Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 47นักการเมืองถิ่นตราด

47นักการเมืองถิ่นตราด

Published by Meng Krub, 2021-06-07 12:42:44

Description: 47นักการเมืองถิ่นตราด

Search

Read the Text Version

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด 1.7 บุคลิกลักษณะนิสัยของนักการเมือง จะเห็นได้ว่า ส.ส. จังหวัดตราดเกือบทุกคนมีบุคลิก ลักษณะนิสัยคล้ายๆ กัน กล่าวคือ เป็นคนดี มีน้ำใจ เสียสละ และชอบช่วยเหลือ แต่ก็มีบางคนที่มีบุคลิกลักษณะนิสัย ที่แตกต่างไปจากคนอื่น คือเป็นคนที่มีใจนักเลง ถึงไหนถึงกัน กล้าได้กล้าเสีย และโผงผาง เช่น พ.อ. สาคร กิจวิริยะ ซึ่งเป็น คนที่ตรงไปตรงมา ชาวบ้านให้ความเคารพและยำเกรงมาก เมื่อเทียบกับ ส.ส. จังหวัดตราดคนอื่นๆ ส่วนนายธนิต ไตรวุฒิ ก็เช่นกัน เพียงแต่นายธนิตจะเป็นคนใจถึง ชอบช่วยเหลือ และ เสียสละมากจนถึงมากเกินไป จนบางครั้งช่วยจนแทบหมดตัว ก็มีถึงกับต้องตัดสินใจขายกิจการบางอย่างของตนเอง ส่วนบุคลิกนิสัยอีกประการของ ส.ส. จังหวัดตราด คือ เป็นคนที่เรียบง่าย เป็นกันเอง ไม่ถือเนื้อถือตัว ได้แก่ หลวงอรรถพรพิศาล (อัมพร สูตะบุตร) นายธนิต ไตรวุฒิ และ นายธีระ สลักเพชร ซึ่งจะว่าไปแล้วหลวงอรรถพรพิศาล มีศักดินาเป็นถึงหลวง แต่ท่านก็สามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุก ระดับ ไม่ถือเนื้อถือตัว อัธยาศัยดี และใจดีกับชาวบ้านอีกด้วย ส่วนนายธนิต และนายธีระ ก็เป็นคนง่ายๆ ไม่เย่อหยิ่งสามารถ เข้าถึงได้ง่ายทุกระดับ ไม่ว่ายากดีมีจน 2. อภิปรายผล จากการศึกษาวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในประเด็น เกี่ยวกับการเมืองและพรรคการเมือง การเลือกตั้ง ผู้นำและ ภาวะผู้นำ หลักธรรมาภิบาล และปัจจัยที่ทำให้ชนะการเลือกตั้ง 136

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ เพราะประเด็นเหล่านี้มีความสำคัญในด้านการสร้างความรู้ ความเข้าใจในประเด็นที่ทำการศึกษาแก่ผู้วิจัยได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องหลักธรรมาภิบาล และปัจจัยที่ทำให้ชนะการเลือกตั้ง เป็นประเด็นเพิ่มเติมหลังจากการสัมภาษณ์และวิเคราะห์ข้อมูล เพราะผู้วิจัยได้ค้นพบเพิ่มเติมจากการศึกษาวรรณกรรม ที่เกี่ยวข้องในช่วงแรก ซึ่งตามหลักของการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยควรศึกษาวรรณกรรมเพิ่มเติมเพื่อนำมาอภิปรายผล การวิจัย โดยสามารถแยกประเด็นอภิปรายตามวัตถุประสงค์ ในการศึกษาดังนี้ 2.1 วัตถุประสงค์ของการศึกษาข้อท่ี 1 เพ่ือสำรวจ นักการเมืองท่ีเคยได้รับการเลือกต้ังในจังหวัดตราด ผลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราดมีดังนี้ นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด และปัจจัยที่ทำให้ได้ รบั การเลือกตั้ง สำหรับประเด็นเกี่ยวกับนักการเมืองที่เคยได้รับการ เลือกตั้งในจังหวัดตราด ในขณะที่สัมภาษณ์ถึงความเป็นมาของ นักการเมืองถิ่น ลักษณะนิสัยของนักการเมืองแต่ละคน เพื่อนำ ข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้กับการเลือกตั้งในอนาคต และ ให้นักการเมืองได้เตรียมความพร้อมในการหาเสียงเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันประชาชนก็สามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ในการ ประกอบการตัดสินใจการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 137

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด นายเฉลา เตาลานนท์ ก่อนลงสมัคร ส.ส. จังหวัด ตราดได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีจังหวัดตราดอยู่ หลายสมัย ดังนั้นจึงเป็นที่รู้จักและเป็นที่เคารพของประชาชน รวมทั้งการที่เขาจบการศึกษาทางด้านกฎหมายและยังเป็น ทนายความอีกด้วย จึงทำให้นายเฉลาในสายตาของชาวบ้าน ดูเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งคนอื่นๆ ในสมัยนั้น แนวคิดนี้สอดคล้องกับทฤษฎีภาวะผู้นำเชิง คุณลักษณะดังที่ Stogdill (1974, pp. 72–91) กล่าวว่า ภาวะผู้นำ หมายถึงการมีบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับคุณลักษณะของ ผู้นำ โดยพิจารณาลักษณะทางกาย สติปัญญา บุคลิกภาพ ซึ่งสามารถจำแนกออกเป็น 6 ลักษณะ ดังนี้ (1) คุณลักษณะ ทางรา่ งกาย (เชน่ อายุ สว่ นสงู นำ้ หนกั และรปู รา่ ง แตค่ วามคดิ น้ี ไม่สามารถใช้ได้กับสังคมยุคปัจจุบัน) (2) ภูมิหลังทางสังคม (เช่น การศึกษา สถานภาพทางสังคม) (3) สติปัญญาและ ความสามารถ (เช่น สติปัญญา ความเด็ดขาด ความรู้) (4) บุคลิกภาพ (เช่น ความสามารถในการปรับตัว), (5) คุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับงาน (เช่น ความรับผิดชอบ ความคิดริเริ่ม) และ (6) คุณลักษณะทางสังคม (เช่น ความ สามารถในการบริหารจัดการ การให้ความร่วมมือกับผู้อื่น จากผลการศึกษาพบว่า นักการเมืองที่มีการศึกษาสูง อย่างเดียวใช่ว่าจะซื้อใจประชาชนได้ หากไม่นำความรู้และ สติปัญญาที่มีมาประยุกต์ใช้กับภาระงานที่ตนอาสารับผิดชอบ ในการบริหารบ้านเมือง โดยใช้ความเป็นภาวะผู้นำมาปรับให้ ประชาชนสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้ง เอาไว้ ทั้งในด้านการแก้ปัญหาสังคมหรือการพัฒนาชุมชน 138

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับงานวิจัยเรื่องนักการเมืองถิ่น ในหลายๆ จังหวัด เช่น พรชัย เทพปัญญา และพงษ์ยุทธ สีฟ้า (2548) ได้ศึกษาเพื่อประมวลนักการเมืองถิ่นจังหวัด สมุทรปราการ พรชัย เทพปัญญา (2549) ได้ศึกษาเพื่อประมวล นักการเมืองถิ่นจังหวัดปทุมธานี พรชัย เทพปัญญา (2552) ศึกษานักการเมืองถิ่นจังหวัดชลบุรี และ ศรุดา สมพอง (2550) ได้ศึกษานักการเมืองถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา ผลที่ได้พ้องกัน คือ นักการเมืองถิ่นส่วนใหญ่จะมาจากตระกูลที่มีฐานะความเป็น อยู่ดี และมีการศึกษาสูง มีประสบการณ์การทำงานที่ดี หรือเคย เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาก่อน หลวงอรรถพรพิศาล (อัมพร สูตะบุตร) เป็นบุคคล ที่ได้รับความเคารพนับถือจากชาวบ้าน อีกทั้งยังมีอัธยาศัยดี ไม่ถือตัว จึงทำให้เป็นที่นิยมชื่นชอบของชาวบ้าน จนทำให้ ชาวบ้านเทคะแนนเสียงให้ ซึ่งบุคลิกลักษณะนี้สอดคล้องกับ แนวคิดของ Rokeach อย่างเห็นได้ชัดในเรื่องความนิยมใน ตัวบุคคล ดังที่ Rokeach (1973) นักจิตวิทยาผู้มีชื่อเสียงได้กล่าว ถึงค่านิยมว่า เป็นความเชื่อที่มีอิทธิพลต่อการแสดงออกของ แต่ละคน เช่น การมีค่านิยมที่แตกต่างส่งผลให้การแสดงออก แตกต่างกันด้วย ดังนั้นค่านิยมจึงมีอิทธิพลต่อทัศนคติ การรับรู้ ความต้องการ และการชักจงู ของแต่ละคน นายประชุม รัตนเพียร เป็นนักการเมืองที่มีพื้นฐาน ทางการเมืองที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับนักการเมืองคนอื่นๆ เช่น การได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนฝูงที่อยู่ในแวดวงการเมือง และญาติสนิทมิตรสหายจากหลายๆ แห่งในจังหวัดตราด 139

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด รวมถึงการเป็นคนที่มีนิสัยนอบน้อม สุภาพ มีไมตรีจิตที่ดีซึ่งเป็น ลักษณะอันพึงประสงค์ของคนไทยส่วนใหญ่อยู่แล้ว ดังที่ เพ็ญแข วัจนสุนทร (2523) ได้กล่าวถึงลักษณะนิสัยของคนไทย ไว้ว่า คนไทยโดยส่วนใหญ่นิยมความสุภาพอ่อนโยน มีความ เมตตากรุณาและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ซึ่งคล้ายๆ กับ ของแนวคิดของจันทิมา เอียมานนท์ (2539, น. 309) ที่ได้กล่าว ไว้ว่า “ค่านิยมของคนไทยยกย่องนักการเมืองที่มีมารยาทดี มีสัมมาคารวะ และมีความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน” เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร เป็นบุคคลที่เชื่อมั่นและ ยึดถือในสัจจะและอุดมการณ์อย่างแรงกล้า จากสิ่งที่ปรากฏ จะเห็นได้ว่าเรืออากาศตรีฉลาด วรฉัตร ได้พยายามทำทุก วิถีทาง เพื่อให้อุดมการณ์ที่เขาใฝ่ฝันไว้เป็นจริง ซึ่งอุดมการณ์ สอดคล้องกับความหมายในพจนานุกรม Collier,s Dictionary (2006) ว่า อุดมการณ์ คือการผสมผสานกันของความเชื่อ (Beliefs) เจตคติ (Attitudes) และความคิดหลัก (Concepts) ซึ่งมี อิทธิพลต่อการกำหนดแนวความคิดของแต่ละคน โดยเฉพาะ กับกลุ่มบุคคลที่เป็นสมาชิกของสังคมเดียวกัน หรือกลุ่ม เดียวกัน เช่น คนที่สังกัดพรรคการเมืองเดียวกัน จะยึด อุดมการณ์แนวคิดเหมือนหรือคล้ายกัน ดังที่ ติน ปรัชญพฤทธิ์ (2548, น. 379) กล่าวว่า อุดมการณ์ คือคตินิยม รูปแบบ ความ เป็นไปได้ หรือวิธีการคิดของกลุ่มคนที่มีความคงทนยาวนาน มากกว่าคตินิยม นายธนิต ไตรวุฒิ เป็นนักการเมืองที่มีน้ำใจไมตรี ชอบช่วยเหลือคน เสียสละ และไม่ถือตัว ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ ประเด็นหนึ่งที่ประชาชนชาวจังหวัดตราด ได้ให้ความไว้วางใจ 140

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในการปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นตัวแทนของตน ซึ่งสนับสนุน แนวคิดของณัฐนรี ศรีทอง (2552) ในด้านความสามารถในการ ปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเองเพื่อให้ผู้ตามและเพื่อนร่วมงาน เกิดความรักและศรัทธา พร้อมที่จะปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจ อย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะนายธนิต ได้ย้าย ถิ่นฐานมาจากจังหวัดอื่นเพื่อทำธุรกิจในจังหวัดตราด ฉะนั้น เขาจะต้องปรับตัวอย่างมากจากการเป็นนักธุรกิจ มาเป็น ตัวแทนประชาชนในด้านการเมือง และตนเองก็ไม่ใช่คนพื้นเพ จังหวัดตราดโดยกำเนิดอีกด้วย นายบรรลุ สุทธิวารี เป็นนักการเมืองที่กล้าพูด กล้าทำ และเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน โดยให้ความช่วยเหลือประชาชน ในด้านการพัฒนาชุมชน เช่น แหล่งน้ำ ไฟฟ้า และด้านอื่นๆ ที่จำเป็นเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งผลการศึกษา นี้สอดคล้องกับคุณลักษณะของผู้นำที่ให้ความหมายไว้โดย บุญทัน ดอกไธสง (2535) ที่กล่าวว่า ผู้นำต้องเป็นคนที่มีศิลปะ และมีอิทธิพลต่อกลุ่มชนและคอยช่วยเลือกให้กลุ่มชน ปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายขององค์การหรือหน่วยงาน จาก การศึกษาพบว่า นายบรรลุพยายามพัฒนาสาธารณูปโภค ที่จำเป็นต่อการพัฒนาอาชีพ เช่น แหล่งน้ำ ไฟฟ้า และกองทุน หมู่บ้านเพื่อเป็นผู้นำชาวบ้านในการพัฒนาชุมชน ในขณะที่ ณัฐนรี ศรีทอง (2552) กล่าวว่า ผู้นำต้องเป็นบุคคลที่ถกู คัดเลือก เข้ามา และมีความสามารถในการจูงใจผู้ตามให้ประสบความ สำเร็จด้วยความสมัครใจ ผลการศึกษาพบว่า นายบรรล ุ ได้ช่วยเหลือชาวบ้านให้ประสบความสำเร็จในด้านอาชีพอยู่ ตลอดเวลา ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. จังหวัดตราด และ 141

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ในปัจจุบันนี้นายบรรลุก็ยังรับใช้ประชาชนชาวจังหวัดตราด ในฐานะที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเช่นเคย นายธีระ สลักเพชร จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า เป็น คนที่มีความจริงใจ จริงจัง มุ่งมั่นพัฒนา บริสุทธิ์ยุติธรรม และ สร้างเครือข่ายการเมืองภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทัน เกมการเมืองของระดับจังหวัด และระดับประเทศ กล่าวคือเพื่อ ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจการเมือง เพื่อก่อให้เกิดชุมชน เข้มแข็งแบบยั่งยืน ซึ่งคล้ายคลึงกับแนวคิดของ Donnely, Gibson, and Ivancevich (1987) ว่าผู้นำคือผู้ที่สามารถโน้มน้าว ให้คนอื่นทำงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ และแนวคิดของ McFarland (1979) กวี วงศ์พุฒ (2542) และณัฐนรี ศรีทอง (2552) ที่กล่าวว่า ผู้นำเป็นคนที่สามารถชักจูงให้ผู้ตามทำงานสำเร็จ ตามความต้องการ 2.2 จุดประสงค์ของการศึกษาข้อท่ี 2 เพ่ือศึกษาเครือข่าย และความสัมพันธ์ของนักการเมืองในจังหวัดตราด และ ข้อท่ี 3 เพื่อศึกษาบทบาทและความสัมพันธ์ของกลุ่ม ผลประโยชน์และกลุ่มที่ไม่เป็นทางการ เช่น ครอบครัว วงศาคณาญาติ ฯลฯ ท่ีมีส่วนในการสนับสนุนทางการเมือง แก่นักการเมืองในจังหวัดตราด จุดประสงค์ข้อที่ 2 และ 3 ศึกษาถึงเครือข่ายความ สัมพันธ์ของนักการเมือง และบทบาทความ สัมพันธ์ของกลุ่ม ผลประโยชน์ที่ไม่เป็นทางการที่สนับสนุนนักการเมือง ผู้วิจัย เห็นว่าจุดประสงค์ของการวิจัยทั้ง 2 เป็นประเด็นนี้เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นผู้วิจัยจึงอภิปรายผลร่วมกัน 142

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า กลุ่มนักการเมือง ท้องถิ่นยังทรงอิทธิพลต่อการหาเสียงเลือกตั้ง เช่น นายก- เทศมนตรี สจ. สมาชิก อบต. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะว่า บุคคลเหล่านี้มีความใกล้ชิดกับประชาชน และยังเป็นที่นับหน้า ถือตาของประชาชนอยู่ ซึ่งบางคนสามารถโน้มน้าวให้ประชาชน กระทำการใดๆ เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม ซึ่งสอดคล้องกับ แนวความคิดของ Stogdill (1974) ที่กล่าวว่า ภูมิหลัง (Social background) เชน่ การศกึ ษา สถานภาพทางสงั คม ซง่ึ เปน็ 1 ใน 6 ประเด็นของทฤษฎีภาวะผู้นำเชิงคุณลักษณะ (Trait theories) อีกสาเหตุที่ทำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือสมาชิกอบต. ยังทรง อิทธิพลหรือมีบทบาทสูงในชุมชน เช่น การเป็นกรรมการวัด กรรมการโรงเรียน และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการประสานงาน เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านเมื่อมีงานมงคลพิธีต่างๆ เช่น งานบวช งานมงคลสมรส งานขึ้นบ้านใหม่ หรือ งานอวมงคล เช่น งานศพ หรือแม้กระทั่งเมื่อลูกบ้านไปมีเรื่องมีราวมา คนที่ ชาวบ้านหวังพึ่งได้ก็คงหนีไม่พ้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สมาชิก อบจ. อบต. ดังนั้นชาวบ้านจึงให้ความเคารพนับถือ มาก ดังนั้นหากนักการเมืองสามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ ก็เหมือน กับได้ใจคนในชุมชนไปเกือบครึ่งแล้ว นี่คือสาเหตุที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สมาชิก อบจ. อบต. มีอิทธิพลในการช่วย หาเสียงเลือกตั้ง ฐานเสียงที่ให้การสนับสนุนนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหัวคะแนน และกลุ่มประชาชน 143

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด กลุ่มหัวคะแนน เป็นกลุ่มเครือข่ายที่มีความสำคัญมาก เพราะหัวคะแนนที่นักการเมืองขอความร่วมมือในการช่วย หาเสียง ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สมาชิก อบจ. อบต. ที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกระดับเพราะเคยมีประสบการณ์ ในการหาเสียงมาก่อน ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวมีผลต่อชาวบ้าน ในชุมชนไม่มากก็น้อย เพราะว่าบุคคลเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น คนกลางที่นำประโยชน์จากส่วนกลางมาสู่ชุมชน เพื่อดำเนินการ แก้ปัญหาหรือพัฒนาชุมชน ดังนั้นการที่นักการเมืองสามารถ เข้าถึงคนเหล่านั้นเพื่อขอความช่วยเหลือในการหาเสียง ก็นับว่า เป็นการเข้าถูกที่ถูกทาง อีกประการหนึ่งคือ นักการเมืองท้องถิ่น เข้าใจถึงความต้องการของชาวบ้าน และชาวบ้านส่วนมากก็ให้ ความเคารพผู้นำเหล่านี้ ดังนั้นการที่นักการเมืองท้องถิ่นจะขอ อะไรจากชาวบา้ นกไ็ มใ่ ช่เรื่องทเ่ี หนือบา่ กวา่ แรง ซึ่งผลการศึกษา ได้สนับสนุนงานวิจัยนักการเมืองถิ่นของ พรชัย เทพปัญญา (2552) และนพรัตน์ วงศ์วิทยาพาณิชย์ (2555) ที่ได้ค้นพบว่า การที่นักการเมืองจะเข้ามาแข่งขันได้จะต้องมีการประสาน เชื่อมโยงผลประโยชน์ระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งหน่วยงาน ราชการและหน่วยงานข้าราชการการเมือง เช่น จังหวัด อำเภอ หอการค้าจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สมาชิก อบจ. อบต. เป็นต้น และสนับสนุนงานวิจัยของ ศรุดา สมพอง (2550) ที่กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ สมาชิก อบจ. อบต. หรือ ผู้นำชุมชนต่างๆ เป็นฐานเสียงที่มีบารมีให้แก่นักการเมือง เป็นอย่างดี ถ้านักการเมืองสามารถเข้าถึงและกระจายผลประโยชน์ ให้แก่ชุมชนที่แท้จริง เช่น การของบประมาณจากส่วนกลางหรือ 144

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ รัฐบาลเพื่อนำมาสร้างงานให้แก่ชุมชน ซึ่งเป็นวิธีเดียวกันกับ นายบรรลุ สุทธิวารี ที่ได้ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาความ ต้องการที่แท้จริงของประชาชนในชุมชน และได้ของบประมาณ เพื่อมาพัฒนาแหล่งน้ำสำหรับใช้ในระบบชลประทาน เพราะ นายบรรลุได้คำนึงถึงหลักความเป็นจริงว่า ประชาชนชาวตราด โดยส่วนใหญ่แล้วยึดอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก และ ส.ส. บางคน ได้ของบประมาณเพื่อสร้างโรงเรียน เช่น นายประชุม รัตนเพียร ได้สร้างโรงเรียนไว้หลายแห่งทั้งในจังหวัดตราด ในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ผลงานเหล่านี้มีประโยชน์มหาศาลถ้ามองโดย ผู้ที่มีวิสัยทัศน์ หรือมองในระยะยาว เพราะจะช่วยให้ประชาชน มีความรู้ มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะจังหวัดตราด ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีสวนยางพารา มีสวนผลไม้ ซึ่งเป็นแหล่งเศรษฐกิจของประเทศ ถ้านักการเมือง ทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือนักการเมืองถิ่น ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาจังหวัดให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แล้วอำนาจทางการเมืองก็ไม่น่าจะหนีไปไหนได้ และสุดท้าย กลุ่มผลประโยชน์ หรือแม้กระทั่งครอบครัว หรือกลุ่มเครือญาติ ก็จะให้การสนับสนุนต่อไป และนักการเมืองก็ใช้ผลงานที่ตนได้ สร้างขึ้นมาเป็นเครื่องมือในการต่อรองก็ทำให้เครือข่ายเติบโต ขึ้นก็จะทำให้มีฐานเสียงที่ครอบคลุมได้ทั่วทั้งจังหวัด กลุ่มประชาชน ประชาชนก็จะให้การสนับสนุน นักการเมืองเองเมื่อมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นนักการเมือง ก็ควรหาวิถีทางหรือแนวทางในการเข้าถึงประชาชน โดยอาจจะ เชิญวิทยากรหรือผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความรู้ในด้านการประกอบ อาชีพแก่ประชาชน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ชาวบ้านกำลังทำอยู่ 145

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด แต่เพื่อเพิ่มศักยภาพโดยพัฒนาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อาจทำการ ศึกษาวิจัยจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในจังหวัดว่าใช้กลยุทธ์ใด บ้าง เช่น เจ้าของน้ำมันเหลือง หรือวิธีการพัฒนาปรับปรุง คุณภาพของยางพารา เป็นต้น ดังนั้นถ้านักการเมืองสามารถ ทำได้ดังตัวอย่างก็จะทำให้ชนะใจประชาชนได้ตลอดกาล ซึ่งการกระทำนี้คล้ายๆ กับวิธีการของนายธีระ สลักเพชร ที่ใช้ วิธี “การเมืองภาคประชาชน หรือประชาธิปัตย์ชุมชน” ซึ่ง นายธีระต้องการให้ประชาชนรู้เท่าทันการเมือง โดยใช้ผู้นำใน การถ่ายทอด ความรู้ด้านการเมืองแก่ประชาชน ซึ่งผู้นำ ดงั กลา่ วไดม้ าจากการเลอื กตง้ั ขน้ึ เองในชมุ ชน และมงี บสนบั สนนุ บ้างซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีของระบอบประชาธิปไตย 2.3 วัตถุประสงค์ของการศึกษาข้อท่ี 4 เพื่อศึกษาบทบาท และความสัมพันธ์ของพรรคการเมืองกับนักการเมืองใน จังหวัดตราด สำหรับเรื่องบทบาทและความสัมพันธ์ของพรรค การเมืองและนักการเมืองนั้น พรรคการเมืองในจังหวัดตราด เริ่มปรากฏใน พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา จากการศึกษาทั้งการ สัมภาษณ์และจากเอกสารพบว่า บทบาทและความสัมพันธ์ของ พรรคการเมือง และนักการเมืองไม่ปรากฏชัดเจนมากในสมัย แรกๆ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าพรรคการเมืองมีหน้าที่คัดสรร ตัวแทนเพื่อลงสมัครรับการเลือกตั้ง แต่มิได้ให้การสนับสนุนการ เลือกตั้งมากนักเมื่อเทียบกับสมัยปัจจุบัน และอีกประการหนึ่ง คือประชาชนในยุคนั้นยังขาดความรู้ในเรื่องการเมือง การปกครอง เพราะการเข้าถึงสื่อต่างๆ มีความยากลำบาก ประชาชนจึงขาดความสนใจเรื่องพรรคการเมือง 146

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ พรรคการเมืองที่มีบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด ในจังหวัดตราด คือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายธีระได้รับการ คัดเลือกให้เป็นรองเลขาธิการพรรค เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา ผลจากการสัมภาษณ์พบว่า อุดมการณ์ ท า ง ก า ร เ ม ื อ ง ข อ ง น า ย ธ ี ร ะ ม ี ค ว า ม ส อ ด ค ล ้ อ ง ก ั บ พ ร ร ค ประชาธิปัตย์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะในประเด็นการ “สร้าง เครือข่ายชุมชนท้องถิ่นเพื่อร่วมกับพรรคแก้ปัญหาในพื้นที่ เช่น ปัญหาสินค้าเกษตร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาสิ่งแวดล้อม” เป็นต้น นายธีระในฐานะที่เป็นรองเลขาธิการพรรค ได้คิด กระบวนการ “ประชาธิปัตย์ชุมชน” ซึ่งสอดคล้องกับแนว นโยบายพรรคในกระบวนการหาเสียงโดยการเข้าถึงประชาชน ทุกหย่อมหญ้า โดยพยายามที่จะรักษาฐานเสียงเดิมไว้ใน ภาคใต้ บางส่วนของภาคตะวันออกและภาคกลาง และเพิ่ม ฐานเสียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยใช้กลยุทธ์คล้ายๆ กับประชาธิปัตย์ชุมชนที่ใช้ในจังหวัดตราด ซึ่งนายธีระได้ ตอบสนองนโยบายพรรคได้เป็นอย่างดีในการรักษาฐานเสียงใน จังหวัดตราดไว้ และได้พยายามเพิ่มฐานเสียงในจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยองได้ดีพอสมควร 2.4 จุดประสงค์ของการศึกษาข้อที่ 5 เพ่ือศึกษาถึงวิธีการ หาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองในจังหวัดตราด สำหรับจุดประสงค์ข้อที่ 5 จะอภิปราย 2 ประเด็น คือ กลวิธีในการหาเสียง และปัจจัยที่ทำให้ได้รับการเลือกตั้ง 2.4.1 กลวิธีในการหาเสียง ในส่วนของกลวิธีในการ หาเสียง หรือกระบวนการในการหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการลง 147

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด พื้นที่พบปะประชาชนโดยการเคาะประตูบ้านหรือเยี่ยมบ้าน การปราศรัย การใช้หัวคะแนน การเดินเข้าไปฝากเนื้อฝากตัว หรือการใช้โปสเตอร์แนะนำตัวผู้สมัครและพรรคการเมือง ล้วนเป็นการนำเสนอวิสัยทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร ์ ของพรรคการเมืองในแต่ละพรรค ซึ่งสอดรับกับสำนักงาน คณะกรรมการเลือกตั้ง (2551) ที่ให้ความหมายของ พรรคการเมืองว่า เป็นการนำความต้องการของประชาชนมา แปลงเป็นนโยบาย และดำเนินการตามนโยบายเพื่อประโยชน์ ของประเทศชาติและประชาชน ด้วยเหตุนี้นโยบายของ พรรคการเมืองบางพรรคจึงสามารถเอาชนะใจประชาชนได้ หลังจากได้รับการเลือกตั้งแล้วก็ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ เคยให้ไว้แก่ประชาชนในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งและสามารถ ซื้อใจประชาชนได้ ส่วนในประเด็นการเลือกตั้งและการหาเสียงเลือกตั้ง นั้น นายธีระยังใช้กลยุทธ์โดยให้ประชาชนฝึกการมีส่วนร่วม ในการเลือกตั้งอย่างจริงจังโดยให้ประชาชนในชุมชน เลือกตั้ง ประธาน รองประธาน และตำแหน่งอื่นๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้ ด้านการเมืองให้แก่สมาชิกในสังคม ที่เรียกว่าการเมืองภาค ประชาชน ซึ่งแนวคิดนี้คล้ายกับแนวคิดของ เอกวิทย์ มณีธร (2552) ที่กล่าวว่า การเลือกตั้งแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของ ประชาชน โดยประชาชนมักจะเลือกพรรคการเมืองที่มี อุดมการณ์และนโยบายที่ตรงกับความต้องการของตนมาเพื่อ บริหารประเทศ ซึ่งแนวคิดของนายธีระสามารถซื้อใจประชาชน ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เขาได้เป็น ส.ส. ติดกันถึง 6 สมัยตั้งแต่ นำกลยุทธ์การเมืองภาคประชาชนมาใช้ในการให้ความรู้ทาง 148

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ด้านการเมืองแก่ประชาชนชาวจังหวัดตราด ในด้านการเลือกตั้งนั้นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สามารถใช้เงินในกระบวนการเลือกตั้งได้มากกว่าสมัยปัจจุบัน เพราะในสมัยก่อนกฎหมายควบคุมการใช้จ่ายเงินในการ หาเสียงเลือกตั้งไม่เข้มข้นเมื่อเทียบกับสมัยปัจจุบัน จึงทำให้ ผู้สมัครบางคนใช้งบประมาณส่วนตัวในการหาเสียง จากการ สังเกตเหตุการณ์ในอดีตของผู้วิจัยเอง ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง แต่ละครั้ง ผู้สมัครจะช่วยพัฒนาชุมชนกันอย่างจริงจัง เช่น นำรถมาเกรดถนน และนำดินลูกรังมาถมถนน (สมัยก่อนถนน ในชนบทโดยส่วนใหญ่จะเป็นถนนลูกรัง) ผู้สมัครบางคนสร้าง โบสถ์ให้แก่วัดในชุมชน (เทปูนเป็นฐานไว้ในเบื้องต้น) แต่บาง คนก็ดำเนินการจนเสร็จทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ของ การเลือกตั้ง และผู้สมัครสมัยก่อนสามารถเปิดเผยชื่อได้ว่า ตนกำลังดำเนินการก่อสร้างหรือพัฒนาสิ่งต่างๆ ให้แก่สังคม อีกด้วย ดังนั้นหัวคะแนนจึงเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถช่วย ผสู้ มคั รใหไ้ ดร้ บั ชยั ชนะในการเลอื กตง้ั สว่ นในสมยั นเ้ี ปน็ ยคุ โลกา- ภิวัตน์ ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ในทันทีทันใด ดังนั้นเมื่อมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นประชาชนสามารถรับรู้ได้ทันที ดังนั้นในการหาเสียงในยุคปัจจุบัน นักการเมืองจะต้องสามารถ อธิบาย หรืออภิปรายให้ชาวบ้านเข้าใจได้อย่างกระจ่างเกี่ยวกับ เหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถปิดบัง อำพราง หรือซ่อนเร้นความจริงต่อประชาชนได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ นักการเมืองจึงสามารถให้ข้อมูลหรือความรู้แก่ประชาชนได้โดย ทันที ดังที่นายธีระ สลักเพชร ส.ส. จังหวัดตราดคนปัจจุบัน ได้ ใช้กลยุทธ์ “การเมืองภาคประชาชน หรือ ประชาธิปัตย์ชุมชน” 149

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด 2.4.2 ปัจจัยท่ีทำให้ได้รับการเลือกต้ัง ในประเด็น ความเป็นภาวะผู้นำของนายธีระ สลักเพชร ที่ค้นพบมีความ คล้ายคลึงกับแนวคิดของ Jacob (1970) ว่าการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลโดยฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่ง เกิดความเชื่อมั่น และปฏิบัติงานจนบรรลุตามเป้าหมาย ที่ต้องการ Yukl (1998) สามารถโน้มน้าวให้คนปฏิบัติตามคำสั่ง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งจากผลการสัมภาษณ์พบว่า นายธีระได้ใช้หลักจิตวิทยาในการโน้มน้าวประชาชนให้รู้เท่าทัน นักการเมือง เป็นคนที่มีความสามารถปลูกฝังให้ผู้ตามเกิดความ จงรักภักดี และปฏิบัติตามอย่างเต็มความสามารถ (ณัฐนร ี ศรีทอง, 2552) ในประเด็นการเมืองและพรรคการเมืองช่วยให ้ ผู้วิจัยเข้าใจถึงพฤติกรรมของนักการเมือง ประเด็นการเลือกตั้ง ช่วยให้ผู้วิจัยเข้าใจถึงกลวิธีในการหาเสียงของนักการเมือง จาก ผลการศึกษาพบว่าคุณลักษณะของการเป็นผู้นำ (Leader) และ ความมีภาวะผู้นำ (Leadership) มีความสำคัญต่อความสำเร็จ ของอาชีพนักการเมืองแต่ละคน เพราะนักการเมืองแต่ละคน ต่างก็มีความเป็นผู้นำ หรือภาวะผู้นำที่แตกต่างกันออกไป แล้วแต่ความเชื่อ ความชำนาญ หรือความเชี่ยวชาญของแต่ละ คน รวมไปถึงวิธีการประพฤติตนที่ทำให้ผู้อื่นคิดว่าตัวเขาเองนั้น เหมาะสมที่จะเป็นนักการเมือง ส่วนประเด็นหลักธรรมาภิบาล นั้นช่วยให้ผู้วิจัยสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมนักการเมืองได้ว่า นักการเมืองใช้กลยุทธ์ใดในการเดินเกมการเมือง ส่วนประเด็น สุดท้ายปัจจัยที่ทำให้ชนะการเลือกตั้งช่วยให้ผู้วิจัยวิเคราะห์ บุคลิกลักษณะนิสัยของนักการเมืองแต่ละคน ผู้วิจัยจะอภิปราย 150

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ผลการศึกษาในสิ่งที่ค้นพบตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยแต่จะ ไม่เรียงตามข้อโดยใช้เอกสารที่เกี่ยวข้องที่ได้ศึกษาในบทที่ 2 ดังต่อไปนี้ การที่ประชาชนชาวจังหวัดตราดให้ความ ไว้วางใจเลือก ส.ส. เพื่อไปเป็นปากเป็นเสียงแทนตนนั้น พวกเขามีหลักในการพิจารณาหลายๆ ด้านด้วยกัน ซึ่งหนึ่ง ในนั้นก็คือ ประเด็นด้านการศึกษาและการพัฒนา กล่าวคือ นักการเมืองจังหวัดตราด ไม่ว่าจะเป็นเวทีระดับท้องถิ่นหรือ ระดับประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ชนะการเลือกตั้งจะมีการ ศึกษาค่อนข้างสูง ซึ่ง ส.ส. บางคนผ่านเวทีการเมืองระดับ ท้องถิ่นมาก่อนและบางคนรับราชการมาเป็นเวลานานพอ สมควร ประกอบกับการเป็นคนดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเข้ากับชาวบ้านได้ง่าย โดยนักการเมืองเหล่านี้มีความตั้งใจ ที่จะนำความรู้ความสามารถมาพัฒนาบ้านเกิดของตน ซึ่ง สอดคล้องกับแนวคิดด้านการเมืองของพฤทธิสาณ ชุมพล (2548) และ Tansey (1995) ในด้านการจัดสรรสิ่งที่มีคุณค่าต่อ สังคมโดยมีอำนาจรองรับ ซึ่งอำนาจที่กล่าวถึง หมายถึงอำนาจ ทางการเมืองที่ประชาชนได้มอบให้นักการเมืองได้ปฏิบัติหน้าที่ แทนตน ซึ่งนักการเมืองจังหวัดตราดได้จัดสรรสิ่งที่มีคุณค่าให้ แก่ประชาชนในจังหวัด เช่น ด้านการศึกษา ด้านสาธารณูปโภค การพัฒนาด้านอาชีพของประชาชน เป็นต้น ดังที่สุขุม นวลสกุล (2527) Lasswell (1936) และเอกวิทย์ มณธี ร (2552) ได้กลา่ วไวว้ า่ การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจที่มีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ได้แก่การพัฒนาสังคมให้เจริญไปในทางที่ดีขึ้น 151

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ในส่วนของหลักธรรมาภิบาลเป็นอีกประเด็นที่มี ส่วนช่วยสร้างชื่อเสียงในด้านความเป็นธรรมให้แก่นักการเมือง ถ้านักการเมืองคนนั้นๆ สามารถปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ ดังที่นายธีระ สลักเพชร ก่อนที่ที่จะเป็น ส.ส. ผูกขาดของ จังหวัดตราด ซึ่งชนะการเลือกตั้งถึง 6 สมัยติดกัน เคยสอบตก ถึง 2 สมัยติดต่อกัน แต่ด้วยนายธีระเป็นคนที่ไม่เคยย่อท้อต่อ ปัญหา ลงพื้นที่หาเสียงโดยยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นรูปแบบ ช่วยในการหาเสียง ที่เรียกว่า “การเมืองภาคประชาชน หรือ ประชาธิปัตย์ชุมชน” โดยใช้หลักคุณธรรม (Ethic) และหลักการ มีส่วนร่วม (Public participation) ของ สำนักงาน ก.พ. สถาบัน พัฒนาข้าราชการพลเรือน (2545) และ อรพินท์ สพโชคชัย (2540) เป็นหลักในการสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเองและประชาชน โดยนายธีระมีความเชื่อว่าประชาชนชาวจังหวัดตราดฉลาดและ รู้เท่าทันเกมการเมือง นายธีระจึงมอบหมายให้ประชาชนใน กลุ่มประชาธิปัตย์ชุมชนเลือกหัวหน้า หรือตัวแทนกันเอง เช่น ตำแหน่งประธาน รองประธาน ซึ่งบุคคลที่ได้รับการคัดเลือก ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำชุมชน เช่น กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน แต่ ประชาชนในชุมชนเลือกกันเองเพื่อเป็นผู้นำในด้านการเมือง ภาคประชาชน โดยยึดหลักคุณธรรม และการมีส่วนร่วมในการ รับรู้ข้อมูลข่าวสาร และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมือง ในระดับจังหวัด และในระดับประเทศในลำดับต่อไป การโฆษณาทางการเมืองก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มี ความสำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่น เพราะจะช่วยให้ประชาชนได้รู้จัก ตัวผู้สมัครมากขึ้น และการโฆษณาสามารถทำได้หลายวิธี ตัวอย่างเช่น หลวงอรรถพรพิศาล (อัมพร สูตะบุตร) มีกลวิธี 152

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ หาเสียงโดยการฉายหนังกลางแปลง และเอาลอดช่องใส่โอ่งไว้ บริการประชาชนซึ่งเป็นการจูงใจให้ประชาชนชื่นชอบในสิ่งที่ หยิบยื่นให้ เพื่อให้ประชาชนประทับใจและลงคะแนนเสียง ให้ตน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ ม.ล. วิฏราธร จิรประวัติ (2552) และสุวัฒนา วงษ์กะพันธ์ (2548) ที่กล่าวว่า การโฆษณา เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อจงู ใจ ให้คนซื้อสินค้าและบริการ ส.ส. จังหวัดตราดโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่โจมต ี คู่แข่ง ในทางกลับกันจะนำเสนอข้อมูลในแง่บวกของตนเอง เช่น หลวงอรรถพรพิศาลที่เอาเงินมาช่วยคนจน ช่วยเหลือประชน และเอาใจประชาชนโดยการจ้างหนังกลางแปลงมาฉายให้ดู พร้อมมีของกินอีกด้วย นายประชุม รัตนเพียรนำเสนอข้อมูล ด้านบวกให้แก่ตนเองโดยการชี้ให้ชาวบ้านได้เห็นว่าตนเป็นผู้นำ งบประมาณมาสร้างโรงพยาบาลและโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัด ตราด และจังหวัดอื่นๆ เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร กล่าวถึง ข้อมูลในแง่บวกของตนเองว่า ตนต้องการเห็นเมืองไทยเป็น ประชาธิปไตยเต็มใบจึงขอฝากเนื้อฝากตัวกับประชาชนให ้ เลือกตน นายธนิต ไตรวุฒิ มีสโลแกนในด้านบวกว่า “ความ ใจบุญ ชอบช่วยเหลือ มีน้ำใจดี ไม่ถือตัว และสามารถจำชื่อ บุคคลต่างๆ ได้เป็นอย่างดี” ส่วนนายบรรลุ สุทธิวารี เป็นคน ที่รักบ้านเกิด ต้องการที่จะพัฒนาบ้านเกิดตนเองให้เจริญ ทัดเทียมจังหวัดอื่น จึงขอคะแนนเสียงจากประชาชน เพื่อขอ โอกาสพัฒนาบ้านเกิด และนายธีระ สลักเพชร ใช้กลยุทธ์ “ประชาธิปัตย์ชุมชน” เพื่อสร้างการเมืองภาคประชาชน ให้ ประชาชนรู้เท่าทันการเมือง โดยตนและทางพรรคจะคอยดูแล อยู่ห่างๆ และสนับสนุนทางด้านงบประมาณโดยใช้สัดส่วนขอ 153

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด งบ ส.ส. ของแต่ละจังหวัดของแต่ละปีงบประมาณอยู่แล้ว ซึ่ง แนวคิดดังกล่าวนี้สอดคล้องกับแนวคิดข้อ 1 ของ Trent and Friedenberg (1995) ซึ่งกล่าวไว้ว่า การโฆษณาเพื่อการนำเสนอ หรือให้ข้อมูลด้านบวกของผู้สมัคร ซึ่งเป็นการกล่าวถึงจุดแข็ง ของผู้สมัครเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ที่มีสิทธ ิ ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งการโฆษณาทางการเมืองยังหมายถึง การบอก กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเด็นต่าง ไม่ว่าจะ เป็นด้านพรรคการเมือง หรือนักการเมืองทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ซึ่งการที่นักการเมืองนำข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดย นำเสนอบนพื้นฐานของความเป็นจริง อาจส่งผลดีเพราะจะ ทำให้ชาวบ้านทราบข้อเท็จจริงว่าใครเป็นอย่างไร ซึ่งชาวบ้าน จะได้ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจโดยเฉพาะในช่วง การหาเสียงเลือกตั้ง ดังที่นายธีระ สลักเพชร ใช้กลยุทธ์ “ประชาธิปัตย์ชุมชน” เป็นการให้ความรู้ด้านการเมืองแก่ ประชาชน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้โอกาสประชาชนได้ศึกษา เรียนรู้เองและนำข้อมูลมาแบ่งปันกับประชาชนในชุมชน และเพื่อสร้างจิตสำนึกทางการเมืองแก่ประชาชนอีกด้วย ซึ่ง สอดคล้องกับแนวคิดของ รสชงพร โกมลเสวิน (2552) ที่กล่าวว่า การโฆษณาเป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างเครือข่ายทางการเมือง ดังนั้นการโฆษณาทางการเมืองอาจส่งผลให้ประชาชนมี จิตสำนึกทางการเมืองมากขึ้นอีกด้วย นักการเมืองจังหวัดตราดใช้หลากหลายวิธีในการ โฆษณา ตั้งแต่การเดินบุกป่าฝ่าดงไปเคาะประตูบ้าน 154

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ป้ายโฆษณา การปราศรัยในเวทีต่างๆ การใช้หัวคะแนน จนถึง ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข่าวและความเคลื่อนไหวผ่านสื่อต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ วิทยุ ซึ่งคล้ายกับแนวคิดของ พนม คลี่ฉายา (2553) ที่กล่าวว่า การเดินพบปะประชาชน การปราศรัย การใช้หัวคะแนน การเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ และวิทยุ เป็นวิธีที่ควรพิจารณาเลือก ใช้ในการหาเสียง และ สรียา ทับทัน (2548) ได้นำเสนอข้อคิด เกี่ยวกับป้ายโฆษณาว่า ในพื้นที่ที่จำกัด ผู้สมัครควรนำเสนอ นโยบายของพรรคการเมืองและแนะนำตัวผู้สมัคร และข้อความ ที่อ่านแล้วง่ายต่อจดจำ ส่วนสีและรูปภาพควรจะสะดุดตา เหมาะสมกับเนื้อหาและรปู ภาพและยุคสมัยด้วย ซึ่งเท่าที่สังเกต ป้ายโฆษณาหาเสียงของจังหวัดตราดถือว่ามีความเหมาะสม ทั้งเนื้อหา สี และรูปภาพ 3. ข้อเสนอแนะและการนำไปประยุกต์ใช้ หลังจากจบสิ้นกระบวนการวิจัย ผู้วิจัยขอเสนอข้อเสนอ แนะประเด็นสำคัญที่ได้จากการวิจัย และอาจเป็นประโยชน์ต่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการเมืองถิ่น จังหวัดตราดและการเมืองระดับประเทศ ดังต่อไปนี้ 3.1 สำหรับผู้สมัครรับเลือกต้ัง ข้อเสนอแนะสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ผู้วิจัยพัฒนา มาจากกระบวนการวิจัย เรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด มีดังต่อไปนี้ 155

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด หมั่นเพิ่มพูนการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ข้อมูลจาก การสัมภาษณ์และจากการศึกษาเอกสารพบว่า ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันผู้ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. จังหวัดตราดโดยส่วน ใหญ่แล้วจะมีพื้นฐานการศึกษาสูง และมีหน้าที่การงานดี ได้ลาออกมาลงเล่นการเมืองเพื่อพัฒนาท้องถิ่นหรือบ้านเกิด ของตนเองอย่างจริงจังและจริงใจ ได้รับความไว้วางใจจาก ประชาชนให้เป็นตัวแทนในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาชุมชน ดังนั้นผู้ที่สนใจเล่นการเมืองโดยเฉพาะในสมัยนี้ ควรหมั่นศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นแก่ตนเอง และทำให้ ประชาชนมั่นใจว่าจะสามารถดูแลทุกข์สุขของเขาได้ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เข้าถึงได้ง่าย ข้อมูลจากการ สัมภาษณ์ พูดคุยอย่างไม่เป็นทางการและการศึกษาจาก เอกสาร พบว่านักการเมืองหลายคนที่ได้รับการเลือกตั้ง เพราะ เป็นคนที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือประชาชนในทุกๆ ด้าน จนประชาชนซาบซึ้งและเรียกร้องให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง จากเวทีระดับจังหวัดมาเป็นเวทีระดับประเทศ และก็ไม่เคย เพรี่ยงพร้ำต่อคู่ต่อสู้แม้แต่สมัยเดียว ดังนั้นผู้ที่คิดจะเล่น การเมืองควรจะตระหนักว่านักการเมืองเป็นอาชีพที่ให้บริการ ประชาชนทั้งในพื้นที่และในระดับประเทศ อุดมการณ์อันแรงกล้าและหนักแน่นดั่งขุนเขา จากการ สัมภาษณ์ พูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ และการศึกษาจาก เอกสาร พบว่ามีนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราดจำนวนหนึ่ง สามารถเอาชนะใจประชาชนชาวจังหวัดตราดได้ เพราะเขามี อุดมการณ์ที่ดีต่อการเมืองและสั่งสมมาเป็นเวลานาน เพื่อที่จะ 156

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ปฏิรูประบอบประชาธิปไตยไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเขาเหล่านั้น ก็สามารถทำได้จริงๆ โดยซื้อใจประชาชนชาวจังหวัดตราด โดยนำอุดมการณ์ไปขายเพื่อแลกกับคะแนนเสียง และหลังจาก ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.แล้วเขาก็พยายามทำทุกวิถีทาง ให้ประชาชนเข้าใจระบอบการปกครองประชาธิปไตยโดยการ ปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำให้ชนะใจประชาชนได้ เพราะนักการเมืองที่เข้ามาทำงานด้วยอุดมการณ์หรือความฝัน ที่ต้องไปให้ถึง มารยาทดี มีสัมมาคารวะ ข้อมูลจากการสัมภาษณ์และ ศึกษาจากเอกสาร สามารถสรุปได้ว่า การที่ผู้สมัครมีความ สุภาพอ่อนโยน มีสัมมาคารวะ และรู้จักตอบแทนบุญคุณแก่ผู้ที่ มีบุญคุณสามารถทำให้ชนะคู่แข่งได้ เพราะดังที่กล่าวข้างต้น ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเกือบทุกคนมีการศึกษาค่อนข้างสูง และมี ประสบการณ์การทำงานที่ดีคล้ายๆ กัน บางครั้งอาจทำให้ ประชาชนลำบากใจที่จะหาสิ่งเปรียบเทียบในการตัดสินว่าจะ เลือกผู้สมัครคนใด สิ่งง่ายๆ คือการมีมารยาทขั้นพื้นฐานของ คนไทย ก็อาจเป็นประเด็นสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนตัดสินใจ เลือกผู้สมัครคนนั้นๆ ก็เป็นได้ ถ้าผู้สมัครกระทำด้วยความ จริงจังและจริงใจ โดยเฉพาะผู้สมัครที่มีทั้งการศึกษาและยศถา บรรดาศักดิ์ที่สูงส่งแต่สามารถปฏิบัติต่อชาวบ้านได้อย่างเป็น กันเอง ยิ่งทำให้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และสำหรับผู้ที่ ชนะการเลือกตั้งต้องจำให้ได้ว่าเคยให้คำมั่นสัญญาอะไรไว้กับ ประชาชน เพราะหากลืมสิ่งที่ที่ได้ลั่นวาจาไว้ สมัยหน้าคะแนน เสียงอาจจะตรงกันข้ามก็อาจเป็นได้ 157

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ผู้นำเป็นเลิศเพื่อบรรเจิดชุมชน จากข้อมูลการวิจัย สามารถสรุปได้ว่า ผู้สมัครหลายคนมีความเป็นผู้นำที่ดี กล่าวคือผู้สมัครหลายคนใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการโน้มน้าว ให้ประชาชนเลือกตนเข้ามาเป็น ส.ส. ดังที่ได้ตั้งใจไว้ หลังจาก ได้รับการคัดเลือกให้เป็น ส.ส. แล้วควรจะปฏิบัติงานตาม เป้าหมายที่ได้ประกาศไว้อย่างเคร่งครัด และสามารถเป็นผู้นำ ประชาชนโดยใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ศึกษาเพิ่มเติม หรือใช้กลยุทธ์อื่นๆ ในการนำประชาชน เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนาท้องถิ่นด้วยความจริงจังและจริงใจ เปรียบเสมือนชุมชน หรือท้องถิ่นเป็นบ้านหรือครอบครัวที่ตนอาศัยอยู่ และ ส.ส. จังหวัดตราดโดยส่วนใหญ่จะรักษาคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้ใน ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเป็นอย่างดี จึงทำให้ ส.ส. บางคนชนะ การเลือกตั้งมาโดยตลอด ไม่เคยเพรี่ยงพร้ำแม้แต่ครั้งเดียว ภาวะผู้นำยอดเยี่ยมเพื่อพัฒนาชุมชน ผลการศึกษาพบ ว่าการมีภาวะผู้นำสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้สมัครได้ เนื่องจากภาวะผู้นำสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนซาบซึ้งและ ปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ เพราะผู้นำที่มีภาวะผู้นำทั้งทาง ด้านบุคลิกภาพ การศึกษา หรือพฤติกรรม ซึ่งผู้สมัครแต่ละคน ก็ใช้ภาวะผู้นำในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เช่น การศึกษา สถานภาพทางสังคม หรือแม้แต่ลักษณะนิสัย ในการโน้มน้าว ให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้ตน หลังจากได้รับการเลือกตั้ง แล้ว ส.ส. จังหวัดตราดโดยส่วนใหญ่ ได้นำหลักความเป็นภาวะ ผู้นำยอดเยี่ยมไปปรับใช้กับประชาชนชาวจังหวัดตราดอย่าง สม่ำเสมอ ดังจะเห็นได้จากหลักฐานในการพัฒนาจังหวัด ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้าน สาธารณูปโภค ด้านการ ศึกษา ด้านการเกษตร และด้านการคมนาคม เป็นต้น 158

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ใช้หลักธรรมาภิบาลเพื่อผนึกกำลังประสานความต่าง ผลการวิจัยสามารถสรุปได้ว่า หลักธรรมาภิบาลเปรียบเสมือน ใบเบิกทางที่สำคัญที่ช่วยให้ประชาชนตัดสินใจลงคะแนนให้ ผู้สมัครคนนั้นๆ เพราะหลักธรรมาภิบาลช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่นักการเมือง หากนำไปใช้ได้ถูกที่ ถูกเวลา ตัวอย่างเช่น ในการศึกษานี้ผู้สมัครบางคนใช้ หลักคุณธรรม (Ethic) และ หลักการมีส่วนร่วม (Public participation) ในด้านการให้ความ เป็นธรรมแก่ประชาชน และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม ทางการเมืองเพื่อให้ความรู้ในด้านการเมืองแก่ประชาชน หาก ประชาชนมีความรู้แล้วเขาก็จะใช้ความรู้ที่มีอยู่ในการดำเนิน กิจกรรมทางการเมือง ถ้านักการเมืองมีธรรมาภิบาลครบทั้ง 6 ข้อแล้วก็จะไม่มีปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น ปัญหาการ ฉ้อราษฎร์บังหลวง เพราะเมื่อมีการตรากฎหมายและบังคับใช้ กฎหมายที่เป็นธรรม นักการเมืองมีคุณธรรม มีความโปร่งใส มีส่วนร่วม มีความรับผิดชอบ และใช้หลักความคุ้มค่าในการ บริหารประเทศ ถ้านักการเมืองบริหารบ้านเมืองโดยยึด หลักธรรมาภิบาลแล้ว จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในตัวของ นักการเมืองและจะทำให้ประชาชนเกิดความรักใคร่สามัคค ี ปรองดองกันทั้งชาติ แม้แต่คนที่มีความคิดที่แตกต่างกัน ก็สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้ 3.2 ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการเมืองถิ่น และการเมือง ระดับประเทศ กระบวนการวิจัยเรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ช่วยเพิ่มพูนความรู้ในด้านการพัฒนาการเมืองถิ่น ซึ่งผู้วิจัย ขอนำเสนอข้อเสนอแนะที่ได้จากงานวิจัยชุดนี้ ดังต่อไปนี้ 159

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ให้ความรู้เรื่องแก่นแท้ของประชาธิปไตย จากการ สัมภาษณ์และการสังเกตทั้งจากตัวผู้ให้สัมภาษณ์และ ประชาชนทั่วๆ ไปสามารถสรุปได้ว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่ เข้าใจแก่นแท้ของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น รัฐบาลหรือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.) อำเภอ หรือจังหวัด ของแต่ละท้องถิ่น ควรจัดโครงการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตัวแทนของ ตนที่อยู่ในแต่ละภมู ิภาค เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน ในท้องถิ่น หรือบางโอกาสตัวแทนจากส่วนกลางอาจจะต้องลง มาเองเพื่ออบรมให้ความรู้แก่ประชาชน พร้อมทั้งประเมินผล และให้ผลย้อนกลับเพื่อพัฒนาปรับปรุงให้ประชาชนได้รู้จริงและ สามารถนำไปใช้ได้จริงด้วย เยาวชนตอ้ งเขา้ ใจระบอบประชาธปิ ไตย จากการสมั ภาษณ์ และการสังเกตทั้งจากตัวผู้ให้สัมภาษณ์เองและประชาชนทั่วไป รวมทั้งเยาวชน พบว่าเยาวชนในจังหวัดตราดจำนวนหนึ่ง ที่ยังไม่เข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา- กษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองการปกครอง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องคุณธรรมจริยธรรม และอื่นๆ ถ้าเยาวชน ไม่ใส่ใจหรือไม่เข้าใจแก่นแท้แล้วประเทศชาติก็คงดำเนินไปใน ทิศทางที่ต้องการได้ยากมาก เพราะเยาวชนในวันนี้จะเป็น ผู้สานต่อการบริหารบ้านเมืองในอนาคต ดังนั้นผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องต้องให้ความรู้แก่เยาวชนในเรื่องการปกครองใน ระบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจัง วิธีการให้ความรู้และปลูกฝัง ที่ดีที่สุดในเวลานี้คือ “ในโรงเรียน” กล่าวคือครูควรจะหา หนทางที่ดีที่สุดในการให้ความรู้ และปลูกฝังนักเรียนให้เข้าใจ 160

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ แก่นแท้ของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยการให้ ความรู้ในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น จัดโครงการ และเชิญ วิทยากร หรือผู้ทรงคุณวุฒิในด้านนี้มาบรรยายให้นักเรียนฟัง และให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างแท้จริง และในขณะเดียวกันควรเชิญผู้ปกครองให้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย เพื่อจะได้เรียนรู้และนำไปสอนหรือเตือนสติลูกหลาน เพราะเมื่อ เวลาผ่านไปพวกเขาอาจลืมก็ได้ ในสภาพจริงของการเรียน การสอน ครูควรปลกู ฝังจิตสำนึกในการเสริมสร้างประชาธิปไตย ในกระบวนการเรียนการสอน และจัดสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน โดยยึดรูปแบบประชาธิปไตยเป็นหลัก เช่น การเลือกตั้งประธาน นักเรียน หัวหน้าห้อง หรือเลือกตัวแทนถือพาน เป็นต้น และให้ นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมและได้ปฏิบัติจริง หากจำเป็นครูควรให้ คะแนนพิเศษ หรือให้รางวัลชมเชยต่างๆ สำหรับนักเรียน ที่แสดงออกในเรื่องที่เกี่ยวกับประชาธิปไตย ในทางกลับกันอาจ มีการลงโทษโดยการหักคะแนนนักเรียนที่ละเลยด้วย ผู้สมัครควรเปี่ยมไปด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี เกียรติและ ศักดิ์ศรีในที่นี้หมายถึง การที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งให้เกียรต ิ และศักดิ์ศรีตนเอง คู่แข่ง หรือแม้กระทั่งประชาชน จากผล การศึกษาพบว่า ผู้สมัครนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราดไม่ค่อยมี ปัญหาในเรื่องนี้ นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราดโดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีการศึกษาสูง มีหน้าที่การงานดีก่อนลาออกมาลงเล่น การเมือง และบางคนก็มียศถาบรรดาศักดิ์ที่สูงส่ง ดังนั้นเขาให้ เกียรติตนเอง คู่แข่ง และประชาชนโดยไม่พูดจาถากถางหรือ เสียดสีคู่แข่ง ไม่โจมตีคู่แข่งโดยการพูดถึงส่วนที่ไม่ดี ในส่วนการ หาเสียงก็พูดแต่ประเด็นของตัวเองประเภทขอความเมตตา 161

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด สงสารจากประชาชน กระทำด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน สุภาพ อ่อนโยน 4. รูปแบบช่ัวคราวของการเป็นนักการเมืองท่ีดี แผนภาพท่ี 4: รปู แบบชวั่ คราวของการเปน็ นกั การเมอื งทด่ี ี บคุ ลิกภาพ และ ลักษณะนิสยั นักการเมือง เสน้ ทางสู่ และบทบาท การเมือง กลวธิ ีในการ หาเสียง ฐานเสยี ง และผสู้ นับสนนุ รูปแบบที่ได้จากงานวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้กลั่นกรองและ คัดสรรมาจากกระบวนการวิจัยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ นักวิชาการ อาจารย์ นิสิต นักศึกษา หรือแม้แต่นักการเมือง โดยอาจนำรูปแบบนี้ไปประกอบการทำ ยุทธศาสตร์ในด้านการเตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้งที่สามารถ เข้าใจ และเข้าถึงประชาชน เพราะกระบวนการวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ใช้เวลาในการสังเกตแบบคนนอก จากการซักถามจาก ชาวบ้านประกอบ หรือแม้กระทั่งศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันที่มี พื้นเพอยู่ในจังหวัดตราด โดยการเก็บข้อมูลแบบโยงใย 162

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ (Snowball sampling) จากคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่ง เช่น ศิษย์ถาม ผู้ปกครอง ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้วิจัย ลงพื้นที่บ่อยครั้งมาก และในที่สุดผู้วิจัยสามารถเข้าถึงเพื่อน สนิทและญาติของนักการเมืองบางคน ซึ่งสามารถสัมภาษณ ์ ทั้งแบบทางการและกึ่งทางการ นอกจากนี้ผู้วิจัยยังสามารถ เข้าถึงข้าราชการในหลายๆ ระดับ ที่ให้ความอนุเคราะห์ในการ เข้าถึงข้อมูลในการสัมภาษณ์ ทั้งนักการเมืองและบุคคลที่มี ความใกล้ชิดกับนักการเมืองเป็นพิเศษ ดังนั้นข้อมูลที่ได้จึงมี ความน่าเชื่อถือในระดับสูง ทั้งนี้ ผู้วิจัยจึงนำเสนอรูปแบบที่ได้ จากงานวิจัยดังต่อไปนี้ รปู แบบวงกลมดงั แสดงในภาพท่ี 2 เปน็ รปู แบบทส่ี ามารถ เริ่มต้นในกระบวนใดก่อนก็ได้โดยไม่มีความจำเป็นในการเรียง ลำดับ เมื่อมีการนำไปประยุกต์ใช้ 4.1 นักการเมืองและบทบาท นักการเมืองและบทบาทที่แสดงตรงกลางวงกลม (นักการเมืองและบทบาท) เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ของนักการเมือง กล่าวคือถ้านักการเมืองสังกัดพรรคการเมือง แล้วจะต้องนำเสนอวิสัยทัศน์ พันธกิจ ประเด็นยุทธศาสตร์ของ พรรคการเมือง หรือนโยบายของพรรคให้ประชาชนในพื้นที่ เข้าใจ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นส่วนประกอบในการพิจารณา ตัดสินว่าจะลงคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส. คนใดไปเป็นตัวแทน ของตน นโยบายของพรรคการเมืองเป็นสิ่งที่สามารถบอกได้ว่า จะบริหารประเทศไปในทิศทางใด ดังนั้นนักการเมืองควรจะนำ 163

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด วิสัยทัศน์ นโยบายของพรรคมาแปลงเป็นประเด็นยุทธศาสตร์ หรือหลักในการหาเสียงที่เป็นรูปธรรมที่ประชาชนสามารถเข้าใจ และจับต้องได้ และตัวนักการเมืองเองควรจะมีบทบาททุก ขั้นตอน หรือกล่าวอย่างชัดเจนว่านักการเมืองควรจะมีความ เป็นผู้นำและภาวะผู้นำโดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการทำ กิจกรรมต่างๆ ในการหาเสียง 4.2 เส้นทางสู่การเมือง เส้นทาง หนทาง หรือโอกาสสู่การเมืองสามารถเกิดขึ้น ได้หลายแนวทางด้วยกัน แต่ในที่นี้ผู้วิจัยขออธิบายวิธีการเข้าสู่ การเมืองด้วยวิธีการ แสวงหา และเกิดขึ้นจากอุดมการณ์ เส้นทางสู่การเมืองที่มาด้วยวิธีการแสวงหาเกิดมาจาก ความอยากหรือความต้องการที่จะเป็นนักการเมือง ดังนั้น นักการเมืองจะพยายามแสวงหาลู่ทางหรือเส้นทางในการหา ฐานเสียงที่สามารถสนับสนุนตนได้เมื่อยามลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำได้โดยการลงรับสมัครเลือกตั้งเป็นนักการเมืองระดับ ท้องถิ่นในเบื้องต้นก่อนที่จะก้าวเข้าสู่การเมืองระดับประเทศ อีกประการหนึ่งก็เพื่อสามารถทดสอบฐานเสียงของตนก่อนลง เล่นการเมืองระดับประเทศ ประเด็นนี้ไม่รวมถึงนักการเมือง ที่เกิดขึ้นมาจากทายาทนักการเมือง หรือเกิดขึ้นจากชื่อเสียง ส่วนตน เช่น ใช้ความเป็นนักร้องนักแสดง และใช้ความเป็น แชมป์โลกต่างๆ แต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นทางการเมืองด้วย ตนเอง 164

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ส่วนเส้นทางสู่การเมืองที่เกิดขึ้นจากอุดมการณ์นั้น อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในอดีต ที่ปลูกฝังหรือสั่งสมมาเป็น เวลาช้านานจนกลายเป็นอุดมการณ์ หรือความใฝ่ฝันของ นักการเมืองบางคน เช่น นักการเมืองบางคนมีความใฝ่ฝันที่จะ เปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้ประเทศชาติเจริญ ก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้น มาจากประสบการณ์ในอดีตเป็นเวลานานทั้งในด้านบวกและใน ด้านลบ ซึ่งอาจส่งผลให้บางคนอยากเป็นนักการเมืองเพื่อมี อำนาจในการจัดการบางสิ่งบางอย่างเพื่อบรรลุความใฝ่ฝันหรือ เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ดังนั้นความเป็นนักการเมืองที่เกิดจากอุดมการณ์ในบาง กรณีอาจส่งผลดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. หากเป็น อุดมการณ์ในแง่บวก ในทางกลับกันหากมีอุดมการณ์ในแง่ลบ อาจส่งผลกระทบอันมากมายแก่ประเทศชาติก็ย่อมเป็นได้ ทั้งนี้ ผู้ที่จะตัดสินเลือกนักการเมืองเข้ามาทำหน้าที่ในสภาแทนตน ก็คือประชาชน ดังนั้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรให้ความรู้เรื่อง การเมืองแก่ประชาชน 4.3 ฐานเสียงและผู้สนับสนุน ในบรรดาฐานเสียงและผู้สนับสนุนที่สำคัญตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นฐานเสียง ที่สำคัญ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต. หรือกลุ่มข้าราชการประจำจังหวัดใน เขตการเลือกตั้งนั้นๆ และประชาชน 165

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ฐานเสียงที่สำคัญที่มีมาตั้งแต่ในอดีต คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. หรือกลุ่มข้าราชการประจำจังหวัด ในเขตการเลือกตั้งนั้นๆ กลุ่มคนเหล่านี้คือประชาชนที่อยู่ใน ท้องถิ่นที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นตัวแทนของตนได้อย่างน้อย ร้อยละประมาณ 50 เหตุผลอีกประการหนึ่งที่นักการเมือง ท้องถิ่นสามารถเข้าถึงประชาชนได้ นั่นเพราะคนเหล่านี้ ทำหน้าที่ประสานผลประโยชน์จากส่วนกลางไปสู่ชุมชน ถ้านักการเมืองท้องถิ่นสามารถนำผลประโยชน์เข้าสู่ชุมชนได้ มากเท่าใด ความเชื่อมั่นที่ได้จากชุมชนก็จะยิ่งทวีคูณขึ้น ดังนั้น นักการเมืองควรเข้าถึงฐานเสียงให้ได้ และสนับสนุนฐานเสียง ให้เข้มแข็งเพื่อเป็นการสนับสนุนตนเองในอนาคต กลุ่มสนับสนุนอีกกลุ่มหนึ่งคือประชาชน ดังนั้น นักการเมืองควรจะเข้าหาประชาชนโดยนำวิสัยทัศน์หรือ นโยบายของพรรคการเมือง มาแปลงเป็นประเด็นยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญทัดเทียมท้องถิ่นอื่นๆ หรือพัฒนา ไปสู่ระดับสากล เช่น นักการเมืองอาจจะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือการพัฒนาสินค้าโอทอป (OTOP) หรือ แม้แต่ธุรกิจการบริการต่างๆ ให้เข้าสู่ระดับ 5 ดาว หรือในระดับ สากล เช่น บริษัท ซี.เค. อินดัสทรี 2000 จำกัด ที่ผลิตชา ออร์แกนิค บริษัทสมถวิล (อั้งกี่) ที่ผลิตน้ำมันเหลือง ตราต้นโพธิ์ หรือบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดงจำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อกระทิงแดง และเรดบูล ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในระดับประเทศและระดับสากล และส่งออกไปทั่วโลก นักการเมืองควรศึกษากระบวนการ วิธีการ หรือพรสวรรค์ของ แต่ละคนที่สามารถทำให้สินค้าหรือบริการเป็นที่ยอมรับของ 166

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ คนจำนวนมาก เพื่อพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ในชนบทในการสร้างชื่อ เสียงให้แก่ชุมชนได้ หากนักการเมืองสามารถทำได้ดังกล่าว คงไม่ต้องกังวลว่าตนจะเป็นนักการเมืองที่ประชาชนชื่นชอบ หรือไม่ และควรเข้าถึงประชาชนเพื่อให้ความรู้ในด้านการเมือง แก่ประชาชนด้วย 4.4 กลวิธีในการหาเสียง นักการเมืองควรมีกลยุทธ์ในการหาเสียงที่เป็นมาตรฐาน สากล ได้แก่ การลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน เพื่อให้ทราบถึง สภาพปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ทั้งนี ้ ควรลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนอย่างสม่ำเสมอ มิใช่ขยันแค่ ช่วงใกล้ๆ การเลือกตั้ง และไปเพื่อขอความเห็นใจจาก ประชาชน เพราะอาจทำให้นักการเมืองไม่ทราบปัญหาที่แท้จริง ทั้งนี้เพราะนักการเมืองบางคนอาจไม่เคยคลุกคลีกับประชาชน ในท้องถิ่น เนื่องจากบางคนอาจเติบโตมาจากสังคมเมือง หรือ ไปศึกษาเล่าเรียนในเมือง หรือในต่างประเทศตั้งแต่อายุยังน้อย อาจทำให้เขาไม่เข้าใจปัญหาหรือความต้องการที่แท้จริงของ ชุมชน ดังนั้นการลงพื้นที่แต่เนิ่นๆ จะช่วยให้นักการเมืองทราบ ปัญหาและหาหนทางในการแก้ไข และนำเสนอแก่พี่น้อง ประชาชน ซึ่งอาจเป็นประเด็นในการหาเสียงเลือกตั้งที่อยู่บน พื้นฐานของความเป็นจริง การปราศรัยในชุมชนต่างๆ ยังมีความจำเป็นอยู่ เพื่อนำ เสนอ วิสัยทัศน์ พันธกิจ และนโยบายของพรรคการเมือง ให้ประชาชนได้เข้าใจ ซึ่งกระบวนการนี้อาจทำล่วงหน้าก่อน 167

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด เลือกตั้ง ไม่จำเป็นต้องโหมมากหากนักการเมืองได้ลงพื้นที่เพื่อ พบปะประชาชนอยู่แล้ว นักการเมืองต้องลงพื้นที่เพื่อนำเสนอ ปัญหาและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหลังจากลงพื้นที่แล้ว ก็จะทำให้ทำงานเบาลงในช่วงการเลือกตั้ง และในการปราศรัย ถ้าเป็นไปได้นักการเมืองควรขอความร่วมมือจากบุคคลสำคัญ ในพรรค เช่นหัวหน้าพรรค และกรรมาธิการการบริหารพรรค ให้ช่วยลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย เพื่อแสดง ถึงความน่าเชื่อถือของตน และความเอาใจใส่ต่อพี่น้อง ประชาชนอย่างแท้จริง หัวคะแนนก็เป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่งในการนำเสนอ นโยบายพรรคการเมืองและผลงานของนักการเมือง ซึ่ง หัวคะแนนจะเป็นผู้ประสานที่แท้จริงโดยการอธิบายวิสัยทัศน์ และนโยบายของพรรคการเมืองให้ประชาชนได้เข้าใจอีกทาง หนึ่ง ส่วนการใช้โปสเตอร์และรถกระจายเสียงประชาสัมพันธ์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการโฆษณาทางการเมืองเพื่อนำเสนอ วิสัยทัศน์ และนโยบายของพรรคการเมือง อย่างไรก็ตามหาก นักการเมืองไร้ซึ่งผลงาน ถึงจะโฆษณาอย่างไรก็ไม่เกิด ประโยชน์ ในทางกลับกันจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย ถ้าหากการหาเสียงขาดความซื่อสัตย์ในการนำเสนอข้อมูล หรือ นำเสนอข้อมูลเกินความเป็นจริง ยิ่งในสมัยนี้ที่มีความเป็นไปได้ ค่อนข้างยากที่ประชาชนจะหลงเชื่อ เพราะประชาชนสามารถ เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์นั้นๆ ดังนั้น ประชาชนสามารถใช้ข้อมูลหรือสารสนเทศที่ได้รับเป็นเครื่องมือ ช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้ง 168

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 4.5 บุคลิกภาพและลักษณะนิสัย นักการเมืองที่สามารถเอาชนะใจประชาชนได้โดย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนดี มีน้ำใจ มีประสบการณ์การทำงาน การศึกษาสูง ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เข้าใจความ ต้องการของประชาชน มีความเป็นผู้นำ ภาวะผู้นำ และยึดหลัก ธรรมาภิบาลในการบริหารประเทศ นักการเมืองจะต้องเป็นคนดี มีน้ำใจ พร้อมที่จะเสียสละ เพื่อเข้ามาเป็นตัวแทนในการดูแลสารทุกข์สุขดิบของประชาชน ดังชื่อ ตำแหน่ง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ไม่ว่าประชาชน จะอยู่ในส่วนใด จะลงคะแนนให้ตนหรือไม่ นักการเมืองจะต้อง วางตัวเป็นกลาง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ด้านประสบการณ์การทำงาน การศึกษาของนกั การเมือง เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจว่าจะเลือกใครเข้ามาทำหน้าที่ เป็นปากเป็นเสียงแทนตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ที่ สอดคล้องกับบทบาทหรือตำแหน่งที่ตนปฏิบัติ ประเด็นเหล่านี้ อาจสร้างความน่าเชื่อถือหรือเป็นข้อด้อยของนักการเมืองก็เป็น ได้ หากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองวางตัวคนที่ไม่ตรงกับ ตำแหน่งงาน เท่าที่สังเกต สิ่งที่เป็นอุปสรรคประการหนึ่ง คือ พรรคการเมืองยึดติดกับตัวบุคคล หรือระบบโควตารัฐมนตรี มากเกินไป บางครั้งอาจทำให้ได้รัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติไม่ตรง ตามตำแหน่ง ทำให้ผลงานปรากฏออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่มิได้ หมายความว่ารัฐมนตรีจะต้องมีวุฒิการศึกษาตรงทุกคน แต่อย่างน้อยที่สุดควรจะมีประสบการณ์การทำงานบ้างก่อน เข้ารับตำแหน่ง 169

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด การที่นักการเมืองเป็นคนง่ายๆ วางตัวให้ประชาชน สามารถเข้าถึงได้เมื่อยามเดือดร้อน ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะ นักการเมืองได้ปวารณาตนว่าจะดูแลทุกข์สุขของประชาชนก่อน เข้ารับตำแน่งอยู่แล้ว และการวางตัวของนักการเมืองก็ถือเป็น เรื่องที่สำคัญ เช่น นักการเมืองควรจะจัดหาสถานที่สำหรับให้ ประชาชนเข้าไปร้องทุกข์เมื่อยามจำเป็น มีตัวแทนคอยช่วย ประสานปัญหาหรือความต้องการ และจะต้องสามารถ แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทันทีท่วงทีเมื่อประชาชนต้องการ นักการเมืองควรมีความเป็นผู้นำ คือมีทั้งศาสตร์และ ศิลป์ในการโน้มน้าวให้นักการเมืองท้องถิ่นหรือผู้ตามสามารถ ทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของชุมชนที่ได้ตั้งเอาไว้ในช่วง หาเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองควรมีความเป็นภาวะผู้นำด้วยเช่นกัน เช่น นักการเมืองบางคนที่มีการศึกษาสงู จะต้องสามารถนำความรู้ที่ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาประยุกต์ใช้กับงานได้ และสามารถนำ แนวทางการปฏิบัติให้แก่ชุมชนให้ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วง ไปได้ด้วยดีตามแผนที่ได้ตั้งเอาไว้ และผู้ตามจะต้องมีความ จงรักภักดี และปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ และจะต้องปรับ บุคลิกภาพของตนให้ผู้ตามเกิดความศรัทธา พร้อมทำงานอย่าง เต็มความสามารถ นักการเมืองจะต้องมีวิสัยทัศน์ หรือการมอง อนาคตในระดับชุมชน ในระดับจังหวัด และในระดับประเทศ ได้อย่างทะลุปรุโปร่งไปถึง 3–5 ปีข้างหน้า ว่าชุมชนจะต้องมีการ บริหารจัดการอย่างไร ประชาชนถึงจะมีความสุข และ นักการเมืองที่มีภาวะผู้นำที่ดีต้องสามารถใช้บารมีที่มีอยู่ให้ 170

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ประชาชนหรือผู้นำท้องถิ่น สามารถสร้างวิสัยทัศน์ของตนเอง และของชุมชนไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้เขาสามารถมองอนาคต ของชุมชนภายใน 3–5 ปีข้างหน้า และสามารถสร้างแรงบันดาล ใจให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจกันสร้างวิสัยทัศน์ หลักธรรมาภิบาลก็เป็นเครื่องมือในการบริหารบ้านเมือง ของรัฐบาล ในทางกลับกันหากรัฐบาลไร้ซึ่งธรรมาภิบาล จะทำให้ประเทศชาติเกิดความวุ่นวายได้ เพราะหลัก ธรรมาภบิ าลเปน็ เครอ่ื งมอื ในการบรหิ ารบา้ นเมอื งทป่ี ระกอบดว้ ย ความเป็นธรรมหลายๆ อย่างด้วยกัน เช่นการตราและการบังคับ ใช้กฎหมายอย่างมีความเท่าเทียมกันในสังคม ถ้ารัฐบาลยึดหลักความถูกต้องและโปร่งใสแล้ว ประชาชนก็สามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้ และ รัฐบาลที่ดีควรแสดงความจริงใจไม่ปิดบังซ่อนเร้นข้อมูล ต่างฝ่ายต่างก็ให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และรัฐบาลควร อนุญาตให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ประชาชนจะได้เข้าใจการเมืองมากขึ้น รัฐบาลควรมีหลักความรับผิดชอบและหลักความคุ้มค่า เป็นหลักในการบริหารชาติบ้านเมือง เช่น รัฐบาลจะต้องคำนึง ถึงการปฏิบัติงานให้ประชาชนด้วยความเต็มใจ ดังที่ได้ให้คำมั่น สัญญาไว้ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง และควรคำนึงถึงความคุ้มค่า เป็นหลักในการใช้งบประมาณเพื่อสร้างสิ่งต่างๆ ให้แก่สังคม โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักให้สมกับที่ ประชาชนได้เลือกให้เข้ามาทำงาน หากรัฐบาลคำนึงถึงและ ปฏิบัติได้ในประเด็นเหล่านี้ก็สามารถชนะใจประชาชนได้ 171

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด 5. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป จากการศึกษาเรื่องนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราดใน ลักษณะต่างๆ เช่น นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด เครือข่ายและ ความสัมพันธ์ของนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด บทบาททาง การเมืองของนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด และกลวิธีการ หาเสียงของนักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ สำหรับการศึกษาวิจัยในอนาคตดังนี้ 1. ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความพึงพอใจของ ประชาชนต่อบทบาทนักการเมืองถิ่นในปัจจุบัน เพื่อทราบถึง ความพึงพอใจในการทำงานของนักการเมืองถิ่น 2. ควรมีการประเมินบทบาทและผลงานของนักการเมือง ถิ่นจังหวัดตราด เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักการเมืองในลำดับ ต่อไป 3. ควรให้ความรู้ในด้านการเมืองการปกครองแก่ ประชาชน เช่นการเปิดเวทีอภิปราย การปราศรัย หรือการใช้สื่อ ประจำท้องถิ่น เช่น หนังสือพิมพ์ วารสาร โทรทัศน์ หรือวิทยุ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ และรู้เท่าทันการเมือง 4. ควรมีการศึกษาถึงความเข้าใจการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยของประชาชนในจังหวัดตราด หากประชาชน ยังขาดความรู้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรหาแนวทางหรือมาตรการ ในการเพิ่มพนู ความรู้ให้แก่ประชาชน 172

บรรณานุกรม กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. (2553). กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2555, จาก http://www.dopa.go.th/web/index.php กระทรวงยุติธรรม. (2556). กระทรวงยุติธรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556, จาก http://www.moj.go.th/th/index.php กระทรวงวัฒนธรรม. (2556). กระทรวงวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556, จาก www. m-culture.go.th กระทรวงศึกษาธิการ. (2556). กระทรวงศึกษาธิการ. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556, จาก http://www.moe.go.th/moe/th/home/ กวี วงศ์พุฒ. (2542). ภาวะผู้นำ (พิมพ์คร้ังท่ี 5). กรุงเทพฯ: บี. เค. อินเตอร์ปรินท์. คณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์และบูรณาการการศึกษาจังหวัดตราด. (ม.ป.ป). แผนพฒั นาการศึกษาจังหวัดตราด (พ.ศ. 2553– 2556). ตราด: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตราด. คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดตราดแบบบูรณาการ. (ม.ป.ป). แผน พัฒนาจังหวัดตราด ประจำปี พ.ศ. 2553 –2556. ตราด: กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด. คณะรัฐมนตรี. (ม.ป.ป). คณะที่ 22. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2556, จาก http://www.cabinet.thaigov.go.th/cab_22.htm

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด จันทิมา เกษแก้ว. (2540). การเมืองการปกครอง. กรุงเทพฯ: ฝ่ายเอกสาร และตำรา สถาบันราชภัฏสวนดุสิต. จันทิมา เอียมานนท์. (2539). การใช้ภาษาในคำปราศรัยหาเสียง. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ชัยอนันต์ สมุทวณิช. (2519). ประชาธิปไตย สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ กับการเมอื งไทย. กรุงเทพฯ: พิฆเณศ ชัยอนันต์ สมุทวานิช. (2523). การเมืองและการปกครอง (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ : บรรณกิจ. ณัฐนรี ศรีทอง. (2552). การเพ่ิมศักยภาพภาวะความเป็นผู้นำในงาน พฒั นาชมุ ชน. กรุงเทพฯ: โอเดียน สโตร์. ติน ปรัชญพฤทธิ์. (2548). บุคลิกภาพและการจูงใจ. ใน เอกสาร ประกอบการสอนชุดวิชาพฤติกรรมมนุษย์ในองค์การ (หน้า 379) (พิมพ์ครั้งที่ 23). นนทบุรี:มหาวิทยาลัยสุโขทัย- ธรรมาธิราช. ทิชี่. โนเอล เอ็ม. (2542). กลไกสร้างภาวะผู้นำ (ทรงวิทย์ เขมเศรษฐ์ แปล). กรุงเทพฯ: พิมพ์ดี. ธร สุนทรายุทธ. (ม.ป.ป.). หลักการและทฤษฎีทางบริหารการศึกษา. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบรู พา, คณะศึกษาศาสตร์. ธวัช บุณยมณี. (2550). ภาวะผู้นำและการเปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. นพรัตน์ วงศ์วิทยาพาณิชย์. (2555). นักการเมืองถ่ินจังหวัดสระแก้ว. นนทบุรี: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า. นิพนธ์ กินาวงศ์. (2542). หลักบริหารการศึกษา. พิษณุโลก: ภาควิชา การบริหารและพัฒนาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. บุญทัน ดอกไธสง. (2535). การจัดการองค์การ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 174

บรรณานุกรม บูฆอรี ยีหมะ. (2550). ความรู้เบ้ืองต้นทางรัฐศาสตร์. สงขลา: โรงพิมพ์ ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามลดา. ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด สำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ครง้ั แรกภายหลงั ประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 1) พทุ ธศกั ราช 2554. (2554, 24 มนี าคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 128, ตอน 19ก หน้า 29. ประพันธ์ ผาสุกยืด. (2541). ทางเลือก ทางรอด. กรุงเทพฯ: เอเอาร์ อินฟอร์เมชั่น แอนด์ พับบลิเคชั่น. ประวัติกรรมการผู้มีอำนาจ. (2556). ประวัติกรรมการผู้มีอำนาจ. สืบค้น เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555, จาก http://catvthailand.igetweb. com/index.php?lite=article&qid=578347 ปาจรีย์ อ่อนสอาด. (2548). กลยุทธ์การสื่อสารโน้มน้าวใจผู้มีสิทธ ิ อ อ ก เ สี ย ง เ ลื อ ก ต้ั ง : ก ร ณี ศึ ก ษ า ก า ร เ ลื อ ก ต้ั ง ผวู้ า่ กรงุ เทพมหานครปี 2547. กรงุ เทพฯ: คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. พนม คลี่ฉายา. (2553). กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ทางการเมือง. ใน เอกสารการสอนชุดวิชากลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ หน่วยที่ 8–15 สาขาวชิ านเิ ทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, 217-365. นนท์บุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. พรชัย เทพปัญญา และ พงษ์ยุทธ สีฟ้า. (2548). นักการเมืองถิ่นจังหวัด สมุทรปราการ. นนทบุรี: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบัน พระปกเกล้า. พรชัย เทพปัญญา. (2549). นักการเมืองถิ่นจังหวัดปทุมธานี. นนทบุรี: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า. พรชัย เทพปัญญา. (2552). นักการเมืองถ่ินจังหวัดชลบุรี. นนทบุรี: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า. 175

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งผู้แทนตำบลและสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 พุทธศักราช 2476. (2476, 14 มิถุนายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 40 หน้า 355. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง. (2550). ราชกจิ จานเุ บกษา. เล่ม 124 ตอนที่ 64 ก หน้า 23. พระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระหว่าง เวลาที่ใช้บทบัญญัติเฉพาะกาล ในรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475. (2475, 21 ธันวาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 49 หน้า 554. พฤทธิสาณ ชุมพล. (2548). ระบบการเมือง: ความรู้เบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พุทธชาด เชื้อไทย. (2547). พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกต้ังใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ศึกษากรณี การเลือกต้ัง สมาชิกสภาเทศบาลตําบลบางปู จังหวัดสมุทรปราการ. ชลบุรี: วิทยาลัยบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา. เพ็ญแข วัจนสุนทร. (2523). ค่านิยมในสำนวนไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียน สโตร์. ภิญโญ ตันพิทยคุปต์. (2549). รายงานการวิจัยโครงการสำรวจเพื่อ ประมวลข้อมูลนักการเมืองถ่ิน: จังหวัดสงขลา. นนทบุรี : สถาบันพระปกเกล้า. มณรี ตั น์ ปน่ิ วเิ ศษ. (2550). ชวี ติ และวฒั นธรรมไทย. กรงุ เทพฯ: สำนกั พมิ พ์ เอมพันธ์. มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต. (2556). ประวัติความเป็นมา. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2555, จาก http://www.rbac.ac.th/site/index.php/ welcome/page/History ยงยทุ ธ เกษสาคร. (2541). ภาวะผนู้ าํ และการจงู ใจ. กรงุ เทพฯ : ศนู ยเ์ อกสาร และตําราสถาบันราชภัฏ สวนดุสิต. 176

บรรณานุกรม รสชงพร โกมลเสวิน. (2552). บทบาท อิทธิพล และความรับผิดชอบ ของการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ต่อสังคม. ใน เอกสารการสอนชุดวิชาหลักการโฆษณาและการ ประชาสัมพันธ์หน่วยที่ 1-8 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช 3–1–3–81. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (พุทธศักราช 2540). (2540, 11 ตุลาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 114, ตอน 55ก,หน้า 19. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2554, เล่ม 128, ตอน 13 ก. (2554, 4 มีนาคม). ราชกิจจา- นเุ บกษา. หน้า 1. รายนามรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม (2556). รายนามรัฐมนตรี ช่วยว่ากระทรวงคมนาคม. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2556, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/ รายนามรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย รุจน์จาลักษณ์รายา คณานุรักษ์. (2553). นักการเมืองถ่ินจังหวัด สุราษฎร์ธานี. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบัน พระปกเกล้า โรงเรียนกิตติวิทยา. (2556). โรงเรียนกิตติวิทยา. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2555, จาก http://www.kittiwittaya.ac.th วงธรรม สรณะ. (2553). พฤติกรรมประชาธิปไตยของประชาชนในท้องถิ่น ศึกษาในจังหวัดจันทบุรี. วารสารวิจัยรําไพพรรณี, 4(2), 41–48. วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดตราด / คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและ จดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. (2542). กรุงเทพฯ : กระทรวงมหาดไทย: กรมศิลปากร. 177

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด วิกิพีเดีย. (2555). การเลือกต้ังในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2555, จาก http://th.wikipedia.org/wiki วิกิพีเดีย. (2555). จังหวัดตราด. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน. 2555, จาก http://th.wikipedia.org/wiki/ วิกิพีเดีย. (2558). บุญส่ง ไข่เกษ. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน. 2558, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/บุญส่ง_ไข่เกษ#cite_note-4 วิฏราธร จิรประวัติ. (2552). แนวคิดเก่ียวกับการส่ือสารการตลาดแบบ ผสมผสาน. ในเอกสารการสอนชุดวิชาหลักการโฆษณาและ การประชาสัมพันธ์หน่วยที่ 1–8 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 1–1–1–32. นนท์บุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วรี วธุ มาฆะศริ านนท.์ (2541). การพฒั นาวสิ ยั ทศั นผ์ นู้ ำ. กรงุ เทพมหานคร: เอ็กซเปอร์เน็ท. เว็บไซต์จังหวัดตราด. (2556). จังหวัดตราด. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2556, จาก http://www.trat.go.th/modules.php ศิริโรจน์ ศิริแพทย์. (25 กุมภาพันธ์ 2549). คอลัมน์ วิถีชีวิต: จาก ‘เซลส์แมน’ เป็นนักการศึกษา (ประชุม รัตนเพียร) เล้ียง ลูกเป็นดอกเตอร์ทุกคน. เดลินิวส์ (สืบค้นจากอินเทอร์เน็ต: เอกสาร Word) ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2541). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: ธีระฟิร์มและไซเท็กซ์. ศิวะพร ปัญจมาลา. (2538). ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประชาชน: ศึกษากรณี การเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัด นครพนมเขต 1 พ.ศ. 2537. วิทยานิพนธ์ปริญญา รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์วิทยาลัย, บัณฑิต วิทยาลัย, สาขาการปกครอง. 178

บรรณานุกรม ศรุดา สมพอง. (2550). นักการเมืองถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา. นนทบุรี: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า. ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง. (2556). ศูนย์ข้อมูลนักการเมือง. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555, จาก http://www.thaiswatch.com สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน. (2545). Good governance กับ การ พัฒนาข้าราชการ / สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน สำนักงาน ก.พ. กรุงเทพฯ : สถาบันพัฒนาข้าราชการ พลเรือนสำนักงาน สภาผู้แทนราษฎร. (2556). คุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม และข้อห้าม ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2556, จาก http://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/ parliament _parcy/ewt_news.php?nid=10867&filename=index สภาอุตสาหกรรมจังหวัด (2555). ภูมิศาสตร์จังหวัดตราด. สืบค้นเมื่อ วันที่ 1 มิถุนายน 2555, จากhttp://www.ftiprovince.or.th/ province/province.aspx?id=17 สมยศ นาวีการ. (2540). การบริหารและพฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพฯ: ผู้จัดการ. สรียา ทับทัน. (2548). กลยุทธ์ทางการเมือง: ภาษา การตลาด การโฆษณา. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม. 4(1), 67–74. สำนักงาน ก.พ. สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน. (2545). ชุดที่ 5 การ สร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองท่ีดี. นนทบุรี: สำนักงาน ก.พ., สถาบันข้าราชการพลเรือน. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดตราด (2551). แผนทจ่ี งั หวดั . สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2556, จาก http://www2.ect.go.th/ about.php?Province=trat&SiteMenuID=1129 179

นักการเมืองถ่ินจังหวัดตราด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดตราด (2556). อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน และ อปท. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2556, จาก http://www2.ect.go.th/about.php?Province=trat&SiteMenuID =1130 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. (2551). พรรคการเมือง. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2556, จาก http://www.ect.go.th/newweb/th/ party/ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ. (2556). สำนักงานรัฐมนตรี ศธ. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2556, จาก http://www.moe- news.net/index.php?option=com_moe_complaint สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข. (2556). สำนักรัฐมนตรี สาธารณสุข. สืบค้นเมื่อ 25 สิงหาคม 2556, จาก http:// www.moph.go.th สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี. (2555). คณะรัฐมนตรีไทย 2477. สืบค้น เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2555, จาก http://www.cabinet. thaigov.go.th/cab_05.htm สุขุม นวลสกุล. (2527). การเมอื งเรื่องขำขัน. กรุงเทพฯ: รายวัน. สุภางค์ จันทวานิช. (2553). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สุวัฒนา วงษ์กะพันธ์. (2548). การสื่อสารการตลาด. ในเอกสารการสอน ชุดวิชาธุรกิจการโฆษณา หน่วยที่ 1–7 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, 49-90. นนทบ์ รุ :ี มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช. สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2545). วิธีจัดการเรียนรู้เพ่ือพัฒนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และการเรียนรู้โดยการ แสวงหาความรู้ด้วยตน้ เอง. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ภาพพิมพ์. 180

บรรณานุกรม เสถียร เชยประทับ. (2551). การส่ือสาร การเมือง และประชาธิปไตย ในสังคมพัฒนาแล้ว (พิมพ์คร้ังท่ี 1). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เสรี วงษ์มณฑา. (2540). การโฆษณาเชิงปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: เอเอ็น การพิมพ์. อรพินท์ สพโชคชัย. (2540). สังคมเสถียรภาพและกลไกประชารัฐท่ีดี. ในรายงานทีดีอาร์ไอ. ฉบับที่ 20 เดือนธันวาคม. อาร์วายทีไนน์. (2539). รายช่ือคณะรัฐมนตรี คณะท่ี 22. สืบค้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2556, จาก http://www.ryt9.com/s/refg/192142 อาร์วายทีไนน์. (2540). สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกต้ัง คร้ังแรก. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555, จาก http:// www.ryt9.com/s/refg/186966 อาร์วายทีไนน์. (2559). ประวัติย่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์บุญส่ง ไข่เกษ สมาชิกวุฒิสภา จ.ตราด พ.ศ.2557. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558, จาก http://www.ryt9.com/s/refb/1958850 เอกวิทย์ มณีธร. (2552). รัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: เอ็ม ที เพลส. Bass, B. M. (1990). Bass & Stogdill’s handbook of leadership. New York: The free press. Carrell, M. R., Jennings, D. F., & Heavrin, C. (1997). Fundamentals of Organizational Behavior. Upper Saddle River, NJ: Prentice-Hall. Collier’s Dictionary. (2006). Retrieved August, 30, 2013, from http// www.biblio.com/browse_books/catalog/547190/84017.html Creswell, J. W. (2007). Qualitative inquiry and research design: Choosing among five traditions (2nd ed.). Thousand Oaks, CA: Sage. 181

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด Daft, R. L. (1999). Leadership: Theory and practice. Forth Worth, TX: Dryden Press. Denzin, N. K. (1970). Sociological methods: A source book. Chicago: Aldine. Donnely, J. H. JR., Gibson, J. L., & Ivancevich, J. M. (1987). Management (6th ed.). New York: Business Publication. DuBrin, J. A. (1998). Leadership: Research findings, practice, and skills. Englewood Cliffs, NJ: Houghton Mifflin. Easton, D. (1979). A framework for political analysis. Chicago: University of Chicago Press. Gibson, J. L. (2000). Organizations: Behavior Structure Process. International edition, (10th ed.). New York: McGraw Hill. Gomez - Mejia, L. R., & Balkin, D. B. (2002). Management. New York: McGraw Hill. Huberman, A. M., & Miles, M. B. (1994). Data management and analysis methods. In N. K. Denzin & Y. S. Lincoln (Eds.), Handbook of qualitative research (pp. 413-427). Thousand Oaks, CA: Sage. Jacobs, T. O. (1970). Leadership and exchange in formal organizations. Washington, DC: Human Resources Research Organization. Lasswell, H. (1936). Politics who get what, when, how? London: Peter Smith. Lasswell, S. D. (1995). Politics: The basics. London: Routledge. Lincoln, Y. S., & Guba, E. G. (1985). Naturalistic inquiry. Beverly Hills, CA: Sage. 182

บรรณานุกรม Marshall, C., & Rossman, G. (2006). Designing qualitative research (4th ed.). Thousand Oaks, CA: Sage. Maykut, P., & Morehouse, R. (1994). Beginning qualitative research: A philosophic and practical guide. London: The Falmers Press. McFarland, D. E. (1979). Management: Foundation & practices (5th ed.). New York: Macmillan. Miles, M. B., & Huberman, A. M. (1984). Qualitative data analysis: A sourcebook of new methods. Beverly Hills, CA: Sage. Mosley, D. C., Pietri, P. H., & Megginson, L. C. (1995). Management: Leadership in action (5th ed.). New York, NY: Harper Collins College. Patton, M. Q. (1990). Qualitative evaluation and research methods (2nd ed.). Newbury Park, CA: Sage. ______. (2002). Qualitative evaluation and research methods (3rd ed.). Newbury Park, CA: Sage. Rokeach, M. (1973). The nature of human values. New York: The Free Press. Saffell, D. (1984). The politic of American national government (5th ed). Boston: Little Brown. Stogdill, R. M. (1974). Handbook of leadership: A survey of literature. New York: Free Press. Tansey, S. D. (1995). Politics: The basic. London: Routledge. Terry, G. (1978). Principle of management (3rd ed.). Illinois: Richard D. Irwin. Thai political base. (2009). ธีระ สลักเพชร. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2556, จาก http://politicalbase.in.th/index.php/ธีระ_สลักเพชร 183

นักการเมืองถิ่นจังหวัดตราด Trent, J. S., & Friedenberg, R. V. (1995). Political campaign communication: Principle and practices (3rd ed). Westport, Connecticut: Praeger. UNDP. (1997). Corruption and good governance: Discussion Paper 3, management development discussion, Bureau for policy and program support. New York: United Nation Development Programme. Webb, E. J., Compbell, D. T., Schwartz, R. D., & Sechrest, L. (1966). Unobtrusive measures: Nonreactive research in the social sciences. Chicago: Rand Hckally. World Bank. (1992). Government and development. Washington D.C.: The World Bank. Yukl, G. (1998). Leadership in organizations (4th ed.). New Jersey: Prentice-Hall. Yukl, G. (2006). Leadership in organizations (6th ed.). New Jersey: Pearson Prentice Hall Upper Saddle River, NJ. 184

ภาค ผนวก ภคำาถคาผมในนกวากรสกัม ภาษณ์ ผู้วิจัยจะสัมภาษณ์เพื่อประมวลข้อมูลนักการเมืองถิ่นใน พื้นที่จังหวัดตราดในประเด็นต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ 1. ประวัติส่วนตัวของท่าน 2. อาชีพก่อนเข้าสู่การเมือง 3. ท่านมีแรงจูงใจ และ มีเส้นทางในการเข้าสู่การเมือง อย่างไร 4. ฐานเสียงและกลุ่มสนับสนุนของท่านคือใคร 5. มีเหตุ–ปัจจัยใดที่ทำให้ท่านได้รับการเลือกตั้ง 6. ท่านมีกลวิธีในการหาเสียงอย่างไรบ้าง 7. บทบาททางการเมืองของท่านเป็นอย่างไร 8. วิวัฒนาการทางการเมืองของจังหวัดตราดตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันในมุมมองของท่านเป็นอย่างไร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook