ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 138 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 139 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 140 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 141 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 142 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 143 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 144 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 145 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 146 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 147 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 148 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 149 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 150 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 151 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 152 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 153 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 154 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 155 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 156 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 157 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 158 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 159 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 160 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 161 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 162 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 163 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 164 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 165 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 166 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 167 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ความเชื่อม่ันต่อสถาบันต่างๆ และความพึงพอใจต่อการบริการสาธารณะ พ.ศ. 2559 และสรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545-2559 5บทท่ี สรุปผลการสำรวจ พ.ศ. 2545 – 2559
สรุปผลการสำรวจ พ.ศ.2545-2559 เนื่องจากการสำรวจน้ีเป็นการสำรวจอย่างต่อเน่ือง ผลการสำรวจน้ัน จึงมีความแตกต่าง กันออกไป เพ่ือให้ผู้สนใจสามารถวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองในช่วงเวลาน้ันๆ ได้ จึงขอ นำเสนอช่วงเวลาและรายนามของนายกรัฐมนตรีในช่วงน้ัน ซ่ึงมีผลต่อนโยบายท่ีออกมาและ ทางคณะผู้ศึกษาได้นำนโยบายของรัฐบาลน้นั ๆ มาใช้ในการประเมนิ ดว้ ย ปี พ.ศ. นายกรัฐมนตรี 2546 พันตำรวจโท ดร. ทกั ษิณ ชนิ วตั ร (มกราคม – ธนั วาคม) 2547 พนั ตำรวจโท ดร. ทกั ษณิ ชนิ วัตร (มกราคม – ธันวาคม) 2548 พันตำรวจโท ดร. ทกั ษณิ ชนิ วัตร (มกราคม – ธนั วาคม) 2549 พนั ตำรวจโท ดร. ทกั ษิณ ชนิ วตั ร (มกราคม – กนั ยายน) พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (ตลุ าคม-ธันวาคม) 2550 พลเอก สุรยทุ ธ์ จุลานนท์ (มกราคม – ธันวาคม) 2551 นายสมคั ร สุนทรเวช (มกราคม – กนั ยายน) นายสมชาย วงศ์สวสั ด์ิ (กนั ยายน - ธนั วาคม) 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (มกราคม – ธนั วาคม) 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (มกราคม – ธันวาคม) 2554 นายอภสิ ทิ ธิ์ เวชชาชวี ะ (มกราคม – สงิ หาคม) นางสาวยิง่ ลกั ษณ์ ชินวัตร (สงิ หาคม – ธันวาคม) 2555 นางสาวยงิ่ ลักษณ์ ชินวัตร (มกราคม – ธนั วาคม) 2556 นางสาวยงิ่ ลกั ษณ์ ชินวัตร (มกราคม – ธนั วาคม) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชนิ วัตร (มกราคม – พฤษภาคม) 2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา* (พฤษภาคม – สิงหาคม) พลเอก ประยุทธ์ จนั ทรโ์ อชา (สิงหาคม – ธนั วาคม) 2558 พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทร์โอชา (มกราคม – ธนั วาคม) 2559 พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา (มกราคม – ปจั จุบนั ) * (ในฐานะของหวั หนา้ คณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ: คสช.) 171 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1 ความคดิ เห็นและความเช่อื มนั่ ต่อการทำงานของรัฐบาล/ คณะบคุ คล/สถาบนั /หนว่ ยงานต่างๆ และองค์กรอิสระ การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องของการรับทราบและความพึงพอใจนโยบาย ของรัฐบาล เป็นการสำรวจนโยบายในแต่ละรัฐบาล ดังนั้น การนำเสนอในหัวข้อนี้จะดูแนวโน้ม ความพึงพอใจในนโยบายของแต่ละรฐั บาลเท่านน้ั 5.1.1 ความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลเก่ียวกับการสร้างความมั่นคง ป ี 2550-2559 แผนภมู ิ 5.1 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รฐั บาลเก่ยี วกบั การสรา้ งความมัน่ คง ป ี 2550-2559 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเร่ืองความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล เก่ียวกับการสร้างความปรองดอง ซึ่งประกอบด้วย การเสริมสร้างความสมานฉันท์และ ความสามัคคีของคนในชาติ การสร้างสันติสุขและความปลอดภัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การฟ้ืนฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือกับต่างประเทศ การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหา- กษัตริย์ และการรักษาความสงบภายในประเทศ โดยนโยบายด้านการเสริมสร้างความ สมานฉันท์และความสามัคคีของคนในชาตินั้นเป็นนโยบายได้รับความพึงพอใจในระดับกลางๆ ในปี 2550 และลดลงในช่วงปี 2551-2552 จากนั้นเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งในปี 2553 และค่อยๆ ลดลงอย่างต่อเน่ืองจากร้อยละ 60.5 ในปี 2553 เป็นร้อยละ 31.9 ในปี 2557 ซ่ึงถือว่าเป็น ระดับความพึงพอใจมีน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 นโยบายนี้กลับมา ได้รับความนิยมอีกคร้ังและกลายเป็นมีระดับความพอใจมากที่สุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน และ น้อยลงอีกเล็กน้อยในปี 2559 172 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 สำหรับนโยบายการฟ้ืนฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือกับต่างประเทศ และนโยบาย การสร้างสันติสุขและความปลอดภัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้น้ันได้รับความพึงพอใจท่ี สอดคล้องกับนโยบายแรกท่ีกล่าวมา ซึ่งพบว่า ประชาชนพึงพอใจที่ร้อยละ 75.1 และร้อยละ 58.9 และลดลงเหลือถึงจุดน้อยที่สุดในปี 2557 ที่ร้อยละ 50.8 และร้อยละ 29.2 ตามลำดับ จากน้ันเม่ือเข้าสู่รัฐบาล นายกฯ ประยุทธ์ ปี 2559 ประชาชนพึงพอใจต่อนโยบายท้ังสองนี้มาก ข้นึ ถึงร้อยละ 79.2 และ 69.9 ตามลำดับ ส่วนนโยบายการปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และนโยบายการรักษา ความสงบภายในประเทศและนโยบายน้ันเร่ิมสำรวจในปี 2558 ซึ่งพบว่าประชาชนมีความ พึงพอใจอย่างมากถงึ เกือบร้อยละ 90 และยังเพิ่มขึน้ อีกเลก็ นอ้ ยในปี 2559 5.1.2 ความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลเกี่ยวกับการปฏิรูประบบราชการ และการเมือง ปี 2548-2559 แผนภมู ิ 5.2 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รัฐบาลเกี่ยวกับการปฏริ ูประบบราชการและการเมือง ปี 2548-2559 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเร่ืองความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญเกี่ยวกับ การปฏิรูประบบราชการและการเมือง ประกอบด้วย นโยบายการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปช่ันในระบบราชการ นโยบายการปฏิรูประบบราชการ และนโยบายการปฏิรูปการเมือง ซึ่งในท่ีนี่รวมถึงการร่างรัฐธรรมนูญด้วย สำหรับนโยบายการปฏิรูประบบราชการได้ทำ 173 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 การสำรวจระหว่างปี 2548-2550 พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจมากท่ีสุดในปี 2548 ถึงรอ้ ยละ 91.4 และลดลงเหลือรอ้ ยละ 71.3 ในปี 2550 ส่วนนโยบายปฏิรูปการเมือง/การร่างรัฐธรรมนูญน้ัน ระหว่างปี 2548-2550 ซ่ึงเป็น ของรัฐบาลทักษิณ ตามด้วยรัฐบาลสุรยุทธ์น้ัน พบว่า มีอัตราความพึงพอใจค่อนข้างคงที่ และจากการสำรวจอีกคร้ังในปี 2552 พบว่า ความพึงพอใจลดลงอย่างมาก จากน้ันจึงเพิ่มข้ึน จนถึงระดับปานกลางจนถึงปี 2556 และลดลงในระดับที่ต่ำสุด (ร้อยละ 32.9) ในปี 2557 แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 และ 2559 รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการเมืองมากข้ึน และเป็นช่วงที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซ่ึงประชาชนมีความพึงพอใจมากข้ึนกว่าเดิม และถือว่าประชาชนพงึ พอใจมากที่สดุ ด้วย ส่วนนโยบายการปราบปรามการทุจริตในระบบราชการได้ความพึงพอใจในระดับ ค่อนข้างสูง ในช่วงปี 2548 ถึง 2550 อย่างไรก็ตาม ในปี 2555-2557 มีแนวโน้มลดลงอย่าง เนื่อง และในปี 2558 นั้นถือว่าประชาชนพอใจอย่างมากกับนโยบายน้ี และมากขึ้นถึงระดับ สงู สุดในปี 2559 5.1.3 ความพงึ พอใจตอ่ นโยบายสำคญั ของรฐั บาลเกย่ี วกบั การจดั การการกระทำทผี่ ดิ กฎหมาย ป ี 2548-2559 แผนภมู ิ 5.3 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รฐั บาลเกีย่ วกบั การจดั การการกระทำทีผ่ ดิ กฎหมาย ป ี 2548-2559 174 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเรื่องความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล เก่ียวกับการจัดการการกระทำที่ผิดกฎหมาย ประกอบด้วย นโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล นโยบายการปราบปรามยาเสพติด นโยบายการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม มาเฟียและผู้มีอิทธิพล นโยบายการจัดระเบียบสังคม และ นโยบายการแก้ไขปัญหาการบุกรุก ที่ดิน ป่าไม้ และทะเล พบว่า ในช่วงสามปีแรกนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และนโยบาย ปราบปรามยาเสพติดนั้น ประชาชนมีความพึงพอใจในอัตราที่สูงมากและมีแนวโน้มลดลง เล็กน้อย จนกระทั่งปี 2555 นโยบายปราบปรามยาเสพติดถูกนำกลับมาอีกคร้ังหนึ่ง และพบว่า มีความพึงพอใจในระดับสูงแต่ยังไม่เท่ากับปี 2549 และค่อยๆ มีแนวโน้มท่ีลดลงจนในปี 2557 อัตราความพึงพอใจต่อนโนบายนี้ลดเหลอื รอ้ ยละ 57.8 สำหรับนโยบายท่ีแก้ไขปัญหาสังคมในช่วงปี 2558-2559 น้ัน ถือว่าประชาชน มีความพึงพอใจในระดับที่สูง โดยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกท่ีดิน ป่าไม้ และทะเล ประชาชน พอใจมากขึ้นจากปี 2558 ที่ร้อยละ 85.8 เป็นร้อยละ 91.4 ในปี 2559 เช่นเดียวกับการจัด ระเบียบต่างด้าวและการปราบปราบการค้ามนุษย์ ท่ีประชาชนมีความพึงพอใจมากขึ้น ในขณะท่ี การจัดระเบียบสังคม และการแก้ไขปัญหายาเสพติดฯ ประชาชนมีความพึงพอใจต่อการจัดการ ด้านนนี้ อ้ ยลงเลก็ นอ้ ยในปี 2559 5.1.4 ความพงึ พอใจต่อนโยบายสำคญั ของรฐั บาลด้านการบรหิ ารจดั การ ในภาพรวม ปี 2555-2559 แผนภมู ิ 5.4 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รฐั บาลด้านการบรหิ ารจัดการ ในภาพรวม ป ี 2555-2559 175 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเร่ืองความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล เก่ียวกับการบริหารจัดการ ในภาพรวม ซึ่งประกอบด้วย การบริหารจัดการน้ำและระบบ ชลประทาน โครงสร้างพื้นฐานระบบรางและขนส่งทางบก การแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง และการปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี โครงสร้างภาษี สำหรับนโยบายการจัดการน้ำและ ระบบชลประทาน ซึ่งได้สำรวจตั้งแต่ปี 2555 พบว่าประชาชนพึงพอใจร้อยละ 74.7 และค่อยๆ ลดลงเหลือร้อยละ 46.5 ในปี 2557 จากนั้นจึงเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2559 เป็น ร้อยละ 78.4 เช่นเดียวกับนโยบายโครงสร้างพื้นฐานระบบรางและขนส่งทางบก ท่ีประชาชน พึงพอใจร้อยละ 65.8 ในปี 2556 และมีแนวโน้มลดลงในปีถัดมา แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายน้ี กลับมาสร้างความพอใจให้กับประชาชนอีกครั้งในปี 2558 และ 2559 โดยมีค่าความพึงพอใจถึง รอ้ ยละ 85 ส่วนนโยบายการแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง พบว่าในปี 2558 ประชาชนมีความพึงพอใจท่ีร้อยละ 71.4 และเพ่ิมมากข้ึนเป็นร้อยละ 77.9 ในปี 2559 ส่วนนโยบายการปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี โครงสร้างภาษี น้ัน ซึ่งจะเห็นว่าในช่วงรัฐบาลของ นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์น้ันมีความพยายามท่ีจะแก้ปัญหาด้านภาษีอย่างมาก จึงทำให้ ประชาชนพึงพอใจต่อนโยบายนม้ี ากขนึ้ อกี ประมาณร้อยละ 20 5.1.5 ความพงึ พอใจตอ่ นโยบายสำคญั ของรัฐบาลเก่ยี วกับการเกษตร ปี 2551-2559 แผนภมู ิ 5.5 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รฐั บาลเก่ียวกบั การเกษตร ป ี 2551 - 2559 176 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเร่ืองความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล เก่ียวกับการเกษตร ซ่ึงประกอบด้วย นโยบายการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรรายย่อย โครงการ รับจำนำข้าว การจัดท่ีดินทำกินให้เกษตรกรท่ียังไม่มีท่ีดินทำกินและท่ีอยู่อาศัย การดูแลเร่ือง ราคาพืชผลสำหรับเกษตรกร และ การช่วยเหลือเกษตรกร จะเห็นได้ว่าการสำรวจโครงการ ดังกล่าวน้ีไม่ค่อยมีความต่อเนื่องเท่าไหร่นัก โดยนโยบายการดูแลเรื่องราคาพืชผลสำหรับ เกษตรกรได้สำรวจระหว่างปี 2551-2554 และถามอีกครั้งในปี 2558 ซ่ึงในปี 2552 ประชาชน มีความพึงพอใจในระดับท่ีน้อยที่สุด จากน้ันค่อยๆ เพ่ิมข้ึนจนถึงปี 2554 ซึ่งเป็นช่วงของรัฐบาล อภิสทิ ธ์ิ ต่อรฐั บาลย่ิงลักษณ์ สำหรับโครงการรับจำนำข้าว ซ่ึงเร่ิมมีข้ึนต้ังแต่ปี 2555 ในรัฐบาลย่ิงลักษณ์ ประชาชน มีความพึงพอใจในระดับค่อนข้างสูง แต่อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้กลับได้รับความนิยมที่ลดลง เหลือเพียงรอ้ ยละ 38.2 ในปี 2557 ในช่วงของรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ ได้เร่ิมใช้นโยบายการช่วยเหลือเกษตร ซ่ึงประชาชนก็ให้ความพอใจพอๆ กับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลย่ิงลักษณ์ ท่ีร้อยละ 75.9 แต่ลดลงในปี 2559 เหลือร้อยละ 56 ทั้งน้ี ในช่วงรัฐบาลน้ีเอง ได้มีการจัดที่ดินทำกินให้ เกษตรกรทีย่ งั ไมม่ ีทด่ี นิ ทำกนิ และทีอ่ ย่อู าศยั ซงึ่ ประชาชนเองมคี วามพอใจอย่างมาก 5.1.6 ความพึงพอใจตอ่ นโยบายสำคญั ของรัฐบาลเก่ียวกบั เศรษฐกิจ ป ี 2548-2559 แผนภูม ิ 5.6 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รัฐบาลเกี่ยวกบั เศรษฐกจิ ปี 2548-2559 177 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเรื่องความพึงพอใจต่อในนโยบายสำคัญของ รัฐบาลเก่ียวกับเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นโยบายจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน โครงการหน่ึงตำบลหน่ึง ผลิตภัณฑ์ (OTOP) การสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ การแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภค บริโภคราคาแพง และ การปรับอัตราเงินเดือนและช่วยเหลือค่าครองชีพ โดยระหว่างปี 2548- 2549 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจในนโยบายการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน (หน่ึงล้านบาท ต่อหน่ึงหมู่บ้าน) และโครงการหน่ึงตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ในอัตราท่ีสูงมากโดยลดลงในปี 2551 จากน้ันในปี 2555 มีความพอใจเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ปี 2556 และ 2557 ทั้งสองนโยบาย กลับได้รับความพึงพอใจในอัตราท่ีน้อยลง และสำหรับปี 2558 ยังคงนำนโยบายจัดตั้งกองทุน หมู่บ้าน (หนึ่งล้านบาท ต่อ หนึ่งหมู่บ้าน) และโครงการหน่ึงตำบลหน่ึงผลิตภัณฑ์มาใช้ โดยได้รับ ความพงึ พอใจประมาณรอ้ ยละ 80 ด้านนโยบายการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ พบว่า ประชาชนมีความ พึงพอใจในระดับที่สูงมาก อยู่ในช่วงร้อยละ 80-90 ตั้งแต่ปี 2552 จนถึง 2559 โดยใน ปี 2559 นี้เองที่มรี ะดบั ความพอใจสงู ท่ีสุดนับตั้งแตส่ ำรวจมา ส่วนนโยบายการแก้ไขปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพงนั้น เร่ิมสำรวจในปี 2555 ประชาชนมีความพึงพอใจในระดับปานกลาง (ร้อยละ 51.9) จากน้ันจึงค่อยๆ ลดลงเหลือร้อยละ 28.5 ในปี 2557 ซ่ึงเป็นช่วงท่ีประชาชนพึงพอใจน้อยที่สุด และค่อยๆ เพิ่มข้ึนอย่างต่อเนื่อง จนกระทง่ั ปี 2559 มรี ะดบั ความพงึ พอในที่ร้อยละ 48.0 178 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ช่ือ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.7 ความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลเก่ียวกับสุขภาพและการศึกษา ป ี 2548-2559 แผนภูม ิ 5.7 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของ รฐั บาลเก่ียวกบั การพัฒนาชีวติ และสังคม ปี 2548-2559 สำหรับการสอบถามความคิดเห็นในเรื่องความพึงพอใจต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาล เกี่ยวกับการพัฒนาชีวิตและสังคม ประกอบด้วย นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ค่านิยมหลัก ของคนไทย 12 ประการ การแก้ไขปัญหาขยะของประเทศไทย และโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 พบว่า โครงการนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคเริ่มสำรวจตั้งแต่ปี 2548-2549 ซ่ึงช่วงเวลาที่ สำรวจเป็นรัฐบาล พตท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ในอัตราที่ค่อนข้างคงที่และในอัตราท่ีสูงมาก จากนั้น ในปี 2555-2558 นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคน้ี ได้ถูกยกข้ึนมาอีกคร้ัง โดยความพึงพอใจของประชาชนก็ยัง เรยี กได้ว่าอยใู่ นระดับสูง โดยในปี 2559 ประชาชนพึงพอใจต่อนโยบายน้ีถึงร้อยละ 92.9 นอกจากนี้ มีโครงการใหม่ท่ีเร่ิมในปี 2558 คือ การแก้ไขปัญหาขยะของประเทศไทย ซ่ึงประชาชนพอใจท่ีร้อยละ 74 และเพ่ิมข้ึนเป็นร้อยละ 76.9 ในปี 2559 ส่วนโครงการค่านิยม หลักของคนไทย 12 ประการและโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ซ่ึงสำรวจเฉพาะปี 2558 พบว่า ประชาชนพงึ พอในในระดับทีค่ อ่ นข้างสูงพอๆ กัน 179 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ชื่อ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.8 ความคิดเห็นเก่ียวกับความสามารถในการแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจของ รัฐบาล แผนภมู ิ 5.8 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถ ในการแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจของรัฐบาล ป ี 2548-2559 * หมายเหตุ ใช้ข้อคำถาม “ท่านคิดว่ารัฐบาล ทำการแก้ไขปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ปี 2548-2549 ไดใ้ นระดับใด?” ปี 2550-2559 ใช้ข้อคำถาม “ท่านคิดว่ารัฐบาล ทำการแก้ไขปัญหาด้านสังคมของประเทศได้ในระดับใด?” และ “ท่านคิดว่ารัฐบาล ทำการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศได้ในระดับใด?” (แยกประเด็นระหว่างสังคมและเศรษฐกิจ) จากการสำรวจความคิดเห็นว่า รัฐบาลทำการแก้ไขปัญหาด้านสังคมและเศรษฐกิจ ของประเทศได้ในระดับใด พบว่า ในช่วงของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้ังแต ่ ปี 2558-2559 สามารถแก้ปัญหาท้ังด้านสังคมและด้านเศรษฐกิจได้มากท่ีสุดในรอบ 10 ปี ท่ีผ่านมา แม้จะมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย โดยสามารถแก้ปัญาด้านสังคมมากกว่าด้านเศรษฐกิจ จากร้อยละ 855.5 และ 75.2 ลดเป็น ร้อยละ 85.1 และ 73.6 ตามลำดับ รองลงมาเป็น ปี 2555-2556 ช่วงของนายกฯ ย่ิงลักษณ์ ชินวัตร ในทางกลับกัน ช่วงของนายกฯ สมัคร ต่อสมชาย ในปี 2551 เป็นช่วงที่ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาด้านสังคมและ ด้านเศรษฐกจิ ไดใ้ นอตั ราน้อยที่สุด 180 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.9 ความเชอื่ มน่ั ตอ่ การทำงานของนายกรัฐมนตร/ี รฐั บาล/พรรคการเมือง แผนภมู ิ 5.9 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเช่ือม่ันต่อ การทำงานของนายกรฐั มนตรี/รฐั บาล/พรรคการเมือง ป ี 2545-2559 จากการสำรวจความคิดเห็นและความเช่ือมั่นต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล/คณะรัฐมนตรี สถาบันพรรคการเมือง และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พบว่า ภาพรวมของความเช่ือม่ันมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ นับต้ังแต่ปี 2548 จนถึง ปี 2551 ประชาชนให้ความเช่ือมั่นต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล/ครม. และสถาบัน พรรคการเมืองมีแนวโน้มลดลง ซ่ึงในช่วงปี 2551 เป็นปีท่ีประชาชนเชื่อมั่นต่อการทำงานของ นายกรัฐมนตรีน้อยท่ีสุด โดยช่วงดังกล่าวเป็นช่วงของนายสมัคร สุนทรเวช ต่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธ์ิ พบว่า ประชาชนเชื่อมั่นมากที่สุดใน ปี 2553 แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2554 ประชาชนให้ความเชื่อมั่นน้อยลง หลังจากน้ัน ในช่วงของ รัฐบาลนางสาวย่ิงลักษณ์ ค่อนข้างได้รับความเชื่อมั่นสูงมากขึ้นในปี 2555 และได้ลดลงเล็กน้อย ในปีถัดมา อย่างไรก็ตาม มีจุดเปลี่ยนอีกคร้ังในปี 2557 ที่ คสช. เข้ามาทำหน้าที่ ซ่ึงประชาชน ยังไม่ค่อยเช่ือมั่นเท่าไหร่นัก และในปี 2558 ประชาชนเช่ือม่ันต่อการทำงานของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชามากถึงร้อยละ 87.5 ท้ังน้ี ประชาชนเช่ือม่ันต่อการทำงานของ คณะรักษาความสงบ แห่งชาติมากพอๆ กับท่ีเชื่อม่ันต่อตัวนายกฯ ประยุทธ์ ด้วย และสำหรับปี 2559 ประชาชน ให้ความเช่ือมัน่ ต่อนายกรฐั มนตรี และ คสช. ลดลงเล็กนอ้ ย 181 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.10 ความเชอื่ ม่ันตอ่ การทำงานของสมาชกิ รัฐสภา แผนภมู ิ 5.10 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อ การทำงานของสมาชกิ รัฐสภา ปี 2545-2559 จากการสำรวจความคิดเห็นและความเช่ือม่ันต่อการทำงานของสมาชิกรัฐสภา ท้ังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยในการศึกษาคร้ังน้ี ได้สำรวจความเชื่อม่ันต่อ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป ประเทศ (สปท.) นับต้ังแต่ปี 2558 จนถึงปี 2559 เนื่องจากเป็นช่วงหลังจากการยึดอำนาจ การปกครอง และมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับช่ัวคราว) พุทธศักราช 2557 โดยมาตรา 6 ได้ระบุให้ สนช. ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และ รัฐสภา ซ่ึงพบว่า ในปี 2558 ประชาชนมีความเชื่อม่ันต่อ สนช. ร้อยละ 58.8 และลดลงเหลือ ร้อยละ 55.3 ในปี 2559 ในขณะท่ี ความเช่ือมั่นต่อการทำงานของ สปช.น้ันอยู่ที่ร้อยละ 57.6 หลังจากนั้น ในปี 2559 เนื่องจาก ในวันท่ี 6 กันยายน พ.ศ. 2558 สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีมติไม่เห็นชอบรับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับช่ัวคราว) พุทธศักราช 2557 จึงทำให้สภาต้องถูกยุบโดยทันทีตามมาตรา 38 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว และได้แต่งต้ัง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพื่อทำหน้าที่ศึกษาและปฏิรูปทั้ง 11 ด้านสืบต่อจาก สภาปฏิรูปแห่งชาติ โดยจากการสำรวจความเชื่อม่ันของประชาชน พบว่า ประชาชนเชื่อมั่นต่อ การทำงานของ สปท. คดิ เปน็ ร้อยละ 52.4 182 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.11 ความเชอ่ื มนั่ ต่อการทำงานของข้าราชการ แผนภูมิ 5.11 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเก่ียวกับความเช่ือม่ันต่อ การทำงานของข้าราชการ ป ี 2545-2559 สำหรับ ความคิดเห็นและความเช่ือม่ันต่อการทำงานของข้าราชการ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการพลเรือน และ เจ้าหน้าที่ท่ีดิน พบว่า ประชาชนให้ความเช่ือมั่น ผู้ว่าราชการจังหวัดมากท่ีสุดในช่วงปี 2548 อยู่ท่ีร้อยละ 79.5 จากนั้นมีแนวโน้มความเชื่อมั่น น้อยลง และน้อยที่สุดถึงร้อยละ 55.8 ในปี 2551 และในช่วงปี 2552-2557 มีความเชื่อม่ัน ขึ้นๆ ลงๆ โดยอยู่ประมาณร้อยละ 65 และในปี 2558 ประชาชนเชื่อม่ันเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 70.3 แต่กลับลดลงอกี ครงั้ ในปี 2559 เหลอื ร้อยละ 67.8 สำหรับความเชื่อม่ันต่อข้าราชการพลเรือน พบว่า ประชาชนให้ความเช่ือมั่นน้อยท่ีสุด ในปี 2550 คิดเป็นร้อยละ 52.1 และในทางกลับกัน ท่ีให้ความเชื่อมั่นมากท่ีสุดในปี 2559 คิดเป็นร้อยละ 81.3 สำหรับความเช่ือม่ันต่อเจ้าหน้าท่ีที่ดิน ซ่ึงได้รับความเชื่อมั่นน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการพลเรือน โดยในปี 2550 มีความความเช่ือม่ันต่ำท่ีสุด โดย ต่ำกว่าร้อยละ 50 และต้ังแต่ปี 2551 จนถึง 2559 มีแนวโน้มความเชื่อม่ันเพ่ิมขึ้นจนถึงร้อยละ 68.8 ซง่ึ มากกวา่ ความเช่ือมนั่ ตอ่ การทำงานของผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เลก็ นอ้ ย 183 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ชื่อ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.12 ความเชือ่ ม่นั ต่อการทำงานของทหาร ตำรวจ แผนภูมิ 5.12 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเช่ือมั่นต่อ การทำงานของทหาร ตำรวจ ป ี 2545-2559 สำหรับ ความคิดเห็นและความเชื่อมั่นต่อการทำงานของทหารและตำรวจ พบว่า ประชาชนมีความเช่ือมั่นในการทำงานของทหาร มากกว่า การทำงานของตำรวจ ท้ังนี้ ในปี 2550 ความเชื่อม่ันต่อการทำงานของทหารมีอัตราท่ีต่ำสุด คือ ร้อยละ 61.8 และความ เชอื่ มัน่ ในภาพรวมมีแนวโน้มท่ีสงู ขึน้ โดยในปี 2559 มอี ัตราความเชอ่ื ม่นั อยู่ท่รี อ้ ยละ 85.8 ซึง่ จะ สังเกตเห็นว่าในช่วงสามปีท้าย ระหว่างปี 2557-2559 น้ัน ประชาชนเช่ือม่ันต่อการทำงานของ ทหารในระดับที่สูงมาก คือ มีระดับความเช่ือม่ันคิดเป็นร้อยละ 80 ขึ้นไป ในขณะท่ีความเชื่อมั่น ต่อการทำงานของตำรวจที่มีอัตราต่ำสุด อยู่ท่ีปี 2553 และ 2557 คือ ร้อยละ 54.9 เท่ากัน ส่วนในปี 2559 ประชาชนให้ความเชื่อมัน่ ตอ่ การทำงานของตำรวจเพม่ิ ข้ึนเปน็ ร้อยละ 64.3 184 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.13 ความเชื่อมัน่ ต่อการทำงานของข้าราชการส่วนท้องถนิ่ แผนภูม ิ 5.13 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเก่ียวกับความเชื่อม่ันต่อ การทำงานของขา้ ราชการส่วนทอ้ งถน่ิ ป ี 2546-2559 สำหรับ ความเชื่อม่ันต่อการทำงานของข้าราชการส่วนท้องถ่ิน พบว่า ปี 2548 ประชาชนให้ความเช่ือม่ันต่อข้าราชการส่วนท้องถิ่นมากท่ีสุด ในทางกลับกัน ในปี 2550 ค่าความเชื่อม่ันลดลงจนถึงระดับต่ำสุด นอกจากน้ี ระหว่างปี 2551-2555 มีระดับความเช่ือมั่น ขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไป และในปี 2556 จนถึงปี 2558 ประชาชนให้ความเช่ือม่ันต่อองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 62.7 เป็นร้อยละ 66.1 สำหรับ อปท. และ จากร้อยละ 60.4 เป็นร้อยละ 64.8 สำหรับสมาชิกสภาท้องถ่ิน แต่อย่างไร ก็ตาม ทั้งสององค์กรน้ีกลับได้รับความเชื่อมั่นน้อยลงในปี 2559 เหลือร้อยละ 65.2 และ ร้อยละ 63.8 ตามลำดับ 185 ข้อมูลระดับภาค และท่ัวราชอาณาจักร
ค ว า ม เ ชื่อ ม่ัน ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.14 ความเชอื่ มั่นต่อการทำงานของแพทย์ แผนภูม ิ 5.14 ร้อยละของประชาชน จำแนกตามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเช่ือมั่นต่อ การทำงานของแพทย ์ ปี 2545-2559 จากผลการสำรวจความเชื่อม่ันต่อการทำงานของแพทย์ ทั้งในโรงพยาบาลของรัฐ และ โรงพยาบาลเอกชน พบว่า มีอัตราความเช่ือม่ันในระดับสูงมาอย่างต่อเน่ือง ยกเว้นในช่วง ปี 2550 ที่ประชาชนเชื่อม่ันน้อยลง โดยระดับความเช่ือม่ันต่อแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐต่ำสุดท่ี ร้อยละ 71.4 ในขณะท่ีของเอกชน ร้อยละ 66.7 ในทางกลับกัน ประชาชนให้ความเช่ือม่ัน มากท่ีสุดในช่วงปี 2559 โดยแพทย์ในโรงพยาบาลรัฐ มีค่าความเช่ือมั่นร้อยละ 84.7 และ แพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน มีค่าความเชื่อมั่นท่ีร้อยละ 83.7 ซ่ึงจะเห็นได้ว่าแพทย์ของ โรงพยาบาลเอกชนได้รับความเชื่อมั่นในระดับใกล้เคียงกับโรงพยาบาลของรัฐมากข้ึน ต้ังแต่ ปี 2556 โดยมีความห่างกันประมาณร้อยละ 1 เทา่ น้นั 186 สถาบันพระปกเกล้า
ค ว า ม เ ช่ือ มั่น ต่อ สถา บัน ต่า งๆ และ ค ว า ม พึงพ อ ใจต่อ กา ร บ ริกา ร สา ธา ร ณะ พ . ศ . 2 5 5 9 แ ล ะส รุปผ ล การส ำรว จ พ .ศ. 2 5 4 5 - 2 5 5 9 5.1.15 ความเชอื่ ม่นั ต่อการทำงานขององคก์ รชุมชน / NGOs แผนภมู ิ 5.15 รอ้ ยละของประชาชน จำแนกตามความคดิ เห็นเกีย่ วกบั ความเชอ่ื มั่นตอ่ การทำงานขององคก์ รชมุ ชน และองค์กรพฒั นาเอกชน NGOs ปี 2545-2559 จากผลการสำรวจความเช่ือม่ันต่อการทำงานขององค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) พบว่า มีอัตราความเช่ือมั่นเพิ่มขึ้นและลดลงสลับกันไป โดยในช่วงปี 2552-2544 มีแนวโน้ม ความเชอื่ มน่ั ลดลง และในชว่ งของรฐั บาลยงิ่ ลกั ษณ์ ปี 2555 มคี วามเชอ่ื มนั่ เพมิ่ มากขน้ึ หลงั จากนนั้ ในปี 2556 – 2558 มีแนวโน้มความเช่ือม่ันเพ่ิมมากข้ึนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2558 เพิ่มข้ึน เปน็ รอ้ ยละ 38.3 แตท่ ั้งนี้ กลับลดลงอกี คร้ังในปี 2559 เหลือร้อยละ 37.2 สำหรับ ความเชื่อมั่นต่อการทำงานของสภาองค์กรชุมชน มีการสำรวจคร้ังแรกใน ปี 2552 ซึ่งพบว่า ต้ังแต่ปี 2552-2554 มีค่าความเชื่อม่ันที่ลดลง จากร้อยละ 31.1 เป็นร้อยละ 24.4 และค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นจนถึงปี 2556 จากนั้น ในปี 2557 มีค่าความเชื่อม่ันลดลงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2558 เรื่อยจนถึงปี 2559 ประชาชนให้ความเชื่อม่ันเพิ่มข้ึนมากเป็น ร้อยละ 41.8 และ รอ้ ยละ 45.4 ตามลำดบั 187 ข้อมูลระดับภาค และทั่วราชอาณาจักร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290