กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครใู หนักเรยี นอกี กลุมอธิบายความรเู กยี่ วกับ 12. ควรวางส่ิงของไว้ในที่ต�่า เพราะอาจจะตกหลน่ แตกหักเสียหายได้ การระวังภยั จากวาตภัย โดยอธบิ ายรายละเอียดหรือ 13. บรรดาเรือ แพ ให้ลงสมอยดึ ตรึงใหม้ ่นั คงแข็งแรง ยกตวั อยางประกอบ จากคําและขอความตอ ไปนี้ 14. ถ้ามีรถยนตห์ รอื พาหนะควรเตรียมไวใ้ หพ้ ร้อม ภายหลงั พายสุ งบอาจตอ้ งน�าผ้ปู ว่ ยไปส่ง • เครอ่ื งเวชภณั ฑ โรงพยาบาล และควรเตมิ น�า้ มนั ใหเ้ ต็มถังอย่ตู ลอดเวลา • การจัดวางสง่ิ ของ 15. เม่ือลมสงบแลว้ ต้องรออยา่ งน้อย 3 ช่วั โมง ถ้าพน้ ระยะน้ีแล้วไมม่ ลี มแรงเกิดข้นึ อกี จึง • การตดิ ตามขา วสาร • ไมยืนตน ขนาดใหญ จะวางใจไดว้ า่ พายุไดผ้ ่านพน้ ไปแลว้ ท้ังน้เี พราะเมือ่ ศนู ยก์ ลางพายุผ่านไปแลว้ จะตอ้ งมี • เสาไฟฟา ลมแรงและฝนตกหนักผ่านมาอกี ประมาณ 2 ชั่วโมง • การหลบภยั • การตรงึ เรือและแพ หลงั เกิดวาตภัย ควรปฏบิ ัติ ดังนี้ • การเตรียมยานพาหนะ • การดูแลผปู วย 1. เม่ือมีผู้บาดเจ็บให้รีบช่วยเหลือและน�าส่งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ใกล้เคียงให้ • การชวยเหลอื ผไู ดรบั บาดเจ็บ เร็วทสี่ ดุ • ภัยจากกระแสไฟฟา 2. ให้รบี จัดการโค่นต้นไม้ทใ่ี กลจ้ ะลม้ ลงเสีย • การควบคมุ โรคตดิ ตอ 3. ถ้ามีเสาไฟฟ้าล้มหรือสายไฟขาด อย่าเข้าใกล้หรือแตะต้องโลหะที่เป็นสื่อน�าไฟฟ้าเป็น • การกําจัดพาหะนําโรค อนั ขาด ให้ทา� เครื่องหมายแสดงอนั ตรายเอาไว้ แลว้ รีบแจง้ ใหเ้ จา้ หน้าทีห่ รอื ช่างไฟฟ้า จากนนั้ ครูและนกั เรียนชวยกนั สรปุ ความรู จัดการโดยดว่ น เกย่ี วกบั การระวังภยั จากวาตภยั เพ่อื ใหเ กิดความ 4. เมื่อปรากฏว่าท่อประปาแตกที่ใด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาแก้ไขโดยด่วน อย1่าเพิ่งใช้น้�า เขาใจทถ่ี กู ตอ งตรงกัน นกั เรียนบนั ทึกสาระสําคญั ลง ประปา เพราะนา้� อาจไมบ่ รสิ ทุ ธเิ์ นอ่ื งจากทอ่ แตกหรอื นา้� ทว่ ม ถา้ ใชน้ า้� ประปาขณะนน้ั ดมื่ ในสมุด อาจจะเกิดโรคได้ ใหใ้ ชน้ า้� ทก่ี กั ตนุ กอ่ นเกิดเหตุดืม่ แทน 5. ดา� เนนิ การแกป้ ญั หาทางดา้ นสาธารณสขุ ทอี่ าจเกดิ ขน้ึ ได้ เชน่ การควบคมุ โรคตดิ ตอ่ ท2อี่ าจ เกดิ การระบาดได้ การท�าน้า� ให้สะอาดโดยใชส้ ารส้มและใช้ปนู คลอรนี การกา� จดั อจุ จาระ โดยใช้ปูนขาวหรือน�้ายาไลโซลร้อยละ 5 ก�าจัดกลิ่นและฆ่าเช้ือโรค ก�าจัดพาหะน�าโรค เชน่ ยุง แมลงวัน เป็นตน้ การเตรยี มยารักษาโรคตา่ ง ๆ ท่มี กั เกิดหลงั วาตภยั เช่น โรค ระบบทางเดินหายใจ โรคตดิ เช้ือ ปรสิต โรคผิวหนงั โรคระบบทางเดนิ อาหาร โรคภาวะ ทางจิต เป็นต้น 92 นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เพราะเหตใุ ดเมอื่ พายสุ งบแลว จงึ ควรรอเวลาอีกอยางนอ ย 3 ช่วั โมง 1 นา้ํ ประปา อาจไมส ะอาดพอสําหรับการอปุ โภคบรโิ ภคในขณะเกดิ ภยั ทาง กอนการเดินทางหรอื แกไ ขปญหาทเี่ กดิ จากพายุ ธรรมชาติ เนอื่ งจากทอสงนํ้าประปาอาจแตก หรือเกิดการปะปนของส่งิ สกปรก 1. มกั มีลมแรงและฝนตกหนักอกี เมื่อศูนยกลางพายุพดั ผา น หรือสารเคมใี นรูปแบบตา งๆ จึงควรบาํ บดั น้ําใหสะอาดกอ นใชทําความสะอาด 2. วางแผนการเดนิ ทางเพอ่ื ความปลอดภัยจากซากปรักหกั พัง ขา วของเคร่อื งใชต ามขนั้ ตอน ดงั นี้ การเลือกน้ําจากแหลง ทีม่ โี อกาสปนเปอนนอ ย 3. ความพรอมของหนว ยงานท่ีเกยี่ วขอ งกับการชวยเหลือผปู ระสบภัย ทีส่ ดุ การทํานา้ํ ใหใ สดวยการแกวง สารสม ใหต กตะกอน หรือการกรอง การเตมิ 4. ระดบั นาํ้ ลดลงและความเรว็ ลมคงท่สี ามารถเดินทางไดอยางปลอดภยั คลอรนี ฆา เชอื้ ในปรมิ าณที่เหมาะสม คือ 1 หยดตอน้ํา 1 ลิตร และการตรวจสอบ วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. มักมีลมแรงและฝนตกหนักอีกเมือ่ ศนู ยก ลาง ความสะอาดของนํา้ กอ นนําไปใชป ระโยชน พายุพดั ผา น เพราะการเกดิ ลมแรงและฝนตกหนกั ในครั้งแรกนั้นเปน กระแส 2 โรคติดตอ ทพี่ บบอยในพนื้ ทห่ี ลังประสบวาตภยั ท่กี อใหเกิดนํ้าทว ม ไดแ ก อากาศทร่ี ุนแรงโดยรอบศนู ยกลางของพายุ เมอื่ สภาพอากาศสงบลงแสดงวา โรคผิวหนงั โรคจากระบบทางเดนิ อาหาร โรคตาแดง โรคไขหวดั ไขเลอื ดออก และ เปน บริเวณของศนู ยก ลางของพายุซ่ึงมีสภาพอากาศคอ นขางปกติจงึ คลา ยกบั โรคฉห่ี นู เพราะนา้ํ ทท่ี ว มเปน ตวั การสําคัญในการนาํ พาส่งิ สกปรกมาแพรก ระจาย วาพายพุ ัดผา นไปแลว อยา งไรกต็ ามเมื่อพายเุ คลื่อนตวั กระแสอากาศทรี่ นุ แรง เปนวงกวา ง นอกจากน้ีนํ้าทว มยังทาํ ลายถ่ินอาศัยของสัตวและแมลงท่ีเปนพาหะ โดยรอบศนู ยก ลางของพายอุ ีกดา นจะกอ ใหเ กดิ ลมแรงและฝนตกหนักไม นําโรค ทาํ ใหสัตวแ ละแมลงเหลาน้ันออกมาปะปนกับผคู นเปน สาเหตสุ ําคญั ของ แตกตา งจากการเกดิ ในครง้ั แรก การเกดิ โรคตดิ ตอตางๆ 92 คูม อื ครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ครูสนทนากับนักเรยี นถึงสภาพดินฟาอากาศ ในชุมชนโดยใชความรเู ก่ียวกบั ลมและพายทุ ่พี ัดใน àÊÃÁÔ ÊÒÃÐ ประเทศไทย เชน สภาพอากาศของชมุ ชนในขณะ นีเ้ กดิ จากอิทธิพลของลมหรือพายใุ ด อิทธิพลของ ลมและพายทุ ี่พดั ในประเทศไทย 1. ลมประจําฤดู คือ ลมท่พี ัดเปนประจาำ ตามฤดู มีดังน้ี ลมและพายทุ ่ีพดั ในประเทศไทยมตี อชุมชนของเรา ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต พดั ปกคลมุ ประเทศไทย ระหวา่ งกลางเดอื นพฤษภาคมถงึ กลางเดอื นตลุ าคม แหลง่ กาำ เนดิ อยางไรบาง แลวใหตวั แทนนักเรยี นอธิบายวาลม บริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกใต้แถบมหาสมุทรอินเดีย และพายทุ พ่ี ัดในประเทศไทยในแตล ะชว งเวลามผี ล ซ่ึงลมมรสุมนี้จะนำามวลอากาศช้ืนจากมหาสมุทรอินเดียมาสู่ ตอ สภาพอากาศของประเทศอยา งไร โดยใชแผนท่ี ประเทศไทย ทำาใหม้ ฝี นตกชุกท่วั ไป ประเทศไทยประกอบ จากนนั้ ครสู ุมถามสภาพ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุม ประเทศไทยระหวา่ งกลางเดอื นตลุ าคมจนถงึ กลางเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ อากาศท่ีเกิดจากลมและพายุทพ่ี ัดเขา ประเทศไทย มแี หลง่ กาำ เนดิ จากบรเิ วณความกดอากาศสงู ในซกี โลกเหนอื แถบ ในแตละชว งเวลาใหน ักเรยี นชว ยกันตอบ เชน ประเทศมองโกเลียและจีน พัดเอามวลอากาศเย็นและแห้งมา ปกคลมุ ประเทศไทย ทาำ ใหท้ อ้ งฟา้ โปรง่ อากาศหนาว และแหง้ แลง้ • ในชว งปลายปพ ้นื ทส่ี ว นใหญข องประเทศไทย ในภาคเหนอื ภาคกลาง และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื สว่ นภาคใต้ มีสภาพอากาศอยา งไร และสภาพภูมิอากาศ จะมฝี นตกชกุ น้นั เกิดจากอิทธิพลของลมใด ทศิ ทางลมมรสมุ ตะวันตกเฉียงใต้ (แนวตอบ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาค 2. ลมประจําถิ่น เปนลมท่ีเกิดและพัดในพื้นท่ีใดพื้นที่ ตะวันออกเฉยี งเหนือ มีอากาศคอนขา งหนาว หนง่ึ เชน่ “ลมวา่ วหรอื ลมขา้ วเบา” พดั ลงมาตามแมน่ าำ้ เจา้ พระยา และแหงแลง ทองฟา โปรง เกดิ จากอทิ ธพิ ล ของลมมรสมุ ตะวันออกเฉียงเหนือทพ่ี ัดมา ใเดนอื ชนว่ มงปนี ลาาคยมเถดงึอื เนมตษลุายาคนม“ล“ลมมพตทั ะธเยภาา”1”พพดั ดั จจาากกททศิ ะตเละวเขนั า้ ตสกฝู่ เง ฉในยี งชใว่ ตง้ จากบริเวณความกดอากาศสงู แถบประเทศ มองโกเลียและประเทศจนี อยางไรกต็ ามใน ไปยังทศิ ตะวันออกเฉยี งเหนอื ในชว่ งตน้ เดือนพฤษภาคม ภาคใตจะมฝี นตก เนอ่ื งจากลมมรสุมเมอื่ พดั 3. ลมประจําเวลา คือ ลมที่เกิดในช่วงเวลาท่ีต่างกัน เช่น ในเวลากลางคืนอากาศเหนือพื้นดินเย็นกว่าอากาศเหนือ พนื้ นำ้า เพราะพ้ืนดนิ คายความรอ้ นได้เร็วกว่า อากาศจงึ เคล่ือนที่ จากฝงออกสู่ทะเล เรยี กว่า “ลมบก” สว่ นในเวลากลางวนั อากาศ เหนือพื้นดินร้อนกว่าอากาศเหนือพื้นนำ้า เพราะพ้ืนดินดูดซับ ผานอา วไทยจะนําความชนื้ ไปเปนฝนในภาค ความรอ้ นมากกวา่ อากาศจงึ เคล่อื นที่จากพ้ืนนำ้าเข้าสู่ฝง เรียกวา่ ใตฝ ง อา วไทย) “ลมทะเล” • ลมบกและลมทะเลเกิดขึน้ จากกระบวนการ ใดเปนสาํ คัญ อธบิ ายพอสังเขป 4. พายุหมุนเขตรอน เกิดเหนือมหาสมุทรในเขตร้อน มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรข้ึนไป เกิดพร้อม กับลมที่พัดรุนแรงมาก โดยพัดเวียนเปนวงทวนเข็มนาฬกา ทิศทางลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื (แนวตอบ กระบวนการคายความรอนเปน ในซกี โลกเหนอื สว่ นทางซกี โลกใตพ้ ดั เวยี นเปน วงตามเขม็ นาฬก า สาเหตุของการเกิดลมบกและลมทะเล เข้าสู่ศูนย์กลางมีความเร็ว 118 กิโลเมตรต่อช่ัวโมง (64 นอต) เน่ืองจากในเวลากลางคนื อากาศเหนอื พื้นดิน ขน้ึ ไป ความกดอากาศโดยทัว่ ไปต่ำากวา่ 1,000 มิลลบิ าร์ บางคร้งั เยน็ กวา อากาศเหนอื พืน้ นํ้า เพราะพนื้ ดิน มฝี นตกหนัก พายฝุ นฟ้าคะนอง คายความรอนทส่ี ะสมมาตลอดท้งั วันไดเ ร็ว กวา อากาศจงึ เคล่อื นทีจ่ ากชายฝงออกสู ทะเล เรียกวา ลมบก สวนในเวลากลางวนั มี 93 ลักษณะตรงขา มกันเรยี กวา ลมทะเล ลมบก และลมทะเลมปี ระโยชนอ ยางยงิ่ ในการทํา ประมงชายฝง หรอื ประมงพ้ืนบา นในอดตี ) ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู ฤดหู นาวในประเทศไทยเปนผลสืบเนือ่ งจากอทิ ธพิ ลของลมหรือพายใุ ด ครูอาจใหนกั เรียนชวยกันวเิ คราะหความแตกตา งของลมและพายใุ นประเทศไทย เปนหลกั ซ่ึงประกอบดวย ลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ลมวาวหรือ ลมขา วเบา ลมตะเภา ลมพัทธยา ลมบก ลมทะเล และพายหุ มุนเขตรอ น ในดานระยะ 1. ลมพัทธยา เวลา ทิศทาง อิทธพิ ลทีเ่ กดิ กับลมฟาอากาศ และความสมั พนั ธกบั การดาํ เนินชีวติ ของ 2. พายหุ มุนเขตรอน ประชากร แลวชว ยกันจดั ทําเปนตาราง เพอื่ สง เสรมิ ใหน กั เรียนเกดิ ความรคู วามเขาใจ 3. ลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต เกี่ยวกบั ลมและพายุในประเทศไทยชดั เจนยิ่งข้นึ และชวยพฒั นาทักษะการคิดของ 4. ลมมรสุมตะวนั ออกเฉยี งเหนอื วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซ่ึงมีแหลง นกั เรยี น เชน การคิดวิเคราะห สังเคราะห และการคดิ อยางเปน ระบบ เปน ตน กาํ เนิดจากบริเวณความกดอากาศสูงในซีกโลกเหนอื แถบประเทศมองโกเลยี และประเทศจีน พดั เอามวลอากาศเยน็ และแหง มาปกคลมุ ประเทศไทย ทาํ ใหพนื้ ทสี่ ว นใหญของประเทศมอี ากาศคอ นขางหนาวเยน็ และแหง แลง นกั เรียนควรรู สว นภาคใตมีฝนตกจากความชื้นเม่อื พัดผานอาวไทย 1 ลมพัทธยา ลมสลาตัน และลมตะเภา เปน กลมุ ของลมประจําถนิ่ ท่พี ดั จาก ทางใตข น้ึ ทางเหนอื สว นลมตะโกพ ดั จากทางเหนอื ลงสูทางใต ลมประจาํ ถน่ิ ท่ี พัดในแตละชว งเวลาของปเหลาน้ีมปี ระโยชนอยา งย่งิ ในการเดนิ เรือคาขายบรเิ วณ ชายฝงในอดีต คมู อื ครู 93
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูสนทนากบั นักเรยี นถึงความหมายของไฟปา ไฟปา่ (Wildfire) แลวสมุ นักเรยี น 1 กลมุ เพื่อใหช วยกนั อธิบาย ความรูเก่ียวกบั ไฟปา โดยการตอบคําถาม ไฟทเี่ กดิ ขน้ึ แลว้ ลกุ ลามไปไดโ้ ดยปราศจากการควบคมุ ซง่ึ สง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มและการ ในดานปจจัยทางธรรมชาตทิ ีท่ าํ ใหเกดิ ไฟปา ดา� รงชวี ติ ของมนษุ ย์ ไฟปา่ ทเี่ กดิ ขนึ้ บรเิ วณภเู ขาจะมคี วามรนุ แรงและขยายพนื้ ทไ่ี ดเ้ รว็ กวา่ พน้ื ราบ ตวั อยางขอ คําถามเชน • ไฟปาสามารถเกดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติได สาเหตุการเกดิ ไฟปา่ หรือไม อยา งไร (แนวตอบ ไฟปา สามารถเกิดขนึ้ เองตาม การเกิดไฟปา่ มสี าเหตุทั้งจากธรรมชาตแิ ละจากมนุษย์ ดงั น้ี ธรรมชาติ โดยมีสาเหตุทีส่ าํ คัญ คือ การเกิด ฟาผา ทําใหต นไมเกิดไฟไหม มกั เกิดขน้ึ มาก สาเหตจุ ากธรรมชาติ ในปาไมเ ขตอบอนุ ของสหรฐั อเมริกาและ ประเทศแคนาดา การเสยี ดสีกนั ของกงิ่ ไม ตกกไรฟะทปา่บทผเี่ ลกกึดิ หขนนิึ้ เอแงสตงาแมดธดรสรอ่มงชผาา่ตนเิ กหดิ ยจดานกา้�หลปาฏยกิ สริายิเหาเตคุ เมชใีน่ นดฟนิา้ ผปา่า่ พกง่ิรไุ 1กมาเ้ สรยีลดกุ สไหกี นัมใ้ภนเู ตขวัาเไอฟงปขะอทงุ สแงิ่สมงแชี ดวี ดติ แหง ในชวงเวลาทอ่ี ากาศรอนและแหงแลง มกั เกิดข้นึ ในพืน้ ท่ีปาท่มี ไี มขน้ึ อยูหนาแนน แตส่ าเหตทุ ่สี า� คัญ คอื เชน ปา ไผและปา สน เปนตน ) 1. ฟ้าผ่า เป็นสาเหตุส�าคัญของการเกิดไฟป่าในเขตอบอุ่น ในสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา พบวา่ กวา่ ครงึ่ หนง่ึ ของไฟปา่ ทเี่ กดิ ขน้ึ มสี าเหตมุ าจากฟา้ ผา่ 2. ครใู หน กั เรียนกลมุ เดิมชวยกนั จัดทําผังกราฟก 2. กงิ่ ไม้เสยี ดสกี นั อาจเกดิ ขนึ้ ไดใ้ นพนื้ ทปี่ า่ ทม่ี ตี น้ ไมข้ นึ้ อยอู่ ยา่ งหนาแนน่ และมสี ภาพอากาศแหง้ จดั แสดงสาเหตุของการเกิดไฟปา อันเนื่องมาจาก เชน่ ในปา่ ไผห่ รอื ปา่ สน เปน็ ตน้ มนุษยในรปู แบบตางๆ ท่ีมีความถนัดและความ สนใจ เชน ผงั ความคดิ ผังกา งปลา และตาราง สาเหตจุ ากมนุษย์ โดยกําหนดใหมีสาระสําคัญประกอบดว ย กจิ กรรมทางเศรษฐกิจ ไดแ ก การหาของปา ไฟปา่ ทเี่ กดิ ในประเทศกา� ลงั พฒั นาในเขตรอ้ นสว่ นใหญ่ มสี าเหตมุ าจากกจิ กรรมตา่ งๆ ของมนษุ ย์ ดงั น้ี การเผาไรเ พ่ือกาํ จดั ซากพชื และวัชพืชเพื่อการ 1. การเก็บหาของป่า เป็นสาเหตุที่ท�าให้เกิดไฟป่ามากท่ีสุด การเก็บหาของป่าส่วนใหญ่ ได้แก่ เพาะปลกู ตอไป และการลาสตั ว กิจกรรมอัน เกดิ จากความขัดแยง ระหวางชาวบานกบั ไข่มดแดง เห็ด ใบตองตึง ไม้ไผ่ น�้าผึ้ง ผักหวาน เห็ดเผาะ และไม้ฟืน การจุดไฟส่วนใหญ่ เจาหนาทีข่ องรฐั เชน การเผาปาเพ่ือประทวง เพอื่ ใหพ้ นื้ ปา่ โลง่ เดนิ สะดวกหรอื ใหแ้ สงสวา่ งในระหวา่ งการเดนิ ทางผา่ นปา่ ในเวลากลางคนื หรอื จดุ การปลกู ปาสงวนในที่ดนิ ทาํ กินดั้งเดมิ ของ เพอื่ กระตนุ้ การงอกของเหด็ หรอื กระตนุ้ การแตกใบใหมข่ องผกั หวานและใบตองตงึ หรอื จดุ เพอ่ื ชาวบา น ตลอดจนความประมาททีเ่ กดิ จากการ ไลต่ วั มดแดงออกจากรงั รมควนั ไลผ่ งึ้ หรอื ไลแ่ มลงตา่ ง ๆ ในขณะทอ่ี ยใู่ นปา่ กอ กองไฟพักแรมในปาแลว ดับไมส นทิ หรืออ่นื ๆ 2. การเผาไร่ เปน็ สาเหตทุ ส่ี า� คญั รองลงมา การเผาไรส่ ว่ นใหญเ่ พอ่ื กา� จดั วชั พชื หรอื เศษซากพชื ทเี่ หลอื แลว สงตัวแทนออกมานาํ เสนอบนกระดานหนา อยภู่ ายหลงั การเกบ็ เกยี่ ว ทงั้ นเี้ พอ่ื เตรยี มพน้ื ทสี่ า� หรบั เพาะปลกู ในรอบตอ่ ไป โดยปราศจากการ ชั้นเรียน ครูและนกั เรียนสนทนารวมกันเพ่ือให ทา� แนวกนั ไฟและปราศจากการควบคมุ ไฟจงึ ลามเขา้ ปา่ ทอ่ี ยใู่ นบรเิ วณใกลเ้ คยี ง เกิดความเขา ใจท่ีถกู ตองตรงกนั 3. การแกลง้ จดุ ไฟเผาปา่ ในกรณที ป่ี ระชาชนในพน้ื ทม่ี ปี ญั หากบั หนว่ ยงานของรฐั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ปญั หาเรอื่ งทท่ี า� กนิ ในพน้ื ทป่ี า่ ปลกู หรอื ถกู จบั กมุ จากการกระทา� ผดิ ในเรอ่ื งปา่ ไม้ จงึ แกลง้ จดุ ไฟเผา พนื้ ทปี่ า่ อนั เปน็ สาเหตหุ นงึ่ ทนี่ า� ไปสกู่ ารเกดิ ไฟปา่ 4. ความประมาท เป็นสาเหตุที่เกิดจากการท่ีมีนักท่องเท่ียวเดินทางเข้าไปพักแรมในป่า แล้วได้ ก่อกองไฟแต่ลืมดับหรือดับไม่สนิท หรืออาจเกิดจากการท่ีนักท่องเที่ยวทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นป่า กเ็ ปน็ สาเหตหุ นงึ่ ทท่ี า� ใหเ้ กดิ ไฟปา่ ไดเ้ ชน่ กนั 5. การล่าสัตว์ โดยใช้วิธีการจุดไฟไล่ให้สัตว์หนีออกจากท่ีซ่อน หรือจุดไฟเพื่อให้แมลงบินหนีไฟ นกชนดิ ตา่ ง ๆ จะบนิ มากนิ แมลง แลว้ ดกั ยงิ นกอกี ทอดหนง่ึ หรอื จดุ ไฟเผาทงุ่ หญา้ เพอ่ื ใหห้ ญา้ ใหม่ 94 แตกยอด เพอื่ ลอ่ ใหส้ ตั วช์ นดิ ตา่ ง ๆ เชน่ กระทงิ กวาง กระตา่ ยมากนิ หญา้ แลว้ ดกั รอยงิ สตั วน์ นั้ ๆ นักเรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT ไฟปา กอใหเกดิ ผลกระทบตอระบบนเิ วศอยา งไรบาง อธบิ ายพรอ ม 1 ปฏกิ ริ ยิ าเคมใี นดินปาพรุ เกิดจากการทบั ถมของอินทรียวัตถุในระยะเวลา ยกตัวอยางประกอบพอสงั เขป นานจนเปนช้นั หนา มสี มบตั ิทางเคมีคลายคลงึ กนั คอื มีลักษณะเปน พื้นทพ่ี ตี วิเคราะหค ําตอบ ไฟปามีผลกระทบตอระบบนิเวศหลายประการ เน่ืองดวย มีอนิ ทรียค ารบอนเปนปริมาณสูง แตม ีไนโตรเจนที่เปน ประโยชนต อพืชนอย ปาไมเ ปน แหลงของความสมั พนั ธร ะหวา งสิ่งมชี ีวิตทั้งพืชและสตั วตา งๆ ดินเปนกรดจดั นอกจากน้ียงั พบแรก ํามะถันและสารประกอบแรไพไรท โดยในชวง ตัวอยางของผลกระทบเชน การสญู พันธขุ องพชื จากการถกู เผาไหม ท่อี ากาศรอนและแหง แลง หรือนํ้าถูกระบายออกจากผวิ ดิน ปาพรุจะมโี อกาสท่ีจะ การสูญพนั ธขุ องสตั วจากการถูกทําลายที่อยูอาศยั และแหลง อาหาร การเกิด เกดิ ไฟปาจากซากพชื ตางๆ ซ่ึงเปน เชือ้ เพลิงชั้นดี ไฟปาทเ่ี กิดข้ึนมลี ักษณะของไฟ มลพษิ ทางอากาศจากแกส และเถาถา นของการเผาไหม การขาดแหลงปาไมท่ี กง่ึ ผิวดินกึง่ ใตดนิ คอื ไหมในสองมติ ิ ไดแ ก ในแนวระนาบไปตามพน้ื ผวิ ปา และ เปนตน น้ําลําธาร และการสูญเสียความอดุ มสมบรู ณข องดินจากการทหี่ นา ดิน ในแนวดิง่ ลงไปในช้นั ดนิ พรุ การดบั ไฟในปาพรจุ ึงตอ งอาศยั วธิ กี ารตา งๆ รวมกัน ถกู เผาทําลาย เปน ตน 94 คมู อื ครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู สถานการณการเกดิ ไฟปา ครูใหน ักเรยี นกลุมเดมิ จดั ทาํ ใบความรเู ก่ียวกับ สถานการณก ารเกดิ ไฟปาทง้ั ในบรเิ วณตางๆ ของ ใน พ.ศ. 2543 ถือวาเปนปแรกท่ีมีการสํารวจสถิติไฟปาในภาพรวมของท้ังโลก โดยใช โลกและในประเทศไทย โดยอาจหาภาพทีเ่ กี่ยวของ การแปลภาพจากดาวเทยี ม จากรายงานช่ือ Global Burned Area Product 2000 พบวา จาก ประกอบ แลวครูสุมนักเรียนจากกลุม 2-4 คน การวเิ คราะหเ บอ้ื งตนมพี ้นื ทถ่ี กู ไฟไหมท วั่ โลกใน พ.ศ. 2543 สูงถงึ ประมาณ 2,193.75 ลา นไร ใหชว ยกนั นาํ เสนอใบความรู แลว ใหว เิ คราะหถงึ และนับวันสถานการณไฟปายิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เชน เม่ือเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 สาเหตขุ องสถานการณไ ฟปาท่ีมกี ารเกิดเพิ่ม เกดิ ไฟปา ครงั้ ใหญแ ละมคี วามรนุ แรงทส่ี ดุ ของรฐั นวิ เมก็ ซโิ ก สหรฐั อเมรกิ า ทาํ ใหม พี น้ื ทถ่ี กู ไฟไหม มากข้ึนและมีความรุนแรงมากข้ึนในปจจุบัน 567,500 ไร ไฟปา ครง้ั ใหญใ นประเทศอนิ โดนเี ซยี เมอื่ เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2558 สง ผลใหเ กดิ ปญ หา จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นอภิปรายรวมกันในประเดน็ หมอกควันในหลายประเทศ ทัง้ อนิ โดนเี ซีย มาเลเซยี สงิ คโปร และภาคใตของไทย ดงั กลา ว โดยสาเหตุสําคัญของการเกดิ ไฟปาท่ี รุนแรงและบอ ยครงั้ ในปจ จบุ ันก็คอื การเกิดภาวะ สถานการณไ ฟปาในประเทศไทย โลกรอน นกั เรยี นบันทึกขอ มูลทศ่ี กึ ษาลงในสมดุ สําหรับประเทศไทย การเกิดไฟไหมปาถือ เปนปจจัยสําคัญประการหนึ่งของการสูญเสียพ้ืนท่ีปา ระหวาง พ.ศ. 2547-2558 มีพื้นที่ปาถูกไฟไหมมากกวา 1 ลานไร สูงสุดใน พ.ศ. 2547 ซึง่ มถี งึ 2 แสนกวาไร ตอ มา จํานวนไดลดลงเปนอยา งมาก โดยใน พ.ศ. 2558 มีพ้นื ท่ีปา ถูกไฟไหม 60,453 ไร สาเหตุไฟไหมปานอกจากเกิดโดย ธรรมชาตแิ ลว สวนใหญเกิดจากการกระทาํ ของมนษุ ย พ้นื ทีป่ า ทีถ่ ูกไฟไหมในระหวา ง พ.ศ. 2547-2558 พ้ืนท่ีไฟไหมป า (ไร) 250,000 200,000 201,758 189,276 150,000 125,000 117,395 83,176 60,453 100,000 50,722 75,000 70,810 61,083 57,979 50,000 53,885 47,899 25,000 25,489 0 (พ.ศ.) 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 95 ที่มา : สว นควบคมุ ไฟปา กรมอทุ ยานแหง ชาติ สัตวป า และพันธพุ ชื . กจิ กรรมสรา งเสรมิ เกรด็ แนะครู ครูอาจมอบหมายใหน ักเรียนสบื คนขอ มลู การเกดิ ไฟปาในประเทศไทย ครูอาจอธิบายนกั เรยี นเพิม่ เติมถึงสาเหตุของการเกิดไฟปาในภาคเหนอื วา เกิด เชน การเกิดไฟปาทีป่ า พรคุ วนเคร็ง จังหวดั นครศรธี รรมราช พ.ศ. 2555 จากการทําไรเลื่อนลอย การเผาปาเพื่อหาของปา ลาสัตว กําจดั ซากพืชทีเ่ หลอื จาก จากแหลง การเรียนรทู ค่ี รเู สนอแนะ แลว จดั ทาํ เปน บันทกึ การสบื คน มีภาพ การทาํ การเกษตร รวมถึงการมีอากาศคอ นขางแหงแลง ในฤดรู อ น เนือ่ งจากท่ีต้งั อยู ประกอบที่สวยงาม หา งไกลจากทะเล โดยเฉพาะในปจ จุบันไฟปา จะมีความรุนแรงเพมิ่ ขึ้นทุกป สบื เนือ่ ง มาจากความผนั ผวนของสภาพภมู ิอากาศอนั เปนผลมาจากภาวะโลกรอ น กจิ กรรมทาทาย มุม IT ครอู าจมอบหมายใหนักเรยี นสืบคน และรวบรวมขอมลู สถติ ิการเกิดไฟปา ในประเทศไทย จากแหลงการเรียนรูท คี่ รูเสนอแนะ เพื่อวเิ คราะหแ นวโนม ศกึ ษาความรเู กยี่ วกบั การควบคุมไฟปา เพ่ิมเตมิ ไดที่ http://www.forest.go.th/ การเกดิ ไฟปา ในอนาคต รวมถึงวางแผนการจัดการพืน้ ทเี่ สี่ยงภัยไฟปา wildfire/index.php?option=com_content&view=article&id=377%3A2011-09- แลว จัดทาํ เปน รายงานการศึกษาวเิ คราะหซ งึ่ มภี าพหรือตารางประกอบ 20-02-m-s&catid=34%3Ageneralknowledge&lang=th เว็บไซตส วนควบคุมไฟปา สํานักปองกันรกั ษาปาและควบคมุ ไฟปา คูม อื ครู 95
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครใู หนกั เรยี นกลมุ เดมิ นาํ การอภิปรายเกย่ี วกับ ผลกระทบจากการเกิดไฟปา่ ผลกระทบทเี่ กดิ จากไฟปา ตอ สิ่งแวดลอมใน ดานตางๆ ไดแ ก บรรยากาศภาค ธรณภี าค ไฟป่าทา� ใหเ้ กดิ ผลกระทบในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั นี้ อุทกภาค และชีวภาค ตัวอยา งประเดน็ การ 1. ลกู ไม้ กล้าไม้เล็ก ๆ ในป่าถกู เผาทา� ลาย หมดโอกาสเติบโตเป็นไมใ้ หญ่ สว่ นตน้ ไมใ้ หญ่ อภิปราย เชน หยดุ การเจรญิ เติบโต เนื้อไม้เสื่อมคณุ ภาพลง เปน็ แผล เกดิ เชอ้ื โรคและแมลงเข้ากดั ท�าลายเนอ้ื ไม้ • บรรยากาศภาค : สาเหตแุ ละผลกระทบจาก สภาพปา่ ท่ีอดุ มสมบูรณเ์ ปลี่ยนสภาพเปน็ ทุง่ หญา้ ไปในทีส่ ดุ ไฟปา 2. หมอกควันท่ีเกิดจากไฟป่าก่อให้เกิดผลกระทบด้านสภาวะอากาศเป็นพิษ 1ท�าลาย • ความอุดมสมบรู ณของดินกบั การเกิดไฟปา สขุ ภาพของคน เกดิ ทศั นวสิ ยั ไมด่ ตี อ่ การบนิ บางครง้ั เครอื่ งบนิ ไมส่ ามารถขน้ึ บนิ หรอื ลงจอดได้ สง่ ผล • ไฟปา : วิกฤตการณจ ากความแหงแลงของ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายทางเศรษฐกจิ และสญู เสยี สภาพความสวยงามตามธรรมชาติ ไมเ่ หมาะสา� หรบั นาํ้ ทาและหยาดนํา้ ฟา ท่องเทย่ี วอีกต่อไป • การสูญพนั ธุของสตั วปาและพรรณพืช : 3. ไฟป่าเผาท�าลายสิ่งปกคลุมดิน ท�าให้หน้าดินเปิดโล่ง เมื่อฝนตกลงมาเม็ดฝนจะตก ผลกระทบตอสง่ิ มีชวี ติ แหง ระบบนเิ วศจาก กระทบกับหน้าดินโดยตรง ท�าให้เกิดการชะล้างพังทลายของดินได้ง่าย ท�าให้น�้าท่ีไหลบ่าไปตาม ไฟปา หน้าดินพัดพาหน้าดินอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วย และดินอัดตัวแน่นทึบข้ึน การซึมน�้าไม่ดี ท�าให้ การอมุ้ นา้� หรอื ดดู ซบั ความชนื้ ของดนิ ลดลง ไมส่ ามารถเกบ็ กกั นา�้ และธาตอุ าหารทจี่ า� เปน็ ตอ่ พชื ได้ 2. ครูใหน กั เรียนกลมุ เดิมสงตวั แทนออกมาเขียน 4. น�้าท่ีเต็มไปด้วยตะกอนและข้ีเถ้าจากผลของไฟป่าจะไหลลงสู่ล�าห้วยล�าธาร ท�าให้ อธบิ ายความรูเ ก่ยี วกับการระวังภัยจากไฟปา ลา� หว้ ยขนุ่ ขน้ มสี ภาพไมเ่ หมาะตอ่ การนา� มาใช้ เมอ่ื ดนิ ตะกอนไปทบั ถมในแมน่ า้� มากขนึ้ ทา� ใหล้ า� นา้� ลงในตารางบนกระดานหนาชน้ั เรียน ซึ่งครู ต้ืนเขิน จุน้�าได้น้อยลง เมื่อฝนตกลงมาน้�าจะเอ่อล้นท่วมสองฝั่งเกิดเป็นอุทกภัย สร้างความ กาํ หนดหัวขอท่สี าํ คญั ไวบ างสวน เชน การ เสียหายในด้านการเกษตร การเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ และสร้างความเสียหายเมื่อน�้าทะลัก ปอ งกันไฟปา การปฏบิ ัติงานดบั ไฟปา หนาท่ี เข้าท่วมบ้านเรือนท�าให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ฤดูแล้งพ้ืนดินท่ีมีแต่กรวดทรายและชั้นดิน ของหนวยงานทเ่ี ก่ียวขอ งภาครัฐและเอกชน แนน่ ทบึ จากผลของไฟปา่ ทา� ใหด้ นิ ไมส่ ามารถเกบ็ กกั นา�้ ในชว่ งฤดฝู นเอาไวไ้ ด้ ทา� ใหล้ า� นา�้ แหง้ ขอด และการมีสวนรว มของประชาชน แลวสนทนา เกดิ สภาวะแห้งแล้งขาดแคลนน้�าเพื่อการอปุ โภคและบริโภค และเพ่อื การเกษตร รวมกนั กับนกั เรียนเพือ่ ใหเกิดความรคู วาม เขาใจที่ถกู ตอง จากนั้นใหนักเรียนบนั ทกึ องค แนวทางปอ้ งกนั และระวังภยั จากไฟปา่ การจัดการและแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่าง ความรูเกย่ี วกบั ภัยพบิ ัตทิ างธรรมชาตติ างๆ ครบวงจร เริ่มต้ังแต่การป้องกันมิให้เกิดไฟป่า ทตี่ นไดศึกษาลงในสมุด การปอ้ งกนั ไฟปา สามารถทาำ ไดโ้ ดยการสรา้ งแนวปอ้ งกนั โดยศึกษาหาสาเหตุของการเกิดไฟป่าแล้ว ไฟปา เพือ่ ลดความรุนแรงเมอื่ เกิดไฟปา วางแผนป้องกันหรือก�าจัดต้นตอของสาเหตุ นัน้ แตไ่ ฟป่ายังมีโอกาสเกดิ ขึ้นได้เสมอ ดังน้นั จ�าเป็นต้องมีมาตรการอื่น ๆ รองรับตามมา ได้แก่ การเตรียมการดบั ไฟปา่ การตรวจหาไฟ การดบั ไฟปา่ และการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน 96 เกร็ดแนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT ขอ ใดแสดงความสัมพนั ธของสิ่งแวดลอ มในปากบั ผลกระทบทไี่ ดร บั จาก ครูอาจสนทนารวมกนั กบั นักเรยี นถึงผลกระทบของการเกดิ ไฟปา แลว ให การเกดิ ไฟปาไดอ ยางถูกตอง นักเรียนชวยกนั สรุปผลกระทบออกเปน ดานตางๆ ประกอบดว ย ผลกระทบตอ 1. ตนไม - การยนื ตน ตาย เน้อื ไมถ ูกทาํ ลาย สงั คมพืช ผลกระทบตอ สัตวปา ผลกระทบตอสภาวะอากาศของโลก ผลกระทบตอ 2. ลําธาร - การแหงเหือดดว ยความรอ น ดนิ ผลกระทบตอ น้าํ และผลกระทบตอ การนนั ทนาการ จากนั้นชว ยกันนาํ เสนอผล 3. อากาศ - เมฆฝนกอ ตวั จากการระเหยของนา้ํ ในปา การสรุปผลกระทบของไฟปาในรปู แบบตางๆ ทน่ี กั เรยี นมีความถนัดและความสนใจ 4. ดิน - โครงสรางของชน้ั หนิ ฐานดนิ เกิดการเปลย่ี นแปลง เชน จดั ปายนิเทศ จัดนทิ รรศการ หรอื จัดทาํ เว็บไซต วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. ตน ไม - การยืนตนตาย เนื้อไมถูกทําลาย รวมถึงกลา ไม ลกู ไม ก็ถูกทาํ ลายดว ยเชนกนั ทําใหอาจเกดิ การสูญพนั ธขุ อง นกั เรยี นควรรู พืชพรรณไมชนิดตา งๆ ได 1 สภาวะอากาศเปนพษิ ในปจ จุบนั สภาวะอากาศเปน พิษจากไฟปาทวีความรุนแรง ย่งิ ขึ้น ดงั เชน ในพ.ศ. 2553 มลภาวะในอากาศมคี าเกนิ มาตรฐานมากกวา 4 เทา และเปน คาสูงสุดในรอบ 20 ป นบั ตั้งแตเรมิ่ มกี ารติดตามตรวจสอบคณุ ภาพอากาศใน ประเทศไทย 96 คูม อื ครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ขยายความเขา ใจ Expand ครูแบง นกั เรียนออกเปน 8 กลมุ โดยให นักเรียนนบั หมายเลข 1-8 ตามตําแหนง ที่นง่ั การปฏบิ ตั งิ านควบคมุ ไฟป่า มี 2 กิจกรรมหลกั ดงั นี้ เพื่อใหนักเรียนในแตละกลุม ชวยกนั ศึกษาคนควา การป้องกันไฟปา่ การปฏิบัติงานดบั ไฟปา่ เพมิ่ เตมิ เกีย่ วกบั ภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติที่ครกู ําหนด ดงั นี้ • กลมุ หมายเลข 1 ศกึ ษาเร่อื งแผน ดินไหว การปอ้ งกนั ไฟปา่ สามารถดา� เนนิ การได้ ดงั น้ี ในปจั จบุ นั มหี นว่ ยปฏบิ ตั งิ านภาคสนามของ • กลมุ หมายเลข 2 ศึกษาเรอ่ื งภเู ขาไฟปะทุ 1. การรณรงคป์ อ้ งกนั ไฟปา่ ไฟปา่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ท่ีท�า 2 • กลุมหมายเลข 3 ศกึ ษาเรอ่ื งสนึ ามิ ในหลายประเทศ สว่ นใหญม่ สี าเหตมุ าจาก หนา้ ทใ่ี นการดบั ไฟปา่ โดยมสี ถานคี วบคมุ ไฟปา่ • กลมุ หมายเลข 4 ศกึ ษาเรอ่ื งอุทกภยั การกระทา� ของมนษุ ย์ ดงั นนั้ แนวทาง อยู่ในทุกจังหวดั • กลมุ หมายเลข 5 ศึกษาเร่อื งแผนดินถลม การแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพที่สุด ในส่วนของประชาชนท่ีอาศัยอยู่บริเวณ • กลุมหมายเลข 6 ศกึ ษาเรื่องการกัดเซาะ คอื การปอ้ งกนั ไมใ่ หป้ ระชาชนจดุ ไฟเผา พื้นที่ป่า มีส่วนส�าคัญในการให้ความร่วมมือ ปา่ ทง้ั นอี้ าจทา� ไดโ้ ดยการประชาสมั พนั ธ์ ในการปอ้ งกันไฟป่า ซึ่งสามารถท�าได้ ดงั น้ี ชายฝง ช้ีแนะให้ประชาชนตระหนักถึงความ 1. เมื่อท�าการเผาไร่ในพ้ืนที่ควรควบคุม สา� คญั ของทรพั ยากรปา่ ไม้ ความจา� เปน็ ดูแลไฟไม่ให้ลุกลามเข้าไปในป่า และ • กลุมหมายเลข 7 ศึกษาเรื่องวาตภยั ทจ่ี ะตอ้ งดแู ลรกั ษา ตลอดจนผลเสยี ทจี่ ะ ควรท�าแนวป้องกันไฟป่าก่อนเผาไร่ เกดิ ขนึ้ หากมกี ารบกุ รกุ ทา� ลายหรอื เผาปา่ ทกุ คร้ัง • กลมุ หมายเลข 8 ศกึ ษาเรือ่ งไฟปา เพื่อให้ประชาชนเกิดทัศนคติที่ถูกต้อง 2. ไมจ่ ดุ ไฟเผาปา่ เพอื่ ลา่ สตั ว์ และไมจ่ ดุ ไฟ โดยครูแนะนาํ แหลงการเรียนรอู น่ื นอกจาก เลิกจุดไฟเผาป่า และหันมาให้ความ เล่นดว้ ยความสนุกหรอื คกึ คะนอง หนงั สือเรยี น เชน หนังสอื หรอื เอกสารของ รว่ มมอื ปอ้ งกนั ไฟปา่ การรณรงคป์ อ้ งกนั 3. ระมัดระวังการใช้ไฟ เม่ืออยู่ในป่าหรือ หนวยงานภาครัฐทีม่ หี นา ท่เี กีย่ วขอ ง ตลอดจน ไฟป่าสามารถด�าเนินการได้ในรูปแบบ พกั แรมในปา่ หากมคี วามจา� เปน็ ตอ้ งใช้ เวบ็ ไซตต า งๆ ของไทยและตางประเทศ สาํ หรับ ตา่ ง ๆ เชน่ การประชาสมั พนั ธเ์ คลอ่ื นท่ี ไฟ ควรดบั ไฟให้หมดก่อนออกจากป่า นกั เรยี นทม่ี ีทกั ษะทางภาษาตางประเทศ จากนั้น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน 4. เม่ือพบเห็นไฟไหม้ป่าหรือสวนป่า ให้ การตดิ ตงั้ ปา้ ยประชาสมั พนั ธ์ การแจกจา่ ย ชว่ ยกนั ดบั ไฟปา่ หรอื แจง้ หนว่ ยราชการ ชว ยกนั จัดทาํ ปา ยนิเทศเผยแพรความรูภัยพบิ ัติทาง ส่ิงตีพิมพ์และเอกสารเผยแพร่ การจัด ที่อยบู่ ริเวณใกล้เคยี ง ธรรมชาตทิ ่ีกลมุ ตนไดรบั มอบหมาย โดยครูกาํ หนด นิทรรศการ การให้การศึกษา การจัด องคประกอบทสี่ ําคัญของปา ยนิเทศ คือ ความรภู ัย ฝึกอบรม ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ 5. มีส่วนร่วมด้านการประชาสัมพันธ์ ชี้ พิบัตทิ างธรรมชาตใิ นดา นสาเหตุ ลักษณะของภยั ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรม ให้เห็นความส�าคัญของป่าไม้และความ ผลกระทบ การปอ งกันและแกไ ข การระวงั ภยั และ เสียหายท่ีเกิดจากไฟป่าและโทษท่ีจะ ดา้ นปา่ ไม้ เปน็ ตน้ ไดร้ บั หรอื เปน็ อาสาสมคั รปอ้ งกนั ไฟปา่ ตัวอยางของการเกิดภยั พิบตั ทิ างธรรมชาตินนั้ ทง้ั 6. ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ในการ ในประเทศไทยและภมู ิภาคอืน่ ของโลก รวมถงึ ภาพ 2. การจัด1การเชื้อเพลิง โดยการท�าแนว ประกอบทีช่ ว ยใหเ กิดความรูความเขา ใจไดดยี งิ่ ขึน้ สอดสอ่ งดแู ลไมใ่ หเ้ กดิ ไฟไหมป้ า่ รวมทง้ั กันไฟ และก�าจัดเชื้อเพลิงในพ้ืนท่ีท่ี ช่วยจับกุมผู้ท่ีฝ่าฝืนมาลงโทษตาม ลอ่ แหลมตอ่ การเกดิ ไฟปา่ เชน่ มวี ชั พชื หนาแน่น พื้นท่ีป่าสองข้างถนน ซึ่งมี กฎหมาย เพ่ือมิให้เป็นเย่ียงอย่างแก่ โอกาสเกิดไฟป่าได้ง่าย เพ่ือลดโอกาส บุคคลอืน่ ต่อไป ตรวจสอบผล Evaluate การเกดิ ไฟปา่ หรอื หากเกดิ ไฟปา่ ขนึ้ กจ็ ะ ครูและนกั เรยี นชวยกันตรวจปายนเิ ทศภัยพิบัติ มคี วามรนุ แรงนอ้ ย สามารถควบคมุ งา่ ย ทางธรรมชาติของกลมุ ตา ง ๆ โดยพจิ ารณาจาก 97 องคประกอบทสี่ ําคัญของปายนิเทศทีค่ รูกําหนด แลวอภปิ รายรวมกันถึงแนวทางในการพฒั นาหรอื ปรบั ปรุงการจัดปายนเิ ทศในกิจกรรมการเรียนรู กจิ กรรมสรา งเสรมิ ครงั้ ตอ ไป นักเรยี นควรรู ครูอาจมอบหมายใหน กั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ถึงการมสี ว นรวมในการ 1 การทาํ แนวกนั ไฟ (Firebreaks) หมายถงึ แนวกดี ขวางทมี่ นษุ ยสรา งขน้ึ เพือ่ ปองกันและระวงั ภัยจากไฟปาทเ่ี หมาะสมกบั สถานภาพและบทบาทหนา ที่ หยุดยง้ั ไฟปา หรอื เพ่อื แนวตรวจการไฟ หรอื เปน แนวตั้งรบั ในการดบั ไฟปา โดย แลว นํามาอภิปรายรว มกันในชนั้ เรียน จากนน้ั บันทกึ ผลการอภิปรายลงใน ทั่วไปคือเปน แนวทม่ี กี ารกาํ จดั เชื้อเพลงิ ทจ่ี ะทาํ ใหเ กดิ ไฟปาออกไป โดยอาจจะกาํ จัด สมุด ออกไปจนถึงชัน้ ดนิ แท หรอื เฉพาะเชื้อเพลงิ ท่ตี ิดไฟงาย เชน พมุ ไม ตนหญา แนว กนั ไฟนีแ้ ตกตางกับแนวดับไฟ (Fire line) ตรงท่ีแนวกนั ไฟจะทําไวลว งหนา กอนการ กจิ กรรมทาทาย เกดิ ไฟปา สว นแนวดับไฟจะทําในขณะทก่ี ําลังเกดิ ไฟปาเพ่ือการดับไฟและปองกนั มิใหไฟลุกลามออกเปนวงกวา ง ครอู าจมอบหมายใหน กั เรยี นศึกษาคน ควาเพม่ิ เตมิ เกีย่ วกับการมสี วนรวม 2 สถานีควบคุมไฟปา อยใู นการควบคุมของสวนควบคมุ ไฟปา ในภาคตา งๆ ในการปอ งกนั และระวังภัยจากไฟปา ทเ่ี หมาะสมกับสถานภาพและบทบาท เชน สวนควบคุมไฟปาท่ี 2 ตั้งอยใู นสวนกลาง มีหนาท่ีดแู ลสถานคี วบคมุ ไฟปา หนาที่ นอกเหนือจากทเ่ี สนอแนะไวในหนงั สือเรยี น แลวนํามาอภปิ รายรว ม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทง้ั 19 สถานี โดยปฏิบตั ิงานดานสง เสริมและพฒั นาการ กนั ในช้ันเรยี น จากน้นั บันทึกผลการอภปิ รายลงในสมดุ ควบคุมไฟปา และปฏบิ ัตกิ ารปอ งกันและควบคุมไฟปา เพ่ือแกป ญหาไฟปาในพืน้ ที่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ผา นทางศูนยค วบคมุ ไฟปายอ ย เชน ศนู ยค วบคมุ ไฟปา ที่ 21 นครราชสีมา ศนู ยควบคมุ ไฟปาท่ี 22 อุบลราชธานี เปน ตน คูม ือครู 97
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain กระตนุ ความสนใจ Engage ครูนาํ วดี ทิ ัศนหรือภาพที่แสดงถึงการเปลีย่ นแปลง 2. การเปลยี่ นแปลงทางธรรมชาตใิ นโลก ทางธรรมชาติในโลกอันมสี าเหตสุ าํ คัญจากการดาํ เนนิ กิจกรรมตา ง ๆ ของมนุษย เชน ภาวะโลกรอน ปจั จบุ ันได้เกิดการเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก ท้งั ในส่วนท่เี กดิ จากภายในเปลือกโลก ภยั แลง แลวตง้ั คาํ ถามที่มลี กั ษณะกระตุนความสนใจ การเปล่ียนแปลงบริเวณพ้ืนผิวโลก และการเปล่ียนแปลงในบรรยากาศของโลกอันมีผลกระทบ ของนกั เรียน เชน โดยตรงและโดยอ้อมต่อมนุษย์ ลักษณะการเปลี่ยนแปลงมีต้ังแต่การเกิดข้ึนอย่างช้า ๆ ไปจนถึง การเกิดอยา่ งฉับพลนั และรุนแรง ซึง่ สง่ ผลให้เกิดความเสยี หายต่อชีวิตและทรพั ย์สนิ จ�านวนมาก • จากการเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาตดิ งั กลา ว เราสามารถแกไ ขไดหรือไม อยางไร ภาวะโลกรอ้ น (Global Warming) (แนวตอบ การเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติทเี่ กดิ ขึน้ ในโลกปจจบุ นั เราทกุ คนสามารถมสี วนแกไ ข ภาวะทบ่ี รรยากาศของโลกมอี ณุ หภมู โิ ดยเฉลยี่ สงู ขน้ึ ซง่ึ เปน็ สาเหตทุ า� ใหภ้ มู อิ ากาศของโลก ปญ หาไดไ มมากกน็ อ ย โดยเริม่ ตน จากการปรบั เปลย่ี นแปลง ภาวะโลกรอ้ นอาจนา� ไปสกู่ ารเปลย่ี นแปลงของปรมิ าณนา้� ฝน ระดบั นา�้ ทะเล และสง่ ผลกระทบ เปลีย่ นพฤตกิ รรมการดาํ เนนิ ชวี ิต ทั้งน้หี นวยงาน ตอ่ พชื สตั ว์ และมนษุ ย์ ภาครัฐและเอกชนควรมบี ทบาทสําคัญอยางยง่ิ ในการวางแผนการจดั การแกไขปญ หา) สาเหตุการเกิดภาวะโลกรอ้ น สาํ รวจคน หา Explore ปัจจัยสา� คญั ที่ท�าให้อุณหภมู ิของโลกสูงขึ้น คอื “ปรากฏการณ์เรือนกระจก” (greenhouse effect) เกิดจากการท่ีมนุษย์ได้ปล่อยแก๊สเรือนกระจกออกสู่บรรยากาศในปริมาณมาก ครูใหนักเรยี นศกึ ษาเกีย่ วกับการเปลีย่ นแปลง ได้แก่ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สมีเทน แฟกล๊สอู ไอนโรตคราัสรอบ์ ออกนไ1ซจาดก์ กแาลระทสา� ากรจิ ปกรระรกมอตบา่ งคลๆอเโชรน่ - ทางธรรมชาตใิ นสว นของภาวะโลกรอ น การ การทา� การเกษตร อุตสาหกรรม การคมนาคม เปล่ียนแปลงของภมู ิอากาศ และภยั แลง ในประเดน็ การตัดไม้ท�าลายป่า เป็นต้น แก๊สเรือนกระจก ของสาเหตุปจจยั สถานการณการเปล่ียนแปลง ผลกระทบทม่ี ตี อ โลกและประเทศไทย ตลอดจน จะกกั เกบ็ ความรอ้ นทแ่ี ผอ่ อกมาจากดวงอาทติ ย์ แนวทางการระวงั ภัย จากหนงั สอื เรยี น หนา 98- 105 แหลงการเรยี นรอู ่ืน เชน หนังสอื ในหองสมุด การเผาไหมใ้ นโรงไฟฟา้ นวิ เคลยี ร์ ประเทศเยอรมนี สง่ ผล และสะทอ้ นคลน่ื ความรอ้ นมาสพู่ น้ื โลก จนทา� ให้ เวบ็ ไซตของหนวยงานที่เก่ยี วของทง้ั ในประเทศ ใหม้ แี กส๊ คารบ์ อนไดออกไซดอ์ อกสบู่ รรยากาศ เกดิ ภาวะโลกร้อนข้ึน และตา งประเทศ รวมถึงขาวและบทความจาก สถานการณ์ภาวะโลกร้อน หนังสือพมิ พ รายการสารคดที างโทรทศั น วารสาร หรอื นิตยสารดานส่ิงแวดลอม หลกั ฐานทแ่ี สดงให้เหน็ ว่าโลกร้อนข้ึน คือ ปริมาณนา�้ แขง็ และหมิ ะในปจั จบุ ันบรเิ วณข้ัวโลก และบนเทือกเขาสงู เชน่ เทอื กเขาหมิ าลัยในทวปี เอเชีย เทือกเขาคลิ ิมนั จาโรในทวปี แอฟริกา มี อธบิ ายความรู Explain ปรมิ าณนา้� แขง็ และหมิ ะลดลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เมอื่ เทยี บกบั อดตี พนื้ ทชี่ ายฝง่ั ทะเลบางบรเิ วณของโลก เร่ิมประสบปัญหาน้�าท่วมอันเกิดจากการหนุนของน�้าทะเล เช่น พื้นท่ีชายฝั่งตอนเหนือของทวีป ครสู นทนากบั นักเรียนถงึ การเปล่ยี นแปลง ยโุ รป พน้ื ทบี่ างหมเู่ กาะในมหาสมทุ รแปซฟิ กิ นกั วทิ ยาศาสตรค์ าดการณว์ า่ ภายใน 100 ปขี า้ งหนา้ ทางธรรมชาติ ท้ังในสวนของภาวะโลกรอ น ระดบั น้�าทะเลจะสูงขึ้นจากในปจั จุบัน 0.3-1.1 เมตร ดงั นัน้ พืน้ ท่หี ลายบริเวณของโลกจะต้องจม การเปล่ียนแปลงภมู อิ ากาศและภยั แลง ทีน่ ักเรยี น 98 อยใู่ ต้น้�า ประชากรไม่น้อยกวา่ 630 ลา้ นคนจะไดร้ ับผลกระทบ ไดศ ึกษามา แลว ใหบ นั ทึกสาระสาํ คัญและจัดทาํ ผังความคดิ เกีย่ วกบั การเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาติ ดังกลา ว เพือ่ เตรยี มการอธบิ ายความรตู อไป ขอ สอบ O-NET นักเรยี นควรรู ขอ สอบป ’53 ออกเกีย่ วกับวกิ ฤตการณดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ 1 สารประกอบคลอโรฟลูออโรคารบอน (CFCs) เปนกลุมของสารเคมีสังเคราะห สิ่งแวดลอ ม ทม่ี คี ลอรนี ผสมอยซู ง่ึ ใชท างอตุ สาหกรรมหลายอยา ง ใชกบั ตเู ยน็ (เปนตวั ทําละลาย ขอใดไมใชวกิ ฤตการณด านทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอม ท่ีใชทําความสะอาด) และถังดับไฟ เปนสารทท่ี ําลายช้นั โอโซน (ozone layer) 1. การเกิดแผนดนิ ไหว ของโลก และเปนสาเหตสุ ําคญั ของการเกิดภาวะโลกรอน ในปจ จุบนั จึงมีการ 2. ความตนื้ เขนิ ของแหลงน้ํา รณรงคไมใหน าํ สารนี้มาใชใ นอุตสาหกรรม 3. ความจํากดั ของจํานวนทีด่ ิน 4. การประกาศเขตปาเสือ่ มโทรม วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 4. การประกาศเขตปาเสือ่ มโทรม เปนแนวทางการแกไ ขปญ หาวกิ ฤตการณดานทรัพยากรปาไมท ีภ่ าครัฐ มมุ IT สามารถใชเพอ่ื จัดการพนื้ ท่ีได โดยอาจฟน ฟูสภาพปาใหก ลบั มาอุดมสมบูรณ ศกึ ษาคนควา ความรูเกย่ี วกบั ปจ จยั การเกิดและผลกระทบจากภาวะโลกรอ น ดังเดิมหรอื จัดสรรทดี่ ินเพ่อื การใชป ระโยชนท่ีเหมาะสมตอ ไป รวมถึงแนวทางการมสี วนรวมในการแกไ ขปญ หาภาวะโลกรอนเพ่ิมเติมไดท ่ี http://www.greenpeace.org/seasia/th/campaigns/climate-and-energy/ เว็บไซตก ลุม กรีนพีซ ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) 98 คมู อื ครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู สถานการณ์ภาวะโลกร้อนตอ่ ประเทศไทย 1. ครูตง้ั ประเด็นอภิปรายเก่ียวกบั ภาวะโลกรอ น แลว ใหน กั เรียนอภิปรายรวมกันเพอ่ื อธิบาย ส�าหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน คือ อุณหภูมิของโลกท่ีสูงขึ้น ความรู เชน สง่ ผลใหเ้ กดิ ภยั พบิ ตั จิ ากนา�้ ทว่ ม ภยั แลง้ ดนิ ถลม่ บอ่ ยครงั้ และทวคี วามรนุ แรงมากขนึ้ นอกจากนี้ • ภาวะโลกรอ น : มนุษยผ ูสรา งและรบั ยังท�าให้ฤดูร้อนขยายเวลายาวนานข้ึน ในขณะที่ฤดูหนาวส้ันลง พ้ืนที่ ทางภาคใต้จะมีฝนตกชุก ผลกระทบ และเกิดอุทกภัยบ่อยขึ้น ในขณะท่ีภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องเผชิญกับความ • ความเปลย่ี นแปลงของปรากฏการณเ รือน แห้งแลง้ มากขนึ้ ปัญหาดังกลา่ วนอกจากสง่ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ ของประชาชนท่ัวไปแลว้ ยังท�าให้ กระจกกับความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ผลผลิตทางการเกษตรลดลงอกี ด้วย ซงึ่ ส่งผลตอ่ เศรษฐกิจและความม่ันคงของประเทศ โลก • โลกรอน มหนั ตภัยของมนษุ ยชาติ ผลกระทบจากการเกิดภาวะโลกรอ้ น 2. ครูใหน กั เรยี นเลน เกมตอบคาํ ถามเกย่ี วกับ ภาวะโลกรอ้ นส่งผลกระทบต่อส่งิ มชี ีวิตและสงิ่ แวดล้อม ดังนี้ ภาวะโลกรอน โดยอธิบายกติกาใหนักเรยี น 1. เกิดพายหุ มนุ บ่อยขึ้น และมคี วามรนุ แรงมากขน้ึ เขาใจ ไดแก การเลน เกมตอบคาํ ถามภาวะ 2. เกดิ ปญั หาฝนแลง้ และไฟปา่ อณุ หภมู ิ โลกรอ น เมอื่ ครอู า นคําถามจบใหน ักเรยี นทจี่ ะ ของอากาศท่ีสูงขึ้น ท�าให้ปริมาณน�้าและความ ตอบคาํ ถามยกมือเพอื่ ไดรับโอกาสในการตอบ ชมุ่ ชนื้ ระเหยไปอยา่ งรวดเรว็ นอกจากน้ี ฝนแลง้ คาํ ถาม ผูทตี่ อบคําถามถกู ตองจะไดร ับ ยงั ทา� ให้เกดิ ไฟปา่ ข้นึ ได้ง่าย 1 คะแนน สว นผทู ี่ตอบไมถกู ตอ งจะถูกหัก 3. ท�าให้ระดับน�้าทะเลสูงขึ้น เป็นผล 1 คะแนน นกั เรยี นทมี่ ีคะแนนรวมมากทส่ี ุด จากอุณหภูมิน�้าสูงข้ึน และธารน�้าแข็งที่ข้ัวโลก จะเปนผูชนะในการเลนเกมตอบคาํ ถามนี้ ละลายเรว็ กวา่ ปกติ การละลายของธารนา้� แขง็ จะ ตัวอยา งขอคําถามเชน ทา� ให้ระดบั น�้าทะเลสูงขึน้ ท่วมพืน้ ทชี่ ายฝั่งทะเล • ภาวะโลกรอ นเปนสาเหตขุ องการ 4. ปัญหาชายฝั่งทะเลถูกกัดเซาะ จาก เปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติในหลายดาน การท่ีระดับน�้าทะเลสูงข้ึน ท�าให้ปริมาณน�้าไป ภาวะโลกร้อนส่งผลให้นำ้าแข็งขั้วโลกละลาย ทำาให้ระดับ ยกตวั อยางมา 3 ดา น กดั เซาะชายฝง่ั ทะเลใหพ้ งั ทลายมากขน้ึ กวา่ เดมิ นำ้าทะเลสงู ข้นึ (แนวตอบ ภาวะโลกรอนสง ผลใหเกิดการ เปล่ียนแปลงทางธรรมชาตใิ นหลายดา น แนวทางแกไ้ ขปญั หาภาวะโลกร้อน 99 จึงอาจกลาวไดวาเปน สาเหตุของภัยพบิ ัติ ทางธรรมชาติตา ง ๆ ท่เี กดิ ขน้ึ อยางบอย วิธีช่วยลดโลกรอ้ นมีหลากหลายวิธี ดงั นี้ คร้ังและรุนแรงกวาในอดีต การเปลยี่ นแปลง 1. ลดปรมิ าณการใชถ้ งุ พลาสตกิ เพราะถงุ พลาสตกิ ไมส่ ามารถยอ่ ยสลายเองไดต้ ามธรรมชาติ ทางธรรมชาติอนั เกิดจากภาวะโลกรอน เชน ต้องกา� จัดโดยการเผาในเตาเผาขยะ ซึง่ ท�าใหม้ แี ก๊สเรอื นกระจกเพ่ิมข้นึ ในบรรยากาศ การกลายเปนทะเลทรายของพืน้ ทีบ่ รเิ วณ 2. แยกขยะอนิ ทรยี ์ เชน่ เศษผัก เศษอาหาร ออกจากขยะอนื่ ๆ ทสี่ ามารถนา� ไปใช้ให้เกดิ ตา งๆ ในโลก การแหงเหอื ดของแหลง นาํ้ ประโยชนใ์ หมไ่ ด้ เปน็ การป้องกันการปล่อยแกส๊ มีเทนสู่บรรยากาศ จดื ตามธรรมชาติทั้งทะเลสาบและแมนา้ํ 3. ใชร้ ถสว่ นตวั ใหน้ อ้ ยลง หนั ไปใชจ้ กั รยาน ใชบ้ รกิ ารรถโดยสารประจา� ทาง หรอื ใชก้ ารเดนิ และการสูญพันธุของสตั วป าและพืชพรรณ เมอ่ื ต้องไปท�ากิจกรรมหรือธรุ ะใกล้บา้ น ธรรมชาติท่ีไมส ามารถปรับตวั ไดท ันกบั 4. ประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการปิดโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และ สภาพอากาศท่เี ปล่ยี นแปลงไปอยา งมาก) เครือ่ งใช้ไฟฟ้าอ่นื ๆ เม่อื ไม่ได้ใชง้ าน 5. สนบั สนนุ สนิ คา้ และผลติ ผลจากเกษตรกรในทอ้ งถน่ิ ชว่ ยใหเ้ กษตรกรในพนื้ ทไ่ี มต่ อ้ งขนสง่ ผลิตผลให้พอ่ คา้ คนกลางน�าไปขายในพ้ืนที่ไกล ๆ ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกรด็ แนะครู จากการศกึ ษาสถานการณก ารเกดิ ภาวะโลกรอน การเขาทว มพนื้ ที่หรอื ครคู วรนําวีดิทัศนห รอื บทความทมี่ ภี าพประกอบเก่ยี วกบั การเกดิ และผลกระทบ การกดั เซาะของน้ําทะเลตอ พืน้ ที่ชายฝง ในประเทศไทยจะมคี วามรุนแรงมาก ของภาวะโลกรอนมาใหนกั เรยี นพจิ ารณารว มกัน แลว ต้ังคําถามถึงการเปล่ยี นแปลง ทส่ี ดุ ในภาคใด ทางธรรมชาติตา งๆ อันเปน ผลสบื เนื่องจากภาวะโลกรอน เพือ่ ใหน กั เรยี นเกิดความ เขาใจถึงภาวะโลกรอ นอนั เปนสาเหตุของการเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติในหลาย 1. ภาคใต ดาน อาทิ การแหงเหือดของทะเลสาบขนาดใหญจ ากความรอน การกัดเซาะชายฝง 2. ภาคเหนือ จากการเพมิ่ ของระดบั นา้ํ ทะเล การสูญพันธขุ องพชื และสตั วปา ทไี่ มสามารถปรบั ตวั 3. ภาคกลาง ไดทนั กบั สภาพอากาศ ตลอดจนการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตทิ ีจ่ ะไดศ กึ ษาตอไป 4. ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 3. ภาคกลาง โดยเฉพาะพน้ื ท่ีภาคกลางตอน ลางบริเวณดนิ ดอนสามเหลีย่ มปากแมน ํ้าเจาพระยา เนือ่ งจากเปน ท่ีราบตา่ํ นํ้าทวมถึง ซงึ่ ในภาวะปกติเมอื่ ถึงฤดูฝนหรือฤดูทีน่ ํ้าหลากก็จะเกิดน้ําทว ม พนื้ ที่อยเู ปน ประจํา แตม ีลกั ษณะไมถาวร อยางไรกต็ ามการเขาทวมพน้ื ท่ี และการกดั เซาะชายฝงกเ็ ริ่มเกดิ ขึ้นในบรเิ วณชายฝง เขตบางขนุ เทยี นของ กรุงเทพฯ ซึ่งอาจทวีความรนุ แรงมากยงิ่ ขน้ึ ในอนาคต คูม ือครู 99
กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูตัง้ คาํ ถามใหนักเรียนเลน เกมตอบคาํ ถาม การเปลี่ยนแปลงภมู ิอากาÈ (Climate Change) ตัวอยา งขอ คําถามเชน • นกั เรียนจะมีสวนรว มในการแกไขภาวะโลกรอน การทอี่ ณุ หภมู ขิ องโลกคอ่ ยๆ เปลยี่ นแปลงไปทลี ะนอ้ ย อนั เนอ่ื งมาจาก 2 สาเหตสุ า� คญั ไดแ้ ก่ หรือการเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศไดอยางไรบาง สาเหตุจากธรรมชาติ และสาเหตจุ ากมนษุ ย์ในการเพิ่มแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ยกตัวอยางมา 3 ขอ (แนวตอบ นกั เรียนในฐานะประชากรโลก สาเหตุการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศ คนหน่งึ สามารถมสี ว นรว มในการแกไขภาวะ โลกรอนไดในการปรบั เปลย่ี นการดาํ เนิน การเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศเกดิ จากสาเหตสุ �าคญั ดังน้ี ชวี ิตประจําวนั เชน การลดการบรโิ ภค เพ่อื ที่ภาคผลิตจะไดลดการผลิตทีต่ อ งใช สาเหตุจากธรรมชาติ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ ปนวัตถุดบิ และเช้ือเพลิง ตา งๆ การลดการใชพลังงาน โดยการเดินทาง สาเหตจุ ากธรรมชาตทิ มี่ ผี ลทา� ใหอ้ ณุ หภมู ขิ องโลกสงู ขนึ้ คอื ปจั จยั ทางดาราศาสตร์ เชน่ ดวงอาทติ ย์ ไปสถานท่ีตา งๆ ในระยะทางใกลด วยการ มจี ดุ ดบั มากขนึ้ และแผร่ งั สเี พม่ิ ขน้ึ สง่ ผลใหอ้ ณุ หภมู สิ งู ขน้ึ ดว้ ยการโคจรของโลกรอบดวงอาทติ ย์ ทา� ให้ เดนิ เทา การปด ไฟ ถอดปลก๊ั เครอ่ื งใชไฟฟา พลงั งานทโ่ี ลกไดร้ บั จากดวงอาทติ ยใ์ นแตล่ ะฤดแู ละแตล่ ะละตจิ ดู เปลยี่ นแปลงไปอยา่ งมาก และปดนํา้ ประปาเม่ือไมใ ชงาน รวมถึง การคัดแยกขยะ เพอ่ื ใหผทู ีม่ สี ว นเก่ยี วขอ ง นอกจากนี้ ปจั จยั ทางธรณวี ทิ ยากม็ ผี ลใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศไดเ้ ชน่ กนั เชน่ การปะทุ สามารถจดั การขยะไดอยา งมปี ระสิทธภิ าพ ของภเู ขาไฟทที่ า� ใหม้ ฝี นุ่ ละอองในบรรยากาศเพมิ่ ขน้ึ ซงึ่ ฝนุ่ ละอองเหลา่ นอี้ าจคงอยใู่ นบรรยากาศไดน้ านถงึ ท้ังการนาํ กลบั มาใชใ หม การดัดแปลง 3 ปี จงึ สง่ ผลใหอ้ ณุ หภมู โิ ลกลดลง รวมถงึ การทําลายอยา งถูกตองเหมาะสม) สาเหตจุ ากมนุษย์ในการเพิม่ แกส เรือนกระจกในชนั้ บรรยากาศ 2. ครูกลา วชมเชย หรอื ใหรางวลั แกน กั เรยี นทีช่ นะ ในเกมตอบคําถามภาวะโลกรอ น แลว สนทนา การเพิ่มความเข้มข้นของแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดปรากฏการณเ์ รือนกระจก กบั นักเรียนถึงแนวทางในการศกึ ษาความรกู าร จนท�าใหอ้ ณุ หภมู ิของโลกสูงขน้ึ โดยจากการทน่ี ักวิทยาศาสตรไ์ ด้ศกึ ษาฟองอากาศในแกนน้า� แข็ง เพื่อ เปลยี่ นแปลงทางธรรมชาตติ อ ไป ศกึ ษาสภาพภมู อิ ากาศในอดตี เมอื่ 400,000 ปี ทผ่ี า่ นมา ทา� ใหพ้ บความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งอณุ หภมู แิ ละปรมิ าณ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ กล่าวคือ เม่ือมีปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ 3. ครสู ุมนักเรยี น 2 คน ใหออกมาอธิบายปจจัย เพิ่มขึ้น อุณหภมู ขิ องโลกกจ็ ะเพิม่ สูงข้ึนตามไปดว้ ย ท่ีทาํ ใหเกดิ สภาพอากาศแปรปรวนท่หี นา ชน้ั เรียน โดยครูกําหนดหนา ท่ีในการอธบิ ายคนละ 1 หัวขอ การเปล่ียนแปลงความเข้มข้นของแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศในปัจจุบัน โดยเฉพาะแก๊ส ไดแก ปจ จยั ทางธรรมชาติ และปจจยั จากแกส คาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ตั้งแต่เม่ือโลกเข้าสู่ยุคปฏิวัติ เรอื นกระจก รวมถงึ ใชผ งั ความคิดทตี่ นจัดทาํ อตุ สาหกรรมเปน็ ตน้ มา มนษุ ยไ์ ดพ้ ฒั นาเทคโนโลยเี ครอื่ งจกั รกลขนึ้ มาใชท้ นุ่ แรง เพมิ่ กา� ลงั ในการผลติ และ ประกอบการอธบิ าย อา� นวยความสะดวกตา่ ง ๆ เครอ่ื งจกั รกลเหลา่ นตี้ อ้ งอาศยั เชอ้ื เพลงิ จากพลงั งานฟอสซลิ เปน็ พลงั งานหลกั ซ่ึงการเผาไหม้ภายในเคร่ืองยนต์ได้ปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ออกสู่บรรยากาศในปริมาณที่เพ่ิม มากขน้ึ ในขณะเดียวกัน พนื้ ท่ีป่าไม้ทัว่ โลกซ่ึงเป็นแหลง่ ดูดซบั แก๊สคารบ์ อนไดออกไซดจ์ ากบรรยากาศ ถกู บกุ รกุ ทา� ลายลงอยา่ งมากจากการขยายตวั ของภาคเกษตรกรรม ภาคอตุ สาหกรรม และพน้ื ทอ่ี ยอู่ าศยั ของมนษุ ย์ ทา� ใหแ้ หลง่ ดดู ซบั แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดล์ ดนอ้ ยลง และขณะนกี้ ย็ งั ไมส่ ามารถลดการปลอ่ ย แก๊สเรอื นกระจกได้ 100 บเศรู ณรากษารฐกจิ พอเพยี ง บรู ณาการเช่อื มสาระ ครูสามารถจดั กิจกรรมการเรยี นรูบูรณาการกลุม สาระการเรียนรู ปจ จุบนั ผูคนจาํ นวนมากกาํ ลงั ตนื่ ตวั กบั ภาวะโลกรอ น เน่อื งจากเรื่องน้ีเปน ภาษาไทย วิชาหลักภาษา เรือ่ งการเขยี นเชิงสรางสรรค การแตง คาํ ประพนั ธ ปญ หาใหญที่กระทบตอ ทุกประเทศทว่ั โลก รวมทง้ั พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหา ประเภทตางๆ โดยใหนักเรยี นแตง คําประพนั ธประเภทท่ตี นถนดั หรือมคี วาม ภูมพิ ลอดลุ ยเดชทีท่ รงหว งใยเรื่องของภาวะโลกรอนมาตั้งแตป 2532 แลว และไดมี สนใจ เชน คําขวัญ กลอนสุภาพ หรอื โคลงสส่ี ุภาพ เพอ่ื กระตนุ จิตสาํ นึกให โครงการในพระราชดาํ รมิ ากมายเพื่อแกป ญหาภาวะโลกรอน ประชาชนมสี ว นรวมในการแกป ญหาภาวะโลกรอน หรือการเปลย่ี นแปลง ภมู อิ ากาศอยา งนอยคนละ 1 บท จากนั้นนาํ ผลงานการแตงคําประพนั ธทีด่ ี ครใู หน ักเรียนแบงกลมุ กลมุ ละ 3 - 4 คน ไปสืบคนขอ มลู เกยี่ วกับโครงการ ของนักเรียนจดั แสดงในบรเิ วณทีเ่ หมาะสมในโรงเรยี น ในพระราชดาํ ริของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดชที่สอดคลอง กับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และสามารถนาํ มาแกปญหาภาวะโลกรอ นได กลมุ ละ 1 โครงการ จากนนั้ สงตัวแทนมาสรุปสาระสําคัญทีห่ นา ชัน้ เรยี น 100 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ชั้นบรรดวงอาทติ ย การเกิดปราก¯การ³เ์ ร×อนกระจก 1. ครสู นทนากับนักเรียนถงึ การเกิดสภาพอากาศ แปรปรวนจากปจ จยั ที่เกิดจากการเพม่ิ แกส 2 1 กิจกรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์ เชน่ ควนั พษิ จากรถยนต์ ควนั จาก เรอื นกระจกในบรรยากาศ แลวต้ังคาํ ถามให โรงงานอุตสาหกรรม เปน็ ต้น สง่ ผลใหเ้ กิดแกส๊ เรือนกระจก นกั เรยี นชว ยกนั ตอบ เชน ยากาศ • จากการศึกษาของนกั วทิ ยาศาสตรพ บความ 2 ดวงอาทิตย์แผ่รังสีผ่านช้ันบรรยากาศมาสู่โลก และสะท้อน สัมพันธของแกสเรือนกระจกกบั อณุ หภูมิ กลบั ออกไป อยา งไร (แนวตอบ การศกึ ษาของนักวิทยาศาสตรถ งึ 3 แกส๊ เรอื นกระจกดดู ซบั รงั สคี วามรอ้ นจากดวงอาทติ ยบ์ างสว่ นไว้ สาเหตุของการเกิดสภาพอากาศแปรปรวน จากฟองอากาศในนาํ้ แขง็ ขวั้ โลกพบวา แกส 3 4 ชัน้ บรรยากาศและเปลือกโลกอณุ หภมู ิสูงข้ึน คารบอนไดออกไซดซงึ่ เปนแกสเรอื นกระจก ชนิดหนงึ่ มคี วามสมั พนั ธท ่ีสงเสริมการเพิม่ แกสเรือนกระจก ข้ึนของอุณหภมู ิ กลา วคอื ในขณะทีโ่ ลกมี แกสคารบอนไดออกไซดใ นบรรยากาศมากก็ 1 จะมีอุณหภมู ิสงู ตามไปดว ย) • เราอาจกลาวไดวา มนุษย เปนตนเหตขุ อง 4 สภาพอากาศแปรปรวนไดอยา งไร (แนวตอบ มนษุ ยเปนตน เหตขุ องสภาพอากาศ โลก แปรปรวนจากการใชท รัพยากรธรรมชาติ ในกจิ กรรมตางๆ ในประวตั ศิ าสตร สถานการณก์ ารเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศ ของมนษุ ยชาติ โดยตัง้ แตห ลังยุคปฏิวตั ิ อตุ สาหกรรมเปน ตน มา มนุษยน ําทรพั ยากร ปจั จบุ นั สภาพภมู อิ ากาศของโลกเปลย่ี นแปลงไปอยา่ งมาก สง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาตา่ ง ๆ มากมาย เชอื้ เพลงิ ท่ีเผาไหมแ ละกอใหเกิดแกส ในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก ทง้ั ปญั หาระดบั นา้� ทะเลทเ่ี ขา้ ทว่ มพนื้ ทร่ี าบตา�่ อทุ กภยั ทร่ี นุ แรงขนึ้ ความ เรอื นกระจกเปน จาํ นวนมาก นอกจากน้ี แหง้ แลง้ ทมี่ พี นื้ ทม่ี ากขน้ึ พายทุ ม่ี บี อ่ ยขน้ึ ดงั ตวั อยา่ งดงั ตอ่ ไปน้ี การตดั ไมท าํ ลายปา เพื่อวัตถปุ ระสงคด าน การเกษตร อตุ สาหกรรม และการตั้งถ่ินฐาน ในประเทศจนี อทุ กภยั ทเ่ี กดิ ขนึ้ ใน พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2555 ทา� ใหเ้ กดิ ความเสยี หายทาง ทาํ ใหขาดแหลงที่จะชวยดดู ซบั แกส เศรษฐกจิ โดยตรงถงึ 6.5 พนั ลา้ นเหรยี ญสหรฐั มปี ระชาชนเสยี ชวี ติ มากกวา่ 355 คน และทา� ให้ คารบ อนไดออกไซดแ ละยงั กอใหเกิดภัย ประชาชนประมาณ 36 ล้านคน ได้รบั ผลกระทบและไรท้ ี่อยู่อาศัย รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร ธรรมชาตติ ามมาอกี หลายประการ) ไดร้ บั ความเสยี หายเปน็ จา� นวนมากอกี ดว้ ย 2. ครูและนกั เรียนสนทนารวมกนั ถงึ ปจ จัยทที่ าํ ให ประเทศเกาหลีเหนือประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักต้ังแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2555 เกิดสภาพอากาศแปรปรวนเพอ่ื ใหเ กดิ ความรู นบั เปน็ ภยั แลง้ ทรี่ นุ แรงทสี่ ดุ ในรอบ 105 ปี ทา� ใหพ้ นื้ ทเ่ี กษตรกรรมมากกวา่ รอ้ ยละ 30 หรอื 1.7 ลา้ นไร่ ความเขา ใจทถ่ี กู ตอง นักเรยี นบันทกึ สาระ ไมส่ ามารถเพาะปลกู ได้ ซงึ่ สง่ ผลตอ่ ปรมิ าณอาหารเลยี้ งประชาชนทงั้ ประเทศกวา่ 24 ลา้ นคน สาํ คญั ลงในสมดุ ในแต่ละปประเทศจนี เกิดน้าำ ท่วมใหญ่ข้ึนหลายพน้ื ที่ มสี าเหตจุ ากฝนทีต่ กหนักจนทำาให้น้าำ ทว่ มขงั โดยเฉพาะบรเิ วณทอี่ ยู่ 101 ริมแมน่ ้ำาฉางเจียง ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT เกรด็ แนะครู เหตกุ ารณท างประวัติศาสตรทอ่ี าจกลาวไดวา เปน จดุ เริ่มตน ของการเพิม่ ขนึ้ ครูอาจต้งั ประเดน็ ใหน กั เรยี นอภิปรายรวมกันถึงสาเหตทุ แ่ี ทจริงของการ ของแกสเรือนกระจกในบรรยากาศคืออะไร เปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตดิ ังเชน ทีป่ รากฏในปจจบุ ัน เชน วิกฤตการณด า น ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม : มนุษยผกู ระทําหรือผูถกู กระทาํ โลกรอนภยั ท่ี 1. การปฏวิ ัตกิ ารเกษตร ยอนกลบั สูมวลมนษุ ยชาติ เพอื่ ใหน กั เรยี นตระหนกั ถึงบทบาทหนาทใ่ี นการมสี ว นรว ม 2. การปฏวิ ัติอุตสาหกรรม รับผิดชอบแกไขปญหาการเปลีย่ นแปลงทางธรรมชาตติ างๆ ซึง่ เกดิ ขึน้ จากกจิ กรรม 3. การปฏวิ ตั วิ ิทยาศาสตร ของมนษุ ยเ ปนสาํ คญั จากนน้ั นักเรยี นบนั ทกึ ผลการอภิปรายลงในสมดุ 4. การปฏวิ ัติการเมืองการปกครอง มมุ IT วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. การปฏวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม นบั เปนจุดเริ่มตน ศกึ ษาคนควาความรแู ละขา วสารเกีย่ วกับการเกิดภัยธรรมชาติในประเทศไทย ของการเพ่ิมแกส เรือนกระจกสูบรรยากาศ จากการที่ชาวยโุ รปรูจ ักใชพลงั งาน และภูมภิ าคตา งๆ ของโลก รวมถงึ แนวทางปองกนั หรอื บรรเทาผลกระทบเพม่ิ เติม เช้ือเพลิงจากธรรมชาตมิ าใชในการผลติ สนิ คาตา งๆ ทาํ ใหท รพั ยากรมากมาย ไดท่ี http://www.paipibut.org/home.php มลู นธิ ิสภาเตือนภัยพบิ ตั ิแหงชาติ ถูกใชอ ยา งขาดการจดั การและวางแผนท่ีดี ท่สี ําคัญคอื การเผาไหมเช้ือเพลงิ ตา งๆ ทัง้ ถานหนิ น้าํ มนั แกสธรรมชาติ ลว นแลวแตกอ ใหเกดิ แกส คมู อื ครู 101 เรอื นกระจกอันนํามาซ่งึ การเปลย่ี นแปลงและวกิ ฤตการณท างธรรมชาติ ของโลกในปจ จุบัน
กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครูสนทนากับนกั เรียนถึงสถานการณท ่เี กดิ จาก ประเทศอนิ เดยี มกี ารบนั ทกึ สถติ อิ ณุ หภมู ใิ นเดอื นเมษายน พ.ศ. 2553 ไวท้ ่ี 44 องศาเซลเซยี ส การเปล่ียนแปลงภมู อิ ากาศท้ังในสว นของการเพิม่ ข้นึ ท�าให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 คนในรอบเดือนน้ี นอกจากนี้ ประเทศอินเดียยังเกิดอุทกภัย ของระดบั นา้ํ ทะเลทําใหเขาทว มและกัดเซาะชายฝง ในรัฐอัสสัมทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เม่ือเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2555 ท�าให้ และหมูเกาะตา งๆ การเกดิ อุทกภยั ทร่ี ุนแรง และ ประชาชนเสยี ชวี ิตอยา่ งน้อย 109 คน และมปี ระชาชนมากกวา่ 2 ลา้ นคนต้องไร้ท่อี ยอู่ าศยั และ การเกิดภัยแลงในพ้ืนทบ่ี ริเวณกวา งขวางมากขนึ้ ท่ดี ินท�ากนิ เนื่องจากหมู่บ้านถูกกระแสน้�าพดั พาไปทง้ั หมด 2,000 แหง่ แลวสอบถามถึงตวั อยา งการเกดิ ภยั ตางๆ ขา งตน ท่ีนกั เรยี นไดศ ึกษามาทั้งจากหนงั สือเรียน และการ วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555 มีพายุไต้ฝุ่นโบลาเวน (Bolaven) พัดเข้าสู่หมู่เกาะ รับขา วสารจากสื่อตางๆ ท้งั ในตา งประเทศ เชน ตอนใตข้ องญป่ี ุน่ โดยมคี วามเรว็ ลมทศี่ นู ย์กลางประมาณ 252 กิโลเมตรต่อชวั่ โมง ความรนุ แรง การเกิดอทุ กภัยในประเทศจีน เมอื่ พ.ศ. 2541 และ ของพายุท�าให้มีผู้บาดเจ็บ 5 คน และผู้ท่ีต้องอพยพไปอาศัยในสถานท่ีปลอดภัยอีก 550 คน พ.ศ. 2546 การเกิดอุณหภมู ิสูงถงึ 47 องศาเซลเซยี ส พายุลูกน้ีถือว่ามีความรุนแรงมากท่ีสุด นับตั้งแต่ส�านักอุตุนิยมวิทยาญ่ีปุ่นเร่ิมมีการบันทึกข้อมูล ในกรงุ อสิ ลามาบัด ประเทศปากสี ถาน เมือ่ พ.ศ. สภาพอากาศเม่อื 6 ทศวรรษกอ่ น 2542 และ 45.6 องศาเซลเซียส ในรัฐอตุ ตรประเทศ ประเทศอนิ เดีย เมือ่ พ.ศ. 2545 และท่ีสาํ คัญไดแก การเกดิ อุทกภัยทรี่ ุนแรงในประเทศไทย เม่ือ พ.ศ. 2554 ซึง่ สถานการณด ังกลา วกอ ใหเกิดความ เสียหายท้ังตอชวี ติ และทรพั ยสนิ ของประชากรใน แตล ะประเทศอยา งมหาศาล ตลอดจนระบบนิเวศ เกดิ ความเสอ่ื มโทรมจนยากท่ีจะฟนฟใู หกลบั มาอยู ในสภาพเดิม สภาวะอากาศแปรปรวน สง่ ผลใหป้ ระชาชนในอนิ เดยี ตอ้ งเผชญิ กบั ปญ หานา้ำ ทว่ มอยา่ งหนกั สถานการณก์ ารเปลี่ยนแปลงภมู อิ ากาศต่อประเทศไทย พ.ศ. 2554 นอกจากประเทศไทยประสบกบั อทุ กภยั ครงั้ ใหญแ่ ลว้ ประเทศไทยยงั ประสบกบั ภยั แลง้ อกี ดว้ ย ภัยแล้งที่เกิดข้ึนส่งผลกระทบต่อประชาชนถึง 17.6 ล้านคนใน 54 จังหวัดท่ัวประเทศ โดยภัยแล้งสูงสุด เกิดขนึ้ ระหว่างวนั ที่ 7-9 พฤษภาคม มพี ื้นทีเ่ กษตรกรรมไดร้ ับความเสยี หายกวา่ 1.7 ล้านไร่ น้�าในแมน่ า้� โขง ลดระดบั ลงมากกวา่ ทุกปีท1ผี่ ่านมา อนั เปน็ ผลมาจากในปีนป้ี ระเทศจนี ประสบปญั หาภัยแล้งรนุ แรง ท�าให้ตอ้ งมี การกกั เกบ็ น้า� ไว้ในเขอื่ นทสี่ ร้างอย่ทู างตน้ แมน่ ้�าโขง ปรมิ าณน�้าในแม่น้า� โขงแห้งมากท่ีสุดในรอบ 30 ปี นอกจากนี้ ผลกระทบของปรากฏการณเ์ อลนีโญ ยังเปน็ เหตุให้เกิดสภาพอากาศรอ้ นมากกวา่ ปกติ และ เกิดภาวะฝนท้งิ ช่วงเปน็ ระยะเวลานาน ท�าให้สถานการณภ์ ยั แลง้ ในภาพรวมของประเทศไทยมีแนวโนม้ รุนแรง ทสี่ ดุ ในรอบ 5 ปี โดยเฉพาะพนื้ ทีน่ อกเขตชลประทานและพ้ืนท่ภี ัยแล้งซา้� ซาก 102 นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นกั เรยี นจะแนะนําหนว ยงานภาครัฐท่ีเกี่ยวขอ งกับการจัดการทรพั ยากรให 1 เข่ือน จากความตอ งการใชพ ลงั งานไฟฟา ของประเทศในภูมภิ าคลมุ นาํ้ โขง แกไขวิกฤตการณดา นทรัพยากรอยางไร อธิบายพรอมยกตวั อยา งประกอบพอ แผนการสรา งเขอ่ื นขนาดใหญก้ันแมน า้ํ โขงจงึ เกดิ ขน้ึ จนี ถือเปนประเทศแรกที่ สงั เขป ดําเนนิ การกอ สรางเขอื่ นแมน้าํ โขงแลวเสรจ็ ไปแลว หลายเขือ่ น ซึ่งสง ผลกระทบตอ แนวตอบ ในฐานะหนว ยงานภาครฐั ทเี่ กีย่ วขอ งกบั การแกไขวกิ ฤตการณด าน ระบบนิเวศของแมน าํ้ โขงและการดํารงชีวติ ของประชากรในหลายประเทศ เชน การ ทรัพยากร เชน กรมทรัพยากรนํ้าควรฟนฟูการใชประโยชนแ ละแกไ ขปญหา เปล่ียนแปลงปรมิ าณการไหล การข้นึ -ลงของระดบั นํ้า การทบั ถมของตะกอนทราย เกยี่ วกบั แหลง นา้ํ โดยมกี ารจัดการและการวางแผนอยางถูกตองเหมาะสม การพังทลายของตล่ิง การลดลงของสาหรายในแมน ้าํ โขงซึง่ จะสงผลกระทบตอ พนั ธุ กําหนดใหโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารบา นเรอื นมีการบาํ บัดนาํ้ เสียกอน ปลาและอาชพี การทาํ ประมงแมนาํ้ โขง ปลอ ยลงสแู หลงน้ํา รวมถงึ จัดสรา งทอสง นํ้าชลประทานเพิ่มเตมิ ไปยังบริเวณท่ี มักประสบภยั แลง สวนการสรางเข่ือนนนั้ เปน การทาํ ลายปา ตน นา้ํ ที่อาจสง ผล มมุ IT กระทบตา งๆ ตามมา ศกึ ษาคน ควาความรูเกีย่ วกบั พลังงานสะอาดเพมิ่ เติมไดที่ http://www.energy.go.th/?q=node# เว็บไซตขอมลู พลังงาน กระทรวงพลังงาน 102 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ 1. ครสู ุมนักเรยี น 4-5 คน ใหช ว ยกนั อธบิ ายถึง ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงภูมิอากาศที่ อณุ หภมู ทิ ส่ี งู ขนึ้ ทา� ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงของสภาพภมู อิ ากาศในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ รปู แบบ หนา ชนั้ เรียน โดยใชค วามรูและผงั ความคิดท่ี ของลม จ�านวนและชนดิ ของไอน�า้ ในอากาศ (ฝน ลม หมิ ะ น�้าแขง็ ) รวมทง้ั ความถีข่ องอากาศ ตนจัดทําประกอบ ทง้ั นค้ี รูกาํ หนดใหน กั เรียน ท่ีมีแนวโน้มจะเกิดรุนแรงมากข้ึน ในอนาคตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดังกล่าวอาจท�าให้ อธบิ ายถึงผลกระทบในดานบรรยากาศภาค เกิดปัญหาดา้ นส่งิ แวดล้อม สงั คม และเศรษฐกจิ ตามมา ตวั อยา่ งผลกระทบ มดี งั น้ี ธรณีภาค อุทกภาค และชวี ภาค โดยจดั ทาํ เปน ตารางที่มหี วั ขอยอยสําคญั ไวบ นกระดานเพื่อ 1. ปริมาณน�้าจืดท่ีลดลง ภายในเวลา 50 ปี จ�านวนของประชากรที่ขาดแคลนน้�าด่ืม ใหน กั เรยี นบันทึกความรทู ีต่ นไดอธิบาย แลว จะเพ่ิมสงู ขึ้นเป็น 5,000 ลา้ นคนจากทัง้ หมด 8,000 ลา้ นคน วิเคราะหรวมกันกับนกั เรียนถึงตวั อยางอนื่ ของ ผลกระทบในแตล ะดาน เชน การเกิดคล่นื 2. ผลผลิตการเกษตรตกต่�าลง การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้ผลิตผลทางการ ความรอนในบรรยากาศภาค การเกดิ ดินถลม เกษตรในระดับทอ้ งถ่นิ ลดลง จงึ มีผลตอ่ ปรมิ าณอาหารสา� รองในโลก จากนาํ้ ฝนตกท่ตี กมากขึ้นและท่ดี ินชายฝง ถกู กัดเซาะจากระดบั นา้ํ ทะเลท่สี ูงขน้ึ การไหลของ 3. ความอดุ มสมบรู ณข์ องดนิ ลดลงและหนา้ ดนิ ไดร้ บั ความเสยี หายจากการชะลา้ งพงั ทลายดนิ นํา้ เค็มเขา สปู ากแมน า้ํ ตางๆ ทําใหสตั วนํา้ ตาม จากสภาพภูมิอากาศรุนแรง ท�าให้เกิดการย้ายพ้ืนท่ีเพาะปลูก ภัยแล้งและการเปลี่ยนแปลงของ ธรรมชาติและที่ประชากรเลี้ยงไวต าย และการ ปริมาณไอน้�าในอากาศ จะเพ่ิมปริมาณการย้ายถิ่นฐานของประชากร ส่วนผลกระทบทางอ้อม สญู พันธขุ องสัตวปา จากการเปลย่ี นแปลงของ เป็นการใช้สารเคมีเพื่อเพิม่ ความอดุ มสมบรู ณ์ของดิน สภาพปา ทอี่ าศัยและการลดลงของอาหาร จากนนั้ ชวยกนั สรปุ ถงึ ผลกระทบจากการ 4. ระดับน�้าทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อโลกร้อนข้ึน และระดับน้�าทะเลก็จะเพ่ิมมากข้ึนจากการ เปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศ ขยายตวั ของน�้าทะเล และการละลายของธารนา�้ แข็ง เชน่ การละลายของแผ่นน�้าแข็งกรีนแลนด์ และภูเขาน้�าแข็งในทะเล ซ่ึงจะท�าให้ระดับน้�าทะเลเพ่ิมขึ้น การเพ่ิมข้ึนของระดับน�้าทะเลท�าให้ 2. ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ แนวทางแกไ ขปญ หา ชมุ ชนรมิ ฝ่ังทะเล พ้ืนทีก่ ารเกษตร แหลง่ น�า้ จดื รมิ ฝ่ัง รวมถึงประเทศท่เี ป็นเกาะกลางมหาสมทุ ร การเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศ แลว ตงั้ ประเดน็ ให หรือทะเลตกอยู่ในภาวะเส่ยี งภัยจากนา้� ทว่ ม นกั เรียนอภปิ รายรว มกัน เชน พลังงานสะอาด : ทางเลอื กเพ่ือการพัฒนาอยา งยั่งยืน การใช 5. ภยั ธรรมชาติรนุ แรงทีเ่ กดิ มากข้นึ เช่น ความแหง้ แล้ง ไฟป่า อทุ กภยั แผ่นดินถล่ม พายุ พลังงานกบั ปญหาการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศ และอืน่ ๆ อกี มากมาย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมและเศรษฐกจิ หรอื หลกั การแกไ ขปญ หาการเปลยี่ นแปลง ภมู ิอากาศอยางมปี ระสิทธภิ าพ จากนั้น แนวทางแก้ไขปญั หาการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศ นักเรียนสรุปผลการอภปิ รายลงในสมุด สภาพอากาศแปรปรวนมีสาเหตุส�าคัญมาจากการปล่อยแก๊สเรือนกระจก ซ่ึงส่งผลให้เกิด 103 ภาวะโลกรอ้ น แนวทางแกไ้ ขปญั หา สามารถทา� ไดโ้ ดยการพฒั นาพลงั งานสะอาด เพอ่ื ลดการปลอ่ ย แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานธรรมชาติ เช่น พลังงานลม คลื่น แสงอาทติ ย์ และความรอ้ นใตพ้ ิภพ พลงั งานลมมอี ตั ราการศึกษาพฒั นาและเตบิ โตเร็วท่ีสุด ส่วนพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบผิวโลกมีปริมาณมากพอในการผลิตพลังงานมากกว่า ปริมาณที่โลกก�าลังบริโภคอยู่ทุกปี การใช้พลังงานสะอาดจะน�าไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน นวตั กรรมทางเทคโนโลยี และการปกป้องคุ้มครองส่งิ แวดลอ้ ม ดงั นัน้ เพอ่ื ปกป้อง โลกจากหายนะจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มนุษย์จึงต้องลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และหันมาใช้พลังงานสะอาดซ่งึ เป็นทางเลือกทย่ี ่งั ยืนอยา่ งแท้จริง ขอ สอบ O-NET บรู ณาการอาเซยี น ขอ สอบป ’51 ออกเกีย่ วกบั แนวทางการอนุรกั ษและพัฒนาคุณภาพส่งิ แวดลอม ครสู ามารถมอบหมายใหนกั เรียนสบื คนและรวบรวมขอ มลู ขาวสารการ การปฏิบัตติ นเพอ่ื การอนุรกั ษแ ละพฒั นาคุณภาพสิ่งแวดลอ มทาํ ไดหลายวธิ ี เปลยี่ นแปลงทางธรรมชาติในพ้ืนทตี่ า งๆ ของภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉียงใต อนั เน่ืองมาจากภาวะโลกรอน ในประเดน็ ลกั ษณะของการเปล่ยี นแปลงทาง ยกเวน ขอ ใด ธรรมชาตินน้ั พน้ื ทซ่ี งึ่ เกิดการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบ รวมถึงการปอ งกันแกไข 1. การหลกี เลย่ี งไมใ ชส นิ คาที่เปนอันตรายตอ ส่งิ แวดลอม ของหนว ยงานท่ีมสี วนเก่ยี วของ ตลอดจนความรว มมือระหวางประเทศในการ 2. การลา งรถยนตด ว ยการตกั นํ้าใสถงั แทนการใชน ้าํ จากสายยาง ชว ยเหลือหรือแกไขปญหาตามกรอบความรวมมอื ของประชาคมอาเซยี น ในระยะ 3. การเลอื กใชเ ครื่องใชไ ฟฟาใหเ หมาะสมกับฐานะของครอบครวั เวลาท่ีครกู ําหนดตามความเหมาะสม แลว ผลัดกันนําขอมลู มานาํ เสนอหนาชั้น 4. การใชห นงั สือพิมพห อ เศษอาหารกอนนาํ ไปท้ิงในถังขยะสีเขียว เรียน จากนนั้ ชวยกนั รวบรวมขอ มูลทมี่ ปี ระโยชนม าจัดทํานิทรรศการแสดงการ วิเคราะหค ําตอบ การปฏบิ ตั ิตนเพอื่ การอนุรักษและพัฒนาคณุ ภาพ เปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติในอาเซียน เพื่อบูรณาการอาเซียนดว ยการเผยแพร ขอมลู ความรแู ละกระตนุ จิตสํานึกการอนุรกั ษทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอม สิ่งแวดลอมสามารถทาํ ไดห ลายวธิ ีการ ท่ีสาํ คัญไดแก การหลกี เลีย่ งไมใช ใหแกเพอื่ นนักเรยี น ตลอดจนบคุ คลทว่ั ไปที่สนใจตอ ไป สนิ คาที่เปนอันตรายตอ สงิ่ แวดลอม การคดั แยกขยะจากครัวเรือน และการใช ทรัพยากรตา งๆ ใหคุมคา สว นการใชเ คร่อื งใชไฟฟานั้นนอกจากจะพิจารณา ถงึ ความเหมาะสมกับฐานะแลว ยงั ควรเลอื กเคร่อื งใชไฟฟาท่ีประดษิ ฐขึน้ เพื่อ การประหยัดพลังงานไฟฟา รวมถงึ ไดร บั การรบั รองมาตรฐานในการผลติ ทาง อุตสาหกรรมดวย ดงั น้ันคําตอบคอื ขอ 3. คูม อื ครู 103
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครสู นทนากบั นกั เรียนถงึ การศึกษาเกีย่ วกบั การ ความแห้งแลง้ (Drought) เปลี่ยนแปลงทางธรรมชาตใิ นสว นของความแหง แลง แลวสุมนกั เรยี น 1 คน ใหอ ธบิ ายถึงความ ลกั ษณะภมู อิ ากาศทมี่ ฝี นตกนอ้ ยกวา่ ปกติ หรอื ฝนไมต่ กตอ้ งตามฤดกู าลเปน็ ระยะเวลานาน หมายของความแหงแลง ทตี่ นไดศกึ ษามา จากนัน้ กวา่ ปกติ และครอบคลมุ พนื้ ทบี่ รเิ วณกวา้ ง ทา� ใหเ้ กดิ การขาดแคลนนา้� ดมื่ นา�้ ใช้ พชื พนั ธไ์ุ มต้ า่ งๆ ขาดนา�้ ใหน กั เรียนชวยกันวิเคราะหถงึ ความสัมพันธกัน ทา� ใหไ้ มเ่ จรญิ เตบิ โตตามปกติ ความแหง้ แลง้ เปน็ ภยั ธรรมชาตปิ ระเภทหนงึ่ ทเี่ กดิ ขนึ้ เปน็ ประจา� ทกุ ปี ของภาวะโลกรอ นและการเปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศ ในภมู ภิ าคตา่ งๆ ของโลก กบั ความแหง แลง เพอื่ ใหเกิดความเขาใจเกย่ี วกับ สาเหตุการเกิดความแห้งแลง้ ปจ จัยโดยทว่ั ไปทที่ าํ ใหเกดิ ความแหง แลง แลว ภัยแล้งเกิดขึ้นจากสาเหตุหลายประการ ท้ังจากการกระท�าของมนุษย์และจากธรรมชาติ สอบถามถึงปจ จยั อ่นื ๆ ทท่ี ําใหเกดิ ความแหง แลง มนุษยเ์ ปน็ ตัวการสา� คัญทที่ �าใหส้ ภาวะของบรรยากาศเปลยี่ นแปลงไปจากการตดั ไมท้ า� ลายป่าและ ในประเทศไทยใหน ักเรียนชว ยกันตอบ เชน การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมที่ท�าให้ปริมาณแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูงข้ึนจนเกิดปรากฏการณ์ เรอื นกระจก อกี ทงั้ การทา� ลายชน้ั โอโซนซง่ึ ทา� ใหพ้ ลงั งานความรอ้ นลงมาสชู่ น้ั บรรยากาศใกลผ้ วิ โลก • การเกดิ ความแหงแลงในประเทศไทยเก่ียวขอ ง ท�าใหอ้ ณุ หภูมขิ องอากาศสงู ขนึ้ และยงั มีปัจจยั อ่นื ๆ เชน่ การเปล่ียนแปลงของสภาพอากาศ การ กับปฏสิ ัมพนั ธท างภมู ศิ าสตรใ นดานใด และมี ลักษณะอยางไร เปล่ยี นแปลงของระดับน�้าทะเล เปน็ ตน้ (แนวตอบ การเกิดความแหง แลงในประเทศไทย ส�าหรับประเทศไทย ภัยแล้งยังมีสาเหตุจากก�าลังการพัดของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เก่ยี วของกับปฏิสมั พนั ธทางภมู ศิ าสตรใ นสว น ออ่ นลง ทา� ใหร้ ะยะการพดั ปกคลมุ พนื้ ทน่ี อ้ ยลง ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทน่ี า� ความหนาวเยน็ และความแห้งแล้งจึงพัดลงมาเร็วกว่าปกติ สาเหตุอีกประการหน่ึง คือ มีพายุหมุนเขตร้อน ของบรรยากาศภาค กลา วคือ ชว งเวลาการ เคล่ือนผา่ นประเทศไทยนอ้ ยกว่า 2 ลกู ในปีนนั้ ๆ ปกคลุมพน้ื ทขี่ องลมมรสมุ มอี ทิ ธพิ ลอยางยง่ิ ตอการเกิดความแหงแลง ในประเทศไทย เมอื่ ลมมรสมุ ตะวันตกเฉียงใตอ อนกําลงั ลง สถานการณ์ความแหง้ แล้ง ปกคลุมพ้นื ทใี่ นระยะเวลาสัน้ ลง หรือลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือท่ีนาํ ความหนาวเย็นแหง ปัจจุบันความแหง้ แล้งไดเ้ กดิ ขึ้นในหลายพน้ื ทขี่ องโลกรวมทง้ั ประเทศไทย และนบั วันจะทวี แลงจากทางตอนเหนือของทวีปมีกําลงั แรงหรอื ความรนุ แรงมากขึ้น บริเวณพ้ืนท่ที ี่เกดิ และชว่ งเวลาท่เี กดิ ก็ยาวนานมากข้ึน ตัวอย่างเช่น ภยั แล้ง พดั มาเรว็ กวา ปกติ กท็ าํ ใหเกดิ ความแหงแลง ในประเทศจีน แม่น้�าฉางเจียงและแม่น�้าหวางเหอซึ่งเป็นแม่น�้าสายหลักของประเทศมีระดับน้�า ขน้ึ ได นอกจากนีก้ ารเกิดพายหุ มนุ เขตรอนท่ี มีอิทธิพลตอปรมิ าณนา้ํ ฝนในประเทศไทยนอ ย ลดลงอยา่ งผดิ ปกติ สง่ ผลใหช้ าวจนี หลายลา้ นคน กวา 2 ลูก กอ็ าจสงผลใหใ นปนัน้ เกดิ ความ ขาดแคลนน้า� ในการอุปโภคและบริโภค แหง แลง ข้ึนได) 2. ครใู หน ักเรยี นชวยกนั ยกตวั อยา งสถานการณการ หลายพื้นท่ีของประเทศจีนต้องเผชิญภัยแล้งอย่างรุนแรง ส่วนในประเทศไทยภัยแล้งจะเกิดขึ้นบาง เกดิ ความแหง แลง ในประเทศไทยและประเทศ โดยเฉพาะมลฑลชานตง พนื้ ทที่ างการเกษตรกวา่ 870,000 พื้นที่ในช่วงกลางฤดูฝนที่ฝนท้ิงช่วงในเดือน อน่ื ๆ ของโลกทไี่ ดศ ึกษาและรบั ขา วสารมา ไร่ ได้รับความเสียหาย และประชาชนกว่า 30,000 คน มถิ ุนายน-เดือนกรกฎาคม และจะเกดิ ขนึ้ อย่าง แลว วิเคราะหถ งึ ความสาํ คญั ของทรัพยากรนาํ้ ขาดแคลนนา้ำ สาำ หรบั อปุ โภคบริโภค ชดั เจนเมอื่ สนิ้ สดุ ชว่ งฤดฝู น โดยภาคตะวนั ออก- เฉียงเหนือและภาคเหนือจะเกิดปรากฏการณ์ ภัยแล้งข้ึนก่อนและกินระยะเวลายาวนานกว่า ภาคอน่ื ๆ จดื ตอ การดาํ รงชวี ิตของประชากรไทยทัง้ ในดาน 104 เศรษฐกจิ สังคมและวัฒนธรรม และส่ิงแวดลอม จากนั้นนกั เรียนบนั ทกึ สรุปสาระสาํ คัญของ สถานการณการเกดิ ความแหง แลง ลงในสมุด ขอ สอบ O-NET เกรด็ แนะครู ขอสอบป ’51 ออกเกย่ี วกับวกิ ฤตการณด า นทรัพยากรธรรมชาติ ครสู ามารถนาํ ภาพจากดาวเทยี มแสดงการแหงเหอื ดของทะเลสาบขนาดใหญ วกิ ฤตการณด านทรัพยากรธรรมชาติท่สี ง ผลกระทบตอการดาํ รงชพี ของ ของโลกจากแหลง ขอ มูลตา ง ๆ เชน http://www.drought.noaa.gov/ เวบ็ ไซต มนุษยม ากที่สดุ คือขอใด ฐานขอมูลดานภูมิอากาศและแหลงนาํ้ แหง ชาติ สหรัฐอเมริกา (National Oceanic & Atmosphere Administration : NOAA) มาใหน ักเรยี นพจิ ารณาเปรยี บเทียบ 1. การขาดแคลนนา้ํ จืด รว มกนั เพื่อกระตนุ ใหนกั เรยี นเกดิ ความสนใจในการศึกษาเรือ่ งความแหง แลง 2. การสูญเสียปา ไมแ ละสตั วปา รวมถงึ ตระหนกั ในคุณคา และประโยชนข องเคร่ืองมอื ทางภูมิศาสตร ตลอดจนเกิด 3. การลดลงของปริมาณแรธ าตุ ความรคู วามเขา ใจสภาวการณค วามแหง แลงของโลกที่มีความรุนแรงไดอ ยาง 4. การชะลา งและการพังทลายของดนิ ถกู ตอ งชดั เจนย่ิงข้นึ วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 1. การขาดแคลนน้าํ จืด เน่อื งจากนา้ํ จดื เปน ปจ จยั สาํ คญั ของส่งิ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ รวมถึงมนุษย และนอกจากมนษุ ยจ ะใชน า้ํ ในการดํารงชพี แลว ยังใชในกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ไดแก การเพาะปลูก การเลย้ี งสัตว รวมถงึ อุตสาหกรรมตางๆ 104 คมู ือครู
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate อธบิ ายความรู Explain ครูใหต ัวแทนนกั เรยี น 3-5 คน อธบิ ายความรู เก่ียวกับผลกระทบจากความแหง แลงและแนวทาง ผลกระทบจากความแหง้ แล้ง แกไ ขปญหาทีห่ นา ช้นั เรียน โดยเขียนรายละเอยี ด ลงในผังแสดงความสมั พันธของสาเหตุและผลท่ีครู ความแห้งแล้งหรือการขาดแคลนน้�าได้ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างมากในด้านการเกษตร เตรียมไวบนกระดาน พรอ มทั้งอธิบายความรู จาก ซง่ึ มคี วามสา� คญั ตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ โดยเฉพาะการปลกู ขา้ วซงึ่ เปน็ สนิ คา้ สง่ ออกทสี่ า� คญั ของ น้ันเพ่อื นนักเรยี นชวยกนั เสนอแนะเพม่ิ เติมเพอื่ ให ไทย การขาดน้�าส่งผลกระทบอย่างมากต่อการปลูกข้าวเน่ืองจากข้าวต้องการน้�าต้ังแต่การเพาะ เกิดความรคู วามเขา ใจทถี่ กู ตองชดั เจนยิง่ ขน้ึ เมล็ดกล้าจนถึงระยะเก็บเกี่ยว การขาดน้�าใน ระยะตา่ ง ๆ ของการเจรญิ เตบิ โตของขา้ ว ทา� ให้ ผลผลิตข้าวลดลง ส่งผลให้รายได้ของประเทศ ลดลง ก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจตามมา ขยายความเขา ใจ Expand การขาดแคลนน�้ายังส่งผลกระทบในด้านอ่ืน ๆ ครมู อบหมายใหนักเรียนศึกษาคนควาเพม่ิ เติม อีก เช่น การขาดแคลนน้�าเพ่ืออุปโภคบริโภค เกี่ยวกับการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตทิ งั้ ในสวน การอุตสาหกรรม การประมง และการผลิต ของภาวะโลกรอ น การเปลยี่ นแปลงภูมอิ ากาศ กระแสไฟฟา้ ซ่งึ ทุกปญั หาลว้ นส่งผลกระทบตอ่ ปญหาการขาดแคลนนาำ้ ในประเทศไทยนบั วันจะทวีความ และความแหง แลง ตามหัวขอ ท่ีครูกาํ หนด ไดแ ก รุนแรงมากข้นึ ส่งผลตอ่ การดำาเนินชีวติ ของประชาชนและ ความเปน็ อยขู่ องประชาชนและการพฒั นาประเทศ การพฒั นาประเทศ ปจจัยหรอื สาเหตทุ างธรรมชาตแิ ละจากมนษุ ย สถานการณก ารเกดิ ทงั้ ในประเทศและตา งประเทศ แนวทางแก้ไขปัญหาความแห้งแลง้ ผลกระทบที่ไดร ับ แนวทางปอ งกนั หรอื แกไขปญหา ปัญหาความแหง้ แลง้ มแี นวทางการแก้ปัญหา ดังน้ี และการระวงั ภัย โดยใชค วามรูแ ละทกั ษะการใช 1. ปลูกป่าไม้ท้องถิ่นเพิ่มเพ่ือช่วยให้มีความชื้นมากพอที่จะท�าให้เกิดฝน เมื่อมีป่าไม้มาก เคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตรประเภทตา งๆ ทีไ่ ดศกึ ษา ยอ่ มท�าให้ฝนตกมากข้ึน ซง่ึ ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน�า้ เพอื่ การเกษตรได้เปน็ อย่างดี 2. ลดการกระท�าท่ีท�าให้เกิดภาวะเรือนกระจก เช่น ไม่เผาขยะ ลดการใช้โฟม ลดการใช้ มา และขอมลู จากแหลงการเรียนรูอ่นื นอกจาก หนังสือเรยี น จากนั้นจัดทาํ เปนรายงานการศกึ ษา ผลิตภัณฑ์ท่ีมีสาร CFCs ซ่ึงเป็นตัวการท�าลายชั้นโอโซนในบรรยากาศให้เกิดช่องโหว่ ท�าให้เกิด คนควา ภาวะโลกร้อนซ่งึ เปน็ ปัจจัยหน่ึงที่ท�าให้เกิดภาวะแหง้ แล้ง ตรวจสอบผล Evaluate 3. จดั ระบบการชลประทานใหม้ ีประสิทธภิ าพมากข้นึ 4. ปรบั ปรงุ คณุ ภาพดนิ โดยการใสป่ ยุ๋ อนิ ทรยี เ์ พอ่ื ชว่ ยใหด้ นิ อมุ้ นา้� ไดด้ ี และรกั ษาความชมุ่ ชน้ื ในดินใหพ้ ืชเติบโตได้ดี ครูคดั เลอื กรายงานการศกึ ษาคนควาการ เปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติท่ดี ขี องนักเรียน แลวนาํ มาใหนักเรยี นชวยกันตรวจอีกครั้ง โดยพจิ ารณา กลาวโดยสรุป โลกตองเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปล่ียนแปลงทาง จากความถูกตองครบถวนและความทนั สมัยของ ธรรมชาตมิ ากมาย ทง้ั แผน ดนิ ไหว ภเู ขาไฟปะทุ สนึ ามิ อทุ กภยั แผน ดนิ ถลม การกดั เซาะชายฝง วาตภยั ภาวะโลกรอ น สภาพอากาศแปรปรวน แผนดนิ ถลม ไฟปา ตลอดจนความแหง แลง ขอมลู การนาํ เสนอในดานตางๆ เชน การจดั วาง ซ่ึงภัยพิบัติและการเปล่ียนแปลงดังกลาวเกิดจากปจจัยทางธรรมชาติและจากการกระทําของ มนุษย ไดสงผลกระทบตอสภาพแวดลอมและความเปนอยูของมนุษย และนับวันจะทวีความ โครงสราง การลาํ ดับขอมลู การใชสํานวนภาษา รุนแรงมากขึ้น จึงจําเปนที่ทุกฝายตองหาทางปองกันและแกปญหา เพื่อใหทุกคนไดดํารง การใชภาพ ตาราง แผนท่ี หรือผังกราฟกประกอบ ชวิี ติ ไดอยางปกติสขุ ชว ยใหเขาใจขอมูลไดถ กู ตอ งชัดเจนย่งิ ข้นึ แลวให นกั เรยี นเจาของผลงานนําเสนอสาระสําคญั ของ 105 รายงานการศึกษาคน ควาท่ีหนา ชัน้ เรียน จากนั้น รวบรวมรายงานที่ดไี วเ ปน แหลงการเรยี นรูใ น ชน้ั เรยี น ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู พน้ื ทีบ่ ริเวณใดของประเทศไทยทม่ี กั ประสบปญหาความแหง แลง ครูควรเตรยี มวดี ทิ ศั นหรือภาพยนตรเชงิ สารคดีทีเ่ ก่ยี วของกบั ภาวะโลกรอ น และเกิดจากสาเหตใุ ด เชน ภาพยนตรเ รอ่ื ง An Inconvenient Truth มาใหนักเรยี นพิจารณารว มกัน แลว แนวตอบ พ้นื ทท่ี ่ไี ดรับผลกระทบจากภัยแลงมาก ไดแก บรเิ วณภาค สนทนากับนกั เรยี นถงึ ผลกระทบของภาวะโลกรอ นที่มตี อโลกในดา นตางๆ ตลอดจน ตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนกลาง เพราะเปนบรเิ วณทอ่ี ิทธพิ ลของลมมรสมุ การมสี ว นรวมในการแกไขปญ หาที่เหมาะสมกบั สถานภาพของนกั เรยี น เพ่ือกระตนุ ตะวันตกเฉียงใตเ ขา ไปไมถ ึง และถาปใดไมม ีพายหุ มนุ เขตรอ นเคลอื่ นผา น ใหน ักเรยี นเกิดความสนใจ และมีความรูค วามเขา ใจเกี่ยวกับภาวะโลกรอนและ ในแนวดงั กลาวแลว จะกอ ใหเกิดภัยแลงรุงแรงมากขึน้ ผลกระทบไดชดั เจนย่งิ ข้นึ มมุ IT ศึกษาขอมูลเกีย่ วกับการแกป ญหาโลกรอ นในระดับความรว มมือระหวา ง ประเทศและแนวทางการมีสว นรวมในการแกปญ หาในการดาํ เนนิ ชวี ติ ประจําวัน เพม่ิ เติมไดท่ี http://www.nstda.or.th/nstda-knowledge เวบ็ ไซตคลงั ความรู สํานักงานพัฒนาวทิ ยาศาสตรแ ละเทคโนโลยแี หงชาติ (สวทช.) คูมือครู 105
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล Explore Explain Expand Engage Evaluate Evaluate ตรวจสอบผล ครตู รวจสอบความถูกตอ งในการตอบคาํ ถาม คาปถระาจÓมหนว่ ยการเรียนรู้ ประจําหนวยการเรียนรู 1. การเกดิ แผ่นดินไหวท่ีสาธารณรฐั เฮตมิ สี าเหตมุ าจากปัจจัยใด หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 2. จงอธบิ ายถงึ ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติในโลก โดยยกตัวอย่างประกอบ 3. นกั เรยี นคิดวา่ ควรปฏิบัติตนอย่างไร เพอ่ื ชว่ ยลดภาวะโลกร้อน 1. ปา ยนเิ ทศภัยพบิ ตั ทิ างธรรมชาติ 4. พืน้ ที่เสีย่ งภัยแผน่ ดนิ ไหวในประเทศไทยอยูบ่ ริเวณใดบ้าง 2. รายงานการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติ 5. ภยั แล้งท่ีเกิดขึน้ ในประเทศไทยเกิดข้นึ จากปัจจัยใด และจะมวี ิธปี ้องกันปญั หาภัยแลง้ ไดอ้ ยา่ งไร 3. สมดุ บนั ทกึ ของนักเรียน กิจสรกา้ รงรสมรรค์พฒั นาการเรียนรู้ กจิ ก1รรมท่ี ให้นักเรียนแต่ละคนศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติท่ีนักเรียน กิจก2รรมที่ สนใจมา 1 ประเภท แล้วทา� เป็นรายงานส่งครูผสู้ อน กิจกรรมท่ี ใหน้ กั เรียนหาขา่ วเก่ยี วกับการเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาติทีเ่ กิดข้ึนในภูมิภาค ตา่ ง ๆ ของโลกจากแหล่งการเรียนรู้ เช่น หนังสอื พมิ พ์ อนิ เทอร์เนต็ โทรทัศน์ 3 เป็นต้น คนละ 1 ขา่ ว แลว้ นา� เสนอหน้าชัน้ เรียน ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 5 คน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เลอื กจดั นทิ รรศการเกยี่ วกบั ภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาติ หรอื การเปลย่ี นแปลงทางธรรมชาตทิ เ่ี กดิ ขนึ้ ในประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก และจัดประชุมสัมมนาผลงานของนักเรียน โดยมคี รูเป็นประธาน มนี ักเรยี นเป็นกรรมการตัดสินผลงาน 106 แนวตอบ คําถามประจําหนว ยการเรยี นรู 1. ปจจัยสําคญั ของการเกิดไมแ ตกตา งจากการเกดิ แผน ดินไหวในบรเิ วณอ่ืนๆ ของโลก กลา วคอื สาธารณรัฐเฮตมิ ีท่ตี ง้ั บรเิ วณแนวรอยเล่อื นขนาดใหญร ะหวางแผน เปลือกโลก แคริบเบยี นกบั แผนเปลอื กโลกอเมรกิ าเหนือ โดยเกดิ การเคลอื่ นตวั ในทศิ ทางตะวันออก-ตะวนั ตก สง ผลใหม ีผเู สยี ชีวิตประมาณ 200,000 คน อาคารบา นเรอื นสิง่ กอ สรา ง ตา งๆ พงั ทลายจนนานาชาตติ องยื่นมือเขาไปใหการชว ยเหลือ 2. ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงทางธรรมชาตใิ นโลกมีหลายประการ เนอ่ื งจากระบบนิเวศวิทยาของโลกมคี วามสมั พนั ธกนั อยางซบั ซอ น เมือ่ ขาดความสมดุลจงึ สงผลให เกดิ ภยั ทางธรรมชาตติ า งๆ ที่สําคัญไดแก การเกิดภาวะโลกรอน ทาํ ใหอ ุณหภมู ิของน้ําทะเลเกิดการเปล่ยี นแปลง สงผลใหส ัตวทะเลบางชนิดสูญพันธแุ ละเกดิ ปรากฏการณ ปะการังฟอกขาว 3. หลักการปฏิบัติตนในการชวยลดภาวะโลกรอ นกค็ ือ การลดการใชทรพั ยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะพลังงาน กลาวคือ ลดการบริโภค เนอ่ื งจากผผู ลติ ตอ งใช ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละพลังงานตางๆ ในการผลติ 4. บริเวณทมี่ ีความเสี่ยงสูงและอาจเกิดความเสยี หายคอนขา งรุนแรงจากแผนดินไหวได คือ ภาคเหนือและภาคตะวนั ตกท่ีตดิ ตอกบั เมียนมา เน่ืองจากอาจไดร บั แรง ส่ันสะเทอื นจากแผน ดนิ ไหวทเ่ี กิดบริเวณแนวรอยเลื่อนขนาดใหญที่ยังมพี ลงั ในเขตเมียนมา 5. ภยั แลงท่ีเกดิ ในประเทศไทยมีปจจยั ทส่ี ําคญั จากลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใตม กี ําลงั ออ นลงและมีอทิ ธิพลตอ ประเทศไทยนอย หรอื ลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนอื มีกําลงั รุนแรง และมอี ิทธพิ ลตอ ประเทศไทยมาก แนวโนม ทีจ่ ะเกิดภยั แลงในปนนั้ ก็มีมากขน้ึ นอกจากนก้ี ารไดรบั อิทธพิ ลจากพายุหมนุ เขตรอ นที่เกดิ ในทะเลจนี ใตและทางตะวนั ตกของ มหาสมุทรแปซิฟก ซึง่ จะทาํ ใหเกดิ ฝนตกหนักและมีลมกระโชกแรง นอ ยกวา 2 ลกู ในปน้ัน กอ็ าจเกิดภาวะภัยแลง ขนึ้ ไดเ ชนกนั 106 คูมอื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate เปาหมายการเรียนรู 1. อธิบายสถานการณและวิกฤตการณด าน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ มใน ประเทศไทยและโลกได 2. เสนอแนวทางการแกไขวิกฤตการณดา น ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ มใน ประเทศไทยและโลกได สมรรถนะของผูเรยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกปญหา 4. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี 4˹‹Ç¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ÙŒ Õè Êถา¹การ³´ าŒ ¹·ร¾Ñ Âากร¸รรมªาµิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค áÅÐʧèิ áÇ´ÅŒÍม 1. ใฝเรยี นรู 2. มงุ มนั่ ในการทํางาน 3. มีจิตสาธารณะ ตัวชี้วัด ·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐÊèÔ§áÇ´ÅŒÍÁÁÕ¤ÇÒÁ กระตนุ ความสนใจ Engage ■ วิเคราะห์สถานการณ์และวิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ÊíÒ¤ÑÞµ‹Í¡ÒôíÒçªÕÇÔµ¢Í§Á¹ØÉ ઋ¹à´ÕÂǡѺ ครนู ําวีดิทศั นห รือกรณศี ึกษาที่มภี าพประกอบ และสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยและโลก (ส 5.2 ม.4-6/1) ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµÍè×¹æ ᵋ¡ÒþÖè§¾Ô§ÍÒÈÑ»ÃÐ⪹¨Ò¡ เกี่ยวกบั วกิ ฤตการณดา นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔ¢Í§Á¹ØÉ Ōǹ·íÒãËŒ สิ่งแวดลอมทีเ่ กิดขึน้ ในสว นตา งๆ ของโลกใน สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ·ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐÊèÔ§áÇ´ÅŒÍÁàÊ×èÍÁâ·ÃÁŧ ปจจบุ นั มาใหนกั เรียนพิจารณารวมกัน จากนัน้ à¡Ô´Çԡĵ¡Òó·§Ñé ·Ò§´ÒŒ ¹ºÃÃÂÒ¡ÒÈ ´Ô¹ ¹éíÒ »†ÒäÁŒ ต้ังคาํ ถามเพื่อกระตนุ ความสนใจโดยเชือ่ มโยงกบั ■ สถานการณ์การเปล่ียนแปลงลกั ษณะทางกายภาพในสว่ นต่างๆ ÊµÑ Ç» Ò† áÅÐ¾Å§Ñ §Ò¹¢¹éÖ ·ÇÑè âÅ¡ ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒʶҹ¡Òó ประเทศไทยใหนกั เรียนชวยกันตอบ เชน ของโลกทีม่ ีผลตอ่ การเกดิ ภูมิสังคมใหมใ่ นโลก ´ŒÒ¹ÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁáÅзÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔ¨Ðª‹ÇÂãËŒ ÊÒÁÒöÇÔà¤ÃÒÐËʶҹ¡ÒóáÅÐÇԡĵ¡Òó à¾è×Í • สถานการณด า นสิ่งแวดลอมของประเทศไทย ■ วิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ ໹š °Ò¹¤ÇÒÁÃãŒÙ ¹¡ÒÃÊÃÒŒ §¤ÇÒÁµÃÐ˹¡Ñ áÅЪNj ¡¹Ñ ในปจจบุ ันมีความสอดคลองสัมพันธกับ ประเทศไทยและโลก Í¹ÃØ ¡Ñ ÉÊ §èÔ áÇ´ÅŒÍÁáÅзÃѾÂҡøÃÃÁªÒµµÔ ‹Íä» วิกฤตการณดานสงิ่ แวดลอ มในสว นตา งๆ ของโลกอยางไร ยกตวั อยา งประกอบพอ สังเขป เกรด็ แนะครู ครูควรจดั กิจกรรมการเรยี นรเู พอ่ื ใหนกั เรยี นสามารถวิเคราะหสถานการณแ ละ วิกฤตการณด า นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ มในประเทศไทยและโลกได โดยเนน การพฒั นาทักษะกระบวนการตางๆ ดังตวั อยา งตอ ไปน้ี • ครูใหน กั เรียนศกึ ษาความรูเก่ียวกับสถานการณด า นทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอมในประเทศไทยจากแหลง การเรยี นรูตางๆ แลว อธบิ ายความรู และอภปิ รายรว มกันกบั เพือ่ นนักเรยี นในประเด็นทค่ี รกู ําหนด จากน้นั คน ควา ขอมูลเพิ่มเติมโดยเนนขอมลู ทีท่ ันสมัย แลว จดั ทําเปน แผนพับสถานการณด าน ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอมในประเทศไทย • ครูใหนกั เรียนศกึ ษาความรูเกี่ยวกบั วิกฤตการณดา นทรพั ยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอมในประเทศไทยจากแหลง การเรยี นรูต า งๆ แลว ชว ยกันอธบิ าย ความรูผานกิจกรรมการเรยี นรูท ่คี รกู าํ หนด จากนน้ั ชวยกันออกแบบและจดั ทาํ การนาํ เสนอผลงานเผยแพรค วามรวู กิ ฤตการณดา นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ มในประเทศไทย และแนวทางการปอ งกนั และแกไขวกิ ฤตการณ ดงั กลาว คมู ือครู 107
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Expand Evaluate Engage Explore Explain สาํ รวจคน หา Explore ครใู หน กั เรียนศกึ ษาความรูเก่ยี วกบั สถานการณ 1. สถานการณด์ า้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ดานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มใน ในประเทศไทย ประเทศไทยท้งั ในสว นของทีด่ ินและทรพั ยากรดิน ทรัพยากรนํ้า ทรพั ยากรปาไมแ ละสตั วปา และแร ปัจจุบันสถานการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยได้เปลี่ยนแปลงไป และพลงั งาน จากหนงั สือเรียน หนา 108-116 และ อยา่ งรวดเรว็ ทง้ั ทรพั ยากรดนิ ทรพั ยากรนา�้ ทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ละสตั วป์ า่ ทรพั ยากรแรแ่ ละพลงั งาน แหลงการเรียนรูอ น่ื ทีค่ รเู สนอแนะ เชน หนังสือ เปน็ ต้น การเปลยี่ นแปลงดังกล่าวได้ส่งผลกระทบตอ่ การดา� เนินชีวิตของคนไทยเป็นอย่างมาก ในหอ งสมดุ http://www.ldd.go.th/ เว็บไซต กรมพัฒนาทดี่ นิ http://www.rid.go.th/ เวบ็ ไซต 1.1 ทด่ี ินและทรัพยากรดิน กรมชลประทาน http://www.dnp.go.th/ เวบ็ ไซต กรมอทุ ยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพชื http:// ประเทศไทยมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 320,696,886 ไร่ หรือ 513,115 ตารางกิโลเมตร www.dmr.go.th/main.php?filename=index พ้นื ทที่ ี่เป็นทิวเขา ที่ลาดเชงิ เขา หุบเขา ส่วนใหญอ่ ยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ เว็บไซตก รมทรพั ยากรธรณี รวมถงึ เวบ็ ไซตของ ส่วนในภาคใต้มีพ้ืนที่เป็นภูเขาสูงแล้วลาดไปสู่ชายฝั่งท้ังด้านอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ในภาค หนวยงานทเ่ี กี่ยวขอ งในตางประเทศ ตะวันออกมีทิวเขาสลับเนินเขาและท่ีราบโดยรอบทิวเขา ส่วนบริเวณภาคกลางน้ันมีพื้นท่ีเป็น ท่ีราบลมุ่ มีภูเขาโดดอย่ปู ระปราย โดยเฉพาะในภาคกลางตอนบน อธบิ ายความรู Explain 1) การใช้ประโยชน์ที่ดินของประเทศไทย ในปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากที่ดิน โดยแบ่งออกได้ ดังนี้ ครสู นทนารว มกนั กบั นกั เรยี นถงึ ความรูทว่ั ไป แหพลืน้ ง่ ทนี่ า�้ 2.80 % เกี่ยวกบั ท่ีดินและทรพั ยากรดนิ ในประเทศไทยที่ นักเรยี นไดศึกษามา แลว ใหนักเรยี นจบั คเู พอ่ื ชว ย เบพ็ดเ้ืนตทลี่ ็ด 3.63 % กันอธิบายความรูเ ก่ียวกับท่ดี นิ และทรัพยากรดิน 5.15 % ในประเทศไทย โดยนักเรียนแตล ะคแู ลกเปลย่ี น พนื้ ทชี่ มุ ชน ความรูซงึ่ กนั และกนั แลว แบงหนาที่กนั รบั ผดิ ชอบ คนละ 1 ดา น จากดานการใชประโยชนที่ดินและ และสิง่ ปลูกสร้าง การเปล่ยี นแปลงการใชท่ดี นิ จากนนั้ ครูสมุ นกั เรยี น ท่ีรบั ผิดชอบดา นการใชประโยชนทีด่ ินใหผ ลัดกนั พ้ืนท่ี ออกมาอธบิ ายความรูดา นการใชประโยชนทดี่ นิ ใน ประเทศไทย โดยการชวยกันจัดทําผงั วงกลมแสดง ปา่ ไม้ 34.06 % การใชป ระโยชนข องท่ดี ินในประเทศไทยจากขอ มลู ท่ี ตนศึกษาคน ความาทีก่ ระดานหนา ชนั้ เรียน เกษพตนื้รกทรี่ รม 54.36 % ที่มา : ส่วนวิเคราะหส์ ภาพการใชท้ ่ดี ิน ส�านกั นโยบายและแผนการใชท้ ีด่ ิน กรมพัฒนาทีด่ นิ , 2558. พ้นื ที่เกษตรกรรม มีประมาณ 174.3 ล้านไร่ สว่ นใหญใ่ ชท้ า� นา ปลกู ขา้ ว ปลูกพืชไร่ ไมผ้ ล ไมย้ ืนต้น พืชผัก เลีย้ งสัตว์และเพาะเลีย้ งสัตว์นา้� เปน็ ต้น พ้ืนที่ป่าไม้ มีประมาณ 109.2 ลา้ นไร่ พ้นื ทชี่ มุ ชนและสงิ่ ปลกู สร้าง มปี ระมาณ 16.5 ล้านไร่ พืน้ ทีเ่ บด็ เตล็ด รวมถงึ พ้นื ทีว่ ่างเปลา่ ไม่ไดใ้ ชป้ ระโยชน์ มีประมาณ 11.6 ลา้ นไร่ 108 พนื้ ทแ่ี หล่งนา�้ มีประมาณ 8.9 ล้านไร่ เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT ขอ ใดไมใชปจจัยสาํ คญั ตอการใชดินในประเทศไทย ครคู วรใหนกั เรยี นสืบคนขอมลู การใชท่ดี ินในปจ จบุ ัน (หรอื ครูรวบรวมขอ มลู 1. ความหลากหลายทางวฒั นธรรม จัดทาํ ใบความรูก ารใชท่ดี นิ ในปจจบุ นั ) จากแหลง ขอมูลในรปู แบบตางๆ เชน 2. ความตองการทางเศรษฐกิจ สถติ ทิ ่ีดิน http://olp101.ldd.go.th/luse1/luse_product51-52.htm และแผนท่ี 3. การกาํ หนดพน้ื ที่ปา อนุรักษ การใชท ่ดี ิน http://olp101.ldd.go.th/luse1/pdf/thailand51_52.pdf เว็บไซต 4. การวางผังเมอื ง ภมู ิสารสนเทศดินและการใชป ระโยชนทดี่ ิน กรมพัฒนาทด่ี ิน มาใหน กั เรยี น วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. ความหลากหลายทางวัฒนธรรม แมใน พจิ ารณา แลว สนทนารวมกนั กบั นกั เรยี นถึงการเปลีย่ นแปลงการใชประโยชนท ี่ดนิ ภมู ิภาคตางๆ ของประเทศไทยจะมปี ระชากรท่ีมคี วามแตกตางทางวัฒนธรรม ในประเทศไทย ปจจัยสาเหตุ และผลกระทบในดานตางๆ จากนน้ั นกั เรยี นบันทึก ไดแ ก ภาษา ศาสนา หรอื การประกอบอาชพี แตมิไดเ ปน ปจ จัยสําคญั ตอ การ สาระสําคญั ลงในสมุด เพอ่ื ใหนักเรยี นเกิดความเขาใจความสมั พันธร ะหวา งการ ใชทด่ี ินในประเทศไทยเชนเดียวกบั ความจาํ เปน ทางเศรษฐกจิ และมาตรการ ดําเนินกิจกรรมตางๆ ของคนไทยกบั ทีด่ ินในประเทศไทย เกย่ี วกบั ท่ดี ินจากหนว ยงานภาครฐั เชน การวางผังเมอื ง หรือการกําหนดพืน้ ที่ ปา อนรุ กั ษ เปน ตน 108 คูม อื ครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 2) การเปลี่ยนแปลงการใช้ท่ีดิน เน่ืองจากที่ดินไม่สามารถเพิ่มได้ ดังน้ัน 1. ครใู หต วั แทนนกั เรยี นที่รับผิดชอบดานการ เปลี่ยนแปลงการใชท ด่ี นิ ออกมาอธิบายความ การเพิม่ ข้นึ ของการใช้ท่ดี ินประเภทหนึ่งจึงมผี ลกระทบต่อการใช้ประโยชน์ทีด่ ินอีกประเภทหนงึ่ เปลีย่ นแปลงของการใชที่ดินในประเทศไทย มูลเหตุทีท่ �าใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงการใช้ประโยชนท์ ่ดี นิ แต่ละประเภท มีดังนี้ โดยการวิเคราะหและเปรียบเทียบผังวงกลม 1. ความต้องการเพิ่มพ้ืนทเี่ กษตรกรรม เนื่องจากความตอ้ งการผลผลติ ท่ีเพิ่มข้นึ แสดงการใชป ระโยชนท ี่ดนิ ในหนงั สือเรียน และการแสวงหาทดี่ นิ ทม่ี คี วามสมบรู ณ ์ ทา� ใหต้ อ้ งบกุ รกุ พนื้ ทป่ี า่ ไม ้ ถงึ แมจ้ ะมคี วามพยายามในการ หนา 108 กบั ผังบนกระดานหนาชั้นเรียน แลว รกั ษาพนื้ ทป่ี า่ ไมแ้ ละมกี ารปลกู ปา่ ไมเ้ พม่ิ ขนึ้ กต็ าม แตพ่ นื้ ทปี่ า่ ไมก้ ล็ ดลงอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ครสู นทนากับนกั เรยี นถงึ การเปล่ยี นแปลงการ 2. การขยายตัวของชุมชนท่ีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเพ่ิมข้ึนของประชากร ใชท ่ีดนิ ของประเทศไทยในปจจุบัน นักเรียน ท�าใหต้ อ้ งมีการเปล่ียนแปลงการใชพ้ น้ื ท ี่ เช่น จากทีเ่ คยเป็นพ้นื ท่เี กษตรกรรมก็เปลี่ยนแปลงเป็น สรปุ สาระสาํ คัญเกยี่ วกับท่ีดนิ และทรัพยากรดิน พน้ื ทใี่ นการสรา้ งทอี่ ยอู่ าศยั รสี อรต์ สรา้ งระบบสาธารณปู โภคตา่ ง ๆ เชน่ ถนน ไฟฟา้ แหลง่ นา้� เปน็ ตน้ ลงในสมุด 3. พื้นที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ลดลง เน่ืองจากการเข้าไปใช้พื้นท่ีของทางราชการ การบุกรกุ เขา้ ไปท�ากนิ สรา้ งท่อี ยอู่ าศยั รสี อร์ต การปลูกป่าเพ่ือขยายพ้นื ท่ีป่าไม้ 2. ครูต้ังคําถามเกย่ี วกับความรทู ั่วไปดาน 4. ความต้องการใช้น้�ามากขึ้น จากการขาดแคลนน้�าในช่วงฤดูร้อนของทุกป ี ทรพั ยากรนํ้าในประเทศไทยแลวสมุ ใหนักเรยี น ความตอ้ งการพน้ื ท ี่มาสร้างทีก่ กั เก็บน้า� จงึ เพมิ่ ขนึ้ เช่น สรา้ งเข่ือน อา่ งเก็บน�า้ คลองสง่ น้�า เพอ่ื ตอบ เพื่อเปนการอธิบายความรู เชน การเกษตรและผลติ กระแสไฟฟา้ เป็นตน้ • ทรัพยากรนา้ํ จดื ในประเทศไทยทส่ี ามารถนํา มาใชป ระโยชนในดา นตางๆ นนั้ มที ม่ี าจาก 1.2 ทรัพยากรน้า� ปรากฏการณท างภูมิศาสตรใดเปนสําคัญ (แนวตอบ ทรัพยากรน้ําจืดในประเทศไทยซึง่ นา�้ เปน็ ปจั จยั สา� คญั ในการดา� รงชวี ติ ทงั้ ของมนษุ ย ์ สตั ว ์ และพชื ในประเทศไทยนอกเหนอื จาก มปี ระโยชนใ นการดํารงชวี ิต การประกอบ การใช้นา�้ เพอ่ื การดา� รงชีวติ โดยตรงแลว้ ยงั ใช้ในการเกษตร อุตสาหกรรม คมนาคม ผลติ กระแส อาชีพ และการคมนาคมขนสง มีทีม่ าจาก ไฟฟ้า และประเพณตี ่าง ๆ ถอื ได้ว่าคนไทยมีวถิ ชี ีวิตที่ผูกพนั กับน้�ามาตง้ั แต่อดีตจนถึงปัจจุบัน น้าํ ฝนเปน หลกั ซึ่งสว นใหญเกดิ ขนึ้ จาก น้�าฝนเป็นแหล่งที่มาหลักของแหล่งน�้าตามธรรมชาติ ประเทศไทยมีปริมาณฝนเฉล่ียปีละ อทิ ธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉยี งใตท ่ี 1,550 มิลลิเมตร หรือคิดเป็นปริมาณฝนท่ีตกลงมาปีละประมาณ 800,000 ล้านลูกบาศก์เมตร พดั พาความช้นื มากอ ใหเกดิ ฝนตกในท่ัว แลว้ กลายไปเปน็ นา�้ ผวิ ดนิ (นา�้ ในแมน่ า�้ ลา� คลอง หนอง บงึ เขอื่ น) ซมึ ลงสใู่ ตด้ นิ กลายเปน็ นา้� บาดาล ทุกภมู ิภาคของประเทศไทยในชว งฤดฝู น และถูกดนิ ดดู ซบั ไว ้ อกี สว่ นหนึ่งถกู พืชดูดไปใช ้ นอกจากน้นั ระเหยอยู่ในอากาศ นอกจากน้ีพายุหมุนเขตรอนท่ีมักเกิดขนึ้ นา�้ ฝนทตี่ กในประเทศไทยเกดิ จากลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใตร้ ะหวา่ งเดอื นพฤษภาคมถงึ เดอื น ในชวงปลายฤดฝู นก็มอี ิทธพิ ลอยางมากตอ ตุลาคม และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม นอกจากน้ัน ปริมาณน้าํ ฝนของประเทศไทยเชน กนั ) ในระหว่างปลายฤดูฝนมักเกิดพายุดีเปรสชันจากทะเลจีนใต้ท่ีน�าฝนมาตกอีกส่วนหนึ่ง ท�าให้ ประเทศไทยมีน�้าพอใช้ภายในประเทศ แต่เน่ืองจากความต้องการใช้น�้าเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง ในขณะเดียวกันปริมาณน�้าเสียก็กลับเพ่ิมมากข้ึนและเกิดข้ึนในทุกภูมิภาค ทั้งน้�าเสียจากชุมชน อตุ สาหกรรม และการเกษตร มผี ลใหค้ ณุ ภาพน้า� ในแม่น้�าหลายสายต่�ากว่ามาตรฐาน ซง่ึ อาจท�าให้ เกิดการขาดแคลนน�้าขน้ึ ได้ในอนาคต หากไม่มกี ารบรหิ ารจดั การน�้าท่ีดี 109 บูรณาการเชอื่ มสาระ เกร็ดแนะครู ครสู ามารถจัดกจิ กรรมการเรยี นรูบ ูรณาการวิชาหนาท่ีพลเมอื ง วัฒนธรรม ครูควรเตรียมขอ มลู การใชที่ดนิ และการเปลย่ี นแปลงการใชท ่ีดนิ ภายในทอ งถ่นิ และการดําเนินชีวิตในสงั คม เรื่องปจจัยกอ เกดิ ของวฒั นธรรมไทย ลักษณะ หรือจังหวัด แลวนํามาอภปิ รายรวมกนั กบั นักเรยี นถงึ ลกั ษณะการใชท่ีดนิ ดังกลา วใน ทางวฒั นธรรมไทย ดา นวัฒนธรรมท่เี กีย่ วขอ งกับลักษณะทางภูมิศาสตร ดา นตา งๆ เชน การเปล่ยี นพ้นื ที่เกษตรกรรมเปนหมบู านจดั สรร โรงงานอตุ สาหกรรม โดยใหนักเรียนยกตัวอยา งวัฒนธรรมที่เกยี่ วของกับทรัพยากรธรรมชาติและ หรอื แหลงทอ งเที่ยว ผลดหี รอื ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงการใชท่ดี ิน รวมถงึ สงิ่ แวดลอมตา งๆ เชน การแหน างแมว การทาํ บ้งั ไฟ ของคนในภาคตะวัน- แนวทางการวางแผนการใชทด่ี ินอยางถูกตองเหมาะสม เพอ่ื ใหน กั เรียนเขา ใจถึง ออกเฉยี งเหนอื เพ่อื ขอฝนในการทําการเกษตร ประเพณกี ารอมุ พระดํานํา้ สาเหตุทางเศรษฐกิจซ่งึ สง ผลตอการเปลีย่ นแปลงการใชทดี่ ินสว นใหญใ นปจ จบุ นั การชักพระ ในภาคกลางและภาคใต แลว อธิบายใหนกั เรียนเขาใจถงึ ความ สัมพนั ธข องมนษุ ยกบั สง่ิ แวดลอม โดยเนนบรบิ ทของสงั คมไทย เพื่อให มมุ IT นักเรียนตระหนักถึงความสาํ คัญของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม อนั เปน ปจจัยกอเกดิ ของวัฒนธรรมไทย และมสี วนรว มในการอนรุ ักษ ศึกษาขอมลู เกี่ยวกับทรพั ยากรดินในประเทศไทยเพม่ิ เติมไดท ่ี http://oss101. ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมตางๆ ldd.go.th/web_soils_for_youth/s_thailand2.htm เวบ็ ไซตสํานกั สาํ รวจและวิจัย ทรัพยากรดนิ กรมพฒั นาที่ดนิ คมู ือครู 109
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูต้ังประเดน็ ใหน ักเรยี นอภปิ รายรวมกนั เกี่ยวกบั ยม น่ำแนหใ1นลภ่งนำคำ�้ ทเหสี่ นำ� คือญั แใมนน่ ป�ำ้ รเะจเ้ำทพศรไะทยยำในไดภ้แำกค่กแลมำง่น้�ำแสมำ่นย้�ำสแำ� มค่กัญลใอนงภในำคภตำ่ำคงตๆะวันเชตน่ ก แมน่ ้�ำปงิ วัง ปริมาณนํา้ ฝนเฉลย่ี ของประเทศไทย เชน แมน่ �ำ้ มูลและ ปฏสิ ัมพันธทางภูมศิ าสตรใ นบรรยากาศภาค แมน่ ำ�้ ชใี นภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื แมน่ ำ�้ บำงปะกงในภำคตะวนั ออก แมน่ ำ�้ ตำปใี นภำคใต้ เปน็ ตน้ ธรณภี าค และอุทกภาคกับการดาํ เนินชีวติ ของ นอกจำกน้ยี ังมเี ข่อื นในภำคตำ่ ง ๆ ท่ัวประเทศเพอ่ื กักเกบ็ นำ้� ไว้ใช้ในฤดูแล้ง คนไทย โดยใชขอ มลู จากตารางแสดงปรมิ าณ นา้ํ ฝนเฉลีย่ ตามภาค พ.ศ. 2542-2546 ในหนังสอื ตารางแสดงปรมิ าณฝนเฉล่ยี ตามภาค พ.ศ. 2555-2558 เรียน หนา 110 และความรทู ี่ไดศกึ ษามา เพื่อให นกั เรยี นเกดิ ความรคู วามเขา ใจถึงความสัมพันธ ภาค ปรมิ าณฝนเฉลยี่ ปรมิ าณฝนเฉล่ีย ปริมาณฝนเฉลย่ี ปรมิ าณฝนเฉล่ีย ระหวา งลักษณะทางภูมิศาสตรท ี่มีอทิ ธพิ ลตอการ พ.ศ. 2555 (มม.) พ.ศ. 2556 (มม.) พ.ศ. 2557 (มม.) พ.ศ. 2558 (มม.) ดาํ เนินชีวิตของคนไทย เชน ในภาคตะวนั ออก- เฉยี งเหนือที่มีปรมิ าณนํ้าฝนเฉลย่ี ตอ ปค อ นขา ง ภำคเหนือ 1,206.0 1,301.1 1,172.7 1,053.1 มาก แตการทําการเกษตรไดผลผลติ ไมคอ ยดีนกั 993.0 1,179.6 เนอ่ื งจากลกั ษณะของดนิ สว นใหญในภาคน้นั เปน ภำคกลำง 1,317.4 1,262.1 1,727.3 1,654.8 ดนิ รวนปนทรายทีไ่ มอมุ น้ํา เปน ตน ภำคตะวนั ออก 1,894.0 2,033.5 1,382.6 1,190.2 2. ครใู หต ัวแทนนกั เรยี นอธบิ ายการใชป ระโยชน จากทรพั ยากรน้ําในประเทศ คนละ 1 ดาน ภำคตะวันออกเฉียง- 1,205.2 1,554.5 1,737.4 1,520.0 แลวใหน กั เรียนชว ยกนั ลําดบั ความสาํ คัญของ เหนือ 2,879.0 2,591.9 การใชป ระโยชนจากทรัพยากรน้ําในประเทศไทย 1,648.7 1,531.6 และวิเคราะหถ ึงความแตกตางจากการใช ภำคใตฝ้ ง่ั ตะวนั ออก 1,213.7 2,270.2 ทรพั ยากรนํ้าในสว นอืน่ ๆ ของโลกทีไ่ ดศ กึ ษามา จากนน้ั ครูและนักเรียนชวยกนั สรุปสาระสําคญั ภำคใตฝ้ ง่ั ตะวนั ตก 2,973.5 2,721.8 ของทรพั ยากรนา้ํ และการใชประโยชนจาก ทรัพยากรน้าํ ในประเทศไทย ทว่ั รำชอำณำจกั ร 1,482.4 1,857.2 ท่มี า : กรมอตุ นุ ิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร. 1) การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน�้า น้�ำเป็นส่วนประกอบท่ีส�ำคัญของส่ิงมีชีวิต โดยเฉพำะมนุษย์ทีม่ ีน้�ำเปน็ ส่วนประกอบของร่ำงกำยส่วนใหญ่ และเปน็ องคป์ ระกอบที่สำ� คญั ของ ระบบนิเวศดว้ ย นอกจำกนี้ ทรัพยำกรน�ำ้ ยังมีประโยชนต์ ่อประชำชนคนไทย ดงั นี้ 1. ใชใ้ นกำรอปุ โภคบริโภค เชน่ ใชด้ ่มื ช�ำระล้ำงทำ� ควำมสะอำด เป็นตน้ 2. ใชใ้ นกำรเพำะปลูก เช่น ใชใ้ นกำรทำ� นำ ทำ� สวน ทำ� ไร่ ปลูกผัก เปน็ ต้น 3. ใช้ในกำรเพำะเล้ียงสัตว์น�้ำ แหล่งน้�ำนอกจำกเป็นแหล่งเพำะพันธุ์สัตว์น้�ำแล้ว ยงั ใชใ้ นกำรเพำะเล้ียงสัตว์น้�ำเพือ่ สร้ำงรำยได้ให้กบั ผูเ้ ลี้ยง 4. ใช้ในภำคอุตสำหกรรม เช่น ใช้เป็นส่วนหน่ึงของผลิตภัณฑ์ ใช้ในกำรระบำย ควำมรอ้ นใหก้ บั เครอ่ื งจกั ร ใช้ในภำคอุตสำหกรรมกำรท่องเท่ียวและบริกำร เปน็ ต้น 5. ใช้ในกำรคมนำคมขนส่ง แม้ว่ำปัจจุบันกำรคมนำคมทำงน�้ำลดลงมำกแล้ว แต่ก็ยังมีบำงชุมชนยังคง2ใช้ในกำรเดินทำงและกำรขนส่งทำงน้�ำอยู่ โดยเฉพำะกำรขนส่งระหว่ำง ประเทศ เช่น แม่น้ำ� โขง เป็นต้น 110 นักเรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT การสรางสรรควัฒนธรรมดา นศาสนาและความเช่ือในขอ ใดเปน การใช 1 แมน ้ําปง วงั ยม นา น เปน แควนํา้ สาํ คัญของแมนํ้าเจา พระยา มีตนน้าํ อยู ประโยชนจ ากสิง่ แวดลอ ม ในทิวเขาผีปน นํา้ และทิวเขาอืน่ ๆ ในภาคเหนอื แลวไหลลงสหู บุ เขาในภาคเหนือ 1. การทาํ นาป และทร่ี าบภาคกลาง โดยแมน ํา้ ปงบรรจบกบั แมนาํ้ วังทจี่ งั หวดั ตาก สว นแมน ํา้ นา น 2. การจุดบ้ังไฟ บรรจบกบั แมน า้ํ ยมทจี่ ังหวัดนครสวรรค จากน้ันแมน าํ้ ปง ไหลรวมกับแมน า้ํ นานที่ 3. การทาํ นาเกลอื ปากนาํ้ โพ อาํ เภอเมอื งนครสวรรค จงั หวดั นครสวรรค อันเปน จุดเริม่ ตน ของแมน า้ํ 4. การผลติ กระแสไฟฟา เจาพระยา วิเคราะหคําตอบ การทํานาปและการทํานาเกลอื เปน การสรา งสรรค 2 แมน ํา้ โขง ตนนํา้ เกดิ จากทิวเขาถังกลู า ทางตะวนั ออกของเขตปกครองตนเอง วัฒนธรรมในดา นการประกอบอาชพี โดยใชป ระโยชนจากสงิ่ แวดลอ มที่ ทเิ บตในประเทศจนี ไหลไปทางตะวันออกเฉียงใต และผานดานตะวนั ออกของ เอ้ืออาํ นวย ไดแก การมดี นิ อุดมสมบูรณแ ละมนี าํ้ เพยี งพอตอ การทาํ นา และ อนิ โดจีน กลายเปนเสน เขตแดนระหวา งประเทศลาวและเมียนมา และเสนเขตแดน มีผลกึ เกลอื อยูช ้ันหินใตดิน ตามลาํ ดับ สวนการผลติ กระแสไฟฟาเปน การ สว นใหญระหวา งประเทศลาวกับไทย แลว ไหลไปทางใตผ า นกมั พชู าและเวยี ดนาม สรา งสรรคน วัตกรรมดา นพลังงาน สําหรบั การจดุ บ้งั ไฟเปน วฒั นธรรมในการ ลงสทู ะเลจนี ใต มคี วามยาวประมาณ 4,200 กโิ ลเมตร พยายามแกปญ หาสิ่งแวดลอ มโดยมีพน้ื ฐานมาจากความเชื่อในทอ งถิ่น ดงั น้นั คาํ ตอบคอื ขอ 2. 110 คูมอื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 1. ครสู ุม นักเรียนใหผลัดกันอธิบายสถานการณ การใชน า้ํ ในประเทศไทย คนละ 1 ดา น ตามท่ี 6. ใชใ้ นการผลติ นา�้ ประปาและการผลติ กระแสไฟฟา้ ซงึ่ เปน็ การผลติ ทม่ี ตี น้ ทนุ ตา่� ครกู าํ หนด ไดแก การใชน ้าํ ในการเพาะปลูก ท้ังไม่ก่อใหเ้ กิดมลพิษตอ่ ส่ิงแวดล้อม การใชน้ําในการเล้ียงสตั ว การใชนา้ํ ใน 7. ใช้ในการนันทนาการ เพ่ือการพักผ่อนหย่อนใจ และการเล่นกีฬา เช่น การ อตุ สาหกรรม การใชนํา้ ในการอุปโภคบริโภค แขง่ ขันกีฬาทางน้า� ใชเ้ ปน็ ที่พกั ผอ่ นตามชายหาด หนอง บงึ เป็นตน้ ในครวั เรือน การใชน ้าํ ในกจิ กรรมอื่นๆ และ ผลกระทบจากการใชน ํา้ แลวครูเสนอแนะ 2) สถานการณ์การใช้น�้า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกส่งผลให้ปริมาณ เพ่ิมเตมิ หรอื ปรับปรงุ แกไ ขเพ่อื ความถูกตอ ง ชัดเจนของความรูเกี่ยวกบั สถานการณการใช น�้าฝนมีความแปรปรวนมากข้ึน ในขณะที่ความต้องการใช้น�้าในการอุปโภคบริโภค ในภาคการ นํา้ ในประเทศไทยโดยเฉพาะสถานการณใ น เกษตรและภาคอตุ สาหกรรมมีมากขึน้ โดยเฉพาะในฤดูแลง้ มกั มคี วามตอ้ งการใช้น้า� ในด้านตา่ ง ๆ ปจ จุบัน เชน แนวคิดการสรา งเขอ่ื นแมว งก มาก กวา่ ปรมิ าณนา�้ ตน้ ทนุ ทมี่ อี ย ู่ ถงึ แมว้ า่ ทรพั ยากรนา�้ จะเปน็ ทรพั ยากรหมนุ เวยี น แตป่ ระเทศไทย หรอื เข่อื นแกง เสอื เตนในลมุ แมน ้ํายม เพ่ือ ไม่สามารถสร้างแหล่งกักเก็บน้�าได้เพียงพอ ดงั นั้น จงึ ควรใชน้ ้�าอย่างประหยดั บรรเทาปญหาอุทกภยั ซึง่ เปน การแกไขปญ หา ท่ปี ลายเหตุ เน่อื งจากผลการศึกษาของ 1.3 ทรัพยากรป่าไม้และสตั ว์ป่า หนวยงานท่ีเกี่ยวของตางๆ พบวา การสราง ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ส�าคัญของมนุษย์ เนื่องจากเป็นแหล่งอาหาร ยารักษาโรค เขือ่ นท้งั สองแหง นนั้ ไมสามารถบรรเทาผล และยงั สามารถนา� มาสรา้ งเปน็ ทอ่ี ยอู่ าศยั อปุ กรณเ์ ครอ่ื งใชอ้ กี ดว้ ย ประเทศไทยตงั้ อยใู่ นภมู ภิ าคของ กระทบจากอทุ กภยั ไดเ ทา ท่ีควร อีกทง้ั ยังกอ โลกทอ่ี ดุ มสมบรู ณไ์ ปดว้ ยปา่ ไม ้ ดงั จะเหน็ ไดว้ า่ เมอ่ื ประมาณ 40 ปที ผ่ี า่ นมา ประเทศไทยมพี นื้ ทปี่ า่ ไม้ ใหเ กิดการสูญเสยี พ้ืนที่ปาไม สตั วป า สงผลให อยถู่ งึ 171 ลา้ นไร ่ (ร้อยละ 53 ของพ้ืนทปี่ ระเทศทงั้ หมด 320 ล้านไร่) กระท่ังจากการรายงาน ระบบนิเวศบริเวณตน นา้ํ ขาดความสมดลุ รนุ แรง ของ กรมปา่ ไมใ้ น พ.ศ. 2551 พนื้ ทปี่ า่ ไมไ้ ดล้ ดลงเหลอื 99.15 ลา้ นไร ่ (รอ้ ยละ 30 ของพน้ื ทปี่ ระเทศ ยงิ่ ข้ึน จากนน้ั นักเรียนบนั ทึกสาระสําคญั ทงั้ หมด) เทา่ นนั้ และการลดลงของพนื้ ทปี่ า่ ไมน้ น้ั ยงั สง่ ผลตอ่ การลดลงของจา� นวนสตั วป์ า่ อกี ดว้ ย เกี่ยวกบั ทรพั ยากรนํ้าในประเทศไทยลงในสมดุ จากนโยบายเพ่ิมปริมาณป่าไม้ด้วยการเพิ่มพ้ืนที่ป่าอนุรักษ์และส่งเสริมการปลูกป่า อีกท้ัง 2. ครสู นทนารว มกับนกั เรียนถึงความรูท ่ัวไป การประกาศปิดปา่ (การยกเลกิ สัมปทานป่าไม)้ ต้ังแต ่ พ.ศ. 2532 เปน็ ต้นมา ส่งผลให้พน้ื ที่ปา่ ไม้ เกีย่ วกบั ทรัพยากรปา ไมและสัตวป า ในประเทศ มีปรมิ าณเพมิ่ ข้ึน แตก่ ารลักลอบตัดไม้และลา่ สัตวป์ า่ ก็ยังคงมอี ยอู่ ย่างตอ่ เน่อื ง ตารางแสดงชนิดของปา่ ไม้ในประเทศไทย ชนดิ ของป่าไม้ บริเวณทพี่ บ พืชพรรณธรรมชาติ ปา่ ดิบชื้น บริเวณฝนตกชกุ ภาคใตแ้ ละภาคตะวนั ออก ยาง ตะเคียน ปาล์ม หวาย ไผ ่ เถาวลั ย์ ทนี่ ักเรยี นไดศกึ ษามา แลว ต้งั คาํ ถามให ป่าดบิ แล้ง ทกุ ภาคของประเทศ มะค่าโมง ตะเคยี นหิน ปาลม์ หวาย ขิง ขา่ นกั เรยี นชวยกันตอบ เชน ป่าดบิ เขา ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ ไมว้ งศ์กอ่ สนสามพนั ป ี พญาไม้ อบเชย • ทรพั ยากรปาไมแ ละสตั วป า ของประเทศไทย ปา่ สน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนอื สน พลวง เตง็ รัง อยูใ นสถานการณเชนไร ปา่ ชายเลน บรเิ วณชายทะเลทเี่ ปน็ โคลน คอื ชายฝ่ังอ่าวไทย โกงกาง แสม ล�าพู (แนวตอบ ทรัพยากรปา ไมและสัตวปา ของ ชายฝงั่ ทะเลตะวนั ออกและตะวนั ตก ประเทศไทยอยใู นสถานการณเ สอื่ มโทรม ปา่ เบญจพรรณ ภาคเหนอื ภาคกลาง และภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 1 เนอื่ งดว ยในปจจบุ นั พ้ืนท่ปี าไมเ หลือเพยี ง ป่าพรุ รอยละ 30 ของพน้ื ทปี่ ระเทศทงั้ หมด ซ่ึงสง สัก แดง ประด่ ู มะค่าโมง กก ไผ่ ผลกระทบอยา งรุนแรงตอ สตั วปาหลายชนิด ริมฝง่ั ทะเลท่มี ีนา้� ขังและบรเิ วณปากแม่นา้� ในภาคใต ้ จกิ อินทนลิ น้า� อบเชย หวาย หมากแดง (โดยเฉพาะจงั หวดั นราธิวาส) 111 จนกอใหเกดิ การสญู พันธุ เนอ่ื งจากขาด ท่ีอยอู าศยั และแหลง อาหาร นอกจากน้ยี งั กอ ใหเกดิ ปญหาในระบบนิเวศดานอ่นื ๆ) กจิ กรรมสรา งเสรมิ นกั เรียนควรรู ครอู าจมอบหมายใหน ักเรียนคนควาขอ มูลเกี่ยวกับการเกิดอุทกภัยใน 1 สัก ไมเนอ้ื แขง็ ทม่ี ลี วดลายสวยงามและทนทาน ปราศจากปญหาเกยี่ วกบั ประเทศไทย พ.ศ. 2554 แลว สรปุ สาระสาํ คญั ในดานสาเหตุ ลักษณะการ การทาํ ลายของมอดและปลวก ตลอดจนเชอ้ื รา จงึ นิยมนาํ มาใชประโยชนในการ เกิดผลกระทบ และการฟน ฟแู ละแนวทางการปองกันแกไ ขจากหนว ยงาน กอ สรา งและทําเคร่ืองเรือน แตเนื่องจากในปจ จุบันจํานวนตนสกั ลดนอ ยลง และ ทเ่ี กยี่ วของตางๆ สง ครูผูสอน มาตรการอนรุ ักษท รพั ยากรปาไมอ ยา งตอ เนือ่ งของภาครฐั ทาํ ใหมกี ารสรางสรรค วัสดทุ ดแทนไมรปู แบบตางๆ ขนึ้ อยางหลากหลาย กิจกรรมทาทาย มมุ IT ครอู าจมอบหมายใหน ักเรียนศึกษาคนควาขอมลู เก่ยี วกบั แนวทางการ ศึกษาคนควาความรเู ก่ยี วกบั สถานการณแ ละการอนรุ กั ษท รัพยากรนาํ้ จดั การนาํ้ ในประเทศไทย เพอ่ื ปอ งกนั และบรรเทาปญหาภัยแลงและอุทกภัย ทรัพยากรปา ไมและสตั วป า ในประเทศไทยเพ่มิ เติมไดท ่ี http://www.wwf.or.th/ จากผูเช่ยี วชาญและหนวยงานท่ีเกย่ี วขอ งตางๆ เพือ่ เปน ขอมูลในการจดั ทํา about_us/wwf_thailand_history/ เวบ็ ไซตข องกองทุนเพอื่ การอนรุ กั ษส ัตวปาโลก แนวทางการจดั การทรัพยากรนาํ้ ในประเทศไทยสง ครผู ูสอน (World Wildlife Fund : WWF) ประเทศไทย คูม ือครู 111
กระตุน ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูจบั คูนักเรียนตามตาํ แหนงทีน่ ั่งในชน้ั เรียน 1) การใช้ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรปา่ ไมแ้ ละสัตว์ปา่ มนุษย์รู้จกั ใชป้ ระโยชนจ์ าก เพือ่ ใหช ว ยกนั อธบิ ายความรูเกีย่ วกับทรพั ยากร ปาไมและสตั วป า ในประเทศไทย โดยใหนกั เรยี น ปา่ ไม้มาเป็นเวลายาวนาน และได้รบั ประโยชน์จากปา่ ไม้ ทั้งโดยตรงและโดยออ้ ม ดังน้ี แลกเปลีย่ นความรซู ึ่งกันและกัน แลวแบง หนา ที่กนั 1. ใชไ้ มเ้ ปน็ วสั ดุก่อสรา้ งและใชส้ อย โดยใชส้ ร้างบา้ นเรอื น อปุ กรณใ์ ชส้ อยอน่ื ๆ รับผดิ ชอบคนละ 1 ดาน จากดานการใชป ระโยชน เช่น ตู้ โต๊ะ และเคร่ืองมือเครื่องใช้ในชีวิตประจ�าวัน นอกจากน้ันยังรวมถึงการใช้ผลผลิตอื่น ๆ ทรพั ยากรปา ไมและสัตวป า และสถานการณ จากต้นไม้ เชน่ ยางไม ้ สีจากเปลือก ราก ใบ ดอก เมล็ดของพชื เป็นตน้ ทรัพยากรปาไมแ ละสตั วปา จากน้ันครูสมุ นักเรยี น 2. ใชเ้ ปน็ อาหารและยารักษาโรค สว่ นตา่ ง ๆ ของพืช เช่น ราก ล�าต้น ใบ ดอก ทรี่ บั ผิดชอบดานการใชป ระโยชนทรัพยากรปา ไม และผล นา� มาใชเ้ ปน็ อาหารและยารกั ษาโรค รวมท้งั ยงั สกัดเอายางหรือสว่ นส�าคญั ของพชื มาผลิต และสตั วปาใหอ อกมาอธบิ ายความรูโ ดยชว ยกนั เปน็ ยารักษาโรคไดด้ ว้ ย จดั ทาํ ผงั กราฟกแสดงการใชป ระโยชนทรัพยากร 3. ใช้เปน็ เชอ้ื เพลิง ตน้ ไม้ถูกตดั มาใชเ้ ป็นเชื้อเพลงิ สา� หรับหงุ ตม้ ประกอบอาหาร ปาไมในประเทศไทยในรปู แบบตา งๆ ตามความ และเปน็ เชอ้ื เพลงิ เพอื่ กจิ การอนื่ เชน่ ทพ่ี กั เผาไลแ่ มลง รวมทงั้ การนา� ไมห้ รอื ยางไมม้ าใหแ้ สงสวา่ ง สามารถและความสนใจ เชน ตาราง ผงั ความคดิ ในเวลากลางคนื หรือผงั วงกลมบนกระดานหนาช้นั เรียน ครใู ห 4. ช่วยลดโลกร้อน ต้นไม้ช่วยดูดซับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ นกั เรียนคนอืน่ ชวยกันเพ่ิมเตมิ หรือปรับปรุงผัง และปล่อยแก๊สออกซิเจนออกไป จึงช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ นอกจากนั้นต้นไม้ยังให้ความชื้น ดังกลาวหรอื ขอมูลเพ่ือความถูกตอ งชดั เจนย่งิ ข้นึ แก่อากาศ จงึ มสี ่วนช่วยให้มฝี นตกดว้ ย 5. ชว่ ยปอ้ งกนั ภยั ธรรมชาต ิ ตน้ ไมช้ ว่ ยชะลอความเรว็ ของลม และของกระแสนา�้ 2. ครูตั้งคําถามเกยี่ วกับการใชป ระโยชนท รัพยากร หากเกดิ พายแุ ละนา้� ไหลทว่ มทรี่ นุ แรง ทงั้ ยงั ลดความสญู เสยี ของหนา้ ดนิ และการสญู เสยี ทรพั ยากร สัตวป าในประเทศไทย แลว สุมนกั เรียนท่รี บั ผิด จากป่าอื่น ๆ จาก6.ก าเรปไน็ หทลี่อขยออู่ งากศรัยะแขสอนงส้�าไตั ดว้ด ์ ต้วยน้ ไมห้ รือป่าไมเ้ ป็นที่อยูห่ รือบ้านของสัตว์ปา่ 1และยัง ชอบดานการใชประโยชนทรัพยากรปาไมแ ละสัตว เปน็ อาหารแก่สตั ว์ทอี่ าศัยในป่าด้วย ปา ใหตอบคาํ ถาม เพื่อการอธบิ ายความรู ตวั อยา ง สว่ นการใชป้ ระโยชนจ์ ากสตั วป์ า่ มนษุ ยร์ จู้ ักน�าสตั ว์ป่ามาใชป้ ระโยชน์ ดงั นี้ ขอ คาํ ถามเชน 1. อาหารและยา เนอื้ และอวัยวะส่วนต่าง ๆ ใชเ้ ป็นอาหาร และอวัยวะ เช่น เลือด • ทรัพยากรสัตวป า มีประโยชนตอสภาพแวดลอม เขา หนงั น�ามาทา� ยารกั ษาโรคหรือยาบ�ารงุ ก�าลงั โดยรวมอยา งไร อธบิ ายพรอ มยกตัวอยาง 2. เครอื่ งนุ่งหม่ และเครอื่ งประดบั ใช้หนังหรอื ขนมาท�าเครื่องนุ่งหม่ เขา กระดกู ประกอบพอสังเขป ขน มาทา� เคร่ืองประดบั เป็นตน้ (แนวตอบ สตั วปาชวยใหร ะบบนิเวศในสภาพ 3. สรา้ งความสมดลุ ใหก้ บั ระบบนเิ วศ สตั วป์ า่ ชว่ ยก�าจดั ศตั รพู ชื เชน่ หนอน แมลง แวดลอมมีความสมดุล ท้ังจากการควบคมุ หนู ท่ีท�าลายพืชป่า ทั้งยังช่วยกระจายพันธุ์พืชจากการกินเมล็ดพืช แล้วไปถ่ายมูลไว้ที่อื่นก็จะ จาํ นวนพืชพนั ธุและสัตวป า แตละชนิดตามหวง กระจายพนั ธพุ์ ชื 4ต.อ่ ไสปัญ แญลาะณมเูลตขืออนงภสัตัยวธ์ยรังรชมว่ชยาใตหิ ด้ นิ สอัตุดวม์ปส่ามมบักูรมณีสด์ ัญ้วชยาตญาณรับรู้ภัยธรรมชาติท2่ี โซอาหาร โดยเฉพาะสัตวท ี่เปนศัตรูพืชท่สี าํ คัญ เกดิ ขน้ึ ลว่ งหนา้ เช่น การสง่ เสยี งรอ้ ง การอพยพย้ายถ่นิ เมอื่ จะเกิดภยั ธรรมชาต ิ ท�าใหม้ นุษยไ์ ด้ ทางเศรษฐกจิ ของเกษตรกรไทย เชน แมลงและ สงั เกตและเรยี นรู้จากการหนีภัยของสัตว ์ นา� มาใชป้ อ้ งกนั ภัยทจ่ี ะเกิดขึน้ กบั ตนเอง หนูทที่ ําลายพชื ไรพ ชื สวน รวมถงึ การแพรพ ันธุ พืชดวยวธิ ีการตางๆ เชน การถายเมล็ดพืชของ 112 สตั วป า ในพื้นท่ีหา งไกล ทําใหพ นั ธพุ ืชแพรพ ันธุ ไดก วางขวางย่งิ ขึ้น นอกจากน้มี ูลของสัตวป า ยังมีแรธาตทุ ชี่ ว ยใหดินเกิดความอดุ มสมบรู ณ อกี ดวย) นักเรยี นควรรู ขอ สอบ O-NET ขอสอบป ’52 ออกเกยี่ วกบั ประโยชนข องปา ชายเลนตอมนษุ ย 1 สัตวปา หลายชนิดทีม่ สี ถานะใกลส ูญพนั ธุใ นประเทศไทยไดร บั การคุมครอง ปา ชายเลนมีประโยชนอยางไร ตามพระราชบญั ญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พทุ ธศกั ราช 2535 รวม 15 ชนิด เชน 1. เปนแหลง อาหาร นกเจา ฟา หญงิ สริ นิ ธร กูปรีหรือโคไพร และพะยูนหรอื หมนู ้าํ อยา งไรกต็ ามมีสัตวปา 2. เปนแหลงรายได หลายชนิดที่คาดวา นา จะสญู พันธุไปแลว เชน สมัน กวางชนดิ หนึง่ ที่มเี ขาสวยงาม 3. ชว ยรกั ษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝง เปนตน 4. กอใหเ กดิ ความหลากหลายของพืชและสตั ว 2 สญั ชาตญาณรบั รภู ยั ธรรมชาติ จากการศึกษาของผูเช่ยี วชาญพบวา สตั วปา วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. - 4. ปาชายเลนเปน ระบบนิเวศยอยๆ หลายชนดิ มีสญั ชาตญาณการรับรูภ ัยธรรมชาติ เชน ฝูงนกพริ าบปาในประเทศจีนจะ ของพื้นท่ีบรเิ วณชายฝง มพี นั ธุไมหลากหลายชนดิ ข้ึนอยอู ยางหนาแนน อพยพออกจากพน้ื ที่ที่จะเกดิ แผนดินไหวท่มี คี วามรนุ แรงระดบั ปานกลาง โดยรับรไู ด จงึ มีประโยชนท้งั ในการเปน แหลง อาหารและทรพั ยากรทางเศรษฐกิจใน ภายในรศั มีประมาณ 50 กโิ ลเมตร กระท่งั สตั วเ ลย้ี งอยา งสุนัขและแมวก็อาจรับรถู ึง ระดับชมุ ชน และเปน แหลงวางไขและอนบุ าลลูกของสตั วนา้ํ จงึ กลา วไดว า การเกิดภัยธรรมชาติไดเ ชนกนั ตัวอยา งเชน ใน พ.ศ. 2538 สนุ ขั และแมวในเมืองโกเบ ปา ชายเลนมีความสาํ คัญอยางยง่ิ ตอ ระบบนิเวศของชายฝง ประเทศญ่ีปนุ ที่มีอาการต่นื ตระหนก กาวราวและสง เสียงรอ งอยา งกระวนกระวาย กอ นการเกดิ แผนดินไหวอยา งรุนแรงซึง่ ทําใหมผี ูเ สียชวี ติ ประมาณ 6,500 คน สิง่ กอ สรางพังทลายจาํ นวนมาก เชน บา นเรือนกวา 200,000 หลงั และทางดวนฮนั ชิน 112 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู àÊÃÔÁÊÒÃÐ ครสู มุ ใหน ักเรียนผลดั กันอธบิ ายความรเู กยี่ วกับ ปา เพื่อการอนุรักษประเภทตา งๆ ของไทย ไดแก ปาเพอ่ื การอนุรกั ษ อทุ ยานแหงชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธสุ ัตวป า เขตหามลาสัตวปา สวนพฤกษศาสตร และสวน ปาเพื่อการอนรุ กั ษ์ คอื ปา ไมท้ ี่สงวนไว้เพอื่ การรกั ษาสมดลุ ของระบบนิเวศ เชน่ อากาศ ดิน นา้� พันธ์พุ ืชและ รุกขชาติ แลว สนทนารวมกนั กับนกั เรยี นถึงปา พันธ์สุ ัตวท์ ีห่ ายาก เพอื่ ประโยชนข์ องประชาชนโดยรวม พนื้ ทป่ี า เพอ่ื การอนุรกั ษ์ จ�าแนกเป็นพ้นื ที่ปาประเภทตา่ ง ๆ เพ่อื การอนุรกั ษในทอ งถิน่ ของตนหรอื ท่สี าํ คัญของ ดังน้ี ประเทศ เชน อทุ ยานแหง ชาติเขาใหญ ทับลาน ปางสดี า ตาพระยา และเขตรกั ษาพนั ธสุ ตั วปา 1. อทุ ยานแหงชาติ เปน็ พ้นื ที่ทีม่ ีไว้เพอ่ื การอนุรักษป์ าไม้ สัตวป์ า เพอื่ รักษาความสวยงามตามธรรมชาติ ดงใหญ ท่ีไดร ับการขน้ึ ทะเบยี นมรดกโลกจาก และการศึกษา โดยอทุ ยานแหง่ ชาตเิ ขาใหญเ่ ป็นอุทยานแหง่ ชาตแิ หง่ แรก จัดตัง้ ใน พ.ศ. 2505 มพี ้ืนท่ี 1,355,397 องคก รยเู นสโกในประเภทมรดกทางธรรมชาตใิ นชื่อ ไร่ อยู่ในพ้นื ท่จี ังหวดั นครนายก สระบุรี นครราชสีมา และปราจีนบรุ ี อุทยานแหง่ ชาติอ่ืน ๆ เช่น อุทยานแหง่ ชาติ ปาดงพญาเย็น-เขาใหญ ใน พ.ศ. 2548 ในดาน แกง่ กระจาน จัดต้ังใน พ.ศ. 2524 มพี น้ื ที่ 1,821,875 ไร่ จังหวดั เพชรบุรีและประจวบครี ขี ันธ์ เปน็ ต้น ความเปน มา ความสาํ คญั สถานการณใ นปจจบุ ัน รวมถงึ แนวทางการสงเสริมการมสี ว นรวมภาค 2. วนอุทยาน เปน็ พน้ื ท่ีทจ่ี ัดไวเ้ พอ่ื การพักผ่อนหย่อนใจ มกี ารตกแตง่ ทิวทศั นเ์ พ่อื ความสวยงาม โดยพ้ืนที่ ประชาชนในการอนุรกั ษพ ื้นท่ปี า ดงั กลาว ของวนอทุ ยานจะไมก่ วา้ งขวางนกั วนอทุ ยานทส่ี า� คญั เชน่ วนอทุ ยานนา้� ตกแพง อา� เภอเกาะสมยุ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี มพี ้นื ท่ี 20,000 ไร่ วนอุทยานบอ่ น�้าร้อน อา� เภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีพ้ืนท่ี 19,400 ไร่ 3. เขตรกั ษาพนั ธสุ ตั วป า เปน็ พนื้ ทป่ี า ทจ่ี ดั ไวใ้ หเ้ ปน็ ทอี่ ยอู่ าศยั ของสตั วป์ า เพอ่ื รกั ษาหรอื ขยายพนั ธส์ุ ตั วป์ า ที่สญู พนั ธุ์ เชน่ เขตรกั ษาพนั ธ์สุ ตั ว์ปา ทงุ่ ใหญน่ เรศวร อ�าเภออมุ้ ผาง จงั หวดั ตาก มพี ้นื ที่ 2,000,000 ไร่ เขตรักษา พันธุ์สตั วป์ าหว้ ยขาแข้ง จังหวัดตากและอุทยั ธานี มพี ื้นท่ี 1,609,150 ไร่ เป็นต้น 4. เขตหา มลา สตั วป า เปน็ พน้ื ทปี่ า ทจ่ี ดั ใหเ้ ปน็ ทอี่ ยอู่ าศยั ของสตั วป์ า บางชนดิ เชน่ เขตหา้ มลา่ สตั วป์ า ทะเล นอ้ ย จังหวดั พทั ลุง สงขลา และนครศรธี รรมราช มพี ื้นท่ี 288,625 ไร่ เขตห้ามลา่ สตั ว์ปาทะเลสาบสงขลา จงั หวดั พัทลุงและสงขลา มีพ้ืนที่ 227,916 ไร่ เขตห้ามล่าสัตว์ปาเข่ือนล�าปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ อุดรธานี และขอนแก่น มีพน้ื ท่ี 210,938 ไร่ และเขตหา้ มล่าสัตวป์ า บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ มีพน้ื ที่ 133,600 ไร่ เป็นต้น 5. สวนพฤกษศาสตร เปน็ พน้ื ทท่ี จ่ี ดั ไวเ้ พอ่ื การรวบรวมพนั ธไ์ุ ม้ การศกึ ษา การขยายพนั ธ์ุ และการพกั ผอ่ น หย่อนใจของประชาชน สวนพฤกษศาสตร์ส่วนใหญ่จัดไว้ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เช่น สวนพฤกษศาสตร์แม่สา อ�าเภอแม่รมิ จงั หวดั เชียงใหม่ มพี ้ืนที่ 2,000 ไร่ สวนพฤกษศาสตร์พแุ ค อา� เภอเมอื ง จงั หวัดสระบรุ ี มีเนื้อที่ 1,875 ไร่ เป็นต้น 6. สวนรุกขชาติ เป็นพื้นทที่ จ่ี ัดข้นึ คลา้ ยสวนพฤกษศาสตร์ แต่นยิ มปลกู พันธุไ์ ม้ในท้องถ่นิ เพอื่ การศกึ ษา และรักษาพนั ธ์ุไม้ในทอ้ งถิ่น และเพ่ือการพักผอ่ นหย่อนใจ เชน่ สวนรกุ ขชาติวงั ก้านเหลือง อา� เภอชัยบาดาล จังหวดั ลพบรุ ี มีเน้ือท่ี 1,200 ไร่ เปน็ ตน้ 113 ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT บรู ณาการอาเซียน ขอ ใดคือปา เพ่อื การอนุรักษใ นประเทศไทยทจี่ ดั อยใู นประเภทเดยี วกัน ครสู ามารถจดั กจิ กรรมการเรียนรบู รู ณาการอาเซียนโดยมจี ดุ มงุ หมายใหน ักเรียน 1. เขาใหญ แกง กระจาน มคี วามรูค วามเขา ใจเกี่ยวกับการอนุรักษทรพั ยากรปา ไมในประเทศสมาชกิ อาเซยี น 2. แกง กระจาน หวยขาแขง โดยครูเตรียมภาพและขอมลู (หรือมอบหมายใหนกั เรยี นสืบคนรวบรวม) เกี่ยวกบั 3. หว ยขาแขง ทงุ ใหญน เรศวร ปาเพอื่ การอนรุ กั ษของประเทศสมาชิกอาเซยี น จากแหลง ขอ มูล เชน องคก รดา น 4. ทงุ ใหญนเรศวร บึงบอระเพด็ ส่ิงแวดลอ ม หนังสือในหองสมดุ และเวบ็ ไซต แลว นาํ มาอภิปรายรวมกนั ในชนั้ เรยี น ถึงลักษณะพืชพรรณและสัตวปา ความสาํ คญั และประโยชนในระบบนเิ วศ รวมถงึ วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. เขาใหญ แกงกระจาน เปนอทุ ยานแหง ชาติ แนวทางการอนรุ กั ษท รัพยากรปาไมตามกรอบความรว มมือประชาคมอาเซยี น ที่สําคญั ของไทย โดยเขาใหญไดรับการจัดตัง้ เปน อทุ ยานแหงชาตแิ หงแรกใน มุม IT พ.ศ. 2505 สวนแกงกระจานไดร บั การจัดตัง้ ใน พ.ศ. 2524 และเปน อทุ ยาน แหงชาติทมี่ ีเนอ้ื ทม่ี ากทส่ี ุด สว นหว ยขาแขง และทงุ ใหญนเรศวรเปน เขตรกั ษา ศกึ ษาความรเู กยี่ วกับกลุม ปาอนุรกั ษใ นประเทศไทยเพ่มิ เตมิ ไดท่ี http://seub. พันธสุ ตั วปา และบึงบอระเพด็ เปนเขตหามลา สตั วป า or.th/index.php?option=com_content&view=category&id=65&Itemid=80 เว็บไซตมลู นธิ สิ ืบนาคะเสถยี ร คูมอื ครู 113
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครใู หนักเรียนที่รับผิดชอบดา นสถานการณ 2) สถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในเขต ทรพั ยากรปา ไมและสัตวปา ชวยกนั อธบิ าย ความรูเกี่ยวกบั สถานการณท รัพยากรปาไม อากาศร้อนช้ืน พืชและสัตว์ในประเทศไทยจึงมีความหลากหลาย สภาพแวดล้อมมีระบบนิเวศท่ี และสตั วป า ของประเทศไทยในปจจบุ นั แลวครู สลับซับซ้อน มีความเชอ่ื มโยงสมั พนั ธ์กนั กบั ระบบนิเวศในภมู ิภาคและในโลก ในส่วนท่ีเก่ยี วขอ้ ง นํานกั เรียนในการสรุปผลการศึกษาโดยเสนอ กับชีวิตมนุษย์นั้น คนไทยรู้จักการใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่ามานาน แต่เน่ืองจากสภาพแวดล้อมที่ แนะขอมูลเพิ่มเตมิ หรอื ปรบั ปรุงเพอ่ื ใหถ ูกตอง เปล่ียนแปลงและการลดปริมาณของสัตว์ป่า ได้ท�าให้การใช้ประโยชน์จากสัตว์ป่าเปลี่ยนไปบ้าง ชัดเจนยิ่งขน้ึ นักเรยี นบนั ทึกสรปุ ผลการศึกษา แตก่ ย็ งั มีคนไทยจา� นวนมากทย่ี ังพึ่งพงิ การใชป้ ระโยชน์จากสัตว์ปา่ อยู่ เก่ยี วกบั ทรพั ยากรปา ไมแ ละสัตวป าลงในสมดุ 1.4 แร่และพลงั งาน 2. ครูสนทนากับนักเรยี นถงึ ความรทู ว่ั ไปเกี่ยวกับ ประเทศไทยไดม้ ีการน�าแรม่ าใชเ้ ปน็ เวลานาน โดยเฉพาะดีบุก ตะก่ัว เหล็ก ทองแดง และ แรแ ละเช้อื เพลงิ ในประเทศไทยที่นักเรยี น ทอง ในปัจจุบนั ก็ได้มีการนา� แรต่ า่ ง ๆ มาใช ้ ทั้งแร่โลหะ อโลหะ และเชือ้ เพลิง ดังตาราง ไดศกึ ษามา แลวสุมนักเรียน 2-3 คน ให อธบิ ายความรเู กี่ยวกบั แรโลหะท่ีสาํ คญั ของ ตารางแสดงชนิดของแรแ่ ละประโยชนข์ องแร่ในประเทศไทย ประเทศไทยในดา นแหลง และประโยชนข องแร ทห่ี นาชัน้ เรยี น ชนิดของแร่ แหล่งผลิตแร่สา� คัญ ประโยชน์ของแร่ แรโ่ ลหะสา� คญั ดีบุก (Tin) จงั หวดั ภเู กต็ พงั งา ยะลา สงขลา เชยี งใหม ่ ใช้ในการเคลือบโลหะต่าง ๆ เช่น ฉาบแผ่นเหล็ก กาญจนบรุ ี และนครศรีธรรมราช ทา� กระปอ๋ งบรรจอุ าหาร ใชท้ า� อปุ กรณ์ในอตุ สาหกรรม ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชุบสังกะสี มุงหลังคา เปน็ ตน้ ตะก่ัว (Lead) จังหวัดกาญจนบุร ี และเลย ใชท้ �าขวั้ และแผน่ เซลล์แบตเตอร่ี ตะกัว่ บดั กรี ท่อนา้� กระสนุ ปนื สะพานไฟ เคลอื บภาชนะ เป็นต้น สงั กะสี (Zinc) จังหวดั ตาก กาญจนบุรี เชียงใหม ่ ท�าสังกะสีมุงหลังคา เคลือบแผ่นเหล็ก กระป๋อง และแม่ฮ่องสอน เปน็ ตน้ เหลก็ (Iron) จงั หวัดนครสวรรค์ เพชรบรู ณ์ อุทัยธาน ี ใชใ้ นอุตสาหกรรมเหลก็ กลา้ และเหล็กแปรรูป นครราชสมี า เลย ประจวบครี ขี นั ธ์ และนครศรธี รรมราช แมงกานีส จงั หวัดเลย เชยี งราย เชียงใหม ่ ล�าพนู ใช้ในอตุ สาหกรรมเหลก็ กลา้ โลหะผสม โลหะเชื่อม (Manganese) ถ่านไฟฉาย เป็นตน้ พลวง (Antimony) จังหวัดกาญจนบรุ ี ตาก ลา� ปาง แพร่ ใชผ้ สมตะกว่ั ทา� แผน่ กรดิ แบตเตอร ี่ ผสมตะกวั่ และดบี กุ และสตลู ท�าตัวพิมพ์ และโลหะผสมบัดกรี หุ้มสายโทรศัพท์ สายไฟขนาดใหญ ่ ทา� หมกึ พมิ พโ์ รเนยี ว ใชใ้ นการแพทย ์ เปน็ ตน้ ทองแดง (Copper) จังหวดั ฉะเชิงเทรา และเลย ใชใ้ นอตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ เชน่ สายไฟฟา้ โทรทศั น์ วทิ ย ุ เครอื่ งจักรกล เครือ่ งมือวิทยาศาสตร ์ โทรเลข ทงั สเตนหรอื วุลแฟรม จงั หวดั กาญจนบรุ ี ตาก และเพชรบรุ ี ใช้ผสมเหล็กกล้า ท�าเครื่องจักรกล ใบมีด ตะไบ (Tungsten) ไสห้ ลอดไฟฟ้า ทองคา� (Gold) จังหวัดพจิ ิตร และนราธิวาส ใช้ท�าเครื่องประดับ ใช้แทนเงินตรา ใช้เป็นหลัก ประกันทางการคลัง ท�าเคร่ืองมือวิทยาศาสตร์และ 114 ทนั ตกรรม เป็นต้น เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT ขอใดแสดงถงึ ภมู ปิ ญญาไทยในการใชป ระโยชนท รพั ยากรแรและพลงั งาน ครูอาจนาํ ภาพขา วเกีย่ วกับการจดั การสิง่ กอ สราง เชน ทพ่ี ักตากอากาศ 1. การสรา งเขื่อนขนาดใหญเ พือ่ ผลิตกระแสไฟฟา สวนสตั ว และชมุ ชน ท่บี ุกรุกพืน้ ทปี่ า เพอื่ การอนุรกั ษต างๆ เชน การสรา งทพี่ กั ตาก 2. ความเช่ียวชาญในการเจยี ระไนเพชรพลอยของชางไทย อากาศในอุทยานแหง ชาติทางทะเลของนายทนุ และหนวยงานทเี่ กยี่ วขอ งตา งๆ มา 3. การทําเหมอื งแรดว ยเทคโนโลยสี มัยใหมจากชาติตะวนั ตก ใหนกั เรียนพจิ ารณารว มกนั แลว ตัง้ ประเดน็ อภปิ รายท่ชี ว ยพฒั นาทกั ษะการคดิ 4. ความสาํ คัญของพลังงานจากน้าํ มนั และแกสธรรมชาตติ อภาคเศรษฐกิจ แกปญ หา เชน การอนรุ กั ษป าไมโดยการบังคับใชกฎหมายหรอื การสรางจิตสาํ นึก ของไทย แกป ระชาชน ปาชุมชน : แนวทางการอยูรวมกนั ระหวา งคนกับปา จากนั้นครูและ วเิ คราะหค าํ ตอบ ภาคตะวันออกเปน แหลงแรอ โลหะ ประเภทรัตนชาติ นกั เรยี นชวยกนั สรุปผลการอภปิ ราย เพ่ือใหน กั เรียนเขาใจสถานการณก ารบุกรกุ ที่สําคัญของประเทศและภมู ภิ าคมาตั้งแตอดีต ความรแู ละทกั ษะเชงิ ชางใน พ้ืนท่ปี า เพอ่ื การอนุรกั ษในประเทศไทย อนั จะนาํ ไปสกู ารมจี ิตสํานกึ และการมี การเจียระไนและทาํ เคร่อื งประดับของชางชาวไทยที่สืบทอดกันมาแตโบราณ สวนรว มในการอนรุ ักษทรัพยากรปา ไมในประเทศไทย ประกอบกบั เทคโนโลยีวิทยาการสมยั ใหมด า นอตุ สาหกรรมเครอ่ื งประดบั จาก ชาติตะวนั ตก สง ผลใหเ คร่ืองประดบั จากฝม ือชางชาวไทยเปน ทย่ี อมรบั ใน ระดับโลก ดงั นนั้ คําตอบคอื ขอ 2. 114 คูมอื ครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 1. ครูตงั้ คําถามเก่ียวกับแรอโลหะทส่ี าํ คญั ของ ประเทศไทยใหต วั แทนนกั เรยี นตอบ เพือ่ ชนิดของแร่ แหลง่ ผลิตแร่ส�าคัญ ประโยชน์ของแร่ อธบิ ายความรู เชน แร่อโลหะส�าคัญ • จงั หวัดนครศรีธรรมราชเปน แหลง ของแร ยิปซมั (Gypsum) จังหวัดนครสวรรค ์ พจิ ติ ร สุราษฎรธ์ าน ี ใช้ทา� ปูนซีเมนต ์ ปนู ปลาสเตอร ์ ดนิ สอ และนครศรีธรรมราช แผ่นยิปซมั ปยุ๋ อดั ยาง อโลหะใดทม่ี ีคุณคา ทางเศรษฐกจิ อธิบาย หนิ ปนู (Limestone) พรอ มยกตวั อยา งประกอบพอสงั เขป จงั หวดั สระบรุ ี นครศรธี รรมราช เพชรบุร ี ใช้ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ อุตสาหกรรม (แนวตอบ จงั หวดั นครศรีธรรมราชเปนแหลงแร หินดินดาน (Shale) ราชบรุ ี และล�าปาง ฟอกหนัง หินก่อสร้าง อุตสาหกรรมน้�าตาล อโลหะทม่ี คี ณุ คาทางเศรษฐกจิ ของประเทศ อตุ สาหกรรมแกว้ สารเคม ี ผงซกั ฟอก เปน็ ตน้ หลายประเภท เชน ยิปซัม ใชในการทํา 1 ปนู ซีเมนต ปยุ หนิ ปูนและหินดนิ ดาน ใชใน จังหวดั สระบุร ี นครราชสีมา นครศรธี รรมราช ใชใ้ นอตุ สาหกรรมปนู ซเี มนตเ์ ปน็ สว่ นใหญ่ อุตสาหกรรมซีเมนตและฟอกหนงั เปน ตน) ดนิ ขาว (Kaolin) และสงขลา จงั หวัดลา� ปาง อุตรดติ ถ์ ลพบรุ ี ปราจีนบรุ ี ใชใ้ นอตุ สาหกรรมเครอื่ งปน้ั ดนิ เผา เพชรบุรี ราชบุรี ระยอง นครศรธี รรมราช กระเบอื้ งเคลอื บ เครอ่ื งสขุ ภณั ฑ ์ เปน็ ตน้ ระนอง และนราธิวาส โดโลไมต ์ (Dolomite) จังหวดั แพร ่ กาญจนบรุ ี สรุ าษฎรธ์ านี ใชใ้ นการผลติ แมกนเี ซยี ม ซง่ึ ใชเ้ ปน็ วสั ดทุ นไฟ 2. ครูสนทนารวมกันกบั นักเรียนถงึ แรเช้ือเพลงิ หรือฉนวน ใช้ในอุตสาหกรรมแก้วและกระจก และพลังงานทีส่ าํ คญั ของประเทศไทย แลวต้งั นครศรธี รรมราช และตรงั ใชป้ รบั สภาพดนิ ในการเกษตร คาํ ถามทีเ่ ก่ยี วของกบั ประเภท แหลง แร และ ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งประดบั ใชใ้ นอตุ สาหกรรมการทา� ประโยชนการใชง าน ท่ีสาํ คัญคือ การเชอื่ มโยง รัตนชาต ิ (Gemstone) จังหวัดกาญจนบรุ ี จันทบรุ ี และตราด ถงึ ผลของการใชแรเช้อื เพลิงที่กอใหเกิดแกส นาฬกิ าขนาดเลก็ เรอื นกระจก ใหนักเรยี นชวยกนั ตอบ เชน • แรเ ช้ือเพลิงและพลังงานทสี่ ําคญั ของ แรเ่ ชอ้ื เพลงิ และพ2ลังงานสา� คัญ ประเทศไทยมคี วามเหมาะสมตอ การใช ลกิ ไนต์ (Lignite) จงั หวัดลา� ปาง เชยี งใหม ่ พะเยา ล�าพนู ตาก ใช้เป็นเชอื้ เพลิงธรรมชาติท่ีนา� มาใชท้ ดแทนนา�้ มัน ประโยชนทามกลางวกิ ฤตการณภาวะ เพชรบรุ ี เลย และกระบ่ี โลกรอ นหรือไม อยางไร (แนวตอบ แรเ ชื้อเพลิงและพลังงานทส่ี ําคัญ ปโิ ตรเลยี ม (Petroleum) แหลง่ แม่สูน แหลง่ สนั ทราย จังหวดั เชียงใหม ่ ใชเ้ ปน็ พลงั งานเชอ้ื เพลงิ ประกอบดว้ ยนา�้ มนั ดบิ ของประเทศไมเ หมาะสมตอ การใชประโยชน แหล่งน้�าพอง จังหวัดขอนแก่น แหล่งดงมูล แกส๊ ธรรมชาต ิ และแกส๊ ธรรมชาตเิ หลว จังหวดั กาฬสินธุ ์ แหลง่ ภฮู อ่ ม จงั หวดั อดุ รธานี แหล่งสิริกิต์ิ จังหวัดก�าแพงเพชร แหล่งปรือ ทา มกลางภาวะโลกรอ นในปจ จบุ นั เทา ท่ีควร กระเทียม แหล่งวัดแตน จังหวัดพิษณุโลก เนือ่ งจากกอใหเ กิดแกสเรอื นกระจกขึ้นสู แหลง่ บงึ หญา้ แหลง่ บงึ มว่ ง จงั หวดั กา� แพงเพชร บรรยากาศ ทงั้ การเผาไหมถา นหิน ชนดิ และสโุ ขทัย แหล่งวิเชียรบุรี จงั หวัดเพชรบูรณ ์ และพืน้ ทอ่ี า่ วไทย กลุม่ แหล่งเอราวัณ บรรพต ลกิ ไนต ซ่งึ มคี ณุ ภาพไมดีน้ันกอใหเ กดิ ควัน สตลู ปลาทอง กะพง ปลาแดง จักรวาล ฟนู าน ตราด ปะการัง ไพลนิ และสรุ าษฎร์ แร่เป็นทรัพยากรที่เกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ เมื่อน�ามาใช้แล้วหมดไป ไม่สามารถเกิดขึ้น และแกส ตา งๆ มาก รวมถงึ การใชเ ชอื้ เพลิง มาแทนที่ได้อีก นอกเสียจากว่าเมื่อน�ามาใช้แล้วจะน�าไปดัดแปลง ปรับปรุงเพ่ือน�าไปใช้ได้อีก จากน้าํ มนั และแกส ธรรมชาติดวย อยา งไร แต่ในปัจจุบันความต้องการในการใช้ภายในประเทศมีเพิ่มมากข้ึน โดยเฉพาะในระยะท่ีประเทศ กต็ ามประเทศไทยไดล ดการใชแรเช้อื เพลิง มกี ารขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ทา� ใหแ้ รท่ มี่ อี ยขู่ าดแคลน ซง่ึ จะเกดิ ผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ของประเทศ และพลงั งานขา งตน จากสาเหตุตางๆ ทงั้ การ ใกลจะหมดไปของถา นหนิ ความพยายาม 115 ในการพฒั นาพลงั งานสะอาดของรฐั บาล และหนว ยงานท่ีเกี่ยวของเพอื่ การอนรุ ักษ สิ่งแวดลอม) ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นักเรยี นควรรู การใชท รัพยากรแรและพลงั งานประเภทใชแ ลวหมดไปของมนษุ ยอยา ง 1 ดนิ ขาว (Kaolin) หรือ China clay คอื แรอโลหะทเี่ กิดจากแรงอัดและ ขาดจติ สํานกึ กอ ใหเกดิ วิกฤตการณอยา งไร ความรอนของหินแกรนติ จนกลายเปน ดินท่ีออ นนมุ พบครั้งแรกบริเวณชะงอ นผาสงู แนวตอบ การใชทรัพยากรแรแ ละพลงั งานประเภทใชแ ลว หมดไปของมนษุ ย ในประเทศจนี ท่ีเรียกวา Kaolin เปน วตั ถุดิบในการผลิตเคร่อื งเซรามิกคณุ ภาพสูง อยา งขาดจติ สาํ นึก การจัดการและวางแผน ในการพฒั นาอุตสาหกรรมและใน นอกจากนั้นยังใชใ นอุตสาหกรรมสี กระดาษและยาอีกดวย ชีวติ ประจําวันมาตงั้ แตก ารปฏิวัติอุตสาหกรรม ทาํ ใหแรแ ละพลงั งานประเภท ใชแลวหมดไปท่ีสาํ คญั ตา งๆ เชน นา้ํ มัน แกส ธรรมชาติ เกดิ วิกฤตการณ 2 ลิกไนต (Lignite) เปน ถานหินชนิดหน่งึ ทจ่ี ดั วามคี ณุ ภาพคอนขา งต่าํ เนือ่ งจาก อยา งรุนแรง คือ มปี รมิ าณลดลงอยา งตอ เน่ืองและมแี นวโนมหมดไปในอนาคต มีความชื้นสงู และลุกไหมเองไดง าย รวมถงึ มีควนั จากการเผาไหมม าก และให อันใกล หากไมมกี ารคน พบแหลงแรแ ละพลังงานอ่นื เพม่ิ เติม ทั้งนี้การเพิ่มขนึ้ ความรอนตํ่ากวา ชนดิ อ่นื โดยชนดิ ของถานหินในโลกแบงตามระดับคณุ ภาพ ไดแ ก อยา งรวดเร็วของประชากรโลกประกอบกบั เศรษฐกิจแบบทุนนยิ มก็เปน ปจจัย แอนทราไซต บทิ ูมนิ ัส ซับบิทมู ินัส ลกิ ไนต และพตี ตามลาํ ดบั เรง ทีส่ ําคญั เชนกนั ดังนั้นทุกคนจงึ ควรมีจิตสาํ นึกและมีสวนรว มในการอนุรักษ ทรัพยากรแรและพลังงานอยางจรงิ จงั คูมือครู 115
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Expand Evaluate Engage Explain อธบิ ายความรู ครสู ุมนักเรียนใหออกมาอธิบายความรเู กี่ยวกับ ส�าหรับพลังงานเป็นปัจจัยส�าคัญทางเศรษฐกิจและการด�าเนินชีวิตในปัจจุบัน ดังจะเห็น พลงั งานประเภทตา งๆ ของประเทศไทย ที่ตาราง ได้จากในชว่ งท่ีขาดแคลนพลงั งานหรอื มีการควบคุมปรมิ าณการผลติ พลังงาน ทา� ให้สินค้าราคาสูง บนกระดานหนา ชนั้ เรียน โดยครกู าํ หนดหัวขอ เพราะส่งผลต่อตน้ ทนุ การผลติ ทใ่ี ชพ้ ลงั งานเปน็ เช้ือเพลงิ เปน็ ตน้ ไวบางสวน ไดแ ก ลกั ษณะของพลังงาน สภาพ พลงั งานที่ใชใ้ นประเทศไทยแบง่ เป็นประเภทตา่ ง ๆ ได้แก่ และปญหาการใชพลังงาน แนวทางการแกไขหรอื 1. พลงั งานหมนุ เวยี น ไดแ้ ก ่ พลงั งานแสงอาทติ ย ์ มฟี ารม์ พลงั งานแสงอาทติ ยเ์ กดิ ขนึ้ พฒั นาการใชพ ลังงานดังกลา วและอน่ื ๆ แลว ครู มากมาย เชน่ จงั หวัดนครราชสีมา ลพบุร ี เปน็ ต้น เนอื่ งจากมตี ้นทนุ การผลิตลดลง พลงั งานน้�า และนักเรียนอภปิ รายรว มกนั ถึงสถานการณด า น ใชใ้ นการผลติ กระแสไฟฟา้ โดยมแี หลง่ ผลติ ทส่ี า� คญั เชน่ เขอื่ นศรนี ครนิ ทร ์ จงั หวดั กาญจนบรุ ี เขอ่ื น ทรพั ยากรแรและพลังงานในประเทศไทย จากนน้ั ภมู พิ ล จงั หวดั ตาก เปน็ ตน้ มกี ารใชพ้ ลงั งานลมมากขน้ึ เชน่ อา� เภอดา่ นขนุ ทด จงั หวดั นครราชสมี า นักเรยี นสรุปความรูที่ไดจากการศกึ ษาลงในสมดุ เปน็ ตน้ พลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พ สามารถนา� มาพฒั นาใชใ้ นการผลติ กระแสไฟฟา้ แหลง่ ทสี่ า� คญั เช่น แหล่งบ้านโป่งนก-โป่งฮ่อม อ�าเภอสันก�าแพง แหล่งบ้านโป่งน้�าร้อน อ�าเภอฝาง จังหวัด ขยายความเขา ใจ Expand เชยี งใหม ่ เปน็ ตน้ พลงั งานชวี มวล เปน็ พลงั งานทไี่ ดจ้ ากพชื และสตั ว ์ เชน่ การใชฟ้ นื และถา่ นในการ หงุ ตม้ แกส๊ ชวี ภาพ แอลกอฮอล ์ นา�้ มนั เปน็ ตน้ ซงึ่ ในอนาคตประเทศไทยสามารถจะพฒั นาเพอื่ นา� ไป ครูใหน ักเรยี นศกึ ษาคนควา เพิ่มเตมิ เกย่ี วกบั ใชไ้ ดม้ ากยง่ิ ขน้ึ เนอ่ื งจากมผี ลผลติ ทางการเกษตรซง่ึ เปน็ ตน้ กา� เนดิ ของพลงั งานชวี มวลอยมู่ ากมาย สถานการณด านทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม 2. พลงั งานท่ใี ช้แลว้ หมดไป เปน็ พลงั งานทเี่ กดิ จากการทบั ถมของพชื และสตั ว์ท่อี ยูใ่ ต้ ในประเทศไทย โดยเนน ขอมลู สถิติ และความรู ผวิ โลกนบั รอ้ ยลา้ นปี ซง่ึ เป็นพลงั งานหลกั ที่ใช้ในปัจจุบนั เชน่ ถ่านหิน ปโิ ตรเลยี ม เป็นตน้ ท่เี ปน ปจจุบนั จากแหลงการเรยี นรูตางๆ เชน พ้นื ท่ี 3. พลังงานไฟฟ้า ในระยะแรกมีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากปิโตรเลียม ต่อมา ปาอนรุ กั ษหรือพิพธิ ภณั ฑท ่เี กี่ยวขอ งกบั ทรัพยากร พัฒนามาใช้ถ่านหิน พลังงานน�้า แก๊สธรรมชาติ แสงอาทิตย์ และพลังงานความร้อนใต้พิภพ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอมในทอ งถ่ิน และเวบ็ ไซตของ ไฟฟ้ามีความส�าคัญต่อวิถีการด�าเนินชีวิต และไฟฟ้าในระบบใหญ่ที่ผลิตขึ้นได้ถูกน�าไปใช้อย่าง หนว ยงานดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอม กว้างขวาง ทั้งการใช้ภายในอาคารบ้านเรือน ใช้เพ่ือการเกษตร อุตสาหกรรม การคมนาคม แลวจัดทําเปน แผน พบั ทีม่ ีการนําเสนอขอ มลู ทีน่ าสนใจ การแพทย์ เป็นตน้ àÃÍ×è §¹Ò‹ Ì٠ตรวจสอบผล Evaluate เชื้อเพลงิ ฟอสซลิ ครคู ัดเลือกผลงานการจัดทาํ แผนพบั สถานการณ เชื้อเพลิงฟอสซิล คือ เชื้อเพลิงท่ีเกิดจากซากพืชซากสัตว์ท่ีตาย ดา นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ มใน ทับถมกันมานานหลายล้านป จมอยู่ในดินจนเปลี่ยนรูปไปเป็นฟอสซิล ประเทศไทยท่ีดีของนักเรียน แลวนาํ มาใหน กั เรียน (ซากดกึ ด�าบรรพ)์ เม่ือมีการเปล่ยี นแปลงตามธรรมชาติ ฟอสซิลกลายเป็น ชว ยกนั ตรวจอกี ครงั้ โดยพจิ ารณาจากความถูกตอ ง น�้ามันดิบ แกสธรรมชาติ และถ่านหิน ซึ่งสามารถน�ามาใช้ประโยชน์เป็น ชดั เจนและทนั สมัยของขอมูล รวมถึงการนาํ เสนอ เชื้อเพลงิ ได้ จึงเรยี กเชื้อเพลิงประเภทนว้ี ่า “เชอื้ เพลิงฟอสซิล” (fossil fuel) ที่นา สนใจและเขาใจงาย แลว ครูสอบถามนกั เรียน หรอื ปโตรเลียม ถงึ วิธกี ารทํางานและเสนอแนะแนวทางเพม่ิ เตมิ หรอื ปรับปรงุ เพือ่ การพัฒนาชิ้นงานตอ ไป จากน้ัน 116 รวบรวมแผนพับสถานการณด า นทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ มในประเทศไทยทด่ี ไี วเ ปนแหลง การ เรยี นรูในชัน้ เรียนหรือในหอ งสมดุ เกรด็ แนะครู ขอสอบ O-NET ขอสอบป ’53 ออกเกย่ี วกับการพัฒนาพลังงานหมนุ เวยี นในประเทศไทย ครอู ธิบายนกั เรยี นเพ่ิมเตมิ ถึงกระบวนการผลิตพลงั งานทดแทนประเภทตางๆ พลังงานหมุนเวยี นประเภทใดควรมกี ารพัฒนาในชนบทเพือ่ แกปญหา ตวั อยางเชน โรงไฟฟาพลังความรอ นใตพ ภิ พท่อี าจใชบอ นา้ํ ความลกึ ถงึ 1.5 กโิ ลเมตร การขาดแคลนพลงั งาน เพอ่ื ใหส ามารถเขา ถงึ แหลงสาํ รองนา้ํ จากความรอนใตพภิ พทีก่ ําลังเดือด โรงไฟฟา 1. พลงั งานไฟฟา บางแหง ใชไ อน้ําจากแหลงสํารองเหลา น้ีโดยตรงเพ่อื ทําใหใบพดั หมนุ สว นโรงไฟฟา 2. พลงั งานชีวมวล อ่นื ๆ อาจปมน้าํ รอนแรงดันสงู เขา ไปในแทง็ กน้ําความดนั ตํ่า ทาํ ใหเกิด “ไอน้าํ ชว่ั 3. พลังงานแสงอาทิตย ขณะ” ซ่ึงใชเ พ่ือหมนุ กงั หันของเครอื่ งกาํ เนดิ ไฟฟา สวนโรงไฟฟาสมยั ใหมอาจใชน้าํ 4. พลงั งานความรอนใตพิภพ รอนเพอ่ื ทาํ ความรอ นใหกบั ของเหลว เชน ไอโซบวิ ทีน ซึ่งมีจดุ เดือดทีอ่ ุณหภมู ติ าํ่ กวา วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 2.-4. พลังงานชวี มวล พลังงานแสงอาทติ ย นาํ้ และเมื่อของเหลวชนดิ นร้ี ะเหยเปนไอและขยายตวั มันจะทําใหใบพัดเครอ่ื งกําเนิด และพลังงานความรอ นใตพ ภิ พ เปนพลังงานหมุนเวียนท่คี วรไดร บั การศึกษา ไฟฟา หมุน การผลติ พลงั ความรอ นใตพ ภิ พแทบไมก อ มลพิษหรือปลอยแกส เรอื น และพฒั นาข้ึนใชใ นชนบทอยา งเหมาะสม เชน พลังงานชีวมวลอยางแกสจาก กระจกเลย แตถึงแมวาหลายประเทศท่มี ีแหลงสํารองความรอ นใตพ ิภพอดุ มสมบูรณ การหมักซากพชื มูลสัตว หรอื ท่ีเรยี กวา แกส ชวี ภาพ เปน ตน สว นพลงั งาน แตแ หลงพลังงานหมนุ เวียนประเภทนีย้ ังถูกนาํ มาใชป ระโยชนน อ ยมาก ไฟฟา เปนพลังงานอกี ประเภทหน่งึ ซง่ึ ไมใ ชพ ลงั งานหมนุ เวยี น 116 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Engage กระตนุ ความสนใจ ครนู าํ ภาพขาวเกยี่ วกบั วกิ ฤตการณทรพั ยากร . ãǹԡϵÃСàÒ·Ãȳ䷴ Œҹ·Ã¾Ñ ÂҡøÃÃÁªÒµÔáÅÐʧèÔ áÇ´ÅŒÍÁ ธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอมในแตล ะดานหรอื ในแตล ะ ภูมิภาคของประเทศไทย เชน การบกุ รกุ พืน้ ที่ปา ปจจุบันประเทศไทยตองเผชิญกับวิกฤตการณทางดานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม สงวนเพ่ือการเกษตรหรอื อุตสาหกรรมการทองเทย่ี ว และนบั วนั วกิ ฤตการณตาง ๆ กย็ งิ่ ทวีความรุนแรงมากข้นึ ในภาคใตมาใหนักเรยี นพจิ ารณาและสนทนารวม กนั ถงึ ปจจยั ของการเกิด ลักษณะของวกิ ฤตการณ 2.1 วกิ ฤตการณเ ก่ียวกับท่ีดนิ และทรพั ยากรดิน และผลกระทบในดา นตา งๆ แลวต้ังคําถามเพ่อื กระตนุ จติ สาํ นึกการอนุรกั ษทรพั ยากรธรรมชาติ ความจํากัดของท่ีดิน การเปล่ียนสภาพการใชท่ีดิน การใชที่ดินไมเหมาะสมกับสมรรถนะ และส่งิ แวดลอมของนกั เรียน เชน ของดนิ และการจดั ระเบยี บการใชท ด่ี นิ ทไ่ี มถ กู ตอ งของผถู อื ครองทดี่ นิ สาเหตตุ า ง ๆ เหลา นล้ี ว นเปน • ในฐานะพลเมืองไทยคนหน่งึ นกั เรียนจะ วิกฤตการณเก่ียวกับท่ีดิน และจะเปนปญหาของประเทศมากยิ่งขึ้นหากยังไมมีมาตรการแกไขท่ี มสี วนชว ยในการแกไ ขหรือการจัดการ ถกู ตอ งเหมาะสม โดยวกิ ฤตการณเ ก่ยี วกบั ทดี่ นิ ของประเทศไทย มดี ังนี้ วกิ ฤตการณทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอมของไทยอยา งไรบา ง 1) ความจํากัดของจํานวนท่ีดิน ประเทศไทยมีพื้นที่อยูประมาณ 320 ลานไร โดยเปน ทง้ั พน้ื ทที่ ใี่ ชเ ปน ทอี่ ยอู าศยั เปน ชมุ ชน เปน พน้ื ทท่ี าํ การเกษตรและอตุ สาหกรรม เปน พน้ื ท่ี ปาและท่ีดินรกรางวางเปลา ในขณะท่ีจํานวนประชากรของประเทศเพ่ิมขึ้นจาก 18 ลานคน ใน พ.ศ. 2490 เปน 66 ลา นคน ใน พ.ศ. 2558 การพฒั นาประเทศทาํ ใหช มุ ชนเมอื งขยายตวั เขา ไปใน สาํ รวจคน หา Explore พนื้ ทเี่ กษตรกรรม เชน การขยายตวั ของกรงุ เทพฯ ทาํ ใหพ นื้ ทฝี่ ง ธนบรุ ี จงั หวดั นนทบรุ ี ปทมุ ธานี ทเี่ คย ครูใหนกั เรยี นศกึ ษาความรูเกี่ยวกับวิกฤตการณ เปน สวนผลไมแ ละนาขา วหมดไป เปน ตน และในสว นของการพฒั นาเศรษฐกจิ ทมี่ กี ารเรง เพมิ่ ผลผลติ ดา นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ มใน ทางการเกษตร เชน ขา ว ยางพารา ออ ย มนั สาํ ปะหลงั เปน ตน ทาํ ใหม กี ารบกุ รกุ พน้ื ทปี่ า โดยเฉพาะ ประเทศไทย จากหนงั สือเรยี น หนา 117-124 และ ในพน้ื ทภี่ าคเหนอื ไดแ ก จงั หวดั เชยี งราย พะเยา แพร และนา น พนื้ ทป่ี า ไมบ รเิ วณเหลา นน้ั กลายเปน แหลง ขอมลู อ่ืนๆ เชน เอกสารและหนงั สอื ของ พื้นที่เกษตรกรรม ความตองการท่ีดินท้ังใชเปนท่ีอยูอาศัย ชุมชน และใชเพื่อการเพาะปลูก หนวยงานทเ่ี กยี่ วขอ งท้งั ภาครัฐและเอกชน http:// จงึ สงู ขน้ึ อยางตอเนือ่ ง ในขณะทที่ ดี่ ินหรือพ้ืนทข่ี องประเทศไมส ามารถเพิ่มข้ึนได www.thaienvimonitor.net/index.htm เวบ็ ไซต สภาพปญ หาทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม 2) การเปลยี่ นสภาพการใชท ดี่ นิ สถาบันวจิ ยั เพอื่ การพฒั นาประเทศไทย รวมถึง การใชเคร่อื งมอื ทางภมู ิศาสตร เชน การใชข อมลู พนื้ ทที่ างการเกษตรของประเทศไทยเพมิ่ มากขนึ้ ดาวเทยี มกบั สถานการณตางๆ http://www. โดยการเปล่ียนสภาพที่ดินท่ีเปนพ้ืนท่ีปาไม gistda.or.th/gistda_n/index.php/gallery-events พ.ศ. 2523 มพี น้ื ทที่ าํ การเกษตรประมาณ 147 เว็บไซตส าํ นักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ ลานไร ตอ มาใน พ.ศ. 2558 พ้นื ท่ที าํ การเกษตร ภูมสิ ารสนเทศ (องคกรมหาชน) ไดเพิ่มขึ้นเปนประมาณ 174 ลานไร จึงเปน ไปไดวาพ้ืนท่ีการเกษตรที่เพิ่มข้ึนประมาณ 27 ลานไรน้ัน เปนการบุกรุกเขาไปในพ้ืนที่ปาไม ดังจะเห็นไดจากพื้นท่ีปาไมในภาคเหนือ เชน ในหลายพนื้ ทข่ี องประเทศไทยกาํ ลงั ประสบปญ หาเกย่ี วกบั จังหวัดเชียงราย ลําปาง แพร นาน เปนตน ท่ดี นิ โดยเฉพาะการบุกรุกทดี่ นิ และการขยายชุมชน อธบิ ายความรู Explain ครสู มุ นักเรียน 2-3 คน ใหช วยกันอธิบาย 117 ความรวู กิ ฤตการณเกย่ี วกบั ทดี่ ินและทรพั ยากรดิน ในดา นการจํากดั ของจาํ นวนทด่ี นิ และการเปลี่ยน สภาพการใชทีด่ ินที่หนาช้ันเรียน ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกรด็ แนะครู การสญู เสียทีด่ ินเพื่อเกษตรกรรมของไทยเกดิ จากสาเหตุใด และสงผล ครูอาจอธบิ ายใหน ักเรียนเขา ใจถึงความสําคญั ของการจดั การที่ดิน การวาง อยางไร ผังเมือง และการฟนฟูท่ดี นิ เสอื่ มโทรมเพอ่ื การใชป ระโยชนใ นการแกไขและบรรเทา แนวตอบ การเรงพัฒนาประเทศในชว งทผ่ี านมา สง ผลใหเ กดิ การขยายตวั วกิ ฤตการณทรพั ยากรท่ดี ินในประเทศไทย เชน ประเทศไทยขาดการจัดการทีด่ ี ทางดา นอุตสาหกรรมอยางรวดเร็ว ประกอบกบั รัฐบาลมีนโยบายสงเสรมิ เกยี่ วกับการใชท ่ดี นิ โดยพ้นื ทอ่ี ดุ มสมบูรณเ หมาะสมตอ การเพาะปลกู กลับถูก ดานอตุ สาหกรรมในภมู ภิ าคตา งๆ ทําใหเกดิ ปญหาการใชพ้ืนที่ทมี่ คี วาม นายทนุ นาํ มาใชกอ สรา งหมูบ านจดั สรร นคิ มอุตสาหกรรม เพ่ือรองรับการขยายตัว เหมาะสมกบั เกษตรกรรมไปเปน พ้ืนท่ีเพือ่ อุตสาหกรรมมากขึ้น รวมท้ัง ของเมือง ท้งั น้โี ดยความรวมมือของเจา หนา ทท่ี มี่ สี ว นเก่ยี วขอ ง ดงั น้ันการแกไ ขและ พ้ืนท่ีเกษตรกรรมใกลเคยี งกอ็ าจไดร บั ผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม บรรเทาวกิ ฤตการณทด่ี ินในประเทศไทย โดยเฉพาะดานการใชประโยชนทด่ี นิ จงึ ที่ปลอยออกมาอีกดวย นอกจากนีย้ ังมกี ารปรบั เปล่ียนการใชทดี่ ินทม่ี ี ตอ งอาศัยการจัดการวางแผนทดี่ ีของหนว ยงานทีเ่ กีย่ วขอ งภาครัฐ การดาํ เนินการ ความอุดมสมบูรณเหมาะสมกับการเกษตรไปเปนโครงการจัดสรรทีด่ ิน ตามแผนที่กําหนดอยา งจรงิ จังของเจาหนาท่ที ่เี ก่ยี วขอ ง รวมถึงความรวมมือของ ขนาดใหญ บานจัดสรร สนามกอลฟ เปน ตน ภาคประชาชนในการใชป ระโยชนจ ากทด่ี นิ อยา งถูกตองเหมาะสม คมู ือครู 117
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครูสนทนารว มกันกับนกั เรียนถงึ วิกฤตการณ ล้วนน�ำมำเป็นพื้นท่ีท�ำสวน ท�ำไร่ และท�ำนำเป็นส่วนมำก ในส่วนของท่ีดินที่ใช้เป็นชุมชนก็เช่น เก่ยี วกับท่ดี ินและทรัพยากรดนิ ในดานการพฒั นา เดยี วกนั พ.ศ. 2523 มีพน้ื ที่ชุมชนเพยี ง 1.4 ลำ้ นไร่ และตอ่ มำใน พ.ศ. 2558 ได้เพ่มิ พน้ื ทเี่ ป็น อตุ สาหกรรมชมุ ชนและสาธารณูปโภค ดา นการ 16.5 ล้ำนไร่ กำรเปล่ยี นสภำพกำรใชท้ ดี่ ินดังกลำ่ วท�ำใหพ้ น้ื ทีป่ ่ำไมแ้ ละพน้ื ที่วำ่ งเปลำ่ ลดลง ซ่งึ จะ ขาดกรรมสทิ ธ์ถิ อื ครองท่ีดิน และดานปญหาการ มีผลกระทบต่อระบบนิเวศและวกิ ฤตกำรณโ์ ลกร้อนท่เี ปน็ อยูใ่ นปัจจบุ นั ถือครองทด่ี ิน แลว ตงั้ ประเดน็ ใหอภิปรายรว มกนั เชน กรรมสิทธท์ิ ี่ดนิ : สาเหตสุ าํ คญั ของปญ หาท่ดี นิ 3) การพฒั นาอตุ สาหกรรมชมุ ชนและสาธารณปู โภค กำรพฒั นำอตุ สำหกรรมนบั ในประเทศไทย ปญหาที่ดนิ ของไทยกับการจัดการ ท่ีดนิ หรอื การวางผังเมือง : แนวทางการแกปญ หา ตงั้ แตก่ ำรเปลย่ี นทต่ี ง้ั ของโรงงำนจำกในเมอื งไปอยนู่ อกเมอื ง เชน่ จำกในเขตกรงุ เทพมหำนครไปอยู่ ที่ดนิ ของไทย ทั้งนี้เพอ่ื ใหนักเรียนเกดิ ความรคู วาม รบวรมเิ วทณง้ั รกงั ำสรติไปบจรดั เิ วตณง้ั นจิคงั หมวอดั ตุ ปสทำหมุ ธกำรนรมี แต1ลำ่ ะงอๆำ� เภเชอ่นบำงทปี่บะรอเิ นิวณอแำ� เหภลอมวฉงั นบอ้งั ยจจังงั หหววดั ดั ชพลรบะรุนีคแรลศะรบอี รยิเธุ วยณำ เขา ใจถึงสาเหตทุ ่ีแทจรงิ ของสภาพปญ หาที่ดนิ ทง้ั มำบตำพดุ จงั หวดั ระยอง ลว้ นเปน็ กำรเขำ้ ไปบกุ รกุ พนื้ ทเ่ี กษตรกรรมทมี่ อี ยกู่ อ่ น เมอื่ มกี ำรขยำยตวั สามประการ ซ่งึ ประกอบดว ย การพัฒนาประเทศ ของกำรใชพ้ ืน้ ท่ีอุตสำหกรรมออกไป ชมุ ชนกม็ กี ำรขยำยตำมไปด้วย คือ เปน็ บำ้ นจดั สรร ร้ำนค้ำ แบบทนุ นยิ มท่ีขาดการจดั การท่ดี ี การขาดการ สถำนบรกิ ำร รวมทั้งสำธำรณปู โภค เชน่ ถนน นำ�้ ประปำ ไฟฟ้ำ กำรส่อื สำร และสถำนที่รำชกำร วางแผนการใชท ่ีดนิ และการบังคับใชกฎหมาย ต่ำงก็ต้องขยำยตำมไปด้วย กำรพัฒนำดังกล่ำวล้วนท�ำให้ท่ีดินท่ีมีอยู่อย่ำงจ�ำกัดยิ่งขำดแคลน เกี่ยวกับทีด่ ินอยา งจริงจงั ย่งิ ข้นึ หรือไมก่ เ็ กิดกำรบุกรุกไปใช้พืน้ ทป่ี ่ำไมแ้ ละพืน้ ทีว่ ่ำงเปล่ำต่อไปอกี 4) การขาดกรรมสทิ ธ์ถิ อื ครองทด่ี นิ ผถู้ ือครองทดี่ ินซึ่งเปน็ ผมู้ กี รรมสทิ ธท์ิ ่ดี นิ ตำม กฎหมำยนนั้ มเี ปน็ สว่ นนอ้ ย ผปู้ ระกอบอำชพี เกษตรกรรมมกั เปน็ ผเู้ ชำ่ ทด่ี นิ ทำ� กนิ หรอื ไมก่ เ็ ขำ้ ไปใช้ ประโยชน์จำกทดี่ ินโดยรัฐยงั ไม่สำมำรถมอบกรรมสทิ ธ์ทิ ่ดี ินใหไ้ ด้อย่ำงถกู ต้องตำมกฎหมำย ทำ� ให้ ไม่สำมำรถพัฒนำท่ีดินที่จะน�ำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภำพ หรือไม่ก็ขำดควำมรู้ควำมเข้ำใจ ในกำรครอบครองทด่ี นิ จนเกดิ กำรฟอ้ งรอ้ งใหอ้ อกจำกพนื้ ที่ เชน่ กรณขี องชำวบำ้ นอำ� เภอจอมทอง จังหวัดเชยี งใหม่ ถกู ศำลตดั สนิ ใหอ้ อกจำกพ้นื ทป่ี ่ำสงวน เม่ือเดอื นสิงหำคม พ.ศ. 2556 เป็นตน้ นอกจำกนี้ยังมีกรณีกำรออกโฉนดท่ีดินในที่สำธำรณะ ซึ่งมีตัวอย่ำงที่จังหวัดล�ำพูนจ�ำนวนหลำย พันไร่ กรณีดังกล่ำวก่อให้เกิดควำมขัดแย้งและกำรร้องเรียนของชำวบ้ำนเกิดขึ้นในหลำยพื้นที่ โดยเฉพำะพ้นื ที่ภำคเหนือตอนบน 5) ปัญหาการถือครองที่ดิน กำรบุกรุกท่ีดินของรัฐทั้งท่ีเป็นพื้นที่ป่ำสงวนและ ทสี่ ำธำรณประโยชน์ โดยกลมุ่ นำยทนุ หรอื ประชำชนเขำ้ ไปอยอู่ ำศยั และประกอบอำชพี โดยขำดสทิ ธิ ในกำรครอบครองทดี่ นิ ตำมกฎหมำย หรอื เขำ้ ไปครอบครองอยำ่ งถกู ตอ้ งแตร่ ฐั ประกำศใหเ้ ปน็ ทดี่ นิ ของรฐั ในภำยหลงั ทำ� ใหเ้ จำ้ หนำ้ ทข่ี องรฐั และประชำชนเกดิ ควำมขดั แยง้ กนั นอกจำกนท้ี ดี่ นิ ทเ่ี ปน็ ทอ่ี ยอู่ ำศยั มักไมม่ กี ำรโอนกรรมสิทธิอ์ ยำ่ งถกู ตอ้ ง เมอื่ ระยะเวลำผำ่ นมำนำน ทำ� ใหไ้ มส่ ำมำรถระบสุ ทิ ธิของ ผถู้ อื ครองได้อยำ่ งถกู ตอ้ ง ก่อให้เกิดควำมขัดแย้งระหว่ำงประชำชนกับประชำชนด้วยกันเอง นอกจำกน้ันในกำรจัดรังวัดตรวจสอบที่ดินตำมเอกสำรสิทธิ์ดั้งเดิมมักจะปรำกฏพื้นที่ ท่ดี ินทบั ซอ้ นกันซ่งึ ทำ� ให้เกิดควำมขัดแย้งได้เชน่ กนั 118 นักเรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT สาเหตสุ าํ คัญของปญ หาการใชประโยชนท ีด่ ินในประเทศไทยคอื อะไร 1 นิคมอุตสาหกรรม เปนพื้นทซี่ ่ึงจดั สรรใหโ รงงานอุตสาหกรรมต้งั อยูร วมกนั 1. การบังคับใชกฎหมายทไี่ มมีประสิทธิภาพ เพอ่ื ความสะดวกในการบริหารจัดการ ตลอดจนการควบคมุ ผลกระทบตอ 2. การเกษตรแบบไรเ ลอ่ื นลอยในพื้นท่หี า งไกล สิง่ แวดลอม ปจจบุ นั ขอ มูลของการนคิ มอุตสาหกรรมแหงประเทศไทยมีนิคม 3. การมีจํานวนประชากรหนาแนนในทุกภมู ิภาค อตุ สาหกรรมตัง้ อยเู กือบทุกภมู ภิ าคของประเทศ โดยเฉพาะในภาคกลาง เชน 4. การจัดต้ังนคิ มอุตสาหกรรมขน้ึ ในภูมิภาคตา งๆ นิคมอุตสาหกรรมสหรตั นนคร จังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา นคิ มอุตสาหกรรม วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. การบังคบั ใชกฎหมายทไี่ มมปี ระสิทธภิ าพ สมุทรสาคร จงั หวัดสมุทรสาคร และนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล จงั หวดั เปน สาเหตสุ ําคญั ของปญหาการใชป ระโยชนท ่ดี นิ ในประเทศไทย กลาวคอื ปตตานี นอกจากนยี้ งั มนี ิคมอตุ สาหกรรมท่ีอยใู นระหวางการดําเนนิ การกอสราง การมีเจาหนา ท่ปี ฏิบตั งิ านไมเ พยี งพอ การขาดการดแู ลเอาใจใสข องเจา หนา ที่ อีกหลายแหง เชน นิคมอตุ สาหกรรมลาํ พูน จังหวดั ลําพนู นคิ มอตุ สาหกรรม ภาครฐั รวมถงึ การรบั ผลประโยชนจ ากนายทุนของเจา หนา ทบี่ างสวน สง ผล ทา เรือ เอเชีย เทอรม นิ ลั จงั หวัดระยอง และนคิ มอตุ สาหกรรมอญั ธานี โครงการ 2 ใหก ารบงั คับใชกฎหมายเก่ยี วกับการใชประโยชนทีด่ ิน เพ่ือความถกู ตอ ง กรงุ เทพฯ เหมาะสม ลดผลกระทบตอ ส่ิงแวดลอมไมมปี ระสิทธิภาพเทาท่คี วร 118 คูม ือครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 6) การเกิดภัยธรรมชาติ ภัยธรรมชาติที่มักเกิดข้ึนในประเทศไทยและก่อให้ ครูใหต ัวแทนนักเรียน 2-4 คน ออกมาชวยกัน อธิบายความรเู กยี่ วกับวิกฤตการณท ดี่ ินและ เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่ส�าคัญ ได้แก่ น้�าท่วม รวมทั้ง ทรัพยากรดนิ ในประเทศไทยในดานการเกดิ ภยั การพัดเอาดินโคลนไหลไปท�าความเสียหายแก่ ธรรมชาตแิ ละแผน ดนิ ทรดุ ตวั ท่ีตารางบนกระดาน ชวี ิต บา้ นเรือน สาธารณูปโภค และผลผลิตทาง หนาชนั้ เรียน โดยครูกําหนดคําสาํ คญั ที่เกี่ยวของกบั การเกษตร เช่น ใน พ.ศ. 2554 เกิดเหตกุ ารณ์ วิกฤตการณทัง้ สองดา นไว เชน นาํ้ มาก-นํ้านอ ย ซงึ่ นา�้ ทว่ มครัง้ รนุ แรงของไทย มจี งั หวดั ทไ่ี ดร้ ับผล เปน สาเหตสุ ําคญั ของการเกดิ ภยั ธรรมชาตทิ ี่ทําให กระทบจากน�้าท่วมครั้งน้ี 65 จังหวัด พ้ืนที่ ดนิ ขาดความอดุ มสมบรู ณแ ละการใชน าํ้ บาดาลจน ท่ีได้รับผลกระทบหนักท่ีสุดอยู่ท่ีบริเวณท่ีราบ ทําใหแ ผนดนิ เกดิ การทรุดตัว ตามลาํ ดบั แลว ครู ลุ่มแม่น้�าเจ้าพระยาและที่ราบลุ่มแม่น�้าโขง ซ่ึง สนทนารว มกันกบั นักเรยี นถึงการจัดการนา้ํ อยาง นควอากมจเาสกียนหี้ าพยทายั้งุฤหดมูรด้อสนงู กถ1็มึง ัก1เ.ก4ิด4 ขล้ึนา้ เนปล็นา้ ปนรบะาจท�า มีประสิทธภิ าพ การปอ งกันและควบคุมไฟปา ซึ่ง ทกุ ป ี ในชว่ งเดอื นเมษายนทอี่ ากาศรอ้ นจดั จน เปนหลกั การปองกันและแกไขวิกฤตการณการขาด สรา้ งความเสยี หายตอ่ ทรพั ยส์ นิ เปน็ จา� นวนมาก ความอุดมสมบูรณของดนิ และการทรุดตัวของ ไฟป่าในประเทศไทยมักเกิดขึ้นใน พนื้ ทร่ี าบลมุ่ บรเิ วณภาคกลางตอนลา่ งมกั จะไดร้ บั ผลกระทบ แผนดนิ อยางยงั่ ยนื พน้ื ทท่ี อ่ี ยใู่ นความดแู ลของรฐั เชน่ ในพนื้ ทเี่ ขต จากปญ หานา�้ ทว่ มเปน็ ประจา� เกอื บทกุ ป อนรุ กั ษพ์ นั ธส์ุ ตั วป์ า่ และอทุ ยานแหง่ ชาต ิ ในระยะหลงั ไฟปา่ มกั สง่ ผลใหเ้ กดิ ปญั หาหมอกควนั ในหลาย พน้ื ทโ่ี ดยเฉพาะในภาคเหนอื ส�าหรับแผ่นดินไหวในประเทศไทยยังไม่รุนแรง แต่ก็อยู่ในเขตท่ีต้องเฝ้าระวังการเกิด แผน่ ดินไหวเชน่ กัน 7) แผน่ ดนิ ทรดุ ตวั บรเิ วณพน้ื ทที่ มี่ กี ารใชน้ า้� บาดาลมาก เชน่ พน้ื ทกี่ รงุ เทพมหานคร สมทุ รปราการ นนทบรุ ี และปทมุ ธาน ี ไดม้ ีการน�านา้� บาดาลขนึ้ มาใช้อย่างต่อเนอ่ื งมากว่า 30 ป ี โดยเฉพาะพนื้ ทีบ่ รเิ วณย่านรามค�าแหง บางนา และในจังหวดั สมทุ รปราการ แผน่ ดินได้ทรุดตวั ลง แล้วกว่า 1 เมตร และยังคงทรุดตัวลงอย่างต่อเน่ือง จนท�าให้ภาครัฐต้องก�าหนดมาตรการห้าม ขดุ เจาะน�า้ บาดาลขนึ้ มาใช ้ และใหใ้ ช้น�้าผวิ ดิน (นา้� ในแมน่ า้� ) มาทา� นา้� ประปาใหบ้ รกิ ารเพม่ิ มากขนึ้ พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดการทรุดตัวหรือดินถล่มระดับสูงมีอยู่ทั่วทุกภาคและหลาย หมู่บ้าน เช่น จังหวัดเพชรบูรณ์ท่ีอ�าเภอเมือง อ�าเภอชนแดน และอ�าเภอบึงสามพัน จังหวัด เชียงรายที่อ�าเภอเมือง อ�าเภอแม่จัน และอ�าเภออื่น ๆ จังหวัดน่านที่อ�าเภอปัว อ�าเภอท่าวังผา อา� เภอเมอื ง และอ�าเภออน่ื ๆ จังหวัดกาญจนบุรีที่อา� เภอทองผาภมู ิ จงั หวัดอุดรธานีทอี่ า� เภอนายงู และอา� เภอน้�าโสม จงั หวัดนราธวิ าสท่ีอา� เภอสคุ ริ ิน อ�าเภอศรสี าคร อ�าเภอสุไหงปาด ี และอ�าเภอ อนื่ ๆ และจงั หวดั นครศรีธรรมราชทอ่ี า� เภอพรหมครี ี อ�าเภอท่าศาลา และอา� เภออน่ื ๆ เปน็ ต้น 119 ขอสอบ O-NET นักเรียนควรรู ขอสอบป ’51 ออกเก่ยี วกบั การจัดการคุณภาพดิน 1 พายฤุ ดูรอ น หรือพายฝุ นฟาคะนอง (thunderstorm) ในประเทศไทยจะเกดิ ขอ ใดไมใชวิธกี ารจดั การคณุ ภาพดนิ ขึน้ ในชวงฤดูรอนในราวเดอื นมนี าคมถงึ เดือนเมษายน หรือในชว งกอนเร่มิ ตน ฤดูฝน 1. การปรบั ปรงุ บาํ รุงดิน จากการที่ความกดอากาศสงู จากประเทศจีนแผลงมาปกคลมุ ประเทศไทย จึงทําให 2. การปลกู พชื หลากชนิด เกดิ การปะทะกันระหวา งอากาศที่รอนชื้นของประเทศไทยและอากาศทแ่ี หง และเย็น 3. การปอ งกันการพงั ทลายของดิน จากประเทศจนี ทําใหเกิดพายุฝนฟา คะนอง ฟาแลบและฟาผาตามมา และหาก 4. การวิเคราะหผ ลกระทบจากการใชดนิ อณุ หภมู ิบนยอดเมฆตํ่ามากกส็ ามารถทาํ ใหเกิดลกู เหบ็ ตกได วเิ คราะหค ําตอบ การจดั การคุณภาพดินสามารถทําไดหลายวิธีการตาม มุม IT สภาพปญหา เชน ปญ หาดนิ ขาดความอดุ มสมบรู ณค วรบํารุงดนิ ดว ยธาตุ อาหารตางๆ การปลูกพืชหลากชนิด เพอื่ ปองกันมใิ หดินขาดธาตุอาหารจาก ศึกษาความรูเกยี่ วกับทรัพยากรนาํ้ บาดาลและผลกระทบจากการใชทรพั ยากร การปลูกพืชเชิงเดย่ี ว และการปอ งกนั การชะลางพงั ทลายของหนา ดนิ ทีม่ ธี าตุ น้าํ บาดาลในพ้นื ที่ตางๆ ของประเทศไทยเพ่มิ เตมิ ไดท่ี http://www.dgr.go.th/ อาหารที่จําเปน ตอ การเจริญเตบิ โตของพืช โดยวิธีการตา งๆ เชน การปลกู พืช service/knowledge/kn_radio08.htm เวบ็ ไซตก รมทรัพยากรน้ําบาดาล คลมุ ดนิ อยา งหญาแฝก เปนตน อยา งไรก็ตามควรมกี ารศกึ ษาวเิ คราะหถงึ ผลกระทบจากการใชด ินเพื่อการวางแผนแกไขปญหาทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ กอ นลวงหนา ดังนั้นคําตอบคือ ขอ 4. คูมือครู 119
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูใหตวั แทนนักเรยี นอธบิ ายความรูเ กย่ี วกบั 8) ดนิ ขาดความอดุ มสมบรู ณ์ หมายถงึ ดนิ ทมี่ ธี าตอุ าหารสา� หรบั พชื ตา่� หรอื มธี าตุ วกิ ฤตการณดินขาดความอุดมสมบรู ณใ น ประเทศไทย ซึง่ ประกอบดว ย ดินเปร้ยี ว ดินเค็ม อาหารแตพ่ ชื ไมส่ ามารถนา� ไปใชเ้ พอ่ื การเจรญิ เตบิ โตไดด้ ี ทงั้ นอี้ าจเกดิ จากการยดึ ตวั แนน่ การเกดิ และดนิ เสื่อมโทรม ในดา นปจ จัยสาเหตุ สภาพเป็นกรดจัด เค็มจัด การถูกชะล้างพังทลาย การใช้ที่ดินโดยขาดการบ�ารุงรักษา และการ ผลกระทบและแนวทางการปองกันแกไ ข ปลกู พืชซา้� ซาก วิกฤตการณด งั กลาว แลว ครแู นะนาํ เพิม่ เตมิ ดินเปร้ียวเป็นดินท่ีเป็นกรดจัด ท�าให้ธาตุอาหารของพืชไม่สามารถละลายออกมา เพอ่ื ใหเกิดความรูทถ่ี ูกตองครบถวน จากนนั้ ใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ประเทศไทยมีดนิ เปร้ียวประมาณ 9.4 ลา้ นไร่ อย่ใู นภาคกลางประมาณ 5.6 ล้านไร่ ใหน กั เรียนชวยกันสรปุ สาระสาํ คญั เกย่ี วกับ เชน่ บรเิ วณจังหวัดปทมุ ธาน ี นครนายก ปราจนี บรุ ี ฉะเชิงเทรา และชลบรุ ี และเปน็ บริเวณพื้นท่ี วกิ ฤตการณท ด่ี ินและทรพั ยากรดินใน ฝั่งทะเลตะวันออกเฉยี งใตแ้ ละฝ่งั ทะเลตะวนั ออกของภาคใตอ้ ีกประมาณ 3.8 ล้านไร่ ประเทศไทย ดนิ เคม็ เปน็ ดนิ ทม่ี ปี รมิ าณเกลอื ทลี่ ะลายนา�้ ไดม้ ากเกนิ ไป บรเิ วณพนื้ ทด่ี นิ เคม็ สว่ นใหญ่ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 4.3 ล้านไร่ เช่น จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น 2. ครูแบง นกั เรียนออกเปน 2 กลุม โดยใหนกั เรียน เปน็ ต้น ส่วนดนิ เค็มบริเวณชายฝ่ังทะเลภาคใตแ้ ละภาคตะวันออก มพี ้ืนที่ประมาณ 3.7 ล้านไร่ นบั หมายเลข 1 และ 2 ตามตําแหนง ทน่ี งั่ ใน ดินเสอื่ มโทรม เป็นดนิ ท่ีต้องมกี ารจัดการปรับปรุงเปน็ พเิ ศษจึงจะใชเ้ พาะปลกู ได้ เชน่ ชั้นเรียน แลว กาํ หนดใหน ักเรยี นท่ีนบั หมายเลข ดนิ ทรายมีพ้ืนทป่ี ระมาณ 6 ล้านไร ่ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 3 ล้านไร่ นอกน้ันกระจายอยู่ 1 อธิบายความรวู กิ ฤตการณทเ่ี กี่ยวของกบั การ ในภาคตา่ ง ๆ ดนิ ทรายดานมพี น้ื ทปี่ ระมาณ 6 แสนไร ่ พบมากในภาคใตแ้ ละภาคตะวนั ตก ดนิ ลกู รงั ขาดแคลนนํา้ หรือมลพษิ ในนํ้า สว นนักเรียนที่ และดินต้ืนมอี ยู่ประมาณ 52 ล้านไร ่ เปน็ ดนิ ทไี่ มอ่ ้มุ น้า� และขาดความอุดมสมบรู ณ์ และดนิ เหมอื ง นบั หมายเลข 2 อธิบายความรูวกิ ฤตการณท ี่ รา้ งเปน็ ดนิ ในบรเิ วณท่ีทา� เหมอื งมาก่อน พบมากในภาคใต ้ เชน่ จงั หวัดพังงา ภเู ก็ต ระนอง และ เก่ียวขอ งกับการมีปรมิ าณน้ํามาก ผา นกิจกรรม สงขลา ภาคตะวนั ออกพบท่ีจงั หวดั จันทบุรแี ละตราด การเรียนรู ดังน้ี 2.2 วิกฤตการณท์ รพั ยากรนา้� 3. ครสู ุมนกั เรียนหมายเลข 1 ใหตอบคําถาม เกยี่ วกับการขาดแคลนนา้ํ เพื่อการอธิบายความรู วิกฤตการณ์ทรพั ยากรนา้� เกดิ จากสาเหตุหลัก ๆ ดงั นี้ ตัวอยา งขอ คําถามเชน • ปจจยั หลกั ของการขาดแคลนนํา้ ใน 1) การขาดแคลนนา้� การเพิ่มจ�านวนประชากร การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ประเทศไทยไดแกอ ะไรบา ง (แนวตอบ การขาดแคลนน้าํ ในประเทศไทยเกิด และอุตสาหกรรม รวมถึงการเพิ่มปริมาณการใช้น้�าของครอบครัวและชุมชน ท�าให้เกิดการ จากปจ จัยหลัก 2 ประการ ไดแ ก ปจจัยทาง ขาดแคลนน้�า โดยเฉพาะในฤดูแล้งพบว่า เกิด ธรรมชาติ เปนชว งเวลาทฝ่ี นทิ้งชวง หรอื ไม การขาดแคลนน้�าที่จะใช้ท�าน้�าประปาในหลาย ตกตองตามฤดกู าล และปจจัยจากมนุษย พ้ืนท่ี รวมท้ังขาดแคลนน�้าในการใช้เพาะปลูก เปน การใชน้าํ ท่มี ากข้นึ จากจํานวนประชากร และอุตสาหกรรมด้วย เช่น ในจังหวัดชลบุร ี ท่ีเพม่ิ ขน้ึ อยางรวดเรว็ เพื่อกจิ กรรมตา งๆ ใน จันทบุรี ตราด ระยอง ปราจีนบุรี เป็นต้น การดาํ เนินชวี ิต เชน การเพาะปลกู การเลย้ี ง แมว้ า่ ประเทศไทยมปี รมิ าณฝนตกมาก แต่ขาด สัตว และทส่ี าํ คญั ไดแ ก การอุปโภคบริโภค) หลายพื้นท่ีของประเทศไทย ต้องประสบปญหาขาดแคลน แหลง่ กกั เก็บและการบริหารจดั การ ท�าใหม้ กี าร นา�้ ทุกป ขาดแคลนนา�้ หรือมีน�า้ มากเกินไป 120 เกรด็ แนะครู ขอ สอบ O-NET ขอ สอบป ’53 ออกเกีย่ วกบั การเพาะปลกู บนดินอนิ ทรยี ครูสามารถจดั กจิ กรรมการเรยี นรูโดยใหนกั เรียนอธิบายถงึ หลักการและแนวทาง เหตใุ ดดินอนิ ทรียจึงไมเ หมาะสมสาํ หรบั การปลูกพชื เศรษฐกิจ การแกไ ขปญหาดนิ ขาดความอดุ มสมบรู ณใ นประเทศไทยตามแนวทางเศรษฐกิจพอ 1. ระบายนา้ํ เร็ว เกบ็ น้าํ ไมอยู เพยี ง การเกษตรทฤษฎีใหม และทรพั ยากรการผลิต รวมถงึ การพฒั นาที่ย่ังยนื 2. ขาดสารอาหารบางชนดิ รุนแรง ทีน่ กั เรียนไดศกึ ษามา แลวครใู หนกั เรียนชวยกนั สรุปหลกั การและแนวทางท่เี หมาะ 3. มชี ้นั หินพนื้ ในระดับตน้ื กวา ครง่ึ เมตร สมในการแกไขปญหาดินขาดความอดุ มสมบรู ณใ นประเทศไทย เพอ่ื การบูรณาการ 4. เมอ่ื แหงมกั เกิดไฟปา และยุบตวั ในบางคร้งั วชิ าเศรษฐศาสตร เรื่องเศรษฐกิจพอเพยี ง เกษตรทฤษฎีใหม และทรัพยากรการผลติ วิเคราะหคําตอบ ดินอินทรีย เปนประเภทของดนิ สวนใหญใ นปา พรุ ซึ่งเกิดจากการทับถมของซากพชื ท่เี นา เปอยอยา งชา ๆ มักมนี ้าํ ทวมขังอยู ตลอดเวลา มสี ว นประกอบของพีต (Peat) เมอื่ ระบายนาํ้ ออกจนแหง ดนิ จะยบุ ตวั และติดไฟไดงาย นอกจากนี้ยังเปน กรดอยา งรุนแรงทาํ ใหขาด สารอาหารบางชนดิ ทีส่ าํ คญั ตอ การเจรญิ เตบิ โตของพชื ดังนนั้ คําตอบคอื ขอ 2. และขอ 4. 120 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 2) น้�าเสียและสารพิษในน้�า การทิ้งน้�าเสียจากบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม 1. ครใู หตวั แทนนกั เรยี นหมายเลข 1 ออกมา ชวยกนั อธิบายความรูวิกฤตการณทรัพยากรน้าํ ลบงรสิโภแู่ คหหลงร่ นือใา้� ช ทใ้ นา� ใกหาน้รเา้� กเนษา่ตเรสไยี ด ้ สตัเชวน่น์ า้� นไม้�าส่ในามแมาร่นถา้� ดเจา� รา้ งพชรวีะติยอา ยไู่แดม ้ รน่ วา้� มทถา่ งึจไีนม 1ส่ แาลมะาลร�าถคนลา� อมงาตใชา่ งอ้ ปุๆ โภในค ทีเ่ กยี่ วของกับการขาดแคลนน้าํ ที่หนา ชน้ั เรยี น กรุงเทพ ฯ เป็นต้น ซึง่ ไดแก น้าํ เนาและสารพษิ ในนาํ้ นาํ้ ทะเลหนุน นํา้ บาดาลลดระดบั และความต้ืนเขินของแหลง 3) น�้าท่วม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับพื้นท่ีต่าง ๆ ของประเทศไทยเป็นประจ�าทุกปี นํา้ รวมถึงการปลูกส่ิงกอสรางในลาํ นํา้ จากน้ัน ครูและนักเรยี นคนอ่นื สอบถามขอสงสัยเพอ่ื ให โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ได้รับอิทธิพลจากพายุต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ ท�าให้พื้นท่ีทางการเกษตร เกิดความรคู วามเขาใจทถ่ี ูกตองชดั เจน บา้ นเรือน และทรพั ยส์ นิ เสยี หายในบริเวณพื้นที่ท่เี กดิ นา้� ท่วมเป็นประจ�า ได้แก่ จงั หวัดนา่ น แพร ่ สุโขทัย และพิจิตร นอกจากนี้ก็เป็นพ้ืนที่ราบลุ่มแม่น้�าเจ้าพระยา คือ จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง 2. ครูต้งั คาํ ถามเก่ียวกบั วิกฤตการณท รัพยากรนา้ํ พระนครศรอี ยุธยา ปทุมธานี นนทบรุ ี และกรุงเทพ ฯ ท่เี กดิ ปญั หาน้า� ท่วมเป็นประจ�า แลวสมุ ใหนกั เรียนหมายเลข 2 ตอบคาํ ถาม ตัวอยางขอ คาํ ถามเชน 4) น้�าทะเลหนุน ในช่วงฤดูร้อนของทุกปีเป็นเวลาท่ีปริมาณน้�าจากแม่น้�าไหลลงสู่ • การเกิดนา้ํ ทว มในประเทศไทยมีสาเหตุ ปจจัยใดบา ง และมีผลกระทบตอการดําเนิน อ่าวไทยน้อยลง ท�าให้น้�าทะเลหนุนเข้ามาในล�าน�้าสายหลัก เช่น แม่น�้าเจ้าพระยา แม่น�้าท่าจีน ชีวติ และสงั คมไทยอยางไร เปน็ ตน้ การทน่ี า้� ทะเลหนนุ ขน้ึ มาสงู หมายถงึ นา�้ เคม็ จะเขา้ มาปะปนกบั น�้าจดื ทา� ใหส้ ตั วน์ �้าจดื ตาย (แนวตอบ นา้ํ ทว มในประเทศไทยมีสาเหตุ สวนผลไม้และบ้านเรือนริมน�้าเสียหาย รวมถึงประชาชนไม่สามารถใช้น�้าได้ โดยเกิดข้ึนกับพ้ืนที่ ปจ จัยหลัก 2 ประการ คือ การเกดิ ฝน ริมแมน่ �้าเจา้ พระยาในจังหวัดสมทุ รปราการและกรุงเทพ ฯ อยู่ทุกปี ตกหนักจากอิทธพิ ลของพายหุ มุนเขตรอน ทีก่ อ ตัวในทะเลจนี ใตหรอื ทางตะวนั ตก 5) นา้� บาดาลลดระดบั น้�าบาดาลหรอื น้�าใต้ดนิ ไดล้ ดระดับตา�่ ลงในทุกพนื้ ท่ี จนเปน็ ของมหาสมทุ รแปซฟิ ก ดานชายฝงประเทศ ฟลิปปน ส และการขาดการวางแผนจัดการ ที่วิตกว่าน้�าเค็มจากทะเลจะไหลซึมเข้ามาแทนท่ี ท�าให้ไม่สามารถน�าน้�าบาดาลข้ึนมาใช้ได้ เช่น น้าํ ท่ีดขี องหนว ยงานทเ่ี กย่ี วขอ งตางๆ ซง่ึ สง ในจงั หวัดสมุทรปราการ นนทบรุ ี และกรุงเทพมหานคร มีการขุดเจาะน�้าบาดาลขน้ึ มาใช้มากจน ผลกระทบตอ การดาํ เนนิ ชวี ิตของประชาชน ท�าให้เกิดปัญหาแผน่ ดินทรดุ ตามมาอีกดว้ ย คนไทยทงั้ ในระดบั สว นบคุ คล คือ การอยู อาศัย การประกอบอาชีพ และการเกิดโรค 6) ความตื้นเขินของแหล่งน�้า ตดิ ตอ ทม่ี ากับน้าํ ทว ม และในระดบั สงั คม คอื การชะลอตวั ของเศรษฐกจิ จากการท่ี เกดิ จากตะกอน ดนิ ทราย ทถี่ กู พดั มากบั กระแส แหลงอุตสาหกรรม เกษตรกรรมตา งๆ นา�้ เปน็ สาเหตทุ า� ใหแ้ หลง่ นา�้ ตน้ื เขนิ นา้� ไหลผา่ น ถกู นาํ้ ทว ม การเสยี งบประมาณในการแกไ ข ไปไดช้ า้ ทา� ใหใ้ นชว่ งฤดฝู นเมอื่ มปี รมิ าณน้�ามาก ฟนฟสู ภาพพ้นื ท่ีภายหลังท่เี กิดนํา้ ทว ม จบะุรทีรัม�าใยห์ ้เลก�าิดนน�้า�้าอทิง่วใ2มน จเังชห่นว ัดลเช�าียนง้�ารมาูลยใ นเจปัง็นหตว้นัด รวมถงึ การเสยี โอกาสในการไดร ับเงินลงทนุ นอกจากนว้ี ชั พชื ทอ่ี ยใู่ นแหลง่ นา้� เชน่ ผกั ตบชวา จากตา งชาติ เนือ่ งจากนักลงทุนขาดความ จะเปน็ อปุ สรรคตอ่ การไหลของนา้� และทา� ใหแ้ หลง่ มน่ั ใจในมาตรการบริหารจัดการน้าํ ของ นา�้ ตนื้ เขนิ บรเิ วณทมี่ ผี กั ตบชวาจา� นวนมากจนกอ่ หนว ยทีเ่ ก่ยี วของตา งๆ) ใหเ้ กดิ ปญั หา เชน่ แมน่ า�้ ทา่ จนี จงั หวดั นครปฐม การเพม่ิ ขน้ึ ของจา� นวนผกั ตบชวา สง่ ผลใหแ้ หลง่ นา�้ ตนื้ เขนิ แมน่ �า้ ปราจีนบรุ ี จังหวัดปราจีนบุร ี เปน็ ตน้ และยังเปน็ อุปสรรคตอ่ การไหลของน้า� ดว้ ย 121 ขอสอบ O-NET นกั เรียนควรรู ขอ สอบป ’51 ออกเกีย่ วกับวกิ ฤตการณท รพั ยากรนํ้าในประเทศไทย 1 แมนา้ํ ทาจนี เปนแมน า้ํ สาขาหนงึ่ ของแมน ้ําเจา พระยา โดยไหลแยกออก ขอใดกลา วถูกตองเกยี่ วกบั พายุหมนุ เขตรอ นทเ่ี คล่ือนทีเ่ ขาสปู ระเทศไทย จากแมน ํา้ เจา พระยาตัง้ แตบ รเิ วณจงั หวัดอุทยั ธานี ผานจงั หวัดชัยนาท สพุ รรณบุรี 1. ไมเ คยกอ ตัวในอา วไทย นครปฐม และสมุทรสาคร มชี ือ่ เรยี กแตกตางกันไปในแตละชว งทีไ่ หลผา น ไดแก 2. หากกอตวั ในอา วเบงกอลจะมาไมถ ึงประเทศไทย ในจงั หวัดชัยนาท เรียกวา แมน ํา้ มะขามเฒา จังหวัดสพุ รรณบรุ ี เรยี กวา แมน้าํ 3. มีแหลงกําเนิดในทะเลจนี ใตมากกวา ในทะเลอนั ดามัน สพุ รรณบุรี และจังหวัดนครปฐม เรยี กวา แมน า้ํ นครชัยศรี มีความยาวประมาณ 4. ทก่ี อตัวในอา วตงั เก๋ยี จะสงผลตอ สภาพอากาศในประเทศไทยมากท่ีสุด 325 กิโลเมตร วเิ คราะหคาํ ตอบ พายหุ มุนเขตรอ นที่เคลือ่ นท่ีเขาสูประเทศไทย มแี หลง 2 ลาํ น้าํ องิ อยใู นจังหวดั เชียงรายและจังหวัดพะเยา โดยแมน ้าํ อิงมตี นนํา้ อยู ในทวิ เขาผีปนนํ้า แลวไหลลงสูพน้ื ท่ีราบในทางทิศเหนือออกสูแ มน้ําโขง บริเวณบา น กาํ เนิดสาํ คัญในทะเลจีนใตและชายฝงทางตะวนั ออกของประเทศฟล ปิ ปนสใน ปากอิง อําเภอเชยี งของ จังหวัดเชยี งราย มคี วามยาวประมาณ 230 กโิ ลเมตร เขตมหาสมุทรแปซิฟก ดงั นัน้ คาํ ตอบคือ ขอ 3. คมู ือครู 121
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ ความรทู ั่วไปเกย่ี วกับ 7) การปลกู สง่ิ กอ่ สรา้ งในเขตลา� นา�้ ทา� ใหล้ า� นา้� แคบลง ระบายนา�้ ไมส่ ะดวก สญั จร วกิ ฤตการณทรพั ยากรปาไมในประเทศไทยทีไ่ ด ศึกษามา แลวต้งั คาํ ถามใหนกั เรียนชวยกนั ตอบ ทางนา้� ไมส่ ะดวก รวมทง้ั ทา� ให ้การกอ่ สรา้ งแนวปอ้ งกนั นา้� ทว่ มไดล้ า� บาก นอกจากน ้ี บา้ นเรอื นหรอื เชน สถานประกอบการต่าง ๆ มกี ารปล่อยน�้าทิง้ ลงสแู่ หล่งนา้� สง่ ผลใหเ้ กิดปัญหามลพษิ ตามมาอกี ด้วย เชน่ แม่น�า้ เพชรบรุ ี จงั หวดั เพชรบุร ี แม่นา้� นา่ น จงั หวัดอุตรดิตถ์ เป็นตน้ • “ปาคอื ชวี ติ ” ขอความขา งตน สะทอ นความ สําคญั ของปา ไมตอการดาํ รงชวี ิตของมนษุ ย 2.3 วิกฤตการณ์เกยี่ วกับปา่ ไมแ้ ละสัตวป์ ่า อยา งไร อธิบายพรอ มยกตัวอยา งประกอบ พอสังเขป ป่าไม ้ หมายถึง บรเิ วณทม่ี ีต้นไม้หลายชนดิ มขี นาดแตกต่างกนั มีพืน้ ทกี่ วา้ ง และมอี ิทธิพล (แนวตอบ ปา คือชีวิต สะทอ นถงึ ความสาํ คญั ขตอ่อลงสมรฟรา้พอสา่งิกทาีม่ศ อี คยวใู่ านมปอา่ ดุ 1มปสา่ ไมมบ้จรู ึงณเปข์ ็นอทงดร่ี นิวม นขา�้ อ สงตัสวรปร์ พา่ สแ่งิ ลทะงั้สทง่ิ มีม่ ชีชี วีีวติติ อแนื่ล ะๆไ มรวม่ มชี ทีวง้ัติ เกดิ ความสมั พนั ธ์ ของปา ไมตอการดําเนนิ ชวี ิตของมนษุ ยไ ด เปนอยางดี เนอ่ื งจากปาไมเ ปน ระบบนเิ วศท่ี ป่าไม้มีคุณค่ามหาศาลต่อการด�ารงอยู่ของธรรมชาติและสรรพส่ิงในโลก ช่วยรักษาสมดุล เอ้อื ตอการดาํ รงชีวติ ของมนษุ ยในดานตางๆ ของธรรมชาต ิ ควบคมุ สภาวะอากาศ บรรเทาอทุ กภยั และวาตภยั ปอ้ งกนั การพงั ทลายของหนา้ ดนิ กลา วคือ ชวยดูดซับแกสที่เปนอนั ตรายตอ ช่วยลดภาวะโลกร้อน เป็นคลังอาหารและยา และเป็นแหล่งท่องเท่ียวและศึกษาวิจัยของมนุษย์ รา งกายและผลิตออกซเิ จนที่จาํ เปน ตอ การ รวมทงั้ เป็นแหล่งก�าเนดิ และท่ีอยู่อาศัยของสัตวป์ า่ ในชว่ งเวลา 50 ปที ผี่ ่านมา ประเทศไทยมกี าร ดํารงชีวิตของมนษุ ย ตลอดจนส่ิงมชี ีวิตทัง้ ใช้ประโยชน์จากป่าไม้และบุกรุกเข้าไปใช้ที่ดินบริเวณป่าไม้อย่างต่อเน่ือง ท�าให้ต้องสูญเสียพื้นท่ี มวล ชวยใหว ฏั จกั รของนาํ้ บนโลกดําเนนิ ไป ป่าไม้ไปแลว้ ประมาณ 67 ล้านไร ่ เฉลย่ี ประมาณ 1.6 ลา้ นไร่ตอ่ ปี อยา งสมดุล รวมถงึ การเปนแหลง วัตถุดบิ ท่ียัง ประโยชนด านเศรษฐกจิ ของมนุษย เชน ไม สาเหตสุ �าคญั ของการลดลงของพ้ืนท่ีปา่ ไม ้ มีดงั น้ี มคี า สัตวป า เพอื่ ใชแ รงงานและเปนอาหาร นอกจากนี้ปาไมยงั ชว ยในการบรรเทาความ 1) การท�าไม ้ การท�าไม้โดยรฐั ใหส้ ัมปทานในการเขา้ ไปตดั ไมเ้ พ่อื การคา้ ก่อน พ.ศ. รุนแรงของภยั จากธรรมชาติอยางวาตภัยและ อทุ กภัยไดอกี ดว ย) 2532 โดยขาดการควบคุมทถ่ี กู ต้อง ไม่ระวังดแู ลพ้นื ที่ปา่ และการปลูกป่าทดแทนขาดการติดตาม ดแู ล แต่หลังจากการยกเลกิ การให้สัมปทานยังคงมกี ารบุกรกุ ทา� ลายป่าอยา่ งต่อเนอ่ื ง คือ ระหว่าง พ.ศ. 2552-2556 พ้ืนที่ป่าถูกบุกรุกเฉล่ีย 42,265 ไร่ต่อปี โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและ ภาคตะวนั ตกของไทย 2) การตัง้ ชุมชน ทอ่ี ยอู่ าศัย และพ้นื ท่เี พาะปลูก การเพ่มิ จ�านวนประชากรก่อให้ เกิดความต้องการจัดตั้งชุมชนและท่ีอยู่อาศัย ดังเช่นท่ีมีการขยายชุมชนเข้าไปในป่าสงวนและ ปา่ อนรุ กั ษท์ ม่ี อี ยทู่ วั่ ประเทศ เชน่ ปา่ ไมใ้ นเขตอา� เภอภเู ขยี ว จงั หวดั นครราชสมี า ปา่ ทงุ่ ใหญน่ เรศวร ปา่ เขาใหญ ่ เปน็ ตน้ นอกจากน ี้ การบกุ รกุ พนื้ ทป่ี า่ และการแผว้ ถางพน้ื ทป่ี า่ เพอื่ การเพาะปลกู กป็ รากฏ อยทู่ วั่ ไปในทุกภมู ภิ าคของประเทศ 3) ความตอ้ งการสรา้ งชมุ ชนและสาธารณปู โภค ความตอ้ งการเสน้ ทางคมนาคม ผ่านปา่ ไมห้ รอื การตัดถนนเข้าสู่ชุมชน ทา� ให้มีการตัดตน้ ไม้ เช่น โครงการขยายไหลท่ างถนนสาย น่าน-ทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เพ่ือเป็นการรองรับการจราจรที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มขึ้น และ เปน็ การสง่ เสรมิ ศกั ยภาพทางเศรษฐกจิ การคา้ ระหวา่ งประเทศกบั เพอ่ื นบา้ น แตต่ อ้ งตดั ตน้ ไมบ้ รเิ วณ อโุ มงค์ต้นไม ้ ซง่ึ มที ง้ั กลุ่มคนที่เหน็ ด้วยและไม่เหน็ ด้วย 122 นกั เรยี นควรรู ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT กรมทรพั ยากรนา้ํ ควรแกไขวิกฤตการณด านทรัพยากรนํา้ อยา งไร 1 ความสัมพนั ธข องสรรพสิง่ ทมี่ ีอยใู นปา จากพันธพุ ืชและสตั วที่แบง ออกไดเ ปน 1. สรา งเข่ือนเพื่อกกั เกบ็ น้ํา ความหลากหลายทางพนั ธกุ รรม ความหลากหลายในชนิดพันธุ และความหลากหลาย 2. จดั สรา งทอ สงนํ้าชลประทานทุกภูมิภาค ในระบบนิเวศ เมือ่ พน้ื ทป่ี าไมลดลงจงึ สง ผลตอระบบชวี ภาพดงั กลา ว โดยนกั วิชาการ 3. บาํ บดั นา้ํ เสยี ท่ีโรงงานปลอยลงแหลง นาํ้ สาธารณะ คาดวา ในครงึ่ ศตวรรษทีผ่ านมามีส่งิ มชี ีวิตหลายชนิดไดสูญพันธุไปโดยยงั ไมท ันมีการ 4. ฟน ฟูระบบนเิ วศและแกไขปญหาเกีย่ วกบั แหลง น้าํ ศึกษา กระทัง่ บางชนิดสูญพนั ธไุ ปท้ังที่ยังไมมีการคน พบ วเิ คราะหคําตอบ วิกฤตการณดา นทรัพยากรนา้ํ ในประเทศไทยแบง ออก ไดเ ปน 2 วิกฤตการณส ําคัญ ไดแก วกิ ฤตการณภ ัยแลง หรอื การขาดแคลน มุม IT นาํ้ อาจเกิดจากความเปล่ยี นแปลงของสภาพอากาศ ฝนทงิ้ ชวง หรือการมี มลภาวะในนาํ้ มากทําใหกลายเปนนา้ํ เสยี และวกิ ฤตการณท เี่ กดิ ขนึ้ จากการ ศกึ ษาความรูเก่ยี วกับสถานการณและวิกฤตการณทรัพยากรน้ําในประเทศไทย มีปรมิ าณนาํ้ มากเกนิ ไป ที่สาํ คญั ไดแ ก อุทกภัย แนวทางการแกไขปญหาท่ี เพิ่มเตมิ ไดท ี่ http://www.dwr.go.th/article/3-1-6 เวบ็ ไซตก รมทรพั ยากรนํ้า ย่งั ยืน คอื การศึกษาและพัฒนาแผนการจัดการนา้ํ อยา งเปน ระบบ รวมถงึ การ ฟนฟปู าตนนํ้าลําธาร ดงั น้ันคําตอบคอื ขอ 4. 122 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 1. ครใู หตวั แทนนักเรียนออกมาอธบิ ายความรู เก่ียวกับวกิ ฤตการณท รัพยากรปา ไมใน การสร1า งเขอื่ นขนาดใหญตาง ๆ ท้งั เข่ือนรัชชประภา (เขอ่ื นเช่ยี วหลาน) เขอ่ื นลาํ ปาว ประเทศไทย โดยชว ยกันจดั ทําผังกางปลา เขื่อนศรีนครินทร เปนตน ลวนทําใหสูญเสียพ้ืนท่ีปาไมท้ังสิ้น ถึงแมการสรางเขื่อนทําใหมีนํ้า ทแ่ี สดงถึงสาเหตทุ ส่ี งผลใหเ กดิ วิกฤตการณ มาใชป ระโยชนใ นการเพาะปลูกและการผลติ กระแสไฟฟา กต็ าม ทรพั ยากรปา ไมในประเทศไทยดา นตา งๆ ที่ กระดานหนา ช้นั เรียน ไดแก • การทําปา ไม • การสรางชมุ ชนและทาํ การเกษตร • การสรางระบบสาธารณปู โภค • การทาํ เหมอื งแร • การเกดิ ภยั จากธรรมชาติ จากน้ันครสู มุ ถามนกั เรียนในชน้ั เรยี นถงึ ความ ถูกตอ งครบถวนของรายละเอียดในผังกางปลา ดงั กลาว แลว ครูนํานกั เรียนในการสรปุ สาเหตุ การสรางเข่ือนขนาดใหญ เชน เขือ่ นศรีนครนิ ทร จงั หวัดกาญจนบุรี ทําใหส ูญเสียพน้ื ทีป่ าและสัตวป าเปนจํานวนมาก ของการเกิดวกิ ฤตการณท รัพยากรปาไมใน 4) การทําเหมอื งแร การทาํ เหมืองแรในพน้ื ท่ปี า จําเปน ตอ งแผว ถางปา เปด หนาดนิ ประเทศไทย นักเรียนบนั ทึกผงั กางปลาแสดง เพอื่ ทําเหมืองแรเสยี กอ น จึงทาํ ใหต น ไมท่ีอยูห นาดินถกู ตดั ออกไป การทาํ เหมอื งแรด บี กุ ในพื้นท่ี สาเหตุของวิกฤตการณท รัพยากรปา ไมใน ภาคใตใ นจงั หวดั ภเู กต็ และพงั งา เปน ตวั อยา งการทาํ เหมอื งแรท ที่ าํ ลายปา ทเี่ กดิ ขน้ึ ในอดตี ในปจ จบุ นั ประเทศไทยและสาระสําคัญลงในสมดุ การทาํ เหมอื งถา นหนิ ทจ่ี งั หวดั ลาํ ปาง การทาํ เหมอื งทองคาํ ทจ่ี งั หวดั พจิ ติ ร กเ็ ปน การลดพน้ื ทปี่ า ไม 2. ครสู นทนารว มกันกับนกั เรียนถงึ ความรูทั่วไป เชนเดยี วกัน 5) การเกิดภัยธรรมชาติ ภัยธรรมชาติท้ังการเกิดนํ้าทวมและไฟปาลวนทําใหเกิด เกย่ี วกบั วิกฤตการณท รัพยากรแรแ ละพลงั งาน ในประเทศไทยที่นกั เรยี นไดศกึ ษามา แลว การสญู เสยี ปา ไม ดงั เชน อุทกภัยครั้งสําคญั ใน พ.ศ. 2532 ทําใหเกิดการสูญเสียปาไมใ นจังหวดั ใหนกั เรยี นจับคกู นั เพ่ือสรปุ สาระสาํ คญั ของ นครศรีธรรมราช การเกดิ ไฟปาในปจ จุบันยงั คงเปนปญ หาสําคัญทีท่ ําลายปา สัตวป า และกลา ไม ที่อยูในปา ซ่ึงเกิดจากการเผาปาเพื่อการทําไร การลาสัตว การท้ิงเช้ือไฟจากผูเดินทางและ วิกฤตการณท รัพยากรแรแ ละพลังงานใน ไฟปา ทีเ่ กดิ จากความรอ นและความแหงแลงในฤดูรอ นและฤดูหนาว จากขอ มูลของสาํ นักปองกนั ประเทศไทยในรูปแบบตา งๆ ตามความถนดั ปราบปราม และควบคมุ ไฟปา กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม พบวาใน พ.ศ. 2553 ความสามารถและความสนใจ จากน้ันครสู มุ ประเทศไทยมีพืน้ ทไ่ี ฟปา 83,176 ไร และใน พ.ศ. 2558 มีพืน้ ทไ่ี ฟปา 60,453 ไร นกั เรยี น 2 คู ใหแ บง หนา ทีก่ ันอธิบายความรู เกี่ยวกบั วิกฤตการณท รพั ยากรแรและพลงั งาน การสูญเสียปาไมไมวาดวยเหตุผลใดก็ตามถือเปนการทําลายชีวิต ท่ีอยูอาศัยและ ในประเทศไทยทหี่ นา ชัน้ เรียนในหวั ขอท่คี รู แหลง อาหารของสตั วป า ไปดว ย สว นสาเหตทุ ที่ าํ ใหเ กดิ การสญู พนั ธขุ องสตั วป า หรอื การลดลงของ จาํ นวนสตั วป า นอกจากเกดิ จากการลดลงของพนื้ ทปี่ า ไมแ ลว ยงั เกดิ จากการลา สตั วป า เพอ่ื การคา กาํ หนด คอื ผลกระทบตอ การดาํ เนนิ ชวี ติ ของ การลา สตั วเ พอื่ เปน อาหาร ยารกั ษาโรค การนาํ อวยั วะของสตั วม าเปน เครอ่ื งประดบั การนนั ทนาการ ประชากรไทย และผลกระทบตอสง่ิ แวดลอ ม การศกึ ษาวิจยั เปน ตน ของไทย แลวใหนักเรยี นผลัดกนั ต้งั คาํ ถามเก่ยี ว กบั วิกฤตการณท รัพยากรแรแ ละพลังงานใน 123 ประเทศไทย จากน้นั ครนู าํ นกั เรียนสรุปความรู เกีย่ วกบั วกิ ฤตการณท รพั ยากรแรแ ละพลังงาน ในประเทศไทย นกั เรยี นบนั ทกึ ลงในสมุด ขอ สอบ O-NET ขอสอบป ’51 ออกเกี่ยวกับการมีสว นรวมภาคประชาชนในการแกไ ข เกร็ดแนะครู วกิ ฤตการณทรพั ยากรปาไม ครอู าจตงั้ ประเดน็ ใหน ักเรยี นอภปิ รายรว มกนั เกยี่ วกับการจัดการทรพั ยากรน้าํ ในฐานะสมาชิกคนหนง่ึ ของสงั คม ทานจะมีสว นแกไ ขปญหาวิกฤตการณ ในประเทศไทย โดยเฉพาะการแกปญ หาภัยแลง และนํา้ ทว ม ซ่ึงครเู ตรียมขอมลู ที่ เกย่ี วของไวล วงหนา เชน เขอื่ น : สาเหตุหรอื แนวทางการแกไขปญ หาทรพั ยากรน้ํา ดานทรพั ยากรปา ไมไดด ที ี่สดุ อยางไร ของไทย แลว ครูนาํ นักเรียนในการสรุปผลการอภิปราย นกั เรียนบนั ทกึ ผลการ 1. ปลูกปา ทดแทน อภปิ รายลงในสมุด ท้งั นี้เพอ่ื ใหนกั เรยี นมีความรูความเขาใจแนวทางการแกไข 2. ปอ งกันการเกิดไฟปา ปญ หาวกิ ฤตการณท รัพยากรนํ้าในประเทศไทยอยา งถกู ตอ งเหมาะสม 3. ผลักดนั ใหม ีการออกกฎหมายอนุรักษปาชุมชน 4. ชวยกันรณรงคเพอื่ สรา งจิตสาํ นกึ ใหแกป ระชาชน วเิ คราะหคาํ ตอบ นกั เรียนในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของสงั คมสามารถมี สว นแกไ ขปญ หาวกิ ฤตการณด า นทรัพยากรปาไมไ ดต ามแนวทางท่เี หมาะสม นกั เรียนควรรู กับวัย สถานภาพ และบทบาทหนาที่ คอื การรณรงคเ พอ่ื สรางจิตสํานกึ ใหแก ประชาชนในทอ งถน่ิ และประเทศในการตระหนักถงึ ความสําคัญของปาไมตอ 1 เขือ่ นศรนี ครนิ ทร สรางขึ้นใน พ.ศ.2516-2523 เพื่อกั้นแมน ้ําแควใหญบ รเิ วณ ระบบนเิ วศ อันจะกอ ใหเกิดความรวมมอื ในการอนรุ ักษปา ไมข องประชาชน อาํ เภอศรีสวสั ดิ์ จังหวัดกาญจนบรุ ี โดยเปน เขือ่ นหินท้ิงแบบมแี กนดนิ เหนียว มคี วามจมุ ากท่ีสดุ ในประเทศไทย คือ 17,745 ลา นลูกบาศกเ มตร มีประโยชนท้ังใน ทุกคนได ดังนน้ั คาํ ตอบคอื ขอ 4. ดานการชลประทานและการผลติ กระแสไฟฟา คมู อื ครู 123
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ขยายความเขา ใจ Expand ครใู หน กั เรียนรวมกลมุ กัน กลุม ละ 4 คน 2.4 วิกฤตการณ์เกีย่ วกบั แรแ่ ละพลงั งาน ตามความสมัครใจ เพื่อชว ยกนั ศกึ ษาคนควา เกย่ี วกบั วิกฤตการณท รพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ มใน แรแ่ ละพลงั งานมคี วามจา� เป็น ต่อการพฒั นาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ในปจั จุบนั มีการ ประเทศไทย รวมถึงแนวทางการปองกันหรอื แกไข ใช้แร่และพลังงานมากขนึ้ ซงึ่ วกิ ฤตแรแ่ ละพลังงาน มีดังน้ี ปญหาวกิ ฤตการณทหี่ นว ยงานทีเ่ ก่ยี วขอ งท้ังภาครฐั และเอกชนและบคุ คลตา งๆ ซึ่งไดทาํ การศกึ ษาและ 1) การขาดแคลนพลังงาน แร่และพลงั งานเป็นทรพั ยากรทใ่ี ชแ้ ลว้ หมดไป คอื ไม่ เสนอแนะไว จากแหลง ขอ มูลอน่ื ๆ เพ่มิ เติมจาก หนงั สือเรยี น เชน นักวชิ าการดา นสิ่งแวดลอมใน สามารถเกิดข้ึนมาใหม่ได้หรือกว่าจะเกิดข้ึนใหม่ต้องใช้เวลานานมาก (ยกเว้นพลังงานหมุนเวียน ทอ งถิ่น และเวบ็ ไซตต า งๆ อาทิ http://www. เช่น แสงอาทิตย์ พลงั งานน�้า และพลงั งานลม) ท�าให้แรแ่ ละพลงั งานท่ีใชอ้ ยู่จะหมดไปในอนาคต tei.or.th/work/index.html เวบ็ ไซตผ ลงานทาง อเมนั ื่อใกเกลิด้ กเชาน่ร ขถาา่ดนแหคินล นถพา้ ลมังีองตั ารนา กทาร�าใใชห้เ้ตช้อน่ งในนป�าเัจขจ้าุบพันลถังา่ งนาหนนิจ1กากจ็ ะตห่ามงปดรไปะเภทาศย ในเชร่นะย ะนเว�้าลมาันไ มแน่ กาน๊ส วชิ าการการจดั การสง่ิ แวดลอ มของมลู นธิ ิสถาบนั ธรรมชาต ิ ซง่ึ สง่ ผลกระทบตอ่ การเงนิ ของประเทศ ทา� ใหไ้ ทยตอ้ งเสยี ดลุ การคา้ กบั ตา่ งประเทศ และ สงิ่ แวดลอ มไทย จากนน้ั ชวยกันออกแบบและจัดทาํ นอกจากน ้ี ราคาของแรแ่ ละพลงั งานจะมคี วามผนั ผวนไปตามกระแสเศรษฐกจิ และการเมอื ง ในสว่ น การนาํ เสนอผลงานเผยแพรค วามรูดา นวกิ ฤตการณ ของประชาชนจะไดร้ ับผลกระทบจากราคาสินคา้ ทีแ่ พงข้ึนตามวัตถุดบิ และตน้ ทนุ การผลิต ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ มในประเทศไทย และแนวทางการปอ งกันและแกไขวกิ ฤตการณ 2) ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การน�าแร่และพลังงานมาใช้มีผลกระทบต่อ ตา งๆ ที่ครกู ําหนด ตามความถนดั และความสนใจ ของนกั เรียนในชนั้ เรียน เชน วดี ิทศั น เว็บไซต หรือ สิ่งแวดล้อมหากไม่มีระบบการป้องกันที่ดี เช่น การท�าเหมืองแร่ถ่านหิน ท�าให้เกิดฝุ่นละอองใน โปรแกรมการนําเสนอ (Powerpoint) เปน ตน อากาศหรือปนเปื้อนในน้�าใต้ดิน หรือการท�าเหมืองตะกั่วท�าให้แหล่งน้�าใกล้เคียงมีปริมาณตะก่ัว สูง กวา่ ปกติ สง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพอนามัยของประชาชนท่ีอยู่บริเวณใกลเ้ คยี ง เช่น สารก�ามะถนั ตรวจสอบผล Evaluate จากการผลติ ไฟฟ้าดว้ ยถ่านหนิ ทา� ใหเ้ กิดโรคทางเดินหายใจ ระคายเคอื งตา เปน็ ตน้ นอกจากน ้ี วกิ ฤตพลงั งานยงั สง่ ผลกระทบตอ่ สงั คม เชน่ การกอ่ สรา้ งโรงไฟฟา้ ทจี่ งั หวดั 1. ครูและนักเรียนชว ยกันตรวจสอบผลงานการ ประจวบครี ีขนั ธ์ ทา� ใหเ้ กิดปญั หาความขดั แยง้ ระหว่างประชาชนกบั ประชาชน ระหวา่ งผูส้ นับสนุน นาํ เสนอความรูเกี่ยวกับวิกฤตการณและแนวทาง กับผู้คัดค้านการก่อสร้าง โดยฝ่ายหนึ่งต้องการให้ท้องถ่ินได้รับการพัฒนา ส่วนอีกฝ่ายเกรงว่า การปอ งกนั และแกไ ขปญหาทรพั ยากรธรรมชาติ จะเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามมา นอกจากน้ีก็มีความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับหน่วยงาน และสิง่ แวดลอ มในประเทศไทย โดยพิจารณาจาก ของรฐั จนในท่สี ุดรัฐบาลตอ้ งระงบั โครงการกอ่ สร้าง เปน็ ตน้ ความถกู ตองครบถวนของขอ มูล การนําเสนอท่ี ประเทศไทยมีพลังงานหมุนเวียนมาก แต่มีการพัฒนาเพื่อน�ามาใช้ประโยชน์น้อย เปน ลําดบั ขั้นตอน นาสนใจ และเขาใจงา ย ในปัจจบุ นั รัฐบาลได้ใหก้ ารสนบั สนุนการศึกษาวจิ ยั ให้มกี ารพฒั นามาใช้ประโยชน์มากขึน้ จากนั้นคดั เลือกผลงานการนําเสนอความรเู กีย่ ว กบั วกิ ฤตการณและแนวทางการปอ งกันและแกไข . ใสนถภานมู กภิ าารคณตา่์ดง้าๆน ทขรอัพงยโลากกรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ปญหาทรยั พากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ มใน ประเทศไทยที่ดีของนกั เรียน เผยแพรข อ มูลความรู กวา่ 1ส0ถ าลนา้ กนาครนณทด์ ัว่ า้ โนลทกรตพัอ้ ยงอากพรยธพรรหมนชีภาัยตธแิ รลระมสชงิ่ าแตวิ ดคลวอ้ ามมใแนหภง้ มู แภิ ลา้งค 2แตลา่ งะค ๆว ขามองอโดลอกย ทาา�กใ หโดป้ ยรเะฉชพาการะ ในโรงเรียนหรือชมุ ชนในแนวทางที่เหมาะสม ประชากรในประเทศเคนยาและเอธิโอเปีย ในทวีปแอฟริกา ต้องอพยพเดินทางออกจากบ้านเกิด ประชากรประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรโลก หรอื ประมาณ 1,200 ล้านคน มีสภาวะการดา� รงชพี 2. ครูสังเกตพฤตกิ รรมการมสี วนรว มในกจิ กรรม ในระดับยากจน ขาดแคลนอาหาร น้�า ทอี่ ย่อู าศัย และมสี ขุ ภาพอนามยั ต่�ากวา่ เกณฑ์มาตรฐาน การเรยี นรู เชน การทํางานกลุม เปนตน 124 นกั เรยี นควรรู ขอ สอบ O-NET ขอสอบป ’52 ออกเกี่ยวกบั การมสี ว นรว มในการอนุรักษสิง่ แวดลอ ม 1 นําเขา พลังงาน ในปจ จบุ ันคิดเปน รอยละ 49 ของปริมาณการใชทงั้ หมด ในฐานะพลเมอื งไทยคนหนึ่ง ทา นจะปฏิบตั ิตนเพ่อื อนรุ กั ษแ ละพฒั นา ในประเทศ ซง่ึ ลดลงจากกอ น พ.ศ. 2524 ทีย่ ังไมสํารวจพบแหลงพลงั งานตางๆ คณุ ภาพส่ิงแวดลอ มอยางไร จึงจะเหมาะสม ในประเทศไทย โดยเฉพาะน้าํ มันดบิ และแกส ธรรมชาติ ซ่งึ ในขณะนนั้ ประเทศไทย 1. ฝก ใหมนี สิ ยั ประหยัด ตอ งนาํ เขา พลังงานถงึ รอยละ 90 ของปรมิ าณการใชทงั้ หมดในประเทศ 2. ถายสารอันตรายใสภาชนะใหมท่ีปด มิดชิด แหลง พลังงานนํา้ มันและแกสธรรมชาติท่ีสาํ คญั ไดแ ก อาวไทย ภาคกลางตอนบน 3. ชวยกันปลูกและดูแลรักษาตนไมสาธารณะ และทางตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของประเทศ 4. ทงิ้ แบตเตอรี่ทีใ่ ชแลวลงในถงั ขยะสาํ หรับมลู ฝอยท่วั ไป 2 ความแหง แลง ในอดีตชว ง ค.ศ. 1984-1985 บรเิ วณคาบสมทุ รทางตะวนั ออกของ วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. และขอ 3. การถา ยสารอนั ตรายใสภ าชนะ ทวีปแอฟรกิ าประสบความแหง แลงอยางรนุ แรง สง ผลใหป ระชากรในประเทศเอธิโอเปย ใหม และการชว ยกนั ปลกู และดูแลรักษาตน ไมส าธารณะ เปน การปฏบิ ัตติ นเพอ่ื จิบตู ี ซดู าน โซมาเลยี เคนยา ยกู ันดา แทนซาเนีย รวันดา และบุรนุ ดี อนรุ ักษแ ละพฒั นาคุณภาพสิง่ แวดลอ มทเี่ หมาะสมในฐานะพลเมอื งไทยคนหน่งึ เสียชีวิตประมาณ 750,000 คน สวนในปจจบุ ันภาวะโลกรอนก็ไดส งผลใหภยั แลงทวี เนื่องจากเปน การปองกันมใิ หสารอันตรายแพรสูส ิ่งแวดลอ มตามธรรมชาติ และ ความรนุ แรงยิง่ ขึ้นในทวปี แหงนี้ ผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ เชน ทะเลสาบชาด มีปรมิ าณนํ้า มีสว นชว ยรักษาระบบนิเวศใหส มดลุ ดวยการปลูกและดูแลตนไมของสาธารณะ ลดลงกวาคร่งึ หนึง่ ภายในสบิ ป ทาํ ใหป ระชากรในประเทศไนเจอร ชาด แคเมอรนู และไนจเี รีย ทีเ่ คยใชนา้ํ ในการอปุ โภคบริโภคไดรับความเดือดรอ น เปน ตน 124 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Engage กระตนุ ความสนใจ ครูนาํ วดี ทิ ศั นห รอื ภาพทีแ่ สดงถึงสถานการณ ดา นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ มในภูมภิ าค สถานการณ์ด้านสิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติของโลกทส่ี �าคัญ มดี งั นี้ ตา งๆ ของโลก เชน การขาดแคลนน้ําในทวปี แอฟรกิ า การตัดไมทําลายปา ในทวีปอเมรกิ าใต 1) สถานการณ์ของทรัพยากรดิน ปัจจุบันความต้องการใช้ดินในภูมิภาคต่าง ๆ หรอื การพัฒนาพลงั งานสะอาดในทวีปยุโรป มา ใหน กั เรยี นพจิ ารณารว มกนั แลวตัง้ คาํ ถามเพ่อื ของโลก เพื่อเป็นท่ีอยู่อาศัย ที่ส�าหรับเพาะปลูก และการประกอบอาชีพอ่ืน ๆ เพ่ิมมากขึ้น กระตนุ ความสนใจของนักเรียนในการศกึ ษาเรอ่ื ง นอกจากจะมีการบุกรุกท�าลายพื้นท่ีท่ีเป็นป่าไม้เพ่ือใช้เป็นท่ีอยู่อาศัยและเพ่ือการเพาะปลูกแล้ว ดังกลา วโดยเนน การเช่อื มโยงกบั สถานการณดา น ที่ดนิ ที่เคยใชเ้ ป็นที่เพาะปลกู อยแู่ ลว้ กถ็ ูกใช้ในการเพาะปลูกบ่อยครงั้ ยง่ิ ขนึ้ รวมท้งั มีการใช้ปยุ๋ เคม ี ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ มในประเทศไทย และยาฆา่ แมลง ฆา่ วชั พชื จงึ สง่ ผลใหด้ นิ เสอ่ื มคณุ ภาพไดเ้ รว็ ยง่ิ ขนึ้ และในปจั จบุ นั ยงั มกี ารใชท้ ดี่ นิ ที่นักเรยี นไดศกึ ษามา แลวใหนักเรยี นชว ยกนั ตอบ ไมเ่ หมาะสมกบั คณุ ภาพของดนิ เชน่ พนื้ ทอ่ี ดุ มสมบรู ณท์ เ่ี หมาะสมกบั การทา� การเกษตรกลบั นา� มา เชน สรา้ งทีอ่ ยู่อาศยั สว่ นพน้ื ทแ่ี ห้งแลง้ กลบั ใช้ทา� การเกษตร เป็นตน้ โครงการสงิ่ แวดลอ้ มของสหประชาชาตริ ะบวุ า่ ทวั่ โลกมรี ะดบั ปญั หาความเสอ่ื มโทรม • สถานการณดา นทรัพยากรธรรมชาติและ ของดนิ ประมาณ 12 ลา้ นตารางกโิ ลเมตร คดิ เปน็ รอ้ ยละ 11 ของพน้ื ทเี่ กษตรกรรมทว่ั โลก พนื้ ทด่ี นิ ส่งิ แวดลอ มในภมู ิภาคตา ง ๆ ของโลกมี ทเ่ี คยมคี วามอดุ มสมบรู ณป์ ระมาณ 8.1 ลา้ นตารางกโิ ลเมตร ไดก้ ลายเปน็ ทะเลทราย การเกดิ ดนิ เคม็ ความแตกตา งจากสถานการณใ น ทา� ใหผ้ ลผลติ ในเขตชลประทานลดลง 1 ใน 3 และปญั หานา้� ทว่ มขงั ผวิ ดนิ ทา� ใหผ้ ลผลติ ลดลง 1 ใน 10 ประเทศไทยอยางไรบา ง ของผลผลติ ทวั่ โลก ประเทศเอธโิ อเปยี มปี ญั หาการกรอ่ นของดนิ ทา� ใหม้ กี ารสญู เสยี หนา้ ดนิ ประมาณ ปลี ะ 2,000 ลา้ นตนั สว่ นในประเทศไทยมตี ะกอนดนิ ถกู ชะลา้ งลงสแู่ หลง่ นา้� ปลี ะประมาณ 27 ลา้ นตนั 2) สถานการณท์ รัพยากรน�า้ ปจั จุบันการขาดแคลนน้�าด่มื น้�าใช้ในครัวเรือนและ สาํ รวจคน หา Explore เพ่ือการเพาะปลูก เป็นปัญหาส�าคัญของโลกเนื่องจากได้เกิดปัญหาความแห้งแล้งอยู่ท่ัวไป ครใู หนกั เรียนรวมกลุมกัน กลุมละ 4 คน ในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในทวีปแอฟริกาและเอเชีย ในหลายประเทศได้สร้างเข่ือน ช่วยในการควบคุมปริมาณน้�าให้มีการกระจายในช่วงขาดแคลนน้�าได้ น้�าจึงมีไหลสม�่าเสมอ เพ่อื ใหชวยกันศกึ ษาความรเู กี่ยวกบั สถานการณ ทุกฤดูกาล แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อระบบนิเวศแหล่งน�้า นอกจากปัญหาขาดแคลนน้�าแล้ว ดานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอมในภมู ภิ าค เมืองใหญ่ในหลายประเทศต้องประสบปัญหา ตา งๆ ของโลก จากหนงั สือเรียน หนา 124-129 น้�าเสียทั้งจากบ้านเรือน ชุมชน และโรงงาน และแหลง การเรียนรูอ่ืนทคี่ รูเสนอแนะ เชน อตุ สาหกรรมไหลไปรวมอยใู่ นแหลง่ นา้� สง่ ผลตอ่ ใบความรูท ่คี รจู ัดทาํ ข้นึ หนงั สือในหอ งสมดุ และ การด�ารงชวี ิตของประชาชนโดยทั่วไป เวบ็ ไซตข องหนว ยงานที่เก่ยี วขอ งท้ังในประเทศและ ตางประเทศ อาทิ http://www.unep.org/ สารพิษที่ปล่อยสู่บรรยากาศและ เวบ็ ไซตโ ครงการดานส่งิ แวดลอ มเพื่อการพัฒนา การใช้สารพิษในการเกษตร ในที่สุดแล้วจะไป ขององคก ารสหประชาชาติ (United Nations รวมกันในทะเลและมหาสมุทร ซึ่งเป็นที่สะสม Environment Programme : UNEP) เปนตน ทขอะงเลสสาราพบษิในแอลเะมสงิ่รปิกฏาเกิ หลู นทือใี่ หแญละท่ สส่ี แดุ กในนโดลิเกน เเชวน่ีย 1 มคี วามเปน็ กรดสงู จนทา� ใหป้ ลาตาย รวมทงั้ บรเิ วณ ภยั แลง้ เปน็ ปญ หาสา� คญั ทสี่ ง่ ผลใหท้ วปี แอฟรกิ าขาดแคลน อธบิ ายความรู Explain ชายฝง่ั ทะเลของประเทศแถบมหาสมทุ รแปซฟิ กิ น�า้ เพือ่ การอุปโภคบรโิ ภค ครูใหนกั เรยี นแตละกลมุ สงตัวแทนออกมาจบั 125 สลากคาํ ศัพทเกย่ี วกับทรพั ยากรธรรมชาติ ไดแ ก ดิน น้ํา ปา ไม และพลังงาน เพื่อกําหนดดานทกี่ ลมุ ตนจะรบั ผดิ ชอบในการอธิบายความรู ขอ สอบ O-NET เกร็ดแนะครู ขอสอบป ’51 ออกเก่ียวกบั สถานการณท รัพยากรดินของโลก เหตใุ ดเขตที่ราบลมุ ในออสเตรเลียสวนใหญจ งึ นํามาใชในการเล้ียงปศุสตั ว 1. เพราะแหง แลง เกนิ กวาจะใชเ พาะปลูกได ครคู วรนําวีดิทัศนส ารคดีหรอื ภาพขาวเกยี่ วกบั สถานการณดา นทรพั ยากร 2. เพราะเกษตรกรมคี วามเชี่ยวชาญ ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอมในภมู ภิ าคตา งๆ ของโลกมาใหนกั เรยี นพจิ ารณา 3. เพราะรัฐบาลใหเงินสนับสนุน แลว สอบถามถึงสาระสําคัญท่นี กั เรียนไดร ับจากการชมวีดทิ ศั นส ารคดีหรือภาพขาว 4. เพราะดินมสี ารอาหารนอ ย ดงั กลาว รวมถึงใหเ สนอแนวทางการแกไขหรือบรรเทาความรุนแรงของผลกระทบ วเิ คราะหคําตอบ ที่ราบลุมในออสเตรเลียสว นใหญมลี กั ษณะภมู อิ ากาศ เพ่ือใหนักเรยี นเกิดความเขา ใจในสถานการณด านทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม แบบทะเลทรายและทงุ หญา กง่ึ ทะเลทราย ซ่ึงมปี ริมาณนาํ้ ฝนตอปน อ ย และ ในภูมภิ าคตางๆ ของโลกซึง่ อยไู กลตวั ไดด ยี ง่ิ ขึน้ มีธาตอุ าหารท่ีจําเปนตอ การเจริญเติบโตของพชื ตา่ํ การเกษตรสวนใหญจ ึง เปนการเล้ียงสตั วจ ําพวกโค แกะ และแปรรปู ผลผลติ จากสัตวดงั กลาวเปนนม นักเรียนควรรู เนย เนือ้ สัตว และขนสัตวคุณภาพดี ซงึ่ เปนสินคาสงออกที่สําคญั ของประเทศ 1 สแกนดิเนเวยี (Scandinavia) หมายถงึ ดนิ แดนทางตอนเหนือของทวีปยุโรป และเปนแหลง ผลติ ทสี่ าํ คญั ของโลก ดงั นนั้ คําตอบคอื ขอ 1. ที่ไดรบั การแบง ออกตามหลักภาษาและวฒั นธรรม ประกอบดว ย ประเทศเดนมารก นอรเ วย และสวีเดน อยา งไรกต็ ามในทางภูมิศาสตรห มายรวมถึงประเทศฟน แลนด ไอซแ ลนด และหมเู กาะฟาโรห ซง่ึ มีทีต่ ้งั ใกลเ คยี งกันและประวตั ศิ าสตรความเปน มารวมกันกับสามประเทศขางตน คมู อื ครู 125
กระตุนความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูใหน กั เรยี นกลุมทรี่ บั ผดิ ชอบดา นทรัพยากรดิน มกี ารพบปลาขนาดใหญ่ว่ายเข้ามาตายตามชายหาดอยูเ่ สมอ สนั นิษฐานว่าหนสี ภาพน้�าทีเ่ ป็นพิษ และทรัพยากรนํา้ สงตัวแทนออกมาอธิบาย ขึน้ มา หรือแมแ้ ตน่ า้� บาดาลใน 38 รฐั ของสหรัฐอเมรกิ า พบว่ามกี ารปนเปอ้ื นของสารเคมี สว่ น ความรทู ่ีหนาชั้นเรยี น แลวครูและนักเรียนใน ในประเทศก�าลังพัฒนา ประชากรในชนบทรอ้ ยละ 61 และประชากรในเมอื งร้อยละ 26 ขาดแคลน ชั้นเรยี นรว มกันสอบถามหรอื เสนอแนะขอ มลู นา้� ดม่ื ทส่ี ะอาด เพิ่มเติมเพ่อื ใหเกิดความเขาใจที่ถกู ตองตรงกัน ตวั แทนของนักเรยี นท้ังสองกลุมชวยกันบนั ทกึ 3) สถานการณ์ปา่ ไมแ้ ละสตั วป์ ่า ในปัจจุบันการทา� ลายป่าเปน็ ไปอยา่ งกว้างขวาง สาระสําคัญของความรูเกีย่ วกับสถานการณ ในทุกบริเวณของโลก และรุนแรงที่สุดในบริเวณเขตร้อน มีการคาดการณ์ว่ามีการท�าลายป่าไม้ ดา นทรัพยากรธรรมชาตทิ ่กี ลุม ตนรับผิดชอบบน ของโลกปีละประมาณ 2.5-3 ล้านตารางกิโลเมตร ถ้าหากอัตราการท�าลายป่าไม้ยังเป็นเช่นน้ี กระดานหนาช้ันเรียน ในเวลาอกี ประมาณ 13 -16 ปีข้างหน้า ปา่ ไมใ้ นปจั จุบนั จะหมดไปจากโลก ถงึ แมจ้ ะมีการปลกู ปา่ เพ่ิมข้ึนก็ไม่สามารถท�าได้ทันกับปริมาณป่าไม้ที่ถูกท�าลายไป การลดลงของพ้ืนท่ีป่าไม้ก่อให้เกิด 2. ครูตงั้ คาํ ถามเกย่ี วกับสถานการณป าไมแ ละ ผลกระทบทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม คอื สตั วป์ า่ ไมม่ ที อี่ ยอู่ าศยั และขาดแคลนแหลง่ อาหาร จงึ มโี อกาส สตั วป า ในภมู ิภาคตา งๆ ของโลกโดยเนนความ สูญพันธุ์ได้มาก นอกจากน้ียังส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น อันเป็นสาเหตุของความแห้งแล้ง สมั พันธร ะหวา งปา ไมก ับสตั วป า แลวใหนกั เรียน และยงั ท�าให้มนุษย์ขาดแคลนปจั จัยในการด�ารงชวี ติ อกี ด้วย กลุมที่รับผดิ ชอบในการอธิบายความรเู กย่ี วกบั ทรัพยากรปา ไมและสัตวป า ชวยกนั ตอบเพอ่ื จากการส�ารวจพื้นที่ป่าไม้ของโลกได้มีการคาดการณ์ว่าในอีก 30-50 ปีข้างหน้า เปนการอธบิ ายความรู ตัวอยา งขอ คาํ ถามเชน ป่าไม้ในเขตร้อนจะหมดไป ประชากรของโลก 1 ใน 3 จะขาดไม้ท�าฟืน ส่วนป่าไม้ในประเทศ • การทาํ ลายปาไมข องมนษุ ยส งผลกระทบตอ พัฒนาแล้วจะสูญไปด้วย มลพิษทางอากาศจะมีมากขึ้น พ้ืนท่ีการท�าปศุสัตว์ในทวีปแอฟริกา ทรัพยากรสตั วปา อยา งไร อธิบายพรอมยก และตะวนั ออกกลางก็จะกลายเป็นทะเลทราย ตัวอยางประกอบพอสงั เขป (แนวตอบ สตั วปาซงึ่ อาศัยปา ไมเปน ถ่นิ ทอ่ี ยู ในปัจจุบันพืชและสัตว์จะสูญพันธุ์ปีละประมาณ 36,500 ชนิด และหากสภาพความ แหลง อาหาร และสืบพันธุ ไดรบั ผลกระทบจน แห้งแล้ง การท�าลายพื้นท่ีลุ่มน�้าและแนวปะการังยังมีมากขึ้น ก็จะท�าให้สิ่งมีชีวิตอย่างน้อย มจี าํ นวนและความหลากหลายนอยลง กระทั่ง 500,000-1,000,000 ชนิดสูญพนั ธภ์ุ ายใน 20 ปี บางประเภทสูญพันธไุ ปจากปาตามธรรมชาติ 1 ในที่สดุ ยกตวั อยางเชน การทาํ ลายปา ชายเลน 4) สถานการณ์ที่เกี่ยวกับพลังงาน ในปัจจุบันโลกใช้พลังงานจากน�้ามันเป็นหลัก สง ผลใหไ มมแี หลงกําบงั คล่ืนและลมจากทะเล แตก่ ารใชป้ ิโตรเลยี มและพลงั งานจากซากพืช ซากสตั ว์ หรือถ่านหินไดส้ รา้ งมลพิษแก่สิ่งแวดล้อม และสัตวนาํ้ หลายประเภทไมมแี หลงวางไขแ ละ จึงมีการหันไปพฒั นาพลงั งานสะอาด ได้แก่ พลังงานแสงอาทติ ย์ พลงั งานลม พลงั งานความร้อน อนุบาลตวั ออน กลา วโดยสรุปในภาพรวมไดว า ใต้พภิ พ และพลงั งานชีวภาพเพื่อน�ามาใช้กนั มากข้ึน ในแตละปโลกตอ งสญู พันธพุ ชื และสัตว 4.1) นา้� มนั นา้� มนั เกดิ จากการทบั ถมของสงิ่ มชี วี ติ ใตด้ นิ หรอื ใตท้ ะเลสาบเปน็ เวลา ประมาณ 36,000 ชนดิ ) หลายร้อยล้านปี ปริมาณน�้ามันในโลกยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนเน่ืองจากบางแหล่งยังไม่ถูก สา� รวจพบ แตม่ กี ารประมาณว่าน�้ามันมอี ยู่ในโลกประมาณ 600 พนั ลา้ นเมตริกตนั แหลง่ น้�ามนั 3. ครูสนทนากบั นกั เรียนกลุมที่รบั ผดิ ชอบในการ ส่วนใหญ่อยู่ในทวีปเอเชียในแถบภูมิภาคตะวันออกกลาง (ในประเทศซาอุดีอาระเบียและคูเวต) อธบิ ายความรูเ ก่ยี วกับทรพั ยากรพลังงานใน ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปแอฟริกา สหพันธรัฐรัสเซีย ประเทศจีน และบางประเทศในทวีปเอเชีย ดา นทรัพยากรพลงั งานท่ีสําคญั ของโลกประเภท ประเทศออสเตรเลยี และทวปี ยุโรปตามล�าดับ ตา งๆ สถานการณท รัพยากรพลงั งานของโลก และการพัฒนาพลงั งานทางเลอื กหรอื พลงั งาน 126 สะอาดของโลก นกั เรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEดิT การศกึ ษาเก่ยี วกับสถานการณด า นทรัพยากรปาไมแ ละสัตวปา 1 น้าํ มัน ทรพั ยากรดา นพลงั งานท่ีสําคญั ของโลกซงึ่ มกี ารศึกษาและคาดการณวา และพลังงาน ควรกระทาํ ในภมู ภิ าคใดของโลกจงึ จะเหมาะสมที่สดุ น้ํามนั จะหมดไปจากโลกในอีก 50-60 ปขา งหนา ในขณะท่คี วามตองการใชน้าํ มนั 1. ทวีปยุโรป มีมากข้ึนกวา ในอดีตอยางมาก โดยเฉพาะจากการเพิ่มขน้ึ ของจาํ นวนประชากรใน 2. ทวปี อเมรกิ าเหนือ เอเชยี ทาํ ใหมีการแสวงหาแหลงน้ํามันหรือพัฒนาพลงั งานทดแทนใหมม ากขึ้น 3. ภมู ิภาคเอเชียตะวันออก 4. ภูมภิ าคเอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต มมุ IT วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. ภูมภิ าคเอเชียตะวนั ตกเฉยี งใต เน่ืองจากเปน พน้ื ทว่ี กิ ฤตการณด านทรัพยากรปาไมและสตั วปา จากภาวะโลกรอน ซง่ึ ทาํ ให ศกึ ษาความรเู กย่ี วกบั สถานการณด า นทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ มใน ความแหงแลง รุนแรงเพิม่ มากขน้ึ จนอาจไมเหลอื พ้นื ทเ่ี หมาะสมสําหรับการ ภมู ิภาคตา งๆ ของโลกเพิม่ เติมไดท ่ี http://www.unep.org/ เว็บไซตโ ครงการ เพาะปลูก รวมถึงเปนแหลงนํา้ มันและแกส ธรรมชาตทิ ี่สําคญั ทส่ี ดุ ในโลก ซ่ึง สิ่งแวดลอ มเพ่อื การพฒั นา องคการสหประชาชาติ (The United Nations Environ- ประสบกบั สถานการณก ารลดลงของปริมาณน้ํามันและแกสธรรมชาติจนอาจ ment Programme : UNEP) หมดไปในอนาคตอันใกล 126 คูม อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู แถบตะวนั ออกกปลราิมงาปณรนะเํ้าทมศันสสมําารชอกิ งกเกลือุมบโอคเรปึ่งกห1น(Oึ่งPขEอCงท)้ังมโลีปกริมา(รณอสยําลระอง4ร7วม.9ก)นั อคยิดูใเปนนปรรอะเยทลศะ 1. ครใู หนกั เรยี นกลมุ ท่ีรบั ผิดชอบในการอธบิ าย 71.9 ของทั้งโลก (พ.ศ. 2556 กลมุ โอเปกผลิตนาํ้ มนั รวมกันมากคดิ เปนรอ ยละ 42.1 ของทัง้ โลก ความรูเกีย่ วกบั ทรพั ยากรพลังงานชว ยกันตงั้ และสงออกในปรมิ าณคดิ เปนรอ ยละ 79 ของทัง้ หมด) ประเทศท่มี ีปรมิ าณสาํ รองนํา้ มันมากท่ีสุด คาํ ถามดา นทรพั ยากรนํ้ามนั ใหนกั เรียนกลุมอืน่ ในโลก คอื ประเทศเวเนซเุ อลา (รอ ยละ 17.7) รองลงไป ไดแ ก ซาอดุ อี าระเบยี แคนาดา อหิ รา น และอริ กั ตอบ จากน้ันกลมุ ตนเฉลยคําตอบเพ่ือเปน การ อธิบายความรู ตัวอยางขอ คาํ ถามเชน เม่ือตน พ.ศ. 2556 ปริมาณน้ํามันสํารองท่ีพิสูจนแลวของน้ํามันโลกมีทั้งหมด • สถานการณทรพั ยากรน้ํามนั ของโลกเปน 1,687.9 พันลานบารเรล คาดวาจะมีเหลือใหใชในอัตราการผลิตปจจุบันไดอีกประมาณ 46 ป เชน ไร มีการคาดการณกันวาในชวง 20 ปขางหนา การผลิตและการใชนํ้ามันของโลกจะยังคงเพิ่มขึ้น (แนวตอบ ทรัพยากรน้ํามนั ของโลกมีแนว ในอัตราเพ่ิมเฉลย่ี ประมาณรอยละ 1.4 ตอป โดยการผลิตน้ํามนั ของประเทศในกลุม โอเปกจะเพิม่ โนมทจี่ ะหมดไปในอนาคตอันใกล กลาวคอื ความสําคญั มากขน้ึ คอื จะมีสัดสว นมากข้นึ เปน ประมาณครง่ึ หนึง่ ของการผลติ ทัง้ หมด ประมาณ 40 ป โดยแหลงนํา้ มันทสี่ ําคญั ของ โลกอยใู นบริเวณตะวนั ออกกลาง เชน ใน 4.2) แกส ธรรมชาติ มแี หลง กาํ เนดิ เชน เดยี วกบั นาํ้ มนั แตอ ยใู นรปู ของแกส การนาํ ประเทศซาอดุ ีอาระเบีย อหิ ราน อิรัก และ ไปใชจงึ ตองสง ไปตามทอ ทําใหตอ งมกี ารลงทุนสงู ในปจ จุบันมกี ารใชแกสธรรมชาตเิ ปนพลังงาน คเู วต ซึง่ ประเทศผูสง ออกนํา้ มันที่สําคัญ ประมาณรอ ยละ 23.9 ของพลงั งานทใ่ี ชก ันอยใู นโลก โดยมีปริมาณสํารองในโลกประมาณ 73,000 ของโลกไดมกี ารรวมกลมุ กันเปนกลมุ โอเปก ลานเมตริกตนั โดยกระจายอยใู นภูมิภาคตา งๆ (OPEC) ทั้งนเ้ี พือ่ กําหนดปริมาณการผลติ รวมกันซ่ึงเปนการกาํ หนดราคานํา้ มันโดย สถานการณแกสธรรมชาติ เมื่อ พ.ศ. 2556 ปรมิ าณสาํ รองท่ีพิสจู นแลวของแกส ทางออ ม หรอื อาจกลา วไดว า เพอ่ื เพม่ิ อาํ นาจ ธรรมชาตโิ ลกมที ง้ั หมด 185.7 ลา นลา นลกู บาศกเ มตร คาดวา มเี หลอื ใหใ ชใ นอตั ราการผลติ ปจ จบุ นั ในการตอรองการคานา้ํ มันอันจะนาํ มาซ่งึ ไดอกี ประมาณ 58 ป ในปจ จุบนั ปรมิ าณสํารองของแกสธรรมชาติท่ีพิสูจนแลวมากกวาครึง่ หน่ึง ประโยชนสงู สุดของกลุมตนน่ันเอง) ของโลกอยูในกลุมประเทศอดีตสหภาพโซเวียต โดยมีปริมาณสํารองรวมกันคิดเปนรอยละ 52.9 ประเทศท่ีมีปริมาณสํารองของแกสธรรมชาติท่ีพิสูจนแลวมากที่สุด ไดแก สหพันธรัฐรัสเซีย 2. ครใู หน ักเรยี นกลมุ ทรี่ บั ผิดชอบในการอธิบาย มีปริมาณแกสธรรมชาติสํารอง 31.3 ลานลานลูกบาศกเมตร หรือรอยละ 16.8 รองลงไป ความรูเก่ยี วกับทรพั ยากรแกสธรรมชาตสิ ง ตวั ไดแ ก อิหราน กาตาร สหรฐั อเมริกา และซาอดุ ีอาระเบยี แทนออกมาอธบิ ายความรเู ก่ียวกับสถานการณ แกสธรรมชาตใิ นโลก แหลง แกสธรรมชาติของ แผนภมู แิ สดงสัดสวนปริมาณแกสธรรมชาติในภมู ภิ าคตาง ๆ ของโลก พ.ศ. 2558 โลก และแนวโนม ของแกสธรรมชาติ โดยใช แผนภูมแิ สดงสัดสว นปริมาณแกส ธรรมชาตใิ น ยโุ รปและยเู รเชยี 7.5 % 30.4 % ภมู ิภาคตา งๆ ของโลกในหนังสอื เรียน หนา 6.8 % 127 ประกอบ แลว ครูใหน กั เรียนในชัน้ เรียน แอฟรกิ า GAS ชวยกนั ตง้ั คาํ ถามเพือ่ ใหเกิดความรคู วามเขา ใจ 8.4 % ที่ถูกตอ ง อเมรกิ าเหนอื 42.8 % เอเชยี แปซฟิ ก 4.1 % ตะปวรนั ะอเอทกศกแลถาบง อเมรกิ าอกเลมารงกิ แาลใตะ ทมี่ า : BP Statistical Review of World Energy 2016. 127 ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู จากสถานการณด านทรพั ยากรนํา้ มนั และแกส ธรรมชาตขิ องโลก แนวทาง 1 กลมุ โอเปก (The Organization of the Petroleum Exporting Countries ดา นทรัพยากรพลงั งานของโลกควรมที ิศทางเชน ไร : OPEC) กอตงั้ ขึน้ เมือ่ ค.ศ. 1965 ในการประชุม ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย วเิ คราะหคาํ ตอบ แนวทางดานทรพั ยากรพลงั งานของโลกควรเนน การ มวี ตั ถุประสงคหลกั ในการควบคุมราคานาํ้ มนั ในตลาดโลก โดยการกําหนดปริมาณ ศกึ ษาและพฒั นาพลงั งานทดแทนตางๆ โดยเฉพาะพลังงาน เชน พลังงาน การผลติ ของประเทศสมาชกิ ในกลมุ แสงอาทติ ย พลังงานลม และพลงั งานแกส ชีวภาพ เพ่ือความสมดุลของ ระบบนเิ วศ และลดการปลอยแกส เรือนกระจกขึ้นสูบรรยากาศ ทัง้ น้แี ตละ บเศรู ณรากษารฐกจิ พอเพียง ประเทศควรพิจารณาพฒั นาพลังงานทดแทนทเี่ หมาะสมกบั ปจจยั ภายใน ประเทศของตน ยกตวั อยางเชน ประเทศบราซลิ ที่มีการปลูกออยมากจึง ปจจุบนั สถานการณก ารใชน ้าํ มนั และแกส ธรรมชาติของโลกเพ่มิ สูงขึน้ พฒั นาเปนน้าํ มนั ไบโอดีเซล โดยใชซ ากออยเปนวัตถดุ บิ หลัก อยางไรกต็ าม แตท รพั ยากรนาํ้ มนั และแกสธรรมชาตลิ ดปริมาณลงเร่ือยๆ ควรหลกี เลีย่ งการพัฒนาพลงั งานที่อาจสงผลกระทบตอ สภาพแวดลอ มอยาง พลงั งานนาํ้ จากการสรา งเข่อื น ซ่ึงตอ งมีการตัดไมท ําลายปา และอาจสง ผล ครูนําโครงการเก่ยี วกบั พลงั งานทดแทนของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหา ใหสตั วป าบางประเภทสูญพนั ธุ ภูมิพลอดุลยเดชมาใหนักเรยี นศึกษา จากนั้นรว มกนั แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับ โครงการดงั กลา วแลวใหนกั เรียนชวยกนั เสนอวิธกี ารใชพ ลังงานอยางพอประมาณ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพิม่ เตมิ คมู อื ครู 127
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู ครสู นทนารว มกับนกั เรียนกลมุ ท่รี ับผดิ ชอบ 4.3) พลงั งานปรมาณู หรือพลงั งานนวิ เคลียร์ 1(Nuclear Energy) เป็นพลังงาน ในการอธบิ ายความรเู กย่ี วกบั ทรพั ยากรพลงั งาน ความร้อนที่ถูกปลดปล่อยมาจากการรวมตัวหรือการแตกตัวของอะตอมของธาตุยูเรเนียม 285 ในดานทรัพยากรถานหนิ เพ่ือใหนักเรยี นเกดิ ความรู เป็นพลังงานท่ีมนุษย์น�ามาใช้ในช่วงสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ความเขาใจวา ถานหินเปน แหลงพลังงานที่สาํ คัญ ฝร่ังเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น เป็นต้น ได้น�าพลังงานนิวเคลียร์มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ของโลกตัง้ แตอดตี จนถึงปจจบุ นั แตจ ากการปลอย โดยพลังงานปรมาณูให้พลังงานมากกว่าเชื้อเพลิงอ่ืน และมีค่าใช้จ่ายในระยะยาวถูกกว่า แกส เรือนกระจกขึ้นสบู รรยากาศเมอ่ื เผาไหมถ า นหิน ในปจั จบุ ันมกี ารนา� พลงั งานปรมาณมู าใชใ้ นทางการแพทย ์ การผลติ อาวธุ สงคราม และการเกษตร เพื่อใชในกจิ การตางๆ ท้งั การเปนเช้อื เพลิงใน แตพ่ ลงั งานปรมาณยู งั มขี อ้ จา� กดั ในการใช ้ เนอ่ื งจากสารกมั มนั ตภาพรงั สจี ะเปน็ อนั ตรายตอ่ มนษุ ย์ ยานพาหนะในโรงงานอุตสาหกรรม ทําใหใ น และสง่ิ แวดล้อม แมแ้ ต่ในประเทศทีพ่ ัฒนาแล้ว เชน่ สหรัฐอเมริกา ญปี่ ่นุ รัสเซีย เป็นตน้ ยังคง ปจ จบุ ันนานาประเทศเกิดการศึกษาและพฒั นา มีปัญหาการร่ัวไหลของสารกัมมันตภาพรังสีอยู่บ่อยครั้ง นอกจากน้ันการใช้พลังงานปรมาณู พลังงานทางเลอื กหรือพลงั งานสะอาด ท่กี ลาว ต้องใช้เทคโนโลยีข้ันสูงและใช้ทุนมาก จึงยังเป็นข้อจ�ากัดของหลายประเทศ แต่ในอนาคตเม่ือ รวมกนั ในปจ จบุ นั วา พลงั งานทดแทน ขึ้นหลาย พลังงานฟอสซลิ หมดลงจะมกี ารใชพ้ ลงั งานปรมาณูกนั มากขึน้ ประเภท เชน พลงั งานลม พลังงานนิวเคลียร และ พลงั งานความรอ นใตพ ภิ พ แตอยางไรกด็ พี ลงั งาน 4.4) ถ่านหิน เป็นเช้ือเพลิงที่เกิดจากการทับถมของซากพืชภายใต้พื้นดินโดย ทดแทนแตล ะประเภทก็มีขอดแี ละขอจํากดั ที่ ถกู กดทบั อัดเป็นถา่ น ปจั จบุ นั ใช้ถา่ นหนิ เป็นพลังงานประมาณรอ้ ยละ 27 ของพลงั งานท่ีใช้กันอยู่ เหมาะสมกบั ภูมภิ าคตางๆ แตกตางกันไป จึงมีการ ในโลก ถา่ นหินสว่ นมากท่ีใช้กนั เปน็ ถา่ นหนิ บทิ ูมนิ สั ถ่านหินส�ารองที่มอี ยูใ่ นโลกประมาณ 20,000 ศึกษาและพัฒนาพลงั งานที่เหมาะสมกบั ลกั ษณะ ลา้ นเมตรกิ ตนั กระจายอย่ใู นภมู ิภาคตา่ ง ๆ ทางภมู ศิ าสตร สงั คม และเศรษฐกิจ ของแตละ ประเทศ เพ่ือใหเกดิ การพัฒนาท่ียงั่ ยนื สบื ไป 4.5) พลงั งานน้�า ใชใ้ นการผลิตกระแสไฟฟา้ เม่อื มีการใชน้ �้ามัน แก๊สธรรมชาติ และถ่านหินมากข้ึน ท�าให้มีการใช้พลังงานน้�าในการผลิตกระแสไฟฟ้าน้อยลง เขื่อนที่ใช้ผลิต กระแสไฟฟา้ ทส่ี า� คญั ของโลก เชน่ เขอ่ื นอไิ ทพ ุ (Itaipu Dam) กนั้ แมน่ า�้ ปารานาทอ่ี ยบู่ รเิ วณพรมแดน ระหวา่ งประเทศบราซิลและปารากวัย เปน็ ตน้ เข่ือนอิไทพุ (Itaipu Dam) ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลและปารากวัย เป็นเข่ือนท่ีใช้ผลิตกระแสไฟฟา พลังน�้าท่ใี หญท่ ส่ี ดุ ในโลก 128 นักเรียนควรรู กจิ กรรมสรา งเสรมิ 1 พลงั งานนวิ เคลียร ไดจ ากปฏิกริ ิยาฟว ช่นั ในเครอ่ื งปฏกิ รณนิวเคลียร ซงึ่ จะใช ครูอาจใหน ักเรียนสบื คน ความรูเ พมิ่ เตมิ เกีย่ วกับสถานการณด าน ประโยชนใ นการผลติ พลงั งานไฟฟา โดยเครื่องปฏิกรณนิวเคลียรประกอบดว ย แทง ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอมในภูมภิ าคตา ง ๆ ของโลก คนละ เชอ้ื เพลงิ คอื ยเู รเนยี มหรอื พลโู ทเนียม จะผสมอยูในมอเดอเรเตอร พลงั งานจะถูก 1 ภูมภิ าค จากแหลงการเรยี นรูอืน่ ทค่ี รเู สนอแนะ แลวจัดทําเปนบนั ทึก ปลอ ยออกมาในรูปความรอน และถา ยความรอนจากเครอื่ งปฏิกรณน วิ เคลยี รโดยใช การสบื คนสง ครูผูส อน ของเหลวไปยังเครือ่ งถา ยความรอน ซึง่ มนี ํา้ เปน สว นประกอบและทาํ ใหนํ้ากลายเปน ไอนา้ํ หมุนกังหันซึง่ มีเพลาตอกับเครือ่ งกําเนิดไฟฟา ตอไป กจิ กรรมทา ทาย มมุ IT ครูอาจใหนักเรยี นสบื คน ความรเู พิ่มเตมิ เก่ียวกบั แนวทางการอนุรักษ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ มในภูมิภาคตางๆ ของโลก คนละ ศึกษาขอ มูลเก่ียวกับผลกระทบจากการใชพลังงานเพ่ิมเตมิ ไดท่ี http://www. 1 ภมู ิภาค จากแหลงการเรียนรอู ่นื ทค่ี รูเสนอแนะ แลวจัดทําเปน บันทกึ greenpeace.org/seasia/th/campaigns/climate-and-energy/lmpacts/ การสืบคนสงครูผูสอน เวบ็ ไซตก ลมุ กรีนพซี ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) 128 คมู ือครู
กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate อธบิ ายความรู Explain 4.6) พลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พ 1ความรอ้ นใตพ้ นื้ โลกมอี ณุ หภมู สิ งู ถงึ 4,400 องศา ครใู หน ักเรียนกลมุ ท่รี ับผิดชอบเก่ยี วกบั เซลเซียส บางแห่งความร้อนเหล่านี้จะก่อให้เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินไหวและพุน�้าร้อนบางแห่ง ทรพั ยากรพลังงานชว ยกันอธิบายความรู จากน้นั อาจเกดิ เปน็ ไอรอ้ นทถี่ กู กกั เกบ็ ไวใ้ ตพ้ น้ื โลก ทเ่ี รยี กวา่ พลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พ ซง่ึ สามารถนา� มา ครูและนักเรียนชวยกันสรปุ ความรูทไ่ี ดจ ากการ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ในสหรัฐอเมริกาผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพประมาณ ศึกษาเกี่ยวกบั สถานการณดา นทรพั ยากรธรรมชาติ รอ้ ยละ 50 ของพลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พทใี่ ชก้ นั และส่งิ แวดลอ มในภูมภิ าคตา งๆ ของโลก นักเรียน บันทึกความรูทสี่ รปุ ไดล งในสมุด อย่ใู นโลก นอกจากน ้ี ยังมใี นประเทศฟิลปิ ปนิ ส์ ขยายความเขา ใจ Expand นวิ ซแี ลนด ์ อติ าล ี เมก็ ซโิ ก ญป่ี นุ่ และไอซแ์ ลนด์ 4.7) พลังงานลม พลังงานลม เกิดจากการท่ีผิวโลกได้รับพลังงานความร้อน ครมู อบหมายใหน กั เรียนแตละกลมุ ศึกษา จากดวงอาทิตย์ทไี่ ม่เท่ากัน ท�าให้อุณหภมู ขิ อง คน ควาเพิม่ เติมเกย่ี วกบั สถานการณดา น อากาศแตกต่างกันและเกิดการเคล่ือนท่ีของ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอมในภมู ภิ าค อากาศซึ่งก่อให้เกิดพลังงานลม มนุษย์รู้จัก ตางๆ ของโลกในดา นท่กี ลมุ ตนรับผดิ ชอบ จาก ใช้พลังงานลมในการเดินเรือ การสูบน�้าและ แหลงการเรยี นรูอ น่ื นอกเหนอื จากหนังสือเรยี น กิจกรรมอื่น ๆ มานานแล้ว ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โรงไฟฟา พลงั งานความรอ้ นใตพ้ ภิ พไวรากิ ประเทศนวิ ซแี ลนด์ เชน พพิ ิธภัณฑและหนว ยงานทีเ่ ก่ยี วของกับ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมในทองถน่ิ และ ของสหรัฐอเมริกาใช้พลังงานลมผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 300 เมกะวัตต์ หรือประมาณ เว็บไซตท ้ังในประเทศและตางประเทศ แลวชวยกนั ร้อยละ 40 ของพลังงานลมท่ีใช้อยู่ในโลก ส่วนประเทศอ่ืน ๆ ที่ใช้พลังงานลมกันมาก เช่น จดั ทาํ ใบความรูเผยแพรข อ มลู เกีย่ วกับสถานการณ ประเทศเยอรมน ี เดนมารก์ เนเธอร์แลนด์ เป็นตน้ ดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มในภูมภิ าค . วกิ Äตการณด์ ้านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ตางๆ ของโลก โดยเนน ขอ มลู ทท่ี นั สมยั การนาํ ใปนัญภหมูาสภิิ่งแาวคดลต้อา่ มงขๆอง โลขกอไดง้สโะลสมกขึ้นนับต้ังแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเ2มื่อราว 200 ปี เสนอทีน่ า สนใจและภาพประกอบทีส่ วยงาม ตรวจสอบผล Evaluate ทผี่ า่ นมา โดยการสรา้ งโรงงานอตุ สาหกรรมในทวปี ยโุ รปและสหรฐั อเมรกิ านน้ั ทา� ใหม้ กี ารนา� พลงั งาน ถ่านหินและน�้ามันมาใช้มากขึ้น เป็นการเพิ่มมลพิษให้แก่สิ่งแวดล้อมจากสารท่ีผสมอยู่ในน�้ามัน 1. ครแู ละนกั เรยี นชว ยกนั ตรวจใบความรู สถานการณด านทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ตอ่ มาในกลางครสิ ตศ์ ตวรรษท ่ี 20 การพฒั นาการเกษตรยคุ ใหมไ่ ดห้ นั มาใชป้ ยุ๋ เคมแี ละยาฆา่ แมลง สิง่ แวดลอ มในภูมภิ าคตางๆ ของโลกของ ซ่งึ สง่ ผลให้สารเคมเี กิดการแพรก่ ระจายไปในน้�า อากาศ ดิน และในหว่ งโซอ่ าหาร นกั เรยี นแตละกลุม โดยพิจารณาจากความ ปัญหาทางด้านส่ิงแวดล้อมที่สะสมท�าให้เริ่มตระหนักว่าปัญหาของโลก คือ การเกิดภาวะ ถกู ตอ งและทันสมยั ของขอมูล การนําเสนอ ฝนแล้งและอุณหภูมิของโลกท่ีร้อนขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและการด�ารงชีวิตของ ที่นาสนใจ เขา ใจงาย และภาพประกอบที่ มนุษย์ ท�าให้เมื่อประมาณ 20 ปีท่ีผ่านมาโลกได้หันมาสนใจเรื่องส่ิงแวดล้อม ถึงแม้ว่าปัญหา สวยงามและสอดคลอ งกบั ขอ มูล จากนน้ั ทางด้านสิ่งแวดล้อมได้รุนแรงถึงขั้นวิกฤตแล้ว ความตระหนักในการร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ันก็ยัง สําเนาใบความรเู พอ่ื เผยแพรขอมลู โดย คงมีความแตกต่างกันอยู่มาก ในปจั จบุ ันปัญหาสิง่ แวดลอ้ มท่เี ข้าส่ภู าวะวกิ ฤต มดี ังนี้ พจิ ารณาตามความเหมาะสม 2. ครสู งั เกตพฤติกรรมการมสี วนรวมในกจิ กรรม 129 การเรียนรู เชน การทํางานกลุม การตอบ คําถาม และการแสดงความคดิ เห็น เปน ตน ขอ สอบ O-NET นักเรียนควรรู ขอสอบป ’53 ออกเกีย่ วกับวิกฤตการณดานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดลอ ม ขอใดไมใ ชวิกฤตการณด านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม 1 พลงั งานความรอนใตพิภพ (geothermal) อาจกลาวไดว า เปน พลงั งาน 1. การเกิดแผน ดนิ ไหว สะอาดอยา งแทจ รงิ เน่อื งจากแทบไมกอ ใหเกดิ มลภาวะหรือปลอ ยแกส เรือนกระจก 2. ความตื้นเขินของแหลงนา้ํ ขึน้ สบู รรยากาศเลย อกี ทัง้ หลายประเทศกม็ แี หลง พลงั งานความรอ นใตพ น้ื พภิ พ 3. ความจํากดั ของจาํ นวนท่ีดนิ ซ่งึ สามารถนาํ มาใชป ระโยชนไ ดตลอดท้ังปจากการท่มี ีอณุ หภูมคิ งที่ อยางไรก็ตาม 4. การประกาศเขตปาเสื่อมโทรม ปจ จบุ ันมีประเทศทีน่ าํ พลังงานความรอนใตพ ภิ พมาใชง านเพยี งไมก ปี่ ระเทศเทา นั้น 2 ยคุ ปฏิวตั ิอุตสาหกรรม (The Industrial Revolution) เกิดขนึ้ ในราว ค.ศ.1750- วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. การประกาศเขตปา เสื่อมโทรม เปน การ 1850 ในสหราชอาณาจักร จากปจจัยการยตุ ิสงครามระหวางองั กฤษกับสกอตแลนด การรว มมือกนั ในดานตา งๆ ของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในดา นเศรษฐกจิ การคา จัดการวกิ ฤตการณด านทรพั ยากรปา ไม โดยอาจฟน ฟูใหกลบั มาเปน ปาไม การอนุญาตใหมีการรว มมือกนั ระหวา งองคกรในการผลิต และการคา แบบทุนนยิ ม อุดมสมบูรณดังเดมิ หรอื จดั สรรท่ีดนิ ทาํ กินหรือใชประโยชนดานอน่ื ๆ ใหแ ก รวมถึงนวตั กรรมการผลิต เชน การใชเ ช้อื เพลิงถานหินในโรงงานอตุ สาหกรรม ประชาชนอยางเหมาะสม สว นตัวเลอื กขอ อ่นื ๆ ลวนเปน วกิ ฤตการณด า น ยานพาหนะตา งๆ และการแบง หนาที่กันผลติ เปนตน ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอมทัง้ ส้นิ คูมอื ครู 129
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Expand Evaluate Explain กระตนุ ความสนใจ Engage ครูตงั้ คําถามเพอ่ื กระตนุ ความสนใจของนกั เรยี น เก่ียวกับการเกดิ วิกฤตการณด า นทรัพยากรธรรมชาติ 4.1 การเกิดภาวะโลกร้อน และส่งิ แวดลอมในภูมิภาคตางๆ ของโลก โดยเนน การเชอ่ื มโยงกับชีวติ ประจําวนั ของนักเรยี น แลว ให อุณหภูมิของโลกได้รอ้ นขนึ้ อยา่ งต่อเนอ่ื งในชว่ งเวลา 50 ปที ่ีผา่ นมา การทอ่ี ณุ หภมู ขิ องโลก นกั เรียนชว ยกนั ตอบ เชน รอ้ นขึน้ นัน้ เนอื่ งมาจากการเพิ่มข้ึนของแก๊สเรอื นกระจกในบรรยากาศ โดยเฉพาะการเพ่ิมขึ้นของ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด ์ คลอโรฟลอู อโรคารบ์ อน (CFCs) มเี ทน และไนตรสั ออกไซด ์ โดยมนษุ ยเ์ ปน็ • ถานักเรียนไมม ไี ฟฟา และนํา้ ประปาใชในชีวิต ตวั การสา� คญั ในการปลอ่ ยแกส๊ เรอื นกระจกออกสบู่ รรยากาศ เชน่ การทา� อตุ สาหกรรม การคมนาคม ประจําวันจะเปน เชนไร ขนส่ง การเผาขยะ รวมถึงการตดั ไม้ท�าลายปา่ เปน็ ตน้ บรเิ วณที่มกี ารปลอ่ ยแกส๊ เรือนกระจกใน ปรมิ าณมาก คือ ประเทศทีม่ ีโรงงานอตุ สาหกรรมจา� นวนมาก เช่น สหรัฐอเมรกิ า จนี เยอรมนี จากนน้ั ครูอธิบายใหนกั เรยี นเขาใจถงึ วิกฤตการณ เปน็ ตน้ อณุ หภมู ขิ องโลกทรี่ อ้ นขนึ้ นอกจากจะทา� ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ มนษุ ยแ์ ลว้ ยงั เกดิ ความเสยี หาย ดา นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอมในภมู ิภาค ตอ่ ระบบนิเวศของโลก เชน่ ท�าให้ปะการังตามแนวชายฝง่ั มหาสมุทรอินเดียตาย เกดิ ไฟปา่ ท�าให้ ตางๆ ของโลกทร่ี นุ แรงในปจ จุบนั ซ่งึ นักเรยี นควร สูญเสียป่าไม้และสัตว์ป่า อีกท้ังท�าให้ระดับน�้าทะเลสูงข้ึนอย่างน้อย 17 เซนติเมตร เป็นต้น ศึกษาความรูเก่ียวกับวิกฤตการณตา ง ๆ เพราะอาจ นอกจากน้ี อุณหภูมิท่ีสูงข้ึนของโลกยังก่อให้เกิดโรคระบาดท่ีเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยง สงผลกระทบท่ีรุนแรงตอการดําเนนิ ชวี ติ ของตนไดใ น ซงึ่ มีผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ของโลกอกี ด้วย อนาคต รวมถึงเพอ่ื การแกไขและฟน ฟูวิกฤตการณ ตา งๆ อยางถกู ตองเหมาะสม 4.2 น�า้ เสยี และการขาดแคลนน�้า สาํ รวจคน หา Explore จากภาวะโลกรอ้ นแมจ้ ะทา� ใหป้ รมิ าณนา้� ผวิ ดนิ เพมิ่ ขนึ้ แตก่ ไ็ มอ่ ยใู่ นสภาพทส่ี ามารถนา� มาใช้ อปุ โภคบรโิ ภคได ้ เนอ่ื งจากมกี ารระเหยสงู และคณุ ภาพนา้� ไมเ่ หมาะสม ขณะเดยี วกนั นา�้ ในแหลง่ ทใ่ี ช้ ครูมอบหมายใหน กั เรยี นศึกษาความรูเกี่ยวกับ อปุ โภคบรโิ ภคกลบั มสี ารพษิ เพมิ่ ขนึ้ จนไมส่ ามารถนา� มาใชไ้ ด ้ อกี ทงั้ ยงั มคี วามตอ้ งการใชน้ า้� มากขน้ึ วกิ ฤตการณดานทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม เนอื่ งจากการเพม่ิ ขนึ้ ของประชากรโลก การขยายตวั ของอตุ สาหกรรม และใชส้ า� หรบั การเพาะปลกู ในภมู ภิ าคตา งๆ ของโลก และผลของการเปลย่ี นแปลง ลกั ษณะทางกายภาพตอ การเกิดภมู ิสงั คมใหมข อง แหล่งที่มาของน�้าเน่าเสียนอกจากเกิดขึ้น ไทยและของโลก จากหนงั สือเรียน หนา 129-132 โดยการชะล้างสารพิษในอากาศของน�้าฝนหรือ และแหลงการเรียนรอู ื่น เชน หนงั สอื ในหองสมดุ หมิ ะแลว้ ยงั เกดิ จากสารพษิ ในนา�้ ทง้ิ จากโรงงาน ใบความรูท ค่ี รจู ดั ทาํ ขนึ้ และเว็บไซตท ่ีเกี่ยวของตา งๆ อตุ สาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศกา� ลงั พฒั นา ท่ไี ดศ ึกษามาในกจิ กรรมการเรยี นรูกอ นหนานี้ ท่ขี าดระบบบ�าบดั และควบคมุ การท้ิงของเสีย แม้ปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น ประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และประเทศใน อธบิ ายความรู Explain ทวปี ยโุ รป มกี ารปรบั ปรงุ คณุ ภาพนา้� ในแมน่ า้� ให้ ดขี นึ้ แลว้ แตใ่ นหลายประเทศยงั ประสบกบั ปญั หา ครูสอบถามความรูทวั่ ไปเกี่ยวกบั วิกฤตการณ ดา นทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอมในภมู ิภาค นา�้ เสยี จนไมส่ ามารถนา� มาอปุ โภคบรโิ ภคได ้ เช่น ตางๆ ของโลกทนี่ กั เรยี นไดศึกษามา แลวให อินเดียก�าลังประสบกับปญหาน�้าเสีย โดยเฉพาะแม่น�้า แม่น�้ายมุนาในประเทศอินเดีย แม่น้�าวิสตูลา นักเรียนชวยกนั อธิบายความเปนมาในบริบททาง ยมนุ าซงึ่ เป็นแม่น�้าสายสา� คัญของประเทศ ในประเทศโปแลนด ์ เปน็ ตน้ ประวตั ศิ าสตรโ ดยการเรยี งลําดบั บัตรคําหรอื แถบ ขอความสาํ คัญทีเ่ กีย่ วขอ งกบั การเกดิ วิกฤตการณดาน 130 ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ มในภูมภิ าคตางๆ ของโลก พรอ มท้ังอธบิ ายเชื่อมโยงใหถ กู ตอง ขอสอบ O-NET เกร็ดแนะครู ขอ สอบป ’51 ออกเกย่ี วกบั วกิ ฤตการณดานทรัพยากรธรรมชาติของโลก ครูอาจสนทนารว มกนั กับนักเรยี นถึงภาวะโลกรอ นตอ การเกดิ ภยั ทางธรรมชาติ วิกฤตการณด า นทรพั ยากรธรรมชาติทส่ี ง ผลกระทบตอการดาํ รงชีวติ ของ ตา งๆ ท่ีรนุ แรงและบอ ยครัง้ ในปจจุบัน เชน วาตภัย อทุ กภัย และการสูญพันธุของ มนุษยม ากทีส่ ดุ คอื ขอ ใด พชื และสตั วปา แลวใหนกั เรยี นชวยกันวิเคราะหผลกระทบของภาวะโลกรอนท่สี งผล ใหเ กิดภัยทางธรรมชาติในดานบรรยากาศภาค อทุ กภาค ธรณีภาค และชีวภาค 1. การขาดแคลนนํ้าจดื จากนน้ั ชวยกันจัดทําผังความคิดแสดงความสมั พนั ธร ะหวางภาวะโลกรอนกับภยั 2. การสูญเสยี ปาไมและสตั วปา ทางธรรมชาติ เพือ่ ใหน ักเรียนตระหนักถงึ ความรุนแรงของภาวะโลกรอ นท่ีสงผลให 3. พลงั งานแสงอาทิตย เกิดภยั ทางธรรมชาตติ า งๆ ตามมา อันจะนาํ ไปสกู ารมสี วนรวมในการแกไ ขหรอื 4. การชะลา งและการพังทลายของดนิ บรรเทาภาวะโลกรอนได วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 1. การขาดแคลนน้ําจดื เนอื่ งดว ยนํา้ จืดเปน ปจจัยสาํ คญั ที่สดุ ในการดํารงชีวติ ของส่งิ มชี วี ติ ทกุ ชนดิ รวมทัง้ มนุษย ซึ่งใน ปจ จุบนั วกิ ฤตการณทรพั ยากรนา้ํ ท้งั ในสวนของการขาดแคลนนํ้าจากภยั แลง และนา้ํ เสยี มีความรนุ แรงมากในภมู ิภาคตา งๆ ของโลก เชน ทวปี แอฟรกิ า สงผลกระทบตอการดาํ รงชวี ติ ของประชากรท้ังทางตรงและทางออ ม เชน การรอดชวี ติ ของทารกในอัตราท่ีต่าํ การมรี ายไดต าํ่ เพราะขาดน้ําในการ ประกอบอาชพี ทางการเกษตร เปน ตน 130 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 1. ครูสุมนักเรยี น 3-6 คน เพอ่ื ใหช ว ยกนั อธบิ าย ความรเู ก่ียวกับการเกดิ ภาวะโลกรอน นา้ํ เสีย การขาดแคลนน้�าใช้รุนแรงมากขึน้ ในฤดรู อ้ น ทวีปแอฟรกิ าขาดแคลนน้�ามากทีส่ ุด รองลงไป และการขาดแคลนน้าํ และความสัมพนั ธของ เปน็ ภมู ภิ าคตะวนั ออกกลาง ประเทศอนิ เดยี และบรเิ วณทร่ี าบตอนเหนอื ของประเทศจนี เนอื่ งจาก วกิ ฤตการณท ง้ั สองดา น โดยใหนักเรียนนบั น้�าในแหลง่ นา�้ มนี อ้ ยทัง้ ประเภทน�า้ ผิวดนิ และน้�าใตด้ นิ หมายเลข 1-3 เพ่อื กาํ หนดหนา ที่การอธบิ าย ความรทู ่ตี นรบั ผดิ ชอบ ดงั น้ี 4.3 อากาศเสีย หมายเลข 1 อธบิ ายความรกู ารเกดิ ภาวะ อากาศเสียหรืออากาศเป็นพิษนับวันจะมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โลกรอน อนามัยของมนษุ ยโ์ ดยตรง ในแต่ละปที ัว่ โลกมผี เู้ สียชวี ิตจากอากาศเปน็ พิษนับแสนคน โดยเฉพาะ หมายเลข 2 อธิบายความรูน ํ้าเสยี และ ในสหรฐั อเมรกิ า สว่ นภูมภิ าคยุโรปตะวนั ออกและประเทศจีนอากาศเป็นพิษเกดิ จากการท�าเหมอื ง ถ่านหินและการใชถ้ ่านหินในโรงงานอุตสาหกรรม เกดิ สารซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์และเขมา่ ควันเข้าสู่ การขาดแคลนน้าํ บรรยากาศ ทา� ใหเ้ กิดโรคหอบหืด หลอดลมอกั เสบ และถงุ ลมโป่งพอง หมายเลข 3 อธบิ ายความรคู วามสัมพนั ธข อง สารพษิ ทเี่ กดิ จากการใชน้ า�้ มนั ในรถยนต ์ ไดแ้ ก ่ ไนโตรเจนไดออกไซด ์ คารบ์ อนมอนอกไซด์ วกิ ฤตการณท ้งั สองดา น ตะกั่ว และไฮโดรคาร์บอน มีผลต่อสุขภาพอนามัยโดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบ หมนุ เวยี นโลหติ ระบบประสาทและอาจเป็นสาเหตขุ องโรคมะเรง็ ภายหลงั จากนักเรียนแตละหมายเลขอธบิ าย ความรตู ามหนา ทร่ี บั ผดิ ชอบแลว ครสู อบถาม เมอื งสา� คญั หลายแหง่ ทมี่ ซี ลั เฟอรไ์ ดออกไซดแ์ ละสารแขวนลอยในอากาศเกนิ มาตรฐาน ได้แก่ ความรจู ากนกั เรยี นในชั้นเรยี นเพ่มิ เติม เพอื่ ให นวิ เดล ี ซอี าน เปย่ จ์ งิ (ปกั กงิ่ ) เตหะราน กรงุ เทพมหานคร มาดรดิ กวั ลาลมั เปอร ์ ซาเกรบ็ เซาเปาลู ไดขอ มลู ความรทู ่ถี กู ตอ งครบถว น ปารสี นิวยอร์ก มลิ าน และโซล 2. ครตู ง้ั คาํ ถามเกี่ยวกบั วกิ ฤตการณด าน ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอมในภมู ิภาค 4.4 การสญู เสยี ปา่ ไมแ้ ละสัตวป์ า่ ตา งๆ ของโลก แลวสุม ใหนกั เรยี นตอบเพอ่ื เปนการอธิบายความรู ตวั อยางขอ คําถามเชน ในอดีตโลกมีพ้ืนที่ป่าไม้อยู่ประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 37,800 • จากการศกึ ษาความรูเกี่ยวกับอากาศเสยี ล้านไร่ แต่ในปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 20 ของพื้นที่ท้ังหมด หรือประมาณ 22,500 ล้านไร่ โดยการสูญเสียป่าไม้มีสาเหตุมาจากการตัดไม้ไปใช้เป็นสินค้า สร้างที่อยู่อาศัย เมืองใหญท ่มี กี ารจราจรหนาแนนจะมสี ภาพ ความต้องการพื้นที่ในการเพาะปลูก และการเกิดไฟป่า ซึ่งปัจจุบันเนื่องจากโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศเชน ไร อธิบายพอสังเขป ทา� ให้เกิดไฟป่าขน้ึ บอ่ ยครั้ง ทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ฝรงั่ เศส และอินโดนเี ซยี (แนวตอบ เมอื งใหญท มี่ กี ารจราจรหนาแนน นอกจากนี้ การสูญเสียป่าไม้เท่ากับเป็นการท�าลายแหล่งที่อยู่อาศัยและอาหารของสัตว์ป่า จะเกิดมลภาวะทางอากาศอยา งรนุ แรง จาก การลดลงของพน้ื ทปี่ า่ จงึ ทา� ใหส้ ตั วป์ า่ ลดลงหรอื สญู พนั ธไ์ุ ป อกี ทงั้ การจบั สตั วป์ า่ ไปขายเปน็ สตั วเ์ ลยี้ ง แกสท่เี กดิ จากการเผาไหมเช้ือเพลงิ นา้ํ มนั ใน หรอื อาหารก็ทา� ให้สัตว์ป่าลดลงเชน่ กัน เครอ่ื งยนตของรถยนต ไดแ ก ไนโตรเจนได- ป่าไม้และสัตว์ป่าเป็นองค์ประกอบท่ีส�าคัญของระบบนิเวศ และป่าไม้มีความสัมพันธ์ ออกไซด คารบ อนมอนอกไซด ตะกั่ว และ กับทรัพยากรธรรมชาติอ่ืน ๆ เช่น ความชุ่มช้ืนของดินฟ้าอากาศ ช่วยควบคุมปริมาณแก๊ส ไฮโดรคารบ อน ซงึ่ เปนอนั ตรายตอระบบทาง คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ท�าให้ฝนตก ช่วยลดการพังทลายของดิน เป็นต้น การสูญเสีย เดินหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบ ป่าไม้จึงเป็นจุดเริ่มตน้ ของปัญหาสิ่งแวดล้อมอืน่ ๆ ดว้ ย ประสาทของรางกาย) จากนัน้ ครูนํานักเรยี นในการสรุปความรทู ่ี 131 เกย่ี วกบั วิกฤตการณด านทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอมในภมู ิภาคตางๆ ของโลกใน ปจจบุ ัน ขอสอบ O-NET ขอ สอบป ’52 ออกเก่ยี วกับการขาดสมดุลของระบบนิเวศของโลก บรู ณาการอาเซียน ขอ ใดทําใหระบบนิเวศของโลกขาดสมดุล ครูสามารถจดั กิจกรรมการเรียนรูบ รู ณาการอาเซยี น โดยใหน ักเรียนรวมกลมุ กัน 1. ภาวะโลกรอน กลมุ ละ 4 คน เพอื่ ชว ยกนั ศึกษาคนควาเพมิ่ เตมิ เก่ียวกับวิกฤตการณด า นทรัพยากร 2. การตัดไมทําลายปา ธรรมชาติและสิง่ แวดลอ มในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต กลมุ ละ 1 ดา น เชน 3. การเกดิ กาซเรือนกระจก ทรพั ยากรปาไมแ ละสตั วป า ทรัพยากรน้าํ และมลภาวะทางอากาศ โดยกําหนดราย 4. การใชด ินซ้ําซากและบอ ยคร้ัง ละเอียดเกยี่ วกบั ปจจยั ที่เปนสาเหตุ ลักษณะของวิกฤตการณ ผลกระทบ และการ วิเคราะหคาํ ตอบ การขาดความสมดุลของระบบนิเวศของโลก คือ การ ปองกันและแกไ ขวิกฤตการณดงั กลา ว จากแหลงการเรียนรูต างๆ เชน หนงั สอื ใน ทาํ ใหองคประกอบทางธรรมชาตเิ สื่อมโทรมหรอื พงั ทลายจนไมส ามารถเก้ือกูล หองสมดุ เอกสารเผยแพรข องหนว ยงานทีเ่ กย่ี วของ และเว็บไซตทงั้ ในประเทศและ ซ่ึงกนั และกันไดดงั เดิม เชน การเกดิ กา ซเรอื นกระจกในปริมาณมากกวาการ ตางประเทศ แลว จดั ทําเปน รายงานพรอ มทงั้ สง ตวั แทนกลมุ ออกมานาํ เสนอผลงาน ดูดซบั ของแหลง ดดู ซบั กา ซตามธรรมชาติอันไดแ ก ปา ไมจ ะบําบัดไดทันกอ น ท่ีหนา ช้นั เรียน จากน้นั ครูอธบิ ายใหน กั เรยี นเขาใจถงึ ภัยทางธรรมชาตทิ ่ีสาํ คัญของ ข้นึ สูช้ันบรรยากาศ ทาํ ใหปรากฏการณเรือนกระจกของโลกรุนแรงข้ึนกวาใน ภมู ิภาค และความรวมมือระหวางประเทศในการชวยเหลอื หรือแกไ ขปญ หาตาม อดีตจนเกดิ เปนภาวะโลกรอ น อันนาํ มาซึง่ ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาตทิ ่ีเกดิ ข้นึ อยาง กรอบความรวมมือของอาเซยี น บอ ยครงั้ และมคี วามรนุ แรงดังเชน ในปจ จบุ ัน ดังนั้นคําตอบคอื ขอ 1. - 3. คมู ือครู 131
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู 1. ครูแบง นักเรยี นออกเปน กลุม กลมุ ละ 4 คน โดยใหน กั เรยี นนับหมายเลข 1-4 ตามตําแหนง 4.5 การขาดแคลนพลงั งาน ท่นี ั่งในชั้นเรยี น เพอ่ื ใหชว ยกนั อธบิ ายความรู เกยี่ วกับผลของการเปลี่ยนแปลงลักษณะทาง พลังงานเป็นปัจจัยส�าคัญในการด�าเนินชีวิตในปัจจุบัน โดยมีการใช้พลังงานกับยานพาหนะ กายภาพตอการเกิดภูมิสงั คมใหมข องไทยและ เครื่องจักร เคร่ืองใช้ในบ้านเรือน ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ในขณะที่ความต้องการ ของโลก โดยออกแบบและจดั ทาํ การนาํ เสนอใน พลงั งานเพมิ่ ข้ึนแตป่ ริมาณพลังงานมีอยู่อยา่ งจา� กัด จึงทา� ใหร้ าคาสงู ขึ้น มีผลกระทบต่อฐานะทาง รูปแบบตา งๆ ตามความถนดั และความสนใจ เศรษฐกจิ ไปทวั่ โลก โดยเฉพาะประเทศผบู้ รโิ ภคนา�้ มนั ทต่ี อ้ งซอื้ นา�้ มนั ในราคาท ส่ี งู ขน้ึ ทา� ใหส้ นิ คา้ ใน ของสมาชกิ สว นใหญล งในกระดาษโปสเตอรท คี่ รู ประเทศมรี าคาสงู ตามไปดว้ ย ปญั หาของการใชพ้ ลงั งานนอกจากเปน็ ทรพั ยากรทม่ี จี า� กดั และราคา แจกให สูงแล้ว การใชพ้ ลังงานยังกอ่ ให้เกิดสารพิษในสง่ิ แวดลอ้ ม เกิดการเปล่ยี นแปลงของดินฟ้าอากาศ 2. ครูสมุ นักเรียนครงั้ ละ 2 กลมุ ใหอ อกมานําเสนอ และความเส่ือมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติอ่นื ๆ ตามมา ผลงานการออกแบบและจัดทาํ การนาํ เสนอความ 5. ผลของการเปลยี่ นแปลงลกั ษณะทางกายภาพตอ่ การเกิด รเู ก่ียวกับผลของการเปลยี่ นแปลงลกั ษณะทาง ภมู สิ ังคมใหม่ของไทยและของโลก กายภาพตอการเกดิ ภูมิสงั คมใหมข องไทยและ ของโลกที่หนาชัน้ เรียน จากนั้นครูเสนอแนะเพิม่ ปัจจัยส�าคัญที่ท�าให้ลักษณะทางกายภาพของโลกมีการเปล่ียนแปลงไปจากเดิม คือ การ เติมเพอ่ื ใหเกดิ ความรูความเขา ใจที่ถูกตอง กระท�าของมนษุ ย ์ อาทิ การบกุ เบกิ พืน้ ที ่ การตดั ไม้ท�าลายป่า การสร้างเข่ือน การตัดถนน และ 3. ครูตง้ั คําถามเก่ยี วกับผลของการเปลย่ี นแปลง การกระท�าของธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟปะทุ ดินถล่ม การกัดเซาะของคล่ืนและ ลกั ษณะทางกายภาพตอการเกดิ ภูมิสังคมใหม ธารน�้าแข็ง เป็นต้น ซ่ึงการเปล่ียนแปลงนี้บางครั้งมีผลต่อการตั้งถิ่นฐาน การประกอบกิจกรรม ของไทยและของโลกแลว ใหนกั เรยี นชว ยกนั ตอบ ทางเศรษฐกิจและสังคมต่าง ๆ ท�าให้เกิดการขยายตัวของชุมชนจนกลายเป็นภูมิสังคมใหม่ขึ้นมา ตวั อยา งขอคาํ ถามเชน ซงึ่ สามารถอธิบายสรปุ ได ้ ดงั น้ี • ปจจัยสาํ คญั ของการเกดิ ภมู ิสังคมใหมของไทย 1) การเกิดภูมิสังคมใหม่ของไทย การท่ีประเทศไทยมีจ�านวนประชากรเพิ่มขึ้น คืออะไร อธิบายพรอ มยกตัวอยา งประกอบพอ จึงมีความพยายามแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ วัตถุดิบต่าง ๆ มาใช้ตอบสนองความต้องการ สังเขป ของตน โดยเฉพาะในเร่ืองการบุกเบิกที่ดินมาใช้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ ท่ีเห็นได้เด่นชัด (แนวตอบ ปจจัยสําคญั ของการเกิดภมู สิ งั คมใหม คอื การบกุ เบกิ ท่ดี ินในเขตชานเมืองของจังหวัดใหญ ่ ๆ เชน่ เชยี งใหม่ ขอนแกน่ อบุ ลราชธานี ของไทย ไดแก ลักษณะทางเศรษฐกจิ กลาวคอื ระยอง ภเู กต็ สงขลา เป็นตน้ ทา� ให้ลักษณะทางกายภาพของพื้นทแ่ี ตเ่ ดมิ อาจเปน็ พ้ืนทส่ี ีเขยี ว ลกั ษณะทางเศรษฐกิจของไทยในปจ จุบนั กอ พืน้ ท่เี กษตรกรรม มกี ารตัดถนนและสร้างสาธารณูปโภคพืน้ ฐานเข้าไป มกี ารสร้างหมบู่ ้านจดั สรร สมัยใหม่หลายสิบโครงการ เม่ือมีผู้คนเข้าไปอยู่อาศัยมากขึ้น ก็จะมีร้านค้าและสิ่งอ�านวยความ ใหเกิดความเสอื่ มโทรมในพ้ืนท่ซี ่ึงเปนแหลง สะดวกตามเข้ามา พ้นื ที่ดงั กล่าวจึงกลายเป็นภมู สิ งั คมใหม่ วัตถดุ ิบ และกอ ใหเกิดเมอื งใหญจากพื้นฐาน ทางเศรษฐกจิ และตอมาไดพฒั นาความสาํ คญั ตัวอย่างการเกิดสึนามิ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 ในเขตจังหวัดที่ติดกับทะเล ในดา นตา งๆ ซึ่งทําใหป ระชากรเกิดการอพยพ อันดามัน ได้แก ่ ระนอง พังงา ภเู กต็ กระบ่ี ตรัง และสตลู ส่งผลใหพ้ ื้นที่หลายบรเิ วณมสี ภาพ ยายถนิ่ ฐานเพ่อื การทาํ งาน การศกึ ษา รวมถงึ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น พ้ืนที่ชายฝั่งบริเวณปากแม่น�้า บางแห่งมีสันทรายสูงขึ้นจากเดิม ปจจัยทางสงั คมอ่ืนๆ) หมู่บ้านชาวประมงในหลายพื้นท่ีของจังหวัดระนอง ภูเก็ต พังงา ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากนน้ั ครแู ละนักเรียนอภปิ รายรว มกันถงึ ผล ของการเปล่ยี นแปลงลกั ษณะทางกายภาพตอ การ 132 เกดิ ภมู ิสังคมใหมของไทยและของโลก นกั เรยี น บันทกึ ผลการอภิปรายลงในสมดุ ขอ สอบ O-NET เกร็ดแนะครู ขอสอบป ’51 ออกเกีย่ วกับการใชประโยชนจากสง่ิ แวดลอ มเพ่อื ประโยชน ครอู าจมอบหมายใหนกั เรียนรวมกลุม กันศึกษาคน ควา การสรา งสรรควัฒนธรรม ทางสังคม จากสิง่ แวดลอมในทอ งถนิ่ ของตน แลว นาํ เสนอตอชั้นเรียนในรูปแบบตา งๆ จากน้นั ขอใดไมใชการใชป ระโยชนจากส่งิ แวดลอมเพ่ือสรางสรรคว ัฒนธรรม สนทนารวมกันกบั นักเรยี นถงึ ความสัมพันธของมนษุ ยก ับสิ่งแวดลอมในประเทศไทย 1. สวนผักผลไมในแอง แมอ าย และภมู ิภาคตางๆ ของโลก เพอื่ ใหน กั เรียนเกิดความรคู วามเขาใจเกี่ยวกับความสัมพนั ธ 2. พุน้ํารอนสนั กาํ แพง ของมนุษยกบั สิง่ แวดลอม และตระหนกั ถงึ ความสําคญั ของสงิ่ แวดลอ มอนั มาซ่ึงการมี 3. ปราสาทหนิ พิมาย สว นรว มในการอนรุ ักษส ่งิ แวดลอ มตามแนวทางตา งๆ ไดอ ยางถูกตอ งเหมาะสม 4. วัดถาํ้ กลองเพล วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. พุนํ้ารอนสันกําแพง เน่ืองจากไมไ ดแ สดง ถึงการใชป ระโยชนจากส่ิงแวดลอ มเพื่อการสรางสรรคว ัฒนธรรมในดาน มุม IT ศาสนาเชนเดยี วกับการสรา งปราสาทหินพิมาย ซงึ่ การใชหินทรายในบริเวณ นัน้ เปน วัสดุหลกั หรอื ในดา นการดํารงชวี ติ เชนเดยี วกับการปลกู สวนผักผลไม ศึกษาขอมลู เกยี่ วกับสถานการณด านสงิ่ แวดลอ มในประเทศไทยเพ่ิมเตมิ ไดท ี่ ในแอง แมอ ายซง่ึ มีลกั ษณะทางภูมิประเทศและภมู ิอากาศท่เี หมาะสม http://www.environnet.in.th/index.php?option=com_content&view=category &id=69ltemid=104 เว็บไซตศนู ยสารสนเทศสง่ิ แวดลอม กรมสง เสรมิ คณุ ภาพ ส่ิงแวดลอม 132 คูม อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate ขยายความเขา ใจ Expand ครูมอบหมายใหนักเรียนแตล ะกลุม ศึกษา คน ควาเพิ่มเติมเกี่ยวกบั วิกฤตการณด าน ส่งผลให้หลายชุมชนต้องอพยพข้ึนไปสร้างท่ีอยู่อาศัยใหม่ท่ีอยู่ห่างไกลจากทะเล ชุมชนท่ีเคยมี ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ มในภมู ิภาค อาชีพท�าการประมงบางส่วนเปล่ียนมาประกอบอาชีพเพาะปลกู และค้าขาย เชน่ ชุมชนมติ รภาพ ตางๆ ของโลก ผลของการเปลย่ี นแปลงลักษณะ พฒั นา อา� เภอตะก่ัวป่า จงั หวัดพังงา เป็นตน้ ทางกายภาพตอ การเกดิ ภมู ิสงั คมใหมของไทยและ ของโลก และขอเสนอแนะการปองกนั แกไ ขหรือการ 2) การเกิดภูมิสังคมใหม่ของ จดั การและการปรับตวั ใหส อดคลอ งกบั วิกฤตการณ โลก ตัวอย่างลักษณะทางกายภาพในพ้ืนที่ หรือสภาพแวดลอมใหม จากแหลงขอ มูลตางๆ เชน หนงั สือและเอกสารเผยแพรขอ มูลหรือทัศนะ ส่วนอืน่ ๆ ของโลกที่มีการเปล่ียนแปลง ที่เห็น ของผเู ชีย่ วชาญดา นภูมิศาสตรแ ละสิ่งแวดลอ ม ได้ชัด คือ บริเวณพื้นที่ของอ่าวเปอร์เซีย หนวยงานที่เกย่ี วของทงั้ ภาครฐั และเอกชน และ มในีกเามรือขงยดูไาบย พปื้นรทะี่เดท้วศยสกหารรัฐถอมาหทระับเลเอ 1มทิเ�ารตใหส้ ์ เวบ็ ไซตในประเทศและตา งประเทศ อาทิ http:// ลักษณะทางกายภาพในบริเวณดังกล่าว www.dede.go.th/ เวบ็ ไซตก รมพฒั นาพลังงาน เปล่ียนแปลงไปจากเดิม โดยมีการสร้างเป็น ทดแทนและอนุรักษพลังงาน และ http://www. เกาะรูปตน้ ปาลม์ (The Palm Islands) ขึน้ มา wec.org/ เว็บไซตศนู ยส ิ่งแวดลอ มโลก (World รวม 3 โครงการ ไดแ้ ก ่ เกาะปาล์มจูเมอิราห์ Environment Center : WEC) จากนนั้ ชวยกันจดั เกาะปาล์มเจเบล อาล ี และเกาะปาลม์ เดอริ าห์ เกาะปาล์มจูเมอิราห์ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทําหนังสือทํามอื เผยแพรค วามรเู ก่ียวกับวิกฤตการณ พื้นท่ีเกาะท่ีสร้างขึ้นใหม่ส่วนใหญ่ท�าเป็น สถานท่สี งิ่ แวดลอ้ มใหมท่ ี่เกิดจากฝมอื ของมนษุ ย์ ดานทรพั ยากรธรรมชาติของโลก หรือการเกดิ บ้านพกั ตากตอัวาอกายศ่า งโกรางรแเรปมล ่ียแนละแทปี่อลยงอู่ลาักศษัยณ กะลทาายงเกปา็นยภภมู าิสพงั จคามกใปหัจมจ่ขัยนึ้ ทมาางธรรมชาติท2่ีท�าให้เกิด ภูมิสงั คมใหมของไทยและของโลก รวมถงึ แนวทาง ภูมิสังคมใหม่ข้ึนมา เช่น หลังการเกิดแผ่นดินไหวคร้ังใหญ่ท่ีมณฑลซ่ือชวน ประเทศจีน เม่ือ การปอ งกนั แกไ ขหรอื ปรับตัวเขา กบั วกิ ฤตการณ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งมีขนาด 7.8 ตามมาตราริกเตอร์ ท�าให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า หรอื สภาพแวดลอ มใหม 6.85 หมื่นคน พื้นทค่ี วามเสียหายแผ่กวา้ งกวา่ 10 กิโลเมตรจากจดุ ศนู ย์กลาง อาคารบา้ นเรอื น และพื้นที่ต่าง ๆ เสียหายอย่างหนัก หลังเหตุการณ์ภัยพิบัติได้มีการก่อสร้างอาคารส�าเร็จรูป ในลักษณะคอนโดมิเนียมในบริเวณพน้ื ทใ่ี กลเ้ คยี งหลายร้อยอาคาร เพือ่ ใช้เปน็ ทอี่ ยอู่ าศยั สง่ ผลให้ ตรวจสอบผล Evaluate สภาพแวดลอ้ มรวมทัง้ สภาพการด�ารงชีวิตของผูค้ นเปลย่ี นแปลงไปจากเดิมมากเชน่ กนั 1. ครูคัดเลือกผลงานการจดั ทําหนังสือทาํ มอื เผยแพรค วามรูวกิ ฤตการณดา นทรพั ยากร กลา วโดยสรปุ สถานการณดานส่ิงแวดลอ มและทรพั ยากรธรรมชาติในปจจบุ ันของโลก ธรรมชาติของโลกหรอื การเกดิ ภมู สิ งั คมใหม และของประเทศไทยกาํ ลงั ประสบปญ หา เนอ่ื งจากมกี ารพฒั นาในดา นตา ง ๆ ทงั้ ดา นการเกษตร ของไทยและของโลกท่ีดขี องนกั เรยี น แลว นาํ มา การอุตสาหกรรม ตลอดจนการขยายตัวของเมือง สงผลใหมีการใชทรัพยากรมากข้ึน เชน ใหน กั เรยี นชวยกันตรวจอีกครงั้ โดยพิจารณา ทรพั ยากรดนิ นา้ํ ปา ไม แร และพลงั งาน เปน ตน ทาํ ใหท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มถกู จากความถกู ตอ งครบถวนของเนอ้ื หา การนํา ทาํ ลาย และเกดิ การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะทางกายภาพในสว นตา ง ๆ ของโลกทมี่ ผี ลตอ การเกดิ เสนอเน้ือหาท่เี หมาะสม ความสวยงามนา สนใจ ภูมสิ ังคมใหมใ นโลก รวมถึงการจดั ทาํ รปู เลม ที่เรยี บรอ ย 133 2. ครูสังเกตพฤตกิ รรมการมีสวนรวมในกจิ กรรม การเรยี นรู เชน การทาํ งานกลมุ การแสดง ความคดิ เหน็ และการสอบถาม เปนตน ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT นักเรียนควรรู การใชป ระโยชนจ ากส่ิงแวดลอ มในการสรางสรรคว ฒั นธรรมของมนุษยมี 1 การถมทะเล (land reclamation) หมายถงึ การดําเนินการเพ่ือใหมที ี่ดนิ ขึ้น ลักษณะอยางไร อธิบายพรอมยกตัวอยางประกอบพอสงั เขป ในพ้ืนท่ีท่คี รง้ั หน่งึ เคยเปนผืนน้าํ และไมกอใหเ กดิ ประโยชน ใหก ลายเปน ท่ีดนิ ที่ แนวตอบ มนุษยพ่ึงพาสิ่งแวดลอมและรูจ กั สรางสรรคว ฒั นธรรมตา งๆ จาก สามารถใชป ระโยชนไ ด ซ่งึ มีทั้งการถมพนื้ ท่ีชายฝงใหยื่นออกไปในทะเลและการสรา ง สิง่ แวดลอมมาตง้ั แตยคุ กอนประวตั ิศาสตร วัฒนธรรมท่มี นษุ ยสรางสรรคขึ้น เปน เกาะเทยี มขนึ้ มา ตัวอยา งของประเทศทม่ี ีการถมทะเลที่สาํ คัญไดแ ก ประเทศ จากสิง่ แวดลอมท่สี ําคญั เชน การเกษตรกรรมท่สี อดคลอ งกับลกั ษณะทาง สิงคโปร ซงึ่ มพี ื้นท่ีจากการถมทะเลคดิ เปน รอ ยละ 20 ของพ้ืนทป่ี ระเทศท้ังหมด ภมู ศิ าสตร การประดษิ ฐเ คร่ืองนุง หมจากวตั ถุดิบธรรมชาติในทองถนิ่ รวมถึง อยา งไรก็ตามการถมทะเลนี้ไดกอใหเกดิ กรณีพพิ าทกับประเทศมาเลเซีย ซึง่ ไดร บั ผล การกอ สรางโดยใชวสั ดจุ ากส่งิ แวดลอม กระทบจากการเปล่ียนแปลงของระบบนเิ วศทางทะเลเชน กัน 2 การเปลีย่ นแปลงลกั ษณะทางกายภาพจากปจจยั ทางธรรมชาติ กรณีตวั อยา ง ท่ีสําคัญในปจ จบุ นั ไดแ ก การเกดิ แผน ดนิ ไหวขนาดความรุนแรง 9.0 ตามมาตรา ริกเตอร ที่จังหวดั ฟกุ ุชิมะ ประเทศญป่ี นุ ใน พ.ศ. 2554 ซง่ึ เปนทต่ี ั้งของโรงไฟฟา นิวเคลียรฟกุ ชุ มิ ะไดอจิ ิ โรงไฟฟา นิวเคลยี รขนาดใหญแ หง หนงึ่ ของโลก ซ่ึงไดร ับ ความเสยี หายจากการสั่นไหวอยา งรุนแรงและสึนามิ ทาํ ใหร ฐั บาลญีป่ ุนตอ งประกาศ ภาวะฉกุ เฉินพลงั งานนวิ เคลยี ร และอพยพประชากรที่อาศัยอยใู นรัศมี 20 กโิ ลเมตร คูมือครู 133
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Expand Engage Evaluate Evaluate ตรวจสอบผล ครตู รวจสอบความถกู ตอ งในการตอบคําถาม คาปถระาจÓมหนว่ ยการเรยี นรู้ ประจาํ หนว ยการเรียนรู 1. สถานการณก์ ารใช้ดนิ และทรัพยากรในประเทศไทย และของโลกเป็นอย่างไรบ้าง หลักฐานแสดงผลการเรียนรู 2. ประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลกตอ้ งประสบกับปญั หาเกย่ี วกบั น้า� อยา่ งไรบา้ ง 3. แนวโนม้ ของทรัพยากรป่าไมแ้ ละสัตวป์ ่าของประเทศไทย และของโลกเปน็ อยา่ งไร 1. แผน พับสถานการณดา นทรัพยากรธรรมชาติ 4. วกิ ฤตการณแ์ ร่และพลงั งานเกดิ จากสาเหตใุ ด เพราะเหตใุ ด และสง่ิ แวดลอมในประเทศไทย 5. จงวิเคราะห์สถานการณแ์ ละวิกฤตการณ์ด้านสงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตขิ องไทย 2. ชนิ้ งานการนําเสนอความรเู กย่ี วกบั วกิ ฤตการณ และของโลก และแนวทางการปองกนั และแกไ ขปญหา ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมใน กิจสรกา้ รงรสมรรค์พัฒนาการเรียนรู้ ประเทศไทย 3. ใบความรสู ถานการณด านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ มในภูมภิ าคตา งๆ ของโลก 4. หนงั สอื ทาํ มือวิกฤตการณด านทรพั ยากร ธรรมชาติของโลกหรือการเกิดภมู สิ ังคมใหมของ ไทยและของโลก 5. สมุดบันทกึ ของนกั เรยี น กิจก1รรมที่ ใหน้ กั เรยี นอภปิ รายถงึ สถานการณท์ างดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ ของไทย กิจกรรมท่ี ให้นักเรียนรวบรวมข่าวเก่ียวกับวิกฤตการณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติและ 2 สิง่ แวดล้อมของไทย คนละ 1 ข่าว เช่น แมน่ �้าสายหลกั ของประเทศเหือดแห้ง ป่าไมถ้ กู ท�าลาย สัตว์ป่าสญู พันธ์ ุ เปน็ ตน้ แลว้ วเิ คราะห์ในประเดน็ ต่อไปนี้ กจิ กรรมท่ี ■ สาเหตขุ องการเกดิ วกิ ฤตการณ์ ■ ผลกระทบ 3 ■ แนวทางก ารปอ้ งกนั แกไ้ ข ใหน้ กั เรยี นรวมกลมุ่ สบื คน้ ขอ้ มลู สถานการณแ์ ละวกิ ฤตการณด์ า้ นสง่ิ แวดลอ้ ม และทรัพยากรธรรมชาตขิ องโลก กลมุ่ ละ 1 เรอ่ื ง 134 แนวตอบ คาํ ถามประจาํ หนว ยการเรยี นรู 1. สถานการณก ารใชที่ดนิ และทรัพยากรดินในประเทศไทยและภูมิภาคตา ง ๆ ของโลกสว นใหญคลา ยคลึงกัน กลาวคือ การขาดการวางแผนจดั สรรที่ดินหรอื การดําเนินการ ตามแผนการใชท ดี่ นิ ไมมปี ระสิทธภิ าพเทาทีค่ วร ประชากรสว นใหญโ ดยเฉพาะเกษตรกรขาดที่ดินทํากิน นอกจากนยี้ งั เกิดการบกุ รุกพน้ื ที่ปาอนุรกั ษเพอ่ื ใชป ระโยชน ในดานตางๆ 2. ประเทศไทยและภูมภิ าคตา งๆ ของโลกตอ งประสบกบั ปญ หาทรพั ยากรนา้ํ ใน 2 ดา น ไดแ ก การขาดแคลนนา้ํ กลาวคอื การขาดแคลนนํ้าจืดในการอุปโภคบริโภค การประกอบอาชพี โดยเฉพาะเกษตรกรรม เนอ่ื งจากภัยแลง นํ้าเสยี หรอื การเปลยี่ นแปลงของภมู อิ ากาศ และการมปี รมิ าณนํ้ามาก กลา วคอื การเกิดอทุ กภัย แผน ดินถลม เมื่อเกดิ ฝนตกหนักจากพายหุ รอื การปะทะกันของแนวความกดอากาศ และการขาดพื้นท่ีปาไมท ่ีจะชวยดูดซบั หรือชะลอแรงของนาํ้ 3. ทรัพยากรปาไมและสตั วปา ของประเทศไทยและของโลกมแี นวโนมเส่ือมโทรมลงตามลาํ ดบั เนือ่ งจากขาดการจดั การและการดาํ เนนิ การท่ไี มม ปี ระสทิ ธภิ าพของหนว ยงาน ทเ่ี กี่ยวของตางๆ สง ผลใหพ้นื ทปี่ า ไมถ กู บุกรุกทาํ ลายมากขน้ึ เร่อื ยๆ สง ผลกระทบตอ จาํ นวนและความหลากหลายของสัตวป า ในขณะทค่ี วามพยายามในการเพมิ่ พืน้ ที่ ปา ไมและเพาะพันธสุ ัตวป า ที่ใกลจะสูญพนั ธุของหนวยงานตางๆ ไมท ันตอ การลดลงอยางรวดเร็วขา งตน 4. วกิ ฤตการณแรแ ละพลังงานเกดิ จากการเรง รัดพัฒนาเศรษฐกิจโดยไมคาํ นึงถงึ ผลกระทบตอสงิ่ แวดลอม รวมถึงการดาํ เนนิ ชวี ติ ของมนุษยที่ใชทรพั ยากรแรแ ละพลังงาน อยางสิ้นเปลอื ง ตัวอยา งท่สี าํ คัญ คือ การนําแรธ าตุและพลงั งานตา งๆ มาใชใ นการผลติ ของโรงงานอุตสาหกรรม 5. สถานการณแ ละวกิ ฤตการณดานทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมของไทยและของโลกมคี วามสอดคลอ งสัมพันธกันอยางหลกี เลี่ยงไมได โดยในปจ จบุ ันภาวะโลกรอ น ที่เกิดจากการปลอยแกสเรือนกระจกจากการเผาไหมทรพั ยากรเชอื้ เพลงิ ตางๆ เปน สาเหตหุ ลักใหเ กิดการเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติในหลายดาน ทีส่ ําคัญไดแก การเปล่ยี นแปลงของอณุ หภูมนิ า้ํ ทะเลสง ผลใหส ตั วนาํ้ ท่ไี มสามารถปรับตัวไดทนั เกดิ ภาวะเสย่ี งตอ การสูญพันธอุ ันจะทําใหร ะบบนเิ วศขาดความสมดุลมากยง่ิ ขึน้ 134 คูมือครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explore Explain Engage Expand Evaluate เปา หมายการเรียนรู 5˹Nj ¡ÒÃàÃÂÕ ¹Ã·ŒÙ Õè การจ´Ñ การ·ร¾Ñ Âากร¸รรมªาµิ 1. ระบมุ าตรการปองกันและแกไ ขปญหา áÅÐÊèิ§áÇ´ÅÍŒ ม บทบาทขององคการและการประสานความ รว มมือทัง้ ในประเทศและนอกประเทศ เก่ียวกับกฎหมายสิง่ แวดลอ ม การจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม 2. ระบุแนวทางการอนรุ กั ษทรพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดลอมในภมู ภิ าคตา ง ๆ ของโลก 3. อธบิ ายการใชป ระโยชนจากสิ่งแวดลอ มใน การสรา งสรรควัฒนธรรมอนั เปน เอกลกั ษณ ของทอ งถ่ินทัง้ ในประเทศไทยและโลก 4. มสี วนรว มในการแกป ญหาและการ ดาํ เนินชวี ิตตามแนวทางการอนรุ ักษ ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอมเพ่ือการ พฒั นาที่ย่ังยืน ตวั ชว้ี ัด · ÃÑ ¾ Â Ò ¡ à ¸ à à Á ª Ò µÔ á Å Ð ÊèÔ § á Ç ´ Å Œ Í Á à » š ¹ สมรรถนะของผูเ รียน Ë■¹‹ÇแรÂละบะ¡กุมÒาารÃตปàรรÃะกÂÕสาา¹รนปคÃอว·ŒÙ างมèÕกรันว่ มแมลอืะทแงั้กใ้ไนขปประญเทหศาแลบะทนอบกาปทรขะอเทงศอเงกคยี่ ์วกกาบั ร »˜¨¨ÑÂÊíÒ¤ÑÞ㹡ÒôíÒçªÕÇÔµ¢Í§Á¹ØÉ ᵋ¨Ò¡¡Òà 1. ความสามารถในการแกป ญ หา กฎหมายสิง่ แวดลอ้ ม การจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม à¾èÔÁ¢éÖ¹¢Í§¨íҹǹ»ÃЪҡÃáÅСÒÃ㪌·ÃѾÂÒ¡Ã 2. ความสามารถในการใชท ักษะชีวติ (ส 5.2 ม.4-6/2) ÍÂÒ‹ §¢Ò´¤ÇÒÁÃÐÁÑ´ÃÐÇ§Ñ ·íÒãËŒ·Ã¾Ñ ÂҡøÃÃÁªÒµÔ ■ ระบแุ นวทางการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในภมู ภิ าค áÅÐÊÔè§áÇ´ÅŒÍÁàÊ×èÍÁâ·ÃÁŧÍ‹ҧÃÇ´àÃçÇ «Öè§Ê‹§ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ¼Å¡Ãзºµ‹Í¤Ø³ÀÒ¾ªÕÇÔµ¢Í§Á¹ØÉÂã¹·èÕÊØ´ »˜¨¨ØºÑ¹ ต่างๆ ของโลก (ส 5.2 ม.4-6/3) ¨Ö§à¡Ô´á¹Ç¤Ô´ã¹¡Ò÷èըШѴ¡Ò÷ÃѾÂҡøÃÃÁªÒµÔ 1. อยูอ ยา งพอเพียง ■ อธิบายการใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อมในการสร้างสรรค์วัฒนธรรม áÅÐÊÔè§áÇ´ÅÍŒ Áà¾×èÍ¡Òþ²Ñ ¹Ò·ÕèÂèÑ§Â¹× â´ÂµÍŒ §ÍÒÈÑ 2. มจี ิตสาธารณะ ¤ÇÒÁÃÇ‹ ÁÁÍ× ¡Ñ¹¢Í§·¡Ø ¤¹ã¹Êѧ¤Á໹š ÊíÒ¤ÞÑ อนั เป็นเอกลักษณข์ องท้องถิน่ ท้ังในประเทศไทยและโลก (ส 5.2 ม.4-6/4) กระตนุ้ ความสนใจ Engage ■ มสี ว่ นรว่ มในการแกป้ ญ หาและการดา� เนนิ ชวี ติ ตามแนวทางการอนรุ กั ษ์ ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ มเพือ่ การพัฒนาทย่ี ั่งยนื (ส 5.2 ม.4-6/5) ครใู หน ักเรียนพจิ ารณาภาพการผลิตพลงั งาน ลมทหี่ นาหนว ยการเรยี นรู แลว ต้ังคําถามทีเ่ นน การ สาระการเรยี นร้แู กนกลาง แกป ญ หาทรัพยากรพลังงานใหน ักเรียนชว ยกันตอบ เชน ■ มาตรการปอ งกนั และแกไ้ ขปญ หาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ในประเทศและนอกประเทศ บทบาทขององค์การและการประสาน • การพัฒนาพลังงานทดแทนดงั ภาพหนา หนวย ความร่วมมือ กฎหมายส่ิงแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การเรยี นรูจะมีสวนชวยบรรเทาวิกฤตการณ และสิง่ แวดล้อม พลงั งานในประเทศไทยไดอ ยางไร ■ การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มในภูมภิ าคต่างๆ ของ โลก ■ การใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดลอ้ มในการสรา้ งสรรค์วฒั นธรรม อันเป็น เอกลกั ษณ์ของทอ้ งถิน่ ทง้ั ในประเทศไทยและโลก ■ การแก้ปญหาและการด�าเนินชีวิตตามแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ มเพอื่ การพัฒนาทย่ี ั่งยนื เกรด็ แนะครู ครูควรจัดกจิ กรรมการเรียนรทู ่เี นน การพฒั นาทกั ษะกระบวนการเพ่ือใหนกั เรียน สามารถระบมุ าตรการปอ งกนั และแกไขปญ หาบทบาทขององคก ารและการประสาน ความรวมมอื ท้ังในประเทศและนอกประเทศเกยี่ วกบั กฎหมายสงิ่ แวดลอ ม การจดั การ ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม ระบุแนวทางการอนรุ กั ษทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอมในภูมภิ าคตา งๆ ของโลก อธิบายการใชป ระโยชนจ ากสงิ่ แวดลอม ในการสรางสรรควัฒนธรรมอนั เปนเอกลกั ษณของทอ งถน่ิ ทง้ั ในประเทศไทยและ โลก และมสี วนรว มในการแกปญหาและการดาํ เนนิ ชีวิตตามแนวทางการอนรุ กั ษ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอมเพอื่ การพัฒนาทยี่ ่ังยนื ดงั ตวั อยา งตอไปน้ี • ครูแบง กลุมใหน ักเรยี นชว ยกันศึกษาเก่ียวกับการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอมจากแหลง การเรยี นรูตางๆ แลวชว ยกนั อธบิ ายความรผู าน กิจกรรมการเรียนรทู คี่ รกู าํ หนด จากนน้ั ศึกษาคน ควา เพิม่ เติมเพ่อื จดั ทาํ บทความหลกั การและแนวทางการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ในภูมิภาคตา งๆ ของโลก ค่มู ือครู 135
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Explain Expand Evaluate กระตนุ้ ความสนใจ Engage ครูต้งั คาํ ถามกระตุนความสนใจของนักเรียนใน 1. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม การศกึ ษาเกยี่ วกับการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอม โดยเนนการเชือ่ มโยงกับคาํ ถาม สถานการณ์และวิกฤตการณ์ส่ิงแวดล้อมทั้งในประเทศไทยและของโลกที่เกิดขึ้น ได้แสดง เก่ียวกับพลงั งานทดแทนทีห่ นาหนวยการเรียนรู เชน ใหเ้ หน็ วา่ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มเปน็ ปจั จยั ส�าคญั ของการดา� รงชวี ติ และเศรษฐกจิ ของ ทุกประเทศท่ัวโลก แต่ทรัพยากรธรรมชาติมีอยู่อย่างจ�ากัดน้ันได้ลดปริมาณลงเป็นอย่างมาก • การพัฒนาพลงั งานทดแทนเปน สว นหนึง่ ของ และบางสว่ นอยใู่ นสภาพเสอ่ื มโทรม ไมส่ ามารถนา� มาใชป้ ระโยชนไ์ ดอ้ กี ดงั นนั้ จงึ ควรมกี ารจดั การ หลกั การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมใหเ้ หมาะสม เพ่ือลดผลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ ม และเพื่อสงวน สง่ิ แวดลอมที่ประกอบดวยอะไรบาง รักษาทรัพยากรธรรมชาตทิ ม่ี อี ยู่อยา่ งจา� กดั ให้สามารถใชไ้ ดย้ าวนาน (แนวตอบ หลักการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอม ประกอบดวย การวางแผน การจดั การสงิ่ แวดลอ้ ม (environmental management) เปน็ กระบวนการใชส้ งิ่ แวดลอ้ มอยา่ ง การใชท รัพยากรใหเกิดประโยชนส ูงสดุ มปี ระสทิ ธิภาพและเปน็ ระบบ โดยการวางแผน ด�าเนินงาน ตดิ ตามประเมินผล และปรบั ปรุงแกไ้ ข การนาํ กลับมาใชใ หม ปรับปรุง และสํารวจ พัฒนาให้ดีขึ้น ทั้งนี้ต้องค�านึงถึงการใช้อย่างประหยัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้ได้ยั่งยืนยาวนาน แหลง ทรัพยากรธรรมชาติ และการสราง ตลอดไป และเอ้อื อ�านวยประโยชนต์ ่อมวลมนุษยแ์ ละธรรมชาตใิ ห้มากท่ีสดุ ความรคู วามเขา ใจและจิตสํานกึ การอนรุ กั ษ ทรพั ยากรและสิง่ แวดลอมใหแ กประชากร) 1.1 หลักการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม สา� รวจคน้ หา Explore ในการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม จะตอ้ งมแี นวทางและมาตรการตา่ ง ๆ เพอ่ื ให้สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ สภาพปัญหาทเี่ ปน็ อย ู่ โดยมีหลักการสา� คัญ ดังน้ี ครูแบงกลุมใหนกั เรียน กลมุ ละ 4 คน โดยให นักเรียนนับหมายเลข 1-4 ตามตาํ แหนงท่นี ่ังใน 1) การควบคุมจ�านวนประชากร เนื่องจากจ�านวนประชากรท่ีมากข้ึนส่งผลให้มี ช้นั เรียน เพือ่ ใหชวยกันศึกษาเกีย่ วกับการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ ม โดยแบง หนาที่ การใชท้ รพั ยากรเพมิ่ มากขนึ้ และนอกจากน้ยี ังมกี ารทงิ้ กากของเสียสูส่ ภาพแวดลอ้ มมาก เพราะ กนั ในสว นของหลักการจดั การทรัพยากรธรรมชาติ ประชากรเพม่ิ ข้นึ รวดเรว็ เกนิ ไป รฐั บาลควรมนี โยบายในการลดอัตราการเพิม่ ประชากร โดยจดั ตง้ั และส่งิ แวดลอม และแนวทางการจัดการ โครงการวางแผนครอบครัว และการรณรงค์ให้มีบุตรน้อย ให้การศึกษากับประชากรท่ัวไปทั้งใน ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม จากหนังสอื และนอกระบบโรงเรยี น เรยี น หนา 136-142 และแหลงการเรียนรูอื่น เชน หนงั สอื ในหองสมุด หนวยงานท่ีเก่ียวของกบั การ 2) การสง่ เสรมิ คณุ ภาพประชากร ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ มีจติ สา� นึก ตระหนักถึง จัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอมในทองถ่ิน พพิ ธิ ภณั ฑท ใี่ หค วามรเู กี่ยวกบั การจดั การสง่ิ แวดลอ ม ความส�าคัญและความจ�าเป็นของการอนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม โดยใช้กระบวนการ และผเู ช่ยี วชาญดา นสิง่ แวดลอมในทอ งถ่นิ รวมถึง ศึกษาทั้งในและนอกระบบโรงเรียน เช่น บรรจุเป็นหลักสูตรในโรงเรียน การให้การศึกษาอย่าง เว็บไซตท ้ังในประเทศและตางประเทศ เชน http:// ไม่เปน็ ทางการผ่านสื่อมวลชน เปน็ ตน้ ec.europa.eu/europeaid/index_en.htm เว็บไซต การพัฒนาและการรว มมอื ดานสงิ่ แวดลอ มของ 3) การส�ารวจแหลง่ ทรพั ยากรเพ่มิ และสิง่ ทดแทนการใชท้ รพั ยากร เช่น การ สหภาพยโุ รป (EuropeAid) แลว ใหนักเรยี นในแตละ กลุมแลกเปล่ยี นความรซู ึ่งกันและกนั ส�ารวจแหล่งแร่ และพลังงาน เพิ่มแหล่งกักเก็บ ปรับปรุงดิน การคิดค้นกรรมวิธีขยายพันธุ์พืช และสัตวเ์ พ่อื เพ่ิมปรมิ าณทรัพยากร เปน็ ต้น 4) การปอ้ งกนั รกั ษา เพอ่ื มใิ หท้ รพั ยากรเสอื่ มโทรม รอ่ ยหรอลง เชน่ การรกั ษาหนา้ ดนิ ไมใ่ หถ้ กู ชะลา้ งกดั กรอ่ นพงั ทลาย การปอ้ งกนั การทา� ลายปา่ ทง้ั โดยมนษุ ยแ์ ละธรรมชาต ิ การปอ้ งกนั ทรพั ยากรน้า� อากาศ แร่ ไมใ่ ห้เกดิ การปนเป้ือนจากสารพิษ เปน็ ตน้ 136 บูรณาการอาเซยี น ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT ประเทศใดตอ ไปนน้ี า จะมปี ญหาสงิ่ แวดลอ มมากท่สี ุดตามหลักการจัดการ ครสู ามารถจัดกิจกรรมการเรียนรบู รู ณาการอาเซียนเพอ่ื ใหน ักเรยี นมีความรู สิ่งแวดลอม ความเขาใจเก่ยี วกบั การจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอมในอาเซยี น 1. ประเทศ ก. มีพื้นทีน่ อย แตม ีทตี่ ้งั เหมาะสมตอการเปน เมืองทา โดยอธิบายใหนักเรียนเขาใจถึงการสงเสริมความรว มมือของสมาชกิ อาเซยี น 2. ประเทศ ข. มีประชากรมาก แตส วนใหญไ มไ ดรบั การศกึ ษาทีม่ คี ุณภาพ ในดา นการอนรุ ักษท รัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ มตามวัตถุประสงคของ 3. ประเทศ ค. มีทรพั ยากรนอ ย แตห ลากหลายประเภทและกระจายอยทู ่วั ประชาคมอาเซยี น แลวใหนกั เรียนรวมกลุมเพ่ือชว ยกนั ติดตามขา วสารเกี่ยวกับ ประเทศ การจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ มในประเทศสมาชิกอาเซยี นเพ่ือ 4. ประเทศ ง. มีทรพั ยากรมาก แตไ มหลากหลายจาํ ตอ งพึง่ พาการนําเขา นําเสนอตอ ชั้นเรยี น จากนน้ั อภปิ รายรวมกนั ถึงความเหมาะสมของการจดั การใน ทรัพยากรจากตา งประเทศ แตล ะประเทศ และแนวทางการปรับใชในประเทศไทย วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. ประเทศ ข. มปี ระชากรมาก แตสวนใหญ ไมไ ดร ับการศึกษาท่มี คี ุณภาพ เน่ืองจากหลกั การจดั การทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ ม รวมถึงการพัฒนาทยี่ ่งั ยนื เนน เรือ่ งคุณภาพของประชากร ในประเทศเปนสําคัญ 136 คูม่ อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู 5) การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและใช้ให้ถูกประเภทและประหยัด 1. ครสู นทนารว มกนั กบั นักเรียนถงึ ความรูทั่วไป เกี่ยวกับการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ เพราะทรัพยากรหลายประเภทเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป เสื่อมโทรมลง จึงต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ สงิ่ แวดลอ มท่ีนกั เรียนไดศึกษามา แลว ตง้ั สูงสุด โดยหลีกเลี่ยงการใช้ทรัพยากรไม่ถูกประเภท เช่น การใช้ท่ีดินที่อุดมสมบูรณ์ในการสร้าง คําถามเก่ียวกับหลกั การจัดการสาเหตุสาํ คญั ท่ีอยู่อาศัยแล1ะโรงงานอุตสาหกรรม การใช้ป่าชายเลนท่ีมีความส�าคัญต่อระบบนิเวศในการเพาะ ของปญหาสง่ิ แวดลอมใหน ักเรยี นชว ยกนั ตอบ เลี้ยงสัตว์น�้า เป็นต้น การใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อประหยัดทรัพยากร เช่น การใช้เคร่ืองยนต์ เชน ทปี่ ระหยดั น�้ามัน เป็นต้น • หลักในการจัดการสาเหตขุ องปญ หา ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ มคอื อะไร 6) การปรับปรุงคุณภาพทรัพยากร ทรัพยากรท่ีเสื่อมโทรมควรมีการพัฒนา (แนวตอบ หลกั ในการจดั การสาเหตุของ ปญหาทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ ม ปรับปรุงคุณภาพ เช่น การปรับปรุงสภาพป่าท่ีถูกท�าลายโดยการปลูกป่า การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ไดแก การควบคมุ จํานวนประชากร และ การปลูกพืชตระกูลถั่วคลุมดินท่ีเส่ือมโทรม การแก้ไขปัญหาน�้าเน่าเสีย เช่น การขุดลอก การพัฒนาคณุ ภาพประชากร เน่ืองจาก การถ่ายน้�า การเพ่ิมออกซเิ จนแก่น�า้ เป็นตน้ มนุษยเปนสาเหตสุ าํ คัญของปญ หา ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม เมื่อ 7) การใชท้ รพั ยากรทดแทนกนั เปน็ การนา� ทรพั ยากรทม่ี มี ากหรอื เกดิ ขนึ้ ใหมม่ าใช้ มนุษยเพิ่มจาํ นวนขึ้นอยางรวดเร็วจงึ ควรมี การวางแผนจดั การ ควบคุม และสงเสริม ทดแทนทรพั ยากรทหี่ ายากหรือมีราคาแพง เช่น การใชพ้ ลาสติกแทนโลหะหรอื ไม ้ การใชพ้ ลงั งาน ความรูความเขา ใจและจติ สาํ นกึ เกีย่ วกับการ จากนา�้ ลม แสงอาทติ ย์ แทนน�้ามัน ถ่านหิน เป็นตน้ รวมท้ังการลดการใชห้ รอื ใช้อย่างประหยัด อนุรกั ษทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอม) 8) การนา� มาใชอ้ กี เปน็ การนา� ทรพั ยากรทใ่ี ชห้ รอื ไมไ่ ดใ้ ชแ้ ลว้ มาปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลง 2. ครนู าํ ภาพที่เก่ยี วขอ งกบั ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอม เชน ปา ชายเลน แมนํ้าที่ ให้ใช้ได้อกี เชน่ เศษโลหะ ขวดพลาสติก กระดาษ ช้ินสว่ นเครือ่ งยนต์นา� มาหลอมใช้ใหม ่ ท�าขยะ เนา เสีย และปาเสอื่ มโทรม มาใหนักเรยี น เปน็ ปุ๋ย หลอมพลาสติกมาใช้ใหม ่ น�ากระดาษมาผลติ ใหม ่ เป็นตน้ พิจารณารวมกนั แลว นกั เรยี นแตละกลุมสง ตัวแทนออกมาอธบิ ายความรเู กี่ยวกับหลักการ 9) การพิจารณาและตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการด�าเนินกิจกรรม จดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอม ในภาพ แลวครสู นทนารว มกับนักเรยี นถงึ การดา� เนนิ กิจกรรมต่าง ๆ ย่อมมผี ลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ มท้งั ทางตรงและทางอ้อม ทงั้ ในผลดีหรอื หลกั การจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและ ผลเสีย เชน่ การสูบนา้� บาดาลมาใช้มาก ท�าให้แผ่นดินทรดุ เกิดน้า� ทว่ มขังง่าย การ สร้างโรงงาน สง่ิ แวดลอม จากน้นั ใหน กั เรยี นชวยกันสรปุ ยอ่ มสง่ ผลกระทบตอ่ ดนิ น�้า อากาศ เป็นตน้ และจัดทาํ ผลการสรุปเปนผงั กราฟก รูปแบบ ตา งๆ เชน ตาราง ผังความคิด หรือผังกา ง 2 ปลาทีก่ ระดานหนา ช้นั เรยี น นกั เรยี นบันทึกผงั กราฟก และสาระสําคญั ลงในสมุด เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศทีม่ ีการนา� พลังงานลมมาใช้เป็นพลังงานทดแทนอยา่ งแพร่หลาย 137 ขอ สอบ O-NET นักเรยี นควรรู ขอ สอบป ’53 ออกเก่ยี วกบั การอนุรักษส ่ิงแวดลอ ม 1 การเพาะเลีย้ งสตั วนา้ํ เปน กิจกรรมการประมงท่เี ปนสาเหตุหลกั ของมลพิษ การกระทําของใครสง ผลดตี อ การอนุรกั ษสิ่งแวดลอม ในพนื้ ทลี่ ุมนา้ํ ทะเลสาบสงขลา รวมถึงแหลงเล้ยี งกงุ ในบริเวณอนื่ ๆ ของประเทศ 1. แตมเล้ียงไกบนบอ ปลา เน่ืองจากการใหอ าหาร ยา และสารบาํ รุงตา งๆ ทมี่ ากเกนิ ปริมาณของกุง ทําใหเกดิ 2. ตมั้ ทาํ ไรห มนุ เวยี นบนลาดเขา การตกคางของสารอินทรีย กอใหเ กดิ ปญ หาตามมาหลายดา น เชน คา ความสกปรก 3. ตอมชวยเพือ่ นบานสรางฝายชะลอนา้ํ ในลําหว ยใกลห มูบา น ของนา้ํ สูงขึน้ สาหรายและพืชนํ้าบางประเภทเตบิ โตเรว็ ข้นึ เปน ตน 4. ตุม ใชท ฤษฎีใหมใ นการจัดการพ้ืนท่ีถอื ครองทางการเกษตร 2 พลงั งานลม ไดม กี ารศกึ ษาและพัฒนาขนึ้ ใชเ ปน แหลง พลงั งานทดแทนที่สําคญั วเิ คราะหค ําตอบ การกระทาํ ของแตม ทเี่ ล้ยี งไกบ นบอ ปลา เปนการใช ของประเทศเนเธอรแลนด โดยใน ค.ศ. 2009 มีกงั หนั ลมเพื่อการผลติ กระแสไฟฟาถงึ 1,975 ตัว คดิ เปนรอยละ 10 ของการผลิตพลังงานทดแทนทัง้ หมดในสหภาพยโุ รป ประโยชนจ ากมูลไกเ ปนอาหารปลา ทําใหลดการปลอ ยส่ิงปฏกิ ูลในสิ่งแวดลอ ม นอกจากนใ้ี นพฒั นาการทางประวตั ิศาสตรข องประเทศเนเธอรแลนด กังหนั ลมยงั และไดประโยชน คอื การเจรญิ เตบิ โตของปลา คลา ยกบั ตุม ทใ่ี ชท ฤษฎีใหม มคี วามสําคัญอยางยิง่ โดยเฉพาะในดา นเศรษฐกิจ เนอ่ื งจากเปนเคร่ืองมือในระบบ ในการจัดการพนื้ ทถี่ อื ครองทางการเกษตร อนั สอดคลอ งกับหลักปรัชญา ชลประทานที่ชวยวิดนา้ํ เขา สูพืน้ ทีเ่ กษตรกรรมนนั่ เอง ของเศรษฐกจิ พอเพยี งและการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ทมี่ ุงเนน การอนุรักษ ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ ม ดังนนั้ คาํ ตอบคอื ขอ 1. และขอ 4. คูม ือครู 137
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู้ 1. ครูสนทนารวมกนั กบั นักเรียนถงึ ความรทู ัว่ ไป 10) การใช้กฎหมายเพ่ือรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กฎหมายเป็นกติกา เกี่ยวกบั แนวทางการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอมท่นี กั เรยี นไดศ ึกษามา แลว ของสงั คม การมกี ฎหมายเพอื่ รกั ษาทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มจะชว่ ยใหก้ ารอนรุ กั ษท์ รพั ยากรและ สอบถามความสําคัญของทรพั ยากรดนิ ตอ สง่ิ แวดล้อมเปน็ ไปได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และตอ้ งมกี ารบังคบั ใช ้ มบี ทลงโทษผูฝ้ ่าฝืนอย่างจรงิ จงั ประชากรไทย จากน้นั สมุ ตวั แทนนกั เรยี นใน แตละกลุมใหผ ลัดกนั อธิบายแนวทางในการ 1.2 แนวทางการจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม จัดการทรพั ยากรดนิ ดานตา งๆ ดงั นี้ • การศกึ ษาขอมูลทรัพยากรดิน การจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมควรมีแนวทางการดา� เนนิ การ ดังน้ี • การวางแผนการใชที่ดิน • การปองกันการพังทลายของดนิ 1) การจัดการทรัพยากรดิน ประเทศไทยและประเทศที่ท�าการเกษตรที่ต้องใช้ดิน • การปลูกพชื หลายชนดิ • การปรบั ปรงุ คุณภาพทรัพยากรดนิ เปน็ ปจั จยั การผลติ หลกั ประกอบกบั ความตอ้ งการใชด้ นิ ในกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ เชน่ พฒั นาเมอื ง ขยายเขตอุตสาหกรรม เป็นต้น ท�าให้เกิดปัญหาในการใช้ที่ดินทั้งการน�าท่ีดินมาใช้ไม่เหมาะสม 2. ครใู หตวั แทนนักเรียนชว ยกันสรปุ ความรูเกยี่ วกบั และการใช้ท่ดี ินไม่ถกู ตอ้ งตามหลักวชิ าการ ท�าให้ดนิ เสือ่ มโทรม การจัดการเกย่ี วกับดินมแี นวทาง แนวทางการจัดการทรัพยากรดิน โดยแบงออก ท่สี �าคญั ดงั น้ี เปนแนวทางการจดั การทด่ี ิน และแนวทางการ 1. การศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกบั ดนิ เปน็ การศกึ ษาดนิ ในแตล่ ะพน้ื ท ี่ ทงั้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ จดั การทรัพยากรดนิ แลวครเู สนอแนะเพ่ิมเติม ทางปฐพวี ทิ ยาและคณุ ภาพของดนิ เพอ่ื เปน็ ขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ ในการวางแผนการใชท้ ด่ี นิ ใหเ้ หมาะสม เพื่อความรูท ่ีถกู ตอ งชดั เจนยงิ่ ขึน้ 2. การวางแผนการใช้ท่ีดิน ควรมีการวางแผนการใช้ท่ีดินให้เหมาะกับกิจกรรม ตา่ ง ๆ เช่น การกา� หนดพนื้ ที่เพาะปลูกพืชใหเ้ หมาะสมกบั คุณภาพของดิน การกา� หนดทดี่ ินทจ่ี ะใช้ ในการตั้งชมุ ชน สวนสาธารณะ การกา� หนดพ้ืนทอ่ี ตุ สาหกรรม เปน็ ต้น 3. การปอ้ งกนั การพงั ทลายของดนิ เปน็ การปอ้ งกนั การพงั ทลายของดนิ จากกระแส น�้า กระแสลม และการเผาหน้าดิน ท่ีเกิดข้ึนตามธรรมชาติและจากการกระท�าของมนุษย์ เช่น การท�าทางระบายน�า้ การทา� แนวปอ้ งกนั ลมและการป้องกันการเผาหนา้ ดิน การปลกู พืชท่ีปอ้ งกนั การพังทลายและสูญเสียหน้าดิน เป็นต้น 4. การปลูกพืชหลายชนิด เพื่อช่วยรักษาธาตุอาหารพืชในดิน ส่วนการปลูกพืช ชนิดเดียวซ้�าซากหรอื การใชท้ ด่ี ินโดยไมม่ เี วลาพักตัวของดินจะทา� ให้ดนิ เสื่อมโทรมเรว็ ข้ึน 5. การปรับปรุงบ�ารุงดิน ดินท่ีขาดความอุดมสมบูรณ์และดินท่ีมีปัญหา เช่น ดนิ เปร้ยี ว ดินเคม็ ดนิ พร ุ เป็นต้น ควรจะมีการพฒั นาเพื่อให้เพาะปลูกได ้ รวมทง้ั ดินที่ใช้เพาะปลกู แล้วในแต่ละฤดูกาลควรจะมีการปรับปรงุ เพ่อื เตรียมใชค้ รัง้ ต่อไป ด้วยการเพ่มิ ธาตอุ าหารประเภท สารอนิ ทรีย์ ซึง่ จะให้ประโยชน์มากกว่าการใช้สารเคมี 2) การจัดการทรัพยากรน้�า น�้าเป็นทรัพยากรที่มีความจ�าเป็นในการด�ารงชีวิต และเปน็ ปจั จยั พนื้ ฐานทางเศรษฐกจิ ปจั จบุ นั ปญั หาเรอ่ื งนา้� เปน็ ปญั หาสา� คญั ในทกุ ภมู ภิ าคของโลก เชน่ การขาดแคลนนา้� ในฤดแู ลง้ การมนี า�้ มากเกนิ ในฤดฝู น การใชน้ า�้ บาดาลมากเกนิ ไป ทา� ใหเ้ กดิ การทรดุ ตวั ของแผน่ ดนิ ปญั หาคณุ ภาพของนา�้ เปน็ ตน้ จากปญั หาดงั กลา่ วจงึ เปน็ สาเหตหุ ลกั ทท่ี า� ให้ ต้องมีการจัดการทรัพยากรน้�าอย่างย่ังยืน เพื่อให้ประชาชนได้มีน�้าใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซ่ึงมี 138 แนวทางสา� คญั ดังนี้ เกร็ดแนะครู ขอ สอบ O-NET ขอสอบป ’52 ออกเกยี่ วกับการเกษตรอินทรีย ครูควรอธิบายใหนกั เรยี นเขา ใจถงึ ความสมั พันธของหลักการและแนวทางการ การเกษตรอนิ ทรยี ไ มเ กี่ยวขอ งกบั เรอ่ื งใด จดั การอนุรกั ษท รัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กลา วคือ หลักการเปน แผนของ 1. การทาํ ฟารมทางนเิ วศวทิ ยา การจดั การและปฏบิ ัติ สว นแนวทางเปนรายละเอยี ดของการปฏิบัติ เชน 2. การใชห ลักการการเกษตรแบบองครวม หลกั การควบคมุ สารพิษกอ นปลอ ยสธู รรมชาติ มแี นวทางการปฏบิ ัติโดยการกําหนด 3. การใชพ ันธพุ ืชและพันธุส ตั วท ดี่ ัดแปรพนั ธุกรรม มาตรการและบทลงโทษสาํ หรบั การบาํ บัดสารพษิ ตางๆ กอ นปลอ ยสูธรรมชาตขิ อง 4. การนําของใชแ ลว ไปแปรสภาพเพื่อนํากลับมาใชใ หม หนวยงานที่เกย่ี วขอ งภาครัฐ การปฏบิ ตั ติ ามมาตรการของผูประกอบการ รวมถึง วิเคราะหค ําตอบœ การเกษตรอนิ ทรียมงุ เนน การรักษาความสมดุลของ ประชาชนทัว่ ไปทต่ี องท้ิงสารพิษทเี่ หลอื จากการอุปโภคบริโภคในชีวติ ประจาํ วัน ระบบนเิ วศ โดยการปลกู พืชแบบผสมผสาน และนําซากพืชเปน วัตถดุ บิ ในการ แลวใหนักเรยี นวิเคราะหถ งึ ความสัมพนั ธข องหลกั การและแนวทางการจัดการ ทําปยุ แกสชีวภาพ หรือประโยชนใ นดา นอนื่ ๆ รวมถงึ หลีกเลี่ยงการใช อนรุ ักษทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอมในดา นอน่ื ๆ จากนน้ั บันทกึ สาระสําคัญ สารเคมีและการดดั แปรพันธุกรรมทีอ่ าจสง ผลกระทบตอระบบนเิ วศดัง้ เดมิ ได ลงในสมุด ดังน้นั คําตอบคอื ขอ 3. 138 ค่มู อื ครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ 1. การพฒั นาแหลง่ นา้� เชน่ การขดุ ลอกแหลง่ นา้� การทา� ทกี่ กั เกบ็ นา�้ การทา� ฝาย 1. ครูสนทนารวมกันกับนักเรียนถึงความรทู ัว่ ไป ชะลอนา้� การขดุ บอ่ นา้� การสรา้ งเขอ่ื น จะชว่ ยเกบ็ นา�้ ไวใ้ ชใ้ นฤดแู ลง้ รวมทง้ั แกไ้ ขปญั หานา�้ ทว่ มได้ เกย่ี วกบั ความสาํ คญั ของทรพั ยากรนาํ้ ทน่ี กั เรยี น 2. การรกั ษาและฟน้ื ฟปู า่ ตน้ นา�้ การปอ้ งกนั การทา� ลายปา่ ตน้ นา้� และการฟน้ื ฟปู า่ ไดศึกษามา โดยแบง ออกเปน ดา นตา งๆ ไดแก ต้นน้า� จะชว่ ยการระเหยของน้�า ท�าให้เกดิ ความ น้าํ กบั การดาํ รงชวี ิตของมนษุ ย นาํ้ ในฐานะท่ี ชมุ่ ชืน้ เกดิ ฝน และป้องกันน้�าทว่ มได้ เปนปจจัยพนื้ ฐานทางเศรษฐกิจ และการเกดิ 3. การใช้น้�าอย่างประหยัด วกิ ฤตการณเกยี่ วกบั ทรพั ยากรนาํ้ และผล เนอ่ื งจากความตอ้ งการใชน้ า้� เพอื่ อปุ โภคบรโิ ภค กระทบตอ มนษุ ยใ นปจ จบุ ัน และการท�าเกษตรมีมากขึ้น ในขณะท่ีปริมาณ น้�ามีอยู่อย่างจ�ากัด การใช้น้�าจึงต้องใช้อย่าง 2. ครูสมุ นกั เรยี น 5 คน จากกลมุ ตา งๆ ใหออก ประหยดั และตอ้ งปอ้ งกนั มใิ หเ้ กดิ การสญู เสยี นา�้ มาชวยกนั อธบิ ายความรเู ก่ยี วกบั แนวทางการ โดยมิได้ใชป้ ระโยชน์ จดั การทรัพยากรน้ําทีห่ นา ชั้นเรยี น โดยจบั 4. การปอ้ งกนั และบา� บดั นา้� เสยี สลากแถบขอความสาํ คัญเกีย่ วกับแนวทางการ ตอ้ งปอ้ งกนั มใิ หม้ สี ารพษิ และขยะมลู ฝอยเขา้ ไป จดั การทรัพยากรนาํ้ ไดแก การสรางแหลง กัก ปะปนในแหล่งน�้า โดยควบคุมการทิ้งขยะและ แคนาดาเป็นประเทศที่ให้ความส�าคัญกับการจัดการน้�า เก็บนํา้ การอนุรักษปาตนนํ้า การประหยดั น้าํ สารพิษลงสู่แหล่งน้�า มีการลงโทษผู้กระท�าผิด โดยจัดการน�า้ อย่างเปน็ ระบบประเทศหน่ึง การบําบัดนาํ้ เสยี และการสาํ รองนํ้าดืม่ จากนั้น อยา่ งเครง่ ครดั ส่วนน�้าเสียจากบา้ นเรือนและโรงงานอตุ สาหกรรมจะตอ้ งบ�าบดั กอ่ นทิ้งส่แู หลง่ น�้า ใหนักเรยี นชวยกนั เรียงลําดบั ความสําคญั ของ 5. การส�ารองน้�าดื่ม ในครัวเรือนควรมีการส�ารองน�้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน รวมถึง แนวทางการจดั การทรัพยากรนํา้ แลว อธิบาย การผลติ น�้าประปาก็ควรหาแหลง่ น้า� สา� รองไว้บริการประชาชนในชว่ งเวลาทขี่ าดแคลนน�้าด้วย ความรูใ นแถบขอ ความสาํ คัญเก่ียวกับแนวทาง การจัดการทรพั ยากรน้าํ ทตี่ นรับผิดชอบ ครู 3) การจัดการทรัพยากรป่าไม้ ในปัจจุบันพื้นท่ีป่าไม้ของไทยและของโลกลดลง ใหน ักเรยี นในชนั้ เรียนสอบถามจนเกดิ ความรู ความเขาใจทถ่ี ูกตอ งตรงกัน อย่างมาก ซ่ึงส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและมนุษย์ ในขณะท่ีความต้องการใช้ไม้ของมนุษย์ เพ่ิมขึ้น จึงจ�าเป็นต้องใช้หลักการจัดการในการฟื้นฟูและเพ่ิมพื้นท่ีป่าไม้ แนวทางในการจัดการ 3. ครใู หนักเรยี นแตล ะกลุมชวยกนั วิเคราะหถ ึง ทรัพยากรป่าไม้ทสี่ �าคญั มีดงั น้ี บทบาทหนาทใ่ี นการจัดการทรพั ยากรปาไม 1. การกา� หนดพน้ื ทปี่ า่ เพอ่ื การอนรุ กั ษ ์ การกา� หนดพนื้ ทป่ี า่ เพอื่ มใิ หม้ กี ารบกุ รกุ และ ของภาคสว นตา งๆ ในสงั คมท่ีครูกําหนด ไดแ ก ถอื ครองทดี่ นิ เพอ่ื ดา� รงรกั ษาพน้ื ทปี่ า่ เอาไว ้ มกี ารตรวจเฝา้ ระวงั พน้ื ทอี่ ยา่ งสมา่� เสมอ เชน่ การประกาศ หนว ยงานภาครัฐ หนวยงานภาคเอกชน และ เปน็ อุทยานแห่งชาติ เขตอนุรักษ์ปา่ เขตห้ามลา่ สัตว์ปา่ สวนสาธารณะ พ้นื ท่ปี า่ ตน้ น้า� เปน็ ต้น ภาคประชาชน โดยใชความรูเกยี่ วกับแนวทาง 2. การปอ้ งกนั ไฟปา่ ไฟปา่ เป็นการทา� ลายท้ังพืช สตั ว์ และอนิ ทรียวัตถทุ ีท่ บั ถม การจดั การทรัพยากรปา ไมท่ีตนศกึ ษามาเปน บนดิน การปอ้ งกันไฟป่าจะชว่ ยให้ต้นไมอ้ ่อนในป่าเตบิ โตเป็นตน้ ไมใ้ หญไ่ ดต้ ่อไป พ้นื ฐานในการวิเคราะห 3. การป้องกันการตัดไม้และบุกรุกพ้ืนที่ป่า โดยใช้มาตรการทางกฎหมาย อย่างจรงิ จัง รวมถึงการควบคมุ การใช้เคร่อื งมอื ตดั ไม้ การขนยา้ ยและการใช้พนื้ ท่ีป่าไม้ด้วย ซง่ึ จะ ชว่ ยลดการท�าลายปา่ ไมล้ งได้ 139 ขอ สอบ O-NET มุม IT ขอสอบป ’51 ออกเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ติ นเพอื่ การอนุรกั ษและพฒั นาคุณภาพ ศกึ ษาความรเู กยี่ วกับการจัดการสารและของเสยี อนั ตรายเพมิ่ เติมไดที่ http:// ส่ิงแวดลอ ม www.ehwm.chula.ac.th/ เว็บไซตศูนยค วามเปนเลศิ ดา นการจัดการสารและของ เสียอนั ตราย สํานักพฒั นาบัณฑิตศกึ ษาและวจิ ยั ดานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี การปฏิบตั ิตนเพอื่ การอนรุ ักษและพัฒนาคุณภาพส่งิ แวดลอ มทาํ ไดหลาย วธิ ียกเวนขอ ใด ศึกษาขอมูลเกี่ยวกบั การจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอมเพ่ิมเตมิ ไดท ่ี http://kpnet3.nectec.or.th/kp6/BOOK19/chapter1/t19-1-m.htm เว็บไซต 1. การหลกี เลยี่ งไมใ ชสินคาท่ีเปน อนั ตรายตอสิง่ แวดลอ ม สารานกุ รมสําหรบั เยาวชนฯ เลม ท่ี 19 2. การลางรถยนตด ว ยการตกั นํ้าใสถ งั แทนการใชนํา้ จากสายยาง 3. การเลือกใชเครือ่ งใชไ ฟฟาใหเหมาะสมกับฐานะของครอบครวั 4. การใชหนงั สือพมิ พหอเศษอาหารกอ นนาํ ไปทง้ิ ในถงั ขยะสเี ขียว วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. การเลือกใชเครื่องใชไฟฟาใหเหมาะสมกับ ฐานะของครอบครวั เปน การปฏบิ ตั ิตนเพือ่ ประหยัดคาใชจ า ยในครัวเรือน ซงึ่ ควรพจิ ารณาจากความปลอดภยั ในการผลิตและการใชง าน รวมถึงการ ประหยดั พลังงานของเคร่ืองใชไ ฟฟาประกอบดว ย สว นตัวเลือกในขอ อืน่ เปน วิธีการปฏิบตั ิตนเพ่ือการอนรุ ักษและพัฒนาคุณภาพสง่ิ แวดลอ มท่ีถูกตอง เหมาะสม ค่มู อื ครู 139
กระตุน้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Explore Expand Evaluate Engage Explain Explain อธบิ ายความรู้ 1. ครูสุมตัวแทนของนกั เรียนแตล ะกลุมใหออกมา 4. การปลูกและฟื้นฟูป่าไม้ เพื่อเป็นการทดแทนพ้ืนท่ีป่าไม้ท่ีลดลง ซึ่งควรปลูก นําเสนอผลการวิเคราะหเกี่ยวกับบทบาทหนาท่ี ต้นไม้ในพ้นื ทีป่ า่ ท่ีสาธารณะในชุมชน ทหี่ ัวไรป่ ลายนา และบริเวณบา้ นเรือน ของภาคสว นตา งๆ ในสังคมตามแนวทางการ จัดการทรัพยากรปาไมข องกลุมตนทีห่ นาช้ัน ในประเทศออสเตรเลียมวี ันตน้ ไมแ้ หง่ ชาติ เพือ่ ส่งเสริมให้ประชาชนเหน็ ความสา� คญั ของป่าไม้ เรียน ซง่ึ ประกอบดวย หนวยงานภาครฐั หนวย งานภาคเอกชน และภาคประชาชน ในคนละ 1 1 ภาคสว น แลว ครูนํานกั เรยี นในการสรปุ ความรู 5. การใช้วัสดุทดแทนไม้และการน�ากลับมาใช้ใหม่ การส่งเสริมให้ใช้วัสดุอื่น เกย่ี วกบั แนวทางการจดั การทรัพยากรปาไม 2. ครสู นทนารวมกนั กบั นกั เรยี นถงึ ความรูทวั่ ไป เกยี่ วกับการเปลย่ี นแปลงทรัพยากรสัตวปา ของโลก เชน สาเหตุของการเปลย่ี นแปลงทาง ธรรมชาติ และจากกจิ กรรมตา งๆ ของมนุษย ลกั ษณะของการเปล่ยี นแปลง และแนวทางการ จัดการสัตวป า ทดแทนการใชไ้ ม้ เชน่ การใช้ปูน วัสดสุ งั เคราะห์ เป็นต้น นอกจากนน้ั ควรน�าเครือ่ งใช้ทเ่ี ปน็ ไม้ มาซอ่ มแซมเมอื่ ชา� รดุ หรอื การนา� กระดาษใชแ้ ลว้ ไปผลติ เปน็ กระดาษขนึ้ ใหม ่ เพอื่ ชว่ ยลดการใชไ้ ม้ 4) การจดั การสตั วป์ า่ ในสมยั กอ่ น ประเทศไทยและภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก มปี า่ ไม้ อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าชุกชุม แต่ในปัจจุบัน ได้พัฒนาความเจริญไปสู่ชนบท ป่าไม้ ล�าธาร แหล่งน้�าต่าง ๆ ซึ่งเป็นท่ีอยู่อาศัยและแหล่ง อาหารของสตั วป์ า่ ไดถ้ กู บกุ รกุ แผว้ ถาง ประกอบ กับมีเครื่องมือล่าสัตว์ที่ทันสมัย ท�าให้สัตว์ป่า ลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว จนสัตว์บางชนิด ได้สูญพันธุ์ ดังนั้น การจัดการสัตว์ป่าเพ่ือให้ สามารถเพิ่มจ�านวนสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และ 2 อนุรักษ์สัตว์ที่เหลือไม่ให้ลดจ�านวนลง ซ่ึงมี แนวทางในการจดั การทีส่ า� คญั ดังนี้ การเพาะพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ ของเขตรกั ษาพนั ธส์ุ ตั วป์ า่ หว้ ยขาแขง้ เปน็ การจัดการสัตวป์ ่าเพ่ือไมใ่ หล้ ดจ�านวนและสญู พันธ์ุ 140 นกั เรียนควรรู ขอ สอบ O-NET ขอสอบป ’53 ออกเกยี่ วกบั UNEP 1 วัสดทุ ดแทนไม หรือไมป ระกอบ เปนวสั ดทุ ่ีเกดิ ขึน้ จากสวนประกอบ 2 ชนดิ UNEP ดาํ เนินงานเก่ยี วกับเร่อื งใด ขึ้นไป เชน ไม โพลิเมอร หรือสารอนนิ ทรีย เมื่อนาํ มาผสมกันจะตอ งมคี ณุ สมบัติ 1. การปองกนั ชั้นโอโซน ทีส่ งเสริมกนั และคลา ยคลึงกบั ไมต ามธรรมชาติ สามารถนําไปใชในงานทดแทน 2. ความหลากหลายทางชีวภาพ ไมจรงิ ได ปจจุบันมหี นว ยงานและองคก รทงั้ ภาครัฐและเอกชนหลายแหงไดทาํ การ 3. การควบคุมพชื ปาและสตั วป า ศกึ ษา พัฒนา และผลติ วัสดทุ ดแทนไม ซ่ึงจะมีสว นชวยใหก ารตดั ไมท าํ ลายปาลด 4. การเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศ นอยลงได วเิ คราะหคาํ ตอบ UNEP มีช่ือเต็มวา United Nations Environment 2 เขตรกั ษาพนั ธุส ัตวป า ในประเทศไทยไดม ีการจัดตงั้ เปน แหงแรกใน พ.ศ. Programme หรอื โปรแกรมส่งิ แวดลอมแหง องคก ารสหประชาชาติ มีการ 2520 ไดแ ก เขตรักษาพนั ธุสตั วปา สลักพระ จังหวดั กาญจนบรุ ี ซึ่งเปนแหลงท่มี ี ดาํ เนนิ งานในดา นการศกึ ษาสภาพแวดลอ มในภูมภิ าคตา งๆ และโดยภาพ สัตวป า หลากหลายชนดิ อาศยั อยูอยางชกุ ชุม มีพ้นื ที่ประมาณ 536,000 ไร สว นเขต รวมของโลก และคาดการณแ นวโนมทอี่ าจจะเกิดขน้ึ จากขอมูลทศี่ กึ ษา รักษาพนั ธสุ ตั วปา ทไ่ี ดร บั การจดั ตัง้ ลา สุด ไดแ ก เขตรักษาพันธสุ ตั วปา แมเ ลา-แม รวมถงึ สงเสริมการอนุรกั ษความหลากหลายในสภาพแวดลอ มใหแกหนวยงาน และ ใน พ.ศ. 2536 ครอบคลุมพน้ื ทปี่ ระมาณ 153,000 ไร ในจังหวดั เชียงใหมและ และองคก รรูปแบบตางๆ ทัง้ ระดับรฐั บาล มูลนธิ ิ และกลุมสมาคม โดยการ แมฮ องสอน จัดเปน เขตรักษาพนั ธุสัตวปา ลําดับที่ 61 ของประเทศไทย เปน ตน ใหความชว ยเหลือในดา นความรู ขอมูลสถติ ิ เทคโนโลยดี านสิ่งแวดลอ ม และอื่นๆ ดงั นั้นคําตอบคอื ขอ 2. 140 คูม่ อื ครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล Engage Explore Evaluate Explain Expand Explain อธบิ ายความรู้ 1. การรักษาแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ป่าเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและเป็น ครูตั้งคําถามเก่ยี วกับแนวทางการจัดการ แหลง่ อาหารของสตั ว ์ การรักษาปา่ ต้นไม ้ แหลง่ น�้า จะทา� ให้สัตวป์ า่ มีชวี ิตและขยายพนั ธุ์ต่อไปได้ สตั วป า แลว ใหน กั เรยี นแตล ะกลุมชว ยกนั ตอบ 2. การเพาะพันธุ์สัตว์ป่า ควร กลมุ ละ 1 คาํ ถาม โดยใชคาํ ถามที่มีลกั ษณะขยาย นา� สตั วป์ า่ ทห่ี ายากและใกลส้ ญู พนั ธม์ุ าเพาะเลย้ี ง ประสบการณจ ากชวี ติ ประจําวัน ทอ งถน่ิ และ เพ่ือขยายพันธุ์ จะเป็นการทดแทนสัตว์ป่าที่ ประเทศ เชน ไม่อาจขยายพันธุ์ได้ตามธรรมชาติจากสาเหตุ ตา่ ง ๆ เชน่ การขาดคู่ผสมพนั ธ ุ์ การถกู รบกวน • หนวยงานภาครัฐ องคกรสวนทอ งถ่ิน และ ในฤดผู สมพนั ธ ์ุ รวมทงั้ การนา� สตั วป์ า่ ไปเลย้ี งใน ชาวบา นจะมแี นวทางในการรว มมือกันเพอ่ื สวนสัตว ์ เป็นต้น การจดั การสตั วป าไดอ ยางไร 3. การป้องกันไฟป่า ไฟป่า (แนวตอบ การจดั การสัตวปาทส่ี าํ คัญตอ ง นอกจากจะท�าลายท่ีอยู่อาศัยและแหล่งอาหาร อาศยั ความรว มมือจากภาคสวนตา งๆ ท้งั ของสัตว์ป่าแล้ว ยังท�าให้สัตว์ป่าลูกอ่อนและ หนว ยงานภาครฐั องคก รสว นทองถนิ่ และ ไขข่ องสตั วป์ า่ ถกู ทา� ลายไปดว้ ย ฉะนน้ั เจา้ หนา้ ที่ ชาวบา น รวมถงึ องคก รอสิ ระตางๆ ในการ และประชาชนควรมีหน้าท่ีป้องกันและเฝ้าระวัง ศูนยอ์ นุรักษแ์ พนดา้ มณฑลซ่ือชวนประเทศจนี มีบทบาท รวมกันวางแผนและชวยกันดแู ลรักษาปา ซึง่ ไฟป่ารว่ มกนั สา� คญั ในการเพาะพนั ธ์ุแพนดา้ ไม่ใหส้ ูญพนั ธ์ุ เปนท่อี ยูอ าศยั และแหลง อาหารของสตั วป า ปองกนั การลกั ลอบลาสัตวใ นทอ งถิ่น และ 4. การป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า เพื่อเป็นการคุ้มครองสัตว์ป่าให้มีชีวิต การควบคมุ ไฟปาดวยวธิ กี ารตา งๆ เชน การ อยู่ในป่าธรรมชาต ิ รวมทั้งมีมาตรการทางกฎหมายลงโทษผทู้ ี่ละเมดิ กฎหมายหรือผทู้ ่ีครอบครอง ทําแนวกนั ไฟ การจัดต้งั หนวยเฝาระวัง และ สตั วป์ า่ รวมทัง้ การไม่นา� สัตว์ตา่ งถ่นิ เขา้ ไปอยู่ในป่า สัตว์ทีไ่ ม่ได้อยใู่ นทอ้ งถนิ่ เม่ือนา� เข้าไปอยอู่ าจ การแจงเจาหนาที่หรอื หนว ยงานทีเ่ ก่ยี วของ เป็นอนั ตรายกับสัตว์ป่าท้องถ่นิ หรืออาจน�าโรคระบาดเขา้ ไปสูส่ ัตวอ์ ื่นในปา่ ได้ ในการควบคมุ ไฟปา รวมถงึ ปองกนั การนาํ 5. การเลิกบริโภคและใช้เคร่ืองประดับจากสัตว์ป่า การบริโภคสัตว์ป่าทั้งเพ่ือใช้ สัตวตา งถ่ินเขา มาในทอ งถน่ิ ซึง่ อาจเกิดการ เป็นอาหาร เปน็ ยา เครอ่ื งประดบั และการน�าสตั ว์มาเลย้ี ง เปน็ สาเหตทุ า� ให้มีการลกั ลอบล่าและค้า ปะปนหรอื แพรกระจายโรคติดตอ สูส ตั วป า ใน สัตวป์ ่า การเลิกนิยมบริโภคผลติ ภัณฑ์จากสตั วป์ า่ จะชว่ ยลดการท�าลายสัตวป์ ่าลงได้ ทองถ่นิ ได) 5) การจัดการพลังงาน พลังงานมีความส�าคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย • หนาทีส่ ําคัญในการจดั การสตั วป า ของหนวย เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยพ้ืนฐานท่ีส�าคัญในภาคอุตสาหกรรมและการผลิต ในแต่ละปี งานทเ่ี กี่ยวขอ งในระดับประเทศคืออะไร มีการใช้พลังงานสูงขึ้น โดยพลังงานที่ใช้ส่วนใหญ่จะต้องมีการน�าเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น (แนวตอบ หนา ท่สี าํ คัญของหนวยงานที่ การจัดการพลังงานที่ดีจะท�าให้คนไทยใช้พลังงานในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยกันลด เกยี่ วของในการจดั การสตั วปา ระดบั ประเทศ การใชเ้ พ่ือจะไดล้ ดการน�าเข้าจากตา่ งประเทศลงได้ ซงึ่ มแี นวทางการจัดการทสี่ า� คญั ดงั น้ี คือ การเพาะพันธสุ ตั วปา ทอ่ี ยใู นภาวะใกล 1. การแสวงหาแหลง่ พลงั งาน การหาแหลง่ พลงั งานใหมเ่ พอื่ ทดแทนแหลง่ พลงั งาน สูญพนั ธุ โดยการนาํ มาเพาะเล้ียงเพอื่ ขยาย เดิมที่กา� ลังจะหมดไป หรือการหาแหล่งพลังงานเพ่ิมข้นึ เพื่อชดเชยการน�าเข้าจากต่างประเทศ พนั ธดุ วยวิธีการตา งๆ ที่ถูกตอ งเหมาะสม ตามหลักวิชาการ เชน การผสมพนั ธุ การ 141 คดั เลือกพนั ธุ และการปลอยกลับเขาสูปา เปนตน ) ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกรด็ แนะครู พลงั งานหมุนเวยี นประเภทใดควรมกี ารพฒั นาในชนบทของไทยเพอื่ แกไ ข ครูอาจนําวีดิทศั นเ กี่ยวกับการลักลอบลา สัตวป าเพ่ือนาํ มาใชประโยชนดานตา งๆ ปญ หาการขาดแคลนพลงั งานมากทส่ี ุด เชน ทําอาหาร ยาบาํ รุง เครือ่ งประดับ และเครอื่ งเรอื น มาใหน กั เรยี นพิจารณา แลวตงั้ คาํ ถามเก่ยี วกบั ประโยชนและความสําคญั ของสตั วปา กบั ความจําเปนของการ 1. พลังงานไฟฟา ลา สตั วปาเพ่อื นาํ มาใชประโยชนดา นตางๆ ของมนษุ ย จากนนั้ อภปิ รายรว มกันถึง 2. พลงั งานชวี มวล แนวทางการอนรุ ักษส ัตวป า ท่ีเหมาะสมกบั นกั เรียน นกั เรยี นบันทกึ ผลการอภปิ ราย 3. พลงั งานแสงอาทิตย ลงในสมุด ทัง้ นี้เพือ่ ใหน ักเรียนตระหนักถึงประโยชนแ ละความสําคัญของสตั วปา 4. พลังงานความรอนใตพ ิภพ ตอระบบนเิ วศ รวมถงึ ปลูกจติ สํานึกการไมอ ปุ โภคบริโภคผลติ ภณั ฑจ ากสัตวป า ซงึ่ เปน การสนับสนุนใหเ กิดการลักลอบลา สตั วปา วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. พลงั งานความรอนใตพภิ พเปนพลงั งาน หมนุ เวยี นประเภทท่ีควรพฒั นาขน้ึ ในชนบทเพ่อื แกไ ขปญหาการขาดแคลน พลงั งานมากท่สี ดุ เนื่องจากไทยมพี ลังงานใตพิภพในหลายบริเวณซงึ่ สามารถ พฒั นาเพอ่ื ใชประโยชนไ ดอ ยา งยาวนาน สว นพลังงานชีวมวลท่ผี ลิตจากซาก พชื ซากสตั วตา งๆ กเ็ หมาะสมกับชนบทของไทยทม่ี ีการเกษตรกรรมมากเชน กัน แตจดั อยูใ นประเภทของพลงั งานทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหมไ ดไมใชพ ลังงานหมนุ เวียน คู่มอื ครู 141
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182