Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสาระภาษาไทย

หลักสูตรกลุ่มสาระภาษาไทย

Published by Guset User, 2022-08-17 10:05:38

Description: หลักสูตรกลุ่มสาระภาษาไทย

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๑ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๒ คำนำ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทยไดจ้ ัดทำหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทยฉบบั น้ี ซึ่งเป็น เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นชุมชนประชาธปิ ัตย์วทิ ยาคาร พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ เพอ่ื เปน็ เป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียนและกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อเป็นกรอบและทิศทางในการจัดการเรียนการสอนให้ตรง ตามมาตรฐานตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยพิจารณาตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน ๒๕๕๑ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นชมุ ชนประชาธปิ ตั ยว์ ทิ ยาคาร พุทธศกั ราช ๒๕๖๔ ซ่งึ มอี งคป์ ระกอบดงั น้ี - วสิ ยั ทัศน์ หลกั การ จุดหมาย - สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น - คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ - คณุ ภาพผูเ้ รียน - ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรียนร้แู กนกลาง - รายวชิ าท่ีเปดิ - คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน - คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม - โครงสร้างรายวิชาพนื้ ฐาน - โครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเตมิ - ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ - การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ คณะผจู้ ัดทำขอขอบคุณผู้ที่มสี ่วนร่วมในการพฒั นาและจัดทำหลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทยฉบับนี้ จนสำเรจ็ ลลุ ว่ งเปน็ อย่างดี และหวงั เป็นอย่างยิง่ วา่ จะเกดิ ประโยชน์ต่อการจดั การ เรียนรู้ให้กบั ผ้เู รยี นตอ่ ไป กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย คณะผจู้ ัดทำ หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๓ สารบญั หน้า 2 เรือ่ ง 3 คำนำ 4 สารบัญ 4 วิสยั ทศั น์ 4 หลักการ 5 จดุ มุง่ หมาย ๕ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ๑๒ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑๒ ทำไมตอ้ งเรยี นภาษาไทย ๑๓ เรียนรอู้ ะไรในภาษาไทย ภาษาไทย ๑๓ สาระและมาตรฐานการเรยี นร้ภู าษาไทย ๑๗ คณุ ภาพผู้เรียนภาษาไทย ๕0 ตัวช้วี ดั และสาระการเรยี นรูแ้ กนกลางภาษาไทย ๕1 รายวชิ าท่ีเปิดสอนภาษาไทย คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐานและโครงสรา้ งรายวชิ าพ้นื ฐาน ๑19 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ และโครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเติม ๑34 สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ๑35 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ภาคผนวก ๑48 คณะผู้จัดทาํ หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๔ วสิ ัยทัศน์ นักเรียนมีทักษะการสื่อสารทั้งฟังพูดอ่านเขียน เข้าใจและใช้หลักภาษาไทยอย่างถูกต้อง รกั และภาคภูมใิ จในภาษาไทยอันเป็นภาษาประจำชาติ หลกั การ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทยโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ได้ใช้หลักการ พัฒนาหลักสูตรตามแบบของหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ซ่งึ มหี ลักการที่สำคัญ ดังนี้ ๑. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการ เรียนรู้ เป็นเป้าหมายสำหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบน พ้ืนฐาน ของความเปน็ ไทยควบคู่กบั ความเปน็ สากล ๒. เป็นหลกั สูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ทปี่ ระชาชนทุกคนมโี อกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอ ภาค และมคี ณุ ภาพ ๓. เป็นหลกั สตู รการศกึ ษาท่ีสนองการกระจายอำนาจ ใหส้ ังคมมสี ่วนรว่ มในการจดั การศึกษา ให้สอดคล้องกับสภาพและความต้องการของทอ้ งถนิ่ ๔. เปน็ หลักสูตรการศึกษาท่ีมีโครงสร้างยืดหยุน่ ทั้งดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการ เรียนรู้ ๕. เปน็ หลักสตู รการศึกษาท่เี น้นผ้เู รียนเป็นสำคญั ๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาสำหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลมุ ทุกกลุม่ เป้าหมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรยี นรู้ และประสบการณ์ จุดหมาย หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีความมุ่งหมายในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีความสขุ มีศกั ยภาพในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมายเพอื่ ใหเ้ กิด กบั ผูเ้ รียน เมอ่ื จบการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ดงั น้ี ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบตั ิ ตน ตามหลักธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทตี่ นนับถอื ยดึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมี ทกั ษะชวี ิต ๓. มีสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ท่ีดี มีสขุ นิสัย และรักการออกกำลงั กาย ๔. มีความรกั ชาติ มีจิตสำนึกในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยดึ ม่ันในวิถีชีวิตและการ ปกครอง ตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ๕. มีจติ สำนึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย การอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม มีจติ สาธารณะทมี่ ุง่ ทำประโยชน์และสรา้ งสง่ิ ท่ดี งี ามในสังคม และอย่รู ่วมกันในสังคมอย่างมีความสขุ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๕ สมรรถนะสาํ คัญของผเู้ รยี น หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มงุ่ ให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการดังน้ี ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ฒั นธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ขา่ วสารและประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้งั การเจรจาตอ่ รอง เพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและ ความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ กี ารสือ่ สาร ทีม่ ีประสทิ ธิภาพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทม่ี ตี ่อตนเอง และสงั คม ๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ หรือสารสนเทศเพือ่ การตัดสนิ ใจเก่ียวกับตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เปน็ ความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคตา่ ง ๆ ท่ี เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสมั พนั ธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มา ใชใ้ นการป้องกันและแกไ้ ขปญั หา และมีการตดั สินใจทม่ี ีประสิทธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ตอ่ ตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดล้อม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เป็นความสามารถในการนำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ น การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ ร่วมกันในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความ ขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลกี เล่ยี งพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยี ด้านต่างๆ และมที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื การพัฒนาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรยี นรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพอื่ ให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืน ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. ซือ่ สตั ย์สุจรติ ๓. มีวินยั ๔. ใฝ่เรียนรู้ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๖ ๕. อยู่อย่างพอเพียง ๖. มุง่ มน่ั ในการทำงาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๘. มจี ติ สาธารณะ การนำคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทั้ง ๘ ประการดังกล่าวไปพัฒนาผู้เรียนให้มี ประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลนั้น สถานศึกษาต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับคุณลักษณะอันพึง ประสงค์อย่างชัดเจน โดยพิจารณาจากนิยาม ตัวชี้วัด พฤติกรรมบ่งชี้ และเกณฑ์การให้คะแนนของ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นิยาม ตัวชวี้ ดั พฤติกรรมบ่งช้ี ขอ้ ท่ี ๑ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ นยิ าม รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไวซ้ ึง่ ความเปน็ ชาตไิ ทย ศรัทธายดึ มัน่ ในศาสนาและเคารพเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ที่รักชาติศาสน์กษัตริย์ คือ ผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ มีความสามัคคี ปรองดอง ภูมิใจเชิดชูความเป็นชาติไทยปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ และ แสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตัวช้ีวดั ๑.๑ เปน็ พลเมอื งดขี องชาติ ๑.๒ ธำรงไวซ้ ึ่งความเป็นชาตไิ ทย ๑.๓ ศรัทธา ยดึ มัน่ และปฏิบตั ติ นตามหลักของศาสนา ๑.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ตัวชี้วดั และพฤติกรรมบง่ ชี้ ตัวช้วี ัด พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๑.๑ เป็นพลเมอื งดขี องชาติ ๑.๑.๑ ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้องเพลงชาติ และอธิบาย ความหมายของเพลงชาตไิ ด้ถกู ตอ้ ง ๑.๑.๒ ปฏิบัติตนตามสทิ ธแิ ละหน้าทีพ่ ลเมอื งดขี องชาติ ๑.๑.๓ มีความสามัคคีปรองดอง ๑.๒ ธำรงไวซ้ ่ึงความเป็นชาติ ๑.๒.๑ เขา้ ร่วมส่งเสรมิ สนับสนุนกิจกรรมทส่ี รา้ งความสามคั คี ไทย ปรองดองทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชมุ ชน และสังคม ๑.๒.๒ หวงแหนปกปอ้ งยกย่องความเปน็ ชาติไทย ๑.๓ ศรัทธา ยดึ มนั่ และ ๑.๓.๑ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา ๑.๓.๒ ปฏิบตั ติ นตามหลักของศาสนาท่ตี นนบั ถือ ๑.๓.๓ เปน็ แบบอยา่ งที่ดีของศาสนกิ ชน หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๗ ๑.๔ เคารพเทิดทนู สถาบัน ๑.๔.๑ เข้าร่วมและมสี ว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมที่เกี่ยวกบั สถาบัน พระมหากษตั รยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์ ๑.๔.๒ แสดงความสำนกึ ในพระมหากรุณาธิคุณของ พระมหากษัตรยิ ์ ๑.๔.๓ แสดงออกซง่ึ ความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ ขอ้ ที่ ๒ ซ่ือสัตย์ สจุ ริต นยิ าม ซือ่ สัตย์ สจุ รติ หมายถึง คุณลกั ษณะท่ีแสดงออกถงึ การยึดม่ันในความถูกตอ้ ง ประพฤติตรง ตามความเปน็ จริงต่อตนเองและผอู้ ่ืน ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ผ้ทู มี่ ีความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ คอื ผ้ทู ี่ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ท้ังทางกาย วาจา ใจ และ ยึดหลักความจริงความถกู ต้องในการดำเนินชวี ติ มีความละอายและเกรงกลวั ตอ่ การกระทำผดิ ตัวชวี้ ัด ๑.๑ ประพฤติตรงตามความเป็นจริงตอ่ ตนเองทั้งทางกาย วาจา ใจ ๑.๒ ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผ้อู ืน่ ทงั้ ทางกาย วาจา ใจ ตัวชว้ี ัดและพฤติกรรมบ่งช้ี พฤติกรรมบง่ ชี้ ตัวชวี้ ัด ๒.๑.๑ ให้ข้อมลู ท่ีถูกตอ้ งและเป็นจริงต่อตนเองทั้งทางกายวาจา ๒.๑ ประพฤติตรงตามความ ใจ เป็นจรงิ ตอ่ ตนเองทั้งทางกาย ๒.๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนโดยคำนงึ ถงึ ความถูกต้อง ละอายและเกรงกลัว วาจา ใจ ต่อการกระทำผิด ๒.๑.๓ ปฏิบัติตามคำมน่ั สญั ญา ๒.๒ ประพฤตติ รงตามความ เป็นจริงตอ่ ผอู้ ่นื ท้ังทางกาย ๒.๒.๑ ไมถ่ อื เอาสิง่ ของหรือผลงานของผู้อ่นื มาเป็นของตนเองต่อ วาจา ใจ ผอู้ ื่นท้งั ทางกาย วาจา ใจ ๒.๒.๒ ปฏิบตั ิตนตอ่ ผ้อู ่ืนดว้ ยความซ่ือตรง ๒.๒.๓ ไมห่ าประโยชนใ์ นทางที่ไมถ่ กู ตอ้ ง ขอ้ ที่ ๓ มีวินัย นยิ าม มีวินัย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการยึดมั่นในข้อตกลง กฎเกณฑ์ และระเบียบ ขอ้ บงั คับของ ครอบครวั โรงเรียนและสังคม ผู้ที่มีวินัย คือ ผู้ที่ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรยี นและสงั คมเปน็ ปกติวสิ ยั ไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อืน่ หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๘ ตวั ชว้ี ดั ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรยี นและสังคม ตัวชวี้ ัดและพฤติกรรมบง่ ช้ี ตวั ชวี้ ัด พฤติกรรมบ่งช้ี ๓.๑ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง ๓.๑.๑ ปฏบิ ัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับ ครอบครัวโรงเรียนและสังคม ไม่ละเมดิ สิทธิของผู้อื่น ของครอบครวั โรงเรียนและ ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ใน สังคม ชวี ิตประจำวนั และรับผิดชอบในการทำงาน ขอ้ ท่ี ๔ ใฝ่เรยี นรู้ นยิ าม ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถึง คณุ ลกั ษณะทแี่ สดงออกถึงความต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรียน แสวงหา ความรู้ จากแหล่งเรยี นรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น ผู้ที่ใฝ่เรียนรู้ คือ ผ้ทู ีม่ ีคุณลักษณะท่แี สดงออกถึงความต้งั ใจ เพียรพยายามในการเรียน และ เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ แสวงหาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนอย่าง สม่ำเสมอ ด้วยการเลือกใชส้ ่อื อย่างเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ถา่ ยทอด เผยแพร่ และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ ตัวชีว้ ัด ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี น และเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการ เลอื กใช้สอื่ อย่างเหมาะสม สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ ตัวชว้ี ัดและพฤติกรรมบ่งชี้ ตวั ช้ีวัด พฤติกรรมบ่งชี้ ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามใน ๔.๑.๑ ตัง้ ใจเรียน การเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรม ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ การเรียนรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนร้ตู ่างๆ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหลง่ ๔.๒.๑ ศึกษาคน้ ควา้ หาความร้จู ากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพมิ พ์ ส่อื เรยี นรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและ เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหลง่ เรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น ภายนอกโรงเรยี น ด้วยการ และเลือกใช้ส่อื ได้อย่างเหมาะสม เลือกใช้สือ่ อยา่ งเหมาะสม ๔.๒.๒ บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ข้อมูลจากสิ่งท่เี รียนรู้ สรปุ เป็น สรปุ เป็นองค์ความรู้ และ องค์ความรู้ สามารถนำไปใช้ใน ๔.๒.๓แลกเปลย่ี นความรู้ดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ และนำไปใชใ้ น ชวี ติ ประจำวันได้ ชวี ติ ประจำวนั หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๙ ขอ้ ที่ ๕ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง นิยาม อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มคี ณุ ธรรม มีภมู คิ ้มุ กันในตัวทีด่ ี และปรับตวั เพ่ืออยใู่ นสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ผู้ทอ่ี ยู่อย่างพอเพยี ง คือ ผ้ทู ีด่ ำเนินชีวิตอยา่ งประมาณตน มเี หตผุ ล รอบคอบ ระมดั ระวัง อยู่ ร่วมกับผู้อื่นด้วยความรับผิดชอบ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เห็นคุณค่าของทรัพยากรต่างๆ มีการวางแผน ป้องกันความเสีย่ ง และพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลง ตวั ชวี้ ัด ๕.๑ ดำเนินชวี ติ อย่างพอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม ๕.๒ มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ีดี ปรับตวั เพื่ออยใู่ นสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ ตัวชี้วัดและพฤตกิ รรมบ่งช้ี ตวั ชวี้ ัด พฤติกรรมบง่ ชี้ ๕.๑ ดำเนินชีวติ อยา่ ง ๕.๑.๑ ใช้ทรัพยส์ นิ ของตนเอง เช่น เงิน ส่ิงของ เคร่อื งใช้ ฯลฯ พอประมาณ มเี หตุผล อยา่ งประหยัด คมุ้ คา่ และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี รวมทงั้ การใช้ รอบคอบ มคี ุณธรรม เวลาอยา่ งเหมาะสม ๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเก็บ รักษาดแู ลอย่างดี ๕.๑.๓ ปฏบิ ตั ติ นและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล ๕.๑.๔ ไมเ่ อาเปรยี บผู้อื่นและไม่ทำให้ผูอ้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมให้ อภยั เมอ่ื ผอู้ นื่ กระทำผิดพลาด ๕.๒ มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ท่ีดี ๕.๒.๑ วางแผนการเรยี น การทำงาน และการใชช้ ีวติ ประจำวัน ปรบั ตวั เพ่ืออยูใ่ นสงั คมไดอ้ ย่าง บนพ้นื ฐานของความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร มคี วามสุข ๕.๒.๒ รู้เท่าทันการเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับและปรับตวั เพอื่ อยูร่ ว่ มกับผู้อืน่ ได้อย่างมคี วามสขุ ขอ้ ที่ ๖ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน นิยาม ม่งุ ม่ันในการทำงาน หมายถงึ คุณลักษณะที่แสดงออกถงึ ความตง้ั ใจและรับผิดชอบในการ ทำหนา้ ทกี่ ารงานด้วยความเพียรพยายาม อดทน เพื่อใหง้ านสำเร็จตามเปา้ หมาย ผู้ที่มุ่งมั่นในการทำงาน คือ ผู้ที่มีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับ มอบหมายด้วยความเพียรพยายาม ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ ในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จ ลลุ ่วงตามเป้าหมายท่ีกำหนดดว้ ยความรับผดิ ชอบและมคี วามภาคภูมิใจในผลงาน หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๑๐ ตัวชี้วัด ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบในการปฏิบัตหิ น้าทีก่ ารงาน ๖.๒ ทำงานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพอื่ ใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย ตัวชี้วัดและพฤตกิ รรมบ่งช้ี ตวั ชี้วัด พฤติกรรมบ่งช้ี ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบใน ๖.๑.๑ เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัติหนา้ ทีท่ ่ีไดร้ บั มอบหมาย การปฏบิ ตั ิหน้าท่กี ารงาน ๖.๑.๒ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานให้สำเร็จ ๖.๑.๓ ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทำงานด้วยตนเอง ๖.๒ ทำงานด้วยความเพียร ๖.๒.๑ ทุม่ เททำงาน อดทน ไมย่ ่อท้อต่อปญั หาและอปุ สรรคใน พยายามและอดทนเพื่อใหง้ าน การทำงาน สำเร็จตามเป้าหมาย ๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหาและอุปสรรคในการทำงานใหส้ ำเร็จ ตามเปา้ หมาย๖.๒.๓ ช่นื ชมผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ ข้อท่ี ๗ รักความเปน็ ไทย นิยาม รักความเป็นไทย หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ เห็นคุณค่า ร่วม อนุรักษ์ สืบทอดภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะและวัฒนธรรม ใช้ภาษาไทยในการ สื่อสารได้อยา่ งถกู ต้อง และเหมาะสม ผูท้ รี่ ักความเปน็ ไทย คือ ผทู้ มี่ คี วามภาคภูมิใจ เห็นคณุ ค่า ชนื่ ชม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ สืบทอดเผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย มีความกตัญญู กตเวที ใชภ้ าษาไทย ในการส่อื สารอยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ตัวช้ีวดั ๗.๑ ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย และมคี วามกตัญญกู ตเวที ๗.๒ เหน็ คณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการสอื่ สารได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ๗.๓ อนุรกั ษ์และสืบทอดภูมิปัญญาไทย ตัวช้ีวัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตัวช้วี ัด พฤติกรรมบ่งช้ี ๗.๑ ภาคภมู ิใจใน ๗.๑.๑ แตง่ กายและมมี ารยาทงดงามแบบไทย มีสัมมาคารวะ ขนบธรรมเนยี มประเพณี กตญั ญูกตเวทตี อ่ ผู้มีพระคณุ ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมี ๗.๑.๒ ร่วมกจิ กรรมทีเ่ กีย่ วข้องกบั ประเพณี ศิลปะ และ ความกตญั ญูกตเวที วฒั นธรรมไทย ๗.๑.๓ ชักชวน แนะนำให้ผู้อ่นื ปฏิบตั ติ ามขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรมไทย หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๑๑ ๗.๒ เห็นคุณค่าและใช้ ๗.๒.๑ ใช้ภาษาไทยและเลขไทยในการส่อื สารได้อยา่ งถูกต้อง ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้ เหมาะสม อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ๗.๒.๒ ชกั ชวน แนะนำให้ผอู้ ื่นเห็นคุณค่าของการใช้ภาษาไทยท่ี ถูกตอ้ ง ๗.๓ อนุรักษแ์ ละสืบทอดภูมิ ปญั ญาไทย ๗.๓.๑ นำภมู ิปญั ญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวิถีชีวิต ๗.๓.๒ ร่วมกจิ กรรมทเี่ กย่ี วขอ้ งกับภมู ปิ ญั ญาไทย ๗.๓.๓ แนะนำ มีสว่ นรว่ มในการสบื ทอดภมู ิปญั ญาไทย ข้อที่ ๘ มีจติ สาธารณะ นิยาม มีจิตสาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะที่แสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือ สถานการณ์ทีก่ ่อให้เกดิ ประโยชน์แก่ผูอ้ นื่ ชุมชน และสงั คม ดว้ ยความเต็มใจ กระตอื รอื ร้น โดยไม่หวัง ผลตอบแทน ผู้ที่มีจิตสาธารณะ คือ ผู้ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้และช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันความสุขส่วนตน เพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวม เข้าใจ เห็นใจผู้ที่มีความเดือดร้อน อาสาช่วยเหลือสังคม อนุรักษ์ สิ่งแวดลอ้ ม ดว้ ยแรงกายสติปัญญา ลงมือปฏิบัติเพือ่ แก้ปัญหา หรือร่วมสร้างสรรคส์ งิ่ ท่ีดีงามให้เกิดใน ชุมชน โดยไม่หวังส่ิงตอบแทน ตัวช้ีวัด ๘.๑ ชว่ ยเหลือผู้อนื่ ดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๘.๒ เข้ารว่ มกจิ กรรมท่เี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ตัวชว้ี ัดและพฤตกิ รรมบง่ ชี้ ตัวชีว้ ัด พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ๘.๑ ชว่ ยเหลอื ผ้อู นื่ ด้วยความ ๘.๑.๑ ชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงานดว้ ยความเต็มใจ เต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน ๘.๑.๒ อาสาทำงานใหผ้ ู้อื่นด้วยกำลงั กาย กำลงั ใจ และ กำลงั สตปิ ญั ญาด้วยความสมัครใจ ๘.๑.๓ แบง่ ปันสง่ิ ของ ทรัพย์สิน และอ่นื ๆ และชว่ ยแก้ปัญหา หรือสร้างความสขุ ใหก้ บั ผู้อน่ื ๘.๒ เข้าร่วมกิจกรรมท่เี ป็น ๘.๒.๑ ดูแลรักษาสาธารณสมบตั ิและสง่ิ แวดล้อมดว้ ยความเตม็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชน ใจ และสงั คม ๘.๒.๒ เข้ารว่ มกิจกรรมทเี่ ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชมุ ชน และ สังคม ๘.๒.๓ เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อแก้ปัญหาหรือร่วมสร้างสิ่งที่ดงี ามของ สว่ นรวมตามสถานการณ์ ทเี่ กิดข้ึนด้วยความกระตือรือรน้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๑๒ ทำไมต้องเรียนภาษาไทย ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และเสริมสรา้ งบคุ ลกิ ภาพของคนในชาตใิ หม้ ีความเป็นไทย เป็นเคร่ืองมือในการติดต่อสื่อสารเพ่ือสร้าง ความเข้าใจและความสมั พันธ์ท่ดี ีต่อกนั ทำให้สามารถประกอบกิจธรุ ะ การงาน และดำรงชีวิตร่วมกัน ในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จาก แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศต่างๆ เพือ่ พฒั นาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และสร้างสรรค์ ให้ทนั ตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสังคม และความกา้ วหน้าทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ ในการพฒั นาอาชพี ให้มีความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ นอกจากน้ียงั เปน็ สื่อแสดงภมู ปิ ญั ญาของบรรพบุรุษ ด้านวัฒนธรรม ประเพณีและสุนทรียภาพ เป็นสมบัติล้ำค่าควรแก่การเรยี นรู้ อนุรักษ์ และสืบสาน ให้คงอยคู่ ่ชู าติไทยตลอดไป เรยี นรอู้ ะไรในภาษาไทย ภาษาไทยเป็นทักษะที่ตอ้ งฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การ เรยี นรอู้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ และเพ่อื นำไปใช้ในชวี ติ จรงิ • การอา่ น การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทรอ้ ยแก้ว คำประพนั ธ์ชนิดต่าง ๆ การอ่านในใจเพื่อสร้างความเข้าใจ และการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้จากสิ่งที่อ่าน เพื่อนำไป ปรับใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน • การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่าง ๆของการเขียน ซง่ึ รวมถงึ การเขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ รายงานชนดิ ตา่ งๆ การเขียนตามจินตนาการ วเิ คราะห์วจิ ารณ์ และเขียนเชิงสร้างสรรค์ • การฟงั การดู และการพูด การฟงั และดอู ย่างมีวิจารณญาณ การพดู แสดงความคดิ เห็น ความรู้สึก พูดลำดับเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ และการพดู เพอ่ื โนม้ น้าวใจ •หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้อง เหมาะสมกบั โอกาสและบุคคล การแต่งบทประพนั ธ์ประเภทตา่ ง ๆ และอิทธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศ ในภาษาไทย • วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมู ล แนวความคิด คุณค่าของงานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทำความเข้าใจบทเห่ บท ร้องเลน่ ของเดก็ เพลงพื้นบา้ นทเี่ ปน็ ภูมปิ ัญญาทีม่ ีคุณคา่ ของไทย ซงึ่ ได้ถา่ ยทอดความรู้สกึ นึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิดความซาบซ้ึง และภมู ิใจในบรรพบรุ ษุ ที่ได้ส่ังสมสบื ทอดมาจนถึงปัจจุบัน หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๑๓ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดำเนนิ ชวี ติ และมนี สิ ยั รกั การอ่าน สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียน เรื่องราวในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี ประสิทธิภาพ สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด ความรูส้ ึกในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณ และสรา้ งสรรค์ สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลังของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษา ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดี คุณภาพผเู้ รียน จบชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๑. อ่านออกเสียงคำ คำคลอ้ งจอง ขอ้ ความ เรอื่ งสนั้ ๆ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถกู ตอ้ ง คล่องแคล่ว เข้าใจความหมายของคำและข้อความที่อ่าน ตั้งคำถามเชิงเหตุผล ลำดับ เหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรปุ ความร้ขู ้อคิดจากเรื่องท่ีอ่าน ปฏิบัติตามคำส่ัง คำอธิบายจาก เรื่องที่อ่านได้ เข้าใจความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ อ่านหนังสืออย่าง สมำ่ เสมอ และมีมารยาทในการอ่าน ๒. มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย บันทึกประจำวัน เขียน จดหมายลาครู เขียนเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ เขียนเรื่องตามจินตนาการและมีมารยาทในการ เขยี น ๓.เล่ารายละเอียดและบอกสาระสำคัญ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม รวมทั้งพูดแสดงความคิด ความรสู้ ึกเกย่ี วกับเรอื่ งท่ีฟังและดู พูดสอ่ื สารเล่าประสบการณ์และพูดแนะนำ หรือพดู เชญิ ชวนให้ผู้อ่ืน ปฏิบัติตาม และมีมารยาทในการฟัง ดู และพดู ๔. สะกดคำและเข้าใจความหมายของคำ ความแตกตา่ งของคำและพยางค์ หนา้ ที่ของคำใน ประโยค มีทักษะการใช้พจนานุกรมในการค้นหาความหมายของคำ แต่งประโยคง่าย ๆ แต่งคำคล้อง จอง แต่งคำขวญั และเลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับกาลเทศะ หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๑๔ ๕. เข้าใจและสามารถสรุปข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวัน แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีที่อ่าน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซึ่งเป็น วัฒนธรรมของทอ้ งถ่นิ ร้องบทร้องเลน่ สำหรับเด็กในท้องถนิ่ ทอ่ งจำบทอาขยานและบทร้อยกรองที่มี คณุ คา่ ตามความสนใจได้ จบช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบาย ความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยของคำ ประโยค ข้อความ สำนวนโวหาร จากเรื่องท่ี อ่าน เข้าใจคำแนะนำ คำอธิบายในคู่มือต่าง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมทั้งจับ ใจความสำคญั ของเรอ่ื งทีอ่ ่านและนำความรคู้ วามคดิ จากเรอื่ งทอ่ี ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวติ ไดม้ ีมารยาทและมนี ิสัยรักการอ่าน และเห็นคุณค่าสง่ิ ท่ีอ่าน ๒. มที ักษะในการคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทดั เขยี นสะกดคำ แตง่ ประโยค และเขียนข้อความ ตลอดจนเขียนสื่อสารโดยใช้ถ้อยคำชัดเจนเหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเรือ่ งและ แผนภาพความคิด เพื่อพัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบ รายการต่าง ๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เขียนเรื่องตามจินตนาการอย่าง สร้างสรรค์ และมมี ารยาทในการเขยี น ๓. พดู แสดงความรู้ ความคิดเกี่ยวกับเรือ่ งที่ฟงั และดู เลา่ เรื่องยอ่ หรอื สรุปจากเร่ืองท่ีฟังและ ดู ตัง้ คำถาม ตอบคำถามจากเรอ่ื งท่ีฟังและดู รวมทง้ั ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือจากการฟังและดูโฆษณา อยา่ งมเี หตุผล พดู ตามลำดบั ข้ันตอนเรื่องต่าง ๆ อยา่ งชัดเจน พูดรายงานหรอื ประเด็นค้นคว้าจาก การฟัง การดู การสนทนา และพูดโน้มนา้ วไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล รวมท้ังมมี ารยาทในการดูและพดู ๔. สะกดคำและเขา้ ใจความหมายของคำ สำนวน คำพังเพยและสุภาษติ รูแ้ ละเข้าใจ ชนิด และหน้าที่ของคำในประโยค ชนิดของประโยค และคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คำราชา ศัพท์และคำสุภาพได้อย่างเหมาะสม แต่งประโยค แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนสุภาพ และกาพย์ยานี ๑๑ ๕, เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพื้นบ้าน ร้องเพลง พื้นบ้านของท้องถิ่น นำข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่านไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง และท่องจำบทอาขยาน ตามที่กำหนดได้ จบช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้อง เข้าใจความหมาย โดยตรงและความหมายโดยนัย จับใจความสำคัญและรายละเอียดของสิ่งที่อ่าน แสดงความคิดเห็น และข้อโตแ้ ยง้ เกย่ี วกับเร่อื งทอี่ ่าน และเขียนกรอบแนวคดิ ผังความคิด ย่อความ เขยี นรายงานจากสง่ิ ที่ อา่ นได้ วิเคราะห์ วิจารณ์ อย่างมเี หตุผล ลำดบั ความอย่างมีข้นั ตอนและความเปน็ ไปได้ของเร่ืองท่ี อา่ น รวมทง้ั ประเมินความถูกตอ้ งของข้อมูลท่ใี ช้สนบั สนนุ จากเรื่องทีอ่ า่ น ๒. เขียนสื่อสารด้วยลายมือที่อ่านง่ายชัดเจน ใช้ถ้อยคำได้ถูกต้องเหมาะสมตามระดับภาษา เขยี นคำขวญั คำคม คำอวยพรในโอกาสต่าง ๆ โฆษณา คตพิ จน์ สนุ ทรพจน์ ชวี ประวัติ อัตชีวประวัติ และประสบการณ์ต่าง ๆ เขียนย่อความ จดหมายกิจธุระ แบบกรอกสมัครงาน เขียนวิเคราะห์ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๑๕ วิจารณ์ และแสดงความรคู้ วามคิดหรือโตแ้ ย้งอยา่ งมเี หตุผล ตลอดจนเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า และเขยี นโครงงาน ๓. พูดแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินสิ่งที่ได้จากการฟังและดู นำข้อคิดไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็น ระบบ มีศลิ ปะในการพูด พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ และพดู โนม้ น้าวอย่างมีเหตุผล น่าเชือ่ ถอื รวมท้งั มมี ารยาทในการฟงั ดู และพดู ๔. เข้าใจและใช้คำราชาศัพท์ คำบาลีสันสกฤต คำภาษาต่างประเทศอื่น ๆ คำทับศัพท์ และศัพทบ์ ญั ญัตใิ นภาษาไทย วเิ คราะห์ความแตกต่างในภาษาพูด ภาษาเขียน โครงสรา้ งของประโยค รวม ประโยคซอ้ น ลักษณะภาษาท่ีเป็นทางการ ก่ึงทางการและไมเ่ ป็นทางการ และแต่งบทร้อยกรอง ประเภทกลอนสุภาพ กาพย์ และโคลงสี่สภุ าพ ๕. สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน วิเคราะห์ตัวละครสำคัญ วิถีชีวิตไทย และ คุณค่าที่ได้รับจากวรรณคดีวรรณกรรมและบทอาขยาน พร้อมทั้งสรุปความรู้ข้อคิดเพื่อนำไป ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ จบชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๑. อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทำนองเสนาะได้ถูกต้องและ เข้าใจ ตีความ แปลความ และขยายความเรื่องที่อา่ นได้ วิเคราะห์วิจารณ์เร่ืองที่อ่าน แสดงความ คิดเห็นโต้แย้งและเสนอความคิดใหม่จากการอ่านอย่างมีเหตุผล คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ี อ่าน เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความ และเขียนรายงานจากสิ่งที่อ่าน สังเคราะห์ ประเมินค่า และนำความรู้ความคิดจากการอ่านมาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และ พัฒนาความรู้ทางอาชีพ และ นำความรู้ความคิดไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต มี มารยาทและมนี ิสยั รกั การอ่าน ๒. เขียนสอ่ื สารในรปู แบบตา่ ง ๆ โดยใช้ภาษาได้ถกู ต้องตรงตามวตั ถุประสงค์ ย่อความจากสื่อ ที่มีรูปแบบและเนื้อหาท่ีหลากหลาย เรียงความแสดงแนวคิดเชิงสร้างสรรคโ์ ดยใชโ้ วหารต่าง ๆ เขียน บันทึก รายงานการศึกษาค้นคว้าตามหลักการเขียนทางวิชาการ ใช้ข้อมูลสารสนเทศในการ อ้างอิง ผลิตผลงานของตนเองในรูปแบบต่างๆ ทั้งสารคดีและบันเทิงคดี รวมทั้งประเมินงานเขียน ของผอู้ ืน่ และนำมาพัฒนางานเขียนของตนเอง ๓. ตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเร่ืองทฟี่ งั และดู มีวิจารณญาณในการเลือกเรื่อง ที่ฟังและดู วิเคราะห์วัตถุประสงค์ แนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเชื่อถือของเรื่องที่ฟังและ ดู ประเมินสิ่งทีฟ่ งั และดูแลว้ นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ิต มที ักษะการพดู ในโอกาสต่าง ๆ ท้ังท่ี เป็นทางการและไม่เป็นทางการโดยใช้ภาษาท่ีถูกต้อง พูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าว และเสนอ แนวคิดใหม่อย่างมเี หตุผล รวมท้งั มีมารยาทในการฟัง ดู และพดู ๔. เข้าใจธรรมชาติของภาษา อิทธิพลของภาษา และลักษณะของภาษาไทย ใช้คำและ กลุ่มคำสร้างประโยคได้ตรงตามวัตถุประสงค์ แต่งคำประพันธ์ประเภท กาพย์ โคลง ร่ายและ ฉนั ท์ ใช้ภาษาไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะและใช้คำราชาศัพท์และคำสภุ าพได้อย่างถูกตอ้ ง วิเคราะห์ หลกั การ สรา้ งคำในภาษาไทย อทิ ธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยและภาษาถน่ิ หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๑๖ ๕. วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์วรรณคดีเบื้องต้น รู้และ เข้าใจลกั ษณะเด่นของวรรณคดี ภูมิปญั ญาทางภาษาและวรรณกรรมพ้ืนบา้ น เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ ทางประวัติศาสตร์และวิถีไทย ประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ และนำข้อคิดจากวรรณคดีและ วรรณกรรมไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ รายวชิ าเพ่มิ เติม จบชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ๑. ตั้งประเด็นปญั หา โดยเลอื กประเด็นที่สนใจ เร่มิ จากตนเอง ชุมชนทอ้ งถน่ิ ประเทศได้ ๒. ต้งั สมมตฐิ านประเดน็ ปัญหาที่ตนเองสนใจได้ ๓. ออกแบบ วางแผน โดยใชก้ ระบวนการรวมรวมข้อมลู อยา่ งมีประสิทธภิ าพได้ ๔. ศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรเู้ ก่ียวกับประเดน็ ท่เี ลอื กจากแหลง่ เรียนรู้ทห่ี ลากหลายได้ ๕. ตรวจสอบความน่าเชือ่ ถอื ของแหลง่ ทม่ี าขอ้ มลู ได้ ๖. วเิ คราะหข์ ้อคน้ พบด้วยวธิ กี ารท่เี หมาะสมได้ ๗. สังเคราะห์ สรุปองค์ความร้ดู ว้ ยกระบวนการกลุม่ ได้ ๘. นำเสนอแนวคิดการแก้ปญั หาอย่างเปน็ ระบบดว้ ยองค์ความร้จู ากการค้นพบได้ ๙. บอกประโยชน์และคุณคา่ ของการศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองได้ ๑๐.บอกประโยชนแ์ ละคุณค่าในการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสงิ่ ทเ่ี รยี นรู้แก่สาธารณะได้ ๑๑.วางโครงร่างการเขยี นตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขยี นโครงร่างได้ ๑๒.เขยี นรายงานการศกึ ษาค้นควา้ เชงิ วิชาการภาษาไทย ความยาว ๒,๕๐๐ คำได้ ๑๓.นำเสนอข้อค้นพบ ขอ้ สรปุ จากประเด็นทเี่ ลือกในรูปแบบเดย่ี ว หรือกลุม่ ๑๔.ใช้ส่ือ อุปกรณ์ในการนำเสนออยา่ งเหมาะสมได้ ๑๕.เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะได้ หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๑๗ ตัวชีว้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระที่ ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาใน การดำเนนิ ชีวิต และมนี ิสยั รักการอ่าน ช้นั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๑ ๑. อ่านออกเสยี งคำ คำคล้องจอง และ การอา่ นออกเสยี งและบอกความหมายของคำ ขอ้ ความสนั้ ๆ คำคลอ้ งจอง และข้อความที่ประกอบด้วย ๒. บอกความหมายของคำ และ คำพน้ื ฐาน คอื คำท่ใี ชใ้ นชีวติ ประจำวัน ข้อความทอี่ า่ น ไม่นอ้ ยกวา่ ๖๐๐ คำ รวมทง้ั คำที่ใช้เรียนรู้ ใน กลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ ประกอบดว้ ย - คำท่มี ีรูปวรรณยุกตแ์ ละไม่มรี ูปวรรณยกุ ต์ - คำท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรง ตามมาตรา - คำทม่ี พี ยัญชนะควบกลำ้ - คำที่มีอกั ษรนำ ๓. ตอบคำถามเกย่ี วกับเรื่องที่อา่ น การอ่านจับใจความจากสื่อตา่ งๆ เช่น ๔. เลา่ เร่อื งยอ่ จากเรอื่ งทอี่ า่ น - นิทาน ๕. คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรือ่ งทีอ่ า่ น - เร่อื งส้นั ๆ - บทรอ้ งเลน่ และบทเพลง - เรื่องราวจากบทเรยี นในกลมุ่ สาระการ เรยี นร้ภู าษาไทยและกลุ่มสาระการเรยี นรู้ อน่ื ๖. อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ การอ่านหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น อย่างสมำ่ เสมอและนำเสนอเรอ่ื งที่ - หนังสอื ท่นี ักเรียนสนใจและเหมาะสมกับวยั อ่าน - หนงั สือทค่ี รูและนักเรยี นกำหนดร่วมกนั ๗. บอกความหมายของเครอื่ งหมาย การอ่านเครือ่ งหมายหรือสญั ลักษณ์ หรอื สัญลกั ษณ์สำคัญทีม่ กั พบเหน็ ใน ประกอบดว้ ย ชวี ติ ประจำวัน - เครื่องหมายสญั ลักษณต์ า่ งๆ ทพี่ บเหน็ ใน ชีวติ ประจำวนั - เครื่องหมายแสดงความปลอดภัยและแสดง อันตราย ๘. มีมารยาท ในการอา่ น มารยาทในการอา่ น เชน่ - ไม่อ่านเสยี งดังรบกวนผู้อน่ื - ไม่เล่นกันขณะทอ่ี ่าน - ไม่ทำลายหนังสอื หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๑๘ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๒ ๑. อ่านออกเสยี งคำ คำคลอ้ งจอง การอา่ นออกเสยี งและการบอกวามหมายของคำ ข้อความ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ คำคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทรอ้ ยกรอง ไดถ้ กู ต้อง ง่ายๆ ทป่ี ระกอบดว้ ยคำพ้นื ฐานเพิ่มจาก ๒. อธบิ ายความหมายของคำและ ป. ๑ ไม่น้อยกว่า ๘๐๐ คำ รวมทัง้ คำท่ีใช้ ขอ้ ความทอ่ี า่ น เรียนรู้ในกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ ประกอบด้วย - คำทม่ี ีรปู วรรณยุกตแ์ ละไมม่ รี ปู วรรณยกุ ต์ - คำท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรง ตามมาตรา - คำที่มีพยญั ชนะควบกลำ้ - คำท่มี ีอักษรนำ - คำทม่ี ีตัวการันต์ - คำทีม่ ี รร - คำท่มี ีพยญั ชนะและสระท่ีไม่ออกเสยี ง ๓. ตง้ั คำถามและตอบคำถามเกยี่ วกบั การอ่านจับใจความจากส่ือตา่ งๆ เช่น เรอื่ งท่ีอ่าน - นทิ าน ๔. ระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ด - เรือ่ งเลา่ สนั้ ๆ จากเรือ่ งทีอ่ ่าน - บทเพลงและบทรอ้ ยกรองง่ายๆ ๕. แสดงความคดิ เหน็ และคาดคะเน - เรอื่ งราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการ เหตกุ ารณ์จากเรือ่ งท่ีอา่ น เรียนรู้ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรู้ อ่ืน - ขา่ วและเหตุการณ์ประจำวัน ๖. อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจอยา่ ง การอ่านหนงั สือตามความสนใจ เช่น สมำ่ เสมอและนำเสนอเร่ืองทอ่ี า่ น - หนงั สอื ทนี่ ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกบั วัย - หนังสอื ทคี่ รูและนักเรยี นกำหนดรว่ มกนั ๗. อา่ นข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏบิ ัติ การอา่ นข้อเขยี นเชงิ อธบิ าย และปฏบิ ัติตาม ตามคำสง่ั หรอื ขอ้ แนะนำ คำสั่งหรือขอ้ แนะนำ - การใช้สถานที่สาธารณะ - คำแนะนำการใช้เครอ่ื งใชท้ ่ีจำเป็นในบา้ น และในโรงเรยี น ๘. มมี ารยาทในการอ่าน มารยาทในการอา่ น เช่น - ไมอ่ า่ นเสยี งดงั รบกวนผู้อ่ืน - ไมเ่ ล่นกนั ขณะทีอ่ ่าน - ไมท่ ำลายหนังสอื หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๑๙ ช้นั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๓ ๑. อา่ นออกเสยี งคำ ข้อความ เรอ่ื ง - ไมค่ วรแย่งอ่านหรอื ชะโงกหน้าไปอา่ นขณะที่ สน้ั ๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ ผูอ้ น่ื กำลังอา่ นอยู่ ถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคล่ว การอา่ นออกเสียงและการบอกความหมายของ ๒. อธิบายความหมายของคำและ คำ คำคลอ้ งจอง ขอ้ ความ และบทร้อยกรอง ขอ้ ความที่อา่ น ง่ายๆ ท่ปี ระกอบดว้ ยคำพ้ืนฐานเพม่ิ จาก ป.๒ ไมน่ ้อยกว่า ๑,๒๐๐ คำ รวมท้งั คำที่เรยี นรู้ใน กล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ื่น ประกอบด้วย - คำทีม่ ีตวั การนั ต์ - คำท่ีมี รร - คำทม่ี ีพยญั ชนะและสระไมอ่ อกเสยี ง - คำพ้อง - คำพเิ ศษอ่นื ๆ เช่น คำที่ใช้ ฑ ฤ ฤๅ ๓. ต้งั คำถามและตอบคำถามเชงิ การอา่ นจับใจความจากสอื่ ตา่ งๆ เชน่ เหตผุ ลเกีย่ วกบั เร่ืองทอ่ี า่ น - นิทานหรอื เรื่องเกีย่ วกบั ท้องถ่นิ - เรื่องเลา่ ส้ันๆ ๔. ลำดับเหตกุ ารณ์และคาดคะเน - บทเพลงและบทร้อยกรอง เหตุการณจ์ ากเรอื่ งทอ่ี ่านโดยระบุ - บทเรียนในกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ่ืน เหตุผลประกอบ - ข่าวและเหตุการณใ์ นชวี ิตประจำวันใน ทอ้ งถ่นิ และชุมชน ๕. สรปุ ความร้แู ละขอ้ คดิ จากเรอ่ื งที่ อ่านเพื่อนำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั การอ่านหนงั สือตามความสนใจ เช่น - หนังสือท่ีนกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั ๖. อา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ - หนงั สือที่ครูและนักเรียนกำหนดรว่ มกนั อย่างสม่ำเสมอและนำเสนอเรอ่ื งท่ี อา่ น การอ่านขอ้ เขยี นเชงิ อธิบาย และปฏบิ ัติตาม คำสั่งหรือข้อแนะนำ ๗. อ่านขอ้ เขยี นเชิงอธบิ ายและปฏิบัติ - คำแนะนำต่างๆ ในชวี ติ ประจำวนั ตามคำสัง่ หรือข้อแนะนำ - ประกาศ ป้ายโฆษณา และคำขวญั ๘. อธบิ ายความหมายของขอ้ มูลจาก การอ่านข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ แผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ มารยาทในการอา่ น เชน่ ๙. มีมารยาทในการอ่าน - ไมอ่ า่ นเสยี งดงั รบกวนผอู้ ืน่ - ไมเ่ ล่นกนั ขณะทอี่ า่ น - ไมท่ ำลายหนงั สือ - ไมค่ วรแยง่ อ่านหรอื ชะโงกหน้าไปอ่าน ขณะท่ผี อู้ น่ื กำลังอ่าน หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๒๐ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๔ ๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและ การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมายของ บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง บทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองทีป่ ระกอบด้วย ๒. อธิบายความหมายของคำ ประโยค - คำท่มี ี ร ล เปน็ พยัญชนะต้น และสำนวนจากเรอ่ื งท่ีอา่ น - คำที่มพี ยญั ชนะควบกล้ำ - คำท่มี อี ักษรนำ - คำประสม - อกั ษรย่อและเคร่อื งหมายวรรคตอน - ประโยคทมี่ ีสำนวนเป็นคำพงั เพย สุภาษิต ปรศิ นาคำทาย และเครื่องหมายวรรคตอน การอ่านบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ ๓. อ่านเรื่องสั้นๆ ตามเวลาท่กี ำหนด การอา่ นจบั ใจความจากสือ่ ต่างๆ เช่น และตอบคำถามจากเรือ่ งทอ่ี า่ น - เร่ืองส้ัน ๆ ๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ - เรื่องเลา่ จากประสบการณ์ จากเร่อื งทอ่ี า่ น - นทิ านชาดก ๕. คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรอื่ งทีอ่ ่าน - บทความ โดยระบเุ หตผุ ลประกอบ - บทโฆษณา ๖. สรปุ ความร้แู ละขอ้ คดิ จากเรือ่ งที - งานเขียนประเภทโนม้ น้าวใจ อา่ นเพื่อนำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั - ข่าวและเหตกุ ารณ์ประจำวนั - สารคดีและบันเทิงคดี ๗. อ่านหนงั สอื ทม่ี ีคุณค่าตามความ การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ เช่น สนใจอย่างสม่ำเสมอและแสดงความ - หนังสอื ที่นกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวัย คดิ เห็นเกยี่ วกับเรอ่ื งทอ่ี า่ น - หนงั สอื ทคี่ รแู ละนกั เรยี นกำหนดรว่ มกนั ๘. มมี ารยาทในการอา่ น มารยาทในการอา่ น ป.๕ ๑. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และ การอ่านออกเสยี งและการบอกความหมายของ บทรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง บทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองท่ปี ระกอบด้วย ๒. อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค - คำท่ีมีพยัญชนะควบกล้ำ และขอ้ ความท่ีเปน็ การบรรยาย - คำท่มี อี กั ษรนำ และการพรรณนา - คำทีม่ ตี วั การันต์ ๓. อธิบายความหมายโดยนัย จาก - อักษรย่อและเครื่องหมายวรรคตอน เรื่องทอี่ ่านอย่างหลากหลาย - ขอ้ ความท่เี ปน็ การบรรยายและพรรณนา - ข้อความทีม่ ีความหมายโดยนยั การอ่านบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๒๑ ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๔. แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ จาก การอา่ นจบั ใจความจากส่ือตา่ งๆ เชน่ เรอื่ งทอ่ี ่าน - วรรณคดใี นบทเรียน ๕. วเิ คราะห์และแสดงความคดิ เห็น - บทความ เกย่ี วกับเร่อื งท่อี า่ นเพอื่ นำไปใช้ - บทโฆษณา ในการดำเนนิ ชีวติ - งานเขียนประเภทโน้มนา้ วใจ - ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจำวัน ๖. อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คำสงั่ การอา่ นงานเขยี นเชงิ อธิบาย คำส่ัง ข้อแนะนำ ขอ้ แนะนำ และปฏิบัตติ าม และปฏิบัติตาม เชน่ - การใชพ้ จนานุกรม - การใช้วัสดอุ ุปกรณ์ - การอ่านฉลากยา - ค่มู ือและเอกสารของโรงเรยี นทีเ่ กี่ยวข้องกับ นกั เรียน - ข่าวสารทางราชการ ๗. อา่ นหนังสอื ทม่ี คี ุณค่าตามความ การอา่ นหนังสือตามความสนใจ เชน่ สนใจอยา่ งสมำ่ เสมอและแสดง - หนงั สือท่ีนกั เรยี นสนใจและเหมาะสมกับวยั ความคิดเห็นเกย่ี วกบั เรอ่ื งทอ่ี ่าน - หนงั สอื ท่คี รูและนักเรียนกำหนดรว่ มกนั ๘. มมี ารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน ป.๖ ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และ การอ่านออกเสียงและการบอกความหมายของ บทร้อยกรองได้ถูกต้อง บทรอ้ ยแก้ว และบทรอ้ ยกรอง ประกอบด้วย ๒. อธิบายความหมายของคำ ประโยค - คำทมี่ ีพยญั ชนะควบกล้ำ และขอ้ ความที่เป็นโวหาร - คำที่มอี กั ษรนำ - คำท่มี ีตวั การันต์ - คำท่มี าจากภาษาต่างประเทศ - อกั ษรยอ่ และเครือ่ งหมายวรรคตอน - วนั เดือน ปแี บบไทย - ข้อความท่ีเปน็ โวหารตา่ งๆ - สำนวนเปรียบเทยี บ การอ่านบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ ๓. อ่านเร่ืองสัน้ ๆ อยา่ งหลากหลาย การอา่ นจับใจความจากสื่อต่างๆ เช่น โดยจบั เวลาแลว้ ถามเกยี่ วกบั เรื่องที่ - เรอื่ งสัน้ ๆ อ่าน - นทิ านและเพลงพืน้ บา้ น - บทความ หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๒๒ ชน้ั ตัวชี้วัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ๔. แยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นจาก เร่อื งที่อ่าน ๕. อธิบายการนำความรแู้ ละความคดิ - พระบรมราโชวาท จากเร่ืองทอ่ี ่านไปตดั สินใจแกป้ ญั หา - สารคดี ในการดำเนินชวี ติ - เรือ่ งส้ัน - งานเขยี นประเภทโน้มนา้ ว - บทโฆษณา - ข่าว และเหตกุ ารณ์สำคัญ การอา่ นเร็ว ๖. อ่านงานเขียนเชงิ อธบิ าย คำส่งั การอ่านงานเขียนเชงิ อธบิ าย คำส่งั ข้อแนะนำ ข้อแนะนำ และปฏิบัตติ าม และปฏบิ ตั ติ าม - การใชพ้ จนานุกรม - การปฏิบตั ิตนในการอยู่รว่ มกันในสังคม - ข้อตกลงในการอยู่ร่วมกนั ในโรงเรียน และ การใช้สถานท่ีสาธารณะในชมุ ชนและ ทอ้ งถ่ิน ๗. อธิบายความหมายของข้อมูล จาก การอา่ นข้อมลู จากแผนผัง แผนที่ แผนภมู ิ และ การอา่ นแผนผัง แผนท่ี แผนภูมิ กราฟ และกราฟ ๘. อา่ นหนังสอื ตามความสนใจ และ การอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ เช่น อธิบายคณุ ค่าที่ไดร้ บั - หนังสือที่นกั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวยั - หนงั สืออ่านทีค่ รูและนกั เรยี นกำหนด ร่วมกัน ๙. มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการอา่ น ม.๑ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และ การอ่านออกเสยี ง ประกอบด้วย บทรอ้ ยกรองได้ถกู ตอ้ งเหมาะสมกบั - บทรอ้ ยแกว้ ที่เปน็ บทบรรยาย เรื่องทีอ่ ่าน - บทร้อยกรอง เชน่ กลอนสภุ าพ กลอนสกั วา กาพยย์ านี ๑๑ กาพย์ฉบงั ๑๖ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ และโคลงส่ีสุภาพ ๒. จบั ใจความสำคัญจากเรื่องทอ่ี ่าน การอา่ นจบั ใจความจากส่ือต่างๆ เช่น ๓. ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจรงิ กับ - เรือ่ งเล่าจากประสบการณ์ ข้อคดิ เห็นจากเรื่องท่อี ่าน - เรื่องสั้น หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๒๓ ชั้น ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๔. ระบุและอธิบายคำเปรียบเทียบ - บทสนทนา และคำที่มีหลายความหมายใน - นทิ านชาดก บริบทตา่ งๆ จากการอ่าน - วรรณคดใี นบทเรยี น ๕. ตคี วามคำยากในเอกสารวชิ าการ - งานเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ โดยพิจารณาจากบริบท - บทความ ๖. ระบขุ ้อสงั เกตและความ - สารคดี สมเหตุสมผลของงานเขยี นประเภท - บนั เทงิ คดี ชกั จูง โน้มน้าวใจ - เอกสารทางวชิ าการที่มีคำ ประโยค และ ขอ้ ความทีต่ ้องใชบ้ รบิ ทช่วยพจิ ารณา ความหมาย - งานเขียนประเภทชักจงู โนม้ นา้ วใจเชงิ สร้างสรรค์ ๗. ปฏบิ ตั ติ ามคูม่ อื แนะนำวธิ กี ารใช้ การอา่ นและปฏบิ ตั ติ ามเอกสารคูม่ อื งาน ของเคร่อื งมือหรือเครื่องใชใ้ น ระดับที่ยากขึ้น ๘. วเิ คราะห์คุณค่าทไี่ ด้รบั จากการอ่าน การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ เชน่ งานเขยี นอยา่ งหลากหลายเพ่อื - หนงั สอื ทน่ี กั เรียนสนใจและเหมาะสมกับวยั นำไปใช้แกป้ ญั หาในชวี ติ - หนังสอื อา่ นท่ีครแู ละนกั เรยี นกำหนด ร่วมกัน ๙. มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการอ่าน ม.๒ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว และ การอ่านออกเสียง ประกอบดว้ ย บทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ ง - บทร้อยแกว้ ทเี่ ป็นบทบรรยายและบท พรรณนา - บทรอ้ ยกรอง เชน่ กลอนบทละคร กลอน นิทาน กลอนเพลงยาว และกาพย์หอ่ โคลง ๒. จับใจความสำคัญ สรปุ ความ และ การอา่ นจบั ใจความจากสอื่ ตา่ งๆ เช่น อธบิ ายรายละเอียดจากเรื่องทอ่ี ่าน - วรรณคดใี นบทเรยี น ๓. เขียนผงั ความคิดเพือ่ แสดงความ - บทความ เข้าใจในบทเรยี นตา่ งๆ ท่อี ่าน - บนั ทึกเหตกุ ารณ์ ๔. อภิปรายแสดงความคดิ เห็น และ - บทสนทนา ขอ้ โตแ้ ย้งเกย่ี วกับเร่อื งที่อ่าน - บทโฆษณา ๕. วเิ คราะห์และจำแนกข้อเท็จจรงิ - งานเขยี นประเภทโน้มนา้ วใจ ข้อมูลสนบั สนนุ และข้อคิดเหน็ จาก - งานเขยี นหรือบทความแสดงขอ้ เท็จจริง บทความทอี่ า่ น หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๒๔ ชนั้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๖. ระบุข้อสงั เกตการชวนเชื่อ การ - เรือ่ งราวจากบทเรยี นในกลมุ่ สาระการ โน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผล เรยี นรู้ภาษาไทย และกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ของงานเขยี น อื่น ม.๓ ๗. อา่ นหนงั สอื บทความ หรือคำ การอ่านตามความสนใจ เช่น ประพันธ์อยา่ งหลากหลาย และ - หนังสืออ่านนอกเวลา ประเมินคณุ คา่ หรือแนวคดิ ทีไ่ ด้จาก - หนังสือทนี่ ักเรยี นสนใจและเหมาะสมกับวัย การอ่าน เพือ่ นำไปใชแ้ กป้ ัญหาใน - หนงั สอื อา่ นทีค่ รแู ละนกั เรียนกำหนด ชวี ติ ร่วมกนั ๘. มีมารยาทในการอา่ น มารยาทในการอา่ น ๑. อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และ การอ่านออกเสยี ง ประกอบด้วย บทร้อยกรองได้ถกู ต้องและ - บทร้อยแกว้ ที่เปน็ บทความทัว่ ไปและ เหมาะสมกบั เร่ืองที่อา่ น บทความปกิณกะ - บทรอ้ ยกรอง เช่น กลอนบทละคร กลอน เสภา กาพย์ยานี ๑๑ กาพยฉ์ บัง ๑๖ และ โคลงสสี่ ุภาพ ๒. ระบุความแตกต่างของคำที่มี การอ่านจับใจความจากส่ือตา่ งๆ เชน่ ความหมายโดยตรงและความหมาย - วรรณคดใี นบทเรียน โดยนยั - ข่าวและเหตกุ ารณ์สำคัญ ๓. ระบุใจความสำคญั และรายละเอียด - บทความ ของข้อมูลทส่ี นบั สนนุ จากเรอื่ งท่ี - บนั เทงิ คดี อา่ น - สารคดี ๔. อา่ นเรอ่ื งต่างๆ แลว้ เขียนกรอบ - สารคดเี ชงิ ประวัติ แนวคดิ ผังความคดิ บนั ทึก ยอ่ - ตำนาน ความและรายงาน - งานเขียนเชิงสรา้ งสรรค์ ๕. วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมนิ เรอ่ื ง - เรอื่ งราวจากบทเรยี นในกลุ่มสาระการ ทอี่ า่ นโดยใช้กลวธิ ีการเปรยี บเทยี บ เรยี นรู้ภาษาไทย และกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื เพอื่ ใหผ้ อู้ ่านเข้าใจไดด้ ีข้ึน ๖. ประเมินความถกู ตอ้ งของขอ้ มลู ทีใ่ ช้สนับสนุนในเรอื่ งทอี่ า่ น ๗. วจิ ารณ์ความสมเหตุสมผล การ ลำดับความ และความเป็นไปไดข้ อง เรอ่ื ง หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๒๕ ชนั้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๘. วิเคราะห์เพ่อื แสดงความคิดเห็น โตแ้ ย้งเกี่ยวกบั เร่ืองท่อี ่าน ๙. ตคี วามและประเมินคณุ ค่า และ การอา่ นตามความสนใจ เชน่ แนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขียนอยา่ ง - หนังสืออา่ นนอกเวลา หลากหลายเพ่อื นำไปใชแ้ กป้ ัญหา - หนงั สืออ่านตามความสนใจและตามวยั ของ ในชีวิต นกั เรยี น - หนงั สืออา่ นท่คี รูและนักเรียนรว่ มกัน กำหนด ม.๔-ม.๖ ๑๐. มมี ารยาทในการอา่ น มารยาทในการอ่าน ๑. อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และ การอา่ นออกเสียง ประกอบดว้ ย บทร้อยกรองได้อย่างถกู ตอ้ ง - บทรอ้ ยแก้วประเภทต่างๆ เชน่ บทความ ไพเราะ และเหมาะสมกบั เรอ่ื งท่ี นวนิยาย และความเรยี ง อ่าน - บทร้อยกรอง เชน่ โคลง ฉนั ท์ กาพย์ กลอน ร่าย และลิลิต ๒. ตคี วาม แปลความ และขยายความ การอา่ นจบั ใจความจากส่ือต่างๆ เช่น เรือ่ งทอ่ี า่ น - ขา่ วสารจากสอ่ื สง่ิ พิมพ์ ส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ๓. วิเคราะห์และวจิ ารณเ์ ร่อื งที่อ่าน และแหลง่ เรยี นรูต้ ่าง ๆ ในชุมชน ในทุกๆ ดา้ นอยา่ งมีเหตุผล - บทความ ๔. คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องทอ่ี า่ น - นิทาน และประเมนิ ค่าเพอื่ นำความรู้ - เรอื่ งส้ัน ความคดิ ไปใช้ตดั สินใจแก้ปญั หาใน - นวนิยาย การดำเนนิ ชวี ติ - วรรณกรรมพน้ื บ้าน ๕. วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความ - วรรณคดีในบทเรยี น คิดเห็นโต้แย้งกับเร่อื งทอี่ า่ น และ - บทโฆษณา เสนอความคิดใหม่อยา่ งมเี หตุผล - สารคดี ๖. ตอบคำถามจากการอา่ นประเภท - บันเทงิ คดี ต่างๆ ภายในเวลาที่กำหนด - ปาฐกถา ๗. อ่านเรื่องต่างๆ แลว้ เขียนกรอบ - พระบรมราโชวาท แนวคิดผงั ความคิด บนั ทกึ ย่อความ - เทศนา และรายงาน - คำบรรยาย ๘. สังเคราะหค์ วามรจู้ ากการอ่าน - คำสอน สอ่ื สง่ิ พิมพ์ สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์และ - บทร้อยกรองร่วมสมัย แหล่งเรียนร้ตู า่ งๆ มาพัฒนาตน - บทเพลง หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๒๖ ชัน้ ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง พัฒนาการเรยี น และพฒั นาความรู้ - บทอาเศียรวาท ทางอาชพี - คำขวัญ ๙. มมี ารยาทในการอ่าน มารยาทในการอ่าน สาระท่ี ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นสือ่ สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรือ่ งราวใน รปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นคว้าอย่าง มีประสทิ ธิภาพ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั การคดั ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรูปแบบ การเขียนตวั อกั ษรไทย ๒. เขียนสื่อสารดว้ ยคำและประโยค การเขยี นสือ่ สาร งา่ ยๆ - คำทใี่ ช้ในชวี ิตประจำวนั - คำพนื้ ฐานในบทเรียน - คำคลอ้ งจอง - ประโยคงา่ ยๆ ๓. มีมารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน เชน่ - เขียนใหอ้ า่ นงา่ ย สะอาด ไมข่ ดี ฆ่า - ไมข่ ีดเขยี นในท่ีสาธารณะ - ใช้ภาษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี และบคุ คล ป.๒ ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั ตามรปู แบบ การเขยี นตัวอกั ษรไทย ๒. เขยี นเร่อื งส้นั ๆ เกยี่ วกบั การเขียนเรอ่ื งสั้นๆ เกย่ี วกับประสบการณ์ ประสบการณ์ ๓. เขียนเรอ่ื งสนั้ ๆ ตามจนิ ตนาการ การเขียนเรอ่ื งสนั้ ๆ ตามจินตนาการ ๔. มีมารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน เช่น - เขยี นใหอ้ า่ นง่าย สะอาด ไม่ขดี ฆา่ - ไมข่ ีดเขียนในที่สาธารณะ - ใช้ภาษาเขียนเหมาะสมกับเวลา สถานท่ี และบุคคล - ไม่เขียนลอ้ เลยี นผอู้ ่นื หรอื ทำให้ผ้อู ่ืน เสียหาย หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๒๗ ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๓ ๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัด การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดตามรปู แบบ การเขียน ตวั อกั ษรไทย ๒ เขียนบรรยายเก่ียวกบั สิ่งใดส่งิ หนึง่ การเขียนบรรยายเกี่ยวกับลักษณะของ คน สัตว์ ไดอ้ ย่างชดั เจน ส่ิงของ สถานท่ี ๓. เขียนบนั ทกึ ประจำวัน การเขยี นบันทกึ ประจำวัน ๔. เขยี นจดหมายลาครู การเขียนจดหมายลาครู ๕. เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ การเขียนเร่ืองตามจินตนาการจากคำ ภาพ และหัวขอ้ ที่กำหนด ๖. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขยี น เชน่ - เขยี นใหอ้ า่ นงา่ ย สะอาด ไม่ขีดฆ่า - ไมข่ ดี เขียนในที่สาธารณะ - ใชภ้ าษาเขียนเหมาะสมกบั เวลา สถานที่ และบคุ คล - ไม่เขยี นล้อเลียนผู้อ่นื หรอื ทำให้ผูอ้ ่นื เสยี หาย ป.๔ ๑. คัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดและ การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั ครง่ึ บรรทัด ตามรปู แบบการเขยี นตัวอกั ษรไทย ๒. เขียนสือ่ สารโดยใช้คำไดถ้ ูกตอ้ ง การเขียนส่อื สาร เช่น ชัดเจน และเหมาะสม - คำขวญั - คำแนะนำ ๓. เขียนแผนภาพโครงเร่อื งและ การนำแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคิด แผนภาพความคิดเพ่อื ใช้พัฒนางาน ไปพัฒนางานเขียน เขียน ๔. เขียนยอ่ ความจากเร่ืองส้ันๆ การเขยี นย่อความจากสอ่ื ต่างๆ เชน่ นทิ าน ความเรยี งประเภทตา่ งๆ ประกาศ จดหมาย คำสอน ๕. เขียนจดหมายถงึ เพื่อนและบิดา การเขียนจดหมายถงึ เพือ่ นและบิดามารดา มารดา ๖. เขยี นบนั ทกึ และเขยี นรายงานจาก การเขียนบันทกึ และเขยี นรายงานจากการศกึ ษา การศกึ ษาค้นควา้ ค้นควา้ ๗. เขยี นเรื่องตามจินตนาการ การเขียนเรื่องตามจินตนาการ ๘. มมี ารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๒๘ ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๕ ๑. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั และ และคร่ึงบรรทดั ครงึ่ บรรทัดตามรปู แบบการเขียนตัวอักษรไทย ๒. เขยี นส่ือสารโดยใช้คำได้ถกู ตอ้ ง การเขยี นสือ่ สาร เช่น ชดั เจน และเหมาะสม - คำขวัญ - คำอวยพร - คำแนะนำและคำอธิบายแสดงข้ันตอน ๓. เขยี นแผนภาพโครงเร่อื งและ การนำแผนภาพโครงเรอื่ งและแผนภาพความคิด แผนภาพความคิดเพอ่ื ใช้พฒั นางาน ไปพัฒนางานเขียน เขียน ๔. เขียนย่อความจากเร่อื งทีอ่ ่าน การเขยี นย่อความจากสอ่ื ต่างๆ เช่น นทิ าน ความเรยี งประเภทต่างๆ ประกาศ แจง้ ความ แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำ ปราศรยั ๕. เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและ การเขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ ญาติ ๖. เขียนแสดงความรสู้ ึกและความ การเขยี นแสดงความรสู้ ึกและความคิดเหน็ คิดเห็นไดต้ รงตามเจตนา ๗. กรอกแบบรายการตา่ งๆ การกรอกแบบรายการ - ใบฝากเงนิ และใบถอนเงิน - ธนาณตั ิ - แบบฝากสง่ พสั ดไุ ปรษณยี ภัณฑ์ ๘. เขยี นเรือ่ งตามจินตนาการ การเขียนเรอื่ งตามจนิ ตนาการ ๙. มีมารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขยี น ป.๖ ๑. คดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัด การคดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดและ และครึง่ บรรทัด ครึง่ บรรทัดตามรปู แบบการเขียนตวั อักษรไทย ๒. เขยี นสอื่ สารโดยใช้คำได้ถกู ต้อง การเขียนสอ่ื สาร เชน่ ชัดเจน และเหมาะสม - คำขวัญ - คำอวยพร - ประกาศ ๓. เขียนแผนภาพโครงเรือ่ งและ การเขียนแผนภาพโครงเร่อื งและแผนภาพ แผนภาพความคิดเพอื่ ใชพ้ ฒั นางาน ความคดิ เขียน ๔. เขยี นเรยี งความ การเขียนเรยี งความ ๕. เขยี นย่อความจากเรือ่ งท่อี ่าน การเขยี นยอ่ ความจากสื่อตา่ งๆ เช่น นทิ าน ความเรยี งประเภทต่างๆ ประกาศ แจง้ ความ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๒๙ ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง แถลงการณ์ จดหมาย คำสอน โอวาท คำปราศรัย สนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คำสัง่ ๖. เขยี นจดหมายสว่ นตัว การเขียนจดหมายสว่ นตัว - จดหมายขอโทษ - จดหมายแสดงความขอบคุณ - จดหมายแสดงความเหน็ ใจ - จดหมายแสดงความยินดี ๗. กรอกแบบรายการต่างๆ การกรอกแบบรายการ - แบบคำรอ้ งตา่ งๆ - ใบสมคั รศกึ ษาต่อ - แบบฝากสง่ พสั ดุและไปรษณียภณั ฑ์ ๘. เขียนเรื่องตามจินตนาการและ การเขียนเรื่องตามจนิ ตนาการและสรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ ๙. มีมารยาทในการเขยี น มารยาทในการเขียน ม.๑ ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั การคัดลายมอื ตวั บรรจงครงึ่ บรรทัดตามรูปแบบ การเขยี นตวั อักษรไทย ๒. เขียนสอื่ สารโดยใชถ้ อ้ ยคำถูกต้อง การเขยี นสอ่ื สาร เช่น ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย - การเขยี นแนะนำตนเอง - การเขียนแนะนำสถานท่ีสำคัญๆ - การเขยี นบนสอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ๓. เขยี นบรรยายประสบการณ์โดยระบุ การบรรยายประสบการณ์ สาระสำคัญและรายละเอียด สนบั สนนุ ๔. เขียนเรียงความ การเขียนเรียงความเชงิ พรรณนา ๕. เขยี นยอ่ ความจากเรอื่ งทีอ่ า่ น การเขยี นย่อความจากส่อื ตา่ งๆ เช่น เรื่องสั้น คำสอน โอวาท คำปราศรัย สนุ ทรพจน์ รายงาน ระเบยี บ คำสัง่ บทสนทนาเรอื่ งเล่า ประสบการณ์ ๖. เขียนแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั การเขยี นแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั สาระจาก สาระจากสอ่ื ท่ีไดร้ บั สอื่ ต่างๆ เชน่ - บทความ - หนังสอื อา่ นนอกเวลา - ข่าวและเหตุการณป์ ระจำวัน - เหตกุ ารณส์ ำคัญต่างๆ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๓๐ ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๗. เขียนจดหมายส่วนตัวและจดหมาย การเขยี นจดหมายสว่ นตัว กิจธรุ ะ - จดหมายขอความชว่ ยเหลอื - จดหมายแนะนำ การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ - จดหมายสอบถามข้อมูล ๘. เขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้าและ การเขยี นรายงาน ไดแ้ ก่ โครงงาน - การเขียนรายงานจากการศึกษาค้นควา้ - การเขียนรายงานโครงงาน ๙. มมี ารยาทในการเขียน มารยาทในการเขยี น ม.๒ ๑. คดั ลายมือตัวบรรจงครึง่ บรรทดั การคัดลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรปู แบบ การเขียน ตัวอกั ษรไทย ๒. เขยี นบรรยายและพรรณนา การเขียนบรรยายและพรรณนา ๓. เขียนเรยี งความ ๔. เขยี นยอ่ ความ การเขยี นเรยี งความเกี่ยวกบั ประสบการณ์ ๕. เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ การเขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ต่างๆ เชน่ นิทาน คำสอน บทความทางวชิ าการ บันทกึ ๖. เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ เหตุการณ์ เรอ่ื งราวในบทเรยี นในกลุ่มสาระ การเรยี นรู้อน่ื นิทานชาดก ๗. เขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดง ความรู้ ความคิดเหน็ หรอื โตแ้ ย้ง การเขียนรายงาน ในเร่ืองทอ่ี า่ นอย่างมเี หตุผล - การเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า - การเขียนรายงานโครงงาน ๘. มมี ารยาทในการเขยี น ๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทัด การเขียนจดหมายกิจธุระ - จดหมายเชิญวิทยากร - จดหมายขอความอนุเคราะห์ การเขียนวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเหน็ หรอื โต้แยง้ จากสือ่ ต่างๆ เชน่ - บทความ - บทเพลง - หนังสอื อา่ นนอกเวลา - สารคดี - บนั เทงิ คดี มารยาทในการเขียน การคดั ลายมอื ตัวบรรจงคร่งึ บรรทดั ตามรูปแบบ การเขยี นตัวอักษรไทย หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๓๑ ชัน้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๓ ๒. เขียนข้อความโดยใชถ้ ้อยคำได้ การเขยี นขอ้ ความตามสถานการณแ์ ละโอกาส ถกู ต้องตามระดับภาษา ต่างๆ เช่น - คำอวยพรในโอกาสต่างๆ - คำขวญั - คำคม - โฆษณา - คติพจน์ - สุนทรพจน์ ๓. เขียนชีวประวตั ิหรอื อัตชีวประวัติ การเขยี นอตั ชวี ประวตั ิหรอื ชวี ประวัติ โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเหน็ และ ทัศนคติในเร่อื งตา่ งๆ การเขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น นิทาน ประวตั ิ ตำนาน สารคดีทางวชิ าการ พระราช ๔. เขยี นย่อความ ดำรัส พระบรมราโชวาท จดหมายราชการ ๕. เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ - จดหมายเชิญวิทยากร ๖. เขียนอธิบาย ช้ีแจง แสดงความ - จดหมายขอความอนเุ คราะห์ คดิ เหน็ และโตแ้ ยง้ อยา่ งมเี หตุผล - จดหมายแสดงความขอบคุณ ๗. เขียนวเิ คราะห์ วิจารณ์ และแสดง การเขยี นอธบิ าย ชี้แจง แสดงความคดิ เหน็ และโตแ้ ยง้ ในเรอื่ งต่างๆ ความรู้ ความคดิ เหน็ หรือโตแ้ ย้ง ในเรอื่ งต่างๆ การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แย้งจากสอ่ื ตา่ งๆ เช่น ๘. กรอกแบบสมคั รงานพรอ้ มเขยี น - บทโฆษณา บรรยายเก่ียวกับความร้แู ละทักษะ - บทความทางวิชาการ ของตนเองทเี่ หมาะสมกับงาน การกรอกแบบสมัครงาน ๙. เขยี นรายงานการศึกษาคน้ คว้า และ โครงงาน การเขียนรายงาน ได้แก่ - การเขียนรายงานจากการศกึ ษาค้นควา้ ๑๐. มมี ารยาทในการเขยี น - การเขยี นรายงานโครงงาน มารยาทในการเขยี น หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๓๒ ชั้น ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๔-ม.๖ ๑. เขยี นสื่อสารในรปู แบบตา่ งๆ ได้ การเขียนสอ่ื สารในรูปแบบต่างๆ เชน่ ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษา - อธบิ าย เรียบเรียงถกู ต้อง มีข้อมูล และ - บรรยาย สาระสำคญั ชดั เจน - พรรณนา - แสดงทรรศนะ ๒. เขยี นเรียงความ - โต้แยง้ ๓. เขียนย่อความจากสอ่ื ทีม่ ีรูปแบบ - โน้มน้าว - เชญิ ชวน และเนือ้ หาหลากหลาย - ประกาศ - จดหมายกจิ ธรุ ะ ๔. ผลติ งานเขยี นของตนเองในรปู แบบ - โครงการและรายงานการดำเนนิ โครงการ ตา่ งๆ - รายงานการประชมุ - การกรอกแบบรายการต่างๆ ๕. ประเมินงานเขยี นของผ้อู ่นื แลว้ การเขียนเรยี งความ นำมาพัฒนางานเขยี นของตนเอง การเขียนยอ่ ความจากสื่อตา่ งๆ เชน่ - กวนี พิ นธ์ และวรรณคดี ๖. เขยี นรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ - เร่ืองสั้น สารคดี นวนิยาย บทความทาง เร่อื งท่สี นใจตามหลกั การเขียนเชงิ วชิ าการ และใช้ข้อมูลสารสนเทศ วิชาการ และวรรณกรรมพ้ืนบา้ น อ้างอิงอยา่ งถูกต้อง การเขียนในรูปแบบตา่ งๆ เชน่ ๗. บันทึกการศกึ ษาค้นควา้ เพื่อนำไป - สารคดี พฒั นาตนเองอย่างสม่ำเสมอ - บนั เทงิ คดี การประเมนิ คณุ ค่างานเขียนในดา้ นตา่ งๆ เชน่ ๘. มมี ารยาทในการเขยี น - แนวคดิ ของผเู้ ขยี น - การใช้ถ้อยคำ - การเรยี บเรยี ง - สำนวนโวหาร - กลวิธีในการเขียน การเขียนรายงานเชงิ วชิ าการ การเขียนอา้ งองิ ขอ้ มลู สารสนเทศ การเขียนบนั ทึกความรูจ้ ากแหล่งเรยี นร้ทู ี่ หลากหลาย มารยาทในการเขยี น หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๓๓ สาระท่ี ๓ การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ชั้น ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๑ ๑. ฟังคำแนะนำ คำสง่ั ง่ายๆ และปฏบิ ัติ การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ คำสั่งงา่ ยๆ ตาม ๒. ตอบคำถามและเลา่ เรอ่ื งที่ฟังและดู การจับใจความและพูดแสดงความคิดเหน็ ทั้งทเี่ ป็นความรู้และความบันเทงิ ความร้สู ึกจากเร่ืองทฟ่ี ังและดู ทั้งท่ีเป็นความรู้ ๓. พดู แสดงความคิดเหน็ และความรู้สกึ และความบนั เทิง เชน่ จากเรอ่ื งทีฟ่ งั และดู - เรอื่ งเลา่ และสารคดีสำหรบั เด็ก - นิทาน - การ์ตนู - เร่อื งขบขนั ๔. พูดสื่อสารได้ตามวตั ถปุ ระสงค์ การพดู ส่อื สารในชวี ิตประจำวัน เชน่ - การแนะนำตนเอง - การขอความช่วยเหลือ - การกล่าวคำขอบคุณ - การกลา่ วคำขอโทษ ๕. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟงั เชน่ พดู - ตั้งใจฟงั ตามองผ้พู ดู - ไม่รบกวนผอู้ น่ื ขณะท่ีฟัง - ไม่ควรนำอาหารหรอื เคร่อื งดม่ื ไป รบั ประทานขณะทีฟ่ ัง - ใหเ้ กยี รติผู้พดู ดว้ ยการปรบมือ - ไม่พูดสอดแทรกขณะทฟ่ี ัง มารยาทในการดู เชน่ - ตง้ั ใจดู - ไมส่ ่งเสียงดังหรอื แสดงอาการรบกวนสมาธิ ของผ้อู ื่น มารยาทในการพูด เช่น - ใช้ถ้อยคำและกิรยิ าท่สี ุภาพ เหมาะสมกับ กาลเทศะ - ใช้น้ำเสยี งนมุ่ นวล - ไมพ่ ดู สอดแทรกในขณะทีผ่ ู้อ่นื กำลงั พูด หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๓๔ ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๒ ๑. ฟงั คำแนะนำ คำสง่ั ทีซ่ ับซ้อน และ การฟงั และปฏิบัตติ ามคำแนะนำ คำส่ังท่ีซับซอ้ น ปฏิบัติตาม ๒. เลา่ เรือ่ งทีฟ่ ังและดูทง้ั ที่เป็นความรู้ การจบั ใจความและพูดแสดงความคดิ เห็น และความบนั เทิง ความรสู้ ึกจากเรื่องที่ฟงั และดู ท้ังท่ีเป็นความรู้ ๓. บอกสาระสำคญั ของเรอ่ื งที่ฟังและดู และความบันเทงิ เช่น ๔. ต้งั คำถามและตอบคำถามเกย่ี วกบั - เรือ่ งเล่าและสารคดีสำหรับเด็ก เรอ่ื งทีฟ่ ังและดู - นิทาน การ์ตูน และเร่อื งขบขนั ๕. พูดแสดงความคิดเหน็ และความรสู้ กึ - รายการสำหรบั เดก็ จากเร่ืองทฟี่ ังและดู - ข่าวและเหตุการณ์ประจำวนั - เพลง ๖. พดู สอื่ สารได้ชัดเจนตรงตาม การพดู สือ่ สารในชีวติ ประจำวัน เช่น วัตถปุ ระสงค์ - การแนะนำตนเอง - การขอความชว่ ยเหลือ ๗. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการ พดู - การกล่าวคำขอบคุณ - การกล่าวคำขอโทษ - การพดู ขอร้องในโอกาสตา่ งๆ - การเลา่ ประสบการณใ์ นชวี ิตประจำวนั มารยาทในการฟัง เช่น - ตง้ั ใจฟัง ตามองผูพ้ ูด - ไม่รบกวนผูอ้ นื่ ขณะที่ฟัง - ไม่ควรนำอาหารหรือเครอื่ งดืม่ ไป รับประทานขณะท่ีฟงั - ไมพ่ ูดสอดแทรกขณะทีฟ่ ัง มารยาทในการดู เช่น - ต้ังใจดู - ไม่ส่งเสียงดังหรือแสดงอาการรบกวนสมาธิ ของผู้อ่นื มารยาทในการพดู เช่น - ใช้ถอ้ ยคำและกิรยิ าทส่ี ภุ าพ เหมาะสมกับ กาลเทศะ - ใชน้ ำ้ เสียงนุม่ นวล - ไมพ่ ูดสอดแทรกในขณะท่ีผ้อู น่ื กำลงั พูด - ไม่พดู ล้อเลียนให้ผูอ้ น่ื ได้รับความอบั อาย หรอื เสียหาย หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๓๕ ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๓ ๑. เลา่ รายละเอียดเกยี่ วกบั เรื่องทฟ่ี งั การจับใจความและพูดแสดงความคดิ เห็นและ และดูทัง้ ที่เปน็ ความรู้และความ ความรูส้ กึ จากเรอื่ งที่ฟังและดทู ั้งทีเ่ ปน็ ความรู้ บันเทงิ และความบนั เทงิ เชน่ ๒. บอกสาระสำคัญจากการฟังและการ - เรื่องเล่าและสารคดีสำหรับเด็ก ดู - นทิ าน การ์ตูน เรื่องขบขัน ๓. ตั้งคำถามและตอบคำถามเกยี่ วกบั - รายการสำหรบั เด็ก เร่อื งที่ฟังและดู - ข่าวและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวนั ๔. พูดแสดงความคิดเหน็ และความรูส้ ึก - เพลง จากเรื่องทีฟ่ งั และดู ๕. พดู สือ่ สารได้ชัดเจนตรงตาม การพดู สื่อสารในชีวติ ประจำวัน เช่น วัตถปุ ระสงค์ - การแนะนำตนเอง - การแนะนำสถานที่ในโรงเรยี นและในชุมชน - การแนะนำ/เชิญชวนเกย่ี วกับการปฏิบัตติ น ในดา้ นตา่ งๆ เชน่ การรกั ษาความสะอาด ของร่างกาย - การเลา่ ประสบการณ์ในชวี ิตประจำวนั - การพดู ในโอกาสต่างๆ เชน่ การพูดขอร้อง การพูดทกั ทาย การกลา่ วขอบคุณและขอ โทษ การพดู ปฏิเสธ และการพูดชกั ถาม ๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง เชน่ พดู - ต้ังใจฟงั ตามองผ้พู ูด - ไมร่ บกวนผูอ้ ่นื ขณะทฟี่ งั - ไมค่ วรนำอาหารหรือเคร่ืองดม่ื ไป รบั ประทานขณะท่ีฟงั - ไม่แสดงกิริยาท่ไี มเ่ หมาะสม เช่น โห่ ฮา หาว - ใหเ้ กียรติผู้พดู ด้วยการปรบมือ - ไม่พดู สอดแทรกขณะที่ฟัง มารยาทในการดู เชน่ - ตัง้ ใจดู - ไม่สง่ เสียงดงั หรอื แสดงอาการรบกวนสมาธิ ของผูอ้ ่ืน มารยาทในการพูด เช่น - ใช้ถ้อยคำและกริ ยิ าที่สภุ าพ เหมาะสมกบั กาลเทศะ หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๓๖ ช้นั ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ใชน้ ้ำเสียงนุ่มนวล - ไมพ่ ดู สอดแทรกในขณะที่ผอู้ ืน่ กำลงั พูด - ไม่พูดล้อเลยี นให้ผู้อื่นไดร้ บั ความอับอาย หรอื เสยี หาย ป.๔ ๑. จำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คิดเหน็ การจำแนกขอ้ เท็จจริงและขอ้ คดิ เห็นจากเรอ่ื งที่ จากเรอ่ื งที่ฟงั และดู ฟงั และดู ในชีวติ ประจำวัน ๒. พูดสรปุ ความจากการฟังและดู การจับใจความ และการพูดแสดงความรู้ ๓. พดู แสดงความรู้ ความคดิ เหน็ ความคิดในเรอื่ งทฟี่ ังและดู จากส่ือตา่ งๆ เช่น และความรูส้ ึกเก่ียวกบั เรอ่ื งทฟ่ี งั และ - เรอื่ งเลา่ ดู - บทความสนั้ ๆ ๔. ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล - ขา่ วและเหตกุ ารณ์ประจำวัน จากเรือ่ งที่ฟงั และดู - โฆษณา - สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์ - เรื่องราวจากบทเรียนกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย และกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่นื ๕. รายงานเร่อื งหรอื ประเดน็ ทีศ่ ึกษา การรายงาน เชน่ ค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ - การพดู ลำดบั ขั้นตอนการปฏิบัตงิ าน สนทนา - การพดู ลำดับเหตุการณ์ ๖. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู พูด ป.๕ ๑. พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และ การจบั ใจความ และการพูดแสดงความรู้ ความรูส้ กึ จากเรือ่ งท่ฟี ังและดู ความคดิ ในเร่อื งทฟี่ งั และดู จากส่ือต่างๆ เช่น ๒. ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชิงเหตุผล - เรอื่ งเลา่ จากเรอื่ งท่ีฟังและดู - บทความ ๓. วิเคราะห์ความนา่ เช่อื ถอื จากเรอื่ ง - ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจำวัน ทฟี่ ังและดูอย่างมีเหตุผล - โฆษณา - สื่อส่ืออิเล็กทรอนิกส์ การวเิ คราะหค์ วามน่าเชื่อถือจากเร่อื งท่ฟี งั และดู ในชวี ติ ประจำวัน ๔. พูดรายงานเร่ืองหรือประเดน็ ทศ่ี ึกษา การรายงาน เช่น ค้นคว้าจากการฟงั การดู และการ - การพดู ลำดบั ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิงาน สนทนา - การพดู ลำดับเหตุการณ์ ๕. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด พดู หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๓๗ ชนั้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๖ ๑. พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจ การพูดแสดงความรู้ ความเข้าใจในจดุ ประสงค์ จุดประสงค์ของเรอื่ งทฟี่ ังและดู ของเรื่องทีฟ่ ังและดูจากส่ือต่างๆ ได้แก่ ๒. ตงั้ คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ล - สอ่ื สิ่งพมิ พ์ จากเรอ่ื งที่ฟังและดู - สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ ๓. วเิ คราะห์ความนา่ เช่ือถือจากการฟงั การวเิ คราะห์ความน่าเช่อื ถอื จากการฟังและดู และดูส่อื โฆษณาอย่างมเี หตุผล ส่ือโฆษณา ๔. พดู รายงานเรอ่ื งหรอื ประเดน็ ทีศ่ กึ ษา การรายงาน เช่น ค้นคว้าจากการฟงั การดู และการ - การพดู ลำดบั ข้นั ตอนการปฏิบัติงาน สนทนา - การพูดลำดับเหตุการณ์ ๕. พดู โนม้ นา้ วอย่างมเี หตุผล และ การพูดโน้มน้าวในสถานการณต์ า่ งๆ เช่น นา่ เชือ่ ถือ - การเลอื กตัง้ กรรมการนักเรียน - การรณรงคด์ ้านต่างๆ - การโต้วาที ๖. มีมารยาทในการฟงั การดู และการ มารยาทในการฟงั การดู และการพูด พดู ม.๑ ๑. พูดสรปุ ใจความสำคัญของเร่อื งทฟ่ี ัง การพดู สรปุ ความ พดู แสดงความรู้ ความคดิ และดู อย่างสรา้ งสรรค์จากเร่ืองทีฟ่ ังและดู ๒. เลา่ เร่อื งย่อจากเรือ่ งท่ีฟังและดู การพดู ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของส่อื ท่มี ี ๓. พดู แสดงความคิดเหน็ อย่าง เนือ้ หาโน้มนา้ ว สร้างสรรค์เกย่ี วกบั เร่ืองทฟ่ี ังและดู ๔. ประเมินความน่าเชื่อถอื ของสื่อ ท่มี เี นือ้ หาโนม้ นา้ วใจ ๕. พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นที่ศกึ ษา การพดู รายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ จากแหลง่ คน้ คว้าจากการฟัง การดู และการ เรียนรตู้ า่ งๆ ในชมุ ชน และท้องถ่นิ ของตน สนทนา ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟงั การดู และการพูด พูด ม.๒ ๑. พูดสรปุ ใจความสำคัญของเรื่องที่ฟัง การพูดสรปุ ความจากเร่อื งทฟ่ี งั และดู และดู ๒. วิเคราะห์ข้อเท็จจรงิ ข้อคดิ เห็น การพดู วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์จากเรื่องท่ฟี งั และดู และความนา่ เชอ่ื ถือของขา่ วสารจาก สือ่ ตา่ งๆ ๓. วิเคราะห์และวจิ ารณเ์ รือ่ งท่ีฟังและดู อยา่ งมีเหตผุ ลเพ่อื นำขอ้ คิดมา ประยุกตใ์ ช้ในการดำเนนิ ชวี ิต หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๓๘ ชนั้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๔. พดู ในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตาม การพูดในโอกาสต่างๆ เช่น วัตถุประสงค์ - การพดู อวยพร - การพูดโนม้ น้าว - การพูดโฆษณา ๕. พดู รายงานเร่ืองหรอื ประเด็นทีศ่ ึกษา การพดู รายงานการศึกษาค้นคว้าจากแหล่ง คน้ คว้า เรียนรู้ต่างๆ ๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพดู พูด ม.๓ ๑. แสดงความคิดเหน็ และประเมนิ เรอ่ื ง การพูดแสดงความคิดเห็น และประเมินเรือ่ งจาก จากการฟังและการดู การฟังและการดู ๒. วิเคราะห์และวิจารณเ์ รือ่ งท่ีฟงั และดู การพูดวเิ คราะหว์ ิจารณ์จากเร่ืองทฟ่ี ังและดู เพื่อนำขอ้ คิดมาประยุกตใ์ ชใ้ นการ ดำเนนิ ชวี ติ ม.๔-ม.๖ ๓. พดู รายงานเร่อื งหรือประเด็นทศ่ี กึ ษา การพูดรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเก่ยี วกบั คน้ คว้าจากการฟัง การดู และการ ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ สนทนา การพูดในโอกาสต่างๆ เช่น ๔. พดู ในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตาม - การพูดโต้วาที วตั ถุประสงค์ - การอภิปราย - การพูดยอวาที ๕. พูดโน้มนา้ วโดยนำเสนอหลักฐาน ตามลำดบั เนื้อหาอย่างมเี หตุผลและ การพดู โน้มน้าว น่าเชอ่ื ถอื มารยาทในการฟงั การดู และการพดู ๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ พดู การพูดสรปุ แนวคิด และการแสดงความคิดเหน็ ๑. สรปุ แนวคดิ และแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งท่ีฟงั และดู จากเรือ่ งทฟ่ี ังและดู การวเิ คราะห์แนวคิด การใชภ้ าษา และความ ๒. วิเคราะห์ แนวคดิ การใชภ้ าษา และ นา่ เช่ือถือจากเรอ่ื งทฟี่ งั และดู การเลอื กเรอ่ื งท่ีฟงั และดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ ความนา่ เชอ่ื ถอื จากเรือ่ งท่ฟี งั และดู อย่างมเี หตผุ ล การประเมนิ เรอื่ งท่ีฟังและดูเพอื่ กำหนดแนวทาง ๓. ประเมนิ เรือ่ งทีฟ่ ังและดู แลว้ กำหนด นำไปประยกุ ตใ์ ช้ แนวทางนำไปประยุกตใ์ ช้ในการ ดำเนินชีวิต หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๓๙ ชนั้ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๔. มวี จิ ารณญาณในการเลอื กเรอ่ื งท่ีฟัง และดู ๕. พูดในโอกาสตา่ งๆ พูดแสดงทรรศนะ การพดู ในโอกาสตา่ งๆ เช่น โต้แย้ง โน้มนา้ วใจ และเสนอแนวคิดใหม่ - การพูดต่อทป่ี ระชมุ ชน ดว้ ยภาษาถกู ตอ้ งเหมาะสม - การพดู อภปิ ราย - การพูดแสดงทรรศนะ - การพดู โน้มน้าวใจ ๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการ มารยาทในการฟัง การดู และการพูด พดู สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ ชัน้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ พยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เลขไทย ๒. เขียนสะกดคำและบอกความหมาย การสะกดคำ การแจกลกู และการอา่ นเป็นคำ ของคำ มาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไมต่ รงตาม มาตรา การผันคำ ความหมายของคำ ๓. เรียบเรยี งคำเป็นประโยคง่าย ๆ การแต่งประโยค ๔. ตอ่ คำคลอ้ งจองงา่ ยๆ คำคล้องจอง ป.๒ ๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ พยญั ชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ วรรณยุกต์ และเลขไทย เลขไทย ๒. เขียนสะกดคำและบอกความหมาย การสะกดคำ การแจกลกู และการอา่ นเปน็ คำ ของคำ มาตราตัวสะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม มาตรา การผันอักษรกลาง อักษรสูง และอักษรตำ่ คำท่มี ีตวั การันต์ คำที่มีพยัญชนะควบกลำ้ คำที่มอี กั ษรนำ คำทมี่ ีความหมายตรงขา้ มกัน คำท่ีมี รร ความหมายของคำ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๔๐ ชนั้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๓. เรยี บเรยี งคำเปน็ ประโยคไดต้ รงตาม การแตง่ ประโยค เจตนาของการสือ่ สาร การเรยี บเรียงประโยคเปน็ ขอ้ ความสั้นๆ ๔. บอกลกั ษณะคำคลอ้ งจอง คำคลอ้ งจอง ๕. เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิน่ ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ภาษาถน่ิ ป.๓ ๑. เขยี นสะกดคำและบอกความหมา การสะกดคำ การแจกลูก และการอ่านเป็นคำ ของคำ มาตราตัวสะกดท่ีตรงตามมาตราและไม่ตรงตาม มาตรา การผนั อกั ษรกลาง อักษรสูง และอักษรต่ำ คำทม่ี พี ยัญชนะควบกล้ำ คำทม่ี ีอกั ษรนำ คำท่ปี ระวิสรรชนียแ์ ละคำท่ีไม่ประวิสรรชนยี ์ คำทมี่ ี ฤ ฤๅ คำที่ใช้ บัน บรร คำทใ่ี ช้ รร คำที่มีตวั การันต์ ความหมายของคำ ๓. ระบุชนิดและหน้าทีข่ องคำในประโยค ชนดิ ของคำ ได้แก่ - คำนาม - คำสรรพนาม - คำกรยิ า ๔. ใชพ้ จนานกุ รมคน้ หาความหมายของ การใชพ้ จนานุกรม คำ ๕. แต่งประโยคงา่ ยๆ การแตง่ ประโยคเพื่อการส่อื สาร ได้แก่ - ประโยคบอกเล่า - ประโยคปฏิเสธ - ประโยคคำถาม - ประโยคขอร้อง - ประโยคคำส่ัง ๖. แต่งคำคลอ้ งจองและคำขวัญ คำคลอ้ งจอง คำขวญั ๗. เลือกใช้ภาษาไทยมาตรฐานและ ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถนิ่ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ ภาษาถ่ิน หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๔๑ ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๔ ๑. สะกดคำและบอกความหมายของคำ คำในแม่ ก กา ในบริบทต่างๆ มาตราตัวสะกด การผนั อักษร คำเปน็ คำตาย คำพอ้ ง ๒. ระบุชนดิ และหนา้ ทข่ี องคำในประโยค ชนดิ ของคำ ไดแ้ ก่ - คำนาม - คำสรรพนาม - คำกริยา - คำวิเศษณ์ ๓ ใชพ้ จนานกุ รมคน้ หาความหมายของคำ การใชพ้ จนานุกรม ๔. แตง่ ประโยคได้ถูกตอ้ งตามหลักภาษา ประโยคสามญั - ส่วนประกอบของประโยค - ประโยค ๒ ส่วน - ประโยค ๓ ส่วน ๕. แตง่ บทรอ้ ยกรองและคำขวญั กลอนสี่ คำขวัญ ๖. บอกความหมายของสำนวน สำนวนทีเ่ ปน็ คำพังเพยและสภุ าษิต ๗. เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถนิ่ ได้ ภาษาถิ่น ป.๕ ๑. ระบุชนิดและหน้าท่ีของคำในประโยค ชนิดของคำ ได้แก่ - คำบุพบท - คำสันธาน - คำอุทาน ๒. จำแนกสว่ นประกอบของประโยค ประโยคและส่วนประกอบของประโยค ๓. เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถิน่ ภาษาถ่นิ ๔. ใชค้ ำราชาศัพท์ คำราชาศพั ท์ ๕. บอกคำภาษาต่างประเทศใน คำทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ ภาษาไทย ๖. แตง่ บทร้อยกรอง กาพย์ยานี ๑๑ ๗. ใช้สำนวนไดถ้ กู ต้อง สำนวนท่เี ปน็ คำพังเพยและสภุ าษิต ป.๖ ๑. วเิ คราะห์ชนดิ และหนา้ ที่ของคำใน ชนิดของคำ ประโยค - คำนาม หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๔๒ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง - คำสรรพนาม - คำกริยา - คำวเิ ศษณ์ - คำบุพบท - คำเชือ่ ม - คำอุทาน ๒. ใชค้ ำไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและ คำราชาศัพท์ บคุ คล ระดบั ภาษา ภาษาถ่นิ ๓. รวบรวมและบอกความหมายของ คำทมี่ าจากภาษาต่างประเทศ คำภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย ๔. ระบุลกั ษณะของประโยค กลุ่มคำหรอื วลี ประโยคสามัญ ประโยครวม ประโยคซอ้ น ๕. แต่งบทร้อยกรอง กลอนสุภาพ ๖. วเิ คราะห์และเปรยี บเทยี บสำนวนที่ สำนวนที่เป็นคำพงั เพย และสุภาษติ เป็นคำพงั เพย และสุภาษิต ม.๑ ๑. อธบิ ายลักษณะของเสียงในภาษาไทย เสียงในภาษาไทย ๒. สรา้ งคำในภาษาไทย การสรา้ งคำ - คำประสม คำซ้ำ คำซอ้ น - คำพอ้ ง ๓. วิเคราะห์ชนิดและหน้าท่ีของคำใน ชนดิ และหนา้ ท่ีของคำ ประโยค ๔. วิเคราะหค์ วามแตกต่างของภาษาพดู ภาษาพดู และภาษาเขียน ภาษาเขยี น ๕. แต่งบทร้อยกรอง กาพยย์ านี ๑๑ ๖. จำแนกและใช้สำนวนทเ่ี ป็นคำพงั เพย สำนวนทเ่ี ป็นคำพงั เพยและสภุ าษิต และสภุ าษิต ม.๒ ๑. สรา้ งคำในภาษาไทย การสร้างคำสมาส ๒. วิเคราะห์โครงสร้างประโยคสามญั ลักษณะของประโยคในภาษาไทย ประโยครวม และประโยคซอ้ น - ประโยคสามัญ - ประโยครวม - ประโยคซอ้ น หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรยี นชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๔๓ ช้นั ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๓. แต่งบทรอ้ ยกรอง กลอนสุภาพ ๔. ใช้คำราชาศัพท์ คำราชาศัพท์ ๕. รวบรวมและอธิบายความหมายของ คำทีม่ าจากภาษาตา่ งประเทศ คำภาษาตา่ งประเทศที่ใช้ในภาษาไทย ม.๓ ๑. จำแนกและใช้คำภาษาตา่ งประเทศที่ คำทมี่ าจากภาษาต่างประเทศ ใช้ในภาษาไทย ๒. วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคซับซอ้ น ประโยคซับซ้อน ๓. วิเคราะห์ระดับภาษา ระดับภาษา ๔. ใช้คำทับศพั ท์และศพั ทบ์ ญั ญตั ิ คำทับศัพท์ คำศพั ท์บัญญัติ ๕. อธิบายความหมายคำศพั ทท์ าง คำศพั ท์ทางวิชาการและวิชาชีพ วชิ าการและวชิ าชีพ ๖. แต่งบทรอ้ ยกรอง โคลงสีส่ ุภาพ ม.๔-ม.๖ ๑. อธบิ ายธรรมชาติของภาษา พลงั ของ ธรรมชาติของภาษา ภาษา และลกั ษณะของภาษา พลงั ของภาษา ลกั ษณะของภาษา - เสียงในภาษา - ส่วนประกอบของภาษา - องคป์ ระกอบของพยางคแ์ ละคำ ๒. ใชค้ ำและกลุ่มคำสร้างประโยคตรง การใชค้ ำและกลุม่ คำสร้างประโยค ตามวตั ถปุ ระสงค์ - คำและสำนวน - การร้อยเรยี งประโยค - การเพม่ิ คำ - การใช้คำ - การเขียนสะกดคำ ๓. ใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส ระดับของภาษา กาลเทศะ และบคุ คล รวมท้งั คำราชา คำราชาศพั ท์ ศัพทอ์ ยา่ งเหมาะสม ๔. แต่งบทร้อยกรอง กาพย์ โคลง รา่ ย และฉันท์ ๕. วิเคราะหอ์ ทิ ธพิ ลของ อทิ ธิพลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่นิ ภาษาต่างประเทศและภาษาถิน่ ๖. อธิบายและวิเคราะหห์ ลักการสร้างคำ หลักการสรา้ งคำในภาษาไทย ในภาษาไทย หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ทิ ยาคาร ๔๔ ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระท่ี ๕ ๗. วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ การใชภ้ าษา การประเมนิ การใชภ้ าษาจากส่อื สงิ่ พิมพ์และ จากส่ือสง่ิ พิมพ์และสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ ส่อื อิเล็กทรอนิกส์ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณค่าและนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ ชั้น ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกขอ้ คิดท่ไี ด้จากการอา่ นหรือการ วรรณกรรมรอ้ ยแกว้ และร้อยกรองสำหรับเด็ก ฟังวรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อย เชน่ กรองสำหรับเดก็ - นทิ าน - เรือ่ งสนั้ ง่ายๆ - ปริศนาคำทาย - บทรอ้ งเลน่ - บทอาขยาน - บทรอ้ ยกรอง - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรยี น ๒. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด บทอาขยานและบทร้อยกรอง และบทร้อยกรองตามความสนใจ - บทอาขยานตามท่กี ำหนด - บทร้อยกรองตามความสนใจ ป.๒ ๑. ระบุขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการอ่านหรือ วรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรองสำหรบั เด็ก การฟังวรรณกรรมสำหรบั เด็ก เช่น เพือ่ นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั - นิทาน - เรื่องสนั้ ง่ายๆ - ปริศนาคำทาย - บทอาขยาน - บทร้อยกรอง - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียน ๒. รอ้ งบทร้องเลน่ สำหรบั เด็กใน บทรอ้ งเลน่ ท่ีมคี ณุ คา่ ท้องถนิ่ - บทรอ้ งเล่นในท้องถิ่น - บทร้องเลน่ ในการละเลน่ ของเดก็ ไทย ๓. ท่องจำบทอาขยานตามท่กี ำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ณุ ค่า และบทรอ้ ยกรองท่มี คี ุณค่าตาม - บทอาขยานตามท่กี ำหนด ความสนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ หลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสูตรโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๔๕ ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๓ ๑. ระบุขอ้ คิดทไ่ี ด้จากการอ่าน วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพื้นบ้าน วรรณกรรมเพือ่ นำไปใช้ใน - นิทานหรอื เรอ่ื งในท้องถิน่ ชวี ติ ประจำวนั - เรื่องสั้นงา่ ยๆ ปรศิ นาคำทาย ๒. รจู้ กั เพลงพน้ื บ้านและเพลงกลอ่ ม - บทร้อยกรอง เดก็ เพ่ือปลกู ฝังความชืน่ ชม - เพลงพื้นบ้าน วฒั นธรรมท้องถิ่น - เพลงกลอ่ มเด็ก ๓. แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั วรรณคดี - วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรยี นและ ท่อี ่าน ตามความสนใจ ๔. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ ค่า และบทร้อยกรองท่ีมคี ุณค่าตาม - บทอาขยานตามที่กำหนด ความสนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ ป.๔ ๑. ระบขุ อ้ คิดจากนทิ านพ้นื บ้านหรอื วรรณคดแี ละวรรณกรรม เชน่ นทิ านคตธิ รรม - นทิ านพืน้ บา้ น ๒. อธิบายขอ้ คิดจากการอา่ นเพ่ือ - นิทานคตธิ รรม นำไปใช้ในชวี ิตจรงิ - เพลงพ้ืนบ้าน - วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและ ตามความสนใจ ๓. รอ้ งเพลงพ้นื บา้ น เพลงพ้ืนบา้ น ๔. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่ีกำหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่า และบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความ - บทอาขยานตามทก่ี ำหนด สนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ ป.๕ ๑. สรุปเร่ืองจากวรรณคดหี รือ วรรณคดีและวรรณกรรม เชน่ วรรณกรรมทีอ่ า่ น - นิทานพ้นื บา้ น ๒. ระบคุ วามรแู้ ละข้อคดิ จากการอา่ น - นทิ านคติธรรม วรรณคดแี ละวรรณกรรมทสี่ ามารถ - เพลงพื้นบา้ น นำไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียนและ ๓. อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและ ตามความสนใจ วรรณกรรม ๔. ท่องจำบทอาขยานตามท่กี ำหนด บทอาขยานและบทร้อยกรองทมี่ ีคณุ ค่า และบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่าตามความ - บทอาขยานตามทก่ี ำหนด สนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ ป.๖ ๑. แสดงความคดิ เห็นจากวรรณคดี วรรณคดแี ละวรรณกรรม เช่น หรือวรรณกรรมท่อี า่ น - นิทานพื้นบา้ นท้องถนิ่ ตนเองและท้องถนิ่ อนื่ ๒. เลา่ นทิ านพน้ื บา้ นทอ้ งถนิ่ ตนเอง - นทิ านคตธิ รรม และนทิ านพืน้ บ้านของทอ้ งถ่นิ อน่ื - เพลงพืน้ บา้ น หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลักสตู รโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๔๖ ชน้ั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๓. อธบิ ายคุณคา่ ของวรรณคดี และ - วรรณคดแี ละวรรณกรรมในบทเรียนและ วรรณกรรมท่ีอา่ นและนำไป ตามความสนใจ ประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ๔. ทอ่ งจำบทอาขยานตามทกี่ ำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคณุ ค่า และบทรอ้ ยกรองท่ีมีคณุ ค่าตามความ - บทอาขยานตามที่กำหนด สนใจ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ม.๑ ๑. สรปุ เนอื้ หาวรรณคดีและ วรรณคดแี ละวรรณกรรมเกยี่ วกบั วรรณกรรมทอ่ี า่ น - ศาสนา - ประเพณี - พิธีกรรม - สุภาษิตคำสอน - เหตกุ ารณป์ ระวัตศิ าสตร์ - บนั เทงิ คดี - บนั ทึกการเดินทาง - วรรณกรรมท้องถิน่ ๒. วิเคราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรม การวเิ คราะหค์ ุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดแี ละ ทอ่ี า่ นพร้อมยกเหตุผลประกอบ วรรณกรรม ๓. อธบิ ายคณุ คา่ ของวรรณคดแี ละ วรรณกรรมท่อี ่าน ๔. สรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพ่ือประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจริง ๕. ทอ่ งจำบทอาขยานตามทีก่ ำหนด บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคุณค่า และบทร้อยกรองท่มี ีคุณค่าตาม - บทอาขยานตามทก่ี ำหนด ความสนใจ - บทร้อยกรองตามความสนใจ ม.๒ ๑. สรุปเนอื้ หาวรรณคดีและ วรรณคดแี ละวรรณกรรมเกยี่ วกบั วรรณกรรมที่อ่านในระดบั ที่ยากขนึ้ - ศาสนา - ประเพณี - พิธกี รรม - สุภาษิต คำสอน - เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ - บนั เทงิ คดี - บันทึกการเดนิ ทาง หลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๔๗ ช้ัน ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ม.๓ ๒. วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดี การวิเคราะหค์ ุณค่าและข้อคดิ จากวรรณคดี ม.๔-ม.๖ วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถิ่น วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ ที่อ่าน พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ ๓. อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ ค่า วรรณกรรมท่อี ่าน - บทอาขยานตามทีก่ ำหนด ๔. สรุปความรู้และข้อคดิ จากการอา่ น - บทร้อยกรองตามความสนใจ ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ ๕. ทอ่ งจำบทอาขยานตามท่กี ำหนด วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถิน่ และบทร้อยกรองที่มีคณุ ค่าตาม เกย่ี วกบั ความสนใจ - ศาสนา ๑. สรปุ เนอื้ หาวรรณคดี วรรณกรรม - ประเพณี และวรรณกรรมท้องถิ่นในระดับที่ยาก - พธิ กี รรม ยง่ิ ข้ึน - สภุ าษิตคำสอน - เหตกุ ารณ์ในประวตั ศิ าสตร์ ๒. วเิ คราะห์วถิ ไี ทยและคณุ ค่าจาก - บนั เทงิ คดี วรรณคดีและวรรณกรรมทอี่ า่ น การวิเคราะหว์ ิถไี ทย และคณุ ค่าจากวรรณคดี ๓. สรปุ ความร้แู ละขอ้ คิดจากการอ่าน และวรรณกรรม เพ่อื นำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ จรงิ บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองท่มี คี ุณค่า ๔. ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยาน - บทอาขยานตามทก่ี ำหนด ตามท่ีกำหนด และบทรอ้ ยกรองท่มี ี - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ คุณค่าตามความสนใจและนำไปใช้ อา้ งองิ หลักการวิเคราะหแ์ ละวจิ ารณว์ รรณคดีและ วรรณกรรมเบื้องตน้ ๑. วิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีและ - จุดมุ่งหมายการแตง่ วรรณคดีและ วรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์ วรรณกรรม เบื้องตน้ - การพจิ ารณารูปแบบของวรรณคดีและ วรรณกรรม - การพิจารณาเนื้อหาและกลวธิ ีในวรรณคดี และวรรณกรรม หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ๔๘ ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง - การวเิ คราะห์และการวิจารณ์วรรณคดีและ วรรณกรรม ๒. วิเคราะห์ลักษณะเดน่ ของวรรณคดี การวเิ คราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดแี ละ เชื่อมโยงกับการเรยี นรู้ทาง วรรณกรรมเก่ียวกบั เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์และวิถชี วี ิตของสงั คม และวิถีชีวิตของสงั คมในอดตี ในอดตี ๓. วิเคราะห์และประเมินคุณค่าดา้ น การวเิ คราะห์และประเมินคุณค่าวรรณคดีและ วรรณศิลปข์ องวรรณคดแี ละ วรรณกรรม วรรณกรรมในฐานะทเ่ี ปน็ มรดกทาง - ดา้ นวรรณศิลป์ วฒั นธรรมของชาติ - ด้านสังคมและวฒั นธรรม ๔. สังเคราะห์ขอ้ คิดจากวรรณคดแี ละ การสงั เคราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรม วรรณกรรมเพ่อื นำไปประยกุ ตใ์ ช้ใน ชีวติ จริง ๕. รวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบา้ นและ วรรณกรรมพน้ื บ้านท่ีแสดงถงึ อธบิ ายภมู ิปัญญาทางภาษา - ภาษากับวัฒนธรรม - ภาษาถน่ิ ๖. ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยาน บทอาขยานและบทร้อยกรองทีม่ ีคุณค่า ตามท่กี ำหนดและบทร้อยกรองทีม่ ี - บทอาขยานตามท่กี ำหนด คุณค่าตามความสนใจและนำไปใช้ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ อ้างองิ ผลการเรยี นรภู้ าษาไทยเพิ่มเติม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔ ๑. เขยี นขอ้ ความโดยใช้ถอ้ ยคําได้ถูกต้อง ๒. เขยี นสื่อสารในชวี ิตประจําวันในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ภาษาเรยี บเรยี งถูกต้อง มขี ้อมลู และสาระสําคัญชดั เจน ๓. เขียนเพ่ือการศึกษา เขยี นบันทกึ ความรเู้ ขียนรายงาน เขยี นโครงการอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ๔. บอกแนวทางการเขยี นส่ือสารอิเล็กทรอนกิ ส์ โดยใช้ภาษาที่ถกู ตอ้ ง ๕. เขียนสอ่ื สารผา่ นทางสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์ใช้ระดบั ภาษาเหมาะสมถกู กาลเทศะอยา่ งมีมารยาท ๖. เขียนแสดงความคิดเหน็ บนพ้ืนทสี่ าธารณะ โดยใช้ภาษาสภุ าพสละสลวย ๗. อธบิ ายลกั ษณะ ภูมหิ ลงั รูปแบบของวรรณคดีสมัยสโุ ขทัยและสมยั อยุธยา ๘. วิเคราะหจ์ าํ แนก และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ลักษณะของวรรณคดีสมยั สุโขทยั และอยุธยา ๙. วเิ คราะห์เชือ่ มโยงวรรณคดีกับการเรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตร์และวิถีชีวิตของคนในอดีต ๑๐.มีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษแ์ ละเผยแพรว่ รรณคดีไทยในสมัยสโุ ขทยั และสมยั อยุธยา หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรยี นชมุ ชนประชาธิปัตย์วทิ ยาคาร ๔๙ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ๑. อธบิ ายความรู้เกย่ี วกบั เขยี นอาชพี ได้ ๒. ร้จู ักอาชพี ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการเขียนและชี้ความสําคัญของการเขียนในงานอาชพี ได้ ๓. อธิบายหลกั การสะกดคํา การเขยี นคําทบั ศพั ทแ์ ละการใช้คําเหมาะสมตามความหมายได้ ถกู ต้อง ๔. รจู้ ักศพั ทเ์ ฉพาะวิชาชพี สะกดคาํ และเขียนคําทับศัพทไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ๕. อธบิ ายความสําคัญของการเขยี นในงาอาชีพได้ ๖. ใช้คาํ ถกู ต้องตามหลักไวยากรณ์เรียบเรียงถ้อยคําเป็นประโยค และใช้สํานวนไทยได้อย่าง ถูกต้อง ๗. บอกความสําคัญของการเขียนเพอ่ื อาชพี ในโอกาสต่าง ๆ ได้ ๘. เข้าใจองค์ประกอบรูปแบบของการเขียนเพอื่ อาชีพในโอกาสตา่ งๆและเขยี นเพื่ออาชพี ใน โอกาส ต่าง ๆ ได้ ๙. อธิบายจดุ ปะสงค์องค์ประกอบ ลกั ษณะภาษา และหลักในการเขยี นโฆษณาและ ประชาสมั พันธไ์ ด้ ๑๐.เขยี นโฆษณาและประชาสัมพนั ธ์ได้ ๑๑.บอกความสาํ คญั ของการเขยี นบทรอ้ ยกรองในงานอาชีพได้ ๑๒.เขา้ ใจหลักการและรปู แบบของการเขยี นบทรอ้ ยกรอง และเขยี นบทร้อยกรองในงานอาชีพได้ ๑๓.อธิบายลกั ษณะ ภมู ิหลัง รปู แบบของวรรณคดีสมัยธนบรุ ีและสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ๑๔.วเิ คราะหจ์ าํ แนก และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ลักษณะวรรณคดีสมัยธนบุรแี ละสมัย รตั นโกสนิ ทร์ ๑๕.วเิ คราะหเ์ ชือ่ มโยงวรรณคดีกับการเรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตรแ์ ละวิถีชวี ิตของคนไทยในอดีต ๑๖.มีส่วนรว่ มในการอนุรักษ์และเผยแพรว่ รรณคดีไทยในสมัยธนบรุ แี ละสมัยรัตนโกสนิ ทร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๑. อธบิ ายชนดิ ของคาํ ในภาษาไทย หน้าท่ขี องคําและกลุ่มคํา ท่ีอยูใ่ นรูปประโยคได้ ๒. อธิบายความหมายและองคป์ ระกอบสําคัญของการสอื่ สารได้ ๓. อธบิ ายลกั ษณะของสาร และจดั ประเภทของการสื่อสารประเภทต่างๆได้ ๔. อธิบายอุปสรรคในการส่ือสารพรอ้ มยกตัวอยา่ งประกอบและบอกวิธแี ก้ไขได้ ๕. อธบิ ายทกั ษะการรับสารและทกั ษะการส่งสารได้ ๖. จดั ประเภทและเลอื กใชภ้ าษาให้เหมาะสมกบั สถานการณข์ องการส่ือสารได้ ๔๒ หลักสูตร กลุ่มสาระการเรียนรโู้ รงเรียนพบิ ลู อปุ ถัมภ์ เอกสารประกอบหลกั สูตรโรงเรียนพิบลู อปุ ถัมภ์ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ๗. สามารถเลือกฟงั และดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความร้คู วามคดิ และความรู้สึกใน โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ๘. สรปุ แนวคิด และแสดงความคดิ เหน็ จากเรือ่ งท่ีฟังและดู ๙. ประเมินเรอ่ื งท่ีฟงั และดูแล้วกําหนดแนวทางนาํ ไปประยกุ ต์ใชใ้ นการดําเนนิ ชีวิต หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เอกสารประกอบหลกั สตู รโรงเรียนชมุ ชนประชาธิปัตยว์ ิทยาคาร ๕๐ ๑๐.มีวิจารณญาณในการเลอื กเร่ืองท่ีอ่าน ฟงั และดู ๑๑.พูดในโอกาสตา่ งๆ พดู แสดงทรรศนะ โต้แยง้ โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคดิ ใหมด่ ้วยภาษา ถูกตอ้ ง เหมาะสม ๑๒. มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพูด รายวิชาพน้ื ฐานและเพ่ิมเตมิ ทเ่ี ปดิ สอน รายวิชาพื้นฐาน ระดบั ช้ันประถมศกึ ษา ป. ๑ - ป. ๖ ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย จํานวน ๒๐๐ ชั่วโมง ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย จาํ นวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย จาํ นวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย จาํ นวน ๑๖๐ ชั่วโมง ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย จํานวน ๑๖๐ ชั่วโมง ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย จํานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง รายวิชาพื้นฐาน ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษา ม. ๑ - ม. ๖ ท ๒๑๑๐๑ ภาษาไทย (ภาคเรยี นที่ ๑) ๑.๕ หนว่ ยกติ จํานวน ๖๐ ชว่ั โมง ท ๒๑๑๐๒ ภาษาไทย (ภาคเรยี นท่ี ๒) ๑.๕ หนว่ ยกิต จํานวน ๖๐ ชว่ั โมง ท ๒๒๑๐๑ ภาษาไทย (ภาคเรยี นท่ี ๑) ๑.๕ หน่วยกิต จาํ นวน ๖๐ ชั่วโมง ท ๒๒๑๐๒ ภาษาไทย (ภาคเรยี นที่ ๒) ๑.๕ หน่วยกิต จํานวน ๖๐ ชั่วโมง ท ๒๓๑๐๑ ภาษาไทย (ภาคเรียนท่ี ๑) ๑.๕ หนว่ ยกติ จาํ นวน ๖๐ ช่วั โมง ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทย (ภาคเรียนท่ี ๒) ๑.๕ หน่วยกิต จํานวน ๖๐ ชว่ั โมง ท ๓๑๑๐๑ ภาษาไทย (ภาคเรียนท่ี ๑) ๑.๐ หนว่ ยกิต จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง ท ๓๑๑๐๒ ภาษาไทย (ภาคเรียนที่ ๒) ๑.๐ หน่วยกิต จาํ นวน ๔๐ ชว่ั โมง ท ๓๒๑๐๑ ภาษาไทย (ภาคเรียนที่ ๑) ๑.๐ หนว่ ยกติ จํานวน ๔๐ ชวั่ โมง ท ๓๒๑๐๒ ภาษาไทย (ภาคเรียนท่ี ๒) ๑.๐ หนว่ ยกติ จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง ท ๓๓๑๐๑ ภาษาไทย (ภาคเรยี นท่ี ๑) ๑.๐ หน่วยกิต จาํ นวน ๔๐ ชว่ั โมง ท ๓๓๑๐๒ ภาษาไทย (ภาคเรยี นที่ ๒) ๑.๐ หน่วยกิต จาํ นวน ๔๐ ชั่วโมง รายวชิ าเพ่ิมเตมิ ระดับช้ันมธั ยมศึกษา ม. ๔ - ม. ๖ ท ๓๑๒๐๑ การใชห้ อ้ งสมุด ๑ (ภาคเรยี นที่ ๑) ๑ หน่วยกิต จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง ท ๓๑๒๐๒ การใช้ห้องสมุด ๒ (ภาคเรยี นที่ ๒) ๑ หน่วยกติ จํานวน ๔๐ ชว่ั โมง ท ๓๒๒๐๑ การใช้หอ้ งสมดุ ๑ (ภาคเรยี นท่ี ๑) ๑ หน่วยกิต จํานวน ๔๐ ช่วั โม ท ๓๒๒๐๒ การใชห้ ้องสมุด ๒ (ภาคเรยี นที่ ๒) ๑ หน่วยกิต จํานวน ๔๐ ชั่วโมง ท ๓๓๒๐๑ การศึกษาอสิ ระ ๑ (ภาคเรียนที่ ๑) ๑ หนว่ ยกติ จํานวน ๔๐ ช่ัวโมง ท ๓๓๒๐๒ การศกึ ษาอสิ ระ ๒ (ภาคเรียนท่ี ๒) ๑ หนว่ ยกติ จาํ นวน ๔๐ ชว่ั โมง หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook