44 การประสานกำหนดการ เม่ือดำเนนิ การจัดทำกำหนดการเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ผดู้ ำเนนิ การ จะต้องแจ้งกำหนดการให้ผู้เกี่ยวข้องทราบก่อนถึงวันงานพิธี เช่น การนิมนต์พระสงฆ์ ประธานพิธี ผู้ท่ีรับผิดชอบในการประชาสัมพันธ์งาน ศาสนพิธีกร และผู้ร่วมปฏิบัติงาน เพื่อจะได้ทราบ ลักษณะขั้นตอนและแนวการปฏิบัติงาน การปฏิบัติตามกำหนดการ เม่ือมีกำหนดการแล้ว ผู้ร่วมกิจกรรมในพิธีน้ัน ๆ ต้องยึด กำหนดการเป็นหลัก เม่ือมีการตัดทอนเพิ่มเติม หรือสลับขั้นตอนในการปฏิบัติงาน หรือหากม ี กรณีฉุกเฉนิ และปรบั เปลย่ี นกำหนดการ จะต้องมกี ารติดตอ่ ประสานงาน เพือ่ ใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านทกุ สว่ น ได้รับทราบรว่ มกนั หากเกดิ ปัญหาในการปฏบิ ตั งิ านศาสนพิธกี รจะต้องตดั สินใจแกไ้ ขปัญหาท่ีเกิดข้นึ และแจ้งผู้เกี่ยวขอ้ งทุกฝา่ ยได้รบั ทราบทนั ท ี คู่มือการปฏิบตั ิศาสนพิธเี บอื้ งต้น
45 บทที่ การเตรยี มการและการปฏบิ ตั งิ านศาสนพธิ ี เมื่อถึงกำหนดวันพิธีผู้ท่ีมีหน้าที่รับผิดชอบในการเป็นผู้ดำเนินการ ควรมีการจัดเตรียม และแบ่งงานใหผ้ ูร้ ่วมปฏบิ ัตงิ านในพิธีตา่ ง ๆ ให้ชดั เจน ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ควรมกี ารตรวจ สอบความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องใช้ให้พร้อมตลอดเวลา เช่น เคร่ืองสักการบูชาพระรัตนตรัย พระพุทธรูป เทียนชนวน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้ทำหน้าท่ีเป็นศาสนพิธีกร และพิธีกรผู้ช่วยจะต้อง ช่วยกนั ดูแลการจดั เตรียมและการปฏบิ ตั ิให้เป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย การเตรียมการก่อนการปฏิบัตงิ านศาสนพิธ ี การปูลาดสถานที่ การจัดปูลาดพ้ืนท่ีด้วยเครื่องปูลาด เช่น พรมหรือเส่ือ สำหรับจัดเป็นอาสนสงฆ์และ ที่สำหรับแขกที่มาร่วมงาน การปูลาดสถานที่ควรคำนึงถึงความเหมาะสมและความสวยงามด้วย ถ้าเครื่องปูลาดมีมาก สามารถปูให้เต็มพื้นท่ีที่ประกอบพิธีได้ ควรเลือกคัดดูสี สัณฐาน ลวดลาย และขนาดให้เหมาะสมการปูให้ปูลำดับลดหล่ันกันไป คือ การปูลาดตรงบริเวณรอยต่อระหว่าง พรหมหรอื เส่ือ ต้องให้ด้านสงู ทบั ด้านตำ่ อยา่ ให้ดา้ นต่ำทบั ดา้ นสูง ให้กำหนดทางดา้ นพระพุทธรปู และพระสงฆป์ ระดิษฐานอยเู่ ปน็ ดา้ นสงู เพราะตามคตนิ ยิ มโดยทั่วไป เปน็ การแสดงถงึ ความเคารพกนั ของสังคมไทย ผู้ใหญ่น่ังสูงกว่าผู้น้อย ผู้น้อยไม่น่ังสูงกว่าผู้ใหญ่ พระภิกษุนั่งตามลำดับอาวุโส คือ พรรษาหรือสมณศักดิ์แล้วแต่กรณีของงานพิธีนนั้ ๆ คมู่ อื การปฏิบตั ิศาสนพิธเี บอ้ื งตน้
46 การตั้งโตะ๊ หมู่บูชาในงานศาสนพิธ ี การตั้งโต๊ะหมู่บูชา ตั้งเพ่ือเป็นท่ีประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมทั้งเครื่องบูชาตาม คตินิยมของชาวพุทธ ซึ่งปรากฏในพุทธประวัติว่า เมื่อพุทธบริษัทมีความประสงค์จะบำเพ็ญกุศล อย่างหนึ่งอย่างใด มักจะนิมนต์พระสงฆ์โดยมีพระพุทธเจ้าเสด็จมาเป็นประธานสงฆ์ในการบำเพ็ญ กุศลน้ัน ๆ ดังน้ัน เพื่อให้มีความสมบูรณ์ในพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ ์ ในการจัดงานที่เกี่ยวกับศาสนพิธีทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนจึงนิยมอัญเชิญพระพุทธรูป มาประดิษฐานเป็นนิมิตรแทนพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพิธีน้ัน ๆ ซึ่งต่อมาถือว่า โต๊ะหมู่บูชาเป็นท่ีประดิษฐานของสิ่งที่เคารพบูชาของสังคมไทย และเป็นองค์ประกอบของเครื่อง มนัสการบูชา ปัจจบุ นั จึงไดม้ ีการจัดตงั้ โตะ๊ หมู่บชู าเพอ่ื วตั ถปุ ระสงค์อน่ื แตท่ ั้งนก้ี ็เป็นไปดว้ ยความเคารพ สักการบูชาในส่ิงที่นำมาประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชาทั้งส้ิน ผู้ที่ทำหน้าที่ศาสนพิธีกรจึงควรมีความรู้ และความเข้าใจในการจัดโตะ๊ หม่บู ูชา เช่น พิธีใดควรจัดอย่างไร ใชโ้ ต๊ะหมชู่ ุดใด เชน่ หมู่ ๕ หมู่ ๗ หรือ หมู่ ๙ เคร่ืองประกอบบนโต๊ะหมู่มีอะไรบ้าง ซ่ึงสิ่งต่าง ๆ เหล่าน้ี ต้องดูความเหมาะสมของ สถานท่แี ละพธิ ที ่ีจะจัดกิจกรรม โต๊ะหม่บู ชู า นิยมตง้ั ไวด้ า้ นขวามือของพระสงฆ์ แตถ่ า้ สถานทีไ่ ม่อำนวยกอ็ นโุ ลมให้ต้ังไว้ ทางด้านซ้ายมือของพระสงฆ์ได้ ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานที่ ไม่ควรวางไว้ในตำแหน่งท่ี ต้องใช้เป็นทางเดินผ่านไปมา ซึ่งการบำเพ็ญกุศลทางพระพุทธศาสนามีการจัดต้ังโต๊ะหมู่บูชา เช่น งานกุศลพธิ ี และงานบุญพิธ ี งานกุศลพิธี คือ พิธีกรรมต่าง ๆ อันเกี่ยวด้วยการอบรมเพื่อให้เกิดความดีงามทาง พระพทุ ธศาสนาเฉพาะตวั บุคคล รวมทงั้ การปฏบิ ตั ศิ าสนพิธีของพระสงฆ ์ งานบุญพิธี คือ พิธีกรรมท่ีพุทธศาสนิกชนปรารภทำความดีเนื่องด้วยประเพณ ี ในครอบครัว หรือประเพณีที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนทั่วไป ท้ังท่ีเป็นงานมงคล หรืองานอวมงคล ซ่งึ มีการตงั้ โต๊ะหมูบ่ ชู าแบบประยุกตไ์ มเ่ ต็มรูปแบบ คมู่ อื การปฏิบัติศาสนพิธเี บ้ืองต้น
47 การจัดโต๊ะหมู่บูชา ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ที่โต๊ะหมู่ตัวสูงสุด และไม่ควรตั้งเครื่อง บูชาใด ๆ ไวบ้ นโต๊ะหมู่ตวั เดยี วกบั ท่ปี ระดิษฐานพระพทุ ธรปู สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมมฺ สารเถร) ได้กล่าวไว้ว่า “เน่ืองจากพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นส่ิงที่ควรกระทำความยำเกรง ให้เกิดแก่ผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชนให้หนัก เพราะมีค่ามาก เพราะเห็นได้ยาก เป็นส่ิงท่ีสะสมได ้ เฉพาะคนดี ถ้าพทุ ธศาสนิกชนทำมกั งา่ ยกบั พระรัตนตรัยกจ็ ะไม่เปน็ พระรตั นตรัย” สำหรับในงานพิธี ท่ัวไปนิยมใช้ พระพุทธรูปปางสมาธิ เป็นพระบูชาไม่นิยมปางประทับยืนหรือปางไสยาสน์ แต่ถ้า เปน็ งานพิธีทำบญุ วันเกดิ หรอื ทำบญุ อายุ นยิ มใชพ้ ระพทุ ธรูปปางประจำวนั เกิดของเจ้าของงาน การจัดเครื่องบูชาตามที่นิยมใช้กันมีหลากหลายแตกต่างกันตามความเหมาะสม เช่น โต๊ะหมูซ่ ัด โต๊ะเดย่ี ว เป็นต้น การจดั เคร่ืองสกั การบูชามากนอ้ ยใหจ้ ดั ตามความเหมาะสมกับสถานท ี่ และฐานะของเจา้ ภาพ พธิ ใี หญ่หรือพิธเี ล็ก แตส่ ิง่ ท่ถี ือเป็นเครือ่ งสักการบชู าหลกั มอี ยู่ ๓ ประการ คือ ๑. ธูป ใช้ ๓ ดอก ปักเรียงกันเป็นหน้ากระดานในลักษณะต้ังตรงไว้ในกระถางธูป เนื่องจากเป็นความเช่ือของบรรพบุรุษมาแต่โบราณว่า ควันเป็นส่ิงท่ีเบาลอยสู่อากาศเบื้องบนแล้ว จางหายไป ควันท่ีจางหายไปนี้ อาจจะไเป็นส่ือนำไปสู่ส่ิงท่ีตนเคารพนับถือบูชาได้ไม่ว่าจะอยู่ ณ ท่ใี ด ๒. เทียน ใช้ ๒ เล่ม ต้ังไว้ท่ีโต๊ะหมู่บูชาตัวเดียวกับกระถางธูป ด้านซ้ายและด้านขวา ของกระถางธูป อย่างละ ๑ เล่ม ซึ่งหมายถึงการให้ความสว่างในทางธรรมแก่มนุษย์ หรือ เปน็ สัญลกั ษณ์ของส่งิ ทเ่ี คารพนับถอื ๓. ดอกไม้ นิยมจัดเปน็ แจกันหรือพานพมุ่ ไม่นอ้ ยกวา่ ๒ แจกนั หรอื ๒ พาน ซึ่งเปน็ ส่งิ ท ี ่ กอ่ ให้เกิดความหอม และมีสสี ันสวยงาม อันหมายถงึ ทุกคนไม่มใี ครรังเกียจคนทมี่ ีคณุ ธรรมความดี ยอ่ มมีแต่คนสรรเสรญิ ยกยอ่ งนบั ถอื คู่มอื การปฏบิ ัติศาสนพธิ เี บอ้ื งต้น
48 การจัดโต๊ะหมูแ่ บบประยกุ ต์ การจดั โต๊ะหมู่งานทั่วไป การจัดโตะ๊ หมู่งานเสดจ็ ฯ ค่มู ือการปฏบิ ัติศาสนพธิ เี บอื้ งต้น
49 การจัดโตะ๊ และอาสนส์ งฆ ์ อาสน์สงฆ์สมเด็จพระราชาคณะ ค่มู อื การปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
50 การตั้งโต๊ะหมู่ในพิธีถวายพระพร เป็นการตั้งโต๊ะหมู่บูชาในพิธีถวายพระพร เนื่องใน โอกาสวันสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเมื่อมีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสถาบัน พระมหากษัตริย์เน่ืองในโอกาสต่าง ๆ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษา วันคล้ายวันประสูต ิ พระบรมวงศานวุ งศ์ การตัง้ โต๊ะหมู่ในพิธีถวายพระพร การต้ังโต๊ะหมู่ในพิธีรับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ หรือการรับสิ่งของ พระราชทาน การมอบเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการในสังกัดท่ีได้รับพระราชทาน เป็นการ มอบส่ิงอันมีเกียรติ ซึ่งเป็นเครื่องตอบแทนคุณงามความดีของข้าราชการท่ีมีความชอบในหน้าท่ี ราชการแผ่นดิน ดังน้ัน ควรจัดการมอบเป็นพิธีการให้สมแก่เกียรติยศ มีการจัดตั้งโต๊ะหมู่ในพิธี มอบเครอ่ื งอิสรยิ าภรณ์ ดังน ี้ คูม่ อื การปฏบิ ตั ศิ าสนพิธีเบือ้ งตน้
51 การจดั โตะ๊ หมู่ในพธิ รี บั เครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ การจัดโต๊ะหมใู่ นพิธีรับเครือ่ งราชอิสริยาภรณ ์ เบือ้ งหน้าพระบรมฉายาลกั ษณ ์ รับมอบจากประธานพธิ ี การรบั พระราชทานสิง่ ของสงิ่ เดียว การรับพระราชทานส่งิ ของหลายสิง่ การต้ังโต๊ะหมู่ในการรับเสด็จฯ หรือตามเส้นทางเสด็จฯ ถือเป็นการจัดโต๊ะหมู่รับเสด็จฯ อันเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของพสกนิกร ผู้ซ่ึงอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารได้ แสดงออกในโอกาสท่ีสถาบันพระมหากษัตริย์ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังท้องถ่ินของตน ซงึ่ นบั เป็นสิริมงคลแกต่ นเองและชมุ ชนทีต่ นอยูอ่ าศยั การจดั โตะ๊ หมู่รบั เสดจ็ ฯ มวี ิธกี ารจดั ตงั้ ดังน ี้ ค่มู ือการปฏบิ ตั ศิ าสนพิธเี บื้องต้น
52 การจัดโต๊ะหมูบ่ ูชาในการรบั เสดจ็ ฯ หรือตามเส้นทางเสด็จฯ การจัดโตะ๊ หมู่บชู าในการรับเสด็จฯ หรอื ตามเส้นทางเสด็จฯ ค่มู อื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้อื งตน้
53 การตั้งโต๊ะหมู่ในพิธีถวายสักการะเนื่องในวันสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย ์ ในโอกาสต่าง ๆ เป็นการจัดกิจกรรมที่ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน มีความรำลึกถึง พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณท่ีพระมหากษัตริย์แต่ละพระองค์ได้ทรงปฏิบัติอันเป็น คุณประโยชน์แกป่ ระเทศชาตแิ ละประชาชน ซึง่ ประชาชนชาวไทยไดจ้ ัดขึ้นในส่วนภมู ภิ าค อันเปน็ การ รำลึกถึงพระองค์อีกโสดหนึ่ง เช่น วันจักรี วันปิยมหาราช ซึ่งมีการจัดโต๊ะหมู่เพื่อถวายสักการะ ดงั นี ้ การจัดโต๊ะหมู่วันจักรี การจดั โตะ๊ หม่วู นั ปยิ มหาราช คู่มอื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บอ้ื งตน้
54 การตั้งโต๊ะหมู่บูชาในพิธีประชุมหรือสัมมนา ในพิธีประชุม สัมมนา อบรม หรือ การประสาทปริญญาบัตรที่ไม่มีศาสนพิธีในพิธีการ ดังน้ัน เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีท่ีมีต่อ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ อันถือเปน็ ประเพณีและวัฒนธรรมอนั ดีงามของสังคมไทย และเพ่ือความเป็นสิริมงคลในการประกอบพิธีที่ไม่ใช่เกี่ยวกับนานาชาติและการประชุมปกต ิ ของคณะกรรมการ นิยมต้ังธงชาติ โต๊ะหมู่ และพระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั เพอื่ ให้ครบ ๓ สถาบนั คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ ซ่ึงเป็นการแสดงความเคารพต่อสถาบันท้ัง ๓ ของสังคมไทย อันเป็นส่ิงที่ดีงามและมีการปฏิบัติ สืบสานต่อเน่ืองกันมาจนเป็นประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทย ที่ได้ร่วมกันอนุรักษ ์ ด้วยความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาแนวคิดท่ีมีต่อสถาบันของบรรพบุรุษ ซึ่งมีหลักการในการต้ัง โต๊ะหมบู่ ชู าในพธิ ปี ระชมุ หรือสัมมนา ดังน้ ี การจัดโตะ๊ หม่ใู นห้องประชมุ คมู่ อื การปฏบิ ัติศาสนพิธีเบื้องตน้
55 ค่มู ือการปฏบิ ตั ศิ าสนพธิ เี บื้องตน้
56 ค่มู อื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้อื งตน้
57 ประธานจุดธูป เทยี น ประธานกราบพระพทุ ธรปู ประธานทำความเคารพธงชาติและพระบรมฉายาลกั ษณ ์ คมู่ อื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ ีเบอ้ื งต้น
58 การตั้งโต๊ะหมู่บูชาหน้าศพ การจัดโต๊ะหมู่ลักษณะน้ีไม่มีรูปแบบการจัดที่แน่นอน เพียงแต่จัดเพื่อประดับดอกไม้ให้ดูสวยงาม ส่วนการบูชาจะใช้เครื่องทองน้อยหรือกระถางธูป เชิงเทียนก็ได้ตามแต่จะจัดหาได้โดยสะดวกไม่เดือดร้อน หากเป็นศพที่อยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ หรือการจัดงานท่ีเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างย่ิงงานของพระสงฆ์นิยมตั้งเคร่ืองทองน้อย ๒ ชุด สำหรับบูชาศพชุดหน่ึง และสำหรับจุดแทนศพเพ่ือบูชาธรรมอีกชุดหน่ึง ใช้โต๊ะหมู่ ๒ ตัว สูงต่ำ ลดหล่ันกันลงมา ตัวสูงวางด้านในใช้วางเคร่ืองทองน้อยสำหรับศพบูชาธรรม ตัวต่ำอยู่ด้านนอก สำหรับเจ้าภาพจุดเพ่ือสักการะศพ การต้ังเครื่องทองน้อยนั้นมีข้อสังเกต คือ จะบูชาส่ิงใด ให้หัน ดอกไม้ไปทางน้ัน ส่วนการจัดโต๊ะหมู่บูชาอัฐิ รูปภาพ ป้ายช่ือ รูปหล่อ ในการทำบุญอุทิศ ใหจ้ ดั ลักษณะเดยี วกัน อนึ่ง ในงานศพทว่ั ไป ทบี่ ูชามกั มี ๒ ประเภท คอื ๑. ทบ่ี ชู าสาธารณะ ๒. ทีบ่ ชู าในพิธีการ ประเภทที่ ๑ สำหรับบุคคลท่ัวไปจุดบูชาศพ นิยมใช้กระถางธูปขนาดใหญ่ จุดบูชา ได้ตลอดเวลา ปัจจุบันในส่วนกลางศาลาสวดอภิธรรมศพจะเป็นห้องปรับอากาศ ดังนั้น จึงไม่ อนุญาตให้จุดธูปเทียนบูชาสาธารณะในศาลา เพียงแต่เข้าไปสักการะหรือกราบศพโดยไม่ต้อง จุดธูปเทยี น แตถ่ ้าเจ้าภาพต้องการใหม้ จี ะจดั ต้งั ไว้ภายนอกศาลา ประเภทที่ ๒ ประธานพิธีหรือเจ้าภาพจุดบูชาหรือสักการะศพ หลังจากประธานจุด เทยี นบูชาพระธรรม เบ้อื งหน้าพระสงฆ์ พระอภธิ รรม การจัดโต๊ะหมูบ่ ชู าหนา้ ศพพระสงฆ์ คมู่ อื การปฏิบัติศาสนพธิ ีเบื้องตน้
59 การตงั้ พัดยศสมณศักด์ิและพดั รอง การจัดที่ตั้งพัดยศสมณศักด์ิและพัดรอง ให้ต้ังไว้ถัดลงมาจากโต๊ะหมู่บูชา ก่อนพระสงฆ์ เนื่องจากพัดยศสมณศักดิ์เป็นการแสดงถึงฐานันดรของพระสงฆ์รูปน้ัน ๆ ซึ่งการต้ังพัดรองหรือ ตาลปัตรก็พึงต้ังในลักษณะเดียวกับการต้ังพัดยศสมณศักด์ิ เพ่ือความเข้าใจง่ายข้ึนให้พึงจำว่า พัดยศสมณศักดห์ิ รอื พัดรองให้ตง้ั ถัดจากโต๊ะหมู่บชู า การจดั เตรียมอาสน์สงฆ ์ การวงสายสิญจน์ การวงสายสิญจน์ให้เวียนขวาตามเข็มนาฬิกา ลงด้านหลังพระพุทธรูปแล้ว ให้วงท่ีฐาน พระพุทธรูปหรือขอบโต๊ะหมู่ตัวท่ีประดิษฐานพระพุทธรูปโดยเวียนขวา ๓ รอบ ให้เหลือกลุ่ม สายสิญจน์สำหรับพระสงฆ์ถือใส่พานวางไว้ด้านข้างประธานสงฆ์ ควรวางพานรองสายสิญจน์ไว้ท้าย อาสน์สงฆ์ด้วย สำหรับในงานพระราชพิธี พระราชกุศล หรืองานเสด็จพระราชดำเนิน ให้วงท ี่ ขอบโต๊ะหมู่ตัวท่ีประดิษฐานพระพุทธรูปแล้วผูกยึดที่หลักพัดยศสมณศักด์ิหรือพัดรอง เหลือกลุ่ม สายสญิ จนส์ ำหรับพระสงฆถ์ อื ใสพ่ านวางไว้ดา้ นขวาหรอื ด้านซา้ ยมือประธานสงฆ ์ การเดนิ สายโยงหรอื แถบทอง การเดินสายโยงหรือแถบทองหรือสายโยง เป็นส่ิงท่ีโยงมาจากศพ อัฐิ ภาพถ่าย ป้ายอุทิศให้เดินชิดฝาผนัง ถ้าเดินผ่านโต๊ะหมู่บูชา ให้ผ่านด้านหลังโต๊ะหมู่บูชา และให้เดินต่ำกว่า พระพุทธรูป ควรระวังไม่ให้สายโยงหรือแถบทองนั้นเกาะหรือเก่ียวกับโต๊ะหมู่บูชา ควรเดินให้ชิด ไปทางประธานสงฆ์แล้วเชื่อมต่อท่ีพานภูษาโยง ซึ่งต้ังอยู่ด้านข้างประธานสงฆ์ ภูษาโยงนั้น ศาสนพิธีกรควรวัดความยาว เม่ือลาดต้ังแต่ต้นอาสนสงฆ์ถึงพระสงฆ์รูปสุดท้ายให้พอดี ทำเคร่ืองหมายไว้ว่าจะยกภูษาโยงลงมาจากพานเพื่อต้ังไว้ ณ เบ้ืองหน้าประธานสงฆ์ให้พอดีกับ การทอดผ้าบังสกุ ุล คมู่ ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ ีเบอ้ื งตน้
60 การต้งั ครอบหรอื ภาชนะทำน้ำพระพุทธมนต ์ ภาชนะใส่นำ้ สำหรบั ทำน้ำพระพุทธมนต์ ปัจจุบนั นิยมใชค้ รอบสำริดทองแดงหรอื ทองเหลอื ง หากไม่มีสามารถใช้บาตรหรือขันแทนได้ ภายในใส่น้ำสะอาด และติดเทียนบริเวณฝาครอบ สำหรับประธานจุดเพ่อื ถวายประธานสงฆท์ ำน้ำพระพทุ ธมนตไ์ ว้ให้เรียบรอ้ ย เม่อื ประธานสงฆ์เข้าน่งั ประจำอาสนสงฆ์เรียบร้อยแล้ว จึงนำครอบน้ำมนต์หรือภาชนะใส่น้ำวางไว้เบ้ืองหน้าประธานสงฆ์ สำหรับเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์ ควรใช้เทียนขี้ผ้ึงแท้ นิยมใช้เทียนขนาดน้ำหนัก ๑ บาท หรอื จะหยอ่ นหรอื เกินบา้ งตามความเหมาะสม การจดั เคร่ืองรับรองพระสงฆ ์ ตามประเพณีนยิ มจะตอ้ งมกี ารจดั เคร่ืองรับรองพระสงฆ์ และแขกผูม้ ารว่ มงาน แตใ่ นที่น้ี จะขอกลา่ วเฉพาะในส่วนทต่ี อ้ งเตรียมเคร่ืองรับรองสำหรบั พระสงฆ์ ซ่งึ ประกอบด้วยเครอื่ งรบั รองหลัก ดังนี้ น้ำร้อน น้ำเย็น ภาชนะใส่น้ำด่ืมไว้ถวายพระสงฆ์ สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหน่ึง คือ กระโถน ซ่ึงถือเป็นส่ิงจำเป็น เน่ืองจากพระสงฆ์เม่ือน่ังในพิธีกรรม ไม่สามารถลุกเพ่ือจะนำส่ิง ทไ่ี มใ่ ช้แลว้ ไปท้งิ ที่อนื่ ได้ สำหรบั การจดั ตง้ั เครอ่ื งรับรองพระสงฆน์ ้นั ใหต้ ัง้ กระโถน นำ้ รอ้ น นำ้ เย็น โดยตง้ั กระโถนเป็นหลกั ไวด้ า้ นใน ระวงั อยา่ ใหล้ ำ้ ไปด้านหลงั หรอื ออกมาดา้ นนอกมากนัก ใหพ้ ระสงฆ์ หยบิ ใชไ้ ด้สะดวก และควรตั้งให้เป็นแนวตรงกันทง้ั ด้านขวาง ด้านยาว เมอ่ื พระสงฆ์เขา้ นงั่ ทีป่ ระจำ ยังอาสนสงฆ์เรียบร้อยแล้ว ใหป้ ระเคนน้ำรอ้ น น้ำเยน็ ให้เรยี บร้อย เคร่อื งไทยธรรมสำหรบั ถวายพระสงฆ ์ เมื่อพระสงฆ์ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพมักจะมีการถวาย เครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ดังนั้น ควรจัดเตรียมเคร่ืองไทยธรรมไว้ด้านท้ายอาสน์สงฆ์ เมื่อ พระสงฆ์ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำเครื่องไทยธรรม มาวางไวเ้ บือ้ งหนา้ พระสงฆ์ในพธิ ีทุกรปู แลว้ เชญิ ประธานหรือเจ้าภาพประเคนพระสงฆ ์ ภาชนะสำหรับกรวดน้ำ การกรวดน้ำเป็นการอุทิศแผ่ส่วนบุญกุศลที่ตนได้บำเพ็ญ ส่งไปให้แก่บุรพชนตลอดจน สรรพสัตว์ทั้งปวง เปน็ การอธษิ ฐานใจในสง่ิ ท่ปี ระสงคใ์ ห้สำเรจ็ ตามความปรารถนา ผูเ้ ป็นศาสนพิธีกร จะต้องตรวจสอบภาชนะใส่น้ำกรวดให้เรียบร้อย แล้วจัดต้ังไว้ท้ายอาสน์สงฆ์เช่นเดียวกับ เครือ่ งไทยธรรม คู่มอื การปฏบิ ตั ิศาสนพิธีเบอื้ งตน้
61 เชงิ เทียนและเทียนชนวน เป็นอุปกรณ์ท่ีอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เป็นประธานในพิธี หรือเจ้าภาพ ในการจุดธูป เทยี นบชู าพระรัตนตรยั ผูเ้ ป็นศาสนพิธกี รจะต้องจัดเตรยี มให้เรียบร้อย ดูการตดิ เทียนกับเชิงเทียน ให้แน่น เพราะอาจหลุดจากเชิงเทียนได้ จัดเตรียมไว้ท้ายอาสน์สงฆ์ เม่ือถึงเวลางานศาสนพิธีกร จะไดจ้ ดุ แล้วนำไปมอบใหป้ ระธานหรือเจ้าภาพจุดธูปเทยี นบชู าพระรตั นตรัย การทาเชือ้ ชนวนธูป เทยี น การทาเชื้อชนวนธปู เทยี น เพ่อื ต้องการใหส้ ่ิงทจี่ ุดบูชาน้นั ตดิ ไฟงา่ ย ดังน้ัน เม่อื ประธาน จะจุดบูชาส่ิงใด ศาสนพิธีกรควรเตรียมทาเช้ือชนวนธูป เทียน หรือสิ่งท่ีจะจุดให้เรียบร้อยก่อนถึง เวลาพธิ ีตามกำหนดการประมาณไมเ่ กิน ๑ ชัว่ โมง หากเตรียมไวน้ านเกนิ ไปจะทำให้จุดติดชา้ วธิ ที ำเชอ้ื ชนวน ๑) เตรียมขวดแก้ว ฝาโลหะขนาดพอสมควร ล้างเชด็ ใหแ้ ห้ง และสะอาด ๒) นำเศษเทียนข้ผี ึ้งแท้ทเ่ี หลอื จากใชใ้ นพิธตี า่ ง ๆ แล้ว ตดั เปน็ ชิ้นเล็ก ๆ ใส่ไว้ในขวด ๓) นำน้ำมันเบนซินใส่ลงไปในขวดใหท้ ่วมเทียน ปดิ ฝาทงิ้ ไว้ประมาณ ๑ คืน ๔) คนให้เทียนกับน้ำมนั ผสมเปน็ เนื้อเดยี วกัน ไมค่ วรให้เหลวหรอื ขน้ เกินไป ๕) ปิดฝาเกบ็ ไว้ เมื่อตอ้ งการนำมาใช้ ให้นำปลายธปู ชุบลงไปในขวดเชือ้ ชนวน หลงั จากน้นั พันด้วยสำลี และชุบลงไปในขวดเชื้ออีก ๑ ครั้ง นำมาแต่งให้สวยงาม และทาตรงบริเวณไส้เทียน ที่ประธานจะจุดให้เรียบร้อย ถ้าหากเช้ือแห้ง หรือเชื้อมีลักษณะแข็ง ให้เติมน้ำมันเบนซินลงไป หรือนำขวดเช้อื ชนวนไปวางไวท้ ่ีทมี่ อี ากาศร้อน การจดั เตรียมเวลาในพิธีการ งานทเี่ ปน็ ทางการ ควรมกี ารกำหนดรปู แบบทชี่ ดั เจน เพือ่ ให้มกี ารปฏิบัติงานอย่างตอ่ เน่ือง มีการกำหนดเวลาในแตล่ ะขน้ั ตอนของงานทีแ่ น่นอน ดงั นนั้ เรื่องเวลาถอื เป็นส่งิ สำคญั ศาสนพิธีกร จะต้องจัดลำดับเวลาของพิธีการน้ัน ๆ ให้เหมาะสม ไม่เกิดการสะดุดหรือรอคอยเวลาอันเป็น การแสดงให้เห็นความบกพร่องของผู้ดำเนินการ เพราะบางพิธีเป็นเวลาบังคับ เช่น เวลาฤกษ ์ เวลาพระสงฆ์ฉันภัตตาหาร เป็นตน้ ซึง่ ผูด้ ำเนินการหรอื ศาสนพธิ ีกรควรคำนงึ ถงึ เวลาแตล่ ะข้ันตอน ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ดังนั้น จึงควรจัดสรรเวลาให้เหมาะสม เพื่อความสะดวกในการกำหนด เวลาเริ่มตน้ และเวลาสิ้นสดุ ของพิธี ดังนี ้ ๑) เวลาเริม่ ตน้ พิธี ต้งั แต่เวลาผรู้ ว่ มพิธีพรอ้ มกัน ๒) เวลาท่ปี ระธานเดนิ ทางมาถึง จดุ ธูปเทยี นบูชาพระรัตนตรัย และเรมิ่ เข้าสพู่ ธิ กี าร ๓) เวลาพระสงฆ์เจรญิ พระพุทธมนต์ สวดพระพทุ ธมนต์ หรอื แสดงพระธรรมเทศนา ๔) เวลาของพธิ ี ทม่ี ีฤกษ์เริม่ ต้น และส้นิ สดุ แหง่ ฤกษ์ เชน่ พิธีวางศิลาฤกษ์ เปิดอาคาร คู่มอื การปฏิบตั ิศาสนพธิ เี บื้องตน้
62 ๕) เวลาทพี่ ระสงฆฉ์ นั ภตั ตาหาร ๖) เวลาสิน้ สุดของงาน การเตรียมเวลาน้ี เม่ือคำนวณและกำหนดเวลาแล้ว ให้ระบุไว้ในกำหนดการ และ ผู้ดำเนินการควรมีความรู้ในเร่ืองพิธีแต่ละข้ันตอนด้วย เพื่อนำมาปรับให้ยืดหยุ่นได้ตามความ เหมาะสม ท้ังน้ีเพ่อื ใหก้ ารปฏิบัติพิธเี ป็นไปอยา่ งต่อเน่ือง เรียบรอ้ ย และสวยงาม การปฏิบัตงิ านศาสนพธิ ี เมื่อถึงเวลาจะเร่ิมปฏิบัติพิธี ศาสนพิธีกรควรแบ่งหน้าที่ปฏิบัติงานของแต่ละคน ให้เรียบร้อย ใครมีหน้าท่ีทำอะไร ผู้ท่ีได้รับมอบหน้าท่ีจะต้องรับผิดชอบหน้าที่ให้เรียบร้อยจนกว่า จะเสร็จพิธี ถ้าหากมีปัญหาหรือมีเหตุที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบได้ จะต้องแจ้งให ้ ผรู้ ว่ มปฏบิ ตั ทิ ราบ หรือมอบให้ผู้อื่นปฏิบัติแทน เช่น การเชิญเทียนชนวน การเชิญพัดรองถวายพระสงฆ์ การจุดธูปเทียนบูชา การอาราธนาศีล การอาราธนา พระปรติ ร และการอาราธนาธรรม เป็นตน้ การเชญิ เทยี นชนวน เทียนชนวน คือ อปุ กรณอ์ ำนวย ความสะดวกสำหรับประธานพิธีใช้ในการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย หรือจุดในกรณีอื่น ๆ ศาสนพธิ กี รผปู้ ฏิบัติหน้าท่เี ชิญเทยี นชนวนควรปฏิบตั ิ ดังน ้ี ๑) ถือเชิงเทียนชนวนด้วยมือขวา ใช้ฝ่ามือรองรับใต้ฐานเชิงเทียนชนวน ใช้น้ิวหัวแม่มือ จับด้านบนฐานเชงิ เทยี นชนวน มอื ซ้ายถือไฟแชก็ พร้อมจุด ยนื รออยทู่ า้ ยอาสน์สงฆ ์ ๒) เร่ิมพิธี ศาสนพิธีกรจุดเทียนชนวนท่ีบริเวณท้ายสงฆ์ แล้วเดินเข้าไปพอประมาณ เพอื่ ให้ผู้เปน็ ประธานเหน็ ๓) แสดงความเคารพประธานพิธี (โค้งคำนับ) เมื่อประธานพิธีลุกเดินไปที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา หรือท่ีซ่ึงต้องจุดธูปเทียน ศาสนพิธีกรพึงเดินไปถึงที่ประธานจะจุด ส่งเทียนชนวนทางด้านขวามือ ของประธานพิธี (ถ้าสถานท่ีบังคับก็สามารถส่งทางด้านซ้ายมือของประธานพิธีได้ ไม่จำเป็นต้อง แทรกตัวเข้าไปเพื่อส่งทางด้านขวามือของประธานพิธี) โดยนั่งคุกเข่าส่งเทียนชนวนให้ประธานพิธี แล้ววางมือให้เรียบร้อย ไม่ต้องประนมมือ แต่ให้เตรียมพร้อมที่จะรับเทียนชนวนคืนหลังจาก ประธานพธิ จี ุดเรยี บร้อยแล้ว ในกรณีท่ีประธานพิธีเข้ามายังบริเวณพิธีและเดินเข้าไปยังโต๊ะหมู่บูชาหรือสถานท่ ี จุดบูชาสักการะทีเดียว ศาสนพิธีกรพึงจุดเทียนชนวนแล้วเชิญตามประธานเยื้องไปทางขวามือ ประธาน เม่ือถงึ สถานท่ีจุด ใหศ้ าสนพิธีกรนัง่ คกุ เข่าแลว้ สง่ เทยี นชนวนให้ประธานพิธที างด้านขวามอื ของประธาน คูม่ อื การปฏบิ ตั ศิ าสนพิธเี บ้อื งตน้
63 ๔) เมื่อประธานพิธีจุดธูปเทียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่งเทียนชนวนคืน ศาสนพิธีกรพึงรับ เทียนชนวนคืนด้วยมือขวา โดยการหงายฝ่ามือขวารองรับใต้ฐานเทียนชนวน แล้วใช้หัวแม่มือจับ ด้านบน ถอยออกมาได้ระยะพอสมควร แสดงความเคารพประธาน แล้วเดินถอยออกไปทางท้าย อาสนส์ งฆท์ ันที ๕) เมื่อถึงบริเวณท้ายอาสน์สงฆ์จึงดับเทียนชนวน ไม่ควรใช้วิธีเป่าหรือใช้มือโบกหรือ สะบดั เพอ่ื ดับเทยี น แต่ให้ใช้วธิ หี าวัสดุ เชน่ ใบไม้ หรอื วัสดอุ ่ืน โดยวิธีจับหรือรดู ไส้เทียนใหด้ ับ อน่ึง สำหรับการส่งเทียนชนวนให้ประธานจุดเทียนน้ำมนต์ก็พึงกระทำในลักษณะ เดียวกัน ต่างกันแต่เพียงว่า เม่ือประธานพิธีจุดเทียนทำน้ำพระพุทธมนต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ศาสนพิธีกรพึงเรียนให้ประธานพิธีประเคนภาชนะทำน้ำพระพุทธมนต์ด้วย และเมื่อถอยออกมา แล้วต้องรอดูจนกว่าพระสงฆ์จะทำน้ำพระพุทธมนต์เสร็จ แต่ถ้าหากเทียนทำน้ำพระพุทธมนต ์ ดับก่อนที่พระสงฆ์จะทำน้ำพระพุทธมนต์เสร็จ ศาสนพิธีกรพึงจุดเทียนชนวนเข้าไปจุดเทียน นำ้ พระพุทธมนตเ์ อง โดยไม่ตอ้ งเชญิ ประธานพิธเี ข้าไปจดุ อกี การส่งเทียนชนวน การเชิญเทยี นชนวน การเชิญพัดรองถวายพระสงฆ์ ในงานพิธีบางพิธีมีการจัดทำพัดรองหรือตาลปัตร ทรี่ ะลึกถวายแดพ่ ระสงฆ์ นิยมจดุ ธปู เทียนบชู าพระรตั นตรยั ก่อน แลว้ เชิญประธานพิธถี วายพดั รอง ด้วยเหตุผลว่า การที่จะกระทำพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาควรบูชาพระรัตนตรัยก่อนการถวาย ส่ิงหนึ่งส่ิงใด ดังนั้น ศาสนพิธีกรควรจัดเตรียมพัดรองเพื่อถวายพระสงฆ์ โดยการจัดเรียงพัดรอง วางบนตะลุ่มหรือพานหรือโตก โดยให้ใบพัดแยกกัน ด้ามพัดทับสลับกันไป เวลาจะถวายให้ใช ้ คูม่ ือการปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บื้องตน้
64 ศาสนพิธีกร ๒ คน คนหนึ่งเชิญพัดรองเล่มหนึ่งเข้าไปทำความเคารพประธานพิธี (โดยการโค้งคำนับ) เพ่ือเข้าไปถวายพัดรองแด่พระสงฆ์ และอีกคนหนึ่งเชิญตะลุ่มหรือพานพัดรอง เดินตามผู้เชิญ พัดรองเพื่อให้ผู้เชิญพัดรองหยิบพัดรองส่งให้ประธานพิธีถวายพระสงฆ์ทีละด้ามตามลำดับ ตั้งแต่ประธานสงฆ์จนถึงพระสงฆ์รูปสุดท้าย เม่ือส่งพัดรองให้ประธานถวายพระสงฆ์ครบแล้ว ให้ทำความเคารพประธานพิธีพรอ้ มกันแล้วถอยออกไป การอาราธนาศีล อาราธนาพระปริตร และอาราธนาธรรม การอาราธนา คือ การนิมนต์ให้พระสงฆ์ประกอบพิธีต่าง ๆ ในพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น ให้ศีล เจริญพระพุทธมนต์ หรือสวดพระพุทธมนต์ หรือแสดงพระธรรมเทศนา ในการอาราธนาแต่ละ พิธีกรรม ศาสนพิธีกรผู้ทำหน้าท่ีอาราธนาจะต้องศึกษาและมีความรู้ในแต่ละพิธีว่า ลำดับหรือ ขน้ั ตอนไหน อาราธนาใหพ้ ระสงฆ์ทำอะไร ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการบำเพญ็ กุศลของพิธนี ั้น ๆ ๑) งานพิธีที่ไม่มีการเจริญพระพุทธมนต์หรือสวดพระพุทธมนต์ มีแต่เพียงการเจริญ ชัยมงคลคาถา หรอื การถวายทานต่าง ๆ เม่อื ประธานพิธจี ุดธูปเทียนบชู าพระรตั นตรัยและกลบั ไป นั่งที่น่ังเรียบร้อยแล้ว พึงเดินเข้าไปประมาณพระสงฆ์รูปที่ ๕ หรือ ๖ จากท้ายสงฆ์ ยืนตรง หันหน้าไปทางประธาน ทำความเคารพ (ถ้าประธานเป็นพระสงฆ์ พึงประนมมือไหว้ ประธาน เป็นฆราวาส พึงโค้งคำนับ) แล้วหันหน้าไปทางประธานสงฆ์ในพิธีโดยยืนอยู่ที่เดิม น้อมไหว้แล้ว ยนื ตัวตรง ประนมมอื ระหว่างอก กล่าวคำอาราธนาศลี ไม่ควรเสยี งดังหรอื เบาเกินไป เมื่อกลา่ วคำ อาราธนาจบแล้ว ให้ยืนรอรับศีล เม่ือประธานสงฆ์ในพิธีให้ศีล พึงรับศีลโดยว่าตามไปทีละข้อ ๆ ตามลำดับจนถึงขอ้ สดุ ท้าย จากน้นั ประนมมอื ฟังประธานสงฆส์ รปุ ทา้ ยศลี เรยี บรอ้ ยแลว้ พงึ นอ้ มไหว้ จากนั้นหันไปทำความเคารพประธานพิธีแล้วถอยออกไปทางท้ายอาสน์สงฆ์ สำหรับงานพิธีหลวง หรืองานพิธีที่เสด็จพระราชดำเนินในสถานที่ต่าง ๆ เม่ืออาราธนาแล้วไม่ต้องเปล่งเสียงรับศีล ตามประธานสงฆ์ พึงยืนสงบโดยรับศีลในใจ จนประธานสงฆ์ถวายศีลจบ จึงหันไปทำความเคารพ องค์ประธานพิธี แล้วถอยออกไปทางทา้ ยอาสน์สงฆ์ เพอื่ เตรยี มพร้อมในการปฏิบตั ิงานที่เก่ยี วขอ้ ง ต่อไป ๒) งานพิธีท่ีมีการเจริญหรือสวดพระพุทธมนต์อย่างเดียว ศาสนพิธีกรจะต้องอาราธนาศีล และอาราธนาพระปริตร การอาราธนาศีลและอาราธนาพระปริตพึงปฏิบัติเหมือนข้อ ๑ คือ เม่ือ ทำความเคารพประธานพิธีแล้ว หันไปประนมมอื นอ้ มไหว้ประธานสงฆใ์ นพธิ ี กลา่ วคำอาราธนาศีล ประธานสงฆ์กล่าวสรุปศีลจบ ศาสนพิธีกรน้อมไหว้ แล้วกล่าวคำอาราธนาพระปริตร เม่ือกล่าวคำ อาราธนาพระปริตรจบ น้อมไหว้ไปทางประธานสงฆ์ในพิธี หันไปทำความเคารพประธานพิธี แลว้ ถอยออกไปทางท้ายอาสนส์ งฆ์ และคอยปฏิบัตงิ านในขน้ั ตอนตอ่ ไป คมู่ ือการปฏิบตั ิศาสนพธิ ีเบอ้ื งตน้
65 ๓) งานพิธีที่มีการเจริญพระพุทธมนต์หรือสวดพระพุทธมนต์ ท่ีมีการแสดงพระธรรม เทศนารวมอยู่ในพิธีน้ันและต่อเนื่องกัน ศาสนพิธีกรพึงปฏิบัติโดยอาราธนาพระปริตรให้พระสงฆ์ สวดพระพุทธมนต์หรือเจริญพระพุทธมนต์ก่อน เม่ือพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์หรือเจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ก่อนเร่ิมพิธีแสดงพระธรรมเทศนา ประธานจุดเทียนส่องธรรม และเครื่องทองน้อย บูชาธรรม ศาสนพิธีกรพึงนิมนต์พระสงฆ์ข้ึนน่ังยังธรรมาสน์เทศน์แล้ว ศาสนพิธีกรจึงอาราธนาศีล และอาราธนาธรรม ตามลำดบั เมื่อพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนาจบ ศาสนพิธีกรพึงเข้าไปรับพัดรองและคัมภีร์เทศน์ ออกมาทางทา้ ยอาสน์สงฆ์ และควรจัดผชู้ ่วยศาสนพิธกี รเขา้ ไปดแู ลพระสงฆล์ งจากธรรมมาสน์ด้วย อน่ึง ถ้าพิธีแสดงพระธรรมเทศนาจัดก่อนพิธีเจริญหรือสวดพระพุทธมนต์ ศาสนพิธีกร พึงอาราธนาศีล รับศีล จบแล้ว จึงอาราธนาธรรม ตามลำดับ และต้องเผดียงพระสงฆ์องค์แสดง พระธรรมเทศนาให้ทราบว่า ในกรณีนี้ ให้อนุโมทนา (ยถา วาริ วาหา....) บนธรรมาสน์ ดังนั้น ศาสนพิธีกรจึงต้องเชิญท่ีกรวดน้ำไปให้ประธานในช่วงนี้ และเมื่อถึงเวลาพระสงฆ์เจริญ พระพุทธมนต์หรือสวดพระพุทธมนต์ จึงอาราธนาพระปริตรตอ่ ไป โดยไม่ตอ้ งอาราธนาศลี อกี ๔) งานพิธีที่มีการแสดงพระธรรมเทศนาอย่างเดียว หรืองานมีหลายพิธี แต่จัดคนละ เวลา พงึ ถอื ว่าเป็นคนละงาน คนละตอน การอาราธนาหรอื การจุดธปู เทียนบชู า พึงกระทำโดยแยก ปฏิบัติเปน็ คนละตอน การอาราธนาในพิธแี สดงพระธรรมเทศนา มขี ้อปลกี ยอ่ ยอกี คอื งานใดที่ประธานพิธกี ็ดี ศพกด็ ี อฐั กิ ็ดี หรือผ้ลู ว่ งลบั ท่ีเป็นพระสงฆ์ เม่ือศาสนพิธกี รอาราธนาศีล และรับศีลจบแล้ว รอให้ ประธานและ/หรือเจ้าภาพจุดเคร่ืองทองน้อยบูชาธรรม และประธานหรือเจ้าภาพจุดเครื่องทองน้อย หน้าศพ หรอื อฐั ิ เพอื่ บูชาธรรมแทนอฐั ิหรือผ้ทู ีล่ ่วงลบั ไปแลว้ ก่อน จงึ อาราธนาธรรมตอ่ ไป การอาราธนาศลี ในงานพิธีที่กราบบังคมทูลอัญเชิญพระมหากษัตริย์ หรือผู้แทนพระองค์เสด็จฯ เปน็ องคป์ ระธานในพิธ ี คมู่ ือการปฏิบัตศิ าสนพิธีเบ้อื งตน้
66 การจัดเตรียมอาหารและจตุปัจจัยเครื่องไทยธรรม ในงานพิธีท่ีนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญ หรือสวดพระพุทธมนต์ และมีการถวายอาหาร ศาสนพิธีกรควรประสานเตรียมการเร่ืองอาหาร ถวายพระสงฆ์ให้เรียบร้อยก่อนพระสงฆ์จะเจริญหรือสวดพระพุทธมนต์จบ เมื่อพระสงฆ์สวดบท ถวายพรพระ (พาหุงฯ) ศาสนพิธีกรพึงจัดผู้ช่วยหรือเจ้าหน้าที่ยกอาหารมาต้ังไว้เบื้องหน้าพระสงฆ์ พร้อมทั้งน้ำดม่ื และจดั โต๊ะสำหรับตัง้ อาหารบชู าพระพุทธให้เรียบรอ้ ย เมอ่ื พระสงฆ์เจรญิ หรอื สวด พระพุทธมนต์จบแล้ว ศาสนพิธีกรพึงทำความเคารพและเชิญประธานพิธีและผู้มีเกียรติประเคน ภัตตาหารแด่พระสงฆ์ หากประธานพิธีเป็นพระสงฆ์ ศาสนพิธีกรต้องยกอาหารประเคนประธานพิธี เพ่ือถวายพระสงฆ์ด้วย การจัดเตรียมและยกอาหารน้ี หากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารรวมกันเป็นวงหรือเป็นโต๊ะ ต้องรอให้พระสงฆ์เจริญหรือสวดพระพุทธมนต์จบแล้ว และนั่งเป็นวงหรือน่ังประจำที่โต๊ะก่อน แลว้ จงึ ยกอาหารมาให้ประธานหรอื เจา้ ภาพประเคนพระสงฆ์ เม่ือศาสนพิธีกรสังเกตเห็นว่า พระสงฆ์ฉันภตั ตาหารคาวเรียบร้อยครบทุกรปู แล้ว พึงยก ภัตตาหารคาวออกพร้อม ๆ กัน และยกภัตตาหารหวานเข้าไปตั้งครบทุกรปู แลว้ เชิญประธานและ ผู้มีเกียรติมาประเคนภัตตาหารหวานพร้อมกันอีกคร้ังหน่ึง แต่ในบางกรณีประธานและผู้มีเกียรติ ต้องทำกิจอย่างอ่ืน ไม่สามารถมาถวายภัตตาหารหวานได้ ศาสนพิธีกรพึงถวายเอง เพ่ือพระสงฆ์ จะได้ไม่ต้องรอ ในระหว่างที่พระสงฆ์ฉันภัตตาหารศาสนพิธีกรพึงทำหน้าท่ีปฏิบัติพระสงฆ์ สำรวจดูว่า พระสงฆ์ต้องการสิ่งหน่ึงส่ิงใดเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น อาหาร น้ำดื่ม กระดาษเช็ดมือ เป็นต้น จะได้จัดหามาถวายเพิ่มเติม มารยาทอย่างหนึ่งท่ีศาสนพิธีกรต้องพึงระวัง คือ ก่อนจะยก ภัตตาหารคาวหรือหวานเข้า-ออก ต้องรอให้พระสงฆ์ฉันเสร็จครบทุกรูปก่อน (ซ่ึงตามธรรมเนียม หรือประเพณีปฏิบัติของศาสนพิธีกรท่ีปฏิบัติสืบต่อกันมาให้ใช้วิธีสังเกตประธานสงฆ์ในพิธีเป็นหลัก เน่ืองจากธรรมเนียมของพระสงฆ์ให้พระสงฆ์ผู้อาวุโสน้อยสังเกตพระสงฆ์ผู้มีอาวุโสมากกว่า และ ให้พระสงฆ์ผู้มีอาวุโสมากกว่าเอ้ือเฟื้อแก่พระสงฆ์ผู้มีอาวุโสน้อยกว่า ด้วยการฉันภัตตาหาร คอยพระสงฆร์ ปู อื่น ๆ เมอ่ื ประธานสงฆ์เห็นวา่ พระสงฆส์ ว่ นใหญฉ่ ันภตั ตาหารเสรจ็ แล้วจะแสดงอาการ ให้ศาสนพิธีกรหรือผู้ทำหน้าท่ีปฏิบัติพระสงฆ์ได้ทราบ ด้วยอาการรวบช้อนหรือปิดฝาสำรับภัตตาหาร ให้ผู้ปฏิบัติเห็น) เนื่องจากหากยกภัตตาหารเข้า-ออกในขณะท่ีพระสงฆ์บางรูปยังฉันไม่เสร็จ จะเปน็ เสมือนการเรง่ พระสงฆ์ ซง่ึ ถอื เป็นการเสียมารยาทของศาสนพิธกี รในการปฏิบตั พิ ระสงฆ ์ คูม่ อื การปฏบิ ตั ศิ าสนพิธเี บอื้ งต้น
67 จตปุ ัจจยั เครอ่ื งไทยธรรม จะต้องจดั เตรียมวางไวท้ ี่โต๊ะดา้ นท้ายอาสนส์ งฆ์ก่อนเริ่มพิธเี สมอ เม่ือยกสำรับภัตตาหารออกหมดแล้ว ศาสนพิธีกรพึงทำความสะอาดอาสน์สงฆ์ ซึ่งอาจเปื้อน หรือเปียกน้ำ เสร็จแล้วยกเครื่องไทยธรรมมาวางเรียงไว้ให้สวยงามเป็นระเบียบเรียบร้อยเบ้ืองหน้า พระสงฆ์ หากมแี จกนั ดอกไม้ กำดอกไม้ พวงมาลัย ให้วางเป็นอันดบั แรกแลว้ จงึ วางสิ่งอ่ืน ๆ ต่อไป (การวางให้วางหันดอกไม้เข้าหาพระสงฆ์เน่ืองจากเป็นการถวายเครื่องไทยธรรมด้วยความเคารพ ถ้าประธานพิธีเป็นพระสงฆ์ผู้ใหญ่ให้หันดอกไม้มาทางประธานพิธี) เม่ือวางจตุปัจจัยไทยธรรม เสร็จเรียบร้อยแล้ว เชิญประธานพิธีและผู้มีเกียรติมาประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม โดยการประเคน ดอกไม้ก่อนแลว้ ประเคนสิ่งอ่นื เป็นลำดบั ไป อน่ึง เป็นธรรมเนียมที่เจ้าภาพจะถวายปัจจัยในการบำเพ็ญกุศลด้วย ศาสนพิธีกร พึงเตรยี มใบปวารณาเขยี นจำนวนเงนิ และชื่อเจา้ ภาพ จัดใสซ่ องให้เรียบร้อย และรวมถวายในเวลา ทีถ่ วายเครอื่ งไทยธรรมนีด้ ว้ ย สว่ นปจั จยั หรือเงนิ ทจ่ี ะถวาย พงึ มอบใหไ้ วยาวจั กรรบั ไป การจดั เตรียมเคร่อื งไทยธรรมถวายพระสงฆ์ การประเคน การประเคนพระสงฆ์ จะเป็นชายหรือหญิงไม่มีห้าม แต่ต้องทำให้ถูก ลกั ษณะของการประเคน คือ ๑) ส่ิงของท่ีจะประเคนน้ัน ตอ้ งไมใ่ หญห่ รือหนกั เกนิ ไป เปน็ ส่งิ ของที่คนปกตคิ นเดียวยกไหว โดยต้องยกส่ิงของน้ันใหข้ ึ้นพ้นจากพน้ื ที่สงิ่ ของนนั้ ตงั้ อย่ ู คมู่ ือการปฏิบตั ิศาสนพิธเี บอ้ื งตน้
68 ๒) ผู้ประเคนต้องเข้ามาในหัตถบาส คือ อยู่ห่างจากพระภิกษุผู้รับประเคนไม่เกิน ๑ ศอก หรือพึงนำของประเคนเข้าไปให้ใกล้พระผู้รับประเคนประมาณ ๑ ศอก จะน่ังหรือยืน แลว้ แต่สถานท่ีท่ีพระภิกษุนน้ั อำนวย ๓) ผปู้ ระเคนน้อมสงิ่ ของน้นั เขา้ มาถวายดว้ ยกิรยิ าอาการแสดงความเคารพ ๔) กริ ิยาอาการที่น้อมสิง่ ของเข้ามาถวายนัน้ จะส่งถวายดว้ ยมอื กไ็ ด้ หรอื จะตักสง่ ถวาย ด้วยของเนอ่ื งดว้ ยกาย เช่น ใชท้ ัพพตี ักถวายกไ็ ด้ ๕) พระภกิ ษุผรู้ ับประเคน จะรับด้วยมือก็ได้ จะเอาผา้ ทอดรับกไ็ ด้ หรอื จะเอาภาชนะรบั เชน่ เอาบาตรหรือจานรบั สิ่งของท่ีเขาตกั ถวายกไ็ ด ้ ผูป้ ระเคน ต้องเขา้ ไปอยู่ในทีใ่ กลร้ ะยะดงั กล่าว แลว้ ยกสิง่ ของใหพ้ ้นข้นึ จากพืน้ แลว้ น้อม ถวายสิ่งของท่ตี อ้ งประเคน คือ ส่งิ ที่จะพงึ บริโภค เช่น อาหาร นำ้ รอ้ น น้ำเย็น เปน็ ต้น เมอื่ ประเคน แล้วอย่าไปจับต้องหรือเลื่อนหากจะมีการเลื่อนส่ิงหนึ่งสิ่งใดพระสงฆ์จะเป็นผู้เลื่อนเอง เนื่องจาก เม่ือจับตอ้ งแลว้ จะต้องประเคนใหม่ ถา้ ส่งิ ของน้ันไม่ใชส่ ง่ิ ของทใ่ี ช้บริโภคก็ไมต่ อ้ งประเคน การเชิญท่ีกรวดน้ำ เป็นธรรมเนียมอย่างหน่ึงของผู้ทำบุญหรือบำเพ็ญกุศล เม่ือพิธีการ ตา่ ง ๆ ดำเนินการไปจนถงึ ขนั้ ตอนสุดท้าย จะมกี ารกรวดนำ้ อทุ ิศส่วนกศุ ลใหแ้ ก่ญาติสนิทมิตรสหาย และสรรพสัตว์ ศาสนพิธีกรต้องเตรียมท่ีกรวดน้ำ โดยทำความสะอาดและใส่น้ำพร้อม ต้ังไว้ท ่ ี โต๊ะเครื่องไทยธรรมด้านท้ายอาสน์สงฆ์ เม่ือประธานพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรมเสร็จและกลับไป นั่งเรียบร้อยแล้ว ศาสนพิธีกรพึงเชิญท่ีกรวดน้ำด้วยมือซ้าย ประคองด้วยมือขวาให้ม่ันคง เดินเข้าไป ใกล้จะถึงประธานพิธี ทำความเคารพ นั่งคุกเข่าเดินเข่าเข้าไปทางด้านหน้าโดยให้เยื้องไปทาง เข่าซ้ายของประธานพิธีเล็กน้อย ไม่ชิดหรือห่างเกินไป พอให้ประธานพิธีจับที่กรวดน้ำได้สะดวก ถือที่รองรับนำ้ ไวด้ ้วยมือทง้ั สอง ยน่ื ใหป้ ระธาน ไม่สงู หรอื ตำ่ เกินไป พอให้ประธานพธิ เี ทนำ้ กรวดได้ โดยไม่ต้องก้มลงหรือยกแขนสูงกว่าปกติ เม่ือพระสงฆ์เริ่มอนุโมทนา “ยะถา วารี วหา...........” ประธานพิธีเร่ิมเทน้ำลงยังท่ีรองรับน้ำท่ีศาสนพิธีกรถืออยู่ เมื่อสังเกตเห็นว่า ประธานพิธีเทน้ำ กรวดจวนหมดแล้ว ศาสนพิธีกรพึงปล่อยมือขวาออกจากท่ีรองรับน้ำให้ใช้มือซ้ายถือไว้มือเดียว ยกมือขวาขึ้นรับเตา้ น้ำกรวดท่ีประธานพิธีเทหมดแล้ว นำเต้านำ้ กรวดมาชดิ กบั ท่ีรองรับนำ้ เดินเขา่ ถอยหลังออกมาจากประธานพิธีพอสมควร ลุกข้ึนยืนทำความเคารพประธานพิธีแล้วถอยออกไป ทางท้ายอาสน์สงฆ์ นำน้ำกรวดไปเทใต้ต้นไม้ท่ีเหมาะสมตามประเพณีโบราณ และต้องเทด้วย อาการสำรวมและสภุ าพ ไมเ่ ทในทที่ ไ่ี ม่สะอาด ไมส่ าดหรือคว่ำภาชนะท่ใี สน่ ำ้ หากมพี ิธีอน่ื ๆ ตอ่ จาก พิธีน้ันอีก ศาสนพิธีกรต้องใส่น้ำในเต้าน้ำกรวดไว้ทันที เพื่อพร้อมที่จะใช้ในพิธีต่อไป การกรวดน้ำ ในพิธีต่าง ๆ หากเป็นพิธีใหญ่ ๆ หรืองานพิธีท่ีเป็นทางการ นิยมใช้ท่ีกรวดน้ำสำหรับประธานพิธ ี ท่ีเดียวเท่าน้ัน ส่วนในงานพิธีของชาวบ้านหรืองานทำบุญตามวัดวาอารามจะใช้ที่กรวดน้ำ หลายท่ีก็ได้ มิไดม้ ขี ้อหา้ มอนั ใด คู่มอื การปฏิบัตศิ าสนพิธเี บอ้ื งต้น
69 อนึ่ง ในพิธีที่เป็นทางการไม่นิยมนำที่กรวดน้ำไปต้ังไว้ให้ประธานพิธีก่อนที่จะถึงขั้นตอน กรวดน้ำ เช่น ท่ีโต๊ะเคียงหรือท่ีประธานพิธีน่ัง เพราะอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดแก่ประธานได ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานอวมงคล ซ่ึงเคยมีเร่ืองเล่าว่า ในงานอวมงคลงานหน่ึง ศาสนพิธีกรได้นำ ท่ีกรวดน้ำไปตั้งไว้ท่ีโต๊ะเคียงของประธานพิธี เมื่อประธานพิธีทอดผ้าบังสุกุลและกลับมาน่ังท่ี เรียบร้อยแล้ว เม่ือพระสงฆ์ต้ังพัดพิจารณาผ้าบังสุกุล ประธานพิธีก็หยิบที่กรวดน้ำมากรวดน้ำทันที ก่อนทีพ่ ระสงฆ์จะอนโุ มทนา ซง่ึ บางท้องถิน่ มีการกรวดน้ำเมอ่ื พระสงฆพ์ จิ ารณาผา้ บงั สกุ ุลเช่นกัน การเชิญทก่ี รวดน้ำ การเขา้ ท่กี รวดน้ำ การประน้ำพระพุทธมนต์ เม่ือพระสงฆ์อนุโมทนาจบแล้ว ถ้าเป็นงานมงคลจะนิมนต์ พระสงฆ์ประน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนมากนิยมนิมนต์พระสงฆ์รูปท่ีเป็น ประธานสงฆ์ประน้ำพระพุทธมนต์ให้ ควรเชิญประธานพิธีหรือเจ้าภาพเข้ารับการประน้ำพระพุทธมนต์ จากพระสงฆ์ก่อน ถ้าเป็นงานพิธีมงคลสมรสให้เชิญคู่บ่าวสาวเข้ารับการประน้ำพระพุทธมนต ์ กอ่ นบคุ คลอนื่ เสรจ็ แล้วจะนิมนต์พระสงฆป์ ระนำ้ พระพุทธมนตใ์ นทอี่ ืน่ ๆ หรือการประน้ำพระพทุ ธมนต์ รวมกันเป็นหมู่ ๆ ศาสนพิธีกรต้องเชิญภาชนะน้ำพระพุทธมนต์เดินตามโดยเย้ืองไปทาง ด้านซ้ายของพระสงฆร์ ูปท่ปี ระน้ำพระพุทธมนต ์ ค่มู อื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บอ้ื งตน้
70 สิ้นสุดพิธี เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมในศาสนพิธีแล้ว ส่ิงท่ีศาสนพิธีกรจะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อให้การปฏิบัติหน้าท่ีศาสนพิธีกรเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมบูรณ์ ในช่วงสุดท้ายของ ศาสนพธิ ี คอื ๑) รบั พระสงฆ์ลงจากอาสนสงฆ ์ ๒) ประสานงานการส่งพระสงฆก์ ลบั วัด ๓) ดบั ธปู เทียนที่จุดบูชา ณ โตะ๊ หมู่บูชาให้เรียบร้อย ๔) ส่งคนื อปุ กรณ์ท่ียืมมาใช้ในงานพิธ ี คู่มอื การปฏิบัตศิ าสนพธิ เี บอ้ื งตน้
71 บทที ่ แนวทางการจดั งานศาสนพิธกี บั สถาบนั พระมหากษัตริย ์ สังคมไทยไดย้ อมรับกนั ทัว่ ไปวา่ ศาสนามคี วามสำคัญต่อวัฒนธรรมประเพณี เพราะมีผล ต่อความรู้สึกนึกคิด ประเพณี และความเชื่อ ได้ส่ือออกมาในลักษณะของพิธีกรรมทางศาสนา และถือปฏิบัติเป็นแบบอย่าง ประเพณี และธรรมเนียมสืบต่อกันมา ขณะที่พระมหากษัตริย ์ ในฐานะทีท่ รงเปน็ องคเ์ อกอัครศาสนปู ถมั ภก ไดท้ รงเปน็ แบบอย่างของการปฏบิ ตั พิ ระราชกรณียกจิ ด้านศาสนพิธีสืบทอดกันมาได้อย่างบริสุทธ์ิไม่คลาดเคลื่อนจากอดีตถึงปัจจุบัน จนกลายเป็น ราชประเพณีสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ซ่ึงพุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ เพ่ือเปน็ การสืบทอดกิจกรรมดา้ นศาสนพธิ ีให้คงอยแู่ ละแพรห่ ลายไปสูส่ ถาบันตา่ ง ๆ ของสังคมไทย ทงั้ ในสว่ นกลางและภมู ิภาค ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ ในส่วนภูมิภาค เช่น จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน หรือองค์กรเอกชน ได้มีการจัดกิจกรรมท่ีเกี่ยวเน่ืองกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจำนวนมาก อันเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูและความจงรักภักดีท่ีพสกนิกรชาวไทยมีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์ ดังนั้น เพ่ือให้การจัดกิจกรรมในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคท่ีเกี่ยวกับสถาบัน พระมหากษัตริย์เป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงได้รวบรวมนำเสนอไว้เป็นแนวทางในการจัด กจิ กรรมรว่ มกนั ไว้เป็นเอกสารเผยแพร่สืบไป คมู่ ือการปฏิบตั ิศาสนพธิ เี บอื้ งต้น
72 วันจักรี วนั จกั รี ตรงกบั วันท่ี ๖ เมษายนของทุก ๆ ปี เปน็ วนั คล้ายวันประดิษฐานพระราชวงศจ์ กั รี ถือเป็นงานรัฐพิธี เป็นโอกาสท่ีพสกนิกรชาวไทยจะได้มีโอกาสรำลึกในความเป็นสิริมงคลท่ีเกิดจาก พระมหากรุณาธิคุณ อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล ในส่วนกลางจัดให้มีพิธีถวาย ราชสักการบูชาพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (พิธีน้ีไม่มีพระสงฆ์) ทเ่ี ชิงสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ สำหรับในส่วนภูมิภาค หากมีการจัดกิจกรรมเพ่ือเป็นการถวายพระเกียรติ อันเป็นการ ระลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณที่พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ได้ปกครองพสกนิกรด้วยหลักทศพิธราชธรรม และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันเป็น คุณประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ สมควรท่ีพสกนิกรจะได้แสดงออกถึงความกตัญญูที่มี แด่พระบรมวงศ์จักรี เพื่อพร้อมกันถวายพระพรชัยมงคล ขอให้เทพยดาเบื้องบนโปรดอภิบาล พระบรมวงศ์จักรี ให้เสด็จสถิตเป็นศรีสถาพรอยู่คู่ประเทศชาติชั่วนิรันดร์และให้พระเกียรติคุณ อเนกอนนั ตแ์ ผไ่ พศาลไปทว่ั ทกุ ทศิ านทุ ศิ ผูเ้ ป็นพธิ กี รพึงดำเนนิ การ ดังน ี้ การเตรยี มการ ๑) จัดเตรียมพระบรมรูป พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั ๘ รชั กาล ๒) จัดเตรียมพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ด้านขวาของพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ๓) จัดเตรียมโต๊ะหมู่บูชา จำนวน ๓ ชุด ชุดที่ ๑ ประดิษฐานพระพุทธรูป ชุดที่ ๒ ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘ รัชกาล และชุดท่ี ๓ ประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณพ์ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว และพระบรมฉายาลกั ษณส์ มเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ๔) เตรยี มจดั พ่มุ ดอกไม้ หรือแจกนั ดอกไม้ประดับตามความเหมาะสม ๕) จัดเตรียมเครื่องทองน้อยวางที่โต๊ะหมู่บูชาแถวกลาง ตัวล่าง ติดธูปเทียนให้พร้อม โดยหันด้านที่มีพุ่มดอกไม้ไปยังพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ๘ รัชกาล และหันด้านธูป เทียนออกด้านนอก โดยติดเทียนไว้ด้านขวามือของผู้จุด ธูปด้านซ้ายมือของผู้จุด (เพื่อผู้เป็น ประธานพธิ จี ดุ ถวายสักการะ) คมู่ ือการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ เี บ้ืองต้น
73 ๖) จัดโต๊ะสำหรับวางพานพุ่มไว้หน้าโต๊ะหมู่บูชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๘ รชั กาล จำนวน ๑ ตวั ในกรณีมกี ารวางพานพุ่มถวายสกั การะ ๗) จัดเตรียมเครือ่ งใช้พิธีสงฆ์ (งานพธิ มี งคล) ๘) จัดเตรียมกรวยดอกไม้ ธูป เทียนแพ จำนวน ๑ ชุด วางไว้ที่โต๊ะหมู่บูชาแถวกลาง ตวั ลา่ ง (หรือตวั ท่ี ๒ ถดั ข้ึนไปจากตัวล่าง) หน้าพระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัว รัชกาลปัจจุบัน และพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพ่ือผู้เป็น ประธานจะได้เปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยหู่ วั รัชกาลปจั จบุ ัน และพระบรมฉายาลกั ษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ นี าถ ๙) จดั โตะ๊ สำหรบั พักพานพุ่ม จำนวน ๑ ตวั ตั้งไว้ทางดา้ นซา้ ยของโต๊ะหมู่บูชาหา่ งจาก โต๊ะหมู่บูชาประมาณ ๕ เมตร พักพานพุ่มไว้ พานพุ่มนี้จะเป็นคู่หรือเด่ียว จะเป็นพุ่มดอกไม้สด หรือดอกไมแ้ ห้ง หรอื พมุ่ ทอง พุม่ เงนิ กไ็ ด้ ๑๐) จัดเตรยี มเทียนชนวนไว้เพอื่ ส่งให้ประธานพิธจี ดุ เครื่องทองนอ้ ย ๑๑) จัดเตรียมแท่นกราบสำหรับประธานกราบหน้าโต๊ะหมู่บูชา หลังจากวางพุ่มดอกไม้ และจดุ เครอื่ งทองนอ้ ยแล้ว ๑๒) ถา้ มีพิธบี วงสรวงต้องมกี ารจัดเตรียม และตงั้ เคร่อื งบวงสรวงดว้ ย คูม่ ือการปฏิบตั ิศาสนพธิ ีเบือ้ งตน้
74 ค่มู อื การปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บ้อื งตน้
75 แนวทางการปฏบิ ตั งิ าน ในการปฏิบัติหากมีหน่วยงานหรือบุคคลอ่ืนมีความประสงค์จะวางพุ่มดอกไม ้ ควรแนะนำให้หน่วยงานหรือบุคคลน้ัน วางก่อนที่ประธานจะเดินทางมาถึงบริเวณพิธี เมื่อใกล ้ จะถึงเวลาตามกำหนดการ ให้ผู้ร่วมพิธีถวายสักการะยืนเข้าแถวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยท่ีบริเวณ ด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชา เว้นระยะห่างพอสมควร ข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาว สวมหมวก ยืนด้านหน้า ส่วนผู้มีเกียรติทั่วไปแต่งกายชุดสากล หรือชุดสุภาพ ยืนเข้าแถว เม่ือประธาน เดินทางมาถึง ผู้ที่ไม่ได้ไปยืนเข้าแถว แต่น่ังอยู่ที่เก้าอ้ีให้ลุกขึ้นยืนต้อนรับและให้เกียรติผู้ทำหน้าท่ี ประธานพิธีด้วย ลำดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน ๑) เมื่อประธานมาถึงพธิ ี เรียนเชิญประธานจุดธูปเทียนบชู าพระรัตนตรยั ๒) เจ้าหน้าทอี่ าราธนาศีล ประธานและผ้รู ่วมพธิ ีรับศลี ๓) ในกรณีมีพิธีบวงสรวง ประธานพิธีถวายพุ่มดอกไม้สักการะ (ถ้ามีการถวาย พ่มุ ดอกไม้ ๒ พ่มุ ใหป้ ระธานวางพ่มุ ด้านขวาของประธานพิธกี ่อน แลว้ จงึ วางพุม่ ด้านซ้าย) แล้วจดุ เคร่ืองทองน้อยหน้าพระบรมรูป ๘ รัชกาล กราบถวายสักการะ ๑ ครั้ง (ไม่แบมือที่แท่นกราบ) ออกไปจุดธปู เทียนเครอ่ื งบวงสรวง (ดุริยางค์บรรเลงเพลงสาธุการ) ๔) เมื่อเสร็จพิธีบวงสรวง ประธานอ่านอาศิรวาทปฐมราชสดุดี จบ (ดุริยางค์บรรเลง เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ขณะนพ้ี ระสงฆเ์ จริญชัยมงคลคาถา) ๕) ประธานพิธถี วายพมุ่ ดอกไม้ และเปิดกรวยดอกไม้ ธปู เทยี นแพ ถวายสกั การะเบื้องหนา้ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบันและพระบรมฉายาลักษณ์ สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ีนาถ ถวายความเคารพ แลว้ ถอยออกมายนื เบอ้ื งหน้าผ้รู ่วมพธิ ี กล่าวนำถวายพระพรชัยมงคล จบ (ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนี้พระสงฆ์ เจรญิ ชัยมงคลคาถา) ๖) ในกรณีมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายพระราชกุศล เจ้าหน้าท่ีอาราธนา พระปรติ ร ๗) พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนต์ ๘) จบแลว้ ถวายภัตตาหาร พระสงฆฉ์ นั ภตั ตาหารเรียบรอ้ ยแลว้ ๙) ประธานพธิ ี และผรู้ ว่ มพิธี ประเคนจตุปจั จยั ไทยธรรม ๑๐) ประธานพธิ กี รวดน้ำ รับพร ๑๑) พระสงฆอ์ นุโมทนา ถวายอดเิ รก เสร็จพธิ ี ค่มู ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ ีเบ้อื งตน้
76 หมายเหตุ ๑) พระสงฆ์ในพิธใี ชพ้ ัดยศสมณศกั ด์ิ และถวายอดเิ รกทงั้ ๒ พระองค์ (พระสงฆท์ ี่ถวายอเิ รกได ้ จะต้องเป็นพระราชาคณะ และใช้พัดยศสมณศักดิ์ หรือพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจงั หวัด และเจา้ อาวาสพระอารามหลวงช้นั เอก ซงึ่ ถอื พดั เปลวเพลงิ และต้องตั้งพดั ยศ สมณศักดใิ์ นการถวายอดิเรก) ๒) ขณะประธานสงฆ์ถวายอดิเรก ประธานพิธีและผรู้ ่วมพิธลี ดมอื ลง ๓) เม่ือพระสงฆ์รูปท่ี ๒ รับ “ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง...” ประธานพิธีและผู้ร่วมพิธี พงึ ประนมมอื ขนึ้ เพื่อรับพรต่อ จนกว่าพระสงฆจ์ ะสวดจบบท ค่มู อื การปฏบิ ัติศาสนพธิ ีเบื้องตน้
77 วันปยิ มหาราช วันปิยมหาราช กาลอันเป็นอภิลักขิตสมัย คล้ายวันสวรรคตแห่งองค์พระบาทสมเด็จ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั ผ้ทู รงพระคุณอนั ประเสริฐ ซึ่งไดก้ ำหนดไว้ในวนั ที่ ๒๓ ตลุ าคมของทุกปี อันเป็นวันท่ีพสกนิกรชาวไทยแผ่นดินสยามน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทางราชการได้กำหนดให้วันน้ีเป็นวันสำคัญของชาติ เรียกว่า “วนั ปยิ มหาราช” หรือ “วนั ถวายบงั คมพระบรมรูปทรงม้า” สำหรับในส่วนกลาง เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในอภิลักขิตสมัยคล้ายวันสวรรคตในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หวั พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกจิ ๒ ประการ คอื ๑) เสดจ็ พระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาพระบรมราชานสุ าวรยี ์ ณ ลานพระราชวังดสุ ิต ๒) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดเป็นงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทักษิณานุประทานเป็นประจำทุกปี มีการสวดพระพุทธมนต์ ถวายพระธรรมเทศนา และ สดับปกรณ์ ในการน้ีนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน ๕๗ รูป เท่าพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งต้องนิมนต์พระสงฆ์วัดที่เก่ียวกับพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมอัฐิสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และพระบรมอัฐิ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นสำคัญ ส่วนนอกน้ันนิมนต ์ ตามลำดบั สมณศกั ด์จิ ากสูงลงมา งานพระราชพธิ นี จี้ ัดทพี่ ระที่นง่ั อมรินทรวินิจฉัย สำหรบั สว่ นราชการในภูมภิ าค หากจะจดั พธิ เี พื่อเป็นการนอ้ มรำลกึ ถึงพระมหากรุณาธิคณุ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวท ี ของประชาชนชาวไทยท่มี แี ด่พระองค์ท่าน ก็สามารถดำเนนิ กจิ กรรมต่าง ๆ ได้ แต่ผูท้ ำหนา้ ทพ่ี ิธีกร พึงทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่า มีการจัดกิจกรรมใดบ้าง มีพระสงฆ์หรือไม่ เพื่อจะได้จัดเตรียมงาน สถานท่ี และพธิ กี ารได้ถกู ต้องเหมาะสม การเตรยี มการ ๑) จดั เตรยี มโตะ๊ หมบู่ ชู า ๒ ชุด สำหรบั ต้งั เพ่อื บชู าพระรัตนตรัย จำนวน ๑ ชุด (ในกรณี มีพิธสี งฆ)์ สำหรบั ตั้งเพ่ือถวายเครอ่ื งสักการะหนา้ พระราชานุสาวรีย์ จำนวน ๑ ชุด ๒) ในกรณีไม่มีพระราชานุสาวรีย์ จะต้องจัดเตรียมพระบรมรูปหล่อ หรือพระบรม ฉายาลักษณ์ หรอื พระบรมสาทสิ ลักษณ์ เพอื่ ประดิษฐานในสถานที่จดั ทำพธิ ี ๓) จัดเตรียมเครื่องสักการะท่ีนำมาแสดงความเคารพบูชา ประกอบด้วยพวงดอกไม้ หรือพุ่มดอกไม้ และมีธรรมเนียมปฏิบัติว่า ถ้ามิใช่เป็นวันสวรรคตแห่งองค์พระบรมราชานุสาวรีย์ ควรสักการะด้วยพุ่มดอกไม้สด หรือพวงดอกไม้สด และไม่ใช้แถบแพรหรือผ้าผูกเป็นโบสีดำ เช่น วันท่ี ๖ เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ระลึกมหาจักรี แต่วันที่ ๒๓ ตุลาคม ถือเป็นวันสวรรคตแห่ง องค์พระบรมราชานุสาวรยี ์ ใหใ้ ช้แถบแพรหรือผา้ ผูกเป็นโบดำได ้ คูม่ ือการปฏิบตั ิศาสนพธิ ีเบื้องตน้
78 ๔) จัดเตรียมเครื่องบูชาพระรัตนตรัย (กรณีมีพิธีสงฆ์) จัดเตรียมเคร่ืองทองน้อย เพ่ือใหป้ ระธานจุดบชู าถวายสกั การะพระบรมราชานุสาวรยี ์ ๕) เตรียมการนิมนต์พระสงฆ์ (มพี ิธีสงฆ์) กรณีนีใ้ ชพ้ ัดรอง หรือตาลปัตร ๖) จัดเตรยี มเครอื่ งใชพ้ ิธสี งฆ์ (งานพิธีอวมงคล) ๗) จัดเตรียมขาหยั่ง (ควรให้มีความสูงจากยอดพวงดอกไม้ถึงพ้ืนประมาณ ๒ เมตร, ๓ เมตร, ๔ เมตร แตไ่ ม่ควรเกนิ ๖ เมตร) หมายเหตุ ๑. โต๊ะหมู่ประดิษฐานบรมรปู หรือพระบรมฉายาลกั ษณ์พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู วั รชั กาลท่ี ๕ คมู่ อื การปฏิบตั ิศาสนพิธเี บ้ืองตน้
79 แนวทางการปฏิบตั งิ าน ในการปฏิบัติ หากมีหน่วยงานหรือบุคคลอ่ืนมีความประสงค์จะวางพุ่มดอกไม้ ควรแนะนำให้หน่วยงานหรอื บคุ คลน้นั ๆ วางพุ่มดอกไม้หรอื พวงดอกไมก้ อ่ นทป่ี ระธานจะเดนิ ทาง มาถึงบริเวณพิธี เม่ือใกล้จะถึงเวลาตามกำหนดการ ให้ผู้ร่วมพิธีถวายสักการะยืนเข้าแถวให้เป็น ระเบียบเรียบร้อยท่ีบริเวณด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชา เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ เว้นระยะห่าง พอสมควร ข้าราชการแต่งเคร่ืองแบบปกติขาว สวมหมวกยืนด้านหน้า ส่วนผู้มีเกียรติท่ัวไป แต่งกายชุดสากล หรือชุดสุภาพ ยืนเข้าแถวด้านหลัง เมื่อประธานเดินทางมาถึงบริเวณพิธี ผทู้ ่ีไมไ่ ดย้ ืนเข้าแถว แต่นงั่ อยทู่ เี่ ก้าอใ้ี ห้ลกุ ขึน้ ยนื ต้อนรับและให้เกียรติผทู้ ำหน้าทปี่ ระธานพิธี ๑) เมื่อประธานมาถึงบริเวณพิธี เรียนเชิญประธานถวายสักการะวางพวงดอกไม้ ยงั ขาหย่งั ที่จดั เตรยี มไว้ และวางพุม่ ดอกไมย้ งั โต๊ะทจ่ี ดั เตรียมไว ้ ๒) จุดธปู เทยี นเครอื่ งทองน้อย (กราบที่แท่นกราบ ๑ คร้งั ไม่แบมือ) ยนื ขนึ้ ถอยออกมา ยืนด้านหน้าแถว ถวายความเคารพ (กรณีสวมหมวก แสดงความเคารพด้วยการวันทยหัตถ์ กรณไี ม่สวมหมวก ให้โค้งคำนับ พรอ้ มกนั ๑ ครัง้ ) ๓) เดินเข้าสู่สถานที่ประกอบพิธีสงฆ ์ ๔) จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรยั (กราบ ๓ ครงั้ ) ๕) กรณมี พี ระบรมรูป หรือพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทสิ ลักษณ์ ในสถานท่ี ประกอบพิธีสงฆ์ ให้จุดธปู เทยี นเครือ่ งทองนอ้ ย และกราบทแ่ี ท่นกราบ ๑ ครั้ง ไม่แบมือ ๖) เจา้ หน้าทอี่ าราธนาศลี ประธานและผรู้ ่วมพิธีรับศีล ๗) เจา้ หน้าทอี่ าราธนาพระปรติ ร ๘) พระสงฆ์สวดพระพทุ ธมนต์ จบแล้ว ๙) ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ๑๐) ประธานพธิ ี และผู้ร่วมพธิ ี ประเคนจตปุ จั จัยไทยธรรม ๑๑) เจา้ หน้าท่ลี าดผา้ รองโยง และลาดผา้ ภูษาโยง ๑๒) ประธานพิธี และผู้รว่ มพธิ ี ทอดผา้ ไตรบงั สกุ ลุ ๑๓) เม่ือทอดผา้ เสรจ็ เจา้ หนา้ ทเี่ ชอื่ มต่อแถบทองกับผ้าภษู าโยง ๑๔) พระสงฆ์พจิ ารณาผา้ บังสกุ ลุ ๑๕) ประธานกรวดน้ำ รบั พร ๑๖) พระสงฆอ์ นุโมทนา เสร็จพิธ ี คมู่ ือการปฏบิ ตั ิศาสนพธิ เี บือ้ งตน้
80 หมายเหต ุ ๑) ในพธิ ีน้ี พระสงฆ์ใช้พัดรองหรอื ตาลปัตร (ไมใ่ ชพ้ ดั ยศสมณศกั ด์ิ) ๒) งานพิธีท่ีมีลักษณะงานเช่นน้ี เช่น วันท่ี ๒๕ พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันท่ีระลึก รัชกาลที่ ๖ สำนักพระราชวัง ได้ออกหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนิน ทรงวางพวงมาลา ถวายราชสักการะที่พระบรมราชานสุ าวรีย์ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัว ทีส่ วนลมุ พนิ ี กรุงเทพมหานคร ข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาว หากส่วนราชการใดจะจัดพิธีถวายสักการะ หรือจัดพิธีสงฆ์ พึงจัดอนุโลมตามพิธีการท่ีจัดในวันปิยมหาราช ท้ังพิธีวางพวงดอกไม้ และ พิธบี ำเพ็ญกุศล คมู่ อื การปฏิบตั ิศาสนพธิ ีเบอ้ื งตน้
81 วันเฉลมิ พระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเม่ือเวียนมาบรรจบในแต่ละปี ปวงชนชาวไทยและชาวต่างประเทศท่ีอยู่ภายใต้พระบรม โพธิสมภารต่างก็ถือเป็นเรื่องที่ปลื้มปีติยินดี ในอันที่จะร่วมกันเฉลิมฉลองในวาระสำคัญเช่นนี้ เนื่องจาก ทรงเป็นท่ีเทิดทูนของไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ทั่วราชอาณาจักรไทย ซึ่งในการจัดงาน พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ได้มีการจัดให้เป็นไปตามพระราชประเพณีท้ังงานในส่วนที่เป็น พระราชพิธี รัฐพิธี ศาสนพิธี และงานเฉลิมฉลองอื่น ๆ ท้ังน้ี เพ่ือเป็นการแสดงออกซ่ึงความ จงรกั ภักดแี ละเทิดทนู ที่พสกนิกรมแี ดพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั สำหรับพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาในรัชกาลปัจจุบัน มีหมายกำหนดการพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา โดยสังเขปดงั น้ ี วันท่ี ๕ ธันวาคม เวลา ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐ นาฬิกา สำนักพระราชวัง จัดสถานท่ีให้ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ไดล้ งนามถวายพระพร ในพระบรมมหาราชวงั เวลา ๑๐ นาฬิกา ๓๐ นาที เป็นพิธีเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัย ประทับเหนือพระท่ีนั่งพุดตานกาญจน สงิ หาสน์ บนพระราชบลั ลังก์ ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉตั ร เวลา ๑๗ นาฬิกา เสด็จพระราชดำเนินไปยังมุขหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง บรรพชิตจีนนิกาย และบรรพชิตอนัมนิกาย ถวายพระพร ชัยมงคล แล้วเสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่พระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตน ปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย์ ทรงจุดธูป เทียนเครื่องนมัสการแล้ว ทรงจุดเทียนบูชาเทพยดานพเคราะห์ พระสงฆ์จากวัดราชประดิษฐ ์ สถิตมหาสมี าราม จำนวน ๕ รปู เจรญิ พระพุทธมนตน์ วัคคหายสุ มธมั ม์ เสด็จพระราชดำเนินจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เข้าสู่พระที่น่ังอมรินทร วินิจฉัย เพื่อทรงสถาปนาตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์ สมเด็จพระราชาคณะ รองสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ แลว้ พระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนต์ วันที่ ๖ ธนั วาคม เวลา ๑๐ นาฬิกา ๓๐ นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราชแล้ว เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังพระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนเคร่ืองนมัสการพระสงฆ์ถวายพรพระ จบ รับพระราชทานฉนั แล้ว สมเดจ็ พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนามงคลวิเสสกถา ๑ กณั ฑ์ คมู่ อื การปฏิบัติศาสนพธิ เี บอื้ งต้น
82 สำหรับการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ถ้าส่วนราชการหรือองค์กรต่าง ๆ จะจัด เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พึงจัดกำหนดการโดยอนุโลมตาม หมายกำหนดการของสำนักพระราชวัง ซ่ึงได้กำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรมเน่ืองในวันเฉลิม พระชนมพรรษาไว้ ๓ แบบ คือ แบบท่ี ๑ การลงนามถวายพระพรชยั มงคล แบบที่ ๒ การลงนามถวายพระพร และประชุมสดดุ ถี วายพระพรชัยมงคล แบบที่ ๓ การลงนามถวายพระพร และบำเพญ็ กศุ ลถวายพระราชกศุ ล การเตรยี มการ แบบท่ี ๑ การลงนามถวายพระพรชัยมงคล ๑) จัดแต่งห้องประชุมหรือหอ้ งโถง หรอื ศาลาประชาคม ตามความเหมาะสมของสถานท ่ี ๒) ตกแต่งประดับธงชาติ ติดแผงพระปรมาภิไธย ภปร. ตามประทีปโคมไฟ ตามระเบียบท่ีทางราชการกำหนดไว้ ๓) ภายในห้องประชุมหรือห้องโถง หรือเวที ตั้งโต๊ะหมู่ ๕ หรือ หมู่ ๗ หรือ หมู่ ๙ แล้วแต่ความสะดวกและเหมาะสม ประดับแจกันดอกไม้ พุ่มดอกไม้ อัญเชิญพระบรมรูป หรือ พระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ ประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ตัวกลาง แถวบน (ตัวสูงสุด) หรือประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ บนขาหย่ังก็ได้ แต่โต๊ะหมู่ตัวกลางแถวบน (ตัวสูงสุด) ไม่ควรวางส่ิงใด เสมือนประหน่ึงว่าพระบรมฉายาลักษณ์ หรือ พระบรมสาทิสลักษณป์ ระดษิ ฐานอย่บู นโตะ๊ หมูต่ วั สงู นนั้ ๔) ต้ังพานธูปเทียนแพและกรวยดอกไม้สดไว้บนโต๊ะหมู่ตัวกลางหรือตัวล่าง แถวกลาง ตามความเหมาะสม ๕) จัดโต๊ะพร้อมเก้าอี้สำหรับลงนามถวายพระพรไว้ส่วนใดส่วนหน่ึงของสถานที่ เพ่ือ ลงนามถวายพระพร ในที่น้ีเพื่อความเหมาะสมควรตั้งไว้ด้านซ้ายของโต๊ะหมู่ที่ประดิษฐาน พระบรมฉายาลกั ษณ์ หรอื พระบรมสาทิสลักษณ ์ ๖) จัดสมดุ พรอ้ มปากกาวางไวบ้ นโต๊ะ และควรมีเจ้าหน้าทรี่ บั รองกำกบั สมดุ ลงนามไว้ดว้ ย ๗) กำหนดเวลาลงนามถวายพระพรชัยมงคล ทางราชการสำนักพระราชวัง กำหนดไว้ ในหมายกำหนดการ เรมิ่ แต่เวลา ๙ นาฬกิ า ถงึ ๑๗ นาฬิกา แต่งกายเคร่ืองแบบปกติขาว พอ่ คา้ ประชาชน แต่งสากลนิยม หรือชุดสุภาพ ส่วนท้องถ่ินควรปฏิบัติตามกำหนดการสำนักพระราชวัง โดยอนโุ ลม คมู่ ือการปฏบิ ัติศาสนพธิ ีเบือ้ งต้น
83 การจดั เตรียมสถานทแ่ี บบท่ี ๑ แนวทางปฏิบตั ิงาน ๑) เมื่อถึงเวลาตามกำหนดการจัดเจ้าหน้าท่ีรับรองกำกับสมุดลงนามประจำที่โต๊ะ ลงนามถวายพระพรชัยมงคล ๒) ผ้มู าลงนามถวายพระพรชยั มงคล ลงนามในสมุดทจ่ี ัดไว้เรยี บร้อยแล้ว ๓) เดินไปยนื ณ เบอ้ื งหนา้ พระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ หรอื พระบรมสาทสิ ลกั ษณ ์ ๔) แสดงความเคารพพระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ เสรจ็ พิธี ค่มู ือการปฏิบัติศาสนพธิ ีเบื้องต้น
84 แบบที่ ๒ การลงนามถวายพระพรและชุมนมุ สดดุ ี ถวายพระพรชยั มงคล ๑) จดั แตง่ หอ้ งประชุม หรือหอ้ งโถง หรือศาลาประชาคม ตามความเหมาะสมของสถานที่ ๒) ตกแตง่ ประดับธงชาติ ติดแผงพระปรมาภไิ ธย ภปร. ตามประทปี โคมไฟตามระเบยี บ ที่ทางราชการกำหนดไว้ ๓) ภายในห้องประชุมหรือห้องโถง หรือเวที ต้ังโต๊ะหมู่ ๕ หรือ หมู่ ๗ หรือ หมู่ ๙ แล้วแต่ความสะดวกและความเหมาะสม ประดับแจกันดอกไม้ พุ่มดอกไม้ อัญเชิญพระบรมรูป พระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ ประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ตัวกลางแถวบน (ตัวสงู สุด) หรือประดษิ ฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทสิ ลักษณ์ บนขาหยั่งก็ได้ แตโ่ ตะ๊ หมู่ ตัวกลางแถวบน (ตัวสูงสุด) ไม่ควรวางส่งิ ใด เสมือนประหนงึ่ วา่ พระบรมฉายาลกั ษณ์ หรอื พระบรม สาทิสลกั ษณ์ประดิษฐานอยู่บนโต๊ะหมู่ตวั สงู น้ัน ๔) ตัง้ พานธูปเทียนแพและกรวยดอกไม้สดไว้บนโต๊ะหมตู่ วั กลางหรอื ตัวล่าง แถวกลาง ๕) จัดโต๊ะพร้อมเก้าอี้สำหรับลงนามถวายพระพรไว้ส่วนใดส่วนหน่ึงของสถานท่ี เพื่อ ลงนามถวายพระพร ในที่น้ีเพ่ือความเหมาะสมควร ตั้งไว้ด้านซ้ายของโต๊ะหมู่ที่ประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ ์ ๖) จดั สมุดพรอ้ มปากกาวางไวบ้ นโตะ๊ และควรมเี จา้ หนา้ ที่รับรองกำกับสมุดลงนามไวด้ ้วย ๗) กำหนดเวลาและมีชุมนุมสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล ในแบบ ๒ นี้ อนุโลมตามหมายกำหนดการของสำนักพระราชวัง กำหนดเสด็จพระราชดำเนินออกมหาสมาคม พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการเฝ้ากราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล เวลา ๑๐ นาฬิกา ๓๐ นาที การแต่งกายข้าราชการแต่งเคร่ืองแบบเต็มยศ ประชาชนแต่งสากลนิยม หรือชุดสุภาพ ส่วนท้องถน่ิ ควรปฏบิ ัตติ ามกำหนดการสำนกั พระราชวงั ๘) จดั เตรยี มคำประกาศถวายสดุดเี ฉลิมพระเกียรติให้ประธานพิธ ี “ข้าพระพุทธเจ้า นาย, นาง, นางสาว, ยศ......................................................................... ตำแหน่ง.......................................................ในนามของข้าราชการทุกฝ่าย ผู้มีเกียรติ ประชาราษฎร์ท้ังหลายในภูมิภาคน้ี ขอประกาศสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล ในมหามงคลสมัยเฉลมิ พระชนมพรรษาแห่งพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั อายนฺตุ โภนโฺ ต เทวสงฺฆาโย ขา้ แต่ฝูงเทพนิกร อมรพรหมมนิ ทร์ อมรนิ ทราธริ าช สคฺเค กาเม ซึ่งสถิตทิพยพิมานมาศ เมื่อสวรรค์ชั้นฉกามาพจร อีกทั้งเทพเจ้าอันมีมเหศวรศักดาเดช ซ่ึงสงิ สถติ อยขู่ อบเขตเขาจักรวาล และทั้งพระสยามเทวาธริ าช คูม่ ือการปฏบิ ตั ิศาสนพิธเี บ้อื งตน้
85 อนฺตลิกฺเข วิมาเน อีกทั้งอากาศพิมาน ภูมิเทวดา เป็นอาทิ ท้ังท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิฬุปักษ์ ท้าวกุเวรุราช อีกท้ังเทพยดาอันศักด์ิสิทธ์ิ ทรงมหิทธิอำนาจ เป็นต้นว่า พระสยาม เทวาธิราช พระเสอ้ื เมอื ง พระทรงเมือง พระหลักเมืองผเู้ รืองฤทธิ์ เทพยเจา้ อันสิงสถติ ทุกประเทศ เขตแควน้ แสนโกฏิ จักรวาลทวีปนอ้ ยใหญ่ ไตรโลกธาตุ จงตงั้ ทพิ ยโสตเสวนาการ สดบั ฟังประกาศ ของข้าพเจ้า ซ่ึงได้รับฉันทานุมัติจาก...........................................(ข้าราชการผู้มีเกียรติ ประชาชน ชาวจังหวัด...............................) บรรดาผู้ที่ได้มาประชุมพร้อมกันในมงคลเขตสถานท่ีนี้ ล้วนมี จิตโสมนัสปรารถนาถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณ อนั ประเสริฐ พระองค์ทรงเป็นพระประมุขของชาติ และทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก มีพระราช หฤทัยประกอบไปด้วย พระเมตตากรุณาอยู่เนืองนิตย์ ด้วยพระราชประสงค์จำนงหมายจะให้ ประชาชนทั้งหลายมีความเจรญิ ร่มเย็นเป็นสุขท่วั หนา้ เหล่าข้าราชการและประชาชนทั้งหลาย ระลึกพระคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร- มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร จึงพร้อมกันถวายพระพรชัยมงคลเพื่อถวายพระเกียรติ ในโอกาสอันเป็นมงคลสมัยเฉลิม พระชนมพรรษาในวาระน้ี ขออำนาจกุศลบุญราศีแห่งข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่ได้กระทำไว้ ท้ังอำนาจพระศรีรัตนตรัย และเทวาภินิหาร จงบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระเจริญพระชนมายุย่ังยืนด้วยร้อยพรรษา ปราศจากสรรพโรคาพยาธิภัยพิบัติ ขอให ้ พระองค์ทรงดำรงสริ ิรัชพิพฒั นาไพบลู ย์ พระบรมเดชานภุ าพแผไ่ พศาล ด้วยจตรุ พธิ พรทกุ ประการ จงประสทิ ธ ิ์ ชยตุ ภวํ ขอพระองคท์ รงพระเจริญด้วยราชฤทธ์ิ ชนะศัตรูหมรู่ า้ ยทวั่ เมทนีดล ชยมงฺคลํ ชัยมงคลดังกล่าวน้ี จงมีแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหติ ลาธเิ บศรามาธบิ ดี จกั รนี ฤบดินทร สยามนิ ทราธิราช บรมนาถบพิตร ทุกประการเทอญ” คู่มือการปฏิบัติศาสนพธิ ีเบ้อื งตน้
86 การจดั เตรียมสถานท่ีแบบที่ ๒ แนวทางปฏิบตั ิงาน ๑) เมื่อถงึ เวลาผูร้ ว่ มพิธีมาประชมุ พร้อมกนั บรเิ วณพธิ ีแลว้ ๒) จะจัดให้นั่งเก้าอ้ี หรือยืนตามลำดับความเหมาะสม ข้าราชการแต่งเคร่ืองแบบ เตม็ ยศ อยดู่ า้ นหน้า ผมู้ ีเกยี รติ พอ่ ค้า คฤหบดี ประชาชนท่ไี ม่ได้แตง่ เครอื่ งแบบ ควรอย่ดู า้ นหลัง ผู้ทแี่ ตง่ เคร่ืองแบบเต็มยศ ๓) ประธานเข้าสู่ห้องประชุม เดินตรงไปยืนท่ีหน้าโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรม ฉายาลกั ษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ ์ ๔) เปดิ กรวยท่ีปิดกระทงดอกไมธ้ ูปเทยี นแพออกวางไว้ด้านข้าง ๕) ถอยออกมา ถวายความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ์ หรือพระบรมสาทสิ ลกั ษณ์ ๖) เจา้ หนา้ ทีส่ ่งคำประกาศสดุดเี ฉลิมพระเกยี รติถวายพระพรชยั มงคลให้ประธานพธิ ี ๗) ประธานพธิ อี ่านคำสดุดีเฉลมิ พระเกยี รติถวายพระพรชัยมงคล จบ ๘) ดุรยิ างคบ์ รรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบ ๙) ประธานพธิ ี และผรู้ ว่ มพธิ ีถวายความเคารพพร้อมกนั ๑๐) เสรจ็ พธิ ี คมู่ ือการปฏิบตั ศิ าสนพธิ ีเบ้ืองต้น
87 แบบท่ี ๓ การลงนามถวายพระพรชัยมงคลและบำเพญ็ กุล ถวายเปน็ พระราชกศุ ล ๑) จัดเตรียมตกแต่งสถานที่ ห้องประชุมหรือห้องโถง หรือศาลาประชาคม ตามความ เหมาะสมของสถานท ่ี ๒) ตกแต่งประดับธงชาติ ติดแผงพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ตามประทีปโคมไฟ ตามระเบียบทที่ างราชการกำหนดไว ้ ๓) จัดเตรียมอาสน์สงฆ์ สำหรับพระสงฆ์น่ัง ๑๐ รูป (อาสน์สงฆ์จะต้องสูงกว่าเก้าอี้ท่ี ประธานพิธี ข้าราชการ หรือผ้รู ่วมพิธีน่งั ถ้าจดั งานพธิ ตี อนเช้าควรจะเริม่ เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. ถา้ มกี ารถวายภตั ตาหารพระสงฆ์ จะต้องมกี ารจดั เตรียมสถานทไ่ี ว้ใหพ้ รอ้ ม) ๔) จัดเตรียมนิมนต์พระสงฆ์ไว้ก่อนวันงานพิธี (ให้หมายเหตุไว้ท้ายฎีกานิมนต์ใช้พัดยศ โปรดถงึ ก่อนเวลา) แจง้ พระสงฆ์ใหช้ ัดเจน ๕) จัดเตรยี มอปุ กรณเ์ คร่ืองใช้พิธบี ำเพ็ญกศุ ลในงานมงคล ๖) จดั เตรยี มเครือ่ งรับรองพระสงฆ ์ ๗) จัดเตรียมเครื่องไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ๘) จัดเตรียมโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระพุทธรูป จำนวน ๑ ชุด ต้ังไว้ที่หัวอาสน์สงฆ ์ พร้อมจัดแต่งดอกไมธ้ ูปเทียนใหพ้ รอ้ ม ๙) จัดตัง้ โตะ๊ หมู่ ๕ หรือ หมู่ ๗ หรอื หมู่ ๙ จำนวน ๑ ชุด แล้วแตค่ วามสะดวกและ ความเหมาะสม ประดับแจกันดอกไม้ พุ่มดอกไม้ อัญเชิญพระบรมรูป หรือพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ ประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ตัวกลางแถวบน (ตัวสูงสุด) หรือจะประดิษฐาน พระบรมฉายาลกั ษณ์ พระบรมสาทสิ ลกั ษณ์ บนขาหย่งั กไ็ ด้ แต่โตะ๊ หมู่ตวั กลางแถวบน (ตัวสงู สุด) ไม่ควรวางสิ่งใดเสมือนประหนึ่งว่าพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ประดิษฐาน อย่บู นโต๊ะหมูต่ วั สงู น้นั ๑๐) ต้งั พานธูปเทียนแพและกรวยดอกไม้สดไวบ้ นโต๊ะหมู่ตวั กลางหรอื ตวั ล่าง แถวกลาง แนวทางปฏบิ ัตงิ าน ๑) เมื่อข้าราชการ ผู้มีเกียรติ พร้อมกันยังมณฑลพิธี เจ้าหน้าท่ีรับรองเชิญข้าราชการ ผู้มีเกยี รติ นัง่ ตามลำดับช้ัน ตำแหน่ง ๒) เจ้าหนา้ ทพี่ ธิ ีจดั เตรียมพธิ กี ารต่าง ๆ ให้เรยี บร้อยพร้อมทีจ่ ะปฏิบตั งิ าน ๓) ใกล้ถึงเวลาท่ีประธานจะเข้าสู่มณฑลพิธี เจ้าหน้าที่พิธีการนิมนต์พระสงฆ์ข้ึนนั่งยัง อาสนส์ งฆ์ ใหต้ ้งั พัดยศของพระสงฆ์แต่ละรูปไว้ทางดา้ นโต๊ะหมบู่ ูชา (หรือกอ่ นพระสงฆ์แตล่ ะรปู ) ๔) ประธานพิธีเดินเข้าสู่มณฑลพิธี ข้าราชการและผู้มีเกียรติทุกท่านท่ีน่ังรอรับประธานพิธี ลกุ ขึ้นยนื ด้วยความเคารพ เพ่ือเป็นการรับประธานพธิ ี คูม่ อื การปฏิบตั ิศาสนพิธีเบ้ืองต้น
88 ๕) ประธานพิธีตรงไปท่ีโต๊ะหมู่เคร่ืองบูชา จุดธูปเทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระรัตนตรัย กราบท่แี ทน่ กราบ ๓ ครง้ั ๖) ถวายความเคารพพระบรมฉายาลกั ษณ์ (คำนับ) ๗) นงั่ ยงั เกา้ อ้ปี ระธานที่จดั เตรยี มไว้ ๘) เจ้าหน้าทีอ่ าราธนาศลี ๙) ประธานพธิ ี และผู้มเี กยี รติประนมมอื รบั ศีลจบ ๑๐) ประธานพิธลี ุกจากที่นั่ง เดนิ ไปยงั โตะ๊ หมู่ท่ปี ระดษิ ฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ผู้มีเกยี รติ ทุกท่านยืนพร้อมกับประธานพิธี ๑๑) ประธานพิธีเปิดกรวยดอกไม้ธูปเทียนแพออกวางไว้ด้านข้างพานธูปเทียนแพ แล้ว ถอยหลังออกมาประมาณ ๑-๒ กา้ ว ๑๒) ประธานถวายความเคารพ (คำนับ) พระบรมฉายาลักษณ์ ผู้ร่วมพิธีทุกท่าน ถวายความเคารพพร้อมกบั ประธานพิธี ๑๓) ประธานพธิ ีอ่านคำสดดุ เี ฉลมิ พระเกียรตถิ วายพระพรชยั มงคล จบ ถวายความเคารพ พร้อมด้วยผู้ทีอ่ ยใู่ นพิธีทั้งหมด (ขณะนพี้ ระสงฆเ์ จริญชัยมงคลคาถา ดุรยิ างค์บรรเลงเพลงสรรเสรญิ พระบารมี จบ) ถวายความเคารพพร้อมกัน ๑๔) ประธานพธิ ีกลับไปน่งั ยังเกา้ อที้ ี่เดมิ ๑๕) (กรณมี ีการเจริญพระพทุ ธมนต)์ เจา้ หนา้ ทีอ่ าราธนาพระปรติ ร ๑๖) พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ (หากไม่มีการเจริญพระพุทธมนต์ ไม่ต้องอาราธนา พระปรติ ร เมื่อประธานพิธกี ลับมาน่งั ยงั เก้าอี้เรยี บร้อยแลว้ พระสงฆ์สวดถวายพรพระ จบ) ๑๗) ถวายภตั ตาหารแด่พระสงฆ์ เมือ่ พระสงฆ์ฉันภตั ตาหารเรยี บรอ้ ยแลว้ ๑๘) เจา้ หนา้ ทตี่ งั้ เครอ่ื งจตปุ ัจจัยไทยธรรมเบ้อื งหนา้ พระสงฆ ์ ๑๙) เชิญประธานพิธี และขา้ ราชการผู้ใหญถ่ วายจตุปัจจยั ไทยธรรมแลว้ กลับนั่งทเี่ ดิม ๒๐) พระสงฆต์ ง้ั พัดยศอนุโมทนา และถวายอดิเรกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ๒๑) ประธานพธิ กี รวดน้ำ รับพร ๒๒) ประธานพิธีลุกไปกราบท่ีแท่นกราบหน้าเครื่องนมัสการโต๊ะหมู่บูชาพระรัตนตรัย (ผูร้ ่วมพธิ ียืนพรอ้ มกับประธาน) ๒๓) ประธานพิธีเดินไปยังหน้าโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ ผู่ร่วมพิธีถวายความเคารพพร้อมกับ ประธาน ๒๔) เจ้าหนา้ ที่นมิ นตพ์ ระสงฆ์ลงจากอาสนส์ งฆ์ คู่มอื การปฏิบตั ิศาสนพธิ ีเบอ้ื งตน้
89 หมายเหต ุ ๑) พระสงฆ์ใช้พัดยศ ๒) ประธานสงฆ์ท่ีถวายอดิเรกจะต้องมีสมณศักดเ์ิ ปน็ พระราชาคณะหรือพระครูเจา้ คณะ จงั หวัด พระครูรองเจา้ คณะจงั หวัด พระครูเจา้ อาวาสพระอารามหลวงชัน้ เอก ซึ่งถอื พัดเปลวเพลิง เท่าน้ัน ๓) เม่ือประธานสงฆ์ถวายอดิเรกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประธานพิธีและ ผู้ร่วมพิธีลดมือลง จบคำถวายอดิเรกแล้ว เมื่อพระสงฆ์รูปที่ ๒ รับ “ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง...” จึงยกมือข้นึ ประนมไปจนจบ ๔) กำหนดการแตง่ กาย ข้าราชการแตง่ เครือ่ งแบบเตม็ ยศ ๕) หากเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระองค์ใด ให้ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระองค์นั้น เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ให้ประดิษฐาน พระบรมฉายาลกั ษณข์ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว เป็นตน้ ๖) วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พึงอนุโลม จัดพิธีตามน้ี แต่ประธานสงฆ์ถวายอดิเรก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ (ข้าราชการ แตง่ เคร่ืองแบบปกติขาว) ๗) วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พงึ อนุโลมจัดพิธีการตามน้ี แตไ่ ม่มีการถวายอดเิ รก (ข้าราชการแต่งเครือ่ งแบบปกตขิ าว) คู่มือการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ีเบอ้ื งตน้
90 การถวายผ้าพระกฐนิ พระราชทาน การถวายผ้ากฐินเป็นกาลทาน เนื่องจากพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ดำริถึงความยากลำบาก ของพระภิกษุ ๓๐ รูป ชาวเมืองไฐยยะ ท่ีเดินทางมายังพระเชตวันวิหาร ด้วยหวังจะเข้าเฝ้า พระผู้มีพระภาคเจา้ แต่เมอ่ื เดนิ ทางมายงั ไมถ่ ึงทป่ี ระทับของพระผมู้ ีพระภาคเจ้ากถ็ งึ กาลเขา้ พรรษา เสยี กอ่ น จงึ จำเปน็ ตอ้ งพกั จำพรรษา ณ เมอื งสาเกต คร้ันเมื่อออกพรรษาก็รบี เดินทางผา่ นโคลนตม ซ่ึงมีน้ำอยู่ในหลุมในบ่อทำให้จีวรเปรอะเปื้อนโคลนตม พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ให้ประชุมสงฆ์ และทรงอนุญาตให้ภิกษุรับผ้ากฐินเพ่ือนำไปตัดไตรจีวรได้เม่ือออกพรรษาแล้ว ด้วยทรงพิจารณา เห็นว่า “ก ินตฺถาโร จ นาเมส สพฺพพุทฺเธหิ อนุญฺ าโต คือ การกรานกฐินนี้พระพุทธเจ้า ทุกพระองค์ได้ทรงอนุญาตมา” ดังน้ัน การถวายผ้ากฐินจึงเป็นกาลทานตามพระวินัยปิฎกได้ กำหนดกาลไว้ คือ ตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซ่ึงเป็นงานบุญ ทีม่ ปี ีละครัง้ สำหรบั การถวายผา้ กฐินในปจั จุบนั ๑) พระกฐินหลวง คือ ผ้าพระกฐินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นเอกอัคร พุทธศาสนูปถัมภก เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินด้วยพระองค์เอง หรือทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ใหส้ มเด็จพระราชินี พระราชโอรส พระราชธดิ า พระบรมวงศานวุ งศ์ องคมนตรี หรือ บุคคลผ้หู นงึ่ ผใู้ ด เสด็จไป หรือ ไปถวายแทนพระองค์ตามหมายของสำนกั พระราชวงั ๒) พระกฐนิ พระราชทาน คอื ผ้าพระกฐินท่พี ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว พระราชทาน แก่กระทรวง ทบวง กรม องค์การ สโมสร สมาคม หรือเอกชนผู้มีเกียรติ ขอพระราชทานผ่าน กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม เพื่อนำไปถวายพระอารามหลวง ๓) กฐินท่ัวไปหรือกฐินราษฎร์ คือ ผ้ากฐินท่ีพุทธศาสนิกชนผู้มีศรัทธานำไปถวาย ณ วัดต่าง ๆ ท่ีไม่ใช่พระอารามหลวง พุทธศาสนิกชนกับทางวัดท่ีจะนำไปถวาย โดยการไปกราบ นมัสการกบั เจา้ อาวาสนนั้ วา่ “มีความประสงค์จะนำผ้ากฐินมาถวายพระสงฆจ์ ำพรรษา ณ อารามน้ี และสามารถกำหนดวนั ทจี่ ะนำผา้ กฐินมาถวายกบั ทางวดั ให้เรยี บรอ้ ย” พระอารามหลวง ๑๖ พระอาราม ท่ีสงวนไว้ไม่ให้มีการขอพระราชทานผ้าพระกฐิน มดี งั นี ้ ๑. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพมหานคร ๒. วัดอรณุ ราชวราราม กรงุ เทพมหานคร ๓. วดั ราชโอรสาราม กรุงเทพมหานคร ๔. วัดราชประดิษฐสถิตมหาสมี าราม กรุงเทพมหานคร ๕. วัดเบญจมบพติ รดสุ ติ วนาราม กรุงเทพมหานคร ๖. วดั บวรนิเวศวิหาร กรงุ เทพมหานคร ค่มู ือการปฏิบตั ิศาสนพธิ เี บ้ืองตน้
91 ๗. วัดราชบพธิ สถติ มหาสีมาราม กรงุ เทพมหานคร ๘. วัดสทุ ศั นเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ๙. วดั ราชาธิวาส กรงุ เทพมหานคร ๑๐. วัดมกุฏกษัตรยิ าราม กรงุ เทพมหานคร ๑๑. วัดเทพศริ นิ ทราวาส กรงุ เทพมหานคร ๑๒. วดั มหาธาตยุ วุ ราชรงั สฤษฎิ ์ กรุงเทพมหานคร ๑๓. วดั พระปฐมเจดยี ์ จังหวดั นครปฐม ๑๔. วดั นเิ วศธรรมประวัต ิ จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยา ๑๕. วดั สุวรรณดาราราม จังหวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ๑๖. วดั พระศรีรัตนมหาธาตุ จงั หวัดพิษณโุ ลก สำหรับในที่นี้จะกลา่ วถึงการจัดพธิ ีถวายผ้าพระกฐนิ พระราชทาน ซงึ่ ผทู้ ่ีขอรบั พระราชทาน สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติศาสนพิธีที่มีความเก่ียวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในข้นั ตอนแรกผู้ทม่ี คี วามประสงค์จะขอรับพระราชทานควรดำเนินการตามขัน้ ตอนต่าง ๆ ดังน้ี การจองกฐินพระราชทาน ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินไปถวายยังพระอารามหลวงใด ควรปฏิบตั ดิ ังนี ้ สว่ นกลาง ๑) กรมการศาสนาจัดทำประกาศกรมการศาสนา เรอื่ งการขอรับพระราชทานผ้าพระกฐิน แล้วแจ้งให้ส่วนราชการ กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ บริษัทห้างร้าน สมาคม มูลนิธิ และ เจา้ อาวาสพระอารามหลวง เพอื่ แจ้งกำหนดระยะเวลาทจี่ ะทำการถวายผา้ พระกฐนิ ๒) ในกรุงเทพมหานคร ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินสามารถแจ้งจองกฐิน พระราชทาน ไดด้ งั น้ ี กองศาสนปู ถมั ภ์ กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม โทร. ๐ ๒๔๒๒ ๘๘๐๒-๗ จองกบั พระอารามหลวงโดยตรง (และต้องแจ้งให้กรมการศาสนาทราบดว้ ย) ๓) กรมการศาสนาจะแจ้งกำหนดวันถวายผ้าพระกฐินพระราชทานให้ผู้ขอรับ พระราชทานทราบ เพือ่ จะไดป้ ระสานกำหนดวนั ถวายกบั ทางพระอารามหลวงตอ่ ไป ๔) ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินจะต้องทำหนังสือถึงอธิบดีกรมการศาสนา เพ่อื ขอรบั พระราชทานผ้าพระกฐนิ ๕) กรมการศาสนาทำหนังสือแจ้งการรับจองพระอารามหลวงท่ีผู้ขอรับพระราชทาน ผ้าพระกฐินจะนำผ้าพระกฐินพระราชทาน จำนวน ๑ ฉบับ และทำหนังสือนมัสการเจ้าอาวาส พระอารามหลวงทจี่ ะรับผา้ พระกฐนิ พระราชทาน จำนวน ๑ ฉบบั คูม่ อื การปฏิบตั ิศาสนพิธเี บอ้ื งต้น
92 ๖) เมื่อกรมการศาสนาจัดเตรียมเคร่ืองพระกฐินพระราชทานเรียบร้อยแล้ว จะทำ หนังสือแจ้งให้ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐิน ให้มารับผ้าพระกฐินและเคร่ืองพระกฐิน พระราชทานด้วยตนเอง ท่กี องศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เพ่ือนำไปถวาย ยังพระอารามหลวงท่ไี ดข้ อพระราชทานไว ้ สว่ นภูมภิ าค ๑) กรมการศาสนาจัดทำประกาศกรมการศาสนา เรื่องการขอรับพระราชทานผ้า พระกฐินแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ทราบกำหนดระยะเวลาท่ีจะทำการถวายผ้าพระกฐิน เพือ่ จะไดป้ ระกาศให้สว่ นราชการ รฐั วสิ าหกิจ บริษัท หา้ งร้าน สมาคม มูลนิธิ ฯลฯ ภายในจังหวัด ได้ทราบท่ัวกัน ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ และนมัสการให้เจ้าอาวาส พระอารามหลวงทราบ หรอื ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐนิ กับพระอารามหลวงโดยตรง ๒) ผทู้ ีจ่ ะขอรับพระราชทานผ้าพระกฐนิ สามารถจองกฐินพระราชทานได้ ดงั นี ้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดท่ีเป็นท่ีต้ังพระอารามที่จะขอพระราชทานผ้าพระกฐิน ไปถวาย (เมือ่ รับจองแล้ว ตอ้ งแจง้ ใหก้ รมการศาสนาทราบทนั ที) กองศาสนปู ถมั ภ์ กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม โทร. ๐ ๒๔๒๒ ๘๘๐๒-๗ จองกบั พระอารามโดยตรง (และตอ้ งแจ้งใหก้ รมการศาสนาทราบดว้ ย) ๓) กรมการศาสนาจะแจ้งกำหนดวันถวายผ้าพระกฐินพระราชทานให้ผู้ขอรับพระราชทานทราบ เพื่อประสานงานกบั ทางวดั กำหนดวันถวายผ้าพระกฐินพระราชทานตอ่ ไป ๔) เมื่อผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินได้จองพระอารามหลวง เพื่อขอรับพระราชทาน ผ้าพระกฐินควรดำเนนิ การ ดังน้ี ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินพระราชทาน ต้องทำหนังสือถึงวัฒนธรรมจังหวัด เพื่อแจง้ ใหก้ รมการศาสนาทราบ ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินพระราชทาน ต้องประสานงานกับเจ้าอาวาส พระอารามหลวง ทำหนังสอื ถงึ วัฒนธรรมจังหวัด เพื่อแจ้งใหก้ รมการศาสนาทราบ ผ้ขู อรบั พระราชทานผ้าพระกฐนิ พระราชทาน ตอ้ งทำหนังสอื แจง้ กรมการศาสนาทราบ ๕) กรมการศาสนามีหนังสือแจ้งการรับจองพระอารามหลวงที่ผู้ขอรับพระราชทาน ผา้ พระกฐนิ ทราบ จำนวน ๑ ฉบับ และทำหนงั สอื นมัสการให้เจ้าอาวาสพระอารามหลวงท่ผี ขู้ อรับ พระราชทานผา้ พระกฐินจอง เพือ่ ขอพระราชทานผ้าพระกฐนิ ไปถวาย จำนวน ๑ ฉบบั คู่มือการปฏิบตั ิศาสนพธิ เี บื้องต้น
93 ๖) เม่ือกรมการศาสนาจัดเตรียมเครื่องพระกฐินพระราชทานเรียบร้อยแล้ว จะทำ หนังสือสอบถามผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินว่า “มีความประสงค์จะรับเครื่องพระกฐิน พระราชทานท่ีกรมการศาสนาด้วยตนเอง หรือมีความประสงค์จะให้กรมการศาสนาจัดส่งไปยัง สำนกั งานวฒั นธรรมจงั หวัด ในจงั หวัดซึง่ เปน็ สถานทต่ี ้ังของพระอารามหลวงทไ่ี ดจ้ องไว”้ ๗) กรมการศาสนาทำหนังสือแจ้งผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐิน เพื่อให้ไปรับ เคร่ืองพระกฐินพระราชทานท่ีกรมการศาสนา หรือสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด แล้วแต่กรณ ี ตามความประสงค์ของผขู้ อรบั พระราชทาน การเตรียมการ ๑) การเตรียมสถานท่ีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานในพระอุโบสถ (ตามแผนผังการจัด สถานท่ี) ๒) จัดทำกำหนดการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน เพื่อให้มีความเรียบร้อยสวยงาม และสมพระเกียรต ิ ๓) จัดเตรียมโต๊ะหมู่บูชา ประดับแจกัน พุ่มดอกไม้ โต๊ะหมู่ตัวกลางสูงสุดประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โต๊ะหมู่ตัวกลางแถวกลางประดิษฐาน ผา้ พระกฐินพระราชทาน ถดั ลงมาตัวกลางแถวล่าง วางพานดอกไมธ้ ูปเทียนแพ (บนหลังธปู เทียนแพ มกี ระทงดอกไม้กรวยครอบ) ๔) ตรวจสอบเคร่อื งพระกฐนิ พระราชทานครบตามจำนวนท่กี รมการศาสนากำหนดไว ้ ๕) จดั เตรยี มเทยี นชนวน ทกี่ รวดน้ำ คำถวายผา้ พระกฐินพระราชทาน ๖) จดั เตรยี มพานสำหรับประดิษฐานผา้ พระกฐินพระราชทาน เบอื้ งหน้าพระบรมฉายาลักษณ ์ ๗) จัดเตรียมโต๊ะ พานแว่น และพาน ต้ังเบ้ืองหน้าพระสงฆ์รูปที่ ๒ สำหรับวางเทียน ปาติโมกข์ และตั้งพานแว่นฟ้า สำหรับให้ผู้ขอรับพระราชทานผ้าพระกฐินวางผ้าพระกฐิน พระราชทานถวายพระสงฆ์ ๘) จดั เตรยี มท่ีกรวดน้ำ เทยี นชนวน คู่มือการปฏบิ ัตศิ าสนพธิ เี บ้อื งต้น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214