Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 61 -26 ก.ย

หลักสูตรสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 61 -26 ก.ย

Published by รัชนก บุญชัย, 2021-09-22 12:47:45

Description: หลักสูตรสถานศึกษา ฉบับปรับปรุง 61 -26 ก.ย

Search

Read the Text Version



๒ ความนำ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เปน็ หลักสูตรองิ มาตรฐาน ที่มุ่งพัฒนาผู้เรยี น ให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือให้ ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมืองไทยและพลโลก น่ันคือ การพัฒนาองค์ รวมของความเป็นมนุษย์ให้ครบทุกด้านท้ังร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม ตลอดจนปลูกฝังและสร้าง จติ สำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม จึงกำหนดสิ่งที่ผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ไว้ในมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ซึ่งประกอบด้วยความรู้ ความสามารถ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ ดังน้ัน เมื่อผู้เรียนได้รับการ พฒั นาแล้ว นอกจากจะมีความรคู้ วามสามารถ ตลอดจนคุณธรรมจริยธรรมท่ีกำหนดไว้ในมาตรฐานการเรียนรู้ และ ตวั ชว้ี ดั แลว้ จะนำไปสกู่ ารมสี มรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์อกี ดว้ ย ผู้เรียนทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ต้องสร้างองค์ความรู้ ทักษะ หรือกระบวนการเรียนรู้ และ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษา และพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพภาษาต่างประเทศ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซ่ึงเป็นการบูรณาการองค์ความรู้ ทักษะ และเจตคติ ที่เกิดจากการเรียนรู้ท้ัง ๘ กลุ่ม สาระการเรียนรู้ และประสบการณ์ของผู้เรียนมาปฏิบัติ เพ่ือเสริมสร้างสมรรถนะ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผู้เรยี น นอกจากนั้นสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต ๓ ยังได้กำหนดกรอบ สาระหลักสูตร ท้องถิน่ โดยมีเป้าหมายและจุดเน้นทีส่ ำคญั คือ นักเรียนมีความสามารถและทักษะ ใน การอ่าน การเขยี น การคิด วิเคราะห์ การแก้ปัญหามีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับท้องถ่ินของตนเอง มีความรักความภูมิใจในท้องถิ่น มีส่วนร่วม ในการพัฒนา และแก้ปัญหาของท้องถ่ิน โดยเฉพาะในเขตลุ่มน้ำปากพนัง ซ่ึงจะต้องนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับเป็นหลักสูตรในลักษณะบูรณาการ เพื่อ วางรากฐานใหท้ กุ คนมีความรู้ และคุณธรรมในด้านความพอเพยี ง มเี หตมุ ผี ล และรู้จักสรา้ งภมู คิ ุ้มกนั ให้ตนเอง โรงเรียนวดั ไมเ้ สยี บ มีความมุ่งม่นั ทีจ่ ะพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาให้ผู้เรียนมีนสิ ัยรกั การเรียนรู้ แสวงหาความรู้ ด้วยตนเอง และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นอกจากน้ันจะต้องมีความรู้ ความรัก และความภูมิใจในท้องถ่ินของ ตน มีความตระหนัก และมีความรับผิดชอบ ร่วมแก้ปัญหาและพัฒนาท้องถ่ิน ด้วยวิธีการที่หลากหลาย และ สร้างสรรค์ อย่างย่ังยืน จึงได้ปรับปรุงหลักสูตรกลุ่มสาระภาษาไทยให้มีคุณภาพตามแนวหลักสูตรโรงเรียนสาธิต จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย เพ่อื พฒั นาการเรยี นรสู้ ู่คุณภาพสากล สนองความตอ้ งการของชมุ ชนและสถานศกึ ษาตอ่ ไป โรงเรยี นวดั ไม้เสยี บ

๓ วสิ ยั ทัศนห์ ลักสตู รสถานศกึ ษา ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสูตรโรงเรียนวัดไม้เสียบฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๐ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากลและ เปน็ มนษุ ย์ที่มีความสมดุลทงั้ ร่างกาย ความร้คู คู่ ุณธรรม มีความเป็นผนู้ ำของสงั คมมีจิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทย และเป็นพลโลกโดยใช้หลักปรัชญ าของเศรษฐกิจพอเพียงยึดม่ันในการปกครองตามระ บอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมขุ มคี วามรู้และทักษะพ้ืนฐานสามารถใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยีรวมทัง้ เจตคติทจ่ี ำเป็นต่อ การศึกษาในการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิตโดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญบนพื้นฐานความเช่ือว่าทุกคน สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ เป้าประสงคห์ ลักสตู ร (Corporate objective) ๑. เพอ่ื ให้ผู้เรียนทุกคนไดร้ ับการปลกู ฝังคณุ ธรรม จริยธรรม มคี ุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ มกี ารพัฒนา เต็มตามศักยภาพ มีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนว ทางการดำเนินชีวติ เป็นผู้นำท่ดี ีของสงั คมและมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการเรยี นรูแ้ ละการส่อื สารอย่าง หลากหลาย ผูเ้ รยี นมีศกั ยภาพเป็นพลโลก (Worid Citizen) ๒. เพือ่ ให้สถานศึกษามรี ะบบการบรหิ ารและจัดการศึกษาด้วยระบบคุณภาพ (QualitySystem Management) เพ่อื รองรับการกระจายอำนาจอยา่ งทว่ั ถึง ๓. เพ่อื ใหบ้ คุ ลากรทุกคนมที ักษะวชิ าชพี ในการพัฒนาการเรียนการสอนและใชน้ วตั กรรมเทคโนโลยี ที่ทนั สมยั ยกระดับการจัดการเรยี นการสอนเทียบเคยี งมาตรฐานสากล (Worle Class standard) ๔. เพ่อื ให้การใช้งบประมาณและทรพั ยากรของทุกหน่วยงานเปน็ ไปตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธภิ าพ และประสทิ ธิผลสูงสุด วสิ ัยทศั น์โรงเรยี น ภายในปี การศกึ ษา ๒๕๖๑ โรงเรียนมุ่งพัฒนานักเรยี นให้มคี ณุ ภาพมาตรฐานการศกึ ษา พฒั นาครสู ู่ ประสิทธิภาพ ภมู ทิ ัศน์สวยงาม ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ชมุ ชนรว่ มใจ ก้าวไกลเทคโนโลยี โรงเรยี นดีศรีตำบล

๔ พนั ธกจิ ภารกจิ ของโรงเรยี นวดั ไมเ้ สยี บ เปน็ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา นครศรีธรรมราชเขต ๓ ดำเนินการสอนนกั เรยี นตง้ั แต่ช้ันอนุบาล ๑ ถงึ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ จัดการเรยี นการสอน โดยมงุ่ เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั สรา้ งนกั เรยี นให้เปน็ คนเกง่ คนดี และมีความสุข สามารถใช้ชวี ติ อยู่ในสังคมได้อยา่ งมี ความสขุ มกี รอบการบรหิ ารจดั การดงั น้ี ๑. พฒั นาผู้เรียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาท้ัง ๒ ระดับ ๒. พฒั นาครสู ู่ประสิทธิภาพ ปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพ ๓. ส่งเสรมิ การเรียนรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ๔. จดั สภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรยี นใหส้ ะอาด รม่ รื่น สวยงาม ปลอดภยั เปน็ แหลง่ เรียนรู้ของ นกั เรียน ๕ ส่งเสรมิ แหลง่ เรยี นรู้ในชมุ ชน และภูมิปัญญาท้องถิน่ ๖. สง่ เสริมการบรหิ ารโรงเรียนยดึ หลกั ธรรมาภบิ าล โดยใช้โรงเรยี นเปน็ ฐาน นำพาโรงเรียนไปสู่ โรงเรียนดี ศรตี ำบล ๗. ส่งเสรมิ ให้บคุ ลากรและนักเรียนในโรงเรียน คน้ ควา้ หาความรูจ้ ากเทคโนโลยสี ารสนเทศ เปา้ ประสงค์ ๑. ผ้เู รียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาทง้ั ๒ ระดบั ๒. ครพู ัฒนาตนเอง ปฏิบัตงิ านได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพเต็มศักยภาพ ๓. นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้กิจกรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง ๔. สภาพแวดลอ้ มภายในโรงเรียนเอ้ือต่อการเรียนรู้ สะอาด รม่ รนื่ สวยงาม ปลอดภัย ๕. นักเรียนได้ใช้แหล่งเรียนร้ใู นชุมชน และภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน ๖. ทกุ ภาคสว่ นมสี ่วนรว่ มในการบริหารโรงเรยี นใหเ้ ขา้ สโู่ รงเรยี นดี ศรตี ำบล ๗. บุคลากรและนักเรียนในโรงเรียน มคี วามก้าวหนา้ ด้านเทคโนโลยี สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนวัดไม้เสียบพุทธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐานท่ีกำหนด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดงั น้ี สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน หลกั สูตรโรงเรยี นวดั ไม้เสยี บ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ มุ่งใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดังนี้ ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร เป็นความสามารถในการรบั และสง่ สาร มวี ัฒนธรรมในการใชภ้ าษาถา่ ยทอด ความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ กี ารส่อื สาร ท่ีมีประสทิ ธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมตี อ่ ตนเองและสงั คม

๕ ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพื่อการ ตัดสนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสังคมได้อยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลง ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาและมกี าตัดสินใจท่ี มปี ระสทิ ธภิ าพโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกิดข้นึ ตอ่ ตนเอง สงั คมและสงิ่ แวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยการ สร้าง เสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับ การเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อน่ื ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะ กระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหา อยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ณุ ธรรม คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ หลักสูตรโรงเรียนวัดไม้เสียบ พุทธศักราช๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับ ผอู้ ืน่ ในสงั คมได้อย่างมีความสุข ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รกั ษช์ าติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซ่อื สัตย์สจุ รติ ๓. มีวนิ ยั ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ๕. อยู่อย่างพอเพยี ง ๖. ม่งุ ม่ันในการทำงาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๘. มจี ิตเป็นสาธารณะ

๖ โครงสร้างเวลาเรียน หลกั สตู รโรงเรียนวัดไมเ้ สียบ (ฉบับปรบั ปรุง) ปกี ารศึกษา ๒๕๖๐ กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั น้ี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ / เวลาเรยี น กจิ กรรม ระดับประถมศึกษา ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ภาษาไทย ๒๘๐ ๒๘๐ ๒๘๐ ๒๔๐ ๒๔๐ ๒๔๐ คณิตศาสตร์ ๒๘๐ ๒๘๐ ๒๘๐ ๒๔๐ ๒๔๐ ๒๔๐ วิทยาศาสตร์ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ สงั คมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม หนา้ ทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม เศรษฐศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ศิลปะ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ภาษาตา่ งประเทศ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ รวมเวลาเรยี น (พ้นื ฐาน) ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐ ๑,๒๐๐  กิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐  รายวชิ า เพ่มิ เตมิ -คอมพิวเตอร์พ้นื ฐาน ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ รวมเวลาเรียนท้ังหมด ๑,๔๐๐ ช่ัวโมง/ปี

๗ โครงสรา้ งหลักสูตรช้นั ปี โครงสร้างหลักสูตรช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ปี) รายวิชาพ้นื ฐาน ๑๒๐๐ ท๑๑๑๐๑ภาษาไทย ๒๘๐ ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๘๐ ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑๖๐ ส๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๑๒๐ ส๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐ อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑๖๐ รายวชิ าเพ่มิ เติม ๔๐ -คอมพิวเตอร์พืน้ ฐาน ๔๐ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ๑๖๐ ๔๐ •กจิ กรรมแนะแนว ๑๒๐ •กจิ กรรมนกั เรียน ๑,๔๐๐ - ลูกเสือ / เนตรนารี - ชมุ นมุ - ลดเรยี นเพม่ิ รู้ - กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นทั้งส้ิน

๘ โครงสร้างหลักสตู รชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ รายวชิ า / กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ปี) รายวิชาพ้ืนฐาน ๑๒๐๐ ท๑๒๑๐๑ภาษาไทย ๒๘๐ ค๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๘๐ ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐ ส๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๑๒๐ ส๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ พ๑๒๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ ง๑๒๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐ อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑๖๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๔๐ -คอมพวิ เตอร์พนื้ ฐาน ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑๖๐ ๔๐ •กิจกรรมแนะแนว ๑๒๐ •กจิ กรรมนกั เรยี น ๑,๔๐๐ - ลกู เสอื / เนตรนารี - ชุมนมุ - ลดเรียนเพิ่มรู้ - กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรียนท้ังสนิ้

๙ โครงสรา้ งหลกั สูตรชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ปี) รายวชิ าพ้นื ฐาน ๑๒๐๐ ท๑๓๑๐๑ภาษาไทย ๒๘๐ ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๘๐ ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐ ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๑๒๐ ส๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ พ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๘๐ ง๑๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑๖๐ รายวิชาเพม่ิ เติม ๔๐ -คอมพวิ เตอร์พ้นื ฐาน ๔๐ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๑๖๐ ๔๐ •กิจกรรมแนะแนว ๑๒๐ •กิจกรรมนักเรียน ๑,๔๐๐ - ลกู เสือ / เนตรนารี - ชมุ นมุ - ลดเรยี นเพิ่มรู้ - กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้ังสนิ้

๑๐ โครงสร้างหลักสตู รช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ รายวชิ า / กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี รายวชิ าพื้นฐาน ๑๒๐๐ ท๑๔๑๐๑ภาษาไทย ๒๔๐ ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒๔๐ ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑๖๐ ส๑๔๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๑๒๐ ส๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ พ๑๔๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ศ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐ อ๑๔๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒๐๐ รายวิชาเพิ่มเติม ๔๐ -คอมพวิ เตอร์พื้นฐาน ๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑๖๐ ๔๐ •กิจกรรมแนะแนว ๑๒๐ •กจิ กรรมนกั เรยี น ๑,๔๐๐ - ลูกเสือ / เนตรนารี - ชมุ นมุ - ลดเรยี นเพ่มิ รู้ -กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้งั ส้ิน

๑๑ โครงสร้างหลักสตู รชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๕ รายวิชา / กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี รายวิชาพืน้ ฐาน ๑๒๐๐ ท๑๕๑๐๑ภาษาไทย ๒๔๐ ค๑๕๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๔๐ ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑๖๐ ส๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๑๒๐ ส๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐ พ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๘๐ ศ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๔๐ อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒๐๐ รายวชิ าเพิ่มเติม ๔๐ -คอมพิวเตอร์พ้ืนฐาน ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๑๖๐ ๔๐ •กิจกรรมแนะแนว ๑๒๐ •กิจกรรมนักเรียน ๑,๔๐๐ - ลูกเสอื / เนตรนารี - ชุมนุม - ลดเรียนเพิ่มรู้ -กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรยี นท้ังส้ิน

๑๒ โครงสรา้ งหลกั สตู รช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ รายวชิ า / กจิ กรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี รายวิชาพน้ื ฐาน ๑๒๐๐ ท๑๖๑๐๑ภาษาไทย ๒๔๐ ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๔๐ ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑๖๐ ส๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๑๒๐ ส๑๖๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐ พ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๘๐ ศ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐ ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒๐๐ รายวิชาเพม่ิ เติม ๔๐ -คอมพวิ เตอร์พื้นฐาน ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน ๑๖๐ ๔๐ •กจิ กรรมแนะแนว ๑๒๐ •กจิ กรรมนกั เรยี น ๑,๔๐๐ - ลกู เสอื / เนตรนารี - ชมุ นมุ - ลดเรียนเพ่มิ รู้ -กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น

๑๓ คำอธบิ ายรายวชิ า รายวิชาพ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ระดับประถมศกึ ษา รายวิชาพน้ื ฐาน ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๘๐ ชั่วโมง ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๘๐ ชวั่ โมง ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๘๐ ช่วั โมง ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๔๐ ชว่ั โมง ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๔๐ ชว่ั โมง ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย จำนวน ๒๔๐ ชวั่ โมง รายวชิ าเพิ่มเติม -

๑๔ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ทำไมตอ้ งเรียนภาษาไทย ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้าง บุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อส่ือสารเพ่ือสร้าง ความเข้าใจและ ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตยได้อย่าง สันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อ การเปล่ียนแปลงทางสังคม และความก้าวหน้า ทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใชใ้ นการพัฒนาอาชีพใหม้ คี วามมน่ั คงทางเศรษฐกจิ นอกจากนี้ยงั เปน็ ส่ือ แสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี และสุนทรียภาพ เป็นสมบัติล้ำค่าควรแก่การเรียนรู้ อนรุ ักษ์ และสบื สานให้คงอยู่คู่ชาตไิ ทยตลอดไป เรยี นรู้อะไรในภาษาไทย ภาษาไทยเป็นทักษะท่ีต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร การเรียนรู้อย่างมี ประสิทธภิ าพ และเพือ่ นำไปใช้ในชวี ติ จริง • การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนิดต่างๆการอ่านในใจ เพอ่ื สรา้ งความเขา้ ใจ และการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะหค์ วามรจู้ ากสิ่งท่ีอา่ น เพ่ือนำไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั • การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่างๆ ของการ เขียน ซ่ึงรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการ วิเคราะห์วิจารณ์ และเขียน เชิงสรา้ งสรรค์ • การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดลำดับเรื่องราวต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่างๆ ท้ังเป็นทางการและ ไม่เป็นทางการ และการ พูดเพอื่ โนม้ นา้ วใจ • หลกั การใชภ้ าษาไทย ธรรมชาตแิ ละกฎเกณฑข์ องภาษาไทย การใช้ภาษาใหถ้ ูกต้องเหมาะสมกับโอกาส และบคุ คล การแตง่ บทประพันธป์ ระเภทต่างๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย • วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพ่ือศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่าของ งานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทำความเข้าใจบทเห่ บทรอ้ งเล่นของเด็ก เพลงพ้ืนบ้านท่ีเป็นภูมิ ปัญญาที่มีคณุ ค่าของไทย ซึง่ ได้ถ่ายทอดความรสู้ ึกนึกคิด ค่านยิ ม ขนบธรรมเนยี มประเพณี เรอื่ งราวของ สังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิดความซาบซ้ึงและภูมิใจในบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมสืบทอดมาจนถึง ปจั จบุ ัน

๑๕ คณุ ภาพผเู้ รยี น จบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ • อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ เรื่องสั้นๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกต้องคล่องแคล่ว เข้าใจความหมายของคำและข้อความท่ีอ่าน ตั้งคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุป ความรู้ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน ปฏิบัติตามคำส่ัง คำอธิบายจากเรื่องท่ีอ่านได้ เข้าใจความหมายของข้อมูลจาก แผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ อา่ นหนงั สอื อย่างสม่ำเสมอ และ มีมารยาทในการอ่าน • มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย บันทึกประจำวัน เขียนจดหมายลาครู เขียนเรอ่ื งเกย่ี วกบั ประสบการณ์ เขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการและมมี ารยาทในการเขียน • เล่ารายละเอียดและบอกสาระสำคัญ ต้ังคำถาม ตอบคำถาม รวมท้ังพูดแสดงความคิดความรู้สึก เกี่ยวกับเร่ืองท่ีฟังและดู พูดส่ือสารเล่าประสบการณ์และพูดแนะนำ หรือพูดเชิญชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม และมี มารยาทในการฟงั ดู และพูด • สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ ความแตกต่างของคำและพยางค์ หน้าท่ีของคำ ในประโยค มที ักษะการใช้พจนานุกรมในการคน้ หาความหมายของคำ แตง่ ประโยคง่ายๆ แต่งคำคล้องจอง แตง่ คำขวัญ และ เลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ • เขา้ ใจและสามารถสรปุ ข้อคิดที่ได้จากการอา่ นวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั แสดงความคิดเหน็ จากวรรณคดีทอี่ ่าน รจู้ ักเพลงพืน้ บ้าน เพลงกล่อมเดก็ ซ่ึงเป็นวัฒนธรรมของท้องถิน่ รอ้ งบทรอ้ ง เลน่ สำหรับเดก็ ในทอ้ งถนิ่ ท่องจำบทอาขยานและบทร้อยกรอง ท่มี ีคณุ ค่าตามความสนใจได้ จบช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ • อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะได้ถกู ต้อง อธิบายความหมายโดยตรงและ ความหมายโดยนัยของคำ ประโยค ข้อความ สำนวนโวหาร จากเรื่องที่อ่าน เข้าใจคำแนะนำ คำอธิบายในคู่มือ ตา่ งๆ แยกแยะข้อคิดเหน็ และข้อเท็จจริง รวมท้ังจบั ใจความสำคัญของเร่ืองท่ีอ่านและ นำความรู้ความคิดจากเร่ือง ทีอ่ ่านไปตัดสินใจแกป้ ัญหาในการดำเนนิ ชีวติ ได้ มมี ารยาทและมนี สิ ยั รักการอ่าน และเหน็ คุณค่าส่ิงท่อี า่ น • มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสะกดคำ แต่งประโยคและเขียน ขอ้ ความ ตลอดจนเขียนส่อื สารโดยใช้ถ้อยคำชัดเจนเหมาะสม ใชแ้ ผนภาพ โครงเรื่องและแผนภาพความคิด เพื่อ พัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่างๆ เขียนแสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็น เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์ และมมี ารยาทในการเขียน • พูดแสดงความรู้ ความคิดเกี่ยวกับเร่อื งที่ฟงั และดู เล่าเรือ่ งย่อหรอื สรุปจากเร่ืองท่ฟี ังและดู ต้งั คำถาม ตอบคำถามจากเรื่องที่ฟงั และดู รวมท้ังประเมนิ ความน่าเชอื่ ถอื จากการฟังและดโู ฆษณาอย่างมีเหตุผล พูดตามลำดับ ข้ันตอนเรื่องต่างๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรือประเด็นค้นคว้าจาก การฟัง การดู การสนทนา และพูดโน้ม นา้ วได้อย่างมีเหตุผล รวมทงั้ มีมารยาทในการดูและพูด

๑๖ • สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ สำนวน คำพังเพยและสุภาษิต รู้และเข้าใจ ชนิดและหน้าที่ ของคำในประโยค ชนิดของประโยค และคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คำราชาศัพท์และคำสุภาพได้ อย่างเหมาะสม แต่งประโยค แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนสภุ าพ และกาพย์ยานี ๑๑ • เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้องเพลงพื้นบ้านของท้องถิ่น นำขอ้ คิดเหน็ จากเร่ืองท่ีอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง และทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดได้ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นำไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดำเนินชวี ติ และ มนี สิ ัยรกั การอ่าน สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรือ่ งราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ ง มปี ระสิทธภิ าพ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และ ความรู้สกึ ใน โอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่าและนำมา ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ จริง

๑๗ ตัวช้ีวัดช้นั ปี สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้ และความคดิ เพอ่ื นำไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดำเนินชวี ิตและมีนิสัยรักการอา่ น ตัวชวี้ ัดชน้ั ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. อ่านออก ๑. อ่านออก ๑. อา่ นออก ๑. อ่าน ๑. อา่ นออก ๑. อา่ นออก เสยี งคำ คำ เสียงคำ คำ เสยี งคำ ออกเสียง เสียง เสียง คล้องจอง คล้องจอง ขอ้ ความ บทรอ้ ยแกว้ บทร้อยแกว้ บทร้อยแกว้ และข้อความ ขอ้ ความ และ เรอ่ื งส้นั ๆ และ และบทร้อย และบทร้อย และบทร้อย สัน้ ๆ บทร้อยกรอง บทรอ้ ยกรอง กรอง กรอง กรอง ๒. บอก งา่ ยๆ ได้ถูกต้อง งา่ ยๆ ได้ถูกต้อง ได้ถูกตอ้ ง ไดถ้ ูกต้อง ได้ถูกต้อง ความหมาย ๒. อธิบาย คล่องแคลว่ ๒. อธิบาย ๒. อธบิ าย ๒. อธิบาย ของคำ และ ความหมายของ ๒. อธบิ าย ความหมายของ ความหมายของ ความหมายของ ขอ้ ความท่อี ่าน คำ และ ความหมายของ คำ ประโยค คำ ประโยค คำ ประโยค ๓. ตอบคำถาม ข้อความ คำ และ และสำนวนจาก และข้อความที่ และ เก่ยี วกับเรือ่ งท่ี ท่อี า่ น ข้อความท่อี ่าน เรอื่ งท่ีอ่าน เปน็ การ ข้อความท่เี ปน็ อ่าน ๓. ตงั้ คำถาม ๓. อา่ นเร่ือง บรรยาย ๔. เลา่ เรือ่ งย่อ และตอบ สนั้ ๆ ตามเวลา และการ โวหาร จากเรือ่ งที่อ่าน คำถามเก่ยี วกับ ทก่ี ำหนด พรรณนา เรอื่ งท่ีอ่าน และตอบ ๓. อธบิ าย ๔. ระบุใจความ คำถาม ความหมาย สำคัญและ จากเรือ่ งทอี่ า่ น โดยนัย รายละเอยี ด 4.แยก จากเร่อื งท่ี จากเรื่องทอ่ี ่าน ข้อเท็จจรงิ อ่านอยา่ ง และข้อคิดเห็น หลากหลาย จากเร่ืองที่ อา่ น 5.คาดคะเน เหตุการณจ์ าก เรอื่ งท่ีอา่ น โดยระบุ เหตุผล ประกอบ

๑๘ ป. ๑ ป. ๒ ตวั ช้วี ัดชน้ั ปี ป. ๕ ป. ๖ ๕. คาดคะเน ๕. แสดงความ ป. ๓ ป. ๔ ๔. แยก ๓. อา่ นเร่อื ง เหตุการณ์ คิดเห็นและ ข้อเทจ็ จรงิ ส้นั ๆ อย่าง จากเรือ่ งทอี่ ่าน คาดคะเน ๓. ตงั้ คำถาม ๖. สรุปความรู้ และข้อคิดเหน็ หลากหลาย ๖. อา่ นหนังสอื เหตกุ ารณ์จาก และตอบคำถาม และข้อคดิ จาก จากเรอื่ งทอี่ ่าน โดยจบั เวลา ตามความสนใจ เรอื่ งท่ีอ่าน เชิงเหตุผล เรอ่ื งที่อา่ นเพื่อ ๕. วเิ คราะห์ แล้วถามเกี่ยวกับ อย่างสม่ำเสมอ ๖. อา่ นหนังสอื เก่ียวกับเร่ือง นำไปใชใ้ น และแสดงความ เร่อื งท่ีอา่ น และนำเสนอ ตามความสนใจ ท่ีอ่าน ชีวติ ประจำวนั คดิ เหน็ ๔. แยก เรือ่ งที่อ่าน อย่างสม่ำเสมอ ๔. ลำดับ ๗. อ่านหนังสอื เกี่ยวกบั เรือ่ ง ขอ้ เท็จจรงิ และ ๗. บอก และนำเสนอ เหตกุ ารณ์และ ทม่ี คี ุณคา่ ตาม ที่อา่ นเพ่อื ข้อคิดเหน็ ความหมาย เรอื่ งที่อา่ น คาดคะเน ความสนใจ นำไปใช้ในการ จากเรือ่ งที่อา่ น ของ ๗. อา่ นข้อเขยี น เหตกุ ารณจ์ าก อยา่ งสม่ำเสมอ ดำเนินชีวิต ๕. อธิบายการ เครื่องหมาย เชิงอธิบาย และ เร่อื งที่อา่ นโดย และแสดงความ ๖. อา่ นงาน นำความร้แู ละ หรอื สัญลกั ษณ์ ปฏบิ ตั ิตามคำสง่ั ระบุเหตผุ ล คิดเหน็ เกยี่ วกับ เขียนเชงิ อธบิ าย ความคดิ สำคญั ทีม่ ักพบ หรือขอ้ แนะนำ ประกอบ เรือ่ งที่อา่ น คำส่ัง ข้อแนะนำ จากเรื่องที่อ่าน เห็นในชีวิต ๘. มมี ารยาท ๕. สรุปความรู้ ๘. มมี ารยาท และปฏิบัตติ าม ไปตดั สินใจ ประจำวัน ในการอ่าน และข้อคดิ ในการอ่าน แกป้ ัญหา ๘. มมี ารยาท จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น ๗. อ่าน ในการดำเนนิ ในการอ่าน เพอ่ื นำไปใชใ้ น หนงั สือ ชีวติ ชีวิตประจำวนั ท่มี คี ุณคา่ ตาม ๖. อ่านงาน ๗. อ่านข้อเขยี น ความสนใจ เขียนเชิงอธิบาย เชิงอธิบาย อย่างสม่ำเสมอ คำสั่ง ข้อแนะนำ และปฏิบัติตาม และแสดงความ และปฏิบตั ิตาม คำสัง่ หรือ คิดเหน็ เก่ยี วกบั ๗. อธิบาย ข้อแนะนำ เร่ืองท่ีอา่ น ความหมาย ๘. อธบิ าย ๘. มมี ารยาท ของขอ้ มลู ความหมาย ในการอ่าน จากการอา่ น ของขอ้ มูล แผนผงั แผนท่ี จากแผนภาพ แผนภมู ิ แผนที่ และ และกราฟ แผนภมู ิ ๘. อ่านหนังสอื ๙. มมี ารยาท ตามความสนใจ ในการอ่าน และอธบิ าย คุณค่าท่ไี ดร้ บั ๙. มีมารยาท ในการอ่าน

๑๙ สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราวใน รปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและ รายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ตวั ชี้วดั ช้ันปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. คดั ลายมือ ๑. คดั ลายมอื ๑. คดั ลายมือ ๑. คัดลายมอื ๑. คัดลายมือ ๑. คดั ลายมือ ตัวบรรจง ตวั บรรจง เตม็ บรรทดั เต็มบรรทดั ตัวบรรจง ตัวบรรจง ตวั บรรจง ตวั บรรจง ๒. เขียนสือ่ สาร ๒. เขยี นเรือ่ ง ดว้ ยคำและ ส้นั ๆ เกย่ี วกบั เต็มบรรทัด เตม็ บรรทดั เตม็ บรรทดั เตม็ บรรทดั ประโยคง่ายๆ ประสบการณ์ ๓. มีมารยาท ๓. เขียนเรอื่ ง ๒ เขยี น และคร่ึงบรรทัด และคร่ึงบรรทัด และครึง่ บรรทัด ในการเขยี น สน้ั ๆ ตาม จินตนาการ บรรยาย ๒. เขียนสอื่ สาร ๒. เขียนสื่อสาร ๒. เขยี นส่อื สาร ๔. มมี ารยาท ในการเขียน เกย่ี วกับสง่ิ ใด โดยใช้คำได้ โดยใชค้ ำได้ โดยใช้คำได้ สิง่ หน่งึ ไดอ้ ย่าง ถกู ต้อง ชัดเจน ถูกต้อง ชดั เจน ถกู ต้อง ชัดเจน ชัดเจน และเหมาะสม และเหมาะสม และเหมาะสม ๓. เขยี นบันทึก ๓. เขียน ๓. เขียน ๓. เขยี น ประจำวนั แผนภาพ แผนภาพ แผนภาพ ๔. เขยี น โครงเรือ่ ง โครงเร่ือง โครงเรือ่ ง จดหมายลาครู และแผนภาพ และแผนภาพ และแผนภาพ ๕. เขียนเรื่อง ความคดิ เพื่อใช้ ความคิดเพื่อใช้ ความคิดเพือ่ ใช้ ตามจนิ ตนาการ พัฒนางานเขยี น พัฒนางานเขียน พัฒนางานเขียน ๖. มีมารยาท ๔. เขียน ๔. เขียน ย่อ ๔. เขยี น ในการเขยี น ย่อความ ความจากเรื่อง เรยี งความ จากเร่ืองสนั้ ๆ ทีอ่ ่าน ๕. เขยี น ๕. เขียน ๕. เขียน ย่อความ จดหมาย จดหมาย จากเร่ืองทอี่ ่าน ถึงเพ่ือน ถงึ ผู้ปกครอง ๖. เขียน และบิดามารดา และญาติ จดหมายส่วนตัว ๖. เขียนบนั ทึก ๖. เขยี นแสดง ๗. กรอกแบบ และเขียน ความรูส้ กึ และ รายการตา่ งๆ รายงาน ความคิดเห็นได้ ๘. เขยี นเรอ่ื ง จากการศึกษา ตรง ตามจนิ ตนาการ คน้ คว้า ตามเจตนา และสรา้ งสรรค์ ๗. เขียนเรอ่ื ง ๗. กรอกแบบ ๙. มีมารยาท ตามจินตนาการ รายการต่างๆ ในการเขียน ๘. มมี ารยาท ๘. เขยี นเรื่อง ในการเขยี น ตามจนิ ตนาการ ๙. มีมารยาท ในการเขยี น

๒๐ สาระที่ ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดอู ยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความร้สู ึกใน โอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ชีว้ ัดชั้นปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. ฟงั คำแนะนำ ๑. ฟังคำแนะนำ ๑. เล่า ๑. จำแนก ๑. พูดแสดง ๑. พดู แสดง คำสง่ั งา่ ยๆ และ คำสั่งทซ่ี ับซ้อน รายละเอียด ขอ้ เทจ็ จริง ความรู้ ความรู้ ปฏิบตั ิตาม และปฏบิ ัติตาม เกี่ยวกบั เร่อื ง และข้อคิดเห็น ความคดิ เหน็ ความเขา้ ใจ ๒. ตอบคำถาม ๒. เลา่ เร่ือง ทฟ่ี งั และดู จากเร่อื งท่ีฟงั และความรู้สกึ จุดประสงค์ และเลา่ เรอ่ื ง ทฟ่ี ังและดู ทัง้ ทเ่ี ป็นความรู้ และดู จากเร่ืองทีฟ่ งั ของเร่ืองท่ีฟัง ที่ฟังและดู ทั้งท่ีเป็นความรู้ และความ ๒. พดู สรปุ และดู และดู ท้งั ท่ีเป็นความรู้ และความ บนั เทิง ความจาก ๒. ตง้ั คำถาม ๒. ตั้งคำถาม และความ บันเทิง ๒. บอก การฟงั และดู และตอบคำถาม และตอบคำถาม บนั เทิง ๓. บอก สาระสำคญั ๓. พดู แสดง เชงิ เหตุผล เชิงเหตผุ ล ๓. พดู แสดง สาระสำคญั จากการฟัง ความรู้ จากเร่อื งทฟ่ี งั จากเร่ืองทีฟ่ งั ความคดิ เห็น ของเร่ืองที่ฟงั และการดู ความคดิ เห็น และดู และดู และความรู้สกึ และดู ๓. ตัง้ คำถาม และความร้สู ึก ๓. วิเคราะห์ ๓. วเิ คราะห์ จากเร่อื งที่ฟัง ๔. ตัง้ คำถาม และตอบคำถาม เกีย่ วกับเรื่องที่ ความนา่ เชอื่ ถือ ความนา่ เช่ือถือ และดู และตอบ ๔. พดู สือ่ สารได้ คำถาม เก่ยี วกบั เร่อื งที่ ฟงั และดู จากเร่ืองท่ีฟงั จากการฟงั และ ฟงั และดู และดูอย่างมี ดูส่อื โฆษณา ตาม เกย่ี วกบั เรอ่ื งท่ี ๔. พูดแสดง ๔. ต้งั คำถาม เหตุผล อยา่ งมเี หตผุ ล วตั ถุประสงค์ ฟงั และดู ความคดิ เหน็ และตอบคำถาม ๔. พูดรายงาน ๔. พดู รายงาน ๕. มมี ารยาท ๕. พูดแสดง และความรู้สึก เชิงเหตุผล เรอ่ื งหรือ เรื่องหรือ ในการฟัง การดู ความคดิ เหน็ จากเรอ่ื งท่ฟี งั จากเรอื่ งทีฟ่ ัง ประเดน็ ประเด็นที่ และการพูด และความรูส้ กึ และดู และดู ท่ศี ึกษาคน้ ควา้ ศกึ ษาค้นคว้า ๕. พดู สอ่ื สาร ๕. รายงาน จากการฟัง จากการฟงั จากเร่อื งท่ฟี ัง และดู ได้ชดั เจนตรง เรอ่ื งหรือ การดู และการ การดู และการ ๖. พูดส่ือสาร ตาม ประเด็นท่ี สนทนา สนทนา ได้ชดั เจน ตรง วัตถุประสงค์ ศกึ ษาคน้ คว้า ๕. มมี ารยาท ๕. พูดโน้มน้าว ตาม ๖. มีมารยาท จากการฟัง ในการฟัง การดู อย่างมเี หตุผล วตั ถุประสงค์ ในการฟัง การ การดู และ และการพูด และนา่ เชือ่ ถือ ๗. มมี ารยาท ดู และการพดู การสนทนา ๖. มีมารยาท ในการฟงั การ ๖. มมี ารยาท ในการฟัง การดู ดูและการพูด ในการฟัง การดู และการพดู และการพดู

๒๑ สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ ตัวชว้ี ัดชั้นปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. บอกและ ๑. บอกและ ๑. เขยี นสะกด ๑. สะกดคำ ๑. ระบชุ นดิ ๑. วเิ คราะหช์ นิด เขียน เขียน คำและบอก และบอก และหนา้ ที่ของคำ และหน้าที่ของคำ พยัญชนะ พยญั ชนะ ความหมาย ความหมาย ในประโยค ในประโยค สระ สระ ของคำ ของคำใน ๒. จำแนก ๒. ใช้คำ วรรณยกุ ต์ วรรณยุกต์ ๒. ระบชุ นดิ บรบิ ท สว่ นประกอบ ไดเ้ หมาะสม และเลขไทย และเลขไทย และหน้าท่ีของ ตา่ งๆ ของประโยค กบั กาลเทศะ ๒. เขียนสะกด ๒. เขียนสะกด คำในประโยค ๒. ระบชุ นิด ๓. เปรยี บเทียบ และบคุ คล คำและบอก คำและบอก ๓. ใช้ และหนา้ ท่ขี อง ภาษาไทยมาตรฐาน ๓. รวบรวมและ ความหมาย ความหมาย พจนานกุ รม คำในประโยค กบั ภาษาถิน่ บอกความหมาย ของคำ ของคำ ค้นหา ๓. ใช้ ๔. ใชค้ ำ ของคำ ๓. เรยี บ ๓. เรยี บ ความหมาย พจนานุกรม ราชาศพั ท์ ภาษาต่างประเทศ เรียงคำ เรียงคำ ของคำ ค้นหา ๕. บอกคำ ท่ีใช้ในภาษาไทย เปน็ ประโยค เปน็ ประโยค ๔. แต่ง ความหมาย ภาษาต่างประเทศ ๔. ระบุลกั ษณะ งา่ ย ๆ ไดต้ รงตาม ประโยค ของคำ ในภาษาไทย ของประโยค ๔. ต่อ เจตนาของ งา่ ยๆ ๔. แตง่ ๖. แตง่ บท ๕. แตง่ บท คำคล้องจอง การสอ่ื สาร ๕. แตง่ คำ ประโยค รอ้ ยกรอง ร้อยกรอง ง่ายๆ ๔. บอก คลอ้ งจอง ไดถ้ ูกตอ้ งตาม ๗. ใช้สำนวน ๖. วิเคราะห์ ลกั ษณะ และคำขวัญ หลักภาษา ไดถ้ ูกต้อง และเปรียบเทียบ คำคลอ้ งจอง ๖. เลอื กใช้ ๕. แตง่ บท สำนวนทเี่ ปน็ ๕. เลอื กใช้ ภาษาไทย รอ้ ยกรอง คำพงั เพยและ ภาษาไทย มาตรฐาน และคำขวญั สุภาษิต มาตรฐาน และภาษาถิน่ ๖. บอก และภาษาถิ่น ได้เหมาะสม ความหมาย ได้เหมาะสม กบั กาลเทศะ ของสำนวน กับกาลเทศะ ๗.เปรยี บเทียบ ภาษาไทย มาตรฐาน กบั ภาษาถนิ่ ได้

๒๒ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ คณุ ค่า ประยกุ ต์ใช้ใน ชีวิตจริง ตวั ชีว้ ดั ชนั้ ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. บอกขอ้ คดิ ๑. ระบขุ ้อคดิ ๑. ระบุข้อคดิ ๑. ระบขุ อ้ คิด ๑. สรุปเรือ่ ง ๑. แสดงความ ท่ีไดจ้ ากการอ่าน ท่ไี ดจ้ ากการอ่าน ที่ได้จากการอา่ น จากนิทาน จากวรรณคดี คดิ เหน็ จาก หรือการฟงั หรอื การฟัง วรรณกรรม พน้ื บ้าน หรือวรรณกรรม วรรณคดี วรรณกรรม วรรณกรรม เพอ่ื นำไปใช้ หรอื นทิ าน ทอี่ า่ น หรอื วรรณกรรม ร้อยแก้วและ สำหรับเดก็ ในวติ ประจำวนั คตธิ รรม ๒. ระบุความรู้ ทอ่ี ่าน รอ้ ยกรอง เพื่อนำไปใช้ ๒. รจู้ กั เพลง ๒. อธบิ ายข้อคิด และข้อคิด ๒. เล่านิทาน สำหรับเดก็ ในชีวติ ประจำวนั พ้ืนบ้านและ จากการอา่ น จากการอา่ น พ้นื บา้ นท้องถน่ิ ๒. ท่องจำ ๒. ร้อง เพลงกล่อมเด็ก เพื่อนำไปใช้ วรรณคดี ตนเอง และ บทอาขยาน บทร้องเลน่ เพือ่ ปลูกฝงั ในชีวติ จริง และวรรณกรรม นิทานพื้นบ้าน ตามทกี่ ำหนด สำหรับเด็กใน ความชน่ื ชม ๓. รอ้ งเพลง ท่สี ามารถ ของทอ้ งถนิ่ อนื่ และบทรอ้ ยกรอง ท้องถ่ิน วัฒนธรรม พื้นบ้าน นำไปใช้ ๓. อธิบาย ตามความสนใจ ๓. ท่องจำ ทอ้ งถ่นิ ๔. ทอ่ งจำ ในชีวิตจรงิ คณุ คา่ ของ บทอาขยาน ๓. แสดงความ บทอาขยาน ๓. อธิบาย วรรณคดี และ ตามทก่ี ำหนด คดิ เห็นเกย่ี วกบั ตามท่ีกำหนด คุณค่าของ วรรณกรรมที่ และบทรอ้ ยกรอง วรรณคดที อี่ ่าน และบทร้อยกรอง วรรณคดี อา่ นและนำไป ที่มคี ุณคา่ ตาม ๔. ทอ่ งจำ ที่มีคุณค่าตาม และวรรณกรรม ประยกุ ตใ์ ช้ ความสนใจ บทอาขยาน ความสนใจ ๔. ท่องจำ ในชีวิตจริง ตามทกี่ ำหนด บทอาขยาน ๔. ท่องจำ และบทร้อย ตามทกี่ ำหนด บทอาขยาน กรองที่มคี ณุ ค่า และบทรอ้ ยกรอง ตามท่กี ำหนด ตามความสนใจ ที่มีคณุ ค่าตาม และบทรอ้ ยกรอง ความสนใจ ทม่ี ีคุณคา่ ตาม ความสนใจ

๒๓ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ เวลา ๒๘๐ ชั่วโมง ฝึกอ่านออกเสียงคำ คำคลอ้ งจอง และข้อความสั้น ๆบอกความหมายของคำและขอ้ ความตอบคำถามเลา่ เรื่องย่อคาดคะเนเหตุการณเ์ ลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอนำเสนอเร่ืองทอ่ี า่ น บอกความหมายของ เครือ่ งหมายหรอื สญั ลักษณ์สำคญั ที่มักพบเหน็ ในชีวติ ประจำวนั มีมารยาทในการอ่าน ฝกึ คัดลายมือดว้ ยตัวบรรจง เต็มบรรทัดเขียนส่ือสารด้วยคำและประโยคง่ายๆมีมารยาทในการเขยี น ฝกึ ทกั ษะในการฟัง ฟงั คำแนะนำ คำสั่งง่ายๆและปฏิบัตติ ามตอบคำถาม เล่าเร่ืองพูดแสดงความคดิ เหน็ และความรู้สกึ จากเรื่องท่ีฟงั และดพู ูดสื่อสารไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์เนน้ มารยาทในการฟังการดแู ละการพดู ฝึกทักษะการเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยเขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำเรยี บ เรียงคำเปน็ ประโยคงา่ ยๆต่อคำคลอ้ งจองง่ายๆ บอกขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ ากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและรอ้ ยกรองสำหรบั เดก็ ฝกึ ท่องจำบทอาขยาน ตามทกี่ ำหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหา ความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ การฝึกปฏบิ ัติ อธิบาย บันทึก การตัง้ คำถาม ตอบคำถาม ใชท้ ักษะ การฟงั การดแู ละการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สอื่ สารไดถ้ ูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เหน็ คุณคา่ ของการ อนรุ กั ษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกจิ พอเพียงและ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กบั ชีวติ ประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมรักความเปน็ ไทยชาติศาสนก์ ษัตริยซ์ ื่อสัตยม์ วี นิ ยั ใฝ่ เรยี นร้อู ยู่อย่างพอเพยี งมงุ่ มน่ั ทำงานและมีจิตสาธารณะ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘ ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ รวมทั้งหมด ๒๒ ตัวชี้วดั

๒๔ ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ เวลา ๒๘๐ ช่ัวโมง ฝึกอ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคำและ ข้อความที่อ่านต้ังคำถาม ตอบคำถามระบุใจความสำคัญและรายละเอียดแสดงความคิดเห็นและคาดคะเนเหตุการณ์ เลอื กอา่ นหนังสอื ตามความสนใจอย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรอ่ื งท่ีอ่านอา่ นข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่ง หรือขอ้ แนะนำมีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเร่ืองสั้นๆ เกี่ยวกับประสบการณ์เขียนเร่ืองสั้นๆ ตาม จินตนาการมีมารยาทในการเขียน ฝึกทักษะการฟัง ฟังคำแนะนำ คำสั่งท่ีซับซ้อนและปฏิบัติตามเล่าเร่ือง บอกสาระสำคัญของเรื่องตั้งคำถาม ตอบคำถามพูดแสดงความคิดเห็นความรู้สึก พูดส่ือสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์มีมารยาทในการฟังการดูและ การพดู ฝึกทักษะการเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทยเขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำเรยี บ เรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการส่ือสารบอกลักษณะคำคล้องจองเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษา ถ่ินไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ ฝึกจับใจความสำคัญจากเรื่อง ระบุข้อคิดท่ีได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมสำหรับเด็กเพ่ือนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันร้องบทร้องเล่นสำหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจำบทอาขยานตามท่ีกำหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตาม ความสนใจโดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการเขยี น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการ คิดวิเคราะห์ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การต้ังคำถาม ตอบ คำถาม ใช้ทกั ษะการฟงั การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเหน็ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้กับชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ท ๒.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗ ท ๔.๑ป.๒/๑,ป.๒/๒,ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวมท้ังหมด ๒๗ ตัวชี้วัด

๒๕ ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เวลา ๒๘๐ ช่ัวโมง ฝกึ อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เร่ืองส้ัน ๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆ อธิบายความหมายของคำและขอ้ ความที่ อ่านตั้งคำถาม ตอบคำถามเชิงเหตุผล ลำดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์สรุปความรู้ข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่าน เพื่ อ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเร่ืองที่อ่านอ่านข้อเขียนเชิง อธิบาย และปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อแนะนำอธิบายความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ มี มารยาทในการอา่ น ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดเขียนบรรยายเขียนบันทึกประจำวันเขียนเรื่องตามจินตนาการมี มารยาทในการเขียน ฝกึ ทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียดบอกสาระสำคัญตั้งคำถาม ตอบคำถาม พูดแสดงความ คิดเห็น ความร้สู ึก พูดสอื่ สารได้ชัดเจนตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ มมี ารยาทในการฟังการดูและการพูด ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำระบุชนิด หน้าท่ีของคำ ใช้ พจนานุกรมค้นหาความหมายของคำแต่งประโยคง่ายๆแต่งคำคล้องจองและคำขวัญเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาถน่ิ ได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมเพ่ือนำไปใช้ในชีวิตประจำวันรู้จักเพลงพ้ืนบ้าน เพลงกล่อมเด็ก เพื่อ ปลูกฝังความชนื่ ชมวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ แสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับวรรณคดีท่ีอ่าน ท่องจำบทอาขยานตามทก่ี ำหนดและ บทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจโดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแกป้ ัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้าง ความคิดรวบยอด เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนำไปประยุกตใ์ ชก้ ับชีวิตประจำวันได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘,ป.๓/๙ ท ๒.๑ ป.๓/๑,ป.๓/๒,ป.๓/๓,ป.๓/๔,ป.๓/๕,ป.๓/๖ ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ รวมท้ังหมด ๓๑ ตัวช้ีวดั

๒๖ ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เวลา ๒๔๐ ชั่วโมง ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและสำนวนจากเร่ืองที่ อ่านอ่านเร่ืองส้ัน ๆ ตามเวลาที่กำหนดและตอบคำถามจากเร่ืองท่ีอ่านแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเร่ืองท่ีอ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบสรุปความรู้และข้อคิดจากเร่ืองที่อ่าน เพ่ือนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันเลือกอ่านหนังสือท่ีมีคุณค่าตามความสนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความ คิดเห็นเก่ียวกับเรื่องที่อ่านมี มารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและครึง่ บรรทัด เขียนส่ือสารโดยใชค้ ำได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสมเขียนแผนภาพโครงเรือ่ งและแผนภาพความคิดเพ่ือใชพ้ ัฒนางานเขยี นเขียนยอ่ ความจากเร่ืองส้ัน ๆเขียน จดหมายถึงเพ่ือนและมารดาเขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้าเขียนเรื่องตามจินตนาการมีมารยาท ในการเขียน ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด จำแนกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเร่ืองท่ีฟังและดู พูดสรุปจากการฟัง และดูพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกเก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดูต้ังคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผลจาก เรือ่ งทฟี่ ังและดูพูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดแู ละการสนทนามีมารยาทในการฟังการ ดูและการพูด ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคำและบอกความหมายของคำในบริบทต่าง ๆระบุชนิดและ หน้าที่ของคำในประโยค ใช้พจนานุกรมค้นหาความหมายของคำแต่งประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษาแต่งบทร้อย กรองและคำขวัญบอกความหมายของสำนวน เปรยี บเทียบภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ินได้ ระบุข้อคิดจากนิทานพ้ืนบ้านหรือนิทานคติธรรมอธิบายข้อคิดจากการอ่านเพ่ือนำไปใช้ในชีวิตจริงร้องเพลงพ้ืนบ้าน ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการ เขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอย่าง มีวจิ ารณญาณ กระบวนการสอื่ ความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏบิ ตั ิอธบิ าย บันทึก การตัง้ คำถาม ตอบคำถาม ใช้ทกั ษะการฟงั การดแู ละการพดู พดู แสดงความคิดเห็นกระบวนการสรา้ งความคิด รวบยอด เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนำไปประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ิตประจำวันไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ ท ๔.๑ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ รวมทั้งหมด ๓๓ ตัวชว้ี ัด

๒๗ ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒๔๐ ชว่ั โมง ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความท่ีเป็นการ บรรยายและการพรรณนาอธิบายความหมายโดยนัยแยกข้อเท็จจริงข้อคิดเห็นวิเคราะห์แสดงความคิดเห็น อ่านงาน เขยี นเชงิ อธิบาย คำสั่ง ข้อแนะนำ และปฏบิ ัตติ ามเลือกอ่านหนงั สอื ที่มคี ุณค่าตามความสนใจมีมารยาทในการอ่าน ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนส่ือสาร เขียนแผนภาพโครงเร่ือง แผนภาพ ความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น กรอกแบบ รายการตา่ ง ๆเขียนเรอื่ งตามจินตนาการมมี ารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกตั้งคำถามตอบคำถาม วเิ คราะหค์ วาม พูดรายงานมีมารยาทในการฟงั การดแู ละการพดู ระบุชนิดและหน้าท่ีของคำในประโยคจำแนกส่วนประกอบของประโยคเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาถิ่น ใช้คำราชาศพั ท์บอกคำภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยแต่งบท รอ้ ยกรองใชส้ ำนวนไดถ้ กู ตอ้ ง สรุปเร่อื งจากวรรณคดหี รอื วรรณกรรมท่ีอา่ นระบคุ วามรู้ข้อคิดจากการอา่ นวรรณคดแี ละวรรณกรรม ท่ีสามารถนำไปใชใ้ นชีวิตจรงิ อธิบายคณุ คา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อย กรองท่ีมีคุณคา่ ตามความสนใจโดยใช้กระบวนการอา่ น กระบวนการเขยี น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ กระบวนการสื่อ ความ กระบวนการแกป้ ญั หา การฝึกปฏิบัติ อธบิ าย บันทกึ การตง้ั คำถาม ตอบคำถาม ใชท้ ักษะการฟัง การดู และการพูด พดู แสดงความคิดเห็น กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สือ่ สารไดถ้ ูกตอ้ ง รักการเรยี นภาษาไทย เหน็ คุณค่าของการ อนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรไู้ ปใช้ใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใช้วิธกี ารของเศรษฐกจิ พอเพยี งและ สามารถนำไปประยุกตใ์ ชก้ ับชีวติ ประจำวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ท ๑.๑ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘ ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙ ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗ ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ รวมทั้งหมด ๓๓ ตัวช้ีวัด

๒๘ ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒๔๐ ชัว่ โมง ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำ ประโยคและข้อความท่ีเป็น โวหารอ่านเร่ืองส้ัน ๆอยา่ งหลากหลาย แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเรื่องที่อ่านวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเร่ืองท่ีอา่ นเพ่อื นำไปใช้ในการดำเนนิ ชีวติ อ่านงานเขียน เชิงอธบิ าย คำสั่ง ขอ้ แนะนำ และปฏิบตั ิตามอธบิ าย ความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิและกราฟเลือกอ่านหนังสือตามความสนใจและอธิบาย คณุ คา่ ทไี่ ดร้ บั มมี ารยาทในการอา่ น ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ถูกต้อง ชัดเจน และ เหมาะสมเขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใช้พัฒนางานเขียนเขียนเรียงความ เขียนย่อความจาก เร่ืองอ่านเขียนจดสว่ นตัวกรอกแบบรายการต่าง ๆเขยี นเร่ืองตามจินตนาการและสร้างสรรคม์ มี ารยาทในการเขยี น ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเร่ืองที่ฟังและดูตั้งคำถาม และตอบคำถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองท่ีฟังและดูวิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเร่ืองท่ีฟังและดูส่ือโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นทศี่ ึกษาค้นควา้ จากการฟัง การดูและการสนทนาพดู โน้มน้าวอยา่ งมีเหตุผลและนา่ เชื่อถือ มมี ารยาทในการฟงั การดแู ละการพูด ฝึกวิเคราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคำในประโยคใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคลรวบรวมและบอก ความหมายของคำภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ในภาษาไทยระบุลกั ษณะของประโยคแต่งบทร้อยกรองวิเคราะห์เปรียบเทียบ สำนวนทเี่ ปน็ คำพงั เพยและสภุ าษติ ฝกึ แสดงความคดิ เหน็ จากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่านเล่านทิ านพืน้ บ้านท้องถน่ิ ตนเองและนิทานพ้ืนบา้ น ของทอ้ งถนิ่ อื่นอธบิ ายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านและนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ จริง ท่องจำบทอาขยาน ตามทกี่ ำหนดและบทรอ้ ยโดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ กระบวนการส่อื ความ กระบวนการ แกป้ ัญหากระบวนการสังเกต กระบวนกรแยกข้อเท็จจริง กระบวนการคน้ คว้า กระบวนการใชเ้ ทคโนโลยใี นการ ส่ือสาร กระบวนการใช้ทักษะทางภาษา การฝกึ ปฏิบัติ อธิบาย บนั ทกึ การต้ังคำถาม ตอบคำถาม ใช้ทักษะการฟงั การดแู ละการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สอ่ื สารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เหน็ คุณคา่ ของการอนรุ ักษ์ ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ นำไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘,ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘,ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ รวมท้ังหมด ๓๔ ตัวชี้วัด

๒๙ คำอธิบายรายวิชา รายวิชาพืน้ ฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา รายวชิ าพน้ื ฐาน จำนวน ๒๘๐ ชั่วโมง ค ๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๒๘๐ ชั่วโมง ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๒๘๐ ชว่ั โมง ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๒๔๐ ชั่วโมง ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๒๔๐ ชว่ั โมง ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ จำนวน ๒๔๐ ชั่วโมง รายวิชาเพมิ่ เติม -

๓๐ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ความสำคัญของสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญย่ิงต่อความสำเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เน่ืองจากคณิตศาสตร์ช่วยให้ มนุษย์มีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ คิดอย่างมเี หตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณไ์ ด้ อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหา ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถ นำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่น ๆ อันเปน็ รากฐานในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศให้ทัดเทียมกับนานาชาติ การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความรู้ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในยุคโลกาภวิ ัฒน์ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๐) ฉบบั น้ี จัดทำขึน้ โดยคำนึงถงึ การส่งเสริมให้ผเู้ รียนมที ักษะท่ีจำเป็นสำหรบั การเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ เป็นสำคัญ น่ันคือ การเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การส่ือสารและการร่วมมือ ซ่ึงจะส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของ ระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อม สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ท้ังน้ี การ จัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ท่ีประสบความสำเร็จนั้น จะต้องเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมท่ีจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมที่ จะประกอบอาชีพเม่ือจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับท่ีสูงขึ้น ดังนั้นสถานศึกษาควรจัดการเรียนรู้ให้ เหมาะสมตามศกั ยภาพของผู้เรียน สาระสำคญั ของกลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จัดเป็น 3 สาระ ได้แก่ จำนวนและพีชคณิต การวัดและเรขาคณิต สถิติและ ความน่าจะเป็น แคลคลู ัส จำนวนและพีชคณติ ระบบจำนวนจรงิ สมบตั ิเก่ียวกบั จำนวนจริง อตั ราสว่ น ร้อยละ การประมาณค่า การ แกป้ ัญหาเกยี่ วกบั จำนวน การใช้จำนวนในชวี ิตจรงิ แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังกช์ ัน เซต ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหนุ าม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ดอกเบ้ยี และมลู คา่ ของเงิน เมทริกซ์ จำนวนเชิงซอ้ น ลำดบั และอนุกรม และการนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนและพชี คณิตไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ การวัดและเรขาคณิต ความยาว ระยะทาง น้ำหนัก พนื้ ท่ี ปรมิ าตรและความจุ เงินและเวลา หนว่ ยวดั ระบบ ตา่ ง ๆ การคาดคะเนเก่ียวกับการวดั อตั ราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิตและสมบัติของรูปเรขาคณติ การนึกภาพ แบบจำลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณติ ในเรื่องการเลือ่ นขนาน การสะท้อน การ หมนุ เรขาคณิตวิเคราะห์ เวกเตอรใ์ นสามมติ ิและการนำความรู้เกี่ยวกับการวดั และเรขาคณิตไปใชใ้ นสถานการณ์ตา่ งๆ สถิติและความน่าจะเป็น การตั้งคำถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมข้อมูล การคำนวณค่าสถิติ การนำเสนอและแปลผลสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับเบ้ืองต้น ความน่าจะเป็น การแจกแจงของตัวแปรสุ่ม การใช้ความรู้เกีย่ วกับสถิติและความน่าจะเป็นในการอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ และช่วยใน การตัดสนิ ใจ

๓๑ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถที่จะนำความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นการเรียนรูส้ ่ิงต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซ่ึงความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ในท่ีน้ี เน้นท่ีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็น และต้องการพัฒนาให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน ไดแ้ กค่ วามสามารถตอ่ ไปน้ี ๑. การแก้ปญั หา เป็นความสามารถในการทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผนแก้ปัญหา และ เลอื กใชว้ ิธีการที่เหมาะสม โดยคำนงึ ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบพรอ้ มท้ังตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๒. การส่อื สารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ เป็นความสามารถในการใชร้ ปู ภาษาและสญั ลักษณ์ ทางคณิตศาสตร์ในการสอ่ื สาร ส่อื ความหมาย สรุปผล และนำเสนอได้อยา่ งถกู ต้อง ชดั เจน ๓. การเชือ่ มโยง เป็นความสามารถในการใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตรเ์ ปน็ เคร่ืองมอื ในการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ เนือ้ หาตา่ ง ๆ หรอื ศาสตร์อ่ืน ๆ และนำไปใช้ในชีวิตจรงิ ๔. การใหเ้ หตุผล เป็นความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล รบั ฟงั และใหเ้ หตุผลสนบั สนนุ หรอื โตแ้ ย้ง เพื่อนำไปสกู่ ารสรปุ โดยมีข้อเท็จจริงทางคณิตศาสตรร์ องรับ ๕. การคดิ สรา้ งสรรค์ เปน็ ความสามารถในการขยายแนวคิดท่ีมอี ยเู่ ดมิ หรือสรา้ งแนวคิดใหม่เพื่อปรับปรุง พัฒนาองค์ความรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลทเี่ กดิ ข้ึนจากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การ และนำไปใช้ มาตรฐาน ค. ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรปู ความสัมพนั ธ์ ฟังกช์ ัน ลำดบั และอนุกรม และนำไปใช้ มาตรฐาน ค. ๑.๓ ใช้นพิ จน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธิบายความสมั พันธห์ รือช่วยแก้ปญั หาทีก่ ำหนดให้ สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค. ๒.๑ เขา้ ใจพ้นื ฐานเกย่ี วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ท่ตี ้องการวดั และนำไปใช้ มาตรฐาน ค. ๒.๒ เขา้ ใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต ความสมั พันธร์ ะหวา่ งรปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้ มาตรฐาน ค. ๒.๓ เขา้ ใจเรขาคณิตวิเคราะห์ และนำไปใช้ มาตรฐาน ค. ๒.๔ เข้าใจเวกเตอร์ การดำเนินการของเวกเตอร์ และนำไปใช้ (หมายเหต:ุ มาตรฐาน ค.๒.๓ และ มาตรฐาน ค.๒.๔ สำหรับผทู้ ่ตี อ้ งการเรียนคณิตศาสตรเ์ ปน็ พน้ื ฐานในการศกึ ษาต่อ) สาระท่ี ๓ สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค. ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรู้ทางสถิติในการแกป้ ญั หา มาตรฐาน ค. ๓.๒ เข้าใจหลกั การนบั เบอ้ื งต้น ความน่าจะเป็น และนำไปใช้

๓๒ คณุ ภาพผูเ้ รยี น จบชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ - อ่าน เขียนตัวเลข ตัวหนังสือแสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ มีความรู้สึกเชิงจำนวน มที กั ษะการบวก การลบ การคณู การ หาร และนำไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ - มีความรู้สึกเชิงจำนวนเกี่ยวกับเศษส่วนที่ไม่เกิน ๑ มีทักษะการบวก การลบ เศษส่วนท่ีตัวส่วนเท่ากัน และนำไปใช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ - คาดคะเนและวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาตร ความจุ เลือกใช้เคร่ืองมือและหน่วยที่เหมาะสม บอกเวลา บอกจำนวนเงิน และนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ - จำแนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหล่ียม วงกลม วงรี ทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย เขียนรูปหลายเหลี่ยม วงกลมและวงรีโดยใช้แบบของรูป ระบุรูปเรขาคณิตที่มีแกนสมมาตร และจำนวนแกนสมมาตร และนำไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ - อา่ นและเขยี นแผนภูมิรูปภาพ ตารางทางเดยี ว และนำไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ จบช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ - อา่ น เขยี นตวั เลข ตัวหนังสอื แสดงจำนวนนบั เศษสว่ น ทศนยิ มไมเ่ กิน ๓ ตำแหนง่ อตั ราส่วน และร้อยละ มีความรู้สึกเชิงจำนวน มีทักษะการบวก การลบ การคูณ การหาร ประมาณผลลัพธ์ และนำไปใช้ใน สถานการณ์ตา่ ง ๆ - อธิบายลักษณะและสมบัติของรูปเรขาคณิต หาความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปเรขาคณิต สร้างรปู สามเหลี่ยม รปู สี่เหล่ยี มและวงกลม หาปริมาตรและความจุของทรงสเ่ี หลี่ยมมุมฉาก และนำไปใช้ ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ - นำเสนอข้อมูลในรูปแผนภูมิแท่ง ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิแท่ง แผนภูมิรูปวงกลม ตารางสองทาง และกราฟ เสน้ ในการอธิบายเหตุการณ์ตา่ ง ๆ และตดั สินใจ

๓๓ ตวั ชว้ี ดั ชั้นปี สาระท่ี ๑ จำนวนและการดำเนินการ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใชจ้ ำนวนในชีวิตจริง ตวั ช้ีวดั ช้ันปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ๑. เขียนและอ่าน ๑.บอกจำนวนของส่งิ ตวั เลขฮนิ ดอู ารบกิ ๑. เขียนและอ่าน ๑.อ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดู ๑. เขยี นและอา่ น ๑. เขียนและอา่ น ต่าง ๆ ตัวเลขไทย อารบิก ตวั เลขไทย และ และตวั หนงั สอื ตวั เลขฮินดอู ารบกิ ตัวหนงั สอื แสดงจำนวนนบั เศษสว่ น จำนวน ทศนยิ ม ไม่เกนิ สาม แสดงสิ่งตา่ ง ๆ แสดงปริมาณ คละ และทศนิยมไม่ ตามจำนวนท่ี ของสิง่ ของหรอื ตัวเลขไทย และ ทีม่ ากกวา่ 100,000 เกินสองตำแหน่ง ตำแหน่ง กำหนด อา่ นและ จำนวนนับที่ ๒. เปรียบเทยี บ เขียน ไม่เกนิ หน่ึงพนั ตวั หนังสอื แสดงปรมิ าณ ๒.เปรยี บเทียบและ ๒. เปรียบเทียบ ตวั เลขฮินดูอารบิก และศูนย์ เรยี งลำดบั จำนวนนบั ที่ ตัวเลขไทยแสดง ๒. เปรยี บเทยี บ ของส่ิงของหรอื จำนวน มากกวา่ 100,000 จาก และเรียงลำดบั และเรยี งลำดบั จำนวนนบั มเ่ กิน และเรยี งลำดับ เศษส่วน และ 100 และ 0 จำนวนนบั ไมเ่ กนิ นับทีไ่ มเ่ กนิ หนงึ่ แสน สถานการณต์ ่าง ๆ เศษสว่ น และ ๒.๒.เปรียบเทียบ หน่งึ พันและศูนย์ จำนวนนบั ไมเ่ กนิ และศนู ย์ ๓.บอก อา่ นและเขยี น ทศนิยมไมเ่ กินสอง ทศนยิ มไมเ่ กนิ สาม 100 และ 0 โดยใช้ ๒. เปรยี บเทียบ และ เศษส่วน จำนวนคละแสดง ตำแหน่ง เครือ่ งหมา = ≠ > < เรยี งลำดบั จำนวนนับ ปรมิ าณสง่ิ ต่าง ๆ และ ตำแหนง่ ๓.เรียงลำดบั ไม่เกนิ หนง่ึ แสน และ แสดงสงิ่ ตา่ ง ๆ ๓. เขยี นเศษส่วนใน ๓. เขยี นทศนิยมใน จำนวนนับไม่เกิน ศนู ย์ ตามเศษส่วน จำนวนคละ รูปทศนิยมและรอ้ ยละ รปู เศษสว่ นและ 100 และ 0 เขียนเศษสว่ นในรปู ตั้งแต่ 3 ถึง 5 ทีก่ ำหนด เขยี นร้อยละในรปู ทศนิยม จำนวน ๔.หาคา่ ของตัวไม่ ๔.เปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษส่วนและทศนยิ ม ทราบค่าในประโยค สัญลกั ษณ์แสดง เศษส่วนและจำนวนคละที่ และเขยี นทศนิยมใน การบวกและ ตัวส่วนตัวหนง่ึ ประโยคสญั ลกั ษณ์ รปู เศษส่วนและร้อย แสดงการลบของ เปน็ พหคุ ูณของอีกตัวหนง่ึ ละ จำนวนนับไม่เกิน ๕. อ่านและเขยี นทศนยิ ม 100 และ 0 ๕.แสดงวิธีหา ไมเ่ กนิ 3 ตำแหน่งแสดง คำตอบของโจทย์ ปญั หาการบวกและ ปริมาณของส่ิงตา่ ง ๆ โจทย์ปัญหาการลบ ของจำนวนนบั ไม่ ๖. เปรยี บเทียบและ เกนิ 100 และ 0 เรยี งลำดบั ทศนยิ มไมเ่ กนิ 3 ตำแหนง่ จากสถานการณ์ ตา่ งๆ ๗.ประมาผลลพั ธ์ของการ บวก การลบ การคณู การ หารจากสถานการณ์ต่างๆ ออยา่ งสมเหตสุ มผล ๘.หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่า ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดง การบวกและประโยค สญั ลกั ษณ์ แสดงการลบ ของจำนวน นับทม่ี ากกว่า 100,000 และ 0

สาระที่ ๑ จำนวนและการดำเนนิ การ ๓๔ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชวี ิตจริง ป.๖ ตวั ชว้ี ดั ชัน้ ปี ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ ๙.หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค ปัญหาการบวกและโจทย์ปญั หา สัญลักษณ์ แสดงการคูณของจำนวน การลบเศษส่วนและจำนวนคละ หลายหลกั 2 จำนวน ท่ีมผี ลคณู ไม่ ทีต่ ัวสว่ นตัวหนึ่งเปน็ พหคุ ณู ของอีก เกนิ 6 หลกั และประโยคสญั ลักษณ์ ตวั หน่ึง แสดงการหารทตี่ วั ตัง้ ไม่เกนิ 6 หลกั ตวั หารไมเ่ กนิ 2 หลัก ๑๐หาผลลพั ธก์ ารบวกลบ คูณ หารระคนของจำนวนนับ และ 0 ๑๑.แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ ปัญหา 2 ขนั้ ตอน ของจำนวนนบั ทม่ี ากกว่า 100,000 และ 0 ๑๑แสดงวธิ ีหาคำตอบของ โจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอน ของจำนวนนับ ทมี่ ากกว่า 100,000 และ 0 ๑๒.สร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับ และ 0 พร้อมทัง้ หาคำตอบ ๑๓.หาผลบวก ผลลบของเศษสว่ น และจำนวนคละทีต่ ัวสว่ นตวั หน่ึง ๑๔.แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ ปญั หาการบวกและโจทย์ปญั หา การลบเศษส่วนและจำนวนคละ ท่ตี ัวส่วนตวั หนง่ึ เปน็ พหคุ ณู ของอีก ตัวหนึง่ ๑๕.หาผลบวก ผลลบของทศนยิ ม ไมเ่ กิน 3 ตำแหน่ง

๓๕ สาระที่ ๑ จำนวนและการดำเนนิ การ มาตรฐาน ค ๑.๒ เข้าใจถึงผลทเ่ี กิดขึ้นจากการดำเนินการของจำนวนและความสัมพนั ธ์ระหว่างการดำเนินการต่าง ๆ และใช้การดำเนินการในการแก้ปัญหา ตวั ชี้วัดช้นั ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑.ระบจุ ำนวนท่ี ๑. บวก ลบ คูณ ๑. บวก ลบ คณู หาร - ๑. บวก ลบ คณู ๑. บวก ลบ คูณ หายไปในแบบรปู ของจำนวนที่เพิม่ ขนึ้ หาร และบวก ลบ และบวก ลบ คูณ หาร หาร และบวก ลบ หารและบวก ลบ หรือลดลงทลี ะ 1 และทีละ 10 คณู หารระคนของ ระคนของจำนวนนับ คณู ระคนของ คณู หารระคนของ และระบรุ ูปทหี่ ายไป ในแบบรูปซำ้ ของรูป จำนวนนบั ไมเ่ กนิ หน่ึงแสน และ เศษส่วน พรอ้ มท้งั เศษส่วน จำนวน เรขาคณติ และรูปอืน่ ๆ ไมเ่ กนิ หน่งึ พนั ศนู ย์ พร้อมทงั้ ตระหนักถงึ ความ คละ และทศนิยม ทส่ี มาชิกในแตล่ ะชดุ ที่ซ้ำมี 2 รปู และศูนย์ พร้อม ตระหนักถงึ ความสม สมเหตสุ มผล พร้อมท้ังตระหนักถงึ ทง้ั ตระหนักถึง เหตุ ของคำตอบ ความสมเหตุสมผลของ ความสมเหตุ สมผลของคำตอบ ๒. บวก ลบ คูณ คำตอบ สมผลของ ๒. วเิ คราะห์และแสดง และบวก ลบ คูณ ๒.วเิ คราะห์และ คำตอบ วธิ หี าคำตอบของโจทย์ ระคนของทศนิยมที่ แสดงวิธีหาคำตอบ ๒. วิเคราะหแ์ ละ ปัญหา และโจทย์ คำตอบเปน็ ทศนยิ ม ของโจทย์ปญั หา หาคำตอบของ ปัญหาระคนของ ไม่เกินสองตำแหนง่ และโจทยป์ ัญหา โจทย์ปญั หาและ จำนวนนับไม่เกินหน่งึ พ ร้ อ ม ทั้ ง ตระหนัก ระคนของจำนวนนบั ถงึ ความสมเหตุ เศษส่วน จำนวน โจทยป์ ญั หาระคน แสน และศูนย์ พร้อม สมผลของ คละ ทศนิยม ของจำนวนนับ ทงั้ ตระหนกั ถึงความสม ไม่เกนิ หนงึ่ พัน เหตุ สมผลของ คำตอบ และรอ้ ยละ พร้อม และศนู ย์ พรอ้ มท้งั คำตอบ และสร้าง ๓. วเิ คราะห์และ ทง้ั ตระหนกั ถึง ตระหนักถงึ ความสม โจทยไ์ ด้ แสดงวิธหี าคำตอบ ความสมเหตุ สม เหตุ สมผลของ ของโจทย์ปัญหา ผลของคำตอบ และ คำตอบ และโจทย์ สร้างโจทย์ปัญหา ปญั หาระคนของ เกยี่ วกบั จำนวนนับ จำนวนนบั เศษสว่ น ได้ ทศนิยม และร้อยละ พร้อมทงั้ ตระหนกั ถึง ความสมเหตุ สมผล ของคำตอบ และ สรา้ งโจทย์ปญั หา เก่ยี วกบั จำนวนนับ ได้

๓๖ สาระที่ ๑ จำนวนและการดำเนนิ การ ป. ๕ ป. ๖ มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช้การประมาณค่าในการคำนวณและแกป้ ญั หา ๑. บอกค่าประมาณ ๑. บอกคา่ ประมาณ ตวั ชวี้ ัดช้นั ปี ใกล้เคยี งจำนวนเต็มสิบ ใกล้เคยี งจำนวนเตม็ เต็มร้อย และเต็มพัน หลักตา่ ง ๆ ของ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ของจำนวนนบั และ จำนวนนับ และ นำไปใช้ได้ นำไปใช้ได้ ---- ๒. บอกคา่ ประมาณของ ทศนยิ มไมเ่ กินสาม ตำแหน่ง สาระท่ี ๑ จำนวนและการดำเนินการ ป. ๕ ป. ๖ มาตรฐาน ค ๑.๔ เข้าใจระบบจำนวนและนำสมบตั ิเกี่ยวกบั จำนวนไปใช้ - ๑. ใชส้ มบัติ ตวั ช้ีวดั ชน้ั ปี การสลบั ท่ี สมบตั ิการ เปลย่ี นหมู่ และ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ สมบตั ิ การแจกแจง ---- ในการคดิ คำนวณ ๒. หา ห.ร.ม และ ค.ร.น. ของจำนวน นับ

๓๗ สาระที่ ๒ การวัด มาตรฐาน ค ๒.๑ เข้าใจพืน้ ฐานเกี่ยวกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ท่ีต้องการวัด ตัวชว้ี ัดชน้ั ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑.วดั และ ๑. บอกความยาว ๑. บอกความยาว ๑. บอกความ สัมพนั ธ์ของ ๑. อธิบายเส้นทาง เปน็ เมตร เปรียบเทยี บความยาว เปน็ เมตรและ เซนติเมตร ๑.แสดงวิธีหาคำตอบของหนว่ ยการวัด ปริมาตรหรอื หรือบอก และมิลลิเมตร โจทยป์ ัญหาการบวก ความจุ เป็นเซนติเมตรเป็น เซนติเมตรและ เลือกเครอ่ื งวัด การลบ 2 ข้ันตอน ๒.หาความยาว ตำแหน่งของ สงิ่ ตา่ งๆ โดย ที่เหมาะสมและ เมตร เปรยี บเทยี บ เปรียบเทยี บ ระบุทิศทาง และระยะทาง ความยาว ของทศนิยมไมเ่ กิน รอบรูป ของ รูปสี่เหลี่ยม จรงิ จากรปู ภาพ ๒.วัดและ ความยาวในหนว่ ย ๒. บอกนำ้ หนัก 3 ตำแหนง่ เป็นกิโลกรัม เปรยี บเทียบ เดียวกนั กรมั และขีด รปู สามเหลย่ี ม แผนท่ี และแผนผงั ๒.วดั และสรา้ งมุม ๓.หาพืน้ ทีข่ อง น้ำหนกั เปน็ ๒. บอกน้ำหนัก โดยใช้โพรแทรกเตอร์ รูปสี่เหล่ียม - ๒. หาพน้ื ท่ขี องรปู ส่เี หลย่ี ม กโิ ลกรมั เปน็ ขดี เป็นกโิ ลกรมั ๓. หาความยาวรอบรปู และ ๓.แสดงวิธหี าคำตอบของโมจมุ ทฉยาป์ กัญแหละารเกูปยี่ สวากมบั เหคลวา่ยี มยาวรอพบนื้รปูทแ่ีขลอะงรปู วงกลม และขีด และ พื้นท่ีของรปู สเ่ี หล่ียม ๔. วดั ขนาดของ เปรยี บเทียบ มุมฉาก มุม นำ้ หนกั ในหนว่ ย เดยี วกัน เลือกเคร่ืองชง่ั ๕. หาปริมาตรหรอื ความจุ ๓. บอกปรมิ าตร ทีเ่ หมาะสม และ ของทรงสเ่ี หลี่ยม และความจเุ ป็น เปรียบเทยี บ มมุ ฉาก ลิตรและเปรยี บ- นำ้ หนกั เทยี บปรมิ าตรและ ๓. บอกปรมิ าตร ความจุ และความจุเปน็ ๔. บอกจำนวน ลิตร มลิ ลลิ ิตร เงินทั้งหมดจาก เลือกเครอื่ งตวง เงนิ เหรียญและ ทีเ่ หมาะสมและ ธนบัตร เปรยี บเทยี บ ๕. บอกเวลาบน ปรมิ าตรและ ความจุในหนว่ ย หนา้ ปัดนาฬกิ า เดียวกัน (ช่วง ๕ นาท)ี ๖. บอกวนั เดอื น ๔. บอกเวลาบน ปี จากปฏิทิน หนา้ ปัดนาฬิกา (ช่วง ๕ นาท)ี อา่ นและเขยี น บอกเวลาโดยใช้ จดุ ๕. บอกความ สมั พันธ์ของ หนว่ ยการวัด ความยาว นำ้ หนกั และ เวลา ๖. อ่านและ เขยี นจำนวนเงิน โดยใชจ้ ดุ

๓๘ สาระท่ี ๒ การวดั มาตรฐาน ค ๒.๒ แก้ปัญหาเกีย่ วกบั การวดั ตวั ชี้วดั ชั้นปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. แกป้ ัญหา ๑.จำแนกรูป ๑. แก้ปญั หา เก่ียวกบั การวดั - ๑.จำแนกชนดิ ของ ๑. แกป้ ญั หา ๑. แก้ปญั หา สามเหลย่ี ม รปู เก่ียวกบั การวัด- ความยาว การ เกย่ี วกบั พืน้ ท่ี ความ เกย่ี วกบั พนื้ ท่ีความ สีเ่ หลย่ี ม วงกลม ความยาว การ ชงั่ การตวง เงิน มมุ บอกชอ่ื มมุ ยาวรอบรปู ของรูป ยาวรอบรูปของรูป วงรี ทรงสเี่ หล่ียมมมุ ชง่ั การตวง และเงิน และเวลา สีเ่ หล่ียมมมุ ฉากและ สี่เหลยี่ มและรูป ฉาก ทรงกลม ส่วนประกอบของมุม รูปสามเหล่ียม วงกลม ทรงกระบอก และ ๒. อา่ นและเขยี น ๒. แกป้ ญั หาเก่ียวกบั กรวย และเขยี นสญั ลักษณ์ ปรมิ าตรและความจุ บนั ทกึ รายรับรายจา่ ย ของทรงส่ีเหล่ยี ม - แสดงมมุ มมุ ฉาก ๓. อ่านและเขยี น ๒.สร้างรปู ส่ีเหลย่ี ม ๓. เขียนแผนผัง มมุ ฉากเมอ่ื กำหนด แสดงตำแหน่ง ของ บนั ทึกกจิ กรรม ความยาวของดา้ น สิง่ ต่าง ๆ และ แผนผังแสดงเสน้ ทาง หรือเหตกุ ารณ์ การเดนิ ทาง ทรี่ ะบเุ วลา สาระท่ี ๓ เรขาคณิต มาตรฐาน ค ๓.๑ อธบิ ายและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณติ สองมิติและสามมติ ิ ตัวชีว้ ัดชนั้ ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑.ใช้ขอ้ มูลจาก ๑. บอกชนิดของรปู ๑. บอกชนดิ ของรูป ๑. บอกลกั ษณะ ๑. บอกชนิดของ รูป แผนภมู ริ ปู ภาพใน เรขาคณติ สองมิติวา่ เรขาคณิต ๑.ใช้ข้อมลู จาก และจำแนก เรขาคณิต สอง การหาคำตอบของ เป็น สองมติ ิท่ีเป็น แผนภมู ิแทง่ ตาราง รูปเรขาคณติ มิตทิ เี่ ปน็ สว่ นประกอบ โจทย์ปัญหา รูปสามเหลยี่ ม รปู สว่ นประกอบของ สองทางในการหา สามมติ ชิ นิดต่าง ๆ ของรูปเรขาคณติ คำตอบของโจทย์ สามมติ ิ ปญั หา ๒. บอกสมบตั ขิ อง เสน้ ทแยงมมุ ของ เมือ่ กำหนดรูป 1 รปู ส่ีเหลีย่ ม ส่ิงของทม่ี ีลกั ษณะ ๒. บอกลักษณะ รูปสีเ่ หลย่ี มชนดิ ตา่ งๆ ๓. บอกไดว้ ่าเสน้ ตรงคใู่ ด แทน 1 หนว่ ย รูปวงกลม หรอื เปน็ รปู เรขาคณิตสาม ความสมั พันธแ์ ละ ขนานกนั รปู วงรี มิติ จำแนก ๒. บอกชนิดของรปู ๒. ระบุ รปู ส่เี หลยี่ ม ชนดิ เรขาคณิต รปู เรขาคณิต ต่างๆ สามมติ วิ า่ เปน็ ทรง สองมิตทิ มี่ ี ๓. บอกลักษณะ สีเ่ หลย่ี ม มุมฉาก แกนสมมาตรจากรปู ส่วนประกอบ ทรงกลมหรือ ทีก่ ำหนดให้ ความสมั พันธ์ และ ทรงกระบอก ๓. เขียนชอื่ จดุ จำแนก ๓. จำแนกระหวา่ ง เส้นตรง รังสี รปู สามเหลย่ี ม รูปสเี่ หลยี่ มมุมฉาก ส่วนของเสน้ ตรง ชนิดต่าง ๆ กบั ทรงส่เี หล่ยี มมุม มุมและเขียนสัญลกั ษณ์ ฉาก และ รูป วงกลมกับ ทรงกลม

๓๙ สาระท่ี ๓ เรขาคณติ มาตรฐาน ค ๓.๒ ใช้การนกึ ภาพ (visualization) ใชเ้ หตผุ ลเกยี่ วกบั ปรภิ ูมิ (spatial reasoning) และใช้ แบบจำลองทางเรขาคณิต (geometric model) ในการแกป้ ัญหา ตวั ชี้วัดช้ันปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ - ๑. เขียนรูป ๑. เขียนรปู เรขาคณิต - ๑. สรา้ งมมุ ๑. ประดิษฐท์ รง โดยใช้ ส่ีเหล่ยี มมุมฉาก เรขาคณติ สองมิติ สองมิตทิ กี่ ำหนดให้ใน โดยใช้แบบของรูป แบบตา่ ง ๆ โปรแทรกเตอร์ ทรงกระบอก กรวย เรขาคณิต ๒. บอกรปู เรขาคณติ ๒. สรา้ งรปู ปรซิ มึ ต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ใน ส่เี หลยี่ มมมุ ฉาก และพรี ะมิด สงิ่ แวดล้อมรอบตัว รูปสามเหลี่ยม จากรปู คลี่ หรือ และรูปวงกลม รปู เรขาคณิต ๓. สร้างเสน้ สองมิตทิ ก่ี ำหนด ขนานโดยใช้ ให้ ไมฉ้ าก ๒. สรา้ งรปู ส่ีเหลย่ี มชนิด ต่าง ๆ

๔๐ สาระท่ี ๔ พีชคณติ มาตรฐาน ค ๔.๑ เข้าใจและวเิ คราะหแ์ บบรปู (pattern) ความสัมพนั ธ์ และฟังก์ชนั ตวั ชวี้ ัดช้นั ปี ป. ๖ ๑. แกป้ ญั หา ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ เก่ียวกบั แบบรปู ๑. บอกจำนวนและ ๑. บอกจำนวน ๑. บอกจำนวน ความสมั พนั ธ์ และความสมั พันธ์ และความสัมพันธ์ ในแบบรูปของจำนวนท่ี ในแบบรปู ของ ในแบบรูปของ เพิ่มขน้ึ ทลี ะ ๕ ทีละ จำนวนทเี่ พมิ่ ขึ้น จำนวนที่ ๑๐ ทีละ ๑๐๐ และ ทลี ะ ๓ ทีละ ๔ กำหนดให้ ลดลงทีละ ๒ ทีละ ๒๕ ทีละ ๕๐ ทลี ะ ๑๐ ทลี ะ ๑๐๐ และลดลง ๒. บอกรูปและ ทลี ะ ๓ ทลี ะ๔ ความสัมพันธ์ ใน ทลี ะ๕ ทลี ะ ๒๕ ที แบบรปู ของรูปที่มี ละ ๕๐ และแบบ รูปรา่ ง ขนาด หรอื สี รูปซ้ำ ท่ีสัมพนั ธก์ นั อยา่ ง ๒.บอกรปู และ ใดอยา่ งหนึ่ง ความสมั พันธใ์ นแบบ รปู ของรปู ท่มี รี ูปรา่ ง ขนาด หรือสที ่ี สัมพันธ์กนั สองลักษณะ สาระที่ ๔ พีชคณติ มาตรฐาน ค ๔.๒ ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ กราฟ และตัวแบบเชิงคณติ ศาสตร์ (mathematical model) อน่ื ๆ แทนสถานการณต์ ่าง ๆ ตลอดจนแปลความหมายและนำไปใช้แก้ปัญหา ตัวชวี้ ัดชน้ั ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ - - - - - ๑. เขยี นสมการจาก สถานการณห์ รอื ปัญหา และแก้ สมการพรอ้ มทงั้ ตรวจคำตอบ

๔๑ สาระที่ ๕ การวเิ คราะห์ข้อมลู และความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค ๕.๑ เข้าใจและใชว้ ิธกี ารทางสถิติในการวเิ คราะหข์ ้อมลู ตวั ช้วี ัดช้ันปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ -- ๑. รวบรวมและ - ๑. เขยี นแผนภมู ิ ๑. อา่ นข้อมูล จำแนกขอ้ มลู แท่งที่มีการย่น จากกราฟเสน้ และ แผนภูมิ- เกยี่ วกบั ตนเอง ระยะของเสน้ แสดง รูปวงกลม ๒. เขียนแผนภูมิ และส่ิงแวดล้อม จำนวน แทง่ เปรียบเทยี บ และกราฟเส้น ใกลต้ วั ทพี่ บเหน็ ๒. อ่านข้อมูล ในชวี ติ ประจำวนั จากแผนภูมแิ ท่ง- ๒. อา่ นข้อมูล จาก แผนภมู ิ-รูปภาพ เปรียบเทยี บ และ แผนภูมิแทง่ อย่างง่าย สาระที่ ๕ การวเิ คราะหข์ ้อมูลและความนา่ จะเป็น มาตรฐาน ค ๕.๒ ใชว้ ิธกี ารทางสถติ แิ ละความรู้เกย่ี วกับความน่าจะเปน็ ในการคาดการณไ์ ด้อย่างสมเหตุสมผล ป. ๑ ป. ๒ ตัวชว้ี ดั ชั้นปี ป. ๕ ป. ๖ - - ป. ๓ ป. ๔ ๑. บอกไดว้ า่ ๑. อธิบาย เหตกุ ารณท์ ่ี เหตุการณ์โดยใช้ คำที่ -- กำหนดให้นั้น มีความหมาย - เกิดข้ึนอย่าง เช่นเดยี วกบั คำว่า แนน่ อน - เกดิ ขึ้นอยา่ ง - อาจจะเกดิ ขน้ึ แนน่ อน หรอื ไมก่ ็ได้ - อาจจะเกิดขึ้น - ไม่เกดิ ข้ึน หรอื ไมก่ ไ็ ด้ อยา่ งแนน่ อน - ไม่เกดิ ขน้ึ อย่างแนน่ อน สาระที่ ๕ การวเิ คราะหข์ ้อมูลและความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค ๕.๓ ใชค้ วามรู้เกีย่ วกับสถิติและความนา่ จะเป็นช่วยในการตดั สินใจและแกป้ ญั หา ตัวช้ีวัดชนั้ ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ------

๔๒ สาระท่ี ๖ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มาตรฐาน ค ๖.๑ มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือสาร การสื่อความหมายทาง คณติ ศาสตร์ และการนำเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ ตา่ ง ๆ ทาง คณิตศาสตร์ และเช่อื มโยงคณิตศาสตรก์ ับ ศาสตร์อนื่ ๆ และมคี วามคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ ตวั ชีว้ ดั ชนั้ ปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๑. ใชว้ ิธกี ารท่ี ๑. ใช้วิธีการท่ี ๑. ใช้วิธีการที่ ๑. ใชว้ ิธีการที่ หลากหลาย หลากหลาย หลากหลาย หลากหลาย แกป้ ญั หา แกป้ ญั หา แก้ปญั หา แกป้ ัญหา ๒. ใช้ความรู้ ทกั ษะ ๒. ใชค้ วามรู้ ทักษะ ๒. ใช้ความรู้ ทกั ษะ ๒. ใชค้ วามรู้ ทักษะ และกระบวนการ และกระบวนการ และกระบวนการ และกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ใน ทางคณิตศาสตรใ์ น ทางคณิตศาสตรแ์ ละ ทางคณิตศาสตรแ์ ละ การแกป้ ญั หาใน การแกป้ ญั หาใน เทคโนโลยใี นการ เทคโนโลยีในการ สถานการณ์ต่างๆ ได้ สถานการณ์ต่างๆ ได้ แกป้ ญั หาใน แก้ปญั หาใน อย่างเหมาะสม อย่างเหมาะสม สถานการณต์ ่างๆ ได้ สถานการณ์ต่างๆ ได้ ๓. ให้เหตุผล ๓. ให้เหตุผล อยา่ งเหมาะสม อยา่ งเหมาะสม ประกอบการ ประกอบการ ๓. ให้เหตผุ ล ๓. ให้เหตผุ ล ตัดสนิ ใจ และ ตัดสินใจ และ ประกอบการ ประกอบการ สรุปผลได้อย่าง สรุปผลไดอ้ ย่าง ตดั สินใจ และ ตดั สินใจ และ เหมาะสม เหมาะสม สรปุ ผลไดอ้ ยา่ ง สรุปผลได้อย่าง เหมาะสม เหมาะสม ตวั ช้วี ัดชั้นปี ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ๔. ใช้ภาษาและ ๔. ใชภ้ าษาและ ๔. ใชภ้ าษาและ ๔. ใช้ภาษาและ สัญลกั ษณท์ าง สัญลักษณ์ทาง สญั ลักษณท์ าง สญั ลักษณท์ าง คณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ในการสือ่ สาร การ ในการส่ือสาร การ ในการสอ่ื สาร การ ในการสอ่ื สาร การ ส่ือความหมาย และ สอื่ ความหมาย และ สื่อความหมาย และ สื่อความหมาย และ การนำเสนอไดอ้ ยา่ ง การนำเสนอได้อย่าง การนำเสนอไดอ้ ยา่ ง การนำเสนอไดอ้ ยา่ ง ถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ งและ ถกู ต้องและ ๕. เช่ือมโยงความรู้ ๕. เชอ่ื มโยงความรู้ เหมาะสม เหมาะสม ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน ๕. เชื่อมโยงความรู้ ๕. เชอ่ื มโยงความรู้ คณิตศาสตร์และ คณติ ศาสตร์และ ตา่ ง ๆ ใน ตา่ ง ๆ ใน เชอื่ มโยง เช่อื มโยง คณติ ศาสตรแ์ ละ คณติ ศาสตรแ์ ละ คณติ ศาสตรก์ บั คณิตศาสตร์กบั คณติ ศาสตรก์ บั คณติ ศาสตร์กบั ศาสตร์อื่นๆ ศาสตรอ์ น่ื ๆ ศาสตร์อนื่ ๆ ศาสตร์อน่ื ๆ ๖ มีความคิดรเิ ริ่ม ๖ มีความคิดรเิ ริม่ ๖. มีความคดิ รเิ ริ่ม ๖. มีความคดิ รเิ ริ่ม สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์

๔๓ ค๑๑๑๐๑คณติ ศาสตร์ คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปีท๑่ี กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา ๒๘๐ชว่ั โมง ศึกษาจำนวนและพีชคณิต การวัดและเรขาคณิต สถิติและความน่าจะเป็น เก่ียวกับการบอกจำนวนของสิ่ง ต่างๆ แสดงสิ่งต่างๆตามจำนวนท่ีกำหนดการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิกตัวเลขไทย แสดงจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ การเปรียบเทียบจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐โดยใช้เครื่องหมาย = ≠><การเรยี งลำดับจำนวนนับไม่ เกิน ๑๐๐ และ ๐ ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จำนวน การหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวก และ ประโยคสัญลักษณ์ แสดงการลบ ของจำนวนนบั ไมเ่ กิน ๑๐๐ และ ๐การหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ ปัญหาการลบของจำนวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ระบุจำนวนท่ีหายไปในแบบรูปของจำนวนทเี่ พ่ิมขึ้นหรอื ลดลงทีละ ๑ และทีละ ๑๐ ระบุรูปท่ีหายไปในแบบรูปซ้ำของรูปเรขาคณิตและรูปอื่น ๆ ที่สมาชิกในแต่ละชุดท่ีซ้ำมี ๒ รูปการวัด และเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตรการวัดและเปรียบเทียบน้ำหนัก เป็นกิโลกรัม เป็นขีดการจำแนก รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรี ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย การใช้ข้อมูลจาก แผนภมู ิรปู ภาพในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเมอ่ื กำหนดรูป ๑ รปู แทน ๑ หน่วย โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ การนำไปใช้ การวัด การคาดคะเน กระบวนการทางสถิติและการแก้ปัญหา ได้ อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม เพ่ือให้เกิดความสามารถในด้านการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทาง คณิตศาสตร์ รวมทั้งเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานอย่างเป็นระบบรอบคอบ มี วิจารณญาณและเชอ่ื ม่นั ในตนเองได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ค ๑.๑ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ค ๑.๒ ป.๑/๑ ค ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ค ๒.๒ ป.๑/๑ ค ๓.๑ ป.๑/๑ รวมท้ังหมด ๑๐ตวั ชี้วดั

๔๔ ค๑๒๑๐๑คณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๒ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา๒๘๐ชั่วโมง ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้จำนวนนับ ๑ ถึง ๑,๐๐๐ การอ่าน และการเขียนตัวหนังสือ ตัวเลขแทนจำนวน ช่ือหลักค่าของตัวเลขในแต่ละหลัก การเขียนในรูปการกระจาย การ เปรียบเทียบจำนวน การใช้เครื่องหมาย =  <>การเรียงลำดับจำนวน การนับเพ่ิมทลี ะ ๕ ทลี ะ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ การนับลดทีละ ๒ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ จำนวนคู่ จำนวนคี่ การบวก การลบ การคูณ การหารและโจทย์ ปัญหา การบวกจำนวนท่ีมีผลบวก ไม่เกิน ๑,๐๐๐ การลบจำนวนที่มีตวั ต้ังไม่เกิน ๑,๐๐๐ การคูณจำนวนท่ีมีหน่ึง หลักกับจำนวนไม่เกินสองหลกั การหารที่มีตัวต้ังไมเ่ กินสองหลักและตัวหารหน่ึงหลกั โดยท่ผี ลหารมีหนึ่งหลกั การบวก ลบ คณู หารระคน โจทยป์ ญั หา การสร้างโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหาร การวัดความยาว การ วัดความยาว ความสูง และระยะทางโดยใช้เครื่องหมายวัดท่ีมีหน่วยมาตรฐานเป็นเมตรและเซนติเมตร การ เปรียบเทียบความยาวในหน่วยเดียวกัน การแก้ปัญหา การช่ัง การชั่งโดยใช้เครื่องช่ังท่ีมีหน่วยมาตรฐานเป็น กโิ ลกรัมและขีด การเปรียบเทียบน้ำหนักในหน่วยเดยี วกันการแก้ปัญหาการตวง การตวงโดยใช้เคร่ืองตวงท่ีมีหน่วย มาตรฐานเป็นลติ ร การเปรียบเทียบปรมิ าตรและความจใุ นหน่วยเดียวกัน การแก้ปัญหา เงนิ การจำแนกชนิดของ เงินเหรียญและธนบัตร การบอกค่าของเงินเหรียญและธนบัตรการเปรียบเทียบค่าของเงินและการแลกเงินการบอก จำนวนเงินการแก้ปัญหา เวลา การบอกเวลาเปน็ ช่ัวโมงกบั นาที (ชว่ ง ๕ นาที ) เดอื น อันดับที่ของเดือน และการ อ่านปฏิทิน การแก้ปัญหา รูปเรขาคณิตสองมิติและสมบัติบางประการของรูปเรขาคณิต รูปสามเหล่ียม รูป ส่ีเหล่ียม รูปวงกลม รูปวงรี ทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก รูปเรขาคณิตสองมิติกับสามมิติ การ เขียนรูปเรขาคณิตโดยใช้แบบของรูป แบบรูปและความสัมพันธ์ แบบรูปของจำนวนท่ีเพิ่มข้ึนทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และ ทีละ ๑๐๐ แบบรูปของจำนวนท่ีลดลงทีละ ๒ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ แบบรูปเรขาคณิตและรูปอ่ืน ๆ ที่ สัมพนั ธก์ ันในลกั ษณะของรปู ร่างหรือขนาด หรือสี เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาและจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดย ปฏิบัติจริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคำนวณ การแกป้ ัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถ ทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวจิ ารณญาณและเชื่อมั่นในตนเองสามารถนำความรู้ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่าง ถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ค๓.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ ค๓.๒ป.๒/๑ ค๑.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒ ค.๔.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒ ค๑.๒ป.๒/๑, ป.๒/๒ ค๒.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ ค๒.๒ป.๒/๑ ค๖.๑ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ รวมท้ังหมด ๒๓ ตัวชี้วัด

๔๕ ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี๓ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เวลา ๒๘๐ ชั่วโมง ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคำนวณ และฝึกการแก้ปัญหาในสาระต่อไปนี้จำนวนนับ ๑ ถึง ๑๐๐,๐๐๐ การอ่านและการเขยี นตวั หนังสือ ตวั เลขแทนจำนวน ชอ่ื หลกั ค่าของตวั เลขในแต่ละหลกั การเขยี นในรปู การกระจาย การเปรียบเทียบจำนวน การใช้เคร่ืองหมาย = ≠ <>การเรียงลำดับจำนวน การนับเพ่ิมทีละ๓ ทีละ ๔ ทีละ ๒๕ และทีละ ๕๐ การนับลดทีละ ๓ ทีละ ๔ ทีละ ๒๕ และทีละ ๕๐ การบวก การลบ การคูณ การหาร และโจทย์ปัญหา การบวกจำนวนท่ีมีผลบวก ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ การลบจำนวนที่มีตัวตงั้ ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ การคูณ จำนวนที่มหี น่งึ หลักกับจำนวนไม่เกินสห่ี ลกั การคูณจำนวนทม่ี หี นึ่งสองหลักกบั จำนวนไม่เกนิ สองหลัก การหารทมี่ ตี ัว ตั้งไม่เกินสี่หลักและตัวหารหน่ึงหลัก การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หารระคน การวัดความยาว การวัดความยาว ความสูง และระยะทางท่ีมีหน่วยมาตรฐานเป็นเมตรเซนติเมตรและมิลลิเมตร การเลือกใชเ้ ครื่องวัดและหน่วยวดั ความยาว ความสูง หรือระยะทางท่ีเป็นมาตรฐาน ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยการ วัดความยาว การเปรียบเทียบความยาว ความสูงหรือระยะทาง การคาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเกย่ี วกับความยาว ความสูง หรือระยะทาง การชงั่ การช่ังเปน็ กิโลกรัม กรัม และ ขีด การเลือกใช้เคร่ืองชั่งและหน่วยการช่ังที่เป็นมาตรฐาน ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยการช่ัง การเปรียบเทียบ น้ำหนัก การคาดคะเนน้ำหนักเป็นกิโลกรัม กรัม และขีด โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเกี่ยวกับน้ำหนัก การ ตวง การตวงเป็นลิตร มิลลิลิตร ถ้วยตวงและช้อนตวง การเปรียบเทียบความจุ การคาดคะเนปริมาตรเป็นลิตร โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเก่ียวกับปริมาตรของส่ิงท่ีตวงหรือความจุของภาชนะ เงิน บอกจำนวนเงิน การ เขียนจำนวนเงินโดยใช้จุดและการอ่าบนั ทึกรายรับรายจ่าย โจทย์ปัญหาการบวกและการลบเกี่ยวกับเงิน เวลา การ บอกเวลา การเขียนบอกเวลาโดยใช้จุดและการอ่าน ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลา บันทึกกิจกรรมหรือ เหตุการณ์ต่าง ๆ ท่ีระบุเวลา โจทย์ปัญหา รูปเรขาคณิตและสมบัติบางประการของรูปเรขาคณิต รูปสามเหล่ียม รูปสี่เหล่ียม รูปห้าเหล่ียม รูปหกเหล่ียม ... การจำแนกรูปเรขาคณิตสองมิติ รูปที่มีแกนสมมาตร รูปเรขาคณิตสาม มิติ การจำแนกรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ จุด ส่วนของเส้นตรง รังสี เส้นตรง และมุม แบบรูปและ ความสัมพันธ์ แบบรูปของจำนวนที่เพ่ิมข้ึนทีละ ๓ ทีละ ๔ ทีละ ๒๕ และทีละ ๕๐ แบบรูปของจำนวนท่ีลดลงที ละ ๓ ทีละ ๔ ทีละ ๒๕ และทีละ ๕๐ แบบรูปเรขาคณิตและรูปอ่ืน ๆ ท่ีสัมพันธ์กันในลักษณะของรูปร่าง หรือ ขนาด หรือสีสองลักษณะ สถิติและความน่าจะเป็นเบ้ืองต้น การเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม ท่ีพบเห็นในชีวิตประจำวัน การจำแนก จัดประเภท นำเสนอข้อมูล การอ่าน แผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง และ อภิปราย เพอ่ื ให้ผู้เรียนได้ศกึ ษาและจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ทใี กล้ตัวให้ผเู้ รียนได้ศึกษาค้นคว้าโดยปฏิบัติ จรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตผุ ล การส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทกั ษะ กระบวนการทไ่ี ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่ง ตา่ ง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสร้างสรรค์ รวมทั้งเหน็ คุณค่าและเจตคติท่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทำงานอยา่ ง เป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณและเช่ือม่ันในตนเองสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชนโ์ ดยใช้วธิ ีการของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนำไปประยุกตใ์ ชก้ ับชีวิตประจำวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม

๔๖ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ค๑.๑ป.๓/๑, ป.๓/๒ ค๑.๒ป.๓/๑, ป.๓/๒ ค๒.๑ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ ค๒.๒ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ค๓.๑ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ ค๓.๒ป.๓/๑, ป.๓/๒ ค.๔.๑ป.๓/๑, ป.๓/๒ ค.๕.๑ป.๓/๑, ป.๓/๒ ค๖.๑ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖ รวมท้ังหมด ๒๘ ตัวชี้วดั

๔๗ ค ๑๔๑๐๑คณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาพืน้ ฐาน ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี๔ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ เวลา ๒๔๐ ชว่ั โมง ศึกษา ฝึกทักษะการอ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจำนวนนับมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หลัก ค่าประจำหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย การเปรียบเทยี บและเรยี งลำดับจำนวนที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คา่ ประมาณของจำนวนนับ การใช้เครื่องหมายประมาณ การบวก การลบ การคูณ การหาร การประมาณผลลัพธ์ การหาตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์ โจทย์ปัญหาการ บวก การลบ การคูณ การหาร แบบรูปของจำนวนที่เกิดจากการคูณ การหาร ด้วยจำนวนเดียวกัน เส้นตรง ส่วนของ เส้นตรง ส่วนประกอบของมุม ชนิดของมุม การวัดและการสร้างมุม ชนิดและสมบัติของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉา ก โจทย์ ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู และพ้ืนท่ีของรูปส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ความหมาย การอ่านและเขียนเศษส่วนและจำนวน คละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเปน็ พหุคูณของอีกตัวหน่ึง ความหาย การอา่ นและการเขยี นทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง หลัก ค่า ประจำหลักและค่าของเลขโดดในแต่ละหลักของทศนิยม การเขียนทศนิยมในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและ เรียงลำดับทศนิยม การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง โจทย์ปัญหา การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ การบวก การลบทศนิยมไม่เกินสามตำแหน่ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ทศนิยม การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ช่ัวโมง วัน สัปดาห์ เดือน ปี การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยเวลา การอ่านตารางเวลา โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลา การเก็บรวบรวมข้อมูลและการ จำแนกขอ้ มลู การอ่านและการเขยี นแผนภูมแิ ท่ง (ไม่รวมการย่นระยะ) การอ่านตาราสองทาง โดยการจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดยการปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการในการคิดคำนวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้ สงิ่ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ติ ประจำวนั อย่างสร้างสรรค์ เพ่ือให้เห็นคุณคา่ และมีเจตคติท่ีดตี ่อคณิตศาสตร์ สามารถทำงานไดอ้ ย่างมีระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความ รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มคี วามคิดริเร่ิมสรา้ งสรรค์และมคี วามเช่อื มัน่ ในตนเอง มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐, ป.๔/๑๑,ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖ ค ๒.๑ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ค ๓.๑ ป.๔/๑ รวมท้ังหมด๒๒ตวั ชี้วดั

๔๘ ค ๑๕๑๐๑คณิตศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ชัน้ ประถมศึกษาปีที่๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เวลา ๒๔๐ ชว่ั โมง ศึกษาฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝกึ การแก้ปัญหาในสาระตอ่ ไปนี้จำนวนนับ การอ่านและการเขียน ตัวหนังสือ ตวั เลขฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทยแทนจำนวน ชื่อหลกั ค่าของตวั เลขในแต่ละหลกั การเขยี นรปู การกระจาย การเรยี นลำดบั จำนวน สมบัตกิ ารสลบั ที่ และสมบัตกิ ารเปลีย่ นหมขู่ อง การบวก สมบตั กิ ารสลบั ท่แี ละสมบตั ิการ เปล่ียนหมขู่ องการคูณ สมบัตกิ ารแจกแจง การบวก การลบ การคณู การหารจำนวนนบั และโจทย์ปญั หา การบวก การลบ การคูณ และการหารจำนวนนบั การบวก ลบ คูณ หาร ระคน โจทยป์ ญั หา เศษส่วน เศษส่วน เศษเกิน จำนวนคละ เศษส่วนของจำนวนนับ เศษสว่ นทเี่ ทา่ กัน เศษสว่ นอย่างต่ำ การเปรียบเทียบ เศษสว่ นท่มี ตี วั สว่ นเปน็ พหุคูณของกนั และกัน การเรียงลำดบั เศษส่วน การบวก การลบ การคูณ การหาร เศษสว่ น และโจทย์ปัญหา การบวก และ การลบ เศษส่วน ที่มตี วั สว่ นเปน็ พหุคูณของกันและกนั การคูณและการ หารเศษสว่ น การบวก ลบ คณู เศษสว่ นระคน โจทย์ปัญหา ทศนยิ ม การอา่ นและการเขยี นทศนยิ มไม่เกินสอง ตำแหน่ง หลกั และค่าประจำหลกั การเขยี นในรูปการกระจาย การเปรียบเทยี บและเรียนลำดับทศนยิ ม การเขยี น ทศนยิ มไม่เกนิ สองตำแหนง่ ให้อยใู่ นรูปเศษสว่ นและการเขียนเศษส่วนที่มีตวั ส่วนเป็น ๑๐ หรือ ๑๐๐ ใหอ้ ยู่ใน รูปทศนยิ ม การเขยี นเศษสว่ นท่มี ีตัวส่วนเป็นตวั ประกอบของ ๑๐ หรือ ๑๐๐ ใหอ้ ยู่ในรปู ทศนิยม การบวก การ ลบ การคณู ทศนยิ ม และโจทย์ปัญหา การบวกและการลบทศนิยมไม่เกินสองตำแหนง่ การคูณทศนิยมที่มีผล คณู เป็นทศนยิ มไม่เกนิ สองตำแหน่ง การบวก ลบ คณู ทศนยิ ม ระคนท่ีผลลัพธ์เป็นทศนยิ มไมเ่ กนิ สองตำแหน่ง โจทยป์ ญั หา ร้อยละ และโจทย์ปัญหา การเขยี นเศษสว่ น ทีม่ ีตวั ส่วนเปน็ ตัวประกอบของ ๑๐๐ ใหอ้ ยใู่ นรูปร้อย ละ การเขียนร้อยละ ให้อยใู่ นรปู เศษส่วนและทศนิยม การเปรยี บเทียบเศษสว่ น ทศนยิ ม และร้อยละ ร้อยละของ จำนวนนบั โจทยป์ ัญหาร้อยละท่มี ีผลลัพธ์เปน็ จำวนนบั การประมาณค่าจำนวนนบั การหาคา่ ประมาณใกล้เคยี งเป็น จำนนวนเต็มสบิ เตม็ ร้อย และเตม็ พัน การหาความยาว ความยาวของเสน้ รอบรปู ของรปู สามเหลย่ี มและรูป สเ่ี หลย่ี ม โจทย์ปัญหา และสถานการณ์ การหาพืน้ ที่ การหาพ้นื ทข่ี องรปู สามเหลีย่ มและรูปสี่เหล่ยี มมุมฉาก การคาดคะเนพน้ื ท่เี ป็นตารางเมตร ตารางเซนติเมตร และตารางวา โจทย์ปัญหาและสถานการณ์ การหา ปรมิ าตร การหาปริมาตรและ / หรือความจขุ องทรงส่ีเหลยี่ มมุมฉาก รูปเรขาคณติ และสมบตั ิบางประการของรปู เรขาคณติ มุม จุดยอดมุม แขนของมุม การเรยี นชือ่ มมุ การเขียนสญั ลักษณ์แทนมมุ ชนิดของมุม การวดั ขนาด ของมุมเปน็ องศา การสร้างมุมโดยใชไ้ ม้โพร – แทรกเตอร์ ( คร่งึ วงกลม)รูปสเี่ หล่ยี ม เป็นรูปส่เี หลี่ยมจตั รุ สั เปน็ รปู สเ่ี หล่ยี มผน่ื ผา้ รูปส่เี หล่ียมผืนผ้า รปู ส่ีเหล่ียมดา้ นขนาน รูปสเ่ี หลยี่ มขนมเปียกปูน รปู สเี่ หลย่ี มคางหมู รูปสเี่ หล่ยี ม รูปวา่ ว การสร้างรูปส่ีเหลย่ี มมุมฉาก รปู สี่เหล่ียม รูปสามเหลยี่ มด้านเท่า รปู สามเหล่ียมหน้าจ่วั รปู สามเหล่ียมด้านไมเ่ ทา่ รูปสามเหลย่ี มมุมฉากรปู สามเหล่ียมมุมแหลม รูปสามเหลยี่ มมุมปา้ น สว่ นประกอบของรูป สามเหลยี่ ม ขนาดของมุมภายใน การสรา้ งรปู สามเหลีย่ มรูปวงกลม สว่ นประกอบของรปู วงกลมการสรา้ งรูปวงกลม การประดิษฐล์ วดลายโดยใชร้ ูปเรขาคณิต เสน้ ขนาน เสน้ ขนานและการใชส้ ญั ลกั ษณ์ // แสดงการขนาน การสร้าง เสน้ ขนาน ทรงสเี่ หลี่ยมมมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก กรวย ปรซิ มึ และพีระมิด แบบรูปความสมั พันธ์ แบบรปู ของจำนวน การเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงความสัมพันธข์ องสถานการณห์ รือปัญหาสถติ ิและความนา่ จะเปน็ เบอ้ื งตน้ การอ่านแผนภูมิแท่งและแผนภมู ิแทง่ เปรียบเทียบ การเก็บรวบรวบข้อมูล และการเขยี นแผนภูมิแท่ง

๔๙ ความหมายของการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ของเหตุการณ์ที่เกิดขนึ้ แนน่ อน อาจจะเกดิ ขนึ้ หรือไม่เกิดขึ้น และไมเ่ กดิ ขนึ้ อย่างแน่นอน เพื่อใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษาโดยใช้กระบวนการทางคณิตศาสตรใ์ นการคิดวิเคราะห์และแสดงวิธีหาคำตอบพร้อมท้ัง ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบเพื่อให้เกิดความรู้ความคิดความเข้าใจสามารถสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ไปพัฒนา ทักษะกระบวนการคิด คิดสร้างสรรค์คิดอย่างมีวิจารณญาณคิดไตร่ตรองคิดอย่างมีเหตุผลในการตัดสินใจและเห็น คุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ มีจริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี เหมาะสมสามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ ชวี ติ ประจำวันได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ค๑.๑ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ค๑.๒ป.๕/๑, ป.๕/๒ ค๑.๓ป.๕/๑ ค๒.๑ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ค๒.๒ป.๕/๑ ค๓.๑ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ค๓.๒ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ค๔.๑ป.๕/๑ ค๕.๑ป.๕/๑, ป.๕/๒ ค๕.๒ป.๕/๑ ค๖.๑ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖ รวมทั้งหมด๒๙ ตวั ช้ีวดั

๕๐ ค ๑๖๑๐๑คณติ ศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เวลา ๒๔๐ ชัว่ โมง ศกึ ษาฝึกทักษะการคิดคำนวณและฝึกการแกป้ ัญหาในสาระจำนวนนับหลักเลขและค่าประจำหลกั ค่าของ ตัวเลขในแตล่ ะหลกั การเขยี นในรูปกระจายการเรียงลำดับจำนวนการประมาณคา่ ใกล้เคยี งเปน็ จำนวนเต็มสิบเต็มร้อย เตม็ พนั เต็มหม่นื เต็มแสนเตม็ ล้านจำนวนเฉพาะการแยกตวั ประกอบห.ร.ม. ค.ร.น. เศษสว่ นสมบตั กิ ารสลับท่ขี องการ บวกสมบตั กิ ารเปลยี่ นหมู่ของการบวกสมบตั ิการสลบั ทีข่ องการคณู สมบัติการเปลย่ี นหมู่ของการคูณทศนยิ มการอ่าน และการเขียนทศนยิ มไมเ่ กินสามตำแหน่งหลักเลขและค่าประจำหลักค่าของตวั เลขในแต่ละหลกั การเขยี นในรปู กระจายการเปรียบเทยี บและการเรยี งลำดบั ทศนยิ มการเขียนทศนยิ มไม่เกินสามตำแหน่งในรปู เศษสว่ นที่มีตวั สว่ นเป็น ตวั ประกอบของ 10, 100 และ 1000ในรูปทศนิยมความสันพันธร์ ะหวา่ งเศษสว่ นทศนยิ มและร้อยละการประมาณ คา่ ใกลเ้ คยี งเป็นทศนยิ มหนึ่งตำแหนง่ สองตำแหน่งสมบตั ิการสลบั ท่ีของการบวกสมบตั ิการการเปล่ียนหมูข่ องการบวก สมบัตกิ ารสลับท่ีของการคณู สมบตั ิการเปล่ยี นหมู่ของการคูณการลบการบวกการคณู และโจทยป์ ัญหาการลบการบวก การคณู และการหารจำนวนนับการบวกการลบการคูณและการหารจำนวนนบั ระคนการบวกการลบการคูณและการ หารที่ผลลัพธ์เปน็ ทศนยิ มไมเ่ กนิ สามตำแหน่งโจทยป์ ัญหาระคนโจทยป์ ัญหาการคูณการหาร(บญั ญัติไตรยางศ์) โจทย์ ปญั หารอ้ ยละการหาความยาวของเสน้ รอบรูปของรปู วงกลมโจทย์ปัญหาสถานการณ์การหาพ้ืนทกี่ ารหาพื้นท่ขี องรูป สเ่ี หล่ียมการหาพืน้ ท่ีของรปู วงกลมการคาคะเนพ้นื ที่ของรปู สเ่ี หลีย่ มเปน็ ตารางเมตรตารางเซนติเมตรตารางวาโจทย์ ปญั หาและสถานการณ์การหาปรมิ ารการหาปริมาตรหรือความจขุ องทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉากการหาปริมาตรของไมเ้ ป็นยก ทิศแผนผงั แผนที่การบอกช่ือและทศิ ท้ังแปดมาตราส่วนการอ่านแผนที่และแผนผังรปู เรขาคณิตและสมบัติบางประการ ของรูเรขาคณิตมุมทีม่ ขี นาดท่ีเท่ากนั การแบง่ คร่ึงมุมโดยใช้ไมโ้ พรแทรกเตอร์การแบ่งครงึ่ สว่ นของเส้นตรงโดยใช้ไม้ บรรทดั เส้นทแยงมุมของรูปสเ่ี หล่ยี มการสรา้ งรปู สี่เหลี่ยมส่วนประกอบของทรงส่เี หลีย่ มมุมฉากทรงกระบอกกรวย ปรซิ มึ พีระมคิ รปู คลส่ี มบัติของเส้นขนานการพจิ ารณาเสน้ ขนานโดยอาศัยสมบตั ิของเสน้ ขนานสมการและการแก้ สมการสมการท่ีมตี วั ไม่ทราบคา่ หนึ่งตัวโจทยป์ ญั หาสมการสถติ ิและความน่าจะเปน็ เบอื้ งตน้ การอ่านและการเขยี น แผนภูมริ ูปวงกลมการเก็บรวบรวมข้อมูลความหมายและการนำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ของเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนแน่นอน อาจเกิดขึน้ หรือไมเ่ กิดขึ้นไม่เกิดขนึ้ แนน่ อนการจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ท่ีใกลต้ ัวใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษา ค้นคว้าทดลองสรุปรายงานเพื่อพัฒนาทักษะในการคดิ คำนวณ โดยใชก้ ระบวนการทางคณิตศาสตร์การนำเสนอการใช้เหตผุ ลการสอ่ื สารการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ การนำเสนอการเชือ่ มโยงความรู้ทางคณติ ศาสตร์และนำประสบการณ์กระบวนการที่ได้ไปใชใ้ นการเรียนรูส้ ่งิ ตา่ งๆ นำมาใช้ในชีวิตประจำวนั อยา่ งสร้างสรรคร์ วมทง้ั เห็นคุณคา่ และมเี จตคติทีด่ ีต่อวิชาคณิตศาสตร์ เพ่อื ให้มคี วามรู้ความเข้าใจพัฒนาทักษะ/กระบวนการในการคดิ คำนวณการแกป้ ัญหาการใหเ้ หตผุ ลการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์และนำประสบการณ์ดา้ นความรคู้ วามคดิ ทักษะกระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการเรียนร้สู ื่อ ตา่ งๆและในชีวติ ประจำวนั อย่างสร้างสรรคส์ ามารถทำงานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บรอบคอบมคี วามรบั ผดิ ชอบใฝเ่ รยี นรู้ มีความมุง่ ม่ันในการทำงานมีวิจารณญาณและเชื่อมน่ั ในตนเอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook