Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ “ รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4

แผนการจัดการเรียนรู้ “ รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4

Published by phrapradisth, 2019-12-04 06:29:42

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ “ รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทุจริต” ระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4

Search

Read the Text Version

- 48 - ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต (การทาการบ้าน/ชน้ิ งาน) ชอ่ื กล่มุ ........................................................... สมาชกิ ในกลมุ่ ............................................................................................................................. ................................... ......................................................................................................................................... ....................... .......................................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ คาช้แี จง ให้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เหตุการณ์ท่ีกอ่ ให้เกดิ ความละอายใจ แล้วช่วยกนั วิเคราะห์ถึงผลเสียและแนวทางแก้ไขปญั หา เหตุการณ/์ สถานการณ์ ผลเสยี /ผลกระทบท่ไี ดร้ ับ แนวทางแก้ไข การไมท่ าการบา้ น/ช้ินงาน

- 49 - แบบประเมนิ การให้คะแนน ใบงาน (กลุ่ม) คาช้แี จง ใหค้ รูผูส้ อนทาเครอ่ื งหมาย ( / ) ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน กลุม่ ที่ สรุปความรไู้ ด้ถูกต้อง การเชือ่ มโยงความรไู้ ดถ้ กู ต้อง มคี วามคิดสร้างสรรค์ รวม ครบตรงประเด็น ตามลาดับข้ันความสัมพันธ์ ในการเขียน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงช่ือ)...................................ผปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./................ เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ รายการประเมนิ ๓ (ด)ี คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ ๑ (ปรบั ปรุง) แสดงบทบาทเหมาะสม เสียง ๒ (พอใช้) ๑. ความเหมาะสมของ ดังฟงั ชัด ลีลาประกอบดมี าก แสดงบทบาทเหมาะสม บทบาทการนาเสนอ แสดงบทบาทเหมาะสม เสยี ง เสียงเบา ลลี าประกอบ เนอ้ื หาสาระถกู ต้องครบถ้วน ดังปานกลาง ลีลาประกอบดี ค่อนข้างนอ้ ย ๒. ความถกู ตอ้ งขอ้ มลู สาระ ความรู้ มกี ารนาอุปกรณ์ประกอบการ เนือ้ หาสาระถกู ต้องเปน็ เนือ้ หาสาระถูกต้องเปน็ ส่วน ๓. ส่วนประกอบอื่นๆ นาเสนอ ดีมาก ส่วนมาก นอ้ ย และความคิดรเิ รม่ิ มีการนาอุปกรณ์ประกอบการ สรา้ งสรรค์ นาเสนอ ดี มีการนาอุปกรณม์ าประกอบ การนาเสนอ ค่อนข้างนอ้ ย คะแนนตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ คะแนน คณุ ภาพ ๗ – ๙ ดี ๔ – ๖ พอใช้ ๑ – ๓ ควรปรบั ปรุง

- 50 - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (ซอื่ สัตย)์ คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในชอ่ ง ทีต่ รงกบั ระดับคะแนน รายการประเมนิ ปฏบิ ัติในส่ิงทีถ่ กู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะ ท่ี ชอื่ – สกุล ใหข้ ้อมลู ทถี่ กู ต้องและ ทาความผดิ ทาตาม ปฏบิ ัตติ ่อผ้อู ่ืนดว้ ยความ เปน็ จริง สัญญาท่ีตนใหไ้ วก้ ับเพอ่ื น ซือ่ ตรง พ่อแม่หรือผปู้ กครอง และครู ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ๔ คะแนน เทา่ กบั ดมี าก 10-12 คะแนน เท่ากบั ดีมาก ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี 7-9 คะแนน เทา่ กบั ดี ๒ คะแนน เท่ากบั พอใช้ 4-6 คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรุง 1-3 คะแนน เท่ากับ ปรับปรุง ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ............../.................../................

- 51 - ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๒ ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ือง การทาเวรหรอื การทาความสะอาด 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต 1.2ปฏิบตั ติ นเปน็ ผลู้ ะอายและไมท่ นตอ่ การทจุ ริตทุกรปู แบบ 2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ ปฏิบัติงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายได้อย่างเหมาะสม 3 สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ 1) ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต(การทาเวร/การทาความสะอาด) ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะที่เกดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 ฟัง พดู เขียน ๒) ความสามารถในการคดิ 2.1 วเิ คราะห์ จดั กลมุ่ สรปุ ๓) ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นิยม 1) มีจติ สาธารณะ 4 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. นักเรียนสังเกตภาพถา่ ยบรเิ วณตา่ งๆ ในโรงเรียนของตนเอง ทัง้ ที่สะอาด จัดเก็บส่ิงของอยา่ งเป็น ระเบยี บ และบรเิ วณท่สี กปรกมีเศษขยะ จดั เก็บสง่ิ ของไม่เป็นระเบยี บ และร่วมกันวิเคราะหป์ ระเด็นต่างๆ ไดแ้ ก่ 1) นักเรียนรสู้ ึกอย่างไรกบั บรเิ วณทส่ี ะอาดและไมส่ ะอาด 2) นักเรยี นคิดวา่ เพราะอะไรบางบรเิ วณจึงสะอาด แตบ่ างบรเิ วณไมส่ ะอาด 3) นักเรียนคิดว่าจะมีแนวทางแก้ไขปัญหาบริเวณท่ไี ม่สะอาดอย่างไร ๒. นกั เรียนดคู ลิปวีดีโอ เรื่อง รจู้ กั หน้าที่ จากhttps://www.youtube.com/watch แล้วทาใบงานท่ี 1เรอื่ ง ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต(การทาเวร/การทาความสะอาด) ชวั่ โมงท่ี ๒ ๑. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ ๔-๕ คน ร่วมกันคดิ โครงการที่จะพัฒนาความสะอาดของโรงเรยี น การปรับภมู ทิ ศั น์ของโรงเรยี น ตามความเหมาะสมของบริบทของโรงเรยี น ๒. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอโครงการของตน หลังจากน้นั แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั พจิ ารณา โครงการที่นาเสนอของทุกกลุ่มแลว้ โหวตเลอื กกลุ่มทด่ี ีที่สุด มีความเหมาะสมมากทสี่ ดุ เป็นโครงการของชั้น เรยี นที่นกั เรียนทุกคนจะรว่ มมือกนั ปฏบิ ัติโครงการดังกล่าว

- 52 - ๓. นกั เรียนและครูผูส้ อนรว่ มกนั สรุปบทเรียน ๔.๒ ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ ๑) คลิปวดี โี อ เร่ือง รู้จักหน้าท่ี จาก https://www.youtube.com/watch?v=GATjrfppBBA ๒) ใบงานที่ ๑ ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ (การทาเวร/การทาความสะอาด) ๓) ใบงานที่ ๒ โครงการ 5 การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ 1) การนาเสนอผลงาน 2) ตรวจใบงาน 5.2.เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ 1)แบบประเมินผลงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ 1) นักเรียนต้องผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดีขึ้นไป ๖. บนั ทกึ หลังการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................ ...................................................................................................... ........................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... ......................................................................................... ..................................................................................... ลงชอ่ื ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................)

- 53 - 7. ภาคผนวก ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต(การทาเวร/การทาความสะอาด) คาช้ีแจง ให้นกั เรียนดูคลปิ วดี โี อ เรื่อง ร้จู ักหนา้ ที่ แล้วเขยี นประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ พร้อมแนวทางการนาไป ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวนั ประโยชน์/ข้อคิดทไ่ี ดร้ บั การนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจาวนั

- 54 - ใบงานท่ี ๒ โครงการ เร่ือง ................................................................................ สมาชิกกลมุ่ ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………… ๑. หลกั การและเหตผุ ล ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………..………………………………………… ๒. วัตถุประสงค์ ๑. ………………………………………………………………………………………………… ๒. ………………………………………………………………………………………………… ๓. ………………………………………………………………………………………………… ๓. เป้าหมาย ๑. .…………………………………………………………………………………………… ๒. .…………………………………………………………………………………………… ๔. วธิ ดี าเนินการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………๕.ระยะเวลาดาเนินการ(ระบรุ ะยะเวลาเริม่ ต้น – ส้นิ สดุ โครงการ) ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………… …………๖.สถานท่ดี าเนินการ ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………… …………๗.ผ้รู ับผิดชอบโครงการ ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………… …………๘. งบประมาณทใ่ี ช้ ……………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………… …………๙.ผลท่คี าดว่าจะได้รับ ๑. …………………………………………………………………………………………… ๒. …………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ .................................................... (.............................................................) หัวหนา้ กลุ่ม

- 55 - แบบประเมินการใหค้ ะแนน ใบงาน รายการประเมิน รวม ท่ี ชอื่ – สกุล มีความ การใช้ภาษา การลาดับ ความเรยี บรอ้ ย การคิด ๒๐ ถกู ต้อง เนือ้ หา วิเคราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ๔ คะแนน เท่ากับ ดีมาก ๑๖-๒๐ คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากบั ดี ๒ คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๕-๑๐ คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากับ ปรับปรงุ ๐-๕ คะแนน เท่ากับ ปรับปรงุ

- 56 - คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (มจี ิตสาธารณะ) คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในช่องทตี่ รงกับระดบั คะแนน รายการประเมิน ที่ ชอื่ – สกุล รู้จกั ช่วยพ่อแม่ อาสาทางาน ชว่ ย รจู้ กั ดูแล รักษา เข้ารว่ มกจิ กรรม ผู้ปกครอง และครู คิด ช่วยทา และ ทรพั ย์สมบตั แิ ละ เพื่อสงั คมและ แบ่งปนั สิ่งของให้ สิ่งแวดล้อมของ สาธารณประโยชน์ ทางาน หอ้ งเรยี น โรงเรยี น ของโรงเรยี น ผอู้ น่ื ชุมชน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ๔ คะแนน เทา่ กบั ดีมาก 13-16 คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ๓ คะแนน เท่ากบั ดี 9-12 คะแนน เท่ากับ ดี ๒ คะแนน เท่ากบั พอใช้ 5-8 คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรงุ ๐-4 คะแนน เท่ากบั ปรับปรุง ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../................

- 57 - ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ เวลา ๑ ชวั่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยที่ ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เร่ือง การสอบ 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ 1.2 ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ ริตทุกรูปแบบ ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ ปฏบิ ัติตนในการสอบได้อย่างถกู ต้อง ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ 1) ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ (การสอบ) ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กดิ ) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 ฟัง พูด เขียน ๒) ความสามารถในการคดิ 1.2 วิเคราะห์ จัดกลุ่ม สรปุ ๓) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ / ค่านิยม 1) ซือ่ สัตย์ สจุ รติ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ 1) ครูผสู้ อนถามนักเรียนว่า นักเรยี นรู้จักการสอบประเภทใดบา้ ง (การสอบเขา้ ศึกษาตอ่ ,การ สอบเพ่ือเขา้ ทางาน,การสอบเข้าโรงเรียนเตรยี มทหาร, การสอบเขา้ รบั ราชการ เปน็ ตน้ ) ๒) นักเรียนดคู ลิปวีดโี อเกยี่ วกบั การทจุ ริตการสอบ จากhttps://www.youtube.com/watch? แล้วร่วมกันวิเคราะห์ ตามประเด็น ดังน้ี 1.1 สาเหตุที่ทาใหเ้ กิดการทุจริตการสอบ 1.2 ปัญหาทเี่ กดิ จากการทุจริตการสอบ 1.3 วธิ ีการทุจรติ การสอบ 1.4 โทษของการทุจริตการสอบ 1.5 ฯลฯ ๓. แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ ๔-๕ คน โดยให้นักเรยี นรว่ มกันคิดหาวิธี หรือ มาตรการ ป้องกนั การทจุ รติ การสอบ โดยเขียนเปน็ แผนผังมโนทัศน์ แล้วนาเสนอหน้าช้ันเรียน ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) คลปิ วีดีโอ เรื่อง การทุจรติ การสอบ จากhttps://www.youtube.com/watch? ๒) ใบงาน เร่อื ง ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ (การสอบ)

- 58 - ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน 1) การนาเสนอผลงาน 2) ตรวจใบงาน ๕.๒ เครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมิน 1)แบบประเมนิ ผลงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ 1) นกั เรยี นต้องผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดีขึ้นไป ๖. บันทกึ หลังการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- 59 - 7. ภาคผนวก ใบงาน เรื่อง ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ (การสอบ) สมาชกิ กลมุ่ ……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………..…………………… ……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………..…………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………..…… ……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………………..…………………… คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะห์แนวทาง/วิธีป้องกันการทุจรติ การสอบ แนวทาง/วธิ ปี ้องกนั การทจุ ริตการสอบ

- 60 - แบบประเมินการใหค้ ะแนน ใบงาน รายการประเมนิ รวม ท่ี ชอ่ื – สกุล มคี วาม การใช้ภาษา การลาดบั ความเรยี บรอ้ ย การคดิ ๒๐ ถกู ตอ้ ง เน้อื หา วิเคราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ๔ คะแนน เทา่ กบั ดีมาก ๑๖-๒๐ คะแนน เท่ากบั ดีมาก ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากับ ดี ๒ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ ๕-๑๐ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ ๑ คะแนน เทา่ กับ ปรบั ปรุง ๐-๕ คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรงุ

- 61 - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (ซ่อื สตั ย์สุจรติ ) คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงใน ช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ที่ ช่อื – สกลุ ใหข้ อ้ มูลทีถ่ กู ต้อง และ ปฏิบตั ิในสง่ิ ท่ถี กู ตอ้ ง ปฏบิ ตั ติ ่อผ้อู นื่ ด้วยความ เป็นจริง ละอาย และเกรงกลัวที่จะ ซือ่ ตรง ทาความผิด ทาตาม สัญญาท่ตี ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ๔ คะแนน เทา่ กับ ดีมาก 10-12 คะแนน เท่ากบั ดมี าก ๓ คะแนน เท่ากับ ดี 7-9 คะแนน เท่ากบั ดี ๒ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ 4-6 คะแนน เทา่ กับ พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ ๐-3 คะแนน เทา่ กบั ปรบั ปรุง ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ............../.................../................

- 62 - ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๒ ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๒ ชอ่ื หน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ เรื่อง กจิ กรรมนักเรียน (โรงเรียน) 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ 1.2ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผ้ลู ะอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทุกรูปแบบ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ อธบิ ายความรับผิดชอบในการเข้ารว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น 3. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ 1)ความรับผดิ ชอบในการเข้ารว่ มกิจกรรมของโรงเรยี น ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกดิ ) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร 1.1 ฟัง พูด เขียน ๒) ความสามารถในการคิด 2.1 วิเคราะห์ จดั กลุม่ สรปุ ๓) ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ๓.๓ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ / ค่านิยม 1) มีวินัย รับผิดชอบ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี ๑ 1) ครเู กร่ินนาโดยใชค้ าถามกับนักเรียน เชน่ ในโรงเรียนมีการทากิจกรรมอะไรบ้าง โดยให้นกั เรียน แต่ ละคนช่วยกันตอบ เชน่ กจิ กรรมชมุ นมุ กิจกรรมกีฬาสี เปน็ ต้น 2) ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ เกย่ี วกับกจิ กรรมที่นักเรียนตอบมาวา่ แต่ละกจิ กรรมทโ่ี รงเรยี นจัดล้วนมี ความสาคัญ เป็นกจิ กรรมทช่ี ว่ ยพัฒนานักเรียนในดา้ นต่างๆ ดังนั้น นกั เรยี นทกุ คนควรเขา้ ร่วมกิจกรรมทกุ ครั้ง 3) ครูผู้สอนตงั้ ประเดน็ คาถาม ถามนกั เรยี นวา่ หากนักเรยี นคนใดไมเ่ ข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน นกั เรียนจะไดร้ ับผลกระทบหรือผลเสียอยา่ งไรบา้ ง และนักเรยี นมีวธิ ีแก้ไขปัญหาการไม่เข้าร่วม กิจกรรมอยา่ งไรบ้าง 4) ครูผสู้ อนส่มุ นกั เรยี นออกมา ๓-๔ คนออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรียน โดยครผู ูส้ อนอธบิ ายเพิม่ เติม

- 63 - ชวั่ โมงท่ี ๒ 1) ครูนารปู กจิ กรรมตา่ ง ๆของโรงเรยี นมาใหน้ ักเรียนดูและอธบิ ายเพม่ิ เติมว่า กจิ กรรมต่างๆจะสาเรจ็ ได้ จะต้องไดร้ ับความร่วมมือจากทกุ ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างย่ิงความร่วมมอื จากนกั เรยี น เพราะหาก โรงเรยี นจดั กจิ กรรมต่างๆขนึ้ แต่นักเรยี นไม่เข้ารว่ ม หรอื ไม่ให้ความร่วมมือ กจิ กรรมนั้น ๆกไ็ ม่ประสบ ความสาเรจ็ 2) ครแู บ่งกล่มุ นักเรยี นออกเปน็ ๒ กล่มุ ใหน้ ักเรียนแสดงบทบาทสมมุติ โดยกลมุ่ ที่ ๑ แสดงใน หวั ขอ้ ความ รับผดิ ชอบในการทากจิ กรรม ส่วนกลุ่มท่ี ๒ หัวข้อ การขาดการรบั ผิดชอบในการทากิจกรรม 3) นกั เรียนแสดงบทบาทสมมุติกลมุ่ ละไมเ่ กนิ ๑๕ นาที เสรจ็ แลว้ ช่วยกนั วิเคราะห์ แสดงความ คดิ เห็น แสดงความรสู้ กึ เกย่ี วกับเหตุการณส์ มมุติ ทั้ง ๒ เหตกุ ารณ์ แลว้ ทาใบงาน ๔.๒ สอื่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) รปู ภาพกิจกรรมตา่ ง ๆ ในโรงเรียน ๒) ใบงานที่ ๑ และ ๒ 4. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน 1) ตรวจใบงาน 2) การแสดงบทบาทสมมติ ๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน 1) แบบประเมินใบงาน 2) แบบประเมินบทบาทสมมติ ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน 1) นักเรยี นตอ้ งผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ดีขึ้นไป 5. บนั ทึกหลังการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ....................................................................................................................................... ...................................... ลงชอ่ื ................................................ ครูผสู้ อน (.................................................)

- 64 - 7. ภาคผนวก ใบงานที่ ๑ ความรบั ผดิ ชอบต่อกิจกรรมโรงเรียน ๑. คาชี้แจง ให้นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ต่อสถานการณ์ กรณที ม่ี ีนักเรยี นไม่เข้าร่วมกจิ กรรมของ โรงเรียน นกั เรยี นจะได้รับผลกระทบหรือผลเสียอย่างไรบ้าง และนักเรยี นมวี ธิ ีแก้ไขปัญหาการไม่เขา้ ร่วม กิจกรรมอยา่ งไร ผลกระทบหรือผลเสียทเี่ กดิ ข้ึน แนวทางการแกไ้ ขปัญหา

- 65 - ใบงานที่ ๒ ความละอายต่อการขาดความรับผิดชอบต่อกิจกรรมโรงเรยี น คาชี้แจง ให้นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ หรอื ความรสู้ กึ เห็นตอ่ เหตกุ ารณส์ มมติทไี่ ด้ดู พรอ้ มแสดงเหตุผล ประกอบ สถานการณ์ ๑ ความรับผดิ ชอบในกจิ กรรม สถานการณ์ ๒ ขาดความรับผดิ ชอบในกิจกรรม

- 66 - แบบประเมินการใหค้ ะแนน ใบงาน รายการประเมิน รวม ท่ี ชอื่ – สกุล มีความ การใช้ภาษา การลาดับ ความเรยี บรอ้ ย การคิด ๒๐ ถกู ต้อง เนือ้ หา วิเคราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ๔ คะแนน เท่ากับ ดีมาก ๑๖-๒๐ คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากบั ดี ๒ คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๕-๑๐ คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากับ ปรับปรงุ ๐-๕ คะแนน เท่ากับ ปรับปรงุ

- 67 - แบบประเมินการให้คะแนน ใบกจิ กรรมกลุ่ม (บทบาทสมมุติ) คาช้ีแจง ใหค้ รูผ้สู อนทาเครอ่ื งหมาย ( / ) ลงในช่องคะแนนตามเกณฑก์ ารประเมิน ความเหมาะสมของ ความถกู ตอ้ งขอ้ มลู สว่ นประกอบอ่ืน ๆ และ รวม กล่มุ ที่ บทบาทการนาเสนอ สาระ ความรู้ ความคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ ๓๒๑๓๒๑๓๒๑ (ลงช่อื )...................................ผปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./................. เกณฑ์การประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ รายการประเมนิ คาอธิบายระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ แสดงบทบาทเหมาะสม ๑. ความเหมาะสมของบทบาท แสดงบทบาทเหมาะสม แสดงบทบาทเหมาะสม เสยี งเบา ลลี าประกอบ คอ่ นขา้ งนอ้ ย การนาเสนอ เสียงดังฟังชดั ลลี า เสยี งดงั ปานกลาง ลลี า เนือ้ หาสาระถกู ต้องเปน็ สว่ น ประกอบดมี าก ประกอบดี น้อย ๒. ความถกู ตอ้ งข้อมูล สาระ เนื้อหาสาระถกู ต้อง เนอ้ื หาสาระถูกต้องเป็น มีการนาอุปกรณม์ า ประกอบการนาเสนอ ความรู้ ครบถ้วน สว่ นมาก ค่อนข้างนอ้ ย ๓. สว่ นประกอบอ่นื ๆและ มกี ารนาอุปกรณม์ า มกี ารนาอุปกรณม์ า ความคิดรเิ รม่ิ สร้างสรรค์ ประกอบการนาเสนอ ดมี าก ประกอบการนาเสนอ ดี คะแนน คะแนนตัดสินระดับคุณภาพ ๗–๙ คุณภาพ ๔–๖ ๑–๓ ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง

- 68 - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (มีวนิ ยั รับผิดชอบ) คาชีแ้ จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมนิ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของ ท่ี ช่อื – สกลุ ครอบครวั และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการ ปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวัน ๔ ๓ ๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ๔ คะแนน เท่ากบั ดีมาก 10-12 คะแนน เทา่ กับ ดมี าก 7-9 คะแนน เท่ากับ ดี ๓ คะแนน เทา่ กบั ดี 4-6 คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๒ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ ๐-3 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ ๑ คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรงุ ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............../.................../...............

- 69 - หน่วยท่ี ๓ STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทจุ รติ

- 70 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยที่ ๓ ชอ่ื หนว่ ย STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง ความพอเพียง เวลา ๒ ชว่ั โมง 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจรติ 1.2ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG / จติ พอเพยี งต่อต้านการทุจริต 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรยี นสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของคาวา่ พอเพยี งได้ ๒.๒ ระบพุ ฤติกรรมท่เี ป็นความพอเพียงได้ 3. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ 1) ความหมายของความพอเพียง และพฤติกรรมที่บง่ บอกถึงความพอเพียง ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร 1.1 อ่าน ฟัง พูด เขยี น ๒) ความสามารถในการคิด 1.1 วิเคราะห์ จัดกลุม่ สรุป ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ / ค่านิยม 1) อยอู่ ยา่ งพอเพียง 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ชัว่ โมงที่ ๑ ๑) นักเรยี นและครรู ่วมกนั สนทนาเกย่ี วกบั คาวา่ พอเพยี ง และปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใชค้ าถาม ดังน้ี 1.1 นกั เรยี นคิดวา่ พอเพียงมีความหมายวา่ อย่างไร 1.2 พฤตกิ รรมอะไรบา้ งทเ่ี ป็นความพอเพยี ง 1.3 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ ของใคร และมีหลักการอย่างไรบา้ ง ๒) ใหน้ กั เรียนชม วีดทิ ศั น์ เร่ือง “พอเท่ากับดี” จากน้ันให้นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แล้วช่วยกนั อภิปรายประเด็นดังน้ี 2.1 เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนนักเรียนคิดวา่ เด็กคนท่เี อาปลาไปคืนผใู้ หญเ่ ป็นเด็กท่ีมลี กั ษณะนิสยั อย่างไร จงอธบิ าย 2.2 ถ้านักเรียนเปน็ ๑ ใน ๓ คน ทผี่ ู้ใหญใ่ ห้มาจบั ปลานกั เรยี นจะทาอยา่ งไร เพราะอะไร จง ให้เหตุผลประกอบ ๓) ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรยี น โดยครผู ูส้ อนเป็นผ้สู รุปอธบิ ายเพ่มิ เติม ช่ัวโมงท่ี ๒ 4) ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากนั้นทาใบงาน เรื่อง ความพอเพยี ง และปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

- 71 - 5) ให้นักเรยี นตอบคาถามในใบงาน เร่อื ง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 6) ครู และนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรู้ ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) วดี ิทศั น์ เรื่อง พอเท่ากับดี ๒) ใบกจิ กรรมกลุ่ม ๓) วดี ทิ ศั น์ เศรษฐกจิ พอเพียง เร่อื ง การรักษาปา่ ไมเ้ พ่ือเปน็ แหลง่ อาหาร (สนง. ปปช.) ๔) ใบความรู้ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ๕) ใบงาน เรอื่ ง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ 1) ตรวจใบกจิ กรรมกลุ่ม 2) ตรวจใบงาน ๕.๒ เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการประเมิน 1) แบบประเมินใบกจิ กรรมกลุม่ 2) แบบประเมินใบงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน 1)นักเรยี นต้องผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ดีข้นึ ไป ๖. บนั ทกึ หลงั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)

- 72 - ใบความรู้เรื่อง ความพอเพยี ง และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง “เศรษฐกจิ พอเพียง” เปน็ ปรัชญาท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ ัวในรัชกาลท่ี 9 ทรงมีพระ ราชดารัสชี้แนะแนวทาง การดารัสชี้แนะแนวทาง การดาเนนิ ชีวติ แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด นานกว่า ๓๐ ปี ต้งั แต่กอ่ นเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกจิ และเมือ่ ภายหลังไดท้ รงเนน้ ย้าแนวทางแก้ไข เพอ่ื ใหร้ อดพน้ และสามารถดารงอยูไ่ ดอ้ ยา่ งมนั่ คงและยั่งยืน ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์ และความ เปล่ยี นแปลงตา่ ง ๆ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แนวคดิ หลกั เป็นปรชั ญาที่ชีแ้ นวทางการดารงอยูแ่ ละปฏิบตั ติ นของประชาชนในทกุ ระดบั ต้ังแต่ระดบั ครอบครัว ระดับชมุ ชน จนถึงระดบั รัฐ ท้ังในการพัฒนาและบรหิ ารประเทศใหด้ าเนินไปในทาง สายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจ เพ่อื ให้กา้ วทนั ต่อโลกยคุ โลกาภวิ ัตน์ เป้าหมาย มุ่งใหเ้ กิดความสมดุลพรอ้ มรบั ต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ท้ังทาง เศรษฐกิจ สงั คม สิง่ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรม จากโลกภายนอกได้เปน็ อย่างดี หลกั การ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภูมคิ ุม้ กนั ทด่ี ใี นตัว พอสมควรตอ่ การมผี ลกระทบใด ๆ อนั เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน เง่ือนไขพื้นฐาน - จะต้องอาศยั ความรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวงั อย่างย่ิง ในการนาวิชาการ ตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการวางแผน และการดาเนนิ การทุกขัน้ ตอน - การเสรมิ สรา้ งจิตใจของตนในชาติ โดยเฉพาะเจา้ หนา้ ท่ขี องรัฐ นกั ทฤษฎแี ละนักธรุ กจิ ในทุก ระดับใหส้ านกึ คณุ ธรรม ความซือ่ สัตย์ สุจริต และให้มีความรอบรู้ทเี่ หมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความ อดทน ความเพยี ร มีสติปัญญา และความรอบคอบ

- 73 - นิยามของความพอเพียง ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดที ี่ไมน่ ้อยเกนิ ไป และไมม่ ากเกนิ ไป โดยไมเ่ บียดเบยี นตนเองและ ผอู้ ื่น เช่น การผลติ และการบริโภคทีอ่ ยู่ในระดบั พอประมาณ ความมเี หตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเก่ียวกบั ความพอเพยี งน้ันจะต้องเปน็ ไปอยา่ งมเี หตผุ ล โดยพจิ ารณา จากเหตุปัจจัยท่เี ก่ียวข้อง ตลอดจนคานึงถึงผลทีค่ าดวา่ จะเกิดจากการกระทานนั้ ๆ อยา่ งรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรยี มตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และความเสย่ี งจากการเปลี่ยนแปลง ดา้ นตา่ ง ๆ ที่คาดวา่ จะเกิดขนึ้ ในอนาคตทงั้ ใกล้และไกล เงือ่ นไขเพื่อใหเ้ กิดความพอเพียง การตัดสนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ให้พอเพยี งต้องอาศยั ทั้งความรู้ และคณุ ธรรมพืน้ ฐาน เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรเู้ กี่ยวกับวชิ าการต่าง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องอย่างรอบดา้ นความรอบคอบท่ี จะนาความรเู้ หล่านั้นมาพจิ ารณาใหเ้ ช่อื มโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขน้ั ปฏบิ ัติ เงือ่ นไขคุณธรรม ที่จะตอ้ งเสริมสรา้ ง ประกอบด้วยมคี วามตระหนักในคุณธรรม เช่น มคี วามซ่ือสตั ย์สจุ รติ ความอดทน ความเพียร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนนิ ชวี ิต ที่มา : สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ,หนังสอื เศรษฐกจิ พอเพียงคืออะไร หมายเหตุ ศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติมจาก ศูนย์สถานศ๒กึ๕ษ๔า๙พ.อเพยี งมลู นิธิสถิรคุณ

- 74 - ใบกิจกรรม เร่ือง “พอเท่ากบั ดี” คาชแ้ี จง ให้แตล่ ะกลมุ่ ศึกษา วีดโี อ เรื่อง “พอเท่ากบั ดี” จากน้นั ตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. เหตกุ ารณ์ทเ่ี กิดข้นึ นักเรียนคดิ วา่ เดก็ คนท่เี อาปลาไปคนื ผู้ใหญเ่ ปน็ เด็กที่มลี ักษณะนสิ ัย อย่างไร จงอธบิ าย ๒. ถ้านักเรียนเป็น ๑ ใน ๓ คน ที่ผ้ใู หญใ่ หม้ าจบั ปลานักเรียนจะทาอย่างไร เพราะอะไร จง ใหเ้ หตุผลประกอบ

- 75 - ชื่อ ............................................................................................... ช้นั ............... เลขท่ี . ............ ใบงาน เร่อื ง ความพอเพียง และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนศึกษาใบความรู้ เรอ่ื ง ความพอเพยี ง และปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง แล้ววเิ คราะห์ แนวทางการดาเนินชวี ิตให้สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ๑. ความพอประมาณ ดา้ นการเรียน อา่ นหนังสือพอประมาณแกว่ ัยและเวลา (ตัวอย่างการตอบคาถาม) ............................................................ ........................................................................................ .......................... ๒. ความมเี หตุผล ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๓. มภี มู ิค้มุ กนั ทดี่ ีในตัวท่ีดี ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๔. เงื่อนไขความรู้ .............................................................. ............................................................................................. ................... ............................................................................................................................. ................................................. ๕. เงอื่ นไขคุณธรรม ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๖. ใหน้ ักเรียนเขียนสรปุ แนวทางการดาเนนิ ชีวติ ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง - ดา้ นวัตถุ....เช่น การออมสิน ............................................................................................................................. .............................. - ด้านสงั คม ...................................................................................................................................................................... - ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ............................................................................................................................. ........................................ - ด้านวฒั นธรรม ............................................................................................................................. ......................................

- 76 - เฉลย ใบงาน เรอื่ ง ความพอเพยี งและ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง คาชี้แจง : นกั เรยี นวเิ คราะห์แนวทางการดาเนินชีวิตให้สอดคลอ้ งกบั แนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แนวคาตอบ ๑. ความพอประมาณ เช่น ด้านการเรยี น อา่ นหนังสือพอประมาณแก่วัยและเวลา ดา้ นสุขภาพ อยา่ อ่านหนังสือดกึ ให้พักผ่อนใหพ้ อเพียง ดา้ นกีฬา เล่นกีฬาที่ตนเองชอบและถนดั ๒. ความมเี หตผุ ล เช่น การใชจ้ ่ายอย่างประหยัด รู้จักลาดับความสาคัญของการใช้เงิน การทาบญั ชรี ายรบั - รายจา่ ย การอดอออม ๓. มีภมู ิคมุ้ กันทดี่ ีในตวั ทีด่ ี เชน่ การวางแผนการอา่ นหนังสือ เพื่อเตรียมตัวสอบ การปลูกตน้ ไม้เพ่ืออนรุ ักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติ ๔. เงื่อนไขความรู้ มีความรเู้ กยี่ วกับวิชาการต่าง ๆ เพ่ือนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน สามารถอยู่รว่ มกบั ผูอ้ ่ืนได้อยา่ งมีความสขุ ๕. เง่อื นไขคุณธรรม การเป็นคนดี ประพฤตติ นตามหลักธรรม เช่น มคี วามรับผดิ ชอบ มีความซอ่ื สตั ย์สุจริต ขยัน มีความรอบคอบ ๖. ใหน้ ักเรียนเขยี นสรุปแนวทางการดาเนินชีวติ ตามปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง - ดา้ นวตั ถุ เชน่ การออมเงิน การทาบัญชีรายรบั -รายจา่ ย - ด้านสงั คม....เชน่ จติ อาสา ชว่ ยเหลือผู้ด้อยโอกาส - ดา้ นสงิ่ แวดลอ้ ม เช่น อนุรักษ์ตน้ นา้ ปลกู /ฟื้นฟูป่า - ดา้ นวฒั นธรรม เชน่ การพูดภาษาถิ่น อนรุ กั ษ์อาหารท้องถิน่

- 77 - แบบประเมนิ การใหค้ ะแนน ใบงาน รายการประเมนิ รวม ที่ ชื่อ – สกลุ มคี วาม การใชภ้ าษา การลาดบั ความ การคดิ ๒๐ ถูกต้อง เนื้อหา เรียบร้อย วเิ คราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ๔ คะแนน เท่ากบั ดมี าก ๑๖-๒๐ คะแนน เทา่ กับ ดมี าก ๓ คะแนน เท่ากับ ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เทา่ กบั ดี ๒ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ ๕-๑๐ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ ๑ คะแนน เทา่ กับ ปรับปรงุ ๐-๕ คะแนน เท่ากับ ปรบั ปรงุ

- 78 - แบบประเมินการให้คะแนน ใบกจิ กรรมกลุ่ม คาชีแ้ จง ใหค้ รผู สู้ อนทาเครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน กลมุ่ ที่ สรุปความรไู้ ดถ้ กู ต้อง ครบ การเชอื่ มโยงความรู้ได้ มีความคิดสร้างสรรคใ์ นการ รวม ตรงประเด็น ถูกต้องตามลาดับขั้น เขยี น ความสมั พันธ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอ่ื )...................................ผปู้ ระเมิน (…………………………………………………) ............../................./................. เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ รายการประเมนิ ๔ (ดมี าก) คาอธิบายระดับคณุ ภาพ ๑ (ปรบั ปรุง) สามารถสรปุ ความรไู้ ด้ สรุปความรไู้ มถ่ ูกตอ้ ง ๑. สรปุ ความรู้ได้ ครบและตรงประเด็น ๓ (ด)ี ๒ (พอใช)้ ถกู ตอ้ ง ครบตรง และถกู ตอ้ งทกุ หัวข้อ สามารถเชื่อมโยงความรู้ ประเด็น สามารถสรปุ ความรไู้ ด้ สรุปความรไู้ ม่ครบทกุ ได้ แตไ่ มเ่ ป็นไป สามารถเชอ่ื มโยงความรู้ ครบ ตรงประเดน็ และมี ประเดน็ ตามลาดบั ความสัมพันธ์ ๒. การเช่อื มโยง ได้ถูกต้องตามลาดบั ความถกู ตอ้ งเปน็ สว่ น ความรูไ้ ดถ้ ูกต้อง ความสมั พนั ธ์ ใหญ่ สามารถเขยี นได้ แต่ขาด ตามลาดับขัน้ รปู แบบและความ ความสมั พนั ธ์ สามารถเชอ่ื มโยงความรู้ สามารถเช่อื มโยงความรู้ สวยงาม ๓. มคี วามคิด ได้ และลาดบั ความ และลาดบั ความสัมพันธ์ สรา้ งสรรคใ์ นการเขียน สัมพนั ธ์ได้ค่อนข้างครบ ไดบ้ า้ ง สามารถเขียนได้ใน สามารถเขยี นไดถ้ กู ต้อง สามารถเขยี นได้ และมี รูปแบบทีถ่ กู ต้องและ และมขี ้อบกพรอ่ งเพียง ขอ้ บกพรอ่ งเป็นบางสว่ น สวยงาม เลก็ นอ้ ย คะแนนตดั สนิ ระดับคณุ ภาพ คะแนน คณุ ภาพ ๑๐ - ๑๒ ดีมาก ๗–๙ ดี ๔–๖ ๑–๓ พอใช้ ควรปรบั ปรุง

- 79 - แบบประเมิน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (อยู่อยา่ งพอเพยี ง) คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงใน ช่อง ทีต่ รงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ที่ ชือ่ – สกลุ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ใ ้ชทรัพ ์ย ิสนของตนเอง เ ่ชน ส่ิงของ เครื่องใ ้ช ฯลฯ อ ่ยาง ประห ัยด คุ้มค่า และเ ็กบ รักษา ูดแลอย่าง ีด และใ ้ช เวลาอย่างเหมาะสม ใ ้ชทรัพยากรของส่วนรวม อย่างประห ัยด คุ้มค่า และ เก็บรักษา ูดแลอย่างดี ปฏิบัติตนและ ัตดสินใจด้วย ความรอบคอบ มีเห ุตผล ไ ่มเอาเปรียบผู้อื่น และไม่ทา ให้ ู้ผอื่นเ ืดอดร้อน พร้อมให้ อภัยเ ่มือผู้อ่ืนกระทา ผิดพลาด วางแผนการเรียน การ ทางานและการใ ้ช ีช ิวตประจาวันบนพ้ืนฐาน ของความรู้ ้ขอมูล ข่าวสาร รู้เ ่ทา ัทนการเปลี่ยนแปลงทาง สังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรับ ัตว อ ู่ย ร่วมกับผู้อื่นไ ้ดอย่างมี ความสุข เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ๔ คะแนน เทา่ กับ ดีมาก 15-24 คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ๓ คะแนน เทา่ กับ ดี 13-14 คะแนน เทา่ กับ ดี ๒ คะแนน เทา่ กบั พอใช้ 7-12 คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑ คะแนน เทา่ กบั ปรบั ปรุง 1-6 คะแนน เทา่ กบั ปรับปรงุ ลงช่ือ ...................................................... ผปู้ ระเมนิ (....................................................)

- 80 - ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ ๓ ชื่อหนว่ ย STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เร่อื ง ความโปร่งใส ๗. ผลการเรียนรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั STRONG / จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจรติ 1.2 ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ที่ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทจุ ริต ๘. จุดประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของคาว่า ความโปร่งใสได้ ๒.๒ ระบุพฤตกิ รรมทเี่ ก่ยี วกับความโปร่งใสได้ ๙. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ - ความหมายของความโปร่งใส และพฤติกรรมที่เก่ยี วกบั ความโปร่งใส ๓.๒ ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกิด) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร - อา่ น ฟงั พูด เขียน ๒) ความสามารถในการคิด - วิเคราะห์ สรุป ๓.๓ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ / คา่ นยิ ม - ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ ๑๐.กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4.3ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ๑) ครูสนทนากับนักเรยี นเกีย่ วกบั ความโปร่งใส ท่นี กั เรียนเคยพบเหน็ จากน้นั ให้นกั เรยี นศกึ ษาใบ ความรู้ เรื่องความโปรง่ ใส แล้วสนทนาโต้ตอบโดยใชค้ าถาม เช่น - ความโปรง่ ใส หมายถึงอะไร - มพี ฤติกรรมอะไรบ้างทแ่ี สดงถึงความโปร่งใส - ความโปรง่ ใส มีผลดอี ยา่ งไร ๒) ให้นักเรยี นดู วดี ิทัศน์ จาก youtube เรอ่ื ง ความโปร่งใสในองค์กร ๓) แบง่ นักเรียนเป็นกล่มุ ตามความเหมาะสม กลุ่มละ ๔-๕ คน ทาใบกจิ กรรมกลุ่ม เรื่อง ความ โปรง่ ใสแล้วออกมานาเสนอส่งิ ทไี่ ด้จากการดวู ดี ีโอ ครูอธิบายเพิ่มเติมจากทีน่ ักเรียนนาเสนอ ๔) ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกันสรุปถึงพฤตกิ รรมต่าง ๆ ท่ีแสดงถึงความโปรง่ ใส เช่น การเปดิ เผยขอ้ มลู การจดั ซอื้ จัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ การดาเนินงานตา่ ง ๆ อย่างเป็นขัน้ ตอน ๕) ให้นกั เรียนเขียนพฤติกรรมทแี่ สดงถึงความโปร่งใสในการดาเนินชวี ิตในปัจจุบนั ของนักเรยี น หรือทน่ี ักเรียนเคยพบเจอ ลงในใบงาน เรอ่ื ง ความโปร่งใสในชีวิตประจาวัน ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้

- 81 - ๑) วีดทิ ัศน์ เรอื่ งความโปร่งใสในองค์กร ๒) ใบกิจกรรมกลมุ่ เรอื่ ง ความโปรง่ ใส ๓) ใบงาน เรอ่ื ง ความโปร่งใสในชีวติ ประจาวนั ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ 1) ตรวจใบกจิ กรรมกลุม่ 2) ตรวจใบงาน 4.4เครอ่ื งมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน 1) แบบประเมนิ ใบกิจกรรมกลุม่ 2) แบบประเมนิ ใบงาน ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน 1) นักเรียนตอ้ งผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ดีขน้ึ ไป ๖. บันทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ...................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................. ................................................ ลงช่ือ ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................)

- 82 - ใบความรู้ เรอื่ ง ความโปร่งใส ความโปร่งใส (Transparency) หมายถึง การกระทาการใด ๆ ของภาครัฐท้ังในระดับบุคคล และองคก์ รท่ผี ้อู ่นื สามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ ครอบคลุมถึงทกุ การกระทาที่เป็นผลจาก การตัดสินใจของผู้บริหาร การดาเนินงานทางธุรกิจ และงานสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การมี ระบบงานและข้ันตอนการทางานที่ชัดเจน (ซ่ึงจะดูได้จาก กฎระเบียบ หรือประกาศ) การมีหลักเกณฑ์ ประเมินหรือการให้คุณให้โทษท่ีชัดเจน การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารท่ีถูกต้องอย่างตรงไปตรงมา ความ โปร่งใสจึงเป็นเคร่ืองมือที่สาคัญในการตรวจสอบความถูกต้อง และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต รวมท้ังนาไปสู่การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันท้ังระหว่างผู้ปฏิบัติร่วมกันในองค์กรเดียวกัน ระหว่างประชาชนต่อรัฐไปจนถึงระหว่างคนในชาติด้วยกัน ดังน้ัน ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน ภาครัฐหรือภาคเอกชนควรปรับปรุงกลไกการทางานให้มีความโปร่งใส มีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่ เป็นประโยชน์อย่างตรงไปตรงมาด้วยภาษาท่ีเข้าใจง่าย เพ่ือประชาชนจะได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ โดยสะดวก และชว่ ยตรวจสอบความถกู ต้องในการทางานได้ ตัวอย่าง “ความโปร่งใส”

- 83 - ใบกิจกรรม เร่อื ง “ความโปร่งใสในองค์กร” คาช้แี จง ให้แต่ละกลมุ่ ศึกษา วีดโี อ เรอื่ ง “ความโปร่งใสในองค์กร” จากนั้นตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. ความโปรง่ ใสในองค์กรมขี ้ันตอนอย่างไรบา้ ง ๒. นักเรียนสามารถนาความโปรง่ ใสในองคก์ รน้ีมาใชใ้ นห้องเรียนได้หรือไม่ อย่างไร จง อธบิ าย

- 84 - ใบงาน เร่อื ง ความโปร่งใสในชวี ติ ประจาวัน คาช้แี จง : ใหน้ ักเรียนเขียนพฤติกรรมที่แสดงถงึ ความโปร่งใสในการดาเนินชวี ติ ในปจั จุบันของนักเรียน หรือท่ี นักเรียนเคยพบเจอ มา ๕ พฤตกิ รรม ๑. ............................................................................................................................. ๒. ............................................................................................................................. ๓. ............................................................................................................................. ๔. ............................................................................................................................. ๕. .............................................................................................................................

- 85 - แบบประเมินการใหค้ ะแนน ใบงาน รายการประเมนิ รวม ที่ ช่อื – สกุล มีความ การใชภ้ าษา การลาดับ ความ การคิด ๒๐ ถกู ต้อง เน้ือหา เรยี บรอ้ ย วิเคราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ๔ คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ๑๖-๒๐ คะแนน เท่ากบั ดมี าก ๓ คะแนน เท่ากบั ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากับ ดี ๒ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ 6-๑๐ คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๑ คะแนน เทา่ กับ ปรับปรุง ๐-๕ คะแนน เทา่ กับ ปรับปรุง

- 86 - แบบประเมนิ ใบกจิ กรรมกลุ่ม รายการประเมนิ 1. สรุปความรู้ไดถ้ ูกต้อง ครบตรงประเดน็ 2. การเชื่อมโยงความรไู้ ด้ถูกต้องตามลาดับขั้นความสมั พนั ธ์ 3. มีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการเขียน เกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ รายการประเมิน คาอธิบายระดบั คุณภาพ ๑. สรปุ ความรไู้ ด้ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) ถูกต้อง ครบตรง ประเด็น สามารถสรุป สามารถสรปุ สรปุ ความรู้ไม่ครบ สรุปความรูไ้ ม่ ๒. การเชื่อมโยง ความรไู้ ด้ครบและ ความรไู้ ด้ครบ ทุกประเด็น ถกู ต้อง ความรไู้ ด้ถกู ต้อง ตามลาดบั ขนั้ ตรงประเด็นและ ตรงประเดน็ และมี ความสมั พนั ธ์ ถูกต้องทุกหวั ข้อ ความถูกตอ้ งเปน็ ๓. มคี วามคิด สรา้ งสรรคใ์ น ส่วนใหญ่ การเขยี น สามารถเชื่อมโยง สามารถเช่อื มโยง สามารถเชื่อมโยง สามารถเช่อื มโยง ความรู้ได้ถกู ต้อง ความรู้ได้ และ ความร้แู ละลาดับ ความรไู้ ด้ แต่ไม่ ตามลาดับ ลาดบั ความ ความสัมพนั ธไ์ ด้ เป็นไปตามลาดับ ความสัมพันธ์ สมั พนั ธ์ได้ บ้าง ความสมั พนั ธ์ คอ่ นข้างครบ สามารถเขยี นได้ใน สามารถเขียนได้ สามารถเขียนได้ สามารถเขยี นได้ รูปแบบที่ถูกต้อง ถูกต้องและมี และมขี ้อบกพร่อง แตข่ าดรูปแบบ และสวยงาม ขอ้ บกพร่องเพียง เปน็ บางส่วน และความสวยงาม เลก็ น้อย คะแนนตัดสินระดับคณุ ภาพ คะแนน คุณภาพ ๑๐ - ๑๒ ดีมาก ๗–๙ ดี ๔–๖ ๑–๓ พอใช้ ควรปรบั ปรุง

- 87 - แบบประเมินการใหค้ ะแนน ใบกิจกรรมกลุ่ม คาชี้แจง ใหค้ รูผู้สอนทาเครื่องหมาย ( / ) ลงในช่องคะแนนตามเกณฑ์การประเมนิ กล่มุ ท่ี สรุปความรู้ไดถ้ ูกต้อง การเช่ือมโยงความรไู้ ด้ มีความคิดสรา้ งสรรค์ รวม ครบตรงประเด็น ถูกต้องตามลาดับข้ัน ในการเขยี น ความสัมพันธ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอื่ )...................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ............../................./.................

- 88 - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ความซื่อสตั ย์) คาชแี้ จง : ให้ ผูส้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ปฏิบัติในสิง่ ทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ท่ี ชื่อ – สกุล ให้ข้อมลู ท่ีถูกตอ้ งและ ท่จี ะทาความผิด ทา ปฏิบตั ติ อ่ ผูอ้ ่ืนดว้ ย เป็นจรงิ ตาม สญั ญาท่ตี น ความซอื่ ตรง ใหไ้ ว้กบั เพ่ือน พ่อแม่ หรอื ผู้ปกครอง และครู ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ๔ คะแนน เท่ากบั ดีมาก 10-12 คะแนน เท่ากับ ดีมาก ๓ คะแนน เท่ากับ ดี 7-9 คะแนน เทา่ กบั ดี ๒ คะแนน เท่ากับ พอใช้ 4-6 คะแนน เท่ากับ พอใช้ ๑ คะแนน เท่ากับ ปรับปรุง 1-3 คะแนน เทา่ กบั ปรับปรุง ลงช่ือ ...................................................... ผ้ปู ระเมนิ (....................................................)

- 89 - ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๑ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๓ ชือ่ หน่วย STRONG / จติ พอเพียงต่อต้านการทุจรติ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ เรื่อง ความต่ืนรู้ และความรู้ ๑๑.ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั STRONG / จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจริต ๒. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผทู้ ่ี STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจรติ ๑๒.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของคาวา่ ความต่นื รู้ และความรู้ได้ ๒.๒ ระบพุ ฤตกิ รรมที่เกย่ี วกับความต่ืนรู้ และความร้ไู ด้ ๑๓.สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ 1) ความหมายของความต่นื ร้,ู ความรู้ และพฤติกรรมทเ่ี ก่ียวกบั ความตน่ื รู้ และความรู้ ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร - อา่ น ฟงั พูด เขยี น ๒) ความสามารถในการคดิ - วเิ คราะห์ สรปุ ๓.๓ คณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ค่านิยม - มุ่งมนั่ ในการทางาน ๑๔.กิจกรรมการเรียนรู้ 4.5ขั้นตอนการเรียนรู้ ๑) ครสู นทนากับนักเรยี น เรอื่ ง การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน และผลประโยชน์ ส่วนรวม ที่ได้เรยี นไปในหน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ และสนทนากับนักเรียนในเร่ืองของ ความหมายของคาวา่ ความตืน่ รู้ และความรู้ และพฤตกิ รรมทีแ่ สดงถึงความต่ืนรู้ เชน่ มคี วามกระตอื รือรน้ ในการทางาน เขา้ เรียนตรงเวลา มคี วามสนใจ ตงั้ ใจในการทากิจกรรมต่าง ๆ ๒) ครใู หน้ กั เรียนดูภาพยนตร์ส้นั “โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. เรอ่ื ง เลือก” จากนัน้ สนทนา แลกเปลี่ยนโดยใชค้ าถาม ดังนี้ - จากภาพยนตรน์ ้ี หลานใชค้ ณุ ธรรมใดในการปฏบิ ตั ติ น (ความตืน่ รู้ ..... หลานเห็นเพอ่ื นมี กลอ่ งดินสอใหม่ มีความอยากได้ จงึ ใชก้ ารเก็บออมเงนิ แลว้ ค่อยไปซ้ือ)

- 90 - R (realise) บุคคลและหน่วยงานมีความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงรากเหง้าของปัญหาการทุจริตประพฤติมิ ชอบภายในสังคมและประเทศ สามารถวิเคราะห์และระบุถึงความเสี่ยงต่อการทุจริต เข้าใจถ่องแท้เกี่ยวกับการ แยกแยะผลประโยชนส์ ่วนตัวและผลประโยชน์สว่ นรวม พรอ้ มแนวทางการแก้ไขปัญหาดงั กล่าวได้ - ถา้ นกั เรียนเป็นหลาน นักเรียนจะทาอย่างไร ให้มีกล่องดินสอเหมือนเพื่อน ๓) ให้นกั เรียนทาใบงาน พฤตกิ รรมทแี่ สดงถึงความต่นื รู้ ๔) นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปความหมาย พฤตกิ รรม และการปฏิบตั ติ น ที่แสดงถึงความตืน่ รู้ ๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) ใบความรู้ เรือ่ ง ความต่นื รู้ และความรู้ ๒) ภาพยนตรส์ นั้ “โรงเรียนคณุ ธรรม สพฐ. เร่ือง เลอื ก” ๓) ใบงาน เรอ่ื ง พฤติกรรมท่ีแสดงถึงความตืน่ รู้ ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน 1) ตรวจใบงาน ๕.๒ เครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ 2) แบบประเมนิ ใบงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ 1) นกั เรยี นตอ้ งผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับดขี นึ้ ไป ๖. บันทึกหลงั สอน ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)

- 91 - ใบความรู้ เร่อื ง ความตืน่ รู้ และความรู้ R (realise) บุคคลและหน่วยงานมีความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงรากเหง้าของปัญหาการทุจริต ประพฤติมิชอบภายในสังคมและประเทศ สามารถวิเคราะห์และระบุถึงความเสี่ยงต่อการทุจริต เข้าใจถ่อง แท้เก่ียวกับการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม พร้อมแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังกล่าวได้ ความตื่นรู้ หมายถึง ความรู้ตัวทว่ั พรอ้ มเปน็ สงิ่ ท่ที ุกคนสามารถที่จะฝึกฝน เรียนรู้ ผ่านการ เฝ้าดคู วามคิด เพ่อื ทีจ่ ะแยกแยะความคิด ความรสู้ กึ ออกจากตัวตนของเรา และคอ่ ยๆสรา้ งหนทาง เชอ่ื มโยงถึงจติ เดิมแท้ ความรู้ หมายถึง สารสนเทศที่นาไปสู่การปฏิบัติ เป็นเน้ือหาข้อมูล ซ่ึงประกอบด้วยข้อเท็จจริง ความคิดเห็น หลักการ รปู แบบ กรอบความคิด หรือข้อมูลอ่ืนๆซ่ึงอาจจะรวมไปถึงความสามารถในการ นาส่ิงน้ันไปใช้เพื่อเป้าหมายบางประการ

- 92 - ใบงาน เรอ่ื ง พฤติกรรมท่ีแสดงถึงความตน่ื รู้ คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นเขยี นพฤติกรรมทแ่ี สดงถึงความตน่ื รู้ ในการทากจิ กรรมในชวี ิตประจาวัน มา ๕ พฤติกรรม ๑. ............................................................................................................................. ๒. ............................................................................................................................. ๓. ............................................................................................................................. ๔. ............................................................................................................................. ๕. .............................................................................................................................

- 93 - แบบประเมินการใหค้ ะแนน ใบงาน รายการประเมนิ รวม ที่ ช่อื – สกุล มีความ การใชภ้ าษา การลาดับ ความ การคิด ๒๐ ถกู ต้อง เน้ือหา เรยี บรอ้ ย วิเคราะห์ คะแนน ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ๔ คะแนน เทา่ กบั ดมี าก ๑๖-๒๐ คะแนน เท่ากบั ดมี าก ๓ คะแนน เท่ากบั ดี ๑๑-๑๕ คะแนน เท่ากับ ดี ๒ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ ๕-๑๐ คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๑ คะแนน เทา่ กับ ปรับปรุง ๐-๕ คะแนน เทา่ กับ ปรับปรุง

- 94 - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (มุ่งมัน่ ในการทางาน) คาชแี้ จง : ใหผ้ สู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงใน ช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมนิ ท่ี ชื่อ – สกุล มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ ่อ ทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย อปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสาเรจ็ 43214321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ๔ คะแนน เท่ากับ ดมี าก 15-24 คะแนน เท่ากบั ดีมาก ๓ คะแนน เทา่ กบั ดี 13-14 คะแนน เทา่ กับ ดี ๒ คะแนน เทา่ กับ พอใช้ 7-12 คะแนน เท่ากบั พอใช้ ๑ คะแนน เทา่ กบั ปรับปรงุ 1-6 คะแนน เท่ากบั ปรบั ปรงุ ลงช่ือ ...................................................... ผูป้ ระเมิน (....................................................)

- 95 - ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ เวลา ๒ ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยท่ี ๓ ชอ่ื หน่วย STRONG / จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ ริต แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ เรื่อง การตอ่ ต้านทจุ รติ ๑๕.ผลการเรียนรู้ ๓. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการทุจริต ๔. ปฏิบตั ิตนเป็นผทู้ ี่ STRONG / จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต ๑๖.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของการทุจรติ ได้ ๒.๒ ระบพุ ฤติกรรมทเี่ ปน็ การตอ่ ต้านการทจุ ริตได้ ๑๗.สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ 1) ความหมายของการทุจรติ และพฤติกรรมตอ่ ต้านการทุจริต ๓.๒ ทักษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) ๑) ความสามารถในการส่ือสาร (อา่ น ฟัง พูด เขยี น) ๒) ความสามารถในการคดิ (วิเคราะห์ สรุป) ๓.๓ คณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / คา่ นยิ ม - ซอ่ื สัตย์ สุจรติ ๑๘.กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ ๑ ๑) นักเรยี นศึกษา วีดที ศั น์ เรื่อง รบั สนิ บน และรว่ มกนั สนทนาซกั ถามด้วยคาถาม ดังน้ี - นกั เรียนคิดว่าการทจุ รติ หมายถึงอะไร - นกั เรียนเคยพบเห็นพฤติกรรมท่ีเรียกวา่ การทจุ ริตท่ีใดบ้าง - ถา้ นักเรียนมีโอกาสทจุ ริต นักเรยี นจะทาหรือไม่ เพราะเหตุใด - ถา้ ในประเทศเกดิ การรบั สินบนจนเปน็ เรอื่ งปกติ ประเทศชาตจิ ะเป็นอยา่ งไร ๒) นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ เร่ือง การทุจริต และการต่อตา้ นการทจุ ริต ๓) แบง่ กลุ่มนักเรียนตามความเหมาะสม ทากจิ กรรมกลุ่ม ใหน้ กั เรียนแสดงบทบาทสมมุตใิ นหวั ขอ้ “พฤติกรรมที่ตอ่ ต้านการทจุ ริต” ชั่วโมงท่ี ๒ ๔) นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นาเสนอบทบาทสมมตุ ิ และร่วมกนั สนทนาซกั ถามถึงผลดีทจ่ี ะเกิดขึน้ กบั ประเทศชาติ

- 96 - ๕) ครู และนักเรยี นร่วมกันสรุปความหมายของการทุจรติ และแนวทางการปฏิบตั ติ นได้ ๖) นักเรียนทาใบงาน แนวทางการปฏิบัตติ นเพ่ือต่อต้านการทจุ รติ เพือ่ เป็นการสรุปบทเรียน ๔.๒ สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งการเรียนรู้ ๑) วดี ที ัศน์ เร่อื ง รับสินบน ๒) ใบความรู้ เรือ่ งการทุจริต และการต่อตา้ นการทุจริต ๓) ใบกิจกรรมกลมุ่ แสดงบทบาทสมมตุ ิ ๔) ใบงาน เรื่อง แนวทางการปฏิบตั ิตนเพือ่ ต่อต้านการทุจริต ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน 1) การแสดงบทบาทสมมุติ 2) การตรวจใบงาน 4.6เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมิน 1) แบบประเมินกิจกรรมกลมุ่ (บทบาทสมมตุ ิ) 2) แบบประเมนิ ใบงาน ๕.๓ เกณฑ์การตัดสนิ 1) นกั เรยี นต้องผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดขี ึ้นไป ๖. บนั ทกึ หลงั สอน ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ...................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................. ................................................ ลงช่ือ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

- 97 - ใบความรู้ เร่ือง ต้านทุจรติ O (onward) บุคคลและหน่วยงานมแี นวคดิ มงุ่ พัฒนาหน่วยงานใหเ้ กิดความโปร่งใสและร่วมสรา้ งวฒั นธรรม ไมท่ นต่อการทจุ ริตใหเ้ กดิ ขึ้น และไมย่ อ่ ท้อต่อการแกไ้ ขปญั หาการทจุ ริตประพฤตมิ ชิ อบให้สาเรจ็ ลลุ ่วงไดต้ ามเป้าหมาย ทกี่ าหนดร่วมกัน ทุจริต มกี ารใหค้ วามหมายได้มากมาย หลากหลาย ขน้ึ อยู่กับว่าจะมกี ารใหค้ วามหมายดังกลา่ วไว้ว่าอยา่ งไร โดยท่คี าวา่ ทจุ ริตนั้น จะมกี ารให้ความหมายโดยหน่วยงานของรัฐ หรอื การใหค้ วามหมายโดยกฎหมายซึง่ ไมว่ า่ จะเป็นการ ใหค้ วามหมายจากแหลง่ ใด เนื้อหาสาคัญของคาว่าทุจรติ ก็ยังคงมคี วามหมายทส่ี อดคลอ้ งกันอยู่ นนั่ คอื การทจุ รติ เปน็ สิ่งที่ ไม่ดี มีการแสวหาหรอื เอาผลประโยชนข์ องส่วนรวม มาเปน็ ของสว่ นตัว ทงั้ ๆ ที่ตนเองไม่ไดม้ สี ทิ ธใิ นสิ่งๆ น้ัน การยดึ ถอื เอามาดังกลา่ วจงึ ถอื เปน็ ส่ิงทีผ่ ดิ ทงั้ ในแง่ของกฎหมายและศลี ธรรม ปัญหาการทจุ ริต เปน็ ปญั หาทส่ี าคญั ท้ังของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทวั่ โลก ปญั หาการทจุ รติ จะทาให้ เกิดความเสื่อมในดา้ นต่างๆ เกดิ ขนึ้ ทัง้ สังคม เศรษฐกจิ การเมือง และนบั วนั ปญั หาดังกลา่ วก็จะรนุ แรงมากขน้ึ และมี รปู แบบการทจุ ริตท่ีซบั ซ้อน ยากแก่การตรวจสอบมากขึ้น จากเดิมทกี่ ระทาเพียงสองฝ่าย ปัจจุบนั การทจุ ริตจะกระทากนั หลายฝา่ ย ทง้ั ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง เจา้ หน้าทข่ี องรฐั และเอกชน โดยประกอบด้วยสองสว่ นใหญๆ่ คอื ผใู้ ห้ ผลประโยชนก์ บั ผู้รบั ผลประโยชน์ ซง่ึ ทง้ั สองฝา่ ยน้จี ะมผี ลประโยชน์รว่ มกนั ตราบใดท่ีผลประโยชน์สมเหตุสมผลตอ่ กัน กจ็ ะนาไปส่ปู ัญหาการทุจริตได้ บางคร้ังผูท้ ร่ี บั ผลประโยชน์กเ็ ป็นผู้ให้ประโยชน์ไดเ้ ช่นกัน โดยผู้รับผลประโยชน์และผูใ้ ห้ ผลประโยชน์ คือ ๑. ผู้รบั ผลประโยชน์ จะเปน็ เจ้าหนา้ ท่ีของรฐั ซ่ึงมอี านาจ หนา้ ทใี่ นการกระทา การดาเนนิ การต่างๆ และ รับประโยชนจ์ ะเปน็ ไปในรปู แบบตา่ งๆ เชน่ การจัดซื้อจดั จ้าง การเรยี กรบั ประโยชน์โดยตรง การกาหนดระเบียบหรือ คุณสมบัตทิ ่ีเออื้ ตอ่ ตนเองและพวกพ้อง ๒. ผู้ใหผ้ ลประโยชน์ เชน่ ภาคเอกชน โดยการเสนอผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ เช่น เงิน สิทธิพิเศษอ่ืนๆ เพ่ือจูงใจให้นักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทาการหรือไม่กระทาการอย่างใดอย่างหนึ่งในตาแหน่งหน้าท่ี ซึ่งการ กระทาดังกล่าวเป็นการกระทาทฝ่ี ่าฝนื ตอ่ ระเบยี บหรอื ผิดกฎหมาย ทิศทางการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ ประเทศไทยได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาการทุจริตมาอย่างต่อเน่ือง โดยอาศัยความร่วมมือท้ัง หน่วยงานของรฐั หน่วยงานของเอกชน และภาคประชาชนในการรว่ มมอื ปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ รวมถึงไดม้ ี การออกกฎหมายลงโทษผู้ท่ีกระทาความผิดได้มีการกาหนดยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการ ทุจริต ซึ่งฉบับปัจจุบันเป็นฉบับท่ี ๓ มีกาหนดใช้ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ โดยมีวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศไทยใส สะอาด ไทยท้งั ชาติตา้ นทุจรติ (Zero Tolerance & Clean Thailand) และมีพันธกิจ คือ สรา้ งวฒั นธรรมตอ่ ต้านการ ทุจริต ยกระดับธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการทุกภาคส่วนแบบบูรณาการ และปฏิรูปกระบวนการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ รติ ทั้งระบบให้มีมาตรฐานสากล โดยมรี ายละเอยี ด ดังน้ี ยุทธศาสตรช์ าตวิ ่าดว้ ยการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ ระยะท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ยุทธศาสตรท์ ี่ ๑ : สร้างสังคมท่ไี มท่ นตอ่ การทจุ ริต ยุทธศาสตรท์ ่ี ๒ : ยกระดับเจตจานงทางการเมอื งในการต่อต้านการทุจริต ยุทธศาสตรท์ ่ี ๓ : สกดั กนั้ การทจุ รติ เชิงนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๔ : พฒั นาระบบป้องกนั การทจุ รติ เชิงรกุ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๕ : ปฏริ ูปกลไกและกระบวนการปราบปรามการทจุ ริต ยุทธศาสตร์ท่ี ๖ : ยกระดบั คะแในบนกดิจชั กนรกี รามรรับ(แรกู้สาดรงทบจุ รทติ บาทสมมุติ) เรือ่ ง “พฤติกรรมท่ตี ่อต้านการทจุ ริต”