Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเขียนเชิงธุรกิจ (Writing for business) by Deborah Dumaine, สินิทธิ

การเขียนเชิงธุรกิจ (Writing for business) by Deborah Dumaine, สินิทธิ

Published by supasit.kon, 2022-08-19 14:29:13

Description: การเขียนเชิงธุรกิจ (Writing for business) by Deborah Dumaine, สินิทธิ

Search

Read the Text Version

WRITING FOR BUSINESS

POCKET MENTOR SERIES การเขียนเชิงธุรกิจ แปลและเรียบเรียงจาก Pocket Mentor Series Writing for Business โดย : Deborah Dumaine ผู้แปล : สินิทธ์ิ อิศรเสนา Original work Copyright ©2006 Harvard Business School Publishing Corporation Published by arrangement with Harvard Business Review Press Unauthorized duplication or distribution of this work constitutes Copyright infringement. Thai translation rights ©2019 Expernet Co., Ltd. All rights reserved. จ�ำนวน 128 หน้า ราคา 130 บาท ISBN (E-Book) 978-974-414-466-9 สงวนลิขสิทธิ์โดย : บริษัท เอ็กซเปอร์เน็ท จ�ำกัด จัดท�ำโดย : บริษัท เอ็กซเปอร์เน็ท จ�ำกัด 2387 อาคารรวมทุนพัฒนา ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 0-2718-1821 (10 คู่สาย) e-mail: [email protected] http://www.expernetbooks.com 

“คู่มือพัฒนาทักษะผู้น�ำ” จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (The Pocket Mentor Series) คู่มือฉบับกะทัดรัด เน้ือหากระชับเข้มข้นเล่มน้ีเป็นชุดคู่มือที่ทาง Harvard Business School ได้พัฒนาขึ้นมา เพ่ือเป็นท่ีพ่ึงพาแก่คนท�ำงาน และนักบริหารในทุกสถานการณ์ และทุกสถานท่ี ด้วยเครื่องมือที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งสามารถน�ำไปใช้ในการปฏิบัติ งานจริงได้โดยง่ายและได้ผล พร้อมแบบทดสอบตนเองและตัวอย่างจาก ชีวิตจริงที่จะเอื้อต่อการฝึกฝนและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทั้งที่โต๊ะท�ำงาน โต๊ะประชุม หรือแม้กระท่ังระหว่างการเดินทาง ส�ำหรับบุคคลที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการบริหารจัดการและโลกธุรกิจ ยุคใหม่น้ัน จ�ำเป็นอย่างยิ่งท่ีจะต้องมีคู่มือพัฒนาทักษะผู้น�ำจากฮาร์วาร์ดใน ชุดน้ีไว้เป็นคู่ใจ 

สารบัญ หน้า 3 ค�ำน�ำส�ำนักพิมพ์ 11 บทน�ำ : การเขียนเชิงธุรกิจท่ีมีประสิทธิผล 13 ส่วนท่ี 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน 15 บทที่ 1 การเขียนที่มีประสิทธิผล หลักเกณฑ์พื้นฐานท่ีจะท�ำให้การเขียนของคุณ 16 บรรลุวัตถุประสงค์ท่ีต้องการ 18 อธิบายวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน 20 ยึดผู้อ่านเป็นศูนย์กลาง 20 เน้นข้อความส�ำคัญอย่างชัดเจน 22 พยายามเขียนให้ส้ันและเรียบง่าย 27 ทบทวนกลยุทธ์ในการส่งสาร 28 บทท่ี 2 ก�ำหนดขอบเขตงานเขียนของคุณ การก�ำหนดความกว้างและความลึกของหัวข้อ เพ่ือให้คุณ และผู้อ่านประหยัดทั้งเวลาและแรงงานที่ไม่จ�ำเป็น ขอบเขตที่กว้างและขอบเขตท่ีแคบ 

สารบัญ 5 บทท่ี 3 กลยุทธ์เพื่อเริ่มต้นการเขียน หน้า 31 กลยุทธ์ท่ีคุณสามารถน�ำไปใช้เพ่ือเริ่มต้นการเขียน ได้อย่างมีประสิทธิผล 32 33 การต้ังค�ำถาม 35 โครงร่างแบบธรรมเนียมนิยม 37 โครงร่างแบบระดมความคิด 39 การเขียนแบบอิสระ 41 บทที่ 4 การจัดโครงสร้างการเขียนอย่างเป็นระบบ 41 42 การน�ำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุ 43 วัตถุประสงค์ในการเขียน 44 หลักการจัดเรียงตามล�ำดับความส�ำคัญ หลักการจัดเรียงตามล�ำดับเหตุการณ์ หลักการเขียนแบบข้ันตอนและกระบวนการ หลักการสร้างแผนที่ความคิด หลักการเปรียบเทียบความเหมือน และความแตกต่าง 

6 การเขียนเชิงธุรกิจ หลักการเขียนจากหัวข้อเจาะจงไปสู่หัวข้อ หน้า ทั่วไป หรือจากหัวข้อท่ัวไปสู่หัวข้อเจาะจง 45 หลักการวิเคราะห์ 47 บทท่ี 5 การเขียนร่างเอกสารคร้ังแรก 53 รวบรวมประเด็นส�ำคัญและความคิดหลักท่ีจะน�ำเสนอท้ังหมด เริ่มต้นด้วยความผ่อนคลาย 55 เร่ิมเขียนในแต่ละส่วน 55 ข้อแนะน�ำส�ำหรับการเขียนเอกสารด้านเทคนิค 58 บทที่ 6 การจัดโครงสร้างย่อหน้า 61 การเขียนย่อหน้าที่ดี เพ่ือน�ำไปสู่หัวข้อและใจความที่ส�ำคัญ 62 จ�ำกัดจ�ำนวนหัวข้อในแต่ละย่อหน้า 63 เชื่อมโยงย่อหน้าอย่างสอดคล้อง 

สารบัญ 7 หน้า บทท่ี 7 ปรับปรุงแก้ ไขเนื้อหา 67 วิธีการปรับปรุงเน้ือหา โครงสร้าง ตรรกะ และข้อความ เพื่อให้งานเขียนมีประสิทธิผล ควบคุมข้อความให้ตรงประเด็น 68 ทบทวนเพื่อความชัดเจน 69 70 ล�ำดับข้อความส�ำคัญอย่างมีกลยุทธ์ 70 ลองตอบค�ำถามของผู้อ่านด้วยการต้ังค�ำถาม กับตัวเองว่า “ท�ำไม ” บทท่ี 8 แก้ ไขอย่างมีสไตล์ 73 ปรับงานเขียนให้โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ 74 78 การออกแบบเพื่อให้ส่งผลต่อการอ่าน 79 ปรับโทนของคุณเพื่อให้เหมาะสมกับผู้อ่าน 79 ตรวจสอบให้ส้ันกระชับ 80 ให้ใช้ประโยคเชิงรุก ตรวจแก้ไขเพื่อความถูกต้อง 

8 การเขียนเชิงธุรกิจ บทท่ี 9 การเขียนอีเมล หน้า 85 วิธีการเขียนอีเมลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ปัญหาที่พบบ่อย 86 เร่ิมจากหัวข้ออีเมล 87 พยายามให้มีเพียงหนึ่งหัวข้อต่ออีเมลหนึ่งฉบับ 88 90 ท�ำให้วัตถุประสงค์ของข้อความมีความชัดเจน 90 เขียนอีเมลให้กระชับ และใช้การแนบ เอกสารเพ่ิมเติม 91 ตระหนักว่าผู้อ่านเป็นใคร คงรูปแบบอีเมลให้เรียบง่าย 91 อ่านทบทวนนโยบายการรับ-ส่งอีเมลของบริษัท 91 รู้ว่าเม่ือไรไม่สมควรใช้อีเมล 92 ส่วนที่ 2 : เคล็ดลับและเคร่ืองมือส�ำหรับการเขียนเชิงธุรกิจ 95 บทท่ี 10 เคร่ืองมือส�ำหรับการเขียนเชิงธุรกิจ 97 ตารางเชิงปฏิบัติการที่จะช่วยคุณในการเขียนเชิงธุรกิจ ได้อย่างมีประสิทธิผล 

สารบัญ 9 หน้า บทที่ 11 แบบทดสอบความเข้าใจเก่ียวกับการเขียนเชิงธุรกิจ 111 นี่คือการทบทวนหลักการท่ีเป็นประโยชน์ท่ีได้ถูกน�ำเสนอ ในหนังสือเล่มนี้ ให้คุณท�ำแบบทดสอบนี้ก่อนและหลัง การอ่านหนังสือเพื่อดูว่าคุณได้เรียนรู้มากเพียงใด ค�ำตอบส�ำหรับแบบทดสอบ 117 แหล่งความรู้เพ่ิมเติม 121 รายช่ือบทความและหนังสืออ่านเพิ่มเติม หากคุณต้องการศึกษาบางหัวข้ออย่างลึกซึ้งมากยิ่งข้ึน แหล่งข้อมูลอ้างอิง 127 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความรู้ในการพัฒนาหนังสือเล่มน้ี เก่ียวกับผู้เขียน 128 



WRITING FOR BUSINESS บทน�ำ การเขียนเชิงธุรกิจที่มีประสิทธิผล นักธุรกิจจ�ำเป็นจะต้องใช้กลยุทธ์ท่ีใหม่ท่ีสุดและดีที่สุดเพื่อให้ธุรกิจ ประสบความส�ำเร็จ หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณพัฒนากระบวนการเขียนใน เชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผล เพ่ือให้คุณสามารถเขียนได้ ต้ังแต่บันทึกง่ายๆ ไปจนการเขียนข้อเสนอโครงการธุรกิจ และช่วยท�ำให้งานเขียนของคุณมีความ ชัดเจน ซ่ึงทักษะทางด้านการเขียนน้ีก็จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของ คุณในฐานะผู้จัดการได้เป็นอย่างดี โดยหนังสือเล่มน้ีประกอบด้วยข้ันตอน ท่ีปฏิบัติตามได้ง่ายเพ่ือให้คุณสามารถ  

 การเขียนเชิงธุรกิจ โน้มน้าวและจูงใจผู้อ่านได้เป็นอย่างดี เขียนเอกสารได้อย่างชัดเจน และตรงตามความต้องการ ของผู้อ่าน ส่ือสารข้อความได้อย่างมีประสิทธิผล เม่ือคุณน�ำกลยุทธ์ท่ีได้รับการพิสูจน์แล้วน้ีมาใช้ คุณก็จะเห็นผลอย่าง แตกต่างในงานเขียนของคุณท้ังทางด้านปริมาณและคุณภาพ ซึ่งจะท�ำให้คุณ สามารถรับมือกับเอกสารงานเขียนทางธุรกิจรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี 

WRITING FOR BUSINESS ส่ ว น ท่ี 1 การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพ้ืนฐาน POCKET 



1WRITING FOR BUSINESS การเขียนท่ีมีประสิทธิผล หลักเกณฑ์พื้นฐานที่จะท�ำให้การเขียนของคุณ บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการ 15 

16 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพ้ืนฐาน WRITING FOR“ส่วนท่ียากของงานเขียนก็คือ ไม่ใช่เพียงเพื่อส่งผลกับผู้อ่านเท่าน้ัน B U S I N E S Sแต่ควรเป็นผลตรงตามที่ผู้เขียนต้องการอีกด้วย” โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน (Robert Louis Stevenson) ก ารเขียนเชิงธุรกิจ (business writing) อย่างมีประสิทธิผลน้ัน อาศัยหลักพ้ืนฐานเพียงไม่ก่ีประการ ซึ่งหากคุณสามารถน�ำ มาปฏิบัติ คุณก็จะสามารถจัดการกับงานเขียนรูปแบบต่างๆ ท่ีผ่านเข้ามาได้ อธิบายวัตถุประสงค์ ให้ชัดเจน ในการตั้งต้นเขียนเอกสารเชิงธุรกิจ ส่ิงแรกที่คุณควรท�ำคือถาม ตัวเองว่า “เราเขียนเอกสารน้ีขึ้นมาท�ำไม ?” โดยงานเขียนเชิงธุรกิจน้ัน เกิดข้ึนก็เพ่ือตอบสนองวัตถุประสงค์หลายประการ ดังน้ี 

บทท่ี 1 : การเขียนท่ีมีประสิทธิผล 17 เพื่ออธิบายหรือให้เหตุผล “เน่ืองจากราคาประมูลทุก รายการที่ผู้ขายปัจจุบันของเราเสนอมาล้วนสูงเกินไป เราจึงไม่เลือกใครและสรรหาผู้ประมูลรายใหม่แทน” น�ำเสนอข่าวสาร “ฝ่ายบริหารต้องการแจ้งให้พนักงานทุก ท่านทราบว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราในไตรมาสนี้ ท�ำได้เกินเป้า” มีอิทธิพลต่อผู้อ่าน “ฝ่ายวิศวกรรมท�ำงานได้เสร็จตาม ก�ำหนด” น�ำเสนอข่าวสารทั้งด้านดีและร้าย “โชคไม่ดีท่ีว่าเหตุ เพลิงไหม้เครื่องยนต์ท่ีท่านรายงานเกิดข้ึนหน่ึงวัน หลังจากวันหมดอายุประกัน” เพื่อให้เกิดการกระท�ำ “ฝ่ายออกแบบควรท�ำงานให้เสร็จ และส่งมอบข้อก�ำหนดสินค้าทุกรายการ ภายในวันท่ี 1 พฤษภาคม” ดังนั้น ให้คุณตั้งเป้าหมายงานเขียนไว้ในใจเสมอขณะเริ่มเขียน มี นักเขียนหลายคนที่มัวแต่วุ่นวายกับการเตรียมเอกสาร จนลืมว่าตนเองตั้ง ใจจะเขียนอะไร โดยวิธีหนึ่งที่จะหลีกเล่ียงปัญหาดังกล่าวก็คือ ให้เขียน วัตถุประสงค์ของการเขียนไว้แต่แรก และกลับไปเทียบดูเสมอเวลาท�ำงาน เมื่อคุณเขียนร่างงานเขียนเสร็จแล้วก็ให้ทบทวนเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่แรกอย่างแท้จริง 

18 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน ยึดผู้อ่านเป็นศูนย์กลาง บริษัทต่างๆ คงไม่สามารถผูกสัมพันธ์กับลูกค้าได้หากไม่เข้าใจ ความต้องการและมุมมองของลูกค้าของตน คุณเองก็คงไม่สามารถส่ือถึง ผู้อ่านได้หากไม่เข้าใจในตัวผู้อ่าน ความปรารถนา และวิธีการท่ีพวกเขา เลือกรับข้อมูลข่าวสาร การคิด การวางร่าง การจัดการและแก้ไขงานเขียนในมุมมองของ ผู้อ่าน จะช่วยให้เกิดความชัดเจนและส่งผลให้เกิดการกระท�ำ หากผู้อ่าน เข้าใจข้อความท่ีคุณต้องการจะสื่อ และคิดตามได้ว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็น อย่างไร งานของพวกเขาก็จะง่ายขึ้นมาก แล้วท�ำไมการให้ผู้อ่านเป็นศูนย์กลางจึงส�ำคัญ ? ลองคิดถึงเหตุ- การณ์จริงของบริษัทแห่งหน่ึงซึ่งล้มเหลวในการวิเคราะห์กลุ่มผู้รับสาร เม่ือ บริษัทจัดพิมพ์ไปรษณียบัตรง่ายๆ เพ่ือแจ้งเปล่ียนแปลงที่อยู่ส�ำนักงาน โดยลืมคิดในมุมมองของคนอ่าน บริษัทลืมให้ข้อมูลส�ำคัญท่ีสุดอย่างหน่ึง ในประกาศน้ี น่ันคือวันท่ีที่บริษัทจะเร่ิมเปลี่ยนใช้ท่ีอยู่ใหม่ แม้ลูกค้าจะ รู้ท่ีติดต่อใหม่ แต่ก็ไม่ทราบว่าเมื่อไรจึงจะควรติดต่อมาตามท่ีอยู่ใหม่นี้ 

บทที่ 1 : การเขียนที่มีประสิทธิผล 19 ถ้าเป็นคุณ คุณจะท�ำอย่างไร ? ? กรณีศึกษา : ท�ำอย่างไรให้คนสนใจอ่าน โรเจอร์จะต้องส่งบันทึกไปให้ฝ่ายขายภาคสนามเพ่ืออธิบาย ถึงแผนการที่ทางแผนกจะออกแค็ตตาล็อกประจ�ำฤดูใบไม้ผลิ ซ่ึงจะ ประกอบด้วยรายละเอียดสินค้าใหม่และสินค้าปัจจุบัน เขาอยากเตือน พนักงานถึงวันที่แค็ตตาล็อกจะจัดพิมพ์เสร็จและวันท่ีจัดส่ง โรเจอร์ อยากเตือนให้ฝ่ายขายส่งรายช่ือ ท่ีอยู่ของลูกค้าท่ีสมควรได้รับแค็ต ตาล็อกมาให้ แต่ตอนน้ีเขาก�ำลังติดขัดเกี่ยวกับโครงร่างของบันทึกที่ จะเขียน เขาควรจะเริ่มต้นด้วยย่อหน้าแสดงวัตถุประสงค์ของการจัด ท�ำแค็ตตาล็อกน้ี อธิบายจุดส�ำคัญๆ คุณลักษณะเด่น และสุดท้าย เขาอยากเตือนพนักงานขายซึ่งเป็นผู้อ่านบันทึกนี้ ให้ส่งรายการ ท่ีอยู่ของลูกค้าท้ังหมดภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ “คงต้องเขียนสัก ครึ่งหน้าหรือราวๆ นั้นเพ่ือจะเล่าเร่ืองทั้งหมดน้ี” เขาคิด “สงสัยจัง ว่าคนอ่านจะอ่านจริงๆ สักกี่บรรทัด ?” ถ้าเป็นคุณ คุณจะท�ำอย่างไร ? คุณสามารถหาค�ำตอบได้ใน หัวข้อ “ส่ิงที่คุณสามารถท�ำได้” 

20 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพ้ืนฐาน เน้นข้อความส�ำคัญอย่างชัดเจน เมื่อคุณสามารถระบุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการเขียน รวมทั้ง พิจารณาถึงผู้อ่านอย่างถ่องแท้แล้ว ข้ันต่อไปก็ให้แยกข้อความส�ำคัญที่อยาก ให้ผู้อ่านจดจ�ำออกมาต่างหาก โดยข้อความหลักควรจะชัดเจนและกระชับ เพียงหน่ึงถึงสองประโยคเท่านั้น ตัวอย่างเช่น “เพื่อให้ทันก�ำหนดส่งมอบกับ ลูกค้า เราต้องออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เสร็จภายในวันที่ 1 พฤษภาคม” ในหลายๆ กรณี ข้อความหลักจะจัดไว้ตอนต้นของเอกสาร ส่วนที่ เหลือจะเป็นรายละเอียด และตอบค�ำถามว่า “อะไรคือความหมายท่ีเราก�ำลัง พยายามน�ำเสนอ” และเพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจชัดเจนมากท่ีสุด ให้คุณก�ำหนดเพียงหน่ึงหัว ข้อส�ำคัญในเอกสารหนึ่งฉบับ ถ้าคุณเห็นว่ามีข้อความส�ำคัญ 2 ข้อความที่ ไม่เก่ียวข้องกันในเอกสารชิ้นเดียวกัน ขอให้แยกเขียนเป็นสองเร่ืองจะดีกว่า พยายามเขียนให้สั้นและเรียบง่าย ผู้อ่านท่ีงานยุ่งจะชอบอ่านข้อความที่กระชับ อันที่จริงย่ิงสั้นก็ยิ่งดี ตราบเท่าที่เอกสารน้ันยังคงให้ข้อมูลท่ีจ�ำเป็นครบถ้วน การคงเอกสารให้ ส้ันจะช่วยท�ำให้ข้อความส�ำคัญโดดเด่น และการประหยัดใช้ถ้อยค�ำก็ช่วยให้ ผู้อ่านไม่ต้องเสียเวลาท�ำความเข้าใจ ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้ 

บทท่ี 1 : การเขียนท่ีมีประสิทธิผล 21 ตามท่ีหัวหน้าแนะน�ำ และด้วยความช่วยเหลือจากทีมท่ีปรึกษา ของบริษัท โจนได้เขียนจดหมายขอโทษลูกค้า 5 ท่านที่ไม่ พอใจและขู่จะฟ้องร้องบริษัท ในฐานะผู้เขียนเอกสารธุรกิจ ความท้าทายของคุณก็คือรู้ว่าเมื่อไร ประโยคท่ีเขียนจะมาถึงจุดท่ีก�ำลังดีและได้ผลดีท่ีสุด จากตัวอย่างท่ีกล่าว มา ความรู้เก่ียวกับผู้อ่านนับว่ามีประโยชน์ แต่คนอ่านจ�ำเป็นต้องทราบไหม ว่าเจ้านายของโจนแนะน�ำให้จัดท�ำจดหมายฉบับน้ีขึ้นหรือทีมที่ปรึกษาของ บริษัทท่ีเข้ามาเกี่ยวด้วย ผู้อ่านจ�ำเป็นจะต้องรู้หรือเปล่าว่ามีลูกค้าท่ีไม่พอใจ จ�ำนวน 5 คน หรือที่ว่าพวกเขาขู่จะฟ้อง ถ้าหากข้อมูลพวกน้ีไม่จ�ำเป็นลอง พิจารณาดูว่าจะตัดออกได้บ้างไหม คราวนี้ประโยคที่คุณแต่งก็จะอ่านว่า “โจนเขียนจดหมายขอโทษลูกค้าท่ีไม่พอใจ” เคล็ด ลับ ไม่ว่าพวกเขาก�ำลังอ่าน ก�ำลังมองคุณอยู่ หรือก�ำลังฟังคุณพูดก็ตาม ผู้อ่านหรือคนฟังอาจไม่ได้ก�ำลังสนใจคุณท้ัง 100 เปอร์เซ็นต์ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่มภาระให้พวกเขาด้วยข้อความเดิมๆ ที่แตกต่าง กันเพียงเล็กน้อย หรือรายละเอียดอ่ืนๆ ท่ีแย่งความสนใจจาก เน้ือหาหลัก จ�ำไว้ว่า ข้อความหลักจะต้องโดดเด่นกว่าส่วนอื่นเสมอ 

22 ส่วนท่ี 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน ทบทวนกลยุทธ์ ในการส่งสาร แม้แต่ข้อความที่ผ่านการเรียบเรียงมาอย่างดีก็อาจไม่ได้ผลเท่าท่ี ควร หากไม่ได้มาจากคนที่ถูกต้อง ณ เวลาที่ถูกต้อง และอยู่ในรูปแบบท่ี เหมาะสม ดังนั้นก่อนลงมือเขียน ลองคิดดูว่าใครควรเป็นคนเริ่มต้นการ ส่ือสารกันแน่ ข้อความนั้นควรมาจากคุณ จากหัวหน้าของคุณ หรือจาก ทีมงานทั้งหมด ข้อแตกต่างเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบกับผู้อ่านในระดับท่ี แตกต่างกัน สิ่งอ่ืนที่ควรพิจารณาก็คือคุณเขียนเอกสารธุรกิจนี้เร็วหรือช้าเกินไป ด้วยหรือเปล่า หากเร็วเกินไป คนรับก็อาจไม่พร้อมจะให้ความสนใจกับหัว ข้อที่คุณหยิบยกข้ึนมา หรือถ้าช้าเกินไป คุณก็จะเสียโอกาสท่ีจะให้ค�ำแนะน�ำ หรือป้องกันปัญหาได้ สุดท้ายรูปแบบงานเขียนของคุณก็ส่งผลกระทบที่แตกต่างเช่นกัน ดังน้ันเมื่อไรที่คุณเลือกรูปแบบ ขอให้คิดถึงวัตถุประสงค์ กลุ่มผู้ฟัง และ ข้อความที่คุณต้องการส่ือเสมอ ข้ันตอนในการวางแผนงานเขียน แสดงวัตถุประสงค์งานเขียนให้กระจ่าง วิเคราะห์ผู้อ่าน แยกแยะและกล่ันกรองประเด็นท่ีส�ำคัญ วางแผนกลยุทธ์การเขียน 

บทที่ 1 : การเขียนท่ีมีประสิทธิผล 23 ตัวอย่างเช่น เพื่อเผยแพร่ผลการส�ำรวจความพึงพอใจของผู้บริโภค คุณอาจส่งอีเมลสรุปรายงานน้ีไปให้กับทุกคนในบริษัท และให้รายละเอียด วิธีการเข้าถึงรายงานฉบับเต็มหากต้องการ คุณอาจเชิญฝ่ายบริหารและ บุคคลท่ีมีบทบาทส�ำคัญเข้าร่วมชมการน�ำเสนอผลการส�ำรวจด้วย การท่ีจะให้ได้รูปแบบการสื่อสารในอุดมคติน้ัน คุณต้องคิดให้รอบ ด้าน แม้ว่าคุณจะมีรูปแบบงานเขียนท่ีดีอยู่แล้ว คุณก็อาจพบว่าถ้าคุณใช้การ เจรจาเพื่อสนับสนุนงานเขียนเอกสารด้วย ก็จะน�ำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมได้ คุณสามารถใช้แบบฟอร์ม “สรุปหลักเกณฑ์ในการเขียน” เพ่ือช่วย ให้งานเขียนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ได้ เครื่องมือส�ำหรับการเขียนเชิงธุรกิจ แบบฟอร์มสรุปหลักเกณฑ์ ในการเขียน ก่อนเร่ิมลงมือเขียนกรุณาตอบค�ำถามต่อไปนี้ วัตถุประสงค์ ท�ำไมเราจึงเขียนเอกสารชิ้นนี้ ? เราอยากให้ผู้อ่านท�ำอะไรต่อไป ? ยงั มตี ่อ 

24 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพ้ืนฐาน ผู้อ่าน ใครคือผู้อ่านของเรากันแน่ มีมากกว่าหนึ่งรายหรือไม่ ? ผู้อ่านมีบทบาทอย่างไร เป็นผู้ตัดสินใจโดยตรง ผู้ที่มีอิทธิพล ผู้ปฏิบัติการ หรืออ่ืนๆ ? ผู้อ่านทราบอะไรบ้างเก่ียวกับหัวข้อท่ีเรากล่าวถึง ? คิดว่าผู้อ่านมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข้อความหลักของเรา ยอมรับ เฉยๆ หรือต่อต้าน ? เราเตรียมเนื้อหาอะไรในงานเขียนให้กับผู้อ่านบ้าง ? ท�ำไมเขาจะต้อง อ่านหรือเห็นด้วยกับเรา ? ผู้อ่านจะน�ำเอกสารนี้ไปใช้ได้อย่างไร ? คนอื่นๆ ควรได้รับเอกสารนี้ด้วยหรือไม่ ? เน้ือหาหลัก หากผู้อ่านจะลืมทุกอย่างที่ได้อ่านจนหมด อย่างน้อยอะไรคือข้อความหลัก ที่เขาควรจะจ�ำได้ ? อะไรคือผลกระทบของข้อความหลัก ? ยงั มตี ่อ 

บทที่ 1 : การเขียนท่ีมีประสิทธิผล 25 กลยุทธ์ ควรส่งข้อความในรูปแบบเอกสาร หรือโทรศัพท์จึงจะได้ผลมากกว่า ? ช่วงเวลาท่ีเหมาะสม : เราส่งเอกสารเร็วไป หรือสายเกินไปเสียแล้ว ท่ีจะส่งเอกสาร ? รายนามผู้ท่ีเราจะน�ำส่งข้อมูล : ควรจ�ำกัดวงให้เหลือน้อยที่สุดไหม ? ถ้าหากมีคนอื่นสื่อสารข้อมูลเดียวกัน เราควรตรวจสอบหรือไม่ ? เลือกวิธีส่งข่าวสาร อีเมล การน�ำเสนอ โทรสาร การประชุมทางวิดีโอ เมลภายใน ส่งทางไปรษณีย์ อินทราเน็ต (เว็บไซต์ หรือแฟ้มใช้งานร่วม) พนักงานส่งเอกสาร อินเทอร์เน็ต อ่ืนๆ การประชุม © 2006 Bettercom, Inc. All rights reserved. 

26 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน สิ่งท่ีคุณสามารถท�ำได้ ? คุณยังจ�ำปัญหายุ่งยากของโรเจอร์ได้ใช่ไหม ? น่ีคือส่ิงที่ผู้ฝึกสอนแนะน�ำ : น�ำเสนอข่าวสาร หากคุณเป็นโรเจอร์ คุณคงไม่พลาดท่ีจะใช้ย่อหน้าแรกของ บทความเพื่อเน้นเร่ืองส�ำคัญหรือหัวข้อท่ีต้องการ โดยกันส่วนท่ีเป็น รายละเอียดอ่ืนๆ ไว้ ในย่อหน้าถัดไป ตัวอย่างเช่น คุณอาจเร่ิมต้น ดังนี้ น่ีคือรายการแค็ตตาล็อกขายฉบับล่าสุดของฤดูใบไม้ผลิ เรามีแผนที่จะส่งแค็ตตาล็อกฉบับพิมพ์ล่วงหน้า (จ�ำนวน 25 ชุด) ไปให้คุณ ภายในวันท่ี 17 มีนาคม และลูกค้าควรจะได้ รับฉบับปกติ ประมาณวันที่ 30 มีนาคม แค็ตตาล็อกน้ีจะเป็น เครื่องมือขายท่ีทรงพลัง ทางเราจึงอยากให้แน่ใจว่า คุณมีราย ช่ือลูกค้าในการน�ำส่งของทางไปรษณีย์เป็นท่ีเรียบร้อย ขอให้ ส่งรายชื่อท้ังหมดภายในวันท่ี 1 มีนาคมด้วย เน่ืองจากผู้อ่านแทบทุกคนจะอ่านย่อหน้าแรกเสมอ ดังนั้น จึงควรจัดวางข้อความหลักไว้ท่ีย่อหน้าแรกน้ี 

2WRITING FOR BUSINESS ก�ำหนดขอบเขตงานเขียนของคุณ การก�ำหนดความกว้างและความลึกของหัวข้อ เพ่ือให้คุณและผู้อ่านประหยัดทั้งเวลาและแรงงานท่ีไม่จ�ำเป็น 27 

28 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน WRBIUTSIINNGESFSOR ก่ อนการลงมือเขียนเอกสารทางธุรกิจใดๆ คุณควร “ก�ำหนด ขอบเขต” ของงานเขียนเสียก่อน การก�ำหนดขอบเขตเร่ืองที่ จะเขียน หมายถึงพิจารณาว่าคุณจะเขียนถึงหัวข้อน้ันๆ กว้างและลึกเพียงใด หากคุณก�ำหนดขอบเขตเรื่องท่ีจะเขียนได้ดีแล้วละก็ จะช่วยทุ่นเวลาและการ ท�ำงานของท้ังคุณและผู้อ่านของคุณได้เป็นอย่างดี ขอบเขตท่ีกว้างและขอบเขตที่แคบ ในการก�ำหนดขอบเขตของงานเขียน คุณสามารถพิจารณาหัวข้อท่ี จะเขียนได้ทั้งอย่างกว้างๆ หรืออย่างแคบๆ ตัวอย่างเช่นการก�ำหนดขอบเขต ที่กว้างเกี่ยวกับจุดอ่อนในแผนกการตลาดของบริษัทอาจรวมถึง 

บทที่ 2 : ก�ำหนดขอบเขตงานเขียนของคุณ 29 ดูว่าฝ่ายการตลาดจะสามารถช่วยให้เป้าหมายของบริษัท บรรลุผลได้อย่างไร ประวัติพัฒนาการของฝ่ายการตลาด ทรัพยากรบุคคลของฝ่ายการตลาด ปัญหาเฉพาะด้านในเร่ืองผลการด�ำเนินงาน ปัญหาท่ีมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้น ส่วนการก�ำหนดขอบเขตท่ีแคบจะเน้นเพียง 1-2 เรื่อง เช่น ทีมงานสองทีมที่ท�ำงานได้ต่�ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น ก็คือ ฝ่ายสนับสนุนตัวแทนขายและฝ่ายโปรโมชั่น ค�ำแนะน�ำเพ่ือการปรับปรุงแก้ไข ในฐานะผู้เขียน คุณจะต้องประเมินว่าเอกสารท่ีเขียนควรจะกว้าง หรือแคบเพียงใด ตามแต่วัตถุประสงค์และผู้อ่านของคุณ ในกรณีที่เป็นราย งานด้านการตลาด คุณอาจเลือกวิธีก�ำหนดขอบเขตอย่างกว้างมากๆ เพ่ือ ให้ข้อมูลกับพนักงานท่ีได้รับมอบหมายน�ำไปปรับปรุงและเพ่ิมความเข้มแข็ง ให้กับแผนก ผู้อ่านเหล่าน้ันคงต้องการรับทราบรายละเอียดเก่ียวกับแผนก การตลาดให้ได้มากท่ีสุด 

30 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน แต่ในทางกลับกัน คุณอาจเลือกการก�ำหนดขอบเขตที่แคบในการ สื่อสารกับผู้บริหารอาวุโสด้านข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพนักงานท่ีได้ค้นพบ กรณี น้ีผู้อ่านของคุณคงจะสนใจในหัวข้อที่เจาะจงมากข้ึนกับปัญหาท่ีคุณระบุและ ค�ำแนะน�ำต่างๆ จากคุณ และทั้งหมดนี้ก็คือการก�ำหนดขอบเขตน่ันเอง ! 

3WRITING FOR BUSINESS กลยุทธ์เพ่ือเริ่มต้นการเขียน กลยุทธ์ที่คุณสามารถน�ำไปใช้เพ่ือเริ่มต้นการเขียน ได้อย่างมีประสิทธิผล 31 

32 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน WRBIUTSIINNGESFSOR สํ าหรับหลายๆ คนแล้ว ส่วนหนึ่งท่ียากท่ีสุดส�ำหรับการเขียนก็ คือการเร่ิมต้น ซ่ึงก็มีหลายกลยุทธ์เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเช่น การตั้งค�ำถาม วิธีหน่ึงในการเริ่มต้นก็คือให้เขียนค�ำถามที่ผู้อ่านอาจมีขึ้นเก่ียวกับ ประเด็นหรือหัวข้อของคุณ วิธีน้ีจะช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่างานเขียนได้บอก เรื่องราวที่ผู้อ่านต้องการทราบ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้คุณคาดเดาถึง ปฏิกิริยาของผู้อ่านกับงานเขียนของคุณได้ 

บทที่ 3 : กลยุทธ์เพ่ือเร่ิมต้นการเขียน 33 ตัวอย่างเช่น เจนจะต้องเขียนบันทึกแนะน�ำการประชุมระหว่างแผนก ของพนักงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เธอได้ลองต้ังค�ำถาม ต่อไปนี้ เพื่อคาดเดาว่าผู้อ่านสนใจเร่ืองอะไร ท�ำไมเราจึงจัดการประชุมครั้งใหญ่นี้ขึ้น ? ควรบรรจุหัวข้อใดไว้ในวาระการประชุม ? เราจะต้องเตรียมอะไรบ้างส�ำหรับการประชุม ? เมื่อเปลี่ยนค�ำถามเหล่าน้ีกลับมาเป็นข้อความยืนยัน เจนก็สามารถ ก�ำหนดรายการหัวข้อที่เธอต้องการจะกล่าวถึงในบันทึก ตัวอย่างเช่น “ใน การประชุมคร้ังแรกน้ี ช่วยกรุณาเตรียมแผนการด�ำเนินการของหน่วยที่ท่าน สังกัดมาด้วย” หากคุณใช้วิธีนี้ให้ลองพิจารณาด้วยว่า คุณมีความรู้เก่ียวกับความ สนใจของผู้อ่านและสิ่งท่ีพวกเขากังวลเพียงใด หากคุณไม่คุ้นเคยกับผู้อ่าน ก็ให้ลองร่างรายชื่อคนท่ีมีความคุ้นเคยกับพวกเขา เพ่ือช่วยเพ่ิมเติมรายการ ค�ำถามที่คาดว่าจะมีขึ้น โครงร่างแบบธรรมเนียมนิยม วิธีหนึ่งในการเริ่มต้น ได้แก่การใช้โครงร่างตามแบบธรรมเนียมนิยม วิธีนี้ดูจะได้ผลส�ำหรับคนท่ีสามารถจัดโครงสร้างเอกสารอย่างเป็นระบบ และ ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นกับผู้เขียนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือผู้เขียนที่ต้องการ เขียนครอบคลุมหัวข้อที่ซับซ้อน 

34 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน โครงสร้างตามแบบธรรมเนียมนิยมมักใช้ตัวอักษร เลขโรมันกับเลข อารบิก เพื่อแสดงล�ำดับช้ันของข้อความ 1. ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ด้วยเลขโรมันแล้วจุด I. 2. อักษรตัวพิมพ์ใหญ่แล้วจุด A. 3. ตัวเลขอารบิกแล้วจุด 1. 4. อักษรตัวพิมพ์เล็กแล้วจุด a. 5. ตัวเลขอารบิกในวงเล็บ (1) 6. อักษรตัวพิมพ์เล็กในวงเล็บ (a) 7. เลขโรมันตัวพิมพ์เล็กในวงเล็บ (i) โดยทั่วไปแล้วหัวข้อหลักๆ 3 ระดับ (ตัวเลขโรมัน อักษรตัวพิมพ์ ใหญ่ และตัวเลขอารบิก) ก็เพียงพอแล้วส�ำหรับการแสดงล�ำดับข้ันในเอกสาร ธุรกิจส่วนใหญ่ เมื่อคุณมีโครงร่างแล้ว ให้ลองถามตัวเองว่า เราได้ลงรายการหัวข้อและหัวข้อย่อยที่ต้องการพูดถึง หมดหรือยัง ? เอกสารได้มีการจัดเรียงอย่างเหมาะสมหรือไม่ ? 

บทที่ 3 : กลยุทธ์เพื่อเริ่มต้นการเขียน 35 มีท่อนขึ้นต้น ท่อนกลาง และการลงท้ายอย่างชัดเจน หรือไม่ ? เม่ือคุณพอใจกับหลักเกณฑ์ ตรรกะ และความลื่นไหลของโครงร่าง แล้ว ก็ให้เริ่มเขียนเนื้อหาของแต่ละบรรทัดเพื่อสร้างเอกสารของคุณ โครงร่างแบบระดมความคิด โครงร่างแบบระดมความคิด เป็นเทคนิคที่ไม่มีรูปแบบตายตัวใน การจดบันทึกทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็ว การเช่ือมโยงทุกส่ิง เข้าด้วยกันอย่างอิสระนี้จะช่วยให้คุณเกิดความคิดสร้างสรรค์เพ่ิมขึ้น และ จะมีประโยชน์มากเป็นพิเศษเวลาคุณท�ำงานร่วมกับกลุ่ม เพราะวิธีนี้จะ ท�ำให้เราได้เห็นความคิดของทุกคนที่เข้าร่วมระดมความคิดต้ังแต่เริ่มต้น กระบวนการ ให้ลองท�ำตามขั้นตอนต่อไปน้ีเพ่ือรวบรวมความคิด 1. วาดวงกลมลงกลางกระดาษ 2. ให้เขียนวัตถุประสงค์ลงในวงกลม วัตถุประสงค์ก็คือสาเหตุ ท่ีคุณเขียนงานชิ้นนี้ พยายามรักษาวัตถุประสงค์ไว้ให้เรียบ ง่าย เร่ิมต้นด้วยค�ำว่า เพื่อ และให้ใช้ค�ำกริยาอย่างเช่น ชักชวน 3. เม่ือมีความคิดใหม่ๆ เพ่ิมเติมท่ีเก่ียวข้องกับวัตถุประสงค์ ให้เขียนเส้นตรงออกมาจากวงกลม ลักษณะเหมือนซี่ล้อรถ และเขียนความคิดก�ำกับเส้นไว้ 

36 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพ้ืนฐาน 4. ถ้าหากความคิดหนึ่งก่อให้เกิดอีกความคิดหน่ึงต่อไปอีก ให้ ลากเส้นย่อยต่อจากเส้นหลัก และเขียนค�ำอธิบายความคิด ก�ำกับเส้นเพิ่มเติม 5. ถ้าหากความคิดใหม่แตกต่างจากหัวข้อเก่าอย่างส้ินเชิง ก็ให้ ลากเส้นใหม่ออกจากวงกลมตรงกลางโดยตรง 6. ให้พยายามคิดแตกกิ่งก้านออกไปเรื่อยๆ ท้ังจากตรงกลาง วงกลม และจากเส้นก่ิงท่ีลากออกมา กสาารมวาิเครถราใะนหก์คารวแาขม่งขัน การวิเคราะห์การตลาด การคแวขา่งมขแันตกต่าง ต �คลำาจ�ดเำ ักป้าดขหคนวมาาาดมยขตอลงาด เพ่ือสื่อสารเก่ียวกับ ต้นทุน ผลิตภัณฑ์ ใหม่ ค�ำอธิบาย การตลาด ัลกษณะตทบรารางร ิสกจุานภัยค้ณาภาฑ์พ วัตถุดิบ ค่าโสหุ้ย แผนภาพการระดมความคิดเก่ียวกับผลิตภัณฑ์ ใหม่ 

บทที่ 3 : กลยุทธ์เพ่ือเริ่มต้นการเขียน 37 เคล็ด ลับ การระดมความคิดน้ันเป็นเทคนิคท่ีก่อให้เกิดความคิด และช่วยแก้ปัญหา ซึ่งอาจน�ำไปใช้ โดยบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ ให้ความสนใจกับการก�ำหนดประเภทความคิดหลักท่ีออกมาจาก วงกลมเป็นพิเศษ เม่ือคุณได้จัดการความคิดให้เป็นระบบแล้ว ความคิด เหล่านี้ก็จะกลายเป็นหัวข้อท่ีคุณต้องการกล่าวถึง การเขียนแบบอิสระ การเขียนแบบอิสระ เป็นวิธีการท่ีใช้จัดการกับการติดขัดในงาน เขียนได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับโครงร่างแบบระดมความคิด การเขียน แบบอิสระน้ีก็ช่วยให้จินตนาการของคุณโลดแล่น เอ้ือต่อการแสดงความ คิดเยี่ยมๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบนกระดาษหรือการน�ำเสนอบนจอ กฎ ส�ำคัญท่ีสุดที่ควรจดจ�ำเก่ียวกับการเขียนแบบอิสระก็คือ “ไม่มีกฎเกณฑ์” ให้ลองท�ำตามขั้นตอนต่อไปน้ีในการเขียนแบบอิสระดู 1. เตรียมดินสอจรดกับกระดาษ หรือเตรียมนิ้วรอไว้ท่ีแป้น พิมพ์แล้วปล่อยใจให้โลดแล่นไป 2. จดบันทึกทุกอย่างท่ีเข้ามาในสมอง แม้ว่าหัวข้อนั้นจะไม่ เก่ียวกับเร่ืองท่ีคุณก�ำลังจะเขียนก็ตาม 

38 ส่วนท่ี 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน 3. ให้เขียนอย่างอิสระอย่างน้อย 10 นาทีเพ่ือให้ความคิด ล่ืนไหล 4. เมื่อไรท่ีติดขัดก็ให้เขียนถึงการติดขัดน้ันลงไปด้วย อย่า หยุดเขียน 5. อย่าเพ่ิงแก้ไขงานเขียน หากคุณท�ำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ก็ให้ลดแสงหน้าจอเสีย เพื่อป้องกันไม่ให้คุณแก้ไขงานก่อน เวลาอันควร เมื่อคุณเขียนอย่างอิสระเรียบร้อยแล้ว ให้ลองอ่านส่ิงท่ีเขียนลงไป เน้นประเด็นและความคิดส�ำคัญ และจัดระเบียบหัวข้อเหล่านั้นให้เหมาะ เช่นเดียวกับที่คุณจะท�ำในงานเขียนตามแบบธรรมเนียมนิยม หรือแบบระดม ความคิด วิธีการเขียนแบบ “นามธรรม” (abstract approach) นักเขียนมืออาชีพท่านหนึ่ง กล่าวถึงวิธีเร่ิมต้นงานเขียนของเธอว่า เม่ือฉันลงมือเขียนบทความ ระเบียบการ หรือรายงานเพิ่ม เติม ฉันมักจะเริ่มต้นด้วยการเขียนร่างประมาณ 1 หน้ากระดาษ ร่างนี้จะต้องย่อสาระบทความหรือหัวข้อวิจัย โดยกล่าวถึงการค้น คว้าหรือตัวอย่างท่ีฉันจะใช้เพ่ือสนับสนุนงานเขียน และกล่าวถึง ล�ำดับข้ันตอนของผลงานให้กับผู้อ่าน จากนั้นฉันก็จะขัดเกลาให้ ทุกอย่างปะติดปะต่อรวมกัน และเชิญชวนให้ผู้อ่านพูดว่า “น่ันเป็น อะไรท่ีน่าอ่านมากเลยนะ” ร่างงานเขียนนี้ในอีกทางหนึ่งก็จะเป็น เหมือนเข็มทิศท่ีชี้ถึงการพัฒนารายละเอียดของช้ินงานต่อไปให้ กับฉัน 

4WRITING FOR BUSINESS การจัดโครงสร้างการเขียน อย่างเป็นระบบ การน�ำเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเขียน  

 ส่วนท่ี 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน WRBIUTSIINNGESFSOR ไ ม่ว่าคุณจะเขียนอะไร สิ่งท่ีคุณเขียนควรได้รับการจัดโครง สร้างอย่างมีหลักเกณฑ์ ไม่เช่นน้ันคุณก็อาจไม่บรรลุวัตถุ- ประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยการเลือกวิธีจัดโครงสร้างงานเขียนอย่างเหมาะสม คุณ จะสามารถท�ำให้ข้อความท่ีอยากจะส่ือชัดเจนยิ่งขึ้น ข้ันแรกให้ลองนึกถึงความต้องการและสิ่งที่ผู้อ่านคาดหวัง เลือกวิธี การน�ำเสนอโดยการตั้งค�ำถามและตอบค�ำถามนั้นอย่างเช่น อะไรคือข้อความท่ีเป็นหัวใจของงานเขียน ? ผู้อ่านของเรามีท่าทียอมรับหรือต่อต้าน ? ผู้อ่านอยากรู้เร่ืองอะไรโดยเร็วที่สุด ? 

บทท่ี 4 : การจัดโครงสร้างการเขียนอย่างเป็นระบบ  หลักการจัดเรียงตามล�ำดับความส�ำคัญ ผู้เขียนบางคนอาจใช้วิธี “วางใจความเรื่องไว้ตอนต้นงานเขียน” ส�ำหรับเอกสารภายในองค์กรหลายประเภท หากคุณวางข้อความที่ส�ำคัญไว้ ตอนต้นเอกสาร ผู้อ่านก็จะสังเกตเห็นได้เร็วกว่า เคล็ดลับในการจัดเรียงตามล�ำดับความส�ำคัญ เมื่อคุณเขียนให้ผู้อ่านมากกว่าสองคนข้ึนไปได้อ่าน ให้ลองคาดเดา ปฏิกิริยาของผู้อ่านคนท่ีส�ำคัญท่ีสุด ซึ่งมักจะเป็นผู้ที่มีอ�ำนาจตัด สินใจ แล้วจัดรูปแบบงานเขียนให้เหมาะกับประเภทของผู้อ่าน ส�ำหรับผู้อ่านท่ีมีท่าทียอมรับ ให้วางใจความส�ำคัญไว้ด้านบน ส�ำหรับผู้มีท่าทีไม่ยอมรับหรือต่อต้าน ให้เขียนถึงความเป็นมาก่อน จะลงไปที่ข้อความหลัก ให้ ใช้ช่วงต้นของงานเขียนจูงใจผู้อ่านว่า ค�ำแนะน�ำของคุณนั้นเป็นสิ่งท่ีดี หลักการจัดเรียงตามล�ำดับเหตุการณ์ วิธีจัดเรียงตามล�ำดับเหตุการณ์น้ันเป็นข้ันตอนในการพัฒนางานเขียน โดยอธิบายหัวข้อต่างๆ ตามล�ำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน วิธีนี้เหมาะสมกับเนื้อหาอย่างเช่น ประวัติการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดย เม่ือคุณเลือกใช้วิธีน้ีพึงระลึกไว้ว่า ให้ยึดกับข้อเท็จจริง ล�ำดับขั้นตอน ให้ใช้วิธีออกแบบสื่อเพ่ือเน้นข้อความส�ำคัญ อย่างเช่น ข้อความหลัก ที่หากไม่เน้นก็จะถูกกลืนหายไปกับข้ันตอน การพัฒนางานเขียน หลักการเขียนแบบขั้นตอนและกระบวนการ วิธีการเขียนแบบข้ันตอนและกระบวนการจะเหมาะอย่างย่ิงกับการ ให้ค�ำแนะน�ำและใช้ในหนังสือคู่มือ ขั้นตอน อธิบายว่าใครท�ำอะไรและเกิดอะไรข้ึน (หรือจะเกิดอะไร ขึ้น) ตามล�ำดับขั้น ให้คุณใช้สรรพนามบุคคลที่ 3 เพ่ือกล่าวถึง ตัวอย่าง เช่น “ใบก�ำกับสินค้าจะเวียนไปที่แผนกซ่ึงก่อให้เกิดรายได้ก่อน เม่ือได้รับ อนุมัติแล้ว ก็จะส่งต่อไปยังผู้มีหน้าที่ส่ังจ่าย” กระบวนการ อธิบายถึงขั้นตอนการกระท�ำที่ผู้อ่านสามารถท�ำได้ จริงตามล�ำดับเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย กระบวนการก็คือชุดของข้ันตอนที่จัด ล�ำดับมานั่นเอง ส่วนการเขียนก็เช่นเดียวกับเวลาที่คุณเขียนต�ำรากับข้าว หรือค�ำแนะน�ำในการติดตั้งซอฟต์แวร์ คือให้ใช้ประโยครูปค�ำส่ัง (ท�ำน่ี ท�ำ 

บทท่ี 4 : การจัดโครงสร้างการเขียนอย่างเป็นระบบ  น่ัน) เพื่ออธิบายแต่ละขั้นตอน โดยใช้กริยา action (มุ่งเน้นการกระท�ำ) เช่น “จงประทับวันท่ีลงบนใบก�ำกับสินค้า” หรือ “ให้ฉีกส�ำเนาชุดสีชมพูมา เก็บไว้เป็นหลักฐาน” เม่ือคุณใช้หลักการเหล่าน้ี ขอให้ค�ำนึงถึงเคล็ดลับว่า ให้เขียนกระบวนการอย่างเป็นทางการลงในตาราง และก�ำหนดหมายเลขแต่ละข้ันตอน ให้น�ำเสนอขั้นตอนตามล�ำดับการเกิดเหตุการณ์อย่าง แม่นย�ำ หลักการสร้างแผนที่ความคิด หลักการสร้างแผนท่ีความคิดน้ันจะเป็นประโยชน์อย่างย่ิง ส�ำหรับ การท�ำรายงานเกี่ยวกับการเดินทาง ค�ำอธิบายเรื่องเครื่องจักรกล หรือการ ท�ำรายงานการขาย ให้ลองวาดภาพเป็นแผนท่ี 2-3 มิติ ที่ช่วยให้ผู้อ่านเข้า ใจหัวข้อของคุณเสมือนการพาพวกเขาท่องเที่ยวไปด้วยกัน ตัวอย่างเช่น ในการอธิบายถึงแผนก�ำหนดพ้ืนท่ีขายของบริษัท คุณ ควรจะอธิบายถึงโอกาสทางการขายในลอสแองเจลิส ต่อมาด้วยลูกค้าใหม่ท่ี นิวยอร์ก และความคาดหวังของเจ้าหน้าท่ีรัฐในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 

 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน เมื่อคุณใช้หลักการดังกล่าว กรุณาค�ำนึงถึงเคล็ดลับดังต่อไปน้ี สร้างความเชื่อมโยงและชัดเจน ง่ายต่อการติดตาม เช่น จากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง จากนอกสู่ใน ใช้รายละเอียดเพื่อสร้างภาพการมองเห็นกับผู้อ่าน เมื่อคุณ เคล่ือนย้ายพวกเขาจากเรื่องหน่ึงไปสู่อีกเรื่องหน่ึง พยายามให้มีรูปประโยคที่หลากหลาย หลักการเปรียบเทียบความเหมือน และความแตกต่าง หลักการเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างอธิบายถึงแนว คิดต่างๆ ว่าเหมือนหรือต่างกันอย่างไร วิธีนี้เหมาะกับการศึกษาความเป็น ไปได้ ผลงานวิจัยและการวางแผนรายงาน ซึ่งวิธีนี้จะได้ผลดีย่ิงข้ึนหากคุณมี เป้าหมายที่จะประเมินข้อดีข้อเสียของสองทางเลือก ตัวอย่างเช่น เพ่ือส่ือ สารถึงข้อดีข้อเสียของท�ำเลท่ีมีศักยภาพ 2 ท�ำเล ซึ่งอาจเป็นที่ตั้งของส�ำนัก งานในเมือง โดยคุณอาจท�ำตามล�ำดับดังนี้ ท�ำรายการข้อดี ท�ำเล A และท�ำเล B ท�ำรายการข้อเสีย ท�ำเล A และท�ำเล B 

บทที่ 4 : การจัดโครงสร้างการเขียนอย่างเป็นระบบ  เคล็ดลับในการเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง ถ้าหากคุณใช้หลักการน้ี ให้ค�ำนึงถึงเคล็ดลับดังต่อไปน้ี เมื่อคุณเปรียบเทียบของสองส่ิง ให้ระบุถึงสิ่งท่ีคุณคุ้นเคยมากกว่า ก่อน ใช้กราฟและตารางเพ่ือเปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิค อย่าปะปนข้อดีและข้อเสียไว้ ในส่วนเดียวกัน พยายามเช่ือมโยงการเปรียบเทียบของคุณโดยใช้วลีเช่น “ทางด้าน หนึ่ง” “ในอีกทางหนึ่ง” หลักการเขียนจากหัวข้อเจาะจง ไปสู่หัวข้อท่ัวไป หรือจากหัวข้อท่ัวไป สู่หัวข้อเจาะจง วิธีเขียนจากหัวข้อเจาะจงไปสู่หัวข้อทั่วไป หรือวิธีเขียนจากหัวข้อทั่ว ไปสู่หัวข้อเจาะจง จะเป็นประโยชน์กับการล�ำดับงาน การจัดการวัสดุอุปกรณ์ อบรม และการท�ำจดหมายบริการลูกค้า ค�ำถามหลักท่ีคุณควรถามตัวเอง ก็คือ “ผู้อ่านของเรามีความรู้เกี่ยวกับเร่ืองเหล่าน้ีแล้วแค่ไหน” เม่ือคุณได้ ค�ำตอบแล้ว ก็ให้เริ่มต้นจัดท�ำเอกสารด้วยข้อมูลท่ีผู้อ่านมีความคุ้นเคย 

 ส่วนท่ี 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณก�ำลังขอร้องให้หัวหน้าแผนกทุกคนทบ ทวนแก้ไขงบประมาณรายเดือน ในส่วนบันทึกท่ีคุณจะส่งไปให้แผนกบัญชี คุณอาจเลือกใช้วิธีการเขียนจากหัวข้อเจาะจงถึงหัวข้อทั่วไป เพราะทีมงาน ฝ่ายบัญชีเป็นผู้เรียกร้องให้มีการปรับปรุงงบประมาณ ดังนั้นเริ่มจากกล่าว ย้�ำถึงรายละเอียดของการปรับปรุงแก้ไข จากน้ันให้กล่าวถึงผลกระทบของ การปรับปรุงงบประมาณน้ีท่ัวท้ังทุกฝ่ายของบริษัท ส่วนแผนกอ่ืนๆ ให้ร่าง บันทึกส่วนตัวโดยเปลี่ยนจากท่ีมีค�ำอธิบายมากๆ กว้างๆ มาเป็นระบุเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงที่แต่ละกลุ่มจะต้องท�ำในการปรับปรุงงบประมาณน้ี ควร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้อธิบายค�ำศัพท์หลักๆ ที่ผู้อ่านอาจจะไม่คุ้นเคย ด้วย เมื่อคุณใช้วิธีนี้ให้ค�ำนึงถึงหลักที่ว่า ให้ประเมินว่าผู้อ่านมีความรู้เกี่ยวกับหัวข้อท่ีเราอ้างถึงมาก น้อยเพียงใด ให้ข้ึนต้นเอกสารด้วยข้อมูลที่ผู้อ่านคุ้นเคย ใช้เทคนิคจากหัวข้อเจาะจงไปสู่หัวข้อทั่วไปกับผู้อ่านที่มี ความคุ้นเคยกับหัวข้อดีอยู่แล้ว ใช้เทคนิคจากหัวข้อท่ัวไปสู่หัวข้อเจาะจง ส�ำหรับผู้อ่านท่ีไม่ คุ้นเคยกับหัวข้อที่น�ำเสนอ จัดวางข้อความหลักไว้ตอนต้นบทความทุกคร้ังหากเป็นไปได้ 

บทท่ี 4 : การจัดโครงสร้างการเขียนอย่างเป็นระบบ  หลักการวิเคราะห์ ในการใช้หลักการวิเคราะห์ให้เริ่มจากตั้งสมมติฐานและใช้วิธีการ ทดสอบอย่างเข้มงวดเพื่อพิสูจน์ความจริงโดยกระบวนการต้ังค�ำถาม วิธีนี้ เหมาะอย่างย่ิงกับการท�ำรายงานด้านเทคนิค รายงานประจ�ำปี และการ วิเคราะห์ทางการเงิน เม่ือคุณใช้วิธีน้ีให้ค�ำนึงถึงสิ่งเหล่าน้ีเสมอ ควรดูให้แน่ใจว่าได้รวบรวมทุกด้าน ทุกมุมมอง ไว้ในสมมติ ฐานเรียบร้อยแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียความน่าเชื่อถือ หรืออย่างร้ายแรงท่ีสุดคือ การตัดสินใจผิดพลาดทางธุรกิจ วิเคราะห์ข้อมูลหาความเหมือน ความต่าง ความเช่ือมโยง ทางตรรกะ ส่ิงท่ีเก่ียวข้องและข้อแนะน�ำในการปฏิบัติ ปรับภาษาทางเทคนิคให้ง่ายขึ้น เพ่ือผู้อ่านที่ไม่ใช่นักเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณเขียนรายงานของบริษัทท่ีคาด หมายให้บุคคลทั่วไปอ่าน แบบฟอร์ม “ค�ำแนะน�ำในการจัดโครงสร้างเอกสาร” จะช่วยอธิบาย ว่า การจัดระเบียบแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุดส�ำหรับการส่ือสารงานเขียนท่ี หลากหลาย 

 ส่วนที่ 1 : การเขียนเชิงธุรกิจ : หลักการพื้นฐาน เครื่องมือส�ำหรับการเขียนเชิงธุรกิจ แบบฟอร์มค�ำแนะน�ำในการจัดโครงสร้างเอกสาร ให้ ใช้ค�ำแนะน�ำน้ีเพ่ือจัดโครงสร้างการเขียนในเอกสารของคุณ หลักการจัดโครงสร้าง ประเภทเอกสาร ลค�ำวดามับ ลเห�ำดตับุ- ข้ันแตลอะน แคผวนามที่ เปกราียรบ เจไาปะสจู่ง วิเคกราาระห์ ส�ำคัญ การณ์ กระบวน คิด เทียบ ททแ่ัั่ววลไไะปป การ เคหวมาือมน และ เจไาปะสจู่ ง แคตวกาตม่าง รายงานอุบัติเหตุ x x การวิเคราะห์ แนวโน้ม รายงานประจ�ำปี x x การตรวจสอบ x x จดหมายบริการ x x ลูกค้า การศึกษา x x ประชากร ยังมตี อ่ 

บทท่ี 4 : การจัดโครงสร้างการเขียนอย่างเป็นระบบ  หลักการจัดโครงสร้าง ประเภทเอกสาร ลค�ำวดามับ ลเห�ำดตับุ- ข้ันแตลอะน แคผวนามที่ เปกราียรบ เจไาปะสจู่ง วิเคกราาระห์ ส�ำคัญ การณ์ กระบวน คิด เทียบ ทั่วไป การ เคหวมาือมน ทแ่ัวลไะป และ ไปสู่ แคตวกาตม่าง เจาะจง ค�ำอธิบาย x x พยากรณ์ x x เศรษฐกิจ x การศึกษาความ x x เป็นไปได้ วิเคราะห์การเงิน x x x การค้นพบ x สถิติการเติบโต x x คู่มือ x x ค�ำแนะน�ำ x x รายงานจาก x x x x x ห้องทดลอง ยังมตี อ่ 


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook