Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore The Visionary

The Visionary

Published by kritiya.s, 2017-11-25 05:49:14

Description: The Visionary : ถอดรหัสกษัตริย์ผู้มองเห็นอนาคต

Search

Read the Text Version

คร้ังหนึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ กราบทูลถามในหลวงว่าท�ำไมทา่ นถงึ เลอื กทำ� การทดลองเฉพาะแตก่ ับท่ดี ินยากๆ เชน่ นี้ พระองค์ทรงตอบว่า “ดินยากๆ ดินมีปัญหาไม่มคี นท�ำกัน เราจึงต้องท�ำ ถา้ ทำ� ได้ก็จะมีประโยชน์” เพราะทรงรู้ว่าไมใ่ ช่ทุกคนจะเลอื กท่ียนื ได้ แต่ทุกคนสามารถเลอื กจะเปลี่ยนแปลงที่ยืนของตวั เอง ให้เป็นท่ีท่ีเหมาะจะใชช้ วี ิตได้ และเพ่ือประชาชนของพระองค์ ในหลวงทรงเลือกท่ีจะทุ่มเทกำ� ลงั ทงั้ รา่ งกายและความคดิ เพอ่ื ใหท้ กุ คนยนื อยบู่ นผนื ดนิ ของตนเองไดอ้ ย่างมคี วามสขุห้ามจำ�หน่าย 101



KEYS OF SUCCESS� ยอมรับเร่อื งรา้ ยทีเ่ ราเป็น แค่ยอมรับได้ ก็เทา่ กับเร่ิมแก้� การเล่ยี งปญั หาไมใ่ ช่ทางแก้ ถา้ เจออปุ สรรคปัญหา ควรทมุ่ เทแรงเพ่อื แกไ้ ข ไมใ่ ช่หลกี เล่ยี ง� เร่ิมต้นจากปญั หาทีย่ ากทส่ี ุด แก้เร่ืองยากได้ เรอ่ื งง่ายก็แคข่ ้ผี ง

06

คดิ ให้ใหญ่ มองให้เลก็

106 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

ห้ามจำ�หน่าย 107



กรงุ เทพฯ เปน็ มหานครทขี่ น้ึ ชอื่ วา่ เปน็ ทส่ี ดุ ของโลกในหลายๆ ดา้ น ใครบางคนบอกว่าท่ีน่ีเป็นเมืองที่มีอาหารอร่อยเป็นอันดับต้นๆของโลก ผลส�ำรวจจากบางแห่งก็เคยบอกไว้ว่าเมืองหลวงแห่งน้ีเป็นเมืองทน่ี กั ทอ่ งเที่ยวอยากจะแวะเวยี นมากันมากทีส่ ุด แต่หนึ่งใน ‘ท่ีสุด’ ท่ีคนกรุงเทพฯ สามารถสัมผัสและรับรู้ได้โดยท่ีไมต่ อ้ งใหใ้ ครมาบอก นั่นคอื กรงุ เทพมหานครเป็นเมืองท่รี ถติดสาหสั สดุ ๆถึงจะไม่ใชเ่ บอรห์ นง่ึ ของโลกแต่กพ็ ูดได้ว่าไม่เป็นรองใครแน่ๆ และปญั หาการจราจรอนั ตดิ ขดั ในกรงุ เทพฯ​ กห็ นกั หนว่ งจนในหลวงกท็ รงสัมผสั ได้ เม่ือปี 2514 ซึง่ เป็นปีทใ่ี นหลวงครองราชย์ครบ 25 ปี ทางรฐั บาลได้กราบทูลว่าอยากจะสร้างอนุสาวรีย์เฉลิมพระเกียรติถวาย แต่พระองค์ทรงปฏเิ สธกลบั มาว่าอยา่ เพ่งิ สร้างเลย ถ้าอยากจะให้ของขวัญกนั จริงๆ ขอเป็นถนนวงแหวนจะดีกว่าห้ามจำ�หน่าย 109



THINK BIG ปัญหาการจราจรเป็นปญั หาเชงิ โครงสรา้ ง มนั ไมใ่ ชว่ า่ การสรา้ งถนนเพมิ่ จะแกไ้ ขปญั หารถตดิ ไดท้ กุ ครงั้ แตต่ อ้ งผ่านการศึกษาแผนผังของเมืองเพ่ือวางระบบการจราจรให้เชื่อมต่อกันอย่างมปี ระสิทธภิ าพ จากหลายคร้ังที่ในหลวงทอดพระเนตรเห็นเส้นทางฟรีเวย์ระหว่างเสดจ็ ฯ เยอื นตา่ งประเทศทงั้ สหรฐั อเมรกิ าและยโุ รป ทรงเหน็ วา่ ทางฟรเี วยน์ ี้เปน็ เสน้ ทางทสี่ ะดวก และนา่ จะนำ� มาใชแ้ กไ้ ขปญั หาจราจรในกรงุ เทพฯ ได้เพราะยุคน้ันกรุงเทพฯ ก�ำลังเร่งพัฒนาทางหลวงสายหลักออกจากเมืองไปยังภูมิภาคต่างๆ เพ่ือน�ำความเจริญออกจากเมืองหลวง ขยายระบบเศรษฐกจิ ไปทว่ั ทงั้ ประเทศ ซงึ่ พระองคท์ รงเหน็ วา่ เมอื่ เมอื งขยายตวั มากขนึ้ก็ต้องมีปัญหาการจราจรติดขัดตามมาอย่างแน่นอน การสร้างเครือข่ายถนนแบบวงแหวนนี้จะสามารถรบั -กระจายรถ และยงั ชว่ ยลดการเดินทางผา่ นเขา้ สศู่ ูนย์กลางเมืองโดยไม่จำ� เป็น ถนนวงแหวนจึงเป็นหนึ่งในความฝันท่ีในหลวงทรงอยากจะท�ำให้ห้ามจำ�หน่าย 111

เป็นจรงิ มานาน คร้นั เม่ือโอกาสมาถงึ พระองค์กร็ บั สงั่ ให้สรา้ งโดยไม่รอชา้ แม้รัฐบาลในขณะน้ันจะยังไม่เข้าใจดีว่าถนนวงแหวนเป็นอย่างไร แต่ก็รับสนองพระราชดำ� ริและเรม่ิ ต้นโครงการถนนวงแหวนขึ้น ประกอบด้วย หน่งึ ถนนวงแหวนรอบใน หรือถนนรชั ดาภิเษก ทีส่ รา้ งขึน้ ดว้ ยการเชื่อมถนนหลายๆ สายที่มีอยู่เดิมเข้ากับถนนที่สร้างขึ้นใหม่ จนท้ังหมดต่อกันกลายเป็นวงแหวนรอบเมือง ท�ำหน้าที่กระจายรถไปสู่ส่วนต่างๆของเมอื งได้โดยไมต่ อ้ งเข้าส่กู ลางใจเมือง สอง ถนนวงแหวนรอบนอก หรือถนนกาญจนาภิเษก ที่สร้างขึ้นเพอื่ รองรบั การขยายตวั ของเมอื งในอนาคต ทำ� หนา้ ทเ่ี ชอ่ื มพน้ื ทปี่ รมิ ณฑลเข้าด้วยกัน ท้ังนนทบรุ ี ปทมุ ธานี สมทุ รปราการ รวมถงึ พระนครศรีอยุธยาท�ำให้รถราที่จะแล่นผ่านกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดข้างเคียงสามารถเดินทางออ้ มเมืองไปได้โดยไมต่ อ้ งตดั เข้าเมอื ง112 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

จะเห็นว่าเป้าหมายของถนนวงแหวนคือเพ่ือระบายปริมาณรถใหอ้ อกไปจากกลางใจเมอื ง ลดการเดนิ ทางเขา้ สศู่ นู ยก์ ลางเมอื ง ซงึ่ จะชว่ ยลดความวุ่นวายสับสนของการจราจรในเมืองไดด้ ที ีเดยี ว ในวันนั้น ในหลวงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างถนนวงแหวนรัชดาภิเษกขน้ึ กอ่ น แต่ทว่า ด้วยความเป็นเมกะโปรเจกต์ขนาดยักษ์ ท�ำให้กว่าตัวโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลาสร้างและเชื่อมต่อเป็นเวลากว่า 20 ปถี ึงจะแลว้ เสรจ็ห้ามจำ�หน่าย 113

START SMALL ในเมื่อโครงการที่ต้ังใจยังไม่เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานในขณะนี้แต่ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ กลับทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนก็หงุดหงิดจนเร่ิมไม่มีวินัยท�ำให้การจราจรแย่ลงในหลวงจงึ ทรงตอ้ งแกป้ ญั หาเรง่ ดว่ นเฉพาะหนา้ ไปกอ่ นในชว่ งแรก โดยเรมิ่จากพ้นื ท่ีใกล้ตัว ช่วงนั้น พระองค์ต้องเสด็จฯ ไปเยี่ยมอาการพระประชวรของสมเด็จย่าท่ีโรงพยาบาลศิริราช เม่ือทรงเห็นสภาพการจราจรที่ติดขัดรอบโรงพยาบาล จงึ โปรดใหส้ รา้ งถนนเลยี บทางรถไฟสายใตห้ รอื ถนนสทุ ธาวาสขน้ึ เพอื่ เชอ่ื มถนนอสิ รภาพเขา้ กบั ถนนจรญั สนทิ วงศแ์ ละระบายปรมิ าณรถออกจากถนนสองเส้นน้ี รวมถึงถนนพระราม 9 ทีถ่ งึ แม้จะเปน็ ย่านธุรกจิ และชมุ ชน แตต่ วัถนนหลักกลับไม่มีถนนสายรองและทางลัดที่จะมาแบ่งเบาการจราจรออกไปจากถนนสายหลักเลย จึงโปรดให้สร้างทางคู่ขนานโดยใช้ถนนท่ีมีอยู่แล้วคือถนนใต้ทางด่วนพระราม 9 และสร้างเป็นทางลัดทะลุตรอกซอกซอยให้ถึงกันเพ่ือลดความคับคั่ง ซึ่งโครงการน้ีสามารถก่อสร้างจน114 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

แลว้ เสร็จอย่างรวดเร็ว ได้ผลดี และยงั ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยอีกด้วย และในปี 2537 ระหว่างที่โครงการเล็กๆ ก�ำลังด�ำเนินการอยู่นั้นถนนวงแหวนรชั ดาภิเษกกแ็ ลว้ เสร็จ ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีเป็นถนนท่ีอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ และสะพานพระราม 8 ก็เป็นอีกสองโครงการท่ีเกิดจากการสงั เกตของในหลวงเมื่อครง้ั เสดจ็ ฯ ไปโรงพยาบาลศริ ิราช ทางคขู่ นานลอยฟา้ บรมราชชนนี สรา้ งขนึ้ เพอ่ื แกป้ ญั หารถทลี่ งจากสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าต้องมาพบกับรถจากแยกอรุณอมรินทร์ที่จะเปล่ียนช่องทางไปทางขวาเพื่อมุ่งหน้าไปพุทธมณฑล ท�ำให้เกิดจุดตัดท่ีคอ่ นขา้ งสบั สนไมเ่ ปน็ ระเบยี บ สง่ ผลใหก้ ารจราจรตดิ ขดั อยา่ งหนกั ในหลวงจึงมีด�ำริให้สร้างทางคู่ขนานยกระดับเพ่ือระบายรถให้ไปยังถนนบรม-ราชชนนีได้สะดวก ซ่งึ เม่อื สร้างเสร็จ เส้นทางนีก้ ็กลายเปน็ เสน้ ทางสำ� คัญทใ่ี ชร้ ะบายรถจากใจกลางเมอื งลงสภู่ าคใต้ ภาคตะวนั ตก รวมถงึ ภาคกลางตอนล่างและพ้ืนทีช่ านเมืองใกลเ้ คยี งมาจนถึงทกุ วันนี้ห้ามจำ�หน่าย 115

เช่นเดียวกับการสัญจรข้ามแม่น้�ำเจ้าพระยา ในหลวงทรงเห็นว่าการจราจรบนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้านับวันจะย่ิงติดขัดมากขึ้นเพราะจำ� นวนรถทขี่ า้ มแมน่ ำ้� เจา้ พระยามเี พมิ่ ขน้ึ เรอื่ ยๆ และคาดไดว้ า่ ในอนาคตคงหนักกว่านแี้ น่ แต่การจะขยายสะพานเดิมกด็ จู ะเป็นเร่ืองใหญ่ การสรา้ งสะพานแหง่ ใหม่ไปเลยอาจจะง่ายกวา่ สะพานพระราม 8 จงึ ถอื กำ� เนดิ ขน้ึ มา ซงึ่ นอกจากจะชว่ ยระบายรถแล้ว สะพานแห่งนี้ยังเช่ือมต่อกับโครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า จึงจะช่วยให้การเดินทางข้ามแม่น�้ำเจ้าพระยาเพื่อเข้าเมืองจากฝั่งตะวันตกสะดวกรวดเร็วข้ึนด้วย เมื่อรู้เป้าหมายของโครงการแล้วในหลวงจึงท�ำการหาตำ� แหนง่ เสน้ ทางทเ่ี หมาะสมทส่ี ดุ ลงมอื ขดี แนวถนนและสะพาน แลว้ สง่ ตอ่ใหก้ รงุ เทพมหานครไปดำ� เนนิ การ โดยโปรดใหส้ รา้ งเปน็ สะพานขงึ เนอ่ื งจากบริเวณที่สร้างสะพานน้ันแม่น้�ำมีความกว้างเพียง 300 เมตร ถ้ามีตอม่อสะพานจะท�ำใหก้ ารจราจรทางน้ำ� เกิดความไมส่ ะดวกได้116 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

จากโครงการทั้งหมดที่ได้เล่ามา ท้ังถนนพระราม 9 ทางคู่ขนานลอยฟา้ บรมราชชนนี สะพานพระราม 8 รวมไปถงึ วงแหวนรัชดาภิเษกนัน้ล้วนเป็นการแกไ้ ขปญั หาทที่ ำ� ให้ประชาชนในแต่ละพืน้ ท่ไี ดส้ ัญจรกันอยา่ งสะดวกข้นึ ลดระยะเวลาในการเดนิ ทางลง และบรรเทาความทุกข์จากการใชร้ ถใช้ถนนไดเ้ ป็นอย่างดี หากเปรียบกับหนังขบวนการห้าสีที่เราเคยดูกันตอนเด็ก แต่ละโครงการก็คงเป็นเหมือนนักรบแต่ละสีท่ีมีความสามารถและวิธีการในการจัดการสตั ว์ประหลาดท่แี ตกต่างกนั ออกไป แต่อย่างท่ีหลายคนรู้ นักรบห้าสีจะแข็งแกร่งท่ีสุดได้ก็ต่อเม่ือเอาห่นุ ยนต์ของแตล่ ะคนมารวมร่างกนั และนน่ั คอื สิ่งทใ่ี นหลวงคดิ ไว้ตงั้ แต่ตน้ห้ามจำ�หน่าย 117

SYNERGISE นกั รบคนสดุ ทา้ ยทจี่ ะมาทำ� ใหโ้ ครงขา่ ยการจราจรในฝนั ของในหลวงเสร็จสมบูรณ์คือวงแหวนกาญจนาภิเษก ถนนวงแหวนเส้นยาวท่ีสร้างขึ้นล้อมรอบกรุงเทพฯ เอาไว้ ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2521 จนมาแล้วเสรจ็ ในปี 2550 จากการรวมร่างเป็นโครงข่ายท่ีสมบูรณ์น้ี ท�ำให้การเดินทางของคนในกรุงเทพฯ ง่ายและสะดวกสบายย่ิงข้ึน หากเดินทางมาจากฝั่งตะวันตกเราก็สามารถเข้าเมืองได้ด้วยทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีเพอื่ มาใชว้ งแหวนรชั ดาภเิ ษก ถา้ ตอ้ งการทะลไุ ปทางฝง่ั ตะวนั ออกกส็ ามารถเปล่ียนจากวงแหวนรัชดาภิเษกมาใช้บริการของสะพานพระราม 8 แทนแล้วมุ่งสู่ถนนศรีอยุธยาและจตุรทิศ เพ่ือเข้าสู่ถนนพระราม 9 ท่ีสามารถว่งิ ยาวไปจนถึงรามคำ� แหงและลาดกระบงั ได้ แตถ่ า้ ไมอ่ ยากเขา้ เมอื ง เรากส็ ามารถใชบ้ รกิ ารวงแหวนกาญจนาภเิ ษกท่อี ยรู่ อบนอก ท�ำใหร้ ถในกรงุ เทพฯ แต่ละฝ่ังรวมไปถงึ รถจากจังหวดั อ่ืนๆสามารถข้ามไปอกี ฝ่งั ภมู ิภาคได้ โดยไมต่ อ้ งเดินทางเข้ามาในเมอื ง118 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

และส�ำหรับรถบรรทุกท่ีต้องขนส่งสินค้า สามารถใช้สะพานภูมิพลทเ่ี ชอื่ มตอ่ จากถนนวงแหวนอตุ สาหกรรม ทร่ี บั สง่ั ใหส้ รา้ งขนึ้ ในปี 2538 เปน็ถนนวงแหวนเสน้ ทส่ี ามสำ� หรบั การคมนาคมของรถขนสง่ ลำ� เลยี งโดยเฉพาะเพอ่ื เชอื่ มการขนสง่ ระหวา่ งเขตอตุ สาหกรรมในพระประแดง ปเู่ จา้ สมงิ พรายกบั ทา่ เรอื คลองเตยโดยตรง ไมต่ อ้ งวง่ิ ผา่ นเขา้ ไปในตวั เมอื งอนั หนาแนน่ เลย และทั้งหมดน้ีคือความฝันตลอด 40 กว่าปีของในหลวงท่ีกลายมาเป็นจริง แม้ว่าปัจจุบัน ปัญหาการจราจรในเมืองหลวงจะยังไม่หายไปโดยสมบรู ณ์ แต่โครงการท้ังหมดนี้กพ็ อจะช่วยให้คนกรงุ เทพฯ มคี ณุ ภาพชีวิตท่ดี กี วา่ เดมิ และยงั เป็นแนวทางทจี่ ะแก้ไขปญั หาที่มีใหด้ ยี ิง่ ขนึ้ ตอ่ ไปห้ามจำ�หน่าย 119



KEYS OF SUCCESS� คดิ การใหญ่ มองภาพรวม ให้รเู้ ป้าหมายท่แี ทจ้ ริงของสงิ่ ทีจ่ ะท�ำ� เร่มิ ใหเ้ ล็ก ค่อยๆ เริ่มจากสิ่งเลก็ ๆ ท่ีท�ำได้ แลว้ ค่อยขยายขอบเขตออกไป� เชอื่ มโยงทุกอยา่ งเขา้ ด้วยกัน แมจ้ ะท�ำแบบแยกสว่ นแต่กต็ ้องใหท้ กุ อย่างประกอบกนั ได้ เพื่อประสิทธภิ าพสูงสดุ ของงาน

07

ถา้ เชื่อม่นั ก็ไปกนั ให้สดุ ทาง

124 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

ห้ามจำ�หน่าย 125

ฝนเกดิ มาจากไหน? ในคาบวชิ าวทิ ยาศาสตรส์ มยั ประถม คณุ ครคู งเคยสอนเราวา่ ฝนนน้ัเกิดมาจากก้อนเมฆบนท้องฟ้า หรือถ้าจะพูดขยายความอีกนิด ฝนคือน้�ำท่ีเกิดจากการท่ีก้อนเมฆบนท้องฟ้าหลายๆ ก้อนมารวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ จนไอนำ้� เกดิ การควบแนน่ เป็นหยดน้ำ� และตกลงมาเปน็ ฝน แลว้ ถา้ เกดิ วา่ บนทอ้ งฟา้ ไมม่ เี มฆ หรอื มแี ตเ่ มฆทลี่ อยอยกู่ ระจดั กระจายล่ะ ฝนจะตกลงมาไดม้ ั้ย? ถ้าว่ากนั ตามหลกั การและเหตผุ ล คงจะไม่ไดแ้ น่ แตเ่ มือ่ หกสิบปีท่ีแลว้ มคี นสองคนทเ่ี ชือ่ ว่ามันเป็นไปได้ เม่ือปี 2498 ในหลวงเสด็จฯ ไปเยี่ยมเยียนราษฎรชาวอีสานท่ีตอนนน้ั ประสบปญั หาความแหง้ แลง้ อยา่ งหนกั เดนิ ทางผา่ นไปทไี่ หนกเ็ จอแตฝ่ ่นุ ฟ้งุ กระจาย ระหว่างทกี่ �ำลงั นั่งรถผ่านแยกกุฉนิ ารายณแ์ ละสหสั ขนั ธ์จงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ทา่ นกแ็ หงนหนา้ มองทอ้ งฟา้ พบวา่ บนนน้ั กม็ เี มฆลอยอยู่มาก แต่กลับไม่มีก้อนไหนแปรสภาพกลายเป็นฝนตกลงมาเลย เกิดเป็นค�ำถามที่เปลี่ยนความเชือ่ ของพวกเราไปตลอดกาล นน่ั คอื มนษุ ยอ์ ยา่ งเราจะสามารถเปลยี่ นเมฆเหลา่ นน้ั ใหก้ ลายเปน็ ฝนไดห้ รอื ไม่? ว่ากันตามตรง ฝนเป็นเร่ืองธรรมชาติ ในยุคนั้น ส่ิงเดียวที่มนุษย์ทำ� ไดเ้ พอ่ื ใหฝ้ นตกคอื การรอ รอใหฤ้ ดฝู นเวยี นกลบั มา รอใหเ้ มฆกอ่ ตวั และ126 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

รอใหฝ้ นกลนั่ เปน็ หยดนำ�้ รว่ งหลน่ ลงสผู่ นื ดนิ ทแี่ ผก่ วา้ งรอการมาถงึ ของฝน คำ� ถามทใ่ี นหลวงคดิ ดเู ป็นสิ่งทอ่ี ยู่เหนือธรรมชาติอยา่ งสน้ิ เชิง แต่ด้วยความตั้งใจนี้ เม่ือเสด็จฯ กลับถึงกรุงเทพฯ พระองค์จึงเริ่มเอางานวิจัยจากต่างประเทศมาศึกษาเพ่ือหาวิธีท�ำฝน และตามหาผู้เช่ียวชาญท่ีจะมาท�ำโครงการร่วมกัน ซึ่งในที่สุดท่านก็ได้พบกับคนท่ีจะท�ำให้โครงการน้ีเป็นจริงได้ น่ันคือ ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิ เทวกุล หัวหน้ากองวศิ วกรรม กรมการขา้ ว ซง่ึ มคี วามสามารถในการประดษิ ฐอ์ ปุ กรณม์ ากมายมีผลงานสร้างช่ือเป็นการประดิษฐ์ควายเหล็กหรือรถไถ และอุปกรณ์การเกษตรอกี มากมาย เมอื่ ทง้ั สองไดพ้ บกนั ในหลวงกเ็ ลา่ ไอเดยี พรอ้ มกบั มอบทงั้ เอกสารวิชาการและข้อมูลที่ท่านทรงจดบันทึกไว้ระหว่างท่ีเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทง้ั สภาพภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ สงิ่ แวดลอ้ ม ฤดกู าล ฯลฯ ให้ ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิเก็บไวใ้ ช้ศึกษา หลงั จาก ม.ร.ว.เทพฤทธต์ิ กลงเขา้ รว่ มโครงการ และใชเ้ วลาพจิ ารณาขอ้ มลู จากเอกสารทง้ั หมดอยสู่ องปเี ตม็ กไ็ ดข้ อ้ สรปุ ออกมาเปน็ สมมตฐิ านว่าฝนเกดิ จากปจั จยั ส�ำคญั สองอย่างด้วยกัน หน่ึง คอื ความช้นื สอง คือ อุณหภูมิห้ามจำ�หน่าย 127

หากเราจะสร้างฝน อย่างแรกที่เราต้องท�ำก็คือพยายามท�ำให้ความช้ืนบนท้องฟ้ามารวมกัน จากน้ันก็ท�ำความช้ืนน้ันให้เย็นจัดจนกลายสภาพเป็นเมฆ หากเราเอาสารที่จะท�ำให้เกิดปัจจัยท้ังสองอย่างไปโปรยบนท้องฟ้าก็น่าจะทำ� ให้ฝนตกลงมาได้ เมื่อได้สมมติฐานแล้ว ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิก็อยากจะเร่ิมต้นท�ำการทดลองทนั ที แตม่ อี กี หนง่ึ ปญั หาใหญท่ ยี่ งั ทำ� ใหก้ ารทดลองเรม่ิ ตน้ ขนึ้ ไมไ่ ด้ น่นั คอื ยังไมม่ นี ักบนิ ดว้ ยความอนั ตรายจงึ ไมม่ นี กั บนิ คนไหนยอมขนึ้ บนิ ให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์จึงตดั สินใจไปลงเรยี นขบั เคร่ืองบนิ เองเสียเลย ในการทดลองคร้ังแรกๆ ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิทดลองใช้เกลือเพ่ือรวบรวมความชน้ื และใชน้ ำ�้ แข็งแหง้ เพ่ือลดอุณหภูมิ แม้จะยงั ไม่มฝี นแต่ก็สามารถท�ำให้เมฆก่อตัวข้ึนได้แม้ท้องฟ้าจะโปร่ง เม่ือเห็นว่าพอจะมาถูกทาง ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิเลยทดลองใช้สารเคมีอื่นๆ อีก จากเดิมท่ีใช้แค่เกลือทะเล น้�ำทะเล และน�้ำแข็งแห้ง ก็มีการน�ำยูเรีย แคลเซียมคาร์ไบด์รวมถึงสารอ่ืนๆ ท่ีเราสามารถหากันได้ตามบ้านอย่างเช่น น้�ำร้อน ข้ีเถ้าแกลบ หรือแม้แต่คร้ังท่ีไปจังหวัดจันทบุรีแล้วไม่มีสารเคมี แกก็เคยเอาเหลา้ ขาวที่ชาวบา้ นตม้ มาผสมกบั น�้ำแขง็ บนิ ขึ้นไปโปรยบนทอ้ งฟา้ มาแลว้ แต่ไมว่ ่าจะท�ำอยา่ งไรฝนก็ยงั ไม่ตกสักที128 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

ย่ิงนานวัน ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิก็ดูจะย่ิงหมดหวัง หลายคร้ังก็โดนค่อนขอดจากนักวิทยาศาสตร์ในวงการท่ีพูดเป็นเสียงเดียวว่า “เทพฤทธ์ิไปท�ำอะไรก็ไม่รู้ บ้าๆ บอๆ ฝนเทียมอะไรจะไปท�ำได้ยังไง ฝนเป็นเรื่องธรรมชาติ” แต่ถึงอย่างนั้น ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ก็ยังท�ำการค้นคว้าอย่างหนักจนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้พบกับสารเคมีท่ีจุดประกายความหวังว่าการท�ำฝนเทียมจะเกดิ ขน้ึ ไดจ้ ริงๆ สารตัวน้นั คือแคลเซียมคลอไรด์ แคลเซียมคลอไรด์น้ันเป็นสารท่ีคิดยังไงก็ไม่น่าจะน�ำมาใช้สร้างฝนเทยี มไดเ้ ลย เพราะนอกจากหนา้ ทห่ี ลกั ทเี่ อาไวใ้ ชใ้ นอตุ สาหกรรมตา่ งๆทง้ั อาหารและยาแลว้ ยงั เปน็ สารทใ่ี นตา่ งประเทศนยิ มใชเ้ พอ่ื ละลายนำ้� แขง็หรือหิมะบนพื้นถนน ด้วยคณุ สมบัตดิ ูดซบั ความชื้น เหตุการณ์ท่ีจุดประกายไอเดียน้ีข้ึนมาคือตอนที่ในหลวงเสด็จฯกลับจากอ�ำเภอบ้านโป่งด้วยเฮลิคอปเตอร์ ตอนนั้นเส้นทางบินน้ันมีเมฆอยู่เป็นจ�ำนวนมาก จนอาจจะขัดขวางการบินได้ ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิซึ่งบินน�ำเสด็จอยู่จึงโปรยแคลเซียมคลอไรด์ร่วมกับน�้ำแข็งแห้ง เพื่อท�ำให้เมฆแยกออกจากกนั จนเปน็ เสน้ ทางโลง่ ไปตลอดทางจนถงึ พระตำ� หนกั จติ รลดารโหฐาน ในหลวงมองไปรอบลำ� เฮลคิ อปเตอรก์ เ็ หน็ วา่ ทงั้ สองดา้ นของเมฆห้ามจำ�หน่าย 129

ที่แยกออกจากกันน้ันใหญ่โตมองดูคล้ายก�ำแพงยักษ์ ครั้นเสด็จฯ ถึงพระตำ� หนกั จติ รลดาฯ กำ� แพงเมฆทง้ั สองดา้ นกเ็ รม่ิ เปดิ เขา้ หากนั ทำ� ใหเ้ กดิกระแสลมแรงจนเฮลิคอปเตอร์เกือบบินกลับฐานไม่ได้ และไม่นานนักบริเวณนั้นกเ็ กดิ ฝนตกหนกั ในหลวงจงึ ไดไ้ อเดยี วา่ นอกจากจะใชเ้ พอื่ ทำ� ลายเมฆแลว้ แคลเซยี มคลอไรดน์ า่ จะสร้างเมฆไดเ้ ชน่ กนั หลังเกิดฝนตกท่ีสวนจิตรลดา ในหลวง และ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ก็เร่ิมมัน่ ใจว่าจะสามารถสร้างฝนเทียมได้จรงิ แน่ จนกระท่งั ปี 2512 การทดลองอย่างเปน็ ทางการครงั้ แรกก็เกิดข้นึ ในปนี น้ั ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณแ์ จง้ เขา้ มาวา่ ทางกระทรวงมีเคร่ืองบินเล็กส�ำหรับโปรยยาฆ่าแมลงอยู่หลายล�ำ และอยากจะรื้อฟื้นโครงการฝนเทียมน้ีข้ึน จึงให้ ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ท�ำโครงการเสนอข้ึนมาพรอ้ มกบั ตั้งทีมปฏิบตั ิการเพื่อทดลองท�ำฝนอยา่ งเป็นทางการ พนื้ ที่แรกที่ทมี ปฏิบตั กิ ารนไ้ี ดอ้ อกสนามท�ำการทดลอง คอื บรเิ วณเขาใหญ่ อำ� เภอปากชอ่ ง นครราชสมี า โดยหลงั จากตรวจสอบสภาพอากาศโดยละเอียดแลว้ กไ็ ดก้ ำ� หนดวนั ท่จี ะข้ึนบินกันอย่างเป็นทางการ ในวันแห่งประวัติศาสตร์ ทุกอย่างเต็มไปด้วยความทุลักทุเลม.ร.ว.เทพฤทธพ์ิ บวา่ บนเครอ่ื งบนิ ไมม่ อี ปุ กรณส์ ำ� หรบั การทำ� ฝนเทยี มเลย130 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

จึงต้องโปรยน้�ำแข็งออกมาทางหน้าต่างเครื่องบิน ซ่ึงเม่ือเปิดหน้าต่างลมภายนอกกพ็ ดั กลบั เขา้ มาอยา่ งแรง จนทำ� ใหน้ ำ้� แขง็ แหง้ ลอยกลบั เขา้ มาในล�ำ และปลิวเข้าไปในหูของ ม.ร.ว.เทพฤทธ์ิ ท�ำให้แก้วหูไหม้จนพิการแต่ท่านกย็ ังกล้ันใจทนจนเสรจ็ ภารกจิ เม่ือท�ำทุกอย่างเท่าที่จะท�ำได้ไปแล้ว สิ่งท่ีต้องท�ำหลังจากนั้นก็มีเพยี งแค่การรอ หลังจากที่โปรยสารเคมีเสร็จไปไม่นาน ก้อนเมฆก็เริ่มขยายขนาดใหญ่ข้ึนเรื่อยๆ และรวมตัวกันหนาแน่นข้ึนจนกลายเป็นกลุ่มเมฆสีเทาเกอื บดำ� ภายใน 15-30 นาที และในที่สุด เม็ดฝนหยดแรกท่ีทุกคนรอคอยก็ร่วงลงมาจากทอ้ งฟา้ การรอคอยเกอื บ 14 ปสี มั ฤทธิผ์ ลในวันนี้ การทดลองเป็นไปตามแผนทว่ี างไวท้ กุ ประการ นบั เปน็ ฝนเทยี มชดุ แรกนบั จากวนั ทท่ี า่ นแหงนหนา้มองขึ้นไปยังท้องฟา้ ในวันนัน้ แม้การทดลองจะยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ข่าวการทดลองเร่ืองฝนน้ีก็ได้แพร่สะพัดออกไป ชาวนาในพ้ืนที่แห้งแล้งหลายแห่งเม่ือมีการถวายฎกี าเพอื่ ขอใหท้ ำ� ฝนในพน้ื ทขี่ องตน ในหลวงจงึ โปรดฯ ใหเ้ จา้ หนา้ ที่เดินทางไปทดลองท�ำฝนเพ่ิมเติมที่จังหวัดนครสวรรค์ ก็ปรากฏว่าได้ผลห้ามจำ�หน่าย 131



ฝนตกลงมาท่ีนาข้าว ทำ� อยสู่ ามวนั ก็เริ่มเห็นยอดข้าวโผล่ขึ้นมาเปน็ สีเขยี วแซมกับต้นน�้ำตาล และเมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดวันท้องทุ่งก็กลายเป็นสีเขียวท่วั พืน้ ท่ี ผ้คู นต่างเรียกฝนเทยี มนี้วา่ ฝนหลวง หลังจากทำ� ฝนหลวงจนได้ผลทช่ี ัดเจน ในหลวงก็ไดท้ ำ� การรวบรวมความรทู้ ัง้ หมด และสรปุ ขน้ั ตอนการทำ� ฝนหลวงออกมาเป็นคำ� สั้นๆ 4 ค�ำ คอื ก่อเมฆ เลี้ยงใหอ้ ว้ น โจมตี และเพม่ิ ฝน ก่อเมฆ นั้นก็ตรงตามช่ือ คือการก่อให้เกิดเมฆ เป็นการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อเร่งกระบวนการดูดซับความชื้นในอากาศให้กลายเป็นเม็ดน�้ำเร็วข้ึนกว่าปกติโดยการโปรยสารโซเดียมคลอไรด์จนเกิดกลุ่มเมฆจำ� นวนมาก ซงึ่ เมฆเหลา่ นจ้ี ะพัฒนาเป็นเมฆก้อนใหญใ่ นเวลาตอ่ มา เลย้ี งใหอ้ ว้ น คอื ไปเรง่ การเจรญิ เตบิ โตของเมฆเพอ่ื เรง่ การเพมิ่ ขนาดของเมฆและขนาดของเม็ดน�้ำในก้อนเมฆ ข้ันตอนนี้จะท�ำการโปรยแคลเซียมคลอไรด์ ซ่ึงจะดูดซับความชื้นและเม็ดน้�ำขนาดเล็กในก้อนเมฆให้กลายเป็นเมด็ น้�ำขนาดใหญจ่ นเมฆกอ่ ยอดไดส้ ูงขึ้น โจมตี เป็นการโปรยสารเคมีต่างๆ เพื่อเปล่ียนแปลงอุณหภูมิของเมฆ และเรง่ เมฆใหเ้ กดิ เปน็ เมด็ ฝน เมฆแตล่ ะชนดิ กจ็ ะมวี ธิ โี จมตที แี่ ตกต่างกัน สุดท้ายคือ เพิ่มฝน หลังจากผ่านสามข้ันตอนที่ผ่านมา เม่ือฝนใกล้จะตกหรือเริ่มตกแล้วก็จะท�ำการโปรยน้�ำแข็งแห้งเพื่อลดอุณหภูมิซึง่ เปน็ การเพ่ิมโอกาสการตกของฝนและเพม่ิ ปรมิ าณนำ้� ใหม้ ากข้นึ ดว้ ยห้ามจำ�หน่าย 133

และไม่นานนักข่าวความส�ำเร็จนี้ก็แพร่กระจายไปสู่ภายนอกหลายประเทศให้ความสนใจเข้ามาศึกษาดูงาน ในปี 2515 สิงคโปร์ได้ส่งตัวแทนเข้ามาขอถ่ายทอดความรู้ และการทดลองแสดงตัวอย่างท่ีแก่งกระจาน ทสี่ ามารถทำ� ใหฝ้ นตกได้ภายในเวลาไม่กน่ี าที กท็ ำ� ให้ผู้แทนจากสงิ คโปรต์ นื่ เตน้ มาก ทำ� ใหโ้ ครงการนโ้ี ดง่ ดงั ไปทว่ั โลก จนไทยไดร้ บั การยกย่องจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกให้เป็นศูนย์กลางการดัดแปรสภาพอากาศในภูมิภาคเขตร้อน จากวันนั้นในหลวงก็ยังทรงวิจัยและพัฒนาโครงการฝนหลวงน้ีอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพอ่ื รวมประสบการณใ์ หก้ ลายเปน็ ตำ� รา เพอื่ คนรนุ่ หลงั ไดใ้ ช้ศึกษาต่อไป จนในปี 2542 ในหลวงก็ทรงจดั ท�ำตำ� ราฝนหลวงพระราชทาน(หรอื The Royal Rainmaking Technology) และแผนภาพตำ� ราฝนหลวงพระราชทานขึ้น เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้แก่คนท่ัวไป แต่ในขณะเดียวกันก็ทรงมอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีท�ำเรื่องขอสิทธิบัตร เพ่ือมอบความส�ำเร็จทั้งหมดน้ีใหแ้ ก่คนไทยทั้งปวง จากความฝนั ทด่ี เู ปน็ ไปไมไ่ ด้ พระองคท์ รงพสิ จู นแ์ ลว้ วา่ มนั สามารถเกิดขน้ึ ได้จรงิ และกลายเป็นผลลัพธ์ทีย่ ิ่งใหญ่เกนิ กว่าท่ีต้งั ใจไว้ เพราะนอกจากจะช่วยให้คนไทยท้ังหมดผ่านพ้นวิกฤติไปดว้ ยกนั แล้ว ความรนู้ ้ียงั เป็นส่ิงทจี่ ะอยคู่ ูก่ ับโลกสบื ไป134 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย





KEYS OF SUCCESS� เช่อื มั่นในสิง่ ท่ที �ำ แมจ้ ะมีอะไรมาขดั ขวางแตข่ อใหเ้ ชอ่ื ในผลลัพธท์ ่ปี ลายทาง� ความพยายามอย่ทู ่ไี หน ความสำ� เร็จอยทู่ นี่ ั่น ค�ำพดู ทไี่ ดย้ ินจนเบ่อื แตย่ ังใช้ไดท้ ุกเม่อื ไมว่ ่าจะท�ำอะไรก็ตาม

08

มองหาศตั รูทแ่ี ท้จรงิ

140 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

ห้ามจำ�หน่าย 141

คณุ ชอบกนิ สตรอเบอร์รี่กนั หรือเปลา่ ? ถ้าย้อนเวลากลับไปเม่ือราว 50 ปีท่ีแล้ว ผลไม้สีแดงรสหวานชนิดนี้เรียกว่าเป็นผลไม้ล้�ำค่าราคาแพงที่ได้ชื่อว่าน�ำเข้าจากต่างประเทศดว้ ยความทส่ี ตรอเบอร์ร่ีไมม่ ปี ลกู ในเมืองไทย อยา่ วา่ แต่ผลใหญอ่ วบอว้ นอยา่ งทกุ วนั นี้เลย แม้แต่ผลเลก็ ๆ ผวิ สีไม่แดงมากยังมีราคาสูง ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ทุกวันน้ีสตรอเบอร์รี่หาได้ทุกมุมของซูเปอร์-มารเ์ กต็ ทง้ั ยงั มรี าคาไมส่ งู มาก และมหี ลายเกรดหลายขนาดใหเ้ ลอื กซอื้ หามารบั ประทาน แต่กว่าสตรอเบอร์ร่ีสีแดงเหล่านี้จะเดินทางมาอยู่บนชั้นวางให้เราจบั จา่ ยกนั นน้ั มนั ไดผ้ า่ นเรอ่ื งราวมามากมาย มนั ทำ� ใหย้ าเสพตดิ ชนดิ หนง่ึหายไปจากเมืองไทย มันได้พลิกชีวิตของชาวเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือและมันคือระบบการท�ำงานของทีมงานที่ขึ้นชื่อว่าครบเคร่ืองที่สุดทีมหน่ึงของไทย มนั คือเร่อื งราวของแบรนด์ทช่ี อื่ ว่า ‘โครงการหลวง’ จดุ เริม่ ตน้ คือเมื่อปี 2512142 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

มองหารากเน่า ปีน้ันในหลวงได้เสด็จฯ ไปเย่ียมราษฎรทางภาคเหนือ ระหว่างท่ีประทับบนเฮลิคอปเตอร์น้ันท่านก็ทรงเห็นภาพของดอกฝิ่นที่บานสะพร่ังปกคลุมไปทว่ั ดอย สมัยนั้น ชาวบ้านชาวเขานยิ มปลูกฝนิ่ กันอย่างแพร่หลาย ซง่ึ ส่งผลเสียมากมาย ไม่ใช่แค่เพราะฝิ่นเป็นยาเสพติดเท่าน้ัน แต่การปลูกฝิ่นเป็นการท�ำลายดินและป่าต้นน�้ำไปด้วยในตัว ด้วยวิธีการแบบท�ำไร่เลื่อนลอยท่ีต้องตัดไม้ในป่ามาเผาท้ิง เพื่อท�ำเป็นไร่ฝิ่น เมื่อใช้ไร่เดิมซ้�ำไป 4-5 ปี คุณภาพดนิ ก็เสยี ชาวบ้านก็ท้ิงที่ดนิ ตรงนน้ั ไปหาป่าใหม่ๆ ท่ีดนิยังดมี าตัดไมท้ �ำไรฝ่ ิน่ ซ้ำ� อกี เปน็ วฏั จกั ร ฝ่ิน เปน็ ยาเสพตดิ ทอ่ี ยคู่ ดู่ ินแดนขวานทองมานาน มีหลักฐานเป็นกฎหมายในสมยั พระเจา้ อทู่ อง ปฐมกษตั รยิ แ์ หง่ อาณาจกั รกรงุ ศรอี ยธุ ยาที่บัญญัติโทษไว้อย่างหนกั วา่ “ผู้สูบฝิ่น กินฝิ่น ขายฝิ่นน้ัน ให้ลงพระราชอาญาจง หนักหนาริบราชบาทว์ให้สิ้นเชิง ทเวนบกสามวัน ทเวนเรือสามวัน ให้จ�ำใส่คุกไว้จนกว่าจะอดได้ ถ้าอดได้แล้วเรียกเอาทานบน แก่มันญาติพ่ีน้องไว้แล้วจึงให้ปล่อยผสู้ ูบ ขาย กนิ ฝนิ่ ออกจากโทษ”ห้ามจำ�หน่าย 143

ผ่านมาหลายร้อยปี โทษเกี่ยวกับฝิ่นก็ยังคงรุนแรงอยู่เช่นเดิมแต่ไม่ว่าโทษจะหนักขนาดไหน ยาเสพติดอย่างฝิ่นก็ไม่เคยหมดไปจากสังคมไทยเสียที ดินแดนท่ีเป็นชัยภูมิฝิ่นขนาดใหญ่ตรงชายแดนไทย-เมียนมา-ลาวถกู เรยี กวา่ สามเหลย่ี มทองคำ� เพราะหลายคนคดิ วา่ ฝน่ิ เปน็ ของดปี ลกู แลว้ร่�ำรวยมหาศาล แต่แท้จริงคนท่ีรวยจากฝิ่นไม่ใช่ชาวบ้านชาวเขาที่ปลูกแต่เป็นพ่อค้ายาเสพติดผู้มีอิทธิพลต่างหาก จนในหลวงตรัสว่าท่ีตรงนี้ควรเรียกว่า สามเหลย่ี มแร้นแคน้ แทนจะเหมาะกว่า แล้วแบบนที้ �ำไมชาวบา้ นยังปลกู ฝน่ิ กนั อยอู่ กี ละ่ ? คำ� ตอบคือความสะดวก เพราะชาวบ้านรูจ้ ักฝิ่นเป็นอยา่ งดี รู้ว่าตอ้ งปลูกอยา่ งไร เมล็ดพนั ธ์ุก็มีพร้อม แถมพอเก็บเกี่ยวได้แล้วก็มีคนมารับซ้ือถึงท่ี ให้ราคาสม่�ำเสมอขณะท่พี ชื อนื่ ๆ น้ันปลูกไปก็ไมร่ จู้ ะขายอย่างไร หรือขายไดก้ ็อาจจะถกู กดราคา แถมยงั ตอ้ งแข่งกันผลติ กบั เกษตรกรในพื้นทล่ี มุ่ อกี ตา่ งหาก แม้จะผิดกฎหมาย แถมต้องปลูกแบบหลบๆ ซ่อนๆ และก็ไม่ได้144 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

ทำ� ใหฐ้ านะดีขึน้ สักเทา่ ไหร่ แต่ฝ่นิ ก็ปลกู ง่าย มคี นรบั ซ้ืออยู่ตลอด แปลวา่ทุกครั้งที่ชาวบา้ นตอ้ งการเงนิ ดว่ น ชาวบา้ นจะปลูกฝนิ่ เสมอ เมื่อพิจารณาดูจะเห็นว่า ต้นเหตุของปัญหาฝิ่นน้ีไม่ใช่พ่อค้ายาเสพตดิ ไมใ่ ช่ชาวบ้าน ไมใ่ ช่คนเสพยา และไมใ่ ชต่ ้นฝิน่ ท่บี านสะพร่งั แตค่ อื ความยากจนต่างหาก ดังน้ันแล้วหากจะแก้ปัญหาน้ีให้ได้ก็คงจะต้องขุดลงไปให้ถึงรากของปัญหา น่นั คอื ความอดอยากทท่ี �ำให้ชาวบ้านตอ้ งปลูกฝนิ่ ประทงั ชีวิต ในหลวงจึงทรงใช้วิธีการย้อนรอยฝิ่น น่ันคือ ให้ชาวบ้านลองปลูกพืชอื่น แต่มีข้ันตอนเหมือนกับการปลูกฝิ่น ทั้งเมล็ดพันธุ์ท่ีพร้อมปลูกสร้างแหล่งรับซื้อผลผลิตท่ีให้ราคาดี จนผลลัพธ์ท่ีได้นั้นคุ้มค่ากว่าการปลูกฝิ่นท่ีเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายหลายเท่า หากท�ำได้ปัญหาฝิ่นในเมืองไทยกค็ งหมดไปในที่สดุ นั่นคือจุดเร่ิมต้นของต้นแบบโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมในประเทศไทย ทช่ี อ่ื วา่ ‘โครงการหลวง’ห้ามจำ�หน่าย 145

โครงการหลวง ผลผลิตแรกที่พระองคท์ รงทดลองกับโครงการหลวงคือ ลกู ทอ้ เหตกุ ารณท์ จ่ี ดุ ประกายไอเดยี นมี้ าจากตอนทใ่ี นหลวงทอดพระเนตรเหน็ ตน้ ทอ้ พน้ื เมอื งยนื ตน้ ออกลกู ทอ้ เลก็ ๆ ทห่ี มบู่ า้ นชาวมง้ แหง่ หนง่ึ จงึ ตรสัถามชาวบ้านถึงราคาของลูกทอ้ ก็ได้คำ� ตอบวา่ ขายไดร้ าคาพอๆ กับฝิ่น พระองคจ์ งึ ทรงคิดว่าแคท่ ้อลกู เล็กๆ แค่นยี้ งั ขายไดร้ าคาพอกับฝ่ินถ้าปลูกได้ลูกใหญ่กว่านี้ราคาก็คงจะดีกว่าน้ีมาก และถ้ามีพืชผลท่ีขายได้ราคาดีกวา่ ฝนิ่ ชาวบา้ นก็นา่ จะพรอ้ มใจกนั เลกิ ปลกู ฝ่นิ แน่ๆ ในเวลานนั้ เปน็ ชว่ งทมี่ หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตรท์ ำ� การทดลองเพาะพนั ธท์ุ อ้ จากตา่ งประเทศอยพู่ อดี ในหลวงจงึ พระราชทานเงนิ สว่ นพระองค์เพ่ิมเติมอีก 200,000 บาท พระราชทานชื่อให้กับสวนท่ีท�ำการทดลองน้ีที่ดอยปุยว่า สวนสองแสน มีหน้าที่ทดลองหาพันธุ์พืชใหม่ๆ ให้ชาวเขาปลูกทดแทนฝิ่น พร้อมกันนั้นก็รวบรวมนักวิชาการด้านการเกษตรจาก3 มหาวทิ ยาลัย คอื เกษตรศาสตร์ เชยี งใหม่ และแมโ่ จ้ น�ำโดย ม.จ.ภศี เดชรัชนี เป็นทีมงานเฉพาะกิจเพื่อสร้างความเช่ือมั่นและความคุ้นเคยกับชาวเขา ซ่ึงการต้ังทีมใหม่ขึ้นอย่างน้ี ท�ำให้การท�ำงานคล่องตัวกว่างานราชการมากนัก146 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

หลงั จากในหลวงทรงเลา่ เรอ่ื งโครงการทเ่ี พงิ่ เรมิ่ นใ้ี หบ้ รรดาทตู านทุ ตูประเทศตา่ งๆ ฟงั หลายประเทศตา่ งยนื่ มอื มาชว่ ยเหลอื ทงั้ เรอ่ื งเงนิ ทนุ และเมลด็ พันธ์ุ แต่ประเทศทีเ่ ขา้ มามบี ทบาทมากทส่ี ดุ คือ ไต้หวนั ซงึ่ มลี ักษณะภูมิอากาศคล้ายคลึงกับบ้านเรา ที่แม้จะอยู่ในเขตร้อนแต่ก็ยังปลูกพืชเมืองหนาวบนภูเขาได้ ผู้เช่ียวชาญจากไต้หวันได้แจ้งอุณหภูมิบนดอยปุยนั้นไม่เย็นพอสำ� หรบั พชื เมอื งหนาว หลงั จากสำ� รวจพนื้ ทกี่ นั อยรู่ าวสองสปั ดาห์ เจา้ หนา้ ท่ีกพ็ บว่าดอยอ่างขางสามารถปลกู พชื เมืองหนาวได้ เพราะไปเจอวา่ บนน้นัมีต้นแอปเปิ้ลป่าและท้อต้นสูงใหญ่ซ่ึงเป็นพืชที่เติบโตในสภาพอากาศหนาวเย็นเติบโตอยู่ ‘สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง’ จึงถือก�ำเนิดขึ้นท่ีนี่ และเร่ิมท�ำการทดลองปลูกพืชมากมาย เช่น แอปเปิ้ล พลับ สาล่ี บ๊วย เอปริคอท พีชเกาลัด ฯลฯ ขณะเดยี วกนั ในหลวงและทมี ของ ม.จ.ภศี เดชกพ็ ยายามเขา้ ไปสรา้ งความเข้าใจและโน้มน้าวชาวบ้านให้หันมาปลูกพืชเมืองหนาวทดแทนฝิ่นกนั โดยพระองคไ์ มไ่ ดใ้ ชว้ ธิ กี ารบงั คบั ใหเ้ ลกิ เพราะทรงรวู้ า่ ชาวเขาปลกู ฝน่ิห้ามจำ�หน่าย 147

มาต้ังแต่บรรพบุรุษแล้ว แต่ทรงอธิบายให้ชาวเขาเห็นว่าฝิ่นนั้นต้องปลูกแบบหลบๆ ซอ่ นๆ เพราะผิดกฎหมาย ทำ� ไปก็ไมส่ บายใจ ถา้ ถูกค้นเจอก็หลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ ไหนจะลำ� บากครอบครวั อกี การปลกู พชื อน่ื ทโี่ ครงการหลวงทดลองนี้ ต่างกข็ ายได้เงินดีโดยไมต่ อ้ งกลวั เจา้ หนา้ ที่บ้านเมืองด้วย ดว้ ยเหตนุ ช้ี าวเขาหลายคนจงึ ตดั สนิ ใจทดลองปลกู พชื ทใี่ นหลวงทรงน�ำมาให้ ท้ังต้นกาแฟ ท่ีเป็นท่ีต้องการของตลาด ต้นมะเขือเทศท่ีข้ึนได้ดีในภมู อิ ากาศหนาวเยน็ และถวั่ แดงทเ่ี จรญิ เตบิ โตไดด้ ใี นชว่ งฤดกู าลเดยี วกนักับฝนิ่ ทำ� ให้เมือ่ ปลกู ถั่วแดงหลวงแลว้ ชาวบา้ นกจ็ ะปลูกฝิ่นไมไ่ ด้ พอหลังเก็บเกี่ยว ชาวบ้านกพ็ บวา่ ปลกู พันธพ์ุ ชื พระราชทานแล้วสะดวกสบายกว่าปลูกฝิ่นมากนัก ท�ำให้มีชาวบ้านอีกจ�ำนวนหน่ึงหันมาปลูกเมล็ดพันธุ์ของโครงการหลวงตาม ในปีแรกท่ีเร่ิมโครงการนั้นมีการพระราชทานให้ยืมพันธุ์ถ่ัวท้ังหมด2.5 ตัน ซึ่งปรากฏว่าประสบความส�ำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะปลูกง่าย148 T H E V I S I O N A R Y ห้ามจำ�หน่าย

ให้ผลผลิตดี จนปีต่อมาต้องสั่งซื้อถั่วเพิ่มจากเนเธอร์แลนด์ถึง 34 ตันเลยทเี ดยี ว และเมื่อได้ผลิตภัณฑ์ท่ีน่าสนใจแล้ว การจะย้อนรอยฝิ่นได้สำ� เรจ็ นนั้ ตอ้ งมกี ารวางแผนการตลาดใหช้ ดั เจนและทำ� อยา่ งครบวงจรห้ามจำ�หน่าย 149


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook