Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษาอังกฤษ_ม1_ภาคเรียนที่2_หน่วยที่1_Daily Routine

ภาษาอังกฤษ_ม1_ภาคเรียนที่2_หน่วยที่1_Daily Routine

Published by ratnamplik, 2019-12-01 22:09:18

Description: ภาษาอังกฤษ_ม1_ภาคเรียนที่2_หน่วยที่1_Daily Routine

Search

Read the Text Version

1 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 รายวชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (อ21102) กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ Daily Routine ผู้สอน นางรชั นีย์ ทองโพธ์ิศรี เวลา 8 ช่วั โมง สอนวันท่ี ......................................................... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั สาระ สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม สาระท่ี 4 ภาษากับความสมั พันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน มาตรฐานที่ ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอ่านจากสอื่ ประเภทตา่ ง ๆ และ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล มาตรฐานที่ ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร แสดง ความรสู้ ึกและความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ มาตรฐานที่ ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่อง ตา่ ง ๆ โดยการพดู และการเขยี น มาตรฐานที่ ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ได้อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ มาตรฐานท่ี ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ อ่ืน และเป็นพ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ ของตน มาตรฐานที่ ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ท้ังในสถานศกึ ษา และชุมชน ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม 1/2 อา่ นออกเสยี งข้อความ นทิ าน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ันๆ ถูกตอ้ ง ตามหลักการอ่าน ต 1.2 ม 1/1 สนทนาแลกเปล่ียนข้อมลู เกยี่ วกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณ์ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั ต 1.2 ม 1/4 พูดและเขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรื่องที่ฟัง หรืออา่ นอย่างเหมาะสม ต 1.3 ม 1/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และสง่ิ แวดลอ้ มใกลต้ ัว ต 2.1 ม 1/2 บรรยายเกีย่ วกบั เทศกาล วนั สาคัญ ชวี ติ ความเปน็ อยู่ และประเพณขี อง เจา้ ของภาษา ต 3.1 ม 1/1 คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ข้อเทจ็ จริงทีเ่ กยี่ วข้องกับกล่มุ สาระการ เรยี นรูอ้ ่นื จากแหลง่ การเรียนรู้และนาเสนอด้วยการพดู /การเขยี น

2 ต 4.1 ม 1/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศกึ ษา และชุมชน 2. สาระสาคัญ สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล ระบุภาพตรงกับคาศัพท์ ประโยคที่ฟังและอ่าน สามารถพูดโต้ตอบ เพื่อขอและให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง และอ่านออกเสียงคาศัพท์ ประโยค ข้อความ อีกทั้งสามารถจับใจความ สาคัญของเร่ืองที่ฟังและอ่านได้ถูกต้องตามหลักการอ่าน พร้อมท้ังเขียนบรรยาย กิจวัตรประจาวันของตัวเอง เพื่อน ครอบครวั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวัน โดยใช้สานวนและโครงสร้างทางภาษาได้ถูกตอ้ งและ เหมาะสม 3. สาระการเรยี นรู้ นกั เรยี นมคี วามรู้ทกั ษะดา้ นการฟัง พดู อา่ น เขียน เก่ียวกับ กจิ วตั รประจาวัน กจิ กรรม สถานการณต์ ่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั ของตัวเองและครอบครวั 4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. สาระการเรยี นรู้ 5.1 ความรู้ (Knowledge : K) 5.1.1 พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวัน ประสบการณ์ และส่งิ แวดล้อมใกลต้ ัว 5.1.2 บรรยายเก่ียวกับเทศกาล วันสาคัญ ชวี ิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา 5.1.3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ 5.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) 5.2.1 การประยุกต์ความรแู้ ละการเรียนรู้ 5.2.2 การแกป้ ญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ (creative problem solving) 5.2.3 ทกั ษะความรับผิดชอบ 5.2.4 ทักษะการแสดงความเก้อื กลู และการแบ่งปนั 5.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) 5.3.1 ใฝเ่ รียนรู้ 5.3.2 อยอู่ ยา่ งพอเพียง 5.3.3 มีจิตสาธารณะ 6. จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน(เลอื กเฉพาะจุดเน้นขอ้ ท่ีมใี นแผนการจดั การเรียนรู้ สามารถเพมิ่ เตมิ จดุ เนน้ ตามนโยบายอ่นื ๆได)้ 6.1 ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือการเรยี นรู้ 3R X 8C 6.1.1 การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) 6.1.2 ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)

3 6.1.3 ทักษะด้านความรว่ มมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) 6.1.4 ทกั ษะดา้ นการส่ือสารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สื่อ (Communications, Information, and Media Literacy) 6.2 ทักษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี 21 6.2.1 ความยืดหยุ่นและการปรับตวั 6.2.2 การริเร่มิ สร้างสรรคแ์ ละการเปน็ ตวั ของตวั เอง 6.2.3 ทักษะสงั คม และสงั คมข้ามวัฒนธรรม 6.2.4 การเป็นผสู้ ร้างหรอื ผู้ผลติ และความรบั ผิดชอบเชื่อถือได้ 6.2.5 ภาวะผนู้ าและความรบั ผดิ ชอบ 6.3 คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ 21 6.3.1 คณุ ลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตวั ความเปน็ ผ้นู า 6.3.2 คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง 6.3.3 คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ เคารพผู้อ่ืน ความซ่อื สัตย์ สานกึ พลเมือง 7. การบูรณาการ(เลอื กเฉพาะขอ้ ที่สามารถบรู ณาการในแผนการจัดการเรียนรู้ สามารถเพ่ิมเติมเรื่องอ่นื ๆได้) 7.1 อื่นๆ (ระบุ) หลกั คิดของหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข) 8. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู)้ วาดภาพกิจวัตรประจาวันของตนเองตั้งแต่ตน่ื นอน จนกระท่งั เขา้ นอน พร้อมกับเขยี นประโยคบรรยาย ใตภ้ าพ โดยทาเปน็ หนงั สือเลม่ เล็ก (small book ) 9. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ วธิ ีการ - ประเมินใบงาน - แบบประเมินใบงาน - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 80 - ตรวจแบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน - แบบทดสอบ 10. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี 1 1) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ระบภุ าพ กับคาศัพท์ กลมุ่ คา ได้ถูกตอ้ ง 2) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ ที่ 1 ตง้ั คาถาม 1. ครูบอกจดุ ประสงค์ และให้นักเรยี นทาข้อสอบก่อนเรยี น (Pretest) 2. ครถู ามนกั เรยี นเก่ยี วกบั กจิ วตั รประจาวันของนักเรียน และนาเสนอคาศัพท์หนา้ ชั้นเรียน โดยเปดิ โอกาสให้นักเรียนเดาคาศัพท์กิจวตั รประจาวันในภาษาอังกฤษ เชน่ กจิ วัตรประจาวนั

4 คาศัพทใ์ นภาษาองั กฤษคอื คาวา่ อะไร (Routines /Daily routines) ข้นั ที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. นาเสนอบัตรภาพท่ีมคี าศัพท์ประกอบเก่ียวกบั กจิ วตั รประจาวัน (ตัวอยา่ งใบความรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง Daily Routines) ได้แก่ get up, shave, take a bath, get dressed, cook, have breakfast, go to school, study , have lunch , play , go home , do homework, have dinner , watch TV. , read, go to bed นักเรียนอ่านออกเสยี งตามครทู ลี ะคาจนครบ 2. ครชู บู ตั รภาพให้นกั เรียนทั้งชนั้ อา่ นออกเสยี งคาศัพทต์ ามครพู ร้อมกนั จากนั้นให้อ่านเอง อา่ นเป็นแถวและสมุ่ อ่านเป็นรายบุคคล ขน้ั ที่ 3 สร้างความรู้ 1. แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ๆ ละ 4 – 5 คน ใหห้ ัวหนา้ กลมุ่ ออกมารบั บัตรภาพ และ บตั รคาศัพท์กลุ่มละ 1 ชุด พรอ้ มอธิบายการเล่นเกมต่อภาพกบั คาศัพท์ 2. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั จับคภู่ าพกบั คาศัพท์ไห้ถูกตอ้ ง ภายในเวลาทคี่ รูกาหนด กลุ่มใด จบั ค่ภู าพกบั คาศัพท์ไดถ้ ูกต้องท่ีสดุ เปน็ กลมุ่ ชนะ ถา้ นักเรยี นจับคภู่ าพกบั คาศัพท์ไดถ้ ูกต้อง เหมอื นกันกลมุ่ ใดท่ีทาเวลานอ้ ยกวา่ ถอื เปน็ ผู้ชนะ ข้นั ที่ 4 สอ่ื สาร 1. นักเรียนแต่ละกลุ่ม อ่านออกเสยี งคาศัพท์พร้อมกนั อกี ครั้ง และทบทวนคาศัพท์โดยการให้ ตวั แทนกลุ่มชูภาพและใหส้ มาชิกในกลุ่มบอกคาศัพท์ใหถ้ ูกต้องตามภาพ 2. นักเรยี นบนั ทึกคาศัพท์ กลุ่มคา ลงในสมุด 3. นักเรียนทาใบงานท่ี 1 Daily Routines เขียนคาศพั ทใ์ ต้ภาพใหถ้ ูกต้อง ข้ันท่ี 5 ตอบแทนสังคม 1. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ คาศพั ทแ์ ละบอกความหมายของกิจวัตรประจาวนั และนาความรู้ไป ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวัน 3) สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ขอ้ สอบกอ่ นเรยี น (pretest) 2. บตั รภาพ/บตั รคาศัพท์ 3. ใบงานท่ี 1 Daily Routine 4) การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์การผ่าน ตรวจใบงานที่ 1 Daily Routines - ใบงานท่ี 1 8-9 คะแนน = ดี (เขียนคาศัพท์ใต้ภาพ) 6-7 คะแนน = พอใช้ 3-5 คะแนน = ปรับปรุง

5 แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre – test) เรื่อง Present Simple Tense จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน Direction : Choose the correct answer. คำชี้แจง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถกู ท่ีสุด 1. We………………..to the movies twice a month. b. goes a. go c. went d. going 2. ………………you…………….reading novels? b. Do, likes a. Does, like c. Do, like d. Does, likes 3. My uncle now ………………in New York. b. lives a. live c. lived d. living 4. Jacky is a vegetarian. He ……………… eat any meat. a. don’t b. do c. does d. doesn’t 5. Her baby always ……………….in the afternoon. b. cried a. cry d. crying c. carries 6. My older brother always ……………….watching the movie. a. cry b. cried c. cries d. crying 7. Teddy ……………….in class a. sleepy often is b. is often sleepy c. is sleepy often d. often is sleepy

6 8. Fasai…………. an English teacher. She ………. us on Mondays. a. is, teacher b. is, teaches c. are, teach d. are, teaches 9. A: ………….you believe in God? B: Yes, I do. a. Does b. Do c. Doesn’t d. Aren’t 10. A: ………….is that tall girl? B: She’s my friend, Ann. a. What b. Where c. Who d. When

7 Answer key เร่อื ง Present Simple Tense เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. a 2. c 3. b 4. d 5. c 6. a 7. b 8. a 9. b 10. c

8 ใบความรทู้ ี่ 1 เร่อื ง Daily Routines บตั รภาพกิจวัตรประจาวนั Daily Routines get up Go to school study Go home do homework go to bed

9 ใบงานที่ 1 เรอื่ ง Daily Routines Match the word or phrase with the right picture. เลือกคำในตารางเติมลงใหต้ รงกับรูปภาพ have breakfast take a bath Study watch TV. go to school get dressed go to bed get up do homework …………………………….. ……………………... …………………………. ……….…………………. …………………………… ………………………. ……….…………………. …………………………… ……………………….

10 ชัว่ โมงท่ี 2 1) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ พูดสนทนาแลกเปลีย่ นข้อมลู เกย่ี วกบั กิจวัตรประจาวันของตนเองได้ 2) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 ตัง้ คาถาม 1.ครทู กั ทายนักเรียน จากนั้นถามนักเรียนวา่ ตืน่ นอนตอนเชา้ เวลาเทา่ ไหรก่ นั บ้าง (What time do you get up?) ให้นกั เรียนแตล่ ะคนตอบ จากน้ันใหน้ กั เรยี นทายวา่ ครู ตนื่ นอนตอนเช้าก่โี มงโดยใช้คาถาม What time do you get up? นกั เรียนเดาคาตอบ จากน้ันครบู อกเวลาท่เี ป็นจรงิ (I get up at ... o’clock everyday.) ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. แบง่ กลุ่ม ๆ ละ 4 – 5 คน อ่านออกเสียงและศึกษาใบงานตารางเวลากจิ วตั รประจาวนั ใบความรทู้ ่ี 2 เรื่อง My Daily Routines โดยครอู ธบิ ายไปพร้อมๆกัน 2. ครูเขยี นหวั ข้อบนกระดานวา่ What time do you + Verb infinitive ? 3. นกั เรียนศึกษาใบงาน และฟังครูอธบิ ายการใช้คาถาม เช่น What time do you get up? I get up at ... What time do you take a bath? I take a both at … ขน้ั ที่ 3 สร้างความรู้ 1. นักเรียนจบั คูผ่ ลัดกันสนทนาถาม-ตอบ โดยใชค้ าถาม What time do you … ? I … at ......... โดยใชค้ าศัพท์กจิ วตั รประจาวนั และเวลาจากใบความรู้ที่ 2 My Daily Routines ขั้นที่ 4 ส่ือสาร 1. นักเรียนเขยี นตารางกิจวัตรประจาวนั และเวลาทท่ี ากจิ กรรมของตนเอง ตามแนวใบ ความรู้เร่ือง my daily routine 2. นกั เรยี นจับคู่สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ของตนเองหนา้ ช้ันเรียน ขั้นที่ 5 ตอบแทนสงั คม 1. นักเรียนร่วมกันพดู สรุปเน้ือหาทีเ่ รียนโดยอ่านใบความรู้ที่ 2 เรอ่ื ง My Daily Routines พรอ้ มๆกัน และนาความร้ไู ปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ในการช่วยเหลอื ผู้อน่ื ใน สถานการณ์ตา่ งๆได้ 3) สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. ใบความรู้ที่ 2 เร่อื ง My Daily Routines 2. ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง My Daily Routines 4) การวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารผ่าน วิธีการ เครือ่ งมือวัด ไดร้ ะดบั ดีขึน้ ไป ประเมินพฤติกรรม - แบบประเมินการพูด เขียนถกู ต้องร้อยละ 50 ขนึ้ ไป การสนทนาโตต้ อบ ตรวจใบงาน - ใบงานท่ี 2

11 ใบความรู้ที่ 2 เร่ือง My Daily Routine Activity Time (at) I wake up. 5.20 am I take a bath. 5.25 am 5.40 am I pray. 6.30 am I have breakfast. 7.00 am I go to school. 12.00 am 1.10 pm I have lunch. I go to class. 3.30 pm 4.00 pm I play with my friends. 4.30 pm I go home. 4.40 pm I take a bath. 5.20 pm I feed my pet. 6.10 pm I watch TV. 8.50 pm 9.30 pm I have dinner. I do my homework. I go to bed. Questions: - What time do you activity ? I activity at time . Ex. What time do you do your homework? I do homework at 8:50 pm.

12 ใบงานที่ 2 เร่ือง My Daily Routines Direction: List your daily routines and the times. Then use the list to ask and answer. Activity Time (at) Questions: - What time do you activity ? I activity at time . Ex. What time do you do your homework? I do homework at 8:50 pm.

13 ชวั่ โมงท่ี 3 1) จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ พดู โต้ตอบเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพือ่ น และครอบครวั เก่ยี วกบั ชวี ิตประจาวันได้ 2) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 ตัง้ คาถาม 1. ครู และ นกั เรียนพดู คุยเกยี่ วกับกิจวัตรประจาวัน โดยระบเุ วลา ตามเวลาของกิจกรรมน้ันๆ โดยใชป้ ระโยคที่ไดเ้ รยี นรู้ เช่น What time do you get up? I get up at 6.00 o’clock ขัน้ ที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. แสดงนาฬกิ า (ของจริง/นาฬิกาประดษิ ฐ์ ) ถามนักเรียนดว้ ยประโยคที่ครเู ขียนบน กระดานดา ดังน้ี (คาตอบขึ้นอยูก่ บั เวลาของนาฬิกาทคี่ รูเปน็ ผูก้ าหนด ) Teacher : What time is it ? Student : It is ten o’clock . Teacher : What time is it ? Student : It is seven- thirty . 2. ครูและนักเรียนสนทนา ถาม-ตอบ ใช้เวลาของตนเอง (จากใบงานท่ี 2) 3. ครตู ดิ ภาพกจิ วตั รประจาวนั ทีม่ คี วามสาคญั 6 อยา่ งพรอ้ มบตั รคาบนกระดาน นักเรียนอ่าน ออกเสียงและสะกดคาศัพทต์ ามครู 4-5 ครั้ง 4. ครตู ดิ แถบประโยคการถาม-ตอบกจิ วตั รประจาวันท้ัง 6 ประโยคบนกระดานและฝึกบอก เวลา /อา่ นเวลา และเขียนเวลา ตามนาฬิกากาหนด A: What time do you get up ? B: I get up at 6 o’clock. A: What time do you go to school ? B: I go to school at 7.30 . A: What time do you study ? B: I study at 8.30 . A: What time do you go home ? B: I go home at 4 o’clock. A: What time do you do homework ? B: I do homework at 5 o’clock. A: What time do you go to bed ? B: I go to bed at 8.30. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงตามครู 4-5 ครัง้ และแปลประโยคเป็นภาษาไทยรว่ มกัน ขัน้ ท่ี 3 สรา้ งความรู้ 1. นกั เรียนผลัดกนั สนทนาถามตอบกับเพ่ือนทุกคนในชัน้ เรียนด้วยประโยค - S 1 : What time do you get up ? S 2 : I get up at 6 o’clock. - S 1 : What time do you go to school ? S 2 : I go to go school at 7.30 . - S 1 : What time do you study ? S 2 : I study at 8.30 . - S 1 : What time do you go home ?

14 S 2 : I go home at 4 o’clock . - S 1 : What time do you do homework ? S 2 : I do homework at 5 o’clock . - S 1 : What time do you go to bed ? S 2 : I go to bed at 9 o’clock. ข้ันท่ี 4 สอ่ื สาร 1. สัมภาษณ์เพ่ือนในชัน้ เรยี นโดยใชโ้ ครงสร้างประโยค ถาม-ตอบทีเ่ รยี นมาแล้ว 2. นักเรยี นทากิจกรรมตาม ใบงานที่ 3 ดรู ูปภาพแลว้ ตอบคาถาม ขนั้ ท่ี 5 ตอบแทนสังคม 1. นกั เรียนร่วมกนั สรุปประโยคถาม-ตอบเกี่ยวกับกิจวตั รประจาวันและการบอกเวลาใน ชวี ติ ประจาวนั 3) สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ใบงานท่ี 2 เร่อื ง My daily routine 2. ใบความรทู้ ่ี 3 3. ใบงานท่ี 3 4. แถบประโยค 4) การวัดและประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การผ่าน ประเมนิ พฤติกรรม - แบบประเมนิ การพูด ได้ระดับดีขนึ้ ไป การสนทนาโตต้ อบ ตรวจใบงานที่ 3 - ใบงานที่ 3 ตอบถูกมากกว่าร้อยละ 50 ขึ้นไปผ่านเกณฑ์

15 ใบงานที่ 3 Ask, Answer, and Write. 1. Jame : What time do you get up ? Jany : I ………… at ……. o’ clock. 2. Wanna : What time do you go to school ? Malee : I ……………. at ………... . 3. Nun : What time do you study ? Panee : I ………….. at ……………... 4. Pam : What time do you go home ? Dum : I ………….. at ……….. o’ clock. 5. Wana : What time do you go to bed ? Wanida: I …………. at ……………….. Name ………………………………….. Number …………….. Class …….

16 ชั่วโมงท่ี 4 1) จุดประสงค์การเรยี นรู้ อ่านออกเสียงบทร้อยกรองส้ัน ๆ ได้ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น 2) กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันที่ 1 ต้ังคาถาม 1. ใหน้ กั เรยี นบอกเนอ้ื เพลง หรอื บทรอ้ ยกรองทน่ี ักเรยี นเคยรอ้ ง ให้นักเรยี นรอ้ งและ ทาจงั หวะตามเพลงหรอื บทรอ้ ยกรองน้นั ๆ ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. ครูนาเสนอ คาคล้องจองเกยี่ วกับกิจวตั รประจาวัน (chant of routines) ให้นกั เรียน อ่านตาม 2. ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านตามจนคลอ่ ง 3. ครใู หน้ กั เรยี นปรบมอื เป็นจงั หวะพร้อมๆกันประกอบกบั การพูดบทสนทนา 4. ครอู ธิบายหลกั การ ออกเสยี ง และจังหวะ Chant ข้ันที่ 3 สรา้ งความรู้ 1. แบง่ นักเรยี นออกเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 -5 คน ฝกึ ออกเสียงและปรบมอื ให้จังหวะประกอบ ตามครู 2. ส่มุ นกั เรยี นออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน ขัน้ ที่ 4 สอ่ื สาร 1. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันแตง่ บทสนทนาของกลุ่มตนเอง จากนน้ั ใสจ่ ังหวะ chant และท่าทางประกอบ 2. นักเรียนออกมานาเสนอหน้าช้ันเรยี นจนครบ ทุกกลมุ่ 3. นกั เรียนร่วมกันประเมนิ เพ่อื น และสรุปหลักการและความถูกต้องในการออกเสยี ง chant ของกล่มุ ตนเอง และกลุ่มเพอื่ นตามแบบการ chant ที่ถกู ตอ้ ง ข้ันท่ี 5 ตอบแทนสังคม 1. นักเรียนรว่ มกนั สรุปหลกั การและความถูกต้องในการออกเสียง chant และนาผลงาน เผยแพร่บอร์ดประชาสมั พันธ์ผลงาน ใหน้ กั เรียนระดบั ชั้นอื่นๆ ได้เรยี นรู้คาศพั ทท์ ี่ เกยี่ วขอ้ งได้ 3) สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. chant 2. กระดาษ A4

17 4) การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารผา่ น - แบบประเมนิ ชิน้ งาน ระดับดีขึ้นไป ประเมินบท chant - แบบประเมนิ การอ่านออกเสียง ระดบั ดีขน้ึ ไป ประเมินพฤติกรรมการอ่าน ออกเสียง

18 Chant of Routines What time do you get up? ( Twice ) I get up at six o’ clock. What time do you go to school? (Twice ) I go to school at seven – thirty. What time do you study? ( Twice ) I study at eight - thirty. What time do you go home? ( Twice ) I go home at four o’ clock. What time do you do homework? (Twice ) I do homework at five o’ clock.

19 ช่ัวโมงท่ี 5 1) จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ฟังและเขียนประโยคเรยี งลาดับเหตุการณ์กิจวตั รประจาวนั ท่ไี ด้ยนิ ได้ 2) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 ตัง้ คาถาม 1. ครูนาเสนอ คาคล้องจองเก่ียวกับกจิ วัตรประจาวัน (chant of routines) ให้นักเรยี นปรบมอื เปน็ จังหวะพร้อมๆกัน What time do you get up? (Twice ) I get up at six o’ clock. What time do you go to school? (Twice ) I go to school at seven - thirty. 2. ให้นกั เรียนรว่ มกนั ทายและบอกว่ากิจวตั รประจาวันของคุณครตู ั้งแต่เช้า-เขา้ นอน มีอะไรบ้างเรยี งตามลาดบั เขียนลงในกระดาษ ขน้ั ที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. แบง่ กล่มุ ชว่ ยกนั ฟังสคริปต์กิจวตั รประจาวนั ของครตู ง้ั แต่เช้า-เขา้ นอน ให้เรียงลาดับ กิจกรรมตามท่ีได้ยนิ แลว้ ตรวจสอบว่าทายถูกกีข่ ้อ 2. รว่ มกนั สรปุ กิจวัตรประจาวนั ของครูเปน็ Mind Map 3. นาเสนอเกยี่ วกบั กิจวัตรประจาวนั ของครูและนักเรียน ต้งั แต่เช้าจนถงึ เวลาเข้านอน บนกระดาน เช่น ต่ืนนอน ไปโรงเรยี น เรียนหนังสือ กลับบ้าน ทาการบ้าน และเข้านอน ขั้นที่ 3 สรา้ งความรู้ 1. นกั เรียนอ่านกจิ วตั รประจาวันของตนเองท่ีเขยี นไวใ้ นช่วั โมงทีแ่ ล้ว ใหเ้ พ่ือนในชน้ั เรียนฟัง แล้วเขียนประโยคเรียงลาดบั ตามท่ไี ด้ยิน ตรวจคาตอบพร้อมกบั ให้คะแนนข้อทีเ่ รียง ไดถ้ กู ตอ้ ง ข้ันท่ี 4 สอื่ สาร 1. นกั เรียนทา แผนผงั กจิ วตั รประจาวนั ของตนเองพร้อมวาดภาพระบายสี ให้สวยงาม โดยดู Mind mapping ของครูเปน็ แนวทาง ข้ันที่ 5 ตอบแทนสังคม 1. นกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ บทเรียนและนาผลงาน Mind mapping ไปเผยแพร่บอร์ด ประชาสัมพนั ธ์ผลงาน 3) สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 1. chant 2. mind mapping 3. สคริปต์ กิจวัตรประจาวันครู 4. ใบงานท่ี 2 เรื่อง My Daily Routine 5. กระดาษ A4

20 4) การวัดและประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การผา่ น ทดสอบพฤติกรรมการฟัง - แบบประเมนิ การฟัง ได้ระดบั ดีข้ึนไป หรือ เรียงลาดบั สงั เกตพฤตกิ รรมกล่มุ ตรวจช้นิ งาน (mind map) เหตกุ ารณ์ไดถ้ ูกตอ้ งอยา่ งนอ้ ย 4 ข้อ - แบบประเมนิ พฤติกรรมกลุม่ ไดร้ ะดับดขี ึ้นไป - แบบประเมินแผนผงั ไดร้ ะดับดีข้นึ ไป มโนทศั น์ (mind map)

21 ตัวอยา่ งสครปิ ต์กจิ วตั รประจาวันครู Direction: Listen then order. My routines I am thirteen years old. I live in Amnatcharoen with my family. I get up at 6 o’clock. I brush my teeth, take a shower and get dressed. I leave the house at 7.30 am. Then, I walk to school. I have lunch at 12.00 am. I leave School at 4 o’clock. I arrive home at 4.30 pm. Then I go to the park to meet my friends. I go home again for dinner at 7 o’clock. I have dinner with my family. Then I go to take a shower and brush my teeth. I do my housework and watch TV. Then, I go to bed at 10 o’clock.

22 ชว่ั โมงท่ี 6 1) จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ แต่งประโยคเกี่ยวกับกิจวัตรประจาวนั ของตนเองตามหลักโครงสร้าง present simple tense 2) กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันท่ี 1 ตั้งคาถาม 1. ครูยกตัวอย่างประโยคเกย่ี วกับกจิ วตั รประจาวันบนกระดานดา 2 -3 ประโยค ดังน้ี - I wake up at 5.30 am. I take a bath at 6.00 am. - I have breakfast at 7.00 am. 2. ครบู อกนักเรียนวา่ ประโยคทใี่ ชส้ าหรบั การเขียนกจิ วตั รประจาวัน ใช้โครงสรา้ ง present simple tense ขั้นที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. ครเู ขียนหัวขอ้ บนกระดานวา่ present simple tense พรอ้ มเขยี นโครงสรา้ งประโยคดังน้ี Subject + verb1 + กรรม/สว่ นขยาย. 2. ศึกษาใบความรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง present simple tense ร่วมกนั 3. อภปิ รายโครงสร้างและยกตัวอย่างประโยค present simple tense บนกระดาน ขน้ั ที่ 3 สรา้ งความรู้ 1. นกั เรียนออกไปเขยี นกจิ วัตรประจาวันของตัวเอง คนละ 1 ประโยคบนกระดาน โดยยดึ ใบความรูเ้ ปน็ แนวทาง 2. ครูตรวจประโยคท่ีนักเรยี นเขยี น แนะนาในสว่ นที่ยังต้องแก้ไข และกลา่ วชมเชยนักเรยี น ทีแ่ ตง่ ประโยคได้ถกู ต้อง ขนั้ ท่ี 4 สือ่ สาร 1. ทาใบงานท่ี 4 – 6 2. วาดภาพและเขียนประโยคบรรยายภาพ โดยยดึ ใบความรทู้ ่ี 1 และใบความรู้ที่ 2 เป็น แนวทาง 3. นาเสนอภาพและประโยคกิจวัตรประจาวนั ของตัวเองหน้าช้ันเรยี น (individual activity) ขั้นที่ 5 ตอบแทนสงั คม 1. รว่ มกันสรุปบทเรยี นโดยการทบทวนโครงสรา้ งประโยคบอกเล่าpresent simple tense ลงในสมุด 3) สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. ใบความร้ทู ี่ 3 present simple tense 2. ใบงานท่ี 4, 5, 6

23 4) การวัดและประเมนิ ผล วิธีการ เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารผ่าน - แบบประเมินการเขยี น ไดร้ ะดบั ดีขน้ึ ไป ประเมนิ การเขยี นบรรยาย ภาพ - ใบงานที่ 4 - 6 ตอบถูกร้อยละ 60 ขนึ้ ไป ตรวจใบงานท่ี 4-6

24 ใบความรู้ที่ 3 เรอ่ื ง Present simple Present Simple Tense โครงสร้างประโยค คอื Subject + Verb1 + กรรม/ส่วนขยาย. ใช้กับเหตุการณ์ 1. ใชก้ ับเหตกุ ารณ์หรือการกระทาทีเ่ ป็นความจริงตลอดไป หรอื เป็นความจริงตามธรรมชาติ เชน่ - The sun rises in the east. ดวงอาทติ ย์ข้ึนทางทศิ ตะวันออก - Fire is hot. ไฟรอ้ น 2. ใชก้ ับการกระทำทีท่ าเป็นนิสยั มกั จะมีกลมุ่ คำที่มีความหมายวา่ เสมอๆ บ่อยๆ ทุกๆ (adverbs of frequency) อยูด่ ว้ ย เช่น - I get up at six o’clock everyday. ฉนั ต่ืนนอนเวลา 6 โมงเชา้ ทุกวัน - I always have breakfast at 7:00 am. ฉนั รบั ประทานอาหารเช้าเวลา 7 นาฬิกาเสมอ ชนิดของประโยค 1. ประโยคบอกเล่า = Subject + Verb1 + กรรม/ส่วนขยาย ถา้ กรยิ าเปน็ เอกพจน์บุรุษที่ 3 จะมกี ารเตมิ s หรือ es เชน่ - I wake up at 5.30 am. - I have breakfast at 7.00 am. - I watch TV at 8.20 pm. - I have dinner at 7.25 pm. - I go to bed at 9.30 pm. หลกั การเตมิ s หรือ es ท่คี ากรยิ า 1.1 กรยิ าที่ลงทา้ ยดว้ ย s, ch, sh, และ o ให้เตมิ es เช่น kiss – kisses, watch – watches, wash – washes, go –goes, etc. 1.2 กรยิ าทลี่ งท้ายดว้ ย y ให้เปลยี่ น y เปน็ i แล้วเตมิ es เชน่ cry – cries, marry – marries, ยกเว้น หนา้ y เป็นสระ ใหเ้ ติม s ได้เลย เชน่ buy – buys, play – plays, etc.

25 2. ประโยคปฏเิ สธ = Subject + do not (don’t)/does not (doesn’t) + V1 + กรรม/สว่ นขยาย เชน่ - I don’t wake up at 5.30 pm. - She doesn’t have dinner at 7 o’clock. 3. ประโยคคาถาม = Do/Does + subject + V1 + กรรม/ส่วนขยาย เชน่ - Do you wake up at 5.30? - Does she have dinner at 7.25 pm? *******************************

26 ใบงานที่ 4 Direction : Add s /es to the word given. 1. drive............ 2. write............ 3. catch.............. 4. wash............ 5. sit..................... 6. watch................ 7. ride................. 8. eat.................. 9. drink................ 10. play...............

27 เฉลยใบงานท่ี 4 Direction : Add s /es to the word given. 1. drives 2. writes 3. catches 4. washes 5. sits, 6. watches 7. rides 8. eats 9. drinks 10. plays

28 ใบงานท่ี 5 Direction: Put the verbs in brackets into the correct form. 1. We (read) ……………….. newspaper in class everyday. 2. He (come) …………… to school by bus. 3. I (have) ……………. lunch in the cafeteria every day. 4. Mr. Smith (work) ……………….. for the Eastern Airlines. 5. Some girls (put on) …………………………. too much make – up. 6. Susan (go) ………………… there twice a week. 7. He (carry) ……………... the books in a briefcase. 8. Gale (play) …….………… piano very well. 9. The mother (kiss) …………….. her son good - bye every morning. 10. Joy (study) ………………… in the same class as I.

29 เฉลยใบงานท่ี 5 Direction : Put the verbs in brackets into the correct form. 1. We (read)……read………….. newspaper in class every day. 2. He (come)……comes…………to school by bus. 3. I (have)……have………….lunch in the cafeteria every day. 4. Mr. Smith (work)……works…………..for the Eastern Airlines. 5. Some girls (put on)……put on……………too much make – up. 6. Susan (go)………goes……………there twice a week. 7. He (carry)………carries………...the books in a briefcase. 8. Gale (play)……plays………… piano very well. 9. The mother (kiss)……kisses…………..her son good – bye every morning. 10. Joy (study)………studies……………in the same class as I

30 ใบงานท่ี 6 Direction : Rewrite these sentences into negative form. 1. The boy cleans his house every day. ........................................................................................................................................................ 2. He always plays football after class. .......................................................................................................................................................... 3. The girl likes to sing. .......................................................................................................................................................... 4. They always dance at the party. ......................................................................................................................................................... 5. They have lunch at the canteen everyday. ........................................................................................................................................................ 6. He usually gets up early in the morning. ......................................................................................................................................................... 7. He always goes to school on foot. ......................................................................................................................................................... 8. Joy rides a bike to the park on Sundays. ......................................................................................................................................................... 9. They like to study English. ............................................................................................................................................................. 10. She is a kind teacher. ..............................................................................................................................................................

31 เฉลยใบงานท่ี 6 Direction : Rewrite these sentences into negative form. 1. The boy cleans his house every day. The boy doesn’t (does not) clean his house every day. 2. He always plays football after class. He doesn’t (does not) play football after class. 3. The girl like to sing. The girl doesn’t (does not) like to sing. 4. They always dance at the party. They don’t (do not) always dance at the party. 5. They have lunch at the canteen every day. They don’t (do not) have lunch at the canteen everyday. 6. He usually gets up early in the morning. He doesn’t (does not) get up early in the morning. 7. He always goes to school on foot. He doesn’t (does not) go to school on foot. 8. Joy rides a bike to the park on Sundays. Joy doesn’t (does not) ride a bike to the park on Sundays. 9. They like to study English. They don’t (do not) like to study English. 10. She is a kind teacher. She isn’t (is not) a kind teacher.

32 ช่ัวโมงท่ี 7 1) จุดประสงค์การเรียนรู้ อ่านจับใจความสาคัญและเรียงลาดบั เหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่านได้ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน 2) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี 1 ต้ังคาถาม 1. ครทู ักทายและใหน้ ักเรยี นเล่าเกย่ี วกับกิจวัตรของนักเรยี นในตอนเชา้ -เขา้ นอน ให้เพอื่ น ๆ ในชัน้ เรยี นฟังโดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยคท่เี รียนมาแลว้ 2. ทบทวนความรู้เรื่อง Present Simple Tense นาเสนอคาศพั ท์ใหม่ และทบทวนคาศัพท์ เก่ียวกับกจิ วัตรท่ีเรียนมาแลว้ ข้นั ที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. นาเสนอการต้ังคาถามและตอบคาถามจากประโยค Present Simple Tense 2. ศกึ ษาใบความรู้ท่ี 4 เรื่อง Malee’s routine จากนัน้ ให้นักเรียนอา่ นในใจอย่างรวดเรว็ 1 นาทีแลว้ ไหน้ ักเรียนปิด แล้วบอกคาศัพท์ ประโยคที่เหน็ จากเรื่อง ขั้นที่ 3 สรา้ งความรู้ 1. ใหน้ กั เรยี นอา่ นออกเสียงเร่ือง Malee’s routine ตามครู 2 รอบ จากน้ันให้ นักเรยี นอ่านเองพร้อมกัน 2. ฝกึ ต้งั คาถามเกี่ยวกับกจิ วัตรประจาวันของมาลี แลว้ ช่วยกนั ตอบ ข้ันที่ 4 สอ่ื สาร 1. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงเร่อื ง Malee’s routine อกี ครั้ง จากนน้ั ครเู ก็บเนื้อเรื่องไว้ 2. กิจกรรมจกิ๊ ซอว์ - แบง่ กลุ่ม ๆ ละ 3-4 คน แจกแถบประโยคจากเน้ือเรื่อง Malee’s routine ท่แี บง่ เป็น ตอน ๆ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคน - ผลดั กันอา่ นประโยคของตน - ระดมความคดิ ช่วยกนั เรียงแถบประโยคให้เป็นเน้ือเรื่องทสี่ มบูรณถ์ ูกต้อง - นาเสนอหน้าชน้ั เรียน กล่มุ ใดเรยี งได้ถูกตอ้ งและเรว็ ทส่ี ุด เปน็ กลมุ่ ชนะ ขนั้ ที่ 5 ตอบแทนสงั คม 1. ศกึ ษาโครงสร้างประโยค present simple tense ในเร่ือง Malee’s routines 2. สรปุ ความรู้และนาผลงานไปเผยแพรบ่ อร์ดประชาสัมพนั ธผ์ ลงาน 3) สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. ใบความรทู้ ี่ 4 เร่อื ง Malee’s routine

33 4) การวัดและประเมนิ ผล เกณฑก์ ารผ่าน ไดร้ ะดบั ดขี ึน้ ไป วิธกี าร เครอ่ื งมือวัด ได้ระดับดขี ้นึ ไป สังเกตพฤตกิ รรมกลุม่ - แบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ประเมนิ การอา่ นจบั ใจความ - แบบประเมนิ การอ่านจบั ใจความ

34 ใบความรทู้ ่ี 4 เร่ือง Malee’s Routines Malee’s Routines Malee is twelve years old. She lives in Amnatcharoen with her family. She gets up at 6 o’clock. She brushes her teeth, takes a shower, and gets dressed. She leaves the house at 8 o’clock and walks to school. Malee has lunch at 12 o’clock. School finishes at 4 o’clock. Malee gets home from school at half past four. Then she goes to the park and meets her friends. She goes home again for dinner at 7 o’clock. She has dinner with her family. Then she goes to take a shower and brushes her teeth. Malee does her homework and watches TV. She goes to bed at 9 o’clock.

35 ชัว่ โมงท่ี 8 1) จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เขยี นบรรยายกิจวัตรประจาวันของตนเองได้ถูกต้องโดยใช้โครงสร้าง present simple tense 2) กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี 1 ต้ังคาถาม 1. เล่นเกมกระซิบ (Gossip) ทบทวนคาศัพท์และประโยคเกี่ยวกับกิจวตั รประจาวัน ขนั้ ที่ 2 แสวงหาสารสนเทศ 1. นักเรียนอา่ นกิจวตั รประจาวนั ในใบความรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง Malee’s routine ที่แจกใหใ้ น ชั่วโมงท่แี ล้ว ศกึ ษาโครงสรา้ งประโยคและรปู แบบการเขยี น ขั้นท่ี 3 สร้างความรู้ 1. ให้นักเรียนจบั คู่อ่านเนื้อเรอื่ งจากใบความรู้ Malee’s routine และถาม-ตอบโดยใช้ โครงสร้าง present simple tense (ครูอธิบายโครงสรา้ งประโยคคาถามท่ีขน้ึ ตน้ ดว้ ย Wh-question และYes-No question) เชน่ A: What time does she get up? B: She gets up at…………………………………….. A: Does she get up at .......? B: Yes, she does./No, she doesn't เป็นตน้ ขั้นท่ี 4 สอื่ สาร 1. นักเรียนเขยี นบรรยายกิจวตั รประจาวนั ของตนเอง (ใบงานท่ี 9) โดยใช้โดยใชโ้ ครงสร้าง ประโยค present simple tense และศึกษาใบความรู้ที่ 4 Malee’s routine เป็น แนวทางในการเขยี น 2. นักเรยี นทาใบงานท่ี 7, 8 และ 9 ขั้นที่ 5 ตอบแทนสงั คม 1. นกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ และทบทวนโครงสรา้ งประโยคคาถาม Present simple tense (ประโยคคาถามที่ขนึ้ ตน้ ด้วย Wh-question และ Yes-No question ) 2. นกั เรยี นนาผลงานไปเผยแพร่บอรด์ ประชาสมั พันธ์ผลงาน ใหน้ ักเรียนระดับชนั้ อ่ืนๆ ได้ เรยี นรคู้ าศพั ทท์ ีเ่ กยี่ วข้องได้ และนาความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ในการ ชว่ ยเหลือผู้อ่ืนในสถานการณ์ตา่ งๆได้ 3) สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. เกม 2. คาศัพท์/ ประโยค 3. ใบความรู้ท่ี 3 เร่ือง present simple 4. ใบความรูท้ ่ี 4 Malee’s routine

36 5. ใบงานท่ี 7-9 4) การวัดและประเมินผล วิธีการ เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารผ่าน ตรวจใบงานท่ี 7และ 8 - ใบงานที่ 7และ 8 ตอบถูกรอ้ ยละ 50 ขน้ึ ไป ผา่ น ประเมินทักษะการเขียน - แบบประเมนิ การเขยี น เกณฑ์ (ใบงานท่ี 9) ได้ระดบั ดีข้นึ ไป

ใบงานท่ี 7 Direction : Rewrite these sentences into question form. 1. She lives in Amnatcharoen. .......................................................................................................................................... .................. 2. They enjoy their English lessons. ....................................................................................................................... .................................... 3. Joke drives to Phuket once a week. ............................................................................................................................................................ 4. You like Bangkok. ............................................................................................................................ ................................ 5. He seems to be very busy. .................................................................................................................... ........................................ 6. They sell newspapers there. ............................................................................................................... ............................................ 7. It closes at six thirty. ........................................................................................................................................................... 8. He arrives at the post office. .................................................................................................................. ......................................... 9. He feels good today. ................................................................................................................... ....................................... 10. The class begins at eight o’clock. ..........................................................................................................................................................

เฉลยใบงานท่ี 7 Direction : Rewrite these sentences into question form. 1. She lives in Amnatcharoen. Does she live in Amnatcharoen? 2. They enjoy their English lessons. Do they enjoy their English lessons? 3. Joke drives to Phuket once a week. Does Joke drive to Phuket once a week? 4. You like Bangkok. Do you like Bangkok? 5. He seems to be very busy. Does he seem to be very busy? 6. They sell newspapers there. Do they sell newspapers there? 7. It closes at six thirty. Does it close at six thirty? 8. He arrives at the post office. Does he arrive at the post office? 9. He feels good today. Does he feel good today? 10. The class begins at eight o’clock. Does the class begin at eight o’clock?

ใบงานที่ 8 Direction: Choose a suitable Wh – Question from the list for each of the sentences. Who What Where When Why How Which Whose 1. ……………........English book is this? It’s Jenny’s. 2. ………………..... boy is your son? The fat one. 3. ………………… do you get to school? By car. 4. …….....……………is that tall boy? My friend, Frank. 5. …….………….color is her hair? Black. 6. …….....………… does Joy go home? At four o’clock. 7.……….....………….do you want to buy it now? I need it. 8. ……......………… are your friends now? At home. 9. …….....…………… does this word mean? It means “easy.” . 10. …….....………….. is your boss? Mr. Sutee.

เฉลยใบงานท่ี 8 Direction: Choose a suitable Wh – Question from the list for each of the sentences. Who What Where When Why How Which Whose 1. ……Whose………..English book is this? It’s Jenny’s. 2. ……Which…………boy is your son? The fat one. 3. ……How……………do you get to school? By car. 4. ……Who……………is that tall boy? My friend, Frank. 5. ……What………….color is her hair? Black. 6. ……When…………does Joy go home? At four o’clock. 7.………Why………….do you want to buy it now? I need it. 8. ……Where……… are your friends now? At home. 9. ……What……………does this word mean? It means “easy” 10. ……Who………….. is your boss? Mr. Sutee.

ใบงานที่ 9 Direction: Write sentences in the title of “My Daily Routines” in the form of Present Simple Tense. My Daily Routine I always get up at ……………………………………………………………………............................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แบบทดสอบหลังเรียน (Post – test) เร่ือง Present Simple Tense จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน Direction : Choose the correct answer. คำชี้แจง ให้นักเรยี นเลอื กคำตอบทถ่ี กู ที่สดุ 1. My uncle now ……………… in New York. b. lives a. live c. lived d. living 2. We………………..to the movies twice a month. b. goes a. go c. went d. going 3. ………………you…………….reading novels? b. Do, likes a. Does, like c. Do, like d. Does, likes 4. Her baby always ……………….in the afternoon. a. cry b. cried c. cries d. crying 5. Jacky is a vegetarian. He……………….eat any meat. a. don’t b. do c. does d. doesn’t

6. Teddy ……………….in class b. is often sleepy d. often is sleepy a. sleepy often is c. is sleepy often 7. My older brother always ……………….watching the movie. a. cry b. cried c. carries d. crying 8. Fasai…………. an English teacher. She……….us on Mondays. a. is, teacher b. is, teaches c. are, teach d. are, teaches 9. A: ………….you believe in God? B: Yes, I do. a. Does b. Do c. Doesn’t d. Aren’t 10. A: ………….is that tall girl? B: She’s my friend, Ann a. What b. Where c. Who d. When

Answer key เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เร่ือง Present Simple Tense 1. b 2. a 3. c 4. c 5. d 6. b 7. c 8. b 9. b 10. c

9. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นร้ทู ี่ 1 (K) นักเรียนมคี วามรูเ้ กย่ี วกบั .................................................................................. ผเู้ รียนที่ผ่านจดุ ประสงคจ์ านวน................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................. ผเู้ รียนทีไ่ ม่ผา่ นจุดประสงค์ จานวน................คน คดิ เป็นร้อยละ................. นักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นจดุ ประสงค์ และต้องการให้ความชว่ ยเหลือได้แก.่ .................................................................. ............................................................................................................................. ............................................. จุดประสงค์การเรียนรู้ที่ 2 (P) นกั เรยี นมีทกั ษะเกี่ยวกบั .................................................................................. ผู้เรียนท่ผี ่านจุดประสงค์ จานวน................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................. ผเู้ รยี นที่ไม่ผา่ นจุดประสงค์ จานวน................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................. นกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นจุดประสงค์ และตอ้ งการให้ความชว่ ยเหลอื ได้แก่................................................................... .......................................................................................... ................................................................................ จุดประสงค์การเรยี นรทู้ ่ี 3 (A) นักเรยี นมคี วาม.....................เกยี่ วกับ............................................................... ผู้เรยี นทผ่ี า่ นจุดประสงค์ จานวน................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................. ผเู้ รียนทไี่ มผ่ ่านจุดประสงค์ จานวน................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................. นกั เรยี นทไี่ มผ่ า่ นจุดประสงค์ และตอ้ งการให้ความชว่ ยเหลอื ได้แก.่ .................................................................. ............................................................................................................................. ............................................. จุดประสงค์การเรียนรทู้ ี่ …. (……)นกั เรยี นม.ี ..........เกย่ี วกบั ............................................................................. ผเู้ รยี นท่ีผ่านจดุ ประสงค์ จานวน................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................. ผู้เรยี นทไ่ี ม่ผา่ นจุดประสงค์ จานวน................คน คิดเปน็ ร้อยละ................. นกั เรยี นทีไ่ มผ่ ่านจดุ ประสงค์ และต้องการให้ความช่วยเหลอื ได้แก่................................................................... .............................................................................................. ........................................................................... (หมายเหตุ: บนั ทึกให้ครบทุกจุดประสงคท์ ่ีเรากาหนดไว้) 2. ปัญหาอปุ สรรคหรอื สาเหตุทไี่ มผ่ ่าน.......................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................. 3. แนวทางแกป้ ญั หาและข้อเสนอแนะ........................................................................................................ ............................................................................................................................. .................................. 4. ผูเ้ รียนทีม่ ีความสามารถพิเศษแก.่ ........................................................................................................... 5. ส่ิงทไ่ี ม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผนการจดั การเรียนร.ู้ ................................................................................................ เหตผุ ล........................................................................................................................................................ ลงชือ่ ผสู้ อน (นางรัชนีย์ ทองโพธิ์ศรี) ตาแหน่ง ครู คศ.3 วันที่……. เดอื น……………………. พ.ศ. …………….

10. ข้อเสนอแนะ(หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ ..................…………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ (นางสมหมาย ส่อยสแี สง) ตาแหน่ง หัวหน้ากล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ วนั ท…่ี ..…. เดอื น……………………. พ.ศ.……………. 11. ความเหน็ ฝ่ายวิชาการ/ผชู้ ่วยผ้อู านวยการฝ่ายวชิ าการ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ (นายเถลงิ ศกั ด์ิ เถาว์โท) ตาแหน่ง ผูช้ ว่ ยผูอ้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ วนั ท…่ี …… เดือน…………………………. พ.ศ.……… 12. ความเห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ (นายสุเมธ หน่อแกว้ ) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี นนา้ ปลีกศกึ ษา วันท…่ี …… เดือน…………………………. พ.ศ.………

ภาคผนวก

แบบบนั ทกึ การประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ประเดน็ /คะแนน การอ่าน ความถูกตอ้ ง น้าเสยี งและ รวมคะแนน ออกเสียง 4 ความคล่องแคลว่ 12 เลขที่ ชื่อ - สกลุ 4 4 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 ลงชอ่ื .........................................................ผปู้ ระเมิน (................................................................) วันที่..........เดอื น.................................พ.ศ. .................

เกณฑก์ ารประเมนิ การอ่านออกเสยี ง ระดบั คะแนน 4 3 21 น้าหนกั 4 ประเด็น 4 อ่านออกเสียงคา / อ่านออกเสยี งคา อ่านออกเสียง อ่านออกเสียง 4 ประโยคได้ชัดเจน / ประโยคได้ คา / ประโยคได้ คา / ประโยคไม่ 12 โดยเนน้ เสยี งหนัก- ชัดเจน ชดั เจน ค่อยชัดเจน เบาในคา( Stress ) โดยเน้นเสียง อา่ นออกเสียง / เสยี งทา้ ยคา / หนกั -เบาในคา( ระดับเสียงสงู ตา่ / Stress ) เสยี งเชือ่ มโยง ความถกู ต้อง อ่านถูกตอ้ งตาม อา่ นถูกต้องตาม อา่ นถูกตอ้ ง อา่ นไม่ค่อยถกู หลกั การอา่ น หลักการอ่านส่วน บางส่วน ใหญ่ นา้ เสียงเป็น นา้ เสยี งไพเราะ มี นา้ เสียงไพเราะ นา้ เสียงไมค่ ่อย น้าเสยี งและ ธรรมชาตเิ หมาะสม ความคลอ่ งแคล่ว ใช้ได้ มีความ ไพเราะ ไม่ค่อย ความคลอ่ งแคลว่ คลอ่ ง กบั บริบท มคี วาม ในการอ่านเปน็ คล่องพอ คล่องในการอ่าน อย่างดี สมควร เป็นอยา่ งดี รวม เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน 10-12 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 6-9 หมายถงึ ดี คะแนน 4-5 หมายถึง พอใช้ เกณฑก์ ารผ่าน ตง้ั แตร่ ะดับดีข้นึ ไป

แบบบนั ทึกการประเมินการพูด ประเดน็ /คะแนน ความถกู ต้อง ความ การแสดงทา่ ทาง รวม คลอ่ งแคล่ว น้าเสียงประกอบ คะแนน เลขท่ี 12 การพูด 36 ชือ่ - สกลุ 16 8 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชื่อ.........................................................ผูป้ ระเมิน (...........................................................) วันท.่ี .........เดอื น.................................พ.ศ. .................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook