Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 48นักการเมืองถิ่นน่าน

48นักการเมืองถิ่นน่าน

Description: เล่มที่48นักการเมืองถิ่นน่าน

Search

Read the Text Version

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน ในนามพรรคเพื่อไทยและชูผลงานของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ มีภาพลักษณ์ที่ปรากฏต่อ สาธารณะ คนหนุ่มไฟแรง สูงใหญ่ หน้าตาดี นักเรียนนอก เป็น ลูกของนายวัลลภ สุปริยศิลป์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่านหลายสมัย สรุปภาพรวมการเมืองจังหวัดน่านในยุคสอง นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่านในยุคสอง นักธุรกิจ ข้าราชการ เริ่มเข้ามาเป็นนักการเมืองถิ่นมากขึ้น มีการสังกัด พรรคการเมือง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังให้ความสำคัญหรือ นิยมตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมือง จนกระทั้งมาถึงยุคสมัย พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ประชาชนตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคล นักธุรกิจที่ประกอบอาชีพทางการเกษตรและธุรกิจการเกษตร ประเภทโรงบ่มใบยาสูบเวอร์ยิเนอร์ได้รับเลือกเข้ามามากที่สุด นำโดยธุรกิจครอบครัวของตระกูลโลหะโชติ ได้แก่ นายสมชาติ โลหะโชติ, นางสาวพูนสุข โลหะโชติ, นางสิริทร รามสูต (โลหะโชติ), นายประเสริฐ ทุ่งสี่ และนายทวี บุญซื่อ กลุ่ม ข้าราชการที่ได้รับเลือกเข้ามามากที่สุด คือ ข้าราชการครู ได้แก่ นายสุชาติ คำนันท์, นายเดช วงศ์เทพ และ นายพงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล ข้าราชการทหาร ได้แก่ พลเอกสนั่น เศวตเศรณี ข้าราชการแพทย์คือ นายชลน่าน ศรีแก้ว อาชีพนักการเมือง ได้แก่ นายวัลลภ สุปริยศิลป์และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ และ อาชีพทนายความ ได้แก่ นายคำรณ ณ ลำพนู 138

บ5ทท ี่ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย สรุปภาพรวมการเมืองในจังหวัดน่าน การเมืองในจังหวัดน่าน เป็นการเมืองที่ไม่มีเรื่องของ อิทธิพลท้องถิ่น ไม่มีความรุนแรง การเมืองในยุคแรก ส่วนใหญ่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง เนื่องจาก กฎหมายเปิดช่องให้ไม่ต้องมีการสังกัดพรรคการเมืองและ ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในตัวบุคคลมากกว่า พรรคการเมือง นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งมักเป็นบุคคลชั้นนำ ของจังหวัดได้แก่ นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์,นายประดิษฐ์ ณ น่าน บางคนมีความรู้ทางด้านกฎหมาย เช่น นายสมบูรณ์ บัณฑิต, นายมานพ ประทุมอิน สำหรับกลุ่มนักธุรกิจ กลุ่ม ข้าราชการ ยังไม่มีโอกาสเข้ามา การเมืองในยุคที่สองของจังหวัดน่าน กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มข้าราชการ เริ่มเข้ามามากขึ้น กลุ่มธุรกิจนำโดยนายสมชาย โลหะโชติ นายประเสริฐ ทุ่งสี่ นายทวี บุญซื่อ นางสาวพูนสุข

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน โลหะโชติ และนางสิรินทร รามสูต สำหรับตระกูลโลหะโชติ เปน็ ตระกลู ทไ่ี ดม้ กี ารสง่ ทอดตำแหนง่ สมาชกิ สภาผแู้ ทนมากทส่ี ดุ 3 รุ่น กล่าวคือ นายสมชาย โลหะโชติ, นางสาวพนู สุข โลหะโชติ และนางสิรินทร รามสูต (นามสกุลเดิม โลหะโชติ) ตระกูลโลหะโชติ ไม่ได้มีอิทธิพลเหมือนตระกูลคุณปลื้ม, ตระกูลหาญสวัสดิ์, ตระกูลชิดชอบและตระกูลเทียนทอง แต่ ตระกูลโลหะโชติมีพื้นฐานอาชีพมาจากการประกอบอาชีพ ทางการเกษตรและธุรกิจการเกษตร โดยได้รับอนุญาตให้ตั้ง โรงบ่มใบยาสูบเวอร์ยิเนอร์หลายแห่ง นายสมชาย โลหะโชติ เริ่มเส้นทางทางการเมืองโดยการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรโดยการชักชวนของนายสมบูรณ์ บัณฑิต หลังจากได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัย จึงได้ให้ ลูกสาวของตนลงสมัครรับเลือกตั้งพร้อมตนในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2529 ผลปรากฏว่า นายสมชาย โลหะโชติไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่บุตรสาวได้รับการเลือกตั้ง เข้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายสมชาย โลหะโชติ จึงตัดสินใจวางมือทางการเมือง แล้วส่งมอบให้นางสาวพูนสุข โลหะโชติ เป็นทายาททางการเมืองแทนตน นางสาวพูนสุข โลหะโชติ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรติดต่อกัน 4 สมัย การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 นางสาวพูนสุข โลหะโชติ ได้รับมอบหมาย จาก นายบรรหาร ศิลปอาชา ให้เป็นหัวหน้าทีมของพรรค ชาติไทยในการแข่งขันทางการเมือง ผลปรากฏว่า การเลือกตั้ง ในครั้งนั้น พรรคชาติไทยได้รับเลือกตั้ง 2 คน คือ พล.อ.สนั่น 140

บทสรุป เศวตเศรนี และนายวัลลภ สุปริยศิลป์ สำหรับนางสาวพูนสุข โลหะโชติ ไม่ได้รับการเลือกตั้งจึงต้องเว้นวรรคทางการเมือง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้ง 1 ที่นั่ง คือนายคำรณ ณ ลำพูน หลังจากนั้นก็ได้รับการเลือกตั้งอีก 1 สมัยในการเลือกตั้ง ทั่วไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 สังกัดพรรคชาติไทย ในการเลืองตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 กระแส พรรคไทยรักไทยมาแรง อีกทั้งในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ต้องการให้ คนเหนือคือ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นางสาวพูนสุข โลหะโชติ จึงสอบตกในการเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นจึงตัดสินใจวางมือทางการเมืองแล้ว ส่งมอบให้น้องสาวของตนเองคือนางสิรินทร รามสูต (นามสกุล เดิม โลหะโชติ) เป็นทายาททางการเมืองสืบต่อตนเองและบิดา สำหรับนางสิรินทร รามสูต ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 สังกัด พรรคไทยรักไทย หลังจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค จึงย้าย ไปสังกัดพรรคพลังประชาชนและเมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบ พรรค จึงได้ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย จนถึงปัจจุบัน การเมืองในจังหวัดน่าน ในปัจจุบันถือว่าพรรคเพื่อไทย สามารถครองอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่อย่างไรก็ตามหากพัน ตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ไม่มีบทบาททางการเมือง การเมือง จังหวัดน่าน ก็จะต้องแตกเป็นเสี่ยงๆ อีกครั้ง พรรคการเมือง ก็จะลดอำนาจลง ตัวบุคคลที่รับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีความสำคัญและมีบทบาทมากขึ้น 141

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน กลมุ่ ขา้ ราชการ สว่ นใหญร่ บั ราชการครู นำโดยนายสชุ าติ คำนันท์ นายเดช วงศ์เทพ นายพงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล โดย รับราชการครูเป็นเวลานานแล้วลาออกหรือเกษียณอายุราชการ ก่อนเข้าสู่การเมือง ข้าราชการทหารคือพล.อ.สนั่น เศวตเศรนี สำหรับนายชลน่าน ศรีแก้ว รับราชการเป็นแพทย์ กลุ่มนักการเมืองอาชีพ ได้แก่ นายวัลลภ สุปริยศิลป์และ นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สำหรับอาชีพทนายความ ได้แก่ นายคำรณ ณ ลำพนู สรุปภาพรวมเชิงสถิติเก่ียวกับการเลือกต้ัง จากการศึกษา พบว่า นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่านที่เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากการเลือกตั้งครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2475 ถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 24 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 มีจำนวนทั้งสิ้น 17 คน เป็นเพศชาย 15 คน เพศหญิง 2 คน ก่อนเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมือง ส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพนักธุรกิจ รองลงมาได้แก่อาชีพรับราชการ ทนายความ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งมาก สมัยที่สุด คือ นายวัลลภ สุปริยศิลป์ จำนวน 9 สมัย ระยะเวลา 19 ปี 24 เดือน 24 วัน รองลงมาได้แก่ นายคำรณ ณ ลำพูน จำนวน 7 สมัย ระยะเวลา 20 ปี 7 เดือน 5 วัน นางสาวพูนสุข โลหะโชติ จำนวน 5 สมัย ระยะเวลา 10 ปี 3 วัน และ นายสมบูรณ์ บัณฑิต จำนวน 5 สมัย ระยะเวลา 6 ปี 11 เดือน 21 วัน ในขณะที่ผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สั้น ที่สุดคือ นายทวี บุญซื่อ เพียง 1 สมัย ระยะเวลา 6 เดือน 2 วัน 142

บทสรุป สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ย้ายพรรคมากที่สุดคือ นายวัลลภ สุปริยศิลป์ เคยสังกัดพรรคการเมืองต่างๆ ในการ สมัครรับเลือกตั้ง 7 พรรคการเมือง ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรที่ไม่เคยย้ายพรรคเลยคือ นายคำรณ ณ ลำพูน สังกัด พรรคประชาธิปัตย์ 7 สมัย และนางสาวพูนสุข โลหะโชติ สังกัด พรรคชาติไทย 5 สมัย สำหรับนางสาวพูนสุข โลหะโชติ เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงคนแรกของจังหวัดน่าน สรุปประเด็นตามวัตถุประสงค์การวิจัย น ักการเมืองถิ่นน่านที่เคยได้รับเลือกตั้ง นักการเมืองถิ่นน่านที่เคยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร (ภาคผนวก ข) เมื่อจำแนกตามภูมิหลังซึ่งบางคน อาจมีคุณสมบัติจัดเข้าได้หลายกลุ่ม แต่สามารถจัดกลุ่มได้ดังนี้ กลุ่มชนช้ันนำ นักการเมืองในกลุ่มนี้ ได้แก่ นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์, นายประดิษฐ์ ณ น่าน เป็นลูกหลานเจ้าผู้ครองนครน่าน ซึ่งประวัติศาสตร์จังหวัดน่าน การสืบทอดอำนาจของเจ้าผู้ครอง นครน่านมีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ พ.ศ.1800 จนกระทั้งม ี การเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ใน พ.ศ.2475 หลังจากเปิดให้มีการเลือกตั้ง นายจำรัส มหาวงศ์ นันทน์ และนายประดิษฐ์ ณ น่าน จึงมีความได้เปรียบกว่า ผู้สมัครเลือกตั้งโดยทั่วไปในสมัยนั้น เพราะด้วยความเป็น ชนชั้นนำ ทั้งบรรพบุรุษได้สร้างคุณงามความดีให้แก่จังหวัดน่าน 143

นักการเมืองถ่ินจังหวัดน่าน มาอย่างยาวนาน สำหรับนามสกุลมหาวงศ์นันทน์ กับนามสกุล ณ น่าน เป็นนามสกุลที่ได้รับการพระราชทาน กลุ่มนักกฎหมาย นักการเมืองถิ่นน่านในกลุ่มนี้ ได้แก่ นายสมบูรณ์ บัณฑิต นายมานพ ประทุมอิน และนายคำรณ ณ ลำพูน ทั้งสามคนเป็นทนายความ นายสมบูรณ์ บัณฑิตและนายมานพ ประทุมอิน ใช้ความเป็นนักกฎหมายหาเสียงกับคนในพื้นที่ เนื่องจากในสมัยนั้นประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย เกิดการ ปฏิวัติ รัฐประหาร เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งอยู่ในช่วง รัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ซึ่งเป็นนักกฎหมายและมีบทบาท สำคัญในการใช้กฎหมายแก้ไขปัญหาของประเทศ ส่วน นายคำรณ ณ ลำพูน ใช้อาชีพทนายความในการหาเสียง แนะนำตัวเอง จนประสบความสำเร็จได้เป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรหลายสมัย กลุ่มครู อาจารย์ ข้าราชการเก่า นักการเมืองถิ่นน่านในกลุ่มนี้ เคยรับราชการมาก่อน บางคนก็เกษียณอายุแล้วมาลงสมัครรับเลือกตั้ง บางคนก็ ลาออกจากราชการเพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรในกลุ่มนี้ได้แก่ นายสุชาติ คำนันท์ จบวิทยาลัยครู บ้านสมเด็จ รับราชการครูมาอย่างยาวนาน นายเดช วงศ์เทพ รับราชการครู 35 ปี และระหว่างรับราชการได้ถูกหน่วยงาน ภาครัฐขอตัวให้ไปช่วยเป็นวิทยากรลูกเสือชาวบ้าน จัดรายการ 144

บทสรุป วิทยุให้กับทางราชการ พล.อ.สนั่น เศวตเศรนี รับราชการทหาร มาอย่างยาวนาน นายพงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล รับราชการครู และผู้บริหารในสถาบันการศึกษาหลายแห่ง และ นายชลน่าน ศรีแก้ว รับราชการเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลและผู้บริหาร โรงพยาบาลหลายแห่ง กลุ่มนักธุรกิจและนักการเมือง นักการเมืองในกลุ่มนี้ได้แก่ นายสมชาย โลหะโชติ นายประเสริฐทุ่งสี่ นายทวี บุญซื่อ นางสาวพูนสุข โลหะโชติ นางสิรินทร รามสูต นายวัลลภ สุปริยศิลป์และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สำหรับนายสมชาย โลหะโชติ นายประเสริฐทุ่งสี่ นายทวี บุญซื่อ นางสาวพูนสุข โลหะโชติ นางสิรินทร รามสูต ได้ประกอบอาชีพธุรกิจการเกษตร โดยได้รับอนุญาตให้ตั้ง โรงบ่มใบยาสูบเวอร์ยิเนอร์ ก่อนที่จะเข้ามาเล่นการเมืองใน ระดับชาติและในระดับท้องถิ่น นายวัลลภ สุปริยศิลป์และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ประกอบอาชีพเป็นนักการเมืองอาชีพ เครือข่ายความสัมพันธ์ของนักการเมืองในจังหวัดน่าน นักการเมืองถิ่นน่านที่มีเครือข่ายความสัมพันธ์ฉันท์ เครือญาติมีอยู่หลายคน เช่น 1. นายสมชาย โลหะโชติ กับ นางสาวพูนสุข โลหะโชติ และนางสิรินทร รามสูต กล่าวคือ นายสมชาย โลหะโชติเป็น 145

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน บิดาของนางสาวพูนสุข โลหะโชติและนางสิรินทร รามสูต เมื่อนายสมชาย โลหะโชติวางมือทางการเมือง นางสาวพูนสุข โลหะโชติ ก็ลงสมัคร ส.ส.โดยใช้ฐานเสียงของบิดา และ เมื่อนางสาวพูนสุข โลหะโชติ วางมือทางการเมือง นางสิรินทร รามสูต ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวจึงใช้ฐานเสียงของบิดาและพี่สาว ในการหาเสียงเลือกตั้ง 2. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ กับ นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ กล่าวคือ นายวัลลภ สุปริยศิลป์ เป็นบิดาของนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ โดยนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ได้ลงสมัครสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรโดยใช้ฐานเสียงของบิดา บทบาทของกลุ่มผลประโยชน์ในการสนับสนุน นักการเมืองถิ่นน่าน กลุ่มผลประโยชน์ในที่นี้คือ กลุ่มผลประโยชน์ทาง เศรษฐกิจ และกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง ในงานวิจัยนี้ จะกล่าวเฉพาะกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองระดับท้องถิ่น ในระดับ องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล และองค์การ บริหารส่วนจังหวัด กลุ่มผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผลประโยชน์ที่ไม่เป็นทางการ เช่น สภาหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สมาคมผู้บ่ม สมาคมผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ เป็นต้น กลุ่มผลประโยชน์ เหลา่ นส้ี ว่ นใหญจ่ ะอยใู่ นเขตพน้ื ทท่ี ม่ี ปี ระชากรอาศยั อยหู่ นาแนน่ 146

บทสรุป และเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้แก่ อำเภอเมืองน่าน อำเภอเวียงสา อำเภอปัว กลุ่มผลประโยชน์ส่วนใหญ่มักเลือก ส.ส.ที่เป็น ตัวแทนของตน เช่น ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปี 2519 ตัวแทนสมาคมผู้บ่ม คือนายทวี บุญซื่อ ซึ่งดำรง ตำแหน่งนายกสมาคมผู้บ่มได้รับการเลือกตั้ง, นายสมชาย โลหะโชติ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดน่านและนายกสมาคม ผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบน่านได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร 3 สมัย กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองในระดับท้องถิ่น มีบทบาทต่อนักการเมืองถิ่นน่านค่อนข้างมาก กลุ่ม ผลประโยชน์เหล่านี้ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) เป็นกลุ่มบุคคลที่มีเครือข่ายอันดีกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพราะกลุ่ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภา จังหวัด (สจ.) มักเป็นแกนนำในการเชื่อมโยงเครือข่ายไปยัง นายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลหรือนายกองค์การ บริหารส่วนตำบล (อบต.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วน ตำบล (ส.อบต.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มักเชื่อมกับนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดและสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) เพื่อใช้ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงไปยังบรรดาสมาชิกสภาจังหวัดในแต่ละ เขตและขยายเครือข่ายไปยังนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภา เทศบาลหรือนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และสมาชิกสภา องค์การบริหารส่วนตำบล 147

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน นักการเมืองถิ่นน่านบางคนถึงกับเคยดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองในระดับท้องถิ่นเพื่อใช้เป็นเครือข่ายทางการเมือง ในระดับชาติ เช่น นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์ เคยดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองน่าน, นายประดิษฐ์ ณ น่าน ดำรง ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองน่าน, นายทวี บุญซื่อ เคยดำรง ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองน่าน, นางสิรินทร รามสูต เคย ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองน่าน, นายสมชาย โลหะโชติ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองน่านและตำแหน่ง สมาชิกสภาจังหวัดน่าน, นายพงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดน่าน นายสุชาติ คำนันท์ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดน่าน และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดน่าน บทบาทของพรรคการเมืองในการสนับสนุนสัมพันธ์ กับนักการเมืองถ่ินน่าน จากข้อมูลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองที่ เคยได้รับการเลือกตั้งในการเมืองถิ่นน่านประกอบไปด้วย 1. พรรคชาติสังคม/พรรคเสรีมนังคศิลา 2. พรรคสหประชาไทย 3. พรรคประชาธิปัตย์ 4. พรรคธรรมสังคม 5. พรรคชาติไทย 148

บทสรุป 6. พรรคกิจสังคม 7. พรรคสหประชาธิปไตย 8. พรรครวมไทย/เอกภาพ 9. พรรคความหวังใหม่ 10. พรรคสามัคคีธรรม 11. พรรคพลังธรรม 12. พรรคไทยรักไทย 13. พรรคพลังประชาชน 14. พรรคเพื่อไทย พรรคที่ได้รับความนิยม 5 ลำดับแรก ได้แก่ ชาติไทย ไทยรักไทย พลังประชาชน เพื่อไทยและประชาธิปัตย์ การเรียง ลำดับนี้ เรียงตามจำนวน ส.ส.ในสังกัดที่ได้รับเลือกในสมัย เลือกตั้ง 2500 ถึง 2554 เป็นที่น่าสังเกตว่า การเลือกพรรค การเมืองของประชาชนจังหวัดน่าน มักมีการเปลี่ยนแปลงไป ตามกระแสนิยม มีการยึดตัวบุคคลมากกว่าพรรค จนกระทั่ง เกิดกรณีทักษิณฟีเวอร์ การเลือกพรรคของประชาชนจังหวัด น่านจึงให้ความสำคัญมากขึ้น เป็นการเลือก ส.ส.แบบยกพรรค ทั้งจังหวัด กล่าวคือ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนและ พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้งทั้งจังหวัด ส่วนการเชื่อมประสานกับพรรคการเมืองระดับชาติของ นักการเมืองถิ่นน่านนั้นก็มีการเชื่อมโยงกัน คือ นางสาวพูนสุข โลหะโชติ เป็นแกนนำระดับแนวหน้าของพรรคชาติไทยคือ 149

นักการเมืองถ่ินจังหวัดน่าน รองเลขาธิการพรรคชาติไทย ซึ่งมีความสนิทสนมกับ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยและอดีต นายกรัฐมนตรี นายคำรณ ณ ลำพูน มีความสนิทสนมกับนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุขในสมัยรัฐบาล ชวน หลีกภัย กลวิธีที่ใช้ในการหาเสียง นักการเมืองถิ่นน่านตั้งแต่อดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน มักใช้รูปแบบเทคนิคในการหาเสียงที่เหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพอประมวลได้ดังนี้ 1. การปราศรัย ทั้งเวทีปราศรัยใหญ่และเวทีปราศรัย ย่อย สำหรับการปราศรัยเวทีใหญ่ พรรคการเมืองต้นสังกัดจะ ลงมาช่วย ถ้าหัวหน้าพรรคการเมืองไม่มาก็จะให้ระดับรองลงมา ช่วยปราศรัย หรือหัวหน้าทีมในส่วนที่ดูแลภูมิภาคหรือหัวหน้า ทีมในจังหวัดนั้นๆ ปราศรัยช่วย ส่วนเวทีปราศรัยย่อย มักมีรถ ติดเครื่องขยายเสียงเคลื่อนที่ไปตามหมู่บ้าน แหล่งชุมชน และ หากว่ามีงาน เทศกาล งานบุญ งานแต่งงาน ก็จะถือโอกาสลง ไปปราศรัยภายในงานด้วย 2. การช่วยเหลือให้ความอุปถัมภ์ในรูปแบบต่างๆ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น นางสาวพูนสุข โลหะโชติ ได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่มแม่บ้าน นายคำรณ ณ ลำพูน ได้จัด กิจกรรมฟุตบอล “น่าน -ประชาธิปัตย์” ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องเป็น 150

บทสรุป เวลา 18 ปี นายทวี บุญซื่อ ได้บริจาคสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์ ซ่อมสร้างวัดวาอาราม ปูชนียสถานสำคัญในจังหวัดน่าน หลายแห่ง 3. การเข้าร่วมกิจกรรมงานประเพณีงานบุญต่างๆ เช่น งานกฐิน งานผ่าป่า สงกรานต์ แข่งเรือ วันเด็ก วันแม่ วันพ่อ งานแต่งงาน งานศพ ฯลฯ ส.ส.ทุกคนต้องเข้าร่วมหากไม่ได้เข้า ร่วมต้องจัดผู้แทน ส.ส.เข้าร่วม หาก ส.ส.คนใดไม่เข้าร่วมงาน ก็จะถูกตำหนิได้ 4. การประสานของบประมาณจากส่วนกลางมา ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เป็นการหาเสียงและสร้างผลงาน อีกรูปแบบหนึ่งของนักการเมืองถิ่นน่าน หากสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรคนใด ประสานหรือของบประมาณไม่เก่งก็จะถูก ตำหนิว่าไม่มีผลงาน 5. การใช้สื่อโฆษณา ประชาสัมพันธ์ในการหาเสียง การจัดรายการวิทยุ รถแห่ การใช้ป้าย แผ่นพับ โปสเตอร์ มีการ พิมพ์ผลงานต่างๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ 6. การใช้หัวคะแนน อาสาสมัครและกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพ่อค้า กลุ่มข้าราชการในการช่วยหาคะแนน เสียง 7. การเคาะประตูบ้านหรือการลงพื้นที่เยี่ยมเยือนพบปะ พดู คุยอย่างสม่ำเสมอ 151

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน อภิปรายผล จากการศึกษารวบรวมค้นคว้าสามารถสรุปและอภิปราย ผลถึงนักการเมืองถิ่นและการเมืองในจังหวัดน่านโดยพิจารณา ในเชิงพัฒนาการได้ดังต่อไปนี้ อดีต : เน้นตัวบุคคลมากกว่าพรรคการเมือง หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ประชาชน จังหวัดน่านได้มีโอกาสใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ผู้ได้รับเลือกตั้งส่วนใหญ่ ถือว่ามีความพร้อมสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฐานะ ครอบครัวให้การ สนับสนุน การเมืองในยุคแรกจึงประกอบไปด้วยชนชั้นนำคือ ลูกหลานเจ้าผู้ครองนครน่านซึ่งมีคุ้มต่างๆ เป็นที่อยู่อาศัย และ บางคนประกอบอาชีพทนายความที่มีฐานะทางการเงินที่ดี สามารถพึ่งพาให้ความช่วยเหลือให้ที่พักอาศัยได้ การเมืองใน ยุคสองประกอบไปด้วยกลุ่มอาชีพต่างๆมากขึ้น เช่น กลุ่มพ่อค้า กลุ่มข้าราชการ กลุ่มนักการเมือง การใช้สื่อในการหาเสียง ในนามบุคคลหรือในนามพรรคการเมืองมีบ้างแต่มีไม่มาก และไม่เป็นระบบดังเช่นในยุคปัจจุบัน การเมืองในระบอบ ประชาธิปไตยของจังหวัดน่านมีลักษณะที่เด่นชัดคือ ไม่มีความ รุนแรง ไม่มีเรื่องของอิทธิพลทางการเมือง ไม่มีการผูกขาด ทางการเมืองดังเช่นพรรคประชาธิปัตย์ที่ผูกขาดสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรในหลายจังหวัดของภาคใต้ วัฒนธรรมการเลือก นักการเมืองถิ่นน่านในอดีตยังคงเน้นตัวบุคคลมากกว่า 152

บทสรุป พรรคการเมืองและไม่มีพรรคการเมืองใดที่เป็นที่นิยมโดยชนะ การเลือกตั้งประเภทผูกขาดเป็นเวลานาน ในขณะที่พัฒนาการ ทางการเมืองจากสถิติการไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ปรากฏว่า ชาวจังหวัดน่านมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ปัจจุบัน : เน้นพรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคล การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 นับเป็น ครั้งแรกในระบบใหม่ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช 2540 ซง่ึ แบง่ เปน็ ระบบบญั ชรี ายชอ่ื จำนวน 100 คน และแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน ภายใต้การกำกับ ดู แ ล แ ล ะ ก า ร จ ั ด เ ล ื อ ก ต ั ้ ง ข อ ง ส ำ น ั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร การเลือกตั้งหรือ กกต. พรรคไทยรักไทย นำโดยอดีตนายก- รัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 2 เขต และพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง 1 เขต นับเป็นจุดเริ่ม ต้นในการเลือกพรรคการเมืองมากกว่าการให้ความสำคัญกับ บุคคล สำหรับการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ของพรรคไทยรักไทย ในการ เลือกตั้งของจังหวัดน่านได้รับชัยชนะทุกเขตเลือกตั้ง ถึงแม้ พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบพรรคแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นพรรค พลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ประชาชนในพื้นที่ก็ยังเลือก พรรคการเมืองมากกว่าตัวบุคคลที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งมีการใช้การสื่อสาร ทางการเมืองมากขึ้น เช่น พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย มีการนำเสนอนโยบายที่สอดคล้องกับความ ต้องการของประชาชนโดยเฉพาะกับผู้ที่มีสิทธิ์ไปลงคะแนนเสียง 153

นักการเมืองถ่ินจังหวัดน่าน อันเป็นที่มาของคำว่า “นโยบายประชานิยม” เช่น นโยบาย กองทุนหมู่บ้าน,นโยบาย 30บาทรักษาทุกโรค, นโยบายพักชำระ หนี้เกษตรกร, นโยบายบ้านเอื้ออาทร ฯลฯ โดยผ่านการสื่อสาร อย่างเป็นระบบ โดยผ่านการสื่อสารในรูปแบบเดิม ได้แก่ การปราศรัยหาเสียง ระบบหัวคะแนน การเดินเคาะประตูบ้าน การใช้สื่อสาธารณะ เช่น ใบปลิว แผ่นพับ โปสเตอร์ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ และเครื่องมือการสื่อสารในรูป แบบใหม่ๆอันได้แก่ SMS ทางโทรศัพท์, เครือข่ายสื่อออนไลน์ ทางอนิ เตอร,์ การสรา้ งเวปไซด์ (website) ของพรรค, การหาเสยี ง ทางไกลผ่อนจอภาพ (VDO-Teleconference) ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมในการนำเสนอผลงานเพื่อเป็นการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ของพรรค เช่น การจัดงาน “จากรากหญ้าสู ่ รากแก้ว” การจัดนิทรรศการ “หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นต้น มีการจัดงานแถลงข่าว การดำเนินกิจกรรมสื่อมวลชน สัมพันธ์ การสร้างฐานสมาชิกพรรคผ่านเครือข่ายลูกโซ่ ซึ่งเป็นการสื่อสารทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในยุคปัจจุบัน มีการลงทุนใช้สื่อต่างๆ เพื่อสื่อสารทางการเมือง กับประชาชนในพื้นที่มากกว่าในยุคอดีต มีการประชาสัมพันธ์ ผลงานตนเองอย่างต่อเนื่องผ่านที่มีอยู่ในจังหวัด เช่น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น, ป้ายโฆษณา,วิทยุ, ใบปลิว, โทรทัศน ์ ท้องถิ่น ฯลฯ ด้านผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน หลายคนที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าผู้ครองนครน่านไม่ได้รับ เลือกตั้งดังเช่นการเมืองในยุคแรก 154

บทสรุป แนวโน้มในอนาคต : เน้นคุณภาพของบุคคลท่ีได้รับ เลือกตั้งเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร หมดบทบาท ทางการเมือง การเมืองภายในจังหวัดน่านคงกลับเข้าสู่การ เลือกบุคคลมากกว่าเลือกพรรคการเมือง ในอนาคตประชาชน จะมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจทางการเมืองร่วมกับรัฐมากขึ้น เนื่องมาจากมีการสร้างและการเปิดพื้นที่ “การเมืองภาค พลเมือง” ความเข้าใจของประชาชนในจังหวัดน่านต่อความรับผิด ชอบในหน้าที่นักการเมืองถิ่นหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะดี มากขึ้น เนื่องจากในยุคอดีตและยุคปัจจุบัน ความเข้าใจของ ประชาชนคาดหวังที่จะให้นักการเมืองถิ่นหรือสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ทุกๆ คนต้องทำงานในระดับพื้นที่มากกว่าที่จะให้ความ สำคัญในบทบาทหน้าที่ในระดับประเทศหรือทำหน้าที่ในรัฐสภา แต่ในอนาคตหากมีการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นมากขึ้น และระดับการศึกษาของประชาชน มากขึ้น จะทำให้ประชาชนแยกแยะหน้าที่ความรับผิดชอบของ นักการเมืองถิ่นหรือ ส.ส.ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้กลไกที่จะสรรหาและ คัดเลือกนักการเมืองถิ่นหรือ ส.ส.ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นครบถ้วน มุ่งสร้างผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน จึงเป็นสิ่งที่มีความ สำคัญที่ประชาชนจังหวัดน่านควรให้การพิจารณา สำหรับรูปแบบในการหาเสียงเลือกตั้งที่ใช้ในยุคปัจจุบัน อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต ถ้าหากรูปแบบการ 155

นักการเมืองถ่ินจังหวัดน่าน เลือกตั้งและวิธีการเลือกตั้งของประชาชน การเมือง สังคม เทคโนโลยี วัฒนธรรม เปลี่ยนแปลงไป สรุป พฤติกรรมทางการเมืองของนักการเมืองและการเมือง ในจังหวัดน่าน นับตั้งแต่อดีตจนกระทั่งถึงปัจจุบัน มีประเด็น ที่น่าสนใจคือ จังหวัดน่านเป็นเมืองที่รักความสงบ ไม่ชอบความ วุ่นวาย ไม่ชอบอิทธิพล และยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณี ดั้งเดิมของตน หากผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใดใช้วิธี การหาเสียงที่มีความรุนแรง ก้าวร้าว ใช้อิทธิพล บังคับข่มขู่ ก็จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง ดังจะเห็นได้ว่า สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรของจังหวัดน่านตั้งแต่อดีตถึงยุคปัจจุบันจำนวน 17 คน ทุกคนไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว โดยกลวิธีการหาเสียงที่ได้ผลและ สามารถฝังลึกภายในจิตใจของชาวจังหวัดน่านก็คือ การเข้าถึง ประชาชนอย่างสม่ำเสมอ มีความจริงใจและเป็นกันเอง ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยในอนาคต 1. โครงการนักการเมืองถิ่นน่านฉบับนี้เป็นเพียง การศึกษาและสำรวจข้อมูลอย่างกว้างๆ ดังนั้น จึงควรให้มีการ ศึกษาวิจัยในอนาคตในเชิงลึกเพื่อให้เข้าใจในประเด็นต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองในท้องถิ่นกับ การเมืองในระดับชาติ เป็นต้น 2. เนื่องจากจังหวัดน่านเป็นจังหวัดหนึ่งใน 8 จังหวัด ล้านนา การศึกษาวิจัยอย่างลึกซึ้งในครั้งต่อไปควรเปิดให้มีการ 156

บทสรุป ขยายขอบเขตพื้นที่ให้กว้างขวางโดยรวมเอา 8 จังหวัดล้านนา ประกอบไปด้วย เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง พะเยา และแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีความแตกต่างกันไม่มากในเรื่อง ของภาษา ขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรม เพื่อให้งาน วิจัยมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ข้อเสนอแนะเพ่ือการพัฒนาการเมืองถ่ิน ในจังหวัดน่าน 1. ประเด็นในการวิจัยครั้งต่อไป เนื่องจากจังหวัดน่าน มีกลุ่มชาติพันธุ์ที่หลากหลาย เช่น คนเมือง, ชาวไทลื้อ, ชาวไทพวน, ชาวไทเขิน และชาวไทยใหญ่ จึงสมควรให้มีการ ศึกษาเชิงเปรียบเทียบพัฒนาการทางการเมืองเมืองของกลุ่ม ชาติพันธุ์ต่างๆเพื่อศึกษาและวิเคราะห์พฤติกรรมทางการเมือง ว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ 2. ควรให้มีการประเมินผลงาน บทบาท หน้าที่ของ นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่านทั้งในสภาและนอกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการพัฒนาการเมืองถิ่นในจังหวัดน่านต่อไป 3. ควรให้มีการศึกษาเพิ่มเติมในส่วนของประชาชน จังหวัดน่านถึงมูลเหตุจูงใจในการลงคะแนนเสียง เช่น พรรค การเมืองที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัด, ท้องถิ่นนิยม, การ พัฒนาการท่องเที่ยว เป็นต้น 157

บรรณานุกรม กฤษณา ไวสำรวจ. นักการเมืองถ่ินจังหวัดสมุทรสงคราม. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2555. จังหวัดน่าน. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555, จาก th.wikipedia.org/wiki/จังหวัดน่าน ไชยวุฒิ มนตรีรักษ์. นักการเมืองถ่ินจังหวัดเลย. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2551. ณรงค์ บุญสวยขวัญ. นักการเมืองถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า, 2549. ณัชชานุช พิชิตธนารัตน์. นักการเมืองถ่ินจังหวัดเพชรบุรี. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2554. นพรัตน์ วงศ์วิทยาพาณิชย์. นักการเมืองถิ่นจังหวัดสระแก้ว. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2554. นิรันดร์ กุลฑานันท์. นักการเมืองถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2549. นันทนา นันทวโรภาส. การสื่อสารทางการเมือง: ศึกษากรณีการ รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งท่ัวไปของพรรคไทยรักไทย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2548.

บรรณานุกรม บูฆอรี ยีหมะ. นักการเมืองถ่ินจังหวัดปัตตานี. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2549. ปานหทัย ตันติเตชา. การตลาดทางการเมอื ง: ศกึ ษาเฉพาะกรณกี ารใช้ ส่ือในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทย ในเขตกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2546. ประเสริฐ สิทธิจิรพัฒน์. นักการเมืองถ่ินจังหวัดนนทบุรี. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2553. พิชญ์ สมพอง. นักการเมืองถ่ินจังหวัดยโสธร. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2551. พรชัย เทพปัญญา. นักการเมืองถ่ินจังหวัดชลบุรี. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัย และพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2552. . นักการเมืองถิ่นจังหวัดปทุมธานี. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2549. ไพฑูรย์ มีกุศล. นักการเมืองถิ่นจังหวัดสุรินทร์. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัย และพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2552. รุจน์จาลักษณ์รายา คณานุรักษ์. นักการเมืองถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า, 2553. ลิขิต ธีรเวคิน. วิวัฒนาการเมืองการปกครองไทย. กรุงเทพฯ: บริษัท พิมพ์ดี จำกัด, 2550. วีระ เลิศสมพร. นักการเมืองถ่ินจังหวัดแม่ฮ่องสอน. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า, 2553. ศรุดา สมพอง. นักการเมืองถิ่นจังหวัดฉะเชิงเทรา. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2553. สถาบันพระปกเกล้า. การเมืองการปกครองไทยรอบ 60 ปี แห่งการ ครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า, 2549. 159

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน . บูรณาการงานวิจัย:นักการเมืองถ่ินและพฤติกรรมการ เลือกต้ัง 2550. กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบัน พระปกเกล้า, 2553. สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2475-2535. กรุงเทพฯ: ฝ่ายผลิตเอกสารรัฐสภากองการ ประชาสัมพันธ์, 2535. . 67 ปี สมาชิกรัฐสภาไทย. กรุงเทพฯ: กองการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, 2542. . ทำเนียบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2538. กรุงเทพฯ: ฝ่ายผลิตเอกสารรัฐสภากองการประชาสัมพันธ์, 2538. . ทำเนียบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2540. กรุงเทพฯ: ฝ่ายผลิตเอกสารรัฐสภา กองการประชาสัมพันธ์, 2540. . หนังสือท่ีระลึกครบรอบ 72 ปี รัฐสภาไทย. กรุงเทพฯ: สำนักการพิมพ์สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร, 2547. สรุ พงษ ์ โสธนะเสถยี ร. การสอื่ สารกบั การเมอื ง. กรงุ เทพฯ: ประสทิ ธภ์ิ ณั ฑ์ แอนด์ พริ้นติ้ง, 2541. สานิตย์ เพชรกาฬ. นักการเมืองถิ่นจังหวัดพัทลุง. กรุงเทพฯ: สถาบัน พระปกเกล้า, 2550. สำนักงานจังหวัดน่าน. สภาพทั่วไปของจังหวัดน่าน สืบค้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 จากwww.nan.go.th/ สำนักงานจังหวัดน่าน. เอกสารประกอบการชี้แจงเสนอต่ออนุกรรมการ ท้องถิ่นและจังหวัดน่าน: คณะทำงานสำนักงานจังหวัดน่าน, 2555. อนุสรณ์งานศพ นายทวี บุญซื่อ. เชียงใหม่: ดารารัตน์การพิมพ์. 2529. เอกสารประวัตินายประเสริฐ ทุ่งสี่ ในงานฌาปนกิจศพ. เอกสารประวัติ นายพงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล. ในงานฌาปนกิจศพ เอกสารประวัติ นายสมชาย โลหะโชติ ในงานฌาปนกิจศพ 160

ภาค ผนวก ภาคผนวก ก รายชื่อผู้ให้สัมภาษณ์ 1. นายคำรณ ณ ลำพนู อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 2. นายเดช วงค์เทพ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 3. นางสุนีย์ ณ น่าน หลานสาวของนายจำรัส มหาวงศ์นันทน์ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555

นักการเมืองถ่ินจังหวัดน่าน 4. นางสมปรารถนา ณ น่าน บุตรสาวของนายประดิษฐ์ ณ น่าน อดีตสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 5. นายสุรพันธ์ คำนันท์ บุตรชายของนายสุชาติ คำนันท์ อดีตสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2555 6. นางสาววรุณพร ทุ่งสี่ บุตรสาวของนายประเสริฐ ทุ่งสี่ อดีตสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2555 7. นางสาวสมนี มงคลประเสริฐ หลานสาวของพลเอกสนั่น เศวตเศรนี อดีตสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 8. นางสาวพูนสุข โลหะโชติ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2555 9. นางสิริทร รามสตู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 162

ภาคผนวก 10. นายชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 11. นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2555 12. นางระวิวรรณ ศรีคร้ามครัน ลูกสาวนายสมบูรณ์ บัณฑิต อดีตสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555 13. นายเฉลิมศักดิ์ ประทุมอิน หลานชายของนายมานพ ประทุมอิน อดีตสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2555 14. นางสาวเขมิกา ประทุมอิน ลูกสาวบุตรธรรม นายมานพ ประทุมอิน อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 15. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 163

ภาคผนวก ข รายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน ตั้งแต่ พ.ศ.2476-พ.ศ.2554 นับจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก 15 พฤศจิกายน 2476 จนถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 รวมทั้งสิ้น 24 ครั้งทั้งการเลือกตั้งโดยตรง และโดยอ้อม ทั้งการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและการเลือกตั้งแบบ รวมเขต จนถึง การเลือกตั้งแบบแบ่งเขต เขตละ 1 คน ผู้ได้รับ เลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน ปรากฏตาม ตารางดังนี้

การเลอื กต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎร จังหวัดนา่ น คร้งั ท ี่ วัน/เดอื น/ปี ลำดับชอ่ื -สกุล เขต พรรค หมายเหต ุ 1 15 พ.ย. 2476 นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์ 2 7 พ.ย. 2480 นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์ 3 12 พ.ย. 2481 นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์ 4 6 ม.ค. 2489 1. นายสมบูรณ์ บัณฑิต 5 ส.ค. 2489 2.นายมานพ ประทุมอิน 5 29 ม.ค. 2491 นายจำรัส มหาวงศ์นันทน์ เลือกตั้งเพิ่ม 6 26 ก.พ. 2495 นายประดิษฐ์ ณ น่าน 7 26 ก.พ. 2500 นายสมบรู ณ์ บัณฑิต ชาติสังคม/ 8 15 ธ.ค. 2500 นายสมบูรณ์ บัณฑิต เสรีมนังคศิลา 9 10 ก.พ. 2512 1. นายสมบรู ณ์ บัณฑิต ไม่สังกัดพรรค 2. นายสมชาย โลหะโชติ สหประชาไทย สหประชาไทย ภาคผนวก 165

คร้ังที่ นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน วนั /เดอื น/ปี ลำดับชอ่ื -สกลุ เขต พรรค หมายเหตุ 10 166 26 ม.ค. 2518 ประชาธิปัตย์ 11 4 เม.ย. 2519 1. นายประเสริฐ ทุ่งสี่ ธรรมสังคม 12 22 เม.ย. 2522 2. นายสมบรู ณ์ บัณฑิต 13 18 เม.ย. 2526 1. นายสมชาย โลหะโชติ ชาติไทย 14 27 ก.ค. 2529 2. นายทวี บุญซื่อ กิจสังคม 15 24 ก.ค. 2531 1.นายคำรณ ณ ลำพนู ประชาธิปัตย์ 2. นายสุชาติ คำนันท์ ชาติไทย 1. นายสมชาย โลหะโชติ ชาติไทย 2. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ กิจสังคม 3. นายคำรณ ณ ลำพูน ประชาธิปัตย์ 1. นายเดช วงศ์เทพ สหประชาธิปไตย 2. นายคำรณ ณ ลำพนู ประชาธิปัตย์ 3. นางสาวพูนสุข โลหะโชติ ชาติไทย 1. นางสาวพูนสุข โลหะโชติ ชาติไทย 2. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ รวมไทย/เอกภาพ 3. นายเดช วงศ์เทพ รวมไทย/เอกภาพ

ครั้งท่ี วนั /เดอื น/ป ี ลำดับชอื่ -สกลุ เขต พรรค หมายเหตุ 16 22 มี.ค. 2535 1. พล.อ.สนั่น เศวตเศรนี ความหวังใหม่ 17 13 ก.ย. 2535 2. นางสาวพนู สุข โลหะโชติ ชาติไทย 18 2 ก.ค. 2538 3. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ 19 พ.ย. 2539 1. นายพงษ์พัฒน์ ธีรประเทืองกุล สามัคคีธรรม 20 6 ม.ค. 2544 2. นายคำรณ ณ ลำพูน 3. นางสาวพนู สุข โลหะโชติ พลังธรรม 1. พล.อ.สนั่น เศวตเศรนี ประชาธิปัตย์ 2. นายคำรณ ณ ลำพูน ชาติไทย 3. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ 1. นายคำรณ ณ ลำพนู ชาติไทย 2. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ ประชาธิปัตย์ 3. นางสาวพนู สุข โลหะโชติ ชาติไทย 1. นายคำรณ ณ ลำพนู 2. นายชลน่าน ศรีแก้ว ประชาธิปัตย์ 3. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ ชาติพัฒนา ชาติไทย 1 ประชาธิปัตย์ 2 ไทยรักไทย 3 ไทยรักไทย ภาคผนวก 167

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน วนั /เดอื น/ปี หมายเหตุ 168 6 ก.พ. 2548 ครง้ั ท ี่ 2 เม.ย. 2549 ลำดับชอื่ -สกลุ เขต พรรค 21 1. นางสิรินทร รามสูต 1 ไทยรักไทย เป็นการเลือกตั้งโดย 22 2. นายชลน่าน ศรีแก้ว 2 ไทยรักไทย ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ 3. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ 3 ไทยรักไทย ตามคำวินิจฉัยของศาล 23 1. นางสิรินทร รามสตู 1 ไทยรักไทย รัฐธรรมนูญที่ 9/2549 24 2. นายชลน่าน ศรีแก้ว 2 ไทยรักไทย ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 3. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ 3 ไทยรักไทย 2549 23 ธ.ค. 2550 1. นางสิรินทร รามสตู พลังประชาชน 3 ก.ค. 2554 2. นายชลน่าน ศรีแก้ว พลังประชาชน 3. นายวัลลภ สุปริยศิลป์ พลังประชาชน 1. นางสิรินทร รามสูต 2. นายชลน่าน ศรีแก้ว 1 เพื่อไทย 3. นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ 2 เพื่อไทย 3 เพื่อไทย

ภาคผนวก ค ภาพนักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน พ.ศ.2476-2554 นายจำรัส มหาวงศนนั ทน์ 15 พฤศจิกายน 2476 7 พฤศจิกายน 2480 12 พฤศจิกายน 2481 29 มกราคม 2491

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน นายสมบรู ณ์ บณั ฑติ 6 มกราคม 2489 26 กุมภาพันธ์ 2500 (สังกัดพรรค เสรีมนังคศิลา) 15 ธันวาคม 2500 (ไม่สังกัดพรรคการเมือง) 10 กุมภาพันธ์ 2512 (พรรคสหประชาไทย) 26 มกราคม 2518 (พรรคธรรมสังคม) นายมานพ ประทุมอนิ 5 สิงหาคม 2489 นายประดิษฐ์ ณ น่าน 26 กุมภาพันธ์ 2495 170

ภาคผนวก นายสมชาย โลหะโชติ 10 กุมภาพันธ์ 2512 (พรรคสหประชาไทย) 4 เมษายน 2519 (พรรคชาติไทย) 18 เมษายน 2526 (พรรคชาติไทย) นายประเสริฐ ทุ่งส่ี 26 มกราคม 2518 (พรรคประชาธิปัตย์) นายทวี บญุ ซือ่ 4 เมษายน 2519 (พรรคกิจสังคม) 171

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน นายคำรณ ณ ลำพูน 22 เมษายน 2522 (พรรคประชาธิปัตย์) 18 เมษายน 2526 (พรรคประชาธิปัตย์) 27 กรกฎาคม 2529 (พรรคประชาธิปัตย์) 13 กันยายน 2535 (พรรคประชาธิปัตย์) 2 กรกฎาคม 2538 (พรรคประชาธิปัตย์) 17 พฤศจิกายน 2539 (พรรคประชาธิปัตย์) 6 มกราคม 2544 (พรรคประชาธิปัตย์) นายสชุ าติ คำนนั ท ์ 22 เมษายน 2522 (พรรคชาติไทย) 172

ภาคผนวก นายวลั ลภ สปุ ริยศลิ ป์ 18 เมษายน 2526 (พรรคกิจสังคม) 24 กรกฎาคม 2531 (รวมไทย) เอกภาพ 22 มีนาคม 2535 (สามัคคีธรรม) 2 กรกฎาคม 2538 (พรรคชาติไทย) 17 พฤศจิกายน 2539 (พรรคชาติพัฒนา) 6 มกราคม 2544 (พรรคไทยรักไทย) 6 กุมภาพันธ์ 2548 (พรรคไทยรักไทย) 2 เมษายน 2549 (พรรคไทยรักไทย) 23 ธันวาคม 2550 (พรรคพลังประชาชน) นายเดช วงศเ์ ทพ 27 กรกฎาคม 2539 (พรรคสหประชาธิปไตย) 24 กรกฎาคม 2531 (รวมไทย) เอกภาพ 173

นักการเมืองถิ่นจังหวัดน่าน นางสาวพนู สขุ โลหะโชติ 27 กรกฎาคม 2529 (พรรคชาติไทย) 24 กรกฎาคม 2531 (พรรคชาติไทย) 22 มีนาคม 2535 (พรรคชาติไทย) 13 กันยายน 2535 (พรรคชาติไทย) 17 พฤศจิกายน 2539 (พรรคชาติไทย) พลเอก สนน่ั เศวตเศรณี 22 มีนาคม 2535 (พรรคความหวังใหม่) 2 กรกฎาคม 2538 (พรรคชาติไทย) นายพงษพ์ ฒั น์ ธรี ประเทอื งกุล 13 กันยายน 2535 (พรรคพลังธรรม) 174

ภาคผนวก นางสริ นิ ทร รามสูต 6 กุมภาพันธ์ 2548 (พรรคไทยรักไทย) 23 ธันวาคม 2550 (พรรคพลังประชาชน) 3 กรกฎาคม 2554 (พรรคเพื่อไทย) นายชลน่าน ศรีแกว้ 6 มกราคม 2544 (พรรคไทยรักไทย) 6 กุมภาพันธ์ 2548 (พรรคไทยรักไทย) 23 ธันวาคม 2550 (พรรคพลังประชาชน) 3 กรกฎาคม 2554 (พรรคเพื่อไทย) นายณฐั พงษ์ สุปริยศลิ ป์ 3 กรกฎาคม 2554 (พรรคเพื่อไทย) 175