สหกิจศึกษา Cooperative Education 3) อาจารย์ท่ีปรึกษาสหกิจศึกษา/นิเทศงาน ออกนิเทศนักศึกษา สหกิจศึกษาอยา่ งนอ้ ย 2 ครง้ั ต่อนักศกึ ษา 1 คน หรือมากกวา่ ในกรณที นี่ ักศึกษามี ปัญหา การออกนเิ ทศควรจะไปหลังจากรบั (FM10-06), (FM10-07), (FM10-08) ไม่เกิน 1 สปั ดาห ์ อาจารย์ทป่ี รกึ ษาสหกิจศกึ ษา/นเิ ทศงาน ตรวจสอบคุณภาพงาน พร้อมท้ังบันทึกรายงานท่ีสถานประกอบการมอบหมาย (FM10-11) ให้คำาปรึกษา และช่วยแก้ไขปัญหาทางวชิ าการของนักศกึ ษา 4) อาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษา/นิเทศงาน ส่งแบบประเมินคืน สำานักงานโครงการสหกจิ ศกึ ษาหลังกลับจากนิเทศงาน ภายใน 1 สัปดาห์ 4.3 กิจกรรมหลังเสรจ็ การปฏิบัตงิ าน ณ สถานประกอบการ 4.3.1 เอกสารและกจิ กรรมหลังการปฏิบัตงิ าน 1) นักศึกษาส่งรายงานการปฏิบัติสหกิจศึกษา มายังสำานักงาน โครงการสหกจิ ศกึ ษา 2) เจ้าหน้าที่นิเทศงานสหกิจศึกษารวบรวมและจัดส่งคืน ให้สาขาวิชา โดยอาจารย์ท่ีปรึกษา สหกิจศึกษาและหัวหน้าสาขาวิชา โปรแกรมวชิ าจัดสัมมนาแลกเปลีย่ นประสบการณข์ องนักศึกษา ภายหลงั 1 สปั ดาห ์ หลงั จากปฏบิ ตั ิงาน 3) เจ้าหน้าที่นิเทศงานสหกิจศึกษารับแบบประเมินผลจาก พนกั งานที่ปรึกษา (FM10-12) แบบประเมินความพึงพอใจของสถานประกอบการ ต่อโครงการสหกิจศกึ ษา (FM10-14) หนังสอื ยินยอมให้เผยแพร ่ รายงานปฏบิ ัติงาน สหกิจศึกษา (FM10-15) แบบประเมินคณาจารย์นิเทศงานสหกิจศึกษาจากสถาน ประกอบการ (FM10-20) ซ่ึงนกั ศกึ ษาถอื กลับมาเอง โดยใส่ซองปดิ ผนึก 32
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education 4.3.2 การประเมินผลรายวชิ าสหกิจศึกษา 1) อาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษา ประเมินผลรายงานการปฏิบัติ งานสหกจิ ศึกษาในแบบฟอรม์ (FM10-13) 2) เจา้ หนา้ ทวี่ างแผนสหกจิ ศกึ ษารวบรวมคะแนนผลการประเมนิ (FM10-11), (FM10-12), (FM10-13) 3) เจ้าหน้าที่วางแผนสหกิจศึกษาตรวจสอบเข้าร่วมกิจกรรมของ นกั ศกึ ษา เชน่ การปฐมนเิ ทศ อบรม สมั มนา สมั ภาษณห์ ลงั การปฏบิ ตั งิ าน และกจิ กรรม สหกิจศกึ ษาท่กี ำาหนดไดโ้ ดยครบถว้ นรวบรวมเอกสารท้ังหมดใหส้ าขาวชิ าพิจารณา 4) อาจารย์ท่ีปรึกษาสหกิจศึกษาพิจารณาคะแนนโดยเป็นระบบ S (Satisfactory-ผา่ น) หรอื U (Unsatisfatory-ไม่ผา่ น) สนแศ ผงาห่าผกึักนนษนกศทกจิาึกกะาใศงษหเรกึาบาปก้ น ษียไรับมทานะหใผะแเหัวมาเลหกบนินะ5บันี5ผยวก)ห้า)ลนัดา ส วัผรแใอาหอลปหลขาาน ้คระาจจโาะณววดาาสเัชิดยระรมาาผดยกยขิน ล์ทำาโราทผปเรวี่ปนลโ่ีรปมชิ รดนิแการึกใยกกาึหกษโดารรปคษารมําบรสตณาวารแหาเชิสิหะกนมกาหากรินรริจรมรกะวกโศรวเบคิจาึบกมชิ รรศรษียากงวตึกรบกามาาวสษากรลมบร่งบางารสรรรนสระะวหวิาหงดมเดักมบารับลผิจแรียะงลคศลโบนดฯคึะก้วาัก บแษ รแมกานงาคจแรรกพนะง้ณลวาิจรผแัดวรทีาาลนสผแยรนี่ไหลณนปจวกั ิฯชงกยรศาผาิจงัากึ กลสแศยษรไหผึกวปาณนกิษไชยมกิจีทาางั ่ ี่ พิจารณา 33
สหกิจศึกษา Cooperative Education 34
สหกิจศึกษา Cooperative Education การเขียนรายงาน 5โครงงานสหกิจศกึ ษา 35
สหกิจศึกษา Cooperative Education 5. การเกสขยี หานรกรเขาจิ ยยีศงานึกนรษโคาารยงงงาานนสโหคกริจงศกึงษาาน การเขียนรายงานถือเป็นกจิ กรรมบงั คับของการปฏิบตั งิ านสหกิจศึกษา มี วัตถปุ ระสงค์เพอื่ ฝกึ ฝนทักษะการส่ือสาร (Communication Skill) ของนกั ศึกษา และเพอื่ จดั ทาำ ขอ้ มลู ทเี่ ปน็ ประโยชนส์ าำ หรบั สถานประกอบการ นกั ศกึ ษาจะตอ้ งของ รบั คาำ ปรกึ ษาจากพนกั งานทปี่ รกึ ษา เพอื่ กาำ หนดหวั ขอ้ รายงานทเ่ี หมาะสม โดยคาำ นงึ ถึงความต้องการของสถานประกอบการเป็นหลัก ตัวอย่างของรายงานสหกิจศึกษา ไดแ้ กผ่ ลงานวจิ ยั ทนี่ กั ศกึ ษาปฏบิ ตั ริ ายงานวชิ าการในหวั ขอ้ ทน่ี า่ สนใจการสรปุ ขอ้ มลู หรอื สถติ ิบางประการ การวิเคราะห์และการประเมินผลข้อมูลเป็นต้น ท้งั น้รี ายงาน ใหจ้ ัดทาำ เป็นรายบุคคลถงึ แมจ้ ะเปน็ เร่อื งเดียวกนั ในกรณที ่ีสถานประกอบการไมต่ อ้ งการรายงานในหัวขอ้ ข้างต้น นักศกึ ษา จะตอ้ งพจิ ารณาเรอื่ งทต่ี นสนใจและหยบิ ยกมาทำารายงาน โดยปรกึ ษากบั พนกั งานท่ี ปรกึ ษาเสยี กอ่ น ตวั อยา่ งหวั ขอ้ ทจี่ ะใชเ้ ขยี นรายงาน ไดแ้ ก ่ รายงานวชิ าการในหวั ขอ้ ที่ นา่ สนใจ รายงานการปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั มอบหมายหรอื แผนและวธิ กี ารปฏบิ ตั งิ านทจ่ี ะ ทาำ ใหบ้ รรลถุ งึ วตั ถปุ ระสงคข์ องการเรยี นรทู้ น่ี กั ศกึ ษาวางเปา้ หมายไวจ้ ากการปฏบิ ตั ิ งานสหกิจศกึ ษา (Learning Objectives) เม่อื กำาหนดหวั ข้อไดแ้ ล้วให้นกั ศกึ ษา จดั ทาำ โครงรา่ งของเนอ้ื หารายงานพอสงั เขปตามแบบแจง้ เค้าโครงร่างรายงานทงั้ นี ้ จะ ตอ้ งไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากพนกั งานทปี่ รกึ ษากอ่ น แลว้ จดั สง่ ใหส้ าำ นกั งานโครงการ สหกิจศกึ ษา ภายใน 3 สัปดาห์แรกของการปฏิบตั งิ าน 5.1 รปู แบบการเขยี นรายงานโครงงานสหกิจศึกษา (Co-op Report Format) รายงานสหกิจศึกษาเป็นรายงานทางวิชาการที่นักศึกษาจะต้องเขียนใน ระหวา่ งการปฏิบตั ิงาน ณ สถานประกอบการภายใต้การกาำ กบั ดแู ลของพนักงานท่ี 36
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education ปรึกษา การเขยี นรายงานสหกจิ ศึกษาท่ดี จี ะตอ้ งมีความถกู ต้อง ชัดเจนและมคี วาม สมบูรณ์ของเนื้อหาที่จะเสนอ รูปแบบและหัวข้อต่าง ๆ จะถูกกำาหนดไว้อย่างเป็น ระบบ ซ่ึงจะตอ้ งประกอบดว้ ย 5.1.1 ส่วนนาำ 1) ปกนอก 2) ปกใน 3) กิตติกรรมประกาศ 4) บทคัดยอ่ 5) สารบัญเรือ่ ง 6) สารบญั ตาราง 7) สารบญั รูป 5.2.2 สว่ นเนอื้ เร่ือง 1) บทท่ี 1 บทนาำ 1.1) สถานประกอบการ 1.1.1) ช่อื และทีต่ งั้ สถานประกอบการ 1.1.2) ลักษณะของสถานประกอบการ 1.1.3) รูปแบบการจัดองคก์ รและการบริหารงาน 1.1.4) ตาำ แหน่งและลกั ษณะงานสหกิจศกึ ษา 1.2) ความเป็นมาและความสำาคญั ของโครงงานสหกจิ ศกึ ษา 1.3) วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงานสหกจิ ศกึ ษา 1.4) ขอบเขตของโครงงานสหกิจศึกษา 1.5) ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รบั จากโครงงานสหกจิ ศกึ ษา 2) บทท ี่ 2 ทฤษฎที ี่เกยี่ วขอ้ งกบั โครงงานสหกิจศึกษา 3) บทที ่ 3 วิธีการดาำ เนนิ โครงงานสหกิจศึกษา 4) บทท ี่ 4 ผลการดำาเนินโครงงานสหกิจศกึ ษา 5) บทท ่ี 5 สรุปผล อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ โครงงานสหกจิ ศกึ ษา 37
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education 5.1) สรปุ ผล 5.21) สอรภปุ ปิ ผรลายผล 5.23) อข้อภเิปสรนาอยแผนละ 5.34) สข้อรปุเสผนลอกแานรปะฏบิ ัติงานสหกจิ ศกึ ษา 5 .2.3 ส่วน5ป.ร4ะ) กอสบรปุ ทผา้ ลยก ารปฏบิ ตั งิ านสหกิจศึกษา 5 .2.3 1ส)่ว นบปรรระณกอานบกุทรา้ มย ( เอกสารอา้ งองิ ) 12) บภารครณผนานวกุ ร(มท ่ีเ(กเอี่ยกวสขา้อรงอก้าับงงอาิงน) สหกิจศึกษาที่ไม่สามารถในไว้ ใ นบทท ี่ 1 ถึง 5 ไ2ด)้ ภาคผนวก (ที่เกี่ยวข้องกับงานสหกิจศึกษาที่ไม่สามารถในไว้ ใ นบทท ี่ 1 ถงึ 5 ไ3ด)้ ภาคผนวก FM10-07, FM10-08, FM10-15, FM10-21 ห มายเห3ต) ุ รภูปาแคบผบนอวกื่น FๆM อ1้า0ง-อ0ิง7จ, าFกMรา1ย0ว-0ิช8าโ, คFรMงง1า0น--1ท25า1,ง วFศิMว1ก0ร-ร2ม1 อหยม่าางยไเรหกต็ต ุ า มรูปในแสบ่วบนอขืน่ อ งๆเ นอ้ือา้ หงอางิขจอางกรราายยงวานชิ าสโหคกริจงงศาึกนษทาา งอวาศิ จวจกะรแรตมกต่าง กนั ไปตามอลยกั ่าษงณไระกก็ตาารมปใฏนบิส่วตั นงิ าขนอขงอเนงื้นอหกั ศาขกึ อษงารแาตยล่ งะาคนนสแหลกะิจสศถึกาษนาป รอะากจอจบะกแาตรก เตพ่าอ่ืง กใหนั ก้ ไาปรตเาขมยี ลนกัรษายณงะานกา สรหปกฏจิ บิ ศตั กึ งิ ษาานขขอองงนนกั กั ศศกึ กึ ษษาามแรี ตปู ล่ แะบคบนและเสปถน็ าบนรปรรทะดั กฐอาบนกเดายรี วเพกนัอ่ื ใจหึงก้ขาอรกเำาขหยี นดรากยางราจนัด สทหำารกูปจิ เศลกึ ่มษราาขยองงานกัขศอกึงสษหามกรีิจปู ศแึกบษบาแใหล้นะเักปศน็ ึกบษรารใทชดั้รฐูปาแนบเดบยีดวังกตนั่อ จไปึงขนอี้ กำาหนดการจัดทำารูปเล่มรายงานของสหกิจศึกษาให้นักศึกษาใช้รูปแบบดังต่อ ไ ปนี้ 1) จดั พมิ พ์บนขนาดกระดาษมาตรฐาน A4 80 แกรม สีขาวสุภาพ โดย อาจจะพิม1พ) ์ห จนัด้าพเดิมียพว์บ หนรขอื นสาอดงกหรนะา้ดกาไ็ษดม้ าตรฐาน A4 80 แกรม สขี าวสภุ าพ โดย อาจจะพิม2พ) ห์ จนดั า้ พเดมิ ียพวด์ หว้ ยรรอื ปู สแอบงหบนอกั้ากษไ็รดส้ ภุ าพ ขนาดโตเหมาะสม และอา่ นงา่ ย (Font T H Sarab2u) n จPดัSพKม ิ พขนด์ ว้ายดร 1ปู 6แ)บบอกั ษรสภุ าพ ขนาดโตเหมาะสม และอา่ นงา่ ย (Font TH Sarab3u) n จPัดSพK ิม ขพน์ในาดแ น1ว6ต)ั้งเป็นหลัก โดยอาจจะมีรูปภาพหรือตารางแสดงใน แนวนอนไ3ด) ้ต าจมัดคพวิมาพม์ใจนำาแเปนน็ วขตอ้ังงเปข็น้อมหูลทักจ่ี ะโดตย้อองนาจำาจเสะนมอีรูปภาพหรือตารางแสดงใน แ นวนอนไ4ด) ต้ ากมาครเววา้นมขจอำาบเปก็นรขะดอางขษ้อกมำาหูลทน่ีจดะใหต ้องนำาเสนอ 4) กขอารบเบว้นข 1อ.บ5 กนร้ิวะดาษกำาหนดให้ ขอบลบา่นง 11..50 นนิ้ววิ้ ขอบลซ่า้ งย 1.05 นว้ิ (สำาหรับเข้าเลม่ รายงาน) ขอบขซวา้ ยา 1.05 น้วิ (สาำ หรบั เข้าเล่มรายงาน) ขอบขวา 1.0 นว้ิ 38
สหกิจศึกษา Cooperative Education 5.2 เน้อื หาของรายงานโครงงานสหกิจศกึ ษา รายงานสหกิจศึกษากำาหนดเนื้อหาใน ส่วนเน้ือเร่ือง ของรายงานสหกิจ ศึกษาดังนี้ 5.2.1 บทนาำ 1) สถานประกอบการ ประกอบการด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับ สถานประกอบการ และงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย เช่น 1.1) ช่อื และท่ตี ้ังของสถานประกอบการ 1.2) ลกั ษณะของสถานประกอบการ ผลติ ภณั ฑ/์ ผลติ ผล หรอื การให้บรกิ ารหลกั ขององค์กร 1.3) รูปแบบการจัดองคก์ รและการบริหารงานขององค์กร 1.4) ตาำ แหนง่ และลกั ษณะของสหกจิ ศกึ ษา ทน่ี กั ศกึ ษาไดร้ บั มอบหมายให้รับผดิ ชอบ 2) ความเป็นมาและความสาำ คัญของโครงงานสหกิจศึกษา ที่มา ของโครงงานสหกิจศกึ ษา เหตุจงู ใจทท่ี ำาโครงงานสหกจิ ศกึ ษา 3) วัตถุประสงค์ของโครงงานสหกิจศึกษา โดยเขียนจุดมุ่งหมาย ท่ีนักศึกษาหรือพนักงานท่ีปรึกษาได้กาำ หนดไว้ว่าจะต้องให้สาำ เร็จภายในระยะเวลา ทก่ี าำ หนด โดยอาจจะจัดลำาดบั ความสาำ คัญของวตั ถปุ ระสงค์ทสี่ ำาคญั สดุ ไวก้ ่อน 4) ขอบเขตของโครงงานสหกจิ ศกึ ษา โดยเขยี น ขอ้ จาำ กดั ขอบเขต ของโครงงานสหกิจศกึ ษา เพ่ือควบคมุ ประเด็น เน้อื หา รายละเอยี ด ของโครงงาน สหกิจศึกษา ไมใ่ หก้ วา้ งเกนิ ไป 5) ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั จากโครงงานสหกจิ ศกึ ษา โดยเขยี น สงิ่ ท่คี าดว่าจะได้รับจากการจดั ทาำ โครงงานสหกิจศึกษา 5.2.2 ทฤษฎีที่เก่ียวข้องกับโครงงานสหกิจศึกษา อ้างอิงทฤษฎีหรือ บทความที่เกย่ี วข้องกบั โครงงานสหกิจศกึ ษา 5.2.3 วิธีการดำาเนินโครงงานสหกิจศึกษา อภิปรายขั้นตอนในโครงงาน สหกิจศึกษาท่ีได้รับมอบหมาย แสดงภาพ แผนภูมิหรือตารางท่ีจำาเป็นประกอบ 39
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education คำาอธิบาย แสดงการคำานวณหรือที่มาของสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ที่ขัดเจนถูก ต้องตามหลักวิชาการและง่ายต่อการเข้าใจ หากเป็นการปฏิบัติการในห้องปฏิบัติ การทดลองจะตอ้ งอธบิ ายเคร่อื งมือปฏบิ ตั กิ ารท่ใี ช้อยา่ งชดั เจน 5.2.4 ผลการดาำ เนนิ โครงงานสหกจิ ศกึ ษา แสดงภาพ แผนภมู ิ หรอื ตาราง ทไี่ ดจ้ ากการดาำ เนนิ งานโครงงานสหกจิ ศกึ ษา ตารางเปรยี บเทยี บผลการดาำ เนนิ โครง งานสหกิจศึกษาในแต่ละข้ันตอนการทำางาน หรือสิ่งท่ีได้จากการทดลอง ทดสอบ ขอ้ มลู ในแต่ละขั้นตอน 5.2.5 สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะโครงงานสหกจิ ศกึ ษา 1) สรปุ ผล รวบรวมและแสดงขอ้ มลู ทจ่ี ำาเปน็ สาำ หรบั การวเิ คราะห์ 2) อภปิ รายผล อธบิ ายผลการดำาเนนิ โครงงานสหกจิ ศกึ ษาจากที่ ไดด้ าำ เนนิ งาน 3) ขอ้ เสนอแนะ ใหค้ วามคิดเห็นเกี่ยวกับโครงงานสหกิจศึกษาที่ นกั ศึกษาได้รบั มอบหมาย 4) สรุปผลการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา สิ่งท่ีได้รับจากการปฏิบัติ งานสหกิจศึกษา ด้านการปฏบิ ตั ิงาน ด้านสงั คม ดา้ นความร้ทู างทฤษฎี 5.3 ตวั อย่างการเขียนรายงานโครงงานสหกจิ ศึกษา เพอ่ื การจดั ทาำ รายงานโครงงานสหกจิ ศกึ ษาของนกั ศกึ ษาเปน็ ไปดว้ ยความ เรียบร้อย โครงการสหกิจศึกษาจึงได้รวบรวมตัวอย่างการเขียนรายงานโครงงาน สหกจิ ศกึ ษาทผี่ า่ นมา เพอ่ื ประโยชนใ์ นการศกึ ษาและใชแ้ นวทางในการเขยี นรายงาน โครงงานสหกจิ ศึกษาต่อไป 40
สหกิจศึกษา Cooperative Education การลดของเสยี ในกระบวนการหล่อเหลก็ หล่อเหนยี ว FCD45 PART.CY/C # 4149 Reject reduction in ductile cast iron production process of part cy/c # 4149 (Th sarabun PSK 18 ตัวหนา) นายพรี ะพล ยาสงิ ห์ทอง (Th sarabun PSK 18 ตัวหนา) รายงานนเี้ ปน็ ส่วนหนง่ึ ของรายวิชาสหกจิ ศกิ ษา ตามหลกั สูตรปรญิ ญาวิศวกรรมศาสตรบัณฑติ สาขาวิชาวิศวกรรมโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ พ.ศ.2560 ลิขสทิ ธ์ขิ องคณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน (Th sarabun PSK 18 ตัวหนา) 41
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education การลดของเสยี ในกระบวนการหล่อเหล็กหลอ่ เหนยี ว FCD45 PART.CY/C # 4149 Reject reduction in ductile cast iron production process of part cy/c # 4149 (Th sarabunPSK 18 ตวั หน้า) นายพีระพล ยาสิงหท์ อง (Th sarabunPSK 18 ตัวหนา้ ) ปฎบิ ตั ิงาน ณ บริษทั นวโลหะไทย จากดั 1 หมู่ 9 ตาบลบ้านครวั อาเภอบ้านหมอ จงั หวดั สระบุรี 18270 (Th sarabunPSK 18 ตัวหน้า) 42
สห ิกจศึกษา Cooperative Education ัตวอ ่ยาง ัสนปก รายงาน Th sarabun PSK 16 ตัวปกติ 43 ณฐั วพฒุ ีระิ พ พลงษยาช์ สยัิงห ท อง การลดกาตราำลดหขนอทิงเสี่เกFียCใิดนDขก4ึ้นร5ะใบPนAวงRนาTกน.าCรหYห/ลลCอ อ่#เห4อ1ลล4็กูม9หลิเนอเียหมนยี ว วศ.บว.วศศิ.บว.วกศิ รวรกรมรโมลโลหหกกาารร พพ.ศ.ศ. 2.2565055
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education กติ ติกรรมประกาศ การท่ขี า พเจาไดมาปฏบิ ตั ิงานสหกจิ ศึกษา ณ บรษิ ัท นวโลหะไทย จาํ กดั ตง้ั แต วนั ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2559 ถึงวนั ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ขา พเจาไดร บั ความรูด าน การทํางาน การแกไขปญหา และประสบการณที่มีคามากมายในการทํางานรวมกับผูอื่น สําหรับรายงานวิชาสหกิจศึกษาฉบับนี้สําเร็จไดดวยดีจากความรวมมือและการสนับสนุน จากหลายฝา ย ดังน้ี 1. นายชาง ภาคภมู ิ อาํ ไพ วศิ วกรทีป่ รึกษา รวมถึงบคุ ลากรของ บรษิ ัท นวโลหะไทย จาํ กดั ทกุ ทา นทใ่ี หค วามรวมมือในการ ดาํ เนนิ งานเปน อยางดี และบุคลากรทานอนื่ ทข่ี า พเจาไมไดเอยนามท่ีไดใ หคาํ แนะนํา ขาพเจาใครขอขอบคุณ ผูมีพระคุณ ผูที่มีสวนเกี่ยวของทุกทานที่มี สวนรว มในการใหคําปรกึ ษาช้แี นะรวมถึงขอ มลู ตางๆ ที่เปนประโยชน ในการทํารายงาน ฉบับนี้จนเสร็จสมบูรณ ตลอดจนใหการดูแลและใหความรูความเขาใจเกี่ยวกับชีวิต ของการทํางานจริง ขาพเจาขอขอบพระคุณไว ณ ทน่ี ี้ นายพรี ะพล ยาสิงหทอง ผจู ดั ทาํ 44
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education บทคดั ยอ บรษิ ทั นวโลหะไทยจาํ กัด หรือ SNF เปน บริษัทในเครอื ซีเมนตไ ทย จัดตง้ั ข้ึนเมือ่ ป2521 เปนหน่ึงในผูผลิตเหล็กหลอรายใหญที่สุดของประเทศไทยที่มีเคร่ืองจักรทันสมัย และเทคโนโลยีกาวหนา เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมไทย เพ่ือรองรับกับ ปริมาณความตองการที่เพิ่มข้ึนของช้ินงานเหล็กหลอระดับคุณภาพนับแตน้ันมา บริษัทนวโลหะไทย จํากัด ไดเขามามีบทบาทและขยายตัวเพิ่มข้ึนในภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย โดยผลติ เหลก็ หลอ ทมี่ คี ณุ ภาพในปรมิ าณมากสาํ หรบั แตล ะอตุ สาหกรรมในป 2525 บรษิ ทั นวโลหะไทย จาํ กดั ไดเ รมิ่ ผลติ เสอื้ สบู ของเครอ่ื งยนต การเกษตร และชิน้ สว นยานยนตร เพอื่ ลดการนําเขา และในป 2545 บรษิ ทั นวโลหะไทย จํากัด ไดขยายการลงรวมกับ ไอชินทากาโอกะ จํากัด(ประเทศญ่ีปุน) ซ่ึงเช่ียวชาญ ในดานของการผลิตเหล็กหลอ เปนผูถือหุนรายใหญของบริษัท ทั้งน้ีก็เพ่ือเพิ่มศักยภาพ ในการบริหารและการผลติ ใหส ามารถตอบสนองความตอ งการของลูกคาไดสูงสดุ จากการไดเขาปฏิบัติงานตามโครงการสหกิจศึกษา ซ่ึงทางบริษัทฯ ไดจัดสงตัว เขาปฏบิ ัติงานในแผนกกระบวนการผลิตเหลก็ หลอ เหนยี ว ตาํ แหนง งานทนี่ ักศึกษาปฏิบตั ิ เปน ผูชว ยวิศวกรฝายผลติ เหล็กหลอเหนียว และไดร ับมอบหมายงานจากวิศวกรท่ีปรึกษา ใหศึกษาเก่ียวกับวิเคราะหหาสาเหตุของของเสียและดําเนินการปรับปรุงแกไขปญหา ตรวจสอบและประเมินผลการปรับปรุงแกไขปญหาและสรุปผลการปรับปรุงแกไขปญหา ในกระบวนการหลอเหล็กหลอเหนียว และ จากการศึกษาขอมูลและวิเคราะหหาสาเหตุ ของปญหาคือตําหนิ ยุบ บรเิ วณ Neck Riser และปญหาตาํ หนิแสลก จากการดําเนินการปรับปรุงแกไขกระบวนการหลอเพื่อลดของเสียที่เกิดขึ้น ในกระบวนการหลอพบวาเดิมจากกอนปรับปรุงช้ินงานมีของเสียเกิดข้ึน 9.11% และหลังจากการปรับปรุงแกไขในกระบวนการหลอพบวาทําใหลดตําหนิลงเหลือเพียง 3.5 % แบงเปนการทดลองทีเ่ กิดขึน้ คือ 1.ทําการ Modify Neck Riser Cavity. N,O ใหม สามารถลดของเสีย (%)จาก 9.11 เหลอื เพยี ง 6.8% 2.คืนสภาพบา ไสแ บบ ที่ PATTERN สามารถลดของเสยี (%)จาก 6.8% เหลอื เพยี ง 5.4% 3.ไมพ นสาร In Stream สามารถ ลดของเสยี (%)จาก 5.4% เหลอื เพยี ง 4.8% และ 4.ลดอณุ หภมู เิ ทสามารถลดของเสยี (%) จาก 4.8% เหลือเพยี ง 3.5% 45
สหกิจศึกษา Cooperative Education สารบญั หนา ก กิตตกิ รรมประกาศ ข บทคดั ยอ ค สารบญั จ สารบัญตาราง ฉ สารบญั รปู 1 บทที่ 1 บทนํา 1 1.1 สถานประกอบการ 4 1.2 ความเปน มาและความสาํ คญั 4 1.3 วตั ถุประสงคข องการดําเนินโครงการสหกจิ ศึกษา 4 1.4 ขอบเขตของโครงการสหกจิ ศกึ ษา 5 1.5 ประโยชนท ่คี าดวา จะไดร ับ 6 6 บทท่ี 2 ทฤษฎีที่เกยี่ วขอ ง 11 2.1 เหล็กหลอเหนียว 15 2.2 มาตรฐานของเหลก็ หลอ เหนียวและสว นประสมทางเคมี 27 2.3 การผสมเติมแมกนีเซยี มเพื่อผลิตเหล็กหลอแกรไฟตกลม 28 2.4 ทรายปน แบบหลอ 47 2.5 การตรวจสอบตําหนงิ านหลอ 48 53 บทท่ี 3 วธิ ีการดําเนนิ โครงการสหกจิ ศกึ ษา 54 3.1 ศกึ ษากระบวนการผลติ เหล็กหลอ เหนยี ว 55 3.2 วางแผนการปฏบิ ัตงิ านสหกจิ ศึกษา 3.3 วิเคราะหห าสาเหตขุ องตาํ หนทิ เี่ กดิ ขนึ้ 3.4 ดาํ เนินการทดลองปรบั ปรุงแกไ ขปญหาของเสีย 46
สหกิจศึกษา Cooperative Education สารบญั (ตอ) บทที่ 4 ผลการดําเนินงานโครงการสหกิจศกึ ษา 68 4.1 การเพ่ิมขน้ึ ของจานวนช้ินงานจากการหลอ 68 4.2 ผลการทดลองเทชิ้นงานและ ลกั ษณะช้ินงานหลังทดลอง 70 4.3 เปรยี บเทยี บตนทุนของเสยี กอนปรับปรงุ และหลงั ปรับปรงุ 77 79 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และขอเสนอแนะโครงงานสหกิจศกึ 81 5.1 สรุปผลการดาํ เนินงานสหกจิ ศกึ ษา 82 5.2 อภปิ รายผล 82 5.3 ปญหาดานการปฏิบัตงิ านสหกิจศึกษา 82 5.4 ขอเสนอแนะดานสหกจิ ศึกษา 85 5.5 สรุปขอ มูลการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา 86 บรรณานกุ รม ภาคผนวก 47
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education สารบญั ตาราง ตารางที่ 2.1 สว นผสมเคมขี องเหลก็ หลอชนิดตางๆ 7 ตารางที่ 2.2 International Standard Organization (ISO) R 945 12 ตารางท่ี 2.3 มาตรฐานอเมรกิ า (ASTM) A 536 – 70 12 ตารางที่ 2.4 มาตรฐานเยอรมัน ( DIN 1693 ) 13 ตารางที่ 2.5 มาตรฐานองั กฤษ BS 2789 ( 1961) 13 ตารางที่ 2.6 มาตรฐานญป่ี ุน JIS G 5502 (1961) 14 ตารางที่ 2.7 มาตรฐานประเทศไทย 14 ตารางที่ 2.8 มาตรฐานสหภาพโซเวยี ต GOST 7293 (70) 15 ตารางที่ 3.1 แสดงสวนผสมทางเคมขี องเหลก็ หลอ เหนียว 48 ตารางท่ี 3.2 แผนการปฏบิ ตั ิงานโครงการสหกิจศกึ ษา 53 ตารางที่ 3.3 ตารางผลโครงสรางจลุ ภาค 66 ตารางท่ี 4.1 การเปรยี บเทียบปรมิ าณของช้นิ งาน CY/C#4149 จากการหลอ 68 ตารางที่ 4.2 การเปรียบเทียบปริมาณของเสยี ท้ังหมด 69 ตารางท่ี 4.3 และลาํ ดบั การแกไ ขปญ หาของช้นิ งาน 75 ตารางผลโครงสรา งจลุ ภาค 48
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education สารบัญรูป รูปท่ี 1.1 บริษทั นวโลหะไทย จาํ กัด 1 รปู ที่ 1.2 แผนทแ่ี สดงทีต่ ง้ั บรษิ ัทนวโลหะไทย จาํ กัด 2 รปู ท่ี 1.3 แผนทีแ่ สดงที่ตงั้ บริษัทนวโลหะไทย จํากดั 3 รูปท่ี 2.1 ลักษณะการกระจายตวั ของกราไฟตท ่ปี รากฏใหเห็น ในเหลก็ หลอกราไฟตกลม 10 รูปท่ี 2.2 มาตรฐานเหลก็ หลอ เหนียวและ สวนประสมทางเคมี 11 รูปท่ี 2.3 เหล็กหลอเหนียวสีดาคอื แกรไฟตกลม ลอมรอบดว ยสีขาวคือเฟอรไรต สว นสีนา ตาลอมเทา เขม คือเพิรล ไลต 11 รูปท่ี 2.4 ความสัมพนั ธระหวางคารบอน, ซลิ ิคอนในเหล็กหลอเหนยี วทม่ี ีตอ ชิ้นงาน 19 รูปท่ี 2.5 เบา ทีใ่ ชใ นการผสมเติมแมกนีเซียมทเี่ รยี กวา sandwich process และ tundish ที่ใชค รอบเบา ผสมเตมิ แมกนเี ซยี ม 23 รูปท่ี 2.6 แผนภาพจาํ นวนนบั แกรไฟตเ พอ่ื ใชเ ปรยี บเทยี บนบั จานวนแกรไฟต ในโครงสรา ง จลุ ภาคเน้ือเหล็กหลอ จริง 27 รูปท่ี 2.7 แสดงลกั ษณะและองคป ระกอบของแบบหลอทราย 28 รปู ที่ 2.8 ลักษณะโพรงหดตัวในชิ้นงานสวนหนาทขี่ าดนา้ํ โลหะไหลปอ นเตมิ (ขวามือ ลกั ษณะการออกแบบงานหลอ casting design) 28 รปู ท่ี 2.9 ลักษณะโพรงหดตวั ในชนิ้ งานสวนหนาทีข่ าดน้าํ โลหะไหลปอนเติม(ขวามอื ลักษณะการออกแบบงานหลอ casting design) 31 รูปที่ 2.10 รลู นขนาดเล็กปอนเตมิ นํ้าโลหะใหช ิ้นงานทงั้ สส่ี ว น ปริมาณนาํ้ โลหะไมเ พยงพอจะปอ นเติมผานคอรลู น 31 รูปที่ 2.11 พืน้ ทห่ี นา ตดั gate เทา กบั หนา ดัดชนิ้ งานหลอทาํ ใหน ํา้ โลหะ ใน gate เกดิ การหดตวั ของตัวเอง 32 รปู ที่ 2.12 ต่ําอดั ทรายหลอนอยไปทาํ ใหผ นังโพรงแบบหลอ ขยบั เคล่ือนตัว หลังเทนาํ้ โลหะเต็มแบบหลอ เปนผลทาํ ใหเ กดิ ปญหาการไหล ปอนเติมน้าํ โลหะในสว นหนาของชืน้ งานหลอ 33 49
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education สารบัญรปู (ตอ ) รูปที่ 2.13 ผลจากทรายหลอ ผิวแบบรว งทาํ ใหเกิดชองวา งในแบบหลอ green sand 34 รูปที่ 2.14 ความลาดเอยี งดา นขา งกระสวน (backdraft) นอยไปทาํ ให ผนังทรายโพรงแบบหลอ ไมแ ข็งแรงจนเกดิ ทรายรวง 35 รูปท่ี 2.15 ผนังกระสวนสวนยื่นสงู มคี วามลาดเอยี งนอ ยไปทาํ ใหท รายรว ง 35 รูปท่ี 2.16 ตําอัดทรายหลอแนนไมเสมอกนั ทาํ ใหท รายหลอ รว งในหีบหลอขนาดใหญ 37 รูปที่ 2.17 น้าํ หนักทบั หบี หลอกระจายไมส ม่ําเสมอ 37 รูปที่ 2.18 ลักษณะความไมสมบรู ณผวิ หนาเนอ้ื โลหะจากสารแทรกฝง (Inclusions) 38 รปู ท่ี 2.19 กระสวน-กอนทรายมากไปทําใหเ กดิ คราบรอยยน(kish tracks) 39 รปู ที่ 2.20 ดัก slag ขาดประสิทธผิ ลทําใหต ะกรนั ตดิ ปนกับน้ําโลหะ แทรกฝงในสว นบนของ boss 40 รูปที่ 2.21 ผลจากกอ นทรายไสแ บบหลอหกั 41 รปู ท่ี 2.22 ผลจากการผงถา นหนิ (seacoal) หยาบผสมเตรยี มทรายหลอ 41 รปู ท่ี 2.23 ขอบทรายแบบหลอ แตกจากการท่ที รายหลอมคี วามแขง็ แรงต่าํ 42 รปู ท่ี 2.24 ทรายรว งคางในโพรงแบบหลอแลวแทรกฝง ในผิวหนาชิ้นงานหบี ลา (drag) 42 รูปท่ี 2.25 อลมู ิเนียมแทรกฝง ในเนื้อทองแดงผสมจากปนเปอ นระหวางการหลอม 44 รูปที่ 2.26 ออกไซดโลหะจากเบาเทติดปนนาํ้ โลหะเขาโพรงแบบ 44 รูปท่ี 2.27 การเทนาํ้ โลหะไมตอเน่ืองทําให slag ไหลตดิ ปน และถกู กกั นา้ํ โลหะลอยตัวข้นึ ดา นบนไมได 45 รูปท่ี 2.28 สิ่งสกปรกผนังเกาะเบาไหลติดปนกับน้ําโลหะกลายเปนสาร แทรกฝง ในเนื้อโลหะ 45 รปู ท่ี 2.29 ลวดเสริมความแข็งแรงกอนทรายไสแ บบแทรกในเนอื้ โลหะชิ้นงาน 46 รูปท่ี 2.30 กวาดslag ผิวหนานํา้ โลหะในเบา ไมด พี อ จึงตดิ ปนกบั นํา้ โลหะ เปนสแทรกฝงในช้นิ งาน 46 รูปที่ 3.1 วิธีการปฏิบตั ิงานสหกจิ ศึกษา 48 รูปที่ 3.2 Disa sand molding principle 49 รปู ท่ี 3.3 กระบวนการผลติ เหลก็ หลอ เหนยี ว 50 50
สหกิจศึกษา Cooperative Education สารบัญรปู (ตอ) รูปท่ี 3.4 กระบวนการผลิตเหลก็ หลอ เหนยี ว Line.M14 51 รปู ที่ 3.5 ระบบเบรก แบบคาลิปเปอรด สิ เบรก 51 รปู ท่ี 3.6 ระบบเบรก แบบคาลิปเปอรดสิ เบรก 52 รปู ที่ 3.7 ระบบเบรก แบบคาลปิ เปอรด ิสเบรก 52 รูปที่ 3.8 แผนผังแสดงวธิ กี ารวเิ คราะหหาสาเหตขุ องยบุ 54 55 บริเวณ Neck Riser และ Slag 55 รปู ท่ี 3.9 แสดงการคดั แยกชน้ิ งานทีม่ ีตาํ หนิไว 56 รปู ที่ 3.10 แสดง Lot. วนั /เดอื น/ป ที่ผลิต 57 รูปที่ 3.11 แสดง Pro.No ทผี่ ลิต 57 รปู ที่ 3.12 แสดงคดั แยกของเสีย 58 รูปที่ 3.13 แสดงลกั ษณะของของเสียจากกระบวนการหลอ 58 รปู ที่ 3.14 แสดงลักษณะของของเสยี จากกระบวนการหลอ 59 รปู ที่ 3.15 ตาํ หนิ Slag Inclusion 60 รูปท่ี 3.16 ตําหนิ Slag Inclusion วเิ คราะหตาํ หนิโดยใช SEM Analysis 60 รูปที่ 3.17 ใบรบั รองสว นผสมของสารอนิ น็อคคเู ลชั่น 61 รปู ท่ี 3.18 แสดงผลธาตุทที่ ําใหเกิดตาํ หนิ Slag Inclusion 61 62 วิเคราะหต าํ หนโิ ดยใช SEM Analysis 63 รปู ที่ 3.19 แสดงผลธาตทุ ี่ทําใหเกิดตําหนิ Slag Inclusion 63 64 วเิ คราะหต าํ หนิโดยใช SEM Analysis รูปที่ 3.20 ตาํ หนิ Slag Inclusion วิเคราะหต าํ หนโิ ดยใช SEM Analysis รูปท่ี 3.21 แสดงผลธาตทุ ที่ าํ ใหเ กดิ ตําหนิ Slag Inclusion วิเคราะหตําหนโิ ดยใช SEM Analysis รปู ท่ี 3.22 แสดงผลธาตุที่ทาํ ใหเ กดิ ตาํ หนิ Slag Inclusion วิเคราะหต ําหนโิ ดยใช SEM Analysis รปู ที่ 3.23 แสดงสรปุ ผลของเสียแตล ะวัน รปู ที่ 3.24 ลกั ษณะ Neck Riser (ซา ย) กอ นปรับปรุง (ขวา) หลงั ปรับปรงุ 51
สหกจิ ศึกษา 64 65 Cooperative Education 65 66 สารบญั รปู (ตอ) 67 67 รปู ท่ี 3.25 ลักษณะ บาไสแ บบ (ซา ย) กอนปรบั ปรงุ (ขวา) หลงั ปรบั ปรุง 69 รปู ที่ 3.26 ลกั ษณะ Neck Riser (ซาย) กอนปรับปรุง (ขวา) หลงั ปรับปรงุ 70 รูปที่ 3.27 แสดงไมพนสารIn steam Inoc#95 71 รูปที่ 3.28 แสดงผลโครงสรางจลุ ภาคหลงั ทาํ การทดลองไมพ น สาร 72 72 In steam Inoculation 73 รปู ท่ี 3.29 เฟสไดอะแกรม เหล็กหลอเทา ลดอุณหภมู ิเท จาก1420 – 1460 oC 74 74 ปรบั ปรงุ เหลือ.1390 – 1420 oc 75 รูปท่ี 3.30 ลักษณะ Neck Riser (ซาย) กอนปรับปรุง (ขวา) หลังปรับปรงุ รปู ท่ี 4.1 แผนภูมแิ สดงผลของเสียใน Line.ผลิต M.14 รูปที่ 4.2 แผนภูมิแสดงผลการทดลองสมมติฐาน A เปรียบเทียบกอนและหลงั การปรบั ปรุง รูปท่ี 4.3 แสดงลกั ษณะช้ินงานกอ นทดลอง (ซาย) และหลงั ทดลอง (ขวา) รปู ที่ 4.4 แผนภูมิแสดงผลการทดลองสมมตฐิ าน B เปรียบเทยี บกอนและหลงั การปรบั ปรุง รปู ที่ 4.5 แสดงลักษณะชนิ้ งานกอนทดลอง (ซา ย) และหลงั ทดลอง (ขวา) รูปท่ี 4.6 แสดงลักษณะชน้ิ งานกอ นทดลอง (ซาย) และหลังทดลอง (ขวา รปู ท่ี 4.7 แผนภมู แิ สดงผลการทดลองสมมตฐิ าน C เปรียบเทียบกอ นและหลงั การปรับปรงุ รูปท่ี 4.8 แสดงผลโครงสรา งจุลภาคหลังทําการทดลองไมพ น สาร In steam Inoculation รปู ที่ 4.9 แผนภูมแิ สดงผลการทดลองสมมตฐิ าน D เปรียบเทียบกอ นและหลังการปรบั ปรงุ 52
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education สารบัญรปู (ตอ) รปู ท่ี 4.10 รูปท่ี 4.10 แสดงลกั ษณะชิ้นงานกอ นทดลอง (ซาย) และหลังทดลอง(ขวา) 76 รูปที่ 4.11 แผนภูมิแสดงเปรยี บเทียบปรมิ าณของเสยี ที่เกดิ ขึ้นกอนการปรบั ปรงุ และหลงั การปรับปรงุ 76 รปู ที่ 4.12 แผนภมู ิแสดงเปรยี บเทียบผลการทดลองกอ นการปรบั ปรุง เปาหมาย และหลงั การปรับปรุง 77 รปู ท่ี 4.13 แผนภมู แิ สดงเปรียบเทยี บตนทุนของเสียกอนปรบั ปรุงและหลังปรบั ปรงุ 78 รูปที่ 5.1 แผนภูมแิ สดงเปรยี บเทยี บปรมิ าณของเสยี ที่เกิดข้นึ กอ นการปรบั ปรงุ และหลังการปรบั ปรุง 80 รปู ที่ 5.2 แผนภูมแิ สดงเปรียบเทียบปริมาณของเสยี ทเี่ กดิ ขน้ึ กอนการปรบั ปรุงและหลงั การปรบั ปรุง 80 53
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education บทที่ 1 บทนํา รปู ที่ 1.1 บรษิ ทั นวโลหะไทย จาํ กดั 1.1 สถานประกอบการ 1.1.1 ช่ือและทีต่ ้ังสถานประกอบการ บริษัท : นวโลหะไทย จาํ กดั : THE SIAM NAWALOHA FOUNDRY CO.,LTD ท่ตี ั้ง : 1 หมู 9 ตาํ บลบา นครัว อําเภอบา นหมอ จังหวัดสระบรุ ี 18270 : 1 Moo 9 Bankrua, Banmhor, Saraburi 18270 , Thailand 54
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education รูปที่ 1.2 แผนทแ่ี สดงท่ตี ้ังบรษิ ทั นวโลหะไทย จาํ กัด 1.1.2 ลกั ษณะสถานประกอบการ บริษัทนวโลหะไทยจํากัด หรือ SNF เปนบริษัทในเครือซีเมนตไทย จดั ตงั้ ขนึ้ เมอ่ื ป2 521 เพอ่ื รองรบั กบั ปรมิ าณความตอ งการทเ่ี พมิ่ ขน้ึ ของชน้ิ งานเหลก็ หลอ ระดับคณุ ภาพนบั แตน นั้ มา บริษทั นวโลหะไทย จํากัด ไดเขา มามีบทบาทและขยายตัว เพม่ิ ขนึ้ ในภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตรกรรมของประเทศไทย โดยผลติ เหลก็ หลอ ทม่ี คี ณุ ภาพในปรมิ าณมากสาํ หรบั แตล ะอตุ สาหกรมในป 2525 บรษิ ทั นวโลหะไทย จาํ กดั ไดเ ร่มิ ผลติ เสอ้ื สูบของเครอ่ื งยนตก ารเกษตร และชิ้นสวนยานยนตร เพือ่ ลดการนาํ เขา ปจ จุบนั บรษิ ัทนวโลหะไทย จาํ กัด เปนหน่ึงในผูผลติ เหลก็ รายใหญ รายใหญท สี่ ดุ ของประเทศไทยทม่ี เี ครอื่ งจกั รทนั สมยั และเทคโนโลยกี า วหนา เพอ่ื เพม่ิ พนู ประสิทธภิ าพในอตุ สาหกรรมไทย และในป 2545 บรษิ ัทนวโลหะไทย จํากัด ไดข ยาย การลงรว มกบั ไอชนิ ทากาโอกะ จาํ กดั (ประเทศญป่ี นุ ) ซง่ึ เชย่ี วชาญในดา นของการผลติ เหล็กหลอ เปนผูถือหุนรายใหญของบริษัท ทั้งน้ีก็เพ่ือเพ่ิมศักยภาพในการบริหาร และการผลติ ใหสามารถตอบสนองความตองการของลูกคา ไดส งู สุด 55
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education บริษทั นวโลหะไทย จาํ กดั เปน ผูนาํ การตลาดในธรุ กิจเหล็กหลอ และเปนผูผลติ เหล็กหลอ คอมเพชสเซอร นอกจากนี้ บรษิ ทั นวโลหะไทย จํากดั ไดผลิต ช้นิ งานเหลก็ หลอในตลาด OEM(Original Equipment Manufacturer) ดว ย 1.1.3 รูปแบบการจัดองคกรและการบรหิ ารงาน 1.1.4 ตําแหนงและลักษณะงานสหกิจศกึ ษา ตาํ แหนงงานท่นี กั ศกึ ษาปฏบิ ัติ : ผูชว ยวศิ วกรฝายผลิตเหลก็ หลอ เหนยี ว ลักษณะงานที่นักศึกษาปฏิบัติ: วิเคราะหหาสาเหตุของของเสีย (REJECT)และดําเนินการปรับปรุงแกไขปญหาตรวจสอบและประเมินผลการปรับปรุง แกไ ขปญ หาและสรุปผลการปรับปรุงแกไขปญหาในเหล็กหลอ เหนียว FCD 56
สหกิจศึกษา Cooperative Education 1.2 ความเปน มาและความสําคัญของปญหา จากการปฏิบัติงานในตําแหนงผูชวยฝายผลิตเหล็กหลอเหนียว แผนก.M.14 พบวา ในกระบวนการผลิตเหล็กหลอเหนยี ว FCD45 Part.CY/C # 4149 เกดิ ปญหาใน Reject ข้นึ ช้ินงานมีการยุบตวั เขาไปกนิ เนือ้ ชนิ้ งานบริเวณหนา Neck Riser หรือชิ้น งานมาการหักเขา ,Sand Incution,Slag Incution.และปญหาท่เี กดิ จากGas ทาํ ใหช ้นิ งานเกดิ ของเสยี เปนจาํ นวนท่มี ากไมส ามารถนําไปจําหนา ยได ทาํ ใหทางบรษิ ทั มตี น ทนุ ในการผลติ ทส่ี งู ขน้ึ เสยี เวลาในการผลติ มผี ลทาํ ใหส ญู เสยี เปลา ในการผลติ ไมท นั เวลาใน การสงมอบสินคาซ่ึงปญหาดังกลาวอาจเกิดหลายสาเหตุพรอมๆกัน หรือเพียงสาเหตุ สาเหตหุ นึ่งก็เปน ไปไดซึง่ ปญ หาเหลา นสี้ ามารถเกิดจาก 4 ปจจัยหลกั คอื 1.คน 2.วัสดุ 3.วธิ กี าร 4.เครอ่ื งจักร เปนตน ซ่ึงสาเหตุดังกลา วอาจทําใหเ กิดชนิ้ งานมีการยุบบรเิ วณ หนา Neck Riser หรอื การหักเขา เนื้อของชนิ้ งาน Neck Riser สงผลใหช้ินงานเกดิ ข องเสยี ไมส ามารถนําไปงานขายได จากการศึกษาขอมูลถึงกระบวนการผลิตเหล็กหลอเหนียวFCD45 PART. CY/C #4149 ไดว างแผนการปฏบิ ตั งิ านสหกจิ ศกึ ษา วเิ คราะหห าสาเหตขุ อง Reject.ทเี่ กดิ ขนึ้ จึงเกบ็ ขอ มลู ของ Reject.ทีเ่ กิดข้นึ ในช่ือช้นิ งาน PART. CY/C #4149 ท่เี กดิ ขึ้นและได นาํ ไปนาํ เสนอแก วศิ วกรทป่ี รกึ ษาถงึ สาเหตทุ ขี่ นึ้ ของของเสยี จากนนั้ ดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ แกไ ขปญ หา ตรวจสอบและประเมนิ ผลการปรบั ปรงุ แกไ ข และสรปุ ผลการปรบั ปรงุ แกไ ข เปน ไปตามขั้นตอนทว่ี างแผนปรับปรุงแกไ ขตอไป 1.3 วตั ถุประสงคของการปฏิบตั ิงานสหกจิ ศกึ ษา 1.3.1 เพื่อลดของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการหลอเหล็กหลอเหนียวของชิ้นงาน CY/C4149 1.3.2 เพอื่ ลดตน ทนุ จากของเสยี ในกระบวนการหลอเหล็กหลอ เหนียว 57
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education 1.4 ขอบเขตของการปฏิบตั ิงานสหกิจศึกษา 1.4.1 ศึกษาช้ินงาน CY/C# 4149 1.4.2 DisaMatic Line. 1.4.3 ใชการเทแบบ Stoper 1.4.4 ใชทรายปน แบบ Green Sand 1.4.5 ใชทรายไสแ บบ RCS 1.5 ประโยชนท ี่คาดวา จะไดรับ 1.5.1 ลดของเสยี ในงานหลอ ได 1.5.2 สามารถลดตนทุนทเ่ี กิดจากช้ินงานเสียหาย 1.5.3 ลดระยะเวลาในการทาํ งาน 1.5.4 สามารถจดั ทําเปนมาตรฐานเพอื่ แนวทางในการปฏบิ ตั งิ าน ของพนกั งานได 58
สหกิจศึกษา Cooperative Education บทที่ 2 ทฤษฎีทเ่ี กีย่ วขอ ง ในการดําเนินการปรับปรุงแกไขปญหาตางๆ ในทางวิศวกรรมมีความจําเปน อยางย่ิงที่ผูดํา เนินการจะตองทราบถึงหลักการในเชิงวิชาการอยางเขาใจเพ่ือใชเปน แนวทางและหลักอางอิงในศึกษาและวิเคราะห เพ่ือใหการแกไขปญหาเปนไปอยาง ถูกตองและเปนแนวทางในการดาํ เนนิ งาน ทางผดู ํา เนินการจึงไดท ําการศึกษาทฤษฎี ท่เี กย่ี วของดังน้ี 2.1 เหลก็ หลอเหนยี ว 2.2 มาตรฐานของเหล็กหลอ เหนียวและสว นประสมทางเคมี 2.3 การผสมเตมิ แมกนเี ซยี มเพอ่ื ผลิตเหลก็ หลอแกรไฟตก ลม 2.4 ทรายปนแบบหลอ 2.5 การตรวจสอบตําหนิงานหลอ 2.1 เหลก็ หลอเหนยี วหรือเหล็กหลอกราไฟตก ลม 2.1.1. ความหมายของเหล็กหลอ สุภชัย ประเสริฐสกุล (2552) ไดกลาววา เหล็กหลอ (Cast Iron) หมายถงึ เหลก็ ทข่ี นึ้ รปู เปน ชนิ้ งานใชง านลกั ษณะตา งๆไดด ว ยการหลอม เทลงแบบหลอ และปลอยใหแข็งตัวลดความรอนสูอุณหภูมิหอง การขึ้นรูปเหล็กหลอเปนช้ินงาน โดยกระบวนการอ่ืนขณะท่ีเหล็กหลอเปนของแข็ง เชนการรีดไมสามารถกระทําได เพราะเหลก็ หลอ มคี ารบ อนในเนอื้ เหลก็ มากกวา 2% ซง่ึ ตา งจากเหลก็ เหนยี วทมี่ คี ารบ อน นอ ยกวา 2% และโดยทวั่ ไปนอ ยกวา 1% เหลก็ หลอ ทมี่ แี ตค ารบ อนเพยี ง ธาตเุ ดยี วเปน ธาตผุ สมหลักมกั แข็งจนใชง านไมได เนอ่ื งจากคารบ อนจะรวมกบั เหล็กกลายเปน เหล็ก คารไบด ดังนั้นเหล็กหลอนอกจากจะมีคารบอนผสมเปนธาตุหลักแลวมักจะมีซิลิคอน รวมอยูดวย สว นผสมโดยประมาณ คือ มี 2-4%C, 1.0-3.5%Si นอกจากน้อี าจมีธาตุ อ่นื และธาตทุ ไี่ มใชโลหะผสมอยูดว ย เพอื่ เพิ่มคุณสมบตั ทิ างกลเฉพาะดานใหส งู ขน้ึ หรือ เพอ่ื ใหเ หมาะสมกบั การใชง านเฉพาะดา น นอกเหนอื จากสว นผสมเคมเี นอ้ื เหลก็ แลว การ ไกลแข็งตวั อตั ราแข็งตวั และอตั ราลดอณุ หภมู ิ 59
สหกิจศึกษา Cooperative Education เหมาะสมกับการใชงานไดกวางขวางและสามารถใชงานแทนเหล็กกลาท่ี ตอ งการคณุ สมบตั ใิ นการรบั แรงดงึ สงู ๆได มคี วามแขง็ สงู ทนการเสยี ดสไี ดด ี มคี ณุ สมบตั ิ ดา นการหลอ ลน่ื ใชท าํ แบรง่ิ ทต่ี อ งทนแรงอดั สงู แตม รี อบหมนุ ตาํ่ ไดด ี นอกจากนย้ี งั กลงึ - ไส ไดงา ย มีราคาถกู กวาวัสดุอน่ื ๆ มาก เน้อื เหลก็ หลอ ท่ีมีธาตุอน่ื ๆ ผสมมากชนดิ ขน้ึ กลายเปน alloy cast iron ทําใหเ หลก็ มีคุณสมบัตทิ นกรด-ดางไดด ีเย่ียม หรือทนการ สึกหรอไดดีเย่ียม ดังนั้นการเลือกใชวัสดุในการออกแบบชิ้นสวนเครื่องจักรกลทั่วไป เหลก็ หลอ จงึ เปน วสั ดชุ นดิ แรกทถี่ กู พจิ ารณา ทง้ั นเี้ นอ่ื งจากเหลก็ หลอ ใหค วามประหยดั ยกเวนกรณตี อ งพจิ ารณาดา นน้ําหนักจงึ จะพจิ ารณาโลหะอน่ื ใชง านแทน ตารางที่ 2.1 สวนผสมเคมีของเหลก็ หลอชนดิ ตางๆ ธาตุ เหลก็ หลอเทา เหลก็ หลอ ขาว เหลก็ หลออบเหนียว เหล็กหลอ เหนยี ว คารบ อน 2.5-4.0 1.8-3.6 2.0-2.6 3.0-4.0 1.8-4.0 ซิลคิ อน 1.0-3.0 0.5-1.9 1.1-1.6 0.1-1.5 <0.03 แมงกานสี 0.25-1.0 0.25-0.8 0.2-0.1 <0.10 กํามะถนั 0.02-0.25 0.06-0.2 0.04-0.18 ฟอสฟอรสั 0.05-1.0 0.06-0.10 <0.18 ทมี่ า: สภุ ชัย ประเสริฐสกลุ , 2552: 117 เหล็กหลอถูกแบงออกเปน 5 ชนิดหลัก การจําแนกหรือจัดแบงจะพิจารณา จากลักษณะคารบ อนที่กระจายในโครงสรา งจุลภาคเนอ้ื เหล็กหลอ ทต่ี างกัน เหลก็ หลอ ทั้ง 5 ชนิดมี 4 ชนิดหลักที่สวนผสมเคมีเหล็กหลอบางสวนมีจํานวนและปริมาณธาตุ ตา งๆในเนอื้ เหลก็ หลอ เทา กนั แตต า งโครงสรา งจลุ ภาค ทาํ ใหก ารจาํ แนกชนดิ เหลก็ หลอ ไมส ามารถใชส ว นผสมเคมเี รยี กชอ่ื ดงั เหลก็ เหนยี วได เหลก็ หลอ จาํ แนกไดด งั นี้ คอื เหลก็ หลอ ขาว (White cast iron) เหลก็ หลอเทา (Gray cast iron) เหล็กหลอ อบเหนียว (Malleable cast iron) เหลก็ หลอเหนียว (Ductile cast iron) และ Alloy cast iron โดยเหล็กหลอแตละชนิดมีสวนผสมคารบอนที่แตกตางกันโดยประมาณดังตาราง 2.1 ซงึ่ สามารถเปรยี บเทยี บกับเหลก็ เหนยี วได (สภุ ชัย ประเสริฐสกุล, 2552) 60
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education 2.1.2. เหลก็ หลอ เหนยี วหรอื เหลก็ หลอ กราไฟตก ลม หรอื ทม่ี ชี อ่ื เรยี กกนั หลาย แบบ เชน Nodular cast iron ,Spheroidal graphite cast หรอื ductile iron เพราะคณุ สมบตั แิ ละลกั ษณะของกราไฟตต กผลกึ อยใู นเนอ้ื ของเหลก็ จะอยใู นลกั ษณะ กลม(Nodule หรือ spheroid) ซึ่งแตกตางไปจากลักษณะกราไฟตของเหล็กสีเทา ซงึ่ อยใู นรูปแถบยาวๆ (lamellar flakes) ดว ย คณุ ลักษะของกราไฟตท ่ีเปน รปู กลม น่ีเอง ทําใหเหล็กชนิดนี้ มีคุณสมบัติเหนียวรับแรงกระแทกไดดีกวาเหล็กหลอเทา (grey cast iron) มากจนไดช่ือวาเหล็กหลอเหนียวหรือ ductile iron เหล็กหลอ กราไฟตกลมเร่ิมมีการศึกษาและทดลองผลิตต้ังแตป 1948 ซ่ึง Morrogh H. และ William W.J. ไดเ ขยี นเรอ่ื งของเหลก็ หลอ กราไฟตก ลมลงวารสาร Journal of the iron & steel 158,306-22 (1948) เรื่องราวเริ่มตนของคนพบคร้ังแรกเปนการผสมโลหะ ซเี รียม (Cerium) ในเหล็กหลอ แตภ ายหลังไดมีการทดลองใชโ ลหะแมกซเี ซนี มเปน ผล สําเร็จโดย International Nickel Limited ผลของการใชโลหะแมกนีเซียมไดผลกบั เหลก็ หลอ ทมี่ สี ว นผสมกวา งขวางกวา โลหะซเี รยี ม กลา วคอื ไดผ ลดที งั้ เหลก็ หลอ ทมี่ สี ว น ผสม Hypoeutetic และ Hypereutecitc สว นซเี รยี มจะใหผ ลดเี ฉพาะเหลก็ หลอ ทเี่ ปน สว นผสม Hypereutectic คอื เหลก็ หลอ ทมี่ สี ว นผสมคารบ อนและซลิ กิ อนสงู และเหตผุ ล อีกประการหนึ่งที่ทําใหโลหะซีเรียมลดความสําคัยลงไปก็ตรงที่โลหะซีเรียมมีราคาสูง มากและเปนธาตุท่ีหายาก แตในปจจุบันไดมีการพัฒนาการใชโลหะซีเรียมขึ้นมาอีก แตร วมกบั ธาตอุ น่ื ๆ คอื Lanthanum, Ythrium และอืน่ ๆ โดยผลติ ออกมาในรปู ของ Mischmetal ซึ่งใชไดผ ลดเี หมือนกัน พจิ ารณาในดา นคณุ สมบตั ทิ ว่ั ไปแลว เหลก็ หลอ กราไฟตก ลม มคี ณุ สมบตั ทิ นแร งดงี ไดส งู และเหนยี วอยใู นชว งของ Low alloy steel คอื ทนแรงไดด ปี ระมาณ 40-70% Kg/mm2 และมคี ณุ สมบตั ิ Ductility อยรู ะหวางชวง Percent elongation 8-25% ในบางครง้ั เหล็กหลอ กราไฟตกลม ไดชื่อเรียกวา semi steel โดยปกติแลว การทจี่ ะ เปลี่ยนรูปรา งหรือทาํ ใหเกดิ กราไฟตเกิดเปน กลุมกอ น ก็ทาํ ไดโ ดยการทาํ Heat treat- ment เหลก็ หลอ ขาว (white cast iron) ซึ่งคารบอนจะอยูน รปู ของสารประกอบกับ เหล็ก คือ ซีเมนไตต Fe3C ในขณะที่ทําการเผาท่ีอุณหภูมิสูงและใชเวลานาน ธาตุ คารบอนก็จะแตกตัวออกมารวมกลุมเกิดลักษณะกราไฟตที่เปนกลุมกอนไดเหมือนกัน 61
สหกิจศึกษา Cooperative Education ซง่ึ เราเรยี กเหลก็ หลอ เหนยี วชนดิ นวี้ า Malleable แตก รรมวธิ กี ารผลติ ตอ งทาํ เปน ขน้ั ๆ คือ ขัน้ แรกตอ งผลิตใหเปน เหลก็ หลอ ขาว (white cast iron) กอ น ตอจากนัน้ จงึ ผาน กรรมวิธีการอบชุบท่ีอุณหภูมิสูงและใชเวลานาน และอีกประการหนึ่งผลิตเหล็กหลอ ขาวจะทาํ ไดผลดีภายใตขอบเขตอนั หนึ่ง คือ ชนิ้ งานหลอ จะมคี วามหนามากๆ ไมได คอื ไมเ กนิ 2.5 ซม. เพราะจะทาํ ใหอ ตั ราการเยน็ ตวั ชา จะไมเ ปน เหลก็ หลอ ขาว ในกรณี ของเหลก็ หลอ กราไฟตก ลม (Nodular) ไมม ขี อบเขตจาํ กดั ในเรอื่ งความหนาของชนิ้ งาน หลอ และสวนดี อีกประการหนึ่งคือเหล็กชนิดน้ียังอยูในตระกูลของเหล็กหลอ จึงมี จดุ หลอมเหลวตา่ํ สามารถถลงุ ไดดว ยเตาแบบธรรมดาทใ่ี ชถ ลงุ เหลก็ หลอ ทว่ั ไปดว ยขอ ดี ตา งๆนเ่ี อง ทาํ ใหป รมิ าณการใชง านของเหลก็ หลอ ประเภทนใ้ี นอตุ สาหกรรมสงู ขนึ้ อยา ง รวดเรว็ รปู รา งของกราไฟตก ลมใชว า จะเหมอื นกนั ทกุ ครงั้ เสยี ทเี ดยี ว ทง้ั นเี้ พราะกรรมวธิ ี การผลิตยุงยากกวา การผลิตเหล็กหลอ สีเทามาก และในบางครง้ั อาจจะไดผลเปน เหล็ก หลอสเี ทาแทนกไ็ ด รูปรางของกราไฟตกลม จึงอาจจะเปน ไปไดห ลายแบบดงั แสดงใน รูป และจะถือวารปู รา งที่ไดมาตรฐานเร่ิมจากรูป III สวนรปู I และ II ถอื วาเปน เหล็ก หลอ สเี ทา ถงึ แมว า รปู รา งของแกรไฟตท ไ่ี มใ ชร ปู กลมจะทาํ ใหค ณุ สมบตั ทิ างกลตา่ํ ลง แต เหล็กหลอกราไฟตกลมท่ีมีรูปรางดังเชนรูป III ก็ยังแข็งแรงกวาเหล็กหลอสีเหล็กหลอ เทา สวนการจะใหไดเหล็กหลอกราไฟตกลมที่มีรูปรางกราไฟตกลมจริงๆ นั้นก็ขึ้นอยู กบั การควบคมุ กการผลติ อยางใกลชดิ (สภุ ชยั ประเสรฐิ สกลุ , 2552) 62
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education รูปที่ 2.1 ลกั ษณะการกระจายตัวของกราไฟตท่ีปรากฏใหเหน็ ในเหลก็ หลอ กราไฟตก ลม ท่มี า: พรอ ม พรหมภู, 2538 โดยที่เหล็กหลอกราไฟตกลมมีแมกนีเซื่อมผสมอยูดวย จึงทําใหมันแข็งแรง และรับแรงกระแทกโดยกะทันหัน (shock lond) ไดดีกวาเหล็กหลอสีเทาธรรมดา อยา งไรกต็ ามแมม นั จะมคี วามเหนยี วกวา แตแ ดมปง คาปาซติ ี้ และการนาํ ความรอ นของ มันก็นอยกวาของเหล็กหลอสีเทา ในดานราคาเหล็กหลอกราไฟตกลมจะมีราคาแพง กวาเหล็กหลอสีเทา แตยังมีราคาต่ํากวาเหล็กเหนียวหลอท่ีมีคุณสมบัติใกลเคียงกัน ตัวอยางการใชงานก็ไดแ ก เพลาขอ เหวย่ี ง (crankshaft) ,เกียร, บานพบั ประตูรถยนต ฯลฯ (สภุ ชัย ประเสริฐสกุล, 2552) 2.2 มาตรฐานของเหล็กหลอเหนยี วและสว นประสมทางเคมี มาตรฐาน หมายถงึ ขอ กาํ หนด หรอื ขอ ตกลงรว มกนั ระหวา งผผู ลติ หรอื ระหวา ง ประเทศและผูใชเพื่อเปนการสรางความเขาใจใหตรงเก่ียวกับขนาดรูปราง นํ้าหนัก คณุ ภาพสมบตั ขิ องวสั ดตุ า งๆ มาตรฐานทนี่ ยิ มใชก นั ไดแ ก ระบบอเมรกิ า ระบบเยอรมนั ระบบญปี่ ุน เปน ตน 63
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education มาตรฐานเหล็กหลอ เหนียวและ สวนประสมทางเคมี รปู ท่ี 2.2 มาตรฐานเหลก็ หลอเหนียวและ สวนประสมทางเคมี ทม่ี า : ( http://heattreatment.sut.ac.th/HT/index.php/) รูปที่ 2.3 เหลก็ หลอ เหนยี วสดี าํ คอื แกรไฟตก ลม ลอ มรอบดว ยสขี าวคอื เฟอรไ รต สว นสนี า้ํ ตาลอมเทาเขมคอื เพิรลไลต ที่มา : (P. Silawong : Ductile Cast Iron) 64
สหกิจศึกษา Cooperative Education มนัส สถิรจินดา (2539) ไดกลาววาเหล็กหลอเหนียวปจจุบันเปนที่รูจัก อยา งแพรห ลาย ในหลายๆประเทศ และไดก าํ หนดมาตรฐานไวแ ตกตา งกนั สว นมากจะ อาศัยคุณสมบัติทนแรงดึงสูงสุด เปนหลักในการจําแนกชั้นคุณภาพ มีบางประเทศ กาํ หนดคณุ สมบตั ทิ นแรงดงึ และลกั ษณะของโครงสรา งพนื้ ฐานกาํ กบั ไวด ว ย สงิ่ ทสี่ าํ คญั คอื ปริมาณของธาตุ ทผี่ สมในเหล็กจะไมก าํ หนดไว ดังแสดงตอ ไปน้ี ตารางท่ี 2.2 International Standard Organization (ISO) R 945 ชัน้ คุณภาพ ความเคน แรงดึง (ต่ําสุด) ความเคนพิสจู น 0.2 % (ตํา่ สุด) อัตรายดื ตัว (Type) (Kg/mm2) PSi (Ton/in2) (Kg/mm2) PSi (Ton/in2) (ตํ่าสดุ ) % 70-2 70 100,000 44 45 65,000 29 2 60-2 60 86,000 38 40 57,000 25 2 50-7 50 71,000 31 35 50,000 22 7 42-12 42 60,000 27 28 40,000 18 12 38-17 38 55,000 24 24 35,000 15 17 ที่มา: มนสั สถริ จนิ ดา, 2539 ตารางท่ี 2.3 มาตรฐานอเมริกา (ASTM) A 536 – 70 ช้นั คณุ ภาพ ความเคนแรงดึง (ตา่ํ สุด) ความเคนพสิ ูจน 0.2 % อัตรายืดตวั (ต่าํ สุด) (Class) PSi (ตา่ํ สุด) % PSi 18 60-40-18 60,000 40,000 12 6 65-45-12 65,000 45,000 3 2 80-55-06 80,000 55,000 100-70-03 100,000 70,000 120-90-02 120,000 90,000 ทมี่ า: มนสั สถิรจนิ ดา, 2539 65
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education ตารางท่ี 2.4 มาตรฐานเยอรมัน ( DIN 1693 ) ชั้นคุณภาพ ความเคน ความเคน อตั รายืดตวั โครงสรา ง (Type) แรงดงึ พสิ ูจน (L = 5d) พื้นฐาน (Kg/mm2) 0.2% สัญญาลกั ษณ Material (Kg/mm2) % Ferrite GGG -40 Number 40 Ferrite + 0.7040 25 15 Pearlite Pearlite GGG -50 0.7050 50 32 7 Pearlite Pearlite GGG - 0.7060 60 38 3 GGG - 0.7070 70 44 2 GGG - 0.7080 80 50 2 ที่มา: มนสั สถิรจนิ ดา, 2539 ตารางที่ 2.5 มาตรฐานองั กฤษ BS 2789 ( 1961) ชัน้ คุณภาพ ความเคนแรงดึง (ตา่ํ สดุ ) ความเคนพิสูจน 0.2 % อตั รายดื ตัว (Type) (Ton/in2) (Kg/mm2) (ตา่ํ สุด) (ต่ําสุด) % (Ton/in2) (Kg/mm2) 17 12 SNG 24/17 24 37.8 15 23.6 7 2 SNG 27/12 27 42.5 18 28.3 2 2 SNG 32/2 32 50.4 22 22 SNG 37/2 37 58.3 25 25 SNG 42/2 42 66.1 28 28 SNG 47/2 47 74.0 30 30 ท่ีมา: มนสั สถริ จินดา, 2539 66
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education ตารางท่ี 2.6 มาตรฐานญป่ี ุน JIS G 5502 (1961) ชนั้ สัญญาลกั ษณ ความเคนแรงดงึ ความเคนพิสูจน 0.2 % อัตรายดื ตัว คุณภาพ (ตา่ํ สดุ ) (ตา่ํ สุด) (Kg/mm2) (ต่าํ สุด) (Class) (Kg/mm2) % 12 1 FCD 40 40 28 5 2 2 FCD 45 45 30 1 3 FCD 55 55 38 4 FCD 70 70 48 ที่มา: มนสั สถริ จนิ ดา, 2539 ตารางที่ 2.7 มาตรฐานประเทศไทย ชั้นคุณภาพ ความตานทานแรงดึง (ตา่ํ สดุ ) ความยืดตวั ตํ่าสุด เมกาปาสคาล (Kg/mm2) % 15 SGI 400 392 (40) 7 2 SGI 500 490 (50) 2 SGI 600 588 (60) SGI 700 686 (70) ท่มี า: มนัส สถิรจนิ ดา, 2539 67
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education ตารางที่ 2.8 มาตรฐานสหภาพโซเวยี ต GOST 7293 (70) ชัน้ คุณภาพ ความเคน ความเคน จดุ คราก อัตรา ความเคน ความแขง็ (Type) แรงดึง (Kg/mm2) ยืดตัว แรงกระแทก H3 (Kg/mm2) Minimum % (Kg/mm2) 140-170 Vch 38-17 38 24 17 6.0 140-200 28 12 4.0 160-220 Vch 42-12 42 33 5 3.0 180-260 38 2 2.0 200-280 Vch 45-5 45 40 2 2.0 229-275 40 3 3.0 220-300 Vch 50-2 50 50 3 2.0 302-369 70 4 3.0 302-369 Vch 60-2 60 90 4 3.0 Vch 70-3 70 Vch 80-3 80 Vch 100-4 100 Vch 120-4 120 ทมี่ า: มนสั สถริ จนิ ดา, 2539 68
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education บทที่ 3 วธิ ีดาํ เนินโครงการสหกจิ ศึกษา การดําเนินการศึกษากระบวนการผลิตเหล็กหลอเหนียว FCD450 เพ่ือลด ของเสียท่ีเกิดขึ้นในงานหลอท่ีเกิดจากปญหา ยุบ,ทรายตก,แสลก และแกส เปนตน เพ่ือวิเคราะหหาขอบกพรองสาเหตุของปญหา หาแนวทาง แกไขกระบวนการทํางาน และเพ่ือใหการดําเนินงานเปนไปดวยความถูกตองและบรรลุตามวัตถุประสงคท่ีต้ังไว ทางผูจดั ทําจงึ ไดกําหนดวธิ กี ารดําเนินโครงการศกึ ษาดงั ตอ ไปน้ี 3.1 ศึกษากระบวนการผลิตเหล็กหลอ เหนียว 3.2 วางแผนการปฏิบัตงิ าน 3.3 วิเคราะหห าสาเหตขุ องตาํ หนทิ เ่ี กดิ ขน้ึ 3.4 ดาํ เนินการทดลองปรบั ปรงุ แกไ ขปญ หาของเสีย 3.5 วิเคราะหผลสรปุ ผลและปรบั ปรุงแกไข 69
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education สามารถแสดงรายละเอยี ดไวใ นรูปที่ 3.1 วิธกี ารปฏบิ ตั ิงานสหกจิ ศึกษา รูปที่ 3.1 วิธีการปฏิบัตงิ านสหกจิ ศึกษา 3.1 ศกึ ษากระบวนการผลิตเหล็กหลอเหนียว 3.1.ศึกษาสว นผสมทางเคมขี องเหลก็ หลอเหนียว ตารางท่ี 3.1 แสดงสว นผสมทางเคมีของเหล็กหลอเหนียว เหล็กหลอ สวนผสมทางเคมี (Wt %) เหนยี ว C Si Mn P S Mg 3.0 – 4.0 1.8 – 2.8 0.030 0.2 – 1.2 0.01 – 0.1 0.01- 0.03 ทมี่ า: http://personal.sut.ac.th/heattreatment/context/metal_2.html 70
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education 3.1.2. ศึกษาการปนแบบทราย Disamatic ประวตั ิ ในป 1957 Vagn Aage Jeppesen - อาจารยท่ี มหาวทิ ยาลยั เทคนิค เดนมารก อางวาเปน สิทธิบัตร สําหรับอุปกรณการผลิต flaskless แมพิมพของผสม ทรายที่มีเสนแนวตั้งพรากจากกันสําหรับการหลอช้ินสวนโลหะ ในป 1960 บริษัท เดนมารก Dansk Industri Syndikat A/S (DISA) ไดร บั สทิ ธบิ ตั รและเรมิ่ ทาํ งานในการ ดําเนนิ งานของ ในป 1962 ครึ่งขนาด ตนแบบ ของเคร่ืองปนทรายกับแมพิมพ flaskless แยกในแนวต้งั ภายใตชือ่ ของ Disamatic กพ็ รอมที่จะไดรับการเปด เผยในชว ง ระหวา ง หลอ Trade Fair ( GIFA ) ในป ค.ศ. 1962 ใน Düsseldorf โมเดล ก็แสดงใหเ หน็ บน ขาซาของ นี้สงผลใหยอดขายของท้ังสอง DISAMATICs แรกท่ี ยุโรป หลอ ครั้งแรกที่ สายอัตโนมตั ปิ น Disamatic สามารถผลติ ไดถ ึง 240 แมพิมพท รายสมบูรณต อ ชว่ั โมง รปู ที่ 3.2 Disa sand molding principle ท่มี า: https://en.wikipedia.org/wiki/DISAMATIC Disamatic ประกอบดวยเคร่ืองปนแมพิมพและการขนสง ลําเลียง สวนผสม ปนทรายมัก ทรายสีเขียว หรือ เบนโทไนท , ถูกเปาเขาไปในหองสี่เหลี่ยมเหล็ก โดยใช การบีบอัดอากาศ ทรายปนถูกบีบแลวกับสอง รูปแบบ ซึ่งอยูบนปลายท้ัง สองขางของหอง หลังจากบีบหนึ่งของหอการคาแผนชิงชาเปดและแผนตรงขามดัน แมพิมพสําเร็จรูปลงบนสายพานลําเลียง สุดทายใด ๆ แกน มีการต้ังคาเขาไปในโพรง แมพิมพโดยอัตโนมัติในขณะแมพิมพตอไปคือการถูกจัดเตรียมไว วงจรซ้ําจนหวงโซ ของแมพ ิมพสาํ เรจ็ รูปชนขนึ้ อยูก ับแตละอนื่ ๆ บนสายพานลาํ เลียง 71
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education แมพ มิ พจ ะเตม็ ไปแลว ดว ย โลหะหลอมเหลว และวางไวบ นสายพานลาํ เลยี งระบายความ รอนซึ่งยายที่กาวเดียวกับสายพานลําเลียงประดิษฐ ในตอนทายของสายพานลําเลียง ท่ี แข็ง หลอจะแยกออกจากแมพิมพและดําเนินการตอไปในขณะท่ีทรายเปนผูกํากับ ท่ีโรงงานเตรียมทรายปรับสภาพและนํามาใชในรอบตอไปของกระบวนการฉีด Disamatic 3.1.3.ศกึ ษากระบวนการผลิตเหลก็ หลอ เหนยี ว รูปท่ี 3.3 กระบวนการผลติ เหลก็ หลอเหนยี ว 72
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education 3.1.4. ศกึ ษากระบวนการผลิตเหล็กหลอ เหนียว Line.M14 รูปที่ 3.4 กระบวนการผลติ เหลก็ หลอ เหนยี ว Line.M14 3.1.4. ศกึ ษาผลิตภณั ฑ CY/C#4149 เหลก็ หลอ เหนยี วFCD45 ผลติ ภณั ฑ CY/C#4149 ยอ มาจาก Cylinder Caliper เปน ชน้ิ สว นยาน ยนตร(Automotive) ซงึ่ ชน้ิ งาน CY/C#4149 จะอยูในกลุม Caliper disc Brake รปู ท่ี 3.5 ระบบเบรก แบบคาลปิ เปอรดิสเบร 73
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education รปู ที่ 3.6 ระบบเบรก แบบคาลิปเปอรด สิ เบรก รปู ท่ี 3.7 ระบบเบรก แบบคาลิปเปอรดิสเบรก ลกั ษณะการทาํ งาน จะหยดุ การหมนุ ของลอ ดว ยแรงเสยี ดทานทเ่ี กดิ ขน้ึ ระหวา ง ผา เบรคซง่ึ กดเขา กบั จานเบรค เมอื่ เราเหยยี บเบรกแรงดนั ไฮดรอลคิ จะถกู สง ไปดนั ลกู สบู เบรคแลวลูกสูบเบรคจะดันผาดิสกเบรคใหตานการหมุนของจานดิสกเบรคกับลอรถ โดยแรงดนั นา้ํ มนั ไฮดรอลคิ ทไ่ี ดจ ากปม เบรค ซง่ึ มนั จะสรา งแรงเสยี ดทานขน้ึ เพอื่ ควบคมุ การหมนุ ของลอ 74
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education 3.2 การวางแผนการปฏบิ ัตงิ านโครงการสหกจิ ศกึ ษา เพ่ือใหการดําเนินงานโครงการสหกิจศึกษาเปนไปตามความมุงหมายที่เรา ตองการ และเพื่อลดเวลาในการทํางาน จึงจําเปนท่ีจะตองมีการวางแผนในการ ดาํ เนนิ งานโครงการสหกิจศกึ ษาดงั น้ี 1) ศกึ ษากระบวนการผลติ เหลก็ หลอ เหนยี ว 2) วิเคราะหหาสาเหตขุ องของเสยี ท่ีเกิดขน้ึ 3) เสนอผลการวเิ คราะหตอพนกั งานทีป่ รกึ ษา 4) ดาํ เนินการปรับปรงุ แกไขปญ หาของเสยี 5) ตรวจสอบและประเมนิ ผลการปรบั ปรงุ แกไข 6) สรปุ ผลการปรบั ปรงุ แกไ ข 7) จัดทาํ รายงานผลการปฏิบัติงาน 8) นาํ เสนอผลการดําเนนิ การ ตารางท่ี 3.2 แผนการปฏิบัติงานโครงการสหกิจศกึ ษา รายละเอยี ด เดอื นท่ี 1 เดือนท่ี 2 เดอื นที่ 3 เดือนที่ 4 1 ศึกษากระบวนการผลิตเหล็กหลอ เหนยี ว 2 วเิ คราะหหาสาเหตุของของเสียท่ีเกิดขน้ึ 3 เสนอผลการวิเคราะหตอพนักงานทป่ี รึกษา 4 ดําเนนิ การปรับปรงุ แกไขปญ หาของเสยี 5 ตรวจสอบและประเมินผลการปรับปรุงแกไข 6 สรุปผลการปรบั ปรงุ แกไ ข 7 จัดทํารายงานผลการปฏบิ ตั ิงาน 8 นําเสนอผลการดาํ เนนิ การ หมายเหตุ : การปฏบิ ตั ิงาน (Actual) 75
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education 3.3 วเิ คราะหห าสาเหตุของตาํ หนิท่ีเกิดข้นึ 3.3.1 วเิ คราะหห าสาเหตขุ องปญ หาชนิ้ งานเกดิ ตาํ หนยิ บุ บรเิ วณ Neck Riser 1) หนา Neck Riser อยใู กลกนั กบั ชิ้นงานมากเกนิ ไป 2) เหล็กเขาไปในไสแบบนาํ้ เหลก็ ทาํ ใหช ดเชยน้าํ เหลก็ ไมพ อ 3) เทอณุ หภูมิสูงทาํ ใหเกดิ ตาํ หนิ Shrinkage 3.3.2 วเิ คราะหห าสาเหตขุ องปญ หาชน้ิ งานเกดิ ตาํ หนิแสลก 1) สาร In steam Inoc#95 มีสวนทาํ ใหเ กดิ ตําหนิ Slag Inclusion 3.3.3 แนวทางการแกไขปญหาช้นิ งานเกดิ ตําหนิยุบ บริเวณ Neck Riser 1) ทําการ Modify Neck Riser Cavity.N,Oใหมขยบั ออกมาจากเดมิ ประมาณ 2 mm. 2) ตรวจสอบ PATTERN วัดขนาดบาไสแบบ คืนสภาพใหเหมือน Cavity. M,L 3) ลดอณุ หภูมเิ ท 3.3.4 แนวทางการแกไขปญ หาชน้ิ งานเกดิ ตําหนแิ สลก 1) ไมพ น สาร In steam Inoc#95 ซงึ่ การวเิ คราะหห าสาเหตขุ องปญ หา ผจู ดั ทาํ แสดงใหเ หน็ ไดด งั รปู ที่ 3.8 แผนผงั แสดงวิธีการวิเคราะหหาสาเหตุของยุบ บริเวณ Neck Riser และสาเหตุตําหนิแสลก ทเ่ี กดิ ขน้ึ รปู ท่ี 3.8 แผนผังแสดงวธิ กี ารวิเคราะหหาสาเหตุของยุบ บริเวณ Neck Riser 76
สหกจิ ศึกษา Cooperative Education 3.4 ดําเนินการทดลองปรบั ปรงุ แกไขปญหาของเสยี 3.4.1 ดําเนินการปรับปรุงแกไขโดยเร่ิมตนจากการคัดแยกชิ้นงานที่มีตําหนิ สง ผลใหช ้นิ งานเกิดของเสยี 1) คัดแยกช้ินงานทีม่ ตี าํ หนิ ทําใหเกิดของเสียเอาไวห า มทิ้ง รูปที่ 3.9 แสดงการคัดแยกช้นิ งานทมี่ ีตําหนิไว 2) คดั แยกของเสียออกเปน Lot. วัน/เดอื น/ป ทผี่ ลิต รปู ท่ี 3.10 แสดง Lot. วัน/เดือน/ป ที่ผลิต 6 คอื ปท ีผ่ ลิต 2016/3 คือ เดอื นทผ่ี ลติ เดือนมนี าคม/2 คอื วนั ทผ่ี ลิต วนั ที่ 2 77
สหกิจศึกษา Cooperative Education 3) คดั แยกของเสียออกเปน Pro.No ทผี่ ลติ รูปท่ี 3.11 แสดง Pro.No ทผ่ี ลิต คอื ครงั้ ทีผ่ ลิตในวนั ทผี่ ลติ นั้นๆหรือผลิตเตาที่ 5 4) คัดแยกของเสยี ออกเปน Cavity. L,M,N,O รูปที่ 3.12 แสดงคัดแยกของเสีย 78
สหกิจศึกษา Cooperative Education 3.4.2 ตรวจสอบลักษณะของตําหนิท่เี กิดจากกระบวนการหลอ 1) ตรวจสอบลกั ษณะของตาํ หนิแลวเกบ็ ขอ มูล รปู ท่ี 3.13 แสดงลกั ษณะของของเสยี จากกระบวนการหลอ ซง่ึ จากการตรวจสอบลกั ษณะของของเสยี ทเี่ กดิ จากกระบวนการหลอ ในสภาพ ปจ จบุ นั ซงึ พบปญ หาหลกั คอื ปญ หาชน้ิ งานเกดิ ตาํ หนยิ บุ บรเิ วณ Neck Riser และปญ หา ชิ้นงานเกดิ ตาํ หนิแสลก - ปญ หาชิ้นงานเกดิ ตาํ หนิยุบบริเวณ Neck Riser 79
สหกิจศกึ ษา Cooperative Education รูปที่ 3.14 ตําหนิ Shrinkage Neck Riser ลกั ษณะตําหนิ เปน ตาํ หนิ Macro-Shrinkage - ปญหาช้ินงานเกิดตาํ หนิแสลก รูปที่ 3.15 ตาํ หนิ Slag Inclusion 80
สหกจิ ศกึ ษา Cooperative Education บทที่ 4 ผลการดาํ เนนิ งานโครงการสหกิจ จากการดําเนินโครงการสหกิจศึกษา การลดของเสียในกระบวนการหลอเหล็ก หลอ เหนียว FCD45 PART.CY/C # 4149 เพ่อื ใหไ ดช้ินงานท่ีสมบรู ณแ ละไมม ีตาํ หนิ ซ่งึ มผี ลการดําเนนิ โครงการ ดังตอไปนี้ 4.1 การเพ่ิมข้ึนของจํานวนชน้ิ งานจากการหลอ 4.2 ผลการทดลองเทชน้ิ งานและ ลักษณะชนิ้ งานหลังทดลอง 4.3 เปรียบเทียบตน ทุนของเสยี กอ นปรบั ปรงุ และหลังปรบั ปรงุ 4.1 การเพมิ่ ข้ึนของจํานวนช้ินงานจากการหลอ ซ่ึงจากการเก็บขอมูลที่ปริมาณของเสียที่เกิดข้ึนจากกระบวนการหลอสามารถ แสดงผลดังตารางที่ 4.1การเปรียบเทียบปริมาณของเสียของช้ินงาน CY/C#4149 จากการหลอ และไดพิจารณาทําการแกไขปญหาตําหนิยุบและตําหนิแสลกเพราะ มีของเสียมากทสี่ ุด ตารางที่ 4.1การเปรียบเทยี บปริมาณของชิ้นงาน CY/C#4149 จากการหลอ ท่ี รายละเอยี ด %Reject 1 ตาํ หนยิ บุ 4.35 2 ตาํ หนิแสลก 1.33 3 ตาํ หนหิ กั เขา เนือ้ 0.77 4 ตาํ หนแิ กส 0.27 5 ตําหนิไสแ บบ NG 0.11 6 อน่ื ๆ 2.28 7 จํานวนของเสยี ทั้งหมด 9.11 81
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234