เอกสารการเรยี นร้ ู การให้บรกิ ารสาธารณะโดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน People’s Audit ประกอบด้วย หนว่ ยท่ี 1 การให้บริการสาธารณะโดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน เรื่องท่ี 1. ประชาธปิ ไตยแบบมสี ่วนร่วม (Participatory Democracy) เรื่องที่ 2. การบรหิ ารจัดการบ้านเมืองท่ีด ี เรื่องที่ 3. การยกระดับการใหบ้ รกิ ารสาธารณะโดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน : People’s Audit for Thailand หน่วยท่ี 2 กระบวนทัศน์ใหม่ในการให้บริการสาธารณะ เรื่องท่ี 4. ประชาธิปไตยพหนุ ิยม เรอื่ งท่ี 5. สำนึกพลเมือง เรอ่ื งท่ี 6. การเมอื งภาคพลเมอื ง เรือ่ งท่ี 7. วิสยั ทศั น์ขา้ ราชการ เรือ่ งท่ี 8. การบรหิ ารงานจงั หวัดแบบบูรณาการ เรอ่ื งที่ 9. ผู้วา่ ซอี โี อ :กลไกสูค่ วามสำเร็จในการพฒั นาประเทศ หนว่ ยที่ 3 การคน้ หาความตอ้ งการในการยกระดับการให้บรกิ ารสาธารณะ เรอื่ งท่ี 10. การเตรยี มการสำรวจความพงึ พอใจและการเลือกตวั อยา่ ง เรอื่ งที่ 11. การเขา้ ถงึ ชุมชนเชิงบวก เครือ่ งมือการทำงานแนววัฒนธรรมชมุ ชน เรื่องท่ี 12. เทคนิคการทำงานอย่างมสี ว่ นร่วมกับชุมชน...การศกึ ษาวิเคราะหช์ มุ ชนอย่างมีส่วนร่วม เรอ่ื งที่ 13. พลังชมุ ชน: ต้องเสรมิ สร้างจากข้างใน เรอ่ื งที่ 14. เทคนคิ การวเิ คราะห์ ประมวลผล และนำเสนอข้อมูล หนว่ ยที่ 4 แนวทางการสรา้ งการมีสว่ นรว่ ม เรอ่ื งที่ 15. การมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการพัฒนาชุมชน เรื่องท่ี 16. การเปน็ หนุ้ สว่ นระหว่างรัฐ ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) เรอ่ื งที่ 17. ธรรมนูญพลเมอื ง (Citizen’s charter) เรอ่ื งท่ี 18. เทคโนโลยีเพอ่ื การมสี ่วนรว่ ม วิธีการเอ้อื อำนวยการใช้กระบวนการกล่มุ ข้ันพืน้ ฐาน หนว่ ยท่ี 5 กระบวนการพฒั นาและเทคนคิ การให้บริการสูค่ วามเป็นเลศิ สำหรบั ประเทศไทย เร่ืองท่ี 19. คู่มอื การสร้างความเป็นเลิศในการให้บรกิ ารสาธารณะสำหรับประเทศไทย หน่วยท่ี 6 การบรู ณาการนำแนวคดิ ไปสกู่ ารปฏิบัต ิ เร่ืองท่ี 20. การจัดทำแผนงานและแผนปฏบิ ตั กิ าร เรื่องท่ี 21. การบรู ณาการจากแนวคดิ ส่กู ารปฏบิ ตั ิ โดยใชเ้ ทคนิคการวเิ คราะห์ศักยภาพองคก์ ร (SWOT) หน่วยท่ี 7 การประเมนิ ผลแบบมีส่วนร่วม เรอ่ื งที่ 22. แนวทางการประเมนิ ผล เรื่องที่ 23. การประเมินผลอย่างมีส่วนรว่ มเพอ่ื เสริมสร้างพลังชมุ ชน : คมู่ ือสำหรับผู้ประสานใหเ้ กดิ กระบวนการเรยี นรู้ หรอื ผ้ชู ว่ ยกระบวนการกลุ่ม เรอ่ื งท่ี 24. เทคนิคการถอดบทเรยี น เรื่องที่ 25. การประเมินผลการฝึกอบรม เรอ่ื งที่ 26. ตวั แบบของการร่วมยกระดับการใหบ้ ริการสาธารณะ 1, 2, 3
การใหบ้ ริการสาธารณะ โดยการมีสว่ นรว่ มของประชาชน People’s Audit เอกสารการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 4 แนวทางการสร้างการมีส่วนรว่ ม สถาบนั พระปกเกล้า
แนวทางการสร้างการมีส่วนรว่ ม สงวนลขิ สทิ ธ์ ิ © 2552 ISBN : 978-974-449-414-6 พิมพค์ รัง้ ที่ 1 กมุ ภาพันธ์ 2552 จำนวนพมิ พ์ 1,000 เล่ม บรรณาธกิ าร ดร.ถวลิ วดี บุรกี ลุ และนายวิศิษฎ ชัชวาลทพิ ากร ออกแบบและ นายสุชาติ ววิ ฒั นต์ ระกูล จัดประกอบหนา้ ภาพประกอบ บษุ ปรศั ว ์ ปานทอง จดั พิมพ์โดย สำนกั วจิ ยั และพัฒนา สถาบนั พระปกเกล้า อาคารศนู ยส์ ัมมนา ชั้น 5 สถาบันพัฒนาขา้ ราชการพลเรือน (ก.พ.) 47/101 หมู่ 4 ถนนตวิ านนท์ ตำบลตลาดขวญั อำเภอเมอื ง จงั หวดั นนทบรุ ี 11000 โทรศพั ท์ (66 – 2) 5277830 – 9 โทรสาร (66 – 2) 5277824 http://www.kpi.ac.th พิมพ์ท ่ี
คเํ า นํ า อกสารนี้จัดทำขึ้นจากผลการวิจัยเรื่องการวัดระดับการให้บริการของหน่วยงานของ รัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) ซึ่งได้พัฒนามาเป็นหลักสูตรการให้บริการสาธารณะโดยการมี ส่วนร่วมของประชาชน โครงการวิจัยนี้จัดทำโดยสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งเป็นสถาบัน วิชาการในกำกับของประธานรัฐสภาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) โดยการสนับสนุนของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNDP ) เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และ ประชาชนมีความพึงพอใจ เพราะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการ โดยในการดำเนิน โครงการร่วมกับเครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายราชการ สถาบันวิชาการ องค์กรพัฒนา เอกชนหรือสื่อมวลชน วัตถุประสงค์ของการจัดทำเอกสารนี้เพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงการให้บริการที่มี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจในการรับบริการอันเป็น
การให้บริการสาธารณะ โดยการมสี ว่ นร่วมของประชาชน (People’s Audit) เป้าหมายสูงสุดการให้บริการสาธารณะของภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมี ประสิทธิภาพหรือไม่เพียงไร ผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดคือ ประชาชนผู้รับบริการ ดังนั้นการ ยกระดับการให้บริการสาธารณะโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) อย่าง เป็นระบบจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการให้บริการ สาธารณะเพื่อให้บริการดังกล่าวมีคณุ ภาพตรงตามความต้องการของประชาชนและสามารถ แก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างกระบวนการให้ประชาชนเข้า มามีส่วนร่วมในการให้บริการสาธารณะอย่างเป็นระบบและเป็นรปู ธรรม นอกจากนี้ เพื่อให้การจัดบริการสาธารณะมีคุณภาพ และสนองตอบต่อความ ต้องการของประชาชนทุกกลุ่มในสังคมไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกระบวนการพัฒนา มีเครื่องมือและวิธีการในการกระทำนี้โดยจัดทำเป็นกระบวนการอบรมให้ความรู้และ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นข้อมูลอ้างอิงด้านเครื่องมือและวิธีการต่างๆ โดยได้รวบรวมเนื้อหา ความรู้ที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าร่วมกับการเข้าอบรมให้ความรู้ด้านการยกระดับการให้ บริการสาธารณะโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อจบการรับการ ถ่ายทอดความรู้จากวิทยากรแล้วจะสามารถนำความรู้ไปใช้ปฏิบัติได้ต่อไปในอนาคต สถาบันขอขอบคุณคณะทำงาน คณะที่ปรึกษาและผู้เกี่ยวข้องตลอดจนประชาชน ทุกๆ คน ที่มีส่วนช่วยให้โครงการ (People’s Audit) นี้ดำเนินการไปได้อย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผลและขอขอบคุณโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำ ประเทศไทย (UNDP) และคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ตลอดจน หน่วยงานเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนโครงการด้วยดีตลอดมา และขอขอบคุณผู้ที่ช่วย เขียนเอกสารนี้ทกุ ท่านมา ณ ที่นี้ สถาบันพระปกเกล้า กมุ ภาพันธ์ 2552 IV สถาบันพระปกเกลา้
ส า ร บั ญ เร่ือง หนา้ เรื่องที่ 15 การมีสว่ นร่วมของประชาชนในโครงการพัฒนาชมุ ชน บทนำ: กลับคืนส่ฐู านคดิ การพัฒนาแบบย่งั ยนื 1 เกดิ อะไรขึน้ กับการมีสว่ นร่วมของประชาชนในโครงการพัฒนาสขุ ภาพของรัฐในอดีต ? 3 การมีส่วนรว่ มของประชาชนในโครงการพฒั นาสขุ ภาพของรฐั เป็นเชน่ ไร ? 4 เอกสารอ้างอิง 14 เรือ่ งท่ี 16 การเป็นหุ้นสว่ นระหว่างรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) การเปน็ หุ้นสว่ นในการบรหิ ารจดั การ 17 แนวโน้มของแนวคิดด้านการพฒั นา 19
การให้บริการสาธารณะ โดยการมสี ว่ นร่วมของประชาชน (People’s Audit) เร่ือง หนา้ แนวคิดของการเปน็ หุ้นส่วน 20 องค์ประกอบของการเป็นหุ้นส่วนและผูด้ ำเนนิ การทีส่ ำคญั 23 ผลกระทบของการเป็นหนุ้ สว่ นในหน่วยงาน 26 หลกั การในการสร้างการเป็นหนุ้ ส่วนใหย้ ั่งยนื 28 จริยธรรมในการเป็นหุ้นสว่ น 30 การเป็นหุน้ สว่ นที่ดี 36 ทัศนคติและแบบแผนของพฤติกรรม 38 การเป็นห้นุ สว่ น 39 เอกสารอา้ งอิง 44 เรอื่ งท่ี 17 ธรรมนูญพลเมอื ง (Citizen’s charter) 1. บทนำ 45 2. พฒั นาการและแนวคิดในการใช้ธรรมนญู พลเมือง 46 3. ก ารนำธรรมนญู พลเมืองมาใช้ในประเทศไทย 56 ตัวอย่าง ธรรมนญู พลเมือง ฉบับที่ 1 ว่าด้วยเร่อื งการใหบ้ รกิ ารจดั เกบ็ ขยะ 59 ธรรมนญู พลเมอื ง ฉบบั ที่ 5 ว่าดว้ ยเร่ืองการให้บรกิ ารของเทศบาลโดยท่วั ไป 61 ธรรมนญู พลเมือง ฉบับท่ี 5 ว่าดว้ ยเรื่องการใหบ้ รกิ ารขององคก์ ารบริหารสว่ นตำบล 63 โดยทั่วไป ธรรมนญู พลเมอื ง ฉบบั ท่ี 5 ว่าด้วยเรื่องการใหบ้ ริการงานทะเบยี นราษฎร ์ 65 ธรรมนญู พลเมือง ฉบับที่ 5 วา่ ดว้ ยเร่ืองการใหบ้ ริการสาธารณสขุ 67 ธรรมนญู พลเมอื ง ฉบบั ที่ 5 วา่ ด้วยเรือ่ งการให้บริการด้านพัสดอุ ุปกรณ ์ 69 เพื่องานสาธารณะของครวั เรอื นและชมุ ชน VI สถาบนั พระปกเกล้า
ประชาธปิ ไตยแบบมีสว่ นร่วม (Participatory Democracy) เรือ่ ง หนา้ เรอื่ งท่ี 18 เทคโนโลยเี พอื่ การมสี ่วนรว่ มวธิ ีการเอ้อื อำนวย 71 การใช้กระบวนการกลุม่ ขนั้ พนื้ ฐาน 74 ผ้นู ำยคุ ใหม่คอื อะไร 77 ค่านยิ มพืน้ ฐานของผนู้ ำแบบเออื้ อำนวย 78 คณุ สมบัติและลักษณะของผชู้ ่วยกระบวนการกลุม่ (FACILITATOR) ท่ดี ี 79 วิธกี ารเอ้ืออำนวยการใชก้ ระบวนการกลมุ่ ข้ันพืน้ ฐาน 85 วธิ กี ารถกปัญหา (DISCUSSION–ORID-METHOD) 90 วิธีการประชมุ เชิงปฏบิ ัตกิ าร (WORKSHOP METHOD) วธิ ีการวางแผนปฏบิ ตั ิการ (ACTION PLANNING METHOD) สถาบันพระปกเกลา้ VII
เรอื่ งที่ 15 การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน ในโครงการพฒั นาชมุ ชน ทพ.อทุ ัยวรรณ กาญจนกามล บทนำ: ใกลบั คนื สฐู่ านคิดการพฒั นาแบบยัง่ ยืน นช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวทางการพัฒนาใน อดีตว่าเป็นการพัฒนาแบบไม่ยั่งยืน มนุษย์เป็นเพียงส่วนประกอบของการ พัฒนา มีการใช้แรงงานที่กดขี่มนุษย์ด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ทางวัตถุและ เงินตรา ผลที่ตามมาก็คือเป้าหมายทางสุขภาพ ที่วางไว้ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2520 ให้ ประชาชนมีสุขภาพดีถ้วนหน้าในปี พ.ศ. 2543 นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายากที่จะ
การให้บรกิ ารสาธารณะ โดยการมีส่วนรว่ มของประชาชน (People’s Audit) บรรลุได้ เมื่อใช้มาตรการล้าหลังดังที่เคยทำมาในอดีต ดังนั้นประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศโลกที่ 3 ได้พยายามเปลี่ยน แนวทางในการพัฒนาเสียใหม่ให้เป็นกระบวนการ สร้างความตระหนัก ในวิถีชีวิตที่ เอื้ออำนวย ต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และการพัฒนานั้นต้องไม่เน้นการพัฒนาทางวัตถุ แต่ให้คนเป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนา มีความคิดที่จะพึ่งตนเอง และหาทางให้ตนเอง เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง แนวคิดในการพัฒนาสุขภาพช่องปากก็ต้องเป็นไปในแนวเดียวกันกับแนวทางการ พัฒนาแบบยั่งยืน กล่าวคือ ให้ความสำคัญกับองค์รวมแห่งสุขภาพซึ่งชี้ชัดไปที่เจ้าของ สุขภาพทั้งในทางร่างกาย และจิตใจ ของเขา ตลอดจนครอบครัว และชุมชนของเขา แนวทางในการพัฒนาสุขภาพจึงต้องหันมาเน้นหนักในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ และ การป้องกันโรคมากกว่าการบำบัดรักษา ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปาก ของตนเอง มากกว่าการหวังพึ่งนักวิชาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญดังที่เป็นมาในอดีต และ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ กระตุ้นให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการส่งเสริมสุขภาพ ของชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การทำงาน มาเป็นประชาชนมีอำนาจในการดำเนินการ ตั้งแต่ ร่วมคิดร่วมวางแผน ดำเนินการ ตลอดจนตรวจสอบการบริหารงานของผู้ดำเนินโครงการ ให้เกิดความมีโปร่งใสและมี ประสิทธิภาพ ดังนั้นหากประชาชนสามารถ เปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่เดิม โดย เข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการส่งเสริม สุขภาพช่องปากอย่างแท้จริงก็จะทำให้เกิด การเรียนรู้และนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า ของชุมชนโดยส่วนรวมในที่สุด สถาบันพระปกเกล้า
การมสี ่วนรว่ มของประชาชนในโครงการพัฒนาชุมชน เกดิ อะไรขน้ึ กบั การมสี ว่ นร่วมของประชาชน ในโครงการพฒั นาสุขภาพของรฐั ในอดีต ? เมื่อศึกษาถึงแบบแผนของการดำเนินงานของโครงการพัฒนาชุมชนในอดีตใน กรณีศึกษาของโครงการพัฒนาสุขภาพซึ่งดำเนินการโดยรัฐ มานานนับศตวรรษ ส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาแบบบนลงสู่ล่าง (Top-down development) โดยหน่วยงาน จากภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นผู้ให้และผู้กระทำในขณะที่ประชาชนในชุมชน ถูกอุปโลกให้เป็นผู้รับหรือผู้ถูกกระทำตามเป้าหมายที่มีการกำหนดมาแล้วเรียบร้อย จาก “เบื้องบน” ขาดการรับรู้จากชุมชนตั้งแต่แรกเริ่ม ครั้นต่อมาในปี พ.ศ. 2520 ประเทศไทยได้มีแนวนโยบายแห่งรัฐในด้านการพัฒนาสุขภาพของประชาชน อันได้แก่ สุขภาพดีถ้วนหน้าในปี พ.ศ. 2543 (HFA 2000) โดยยึดถือ การสาธารณสุขมูลฐาน เป็นกุญแจดอกสำคัญ เพื่อไขไปสู่ความมีสุขภาพดีของคนในชาติ กลวิธีของการ สาธารณสุขมูลฐานที่สำคัญประการหนึ่งคือ “การมีส่วนร่วมของประชาชน” แต่หลัง จากที่โครงการพัฒนาสุขภาพได้ดำเนินมากว่า 25 ปี ผู้ดำเนินโครงการพัฒนาสุขภาพ ของรัฐต่างก็ได้ให้ทัศนะของการมีส่วนร่วมของประชาชน ในโครงการพัฒนาสุภาพของ กรม กองต่างๆ อย่างหลากหลายและ แตกต่างกัน อาทิ นโยบายมีชัดเจนแต่ในทาง ปฏิบัติประชาชนกลับไม่มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมเลย หรือมีการเปิดโอกาสให้ประชาชน มีส่วนร่วมเป็นบางส่วน จนถึงได้เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยอาศัยแนวคิดในเรื่อง “ความพร้อม” ของประชาชนเป็นหลัก แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ดำเนินโครงการส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นคล้ายกันว่า ประชาชน “ไม่พร้อม” ดังนั้นจึง เปิดโอกาสให้เข้ามาส่วนร่วมน้อย สถาบนั พระปกเกล้า
การให้บริการสาธารณะ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) ดังนั้น มาตรการการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ของการสาธารณสุขมูลฐาน จึงถือได้ว่า ค่อนข้าง “ล้มเหลว” ในช่วงเวลาที่ ดำเนินโครงการมากว่า 1 ใน 4 ของศตวรรษที่ผ่านมา การมสี ว่ นร่วมของประชาชนในโครงการ พฒั นาสุขภาพของรัฐเปน็ เช่นไร ? ในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการพัฒนาสุขภาพที่ดำเนินการโดย รัฐ Arnstein ได้ระบุถึงพิสัย และระดับการมีส่วนร่วมได้อย่างชัดเจน ดังที่ ปรากฏใน แผนภาพที่ 1 โดยจัดระดับการมีส่วนร่วมไว้ 3 ระดับ รวม 8 ขั้นกล่าวคือ ระดับท่ี 1 ของการมีส่วนร่วม ขั้นที่ 1 ประชาชนถูกจัดแจง (manipulation) ให้ร่วมมือกับโครงการพัฒนา สุขภาพของรัฐตามความประสงค์ที่ทางราชการร้องขอ หรือทำตามใบสั่ง มีการสั่งการ ลงมาจากหน่วยงานราชการระดับสูง สู่ระดับล่างให้ประชาชนในชุมชนให้ความร่วมมือ เช่นเกณฑ์แรงงาน ให้ร่วมบริจาค การเรี่ยไร หรือจัดตั้งกลุ่มเพื่อให้ช่วยปฏิบัติการทาง จิตวิทยามวลชน ขั้นที่ 2 ประชาชนได้รับการเยียวยา (therapy) โดยให้ประชาชน เข้าไปเกี่ยวข้องเฉพาะในกลุ่มกิจกรรมสุขศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์จะควบคุมหรือ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่าง เช่น เข้ารับการอบรมบ้าง หรือมีการ สอนสุขศึกษาเพื่อให้ประชาชนทำตาม ตั้งกฎ หรือสุขบัญญัติโดยไม่คำนึงถึงความแตก ต่างของวัฒนธรรมชุมชน และเศรษฐกิจสังคมของท้องถิ่นที่มีธรรมชาติแตกต่างกัน จัดว่าเป็น “การเยียวยา” สถาบนั พระปกเกล้า
การมสี ่วนรว่ มของประชาชนในโครงการพัฒนาชมุ ชน แบบหนึ่ง บันได 2 ขั้นในระดับแรกนี้ แท้จริงแล้วถือว่าไม่ได้ให้ โอกาสแก่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมแต่อย่างใด (Degree of Non- Participation) ระดับที่ 2 เรียกว่า การมีส่วนร่วมแบบพอเป็นพิธี (Degree of Tokenism) เริ่มตั้งแต่ ขั้นที่ 3 คือ การให้ข้อมูลข่าวสาร (informing) หรือการ ประชาสัมพันธ์โครงการ (advertising) ขั้นที่ 4 ประชาชนอยู่ในฐานะผู้ให้คำปรึกษา โครงการ และให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (consulting) และขั้นที่ 5 รัฐเปิดโอกาสให้ผู้นำชุมชนบางคนเข้าร่วมแสดงความคิด เห็นในเชิงปรึกษาหารือ แต่ไม่ให้อำนาจในการตัดสินใจ อาร์นสไตน์ อธิบายระดับการ มีส่วนร่วมแบบนี้ว่า เป็นการมีส่วนร่วมแบบพระอันดับ (placation) หรือแบบ ฉาบฉวย ระดับท่ี 3 ถือว่าประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง (Degree of Real Citizen Power) เริ่มตั้งแต่ ขั้นที่ 6 โดยชุมชนเป็น “ผู้ริเริ่ม/ผู้กระทำ” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ ชุมชนเป็นผู้กำหนดเอง และหน่วยงานภายนอกเป็น “ผู้สนับสนุน” เท่านั้น หรือ องค์กรชุมชนได้มีโอกาสได้เข้าเป็นภาคี (partnership)ในการดำเนินงานร่วมกับรัฐ มี โอกาสได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทำงานร่วมกันโดยทั้งประชาชนและเจ้า หน้าที่ของรัฐต่างก็เคารพใน ความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ ระยะกำหนดหาปัญหา การจัดลำดับความสำคัญของปัญหา การออกแบบทางเลือกในการพัฒนาให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถพัฒนาหรือแก้ปัญหาของพวกเขาเองได้ หรือแก้ไขปัญหาสุขภาพ สถาบนั พระปกเกลา้
การใหบ้ ริการสาธารณะ โดยการมีสว่ นรว่ มของประชาชน (People’s Audit) ในชุมชนของตนเองในแต่ละท้องถิ่นซึ่งแตกต่างกัน ขั้นที่ 7 เป็นการมอบอำนาจให้ไป ดำเนินการ (delegate) ตามโครงการที่มีพันธสัญญาร่วมกันเนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ มั่นใจในความสามารถของประชาชนว่ามีความพร้อมที่จะดำเนินการ และ ในขั้นที่ 8 มีการเปิดโอกาสให้เข้าไปร่วมควบคุมดูแล (citizen control) ในฐานะผู้ตรวจสอบ ผู้ร่วมกำหนดนโยบาย การดำเนินงานของรัฐในโครงการพัฒนาสุขภาพด้วยว่า สอดคล้องกับนโยบายสาธารณะที่กำหนดไว้แต่แรกหรือไม่ ตรวจสอบความโปร่งใส ของการดำเนินงาน และดูแลในเรื่องความมีประสิทธิภาพหรือประสิทธิผลของโครงการ ร่วมกัน การให้โอกาสดังกล่าว ถือว่า ประชาชนมีพลังสามารถเข้าไปควบคุมดูแล โครงการพัฒนาสุขภาพอย่างจริงจัง และถือเป็นการมีส่วนร่วมแบบอุดมคติซึ่งบทบาท ประชาสังคมในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นเรื่องการส่งเสริมสุขภาพช่องปากก็คือการ เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงใน 3 ขั้นสุดท้ายดังกล่าว สถาบนั พระปกเกล้า
การมีส่วนรว่ มของประชาชนในโครงการพัฒนาชมุ ชน ประชาชนควบคุม ป ร ะ ช า ช น ส า ม า ร ถ ค ว บ คุ ม โ ค ร ง ก า ร (Control) พัฒนาสุขภาพได้อย่างสมบูรณ์ ระดับการมีส่วนร่วม อย่างแท้จริง (Degree ได้รับมอบอำนาจ ประชาชนมีอำนาจตัดสินใจในโครงการ of Citizen Power) (Delegate) เป็นส่วนใหญ่ ได้เข้าร่วมเป็นภาคีกับรัฐ ประชาชนอยู่ในฐานะหุ้นส่วนและมีส่วน (Partnership) ได้เสีย ประชาชนได้ร่วมคิด ร่วมกำหนด นโยบาย ร่วมตัดสินใจ ร่วมทำงาน ระดับการมีส่วนร่วม เป็นตัวแทนแบบ ผู้นำชุมชนบางคนถูกดึงเข้าร่วมโครงการ พอเป็นพิธี (Degree ไม้ประดับ หรือหุ่นเชิด ในฐานะเป็นตัวแทนแต่เพียงในนาม of Tokenism) (Placation) ไม่มีส่วนร่วมวางแผน ร่วมคิด ร่วม ตัดสินใจ เป็นผู้ให้คำปรึกษา รัฐสอบถามความคิดเห็นจากประชาชน (Consultation) เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของผู้ ดำเนินโครงการ แต่ไม่ให้ร่วมรับผิดชอบ ระดับการไม่มีส่วนร่วม ได้ข่าวสาร (Informing) ป ร ะ ช า ช น ไ ด ้ ร ั บ ข ้ อ มู ล ข ่ า ว ส า ร (Degree of ประชาสัมพันธ์ให้ปฏิบัติตามโครงการ Non-Participation) ได้รับการเยียวยา มีการเข้าถึงและสื่อสารทางเดียว เพื่อให้ (Therapy) เปลี่ยนพฤติกรรมส่วนบุคคล อาทิ การ ให้สุขศึกษาเป็นกลุ่ม ประชาชนถูกจัดแจง ประชาชนถูกเกณฑ์แรง ถูกจัดตั้ง ถูกเรี่ย (Manipulation) ไร ถูกขอร้องให้ทำตามหรือ ขอความ ร่วมมือ ขู่บังคับให้ร่วม แผนภาพที่ 1 บันได 8 ขั้น ของการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการพัฒนาชุมชน (ดัดแปลงจาก Arnstein 8, 1971) สถาบนั พระปกเกล้า
การให้บริการสาธารณะ โดยการมีส่วนรว่ มของประชาชน (People’s Audit) ด้วยเหตุนี้ หากรัฐจัดความสัมพันธ์เสียใหม่ โดยการปรับเปลี่ยนบทบาทจาก ผู้อุปถัมภ์ หรือผู้ดำเนินการในฐานะผู้เชี่ยวชาญไปเป็นผู้กระตุ้นจุดประกายหรือ สนับสนุนให้องค์กรชุมชนสามารถดำเนินโครงการในชุมชนของตนเองอย่างแข็งขัน เอื้ออำนวยให้มีการสร้างเครือข่ายในการทำงานร่วมกันระหว่างองค์การบริหารท้องถิ่น องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรประชาชน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการศึกษาโดย คิดและทำด้วยกันกับอีกหลายภาคีที่มีส่วนรับผิดชอบในโครงการก็ จะทำให้ชุมชนมีความตระหนักรู้ ถึงปัญหาและความเป็นจริงดังกล่าว ทำให้เกิดการ เรียนรู้ร่วมกันก็จะมีการขยายผล เกิดพลังของกลุ่มทำงานที่มีวัฒนธรรมประชาธิปไตย แบบมีส่วนร่วม และนำไปสู่การกระจายอำนาจในสังคม และองค์ความรู้ที่ได้ร่วมกัน นั้นก็สามารถนำไปสู่การสร้าง และผดุงอำนาจของสังคมอีกด้วย และในเวลาต่อมาก็จะเปลี่ยนไปเป็น กิจกรรม ทางสังคมและการเมืองร่วมกัน ที่เอื้ออำนวยให้ผู้คนในชุมชนมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ในที่สุด วิธีการดังกล่าว เป็นการเพิ่มอำนาจ (empowerment) ตัวอย่างที่มีให้เห็นเป็นการเรียกร้องให้มีปฏิบัติ การทางสังคมได้แก่ กฎบัตรว่าด้วยการกำหนดกลยุทธ์และดำเนินการเพื่อส่งเสริม สุขภาพ “ออตตาวา” (Ottawa Charter for Health Promotion) ซึ่งมีกลยุทธ์ที่ สำคัญในการส่งเสริมสุขภาพคือ 1. ก่อกระแสกลุ่มพลังทางสังคม (ADVOCATE) ในชุมชนเองโดยให้ข้อมูลข่าวสารแก่สาธารณชน เพื่อสร้างกระแส สังคม เพื่อกำหนดนโยบายสาธารณะโดยกลุ่มหรือองค์กรประชาชนภายใน หรือหน่วยงานจากภายนอกจุดประกายความคิด ชักชวนให้เห็นถึง ผลประโยชน์ที่จะได้รับหากลงมือทำในลักษณะร่วมคิดร่วมแรงแข็งขัน หรือ ชี้ให้เห็นถึงผลเสีย หากเพิกเฉย ทอดธุระ นั่นหมายถึงการสร้างจิตสำนึกเพื่อ สาธารณะของประชาชนร่วมกัน สถาบันพระปกเกล้า
การมีส่วนรว่ มของประชาชนในโครงการพัฒนาชุมชน 2. เอ้ืออำนวยให้ประชาชนได้ ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ (ENABLE) โดยกำหนดให้มีสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ มีทักษะในการดำเนิน ชีวิตมีโอกาสที่จะเลือกทางเลือกที่มีคุณภาพแทนที่จะถูกยัดเยียดให้คิดและ ทำอย่างไม่มีทางปฏิเสธได้ นั่นคือ ความสามารถในการดูแลตนเองได้อย่าง มีประสิทธิภาพ (self - efficacy) ปัจจัยที่สำคัญก็คือการเปิดโอกาสให้ ชุมชนได้บริหารจัดการโครงการต่างๆ ด้วยตนเองโดยมีระบบอาสาสมัคร และกำลังคนจากชุมชนไม่ว่าจะเป็นปัจเจกบุคคลเข้ามารวมกลุ่ม จัดตั้ง ชมรม กองทุน สหกรณ์ หรือ ครอบครัว ก็ตาม หน่วยงานจากภายนอก ทำหน้าที่เป็น ผู้สนับสนุน ข้อมูลข่าวสาร เทคนิคต่างๆ และการจัดการ เพื่อ ให้ชุมชนบรรลุสู่ การพึ่งพาตนเอง (local autonomy) ทำให้เกิดวงจรการ บริหารโครงการด้วยตนเอง และ สร้างเครือข่ายออกไปอย่างต่อเนื่อง 3. เป็นส่ือกลางในการประสานงานระหว่างกลุ่มหรือหน่วยงานต่างๆ (MEDIATE) ผู้ประสานงาน คนกลาง หรือผู้ไกล่เกลี่ยจะทำให้เกิดความ เข้าใจใน โครงการที่เกิดขึ้นในชุมชนอย่างถ่องแท้ หรือช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาความ ขัดแย้งระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยยึดถือเป้าหมายโดยรวม ของส่วนรวม ที่ต่างฝ่ายได้มีส่วนร่วมกำหนด เป็นหลัก สถาบันพระปกเกล้า
การให้บริการสาธารณะ โดยการมีสว่ นร่วมของประชาชน (People’s Audit) กลยุทธ์ที่สำคัญทั้ง 3 ประการจะนำไปสู่กิจกรรมที่สำคัญ อาทิ 1 การสร้างนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ (Build Healthy Public Policy) การกำหนดนโยบายสาธารณะ มีความหมายกว้างไปกว่า การ กำหนดนโยบายในระดับกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น นั่นคือนโยบาย สาธารณะที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้อง ขานรับและมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง นโยบายสาธารณะใดก็ตาม ที่ก่อให้ เกิดผลเสียต่อสุขภาพช่องปากก็จะต้องเข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่น เดียวกัน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกที่ดีกว่า 2 การสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพที่ดี (Create Supportive Environment) การจัดสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตการทำงาน การใช้เวลาว่างในการนันทนาการ โดยสร้างสรรค์สังคมที่มีสุขภาพดี (Healthy Society) สร้างสรรค์เมืองที่มีสุขภาพดี (Healthy City) จัดที่ ทำงานให้เอื้อต่อสุขภาพดี (Healthy Workplace) สร้างสรรค์ครอบครัวที่ มีสุขภาพดี (Healthy Family) หรือสร้างสรรค์โรงเรียนที่เอื้อต่อสุขภาพดี ของนักเรียนและ ครู (Healthy School) 3 การทำให้ชุมชนสามารถดำเนินงาน ส่งเสริมสุขภาพได้อย่างแข็งขัน (Strengthening Community Action) โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้กับองค์กรประชาชน และองค์การ บริหารท้องถิ่นซึ่งเป็นการเพิ่มพลังชุมชน (community empowerment) เพิ่ม 10 สถาบนั พระปกเกล้า
การมสี ่วนร่วมของประชาชนในโครงการพฒั นาชมุ ชน อำนาจในการตัดสินใจให้กับกลุ่มแกนนำในชุมชนเริ่มตั้งแต่ เปิดโอกาสให้ ชุมชนได้รับข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพช่องปากที่เป็นประโยชน์ สร้าง สถานการณ์ให้ค้นพบเองว่าอะไรเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพของตนเอง ให้การปรึกษาถึงการได้มาซึ่งสิ่งสนองความจำเป็นเหล่านั้น ให้โอกาสได้ เรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับสุขภาพและทางเลือกในการดูแลสุขภาพช่องปาก ช่วยให้เขาได้รับรู้ว่า พวกเขามีสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่จะตัดสินใจกำหนดชะตา ชีวิตของตนเองและชุมชน พัฒนาทักษะหรือ ความสามารถในการควบคุมการปฏิบัติงาน ความ สามารถในการ กำหนดวิสัยทัศน์ขององค์กร กำหนดนโยบายและเป้าหมายการดำเนินงาน เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมคิดร่วมดำเนินการตลอด จนประเมินผลการทำงานได้ด้วยตนเอง แนะนำ ช่องทางที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการเงินและ ทรัพยากรอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ซึ่งกล่าว โดยรวมก็คือ เสริมสร้างให้องค์กรประชาชนและ องค์การบริหารท้องถิ่นสามารถดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพช่องปากใน ชุมชนได้อย่างแข็งขัน 4 การช่วยพัฒนาทักษะส่วนบุคคล (Helping people develop their skills) เพื่อเขาจะมีความสามารถ คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็นและมี พลังในการควบคุมตนเองซึ่งเป็นการเสริมสร้างอำนาจให้แก่ตนเอง (self- empowerment) โครงการพัฒนาโดยให้คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา นั้นจะส่งเสริมให้คนมีทักษะชีวิต (Life Skill) รู้จักคิด วิเคราะห์อย่างมี วิจารณญาณ รู้จักเลือกแนวทางที่เหมาะสมสำหรับตัวเอง สามารถดูแล สุขภาพอนามัยได้ด้วยตนเอง และควบคุมสิ่งแวดล้อมซึ่งส่งผลกระทบต่อ สถาบันพระปกเกลา้ 11
การใหบ้ ริการสาธารณะ โดยการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน (People’s Audit) สุขภาพช่องปากของตนเองและผู้คนในชุมชนได้ ตลอดจนถึงการเปิด โอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการศึกษา ร่วมคิดร่วมทำ ด้วยกันซึ่งจะ ช่วยส่งเสริมทักษะส่วนตัวในการคิด และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพใน เวลาอันรวดเร็ว. 5 ปรับเปลี่ยนระบบบริการสาธารณสุขเสียใหม่ (Re-orientation of Health Service) เพื่อให้มีดุลยภาพที่ดีกว่าระหว่างบริการส่งเสริมสุขภาพ ช่องปาก กับบริการรักษา พยาบาล ระบบบริการสาธารณสุขในปัจจุบันควร มีการปรับให้มีบริการส่งเสริมสุขภาพให้มากขึ้น อาทิ สื่อสารกับหน่วยงาน ภายนอกให้กว้างขวางมากขึ้น ปรับบทบาทเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเสียใหม่ แทนที่จะมีบทบาทเพียงแค่ผู้สงเคราะห์ ผู้อุปถัมภ์ (the giver) หรือ ผู้ดำเนินการ (the doer) ดังเช่นที่ผ่านมา จำเป็นต้องมีการเปิดโลกทัศน์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ทั้งหลายได้ จะริเริ่มสร้างสรรค์ ให้หน่วยงานของตนเองทำโครงการนำร่องหรือทำงาน วิจัย และพัฒนาควบคู่กันไปเพื่อปรับระบบบริการที่จากเดิมเคยเป็นเชิงรับ ให้มาเป็นเชิงรุก มากขึ้น และกำหนดบทบาทของทีมงานสุขภาพเสียใหม่ให้ ดำเนินงานในฐานะผู้ส่งเสริม (the promoter) ผู้จุดประกาย (the catalyst) ผู้สนับสนุน (the supporter) ผู้อำนวย ความสะดวก (the facilitator) เพื่อให้ประชาชนในฐานะ เจ้าของสุขภาพมีความสามารถ ในการตัดสินใจ ใช้บริการที่มี ในหลายทางเลือก และมีความ 12 สถาบนั พระปกเกลา้
การมสี ่วนร่วมของประชาชนในโครงการพฒั นาชุมชน รับผิดชอบในการ ดูแลตนเองโดยพึ่งพิงผู้ให้บริการทางการแพทย์และ สาธารณสุขให้น้อยลงตลอดจนประชาชนก็มีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาส และมีความเพียรพยายามเข้าไปร่วมจัดการในโครงการพัฒนาสุขภาพ เหล่านั้นด้วย นั่นคือการให้อำนาจประชาชน ในการเข้าไปดูแลควบคุม โครงการส่งเสริมสุขภาพด้วย และไม่ปล่อยให้เป็นอำนาจหน้าที่ เฉพาะของ นักวิชาชีพหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง แต่เพียงลำพังฝ่ายเดียวอีก ต่อไป ดังนั้น การพัฒนาชุมชน ไม่ว่าโดยเจ้าหน้าที่องค์กรของภาครัฐหรือ องค์กรพัฒนาเอกชนก็ตาม จุดเน้นควรจะเป็นการทำงานร่วมกับประชาชน และช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนมีบทบาทนำซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ นักพัฒนาทั้งหลายจะต้องหันมาทบทวนบทบาทในการทำงานที่ผ่านมา แล้วปรับเปลี่ยนโลกทัศน์เป็นสิ่งแรก และพัฒนาทักษะต่างๆ ของตนเอง ในบทบาทใหม่ เพื่อให้เกิดความสำเร็จในทิศทางใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัฒนธรรม อำนาจนิยมอุปถัมภ์ ได้ ฝังรากลึกใน สังคมท้องถิ่นไทยมาเป็นเวลาช้านาน การเข้าไปร่วมทำงานพัฒนาชุมชนแนวใหม่ จำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงตามข้อจำกัดของสังคมดังกล่าว ซึ่งต้องอาศัย ความอดทน ความรู้สึกไว ความรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง และมีการมองโลกในแง่ ดีด้วย เพื่อสนับสนุนให้สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางในอนาคต สถาบันพระปกเกล้า 13
การใหบ้ ริการสาธารณะ โดยการมสี ่วนรว่ มของประชาชน (People’s Audit) เอกสารอา้ งองิ ยุค ศรีอารยะ : “เครือข่ายอำนาจครอบโรคและวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่” ใน พิทยา ว่องกุล (บรรณาธิการ): กลียุคกับหายนะเศรษฐกิจไทย, โครงการวิถีทรรศน์ , กรุงเทพ, หน้า 3-39, 2540. เสน่ห์ จามริก : ฐานคิดสู่ทางเลือกใหม่ของสังคมไทย โครงการวิถีทรรศน์, กรุงเทพ, 217 หน้า, 2541. ลือชา วนรัตน์ : บทบาทขององค์การบริหารส่วนตำบล ในงานส่งเสรมสุขภาพและ อนามัยสิ่งแวดล้อม กรุงเทพ: สำนักงานวิชาการ กรมอนามัย, หน้า 72-97, 2540. อรทัย อาจอ่ำ และ โรเช่ ชีกาล : การวิจัยและพัฒนาความจำเป็นขั้นพื้นฐานในชุมชน รายได้น้อยในเมือง: กรณีวัดช่องลม เอกสารทางวิชาการหมายเลข 165 สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กรุงเทพหน้า 32-57, 2536 . Dhillon H.S. and Philip L. : Health promotion and communit action for health in developing countises, World Health Organization, Geneva, 1994 . Smith S.: Why no egg? Building competency and self - reliance: a primary health care principle. Canadian Journal of public health, 82(1) : 16-18 ฃ, 1991. 14 สถาบนั พระปกเกลา้
การมีสว่ นรว่ มของประชาชนในโครงการพฒั นาชุมชน Pine, M.C. : Introduction, principle, and practice of public health in Pine, M, C.(ed) Community oral health Wright, Oxford, 1-10, 1977. Arnstein, S. Eight rungs on the ladder of citizen participation, in Cahn, E.S. and Passett, B.A. (eds), Citizen participation : effecting community changes, Praeger publishers, New York, 1971 . Maguire, P. : Doing participatory research ; a feminist approach. Amherst, University of Massachusetts, 1987. Tandon R. Participatory research in the empowerment of people, Convergence, 14(3): 20-27, 1981. Smith, S, Pyrch,T., Lizardi AO: Participatory action research for health, World Health Forum, WHO, Geneva. 14 : 319-324, 1993. World Health Organization. : Ottawa Charter for Health Promotion, An International Conference on Health Promotion. The move toward a new public health. WHO Ottawa, Canada, 1: iii - v, 1986. สถาบนั พระปกเกลา้ 15
เร่อื งท่ี 16 การเป็นห้นุ ส่วนระหว่างรัฐ ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ดร.ถวิลวดี บุรกี ุล การเป็นหุ้นส่วนเป็นเรื่องของการมีความสัมพันธ์ที่เป็นทั้งด้าน ปริมาณและคุณภาพระหว่างภาครัฐและเอกชนในกระบวนการพัฒนา กการเปน็ หุ้นสว่ นในการบริหารจดั การ ารบริหารจัดการ (Governance) เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ทางการเมือง เศรษฐกิจและการบริหารในการจัดการภารกิจของประเทศ ซึ่งเป็นแนวคิด ที่ประกอบด้วยมาตรการที่ซับซ้อน เป็นกระบวนการมีความสัมพันธ์และ
การใหบ้ ริการสาธารณะ โดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) เป็นสถาบันซึ่งพลเมืองและกลุ่มคนต่างๆ สามารถแสดงความสนใจและดำเนินการ ตามสิทธิและหน้าที่ตลอดจนเป็นไปตามความแตกต่างของแต่ละคน การบริหารกิจการ บ้านเมืองที่ดีหรือธรรมาภิบาลจะเป็นเรื่องของการจัดสรรและจัดการทรัพยากรในการ แก้ปัญหาของส่วนรวม โดยประกอบด้วยการมีส่วนร่วม โปร่งใส สำนึกรับผิดชอบ นิติธรรม ประสิทธิภาพและความเท่าเทียมกัน เป็นต้น การจัดการที่ดี (Governance) รวมถึงรัฐ แต่คลุมถึงเอกชนและ ประชาสังคมทั้ง 3 กลุ่มมีความสำคัญ ต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รัฐทำให้เกิดสภาพแวดล้อมทาง กฎหมายและการเมืองภาคเอกชน สร้างงานและรายได้ ประชาสังคมก่อ ให้เกิดความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกัน ทางการเมืองสังคมและควบคุมกลุ่ม ต่างๆ ให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง เศรษฐกิจสังคมและการเมือง (Agere,Sam.2000.) ภาครัฐและเอกชนพยายามสร้างความสัมพันธ์เพื่อการบริหาร การจัดการที่ดี ซึ่งจะนำมาสู่การให้บริการที่ดีและมีคุณภาพแก่ประชาชน รวมถึงกลุ่ม ชนด้อยโอกาส คนยากจนซึ่งไม่ค่อยมีโอกาสเข้าถึงการบริการสาธารณะต่างๆ อาทิ การ ศึกษาหรือการบริการสาธารณสุข การปรับปรุงบริการที่ดีจะเป็นสิ่งสำคัญของทั้ง ภาครัฐและเอกชนที่จะให้ผลประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ 18 สถาบันพระปกเกล้า
การเป็นหนุ้ ส่วนระหว่างรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) แนวโน้มของแนวคิดดา้ นการพฒั นา มีแนวคิดในเรื่องของการพัฒนามากมายที่มีอิทธิพลต่อประวัติศาสตร์ของการ พัฒนาในประเทศต่างๆ เช่น เมื่อรัฐบาลเป็นอิสระ ภาคเอกชนจะมีการลงทุนและรัฐบาลจะมีบทบาท ในการชี้นำการพัฒนาเศรษฐกิจ ในการดำเนินการพัฒนารัฐบาลต่างๆ จัดตั้งรัฐวิสาหกิจ ประเทศจะ พยายามทดแทนการนำเข้าโดยมีนโยบายด้านนี้ซึ่งรวมการรักษา อัตราแลกเปลี่ยน มีการตั้งกำแพงภาษีสร้างอุปสรรคเพื่อป้องกันการ นำเข้า เป็นการสร้างอคติต่อการส่งออกด้วย ภาคเอกชนเป็นจักรกลในการเติบโตและพัฒนาขณะที่ภาคเอกชนเป็น ผู้ช่วยทำให้เติบโต การเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชนเป็นสิ่งที่มีการ อภิปรายกัน ในบทบาทของรัฐและเอกชน ปัจจัยสำคัญที่มาจากโลกาภิวัตน์ ซึ่งเห็นว่าภาคเอกชนเป็นศูนย์กลาง ของการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่ใช่ผู้ให้เกิดการเติบโตแต่ เป็นหุ้นส่วนเป็นตัวกระตุ้น หรือช่วยดำเนินการ การเป็นหุ้นส่วน ระหว่าง 2 ภาคในกระบวนการพัฒนาจะสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้จะบริจาค เงินหรือองค์กรระหว่างประเทศและองค์กรที่จะช่วยเหลือหรือ ต้องการในการเป็นหุ้นส่วนนั้น กระแสปัจจุบันเป็นเรื่องของการ ปรับแก้กฎหมายของการบริการทางการเงิน การให้บริการด้านขนส่ง เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งผลของแรงผลักดันทางโลกาภิวัตน์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้การปฏิบัติงานที่ไม่มี สถาบันพระปกเกลา้ 19
การให้บรกิ ารสาธารณะ โดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) ประสิทธิภาพ การจัดการที่ไม่ดีของรัฐ การให้บริการที่ไม่พอเพียงกับ ประชาชนและสังคมก็เป็นหลักฐานของการเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น นอกจากนี้ผลของเรื่องต่างๆ ทำให้มีการแสวงหาวิธีการที่ดีขึ้นเพื่อ ปรับปรุงการให้บริการที่ดีขึ้นเพื่อลดกระแสความไม่พอใจของ สาธารณชนต่อรัฐ แนวคดิ ของการเป็นหุ้นสว่ น แนวคิดของความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนไม่ใช่เรื่องใหม่ในการพัฒนา เศรษฐกิจหรือการจัดการทางนโยบายที่รัฐกำหนดให้ ปกติเป็นเรื่องของการหา แนวทางในการบริหารเศรษฐกิจและปรับปรุงการให้บริการสาธารณะ ดังนั้นเรื่องของ การสร้างการเป็นหุ้นส่วนจึงเป็นเครื่องมือเพื่อการเปลี่ยนแปลงหรือสร้างความต่อเนื่อง ในเรื่องต่างๆ การพึ่งพาอาศัยกันและกันของรัฐและเอกชนในเรื่องต่างๆ เป็นการนำไป สู่การปรับปรุงการจัดการทางเศรษฐกิจอีกด้วย การให้ความจำกัดความของการเป็นหุ้นส่วนเป็นการยากเหมือนกันเราอาจให้ ความหมายในเรื่องราว กรอบทางนโยบาย การปฏิบัติ กระบวนการที่ให้แนวทางในการ จัดการทางเศรษฐกิจและเพื่อปรับปรุงกระบวนการพัฒนา การเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาเป็นการสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างรัฐและหุ้น ส่วนทางสังคม อาทิ สถาบันทางภาคเอกชน ประชาชน ซึ่งเป็นวิธีการนำสังคมและ เศรษฐกิจเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 วัตถุประสงค์ก็คือการพัฒนาที่ต่อเนื่องและทำให้เป็นการ มีส่วนร่วมมากขึ้น ลดปัญหาต่างๆ และสร้างความมั่นใจในเรื่องของผลประโยชน์ เป็นการจัดสรรทรัพยากรให้เท่าเทียมมากขึ้น การเป็นหุ้นส่วนในสถานการณ์หนึ่งๆ 20 สถาบันพระปกเกลา้
การเป็นห้นุ ส่วนระหว่างรัฐ ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) คล้ายกับการสร้างสะพานระหว่างหุ้นส่วนต่างๆ ในการพัฒนาเพื่อเปรียบเทียบการให้ บริการสาธารณะไปสู่ประชาชน ดังนั้นการเป็นหุ้นส่วนจึงไม่ใช่แนวคิดใหม่แต่เกี่ยวข้องกับการสร้าง วิธีการที่เหมาะสมในการทำงานร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์กันอย่างมีคุณค่า และมีประสิทธิภาพ ความสัมพันธ์ที่เป็นทางการจะมุ่งที่การพัฒนาและ จัดการเรื่องของทรัพยากรมนุษย์และการทำงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ มาตรการนี้เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและสำนึกรับผิดชอบ ความโปร่งใส และการคาดการณ์ได้ในการกำหนดและนำนโยบายไปปฏิบัติ การสร้าง ความสัมพันธ์โดยเปิดเผยและมีข้อตกลงร่วมกัน นำไปสู่การส่งเสริมและ ปรับปรุงกระบวนการธรรมาภิบาลหรือการบริหารจัดการที่ดี การเป็นหุ้นส่วนสร้างการช่วยเหลือกัน ทางการเงินทางสถาบันและความรู้ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วน มีเป้าหมายร่วมกันตัดสินใจและได้ผลประโยชน์ ร่วมกัน อย่างไรก็ดีการเป็นหุ้นส่วนของรัฐและ เอกชนเพื่อความสัมพันธ์ที่เป็นเอกภาพมากในเรื่อง ของการสร้างความสมดุลย์ในการแข่งขันและความ สนใจของแต่ละฝ่าย ความสัมพันธ์จะแสดงให้เห็น ว่าจะใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดและเสี่ยงการใช้ความ พยายามที่ซ้ำซ้อนในการให้บริการสาธารณะซึ่งใช้ภาษีประชาชน ในบางประเทศที่ความ เชื่อมั่นในผู้นำทางการเมืองและสถาบันของราชการลดลง ประชาชนจะแสดงความไม่ พอใจในเรื่องการบริการมาก การร้องเรียนต่างๆทำให้เกิดความกดดันต่อภาครัฐในการ หาแนวทางแก้ปัญหาเหล่านั้น ทางออกที่เป็นไปได้ คือ การสร้างการเป็นหุ้นส่วน กับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ในสังคมและให้ช่วยกันหาทางออก กลยุทธ์ต่างๆ ที่มาจาก สถาบันพระปกเกลา้ 21
การให้บริการสาธารณะ โดยการมสี ่วนรว่ มของประชาชน (People’s Audit) การตกลงกันของหุ้นส่วนจะนำไปสู่การปฏิบัติที่สำเร็จและแก้ปัญหาได้อย่างลุล่วงใน ที่สุด ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐนับเป็นเรื่องสำคัญของผู้บริหารประเทศเพราะ การสนับสนุนของประชาชนในการกำหนดและนำนโยบายไปปฏิบัติเป็นสิ่งสำคัญในการ ปฏิบัติตามนโยบายอย่างมีประสิทธิผล Ellram (1995) ให้คำจำกัดความของการเป็นหุ้นส่วนว่า ความ สัมพันธ์ระหว่างองค์กร 2 องค์กรที่ตกลงกันในเวลาและการแข่งขันความ เสี่ยงและผลประโยชน์ร่วมกันจากการสร้างความสัมพันธ์นั้น ซึ่งจะอธิบาย การเป็นหุ้นส่วนในเรื่องของการเป็นพันธมิตร ซึ่งหุ้นส่วนนำทักษะที่มีเพื่อ ดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ประโยชน์ของการเป็นหุ้นส่วนจากการพึ่งพากันมา จากความเข้าใจร่วมกัน ปัจจัยของความสำเร็จของการเป็นหุ้นส่วน คือ การช่วยเหลือของหุ้นส่วน ประเด็นด้านบุคลากร การเงินและความสัมพันธ์ซึ่งหุ้นส่วนแต่ละฝ่าย/คน จะเพิ่ม มูลค่าของความสัมพันธ์ที่จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและการคิดร่วมกัน การเปลี่ยน ข้อมูลอย่างเปิดเผยและแนวคิดระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยตรง ในแนวคิดการพัฒนา, การเป็นหุ้นส่วนไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ฝ่ายแต่ เป็นหลายฝ่าย หลายหุ้นส่วน การเป็นหุ้นส่วนอาจใช้กับความร่วมมือทางเทคนิค ตัวอย่าง เช่น ในโครงการพัฒนาหุ้นส่วนอาจรวมกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนทั้งระดับ ชาติและท้องถิ่น องค์กรภาครัฐ ผู้ให้ทุน องค์กรต่างๆ องค์กรการกุศล เช่น วัด ตลอดจนองค์กรชุมชน ความสำเร็จของการเป็นหุ้นส่วนระหว่างองค์กรต่างๆ และภาค รัฐขึ้นกับการปฏิบัติกับการปฏิบัติ ตัวอย่าง เช่น ช่องทางเข้าถึงทรัพยากร วิธีการ 22 สถาบันพระปกเกล้า
การเปน็ หุ้นสว่ นระหว่างรัฐ ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ทำงานร่วมกัน หรือวิธีการพัฒนาตลอดจนความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมระหว่างหุ้นส่วน อย่างไรก็ดี การเป็นหุ้นส่วนจะยั่งยืนต้องขึ้นกับความเชื่อมั่นไว้วางใจกันและนับถือ กัน เพื่อเห็นว่าประสบการณ์ของผู้อื่นเป็นการสร้างคุณค่าให้ตนเอง หุ้นส่วนในการ พัฒนาองค์กรเกิดขึ้นได้ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา การพัฒนาชนบท ตลอดจนเรื่องของสังคมต่างๆ องค์ประกอบของการเปน็ ห้นุ สว่ นและผู้ดำเนินการท่สี ำคัญ โดยทั่วไป หุ้นส่วนประกอบด้วยแรงผลักดันหลายฝ่ายซึ่งอาจมีอำนาจมากกว่า ผู้อื่น ขณะที่บางคนไม่เท่าเทียมกับบางคนในเรื่องของการตัดสินใจหรือพิจารณา นโยบายและการเป็นเจ้าของทรัพยากรเช่นเดียวกับเรื่องของโลกาภิวัตน์ หุ้นส่วนถูก กำกับโดยสถานการณ์ต่างๆ และแรงผลักจากสังคม ธรรมชาติและชนิดของหุ้นส่วน จึงถูกกำหนดโดยสถานการณ์ทางประวัติศาสตร์และมาตรการแก้ปัญหา ในการเป็นหุ้นส่วนซึ่งเกิดขึ้นจากกระแสโลกาภิวัตน์ จำนวนคำถามประเด็น ต่างๆ จะเกิดขึ้น คำถามต่างๆ จะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบธรรมชาติและชนิดของ หุ้นส่วนเช่นใครจะตัดสินใจในการรวมตัวเป็นหุ้นส่วนและเป็นหุ้นส่วนลักษณะใด อำนาจในการตัดสินใจว่าระหว่างกลุ่มใดมีการเข้าถึงหรือโอกาสเข้าถึงทรัพยากรใน ระดับใดเท่ากันหรือไม่ คำถามเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นหุ้นส่วนด้วย ในกระบวนการทางโลกาภิวัตน์อาจมีสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเป็นหุ้นส่วน ดังนั้นใน กรอบของการสร้างการเป็นหุ้นส่วน คำถามต่างๆ ที่ควรถามก็ คือ บทบาทของภาครัฐ ควรมีมากน้องเพียงใด รวมทั้งบทบาทของหุ้นส่วนอื่นๆ เป็นหุ้นส่วนในระดับใดจึงจะเหมาะสม สถาบนั พระปกเกล้า 23
การให้บรกิ ารสาธารณะ โดยการมีส่วนรว่ มของประชาชน (People’s Audit) ซึ่งไม่มีคำตอบที่แน่นอนแต่คำตอบมาจากการสร้างฉันทามติจะเกิดจากหุ้นส่วน ซึ่งต้องทำข้อตกลงระหว่างหุ้นส่วนและประชาสังคม หน้าที่ของภาครัฐคือการสร้าง และรักษากรอบของประสิทธิภาพความเป็นธรรม และกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กับกิจกรรมของสาธารณะและเอกชน ซึ่งหมายความว่าภาครัฐต้องสร้างความมั่นใจ ว่ามีความเท่าเทียมและมั่นคงในประเทศซึ่งเป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจและ สนใจในเรื่องของสินค้าสาธารณะ อันเป็นการให้บริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพและ มีความรับผิดชอบ บทบาทที่สำคัญของภาครัฐ เช่น สร้างความ มั่นใจว่ามีการใช้หลักธรรมาภิบาลในการสร้างโอกาสให้ กับคนจนเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากนั้นภาค รัฐยังสร้างความมั่นใจในเรื่องของการเคารพสิทธิ มนุษยชนและและคงความมั่นคงของสถานการณ์ ทางเศรษฐกิจรักษามาตรฐานของกฎระเบียบ ความมั่นคงและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันรัฐ จะต้องสร้างความมั่นใจในเรื่องของการเลือกตั้งที่ อิสระและเที่ยงธรรมที่จัดให้มีขึ้นเป็นระยะ และ ต้องรับผิดชอบต่อสาธารณชน ภาคเอกชนก็เป็นเครื่องจักรในการพัฒนาเพราะ เป็นการสร้างงานที่นำมาสู่รายได้เพื่อปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพ ภาครัฐต้องสร้าง ความมั่นใจว่าสภาพแวดล้อมของประเทศที่ภาคเอกชนงานรวมอยู่นี้สามารถก่อให้เกิด ผลผลิตและเพิ่มการลงทุน ภาคเอกชนมีบทบาทในเรื่องสังคม เศรษฐกิจ การเงิน และการเมือง บทบาททางสังคมบทบาทหนึ่งนอกจากการสร้างงาน คือการให้บริการที่ ภาครัฐไม่สามารถจัดได้ บทบาททางเศรษฐกิจ คือในการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การพัฒนาอุตสาหกรรม การส่งออกนำเข้า และการใช้ทรัพยากร ภาคเอกชนมีบทบาททางการเงินในเรื่องของการธนาคาร การประกัน เพื่อสร้างความ 24 สถาบันพระปกเกลา้
การเป็นหุ้นส่วนระหว่างรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) เข้มแข็งทางตลาดเงิน บทบาททางการเมือง คือการส่งเสริมความสัมพันธ์กับนานาชาติ การติดตามกระบวนการการเลือกตั้งและการเป็นหุ้นส่วนในการส่งเสริมความโปร่งใส และสร้างฉันทามติในการพัฒนา ภาคประชาสังคมเป็นกลุ่มสำคัญในกระบวนการพัฒนาและรักษาธรรมาภิบาล ภาคประชาสังคมเป็นตัวเชื่อมบุคคลแต่ละคนกับสาธารณะและรัฐ โดยผ่านกลุ่มหรือ องค์กรที่สนใจเรื่องต่างๆ ประชาสังคมสร้างการมีส่วนร่วมของพลเมืองในด้าน กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีศักยภาพในการมีอิทธิพลต่อภาครัฐในการพัฒนา และจัดการทางนโยบาย ซึ่งเป็นการสร้างการตรวจสอบอำนาจรัฐ และติดตามเรื่องที่ การทำลายสังคมส่วนรวม ตัวอย่าง เช่น ในประเทศมาเลเซียมีการพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนกับอุตสาหกรรม โดยมีนโยบายด้านนี้ขึ้นใน พ.ศ. 2526 ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญของการเติบโตทาง เศรษฐกิจ นโยบายนี้ต้องการให้ภาครัฐและเอกชนเห็นว่าประเทศเป็นหน่วยงานทาง ธุรกิจ และเป็นเจ้าของร่วมกันเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วม การนำนโยบายไปปฏิบัติอาจเป็น ในรูปของการเป็นคณะที่ปรึกษา การประชุม สัมมนา ประชุมเชิงปฏิบัติการ การฝึก อบรม และการให้ทุน (Commonwealth Secretariat, 1995) การเป็นหุ้นส่วนในทางอุตสาหกรรมสามารถดำเนินการได้ในรูปแบบของคณะที่ ปรึกษาซึ่งมีในกระทรวงต่างๆ ทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น หน้าที่ คือการเป็นคณะที่ ปรึกษาของข้าราชการสมาชิกของคณะที่ปรึกษา คือเจ้าของอุตสาหกรรม ผู้แทนจาก หน่วยงานเอกชนและรัฐ ภาคเอกชนสมารถมีบทบาท ในเรื่องของการให้โอกาส ข้าราชการอาวุโสไปให้การอบรมในโรงงานของตน สถาบนั พระปกเกลา้ 25
การให้บริการสาธารณะ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) ผลกระทบของการ เปน็ หุน้ สว่ นในหนว่ ยงาน เมื่อมีการตั้งหุ้นส่วนขึ้นโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เครื่องมือที่ภาครัฐและเอกชน ใช้ในการนำนโยบายไปปฏิบัติจะถูกจัดระบบเพื่อให้สามารถทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ ดังนั้น ภาครัฐจะต้องปรับโครงสร้าง เพื่อสามารถพัฒนาขีดความสามารถในการทำงาน ร่วมกับภาคเอกชนในกระบวนการพัฒนา การเป็นหุ้นส่วนที่มีความหมายต่อภาครัฐและเอกชน ต้องมุ่งเพื่อการปรับปรุง ผลผลิตที่จะได้รับ ซึ่งหมายความว่าภาครัฐต้องพัฒนาให้ใช้วิธีการทางธุรกิจ ควร ปฏิบัติงานของภาครัฐอาจขึ้นกับระเบียบการจัดการเช่นเดียวกับภาคเอกชน ตัวอย่าง เช่น ภาครัฐควรพัฒนาคุณภาพการบริการและทดลองปฏิบัติงานและการมีสำนึกรับ ผิดชอบจะเปลี่ยนเป็นการจัดการแบบใหม่ที่เน้นผลมากกว่ากระบวนการและคำอธิบาย ภายในภาคเอกชน สำนึกรับผิดชอบยังเป็นเรื่องที่เชื่อกันว่าเป็นการต้องปฏิบัติตาม หรือเป็นปัจจัยนำเข้ามากว่าเป็นการบรรลุความสำเร็จของผลลัพธ์ กล่าวถึงต้องมีการพัฒนาวัฒนธรรมของการจัดการองค์การที่มีประสิทธิภาพ และมีคุณค่ามากกว่าเดิม ภาครัฐต้องมีการพัฒนาเป้าหมายค่านิยมและความเชื่อ และต้องให้ความสำคัญกับความต้องการที่จะเห็นคุณค่าของผู้รับบริการ ตลอดจนผู้มี 26 สถาบันพระปกเกลา้
การเปน็ หุ้นสว่ นระหวา่ งรัฐ ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ส่วนได้ส่วนเสียเช่นเดียวกับภาคเอกชน ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ เป้าหมายขององค์กร ต้องชัดเจน การวางแผนร่วมกันและวัฒนธรรมของการทำงานร่วมกันต้องฝังลึกใน องค์กร ดังนั้นจึงต้องมีการจัดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพ ถ้าต้องการผลผลิตทรัพยากรมนุษย์จะช่วยจัดการตามผลการปฏิบัติงานและ มีการปฏิบัติเช่นเดียวกับภาคเอกชนในเรื่องของการให้รางวัลแก่บุคลากร ตามผลการปฏิบัติงาน วิถีทางที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของการทำงานโดยเฉพาะปัญหา ภาครัฐ คือต้องสร้างพันธมิตรและรวมตัวกันให้ได้ตามความเหมาะสมสร้างการเป็นหุ้น ส่วนกับผู้รับบริการ และพัฒนาแนวทางที่จะทำให้เกิดการใช้เทคโนโลยี และวิธีการที่ ทันสมัย การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญในศตวรรษที่ 21 และการรวมตัวกันจะ ทำให้ยั่งยืนได้ยากหากไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีจากพนักงานหรือเจ้าหน้าที่และประชาชน ตลอดจนประชาสังคมไม่ได้รับความพึงพอใจ สถาบนั พระปกเกล้า 27
การใหบ้ ริการสาธารณะ โดยการมสี ่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) หลกั การในการสรา้ งการเป็นหุน้ สว่ นใหย้ ั่งยืน สำหรับความยั่งยืนของการเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชนนั้นต้องขึ้นกับ หลักการและการปฏิบัติที่ชัดเจน หลักการต่อไปนี้ก็เป็นข้อเสนอเพื่อการสร้างความ ยั่งยืนให้กับการเป็นหุ้นส่วนได้ อาทิ เป็นที่ยอมรับมากขึ้นว่าการเป็นหุ้นส่วนที่เป็นที่ต้องการนั้นต้องเกิดจาก ภายใน หรือในทางตรงกันข้ามนโยบายต้องเป็นของท้องถิ่นกับ ข้อตกลงทางการเมือง และภาวะผู้นำของผู้บริหารการมีส่วนร่วม การ เข้าร่วมของผู้รับบริการ พนักงานหรือเจ้าหน้าที่และสหภาพ และสิ่งที่ สำคัญยิ่งคือการเน้นที่ผู้รับบริการและแรงผลักดันจากสังคมของการ เป็นหุ้นส่วนที่มีคุณค่าจะไม่ได้มาจากบุคคลภายนอกแต่เป็นเครื่องมือ ที่มีพลังจากการโน้มน้าวกัน ภาวะผู้นำและการผูกมัดตนเองที่จะดำเนินการที่แข่งขันเพื่อจะทำให้ การเป็นหุ้นส่วนที่ต้องการบรรลุจัดเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าต้องการความ ยั่งยืนของการเป็นหุ้นส่วน ซึ่งปกติจะมีแรงต้านมากมายที่จะเปลี่ยน องค์กรภาครัฐ หากรัฐบาลไม่สามารถสร้างพลังผลักดันเพื่อการ เปลี่ยนแปลงได้ก็จะเอาชนะแรงต้านต่างๆ ไม่ได้ ต้องมีความสมดุลย์ระหว่างวิสัยทัศน์และความเป็นจริงทางสังคม วิสัยทัศน์ของสังคมที่ประชาชนต้องการที่จะอาศัยอยู่ในสังคมและ วิสัยทัศน์ของการบริการสาธารณะที่ต้องให้กับสังคมต้องแสดงให้เห็น ชัดเจน ดังนั้นต้องระบุคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับบทบาทของรัฐ เพื่อ บรรลุวิสัยทัศน์และคำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องอภิปรายกัน อาจผ่าน 28 สถาบันพระปกเกล้า
การเป็นหุ้นส่วนระหวา่ งรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) พรรคการเมือง ผู้นำในภาคเอกชน และในองค์กรพัฒนาเอกชน ตลอดจนสหภาพแรงงาน เป็นที่เข้าใจกันว่าแรงผลักดันที่จะพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนที่ต้อง เกี่ยวข้องกับการประเมินสภาพความเป็นจริง ของผลทางสังคม ความ ไม่เท่าเทียมกันระหว่างคนรวยและคนจนจะไม่เพิ่มขึ้น ถ้ามีการ พัฒนาการเป็นหุ้นส่วนเพื่อที่สมาชิกที่จนที่สุดในสังคมจะต้องมีความ เป็นอยู่ที่ไม่ได้มาตรฐาน และไม่ต้องเป็นคนแปลกประหลาดในสังคม อีกต่อไป การเป็นหุ้นส่วนที่ยั่งยืนนั้นต้องดำเนินการโดยการมีส่วนร่วมซึ่ง เป็นการสร้างความรู้และข้อผูกมัดจากกลุ่มที่สนใจ การให้โอกาส ประชาชนเพื่อให้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเป็นหุ้นส่วนจะทำให้เกิด ฉันทามติและบรรลุการเปลี่ยนแปลงมากว่าการเจรจาที่จำกัดอยู่ใน ประเด็นที่เฉพาะ การจัดองค์กรเป็นความสัมพันธ์ของระบบและประชาชนที่ซับซ้อน อย่างไรก็ดีไม่ว่าระบบจะออกแบบไว้ดีแล้วก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ใน องค์การไม่มีทักษะความรู้และทัศนคติที่ถูกต้อง ปกติการออกแบบ ระบบใหม่จะง่ายกว่าการปรับปรุงแก้ไขที่เจ้าหน้าที่ ดังนั้นบ่อยครั้งที่ การเป็นหุ้นส่วนจะเน้นที่โครงสร้าง กระบวนการ กฎระเบียบ เป็นต้น โดยไม่ให้ความสำคัญอย่างพอเพียงกับมิติด้านคน มิติด้านคน มีความ หมายมากกว่าการอบรมคนเพื่อทำงานในระบบใหม่ แต่มันเกี่ยวข้อง กับการเลือกเป้าหมายขององค์การ การวิเคราะห์จุดด้อยขององค์การ ในอันที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายและการเกี่ยวข้องกับการเลือกนโยบาย สถาบนั พระปกเกล้า 29
การให้บรกิ ารสาธารณะ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) การนำนโยบายไปปฏิบัติและการประเมินผลนโยบาย การฝึกอบรม ควรจะรวมอยู่ในการจัดการทรัพยากรมนุษย์และผู้จัดการทุกๆ คน ควรให้ความสำคัญกับการมีความรับผิดชอบในการพัฒนาเจ้าหน้าที่ กระบวนการจัดการขึ้นกับข้อมูลที่ได้มาทันเวลาและเที่ยงตรงและ ความพยายามในการสร้างการเป็นหุ้นส่วนให้ความสำคัญกับการลงทุน ในเทคโนโลยีสารสนเทศ จรยิ ธรรมในการเปน็ หุน้ ส่วน นอกจากปัจจัยที่กล่าวไปก่อนแล้ว การเป็นหุ้นส่วนที่สำเร็จได้ขึ้นกับการจัดการ ในการปฏิบัติงาน ซึ่งรวมการวางแผนกลยุทธ์เพื่อระบุสิ่งที่ต้องการในระยะสั้นและ ระยะยาวรวมทั้งคำนิยามขององค์กร การแปลวัตถุประสงค์ไปสู่แผนการปฏิบัติสำหรับ องค์กร การแบ่งหน่วยงานและจัดบุคลากร การประเมินและการจัดฝึกอบรมและจัด ทรัพยากรขึ้นกับความจำเป็นเร่งด่วน หรือการจัดลำดับคำสำคัญก่อนหลัง เพื่อระบุใน ระยะวางแผนการพัฒนามาตรการที่เหมาะสมของการปฏิบัติในองค์กร การจัดแบ่งงาน และทบทวน ปรับปรุง การรับฟังข้อคิดเห็นและได้รับความสำเร็จอาจมีการออกแบบวิธี การทำงานต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่างานและบุคลากรถูกจัดตามวัตถุประสงค์ขององค์กร วิธีการทำงานจะระบุความต้องการในเรื่องการฝึกอบรมเพื่อสร้างทักษะและพัฒนา อาชีพตลอดจนจะช่วยให้มีการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง การเป็นพี่เลี้ยงและการรับ ความคิดเห็นระหว่างผู้เป็นหัวหน้ากับเจ้าหน้าที่ ดังนั้นการประเมินระบบการปฏิบัติงาน จะเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการการปฏิบัติงาน 30 สถาบนั พระปกเกล้า
การเป็นหนุ้ ส่วนระหวา่ งรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ระบบการจัดการการปฏิบัติงาน ในการส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วนต้องขึ้น กับการมีมาตรฐานสูง จริยธรรม จะ เป็นประเด็นสำคัญของการจัดการ ปฏิบัติงาน การปฏิบัติตามจริยธรรม จะเป็นสิ่งที่กังวลของหลายๆ คน ทั้ง ภาครัฐและเอกชน ความกังวลนี้ขึ้นกับ การลดลงของการแข่งขัน การปฏิบัติ งานและความเชื่อมั่นในสถาบันของรัฐ ตลอดจนเรื่องการทุจริตและเรื่องอัปยศต่างๆ จริยธรรมเป็นประเด็นสำคัญในการให้บริการไปยังประชาชน การออกแบบการทำงาน การให้บริการจะเสริมสร้างมาตรฐานของพฤติกรรม องค์ประกอบของสิ่งอำนวยความ สะดวกในเรื่องจริยธรรม รวมถึงการให้แนวทาง การจัดการและการควบคุม การให้ แนวทางในการทำงานขึ้นกับการตกลงผูกมัดตนเองของผู้นำทางการเมืองและ การพัฒนาของระเบียบปฏิบัติ ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่ได้รับการศึกษาและการฝึกอบรม การจัดการทำได้โดยการประเมินงานโดยกลุ่ม พิเศษและการจัดสถานการณ์ นโยบายการจัดการ และการปฏิบัติที่จะส่งเสริมการมีจริยธรรม การ ปฏิบัติงานที่มีจริยธรรมทำให้เกิดขึ้นได้โดยมี กรอบด้านกฎระเบียบที่ทำให้เกิดการสังเกต + ปฏิบัติที่เป็นอิสระการมีสำนึกรับผิดชอบ มีกลไก ในการควบคุมมีความโปร่งใสและเกี่ยวข้องของ สาธารณชน สถาบันพระปกเกลา้ 31
การใหบ้ รกิ ารสาธารณะ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Audit) ต่อไปนี้เป็นหลักการของการจัดการด้วยจริยธรรมตามที่แนะนำโดยสมาคม นานาชาติด้วนการจัดการด้านบุคคล (The International Personal Management Association) มาตรฐานทางจริยธรรมควรจะจัดทำให้ชัดเจนเพื่อเจ้าหน้าที่จะทราบ หลักการและมาตรฐานตามที่พวกเขาคาดหวังที่จะนำไปใช้ในงาน หลักการในการปฏิบัติ ควรจะเป็นที่ตกลงกันในหมู่เจ้าหน้าที่ มาตรฐานทางจริยธรรมควรจะจัดอยู่ที่กรอบของกฎระเบียบ ซึ่งเป็น พื้นฐานในการสื่อการถึงมาตรฐานขั้นต่ำและหลักการในการปฏิบัติ สำหรับเจ้าหน้าที่ทุกคน แนวทางในการสร้างจริยธรรมควรแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน ควรส่งเสริมการฝึกอบรมด้านจริยธรรมที่จะให้เจ้าหน้าที่สามารถ พัฒนาทักษะที่จำเป็นในการวิเคราะห์ทางจริยธรรมและมีผลทางจิตใจ เจ้าหน้าที่ควรรู้สิทธิของเขาและข้อบังคับต่างๆ เมื่อพบการทำผิดหรือ สงสัยว่ามีความผิด ผู้นำทางการเมืองต้องเป็นผู้นำ ตัวอย่าง เช่น ควรส่งเสริมด้าน กฎหมายและกฎระเบียบที่จะเสริมพฤติกรรมที่มีจริยธรรม และสร้าง การตอบโต้การกระทำความผิด กระบวนการตัดสินใจควรมีความโปร่งใสและเผยแพร่เพื่อการพิจารณา ด้วยการตรวจสอบโดยทางกฎหมายและกระบวนการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ 32 สถาบันพระปกเกลา้
การเป็นหุ้นส่วนระหวา่ งรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ควรมีแนวทางในการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนในการดูแล เรื่องการจัดหาบุคลากรและการแปรรูปการจ้างงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้จัดการควรสาธิตและส่งเสริมการปฏิบัติงานที่มีจริยธรรมและควร ส่งเสริมมาตรฐานการทำงานระดับสูง โดยให้สิ่งตอบแทนต่อการทำงาน ที่มีจริยธรรม การมีหลักเกณฑ์ในการจ้างงานด้านการบริการสาธารณะ เช่น ด้านการ พัฒนาอาชีพและพัฒนาบุคลากร นโยบายการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และระบบการตอบแทนเหล่านั้นต้องเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ ส่งเสริมการสร้างจริยธรรม หลักเกณฑ์พื้นฐานต่างๆ เช่น หลัก คุณธรรมในการจัดหาและส่งเสริมการสร้างความซื่อสัตย์สุจริตในการ บริการสาธารณะ การมีกลยุทธ์ในการสร้างสำนึกรับผิดชอบที่เหมาะสมเพื่อเจ้าหน้าที่ของ รัฐต้องมีความสำนึกรับผิดชอบต่อผู้บังคับบัญชาและสาธารณชนใน การทำงานของตน สำนึกรับผิดชอบควรมุ่งที่การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ทางจริยธรรมและการบรรลุผลการทำงาน ควรมีกระบวนการและการตอบโต้ที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับการทำงาน ที่มิชอบ สิ่งอำนวยความสะดวกในการสร้างจริยธรรมที่จำเป็นต้องมี วิธีการตรวจสอบการปฏิบัติงานที่ไม่ถูกต้อง สถาบันพระปกเกลา้ 33
การใหบ้ รกิ ารสาธารณะ โดยการมสี ว่ นร่วมของประชาชน (People’s Audit) เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องของการดำเนินการที่ ไม่มีประสิทธิภาพและมีการทุจริต และการมีจริยธรรมซึ่งการปฏิบัติงานที่มิชอบ สามารถตรวจสอบได้ ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างภาครัฐและเอกชน การไม่ไว้วางใจ ระหว่างกันตลอดจนการมีการสงสัยซึ่งกันและกันจะเป็นปัญหาในการสร้างการเป็นหุ้น ส่วนและการสร้างกระบวนการการพัฒนา สิ่งแวดล้อมด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมืองปรากฏราวๆ อยู่ในระดับของ ความเชื่อมั่นและไว้วางใจต่อผู้นำทางการเมืองและสถาบันทางการเมือง สาธารณชนมี ความต้องการบริการสาธารณะที่รวดเร็ว เชื่อมั่น รับผิดชอบและจะแสดงความคิดเห็น ต่อความสามารถของรัฐบาลในการสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป การบริการใน เรื่องต่างๆ จะเป็นสิ่งที่นักการเมือง ประชาชนและประชาสังคมให้ความสำคัญเพื่อมา วิจารณ์ สิ่งแวดล้อมขององค์กรถูกทำลายลงโดยเห็นได้จากความสัมพันธ์ที่ลดลง ระหว่างนักการเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับการแต่งตั้งในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และการเงินเพื่อการบริการสาธารณะ หลักฐานของการขาดความเชื่อมั่นและไว้วางใจจะ เห็นได้จากสื่อมวลชนที่รายงานอยู่ทุกๆ วัน ในประเทศอังกฤษเรื่องจริยธรรมเป็นประเด็นในการอภิปรายในเวลาที่จะทำการ แต่งตั้งคณะกรรมการด้านมาตรฐานในการบริการสาธารณะ ลอร์ดโนแลนซึ่งเป็น ประธานคนแรกของคณะกรรมการด้านมาตรฐานในการทำงานสาธารณะได้กล่าวไว้ว่า “ในการสนองความต้องการของประชาชนนั้น สิ่งที่จำเป็นก็คือ ประเด็นด้านจริยธรรม และมาตรฐานต่างๆ ต้องเป็นประเด็นสำคัญในการบริการสาธารณะแนวใหม่ที่ต้อง ใช้หลักการที่ชัดเจนในเรื่องจริยธรรม เพื่อช่วยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านค่านิยมของ การบริการสาธารณะมีความเข้าใจและนำไปปฏิบัติ หลักการนี้ต้องถูกกำหนดใน ทิศทางที่ผู้บริหารคนใหม่จะเข้าใจถึงความสำคัญของมันและสามารถบูรณาการ หลักการนี้อยู่ในโครงสร้างการจัดการขององค์กร” 34 สถาบนั พระปกเกลา้
การเปน็ หุน้ ส่วนระหวา่ งรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ในการจัดตั้งกรรมการควรกำหนดหลักการไว้ อย่างน้อย 7 หลักการเพื่อการ ทำงานสาธารณะหลักการ 7 หลักการที่ควรมีคือ การไม่เห็นแก่ตัว (Selflessness) การมีความสุจริต (Integrity) การมีสำนึกรับผิดชอบ (Accountability) การเปิดเผย (Openness) การซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา (Honesty) การเป็นผู้นำ (leadership) แนวปฏิบัตินี้ถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการบังคับใช้มาตรฐาน อย่างไร ก็ดี แนวปฏิบัติอย่างเดียวก็ไม่ทำให้บรรลุสิ่งที่มุ่งหวังได้หากไม่มีการตกลงใจว่าจะ ดำเนินการจริง และไม่มีความตั้งใจและความสามารถของผู้ที่จะบังคับใช้ ความสำเร็จ ของการดำเนินการตามแนวปฏิบัติขึ้นกับจำนวนปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฝึก อบรมและการนำไปปฏิบัติ การนำแนวจริยธรรมไปใช้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเจ้าหน้าที่ของ รัฐจะไม่ละเลยการทำตามกฎและพฤติกรรมที่ดีจะมีเกิดขึ้นได้ก่อนมีการประพฤติที่ไม่ ดี การฝึกอบรมหรือการนำไปปฏิบัติมีความจำเป็นสำหรับนักการเมือง เจ้าหน้าที่ของ รัฐ ผู้บริหารและพนักงาน การหาความต้องการในการฝึกอบรมจะขยายไปถึงผู้บริหาร ระดับสูง เป็นแนวทางในการรักษาคณะบริหารที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนในการสร้าง ข้อผูกมัด และเป็นส่วนของการสนับสนุนเพื่อรักษามาตรฐานให้คงอยู่ ถ้าต้องรักษา มาตรฐาน มาตรฐานนั้นต้องใช้ทั้งเจ้าหน้าที่ทุกระดับคือทั้งระดับบนจนถึงระดับล่าง และล่างถึงบน สถาบันพระปกเกลา้ 35
การให้บรกิ ารสาธารณะ โดยการมสี ว่ นรว่ มของประชาชน (People’s Audit) การเปน็ หนุ้ สว่ นท่ดี ี มีการอภิปรายกันในเรื่องการจัดการทรัพยากรระหว่างภาคราชการและเอกชน ระหว่างทุนนิยมกับคอมมิวนิสต์ การแปรรูปเป็นเอกชนกับการเป็นของรัฐหรือตลาด ของธุรกิจกับการควบคุมโดยรัฐ ข้อโต้แย้งเหล่านี้มักเป็นเรื่องที่เป็นแรงต่อต้านกับ สาธารณะและเรื่องของส่วนรวม ในเรื่องของการโต้แย้งนั้นไม่ว่าในสังคมนิยมหรือทุนนิยมรัฐบาลต้องทำงานเพื่อ สังคมที่ดีทั้งสิ้น เมื่อเร็วๆ นี้มาเลเซียและหลายประเทศในอาเซียนมีแนวคิดเรื่องของ การเป็นหุ้นส่วนที่ดีระหว่างรัฐ แรงงาน และภาคเอกชน ตลอดจนการมีส่วนร่วมของ ประชาสังคม วตั ถุประสงค์ของการดำเนินการ คือ สร้างการเป็นหุ้นส่วนที่ดีระหว่างผู้เกี่ยวข้องทั้งรัฐ เอกชน แรงงาน และ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ เพื่อเสริมสร้างกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศ ให้มีการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของชาติ โดย กระบวนการแลกเปลี่ยนแนวความคิดและประสบการณ์ระหว่างรัฐ ภาคเอกชน แรงงาน นักวิชาการ และประชาสังคม เพื่ออำนวยการประสานงาน การติดตามและการประเมินการนำ นโยบายเศรษฐกิจของชาติไปปฏิบัติ 36 สถาบันพระปกเกล้า
การเปน็ หนุ้ สว่ นระหวา่ งรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) ประเด็นทั้งหมดของหุ้นส่วนที่ดี ขึ้นกับหลักการที่ว่าเศรษฐกิจเป็นการบูรณา การของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ กระบวนการทางธุรกิจและความรับผิดชอบต่อ สังคมที่ต่างก็มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องของการสร้างโอกาสที่ไม่มีจำกัด และการแข่งขันความมั่งคั่ง ความยั่งยืนและให้ผู้มีส่วนร่วมได้ทำหน้าที่ในเศรษฐกิจ โลก หุ้นส่วนแต่ละคนจะแสดงบทบาทที่ต่างกันตามสภาวการณ์ที่ต่างกัน แต่ทั้งหมด ดำเนินการจากหลักการการปฏิบัติจรรยาบรรณ และกระบวนการเดียวกัน ประโยชน์ที่มาจากความพยายามในการบูรณาการการเป็นหุ้นส่วนเข้ากับ เศรษฐกิจของชาติเป็นนวัตกรรมล่าสุดในการวิเคราะห์และนำนโยบายไปปฏิบัติ การ ทำงานร่วมกันและประสานงานกันได้แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งรูปแบบของการ เป็นหุ้นส่วนอาจแตกต่างจากประเทศหนึ่งไปอีกประเทศหนึ่ง แต่เนื้อหาสาระสำคัญ เกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม รัฐต่างๆ ในประเทศ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ตัดสินใจที่จะรับแนวคิดการเป็นหุ้นส่วนที่ดีมาใช้ และได้ระบุ ปัจจัยที่อาจทำให้เกิดปัญหา คือ การผูกมัดของรัฐบาลในการสร้างความเท่าเทียมกันทางสังคมที่มีปัญหากับ เรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความล้มเหลวของรายได้ และการเติบโต ของสังคมด้วย การแทรกแซงจากรัฐที่เผชิญกับเรื่องของความไม่สามารถรักษาการลงทุน ภาคสาธารณะและความกดดันอย่างหนักในการเป็นอิสระภายใต้โครงการ ปรับปรุงโครงสร้าง รัฐบาลซึ่งปกติจะอยู่ภายใต้ความกดดันจากเจ้าของทุน ตลอดจนจากแรงผลักดันจากภายในเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลง ต้องคิด ใหม่ถึงบทบาทในการให้บริการและกระบวนการพัฒนาทางนโยบาย การ ก่อตั้งหุ้นส่วนที่ดีต้องมีองค์ประกอบสำคัญที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการ ปฏิบัติในการจัดการภาครัฐแบบดั้งเดิม สถาบันพระปกเกล้า 37
การให้บรกิ ารสาธารณะ โดยการมีสว่ นรว่ มของประชาชน (People’s Audit) ทัศนคตแิ ละแบบแผนของพฤติกรรม นอกจากความสำเร็จของการเป็นหุ้นส่วนหรือการเป็นหุ้นส่วนที่ดีจะขึ้นกับระบบ กระบวนการและแนวปฏิบัติแล้วยังขึ้นกับทัศนะคติที่ถูกต้องและรูปแบบพฤติกรรม ของผู้ที่จัดการและให้บริการ ทัศนคติที่ผิดๆ จะทำให้ผู้ปฏิบัติละเลยหรือลดความ พยายามที่จะทำให้การเป็นหุ้นส่วน ดำเนินการไปได้ ทัศนคติในการทำงานแบบ ราชการจะยึดติดกับกฎระเบียบและ การจัดการแบบเดิมๆ ตลอดจน ระบบการบริหารที่ล้าสมัยซึ่งจะยัง ถูกครอบงำโดยกฎระเบียบการรวม ศูนย์ ซึ่งตรงข้ามกับการมีวิวัฒนาการของทัศนคติการจัดการและแนวปฏิบัติที่ทันสมัย ซึ่งเป็นแนวคิดของการเป็นหุ้นส่วนที่มุ่งที่ผู้รับบริการเป็นสำคัญ ทัศนคติและรูปแบบ ของพฤติกรรมเกิดจากวัฒนธรรมในการจัดการที่นำมาจากอเมริกาเหนือและยุโรป ตะวันตกโดยปราศจากการปรับให้เข้ากับความเป็นจริงของภูมิภาคหรือของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องระบุรูปแบบของพฤติกรรมเหล่านั้นที่จะเหมาะสมกับการพัฒนาการ เป็นหุ้นส่วนที่มีคุณค่า จากประสบการณ์ต่างๆ ในอดีตแสดงให้เห็นว่า แนวคิดหรือรูปแบบของการ พัฒนาต่างๆ ต้องเสริมความเข้มแข็งโดยการมีทัศนคติที่ถูกต้องและเหมาะสม ทัศนคติที่ผู้รับบริการให้การยอมรับ เช่น การเป็นมิตรกับผู้รับบริการ การมีข้อผูกมัดที่ จะช่วยเหลือผู้อื่น การอำนวยความสะดวกในการเสริมสร้างการเป็นหุ้นส่วนระหว่าง ภาครัฐและเอกชน และการให้บริการ การมุ่งเน้นที่อำนาจหน้าที่ที่มีการเป็นระบบ 38 สถาบนั พระปกเกล้า
การเปน็ หุ้นสว่ นระหวา่ งรฐั ภาคเอกชนและประชาชน (Partnership) อาวุโสต่างๆเหล่านี้รวมทั้งการไม่มีการดูแลแบบฉันท์มิตรดูเหมือนจะเป็นการทำลาย กระบวนการของการพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนแบบมีคุณค่าที่สามารถให้บริการได้ ในการบริการสาธารณะหลายประเภทจะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ไม่มาทำงานเพิ่มขึ้น ระบบความพอใจอยู่บนพื้นฐานของความพอใจเรื่องเพศใดเพศหนึ่ง และเรื่องของ ชาติพันธุ์กำลังเพิ่มขึ้น ที่เหนือกว่านั้นมีการทุจริตจำนวนมาก ทัศนคติที่เป็นลบเหล่านี้ มีผลลบต่อความสำเร็จของการจัดการเป็นหุ้นส่วน ดังนั้นสิ่งที่ต้องการคือ ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องสร้างการเป็น หุ้นส่วนที่เหมาะสมต่อประเทศและให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียต้องเป็นเจ้าของและเข้ามากำหนดทิศทางของการ ดำเนินงานได้ ขณะที่การเรียนรู้จากประเทศอื่นหรือองค์กรอื่นๆ เป็นเรื่อง ที่ดี รูปแบบการพัฒนาจึงควรมีอยู่ต่อไปหากยังไม่ได้รับการปรับให้เหมาะสม กับสภาพการทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของท้องถิ่น การเป็นห้นุ ส่วน A partnership is an agreement between two or more partners to work together to achieve common aims การเป็นหุ้นส่วนเป็นการสร้างข้อตกลงร่วมกันระหว่างบุคคลหรือ กลุ่มตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไปมาทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน สถาบันพระปกเกล้า 39
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108