สถาบันพระปกเกลา้ ศทุ ธกิ านต์ มจี น่ั www.kpi.ac.th
การศึกษาความเคล่อื นไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด สถาบนั พระปกเกล้า รหัสสงิ่ พิมพ์ของสถาบนั พระปกเกลา้ สวพ. 63-06-00.0 (e-book) เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ 978-616-476-085-1 พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1 2563 บรรณาธิการ นางสาวชมพูนทุ ตัง้ ถาวร ประสานงาน วรศิ รา อมั พรศริ ธิ รรม จดั ทำโดย สถาบนั พระปกเกลา้ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคารรฐั ประศาสนภักดี ชน้ั 5 ฝั่งทิศใต้ เลขที่ 120 หมู่ 3 ถนนแจง้ วัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพ 10210 http://www.kpi.ac.th
คำนำสถาบันพระปกเกล้า การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเม่ือวันท่ี 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 เป็นการเลือกต้ังครั้งแรกภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งได้มีการเปล่ียนแปลงกติกาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกต้ังหลายประการ ได้แก่ การนำระบบการเลือกต้ังท่ีเรียกว่า “การเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม” มาใช้ โดยกำหนดให้แต่ละเขตเลือกตั้งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เขตละหน่ึงคน และ ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ังมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกต้ังได้คนละหน่ึงคะแนน ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายช่ือนั้นเป็นการจัดสรรโดยคำนวณจาก คะแนนรวมที่พรรคการเมืองได้จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต ทั่วประเทศ การกำหนดให้พรรคการเมืองสามารถเสนอรายชื่อบุคคลซ่ึงสมควรได้รับ แต่งต้ังเป็นนายกรัฐมนตรีไม่เกินสามรายชื่อ การกำหนดในเร่ืองคุณสมบัติและลักษณะ ต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกต้ัง รูปแบบและวิธีการรณรงค์หาเสียงเลือกต้ัง ตลอดจน บทลงโทษกรณีกระทำความผิดเก่ียวกับการเลือกต้ังท่ีเข้มข้นกว่าการเลือกต้ังครั้งก่อน ๆ นอกจากนี้ การเลือกตั้งเมื่อวันท่ี 24 มีนาคม 2562 ยังเกิดขึ้นท่ามกลางบริบทและ สภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปจากการเลือกตั้งท่ัวไป ครั้งหลังสุดเม่ือปี 2554 เป็นอย่างมาก อาทิ การว่างเว้นจากการเลือกตั้งเกือบแปดปีทำให้ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งคร้ังแรก (First Time Voter) มากกว่า 7 ล้านคน การเปลี่ยนแปลงอย่าง ฉับพลันของเทคโนโลยีการสื่อสาร (Digital Disruption) ทำให้สื่อใหม่ (new media) เข้ามามีอิทธิพลในการเลือกต้ังอย่างเด่นชัดเป็นครั้งแรก การเปลี่ยนแปลงในกติกาและ สภาพแวดล้อมดังกล่าวทำให้เกิดการเปล่ียนแปลงในกระบวนการจัดการเลือกต้ัง ยุทธวิธี การหาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมือง รวมถึงพฤติกรรมการตัดสินใจลงคะแนนของ ประชาชนอยา่ งมีนัยยะสำคญั และนา่ สนใจย่ิง หนังสือขุด “การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562” นี้เป็นผลการศึกษา จากชุดโครงการวิจัยที่สถาบันพระปกเกล้าได้จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจและ บันทึกปรากฏการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะในมิติของความเคล่ือนไหวทางการเมือง และพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาฬสินธ์ุ กำแพงเพชร กาญจนบุรี ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช แพร่ ร้อยเอ็ด สงขลา สุพรรณบุรี สุรินทร์ พะเยา พิษณุโลก ปัตตานี สุราษฎร์ธานี เลย สระแก้ว และอุบลราชธานี ข้อมูลที่นำเสนอ ในหนังสือชุดน้ีได้ฉายให้เห็นภาพในระดับพ้ืนที่ของบรรยากาศและความเคลื่อนไหว ของพรรคการเมือง องค์กรและกลุ่มทางการเมืองต่าง ๆ ความเคลื่อนไหวและ พฤติกรรมทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกตั้ง บทบาทของหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง การศกึ ษาความเคลือ่ นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวดั รอ้ ยเอด็
ในการเลือกต้ัง พฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนและกลุ่มการเมือง การใช้ทรัพยากรต่าง ๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในเร่ืองค่าใช้จ่าย การเปล่ียนแปลงของขั้วอำนาจทางการเมือง การย้ายพรรคการเมือง ปัจจัยที่ส่งผล ต่อการตัดสินใจทางการเมือง รวมท้ังการวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งท่ีเกิดขึ้น การเคลื่อนไหวและการรณรงค ์ ในการเลือกต้ังในแต่ละจังหวัดที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ ตลอดจนประเด็นอ่ืน ๆ ที่น่าสนใจท่ีปรากฏขึ้นมา ในช่วงระหว่างการมีพระราชกฤษฎกี ากำหนดให้มกี ารเลือกต้งั วนั เลือกต้ัง และหลังการเลือกตัง้ สถาบันพระปกเกล้าขอขอบคุณ รองศาสตราจารย์ ฐปนรรต พรหมอินทร์ รองศาสตราจารย์ พรชัย เทพปัญญา รองศาสตราจารย์ ดร.สามารถ ทองเฝือ รองศาสตราจารย์ ดร.กตัญญู แก้วหานาม รองศาสตราจารย์ ดร.ศิวัช ศรีโภคางกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพลิน ภู่จีนาพันธุ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บูฆอรี ยีหมะ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิชญ์ พงษ์สวัสด์ิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ตันศิริคงคล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤษฎา พรรณราย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพงศ์ บุญเหลือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศุทธิกานต์ มีจั่น ดร.พิมพ์ลิขิต แก้วหานาม ดร.พิสมัย ศรีเนตร ดร.จันทรา ธนะวัฒนาวงศ์ ดร.ภคพร วัฒนดำรง ดร.ประเทือง ม่วงอ่อน ดร.ณรินทร์ เจริญทรัพยานนท์ ดร.เสริมสิทธ์ิ สร้อยสอดศรี อาจารย์ ชนันทิพย์ จันทรโสภา อาจารย์ อุบลวรรณ สุภาแสน อาจารย์ ดารารัตน์ คำเป็ง ตลอดจนผู้เก่ียวข้องทุกท่าน ท่ีให้ความอนุเคราะห์ร่วมดำเนินงานวิจัย ขอขอบพระคุณทรงคุณวุฒิทุกท่านท่ีกรุณาเป็นผู้พิจารณาให้ข้อเสนอ แนะเพ่ือให้งานวิจัยมีคุณภาพ สถาบันพระปกเกล้าคาดหวังว่าผลจากการศึกษาของชุดโครงการวิจัยนี้ จะเปน็ ฐานขอ้ มลู สำคัญทีจ่ ะนำไปสู่การพัฒนาประชาธปิ ไตยของประเทศไทยต่อไป สถาบันพระปกเกลา้ 2563 การศกึ ษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลอื กต้งั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด
คำนำ งานวจิ ยั เรอื่ ง “การศกึ ษาความเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอ็ด” เป็นการทำความเข้าใจถึง ความเคลื่อนไหวทางการเมืองและแบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชน รวมท้ัง กลุ่มการเมืองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดร้อยเอ็ด ซง่ึ เป็นการเลือกตัง้ คร้ังแรกภายหลงั การรฐั ประหารเมอื่ เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2557 ผู้วิจัยขอขอบคุณสถาบันวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า อาจารย์ณัชชาภัทร อมรกุล และ ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ซึ่งให้โอกาสและการสนับสนุนในด้านต่างๆ ในการ เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาวิจัย ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลภาคสนาม และติดตามความเคล่ือนไหวทางการเมืองในจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้วิจัยได้รับความร่วมมือ เป็นอย่างดีย่ิงจากผู้ให้สัมภาษณ์ทุกท่านที่สละเวลาให้ข้อมูล ความคิดเห็นตลอดจน ขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ ที่เก่ยี วข้องกับงานวิจยั นี้ อย่างไรก็ดี การเข้าถึงข้อมูลภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ไม่สามารถเป็นไปได้อย่างราบร่ืน หากไม่ได้รับความช่วยเหลือในการแนะนำและติดต่อประสานงานจากบุคคลหลายท่าน อาทิ คุณธนภัทร รัตนสมัย คุณสุทิวา ปิ่นเจริญ ผศ.ดร.นุชิดา สุวแพทย์ ผศ.ดร.สัญญารัตน์ มีสุวรรณ อาจารย์สุริยา ปัญญจิตร และคุณสราวุฒิ รินสาทร รวมทั้งการจัดสนทนา กลุ่มย่อยท่ีได้รับการอนุเคราะห์อย่างดีย่ิงจากคุณสิริมาพร นาศพัฒน์ และอาจารย์ดาริกา โพธิรุกข์ นอกจากน้ีผู้วิจัยขอขอบคุณ รศ.ดร.เจมส์ โอกกีย์ (James Ockey) อาจารย ์ ท่ีปรึกษาวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ท่ีอนุญาตให้ผู้เขียนได้ใช้เวลาในประเทศไทยเพ่ือ การทำงานวจิ ัยนี้ รวมทงั้ พดู คยุ เกยี่ วกับขอ้ สังเกตบางประการท่ไี ด้พบจากการเกบ็ ข้อมูล สุดท้ายน้ี ขอขอบคุณ คุณวริศรา อัมพรศิริธรรม ที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้วิจัย อยา่ งยิ่งดียงิ่ ตลอดระยะเวลาของการทำงานภายใตโ้ ครงการวจิ ัยน้ี ศทุ ธกิ านต์ มจี นั่ การศึกษาความเคล่อื นไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวดั รอ้ ยเอด็
บทสรุป สำหรบั ผู้บริหาร Executive Summary
บทสรปุ สำหรับผูบ้ รหิ าร การศกึ ษาความเคลือ่ นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตัง้ สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอด็ บรรยากาศการแข่งขันและความเคลื่อนไหวทางการเมืองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ในการเลือกต้ังท่ีจังหวัดร้อยเอ็ดมีความเข้มข้น และมีระดับการแข่งขันท่ีแตกต่างกันไปตามจำนวน ของผู้สมัครที่มีความโดดเด่นในพ้ืนที่ ดังเห็นได้จากการได้รับความสนใจจากแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ในการลงพ้ืนท่ีและจัดเวทีปราศรัยใหญ่หลายครั้ง ตลอดจนการดำเนินกิจกรรมหาเสียงในรูปแบบต่างๆ ของ ผู้สมัครที่มีความเข้มข้นมากกว่าการเลือกตั้งท่ีผ่านมาในอดีต ประกอบกับจำนวนผู้สมัครและพรรคการเมือง ท่ีมีจำนวนมาก อีกท้ังเป็นการเลือกตั้งคร้ังแรกหลังจากการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ.2557 จึงทำให้บรรยากาศ ทางการเมอื งและการเลอื กต้ังในจงั หวดั ไดร้ บั การกระต้นุ ใหเ้ กิดความต่ืนตวั สูงมาก ด้านบทบาทและความเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ พบว่า ส่วนราชการระดับจังหวัดโดยเฉพาะ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งทหารในพ้ืนท่ี ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการอำนวย ความสะดวก และสนับสนุนการเตรียมการจัดการการเลือกตั้ง ส่วนการหาเสียงและแนะนำตัวของผู้สมัคร พบว่า กลุ่มการเมืองต่างๆ ไม่ได้แสดงบทบาทต่อการสนับสนุนหรือต่อต้านผู้สมัครหรือพรรคการเมืองพรรดใด พรรคหน่ึงอย่างชัดเจนนัก ในขณะท่ีกลุ่มเส้ือแดงท่ีเคยมีบทบาทอย่างมากในการเลือกต้ัง พ.ศ.2554 ยังคง ให้การสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเพ่ือไทยแต่ได้กระจายตัวออกไปในการสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคการเมือง ตา่ งๆ อย่างไรก็ดี แม้ว่าการใช้ระบบหัวคะแนนและการซ้ือเสียงในลักษณะต่างๆ ยังคงมีอยู่ แต่ปัจจัยเหล่าน้ี กลับมีอิทธิพลน้อยลงอย่างมากต่อการตัดสินใจลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในขณะท่ีการแข่งขันเชิงนโยบาย และการเรียนรู้จากความขัดแย้งหรือการต่อสู้เชิงอุดมการณ์ในอดีตที่ผ่านมากว่าทศวรรษ ประกอบกับ สภาวการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจท้ังในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ความนิยมต่อการบริหารงานของรัฐบาล ในขณะนั้น ไปจนถึงสถานการณ์ทางการเมืองต่างๆ ท่ีเกิดข้ึน เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงมากต่อการตัดสินใจเลือก ของประชาชน นอกเหนือจากการใช้รูปแบบและวิธีการหาเสียงต่างๆ ท่ีเป็นแนวปฏิบัติดั้งเดิมแล้ว การใช้อินเตอร์เนท และพ้ืนที่ส่ือสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นเครื่องมือส่ือสารที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและเปิดโอกาส ให้ประชาชนได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือระหว่างประชาชนกับพรรคการเมืองและผู้สมัคร ตลอดจนยังเป็น การศกึ ษาความเคลอื่ นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอด็
โอกาสในการสร้างพื้นที่ในการณรงค์หาเสียงเลือกต้ังของผู้สมัครที่เป็นการลดต้นทุนและข้อจำกัดในด้านต่างๆ ซ่ึงเทคโนโลยีส่ือสารสมัยใหม่เหล่าน้ียังถูกนำมาใช้ในการ เชื่อมโยง ขยายและสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย ในการบริหารจดั การการรณรงคห์ าเสยี งเลือกตง้ั ด้วย ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในคร้ังน้ี ปรากฏว่า ผู้สมัครจากพรรคเพ่ือไทย ซึ่งเป็นอดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเป็นกลุ่มการเมืองเดิมได้รับเลือกตั้งจำนวน 6 เขต ส่วนอีก 1 เขตเลือกตั้งเป็นของ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา โดยท่ีพรรคพลังประชารัฐและพรรคอนาคตใหม่ได้รับ คะแนนนิยมเป็นจำนวนมากในแต่ละเขตเลือกต้ัง ส่วนคะแนนเสียงจำนวนไม่มากนักกระจายตัวไปยังพรรค การเมืองอ่ืนๆ ในขณะที่พรรคเพื่อไทยถูกต้ังข้อสังเกตว่าได้รับคะแนนเสียงลดลงเม่ือเทียบกับการเลือกตั้ง ทผ่ี า่ นมา นอกจากน้ีแล้ว ผลจากการเลือกตั้งท่ีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองขนาดใหญ่ลดลงและความสนใจ ที่ประชาชนมีต่อพรรคการเมืองใหม่เพ่ิมมากขึ้น เป็นการแสดงออกถึงการแสวงหาทางเลือกใหม่ของประชาชน ท่ีแสดงให้เห็นว่าความนิยมหรือยึดติดกับพรรคการเมืองท่ีมีอยู่เดิมด้วยอุดมการณ์หรือประโยชน์ที่เคยได้จาก นโยบายต่าง ๆ ได้คลายตัวลง ทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองของจังหวัดร้อยเอ็ดมีลักษณะของการเมืองแบบพื้นท่ี เปิด มากกว่าการผูกขาดความนิยมโดยพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดดังที่เคยเกิดข้ึนในอดีต ซ่ึงจะส่งผล อย่างมากต่อการปรับตัวของพรรคการเมืองต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานวิจัยน้ีตั้งข้อสังเกตต่อการย้ายสังกัด พรรคการเมืองเพ่ือสร้างโอกาสในการได้รบั เลือกตัง้ ในสนามการแขง่ ขันในการเลือกตั้งครัง้ ต่อไป ซ่ึงมีแนวโน้มว่า พรรคการเมืองจะมีบทบาทสำคัญในการสรรหาคัดเลือกและสนับสนุนการหาเสียงในการเลือกต้ังท้องถ่ิน ที่จะเกดิ ข้นึ ในอนาคตอนั ใกล ้ งานวิจัยน้ีมีข้อเสนอต่อการพัฒนาการจัดการเลือกต้ัง ในการสร้างความหลากหลายของคณะกรรมการ ประจำเขตเลือกต้ัง และการสร้างกลไกตรวจสอบการกระทำผิดในเชิงรุก ประกอบกับการปฏิรูประบบ การเลือกต้ังยังควรดำเนินการต่อไปเพ่ือแสวงหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเปิดโอกาสให้การตัดสินใจ เลือกของประชาชนเป็นไปโดยเสรี และส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันท่ีเป็นธรรม ในขณะที่การพัฒนา พรรคการเมืองภายใต้ประชาธิปไตยที่ไม่ต้ังมั่นยังต้องเผชิญกับข้อจำกัดต่างๆ ที่เกิดจากเง่ือนไขทางรัฐธรรมนูญ และโครงสร้างอำนาจทางการเมืองท่ียังถูกต้ังคำถามต่อการกีดกันโอกาสในการแข่งขันของพรรคการเมือง ท่มี ฐี านมวลชนและสนับสนนุ แนวทางประชาธิปไตย การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอด็
Executive Summary Political Activities and Electoral Behavior in the 2019 Thailand General Election: Case Study of Roi Et Province Political competition and activities in Roi Et Province during Thailand’s 2019 general election were intense and produced multiple levels of competition, due to the number of outstanding candidates in each constituency. As can be seen, many prominent party leaders campaigned in the province, particularly to speak with local supporters several times. Moreover, various forms of campaign activities were more impactful than previous elections due to the large number of candidates and political parties. Additionally, this is the first election to take place since the 2014 military coup. Thus, the political climate and the election encouraged a high increase in awareness. It could be seen that provincial governing bodies, especially under the umbrella of the Minister of Interior, and local administrative organizations, including soldiers, played a significant role regarding the facilitation and support of the provincial election commission in managing the election process. Various political groups did not clearly support or oppose specific candidates or political parties. Likewise, the Red Shirt Movement, which had played a significant role in the 2011 elections, not only continued to support candidates from the Phuea Thai Party but also spread out to support candidates from other political parties as well. In terms of political campaigns, vote canvassing and vote buying still exist in various forms, but they are much less influential on the voters’ decisions than they have been in the past. The factors that instead have a more powerful influence on people’s choices include policy competition, learning from the ideological struggle throughout a decade of Thai political conflict, economic growth at both national and local levels, and the popularity of the government in regard to the political situation at the time. Furthermore, various campaign methods, both traditional and modern, were widely utilized during this election. It was found that many social media applications became popular tools for communication, increasing การศกึ ษาความเคลื่อนไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอ็ด
access to information and providing various channels for people to interact, both with each other and with political parties and candidates. Moreover, the online platform was an excellent opportunity to create space in the election campaign, reducing costs and limitations for candidates. These modern technologies are used in campaign management to link, expand, and strengthen networks. The election results from Roi Et Province show that most of the candidates from Pheu Thai party were elected. Only one constituency voted for Anurak Chureemas, a distinctive candidate of the Chartthai Pattana Party, while Palang Pracharat Party and Future Forward Party gained many votes in each constituency. Correspondingly, a small number of votes were distributed to other political parties. However, it is notable that the Pheu Thai Party, as the dominant political party in the province, received a lower amount of votes than it had in previous elections. This phenomenon demonstrates that party loyalty has loosened, meaning that voters are seeking alternative ways to support their goals. As a result, the political landscape of Roi Et Province is characterized by open area politics rather than the monopolization of popularity by a dominant party. This change will significantly impact the adjustment of various political parties, expanding or maintaining their popularity in the province. This research notes that the outcome of the general election will encourage former candidates and political parties to seek the opportunity to be elected in other political roles. In particular, the coming local elections will play an essential role in recruiting and supporting local political candidates. Concerning the improvement of elections, this study recommends creating local election committees in various constituencies and encouraging proactive mechanisms for detecting offenses. Additionally, the electoral system reform should include effective ways to allow people to make independent choices and to embolden fair competition. Likewise, the development of political parties in an unreliable democracy still faces many challenges, calling into question the constitutional conditions and political power structure that limits the opportunity for those political parties that have massive bases of support and who advocate for democratic approach to compete fairly. การศกึ ษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้งั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอด็
บทคัดยอ่ Abstract
บทคดั ยอ่ งานวิจัยนี้ เป็นการศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพ่ือศึกษาบรรยากาศทางการเมืองและ ความเคลื่อนไหวทางการเมือง รวมถึงการเปล่ียนของพฤติกรรมทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมือง ของประชาชน และกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการเลือกตั้ง ผลการศึกษา พบว่า บรรยากาศการแข่งขัน และความเคล่ือนไหวทางการเมืองในการเลือกตั้งมีระดับการแข่งขันท่ีแตกต่างกันไปตามจำนวนของผู้สมัคร ที่มีความโดดเด่นในพ้ืนที่ ตลอดจนการดำเนินกิจกรรมหาเสียงในรูปแบบต่างๆ ของผู้สมัครท่ีมีความเข้มข้น มากกว่าการเลือกต้ังที่ผ่านมาในอดีต เป็นผลมาจากจำนวนผู้สมัครและพรรคการเมืองที่มีจำนวนมาก อีกทั้ง เป็นการเลือกต้ังคร้ังแรกหลังจากการรัฐประหารเม่ือปี พ.ศ.2557 อย่างไรก็ดี แม้ว่าการใช้ระบบหัวคะแนนและ การซื้อเสียงในลักษณะต่างๆ ยังคงมีอยู่ แต่ปัจจัยเหล่านี้กลับมีอิทธิพลน้อยลงอย่างมากต่อการตัดสินใจ ลงคะแนนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในขณะท่ีการแข่งขันเชิงนโยบายและการเรียนรู้จากความขัดแย้งหรือการต่อสู้ เชิงอุดมการณ์ที่ผ่านมากว่าทศวรรษ สภาวการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจท้ังในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ความนิยมต่อการบริหารงานของรัฐบาลในขณะนั้น ไปจนถึงสถานการณ์ทางการเมืองต่างๆ ท่ีเกิดขึ้น กลับเป็น ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลสูงมากต่อการตัดสินใจเลือกของประชาชน นอกจากการใช้รูปแบบและวิธีการหาเสียงต่างๆ ท่ีเป็นแนวปฏิบัติดั้งเดิมแล้ว การใช้อินเตอร์เนทและพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นพ้ืนท่ีในการณรงค ์ หาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครและยังถูกนำมาใช้ในการ เช่ือมโยง ขยายและสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย ในการบริหารจดั การการรณรงคห์ าเสียงเลือกตั้งด้วย ด้านผลการเลือกตั้งแม้ว่าพรรคเพ่ือไทยจะยังคงได้รับชัยชนะในพื้นที่เขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ในจังหวัด แต่คะแนนเสียงของพรรคการเมืองขนาดใหญ่ท่ีลดลงและความสนใจท่ีประชาชนมีต่อพรรคการเมืองใหม่มีเพิ่ม มากขึ้นน้ัน ทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองของจังหวัดร้อยเอ็ดมีลักษณะของการเมืองแบบพ้ืนที่เปิดมากกว่า การผูกขาดความนิยมโดยพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดการเมืองหนึ่งดังที่เคยเกิดข้ึนในอดีต ซ่ึงจะส่งผล อย่างมากต่อการปรับตัวของพรรคการเมืองต่างๆ อย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ รวมไปถึงแนวโน้มท่ีพรรคการเมือง จะมีบทบาทสำคัญในการสรรหาคัดเลือกและสนับสนุนการหาเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อันใกล้ ด้านข้อเสนอต่อการพัฒนาการจัดการเลือกต้ัง งานวิจัยน้ีเสนอว่าควรให้ความสำคัญกับการสร้าง ความหลากหลายของคณะกรรมการประจำเขตเลือกต้ัง และการสร้างกลไกตรวจสอบการกระทำผิดในเชิงรุก ประกอบกับการปฏิรูประบบการเลือกต้ังที่เปิดโอกาสให้การตัดสินใจเลือกของประชาชนเป็นไปโดยเสรี และ สง่ เสรมิ ให้เกิดการแข่งขันทเ่ี ป็นธรรม การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอด็
Abstract This research discusses the political competition and activities in Roi Et Province during Thailand’s 2019 general election, including changes in voting behavior particularly, regarding relevant actors and groups in electoral politics. The study finds that the number of outstanding candidates in each constituency produced multiple levels of competition. Moreover, various forms of campaign activities were more impactful than in previous elections due to the large number of candidates and political parties. Furthermore, this was the first election to occur since the 2014 military coup. In terms of political campaigns, vote canvassing and vote buying still exist in various forms, but they are much less influential on the voters’ decisions than they have been in the past. The factors that instead have a more powerful influence on people’s choices include policy competition, learning from the ideological struggle throughout a decade of Thai political conflict, economic growth at both national and local levels, and the popularity of the government in regard to the political situation at the time. Furthermore, various campaign methods, both traditional and modern, were widely utilized during this election. It was found that many social media applications became popular tools for communication, increasing access to information and providing various channels for people to interact, both with each other and with political parties and candidates. Moreover, the online platform was an excellent opportunity to create space in the election campaign, reducing costs and other limitations for candidates. These modern technologies are used in campaign management to link, expand, and strengthen networks. The election results show that most of the candidates from the Pheu Thai Party were elected; yet they received fewer votes than they had in previous elections. This phenomenon shows that the political landscape of Roi Et Province is characterized by open area politics rather than the monopolization of popularity by a dominant party. This change will significantly impact the adjustment of various political parties in the province. In particular, the coming local elections will play an essential role in recruiting and supporting local political candidates. Concerning the improvement of elections, this study recommends creating local election committees in various constituencies and encouraging proactive mechanisms for detecting offenses. Additionally, electoral system reform should include effective ways to allow people to make independent choices and to embolden fair competition. การศกึ ษาความเคลื่อนไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดร้อยเอ็ด
สารบัญ เรอ่ื ง หนา้ บทสรุปสำหรับผบู้ ริหาร B Executive Summary D บทคดั ย่อ G Abstract H บทท่ี 1 บทนำ 1 1.1 ทีม่ าและความสำคญั ของการศึกษา 2 1.2 วัตถปุ ระสงค ์ 5 1.3 ขอบเขตการศกึ ษา 5 1.4 ระเบยี บวธิ วี ิจัย 6 1.5 ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ บั 7 บทท่ี 2 ขอ้ มูลพนื้ ฐานจังหวดั ร้อยเอ็ด 8 2.1 ขอ้ มลู ทวั่ ไปของจังหวดั ร้อยเอ็ด 9 2.2 ขอ้ มลู พ้นื ฐานด้านการเมอื งของจงั หวดั ร้อยเอ็ด 17 บทท่ี 3 ความเคลอ่ื นไหวในการเลือกต้งั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั ร้อยเอด็ 29 3.1 การแบง่ เขตเลอื กตงั้ 30 3.2 บทบาทของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจำจังหวัดร้อยเอด็ 37 3.3 ผู้สมคั รและพรรคการเมอื ง 44 3.4 การรณรงคห์ าเสยี งเลอื กต้งั 63 3.5 การเคลอื่ นไหวของกลุ่มต่างๆ ในการเลือกต้ัง 75 บทท่ี 4 ผลการเลือกต้ังและแบบแผนพฤติกรรมในการเลอื กตั้งสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร จังหวัดรอ้ ยเอด็ 83 4.1 การใช้สทิ ธเิ ลอื กต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 84 4.2 ผลการเลอื กตง้ั และแบบแผนในการลงคะแนนเลอื กสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 88 4.3 การใช้สอ่ื สงั คมออนไลน์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง 113 4.4 หวั คะแนนและเงินในการเลอื กต้ัง 116 4.5 การตรวจสอบการกระทำผดิ การเลอื กตัง้ 124 บทที่ 5 บทสรปุ 127 5.1 บรรยากาศและความเคลอ่ื นไหวทางการเมืองในการเลือกต้ัง 128 5.2 พฤตกิ รรมทางการเมอื งในการเลอื กตงั้ 129 5.3 ผลการเลอื กตั้งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร กบั การเลือกตัง้ ท้องถ่นิ ในอนาคต 132 5.4 ข้อเสนอแนะต่อการจดั การการเลือกตงั้ และข้อสงั เกตตอ่ การพฒั นาพรรคการเมอื ง 135 บรรณานุกรม 138 ภาคผนวก 147 การศึกษาความเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จังหวัดรอ้ ยเอด็
สารบญั ภาพ หนา้ 10 ภาพท ี่ 21 2.1 แสดงแผนทีท่ างภมู ศิ าสตร์จังหวัดร้อยเอ็ด 31 2.2 แสดงผลการลงประชามตริ ่างรัฐธรรมนูญ เปรียบเทียบ พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2559 44 3.1 แสดงรูปแบบการแบ่งเขตการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวดั ร้อยเอด็ จำนวน 4 รูปแบบ 66 3.2 บรรยากาศการรับสมคั รเลอื กต้งั สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด 68 3.3 แสดงตวั อย่างเฟซบุคเพจ (Facebook Page) ของผสู้ มคั รสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จงั หวดั รอ้ ยเอด็ 3.4 แสดงการลงพนื้ ท่แี ละการจดั ปราศรัยใหญข่ องนายอนรุ กั ษ์ จุรีมาศ 68 ผ้สู มคั รพรรคชาตไิ ทยพฒั นา เขต 1 3.5 แสดงการลงพ้ืนที่หาเสียงของนางสาวตวงรัตน์ วงษเ์ วไนย์ 69 ผู้สมัครพรรคพลงั ประชารัฐ เขต 4 3.6 แสดงการลงพืน้ ทห่ี าเสียงของนางสาวจริ าพร สินธไุ พร 70 ผ้สู มัครพรรคเพอ่ื ไทย เขต 5 72 3.7 แสดงการลงพน้ื ทหี่ าเสยี งของแกนนำพรรคเพื่อไทยในจงั หวัดรอ้ ยเอ็ด 72 3.8 แสดงการลงพืน้ ที่หาเสยี งของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ในจังหวดั รอ้ ยเอ็ด 73 3.9 แสดงการลงพน้ื ทห่ี าเสยี งของแกนนำพรรคเสรีรวมไทย ในจงั หวดั ร้อยเอ็ด 74 3.10 แสดงการลงพื้นที่หาเสยี งของแกนนำพรรคประชาธปิ ัตยใ์ นจงั หวัดร้อยเอ็ด 76 3.11 แสดงการลงพ้ืนทห่ี าเสยี งของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ในจังหวดั รอ้ ยเอ็ด 77 3.12 แสดงภาพแผน่ พับแนะนำตัวของ นายประจกั ษ์ มูลรตั น์ 3.13 แสดงเนื้อหาจดหมายที่ นางสมปอง วอ่ งสันธนพงศ์ ประธานคณะกรรมการพฒั นาสตรี 79 อำเภอเมอื งร้อยเอ็ด สง่ หนังสือถึงกล่มุ สตรีแมบ่ า้ นจังหวัดร้อยเอด็ 103 3.14 แสดงการทำลายป้ายของผ้สู มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด 4.1 แสดงการนำเสนอนโยบาย ของนายอนุรักษ์ จุรมี าศ ผสู้ มัครสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร เขต 1 113 จังหวดั รอ้ ยเอ็ด พรรคชาติไทยพฒั นา 4.2 แสดงตวั อยา่ งเฟซบคุ เพจ (Facebook Page) ของพรรคอนาคตใหม่จงั หวดั รอ้ ยเอ็ด 132 และอนาคตใหม่ FC รอ้ ยเอด็ 5.1 แสดงสอื่ ประชาสมั พันธ์การลงสมคั รนายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั รอ้ ยเอ็ดของ นายเศกสิทธ์ิ ไวนยิ มพงศ ์ การศกึ ษาความเคลือ่ นไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จังหวดั รอ้ ยเอ็ด
สารบัญแผนภาพ แผนภาพที่ หนา้ 2.1 แสดงการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของจงั หวดั ร้อยเอด็ ระหวา่ งปี พ.ศ. 2555-2560 14 3.1 แสดงสดั สว่ นและจำนวนการแต่งตัง้ ผอู้ ำนวยการและคณะกรรมการการเลือกตัง้ ประจำเขตเลอื กตง้ั 43 ตามอาชพี 59 3.2 แสดงการเปรยี บเทียบจำนวนผ้สู มคั รสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอ็ด พ.ศ. 2550, 2554 และ 2562 61 3.3 แสดงจำนวนของผูส้ มคั รท่ีไมผ่ ่านคุณสมบัติการลงสมัครรบั เลอื กตง้ั เขต 1-7 62 3.4 แสดงจำนวนผูส้ มัครสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจังหวัดร้อยเอด็ แบง่ ตามเพศ ชาย-หญิง รายเขตเลือกต้ัง 62 3.5 แสดงจำนวนผู้สมคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจังหวดั รอ้ ยเอ็ดจำแนกตามกลุ่มอายุ 80 3.6 แสดงจำนวนพรรคการเมอื งท่มี คี วามโดดเด่นและระดับความเข้มขน้ ในการแขง่ ขันในช่วงการเลอื กต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จังหวัดรอ้ ยเอ็ด พ.ศ. 2562 4.1 แสดงสัดส่วนจำนวนผูม้ ีสิทธเิ ลือกต้งั และผู้มาใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวดั รอ้ ยเอ็ด 84 4.2 แสดงสัดสว่ นจำนวนผูม้ ีสทิ ธเิ ลือกต้งั และผูม้ าใชส้ ทิ ธิเลือกตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจังหวดั ร้อยเอ็ด 84 4.3 แสดงจำนวนผู้มาใชส้ ิทธเิ ลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวดั ร้อยเอด็ กอ่ นวันเลอื กตั้งในเขตเลอื กตง้ั 85 นอกเขตเลือกตงั้ และนอกราชอาณาจักร 4.4 แสดงการเปรยี บเทยี บอัตราการใชส้ ทิ ธิของประชาชนในการเลอื กตงั้ 2550, 2554 และ 2562 86 4.5 แสดงจำนวนบตั รเสยี และบตั รไม่ประสงคล์ งคะแนนจำแนกตามเขตเลือกตง้ั 1-7 ของจงั หวดั ร้อยเอ็ด 87 4.6 แสดงสดั สว่ นของผูม้ าใชส้ ทิ ธิเลือกต้ังในเขตเลอื กตัง้ ท่ี 1-7 จงั หวดั รอ้ ยเอด็ 92 4.7 เปรยี บเทียบผลการเลือกตง้ั ของพรรคเพ่อื ไทย พรรคพลังประชารฐั พรรคอนาคตใหม่ และ 92 พรรคชาติไทยพฒั นา เขต 1-7 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด 4.8 แสดงภาพจำลองกลุ่มประชาชนผู้มีสิทธเิ ลือกตง้ั ในเขตเมอื งจังหวัดรอ้ ยเอด็ 117 4.9 แสดงรูปแบบตัวอยา่ งการสร้างเครอื ขา่ ย 3 ระดบั ของผ้สู นับสนุนหรือหวั คะแนนของผสู้ มคั ร 119 4.10 แสดงรปู แบบตัวอย่างการสรา้ งเครือข่าย 2 ระดบั ของผู้สนับสนนุ หรอื หวั คะแนนของผู้สมคั ร 120 4.11 แสดงตัวอย่างลักษณะการจา่ ยเงินซอ้ื เสียงของผสู้ มคั รสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 124 5.1 แสดงกระบวนการในการสร้างการตดั สนิ ใจในการลงคะแนนเสียงเลอื กตง้ั ของประชาชน 131 5.2 แสดงภาพจำลองการครองพน้ื ทีใ่ นการเลอื กตง้ั ของจังหวัดรอ้ ยเอด็ 134 การศึกษาความเคลอ่ื นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอด็
สารบญั ตาราง ตารางที่ หนา้ 2.1 แสดงขอ้ มลู การปกครองและประชากรจังหวัดร้อยเอ็ด แยกตามรายอำเภอ 11 2.2 แสดงจำนวนประชากรอายุตัง้ แต่ 6 ปขี น้ึ ไป จำแนกตามการใชค้ อมพวิ เตอร์ อนิ เทอรเ์ นต็ 16 และโทรศัพท์มอื ถอื ระหว่างปี พ.ศ. 2557-2559 2.3 แสดงระดับการพัฒนาตามทศิ ทางแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติฉบับที่ 11 17 ของจังหวัดรอ้ ยเอ็ด พิจารณารายประเดน็ ยุทธศาสตร ์ 2.4 แสดงข้อมูลการแบ่งเขตเลอื กตัง้ และผลการเลอื กตั้งสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรเป็นการท่วั ไป พ.ศ. 2548 18 2.5 แสดงขอ้ มลู การแบง่ เขตเลอื กตง้ั และผลการเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรเปน็ การท่วั ไป พ.ศ. 2550 19 2.6 แสดงข้อมูลการแบ่งเขตเลือกต้งั และผลการเลือกตงั้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรเป็นการทว่ั ไป พ.ศ. 2554 20 2.7 แสดงตัวอย่างตระกลู การเมืองทม่ี บี ทบาทสำคัญในพ้นื ทจี่ งั หวดั ร้อยเอด็ 22 3.1 แสดงข้อมูลเขตเลอื กต้ังและจำนวนผ้มู ีสทิ ธิเลอื กตัง้ สำหรบั การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 32 แบบแบ่งเขตเลือกตงั้ พ.ศ. 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอด็ 35 3.2 แสดงการเปรยี บเทยี บพ้ืนทเ่ี ขตเลอื กต้งั การเลือกตั้งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลอื กตง้ั 38 จังหวัดรอ้ ยเอด็ พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2562 47 3.3 แสดงการดำเนินกิจกรรมของสำนักงานคณะกรรมการการเลอื กต้ังจังหวัดรอ้ ยเอด็ 49 ระหว่างเดอื นธนั วาคม 2561- พฤษภาคม 2562 50 3.4 แสดงรายชอ่ื และขอ้ มลู ของผ้สู มคั รสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร เขต 1 จงั หวดั ร้อยเอด็ 52 3.5 แสดงรายชอื่ และข้อมูลของผู้สมัครสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จงั หวัดร้อยเอ็ด 54 3.6 แสดงรายชอ่ื และขอ้ มูลของผ้สู มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร เขต 3 จงั หวัดร้อยเอด็ 55 3.7 แสดงรายชอื่ และข้อมูลของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จงั หวดั รอ้ ยเอด็ 57 3.8 แสดงรายชื่อและข้อมูลของผู้สมัครสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร เขต 5 จงั หวัดร้อยเอด็ 60 3.9 แสดงรายชื่อและขอ้ มลู ของผูส้ มคั รสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร เขต 6 จังหวัดร้อยเอ็ด 64 3.10 แสดงรายชอ่ื และขอ้ มูลของผู้สมัครสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร เขต 7 จังหวดั รอ้ ยเอด็ 69 3.11 แสดงรายชอ่ื พรรคการเมืองและจำนวนเขตเลอื กต้งั ทพี่ รรคส่งผูส้ มคั รลงรับสมคั รเลือกต้ัง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด 3.12 แสดงตัวอย่างมูลคา่ ค่าใชจ้ ่ายในการใชส้ ื่อและการโฆษณาในการเลือกตัง้ ของผู้สมคั รสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎร จังหวดั รอ้ ยเอ็ด 3.13 แสดงการลงพื้นทีข่ องแกนนำพรรคการเมืองในชว่ งการรณรงค์หาเสยี งเลอื กต้ัง จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด 4.1 แสดงผลคะแนนเลอื กตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำแนกตามรายพรรค 89 4.2 ผลการเลอื กต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรจังหวัดรอ้ ยเอ็ดของผสู้ มัครทีไ่ ด้คะแนนสงู สดุ 93 สามอนั ดบั แรก เขต 1-7 4.3 แสดงการไดร้ บั เลอื กต้งั สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎรจงั หวดั ร้อยเอ็ดระหวา่ งปี พ.ศ. 2548-2562 98 4.4 แสดงผลคะแนนเลอื กตั้งและจำนวนคะแนนท่ีลดลงของผู้สมคั รจากพรรคเพอ่ื ไทยในการเลอื กตั้ง 101 สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2554 และ พ.ศ. 2562 กับคะแนนทีผ่ สู้ มคั รจากพรรคอนาคตใหม่ได้รบั ในการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. 2562 การศกึ ษาความเคลื่อนไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลือกตั้งสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอด็
สารบัญตาราง ตารางท่ ี หน้า 4.5 แสดงการเปรียบเทยี บคะแนนเสียงเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2550, 2554 และ 2562 111 ของผ้สู มัครและเครอื ญาติทเ่ี คยลงสมคั รรบั เลอื กตงั้ 4.6 แสดงการเปรียบเทยี บจำนวนการนำเสนอเนือ้ หาบนสือ่ สังคมออนไลน์ (Facebook) ตงั้ แต่ 114 เดอื นพฤศจกิ ายน 2561 – 23 มนี าคม 2562 4.7 แสดงตวั อยา่ งรายรับและมูลค่าคา่ ใช้จ่ายในการเลือกต้ังของผสู้ มัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 122 จงั หวัดร้อยเอ็ด 4.8 แสดงตวั อยา่ งการให้เงนิ ค่าตอบแทนการช่วยหาเสยี งแกผ่ ู้นำทอ้ งถน่ิ ในตำแหนง่ ต่างๆ 123 การศึกษาความเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอด็
1 บทที ่ บทนำ
1.1 ทมี่ าและความสำคัญของการศกึ ษา ความเคลื่อนไหวทางการเมืองและการเลือกตั้งในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เมียนมา มาเลเซีย กัมพูชา อินโดนีเซีย และท่ีกำลังจะเกิดข้ึนในฟิลิปปินส์ ภายใต้การตั้งคำถามต่อระบอบ การเมืองท่ีเปล่ียนผ่านทั้งในรูปแบบของการทำให้เป็นประชาธิปไตยหรือในทางตรงกันข้ามท่ีการเลือกต้ัง อาจถูกนำมาใช้สร้างความชอบธรรมทางการเมืองให้แก่รัฐบาลท่ีไม่ได้มาจากวิถีทางประชาธิปไตย1 ได้นำมาสู่ การให้ความสนใจต่อวัฒนธรรมการเลือกต้ังภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอันเป็นผลมาจากผล การเลือกตั้ง เช่นเดียวกับประเทศไทย ภายหลังการรัฐประหารและเข้าควบคุมการใช้อำนาจทางการเมืองและ การบริหารราชการโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ซึ่ง Freedom House องค์กรอิสระที่ติดตามการขยายตัวของเสรีภาพและประชาธิปไตยท่ัวโลก ได้ระบุให้ ประเทศไทยหลังการรัฐประหารท่ีมีสถานะ “NOT FREE” หรือไม่เป็นประชาธิปไตยมาต้ังแต่ปี 2558 จนถึง ปัจจุบัน2 ท้ังยังถือได้ว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่มีความเปล่ียนแปลงเกิดขึ้นในโครงสร้างของทางอำนาจ และ โครงสรา้ งของสถาบันการเมืองไทยอยา่ งทีไ่ ม่เคยปรากฏมากอ่ น กล่าวคือ ในส่วนของโครงสร้างทางอำนาจนั้นปรากฏภาพชัดของสภาวะคู่ขนานกันระหว่าง การเคลื่อนไหวทางการเมืองท้ังในรูปแบบของการสนับสนุนคณะรัฐประหารและฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร ที่เกิดข้ึนมาอย่างต่อเน่ืองในลักษณะต่างๆ นับตั้งแต่ก่อนรัฐประหาร พ.ศ. 2549 กับอีกด้านหนึ่งคือการใช้ อำนาจบังคับในการจำกัดการแสดงออกทางการเมือง อาทิ การเรียกพบและการส่งทหารไปเฝ้าระวังท่ีบ้านของ นักการเมืองที่มีบทบาทโดดเด่น การดำเนินคดีหรือใช้มาตรการทางกฎหมายกับนักกิจกรรมหรือประชาชน ในขณะเดียวกันการดำเนินกิจกรรมในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทั้งจากกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับ รัฐประหารก็ยังเกิดข้ึนอย่างต่อเนื่อง รูปธรรมที่เด่นชัดและชี้ให้เห็นถึงพัฒนาการของกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในช่วงเวลาหลังการรัฐประหาร คือ การผลักดันและรวมกลุ่มในรูปของพรรคการเมืองใหม่ เช่น พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่ การกระจาย ของนักการเมืองจากพรรคการเมืองขนาดใหญ่ไปเป็นพรรคพันธมิตร เช่น การแยกตัวของสมาชิกคนสำคัญของ พรรคเพ่ือไทย ไปสู่การจัดต้ังพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคเพื่อชาติ เป็นต้น รวมถึงการประกาศเปล่ียน อุดมการณ์เพื่อย้ายพรรคการเมืองของนักการเมืองหลายคน อีกท้ังผลของการเลือกต้ังท่ีเกิดข้ึนยังส่งผลต่อ การดำรงอยู่ของบทบาทนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้ได้รับการเสนอช่ือเป็นนายกรัฐมนตรี 1 ดุลยภาค ปรีชารัชช และ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ (บรรณาธิการ), 2562, การเลือกต้ัง 2019 : การเมืองเปรียบเทียบใน อุษาคเนย์ เอกสารวิชาการ โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ครบรอบ 20 ปี 2543/2000-2562/2019, กรุงเทพฯ : โครงการ เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตรแ์ ละมูลนธิ ิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร.์ 2 ดรู ายละเอยี ด https://freedomhouse.org/report/freedom-world/2015/thailand การศกึ ษาความเคลอื่ นไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดร้อยเอด็
ของพรรคพลังประชารัฐและพรรคการเมืองท่ีเป็นพันธมิตร ในขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามต่างประกาศ จุดยืนหยุดย้ังการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารและเรียกร้องให้สนับสนุนพรรคการเมืองที่เรียกตนเองว่า เป็นฝา่ ยประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี นอกจากความเคล่ือนไหวทางการเมืองดังที่กล่าวมา การประกาศให้มีการเลือกต้ังในเดือน มีนาคม พ.ศ. 2562 ภายหลังจากที่ประเทศไทยไม่ได้มีการเลือกต้ังติดต่อกันถึงระยะเวลา 8 ปี ยังอยู่ภายใต้ เง่ือนไขที่รัฐบาลและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญอีก 3 ฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ท่ีนำไปสู่การเลือกต้ังท่ีแตกต่างไปจาก การเลือกต้ังที่ผ่านมาก่อนการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 ด้วยการใช้ระบบการจัดสรรปันส่วนผสม (mixed member apportionment electoral system :MMA)3 โดยเฉพาะเป็นการเลือกต้ังท่ีผู้ลงคะแนนลงคะแนน เลือกนายกรัฐมนตรีตามท่ีพรรคท่ีตนเองลงคะแนนเลือกเป็นผู้เสนอช่ือ รวมไปถึงวิธีการลงคะแนนใน บัตรเลือกต้ังท่ีได้มีการออกแบบข้ึนใหม่ วิธีการคำนวณคะแนนระบบบัญชีรายช่ือพรรค การริเร่ิมให้ใช้ระบบ การเลือกต้ังข้ันต้น (Primary Vote)4 รวมไปถึงข้อกำหนดในการจัดตั้งพรรคการเมือง หน้าที่และสถานภาพของ สมาชิกพรรคการเมือง และคณะกรรมการบริหารพรรค รวมท้ังการกำหนดโทษของพรรคการเมืองไว้สูง มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรคการเมืองและวิธีการหาเสียงเลือกต้ัง ของพรรคการเมือง ในขณะเดียวกันก็ได้มีการกำหนดบทบาทที่เพ่ิมมากข้ึนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมกับการประกาศยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่ออำนาจและ บทบาทของผู้แทนราษฎรและรฐั บาลทจี่ ะเกดิ ขึน้ ภายหลงั การเลอื กตง้ั เงื่อนไขเหล่าน้ีล้วนแล้วแต่เป็นกติกา หรือบทบัญญัติใหม่ท่ีเกิดขึ้น ท่ีจะส่งผลต่อโครงสร้างทางการเมือง และการเปล่ียนแปลงของสถาบันการเมืองไทยอีกหลายสถาบัน นอกเหนือจากความท้าทายต่อนักการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนผ่านการเลือกต้ังจะเป็นท่ีน่าจับตามองแล้ว การเมืองหลังจาก 3 Duncan McCargo มีความเห็นว่า การใช้ระบบการเลือกตั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องการสร้างระบบการเลือกต้ังที่ลดโอกาสในการครองเสียงข้างมากของพรรคเพ่ือไทยและเพิ่มโอกาสให้พรรคการเมืองขนาดเล็ก สามารถเข้ามาแขง่ ขนั ในการเลอื กตั้งไดเ้ ท่าน้ัน หากแต่ยังมเี ป้าหมายทีจ่ ะจำกดั อำนาจของนักการเมอื งจากการเลอื กตัง้ ดว้ ย ดรู ายละเอียด เพิ่มเติมได้ใน Duncan McCargo,2018, “Thailand’s Changing Party Landscape”, ISEAS Perspective ISSUE: 2018 No. 63, (Singapore : ISEAS - Yusof Ishak Institute). 4 ภายหลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ท่ี 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพ่ิมเติม) สาระสำคัญของคำสั่งฉบับน้ี คือ การแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 เพื่อยกเลิกระบบไพรมารีโหวตแบบเดิม ที่คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของแต่ละพรรค จะเปิดรับสมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติและจะส่งรายช่ือให้ “สาขาพรรคการเมือง” หรือ “ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด” เพ่ือจัดการประชุมให้สมาชิกพรรคลงคะแนนเลือกผู้สมัครตามรายช่ือน้ัน โดยคำส่ังดังกล่าวได้กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร รับเลือกต้ัง มีหน้าท่ีและอำนาจพิจารณาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง แบบแบ่งเขตเลือกต้ังและแบบบัญชีรายช่ือ แล้วเสนอต่อ คณะกรรมการบริหารพรรค โดยให้คณะกรรมการสรรหาฯ รับฟังความคิดเห็น จากหัวหน้าสาขาพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมือง ประจำจังหวัด และสมาชิก มาประกอบการพิจารณาสรรหาด้วย ดูรายละเอียดเพ่ิมเติมใน “คสช. ใช้มาตรา 44 ห้ามหาเสียงออนไลน์- ยกเลกิ ไพรมารโี่ หวต”, Retrieved from URL https://ilaw.or.th/node/4978 (10 มีนาคม 2562). การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลอื กต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จังหวดั รอ้ ยเอ็ด
การเลือกต้ังครั้งนี้ ยังถูกคาดหมายไปสู่จุดเร่ิมต้นในการบรรเทาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลากว่า ทศวรรษ และการขับเคล่ือนให้ประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้แล้วภายใต้กรอบกติกาใหม่นี้ ยังนำไปสู่คำถามว่า กระบวนการจัดการเลือกต้ังและผลของการเลือกตั้งท่ีเกิดข้ึนนอกจากจะนำไปสู่ข้อวิพากษ์ วิจารณ์หลายประการแล้ว5 ผลที่เกิดขึ้นยังจะยืนยันความต้ังม่ันของระบบพรรคการเมือง และความเข้มแข็งของ พรรคการเมืองทีก่ ่อร่างสรา้ งตัวมาจากรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้หรือไม่ จากสถานการณ์และบริบททางการเมืองที่ได้กล่าวมา การเลือกตั้งคร้ังน้ีจึงมีนัยสำคัญต่อการเมืองไทย ในด้านต่างๆ6 โดยการศึกษานี้ได้ต้ังคำถามต่อรูปแบบและลักษณะของความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ การเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ท่ีนำไปสู่การปรับหรือเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมทางการเมืองทั้งในส่วนของ พรรคการเมือง นักการเมือง ประชาชนและกลุ่มการเมืองต่างๆ แบบแผนพฤติกรรมทางการเมือง ของประชาชน และกลุ่มการเมือง ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซ่ึงไม่สามารถ หลีกเล่ียงการพิจารณาถึงการเติบโตของเทคโนโลยีข่าวสารและสื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนบทบาทของ ผู้มีสิทธ์ิเลือกตั้งคร้ังแรก (First Time Voters) จำนวนมากท่ีจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งคร้ังแรกหลังการรัฐประหาร ท่ีผ่านมา แม้จะอยู่ภายใต้การควบคุมมิให้มีการวิพากษ์วิจารณ์คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ที่กระทบถงึ เสรีภาพในการแสดงออกทงั้ จากพรรคการเมอื ง ผู้สมัคร สือ่ มวลชนและประชาชนก็ตาม 7 ทั้งน้ี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นหน่ึงในกรณีศึกษาของโครงการวิจัยนี้ เป็นจังหวัดในภาคตะวันออก- เฉียงเหนือตอนกลาง ทไ่ี ด้รับความสนใจทัง้ ในเชิงของพฤติกรรมทางการเมืองและการเลือกตัง้ ของประชาชนท่ไี ด้ รับการกล่าวถึงปัญหาการซ้ือสิทธิขายเสียง หรือ “โรคร้อยเอ็ด” และ “อาจสามารถโมเดล” ในฐานะพ้ืนท่ี นำร่องศึกษาและแก้ปัญหาความยากจนของคนชนบทในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร8 รวมท้ังความเคล่ือนไหว ทางการเมืองในฐานะหนึ่งในพื้นที่หลักของกลุ่มเส้ือแดง ตลอดจนการปรับตัวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ภายใต้ กลไกการควบคุมของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ภายหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา นอกจากน้ีแล้ว แม้ว่าในอดีตพรรคเพ่ือไทยยังคงเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมสูงสุดในจังหวัด แต่พรรคการเมืองใหม่ เช่น พรรคพลังประชารัฐ และพรรคอนาคตใหม่ รวมไปถึงนักการเมืองจากตระกูล การเมอื งสำคัญในจังหวดั ต่างไดร้ ับความสนใจจากประชาชนในพน้ื ทีเ่ ป็นอยา่ งด ี 5 ดูข้อวิจารณ์ต่อผลการเลือกตั้ง ได้ใน Termsak Chalermpalanupap, 2019, Thailand’s Recent Elections: Disappointments, Surprises and Non-surprises, Singapore: ISEAS – Yusof Ishak Institute. ISSUE: 2019 No. 31 (16 April). 6 ดูตัวอย่างการอธิบายได้ใน Thongchai Winichakul, 2019, The Significance of March 24 Election in Thailand. Retrieved from URL http://hdl.handle.net/2344/00050713 (20 มนี าคม 2560). 7 ความเห็นของ สุณัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชน (Human Rights Watch) ประจำประเทศไทย ใน ดุลยภาค ปรีชารัชช และ ชาญวทิ ย์ เกษตรศริ ิ (บรรณาธิการ), อ้างแล้ว หน้า 29. 8 ธิดามนต์ พิมพาชัย, 2554, ‘จาก “อาจสามารถ” สู่ “บางระกำโมเดล” … ตามกระแส หรือ แก้ปัญหา?’ Retrieved from URL https://www. isranews.org/community/comm-scoop-documentary/3390 (12 มนี าคม 2560). การศกึ ษาความเคลอื่ นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอด็
เมื่อเป็นเช่นนี้ การทำความเข้าใจความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ส่งผลต่อ พฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชนและตัวแสดงทางการเมืองอ่ืนๆ ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จะเป็นตัวอย่างที่ดี ต่อการอธิบายปรากฏการณ์ทางการเมืองในระดับภูมิภาคและระดับประเทศได้เป็นอย่างดี การจับตาของ ประเด็นท้ังหลายท่ีกล่าวมาน้ัน จึงควรจะได้รับการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับการเคล่ือนไหวทางการเมืองในระดับ พ้ืนท่ี เพื่อการทำความเข้าใจพฤติกรรมการเมือง กติกาใหม่ทางการเมือง ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งท่ีจะ นำไปสูก่ ารพฒั นาการเมอื งการปกครองไทยในระบอบท่ีเปลย่ี นผา่ นต่อไป 1.2 วัตถปุ ระสงค์ (1) เพื่อศึกษาบรรยากาศทางการเมืองและความเคลื่อนไหวทางการเมือง ขององค์กรและกลุ่มทาง การเมืองที่เกย่ี วขอ้ งกับการเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรในจังหวัดร้อยเอด็ (2) เพื่อศึกษาความเคล่ือนไหว และพฤติกรรมทางการเมือง ของผู้สมัครรับเลือกต้ังสมาชิกผู้แทนราษฎร ในจังหวัดรอ้ ยเอ็ด (3) เพ่ือศึกษาบทบาทของหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน องค์กรสาธารณะ และองค์กรอ่ืน ๆ ที่เข้ามามี บทบาททีเ่ ก่ยี วข้องกับการเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรในเขตจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด (4) เพื่อศึกษาการเปล่ียนแปลงของพฤติกรรมทางการเมือง แบบแผนพฤติกรรมทางการเมือง ของประชาชน และกลุ่มการเมือง ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจงั หวัดรอ้ ยเอ็ด 1.3 ขอบเขตการศึกษา (1) ขอบเขตด้านเวลา ขอบเขตด้านเวลาของการศึกษาประกอบไปด้วย การศึกษาตั้งแต่ช่วงก่อน การเลือกตั้ง ช่วงระหว่างการมีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกต้ัง วันเลือกตั้ง จนถึงประมาณ 1 เดือน ภายหลังจากคณะกรรมการเลือกตัง้ ประกาศรับรองผลการเลือกต้ังอย่างเป็นทางการในจงั หวัดทก่ี ำหนด (2) ขอบเขตประชากรท่ีทำการศึกษา ได้แก่ ผู้ลงสมัครรับเลือกต้ัง หน่วยงานภาครัฐ หอการค้าจังหวัด องค์กรสาธารณะ ส่ือมวลชน และองค์กรอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลในการเลือกต้ัง ทั้งในระดับประเทศและในระดับเขต จงั หวัดทก่ี ำหนด ตลอดจนความตื่นตวั สนใจ การเขา้ มสี ่วนรว่ ม และพฤติกรรมการเลือกตงั้ ของประชาชน การศึกษาความเคลือ่ นไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลือกต้งั สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดร้อยเอด็
(3) ขอบเขตพ้นื ท่ี จังหวัดรอ้ ยเอด็ (4) ขอบเขตเนื้อหา (4.1) การใช้เงนิ ในการหาเสยี งเลอื กตั้ง (4.1.1) ศึกษาอิทธิพลของการใช้จ่ายเงินของผู้สมัครและพรรคการเมืองมีต่อประชาชน และ ผลของการเลือกต้ัง ท้ังการใช้จ่ายเงินท่ีถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย โดยให้ความสำคัญกับการสำรวจในพื้นที่ ว่ายังมีการซื้อสิทธิขายเสียงอยู่หรือไม่ มีรูปแบบหรือกระบวนการอย่างไรในการซ้ือเสียง หรือหากมีการให้เป็น ผลประโยชน์อื่นนอกจากตัวเงิน ผลประโยชน์ดังกล่าวคืออะไร เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในรูปแบบใด และการซ้ือเสยี งไม่ว่าจะในรูปแบบใดยังมีอิทธพิ ลต่อการตดั สนิ ใจของผ้ลู งคะแนนเสียงเลือกตง้ั หรอื ไม่ อย่างไร (4.1.2) สังเกต และช้ีวัดความรู้สึก ถึงทัศนคติและการให้เหตุผลของบุคคลทั่วไปในการรับรู้ เกี่ยวกับการซ้ือเสียง แลกผลประโยชน์ และสร้างเครือข่ายอุปถัมภ์ในพ้ืนท่ี โดยพิจารณาว่าประชาชนทั่วไป สามารถยอมรับกับพฤติกรรมดังกล่าวได้หรือไม่ เพราะเหตุใด และประชาชนท่ัวไปมีการตอบสนองต่อ พฤติกรรมดังกล่าว (4.2) พฤตกิ รรมการเลอื กตง้ั เป็นการศึกษาวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ในประเด็นความเหมือนหรือแตกต่างจากการเลือกตั้งท่ีเคยผ่านมา ในพ้ืนท่ี และมีการเปล่ียนแปลงท่ีสำคัญในเร่ืองใด การวิเคราะห์ถึงผลกระทบสำคัญในเร่ืองการพัฒนา ประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังศึกษาความแตกต่างหลากหลาย (diversity) ของผู้สมัคร ในมิติความหลากหลาย ทางเพศและการทำงานในพ้ืนท่ี รวมถึงการแข่งขันทางการเมืองท้ังในส่วนที่สามารถเห็นได้ชัดเจน เช่น การรณรงค์หาเสียง กลยุทธ์ วิธีการ การนำเสนอนโยบาย ตลอดจนการแข่งขันในส่วนท่ีปิดบังเช่น การซื้อเสียง การใชอ้ ิทธิพลของหน่วยงาน การแทรกแซงด้วยวิธีการต่าง ๆ เปน็ ต้น 1.4 ระเบียบวธิ ีวจิ ัย การวจิ ัยน้ใี ช้วิธกี ารศึกษาเชิงคณุ ภาพเปน็ เครื่องมือสำคญั ในการศึกษา ไดแ้ ก่ 4.1 เอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกต้ัง พ.ศ. 2560 อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ การเลือกต้ังตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และบทบาทของ พรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ข้อมูลเชิงพ้ืนที ่ ในจังหวัดที่กำหนด เช่น ข้อมูลประชากร ข้อมูลพรรคการเมืองท่ีมีผู้สมัครรับเลือกต้ังในจังหวัดที่กำหนดทั้งใน การเลือกตั้งปัจจุบัน และการเลือกต้ังในอดีต และข้อมูลประวัติผู้ลงสมัครรับเลือกต้ัง พร้อมความเป็นเครือญาติ การศึกษาความเคล่อื นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอ็ด
หรือเครือข่ายของนักการเมืองเก่า ท้ังในระดับชาติและระดับท้องถ่ิน และผลการเลือกตั้งย้อนหลัง 3 ครั้งในเขต จังหวัดทกี่ ำหนด 4.2 การสัมภาษณ์ โดยมีการลงพื้นท่ีผู้มีส่วนเก่ียวข้องต่าง ๆ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง บริษัทเอกชนและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน ผู้จัดการการเลือกตั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สื่อมวลชน และประชาชนในฐานะผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้ง เครือขา่ ยภาคประชาชนในจงั หวัด ตลอดจนองค์กรหรือเครือข่ายประชาชนตรวจสอบการเลือกต้งั 4.3 การประชมุ กลมุ่ ยอ่ ย ผนู้ ำชมุ ชนและผู้มบี ทบาทในการรณรงคห์ รือชว่ ยหาเสยี งเลือกต้ัง 4.4 การสังเกตแบบมีส่วนร่วมและไม่มีส่วนร่วม โดยเป็นการสังเกต บันทึก และวิเคราะห์บรรยากาศ ทั่วไป พฤติกรรมทางการเมืองของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง บทบาทของหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน ที่เข้ามามีบทบาทเก่ียวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พฤติกรรมทาง การเมอื งของประชาชน ในช่วงกอ่ นการเลอื กต้ัง วนั เลือกต้งั และหลงั จากการเลือกตั้งสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 1.5 ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะได้รบั (1) ทราบถึงบรรยากาศทั่วไป ความรู้ความเข้าใจ และความเคล่ือนไหวของประชาชน คณะกรรมการ เลือกต้ัง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พรรคการเมืองและนักการเมืองในพื้นที่ องค์กรเอกชน องค์กรสาธารณะ และหนว่ ยงานภาครัฐ รวมถงึ องคก์ รอืน่ ๆ ท่ีเกีย่ วข้องกับการเลอื กตงั้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (2) ทราบถึงบทบาทและการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งระดับต่าง ๆ รวมถึงปัญหาอุปสรรค และการแกไ้ ขปญั หาทีเ่ กดิ ขึน้ จากการบริหารจัดการการเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร (3) ทราบถึงพฤติกรรมทางการเมืองของผู้สมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชน องค์กรสาธารณะ และองค์กรอ่ืน ๆ ท่ีเข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิก สภาผ้แู ทนราษฎร (4) ทราบถึงแบบแผนพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนโดยเฉพาะท่ีเกี่ยวข้องกับการเลือกต้ังสมาชิก สภาผแู้ ทนราษฎร (5) ทราบถงึ พฤตกิ รรมการใช้จ่ายเงนิ ในการหาเสียงเลอื กตงั้ (6) ทราบถงึ การตง้ั มน่ั ของสถาบนั พรรคการเมอื งในสงั คมไทย ในบรบิ ททม่ี กี ารเปลี่ยนแปลง การศึกษาความเคล่อื นไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกต้งั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวดั รอ้ ยเอด็
2 บทท่ ี ข้อมูลพ้นื ฐานจังหวดั
2.1 ขอ้ มูลท่ัวไปของจงั หวัดร้อยเอด็ เมืองร้อยเอ็ด ถือเป็นแหล่งอารยธรรมท่ีมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนในด้าน การปกครองนั้น ร้อยเอ็ดเคยเป็นศูนย์กลางบริหารอีสานตอนล่างและตอนกลางมาต้ังแต่ พ.ศ. 2435 สมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จนกระท่ังหลังการเปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 มีการยุบมณฑล ต่างๆ สง่ ผลใหม้ ณฑลรอ้ ยเอ็ด จึงถกู เปล่ยี นเป็นจงั หวัดรอ้ ยเอ็ดจนถงึ ปจั จบุ ัน1 ด้านขนาดและท่ีต้ังจังหวัดร้อยเอ็ด ต้ังอยู่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีระยะทางจาก กรุงเทพฯ ประมาณ 512 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งส้ิน 8,299.46 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 5,187,156 ไร่2 และมอี าณาเขตตดิ ตอ่ กับจังหวัดอ่ืนๆ ดังนี้ (ดูภาพที่ 2.1) ทิศเหนอื ตดิ กบั อ.กมลาไสย อ.กุฉนิ ารายณ์ อ.รอ่ งคำ จ.กาฬสินธุ์ และ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ทิศตะวันออก ตดิ กบั อ.เลิงนกทา อ.กดุ ชมุ อ.เมอื งยโสธร และ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ทศิ ใต้ ตดิ กบั อ.ชมุ พลบรุ ี อ.ท่าตมู จ.สรุ นิ ทร์ และ อ.ราษไี ศล จ.ศรสี ะเกษ ทศิ ตะวันตก ตดิ กับ อ.วาปีปทุม อ.พยัคฆภูมิพิสัย อ.เมืองสารคาม จ.มหาสารคาม ลักษณะภูมิประเทศ โดยทั่วไปเป็นท่ีราบสูง มีภูเขาทางตอนเหนือ ตอนกลางเป็นที่ราบลูกคล่ืน ตอนใต้ เป็นที่ราบริมฝั่งแม่น้ำมูล และเป็นที่ราบที่เรียกว่าแอ่งกระทะซ่ึงเรียกว่า ทุ่งกุลาร้องให้ ซ่ึงมีพื้นที่ครอบคลุม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สุวรรณภูมิ อ.เกษตรวิสัย อ.ปทุมรัตน์ และ อ.โพนทราย คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 986,000 ไร่ หรือประมาณ 1 ใน 5 ของพ้ืนที่ท้งั จังหวดั 3 1 “ประวัติจงั หวดั รอ้ ยเอด็ ”, สืบค้นจาก http://www.teerapada.ac.th/pdf/index/roiet.pdf (27 สงิ หาคม 2562). 2 “รายงานสถิตจิ งั หวดั ร้อยเอ็ด พ.ศ. 2560”, สืบค้นจาก www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER38 /DRAWER023/ . ../0 000 00 6 9.PDF (14 มนี าคม 2562). 3 “ข้อมูลพื้นฐานจังหวัดร้อยเอ็ด”, สืบค้นจาก http://www.retc.ac.th/v3/Information_Education/1.pdf (15 มีนาคม 2562). การศกึ ษาความเคล่ือนไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอ็ด
10 ภาพท่ี 2.1 แสดงแผนที่ทางภมู ศิ าสตรจ์ งั หวัดร้อยเอ็ด ท่ีมา: รายงานสถติ จิ ังหวัดร้อยเอด็ พ.ศ. 2560 (online) ขอ้ มูลการปกครองและประชากร ด้านการปกครอง จากข้อมูลในปี พ.ศ. 2559 จังหวัดร้อยเอ็ด การแบ่งการปกครองของจังหวัดร้อยเอ็ด แบ่งการปกครองออกเป็น 20 อำเภอ 193 ตำบล (รวมตำบลในเมือง) 2,446 หมู่บ้าน โดยมีองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน 3 รูปแบบ รวม 203 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาล 73 แห่ง (เทศบาล เมือง 1 แห่ง เทศบาลตำบล 72 แห่ง) และองค์การบริหารส่วนตำบล 129 แห่ง มีประชากรท้ังหมด จำนวน 1,307,963 คน แบ่งเป็นเพศชาย 651,455 คน และเพศหญิง 656,408 คน โดยมีรายละเอียดข้อมูลจำแนก รายอำเภอตามตารางที่ 2.1 การศึกษาความเคลอื่ นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกต้งั สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอด็
11 ตารางท่ี 2.1 แสดงข้อมูลการปกครองและประชากรจงั หวดั รอ้ ยเอด็ แยกตามรายอำเภอ ท่ี อำเภอ หมบู่ า้ น การปกครอง ประชากร รวม 1 เมอื งร้อยเอด็ (แหง่ ) 157403 201 ตำบล อบต. ทต. ทม. อบจ. ชาย หญิง (แหง่ ) (แห่ง) (แหง่ ) (แห่ง) (แหง่ ) (คน) (คน) 15 11 3 1 1 77117 80286 2 เกษตรวสิ ยั 174 13 12 3 - - 48889 49199 98088 3 จตรุ พักตรพิมาน 150 12 6 7 - - 39891 40471 80362 4 ธวัชบรุ ี 147 12 8 5 - - 33901 34253 68154 5 พนมไพร 160 13 12 2 - - 39673 39401 79074 6 โพนทอง 196 14 9 6 - - 53847 54409 108256 7 เสลภมู ิ 235 18 7 10 - - 56669 58192 114861 8 สุวรรณภูมิ 199 15 10 6 - - 57884 58289 116173 9 อาจสามารถ 139 10 9 2 - - 37281 37003 74284 10 ปทมุ รัตต์ 101 8 6 3 - - 26809 26956 53765 11 หนองพอก 120 9 8 2 - - 33491 33045 66536 12 เมืองสรวง 49 5 - 4 - - 11562 11608 23170 13 โพธิช์ ยั 112 9 6 4 - - 28963 29090 58053 14 โพนทราย 57 5 3 2 - - 14035 13952 27987 15 เมยวด ี 43 4 - 4 - - 11448 11550 22998 16 ศรีสมเดจ็ 82 8 5 3 - - 19203 17450 36623 17 จังหาร 110 8 4 4 - - 22888 23291 46179 18 เชยี งขวัญ 66 6 5 1 - - 13660 13900 27650 19 หนองฮ ี 54 4 3 1 - - 12474 12198 24672 20 ท่งุ เขาหลวง 51 5 5 - - - 11770 11775 23545 รวม 2446 193 129 72 1 1 651455 656408 1307863 ท่ีมา : ที่ทำการปกครองจังหวัดร้อยเอ็ด และสำนกั งานส่งเสรมิ การปกครองท้องถน่ิ จังหวัดร้อยเอ็ด (ข้อมลู ณ เดือนกรกฎาคม 2559) การศกึ ษาความเคลือ่ นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดร้อยเอ็ด
12 ในส่วนของพรรคการเมืองนั้น แม้จะปรากฏภาพของการจัดให้มีศูนย์ประสานงานของพรรคการเมือง ต่างๆ ในแต่ละเขตเลือกต้ัง แต่จากข้อมูลท่ีปรากฏในเวปไชต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จงั หวัดร้อยเอ็ด พบวา่ มีการจดั ตั้งสาขาพรรคการเมืองในจังหวัดรอ้ ยเอ็ด 3 แห่ง ไดแ้ ก่ 4 (1) สาขาพรรคประชาธปิ ัตย์ ลำดบั ท่ี 109 เลขที่ 174 ตำบลดงกลาง อำเภอเสลภูมิ จังหวดั รอ้ ยเอด็ (2) สาขาพรรคประชาธิปัตย์ ลำดับที่ 33 เลขท่ี 3/153/3 ถนนเทวาภิบาล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จงั หวดั ร้อยเอ็ด (3) สาขาพรรคธรรมาภิบาลสังคม ลำดับที่ 1 เลขท่ี 318 หมู่ 9 ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวดั รอ้ ยเอ็ด นอกจากการปกครองในส่วนของพลเรือนแล้ว ในพ้ืนที่จังหวัดร้อยเอ็ด ยังเป็นที่ต้ังของกองบัญชาการ ทหาร จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ค่ายประเสริฐสงคราม ตั้งอยู่ท่ีตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เป็นที่ต้ัง ของมณฑลทหารบกที่ 27 กองพันทหารราบท่ี 1 กรมทหารราบท่ี 16 กองร้อยบิน กองพลทหารราบที่ 6 รวมทั้งยังเป็นท่ีต้ังของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดร้อยเอ็ด ในส่วนของกองบัญชาการทหาร อีกแห่งหน่ึง คือ ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ซึ่งเป็นท่ีตั้งของกองพลทหารราบท่ี 6 อยู่ที่ ต.โพธ์ิสัย อ.ศรีสมเด็จ เป็นหน่วยกำลังรบของกองทัพบก ขึ้นตรงกองทัพภาคท่ี 2 มีภารกิจ 4 ประการ คือ การป้องกันประเทศ รักษาความมั่นคงภายใน รักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศและพัฒนาประเทศ ในพ้ืนท่ีรับผิดชอบ 7 จังหวัด ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัด อบุ ลราชธานี จังหวดั ศรีสะเกษ จงั หวดั สุรนิ ทร์ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ จังหวดั ยโสธร และจงั หวัดรอ้ ยเอด็ 5 นอกจากน้ีแล้ว ภายหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 กล่าวได้ว่า กองอำนวยการรักษาความม่ันคงภายใน จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการรักษาและควบคุมความสงบในจังหวัดหลังจากที่ได้มีการลด บทบาทและปรับโครงสร้างในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในปี พ.ศ. 2544 อย่างไรก็ดี ได้มีการต้ังข้อสังเกตว่า ทหารได้เข้าไปเป็นส่วนหน่ึงของโครงสร้างการบริหารงานของจังหวัดโดยเฉพาะในส่วนของฝ่ายปกครอง ภายใต้ บรรยากาศของการทำงานร่วมกันทด่ี ี และทหารเข้าไปมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมต่างๆ ของส่วนราชการระดับ จังหวัดมากยิ่งขึ้น6 ในขณะที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะเป็นคู่ขนานตามคำส่ังและนโยบายของสำนักงาน ตำรวจแห่งชาต7ิ 4 “สาขาพรรคการเมือง”, สืบคน้ จาก https://www.ect.go.th/roiet/ewt_news.php?nid=65 (11 มนี าคม 2562) 5 “ประวัติกองพลทหารราบที่ 6”, สืบค้นจาก http://www.6thinfdiv.org/modules.php?name= Content&pa= show page&pid=1/ (11 มีนาคม 2562). 6 สมเกยี รติ ชยั คณารกั ษก์ ูล.อดีตประธานหอการค้าจงั หวดั ร้อยเอด็ .สมั ภาษณ์ (24 พฤษภาคม 2562). 7 ณัฎฐชัย พดุ หล้า, ผกู้ ำกบั การสถานีตำรวจภูธร อำเภอจตรุ พักตรพมิ าน, สัมภาษณ์ (27 พฤษภาคม 2562). การศึกษาความเคลือ่ นไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลอื กต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอด็
13 ด้านการศกึ ษา-เศรษฐกิจ ด้านการศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ดมีการจัดการศึกษาในทุกระดับ การศึกษาทั้งระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา การศึกษาข้ันพื้นฐานและการศึกษานอกโรงเรียน ท้ังในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการและองค์กรปกครอง ส่วนท้องถ่ิน โดยระดับอุดมศึกษามีสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏ ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอิสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องให้ และสถาบัน การอาชีวศึกษาเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ด้านสภาพทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาถึงผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ ของ จังหวัดร้อยเอ็ดประกอบอาชีพเกษตรกรรม คือ การทำนาข้าว โดยในปีการเพาะปลูก พ.ศ. 2559 มีเน้ือท่ ี เพาะปลูก ข้าวเจ้านาปี 2,640,679 ไร่ มีผลผลิตท่ีได้จากการเก็บ เกี่ยว 1,116,209 ตัน ผลผลิตเฉลี่ย 443 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ สว่ นขา้ วเหนยี วนาปมี พี นื้ ทเี่ พาะปลกู 668,104 ไร่ ผลผลติ ทไ่ี ดจ้ ากการเกบ็ เกย่ี ว 293,452 ตนั ผลผลิตเฉล่ีย 452 กิโลกรัมต่อไร่8 โดยมีพื้นที่ปลูกข้าวเป็นอันดับหน่ึงของกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลาง และมีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ (ข้าวหอมมะลิ 105 และ กข 15) ที่สำคัญของจังหวัดในเขตพื้นที่ อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอโพนทราย อำเภอปทุมรัตต์ และอำเภอหนองฮี และมีพื้นท่ ี ในการปลูกข้าวเหนียว (กข 6) ที่สำคัญของจังหวัดจะปลูกในพื้นท่ีตอนเหนือของจังหวัด ได้แก่ อำเภอโพนทอง อำเภอโพธ์ิชัย อำเภอหนองพอก และอำเภอเสลภูมิ โดยในภาคอุตสาหกรรมนั้น จากรายงานของสำนักงาน อุตสาหกรรม พบว่า จังหวัดร้อยเอ็ดมีจำนวนสถานประกอบการ ในปี พ.ศ. 2558 ท้ังส้ิน 542 แห่ง มีจำนวน เงินทนุ ทั้งหมด 13,084.7 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ในภาพรวมของการเติบโตทางเศรษฐกิจในจังหวัด แม้จะมีภาพรวมที่อยู่ในทิศทางท่ีเติบโตข้ึน แต่จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปรากฏว่าในปี 2558 จังหวัดร้อยเอ็ดมีมูลค่ารวมผลิตภัณฑ์จังหวัด (GPP) ตามราคาประจำปี คิดเป็นมูลค่า 60,150 ล้านบาท และ มูลค่าผลิตภัณฑ์เฉล่ียต่อหัว (Per Capita GPP) 55,982 บาท รายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ในลำดับ 15 ของภาค และ อยู่ในลำดบั ที่ 71 ของประเทศ9 8 สำนักงานสถิติจังหวัดร้อยเอ็ด, 2560, รายงานสถิติจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. 2560, กรุงเทพฯ : สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดจิ ทิ ลั เพ่อื เศรษฐกจิ และสงั คม 9 เร่ืองเดียวกนั การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด
14 แผนภาพที่ 2.1 แสดงการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดรอ้ ยเอ็ด ระหว่างปี พ.ศ. 2555-2560 ทมี่ า: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จากแผนภาพที่ 2.1 แสดงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมีลักษณะของ การเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป เม่ือพิจารณาจากมูลค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงหลังรัฐประหาร เมื่อ ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบันยังมีการเติบโตอย่างต่อเน่ือง แม้ว่าในปี พ.ศ. 2559-2560 จะมีอัตรา การเตบิ โตลดตำ่ ลง จากมลู คา่ การเตบิ โตทางเศรษฐกจิ 26,312.42 ลา้ นบาท มาอยทู่ ่ี มลู คา่ 25,799.16 ลา้ นบาท และเติบโตเพ่ิมสูงข้ึนนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 เป็นต้นมา ซึ่งการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญนี้ ได้รับการต้ังข้อสังเกตว่า เป็นผลมาจากการสนับสนุนด้านงบประมาณและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภาครัฐเป็นสำคัญ ไม่ได้เป็นผลมาจากภาคธุรกิจ เนื่องจากร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่ทำการเกษตร เน้นการปลูกข้าวเป็นหลัก และ ไมม่ ีทรัพยากรธรรมชาติอนื่ ท่ีเปน็ จดุ ขาย10 ด้านสังคม-วัฒนธรรม ดา้ นความหลากหลายของประชากรนน้ั จังหวัดรอ้ ยเอด็ มกี ลุม่ ชาตพิ นั ธุ์ตา่ งๆ ในแตล่ ะพืน้ ทีด่ ังน้ี ๏ กลมุ่ ไทย-ลาว เป็นกลมุ่ ชนพน้ื เมอื งเดิม อาศัยทั่วไปในเขตจงั หวดั ร้อยเอ็ด ๏ กลุ่มไทย-เขมร เป็นคนท่ีอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด แต่มีบรรพบุรุษที่มีเชื้อสายเขมร อยู่ในอำเภอ สุวรรณภูมิ และเกษตรวิสัย ๏ กลุ่มไทย-ส่วย เป็นคนท่ีอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด มีเช้ือสายเป็นชาวส่วยหรือกูย อยู่บริเวณอำเภอ สวุ รรณภมู ิและอำเภอโพนทราย ตดิ ต่อกับจงั หวดั ศรสี ะเกษ 10 สมเกียรติ ชัยคณารักษก์ ูล, อา้ งแลว้ . การศึกษาความเคล่อื นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตงั้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จังหวดั รอ้ ยเอ็ด
15 ๏ กลุ่มภูไทหรือผู้ไทย เป็นกลุ่มท่ีตั้งถิ่นฐานในอำเภอเมยวดี หนองพอก ซ่ึงติดต่อกับจังหวัดกาฬสินธ์ุ ยโสธร และมุกดาหาร ๏ กลุ่มไทย้อ เป็นกลุ่มที่มีเช้ือสายมาจากแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อาศัยอยู่ ในเขตอำเภอโพธิ์ชัย นอกจากนั้นยังมีกลุ่มคนอพยพเข้ามาอาศัยในจังหวัดร้อยเอ็ดในภายหลัง ได้แก่ กลมุ่ ไทย-จนี กลุ่มไทย-ยวน กลมุ่ ไทย-แขก เปน็ ต้น ด้านงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัด ได้แก่ ประเพณีบุญผะเหวด ซึ่งเป็นบุญประเพณีท่ีมีการเทศน์ มหาชาติเป็นงานท่ียิ่งใหญ่ของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเฉพาะจังหวัดได้กำหนดให้เป็นงานประเพณีประจำปีของ จังหวัดและจัดได้ย่ิงใหญ่มากเป็นไปตามฮีต 12 นอกจากน้ียังมีประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นงานบุญประเพณีท่ีสำคัญ ของจังหวัด ที่มีการจัดอย่างต่อเน่ือง ซ่ึงพื้นท่ีที่มีการจัดงานบุญบั้งไฟท่ีมีช่ือเสียง ได้แก่ อ.สุวรรณภูมิ อ.พนมไพร และ อ.โพนทราย เป็นต้น ท้ังนี้งานบุญประเพณีเหล่านี้ถือเป็นหน่ึงในพื้นที่กิจกรรมทางการเมือง ที่มีความสำคัญ ดังจะเห็นได้จากการสนับสนุนและเข้าร่วมงานของนักการเมืองท้ังในระดับท้องถ่ินและ ระดับชาติเป็นประจำทุกปี ท้ังในช่วงบรรยากาศทางการเมืองของรัฐบาลจากการเลือกต้ัง ช่วงเวลาของ ความขัดแยง้ ทางการเมืองหรอื รัฐบาลภายใตก้ ารรัฐประหารกต็ าม11 ด้านโครงสรา้ งพ้นื ฐาน จากข้อมูลด้านสื่อประชาสัมพันธ์และวิทยุกระจายเสียงของกระทรวงวัฒนธรรมท่ีจัดทำข้ึนในปี พ.ศ. 2555 พบว่า นอกจากหน่วยงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด ท่ีดำเนินงานโดย (ทีวี ช่อง 11 หรือ NBT) แล้ว ยังมีการจดทะเบียนสถานีวิทยุกระจายเสียง จำนวน 6 สถานี ได้แก่ (1) สถานีวิทยุกระจายเสียง จส.3 (2) สถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพภาคที่ 2 (3) สถานีวิทยุกระจายเสียงตำรวจภูธร ภาค 4 (4) สถานีวิทยุ กระจายเสียง อสมท. (5) สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมประมง (6) สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย นอกจากน้ียังมีสื่อเคเบิลทีวี 4 บริษัท สื่อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 3 ฉบับ วิทยุชุมชน 103 สถานีกระจายตัว ทุกอำเภอในจังหวัด12 ซึ่งในปี พ.ศ. 2558 จำนวนสถานีวิทยุชุมชนลดลงเหลือ 99 แห่ง ทั้งน้ีบทบาททาง การเมืองของวิทยุชุมชนลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังการรัฐประหาร ทั้งในด้านการนำเสนอเน้ือหาข่าวสารและ การวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์ทางการเมือง ตลอดจนการได้รับการสนับสนุนท้ังจากกลุ่มทุนและกลุ่มการเมือง ต่างๆ ในทอ้ งถ่ิน13 อย่างไรก็ดี ในด้านการใช้อุปกรณ์ เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารน้ัน จากการสำรวจของ สำนักงานสถิติแห่งชาติในปี พ.ศ. 2557-2559 พบว่า อัตราการใช้คอมพิวเตอร์มีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้โทรศัพท์มือถือท่ีมีจำนวนผู้ใช้ในอัตรา ทีส่ งู ขน้ึ อย่างต่อเนอื่ ง ดงั ตารางท่ี 2.2 11 สนทนากลมุ่ ผูน้ ำชมุ ชน (16 เมษายน 2562). 12 ดรู ายละเอยี ดเพิ่มเติมท่ี https://www.m-culture.go.th/surveillance/files/835/report56/roiet-56.pdf 13 เดชศักด์ิ โพธิศรี, สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดและ ผู้จัดรายการ “คุยข่าวเช้านี้” FM 102.50, สัมภาษณ์ (23 พฤษภาคม 2562) และ ธงชัย ธราวุธ. สมาชิกสมาคมส่ือมวลชนและนักประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด, สัมภาษณ์ (23 พฤษภาคม 2562). การศกึ ษาความเคล่อื นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตั้งสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด
16 ตารางที่ 2.2 แสดงจำนวนประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีข้ึนไป จำแนกตามการใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถอื ระหวา่ งปี พ.ศ. 2557-255914 การใชเ้ ทคโนโลย ี 2557 จำนวน (ร้อยละ) 2559 สารสนเทศและการสื่อสาร 331,144 (33.25) 2558 277,682 (27.88) การใช้คอมพิวเตอร์ 270,778 (27.19) 321,197 (32.22) 330,372 (33.17) การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ การใชโ้ ทรศพั ท์มือถือ 693,673 (69.65) 293,795 (29.47) 762,020 (76.50) 720,7657 (72.29) ขอ้ มลู เชงิ สถิติทีส่ ำคญั เชงิ พ้นื ท่ี จากรายงานดัชนีความก้าวหน้าของคน (HAI) ปี 2558 โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ พบว่า จังหวัดร้อยเอ็ด มีตัวช้ีวัดท่ีเป็นองค์ประกอบของดัชนีย่อยด้านการศึกษาที่มีค่าเฉล่ีย เชาวน์ปัญญา (IQ) ของนักเรียนอายุ 6-15 ปี (ปี 2554) อยู่ในลำดับท่ีสามจากห้าลำดับแย่สุด (นราธิวาส ปตั ตานี ร้อยเอ็ด อบุ ลราชธานี สกลนคร ตามลำดับ) ในทกุ จงั หวัดทั่วประเทศ และมคี วามล้าหลงั ด้านการศกึ ษา อยู่ในลำดับท่ีห้าจากห้าจังหวัดล้าหลังท่ีสุด (หนองบัวลำภู บังกาฬ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ตามลำดับ) เฉพาะ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื (ทั้งหมด 20 จงั หวดั ) นอกจากนี้แล้วในด้านองค์ประกอบของดัชนีย่อยด้านชีวิตการงาน คือร้อยละของแรงงานท่ีมีประกัน สังคมต่อผู้มีงานทำ ปี 2556 (ร้อยละ) อยู่ในลำดับที่สามจากห้าลำดับแย่ท่ีสุด (ศรีสะเกษ สุโขทัย ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ตามลำดับ) ในทุกจังหวัดท่ัวประเทศ ในขณะที่สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ด มีตัวชี้วัดท่ีเป็น องค์ประกอบของดัชนีย่อยด้านรายได้ คือร้อยละของครัวเรือนที่มีหน้ีเพื่อการอุปโภคบริโภค (ปี 2556) อยู่ในลำดับท่ีสี่จากห้าลำดับแย่สุด (อำนาจเจริญ มหาสารคาม ปทุมธานี ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ตามลำดับ) ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตลอดจนเมื่อพิจารณาจากตัวช้ีวัดที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีย่อยด้านที่อยู่อาศัยและ สภาพแวดล้อม โดยมีประชากรที่ประสบภัยแล้ง ปี 2556 (ร้อยละ) อยู่ในลำดับท่ีหน่ึงจากห้าลำดับดับแย่สุด (ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ มหาสารคาม) เฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ดี เม่ือพิจารณาถึงระดับการพัฒนาตามทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 11 ของจังหวัด ร้อยเอ็ดตามดัชนีการพัฒนา (Composite Index) ณ ปี 2557 พบว่า ได้คะแนนรวมเท่ากับ 3.02 ซ่ึงอยู่ใน ระดบั ปานกลาง 14 สำนักงานสถติ ิจงั หวัดร้อยเอด็ , อ้างแล้ว, หน้า 133. การศกึ ษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร 2562 จังหวดั รอ้ ยเอด็
17 ตารางท่ี 2.3 แสดงระดับการพัฒนาตามทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 ของ จังหวดั ร้อยเอด็ พิจารณารายประเดน็ ยทุ ธศาสตร ์ ยทุ ธศาสตร์ คะแนนทีไ่ ด้ ระดับ ตวั ชีว้ ัดที่ตอ้ งให้ความสำคญั ในการพัฒนา ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 3.29 ปานกลาง สัดส่วนนักเรยี นด้อยโอกาสต่อนักเรียนทัง้ หมด การสร้างความเป็นธรรมในสงั คม ยุทธศาสตรท์ ่ี 2 3.60 ปานกลาง คะแนนเฉลย่ี สติปญั ญา (IQ) เด็กนกั เรยี น การพัฒนาคนสู่สังคมแหง่ การเรียนรู้ ตลอดชีวิตอย่างย่งั ยืน ยทุ ธศาสตร์ท่ี 3 2.75 ต้องพฒั นา สัดส่วนรายได้เงินสดสุทธิทางการเกษตรต่อ ความเข้มแข็งภาคเกษตร ความมั่นคงของ รายได้เงินสดสุทธิของครัวเรือนเกษตร และ อาหารและพลังงาน สัดส่วนปริมาณเงินกู้ยืมต่อรายได้เงินสดสุทธิ ทางการเกษตร ยุทธศาสตรท์ ่ี 4 2.60 ตอ้ งพัฒนา ผลติ ภาพแรงงานเฉล่ยี การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสกู่ ารเตบิ โต อยา่ งมคี ณุ ภาพและยง่ั ยนื ไม่มกี ารวดั การพัฒนาตามยทุ ธศาสตร์ที่ 5 ของแผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ 11 ยุทธศาสตรท์ ี่ 6 2.89 ตอ้ งพัฒนา หม่บู ้านมีนำ้ ใชเ้ พื่อการเกษตรเพียงพอตลอดปี การจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อมอยา่ งย่งั ยืน ท้ังนี้หากพิจารณารายประเด็นยุทธศาสตร์ สรุปได้ดังตารางท่ี 2.315 พบว่า จังหวัดร้อยเอ็ดมีความจำเป็น ต้องปรับระดับการพัฒนาในทุกยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่การเติบโตอย่างมี คุณภาพและยั่งยืน ความเข้มแข็งภาคเกษตร ความม่ันคงของอาหารและพลังงาน ตลอดจนการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมอย่างย่ังยนื 2.2 ข้อมูลพื้นฐานด้านการเมอื งของจงั หวัดรอ้ ยเอด็ (1) การเลือกต้ังสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรในจงั หวัดร้อยเอ็ด นับตั้งแต่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดร้อยเอ็ด ต้ังแต่ พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ดังตาราง ท่ี 2.4, 2.5 และ 2.6 พบว่า พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพ่ือไทย รวมไปถึงความนิยมต่อ ทักษณิ ชนิ วตั ร อดตี นายกรัฐมนตรี ได้รบั ความนิยมจากผูม้ สี ิทธเิ ลือกต้ังในจงั หวดั อย่างตอ่ เนอื่ ง โดยผ้สู มคั รจาก พรรคเหล่าน้ี สามารถสร้างความนิยมและได้รับคะแนนเสียงเลือกต้ังและในการเลือกต้ังท่ีผ่านมาสามารถ เอาชนะนกั การเมืองหรือพรรคการเมืองเดมิ ท่เี คยไดม้ ฐี านเสยี งและได้รับความนยิ มในพ้นื ท่ี 15 “ขอ้ มลู เชงิ สถิติที่สำคัญเชิงพนื้ ที”่ , สืบค้นจาก http://www.roiet.go.th/2013/ (11 มนี าคม 2562). การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอ็ด
18 ตารางท่ี 2.4 แสดงข้อมูลการแบ่งเขตเลือกต้ังและผลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการท่ัวไป พ.ศ. 2548 เขต พ้นื ท่เี ขตเลือกตงั้ ผทู้ ไ่ี ดร้ ับเลอื กต้งั คะแนนท่ีไดร้ บั 1 อ.เมอื งร้อยเอ็ดและอ.จังหาร (เฉพาะ ต.ปาฝา และ นายอนรุ ักษ์ จรุ มี าศ 44065 พรรคชาตไิ ทย 65424 ต.ยางใหญ)่ 68320 2 อ.โพธ์ิชัย, อ.ธวัชบุรี (เฉพาะ ต.นิเวศน์ ต.มะอึ ต.หนองพอก นายฉลาด ขามชว่ ง 37173 ต.ธวัชบุรี ต.ธงธานี ต.อุ่มเม้า และต.บึงนคร), อ.จังหาร พรรคไทยรักไทย 49950 (เฉพาะ ต.ม่วงลาด ต.ผักแว่น ต.ดงสิงห์ ต.จังหาร ต.แสนชาติ และต.ดนิ ดำ) และ ก่งิ อ.เชียงยืน 64536 62863 3 อ.โพนทอง, อ.หนองพอก (เฉพาะ ต.หนองพอก ต.ภูเขาทอง นายเอกภาพ พลซอ่ื 41893 ต.กกโพธ์ิ ต.รอบเมือง และ ต.บึงงาม) และ อ.เมยวดี พรรคไทยรกั ไทย 4 อ.เสลภูมิ, อ.หนองพอก (เฉพาะ ต.ผาน้ำย้อย ต.โคกสว่าง นายนิรนั ดร์ นาเมอื งรักษ์ ต.ท่าสีดา และต.หนองขุ่นใหญ่) และ กิ่ง อ.ทุ่งเขาหลวง พรรคไทยรกั ไทย (เฉพาะ ต.ทุ่งเขาหลวง ต.บงึ งาม และ ต.มะบ้า) 5 อ.พนมไพร, อ.ธวัชบุรี (เฉพาะ ต.เมืองน้อย ต.เขวาทุ่ง นายนิสิต สินธไุ พร ต.ราชธานี ต.หนองไผ่ และ ต.ไพศาล), อ.อาจสามารถ พรรคไทยรักไทย (เฉพาะ ต.อาจสามารถ ต.บ้านแจ้ง ต.หนองหม่ืนถ่าน ต.โพน เมือง และ ต.หม่อม), กิ่ง อ.ทุ่งเขาหลวง (เฉพาะ ต.เทิดไทย และ ต.เหล่า) และ ก่ิง อ.หนองฮี (เฉพาะ ต.หนองฮี และ ต.สาวแห) 6 อ.สุวรรณภูมิ, อ.โพนทราย, อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.หนองหิน) นายกิตติ สมทรพั ย์ และ กงิ่ อ.หนองฮี (เฉพาะ ต.เด่นราษฎร์และ ต.ดกู อ่งึ ) พรรคไทยรกั ไทย 7 อ.เกษตรวิสัย, อ.ปทุมรัตต์ และ อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.กกกุง นายศกั ดา คงเพชร และ ต.คูเมือง) พรรคไทยรักไทย 8 อ.จตุรพักตรพิมาน, อ.ศรีสมเด็จ, อ.อาจสามารถ (เฉพาะ นายมังกร ยนตต์ ระกูล ต.บ้านดู่ ต.หนองขาม ต.โหรา ต.หนองบัว และ ต.ขี้เหล็ก) พรรคชาตไิ ทย และ อ.เมอื งสรวง (เฉพาะ ต.เมอื งสรวง และ ต.หนองผือ) การศึกษาความเคลอื่ นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกต้งั สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอ็ด
19 ตารางท่ี 2.5 แสดงข้อมูลการแบ่งเขตเลือกตั้งและผลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการท่ัวไป พ.ศ. 2550 เขต พน้ื ที่เขตเลอื กต้ัง ผู้ที่ไดร้ ับเลอื กตง้ั คะแนนทไี่ ด้รบั 1 อ.เมืองร้อยเอ็ด, อ.ธวัชบรุ ,ี อ.อาจสามารถ, อ.โพธิช์ ัย, นายฉลาด ขามช่วง 139402 พรรคพลังประชาชน 125289 อ.ศรสี มเดจ็ , อ.จังหาร, อ.เชยี งขวญั และ อ.ทงุ่ เขาหลวง 108788 146263 นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ 140000 พรรคพลงั ประชาชน 145522 62281 นายวราวงษ์ พันธ์ุศลิ า 49660 พรรคพลังประชาชน 2 อ.พนมไพร, อ.เกษตรวิสัย, อ.สุวรรณภูมิ, อ.จตรุ พกั ตรพมิ าน, นายนิสติ สินธไุ พร อ.ปทุมรตั ต,์ อ.เมอื งสรวง, อ.โพนทราย และอ.หนองฮี พรรคพลงั ประชาชน นายกติ ติ สมทรพั ย์ พรรคพลังประชาชน นายศกั ดา คงเพชร พรรคพลังประชาชน 3 อ.โพนทอง, อ.เสลภมู ,ิ อ.หนองพอก และอ.เมยวดี นายนพดล พลซือ่ พรรคเพือ่ แผ่นดิน นายนิรมิต สุจารี พรรคพลงั ประชาชน การศกึ ษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดรอ้ ยเอด็
20 ตารางท่ี 2.6 แสดงข้อมูลการแบ่งเขตเลือกต้ังและผลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการท่ัวไป พ.ศ. 2554 เขต พ้ืนทีเ่ ขตเลือกต้งั ผทู้ ไ่ี ดร้ ับเลือกตง้ั คะแนนทไี่ ดร้ บั 31612 1 อ.เมืองรอ้ ยเอ็ด, อ.จงั หาร (เฉพาะ ต.ปาฝาและ ต.ยางใหญ่) นายวราวงษ์ พันธุศ์ ลิ า พรรคเพ่อื ไทย 2 อ.โพธิ์ชัย, อ.ธวัชบุรี (เฉพาะต.นิเวศน์ ต.มะอึ ต.หนองพอก นายฉลาด ขามช่วง 53931 ต.ธวัชบุรี ต.ธงธานี ต.อุ่มเม้า และต.บึงนคร), อ.จังหาร พรรคเพื่อไทย 48566 (เฉพาะ ต.ม่วงลาด ต.ผักแว่น ต.ดงสิงห์ ต.จังหาร ต.แสนชาติ และ ต.ดนิ ดำ) และ อ.เชยี งขวญั 3 อ.โพนทอง, อ.หนองพอก (เฉพาะ ต.หนองพอก ต.ภูเขาทอง นายนิรมติ สจุ ารี ต.กกโพธ์ิ ต.รอบเมอื ง และต.บงึ งาม) และอ.เมยวดี พรรคเพอื่ ไทย 4 อ.เสลภูมิ, อ.หนองพอก (เฉพาะ ต.ผาน้ำย้อย ต.โคกสว่าง นายนริ ันดร์ นาเมืองรักษ์ 50732 ต.ท่าสีดา และ ต.หนองขุ่นใหญ่) และ อ.ทุ่งเขาหลวง (เฉพาะ พรรคเพ่อื ไทย ต.ทุ่งเขาหลวง ต.บึงงาม และ ต.มะบา้ ) 5 อ.พนมไพร, อ.ธวัชบุรี (เฉพาะ ต.เมืองน้อย ต.เขวาทุ่ง นางเอมอร สนิ ธุไพร 67072 ต.ราชธานี ต.หนองไผ่ และ ต.ไพศาล), อ.อาจสามารถ พรรคเพื่อไทย (เฉพาะ ต.อาจสามารถ ต.บ้านแจ้ง ต.หนองหม่ืนถ่าน ต.โพนเมือง และ ต.หม่อม), อ.ทุ่งเขาหลวง (เฉพาะ ต.เทิดไทย และ ต.เหล่า) และ อ.หนองฮี (เฉพาะ ต.หนองฮี และ ต.สาวแห) 6 อ.สุวรรณภูมิ, อ.โพนทราย, อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.หนองหิน) นายกติ ติ สมทรพั ย์ 71226 และ อ.หนองฮี (เฉพาะ ต.เดน่ ราษฎร์ และ ต.ดกู อ่ึง) พรรคเพ่ือไทย 7 อ.เกษตรวิสัย, อ.ปทุมรัตต์ และ อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.กกกุง นายศักดา คงเพชร 65129 และ ต.คเู มือง) พรรคเพ่อื ไทย 8 อ.จตุรพักตรพิมาน, อ.ศรีสมเด็จ, อ.อาจสามารถ (เฉพาะ นายเศกสิทธ์ิ ไวนยิ มพงศ์ 70852 ต.บ้านดู่ ต.หนองขาม ต.โหรา ต.หนองบัว และ ต.ข้ีเหล็ก) พรรคเพอื่ ไทย และ อ.เมืองสรวง (เฉพาะ ต.เมืองสรวง และ ต.หนองผือ) (2) การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550 จังหวัดร้อยเอ็ด ซ่ึงเป็นหน่ึงในจังหวัดท่ีอยู่ภายใต ้ กฎอัยการศึกครอบคลุมท้ังจังหวัด มีผู้มีสิทธิเลือกต้ัง จำนวน 1,310,047 คน ผู้มาใช้สิทธิลงประชามติ จำนวน 946,679 คน โดยมีผู้เห็นชอบต่อร่างธรรมนูญ 116,778 คน คิดเป็น ร้อยละ 23.89 และมีผู้ไม่เห็นชอบต่อ ร่างธรรมนูญดังกล่าว เป็นจำนวนถึง 371,953 คน คิดเป็นร้อยละ 76.11 โดยมีบัตรเสียจำนวน 7,373 ใบ16 16 “ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550”, Retrieved from URL www.satit.up.ac.th/BBC07/Soc2/Election/RD/ fd2550.xlsx (20 มกราคม 2562) และ “วิเคราะห์เสียงประชามติ 35 จังหวัด ใต้กฎอัยการศึกจากปาก “ชาวบ้าน”, สืบค้นจาก https://prachatai.com/journal/ 2007/08/13923 (20 มกราคม 2562). การศึกษาความเคล่อื นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดรอ้ ยเอด็
21 ซ่ึงถือได้ว่าร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดท่ีมีผู้ออกเสียง “ไม่เห็นชอบ” มากที่สุดเป็นอันดับที่สามรองจากจังหวัดนครพนม และมกุ ดาหาร17 อย่างไรก็ดี หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้จัดให้มีการลงประชามต ิ ร่างรัฐธรรมนูญข้ึน ในวันท่ี 7 สิงหาคม 2559 ท่ามกลางบรรยากาศก่อนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเต็มไปด้วยความเข้มงวด ท้ังร่าง พ.ร.บ.ประชามติ และคำส่ังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไม่ให้ฝ่ายเห็นต่างออกมาเคลื่อนไหว18 ซึ่งการลงประชามติในพ้ืนที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้มีสิทธ ิ ลงประชามติ จำนวน 1,034,336 คน มีหน่วยลงประชามติทั้งจังหวัด จำนวน 2,517 หน่วย และ หน่วยลงประชามตินอกเขตจังหวัด จำนวน 1 หน่วย ผลการลงคะแนนประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญปี 2559 จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 564,729 คน คิดเป็นร้อยละ 54.56 ผลประชามติ ประเด็นท่ี 1 ร่างรัฐธรรมนูญ เห็นชอบ 186,931 คน คิดเป็นร้อยละ 35.98 ไม่เห็นชอบ 332,587 คน คิดเป็นร้อยละ 64.02 ประเด็นที่ 2 คำถาม เพ่ิมเติม เห็นชอบ 157,587 คน คิดเป็นร้อยละ 32.12 ไม่เห็นชอบ 333,023 คน คิดเป็นร้อยละ 67.88 บตั รเสยี จำนวน 15,360 บัตร คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.72 ภาพท่ี 2.2 แสดงผลการลงประชามตริ ่างรัฐธรรมนญู เปรียบเทยี บ พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2559 ท้ังน้ี มีการตั้งข้อสังเกตว่า ผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในปี พ.ศ. 2559 ท่ีมีระดับการเห็นชอบ สูงกว่าการลงประชาติร่างรัฐธรรมนูญในปี พ.ศ. 2550 เน่ืองมาจากกลไกควบคุมของรัฐ การถ่ายทอดข้อมูล ขา่ วสารทส่ี ง่ ผลต่อความเขา้ ใจในกระบวนการทางการเมอื งและผลทจี่ ะเกดิ ขน้ึ อันเปน็ ผลจากการรา่ งรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงความเช่ือที่ว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะนำไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วเหมือนเช่นการรัฐประหารและ ร่างรัฐธรรมนูญฉบบั ใหมด่ ังที่เคยเกิดขน้ึ ในการรฐั ประหารท่ผี า่ นมา19 17 ย้อนสถติ ิ ประชามติ รธน. 2550 https://www.posttoday.com/politic/analysis/446360 (20 มกราคม 2562). 18 เรื่องเดยี วกัน 19 ขวัญใจ ตระกูลศรี. ประธานสาขาพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดร้อยเอ็ด, สัมภาษณ์ (1 มิถุนายน 2562) และ ธงชัย ธราวุธ. อ้างแลว้ . การศกึ ษาความเคลอ่ื นไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอด็
22 (3) ตระกูลการเมือง พืน้ ท่ฐี านเสียงและการเมืองท้องถ่นิ นอกจากผลการเลือกตั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา และการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา จะยืนยันได้ถึงความนิยมของประชาชนท่ีมีต่อพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพ่ือไทย รวมทั้ง ทัศนคติทางการเมืองของประชาชนที่มีต่อความชอบธรรมของการรัฐประหารแล้ว ปัจจัยหนึ่งท่ีเป็นส่วนสำคัญ ในการพิจารณาถึงรูปแบบการแข่งขันและเครือข่ายการเมืองในจังหวัดร้อยเอ็ด คือ ตระกูลการเมือง ในจังหวัด20 ซึ่งปรากฏชัดเจนในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองจากการเลือกต้ังทั้งระดับชาติและระดับ ท้องถิ่น21 โดยที่แต่ละตระกูลจะมีพื้นท่ีซึ่งเป็นฐานคะแนนนิยมท่ีเข้มแข็งของตนเองในแต่ละอำเภอ ดังตารางท่ี 2.7 ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถ่ินผ่านกลไกของตระกูล การเมืองอย่างมนี ยั สำคัญ22 ตารางท่ี 2.7 แสดงตัวอยา่ งตระกลู การเมืองที่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่จงั หวดั ร้อยเอด็ ตระกูล บุคคลสำคัญทมี่ ีบทบาท ตำแหนง่ พื้นทฐี่ านเสียงหลกั จรุ ีมาศ ทางการเมือง - อดีตรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการพัฒนาสังคมและ อนุรกั ษ์ จรุ มี าศ ความมนั่ คงของมนุษย ์ อ.ร้อยเอ็ด - อดตี รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงวฒั นธรรม อ.ศรสี มเด็จ ทินกร จุรมี าศ - อดีตสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จ.ร้อยเอด็ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ - อดตี รองเลขาธิการพรรคชาตไิ ทย เกอื้ จิตต์ จรุ ีมาศ - สมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด - อดตี สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั รอ้ ยเอด็ - อดตี สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ - นายกเทศมนตรเี มอื งรอ้ ยเอ็ด - สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดรอ้ ยเอด็ อ.ศรสี มเดจ็ เขตเลอื กต้ังที่ 1 20 ดูรายละเอียดเพ่ิมเติมใน อรอนงค์ ซ้ายโพธิ์กลาง และศรัณย์ จิระพงษ์สุวรรณ, 2558, นักการเมืองถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด, กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกลา้ . 21 รังสรรค์ ธนะพรพันธ์ุ ให้ข้อสังเกตต่อการขยายตัวของตระกูลการเมืองไว้ว่า ผลจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 นำไปสู่การเติบโตของตระกูลการเมืองในสนามเลือกต้ังระดับต่างๆ ซึ่งนักการเมืองบางตระกูลสามารถ ยึดพื้นท่ีได้ท้ังในสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน อ้างใน รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์, 2548, จาก Thaksinomics สู่ ทักษณิ าธปิ ไตย, (กรงุ เทพฯ : openbooks), หนา้ 123. 22 ดูคำอธิบายได้ใน James Ockey, (2017), “Team Work: Shifting Patterns and Relationships in Local and National Politics in Thailand”. Sojourn 32(3): 562-600. การศกึ ษาความเคล่อื นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลอื กต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดรอ้ ยเอ็ด
23 ตระกูล บคุ คลสำคัญท่มี ีบทบาท ตำแหน่ง พนื้ ทฐ่ี านเสียงหลกั ทางการเมอื ง นาเมืองรักษ์ นิรันดร์ นาเมอื งรกั ษ ์ - อดตี สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอ็ด - เลขานกุ ารนายกองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัดรอ้ ยเอ็ด นรากร นาเมอื งรกั ษ ์ - สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั ร้อยเอ็ด อ.เสลภมู ิ อ.ทงุ่ เขาหลวง เขตเลอื กตงั้ ท่ี 1 อ.ทงุ่ เขาหลวง จฬุ าลกั ษณ์ นาเมอื งรกั ษ ์ - อดีตประธานสภาจงั หวัดรอ้ ยเอ็ด - อดตี สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จ.รอ้ ยเอ็ด อ.โพธ์ชิ ัย ขามช่วง ฉลาด ขามช่วง - สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอ็ด - สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั ร้อยเอด็ อ.พนมไพร ตลุ ธร ขามช่วง อ.โพธชิ์ ัย เขตเลอื กตง้ั ที่ 1 สินธไุ พร นสิ ติ สินธไุ พร - อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอด็ อ.ธวัขบุรี - อดีตแกนนำกลุ่มแนวรว่ มประชาธปิ ไตยตอ่ ตา้ น เอมอร สนิ ธุไพร เผดจ็ การแหง่ ชาติ (นปช.) จิราพร สินธุไพร - อดตี ผู้อำนวยการสโมสรฟตุ บอลรอ้ ยเอด็ ยไู นเต็ด ชญาภา สนิ ธไุ พร - อดีตสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ - สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ วเิ ชยี รชนินทร์ สินธุไพร - ผ้สู มัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรกั ษาชาติ ชัย สินธไุ พร - อดีตประธานกล่มุ แนวรว่ มประชาธปิ ไตยต่อตา้ น เผด็จการแหง่ ชาติ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ จรุ ีพร สนิ ธไุ พร - นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลแสนสุข อ.พนมไพร จ.ร้อยเอด็ ไวนยิ มพงศ ์ เศกสิทธ์ิ ไวนิยมพงศ์ - อดตี รองนายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัด รอ้ ยเอด็ - ผู้สมคั รสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบญั ชี พรรค พลงั ประชารฐั - อดีตประธานกล่มุ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผดจ็ การแหง่ ชาติภาคตะวันออก - อดตี สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด - อดตี ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลรอ้ ยเอ็ด ยูไนเตด็ - วา่ ทีผ่ สู้ มัครนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั รอ้ ยเอด็ การศกึ ษาความเคล่อื นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอด็
24 ตระกูล บุคคลสำคญั ท่ีมีบทบาท ตำแหนง่ พนื้ ทฐ่ี านเสียงหลกั ทางการเมอื ง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด พลซ่ือ ทัศนัย ไวนิยมพงศ์ คงเพชร มงั กร ยนตต์ ระกลู นายกองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั ร้อยเอด็ พสิ ิษฐ์ศักด์ิ ไวนิยมพงศ์ สุจารี จักรกรชิ ไวนิยมพงศ์ - สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด อ.ธวชั บุรี นราภรณ์ ไวนยิ มพงศ์ เขตเลือกตั้งท่ี 1 เอกภาพ พลซอื่ - สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด อ.ธวัชบรุ ี รชั นี พลซอ่ื เขตเลอื กต้ังที่ 2 นพดล พลซอื่ ศกั ดา คงเพชร - ผู้สมคั รสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร แบบบัญชีรายช่ือ พรรคเพอ่ื ไทย จิตรา คงเพชร - อดีตสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอ็ด ศราวุธ คงเพชร นริ มติ สจุ ารี - อดตี เลขาธิการพรรคเสรีธรรม วันชนะ สจุ ารี - อดตี กรรมการบริหารพรรคไทยรกั ไทย อ.เมยวดี - อดีตสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ - อดตี นายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ร้อยเอ็ด - อดตี สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอด็ - อดีตรัฐมนตรชี ว่ ยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ - อดตี สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด - สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ อ.เกษตรวสิ ยั - ประธานสภาองค์การบริหารสว่ นจังหวัดร้อยเอ็ด - สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั อ.เกษตรวิสัย เขตเลือกตั้งที่ 2 - เลขานุการนายกองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั รอ้ ยเอ็ด - อดตี สมาชิกสภาจังหวดั ร้อยเอด็ - อดีตสมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดรอ้ ยเอด็ - อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด - สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ อ.โพนทอง - สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด อ.หนองพอก เขตเลือกตงั้ ที่ 2 การศกึ ษาความเคลอื่ นไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลอื กต้ังสมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอด็
25 ตระกลู บุคคลสำคญั ทีม่ บี ทบาท ตำแหน่ง พ้ืนทฐ่ี านเสียงหลัก ทางการเมอื ง วรเชษฐ ์ เวียง วรเชษฐ ์ - อดตี สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎรจังหวดั รอ้ ยเอ็ด - อดีตสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรแบบบัญชีรายชือ่ พรรคเพอื่ ไทย - ผสู้ มัครสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรแบบบัญชรี ายชอื่ อ.จตรุ พักตรพมิ าน พรรคพลงั ประชารฐั อนิวรรตน์ วรเชษฐ์ - อดตี สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ร้อยเอด็ อ.จตุรพักตรพมิ าน เขตเลอื กต้ังท่ี 2 สมทรพั ย์ กติ ติ สมทรัพย์ - สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด - อดีตสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร จ.รอ้ ยเอด็ 4 สมยั อ.สุวรรณภูม ิ - ทปี่ รกึ ษา นายกองค์การบริหารสว่ นจังหวัดรอ้ ยเอด็ ภัทรวดี สมทรัพย์ ตัวอย่าง ตระกูลเก่าแก่ที่มีบทบาทสำคัญในเขตเมืองอย่าง ตระกูลจุรีมาศ23 ซ่ึงปัจจุบันมีนักการเมือง คนสำคัญ ได้แก่ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดร้อยเอ็ดในปัจจุบัน ซ่ึงเคยเป็น อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย เคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนุษย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงกรรมการบริหารพรรคชาติไทย ซึง่ ถกู ยุบพรรคและจัดตงั้ เปน็ พรรคชาติไทยพฒั นาในปจั จุบนั นอกจากน้ยี ังมสี มาชิกของตระกลู คนอ่นื ๆ ซงึ่ ดำรง ตำแหน่งการเมืองในระดับท้องถิ่น เช่น นางเก้ือจิตต์ จุรีมาศ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอศรีสมเด็จ โดยเฉพาะอย่างย่ิงการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดท่ีได้รับ การเลือกตั้งอย่างต่อเนื่องและยาวนานของนายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ เปน็ หนงึ่ ในสมาชิกคนสำคัญของตระกูลจุรมี าศ ในขณะเดียวกัน ยังมีตระกูลการเมืองอ่ืนๆ ที่มีอิทธิพลทางการเมืองในอำเภอรอบนอก ได้แก่ ตระกูล พลซื่อ ซ่ึงมีนายเอกภาพ พลซื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ดหลายสมัย และนางรัชนี พลซื่อ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ดและอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้ที่มี บทบาทสำคัญ รวมไปถึงตระกูลนาเมืองรักษ์ซ่ึงผู้ท่ีมีบทบาทสำคัญ คือ นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ดหลายสมัยและเคยเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ซ่ึงครอบครัวของ นายนิรันดร์ยังมีบทบาทในการเมืองท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างย่ิงท้ังในระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัดและ ระดับเทศบาล เช่นเดียวกับตระกูลคงเพชร ท่ีมีนายศักดา คงเพชร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด ร้อยเอ็ดหลายสมัยแล้ว นางจิตรา คงเพชร ซึ่งเป็นภรรยาของนายศักดา ประธานสภาองค์การบริหาร 23 ตระกูลจุรีมาศ มีธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บริษัทไทยสามัคคีพานิช 2531 จำกัด และบริษัทรัฐกรก่อสร้าง จำกัด อ้างใน ผาสุก พงษ์ไพจิตร (บรรณาธิการ), การต่อสู้ของทุนไทย เล่ม 2 การเมือง วัฒนธรรม เพื่อความอยู่รอด, (กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน), หนา้ 284. การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลือกตัง้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอด็
26 ส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเมืองท้องถ่ินระดับจังหวัด รวมท้ังนายฉลาด ขามช่วง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ดหลายสมัย ที่สนับสนุนสมาชิกในตระกูลลงสมัครเป็นสมาชิก สภาองค์การบริหารสว่ นจังหวัดรอ้ ยเอด็ นอกจากน้ียังมีตระกูลท่ีเริ่มมีบทบาททางการเมืองอย่างเด่นชัดในช่วงความขัดแย้งทางการเมือง อย่าง ตระกูลสินธุไพร นำโดยนายนิสิต สินธุไพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ดหลายสมัย ทั้งยังเป็น แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด บทบาทของสมาชิกครอบครัวของนายนิสิตปรากฏชัดเจนข้ึนทั้งในการเคล่ือนไหวในขบวนการเสื้อแดง และการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลังจากนายนิสิตถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรค พลังประชาชนและจำคุกในคดีเหตุการณ์ก่อความไม่สงบของกลุ่ม นปช. เมื่อปี พ.ศ. 255224 ซ่ึงส่งผลให้ นางเอมอร สินธุไพร เข้ามามีบทบาททางการเมืองในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร25 และ ต่อมาได้ส่งผ่านมายังบุตรสาว คือ นางสาวจิราพร สินธุไพร ซึ่งได้รับเลือกต้ังเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวดั ร้อยเอด็ ในปจั จุบัน อย่างไรก็ดี นอกจากการมีฐานเสียงในเขตพื้นที่ของตระกูลการเมืองต่างๆ แล้ว การเลือกต้ังระดับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดซ่ึงเป็นการเลือกต้ังผู้บริหารโดยตรง ยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง พรรคการเมืองกับกลุ่มการเมืองท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ดังตัวอย่าง ผลการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ในปี พ.ศ. 2551 และ 2555 ปรากฏว่า นายมังกร ยนต์ตระกูล ซึ่งเป็นน้องเขยของนายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเส้ือแดงในจังหวัด ร้อยเอ็ด ทำให้สามารถระดมคะแนนเสียงและชนะการเลือกต้ังตระกูลการเมืองอ่ืนๆ ที่สนับสนุนผู้สมัครซึ่งเป็น คู่แข่งคนสำคัญอย่าง นางรัชนี พลซ่ือ ซึ่งเป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด รวมทั้งนายทินกร จุรมี าศ26 เปน็ ตน้ 24 “แกนนำ นปช. ย่ืนอุทธรณ์คดี ตร.เป็นพยานเท็จ ให้การคดีล้มประชุมอาเซียน พัทยา ปี 52”, สืบค้นจาก https:// prachatai. com/ journal/2017/09/73087 (10 มกราคม 2562). 25 นางเอมอร สินธุไพร เป็นหนึ่งใน 40 อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพ่ือไทย ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบกรณีการเสนอออกร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ในข้อกล่าวหาว่าออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน ์ ให้กับตนเองและพวกพ้อง “40 อดีต ส.ส.เพื่อไทย ร้องทุกข์กล่าวโทษ ‘ป.ป.ช.สุภา’ เหตุพิจารณา กม.ลูกเอื้อประโยชน์ตัวเองและ พวกพ้อง” สบื คน้ จาก https://www.ptp.or.th/news/657 (10 มกราคม 2562). 26 “เลือกตั้ง นายก อบจ.และสมาชิกฯ อบจ.ร้อยเอ็ด มังกร ยนต์ตระกูล อดีตนายกฯ นำลูกทีมเข้าสภาฯ 16 คน”, สืบค้นจาก https://pr.prd.go.th/ewt/region2/ewt_news.php?nid=41570&filename=intro (10 มกราคม 2562) และ “ผลการเลือกนายก อบจ. ร้อยเอ็ดมังกรชนะรัชนี 51,313 คะแนน”, สืบค้นจาก https://www.gotoknow.org/posts/177982 (10 มกราคม 2562). การศกึ ษาความเคลือ่ นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จังหวัดรอ้ ยเอด็
27 (4) กลมุ่ และขบวนการเคล่ือนไหวทางการเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นหน่ึงในจังหวัดท่ีมีองค์กรภาคประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้รับการจัดตั้ง ในฐานะ องค์กรสาธารณประโยชน์ และองค์กรภาคประชาชนท่ีทำงานในเชิงสวัสดิการชุมชน27 ในขณะท ี่ ภาคธุรกิจและหอการค้า รวมถึงภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดให้ความร่วมมือกับภาคราชการและมีบทบาทนำ ในการเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มข้อเสนอเชิงนโยบายต่อหน่วยงานระดับจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงาน ผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กกร.) ระดับจังหวัด ในขณะท่ีบทบาทในทางการเมืองน้ัน ภาพรวม จะวางตัวเป็นกลางไม่สนับสนุนหรือต่อต้านฝ่ายใด หากมีการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนกลุ่มการเมืองหรือ นักการเมืองคนใด มักจะเป็นความสัมพันธ์หรือร่วมดำเนินกิจกรรมโดยส่วนตัว28 อย่างไรก็ดี งานวิจัยนี้มุ่งเน้น การนำเสนอบทบาทของกลุ่มและขบวนการเคลื่อนไหวที่มีบทบาทสำคัญต่อการเลือกตั้งทั้งในเชิงของ การสนับสนุน ต่อต้านและการเปล่ียนจากผู้เข้าร่วมการเคลื่อนไหวเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในช่วงเวลาของ ความขดั แย้งทางการเมอื งทเี่ กิดขึ้นตงั้ แต่การรัฐประหาร พ.ศ. 2549 เป็นตน้ มา ไดแ้ ก่ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพ่ือประชาธิปไตย และสืบเนื่องด้วยการเคล่ือนไหวของคณะกรรมการ ประชาชนเพ่ือการเปล่ียนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยท่ีสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข (กปปส.) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรวมตัวกันเพื่อต่อต้านรัฐบาลของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรีและพรรคไทยรักไทย รวมไปถึงคณะรัฐมนตรีและพรรคการเมืองท่ีสืบทอดมาหลังจากน้ัน การเคลื่อนไหวของกลุ่มน้ีมีการรวมตัวกันในเขตอำเภอเมือง รวมไปถึงการไปร่วมชุมนุมท่ีกรุงเทพฯ29 ซึ่งผู้สนับสนุนหลัก คือ กลุ่มพ่อค้า ข้าราชการและประชาชนในเขตเทศบาล กิจกรรมท่ีจัดข้ึนในพ้ืนที่คือ การเป่านกหวีด และชูป้ายขับไล่ น.ส.ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รวมทั้งการรณรงค์ให้มี การปฎิรูปก่อนการเลือกต้ัง เป็นต้น30 ทั้งน้ี ผู้สมัครท่ีเคยเคล่ือนไหวในนามกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพ่ือประชาธิปไตยและ กปปส. ท่ีลงสมัครรับเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในปี พ.ศ. 2562 ได้แก่ ณรงค์ นาทองคำ นภาพร พวงช้อย และ ทินกร อ่อนประทุม31 ซ่ึงท้ังสามคนลงสมัครในสังกัดพรรค ประชาธิปตั ย์ เป็นตน้ 27 “จ.ร้อยเอ็ด ประชุมคณะอนุกรรมการ รับรองมูลนิธิสมาคม หรือองค์กรเอกชน เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ และรับรอง องค์กรภาคประชาชนเป็นองค์กรสวัสดิการชุมชนในเขตจังหวัดร้อยเอ็ด คร้ังที่ 1/2561”, สืบค้นจาก http://thainews.prd.go.th/th/ news/print_news/WNSOC61082 00010011 (10 มกราคม 2562). 28 สมเกยี รติ ชัยคณารักษ์กลู , อา้ งแลว้ . 29 “กปปส.ร้อยเอ็ดเข้ากรุงร่วมเผด็จศึกทรราช”, สืบค้นจาก https://mgronline.com/local/detail/9570000051476 (21 กุมภาพันธ์ 2562). 30 “กลุ่ม กปปส.เป่านกหวีดใส่นายกรัฐมนตรี”, สืบค้นจาก https://news.thaipbs.or.th/content/212525 (21 กุมภาพันธ์ 2562). 31 “ทินกร อ่อนประทุม แกนนำ กปปส. ถูกตำรวจรวบตัวคาด่าน”, สืบค้นจาก https://hilight.kapook.com/view/98077 (21 กมุ ภาพนั ธ์ 2562). การศกึ ษาความเคลอ่ื นไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอ็ด
28 ในอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นคู่ตรงข้ามกับกลุ่มข้างต้น คือ กลุ่มคนเส้ือแดง ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม ทั้งยังมีการจัดต้ัง กลุ่มในนาม “กลุ่มคนเสื้อแดงร้อยเอ็ดรักประชาธิปไตย” ที่มีบทบาทในการจัดต้ังหมู่บ้านเสื้อแดง ในอดีตเคยมี การจัดต้ังได้กว่า 500 หมู่บ้าน ใน 20 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด32 กิจกรรมท่ีเคยดำเนินการมา ได้แก่ การแสดงบทบาทในการต่อต้านการรัฐประหาร พ.ศ. 2549 การสนับสนุนและช่วยรณรงค์หาเสียงให้แก ่ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลนางสาวย่ิงลักษณ์ ชินวัตร33 การจัดงานทำบุญเล้ียงพระที่วัดบึงพระลานชัย เนื่องใน วันเกิดของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ตลอดจนสนับสนุนการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจำ จังหวัดร้อยเอ็ด และต่อต้านฝ่ายตรงข้ามในการร้ือป้าย ปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซ่ึงเป็นการรณรงค์ของ ผู้สนับสนุนฝ่าย กปปส. ในช่วงของการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เม่ือวันท่ี 2 กุมภาพันธ์ 255734 เป็นต้น ซ่ึงนักการเมืองท่ีมีบทบาทอย่างมากในการเคลื่อนไหวและปราศรัยในเวทีของกลุ่มคนเส้ือแดง ได้แก่ นสิ ิต สนิ ธุไพร และ เวยี ง วรเชษฐ์ ซ่งึ สงั กัดพรรคเพ่อื ไทยในขณะนั้น เป็นต้น อย่างไรก็ดี ภายหลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557 ภายใต้การควบคุมด้วยมาตรการต่างๆ ในการรักษา ความสงบท่ีเข้ามายุติการเคล่ือนไหวและการรวมกลุ่มของกลุ่มการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเส้ือแดง ประกอบกับแกนนำคนสำคัญถูกดำเนินคดีทางกฎหมายและการเข้าควบคุม ตรวจสอบการดำเนินกิจกรรม ทางการเมืองต่างๆ ในระดับพ้ืนท่ีตลอดช่วงเวลาท่ีผ่านมา เช่น การเรียกแกนนำมาปรับทัศนคติ เป็นต้น ทำให้การรวมตวั กนั ของกลุ่มเสอ้ื แดงคลายตัวและลดบทบาททางการเมอื งลงไปอยา่ งเห็นได้ชัด 32 เสื้อแดงร้อยเอ็ด ทำบุญวันเกิดทักษิณ-เปิดหมู่บ้านสีแดงเพ่ิม”, สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/content/ 189221 (21 กุมภาพนั ธ์ 2562). 33 “แดงร้อยเอ็ดยันพร้อมจัดเวทีปกป้องรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ พรุ่งน้ี”, สืบค้นจาก https://mgronline.com/local/detail/ 957000004 6303 (21 กุมภาพันธ์ 2562). 34 เส้ือแดงร้อยเอ็ด บุกร้ือป้ายปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”, สืบค้นจาก https://www.thairath.co.th/content/400317 (21 กุมภาพนั ธ์ 2562). การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมอื งและพฤตกิ รรมการเลือกต้ังสมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวดั ร้อยเอ็ด
3 บทที่ ความเคลอ่ื นไหว ในการเลอื กตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอด็
30 3.1 การแบง่ เขตเลอื กตงั้ การเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 จังหวัดร้อยเอ็ดลดจำนวนเขตเลือกตั้งลงจาก การเลือกตั้งที่ผ่านมา จำนวน 8 เขต เหลือ 7 เขตเลือกต้ัง โดยมีฐานคิดจากจำนวนประชากร 1,307,911 คน ซ่ึงมีจำนวนเฉลี่ยราษฎรต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คนในจังหวัดร้อยเอ็ด เท่ากับ 186,844 คน ท้ังน้ี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจำจังหวัดร้อยเอ็ดได้มีประกาศเพื่อรับฟังความคิดเห็นของ พรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด ในเร่ืองรูปแบบการแบ่งเขตเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด ร้อยเอ็ด จำนวน 4 รูปแบบ ดังภาพท่ี 3.1 ซ่ึงพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ด สามารถเสนอ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการแบ่งเขตเลือกต้ังท้ัง 4 รูปแบบได้ โดยสามารถส่งข้อเสนอและความคิดเห็น ทำเป็นหนังสือที่ ระบุช่ือ/สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อได้ และหมายเลขโทรศัพท์ ไปยังกลุ่มงานจัดการเลือกตั้งและ งานการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจำจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเปิดรับฟังความคิดเห็น ในระหวา่ งวันท่ี 4 -13 ตลุ าคม พ.ศ. 25611 ในส่วนของข้อดีของการกำหนดเขตเลือกต้ังแต่ละรูปแบบนั้น มีลักษณะร่วมกัน คือ เป็นพ้ืนที่ติดต่อกัน ใกล้ชิด มีสภาพเป็นชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน รวมท้ังมีความสะดวกในการคมนาคมระหว่างกัน อีกทั้ง บางเขตเป็นพ้ืนท่ีท่ีเคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกันโดยความแตกต่างในแต่ละรูปแบบอยู่ที่ระดับความใกล้เคียงกัน ของจำนวนประชากรในพ้ืนที่ โดยการแบ่งเขตในรูปแบบที่ 1 น้ัน มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกต้ังใกล้เคียง กันระดับมาก ในขณะที่การแย่งเขตเลือกต้ังรูปแบบที่ 2 ,3 และ 4 มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกต้ัง ใกล้เคียงกันระดับกลาง ด้านข้อเสียของการกำหนดเขตเลือกตั้งในแต่ละรูปแบบ มีลักษณะร่วมกัน คือเป็น เขตเลอื กต้ังท่ีมกี ารแบ่งตำบลของแตล่ ะอำเภอหลายแหง่ อาจเป็นอปุ สรรคตอ่ การบริหารจัดการการเลอื กต้งั 2 1 ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เรื่อง รูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนในจังหวัด และร่างรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 4 รูปแบบ ลงวันท่ี 4 ต.ค. 2561 และ https://www. ect.go.th/roiet/ewt_ news.php?nid=312&filename=index 2 เรื่องเดยี วกนั การศกึ ษาความเคลอื่ นไหวทางการเมืองและพฤตกิ รรมการเลอื กตง้ั สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จงั หวดั ร้อยเอด็
31 ภาพที่ 3.1 แสดงรปู แบบการแบง่ เขตการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร จงั หวดั รอ้ ยเอด็ จำนวน 4 รปู แบบ ท้ังนี้ ผลการพิจารณาได้มีการตัดสินเลือกการกำหนดเขตเลือกตั้งแบบที่ 1 ตามประกาศคณะกรรมการ การเลือกต้ัง เรื่อง การแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 25613 โดยมีรายละเอียดตามตารางที่ 3.1 ซ่ึงการเลือกเขตเลือกตั้งในรูปแบบน้ี ส่งผลให้การแบ่งตำบล ของแต่ละอำเภอออกจากกันหลายแหง่ ได้แก่ 3 ประกาศคณะกรรมการการเลือกต้ัง เร่ือง การแบ่งเขตเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกต้ัง, สืบค้นจาก https://www.ect.go.th/roiet/ ewt_ dl_link.php?nid=321 (30 มีนาคม 2562). การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมอื งและพฤติกรรมการเลอื กต้งั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จังหวัดรอ้ ยเอ็ด
32 (1) อำเภอธวัชบุรี พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ จำนวน 9 ตำบล ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นเขตเลือกตั้งที่ 2 โดยพ้ืนท่ีอีก 3 ตำบล ถกู กำหนดให้อยใู่ นเขตเลือกต้งั ท่ี 4 (2) อำเภอหนองพอก พื้นท่ีส่วนใหญ่ จำนวน 7 ตำบล อยู่ในเขตเลือกต้ังท่ี 3 โดยพ้ืนท่ีอีก 2 ตำบล ถูกกำหนดให้อยใู่ นเขตเลือกต้งั ที่ 4 (3) อำเภออาจสามารถ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่ จำนวน 8 ตำบล กำหนดให้อยู่ในเขต 5 ในขณะที่พ้ืนท่ีอีก 2 ตำบล ถูกกำหนดให้อยู่ในเขตเลือกตัง้ ท่ี 4 (4) อำเภอจตุรพักตรพิมาน ถูกแบ่งเป็นสองส่วน กล่าวคือ พ้ืนท่ี 6 ตำบล ถูกกำหนดให้อยู่ในเขตเลือกต้ัง ที่ 6 และพ้ืนท่อี กี 5 ตำบล อย่ใู นเขตเลอื กตงั้ ท่ี 7 ตารางท่ี 3.1 แสดงข้อมูลเขตเลือกตั้งและจำนวนผู้มีสิทธิเลือกต้ังสำหรับการเลือกต้ังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรแบบแบง่ เขตเลือกตงั้ พ.ศ. 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด เขต พนื้ ท่ปี ระกอบเป็นเขตเลือกต้ัง จำนวน จำนวนผมู้ สี ิทธเิ ลอื กตัง้ ผลตา่ งจาก เลอื กต้งั หน่วย ชาย หญงิ รวม จำนวนเฉลยี่ เลอื กต้ัง ราษฎร ตอ่ ส.ส. 247 หนง่ึ คน (ร้อยละ) 1 อำเภอเมืองร้อยเอด็ 87 59479 64747 124226 7,259 ต.ในเมอื ง, ต.รอบเมอื ง, ต.เหนอื เมอื ง, (3.89) ต.ขอนแกน่ , ต.นาโพธิ์, ต.สะอาดสมบรู ณ,์ 334 ต.สีแกว้ , ต.ปอภาร (ปอพาน), ต.โนนรงั , 113 15501 14497 29998 ต.หนองแกว้ , ต.หนองแวง, ต.ดงลาน, ต.แคนใหญ,่ ต.โนนตาล, ต.เมืองทอง 112 74980 79244 154224 อำเภอศรีสมเดจ็ 21814 22894 44708 -179 ต.โพธท์ิ อง, ต.ศรีสมเดจ็ , ต.เมืองเปลอื ย, 110 (0.10) ต.หนองใหญ,่ ต.สวนจกิ , ต.โพธสิ์ ยั , ต.หนองแวงควง, ต.บา้ นบาก 22745 23461 46206 รวมเขตเลอื กตงั้ ท่ี 1 18556 19455 38011 2 อำเภอธวชั บุรี ต.นิเวศน์, ต.ธงธาน,ี ต.หนองไผ่, ต.ธวัชบุรี, ต.อ่มุ เมา้ , ต.มะอึ, ต.ไพศาล, ต.บงึ นคร, ต.หนองพอก อำเภอโพธ์ิชยั ต.ขามเป้ยี , ต.เชียงใหม่, ต.บวั คำ, ต.อัคคะคำ, ต.สะอาด, ต.คำพอง, ต.หนองตาไก้, ต.ดอนโอง, ต.โพธิ์ศร ี อำเภอจงั หาร ต.ดินดำ, ต.ปาฝา, ต.มว่ งลาด, ต.จังหาร, ต.ดงสิงห,์ ต.ยางใหญ,่ ต.ผักแว่น, ต.แสนชาติ การศกึ ษาความเคล่อื นไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตัง้ สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร 2562 จงั หวัดรอ้ ยเอ็ด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177