Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore TC1491

TC1491

Published by 008 ชมพูนุช เดชี, 2021-09-20 07:13:01

Description: TC1491

Search

Read the Text Version

85 ประกอบด้วย 1) ดา้ นเน้ือหา เรื่องศลิ ปะอิสลาม 2) ด้านส่ือการเรียนการสอน (เทคโนโลยเี สมือนจริง) และ 3) ด้านการจัดการเรียนการสอน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้จานวน 78 คน ใช้แบบมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ (Rating Scale) โดยวิเคราะหแ์ ปรผลคา่ เฉลี่ย ดงั นี้ 4.51 - 5.00 หมายถงึ พงึ พอใจมากท่สี ุด 3.51 - 4.50 หมายถึง พงึ พอใจมาก 2.51 - 3.50 หมายถงึ พึงพอใจปานกลาง 1.51 - 2.50 หมายถงึ พึงพอใจนอ้ ย 1.00 - 1.50 หมายถงึ พึงพอใจนอ้ ยท่สี ดุ ตารางที่ 7 ผลการประเมินความพึงพอใจของผเู้ รยี นต่อรูปแบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดย ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู ิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ ด้านศลิ ปะอิสลาม (N=78) รายการประเมนิ ระดบั คุณภาพ แปลผล X S.D. 1. ด้านเน้ือหา (เร่ืองศลิ ปะอิสลาม) 1) เนอ้ื หาส่งเสริมความเข้าใจของผู้เรียน 4.10 .636 พึงพอใจมาก 2) เนอ้ื หามีความชัดเจน สามารถนามาปฏบิ ัติได้จรงิ 4.08 .640 พงึ พอใจมาก 3) เนื้อหาเหมาะสมกับผู้เรียน 4.09 .724 พึงพอใจมาก 4) ไดร้ บั ความรู้ ความเข้าใจในเน้ือหาท่ีเรียนมากข้ึน 4.03 .738 พึงพอใจมาก 5) เนอ้ื หามปี ระโยชนส์ ามารถประยุกต์กบั องค์ความรู้อนื่ ได้ 4.17 .516 พงึ พอใจมาก ผลรวมเฉล่ียด้านเนื้อหา (เร่ืองศิลปะอสิ ลาม) 4.09 .516 พึงพอใจมาก 2. ดา้ นส่ือการเรียนการสอน (เทคโนโลยีเสมือนจริง) 4.08 .834 พึงพอใจมาก 6) อธบิ ายข้ันตอนการใช้งานได้อย่างชดั เจน 4.14 .768 พงึ พอใจมาก 7) ส่ือใช้งานงา่ ย ไมซ่ ับซ้อน 4.35 .661 พึงพอใจมาก 8) รูปแบบของสอ่ื มีความแปลกใหม่ กระตุ้นความสนใจ 4.42 .694 พงึ พอใจมาก 9) รูปแบบสือ่ มีความสวยงาม ทันสมัย 4.27 .658 พึงพอใจมาก 10) สอ่ื ทาใหเ้ กิดความสนุกสนาน 4.06 .727 พงึ พอใจมาก 11) สะดวกในการเรยี น

86 ตารางที่ 7 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรยี นต่อรูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรโู้ ดย ใชเ้ ทคโนโลยเี สมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบคิ วิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ ด้านศลิ ปะอิสลาม (N=78) รายการประเมนิ ระดับคุณภาพ แปลผล X S.D. 12) ความต้องการในการเรยี นต่อสื่อชนิดนี้ 4.00 .645 พงึ พอใจมาก 13) ความพอใจของส่ือในเรียนการเรียนการสอน 4.12 .644 พึงพอใจมาก 4.17 .513 พึงพอใจมาก ผลรวมเฉลี่ยดา้ นส่อื การเรียนการสอน (เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ) 4.18 .679 พึงพอใจมาก 3. ด้านการจัดการเรยี นการสอน 4.03 .702 พงึ พอใจมาก 14) ชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา 4.09 .687 พงึ พอใจมาก 15) ชว่ ยให้ผูเ้ รยี นมีความยดื หยุ่นในการเรยี น 4.15 .704 พงึ พอใจมาก 16) ช่วยใหผ้ ้เู รยี นมคี วามกระตือรือร้นในการเรียน 4.17 .780 พึงพอใจมาก 17) ชว่ ยให้ผู้เรียนก้าวข้ามข้อจากัดของเวลาในการเรียน 18) การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนมคี วามสอดคล้องกับ 4.36 .644 พึงพอใจมาก เนอื้ หา 4.35 .699 พงึ พอใจมาก 19) ทาให้ผู้เรียนมีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบ 20) การติดต่อสอื่ สารระหว่างผู้เรียนและผ้สู อนเปน็ ไปอย่าง 4.18 .483 พึงพอใจมาก สะดวก ไม่มีข้อจากดั เร่ืองเวลาและสถานที่ 4.16 .432 พึงพอใจมาก ผลรวมเฉลี่ยดา้ นการจัดการเรียนการสอน ผลรวมเฉล่ียทั้งหมด จากตารางที่ 7 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนต่อรูปแบบการเรียนแบบสืบ เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม โดยแสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐานความพึงพอใจ ของผู้เรียน พบว่าในส่วนท่ี 1 ด้านเน้ือหา เร่ืองศิลปะอิสลาม มีค่าเฉลี่ยรวมด้านท่ี 1 อยู่ในระดับพึง พอใจมาก ( X = 4.09, S.D. = .516) ในด้านที่ 1 ผู้เรียนพึงพอใจมากในประเด็นเน้ือหามีประโยชน์ สามารถประยุกต์กับองค์ความรู้อื่นๆ ได้ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเท่ากับ 4.17 ด้านท่ี 2) ด้านส่ือการเรียน การสอน (เทคโนโลยีเสมือนจริง) มีค่าเฉล่ียด้านที่ 2 อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( X = 4.17, S.D. = .513) ผู้เรียนพึงพอใจมากในประเด็นรูปแบบสื่อมีความสวยงาม ทันสมัย โดยมีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด

87 เท่ากับ 4.42 และด้านท่ี 3 ด้านการจัดการเรียนการสอน มีค่าเฉล่ียด้านท่ี 3 อยู่ในระดบั พึงพอใจมาก ( X = 4.18, S.D. = .483) ผู้เรียนพึงพอใจมากในประเด็นทาให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในการ ออกแบบ โดยมีค่าเฉลี่ยด้านน้ีมากท่ีสุดเท่ากับ 4.36 สรุปรวมทุกด้านของค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานของความพึงพอใจของผูเ้ รยี นในการเรียนดว้ ยรปู แบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้าน ศิลปะอิสลาม อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( X = 4.16, S.D. = .432) สรปุ ได้ว่ากลุ่มตัวอย่างจานวน 78 คน มีความพึงพอใจมากต่อรูปแบบการเรียนโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียน แบบยูบิควติ สั เพือ่ ส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศลิ ปะอิสลาม ตอนที่ 4 ผลการนาเสนอรูปแบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมือนจริง ใน สภาพแวดลอ้ มการเรยี นแบบยบู ิควติ ัส เพอื่ ส่งเสรมิ ความคิดสร้างสรรค์ด้านศลิ ปะอิสลาม ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความคิดเห็นในการพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบคิ วิตสั เพื่อส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ ดา้ นศิลปะอิสลาม ของผู้ทรงคณุ วุฒิจานวน 3 คน โดยมีประเดน็ การพจิ ารณา 4 ดา้ น ดังตอ่ ไปน้ี 1) ภาพรวมการพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยี เสมือนจริง ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ อิสลาม 2) องค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริง ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้าน ศลิ ปะอสิ ลาม 3) กระบวนการจดั การเรยี นการสอนแบบสืบเสาะหาความร้โู ดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมือน จริง ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู คิ วิตัส เพอื่ ส่งเสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศิลปะอสิ ลาม 4) เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริง ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้าน ศิลปะอสิ ลาม โดยมกี ารวิเคราะห์ขอ้ มูลจากแบบประเมินรบั รองความเหมาะสมของรปู แบบ โดยใช้มาตรา สว่ นประเมินคา่ 5 ระดบั (Rating Scale) วเิ คราะหแ์ ปรผลค่าเฉล่ยี ดังต่อไปน้ี 1.00 - 1.50 หมายถงึ มีความเหมาะสมน้อยทีส่ ุด 1.51 – 2.50 หมายถึง มคี วามเหมาะสมน้อย 2.51 – 3.50 หมายถึง มคี วามเหมาะสมปานกลาง 3.51 – 4.50 หมายถึง มีความเหมาะสมมาก

88 4.51 – 5.00 หมายถึง มีความเหมาะสมมากท่ีสุด ตางรางที่ 8 ผลการประเมนิ รับรองความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยูบิควติ ัส เพือ่ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรคด์ า้ น ศิลปะอิสลาม (N=3) ประเดน็ การประเมนิ คา่ เฉลยี่ ส่วน แปลความหมาย เบย่ี งเบน ด้านท่ี 1 ภาพรวมการพัฒนารปู แบบฯ X มาตรฐาน เหมาะสมมาก 1. วัตถปุ ระสงค์ในการพัฒนารูปแบบ เหมาะสมมากทีส่ ดุ 2. หลกั การและแนวคิดในการพฒั นารปู แบบ 4.00 S.D. 3. องค์ประกอบในการพฒั นารูปแบบ 4.67 เหมาะสมมาก 4. กระบวนการจัดการเรยี นการสอน 3.67 .000 เหมาะสมมาก 5. เคร่อื งมอื ที่ใช้ 3.67 .577 เหมาะสมมาก 4.33 .577 เหมาะสมมาก ผลรวมค่าเฉล่ียดา้ นท่ี 1 4.06 .577 ดา้ นที่ 2 องค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบฯ .577 เหมาะสมมากทสี่ ุด 1. ดา้ นเน้ือหา 4.67 .115 เหมาะสมมาก 2. รปู เลม่ หนังสือของบทเรียน (Marker) 4.33 เหมาะสมมาก 3. สื่อการเรียนการสอนในรปู แบบเทคโนโลยเี สมือน 4.33 .577 .577 เหมาะสมมากทีส่ ดุ จรงิ 4.67 .577 เหมาะสมมาก 4. การเช่อื มโยงกันระหว่างเทคโนโลยเี สมือนจริง 4.50 .577 เหมาะสมมากท่ีสดุ ผลรวมคา่ เฉล่ยี ดา้ นที่ 2 4.67 .433 เหมาะสมมากที่สดุ ด้านที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอน 4.67 ขนั้ สร้างความสนใจ (Engagement) .577 เหมาะสมมากที่สุด 1. ปฐมนิเทศ ชแ้ี จงเป้าหมายของการเรียน 4.67 .577 2. ชีแ้ จงขนั้ ตอนและวิธีการเรยี นการสอน เครื่องมือท่ี .577 ใช้ ระยะเวลาและการประเมิน 3. แนะนาสาธติ การใช้เครอื่ งมือ ในส่วนของสอ่ื เทคโนโลยี

89 ตางรางที่ 8 ผลการประเมนิ รับรองความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรูโ้ ดยใช้ เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยูบิควติ ัส เพื่อส่งเสริมความคดิ สร้างสรรคด์ ้าน ศิลปะอสิ ลาม (N=3) (ต่อ) ประเด็นการประเมนิ ค่าเฉล่ีย ส่วน แปลความหมาย เบยี่ งเบน ขน้ั การสารวจค้นหา (Exploration) X มาตรฐาน 4. ศกึ ษาเนื้อหาในแต่ละหัวข้อประกอบดว้ ย S.D. - ความรูท้ ัว่ ไปของการสร้างสรรคศ์ ิลปะ อิสลาม 4.33 .577 เหมาะสมมาก - ลกั ษณะเดน่ ของศลิ ปะอิสลาม 3.67 1.155 เหมาะสมมาก - ยุคสมยั เด่นของศิลปะอิสลาม 4.00 1.000 เหมาะสมมาก ข้นั อธิบาย (Explanation) 4.33 .577 เหมาะสมมาก 5. เขียนสะท้อนคิด (Reflection) 4.67 .577 เหมาะสมมากทสี่ ดุ 6. ระดมสมอง (Brainstorming) 4.33 .577 เหมาะสมมาก ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 4.37 .611 เหมาะสมมาก 7. ความรทู้ ไี่ ดจ้ ากข้นั การสารวจคน้ หา นามา 4.67 .577 เหมาะสมมากที่สดุ ออกแบบลวดลายศิลปะอิสลาม 4.67 .577 เหมาะสมมากที่สุด 8. เขียนออกมาเป็นภาพร่าง (Sketch) การประเมินผล (Evaluation) 9. นาเสนอผลงานออกแบบพร้อมนาเสนอ แนวความคิด (Concept) ของผลงานที่ออกแบบ ผลรวมค่าเฉลี่ยด้านท่ี 3 ด้านท่ี 4 เครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการพัฒนารูปแบบฯ 1. รปู แบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมอื นจรงิ 2. แบบประเมินคุณภาพเน้ือหาบทเรยี น

90 ตางรางที่ 8 ผลการประเมินรบั รองความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรูโ้ ดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่อื ส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ น ศลิ ปะอสิ ลาม (N=3) (ต่อ) สว่ น ประเด็นการประเมนิ ค่าเฉล่ยี เบ่ียงเบน แปลความหมาย มาตรฐาน X S.D. 3. แบบประเมินคุณภาพสื่อการเรียนการสอน 4.33 .577 เหมาะสมมาก 4. แบบประเมนิ ผลงานตามสภาพจริง (Authentic 4.33 .577 เหมาะสมมาก Assessment) โดยใช้ Rubric 5. แบบประเมินความพงึ พอใจของผ้เู รียน 4.33 .577 เหมาะสมมาก ผลรวมคา่ เฉล่ียดา้ นท่ี 4 4.46 .416 เหมาะสมมาก ผลรวมท้งั หมด 4.33 .379 เหมาะสมมาก จากตารางที่ 8 ผลการประเมินรับรองความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหา ความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ค่าเฉล่ียและสว่ นเบงเบย่ี นมาตรฐานแต่ละ ด้านมีดังนี้ ด้านท่ี 1) ภาพรวมการพัฒนารูปแบบฯ มีค่าเฉลี่ยรวมด้านท่ี 1 อยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( X = 4.06, S.D. =.115) ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยมากทสี่ ุด คือ หลักการและแนวคิดในการพัฒนารปู แบบ มีค่าเฉล่ียสูงที่สุดเท่ากับ 4.67 ด้านท่ี 2) องค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบฯ มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ใน ระดับเหมาะสมมาก ( X =4.50, S.D. =.433) ประเด็นท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านเน้ือหา และการ เช่อื มโยงกนั ระหว่างเทคโนโลยเี สมอื นจริง อย่ใู นระดบั เหมาะสมมากทีส่ ุด มคี า่ เฉลยี่ เท่ากบั 4.67 ดา้ น ที่ 3) กระบวนการจัดการเรียนการสอน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( X =4.37, S.D. =.611) และ ดา้ นท่ี 4) เครื่องมือท่ีใช้ในการพัฒนารูปแบบฯ มคี ่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับเหมาะสม มาก ( X =4.46, S.D. =.416) ผลรวมท้ังหมดของการพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบคิ วิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ด้านศิลปะอิสลาม มีค่าเฉล่ียรวมทุกด้าน อยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( X =4.33, S.D. =.379) ผ้ทู รงคุณวุฒิเห็นว่าสามารถนารูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ใน สภาพแวดล้อมทางการเรียนแบบยูบคิ วิตสั เพื่อส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม ไปใช้ใน การวจิ ยั ในครงั้ นี้

91 จากผลการสังเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐาน แนวคิดและทฤษฎีที่เก่ียวข้องกับการเรียนแบบสืบ เสาะหาความรู้ เทคโนโลยีเสมือนจรงิ สภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยบู ิควิตัส และความคิดสร้างสรรค์ นามาสร้างรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมอื นจรงิ ในสภาพแวดล้อมการ เรียนแบบยบู ิควิตสั เพือ่ ส่งเสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ด้านศลิ ปะอิสลาม ดงั น้ี ภาพประกอบ 4 รูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยเี สมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู คิ วติ ัสเพ่ือส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศลิ ปะอิสลาม

92 จากภาพประกอบท่ี 4 แสดงรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยี เสมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยูบคิ วิตสั เพอ่ื สง่ เสริมความคดิ สรา้ งสรรคด์ า้ นศลิ ปะอสิ ลาม ซง่ึ สรุปองค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบการเรียนโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการ เรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ประกอบไปด้วย 4 องคป์ ระกอบดังต่อไปน้ี 1. เคร่อื งมือการจดั การเรียนการสอน การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (Augmented Reality) เพื่อใช้เป็นเคร่ืองมือในการ จดั การเรียนการสอน ซ่ึงเปน็ การจาลองเพ่อื ให้ผ้เู รียนได้เห็นโลกแห่งความเปน็ จรงิ ผสานกับโลกเสมอื น (Azuma, 1997) โดยมีการวางซ้อนทับกันเพ่ือให้ผู้เรียนเกิดปฏิสัมพันธ์ร่วมกันแบบทันทีทันใด (Realtime) ผู้เรียนสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์พกพา (Tablet) เป็นต้น โดยใช้ร่วมกับกล้องซึ่งมาพร้อมกับอุปกรณ์เชื่อมต่อหรือเว็บแคม (webcam) และ สามารถแสดงผลผา่ นหน้าจออปุ กรณไ์ ด้ องค์ประกอบของเทคโนโลยเี สมือนจริง ประกอบด้วยองค์ประกอบทีส่ าคัญในการ พฒั นาบทเรยี นโดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจริงดังต่อไปนี้ 1.1 เทคโนโลยีในรูปแบบของ AR Application สาหรับประมวลผลระหว่าง Marker และส่ือมัลติมีเดียท่ีสามารถแสดงผล โดยผู้เรียนสามารถติดตั้ง AR Application บนอุปกรณ์ เช่ือมต่อพกพาต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ (smartphone) คอมพิวเตอร์พกพา (Tablet) เป็นต้น โดย สามารถแสดงผลได้ท้งั ออนไลน์ (online) และ ออฟไลน์ (offline) การพัฒนา AR Application เพื่อการประมวลผลบทเรียนศิลปะอิสลาม โดยใช้ โปรแกรม Unity Vuforia โดยผู้เรยี นสามารถติดตัง้ AR Application ของบทเรียนเรื่องศิลปะอสิ ลาม บนอุปกรณ์เช่อื มต่อสว่ นตัว และผเู้ รยี นสามารถเรียนแบบ Offline ได้ 1.2 Marker คือภาพที่ถูกกาหนดเพื่อเป็นสัญลักษณ์ เป็นการกาหนดตาแหน่งและ มุมมองของภาพ โดยนามาวิเคราะห์และประมวลผล โดยใช้โปรแกรม Unity Vuforia ทาให้เกิดการ แสดงผลในรูปแบบของสื่อมัลติมีเดียต่างๆ เช่น ภาพสามมิติ (3D) ภาพสองมิติ (2D) อนิเมชั่น (Animation) หรือ วีดิทศั น์ เป็นตน้ 1.3 สื่อมัลติมีเดีย การแสดงผลของเทคโนโลยีเสมือนจริง จะแสดงผลในรูปแบบ ของส่ือมัลติมีเดียตา่ งๆ เช่น ภาพสามมิติ (3D) ภาพสองมิติ (2D) Animation หรอื วิดีทัศน์ เป็นต้น โดยผู้วิจัยเลือกการแสดงผลของเทคโนโลยีเสมือนจริงในรูปแบบของส่ือวีดิทัศน์ สาหรับบทเรียนเร่ือง ศิลปะอสิ ลาม

93 1.4 กล้องหรอื เว็บแคม (webcam) ทาหนา้ ทเี่ ปน็ ส่วนสาคัญในการจับสัญญาณ ภาพหรือ Maker เพื่อส่งตอ่ ไปประมวลผลผา่ น AR Application บนโทรศัพท์มือถือ (smartphone) หรือ คอมพวิ เตอรพ์ กพา 1.5 สว่ นแสดงผล หรือหน้าจอในการแสดงผล เพื่อใหเ้ ห็นผลขอ้ มูลที่ต้องการแสดง ออกมาเป็นสื่อมลั ตมิ เี ดยี แสดงผลในรปู แบบของภาพนิง่ หรือภาพเคล่ือนไหว สาหรบั ส่วนแสดงผลจะ ปรากฎบนหนา้ จอของอุปกรณต์ า่ งๆ ได้แก่ จอโทรศัพทม์ ือถือ จอคอมพวิ เตอรพ์ กพา (Tablet) สามารถประมวลผลเพอ่ื แสดงผลบนจอภาพ 2. ดา้ นเนื้อหาบทเรียน เรอื่ งศลิ ปะอสิ ลาม เนอ้ื หาของบทเรยี นเก่ยี วกบั เร่ือง ศลิ ปะอิสลาม (Islamic Arts) หมายถึง รูปแบบความ งามทางศิลปะอีกแขนงหน่ึง มิใช่ข้อกาหนดว่าด้วยเร่อื งของศาสบญั ญัติ หรือกฏบัญญัตขิ องศาสนา อสิ ลาม แต่เปน็ บริบทความงามทส่ี รา้ งสรรคโ์ ดยชนกลมุ่ แรกคือผู้ที่นับถอื ศาสนาอิสลาม เพ่ือต้องการ แสดงออกถึงความศรัทธาในบรบิ ทเชงิ ความงามทไ่ี ม่ขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม คือการ แสดงออกถึงความศรทั ธาในเชงิ ศิลป์ โดยววิ ัฒนาการความงามของศิลปะอสิ ลามมีเร่อื ยมาตั้งแตอ่ ดตี จนถึงปัจจบุ ัน ผวู้ จิ ยั ได้แบง่ เนื้อหาออกเป็นหวั ข้อดงั ต่อไปนี้ 2.1 ความรู้ท่ัวไปเก่ียวกับการสรา้ งสรรคศ์ ลิ ปะอสิ ลาม ความรพู้ ้ืนฐานทว่ั ไปของ ศาสนาอิสลาม และอธิบายความเป็นมาของศิลปะอสิ ลามในยคุ เริม่ แรก 2.2 ลกั ษณะเดน่ ของศิลปะอิสลาม หมายถึง การแสดงอตั ลักษณ์เฉพาะของศิลปะ อสิ ลาม ท่ีสามารถบง่ บอกถึงเอกลกั ษณเ์ ฉพาะของศิลปะอิสลาม ประกอบดว้ ยลกั ษณะเด่นดงั ตอ่ ไปน้ี 2.2.1 ลวดลายเรขาคณติ (Geometric Design) ลกั ษณะของการสรา้ งสรรค์ ลวดลายซง่ึ มพี ืน้ ฐานมาจากรูปทรงเรขาคณติ ไดแ้ ก่ วงกลม สเี่ หลี่ยม สามเหล่ียม เปน็ ต้น โดยลวดลาย ตอ้ งมีความสมมาตร (Symmetry) นนั่ คือมีความสมดุลกัน นอกจากน้ันการสรา้ งสรรค์ลวดลายยงั สามารถสร้างสรรค์ไดอ้ ยา่ งไม่มีท่ีสิ้นสุด น่จี ึงถอื เปน็ ลักษณะเด่นของลวดลายเรขาคณิต 2.2.2 ลวดลายพรรณพฤกษาหรอื อาราเบสก์ (Arabesque) เปน็ ลวดลายท่ีได้รบั แรงบนั ดาลใจจากธรรมชาติ ดอกไม้ ใบไม้ เถาวลั ย์ หรือพรรณไม้นานาชนดิ ทาใหล้ วดลายอาราเบสก์ เป็นลวดดลายทมี่ ลี กั ษณะอ่อนช้อย งดงาม สามารถนาลวดลายมาเรยี งตอ่ กนั หรือทาซ้าลวดลาย (Repeat Pattern) ได้อย่างไม่มที ่สี ิน้ สุดเชน่ กัน 2.2.3 อกั ษรอาหรับประดษิ ฐ์ (Arabic Calligraphy) เป็นการสรา้ งสรรคล์ วดลาย ท่ีเกิดจากการนาอักขระอักษรอาหรับมาสร้างสรรค์โดยมีการจัดองค์ประกอบท่ีสวยงาม หรือ สร้างสรรค์เพื่อให้อยู่ในรูปทรงต่างๆ ชนกลุ่มแรกท่ีสร้างสรรค์อักษรอาหรับประดิษฐ์ (Arabic Calligraphy) คือชนชาติอาหรับ จึงทาให้อักษรอาหรับเข้ามามีอิทธิพลต่อศิลปะแขนงนี้เร่ือยมาจนถึง

94 ปจั จบุ ัน ในปจั จุบันอักษรอาหรับประดษิ ฐ์สามารถต่อยอดได้มากมาย การเขยี นอักษรอาหรับประดิษฐ์ มีรูปแบบต่างๆ มากมาย นิยมสร้างสรรค์และประดับตกแต่งในศาสนสถาน เช่น มัสยิด หรือโรงเรียน สอนศาสนาอสิ ลาม จนกลายเป็นอัตลักษณ์ทสี่ าคญั ของศลิ ปะอิสลาม ข้อความท่นี ามาใช้เขียน จึงนยิ ม เขียนโดยนาถ้อยคาจากคัมภรี ์อลั กุรอาน หรือคาสอนของศาสดา 2.3 ยุคสมัยเด่นของศิลปะอิสลาม หมายถึงยุคสมัยต่างๆ ท่ีมีการสร้างสรรค์ศิลปะ อิสลาม แต่ละยุคสมัยมีลักษณะแตกต่างกันตามยุคสมัย ดังนั้นศิลปะอิสลามจึงยึดถือจากอาณาจักร ต่างๆ ของของสมัยแห่งอาณาจักรอิสลาม ซ่ึงหลังจากศาสดา คือนบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) เสียชีวิตลง ได้มี ผู้นาในยุคสมัยต่างๆ ปกครองอาณาจักรอิสลาม ดังนั้นการแบ่งยุคสมัยของศิลปะอสิ ลามจึงยึดตามยุค สมัยของผู้นาต่างๆ เร่ือยมา การแบ่งระยะเวลาของแต่ละยุคสมัย กาหนดโดยการเรียกชื่อตามผู้นาใน ยุคสมัยนั้น ซ่ึงในแต่ละยุคสมัยจะมีความโดดเด่นและรุ่งเรือง ทั้งด้านศิลปะวิทยาการ และ สถาปัตยกรรม ทีแ่ ตกต่างกัน 3. ดา้ นการจัดการเรยี นการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ในสภาพแวดลอ้ มแบบยูบคิ วิตัส การจัดการเรียนการสอนรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยี เสมือนจริงในสภาพแวดลอ้ มแบบยบู ิควิตัสเพื่อส่งเสรมิ ความคดิ สร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ผู้วิจัยนา รูปแบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้ หรือการเรยี นการสอนแบบวฎั จกั รการเรียนรู้ (5Es) มาใช้ใน การจัดการเรียนการสอนร่วมกับการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถ เรยี นรู้ได้ดว้ ยตนเอง และเกิดองค์ความรดู้ ้วยตนเอง การจัดการเรียนการสอนจึงแบ่งองค์ประกอบเป็น 2 สว่ นดังน้ี 3.1 สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบคิ วติ ัส (Ubiquitous learning environment) หมายถึง กระบวนทศั นใ์ หม่ในการเรียนร้ใู นการเรียนโดยพัฒนามากจาก E-learning and M-learning และพัฒนากลายเปน็ U-learning หรอื Ubiquitous learning โดยมคี วามหมายภาษาไทยวา่ ภควนั ต ภาพ หรือ การศึกษาแบบภควันตภาพ (ชัยยงค์ พรหมยงค์, 2554) ถือเป็นสภาพแวดล้อมท่ีผู้เรียน สามารถเรียนได้จากทุกท่ีทุกเวลา (anytime anywhere) โดยอาศัยเคร่ืองมือทางเทคโนโลยี นั่นก็คือ โทรศัพท์มือถือ (Smartphone) หรือ คอมพิวเตอร์พกพา (Tablet) เป็นต้น เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถ เข้าถึงการเรียนได้จากหลากหลายช่องทางและง่ายดาย Yahya et al. (2010) ได้นาเสนอ ลักษณะเฉพาะของสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบิควติ ัสไวด้ งั นี้ 3.1.1 การคงสภาพของข้อมูลเนื้อหา (Permanency) ซึ่งหมายถึงเนื้อหาที่ แนน่ อน ไม่มกี ารเปลย่ี นแปลง หรอื เกดิ การเปลีย่ นแปลงบ่อยคร้งั เกินไป

95 3.1.2 ความสามารถในเข้าถึงได้ทุกเมื่อ (Accessibility) ผู้เรียนสามารถเข้าถึง แหล่งเรียนรู้ได้ทุกขณะเม่ือผู้เรียนต้องการเรียนรู้ และสามารถถึงได้โดยการใช้เทคโนโลยี โดยการ เข้าถงึ จะใชอ้ ปุ กรณค์ อมพวิ เตอรแ์ บบพกพา ผ่านการเชอื่ มต่อแบบไร้สาย 3.1.3 ความรวดเร็วในการเรียกข้อมูล (Immediacy) ข้อมูลสาหรับการเรียนรู้ จะตอ้ งสง่ ถึงผเู้ รียนได้อย่างรวดเรว็ ทนั ทที นั ใด 3.1.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ (Interactivity) เป็นคุณลกั ษณะทส่ี าคัญที่จะช่วยส่งเสริม การเรียนรู้ร่วมกนั ซึ่งผู้เรยี นสามารถมปี ฏิสมั พันธ์กับผสู้ อน ผูเ้ รียนคนอนื่ ๆ หรือมีการสื่อสารท่ีเกิดจาก การทางานรว่ มกนั โดยการโต้ตอบผ่านอุปกรณ์เชือ่ มตอ่ 3.1.5 การตระหนักถึงบริบทของผู้เรียน (Context-awareness) เป็นส่วนสาคัญ ที่ทาใหเ้ กิดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบยูบิควติ ัส เนอื่ งจากการเรียนรู้จะมขี ั้นตอนและกระบวนการ ท่ีต้องสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียนที่เรียนรู้อยู่ในขณะน้ัน เช่น สามารถทราบตาแหน่งของผู้เรียน ทราบพฤติกรรมการเรยี นรูข้ องผ้เู รยี น เปน็ ต้น 3.2 การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เปิด โอกาสให้ผู้เรียนฝึกฝนการเรียนรู้โดยใช้ความสามารถด้านการคิดหาเหตุผล เป็นกระบวนการท่ีเน้น ผูเ้ รียนเป็นสาคญั ดังนั้นการเรยี นการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้จึงมีการพัฒนาวิธีการและข้ันตอนใน การเรียนการสอนโดยมุ่งเน้นเพ่ือให้ผู้เรียนสามารถร่วมกันแสวงหา ค้นพบ และสามารถสร้างองค์ ความรไู้ ด้ด้วยตนเอง ซ่ึงสถาบนั การส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ ได้กล่าวถงึ ข้ันตอนการจัดการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ หรือวัฎจกั รการเรยี นรู้ (5Es) ซ่ึงเป็นโครงการของหลกั สูตรวทิ ยาศาสตร์ สาขา ชีววิทยาของสหรัฐอเมริกา (Biological Science Curriculum Studies หรือ BSCS) มาดัดแปลง เพ่ือให้เหมาะสมกับบรบิ ทของประเทศไทย โดยเล็งเห็นว่าวธิ ีการนีจ้ ะสามารถมุ่งเน้นให้ผเู้ รียนสามารถ ร่วมกันแสวงหา ค้นพบและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองอีกด้วย ซ่ึงข้ันตอนการเรียนแบบสืบเสาะหา ความรู้ ประกอบดว้ ย 3.2.1 ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement) เป็นการนาเข้าส่บู ทเรยี นหรอื เรอื่ ง ทีส่ นใจ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากความสงสัย หรืออาจเริ่มจากความสนใจ หรืออาจจะเป็นเร่ืองท่ีน่าสนใจ ซ่ึงอาจมาจากเหตุการณ์ที่กาลังเกิดข้ึนอยู่ในช่วงนั้นๆ ซ่ึงเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดคาถาม กาหนด ประเด็นท่ีจะศึกษา เม่ือได้ประเด็นจึงร่วมกันกาหนดขอบเขตและแจกแจงรายละเอียดเร่ืองที่จะศึกษา ให้มคี วามชัดเจนย่งิ ข้ึน ผสู้ อนอาจวางแผนเพ่อื ให้ผู้เรยี นศกึ ษาจากสงิ่ ต่างๆ หรือส่ิงทเ่ี ตรียมไว้ เพื่อช่วย นาไปสู่ความเขา้ ใจเรอื่ งหรือประเด็นทจี่ ะศึกษามากขึน้ 3.2.2 ขั้นการสารวจค้นหา (Exploration) เม่ือทาความเข้าในประเด็น หรือ ทต่ี ้องการศึกษาอย่างถ่องแท้ ก็มีการวางแผนกาหนดแนวทางการสารวจ ตรวจสอบ ต้ังสมมุติฐาน ลง

96 มือปฏิบัติเพื่อรวบรวมข้อมูล เช่น การทาการทดลอง การทากิจกรรมภาคสนาม การใช้คอมพิวเตอร์ เพ่ือสร้างสถานการณ์จะลอง (Simulation) การศึกษาเอกสารข้อมูลอ้างอิงจากแหล่งต่างๆ โดยมี ผู้สอนเป็นแคผ่ ูใ้ ห้คาแนะนาหรอื ผู้เร่มิ ตน้ 3.2.3 ข้ันอธิบาย (Explanation) ขั้นน้ีเป็นกระบวนการเรียนรู้ท่ีรวบรวมเอา ข้ันท่ีสองเพื่อเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาหัวข้อ นาข้อมูลท่ีได้มาวิเคราะห์ แปลผล สรุปผล และนาเสนอ ผลที่ได้ออกมาในรูปแบบต่างๆ เชน่ การบรรยายสรุป รปู วาด ตาราง เป็นต้น การค้นพบของผู้เรยี นใน ข้นั นอ้ี าจจะเป็นไปไดห้ ลายทาง ซงึ่ ผลทไ่ี ด้สามารถสรา้ งความรแู้ ละช่วยให้เกดิ การเรียนรู้ของผู้เรยี น 3.2.4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) เป็นการนาความรู้ท่ีสร้างขึ้นไป เชอ่ื มโยงกบั ความรู้เดิม หรือแนวคิดทม่ี กี ารค้นควา้ เพ่ิมเตมิ หรือทาแบบจาลองข้อสรปุ 3.2.5 การประเมินผล (Evaluation) เป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นการประเมิน การเรียนรู้ผ่านขั้นตอนต่างๆ ซ่ึงผู้เรียนมีความรู้อะไรบ้าง มากน้อยเพียงใด เพ่ือนาไปสู่การประยุกต์ อ่นื ๆ ตารางที่ 9 โครงสร้างการจัดการเรียนรู้ การพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างด้านศิลปะ อิสลาม ขั้นตอนการ กจิ กรรม เคร่อื งมอื ท่ีใช้ รปู แบบการเรียโดย เวลา ดาเนิน เทคโนโลยีเสมือนใน (คาบ เรยี น) การทดลอง สภาพแวดล้อม การเรียนแบบยูบคิ วติ ัส Face - to-Face AR U - learning 1. ขนั้ สร้าง 1. ปฐมนิเทศ ชแ้ี จง 1. เทคโนโลยี - 1 ความสนใจ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เสมือนจริงใน (Engagement) 2. ชี้แจงขั้นตอนและวธิ ีการ รปู แบบของ เรียนการสอน เครื่องมือท่ีใช้ บทเรียนเร่อื ง ระยะเวลาและการประเมนิ ศลิ ปะอสิ ลาม 2. แบง่ กลมุ่ ผเู้ รียน 2. แบบประเมนิ ผล งานตามสภาพจริง

97 ตารางที่ 9 โครงสร้างการจัดการเรียนรู้ การพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างด้านศิลปะ อสิ ลาม ขน้ั ตอนการ กจิ กรรม เคร่ืองมือท่ใี ช้ รปู แบบการเรยี โดย เวลา ดาเนนิ เทคโนโลยีเสมือนใน (คาบ เรียน) การทดลอง สภาพแวดลอ้ ม การเรยี นแบบยบู คิ วิตสั Face - to-Face AR U - learning 3. ผ้เู รยี นตดิ ตงั้ AR เพ่ือส่งเสรมิ Application บทเรียนเร่อื ง ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะอิสลาม บน โดยใช้รบู ริคส์ Smartphone หรอื Tablet (Rubrics) และรบั รูปเลม่ หนงั สือบทเรียน 5. ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพือ่ ทดสอบความคิดสรา้ งสรรค์ (กอ่ นเรียน) : ในรปู แบบภาพ ร่าง Sketch 2. ขน้ั การ 1. ศกึ ษาเนื้อหาจากบทเรยี น 1. เทคโนโลยี -  2 สารวจคน้ หา ดงั ต่อไปนี้ เสมอื นจรงิ ใน (Exploration) รปู แบบของ - ตอนท่ี 1 ความร้ทู วั่ ไป บทเรยี นเร่ือง เกี่ยวกับการสรา้ งสรรค์ศลิ ปะ ศลิ ปะอิสลาม อิสลาม - ตอนท่ี 2 ลกั ษณะเด่นของ ศิลปะอสิ ลาม - ตอนท่ี 3 ยุคสมยั เดน่ ของ ศลิ ปะอสิ ลาม

98 ตารางที่ 9 โครงสร้างการจัดการเรียนรู้ การพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างด้านศิลปะ อิสลาม ขน้ั ตอนการ กจิ กรรม เคร่ืองมือที่ใช้ รปู แบบการเรียโดย เวลา ดาเนิน เทคโนโลยีเสมอื นใน (คาบ เรียน) การทดลอง สภาพแวดล้อม การเรียนแบบยูบิควิตัส Face - to-Face AR U - learning 3. ข้นั อธิบาย 1. ศึกษาเนื้อหาจากบทเรียน 1. เทคโนโลยี -  2 (Explanation) เสมอื นจริงใน 2. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1: รูปแบบของ  2 ผู้เรียนออกแบบลวดลาย บทเรียนเรอื่ ง ศลิ ปะอสิ ลาม 1 แบบจาก ศลิ ปะอสิ ลาม -- 1 บทเรยี นท่ไี ด้ศกึ ษาจากตอนที่ 1 และตอนที่ 2 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 2: ผเู้ รียนอภิปราย และสรปุ ผล มีการระดมสมอง 4. ขั้นขยาย 1. ความร้ทู ไี่ ดจ้ ากขนั้ สารวจ 1. เทคโนโลยี - ความรู้ คน้ หา มาออกแบบลวดลาย เสมอื นจรงิ ใน (Elaboration) ศลิ ปะอิสลาม รปู แบบของ  บทเรียนเร่ือง 5. การ 2. เขียนออกมาเป็นภาพรา่ ง ศลิ ปะอิสลาม ประเมินผล (Sketch) (Evaluation) 1. ผเู้ รยี นทากิจกรรมเพอื่ 1. แบบประเมินผล ทดสอบความคิดสร้างสรรค์ งานตามสภาพจริง (หลังเรยี น) : นาเสนอผลงาน เพ่อื สง่ เสรมิ

99 ตารางท่ี 9 โครงสร้างการจัดการเรียนรู้ การพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างด้านศิลปะ อสิ ลาม ขน้ั ตอนการ กจิ กรรม เครื่องมอื ทใี่ ช้ รูปแบบการเรียโดย เวลา ดาเนนิ เทคโนโลยเี สมือนใน (คาบ เรียน) การทดลอง สภาพแวดล้อม การเรยี นแบบยบู ิควิตสั Face - to-Face AR U - learning กลุ่มท่ีออกแบบพรอ้ มนาเสนอ ความคิดสร้างสรรค์ แนวความคดิ (Concept) ทั้ง โดยใชร้ บู ริคส์ ภาพรา่ ง (Sketch) และงาน (Rubrics) ออกแบบที่สมบูรณ์ 2. แบบประเมนิ 2. ทาแบบประเมนิ ความพึง ความพึงพอใจ พอใจ

100 ภาพประกอบที่ 5 แสดงกระบวนการจดั กิจกรรมแบบสบื เสาะหาความรู้ ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบคิ วติ สั 4. ดา้ นการวดั และประเมินผล การวดั และประเมินผล โดยใช้แบบวัดและประเมินผูเ้ รียน 2 ด้าน ประกอบดว้ ย 4.1 การประเมินผลงานตามสภาพจริงเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ อิสลามโดยใช้รูบริคส์ (Rubric) ซึ่งเป็นแบบประเมินค่าเชิงคุณภาพ (Scoring Rubrics) โดยใช้วัด ความสามารถในการออกแบบภาระงานของผเู้ รียน โดยให้คะแนนความคดิ สรา้ งสรรคท์ ั้ง 4 ดา้ นคอื 1) ความคิดริเร่ิม (Originality Thinking) 2) ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency Thinking) 3) ความคิด

101 ยดื หยุ่น(Flexibility Thinking) 4) และความคดิ ละเอยี ดลออ (Elaboration Thinking) เพ่ือวดั และให้ คะแนนผลงานออกแบบและความคดิ สรา้ งสรรค์ของผู้เรียนทั้งก่อนเรียนและหลงั เรยี น ในการกาหนดองคป์ ระกอบด้านความคดิ สร้างสรรค์ Guilford (1968) ได้กาหนดความคิด สร้างสรรคท์ ั้ง 4 ด้าน ดังนี้ 4.1.1 ความคิดริเร่ิม (Originality Thinking) หมายถึง ลักษณะความคิดที่ แปลกใหม่ มีความแตกต่างจากความคิดปกติ ไม่ซ้าความคิดของผู้อื่น และสามารถนาความรู้เดิมมา ดดั แปลงและสามารถประยุกต์ให้เกิดส่ิงใหม่ 4.1.2 ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency Thinking) หมายถึง ความสามารถ ของบุคคลเพื่อคิดคาตอบ ในช่วงเวลาที่จากัด มีความคล่องแคล่วว่องไว และรวดเร็วในการคิดหา คาตอบ 4.1.3 ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility Thinking) หมายถึง ความจัดระเบียบ ความคิดท่ีหลากหลาย คิดได้หลายประเภท สามารถคิดแก้ปัญหาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่ได้ กาหนดชว่ งเวลาไว้ 4.1.4 ความคิดละเอียดลออ (Elaboration Thinking) หมายถึง ความคิดใน รายละเอียด เป็นขั้นตอนการอธิบายความหรือขยายความคิดเพ่ือให้มีควาสมสมบูรณ์ย่ิงข้ึน ในการ สร้างช้นิ งานท่มี คี วามแปลกใหม่ให้สาเร็จ 4.2 แบบประเมินความพึงพอใจ โดยประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนต่อการ เรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจริงในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยบู ิควติ สั เพื่อ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม โดยใช้แบบมาตราประมาณค่า 5 ระดับ คือ พึงพอใจ มากทีส่ ดุ พงึ พอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจนอ้ ย และพึงพอใจนอ้ ยท่ีสุด

102 บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผลการวิจยั การวิจัยเร่ือง การพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือน จริงในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรคด์ ้านศิลปะอสิ ลาม โดยมี รายละเอียดดงั นี้ วัตถุประสงค์การวจิ ัย 1. เพอ่ื วเิ คราะห์และสงั เคราะห์รูปแบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยี เสมอื นจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มการเรียแบบยบู ิควติ สั เพ่ือส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรคด์ ้านศิลปะอิสลาม 2. เพือ่ พฒั นารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมอื นจรงิ ใน สภาพแวดล้อมการเรยี แบบยูบคิ วติ ัส เพือ่ สง่ เสริมความคิดสรา้ งสรรค์ด้านศลิ ปะอิสลาม 3. เพื่อเปรียบเทียบความคดิ สรา้ งสรรคด์ ้านศิลปะอสิ ลามก่อนเรียนและหลงั เรียนด้วย รูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยู บิควติ สั 4. เพอ่ื ศกึ ษาความพงึ พอใจของผู้เรียนดว้ ยรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มทางการเรียนแบบยูบคิ วิตสั เพื่อสง่ เสริมความคิดสร้างสรรค์ ด้านศิลปะอสิ ลาม 5. เพอื่ นาเสนอรปู แบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมอื นจริงใน สภาพแวดล้อมทางการเรยี นแบบยูบคิ วิตัส เพ่อื ส่งเสริมความคดิ สร้างสรรค์ด้านศลิ ปะอิสลาม สมมุติฐานการวิจยั นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทเ่ี รยี นโดยใช้ รปู แบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความร้โู ดยใช้เทคโนโลยเี สมือนจรงิ ใสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบ ยบู ิควติ ัส มคี วามคิดสร้างสรรคห์ ลังเรยี นสงู กว่าก่อนเรียน

103 ขอบเขตการวิจัย 1. ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง 1.1 ประชากร ได้แก่ นกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จานวน 2,886 คน 1.2 กลุม่ ตัวอย่าง ไดแ้ ก่ นักศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จานวน 78 คน โดยการเลอื กการสุ่มตวั อยา่ งแบบกลุม่ (Cluster sampling) 2. ตัวแปรทใี่ ชใ้ นงานวิจัย 2.1 ตัวแปรอสิ ระ (Independent Variable) รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ใน สภาพแวดลอ้ มทางการเรยี นแบบยูบิควติ สั เพื่อสง่ เสริมความคิดสรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม 2.2 ตัวแปรตาม (Dependent Variable) 1) ความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศลิ ปะอิสลาม 2) ความพงึ พอใจของนกั ศึกษา เครื่องมือทีใ่ ช้ในการวิจยั เคร่อื งมอื ที่ใชใ้ นการวิจยั ประกอบดว้ ย 1.1 รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ใน สภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบคิ วติ ัส เพ่ือสง่ เสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม 1.2 แบบประเมินรบั รองรปู แบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยี เสมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยูบคิ วิตสั เพ่ือสง่ เสริมความคดิ สร้างสรรคด์ ้านศิลปะอิสลาม 1.3 แบบประเมินคุณภาพเนื้อหา เรื่องศิลปะอิสลาม ต่อรูปแบบการเรียนแบบสืบ เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ใช้แบบมาตราประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) คือ มาก ทส่ี ดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สดุ 1.4 แบบประเมินคุณภาพสื่อการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง เรื่อง ศิลปะอิสลาม ต่อรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ใช้แบบ มาตราประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) คือ มากท่ีสดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย น้อยทสี่ ุด

104 1.5 แบบประเมนิ ผลงานตามสภาพจริงเพ่ือสง่ เสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์โดยใช้ รบู รคิ ส์ (Rubric) เพ่ือประเมินความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลามก่อนเรียนและหลงั เรยี น และ ประเมนิ ผลงานการออกแบบภาระงานดว้ ยศิลปะอิสลาม โดยประเมินความคิดสรา้ งสรรคท์ ้งั 4 ดา้ น คอื 1) ความคิดรเิ ริ่ม 2) ความคดิ คลอ่ งแคลว่ 3) ความคดิ ยืดหยนุ่ และ 4) ความคิดละเอียดลออ 1.6 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนท่ีมีต่อรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหา ความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ใช้แบบมาตราประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale) คือ พึงพอใจมาก ทีส่ ดุ พงึ พอใจมาก พงึ พอใจปานกลาง พึงพอใจนอ้ ย และพงึ พอใจนอ้ ยท่ีสุด การดาเนนิ การวิจัย ผู้วิจัยไดแ้ บง่ ขน้ั ตอนการวจิ ัยเพื่อพฒั นารูปแบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดย ใช้เทคโนโลยเี สมือนจริงในสภาพแวดลอ้ มการเรยี นแบบยบู ิควติ ัส เพือ่ ส่งเสรมิ ความคดิ สร้างสรรค์ดา้ น ศลิ ปะอิสลาม โดยแบง่ การดาเนินการวิจยั ออกเปน็ 4 ขัน้ ตอน ดังนี้ ตอนท่ี 1 การวิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์องค์ประกอบ ข้นั ตอน กระบวนการในการพฒั นา รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยเี สมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรียน แบบยบู ิควิตัส เพอ่ื สง่ เสริมความคดิ สร้างสรรคด์ า้ นศลิ ปะอิสลาม การวิจัยในขั้นตอนที่ 1 มีเป้าหมายเพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศึกษาสภาพปัญหาในการพัฒนารูปแบบการเรียน แบบสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้เทคโนโลยี เสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัสเพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ดา้ นศิลปะอิสลาม มีขั้นตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1.1 วิเคราะห์และสังเคราะห์ แนวคิด ทฤษฎี ข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง ศึกษา เก่ียวกบั ความหมาย องคป์ ระกอบ การพฒั นากระบวนการและขั้นตอนต่างๆ ทน่ี ามาเพือ่ พัฒนาใหเ้ กิด รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง อีกท้ังผู้เรียนสามารถเรียนได้ใน สภาพแวดล้อมแบบยูบิควิตัส ส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม เพ่ือนาข้อมูลที่ ได้มาทาเป็นตารางสังเคราะห์ แล้วจงึ สรุปผลเป็นการวิจยั ในระยะที่ 1 1.2 นาข้อมูลจากการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐานและองค์ประกอบท่ี เกีย่ วข้องกับการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ เทคโนโลยีเสมือนจริง สภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู ิค วิตัส และความคิดสร้างสรรค์ นามาสร้างกรอบแนวคิดการวิจัยในเชิงทฤษฎีสาหรับการเรียนแบบสืบ

105 เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริม ความคิดสรา้ งสรรคด์ ้านศิลปะอสิ ลาม 1.3 นาขอ้ มลู จากการวิเคราะหแ์ ละสังเคราะหข์ ้อมูลพ้ืนฐานและองค์ประกอบท่ี เกยี่ วขอ้ งกับการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้ เทคโนโลยเี สมือนจริง สภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยบู คิ วิตัส และความคิดสร้างสรรค์ มาพฒั นาและสรา้ งรา่ งรปู แบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยเี สมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยบู ิควิตสั เพ่อื สง่ เสริมความคิดสรา้ งสรรคด์ ้าน ศิลปะอิสลาม 1.4 นากรอบแนวคิดการวิจยั และร่างรปู แบบฯ ใหอ้ าจารย์ที่ปรึกษาวิทยานพิ นธ์ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ นามาปรับปรงุ แกไ้ ข ตอนที่ 2 การพฒั นารปู แบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู คิ วิตสั เพื่อสง่ เสริมความคดิ สรา้ งสรรค์ดา้ นศลิ ปะอิสลาม จากขน้ั ตอนท่ี 1 นาผลท่ีไดจ้ ากการวิเคราะห์ ไดแ้ ก่ กรอบแนวคดิ การวิจยั องค์ประกอบ กระบวนการต่างๆ นามาสรา้ งรูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยี เสมอื นจริงในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบคิ วิตสั เพื่อส่งเสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม โดยมขี ั้นตอนการพฒั นาดังต่อไปนี้ 2.1 เตรียมการพฒั นาเคร่ืองมือการจดั การเรียนการสอน 2.1.1 พัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมือนจรงิ เรอื่ งศลิ ปะอสิ ลาม รปู แบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยู บคิ วติ ัส เพือ่ ส่งเสรมิ ความคดิ สร้างสรรคด์ ้านศลิ ปะอสิ ลาม 1) จัดทารปู เล่มบทเรยี น และสื่อมัลตมิ ีเดียในรูปแบบวดี ิทัศน์ เร่อื งศิลปะ อสิ ลาม 2) นารปู เลม่ เนื้อหาและส่ือมัลดิมเี ดยี ในรูปแบบวีดิทศั น์ มาพฒั นาโดยใช้ โปรแกรม Unity Vuforia เพื่อพัฒนาบทเรียนเรือ่ งศิลปะอิสลาม ในรปู แบบเทคโนโลยเี สมือนจรงิ 2.1.2 พัฒนาเคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย (1) แบบประเมินรับรอง รูปแบบการเรียนฯ (2) แบบประเมินคุณภาพด้านเนื้อหา (3) แบบประเมินคุณภาพด้านสื่อการเรียน การสอน (เทคโนโลยีเสมือนจริง) (4) แบบประเมนิ ความสอดคล้องของแบบประเมินผลงานตามสภาพ จรงิ เพื่อส่งเสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศิลปะอิสลาม (5) แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของผูเ้ รียน

106 2.1.3 นาเครือ่ งมือที่พัฒนาในการวิจัย ให้อาจารยท์ ่ีปรึกษาวทิ ยานพิ นธ์ตรวจสอบ ความถกู ต้อง แล้วนามาปรบั ปรงุ แกไ้ ข 2.2 จัดทาแผนโครงสร้างกากับการเรยี นรู้ 2.3 นาเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยต่างๆ ผู้เช่ียวชาญแต่ละด้านตรวจสอบความถูกต้อง และประเมนิ ความเหมาะสม ตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รปู แบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยี เสมอื นจรงิ ในสภาพแวดล้อมแบบยูบิควติ ัส เพ่ือสง่ เสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม ศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมอื นจริง ในสภาพแวดลอ้ มแบบยบู ิควติ สั เพ่ือส่งเสริมความคดิ สร้างสรรค์ด้านศลิ ปะอิสลาม โดยมขี น้ั ตอนดังน้ี 3.1 กาหนดกลุ่มตัวอย่าง นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จานวน 78 คน โดยการเลือกการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster sampling) 3.2 ดาเนินการทดลอง โดยมขี น้ั ตอนดงั น้ี 2.1 ผวู้ จิ ยั ทาการปฐมนิเทศ ชีแ้ จงกลมุ่ ตัวอย่าง ชีแ้ จงข้ันตอนและวธิ ีการเรยี นการ สอน เคร่ืองมือท่ีใช้ ระยะเวลาและการประเมินในการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยี เสมอื นจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มแบบยบู ิควติ สั เพือ่ สง่ เสรมิ ความคิดสรา้ งสรรคด์ า้ นศิลปะอิสลาม 2.2 ผู้เรียนทากิจกรรมเพื่อวัดความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียนในรูปแบบภาพร่าง (Sketch) เก่ียวกับศิลปะอิสลาม และใช้แบบประเมินความผลงานตามสภาพจริงเพื่อส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลามในรูปแบบรูบริคส์ (Rubric) ทาการประเมนิ ความคิดสร้างสรรคก์ ่อนเรยี น ของผูเ้ รยี น 2.3 ผู้วิจัยดาเนินการเรียนการสอนโดยใช้ระยะเวลาในการทดลองทั้งสิ้น 8 คาบ เรียน โดยระหว่างน้ันมีกิจกรรมการเรียนเพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน เช่น การระดม สมอง (Brainstorming) การเขียนสะทอ้ นคดิ (Reflection) เป็นตน้ 2.4 เมอื่ เสร็จส้ินกจิ กรรมการเรียนการสอนแบบสบื เสาะหาความรูใ้ น สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยบู คิ วิตัส ผสู้ อนวดั ความคิดสร้างสรรค์หลังเรยี นของผเู้ รียนโดนใชแ้ บบ ประเมินผลงานตามสภาพจริงเพ่อื สง่ เสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอิสลามโดยใชร้ ูบริคส์ (Rubric)

107 ตอนที่ 4 การนาเสนอรปู แบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมือน จรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยบู ิควิตัส เพ่ือสง่ เสริมความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศิลปะอสิ ลาม การนาเสนอรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมอื นจรงิ ใน สภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู ิควติ ัส เพอ่ื สง่ เสรมิ ความคิดสร้างสรรค์ดา้ นศลิ ปะอิสลาม มขี นั้ ตอน ดงั ต่อไปน้ี 4.1 สร้างแบบประเมนิ รับรองความเหมาะสมของรปู แบบการเรียนแบบสบื เสาะหา ความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมอื นจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบคิ วิตสั เพื่อสง่ เสริมความคิด สร้างสรรคด์ ้านศิลปะอิสลาม โดยมปี ระเด็นการพิจารณา 4 ดา้ นประกอบดว้ ย 1) ภาพรวมการพัฒนา รูปแบบฯ 2) องค์ประกอบในการพฒั นารปู แบบฯ 3) กระบวนการจดั การเรียนการสอนฯ และ 4) เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการพัฒนารปู แบบฯ เป็นแบบประเมนิ ประมาณค่า 5 ระดบั (Rating Scale) ประกอบด้วย เหมาะสมมากที่สดุ เหมาะสมมาก เหมาะสมปานกลาง เหมาะสมนอ้ ย เหมาะสมน้อย ท่ีสุด 4.2 นาแบบประเมนิ รับรองความเหมาะสมของรปู แบบการเรียนแบบสืบเสาะหา ความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบคิ วติ สั เพ่ือส่งเสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม ใหผ้ ู้ทรงคุณวุฒจิ านวน 3 คน รบั รองความเหมาะสมของรูปแบบฯ ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของรปู แบบฯ จากนัน้ เกบ็ รวบรวมข้อมลู และวิเคราะห์ ขอ้ มลู โดยหาค่าเฉล่ียและส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน สรปุ ผลการวจิ ัย สรุปผลการพัฒนารูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมอื นจริงใน สภาพแวดลอ้ มการเรยี นแบบยบู คิ วติ สั เพือ่ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรคด์ า้ นศิลปะอิสลาม โดยสามารถ สรุปเปน็ ผลการวจิ ัยได้ 4 ขั้นตอนดงั ต่อไปน้ี ตอนที่ 1 ผลการสังเคราะห์งานวจิ ยั ทเี่ กย่ี วข้องกับองค์ประกอบ ข้นั ตอน กระบวนการใน การพฒั นารูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยเี สมือนจริง ในสภาพแวดล้อม การเรียนแบบยูบิควติ สั เพ่ือส่งเสรมิ ความคิดสรา้ งสรรคด์ า้ นศิลปะอสิ ลาม ผลการวเิ คราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐานขององค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบ การเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ในสภาพแวดลอ้ มการเรยี นแบบยูบิควิตัส

108 เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลามประกอบ สามารถสรุปได้ 4 องค์ประกอบ ประกอบด้วยองค์ประกอบดังน้ี 1.1 เคร่ืองมือจัดการเรียนการสอน คือ การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ประกอบด้วย (1) AR Application เร่ืองศิลปะอิสลาม (2) Marker ในรูปแบบรูปเล่มหนังสือบทเรียน (3) ส่ือ มัลติมีเดีย ในรูปแบบวีดิทัศน์แสดงเนื้อหาบทเรียนเรื่อง ศิลปะอิสลาม (4) กล้องหรือเว็บแคม (webcam) และ (5) ส่วนแสดงผลเพ่ือแสดงภาพเคลื่อนไหว บนอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ (Smartphone) หรือ คอมพวิ เตอรพ์ กพา (Tablet) เป็นต้น 1.2 ด้านเนื้อหาบทเรียน เร่ืองศิลปะอิสลาม ศิลปะอิสลาม ประกอบด้วยหัวข้อดังน้ี (1) ความรู้ท่ัวไปเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม (2) ลักษณะเด่นของศิลปะอิสลาม (3) ยุคสมัยเด่นของศิลปะ อิสลาม 1.3 ด้านการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ในสภาพแวดล้อมแบบ ยูบิควิตัส ด้านการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย (1) สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส (Ubiquitous learning environment) (2) กระบวนการจดั การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ หรือทฤษฎีการเรียนรู้ (5Es) ประกอบด้วย ข้ันสร้างความสนใจ ขั้นการสารวจค้นหา ขั้นอธิบาย ขั้น ขยายความรู้ และขัน้ การประเมินผล 1.4 ด้านการวัดและประเมินผล การวัดและประเมินผลผู้วิจัยได้แบ่งเป็น 2 ด้าน ประกอบดว้ ย (1) การวัดความความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนก่อนเรียนและหลงั เรียน โดยใช้แบบประ ประเมินผลงานตามสภาพจริงเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ วัดความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนทั้ง 4 ด้าน คือ ความคิดริเร่ิม ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น และความคิดละเอียดละออ (2) ประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนต่อรูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือน จรงิ ในสภาพแวดลอ้ มการเรยี นแบบยบู คิ วิตสั เพอื่ ส่งเสรมิ ความคดิ สร้างสรรคด์ า้ นศิลปะอสิ ลาม ตอนที่ 2 ผลการพฒั นารูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือน จริงในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยูบิควติ สั เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศลิ ปะอิสลาม 2.1 ผลการประเมินคุณภาพเนื้อหา เร่ืองศิลปะอิสลาม ในการพัฒนารูปแบบการ เรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจรงิ ในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู คิ วิตสั เพื่อ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม โดยประกอบด้วยผู้เช่ียวชาญด้านอิสลาม และศิลปะ อิสลาม ทาการประเมินเนื้อหาจานวน 3 คน ผลการประเมินด้านเนื้อหา เร่ืองศิลปะอิสลาม พบว่า คา่ เฉลยี่ รวมทัง้ หมดอยู่ในระดับมาก ( X = 4.41 , S.D. = .475) โดยหากพิจารณารายด้านพบวา่ ดา้ น

109 ที่ 1 ดา้ นเนอ้ื หา มคี ่าเฉล่ียรวมอยใู่ นระดบั มาก ( X = 4.35, S.D. = .463) ดา้ นที่ 2 ด้านภาพประกอบ มคี า่ เฉลยี่ อยู่ในระดับมากทสี่ ดุ ( X = 4.52 , S.D. = .501) 2.2 ผลการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง เร่ือง ศิลปะอิสลาม ในการพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการศึกษา เพื่อประเมินด้านส่ือการเรียนสอน จานวน 3 คน โดยแบ่งการออกแบบสอื่ การเรียนการสอนในรูปแบบเทคโนโลยเี สมือนจรงิ ออกเปน็ 2 ส่วนคือ 1) การ ออกแบบรูปเล่มหนังสือเพื่อเป็น Marker และ 2) ด้านสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบเทคโนโลยี เสมือนจริง พบว่า ผลรวมของทั้งสองส่วนมีค่าเฉลี่ยรวมท้ังหมด อยู่ในระดับมาก ( X = 4.42 , S.D. = .342) และหากพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่ 1 การออกแบบรูปเล่มหนังสือ อยู่ในระดับมากที่สุด ( X = 4.53 , S.D. = .351) และด้านที่ 2 ดา้ นสอื่ การเรียนการสอนในรูปแบบเทคโนโลยเี สมือนจริง อยู่ ในระดบั มาก ( X = 4.36, S.D. = .401) 2.3 ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบประเมินผลงานตามสภาพจริงเพื่อ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ จานวน 3 คน ประเมิน ความสอดคล้องของแบบประเมินผลงานตามสภาพจริงเพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ อิสลาม จากผลการประเมินสรุปได้ว่า แบบประเมินความสอดคล้องของแบบประเมินผลงานตาม สภาพจริงเพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม มีค่าเฉลี่ยรวมท้ังหมดทุกด้านมีความ สอดคล้องกับประเด็นการประเมิน ( X =1.00, S.D. = .000) ซ่ึงหากพิจารณารายด้านทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ความคิดริเริ่ม (Originality) ค่าเฉล่ียรวมมีความสอดคล้องกับประเด็นการประเมิน ( X =1.00, S.D. = .000) 2) ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) ค่าเฉล่ียรวมมีความสอดคล้องกับประเด็นการ ประเมิน ( X =1.00 , S.D. = .000) 3) ความคิดยดื หยุ่น (Flexibility) ค่าเฉลี่ยรวมมีความสอดคล้อง กับประเด็นการประเมิน ( X =1.00 , S.D. = .000) และ 4) ความคิดละเอียดละออ (Elaboration) ค่าเฉล่ียรวมมีความสอดคลอ้ งกบั ประเด็นการประเมิน ( X =1.00 ,S.D. = .000) แบบประเมินมคี วาม สอดคลอ้ งและเหมาะสมเพอ่ื นาไปประเมนิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ของผู้เรยี นได้

110 ตอนที่ 3 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยี เสมือนจริงในสภาพแวดล้อมแบบยบู คิ วิตัส เพือ่ สง่ เสรมิ ความคดิ สร้างสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม จากการศึกษาผลการใชร้ ปู แบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยี เสมอื นจริงในสภาพแวดล้อมแบบยบู ิควิตัส เพอ่ื ส่งเสรมิ ความคิดสร้างสรรค์ดา้ นศิลปะอสิ ลาม สรปุ ได้ ดงั นี้ 3.1 ผลการวเิ คราะห์คะแนนความคิดสร้างสรรค์ของผูเ้ รยี นจากการประเมนิ ผล งานตามสภาพจรงิ เพือ่ ส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรคโ์ ดยใชร้ ูบริคส์ (Rubric) จากผลการวิเคราะห์ระดับคะแนนความคิดสร้างสรรค์ โดยการเปรียบเทียบคะแนน ความคดิ สร้างสรรค์กอ่ นเข้ารว่ มกิจกรรมและหลังการเข้าร่วมกจิ กรรมการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้ โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบยูบคิ วิตัส เพ่ือส่งเสริมความคดิ สร้างสรรค์ ด้านศิลปะอิสลาม มีการวิเคราะห์คะแนนความคิดสร้างสรรค์โดยใช้ประเมินผลงานตามสภาพจริง (Rubric) ผวู้ ิจัยใช้การวเิ คราะห์คา่ T-test Dependent พบว่า คะแนนความคดิ สร้างสรรค์ด้านศิลปะ อสิ ลามของผู้เรียนหลงั เรยี นมีคา่ เฉล่ีย ( X = 40.72) สูงกวา่ กอ่ นเรียน ( X = 24.66) อยา่ งมนี ัยสาคัญ ทางสถิติท่ีระดับ .01 โดยคะแนนความคิดสร้างสรรค์ของกลุ่มตัวอย่างสูงขึ้นทุกด้านท้ัง 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านความคิดริ่เริ่มมีค่าเฉล่ียหลังเรียน ( X = 11.10) สูงกว่าก่อนเรียน ( X = 5.79) 2) ด้านความคิดคล่องแคล่วมีค่าเฉล่ียหลังเรียน ( X = 9.48) สูงกว่าก่อนเรียน ( X = 5.79) 3) ด้าน ความคิดยดื หยุ่นมีค่าเฉล่ียหลังเรียน ( X = 9.88) สูงกว่าก่อนเรียน ( X = 6.27) และ 4) ด้านความคิด ละเอียดลออมีค่าเฉลี่ยหลังเรียน ( X = 10.25) สูงกว่าก่อนเรียน ( X = 6.81) ผลการวิจัยสรุปได้ว่า ผู้เรียนมีคะแนนความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลามหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทาง สถติ ทิ ่ีระดับ .01 3.2 ผลคะแนนการประเมินการออกแบบภาระงานด้วยแบบประเมนิ ผลงานตาม สภาพจรงิ โดยใชร้ บู รคิ ส์ (Rubric) จากผลคะแนนการประเมินผลงานตามสภาพจริงจากการออกแบบภาระงานของ ผู้เรียนโดยนาศิลปะอิสลามมาเป็นองค์ประกอบสาคัญในการออกแบบ ซึ่งหากพิจารณารายด้าน สามารถสรุปได้คือ ด้านที่ 1) ค่าเฉลี่ยรวมด้านความคิดริเริ่ม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( X = 11.10, S.D.= 1.632) ซึ่งดา้ นความคิดริเริ่ม ประกอบไปด้วย 5 ประเดน็ คือ แสดงอตั ลกั ษณ์ของศิลปะอิสลาม ( X = 2.31, S.D. .465) สามารถใช้ศิลปะอิสลามออกแบบได้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ( X =

111 2.12, S.D. .426) ประสามารถนาศิลปะอิสลามมาสร้างสรรค์ให้เป็นรูปธรรมในงานออกแบบได้ มี ค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.15, S.D.= .560) และภาพรวมสื่อถึงศิลปะอิสลาม มีค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.19, S.D.= .397) โดยประเดน็ ท่มี ีคา่ เฉลีย่ สูงสุดคือ สามารถสร้างสรรค์ ลวดลายศลิ ปะอสิ ลามได้ ผูเ้ รียนมีคา่ เฉล่ียอยู่ในระดับมาก ( X = 2.33, S.D. .617) ด้านท่ี 2) ด้านความคิดคล่องแคล่ว ผลรวมค่าเฉล่ียของด้านความคิดคล่องแคล่วอยู่ ในระดับปานกลาง ( X = 9.48, S.D.= 2.112) ประกอบด้วย 5 ประเด็นคอื จุดสนใจของภาพ ค่าเฉลี่ย อยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.87, S.D.= .709) ออกแบบเสร็จตรงตามเวลา คา่ เฉล่ยี อยู่ในระดบั ปาน กลาง ( X = 2.13, S.D.= .727) ความหลากหลายของศิลปะอิสลาม มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับน้อย ( X = 1.14, S.D.= .350) การสื่อสารของภาพ มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.15, S.D.= .458) และประเด็นท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุดในด้านความคิดคล่องแคล่วคือ องค์ประกอบของภาพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ใน ระดับปานกลาง ( X = 2.19, S.D.= .646) ด้านที่ 3) ด้านความคิดยืดหยุ่น ประกอบด้วยประเด็นคือ การวางแผนการทางาน มี ค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.86, S.D.= .597) การแสดงออกของศิลปะอิสลาม มีค่าเฉล่ีย อยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.99, S.D.= .378) การผนวกศิลปะอิสลามเข้ากับงานออกแบบรูปแบบ อ่ืนมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.01, S.D.= .342) การเลือกใช้ศิลปะอิสลามได้มากกว่า 1 แบบมีค่าเฉลีย่ อยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.99, S.D.= .378) และประเด็นสดุ ท้าย สามารถดัดแปลง ศิลปะอิสลามได้ มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.99, S.D.= .378) สรุปคือด้านท่ี 3) ด้าน ความคิดยดื หยุ่น มคี ่าเฉลี่ยรวมท้งั หมดอยู่ในระดบั ปานกลาง ( X = 9.89, S.D.= 1.520) ด้านท่ี 4) ด้านความคิดละเอียดลออ ประกอบด้วยประเด็นคือ สะท้อนความเป็น ศิลปะอิสลาม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 2.13, S.D.= .543) ผลงานประณีต เรียบร้อย มี ค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.82, S.D.= .734) ประเด็นองค์ประกอบการส่ือสารชัดเจน มี ค่าเฉล่ียอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 1.97, S.D.= .558) ประเด็นอธิบาย Concept ได้อย่างถูกต้อง ชดั เจน มีค่าเฉล่ียอยใู่ นระดบั ปานกลาง ( X = 2.18, S.D.= .619) ประเดน็ ที่ผู้เรียนทาได้ดีท่สี ุดในด้าน ความคิดละเอียดลออ และเป็นประเด็นสุดท้ายคือ สามารถนาไปใช้งานได้จริง มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับ ปานกลาง ( X = 2.15, S.D.= .458) สรุปคือ ค่าเฉลี่ยรวมด้านท่ี 4) ด้านความคิดละเอียดลออ อยู่ใน ระดับปานกลาง ( X = 10.25, S.D.= 1.582)

112 3.3 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ รยี นตอ่ รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหา ความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดลอ้ มการเรยี นแบบยูบคิ วิตสั เพื่อส่งเสริมความคิด สร้างสรรคด์ า้ นศลิ ปะอสิ ลาม จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจของผู้เรียนต่อรูปแบบการเรียนแบบสืบ เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ได้ประกอบด้วยประเด็นการประเมิน 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านเน้ือหา เรื่องศิลปะอิสลาม 2) ด้านสื่อการเรยี นการสอน (เทคโนโลยีเสมือนจริง) และ 3) ด้านการ จัดการเรียนการสอน โดยกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้จานวน 78 คน สรุปค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ของความพึงพอใจของผู้เรียน โดยมีผลรวมค่าเฉลี่ยทุกด้านอยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( X = 4.16, S.D. = .432) และหากพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่ 1) อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( X = 4.09, S.D. = .516) โดยเนอ้ื หาสามารถส่งเสริมความเขา้ ใจของผู้เรียน มีความชัดเจน ผู้เรียนสามารถนามา ปฏิบัติได้จริง มีความเหมาะสมต่อผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนสามาเข้าใจเน้ือหาท่ีเรียนได้มากยิ่ งข้ึน นอกจากน้ันผู้เรียนยังสามารถนาไปประยุกต์กับองค์ความรู้อื่นๆ ได้ ด้านท่ี 2) ด้านสื่อการเรียนการ สอน (เทคโนโลยีเสมือนจริง) อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( X = 4.17, S.D. = .513) สื่อสามารถใช้งาน งา่ ย ไมซ่ ับซอ้ น อีกทั้งรูปแบบของส่ือมคี วามแปลกใหม่ กระตุ้นความสนใจของผู้เรยี น สวยงามทันสมัย ทาให้เกิดความสนุกสนาน จึงทาให้ผู้เรียนพึงพอใจมากต่อการเรียนโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง และ ดา้ นท่ี 3) ด้านการจัดการเรยี นการสอน พบวา่ ช่วยให้ผู้เรยี นสามารถเรียนไดท้ ุกที่ทกุ เวลา และมีความ ยืดหยุ่นในการเรียน อีกทั้งทาให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนเน่ืองด้วยสามารถก้าวข้าม ข้อจากัดของเวลาในการเรียน การจัดกิจกรรมมีความสอดคล้องกับเน้ือหา จึงทาให้ผู้เรียนมีความคิด สร้างสรรค์ในการออกแบบ จึงทาให้ด้านการจัดการเรียนการสอน ผู้เรียนมีระดับพึงพอใจมาก ( X = 4.18, S.D. = .483) ตอนที่ 4 ผลการนาเสนอรปู แบบการเรียนโดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมอื นจรงิ ในสภาพแวดลอ้ ม การเรยี นแบบยูบิควติ สั เพื่อส่งเสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศลิ ปะอิสลาม จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลความคิดเห็นในการพัฒนารูปแบบการเรียน แบบสืบ เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริม ความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ของผู้ทางคุณวุฒิจานวน 3 คน โดยมีประเด็นการพิจารณา 4 ด้าน คือ 1) ภาพรวมการพัฒนารูปแบบฯ 2) องค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบฯ 3) กระบวนการ จัดการเรียนการสอน และ 4) เคร่ืองมือที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบฯ พบว่า ด้านที่ 1 ภาพรวมการ พัฒนารูปแบบฯ ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ในการพัฒนารูปแบบ หลักการและแนวคิดในการพัฒนา

113 รูปแบบ องค์ประกอบในการพัฒนารูปแบบ กระบวนการจัดการเรียนการสอน และเคร่ืองมือท่ีใช้ มี คา่ เฉลี่ยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( X = 4.06, S.D. = .115) ด้านที่ 2 องค์ประกอบในการพัฒนา รูปแบบฯ ประกอบด้วยด้านเนื้อหา รูปเล่มหนังสือของบทเรียน (Marker) สื่อการเรียนการสอนใน รปู แบบเทคโนโลยีเสมือนจริง และการเชื่อมโยงกันระหว่างเทคโนโลยีเสมือนจริง มีค่าเฉล่ียรวมอยู่ใน ระดับเหมาะสมมาก ( X =4.50, S.D. =.433) ด้านท่ี 3 ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน เป็น การจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-based learning) มาใช้ในการจัดการเรียน การสอนประกอบด้วย ข้ันการสร้างความสนใจ ข้ันการสารวจค้นหา ขัน้ อธิบาย ข้ันขยายความรู้ และ ข้ันการประเมินผล มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( X =4.37, S.D. =.611) และด้านที่ 4 เคร่ืองมือที่ใช้ในการพัฒนารูปแบบฯ ประกอบด้วย รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เทคโนโลยีเสมือนจริง แบบประเมินคุณภาพเนื้อหาบทเรียน แบบประเมินคุณภาพส่ือการเรียนการ สอน แบบประเมินผลงานตามสภาพจริงโดยใช้รูบริคส์ และแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน ค่าเฉลี่ยรวมอยู่ในระดับเหมาะสมมาก ( X =4.46, S.D. =.416) จากการวิเคราะห์ผลรวมทุกด้าน พบว่า ค่าเฉลีย่ อยใู่ นระดบั เหมาะสมมาก ( X =4.33, S.D. =.379) สาหรบั นารูปแบบการเรยี นแบบสืบ เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริม ความคิดสรา้ งสรรคด์ า้ นศิลปะอสิ ลามมาใชต้ อ่ ไป

114 รปู แบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใชเ้ ทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรยี น แบบยบู คิ วติ ัส เพ่อื ส่งเสริมความคิดสรา้ งสรรค์ดา้ นศิลปะอสิ ลาม

115 อภปิ รายผลการวิจัย การศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อนามาพัฒนาและ ทดลองใช้รูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการ เรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะ และนาผลจากการพัฒนาและทดลอง ใชร้ ปู แบบการเรยี นแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจรงิ ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนแบบ ยูบคิ วติ ัส เพอ่ื สง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม นามาอภปิ รายผลการวิจยั ไดด้ ังน้ี 1. การพัฒนารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพ่ือส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม เป็นการ พัฒนารูปแบบท่ีเกิดจากการสังเคราะห์ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเรียนแบ บสืบเสาะหา ความรู้ เทคโนโลยีเสมอื นจริง สภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยบู ิควติ ัส และความคดิ สร้างสรรค์ ผวู้ จิ ยั ได้ นาการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน ซง่ึ เป็นกระบวนการเพอื่ ใหผ้ ู้เรียน เกิดการลงมือปฏิบัติและเหมาะกับผู้เรียนในยุคปัจจุบัน ซ่ึงต้องการเน้นให้ผู้เรียนได้เกิดการลงมือทา ด้วยตนเอง หรือ Learning by doing สอดคล้องกับสุวิมล เขี้ยวแก้ว (2540) และวิจารณ์ พานิช (2555) ได้กล่าวถึงการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่คอยการ สนับสนุนผู้สอน และกระตุ้นการเรียนรู้ของผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนสามารถค้นหาความรู้ได้ด้วยตนเองได้ โดยตรง มากกว่าการรับรู้จากการบรรยายเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นกิจกรรมการสอนแบบสืบ เสาะหาความรู้ยังส่งเสริมการใฝ่รู้ของผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนกระตือรือร้น และและกระตุ้นความอยากรู้ ของผู้เรียนเพ่ือให้ได้มาซ่ึงข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดของบทเรียน ผู้เรียนร่วมกันคิดพิจารณาและ น า ไป สู่ กร ะ บ ว น ก า ร คิ ด เ พื่ อพั ฒ น า ศั กย ภ า พ ขอ ง ส ม อ งแ ล ะ ช่ ว ย ต อบ ส น อ งต่ อ ห ลั กก า ร เ รี ย น รู้ ท่ี สอดคล้องกับการพัฒนาด้านความคิดได้เป็นอย่างดี (ปราวีณยา สุวรรณณัฐโชติ, 2551) ทาให้ผู้เรียน เกิดความคดิ สร้างสรรค์ การเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้ประกอบดว้ ย 5 ข้ันตอนคือ 1) ข้ันสร้างความ สนใจ 2) ขั้นการสารวจค้นหา 3) ขั้นอธิบาย 4) ขั้นขยายความรู้ และ 5) ขั้นประเมินผล ดาวรุ่ง อยู่ ย่งั ยืน และสถาพร ขันโต (2556) ได้กล่าวถึงข้ันสารวจค้นหา และข้ันขยายความรู้น้ัน จะทาให้ผู้เรียน เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซ่ึงสอดคล้องกับการวิจัยน้ี พบว่า ในข้ันตอนน้ีจะทาให้ผู้เรียนสามารถ สังเคราะห์องค์ความรู้จากการเรียนและกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง โดยองค์ความรู้ที่ได้ผู้เรียน สามารถนาไปสร้างสรรค์ต่อ เพ่ือให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดความรู้ในขั้นตอนกระบวนการเชิง สร้างสรรคผ์ ลงานได้

116 การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ ยังเป็นการเรียนรู้ตามแนวทางทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ ด้วยตนเอง หรือทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist) (สุมาลี ชัยเจริญ, 2551) นั่นคือมุ่งเน้น เพ่อื ให้ผเู้ รียนลงมือกระทาด้วยตนเอง จากสถานการณ์จริงหรือกจิ กรรมการเรียนท่ีผ้สู อนไดว้ างแผนไว้ ทาให้ผู้เรียนเกิดคาถาม และสารวจตรวจสอบ ดังนั้นความรู้ที่เกิดข้ึนของผู้เรียน จึงเกิดจาก ประสบการณ์เรียนรู้และโครงสร้างทางปัญญาของผู้เรียน โดยมีผู้สอนคอยเป็นผู้ช่วยสนับสนุน หรือ เอ้ืออานวยต่อผู้เรียน และสร้างสภาพแวดล้อมทางการเรียนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ีทุก เวลา เพื่อเป็นการสนับสนุนการเรียนของผู้เรียนได้อย่างเต็มท่ี เหมาะสมกับผู้เรียนปัจจุบัน จาก งานวิจัยฉบับน้ีได้สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส การเรียนในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นแล้ว ว่าห้องเรียนไม่ได้มีความจาเป็นอีกต่อไป การศึกษาสามารถเกิดข้ึนได้จากทุกท่ีทุกเวลา (Cope & Kalantzis, 2005) เม่ือนารูปแบบการสอนผนวกกับเทคโนโลยีที่เอื้อต่อผู้เรียน เพื่อผู้เรียนสามารถ เรียนรู้ได้โดยไร้ข้อจากัดของเวลาและสถานท่ี ทาให้วิจัยนี้นาเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้จัดการเรียน การสอน ท้ังน้ีเพื่อเร้าให้ผู้เรียนติดตามเน้ือหา และสนุกกับเรียนเนื้อหาในเชิงทฤษฎีศิลป์ เร่ืองศิลปะ อิสลาม ซ่ึงอาจทาให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่าย และการรับเน้ือหาท่ีมากจนเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับ รักษพล ธนานุวงศ์ (2556) กลา่ วถึง การใช้เทคโนโลยมี าใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน เพือ่ สร้างความ สนใจเพื่อเข้าสู่บทเรยี น (Engagement) เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือรน้ อยากเรียน นอกจากน้ัน เทคโนโลยีเสมือนจริงยังสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายแก่ผู้เรียน เกิดจินตนาการ และนาไปต่อ ยอดในเชงิ สร้างสรรคไ์ ด้ 2. ผลการเปรียบเทยี บคะแนนความคดิ สร้างสรรค์ดา้ นศิลปะอสิ ลามกอ่ นเรียนและหลังเรยี น เม่ือใช้รปู แบบการเรียนแบบสบื เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมอื นจริงในสภาพแวดล้อมการเรียน แบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมี คะแนนเฉล่ียความคิดสร้างสรรค์หลังเรียนสูงกว่าความคิดสร้างสรรค์ก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทาง สถิติที่ระดับ .01 ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานการวิจัยที่ได้ตั้งไว้ และจากการทดลองได้นากระบวนการ เรียนแบบสบื เสาะหาความรู้มาจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยแต่ละขั้นตอนของกระบวนการเรียน ส่งผลใหผ้ ู้เรียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์หลงั เรียนเพม่ิ มากขนึ้ ทงั้ 4 ดา้ น ผวู้ ิจยั ไดศ้ ึกษาความคดิ สร้างสรรค์ ด้านศิลปะอิสลามของผู้เรียนประกอบด้วย 4 ด้าน คือ 1) ความคิดริเริ่ม 2) ความคิดคล่องแคล่ว 3) ความคดิ ยืดหยนุ่ และ 4) ความคดิ ละเอียดลออ โดยคะแนนเฉลย่ี รวมทุกด้านอยูใ่ นระดับปานกลาง แต่ ด้านท่ีผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์มากท่ีสุดคือ ด้านความคิดริเริ่ม มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก และ ประเด็นท่ีแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม คือ ประเด็นสามารถสร้างสรรคล์ วดลาย ศลิ ปะอิสลามได้ มคี ่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เท่ากับ 2.33 แสดงให้เหน็ ว่าจากรปู แบบการเรียนแบบสืบ เสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ทาให้ผู้เรียนเข้าใจถึงศิลปะอิสลาม ตลอดจนสามารถ

117 แยกแยะลักษณะเด่นของศิลปะอิสลามได้ และสามารถสร้างสรรค์ลวดลายศิลปะอิสลามขึ้นมาได้ ผู้เรียนสามารถนาศิลปะอิสลามมาสร้างสรรค์ในงานออกแบบ สามารถส่ือถึงศิลปะอิสลามและอัต ลักษณ์ของศิลปะอิสลามได้ ด้วยกระบวนการเรียนการสอนท่ีช่วยให้ผู้เรียนเกิดองค์ความรู้ด้วยตนเอง ซ่ึงเห็นได้ว่ากิจกรรมการเรียนการสอนในแบบสืบเสาะหาความรู้ ทาให้ผู้เรยี นค่อยซึมซับความรู้ความ เข้าใจในเนื้อหา ไม่เป็นการยัดเยียดเน้ือหาในเชิงทฤษฎีให้แก่ผู้เรียนมากเกินไป กระบวนการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ในสภาพแวดล้มอมการเรียนแบบยูบิควิตัสจึงเปิดฉากข้นึ ด้วยการนาผู้เรยี นเข้า สู่บทเรียน เพื่อเป็นการสร้างความสนใจ (Engagement) สอดคล้องกับ Svinicki (2004 อ้างอิงใน ศรินดา จามรมาน, 2556) การนาเข้าสู่บทเรียน โดยการเช่ือมโยงข้อมูลเพื่อสร้างความสนใจของ ผู้เรียน สามารถทาให้ผู้เรียนประสบความสาเร็จในการเรียนรู้ได้ จากการจัดกิจกรรมพบว่า ผู้เรียน เปิดรับความรู้ใหม่เม่ือมีเทคโนโลยีช่วยเร้าและกระตุ้นผู้เรียน ดังนั้นการนาเทคโนโลยีเสมอื นจรงิ มาใช้ ในการจัดการเรียนการสอนจึงตอบโจทย์ผู้เรียน เนอื่ งด้วยสามารถสร้างแรงจูงใจแก่ผู้เรียนเมื่อเริ่มต้น บทเรียน ไม่สร้างความเบ่ือหน่ายแก่ผู้เรียน สอดคล้องกับงานวิจัยของ Suárez, et al. (2017) ได้ ศึกษาเก่ียวกับประเภทของกิจกรรมการเรียนด้วยโทรศัพท์เคลื่อนท่ีโดยใช้การเรียนแบบสืบเสาะหา ความรู้ พบว่า การเรียนการสอนท่ีนาโทรศัพท์มาใช้จัดกิจกรรมได้ช่วยพัฒนาความสามารถในการ เรียนที่ซับซ้อนของผู้เรียนได้ และทาให้ผู้เรียนเกิดการคิดวิเคราะห์ นอกจากนั้นโทรศัพท์ยังเหมาะ สาหรับการสง่ เสริมกระบวนการเรยี นรู้ในกิจกรรท่ขี าดการฝกึ ปฏิบตั ิ หรือตอ้ งการเนน้ การปฏบิ ตั ิ นอกจากน้ัน เม่ือเข้าสู่ขั้นสารวจค้นหา (Exploration) ขั้นอธิบาย (Explanation) และขั้น ขยายความรู้ (Elaboration) พบว่า ถึงแม้ว่ารูปแบบการเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้จะจัดการเรียน การสอนในสภาพแวดล้อมแบบยูบิควิตัส ซึ่งให้อิสระและเอื้อใหผ้ ู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา แต่ผู้สอนยังสามารถจัดกิจกรรมการเรียนเพ่ือติดตามและประเมินผ้เู รียน เพ่ือให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ และฝึกฝนระหว่างเรียน มีการปฏิสัมพันธ์และโต้ตอบโดยผ่านโซเชียลมีเดีย (Social media) การ สื่อสารกับผู้เรียนผ่าน Facebook Group ผู้เรียนและผู้สอนสามารถสื่อสารกันได้แบบทันทีทันใด ผเู้ รยี นมีการระดมสมอง เพือ่ สร้างสรรค์ผลงาน โดยในขั้นตอนน้ีผเู้ รยี นได้เชื่อมโยงความคดิ ซึง่ ถอื เป็น การเรียนรู้ที่ดี หากผู้เรียนสามารถเช่ือมโยงความคิดระหว่างเรียนได้จะทาให้ผู้เรียนสามารถมองเห็น ความสัมพันธ์ของเน้ือหาของบทเรียน สอดคล้องกับ วรรณวิสา จันทร์สุนทราพร (2557) ได้พัฒนา กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ พบว่าหลังดาเนินการทดลองผู้เรียนสามารถ เชื่อมโยงและสรุปส่ิงที่เรียน พร้อมทั้งนาเสนอความรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และวชิรพร ดิษฐสมบูรณ์ (2559) ได้ศึกษาการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุ๊กท่ีมีต่อผลการเรียนรู้และเจตคติต่อ วทิ ยาศาสตรข์ องเยาวชน พบว่าคะแนนของผเู้ รียนเพิม่ สูงขึ้นเน่ืองดว้ ยผเู้ รยี นสามารถสร้างความรดู้ ้วย ตนเองและจดจาการเรียนรู้ และความรู้ที่ได้ส่งผลให้ผลการเรียนเพิ่มสูงข้ึนตามไปด้วย จะเห็นได้ว่า

118 การเรียนการสอนที่นาเทคโนโลยีมาร่วมจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถเช่ือมโยงประสบการณ์เรียนรู้ของ ตนเอง อีกทั้งยังสามารถบูรณาการความรู้เดิมเข้าสูค่ วามรู้ใหม่ โดยระหว่างการจดั กิจกรรมการเรยี นมี กิจกรรมเพ่ือพัฒนาทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ เช่น การระดมสมองเปิดโอกาสทางความคิดของ ผู้เรียน ส่งผลให้ผู้เรียนได้ตรวจสอบความคดิ ของตนเอง แก้ปัญหา หรือการเช่ือมโยงความร้โู ดยใช้การ สะท้อนคิดของผู้เรียน (Reflection) เพื่อเช่ือมโยงเหตุการณ์โดยเฉพาะด้านประวัติศาสตร์ของศิลปะ อสิ ลาม เพื่อผู้เรียนสามารถคดิ ได้รอบด้าน เป็นการเพิ่มประสิทธภิ าพในการคิดและใช้ต่อยอดความคิด ได้ อารี พันธ์มณี (2546) ไดก้ ล่าวถึง การเรียนการสอนที่จัดการเรยี นร้ใู นช้ันเรียน ซ่งึ ในอดีตผเู้ รียนไม่ กล้าแสดงออกมานัก ครูจึงมีหน้าที่ให้ความรู้โดยผู้เรียนมีหน้าที่รับความรู้เท่าน้ัน ทาให้ผู้เรียนไม่กล้า แสดงความคิดเห็นต่างๆ หรือไม่กล้าซักถามในเรื่องที่ไม่เข้าใจ ทาให้ผู้เรียนไม่สามารถแสดงออกใน ด้านความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มศักยภาพ ดังน้ันการจัดกิจกรรมโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเข้า มาร่วมในการจัดการเรียนการสอน จึงทาให้ผู้เรียนมีความสนุกสนาน ก้าวข้ามความกลัว กล้าลงมือ ปฏิบัติ การเรียนจึงดาเนินไปด้วยความเพลิดเพลิน ทาให้ผู้เรียนมีศักยภาพในการเรียนมากย่ิงข้ึน สอดคล้องกับ Sanabria & Arámburo-Lizárraga. (2016) ได้ศกึ ษาการเสริมสร้างทักษะในศตววรรษ ที่ 21 ด้วยการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการทางานร่วมกันเป็นทีม ในกระบวนการเรียนรู้ พบว่าการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเป็นอีกหน่ึงเครื่องมือที่ใช้เป็นเครื่องมือ เสริมสรา้ งการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 สามารถทาให้ผู้เรียนสามารถแก้ปัญหาและเกิดการคดิ วเิ คราะห์ ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ นอกจากน้ัน Chiang et al. (2014) ได้ศึกษารูปแบบการ เรียนออนไลน์แบบปฏิสัมพันธ์โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงโ ดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ พบวา่ ผู้เรยี น มีความร้แู ละความสามารถในการสืบเสาะหาความรอู้ ย่างลึกซ้ึง ซึ่งจากการเรียนเป็นกลุ่ม เล็กหรือทีม พบว่าทาให้ผู้เรียนเกิดความร่วมมือและทางานร่วมกัน ทาให้เกิดประสิทธิภาพในการ ทางานเป็นอย่างมาก และยังส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความรับผิดชอบในการทางานร่วมกัน ผู้เรียน สามารถตดั สินใจได้ดว้ ยตนเอง เปน็ การสรา้ งความร่วมมือระหว่างกันและเกิดการปฏสิ ัมพันธร์ ่วมกนั ดงั นั้นการนาเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส ทาให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มข้ึน กลุ่มตัวอย่างมี คา่ เฉลี่ยความคิดสรา้ งสรรค์เพ่มิ ข้ึนในทุกด้าน ทั้งความคิดริเร่ิม ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น และความคิดละเอยี ดลออ โดยอาศยั กระบวนการสอนท่ีทาให้ผ้เู รยี นมีความคดิ สร้างสรรค์ที่มากขึน้ อีก ท้ังการใช้ส่ือเทคโนโลยีเสมือนจริง เพ่ือกระตุ้นให้ผู้เรียนค้นหาความคิดใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย กระตุ้นความสนใจ และทาให้ผู้เรียนเกิดการกระตือรือร้น เกิดการสังเกต ฝึกฝน ทาให้เกิดผลงานที่มี ความแตกต่าง การเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้โดยยังเป็นแนวทางท่ีดีท่ีช่วยส่งเสริมความ อยากรู้ของผู้เรียนและยังสร้างแรงจูงใจในการเรียน ทาให้ผู้เรียนสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

119 (Pedaste & Sarapuu, 2006; Suárez et al., 2017) การจัดกิจกรรมการการเรียนการสอนที่ให้ นักเรียนมีส่วนร่วมและสามารถเกิดประสบการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จะทาให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนา รวมทั้งการพัฒนาในด้านความคิดสร้างสรรค์ สอดคล้องกับการศึกษาระบบการเรียนด้วยอีเลิร์นน่ิงบน สภาพแวดล้อมการเรียนเสมือนจริงเพ่ือพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนในระดับอุดมศึกษา พบว่าผู้เรียนแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองผ่านกจิ กรรม ทาให้ผู้เรียนมีทักษะของความคิดสร้างสรรค์ท่ี เพ่ิมข้ึนท้ัง 4 ด้าน ได้แก่ ความคิดริเริ่ม ความคิดคล่องแคล่ว ความคิดยืดหยุ่น ความคิดละเอียดลออ จากกิจกรรมต่างๆ ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงประสบการเรียนรู้ของตนเองได้ แสดงให้เห็นว่าการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมจะทาให้ผู้เรียนเกิดประสบการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง (เนาวนติ ย์ สงคราม, 2556) 3. จากการวิเคราะผลประเมนิ ความพึงพอใจของผู้เรียนตอ่ รูปแบบการเรยี นแบบสบื เสาะหา ความรู้โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิด สร้างสรรค์ด้านศิลปะอิสลาม โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จานวน 78 คน โดยประเด็นการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ 1) ด้านเน้อื หา เร่ืองศิลปะอิสลาม 2) ด้านส่ือการเรียนการสอน (เทคโนโลยี เสมอื นจริง) และ 3) ด้านการจัดการเรยี นการสอน พบว่า 1) ด้านเน้อื หา เรอ่ื งศลิ ปะอสิ ลาม มคี ่าเฉลี่ย รวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก โดยประเด็นด้านเนื้อหาที่ผู้เรียนพึงพอใจมากคือเน้ือหามีประโยชน์ สามารถประยุกต์กบั องค์ความรู้อื่นๆ ได้ เน่ืองด้วยผ้เู รียนเป็นผู้เรยี นในคณะศึกษาศาสตรม์ หาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ ซ่ึงอยู่ในพื้นท่ีสามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นพ้ืนที่พหุวัฒนธรรม ดังน้ันการนาความรู้ เฉพาะด้านซ่ึงนอกจากจะส่งเสริมความงามด้านสุทรียศาสตร์แล้วแต่ยังส่งเสริมความเข้าใจในบริบท ของพหุวัฒนธรรม และเข้าใจบริบทความงามของศิลปะเฉพาะทาง เช่น ศิลปะอิสลาม มาใช้ในการ จัดการเรียนการสอน จึงทาให้ผู้เรียนพอใจในเนื้อหาเพื่อนาไปต่อยอดความรู้กับองค์ความรู้อื่นๆ ได้ นอกจากนั้นผู้เรียนยังพึงพอใจในประเด็นเนื้อหายังส่งเสริมความเข้าใจของผู้เรียน มีความชัดเจน สามารถนามาปฏิบัตไิ ดจ้ รงิ และเหมาะสมกับผูเ้ รยี น อีกทงั้ ยังได้รบั ความรคู้ วามเข้าใจในเนอ้ื หาท่ีเรียน มากข้ึน สอดคล้องกับ พิบูล ไวจิตกรรม (2555) ได้ศึกษาศิลปะอิสลามเพ่ือประยุกต์ใช้กับส่ือสิ่งพิมพ์ สาหรับผลิตภัณฑ์ฮาลาล พบว่า ศิลปะอิสลามสามารถนาไปตอ่ ยอดการออกแบบสรา้ งสรรค์ และสร้าง บุคลิกภาพที่ชัดเจนให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผลิตภัณฑ์ฮาลาลได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้เรียนจะ สามารถนาความรู้ด้านศิลปะอิสลามไปใช้ในการออกแบบผลงานอื่นๆ ได้อย่างแปลกใหม่และสร้าง ความน่าสนใจในงานออกแบบต่อไป 2) ด้านสื่อการเรียนการสอน ในรูปแบบเทคโนโลยีเสมือนจริง ผู้เรียนมีความพึงพอใจมาก โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 ซึ่งผู้เรียนมีความพึงพอใจมากใน รูปแบบส่ือที่มีความสวยงามและทันสมัย พบว่ามีค่าเฉล่ียมากท่ีสุดเท่ากับ 4.42 อีกทั้งรูปแบบสื่อยังมี

120 ความแปลกใหม่ กระตุ้นความสนใจ และสามารถอธิบายข้ันตอนการใช้งานได้อย่างชัดเจน สื่อใช้งาน ง่ายไม่ซับซ้อน ทาให้เกิดความสนุกสนาน สะดวกในการเรียน ทาให้เกิดความต้องการในการเรียนต่อ สื่อชนิดนี้ จึงทาให้พึงพอใจมากต่อสื่อในการเรียนการสอนสอดคล้องกับการศึกษาของ Murat Akçayır & Gokçe Akçayır (2017) กล่าวถึงขอ้ ดีของการใช้เทคโนโลยเี สมือนจริงในการจดั การศึกษา พบว่า ข้อดีท่ีผู้เรียนได้รับคือ ส่งเสริมความพึงพอใจของผู้เรียน นอกจากน้ันยังส่งเสริมผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน ช่วยให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในบทเรียน ทาให้เกิดทัศนคติเชิงบวกต่อผู้เรียน ลดภาระ การทาความเข้าใจในเน้ือหาที่หนักจนเกินไปของผู้เรียน สร้างความมั่นใจต่อการเรียนของผู้เรียน ส่งเสริมความสามารถในการรับรู้ของผู้เรียน และส่งเสริมแรงจูงใจในการเรียน สอดคล้องกับแนวคิด ของ Di Serio et al. (2012) จากการศึกษาพบว่า เทคโนโลยีเสมือนจริงน้ันง่ายต่อการใช้ จึงทาให้ เกิดผลในเชิงบวกและยังสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้เรียน จากผลการวิจัยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเทคโนโลยี เสมือนจริงสามารถเพ่ิมแรงจูงใจและสร้างความสนใจ เพ่ือช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาและนาไปสู่ ความเขา้ ใจในบทเรียนมากย่ิงข้ึน สอดคล้องกับ รัชฎาวรรณ น่ิมนวล (2554) ได้เสนอแนะการจัดการ เรยี นการสอนโดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจริง มีความเหมาะสมกับการเรยี นรู้ในเชิงสรา้ งสรรค์ ซึ่งจะสง่ ผล ต่อผู้เรียนทาให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการศึกษาค้นคว้าและเกิดทักษะการสร้างสรรค์ด้วย ตนเอง และด้านสุดท้ายคือ 3) ด้านการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบสืบเสาะหาความรู้ใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยบู ิควิตสั ผู้เรียนมคี วามพึงพอใจมากโดยมีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.18 โดยประเด็นทาให้ผู้เรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบมากข้ึน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.36 นอกจากน้ันการจัดการเรียนการสอน พบว่า การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้ในสภาพแวดล้อมการ เรยี นแบบยูบคิ วิตัส ชว่ ยให้ผ้เู รยี นสามารถเรยี นไดท้ กุ ท่ี ทกุ เวลา ผ้เู รยี นไม่ถูกจากัดการเรยี นไว้เพยี งแค่ ในห้องเรียน การจัดสภาพแวดล้อมแบบยูบิควิตัส จะช่วยเอ้ืออานวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียนให้ สามารถเรียนได้ทุกหนทุกแห่ง ทุกท่ี ทุกเวลา (Jone & Jo, 2004; Yahya, 2010) แต่ผู้เรียนยัง สามารถค้นคว้าหาความรู้ได้เท่าที่ต้องการ ผู้เรียนมีความยืดหยุ่นในการเรียน ผู้เรียนมีความ กระตือรือร้นในการเรียน ช่วยให้ผู้เรียนก้าวข้ามข้อจากัดของเวลา และกิจกรรมการเรียนการสอนมี ความสอดคล้องกับเนื้อหา ทาให้การติดต่อส่ือสารระหว่างผู้เรียนและผู้สอนเป็นไปอย่างสะดวก ไม่มี ข้อจากัดของเวลาและสถานท่ี Chiang et al. (2014) ศึกษารูปแบบการเรียนออนไลน์แบบ ปฏิสัมพันธ์โดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงโดยใช้กิจกรรมการสืบเสาะหาความรู้ พบว่าผู้เรียน มีความรู้ และความสามารถในการสบื เสาะหาความรอู้ ย่างลึกซ้ึง ซ่ึงจากการเรียนเป็นกลุ่มเลก็ หรือทีม พบวา่ ทา ให้ผเู้ รยี นเกดิ ความรว่ มมือและทางานร่วมกัน ทาใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพในการทางานเป็นอย่างมาก และ ยังส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความรับผิดชอบในการทางานร่วมกัน ผู้เรียนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตนเอง เป็นการสรา้ งความร่วมมือระหวา่ งกนั และเกิดการปฏสิ มั พันธร์ ว่ มกัน

121 ดังน้ันการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยเทคโนโลยีเสมือนจริงใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควติ ัส เพอื่ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม ทาใหผ้ เู้ รยี น ไม่ต้องยึดติดกับเวลา และสถานท่ี ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกท่ี ทุกเวลา ผู้สอนจึงคอยเป็นผู้ เอื้ออานวยความสะดวก (Facilitator) ให้แก่ผู้เรียน โดยการจัดการเรียนการสอนผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้นากระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ในสภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิค วิตัสมาใช้ มีการระดมสมองซ่ึงเป็นเทคนิคที่ทาให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์รูปแบบ ร่วมกันปฏิบัติงาน และมีแนวทางการเรียนรู้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างสร้างสรรค์ นอกจากกิจกรรมการเรียนการ สอนยังเปดิ โอกาสใหผ้ ้เู รียนไดค้ ดิ อย่างอิสระ เพอื่ หาแนวทางในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานออกแบบ นาไปสู่ การวิเคราะห์ และตัดสินใจ และท้ายที่สุดผู้เรียนสามารถนาความรู้ท่ีได้ไปต่อยอดความคิด และผลิต เป็นผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ ชว่ ยใหผ้ ู้เรียนมปี ระสิทธิภาพในการคิดและเช่ือมโยงความรูใ้ นด้านตา่ งๆ เข้าด้วยกันอย่างหลากหลาย และรอบด้าน ซึ่งสอดคล้องกับ Munoz Cristobal et al. (2015) ได้ ศกึ ษา การสนับสนุนผู้สอนให้สามารถก้าวข้ามขอ้ จากัดในการสอนคือ การสอนให้เกิดความรว่ มมือใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส โดยนาเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ร่วม พบว่าทาให้ผู้สอน สามารถก้ามข้ามข้อจากัดที่เป็นไปไม่ได้ ทาให้ผู้เรียนเกิดประสบการณ์ในการเรียนรู้ที่ไร้ขอบเขต ผลลัพธ์ท่ีได้ทาใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื กนั ระหว่างผูเ้ รียนและผ้สู อนเกิดเป็นนวตั กรรมทางการเรยี น ขอ้ เสนอแนะ จากผลสรปุ และการอภิปรายผลการวิจัย ผู้วจิ ัยมีขอ้ เสนอแนะสาหรบั การนาผลวจิ ยั ไปใช้ ประโยชน์ และขอ้ เสนอแนะสาหรับการวจิ ัยในครงั้ ต่อไป ดังน้ี 1. ข้อเสนอแนะสาหรับการนาผลการวจิ ัยไปใช้ประโยชน์ 1.1 ผู้ทจ่ี ะนารปู แบบการเรยี นแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้เทคโนโลยเี สมอื นจริงใน สภาพแวดล้อมการเรียนแบบยูบิควิตัส เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไปใช้ ควรมีการเตรียมความ พร้อมทั้งด้านทักษะและความเข้าใจ ตลอดจนคานงึ ถงึ ความสามารถด้านเทคโนโลยีในการผลิตส่ือการ เรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ต้องคานึงถึงองค์ประกอบในการพัฒนาสื่อเทคโนโลยี เสมือนจริง ประกอบด้วย 1) AR Application ของบทเรียน (2) Marker ในรูปแบบรูปเล่ม แผ่นภาพ หรืออ่ืนๆ (3) สื่อมัลติมีเดีย ในรูปแบบต่างๆ เช่น สามมิติ (3D) สองมิติ (2D) เอนิเมชั่น (animation) หรือวีดิทัศน์ (4) กล้องหรือเว็บแคม (webcam) (5) ส่วนแสดงผลหรือจอภาพ เพื่อแสดง ภาพเคลื่อนไหว บนอุปกรณ์พกพา เช่น จอโทรศัพท์มือถือ (Smart phone) หรือ จอคอมพิวเตอร์ พกพา (Tablet) เปน็ ตน้

122 1.2 การเรียนท่ีส่งเสรมิ ความคิดสร้างสรรค์จาเปน็ ต้องใช้ระยะเวลาทีเ่ หมาะสม เนื่อง ด้วยผู้เรียนแต่ละคนมีพื้นฐานท่ีแตกต่างกัน ดังนั้นกระบวนการสร้างสรรค์จึงไม่ควรจากัด หรือเร่งรัด จนเกินไป เพื่อที่ผู้เรียนจะได้ตกผลึกทางความคิด และตระหนกั ถึงคุณค่าของการเรียนในรายวิชาน้ันๆ ซึ่งจะส่งผลที่ดีต่อการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และนาไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานอย่างมี ประสิทธภิ าพ 2. ขอ้ เสนอแนะสาหรับการวิจัยในครง้ั ต่อไป 2.1 การนาเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใชเ้ ป็นสื่อในการจัดเรียนการสอน ปัจจุบันพบว่า มีรูปแบบต่างๆ ท่ีมีความหลากหลายมากข้ึน เพื่อปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียน เช่นเทคโนโลยีเสมือนจริงใน รปู แบบสามมติ ิ รูปแบบวดี ิทศั น์ รปู แบบสองมิติ รูปแบบแอนิเมช่นั เป็นตน้ ดังนนั้ การวิจยั ในคร้ังตอ่ ไป ควรวิจัยในเชิงลึกถึงรูปแบบเทคโนโลยีเสมือนจริงในรปู แบบใดมีความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยใดของ ผ้เู รยี น 2.2 การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เป็นปัจจัยท่ีส่งผลให้ผู้เรียนมีความคิดเป็นของ ตัวเอง กล้าแสดงออก และลงมือทาเพื่อใหเ้ กดิ ความคิดใหม่ หรอื นวตั กรรมต่างๆ ดังนน้ั การวิจยั ในครั้ง ตอ่ ไปควรศกึ ษาในเชิงลกึ วา่ ปัจจยั ใดทีจ่ ะชว่ ยส่งเสริมใหผ้ ้เู รียนมคี วามคิดสรา้ งสรรค์มากหรือนอ้ ย เช่น การจัดสภาพแวดล้อม การกระตุ้นผู้เรียนโดยใช้เทคโนโลยี การสร้างแรงจูงใจ หรืออุปสรรคต่างๆ ที่ เกดิ ข้ึนและส่งผลต่อการเรียนรู้ และพัฒนาความคดิ สร้างสรรคข์ องผูเ้ รยี นเช่นกัน

123 บรรณานุกรม ภาษาไทย กุลธิดา กลุ คง. (2555). ระบบการออกแบบหนงั สือนิทานอิเลก็ ทรอนิกสร์ ่วมกับกจิ กรรมสร้างสรรค์ เพือ่ สง่ เสริมความคิดสรา้ งสรรค์ของนักเรยี นประถมศึกษา. วิทยานพิ นธ์ ครุศาสตรมหา บณั ฑติ ภาควชิ าเทคโนโลยีและส่อื สารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัย. เกรียงศักด์ิ เจรญิ วงศ์ศักดิ์. (2545). การคิดเชิงสร้างสรรค.์ กรุงเทพฯ: ซัคเซสมีเดยี . กอ้ งเกียรติ หริ ัญเกดิ . (2557). Augmented Reality Open Source for Project เลม่ ท่ี 1. พมิ พ์คร้ัง ท่ี 2. กรงุ เทพมหานคร: Fast-Books. ฉนั ท์ทิพย์ ลีลิตธรรม และ มนต์ชัย เทยี นทอง. (2557). การสังเคราะห์กรอบแนวคิดการเรียนรใู้ น หอ้ งเรียนกลับทางรว่ มกับเทคโนโลยกี ารเรยี นรู้ภควันตภาพโดยใชร้ ปู แบบกการเรยี นรู้ แบบรว่ มมือผ่านเครือขา่ ยอินเทอรเ์ น็ต. Graduate Research Conference 2014 มหาวิทยาลยั ขอนแก่น. หนา้ 120-126. ชดิ ชนก เชิงเชาว.์ (2550). วิธวี ิจัยทางการศึกษา. ปตั ตานี คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ ชาญณรงค์ พรรงุ่ โรจน์. (2546). ความคดิ สรา้ งสรรค์= Creative thinking. กรงุ เทพฯ: สานักพิมพ์ แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . ชยั ยงค์ พรหมวงศ์. (2555). “หน่วยท่ี 1 ภาพอนาคตการศึกษาไทย : ส่กู ารศึกษภควันตภาพ” คู่มือ อบรม ปฏิบัตกิ ารบูรณาการใชค้ อมพิวเตอร์พกพา ( Tablet ) เพื่อยกระดบั การเรียน การสอน. กรงุ เทพฯ : สานกั เทคโนโลยเี พ่อื การเรยี นการสอน สานกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน. นงคราญ ศรสี ะอาด. (2556). การสร้างสภาพแวดล้อมทางการเรยี นจากเทคโนโลยเี สมอื นจริงโดยใช้ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพือ่ พฒั นาทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ระบบสุรยิ ะ สาหรบั นกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4. วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตร์ อตุ สาหกรรมมหาบณั ฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการเรยี นรู้และส่ือสารมวลชน คณะครุ ศาสตรอ์ ุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ ธนบุร.ี

124 นพดล ผ้มู ีจรรยา และพัลลภ พิรยิ ะสรุ วงศ์, (2555). การเรยี นรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักใน สภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบ u-Learning. วารสารวทิ ยบริการ. 23(3). 90-99. เนาวนิตย์ สงคราม. (2556). ระบบการเรียนด้วยอีเลิร์นนิ่งบนสภาพแวดลอ้ มการเรียนเสมือนจริงเพ่ือ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนในระดับอุดมศึกษา. รายงานผลการวิจัย: จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. ปัญญา เทพสิงห.์ (2548). ศิลปะเอเชีย. กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ประคอง กรรณสูต. (2542). สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ปราวีณยา สุวรรณณัฐโชติ. (2551). สืบสอบความรู้และพัฒนาการคิดด้วยเว็บเควสท์. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.). พิบลู ไวจติ รกรรม. (2555). การศกึ ษาศลิ ปะอิสลามเพอื่ ประยุกต์ใช้กับสอ่ื ส่ิงพิมพส์ าหรับผลิตภณั ฑฮ์ า ลาล. รายงานการวจิ ยั : มหาวทิ ยาลัยราชภฎั สวนสนุ นั ทา. พนิดา ตันศิริ. (2553). โลกเสมอื นผสานโลกจริง Augmented Reality. Executive Journal. 28(2), 169-175. พรชยั เจดามาน และคณะ. (2559). ยทุ ธศาสตร์การพฒั นาเพอื่ การบรหิ ารจดั การสกู่ ารเปล่ยี นผ่าน ศตวรรษที่ 21 : ไทยแลนด์ 4.0. วารสารหลักสูตรและการเรยี นการสอนคณะครุ ุ ศาสตร์, 2(1). ไพฑรู ย์ ศรีฟ้า. (2553). การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยสี ่ือแผน่ พับ กับภาพ 3 มิติ เสมือนจรงิ (AR). สบื ค้นเมอ่ื 12 เมษายน 2560 จาก http://www.drpaitoon.com/wpcontent/Documents/AR/ prochure.pdf ภพ เลาหไพบลู ย.์ (2542). แนวการสอนวิทยาศาสตร.์ กรงุ เทพมหานคร: จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย.

125 ภสิทธ เมตตพันธ์. (2556). การพัฒนารูปแบบการเรียนรนู้ อกหอ้ งเรียนดว้ ยวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใช้เทคโนโลยีความเปน็ จริงเสรมิ บนอุปกรณ์เคล่ือนทเ่ี พ่ือส่งเสรมิ ทักษะการสงั เกต และทักษะการจาแนกประเภทของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1. วทิ ยานพิ นธ์ ครศุ า สตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าเทคโนโลยีและสอื่ สารการศึกษา คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ภรู ติ า เบาเนิด. (2555). รูปแบบการเรียนการสอนแบบยบู ิควิตสั ตามความต้องการของโรงเรียนระดับ มัธยมศกึ ษา สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาปทุมธานี เขต2, วิทยานิพนธ์ ศกึ ษา ศาสตรมหาบัณฑติ สาขาเทคโนโลยีและส่อื สารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุร.ี รชั ฎาวรรณ นิม่ นวล. (2554). การเรียนแบบร่วมมือบนระบบเครอื ข่าย สาหรบั การออกแบบบรรจุ ภณั ฑด์ ว้ ยเทคโนโลยีเสมอื นจริงและการจดั การความรู้, วิทยานพิ นธ์ ปรัชญาดุษฎี บณั ฑติ สาขาวชิ านวัตกรรมการเรยี นรูท้ างเทคโนโลยี คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรมและ เทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี. ละเอียด ป่ินสวุ รรณ. (2543). การเปรียบเทียบความคิดสรางสรรค์ของเดก็ ปฐมวัยที่ใช้ส่ือพ้ืนบ้านกบั ส่อื ท่วั ไปในกจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคใ์ นโรงเรยี นบา้ นนาแช่ จังหวัดลาปาง. วิทยานิพนธป์ ริญญาศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต แขนงวิชาหลกั สตู รและการสอน สาขาวชิ าศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมธริ าช. วชิ ยั วงษ์ใหญ่. (2542). พลังการเรยี นรู้ในกระบวนทัศนใ์ หม่. กรงุ เทพมหานครซ เอสอาร์พรน้ื ตง้ิ ลิม เต็ดพารเ์ นอร์ชิพ. วจิ ารณ์ พานชิ . (2555). วิถีสรา้ งการเรยี นร้เู พ่ือศิษยใ์ นศตวรรษท่ี 21. กรงุ เทพ: มลู นธิ ิสดศรี สฤษดวิ์ งษ์ วชิ ัย นภาพงศ์. (2552). วจิ ัยทางเทคโนโลยแี ละนวัตกรรมการศกึ ษา. ปตั ตานี : ปัตตานีการชา่ ง วชิรพร ดษิ ฐสมบรู ณ์. (2559). การจัดการเรยี นการสอนแบบสืบเสาะบนเฟซบุก๊ ที่มีตอ่ ผลการเรยี นรู้ และเจตคติต่อวทิ ยาศาสตรข์ องเยาวชน. วทิ ยานพิ นธ์ ปริญญาศึกษาศาสตร มหาบณั ฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีและส่ือสารการศกึ ษา คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมคลธญั บรุ ี.

126 วรรณวิสา จนั ทรส์ ุนทราพร. (2557). การพฒั นากจิ กรรมการจดั การเรียนร้ดู ้วยกระบวนการสืบ เสาะหาความรู้ เพื่อสง่ เสรมิ ความสามารถในการแก้ปญั หาและความสามารถในการ เชือ่ มโยงทางคณิตศาสตร์ เรื่องความคลา้ ย ของนักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3. การ ประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ประจาปี ๒๕๕๗ (National Research Conference 2014). 839-847. ศิวนิต อรรถวุฒกิ ุล. (2555). โครงการพฒั นารูปแบบการแบ่งปนั ความรผู้ า่ นการสื่อสารดว้ ยเว็บบล็อก เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการผลติ สื่อการศึกษาของนักศกึ ษาระดบั ปริญญา บณั ฑิต คณะศึกษาศาสตร์ ในสถาบนั อุดมศกึ ษาของรฐั . รายงานการวิจัยฉบับ สมบูรณ์. มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร. สิทธิชัย ลายเสมา. (2557). การจดั การความรู้ดว้ ยเทคโนโลยีภควนั ตภาพเพื่อมุง่ สู่องค์กรแหง่ การ เรยี นรู้. วารสารการอาชีวะและเทคนิคศึกษา. 4(7) หนา้ 43-51. _________, ปณติ า วรรณพิรุณ และปรัชญานันท์ นลิ สุข (2558). ระบบการจัดการเรียนรู้รว่ มกนั ด้วยทีมเสมือนในสภาพแวดล้อมการเรยี นแบบยูบิควิตัส. การประชุมวชิ าการโสต- เทคโนฯ สัมพันธ์แห่งประเทศไทย ครง้ั ที่ 29, 22-23 มกราคม 2558. สุมาลี ชัยเจริญ. (2551). เทคโนโลยกี ารศึกษา หลกั การ ทฤษฎี ส่กู ารปฏิบัต.ิ ขอนแก่น: คลงั นานา วิทยา. สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2549). เอกสารประกอบการประชุมปฏิบัตกิ าร เผยแพร่ขยายผลและอบรมรูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรูแ้ บบวฏั จกั รการสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้นั ตอน เพื่อพฒั นากระบวนการคิดระดับสูง. กรงุ เทพมหานคร: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. เสาวนีย์ จิตตห์ มวด. (2535). วฒั นธรรมอิสลาม. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 3. กรุงเทพฯ : ทางนา. อารี พันธม์ ณ.ี (2540). คิดอย่างสรา้ งสรรค.์ กรุงเทพฯ: ต้นออ้ แกรมม.ี่ _________. (2545). ฝกึ ให้คิดเป็น คดิ ใหส้ รา้ งสรรค์. กรงุ เทพมหานคร: ใยไหม. อาลี เสอื สมงิ . (2556). อารยธรรมอิสลาม (Islamic Civilization). กรงุ เทพฯ : ศนู ย์หนังสืออิสลาม.

127 ภาษาองั กฤษ Abd Majid, N. A., Mohammed, H., & Sulaiman, R., (2015). Students' perception of mobile augmented reality applications in learning computer organization. Procedia - Social and Behavioral Sciences. 176(2015). pp.111-116. Anuradha, Gokhale, A. (1995). Collaborative learning enhances critical thinking. Journal of Technology Education, 7(1), Retrieved January 10, 2016 from https://scholar.lib.vt.edu/ejournals/JTE/v7n1/pdf/gokhale.pdf . Azuma, R, Baillot, Y, Behringer, R, Feiner, S, Julier, S. , & MacIntyre, B. ( 2001) . Recent advances in augmented reality. IEEE Computer graphics and applications, 21(6, 34–47. Azuma, R. T. , ( 1997) . A survey of augmented reality. Retrieved May 18, 2017, From http://citeseerx.ist.psu.edu/viewdoc/download?doi=10.1.1.444.4990&rep=rep1 &type=pdf Bloom, J., and Sheila, B,. (1997). Islamic Arts. London: Phaidon Press, 1997. Brend, Barbara. Islamic Art. Cambridge, MA: Harvard University Press, 1991 Budnitz, N. (2003). What do we mean by inquiry?. Retrieved November 24, 2017, from : http://www.biology.duke.edu/cibl/inquiry/what_is_inquiry.htm Chiang, T. H., Yang, S. J., & Hwang, G. J. (2014). An augmented reality-based mobile learning system to improve students' learning achievements and motivations in natural science inquiry activities. Journal of Educational Technology & Society, 17(4), 352-365.

128 Cope, B., & Kalantzis, M. (2005). Ubiquitous learning: An agenda for educational transformation. Proceedings of the 6th International Conference on networked Learning. Retrived November 8 , 2017 from http://www.networkedlearningconference.org.uk/past/nlc2008/abstracts/P DFs/Cope_576-582.pdf Craig, Alan, B. (2013). Understanding Augmented Reality. Burlington: Morgan Kaufmann. Di Serio, Á., Ibáñez, M. B., & Kloos, C. D. (2013). Impact of an augmented reality system on students’ motivation for a visual art course. Computers & Education, pp586-596. Ettinghausen, R,. & Grabar, O,. (1987). The Art and Architecture of Islam 650-1250. London and New Haven: Yale University Press, 1987 Fraser, J., (2005) Walkabout u-Learning: u-learning = e-learning+m-learning. Monash Mobility: Interconnecting university community with ICT . Retrived September 18 ,2017 from http://elearnmap.ipgkti.edu.my/resource/gkb1053/sumber2/id_ip/ walkaboutlearning.pdf HP. (2012). Augmented reality – the “wow” factor. IT business eNewsletter. Retrieved October 2, 2017 from http://www8.hp.com/h30458/ww/en/smb/ 1185183.html Jones, V. & Jo, J.H. (2004). Ubiquitous learning environment: An adaptive teaching system using ubiquitous technology. Retrieved November 23, 2017 from https://www.researchgate.net/publication/29453419 Liang S., (2015). Research proposal on reviewing augmented reality applications for supporting ageing population. Procedia Manufacturing, 3(2015). 219-226. Milgram P, Kishino F. A taxonomy of mixed reality visual displays. IEICE Trans. Information and Systems. 1994; E77-D(12):1321–1329.

129 Munoz-Cristobal, J. A., Jorrin-Abellan, I. M., Asensio-Perez, J. I., Martinez-Mones, A., Prieto, L. P., & Dimitriadis, Y. (2015). Supporting teacher orchestration inubiquitous learning environments: A study in primary education. Learning Technologies, IEEE Transactions on Learning, 8(1), 83-97. Murat Akçayır , G€okçe Akçayır. (2017). Advantages and challenges associated with augmented reality for education: A systematic review of the literature. Educational Research Review, 20 (2017), 1-11. Nincarean,D., Ali, M,. Halim, D,. & AbdulRahman, M, H,. (2013). Mobile augmented reality : the potential for education. Social and Behavioral Sciences . 13th International Educational Technology Conference. 103(2013). 657-664. Partnership for 21st Century Skills [P21]. (2009). P21 framework definitions. Retrieved May 11, 2017 from http://p21.org/storage/documents/P21_Framework_Definitions.pdf Pedaste, M., & Sarapuu, T. (2006). Developing an effective support system for inquiry learning in a Web-based environment. Journal of Computer Assisted Learning, 22(1), 47–62. Sanabria J., Arámburo-Lizárraga J. (2016). Enhancing 21st Century Skills with AR: Using the Gradual Immersion Method to develop Collaborative Creativity. EURASIA Journal of Mathematics Science and Technology Education, 13(2). 487-501. Saltan F. , Arslan Ö. ( 2016) . The Use of Augmented Reality in Formal Education: A Scoping Review. EURASIA Journal of Mathematics Science and Technology Education, 503-520. Schimmel, A. (1992). Islamic Calligraphy. The Metropolitan Museum of Art Bulletin. 50(1). Weiser, M. (1993). Some computer science issues in ubiquitous computing. Communications of the ACM, Computer-Augmented Environments. 36(7),

130 74-83. Retrieved October 2, 2017 http://www.ubiq.com/hypertext/weiser/UbiCACM.html Yahya, S., Ahmad, E., & Jalil, K. (2010). The definition and characteristics of ubiquitous learning: A discussion. International journal of education and development using information and communication technology , 6(1), 117-127. Zarzuela, M. M., et al., (2013). Mobile serious game using augmented reality for supporting childrens’ learning about animals. 25(2013) Precedia computer science. 375-381.

131 ภาคผนวก

132 ภาคผนวก ก รายช่อื ผ้เู ช่ียวชาญและผู้ทรงคุณวฒุ ิ

133 รายนามผู้เชย่ี วชาญและผู้ทรงคุณวฒุ ิ รายนามผู้ทรงคณุ วุฒปิ ระเมินรับรองรูปแบบ 1. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. จารวุ จั น์ สองเมอื ง รองอธิการบดฝี ่ายแผนและประกันคุณภาพการศึกษา 2. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. อัมพร ศลิ ปเมธากุล มหาวิทยาลัยฟาฏอนี 3. ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร. ศักรนิ ทร์ ชนประชา ภาควชิ าการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ รายนามผูเ้ ชีย่ วชาญประเมนิ คณุ ภาพเนอื้ หา เรอื่ งศิลปะอิสลาม 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อมั พร ศลิ ปเมธากุล ภาควชิ าการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ 2. อาจารย์รสุ ณี หะยีอมั เสาะ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 3. อาจารย์รซุ ณี ซสู ารอ คณะอสิ ลามศึกษาและนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลยั ฟาฏอนี ภาควิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ รายนามผูเ้ ชี่ยวชาญประเมนิ คณุ ภาพส่อื การเรยี นการสอน (เทคโนโลยีเสมอื นจริง) 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จารุวจั น์ สองเมือง รองอธิการบดฝี า่ ยแผนและประกันคุณภาพการศึกษา 2. อาจารยก์ ิตติศกั ดิ์ ณ พทั ลุง มหาวิทยาลยั ฟาฏอนี 3. อาจารยพ์ ชิ ชาพร สุนทรนนท์ ภาควชิ าเทคโนโลยกี ารศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ ภาควิชาเทคโนโลยีการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

134 รายนามผเู้ ชี่ยวชาญประเมนิ ความเทีย่ งตรงของแบบประเมินผลงานตามสภาพจรงิ เพื่อสง่ เสริมความคดิ สร้างสรรค์ด้านศิลปะอสิ ลาม 1. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. อัมพร ศลิ ปเมธากลุ ภาควชิ าการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ 2. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ชัยวฒั น์ ผดุงพงษ์ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์ 3. อาจารยร์ ุซณี ซสู ารอ ภาควิชาการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ภาควชิ าการศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook