Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 34นักการเมืองถิ่นนครปฐม

34นักการเมืองถิ่นนครปฐม

Description: เล่มที่34นักการเมืองถิ่นนครปฐม

Search

Read the Text Version

ชุดสำรวจเพอื่ ประมวลข้อมลู นักการเมืองถ่ิน เลม่ ท่ี 34 สถาบันพระปกเกล้า จังหวัดนนักกคารรเมปือฐงถมิ่น ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยส์ มเดช นิลพันธ ์ุ



นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม โดย ผูช้ ่วยศาสตราจารยส์ มเดช นิลพนั ธ์ ุ ข้อมูลทางบรรณานกุ รมของสำนักหอสมุดแหง่ ชาติ National Library of Thailand Cataloging in Publication Data สมเดช นิลพันธ.์ุ นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม- - กรุงเทพฯ : สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2556. 225 หน้า. 1. นักการเมือง - - นครปฐม. การเมืองการปกครอง l. ชื่อเรื่อง. 324.2092 ISBN : 978-974-449-715-4 รหสั ส่ิงพมิ พข์ องสถาบนั พระปกเกล้า สวพ.56-23-500.0 เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ 978-974-449-715-4 ราคา 205 บาท พิมพค์ รัง้ ที่ 1 สิงหาคม 2556 จำนวนพิมพ์ 500 เล่ม ลิขสทิ ธิ์ สถาบันพระปกเกล้า ที่ปรกึ ษา ศาสตราจารย์(พิเศษ)นรนิติ เศรษฐบุตร รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม รัฐอมฤต รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา หงษ์ไกรเลิศ รองศาสตราจารย์พรชัย เทพปัญญา ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผู้แต่ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมเดช นิลพันธุ์ ผูพ้ มิ พผ์ ูโ้ ฆษณา สถาบันพระปกเกล้า จัดพมิ พ์โดย สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 (โซนทิศใต้) เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 02-141-9607 โทรสาร 02-143-8177 http://www.kpi.ac.th พิมพท์ ่ี ส เจริญ การพิมพ์ 1510/10 ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800 โทรศัพท์ 02-913-2080 โทรสาร 02-913-2081 นางจรินพร เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา

นักการเมืองถ่ิน จังหวัดนครปฐม ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมเดช นิลพันธุ์ สถาบันพระปกเกล้า อภินันทนาการ

คำนำ เรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม เป็นการศึกษาวิจัย เพื่อทำความเข้าใจและสำรวจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ การเมืองจังหวัดนครปฐม อันเป็นการนำเสนอถึงกระบวนการ ทำงานของนักการเมืองซึ่งเป็นผู้อาสาเข้ามาทำงานรับใช้ ประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งและประเทศ ซึ่งพฤติกรรมของ นักการเมืองและการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่ถือเป็น ส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยที่สำคัญ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะผู้สนับสนุนทุนการวิจัย และขอขอบพระคุณกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งให้คำแนะนำอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน และขอขอบพระคุณนักการเมืองจังหวัดนครปฐม ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น และผู้ให้ข้อมูลทุกท่านอันนำมาสู่ความสำเร็จ ในการจัดทำการวิจัยชิ้นนี้

บทคัดย่อ งานวิจัย “นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม” มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษารวบรวมข้อมูลประวัติภูมิหลังเครือข่าย ความสัมพันธ์และรูปแบบการหาเสียงในการเลือกตั้งของ นักการเมืองในจังหวัดนครปฐมที่ได้รับการเลือกตั้งตั้งแต่ พ.ศ.2476 – 2554ในการศึกษาดังกล่าวอาศัยวิธีการวิจัยเชิง คุณภาพ โดยศึกษาจากเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและการ สัมภาษณ์นักการเมือง และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ในพื้นที่ โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ผลการศึกษาพบว่า 1) นักการเมืองจังหวัดนครปฐมที่ได้ รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดนครปฐมและ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐม โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอาชีพเป็นนักธุรกิจ เติบโตมาจากการเมืองระดับท้องถิ่น สมาชิกสภาจังหวัด หรือมีเครือข่ายที่เข้มแข็งในระดับท้องถิ่น เป็นเครือญาติหรือได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ พ.ศ. 2534 เป็นต้นมา โดยส่วนใหญ ่ ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเดิมที่ดำรง

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม ตำแหน่งมาแล้วหลายสมัย หรือมิฉะนั้นก็จำกัดอยู่เพียงใน กลุ่มเดิม 2) เครือข่ายความสัมพันธ์ผสมผสานทั้งเครือข่ายใน ลักษณะทั้งเครือญาติ เครือข่ายทางการเมือง และเครือข่ายอื่นๆ โดยเครือข่ายทางการเมืองในระดับท้องถิ่นเป็นปัจจัยที่สำคัญ ในการสร้างความเข้มแข็งและทำให้ประสบความสำเร็จในการ เลือกตั้ง 3) รูปแบบ วิธีการ และกลวิธีที่นักการเมืองจังหวัด นครปฐมเลือกใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง มีทั้งการหาเสียง ที่ถูกต้องและเปิดเผยซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเน้นการพบปะพูดคุย กับประชาชนโดยเข้าถึงบ้านหรือชุมชนเป็นหลัก และอาศัยการ ปราศรัยเวทีย่อย และเวทีงานประเพณีต่าง ๆ นอกเหนือจาก การใช้สื่อโดยทั่วไปได้แก่แผ่นป้าย เอกสารแผ่นพับ การใช้ รถตระเวนหาเสียง ยังมีการหาเสียงที่ไม่ถูกต้องและไม่เปิดเผย ได้แก่ การใช้เงินซื้อเสียง โดยผ่านผู้มีอิทธิพลหรือหัวคะแนน อาศัยระบบอุปถัมภ์ 4) พรรคการเมืองโดยส่วนใหญ่ไม่มีบทบาท มากนักในการคัดเลือกตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง มักขึ้นอยู่กับ สมาชิกพรรคที่มีบทบาทสำคัญต่อการรับผิดชอบพื้นที่จังหวัด นครปฐม เป็นผู้คัดเลือกตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรแบบแบ่งเขต VI

Abstract The objectives of the research entitled “Local Politicians in NakhonPathomThe objectives of the research entitled “Local Politicians in NakhonPathom Province” were to study backgrounds, relationships and election campaigns of the elected politicians in NakhonPathom from 1933 to 2011. The techniques employed in this qualitative research were examining relevant documents and interviewing local politicians and people involved in local politics using structured interview questions.

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม The results of the study revealed the following: 1) Most of the politicians elected as members of the House of Representatives and Senate were businessmen. They had local political backgrounds, and had been members of the Provincial Council. The elected politicians either personally had strong networks in the local communities, or were relatives of or were supported by some person who had a strong local network. Particularly, since 1991, most of the representatives have been elected several times or were members of a group that had repeatedly won election. 2) The relational networks included networks of relatives, political associates and other networks. The local political network was a crucial factor in ensuring success at elections. 3) The styles, methods and strategies used in election campaigns were both appropriately-disclosed and inappropriately undisclosed. The appropriately-disclosed campaign emphasized meeting people directly at home or in the community, giving speeches on local festival stages, using all media such as billboards, brochures, and loudspeaker vehicle campaigns. The inappropriately-undisclosed campaigns involved buying votes through canvassers and using a patronage system. VIII

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม 4) Most political parties did not play a significant role in selecting the candidates; mostly local members of the party in NakhonPathom province played the more significant role. IX

สารบัญ หนา้ คำนำ IV บทคดั ยอ่ V ABSTRACT VII บทท่ี 1 บทนำ 1 ความเป็นมา 1 วัตถุประสงค์ 2 ขอบเขตของการศึกษา 3 วิธีการศึกษา 4 ระยะเวลาที่ทำการศึกษา 5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5 บทท่ี 2 ทฤษฎีและงานวิจัยท่เี กยี่ วขอ้ ง 7 ข้อมูลทั่วไปจังหวัดนครปฐม 7 ประวัติความเป็นมา 8 สภาพทางภมู ิศาสตร์ 9 สัญลักษณ์ประจำจังหวัด 13 สถานที่ท่องเที่ยว 14 ประชากร 14 สภาพเศรษฐกิจ 14 สภาพสังคมและวัฒนธรรม 15

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม หน้า การบริหารราชการ 16 การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา 20 จังหวัดนครปฐม กระบวนการทางการเมือง 24 พระราชบัญญัติการเลือกตั้ง 25 รูปแบบการหาเสียงเลือกตั้ง 28 กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง 30 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 32 บทท่ี 3 รายงานผลการศกึ ษา 39 นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐมที่ได้รับการเลือกตั้ง 39 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐมที่ได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกวุฒิสภา 57 นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐมที่ได้รับการเลือกตั้ง 60 นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร 63 66 นายชาญชัย ปทุมารักษ์ 71 นายเชื่อม เรืองรอง 77 นายไชยยศ สะสมทรัพย์ 83 นายไชยา สะสมทรัพย์ 90 นายณรงค์ จิตติโภคา 92 นายประยงค์ โมกขพันธ์ 94 นายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ 96 นายปัญญวัฒน์ (ประสานต์) บุญมี 101 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ 105 นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า 109 นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ 111 นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว 115 นายสมชาติ พรรณพัฒน์ XI

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม หนา้ นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร 117 นายสราวุธ นิยมทรัพย์ 121 นายอนุชา สะสมทรัพย์ 127 บทท่ี 4 สรปุ ผลการศึกษา 131 สรุปภาพรวมการเมืองในจังหวัด 131 สรุปประเด็นสำคัญตามวัตถุประสงค์การวิจัย 133 บทบาทของนักการเมือง 133 พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง 135 รูปแบบ วิธีการ และกลวิธีในการหาเสียงเลือกตั้ง 136 เครือข่ายและความสัมพันธ์ของนักการเมือง 140 บทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์ 145 ที่มีส่วนสนับสนุนทางการเมืองแก่นักการเมืองในจังหวัด บทบาทและความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับ 146 นักการเมืองในจังหวัด อภิปรายผล 147 ข้อเสนอแนะ 152 บรรณานุกรม 153 ภาคผนวก 159 ภาคผนวก ก – แผนที่จังหวัดนครปฐม 160 ภาคผนวก ข – แบบสัมภาษณ์นักการเมืองและผู้เกี่ยวข้อง 161 ภาคผนวก ค – ผลการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฏรจงั หวดั นครปฐม 176 ภาคผนวก ง – ผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 185 เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 ภาคผนวก จ – สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดนครปฐม 146 ภาคผนวก ฉ – ผู้ให้สัมภาษณ์ 200 ประวตั ผิ ูว้ ิจัย 210 XII

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม สารบัญแผนภาพ หนา้ ภาพที่ 1 อาณาเขตจังหวัดนครปฐม 10 ภาพที่ 2 ตราประจำจังหวัดนครปฐม 13 ภาพที่ 3 สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดนครปฐม จากการเลือกตั้ง 22 สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ภาพที่ 4 สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐม จากการเลือกตั้ง 23 สมาชิกวุฒิสภาครั้งล่าสุด วันที่ 2 มีนาคม 2551 ภาพที่ 5 นายดาบเทียม ศรีพิสิษฐ์ ผู้แทนราษฏรคนแรก 40 ของจังหวัดนครปฐม ภาพที่ 6 พันเอกช่วง เชวงศักดิ์สงคราม ผู้แทนราษฏรจังหวัดนครปฐม 4 2 จากการเลือกตั้ง 5 สิงหาคม 2489 ภาพที่ 7 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม 48 จากเลือกตั้งครั้งที่ 12 พ.ศ. 2518 ภาพที่ 8 สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2543-2549 57 ภาพที่ 9 สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2549-2550 58 ภาพที่ 10 สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2551-ปัจจุบัน 59 ภาพที่ 11 นายเชื่อม เรืองรอง ขณะติดตามอดีตนายกรัฐมนตรี 75 มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ภาพที่ 12 หนังสือแต่งตั้ง นายเชื่อม เรืองรอง เป็นที่ปรึกษา 76 ภาพที่ 13 นายมารุต บุญมี บุตรชายนายปัญญวัฒน์ บุญมี 100 ภาพที่ 14 ครอบครัวสะสมทรัพย์ 141 ภาพที่ 15 ความสัมพันธ์เครือญาติ 142 ภาพที่ 16 แผนที่จังหวัดนครปฐม 160 XIII

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 1 หน่วยการปกครองในการบริหารราชการส่วนภมู ิภาค 17 ตารางที่ 2 หน่วยการปกครองในการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น 18 ตารางที่ 3 นักการเมืองจังหวัดนครปฐมที่ได้รับการเลือกตั้ง 60 (พ.ศ.2476-2554) XIV

บ1ทท ่ี บทนำ ความเป็นมา นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบ ประชาธิปไตยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 ประชาชนจะเลือกผู้แทนของตน เข้าไปทำหน้าที่กำหนดนโยบายสาธารณะแทนตนทั้งในระดับ ชาติและระดับท้องถิ่น ประเทศไทยได้ผ่านการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฏรทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 24 ครั้ง และ เลือกสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2543 ส่วนในระดับท้องถิ่นก็มีการเลือกตั้งตัวแทนเพื่อทำหน้าที่ใน องค์กรส่วนบริหารส่วนจังหวัดและตำบลเช่นกัน การศึกษาเรื่องการเมืองการปกครองของไทยในอดีต ที่ผ่านมามุ่งเน้นการศึกษาบทบาทนักการเมืองและพฤติกรรม

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม ทางการเมืองในระดับชาติเป็นส่วนใหญ่แต่การศึกษาเกี่ยวกับ การเมืองในแต่ละจังหวัด หรือ “การเมืองถิ่น” ที่เป็นการศึกษา เรื่องราวของการเมืองที่เกิดขึ้นในอาณาบริเวณจังหวัด ซึ่งเป็น หน่วยย่อย เป็นองค์ประกอบ และเป็นรากฐานที่สำคัญของ การเมืองในระดับชาติยังไม่มีผลงานวิจัยที่ศึกษาค้นคว้าหรือให้ ความสนใจกันมากนัก ดังนั้น หากได้มีการศึกษาแบบเชิงลึก ให้เห็นถึงภูมิหลังและเส้นทางทางการเมืองของนักการเมือง ท้องถิ่น จะเป็นข้อมูลสำคัญที่จะสามารถอธิบายปรากฏการณ์ ทางการเมืองไทยในปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีนักการเมืองท้องถิ่น จำนวนมาก รวมทั้งมีนักการเมืองท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้ง ให้เป็นนักการเมืองระดับชาติต่อเนื่องมาเป็นเวลานานหลาย สิบปี ทำให้ความสัมพันธ์ทางการเมืองของนักการเมืองทุกระดับ ในจังหวัดนครปฐม มีความเชื่อมโยงผูกพันกันอย่างเป็นระบบ จังหวัดนครปฐมจึงเป็นจังหวัดหนึ่งที่สมควรนำมาใช้ในการ ศึกษาถึงภูมิหลังและเส้นทางทางการเมืองของนักการเมือง ท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง วัตถุประสงค์ การศึกษานักการเมืองถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1. เพื่อศึกษารวบรวมข้อมูลประวัติภูมิหลังของ นักการเมืองในจังหวัดนครปฐมที่ได้รับการเลือกตั้ง ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

บทนำ 2. เพื่อศึกษาเครือข่ายความสัมพันธ์ของนักการเมือง ในจังหวัดนครปฐม 3. เพื่อศึกษาบทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่ม ผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการ 4. เพื่อศึกษาบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรค การเมืองกับนักการเมืองในจังหวัดนครปฐม 5. เพื่อศึกษารูปแบบการหาเสียงในการเลือกตั้งของ นักการเมืองในจังหวัดนครปฐม ขอบเขตของการศึกษา การศึกษานักการเมืองถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมี ขอบเขตการศึกษาดังนี้ 1. ระยะเวลาในการศึกษานับจากการเลือกตั้งทั่วไปใน ระดับชาติตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุด คือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2476 – 2554 2. ศึกษาในพื้นที่จังหวัดนครปฐม 3. กลุ่มประชากรที่ศึกษา นักการเมืองที่ได้รับการเลือก ตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดนครปฐมตั้ง แต่ พ.ศ. 2476 – 2554 และผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐมระหว่าง พ.ศ. 2543 – 2554 4. ขอบเขตด้านเนื้อหา

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม 4.1 ข้อมูลประวัติภูมิหลังของนักการเมืองในจังหวัด นครปฐม ไดแ้ ก่ ครอบครวั การศกึ ษา กลมุ่ เพอ่ื น อาชีพ เป็นต้น 4.2 เครือข่ายความสัมพันธ์ทางการเมืองของ นักการเมืองในจังหวัดนครปฐม ได้แก่ เครือข่าย ความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองที่ได้รับการ เลือกตั้งในจังหวัดนครปฐมกับนักการเมือง ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น สมาชิกสภา จังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิกองค์การ บริหารส่วนตำบล เป็นต้น 4.3 กลมุ่ ผลประโยชนใ์ นทอ้ งถน่ิ ไดแ้ ก่ กลมุ่ นกั ธรุ กจิ กลุ่มอาชีพ (เช่น กลุ่มเกษตรกร) กลุ่มประชา- สังคม (เช่น กลุ่มสตรี กลุ่มแม่บ้าน) เป็นต้น 4.4 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคการเมืองที่ส่ง สมาชิกพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฏรในจังหวัดนครปฐม วิธีการศึกษา การศึกษานักการเมืองถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครปฐมอาศัย วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดย 1. ศึกษาจากเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง 2. ศึกษาจากการสัมภาษณ์นักการเมือง และบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองในพื้นที่ โดยใช้แบบ สัมภาษณ์ แบบมีโครงสร้าง

บทนำ ทั้งนี้ จะใช้การตรวจสอบสามเส้าด้านวิธีรวบรวมข้อมูล (Methodological Triangulation)ในการตรวจสอบข้อมูลและยืนยัน ความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ได้รับโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก แหล่งเอกสารเพื่อรวบรวมข้อมูลโดยใช้การสังเกตควบคู่กับการ ซักถาม ระยะเวลาท่ีทำการศึกษา พฤศจิกายน 2552– สิงหาคม 2554 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษานักการเมืองถิ่น ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมมีดังต่อไปนี้ 1. เข้าใจถึงกลไกทางการเมืองในจังหวัดที่ทำการศึกษา ตั้งแต่มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน 2. ได้ทราบถึงนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งนับตั้งแต่ การเลอื กตง้ั ครง้ั แรกเปน็ ตน้ ปจั จยั และทม่ี าทส่ี นบั สนนุ ชัยชนะของนักการเมือง 3. ได้ทราบถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มผลประโยชน์และ กลุ่มที่ไม่เป็นทางการที่มีต่อการเมืองในจังหวัด นครปฐม 4. ได้ทราบถึงความสำคัญของพรรคการเมืองในการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม 5. ได้ทราบถึงรูปแบบ วิธีการ และกลวิธีต่างๆ ที่นัก การเมืองใช้ในการเลือกตั้ง 6. รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ “การเมืองถิ่น” และ “การเมืองท้องถิ่น” สำหรับเป็นองค์ความรู้ในการ ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทยต่อไป

บ2ทท ี่ ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง ข้อมูลท่ัวไปจังหวัดนครปฐม นครปฐม เป็นจังหวัดเล็กๆ ในภาคกลาง ตั้งอยู่ชานเมือง กรุงเทพมหานครระยะทางเพียงประมาณ 56 กิโลเมตรจาก กรุงเทพมหานครมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนาน เชื่อกันว่าเป็น ที่ตั้งของเมืองในสมัยทวารวดี โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีเป็นจำนวนมากเป็นเมืองแห่งปูชณียสถานเก่าแก่ ที่สำคัญ คือ “พระปฐมเจดีย์” ซึ่งเป็นร่องรอยของการเผยแพร่ อารยธรรมพุทธศาสนาจากอินเดียเข้ามาในประเทศไทย นครปฐมเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ด้วยผลไม้และอาหารขึ้นชื่อ หลายชนิด

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม ประวัติความเป็นมา เมืองนครปฐมเดิมนั้นตั้งอยู่ริมทะเล เคยเป็นเมืองเก่า แห่งหนึ่ง ซึ่งเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยทวารวดีเพราะเป็นราชธานี ที่สำคัญ มีหลักฐานเชื่อว่าศาสนาพุทธและอารยธรรมจาก ประเทศอินเดียเผยแพร่เข้ามาที่นครปฐมเป็นแหล่งแรก โดยสันนิษฐานจากองค์พระปฐมเจดีย์และซากโบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบที่จังหวัดนครปฐม นครปฐมจึงเป็นศูนย์กลางของความ เจริญ มีชนชาติต่าง ๆ อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นจำนวน มาก ต่อมาเกิดความแห้งแล้งขึ้นในเมืองนครปฐม เพราะกระแส น้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองเปลี่ยนเส้นทาง ประชาชนจึงอพยพไปตั้ง หลักแหล่งอยู่ริมน้ำ และสร้างเมืองใหม่ขึ้นชื่อว่า “นครชัยศรี” หรือ “ศิริชัย” นครปฐมจึงกลายเป็นเมืองร้างมาหลายร้อยปี จนกระทง่ั ในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว ขณะที่ยังทรงผนวชได้เสด็จธุดงค์ไปพบพระปฐมเจดีย์และทรง เห็นว่าเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ไม่มีที่ใดเทียบเท่าเมื่อพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ จึงโปรดเกล้าฯให้ก่อเจดีย์ แบบลังกาครอบเจดีย์องค์เดิม ทรงปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆ ใน บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ให้มีสภาพดี และโปรดเกล้าฯ ให้ขุด คลองเจดีย์บูชา เพื่อให้การคมนาคมสะดวกขึ้น ต่อมาในสมัย รัชกาลที่ 5 เริ่มมีทางรถไฟสายใต้ แต่ในขณะนั้น เมืองนครปฐม ยังเป็นป่ารก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรด เกล้าฯ ให้ย้ายเมืองจากตำบลท่านา อำเภอนครชัยศรี มาตั้งที่ บริเวณพระปฐมเจดีย์ดังที่เคยเป็นมาในสมัยโบราณ

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นที่ตำบลสนามจันทร์ เป็นที่ เสด็จแปรพระราชฐาน และโปรดเกล้าฯ ให้ตัดถนนเพิ่มขึ้นอีก หลายสาย ให้สร้างสะพานใหญ่ข้ามคลองเจดีย์บูชาขึ้นทรง พระราชทานนามว่า “สะพานเจริญศรัทธา” ต่อมา เปลี่ยนชื่อ เมือง “นครชัยศรี” เป็น “นครปฐม” แต่ชื่อมณฑลยังคงเรียก กันว่า “มณฑลนครชัยศรี” อยู่ จนกระทั่งยุบไปในสมัยพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปัจจุบัน นครชัยศรีมีฐานะเป็น อำเภอหนึ่งในจังหวัดนครปฐม(สำนักงานจังหวัดนครปฐม, ม.ป.ป., หน้า 1) สภาพทางภูมิศาสตร์ จังหวัดนครปฐม มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 2,168 ตาราง กิโลเมตร หรือ 1,355,204 ไร่ จัดว่าเป็นจังหวัดเล็กๆ เมื่อจัด ลำดับตามขนาดพื้นที่จัดเป็นลำดับที่ 65 ซึ่งจัดว่าอยู่ในลำดับ ท้ายๆ แบ่งออกเป็น 7 อำเภอ (วิกิพีเดีย, ม.ป.ป.) คือ 1. อำเภอเมืองนครปฐม 2. อำเภอกำแพงแสน 3. อำเภอนครชัยศรี 4. อำเภอดอนตมู 5. อำเภอบางเลน 6. อำเภอสามพราน 7. อำเภอพุทธมณฑล มีอาณาเขตแสดงดังภาพที่ 1

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม ภาพท่ี 1 อาณาเขตจังหวัดนครปฐม พื้นที่ทั่วไปของจังหวัดนครปฐมเป็นที่ราบลุ่ม ไม่มีภูเขา มีที่ดอนเฉพาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอเมืองและ อำเภอกำแพงแสนเท่านั้น ส่วนที่ราบลุ่มบริเวณลุ่มน้ำท่าจีน (แม่น้ำนครชัยศรี) ได้แก่ ท้องที่อำเภอนครชัยศรี อำเภอ สามพราน และอำเภอบางเลน เป็นที่อุดมสมบูรณ์ ประชาชน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม การทำสวน ทำไร่ และ สวนผลไม้ โดยเฉพาะการปลูกส้มโอ ซึ่งนำชื่อเสียงมาสู่จังหวัด นครปฐมจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองส้มโอหวาน(สำนักงานสรรพากร พื้นที่นครปฐม 1, 2549) จังหวัดนครปฐมมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดอื่น (สำนักงานจังหวัดนครปฐม, ม.ป.ป., หน้า 1-2) ดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี 10

ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอกระทุ่มแบน บ้านแพ้ว จังหวัด สมุทรสาครและอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอไทรน้อย ไทรใหญ่ บางกรวย จังหวัดนนทบุรี อำเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และเขตทวีวัฒนา หนองแขม จังหวัดกรุงเทพมหานคร ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอบ้านโป่ง โพธารามจังหวัด ราชบุรีและอำเภอท่ามะกา พนมทวน จังหวัด กาญจนบุรี จังหวัดนครปฐมตั้งอยู่บนที่ราบภาคกลางตอนล่างหรือ ที่ราบลุ่มบริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำท่าจีน และ แม่น้ำแม่กลอง พื้นดินค่อนข้างราบเรียบ มีความลาดเท ประมาณ 1 - 2องศา ระดับความสูงเฉลี่ยประมาณ 3 เมตรจาก ระดับน้ำทะเลปานกลางขณะน้ำทะเลขึ้นสูงสุดสามารถหนุนขึ้น มาตามแม่น้ำท่าจีนทำให้เกิดน้ำท่วมถึงบริเวณอำเภอสามพราน และอำเภอนครชัยศรี ภูมิประเทศของจังหวัดนครปฐมแบ่งออก ได้ 3 ลักษณะ(สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม, ม.ป.ป.) ได้แก่ 1) บริเวณที่ราบน้ำท่วมถึงจากอำเภอสามพราน อำเภอ นครชัยศรีไปจนถึงอำเภอบางเลนมีระดับความสูงจากระดับ น้ำทะเล 1 - 2 เมตร เป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญลักษณะที่ราบนี้ ปรากฏชัดในเขตอำเภอ บางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอ สามพรานและบริเวณตอนใต้ของอำเภอเมืองนครปฐม 11

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม 2) ลานตะพักน้ำชั้นต่ำ สงู จากระดับน้ำทะเล 2 - 5 เมตร เป็นพื้นที่แถบตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ในเขตอำเภอเมือง นครปฐม อำเภอนครชัยศรีและอำเภอสามพราน คิดเป็นพื้นที่ ประมาณ 40 %ของพื้นที่จังหวัด เป็นดินร่วนปนทรายบางแห่ง ดินตะกอนตกทับถมเป็นดอนสูงขึ้นมาประมาณ 5 เมตร ได้แก่ ดอนตมู และดอนพทุ ราในเขตอำเภอดอนตมู ตำบลดอนเสาเกยี ด และตำบลดอนยายหอม ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม เป็นต้น เป็นแหล่งปลูกข้าว ปลูกพืชไร่ ผักและผลไม้ต่างๆ 3) ลานตะพักน้ำชั้นกลาง สูงจากระดับน้ำทะเลปาน กลาง ระหว่าง 5 - 9 เมตรครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกของ อำเภอกำแพงแสนและทางตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอเมือง นครปฐม เป็นแหล่งปลูกพืชไร่สำคัญได้แก่ อ้อย และข้าวโพด ฝักอ่อน จังหวัดนครปฐมตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร มีเส้นทาง การคมนาคมที่ดี สะดวกสบายการเดินทาง จากกรุงเทพ- มหานครโดยทางรถยนต์ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษมจากวงเวียน ใหญ่ระยะทาง 56 กิโลเมตรหรือถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ระยะ ทาง 30 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีถนนมาลัยแมนที่เชื่อมกับ จังหวัดสุพรรณบุรี ระยะทาง102 กิโลเมตรนอกจากจากเส้นทาง รถยนต์แล้ว ยังมีเส้นทางเรือ และทางรถไฟสายใต้สร้างขึ้นเมื่อ ครั้งรัชกาลที่ 5 เชื่อมต่อจากทางรถไฟตลิ่งชัน ผ่านอำเภอ นครชัยศรี มายังสถานีนครปฐมจากนั้นจึงมุ่งไปสู่จังหวัดราชบุรี และภาคใต้ 12

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง สัญลักษณ์ประจำจังหวัด ตราประจำจังหวัดนครปฐมเป็นรูปองค์พระปฐมเจดีย์ มีมงกุฎอยู่ที่กลางองค์พระเจดีย์ดังภาพที่ 2 ภาพที่ 2 ตราประจำจังหวดั นครปฐม ตราประจำจังหวัดนครปฐม มีความหมายดังนี้ เจดีย์หมายถึงองค์พระปฐมเจดีย์ที่พระโสณะและ พระอุตระได้สร้างขึ้นแต่เติม แล้วจึงสร้างครอบให้ใหญ่ขึ้นเป็น องค์พระปฐมเจดีย์ดังที่พบเห็นในปัจจุบัน และมงกุฎ หมายถึง สัญลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรง อุปถัมภ์สร้างองค์พระปฐมเจดีย์ต่อเติมให้สูงใหญ่สง่างามตามที่ ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน (สำนักงานจังหวัดนครปฐม,ม.ป.ป.) จังหวัดนครปฐมมีคำขวัญว่า “ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลกู สาวงาม ขา้ วหลามหวานมนั สนามจนั ทรง์ ามลน้ พทุ ธมณฑล คู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า” ที่แสดงถึงผลิตภัณฑ์ สถานที่ 13

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดนครปฐม นอกจากนั้น ยังมีดอกไม้ประจำจังหวัดคือ “ดอกแก้ว” และ ต้นไม้ประจำจังหวัดคือ จัน (Diospyrosdecandralour) และอักษร ย่อของจังหวัดนครปฐม คือ “นฐ” สถานที่ท่องเท่ียว จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร จึงเป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยวและ พักผ่อน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิเช่น พระปฐมเจดีย์ พระราชวังสนามจันทร์ สวนสามพราน ฟาร์มจระเข้สามพราน พุทธมณฑล วัดไร่ขิง ตลาดน้ำดอนหวาย พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง เป็นต้น (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ม.ป.ป.) ประชากร จากข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (2553, หน้า 2) ณ วันที่ 31ธันวาคม พ.ศ.2553จังหวัดนครปฐม มีประชากร 860,246 คนชาย 413,065 คน หญิง 447,181 คน จัดเป็นอันดับที่ 26ของประเทศ และมีประชากรหนาแน่น 396.79 คนต่อตารางกิโลเมตร สภาพเศรษฐกิจ ประชากรในจังหวัดนครปฐมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ พืชเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ข้าว อ้อย ผลไม้ ผัก และไม้ดอกไม้ประดับ เป็นต้น ปศุสัตว์ที่นำ 14

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง รายได้หลักได้แก่ ไก่ เป็ด สุกร โคนม โคเนื้อ ส่วนการเพาะเลี้ยง สัตว์น้ำ ได้แก่ ปลา กุ้ง กบ และตะพาบน้ำ เป็นต้น แต่เมื่อ ความเจริญทางอุตสาหกรรมขยายตัวอย่างรวดเร็ว เกิดการ ขยายตัวของเขตเมือง พื้นที่ทำการเกษตรลดน้อยลง รายได้ ส่วนใหญ่จึงมาจากภาคอุตสาหกรรม รองลงมาจึงเป็นภาค เกษตรกรรม และภาคบริการ ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ โรงหีบอ้อย โรงสีข้าว โรงกลั่นสุรา อุตสาหกรรมผลิตอาหาร สำเร็จรูปและผลไม้กระป๋อง โรงงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป โรงงานกลั่นน้ำมันพืชโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ อู่ซ่อมและเคาะพ่นสีรถยนต์ เป็นต้น สภาพสังคมและวัฒนธรรม นครปฐมเป็นเมืองเก่าแก่ จึงมีประชาชนหลากหลาย เชื้อชาติที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินจนกลายมาเป็น ชาวจังหวัดนครปฐมปัจจุบัน ได้แก่ ชาวจีนที่อพยพมาจากจีน แผ่นดินใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 และ 3 ชาวไทยโซ่ง เดิมเรียกว่า ลาวโซ่งอพยพเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวมอญอพยพมา เนื่องจากเกิดสงครามกลางเมืองกับพม่า ชาวลาวที่เรียกว่า ลาวเวียงจันทร์ ชาวอินเดียที่มีชุมชนใหญ่อยู่ในบริเวณวัด ประชานาถ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดโคกแขก และชาวกัมพชู า ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธแต่ก็ยังสืบทอด ประเพณีความเชื่อดั้งเดิมของตนเองคนไทยเชื้อสายจีนจะมี ประเพณีไหว้เจ้าบรรพบุรุษ ก่อให้เกิดประเพณีตรุษจีน สารทจีน กินเจ คนไทยเชื้อสายลาวโซ่งจะมีประเพณีไหว้แถนหรือเทวดา 15

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม ไหว้ผีบรรพบุรุษหรือเช่นผีเรือน ประเพณีไหว้ศาลประจำหมู่บ้าน และประเพณีทำขวัญนอกจากนั้น ยังมีประเพณีแต่งงาน และ ทำศพที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละหมู่บ้านส่วนลาวครั่งจะมี ประเพณีแห่ธงสงกรานต์ การบริหารราชการ จังหวัดนครปฐมแบ่งส่วนการบริหารราชการออกเป็น 3 ส่วน (สำนักงานจังหวัดนครปฐม, ม.ป.ป., หน้า 4) ได้แก่ 1) หน่วยราชการบริหารส่วนกลางในจังหวัดมีจำนวน 66 หน่วยงาน เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทบวงกรมอื่นๆ 48 หน่วยงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 4 หน่วย งาน และหน่วยงานอิสระ 14 หน่วยงาน 2) หน่วยราชการบริหารส่วนภูมิภาคผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้รับผิดชอบจำนวน 26 หน่วยงานเป็นหน่วยงานในสังกัด กระทรวงทบวงกรมอื่นๆ 21 หน่วยงาน หน่วยงานในสังกัด กระทรวงมหาดไทย 5 หน่วยงาน หน่วยการปกครองแบ่งออก เป็น 7 อำเภอ 106 ตำบล 930 หมู่บ้าน ดังตารางที่ 1 16

ตารางที่ 1 หนว่ ยการปกครองในการบรหิ ารราชการส่วนภมู ภิ าค อำเภอ ปีทต่ี งั้ พื้นท ี่ ตำบล หมูบ่ า้ น รวม รอ้ ยละ 25 213 เมืองนครปฐม 2439 417.44 19.3 16 137 15 204 สามพราน 2439 249.35 11.5 24 107 15 179 กำแพงแสน 2449 405.02 18.4 8 69 3 18 นครชัยศรี 2452 284.3 13.1 106 930 บางเลน 2439 588.74 27.1 ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง ดอนตมู 17 2508 171.35 7.9 พุทธมณฑล 2539 52.3 2.4 รวม 2,168.33 (ที่มา เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครปฐม, 2553)

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม 3) หน่วยราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 3 แห่ง เทศบาลตำบล 15 แห่ง และองค์การ บริหารส่วนตำบล 97 แห่ง ดังตารางที่ 2 ตารางที่ 2 หนว่ ยการปกครองในการบรหิ ารราชการ ส่วนทอ้ งถิน่ อำเภอ จำนวน รายชื่อ เมืองนครปฐม เทศบาล 4 แห่ง เทศบาลเมืองนครปฐม เทศบาลเมือง โพรงมะเดื่อ เทศบาลตำบลธรรมศาลา เทศบาลตำบลดอนยายหอม อบต. 24 แห่ง ถนนขาด ดอนยายหอม ลำพยา สระกะเทียม สนามจันทร์ ธรรมศาลา ห้วยจรเข้ พระประโทน วังเย็น สวนป่าน หนองดินแดง ทุ่งน้อย วังตะกู บ่อพลับ สามควายเผือก หนองปากโลง บางแขม ตาก้อง มาบแค บ้านยาง โพรงมะเดื่อ หนองงูเหลือม ทัพหลวง บ้านใหม่ สามพราน เทศบาล 5 แห่ง เทศบาลเมืองสามพราน เทศบาล เมืองไร่ขิง เทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม เทศบาลตำบลบางระกำ เทศบาล ตำบลอ้อมใหญ่ อบต. 12 แห่ง คลองใหม่ หอมเกร็ด ยายชา ท่าข้าม ท่าตลาด บางช้าง ทรงคนอง คลองจินดา บางเตย สามพราน ตลาดจินดา บ้านใหม่ 18

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อำเภอ จำนวน รายชอ่ื กำแพงแสน นครชัยศรี เทศบาล 1 แห่ง เทศบาลตำบลกำแพงแสน บางเลน อบต. 15 แห่ง ทุ่งลกู นก ทุ่งกระพังโหม กระตีบ รางพิกุล ทุ่งขวาง ทุ่งบัว ห้วยม่วง ห้วยหมอนทอง สระพัฒนา วังน้ำเขียว ดอนข่อย ห้วยขวาง สระสี่มุม หนองกระทุ่ม กำแพงแสน เทศบาล 2 แห่ง เทศบาลตำบลนครชัยศรี เทศบาลตำบลห้วยพล ู อบต. 23 แห่ง นครชัยศรี ขุนแก้ว ศีรษะทอง บางแก้ว พะเนียด ดอนแฝด บางระกำ โคกพระเจดีย์ ท่าพระยา ท่าตำหนัก ลานตากฟ้า วัดละมุด สัมปทวน แหลมบัว วัดแค งิ้วราย ห้วยพลู บางพระ ไทยาวาส วัดสำโรง ท่ากระชับ บางแก้วฟ้า ศรีมหาโพธิ์ เทศบาล 4 แห่ง เทศบาลตำบลบางเลน เทศบาลตำบล ลำพญา เทศบาลตำบลรางกระทุ่ม เทศบาลตำบลบางหลวง อบต. 15 แห่ง บางไทรป่า ไผ่หชู ้าง บัวปากท่า ดอนตมู บางเลน นราภิรมย์ ไทรงาม บางภาษี หินมูล บางระกำ บางปลา บางหลวง ลำพญา นิลเพชร คลองนกกระทุง 19

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม อำเภอ จำนวน รายช่ือ ดอนตูม เทศบาล 1 แห่ง เทศบาลสามง่าม อบต. 6 แห่ง บ้านหลวง ห้วยพระ ดอนพุทรา ลำเหย ดอนรวก ห้วยด้วน พุทธมณฑล เทศบาล 2 แห่ง เทศบาลตำบลศาลายา เทศบาลตำบลคลองโยง อบต. 2 แห่ง ศาลายา มหาสวัสดิ์ (ที่มา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครปฐม, 2553) การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครปฐม การเลือกตั้งในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมอยู่ภายใต้ อำนาจหน้าที่ในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งของสำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม ที่ดำเนินการ จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ได้แก่ นายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล นายกองค์การบริหารส่วน ตำบล และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในการเลือกตั้ง ทั่วไป ปี 2554 จังหวัดนครปฐม มีราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 651,764 คน จากประชาชนทั้งหมด 860,246 คน แบ่งเขต เลือกตั้ง ออกเป็น 5 เขต 1,066 หน่วยเลือกตั้ง มีสมาชิกสภา ผู้แทนราษฏรได้เขตเลือกตั้งละ 1 คน เขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นพื้นที่ 20

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง เขตเลือกตั้งอำเภอเมืองนครปฐม ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 126,250 คน 206 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นพื้นที่เขตเลือกตั้งอำเภอ เมืองกำแพงแสน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 125,862 คน 227 หน่วย เลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 3 เป็นพื้นที่เขตเลือกตั้งอำเภอบางเลน ดอนตูม และพุทธมณฑล ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 132,889 คน 227 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 4 เป็นพื้นที่เขตเลือกตั้งอำเภอ นครชัยศรี ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 127,149 คน 200 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 5 เป็นพื้นที่เขตเลือกตั้งอำเภอสามพราน ผู้มีสิทธิ์ เลอื กตง้ั 139,612 คน 206 หนว่ ยเลอื กตง้ั (สำนกั งานคณะกรรมการ การเลือกตั้งจังหวัดนครปฐม, 2554) การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรครั้งล่าสุด เมื่อวัน ที่3กรกฎาคม 2554 (สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดนครปฐม, 2554) มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งคิดเป็นร้อยละ 77.84 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดแบบแบ่งเขต มีบัตรเสีย ร้อยละ 5.79 ไม่ประสงค์จะลงคะแนนร้อยละ 6.83 แบบบัญชี รายชื่อ มีบัตรเสียร้อยละ 4.35 ไม่ประสงค์จะลงคะแนนร้อยละ 4.61 ผลการเลือกตั้งได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรค ชาติไทยพัฒนา 1 คน คือ พันโทสินธพ แก้วพิจิตร ในเขต 1 และพรรคเพื่อไทย 4 คน ได้แก่นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ นาย อนุชา สะสมทรัพย์ นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ในเขตเลือกตั้งที่ 2, 3, 4 และ 5 ตามลำดับ ดังภาพที่ 3 และผลคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชื่อ ที่มีคะแนนสูงสุด 3 ลำดับ ได้แก่ พรรคเพื่อไทย 211,962 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ 181,275 คะแนนและพรรค รักประเทศไทย (26,256 คะแนน) ตามลำดับ ดังตารางผลการ 21

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม เลือกตั้ง ในภาคผนวก ค (สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดนครปฐม, 2554) และมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัด นครปฐมทไ่ี ดร้ บั การเลอื กตง้ั แบบบญั ชรี ายชอ่ื คอื นายปญั ญวฒั น์ บุญมี บัญชีรายชื่อลำดับที่ 22 จากพรรคประชาธิปัตย์ (คณะกรรมการการเลือกตั้ง,2554) ภาพที่ 3 สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฏรจงั หวดั นครปฐม จากการเลือกตั้งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฏร เมือ่ วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พันโทสินธพ แก้วพิจิตร เขต 1 รัฐกร เจนกิจณรงค์ เขต 2 ก่อเกียรติ สิริยะเสถียร เขต 3 อนุชา สะสมทรัพย์ เขต 4 22

ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง เผดิมชัย สะสมทรัพย์ เขต 4 ปัญญวัฒน์ บุญมี บัญชีรายชื่อ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 กำหนด ให้สมาชิกวุฒิสภามีที่มา 2 ทางคือ มาจากการเลือกตั้งจังหวัด ละ 1 คน จำนวน 76 คน และมาจากการสรรหาจำนวน 74 คน รวมทั้งสิ้น 150 คนในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 จังหวัดนครปฐม มีผู้สมัคร 8 ราย ผู้ที่ ได้การเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิก คือ นายสมชาติ พรรณพัฒน์ 142,274 คะแนน ทง้ิ หา่ งผสู้ มคั รรายอน่ื (สำนกั งานคณะกรรมการ การเลือกตั้งจังหวัดนครปฐม, 2551) ดังแสดงในภาคผนวก ง ภาพที่ 4 สมาชกิ วฒุ ิสภาจงั หวัดนครปฐม จากการเลอื กต้งั สมาชิกวุฒสิ ภาครั้งลา่ สดุ วนั ที่ 2 มีนาคม 2551 นายสมชาติ พรรณพัฒน์ 23

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม กระบวนการทางการเมือง ลิขิต ธีรเวคิน (2545) กล่าวถึงกระบวนการการเมือง แบบ 5 เอ็ม (5 M) ไว้ว่า M ตัวที่หนึ่งคือ Money หมายถึง การใช้เงินในการ ซื้อเสียงเพื่อแปรเปลี่ยนเงินให้เป็นอำนาจทางการเมือง การใช้ เงินซื้อเสียง ก็คือ การซื้อคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง หรือ พรรคการเมืองใช้วิธีซื้อตัว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาอยู่ใน พรรคเพื่อให้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคนั้น เพิ่มขึ้น M ตัวที่สอง Malfeasance ได้แก่ การฉ้อราษฎร์บังหลวง เช่น การขายตำแหน่งทางการเมือง ตำแหน่งดังกล่าวเป็นแหล่ง หาเงิน ผู้ที่ดำรงตำแหน่งต้องใช้ตำแหน่งในการถอนทุนคืนและ ค้ากำไร นอกจากนั้น การใช้งบประมาณแผ่นดินโดยเฉพาะเพื่อ การจัดซื้อจัดจ้าง ก็เป็นแหล่งที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ M ตัวที่สาม Machinery ได้แก่ โครงสร้างของอำนาจ ในการบริหาร ซึ่งสามารถควบคุมข้าราชการประจำซึ่งอยู่ใน หน่วยงานต่างๆ ของรัฐได้ โดยการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ประจำที่อยู่ในกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน และยังส่งผลถึง การได้เปรียบในการเลือกตั้ง M ตัวที่สี่ Misinformation ได้แก่ การให้ข่าวสารที่ไม่เป็น จริงเพื่อสร้างภาพที่ดีงามต่อผู้อยู่ในตำแหน่งบริหาร หรือให้ ข่าวสารที่ผิดๆ เพื่อชักจูงสาธารณชนให้หลงเชื่อในประเด็นที่ไม่ เป็นจริง 24

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง M ตวั ทห่ี า้ Manipulation คอื การใชก้ ลยทุ ธแ์ ละกศุ โลบาย เพื่อให้กระบวนการทางการเมืองเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการ บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ กระบวนการดังกล่าวรวมถึงการใช้เงิน การอาศัยกลไกของโครงสร้างอำนาจอันใช้ประโยชน์จาก ข่าวสาร ใช้กลเม็ดเด็ดพรายทางการเมือง รักษาสถานะทาง การเมืองของตนไว้ พระราชบัญญัติการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ ที่1) พุทธศักราช 2554 เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญไปจาก รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 โดย เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งจะประกอบ ด้วยสมาชิกจำนวน 500 คน โดยให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวน 375 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชี รายชื่อ จำนวน 125 คน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการ เลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงลง คะแนนเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้เขตละหนึ่งคน การเลือก ตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ พรรคการเมืองจัดทำขึ้นโดยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิออกเสียง ลงคะแนนเลือกบัญชีรายชื่อใดบัญชีรายชื่อหนึ่งเพียงบัญชีเดียว และให้ถือเขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้งโดยพรรคการเมืองจัดทำ บัญชีรายชื่อ พรรคการเมืองละหนึ่งบัญชีไม่เกินบัญชีละหนึ่ง ร้อยยี่สิบห้าคน ซึ่งประกอบด้วยรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งจาก 25

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม ภูมิภาคต่างๆ อย่างเป็นธรรมและต้องคำนึงถึงโอกาสสัดส่วนที่ เหมาะสมและความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรและการไดม้ าซง่ึ สมาชกิ วฒุ สิ ภา (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2554 บัญญัติขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2554 จึงมีเนื้อหาสาระสำคัญที่ แตกต่างจากกฎหมายการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาฉบับพุทธศักราช 2550 ดังต่อไปนี้ 1) การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต เลือกตั้งให้ผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนเลือกตั้งมากที่สุดในเขต เลือกตั้งนั้นเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งในกรณีที่มีผู้ได้รับคะแนน เลือกตั้งมากที่สุดเท่ากันหลายคนให้ใช้วิธีการจับสลากซึ่งต้อง กระทำต่อหน้าคณะกรรมการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งตาม วิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด 2) ยกเลิกการเลือกตั้งแบบสัดส่วนตามกลุ่มจังหวัด ที่กำหนดให้กลุ่มจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง จำนวน 8 กลุ่ม จังหวัด แต่ละกลุ่มจะมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ 10 คน เปลี่ยน เป็นการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อโดยพรรคการเมืองเสนอบัญชี รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี โดยจัดเรียงลำดับรายชื่อผู้สมัครตามลำดับหมายเลขจำนวน ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบห้าคน จากภูมิภาคต่างๆ ตามสัดส่วนที่ เหมาะสมและความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย ประชาชนเลือกจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด 26

ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง พรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคการเมืองเดียวและใช้เขตประเทศ เป็นเขตเลือกตั้ง 3) ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งด้วยใช้ หมายเลขเดียวกับหมายเลขของผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของ พรรคการเมืองที่ตนสังกัดเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครแบบ แบ่งเขตเลือกตั้งของพรรคการเมืองนั้นทุกเขตเลือกตั้งที่ส่งสมัคร ถ้าพรรคการเมืองใดมิได้ส่งสมัครแบบบัญชีรายชื่อแต่ส่ง ผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อผู้สมัครของพรรคการเมืองนั้น ยื่นใบสมัครในเขตเลือกตั้งใดให้ได้รับหมายเลขประจำตัว ผู้สมัครต่อจากหมายเลขสุดท้ายของหมายเลขแบบบัญชีรายชื่อ ตามวรรคหนึ่งและเมื่อมีการยื่นใบสมัครของผู้สมัครของ พรรคการเมืองอื่นที่ส่งสมัครเฉพาะแบบแบ่งเขตเลือกตั้งอีกให้ ได้รับหมายเลขเรียงลำดับถัดไปตามลำดับการสมัครก่อนหลัง แต่ถ้ามีผู้สมัครพร้อมกันหลายคนและไม่อาจตกลงกันได้ให้ใช้ วิธีจับสลากระหว่างผู้สมัครที่มาพร้อมกัน ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภายังคงเป็นไปตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 คือ ประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภา 2 ประเภท โดยการสรรหา และโดยการเลือกตั้ง ประเภทสรรหานั้น ให้องค์กรภาควิชาการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาชีพและภาคอื่น ที่เป็นนิติบุคคล เสนอชื่อผู้ที่สมควรได้รับการสรรหา โดยมีคณะกรรมการสรรหา ทำหน้าที่เลือกสมาชิกวุฒิสภา ประเภทที่มาจากการเลือกตั้งนั้น 27

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง 1จังหวัด มีสมาชิภวุฒิสภา ได้เพยี ง 1 คน ผ้มู สี ิทธิเลือกตัง้ 1คนลงคะแนนเสยี งได้ 1 คะแนน และผู้สมัครฯ สามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ รูปแบบการหาเสียงเลือกต้ัง รูปแบบการหาเสียงเลือกตั้ง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1) การหาเสียงเลือกตั้งอย่างเปิดเผยหรือเป็นทางการ (นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, 2553) เป็นการหาเสียงเลือกตั้งด้วย วิธีการที่เป็นไปตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ การสรรหาวุฒิสภา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองรวมทั้งประกาศของคณะกรรมการ การเลือกตั้งด้วยวิธีการ ได้แก่ 1.1) การแจกเอกสารแผ่นปลิวโฆษณาหาเสียง ในเขตชุมชน สถานที่ต่างๆ หรืองานพิธีการ ต่างๆ โดยเอกสารเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถมีรูปถ่ายหรือข้อความเกี่ยวกับตัว ผู้สมัคร 1.2) ใช้พาหนะในการตระเวนหาเสียงเลือกตั้งหรือ จัดสถานที่หรือเวทีเพื่อโฆษณาหาเสียง 1.3) การปราศรัยหาเสียงบนเวทีโดยใช้เครื่องขยาย เสียง 28

ทฤษฎีและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง 1.4) จัดทำแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดย มีชื่อ รูปถ่าย หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร รูปถ่ายที่เกี่ยวกับตัวผู้สมัคร 1.5) การโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งผ่านทางเว็บไซต์ จดหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ถึง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1.6) การพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนถึงบ้านหรือ ชุมชน 2) การหาเสียงเลือกตั้งอย่างไม่เปิดเผย (นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, 2553) การหาเสียงเลือกตั้งด้วยวิธีการที่มิได้เป็น ไปตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการสรรหา วุฒิสภา และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย พรรคการเมืองรวมทั้งข้อควรปฏิบัติในการหาเสียงเลือกตั้งที่ได้ ระบุไว้ประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้งได้แก่ 2.1) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัด เตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่น ใดอันอาจคำนวณเป็นเงินเช่น งานวันเกิด งานบวช งานโกนจุก งานแต่งงาน งานขึ้น บ้านใหม่งานบุญ งานเทศกาล งานขึ้นปีใหม่ หรืองานศพ เป็นต้น 2.2) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทาง อ้อมแก่ชุมชน สมาคมมูลนิธิ หรือสถาบันอื่นใด 29

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม หรือการช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ เป็นการเฉพาะ 2.3) โฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ รวมทั้งการแสดงและการ ละเล่นอื่นๆ 2.4) การจัดเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยง การประชุม อบรม สัมมนา ทัศนศึกษา หรือดงู าน เป็นต้น 2.5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จจูงใจให้เข้าใจผิดใน คะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด หรือใช้กลวิธีทำลายคู่แข่งขัน 2.6) รับเชิญไปออกรายการวิทยุโทรทัศน์หรือวิทยุ กระจายเสียงในช่วงที่มีประกาศพระราช- กฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจนถึงวันเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังมีวิธีการหาเสียงเลือกตั้งอย่างไม่เปิดเผย อีกมาก เช่น การแสวงหาและจัดตั้งหัวคะแนน การใช้อิทธิพล ทางราชการ การใช้กลวิธีการพนัน การใช้อิทธิพลข่มขู่ เป็นต้น กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ลิขิต ธีรเวคิน (2545) ให้ความหมายกลุ่มผลประโยชน์ ไว้ว่า เป็นการใช้สิทธิรวมตัวกันของประชาชนพลเมืองเป็นกลุ่ม องค์การ หรือสมาคมเพื่อปกป้องหรือเพิ่มพูนผลประโยชน์ต่างๆ ของตน ซึ่งมีเป็นจำนวนมากในประเทศตะวันตก เช่น สหพันธ์ 30

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กรรมกร สโมสรรถยนต์ สโมสรกีฬา และสมาคมผู้คุ้มครอง ผู้ผลิตหนังสือ องค์การเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมุ่งการให้บริการด้าน ต่างๆ แก่บรรดาสมาชิก และเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้อง การเมืองน้อยมาก องค์การดังกล่าวจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับ การเมืองก็ต่อเมื่อผลประโยชน์ของสมาชิกถูกคุกคาม ไม่ว่า จะจากการดำเนินงานของรัฐบาล หรือจากกลุ่มอื่นๆ กลุ่ม ผลประโยชน์จึงจำเป็นต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองบ้างเป็น ครั้งคราว โดยการดำเนินการผ่านตัวแทนกลุ่มในรูปแบบต่างๆ เป็นต้นว่า ประธานหรือเลขาของกลุ่มนั้นๆ อาจเขียนจดหมาย ไปถึงหนังสือพิมพ์หรือไปถึงกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง หรือ ไม่ก็สมาชิกรัฐสภาที่มีความผูกพันกับกลุ่มดังกล่าวอาจหยิบยก ประเด็นนั้นๆ ขึ้นมาอภิปรายในสภา หรือเจ้าหน้าที่ของกลุ่มอาจ สร้างความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวข้าราชการที่ตนต้องติดต่อ เจรจาด้วย กลุ่มผลประโยชน์หรือกลุ่มอิทธิพลนี้ ในปัจจุบันได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาชนิด ใหม่ และยังมีผู้แทนด้านการอาชีพ (functional representation) เกิดจากการที่กลุ่มต่างๆ ซึ่งมีความแตกต่าง กดดันรัฐบาลอย่าง ต่อเนื่องเพื่อที่จะให้รัฐบาลตอบสนองผลประโยชน์ของสมาชิกที่ อยู่ในกลุ่ม มีคำที่ใช้เรียกกลุ่มต่างๆ เป็นต้นว่า กลุ่มการเมือง (political group) กลุ่มจัดตั้ง (organized group) กลุ่มอิทธิพล (pressure group) และกลุ่มผลประโยชน์ ลิขิต ธีรเวคิน (2545) ได้แบ่งกลุ่มอิทธิพลออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มผลประโยชน์ กับกลุ่มส่งเสริมหรือ กลุ่มทัศนคติ(promotional or attitude group) กลุ่มผลประโยชน์ 31

นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครปฐม ได้แก่กลุ่มซึ่งสมาชิกมีทัศนคติร่วมกัน มีวัตถุประสงค์เหมือนกัน เช่น สมาชิกทุกคนของกลุ่มเป็นชาวไร่ชาวนา เป็นนักธุรกิจ หรือ เป็นกรรมกร ในขณะที่สมาชิกของกลุ่มทัศนคติหรือกลุ่มส่งเสริม ยึดถือค่านิยมบางประการร่วมกัน โดยที่สมาชิกแต่ละคนของ กลุ่มมีภูมิหลังทางด้านการอาชีพต่างกัน งานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง ณรงค์ บุญสวยขวัญ (2549, บทคัดย่อ) ศึกษาอัตลักษณ์ และเครือข่ายความสัมพันธ์ของนักการเมืองถิ่นนครศรีธรรมราช นี้ พบว่าช่วงแรกอาศัยเทคนิควิธีการหาเสียง ช่วงที่สอง ยุคสถาปนาพรรคประชาธิปัตย์เน้นการปราศรัยอภิปรายด้วย ลีลาดุดันกลายเป็นดาวสภาหางบประมาณลงสู่เขตต่อสู้กับลัทธิ และอิทธิพลเพื่อประชาธิปไตย ช่วงที่สามยุคการจรรโลง ประชาธิปไตยและยุคจรรโลงความเป็นประชาธิปัตย์ประชาชน เป็นผู้รับอุปถัมภ์จากผู้ให้อุปถัมภ์คือนักการเมืองที่ชนะเลือกตั้ง อัตลักษณ์ทางการเมืองของนักการเมืองถิ่นคือมีความรู้สูงหรือ มีการศึกษาค้นคว้าอยู่ตลอดมีความใกล้ชิดประชาชนอุปถัมภ์ ด้วยการสร้างโครงการพัฒนาทางกายภาพสร้างวาทกรรม ทางการเมืองความกล้าหาญที่ชี้นำประชาชนให้เห็นถึงความ ไมถ่ กู ตอ้ งความไมเ่ หมาะสมของราชการและค่ตู ่อสทู้ างการเมือง อย่างไม่เกรงกลัว เน้นกลวิธีการหาเสียงมากกว่าการเมืองเชิง นโยบายกระบวนการสร้างเครือข่ายการหาเสียง พรชัย เทพปัญญา (2549, บทคัดย่อ) ศึกษานักการเมือง ถิ่นในจังหวัดปทุมธานีพบว่านักการเมืองถิ่นส่วนใหญ่มีภูมิหลัง 32

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ทางการศึกษาที่ดีมีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่เอื้อ อำนวยต่อการเป็นนักการเมือง นักการเมืองถิ่นส่วนใหญ่อยู่ใน กลุ่มของตระกูลหาญสวัสดิ์นอกจากนั้นได้รับเลือกตั้งเพราะชื่อ เสียงของตนเอง ความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองถิ่นภายใน จังหวัดปทุมธานีมีน้อย กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจมีความ สัมพันธ์น้อยกับผู้แทนราษฎรและการรวมตัวของกลุ่มตระกูล หาญสวัสดิ์กับพรรคไทยรักไทยถือว่าการรวมกันระหว่างอิทธิพล ท้องถิ่นกับอิทธิพลระดับชาติ นิรันดร์ กุลฑานันท์ (2549, บทคัดย่อ) ศึกษาเรื่อง การเมืองถิ่นกรณีจังหวัดบุรีรัมย์มีวัตถุประสงค์เพื่อทำความรู้จัก นักการเมืองที่เคยได้รับการเลือกตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า นักการเมืองบุรีรัมย์มีความสัมพันธ์กันผ่านการทำธุรกิจ การ แบ่งปันผลประโยชน์งบประมาณพัฒนาที่ลงมาในพื้นที่เลือกตั้ง มีความสัมพันธ์เชิงเครือญาติบ้างและสัมพันธ์กับกลุ่ม ผลประโยชน์ต่างๆ วิธีการหาเสียงในการเลือกตั้งมีพัฒนาการ มาตั้งแต่การเคาะประตูบ้าน จัดมหรสพปราศรัยหาเสียง โปสเตอร์แผ่นป้ายโฆษณา แจกสิ่งของ อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า เงิน รูปแบบการจัดตั้งหัวคะแนนเริ่มจากง่ายๆ อาศัย ผู้นำท้องถิ่นมาเป็นการวางเครือข่ายคล้ายธุรกิจขายตรง มีสัดส่วนหัวคะแนนต่อผู้ใช้สิทธิเล็กลงใช้วิธีการหาเสียงโดยจัด ตั้งกองทุนให้กลุ่มชาวบ้านการอบรมและพาไปศึกษาดูงาน การจัดเลี้ยงการแจกเบี้ยเลี้ยงเป็นต้น ศรุดา สมพอง (2550, บทคัดย่อ) ได้สำรวจเพื่อประมวล ข้อมูลนักการเมืองถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรามีวัตถุประสงค์เพื่อ 33

นักการเมืองถ่ินจังหวัดนครปฐม ทำความเข้าใจบทบาทพฤติกรรมของนักการเมืองจังหวัด ฉะเชิงเทราพบว่า 1) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัด ฉะเชิงเทราตั้งแต่อดีตถึง พ.ศ. 2548 เป็นบุคคลในกลุ่มชนชั้นนำ ของจังหวัดมีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีเป็นที่รู้จัก ของคนในจังหวัด โดยมีปัจจัยที่สำคัญจากพื้นฐานทางด้าน อาชีพการรับราชการโดยเฉพาะการเป็นสมาชิกองค์การ ปกครองส่วนท้องถิ่นมาก่อน 2) ลักษณะทางการเมืองในจังหวัด ฉะเชิงเทราจะเป็นการสืบทอดอำนาจทางการเมืองโดยเฉพาะใน กลุ่มเครือญาติและการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มอิทธิพล ทางการเมืองซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 กลุ่มคือกลุ่มตระกูล ฉายแสงและกลุ่มตระกูลตันเจริญ 3) ประชาชนทั่วไปจะยึดที่ตัว บุคคล ไม่ได้ให้ความสำคัญในการสังกัดพรรคการเมืองมากนัก 4) วิธีที่ใช้ในการหาเสียงของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อาศัยการลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่การปราศรัยบนเวที การใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ การใช้รถขยายเสียงวิ่งตาม ท้องถนนแต่ที่สำคัญจะใช้วิธีการผ่านทางหัวคะแนนซึ่งจะเป็น ผู้ที่มีบารมีในพื้นที่ ในจังหวัดฉะเชิงเทราการสังกัดพรรคหรือการนำนโยบาย พรรคมาช่วยในการหาเสียงนั้นมีส่วนสำคัญน้อยมากในการที่จะ ทำให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเห็นได้จากการเลือกตั้งหลาย ครั้งที่จะมีการย้ายพรรคสังกัดของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรในจังหวัดฉะเชิงเทราผู้สมัครก็ยังคงเป็นกลุ่มบุคคลเดิมๆ จากการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มาการลงคะแนนเสียงของประชาชนใน จังหวัดฉะเชิงเทราโดยมากก็ยังเป็นการลงคะแนนเสียงโดยการ ยึดที่ตัวบุคคลเป็นหลัก (ศรุดา สมพอง, 2550, หน้า 77) 34

ทฤษฎีและงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ชัยวุฒิ มนตรีรักษ์ (2551, บทคัดย่อ)รวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดเลย ระหว่าง พ.ศ. 2476 ถึง พ.ศ. 2548 เพื่อศึกษา เครือข่ายทางการเมืองและความสัมพันธ์ของนักการเมืองกับ ประชาชนในแต่ละช่วงเวลาที่มีการเลือกตั้ง รูปแบบการหาเสียง วิธีการสร้างคะแนนนิยม บทบาทของกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่ม ที่ไม่เป็นทางการอื่นๆ ที่มีส่วนสนับสนุนนักการเมืองพบว่า เครือข่ายทางการเมืองที่ให้การสนับสนุนนักการเมืองและ ความสัมพันธ์กับนักการเมืองส่วนใหญ่เป็นความสัมพันธ์แบบ เครือญาติรูปแบบการหาเสียงและวิธีการสร้างคะแนนนิยมของ นักการเมืองถิ่นใช้วิธีการเดินหาเสียงกับประชาชนในหมู่บ้าน แจกใบปลิวโปสเตอร์หาเสียง ฉายภาพยนตร์ จัดเลี้ยงสุรา อาหาร แจกสิ่งของ ปราศรัยโดยชูนโยบายการพัฒนาพื้นที่ให้ เจริญและชูภาพลักษณ์หัวหน้าพรรคหรือหัวหน้ากลุ่มการเมือง มีการปล่อยข่าวลือโจมตีว่าร้ายคู่แข่งขันทางการเมือง มีการใช้ เงินซื้อเสียง จัดตั้งระบบเครือข่ายหัวคะแนนในพื้นที่ผู้สมัครรับ เลือกตั้งที่เป็นนักธุรกิจปราศรัยหาเสียงน้อยนักการเมืองจะอยู่ ในการควบคุมการช่วยเหลือของหัวหน้ากลุ่มการเมืองเพื่อสร้าง ความเข้มแข็งทางอำนาจการเมืองและรองรับการกระจาย ผลประโยชน์บทบาทของกลุ่มผลประโยชน์กับการเมืองเริ่มมี บทบาทและมีความสัมพันธ์กันนักการเมืองถิ่นอย่างเด่นชัด ในกลุ่มสัมปทานป่าไม้ กลุ่มค้าส่งค้าปลีกกลุ่มธุรกิจรับเหมา ก่อสร้าง และกลุ่มธุรกิจสัมปทานแร่ กลุ่มที่ไม่เป็นทางการที่มี บทบาทสำคัญในการช่วยเหลือนักการเมืองถิ่นได้แก่ กลุ่มอาสา สมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน กลุ่มสตรีเครือข่ายกำนัน 35