ๖ ศอก) (๘) คนถือถาดมะพรา้ วออ่ น จำนวน ๒ ลูก ๑ คน คมู่ อื การปฏิบัตศิ าสนพิธเี บ้ืองตน้
124 (๙) คนถอื ถาดกลว้ ยน้ำว้า จำนวน ๒ หวี ๑ คน (๑๐) คนถือถาดใส่หมู ๑ คน (๑๑) คนถือถาดใสห่ ม่ี ๑ คน (๑๒) คนถอื ถาดใสข่ นม ๑ คน (๑๓) คนถือส่ิงของอ่ืน ๆ ๒) ฝา่ ยเจ้าสาวจัดคนถือพานหมากไปคอยรับที่ประตูบ้าน (นิยมใช้เด็กหญิง) ๓) เมื่อขบวนขันหมากมาถึง ก่อนเข้าบ้าน เด็กหญิงท่ีถือพานหมากมาต้อนรับจะพูดว่า “ไปยังไง มายงั ไงคะ มากันมากมายจริง ๆ” ๔) ผู้นำขบวนขันหมากจะพูดตอบว่า “วันนี้มาดีนะ ไม่ได้มาร้าย นำแก้วแหวนเงินทอง และนำคนดีมีสิริมงคลมาให้เพ่ือเป็นทองแผ่นเดียวกัน ขอผ่านหน่อยนะจ๊ะ” พร้อมกับวางซองเงิน บนพานหมากของเดก็ ด้วย ๕) ฝ่ายเด็กหญงิ กจ็ ะเชญิ ใหเ้ ขา้ ไปในบ้าน ๖) ญาตฝิ ่ายเจา้ สาวทถ่ี กู จดั ไวเ้ พื่อรับขบวนขนั หมาก นำขันหมากไปวางไว้ในทที่ ี่กำหนด ต่อหนา้ ญาติของทง้ั สองฝ่าย ๗) นำผ้าไหว้ไปวางไว้ร่วมกับขันหมาก ของนอกน้ันวางไว้ในท่ีเหมาะสม วางเป็นแถวคู่กัน ส่วนต้นกล้วย ต้นออ้ ย รบั ไปวางพงิ ไวท้ ่ีประตูบ้านทัง้ สองดา้ น ๘) ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวร่วมกันเปิดขันหมาก นับเงินสินสอดและโปรยวัตถุมงคลลงบน สินสอด ๙) นำเจ้าสาวออกมาน่ังข้างซ้ายเจ้าบ่าว น้อมไหว้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว (ถ้ามีการสวม แหวนหมนั้ ก็ทำตอนน้ี และปฏบิ ตั เิ หมือนพิธที ีก่ ลา่ วไวใ้ นขน้ั ตอนหมัน้ ) ๑๐) ผู้ใหญ่ท้ัง ๒ ฝ่าย ประพรมน้ำพระพุทธมนต์บนสิ่งของต่าง ๆ ที่วางไว้เป็นแถวพร้อมกับ กล่าวคำที่เป็นสิริมงคล เช่นว่า “ของเป็นอันมาก ม่ังคั่งสมบูรณ์ดี ขอให้พอกพูน ทวียิ่งข้ึนตลอดไป ภวตุ สพฺพมงคฺ ล”ํ พิธไี หว้บรรพบรุ ษุ การเตรยี มการ ๑) หยบิ ของกินทีม่ ากบั ขันหมากอย่างละเล็กอยา่ งละนอ้ ย ใสใ่ นถาดหรือจาน ๒ ใบ ๒) รนิ เหล้าใส่แก้ว ๒ ใบ จากเหลา้ ๒ ขวด ๓) เทยี น ๒ เลม่ และธูป ๕ ดอก สำหรับเจา้ บา่ วและเจา้ สาว คู่มือการปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บือ้ งตน้
125 แนวทางการปฏบิ ัต ิ ๑) วางจานของกนิ ท่หี ยิบจากขันหมาก พรอ้ มท้ังแก้วเหล้าทงั้ ๒ แกว้ ทีโ่ ตะ๊ หรอื บนผา้ ขาว ภายในบา้ น มมุ ใดมมุ หนงึ่ ทเ่ี ห็นวา่ สมควร ๒) จุดธปู เทยี นใหเ้ จ้าบา่ วและเจา้ สาวปักไว้ ณ ท่ปี กั หรอื บนจาน หรอื ถาดของไหว้ ๓) กล่าวบูชาวิญญาณของบรรพบุรุษ ว่า “วันน้ี นาย.........................และ นางสาว..........................ได้เข้าพิธีมงคลสมรสตามประเพณี จึงขอนอบน้อมแด่ดวงวิญญาณของ บรรพบุรุษที่ล่วงลับไป เพ่ือเป็นการบอกกล่าวขออนุญาต และขอให้ดวงวิญญาณและพระคุณ ของท่านได้โปรดอวยพรให้ลูกหลานมีความสุขความเจริญในชีวิตสมรสยิ่ง ๆ ข้ึนไปเทอญ” (กราบ ๑ ครัง้ ไมแ่ บมือ) พธิ สี งฆ์เนอื่ งในพิธมี งคลสมรส การเตรียมการ ๑) เคร่ืองใช้พิธีสงฆ์ (สำหรบั ใช้ในงานพิธมี งคล) ๒) ด้ายมงคลแฝด (นิมนต์พระสงฆ์ท่ีเคารพนับถือจับให้) ใส่พานต้ังไว้ข้างครอบทำน้ำ พระพุทธมนต์ เพ่อื จะไดเ้ ปน็ สริ ิมงคลในขณะทพี่ ระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ๓) โถปริก แป้งกระแจะเจิม (ใส่พานต้ังไว้ข้างครอบทำน้ำพระพุทธมนต์ เพ่ือจะได้เป็น สิรมิ งคลในขณะทพี่ ระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนต์) ๔) เตรยี มนิมนต์พระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนต์ ๕) เครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ๖) ภตั ตาหารคาว-หวาน สำหรับถวายพระสงฆ์ ๗) หมอนกราบ ๒ ใบ (หน้าโตะ๊ หมบู่ ชู า) แนวทางการปฏิบัติ ๑) เมื่อถงึ เวลาตามทก่ี ำหนด และผรู้ ่วมพิธีพร้อมกัน ๒) เชญิ เจา้ บ่าวและเจา้ สาวน่งั หน้าโตะ๊ หมบู่ ชู า (เจา้ สาวน่งั ทางด้านซา้ ยมอื ของเจา้ บ่าว) ๓) รบั เทียนชนวนจากพธิ กี ร เจ้าบา่ วและเจ้าสาวจับดว้ ยกัน จุดธปู เทียนจากซา้ ยไปขวา ของผจู้ ดุ ๔) กลา่ วคำบูชาพระรัตนตรยั แล้วกราบพระรตั นตรยั ทหี่ มอนพรอ้ มกัน ๓ ครงั้ ๕) หนั ไปทางพระสงฆ์ กราบพระสงฆ์พรอ้ มกัน ๓ คร้งั ๖) พธิ ีกรอาราธนาศลี พระสงฆ์ให้ศลี ๗) เจา้ บา่ ว เจ้าสาว และผู้ร่วมพธิ รี ับศลี พร้อมกัน ค่มู ือการปฏบิ ตั ิศาสนพิธีเบ้ืองตน้
126 ๘) ศาสนพิธกี รอาราธนาพระปรติ ร พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ ๙) พระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ก่อนถึงบท “อเสวนา จ พาลานํ...” เจา้ บ่าวและเจ้าสาว ไปนง่ั คกุ เขา่ เบื้องหน้าประธานสงฆ ์ ๑๐) รับเทยี นชนวนจากศาสนพธิ กี ร จับด้วยกนั จุดเทยี นทำนำ้ พระพุทธมนต์บนครอบน้ำ พระพุทธมนต ์ ๑๑) ยกครอบสำหรบั ทำน้ำพระพทุ ธมนตพ์ ร้อมกนั ประเคนประธานสงฆ์ ๑๒) กลับมาน่ังฟังพระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ณ ที่เดิม ๑๓) พระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนตถ์ งึ บทถวายพรพระ “พาหํุ สหสสฺ มภินิม.ฺ ..” ๑๔) ลุกไปตกั บาตร (จบั ทพั พี และหยบิ ของใสบ่ าตรพร้อมกัน) ๑๕) พระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนต์ จบ ๑๖) ประเคนภัตตาหารแด่พระสงฆ์ พระสงฆฉ์ ันภัตตาหารเสร็จ ๑๗) พิธีกรนำเครือ่ งจตปุ จั จัยไทยธรรมไปวางไวเ้ บอ้ื งหน้าพระสงฆ์ทกุ รูป ๑๘) เจา้ บ่าวและเจา้ สาวประเคนจตุปจั จัยไทยธรรมด้วยกัน ทกุ รปู ๑๙) พระสงฆ์อนโุ มทนา ๒๐) เจา้ บ่าวและเจา้ สาวกรวดนำ้ -รับพร พรอ้ มกัน ๒๑) เจ้าบ่าวและเจ้าสาวประนมมือเข้าไปรับน้ำพระพุทธมนต์จากพระสงฆ์แต่ละรูป จบ ครบทุกรูป ๒๒) เสร็จพธิ ี พธิ ีหลัง่ นำ้ พระพุทธมนตแ์ ละประสาทพร การเตรียมการ ๑) โตะ๊ หมบู่ ชู า ๑ ชดุ ๒) โตะ๊ น้ำสังข์ พร้อมอปุ กรณ์รดน้ำสังข์ ๑ ชดุ ๓) พวงมาลัย ๒ ชาย ๒ พวง ๔) ดา้ ยมงคลแฝด ๑ ชดุ ๕) โถปริกพรอ้ มแปง้ กระแจะเจมิ ๑ ที ่ ๖) น้ำพระพุทธมนต์ ๑ ขนั พร้อมขันเล็กสำหรับตกั นำ้ พระพทุ ธมนต์ใส่สงั ข์ ๑ ที่ ค่มู ือการปฏิบัตศิ าสนพธิ ีเบื้องต้น
127 แนวทางการปฏิบตั ิ ๑) เมือ่ ถึงกำหนดเวลาเจา้ บา่ วและเจ้าสาวไปน่งั คกุ เข่าที่โตะ๊ หมูบ่ ูชา (หญงิ ซ้าย ชายขวา) ๒) รบั เทยี นชนวนจากศาสนพธิ ีกร แล้วจับด้วยกนั จุดธูปเทียนบชู าพระรัตนตรัยพร้อมกนั ๓) กราบพระรตั นตรยั ๓ ครั้ง ๔) เจ้าบา่ วและเจ้าสาวไปน่ังทโ่ี ต๊ะรดน้ำสงั ข์ ๕) ประธานพธิ ีไปทโ่ี ต๊ะน้ำสงั ข์ น้อมศีรษะไหว้พระรตั นตรัยท่โี ตะ๊ หมบู่ ูชา ๑ ครง้ั ๖) รับพวงมาลัยจากศาสนพิธีกร และกล่าวว่า “ขออานุภาพแห่งความรักท้ังท่ีเป็น บุพเพสนั นิวาส และปัจจบุ ันเก้อื หนุน ไดโ้ ปรดคำ้ จุนความรกั ของคุณทง้ั ๒ ใหส้ ดชน่ื ยง่ั ยนื ตลอดไป” แล้วสวมพวงมาลัยให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาว (แต่งให้ชายท้ังสองของพวงมาลัยทั้งสองข้างพาดอยู่บน โต๊ะวางแขน) ๗) ประธานรับด้ายมงคลแฝดจากพิธกี ร ประนมมือกลา่ ววา่ “พระพทุ ธ พระธรรม และ พระสงฆ์ เป็นมงคลในโลก ด้วยอานภุ าพแห่งคณุ พระศรีรตั นตรัย ขอความสขุ สวัสดมี งคลจงบังเกดิ แก่คุณท้ังสองตลอดกาลทุกเม่อื เทอญ” แล้วคลมี่ งคลแฝดในแต่ละบ่วง ออกสวมศีรษะของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวพร้อม ๆ กัน (มือซ้ายสวมเจ้าบ่าว มือขวาสวมเจ้าสาว) โดยให้ปมอยู่ด้านหลังศีรษะ (จัดใหเ้ รียบรอ้ ย) ๘) ประธานรับแป้งเจิมจากศาสนพิธีกร ใช้น้ิวชี้จุ่มแป้งกระแจะจุดท่ีกลางหน้าผาก เจ้าบ่าวและเจ้าสาว เป็น ๓ จุด จุดแรก พุธโธ เต นาโถ จุดที่ ๒ ธัมโม เต นาโถ และจุดท่ี ๓ สังโฆ เต นาโถ หรอื จะกลา่ ววา่ “อะอุมะ” ก็ได้ ๙) ประธานรบั สงั ข์จากศาสนพิธีกร รินลงทมี่ อื เจ้าบ่าวและเจา้ สาวที่ประนมอย ู่ ๑๐) ขณะทป่ี ระธานพิธีกระทำกิจกรรมต่าง ๆ ดังกลา่ ว เจา้ บา่ วและเจ้าสาวประนมมอื รับ ทกุ ครั้ง) ๑๑) ประนมมือย่ืนพาดโต๊ะวางแขนไปข้างหน้าน้อมปลายมือลงเล็กน้อย และให้มืออยู่ เหนือพานดอกไม้รองรบั นำ้ สังข ์ ๑๒) นอ้ มศีรษะเลก็ นอ้ ยในขณะทท่ี กุ คนเข้าไปหล่งั นำ้ สังข์ และประสาทพร ๑๓) เมือ่ แขกผู้มีเกยี รติทกุ คนรดน้ำสังขเ์ รยี บรอ้ ยแลว้ ๑๔) ประธานผู้ถอดมงคลไปท่ีโต๊ะน้ำสังข์น้อมศีรษะไหว้พระ ๑ คร้ัง แล้วหันไปทาง เจ้าบ่าวและเจ้าสาว กล่าวว่า “ขอสรรพมิ่งมงคลความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่คุณทั้ง ๒ ตลอดกาลทกุ เมือ่ เทอญ” แลว้ ใช้มือทง้ั สองปลดมงคล (มอื ซ้ายปลดข้างเจา้ บา่ ว มือขวาปลดเจา้ สาว) พร้อม ๆ กัน แล้วรวบด้ายมงคลแฝดใส่ไว้ในมือเจ้าบ่าวและเจ้าสาวท่ียื่นออกมารับ แล้วจับมือ เจา้ บา่ วและเจ้าสาวเชิญยนื ขน้ึ ใหเ้ จา้ บ่าวและเจา้ สาวไปกราบพระรตั นตรัย คมู่ ือการปฏบิ ตั ิศาสนพิธีเบื้องต้น
128 ๑๕) เจ้าบ่าวและเจ้าสาวยื่นมือซ้อนกันรับด้ายมงคลแฝดจากประธานพิธีถอดมงคลให้ แล้วลุกข้นึ ยนื พร้อมกัน (เจา้ บ่าวเก็บดา้ ยมงคลไวใ้ นกระเปา๋ เสื้อบน) ๑๖) เจา้ บ่าวและเจา้ สาวไปกราบพระรัตนตรยั พร้อมกนั ๑๗) เสรจ็ พิธี พิธที ำบุญวันเกิด เมอื่ ถงึ ดิถีคล้ายวนั เกิด ควรทำบญุ วันเกดิ ถา้ จำวนั เกิดไดเ้ พยี งทางจนั ทรคติ (ขน้ึ หรือแรม) ควรกำหนดวันทำบุญทางจนั ทรคตินั้น ถา้ จำไดท้ างสุรยิ คติ (วันท)่ี ก็ควรกำหนดเอาวันทางสรุ ยิ คติน้นั ถ้าจำได้ทั้งสองทางให้ถือวันทางสุริยคติเป็นสำคัญ เพราะสะดวก และใกล้เคียงความจริงกว่า พิธีนีท้ ำได้ท้ังท่บี ้านและท่วี ัด จำนวนพระในพธิ มี ี ๕ รูป ๗ รปู หรือ ๙ รปู แล้วแต่ความประสงค์ ของเจ้าของวันเกิด หรือเจ้าภาพบางท่านก็จะนิมนต์พระสงฆ์เกินกว่าอายุในปีที่ตนเองทำบุญ จำนวน ๑ รปู การเตรียมการ ๑) จัดเตรยี มสถานท่ตี ามทเี่ ห็นสมควรและเหมาะสม ๒) โต๊ะหม่บู ชู าพร้อมเครื่องนมสั การ (เช่นเดียวกับพิธมี งคล) ๓) อาสนะพระสงฆ ์ ๔) เตรียมนิมนตพ์ ระสงฆ์เจรญิ พระพทุ ธมนต์ ๕ รปู ๗ รูป ๙ รูป หรือตามความประสงค ์ ๕) ครอบสำหรับทำน้ำพระพทุ ธมนต์ หรือบาตรสำหรบั ทำน้ำพระพุทธมนต์ ๖) กำหญ้าคาสำหรบั ประพรมน้ำพระพุทธมนต ์ ๗) ดา้ ยสายสญิ จน์ พร้อมพานรองสายสิญจน ์ ๘) เครอ่ื งรับรองพระสงฆ ์ ๙) ภตั ตาหารสำหรบั ถวายพระสงฆ ์ ๑๐) เครอ่ื งจตปุ ัจจัยไทยธรรม ๑๑) ที่กรวดน้ำ เชิงเทยี นชนวน แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน ๑) เมอ่ื ถงึ เวลาทก่ี ำหนด เจ้าภาพและผูร้ ว่ มพิธีพรอ้ มกัน ๒) เจา้ ภาพจดุ ธปู เทยี นบูชาพระรัตนตรัย (กราบ ๓ ครงั้ ) ๓) เจ้าภาพถวายพดั รอง หรือตาลปัตรทรี่ ะลึก (ถา้ ม)ี ๔) ศาสนพิธกี รอาราธนาศีล ๕) ประธานสงฆใ์ หศ้ ลี ค่มู อื การปฏบิ ัติศาสนพิธเี บอ้ื งต้น
129 ๖) เจ้าภาพและผู้ร่วมพิธีประนมมอื รับศีลพรอ้ มกนั ๗) ศาสนพธิ ีกรอาราธนาพระปรติ ร ๘) พระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ ๙) ศาสนพิธีเชิญเจ้าภาพจุดเทียนน้ำมนต์ (เม่ือพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ใกล้จะจบ นโม ๘ บท และพระสงฆ์จะขนึ้ บท “อเสวนา จ พาลาน.ํ ..” ๑๐) เจา้ ภาพบูชาข้าวพระพุทธ ๑๑) เจา้ ภาพประเคนภตั ตาหารแดพ่ ระสงฆ์ ๑๒) พระสงฆ์ฉันภตั ตาหารเสรจ็ เรียบรอ้ ย ๑๓) ศาสนพิธนี ำเคร่อื งจตุปัจจัยไทยธรรม มาเรียงไว้ ณ เบ้อื งหนา้ พระสงฆท์ กุ รปู ๑๔) เชญิ เจา้ ภาพถวายจตปุ จั จัยไทยธรรม ๑๕) พระสงฆอ์ นโุ มทนา ๑๖) เจา้ ภาพกรวดน้ำ-รับพร ๑๗) เจ้าภาพรับการประพรมน้ำพระพุทธมนต์จากพระสงฆ์ (ขณะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ใหแ้ ก่เจ้าภาพ พระสงฆ์เจริญชยั มงคลคาถา) ๑๘) เจ้าภาพสง่ พระสงฆ์ ๑๙) เสรจ็ พธิ ี ๒๐) จากนนั้ จะมกี ารปล่อยนก ปล่อยปลา หรือเต่า แล้วแต่ความประสงค)์ พธิ ีทำบญุ อายคุ รบ ๖๐ ปี การที่บุคคลมีอายุถึง ๖๐ ปี ไม่ตายจากกันไปเสียก่อน เป็นลาภอันอุดมอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นท่ีควรยินดี เม่ือมีผู้มายินดีเช่นนี้ ก็ควรที่จะบำเพ็ญกุศล ซ่ึงเป็นประโยชน์ต่อตนและผู้อื่น สมกับท่ีมีน้ำใจยินดี และควรที่จะทำให้เป็นท่ีต้ังแห่งความไม่ประมาท ด้วยไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า จะอยู่ไปบรรจบรอบปีเช่นนี้อีกหรือไม่ และในโอกาสที่มีอายุครบถึง ๖๐ ปี หรือแซยิด ๖๐ ปี เนื่องจากมีพระเสวยอายุบุคคล เม่ือพระองค์ใดเร่ิมเสวยอายุ ก็ต้องทำพิธีรับ เมื่อพระองค์ใดออก ก็ควรทำพิธีส่ง เพ่ือให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ในการที่เทพยดาประจำวันนั้น จะได้รักษา อายุให้แกต่ นตอ่ ไป การเตรยี มการ ๑) เคร่อื งพธิ ีสงฆ์ ๒) เคร่อื งบชู าเทวดา (๑) บายศรีปากชาม (๒) เครอ่ื งมัจฉมงั สะ ๖ (ก้งุ ปู ปลา หวั หมู เป็ด และไก่) คู่มือการปฏิบัติศาสนพิธเี บ้ืองตน้
130 (๓) ขนม นม และเนย (ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว ขนมหูช้าง ขนมเล็บมือนาง มะพรา้ วออ่ น กลว้ ยน้ำไทย หรือกลว้ ยนำ้ วา้ ผลไมต้ า่ ง ๆ ทีม่ ีชื่อเปน็ มงคล นม เนย ขนมทองหยิบ ขนมทองหยอด ขนมฝอยทอง เป็นตน้ (๔) เคร่อื งรับเทวดา คือ ภาชนะใสน่ ้ำ ๑ ท่ี หมากและพลู (๕) ธงใหญ่ ธงประจำเทวดานพเคราะห์ ธงเลก็ (ธงสีต่าง ๆ) ตามกำลงั วัน (ธงใหญ่ ๙ ธง ธงเลก็ ๑๐๘ ธง) พรอ้ มท้งั กระทงบัตรพลี เคร่ืองบชู าเทวดาเหล่านีต้ ้ังไวบ้ นโต๊ะทปี่ ผู ้าขาวแล้ว ๓) ธปู เทียน สำหบั พิธี คือ เทียนชยั เทียนมงคล อยา่ งละ ๑ เลม่ ๔) ธปู เทียน สำหรับบูชาเทวดานพเคราะห์ อย่างละ ๑๐๘ ๕) ขันสาครขนาดใหญ่ ๑ ขัน ๖) ตเู้ ทียนชัย ๑ ตู้ ๗) เตรยี มหาฤกษ์ เนือ่ งจากการจุดเทียนชัยจะตอ้ งมฤี กษ์ในการประกอบพิธ ี ๘) เตรียมนมิ นตพ์ ระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต ์ ๙) จตุปัจจยั ไทยธรรมถวายพระสงฆ์ แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน ๑) เม่อื ถึงเวลาตามกำหนดเจา้ ภาพและผู้รว่ มพธิ ีพรอ้ มกัน ๒) เจ้าภาพจดุ ธปู เทียนบูชาพระรตั นตรัย (กราบ ๓ คร้งั ) ๓) ถวายพดั รองท่รี ะลึก (ถา้ มี) ๔) ศาสนพธิ กี รอาราธนาศลี ๕) เจา้ ภาพและผูร้ ว่ มพิธีรบั ศีลพรอ้ มกนั ๖) เจ้าภาพจดุ ธปู เทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ ๗) โหราจารย์ หรือพราหมณ์กล่าว ชมุ นมุ เทวดา (สคเฺ ค กาเม...) จบ ๘) ศาสนพิธกี รอาราธนาพระปรติ ร ๙) พระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนต์ ๑๐) ศาสนพธิ กี รส่งเทยี นชนวนให้เจา้ ภาพจดุ เทียนชยั และเทยี นมงคล (เมื่อพระสงฆข์ ้ึนบท สรณคมน์ (พุทธฺ ํ...) ๑๑) เจา้ ภาพจุดเทยี นชยั และเทยี นมงคล ๑๒) พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ สลับกับโหราจารย์หรือพราหมณ์สวดบูชานพเคราะห์ ดงั น ี้ (๑) โหรบูชาพระอาทติ ย ์ พระสงฆ์สวดโมรปริตร (๒) โหรบูชาพระจันทร ์ พระสงฆ์สวดอภยปริตร คมู่ อื การปฏบิ ัตศิ าสนพิธีเบื้องตน้
131 (๓) โหรบูชาพระอังคาร พระสงฆส์ วดกรณยี เมตตสูตร (๔) โหรบชู าพระพุธ พระสงฆ์สวดขันธปริตร (๕) โหรบชู าพระเสาร ์ พระสงฆ์สวดอังคลุ ิมาลปรติ ร (๖) โหรบูชาพระพฤหสั บด ี พระสงฆส์ วดรตนสูตร (๗) โหรบชู าพระศุกร์ พระสงฆส์ วดอาฏานาฏิยปริตร (๘) โหรบชู าพระราหู พระสงฆ์สวด ดังน้ ี กลางคืน สวดจันทปรติ ร กลางวัน สวดสุริยปรติ ร (๙) โหรบูชาพระเกต ุ พระสงฆ์สวดชยปรติ ร ๑๓) เม่ือพระสงฆ์สวดพระปริตรประจำนพเคราะห์องค์ใด เจ้าภาพหรือผู้แทน จุดธูป เทียนเท่ากับกำลังพระเคราะห์องค์นั้น ๆ และเมื่อพระสงฆ์ขัดตำนานบท รตนสูตร เจ้าภาพ จุดเทียนนำ้ พระพุทธมนต ์ ๑๔) เมอ่ื พระสงฆเ์ จรญิ พระพุทธมนต์ จบ ๑๕) ศาสนพธิ ีกรวางเคร่ืองจตปุ จั จัยไทยธรรมเบอ้ื งหน้าพระสงฆ์ ๑๖) เจา้ ภาพประเคนจตปุ ัจจยั ไทยธรรม ๑๗) พระสงฆ์อนโุ มทนา ๑๘) เจ้าภาพกรวดน้ำ-รบั พร ๑๙) นำนำ้ พระพุทธมนตเ์ ตมิ ลงในน้ำเทพมนต์ ๒๐) ได้ฤกษ์หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ นิมนต์ประธานสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต ์ (ขณะน้ีพระสงฆเ์ จรญิ ชยั มงคลคาถา ดนตรบี รรเลงเพลงมหาฤกษ)์ ๒๑) ผ้ทู ี่เคารพนับถอื หลัง่ น้ำพระพทุ ธมนต์ ๒๒) เสรจ็ พธิ ี หมายเหตุ ๑) เทยี นชยั สูงเท่าตวั เจ้าภาพ หนัก ๘๐ บาท ไสเ้ ทียนเทา่ อายุ บวก ๑ (อายุ ๖๐ ไส้ ๖๑ เสน้ ) ๒) เทียนมงคล สงู เทา่ กบั ความยาวทีว่ ัดโดยรอบศีรษะเจา้ ภาพ หนกั ๓๒ บาท ไสเ้ ทยี น เท่าอายุ (ตง้ั อยูใ่ นขันสาคร) ๓) เทยี นกำลังนพเคราะห์ ใช้เทียนขผ้ี ึ้งหนักเลม่ ละ ๑ สลงึ ยาวขนาดนิ้วช้ีโดยประมาณ จำนวน ๑๐๘ เลม่ ๔) เทยี นหนกั เลม่ ละ ๑ บาท ๒๐ เล่ม สำหรบั ปักท่ีบัตรพลี ๙ เลม่ เทยี นน้ำมนต์ ๒ เลม่ เทียนชนวน ๒ เลม่ คมู่ ือการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ีเบอ้ื งตน้
132 ๕) เทียนนพเคราะห์ ๑๐๘ เล่ม ใช้จุดและปักที่ขอบขันสาครเป็นน้ำเทพมนต์ ทุกคร้ังที่ โหราจารย์หรอื พราหมณส์ วดบชู านพเคราะห์ จะใช้กเ่ี ลม่ จดุ บูชาตามกำลังวัน ๖) กำลงั นพเคราะห์มีดงั นี้ พระอาทิตย์ ๖ พระจนั ทร์ ๑๕ พระองั คาร ๘ พระพุธ ๑๗ พระพฤหัสบดี ๑๙ พระศุกร์ ๒๑ พระเสาร์ ๑๐ พระราหู ๑๒ พระเกตุ ๙ พิธีทำบญุ ครบรอบวันเกดิ ของผวู้ ายชนม์ ในปัจจุบันมีพิธีทำบุญอกี งานหนึง่ ซงึ่ ถือเปน็ งานมงคล เนอ่ื งจากเป็นการปรารภถงึ วันเกิด ของบรรพบุรุษท่ีได้วายชนม์ไปแล้ว มาเป็นเหตุในการบำเพ็ญกุศลเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ที่วายชนม์ไปแล้ว และเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีท่ีผู้ปรารภเหตุแห่งการบำเพ็ญกุศลมีต่อบุพการีชน ทั้งหลาย งานน้ีถือว่าเป็นงานมงคลเช่นเดียวกับการบำเพ็ญกุศลฉลองอัฐิของผู้ท่ีวายชนม์ไปแล้ว เชน่ การบำเพญ็ กศุ ลครบรอบ ๑๐๐ ปี วันประสูติของอดตี บุรพมหากษตั รยิ าธิราช ในสว่ นพธิ ีสงฆ์ ก็มกี ารบำเพญ็ กศุ ลเชน่ เดยี วกับงานมงคลอื่น เพยี งแต่ไม่มีการวงสายสิญจน์ มีการทำน้ำพระพุทธมนต์ หรือไม่ก็ได้ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ในงานมงคล คือ จุลราชปริตร (เจ็ดตำนาน) หรือ มหาราชปริตร (สิบสองตำนาน) แล้วแต่กรณี และจะมกี ารแสดงพระธรรมเทศนา อันเปน็ การเทศนา เพอ่ื ปรารภคุณปู การของผู้วายชนม์ทม่ี ตี อ่ บุคคลหรือประเทศชาตแิ ล้วแต่กรณดี ว้ ยกไ็ ด้ การเตรยี มการ ๑) จัดเตรยี มอุปกรณ์เคร่ืองใชใ้ นงานมงคล ๒) โตะ๊ หมบู่ ชู า พระพทุ ธรูป พรอ้ มเครอื่ งนมสั การ จำนวน ๑ ชดุ ๓) โต๊ะหมู่บูชา สำหรับประดิษฐานอัฐิ หรือสิ่งอันเป็นเคร่ืองหมายแทนผู้วายชนม ์ พร้อมเครอื่ งบชู า และเคร่อื งทองน้อย จำนวน ๑ ชดุ ๔) เคร่ืองรบั รองพระสงฆ์ ตามจำนวนพระสงฆ์ที่ได้นมิ นต ์ ๕) นมิ นตพ์ ระสงฆเ์ พือ่ เจริญพระพทุ ธมนต ์ ๖) จตุปจั จัยไทยธรรมถวายพระสงฆ ์ ๗) ไตรจีวรสำหรบั ถวายพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนาและเจริญพระพุทธมนต ์ ๘) ภูษาโยง (กรณมี ีการทอดผา้ บังสกุ ุล) ๙) ครอบนำ้ พระพทุ ธมนต์ พร้อมเทยี นทำน้ำพระพุทธมนต์ แต่ไมต่ อ้ งวงสายสิญจน์ ๑๐) ธรรมาสน์เทศน์ เทียนส่องธรรม เคร่ืองทองน้อย จำนวน ๒ ชุด (ในกรณีท่ีม ี การแสดงพระธรรมเทศนา) ๑๑) ภัตตาหารสำหรับถวายพระสงฆ์ ค่มู อื การปฏิบตั ิศาสนพิธีเบ้อื งตน้
133 แนวทางการปฏบิ ตั ิงาน ๑) เมือ่ เจา้ ภาพหรือประธานพิธี และผรู้ ่วมพธิ พี รอ้ มกนั ๒) ประธานพธิ จี ุดธปู เทียนบูชาพระรัตนตรยั (กราบ ๓ ครัง้ ) ๓) ประธานพิธีจุดเครื่องทองน้อย (ในกรณีเป็นอัฐิของพระสงฆ์ กราบ ๓ คร้ัง เป็นอฐั ขิ องฆราวาส กราบ ๑ ครง้ั ไม่แบมอื ) ๔) ถวายพัดรองทีร่ ะลึก (ถ้ามี) ๕) เจ้าหน้าท่ีอาราธนาศีล (ในกรณีมีการแสดงพระธรรมเทศนาให้อาราธนาศีล เม่ือ พระสงฆ์จะแสดงพระธรรมเทศนา และไม่ว่ากำหนดการจะให้มีการแสดงพระธรรมเทศนาก่อน หรือหลังการเจริญพระพทุ ธมนต์ก็ให้มกี ารอาราธนาศลี ไว้ในชว่ งแสดงพระธรรมเทศนา เม่อื รับศลี แล้ว เจา้ หน้าทีจ่ ึงจะอาราธนาธรรม) ๖) เจา้ หน้าทอ่ี าราธนาพระปริตร ๗) พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต ์ ๘) เจ้าภาพหรอื ประธานถวายภตั ตาหารแดพ่ ระสงฆ์ เมื่อพระสงฆฉ์ นั ภตั ตาหารเสรจ็ ๙) เจ้าหนา้ ท่ีนำเคร่อื งไทยธรรมต้งั ไว้ ณ เบือ้ งหนา้ พระสงฆท์ ุกรูป ๑๐) เจ้าภาพหรือประธานประเคนเคร่ืองไทยธรรมแดพ่ ระสงฆ ์ ๑๑) เจา้ หนา้ ทล่ี าดภูษาโยง ๑๒) เจา้ ภาพหรอื ประธานพธิ ีทอดผ้าไตรบงั สุกุล ๑๓) พระสงฆ์พจิ ารณาผ้าบังสุกุล (สำหรับการทอดผ้าไตรบงั สุกลุ น้ี พระเถระใหค้ ำแนะนำ แก่ผู้เขียนว่า จะใช้เป็นวิธีการโดยถวายเป็นเคร่ืองไทยธรรมก็ได้ เนื่องจากเป็นงานพิธีท่ีปรารภ ผู้ที่วายชนม์ไปแล้วเป็นเหตุ หรือจะใช้วิธีถวายเป็นเคร่ืองจตุปัจจัยไทยธรรมเช่นเดียวกับงานมงคล กไ็ ด้) ๑๔) พระสงฆ์อนโุ มทนา ๑๕) เจ้าภาพหรือประธานพธิ กี รวดน้ำ-รับพร ๑๖) เสรจ็ พธิ ี คู่มือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ ีเบ้อื งตน้
134 การจดั งานมงคลและอวมงคลในโอกาสเดียวกัน ในพิธีทำบุญงานมงคลในปัจจุบัน เช่น ในกรณีท่ีเจ้าภาพได้ประกอบพิธีทำบุญเนื่องใน โอกาสท่ีตนเองได้รับเล่ือนยศ หรือเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ หรือมีการทำบุญอายุวันเกิด เจ้าภาพ มักจะนิยมให้มีการทำบุญอุทิศอันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที ส่ือเนื่องการที่ตนเอง ไดร้ ับความเจริญเรอื งมาจนบดั นี้ ก็เพราะได้รับความอปุ การะคำ้ จนุ มาจากบุพการชี น เชน่ บิดา มารดา ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ จึงทำให้เจ้าภาพได้มีโอกาสสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ตนเอง เมื่อ ได้แสดงออกด้วยการทำบุญอุทิศอันเป็นการรำลึกถึงอุปการคุณของบุพการีชนอันตนนับถือแล้ว จึงจะเป็นการประกอบพิธีทำบุญเพ่ือความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองภายหลัง ซึ่งส่ิงเหล่าน้ ี เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที อันเป็นเครื่องหมายของคนดี ตามหลักคำสอนของ พระพทุ ธศาสนา การเตรียมการ ๑) จัดเตรียมอปุ กรณ์เคร่อื งใช้งานมงคล (ตามท่ีกล่าวไว้ในบทท่ี ๒) ๒) อุปกรณเ์ คร่อื งใชง้ านอวมงคล (ตามทีก่ ลา่ วไวใ้ นบทที่ ๒) ๓) สถานที่ประกอบพิธี ๔) โตะ๊ หมบู่ ชู า พร้อมพระพทุ ธรูป และเคร่ืองนมสั การ ๕) โตะ๊ หมู่บูชา สำหรับต้งั อัฐหิ รือป้ายบรรพบุรุษ พร้อมเครอื่ งบูชา ๖) ภูษาโยง พรอ้ มแถบทองหรือสายโยง ๗) สายสญิ จน ์ ๘) ครอบนำ้ สำหรับทำน้ำพระพทุ ธมนต ์ ๙) ผา้ สบง ผา้ ไตรจวี ร หรอื ผา้ ท่ีพระสงฆส์ ามารถใช้ได้ ๑๐) ภัตตาหารถวายพระสงฆ์ (ในกรณีมีการจัดเลี้ยงพระสงฆ)์ ๑๑) เครื่องจตปุ จั จัยไทยธรรมถวายพระสงฆ ์ แนวทางการปฏิบตั ิงาน ๑) ผู้ร่วมงานพรอ้ มกนั ณ มณฑลพิธ ี ๒) ประธานจุดธูปเทยี นเคร่ืองทองน้อยหนา้ อฐั ิ กราบ ๑ ครง้ั หรอื น้อมไหว้ (ในกรณีเป็น อฐั ขิ องพระสงฆ์ กราบ ๓ คร้ัง) ๓) พธิ กี รนิมนต์พระสงฆ์สวดมาตกิ า (ถ้ามี) ๔) เม่ือพระสงฆ์สวดมาติกาถงึ บท เหตปุ จโฺ ย....... (ถา้ ม)ี ๕) พิธกี รนำจตุปัจจัยไทยธรรมวางไว้ ณ เบือ้ งหนา้ พระสงฆท์ ุกรปู (ถ้าม)ี ๖) เมือ่ พระสงฆส์ วดมาติกาจบ เชิญเจา้ ภาพถวายจตปุ จั จยั ไทยธรรม (ถ้าม)ี คมู่ ือการปฏิบัติศาสนพธิ เี บือ้ งตน้
135 ๗) พิธกี รลาดภูษาโยง (ถ้าไม่มกี ารสวดมาติกาและถวายเครือ่ งไทยธรรม พธิ ีกรลาดภษู าโยง ในขณะเจา้ ภาพจดุ ธูปเทยี นเครื่องทองน้อย) ๘) เชิญผา้ สบง หรอื ไตรจีวรใหเ้ จ้าภาพทอดผ้าบงั สกุ ลุ ๙) เจ้าภาพทอดผา้ บงั สุกลุ (วิธีทอดผา้ บงั สุกุลให้วางผา้ ขวางทบั ภษู าโยง) แล้วกลบั มานัง่ ท่เี ดมิ ๑๐) พระสงฆพ์ ิจารณาผา้ บงั สุกุล ๑๑) พระสงฆ์อนุโมทนา ๑๒) ประธานกรวดนำ้ -รับพร (เป็นเสรจ็ พธิ บี ังสกุ ุล และเป็นการตดั ตอนงานพิธีอวมงคล) ๑๓) เจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรตั นตรยั (กราบ ๓ คร้งั ) เป็นการเรมิ่ งานพธิ ีมงคล ๑๔) เจ้าภาพถวายพัดรองหรอื ตาลปัตรท่ีระลกึ (ถ้ามี) ๑๕) พธิ ีกรอาราธนาศีล ๑๖) ประธานสงฆ์ให้ศีล เจ้าภาพและผูร้ ่วมพธิ รี ับศลี พร้อมกัน ๑๗) พิธกี รอาราธนาพระปริตร ๑๘) พระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนต ์ ๑๙) พระสงฆ์เจรญิ พระพทุ ธมนต์ถึงบท “อเสวนา จ พาลน.ํ .....” ๒๐) ประธานจุดเทยี นท่คี รอบน้ำพระพุทธมนตแ์ ลว้ ยกประเคนประธานสงฆ์ น้อมไหว้ ๒๑) ประธานพรอ้ มผรู้ ว่ มพธิ ปี ระเคนภตั ตาหารถวายพระสงฆ์ ๒๒) พระสงฆฉ์ นั ภัตตาหารเสรจ็ เรียบร้อย ๒๓) พธิ ีกรนำเครือ่ งจตุปจั จยั ไทยธรรมมาวางไว้ ณ เบื้องหน้าพระสงฆ์ ๒๔) เจ้าภาพประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ๒๕) พระสงฆอ์ นุโมทนา ๒๖) เจา้ ภาพกรวดน้ำ-รับพร ๒๗) พระสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต ์ ๒๘) เสร็จพธิ ี ในกรณมี ีการแสดงพระธรรมเทศนา ๑) ผู้ร่วมงานพรอ้ มกนั ณ มณฑลพิธ ี ๒) พระสงฆข์ นึ้ นั่ง ณ อาสนะบนอาสน์สงฆ ์ ๓) ประธานพธิ ีจุดธูปเทียนบูชาพระรตั นตรยั กราบ ๓ คร้งั ๔) ประธานพิธีจุดเทียนส่องธรรม (เทียนดูหนังสือเทศน์) และจุดธูปเทียนเคร่ืองทองน้อย บชู าธรรม คมู่ ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ เี บือ้ งต้น
136 ๕) พระสงฆข์ ้ึนสู่ธรรมาสน ์ ๖) ศาสนพิธีกรเชญิ เทยี นสอ่ งธรรมไปตงั้ บนธรรมาสน ์ ๗) ศาสนพิธกี รอาราธนาศลี ทุกคนรบั ศีล จบ ๘) ศาสนพธิ ีกรอาราธนาธรรม ๙) พระสงฆแ์ สดงพระธรรมเทศนา จบ อนุโมทนาบนธรรมาสน์ ๑๐) ประธานพิธีกรวดน้ำ-รับพร ๑๑) ศาสนพิธีกรเชญิ เทยี นสอ่ งธรรมออก รับพระสงฆล์ งจากธรรมาสน ์ ๑๒) ประธานพิธปี ระเคนจตุปจั จยั ไทยธรรมเคร่ืองกัณฑเ์ ทศน์ ๑๓) เสรจ็ พิธ ี หมายเหตุ ในพธิ ีใดทีม่ กี ารแสดงพระธรรมเทศนา เจ้าหนา้ ท่ปี ฏิบตั ดิ งั นี ้ ๑) ใหอ้ าราธนาศลี และรบั ศลี กอ่ นทพี่ ระสงฆแ์ สดงพระธรรมเทศนา ๒) ถ้ามีการเจริญพระพุทธมนต์ หรือสวดพระพุทธมนต์ก่อน เม่ือประธานจุดธูปเทียน นมัสการพระรตั นตรัยแล้ว ใหอ้ าราธนาพระปรติ ร ๓) ใหอ้ าราธนาศีล เมือ่ พระสงฆจ์ ะแสดงพระธรรมเทศนา คมู่ อื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้ืองตน้
137 บทท ี่ แนวทางการจัดงานอวมงคล การปฏิบัติงานพิธีที่กล่าวมานั้น เป็นการกล่าวถึงงานพิธีมงคลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนพิธีการ ที่เก่ียวกับงานอวมงคล แม้มีกล่าวบ้างก็เป็นส่วนน้อย ซ่ึงในส่วนท่ีเกี่ยวกับพิธีงานอวมงคล แบง่ เป็น ๒ ส่วน ส่วนท่ี ๑ การเตรียมการขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ การขอพระราชทานเพลิงศพ การขอรับหบี เพลิงพระราชทาน และขั้นตอนการปฏบิ ัต ิ ส่วนที่ ๒ การเตรยี มการและข้ันตอนการทำบญุ และการฌาปนกจิ ศพ สว่ นท่ี ๑ การเตรยี มการขอพระราชทานนำ้ หลวงอาบศพ การขอพระราชทาน เพลิงศพ การขอรบั หีบเพลิงพระราชทาน และขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ิ การขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ๑ น้ำหลวงอาบศพ ๑ การขอพระราชทานนำ้ หลวงอาบศพ สำนักพระราชวัง ค่มู อื การปฏิบัติศาสนพิธเี บ้ืองตน้
138 น้ำหลวงอาบศพทีไ่ ด้รับพระราชทาน ส่วนกลาง มนี ำ้ ๓ ชนดิ ๑) น้ำเปลา่ ๒) นำ้ ขมิน้ ๓) น้ำอบไทย สว่ นภมู ิภาค มนี ำ้ ๒ ชนดิ ๑) นำ้ ขม้นิ ๒) น้ำอบไทย หลักเกณฑ์ในการขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ๑) พระสมณศักดิ์ ตั้งแต่ชั้น “พระครูสัญญาบัตร” ขึ้นไป และพระภิกษุสามเณร เปรยี ญธรรม ๙ ประโยค ๒) พระราชวงศ์ ตง้ั แต่ช้นั “หมอ่ มเจา้ ” ขึ้นไป ๓) ผทู้ ีไ่ ดร้ ับพระราชทานบรรดาศักดิ ์ ๔) ขา้ ราชการต้งั แต่ระดับ ๓ ขึน้ ไป ๕) ข้าราชการฝ่ายทหาร ตำรวจ ยศชน้ั รอ้ ยตรี เรือตรี เรืออากาศตรี รอ้ ยตำรวจตรขี ้นึ ไป ๖) ผทู้ ีไ่ ดร้ บั พระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ตัง้ แต่ “เบญจมดเิ รกคุณาภรณ์” (บ.ภ.) และ “เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย” (บ.ม.) ขึ้นไป ๗) ผู้ทไ่ี ด้รบั พระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ “จลุ จอมเกล้า” ๘) ผู้ท่ีได้รบั พระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์เหรียญ “รัตนาภรณ์” รัชกาลปัจจุบัน ๙) ประธานองค์กรต่าง ๆ ท่ีกำหนดในรัฐธรรมนูญ และรัฐมนตรีที่ถึงแก่กรรมในขณะ ดำรงตำแหนง่ ๑๐) บิดาและมารดาของผู้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรต่าง ๆ ท่ีกำหนด ในรัฐธรรมนูญและรฐั มนตรี ท่ถี ึงแก่กรรม ในขณะบุตรดำรงตำแหนง่ ๑๑) สภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ถึงแก่กรรม ในขณะดำรงตำแหน่ง ๑๒) ผู้ทท่ี รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปน็ กรณีพิเศษ หมายเหตุ บุคคลผู้ทำลายชีพตนเอง และผู้ต้องอาญาแผ่นดินไม่พระราชทานน้ำหลวง และเคร่ืองเกียรตยิ ศประกอบศพ คมู่ อื การปฏบิ ัติศาสนพิธเี บ้ืองตน้
139 ขัน้ ตอนการขอพระราชทานนำ้ หลวงอาบน้ำ เจา้ ภาพหรือทายาทจะตอ้ งจัดเตรียมและปฏบิ ัติ ดงั น ี้ ๑) จดั ดอกไม้กระทง ๑ กระทง ๒) ธปู ไม้ระกำ ๑ ดอก ๓) เทียน ๑ เลม่ มีพานรองพร้อม ๔) หนังสือกราบบงั คมทลู ลา (ไมต่ ้องลงนามท้ายหนังสอื ) ๕) ใบมรณะบัตร ๖) หลักฐานทไี่ ดร้ บั พระราชทานเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณช์ ้ันสงู สดุ ทีไ่ ด้รบั เจ้าภาพหรือทายาทนำสิ่งดังกล่าว ๑-๔ ไปกราบถวายบังคมลา โดยติดต่อท่ีกองพระราชพิธี สำนักพระราชวงั ในพระบรมมหาราชวัง ตง้ั แตเ่ วลา ๐๘.๓๐ ถงึ ๑๖.๓๐ น. ทุกวนั ไม่เว้นวันหยุด ราชการ พร้อมทั้งนำใบมรณะบัตร และหลักฐานท่ีได้รับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ ์ ชั้นสูงสุดที่ได้รับไปแสดงแก่เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี เพ่ือสำนักพระราชวังจัดเคร่ืองเกียรติยศ ประกอบศพที่จัดพระราชทานชั้นของเคร่ืองเกียรติยศ ส่วนพระสงฆ์สมณศักด์ิ ไม่ต้องมีดอกไม ้ ธูปเทียน เปน็ หนา้ ทีข่ องกรมการศาสนาแจ้งการมรณภาพ และขอพระราชทาน ตวั อยา่ งหนงั สอื กราบบงั คมทลู ลา วนั ท.ี่ .......เดือน.........................พ.ศ. .......... ขอเดชะฝ่าละอองธลุ พี ระบาทปกเกล้าปกกระหมอ่ ม ดอกไม้ธปู เทยี นของข้าพระพทุ ธเจ้า.....(ชอ่ื ผูถ้ ึงแก่กรรม)..... เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ.์ ............ อาย.ุ ......ปี ข้าราชการ....................................ชนั้ .............สงั กัด........................................................ ขอพระราชทานกราบถวายบังคมลา (ถึงแก่กรรม, ถึงแก่อนิจกรรม, ถึงแก่อสัญกรรม ..................ด้วยโรค................................................. ที่.........................อำเภอ.......................................จังหวัด.........................................เมอ่ื วนั ท.่ี .......... เดอื น..............................พ.ศ. .......................เวลา...............................น. ควรมคิ วรแล้วแตจ่ ะทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ขอเดชะ หมายเหตุ หนังสอื กราบบงั คมทลู ลานี้ ไมต่ ้องลงนามท้ายหนังสอื คู่มือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ เี บอ้ื งต้น
140 การสรง/อาบนำ้ ศพใหป้ ฏบิ ัตดิ ังนี ้ ๑) การสรง/อาบนำ้ หลวง ใหร้ ดท่อี กของศพ ๒) การสรง/อาบนำ้ หลวง ให้ปฏิบตั เิ ป็นลำดบั สดุ ทา้ ย ๓) ศพฆราวาส ใหย้ กศีรษะศพขน้ึ เล็กน้อยเพอ่ื รบั นำ้ หลวง การจัดสถานทแี่ ละลำดบั ขน้ั ตอนพิธพี ระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ๑) ใกลก้ ำหนดเวลาเจ้าหนา้ ทเี่ ชิญนำ้ หลวงฯ มาถงึ (เจา้ ภาพรอรับ) แล้วเชิญไปตั้งไวท้ โ่ี ต๊ะ ดา้ นศีรษะของศพ ๒) ไดเ้ วลาเจ้าหน้าที่เชญิ น้ำหลวงไปตัง้ ไว้ยงั โตะ๊ ที่จดั เตรียมไว้ ๓) เม่ือไดเ้ วลาตามทก่ี ำหนดเชิญประธานประกอบพธิ ี ๔) ประธานถวายความเคารพไปทางทศิ ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ ๕) (ในส่วนกลาง) รบั คนโทน้ำเปลา่ รดทอี่ กของศพ แลว้ รดนำ้ ขม้ินและนำ้ อบไทย ๖) (ในส่วนภมู ภิ าค) รดนำ้ ขม้ิน และน้ำอบไทย ตามลำดับ ๗) ทำความเคารพศพ เปน็ เสร็จพิธ ี การแตง่ กาย ๑) เจ้าหนา้ ที่เชิญนำ้ หลวงฯ แต่งเครอ่ื งแบบปกติขาวไวท้ ุกข ์ ๒) ประธานและผู้ร่วมพิธี แต่งเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์ ชุดสากลไว้ทุกข์ หรือ ชุดสภุ าพไว้ทกุ ข์ การขอพระราชทานเพลิงศพ๒ ไฟพระราชทานเพลงิ ศพ ๒ การขอหบี เพลงิ พระราชทาน สำนักพระราชวัง คมู่ อื การปฏิบตั ศิ าสนพิธเี บอื้ งตน้
141 หีบเพลงิ พระราชทาน ไฟพระราชทาน ประกอบด้วย ๑) เทียนจุดไฟ พรอ้ มโคม (เจ้าหนา้ ท่สี ำนกั พระราชวงั เปน็ ผอู้ ัญเชิญ) ๒) พานเคร่ืองขมา และดอกไมจ้ นั ทน์พระราชทานเพื่อจุดไฟพระราชทาน หบี เพลิงพระราชทาน ประกอบดว้ ย ๑) เทียนชนวน ๑ เลม่ ๒) ไมข้ ีดไฟ ๑ กลกั ๓) ดอกไมจ้ นั ทน์ ธปู ไม้ระกำ และเทยี น ๑ ชุด การขอพระราชทานเพลิงศพพระสมณศักด์ิท่ัวประเทศ เป็นภารกิจหน้าท่ีของกรมการ ศาสนาในการประสานกับสำนักพระราชวังและจังหวัด โดยวัดท่ีมีความประสงค์จะดำเนินการ ขอพระราชทานเพลิงศพพระสมณศกั ดิ์ ตอ้ งทำหนงั สือผา่ นเจา้ คณะจงั หวดั หรอื สำนกั งานวฒั นธรรม จังหวัด และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจะทำหนังสือในนามผู้ว่าราชการจังหวัดส่งไปยังกรมการ ศาสนา เพอื่ ดำเนินการตามขน้ั ตอนผ่านเลขาธิการพระราชวงั เม่ือทางสำนกั พระราชวังดำเนินการ เรียบร้อยแล้ว กรมการศาสนาจะรับหีบเพลิงจากกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง แล้วนำส่งให้ จังหวัดในนามผู้ว่าราชการจังหวัด เพ่ือมอบให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดดำเนินการตามหน้าที่ ตอ่ ไป คูม่ ือการปฏบิ ตั ิศาสนพิธเี บ้อื งตน้
142 การขอพระราชทานเพลิงศพให้แก่บุคคลต่าง ๆ ที่เป็นฆราวาสหน่วยราชการต่าง ๆ ที่สังกัด เจ้าภาพหรือทายาทผู้ประสงค์ขอพระราชทานเพลิงศพ จะต้องทำหนังสือแจ้งไปยัง กระทรวงเจ้าสังกดั ของผ้ถู งึ แกก่ รรม เพ่อื ให้เจ้าสงั กดั ทำเรื่องเสนอเลขาธิการพระราชวัง โดยระบุ ๑) ช่ือ ตำแหนง่ ชน้ั ยศ ของผู้ถึงแกก่ รรม ๒) ถึงแกก่ รรมดว้ ยโรคอะไร ทีไ่ หน เม่ือใด ๓) ได้รับพระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ อะไรบา้ ง ๔) มคี วามประสงคจ์ ะขอรับพระราชทานเคร่อื งเกียรติยศประกอบศพ อยา่ งใดบา้ ง ๕) ประกอบการฌาปนกิจศพทวี่ ดั ไหน จังหวดั ไหน วัน เวลาใด การขอพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ เจ้าภาพหรือทายาท ผู้ประสงค์ขอ พระราชทานเพลิงศพเปน็ กรณพี ิเศษ ต้องทำหนงั สอื ถงึ เลขาธิการพระราชวงั โดยระบ ุ ๑) ชอ่ื -สกุล และประวตั ิโดยยอ่ ของผู้ถึงแก่กรรม ๒) ถงึ แกก่ รรมด้วยโรคอะไร ท่ีไหน เม่อื ใด ๓) ระบุคุณงามความดีท่ีเป็นประโยชน์ แก่ประเทศชาติ หรือคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ การพิจารณาการขอพระราชทาน เพลิงศพ เป็นกรณพี ิเศษ ๔) ระบุวนั เวลา สถานท่ที ีจ่ ะประกอบการฌาปนกจิ กรณีท่ีเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จะต้องทำเร่ืองผ่านมายังกรมการศาสนา เพื่อทำหนงั สอื ประกอบความเหน็ ไปยงั เลขาธิการพระราชวงั ดว้ ย หลกั ฐานทต่ี อ้ งนำมาแสดงในการขอพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณพี เิ ศษ มดี งั นี ้ ๑) ใบมรณบตั ร ของผู้ถงึ แก่กรรม ๒) ทะเบียนบ้านของทายาทของผถู้ ึงแก่กรรม ๓) บัตรประจำตัวประชาชน หรือบตั รขา้ ราชการ ของทายาทของผู้ถงึ แกก่ รรม ๔) หนังสอื รับรองจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ใบอนโุ มทนาบตั ร ใบประกาศเหรียญกล้าหาญ หรอื เหรยี ญชยั สมรภูมิ ทงั้ น้ี ตอ้ งนำเอกสารต้นฉบับและสำเนาแนบมาพรอ้ มกบั หนงั สือดว้ ย หลักเกณฑก์ ารขอพระราชทานเพลิงศพ ผ้มู สี ทิ ธไิ ดร้ บั พระราชทานนำ้ หลวง เพลิงหลวง และหบี เพลิง ต้องมตี ำแหนง่ ชนั้ และยศ ดังตอ่ ไปนี้ ๑) พระสมณศักดิ์ ต้ังแต่ช้ัน “พระครูสัญญาบัตร” ข้ึนไป และพระภิกษุ สามเณร เปรียญธรรม ๙ ประโยค ๒) พระราชวงศ์ ตง้ั แตช่ ัน้ “หมอ่ มเจ้า” ขนึ้ ไป ๓) ผไู้ ด้รบั พระราชทานบรรดาศักด ิ์ คู่มือการปฏิบัติศาสนพิธีเบือ้ งตน้
143 ๔) ข้าราชการพลเรอื น ตั้งแต่ระดบั ๓ ขึ้นไป ๕) ขา้ ราชการฝา่ ยทหาร ตำรวจ ยศช้ันรอ้ ยตรขี น้ึ ไป ๖) ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตั้งแต่ “เบญจมดิเรกคุณาภรณ์” (บ.ภ.) และ “เบญจมาภรณม์ งกุฎไทย” (บ.ม.) ขน้ึ ไป ๗) ผู้ท่ีได้รับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ “จุลจอมเกล้า” (จ.จ.) หรือ “ตราสืบ ตระกูล” (ต.จ.) ข้ึนไป ๘) ผ้ไู ด้รับพระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์เหรียญ “รตั นาภรณ”์ รชั กาลปัจจุบนั ๙) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล ทถ่ี ึงแก่กรรมในขณะดำรงตำแหนง่ ๑๐) รัฐมนตร ี ๑๑) ผทู้ ท่ี รงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปน็ กรณีพิเศษ หลกั เกณฑ์การขอพระราชทานเพลิงศพ เปน็ กรณีพเิ ศษ ผู้ที่สมควรได้รับการพิจารณา ในการขอพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ควรอยู่ใน หลักเกณฑ์ ดังน ี้ ๑) ผู้ที่อยู่ในราชสกลุ ช้ันหม่อมราชวงศ์และหมอ่ มหลวง ๒) พนกั งานรัฐวสิ าหกจิ ระดับสูง ๓) ผู้ทไี่ ดร้ บั พระราชทานเหรยี ญราชรจุ ิ เหรยี ญกลา้ หาญ และเหรียญชยั สมรภมู ิ ๔) ผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ เช่น ศิลปินแห่งชาติ นักกีฬาระดับชาติ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตสมาชิกสภาจังหวัด หรืออดีตสมาชิก สภาเทศบาล ๕) ผทู้ ำคุณประโยชน์ เช่น บรจิ าคเพอื่ การกุศลคดิ เปน็ มูลค่าไม่นอ้ ยกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท บริจาครา่ งกาย หรอื อวัยวะ ๖) บดิ ามารดาของขา้ ราชการช้นั ผ้ใู หญร่ ะดบั ๖ ขน้ึ ไป หรือเทยี บเท่าข้นึ ไป ๗) บิดามารดาของผู้ท่ีได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ “ตริตราภรณ์ช้างเผือก” (ต.ช.) ขน้ึ ไป ๘) บดิ ามารดาของพระสมณศกั ดิ์ ต้งั แตช่ ้ัน “พระครสู ัญญาบัตร” ขน้ึ ไป ๙) บิดามารดาของข้าราชการทหาร ตำรวจ ตง้ั แต่ระดบั พันโท นาวาโท นาวาอากาศโท และพนั ตำรวจโทขน้ึ ไป หมายเหตุ บุคคลผู้ทำลายชีพตนเอง และผู้ต้องอาญาแผ่นดินไม่พระราชทานเพลิง และเครือ่ งประกอบเกียรติยศ คู่มอื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ ีเบื้องต้น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214